Part 9 ครบ 100%“ไม่ลืมอะไรแล้วนะ” เปลวถามสนิม หลังสองหนุ่มจัดเก็บกระเป๋าเดินทางเพื่อเข้ากรุงเทพฯ ไปอยู่วังมณีรมย์
“ไม่ลืมแล้วเอาเท่าที่จำเป็น ตกลงมึงจะเช่าคอนโดนี้ต่ออีกเหรอ” สนิมถามให้แน่ใจ เพราะเปลวไม่ได้คืนคอนโด
“ถ้าไม่เช่าต่อ ของที่เหลือจะขนไปไว้ที่ไหน..” เปลวบอกกับสนิม
“พี่ชายให้พี่อเนกมาบอกมึงแล้วนี่ ถ้าจะขนของก็พร้อมจัดรถมารับเอาเข้าไปในวังให้หมด”
สนิมย้ำเปลว..เกี่ยวกับคำพูดของคุณชายเพชร
“อย่าไปรบกวนเขาเลย ไม่รู้จะเจออะไรบ้าง เผื่อทางหนีทีไล่ด้วย”
เปลวบอกเพื่อนซี้ เกี่ยวกับเหตุผลที่ปฏิเสธไม่ทำตามคำแนะนำคุณชาย
“แล้วแต่มึงเถอะ ความจริงกูเป็นคนนอกเสียด้วยซ้ำ”
“อย่าพูดแบบนี้สิหนิม มึงเท่าเทียมกับกูทุกอย่าง” เปลวตัดบท
“เห้ย! พูดแบบนั้นไม่ได้นะเปลว มึงอาจเทียบเท่าคนในวังเพราะมึงเป็นทายาทท่านชายทองเกล้า มีฐานันดรศักดิ์หม่อมราชวงศ์
กูมันคนสามัญชน ถ้ามึงยกกูให้เท่าเทียมกับพวกเขา ต้องมีปัญหาตามมาแน่” สนิมห้ามเปลว
“เรื่องนี้กูคุยกับพี่ชายเพชรไว้แล้ว มึงเข้าวังในฐานะพี่ชายกูใครให้อยู่ในฐานะอื่นกูไม่ยอมหรอก”
เปลวยืนกรานเสียงแข็ง สีหน้าจริงจังมาก
“กูจะทำให้มึงมีปัญหา พี่ชายเพชรกับพี่หญิงมุกคงไม่กระไรหรอกพวกเขายินดีรับกูเป็นน้อง
แต่คนที่เหลือแน่ใจพวกเขายอมรับได้หรือเปลว” สนิมหยิบยกเหตุผลให้เปลวมองในมุมกว้าง
โอกาสที่ราชนิกุลคนอื่นจะมายอมรับเหมือนที่ได้รับความอารีจากสองพี่น้องมณีรมย์ ถ้าจะเป็นไปได้ยาก
“ยอมหรือไม่ช่างหัวสิกูสนหืม ต่างคนต่างอยู่ลองจุ้นจ้านวุ่นวายหาเรื่องพวกเราเหมือนในละครล่ะก็
คิดว่ากูจะยอมให้โขกสับไหม..หนิม” ดวงตาสวยพลันแข็งกร้าว น้ำเสียงเองก็เช่นเดียวกัน
“ตรงนี้แหละที่กูห่วง ไม่ใช่ห่วงมึงจะโดนเล่นงาน กูห่วงคนพวกนั่นต่างหากเล่า ไม่มีใครรู้จักทองเปลวเท่ากู
มึงมันดื้อตาใสยอมหักไม่ยอมงอ” สนิมส่ายหัวอย่างยอมจำนน เมื่อเปลวยืนกรานแบบนั้นก็จนปัญญา
“กูถือว่ามึงชม ได้เวลาไปกันแล้ว เรียกพี่อเนกพี่กล้ากันเถอะหนิม” เปลวยิ้มร่าชิงตัดบทหลังดูเวลาสมควรออกเดินทาง
สองหนุ่มเตรียมเข้ากรุงเทพฯ โดยมีอเนกกับกล้าเป็นคนพาพวกเขาไปยังวังมณีรมย์..
“พวกมึงทำงานประสาอะไรวะ” เสี่ยวิกรมฉุนลูกน้องไม่เก็บอาการ ใบหน้าอูมแดงก่ำตามอารมณ์ที่กำลังเดือดดาล
“หลังมีคนตามเก็บมัน พวกผมเฝ้าหาข่าวไม่รู้มันไปหมุดหัวที่ไหน คอนโดก็ไม่กลับ เรื่องนี้พวกผมเห็นตรงกันว่า
เจ้านายคงต้องไปเรียบเคียงถามไอ้คุณชายเพชรรัตน์ดูครับ ล่าสุดนังเปลวมันขึ้นรถไอ้คุณชายหายเข้ากลีบเมฆจนถึงตอนนี้”
หนึ่งในสี่ลูกน้องเป็นคนออกความเห็น คิ้วเสี่ยวิกรมขมวดมุ่นหลังได้รับคำแนะนำจากลูกน้อง หากเป็นเช่นนั้นคงไม่มีทางอื่น
ถ้าอยากรู้เปลวฟ้านางโชว์ที่หวังครอบครองไปอยู่ไหน ต่อให้พลิกแผ่นดินก็ต้องเอาตัวมาให้ได้
คงมีหนทางเดียวคือสืบจากบุคคลที่ลูกน้องแนะ
“งั้นเป็นหน้าที่กูพวกมึงรอคำสั่ง ถึงเวลาอย่าเสือกพลาดเด็ดขาด” เสี่ยวิกรมชี้หน้าคาดโทษลูกน้องเรียงตัวทิ้งท้าย
ก่อนพาร่างเดินหายออกจากห้องจนลับตา ลูกน้องต่างสบตากันต่อจากนี้ไม่มีคำว่าพลาดอีก
>
>
“ออกไปไหน..ตานิล” เสียงทักของหม่อมทับทิมดังภายในตำหนักปีกซ้าย ซึ่งเป็นที่พำนักส่วนตัวร่วมกับบุตรสาวบุตรชาย
ลูกติดของหม่อมแก หลังได้รับความเมตตาจากประมุขของวังคนก่อน นับตั้งแต่หม่อมได้เข้ามารับใช้ท่านปู่ของคุณชายเพชร
คงไม่ต้องขยายความว่ารับใช้ในฐานะอะไร
“คิดยังไงหม่อมแม่ถึงได้ถามนิล” คุณนิลหยุดอยู่กับที่ ค่อยย้อนถามหม่อมทับทิมด้วยน้ำเสียงติดกวนนิดๆ
“ชั้นเป็นแม่ ทำไมจะถามไม่ได้” หม่อมทับทิมค้อนลูกชายคนเล็กอย่างนึกหมั่นไส้
เป็นเพราะลูกชายคนนี้ไม่ได้ดังใจ จึงทำให้เธอต้องมานั่งปวดหัวจนไมเกรนขึ้นอยู่อย่างนี้
“แค่แปลกใจ ร้อยวันพันปีหม่อมแม่ไม่เคยสนใจเคยถามซะที่ไหน วันนี้ถามรู้สึกผิดปกติพิลึก”
คุณนิลยังคงเล่นลิ้นโต้ตอบไม่ลดละ
“สนจนเลิกสนแล้วย่ะ ทำตัวดีนักนี่ตานิล แม่ไม่อยากวุ่นวายด้วย บอกไปทางซ้ายดันจะเลี้ยวไปขวา
เพราะเราเป็นแบบนี้ไงแม่ถึงเอือมระอา” หม่อมทับทิมแสดงสีหน้าเอือมระอาประกอบคำพูดอีกต่างหาก
“แล้วนึกยังไงถึงสนอีกล่ะครับ” คุณนิลยอกย้อนใส่หม่อมผู้ที่ได้ชื่อว่าแม่สีหน้าทะเล้น
อย่างไม่ได้รู้สำนึกต่อคำพูดเสียดแทง ซึ่งคนเป็นแม่จงใจกระทบกระเทือบใส่เลยแม้แต่น้อย
“เลิกทำเป็นเล่นได้แล้ว จะกลายเป็นหมาหัวเน่าไร้ที่ซุกหัวนอนยังไม่รู้ตัวอีกตานิล”
หม่อมเธอค้อนขวับอย่างฉุนเฉียว หลังพูดแดกดันก็ยังไม่สะทกสะท้านมีหน้ามาทะเล้นไม่เลิก
“ใครเป็นหมาหัวเน่าครับหม่อมแม่ คงไม่ใช่นิลหรอกมั้ง ตำแหน่งนี้นิลได้มาตั้งนานแล้วนี่ครับ
ถ้าหม่อมแม่หมายถึงพี่มรกตล่ะก็..ว่าไปอย่าง”
“แม่พูดกับแกอยู่นะตานิล พาดพิงพี่เขาทำไม” หม่อมตาเขียวปั๊ด
“อุ๊ต๊ะ!..แตะต้องไม่ได้เนอะ” คุณนิลออกอาการทะเล้นหน้าตาย
“กิริยาท่าทางไร้สัมมาคารวะนี่ก็อีก อย่าไปทำมั่วซั่วคนเขาพลอยดูถูกมาถึงแม่ด้วย
มีอย่างที่ไหนอยู่ในรั้วในวังชาติกำเนิดเถือกเขาเหล่ากอเป็นที่นับหน้าถือตา
ดันเอากิริยาพื้นๆ มาใช้จนติดเป็นนิสัย เพราะเราไม่ได้เรื่องอย่างนี้ไง ถึงหวังพึ่งพาอาศัยอย่างพี่มรกตเขาไม่ได้เลย”
ลูกตาคมเข้มไหววูบ หม่อมทับทิมไม่ทันเห็น หลังถูกเปรียบเทียบพี่สาวที่คลานตามกันมา
ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามลงท้ายหนีไม่พ้นคุณนิลกับคุณมรกตต้องถูกเปรียบเทียบกันเสมอ
ส่วนคนที่ได้รับความชื่นชมจากหม่อมทับทิม ไม่พ้นเป็นคุณมรกตอย่างไม่ต้องสงสัย
“แค่นี้ใช่ไหมที่หม่อมแม่จะพูดกับนิล หมดธุระแล้วนิลขอตัวครับ มีนัดสำคัญรออยู่” คุณนิลน้ำเสียงเรียบนิ่ง
สีหน้าไม่มีอาการทะเล้นให้เห็น หม่อมทับทิมแปลกใจเพียงเล็กน้อย แต่ไม่เก็บมาใส่ใจให้ปวดหัว
“แม่ไม่ให้แกไปไหนทั้งนั้น จนกว่าแกจะรับปากก่อน” ถึงจะสังเกตุเห็นความผิดปกติลูกชายคนเล็ก
แต่หม่อมก็คิดว่าเป็นนิสัยลมเพลมพัดบ้าๆ บอๆ ตามประสาขี้เล่นไม่เอาอ่าว จึงไม่เก็บเอามาใส่ใจให้เป็นปัญหา
นอกเสียจากมุ่งหวังที่จะให้คุณนิลยอมรับปากเธอ
“เรื่องอะไรหรือครับ” คุณนิลตั้งคำถาม
“นั่งลงคุยกับแม่ให้เป็นเรื่องเป็นราว เราจะยืนค้ำหัวอีกนานไหม” หม่อมค้อนลูกชาย แถมอบรมค้อนแคะไปด้วย
“นิลอยู่ห่างหม่อมแม่ตั้งหลายก้าว ค้ำหัวตรงไหนกัน” คุณนิลก็ไม่ยอมลดละ ยอกย้อนต่อปากต่อคำไม่เลิก
“เอาเถอะขี้เกียจเถียงกับเราแล้ว จะคุยดีๆ ได้หรือยังตานิล เรื่องนี้สำคัญกับชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเรานะ”
เหตุผลที่หม่อมทับทิมยกอ้าง ทำให้คุณนิลเกิดความสนใจใคร่รู้เช่นกัน
“ตกลงครับ” พูดจบพาร่างสูงสง่าเดินมานั่งยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
“ทายาทท่านชายทองเกล้ากำลังจะเข้าวัง” หม่อมพูดด้วยน้ำเสียงดูเป็นทางการ ติดไปทางเครียดอย่างรับรู้ได้ชัด
“เรื่องนี้พวกเรารู้จากพี่ชายเพชรสี่วันก่อนแล้วนี่”
คุณนิลถามอย่างสงสัยที่หม่อมทับทิมยกเรื่องนี้มาพูด เพราะทุกคนรู้พร้อมกันหมด
“ยังมาทำเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่อีกตานิล รู้ตัวไหมผลประโยชน์ที่พวกเราจะได้สูญไปคนละเท่าไหร่”
หม่อมตาเขียวใส่ทันควัน หลังลูกชายตีหน้าซื่อไม่รู้ร้อนรู้หนาว ในเรื่องราวที่เธอหัวหมุนจนเกิดอาการเครียด
“เสียผลประโยชน์เสียตรงไหนกันครับหม่อมแม่ เขาอยู่ตำหนักของพี่ชายกับหญิงมุก ไม่ได้วุ่นวายกับเราเสียหน่อย
นิลไม่ได้ยินพี่ชายพูดสักคำว่าจะตัดค่าใช้จ่ายของเราส่วนไหนไปให้เขา” คุณนิลบอกไปตามจริง
ทุกวันนี้แต่ละคนรับรายได้ตามสิทธิในพินัยกรรมระบุ ไม่มีใครหักหลังหรือโกงแม้แต่น้อย
โดยเฉพาะคุณชายเพชรเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ส่วนนี้เองไม่ได้มอบหมายให้ใครรับไปดำเนินการ
เงินเดือนทุกบาททุกสตางค์ใช้วิธีโอนเข้าบัญชีให้ทุกเดือน ตรงไหนที่หม่อมทับทิมบอกจะเสียผลประโยชน์
“เราไม่ฉลาดเลยจริงๆ ผลประโยชน์ในกองมรดก 1 ใน 4 ที่นำมาแบ่งสรรปันส่วนยังไงเล่า
ทายาทท่านชายโผล่ก็เท่ากับชวดกันหมด”
“หม่อมแม่หมายถึง 15% ที่ระบุในพินัยกรรม หากไม่พบท่านชายทองเกล้ามีทายาทนะหรือ” คุณนิลย้ำให้แน่ใจ
“ก็ส่วนนั้นแหละ ทายาทจริงเท็จแค่ไหนใครจะรู้ มีการสร้างเรื่องกุว่ามีทายาทขึ้นมาก็ได้นี่
ไม่ว่าความจริงจะยังไง แม่อยากให้แกช่วยหน่อย” หม่อมดูสีหน้าจริงจัง นั้งจ้องตาลูกชายนิ่ง
“ให้นิลช่วย..ช่วยเรื่องอะไร” คุณนิลไม่เข้าใจในความประสงค์ของหม่อมเธอเลยจริงๆ นึกไม่ออกจะให้ช่วยเรื่องอะไร
“แกรวบหัวรวบหางทายาทท่านชายซะ เข้าใจไหม”
“หม่อมแม่!!!!..” คุณนิลอึ้งตาค้างทีเดียว หลังได้ยินวิธีการที่หม่อมหมอบหมายให้ช่วยทำ
“นิลไม่รับปาก” น้ำเสียงบุตรชายที่เอ่ยมา แม้จะไม่หนักแน่นแต่ก็ดังชัดเต็มสองหูผู้เป็นแม่
ทำเอาหม่อมเธอต้องรีบระงับโทสะไม่ให้พุ่งปรี๊ด
“แม่ไม่สน..แกต้องรวบหัวรวบหางให้ได้ คราวหญิงมุกแกก็ปฏิเสธมาแล้วครั้ง เป็นเพราะเจ้ากล้าปะไร
แม่อุตส่าห์ขอร้องคุณชายให้เอามันไปให้พ้นหูพ้นตา หนนี้แกต้องทำตามแม่ตานิล
หากเราจะมีที่ยืนในวังมณีรมย์อย่างเชิดหน้าชูตาไม่เป็นที่ครหาแล้วล่ะก็
แกต้องจัดการทายาทท่านชายทองเกล้าเอามาเป็นคนของแก ฉันยอมอดสูที่แกมีรสนิยมผิดเพศมานาน
อุตส่าห์ส่งเสริมให้ได้ทำในสิ่งที่แกชื่นชอบ แค่จัดการทายาทท่านชายให้มันดูสมน้ำสมเนื้อ
จะเป็นผู้ชายแม่ก็ไม่ว่าหรอกรายนี้ ถ้าแกทำสำเร็จทำให้มันหลงแกหัวปักหัวปำ สมบัติจากกองมรดกจะไปไหนเสียล่ะ”
แผนของหม่อมทับทิมอาศัยคุณนิลเป็นผู้ดำเนินการ ได้ยกมาบอกกล่าวกับลูกชายคนเล็ก
ตลอดมาเธอยอมรับไม่ได้ที่คุณนิลมีรสนิยมรักชอบเพศเดียวกัน จนทำให้แผนการซึ่งหมายมั่นปั้นมือตบแต่งคุณหญิงมุกดา
มาเป็นศรีสะใภ้ต้องล้มเหลวไม่เป็นท่า คราวนี้ทายาทผู้มีส่วนในกองมรดกของมณีรมย์เท่ากับคุณหญิงมุก
และคุณชายเพชรจะปรากฏตัว ในเมื่อคุณนิลชมชอบผู้ชายก็แค่เปลี่ยนเป้าหมายแทน
“หม่อมแม่..เรื่องนี้นิลรับปากหม่อมแม่ไม่ได้หรอก ของแบบนี้ต้องเจอกันก่อน นิลตอบไม่ได้ว่าชอบเขาไหม
ต่อให้นิลชอบผู้ชายไม่พิศมัยสตรี แต่นิลก็มีบรรทัดฐานสำหรับตนเองอยู่นะครับ..หม่อมแม่”
คุณนิลให้เหตุผลต่อมารดาไปตามความเป็นจริง จู่ๆ จะให้เขาไปทำอะไรแบบนี้ไม่ใช่เรื่องล่ะ
“แม่ไม่สนเราจะมีบรรทัดฐานอะไรยังไง นี่คือคำสั่งให้ไปจัดการเสียให้เรียบร้อย
รายนี้หน้าตาไม่ต้องกังวลข้อมูลที่แม่รู้มาเป็นคนหน้าตาดี หายห่วงได้ตานิล
แค่ทำให้เขาหลงรักเท่านั้นพอ” หม่อมเธอยืนกราน
“หม่อมแม่คิดง่ายเนอะ พี่มรกตล่ะ..กี่ปีแล้วที่หม่อมแม่ใช้ให้ไปจับพี่ชายเพชรเขาน่ะ
จนตอนนี้จะขึ้นคานอยู่แล้วนิลยังไม่เห็นมีวี่แววว่าจะทำสำเร็จเลยด้วยซ้ำ
หางตาพี่ชายเพชรยังไม่แลเลยมั้ง” คุณนิลเหลืออดวกมาพาดพิงเอากับพี่สาวคนโตเข้าจนได้
“เรื่องของพี่สาวเราไม่ต้องเอามาอ้าง มรกตยังไงก็มุ่งมั่นที่จะแต่งกับคุณชายเพชร
อีกไม่นานหรอกคอยดูสิ ว่าแต่เราเถอะแม่ขอร้องให้ช่วย ไม่ต้องค้านสักเรื่องได้ไหม
ทำตามที่แม่บอกแล้วทุกอย่างจะดีเองเข้าใจนะ” หม่อมมรกตตัดบท โบกมือไม่ให้คุณนิลพาดพิงถึงลูกสาวสุดที่รัก
“ที่พี่มรกตแตะต้องไม่ได้ ไว้นิลจะเก็บไปคิดดู ขอตัวครับนิลมีธุระ” พูดจบไม่รอให้หม่อมทันทักท้วง
ลุกยืนเต็มความสูงก้าวอาดๆ เดินดิ่งออกจากห้องรับรองไปทันที
ปล่อยผู้เป็นแม่มองตามร่างสูงอย่างกระฟัดกระเฟียด ที่ลูกชายคนเดียวหัวแข็งไม่ยอมเอาอ่าว..
“เป็นไง ทุกอย่างเรียบร้อยไหม” คุณชายยืนกอดอกพิงกรอบประตูของห้องนอนขนาดใหญ่
การตกแต่งหรูหรามีรสนิยมมาก โดยมีคุณหญิงมุกดาเดินสำรวจตรวจตราไปทุกซอกทุกมุม อย่างใส่ใจในรายละเอียด
“เท่าที่มุกดูก็โอเคแล้วค่ะพี่ชาย ไม่รู้น้องเปลวแกถูกใจหรือเปล่า” คุณหญิงมุกตอบคุณชาย..ใบหน้ายิ้มละไม
“ถ้าเปลวรู้หญิงมุกลงทุนดูแลด้วยตัวเอง พี่ว่าเปลวคงดีใจอย่างไม่ต้องสงสัย”
คุณชายยิ้มอบอุ่นสายตาอ่อนโยนใช้มองน้องสาวเพียงคนเดียว หญิงมุกเห่อมากถึงกับเป็นธุระตกแต่งห้องนอน
รอต้อนรับเปลวที่กำลังเดินทางมาถึงในอีกไม่ช้านี้ น่าจะเย็นนี้พอดีกับมื้อค่ำ
ตั้งใจให้คนไปเชิญหม่อมรำไพอาสะใภ้กับหม่อมทับทิมพร้อมครอบครัว
ร่วมเป็นแขกเพื่อรับประทานมื้อค่ำด้วยกัน ถือโอกาสแนะนำเปลวกับสนิมเสียเลยทีเดียว
“เป็นแบบนั้นก็ดีสิคะ มุกอยากให้น้องมีความสุข ชีวิตเปลวผ่านอะไรมาเยอะแยะมากมาย
ในขณะที่พวกเราสุขสบายไม่ได้ลำบากอย่างที่น้องได้พบเจอ มุกแค่หวังช่วยชดเชยให้น้องบ้างไม่มากก็น้อยเท่านั้นค่ะ”
“พี่เข้าใจเราหญิงมุก พี่ก็คิดไม่ต่างจากเราหรอก ถึงเวลาที่เปลวควรได้รับสิทธิ์อันพึงได้
จากนี้ก็หวังว่าเปลวจะมีความสุขเสียที” คำพูดของคุณชายฟังอบอุ่นทุ้มนุ่ม
แต่หญิงมุกยังสัมผัสถึงความหนักใจอยู่ในน้ำเสียง ตามความคุ้นเคยซึ่งสนิทชิดเชื้อพี่ชายเป็นอย่างดี
“มีเรื่องกังวลใจใช่ไหมค่ะ” คนเป็นน้องเดินเข้าหาก่อนยิงคำถามออกไปตรงๆ
“ไม่เชิง..จะว่าไม่มีก็ไม่ใช่ เปลวขอให้สนิมอยู่ในฐานะเดียวกับเขา เทียบเท่าพวกเราทุกคน”
คุณชายเผยความในใจ ซึ่งเป็นเรื่องต้องขบคิดให้หญิงมุกฟังอย่างไม่ปิดบัง
“น่าหนักใจไม่น้อย ด้วยศักดิ์ฐานะสนิมไม่สามารถยกขึ้นเทียบเท่าพี่มรกตกับนิลด้วยซ้ำ
แต่ในความเป็นจริงสนิมกับเปลวเติบโตมาด้วยกันเปรียบเหมือนพี่กับน้อง จะให้สนิมอยู่ในฐานะแขกของวังก็ใช่ที่
กลับกันมุกกับพี่ชายไม่มีปัญหา เพราะเรารับสนิมเป็นน้องชายไปแล้ว แต่หม่อมรำไพกับหม่อมทับทิมรวมทั้งพี่มรกตนี่สิ
ลำพังเปลวก็ต้องเผชิญปัญหาที่ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง ยังมีกรณีของสนิมคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกตั้งคำถามจากหม่อมรำไพ
และหม่อมทับทิม ที่สำคัญพี่มรกตต้องหาวิธีเล่นงานแน่ บางทีสนิมนั่นแหละจะกลายเป็นเครื่องมือให้เขาใช้เล่นงานเปลว
เราก็ต้องมาพิสูจน์กันดู ถ้าเปลวมีเลือดมณีรมย์ไหลเวียนอยู่ในร่างต้องเข้มแข็งแก้ไขปัญหาเหล่านี้
อย่างไม่ย่อท้ออ่อนแอให้เขารังแก ครั้นจะให้พี่ชายปกป้องไปเสียหมดคงทำให้เสียการปกครอง
พี่ชายจะถูกมองว่าลำเอียงไม่เป็นกลาง เรื่องนี้ต้องมาดูอีกทีอย่าเพิ่งกังวลเลยค่ะ มุกเชื่อเปลวต้องมีดีกว่าที่เราคิด”
“พี่ก็หวังให้เป็นแบบนั้น ปัญหาของวังสะสมมายาวนานรอพี่แก้ไขให้มันดีขึ้นวันนี้พรุ่งนี้เป็นไปได้ยาก
ปมปริศนามากมายที่เรายังหาบทสรุปไม่ได้ ถ้าเปลวไม่เข้มแข็งมีความอดทนไม่พอล่ะก็
พี่ก็คงผิดหวังพอสมควร พี่มองเปลวไม่ต่างจากหญิงมุก เด็กคนนี้มีมุมที่เราคิดไม่ถึงอีกเยอะ
ต้องรอดูว่าเขาจะสามารถรับแรงกดดันที่จะมีขึ้นได้หรือไม่ คงมีให้เห็นตั้งแต่มื้อค่ำ
การต้อนรับสมาชิกใหม่ของวังมณีรมย์ อาหารมื้อนี้ไม่ราบรื่นนัก พี่แค่อยากดูปฏิกิริยาเปลวในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
รวมถึงไหวพริบปฏิภาณที่จะนำมาใช้ คงต้องรอดูตามที่หญิงมุกพูด” คุณชายเพชรประมุขวัง
ถึงจะมีความวิตกกังวลต่อเหตุการณ์ที่เปลวกับสนิมจะเข้ามาอยู่ ย่อมได้รับแรงกดดันตามมาแน่
แทบไม่ต้องเดาให้เสียเวลา เพียงแต่สองหนุ่มจะอดทนเข้มแข็งได้มากแค่ไหน เรื่องนี้ต้องรอการพิสูจน์..
มาอัพให้แล้วนะคะ ขออภัยที่หายไปนานพอสมควร ปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้น
หลังจากนี้จะมาอัพให้บ่อยนะคะ ขอบคุณที่ยังตามให้กำลังใจกันเสมอไม่ขาดหาย
รักพวกคุณทุกคนค่ะ
ปล.หลังจากนี้มาคอยติดตามสงครามในวังมณีรมย์กันค่ะ
