ตอนที่ ๘๗ ขอสาย
“อืม”ผมพยักหน้ารับรู้เมื่อหมวดเต้ยบอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ก็สวยดีครับ แต่เด็กเก่าผมสวยกว่านี้เยอะ ฮ่าๆๆๆ กูไม่ยอมอ่ะ ของกูนี่คัดยิ่งกว่าไข่ไก่เบอร์ศูนย์
“แล้วเมียเก่าหมวดเต้ยล่ะ ไม่มีโผล่มาเลยนะ”
“ไม่โผล่มาก็ดีแล้ว มหาจะได้ไม่ต้องปวดหัว”
“หายใจเข้าหายใจออกนี่เป็นมหาหมดเลยนะ”
“อ้าว ก็กูรักของกูนี่หว่า ไม่เข้าไปดูสักหน่อยเหรอ”
“ไม่อ่ะ ให้เขาคุยกันไปก่อน คงไม่เจอกันนาน”
“ใจกว้างเนอะมึง ไม่หึงบ้างไง”
“หึงสิ แต่แสดงออกไม่ได้ ค่อยไปยกยอดเอาทีหลังแล้วกัน เกิดผลีผลามไปฉุดกระชากลากถูหมวดบูมมา คนจะแตกตื่นเอา”
“เออ ก็จริงของมึงนะ”
“หมวดเต้ยจะเอาอะไรบ้างอ่ะ”ไอ้มหาเดินมาถาม
“ก็กางเกงคนละตัวกับมึงไง รองเท้าคู่นั้นสวยดีนะ”
“ก็เอาดิ”ไอ้มหาหันไปตามที่หมวดเต้ยชี้
“คู่เก่ายังโอเคอยู่เลย รอคราวหน้าแล้วกัน”
“เดี๋ยวกูไปดูเสื้อกล้ามแปบนะ”ผมมองไปโซนเสื้อกล้ามครับ ใกล้หน้าร้อนแล้ว ซื้อไปใส่นอน
หมวดบูมกับแฟนเก่ายังคุยกระหนุงกระหนิง ผมแอบเหลือบมองบ้างเป็นบางครั้ง บางครั้งพี่แกก็ส่งสายตาเชิงขอโทษมาให้ผม ก็หึงนะ แต่ไม่ได้ไปดราม่าตบชิงวิ่งกระชากแบบในหนัง ผมอายครับ เดี๋ยวเราไปคุยกันนอกรอบว่าอะไรยังไง
จนครู่ใหญ่ครับ หญิงสาวคนนั้นเดินออกไปกับเพื่อนหน้าตาอมยิ้ม จะไม่อมยิ้มได้ไงมีการแลกเบอร์กันด้วยล่ะมั้ง แล้วหมวดบูมแกเดินมาหาผม
“จะเอาอะไรอีกไหม”ผมถาม
“ไม่อ่ะ”
“อืม งั้นจ่ายตังค์”ผมหยิบกางเกงจากพี่แกมา แล้วจากมือหมวดเต้ยด้วย จ่ายรวมกันทีเดียวครับ มื้อนี้ผมเลี้ยงแล้วกันสำหรับเสื้อผ้า
แล้วก็โทรนัดกันว่าใครอยู่ตรงไหน ฝรั่งไปส่งเมียไอ้เล็กแล้วครับ อีหนูเลยเดินมากับไอ้เล็ก ๒ คน ส่วนฟางเดินมากับไอ้ซันมาล่ำลากับผมแล้วลากลับไป เหลือชายฉกรรจ์ ๗ คนเตรียมกลับกองพันครับ
เรากลับมาถึงช่วงก่อน ๖ โมงเย็นครับ วันนี้กองร้อยเงียบเหงา นิ่งๆ พวกผมจะมีศัพท์เฉพาะนะครับ ถ้าวันไหนไม่มีอะไร ก็จะถามกันว่า วันนี้นิ่งไหม ถ้าไม่นิ่งนั่นคือมีงาน ถ้านิ่งคือเงียบๆเอื่อยๆเฉื่อยๆ ไม่มีอะไรมาก คำว่าแจงเหมือนกัน ก็เป็นศัพท์ที่ใช้เฉพาะในกลุ่มทหาร คำจริงๆมาจากคำว่าชี้แจง แต่จะเรียกสั้นๆว่าแจง คนที่ชอบแจงคือ แบบสั่งให้เข้าเวรก็ชี้แจงว่าติดนั่นติดนี่ แบบเกี่ยงงานอ่ะครับ หรือไม่ก็จะแจงเพื่อน คือ กล่าวหาว่าคนนั้นเป็นแบบนั้นแบบนี้ คนชอบแจงก็มีเยอะครับในกองร้อย บางคนนี่พูดเล่น แต่บางคนนี่แจงเขาไปทั่วจนคนอื่นเขาเกลียดไปเลยก็มี
เขาไปกินข้าวกัน แต่ผมไม่ได้ไปร่วมกินด้วย ขึ้นไปนั่งเล่นห้องหมวดบูม พี่แกทำหน้าเหมือนมีอะไรติดคอ ตลกดีครับ
“วันนี้โกรธไหม”
“เรื่อง?”
“ก็ที่แฟนเก่ามากอดไง”
“อ๋อ ไม่โกรธอ่ะ แต่หึงนะ”
“อืม กลัวว่าจะโกรธ”
“ไม่หรอก โตแล้ว แล้วเป็นไง เจอแฟนเก่า”
“ไม่มีใครอยากเจอหน้าแฟนเก่าหรอกนะ มันไม่ใช่ของเก่าที่คนต้องการ แต่มันเป็นคนเก่าที่เราไม่ต้องการ”
“อ้าว ก็เผื่ออยากกลับไปคบ”
“ไม่อ่ะ เลิกกันไปแล้วคือเลิก แต่ก็งงนะ ตอนบอกเลิกก็มาบอกว่าอยากให้เราเจอคนใหม่ พองี้มาบอกว่าคิดถึง”
“อืม คงอยากจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมล่ะมั้ง”
“ไม่รู้สิ ไม่รู้เขาคิดยังไง แต่บูมไม่กลับไปแล้วละ ไม่อยากกลับไปเอาใจเหมือนที่เคยทำ”
“ทำไมล่ะ ดูหวานดีออก เอาอกเอาใจกัน”
“เหอะ ไม่อ่ะ ตอนนี้ไม่อยากจะเป็นฝ่ายเอาใจใคร เพราะโดนพี่บอมบ์เอาใจจนเคยตัวแล้วเนี่ย”
“หึหึ ปากหวาน ก็ดี แต่ถ้าอยากกลับไปลิ้มลองก็บอกนะ”
“กูจะเตะมึงอ่ะ ข้อหาไล่กูไปจู๋จี๋กับแฟนเก่า”
“ฮ่าๆๆๆ โอเคๆ”
“ไม่หิวเหรอ”
“เดี๋ยวรออบรมช่วงเย็นก่อนแล้วค่อยไปหาอะไรกินเลยทีเดียว”
“ขับรถไปส่งหน่อยดิ”
ได้รับคำสั่งก็ต้องปฏิบัติตามครับ ผมบอกสิบเวรว่าจะไปส่งหมวดบูม สิบเวรไม่ว่าอะไรครับ ก็ไปส่งพี่แกที่บ้านอีกหลังหนึ่ง ไม่ใช่บ้านที่พี่ติพ่อหมวดบูมอยู่นะครับ บ้านอีกหลังที่ซื้อเอาไว้ บ้านเยอะซะเหลือเกิน แต่แฟลตในกองพันหมวดบูมคืนให้กองพันไปแล้ว ที่ก่อนแกมีที่อยู่ ๓ ที่แน่ะ ที่แฟลตละ ๑ ที่บ้านใหญ่คือบ้านพี่ติ และบ้านเดี่ยวที่แกซื้อไว้ คนละหมู่บ้านกับหมวดเต้ยแต่ไม่ไกลกันมากครับ
แวะหาของกินนิดหน่อยก่อนจะเข้าบ้าน ย่านนี้ผู้คนพลุกพล่านดีครับ กินเสร็จเรียบร้อยเข้าบ้าน ผมหยิบโน๊ตบุ๊คที่ติดตัวมาด้วยเปิดดูกิจการของตัวเอง และหากิจการที่น่าสนใจจะลงทุนด้วย หมวดบูมใส่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวเดินขึ้นเดินลง
“เซ็กซี่นะ”
“กูไม่มีนม ไอ้สัส”
“อ้าว แล้วนั่นอะไร ลองดูดหน่อยซิ ว่าใช่นมหรือเปล่า”
“วู้ว มีแต่จวยอ่ะ ดูดไหม”
“ฮ่าๆๆๆ”
“อาบน้ำก่อนนะ”
“อื้ม”
“ไม่อาบด้วยกันเหรอ”
“อาบก่อนเลย เดี๋ยวผมดูงานแปบ”
“กูอุตส่าห์ยั่วนะเนี่ย”
“รู้ เดี๋ยวคืนนี้เจอกัน”
“งั้นกูอาบน้ำเสร็จ กูจะไปขอเปลี่ยนเวรกับจ่าเต่า”จ่าเต่าคือนายทหารเวรวันนี้ครับ
“ตามใจ”
“ไม่ง้อสักนิดเลยเหรอ กูเสียใจ ขอร้องไห้เป็นสายเลือด”
“พูดมาก เดี๋ยวกูเย็บยันเช้าหรอก สัส ไปอาบน้ำเร็วๆ”
“คร้าบบบบบบบบบบ พี่บอมบ์”