Yaoi...มึงว่ากูโหด แล้ว(รัก)กูไหมครับ *ตอนที่ 15 ไปเที่ยวกันไหม 100% 27/2/15 P.6
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Yaoi...มึงว่ากูโหด แล้ว(รัก)กูไหมครับ *ตอนที่ 15 ไปเที่ยวกันไหม 100% 27/2/15 P.6  (อ่าน 52995 ครั้ง)

ออฟไลน์ Moobar

  • สมุนของคนที่คุณก็รู้ว่าใคร?
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0


แฮรรี่-แมน ตอนที่ 2

 

"ที่จริงคุณไม่จำเป็นต้องมาที่นี้ด้วยตัวเองก็ได้นะคะ ดิฉันกะว่าจะไปหาคุณอยู่พอดี"มะลิกล่าวก่อนจะวางแก้วน้ำใบสวยลง ตายังมาชายหนุ่มผู้มาเยือนด้วยความอบอุ่น

 

"ไม่ได้หรอกนะครับ...คุณเพิ่งถึงคงต้องการพักผ่อน ผมมาหาคุณนะถูกแล้ว"ชายหนุ่มยิ้มรับก่อนจะเดินมานั่งที่โซฟา พลางสำรวจสถานที่ไปทั่ว ตายังคงจ้องมองกรอบรูปที่วางอยู่บนโต๊ะไมคาดสายตา เขาไปสะดุดกับภาพของเด็กหนุ่มคนนึงที่กำลังยิ้มแป้นอย่างมีความสุข รอยยิ้มที่เขาไม่เคยเห็นว่าจะมีใครยิ้มแบบนี้ได้

 

"คุณแฮร์รี่มองอะไรอยู่หรอค่ะ"ทั้งๆที่รู้ว่าชายหนุ่มกำลังมองอะไรอยู่แต่มะลิก็แกล้งถามออกไป

 

"เปล่าหรอกครับ..."เขาโกหก

 

"ปากให้ตรงกับใจหน่อยสิค่ะ คริๆ"

 

"หัวเราะแบบนั้นไม่สมกับเป็นคุณเลยนะครับ"ร่างสูงคิ้วขมวด

 

"ก็ฉันขำคุณนี่ เอาเถอะๆ ถ้าคุณสนใจลูกดิฉัน ฉันไม่ห้ามหรอกนะคะ แต่คงยากหน่อยแต่ละคนหัวดื้อทั้งนั้น"มะลิหัวเราะออกมาเพราะรู้สึกขำจริงๆ เธอรู้ว่าคนข้างหน้าเป็นถึงเพลย์บอยระดับขั้นแนวหน้า แต่เธอก็หมั่นใจว่าลูกชายของเธอมีดีและคงมองคนอย่างแฮรืรี่ออก

 

"คุณพูดเองนะ"เมื่อทางสะดวกเขาเองก็ไม่ขัดอยู่แล้ว ชายหนุ่มยิ้มร้าย

 

"ก็น่าจะรู้นิสัยของดิฉันดีนะคะ"จะไม่ให้รู้นิสัยกันดีได้ยังไง ในเมื่อผู้หญิงตรงหน้าของชายหนุ่มเป็นคนที่เลี้ยงตนมาตั้งแต่เด็ก

 

"..."สองตามองกันอย่างรู้ทัน

 

"แล้วเรื่องนั้นเป็นยังไงบ้างค่ะ"มะลิถามด้วยความเป็นห่วง

 

"ครับ...ทางนั้นรับทราบเรื่องทุกอย่างแล้วครับ คงต้องใช้เวลาอีกซักพัก"แฮร์รี่กล่าว นัยตาของชายหนุ่มดูกังวัล

 

"แล้วมาร์คว่ายังไงบ้าง"

 

"หึ...สะใจมั้งครับที่เล่นกับความรู้สึกของคนอื่นเขาไปทั่ว รายนั้นเคยทุกร้อนกับใครเขาที่ไหน"

 

"เขาคงทำไปเพราะมีเหตุผลบ้างอย่าง"

 

"เหตุผลอะไรหรอครับ ผมไม่เห็นเขาจะต้องจำเป็นแต่งงานกับคนๆนี้ ในเมื่อก็มีคนอีกตั้งมากมายที่พร้อมมากกว่า ผมพูดตามตรงว่าผมสงสารเขา ครอบครัวเขาจะต้องแตกแยก มันเป็นบาปนะครับ ถึงผมไม่ได้นับถือพุทธผมก็รู้ว่ามันบาปขนาดไหน แม้แต่พระเจ้าเองก็ไม่รู้จะให้อภัยหรือเปล่า"แฮร์รี่พูดด้วยอารมณ์โกรธเคือง มะลิที่มองดูอยู่ห่างๆก็พลอยเป็นกังวลไปด้วย แต่เธอก็เลือกที่จะอยู่นิ่งๆ ไม่แสดงอารมณ์ออกมาว่าคิดเห็นอย่างไร

 

"มาร์คเป็นคนมีเหตุผลนะคะ ฉันเชื่อว่าสิ่งที่เขากำลังทำอยู่มันต้องมีเหตุผล อีกอย่างไรลีย์กับไรอันก็จะได้มีคนดูแลด้วย"แฮร์รี่มีทีท่าผ่อนคลายเมื่อนึกถึงหน้าหลานทั้งสอง

 

"ผมเชื่อว่าไรลีย์กับไรอันคงจะชอบเขาเหมือนที่ผมเจอเขาครั้งแรก"

 

"ฉันชักอยากจะเห็นบ้างแล้วสิ ในเมื่อคุณเอ่ยปากชม เขาคนนั้นย่อมไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน"

 

"ครับ ยังไงซะคุณก็ต้องเจอกับเขาอยู่แล้ว ส่วนเรื่องที่คุณบอกผมอย่างลืมซะล่ะ"แฮร์รี่ยิ้มร่าก่อนจะหันไปมองภาพนั้นอีกรอบ

 

 

 

เช้าวันต่อมา

 

เรื่องเมื่อคืนที่เกิดขึ้นแมนไม่เล่าให้ใครฟัง อันที่จริงเขาลืมเรื่องนี้ไปแล้วด้วยซ้ำ ร่างเล็กเดินออกมาจากห้องด้วยความสดใส วันนี้เป็นวันหยุดเขาอยากจะมีเวลาอยู่กับครอบครัว แต่เรื่องเหมือนจะไม่เป็นอย่างคนตัวเล็กคิดซะแล้ว

 

"เอาเอกสารนี้ไปส่งให้แม่หน่อยนะ"เอกสารที่อยู่ข้างในซองสีน้ำตาลถูกวางลงต่อหน้า

 

"เอกสารอะไรหรอครับ"แมนถามอย่างสงสัย

 

"ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะ แม่วานแมนหน่อยนะ ไปส่งเอกสารให้คุณแฮร์รี่ ที่พักโรงแรม xxx ห้อง 1840 แผนที่จดไว้ให้เรียบร้อยแล้วจ๊ะ"

 

"แฟกซ์ไปหรือส่งทางเมลไม่ได้หรอครับ"

 

"มันสำคัญมากจนไม่สามารถแฟกซ์หรืออะไรได้หรอกจ๊ะ แม่วานหน่อย วันนี้แม่ต้องไปพบคนสำคัญไม่รู้เมื่อไรจะกลับซะด้วยสิ"แมนพลิกดูซองไปมา หน้าซองไม่ได้จ่าถึงใครหรือเขียนอะไรไว้เลย แมนคิดว่าเรื่องสำคัญแบบนี้ทำไมต้องเป็นเขา ถ้ามันสำคัญขนาดนั้นแม่ของเขาต้องเป็นคนไปส่งเองไม่ใช่หรอ

 

"ครับ...แม่กลับดึกไหม แมนอย่างทำหมูกระทะกินกัน"

 

"อืม...คงประมาณสักทุ่มหนึ่งเห็นจะได้ ถ้าเกินกว่านี้แม่โทรบอกอีกทีนะ"มะลิยิ้มให้ลูกชาย ก่อนเธอจะเดินไปหอมแก้มคนตัวเล็กแล้วเดินเข้าห้องของเธอไป

 

 

ณ โรมแรม xxx

 

"หรูจังแหะ"แมนพูดกลับตัวเอง ในขนาดที่แท็กซี่เหลือบมองอย่างสงสัยนิดๆ

 

"ร้อยยี่สิบบาทน้อง"

 

"เอ่อครับๆ"เมื่อหลุดจากพวังร่างเล็กก็หยิบกระเป๋าสตังค์ในเป้แล้วจ่ายเงินแท็กซีไป แมนไม่คิดว่าโรงแรมที่นี้จะหรูขนาดนี้ เมื่อลองมองการแต่งตัวของตัวเองแล้ว แมนก็แทบไม่อยากจะย่างก้าวเข้าไป เสื้อยืดธรรมดากับกางเกงขาสั้นไหนประกอบกับรองเท้าแตะอีกล่ะ

 

"มาขอพบคุณแฮร์รี่  ห้อง 1840 ครับ"

 

"คุณชื่ออะไรค่ะ"พนักงานสาวถามกลับ

 

"แมนครับ ชื่อจริงวุฒิชัย"

 

"อ่อค่ะ คุณแฮร์รี่รอคุณอยู่แล้ว เดี๋ยวดิฉันจะให้พนังงานพาไปนะคะ"แมนรู้สึกคุ้นๆกับชื่อแฮร์รี่ แต่ก็ไม่คิดอะไรมาก เขาเดินตามพนักงานจนมาถึงห้องๆนึงที่ดูจากประตูแล้วก็บ่งบอกว่าภายในน่าจะเป็นอย่างไร

 

ก๊อกๆ

 

พนักงานโรงแรมเคาะประตู ไม่นานประตูหรูก็เปิดออก พร้อมกับด้วยตาเบิกโพลงตกใจกับคนตรงหน้า

 

"มึง..."แมนชี้นิ้ว ไม่อยากเชื่อว่าคนที่อยู่ตรงหน้าจะเป็นเดียวกันกับคนที่เขาเจอเมื่อวาน

 

"มาแล้วหรอ ฮันนี่"

 

 

 

ต่อ 50%

 

 

"มึงพูดว่าไงนะ"แมนตะโกนดังลั่น ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองว่าคนที่อยู่ตรงนั้นจะกล้าถึงขนาดนี้ ในขณะที่แฮร์รี่เองก็อดยิ้มไม่ได้กับกิริยาของคนตัวเล็กที่มีทีท่าจะตกใจไม่น้อย

 

"อย่าพูดแบบนั้นสิครับฮันนี่ มันไม่น่ารักเอาซะเลยนะครับ"

 

"ไอ้ฝรั่งบ้า ฮันนี่บ้านมึงสิ แล้วนี่มึงมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน"

 

"ก็แม่คุณให้เอาเอกสารมาส่งให้ผมไม่ใช่หรอ"แฮร์รี่ยิ้ม"อย่ามัวคุยอยู่ตรงนี้เลยนะครับ เข้ามาข้างในก่อนดีกว่า"

 

"ไม่อ่ะ ส่งเสร็จกูจะกลับบ้านแล้ว"

 

"งั้นให้ผมเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อได้ไหม"แฮร์รี่รีบพูดเพราะแมนกำลังจะหันหลังเดินหนี

 

"มึงต้องการอะไรกันแน่..."แมนถามตรงประเด็น

 

"งั้นผมคงไม่ต้องอ้อมค้อมแล้วสินะ ก็ผมกำลังจะจีบคุณอยู่ไงครับ"แมนอ้าปากค้าง

 

"ไอ้ฝรั่งวิปริต"แมนตะโกนว่า ก่อนจะเดินออกไปด้วยท่าทางโกรธๆ

 

"คุณหนีผมไม่พ้นหรอกครับฮันนี่"แฮร์รี่กล่าว ก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์โทรหาแม่ของแมนด้วยท่าทางใจเย็น แฮร์รี่ยิ้มอย่างผู้มีชัย เขานั่งโซฟาตัวโปรดแล้วฮัมเพลงเบาๆรอใครบางคนที่จะต้องมาเคาะห้องของเขาอีกครั้ง

 

แมนไม่ชอบเลยที่ตัวเองต้องมาทำตามคำสั่งอะไรแบบนี้ ร่างเล็กถอนหายใจเมื่อหยุดอยู่ที่ห้องเมื่อครู่ที่เขาจากมา ก่อนที่ตัวเล็กจะเคาะอีกครั้ง คนตัวสูงเปิดประตูด้วยรอยยิ้ม

 

คำสั่งที่เขาได้มาคือการพาแฮร์รี่ไปเที่ยว เขาแย้งมารดาตนเองอยู่หลายรอบแต่ถึงกระนั้นความเป็นแม่ก็ถูกอ้างขึ้นจนเขายากจะปฎิเสธ แมนมองค้อนคนที่นั่งขับรถผิวปากอย่างสบายใจ แต่กับแมนที่เห็นภาพนั้นแล้วกลับชวนหงุดหงิดขึ้นมาในทันที

 

"อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม"แฮร์รี่ถาม

 

"อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่อาหารฝรั่ง เพราะผมว่ามันเลี่ยนเกินไป"แมนเน้นหนักคำว่าเลี่ยนให้ชัด นึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแล้วก็ยิ่งทำให้รู้สึกหงุดหงิด ก่อนจะนึกวิธีแกล้งคนตัวสูงขึ้นมาได้

 

"อาหารไทยก็ได้ ผมชอบ"แมนยิ้ม

 

"หึๆ คุณพูดเองนะ"

 

บีเอ็มคันหรูจอดอยู่ตรงริมฟุตบาท แม้ว่าใครที่เห็นก็ต้องเลี้ยวหลังหันกลับมามองเพราะความสวยหรูและราคาของมันโดยคิดไม่ถึงว่ารถคันนี้จะมาจอดอยู่ร้านส้มตำข้างทางได้ ในขณะที่เจ้าของกำลังปาดเหงื่อซู๊ดปากด้วยความเผ็ดร้อนอย่าเต็มที่ แมนมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกผิดนิดๆ  ทั้งๆที่รู้ว่าแฮร์รี่น่าจะพอคาดเดาได้ว่าเขากำลังแกล้งตนอยู่แต่เขาก็กินโดยไม่ปริปากบ่น ริมฝีปากชมพูเริ่มบวมเจ่อเหงื่อที่ไหลออกมาจนเสื้อเชิ้ตเปียกอย่างเห็นได้ชัด หน้าขาวขึ้นสีแดงจนเข้ม

