ดีแล้วทูนหัวมีผัวเป็นทหาร ปีสองของสองคน ๒๐๐๑๒๕๖๓ ตอนที่๑๔/๒ หน้า๑๓๒
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ดีแล้วทูนหัวมีผัวเป็นทหาร ปีสองของสองคน ๒๐๐๑๒๕๖๓ ตอนที่๑๔/๒ หน้า๑๓๒  (อ่าน 1219480 ครั้ง)

ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4

ออฟไลน์ กฤษณ์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
แวะนำสารบัญมาส่งค่ะ บางตอนชื่อตอนซ้ำแต่ข้างในไม่ซ้ำนะคะ ลิงค์ไหนเสียแจ้งได้ค่ะ =w=\
ตอนที่ ๑ หน้าที่ชายไทย
ตอนที่ ๒ ไหสวรรค์
ตอนที่ ๓ เดินทาง
ตอนที่ ๔ ดาวบนฟ้า ดาวบนบ่า
ตอนที่ ๕ เด็กอำเภอเมือง
ตอนที่ ๖ เป็นทหารต้องฝึก
ตอนที่ ๗ เข้าตา
ตอนที่ ๘ คอนเสิร์ต
ตอนที่ ๙ ให้ทุกข์แก่ท่าน
ตอนที่ ๑๐ แทบขาดใจ
ตอนที่ ๑๑ สักนิด
ตอนที่ ๑๒ ข้อพิพาท
ตอนที่ ๑๓ โทษทัณฑ์
ตอนที่ ๑๓.๑ ดาวติดดิน
ตอนที่ ๑๔ เมียเลี้ยว
ตอนที่ ๑๕ มีคนจะฆ่าผม
ตอนที่ ๑๖ ผู้หมวดไม่อยู่ผู้หมู่ผู้จ่าร่าเริง
ตอนที่ ๑๗ บังไมโล
ตอนที่ ๑๘ ผีผ้าห่ม
ตอนที่ ๑๘.๑ ดินกับดาว
ตอนที่ ๑๙ ลูกเขาเมียใคร
ตอนที่ ๒๐ ยาวิเศษ
ตอนที่ ๒๑ ฉวยโอกาส
ตอนที่ ๒๒ สัปดาห์สุดท้าย
ตอนที่ ๒๓ พักผ่อน
ตอนที่ ๒๔ ตกลง
ตอนที่ ๒๕ สมพรปาก
ตอนที่ ๒๖ คนมีเวร
ตอนที่ ๒๗ ซื้อของ
ตอนที่ ๒๘ คนมันเพ้อ
ตอนที่ ๒๙ ชอบ
ตอนที่ ๓๐ หมื่นลี้
ตอนที่ ๓๑ นมนาง
ตอนที่ ๓๒ ศัตรูไม่กลัว
ตอนที่ ๓๓ ตรวจสอบ (ครึ่งแรก)
ตอนที่ ๓๓ ตรวจสอบ (ครึ่งหลัง)
ตอนที่ ๓๔ เข้าทาง
ตอนที่ ๓๕ สืบสวน
ตอนที่ ๓๕ สืบสวน (ครึ่งหลัง)
ตอนที่ ๓๖ สั้นยาว
ตอนที่ ๓๗ ลาออก
ตอนที่ ๓๗.๒ ต.เต่า
ตอนที่ ๓๘ ปัญหา
ตอนที่ ๓๙ วิกหลุด
ตอนที่ ๔๐ ทีใคร
ตอนที่ ๔๑ เลีย
ตอนที่ ๔๒ ขอ
ตอนที่ ๔๓ มีเรื่อง
ตอนที่ ๔๔ ทำใจ
ตอนที่ ๔๔.๒
ตอนที่ ๔๕ นานๆที
ตอนที่ ๔๖ น้ำท่วม (๑)
ตอนที่ ๔๗ น้ำท่วม (๒)
ตอนที่ ๔๘ น้ำท่วม (๓)
ตอนที่ ๔๙ ความคิด (ครึ่งแรก)
ตอนที่ ๔๙ ความคิด (ครึ่งหลัง)
ตอนที่ ๕๐.๓ น.หนู
ตอนที่ ๕๐.๑ มาเรียงๆ
ตอนที่ ๕๑ เบาะๆ
ตอนที่ ๕๒ ก่อนบ่ายคลายเหงา
ตอนที่ ๕๓ บำๆ
ตอนที่ ๕๔ กล่อมลูก กล่อมเมีย
ตอนที่ ๕๕.๒ ต.เต่า ตะลุยกรุง
ตอนที่ ๕๕.๒ อ้อน
ตอนที่ ๕๗.๒ เปรี้ยวหวาน
ตอนพิเศษ เรื่องเด็กๆ
ตอนที่ ๕๘ รถ เมีย เพื่อน
ตอนที่ ๕๘ เตรียมตัว (ครึ่งแรก)
ตอนที่ ๕๙ เตรียมตัว (ครึ่งหลัง)
ตอนที่ ๖๐ ก่อนไป
ตอนที่ ๖๑ ของฟรี
ตอนที่ ๖๒ ของดีมีในป่า
ตอนที่ ๖๓ คนทำงาน
ตอนที่ ๖๔ เส้นบางๆ
ตอนที่ ๖๕ อำนาจ
ตอนที่ ๖๖ ระหว่างเรา
ตอนที่ ๖๗ ครอบครัวใหญ่
ตอนที่ ๖๘ เปลือก
ตอนที่ ๖๙ ตัวแปร
ตอนที่ ๗๐ ทะเล
ตอนที่ ๗๑
ตอนที่ ๗๒ หวนคืน
ตอนที่ ๗๓ อารมณ์
ตอนที่ ๗๓.๑
ตอนที่ ๗๔ เอาฮา
ตอนที่ ๗๔.๒
ตอนที่ ๗๕ มุมมอง

ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
ตอนที่ ๗๖ ชมไพร

“ไปฝึกด้วยกันไหมพี่เบิ้ล”

“จะสู้พี่ไหวเหรอ ถึงพี่แก่แล้วดูถูกพี่ไม่ได้นะ”พี่เบิ้ลพูดแล้วขำเบาๆ

“ก็เผื่อพี่จะลืมไง ไปเป็นกำลังใจให้น้องหน่อย”

“อืม เดี๋ยวพี่จะแอบๆไปหาแล้วกัน แล้วนี่จะกลับกี่โมง ผู้กองไม่ว่ารึไง”

“อีกแปบไม่ได้เหรอ ข้าวยังไม่ย่อยเลย”

“รีบไปพักผ่อนไง พรุ่งนี้ต้องออกแต่เช้าไปใช่เหรอ”

“อืม รำคาญแล้วใช่ป่ะ กอดพี่นิดก็ได้”ผมคลายอ้อมกอดจากพี่เบิ้ลไปนั่งแซะกับพี่นิด ที่คุยกันนี่คือวันนี้ผู้กองให้พวกเราออกมาซื้อของกันครับ ให้ลาครึ่งวัน ตั้งแต่บ่ายโมง กลับก่อน ๖ โมง แต่สำหรับผมผู้กองไม่ได้กำหนดเวลาว่าต้องกลับกี่โมง แต่พรุ่งนี้ตอนออกฝึกต้องเจอหน้าผม ผมเลยแวะเข้ามาหาพี่เบิ้ล พอดีกับที่พี่น้อยเข้ามาคุยงานกับพี่เบิ้ลเลยมีโอกาสไอ้อ้อนพี่ชายทั้ง ๒ คน ฮ่าๆๆ จะ ๓๐ แล้วก็ยังอ้อนเหมือนเด็กๆเลยครับ

“ลูกแหง่ก็แบบนี้แหละ ไม่รู้จักโต”พี่นิดโอบไหล่ผมแล้วลูบหัวเกรียน พี่นิดนี่ผมหงอกเต็มหัวแล้วครับ นี่เพิ่งจะ ๕๘ ย่าง ๕๙ เองนะครับ ผมนี่ไปแล้ว หงอกขาวโพลนเต็มหัว แต่ใบหน้าพี่นิดดูอ่อนกว่าอายุครับ คงเป็นเพราะว่าดูแลสุขภาพมั้ง เหล้ายาปลาปิ้งพี่ๆผมก็ไม่ค่อยได้แตะยกเว้นว่าจะเป็นงานสังสรรค์กันจริงๆ หรือมีงานสำคัญๆที่ควรจะกินพี่แกก็จะกิน

“พี่เบิ้ลจะแวะไปจริงป่ะ วันไหนบอกก่อนด้วยนะ”

“หึหึ เรื่องอะไรจะบอก เดี๋ยวไปเซอร์ไพรส์ ภูมิ แกเอาอาของแกไปกล่อมให้นอนหน่อยไป”พี่เบิ้ลตอบผมแล้วหันไปคุยกับไอ้ภูมิที่เพิ่งจะกลับเข้าบ้าน

“โห นี่มันคนอายุ ๒๗ หรือเด็ก ๑๐ ขวบเนี่ย น้องแสบน้องซ่าอ้อนนี่ยังพอไหว คนแก่อ้อนนี่ไม่ไหวนะอา”ไอ้ภูมิมันว่าผม

“ถุย ภูมิ วันก่อนให้อ้อนอาให้นอนกอดวะ”

“ฮ่าๆๆๆ แม่ ภูมิหิวข้าว แม่มีอะไรเหลือไหม เศษไข่เจียวก้นถ้วยก็ยังดี”ไอ้ภูมิพูดเสียงดัง

“อ้าว แม่ก็คิดว่าแกหาอะไรกินมาก่อนหน้าแล้ว ไม่มีอะไรเหลือแล้วล่ะ อาบอมบ์ซัดเรียบ”

“วันนี้พี่ภาทำต้มยำเว้ยภูมิ อยากบอกว่าน้ำข้นมาก กุ้งตัวโตๆนะ หมึกก็กรอบกำลังดีเลย มีเห็ดฟางลอยตุ๊บป่อง กลิ่นหอมชวนกินเชียว”ผมพูดอวดไอ้ภูมิ

“แม่ ต้มยำหมดจริงอ่ะแม่ โหย ลูกชายหิวนะแม่ แม่ทำใหม่ได้ป่ะ”ไอ้ภูมิลูบท้องเลยครับ

“หึหึ ดูๆไปนี่มันก็ลูกแหง่ดีๆนี่เอง”พี่เบิ้ลขำ

“ไปดูในตู้เอา แม่เก็บไว้ให้”พี่ภาลงมาจากด้านบน “นี่ถ้าแม่ไม่ตักแบ่งไว้ให้วันนี้ก็คงจะอดนะสิ ทีหลังจะกินข้าวในบ้านหรือนอกบ้านก็โทรมาบอกแม่หน่อย เอานมไหมบอมบ์ พี่จะชงให้ เห็นขวดนมน้องแสบถูกลืมอยู่ชั้นบนแน่ะ”

“ฮ่าๆๆ โดนรุมเลย ไม่เอาดีกว่า แค่นี้พี่เบิ้ลก็ว่าผมเป็นลูกแหง่ไปหลายครั้งแล้ว”

“นี่ฝึกเสร็จพี่จะไปรับแม่กับน้องมานะบอมบ์ ทนคิดถึงไม่ไหว”

“แม่จะไปรับน้องมาเหรอ วันไหนแม่ พรุ่งนี้เลยไหม ภูมิไม่มีเวร”ไอ้ภูมิตะโกนมาจากในครัว

“สัปดาห์หน้า จะกินก็กินไปก่อนแล้วค่อยมาคุย แม่บอกนี่ไม่เคยจำเลย”พี่ภาหันไปเอ็ดไอ้ภูมิ แล้วมันก็เงียบ

“เออ พาหลานมาอยู่นี่สักเดือนก็ดีนะ จะได้พาแม่ไปเที่ยวหน่อย พี่ก็ไม่ค่อยได้กลับบ้าน เฮ้อ คิดถึงหลังควายถึกนะเบิ้ล แต่ก่อนนะ พวกพี่จะพากันไปเลี้ยงควายกัน มีควายอยู่ ๓๐ กว่าตัว เวลาไปเลี้ยงควายก็ขี่กันคนละตัวไปช่วยพ่อเลี้ยง ควายหายไปครึ่งฝูงก็ตอนพี่เข้ามาเรียนนายร้อย ไม่ขายควายก็ไม่มีเงินเรียน กว่าจะเรียนจบเป็นนายทหาร ขายควายไปไม่รู้กี่ตัว”

“หมดควายไปเป็นร้อยตัวแน่เลย”ผมล้มตัวลงนอนหนุนตักพี่นิด

“ฮ่าๆๆๆ ๓ คนนี่เนอะ แล้วนี่กว่าจะโต หมดข้าวไปกี่ยุ้งแล้วเนี่ย”พี่นิดลูบหัวผม รู้สึกเหมือนเป็นเด็กเลยครับ พ่อแม่เลี้ยงผมกว่าจะโตก็หมดไปเยอะเหมือนกันครับ ก็ผมมันลูกคนสุดท้ายนี่ครับ อยากมีอยากได้อะไรนี่ไม่ต้องเรียกร้องเป็นครั้งที่ ๒ ครั้งที่ ๓ พูดปั๊บได้ปั๊บ มันเลยเป็นนิสัยที่ไม่ค่อยดีอย่างหนึ่ง โตมาก็ค่อยๆปรับปรุงตัวเองครับ ใจเย็นลงมาก (เป็นบางเรื่องนะ)

นอนหนุนตักคุยกับพี่นิด พี่เบิ้ลพักใหญ่ครับจนเวลาใกล้จะ ๓ ทุ่ม ผมจึงอิดออดลุกขึ้นแต่งเนื้อแต่งตัวให้เรียบร้อย ต้องกลับกองร้อยแล้วล่ะครับ คืนนี้ยังไงก็ต้องนอนกองร้อย ผู้หมวด ผู้กองก็นอนที่กองร้อยครับ เพราะวันรุ่งขึ้นเราต้องเดินทางแต่เช้า ผมกอดพี่เบิ้ล พี่นิด พี่ภา คนละทีแล้วเรียกไอ้ภูมิมากอด ครอบครัวอบอุ่นก็แบบนี้แหละครับ ฮ่าๆๆ

“ภูมิ มาหอมแก้มหน่อย”ผมเรียกไอ้ภูมิที่กำลังยืนมองทีวี

“โหยอา ผู้ชายที่ไหนหอมแก้มกัน จะกลับก็กลับดิ”

“นับ๑”

“อาจะเบี่ยงเบนก็เบี่ยงเบนคนเดียวสิ”

“นับ ๒”

“จะไปอาบน้ำนอนแล้วอา”

“นับ ๓ จะมาไม่มา”ผมกอดอกมองหน้าเข้ม

“เล่นเป็นเด็กไปได้ อ่ะๆ”มันยอมเดินมาแต่โดยดี ถามว่าผมหอมแก้มมันไหม ไม่หรอกครับ เรียกมันมาให้ขับรถไปส่งแค่นั้นเอง “อ้าว ไหนว่าจะหอมแก้ม”

“อาล้อเล่น ขับรถไปส่งหน่อยดิ”

“หึหึ คิดถึงน้องว่ะอา เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปรับมาดีกว่า”

“จะทำอะไรปรึกษาย่าหน่อยสิ ก็รู้อยู่ย่าไม่ค่อยอยากจะทิ้งบ้านมานานๆ”

“ก็คิดถึงน้องนี่หว่า กำลังน่ารักเลย คิดแล้วอยากมีลูก ถ้าผมแต่งงานนะจะมีลูกสักโหลหนึ่ง”

