ตอนที่ ๘๔ ซ้อม
สายๆผมก็กลับมารายงานตัวที่กองร้อย ช่วงนี้ทหารอยู่ในช่วงซ้อมเดินสวนสนามวันกองทัพไทยครับ เดินเสร็จก็เป็นอันว่าจบการฝึกทหารใหม่ เตรียมตัวขึ้นกองร้อยมาทำงาน รบกับหญ้า ฆ่ากับมด กันต่อไป
ช่วงนี้อากาศเย็นลงครับ มีลมบ้าง นี่ไม่อยากพูดถึงที่บ้าน เช้าๆนี่ลมพัดแรงมากเลยครับ แต่ก็รู้สึกดีนะ นั่งผิงไฟ นั่งคุยจ้อกันทั้งครอบครัว เจ้าลูกชายก็ชอบมาซุกมากอด นี่ยังคิดถึงลูกชายไม่หายเลยครับ
“พี่บอมบ์”
“หืม”
“หิวข้าว”
“อ้าว นี่บ่ายโมงแล้วยังไม่ได้กินอีกเหรอ”
“ยัง ออกไปซื้อให้หน่อยดิ”
“อ๋อ นี่ปากหวานเพราะจะใช้พี่อ่ะดิ”
“ถูกต้องนะครับ อยากกินข้าวขาหมู ขอแบบพิเศษๆนะ”
“ตังค์ล่ะ”
“พี่บอมบ์เลี้ยง”
“ก็ได้ๆ”แล้วผมก็หยิบกุญแจรถมอไซด์ลงมาด้านล่าง คันนี้เป็นของหมวดบูมครับ ซื้อมาใหม่ๆเอามาให้ผมขับเล่น “เอาอะไรไหมวะ กูจะออกไปนอกกองพัน”ลงมาด้าน่างถามเพื่อนๆที่นั่งเล่นกันอยู่ใต้ถุนกองร้อย
“ไปด้วย”ไอ้มหาลุกขึ้น
“ขึ้นไปแต่งชุดอ่อนดิ”
“ไอ้สัส ออกไปแปบเดียว”
“พี่บอมบ์เอาผู้ชายมาฝากหนูด้วยนะ”อีหนูยังแรดอยู่เหมือนเดิมครับ
“พี่หนูจะทิ้งผมแล้วเหรอ”ไอ้เล็กที่นั่งโขกหมากรุกกับไอ้ซันพูดขึ้น พวกมันสนิทกันครับเล่นกันฮาเฮ
“ฮ่าๆๆ กูอยากจับมึงทำผัวจริงว่ะเล็ก นี่ถ้าไม่มีผัวนี่ ฮึ่ม”อีหนูขำ
“นั่นดิ ถ้าพี่ไม่มีผัวผมจับพี่ทำเมียจริงๆนะ ชอบพี่ว่ะ พี่เลิกกับแฟนพี่แล้วมาคบกับผมเหอะ”
“ฮ่าๆๆๆ”อีหนูขำซะงั้น
ผมออกไปด้านนอกกองพันกับมหา ใส่ชุดวอร์มไปครับออกด้านประตูหลังของกองพัน ไปยืนสั่งข้าวขาหมูให้ผู้หมวดโดยที่ไม่ลืมซื้อมากินเองด้วย ฝากน้องๆด้วย มื้อกลางวันกินกันไปนิดเดียวครับ ตามประสาคนขี้เบื่ออาหารกองพัน
ขากลับขับรถผ่านกองร้อยหมวดเต้ย พี่แกนั่งอยู่ใต้ซุ้มไม้เลื้อยด้านหน้ากองร้อย ผมเลี้ยวรถจอดเอี๊ยด
“สวัสดีครับผู้หมวด”
“ครับเฮีย เฮียเอาอะไรมากฝากอ่ะ”หมวดเต้ยแกยกมือรับไหว้ “เออ มหา เมื่อกี้แม่โทรมาบอกว่ามะรืนนี้จะมีงาน แม่ให้ไปเป็นเพื่อนน่ะ ตะกี้แม่โทรไปเครื่องมึง ทำไมมึงไม่รับ”
“อ้าว”ไอ่มหาคลำที่กระเป๋ากางเกงวอร์มของตัวเอง “เอ่อ แฮะๆ ผมชาร์ตไว้หน้าคลังอ่ะผู้หมวด เดี๋ยวกลับกองร้อยเดี๋ยวโทรหาแม่ผู้หมวดอีกทีแล้วกัน อ่ะ นี่ผมซื้อมาฝาก”ไอ้มหายื่นข้าวกล่องให้
“อืม กูเพิ่งกินกับผู้กองเมื่อกี้นี้เอง นี่กะจะขุนกูให้อ้วนรึไง”
“อ้าว ก็ไม่รู้นี่นาว่ากินหรือไม่กิน จะเอาไหมอ่ะ ถ้าไม่เอาผมจะเอาไปฝากเพื่อน”
“เอาดิ มึงอุตส่าห์ซื้อมาให้ อย่าลืมโทรหาแม่นะมึง”
“ครับผู้หมวด กลับกองร้อยแล้วนะครับ”
“ไปแล้วนะผู้หมวด”ผมกล่าวลาแล้วมหาก็ซ้อนท้ายมอไซด์กลับกองร้อย
