เปิดด้วย 4Koma จาก Klunatic ผู้สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
โรงพยาบาลประจำมหาวิทยาลัยยังคงวุ่นวายเป็นปกติเหมือนกับชีวิตของว่าที่คุณหมอ นักศึกษาปี 5 เป็นชั้นเรียน Clinic ที่ถึงแม้ยังไม่ได้มีตำแหน่ง “นายแพทย์” นำหน้า แต่ก็มีหน้าที่รับผิดชอบไม่ต่างกันสักเท่าไรนัก เพราะนอกจากจะต้องเข้าเวร เรียน และทำรายงานประจำวันไปพร้อมๆกันแล้ว เวลาว่างส่วนใหญ่จึงใช้พักผ่อนมากกว่าการออกไปทำกิจกรรมอื่นๆเหมือนนักศึกษาคณะอื่น แต่วันนี้เป็นโชคดีที่ทั้งกลุ่มว่างตรงกัน แกงค์คุณหมอหน้าใสเลยได้โอกาสนัดทานข้าวกันนอกสถานที่ แทนที่จะอุดอู้กินกันแต่ห้องอาหารในโรงพยาบาลดังเช่นทุกวัน
พาราก้อนกลายเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะนอกจากจะใกล้โรงพยาบาลแล้ว ยังเดินทางไปกลับง่ายด้วย เขาจอดรถไว้ที่โรงพยาบาล มือขาวโบกแท็กซี่ให้ไปส่งยังจุดหมาย ไม่ถึงสิบนาทีก็ลง คิ้วขมวด พลางมองดูนาฬิกาข้อมือ คุยไลน์กับเพื่อนได้ความว่าทุกคนจะไปนัดเจอกันที่ร้านกาแฟสตาร์บัคชั้นล่างสุด ขายาวภายใต้กางเกงผ้าเนื้อดีเลยพาร่างเดินตามเส้นทางที่คุ้นชิน มีเหลือบตามองร้านค้าที่เปิดใหม่เป็นระยะ
“ต่าย ทางนี้” ทันทีที่ก้าวเข้าร้าน คนในกลุ่มที่รออยู่ก่อนโบกมือเรียก หมอต่ายยิ้มมุมปาก
“โห ใครมาแล้วบ้าง เกือบครบยัง” ทักเพื่อนพร้อมกวาดตามองแล้วพบว่าทุกคนมากันครบแล้ว
“ครบแล้ว ส้มกับหมิวไปเข้าห้องน้ำ เดี๋ยวคงกลับมา ไปกินไรกันก่อนเลยมั้ย แล้วค่อยเดิน หิวแล้วว่ะ”
“เอาดิ เดี๋ยวรอสองคนนั้นมาแล้วก็ไปเลย”
“ช่วงนี้เป็นไงมั่ง เข้าเวรไม่เคยตรงกันสักคนอะ ตอนเลือกเสือกไม่ค่อยสามัคคีกันก็แบบนี้” ปราชญ์ เพื่อนร่างสูงโย่งถามขึ้นสบายๆ พวกเขามีไลน์กรุ๊ปก็จริงแต่น้อยมากที่จะคุยกัน เพราะทุกคนเรียนแพทย์หมด ต่างคนก็ต่างไม่ว่าง จริงๆเพื่อนต่างคณะที่สนิทกันสมัยมัธยมก็มีเยอะ แต่เพราะเวลาเรียนที่ไม่ตรงกับคณะอื่น นักศึกษาแพทย์เลยไม่ค่อยได้สุงสิงกับเพื่อนนอกคณะเท่าไร ปราชญ์เคยมีแฟนเป็นเด็กบริหาร แต่ก็ต้องเลิกกันเพราะไม่มีเวลาให้ เจ้าตัวกลับบอกว่าเลิกแล้วมีความสุขมากกว่าเดิมเสียอีก
“ก็ดี คนไข้เยอะเหมือนเดิม แต่เคสที่รับผิดชอบไม่ค่อยหนัก ห้องฉุกเฉินก็ไม่ค่อยมีเคสน่าตื่นเต้นเท่าไร ทำแผล อุบติเหตุเล็กๆน้อยไปตามเรื่องๆ นานๆจะหลุดเคสโรคหัวใจกำเริบหรือความดันสูงมาสักวันละคนสองคน” เขาบ่น เอนตัวพิงพนักเก้าอี้โซฟาตัวใหญ่ในร้าน
