ข่ม ขืน ฝืน รัก
ตอนที่25
มินยืนอุ้มน้องซันระหว่างรอคิมออกมาจากห้องเจาะเลือด มินหันไปมองครามที่นั่งหน้าเครียดที่หน้าห้องเจาะ ครามเป็นคนเจาะเลือดเป็นคนแรก
ครามเงยหน้ามองมินที่ยืนนิ่งไม่พูดสนทนาอะไรกับเขาเลย เขารู้สึกเครียดอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกกลัว กลัวความจริงว่าน้องซันจะไม่ใช่ลูกของเขา
“ถ้าน้องซันเป็นลูกของไอ้คิม คุณจะทำยังไง” ครามชวนมินคุยขึ้น เขาทนที่จะอยู่อย่างอึดอัดไม่ไหว
“ก็ไม่ทำไง ยังไงน้องซันก็คือลูกของฉัน”
“คุณจะทิ้งผมไปหามันหรือเปล่า” ครามถามมินอย่างอ่อนแรง มินหันไปสบตาครามที่นั่งอยู่ มินมองสายตาของครามแล้วอดที่จะใจอ่อนไม่ได้
“ยังไงฉันก็เมียคุณ ไม่ว่าน้องซันจะเป็นลูกของใคร”
คำตอบอของมินทำเอาครามยิ้มออก ครามลุกขึ้นมากุมมือมินไว้ก่อนจะมองมินด้วยสายตารักใคร่
“ผมรักคุณ รักคุณมากเกินกว่าจะเสียคุณให้ใคร”
มินได้แต่ยิ้มตอบอีกฝ่าย เวลานั้นเองประตูห้องเจาะเลือดก็เปิดออก คิมเห็นภาพตรงหน้าแล้วทำให้เขารู้สึกจี๊ดอย่างบอกไม่ถูก
“ฉันขอตัว” มินเดินเข้าไปในห้องเจาะเลือด ถึงคิวสุดท้ายแล้วคือน้องซัน
มินนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยใจเต้นตึกตัก เขารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้รู้ความจริงสักที ส่วนลึกๆในใจเขาภาวนาให้เป็นลูกของคราม
“หมอเจาะเลือดเลยนะครับ” หมอภวัตพูดขึ้นและจับแขนทารกน้อยอย่างถะนุถนอม
“คุณหมอเบาๆนะ” มินสั่งคุณหมอ เขาไม่อยากให้ลูกต้องเจ็บ
“ผมจะเบามือที่สุด” มินพยักหน้าให้กับคำตอบหมอภวัต
มินอุ้มลูกมาประจันหน้าก่อนจะยิ้มให้กับทารกน้อยที่มองเขาตาแป๋ว
“น้องซันต้องทนนะครับ คนเก่งของแม่เก่งที่สุดนะครับ” มินหอมแก้มลูกชายฟอดใหญ่
“แอ๊ แอ๊” ทารกน้องเหมือนจะรับรู้
หมอภวัตจับแขนน้องซันอย่างเบามือและค่อยๆกดเข็ม น้องซันดิ้นเบาๆพยายามสลัดแต่มินพูดกล่อมและพยายามลูบแขนให้อีกฝ่ายใจเย็น สุดท้ายเมื่อดึงเข็มขึ้นทารกน้อยร้องดังขึ้นมา คุณหมอเลยรีบจัดการให้เสร็จ
“แง๊ !!!!!!!!!”