“โห ถ้าเมียแกขยันท้องขนาดนั้นนะ เชื่อเหอะ พอไปทำคลอดนะ กูไม่เอาแล้ว กูไม่ท้องอีกแล้ว”

“เหมือนเคยไปคลอดเองนะอา ร้องซะเหมือนเชียว”

“เคยไปส่งคนท้องไปโรงพยาบาลเว้ย แม่ง ร้องตลอดทาง ไม่ไหวแล้ว กูไม่ท้องอีกแล้ว ใครจะท้องก็ท้องไป กูไม่อยากมีแล้วลูกผัว โอ๊ย โอ๊ย พอปีถัดมานะ ท้องอีกซะงั้น ฮ่าๆๆๆ”

“ฮ่าๆๆ จริงๆผมอยากมีลูกสัก ๓ คนนะ ชาย ๒ หญิง ๑”

“หาเมียได้ยัง”

“ก็กำลังหยอดๆจีบๆอยู่นะอา”

“ใครวะ มีรูปป่ะ เผื่อรู้จัก”

“อานี่รู้จักเขาไปทั่วเลยนะ”

“ฮ่าๆๆ ก็คนมันกว้างขวางนี่หว่า ไหนคนไหน คนนี้เหรอ”ระหว่างที่ถามไอ้ภูมิมันก็ส่งมือถือของมันโชว์รูปหญิงสาวคนหนึ่ง ผมมองแล้วตกใจเลยครับ

“ภูมิ ถ้าอาบอกว่าให้ห่างๆผู้หญิงคนนี้จะเชื่ออาไหม”

“หือ ทำไมล่ะ”ไอ้ภูมิหันมามองทำหน้าตกใจ

“คืออาก็ไม่ได้อยากจะใส่ร้ายป้ายความใครนะ แต่อาเคยสัมผัสกับผู้หญิงคนนี้มาแล้ว พอรู้ตื้นลึกหนาบางมาบ้าง”

“เหรออา แต่ทำไมดูเขาดีจังเลย ก็เห็นน่ารักดีนี่อา”

“อืม ภายนอกอาจจะเป็นเช่นนั้น แต่อาสัมผัสมาพอสมควรแล้ว หรืออยากลองก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ แต่อย่าหาว่าอาไม่เตือนทีหลัง”

“จริงเหรออา”ไอ้ภูมิทำหน้าลังเล

“กูล้อมึงเล่น ฮ่าๆๆๆ ดูทำหน้าเข้าสิ เฮ้ย คนนี้น่ารักจริงว่ะ เหมือนเคยเจอที่ไหนสักที่ คุ้นๆนะภูมิ อาจีบได้ป่ะ”

“โหย ไอ้เราก็คิดเป็นตุเป็นตะ คิดจะจีบแข่งหลานเนี่ยไม่ห่วงสวัสดิภาพของตัวเองเลยนะ อยากเจอตีนหนักๆของไอ้บูมไง”

“หึหึ มึงอย่าไปพูดถึงเขาดิ ขยาดเลยนะเว้ย”

“ฮ่าๆๆ คนกลัวเมียก็งี้”

“ถุย สักวันเหอะภูมิ คำนี้มันสนองมึง เก่งนักว่าแต่คนอื่นกลัวเมียอย่างนั้นอย่างนี้ พอมีเมียนี่แทบจะนั่งพับเพียบฟังคำเมีย”

“แหม่ อา เป็นทหารทั้งทีกลัวเมียนี่เสียความเป็นลูกผู้ชายนะ”

“หึหึ กูไม่เชื่อหรอกภูมิ กูเห็นมากับตา พ่อมึงอ่ะ ต่อหน้าลูกน้องนี่เสียงดัง ดุดัน พอกลับมาบ้านนะ แม่ วันนี้ทำอะไรกินดี แม่ซักผ้าให้พ่อยัง ฮ่าๆๆ เสียงนี่คนละโทน”

“จะฟ้องพ่อว่าอานินทาพ่อ”

“อะไรของแก เอามาเล่าสู่กันฟัง เชื่อเหอะ ผู้หญิงน่ะเอาชนะยากว่ะ อารมณ์ซับซ้อน อารมณ์เป็นหลัก เหตุผลเป็นรอง ไม่พอใจนี่ฟาดงวงฟาดงา กว่าจะง้อให้หายงอน”

“ลากขึ้นเตียงซะหมดเรื่อง”

“เออว่ะ ฮ่าๆๆ อาเคยทำเว้ย แฟนเก่าแม่งบ่นเรื่องเสื้อมั้ง ซื้อให้เป็นของขวัญแล้วไม่ถูกใจ บ่นงุ้งงิ้งๆ งอนเป็นอาทิตย์ พอพาทำกายบริหารเท่านั้นแหละ อารมณ์สดใส ตกลงคืองอนเรื่องเสื้อหรืองอนเรื่องนี้ก็ไม่รู้ ฮ่าๆๆๆ”

“พูดแล้วเปรี้ยวปากเลยนะอา แล้วไอ้บูมเคยมีงอนมีอะไรบ้างไหม”

“รายนั้นไม่มีงอน โกรธอย่างเดียว โกรธแล้วต้องออกกำลัง เตะไม่ยั้ง”

“สมน้ำหน้า เล่นกับใครไม่เล่น”

“เป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียวนะมึง”

“ฮ่าๆๆๆ”ไอ้ภูมิหัวเราะร่วนเลยครับ

มาถึงกองร้อย ๓ ทุ่มครึ่งพอดีเลยครับ ผมมารายงานตัวกับสิบเวรจากนั้นก็เคาะห้องหมวดบูมเข้าไปกระแซะกับพี่แกสักหน่อย

“เพิ่งจะมาเอาป่านนี้เนี่ยนะ”หมวดบูมนอนเล่นมือถืออยู่บนเตียง พอเจอหน้าพี่แกก็ต่อว่า

“ดีแค่ไหนที่ไม่มาพรุ่งนี้เช้า”ผมขึ้นคร่อมทับตัวพี่แกไว้

“หนักนะบอมบ์ ขอร้อง ลงเหอะ”

“อะไรกัน หนักที่ไหน แค่ ๘๕ เองนะที่รัก”

“ไอ้ยักษ์หน้ามึนเอ๊ย หนักจริง”หมวดบูมพยายามพลักผมลงแต่ผมเกร็งตัวไว้

“อ้อนก่อนดิ”

“อ้อนตีนไง นับ ๑ นับ ๒ นะอุ๊บ”ผมก้มลงประกบจูบปากหมวดบูมอย่างรวดเร็ว ทีแรกพี่แกจะผลักหน้าผมออกแต่ไปๆมาๆลิ้นกลับพันกันซะงั้น จูบแบบนี้แล้วอารมณ์ขึ้นเลยครับ

“ปากหวานจริง”ผมต้องรีบหยุดไม่งั้นเดี๋ยวควบคุมอารมณ์ไม่ได้

“ไปนอนเหอะ อันตรายว่ะ อยู่ใกล้กันทีไรนี่เหมือนไฟ”

“ฮ่าๆๆ ก็ยังวัยรุ่นไง ไฟมันเลยแรงไปนิดหนึ่ง นอนดีๆนะ อย่าดิ้นจนตกเตียงแล้วกัน”

“ไม่มีอ่ะ ระดับนี้แล้ว”

“ให้มันจริงเหอะ ไอ้คราวไปเที่ยวทะเลที่แล้ว ตัวเองไม่ตกแต่ถีบผมซะกลิ้งเชียว ไปละ จุ๊บ”หอมแก้มทีหนึ่งแล้วก็ออกจากห้องไปทายากันยุงนอน พวกหมอนมุ้งนี่ผมพับเก็บยัดใส่เป้ไว้นะครับไม่มีหมอนมุ้งสำรอง

ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด ปริ๊ดดด เสียงนกหวีดดังขึ้นในยามเช้าของวันใหม่ ตี ๔ แล้วสินะ

พวกผมลงมาอาบน้ำอาบท่าแล้วรีบขึ้นมาแต่งตัว ใช้เวลาไม่นานประมาณครึ่งชั่วโมงครับ แต่งตัวเสร็จล็อกตู้เก็บข้าวของ เขาไม่ให้เอามือถือไป ผมไม่กล้าไว้ของในตู้ก็มือถือมาเก็บไว้ที่ห้องผู้หมวด จูบพี่แกทีหนึ่งพอให้มีแรงจากนั้นก็มาเบิกปืน ตี ๕ ลงมารวมที่ด้านล่างเช็คยอดแล้วจากนั้นก็ไปที่ลานรวมพลไปถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ประจำกองพัน ตี ๕ ครึ่งขึ้นรถ แล้วออกเดินทาง ที่จริงมีส่วนล่วงหน้าไปก่อนหน้าแล้วส่วนหนึ่งนะครับจะเป็นพวกสถานสูทกรรมคือทำอาหารกับพวกสถานีคือเจ้าหน้าที่ประจำสถานีฝึก และกองอำนวยการ

การเดินทางที่ต้องออกแต่เช้าเพราะกลัวว่ารถจะติดครับ ระหว่างที่นั่งรถไปหยิบอาหารมื้อเช้ามากิน ข้าวกล่องใหญ่มาก แต่พอเปิดดู ข้าวนิดหนึ่ง กับนี่แทบจะเอาแว่นขยายมาส่อง คือจะงกไปไหนวะ ผมก็ได้แต่ทนกล้ำกลืนฝืนกิน ไม่ถึงครึ่งกระเพาะซะด้วยซ้ำ ไปฝึกทีไรน้ำหนักผมลดทุกที

ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๔ ชั่วโมงมาถึงที่กาญจนบุรีก็ ๑๐ โมงแล้ว เราเดินทางมาก่อนฝึกจริง ๑ วันนะครับเลยต้องมาพักที่ค่ายใหญ่ในเมืองกาญจน์ เอาข้าวของลงมาแล้วพักผ่อนตามกองร้อยที่ทางกองพันแห่งนี้ได้จัดไว้ต้อนรับ พักผ่อนกินข้าวปลาจนถึงบ่ายโมงเรานั่งรถไปซ้อมการตรวจสภาพความพร้อมรบ นั่งรถมาไกลตรงนี้จะเป็นสนามบินใหญ่มากเลยครับ จากนั้นเราก็ซ้อม ซ้อมพักใหญ่แล้วพักผ่อน ผมวิ่งไปเยี่ยวที่ดงกระถิน

“อย่าเข้าไปลึกนะพี่บอมบ์ เดี๋ยวโดนระเบิด”อีหนูเตือนผม ผมเดินเข้าไปไม่ถึง ๒ เมตรเลยครับ กลิ่นโชยมาเชียว ไม่ใช่ระเบิดลูกเกลี้ยงหรือน้อยหน่า แต่เป็นระเบิดทองคำอานุภาพร้ายแรง มองซ้ายยังเห็นเป็นก้อนอยู่เลย แหม่ จะวางบอมบ์ทั้งทีนี่เข้าไปลึกๆกว่านี้หน่อยก็ไม่ได้ ผมรูดซิปลงมาเยี่ยวแล้วเดินกลับมากินน้ำท่าให้เรียบร้อย

“เห็นภูเขาเลากาแบบนี้แล้วอยากเดินธุดงค์ว่ะ”ไอ้มหามองไปยังป่าไม้ชายเขาเบื้องหน้า

“ก็ไปบวชซะสิ”ไอ้ศักดิ์พูด

“แหม่ เหมือนกับว่ากูอยากจะสึกมาวุ่นวายกับทางโลกงั้นแหละ นี่ถ้าไม่โดนใบแดงกูก็ไม่คิดจะสึกหรอก”

“อ้าว ปลดไปก็ไปบวชอีกสิ ใครจะว่าอะไรมึง”

“ไม่มีใครว่าหรอก แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้วนะ เฮ้ยๆ ใครวะนั่น บังอาจกอดคอเมียกู เดี๋ยวเหอะมึง วอนตีนกูซะแล้ว”ไอ้มหาร้องออกไม่ไม่ดังมากนักเมื่อเห็นเหล่าผู้หมวดผู้กองหยอกล้อกันอยู่ที่เต็นท์ของประธาน

“มึงก็บ้าไปเรื่อยนะมหา เพื่อนเขาหยอกกัน”

“ถุย แล้วใครหน้าไหน ทำหน้าเหมือนโดนเอาไปเชือดตอนวันปลดวะ เห็นหน้าบูดตั้งแต่เข้ากองพัน ว่าแต่กูหัดดูตัวเองด้วย”โดยไอ้มหาตอกกลับเลยครับ ฮ่าๆๆ สงสัยหมวดเต้ยเอาเรื่องที่ผมหึงหมวดบูมมาเล่าให้ฟังแน่เลย มันเลยยอกย้อนผมซะ

“เฮ้อ เบื่อพวกหลงเมียจริงเลยว่ะ”อีหนูกอดอกส่ายหน้า

“อะไรของมึงหนู ไม่เพ้ออีกเหรอ วันนี้ไม่ไปอ่อยใครเหรอ ดูทหารกองพันนู้นดิ หล่อๆเยอะนะมึง ผู้หมวดเหล่าปืนใหญ่น่ะ ก็น่าสนนะ หรือจะเอาเหล่าสื่อสารดี”

“ไม่เอาใครทั้งนั้นแหละ ตุ๊ดต้องมีคุณค่าในตัวเอง อย่าเหล่มองชายใดจนเสียกิริยา คุณค่าของเราคือความงดงามท่ามกลางขนหน้าแข้งที่ดกหนา”อีหนูพูดพลางลูบผ่านหน้าอกลงมาที่หน้าท้องแล้วต้นขา เสียวว่ามันจะแอบจับเป้าอุตส่าห์งอเข่าหลบมือ

“กูยอมมึงจริงๆ ถามจริง เลิกสนใจจริงเหรอ เฮ้ย มึงดูไอ้หน้าตี๋กองพันนั้นสิ มันมองมึงนานละ”ไอ้ศักดิ์มองไปยังทหารคนหนึ่ง พอพวกผมหันไปมองทั้งหมด มันก็ทำสายตาแพรวพราวใส่

“หล่ออ่ะพี่บอมบ์”อีหนูกอดแขนผมด้วยความขวยเขิน

“บานตะไทแน่มึง ๕ วันในป่ากับซ่าร่าและซูซาน”ไอ้ศักดิ์ตบไหล่อีหนู

“กูว่าเหมือนเอาแรดมาปล่อยป่าเลยว่ะ ดูทำหน้าเข้าสิ”ผมเชยคางอีหนูขึ้น ตามันมีเลศนัย มันคิดว่าฝึกรด.ล่ะมั้งที่จะได้แอบเข้าเต็นท์คนนั้นคนนี้แล้วไปย่ำยีความเป็นชาย ฝันไปเถอะครับ

“อะไรพี่บอมบ์ อย่ามาว่าหนูนะ ไม่รู้ไม่ชี้ด้วยแหละ หนูเป็นเด็กดี พ่อแม่อบรมบ่มนิสัยให้เป็นตุ๊ดมาตรฐานผ่านการรับรองจากจีเอ็มพีว่าไม่มีผงชูรส”

“ที่ไม่มีเพราะผงชูรสเข้าไปทำลายอะไรมึงไม่ได้ใช่ไหมหนู”ไอ้มหาแซว

“เชอะ อยู่กับพวกพี่บอมบ์แล้วโดนรุมกินโต๊ะ ไปจิกผู้ชายหล่อๆดีกว่า”อีหนูเชิดหน้าเดินหนี ส่วนพวกผมก็ขำกันครับ