“โอ้ย ยังดี วันนั้นไอ้หมอโน้ตเจอรถชน ขาร่องแร่งมาจะขาดแหล่มิขาดแหล่ มันบอกเห็นแล้วเสียววูบ” ปราชญ์ตบไหล่เพื่อนข้างๆ ที่นั่งซดกาแฟด้วยสีหน้าง่วงงุน “มันเพิ่งออกเวรเมื่อเช้า นอนไปแป๊บแล้วก็ออกมาเนี่ย”
“กระต่ายยยยยย” เสียงเล็กของสองสาวดังขึ้นพร้อมกัน โผเข้ามาเกาะไหล่คนละฝั่ง
“เลิกเรียกเต็มยศสักที” หมอต่ายบ่นอย่างไม่จริงจัง มองเพื่อนสาวสองคนที่หัวเราะร่า
“ไม่เอา น่ารักดีออก”
“แล้วจะกินไรกันวันนี้” ปราชญ์ถามขึ้น
“อยากกินซูชิ ไปกินซูชิเด็นกันเถอะ!”
“แพง ไม่มีตัง” โน้ตเถียงสองสาว วางแก้วกาแฟลง
“โอ๊ย ก็อยากกินอะ อยากกินนี่ ใช่มั้ยกระต่าย”
“ไม่รู้เรื่อง” หมอต่ายส่ายหน้าดิก ดันแว่นขึ้นให้พอดี
“ไม่ได้กดเงินเมาเยอะ แม่ยังไม่โอนตังให้เลย” โน้ตพึมพำถอนหายใจ
“ยืมกูก่อนละกัน” ปราชญ์เสนอ โน้ตมองหน้าสองสาวที่ทำหน้าร้องขอก่อนพยักหน้าอย่างเสียไม่ได้
สรุปสองสาวชนะ อันที่จริงมันก็เป็นเรื่องปกติของกลุ่ม หากผู้หญิงสองคนเสนออะไรพวกหล่อนมักจะได้อย่างใจทุกที ไม่รู้ว่าตรรกะนี้ใช้ได้กับทุกกลุ่มหรือเปล่าเหมือนกัน แต่สำหรับกลุ่มเขามันก็เป็นแบบนี้ทุกครั้ง เพราะตัวเขาเองไม่มีปากมีเสียงอะไรเท่าไรอยู่แล้ว แต่เป็นอันรู้กันว่าหากเขาเปิดปากพูดเมื่อไร ผู้หญิงสองคนก็เถอะ ต้องยอมเขาเรื่อยไป
.
.
หมอต่ายเดินฮัมเพลงเข้าโรงพยาบาล มุมปากประดับรอยยิ้มน้อยๆให้กับพนักงานต้อนรับที่ทางเข้าโรงพยาบาล วันนี้วันเดียวเหมือนได้หยุดพักผ่อนไปหนึ่งอาทิตย์ แพทย์เป็นอาชีพที่ต้องคิดถึงและให้เวลากับคนอื่นมากกว่าตัวเองเสมอ แม้จะยังไม่ได้บรรจุแต่แค่เวลาเรียนก็หนักหนาแล้ว เพราะฉะนั้นเมื่อมีเวลาให้กับตัวเองและเพื่อนฝูงบ้างจึงถือเป็นช่วงเวลาพักผ่อนที่แสนพิเศษ แขนข้างหนึ่งมีเสื้อกาวน์พาดอยู่ เตรียมตัวเข้าคลาสเรียนช่วงเย็น เขาต้องเข้าห้องผ่าตัดกับอาจารย์หมอที่จะมีเคสผ่าเปิดทรวงอก นึกถึงซูชิแดงๆที่กินไปเมื่อบ่ายยังคิดว่าตัวเองคงไม่หน้าซีดไประหว่างการผ่าตัดหรอก
กำลังจะเดินเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ก็เห็นพยาบาลเวรประจำวันนี้ยืนถือถุงกระดาษยิ้มให้เขาตามประสาคนคุ้นเคย
“หมอต่ายคะ มีคนฝากมาให้ค่ะ” เธอยื่นมาให้ ว่าที่คุณหมอรับมาอย่างมึนงง
“ห๊ะ?”
“พอดีมีน้องเขาเอามาให้พี่ที่เคาท์เตอร์น่ะค่ะ บอกว่าฝากให้นักศึกษาแพทย์คลินิกจิระภัทร ชื่อหมอต่ายนี่คะ” ตาเรียวมองของในมือเธออย่างลังเล รับมาอย่างงงๆ ถุงกระดาษของร้านกาแฟชื่อดัง เจ้าเดียวกับที่เขาแวะไปวันนี้
เขามองเข้าไปในถุงที่เปิดปากอ้า ด้านในมีแก้วกาแฟแบบรับกลับบ้าน 1 แก้วและพายชิ้นเล็ก เห็นกระดาษโพสท์อิทสีเขียวสดแปะอยู่ข้างๆถุง ก็ต้องหยิบขึ้นมาดู ลายมือหวัดๆดูคุ้นตา แต่เนื้อความน่าสงสัยกว่านั้นเยอะ มือขาวขยับดันแว่นให้เข้าที่ ก้มหน้าอ่านเนื้อความในโน้ตแผ่นเล็ก
‘ หมอต่ายชอบกินของแพงจัง ผมคงซื้อให้ทุกวันคงไม่ไหว แต่หมอต่ายรู้มั้ยครับ ว่าถึงผมจะจน เด็กวิดวะคนนี้มันก็จริงใจนะครับ
‘ คนตัวขาวขนลุกซู่ ไม่รู้ว่ารู้ได้อย่างไรว่าเขาชอบกินอะไร เขาไม่ได้สนใจจุดนั้น แต่สำนวนที่ใช้พร้อมลายมือคุ้นตาพาลให้คิดถึงใบหน้าคมแต่กวนเบื้องล่างของคนให้แล้วก็ตัวสั่น เขากล่าวขอบคุณพี่พยาบาลที่อุตส่าห์ใจดี เดินมาส่งของให้
“งั้นพี่ขอตัวก่อนนะคะ”
“ครับ ขอบคุณมาก วันหลังถ้าเขาฝากอะไรไว้พี่ไม่ต้องรับมานะครับ” เขาบอก เธอทำหน้าประหลาดใจเล็กน้อยแต่ก็ตอบรับด้วยดี
สิ้นร่างเล็กของนางพยาบาล ขาเรียวก้าวยาวๆไปที่หัวมุมของอาคาร ก่อนที่จะเลี้ยวเข้าห้องฆ่าเชื้อ ปล่อยเจ้าถุงกระดาษที่บรรจุกาแฟและขนมราคาแพงนั่นลงถังขยะสำหรับรีไซเคิล ยกยิ้ม คิดถึงเหตุการณ์เมื่อสองสามวันที่แล้วที่ทำเอาอารมณ์เสียไปเกือบทั้งวัน แต่เพราะงานเยอะเลยลืมๆ วันนี้เมื่อเห็นกลับทำให้อารมณ์ขุ่นมัวขึ้นมาอีกรอบ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการจะล้อเล่นหรืออะไร ไม่เข้าใจแต่ที่อยากบอก ตอนนี้คือ ..
ไม่มีนโยบายรับของจากคนแปลกหน้าเว้ย !
.
.