เมื่อหมอจัดการเสร็จเอาสำลีห้ามเลือดมินอุ้มลูกอย่างถะนุถนอมเพราะกลัวลูกเจ็บและโอ๋ทันที
“ไม่ร้องนะคนเก่ง เสร็จแล้วครับ ไม่เจ็บแล้วนะ” มินโอ๋ลูกชายไปสักพักทารกน้องจึงนิ่งลง
มินหันไปมองหมอภวัตที่กำลังเก็บเลือดของคนทั้งสาม
“รู้ผลเมื่อไหร่หมอโทรหาฉันคนแรก ห้ามโทรหาสองคนนั้นเด็ดขาด แล้วฉันจะมาฟังผลเอง”
“ครับ” หมอภวัตพยักหน้า
มินเดินออกจากห้องเจาะเลือด เขาออกมาก็ไม่เห็นทั้งคิมและคราม จะเดินไปหาที่ห้องน้ำแต่บังเอิญเห็นทั้งคู่ยืนคุยที่บันไดหนีไฟซะก่อน มินจึงหยุดฟัง
“ถ้าน้องซันเป็นลูกผมพี่จะทำไง” คิมเป็นฝ่ายพูดขึ้น
“ถ้าเป็นลูกแกฉันก็เลี้ยงได้ เพราะยังไงก็ถือว่าเป็นหลานฉัน”
“แต่ผมก็อยากจะเลี้ยงลูกผม”
“อย่าทำอะไรให้เป็นเรื่องใหญ่เลย แกก็รู้ใช่ไหมคิมว่าเรื่องนี้จะเป็นยังไงถ้าน้องซันไม่ใช่ลูกฉัน”
“ผมรู้ เรื่องนี้คุณพ่อจะรู้ไม่ได้ ถ้าคุณพ่อรู้ว่าน้องซันเป็นลูกผม น้องซันและมินไม่ปลอดภัยแน่”
มินตาเบิกกว้างเมื่อได้ยินแบบนั้น
“ใช่ แกก็น่าจะรู้ว่าคุณพ่อแค้นตระกูลของมินขนาดไหน พ่อวางแผนทุกอย่างมาหลายปี ถ้ารู้ว่าแผนต้องมาพังเพราะแก ไม่ใช่แค่น้องซัน มินที่จะโดนเก็บ แต่แกอาจจะโดนหางเลขไปด้วย ”
“หึ พ่อไม่ฆ่าผมหรอก ยังไงผมก็ลูก แต่มินนี่สิ ถึงน้องซันจะเป็นลูกพี่ สุดท้ายมินก็โดนเก็บไม่ใช่เหรอ”
ไม่ใช่แค่มินที่ตกใจ แต่กลับเป็นครามก็ตกใจไม่แพ้กัน
“แกรู้อะไรมาคิม”
“ผมได้ยินคุณพ่อคุยคนสนิทว่า เมื่อน้องซันครบ1ขวบเมื่อไหร่ มินจะได้หายไปจากโลกนี้!”
“ไม่อยากจะเชื่อว่าคุณพ่อจะทำจริงๆ” ครามครามออกมาอย่างแผ่วเบา คิมมองครามด้วยความสงสัย
“พี่รู้มาก่อนเหรอ”
“ฉันไม่รู้หรอก แต่คุณพ่อเคยพูดแปลกๆ เคยห้ามไม่ให้ฉันรักมิน เพราะแผนทุกอย่างจะไม่เป็นไปตามที่คุณพ่อวางไว้”
มินหันหลังพิงผนังตาโต เขาไม่คิดว่าอาคมจะเลวร้ายได้ถึงขนาดนี้ มินเม้มปากแน่นเมื่อได้ยินในสิ่งที่สองคนนั้นพูดกัน
“แอ๊ แอ๊” น้องซันร้องดังขึ้น ทำให้มินรู้สึกตัวและเดินกลับไปที่หน้าห้องตรวจ ระหว่างนั้นคิมและครามเดินออกมาพอดี มินจึงทักขึ้น
“ไปไหนกันมา”
มินถามด้วยสีหน้าปกติเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต คิมและครามมองหน้ากัน คิมจึงเป็นฝ่ายพูดขึ้น
“ไปห้องน้ำกันมา”
“งั้นกลับกันเถอะ”
“แล้วผลดีเอ็เอจะรู้เมื่อไหร่” ครามถามขึ้น
“หมอจะจัดการให้เร็วที่สุด และจะโทรบอกฉันเอง” มินพูดแค่นั้นและเดินไปที่รถโดยไม่รอสองคนด้านหลัง
ระหว่างทางมินรู้สึกกลัวขึ้นมาทันที ถ้าน้องซันเป็นลูกของคราม เขาก็จะโดนเก็บในอนาคต และถ้าเป็นลูกคิม เขาและลูกอาจจะโดนเก็บทันทีที่เรื่องแดงขึ้นมา
กลับมาถึงบ้าน มินเดินไปหาแป้น และให้แป้นดูน้องซันแทนเขา มินรู้สึกเครียดขึ้นมา เมื่อส่งน้องซันให้แป้นมินรีบขึ้นไปบนห้องทันที มินนั่งกำมือแน่นบนโซฟา เขามองไปรอบๆห้องอย่างหวาดกลัว ตอนนี้เขาอยู่ที่ถิ่นของอาคม อาคมจะเก็บเขาวันนี้ พรุ่งนี้ก็ได้ เขาจะต้องป้องกันตัวเอง ที่สำคัญ เขาต้องหาพวก!
