ตอนที่ ๑๗ บังไมโล
“คิดถึงฉันไหมเวลาที่เธอ ไม่เจอะเจอกันกับฉัน คิดถึงฉันไหมเวลาที่เธอ เหงาใจ
คิดถึงฉันไหมเวลาที่เธอ ไม่มีใครให้ทะเลาะ ไปไหนแล้วไม่มีไหล่ให้เกาะ แล้วเธอคิดถึงใคร
ฟ้าร้องทุกครั้งมันส่งเสียงดัง เธอโดดมานั่งตักฉัน ฉันก็ทุเรศตัวเองเหมือนกัน ที่ปลอบไปขำไป
ฉันรู้ว่าฉันไม่เอาไหนเลย ไม่อบอุ่นได้อย่างนั้น ฟ้าร้องครั้งนี้ไม่เจอหน้ากัน แล้วเธอคิดถึงใคร
เฮ้... เมื่อเราต้องห่าง ยิ่งเนิ่นนาน อาจลืมกันเลยไม่แน่ใจ
ตอบหน่อยได้ไหม ตอบฉันหน่อย ว่าเธอคิดถึงกัน ไม่ต้องหวาน ต้องแหววหรอก อยากถามแค่ให้เธอ
ตอบหน่อยได้ไหม ตอบฉันก่อน ว่าเธอคิดถึงฉัน อย่างที่ฉัน มันคิดถึง คอยเธอกลับมา
เพราะฉันคิดถึงเธออยู่ทุกวัน ตั้งแต่ตื่นนอนแต่เช้า หันหัวก็หันไปเจอรูปเรา บนหัวนอน
เสียงวิทยุก็คอยเล่นเพลง ที่เธอชอบฟังกี่ครั้ง ถึงฉันไม่ชอบก็ยังนั่งฟัง เพราะมันคิดถึงเธอ
เฮ้... เมื่อเราต้องห่าง ยิ่งเนิ่นนาน อาจลืมกันเลยไม่แน่ใจ
ตอบหน่อยได้ไหม ตอบฉันหน่อย ว่าเธอคิดถึงกัน ไม่ต้องหวาน ต้องแหววหรอก อยากถามแค่ให้เธอ
ตอบหน่อยได้ไหม ตอบฉันก่อน ว่าเธอคิดถึงฉัน อย่างที่ฉัน มันคิดถึง คอยเธอกลับมา
เฮ้... เมื่อเราต้องห่าง ยิ่งเนิ่นนาน อาจลืมกันเลยไม่แน่ใจ
ตอบหน่อยได้ไหม ตอบฉันหน่อย ว่าเธอคิดถึงกัน ไม่ต้องหวาน ต้องแหววหรอก อยากถามแค่ให้เธอ
ตอบหน่อยได้ไหม ตอบฉันก่อน ว่าเธอคิดถึงฉัน อย่างที่ฉัน มันคิดถึง คอยเธอกลับมา
คอยเธอกลับมา ก็มันคิดถึงเธอ”
เบื่อเพลงทหารก็ร้องเพลงทั่วไป ใครมีแฟนก็คิดถึงแฟนกันระนาว ส่วนใครยังโสดตัวใครตัวมัน รับผิดชอบตัวเอง ตอนนี้ผมก็ไม่รู้ว่ามีหรือไม่มียังไม่แน่ใจ วิ่งร้องก็ร้องเสียงดังกรอกหูคนข้างๆไป ไม่ใช่ไอ้มหาตวงนะครับ ผมไม่พิศวาสมันหรอก คนที่ผมพิศวาสคือคนที่อยู่ด้านขวามือผมน่ะ คนคุมแถวพาทหารวิ่งออกกำลังกาย
“เฮ้ย หมวด ๑ เร็วๆหน่อย ถึงเวลาแล้ว ใครลงมาช้ากูให้คลานไอ้เข้ไปจัดเวรเลี้ยง”เสียงขู่ดังมาจากหน้าประตู ผู้ช่วยครูยืนกดดันพวกผมสีหน้าเคร่งเครียด อาบน้ำเสร็จเพิ่งจะขึ้นมา ใส่ชุดพรางยัดแขนยัดขา ใส่ถุงเท้ารับทอปยัดซิ่งเข้าไป ถือคอมแบทหนีบสมุดที่รักแร้แล้วรีบวิ่งลงไป ของมันเยอะแต่เวลามันนิดเดียว
