ตอนที่ ๑๕ มีคนจะฆ่าผม
“ตบเท้าหนัก เออ หนักกว่านี้ ข้างหลังฟังเสียงตบเท้าข้างหน้าด้วย เฮ้ยๆ อย่าสะบัดข้อเท้า ตับหน้าน่ะเขาทำดีแล้วนะ ไอ้พวกตับหลังอย่าให้เสีย”เสียงดุของครูฝึกที่ดุไปด้วย ชี้จุดต้องแก้ไขไปด้วย ทุกเช้าหลังจากออกกำลังกายเสร็จพวกเราจะมาเดินสวนสนามกันครับ ตอนเย็นก็จะเล่นแถวชิดกันและสวนสนามไปด้วย
“ตับนี้ไปเดินใหม่เลย ทำไมวะ พวกมึงนะ ทีตอนไปน้อยๆก็ทำได้พอมาฝึกเป็นส่วนรวมทำไมมันเละแบบนี้วะ เราไม่ได้ฝึกครั้งแรกกันนะ”
“เอ้า ฟังนะทหารใหม่”ผู้หมวดที่ยืนคุมการฝึกคว้าใหม่จากจ่าที่ควบคุมการฝึกของพวกผมพูดขึ้น “ผู้หมวดถามหน่อยว่าเหนื่อยรึเปล่า”
“เหนื่อยครับ”ตอบแบบไม่ลังเลสงสัยเลยครับ เสียงดังฟังชัดกันซะด้วย
“เหนื่อยแล้วทำไมไม่ทำให้ดี จังหวะการตบเท้าก็ให้ฟังเสียงกลอง ตึง ตึง ตึง ตบไปตามจังหวะ คนข้างหลังฟังคนข้างหน้า แล้วช่วงตบเท้า เหยียดตรง อย่าสะบัดข้อเท้า ปลายเท้างุ้ม”ผู้หมวดพูดไปด้วยและทำท่าทางให้ดูไปด้วย “ถ้าอยากพักก็ทำให้ดี นี่เรายังไม่ได้ฝึกกับปืนถ้าเอาปืนมาฝึกด้วยมันจะลำบาก เอาใหม่”
เสียงเพลงมาร์ชดังขึ้น หมู่กลองห้องที่ ๓ เราต้องตบเท้าก้าวออกไป หลังจากที่ผู้หมวดพูดจบ พวกเราทั้งหมดก็มาฝึกอีกครั้ง ไปทีละหน้าตับ ผู้หมวดยืนมองทุกคน ตับไหนดีก็ยืนพัก ตับไหนไม่ดีไปเดินใหม่ จนตะวังตกดินถึงเวลาอาหารเย็น
“ไอ้เหี้ย ใครเยี่ยวใส่ขากูวะ”เสียงของใครบางคนพูดขึ้นช่วงที่ทหารหัวเกรียนอย่างพวกผมกำลังอาบน้ำ
“ไอ้เหี้ยชาติแม่งจังไร ฮ่าๆๆๆ”
“สัสชาติ ไอ้ชาติหมา เยี่ยวใส่ขากู”
“กูเปล่านะเหี้ย”
“เหลือเวลาอีก ๓ นาที”ผู้ช่วยครูตะโกนขึ้น พวกผมรีบอาบน้ำกันอย่างรวดเร็ว เช็ดตัวเสร็จ รีบใส่เสื้อผ้าออกไปก่อน แล้วก็เสต็ปเดิมของมหาตวงมันครับ
“บอมบ์ ล้างห้องน้ำกัน”ชวนกูล้างทุกวัน แต่ผมก็ช่วยมันทุกครั้ง ผมเป็นคนราดน้ำตามมันเป็นคนขัด ก็เอาไม่กวาดทางมะพร้าวอ่ะครับมาขัด ขัดๆกวาดๆไล่น้ำไปด้วย จนเขาอาบเสร็จมีคนอื่นๆมาช่วยล้างบ้างไม่กี่คน จากนั้นก็ไปนั่งฟังการอบรม
“เออะ ปู้ดดดดด”เสียงเรอตามด้วยเสียงตดที่ดังขึ้นมาจากด้านหลัง ผมหันไปมองเห็นไอ้นนท์ยืนหน้าเฉยไม่สนใจโลก
“ทั้งบนทั้งล่างเลยนะ”ผมพูด
“เครื่องมันดี ฮ่าๆๆๆๆ”มีขำ
“ไอ้เหี้ยนนท์จังไรคนจริงมึง ปู้ดดดดด”หัวหน้าหมวดครับ เดินมาด่าแล้วตดใส่ เออ ใครจังไรกว่าใครกันแน่วะ
“มีแต่คนจังไรเลยว่ะ เอากับเขาบ้าง ปู้ดดดดดดด”ไอ้มหาเบ่งเต็มที่เลยครับ
“สัสเอ๊ย ตดไกลๆกูก็ไม่ได้”ปิดจมูกหันหลังให้มันแล้วก็เอากับเขาบ้าง “ปู้ดดดดดดดดดด”
“แหวะ ว่าแต่คนอื่นเขา สัส หมาตายในไส้มึงรึไง เหม็นโคตร”มันปิดจมูกทำท่าทางปัดๆ จวยเหอะเพื่อน กูดังแต่ท่อล้อไม่หมุนนะเว้ย ไม่เหมือนไอ้พวกไม่มีเสียงแต่มีกลิ่นน่ะ
“มีคนจะฆ่าผม ฮือๆ มีคนจะฆ่าผม”เสียงตะโกนดังขึ้นท่ามกลางการอบรมของสิบเวรประจำวัน ไอ้คนที่ตะโกนมันคู้เข่าเข้าหาตัวยกมือท่วมหัวร้องห่มร้องไห้ สิบเวรรีบวิ่งเข้าไปเลยครับ ไอ้พวกที่เหลือนี่ทำหน้าเลิกลักมองซ้ายมองขวา
“เป็นไร มึงเป็นไร”
“มีคนจะฆ่าผม”สายตามันดูหวาดกลัว ผมได้แต่มองอยู่ไกลๆจนเขาพามันไปแล้วถามอะไรสักอย่างมันได้แต่ตะโกนว่ามีคนจะฆ่ามัน
“ใคร จะฆ่ามึง สัส เฮ้ย มึงดูมันไว้ก่อน ผู้หมวดครับ ทหารมันประสาทหลอนครับ”สิบเวรรีบเคาะห้องผู้หมวด ผู้หมวดเปิดประตูออกมา
“ไหนใคร”กวาดสายตามาโดยรอบ
“ไม่ อย่าเข้ามานะ ไม่ สัส อย่าเข้ามา อย่า”ไอ้คนที่ประสาทหลอนมันร้องอย่างหวาดกลัวถอยหลังหนีจนแทบจะตกระเบียง
“เอ็ม ไปเรียกรถพยาบาล ทหารๆ ตั้งสติดีๆ”ผู้หมวดเข้าไปเกลี้ยกล่อม จากนั้นมันก็ดิ้น ใครเข้าไปจับมันก็ไม่มีใครจับมันได้ มันหนีอย่างเดียว ผมเห็นท่าไม่ดีจึงลุกไปช่วย
“หยุด”ผมตะคอกเสียงดังแต่มันก็ยังดิ้นไม่ยอมให้ผมจับ ผมจับที่ข้อมือมันไว้รวบตัวมันมากอด
“อย่าฆ่ากู ฮือๆ กูกลัวแล้ว กูฮือๆ กูไม่อยากตาย”มันทั้งดิ้นทั้งร้อง
“มึงได้ตายแน่ถ้ามึงไม่หยุด”ผมพูดเสียงเหี้ยม มันทำหน้าตะลึง
“อย่าฆ่ากู”สายตาเหม่อลอยกับน้ำเสียงเบาๆ
“กูไม่ฆ่ามึงหรอกถ้ามึงยอมไปกับกู”ผมพูดเสียงเย็นกล่อมมัน นี่ผมลองทำไปมั่วๆนะครับ
“มึงจะไม่ฆ่ากูใช่มั้ย ห๊ะ มึงจะไม่ฆ่ากูใช่มั้ย”มันตะคอกถามเสียงดัง
“เงียบ หุบปาก”ผมตะคอกกลับจนมันนิ่งไปแล้วอุ้มมันขึ้นรถพยาบาลเอาไปส่ง ไปถึงหมอตรวจทุกอย่างปรากฏว่า ประสาทหลอนครับ ไอ้คนนี้มันมีประวัติเสพยามาก่อนเลยหลอน
“เป็นไรวะ”กลับมาที่หน่วยฝึกนั่งลงที่เดิม มหาตวงรีบไต่ถาม
“ประสาทหลอน คนติดยาน่ะ”ผมพูดสั้นๆ
“กูคิดว่ามันแกล้ง ฮ่าๆๆๆๆ เดี๋ยวกูเอาบ้างดีกว่า มีคนจะข่มขืนหนู”มันทำท่ากระมิดกระเมี้ยน
“กูไม่ช่วยมึงหรอกนะแต่กูจะถีบซ้ำ ฮ่าๆๆๆๆๆ”
“ฮ่าๆๆๆๆๆ”
“อรุณสวัสดิ์ครับสิบเวร อรุณสวัสดิ์ครับครูฝึก อรุณสวัสดิ์ครับผู้ฝึก”
“ยกเท้าสูง ห้ามสะบัดเข่า ปลายเท้างุ้มลง เออ ไอ้คนที่ ๓ ดูเพื่อนข้างๆด้วย”
“ตับนี้มันเป็นไรของมันวะ ไปเดินใหม่อีกครั้งไป”
“เฮ้ยๆ ห่า มึงฟังเสียงกลองรึเปล่าวะ ตบเท้าลงตามเสียงกลองดิ”
“ไอ้ดำ ตบเท้าให้พร้อมเพื่อนหน่อย จับจังหวะกลองให้ได้”
“ไอ้ยักษ์ยกเท้าสูงขึ้นอีกนิด มหา สวนสนามนะครับน้องไม่ใช่เดินจงกรม งุ้มปลายเท้าลงหน่อย”
“ไอ้มาโนชญ์ ขามึงหนักขนาดนั้นเลยเหรอ ยกให้สูง เออ เตะให้ถึงก้นเพื่อนมึงเลย เออ”
เสียงดุเสียงแนะนำดังขึ้นในยามเช้าของวันใหม่หลังจากอาบน้ำอาบท่าเสร็จการฝึกสวนสนามประจำวันก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แค่ท่าเดินอย่างเดียวมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะสามารถทำได้ภายในวันหรือสองวัน การฝึกฝนก็ยังคงเป็นการฝึกฝน ออกมาดีบ้างไม่ดีบ้าง ดุด่าบ้างชื่นชมบ้าง บางคนวันนี้ทำดีแต่พรุ่งนี้ก็ไม่ดี ใช่ว่าจะดีทุกวัน
“เจ็บจวยป่วยตา ข้าวปลาแดกได้ แดกเยอะเสียด้วย เมื่อไหร่จะตายซะทีโว้ย”เสียงพูดของพวกอะไหล่มันเดินจับไหล่กันเรียงแถวเดินท่องแบบนี้ทุกวันช่วงไปกินข้าว พวกอะไหล่นี่คือพวกที่ป่วยจนไม่สามารถไปร่วมฝึกกับคนอื่นเขาได้นะครับ เขาเลยเรียกกันว่าอะไหล่
“มีแต่พวกอู้ มึงจะป่วยกันไปถึงไหน”เสียงจ่าแกมากระเซ้าเย้าแหย่ทุกเช้า
“เจ็บจวยป่วยตา ข้าวปลาแดกได้ แดกเยอะเสียด้วย เมื่อไหร่จะตายซะทีโว้ย”แล้วก็พากันเดินกะเผลกๆไปโรงเลี้ยง ส่วนใหญ่ที่ป่วยคือเจ็บขา ข้อเท้าบวม เป็นไข้ ไอ้ที่นอนโรงบาลก็มีนะครับ อย่างเมื่อวานก็เอาไอ้ประสาทหลอนเข้าโรงบาลไปแล้วคนหนึ่ง แล้วที่ไปนอนก่อนก็มีอยู่ ๒ คน ทหารที่เข้ามาฝึกใช่ว่าจะได้ฝึกกันทุกคนนะครับ บางคนมารายงานตัวทั้งที่ตัวเองแขนหัก พอสอบประวัติไปมา ปรากฏว่าโดนใบแดงแล้วเมาเหล้า รถชนเสาไฟฟ้าแขนหัก แต่ก็มีได้ยินมาว่าเพื่อนของเพื่อนในหมวดผม อีกเพียงแค่ ๕ วันจะมาเป็นทหารแล้ว ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต การจะมาเป็นทหารนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆนะครับ บางคนอยากเป็นแทบตายไม่ได้เป็น ส่วนที่ไม่อยากเป็นก็เสือกได้เป็น
“นอน เตรียมยิง”กินข้าวเสร็จมาฝึกกันที่สถานี ๔ เป็นสถานียิงปืนด้วยกระสุนจริง ก่อนที่จะเข้าไปยิงจริงก็ต้องฝึกกันก่อนครับ ฝึกเล็งปืน ฝึกท่ายิงซึ่งมีทั้งหมด ๕ ท่า สัปดาห์นี้จ่ายังไม่ให้พวกผมเข้าไปยิง ต้องฝึกท่ายิงให้ได้ครบก่อนแล้วค่อยไปยิงจริงในสัปดาห์หน้า
“เล็งให้ดี ค่อยๆเลี้ยงให้เรดดอดมันอยู่กลางกล้องกลางเป้า”จ่าคอยอธิบายเพิ่มเติม พวกผมก็เล็งปืน ปืนนี้เป็นปืนใหม่มีกล้องให้จับเรดดอดครับ เล็งยากเพราะกว่าจะทำให้เป็นจุดเดียวไม่ให้ศูนย์รวมแสงมันแตกก็นาน แล้วต้องเล็งให้ตรงกับเป้าที่อยู่ด้านหน้า พอเลี้ยงได้จังหวะจึงลั่นไก เป็นการซ้อมนะครับยังไม่ใส่กระสุน
ฝึกไป มีแอบหลับไปบ้าง แล้วจะมีจ่าคนหนึ่งครับ
“แฮๆ ไอ้มาโนชญ์ ลุกออกมาเลยมึง ไอ้บิ๊ก ไอ้ยักษ์ อ้าว พี่มหา ออกมานี่เลย”จ่าเรียกผมจนพวกผมสะดุ้ง เอาแล้วครับ โดนเขาแล้วเมื่อกี้แอบหลับไป
“ครับจ่า”
“ให้ไวๆ แอบหลับเหรอ กูให้เล็งปืนนะไม่ใช่ให้หลับ หึหึ ไปยืนข้างหน้า”พวกผมไปยืนตากแดดอยู่ด้านหน้า
“ครับ”ทำหน้าตาน่าสงสารเข้าไว้เผื่อจะเรียกร้องความเห็นใจ
“แองกะลูท่าเตรียม หึหึ ท่านี้จ่าชอบ ๕๐ ยก”
“๕๐ ยก”ทวนเสียงดัง
“เริ่ม”สิ้นคำสั่งก็ทำทันที ท่านี้ง่ายๆแต่มันจะทรมานช่วงขาทั้งท่อนเลยครับ แล้วก็เอว ทำได้ ๓๐ กว่ายกก็หอบแฮกๆแล้ว โดยเฉพาะไอ้มหาตวง ถึงกับลิ้นห้อย “จ่าบอกแล้วว่าอย่าหลับให้จ่าจับได้ ฮ่าๆๆๆ”อารมณ์ดีของแกไป พวกผมทำจนครบจำนวนแล้วลุกขึ้น เช็ดเหงื่อเช็ดไคล
“เข้าไป ทีหลังอย่าหลับนะมึง”รีบสลายตัวกันอย่างรวดเร็ว
“กำลังเคลิ้มเชียว”นอนเล็งปืนได้ก็ชวนมหาคุยทันที ยังไม่เล็งหรอกครับ เหนื่อย ขอพักสักแปบ
“เออดิ กูว่าทำท่าเนียนสุดๆแล้วนะ รู้อีกว่ากูหลับ”เสียงพูดเบาๆ ได้ยินกันแค่ ๒ คน
หลังจากที่กรำกับการฝึกมาทั้งวัน ช่วงเย็นเราก็มาเล่นแถวชิด แถวชิดนี่คือการสั่งจัดแถวเป็นรูปแบบต่างๆนะครับ และผู้หมวดบอกว่าฝึกทหารใหม่จะผ่านไม่ผ่านมันอยู่ที่แถวชิดครับ เขาจะให้จัดแถวแล้วจับเวลา แต่ช่วงนี้ยังเป็นช่วงแรกๆยังไม่จับเวลานะครับ ให้ทหารเข้าในก่อนว่าใครยืนอยู่ตำแหน่งไหนเมื่อเรียกแถว ส่วนผมน่ะหัวแถวคนที่ ๑ อยู่แล้วไม่ต้องกังวล นอกจากฝึกแถวชิดแล้วยังมีการฝึกท่าอาวุธด้วย เป็นท่าเคารพและอีกหลายท่า จนได้เวลาไปกินข้าวนั่นแหละครับจึงไปคืนปืนแล้วเดินแถวไปกินข้าว
“เหลือเวลาอีก ๕ นาที จับคนช้า ๕ นาย”หลังจากกินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้วก็มาอาบน้ำ ปล่อยให้แต่ละหมวดขึ้นไปหยิบผ้าเช็ดตัวหยิบขันอาบน้ำ
“เหลือเวลาอีก ๕ ปี”มีใครบางคนมันกวนตีนครับ ตะโกนแทรกไปกับพวกคนอื่นๆที่มันตะโกน “เหลือเวลาอีก ๕ นาที”
“เฮ้ยๆ ใครกวนตีนวะ ใครตะโกนเหลือเวลาอีก ๕ ปีน่ะ”เสียงผู้ช่วยครูตะโกนถามเสียงดุ
“ไม่มีครับครู”รีบแก้ตัวอย่างไว
“ห่าเอ๊ย เป็นทหารแค่ ๒ ปีกูจะตายอยู่แล้ว มีหน้ามาพูดเหลือเวลา ๕ ปี ๕ปี พ่อง”ฮ่าๆๆๆๆ
“หมดเวลา”ผู้ช่วยครูตะโกนเตือน ที่เหลือก็ทวน “หมดเวลาๆๆ”ทวนคำสั่ง ๓ ครั้งวิ่งตึงๆลงมาจัดแถวด้านล่าง ส่วนคนที่ช้าโดนลงโทษให้วิ่งรอบแถวจนกว่าจะถึงห้องน้ำครับ
“กระผมพลทหาร.................ขออนุญาต เข้าห้องน้ำครับ”
“ไม่ได้ยิน”เสียงตะโกนดังมาจากกองร้อยที่พวกผมไปอาบน้ำ หันไปก็เห็นเป็นรุ่นพี่ที่ยืนอยู่หน้ามุข เออ กูก็แหกปากเสียงดังนี่หว่า ยังมีหน้ามาพูดว่าไม่ได้ยินอีก
“กระผม พลทหาร.............. ขออนุญาตเข้าห้องน้ำครับ”อีกครั้งหนึ่งที่พวกผมพูดเสียงดัง
“เสียงมีแค่นี้เหรอ”รุ่นพี่ที่ยืนบนกองร้อยตะโกนถาม ส่วนผู้ช่วยครูก็ “ไปๆ อย่าไปสนใจมัน รีบไปอาบ”พวกผมวิ่งตอนเรียง ๑ เข้าห้องน้ำไปถึงไม่พูดพร่ำทำเพลงถอดเสื้อผ้าจนล่อนจ้อนมาเรียงเรียงอยู่ที่ขออ่างอย่างรู้หน้าที่ สิ้นเสียงนกหวีดเท่านั้นแหละครับ ต่างคนต่างกรูแย่งกันอาบน้ำ
“เฮ้ยๆ กูอาบด้วยๆ”คนที่มันขี้เกียจมันก็จะมาแทรกใกล้ๆแล้วให้น้ำที่คนอื่นตักราดตัวมาโดนตัวมัน พอตัวมันเปียกมันก็หยิบสบู่มาถูตัว
“อุ้ย สบู่หล่น”เสียงใครสักคนพูดขึ้นแล้วทำท่าก้มหยิบสบู่
“อยากโดนกูล่อก็ไม่บอก”แล้วก็มีใครสักคนที่มันทะลึ่งครับกระเด้าตูดไอ้คนนั้นทีหนึ่งจนไอ้คนก้มหยิบสบู่แทบหน้าคะมำไปกับพื้นห้องน้ำ
“ฮ่าๆๆๆๆๆ”
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก กระผม พลทหาร ขีปนาวุธ อุดมลักษณ์ ขออนุญาตพบผู้ฝึกครับ”เคาะประตูรายงานยศชื่อเสร็จเปิดประตูเข้าไป เห็นผู้หมวดยืนคุยโทรศัพท์หันหลังให้ประตู ปิดประตูลงอย่างแผ่วเบา หมุนตัวไป ไม่มีใครอยู่ในห้อง ปลอดคน เดินเข้าไปกอดผู้หมวดจากด้านหลัง
“ได้ครับๆ ครับ ครับ อ่า ครับ ครับ สวัสดีครับ”ยัดมือถือใส่กระเป๋า ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เหนื่อย”
“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ”
“ต้องไปเข้าเวรที่..... ไปแทนป่ะล่ะ”ผู้หมวดพูดถึงสถานที่ที่จะไปเข้าไป โห ไกลนะนั่น
“ฟอด ไปกี่วันครับ”ฉกหอมแก้มไปข้างหนึ่ง เจ้าตัวยังทำหน้ายุ่งๆ
“๒ วัน ไปพรุ่งนี้ เข้าเวรน่ะไม่เหนื่อยหรอก เหนื่อยตรงที่ยังไม่ได้พักนี่ดิ”
“ครับ งั้นคืนนี้ก็รีบพักผ่อนสิครับ จะได้ไม่ล้า”ลูบที่ท่อนแขนเบาๆ
“อืม แล้วนี่มีอะไรเหรอ งานก็เสร็จไปแล้วนี่”
“ก็คิดถึงอ่ะ อยากกอดใครบางคน”ทำเสียงออดอ้อนเข้าไว้
“หึ ถามเขาหรือยังว่าเขาอยากโดนกอดหรือเปล่า”สีหน้าดูดีขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย ไม่ชอบเลยผู้หมวดทำหน้าเครียดๆ มันไม่สดใส
“เออ ลืมไปว่าอยากกอดไอ้ตวง โทษทีๆ เดี๋ยวผมไปถามไอ้ตวงก่อนนะครับ แฮะๆ กอดผิดคน”ทำยิ้มทำสายตาเจ้าเล่ห์
“กวนตีน”
“เฮ้อ เมื่อไหร่จะฝึกเสร็จน้า ผมจะได้สวีทกับผู้หมวดซะที ทำลับๆล่อๆเหมือนอะไรก็ไม่รู้ กว่าจะได้กอดที กว่าจะได้หอมทีก็ต้องรอตั้งหลายวัน เฮ้อ”กูเพ้อยังไม่หาย ฮ่าๆๆๆๆ
“อีก ๕ สัปดาห์ ทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ หาคนอื่นที่กอดได้ทุกวัน หอมได้ทุกวันไปดิ”
“ไม่หาแล้ว ของดีอยู่ตรงหน้าใครไม่คว้าก็โง่แล้วครับ ฟอดๆ”ไล่หอมตามใบหน้าต้นคอท้าทอยไปหลายที แต่คนที่โดนกระทำไม่ยักจะรำคาญ เออ ถ้าเขาไม่ชอบเขาคงไม่ให้มึงทำแบบนี้หรอกบอมบ์
“พอได้แล้วมั้ง น้ำก็ยังไม่ได้อาบด้วย เหงื่อไคลเต็มไปหมด”
“ขอจูบทีสิครับ”
“เอาไป ๒ เลยป่ะล่ะ”แล้วก็ไม่ต้องพูด เอาให้ขาดลมหายใจกันไปข้างหนึ่ง ฮ่าๆๆๆๆๆ