“มิน” เสียงเรียกดังขึ้นทำให้มินหันไปมอง ครามยืนมองมินอย่างเป้นห่วงเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีสีหน้าหนักใจ
“คุณเครียดเรื่องผลดีเอ็นเอใช่ไหม” ครามนั่งข้างๆมินก่อนจะกุมมือมินไว้ ครามกังวลว่ามินจะเครียดเรื่องดีเอ็นเอ
มินหันไปมองคราม มินเม้มปากอยากจะเอ่ยถามครามว่าตกลงเรื่องที่อาคมจะเก็บเขานั้นเป็นไงกันแน่แต่ก็เลี่ยงที่จะไม่ถาม เพราะเขาจะให้อีกฝ่ายหรือใครๆรู้ไม่ได้ว่าเขารู้เรื่อนี้แล้ว เพื่อที่จะแผนของอาคมจะได้ไม่เปลี่ยนไปอีก
“ใช่ ฉันกลัว” มินพูดมันออกมาจากใจจริง สีหน้ามินดูหวาดกลัวอย่างงเห็นได้ชัด ครามจับมินเข้ามากอดแน่น
“คุณไม่ต้องกลัวนะ คุณยังมีผม”
“นายจะไม่ทิ้งฉันใช่ไหม นายจะอยู่ข้างๆฉันใช่ไหม” มินถามเสียงสั่นเครือ กระบอกตาเริ่มร้อนขึ้น
“ผมจะไม่มีวันทิ้งคุณ ไม่ว่างน้องซันจะเป็นลูกของผมหรือไม่ เพราะยังไงคุณก็เป็นเมียผม” ครามพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
มินผละออกมาจ้องหน้าคราม
“ฉันเชื่อคุณ ฉันรักคุณนะคราม” มินตัดสินใจพูดขึ้น เขารู้สึกหวั่นไปหมด ตอนนี้เขาต้องการหลักประกันว่าจะมีคนอยู่ฝ่ายเขา ถ้ามันจะต้องพูดมัดด้วยคำว่ารัก เขาก็ต้องทำ
ครามยิ้มกว้างเมื่อได้ยินคำนี้ ครามจูบหน้าผากมินเบาๆและพูดตอบอีกฝ่าย
“ผมก็รักคุณเหมือนกัน”
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป
หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมามินพยายามทำตัวปกติ ไม่ให้ใครผิดสังเกต และเขาพยายามเอาอกเอาใจครามมากขึ้น เพื่อให้อีกฝ่ายไม่เคลือบแคลงในคำว่ารักของเขา
“เสร็จแล้ว” มินจับเนคไทน์ครามให้เข้าที่
“ขอบคุณนะครับ” ครามพูดจบก้มลงมาจูบริมฝีปากมินเบาๆ
มินยิ้มหวานตอบอีกฝ่ายก่อนจะพูดขึ้น
“ตั้งใจทำงานนะ”
“ครับ” ครามพูดขึ้นก่อนจะออกจากห้องไป มินเดินออกห้องนอนไปที่ห้องของน้องซันข้างล่างก็เจอคิมนอนเล่นกับน้องซันอยู่ มินเลยทักอีกฝ่ายขึ้นมา
“นายไม่ไปเรียนเหรอคิม”
“จะสอบไฟนอลแล้ว ช่วงนี้หยุดอ่านหนังสือ ผมจะจบแล้ว” ครามลุกขึ้นนั่งพร้อมพูดกับมิน
มินเดินเข้าไปนั่งข้างๆคิม ก่อนจะก้มมองน้องซันที่นอนเล่นของเล่นอยู่
“ผมเรียนจบ ผมก็จะทำงานและดูแลคุณและลูกได้” คิมพูดพร้อมจะจับมือมิน มินที่จะเบี่ยงหนีอย่างเคยก็นึกออกว่าควรตามใจอีกฝ่ายเลยยอมให้จับแต่โดยดี
“ให้ผลออกมาก่อนเถอะ”
“ผมมั่นใจว่าน้องซันเป็นลูกของผม” คิมพูดออกมาอย่างมั่นใจ
“ทำไมนายถึงมั่นใจนัก” มินหันไปถามอย่างสงสัย