“โอ๊ย อะไรอ่ะ จะต่อยก็ต่อยแบบไม่ทันตั้งตัว”ผมละจากกลุ่มเพื่อเดินไปหาผู้หมวดที่ยืนคุยกับเหล่านายทหาร ไปถึงพี่แกก็ต่อยหน้าท้องผมมาซะหมัดหนึ่ง เกือบจุกครับ

“ไม่มีความอดทน”ไม่พูดเปล่าพี่แกยังต่อยซ้ำมาอีกหลายครั้ง พอผมตั้งตัวได้ผมก็หลบหมัด อยากหยอกกลับเหมือนกันแต่เกรงใจ

“ต่อยให้โดนสิครับ”ผู้หมวดต่อยมากี่หมัดผมก็หลบได้เท่านั้น

“อย่าหลบดิ”พี่แกหงุดหงิด

“ไม่หลบก็โดนต่อยสิครับ โอ๊ย คราวนี้เจ็บจริงนะผู้หมวด”พี่แกเล่นฟันมือมาที่หน้าท้องผมอย่างจัง ผมหลบไม่ทัน เล่นซะจุกเลยว่ะ

“สำออย”มีเตะเท้าผมอีกแน่ะ

“อย่าให้ผมต้องลงมือนะผู้หมวด”ผมหักนิ้วกรอบแกรบขู่พี่แกเบาๆ

“มึงแน่ใจนะว่ามึงกล้าทำ”หมวดเต้ยถามผม

“แฮะๆ ไม่กล้าหรอกครับ ใครจะกล้าต่อยผู้บังคับบัญชา”




“อ่ะ ครั้งนี้รอบสุดท้ายแล้วนะทหาร เดี๋ยวเราจะได้กลับไปพักผ่อนกันแล้ว ขอให้ตั้งใจ พรุ่งนี้เป็นวันจริง ขอให้ทุกคนทำให้เต็มที่ อย่าลืมขั้นตอน เราทำดีก็เป็นหน้าเป็นตาของกองพัน”สิ้นเสียงผู้กองฝ่ายยุทธการพูดพวกเราก็ต้องซ้อมขั้นตอนการปฏิบัติอีกครั้งหนึ่งครับ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ พอซ้อมเสร็จก็ช่วยกันดูเรื่องความเพียบพร้อมของรถที่ต้องคลุมตาข่ายพรางอีกครั้งหนึ่ง พอเสร็จงานก็ขึ้นรถกลับไปที่กองพัน มาถึงก็ตะวันตกดินเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ

พวกผมลงมานอนด้านล่างบริเวณใต้ถุน นอนกันเป็นหมู่ครับ มีปืน๑ ปืน๒ ลูกน้องก็แก๊งเดิมครับรู้ใจกันดี ต่อไปพวกรุ่นนี้เหล่านี้ก็คงต้องมารับตำแหน่งแทนผม จากนั้นก็มีการนำข้าวมาแจกกันครับ กินตามมีตามเกิดกันไป นั่งล้อมวง เผาหม้อสนามมา เปิดเอาฝากับลิ้นมาใส่ข้าวและกับข้าว มีส่วนหนึ่งที่เอาไปต้มมาม่าด้วยครับ นี่ยังไม่ได้ฝึกจริงจังเลยนะครับได้กินมาม่ากันซะแล้ว

“กินข้าวอิ่มไหม”หมวดบูมลงทุนเดินมาถามผมถึงที่เลยครับ

“ถ้าผมบอกว่าไม่อิ่มจะมีอะไรให้ผมกินไหมครับผู้หมวด”

“กูว่าแล้ว กระเพาะควายอย่างมึงนี่นะ”

“ผู้หมวดลำเอียง ถามแต่ไอ้บอมบ์ไม่ถามผมบ้าง”ไอ้มหาท้วง

“เดี๋ยวกูลำเอียงไม่เลี้ยงหรอกมหา”

“ผู้หมวดจะเลี้ยงผมด้วยเหรอ”ไอ้มหาเงยหน้ามองผู้หมวดด้วยสายตามีความหวัง

“เลี้ยงสิ มึงเห็นหญ้าหน้ากองร้อยไหม เขียวสวยเชียวนะมึง กำลังเหมาะเลย กูเลี้ยงเต็มที่”

“มันจะดีถ้ามีผู้หมวดไปนั่งกินกับผม ฮ่าๆๆๆ”ไอ้มหาหัวเราะก๊ากออกมาส่วนคนอื่นๆนี่หน้าซีดครับ ไม่คิดว่าไอ้มหาจะเล่นแรง ส่วนผมน่ะเหรอ ปกติล่ะครับ เราสนิทกัน

“๑๐ เลยมึง”ผู้หมวดกอดอกสั่ง

“ครับ ๑๐ ครับ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ขอบคุณครับ”ไอ้มหาวิดพื้น ๑๐ ครั้ง

“กูว่าเปลี่ยนใจให้ไอ้บอมบ์เลี้ยงดีกว่ามั้ง ตะกี้แอบเห็นแบงค์เทาแวบๆ”ผู้หมวดหรี่ตามอง

“จัดไป อยู่กับไอ้บอมบ์ไม่มีคำว่าอด ไอ้ด่างเอ๊ยไอ้ด่าน ไอ้นุ ตามกูมาเลยมึง”ผมลุกขึ้นปัดตูดเรียกลูกน้อง จากนั้นก็เดินไปหาอะไรกินในกองพัน แต่ถามว่าดึกๆขนาดนี้มีอะไรมาขายหรือเปล่า ภาษาอีสานจะพูดว่า มิดซีลี ไม่มีอะไรเลยครับ เพราะค่ายทหารที่เรามาพักอยู่ห่างจากปากทางเข้ามาหลายกิโลมากและอยู่ห่างจากความเจริญพอสมควร แล้วทีนี้เราจะกินอะไรดีล่ะ มีแม่ค้าจากไหนไม่รู้เอากระเพาะปลามาขายครับ ซึ่งผมว่าน่าจะเป็นเจ้าประจำของที่นี่ อาจจะเป็นพวกเมียจ่าหรือใครสักคนก็เป็นไปได้ ผมซื้อมาหลายถุงเลยทีเดียวครับ กะว่าคนอื่นไม่ต้องซื้อกูเหมา นอกจากกระเพาะปลาก็มีของหวานครับ แปบเดียวหมดไปอย่างรวดเร็วเพราะผมเล่นซื้อไปซะครึ่งตะกร้า

“ไม่กินเหรอผู้หมวด”

“ไม่อ่ะ อิ่มแล้ว”ผู้หมวดส่ายหน้า แหงล่ะ ตะกี้แอบเห็นกับข้าวนายทหารมีปลาราดพริกด้วย

“พระเอกเนอะ ตอบว่าอิ่มแล้ว เหมือนจะเสียสละให้ลูกน้อง แต่ที่ไหนได้ ข้าวนี่พูนจาน ไก่ทอดเอย ปลาราดพริกเอย ลูกน้องก็คงได้แค่ทำตาปริบๆ แล้วก้มหน้าก้มตากินพะโล้กับผัดบวบกันต่อไป”ผมพูดกระทบกระเทียบ

“อ้าว ก็มาซื้อให้กินแล้วนี่ไง ว่าผู้บังคับบัญชามากๆระวังเหอะ”

“ไม่กินจริงอ่ะผู้หมวด”

“อืม”ผู้หมวดพยักหน้า

“แน่ใจนะ”

“เออน่า”

“ผมว่ามันน่าอร่อยนะ”

“ไม่ต้องพูดยั่วเลย เอามานี่ถุงหนึ่ง”ในที่สุดก็ทนไม่ไหว หยิบไปถุงหนึ่งจากนั้นพี่แกขึ้นไปพักผ่อน ส่วนผมกับไอ้มหาและลูกน้องคือไอ้ด่านกับไอ้นุก็เดินมารวมตัวที่ใต้ถุน เอากระเพาะปลากับของหวานมาแจกจ่ายให้กับผู้ร่วมชะตากรรม อาศัยว่าเป็นคนกระเพาะควายกินแปบเดียวก็หมด ผมล่อไปซะ ๒ ถุง เพราะจ่าแกอิ่มแล้วแกสละให้ผม นอกจากจ่าแกจะสละให้แล้ว แกยังให้เงินไปซื้อน้ำมากินด้วย

กินอิ่มแล้วเรานั่งพักครู่หนึ่งให้อาหารมันย่อย รู้สึกว่าจะมียุงบินกวนด้วย แต่คนเยอะวันนี้คงได้กินเลือดคนแบบทั่วถึงละมั้ง ผมนั่งอีกครู่หนึ่งจากนั้นก็แก้ผ้าเตรียมตัวไปอาบน้ำ ตอนนี้คนกำลังเยอะเลยครับ ทั้งทหารในค่ายเจ้าถิ่นเอง ทั้งผู้ที่มาอาศัย แย่งกันอาบแย่งกันใช้ ผมไปถึงน้ำก็เหลือครึ่งอ่างแล้ว ดีที่เขายังเปิดให้ใช้ เพราะเมื่อครู่ได้ยินว่าเขาจะปิดไฟปิดน้ำแล้ว เดินไปอาบน้ำก็รู้สึกว่าไม่กล้าแก้ผ้า เพราะคนเข้าออกเยอะมาก ทั้งทหารหนุ่มๆและจ่าแก่ๆ คือถ้าปกติเราอาบน้ำกันในกองร้อย ผมจะรู้สึกชินไงครับ ไม่มีอะไรต้องอายกันแล้ว แต่ว่าตอนนี้มันมีทหารต่างกองร้อยด้วยครับ แล้วไม่ใช่รุ่นเดียวกันกับผมก็เยอะด้วย มันเลยเขินๆนิดหนึ่ง แต่มองซ้ายมองขวา เออ ถ้าเรามัวแต่อายก็คงไม่ได้อาบ เลยแก้ผ้าแล้วเอาชามมาตักน้ำอาบ ขันไม่มี เลยต้องใช้ชาม ผลัดกันตักอาบ ทำอย่างรวดเร็ว จะมัวเอ้อระเหยลอยชายเหมือนตอนอยู่กองร้อยไม่ได้ครับ

อาบน้ำเสร็จเปลี่ยนบ๊อกเซอร์ เอากางเกงพรางมาใส่ ที่จริงผมเอาขาสั้นมาด้วยตัวหนึ่งแต่ว่ายุงมันชุมครับเลยต้องใส่กางเกงพราง ทาแป้งเย็นเสร็จ ทายากันยุง จากนั้นก็หาที่เหมาะๆเอากาย เรานอนกันบนพื้นปูนแข็งๆ ผมเอาเปลคลี่ออกมาเพื่อจะปูนอน มันผูกไม่ได้ครับเพราะไม่มีที่จะให้ผูก แล้วพื้นก็ไม่ใคร่สะอาดนักด้วย เลยพากันเอาเปลมาคลี่ หนุนหัวด้วยเป้สนาม วางเป้ในลักษณะที่มันหนุนได้ แล้วก็นอนกอดปืน ยังไม่หลับในทันทีเนื่องจากคนอื่นเขายังไม่นอนกัน ก็นอนคุยกันไปก่อน คุยกับไอ้มหา ส่วนไอ้ซัน ไอ้ศักดิ์ อีหนู มันเป็นพวกปืนเล็ก ก็ไปนอนตามหมู่ ตามหมวดของมัน



“ค่ายที่ต่างจังหวัดที่สงบดีเนอะ ดูเหมือนไม่ค่อยมีอะไร ชิวๆดี ไม่เหมือนค่ายเราเลยว่ะ งานเยอะชิบหาย”ผมพูดเปรียบเทียบ จากที่สัมผัสบรรยากาศ ผมว่าที่นี่ดูชิวดีครับ

“เออ ที่จริงจังหวัดเราก็มีค่ายนะ ทำไมต้องดั้นด้นมาไกลถึงกรุงเทพก็ไม่รู้”

“บุญพาวาสนาส่งละมั้งกูว่า กูชอบตรงที่เขาไม่ค่อยเคร่งเรื่องการแต่งตัวในช่วงเย็นว่ะ เห็นใส่เสื้อกีฬาของข้างนอกได้ด้วย”

“จะว่าไปชิวมากไปก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ กูชอบอะไรที่มันเรียบร้อยว่ะ”

“กูก็ชอบ แต่บางครั้งนะเว้ย คือมึงจะเป๊ะไปไหนวะ คือบางทีกฎระเบียบมันก็แค่นั้น แต่โหพี่แกไปขุดมาจากไหนก็ไม่รู้”ผมพูดกระทบกระเทียบนายสิบบางคนที่ชอบเป๊ะเกินความจริง ไม่ใช่ผมไม่ชอบกฎระเบียบนะครับ คือบางครั้งกฎมันก็แค่นั้นแต่คนเอามาปฏิบัติ วันนี้คนนี้หละหลวม พอมาอีกวันนี่เป๊ะ เนี๊ยบทุกกระเบียดนิ้ว มันทำให้อึดอัด ถ้าเราอยู่ในกฎแบบพอดี มันก็มีความสุข

“อือ อย่างว่าแหละ พูดไปก็เท่านั้น”

“หึหึ ก็ได้แค่บ่น เฮ้อ”

“เฮ้ย นอนๆ นอนได้แล้วทหาร พรุ่งนี้มีภารกิจ ใครทำอะไรอยู่ก็รีบนอน ใครไม่อยากนอนเดี๋ยวผู้กองให้พุ่งหลัง”ผู้กองพูดเสียงดังจากนั้นทหารก็รีบละวางภารกิจที่ทำอยู่ เตรียมนอน ใครที่อยากสูบบุหรี่ก็ไปสูบด้านนอก แล้วเข้ามานอน ครู่ใหญ่ๆหลังจากที่ผู้กองสั่งให้นอนพักผ่อนแล้ว ไฟใต้ถุนก็ถูกดับลง จากนั้นก็นอนกัน

ตี ๕ ตรงเป๊ะนะ พวกเราต้องตื่นขึ้นมาล้างหน้าแปรงฟัน ใครเร็วก็ได้อาบน้ำ ใครช้าก็ทำอย่างอื่นไป ผมเห็นคนเบียดเสียดแย่งกันเข้าไปใช้ห้องน้ำแล้วก็ต้องรีบหาที่อื่น ห้องน้ำที่กองร้อยนี้ไม่เหมือนกองร้อยผมนะครับ ที่กองร้อยผมจะเป็นส่วนที่อาบน้ำส่วนหนึ่งและส่วนที่เอาไว้ขับถ่ายอีกส่วนหนึ่งแต่อยู่ในหลังเดียวกัน ถ้าใครเคยเข้าค่ายทหารก็จะรู้ว่าห้องน้ำทหารเป็นแบบไหน ส่วนห้องน้ำที่กองพันนี้ จะมีหลังหนึ่งเอาไว้อาบน้ำอาบท่าโดยเฉพาะเลย แล้วก็จะมีอีกหลังหนึ่งสำหรับเอาไว้ขับถ่าย ผมไปยืนต่อคิวแล้วรีบทำภารกิจส่วนตัว ตอนเช้าคงไม่ได้อาบน้ำ เพราะคิดว่าไม่ทันและไม่มีความจำเป็นมากเท่าไหร่ด้วย อากาศมันไม่ได้ร้อน อากาศเมืองกาญจน์นี่จะแปลกอยู่อย่างหนึ่งนะครับ ตอนกลางวันจะร้อนมาก ส่วนตอนกลางคืนนี่จะเย็นมากเลยครับ นี่ไม่อยากจะคิดถึงตอนหน้าหนาว ทหารที่นี่คงหนาวน่าดู เพราะด้านหลัง ด้านหน้า ด้านข้าง มีแต่ป่ากับเขา ใครคิดจะหนีออกจากค่ายทหารนี่คิดหนักเพราะต้องเดินยาวไกลมากกว่าจะออกจากค่ายได้

