“ไงมึง ข่าวว่าจีบพี่หมอ ถึงไหนแล้ววะ”
เสียงพี่รหัสจอมกวนเอ่ยแซว เรื่องที่ลานเกียร์วันนั้นกลายเป็นที่โจทย์จันท์กันไปทั่วทั้งคณะวิศวกรรมศาสตร์ เรียกได้ว่าไม่มีชั้นปีไหนไม่รู้ อีกอย่างเป็นถึงคนดังระดับคณะอย่างบาสแล้ว เรื่องยิ่งดูน่าสนใจกว่าคนอื่นแน่นอน
“คอยซื้อข้าวซื้อขนมส่งเขาทุกวันว่ะพี่ แต่พี่หมอแกใจแข็งมากกกกกกก” เพื่อนตอบแทนเจ้าตัวที่นั่งเกาเฝือกแม้มันจะไม่ช่วยอะไรเท่าไรนัก
“แน่นอน มึงเล่นของสูงมากไอ้หมาวัด พี่หมอแกปี 5 ด้วย กูเพิ่งรู้ว่ามึงชอบคนแก่กว่า”
“หยิ่งมากด้วยพี่ สมแล้วที่เรียนหมอ มันไปติดสินบนพี่พยาบาลให้ช่วยส่อง พี่รู้มั้ยพี่หมอแกไม่ได้แตะของที่มันซื้อไปเลยสักวันเดียว แถมช่วงนี้พี่หมอแกก็เรียนหนัก เดี๋ยวเข้าห้องผ่าตัด เดี๋ยวออกตรวจคนไข้ตามวอร์ดกับอาจารย์หมอ เรียกว่ามันว่าง พี่หมอไม่ว่างทุกวันเลยว่ะพี่”
“โอ .. แดกแห้วแน่นอนเลยว่ะมึง”
“พี่แดกบ่อยล่ะสิถึงรู้” แซวกวนๆกลับ กลายเป็นโดนรุ่นพี่ตบกะโหลกจนหน้าแทบคว่ำ
“มึงไปรู้ได้ไงว่าพี่หมอเค้าชอบกินอะไรไม่ชอบอะไร พวกมึงคุยกันนี่นับคำได้เลย เค้าไม่ชอบของที่มึงซื้อหรือเปล่า หรือมึงมีสายสืบ”
“พี่มันเป็นใครพี่โก้” เพื่อนปันย้อนถาม
โก้เลิกคิ้ว หัวเราะร่า “เออว่ะ มึงมันน้องไอ้ไบค์ โทษทีกูลืม”
“พี่ไบค์แม่งไม่ได้ช่วย มันยังไม่รู้เลยว่ากูทำไรอยู่ มันมัวแต่หม้อคนไปวันๆ” บาสตอบเนือยๆ “ก็อย่างที่ไอ้โจ๊กมันบอกอะพี่ ไปหลอกถามเจ๊พยาบาลมา บอกคุณหมอต่ายชอบกินกรีนทีลาเต้เปลี่ยนนมธรรมดาเป็นซอยมิลค์โนไซรัป เรื่องมากฉิบหาย ก็สั่งตามที่บอก ไม่เห็นหมอต่ายแตะสักวัน”
“พี่มึงหม้อใครเค้าก็เล่นด้วยทุกคน ทำไมไม่ถามมาจากมันวะ หนังหน้ามึงก็ไม่ได้แย่” โก้เย้า เห็นรุ่นน้องที่สนิทกันมาตั้งแต่มันเข้าเรียนปีหนึ่งก็นึกตลก มันไม่มีวี่แววจะเป็นเก้งกวางอะไรกับเขาหรอก หน้าตามันดีพอๆกับพี่มันด้วยซ้ำแต่มันไม่ดูแลตัวเอง แถมนี่ยังจีบผู้ชาย เอาเถอะถ้ามันชอบ มันเอาจริง ก็ต้องปล่อยให้มันลอง มีคนมาสนใจมันบ้างแต่มันกลับไม่เล่นด้วย พอจะเริ่มเสือกกลายเป็นนักเรียนแพทย์ผู้ชายซะงั้น
“ซื้อสตาร์บัคให้หมอต่ายวันเว้นวัน ตัวเองแดกกาแฟเย็นหน้าม.ถุงละ 15 บ. กูล่ะขำ” ปันหัวเราะเพื่อนตัวเอง
บาสจิ๊ปากอย่างอารมณ์เสีย ทั้งเพื่อนทั้งรุ่นพี่แม่งนอกจากจะไม่ให้กำลังใจแล้วยังบั่นทอนความรู้สึกกันตลอด ดวงตาเหม่อมองแขนตัวเองอย่างใช้ความคิด จะว่าไปแล้วที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก็เกือบสองอาทิตย์แล้ว หมอต่ายเองก็ดูไม่สนใจ แต่ก็อย่างว่า คนตัวขาวๆนั่นไม่ใช่เกย์หรืออะไรเถือกๆนี้เลย เขาเองก็ไม่ใช่ ที่ทำอยู่นี่คือแค่สนใจ อยากเอาชนะ หรือว่าชอบจริงๆกันแน่ตัวเขาเองก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน
โว้ย ถ้าวันนั้นหมอต่ายไม่เอาเสื้อมาคืนทุกอย่างคงง่ายกว่านี้เยอะ ถ้าไม่มาสานต่อมันก็จบไปแล้ว แต่วันนั้นคนตัวสูงพอๆกันกับเขาแต่บางกว่าอย่างคนไม่ค่อยใช้กำลังเท่าไรที่ทำตาดุๆใส่ มือบางขยับจับเฝือกให้เข้าที่ แม้ปากจะร้าย ดูไม่ใส่ใจกันเท่าไร แต่การกระทำกลับตรงกันข้ามยิ่งทำให้เขาสนใจมากกว่าเดิม ยอมรับว่าที่โรงพยาบาลเขาสะดุดที่ใบหน้าใสๆนั่นอย่างประหลาด ใบหน้าสวยได้รูป กับดวงตาที่ล้อมกรอบด้วยแพขนตานั่นน่ารัก หมอต่ายไม่ได้ต่างจากผู้ชายปกติเท่าไร แต่มองมุมไหนก็น่ารัก
“ถ้ามึงแค่อยากเอาชนะก็เลิกเหอะบาส กูว่านี่มึงทั้งเสียเวลา ทั้งเสียเงิน เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่านะเว้ย หรือไม่ก็เลือกจากบรรดาคนที่เข้ามาหามึงดิ ง่ายกว่าเยอะเลย” พี่โก้เตือนอย่างหวังดี ตบบ่ารุ่นน้องก่อนโบกมือลา เดินเข้าตึกเรียนไปก่อน
“พี่โก้พูดถูก ที่พวกกูไม่ห้ามเพราะเห็นว่ามึงอยากลอง แต่เท่าที่กูเห็น พี่หมอแกไม่เล่นด้วย มึงจะทำให้ชายแท้ๆมาสนใจประเภทเดียวกัน ไม่ง่ายว่ะ ถามตัวมึงก่อน มึงสนใจเค้าเพราะชอบ หรือว่าสนใจเพราะอยากเอาชนะ ถ้าเค้าเล่นด้วย มึงจะให้ความสนใจกับเค้าแบบเดิมอย่างที่มึงเป็นตอนนี้หรือเปล่า” นพเตือนอีกเสียง
บาสส่งเสียงอืออาในลำคอตอบส่งๆ ที่เพื่อนเขาพูดก็ถูก หมอต่ายไม่ใช่คนประเภทนั้น ดูก็รู้แล้วว่าเห็นหน้าตาน่ารักแบบนั้น โหดร้ายไม่ใช่เล่น หมอต่ายจำกัดประเภทคนไว้เพียงสองประเภทเท่านั้น คนรู้จักและคนแปลกหน้า ระยะห่างของสองสถานะนั้นมีมากเลยทีเดียว สองอาทิตย์แล้ว แต่คุณหมอหน้าใสกลับไม่เคยใจอ่อนเลยสักครั้งเดียว
“แล้วมึงต้องไปให้หมอดูเฝือกวันไหน วันนี้หรือเปล่าวะ พวกกูไปเป็นเพื่อนมั้ย?” เพื่อนถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง บาสพยักหน้าส่งๆ มีพวกมันไปก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน
“เดี๋ยวไปเลยเนี่ย เริ่มคันล่ะแม่ง”
“จะหายทันฟุตบอลประเพณีมั้ยเนี่ยมึง เดี๋ยวได้นั่งเก้าอี้สำรอง กูจะสมน้ำหน้าให้”
“ทันมั้ง แม่ง มึงอย่าพูด”
“มึงก็ไปหาหมอ ถามเค้าเลยว่าจะเอาเฝือกออกได้ตอนไหน ต้องทำกายภาพต่อหรือเปล่า เดือนหน้าแล้วนะเว้ย”
“เออๆ ใจว่ะ”
บาสเดินนำเพื่อนอีกสองคนขึ้นตึกเรียน ขาที่พลิกหายดีแล้ว อย่างน้อยก็วิ่งไล่เตะเพื่อนและรุ่นน้องได้สะดวกดี วันนี้หมอนัดไปเปลี่ยนเฝือกให้สั้นลงหน่อย ถ้าเจอหมอต่าย ... ชายหนุ่มยกยิ้ม เจอหมอต่ายก็ดีสินะ ...
ร่างสูงผิวแทนพร้อมเพื่อนอีกสองคนในเสื้อช๊อปสีน้ำเงินกรมท่ามีตรามหาวิทยาลัยปักชัดเจนเดินเข้าโรงพยาบาลประจำมหาวิทยาลัย คนใส่เฝือกเบ้หน้า บาสไม่ชอบบรรยากาศของโรงพยาบาล กลิ่นแอลกอฮอล์และยาฆ่าเชื้อคลุ้งไปทั้งตึก แถมคนที่อยู่ในโรงพยาบาลเองก็ไม่ได้มีสีหน้าท่าทางน่ารื่นรมย์ มันเป็นสถานที่แห่งความหดหู่ชัดๆ และยิ่งเป็นโรงพยาบาลรัฐแล้ว ยิ่งมีคนไข้แออัดมากกว่าโรงพยาบาลปกติสองสามเท่าตัว
เขายื่นใบนัดด้วยมือข้างที่ไม่ได้เข้าเฝือกให้กับจุดรับคนไข้ พยาบาลสองคนเช็คข้อมูลในคอมพิวเตอร์ก่อนส่งเข้าขึ้นไปชั้นบนเพื่อเช็คอาการของกระดูก ตาคมเหล่มองนักศึกษาแพทย์ในเสื้อกาวน์สีขาวที่เดินผ่านไปสองสามกลุ่ม แต่ก็ไม่พบใบหน้าใสๆของคนที่ตั้งใจหา เขาเดินเข้าห้องตรวจไปสักสามสิบนาที ก็ออกมาพร้อมกับเฝือกพันใหม่ที่สั้นกว่าเดิม พร้อมข่าวดีว่าอีกไม่ถึงสามอาทิตย์กระดูกก็น่าจะต่อกันปกติแล้ว เพราะเขาแค่กระดูกเคลื่อนไปเท่านั้น ไม่ได้หักจนน่ากลัว เส้นเอ็นที่ข้อเท้าพลิกก็ปกติดีเหมือนเดิม อาจจะมีอาการขัดยอกเล็กน้อย เลยได้ยานวดเพิ่มมาอีกหนึ่งหลอด คุณหมอการันตีว่าน่าจะทันกีฬาประเพณี แต่ว่าอาจจะยังลงเล่นได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร ทางที่ดีให้มาเช็คอีกรอบหลังถอดเฝือกไปแล้วจะดีที่สุด เขาพยักหน้ารับคำนั้น ก่อนถือเอกสารเดินออกมารับยาที่ห้องจ่ายยา
.
.
หมอต่ายเดินสะโหลสะเหลออกมาจากตัวโรงพยาบาล ตากลมแทบจะหรี่ปรือ เขาง่วงจะตายอยู่แล้ว นาฬิกาแท็คฮอยเออร์สีเงินประดับข้อมือบอกเวลาเกือบสามทุ่มแล้ว วันนี้เขาเขียนรายงานพร้อมส่งให้อาจารย์หมอที่ปรึกษาเสียนานสองนาน มีจุดที่ต้องแก้ไขบ้างตามระเบียบ เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกพับขึ้นมาถึงข้อศอก บนหัวไหล่มีเสื้อกาวน์สีขาวพาดอยู่ลวกๆ เวลานี้ไม่ใช่เวลาเรียบร้อยแล้ว เขาอยากล้มตัวลงนอนตอนนี้เลยเสียด้วยซ้ำ
ลานจอดรถโล่ง เหลือเพียงรถไม่กี่คันที่ยังจอดอยู่ ส่วนใหญ่เป็นของแพทย์ผู้เข้าเวรกลางคืนและบรรดาเจ้าหน้าที่ต่างๆ มีของญาติผู้ป่วยประปรายเพราะเป็นนอกเวลาเยี่ยมไข้ ขายาวก้าวเร็วๆเข้าไปที่รถเบนซ์ ซี 220 cdi สีขาว ปลดล็อกจากกุญแจรถอย่างว่องไว
“เฮ้ย” ร่างขาวสะดุ้งตกใจ เมื่อเห็นเงาคนจากด้านหลัง หวังว่าคงไม่ได้ตาฝาดเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็น ตั้งแต่เรียนหมอมา 5 ปียังไม่เคยเจออาถรรพ์อะไรอย่างที่คนอื่นเขาว่ากันเลย ขอโทษที เขามันคนไม่มีเซนส์เสียด้วย
“หมอต่าย ...” เสียงทุ้มเอ่ยเย้า เมื่อเห็นคนหน้าสวยตกใจหน้าซีดเผือด
“นาย !!!” ตวาดเสียงลั่น ตกใจจนหัวใจแทบจะหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่มเสียแล้ว “ทำอะไรเนี่ย ตกใจนะเว้ย”
“แหม ... ก็หมอต่ายเดินไว๊ไว ผมเดินตามหมอต่ายมาตั้งแต่อยู่ในโรงบาลล่ะ หมอต่ายไม่เห็นเอง”
“ใครจะไปเห็น ง่วงจะตายชักแล้วเนี่ย” ใจเต้นตุบๆ ตาสวยล้อมกรอบด้วยขนตายาวเหล่มองที่เฝือกของอีกคน “เปลี่ยนเป็นเฝือกสั้นแล้วนี่ วันนี้เหรอ?”
“ช่ายๆ ใกล้หายแล้วนะหมอต่าย”
นิ้วขาวดันแว่นให้วางบนดั้งโด่งพอดีอย่างติดเป็นนิสัย “ก็ดี”
“แต่มันคันในเฝือกยุบยิบเลยอะหมอต่าย คันจี๊ดๆไปถึงใจเลย” พูดติดตลก
ว่าที่คุณหมอตัวขาวถอนหายใจ “เพราะโสโครกหรือเปล่า” เหล่มองเสื้อช๊อปที่คลุมไหลอีกคน “เสื้อน่ะซักสิ จะได้หายคัน”
“โห มีสองตัวแล้วหมอต่าย ก็วันนั้นหมอต่ายเอามาคืนช้า เลยให้เพื่อนไปซื้อใหม่ นี่ซักสองสามวันตัวเลยนะหมอต่าย”
“ฉันผิดงั้นสิ ใส่ทุกวัน แต่ซักสองสามวันครั้ง เออ สมควรคันแหล่ะ” ร่างโปร่งตอบอย่างเหนื่อยหน่าย “เอ้า ถอยไปๆ จะกลับบ้านแล้ว”
“โห อย่าเพิ่งสิหมอต่าย ใจร้ายจัง”
“ใครใจร้าย ประสาท” ถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไรไม่รู้ของวัน แทนที่เขาจะได้รีบกลับบ้านไปอาบน้ำนอน
“หมอต่ายไง คนน่ารักใจร้ายแบบนี้ทุกคนหรือเปล่าหนอ เป็นหมอต้องใจดีสิ”
“นี่นาย อย่ามาปีนเกลียว ยังไงฉันก็เป็นพี่ เคารพกันบ้าง หรือรุ่นพี่ที่วิศวะเค้าไม่สอนมา”
“ก็หมอต่ายอะ รู้มั้ยสตาร์บัคเนี่ยผมเข้าปีนึงนับครั้งได้เลยนะ มันแพงอะ หมอต่ายโยนทิ้งทุกวันเลย”
“ห๊ะ นี่แอบตามดูด้วยเรอะ นายบ้าหรือเปล่า” ขึ้นเสียงอย่างตกใจ
“เปล่าๆๆๆ คือฝากเจ๊ เอ้ย พี่พยาบาลคนสวยดูให้อะ แหะๆ” ยกมือเกาต้นคอแก้ตัว
“แล้วหมอต่ายไม่ชอบหรอ หมอต่ายชอบกินอะไรอะ จะได้ซื้อมาให้ถูก”
“หา ... ไม่ต้องหรอก ไม่จำเป็น”
“นี่ๆ หมอต่ายชอบกินอาหารญี่ปุ่นมั้ย มีร้านเปิดใหม่ที่สยามนา”
“เหรอ แล้วไง”
“ก็แบบจะชวนหมอต่ายไปกินไง”
“ ... พอเถอะ” ว่าที่คุณหมอทำสีหน้าระอา คิ้วเรียวขมวดยุ่ง ยกมือขึ้นนวดขมับตัวเองเบาๆ พิงหลังกับรถตัวเอง “ถามจริงๆเถอะ ทำแบบนี้เพื่ออะไร”
“ก็แบบ ... “ เออนั่นสิ ... เด็กวิศวะนิ่ง เริ่มควานหาลิ้นตัวเองไม่เจอเหมือนคนคิดไม่ทัน
“อีกนานมั้ย” เสียงแหบถามขึ้นเบาๆ
“ห๊ะ”
“ฉันถามว่าจะคิดอีกนานมั้ย” หนุ่มนักศึกษาแพทย์ถามเสียงนิ่ง
“แบบ ก็หมอต่ายอะ หมอต่ายไม่รู้จริงดิ”
ว่าที่คุณหมอส่ายหน้า “ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร ถามจริงๆเถอะ คนปกติเค้าให้ของกินคนที่เพิ่งรู้จักกันแค่วันสองวันเหรอ ฉันไม่รู้ว่ารู้จักนายดีพอที่จะรับของกินจากคนแปลกหน้า”
“หมอต่ายอ่า ใจร้าย”
“ ... ” คนตัวขาวถอนใจ ตบบ่าข้างที่ไม่เจ็บของอีกคน “พอเถอะ เหนื่อยแทน ฉันไม่รู้ว่านายต้องการอะไร” ขยับตัวกลับเข้าหารถตัวเองพร้อมเปิดประตูรถ กำลังจะเข้าไปนั่ง มือสีแทนก็รั้งต้นแขนเอาไว้เสียก่อนที่จะได้มุดเข้าไปในตัวรถ
“ผมชื่อนายบริรักษ์ ธนบดี นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ภาควิชาโยธา ชั้นปีที่ 3 ชื่อเล่นชื่อบาส มีพี่ชายหนึ่งคน เป็นลูกคนเล็ก สูง 183 หนัก 71 ที่ผมทำไปทั้งหมด เพราะผมจะจีบหมอต่ายครับ!” พูดเสียงดังฟังชัดจนก้องไปทั้งลานจอดรถของโรงพยาบาล ดีที่ไม่มีใครเดินออกมาพอดี ว่าที่คุณหมอเบิกตาโพลงตกใจ อ้าปากค้าง
“อะไรนะ!!!” ไร้ซึ่งความระวังตัว ว่าที่คุณหมอพูดตะโกนเสียงลั่น
“หมอต่ายถามผมว่า ผมทำไปทำไม ผมเลยตอบหมอต่ายว่า ผมจะจีบหมอต่ายครับ” บาสตอบกลับอย่างฉะฉาน ใบหน้าคมประดับด้วยรอยยิ้มกว้างที่ดูยังไงก็ทำให้อีกคนไม่สบอารมณ์เท่าที่ควร
“ใช่เรื่องล้อกันเล่นมั้ย?”
“ไม่เล่นแล้วครับ ผมจะจีบพี่อย่างจริงจังครับ!”
.
.
วันนี้เป็น fanart หมอต่ายของแป้ง

Narutan ล่ะก่ะ ชอบมากที่มีแฟนอาร์ตตอนละรูป กิกิกิกิ *
/ใช้งานน้องคุ้มค่า.