“เพราะตอนที่คุณท้องผมแพ้อาหารบ่อยมาก เวียนหัวบ่อย อ้วกด้วย ผมว่ามันต้องเป็นเพราะแพ้ท้องแทนเมียแน่ๆ”
“นายก็พูดไป” มินพยายามไม่ใส่ใจในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด
ในตอนเย็นของวันนั้นหลังจากทานอาหารเสร็จ อาคมก็พูดขึ้น
“คิมจะเรียนจบแล้วใช่ไหม” อาคมหันไปถามลูกชายคนเล็ก
“ใช่ครับ มีอะไรครับพ่อ”
“พ่ออยากให้แกไปเรียนต่อบริหารที่อังกฤษ” คำพูดของอาคมเหมือนสายฟ้าฝ่ากลางใจคิม คิมหันมามองมินทันที่
“ไม่ครับ ผมไมไป”
“แกต้องไป เพราะแกต้องมาดูแลงานฝ่ายบริหารอย่างเต็มตัว” อาคมพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งจนทุกคนต้องเงียบ
“ผมพอจะทำได้ ไม่ต้องไปเรียนต่อหรอกครับ”
“แกจบวิศวะมาจะมาช่วยงานบริหารอะไรได้ ฉันบอกให้แกเรียนบริหารเหมือพี่แก แกก็ไม่เรียน ตอนนี้แกต้องทำตามใจฉันบ้าง แกต้องไปต่อโทบริหารที่อังกฤษ”
“งั้นก็ต่อที่ไทยก็ได้ครับ” คิมพยายามต่อรอง
“ไม่ แกต้องไปที่อังกฤษ”
“ผมไม่ไป!” คิมเริ่มขึ้นเสียง
“ปัง !!” อาคมทุบโต๊ะลั่นก่อนจะหันไปมองคิมด้วยแววตาดุ
“ฉันมาบอกให้แกทราบเพื่อเตรียมตัว ไม่ได้มาขอความคิดเห็นจากแก ทุกอย่างฉันจะจัดการให้เอง อีกสามอาทิตย์เตรียมตัวบินไปได้เลย” อาคมพูดจบเดินออกไปจากห้องทันที
คิมหันมามองครามอย่างขอความเห็นใจ ครามได้แต่ถอนหายใจก่อนจะพูดกับน้องชายอย่างเห็นใจ
“แกก็รู้ว่าไม่เคยมีใครขัดพ่อได้ ไม่ว่าเรื่องใดใด”
ครามพูดจบจับมือมินให้ลุกขึ้นกลับห้อง
มินหันไปมองคิมนิดนึงก่อนจะเดินตามครามไป มินเม้มปากแน่นระหว่างเดิน อาคมกำลังจะทำอะไร อาคมกำลังจะส่งคิมไปไกลเพื่อจะได้จัดการเขาให้สะดวกขึ้นใช่ไหม!
มินนั่งเหม่อบนห้อง ครามกำลังเคลียงานในห้องทำงาน น้องซันนอนหลับไปแล้วคงเหนื่อยเพราะวันนี้ซนกับคิมทั้งวัน ระหว่างนั้นเองก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“ครืน ครืน”
มินรีบกดรับทันทีเมื่อเห็นว่าใครโทรมา
“ว่าไงหมอภวัต”
“ผลตรวจออกละครับ”
มินตาเป็นประกายทันทีที่ได้ยิน
“ฉันจะไปหาหมอที่โรงพยาบาลเดี๋ยวนี้ แล้วเจอกัน”
มินรีบออกจากบ้านโดยสั่งให้แป้นมาดูน้องซันที่ห้องแทน มินขับรถมาที่โรงพยาบาลที่หมอภวัตอยู่ทันที
“ผลว่าไงหมอ” มินนั่งลงบนเก้าอี้อย่างรีบร้อน ตอนนี้ใจเขาเต้นตึกตักไปหมด เขาภาวนามาลึกๆตลอดทางว่าอยากให้เป็นลูกของคราม ไม่รู้ทำไม แต่เขาอยากให้ครามดูแลเขามากกว่าคิม
หมอยื่นผลการตรวจดีเอ็นเอให้มินดู มินหยิบมาอ่านก็รู้ว่า
“น้องซันเป็นลูกของคิม!”