ล้างหน้าแปรงฟันเสร็จแล้วเรามาแต่งตัว เก็บข้าวของให้เรียบร้อยจากนั้นก็ออกมารวมตัวกันที่หน้ากองร้อย ไปรับข้าว กินข้าวอิ่ม คนอื่นเขาอิ่มนะแต่ไอ้บอมบ์ไม่อิ่ม แล้วต้องทำยังไง ผู้พันลงทุนเดินมาถามเองเลยครับ

“กินข้าวอิ่มไหมบอมบ์ ไม่อิ่มบอกพี่นะ”พี่แกเดินมาหา ทหารยังไม่ได้สั่งตรงเลยครับ คนอื่นนี่เลิกลักกันเลยทีเดียว

“ตรง”ใครคนหนึ่งสั่ง

“อืมๆ ตามสบายทหาร นั่งลงๆ ไงบอมบ์”

“ไม่เป็นไรครับ”ผมลุกขึ้นยืนตรงตอบคำถาม

“เอาน่า ไม่อิ่มบอกพี่ เดี๋ยวพี่จะสั่งให้สูทกรรมเพิ่มข้าวให้แล้วกันนะ เอ้า ทหาร ใครที่อิ่มแล้วก็รีบพรางหน้าซะ เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว”ผู้พันพูดเสียงดัง พวกที่กินข้าวอยู่ก็รีบกินข้าว ส่วนที่กินอิ่มแล้วก็รีบพรางหน้ากันอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างดำเนินไปด้วยความรวดเร็ว ทหารสูทกรรมวิ่งเอาข้าวกล่องมาให้ผมอีกกล่องหนึ่ง ผมก็รับมากินคนละครึ่งกับไอ้มหา เพราะผมกับไอ้มหาเรากระเพาะควายกันทั้งคู่ ตอนนี้ไอ้มหาตัวล่ำบึ้กขึ้นกว่าเมื่อก่อนแล้ว ตอนมันมาเป็นทหารใหม่ๆตัวไม่ค่อยบึ้กเท่าไหร่ พอมีกล้ามเนื้อเล็กๆน้อยๆตามประสาของมันไป แต่พอเข้ามาเป็นทหาร ฝึกหนัก ใช้แรงเยอะ ไหนจะโดนแดก ไหนจะทำงาน ไหนจะฝึก ตัวเลยล่ำขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะเลยครับ อกผาย ไหล่ผึ่ง หน้าตึง คอตั้ง หุ่นสมาร์ทบาดใจ ใครๆก็อยากกิน ฮ่าๆๆ

“พี่บอมบ์ มานี่มาเดี๋ยวหนูพรางหน้าให้”อีหนูพูดกับผมเสียงใส มันถือขันใบหนึ่งซึ่งมีสีสำหรับพรางหน้าละลายอยู่ในนั้น มือข้างหนึ่งถือพู่กัน ผมเดินไปหามันแล้วให้มันพรางหน้าให้ ปาดสีลงบนใบหน้าหน่อยหนึ่งจากนั้นก็ไปปาดอีกสีหนึ่ง จะมีอยู่ ๓ สีครับ เขียว แดง และดำ บางคนที่หน้าแป้นหน่อยพรางไปพรางมาเหมือนตัวชแร็ค ไอ้ตัวการ์ตูนยักหน้าเขียวๆอ่ะ บางคนมันเหมือนจริงๆครับ โดนล้อกันขำขัน

พรางหน้าเสร็จแล้วเราขึ้นบนรถ แบกเป้ถือปืนแล้วไปที่สนามที่เราซ้อมเมื่อวานเพราะวันนี้เราต้องตรวจสภาพความพร้อมรบกันจริงๆ มาถึงก็ไปยืนตามตำแหน่งซึ่งเราจะรู้อยู่แล้วว่าใครจะต้องยืนตำแหน่งไหน ซักซ้อมกันครั้งหนึ่ง แล้วพัก ๑๐ นาที จากนั้นถึงเวลาจริง พิธีการจริงเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่ประธานในพิธีลงจากเฮลิคอปเตอร์มา เราทำตามขั้นตอนที่ได้ฝึกซ้อมกันทุกอย่าง ใช้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมงกว่าๆครับ ๑๑ โมงครึ่งจึงได้เสร็จเรียบร้อย เสร็จแล้วก็ไปโหลดของลง ซึ่งจะมีถุงทะเล ใครจะเอาอะไรไปฝึกจริงกันแค่ไหนก็เอาออก ผมหยิบถุงเอาขอที่ไม่จำเป็นเช่นผ้าห่ม มุ้ง ชุดพราง ยัดใส่ถุงจากนั้นเอาของอย่างอื่นอีกเล็กน้อยออกจากเป้ แล้วเอาของที่จำเป็นเช่นมาม่าปลากระป๋อง เปล และอย่างอื่นที่จำเป็นในการดำรงชีพหยิบมาใส่เป้ กว่าจะเสร็จก็เที่ยงวัน ระหว่างทำนี่เรากินข้าวด้วยนะครับ ทำไปด้วยกินข้าวไปด้วย จนทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เราจึงเตรียมตัวเดินทางไปฝึกภาคสนามอย่างจริงๆจังๆกันต่อไป

ภารกิจแรกหลังจากการตรวจสภาพความพร้อมรบนั่นก็คือการเดินเร่งรีบ เดินเร่งรีบคือการเดินทางไปให้ถึงเป้าหมายในเวลาที่กำหนด เพราะพวกผมเป็นทหารราบ การรบต้องให้การเดินเท้าเป็นหลัก ดังนั้นภารกิจแรกของวันนี้คือการเดินเร่งรีบระยะทาง ๑๕ กิโลเมตรก็เหมือนที่เคยไปฝึกครั้งที่แล้วนั่นแหละครับ

เราเริ่มต้นเดินทางกันช่วงบ่าย ๓ ครึ่ง เดินออกจากจุดเริ่มต้น ระหว่างเดินเร่งรีบก็มีคณะกรรมการคอยควบคุมเวลาครับ เรียกว่าเดินตามทุกฝีก้าว ชุดหนึ่งเดินตามอีกชุดหนึ่งก็นั่งรถล่วงหน้าไปตรวจเป็นระยะๆ เราเดินกันมา แรกๆก็เป็นขบวนดีหรอกครับแต่พอถึงกิโลเมตรที่ ๕ นี่สิ เริ่มมีคนเดินตกบ้าง บางทีก็มีเดินแซงหน้ากันบ้าง ผมมันอยู่หัวขบวนอยู่แล้วแรงดีไม่มีตกครับ เราเดินคุยกันไปเรื่อยๆ ปืนกลผมไม่ได้ให้น้องแบกเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่มีเปลี่ยนคนแบกครับ ตามจริงจ่าไม่ได้ว่าอะไรนะครับถ้าจะสลับกันช่วยแบกปืน เพราะปืนกลมันหนัก แต่ผมเห็นสภาพของพวกมันแล้ว มันเดินตามผมทันผมก็ชูนิ้วให้แล้วล่ะ

“พี่บอมบ์น่าจะเป็นผู้หมวดผู้กองนะ ถึกอีหลี”พูดไทยคำอีสานคำ ไอ้สุภาพบุรุษ ๔ ด.

“อือ นี่กูเป็นแค่ทหารเกณฑ์กูยังเหนื่อยขนาดนี้ ถ้าเป็นผู้หมวดล่ะก็ มันจะแค่ไหนวะ”

“กะแมนอยู่นะอ้าย เอื้อยหนูคือถึกอีหลี”

“ฟังไม่ออกอ่ะ ฟังออกแค่ว่าถึก จังซี่มันต้องถอน”อีหนูยังหน้าชื่นตาบาน

“ถอนอะไรหนู”

“ถอนหงอกพี่มหาอ่ะแหละ เออ หนูว่าเดินตอนเย็นแบบนี้ไม่ค่อยดีเลยนะ เมื่อเช้าใช้แรงไปเยอะ พลังงานเหลือน้อยนะเนี่ย หนูชอบเดินตอนเช้ามากกว่า อากาศกำลังดี แสงตะวันเรืองเรื่อที่โผล่จากขอบฟ้า เหล่าสกุณากางปีกโบยบิน เสียงนกกาเจื้อยแจ้วหากิน วิหคผกผินสู่ท้องฟ้านภากาศเอย ฮ่าๆๆ”เจ้าบทเจ้ากลอนเสียจริง

ตลอดการเดินทางในช่วงบ่าย ผ่านชุมชน ผ่านไร่อ้อย จากนั้นระยะทาง ๓ กิโลสุดท้ายมีสปอนเซอร์แจกครับ เรารับกันไปคนละขวด ทุกคนเริ่มเหนื่อยเมื่อยล้ากับการเดินเร่งรีบ เวลาก็เริ่มลดน้อยถอยลง เสียงเร่งปลูกเร้ากำลังใจจากผู้บังคับบัญชายังคงดังขึ้นเป็นระยะๆ แล้วการเดินทางเร่งรีบก็สิ้นสุดลงเมื่อกลุ่มของพวกผมเดินเข้าเส้นชัยเป็นกลุ่มแรกๆ

เราหาที่เหมาะๆนั่งคอยกลุ่มที่เหลือซึ่งทยอยเดินทางเข้าเส้นชัยทีละคน รอจนฟ้ามืดครับจากนั้นก็แยกกลุ่ม กองร้อยไหนเป็นกองร้อยไหน เช็คยอด แล้วก็เดินเข้าไปในป่าเพื่อหาที่พักในคืนนี้ เมื่อเราได้ที่จะพักในค่ำคืนนี้แล้ว ทุกคนก็ต่างปล่อยตัวตามสบาย ถอดเสื้อพราง สายเก่งกระติกน้ำออก ผมรีบจับจองต้นไม้หาที่ผูกเปลนอนในคืนนี้ จากนั้นก็พาลูกน้องไปรับข้าวมากินกัน กว่าจะได้กินข้าวก็ดึกแล้วครับ เปิดไฟฉายแล้วพากันนั่งล้อมวงกินข้าวให้หายเหนื่อย

“พี่บอมบ์ ผู้กองให้เอามาให้”รุ่นน้องที่อยู่กับส่วนกองบังคับการกองร้อยยื่นไข่เจียวหอมๆมาให้ผม

“อื้ม ขอบใจมาก เดี๋ยวกูไปขอบคุณผู้กองก่อนนะ”ผมรับมาแล้วยื่นให้ไอ้นุถือไว้ จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินไปที่ บก.ร้อย ไปขอบคุณผู้กองครับ

“ผู้กองครับ ผมมาขอบคุณสำหรับไข่เจียว”

“อื้มๆ ไม่เป็นไร พี่กลัวไม่อิ่ม”มีพี่เพิ่มมาอีกคนแล้วครับ “แล้วเป็นไง อยู่ได้นะ”

“สบายมากเลยครับผู้กอง ยังไงผมขอบคุณจริงๆนะครับ”

“อื้ม ผู้พันฝากพี่มาดูอีกทีหนึ่งน่ะ ข้าวปลาอาหารไม่อิ่ม ไม่ถูกปากก็บอกพี่นะ เดี๋ยวพี่จะให้ลูกน้องทำไปให้”

“ไม่เป็นไรครับผู้กอง ทำกับผมเหมือนกับทหารคนอื่นๆดีกว่าครับ”

“เอานะ อย่าให้พี่ไม่สบายใจ กินข้าวยังอ่ะ ยังไม่กินไม่ใช่เหรอ”

“เพิ่งจะกินไม่ไม่กี่คำครับ งั้นผมไปกินข้าวต่อนะครับ ผมขอบคุณผู้กองมากจริงๆนะครับ”ผมยืนตรงทำความเคารพแล้วเดินมาที่นั่งกินข้าว จากนั้นก็แบ่งไข่เจียวคนละเศษคนละเสี้ยวเท่าๆกัน ผมไม่อยากเห็นแก่ตัวครับ มีอะไรเราร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน เราช่วยเหลือเจือจุนกัน เราไม่รู้หรอกว่าวันไหนเราจะลำบาก ตอนนี้เรามีเราก็แบ่ง วันหน้าคนที่เราช่วยเหลืออาจจะมาช่วยเราตอบแทนในยามที่เราทุกข์ยากก็เป็นไปได้

กินอิ่มแล้วล้างหม้อ ล้างแบบไม่มีน้ำยาล้างจานครับ ล้างเสร็จผึ่งลมให้มันแห้งแล้วมานั่งคุยกันนิดหน่อย ใครจะสูบบุหรี่ก็สูบไป ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะสูบกัน ควันนี่เหมือนไฟไหม้ป่าครับ ยาซองบ้าง ยาเส้นบ้าง จนเวลาพอสมควรผมก็รีบนอนหลับพักผ่อนเพราะรู้สึกว่าเมื่อยล้าเหลือเกิน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-12-2014 19:56:20 โดย AGELA »

ออฟไลน์ harumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-33

ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
แผร่ดดดดดดดดดดดดดดด แป๊ด แป๊ด แป๊ด ปู้ดดดดดดดดดดดดดดด

“ไอ้เหี้ยเอ๊ย มึงขี้เหี้ยอะไรของมึงวะ ไอ้สัส”เสียงจ่าวินพูดเสียงดังตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง ทำให้ผมต้องตื่นขึ้นมา

ปู้ดดดดดดดดดดดดดด แป๊ด แป๊ด

ห่าเอ๊ย ใครวะนั่น

“เฮ้ย ไอ้ห่า มึงขี้ไกลๆไม่ได้เหรอวะ”จ่าวินพูดเสียงดัง

“ขอโทษพี่ ผมไม่ไหวแล้ว”

“อ้าว ไอ้ต๊อด ไอ้เหี้ย แล้วเสือกมาขี้ใกล้ที่กูนอนนะมึง”

“ที่อื่นมันไม่มีแล้วพี่ ผมคิดว่าแถวนี้ไม่มีใครนอน พี่สนใจมาขี้กับผมไหม”

“เออ ไอ้สัส แม่ง ขี้ทีหนึ่งกูคิดว่าระเบิดลงญี่ปุ่น”

“โอ๊ยพี่ ผมขอโทษที คิดว่าไม่มีใครนอนแถวนี้จริงๆ มันมืดไปหมด”

“เออๆ ไอ้สัส”

ผมนอนฟังบทสนทนาอยู่พักหนึ่งแล้วก็หลับไปอีกครั้ง

ตื่นเช้าวันใหม่ ภารกิจวันนี้คือการเตรียมตัวเข้าดีกลางคืนครับ ดันนั้นการตื่น การกิน จึงไม่ค่อยเร่งรีบสักเท่าไหร่นัก กินอิ่มก็นั่งพักคอยครับ เปลนี่เก็บหมดแล้ว เรานั่งกันแล้วก็คุยเรื่อยเปื่อย คุยกันเบาๆนะครับ คุยเสียงดังนี่มีสิทธิ์โดนแดกได้

“จวย ที่มีให้ขี้ตั้งเยอะตั้งแยะเสือกไม่ขี้ มาขี้ใกล้ที่กูนอน”จ่าวินด่าหมู่ต๊อดนายสิบร้อย ๒ ซึ่งมาเป็นหัวหน้าหมู่

“ขอโทษพี่”หมู่ต๊อดยอกมือไหว้ขอโทษ “ผมไม่รู้จริงๆ มันมืด มองไม่เห็น”