“กูบวชของกูดีๆอยู่แล้วเอากูมาเป็นทหาร”เพื่อนตวงทุกวันนี้บ่นเก่ง ด่าเก่ง นั่งทำหน้าเซ็งอยู่ที่ขอบฟุตบาท ใส่คอมแบทไปบ่นไป
“ไม่พอใจมึงลาออกไปเลยไป”
“พูดง่ายไอ้สัส กูลาออกไปมึงจะร้องไห้ เหี้ย ทหารเกณฑ์ประเทศไหนมีลาออก ไม่จำหน่ายหนีก็จำหน่ายตายเท่านั้นแหละ”
“เฮ้ย ยังมีหน้ามานั่งคุยกันอีก มึงสนุกนักรึไง ๒๐ ก่อน”ผู้ช่วยครูหันมาตวาดใส่
“๑ ๒ ๓......๑๙ ๒๐ ขอบคุณครับ”โดนแต่เช้าเลยว่ะ
“เฮ้ยๆ รีบทำเลยพวกมึง ยิ่งอยู่นานยิ่งกวนตีน”เร่งอีกแล้วครับ ตอนนี้ใครทำก็ทำ ใครมีเล่ห์มีเหลี่ยมก็งัดมาใช้ หลบๆอู้ๆกันไป
“เสร็จแล้วใช่ไหม”วางจานลงในหม้อใหญ่ ใช่ทัพพีตักไม่ทันกินหรอกครับ ต้องใช้จานตักข้าง จ้วงทีเต็มจาน
“เสร็จแล้วๆ”หัวหน้าหมวดเดินไปดูความเรียบร้อยก่อนที่งานทุกอย่างจะหยุดลง
“ไอ้บัง ไอ้สัส มึงมานี่ดิ”เสียงของสิบเวรดังขึ้นทำให้พวกผมที่กำลังทำหน้างงตกใจกันยกใหญ่
“ครับหมู่”ไอ้บังวิ่งออกมา มี ๒ บัง
“มึงไปที่อื่น ส่วนมึงมานี่”หมู่ชี้บังอีกคนให้ออกไป ส่วนอีกคนที่หน้ากวนๆยืนอยู่ มีเรื่องอะไรกันวะ “ที่เหลือไปยืนเป็นหน้ากระดานหน้าโรงเลี้ยง ไป”สิ้นคำสั่งวิ่งกับกุบกับไปยืนเรียงหน้ากระดาน
“ไอ้บังมานี่เลยมึง”ไอ้บังเดินหน้าระรื่นออกมา “พวกมึงดูไอ้เหี้ยนี้ดีๆนะ คนอื่นแม่งจัดเวรเลี้ยงอยู่ แต่มันเอารัดเอาเปรียบพวกมึง แอบไปแดกไมโล แดกไม่พอมันกรอกใส่กระติกน้ำด้วย”หมู่พูดเสียงดังฟังชัด
“กูว่าแล้วว่ามันหายไปไหน”ไอ้นนท์กระซิบกับผม
“มึงเป็นแค่ทหารใหม่มึงยังเก๋าขนาดนี้ เพื่อนๆทำงานกันอยู่มึงหลบๆอู้ๆไปวันๆ ฝึกก็ไม่ได้เรื่อง แล้วนี่ยังมาเอารัดเอาเปรียบกันอีก ในเมื่อผิดคนเดียว ทั้งหมดก็ต้องรับผิดชอบ หมอบ......”อย่าให้ต้องพูดว่ารู้สึกแบบนี้ ทั้งโกรธทั้งแค้น อะไรวะ กูไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลยยังต้องมาโดนแดกอีก
“ลุก หน้ากระดาน ๔ แถวปิดระยะ จัดแถว”พรึบ เฮ้ “นิ่ง”จัดแถวเสร็จพวกที่เหลือก็เดินสวนสนามกันมากินข้าว
“มีอะไรเหรอป๊อบ”ผู้หมวดมาถึง หมู่ป๊อบกำลังประจานวีรกรรมของไอ้บังให้คนอื่นๆฟัง
“มันแอบกินไมโลครับผู้หมวด”
“อ้าว ทำไมอ่ะ พวกมึงก็แบบนี้ ปล่อยไม่ได้ ต้องให้ลงโทษลงทัณฑ์กันตลอดเวลาเลยใช่มั้ย ห๊ะ อะไรของพวกมึงวะ”เอาแล้วผู้หมวดของขึ้นอีกแล้วครับ “มึงเก๋ามากเหรอไอ้บัง ห๊ะ เก๋ามากใช่มั้ย ดี มึงกล้าทำ กล้าท้าทายกู ผู้หมวดไม่รู้นะว่าใครจะคิดยังไง ในเมื่อทุกคนลงเรือลำเดียวกันแล้ว คนดีก็ทำดีต่อไป ส่วนคนไม่ดีทำให้คนอื่นเดือดร้อน ให้สำนึกไว้บ้าง กอดคอ”
