- 2 -“อร่อยครับ..พี่หญิงลองทานต้มจืดลูกรอกดูสิครับ” พูดจบจัดการตักต้มจืดลูกรอกใส่ชามใบเล็กอย่างบรรจง แล้วส่งให้กับมือหญิงมุก
“ขอบใจมากจ้ะ” หญิงมุกรับมา ตักชิมสีหน้ายิ้มละไม
“พี่ชายทานหน่อยนะครับ” ไม่รอคุณชายตอบรับ เปลวเป็นธุระตักต้มจืดลูกรอกใส่ชาม
แม้ปากจะพูดแบบนั้น..แต่พอคุณชายจ้องหน้าก็หลบสายตาไม่กล้ามองตอบประมุขวังสุดหล่อ
ซึ่งมาร่วมโต๊ะด้วยชุดที่เปลวกับสนิมไม่กล้ามองตรงๆ เล่นใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงผ้าสำลี
โชว์หุ่นทรมานใจจากกล้ามแขนขาวที่โผล่พ้นออกมา..ดูตึงเปรี๊ยะเนื้อแน่นดีเหลือเกิน
คุณชายเพชรมองการเอาใจของเปลวไม่กะพริบ หน้าหล่อถึงจะนิ่ง แต่สายตาเหมือนยิ้มได้
ทำเอาเปลวร้อนวูบวาบเกิดอาการแดงไล่ตั้งแต่คอขาวลามขึ้นหน้าจนยากควบคุมไปเสียแล้ว
ปฏิกิริยาทางร่างกายเหนือการควบคุมสร้างความพึงพอใจให้คุณชาย
ยังทำให้คุณหญิงมุกแอบยิ้มไม่หุบ เมื่อลอบสังเกตสายตาพี่ชายที่จ้องมองเปลว
และเห็นเปลวมีท่าทางเขินจนปิดไม่มิดอีกต่อไป เพราะหน้าสวยอยู่ๆ ก็แดงอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยคือหลักฐาน
“ขอบคุณครับ” คุณชายรับชามต้มจืดจากเปลว สายตาไม่ละจากใบหน้าสวย จนเปลวต้องรีบหลุบตาหลบ
“ครับ” แต่ไม่ลืมขานตอบเสียงเบา ไม่เหลือความเก่งกล้าเหมือนที่อ้อนทางโทรศัพท์ให้เห็นเลย
คุณชายดูรู้เปลวเขินจริงไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำเพื่อเรียกร้องความสนใจแน่
สนิมยังดูรู้เพื่อนหายใจหายคอไม่สะดวกอยู่ กำลังสะดุดลมหายใจตัวเองเพราะเขินคนที่แอบมีใจ
เป็นใครจะไม่เขินบ้าง ก็เล่นหล่อลากออกปานนั้น ยังมีการใส่เสื้อโชว์กล้ามแขนแกร่งขาวจั๊วะอีก
สนิมเองยังแอบกลืนน้ำลายไปตั้งหลายที
ดีอย่างตลอดการทานอาหารถึงจะพูดคุยไม่มาก แต่บรรยากาศก็ดูอบอุ่นละมุนละไม
ไม่ทำให้ใครรู้สึกเกร็งหรืออึดอัด โดยเฉพาะประเด็นที่เกิดตอนหัวค่ำ
ไม่ได้ถูกหยิบยกมาพูดถึงเลยแม้แต่น้อย เหมือนทุกคนจงใจลืมไปเสียเช่นนั้น
มื้อนี้จึงอบอวลไปด้วยกลิ่นอายชื่นมื่นที่แผ่กำจายจากหนุ่มหล่อประมุขของวัง
และหนุ่มหน้าสวยที่กลายเป็นนางอายไปเสียแล้ว ส่วนสนิมกับหญิงมุก
กลายเป็นผู้สังเกตุการณ์ลุ้นตามทุกช็อตในอิริยาบทของทั้งสองคน
ทั้งที่ไม่มีใครพูดแต่ก็ทำให้บรรยกาศโดยรอบวิบวับ พานรู้สึกจั๊กจี้หัวใจคันยุบยิบยังไงไม่รู้
“เปลวเล่นดนตรีได้ไหม” หญิงมุกถาม หลังทุกคนทานกันอิ่มแล้ว
“ผมเหรอ..ไม่ถนัดเลยครับ” เปลวตอบซื่อๆ
“พี่หญิงถามเครื่องดนตรีชนิดไหน สากลหรือดนตรีไทย” สนิมเป็นคนย้ำขอความชัดเจนจากคุณหญิงมุก
“ทำไมเหรอจ๊ะ” หญิงมุกหันกลับมาถามสนิมด้วยความแปลกใจ
“อ้อ..ถ้าเป็นของดนตรีสากลล่ะก็เปลวมันเล่นไม่เป็น แต่ถ้าดนตรีไทยมันพอเล่นได้ครับ”
คำตอบของสนิม ทำเอาหญิงมุกตาโต ส่วนคุณชายที่ยกแก้วน้ำขึ้นจิบถึงกับเลิกคิ้วสูง
“หนิม..พูดมั่วแล้ว” เปลวรีบปรามเพื่อนรัก
“อ้าว..พูดเรื่องจริงมั่วที่ไหน” สนิมโต้ทันควัน
“จริงเหรอหนิม เปลวถนัดดนตรีไทย” หญิงมุกไม่ยอมปล่อยผ่าน รีบย้ำถามสนิมเอาคำตอบอย่างสนใจ
“เปลวมันตีขิมได้ครับพี่หญิง” สนิมก็ชิงตอบไม่รอช้า
“ตายจริง..ยากมากนะ พี่เคยเรียนยังไปไม่รอดเลย”
หญิงมุกหันไปจ้องเปลวด้วยความทึ่งปนชื่นชม หลังรู้ว่าเปลวตีขิมได้
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกพี่หญิงไปฟังหนิม..เปลวเคยตีตอนโชว์พิเศษ
ทางผู้จัดการเขาจ้างครูมาฝึกให้ ตีได้แค่เพลงเดียวเองครับ”
เปลวออกตัว ไม่อยากให้คุณหญิงมุกดาเข้าใจผิดไปใหญ่
เรื่องที่ตีขิมเกี่ยวเนื่องกับงาน แถมยังเล่นได้แค่เพลงเดียวอีกต่างหาก
“เปลวเล่นขิมเพลงอะไรได้ครับ” เป็นคุณชายเพชรที่แทรกถามขึ้น
“เพลงใกล้รุ่ง เพลงพระราชนิพนธ์ของในหลวงครับพี่ชาย”
เปลวก็ตอบตามจริง เพราะฝึกตีขิมเพลงนี้สำหรับโชว์ชุดพิเศษ
เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของในหลวง
ซึ่งทางคณะโชว์จัดเป็นไฮไลท์ให้เดี่ยวขิมโชว์มีเปลวเป็นคนตีขิม..สร้างความประทับใจให้คนดูมาแล้ว
“ชักอยากฟังแล้วสิ พอจะเล่นให้พี่ฟังได้ไหมครับ” คุณชายขอฟังเอาดื้อๆ
เปลวก็คิดไม่ถึงว่าจะถูกขอให้เล่นขิมจากคุณชายเพชร
“พี่ก็อยากฟังจ้ะ ตีขิมให้พี่ฟังหน่อยสิเปลว”
หญิงมุกเร่งเร้าอีกคน ทำเอาเปลวเกิดอาการอึกอักปฏิเสธไม่ออก
“เปลวไม่มีขิมนี่ครับ” จำใจหาข้ออ้างให้ไว
“ที่ห้องดนตรีมีอยู่จ้ะ พี่เรียนแล้วไม่ได้เรื่อง ไปกันเลยไหมพี่อยากฟังเปลวเดี่ยวขิมแล้วสิ” หญิงมุกมัดมือชกเสียเลย
“เปลวกลัวตีไม่จบ ไม่ได้เล่นนานแล้วครับ” เปลวพยายามหาเหตุที่จะมาช่วยยื้อไว้สุดกำลัง
“ถ้ามีคนช่วยเล่น พอไหวไหมจ๊ะ” หญิงมุกรีบยื่นข้อเสนอ
“พี่หญิงหมายความจะช่วยเปลวตีขิมหรือครับ” เปลวคาดหวัง
“เปล่าจ้ะพี่หมายถึงพี่ชายเพชรต่างหาก ขิมมีตัวเดียวคงช่วยไม่ได้
พี่มีไอเดีย..เพลงใกล้รุ่งพี่ชายเพชรเป่าแซกโซโฟนได้ไพเราะ
เป็นเครื่องเป่าที่พี่ชายถนัดมากที่สุด ลองเอาเครื่องดนตรีสากลกับดนตรีไทยเล่นด้วยกันดู
หญิงจำได้ว่า..พี่ชายมีโน้ตเพลงนี้อยู่นี่ค่ะ” หญิงมุกปิดท้ายด้วยการหันไปถามคุณชายเพชร
ชนิดไม่รอให้ใครเป็นฝ่ายปฏิเสธได้เลย เธอจัดแจงเสนอไอเดียให้ทั้งคู่
ผสมผสานระหว่างแซกโซโฟนกับขิม เป่าโดยคุณชายเพชรและเดี่ยวขิมโดยเปลว
ในเพลงพระราชนิพนธ์ของในหลวง ‘ใกล้รุ่ง’ ทำเอาทั้งคู่ไม่มีใครสามารถปฏิเสธเธอได้สักคน
“โน้ตมีครับ แต่พี่ไม่แน่ใจจะไปด้วยกันได้ พี่เองไม่เคยเป่าแซกกับขิมเลยนะหญิงมุก
แต่ลองดูก็ไม่เสียหาย” คุณชายเพชรมาถึงเวลานี้ ได้แต่สนับสนุนแนวคิดของหญิงมุก
เป็นอันสรุปทั้งหมดยกขบวนมาที่ห้องดนตรี
เป็นห้องเก็บเสียงไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป มีเปียโนตั้งเด่นเป็นสง่าและยังมีเครื่องดนตรีอื่นอีก
กีต้าร์ แซกโซโฟน ขิม เก็บในตู้กระจกบานใหญ่ป้องกันฝุ่นละอองผ่านการดูแลรักษาอย่างดี
เปลวกำลังตรวจเช็คขิมก่อนจะทำการโชว์ฝีมือที่ออกตัวว่าร้างลามานาน
ส่วนคุณชายก็ลองเป่าแซกเพื่อเช็คเสียงดูเช่นกัน จนพร้อมกันแล้วผู้ฟังที่เป็นผู้จุดประกาย
ให้เล่นดนตรีซึ่งมีความต่างชนิด ทั้งสนิมกับหญิงมุกนั่งตรงชุดรับรองคอยชมอย่างจดจ่อ
หนุ่มหน้าสวยกับประมุขวังสุดหล่อ ซึ่งคล้องสายแซกโซโฟนที่คอ
ยืนอยู่ไม่ห่างเปลวซึ่งนั่งบนตั่งไม้สำหรับตีขิม โดยเครื่องสายดนตรีไทยช่างโดดเด่นวางอยู่ด้านหน้าเรียบร้อย
เปลวถือไม้สำหรับตีลงขิมไว้พร้อมสรรพ ด้านหน้ามีตะแกรงวางโน้ตเพลง ได้ฤกษ์บรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์...
เสียงกังหวานใสเกิดจากมือเรียวขาว ซึ่งจับด้ามไม้เคาะลงสายขิมจนเกิดเสียงไพเราะเสนาะจิต
ใบหน้างามตั้งใจจดจ้องอย่างใช้สมาธิ มุมนี้กลับดูมีเสน่ห์สะกดตรึงสายตาคนมองจนไม่อาจละสายตาได้
เสียงเป่าแซกโซโฟนดังรับ เกิดการผสมผสานระหว่างเครื่องดนตรีทั้งสองชนิด
หนึ่งมาจากซีกโลกตะวันตกอีกหนึ่งเป็นของไทย กลับไม่เสียอรรถรสในการฟังแม้แต่น้อย
ใช่มีแค่เสียงเพลงที่ทำให้หญิงมุกกับสนิมตาลอยเคลิบเคลิ้มอมยิ้มอยู่ตลอด
แต่เป็นเพราะความเท่ของหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่เป่าแซกโซโฟน
ในขณะสายตาคมกลับจับนิ่งเพียงใบหน้าสวยไม่วางตา ช่างเป็นภาพหวานสะกดตรึงผู้ชมทั้งสอง
เหมือนหลุดเข้ามาอยู่ในบรรยากาศของคู่รักที่กำลังร่วมบรรเลงดนตรี เข้าขาสอดคล้องรับกันดียิ่ง
เปลวตีขิมละเมียดละไม ในขณะเสียงเป่าแซกคุณชายมีพลัง หนึ่งหวานละมุนหนึ่งเท่ระเบิดชวนลุ่มหลง
บทเพลงใกล้รุ่งที่เกิดจากเครื่องดนตรีซึ่งมีแหล่งกำเนิดคนละซีกโลก ได้สร้างความประทับใจให้ผู้ฟังจดจำไม่รู้ลืม
“แปะๆๆ..เยี่ยมมากเลยค่ะ” เสียงปรบมือดังขึ้น เมื่อเสียงเพลงเริ่มแผ่วทิ้งท้ายก่อนจบลงไป
ทั้งคุณหญิงมุกและสนิมพร้อมใจปรบมือชื่นชม สมเป็นการแสดงที่ต้องยกนิ้วให้เลย
“หึหึ..ต้องชมเปลว เสียงขิมฟังกังวานเพราะมาก”
คุณชายรีบยกความดีความชอบให้เปลว รอยยิ้มหล่อกับสายตาอบอุ่นยังคงจ้องเปลวนิ่ง
“ไม่หรอกครับ เปลวเล่นไม่ล่มก็เพราะพี่ชายเป่าแซกช่วยต่างหาก พี่ชายเป่าแซกเก่งสุดๆ
เปลวถึงมีสมาธิตีขิมไม่สะดุดเล่นได้จนจบเพลง” กลายเป็นต่างคนต่างชม
เปลวสบตาตอบแล้วก็ต้องรีบหลุบหลบ เมื่อหัวใจเต้นรัวแรง
รู้ตัวดีขืนมองหน้าคุณชายล่ะก็ ได้เปิดเผยสิ่งที่ซ่อนไว้ข้างในแน่
“แหม..ชมกันไปมาไม่มีใครยอมรับความดีความชอบ หญิงตัดสินให้ก็แล้วกัน
ทั้งคู่เล่นได้เข้าขาที่สุด งานเลี้ยงต้อนรับเปลวเชิญผู้หลักผู้ใหญ่มาร่วมเป็นร้อย
หญิงว่าให้เปลวเดี่ยวขิม โดยมีพี่ชายเป่าแซกเหมือนวันนี้ รับรองต้องเป็นไฮไลท์ให้ผู้คนต้องประทับใจแน่
สองหนุ่มแห่งวังมณีรมย์ประยุกต์เครื่องดนตรีสองชนิด บรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ในหลวง
มีใครจะไม่พูดถึงคะ ตกลงตามนี้เนอะพี่ชาย” คุณหญิงมุกเสนอไอเดียขึ้นอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ดูเป็นงานใหญ่ไปเสียแล้วสำหรับเปลว
“พี่หญิงครับ งานเลี้ยงต้อนรับใครนะครับ” เปลวไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน
“เราจำต้องจัด เปลวคือทายาทของท่านอา พี่ชายเชิญผู้ที่เคารพให้มารับรู้
เปลวคือทายาทวังมณีรมย์ เรามีกำหนดจัดกันในอาทิตย์หน้า ปล่อยนานจะเป็นข่าวเสียก่อน
ต้องรีบจัดเลี้ยงต้อนรับประกาศให้สังคมรับรู้เปลวจะได้เป็นที่รู้จัก ในฐานะหม่อมราชวงศ์ทองเปลว
ทางวังมณีรมย์เป็นผู้ให้ข้อมูลเอง ดีกว่าให้คนเก็บเอาไปพูดผิดๆ” หญิงมุกให้เหตุผลเปลว
“ครับพี่หญิง..ผมต้องเตรียมตัวยังไงบ้างครับ” เปลวเข้าใจดีแล้ว
“เรื่องงานเลี้ยงเปลวไม่ต้องกังวล แค่เป็นเจ้าภาพวุ่นวายต้อนรับแขกเหรื่อ
อาจเหนื่อยหน่อย..พอจะไหวไหมจ๊ะ” หญิงมุกพูดยิ้มๆ
“แค่นี้ไม่เหนื่อยหรอกครับ อาชีพนางโชว์เหนื่อยกว่า”
เปลวมีติดตลกตอบหญิงมุกกลับไป แต่หญิงมุกไม่ขำด้วย
“เรื่องนี้สำคัญทีเดียว อาชีพนางโชว์ไม่มีผลต่อพวกพี่เลยสักนิด
แต่จะมีผลกับคนรอบข้าง เปลวรับแรงกดดันได้ไหม” หญิงมุกดูจริงจังมาก
“พี่หญิงต้องการบอกอะไรครับ” เปลวถามตรงๆ หญิงมุกหันมองหน้าคุณชายเพชรเพื่อขอความเห็น
คุณชายเอามือลูบปลายคางไปมาเบาๆ แล้วถือโอกาศเป็นคนตอบคำถามเปลวเสียเอง
“เปลวครับ อาชีพนางโชว์ไม่ได้น่ารังเกียจในสายตาพี่กับหญิงมุก
แต่มีคนไม่น้อยที่คิดว่าเป็นอาชีพของสาวประเภทสอง กะเทย เกย์ ตุ๊ดแต๋ว
ซึ่งทุกคนถ้าให้แค่ชมเพื่อความบันเทิงยอมรับกันได้ แต่ถ้าใครรู้อาชีพเปลวคือนางโชว์
คำถามตามมาแน่นอนครับ ทายาทของท่านอามีอาชีพนี้ได้ยังไง
ประวัติความเป็นมาของเปลวไม่มีใครรู้ พี่ไม่เห็นความจำเป็นต้องประกาศ
พี่ขอให้เปลวเลี่ยงเรื่องนี้ได้ไหม รอให้ทุกอย่างลงตัว ถึงตอนนั้นเปลวมั่นคงในฐานะดีแล้ว
ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปสนใจอะไรถ้าต้องตกเป็นข่าว
ระหว่างนี้พี่ไม่อยากให้เกิดผลกระทบกับเปลว เข้าใจพี่ใช่ไหม”
คุณชายส่งสายตาบวกน้ำเสียงที่ใช้กับเปลว เต็มไปด้วยความนุ่มนวลระมัดระวัง
ไม่ให้เปลวคิดในแง่ลบ ทำเอาเปลวตื้นตันใจในความอารีที่สองพี่น้องมอบให้
“พี่หญิงครับ เปลวยินดีตีขิม โดยมีพี่ชายเพชรช่วยเป่าแซกโซโฟน
แต่เปลวมีข้อแม้ข้อหนึ่ง อยากขอร้องพี่ชายกับพี่หญิงมุกให้โอกาสเปลวได้ทำอะไรบางอย่าง
เปลวมีเหตุผลของการกระทำ หวังว่าพี่ทั้งสองจะไม่ห้าม รับปากเปลวได้ไหมครับ”
เปลวกลับใช้ลูกอ้อน น้ำเสียงแววตาและท่าทางทำเอาสองพี่น้องราชนิกุลไม่มีใครกล้าปฏิเสธ
ทั้งที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเปลวต้องการจะทำอะไรกันแน่
“ตกลงครับ พี่รับปาก” คุณชายตอบรับคนแรก
“ได้สิจ๊ะ พี่มั่นใจเปลว” สองพี่น้องตกปากรับคำ ทำให้รอยยิ้มสวยพลันปรากฏบนหน้างาม
เล่นเอาความสว่างพุ่งเข้าชนม่านตาคมคุณชายถึงกับอึ้งเลยเชียว
รอยยิ้มกว้างซึ่งเต็มไปด้วยความดีใจสมหวังของคนที่มีใบหน้าสวยงามเป็นต้นเหตุ
“ขอบคุณครับ เปลวสัญญาจะไม่ทำให้พี่ชายกับพี่หญิงผิดหวังแน่ ไว้ถึงเวลาค่อยรู้นะครับ”
เปลวยกมือกระพุ่มไหว้นอบน้อม คุณหญิงมุกดาถึงกับส่งสายตาเอ็นดูให้อย่างหมดใจ
“มีอยู่เรื่อง ที่พี่อยากขอ” คุณชายใช้น้ำเสียงฟังดูจริงจังมาก
“ครับ” เปลวนึกสงสัยไม่ต่างกับสนิมและหญิงมุก พร้อมใจหันมองคุณชายซึ่งกำลังเอ่ยขอกับเปลว
“อย่าอ้อนใครแบบนี้ได้ไหม ยกเว้นพี่กับหญิงมุก” พูดจบหน้าหล่อพลันแดงเห่อขึ้นทันควัน
สนิมพอเห็นถึงกับกลั้นขำท้องเกร็ง หญิงมุกเกือบหลุดหัวเราะเช่นกัน
ยกเว้นเปลวก้มหน้าหลุบต่ำ ตอบอ้อมแอ้มไม่เต็มเสียงเพราะกำลังรู้สึกเขินเป็นที่สุด
“เปลวจะอ้อนพี่หญิงมุกกับพี่ชายเท่านั้น” ยิ้มหล่อโชว์ฟันขาวผุดบนใบหน้าคมคร้ามทันที
ทั้งคู่หารู้ไม่ ได้ทำให้ผู้มีส่วนรู้เห็นอยู่ในเหตุการณ์ แทบกัดลิ้นชักดิ้นชักงอตามกันแล้ว
“ดึกแล้ว พี่ว่าเราพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้เช้าตื่นไหวไหม พี่จะพาปั่นจักรยานทัวร์รอบวัง
คงใช้เวลาเกือบชั่วโมง เจอกันที่โถงหน้าบันใดตีห้าครึ่ง พอไหวไหมครับ..เปลว..หนิม”
คุณชายหลังจากยิ้มมีความสุข ได้นัดหมายตารางกิจกรรมพาทัวร์วังช่วงเช้าตรู่
“ได้ครับ..ไหวครับ” สนิมตอบก่อน เปลวขานรับตามหลัง
“ถ้างั้นเจอกันพรุ่งนี้ ราตรีสวัสดิ์ฝันดีครับ” เสียงทุ้มนุ่มฟังดูอบอุ่น บวกแววตาอ่อนโยน
ทำเอาเปลวที่เผลอสบด้วยต้องรีบหลบ นึกโมโหตัวเอง ที่เขินจนไม่กล้ามองหน้าคุณชาย
ไม่รู้ทำไมถึงได้เขินเอาเป็นเอาตายไปซะนี่
“ราตรีสวัสดิ์ครับพี่ชาย..พี่หญิง/ฝันดีครับ” เปลวกับสนิมไม่ลืมกล่าวลา
ก่อนพากันแยกย้ายกลับเข้าห้องพักผ่อน ทุกฝีก้าวที่เดินกลับห้อง
เปลวรู้สึกเหมือนตัวลอยๆ ส่วนสนิมได้แต่แอบขำเปลว ในใจพานคิดหนนี้เปลวคงไปไหนไม่รอด
เมื่อมาเจอเทพบุตรสุดหล่อแถมยังอบอุ่นอ่อนโยนอย่างคุณชายเพชร..เปลวหัวดื้อก็อ่อนระทวยได้เหมือนกัน..
ขอโทษนะคะที่มาเสียดึก คือติดธุระยุ่งวุ่นวายอยู่ค่ะ
เจอกันอีกทีวันอังคารนะคะ ตอนนี้มีงานยุ่งติดขัดอยุ่นิดหน่อยค่ะ
ขอบคุณมากนะคะ ที่ติดตามรอคอยกันเสมอ