“เออ ไอ้เหี้ย มองเห็นไม่เห็นก็ไม่เกรงใจกันบ้างเลย กูก็คิดว่าใครมาจุดประทัดไหว้เจ้าแต่เช้า”

“ฮ่าๆๆๆๆ”ผมหัวเราะก๊ากออกมาเลยครับ

“ผมว่าหมู่ต๊อดไม่ได้ไหว้เจ้าหรอกครับจ่า นี่มันนิวเคลียร์ถล่มฮิโรชิม่าชัดๆ”ไอ้มหาพูดเสริม

“ฮ่าๆๆๆ มึงก็พูดไปนะไอ้มหา แหม ท้องไส้กูดีเว้ย”หมู่ต๊อดขำ

“ขอโทษนะพี่ ครั้งหน้าผมจะเบาๆแล้วกัน”

“ไม่มีครั้งหน้าครั้งหลังแล้วไอ้ห่า ครั้งเดียวก็เกินจะทนแล้ว”

“ฮ่าๆๆๆ”หมู่ต๊อดขำแล้วแกก็เดินกลับหมู่ของแกไป ส่วนพวกผมก็มาฮาเฮกันเบาๆ คุยเรื่องราวต่างๆ อากาศอาจจะร้อนไปบ้างแต่ไม่ร้อนมากเพราะต้นไม้ใบหน้ายังเขียวอยู่ครับ

“กูว่ามันดูชิวกว่าครั้งที่แล้วนะ”ไอ้มหาเสนอความเห็น แหงละ เพราะงานนี้งานใหญ่คณะกรรมการเขาตรวจให้คะแนนพวกผู้พัน ผู้กอง

“แต่กูว่ามันน่าจะเหนื่อยเพราะไม่มีการปิดสถานการณ์ มึงคิดดูสิ กว่าจะปิดสถานการณ์ก็วันที่เราฝึกเสร็จ”คือการฝึกครั้งนี้มันจะต่อเนื่องไปเลยครับ อย่างการฝึกครั้งที่แล้วเนี่ยพอฝึกเสร็จ กรรมการก็จะสั่งปิดสถานการณ์ แล้วก็ออกไป ปล่อยให้พวกเราได้พักผ่อน แต่นี่ไม่มีการปิด จะเป็นสถานการณ์ต่อเนื่องกันตลอด ๕ วัน แล้วเราก็ต้องพร้อมอยู่ตลอดเวลา

“แต่กูอยากมีเวลาถอดคอมแบทบ้างอะไรบ้างนะ ใส่นานๆแล้วมันจะเปื่อยเอา”

“เออ นี่ผมก็รู้สึกคันๆนะพี่ ไม่รู้จะเป็นเชื่อราหรือเปล่า”รุ่นน้องคนหนึ่งพูด

“ระวังด้วยนะมึง ทหารราบอย่างเราต้องรักษาตีนมากกว่ารักษาหน้า ตีนพัง ยางรั่วนี่เดินไม่ได้เลยนะ ทรมาน”ที่ต้องระวังอย่างมากในการฝึกคือเรื่องเท้าครับ เราจะกินน้ำเยอะไม่ได้เพราะถ้ากินเยอะน้ำมันจะมาลงที่เท้า ถ้าเท้าพองนี่เจ็บนะครับใครก็ช่วยไม่ได้ ถอนตัวไม่ได้ด้วย ไม่เหมือนลูกเสือหรอกครับที่เดินไม่ไหวครูก็จะให้นั่งรถ

 จนเที่ยงวันก็กินข้าว ช่วงบ่ายจ่าไปรับบงการจากผู้หมวด แล้วก็เอามาชี้แจงกับลูกหมู่ว่าเราจะปฏิบัติภารกิจอะไรในวันนี้ เราจะไปที่ไหนอะไรยังไง ซึ่งภารกิจวันนี้คือการเข้าตีตอนกลางคืนครับ

พอฟังคำชี้แจงเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็พักผ่อนเอาแรงเพราะคืนนี้คาดว่าน่าจะทั้งคืนครับ ระยะทางการเดินเข้าตีก็ใช้ว่าจะใกล้ๆ เราเลยต้องนอนกัน หลับๆ ตื่นๆ จนถึงเวลา ๔ โมงกว่าๆ เราจัดแจงเตรียมตัวในการเข้าตี ทบทวนแผนอีกครั้งหนึ่งว่าจะทำยังไง

๕ โมงเรากินข้าวกินปลากันให้อิ่มหนำสำราญ แล้วก็พักผ่อน ผมไปนั่งพิงต้นไม้แล้วหลับไปครู่หนึ่ง จนถึงเวลาประมาณ ๖ โมงครึ่งครับเราเอาเป้มารวบรวมไว้เป็นหมู่เป็นหมวดจากนั้นเราจึงออกเดินทางสำหรับภารกิจการฝึกการเข้าตีกลางคืน เราเดินทางกันไปเงียบๆ ระหว่างเดินทางก็มีกรรมการคอยตรวจสอบอยู่เสมอครับ การฝึกก็เหมือนครั้งที่แล้วครับไม่มีอะไรยากเพราะเคยปฏิบัติมาแล้ว เราใช้เวลาเดินทางกัน ๒ ชั่วโมง มาถึงจุดแยกกองร้อยแล้วเดินทางต่อไปอีก ๑ ชั่วโมง จนมาถึงจุดแยกหมวด แล้วก็เดินทางต่อไปอีกจนมาถึงจุดแยกหมู่ครับ ปรับเรียงเป็นหน้ากระดาน ต้องคอยฟังสัญญาวิทยุเป็นระยะๆ กว่าจะวางตัวเตรียมโจมตีได้ตอนนี้ก็ ๕ ทุ่มไปแล้ว

เมื่อพลุสัญญาณการเริ่มยิงดังขึ้น เราก็รุกคืบเข้าตีข้าศึกในยามกลางคืนกันอย่างขะมักเขม้น มองอะไรไม่ค่อยเห็นก็คลำทางเอาไปเรื่อยแหละครับ กว่าการเข้าตีจะเสร็จเรียบร้อยก็เกือบจะตี ๒ แล้วครับ และแล้วสัญญาณดังขึ้นอีกรอบหนึ่งเป็นการบอกว่าหยุดยิง กว่าทุกอย่างจะเสร็จเรียบร้อยก็ตี ๓ ไปแล้วครับ จากนั้นก็มารวมตัวกันแล้วเดินทางกลับ ภารกิจยังไม่จบแค่นี้ ต่อไปนี้คือการเข้าตีในเวลากลางวันครับ

เราออกเดินทางกันแต่เช้ามืดเพื่อจะไปโอบล้อมข้าศึกซึ่งอยู่ที่เขาอีกลูก เดินไปหาวไป การเข้าตีกลางวันมีบททดสอบอะไรเยอะมากเลยครับ กว่าการฝึกจะเสร็จเรียบร้อยก็ปาไปบ่ายโมงแล้วถึงได้หยุดพักผ่อนกินข้าวกินปลา

“ฮ้าว ไม่ไหวว่ะ ง่วงมาก”ไอ้มหาหางออกมาเป็นรอบที่ร้อยกว่าละมั้ง ตอนนี้สภาพแต่ละคนนี่ไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก ตานี่แทบลืมไม่ขึ้น

“นี่ถ้าออกรบจริงกูว่ากูคงไม่รอดว่ะ”ไอ้นุพูดกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน

“เออ ได้รู้ไว้ว่ากว่าจะรักษาแผ่นดินให้พวกเราได้ทำมาหากินมาจนทุกวันนี้คนแต่ก่อนเขาลำบากแค่ไหน พวกเราน่ะมันขี้เล็บของคนรุ่นก่อนเว้ย”

“นี่ถ้ารบจริงๆผมคงทำอะไรไม่ถูก”

“ฮ้าว กูว่านะไอ้นุ ตอนไปรบจริงๆคงไม่มีเวลามานั่งหาวแบบนี้หรอก คงเครียดน่าดู”

เรานั่งคุยกันเบาๆ คุยอีกไม่กี่คำก็หลับครับ นั่งหลับกันเลยทีเดียวจนพักใหญ่ๆมีรถมารับรับเพื่อที่จะไปฝึกอีกที่หนึ่ง เป็นสถานีตั้งรับ เรามาถึงช่วงเวลาประมาณ ๕ โมงเย็นครับ มาถึงก็หาที่ตั้งหลักก่อน ใครจะอยู่ตรงไหนอะไรยังไง กระจายพื้นที่กัน พอได้ที่แล้วจากนั้นก็สร้างฐาน ขุดหลุม ดินแข็งมากขี้เกียจขุดกันก็เอาก้อนดินก้อนกินมาก่อให้เป็นบังเกอร์ ส่วนจ่าก็ไปรับบงการกับผู้หมวด

“เฮ้อ หมดแรง”ต่างคนต่างนั่งแผ่ด้วยความเหนื่อยเมื่อยล้า ตอนนี้คณะกรรมการยังไม่มาครับ และเราก็เห็นรถพีเอ็กซ์จอดอยู่ไกลๆ ตอนนี้ปลอดภัยจึงส่งม้าเร็วไปซื้อของครับ ตอนนี้ใครอยากกินอะไรก็สั่งกันเต็มที่เลยครับ

นั่งรอกันอยู่พักใหญ่ขนมนมเนยจึงมาพร้อม นั่งรอรถข้าวก็ยังไม่มาสักที ด้วยความหิวเราเลยเอามาม่าออกมาต้มกันครับ ต้มกัน ๓ หม้อ แบ่งกันกิน แล้วตอนเย็นก็มีขนมปีบจากบก.ร้อยมาแจกด้วยครับ ขนมปีบขนาดเล็ก ๒ ปีบ ไส้สัปปะรดปีบหนึ่ง ไส้ครีมปีบหนึ่ง เอามาแกะแล้วแบ่งกันกิน มีน้ำแดงเฮลลูบอย เอาหม้อสนามมาแล้วก็ละลายน้ำ น้ำแข็งก็มีครับเป็นน้ำแข็งมือก้อนใหญ่ เอาสันมีดทุบให้มันแตกแล้วใส่ลงในหม้อ กินกันทั้งอย่างนั้น

“รอหน่อยนะ ตอนนี้รถข้าวกำลังมา”ตอนนี้ฟ้ามืดแล้ว หมวดบูมมานั่งคุยกับพวกผมหลังจากที่พี่แกไปที่บก.ร้อยมา รู้สึกว่าพี่แกจะพูดเป็นรอบที่ ๕ แล้วมั้ง พูดตั้งแต่ฟ้ายังไม่มืดจนตอนนี้ฟ้ามืดแล้ว ดวงดาวบนท้องฟ้าพรายส่องแสงระยิบระยับ ลมพัดมาเอื่อยๆ ยุงก็บินว่อนเสียเหลือเกิน

“ป๋ากินเหล้าจนลืมทำกับข้าวมั้งเนี่ย”ผมพูดขำๆ ป๋าที่ผมพูดถึงนี่คือนายสิบกองร้อยผมนะครับ แกติดเหล้าครับแต่ใจดีไม่ค่อยแดกทหาร จะว่าไม่ค่อยก็ไม่ใช่ครับ ตั้งแต่ผมขึ้นกองร้อยมายังไม่เห็นแกแดกทหารคนไหนเลยครับ แกใจดีมากเรียกทหารว่าไอ้หนู หรือลูกทุกคนครับ แต่ทหารมักจะไม่ค่อยให้ความเกรงใจแกสักเท่าไหร่ครับ เพราะแกใจดีเกินไปมั้งครับ ผมเห็นแล้วก็รู้สึกไม่พอใจพวกที่ไม่เคารพป๋าเหมือนกัน ถึงแกจะขี้เหล้ายังไง แกก็ไม่แดกทหาร

“มึงก็ไปว่าป๋านะบอมบ์”จ่าวินพูด

“ผมว่ารถข้าวหลงทางแน่เลย ขนาดตอนเราเข้ามาตรงนี้กว่าจะเข้ามาได้”ไอ้นุพูด

“กูว่าคืนนี้ได้กินข้าวเที่ยงคืนแน่เลยว่ะ”

“ง่วงแล้วอ่ะ ผมนอนก่อนได้ไหม”ไอ้มหาหาวเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้

“ง่วงก็นอนก่อนก็ได้ เดี๋ยวถ้าข้าวมาค่อยลุกมากิน”จ่าพูด

“พรุ่งนี้ก็ได้กลับบ้านแล้ว อดทนเว้ย”หมวดบูมพูด

“ไปเที่ยวทะเลอีกไหมผู้หมวด”ผมเอ่ยชวน

“ไม่มีเวลาว่ะ ได้พักสัปดาห์เดียวก็ต้องเก็บของไปฝึกต่อแล้ว อยากไปพาพี่ภูมิ พี่ภีม ไปดิ”

“ไอ้ ๒ ตัวนั่นไม่รู้จะว่างหรือเปล่า”

“พี่แบงค์ก็ได้ พี่แบงค์ว่าง”

“ไอ้แบงค์เนี่ยนะ ติดหอยไม่ใช่เหรอ ได้ข่าวว่าไปหม้อสาวมหาลัยดาวคณะซะด้วย”

“ฮ่าๆๆ พี่แบงค์ก็จีบเขาไปเรื่อย เด็กในสต๊อกเยอะ”

“ผมรู้ว่ากี่คน ๔ คนแน่ะ คนหนึ่งสาวธนาคาร อีกคนเซลล์ขายอะไรสักอย่างแหละ อีกคนก็คุณหมอจบใหม่ นี่ล่าสุดไปหม้อดาวมหาลัยมาซะแล้ว มันหม้อได้ใจกูจริง”

“แล้วมึงล่ะบอมบ์”จ่าวินถามผม

“ฮ่าๆๆ ไม่เปิดเผยครับจ่า เมียมีคนเดียว ส่วนกิ๊กนับไม่ถ้วน”

“ไอ้มหาล่ะเห็นหงิมๆ น่าจะมีเยอะนะ”

“แฮะๆ คนเดียวก็พอแล้วครับจ่า มีเยอะแล้ววุ่นวายใจ คนเดียวก็พอ”ไอ้มหายิ้ม ที่จริงผมก็พูดเล่นไปงั้น กิ๊กไม่กิ๊ก ไม่มีหรอกครับ มีที่รักคนเดียวก็พอแล้ว ขี้เกียจจะแบ่งหัวใจไปเทคแคร์ใครเยอะ มันวุ่นวาย มีอยู่ครั้งหนึ่งนะครับที่ผมคบหลายๆคน จำได้ว่าคบอยู่ ๖ คนมั้งครับ ตอนเรียนปี ๒ ตอนนั้นรู้สึกว่าเงินมันเยอะ เวลาว่างก็แยะ เลยลองควงสาวเล่นๆ คนที่ผมจีบก็มีแต่รุ่นพี่ทั้งนั้นเลยครับ พี่ปี ๔ คณะมนุษย์ผมไปหม้ออยู่ ๒ คน เฟรชชี่คณะคนหนึ่ง กับเฟรชชี่สาขาคนหนึ่ง ๒ สาวนี่จีบไม่นานครับ แปบเดียวก็กุ๊กกิ๊กกันแล้ว ผมก็เทียวรับเทียวส่ง ดอดไปหา แบ่งเวลาพาไปดูหนังในยามว่าง แล้วก็มาควงอีกคน 

พี่ปี ๓ คณะวิทยาศาสตร์ ๑ คน คนนี้สวยมากเลยครับ เรียนเก่งด้วย ได้เกียรตินิยม เป็นสาวแว่นหน้าตาสดใส ดูไม่เนิร์ดไม่นิ้งเกินไป แบบว่าไงดี น่ารักอ่ะครับ คนนี้ผมคบแบบกิ๊กๆกั๊กๆ ไม่ได้จริงจังอะไรมาก  ตอนพี่แกเรียนจบผมซื้อตุ๊กตาตัวใหญ่ไปให้ พี่เขาเจอหน้าผมค้อนไปใหญ่เลยครับ ประชดประชันผมชุดหนึ่งที่ผมหลอกคบแก แต่ผมไม่ได้ฟันเขานะ แกจับได้ก่อนว่าผมคบหลายคน แกงอนผมอยู่พักใหญ่ครับ แต่สุดท้ายผมง้อสำเร็จเลยกลายเป็นพี่น้องที่สนิทกัน ตอนนี้ก็ยังติดต่อกันอยู่ รู้สึกว่าจะมีแฟนแล้วด้วย

คนต่อมา พี่ปี ๔ คณะบริหาร ๑ คน คนนี้เป็นเพื่อนของเพื่อนพี่รหัสผมเอง ตอนนั้นไปเลี้ยงสายรหัส เผอิญว่าพี่คณะบริหารคนนี้แกก็ไปเลี้ยงสายเหมือนกัน เราเลยรู้จักกัน แล้วก็มักจี่ในที่สุด ผมเทคแคร์พี่เขาจนพี่เขาจบปี ๔ แล้วเราก็เลิกกันเพราะเขามีหนุ่มตี๋ฮ่องกงมามาจีบ และเขาก็ระแคะระคายเรื่องผมคบหลายคน เลยชิงรักหักสวาทผมไปก่อน

แล้วถัดมาเป็นพี่ปี ๓ คณะวิศวะ คนนี้เด็ด ไข่ในหินของวิศวะ เป็นเฟรชชี่คณะด้วยและเฟรชชี่มหาลัยด้วย วันแรกที่ผมเข้าไปจีบนี่เด็กวิศวะเขม่นผมแทบตายครับ เพราะพี่เขาสวยจริง แต่เด็กวิศวะไม่มีใครจีบติด ที่ผมจีบติดเพราะอะไรรู้ไหม บางคนอาจจะคิดว่าผ้าเช็ดหน้าหล่น หรือกระดาษรายงานปลิวแล้วผมไปช่วยเก็บ แต่สำหรับผมนั้นมันมีอยู่ว่า เผอิญวันนั้น ผมเดินกลับเข้าหอพอดี พี่แกกำลังคลี่ตากยกทรงครับ ที่จริงแกตากด้านในระเบียงไม่มีใครเห็นหรอก แต่ไม่รู้ว่าไปพลาดอีท่าไหน ยกทรงกระเด็นออกจากระเบียงหล่นมาแปะที่หัวผมพอดิบพอดี พอยกทรงตกมาบนหัวผมปั๊บ ผมรีบเงยหน้าหาเจ้าของ มองขึ้นไปด้านบนพร้อมกับที่พี่เขายืนหน้าออกจากระเบียงเพื่อดูผลงาน พี่แกยื่นหน้ามาแปบเดียวเท่านั้นแล้วหลบหน้าไป ผมคว้ายกทรงออกจากหัวผมได้แล้วรีบขึ้นลิฟต์ไปตามหาเจ้าของทันที รู้สึกว่ายกทรงจะเป็นคัพซีซะด้วย ทีแรกก็ไม่รู้หรอกว่าพี่แกอยู่ห้องไหน ต้องออกมาดูชั้นอีกทีหนึ่งปรากฏว่าห้องเขาอยู่ตรงกับห้องผมพอดีแต่คนละชั้น ผมพักอยู่ชั้น ๖ พี่เขาพักอยู่ชั้น ๗ หวานหมูเลยงานนี้ ยกทรงคัพซีกับสาววิศวะ ผมไปเคาะประตูห้องแก เคาะอยู่นานกว่าเขาจะเปิดให้ พอเปิดให้ก็ยิ้มเขินให้ผม ผมคืนยกทรงพี่แกแบบหน้าตาย คือร้อยวันพันปีก็ไม่เคยขายหน้าขนาดนี้ พี่แกรับไปแบบเขินๆ ผมก็พูดประมาณว่า “ถ้าจะบอกรักกัน เขียนเบอร์ใส่กระดาษยื่นให้ดีกว่าปายกทรงใส่หัวผมนะครับ” พี่เขาค้อนขวับทันทีแล้วผมก็ยิ้มๆ จากนั้นผมก็เริ่มสานสัมพันธ์ เพราะเห็นว่าน่ารักครับ (ชอบตรงที่เป็นคัพซีนี่แหละครับ บอกตรงๆ) มีบางครั้งที่ผมเดินไปส่งพี่เขาที่คณะเพื่อประกาศความเป็นเจ้าของ บางคนแทบจะกระโจนเข้ามาต่อยหน้าผมเลยครับ เพราะรู้สึกว่าพี่น่ารักคนนี้มีคนตามจีบเยอะมาก ตั้งแต่พี่ป.โทยันน้องปีหนึ่งที่มั่นใจในตัวเอง แต่อดแดกทุกคน ได้ไอ้บอมบ์คว้าไปแดกจนได้ คนนี้ผมคบเป็นแฟนเลยครับ คบได้ปีกว่าๆเองครับ ตอนปี ๔ พี่แกงานเยอะ ไม่ค่อยมีเวลาให้กัน และผมก็กิ๊กเยอะด้วย สุดท้ายเขามาบอกเลิกผมเพราะได้ทุนไปเรียนโทที่ต่างประเทศ   

และคนสุดท้ายพี่ปี ๖ สัตวแพทย์ คนนี้ผมไปเจอกันที่ห้างครับ เดินชนกัน ผมเลยขอโทษด้วยการเลี้ยงไอศกรีมถ้วยหนึ่ง ควงพี่แกอยู่ประมาณ ๖ เดือนพี่แกจับได้ว่าผมคบหลายคนเลยโดนสับเละครับ ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์เพราะตอนนั้นที่ผมกล้าบ้าบิ่นคบขนาดนั้นเพราะอยากจะโชว์พาว ที่จริงพี่ๆน้องๆในคณะผมน่ารักเยอะนะ บางคนนี่มองหน้ารู้ใจ ไม่ต้องเอ่ยปากเรียกว่า ยอมผมง่ายๆ ส่วนบางคนผมก็ประเภทรักหรอกหยอกเล่น ไม่ได้เป็นกิ๊ก ไม่ได้เป็นแฟน ก็หยอกเย้าจนสนิทกัน อย่าคิดไปไกลนะครับ ไอ้ที่ว่าหยอกเย้าสนิทกันนี่ หมายถึงพี่ๆน้องๆ ท้องไม่ได้ชนกันนะครับ พี่น้องที่สนิทกัน ผู้ชายในคณะบางคนนี่อิจฉาผมเยอะเลยครับเพราะว่าพี่ๆสวยๆน่ารักๆเขาชอบมาซบไหล่ผมบ้าง บางคนนี่กอดคอ บางคนกอดทั้งตัวผมเลย เรียกว่าถึงเนื้อถึงตัว มีคนอิจฉาผมเยอะ ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ในช่วงแห่งความวุ่นวายของชีวิตผมครับ ช่วงที่ผมโดนสาวๆต่อว่าต่อขานนี่ รู้สึกผิดไปเลยครับ แบบว่าไม่น่าบ้าขนาดนี้เลยกู ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผมก็คบทีละคนครับ ไม่อยากทำร้ายจิตใจใคร เห็นน้ำตาผู้หญิงแล้วมันใจแป้ว

๓ ทุ่มแล้ว ข้าวเพิ่งจะมาส่ง ตอนนี้ไอ้มหาและบางคนก็หลับไปแล้ว จ่าปลุกให้มากินข้าวกัน ผมยังไม่ได้นอนครับ นั่งดูดาวที่พราวระยับบนท้องฟ้า กินข้ากินปลาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมก็จัดแจงทำที่นอนให้เหมาะๆ ที่นอนของผม ผมไปตัดยูคามาปูครับ เอาเฉพาะส่วนที่มีกิ่งเล็กๆกับใบของมันมาปูที่นอนจะได้นุ่มๆ ทายากันยุงเสร็จแล้วก็นอนพักผ่อนกัน แปบเดียวเราก็หลับลงไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า

ตี ๕ ฟ้ายังไม่สว่างเท่าไหร่นัก พวกเราถูกปลุกมา ตื่นขึ้นมาบิดเนื้อบิดตัวแล้วก็ไปหาที่เหมาะๆในการปลดทุกข์ ไปก่อนก็ได้ที่สงบๆ ไปทีหลังก็หาที่ยากหน่อย ธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้วก็มาก่อไฟต้มกาแฟ ต้มมาม่ากันครับ ทุกอย่างทำด้วยความเร่งรีบ วันนี้วันสุดท้ายแล้วพวกเราหน้าชื่นตาบานกันครับ จากนั้นเวลา ๗ โมง เรากินข้าวเช้า ชุดหลุมฝังขยะเรียบร้อยแล้วก็แต่งเนื้อแต่งตัวให้เรียบเพราะคณะกรรมการจะเข้ามาช่วงประมาณ ๘ โมงครับ ตอนนี้ทุกคนประจำอยู่ในหลุมบุคคลเรียบร้อยแล้ว สถานการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อได้รับสัญญาณจากผู้กองว่าคณะกรรมการเข้ามาแล้ว ทุกอย่างจึงเริ่มเข้าที่เข้าทาง ผมนั่งๆนอนๆอยู่ในหลุมพักใหญ่ คณะกรรมการเริ่มจากการไปตรวจที่บก.พัน แล้วก็มาที่บก.ร้อย มีการสั่งให้ออกโจมตีด้วยครับ เรียกว่าเล่นงานกันอ่วมเลยทีเดียว เพราะรู้สึกว่ากรรมการที่มาตรวจสอบนั้นจะเก่งการรบมากเลยครับ กว่าจะผ่านมาได้ก็เกือบเที่ยงวัน ทุกอย่างจึงเรียบร้อย

“เฮ้อ หมดเวรหมดกรรมสักที”ไอ้ด่านถอนหายใจ

“จะได้กลับบ้านแล้ว”ไอ้ตู้หน้าบานเลยครับ

“ไม่มีใครลืมอะไรแล้วนะ”จ่าถามอีกครั้งหนึ่ง

“ไม่มีครับจ่า ผมเอามาครบแล้วครับ”

“เออ ดีๆ ป่ะ ไปรอรถกัน”จากนั้นเราก็ลงจากเขาไปรอรถ ซึ่งรถที่จะมารับเป็นรถของทหารช่างครับ เราก็ขึ้นไปแออัดยัดเยียดก็จริงแต่ตอนนี้หน้าบานกันครับ เรานั่งรถมาครู่ใหญ่มาถึงโรงเรียนแห่งหนึ่ง เรามาหยุดคอยที่โรงเรียน

“เอาไอติมไหมบอมบ์”จ่าถาม

“ไม่เป็นไรครับจ่า”

“เอาน่า จ่าเลี้ยง พ่อค้าไอติม ๑๐ อัน”

“เอาแบบถ้วยหรือขนมปังครับ”พ่อค้าถามด้วยสำเนียงเหน่อๆแบบคนเมืองกาญจน์

“เอาขนมปัง”

“ได้ครับ”จากนั้นเราก็รอครับ พ่อค้าตักไอติมอย่างว่องไว แล้วพวกกลุ่มอื่นๆก็มารุมที่รถไอติม พอได้ไอติมแล้ว ผมก็ไปหาที่นั่งร่มๆ หาที่นั่งกินกันครับ ช่วงนี้ก็มีรถพาทหารมาที่โรงเรียนแห่งนี้ ระหว่างนี้เราไปหาของกิน ไปสั่งส้มตำน้ำตกลาบก้อยยำพล่า รุ่นน้องผมกำลังถือมาเลยครับ น้ำลายศอเลยกู

“เฮ้ยๆเอามานี่ แล้วมารวม”รุ่นน้องผมทำหน้าเอ๋อๆเมื่อถูกเรียกไป ผมทำหน้างงเลยครับ เฮ้ย นั่นเงินกูนะเว้ย

“รวม สื่อคำสั่งด้วย”

“รวม รวม รวม”มีทหารสื่อคำสั่งว่ารวม ๓ ครั้ง

“เฮ้ย มึงให้ผู้หมวดเขาไปทำไม”ผมถามไอ้แม็ค

“ไม่รู้พี่ เขาเรียกผมแล้วหยิบไปเฉยเลย”

“อะไรวะ มันปล้นกันหน้าด้านๆเลยนี่หว่า”ผมเสียงเข้มขึ้นมาด้วยความโมโห

“อะไรวะบอมบ์ มีอะไร”จ่าเดินมาจากร้านขายขนมแล้วถามผมด้วยความสงสัย “อ้าว แล้วไหนส้มตำล่ะ”

“ผู้หมวดชาญเอาไปแล้วครับจ่า”ไอ้แม็คตอบจ่า

“อ้าว เอาไปได้ไง จะบ้าป่าววะ เดี๋ยวจ่าไปเคลียร์ ไปรวมก่อน”จ่าแบกเป้เดินนำ ส่วนพวกผมเดินตาม ตอนนี้ทุกคนเริ่มทยอยมารวมกันที่ลาน นายสิบบางคนยังกระเซ้าเหย้าแหย่กันอยู่เลยครับ บางคนก็บอกให้ทหารมารวมตัวกัน บางคนก็ถามว่าคนนั้นไปไหนคนนี้ไปไหน ส่วนผู้หมวดที่เรียกรวมไปนั่งกินส้มตำให้จ่าที่มาจากบก.พันมาเรียกรวมแล้วตัวเองไปนั่งกินส้มตำ ผมมองไปที่จ่าเห็นแกไปคุยอะไรสักอย่างกับผู้หมวดคนนั้น ผู้หมวดแกชักสีหน้าไม่พอใจใส่จ่าแล้วทำท่าทำทางจะยื่นเงินให้ เหมือนเป็นค่าส้มตำ บวกกับความวุ่นวายของการจัดแถว ผมมองไปรอบๆแล้วของขึ้น ข้าวก็ไม่ได้แดกมีคนมาแย่งไป แล้วไหนจะความวุ่นวายอีก คนทำก็ทำ คนไม่ทำก็มึนกันต่อไป บางคนหาหมู่ตัวเองไม่เจอ ยิ่งเห็นภาพแล้วยิ่งโมโห แดดก็ร้อน ผมได้แต่กัดฟัน เห็นแล้วฉุนกึ๊ก แต่ดีที่รองผู้พันมาสั่งแปบเดียวเท่านั้นทุกอย่างลงรูปลงรอย เช็คยอดนับจำนวนกันเรียบร้อย จากนั้นก็ปล่อยพักก่อนครู่หนึ่ง ผมเดินไปเคลียร์เรื่องส้มตำกับจ่า ฉะผู้หมวดคนนั้นไปยกหนึ่ง แล้วผมก็ไปสั่งมาใหม่ มีอะไรผมซื้อมาแล้วก็พากันกินในหมู่ปืนกล อีหนูไอ้ซันก็มาร่วมวงกับผมด้วย เฮ้อ จบสิ้นซะทีกับภารกิจภาคกองพัน ต่อไปก็ไปเฮฮาบ้าบอในกองพันต่อ



ปล.ช่วงนี้ไม่ลงทุกวันนะ ใกล้สอบแล้ว
ปล.๒ อีก ๖ ตอนก็จะจบแล้ว(แต่มีภาค ๒ ที่เขียนต่อประมาณ ๕ ตอน เดี๋ยวจะเขียนเพิ่ม)


รักคุณผู้อ่าน

เมฆ

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
 :z10: :z13:นึกว่าวันนี้จัไม่มาซะแล้ว

ออฟไลน์ Akikojae

  • พี่ยุนรักน้องแจ ★彡
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1137/-17
กว่าจะอ่านจบเหนื่อยมากสามรีพลายเบาๆ
ขอบคุณนะคะคุณเมฆสำหรับนิยายดีๆแบบนี้
รักพี่บอมบ์ ผู้หมวดบูม พี่มหา ผู้หมวดเต้ย น้องหนู
แสบ ซ่า ( ชาลีนี่ยังไม่เคลียร์เรื่องแม่ )

อยากอ่านอีกห้าตอนแล้วววว ~
สู้ๆกับการสอบนะคะ รักกกก
 :กอด1:

ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4
จิ้มไว้ก่อน เดี๋ยวมาอ่าน

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ทิวสนที

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 763
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
เกือบได้เห็นพี่บอมบ์เอาตีนแนบหน้าไอ้หมวดกวนตีนคนนั้นแล้ว แม่งนิ

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ไปฝึกคราวนี้ นึกว่าบอมบ์จะมีเรื่องซะแล้ว
ดีนะที่มีคนช่วยเคลียร์ รอดไปนะหมวดชาญ

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
ขอบคุณค่า   เต็มใจรอค่ะ  โชคดีกับการสอบนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3

ออฟไลน์ populijang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Blue~Sapphire

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
...ใกล้จะจบแล้วรู้สึกใจหาย  แต่ก็รอภาคสองอยู่น้า...

รักทุกคนเลย  รักจนอยากจะไปเป็นทหารอยู่ละ ฮ่าๆ

รักคนเขียนด้วย  สู้ๆกับการสอบนะค๊าบ ลักกี้ๆ

 :L1: :L1:




ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg

ออฟไลน์ nicksrisat

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 948
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ขอบคุณมากครับเมฆ ยังงัยพรุ่งนี้วันหยุดมาต่อให้ติดตามบ้างนะครับ
ขอบคุณมากคร้าบบผม :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ NooNaM

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ yokky34

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ฮะ  จะ จะจบแล้ว
ยังเพลินอยู่เลยอ่า แต่ดีใจที่มีภาค 2 ต่อ

สู้ๆ เด้อค่า

ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
มาแล้วววว

เงินใครเงินมันดิ มาเอาของคนอื่นไปได้ไง ใช้ยศช่มนิ

ไหนว่าพี่ๆจะมาดูการซ้อมนิ ไม่มาหรอ

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9

ออฟไลน์ GlassesgirL

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1037
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2
จะจบแล้ว แต่มีภาคสองต่อ
ขอบคุณมากๆนะคะ :pig4:
 :mew1: :L2:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

ออฟไลน์ hormonesyj

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 721
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-3
รอภาคพิเศษไม่ไหวแล้ว
อยากอ่านจริงจัง  :mew1:

ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
ดีใจ^^ จะมีภาคสองต่อ
ครั้งนี้พี่บอมบ์ใจเย็นขึ้นนะ ไม่งั้นหมวดคนนั้นเจอดีแน่

ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
ตอนพิเศษ

เช้าๆอากาศกำลังดี ผมลุกจากที่นอน พับผ้าเหมือนอย่างที่เคยทำตอนเป็นทหาร มองซ้ายมองขวา ลูกชายหายไปไหนหมดนะ หยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟันแล้วให้เรียบร้อย ส่วนเรื่องอาบน้ำค่อยว่ากันอีกทีครับ อาบสายๆก็ได้

 ปีนี้มาแปลกครับไม่หนาวเลย เมื่อวานก็ฝนตกมาโครมใหญ่ ไม่รู้ว่าจะเก็บหน้าหนาวไว้ช่วงสงกรานต์หรือเปล่า แต่งชุดสบายๆลงมาด้านล่าง มองหาเจ้าลูกชายที่ผมเข้าใจว่าคงจะเล่นซนอยู่แถวๆนี้

“แม่ เด็กๆเขาไปไหนแต่เช้าเชียวไม่เห็นหน้าเห็นตา”

“เอ แม่ก็ไม่รู้สิ เห็นตื่นขึ้นมาล้างหน้าแปรงฟันแล้วหยิบจักรยานคนละคันขี่ไปไหนไม่รู้ แม่จะถามก็หายต๋อมไปแล้ว”แม่หันมาตอบก่อนจะง่วนอยู่ในครัวต่อ

“ซนกันอีกแล้ว อากาศก็เย็นแบบนี้ไม่รู้จะใส่เสื้อผ้ามิดชิดหรือเปล่า”

“บิว ลูกไปไหนอ่ะ”ผมถามบิวซึ่งเจ้าตัวกำลังเด็ดพริกกับยอดแมงลัก

“อ้าว ก็ยังเห็นหลังไวๆอยู่แถวนี่นี่นา แสบ ซ่า ชาลี ไปเล่นซนที่ไหนอีกลูก”บิวร้องเรียกเสียงดัง แต่เงียบกริบ ผมก็ตาปริบๆ เออ ไปซนกันที่ไหนอีกล่ะเนี่ย

“ลูกขี่จักรยานไปข้างนอก ๓ คนพี่น้องน่ะบอมบ์ พี่ก็ไม่รู้ว่าจะพากันไปไหน ไม่บอกไม่พูดอะไรเลย”พี่ภาเดินออกมาจากห้องครัวบอกกับผม

“เฮ้อ ซนอีกแล้ว”ผมขึ้นไปบนบ้านคว้ากุญแจรถมอไซด์แล้ววิ่งลงรีบออกไปตามหาลูก



“ฟาง เห็นเด็กๆมาแถวนี้ไหม”จุดหมายแรกคือบ้านไอ้ซันซึ่งอยู่ใกล้ๆ

“ไม่เห็นอ่ะพี่บอมบ์ ตะวัน เห็นพี่ๆไหมลูก”ฟางตอบผมก่อนจะหันไปถามลูกชายวัย ๓ ขวบของตน

“ไม่เห็นครับแม่ฟาง พ่อบอมบ์ไปไหน น้องตะวันไปด้วย”ตะวันเด็กชายตัวน้อยวิ่งมาเกาะขาผมทำให้ผมต้องอุ้มขึ้นมาบนรถ

“พ่อบอมบ์กำลังตามหาพี่แสบพี่ซ่ากับพี่ชาลีอยู่ครับ ตะวันจะไปด้วยเหรอ อากาศมันเย็นนะ เดี๋ยวไม่สบายเอา”ผมลูบหัวน้อยๆ มันเย็นๆชื้นๆอ่ะครับ กลัวเจ้าตัวเล็กไม่สบายเอา

“ไปครับ ตะวันอยากนั่งรถเล่นกับพ่อบอมบ์”

“อ่ะๆ ก็ได้ พ่อบอมบ์ให้ไปด้วยก็ได้ครับ พี่พาเจ้าตัวป่วนไปนั่งรถเล่นนะฟาง”

“ค่ะพี่บอมบ์”

จัดท่าทางให้ดีผมจึงขับมอไซด์ไปเบาๆ มองซ้ายมองขวาเผื่อจะเห็นลูกๆนั่งเล่นกับคนอื่น แต่ก็ไร้วี่แวว ไปไหนกันนะ ผมล่ะกลัวเรื่องรถราที่ขับขี่ไปมา ถึงแม้ว่าถนนในซอยบ้านผมจะไม่ใช่ถนนซึ่งเป็นเส้นหลักในการสัญจร แต่นี่ลูกผมพากันเอาจักรยานไปปั่น ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง ผมแวะใกล้ๆถามคนนั้นทีคนนี้ทีก็ไร้วี่แวว

“พ่อบอมบ์ครับ พี่แสบไปไหนเหรอครับ”

“อืม พ่อบอมบ์ก็ไม่รู้เหมือนกัน นี่ตามหายังไม่เจอเลย พี่เอม เจอลูกผมบ้างไหม”ผมมาจอดที่บ้านพี่เอมสาวใหญ่วัย ๕๐  ซึ่งแกมีหลานรุ่นราวคราวเดียวกับลูกผมและลูกผมชอบมาเล่นแถวนี้บ่อยๆ

“เอ เมื่อกี้พี่เห็นพากันขี่จักรยานไปร้านค้าน่ะ”

“ขอบคุณมากครับพี่”ผมก้มหัวนิดหน่อยแล้วขับมอไซด์ไปอีกซอยไปที่ร้านค้า



“พ่อบอมบ์ครับ ตะวันอยากทานขนม”จอดมอไซด์หน้าร้านค้า เจ้าตัวป่วนรีบอ้อนผมทันที

“พี่ติ๋ว เห็นลูกผมไหม”

“เพิ่งจะออกจากร้านพี่ไปเมื่อกี้นี่เอง ไงสุดหล่อ แม่ฟางอยู่บ้านลูก”

“อยู่ครับ ยาย แม่ฟางทำกับข้าวให้ตะวันทานด้วย”

“อื้ม แม่ฟางทำอะไรเหรอครับลูก”พี่ติ๋วเดินมาลูบหัวหลานเบาๆ

“แม่ฟางทำไข่เจียวครับ พ่อบอมบ์น้องตะวันอยากทานขนม”

“หืม หนูยังไม่ทานข้าวเช้าเลยนะ ทานข้าวก่อนเดี๋ยวค่อยทานขนม แต่ถ้าไม่ทานข้าวแล้วทานขนม ฟันจะผุ จะมีหนอนด้วย”

“ฟันของน้องตะวันไม่ผุ นี่”ตะวันหันมายิงฟันให้ผมดู

“แปรงฟันยังเนี่ย”

“แปรงแล้วครับ วันนี้ตะวันแปรงเองด้วย ตะวันเก่งไหมพ่อบอมบ์”

“หูย เก่งมากเลยลูก เป็นหนุ่มแล้วล่ะสิ แปรงฟันเองได้แล้ว”พี่ติ๋วลูบหัวตะวันเบาๆ

“ครับ เก่งมาก”

“เย้ๆ”เด็กน้อยชูไม้ชูมือดีใจ “พ่อบอมบ์ ตะวันอยากทานอันนั้น”

“หึหึ เดี๋ยวแม่ฟางก็ดุพ่อหรอก อ่ะๆ แค่ห่อเดียวพอนะ”

“แล้วพี่แสบ พี่ซ่า พี่ชาลี จะทานอะไรอ่ะพ่อบอมบ์”

“เดี๋ยวให้พี่ๆเขามาซื้อเอง”

“ก็ตะวันอยากซื้อให้”

“ไหนตังค์ล่ะ แม่ให้มากี่บาท”

“บ๋อแบ๋ ก็ตังค์พ่อบอมบ์ไง ตังค์พ่อบอมบ์เยอะ มีสีแดง สีเขียวด้วย”รู้ดีจริงไอ้ตัวเล็กเนี่ย สุดท้ายผมก็ต้องหยิบขนมมา ๔ ห่อครับ จ่ายตังค์แล้วอุ้มตะวันมาขึ้นรถ สตาร์ทมอร์ไซด์แล้วขับรับลมเบาๆกลับบ้าน ไปถึงบ้านเจ้าตัวดีทั้ง ๓ คนนั่งยิ้มแป้นอยู่ที่ใต้ถุนบ้าน

“เย้ พ่อบอมบ์กลับมาแล้ว”ชาลีลุกขึ้น “พ่อบอมบ์พาน้องตะวันไปเที่ยวเหรอครับ”

“เปล่า พ่อขับรถตามหาหนูอยู่ไง ไปไหนกันมา หึ๊”

“น้องแสบไปร้านป้าติ๋วมา พ่อบอมบ์มานั่งบนนี้ก่อน”เจ้าแสบตบที่แคร่ ผมอุ้มเจ้าตะวันลงจากรถแล้ววางบนแคร่ ก่อนจะทำหน้างงๆแล้วนั่งบนแคร่อีกคนตามคำสั่งของลูกชาย

“มีอะไรกันเหรอ”

“พ่อบอมบ์นั่งก่อน พ่อบอมบ์เอาขาขึ้นด้วย ขัดแบบนี้อ่ะพ่อบอมบ์”เจ้าแสบนั่งขัดสมาธิเป็นตัวอย่าง ผมก็อ๋อในใจ เจ้าลูกชายยังเรียกท่านั่งไม่ถูกอ่ะ ผมนั่งขัดสมาธิแล้วทำหน้างงๆกับลูกชาย

“เออ ทีหลังไปไหนต้องบอกพ่อหรือบอกคนในบ้านก่อนนะ ไม่ใช่หายไปแบบนี้”ผมดุลูกนิดหน่อย

“พ่อบอมบ์อ่ะ ก็น้องซ่าอยากเซอร์ไพรส์พ่อบอมบ์ไง”

“ใช่ๆน้องชาลีก็อยากซะไพรส์”

“น้องตะวันขอทานสไปรท์ด้วยนะพ่อบอมบ์”

“จะเซอร์ไพรส์อะไรพ่อ หืม”ผมยิ่งทำหน้าแปลกใจกับลูกชาย เจ้าซ่ายิ้มอย่างเดียวไม่พูดอะไรแล้วเอามือไขว้หลังตลอด จากนั้นทั้ง ๓ คนก็หันหลังใส่ผมแล้วหยิบของในถุงแบ่งกัน “ไหนดูซิ มีอะไรอ่ะลูก”

“นี่ไง”เจ้าแสบเอาพวงมาลัยซึ่งซ่อนไว้ด้านหลังชูออกมาก่อนที่ลูกๆทั้ง ๓ คนจะโผเข้ามากอดผม “วันนี้วันพ่อ น้องแสบรักพ่อบอมบ์นะ”

“น้องซ่าก็รัก รักมากๆๆๆ”

“ชาลีก็รักพ่อบอมบ์ รักเท่าบ้านเลย”ชาลีวาดมือไปในอากาศแล้วโผมากอดผมอีกคน

“น้องตะวันก็รักพ่อบอมบ์ด้วย เย้ๆ รักพ่อบอมบ์”ตะวันรีกซุกพี่ๆเข้ามานั่งตักผม กลายเป็นว่าตอนนี้ ๔ กุมารรุมกอดผมและหอมแก้ม ทำเอาผมยิ้มไม่หุบ เด็กๆยื่นพวกมาลัยให้ผม ผมก็รับไว้

“พ่อบอมบ์เซอร์ไพรส์จัง แล้วบอกรักพ่อเบิ้ลยัง แม่ภาด้วย คุณย่าด้วย แม่บิวด้วย”

“พ่อเบิ้ลครับ น้องแสบรักพ่อเบิ้ลนะครับ”

“พ่อเบิ้ลมาให้น้องซ่ากอดก่อน น้องซ่าจะบอกรักพ่อเบิ้ล”เจ้าแสบเจ้าซ่าตะโกนเสียงดัง ตอนนี้พี่เบิ้ลดูแปลงผักซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวบ้าน พี่เบิ้ลหันมายิ้มหน้าบานเลยครับ

“หืม พ่อล้างมือแปบนึงลูก”

“ชาลีรักคุณย่า รักแม่ภา รักพ่อเบิ้ล รักพ่อบอมบ์ รักแม่บิว รักอาบูม รักอาตวง พี่ภีม พี่ภูมิ รักพี่ซัน รักแม่ฟาง รักทุกคนในบ้านเลย”ชาลีตะโกนเสียงดัง คิดชื่อใครได้ก็พูดออกมาหมดเลยครับ

“น้องตะวันก็รักคุณทวดด้วย”แม่ผมเดินยิ้มมาที่แคร่แล้วเด็กๆก็กรูกันเข้าไปกอด

“เจ้าลิงดื้อ กอดคุณย่าเบาๆนะเดี๋ยวคุณย่าเจ็บ”ผมพูดปรามไว้ก่อน

“ให้ย่าหอมแก้มคนละทีสิลูก”แม่ผมยิ้มไม่หุบยื่นหน้าไปหอมแก้มหลานๆคนละที

“น้องแสบรักคุณย่านะครับ”

“น้องชาลีรักคุณย่ามากๆ”

“น้องซ่ารักคุณย่ามากกว่า รักเท่าโลกเลย”

“น้องตะวันรักคุณย่าทวดเท่าอุลตร้าแมนเลย”

“มาๆ มาให้พ่อเบิ้ลกอดคนละที”พี่เบิ้ลเดินมาโอบกอดลูกชายผมรวมทั้งเจ้าตะวันคนละที “น้องตะวันบอกรักพ่อยังลูก”

“ยังครับ พ่อซันไปไหนไม่รู้ น้องตะวันไม่เห็นพ่อซันแต่เช้าเลยครับ”

“เหรอลูก อืมๆ เป็นเด็กดีกันทุกคนเลยนะเนี่ย คนที่รักพ่อแม่มากๆจะเป็นคนที่เจริญหนูรู้ไหม”

“ครับ คุณครูบอกว่า เด็กๆจะต้องไม่ดื้อกับพ่อแม่”เจ้าซ่าพยักหน้าแล้วพูดไปด้วย

“กับข้าวพร้อมแล้วจ๊ะหนุ่มๆ เดี๋ยวจะไปวัดแล้วเนี่ย”

“แม่ภา น้องซ่ายังไม่ได้กอดแม่ภาเลย แม่ภามาให้น้องซ่ากอดก่อน”

“แม่ตัวเหม็นนะลูก แม่ยังไม่ได้อาบน้ำเลย”

“ครับ งั้นแม่ภาไปอาบน้ำแล้วน้องซ่าจะกอดแม่ภา”

“บอมบ์อาบน้ำยังอ่ะ”พี่ภาถาม

“ยังเลยพี่ภา แม่อาบน้ำแล้วเหรอ”ผมถามแม่ซึ่งตอนนี้มีเจ้าตะวันนั่งอยู่บนตัก

“แม่อาบเช้าๆแบบนี้ไม่ไหวหรอกบอมบ์ อากาศมันเย็น ขึ้นไปอาบน้ำสิลูก เด็กๆก็คงไม่ต้องหรอกมั้ง หรือจะอาบ”

“อาบด้วย น้องแสบจะแต่งตัวหล่อๆไปวัด”

“น้องตะวันก็อยากอาบกับพ่อบอมบ์”

“ป่ะๆ ไปกันทุกคน แปบนึงนะพี่ภา”ผมอุ้มเจ้าตะวันขึ้นไปบนบ้าน จัดการแก้ผ้า ลูกผมตอนนี้โตแล้ว เจ้าแสบเจ้าซ่าก็ ๘ ขวบแล้ว เจ้าชาลี ๖ ขวบ ส่วนเจ้าตัวป่วนบ้านใกล้เพิ่งจะ ๓ ขวบ ดีหน่อยที่บ้านผมมีเครื่องทำน้ำอุ่น ผมอาบให้ลูกอย่างเร่งรีบ เด็กๆช่วยกันถูคนละไม้คนละมือเฮฮา พอลูกอาบเสร็จผมก็จัดการของตัวเองต่ออย่างรวดเร็ว ออกมาแต่งตัวแล้วลงไปด้านล่าง

 

ในตะกร้าหวายมีหม้อข้าววางอยู่ ส่วนอีกใบก็เป็นหม้อกับข้าวและผลไม้ ดอกบัวถูกพับอย่างสวยงามด้วยฝีมือของบิว แม่หยิบสไบผ้าไหมสีขาวมาพาดบ่าก่อนจะหย่อนขาลงจากแคร่แล้วสวมใส่รองเท้า พ่อเบิ้ลกับพี่ภาถือตะกร้ากับข้าวไปที่รถก่อนแล้ว เด็กๆ ใส่รองเท้าเรียบร้อยเตรียมพร้อมจะไปวัดทำบุญเนื่องในวันพ่อ ผมล็อกประตูบ้านและสำรวจความเรียบร้อยอีกครั้งก่อนจะขึ้นไปบนรถเป็นสารถี

“ฟาง ลูกยังอยู่กับพี่นะ จะไปพร้อมกันหรือตามไปทีหลัง”ผมจอดรถหน้าบ้านฟาง ลดกระจกลงแล้วตะโกนบอกฟางซึ่งนั่งอยู่ที่ม้าหินอ่อนหน้าบ้าน

“ไปก่อนก็ได้พี่บอมบ์ รอแม่กับพ่อก่อนก่อน เดี๋ยวฟางตามไป ตัวเล็กอย่าซนกับพ่อบอมบ์นะลูก”ฟางเดินจากหน้าบ้านมาหาผมที่รถ

“ครับแม่ฟาง แม่ฟางรีบตามไปไวๆนะ”เจ้าตัวป่วนไต่มานั่งที่ตักผมเพื่อคุยกับแม่ของตน

“ครับผม”ฟางลูบหัวลูกชายก่อนที่ผมจะปิดกระจกแล้วขับรถไปที่วัด วันนี้ไปสายมากเลยครับ ตอนนี้ก็ ๘ โมงหน่อยๆแล้ว ไปถึงวัด ๘ โมงครึ่งพอดี พิธีการยังไม่เริ่มขึ้น แต่มีพระมานั่งรอหลวงพ่อ และญาติโยมก็เต็มศาลา

“คุณยายสวัสดีค่ะ”พอแม่ผมเดินเข้าไปในศาลาคนที่รู้จักมักคุ้นก็ยกมือไหว้ แม่ผมเป็นคนกว้างขวางครับทั้งตำบลไม่มีใครไม่รู้จัก

“จ้า สวัสดีลูกไหว้พระเถอะลูก”หลายคนทักทายแม่ผมบ้าง พี่เบิ้ล พี่ภา ผมกับบิวถือตะกร้าคนละใบเดินค้อมตัวไปหาที่นั่งว่างๆ จากนั้นก็กราบพระประธานแล้วนั่งพับเพียบรอ

“ไอ้เสือน้อย ไปนิมนต์หลวงพ่อไปลูก”หลวงลุงซึ่งนั่งอาสนะรองลงมาจากหลวงพ่อพูดกับผมด้วยเสียงแหบๆ ผมคลานเข้าไปใกล้ๆ คุกเข่าพนมมือ

“ครับ”

“ไปนิมนต์หลวงพ่อไปลูก ใกล้ถึงเวลาแล้ว”หลวงลุงวางมือบนหัวผมแล้วยิ้มบางๆ ผมก้มกราบที่ตักหลวงลุกแล้วค่อยๆลุกออกไป หลวงลุงนี่อายุ ๙๗ ปี แล้วนะครับ อายุมากกว่าหลวงพ่อ ๓ ปีแต่พรรษาน้อยกว่า ท่านเคยเป็นพรานป่าแก๊งค์เดียวกับหลวงพ่อและพ่อของผม ตอนนี้หลวงลุงกับหลวงพ่อยังแข็งแรงเหมือนคนอายุ ๖๐ ผมเดินไปที่กุฏิหลวงพ่อ หลวงพ่อกำลังครองจีวรอยู่พอดี

“อ้าว มาพร้อมหน้าพร้อมตาแล้วเหรอลูก ไปๆ”หลวงพ่อจับที่แขนผมเดินลงจากกุฏิ


พอไปถึงศาลา หลวงพ่อนั่งลงบนอาสนะจากนั้นพิธีจึงเริ่มขึ้น ผมไม่ได้เป็นมรรคทายกนะครับ มีน้ามีซึ่งเป็นมรรคทายกประจำวัดพาชาวบ้านที่มาทำบุญกล่าวบูชาพระรัตนตรัยและอื่นๆ ตามลำดับพิธี เจ้าตัวเล็กทั้ง ๔ คนดูจะสงบเสงี่ยมมากเวลาเข้าวัด จนมาถึงช่วงตักบาตร ซึ่งจะมีบาตรวางไว้บนโต๊ะยาวบริเวณท้ายๆศาลา หลังจากที่พระสวดมนต์เสร็จชาวบ้านจึงนำอาหารไปใส่บาตร โดยเรียงแถวใส่เป็นลำดับ เด็กๆจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ ไปรอเข้าแถวตักบาตร ผม พี่เบิ้ล และบิวถือถ้วยข้าวซึ่งแบ่งใส่ถ้วยอีกทีหนึ่ง โต๊ะซึ่งวางบาตรอยู่สูงเลยหัวลูกชายผมไปหน่อยหนึ่งทำให้ตักข้าวใส่บาตรไม่ถึง ผมอุ้มเจ้าแสบ พี่เบิ้ลอุ้มเจ้าซ่า บิวอุ้มเจ้าชาลี แล้วให้เด็กๆค่อยๆใส่บาตร ส่วนแม่ผมกับพี่ภาเดินตามหลังหลานๆ และตามด้วยไอ้ซันซึ่งอุ้มลูกชาย ส่วนฟางก็ถือโถข้าวคอยจับมือลูกชายให้ตักข้าวใส่บาตร

“หลวงตาครับ วันนี้น้องแสบบอกรักพ่อบอมบ์ด้วย”จังหวะที่นั่งรอคนอื่นเข้าแถวตักบาตรแก๊งค์ป่วนเมืองก็ไปรุมหลวงพ่อ ไปยืนเกาะอาสนะ

“น้องซ่าก็บอกรักพ่อบอมบ์ พ่อเบิ้ล น้องซ่าบอกรักแม่ภากับคุณย่าด้วยครับหลวงตา”

“อืม ดีแล้วลูก เป็นเด็กดีรักพ่อแม่ เชื่อฟังพ่อแม่ โตไปก็เป็นคนดีของสังคม”หลวงพ่อลูบหัวแก๊งลิงดื้อ

“น้องชาลีก็บอกรักพ่อบอมบ์ด้วยครับหลวงตา และน้องชาลีก็รักหลวงตาด้วย”เจ้าชาลีเอาหน้าไปแนบกับขาของหลวงพ่อเอามือกอดเบาๆ หลวงพ่อลูบหัวด้วยความเอ็นดู

“เก่งๆ ลูก ลูกๆคนไหนที่กตัญญูรู้คุณพ่อแม่ คนนั้นมีแต่จะเจริญนะลูกนะ”

“น้องแสบก็รักหลวงตา หลวงตาอยู่กับน้องแสบนานๆนะ”เจ้าแสบทำสายตาออดอ้อน

“ใช่ๆ ปีหน้าน้องซ่าจะบวชเณรอีก น้องซ่าอยากฟังนิทานกับหลวงตา”เจ้าซ่าเอาบ้าง อ้อนเก่ง เมื่อเมษาที่แล้วเจ้าตัวป่วนได้บวชเณรภาคฤดูร้อน ดูทั้งคู่จะติดอกติดใจเป็นพิเศษ พอถึงกำหนดสึกนี่ไม่อยากจะสึก

“น้องชาลีก็อยากบวชเหมือนพี่แสบ พ่อบอมบ์ครับ ปีหน้าน้องชาลีจะบวชเณรเหมือนพี่แสบพี่ซ่าได้ไหมครับพ่อบอมบ์”เจ้าชาลีหันมาถามผม

“ได้สิลูก ปีหน้าก็ ๗ ขวบแล้วนี่”

“เย้ ปีหน้าน้องชาลี ๗ ขวบ หลวงตาน้องชาลีจะบวชเณรครับ”ดีอกดีใจยกใหญ่

“หลวงตา ตะวันก็อยากบวชกับพี่แสบพี่ซ่า”

“โอ้ ดีๆ เดี๋ยวหลวงตาจับบวชให้หมดเลย ตะวันกี่ขวบแล้วลูก”

“แม่ฟางน้องตะวันกี่ขวบครับแม่ฟาง”

“๓ ขวบ เข้า ๔ ขวบค่ะหลวงตา”

“อ้าวเรอะ ยังให้บวชเณรไม่ได้น่ะสิ เอ้า ไม่เป็นไร เดี๋ยวหลวงตาจับโกนหัวนุ่งขาวห่มขาวให้แล้วกัน ให้มาเป็นเด็กวัด หึหึหึ”หลวงพ่อพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ถ้าเป็นผมตอนเด็กๆนะ กลัวผีครับ ผมเคยบวชเณรภาคฤดูร้อนตอนป.๖แล้ว บวช ๒ ครั้งครับ ตอนจบป.๖และตอนเรียนม.๑จะขึ้นม.๒ จากนั้นก็ยิงยาวเลย เด็กๆคุยจ้อกับหลวงพ่อจนคนทั้งศาลาตักบาตรเสร็จ จากนั้นจึงเป็นพิธีถวายภัตตาหารเช้า แล้วพระสงฆ์ก็ฉันเช้าจนเสร็จเรียบร้อยจากนั้นก็กรวดน้ำรับพร ส่วนอาหารเอามาทำบุญที่เหลือจากพระสงฆ์ฉัน พระท่านก็อนุญาตให้ชาวบ้านเอามากินได้ แบบนี้แหละครับบรรยากาศทำบุญแถวบ้านนอก ชาวบ้านส่วนใหญ่เวลาทำบุญก็จะยังไม่กลับบ้านทันที รอพระฉันเสร็จแล้วก็มาตั้งวงกินข้าวที่เหลือจากพระฉัน

เกือบเที่ยงวันพวกเราก็กลับบ้านกันครับ ผมเอาดอกไม้ไปไหว้รูปพ่อ ทั้งพ่อของแผ่นดินกับพ่อที่ให้กำเนิดครับ

ตอนเย็นเด็กๆนั่งมานั่งรุมล้อมกันที่หน้าจอคอม

“อาบูมมมมมมมมมมมมมมมมมม”ชาลีลากเสียงยาวเมื่อหมวดบูมปรากฏที่หน้าจอ

“ครับตัวเล็ก อาบูมเพิ่งเลิกงาน ยังไม่นอนอีกเหรอ อาบน้ำกันยัง”

“อาบแล้วครับ อาบูมวันนี้น้องซ่าบอกรักพ่อบอมบ์ด้วย แล้วพ่อบอมบ์ก็พาน้องซ่าไปทำบุญ”

“ครับ คนเก่ง”

“น้องแสบซื้อพวงมาลัยไหว้พ่อบอมบ์ด้วยแหละอาบูม”

“โอโห ไปซื้อที่ไหนอ่ะ”

“น้องแสบให้ป้าติ๋วซื้อมาให้ แล้วน้องแสบก็เซอร์ไพรส์”

“ใช่ๆ น้องซ่าก็เซอร์ไพรส์พ่อบอมบ์”

“ชาลีบอกรักพ่อบอมบ์ใหญ่เท่าบ้านเลยอาบูม ใหญ่เท่านี้เลย”ชาลีกางแขนกว้างๆ

“เก่งๆ เป็นเด็กดี เดี๋ยวอาให้รางวัล”

“อาบูมๆ แล้วอาบูมบอกรักพ่อบอมบ์รึยัง”เจ้าซ่าถามแทรก ผมถึงกับขำ ไอ้เด็กดื้อเอ๊ย

 จบแล้วครับสำหรับตอนพิเศษ

 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด