ตอนที่ ๗๘ ดึกสงัด ครึ่งหลัง
หลังจากเหตุการณ์ชวนขนหัวลุกวันนั้น คอนกลางคืนนี้บางคนที่กลัวผีมากๆถึงกับต้องจ้างเวรกันเลยทีเดียว ส่วนใครมีของดีหรือใจกล้าหน่อยก็เข้าเวรเองครับ แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ผู้กองรู้ข่าวที่ผมเจอผีเปรต ไม่ทันข้ามวันผู้พันก็แวะเข้ามาหาผมที่กองร้อยเลยครับ แกจอดมอไซด์ที่หน้ากองร้อย
“ตรง”
“ตามสบายๆ”ผู้พันโบกมือให้กับพวกผมที่ยืนตรง บ่ายแก่ๆประมาณ ๓ โมงครึ่ง แกมักจะนั่งมอไซด์ตรวจรอบกองพันครับ “เจอของดีเหรอบอมบ์ ไหนพี่ขอดูหน่อยสิ”ผมยืนมือถือให้ผู้พันดู ผู้พันวิพากษ์วิจารณ์อยู่พักหนึ่งครับแล้วก็เรียกผู้กองมาคุย ผู้กองกองร้อยข้างๆผมแกก็เข้ามาร่วมวงด้วยครับ
“จะทำยังไงดีมหา ผู้พันเพิ่งจะเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้”
“ก็คงต้องทำบุญกองพันครับผู้พัน”ไอ้มหาให้คำปรึกษา
“อืม งั้นเดี๋ยวต้องหาวันว่างๆ”ผู้พันพยักหน้า จากนั้นคุยกันนิดหน่อยแล้วผู้พันก็ไป
“พี่มหาๆ มีตะกรุดมีพระไหมพี่ ผมขอยืมหน่อย ผมไม่ไหวจริงๆ”
“จะกลัวอะไรวะ มันมาก็ขอหวยมันสิ พวกแบบนี้มันไม่ชอบให้ใครมาขอหวย”ไอ้มหายิ้ม
“หูยพี่ นะพี่นะ ผมขอของดีจากพี่หน่อย อะไรก็ได้”รุ่นน้องยกมือไหว้เลยครับ
“อ่ะๆ เอานี่ไป”ไอ้มหาหยิบก้อนกลมๆชิ้นหนึ่งให้รุ่นน้อง ไม่ใช่พระหรือตะกรุดครับ เป็นว่านชนิดหนึ่งที่แห้งแล้ว
“จะใช้ได้เหรอพี่”
“งั้นไม่ต้องเอา กูก็ไม่มีของอย่างอื่น พระก็อยู่ที่บ้านกูหมด ไม่ได้เอาติดตัวมาสักองค์ มีแต่ไอ้นี่นี่แหละ จะเอาไม่เอา”
“เอาก็ได้พี่”มันรับไป
ถึงเวลานอนก็นอนพักผ่อนกันครับ อากาศอบอ้าวไปบ้างพัดลมที่หมุนติ้วๆอยู่ด้านบนไม่ค่อยจะช่วยอะไรได้เลย แอบเข้าห้องผู้หมวดไปหยิบพัดลมตั้งโต๊ะของผู้หมวดมาเปิดอีกตัว แล้วก็นอนหลับสบายใจเฉิบ
“หนู ทำไมมานั่งคนเดียวอ่ะ พ่อแม่หนูไปไหนเหรอ”ผมนั่งยองๆข้างเด็กผู้ชายวัยน่าจะ ๒ ขวบกว่าๆ เด็กคนนี้นั่งยองๆแล้วขีดเขียนพื้นดิน พอผมถามเด็กคนนี้ก็เงยหน้ามามองหน้าผมแล้วกระโดดกอด
“เย้ พ่อมาหาหนูแล้ว”
“หืม อะไรเนี่ย”ผมทำหน้างง
“หนูขอไปอยู่กับพ่อนะ”
“เอ๊ย ได้ไง แล้วพ่อแม่หนูล่ะไปไหน ให้อาช่วยตามหาพ่อแม่หนูไหม”
“ไม่เอา หนูไม่อยากไปไหน หนูจะมาอยู่กับพ่อ”เฮ้ย โมเมกูเป็นพ่อของเอ็งเชียวเลยเหรอไอ้หนู
“จะมาอยู่กับอาได้ไง พ่อแม่หนูเขารอหนูอยู่นะ ป่ะ เดี๋ยวอาพาไปหาพ่อแม่ ปล่อยอาก่อน”
“ไม่เอา หนูไม่อยาก ฮึกไป หนูจะอยู่กับพ่อ ให้หนูอยู่กับพ่อด้วยนะ ฮึก”เอาแล้วไง อยู่ดีไม่ว่าดี ร้องไห้ซะแล้ว
“จะมาอยู่กับอาได้ไง พ่อแม่หนูเขาเป็นห่วงนะ หยุดร้องไห้ก่อน แล้วบอกอาว่าพ่อแม่ของหนูอยู่ไหน”
“ก็พ่อเป็นพ่อของหนูไง ฮึก หนูจะอยู่กับพ่อ”
“หืม เป็นเมื่อไหร่ อย่าเป็นเด็กไม่ดีนะเดี๋ยวอาพาไปหาพ่อแม่ของหนูเอง”
“ฮือๆๆ ไม่เอาฮึก หนูไม่อยาก ฮึก ไปอยู่กับคนอื่นฮือๆๆๆ ให้หนูอยู่กับพ่อนะฮือๆ”ฟูมฟายใหญ่เลยครับ
“ไม่ได้ หนูจะมาอยู่กับอาได้ไงพ่อแม่หนูเป็นห่วง ป่ะเดี๋ยวอาพาหนูไปหาพ่อกับแม่นะ”ผมแกะมือเด็กน้อยออก
“ฮือๆ ให้หนูอยู่กับพ่อนะ ฮือๆ”ผมลุกขึ้นยืนมอง
ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด ปริ๊ด ไอ้เย็บเข้กูฝันเหรอวะเนี่ย ผมรีบลุกขึ้นมองซ้ายมองขวาไฟสว่างทั่วโรงนอน ทุกคนต่างเก็บหมอนมุ้งเครื่องอุปกรณ์ส่วนตัวแล้วรีบลงไปรวมแถวด้านล่างตามกิจวัตรประจำวัน ก็เหมือนเดิมแหละครับ ตื่น วิ่ง อาบน้ำ ทำความสะอาด กินข้าว เคารพธงชาติ ไปรวมพลประจำวัน รอเปลี่ยนสิบเวร แล้วหางานก๊อกๆแก๊กๆทำ จนถึงเย็น กิจวัตรเหมือนเดิม ทหารใหม่มีหน้าที่ฝึกก็ฝึกหน้าดำคร่ำเครียด
“ขึ้นม.๖แล้วไม่ค่อยว่างเลยอ่ะอา ดูดิ แขนขาแฟบหมดแล้ว”น้องไปป์เจ้าเก่าเดินมาบ่นกับผมพร้อมกับโชว์กล้ามแขนที่มีไม่ค่อยมาก
“หึหึ อย่าใจร้อนดิ ตอนนี้ตั้งใจเรียนก่อน จะเข้าคณะแพทย์ไม่ใช่เหรอ”
“อื้ม แต่อยากมาออกกำลังกายบ้าง งานไม่รู้จะเยอะไปไหน แทนที่ม.๖แล้วจะน้อยๆลงบ้าง”
“เอาน่า อย่าให้เสียชื่อลูกชายหัวแก้วหัวแหวนผู้การสิ ว่างเมื่อไหร่ค่อยออกกำลังก็ได้”ผมพูดปลอบ แล้วเราก็ออกกำลังกายกันเบาๆ ไม่ได้หักโหมอะไรมากมาย เอาแค่พอเหงื่อชุ่มก็พอครับ ถึงเวลากินข้าวก็ไปกิน กับข้าวดีบ้างไม่ดีบ้าง บ่นกันไปตามประสา
“พี่บอมบ์ พี่มหาราตรีสวัสดิ์ จุ๊บๆสามี”อีหนูพูดก่อนนอนทุกคืน
“อืม ฝันดีมึง ขอเด็ดๆ ๓ ตัว”ไอ้มหาบ้าหวย
“ฝันดีอีหนู ขอให้ฝันเจอผีที่ใต้ถุน”
“ตาบ้า ถ้าคืนนี้หนูฝันเห็นหมีเอ๊ยเห็นผีหนูจะไปนอนแซะนอนซบกับพี่บอมบ์”
“ฮ่าๆๆๆ”
ไฟในโรงนอนถูกปิดเรียบร้อย ตอนนี้มืดแต่ไม่ตึ๊ดตื๋อ ยังมีแสงไฟจากด้านนอกเล็ดลอดเข้ามา บนโรงนอนจะเปิดไฟหน้ามุกที่หัวโรงและท้ายโรงไว้นะครับ ส่วนมุขกลางจะไม่เปิด สิบเวรก็นอนที่มุขกลาง คิดถึงหมวดบูมอยากโทรหา แต่พี่แกไม่ได้คงไม่มีเวลาคุยหรอกครับเพราะฝึกหนักคงจะเหนื่อย ผมอยากให้พักผ่อนเยอะๆ
“พ่อ”
“หือ อ้าว”ผมทำหน้างงเมื่อเจอกับเด็กคนเมื่อวาน พอเจอหน้านี่เรียกพ่อวิ่งมาเกาะขาผมทันที
“พ่อมาหาหนูแล้ว”เจ้าเด็กน้องยิ้มกว้าง วันนี้ดูผิวพรรณผ่องใสเหมือนมีออร่าออกจากร่างกาย เสื้อผ้าที่สวมใสก็ดูสะอาดสะอ้าน
“นี่ อย่าโมเมเรียกคนอื่นว่าพ่อสิ”ผมเอ็ด
“ก็หนูอยากเรียกพ่อว่าพ่อนี่ หนูจะมาอยู่กับพ่อ”
“เฮ้อ หนู นี่อาถามหน่อยนะ พ่อแม่หนูอยู่ไหน”
“ก็พ่อเป็นพ่อหนูไง นะๆ หนูขอมาอยู่กับพ่อนะ”
“ไม่ได้ หนูเป็นใครอาก็ยังไม่รู้เลย แล้วนี่จะให้อาพาหนูมาอยู่ด้วย พ่อแม่หนูไม่เป็นห่วงแย่เหรอ เกิดตำรวจเขามาตามจับอาข้อหาลักเด็ก อาติดคุกหัวโตสิ”
“พ่อไม่ติดคุกหรอก นะ ขอหนูไปอยู่กับพ่อ หนูจะเป็นเด็กดี”
“ยังไงก็ไม่ได้ จะมาอยู่ได้ยังไง เอาเป็นว่าเดี๋ยวอาพาหนูไปตามหาพ่อแม่ของหนูดีไหม”ทำไมเด็กคนนี้เข้าใจยากจังนะ
“ทำไมพ่อไม่อยากให้หนูไปอยู่กับพ่ออ่ะ ฮึก หนูอยากอยู่กับพ่อ นะพ่อนะ ให้หนูอยู่กับพ่อนะ”เจ้าเด็กน้ำตาซึมเกาะแขนผมไม่ยอมปล่อย ผมงงมากเลยครับทำไมต้องอยากมาอยู่กับผมด้วยนะ แล้วพ่อแม่เขาอยู่ที่ไหนอะไรยังไง
“เฮ้อ อย่าร้องสิ”
“พี่ศักดิ์ๆๆ เตรียมตัวเข้าเวรพี่”เสียงเรียกดังขึ้นจากซอยฝั่งตรงข้ามทำให้ผมสะดุ้งตื่นมากลางดึก กี่โมงแล้ววะ ผมหยิบมือถือมากดดูนาฬิกา ตอนนี้ใกล้จะตี ๒ แล้ว วางโทรศัพท์ลงข้างหมอน เฮ้อ ฝันอะไรของกูอีกวะเนี่ย คิดถึงลูกชายตัวแสบจนเก็บเอาเรื่องเด็กมาฝันเป็นตุเป็นตะไปได้ แล้วผมก็หลับต่ออีกครั้ง
“๑ ๒”
“นับใหม่”
“๑ ๒”
“ต่อไป”
“๑ ๒ ๓ ๔ ๑”
“ระวัง ระวัง ระวัง นับ”
“๑.......๒ ..........๓ .........๔ ..........๑ ....๒ ...๓ ....๔ .....๑..๒..๓...๔ ชาติ เกียรติ วินัย กล้าหาญ อดทน เชื่อฟัง มั่นใจ สู้ตาย หน่วยฝึก พัน.... เอี้ย บึ้ม”
เสียงของทหารใหม่ดังขึ้นเป็นจังหวะตามการก้าวเดินในรูปแถว เพื่อความพร้อมเพรียมกัน มือคว่ำกำหลวม ร่างกายตั้งตรง สายตามองไปข้างหน้า ก้าวขาเป็นจังหวะสม่ำเสมอและมีความมั่นใจ ช่วงกลางวันที่มีการฝึกก็จะแยกย้ายกันไปฝึกตามสถานี กองร้อยผมใช้ด้านหลังบริเวณกองร้อยในการฝึกสถานีที่ ๒ คือ ท่ามือเปล่าและท่าอาวุธ ตอนนี้ก็ฝึกไปได้มากพอสมควรแล้วครับ ท่าเดินของพวกทหารใหม่พร้อมเพรียงกันมากขึ้น ท่าอาวุธก็พัฒนาเป็นท่าใหม่ๆ
“แฟนหนูหล่อนะพี่บอมบ์”อีหนูบุ้ยปากไปที่ทหารใหม่หมวดหนึ่งคนหนึ่ง หน้าหล่อ ขาว ตี๋ รูปร่างสูงโปร่ง มันเห็นใครหล่อเป็นไม่ได้ โมเมว่าเป็นผัวของมันไปเรื่อย
“ฝรั่งได้ยินคงจะเสียใจ มีเมียแทนที่จะได้เก้งตัวดีๆ กลับได้แรดตัวแม่มา”ผมพูดติดขำ
“ฮ่าๆๆ ก็น้องมันหล่อบาดใจนี่พี่บอมบ์ หนูแซวไปงั้นแหละ ไม่มีใครสู้พี่เจิดได้หรอก”
“ก็แหงล่ะสิ ตกถังข้าวสารนี่”
“หนูไม่ได้รักที่พี่เจิดรวยนะ หนูรักเขาที่เขามีเงินเยอะต่างหาก ฮ่าๆๆๆ”
“มันต่างกันตรงไหนวะ”
“หนูล้อเล่น”
“อ่ะ มีใครสงสัยอะไรไหม เวรยามลงตัวนะ”สิบเวรถามก่อนที่จะเลิกอบรมในช่วงเย็นของทุกวัน พวกเรานั่งเงียบไม่มีอะไรจะสงสัยหรอกครับ อยากเลิกจะแย่อยู่แล้ว “ถ้าไม่มีใครสงสัยก็แยกย้ายกัน แล้ว ๒ ทุ่มครึ่งก็ตาม รปจ. เช็คยอดเสร็จก็จะปล่อยนอน เชิญ”
“ตรง”
“ขอบคุณครับ”
ไปตลาดซื้อของกิน ช่วงนี้ผมกินน้อยลงกว่าเดิมจากเมื่อก่อนไปถึงตลาดจะต้องสั่งข้าวหรือก๋วยเตี๋ยว แต่ไปถึงซื้อนมมากล่องหนึ่งแล้วเดินกลับกองร้อย มานอนตากพัดลมเล่นโน๊ตบุ๊คดูการงานผ่านระบบออนไลน์ อ่านพวกข่าวเศรษฐกิจ จนใกล้ถึงเวลาสวดมนต์จึงหยุดกิจกรรม แล้วก็ไปสวดมนต์ สิบเวรเช็คยอดนอนเรียบร้อยก็ตัวใครตัวมัน มาถึงเตียงนอนผมกางมุ้งเรียบร้อยแต่ยังไม่ได้ยัดชายมุ้งเข้าในฟูก มานั่งดูงานของตัวเองต่อ บางคนก็ทะลึ่งมาขอเล่นขอ ขอดูหนังโป๊ ผมถลึงหน้าใส่มันก็ไม่เซ้าซี้ผมละ
ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด ปริ๊ด เสียงนกหวีดลากยาวดัง ๓ ครั้งแล้วปิดท้ายด้วยเสียงสั้นห้วนอีกครั้งหนึ่งเป็นสัญญาณว่าตอนนี้ได้เวลานอนแล้ว ผมเอาชายมุ้งยัดลงที่ขอบที่นอน แต่ยังไม่ได้นอนทันที นั่งดูงานต่อพักหนึ่ง จากนั้นก็เก็บโน๊ตบุ๊คใส่ไว้ในตู้แล้วก็นอน
“คิกๆ พ่อมาแล้ว พ่อจะมารับหนูไปอยู่ด้วยใช่ไหม”ไอ้เด็กน่ารักคนเดิมครับ คราวนี้มาในชุดไทยโบราณสีแดงประกายทอง นุ่งโจงกระเบน มีสร้อยและสังวาล ไม่สวมเสื้อ มัดจุกด้วยและมีปิ่นปักที่จุก ใส่กำไลข้อมือข้อเท้า คือเครื่องประดับแบบนี้หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ทองเน้นๆ เพชรเนื้อๆ ผิวพรรณดูงามตาผ่องใสมีรัศมีสว่างจ้า พอเจอหน้าผมก็กระโจนเข้าสา “พ่อมารับหนูไปอยู่ด้วยใช่ไหม”
“อีกแล้วนะ ลูกใครก็ไม่รู้ พ่อแม่ชื่ออะไรก็ไม่รู้ จะมาอยู่ด้วยเนี่ยถามพ่อถามแม่ยัง”
“ก็พ่ออ่ะพ่อหนู จะให้หนูไปถามใคร”
“อาไปเป็นพ่อหนูเมื่อไหร่อ่ะ ถามจริงพ่อแม่หนูเป็นใคร เขาอนุญาตหรือยัง?”
“พ่อเป็นพ่อหนูจริงๆนะ หนูอยากอยู่กับพ่ออ่ะ นะๆ ให้หนูไปอยู่ด้วยนะ หนูจะเป็นเด็กดี”กอดคอผมแล้วออดอ้อนถามเสียงใส ผมก็งงว่าทำไมต้องอยากมาอยู่กับผมด้วยวะ คนอื่นตั้งเยอะตั้งแยะไม่อยากไปอยู่ด้วย ชื่อแซ่ลูกเต้าเหล่าใครก็ไม่รู้จักซะด้วย ไม่ใช่ว่าไม่อยากอุปการะเด็กนะ ผมชอบนะเด็กๆอ่ะ แต่มันต้องมีที่มาสิก่อนเราจะรับมาเลี้ยงก็ต้องมีที่มา
“ถามหน่อย ทำไมต้องอยากมาอยู่กับอา”ผมมองหน้า อยากรู้จริงๆ แต่งตัวแปลกๆไม่เข้ายุคแล้วยังทะเล้นมาขออยู่ด้วยอีก
“ก็เราเป็นพ่อลูกกันไง นะพ่อนะ พาหนูไปอยู่ด้วยนะ”
“เราเป็นพ่อลูกกันเมื่อไหร่ เป็นเด็กเป็นเล็กหัดโกหกพกลม”
“หนูไม่ได้โกหกนะ หนูอ่ะเป็นลูกของพ่อมาเยอะแล้วด้วย นะพ่อนะ พ่ออนุญาตไหม”
“เป็นมาเยอะยังไง หมายความว่าชาติที่แล้วเราเป็นพ่อลูกกันงี้เหรอ”
“ใช่ครับ”
“แต่ตอนนี้พ่อไม่มีแม่นะ หาแม่ได้เหรอ”
“ไม่รู้แหละ พ่อจะเป็นอะไรหนูไม่รู้ด้วยหรอก แต่หนูจะอยู่กับพ่อ”
“แล้วพ่อแม่หนูจะอนุญาตไหม หนูเป็นเด็กกำพร้าหรือเปล่า”
“หนูไม่ใช่เด็กกำพร้า นะๆ พ่อไม่ต้องถามหนูมากหรอก หนูขอมาอยู่กับพ่อ พ่อตกลงไหม”
“เฮ้อ ขนาดนี้แล้ว จะมาก็มา แสบซ่าจะได้มีเพื่อนเล่น”
“เย้ๆๆๆๆ หนูรักพ่อจัง”เจ้าเด็กชาววังกอดคอผมแน่นเลยครับ แล้วผมก็รู้สึกอิ่มอกอิ่มใจอย่างบอกไม่ถูก เอาวะ จะมาก็มาเดี๋ยวพาไปจดทะเบียนเป็นลูกแล้วกัน อ้อนวอนอยากเป็นลูกผมซะเหลือเกิน แล้วจะได้รู้ว่าฤทธิ์พ่อมันนี่ขนาดไหน เจ้าเด็กน้อยกอดผมอยู่พักหนึ่งแล้วอยู่ๆตัวหายไปไหนไม่รู้เหลือแค่พวกเครื่องประแก้วแหวนเงินทองสร้อยคอสร้อยสังวาลที่กองเต็มหน้าตักผม เออ จะไปก็ไม่บอกซะด้วย ผมเลยได้แต่กอดเครื่องประดับบนตักเอาไว้ แล้วก็สะดุ้งตื่นตอนใกล้จะรุ่งแล้ว
“วิ่งขึ้นเขาแล้วเราก็ลงน้ำ เพื่อนอย่าถามอะไรมากเลย ว่าเหนื่อยไหมฉันไม่เฉลย......”เสียงร้องเพลงในยามเช้าของวันใหม่ดังไม่มากนัก มีคนร้องบ้างไม่ร้องบ้าง บางคนวิ่งๆไปก็ตด แทบจะแตกขบวนกันเลยทีเดียว วิ่งเสร็จมาอาบน้ำ จากนั้นก็เหมือนเดิมครับ ทำตามกิจวัตรประจำวัน