ตอนที่ ๘ คอนเสิร์ต
“ปรี๊ด ออกไปตั้งแถวใหม่เลยพวกมึง เข้ามาแทนที่จะรีบเข้าที่กลับมายืนคุยกัน แต่ละหมวดตอนเรียง ๔ หน้าโรงเลี้ยงจัดแถว”เสียงสั่งดังห้าวหาญ พวกผมตบเสียงดังที่ข้างขาวิ่งออกไปจัดแถวใหม่ที่หน้าโรงเลี้ยง
“หมอบ ลุก หมอบ ลุก หมอบ ลุก หมอบ ลุก หมอบ ลุก”กระจายตัวกันออกไปด้านข้างๆ ทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด หึ โดนแดกกันอีกแล้วครับเพื่อนร่วมโลก
“กูจะให้โอกาสพวกมึงอีก ๑ ครั้ง ถ้าพวกมึงยังกวนตีนกูอีกนะ มึงได้กินข้าวลำบากแน่ หน้ากระดาน ๔ แถว จัดแถว”
พรึบ เฮ้ เสียงดังพร้อมเพรียงกัน ผมรีบจัดแถวอย่างรวดเร็ว เล่นไปตามเกมส์ของเขา “นิ่ง”ลดมือลงสะบัดมาที่เดิม “ขวาซ้ายหัน”
“๑ ๒”หมวด๑ หมวด๒ จะซ้ายหัน ส่วนหมวด ๓ หมวด ๔ จะขวาหัน
“๒ แถวด้านในวิ่งเข้าโรงเลี้ยง วิ่งหน้าวิ่ง”
“๑ ๒”ตบเท้าก้าวแรกวิ่งเข้าโรงเลี้ยง ผมเองก็วิ่งไปตามเขา เข้าไปในโรงเลี้ยงยืนตามวงข้าวที่ได้จัดไว้เรียบร้อยแล้ว
“ขวาซ้ายหัน”สิ้นคำสั่งเราก็หันเข้าหาโต๊ะอาหารที่ตั้งอยู่เบื้องหน้า “เอาให้ดีนะพวกมึง กินให้เร็ว กินให้เงียบ อย่าคุยกัน ใครคุยแม้แต่นิดเดียว ทั้งหมดเลิกกิน ทราบ”
“ทราบ”
“มึงรับปากกูแล้วนะ นั่ง”สั่งนั่งเรา กระทืบเท้าซ้ายแล้วเก้าเข้าไปนั่งอย่างรวดเร็วขัดฉากขึ้นมาอย่างไม่ลืมตัว
“ฉาก”
“แป๊ะ”เสียงตบฉากดังแน่นเปรี๊ยะลั่นโรงเลี้ยง
“๕ ฉาก”
“แป๊ะ แป๊ะ แป๊ะ แป๊ะ แป๊ะ”ตบจนแขนเจ็บ
“กล่าวคำปฏิญาณ”
“ข้าวทุกจาน อาหารทุกอย่าง อย่ากินทิ้งขว้าง เป็นของมีค่า...”
“ปรี๊ดๆ เฮ้ย พวกมึงเสียงดังได้แค่นี้เหรอ กูว่าไม่ต้องกินดีกว่ามั้ง เอาใหม่”
“ข้าวทุกจาน อาหารทุกอย่าง...”เสียงดังกระหึ่มโรงเลี้ยง มีเสียงเท่าไหร่ตะเบ็งออกไปเท่านั้นจนจบคำกล่าวปฏิญาณ
“กินให้เร็ว กินให้ไว กินให้อิ่ม เชิญรับประทาน”
“ขอบคุณครับ”ยื่นมือไปข้างหน้าพูดขอบคุณเสียงดังจากนั้นก็ลงมือ ค่อยๆจับช้อนเบาๆไม่ให้เกิดเสียง ปากก็หุบสนิทจะมีเพียงเสียงกระซิบกระซาบเบาๆเท่านั้น กินได้ไม่กี่คำกำลังมันส์เลยครับ
เกร๊งงงงงงงง ตุเล้งๆๆ เช้ง วับ เสียงแก้วน้ำหล่นลงกระทบพื้นพวกผมอ้าปากค้าทันที
“ปรี๊ด เฮ้ย กูบอกแล้วไงว่าอย่าเสียงดังน่ะ ได้ พวกมึงทำกันเองนะ”เสียงหมู่อาร์ตดังขัดจังหวะการกิน พวกผมต้องวางช้อนลงโดยปริยาย “ตอนเรียง ๔ หน้าโรงเลี้ยง จัดแถว”
“เฮ้”ลุกขึ้นจากโต๊ะวิ่งออกไปจัดแถวอย่างรวดเร็ว มีเสียงบ่นดังออกมาเป็นระยะ บางคนก็พูดด่ากันเอง โทษคนนั้นด่าคนนี้ บางคนก็ด่าหมู่อาร์ต ส่วนผมกับไอ้มหาตวงได้แต่หุบปาก เดี๋ยวเกิดมันได้ยินขึ้นมาจะซวยเอา ผมไม่ค่อยชอบมีเรื่องไหร่ ไม่โดนใครเพ่งเล็งอ่ะดีที่สุด แต่ถ้ามีเหตุต้องใช้กำลังเนี่ยผมสู้ไม่ถอย ถ้ามันไม่กราบตีนผม ผมไม่หยุดแน่
“หาพื้นที่เฉพาะตัว”กระจายตัวออกไปไม่ให้เกะกะซึ่งกันและกัน “พุ่งหลังท่าเตรียม”
“เตรียม”ทวนคำสั่งกันเสียงดัง แอบได้ยินบางคนด่าแม่ซะด้วย หึหึ
“๕๐ ยก”
“๕๐ยก”ทวนจำนวนครั้ง พอสั่งเริ่มเราก็พุ่งหลังจนครบแล้วจัดแถววิ่งเข้าไปกินข้าวอีกครั้งหนึ่ง แต่ไม่ใช่โต๊ะเดิมนะครับ โต๊ะใครจานใครก็ไม่รู้ แถวใหม่ด้วย ไอ้จานที่ผมได้กินมันกำลังตักหมูทิ้งไว้พอดีเลยครับ มาถึงไม่ต้องสนใจอะไรแล้วครับ จะรังเกียจรังงอนใครก็เลือกทำเอาเอง ตอนนี้คือการเอาตัวรอดเท่านั้น ใครเรื่องมากก็เป็นผู้พ่ายแพ้ไป
“เฮ้ยๆ เอาน้ำแกงมาหน่อย น้ำแกงหมดยังวะ”ผมถามคนอื่น
“กูเทน้ำยาล้างจานใส่แล้ว”คนที่ถือหม้อแกงพูด
“เออๆ ไม่เป็นไร เอาแบบนี้ก็ได้วะ”ข้าวเปล่าๆก้นหม้อกับมือเปล่าๆ เปิบข้าวก้นหม้อมือเปล่า กินให้อิ่ม เมื่อกี้ยังไม่อิ่มเลยครับสั่งลุกซะก่อน ไม่มีอายอะไรทั้งนั้น คนอื่นเห็นผมกินข้าวเปล่าๆ ไอ้พวกที่ไม่อิ่มก็มาหยิบจับคนจะก้อน ๒ ก้อน คนที่อายๆก็ทำเป็นพูดดูถูก ผมไม่สนใจคร้าบบบผม ท้องอิ่มไว้ก่อนว่ะ ฮ่าๆๆๆ
พักผ่อนจนถึงบ่ายโมงครึ่ง เราก็ไปทำการฝึกกันต่อครับ ฝึกท่าทางที่ยังไม่แม่น ตอนนี้ท่าซ้ายหันขวาหันเริ่มจะลงตัวกันแล้วเพราะโดนลงโทษกันไปเยอะ ท่าเดินแถว ท่าวิ่งก็กำลังฝึกอยู่ พอได้นิดหน่อยครับ ฝึกใต้ร่มไม้แบบชิวๆ ในใจก็คิดถึงใครบางคน ดวงหน้าที่มีรอยยิ้มประดับอยู่ลอยเด่นขึ้นมาในห้วงความคิด เขาไปไหนของเขานะทำไมไม่บอกกันบ้างสัก ไม่คิดถึงกันบ้างรึไงวะ จะรู้บ้างมั้ยว่าไอ้บอมบ์หัวเกรียนๆคนนี้มันเพ้อ ฮ่าๆๆๆๆๆ เพ้อจริงๆละครับ
“บอมบ์ๆดูนั่นดิ”ไอ้มหาตวงสะกิดผมยิกๆเมื่อมันเห็นอะไรบางอย่างที่สะดุดตามัน ผมหันไปมองยังจุดสนใจข้างหน้า
หุ่นโปร่งบาง ร่างขาวจั๊วะ กันชนที่นูนเด่น เอวบาง สะโพกอวบ ขาขาวโพลน โอ้โห เซ็กซี่ว่ะ หญิงสาววัยรุ่นซึ่งกำลังเป็นจุดสนใจยืนซื้อลูกชิ้นปิ้งอยู่ใต้ร่มไม้ไม่ไกลจากพวกผมเท่าไหร่นัก ใบหน้ายั่วๆทำเอาผมซู่ซ่า
“ชอบเหรอมหา จีบเลยดิ”ผมสะกิดได้มหา
“เฮ้ยๆ พวกมึงให้มันน้อยหน่อยๆ เก็บงูบนหัวของพวกมึงบ้างเหอะ ห่า”จ่าทักท้วงเตือนสติพวกผมแต่สายตานี่ไม่ได้ต่างจากพวกผมเลยสักนิด “ห่าเอ๊ย กูไม่น่าเกิดก่อนพวกมึงเลยว่ะ นี่ถ้ากูยังหนุ่มนะกูจะไม่ปล่อยให้มันผ่านไปหรอก”จ่าพูดทำหน้าเพ้อฝัน
“ก็จีบเป็นเมียน้อยเลยสิครับจ่า”ไอ้โป้พูดขึ้น
“ส้นตีนกูนี่ พอๆพวกมึง จ้องมากมึงก็ทำอะไรเขาไม่ได้หรอก ไอ้มหากูน้ำลายเยิ้มเชียว ฮ่าๆๆๆ”จ่าชี้มาที่ไอ้มหาตวง
“เปล่าครับจ่า”ปากปฏิเสธแต่มือของมึงเนี่ยเช็ดที่มุมปากเรียบร้อยแล้วไอ้มหา ฮ่าๆ
ฝึกกันต่อจนถึงบ่าย ๓ กว่าๆ จากนั้นก็เลิกฝึกสำหรับวันนี้ เดินแถวไปเก็บผ้าที่ตากไว้เมื่อเช้า เอาเสื้อผ้าไปเก็บแล้วลงมาด้านล่าง มาออกกำลังกายเล่นกีฬาครับ ใครจะเล่นฟุตบอลก็ลงไปที่สนาม ใครจะเล่นกีฬาอะไรก็แยก นับจำนวนคนว่าไปไหนเท่าไหร่ ให้ครูนายสิบตามไปคุม วันนี้ชักจะขี้เกียจ ผมไม่ได้ยกมือไปไหนครับ จะชวนไอ้มหาตวงมันไปเตะบอลไม่รู้ว่ามันจะเตะบอลเป็นรึเปล่า เลยนั่งคุยเป็นเพื่อนมันไปเรื่อยเปื่อย
“นี่อะไร ไอ้พวกที่ไม่เล่นกีฬาใช่ไหม”หมู่อาร์ตเดินมาถามพวกผม
“ครับ เล่นกีฬาไม่เป็นครับ”ใครคนหนึ่งตอบเสียงดัง
“เหรอ เล่นไม่เป็นสักอย่าง กูไม่เชื่อว่ะ ทั้งหมดมานี่เลย มึงเห็นไหมเขาทำอะไรกัน มึงเป็นเป็นไม่เป็นมึงก็ไปมั่วๆกับเขาดิวะ อยากสบายใช่มั้ย ได้ หน้ากระดาน ๕ แถว หน้าศาลาน้ำจัดแถว”เอาแล้วไง นั่งได้ไม่ถึง ๑๐ นาทีก็หาเรื่องอีกแล้ว จัดแถวกันทำอะไรน่ะเหรอ ไม่ต้องสืบครับ โดนแดกชัวร์ สารพัดท่าครับจนถึงเวลา ๕ โมงนั่นแหละครับ เอาเถอะ ให้เขาวันหนึ่ง วันนี้ผู้หมวดไม่อยู่เขาเป็นใหญ่
นอนตั้งแต่หัวค่ำเราก็ดีใจ ปิดไฟลงอย่างรวดเร็ว คุยกับไอ้มหานิดหน่อย โคตรคิดถึงแม่เลยครับ อยากกลับไปนอนตักแม่ นอนอยู่นี่ร้อนก็ร้อน แล้วห่าอะไรก็ไม่รู้มากมาย นอนตักแม่ถึงแม่จะบนแต่ก็บ่นด้วยความรัก มาอยู่นี่เขาด่าเขาว่าไม่ต่างจากหมูหมาเลยสักนิดเดียว ไม่พอใจเขาก็ลงโทษ เฮ้อ สุดหล่อของผมคร้าบบบบบบบ เมื่อไหร่คุณจะมาซะที รู้ป่ะว่าหัวใจดวงน้อยๆดวงนี้มันทรมานแค่ไหน ก๊ากๆๆๆ เพ้อก่อนนอนครับ
ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดด ปรี๊ด ปรี๊ด ปรี๊ด ปริ๊ด เสียงนกหวีดดังขึ้นในยามดึกของวันอาทิตย์ ผมไม่รู้ว่าตอนนี้กี่โมงแล้วเพราะหลับไปนานพอสมควรแล้วหลับสนิทไม่ฝันเลยสักนิดเดียว ได้ยินเสียงนกหวีดดังขึ้นก็ต้องสะดุ้งมาในห้วงอาการหลับใหล
“อรุณสวัสดิ์ครับสิบเวร”ใครไม่รู้แหกปากเป็นคนแรก แต่เสียงที่พวกผมได้ยินต่อมาก็คือ “ไม่ต้องใส่ถุงเท้า รีบใส่รองเท้าแล้ววิ่งลงไปรวมด้านล่าง เร็วสิวะ”แล้วเสียงโหวกเหวกโวยวายของใครหลายๆคนดังขึ้นมา
จัดแถว เช็คยอดทหารใหม่จนครบทุกคน จากนั้นก็ไปยังฟังคอนเสิร์ตครับ คืนนี้มีคาราบาว ตั้งแต่ ๕ ทุ่มกว่าๆ ยัน ตี๑ คอนเสิร์ตใหญ่ พุ่งหลัง ลุกหมอบกันให้กระจาย ผมมองหาไอ้มหาก็ไม่เจอมัน ไม่รู้ว่ามันกระเด็นกระดอนไปอยู่กับใครที่ไหน โดนซ่อมใหญ่ครับวันนี้ ๒ ชั่วโมงเต็ม แทบขาดใจตาย ชื้นเหงื่อ ชื้นไคลไปหมดทั้งตัว เหนียวเหนอะหนะ แดกเสร็จก็ให้ไปอาบน้ำ แล้วน้ำในห้องน้ำ น้ำแข็งลอยตุ๊บป่องๆอยู่ ๒ อ่าง เย็นโคตรๆ อาบทั้งหมดเกือบสองร้อยกว่าคน จากนั้นก็เปลี่ยนชุดแล้วขึ้นนอนอีกครั้ง
“บาปกรรมอะไรของผมนะถึงได้มาเจออะไรแบบนี้”ไอ้มหามันบ่นพึมพำอย่างหมดอาลัยตายอยาก เวรกรรมของมึงก็เหมือนเวรกรรมของกูแหละไอ้มหา
“คิดไรมากวะ ปวดหัว”ผมพูดปัดๆ ไม่อยากจะใส่ใจมัน มันเหนื่อยมันท้อก็จริงแต่เราทำอะไรไม่ได้ ได้แต่เก็บความฝังใจฝังเอาไว้ลึกๆ
ปรี๊ดดดดดดดดดดดด ปรี๊ดดดดดดดดดดดดด ปรี๊ดดดดดดดดดดด ปรี๊ด
“อรุณสวัสดิ์ครับสิบเวร อรุณสวัสดิ์ครับครูฝึก อรุณสวัสดิ์ครับผู้ฝึก”เสียงกล่าวอรุณสวัสดิ์ดังขึ้นเป็นประจำ เก็บหมอนเก็บมุ้ง พับผ้าห่มจัดที่นอนให้เรียบร้อย ดังผ้าปูเตียงให้ตึงรีบใส่ถุงเท้าคว้ารองเท้าได้ก็วิ่งลงไปด้านล่างตั้งแถวรอ ตอนเช้าๆจะมัวแต่อึนไม่ได้ครับทำอะไรต้องไว ยิ่งเมื่อคืนโดนแดกไปไม่มีใครช้าเลยแม้แต่หน่อยเดียว ทุกคนทำอย่างเร่งรีบ มาตั้งแถวกันที่หน้าหน่วยฝึก เขาพากล่าว
“ไม่มีอะไร ที่ทหารใหม่ ทำไม่ได้ ทำไม่ไหว ทำไมทัน”พูด ๓ ครั้ง จากนั้นก็รายงานยอดของแต่ละหมวด ปล่อยให้ไปทำธุระส่วนตัว จะขี้จะเยี่ยวจะชักว่าวหรืออะไรก็แล้วแต่ ต้องทำให้ทันตามเวลาที่กำหนด
สายตาคอยจับจ้องว่าวันนี้เขาคนนั้นจะมานำพวกผมออกกำลังกายช่วงเช้าหรือเปล่า จนถึงเวลาออกกำลังกายท่ากายบริหารเริ่มขึ้นไปหลายท่าแล้ว จนถึงจัดแถวเตรียมวิ่ง เขาก็ยังไม่มา เฮ้อ กูขอแค่เห็นหน้าสัก ๑ วินาทีตอนนี้ก็หวงถึงขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่โผล่หน้ามาให้เห็นเลยสักนิดเดียว แล้วแบบนี้ผมจะมีแรงวิ่งเหรอ ฮ่าๆๆๆ ละเมอแต่เช้ามืดเลยว่ะกู
“เอ้า เฮ้ละโล่ เฮ้โลเฮลา สาระพาเฮโล ปืนเอ็มสิบหก ยกขึ้นมากล่าว พูดถึงความยาว สามสิบเก้านิ้ว น้ำหนักเบาหวิว หกจุดห้าปอนด์ พร้อมซองกระสุน ด้วยซองยี่สิบนัด และซองสามสิบนัด ยิงไกลสุดฟัด สองหกห้าสาม น้องเอ๋ยไม่ต้องถาม หวังผลเท่าไหร่ บอกให้ก็ได้ สี่ร้อยหกสิบ มีเกลียวหกเกลียว คดเคี้ยวเวียนขวา ศูนย์หน้านั่งแทน ศูนย์หลังกระดก เอ้า เฮ้ละโล่ เฮ้โล เฮ้ลา สาระพาเฮโล”
“ฮ้าว”ไอ้มหามันหาวจนน้ำตาเล็ด สภาพผมสภาพมันไม่ต่างกัน ตาโหลเป็นหมีแพนด้า ขอบตาคล้ำยิ่งกว่าเอาถ่านมาป้ายใต้ตา ฮ่าๆๆๆ เกินจริงไปหน่อย ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ แต่ถ้าตาโหลนี่มันโหลจริงๆ เบลอๆยังไงไม่รู้ ปกติก็นอนไม่เคยอิ่มอยู่แล้ว ยิ่งมาเมื่อคืนโดนแดกอีก สภาพตอนนี้ครึ่งผีครึ่งคนยังน้อยไป แต่ก็พยายามทำตัวให้กระปรี้กระเปร่าเข้าไว้ครับ ทั้งที่ง่วงมาก แต่ไม่มากเท่าอยากเห็นหน้าใครบางคนหรอก เหอๆๆ
“มันอีเหละเขะขะยังไม่ไม่รู้วะบอมบ์ กูใส่ไม่เป็นเลยว่ะ”ไอ้มหาสลัดเท้าไปมา มองที่เท้าตัวเองซึ่งตอนนี้ถูกสวมใส่ด้วยรองเท้าคอมแบท อย่าว่าแต่มันผมก็ไม่ค่อยถนัดหรอกครับ
“ของมึงขนาดพอดีเท้าป่ะ”
“อือ พอดีเลย ของโยมมึงล่ะ”
“เล็กไปหน่อย เดี๋ยวกูไปขอเขาเปลี่ยน”ผมหิ้วคอมแบทลงมาเปล่าๆ เพราะว่าเมื่อครั้งก่อนที่เขาให้เปลี่ยนข้าวของกัน ไซด์รองเท้าที่ผมควรจะได้มันไม่มีครับ เขาเลยให้รอไปก่อน
“มึงมีปัญหาตลอดนะไอ้ยักษ์ ครั้งนี้อะไรอีกล่ะ”หมู่อาร์ตจ้องหน้าผมอย่างเอาเรื่อง
“คอมแบทใส่ไม่ได้ครับ”
“ทำไมใส่ไม่ได้ แล้วที่ให้เปลี่ยนวันนั้นมึงไม่ได้เปลี่ยนเหรอ”กูอยากเอาคอมแบทฟาดปากจริงๆ ถ้าเปลี่ยนแล้วใส่ได้กูคงไม่ต้องมาทำตัวมีปัญหาแบบนี้หรอก
“เปลี่ยนแล้วครับ แต่ไม่มีขนาดที่ผมใส่ได้”เดินหากันทั้งหน่วยฝึก ถามใครก็ไม่มีใครมี คอมแบทคู่นี้มันเบอร์ ๑๐ ครึ่งครับ ได้เบอร์ ๑๑ นี่กำลังพอดีเลย
“ควาย แดกเหี้ยอะไรเข้าไปวะ ตัวใหญ่ผิดมนุษย์มนา ไม่มีใส่ก็ไม่ต้องใส่ ทำตัวมีปัญหาดีนัก”ด่าเสร็จก็ไป เออ กูก็ไม่เดือดร้อนอะไรอยู่แล้ว คิดว่ากูอยากใส่นักรึไงวะ แม่งเอ๊ย
“อ้าวยักษ์ ไม่ได้คอมแบทเหรอ”จ่าทักท้วงผมตอนที่จัดแถวกำลังจะไปกินข้าว
“ได้ครับ แต่ใส่ไม่ได้ครับครู”
“เออว่ะ จ่าลืมไปว่าเอ็งตีนใหญ่ เออๆ เดี๋ยวจ่าให้ผู้ช่วยครูไปหาให้แล้วกัน ใส่เบอร์อะไรวะ”
“น่าจะ ๑๑ หรือ ๑๑ ครึ่งครับ”
“เออๆ ไอ้อาร์ต ไอ้เหี้ย ทหารใส่คอมแบทไม่ได้มึงหาให้มันวะ”จ่าหันไปตะโกนถามหมู่อาร์ต
“หาให้แล้วพี่ คู่นี้ก็ใส่ไม่ได้คู่นั้นก็ใส่ไม่ได้ ไอ้เหี้ยนี่มันเรื่องมาก นี่ผมไม่แดกมันก็บุญหัวมันเท่าไหร่แล้ว”เอ่อ กูไปไม่ถูก มึงหาให้กูเมื่อไหร่วะ มาถึงมาด่ากูแล้วก็ไป
“เอาแล้วไอ้ยักษ์ มึงโกหกกูเหรอ”
“ผมไม่ได้โกหกครับจ่า หมู่เขายังไม่ได้หาให้ผมเลย มาถึงมาด่าแล้วเดินไป”ผมพูดไปตามความจริง
“เฮ้อ กูเครียด เออๆ เดี๋ยวกูไปหาให้เอง ครั้งนี้ถ้าใส่ไม่ได้มึงก็ไปตัดขาหาขามาเปลี่ยนใหม่ซะ หึหึหึ”จ่าแกขำเบาๆก่อนจะเดินจากไป
“เกิดมาตัวใหญ่ก็ผิดด้วยเนอะ ดีนะอาตมาสูงไม่ถึง ๑๙๐”ไอ้มหาหันมายิ้ม
“แต่มึงก็สูงตั้ง ๑๘๙ นะไอ้มหา”
“ฮ่าๆๆๆๆ”
“๒ แถวด้านใน วิ่งเข้าโรงเลี้ยง วิ่งหน้าวิ่ง”
“๑ ๒”
“๒ แถวต่อไป วิ่งเข้าโรงเลี้ยง วิ่งหน้าวิ่ง”
“๑ ๒”
“ข้าวทุกจาน อาหารทุกอย่าง อย่ากินทิ้งขว้าง เป็นของมีค่า.....”
“กระผม พลทหารพิพัฒน์..... ขออนุญาตรับอะไหล่ครับ”
“กระผม พลทหาร กอล์ฟ..... ขออนุญาตรับอะไหล่ครับ”
“อาตมา พลทหารรพีพรรณ...”
“เฮ้ยๆๆ ไอ้มหา รายงานเหี้ยอะไรของมึงวะ”
“กระผม พระมหารพีพรรณ ....”
“ไอ้เหี้ย ๑๐ ก่อนดิ พระมหาวัดไหนวะ ทหารนะ มึงเป็นทหาร เฮ้อ กูเครียดกับมึงว่ะมหา”หมู่เดินส่ายหน้ามาเมื่อเห็นไอ้มหามันรายงานผิด
“แก้ไขครับ เจริญพร กระผมพลทหารรพีพรรณ .... ขออนุญาตรับอะไหล่ครับ”ไอ้มหามันหน้ามึนเดินไปรับข้าว ผมว่ามันกวนตีนหมู่อาร์ตมากกว่าครับ เพราะหลายวันมานี่มันรายงานไม่เคยผิดนะครับ
“มึงตั้งใจหรือมึงเผลอวะมหา”ผมกระซิบถามเมื่อไอ้มหาเดินหน้าแป้นมานั่งตรงข้ามกับผม
“กูกวนตีน หึหึ”ไอ้มหายิ้มก่อนจะลงมือกินข้าวอย่างไม่ใยดีใคร ตอนนี้ไม่สนใจใครหรอกยัดห่ากันอย่างเดียว ผมเนี่ยกินวันละ ๓ จานพูนๆ ไม่ค่อยจะได้เคี้ยวหรอกครับ ใส่ปากได้กุบกับๆนิดหน่อยก็กลืนแล้วครับ ถ้ามัวแต่อ้อยสร้อยเคี้ยวข้าวให้ละเอียด วันทั้งวันเชื่อผมเถอะ ทรมานมากๆ ความหิวนี่ไม่ใช่เล่นๆนะครับ ทรมานจะตายห่า
ฉลองวันหวยออกเนอะ