ข่ม ขืน ฝืน รัก
ตอนที่31
“เดี๋ยวผมเอารถมารับนะมิน” ครามพูดกับมิน โดยที่ไม่ไกลนั้นมีคิมที่ยืนอยู่
“ไม่ต้องหรอก” มินหันไปปฏิเสธคราม วันนี้หมออนุญาตให้เขากลับบ้านได้แล้ว หลงัจากต้องพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล
“ทำไมละมิน” ครามถามขึ้น บรรยากาศตอนนี้อึดอัดจนไม่สามารถอธิบายได้ มันอึดอัดตั้งแต่ความจริงอะไรหลายๆอย่างเปิดเผย
“มินจะกลับไปอยู่ที่บ้าน”
“มินหมายความว่าบ้านมินเหรอ”
“ใช่” มินพูดเสร็จลุกขึ้นยืน และปฏิเสธห้ามคิมที่จะเข้ามาประคองก่อนจะพูดต่อ “เรื่องราวทั้งหมดมันหนักหนาเกินกว่าที่ฉันจะกลับไปอยู่บ้านหลังนั้นได้”
“งั้นเราไปซื้อบ้านอยู่ข้างนอกกันมั้ย” ครามพยายามพูดตื้ออีกฝ่าย แม้เขาจะรู้ดีว่าคนอย่างมินคิดจะไปก็จะไปให้ได้
“อย่าเลยคราม นายต้องดูแลอาคม ยิ่งตอนนี้สุขภาพอาคมไม่ค่อยดี นายต้องอยู่ใกล้ๆอาคม” มินพูดเสียงนิ่ง
“แล้วครอบครัวของเราละ”
มินหันมาสบตากับครามก่อนจะพยายามใจแข็งไม่สนใจต่อแววตาที่อ้อนวอนของคราม
“เราว่าเรื่องของเราควรจบกันแค่นี้”
มินพูดจบทั้งสองเงียบกริบ คิมที่ยืนมองทั้งคู่อยู่ได้แต่นิ่งเงียบ เขาไม่รู้ว่าเขาควรดีใจหรือเปล่า อาจจะเป็นโอกาสทองที่เขาจะได้กลับมาสร้างกับครอบครัวกับมิน ในเมื่อน้องซันก็คือลูกของเขา แต่อีกใจเขาก็เสียใจที่พี่ชายของเขาต้องมาผิดหวังทุกอย่าง
“ไม่!! มินคิดว่าจะจบมันง่ายๆเหรอ ผมไม่ยอมให้มันจบแล้วมินไปรักกับไอ้คิมหรอก”
“มันไม่เกี่ยวกันคราม มันไม่เกี่ยวกับคิม หรือใครทั้งนั้น”
“ทำไมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อความจริงทุกคนก็รู้หมดแล้วว่าน้องซันคือลูกของไอ้คิม ตอนนี้ไอ้คิมก็กลับมาแล้ว ไม่กลับไปเรียนแล้ว ต้องกลับมาช่วยงานที่บ้าน มินก็เลยคิดจะกลับไปอยู่กับมัน สร้างครอบครัวกับมันใช่มั้ย” ครามพูดออกมาเสียงเข้มแต่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
มินพยายามไม่สบตาครามที่เสียใจจนเขารู้สึกได้ เขาต้องใจแข็ง
“นายเข้าใจผิดแล้วละคราม ฉันจะไม่ไปสร้างครอบครัวกับคิม ต่างคนต่างอยู่เหมือนตอนแรกก็จบ ”
“น้องซันเป็นลูกของเรานะมิน มินจะใจร้ายกับลูกลงคอเหรอ ไม่อยากให้ลูกมีครอบครัวที่พร้อมหน้าพร้อมตาเหรอ” คิมแทรกขึ้นมาทันที เขาไม่อยากจะพลาดโอกาสสุดท้าย
มินหันไปมองหน้าคิมก่อนจะส่ายหน้า เขาคิดไว้ไม่ผิดว่าคิมจะต้องพูดแบบนี้
“อย่าเลย ครอบครัวต้องมีพื้นฐานจากความรัก ซึ่งเราสองคนไม่ได้มีตรงนั้น”
“มินก็รู้ว่าเรารักมินมาตลอด แต่พี่คราม...” คิมพูดขึ้นก่อนจะหันไปมองครามแล้วเงียบลง
“แต่เราไม่ได้รักคิม!!” มินรีบพูดขึ้นเสียงดังฟังชัดจนคิมต้องหน้าซีด มินรู้ว่าอีกฝ่ายเสียใจ แต่เรื่องนี้ไม่ควรยืดเยื้อ ทุกอย่างควรจบได้แล้ว
“อยู่ๆกันไปก็รักกันเอง เพื่อลูกไงมิน” คิมงัดไม้ตายเรื่องลูกออกมา เขาไม่มีวันที่จะพลาดโอกาสอีกครั้งแน่
“เหอะ! นี่มันชีวิตจริงไม่ใช่ละคร และอีกอย่างฉันอยากจะสร้างครอบครัวกับคนที่ฉันรัก” ประโยคสุดท้ายมินแอบมองครามที่ยืนขบกรามมองมินและคิมเถียงกัน
“ให้โอกาสเราได้ไหมมิน” คิมถลาเข้ามาใกล้มิน แต่มินถอยห่างอีกฝ่าย
“อย่าเลยคิม ทุกอย่างมันควรจะจบแบบนี้ คิมก็อยู่ในฐานะพ่อของน้องซันได้ เจอน้องซันได้ในฐานะพ่อเท่านั้น แต่กับเราไม่มีฐานะอื่นให้คิม นอกจากแม่ของน้องซันเท่านั้น!” มินพูดชัดเจนจนครามและคิมรู้สึกได้ ครามแอบดีใจที่มินปฏิเสธอีกฝ่าย
“มินไม่กลัวลูกจะขาดความอบอุ่นเหรอ” คิมยังตื้อไม่เลิก
“หยุดตื้อเถอะคิม เราตัดสินใจแล้ว”
“แต่เราว่า...” ยังไม่ทันที่คิมจะพูดจบมินแทรกขึ้นมาก่อน
“ถ้านายยังพูดไม่รู้เรื่อง เราจะไม่เซ็นต์ยินยอมเปลี่ยนชื่อพ่อน้องซันในใบเกิดเป็นชื่อนาย” มินพูดนิ่งพร้อมจ้องตาคิมอย่างวัดใจ ทัง้สองคนจ้องตากันสักพัก สุดท้ายคิมก็ต้องยอมแพ้
“เรายอมแล้วมิน เราไม่สามารถชนะใจมินได้เลยจริงๆ ไม่ว่าวิธีไหนก็ตาม แม้จะมีลูกด้วยกันแล้วมินก็ไม่คิดจะให้โอกาสเรา” คิมเสียงอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด แววตาที่เศร้าลงของคิมทำให้มินถอนหายใจ
“ก่อนที่นายจะถามหาโอกาสจากฉัน นายเคยถามว่าตัวเองก่อนมั้ยว่า นายเริ่มความสัมพันธ์แรกเริ่มของเรายังไง ถ้าความสัมพันธ์เริ่มต้นด้วยความไม่น่าประทับใจ นายคิดเหรอว่าจุดจบมันจะสวยหรูเหมือนในนิยาย” คำพูดของมินทำเอาสองคนพี่น้องนิ่งเงียบและแอบมองหน้ากัน มินมองหน้าทั้งสองคนแล้วพูดต่อ
“นายเข้าใจแล้ใช่มั้ยครามว่าทำไมฉันถึงอยากกลับไปอยู่บ้าน ฉันไม่ได้อยากไปสร้างครอบครัวกับใคร แต่ฉันอยากอยู่คนเดียว ฉันอยากอยู่กับลูกสองคน สองคนแม่ลูกเท่านั้น!”
“ผมเข้าใจ ผมรู้ว่าความสัมพันธ์ของเราสองคนมันเริ่มต้นไม่สวย แต่เราจะผ่านมันไปด้วยกันได้มั้ย” ครามพยายามเว้าวอนมิน
“เราทั้งสามคนเริ่มต้นด้วยความแค้นของพ่อของนาย ความรักที่เกิดขึ้นบนความแค้นมันจะมีเหรอ ใช่ นายสองคนอาจจะรักฉัน แต่ฉันละ คนที่โดนกระทำมาตลอด ฉันโดนอะไรจากพวกนายบ้าง ฉันโดนข่มขืนจากพวกนาย โดนพ่อของพวกนายบีบบังคับให้มาแต่งงาน ฉันต้องทิ้งชีวิตวัยรุ่นที่ฉันควรจะไปกิน เที่ยวกับเพื่อนมาจมปลักอยู่กับความแค้นและต้องคิดแก้เกมส์ที่พ่อของนายวางมา ทำยังไงให้ตัวเองอยู่รอด รู้ไหมว่าฉันอึดอัดแค่ไหนที่ต้องท้องและบอกใครไม่ได้ ฉันต้องโกหกนาย ต้องคิดต่างๆนาๆกังวลว่าจะโดนจับได้ สุดท้ายคนที่โง่ก็คือฉันที่ไม่รู้เลยว่าทุกคนรู้หมด ฉันมันก็แค่หมากตัวนึงในเกมส์นี้ ฉันนอนไม่หลับเพราะไม่รู้ว่าพ่อของนายจะลุกขึ้นมาฆ่าฉันกับลูกเมื่อไหร่ ฉันกังวลว่าพ่อนายจะเอาลูกของฉันไป ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันยิ้มกี่ครั้งฉันก็ยังไม่รู้เลย แล้วแบบนี้พวกนายจะให้ฉันรักพวกนายเหรอ ขอโทษนะทำไม่ได้ ” มินพูดไปพร้อมน้ำตาที่คลอเบ้า ความรู้สึกที่อัดอั้นทั้งหมดพรั่งพรูออกมา คิมและครามที่มองอยู่แต่นิ่งเงียบ เขาพูดความจริงที่เขาไม่ได้รักคิม แต่....
“แล้วที่ผ่านมามินอยู่กับผม มินไม่มีความสุขเลยเหรอ” ครามเสียงอ่อยลงอย่างเห็นได้ชัด
“มีสิ นายทำให้ฉันมีความสุข นายทำให้ฉันรู้ว่านายรักฉันและน้องซันมาก แต่ฉันขอโทษที่รักนายกลับไม่ได้” แต่ฉันกำลังโกหกว่าฉันไม่ได้รักคราม
มินปล่อยให้น้ำตาไหลลงเงียบๆ น้ำตาที่ไหลลงมาไม่หยุด เขาไม่รู้ว่าเขาเสียใจกับเรื่องราวในอดีต หรือเขาเสียใจที่โกหกหัวใจตัวเองกันแน่
“ฉันขอตัว น้องซันจะไปอยู่กับฉัน ถ้าพวกนายคิดถึงก็ไปหาได้ ในฐานะพ่อ และลุงเท่านั้น” มินพูดจบปาดน้ำตาและเดินออกจากห้องไปทันที
ครามและคิมยืนแน่นิ่งทั้งสองคนไม่มองหน้ากัน ทั้งสองคนปล่อยให้เวลาผ่านไปสักพัก คิมก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน
“มันเป็นความผิดของเราสองคนที่ยอมทำเรื่องบ้าๆตามพ่อ ไม่ผิดเลยที่เขาจะไม่มีวันให้อภัยพวกเรา”
“ใช่ ถ้าฉันรู้จักห้ามใจไม่ยุ่งกับคนที่น้องชายรักทุกอย่างก็คงไม่เป็นแบบนี้”
“ทุกอย่างมันผ่านไปแล้วพี่ ช่างมันเถอะ” คิมตบไหล่พี่ชายที่ยืนซึมอย่างเห็นได้ชัด
“แกจะเอาไงต่อ”
“ก็คงต้องทำตามที่มินบอกแหล่ะพี่ ถึงผมจะไม่ได้อยู่ในฐานะสามีของมิน แต่อย่างน้อยผมก็ได้อยู่ในฐานะพ่อของน้องซัน ”
ครามยิ้มมุมปาก ยิ้มไม่ใช่ดีใจ แต่ยิ้มออกมาอย่างสมเพชตัวเอง แล้วเขาละจะอยู่ในฐานะอะไร
คิมมองพี่ชายอย่างเข้าใจอีกฝ่ายว่าอีกฝ่ายกำลังน้อยใจและเสียใจเรื่องลูก
“พี่อย่าลืมสิ พี่ยังมีทะเบียนสมรส ยังไงพี่ก็ยังได้อยู่ในฐานะที่ผมอยากอยู่มากที่สุด” คิมพูดจบก่อนจะบีบไหล่พี่ชายและเดินออกจากห้องไป เขายอมแพ้แล้ว ยอมให้กับความใจแข็งของมิน และยอมให้กับความรักที่พี่ชายของเขามีให้มินจนเขารู้สึกได้ว่าครามรักมินมากจริงๆ
“กลับมาอยู่บ้านแบบนี้คนบ้านนู้นเขาไม่ว่าอะไรใช่มั้ยมิน” มนต์ที่ถามน้องชายขึ้น เขารู้ว่าอีกฝ่ายต้องการออกมาจากวังวนตรงนั้น แต่ที่เขาถามเพื่อไม่อยากให้ทั้งสองฝ่ายไม่พอใจกันอีก
“ไม่หรอกครับ มินเคลียร์ทุกอย่างแล้ว” มินตอบพร้อมรอยยิ้มบางๆ ก่อนจะก้มลงไปเล่นกับน้องซันที่นั่งเล่นบนพรมในห้องนั่งเล่น
เขากลับมาอยู่บ้านได้เดือนกว่าแล้ว ทุกอย่างดูสงบและสบายใจ เขาสามารถทิ้งตัวลงนอนได้โดยไม่ต้องกังวลอะไรในบ้านหลังนี้ แม้ว่าในใจเขาแอบรู้สึกคิดถึงคนที่อยู่ข้างๆเขามาตลอดเกือบ2ปี และวันนี้อีกฝ่ายไม่ได้อยู่ข้างๆ
“คิมมาหาน้องซันบ่อยใช่มั้ย” มนต์ถามขึ้น เพราะเขาได้เจอกับอีกฝ่ายบ่อยครั้ง คิมมักแวะวเวียนมาหาน้องซันทุกวันและซื้อของเล่นมาให้เจ้าตัวแสบจนมินต้องห้าม
“ก็ทุกวันแหล่ะครับ” มินตอบพร้อมคิดถึงคิมที่มาหาน้องซันทุกวัน อีกฝ่ายยังมาเจ๊าะแจ๊ะกับเขาบ้างในช่วงแรก แต่เขาเว้นระยะห่างให้อีกฝ่ายมากพอจนอีกฝ่ายถอยกลับและเว้นระยะห่าง กลับไปอยู่ในฐานะพ่อน้องซันเท่านั้น
“แบบนี้มีสิทธิ์รีเทิร์นหรือเปล่าน๊า” มนต์ขึ้นอย่างล้อเลียนน้องชายตัวเอง
“ไม่มีวันหรอกครับ”
“จะว่าไปก็ไม่เห็นครามเลยนะ ครามเลี้ยงน้องซันมา น่าจะมาหาบ้าง” มนต์พูดขึ้นอย่างไม่คิดอะไรแต่ทำให้มินที่นั่งอยู่เจ็บจี๊ดขึ้นมา
ใช่ ครามไม่เคยมาเลย แม้ว่าเขาจะบอกว่าให้อีกฝ่ายมาได้ในฐานะลุง
“แต่มินก็ยังไม่หย่ากับครามใช่มั้ย” มนต์ยังถามไม่หยุด
“ใช่ครับ” มินลืมไปเลยว่าเขาต้องหย่า เขาลืมหรือเขาไม่คิดจะหย่ากันนะ
“สวัสดีมิน สวัสดีครับพี่มนต์” เสียงของบุคคลที่เอ่ยถึงเมื่อกี้ดังขึ้นมา คิมก็คงมาหาน้องซันเหมือนทุกวัน
มินเงยหน้ามองคิมที่เดินเข้ามา แต่วันนี้ไม่เหมือนวันอื่นๆ วันนี้มีอีกคนตามมาด้วย
คราม!
“เอ้าคราม วันนี้มาด้วยเหรอ” มนต์หันไปทักคราม บ่นถึงมื่อกี้ก็มาเลย
“ครับ” ครามตอบรับพร้อมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะหันไปมองมิน เขาสบตากับมินแปปเดียวอีกฝ่ายก็หันหน้าหนี เขาอยากจะเดินเข้าไปกระชากอีกฝ่ายเข้ามากอดแล้วบดจูบให้สมกับความคิดถึง แต่เขาทำไม่ได้ เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายเกลียดเขาไม่มากกว่านี้
“เชิญตามสบายนะคิม คราม” มินเลี่ยงออกมาข้างนอกพร้อมมนต์
ตลอกเวลาที่คิมมาหาน้องซันเขาปล่อยให้สองคนพ่อลูกอยู่ด้วยกัน เขาไม่อยากจะเข้าไปยุ่ง เขาอยากให้พ่อลูกอยู่ด้วยเพราะอีกไม่นานเขาก็ต้องให้ทั้งสองคนห่างกันตามที่เขาคิดไว้ อดไม่ได้ที่จะมองครามที่นั่งเล่นกับน้องซันด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มที่แสนจะอ่อนโยนที่อีกฝ่ายมีให้น้องซันเสมอ มินลูบหน้าท้องตัวเองที่เริ่มย่างเข้าสู่เดือนที่4 ท้องเริ่มใหญ่ ครามคงจะอ่อนโยนและรักลูกตัวเองมาก อีกฝ่ายจะดีใจแค่ไหนนะถ้ารู้ว่าลูกของตัวเองยังอยู่
มินยิ้มหวานออกมาแต่สุดท้ายก็ต้องหุบยิ้มและเดินห่างออกมา
เขายอมสละความสุขส่วนตัวของตัวเองเพื่อลูกทั้งสองคน
เขาไม่อยากให้ลูกต้องสับสนว่าทำไมพี่ชายถึงเป็นลูกของอา หรือน้องเป็นลูกของลุง
มัยซับซ้อนเกินกว่าจะอธิบาย
เขารู้ว่าความลับไม่มีในโลก
แต่เขาจะยื้อเวลามันให้นานที่สุด
_________________________________________________________________
มาต่อให้แล้วครับ แอบมาไวหน่อยอาจจะมาอีกทีอาทิตย์หน้าเลย
ตอนนี้คงรู้แล้วเนาะว่าใครเป็นพระเอก ฮ่าๆ
มีอะไรติชมได้ครับ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านและคอมเม้นต์ครับ
https://www.facebook.com/Tanyapuech-1448764075422477/ สุดท้ายฝากเพจด้วยคร้าบ