“กอดคอ”
“๑๐๐ ยก เริ่ม”
“๑ ๒ ๓ ๑..........๑ ๒ ๓ ๑๐๐ ๑ ๒ ๓ ขอบคุณครับ”
“วิดพื้นท่าเตรียม”
“เตรียม”
“๑๐๐ ครั้ง เริ่ม”
คอนเสิร์ตขนาดย่อมๆเริ่มขึ้น หิวข้าวก็หิวยังต้องมาโดนแดกอีก หลายคนบ่นด่าสาดเสียเทเสีย ผมเองก็แค้นได้แต่กัดฟัน เมื่อวันก่อนยังไม่หายดีวันนี้มีเรื่องอีกแล้ว เอาเข้าไป
“ให้เวลา ๕ นาทีในการกินข้าว กินอิ่มก็อิ่ม กินไม่อิ่มกูไม่สน ปริ๊ด”ผู้หมวดเป่านกหวีด ไม่ได้กล่าวคำปฏิญาณ หาที่นั่งได้ก็รีบจ้วงกันทันที แบบนี้แหละครับ เป็นบ่อยมาก ไอ้พวกที่ชอบพาส่วนรวมเขาลำบากน่ะ
“ปรี๊ด ถ้าพวกมึงยังเสียงดังแบบนี้ กูจะไม่ให้แดกข้าวแล้วนะ กูจะมาแดกพวกมึงแทน เชิญ”จ้วงซ้าย จ้วงขวา ยัดห่าเอาอย่างเดียว
“ปรี๊ด พอ เลิกๆ หมวดที่จัดเวรเลี้ยงให้อยู่ทำความสะอาด ที่เหลือ ตอนเรียง ๔ หน้าโรงเลี้ยง จัดแถว”พรึบ เฮ้ วิ่งออกไปอย่างเสียดาย บางคนข้าวยังไม่หมดจานเลย
“เหี้ยเอ๊ย แดกข้าวไม่อิ่มเลยกู”บ่นออกมาอย่างทนไม่ได้ ปกติผมกิน ๓ จานนะครับนี่ยังไม่ถึงครึ่งกระเพาะเลย
“อยากต่อยหน้าแม่ง”ไอ้นนท์มันกัดฟันเก็บจานไปบ่นกันระงม
“มันไปแอบกินตอนไหนวะ”
“เฮ้ยๆ ไอ้สัส เบาๆหน่อย เปียกรองเท้ากู”
“เหี้ย มึงยังมีหน้ามาแอบแดกข้าวอีกเหรอ เพิ่งโดนแดกไปหยกๆ”
“เฮ้ยๆ ซันไลหน่อย”
“ไอ้สัส พวกมึงเอามือล้างหรือเอาปากล้าง แหกปากทำเหี้ยอะไรวะ เดี๋ยวพวกมึงเจอกู เดี๋ยวก่อน”ผู้ช่วยครูมาชี้หน้า กูกับไอ้มหาอุตส่าห์เงียบปากเงียบเสียงแล้วนะ
“กูท้อแล้วว่ะบอมบ์ กูหนีดีไหมวะ”ไอ้มหาตวงบ่นออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย มันกอดเข่ามองไปด้านหน้าอย่างเหม่อลอย
“อย่าตัดช่องน้อยแต่พอตัวดิวะ”ผมเตือนสติ
“มึงคิดดูดิ คนทำดีแม่งก็ทำดีแทบตาย แต่พอคนทำเหี้ยแค่คนเดียวทำไมต้องโดนทั้งหมดด้วยวะ กูเบื่อแล้วว่ะ”
“มึงคิดว่ากูไม่เบื่อรึไง แต่กูไม่รู้จะทำยังไง จะหนีไปแล้วอนาคตของกู อนาคตของมึง พ่อแม่มึงคงดีใจหรอกมั้งที่ลูกหนีทหารน่ะ”
“แต่แม่ง กูทนไม่ไหวแล้วว่ะ ไม่รู้เหี้ยต่อเหี้ยอะไรหรอก ไม่ผิดก็แดก ผิดก็แดก สัส เซ็ง”