บ่ายวันนี้ผู้กองว่างครับ ตอนนี้กำลังตบปิงปองกับอีหนู เสียงเชียร์ใต้กองร้อยเหมือนกับเชียร์มวยเลยครับ ส่วนใหญ่อยู่ฝั่งผู้กอง มีไอ้เล็กคนเดียวเท่านั้นที่อยู่ฝั่งอีหนู ผมเอาข้าวขึ้นไปให้หมวดบูมก็ไม่เจอพี่แก ต้องลงมาด้านล่าง บก.ร้อย เจอพี่แกนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ ผมวางกล่องข้าวและกุญแจรถลง แล้วเดินไปเชียร์ปิงปองชิงแชมป์กองร้อย ส่วนไอ้มหาขึ้นหน้าคลังไปเอาโทรศัพท์มันครับ
“คราวนี้หนูเอาจริงแล้วนะผู้กอง”อีหนูเหงื่อแตกซกเลยครับ มันพับแขนเสื้อขึ้นทั้ง ๒ ข้าง มองผู้กองด้วยใบหน้ามุ่งมั่น
“พี่หนูสู้ๆ ถ้าพี่หนูชนะ ผมให้คืนหนึ่งเลย”ไอ้เล็กพูดไปขำไป
“ได้เล็ก มึงได้เข่าอ่อนแน่”
“ถ้าหนูแพ้ผู้กอง ผู้กองจับดองเวรเลยนะ หึหึ”ผู้กองพูดขู่
“ครับผู้กอง ถ้าผู้กองแพ้หนู ผู้กองเลี้ยงขนมหนูด้วย”
“เอาดิ เอานะ”ผู้กองเสิร์ฟลูก คราวนี้อีหนูตอบโต้ด้วยความว่องไว ผู้กองก็เร็วมากเลยครับ โต้กลับทันที อีหนูก็ไม่ยอมครับโต้กลับผู้กองอย่างแม่นยำ เสียงตบแต่ละลูกทหารเชียร์ดังกระหึ่มกองร้อยเลยครับ ลูกแรกผู้กองนำ จากนั้นเสิร์ฟอีกครั้ง
สายตาอีหนูมุ่งมั่นมากเลยครับ มันจ้องลูกปิงปองที่ผู้กองจะเสิร์ฟมา เหมือนนักกีฬาไม่มีผิด อีนี่มันจะจะมีความสามารถเกินตุ๊ดทั่วไปแล้วนะเนี่ย
เกมดำเนินไปอย่างเมามัน ผลัดกันนำ ผลัดกันตาม เซตแรกผู้กองชนะครับ เซตสองอีหนูชนะ ทีนี้จะเล่นเซตสาม วิทยุผู้กองดังขึ้น แจ้ง ผบ.ร้อยแต่ละกองร้อยเข้าประชุมเร่งด่วน
“เดี๋ยวมาเล่นกันต่อนะหนู ผู้กองไปทำงานก่อน เซตสามขอแปะโป้งไว้”
“ครับผู้กอง”อีหนูเหงื่อไหลไคลย้อยเลยครับ
“ตรง”ใครสักคนหนึ่งสั่ง พวกเรายืนตรงทำความเคารพ ผู้กองไปเตรียมตัวเข้าประชุม
“พี่หนูนี่กล้าท้าผู้กองเนอะ”ไอ้เล็กเดินไปหยิบไม้ปิงปองที่ผู้กองวางไว้
“ผู้กองอ่ะใจดีจะตาย เวลาแกเล่นแกก็เล่น เวลาเอาจริงก็จริงจังทุกอย่าง เฮ้อ เหนื่อย”อีหนูวางไม้ลงบนโต๊ะ
“อ้าว ไม่เล่นแล้วเหรอพี่”ไอ้เล็กถาม
“ขอพักยกก่อน ใครจะเล่นก็เล่นไปดิ พี่บอมบ์ หนูเหนื่อยมากพี่บอมบ์นวดให้หนูหน่อย”อีหนูเดินมาออเซาะผมที่นั่งบนม้านั่งข้างโต๊ะปิงปอง
“กูเอาตีนนวดนะ”
“ชิ ร้อนมากเลยพี่บอมบ์”มันเลิกชายเสื้อขึ้น เหงื่ออาบเต็มตัวเลยครับ แอบเห็นว่ามีซิกแพคด้วยนะ ผมเอามือลูบๆจับๆ อือ ขึ้นเป็นก้อนๆเลยครับ ชักจะแข็งแกร่งเกินคนแล้วมั้งเนี่ย หน้าอกก็เป็นก้อน นี่ถ้ามันเป็นผู้ชายปกตินะผมว่าแฟนมันนี่ขี้คร้านจะจำหน้า อีหนูนี่อย่างที่ผมเคยบอก หน้ามันหล่อ ขาว ตี๋ กำลังดี หุ่นก็โอเค เพียงแค่จริตจก้านมันออกจะตุ๊ดแต๋วไปเท่านั้นเองครับ เวลานั่งนิ่งๆนี่มองไม่ออก แต่ก่อนนะ ตอนที่เป็นทหารใหม่อ่ะ มันวี้ดว้ายมากกว่านี้ครับ แต่นี่อยู่แต่ในดงผู้ชายมันแมนขึ้น ถึกขึ้น เถื่อนขึ้น แล้วก็ห่ามกว่าเมื่อก่อนเยอะ แต่มันชอบแสดง เวลาอยู่กับผมกับมหา มันชอบออเซาะ ทำตัวหวานแหวว จริงๆเมื่อก่อนผมเกลียดพวกแบบนี้มากเลยนะ อคติกับตุ๊ดมาก คือเกย์แมนๆผมไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ถ้ากรี๊ดกร๊าดวี้ดว้ายนี่ ผมไม่ค่อยชอบครับ มันขัดลูกหูลูกตา ไปๆมาๆ ตัวเองก็มาบริโภคผู้ชาย พอมาเจออีหนู เออ มันก็ไม่ได้เลวร้ายนี่หว่า เพียงแต่เราไปเจอบางคนที่ไม่ดี แล้วเราก็เหมารวมเขาไปหมดว่าเพศนี้ไม่ดี ทั้งที่จริงมันไม่ใช่ ตอนนี้ผมก็โอเคขึ้นครับ อาจจะเพราะว่าเรามีความเป็นผู้ใหญ่ด้วยมั้ง อะไรหลายๆอย่างสอนเรา แล้วเราก็เจอประสบการณ์ที่แปลกใหม่ด้วยละ
บ่าย ๒ เกือบๆจะ บ่าย ๓ แล้ว ใต้ถุนยังครึกครื้น คนที่นอนอยู่ก็นอนกันต่อไป ส่วนคนที่เล่นก็เล่นกันไป มีบางส่วนไปนั่งเล่นรอบๆกองร้อย หาที่ร่มๆหลบมุมโม้กันเป็นล่ำเป็นสันกันเลยทีเดียวครับ ก็แบบนี้แหละครับ ว่างๆเราไม่มีอะไรทำ ไม่ได้ออกไปไหน ว่างก็นอนบ้าง เล่นบ้าง นั่งจับกลุ่มกันโม้บางอะไรบ้าง พักหนึ่งไอ้มหาลงมาจากคลัง
“เพิ่งจะโผล่มาให้เห็นหน้านะพี่มหา เป็นนายแบบแล้วคิวเยอะอ่ะดิ”
“อือ มะรืนนี้ต้องไปงานอีกล่ะ ไปเป็นเพื่อนแม่ผู้หมวด ไม่น่าเกิดมาหล่อเลยกู”
“แหวะ/อ้วกกกกกกกก”ผมกับอีหนูเยาะมันเบาๆ
“ฮ่าๆๆ เห็นไหมล่ะ กูหล่อแล้วใครๆก็ต่างโก่งคอชื่นชม”
“พอเหอะว่ะ กูว่าที่เขาซื้อรูปมึงที่ลงหนังสือนี่เพราะเขาสงสารมึงแน่เลยว่ะมหา”ผมแซวมันขำ
“รูปกูก็มีรูปมึงด้วยนะบอมบ์”
“ฮ่าๆๆๆ พี่บอมบ์ขว้างงูไม่พ้นคอ แต่พี่บอมบ์กับพี่มหานี่หล่อจริง ถ่ายรูปขึ้นด้วย ตัวจริงนี่หล่อกว่าในรูป เฮ้อ นี่เพื่อนหนูมันก็โทรมาถามนะว่าหน้าคุ้นๆ หนูก็เล่ามันมันกรี๊ดกันใหญ่เลยพี่บอมบ์”
“เออ มันก็บ้าพอๆกับมึงแหละหนู เขาว่าคบคนเช่นไรย่อมเป็นเช่นนั้น”ไอ้มหานั่งลงตรงข้ามอีหนู
“ไม่จริงอะ หนูคบพี่บอมบ์พี่มหา หนูไม่เห็นจะหล่อขึ้นเลย เอ๊ะ เออ มันก็เปลี่ยนแปลงนะพี่มหา คือ หนูเหี้ยกว่าแต่ก่อนอ่ะ เออ น่าจะใช่แหละพี่บอมบ์ แต่ก่อนหนูอ่อนหวาน อ่อนโยน เจอเด็กเด็กรัก เจอผู้ใหญ่เขาก็ชื่นชม แต่พอมาเจอพี่ทำไมหนูเหี้ยกว่าเมื่อก่อนนะ อันนี้สิน่าแปลก”
“กูว่าละ ขว้างงูไม่พ้นคอจริงๆด้วย แต่กูเหี้ยยังไงกูก็หล่อนะเว้ย ฮ่าๆๆ”
“แหม พ่อคุณทั้ง ๒ คนเจ้าคะ ช่วยอายปากนิดหนึ่งเหอะ ไม่อายปากก็อายดากหมาหน้ากองร้อยบ้าง ชิ หล่อก็หล่องั้นๆแหละ ไม่เห็นจะกรี๊ด”
“อ้าว แล้วแมวตัวไหนอ้อนจะนอนซบกูเมื่อคืนอ่ะ”ผมมองหน้าอีหนู ทำสีหน้าดุๆใส่มัน
“ฮ่าๆๆ เออๆ ก็หล่ออ่ะแหละ แต่หล่อแบบเหี้ยๆอ่ะ เออ นี่พี่บอมบ์ พี่มหา หนูมีเรื่องเล่า...”
ปรี๊ดดดดดดดดด ปริ๊ด ปริ๊ด ปริ๊ด ปรี๊ดดด เสียงนกหวัดดังขึ้นขัดจังหวะก่อนที่พวกเราจะได้โม้กัน พวกผมร้องเฮเสียงดังแล้ววิ่งไปรวมกันที่หน้ากองร้อย
“นับตลอด นับ”
“๑ ๒ ๓ ๔ ....... ๓๔ ๓๕ ๓๖ ๓๖ นายครับ”
“ไปไหนอีก ๕ คนล่ะ ยอดวันนี้ ๔๑ คนนี่หว่า เฮ้ย บก.ร้อย มึงจะทำงานหามรุ่งหามค่ำไม่มารวมแถวกับเขาหรือไง ยอดพิเศษเหรอมึง หรือพ่อเป็นนายพล ถึงไม่ต้องมารวมแถวเหมือนคนอื่น”
“จ่าครับ พี่ผมเป็นนายพล ผมต้องมารวมกับเขาไหมครับ”สิบเวรวันนี้คือจ่าวินครับ แซวเล่นได้
“พูดงี้กลับไปอยู่บ้านเลยบอมบ์ ห่า บก.ร้อย ๓ คน อีก ๒ คนล่ะ เฮ้ย ไม่ได้ยินเสียงนกหวีดไง โห ตาบวมมาเชียว”
“ผมเพิ่งออกจากเวรครับจ่า”รุ่นเดียวกับผมมันตอบมาอย่างทันท่วงที
“ออกจากเวรห่าอะไร เมื่อคืนยอดมึงยังนอนอยู่ที่กองร้อยเลย เล่นกับกะเทยก็ให้ระวังบ้างนะ อย่าระเริงจนเกินไป เอ้า นับตลอด นับ”
“๑ ๒ ๓ ๔ ...... ๓๙ ๔๐ ๔๑ ๔๑ นายครับ”
“บก.ร้อย ห้ามอ้างว่าทำงานอยู่นะ เมื่อกี้กูเห็น ไอ้คนหนึ่งก็หลับ อีกคนนั่งแชท อีกคนก็เล่นเกมส์ งั้นพวกมึงต้องไปวิ่ง”
“ครับจ่า”พวกเด็ก บก.ร้อย ตอบรับแบบขัดใจไม่ได้ เด็ก บก.ร้อย คือคือทหารเกณฑ์แบบพวกผมนี่แหละครับ จะทำงานให้กับกองร้อย พวกพิมพ์เอกสาร รับงานส่งงานประมาณนี้นะครับ วันๆพวกมันไม่ค่อยจะออกมารวมกับคนอื่นหรอกครับ จนพวกคนอื่นหลายๆคนระอา บางทีงานไม่เยอะก็อ้างว่างานเยอะ งานเยอะมันก็อ้าง เวรไม่ค่อยได้เข้าด้วย จริงๆเรื่องมันเยอะกว่านี้ครับ แต่ผมไมชอบยุ่งใคร เอาตัวเองให้ดีก็พอ ตัวเองไม่ดีพอนี่ไปว่าคนอื่นมันก็กระดากปากเหมือนกันนะครับ ไม่รู้สิ ผมมันพวกโรคจิต ชอบความเป๊ะ อะไรที่ผมทำไม่ได้นี่ผมไม่ค่อยจะไปต่อว่านะครับ แต่บางเรื่องที่ผมเป๊ะ ผมจะยุ่งหน่อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ดูกฎระเบียบ ไม่ใช่เป๊ะจนไม่รู้ว่าตั้งกฎนั้นมาจากสวรรค์ชั้นฟ้าไหน
“บอมบ์คุมแถวด้วยนะ เดี๋ยวให้เวลา ๕ นาทีไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา จะขี้เยี่ยวตดก็ทำให้ไว จ่าเป่านกหวีดต้องครบทั้ง ๔๑ คน ห้ามจำหน่าย ทุกคนทราบ”
“ทราบ”
“พักแถว”
“เฮ้”แล้วพวกเราก็ไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา ใครไม่ทำอะไรก็ยืนรอที่แถวหน้ากองร้อยครับ
จ่าเป่านกหวีดรวมอีกครั้ง ทุกคนต่างวิ่งเข้ามาตั้งแถว ไอ้มหายืนคนแรก ตามด้วยไอ้เล็ก และไล่เรียงไปตามลำดับความสูง ส่วนผมอยู่นอกแถว
“สั่งแทนจ่าเลยนะบอมบ์”จ่าพูดกับผม
“จัดแถว”
“เฮ้”เสียงเฮ้พร้อมกับตบพรึ่บที่ข้างขา
“นิ่ง”
“นับตลอด นับ”
“๑ ๒ ๓ ๔ ..... ๓๘ ๓๙ ๔๐ ๔๐ นายครับ”
“ครบนะ ตั้งใจวิ่ง ห้ามอู้ ห้ามคุยในแถว”จ่าสั่งอีกครั้ง “ป่ะ เดี๋ยวจ่าจะรออยู่หน้ากองร้อย”
“แถวตรง หน้าเดิน”แล้วแถวก็เดินออกจากหน้ากองร้อย ผ่านไปที่หน้าลานกองพัน จากนั้นผมสั่ง “วิ่ง หน้า วิ่ง จากยอดดอยแดนไกล...”
“ไอ้เหี้ยเอ๊ย ร้องทำเหี้ยอะไรวะ”ผมได้ยินเสียงบ่นมาจากด้านท้ายแถว
“หมอบ ทั้งหมด หมอบ ไอ้สัสตัวไหนพูดเมื่อกี้”พวกในแถวงงเป็นไก่ตาแตก รุ่นใหญ่บางคนซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับผมไม่ยอมหมอบลง แต่รุ่นเล็กกับรุ่นรองหมอบครับ “มึงเก๋าเหรอถึงไม่ยอมหมอบ”ผมชี้หน้าเป็นรายตัว “เมื่อกี้ใครพูดว่าร้องทำเหี้ยอะไร”
“........”เงียบกริบครับ
“กูนับ ๑ นับ ๒ ทั้งหมดวิดพื้นท่าเตรียม”
“เตรียม”
“อย่าให้กูต้องชี้ตัวนะ กูจำเสียงมึงได้นะ ไอ้เทพ ทั้งหมดลุก แถวตอนเรียง ๔ จัดแถว”
“เฮ้”
“นิ่ง”พวกมันลดมือลง “กูไม่รู้นะว่าใครจะเก๋ามาจากไหน ตอนนี้กูคุมแถว ให้เกียรติกูบ้าง กูรู้ไม่มีใครอยากร้องเพลงหรอก แต่ธรรมเนียมทหาร วิ่งออกกำลังกายมันต้องร้องเพลง มึงเข้าใจป่ะ ด่ากู ด่าในใจก็พอ ไม่ต้องออกเสียง เดี๋ยวคืนนี้เรามาปรับปรุงวินัยกันใหม่นะ รุ่นรอง รุ่นเล็ก แถวตรง วิ่งหน้า วิ่ง จากยอดดอยแดนไกลใครจะเห็น...”
แล้วพวกเราก็วิ่งกันร้องเพลงกันไปด้วย ธรรมเนียมทหารก็แบบนี้ครับวิ่งไป ร้องเพลงไป มันก็มีแหละครับที่ไม่ชอบ ผมก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ที่ต้องแหกปากร้องเย้วๆ แต่เวลาร้องเพลงแล้ววิ่งจังหวะการวิ่งมันได้ มันจะมีจังหวะลงเท้าที่พร้อมกัน มันมีระเบียบวินัยกว่า
ผมพาวิ่ง ๒ รอบใหญ่ แล้วมาทำพีที พีทีนี่คือการวอร์มดาวน์ เมื่อกี้เราไม่ได้วร์มอัพ วิ่งเลย พอวิ่งเสร็จเราก็มาวอร์มดาวน์ ผมสั่งอะไรพวกมันทำทุกอย่างครับ มีคนทำหน้าเซ็งบ้าง แต่ผมก็จ้อง
“หน้ากระดาน ๔ แถว ปิดระยะ จัดแถว”
พรึ่บ “เฮ้”เสียงดังวิ่งมาจัดแถวกันอย่างเร่งรีบ
“เมื่อกี้มีอะไรกันวะบอมบ์ วิ่งๆไปเห็นสั่งหมอบซะหน้า บก.พัน”ผู้กองเดินมาถามผมระหว่างที่ผมเช็ดเหงื่อและกำลังจะสั่งเลิกแถว
“ไอ้ซันตดในแถวครับผู้กอง”ผมโกหกผู้กอง เพราะถ้าบอกตามตรง มีหวังไอ้เทพโดนผู้กองแดก เห็นใจดีแบบนี้ แดกหนักนะครับ หมวดบูมแดกทหารแบบไหน ผู้กองนี่หนักกว่า
“เวร ไม่ได้ขี้ไงมึงไอ้ซัน”
“ผมขี้แล้วครับผู้กอง แต่ผมลืมตด”ไอ้ซันก็ตอบแบบฮาเฮของมันไป
“เออๆ ทีหลังก็จัดการตัวเองให้เรียบร้อย ผู้กองละเกลียดนักไอ้พวกตดในแถว ยิ่งตอนผู้กองเรียนอยู่นะ ไอ้ห่า ไอ้พวกตัวสูงๆมันอยู่หน้าแล้วเสือกตดแตก ผู้กองตัวกลางๆอยู่ด้านหลังนี่ขมคอ ตอนเย็นแดกข้าวแทบไม่ลง”
“ฮ่าๆๆๆ”ฮาครืนกันทั้งแถวเลยครับ
“เออ มันจริงนี่หว่า อั้นได้ก็อั้นไว้เถอะ สงสารเพื่อน แม่งไม่รู้ไส้เน่ามากี่ชาติ ผู้กองโม้จบละ หนู เดี๋ยวเรามาแก้มือกันต่อนะ”
“ครับผู้กอง”
“ตามสบายเลยบอมบ์ เดี๋ยวผู้กองมานะ อีก ๒๐ นาที”แล้วผู้กองก็แวบไปที่บก.พัน ผมสั่งเลิกแถว
“เมื่อกี้อะไรวะบอมบ์”จ่าถามผม
“เย็นนี้ผมรวมรุ่นน้องนะครับจ่า”
“อืม ไม่จำเป็นก็อย่าลงไม้ลงมือนะ ถ้าจะเตะจะต่อยก็อย่าให้มองเห็น”จ่าพยักหน้า
“ครับจ่า”
แล้วสักพักผู้กองมาแก้มือกับอีหนูที่เล่นติดพันกันเมื่อตอนกลางวันครับ ตบกันแบบฮากระจุย อีหนูนี่มุ่งมั่นมากเลยครับ มันตบอัดผู้กองแบบไม่เกรงกลัว นายสิบบางคนที่ว่างๆก็มายืนเชียร์ จนจบเกมส์ อีหนูชนะผู้กอง
“เยสสสสสสส ชนะแล้ว”อีหนูยิ่มแป้นเลยครับ
“ฝีมือว่ะหนู ผู้กองตามแก้ไม่ทันเลย เอ้าๆ จะกินอะไร”
“หนูอยากกินผู้ชายทั้งกองร้อย”
“หื้อ เอางั้นเลยเหรอ เฮ้ย ใครสมัครใจให้หนูมันกินบ้าง”
“ผมครับผู้กอง”ไอ้เล็กยกมือขึ้นเป็นคนแรก
“ไวเชียวมึงไอ้เล็ก หนูล้อเล่นครับผู้กอง เอางี้ดีกว่าครับ ผู้กองอยากเลี้ยงอะไรหนูอ่ะครับ”
“พิซซ่าหรือเคเอฟซีดี”
“แพงนะครับ งั้น หนูกินไอติมแล้วกันครับผู้กอง”
“เฮ้ยๆ ผู้กองหวงไว้ให้เมียนะเว้ย”ผู้กองแกรีบเอามือมากุมเป้าแกไว้
“ผู้กองอ่ะ เดี๋ยวหนูก็ขึ้นไปลักหลับจริงๆหรอก ก็ไอติมในพีเอ็กซ์ไง ผู้กองเลี้ยงทั้งกองร้อยเลย แท่งละ ๕ บาทเอง”
“อ่ะๆ ก็ได้ๆ”
“ขอบคุณครับ”อีหนูยืนตรงขอบคุณผู้กอง จากนั้นก็ฮาเฮกันเข้าพีเอ็กซ์หยิบไอติมคนละแท่ง ลงชื่อผู้กองเป็นคนจ่าย ผู้กองก็ยืนกิมไอติมคุยฮาเฮกับอีหนู อีหนูมันโม้เก่งครับ เข้ากับคนอื่นได้ดี
จนเวลาพอสมควรเราไปกินข้าวอาบน้ำ แล้ว ๑ ทุ่มมานั่งรวมกันที่หน้ามุข จ่าขึ้นมานับยอดแล้วก็โยนงานให้ผมตามที่ตกลงไว้
“ทีแรกกูว่าจะเล่นให้หนัก แต่ก็ไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืด เอาเป็นว่าอย่าให้มีเรื่องแบบเมื่อตอนบ่ายแล้วกันนะ จริงๆกูคนง่ายๆ สบายๆ ไม่ค่อยชอบยุ่งกับใครอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้กูไม่ไหวว่ะ ตอนนายสิบคุมวิ่งพวกมึงก็บ่น ผู้หมวดคุมวิ่งพวกมึงก็บ่น อย่าคิดว่าไม่รู้ หูกูมันดี หูกูแม่งขี้เสือก เรื่องเหี้ยๆกูได้ยินหมดนะ ตากูก็ด้วย ใครทำเหี้ยกูเห็นหมด แต่ไม่อยากพูด จับได้เมื่อไหร่ก็รับผิดชอบกันเอง แล้วขอเตือนไว้อย่างนะ จะทำอะไร อย่าให้เดือดร้อนกับคนส่วนรวม โดนแดกคนเดียวไม่ว่า แต่ถ้าโดนแดกทั้งกองร้อยเพราะคนๆเดียว มึงเจอกูแน่”
“...........”
“ครั้งนี้ถือว่ากูเตือนเป็นครั้งที่ ๒ เรื่องเก่าไม่ใช่ว่ากูลืมไปแล้ว ยังไม่ลืมนะ อยู่กันแบบชิวๆ บ่นได้แต่อย่าให้ใครได้ยิน โลกนี้มีทั้งคนใจดี และคนใจร้าย เจอคนไม่เอาเรื่องมึงโชคดีไป แต่ถ้าเจอคนเอาเรื่องหนักๆ ก็เป็นความซวยไป จะซวยรายบุคคลหรือซวยทั้งหมดก็ว่ากันอีกที”
“...............”
“อย่างทีบอก ใครเก๋า มางัดกับกูได้ทุกเวลา รุ่นใหญ่มีใครมีอะไรไหม”ตอนนี้รุ่นใหญ่ไม่โดนนะครับ ที่โดนผมอบรมจะมีรุ่นรองกับรุ่นเล็ก
“อย่างที่ไอ้บอมบ์พูดนะ คือ เราพี่น้องเราคุยกันง่ายกว่า อย่าให้ต้องเหมือนรุ่นก่อนๆที่ปลุกกันมาแดกกลางดึก ทั้งมือทั้งตีนที่เตะต่อยกนเป็นว่าเล่น ยุคนี้มันหมดยุคโดนมือโดนตีนกันแล้ว เราคุยกัน ง่ายๆแบบลูกผู้ชายเนอะ แล้วก็ช่วยๆกัน หลบอู้ก็ให้อยู่แบบพองาม ไม่น่าเกลียดเกินไป จะบ่นใครด่าใครนินทาใครก็เอาแบบเบาๆอย่าให้เขาได้ยิน หรือมีอะไรไม่พอใจ กูไม่ไหวแล้ว เดินมาบอกกันตรงๆ อีกไม่กี่วันรุ่นน้องจะขึ้นกองร้อยแล้ว ก็ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้รุ่นน้อง คือจริงๆ กูคิดเอาไว้ว่าเย็นนี้มึงจะโดนหนัก แต่ไอ้บอมบ์มันใจดี ไม่อยากแดกน้อง นี่ถ้าเมื่อตอนเล่นพีทีเกิดไอ้บอมบ์ตอบผู้กองไปว่า มีคนบ่นในแถว กูว่ามีเฮทั้งกองร้อยแน่ๆ ก็อย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้วกันนะ อยากให้จบกันเฉพาะแค่รุ่นพี่รุ่นน้องเรา ไม่ต้องไปโดนผู้บังคับบัญชาลงโทษ กูเหนื่อย เข้าใจป่ะ อีหนูจะพูดอะไรไหม”
“พูดอะไรอ่ะพี่มหา”อีหนูทำหน้าเหรอหรา “จริงๆแล้วพี่ก็เป็นตุ๊ดนะ ตลกๆ วันๆก็เหมือนคนบ้า ก็อยู่กันแบบตลกๆนี่แหละ พี่บอมบ์ พี่มหา แกเป็นคนฮาๆ รั่วๆ พวกเอ็งอย่าคิดว่าพวกพี่แกเป็นคนไม่จริงจังนะ พี่บอมบ์พี่มหาเขาเก๋าอยู่ในตัว นี่ไม่ได้ยกหางกันเองนะ ใครที่ใกล้ชิดพี่บอมบ์พี่มหาก็น่าจะรู้แหละว่าพี่แกเป็นคนยังไง เก๋าจริงอะไรจริง เออ แล้วก็อย่างที่คนอื่นพูดไป รู้เวลา เวลาไหนเวลาจริง เวลาไหนเวลาเล่น เป็นเกม บางครั้งพวกเอ็งก็ต้องตามน้ำเพื่อให้สังคมส่วนรวมเขาอยู่รอด เพราะถ้าพวกเอ็งเอาแต่สบายในบางครั้ง มันก็อาจจะทำให้ส่วนรวมเขาเดือดร้อนได้เหมือนกัน ใครรำคาญขี้หน้าก็ทนเอาหน่อยแล้วกัน อีกไม่กี่เดือนพวกพี่ก็จะปลดกันแล้ว ไม่ได้อยู่จนรากงอกหรอก ทนๆกันไป พี่ๆก็ทนพวกเอ็ง เอ็งก็ทนพี่ๆหน่อยแล้วกัน ไม่จำเป็นก็ไม่ยุ่งไม่ก้าวก่ายกันเท่าไหร่ อยู่ให้เป็น แค่นี้ก็มีความสุข”
“........”จากนั้นก็มีรุ่นใหญ่อีก ๒-๓ คนพูดคุยก่อนที่จะแยกย้าย จริงๆผมก็โมโหนะ แต่ไม่อยากลงโทษครับ กลัวจะพลั้งมือ ผมมันคนมือหนักด้วย ก็เลยใจเย็นๆ เราคุยกันง่ายๆดีกว่า ถ้าไม่ไหวจริงๆผมก็จะนายสิบ ผู้หมวด ผู้กอง จัดการเองแล้วกัน เราก็ทำได้แค่เตือนภายในกันเองเท่านั้นแหละครับ นี่ถ้าเมื่อก่อนนะ โดนรวมโดนมือโดนตีนกันไปบ้างละครับ อย่างผมตอนนั้นที่โดนเรียกเข้าไปหลังห้องน้ำที่เกือบจะมีเรื่องกัน จริงๆก็มีนั่นแหละ ต่อยซะหน้าหันซะขนาดนั้น ผมไม่อยากใช้กำลัง เพราะกำลังมันไม่สามารถตัดสินอะไรได้หรอก อยู่กันแบบง่ายๆ สบายๆ ไปเรื่อยๆ ไม่ต้องมีเรื่องกับใคร แค่นี้ก็สุขใจละครับ
“ตรง”
“มีอะไรเหรอบอมบ์ อบรมรุ่นน้องเหรอ”
“ครับผู้หมวด”
“อืม คุยกันรู้เรื่องเหรอ ผู้หมวดคุยกับพวกนี้ทีไรไม่เห็นจะรู้เรื่อง ต้องแดกถึงจะรู้เรื่อง”
“พวกผมคนนะครับผู้หมวด ไม่ใช่ควาย”
“หึหึ มหา ช่วยถือของหน่อยดิ”แล้วมหาก็ตามหมวดบูมเข้าไปในห้อง
“ปกติกูว่าถูกแดกแน่ๆ แต่นี่ผู้หมวดใจดี ทำอะไรก็ระวังแล้วกัน กูนับ ๑ ถึง ๕ ทุกคนต้องหายไปจากหน้ามุข เอานะ ๑ ๒”
“พรึ่บ” ปึงๆๆๆๆๆ ต่างคนต่างวิ่งแตกกระจายออกไปเหมือนผึ้งแตกรัง รุ่นใหญ่ก็ทยอยเดินออกไปครับ ส่วนผมลงไปด้านล่างไปหาอะไรกิน มหาตามหมวดบูมลงมาด้านล่าง ถือลังอะไรสักอย่างไปต๊อกๆไป
อบรมกันจบแล้วเรื่องก็จบไว้แค่นั้นครับ ผมขี้เกียจคิดเยอะ เอาเวลาคิดอะไรดีๆดีกว่า คนจะดีไม่ดีเราก็ทำได้แค่เท่าที่เราสามารถ เกินกว่านี้ให้คนใหญ่คนโตเขารับผิดชอบกันเองครับ
นั่งคุยกับจ่าที่หน้ากองร้อย พักหนึ่งไอ้มหามันมาครับ มันลากเก้าอี้อีกตัวมานั่งตรงข้ามผม โม้ไปเรื่อยเปื่อย
“อ่ะพี่บอมบ์”อีหนูยื่นถุงน้ำดำมาให้ผม ผมทำหน้างงๆ
“อ้าว แล้วกูล่ะหนู อะไรๆก็ไอ้บอมบ์นะ”ไอ้มหาท้วงอีกหนู
“ก็แบ่งกันกินไง ก็ถ้าไม่อยากกินน้ำก็กินหนูแทนก็ได้ หนูไม่เรื่องมาก”อีหนูนั่งลงบนตักไอ้มหา
“ฮ่าๆๆ กล้าพูดเนอะ เออ หนู มึงนี่เนื้อแน่นนะเนี่ย”ไอ้มหาคลำๆตามต้นแขนอีหนู “ล่ำกว่ากูอีก”
“ก็หนูเป็นผู้ชายนี่”
“ถ้าเอ็งเลิกเป็นตุ๊ดได้นี่ จ่าจะบวชให้เลยนะหนู”จ่าแซวขำๆ
“จ่าก็ พูดอะไรก็ไม่รู้ มันเลิกยากอ่ะ ตอนเด็กๆแม่คงลืมพาไปฉีดวัคซีนกันเป็นตุ๊ดแน่เลย โตมาถึงได้เป็นแบบนี้”
“ฮ่าๆๆๆ”ขำกันทั้งวง มึงก็คิดได้นะ มันชอบพูดว่ามันเป็นตุ๊ด แต่ตัวจริงมันแมนครับ ไม่ได้ตุ๊ดจ๋าแบบพวกนำเชียร์อะไรเหล่านั้น
“พอแล้วมั้ง หนักนะเนี่ย”
“ไม่สิ ไม่ใช่เมียพี่มหานี่”
“เมียกู กูก็บ่นเหมือนกัน เออ ไหนว่ามีเรื่องจะเล่าให้ฟังล่ะ”
“เรื่องอะไรอ่ะพี่มหา”
“ก็เมื่อตอนกลางวันไง”
“ลืมไปแล้วว่าจะคุยอะไร อ้าว ๒ ทุ่มแล้ว ใครเข้าเวรโรงอ่ะ เวรโรงๆ”อีหนูตะโกนเรียกเสียงดัง
“คร้าบบบบบบบบบบ ใส่รองเท้าอยู่พี่ แปบนึง”เสียงไอ้เล็กดังมาแต่ไกลเลยครับ ครู่หนึ่งมันวิ่งมาหาพวกผม “พี่หนูคิดถึงผมมากเหรอ ไม่เห็นหน้านิดเดียวก็เรียกหากันละ”
“ทะลึ่งแล้วมึง”
“หึหึ”แล้วมันก็ชะโงกหน้าไปที่บก.ร้อย “พัน เข็มขัดกับนกหวีดล่ะ อยู่ไหน เอามาให้หน่อย”มันถามเพื่อนรุ่นเดียวกัน ครู่หนึ่งไอ้พันเอาให้ “จ่าครับ เซ็นให้หน่อยครับ”เข้าเวรโรงต้องมีหนังสือเขียนบอกว่ายอดนอนคืนนี้เท่าไหร่ จะได้รายงานให้กับนายทหารเวรกองพันทราบ
“อืม”แล้วจ่าก็เซ็นเรียบร้อย “๓ ทุ่มปิดไฟห้องน้ำ ไฟใต้ถุนให้เรียบร้อยนะ แล้วอย่าให้ใครเพ่นพ่านด้วย ถ้าไม่มีใครนอนมาบอกจ่า จ่าจะจับเข้าเวรโรงให้หมด”
“ครับจ่า”
“อีหนู คืนนี้ก็หลับนอนให้เรียบร้อยนะ อย่าลงมาล่าผู้ชายละมึง”ผมแซวขำๆ
“ชิ พี่บอมบ์ก็ หนูมีฝรั่งทั้งคนแล้วเหอะ”
“เออ เล็ก ลูกมึงจะคลอดวันไหนอ่ะ”ผมหันไปถามไอ้เล็ก เมียมันท้องแต่มันก็ยังเล่นกับอีหนูกิ๊กๆกั๊กๆ
“กุมภาอ่ะพี่บอมบ์ ไม่รู้ผมจะโดนภาคกองร้อยด้วยรึเปล่า กลัวว่าลูกจะคลอดช่วงผมออกฝึก แต่หมอเขานัดปลายเดือนกุมภานู้น”
“อืม”ผมพยักหน้าเบาๆ
“แล้วลูกพี่บอมบ์ล่ะ”
“เดือนหน้าเหมือนกัน”
“พี่บอมบ์จะมีลูกกี่คน ผมอยากมีสัก ๕ คน”
“มีแค่นี้ก็พอแล้วละ ดื้อ ลูกผู้ชายด้วย แฝดก็ซน นี่ยังเหลือไอ้ตัวเล็กอีก บ้านแตกแน่ๆ คอยดูอีกปี สองปี ไอ้ซันแต่งงานกับเมียมัน บ้านพี่บ้านมัน คงได้วุ่น”
“เมียพี่ซันสวยนะ โคตรแจ่มอ่ะ”
“พูดงี้เมียได้ยินมันไม่เสียใจเหรอวะ”ไอ้มหาถาม
“เมียผมก็สวยนะพี่ พูดก็พูดนะพี่มหา ถ้ามันได้ยินมันบ้องหูผมเลยอ่ะ ฮ่าๆๆๆ”
“ถุ้ย มีแต่ไอ้พวกกลัวเมีย”จ่าแกทับถมพวกผม “ลูกน้องหมู่ปืนกลกู กี่รุ่นต่อกี่รุ่น มีแต่ไอ้พวกกลัวเมียทั้งนั้นเลยว่ะ ไอ้บอมบ์ก็คน ไอ้มหาก็คน ไอ้ซันอีก นี่มึงอีกคนไอ้เล็ก ไอ้นุก็ด้วย มีใครไม่กลัวเมียเหมือนจ่าบ้างสักคนไหมวะ”
“หนูไง หนูไม่มีเมีย หนูมีสามี”อีหนูยกมีขึ้น
“ฮ่าๆๆๆๆ”
“จ่าแน่ใจเหรอครับว่าไม่กลัวเมีย เห็นวันก่อนน้องโอมมาตามถึงกองร้อย บอกแม่ให้ไปเก็บผ้าที่ตากไว้ ผมเห็นจ่าวิ่งดุ๊กๆ ขึ้นมอไซด์กลับบ้านทันที”ไอ้มหาพูดจุดอ่อนของจ่า
“เฮ้ยๆ นั่นมันคนละประเด็นแล้ว วันนั้นเมียจ่าโทรมา แล้วฝนจะตกด้วย ไม่รีบไปเก็บฝนสาดเสื้อผ้าก็เปียกหมดดิวะ”จ่ารีบแก้ตัว
“จริงเหรอครับจ่า เดี๋ยวต้องถามน้องโอม”ไอ้มหายิ้มแป้น
“ไม่มีว่ะ เรื่องกลัวเมีย มีแต่รักเมีย”
“จ่าครับ ผมขออ้วกจ่าสักครั้งได้ไหมครับ อ้วกกกกกกกกกกก”ผม ไอ้มหา อีหนู โก่งคอล้อเลียนจ่า
“เออ พวกมึงนะ เนรคุณจ่าชัดๆ แทนที่จะเข้าข้างจ่าสักคนไม่มี ฮ่าๆๆๆ”จ่ามองหน้าผม แล้วพวกเราก็ฮากันทั้งวง พูดเรื่องเมียทีไรมันช้ำหัวใจ จะหือจะอือกับเขามากไม่ได้ เมียอยู่ในตำแหน่งที่น่าเทิดทูน