ข่ม ขืน ฝืน รัก
ตอนที่27
“อยู่อังกฤษแกตั้งใจเรียนละคิม จะได้รีบกลับมาช่วยงานกัน”
อาคมพูดขึ้นบนรถขณะที่พวกเรากำลังมุ่งหน้าสู้สนามบิน
วันนี้เป็นวันที่คิมต้องไปเรียนที่อังกฤษ ตั้งแต่วันนั้นมินไม่เคยค่อยได้พูดคุยกับคิมอีก เหมือนอีกฝ่ายจะค่อยๆออกห่างจากเขา ซึ่งมินก็รู้สึกว่ามันดีแล้ว ดีต่อความรู้สึกของคิมเอง
“ครับพ่อ” คิมได้แต่พูดรับคำไม่พูดอะไรต่อ
ไม่นานนักก็ถึงสนามบิน คิมหันมายิ้มให้ครามก่อนจะกอดพี่ชายแล้วพูด
“ดูแลตัวเองดีดีนะพี่ และก็ผมฝาก” คิมหันมามองหน้ามินก่อนจะพูดต่อ “ผมฝากมินด้วย”
ครามตบไหล่น้องชายเบาๆก่อนจะพูดตอบ
“ไม่ต้องห่วง กูจะดูแลอย่างดีที่สุด”
มินได้แต่ยิ้มให้คิมที่มองเขาอยู่ เขาเห็นแววตาของอีกฝ่ายก็อดสะท้อนใจไม่ด้ที่เขาโกหกอะไรบางอย่าง
“แอ๊ แอ๊ แอ๊” น้องซันดิ้นขึ้นในอ้อมขนเขา มือน้องซันพยายามยื่นไปทางคิม
คิมมองน้องซันแล้วรู้สึกอุ่นขึ้นมาในใจก่อนจะยิ้มรับเด็กน้อยจับเด็กน้อยขึ้นมาอุ้มไว้
“น้องซันไม่ดื้อ ไม่ซนกับคุณแม่นะครับ แล้วไม่นาน” คิมเว้นวรรคเงียบไปก่อนจะพยายามยิ้มพูดต่อ “อาคิมจะกลับมา”
มินเม้มปากแน่นทันทีที่ได้ยินอีกฝ่ายพูดขึ้น เขารู้สึกบอกไม่ถูกที่เห็นปฏิกิริยาแบบนั้นของน้องซันและเห็นแววตาของคิมที่มองน้องซัน
“แอ๊ แอ๊” ทารกน้อยยิ้มกว้างอย่างเด็กอารมณ์ดี
ครามยืนมองคิมและน้องซันนิ่งเงียบ ความรุ้สึกเขามันแน่นในอกไปหมด
“มาหาแม่ น้องซัน” มินยื่นมือหาน้องซันก่อนจะยิ้มให้คิม น้องซํนยอมมาหามินแต่โดนดี แต่ไม่วายหันไปมองหน้าคิมอีกครั้ง
“ไปได้ละ เดี๋ยวจะตกเครื่องเปล่าๆ” อาคมที่ไปซื้อกาแฟเดินมาถึงก็พูดกับคิม
“ครับ ผมไปก่อนนะครับพ่อ” คิมไว้อาคม อาคมตบไหล่ลุกชายเบาๆ
“โชคดี”
มินยืนมองคิมที่เดินเข้าไปจนลับสายตา ความรู้สึกของมินแน่นไปหมดในอก ระหว่างที่กำลังเดินกลับไปขึ้นรถนั้น มินพูดกับตัวเองเบาๆ
“ฉันขอให้นี่คือบทลงโทษที่นายเคยข่มขืนฉัน”
“ซุปไก่คะคุณท่าน” สาวใช้ในบ้านยกซุปไก่มาให้อาคมเยี่ยงทุกคืน อาคมรับมันมาดื่ม
รสชาติของซุปไก่รอบนี้ดูแปลกๆไป แต่เขาก็พยายามที่จะไม่คิดมาก เขาไม่อยากจะดื่มซุปไก่เท่าไหร่นัก แต่ถ้ามันจะทำให้เขาร่างกายแข็งแรง ไม่อ่อนแอเหมือนที่แล้วมาเขาก็ยอม เขาไม่อยากให้ใครมารับรู้ว่าร่างกายของเขาอ่อนแอเพียงใด
อาคมดื่มเสร็จก็ส่งถ้วยให้กับสาวใช้ สาวใช้เดินออกจากห้องไป
อาคมลุกขึ้นเดินไปเปิดลิ้นชักใต้โต๊ะ หยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงขึ้นมาดูก่อนจะเปิดมันออกมา ข้างในเป็นแหวนเพชรเม็ดงาม แหวนเพชรที่เขาเคยใส่เมื่อ20กว่าปีที่แล้ว
เหตุการณ์ในวันนี้ที่คิมไปเรียนต่อต่างประเทศทำให้เขานึกถึงมันขึ้นมา เขาเคยโดนหักหลังอย่างร้ายกาจจากคนที่ตัวเองรักสองคน ทำให้เขาต้องไปพักใจที่ร้อนดั่งไฟที่ต่างประเทศ และรอวันเวลาที่เหมาะสมเพื่อจะเอาคืนพวกมันให้สาสมกับที่ทำไว้ให้เขาเจ็บช้ำที่สุด
อาคมหยิบแหวนเพชรเม็ดงามขึ้นมาสวมที่นิ้วนางข้างซ้าย ทีที่มันเคยอยู่ อาคมชูนิ้มขึ้นดูก่อนจะเบ้ปากคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่าน เหตุการณ์ที่ทำให้จิตใจเขาร้อนเป็นไฟมาตลอด20ปีที่ผ่านมา
20กว่าปีที่แล้ว
อาคมในชุดนักเรียนรีบวิ่งขึ้นไปบนบ้านไปหาพ่อของตัวเองเพื่อที่จะประกาศข่าวดีให้อีกฝ่ายรับทราบ
“พ่อครับ ผมสอบติดบริหารตามที่พ่อหวังไว้แล้วนะครับ” อาคมพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้นและดีใจ แต่พ่อของเขากลับเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารและพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน
“ทำไมแกไม่เคาะประตูก่อนเข้ามา!”
อาคมหงอยลงทันทีก่อนจะแก้ตัวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ผมขอโทษครับ ผมดีใจไปหน่อย”
“ช่างเถอะ แต่ก็ดีที่แกสอบติด ฉันจะไม่อายใครเขา” คงศักดิ์ผู้เป็นพ่อพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งก่อนจะก้มลงไปทำงานต่อ อาคมยืนนิ่งก่อนจะถอนหายใจ พ่อก็เป็นอย่างเคย ไม่เคยจะสนใจไยดีกับเขาเลย
“ได้ข่าวว่ามิ่งภพก็สอบติด แต่คณะเศรษฐศาสตร์” คงศักดิ์พูดขึ้นต่อ
“จริงเหรอครับพ่อ” ข่าวของมิ่งภพทำให้เขายิ้มได้อีกครั้ง มิ่งภพคือคนที่เขาแอบรักมาตั้งแต่ยังเด็ก อีกฝ่ายใจดีกับเขาตลอด คอยให้ไออุ่นที่เขาไม่เคยได้จากผู้เป็นพ่อ
“ใช่ เก็บท่าทีของแกบ้าง ยังไงแกก็ได้หมั้นกับมิ่งภพอยู่แล้ว ฉันคุยกับเมฆแล้ว”
“ครับ”
อาคมเดินออกจากห้องไปด้วยรอยยิ้ม เขารู้ตัวมาตลอดว่าโตมาต้องแต่งงานกับมิ่งภพ ทำให้ใจเขาไม่เคยที่จะมองใครนอกจากอีกฝ่าย แต่กลับกันมิ่งภพก็รับรู้ว่าต้องแต่งงานกับเขา แต่อีกฝ่ายไม่หยุดที่เขา ยังมองคนอื่นอยู่เรื่อยไป
“แกไม่กลัวมิ่งภพเขาจะเปลี่ยนใจบ้างเหรอ ฮอตซะขนาดนั้น” เพื่อนที่คบกับเขามาตลอดสี่ปีพูดขึ้น ตอนนี้อาคมเรียนชั้นปีที่4 ปีสุดท้ายแล้ว เรียนจบเขาจะได้หมั้นกับมิ่งภพตามที่หวังไว้สักที
“ไม่หรอก คนอื่นมิ่งเขาก็แค่เล่นๆ” อาคมพยายามพูดปัด แต่ในใจเขากลับเต็มรุ่มร้อน เขากังวลมันมาตลอด แต่มิ่งภพก็ยังไม่มีใครเป็นตัวเป็นตน อีกฝ่ายยังเล่นๆไปเรื่อย
“แกนี่ก็แม่พระเนอะคม ถ้าเป็นฉันนะ จะเข้าไปอาละวาดให้หมดเลย” แน่งน้อย เพื่อนของอาคมพูดอย่างรสและมองไปที่มิ่งภพที่นั่งไม่ไกลกับโต๊ะของเขานัก มิ่งภพกำลังนั่งคุยหวานกับผู้หญิงคนอื่น
“อย่าทำตามที่น้อยพูดเลยคม นายทำแบบนั้นมันไม่ดีกับตัวนายหรอก” เนตร เพื่อนสาวที่สนิทกับเขาอีกคนพูดขึ้น เนตรเป็นผู้หญิงสวย หวาน เรียบร้อย ลูกสาวผู้ดีเก่าในวัง กิริยาท่าทางเรียบร้อยเหมาะสมกับนางในวัง
“ฉันไม่ทำอย่างนั้นหรอกน้อย และฉันก็เป็นคนดีขนาดนั้นไม่ได้หรอกเนตร” อาคมพูดขึ้นก่อนจะจ้องไปยังมิ่งภพที่ยังไม่รู้ตัวว่าโดนจับจ้อง
“เราขอตัวก่อนนะครับ คุณพ่อมารับแล้ว” เนตรขอตัวกลับบ้าน เนตรมักจะเป็นแบบนี้เสมอ ไม่ไปเที่ยวไหน เรียนเสร็จก็กลับบ้าน ทำให้ตลอดสี่ปีที่ผ่านมาไม่ค่อยมีใครรู้จักเนตรนัก แม้ว่าอีกฝ่ายจะสวยปานนางอัปสร
“แล้วเจอกันวันจันทร์นะเนตร” อาคมหันไปยิ้มหวานให้เนตร เนตรพยักหน้ารับและเดินขึ้นรถไป
“ยัยเนตรไปละ แกจะทำอะไรคม” แน่งน้อยพูดขึ้นอย่างนึกสนุก
“เดี๋ยวก็รู้”
อาคมลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะของมิ่งภพ ก่อนจะยิ้มหวานเมื่อมิ่งภพรู้สึกตัว
“สวัสดีมิ่ง เราขอนั่งด้วยสิ” มิ่งภพยิ้มรับก่อนจะพยักหน้าให้
“เอาสิคม”
“ใครเหรอคะพี่มิ่ง” ผู้หญิงข้างๆนั่งออเซาะมิ่งภพและปรายตามองอาคมและเบะปาก
“อาคมครับ เรียนบริหาร”
“อ๋อ คนนี้นะเหรอที่ได้ข่าวว่าเป็นคู่หมั้นพี่มิ่ง”
อาคมยิ้มรับคำพูดอีกฝ่าย คนทั้งมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่รู้หมดว่าเขาคือคู่หมั้นของมิ่งภพ หนุ่มฮอตของมหาลัย เพราะเขาเป็นฝ่ายปล่อยข่าวทุกอย่างเองทั้งหมด เขาอยากจะให้คนอื่นเลิกยุ่งกับมิ่งภพ แต่มันกลับไม่เป็นดังนั้น ใครต่อใครก็ยังเข้าหาอีกฝ่ายเหมือนเดิม
“ใช่ครับ อาคมเป็นคู่หมั้นพี่” มิ่งภพพูดขึ้น
“คิดว่าจะหน้าตาดีกว่านี้ซะอีก” ผู้หญิงคนนั้นพูดพร้อมสายตาเหยียด
“พิม!” มิ่งภพพูดเอ็ดอีกฝ่ายขึ้น
“ไม่เป็นไรหรอกมิ่ง คนเราถึงจะได้รับการศึกษาเหมือนกัน แต่ได้รับการเลี้ยงดูมาไม่เหมือนกัน” อาคมหันไปยิ้มหวานให้พิมก่อนจะพูดต่อ “ฉันเข้าใจเธอนะ”
“แก!!” พิมลุกขึ้นชี้หน้าอาคม อาคมแสร้งทำหน้าตกใจ ทำให้มิ่งภพต้องยืนห้าม
“พอเถอะพิม กลับไปก่อน”
“ไม่ พิมไม่กลับ นังนี่มันดูถูกพิม”
“แต่คุณเริ่มก่อน พอเถอะ กลับไปซะ!” มิ่งภพพูดเสียงเข้มแววตาดุ ทำให้พิมยอมอ่อนลงและเดินออกไปแต่โดยดี
อาคมยกยิ้มอย่างผู้ชนะก่อนจะเขยิบไปนั่งข้างมิ่งภพที่ทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาและวางมือบนขาอีกฝ่าย หันไปเหยียดยิ้มร้ายให้พิมที่มองอยู่อย่างไม่วางตา
พิมสะบัดหน้าออกไปทันทีอย่างไม่สบอารมณ์
“เราไม่คิดเลยว่ามิ่งจะยุ่งกับคนแบบนั้น”
“เราแค่เล่นๆ” มิ่งภพพูดขึ้นก่อนจะส่ายหัว มิ่งภพมองอาคมก่อนจะถอนหายใจ เขารู้ดีว่าอาคมรู้สึกเช่นไรกับเขา และเขาก็ไม่สามารถขัดพ่อได้จึงยอมเป็นคู่หมั้นกับอีกฝ่ายแต่โดยดี เขากับอาคมเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก เมื่ออีกฝ่ายมีปัญหากับพ่อเขาก็จะคอยปลอบโยนอีกฝ่าย จนวันหนึ่งเขาไม่คิดว่าความสัมพันธ์ในวัยเด็กจะทำให้อาคมฝังใจกับเขาขนาดนี้ เขารักอาคม แต่รักในแบบพี่ชายรักน้องชายคนหนึ่งเท่านั้น เขายอมเป็นคู่หมั้นเพราะเลี่ยงไม่ได้ และยังไม่เจอคนที่ใช่ และหวังว่าในอนาคตอาคมจะทำให้เขารักอีกฝ่ายแบบคนรักได้
ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของอาคมคือ อาคมยอมรับในความเจ้าชู้ของเขาได้ เพียงแค่เขาห้ามมีเป็นตัวเป็นตน
“เรารุ้ว่ามิ่งแค่เล่นๆ แต่ตอนนี้เราทั้งสองคนก็จะจบแล้ว เราว่ามิ่งควรเพลาๆลงนะ”
มิ่งภพได้แต่หันไปมองหน้าอาคมไม่พูดอะไร
เหตุการณ์ในวันนั้นทำให้อาคมรู้สึกตัวว่าเขาต้องรีบรวบรัดอีกฝ่ายก่อนที่อีกฝ่ายจะเปลี่ยนใจ ไม่งั้นเขาจะต้องเสียใจมากแน่ๆถ้ามิ่งภพจะต้องตกเป็นของคนอื่น
“มิ่งต้องมางานวันเกิดเรานะ”
“เราไปอยู่แล้ว เราไม่เคยพลาดสักปี” มิ่งภพตอบรอยยิ้มบางตามแบบของเขา
มิ่งภพเดินออกไป อาคมยิ้มตามมองอีกฝ่ายออกไป แผนทุกอย่างต้องเป็นไปตามที่เขาวางไว้
“ยิ้มหวานเลยนะคม” เนตรที่เพิ่งไปซื้อน้ำกับแน่งน้อยมาทักขึ้น
“ไม่ต้องมาแซวเลยเนตร ว่าแต่เนตรเถอะ ปีนี้จะไปงานวันเกิดเราได้ไหม”
“คงไม่ได้หรอก คุณแม่ของเราคงไม่พอใจที่เราจะไปเที่ยวงานสังสรรค์กลางคืน” เนตรได้แต่ยิ้มเจื่อนให้เพื่อน งานวันเกิดของเพื่อนทุกปีเนตรไม่เคยได้ไป เขาต้องอยู่ตามกรอบที่พ่อและแม่ตีไว้ให้ตลอด แม้ว่าในใจอยากจะออกจากกรอบไปเจออะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจบ้างแต่เขาก็ทำไม่ได้
“ยังไงเนตรก็ต้องไป จะเรียนจบกันแล้วจะรวมตัวอีกคงยาก ปีนี้เนตรต้องไปให้ได้ เราจะเข้าไปขอกับคุณพ่อ กับคุณแม่เนตรเอง” อาคมหมายหมั้นปั้นมือที่จะชวนเนตรไปให้ได้ เขาอยากให้เนตรรู้จักกับมิ่งภพมากกว่าที่เห็นหน้าไกลๆ อยากให้เพื่อนรักของเขาอีกคนสนิทกับคนรักของเขาเอาไว้
งานวันเกิดปีนี้ของอาคมจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย มีแต่เพื่อนสนิทมางาน เนตรได้มางานเพราะอาคมลงทุนไปอ้อนกับคุณพ่อคุณแม่ของอีกฝ่ายถึงในวัง
“เนตรสวยมากเลยนะ” อาคมยิ้มรับเนตรเมื่ออีกฝ่ายเดินเข้ามาในงาน เนตรมาในชุดราตรีสั้นสีขาวมุก ประดับด้วยสร้อยมุกเส้นเล็กสวยงาม รวบผมขึ้น แต่งหน้าเล็กน้อยทำให้อีกฝ่ายดูโดดเด่นในงานไม่น้อย
“คมก็พูดเกินไป แฮปปี้เบิดเดย์นเพื่อน มีความสุขมากๆ” เนตรส่งของขวัญให้อาคม
“ขอบใจนะเนตร”
อาคมพูดเสร็จยืนพูดคุยกับเนตรอีกไม่นาน เนตรก็ขอตัวออกไปหาไรกินกับแน่งน้อยที่มาถึงงานก่อนอีกฝ่ายไม่นาน อาคมยืนรับแขกไปไม่นานก็มาครบ คืนนั้นงานดำเนินไปอย่างเรียบง่ายแต่ไม่น่าเบื่อ
มิ่งภพที่มางานเป็นคนแรกๆนั่งจิบไวน์ราคาแพงอยู่แต่สายตาของเขากลับไม่ละจากเนตรตั้งแต่เดินเข้ามาในงาน อีกฝ่ายสวย หวานราวกับนางฟ้า กิริยาท่าทางดูเรียบร้อยสมกับเป็นลูกผู้ดีในวัง รอยยิ้มหวานที่มักจะประดับบนใบหน้าอีกฝ่ายทำให้มิ่งภพอดที่จะยิ้มตามไม่ได้
“มึงมองเนตรไม่หยุดเลยนะ” เจตน์ เพื่อนของมิ่งภพที่โดนเชิญมางานด้วยพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“สวย สวยมาก ชื่อเนตรเหรอวะ” มิ่งภพพูดขึ้นอย่างเพ้อๆ
“เออ เขาชื่อเนตร เนตรเป็นลูกผู้ดีเก่าในวังนะมึง สวย รวย ชาติตระกูลดี ใครยากจะจีบเพราะพ่อแม่หวงยังกับไข่ในหิน ไอ้พันคอยจีบอยู่ตั้งนานเขายังไม่สนใจเลยมึง”
มิ่งภพได้แต่พยักหน้าไม่พูดอะไร
เนตรยืนคุยเพื่อนอยู่ก็รับรู้ได้ถึงสายตาหนึ่งที่คอยจับจ้องเขาอยู่ตลอด แต่เขาพยายามจะไม่สนใจ เพราะเขารู้ดีว่าคนที่มองเขาอยู่คือมิ่งภพ ผู้ชายที่เพื่อนเขาหลงรักสุดหัวใจ
“เนตรมานี่สิ เราจะพาไปแนะนำให้รู้จักกับมิ่งภพ” อาคมจูงมือเนตรไปที่โต๊ะมิ่งภพ โดยมีแน่งน้อยเดินตามไปด้วย
“มิ่งเราอยากให้เรารู้จักเพื่อนสนิทเราอีกคนนอกจากยัยแน่งน้อย”
มิ่งภพหันไปมองเนตรด้วยรอยยิ้ม ยิ้มหวานกว่าใครที่เขาเคยมอบให้
“เนตรหรือเปล่าครับ” มิ่งภพพูดขึ้น เนตรได้แต่พยักหน้ารับ
“เอ่อ รู้จักกันได้ไงเนี่ย เวลามิ่งมาหาเรายัยเนตรก็กลับบ้านแล้วตลอด” อาคมพูดด้วยความสงสัย
“พอดีผมแนะนำให้รู้จักแล้วละครับ” เจตน์ที่ยืนอยู่ไม่ไกลแนะนำขึ้นมา
“อ๋อ งั้นเราจะแนะนำอย่างเป็นทางการนะ นี่เนตร เพื่อนสนิทเราอีกคน” อาคมหันไปยิ้มให้มิ่วภพ ก่อนจะหันไปหาเนตร “นี่มิ่งภพ คู่หมั้นเราไงเนตร”
เนตรได้แต่พยักหน้ารับ เขาพยายามหลบสายตาของมิ่งภพที่มองเขามา
มิ่งภพยิ้มรับก่อนจะยื่นมือไปข้างหน้าเนตร
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
เนตรชะงักไปเล็กน้อย เขาไม่เคยจับมือกับชายแปลกหน้ามาก่อน เนตรได้แต่ยิ้มและยกมือไหว้
“ยินดีที่ได้รู้จักคะ”
เนตรอยู่ที่งานได้ไม่นานคนที่บ้านก็ขับรถมารับกลับ เนตรขอตัวลาอาคมและเปิดประตูรถกลับบ้าน
นี่เป็นงานกลางคืนครั้งแรกของเขา เขารู้สึกสนุกไม่น้อย และมันก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คุณแม่คอยพูด เนตรเหลือบมองงานรื่นเริงที่ยังจัดต่อไป มันจะสนุกกว่านี้ถ้าไม่มีสายตาของมิ่งภพที่จ้องเขาจนเขาอึดอัด
อาคมรู้สึกมีความสุขกับงานในคืนนี้ งานเลี้ยงเลิกราจนเหลือแค่เขาและมิ่งภพที่ดื่มไปเยอะจนเมา
“เดี๋ยวเราไปส่งไอ้มิ่งเอง” เจตน์พูดขึ้น แต่อาคมรีบห้าม
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวมิ่งพักที่นี้ก็ได้”
“จะดีเหรอ”
“ดีสิ” อาคมยิ้มตอบก่อนจะเรียกเด็กในบ้านมาช่วยแบกมิ่งภพขึ้นห้อง
“จะให้ผมไปส่งห้องรับแขกห้องไหนครับ”
“ไม่ ไปส่งที่ห้องฉัน” อาคมพูดจบยิ้มหวานขึ้นอย่างพอใจ เขารอเวลานี้มานานแล้ว
มิ่งภพที่นอนอยู่บนเตียง เขายอมรับว่าเมาพอสมควรแต่ยังพอมีสติ มิ่งภพกวาดสายตามองรอบๆห้อง ก่อนจะได้ยินเสียงของอาคมขึ้น
“ดื่มน้ำหน่อยสิมิ่ง จะได้ไม่ปวดหัว” มิ่งภพพยุงตัวนั่งก่อนจะรับแก้วมาดื่มน้ำแต่โดยดี
อาคมยิ้มหวานขึ้นเมื่ออีกฝ่ายดื่มจนเสร็จ
“เดี๋ยวเราไปนอนอีกห้องดีกว่านอนห้องเดียวกันมันจะดีเหรอ” มิ่งภพพูดขึ้น เขาพยายามควบคุมสติที่จะคุยกับอีกฝ่าย
“ไม่เป็นไรหรอก นอนนี่แหล่ะ เดี๋ยวเราไปอาบน้ำนะ” อาคมพูดขึ้นก่อนจะเข้าไปอาบน้ำ
อาคมอาบน้ำจนหอมฟุ้ง เขาอาบน้ำถ่วงเวลาให้ยาออกฤทธิ์ ยาที่จะทำให้มิ่งภพเป็นของเขา
อาคมออกมากด้วยสภาพผ้าเช็ดตัวผืนเดียว อาคมยืนหยุดมองมิ่งภพที่นั่งบนโซฟาแทนที่จะเป็นเตียง อีกฝ่ายนั่งเหมือนพยายามควบคุมสติตัวเอง
“มิ่งเป็นอะไร” อาคมนั่งเบียดอีกฝ่าย เขาพยายามนั่งชิดจนตัวเย็นๆของเขาสัมผัสกับอีกฝ่าย
มิ่งภพหันมามองอาคมด้วยแววตาหวานอย่างที่ไม่เคยมองมาก่อน อาคมยิ้มรับทันที
“คมไปไกลๆเราเถอะ เราเมาแล้วเป็นแบบนี้ทุกที แต่ครั้งนี้มันรุนแรง” อาคมยิ้มในใจเมื่อยากระตุ้นของเขาได้ผล
“ไม่เป็นไรหรอก” อาคมพูดเสียงหวานก่อนจะลูบแขนอีกฝ่ายเบาๆ
มิ่งภพมองหน้าอีกฝ่ายอย่างช่างใจ แต่เขาสู้กับกิเลส ตัณหาในใจ และไฟที่ร้อนรุ่มทวีคูณมากขึ้น เขาจับหน้าอาคมมาบดจูบอย่างดูดดื่ม
อาคมคล้องขออีกฝ่ายทันที เขาไม่คิดว่ามิ่งภพจะเร่าร้อนขนาดนี้
“อ๊ะ อ๊า ซี๊ดดดดดดด”
“เบาๆหน่อยมิ่ง อ๊ะ อ๊ะ”
“ไม่ไหวแล้ว อ่าห์ ซี๊ดดดดดดด”
กว่าที่เกมส์รักจะจบก็เกือบรุ่งเช้า
_____________________________________________________________________________
ตอนหน้ามาเจอพาร์ต อดีตพาร์ทสอง
ตอนแรกตั้งใจว่าจะเล่าอดีตแบบไม่ลึกมาก แต่เอาแบบลึกดีกว่า อย่างให้ทุกคนรับรู้ถึงความรู้สึกตัวตัวละครที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด เลยมีสองพาร์ท
ตั้งใฝจไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่านิยายเรื่องนี้ไม่มีตัวละครสีขาว หรือ สีดำ แต่ทุกตัวล้วนเป็นสีเทา สีเทาเข้ม หรือ อ่อนก็แล้วแต่การกระทำ
หายไปนานเพราะคนเขียนติดสอบรวดเดียว4ตัว 3วันติด เกือบตาย
สอบยังไม่เสร็จแต่หลังจากนี้มีเวลาอู้อ่านหนังสือมาพิมพ์นิยายบ้าง อิอิ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านและคอมเม้นต์นะครับ
ปล. คนเขียนฝากไลค์เพจนิยายด้วยนะครับ มีอะไรคนเขียนจะอัพเดทในนี้
https://www.facebook.com/pages/Tanyapuech/1448764075422477?ref=bookmarks