“ใจเย็นๆ แค่นี้มึงทนไม่ไหวต่อไปมึงจะทนอะไรไหว คิดอะไรไม่ออก ก็พยายามคิดถึงวันที่ฝึกเสร็จแล้วกัน กูเบื่อพอแล้วว่ะ ทนๆเว้ย พรุ่งนี้ก็เช้าแล้วคิดอะไรมาก”
“เฮ้อ เรามันเพียงทหารเกณฑ์คนจน ใช่ลูกนายพันใช่หลานนายพลโถเราแค่พลทหาร เกียรติต้อยต่ำหน้าดำก็เพราะทำงาน เหี้ย สังคมแม่ง หัวจวย”
“หิวข้าวว่ะ โอ๊ย อีห่าเอ๊ย มึงมาสั่งเหี้ยอะไรตอนนี้วะ สงสารกูบ้าง”ยืนฝึกใต้ร่มไม้ ใกล้ๆก็เป็นร้านอาหารมีผู้หญิงคนหนึ่งมายืนสั่งคะน้าหมูกรอบ ลองคิดสภาพดูว่าเมื่อเช้ากินข้าวไม่อิ่ม แล้วตอนนี้ใกล้จะเที่ยงแล้ว ท้องมันจะหิวขนาดไหน ผมเองก็หน้ามืดตาลายเหมือนกัน สมาธิไม่ค่อยจะมีแล้ว กลิ่นกระเทียมพริกไทย เครื่องปรุงโชยมา ตอนใส่คะน้ามันดังฉ่า แล้วลมเสือกพัดจากทิศเหนือลงใต้ อยู่ใต้ลมซะด้วย ห่าเอ๊ย เมื่อไหร่จะได้กินข้าววะ
“ข้าวทุกจาน อาหารทุกอย่าง.................”
“กระผมพลทหาร..............ขออนุญาตรับอะไหล่ครับ”
“กระผม พลทหาร .............. ขออนุญาตรับอะไหล่ครับ”
“เป็นไร ดูทำหน้าทำตาเข้าสิ”เข้าไปทำงานให้ผู้หมวดด้วยอาการเหนื่อยล้า ผมนั่งพิมพ์งานส่วนผู้หมวดลากเก้าอี้มานั่งซ้อนด้านหลังเอาคางเกยที่ไหล่ผม
“เหนื่อยครับ”พูดสั้นๆก่อนจะสนใจกับงานต่อ
“ทนๆเอาหน่อย เป็นทหารก็งี้ ถ้าเราผ่านจุดนี้ไปแล้วทุกอย่างก็จะไม่มีคำว่าเหนื่อยสำหรับเรา”
“ครับ ก็ฝืนๆอยู่ แต่คนแถวนี้ไม่เห็นใจกันบ้างเลย”ผมยิ้มที่มุมปาก
“อะไร นี่แดกน้อยที่สุดแล้วนะ ผลัดที่แล้วผู้หมวดแดกหนักกว่านี้อีก หรือว่าอยากโดนหนักๆ”
“หื้อ ไม่เอาครับ แค่นี้ก็จะแย่อยู่แล้ว ใครอะไรวะ หน้าตาก็ออกจะหล่อแต่ใจร้าย”แกล้งพูดน้อยใจกลบเกลื่อนไป
“หน้าตาหล่ออะยอมรับ แต่ใจร้ายนี่ไม่ยอมรับ ถ้าผู้หมวดใจร้ายจริง คงไม่มีใครบางคนมาทำหน้ามึนๆใส่แถวนี้หรอก”
“จริงหรือเปล่าน้า”ผมหันหน้าไปจมูกก็อยู่ที่แถวแก้มผู้หมวดพอดี “ถามจริง หน้าตาแบบผู้หมวดนี่รอดมือผู้หญิงน่ารักๆไปได้ไง ผู้หมวดมีแฟนอยู่หรือเปล่า พอเจอหน้าผมกวนๆหน่อยก็เล่นด้วยอะไรแบบเนี่ย”
“วันนี้มาแนวไหนวะ ถ้ามีผู้หมวดก็ต้องรักแฟนผู้หมวดดิ ไม่นอกใจเขาหรอก เออ ถามแต่ผู้หมวด นายอ่ะ โสดจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“โสดสิครับ แต่เขาว่านะว่าทหารเจ้าชู้”
“พูดเหมือนตัวเองไม่ได้เป็นทหาร”เออ ก็ถูกของผู้หมวด
“แต่ก็ไม่ได้เป็นตลอดเหมือนผู้หมวดนี่ ฟอด โสดจริงป่ะ ฟอด”
“ไม่โสด มีแฟนแล้ว”สายตานิ่งๆ หน้าเรียบเฉยบอกถึงความจริงจัง
“เหรอ แบบนี้ผมก็เป็นชายชู้น่ะสิ ว้า แย่จัง ว่าแต่ใครนะที่เป็นคนโชคดีคนนั้น”ใจฟ่อหดเหี่ยวจนเหลือเท่าเม็ดละมุด(เกี่ยวตรงไหน)
“หึ คนหน้ามึนแม่งก็มึนอยู่วันยังค่ำ ไอ้ที่ทำแบบนี้เขาเรียกกันว่าอะไรล่ะ หึ”ผู้หมวดดีดหูผม
“เรียกว่าอะไร ผู้หมวดกำลังพูดถึงอะไรเหรอครับ”
“ส้นตีนเหอะ มึนได้โล่จริงๆ ถามจริง ลูกน้องหอมแก้มเจ้านายได้ป่ะ”
“ก็ได้นะ นี่ไง ฟอด เคยจูบแล้วด้วย จุ๊บ”
“เวรกรรม กูไม่รู้ว่ากูคิดผิดหรือคิดถูก นี่มึนจริงๆหรือแกล้งมึนวะ”
“ฮ่าๆๆๆ รู้ครับว่าเจ้านายอ่ะ หอมแก้มลูกน้องไม่ได้หรอก มีแต่ลูกน้องตาแป๋วๆคนนี้นี่แหละครับที่มันลามปามไปหอมแก้มเจ้านาย”
“เออ เอาเข้าไป มึนให้ได้ตลอด มึนต่อไปเหอะ หึ”ผู้หมวดเด้งตัวลุกขึ้น แต่ผมคว้าข้อมือไว้ก่อนดึงลงมานั่งตักซะเลย
“ขี้น้อยใจจริง”
“ไม่ได้น้อยใจ มึงกวนตีนกูอ่ะ สัส ถามจริง มึงอยากให้กูอยู่ในฐานะอะไรมึงบอกมาเลยดีกว่าวะบอมบ์ กูไม่อยากคิดไปเองฝ่ายเดียวว่ะ กูรู้ว่ามันไม่เสียหายหรอกที่ผู้ชายแม่งมานั่งกอดนั่งจูบกันน่ะ แต่กูก็มีความรู้สึกนะเว้ย กูมีหัวใจเหมือนกัน กูไม่อยากนั่งเพ้อไปวันๆแล้วคิดไปเอง ถ้ามึงแค่เล่นๆกับกู กูจะได้เตรียมใจไว้ทัน”
“ผู้หมวดอยากให้ผมเป็นอะไร ผมจะเป็นทุกอย่าง ขึ้นอยู่กับผู้หมวด”
“กวนตีนนะมึงอ่ะ บอมบ์ ให้เวลา ๕ วินาที เอาให้ชัดเจน มาถึงขนาดนี้แล้ว กูพร้อม มึงเล่นกับกู กูพร้อมเจ็บ แต่ถ้ามึงจริงใจกับกู กูพร้อมลุย หรือถ้ามึงไม่แน่ใจว่ากูใช่สำหรับมึงหรือเปล่า แค่มึงบอกกูมา กูพร้อมจะยอมรับ”
“หึหึ พร้อมนะครับ ผมพูดแล้วผมไม่คืนคำนะครับผู้หมวด คำพูดของผมที่พูดออกไปนี่มันจะพันธนาการผู้หมวดไปจนตายนะครับ พร้อมจะฟังหรือยัง”ผมกระซิบที่ข้างหูเบาๆ
“ก๊อกๆๆๆๆ ขออนุญาตครับ ผู้หมวดครับทหารหนีครับผู้หมวด”
“หา ว่าอะไรนะ เออ”ผู้หมวดรีบผละออกจากตัวผมวิ่งออกไปเปิดประตู ส่วนผม ห่าเอ๊ย ไม่น่าลีลาเลยกู
“ทหารหนีครับผู้หมวด”
“ใคร เฮ้ย ที่เหลือเช็คยอดทหารด้วย เหี้ยเอ๊ย ใครปล่อยให้หนีไปได้วะ กูบอกแล้วไงว่าให้ดูและให้ดีน่ะ สัส”ความโกลาหลวุ่นวายเกิดขึ้นในยามค่ำ