“ใช่ครับ น้องซันเป็นลูกของคุณคิม”
ในใจมินรู้สึกสะใจที่แผนของอาคมกำลังจะไม่เป็นไปตามแผน แต่ความปลอดภัยของเขาและลูกก็กำลังน้อยลงทุกที มินได้ไตร่ตรองเรื่องนี้มาอย่างดีแล้วเขาจะต้องทำตามแผนที่เขาคิดมาตลอดหนึ่งสัปดาห์
“หมอภวัตช่วยฉันเป็นเรื่องสุดท้ายได้ไหม ฉันจะไม่กวนหมออีก”
“ช่วยอะไรครับ” หมอภวัตขมวดคิ้วทันทีที่อีกฝ่ายพูดจบ เค้าลางความไม่สงบกำลังมาเยือนหมอภวัตอีกครั้ง
“หมอช่วยเปลี่ยนผลตรวจเป็นนาย คราม สุริยะทิพย์แทนได้ไหม”
หมอภวัตเบิกตากว้างทันที
“แต่มันจะขัดกับจรรยาบรรณผมนะครับ”
“หมอจะมาถามหาจรรยาบรรณอะไรตอนนี้ มันสายไปแล้วละ มันหมดตั้งแต่หมอช่วยฉันปกปิดเรื่องอายุครรภ์แล้ว หมอต้องช่วยฉันถ้าหมออยากจะขึ้นเครื่องไปเรียนต่ออเมริกาในอีกสองวันอย่างปลอดภัย” มินพูดเสียงเข้มด้วยแววตาดุจนหมอภวัตต้องหลบตา เขากลัว กลัวมินขึ้นรื่อยๆ
มินกดดันหมอภวัตด้วยสายตาเรื่อยๆ เขาไม่สนใจว่าใครจะมองเขาเป็นนางมารร้ายยังไง เขาต้องปกป้องลูกของตัวเองอย่างถึงที่สุด เขาต้องปกป้องตัวเองจากอาคม จะไม่มีใครทำอะไรเขาและลูกได้ เพราะถ้าผลเป็นลูกของครามก็จะยืดเวลาไปได้อีก5เดือน
“ก็ได้ครับ ผมจะเปลี่ยนให้” หมอภวัตจำยอมทำแต่โดยดี
“ด่วน แล้วก่อนหมอขึ้นเครื่องฉันจะโอนเงินไปให้หมอใช้เล็กๆน้อยที่อเมริกาสักแสนดีไหม” มินยิ้มหวานให้หมอภวัต
หมอภวัตรู้สึกดีใจอยู่หรอกที่จะมีเงินติดกระเป๋า แต่ทำไมนะเขารู้สึกขนลุกกับรอยยิ้มของมิน
มินเดินถือผลตรวจด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้น้องซันก็จะเป็นลูกคราม ไม่มีใครสงสัยอีก แม้ว่าจะนึกถึงคำพูดของคิมเมื่อตอนเที่ยงแล้วอดสงสารอีกฝ่ายไม่ได้ แต่เขาก็ต้องรักษาชีวิตของลูกและตัวเองก่อน ยังมีคุณพ่อและพี่ๆที่ต้องปกป้องเขาแน่ เขาจะเข้าไปคุยกับคุณพ่อ เวลาอีก5เดือน คงพอสำหรับการจัดการอาคม
“ฉันไม่ยอมให้แกฆ่าฉันก่อนแน่ อาคม!”
____________________________________________________________________________
ปมเฉลยหมดแล้ว เย้! หลังจากนี้ก็เหลือการฟาดฟันของมินและอาคม
ใครอยากรู้เรื่องในอดีตอีกไม่นานก็จะพาทุกคนไปในอดีต ไปรับรู้เรื่องราวต่างๆ
ใครจะเป็นพระเอกอันนี้คงต้องลุุ้นจนหยดสุดท้าย / โดนคนอ่านตบ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านและคอมเม้นต์ครับ ช่วงนี้ฟิตจริงๆขนาดช่วงสอบ ฮ่าๆ