 

"ไม่ไหวก็พอ"แมนพูดขึ้น เป็นเขาที่เริ่มจะทนไม่ได้ซะเอง

 

"..."แฮร์รี่รีบดื่มน้ำด้วยความรวดเร็ว

 

"กินนี่ซะสิ อย่างน้อยก็ช่วยได้บ้าง"แมนยื่นช็อคโกแล็ตยี่ห้อช็อคกี้ที่เขามักจะพกติดตัวเสมอให้แฮร์รี่

 

"ขอบคุณครับฮันนี่"แฮร์รี่งงนิดหน่อยว่ามันกินยังไง ก่อนที่แมนจะแย่งแล้วกัดรอยเปิดให้แยกออกจากกัน ช็อคโกแล็ตทะลักออกมาเป็นเกลียว

 

"รู้ใช่ไหมว่ามันกินยังไง"แมนถาม แฮร์รี่พยักหน้า

 

ถ้าใครมาเห็นก็อดคำกับท่าทีของแฮร์รี่ไม่ได้ ร่างสูงกำลังดูดแท่งช็อคกี้อย่างเอร็ดอร่อย แมนเองก็ยังอดนึกขำไม่ได้ต้องหัวเราะออกมา

 

"คุณมีอีกไหม"เหมือนเด็กกำลังขอขนม แมนคิดในใจ

 

"ไม่มี นายชอบหรอ ถ้าอยากกินเดี๋ยวไปซื้อมาให้"

 

"จริงหรอฮันนี่"

 

"แต่ต้องเลิกเรียกว่าฮันนี่เข้าใจหรือเปล่า"แมนพูดเสียงดุ

 

"งั้นผมไปซื้อเองก็ได้"แฮร์รี่ยิ้ม

 

"โอ๊ย...นายนี่มัน..."

 

"อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ เดี๋ยวไม่น่ารักนะ"

 

"เรื่องของกู แล้วนี่อิ่มแล้วใช่ไหม กูจะได้กลับบ้านซะที"แมนพูดโดยไม่สบอารมณ์

 

"อิ่มแล้วครับ...แต่ผมยังอยากอยู่กับคุณอยู่นิ"แฮร์รี่พูดออกไปตรงๆ มันอาจจะใช้ได้ผลกับคนทั่วไปที่รู้จักถานะเขาดี ไม่ว่าหญิงหรือชายถ้าได้ยินคำนี้จากแฮร์รี่มีหวังจะรีบตอบตกลงในทันที แต่หากเป็นคนที่อยู่ตรงหน้าเขากับรู้สึกหงุดหงิดเข้าไปใหญ่

 

"ถามกูสักนิดไหม ว่ากูอยากอยู่กับมึงหรือเปล่า"

 

"ผมรู้ว่าฮันนี่ไม่ชอบแบบนี้ แต่ขอโอกาสให้ผมไม่ได้หรอ"ร่างสูงยังคงอ้อนวอนไม่เลิก

 

"ถามจริงๆเถอะ มึงต้องการอะไรกันแน่"

 

"คุณไง"

 

"ทั้งๆที่เพิ่งเจอกันไม่กี่โมงเนี่ยนะ"

 

"เขาเรียกว่าพรมลิขิต หรือรักแรกพบมั้ง"แฮร์รี่ตอบ รอยยิ้มกว้างขึ้นว่าปกติ

 

"รักแรกเหี้ยไร...มึงจำไว้เลยนะว่ากูไม่ใช่เกย์สัด"คนรอบข้างเริ่มหันมามองทั้งสองแล้วตอนนี้

 

"แล้วใครบอกว่าผมเป็นเกย์ คุณเป็นผู้ชายคนแรกเลยนะที่ผมจีบ"เขายังคงโปรยคำหวานนั้นต่อไป

 

"กูควรดีใจใช่ไหมเนี่ย โถ่เว้ย...แฟนก็ไม่มี ยังเสือกมีผู้ชายมาตามจีบอีก อะไรจะซวยขนาดนี้ว่ะ"แมนสบถออกมาโดยไม่แคร์ว่าใครจะมองเขายังไง ผิดกับแฮร์รี่ที่มองร่างเล็กด้วยความชื่นชม

 

กว่าจะที่รถบีเอ็มคันหรูจะมาจอดที่หน้าบ้านของแมนก็เป็นเวลาเกือบสองทุ่มแล้ว ตลอดทั้งวันแฮร์รี่พยายาที่จะหาข้ออ้างต่างๆนาๆเพื่อที่จะได้อยู่กับร่างบางให้นานที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการไปดูต้นไม้ที่เขาชอบหรือแม้กระทั่งพาไปเลือกชุดที่ใช้สำหรับงานเลี้ยงอีก ถึงจะมีทีท่าไม่พอใจเท่าไรก็เถอะ

 

"ถึงแล้วก็เปิดประตูสิ"

 

"ผมยังไม่ได้บอกลาคุณเลย"

 

"งั้นก็รีบบอกมาสิ กูจะได้ไปซะที"แมนเร่ง ก่อนจะร่างสูงจับมือเอาไว้

 

"ขอบคุณนะครับฮันนี่ ที่วันนี้อยู่เป็นเพื่อนผม"แฮร์รี่จูบไปที่หลังมือของของตัวเล็ก

 

"...."

 

 

 

***รีบอัพเดี๋ยวโดนขี่ทิ้ง  :o12:

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
อัพต่อเลยคร้าคนเขียนกะลังหนุกเลย รอๆตอนต่อไป

ออฟไลน์ Moobar

  • สมุนของคนที่คุณก็รู้ว่าใคร?
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ตอนที่ 13 เจอกัน

   "มึงไม่เป็นอะไรใช่ไหมดี"ไอ้แมนเขย่าตัวจนผมสะดุ้ง

   "โทษทีว่ะ คิดอะไรเพลินไปหน่อย"

   "กูว่าไม่เพลินแล้วมั้ง น่าเครียดชิบ"

   ตอนนี้ผมมาถึงบ้านไอ้แมนแล้ว โดยสภาพของเราสองคนไม่ได้ต่างอะไรกับหมาตกนำ้ ดีอยู่อย่างที่ไอ้แมนกับผมรูปร่างใกล้เคียงกันเรื่องเสื้อผ้าเลยไม่ได้มีปัญหาอะไร ไอ้แมนอนุญาตให้ผมอยู่ที่นี้สักพักจนกว่าจะดีขึ้น ซึ่งผมก็ต้องขอบใจมันนะ เพราะตอนนี้ผมยังไม่พร้อมที่จะพบใครทั้งนั้นจริงๆ ผมเชื่อว่าเวลาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ทุกอย่าง

   "นี่จ๊ะนมอุ่นๆ กินซะนะจะได้ดีขึ้น"แม่ของไอ้แมนวางแก้วนมไว้ให้พวกเรา ก่อนจะขอตัวขึ้นห้องไปนอนปล่อยให้ผมกับไอ้แมนได้คุยกันตามลำพัง

   นมอุ่นๆทำให้ร่ากายรู้สึกอุ่นขึ้นจริงๆ

   "กินเยอะๆจะได้โตไวๆ คริๆ"ไอ้แมนเอามือมาลูบหัวผม ให้ตายเถอะ...ทั้งๆก็อยู่กลุ่มเดียวกันแต่ผมก็ไม่เคยคุยอะไรกับมันแบบจริงๆจังๆสักครั้ง อย่างเช่นปรึกษาอะไรแบบนี้น่ะครับ

   "ขอบใจมึงมากนะ ถ้าไม่ได้มึงป่านนี้กูคงหนาวตายอยู่ข้างนอก"

   "ไม่เป็นไรหรอก มึงเป็นเพื่อนกูนี่หว่า แล้วมึงจะโทรบอกที่บ้านบ้างหรือเปล่า"

   "ไม่...กูยังไม่อยากบอกใคร"ถ้าผมบอกไป...มันต้องรู้แน่ ผมไม่พร้อมที่จะเจอหน้ามันตอนนี้จริงๆ

   "เอ่อๆแล้วแต่มึงล่ะกัน ส่วนเรื่องที่นอนมึงไปนอนที่ห้องกูนะ"ผมพยักหน้าเป็นการตอบ เสียงบีบแตร่ทำให้ผมสะดุ้ง หวังว่ามันคงไม่หาผมเจอเร็วขนาดนี้หรอกนะ

   "....."

   "นั้นเสียงรถพี่กูเองแหละ เอ่อ...เดี๋ยวกูมาไปเปิดประตูแป๊บนะ"ว่าแล้วไอ้แมนก็เดินออกไป นี่ผมกำลังคิดอะไรของผมอยู่กันแน่ ผมกลายเป็นคนขี้ระแวงไปแล้วอย่างนั้นหรอ

   เสียงเอะอะโว๊ยวายของคนสองคนดังตามมา ฟังจากเสียงน่าจะเป็นเถียงกันมากกว่า ไม่นานไอ้แมนก็เดินเข้ามาด้วยท่าทางอารมณ์เสียนิดหน่อย ที่เดินตามมาคงเป็นพี่ไอ้แมนมันและครับเพราะรูปร่างลักษณะผมไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไร คนตัวใหญ่ดูท่าทางอารมณ์สบายใจทั้งๆที่คนตัวเล็กบ่นไม่หยุดปาก

   "นี่มันหมดน่าเทศกาลแล้วไม่ใช่หรอ แล้วทำไมยังกลับดึกอยู่อีกล่ะพี่โก้"ทำไมชื่อนี้ผมรู้สึกคุ้นๆจัง

   "ก็วันนี้พี่เจอเพื่อนเก่าเข้าพอดี ก็เลยต้องจัดสักหน่อยไง"ร่างสูงเถียงกลับ อยู่ตรงนี้แล้วมองหน้าพี่เขาไม่ชัดเลย

   "ไม่หน่อยหรอกมั้ง มาสภาพแบบนี้ บอกแล้วใช่ไหมว่าถ้าเมาแล้วไม่ให้ขับรถ เกิดเจออุบัติเหตุแล้วจะทำยังไง ผมไม่อยากเป็นลูกคนเดียวตอนอายุสิบเก้านะโว๊ย"คนตัวเล็กเท้าเอวอย่างโกรธจนผมเองก็กลัวเหมือนกัน ไม่คิดเลยว่าไอ้แมนจะมีนิสัยคล้ายๆกับพี่ซีอยู่ รายนั้นน่ะเอ๊ะอ๊ะโว๊ยวายไปก่อนแล้ว จนผมเองก็เอือมๆอยู่บ้างเหมือนกัน

   "มาบ่นอะไรตอนนี้ เห็นว่ามีแขกมาบ้านไม่ใช่หรอ"ผมลืมสนิทว่าต้องไปทักทายพี่เขา ดูเหมือนผมจะเสียมารยาทแล้วล่ะ พอคิดได้ดังนั้นก็รีบเดินไปที่โซฟาที่พวกเขานั่งอยู่

   "อ้าวไอ้ดี มานี่ดิกูจะแนะนำพี่กูให้รู้จัก"ไอ้แมนกวักมือเรียก

   "หวัดดีครับ"ผมยกมือไหว้ ก่อนจะตอนอ้าปากค้างเมื่อเจอคนที่คุ้นเคย คนตรงข้ามเองก็เหมือนกัน

   "ดี...นั้นดีใช่ไหม"คนตัวสูงลุกขึ้นยิ้มแก้มแทบปริ

   "พี่โก้..."ไม่คิดว่าโลกจะกลมถึงขนาดนี้ ที่แท้พี่โก้ก็เป็นพี่ชายแท้ๆของของไอ้แมนงั้นหรอเนี่ย อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น

   ผมรู้จักพี่เขาตั้งแต่อยู่ชั้นประถม ตอนนั้นจำได้ว่าพี่เขาชอบมาเล่นกับผมบ่อยๆเพราะพี่เขาเป็นเพื่อนสนิทกับพี่บี ทั้งสองคนสนิทกันมากและเป็นที่รู้จักของคนแถวนั้นดี ด้วยความบ้าบิ่นของทั้งสองคนที่ชอบมีเรื่องไม่เว้นแต่ละวันนั้นล่ะครับ ทำให้ชาวบ้านบางคนแถวนั้นถึงกับส่ายหน้ากันเป็นแถว

   แต่ก่อนนั้นพวกผมอาศัยกันอยู่ที่วัดกัน โชคดีที่หลวงพ่อยังเอ็นดูพวกผมเพราะเราไม่มีญาติที่ไหนอีกนอกจากผู้หญิงคนนั้น คนที่ทิ้งพวกผมไป....แต่ใช่ว่าผมจะขาดความรักหรอกนะครับ พี่ๆทั้งสามก็ยังอยู่ ผมเลยไม่นึกเสียใจเลยสักครั้งที่ถูกผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่ของผมทิ้งไป ชีวิตของพวกผมตอนนั้นก็ไม่ได้ลำบากอะไรมากนั้น อาหารก็มีกินจากการไปช่วยบิณฑบาตรทุกเช้า ส่วนเรื่องการเรียนโชคดีที่ผอ.ที่ผมเรียนนั้นเคยเป็นศิษย์ของหลวงพ่อมาก่อน ท่านก็เลยฝากพวกผมเข้าเรียนต่อ

