Part 12
เช้าตรู่เปลวกับสนิมตื่นตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง พากันใส่ขาสั้นสวมเสื้อยืด
สำหรับปั่นจักรยานสำรวจอาณาเขตวังมณีรมย์ ตามที่ได้นัดกับคุณชายไว้ สองหนุ่มมาถึงโถงหน้าบันไดก่อนเวลานัดสิบนาที
กลับต้องแปลกใจที่เห็นประมุขวังมณีรมย์นั่งจิบกาแฟ อ่านหนังสือพิมพ์รออยู่ก่อนแล้ว
คุณชายเพชรรัตน์ในลุคกางเกงขาสั้นสวมเสื้อแขนกุดสีขาวทั้งชุด ถุงเท้ายังสีขาวดูสะอาดตา
เสริมให้ใบหน้าหล่อซึ่งโกนหนวดไม่มีเคราเขียวเกลี้ยงเกลาแลหมดจด
สมเป็นคุณชายสูงศักดิ์เพียบพร้อมไปด้วยสง่าราศี ทั้งที่อยู่ในชุดลำลองกลับดูดีไม่มีที่ติ
คุณชายวางหนังสือพิมพ์ เงยมองสองหนุ่มซึ่งเดินตรงเข้ามายังชุดรับแขกที่คุณชายนั่งอยู่
ตาคมถือโอกาสสำรวจไปด้วย สนิมมีสีหน้าสดชื่นบ่งบอกพักผ่อนมาเต็มที่
แสดงว่าปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดีทีเดียว เปลวก็ไม่แตกต่าง
ใบหน้าสวยไม่มีร่องรอยอิดโรยเช่นคนอดนอนแต่อย่างใด ดวงตาหวานเป็นประกายสดใส
กำลังจ้องคุณชายเช่นเดียวกัน ก่อนจะเฉมองของว่างเครื่องดื่มที่มีให้เลือก ชา กาแฟ
กระทั่งนมร้อนก็เผื่อเอาไว้ด้วย เปลวแค่ต้องการอาศัยเป็นจุดยึดของสายตามากกว่า
“อรุณสวัสดิ์ครับ” คุณชายแอบยิ้มมุมปาก ก่อนทักทายสองหนุ่ม
“อรุณสวัสดิ์ครับ/อรุณสวัสดิ์ครับ” สองหนุ่มพร้อมใจทักทายตอบ สนิมยิ้มอารมณ์ดี
แต่เปลววางหน้าลำบาก หลังดวงตาคมเข้มของคุณชายจ้องมองไม่เลิก พลันรู้สึกเขินจนไม่รู้จะวางหน้ายังไงดี
“ทานของว่างรองท้องไว้หน่อย” คุณชายไม่คิดแกล้งเปลวไปกว่านี้ ชวนทานชา กาแฟ นมร้อน
ยังมีคุกกี้เป็นของรองท้อง สองหนุ่มไม่อิดออดตอบรับคำชวนพากันหย่อนตัวนั่งฝั่งตรงข้าม จัดแจงบริการตนเองทันที
“หลับสบายไหม” คุณชายถามเป็นกันเอง โดยหยิบเรื่องใกล้ตัวมาเป็นหัวข้อสนทนา
“สบายครับ..ครับ” เปลวกับสนิมขานตอบพร้อมกัน
“พี่หญิงมุกไม่ไปจริงหรือครับ นึกว่าพี่หญิงจะเปลี่ยนใจเสียอีก อุตส่าห์ลุ้นจะได้เจอ” สนิมเป็นคนตั้งคำถามบ้าง
“หญิงมุกไม่ชอบปั่นจักรยาน..ชอบเล่นโยคะ สายหน่อยยังมีธุระสำคัญที่ต้องทำ
ถึงตอนนั้นเปลวกับหนิมคงได้เจอ” คุณชายแจงเสียงนุ่ม ฟังอบอุ่นเช่นเคย
“ธุระอะไรครับ เหมือนจะเกี่ยวกับพวกผม” สนิมถามคุณชายด้วยความสงสัย เพราะคุณชายดันพูดให้คิด
“พี่กับหญิงมุกปรึกษากัน เรื่องจัดครูให้หนิมกับเปลวดูแลติวเข้ม เกี่ยวกับการวางตัว
รวมถึงเรื่องที่พี่ตั้งใจให้เราสองคนเรียนให้จบปริญญา หลังจากนั้นจะเรียนโทหรือเอกเพิ่ม
ก็แล้วแต่พวกเราจะเห็นควร ขั้นแรกคงต้องให้จบป.ตรี กันเสียก่อน” คุณชายชี้แจงรายละเอียด
ด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มบวกน้ำเสียงทุ้มนุ่ม รับรู้ได้ในความห่วงใยและการเอาใจใส่เป็นพิเศษ
“ขอบคุณครับ..ขอบคุณครับ” สองหนุ่มพร้อมใจยกมือกระพุ่มไหว้ ชนิดไม่ต้องรอให้มีใครบอก
ต่างรู้สึกซาบซึ้งในความอารีของสองพี่น้องที่คอยดูแลทุกอย่างให้พวกเขา
เรื่องเรียนต่อเป็นหนึ่งในความฝันที่เปลวและสนิมเคยคุยกันไว้ ถ้ามีโอกาสก็อยากเรียนให้ได้ปริญญาสักใบ
ติดขัดเรื่องฐานะการเงินกับชีวิตความเป็นอยู่ไม่อำนวย ทำให้ความฝันนี้เป็นแค่ฝันอยู่ตลอดมา
แต่วันนี้ฝันนั้นกำลังจะกลายเป็นจริงแล้ว
“คงต้องเหนื่อยกันหน่อยนะ เพื่อเตรียมตัวเรียนต่อมหาวิทยาลัย เรื่องนี้พี่รบกวนหญิงมุกเป็นธุระดูที่เรียนให้ด้วย
นี่ก็ใกล้เปิดภาคการศึกษาใหม่อีกไม่เท่าไหร่แล้ว เปลวกับหนิมคงได้เป็นนักศึกษาในรั้วมหา’ลัย ช่วงนี้อดทนกันหน่อยนะครับ”
คุณชายยิ้มอ่อนโยนให้ทั้งคู่ ดูเหมือนผู้ใหญ่ใจดีมีเมตตาต่อเด็กไม่ผิด สนิมตื้นตันใจเผลอน้ำตาซึม
เปลวเองถึงกับเงยหน้าสบตาตอบลืมเขินไปชั่วขณะ มีแต่ความซาบซึ้งอบอุ่นในหัวใจ
จนอดไม่ได้ที่จะยกมือไหว้คุณชายกันอีกครั้ง ผิดแต่ว่าการไหว้ในครั้งนี้
ดวงตาสวยของเปลวจ้องหน้าหล่อด้วยความรู้สึกเทิดทูนรักเคารพ
จนไม่อาจปิดบังซ่อนเร้นความรู้สึกที่สื่อผ่านดวงตาไว้ได้แม้แต่น้อย
คุณชายก็คิดไม่ถึง ว่าจะได้รับรู้ความรู้สึกพิเศษจากหนุ่มหน้าสวยสื่อจากดวงตา
หัวใจหนุ่มใหญ่พานเต้นไม่เป็นส่ำ ความรู้สึกพิเศษที่เปลวถ่ายทอดผ่านแววตามาให้นั้น
นอกจากเคารพขอบคุณยังแฝงความหมายบางอย่างที่หนุ่มวัย 34 ซึ่งมีประสบการณ์เรื่องรักใคร่พอสมควร
ไม่ใช่พวกอ่อนหัดจนมองไม่ออก สายตาที่เปลวใช้ไม่ต่างกับสาวๆ ที่เคยสารภาพรักกับคุณชายที่ผ่านมาหลายต่อหลายคน
ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับคุณชายจะเคยพบเจอ เพียงแต่หนนี้เป็นหนุ่มหน้าสวย
พอประจักษ์ชัดเปลวรู้สึกพิเศษโดยไม่ต้องคาดเดาให้ยุ่งยาก
กลับเป็นคุณชายพลันเขินทำเป็นเนียนหยิบแก้วกาแฟขึ้นจิบ ไม่กล้าสบตาตอบเปลวดื้อๆ
“ขออภัยครับเจ้านาย ผมเตรียมจักรยานไว้ให้เรียบร้อยแล้วครับ” บ่าวรับใช้วัยฉกรรจน์หน้าตาบ้านๆ
แต่กลับมีทีท่านอบน้อมค้อมตัวต่ำจนแทบจะเป็นคลานเข่าเข้ามารายงาน ช่วยเบรกสถานการณ์ได้ถูกจังหวะ
“ขอบใจมากพุฒ เราไปกันเถอะ” คุณชายพูดจบ หันมาชวนเปลวกับสนิมซึ่งทานของว่างไปพอสมควร
ลุกเดินไปยังหน้าตึก เพื่อปั่นจักรยานชมวังตามหมายกำหนดการ
“เออ..มีอยู่สองคันเองหรือครับ” สนิมถามให้แน่ใจ
“ทำไมหรือครับ หนิมไม่สะดวกซ้อนท้ายกันหรือ”
คุณชายพูดเสร็จ ไม่ลืมถามกลับ เมื่อเห็นหน้าสนิมลำบากใจฉายชัด
“ปัญหาคือผมกับเปลว เราไม่สามารถปั่นให้ใครซ้อน ยิ่งคุณชายบอกปั่นเป็นชั่วโมง
ลำพังปั่นให้ตัวเองยังไม่แน่ว่าจะรอดเลย ขืนมีคนซ้อนผมว่าไม่น่าจะตลอดรอดฝั่ง”
สนิมอธิบายปัญหาที่อยู่ในใจ คุณชายเลิกคิ้ว ก่อนหันมาขอความเห็นเปลว เพื่อเป็นการยืนยันคำพูดของสนิม
“หนิมพูดถูกครับ จะรบกวนไปไหมครับ ถ้าเปลวจะให้หนิมไปซ้อนท้ายจักรยานพี่ชาย เดี๋ยวคันนี้เปลวปั่นเองครับ”
เปลวเสนอทางเลือกในการแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ เดิมทีสองหนุ่มเข้าใจว่าจักรยานมี 3 คัน
คือต่างคนต่างปั่นไม่ต้องแบกภาระรับน้ำหนักใครเพิ่ม..ก็คงพอไหวถูไถกันไปได้
“ไม่ไหวน่าเปลว ทำอย่างกับเปลวปั่นจักรยานเก่ง อย่าลืมสิตั้งแต่เป็นนางโชว์เปลวควบคุมอาหารดูแลรูปร่าง
จะเอาแรงที่ไหนไปปั่นจักรยานเป็นชั่วโมงได้เล่า เอาอย่างนี้เถอะเปลวไปซ้อนท้ายพี่ชาย หนิมปั่นคันนี้เอง
ไว้เปลวอยากลองปั่นก็ปั่นให้พี่ชายซ้อน เมื่อยก็มีพี่ชายคอยสับเปลี่ยนให้ แบบนี้ลงตัวดีสุด
ถ้าให้หนิมปั่นโดยไม่มีใครซ้อนท้าย ก็ไม่เท่าไหร่หรอก” สนิมชิงขัดเสียก่อน คุณชายเห็นท่าจะคุยกันอีกยาว
ขืนให้ทั้งคู่เกี่ยงกันอยู่แบบนี้คงไม่ได้ไปไหนพอดี จึงเป็นคนตัดบทรวบรัดขึ้นเสียเอง
“ทำตามข้อเสนอหนิมเถอะ เปลวมานั่งซ้อนท้ายพี่ ถ้าพี่เริ่มเหนื่อยเปลวก็ผลัดให้พี่ซ้อนบ้าง
พี่ไม่กินแรงหรอก เราเปลี่ยนกันนะ” เมื่อเจอไม้นี้เปลวหมดโอกาสที่จะปฏิเสธ เป็นอันต้องก้มหน้ารับคำไม่มีทางเลี่ยงได้
“ครับ” คุณชายลอบอมยิ้ม เปลวรีบก้มหน้าหลุบต่ำ แต่ยังทันเห็นใบหน้าสวยขึ้นสี
ไม่ต้องสงสัยหม่อมราชวงศ์ทองเปลว เขินอีกแล้ว
ฝ่ายสนิมหลังจัดแจงวางแผน..ผลักดันให้เพื่อนได้ใกล้ชิดคุณชายสมกับความตั้งใจแล้ว
ก็คอยลุ้นอย่างมีความสุข โชคเข้าข้างมีจักรยานอยู่เพียง 2 คัน คงเป็นของคุณชายกับคุณหญิงคนละคัน
ทำให้สนิมเกิดไอเดีย จนเพื่อนรักต้องยอมไปซ้อนท้ายคุณชายโดยไม่มีข้อโต้แย้ง
ภาพที่เปลวนั่งซ้อนจักรยานคุณชาย เห็นแล้วพลอยมีความสุขไปด้วย
ก่อนทั้งหมดจะปั่นจักรยานออกตัวไป คุณชายแอบหยอกเปลวทิ้งท้าย
สนิมเกือบหลุดหัวเราะขำก๊ากเข้าให้ ดีที่เอามือปิดปากไว้ได้ทัน
“เกาะเอวพี่ด้วยสิ เดี๋ยวหงายหลังพลัดตกไม่รู้นะ พี่เครื่องดีเซลแรงดีไม่มีตกนะครับ ไปแล้วนะ”
ประโยคที่ทำสนิมขำกลิ้ง โชคดีปั่นตามหลัง เปลวจึงไม่เห็นเพื่อนปิดปากแน่น ไม่ให้หลุดเสียงหัวเราะออกมา
ส่วนเปลวมีเกร็งแต่ก็ยอมเอามือกอดเอวสอบ ของผู้ที่เอ่ยอนุญาตแกมขู่กลายๆ ใบหน้าขาวแดงก่ำเพราะเขินอาย
รับรู้ถึงผิวเนื้อใต้ฝ่ามือให้ความอบอุ่นปลอดภัยเป็นที่พึ่งให้ไว้วางใจไร้ซึ่งคำอธิบาย
รู้แค่ว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นเปลวไม่คิดจะได้สัมผัสมาก่อน ภายใต้อากาศแสนสดชื่นอบอวลไปด้วยกลิ่นดอกไม้นานาพันธุ์
พากันบานรับแสงแรกของอรุณตามทางทอดยาวที่จักรยานสองคันเคลื่อนผ่าน สร้างความตื่นตาตื่นใจให้สองหนุ่มยิ่งนัก
ทั้งสวยงามไม่ต่างได้มาเที่ยวพักผ่อน ตามบ้านพักตากอากาศประมาณนั้น จากที่เปลวเกร็งในตอนแรก
พอผ่านไปสักระยะก็เริ่มคุ้นชินกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่โชยให้ได้สัมผัส เป็นกลิ่นผู้ชายซึ่งเปลวรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
แผ่นหลังกว้างมองเห็นตรงหน้าในขณะนี้ ให้ความรู้สึกปลอดภัยเสมือนกำแพงใหญ่คอยคุ้มกันภยันตราย
จึงทำให้ยิ้มสวยบนใบหน้างามปรากฏอย่างไม่รู้ตัว
คุณชายเพชรรัตน์ไม่มีโอกาสได้เห็นรอยยิ้มนี้ เนื่องจากเป็นคนปั่นจักรยานให้หนุ่มร่างเพรียวซ้อนท้าย
แต่กระนั้นคุณชายก็ยังรับรู้เรียวแขนขาวที่กอดกระชับรอบเอว วนมาประสานนิ้วตรงหน้าท้อง
หัวใจหนุ่มใหญ่เจ้าของวังมณีรมย์เต้นรัวกระชั้น ที่แน่ๆ คุณชายรู้สึกดีเป็นพิเศษ
ยังมีอีกคนปั่นจักรยานตามหลัง ถึงกับยิ้มไม่หุบเมื่อเห็นเพื่อนรัก สังเกตสีหน้ามาตลอดอาบไปด้วยรอยยิ้มสดใส
ช่างยากเย็นกว่าจะได้เห็นรอยยิ้มจริงใจ ดูมีความสุขไม่ต้องปั้นแต่งของเปลวเช่นที่เป็นอยู่
ตลอดมาแม้เปลวจะยิ้มแต่มักมีเหตุผลของการยิ้มทุกครั้ง นั่นคือรอยยิ้มการค้าทำไปเพราะอาชีพ
ไม่เหมือนที่กำลังยิ้มในเวลานี้ มันเป็นรอยยิ้มที่ออกมาจากใจ สังเกตได้ว่ากระทั่งดวงตาสวยยังเจือไปด้วย
ประกายของความสุขสดใส แค่นี้สนิมก็แทบจะฟินตามเพื่อน เป็นใครก็คงรู้สึกดีไม่ต่างกัน
ในเมื่อสารถีสุดหล่อดูดีทุกกระเบียดนิ้ว ทำหน้าที่ปั่นจักรยานให้เพื่อนซ้อนท้าย
ท่อนขาแกร่งซึ่งโผล่พ้นกางเกงออกมาขึ้นมัดกล้ามชัด ขนดกดำเป็นระเบียบสร้างความเซ็กซี่ให้เจ้าของต้นขา
ลองใครได้เห็นใกล้ๆ คงน้ำลายหกตามกันล่ะ สนิมดีใจที่เปลวมีวันนี้ แม้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยังไม่คืบหน้า
ไปในทิศทางที่สนิมคาดหวังให้เป็น แต่ก็พอเห็นหนทางบ้างแล้ว คุณชายเพชรรัตน์ไม่ได้มีทีท่ารังเกียจปิดกั้นเปลว
แค่นี้ก็เกินพอที่จะเกิดปาฏิหาริย์ หากทั้งสองจะรักกันในวันข้างหน้า สนิมมั่นใจในเสน่ห์ของเปลว
ต้องทำคุณชายหวั่นไหวได้ในไม่ช้าแน่นอน
เปลวไม่เพียงมีรูปร่างหน้าตาสวยเท่านั้น แต่ยังมีเสน่ห์ดึงดูดเพศเดียวกันให้หลงใหลได้ปลื้ม
เรื่องนี้พิสูจน์มาแล้ว ครั้งที่เปลวเป็นนางโชว์ทำเอาหนุ่มรุ่นยันอาวุโสหัวปั่นมานักต่อนัก
ถึงแม้คุณชายเพชรจะมีรสนิยมปกติทั่วไปก็เถอะ คงยากที่จะทานเสน่ห์ของเปลวได้
ถ้าสองคนได้มีโอกาสคลุกคลีสนิทชิดเชื้อแบบนี้บ่อยๆ มีหวังคุณชายตกหลุมเสน่ห์เปลวแน่นอน
สนิมมั่นใจต้องเป็นแบบนั้น ยิ่งเปลวรู้สึกดีต่อคุณชายด้วยแล้ว ธรรมชาติตัวตนอันน่ารักน่าหลงใหลของเปลว
จะแสดงออกเองโดยไม่ต้องปรุงแต่ง มีหรือคุณชายจะไม่เผลอใจให้เล่า
ตลอดทางคุณชายยังรับหน้าที่บรรยายสถานที่ให้สองหนุ่มทำความรู้จัก สมเป็นเจ้าบ้านอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง..
เปลวทั้งสนุกตื่นเต้นมีความสุข โดยเฉพาะน้ำเสียงอบอุ่นทุ้มนุ่ม ซึ่งเป็นผู้บรรยายเกี่ยวกับสถานที่รวมถึงพันธุ์ไม้ต่างๆ
ให้เปลวและสนิมเพิ่มความรู้อีกมากมาย บ่งบอกได้ว่าคุณชายเชี่ยวชาญรอบรู้กว้างขวางยิ่งนัก
สร้างความประทับใจให้สองหนุ่ม รู้สึกชื่นชมความสามารถของประมุขวัง นอกจากหล่อเหลาไร้ที่ติ
ยังเพียบพร้อมไปด้วยสติปัญญาน้อยคนจะมีกัน
“ตานิล เสร็จหรือยัง พี่ชายเพชรจะถึงหน้าตึกแล้วนะ ชักช้าอยู่นั่น เสียโอกาสพอดี”
เสียงคุณมรกต..เธอกำลังแว้ดน้องชายอยู่
“จะเสียงดังทำไม นิลรู้แล้วน่า..ที่จริงพี่ไปดักคนเดียวก็ได้ ไม่เห็นต้องปลุกนิลแต่เช้า
ทุกทีพี่ก็ไปดักพี่ชายเพชรอยู่ประจำนิ” คุณนิลมาในชุดออกกำลังกายขาสั้นเสื้อยืด
กระนั้นร่างสูงใหญ่ก็ยังดูดีสมที่มีหน้าตาหล่อขวัญใจวัยรุ่น หากนำความหล่อของคุณนิล
ไปเทียบคุณชายเพชรอาจจะไม่ติดฝุ่น แต่ถ้าเทียบชายหนุ่มทั่วไปก็จัดเป็นหนุ่มหล่อหน้าตาดีเข้าขั้นทีเดียว
คุณมรกตอยู่ในชุดกระโปรงสำหรับตีเทนนิสเต็มยศ ตั้งใจจะไปดักคุณชายซึ่งคนรับใช้ที่ส่งให้ไปดูลาดเลา
กลับมารายงานเธอว่า คุณชายปั่นจักรยานและกำลังจะผ่านหน้าตึกในอีกไม่ช้านี้
“อย่าบ่นได้ไหม ถ้าฉันไม่หวังให้ช่วยแยกชายเปลว ไม่มาประสาทเสียด้วยหรอกย่ะ
ชายเปลวมันซ้อนท้ายพี่ชายเพชรหรอก ฉันถึงต้องขอให้ช่วยแยกออกมาซ้อนท้ายนายแทน
ส่วนพี่ชายฉันจะเป็นคนซ้อนเข้าใจไหม หม่อมแม่บอกแล้วไม่ใช่หรือ
ให้เธอจัดการรวบหัวรวบหางชายเปลวไปซะ”คุณมรกตจิกตาใส่น้องชายพร้อมกับบ่นไม่หยุด
หลังเร่งอีกฝ่ายให้เตรียมตัวแยกเปลวออกจากคุณชาย เพื่อที่เธอจะเป็นคนนั่งซ้อนท้ายแทน
“เฮ้อ! พอกันทั้งแม่ทั้งพี่ นำไปสิ..เร่งเค้าแล้วตัวเองกลับบ่นไม่หยุด จนขี้หูเต้นระบำแล้วเนี่ยะ
พี่ชายปั่นผ่านไปไกลอย่าโวยนะ” คุณนิลเบรก ทำเอาคนเป็นพี่ตวัดหางตาค้อนให้
ก่อนจะสะบัดหน้าเดินเชิดอกไปหน้าตึก ซึ่งเป็นทางผ่านของคุณชายที่กำลังตรงมาทางนี้
วันใดคุณชายปั่นจักรยานออกกำลังกายเช้าๆ คุณมรกตรู้เข้าต้องมีออกมาดัก
“พี่ชายแวะรับมรกตด้วยสิคะ” พอเห็นคุณชายเข้าเท่านั้น ไม่รอช้า คุณมรกตโบกมือตั้งแต่ 100 เมตรด้วยซ้ำ
คุณชายเพชรเลิกคิ้วเล็กน้อยแต่ไม่นึกแปลกใจเพราะคาดไว้ต้องเจอ ไม่ใช่เป็นความบังเอิญอะไร
ทุกเช้าหากคุณชายตื่นมาปั่นจักรยาน คุณมรกตก็จะมาดักขอซ้อนท้ายเป็นประจำ
วันนี้คงไม่สะดวกเพราะเปลวจับจองที่นั่งอยู่ คุณชายแค่คิดไม่ได้พูดออกไป
กระนั้นก็ชะลอจักรยานจอดตรงหน้าสองพี่น้อง คุณนิลสีหน้าไม่สบอารมณ์
สนิมก็ปั่นมาจอดลงข้างๆ เมื่อเห็นคุณชายหยุดแวะ
“ตื่นเช้าได้ด้วย..นิล” คุณชายยิ้มล้อคุณนิล ทักทายอย่างคุ้นเคย
“ภาพพจน์ผมเสียหมด ความจริงผมตื่นเช้าประจำ พี่ชายไม่เคยเจอก็เพราะไม่มีใครไปลากผมลุก
มาทำกิจกรรมยามเช้านี่ครับ” คุณนิลเกาศีรษะแก้เก้อ แถมโยนความผิดไปให้พี่สาวหน้าตาเฉย
“พูดบ้าตานิล พี่ชายเพชรเข้าใจผิดเอานะ อย่าไปเชื่อตานิลนะคะพี่ชายเพชร
มรกตหวังดีต่อน้อง วันๆ ไม่คิดออกกำลังกายเดี๋ยวสุขภาพแย่เข้าสักวัน
เลยตั้งใจชวนมาปั่นจักรยาน มรกตรู้ว่าพี่ชายเพชรต้องผ่านมา ตั้งใจขออาศัยไปด้วยนะคะ”
พูดกับคุณชาย ค่อยปรายหางตาไปหาคนที่นั่งซ้อนอยู่ข้างหลัง
เหมือนต้องการบอกใบ้ให้เปลวสละที่ตรงนั้นให้เธอแทน แต่เปลวตีมึนทำไม่รู้ไม่ชี้
ปั้นหน้าเหรอหราไม่เข้าใจอาการขยิบตาที่เธอจงใจส่งให้เสียอย่างนั้น
สนิมแทบกัดลิ้นชักกระแด่ว เพิ่งเห็นเปลวแผงฤทธิ์เป็นเด็กดื้อหวงของก็วันนี้แหละ
“ชายเปลว พี่ว่าชายเปลวมาซ้อนท้ายนิลดีไหม พี่ชายเพชรกินแรงมาพอสมควรแล้ว
ชายเปลวให้พี่มรกตซ้อนพี่ชายดีกว่า น้ำหนักพี่ไม่เยอะ พี่ชายเพชรจะได้ไม่เหนื่อยมาก
ตานิลเค้าแข็งแรงชายเปลวซ้อนได้สบาย” คุณมรกตหลังใช้ภาษากายไม่ได้ผล
ก็ยอมเอ่ยขอตรงๆ หวังว่าเปลวฟังแล้วควรจะรู้ว่าต้องทำยังไง ในเมื่อเธออุตส่าห์ประกาศโต้งๆ
ชัดเจนซะขนาดนี้จะมาทำเป็นทองไม่รู้ร้อนก็ไม่ใช่ที่ ไม่เคยมีใครขัดใจเธอ
แม้แต่พี่ชายเพชรยังไม่เคยขัดใจเธอเลยสักครั้ง
“คุณมรกตน้ำหนักเท่าไหร่ครับ” เปลวไม่ยอมเรียกพี่เหมือนที่เธอแทนตัวเอง
กลับจงใจเรียกคุณ..ตั้งใจเว้นระยะห่างไม่ยอมสนิทสนมด้วย
“ชายเปลวถามทำไมคะ” เธอนึกสงสัย นอกจากเปลวไม่ลุกจากจักรยานแล้ว
ยังหันมาถามน้ำหนักเธออีก คุณนิลถึงมีโอกาสเห็นหน้าเปลว
ที่โผล่พ้นหลังคุณชายเพชรเต็มตา ถึงกับอึ้งตาค้างจ้องตะลึงไปแล้ว
“คุณมรกตบอกก่อนสิ เดี๋ยวผมให้เหตุผล” เปลวเล่นลิ้นไม่ตอบคำถามเธอง่ายๆ
คุณมรกตเริ่มหน้าตึง แต่ยังรักษามารยาทไม่ชักสีหน้าใส่
เพราะคุณชายเพชรจับตามองการสนทนาของทั้งคู่อยู่
“พี่หนัก 48 เอง” คุณมรกตพูดจบ เอามือเท้าเอวอวดทรวดทรงยืนยันคำพูดไปด้วย
ว่าเธอรูปร่างผอมบางหุ่นดีด้วยความภาคภูมิใจในน้ำหนักที่เปิดเผยออกไป
ต่อด้านล่าง