   ถึงอย่างนั้นแล้วพี่เอก็ยังรู้สึกเกรงใจอยู่ดี ผมจำได้ว่าหลังเลิกเรียนพี่เอจะไปไหนไม่รู้ทุกวัน แม้กระทั่งวันหยุดผมก็ไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายของผมเลย มารู้ทีหลังว่าพี่เอต้องทำงานพิเศษทุกวันเพื่อเก็บเงินที่จะไว้ใช้ในอนาคต พี่เอเป็นคนเรียนเก่งอยู่แล้วเวลามีการแข่งขันที่มีเงินรางวัลล่ะก็พี่ผมไม่เคยพลาดสักครั้ง ขนาดเรียนมอปลายพี่ผมยังสอบชิงทุนได้อีก ไม่เหมือนผมกับพี่ซีที่ไม่เก่งเรื่องเรียนเลยสักนิด จนต้องเอาเงินเก็บพี่เอมาใช้ ผมล่ะละอายใจจนเมื่อเข้ามอปลายก็เริ่มหางานพิเศษทำ

   "เราเป็นเพื่อนกับเจ้าแมนอย่างนั้นหรอ...ไม่คิดว่าโลกจะกลมขนาดนี้นะ สบายดีไหม"พี่โก้ยังเหมือนเดิม...ไม่ว่าจะะผ่านมากี่ปีเวลาคุยกันพี่เขาจะยิ้มแย้มเสมอ

   "สบายดีครับ...ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปีเลยนะครับ"
   
   "ก็ตอนนั้นไอ้บีไม่ยอมบอกพี่ว่าจะย้ายบ้านเลยสักคำ โรงเรียนมันก็ไม่ได้ไปพี่ก็ไม่รู้จะติดต่อเรายังไง ว่าแล้วยังเจ็บใจไม่หาย ทั้งๆที่คิดว่าพี่สนิทกับไอ้บีแท้ๆ"คนตัวใหญ่ทำหน้าน้อยใจ ก็ไม่แปลกหรอกครับเพื่อนสนิทไม่ยอมบอกเรื่องสำคัญอย่างนั้นเป็นใครๆก็โกรธ
   
   "พี่อย่าว่าพี่บีเลยครับ...ผมว่าพี่บีต้องมีเหตุผล ขนาดผมเองยังจำได้ว่าเจอหน้าพี่บีแค่อาทิตย์ละวันเอง ก็ตอนนั้นพี่บีต้องออกจากโรงเรียนออกไปทำงานเพื่อช่วยพี่เออีกทางน่ะครับ"
         
   "พี่ไม่ได้โกรธมันหรอก พี่รู้นิสัยมันดี...แล้วตอนนี้มันเป็นยังไงบ้างล่ะ สบายดีใช่ไหม"พี่โก้ยิ้ม

   "ครับ...ตอนนี้พี่บีดูแลอู๋อยู่แถว...นะครับ"

   "งั้นก็ดีเลย พรุ้งนี้พี่จะได้ไปเซอร์ไพรส์มันสักหน่อย หึๆ สนุกแน่"

   "หยุดเลยๆ ก็บอกแล้วไงว่าไอ้ดีมีปัญหากับทางบ้าน ขืนพี่ไปก็ได้รู้อ่ะดิว่าไอ้ดีอยู่ที่นี้"ไอ้แมนกอดอกว่า จริงของมันถ้าพี่โก้ไปพี่บีอาจจะรู้ว่าผมอยู่ที่ไหน ที่จริงผมไม่ได้กลัวเรื่องนั้นหรอก...ผมไม่มั่นใจว่าถ้าพี่บีรู้ว่าผมอยู่ที่ไหนแล้วมันจะรู้ด้วยหรือเปล่า

   "ทะเลาะกับไอ้บีมาหรอดี"

   "คือผม..."จะตอบว่าใช่ก็ยังไงอยู่

   "ไม่ต้องห่วง...พี่ไม่ให้มันจับได้หรอกน่าว่าดีอยู่กับพี่ที่นี้ ยังไงซะเราก็อยู่กับพี่จนกว่าจะสบายใจหรือไม่ก็อยู่ตลอดไปเลยก็ได้นะ"ทำไมประโยคหลังรู้สึกแปลกๆอย่างไงไม่รู้ครับ สายตาแบบนั้นผมเดาไม่เอาจริงๆว่ากำลังว่าพี่โก้คิดอะไรอยู่

   "....."

   "อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ พี่ล้อเล่น"พี่โก้เอามือกับลูบหัวผม

   "น้อยๆหน่อยไอ้เฒ่าหัวงู"ไอ้แมนเข้ามาปัดมือพี่โก้ออก"ไอ้ดีมันมาอยู่กับผมต่างหากไม่ใช่พี่ อย่าหลงตัวเองสิครับพี่ชาย"ไอ้แมนทำหน้ากวนๆ
      
   "มันก็เหมือนกันนั้นแหละน่า จริงไหมดี"พี่โก้หันมาถามความคิดเห็นผม

   "เอ่อ..ครับๆ"

   "ยังน่ารักไม่เปลี่ยนจริงๆด้วย"พี่โก้เข้ามาขยี้หัวผมอีกครั้ง ผมเองก็มัวแต่งงงๆเลยไม่ได้ปัดป้องอะไร

   "พอๆเลย ไปอาบน้ำได้แล้ว กลิ่นละมุดหึ่งขนาดนี้ไม่อายไอ้ดีบ้างไง"ไอ้แมนว่า พี่โก้ทำหน้าหงิกก่อนจะยกคอเสื้อขึ้นมาดมแล้วก็หัวเราะ สงสัยพี่เขาคงจะเมาจริงๆนั้นแหละ
   
   "จริงด้วย ฮ่าๆ พี่ไปอาบน้ำก่อนดีกว่านะ"ว่าแล้วพี่แกก็เดินขึ้นไป ไอ้แมนส่ายหน้าเอือมๆ

   "เวลาเมาก็เป็นอย่างนี้แหละ อย่าถือสาเลยนะ"

   "ไม่เป็นไร พี่โก้ก็เหมือนพี่ชายกูแท้ๆนั้นแหละ"ผมยิ้มตอบ

   "ก็หวังว่ามันจะคิดแบบนั้นนะ"ไอ้แมนพูดเสียงเบา

   "มึงว่าอะไรนะ"ผมถาม ก็ผมไม่ได้ยินมันจริงๆ

   "เปล่าๆไม่มีอะไรหรอก...กูว่าเราไปนอนกันดีกว่าดึกแล้ว"ผมพยักหน้าเป็นการตอบ ก่อนที่จะช่วยกับเก็บถ้วยชามแล้วขึ้นไป

   คืนนั้นผมนอนไม่หลับ...ได้แต่เอาแขนปิดตาตัวเองหวังจะไม่ให้น้ำใสๆไหลออกมา แต่มันก็ไม่เป็นผลเมื่อมันค่อยๆแทรกซึมออกมาจนได้ อยู่คนเดียวโดยไม่มีอ้อมแขนของพี่มันผมรู้ว่ามันหนาวเข้ากระดูกเลย

   "มึงไม่เป็นไรใช่ไหมดี"ไอ้แมนชะโงกหน้ามาจากเตียง ผมเองก็เกินทนแล้วที่จะเก็บความรู้สึกไว้คนเดียว

   "ฮึก...กูจะทำยังไงดีว่ะแมน ฮึก กูจะทำไงดี"ผมโผล่เข้ากอดร่างเล็กไว้ ไอ้แมนก็คอยลูบหัวเป็นการปลอบ
ขอบใจมึงนะไอ้แมน ที่คอยอยู่เป็นเพื่อนกู

   "มึงก็อยู่ของมึงเฉยๆนั้นแหละ ตกลงมึงไม่ได้ทะเลาะกับพี่มึงมาใช่หรือเปล่า"ไอ้แมนถามผม

   "กูขอโทษนะที่กูโกหกมึง แต่กูยังไม่พร้อมที่จะเจอหน้ามันตอนนี้จริงๆ ฮึก"

   "ไม่เป็นไร...กูเข้าใจ ร้องออกมาให้พอเถอะ แล้วหลังจากนี้มึงก็อย่าร้องอีกเข้าใจหรือเปล่า"ไอ้แมนกอดปลอบผม

   "ฮึก อะ...อืม"

   
********

ต่อ

   "ตื่นเช้าจังนะดี"เสียงหวานทำให้ผมหันไป แม่ไอ้แมนนั้นเองครับ ผมยิ้มตอบ

   "ครับ...นอนไม่ค่อยหลับน่ะครับ"ที่จริงต้องบอกว่าผมยังไม่ได้นอนซะมากกว่า ไอ้แมนเองก็นั่งเฝ้าผมทั้งคืนกว่ามันจะเผลอหลับไปประมาณตอนตีสาม

   'มึงหลับไปก่อนก็ได้นะ กูยังไม่ง่วงเลย'ผมนอนไม่หลับ ปวดหัว รู้สึกจะไม่สบาย อาจเป็นเพราะตากฝนนานมั้งก็เลยมีไข้นิดหน่อย

   'ไม่สบายหรอว่ะ หน้าซีดชิบ'มันไม่ได้ฟังผมเลยนี่หว่า

   'อืม...นิดหน่อยว่ะ แต่ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวก็ดีขึ้นเองแหละ'ผมตอบอย่าเกรงใจ แค่นี้มันก็ช่วยผมเยอะแล้ว ไอ้แมนลุกขึ้นนั่ง

   'เดี๋ยวกูไปหายามาให้นะ มึงรอเนี่ยแหละ'แล้วสุดท้ายผมก็รบกวนมันอีกจนได้ ถ้าผมมีที่ไปจริงๆก็คงไม่มาพึ่งมันหรอกครับ การที่เรารู้สึกว่าเป็นภาระของคนอื่นมันรู้สึกแย่แค่ไหน ถึงแม้ว่าเขาจะเต็มใจช่วยเราก็เถอะ
   
   "ดูแลสุขภาพนะ เห็นเราแล้วเป็นห่วง ดูสิป้าจับแขนแล้วจะหักไหมเนี่ย"ผมยิ้มฝืนๆ ผมดูน่าสมเพชขนาดเลยหรอครับตอนนี้

   "ใครบอก...แบบนี้น่ารักออกจะตายไป"เสียงทุ้มดังขึ้น ก่อนจะปรากฎตัวของชายรูปร่างหนาตัวสูงผิวขาวอย่างมีสุขภาพดี ทรงผมหวีเรียบไปด้านหลัง รอยยิ้มฉายอยู่ที่หน้าตลอดเวลา

   "อ้าวโก้...ตื่นเช้าจังนะ สงสัยวันนี้จะแผ่นไหวล่ะมั้งเนี่ย ลูกฉันตื่นซะเช้า"

   "แม่ล่ะก็ ผมก็ตื่นอย่างนี้ทุกเช้าอยู่แล้ว ไปเป็นห่วงลูกชายคนโปรดของแม่เถอะครับ ป่านนี้ไม่รู้จะตื่นหรือยัง"พี่โก้ว่าก่อนจะลากเก้าอี้ที่อยู่ข้างผมมานั่ง

   "อย่าไปว่าไอ้แมนเลยครับ เมื่อคืนมันนอนเฝ้าผมทั้งคืนคงไม่ได้นอน"ผมช่วยแก้ต่าง

   "เมื่อคืนเราไม่สบายหรอ"พี่โก้ด้วยสีหน้าตกใจ

   "ครับ เป็นไข้นิดหน่อย กินยาดีขึ้นแล้วครับ"

   "ยังวางใจไม่ได้หรอกดี วันนี้พี่ว่างเดียวพี่พาไปหาหมอดีกว่านะ"

   "ผมดีขึ้นมากแล้วครับ"แค่นี้ผมก็เกรงใจจะแย่ ลำบากไอ้แมนไม่พอนี่ยังต้องมาลำบากพี่โก้อีก

   "ให้พี่เขาพาไปเถอะนะดี แม่เองก็เป็นห่วง"ถึงอย่างนี้ผมก็ไม่รู้จะปฎิเสธยังไง

   "ขอบคุณครับ"สุดท้ายแล้วผมก็ได้แต่ขอบคุณทั้งสอง

   หลังจากที่กินข้างเช้ากันเสร็จ พี่โก้ก็อาสาพาผมไปหาหมอด้วยตัวเอง แน่นอนว่าไอ้แมนยังไม่รู้เรื่องนี้หรอกครับ เพราะมันยังไม่ตื่น ผมเองก็แค่เขียนโน๊ตทิ้งเอาไว้บนหัวนอนเฉยๆ ก่อนจะไปอาบน้ำแล้วออกมารอพี่โก้ พอจะออกจากบ้านก็โดนพี่โก้เอ็ดไปหนึ่งครั้ง เรื่องที่ผมอาบน้ำทั้งๆที่มีไข้อยู่ พอผมว่ากลัวตัวเองตัวเหม็นเดี๋ยวพี่โก้จะรังเกียจเอา ร่างสูงก็หยุดพูดแต่หันมายิ้มแทน หลังจากที่หาหมอเสร็จผลปรากฎว่าผมเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดาไม่มีอะไรมาก แค่ฉีดยาแล้วก็รับยามาทานก็เสร็จแล้ว

   "เราไปหาไรกินอร่อยๆก่อนกลับจะดีไหม"พี่โก้พูดขึ้นหลังจากที่เราขึ้นรถกันแล้ว

   "แต่เราพึ่งกินกันไปเมื่อไม่กี่ชัวโมงเองไม่ใช่หรอครับ"ผมพูด คนตัวใหญ่มองหน้าผมก่อนจะหัวเราะออกมา

   "บอกตามตรงนะ"พี่โก้หันมามองผม"พี่แค่อยากอยู่กับเราให้นานอีกนิดเฉยๆนั้นแหละ"

   "..."คำตอบพี่โก้ทำให้ผมเม้มปากเน้น ไม่คิดว่าพี่แกจะเล่นพูดแบบนี้

   "นะครับ เราไปหาอะไรกินกันก่อน ดีเองจะได้ไปหาซื้อชุดใหม่ๆจะได้ไม่ต้องใส่ชุดของไอ้แมนมัน"

   "แต่ผมไม่มีเงินเลยนะครับ"ผมพูดด้วยอาการเขินๆ ตอนนี้ตังค์ติดตัวสักบาทก็ไม่มีจะให้ไปซื้อเสื้อผ้าได้ยังไงกัน

   "เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอกน่า พี่จัดการได้"

   "แต่ผมเกรงใจ..."

   "พี่รู้ว่าเราเกรงใจพี่ ที่จริงไม่ใช่แค่พี่หรอกใช่ไหมที่เราเกรงใจน่ะ เจ้าแมนหรือแม้กระทั่งแม่ของพี่ดีก็เกรงใจไม่ใช่หรอ"

   "ก็ผม..."ผมก้มหน้าอย่างนึกสเมเพชตัวเอง

   "ดีต้องเข้าใจนะ ว่าพวกพี่น่ะเต็มใจช่วยเรา เรามัวแต่เกรงใจอยู่แบบนี้พี่เองก็ลำบากใจเหมือนกัน"

   "ขอโทษครับ"ผมไม่คิดว่าจะทำให้ทุกคนลำบากใจเลยสักนิด

   "ร่าเริงหน่อยสิ ให้เหมือนกับเป็นดีเมื่อก่อนนะครับ"ทำยังไงดีน้ำตาผมกำลังจะไหล ถ้าพี่โก้เห็นผมในสภาพแบบนั้นก็คงต้องเป็นห่วงผมอีกแน่

   'เข้มแข็งไว้สิดี...'

   "เอาเป็นว่าวันนี้เราไปเที่ยวกันดีกว่า ดีจะซื้ออะไร อยากทำอะไรพี่ตามใจหมดเลยดีไหม เรื่องตังค์ไม่ต้องเป็นห่วงถ้าดีไม่สบายใจวันหลังเอามาคืนพี่ก็ได้นะ"พอได้ยินแบบนั้นแล้วผมก็สบายใจแล้วล่ะ

   "ครับ"ไหนๆก็มีเวลาได้เที่ยวแล้ว แถมมีคนออกตังค์ให้อีกต่างหาก เที่ยวให้สนุกจนลืมเรื่องอีกไปเลยดีกว่าวันนี้

   พี่โก้เป็นคนใจดีมากๆครับ พาผมไปนู้นนี้แถมพี่เขามีคนรู้จักเยอะด้วยเวลาซื้อของก็ได้ส่วนลดมาเยอะด้วยเหมือนกัน แต่เสื้อผ้าที่ผมหอบอยู่เนี่ยเฉียดเกือบแสนขนาดลดแล้วนะ แล้วผมจะมีปัญญาคืนให้พี่เขาไหมชาตินี้ ทั้งๆที่บอกให้ไปแผนกเสื้อผ้าที่ถูกๆลดราคา แต่พี่แกเล่นพาเข้าแต่พวกร้านแบรนด์ดังๆ แค่ดูป้ายราคาก็ลมแทบจับแล้ว ไหนจะนาฬิกา TW Steel CE1034R อะไรนั้นอีกราคาเกือบหมื่นนี่ขนาดลดราคาแล้วนะครับเล่นผมอ้าปากค้างไปเลย ทั้งๆที่มันไม่ได้จำเป็นเลยสักนิดแต่พี่แกบอกว่าให้เป็นของขวัญวันเกิดผมล่วงหน้า ผมก็เลยเถียงแกไม่ได้อีกเหมือนเดิมทั้งๆอีกตั้งสองเดือนกว่าจะถึงวันเกิดของผม

   ตลอดทั้งวันผมสนุกมากพี่โก้พาผมไปดูหนังกินข้าวเหมาห้องคาราโอเกะร้องกัน ส่วนใหญ่แล้วผมไม่ได้ร้องหรอกพี่แกเล่นเหมาไมค์คนเดียว พี่โก้เป็นคนร้องเพลงเพาะผมเลยไม่มีปัญหาเท่าไรแถมยังร้องเพลงสากลได้แบบถึงใจผมมาก ไม่ว่าจะเป็นเพลง I'm Yours ของ Jason Mraz หรือแม้กระทั้ง Somewhere Only We Know ของ Keane เล่นเอาผมขนลุกเกลียวกันเลยทีเดียว

   ผมถามพี่แกว่าเป็นนักร้องหรือเปล่าทำไมถึงร้องเพลงเพาะอย่างกับต้นฉบับมาร้องด้วยตัวเองเลย พี่โก้บอกว่าเปล่าแต่ก่อนแกก็ร้องเพลงหากินเหมือนกัน แต่ตอนนี้เเปิดผับอยู่แถว...นี่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผมไม่อยากจะเชื่อว่าพี่โก้จะเป็นเจ้าของร้านผับชื่อดัง ขนาดผมไม่ใช่นักเที่ยวตอนกลางคืนนะครับ ขอลายเซ็นไว้ดีไหมเนี่ย...

   "สนุกหรือเปล่า"พี่โก้ถามในขณะที่เราสองคนกำลังนั่งรถกลับ

   "ครับ สนุกมากๆ"ผมยิ้ม

   "งั้นหรอ..."พี่โก้เป็นอะไร ตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้วที่พี่เขาดูมีท่าทีแปลกๆ

   "พี่เป็นอะไรหรือเปล่าครับดูหน้าเครียดจัง"ผมถาม

   "เปล่าหรอก...ว่าแต่ตอนนี้เราสบายใจขึ้นแล้วใช่ไหม"พี่โก้ถามกลับ

   "ครับ ผมต้องขอบคุณพี่โก้ด้วยนะครับ ผมสบายใจขึ้นเยอะเลย ส่วนเรื่องเสื้อผ้าผมคงต้องผ่อนจ่ายเอาแล้วล่ะ ฮ่าๆๆ แต่พี่อย่าคิดดอกเบี้ยผมนะครับ ไม่งั้นผมไม่มีปัญญาจ่ายพี่แน่"
   
   "เรื่องนั้นอย่าคิดมาก มีเท่าไรก็ค่อยๆจ่ายเอา"

   "ครับ ขอบคุณครับ"

   "เรานี่มันน่ารักชะมัดเลยนะ"พี่โก้ยื่นมือมาขยี้หัวผมอย่างเอ็นดู"ขืนทำตัวแบบนี้ พี่คงปล่อยเราไม่ได้อีกแล้วล่ะคราวนี้"พูดแปลกๆอีกแล้ว สีหน้าพี่โก้ดูจริงจังขึ้น
   
   "อะไรหรอครับ"ผมถาม
   
   "ไม่มีอะไรหรอก"

   "...."

   รถเบนซ์หรูหยุดจอดอยู่ที่หน้าบ้านหลังสีขาว แต่แปลกแทนที่จะบีบแตรเรียกคนในบ้านให้มาเปิดประตูให้ พี่โก้เลือกให้ผมคอยอยู่ในรถ ส่วนตัวเองก็ออกไปยืนสูบบุหรี่อยู่ข้างๆรถแทน ทำไมถึงไม่เข้าไปล่ะ แล้วยังสั่งให้ผมรออยู่ในรถห้ามออกจากรถเด็ดขาด ไม่ว่าอะไรจะเกิด

   ไม่นานผมก็เห็นปอร์เช่คันหรูที่ผมคุ้นเคย ผมเบิกตากว้างเพราะรู้ว่าเจ้าของรถคือใคร ก่อนจะเม้มปากตัวเองเน้น มันหาผมเจอได้ยังไงกัน ทำไมผมถึงหนีมันไม่พ้น ราวกับตัวเองกำลังเดินอยู่ที่เดิม...

   เจ้าของรถคันหรูเดินออกมาอย่างรีบร้อนก่อนจะเดินตรงเขามาหาพี่โก้แล้วปล่อยหมัดในทันทีโดยไม่ถามอะไรแม้แต่คำเดียว ผมหวีดร้องอย่างตกใจก่อนที่คนตัวสูงจะต่อยสวนกลับเหมือนกัน ผมไม่สนใจคำที่พี่โก้เคยสั่ง ก่อนจะเปิดประตูออกไป ตอนนี้ไอ้พี่เสือกำลังนั่งคร่อมง้างหมัดเหนือคนตัวสูงอยู่

   "หยุด กูบอกให้หยุด"ผมตะโกนร้อง ก่อนที่พี่มันจะหันมามองผมด้วยสายตาโกรธเคืองแต่ยังแฝงด้วยความน้อยใจอยู่ในนั้นด้วย

   'อย่ามองผมด้วยสายตาแบบนี้'ผมร้องบอกในใจ เพราะผมกลัว...กลัวว่าตัวเองจะใจอ่อน

   พอพี่เสือเผลอคนที่อยู่ข้างล่างก็ได้โอกาสต่อยสวนกลับทำให้พี่เสือลงไปนอนกองกับพื้น ก่อนที่พี่โก้จะขึ้นคร่อมตาม

   "ผมบอกให้หยุดทั้งสองคนนั้นแหละ"ผมตะโกนบอก น้ำตาไหลพรากยากจะกลั้น

   แต่เหมือนเสียงผมยังไปไม่ถึง ไม่มีใครหยุดต่างแลกหมัดกันจนคนในบ้านต้องออกมา

   "ดีนี่มันอะไรกัน"ไอ้แมนรีบเปิดมาดู"เห้ยพี่เสือ...."ไอ้แมนร้องเมื่อรู้ว่าคนที่กำลังแลกหมัดกับพี่ชายของตนคือใคร

   "สัส มึงคิดจะแย้งเมียกูหรือไง ห๊ะ"พี่เสือตะโกน ในขณะที่ตัวเองพลิกมาอยู่ข้างบนได้สำเร็จและกระชากคอเสื้อของพี่โก้ขึ้นมาพูดใส่ให้ได้ยิน ทั้งๆที่ผมน่าจะดีใจที่มันพูดคำนี้ แต่ตอนนี้ผมรู้สึกแย่สุดๆ ไอ้แมนหันมามองหน้าผม

   "ถุ๊ย ทำให้เขาเสียใจยังเสือกมาพูดอีกหรอ น่าสมเพชว่ะ"พี่โก้ยังคงยิ้มเหมือนเคย

   "ไอ้ดีมึงเลือกเอาว่าจะไปกับกู หรือจะให้มันตายคาตีนกูอยู่ตรงนี้"

   "...."

   "ดี"

   "พอเถอะ"ผมเม้มปากแน่น"พี่โก้ผมขอโทษนะครับ"สุดท้ายแล้วมันผมก็หนีมันไม่พ้นจริงๆ

   "ดีถ้ามึงไม่อยากไปจริงๆล่ะก็..."ไอ้แมนว่า

   "กูไม่เป็นไร ต้องขอโทษมึงด้วยนะที่ต้องทำให้ลำบาก"ผมยิ้มฝืนๆ พี่เสือปล่อยคอเสื้อของพี่โก้ออก ก่อนจะเดินมากระชากแขนผมไป

   "มึงกับกูมีเรื่องต้องคุยกัน"เสียงกระซิบนั้นเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง ผมหันไปมองทั้งสองคนที่ผมอย่างเป็นห่วงขอบคุณมากนะ ขอบคุณจริงๆ

   
   ****ห่างหายไปนานขอโทษด้วยนะคะ ข้าน้อยขอยอมรับผิด T^T :ling3:

   

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
อร๊ายยมาต่อแว้วเพิ่งอ่านตอนก่อน
ไปวันนี้ตอนใหม่มาแล้ว :pig4:

ออฟไลน์ zeroj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ในที่สุดก็มาต่อแล้ววววววววววววววววววววว

รู้สึกว่านานมากเลยนะ

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ Moobar

  • สมุนของคนที่คุณก็รู้ว่าใคร?
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ตอนที่ 14 ความทรงจำ

    "คิดจะเงียบอีกนานหรอเปล่า"ร่างสูงพูดโดยที่ตายังมองทางข้างหน้าที่ผมรู้ไม่จัก

   กว่าสองชั่วโมงแล้วที่รถเบนซ์คันหรูพาผมออกมาจากกรุงเทพ สังเกตป้ายคงจะอยู่แถวจังหวัดปราจีนบุรี คำถามคือมันจะพาผมไปที่ไหน คงไม่ใช่บ้านหลังสีขาวเหมือนวันก่อนแน่เพราะที่นั้นอยู่แค่ชานเมืองของกรุงเทพแต่นี่มันเล่นพาผมมาถึงปราจีน ระหว่างทางผมไม่แม้ที่จะมองหน้าพี่มันด้วยซ้ำ จะเอาผมไปต้มยำทำแกงอะไรก็เชิญเลยตามสบาย ยังไงซะผมก็ขัดไม่ได้อยู่แล้วนิ

   "ขี้เกียจพูด พูดไปก็เหมือนสีซอให้ควายฟัง"ผมคงพูดแทนใจดำน่าดู พูดจบร่างสูงที่ได้แต่มองทางข้างหน้า หันควับมาทางผมทันที

   รอยใต้ตาคล้ำแสดงว่าคงไม่ได้นอนทั้งคืนสินะ ใบหน้าคมดูหม่องไปนิดหน่อย ไหนจะเสื้อผ้านี้มันใส่ตั้งแต่เมื่อวานก่อนสงสัยคงยังไม่ได้เข้าบ้านไปอาบน้ำเลย ไหนจะผมเพ้าที่ดูรุงรังจนนกสามารถเข้าไปทำรังได้อีก มันจะเป็นยังไงก็เรื่องของมันเถอะครับ แต่ตอนนี้ผมห่วงชีวิตผมมากกว่าต้องมาฝากไว้กับพี่มันเนี่ย

   คุ้มไหม...

   "ตั้งแต่เจอผัวเก่าแล้วปากดีขึ้นเยอะ"คราวนี้เป็นผมที่หันไปจ้องมันแทน มันดูถูกผมน่ะไม่เป็นไร แต่ทำไมต้องมาว่าพี่ที่ผมเคราพอย่างพี่โก้ด้วย พี่โก้น่ะทั้งสุภาพบุรุษกว่ามันเยอะ ไม่เคยดูถูกผมหรือทำร้ายผมสักครั้ง มันกล้าดียังไงถึงว่าพี่ชายผม

   "แน่นอน"สั้นๆแต่สามารถยั่วโมโหมันให้เต้นได้ ก่อนที่ผมจะหันไปมองกระจกข้างเหมือนเดิม

   การสนทนาของเราสองคนจบแต่เพียงเท่านี้ ไม่มีใครพูดอะไรต่อ...ผมไม่รู้ว่ามันกำลังทำหน้ายังไงด้วยจากการพูดเมื่อสักครู่ ผมมองวิวข้างๆทำเหมือนมันน่าสนใจซะเต็มประดาแต่ไม่เลยตอนนี้ผมกำลังร้อนใจเป็นที่สุด ผมไม่อยากอยู่กับมัน อยากไปอยู่ที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ข้างๆไหล่นี้ ทำไมผมหนีไม่พ้นซะที เหมือนกับผมวิ่งอยู่บนวงกลมที่สุดท้ายผมก็วิ่งกลับมาที่จุดเดิม

   ท้องฟ้าเริ่มมืดครึมดีนะที่พี่โก้ซื้อนาฬิกาให้ผมเป็นของขวัญวันเกิด ก็เลยรู้ว่าเป็นเวลากว่าสองทุ่มครึ่งแล้ว บ้านเรือนที่อยู่รอบข้างเริ่มทิ้งระยะห่างกัน สองข้างทางมีแต่ป่าทั้งนั้น ผมจึงจำใจต้องหันหน้าไปหาพี่มันเพราะผมกลัวว่ามีอะไรโผล่มาผมคงหัวใจวายไปก่อน สีหน้าของร่างสูงเป็นปกติแต่ดูท่าทางอิดโรยนิดหน่อย อย่าหวังว่าผมจะถามว่าเหนื่อยไหมหรือว่าอะไร ผมก็แค่หลับตาพักผ่อนสายตาสักครู่

   ผมหลับไปหรอรู้ตัวอีกทีเหมือนมีอะไรอุ่นๆมาหนาบตรงหน้าผาก ร่างของผมเริ่มเข้าหาความอุ่นตามธรรมชาติของมนุษย์ ก่อนที่ผมจะรู้สึกอะไรบางอย่างที่สัมผัสกับแก้ม ความอุ่นนั้นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ทำไมผมรู้สึกว่าคุ้นเคยกับมันจัง

   "ขอโทษนะ"เสียงกระซิบราวกับกัดฟัน

   นั้นเสียงใคร...ทำไมต้องขอโทษผมด้วย


   'นี่ๆ ยาร้องชิ แผลแค่นี้เอง'

   เสียงของเด็กผู้ชายทำให้ร่างเล็กที่กำลังสะอื้นต้องหยุดในขณะที่หางตายังเปื้อนคราบน้ำตาอยู่ ใบหน้ากลมดูฉุนเพราะไม่ชอบเห็นน้ำตาของร่างเล็กนั้นเลย ก่อนจะค่อยๆหย่อนก้นน้อยๆลงข้างๆ ไม่กลัวว่ามันเปื้อนแล้วจะถูกดุเอา

   'ฮือๆๆ เจ็บจัง...'
   
   ร่างเล็กได้แต่ร้องโอดครวญด้วยความเจ็บที่ตัวเองโดนแกล้งจากเด็กเกเรแถวนั้นจนทำให้เกิดแผลที่ข้อศอก ร่างเล็กกลัวว่าถ้าพี่ชายมาเห็นเข้าต้องโดนซักถามแน่ว่าไปทำอะไรมาถึงได้แผลอย่างนี้ ด้วยความเดียงสาของเด็กกลัวพี่ชายจะไปแก้แค้นให้กับตนจนอาจจะเจ็บเหมือนตนก็ได้เลยไม่กล้าที่จะวิ่งไปหาพี่ชาย แต่กลับมาแอบที่สนามเด็กเล่นใกล้บ้านแทน

   'เป็นยูกพูชายต้องเข้มแข็ง เข้าใจเปล่า'

   ถึงปากจะบอกให้เข็มแข็ง แต่เจ้าตัวก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ เพราะแผลของคนตัวเล็กไม่ใช่ใช่เล็กๆเลย ผ้าเช็ดหน้าลายเท็ดดี้ทีตัวเองหวงนักหวงหนาถูกควักออกมาจากกระเป๋ากางเกง

   'เอาแขนมานี่'

   คนตัวเล็กสั่งในขณะที่ร่างเล็กยื่นแขนน้อยๆออกไป แต่ก็ทำได้ไม่สุดเพราะแผลที่ว่าเริ่มจะตึงๆจนเจ็บ ร่างเล็กทำท่าจะร้องอีกครั้ง แต่ต้องชะงักเมื่อรับรู้ถึงลมหายใจของอีกคนที่กำลังเปาลมมายังบริเวรแผลนั้น เวลานั้นร่างเล็กรู้สึกไม่เจ็บก็เลยปล่อยให้อีกคนเปาต่อไป รู้ตัวอีกทีผ้าเช็ดหน้าลายเท็ดดี้ก็มาพันอยู่ตรงแขนซะแล้ว

   'ดีขึ้นมั้ย...ม๊าบอกทำแบบนี้แล้วจะหาย'คนตัวเล็กถามเสียงใส ก่อนที่ร่างเล็กจะพยักหน้าไม่รู้สึกเจ็บแล้วจริงๆ หน้ากลมยิ้มแป้นก่อนจะหยิบอะไรบางอย่างที่อยู่ในกระเป๋าตัวเองเช่นเดียวกัน

   'ผ้านายมันเปื้อนแย้ว...เอานี่ไปจิ'มือน้อยยื่นผ้าเช็ดหน้าของตัวเองเป็นการแลกเปลี่ยน ผ้าเช็ดหน้าลายกล้วยหอมจอมซนมีลายปักษ์เป็นชื่อของเจ้าของ

   'ดออิ นายชื่อดิหรอ'ร่างเล็กหัวเราะคิกคัก นึกขำชื่อที่ตนโดนเปลี่ยนโดยคนแก้มป่องที่อยู่ตรงหน้า คนตัวเล็กคิ้วขมวดไม่เข้าใจว่าร่างเล็กหัวเราะอะไร ได้แต่มองชื่อกับเจ้าของไปมา

   'ดีต่างหากล่ะ คริๆ นายตลกดีนะ'

   'ตลกตรงไหนกัน...เอาเท็ดดี้คืนมาเลยงั้น'คนตัวเล็กแกล้งเหย้า ในขณะที่อีกคนอีกแลบลิ้นใส่

   'ได้ไง...เราแลกกันแล้วนะไม่ให้หยอก มันเปื้อนเลือดแล้วดูชิ เท็ดดี้เป็นของดีแย้ว'

   ทั้งสองต่างหัวเราะขำ ก่อนที่เสียงเรียกพี่ชายของดีจะดังขึ้น คนตัวเล็กหน้าหงอยอย่างเสียดายโดยที่อีกคนมองเขาตาแป๋วพลางสงสัยว่าทำไมสายตาของอีกคนถึงดูเศร้าสร้อยนัก

   'เป็นอาใยหรอ...'เสียงของดีเอื้อนเอ่ยถามด้วยความไร้เดียงสา ส่วนอีกคนยิ้มเจื่อด้วยความเศร้า

   'พรุ้งนี้เราจะย้ายบ้านแย้ว คงไม่ได้เจอดีอีก'

   'ไม่เป็นใยหรอ สักวันเราคงได้พบกันแหละ อย่าเส้าไปเลย'

   ร่างเล็กพูดเสียงใสในขณะที่อดหวั่นใจไม่ได้ แต่เชื่อว่าสักวันต้องมีโอกาสได้พบ ความเป็นเด็กทำให้เขาคิดแบบนั้นก่อนจะฉีกยิ้มกว้างแล้วยื่นนิ้วก้อยเล็กๆไปหาคนแก้มป่องที่มองอย่างสงสัย

   'มาเกี่ยวก้อยสัญญากันนะ ว่าเราต้องได้พบกันอีก'
   
   คนตัวเล็กลังเลอยู่สักพักก่อนจะยื่นนิ้วก้อยของตนเข้าไปเกี่ยวเอาไว้ สัญญานี้จะต้องเป็นจริง...สักวันนึงพวกเขาจะได้พบกันแน่ จะได้เห็นรอยยิ้มนั้น ได้จับมือที่แสนนุ่มนั้นอีกอย่างแน่นอน

   'ดี...อยู่ไหน'

   เสียงตะโกนเริ่มดังเข้ามาขึ้นเรื่อยๆทำให้ร่างเล็กต้องสะดุ้ง ก่อนจะแอบคลานไปมองจากกำแพงอีกด้านเห็นพี่ชายสองคนกำลังตามหาตัวเองด้วยสีหน้าเป็นห่วง

   'เราไปก่อนนะ'ร่างเล็กยิ้มให้ ก่อนจะยกมือป้อมๆนั้นโบกไปมา
   
   'แล้วเจอกันนะดี'ทั้งที่ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้เจอกัน คนตัวเล็กก็เอ่ยออกไป

   'นี่ๆ...นายยังไม่ได้บอกชื่อนายเลย อย่าขี้โกงจิ'ร่างเล็กทำแก้มป่องอย่างโกรธๆ ทำให้อีกคนต้องหัวเราะร่า มองอีกว่าน่ารักชะมัด
   
        'เราชื่อ...'

***ต่อ

   ลืมตาด้วยความรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ที่นี้ที่ไหนว่ะเนี่ยทำไมไม่คุ้นเลย ร่างใหญ่กอดผมแน่นราวกับตุ๊กตา...ผมไม่ได้สนใจเรื่องนี้ซักเท่าไรเพราะความฝันเมื่อสักครู่ทำให้สมองประมวลอะไรที่อยู่รอบข้างช้าไป เด็กผู้ชายคนนั้นที่ผมเห็นในฝันไม่ใช่สิต้องเรียกว่าภาพในอดีตซะมากกว่า ผ้าเช็ดหน้าลายหมีเท็ดดี้ยังอยู่ที่ห้องของผมเป็นหลักฐานอย่างดีว่าเหตุการณ์ที่ผมฝันเมื่อครู่นั้นเป็นความจริง

   คำถามคือ...

   ผมเจอเขาแค่แปบเดียวเท่านั้นแล้วทำไมผมถึงได้ฝันเห็นเขาได้ล่ะ

   "เป็นอะไรฝันร้ายหรือไง"เสียงทุ้มทำให้ผมต้องพลิกกายมองหน้าของอีกคนในความมืด ก่อนจะสบัดจากอ้อมกอดนั้นออกแต่ความเหนียวของแขนพี่มันอย่างกับปลาหมึก สุดท้ายผมก็หอบหายใจยอมแพ้ปล่อยให้มันกอดไป กลิ่นโคโลญผสมกับกลิ่นยาสระผมแสดงว่ามันคงอาบน้ำแล้วคงไม่เป็นไรหรอกนะ

   "ปล่อย"ผมบอก ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ามันจะตอบว่าไง

   "ขออยู่แบบนี้ก่อนได้เปล่าว่ะ เมื่อคืนกูตามหามึงทั้งคืนไม่ได้หลับได้นอน"ผมควรทำยังไงกับมันดี...ชกหน้าแล้วหนีออกไปดีไหม ปัญหามันไม่ได้อยู่ตรงนั้นน่ะสิ เกิดผมหนีรอดไปได้แล้วผมจะทำยังไงต่อ ที่นี้ที่ไหนก็ไม่รู้เงินสักบาทก็ไม่มี แล้วอีกอย่างที่นี่ถิ่นพี่มันด้วย หนีไปก็คงหนีไม่รอดหรอกครับ

   "แล้วมึงเจอกูได้ยังไง"ตัดสินใจเรื่องหนีเอาไว้พรุ้งนี้แล้วกัน อยากรู้จริงว่ามันติดจีพีเอสฝั่งไว้กับตัวผมที่ไหนหรือเปล่า ทำไมมันถึงได้หาผมรวดเร็วขนาดนี้

   "ทำไมไม่เรียกกูพี่เหมือนแต่ก่อนล่ะ กูห่างกับมึงตั้งปีนีง"อยากจะบอกว่าสรรพนามมึงเปลี่ยนไปตั้งแต่วันที่กูรู้ความจริงว่ามึงโกหกกูแล้ว แต่ไม่พูดดีกว่าอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ผมว่ามันไม่ปลอดภัย ไม่ใช่ว่าผมกลัวหรืออะไรนะครับ แต่คนเราต้องรู้จักการเอาตัวรอดน่ะจริงไหม ผมแค่เอาตัวรอดในแบบฉบับของผมก็เท่านั้น

   "ทำไมพี่ถึงเจอผมได้ครับ"ไม่ได้ทำเสียงกวนตีนเหมือนที่คุณๆคิดนะครับ แค่พูดธรรมดาปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติก็เท่านั้น

   "ไม่เห็นยาก...แค่เช็คดูว่าเพื่อนมึงคนไหนอยู่ในบริเวรนั้นบ้างก็เท่านั้น แต่ก็มีอยู่หลายคนเหมือนกันกว่ากูจะมึงเจอ"ดูมันพูดกับผมสิแล้วแบบนี้มันน่าจะพูดดีด้วยไหม ผมค่อยๆหลับตาลงแล้วฟังมันเล่าต่อไป"รู้ไหมกูต้องแบกหน้าไปเคาะบ้านพวกนั้น อายโคตรแต่เพราะกูอยากเจอมึง..."

   "แต่ผมไม่อยากเจอพี่ตอนนี้ พี่ไม่เข้าใจหรือไง"ผมพูดแทรกขึ้น"พี่เสือเรื่องแบบนี้ผมต้องการเวลาจริงๆ พี่ให้ผมไม่ได้หรอ...ถ้าพี่เป็นผมพี่จะยังคงทำหน้าระรื่นอยู่ไหมถ้าคนที่ตัวเองรักโกหกมาตลอด"น้ำเสียงผมสั่นเครือเกินที่จะคุม

   "กูแค่อยากจะขอโทษ...เรื่องทั้งหมดกูผิดเอง กูทำให้มึง ให้ไอ้กวางต้องผิดหวัง กูมันแย่ กูมันเหี้ยเองที่ปล่อยให้อารมณ์ชั่ววูบมาทำร้ายมึง ที่กูปล่อยมือมึงไม่ได้สักทีเป็นเพราะว่ากูกลัวดี กูกลัวจะเสียมึงไปอีกเป็นครั้งที่สอง...ให้กูทำอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่แบบนี้"ร่างสูงลุกขึ้นนั่งกุมขมับ

   "พี่แน่ใจนะว่าอะไรก็ได้"ผมถามย้ำ มันเป็นคนพูดเองนิว่าทำยังไงก็ได้

   "อืม..."คงลังเลสินะถึงได้พูดเสียงแผ่วขนาดนี้

   "ถ้าพี่ไม่มั่นใจ...ก็อย่าพูดดีกว่า"ผมถามให้แน่ใจ ไม่ใช่ว่ารับปากแล้วไม่ทำตามมันจะเป็นการทำร้ายความรู้สึกกันซะเปล่าๆ

   "มั่นใจ...ถ้ามึงให้โอกาสกูดี"พี่เสือเป็นคนที่พูดหวานๆไม่เป็น เป็นคนเอาแต่ความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ ทำอะไรก็ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ผมมองร่างดำๆนั้นด้วยความช่างใจ ถอนหายใจออกมาแรงๆให้รู้ว่าผมเหนื่อยและลำบากใจมากแค่ไหน

   "พิสูจน์สิ...พิสูจน์ด้วยการกระทำของพี่เอง ไม่ใช่แค่ลมปาก"นี่ถือเป็นการให้โอกาสพี่มันครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆครับ ผมเองก็เหนื่อยแล้วกับการต้องมาวิ่งหนีอยู่อย่างนี้ ถ้าเกิดมันไม่รักษาโอกาสที่ผมให้ไว้ครั้งนี้มันคงไม่ได้เห็นหน้าผมไปตลอดชีวิตแน่

   "อืม...กูสัญญา ขอบคุณนะดี ขอบคุณที่ให้โอกาสกู"

   ผมเบี่ยงตัวหลบคนตัวสูงที่กำลังโน้มตัวลงมา พี่เสือชะงักไป...

   "ความรักของเราต้องผูกพันธ์กันทางกายด้วยหรอครับ...ให้ผมมั่นใจในตัวพี่ก่อนได้ไหม ผมน่ะ.."

   "ไม่เป็นไรกูเข้าใจ นอนเถอะ"มือใหญ่ค่อยๆลูบศรีษะผมอย่างแผ่วเบา แล้วค่อยๆหย่อนกายนอนลงข้างๆเช่นเดิม ต้องขอบคุณความมืดที่คอยปกปิดสีหน้าของผมตอนนี้เอาไว้ ขณะที่หัวใจยังสับสนผมก็ยังรับรู้ความรู้สึกอบอุ่นของคนข้างๆได้

   ราตรีสวัสด์นะครับ...พี่เสือ


   ลืมตาตื่นเพราะเสียงไก่ขันมองไปยังคนข้างๆก็ไม่เห็นเสียแล้ว ลมเย็นๆพัดมาทางหน้าต่างทำให้ผมรู้สึกสดชื่นจัง ห้องนี้ก็ตกแต่งเข้ากับบรรยายกาศมากครับ บ้านเป็นบ้านไม้ถ้าคิดไม่ออกในนึกถึงบ้านไม้ตามบ้านที่อยู่ตามแทบของภาคเหนือประยุกต์ให้ทันสมัยมากขึ้น ด้วยการใส่ฟอร์นิเจอร์ทั่วไป

   พี่เสือไปไหนทำไมไม่ปลุกผม เงยหน้ามองนาฬิกาเพดานเป็นเวลาเจ็ดโมงเช้าแล้วหรอเนี่ย พอลุกมาจากที่นอนผมก็ต้องชะงักกับอะไรบางอย่าง กรอบรูปโลหะที่ตั้งอยู่บนที่นอน เด็กผู้ชายสามคนกอดคอกันใบหน้ายิ้มแป้นด้วยความสุข คนซ้ายต้องเป็นไอ้กวางแน่ถ้าผมจำไม่ผิดใบหน้ามันไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมเลยครับ แถมเวลายิ้มก็แค่ฉีกยิ้มแบบธรรมดา ส่วนไอ้คนกลางไม่ต้องเดาว่าเป็นใคร สีผิวขนาดนั้นต้องเป็นพี่เสือชัว แล้วคนขวาล่ะใครกัน...ไอ้สิงโตอย่างนั้นหรอ รู้สึกว่าไม่เห็นคล้ายกันเลย แต่แปลกทำไมผมถึงรู้สึกว่าคุ้นเคยกับเด็กผู้ชายคนนั้นเป็นอย่างดี

   เหมือนกับ...

   ในฝันเมื่อคืน

   ผมสะบัดหน้าไล่ความคิดก่อนจะคว้าเอากรอบรูปนั้นเดินออกไป เสียงเอ๊ะอ๊ะโวยอยู่ในครัวทำให้ผมตรงดิ่งเข้าไปโดยไม่ลังเล ผมแค่ใจร้อนอยากรู้ว่าเด็กผู้ชายที่ผมคุ้นหน้านี้เป็นใครกันแน่ เพราะก่อนหน้านั้นคุณหมีเท็ดดี้ได้บอกชื่อให้กับผมเอาไว้แต่ผมดันลืมชื่อนั้นไปสนิท คิดว่าถ้าเกิดได้ยินชื่ออีกครั้งผมอาจจะจำได้ก็ได้ครับ

   แต่ว่า...มันจะบังเอิญเกินไปหรือเปล่า

   "พี่เสือผมถามอะไรสักอย่างได้ไหมครับ"ผมร้องถาม พี่เสือหลี่ไฟของเตาแก๊สก่อนจะหันมาจับจ้องหน้าของผมนิ่ง แล้วสายตานั้นก็ค่อยๆเลื่อนลงไปยังกรอบรูปที่อยู่ในมือของผม

   "ว่ามาสิ"

   "เด็กผู้ชายคนขวาสุดนี่ใครหรอครับ"ผมว่าพลางยกกรอบรูปที่ถือติดมาให้ดู

   "หมูอ้วนน่ะหรอ ทำไมล่ะ"สายตาของพี่เสือเปลี่ยนไป ในขณะที่ผมตกใจสุดขีด ใช่แล้ว...ผมจำได้แล้ว

   "พาผมไปหาเขาหน่อยได้ไหมครับ...ผมมีสิ่งหนึ่งต้องคืนเขาน่ะครับ"
   
   "งั้นกินข้าวเสร็จก่อน เดี๋ยวกูพาไป"ร่างสูงไม่มีทีท่าแปลกเท่าไรแต่กลับยิ้มให้ผมแทน


   'เราไปก่อนนะ'ผมบอกลา ในขณะที่พี่เอกับพี่บีตระโกนเรียกหาผมอยู่ข้างนอก
   
   'แล้วเจอกันนะดี'เขาคนนั้นยิ้มอย่างเศร้าๆให้กับผม  อยากรู้จริงๆทำไมต้องเศร้าขนาดนั้น

   'นี่ๆ...นายยังไม่ได้บอกชื่อนายเลย อย่าขี้โกงจิ'ไม่วายจะถามชื่อ เจอกันครั้งหน้าจะได้เอาคุณเท็ดดี้คืน ดูท่าทางเขาจะรักคุณเท็ดดี้ที่พันอยู่บนแขนผมเอามากๆเลยล่ะ 

   'เราชื่อหมูอ้วน ยินดีที่ได้รู้จักนะ'

   



***คิดไปคิดมาสามสิบแปดตลบ เวอร์ไปแหละ TT  :z6:
   

   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-02-2015 13:10:36 โดย Moobar »

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
น้องดีรีบๆให้อภัยพี่เสือเค้าเหอะ

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
อยากให้ดีงอนยาวๆ555

อยากอ่านเรื่องพี่บีกับพี่เอด้วย

เหมือนพี่เอจะได้ลูกเลี้ยง2หน่อ

เดาๆกันปายยย ^^

ออฟไลน์ youuue

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

Papornsaen

  • บุคคลทั่วไป
พี่เสือคล้ายยๆพี่บาสเลยยยยยย :angry2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
พี่เสือง้อดีเยอะๆเดี๋ยวก็หายยย
ว่าแต่หมูอ้วนนี่ใคร ??

ออฟไลน์ kitwiphat

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-7
คิดถึงพี่เสือจัง

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

ออฟไลน์ Moobar

  • สมุนของคนที่คุณก็รู้ว่าใคร?
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0


ตอนที่ 15 ไปเที่ยวกันไหม...30%

 

 

มาคิดดูดีๆแล้ว มันไม่บังเอิญไปหน่อยหรอที่เด็กคนนั้นจะรู้จักกับพี่เสือ โลกมันจะกลมเกินไปหรือเปล่า ได้แต่เก็บความสงสัยของตัวเองไว้ใจเงียบๆ นั่งคอยพี่เสือแต่งตัวอยู่ข้างนอก

 

ผมไม่อยากใจง่ายเหมือนที่ผ่านมา ผมให้โอกาสกับพี่มันก็จริงแต่นั้นแหละมันก็ต้องมีคำว่าขอบเขตกันบ้าง จนกว่าผมจะแน่ใจและมั่นใจว่าผมพร้อมจะมอบหัวใจทั้งหมดให้พี่มันอีกครั้ง

 

พอสักพักพี่มันก็เดินออกมา แต่งตัวแบบสบายสุดๆ เสื้อกล้ามสีดำกางเกงขาสั้นเลยเข่านิดหน่อยสีเขียวขี้ม้า มีเป้ที่เป็นสีเดียวกับกางเกงสะพายหลัง รองเท้าผ้าใบสีดำ สวมแว่นตาสีชา ทำไมเห็นไอ้พี่ดำมันแต่งตัวแบบนี้แล้วรู้สึกแปลกๆว่ะ เผลอจ้องมันตั้งนานก่อนจะตีเนียนแสร้งมองไปทางอื่น

 

"ป่ะ...เดี๋ยววันนี้กูพาไปเที่ยวน้ำตก"

 

"เห้ยพี่...ไหนพี่บอกจะพาไปหาหมูอ้วนไง แล้วทำไมถึงมาชวนผมไปน้ำตกได้ว่ะ"ผมโวยวายชักสีหน้าไม่พอใจสุดๆ ไหนบอกจะพาผมไปหาหมูอ้วน แล้วไหงกลับชวนผมไปเที่ยวได้ล่ะ

 

"แล้วมึงมีพาสปอร์ตป่ะล่ะ"ดูถ้าไอ้ดำมันจะไม่สะทกสะท้านอะไรที่ผมโวยวาย

 

"ของแบบนั้นใครจะมี"

 

"ก็นั้นไง ถ้ามึงไม่มี มึงก็ไปหาไอ้หมูไม่ได้หรอก"

 

"ทำไมผมจะไปไม่ได้...พี่อย่ามาลีลากับผมได้ไหม"

 

"มันไปอยู่อเมริกาตอนแต่ ป.5 ถ้ามึงอยากไปหามันมากก็ต้องมีพาสปอร์ตเป็นอันดับแรก ถ้าไม่มีก็อดเข้าใจไหมครับที่รัก"มันยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ส่วนผมได้แต่อ้าปากพะงาบๆพูดไม่ออก

 

"งั้นผมจะกลับกรุงเทพ รับรองว่าไม่ต้องใช้พอร์สปอร์ตอะไรนั้นแน่นอน"

 

"จะรีบกลับทำไมว่ะ ไหนๆก็ไหนแล้วไปเที่ยวกับกูก่อน"

 

"แต่ผมอยากกลับบ้าน ถ้าพี่อยากเที่ยวก็เที่ยวไปคนเดียวแล้วกัน"ผมว่าพลางทิ้งตัวนั่งกับโซฟาอย่างดื้อดึง ผมได้ยินเสียงถอนหายใจของพี่มันก็จะรู้สึกถึงแรงยวบจากโซฟา

 

"ไหนมึงบอกว่าจะให้โอกาสกูไงดี กูแค่อยากเที่ยวกับมึงเหมือนแฟนทั่วไปเขาทำกัน"พี่มันอธิบาย

 

"ผมจำไม่ได้ว่าไปตกลงเป็นแฟนกับพี่ตอนไหนนะครับ ผมว่าพี่มัวแล้วล่ะ"

 

ผมพูดจริงๆนะ พี่มันไม่เคยขอผมเป็นแฟนเลยสักครั้ง ดูเหมือนเรื่องของผมกับพี่เสือจะข้ามขั้นตอนไปเยอะ คนจะเป็นแฟนกันมันต้องเริ่มจากการชอบกันก่อน บอกรัก แล้วค่อยตกลงคบกันเป็นแฟนไม่ใช่หรอ

 

พี่เสือเงียบไปนาน นานซะผมหวั่นใจว่าพี่เสืออาจคิดได้ว่าที่แท้แล้วตัวเองไม่ได้ชอบผมเลยสักนิด

 

"เป็นแฟนกันนะ"

 

"..."

 

"ได้ยินไหม กูกำลังของมึงเป็นแฟนอยู่เนี่ย"

 

"พี่ว่าอะไรนะ"ผมไม่อยากเชื่อหูตัวเอง แต่เมื่อพี่เสือมองหน้าผม ก่อนจะพูดช้าๆชัดๆว่า

 

"เป็นแฟนกับกูนะดี"

 

ผมเม้มปากหลบสายตาที่กำลังรอคำตอบ ผมยังไม่มั่นใจพอ แบบนี้มันก็ยังเร็วไปอยู่ดี

 

"ขอคิดดูก่อนได้เปล่า"พี่เสือจ้องหน้าผมนิ่ง ก่อนจะถอนหายใจแรงๆ

 

"ก็ตามใจ..."

 

"พี่เสือฟังผมนะ ผมแค่อยากจะให้เวลากับตัวเองทั้งพี่และก็ผม หลายเรื่องที่มันเข้ามามันทำให้ผมซับสน ผม..."

 

"มึงไม่เชื่อใจกูว่างั้น"

 

"และพี่จะให้ผมมั่นใจในตัวพี่ได้ยังไง แค่เริ่มต้นพี่ก็หลอกผมแล้ว..."

 

"กูจะบอกอะไรให้นะดี ที่ผ่านมากูมีแฟนเป็นผู้หญิงตลอดจนมาได้เจอมึง มึงคิดหรอว่าลูกผู้ชายคนนึงเขาจะมีอะไรกับผู้ชายด้วยกันเพราะความเงี่ยนของตัวเอง กูไม่รู้หรอกนะว่าใครเป็นบ้าง แต่ที่แน่ๆไม่ใช่กูแน่นอน มึงคิดหรอดีว่ากูจะมานั่งทะเลาะกับเด็กอย่างมึงให้เสียเวลาถ้าไม่คิดอะไรด้วย มึงเคยเห็นกูเคยตามง้อใครบ้างเปล่า"

 

"..."

 

"คำพูดของกูมันก็แค่ลมปาก แต่ถ้ามึงอยากพิสูจน์ความรู้สึกที่กูมีต่อมึง กูก็ไม่ว่าหรอก..."

 

รู้สึกเหมือนระยะห่างของเราสองคนค่อยๆกว้างขึ้นทีละนิดๆ ผมลอบมองพี่มันที่กำลังขับรถอยู่ตอนนี้ ตัดสินใจมาเที่ยวตามที่พี่เสือชวนเพราะผมเองก็อยากมีเวลาพักผ่อนและคิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมด

 

ขอยืมโทรศัพท์พี่เสือโทรหาพี่เอแต่ไม่ติด ก็เลยโทรไปหาพี่บีแทน พี่บีบอกให้ผมดูแลตัวเองดีๆแค่นั้น ผมเองก็ถามถึงไอ้กวางด้วยว่ามันสบายดีไหม พี่บีก็บอกว่ามันสบายดีแต่ก็ยังดื้ออยู่ ปกติไอ้กวางมันดูขรึมเงียบๆตามสไตล์ผู้ชายน่าค้นหา  พอผมขอคุยกับมันบ้าง พี่บีบอกมันกำลังหลับหยุดผมเลยไม่รบกวน

 

กดโทรหาพี่ซีก็โวยวายผมใหญ่บอกให้ผมส่งโทรศัพท์ให้พี่เสือคุย พี่เสือเอาไปคุยแต่เหมือนจะไม่มีจังหวะได้อ้าปากเสียงพี่ซีก็ดังมาเป็นชุดขนาดผมอยู่ห่างๆยังได้ยิน ก่อนจะวางไปไม่พูดอะไรสักคำ

 

"ว่ายน้ำเป็นหรือเปล่า"

 

"เป็นครับ"ผมล่ะงงๆกับคำถามมันเหลือเกิน อยู่ดีๆก็ถามขึ้นมา

 

"ว่ายแข็งใช่ไหม"

 

"ก็ไม่ค่อยเท่าไร แหะๆๆ"เกาหัวอย่างเขินๆ

 

แต่ก่อนอยู่ต่างหวัดของให้พี่ซีช่วยสอนประจำ ยังว่ายไม่ทันจะเก่งก็มีเหตุให้ต้องย้ายมาอยู่กรุงเทพ จากนั้นก็ไม่ได้ฝึกอีกเลย

 

"งั้นแวะซื้อห่วงยางก่อนแล้วกัน"

 

"ไม่เอาอ่ะ ผมไม่ใช่เด็กนะ ผมไม่เล่นถ้าพี่อยากเล่นก็เล่นไปคนเดีนวเถอะ"ผมทำปากยื่น

 

"กูไม่เชื่อหรอก พอไปถึงกูว่ามึงต้องลงชัว เดี๋ยวแวะซื้อที่ร้านของเล่นในตลาดน่าจะมีขายอยู่นะ"ว่าแล้วก็เลี้ยวรถเข้าตลาดทันที

 

ไม่ถามความเห็นกูสักคำ

"พี่เสือผมอยากกินไอ้นั้นอ่ะ"

 

ยังไม่ทันได้จอดรถเลย พอเห็นไอติมกระทิโบราณเท่านั้นแหละ...

 

"พี่จอดให้ผมลงตรงนี้ก่อนก็ได้นะ"

 

ตรงนี้มันเป็นถนนเล็กๆครับ จอดนานไม่ได้ตรงเลี้ยวไปจอดตรงที่จอดรถข้างหน้าเอา

 

"หึ..."

 

พี่เสือหัวเราะก่อนจะจอดรถให้ผมรถไป ควักกระเป๋าตังค์ให้ผมเอาไปด้วย

 

จะรอทำไมล่ะ...ก็ลุยสิ ป๊าอุส่าห์ใจปล้ำให้ผมถือกระเป๋าตังค์แล้วนี่ วันนี้กูจะแดกให้กระเป๋ามึงแฟ๊บเลยครับพี่เสือ

 

ผมซื้อไอติมกระทิที่ใส่ในมะพร้าวน้ำหอมมาหนึ่งถ้วย พี่เสือมันไม่ชอบกินของหวานผมเลยไม่ซื้ออีกเผื่อ กว่าพี่เสือจะเสด็จมาผมก็มีขอกินติดไม้ติดมืออยู่ 3-4 ถุงแล้ว

 

"กินป่ะ"ผมถามเป็นมารยาทก่อนจะตักไอติมเข้าปากกระดกคิ้วไปให้พี่มันแบบกวนๆ

 

"อารมณ์ดีแล้วสิ"พี่เสือยิ้ม

 

"ผมก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว พี่ไม่รู้หรือไง"

 

"หึ...มึงเป็นแบบนี้น่ะดีแล้ว ไปเถอะ"อธิบายยังไม่เคลียมันก็เข้ามายีหัวผมแล้วก็เดินนำไป

 

ไม่รอกูเลย

 

 

"ซื้อเยอะแบบนี้จะกินหมดไหม"

 

คิ้วหนาขมวดเป็นปม ก่อนหน้านี้พี่เสือมันเข้าไปในร้านขายของเล่น ผมก็เลยขอตัวไปเดินดูแถวๆนี้บ้าง แต่ห้ามไกลจากสายตาของมัน ตอนนี้คนเยอะเดี๋ยวพลัดหลงจะลำบาก  ผมเลยแวะซื้อพวกขนมไปด้วย มีทั้งโรตีสายไหม ข้าวเกรียบปากหม้อ ขนมครก ลูกชิ้นปิ้ง น้ำเก๊กฮวยอีกหนึ่งแก้ว ไม่ลืมซื้อกาแฟโบราณมาให้ป๊ามันด้วยนะครับ คนอุส่าห์มีน้ำใจยังจะมาทำหน้ายักษ์ใส่ผมอีก

 

"หมดสิเอาหัวไอ้ดีเป็นประกัน"ผมพูดพร้อมจิ้มลูกชิ้นเข้าปาก

 

"แล้วนั้นกินทั้งของคาวของหวานเดี๋ยวก็ปวดท้องจนได้"

 

"คาวกว่านี้ก็กินมาแล้ว ไม่เห็นจะท้องเสียตรงไหน คิคิ"

 

เวรแล้วไงเล่นไม่ดูเลยกู T^T

 

"ยั่วหรอ"มันยื่นหน้าเข้ามาใกล้ เห้ยนี่มันกลางตลาดนะเว้ย

 

"ปะ..เปล่า"รีบส่ายหน้าก่อนจะเบือนหน้าหนีมัน

 

"หึ..."มันหัวเราะแล้วค่อยๆถอยหน้าออกไป

 

"เล่นหัดดูสถานที่บ้างเถอะ ผมไม่ได้หน้าด้านเหมือนบางคนแถวนี้สักหน่อย"

 

"ว่ากูหรอ"

 

"ผมไม่ได้เอ่นชื่อ..อย่างร้อนตัวสิครับ"

 

"เก่งให้มันได้ตลอดเถอะ"

 

 

***แวะเอามาลงให้ 30% ก่อนนะคะ เดี๋ยวที่เหลือจะพยายามเร่งให้จบตอนพรุ้งนี้นะ ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-02-2015 13:22:30 โดย Moobar »

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :hao3: ไปเที่ยวกระชับความสัมพันธ์ซินะ รอที่เหลือจ้า

ออฟไลน์ zeroj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
หายไปนานเลย เกือบจะลืมเรื่องนี้ซะแล้วววววววววววววววววววววว


 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22

ออฟไลน์ kitwiphat

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-7

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
 :m20:  เล่นอะไรเข้าตัวตลอดเลยอะ ดีเอ้ยน่าสงสาร

ออฟไลน์ Moobar

  • สมุนของคนที่คุณก็รู้ว่าใคร?
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ต่อ 100%

"คุณเสือ คุณเสือจริงๆด้วย"

เสียงของหญิงวัยกลางคนร้องเรียกด้วยความดีอกดีใจก่อนจะพุ่งเข้ามาโอบกอดร่างสูงที่อัาแขนรอรับไว้อยู่แล้ว พี่เสือเองก็ก้มลงมาหอมแก้มนวลของคนร่างท้วมทั้งสองข้าง

"คิดถึงจังเลยครับ ป้าสบายดีไหม"

"ก็ตามประสาคนแก่แล้วน่ะค่ะ สามวันดีสี่วันไข้ แล้วนี่คุณเสือมาทำไมไม่บอกป้าก่อนค่ะ จะได้เตรียมทำของโปรดไว้รอ"

"พอดีมาแบบกระทันหันน่ะครับ กะว่าจะพาคนสำคัญเขามาเที่ยวพักผ่อนสักหน่อย"พี่เสือหันมามองหน้าผมแล้วยิ้ม

"คนสำคัญที่ว่า ใช่คนข้างหลังหรือเปล่าค่ะ"

"ครับ"

"พี่เสือ...พี่เสือจริงๆด้วย"เสียงใสๆของเด็กผู้หญิงตระโกนร้องด้วยความดีใจเช่นกัน ก่อนจะเห็นร่างบางวิ่งออกมาจากตัวบ้าน

"คุณแบมอย่าวิ่งสิค่ะ เดี๋ยวหกล้มกันพอดี"

"ก็แบมดีใจนี่ค่ะ ร้อยว่าพันปีพี่เสือจะมาหาทั้งทีนี่นา"เด็กสาวปรายตามองพี่เสือไม่วายพูดแขวะไปด้วย

"ไม่เจอกันแปบเดียวปากร้ายขึ้นเยอะเลยนะเรา"

"อย่าขยี้หัวสิค่ะ เดี๋ยวผมเสียทรงหมด"น้องแบมทำท่าโกรธๆ

น้องแบมเป็นผู้หญิงตัวเล็ก มองๆดูแล้วน่าจะยังอยู่แค่มอต้น ผมยาวรัดเปียสองข้าง น่ารักแบบใสๆตามเด็กวัยนี้

"หึหึ แล้วนี่ไอ้บรู๊คมันไม่อยู่หรอ"

"อยู่ค่ะ แล้วนั้นเพื่อนพี่เสือหรอค่ะ ไม่เห็นแนะนำให้แบมรู้จักบ้างเลย"น้องชะโงกหน้ามามองผมด้วยความสนใจ

"ไม่ใช่เพื่อนหรอกแต่เป็น...คนพิเศษมากๆ"

"พิสงพิเศษอะไร แฟนตัวก็บอกมาเถอะ พี่เสือนี่ไม่ได้เรื่องจริงๆ สวัสดีค่ะ แบมชื่อแบมนะคะ เป็นน้องสาวของพี่บรู๊คเพื่อนพี่เสือน่ะค่ะ แล้วพี่ชื่อ..."

"ดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับน้องแบม"ผมตอบพร้อมกับยิ้มให้น้อง

"ชื่อน่ารักจัง แล้วไปไงมาไงถึงคบกับพี่เสือได้ค่ะ ไม่รู้หรอว่าพี่เสือน่ะเจ้าชู้มากๆ นี่ถ้าพี่บรู๊คไม่มีแฟน แบมจะแนะนำให้พี่บรู๊คเลย พี่บรู๊คน่ะ รักใครรักจริง..."

"พอๆเลยยัยแบม พูดมากไปแล้ว"

"ก็แบมพูดเรื่องจริงนี่ หรือว่าพี่เสือจะเถียง"น้องพูดพร้อมกับเข้ามากอดแขนผม

"ดีมึงอย่าไปเชื่อน้องแบมมาก เข้าใจหรือเปล่า"พี่เสือบอก

"ผมก็ไม่เห็นว่าน้องแบมจะโกหกเลยนี่ครับ"

"คิคิ ดูหน้าพี่เสือสิค่ะ พอพูดเรื่องจริงแค่นี้รับไม่ได้"

"ไม่เอาค่ะคุณแบม...ป้าว่าคุณเสือกับคุณดีเข้าไปรอข้างในก่อนดีกว่าค่ะ เดี๋ยวป้าจะไปตามคุณบรู๊คให้"

จากนั้นผมก็ได้น้องแบมมาเป็นพวกเรียบร้อย โดยมีสายตาดุๆของพี่เสือมองมา น้องแบมเป็นคนคุยเก่งแถมยังคุยสนุก น้องเล่าเรื่องครอบครัวของน้องให้ผมฟังว่าน้องแบมเป็นลูกสาวคนสุดท้อง มีพี่ชื่อบรู๊คกับบุ๊คทั้งสองเป็นแฝดกันครับ แต่พี่เสือจะสนิทกับพี่บรู๊คมากกว่า ทั้งคู่รู้จักกันมานานเพราะเรียนอยู่โรงเรียนประจำที่เดียวกันตั้งแต่มอต้น พอขึ้นมหาลัยก็แยกย้ายกัน นานๆถึงมาเจอกันที

"ว่าไงไอ้เสือ"

เสียงของชายหนุ่มรูปร่างไม่ค่อยแตกต่างกับพี่เสือนัก ใบหน้าคมคิ้วโกงและหนา จมูกเป็นสันรับกับริมฝีปากบาง ถึงสีผิวจะออกแทน หากเทียบแล้วพี่เสือมันดำกว่าเยอะ ผมว่าพี่บรู๊คดำแดดมากกว่า เพราะบางช่วงที่เห็นก็ยังมีความขาวให้เห็นอยู่

"แล้วพี่มึงอ่ะ"

"ไอ้บรู๊คมันอยู่กับเมียบนห้องนู้น แล้วมึงพาใครมาว่ะ น่ารักดีว่ะ"

อ้าวไม่ใช่พี่บรู๊คหรอกหรอ...

"เมียกู"พี่เสือตอบ

เต็มปากเต็มคำเลย น้องแบมที่ได้ยินก็หัวเราะคริคักเข้าไปใหญ่

"อ้าวหรอ...พี่ชื่อบุ๊คนะครับยินดีที่ได้รู้จัก"พี่บุ๊คยิ้มให้ผม

"ผมดีครับ"

"พี่ดีๆอย่าไปยุ่งกับพี่บุ๊คมากเลยค่ะ รายนี้ร้ายยิ่งกว่าพี่เสืออีก"

"ใส่ร้ายกันชัดๆ"

"ตัวอย่ามายุ่งกับพี่ดีของเค้า ตัวก็มีคนของตัวเองอยู่แล้วก็ไปหาสิ หรือจะให้แบมโทรฟ้องพี่ปิคค่ะว่าพี่บุ๊คมาเจ้าชู้กับแฟนพี่เสือ"

"ยอมๆ พี่ยอมแล้ว กูไปก่อนดีกว่า แล้วมึงจะนอนนี่เลยเปล่าว่ะ"พี่บุ๊คหันไปถามพี่เสือ

"คงตั้งแคมป์กับพวกไอ้กลที่นั้นเลย"

"เอ่อๆ เที่ยวให้สนุกนะมึง พี่ไปก่อนนะครับน้องดี"พี่บุ๊คเดินออกไปแล้วไม่วายจะยิ้มให้ผมก่อนจาก

"พี่ไม่เห็นบอกผมเลยว่าเราจะมาตั้งแคมป์กัน"ผมพูดหน้างอ ไหนตอนแรกบอกแค่มาเที่ยวน้ำตกกัน

"พี่ดีไม่รู้หรอค่ะ แบมดูจากสัมภาระพวกนี้ก็รู้แล้ว พี่ดีไปเถอะค่ะสนุกนะ เดี๋ยวแบมขอพี่บรู๊คไปด้วยเหมือนกัน คิคิ"

"แต่เสื้อผ้า..."

"ไม่ต้องห่วงกูเตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้ว เสื้อ กางเกง บ็อกเซอร์ ถุงยาง หึหึ"

"พี่เสือน้องแบมนั่งอยู่ตรงนี้ด้วยนะ พูดจาอะไรหัดดูบ้างเซ่"

ผมกับน้องแบมหน้าแดง ผิดกับคนตรงข้ามที่พูดอย่างหน้าตาเฉย แทบอยากเอาหน้ามุดดินหนีไปจากตรงนี้จริงๆ

ใครจะด้านเท่ามันอีกว่ะ

"ไม่เป็นไรค่ะพี่ดี แบมเข้าใจค่ะ...เรื่องแบบนี้มันต้องป้องกัน แบมเรียนสุขศึกษามาอาจารย์ก็สอนว่าถ้าเราไปมีความสัมพันธ์กับใคร อย่างแรกเราควรจะเซฟตี้ตัวเองซะก่อน ที่ห้องแบมยังมีเลยตั้งสองอันพี่บุ๊คให้ติดตัวไว้เผื่อมันฉุกระหุกจริงๆ"

ผมล่ะพูดไม่ออก ตกลงบ้านนี้เขาสอนกันแบบนี้หรอ ไอ้พี่บุ๊คแทนที่มันจะสอนน้องให้รู้จักรักนวลสงวนตัว แต่กลับสอนวิธีแปลกๆให้น้องแทน ที่จริงเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากๆ ทางที่ดีควรค่อยเป็นค่อยไปจะดีกว่า ยิ่งน้องเป็นผู้หญิงก็ยิ่งพูดยาก ผมเองก็ถูกพี่เอสอนเหมือนกัน แต่พี่ผมเป็นแพทย์ ย่อมรู้วิธีพูดมากกว่าที่จะพูดลัดขั้นตอนเหมือนไอ้พี่บุ๊คสอนน้องแบมแบบนี้

ผมล่ะสงสารน้องแบมจริงๆ

"เห็นไหม เรื่องแบบนี้ไม่น่าอายซะหน่อย ธรรมชาติจะตาย จริงไหมน้องแบม"

"ค่ะ"

ผมมองหน้าพี่เสือแบบโกรธๆ สักพักที่บรู๊คก็เดินลงมา หน้าตาก็ไม่ต้องอธิบายอะไรมากมาย เพราะเล่นถอดแบบพี่บุ๊คมาเหมือนเป๊ะทุกกระเบียด ต่างกันนิดหน่อยก็ตรงสีผิวน้ำผึ้งดูสุขภาพดี

หญิงสาวที่ตามลงมาด้วยคงจะเป็นแฟนของพี่บรู๊ค รูปร่างสูงเหมือนนางแบบ หน้าหวาน ขนตางอน ผิวขาวซีดๆ แก้มแดง แต่งหน้าอ่อนๆ ผมยาวสลวยเงางามถูกปล่อยให้พริ้วตามลม เหมือนนางเอกโฆษณายาสระผมประมาณนั้น

"ว่าไงไอ้เสือ ทะเลาะอะไรกับยัยแบมดังไปถึงข้างบนเลยว่ะ"

"เรื่องไร้สาระ แล้วนี่มึงเสร็จยัง"

"เสร็จตั้งนานแล้วสัด"

"แล้วพวกไอ้กลล่ะ เห็นบอกมันจะไปด้วยไม่ใช่หรอ"พี่เสือถาม

"พวกมันไปก่อนแล้ว...แล้วนี่เมียมึงที่บอกใช่ป่ะ"พี่บรู๊คหันมาหาผม

"เอ่อ มันชื่อดี ส่วนนี่ไอ้บรู๊ค แล้วก็หวาน"ผมยกมือไหว้

"ไม่ได้เจอเสือตั้งนาน ยังเหมือนเดิมไปเปลี่ยนเลยนะ"พี่หวานยิ้มให้พี่เสือ

"..."

"พี่บรู๊คให้แบมไปด้วยนะ แบมอยากไปเที่ยวกับพี่ดีอ่ะ"

"แต่เราใกล้สอบแล้วไม่ใช่หรอครับ อยู่อ่านหนังสือที่บ้าน พี่ว่าดีกว่านะ"

"แต่แบมอยากไปนี่ค่ะ อีกอย่างแบมก็สอบได้ที่หนึ่งทุกปี เนื้อหาที่เรียนไปแบมก็จำได้หมดแล้วด้วย ให้แบมไปเถอะนะคะๆๆ"น้องเข้าไปออดอ้อนพี่ชาย พี่บรู๊คที่ตอนแรกทำท่าลำบากใจก็ต้องยอมแพ้ให้กับน้องสาวคนนี้

"พี่เวลาสิบนาที ถ้ายังไม่รีบร้อยพี่จะไม่รอ โอเครไหมค่ะ"

"เย่ๆๆ พี่ดีไปเป็นเพื่อนแบมหน่อยสิค่ะ ไปช่วยแบมจัดของหน่อย"

"พี่ว่าให้พี่หวานเขาไปช่วยดีกว่าไหมค่ะ พี่ดีเขาเป็นผู้ชายเขาคงไม่รู้หรอกว่าน้องแบมจะแต่งตัวยังไงจริงไหม"พี่บรู๊คพูดกับน้องแบมด้วยท่าทางที่อ่อนโยน

"แต่แบมอยากให้พี่ดีไปมากกว่าค่ะ พี่ดีไปได้ใช่ไหมค่ะพี่เสือ"

ทำไมต้องหันไปถามพี่เสือด้วยล่ะครับน้องแบม ทำไมไม่ถามพี่ดีล่ะครับ

"ตามใจ"พี่เสือมองหน้าผมแล้วยิ้ม

"พี่ดีไปกันเถอะค่ะ"

น้องแบมไม่ได้ถามความคิดเห็นผมเลยสักคำ ก่อนจะเดินมาจับมือผมให้ตามเธอไป ผมเองจะไปกล้าขัดใจคุณหนูของบ้านนี้ได้ยังไงล่ะครับ คิดแล้วก็อยากมีน้องสาวกับเขาบ้างเหมือนกัน

ห้องน้องแบมก็เหมือนห้องเด็กสาวทั่วไปล่ะครับ ส่วนใหญ่มีแต่ตุ๊กหมีทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กวางอยู่บนเตียง หัวเตียงก็มีรูปถ่ายครอบครัวใส่กรอบตั้งอยู่

"ถ้าพี่ดีไม่มีพี่เสือก็คงจะดีนะคะ"อยู่ๆน้องแบมก็พูดขึ้นมาพร้อมเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าไปด้วย

"นี่เรายังไม่เลิกจับคู่ให้พี่กับพี่บรู๊คอีกหรอค่ะ"ผมตอบเอามือจับหัวน้องอย่างเอ็นดู

"แบมพูดจริงนะคะ แบมอยากได้พี่ดีมาเป็นพี่สะใภ้จริงๆ ถึงพี่ดีจะเป็นผู้ชายก็เถอะ"

"..."

"ขอโทษค่ะ"น้องทำหน้ารู้สึกผิด

"แล้วทำไมน้องแบมถึงคิดแบมนั้นค่ะ พี่หวานเองก็ออกจะน่ารัก วันข้างหน้าก็ยังมีหลานให้น้องแบมได้อุ้มอีก ไม่เหมือนพี่..."

"พี่ดีอย่าเศร้าสิค่ะ ถึงพี่ดีจะมีลูกให้พี่เสือไม่ได้พี่ดีก็มีความสุขไม่ใช่หรอค่ะ"

"..."

"แบมเองไม่ได้ไม่ชอบพี่หวานหรอกค่ะ แต่บางทีแบมก็อยากให้พี่ชายมีความสุขจริงๆ"

สีหน้าของน้องแบมดูเป็นกังวล

"แบมรู้ว่าพี่หวานไม่ได้รักพี่บรู๊คเลยสักนิด แบมเป็นผู้หญิงแบมดูออก"

"อย่าพูดแบบนี้อีกนะครับ ถ้าพี่หวานหรือพี่บรู๊คมาได้ยินอาจจะเสียใจได้รู้ไหมครับ"ผมบอกน้องด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

"จริงๆนะคะ แบมไม่ได้โกหก สายตาของพี่หวานที่มองพี่บรู๊ค มันไม่เหมือนเวลาที่พี่ดีมองพี่เสือสักนิด พี่บุ๊คก็ดูออก ป้านิ่มเองก็ดูออก"

"มันเป็นเรื่องของคนสองคนนะครับน้องแบม พี่ไม่รู้หรอกครับว่าพวกเขารู้สึกกันยังไงกัน แต่ทางที่ดีเราไม่ควรไปยุ่งหรือไปตัดสินใจแทนพวกเขานะครับ พี่รู้ว่าแบมเองหวังดีกับพี่ชาย พี่เองก็มีพี่ชายถึงสามคนพี่เข้าใจ น้องแบมไม่โกรธพี่นะครับ"

น้องแบมส่ายหน้าตาแดงก่ำ

"ไม่ค่ะ ป้านิิ่มกับพี่บุ๊คก็พูดแบบนี้เหมือนกัน ฮึก แต่แบมก็อดห่วงพี่บรู๊คไม่ได้"

"อย่าร้องไห้สิครับคนเก่ง ร้องมากไม่สวยนะ"

"คิคิ ขอบคุณนะคะ แบมรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย เอาเป็นว่าแบมจะไม่คิดอีกแล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ถึงยังไงพี่บรู๊คก็เป็นพี่ชายแบมอยู่ดี"

น้องแบมชวนผมคุยโดยที่ผมไม่ได้ช่วยน้องทำอะไรเลย เด็กคนนี้เปลี่ยนอารมณ์ไวปานสายฟ้าแล็บจริงๆ จากอารมณ์เศร้าๆมาร่าเริงเหมือนเดิม พอน้องเหลือแต่จัดชั้นในอย่างสุดท้าย ผมก็ขอออกมาก่อน

แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นใครบางคนยืนอยู่ที่หน้าประตูก่อนแล้ว

"โอ๊ยพี่ หัวใจจะวาย"

"ช้า"

"แล้วรอได้ป่ะล่ะ"

"กูรอมึงนานกว่านี้ กูยังรอมาแล้วเลย"

"..."

"กูมีเรื่องจะคุยด้วย"พี่เสือทำสีหน้าจริงจัง

"ไม่ใช่เรื่องที่ผมคุยกับน้องแบมเมื่อกี้นี้ใช่ไหมครับ"ดูก็รู้ว่าพี่เสือมันยืนแอบฟังที่ผมคุยกับน้องแบมอยู่ก่อนแล้ว

"ก็มีส่วน"

ผมกับพี่เสือเดินลงมาข้างล่าง แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แถวนั้น พี่เสือก็จับตัวผมให้หันเผชิญหน้ากัน

"กูไม่อยากให้มึงต้องคิดอะไรมากนะ แต่กูไม่คิดว่าสองคนนั้นจะคบกัน"

"อะไรหรอครับ"

"กูแค่อยากพามึงมาเที่ยว มารู้จักกับเพื่อนกู สถานที่ที่กูเคยอยู่มาก่อน กูอยากให้มึงรู้จักตัวตนของกูจริงๆ"

"..."

"และกูก็อยากให้มึงได้ยินกูพูดด้วยปากของกูเอง ไม่ใช่คำบอกเล่าจากคนอื่น ยิ่งน้องแบมพูดกับมึงแบบนั้นด้วยแล้ว กูยิ่งไม่สบายใจ"

พี่เสือถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะพูดว่า

"กูกับหวานเราเคยคบกัน"



***เสร็จไปหนึ่ง  :เฮ้อ: พบกันตอนหน้า แล้วก็ตอนเช้าตรวจคำผิดอีกทีนะคะ ตอนนี้ไม่ไหมแล้ว ฝันดีนักอ่านทุกคน  :bye2:


ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ง่าาาา. พี่เสือนี้อดีตเยอะจริงๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด