ตอนที่ 13ชนนน“ทุกคนครับ นี่เบส ‘แฟน’ ผม...เบสทักทายคนในครอบครัวนนสิครับ ยืนเฉยทำไม” ผมสะกิดแขนสุดหล่อข้างตัวยิกๆให้รีบทักทายว่าที่พ่อแม่และพี่ๆของสามีในอนาคต
ผมก็ต้องกลั้นขำกับสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ทำอะไรผมไม่ได้นอกจากการถลึงตาเข้าใส่ของเบส ก่อนสุดหล่อของผมจะมีท่าทีเงอะๆงะๆ ยกมือไหว้บุคคลอันเป็นที่เคารพรักของผมทุกคน ด้วยท่าทางนอบน้อมกิริยาเรียบร้อยชวนมอง เป็นที่น่าเอ็นดูต่อคนที่ได้เห็นไม่น้อย เพราะท่านแม่กนกอรสุดสวาทขาดใจของผม ถึงกับรวบมือสุดหล่อที่กระพุ่มมือไหว้ไว้ ก่อนดึงเบสเข้าหาตัวและสวมกอด พร้อมลูบหัวลูบหลังด้วยความถูกใจ มีแอบยกนิ้วพอใจในตัวว่าที่สะใภ้ให้ผมอีกด้วย ผมจึงขยิบตาให้ท่านแม่นิด ก่อนจะเผื่อแผ่รอยยิ้มส่งคืนให้แก่บุคคลที่เหลือ
ไม่ว่าจะเป็นท่านพ่อชาตพลประธานใหญ่แห่ง ‘ชลาสินธุ์ทรานส์เอ็กซ์เพรส’ ผู้ที่กำลังยืนยิ้มกริ่มถูกใจว่าที่ลูกสะใภ้ไม่ต่างจากภรรยาตัวเอง ข้างๆพ่อผมคือพี่ชนะพี่ชายคนโต ผู้ที่ดำรงตำแหน่งท่านรองประธานที่แทบจะจัดการทุกอย่างแทนประธานตัวจริง และวันนี้พี่ชนะปลีกตัวจากงานที่แสนรัดตัว เพื่อมาดูหน้าว่าที่น้องสะใภ้โดยเฉพาะ และคนสุดท้ายคือพี่ชนากานต์สาวหล่อประจำบ้าน บุคคลที่เป็นผู้จุดประเด็นให้ผมพาสุดหล่อเข้าบ้าน เพื่อมาเปิดตัวแก่ทุกคนในครอบครัว
เมื่อสักชั่วโมงก่อนหน้านี้ หลังจากผมกับเบสและผองเพื่อนเพิ่งเดินออกมาจากโรงหนัง ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพี่กานต์ และมีคำสั่งแบบสายฟ้าฟาดให้ผมพาสุดหล่อเข้าบ้านด่วน เพราะหลังจากพี่กานต์รู้เรื่องที่เมื่อคืนผมไปค้างบ้านสุดหล่อจากท่านแม่แล้ว พี่สาวสุดเท่ของผมจึงเปิดประเด็นที่ว่า น้องชายคนเล็กมีแฟนแล้วในมื้อเช้าของบ้านชลาสินธุ์ แถมแฟนคนนั้นก็คือคนๆเดียวกับลูกชายเจ้าของบ้านที่ผมไปค้างด้วย ทำให้ทุกคนในครอบครัวลงมติเป็นเอกฉันท์ให้ผมพาว่าที่สะใภ้เข้าบ้าน เพราะทุกคนอยากเห็นหน้าชายหนุ่ม ที่ทำให้ลูกชายคนเล็กของบ้านพร่ำเพ้อนักหนา ว่าจะมีหน้าตาเป็นเช่นไร และดูท่าทุกคนจะถูกใจกับว่าที่สะใภ้รูปหล่อไม่น้อยครับ
“ตาถึงนี่หว่าไอ้น้องชาย” พี่ชนะตบไหล่ผมพร้อมคำชมและรอยยิ้มเจิดจ้า ผมได้แต่ยืดอกรับคำชมและขอบคุณท่านพี่ด้วยการฉีกยิ้มปากแทบฉีก
“ทีแรกพี่นึกว่าเบสจะตัวเล็กๆหน้าตาน่ารัก เหมือนน้องธันว์ซะอีก ไม่นึกเลยว่าจะหล่ออย่างกับนักร้องเกาหลีขนาดนี้ ถ้าอ๋อมแอ๋มมาเห็นเข้า คงได้จองเป็นนายแบบประจำห้องเสื้อตัวเองแน่ๆ ฮึๆ”
พี่กานต์พูดมาแบบนี้ผมชักจะเครียดแล้วสิ ขืนพี่อ๋อมแอ๋มมีอาการตามที่พี่กานต์ว่าจริง งานนี้ไอ้นนเหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจแน่ๆเหอะ ดูหน้าตารูปร่างเบสซะก่อนครับ ผมไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าชวนให้ใครต่อใครหลงใหลเป็นปลื้มน้อยซะที่ไหน แค่แฟนคลับในโรงเรียนของสุดหล่อ ไอ้นนก็ไม่ไหวจะเคลียร์แล้ว หากปล่อยให้รูปลักษณ์เจ้าชายมาดนิ่ง หลุดสู่สายตาคนภายนอกอีกล่ะก็ ไอ้นนได้อกระเบิดเพราะหวงบรรลัยแน่นอน
“นนเป็นไรหน้าเครียดเชียว คิดไปถึงไหนแล้วนั่น ฮึๆ” เออนั่นดิ ผมคิดไปถึงไหนกันว้า เรื่องยังไม่เกิดแท้ๆ แต่พอเป็นเรื่องสุดหล่อขึ้นมาทีไร ไอ้นนไม่เคยคิดน้อยสักที
ผมจึงได้แต่หัวเราะตามพี่กานต์และพี่ชนะ ทั้งคู่มองมายังผมด้วยแววตาระยิบระยับ พี่ๆคงรู้ล่ะว่าน้องชายอย่างผมกำลังคิดอะไรอยู่ ดูตาตั่วเฮียตั่วเจ๊ก็รู้แล้วครับ ที่สำคัญเสียงหัวเราะของพวกเรา เรียกสายตาของพ่อแม่และเบสให้หันมามอง ผมจึงได้โอกาสสบตากับสุดหล่อ ก่อนบรรจงส่งยิ้มหวานๆเอาใจ ด้วยรู้ว่าการพาเบสมาบ้านครั้งนี้ สุดหล่อไม่เต็มใจนัก แต่ขัดผู้ใหญ่ทางฝ่ายผมไม่ได้ แถมผมยังปากดีแนะนำเค้าในสถานะแฟนผมอีก ไม่รู้ว่าพอได้อยู่กันสองคน ไอ้นนจะน่วมเป็นกระท้อนพร้อมกินรึเปล่าสิ
“เบสหิวมั้ยลูก แม่ให้เด็กเอาของว่างมาให้ทานมั้ยครับ” ดูท่าท่านแม่จะหลงสุดหล่อเข้าแล้วครับ มีการเอาใจเสนอของกินให้พร้อมรอยยิ้มด้วย ลืมลูกชายคนเล็กสุดสวาทขาดใจไปแล้วมั้ง
“ผมทานมาแล้วครับ ไม่รบกวนคุณป้าดีกว่า” สุดหล่อผมก็ช่างสุภาพไม่เปลี่ยน แต่สรรพนามที่ใช้เรียกแม่ผมนี่สิ ฟังขัดหูชะมัด และคงไม่ใช่แค่ผมแล้วล่ะที่คิดแบบนั้น
“ตายแล้วลูก! เรียกป้าได้ไงจ๊ะ เรียกแม่สิลูก เบสเป็นแฟนเจ้านน ดังนั้นต้องเรียกแม่ว่าแม่เข้าใจมั้ยครับ” ‘สุโค่ย! ที่สุด แม่โผม!’
เห็นหน้าสุดหล่อยามนี้ ผมก็ได้แต่ยิ้มกว้างไม่ต่างจากทุกคนในห้องรับแขกหรอกครับ เพราะเบสยกยิ้มแหยๆด้วยความตกใจกับเสียงสูงๆของท่านแม่ ก่อนจะพยักหน้าช้าๆส่งให้ท่าน และยอมตามใจด้วยการเรียกว่าแม่แทนป้า ทำเอาคนที่ได้ลูกชายเพิ่มถึงกลับยิ้มไม่หุบ และแอบขโมยหอมแก้มสุดหล่อของผมโดยไม่บอกกล่าว เบสเองถึงกลับหน้าแดงทำตัวไม่ถูกไปเลย
“โธ่ แม่ครับ หอมแก้มแฟนผม ขอผมก่อนเหอะ!” ผมก็แค่แกล้งแซวแม่ตัวเอง ไม่นึกว่าจะโดนเอาคืนให้ได้อิจฉาเล่น ด้วยการดูโชว์มหกรรมหอมแก้ม จากท่านแม่และสุดหล่อของผมจนตาร้อนผ่าว
“แม่! ผมยอมแล้วครับ เลิกหอมแก้มเบสเถอะ ช้ำหมดแล้วมั้ง พ่อ!...แม่หอมแก้มผู้ชายอื่นต่อหน้าไม่หึงบ้างเหรอคร้าบ” มองไปทางพี่ๆที่กลั้นขำแล้วไม่เห็นแววว่าจะช่วยได้ ความหวังเดียวของผมที่สุดหล่อจะถูกปล่อยตัวเป็นอิสระคือท่านประธานใหญ่แห่งชลาสินธุ์ทรานส์เอ็กซ์เพรสเท่านั้น
“ถ้าเป็นผู้ชายอื่นน่ะมีเคลียร์ แต่คนนี้ ‘ว่าที่ลูกเขย’ พ่อยอมให้แม่แกสักคนว่ะเจ้านน ฮ่าๆ”
“พ่อ!!!!” ‘โอ๊ย! ตายๆ ทำไมพ่อถึงให้ท้ายสุดหล่ออย่างนั้น’ ดูสิครับแววตาระยับถูกใจของเบสกลับมาอีกแล้ว ไอ้นนเสียววาบไปถึงตูดเลยทีเดียว
ผมจะปล่อยให้สุดหล่อได้ใจยิ้มย่องไปครับ แต่หากถึงเวลานั้นจริง ผมนี่แหละจะพิสูจน์เองว่าพ่อจะได้ลูกเขยหรือลูกสะใภ้ ตอนนี้ผมไม่อยากเถียง ด้วยไม่อยากทำลายบรรยากาศชื่นมื่นเห่อแหนลูกชายและน้องชายคนใหม่ของคนในครอบครัวชลาสินธุ์
ผมนั่งมองเบสที่ถูกรายล้อมและได้รับความสนใจ จากคนในครอบครัวตัวเองอย่างมีความสุข แม้จะเคยคิดเล่นๆถึงบรรยากาศแบบวันนี้ไว้เหมือนกัน แต่ไม่คิดว่าบุพการีกับพี่ๆจะถูกใจและต้อนรับสุดหล่อของผมด้วยดีขนาดนี้
เมื่ออาทิตย์ก่อนผมยังจำความรู้สึกตื่นเต้นปนหวั่นใจได้อยู่เลย เป็นวันที่ผมตัดสินใจเดินเข้าไปบอกพ่อกับแม่เรื่องเบส แม้จะได้รับกำลังใจจากพี่กานต์ และมั่นใจในความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูกชายอย่างผม แต่ผมอดคิดมากไม่ได้อยู่ดี ซึ่งผมรู้ว่าท่านคงไม่ถึงกลับห้ามไม่ให้ผมคบกับเบสหรอก แต่ผมกลัวก็แต่ว่าตัวเองจะเป็นต้นเหตุของความผิดหวังของพ่อกับแม่เท่านั้น
สุดท้ายผมจึงได้รู้ว่าไม่มีความรักใดยิ่งใหญ่เท่ากับรักที่พ่อแม่นั้นมีต่อลูก เพราะพ่อแม่ของผมแค่ฟังผมด้วยทีท่าสงบ ก่อนจะถามย้ำความรู้สึกที่ผมมีต่อสุดหล่อ พอผมยืนยันคำเดิมว่าผมชอบเบสด้วยใจจริง ท่านทั้งคู่ก็ระบายยิ้มอ่อนโยนก่อนจะผลัดกันกอดผม และบอกให้ผมพาสุดหล่อมาให้เจอด้วย เพราะท่านอยากเห็นหน้าคนที่ทำให้ลูกชายคนเล็กของท่านหวั่นไหวไปกับรักครั้งแรก
“ตายแล้วๆ ตานนนะตานน ทำไมถึงไม่บอกแม่!!” ผมสะดุ้งสุดตัวกับเสียงแหลมๆของท่านแม่ ที่อยู่ๆก็ร้องขึ้นมาซะลั่น ไอ้ผมรึก็มัวแต่นึกย้อนอดีต จึงไม่ทันได้ฟังว่าท่านพูดอะไรก่อนหน้า
ตอนนี้ผมจึงได้แต่นั่งหน้าตื่น ชี้นิ้วใส่หน้าตัวเอง มองเลิ่กลั่กใส่ทุกคนรอบตัว ซึ่งแต่ละคนก็ได้แต่ส่ายหน้าอมยิ้มน้อยๆให้อย่างเหนื่อยใจ มีเพียงสุดหล่อนี่แหละที่นั่งกลั้นขำหน้าแดง ทำให้ผมได้แต่หยุดสายตาไว้ที่เบสอย่างเผลอไผล จนสุดหล่อเริ่มรู้ตัวและนั่งไม่ติด เพราะไม่ได้มีเพียงผมเท่านั้นที่จับจ้องเค้าอยู่ขณะนี้ เรียกได้ว่าสายตาทุกคู่มองเบสเป็นตาเดียว
ผมจับความรู้สึกได้ถึงความชื่นชมที่ทุกคนมีให้แก่ว่าที่สะใภ้เล็กของชลาสินธุ์ แต่ดูท่าเจ้าตัวจะยังไม่เข้าใจความหมายของสายตาเหล่านี้นัก เพราะเบสหลุกหลิกร้อนตัว เหมือนว่าตัวเองไปทำความผิดอะไรบางอย่างเข้าและเจ้าของบ้านจับได้
ผมล่ะอยากเข้าไปปลอบใจสุดหล่อตอนนี้นัก เพราะหากเบสทำผิดจริงก็มีเพียงข้อหาเดียว คือข้อหาขโมยหัวใจลูกชายเจ้าของบ้าน แต่ในที่สุดสุดหล่อของผมก็ได้ถอนใจด้วยความโล่งอก เมื่อท่านแม่ช่วยกอบกู้ชีวิตว่าที่ลูกสะใภ้ ด้วยการหันมาส่งคำถามที่ผมไม่ได้ฟังอีกครั้ง
“นน ทำไมถึงไม่รีบมาบอกว่าคุณแม่ของน้องเบสน่ะ คือพวงชมพูนักเขียนในดวงใจของแม่ ไม่งั้นนะ แม่คงได้รู้จักทั้งน้องเบสและคุณผกาก่อนหน้านี้แล้วแท้ๆ” เรื่องนี้เอง ผมก็นึกว่าเรื่องอะไร
ผมล่ะอดยิ้มไม่ได้กับสรรพนามของสุดหล่อที่ผมได้ยินจากท่านแม่ ซึ่งผมไม่คิดจะทักให้เสียเรื่องหรอกครับ ‘น่ารักดีออก น้องเบสของแม่ ครึๆ’
“โธ่ แม่ครับ ผมอยากให้แม่รู้จักกับเบสก่อน ขืนผมพาแม่เดินดุ่มๆเข้าบ้านนักเขียนชื่อดังเลย คงไม่แคล้วโดนตะเพิดออกมา แต่ถ้าให้ลูกชายคุณพวงชมพูพาไปเองนะ ผมว่านิยายที่แม่จะหอบไปให้แม่ผกาเซ็น คงได้ลายเซ็นครบทั้งเซตแน่ๆครับ” ผมส่งยิ้มประจบท่านแม่คนงาม ก่อนเข้าไปนั่งบนพื้นต่อหน้าท่าน และลงมือนวดขาไปด้วย พร้อมถือโอกาสเงยหน้าส่งยิ้มให้สุดหล่อที่นั่งข้างๆท่านซะหนึ่งที เพราะตั้งแต่เรามาถึงบ้าน เบสก็โดนแม่อรยึดตัวไว้ ไม่ให้ห่างตัวกันเลยทีเดียว
ส่วนสุดหล่อเพียงแค่ปรายตามองลงมาทางผมนิด ก่อนจะเมินหน้ากลับเหมือนว่าผมไม่มีความหมายสำหรับเค้า และหันไประบายยิ้มละลายใจให้ท่านแม่อีกครั้ง ผมล่ะมันเขี้ยวปากแดงๆที่ลอยไปลอยมาคู่นั้นมาก จนอยากกัดให้จมเขี้ยวซะตรงนี้ อยากรู้นักว่าสุดหล่อจะวางมาดนิ่งเฉยชาใส่ผมได้อีกมั้ย
“นั่นสินะ นนความคิดดีมากลูก คิกๆ น้องเบสต้องพาแม่ไปหาแม่ผกาของลูกนะ คุณแม่น่ะแฟนนิยายตัวยงของพวงชมพูเลยน้า” จบประโยคว่าที่สะใภ้หน้าหล่อตอบรับว่าที่แม่สามีเสียงนุ่มเชียว ทีกับว่าที่สามีตัวเป็นๆคนนี้ล่ะก็เสียงแข็งโป๊ก ต่างกันราวฟ้ากับก้นเหว
“ฮึๆ คุณอรตกหลุมที่เจ้านนขุดจนได้นะ นนเจ้าเล่ห์นักนะเรา อย่าไปใช้นิสัยแบบนี้กับเบสเข้าล่ะ แต่ถ้าเจ้านนทำตัวแย่ๆเมื่อไหร่ เบสมาบอกพ่อกับแม่ได้เลยนะ เดี๋ยวพ่อให้พี่ชนะตัดเงินเดือนเอง” ท่านพ่อมาเรื่องล่ะงานนี้ ลำพังพอใกล้สิ้นเดือนทีไร ไอ้นนแทบจะกลายเป็นโรคโลหิตจาง(ทุนทรัพย์)อยู่แล้วแท้ๆ
“พ่อคร้าบ อย่าลงโทษลูกชายสุดหล่อแบบนั้นเลย ลงโทษอย่างอื่นเหอะ เพราะเดี๋ยวจะไปลำบากลูกชายคนใหม่ของพ่อนะครับ”
“แกโดนตัดเงินเดือน แล้วมันไปเกี่ยวอะไรกับเบสวะไอ้นน” ดีมากครับพี่ชนะที่ถาม เปิดทางให้น้องชายสุดๆเลย
“อ้าวพี่ชนะ เป็นพี่พี่จะยอมให้แฟนตัวเองอดหรือลำบากมั้ยครับ ผมคนหนึ่งล่ะไม่ยอม เพราะผมรักของผม จริงๆพ่อต้องให้พี่ชนะเพิ่มเงินเดือนให้ผมด้วยซ้ำ จริงป่ะ” ผมยกยิ้มยักคิ้วให้ท่านประธานใหญ่แห่งชลาสินธุ์ทรานส์เอ็กซ์เพรส ผู้ที่กำชะตาชีวิตและความอยู่รอดของผม ก่อนจะแจกจ่ายรอยยิ้มไปทั่ว
ทำให้ทั้งบุพการีและพี่ๆได้แต่เปล่งเสียงหัวเราะถูกใจ ในประโยคยาวๆของผมทั้งนั้น แต่มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่แตกต่าง จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากสุดหล่อยอดดวงใจของผม
เบสมองผมตาค้างอย่างไม่เชื่อสายตา คงไม่คิดว่าผมจะกล้าบอกรักออกไปแบบนั้น แต่ผมพูดตามที่คิดจริงๆนี่ครับ ลูกชายคนเล็กของอาเสี่ยชาตพลมีแฟนทั้งที แถมผมก็รักของผมมากด้วย ขืนใครรู้ว่าผมทิ้งๆขว้างๆละเลยแฟนตัวเองเข้าล่ะก็ ครอบครัวเราคงได้อายไปทั้งสามคุ้งน้ำแปดหัวเมืองใหญ่เลยเหอะ
“คิกๆ จริงของตานนนะคะคุณพล ชนะ ลูกเพิ่มเงินเดือนให้น้องหน่อยแล้วกัน”
“เยส! ขอบคุณครับแม่ ผมรักแม่ที่สุดเลย” ผมกำมือดึงกำปั้นเข้าหาตัวเอง พร้อมร้องดีใจเสียงหลง ก่อนจะเข้าไปกอดเอวบางของท่านแม่ไว้
อาการดีใจจนออกนอกหน้าของผม คงขัดหูขัดตาสุดหล่อไม่น้อย เพราะตาคู่เรียวปล่อยแสงเรืองรองจ้องขู่ผมไม่กระพริบเชียว จนผมต้องค่อยๆหุบยิ้มลงก่อนผละจากเอวแม่อร เพื่อเงยหน้าขึ้นและส่งยิ้มน้อยๆให้สุดหล่ออย่างเอาใจ แถมด้วยการแอบวางมือลงบนหลังเท้าเบส ก่อนแอบสะกิดเบาๆ ทำเอาเจ้าตัวถึงกับสะดุ้งและชักเท้าหนี
‘โด่! แตะนิดแตะหน่อยทำหวง แล้วเมื่อคืนใครกันที่แทบไม่อยากให้ผมห่างกาย’ ผมยื่นปากตวัดค้อนใส่สุดหล่อหน้าบึ้งทันที เมื่อเบสใช้หลังเท้าเตะเบาๆเข้าที่ต้นขาของผม เชื่อมั้ยว่าถ้าเราอยู่กันสองคน เท้าข้างที่ว่าเนี่ยคงได้ตวัดเสยใส่ปลายคางผมซะมากกว่า ไม่ใช่แค่แรงสะกิดแบบเมื่อครู่หรอกครับ
อาการแง่งอนของเราสองคนคงไม่พ้นสายตาของคนในครอบครัวผม เพราะผมได้ยินเสียงหัวเราะคลอเบาๆขึ้นมา แต่ก็ทำให้สุดหล่อเค้ารู้ตัวว่าได้รังแกลูกชายและน้องชายคนเล็กของคนบ้านนี้เข้าซะแล้ว เบสรีบยกมือขึ้นไหว้พ่อแม่และพี่ๆของผมด้วยหน้าตื่นๆ ก่อนเอ่ยขอโทษออกมาด้วยเสียงที่ผมจับได้ว่าเค้ากำลังรู้สึกผิดมาก
“เอ่อ...ผมขอโทษครับที่แสดงกิริยาไม่เหมาะสม คุณแม่ครับ คุณแม่ไม่ต้องให้พี่ชนะเพิ่มเงินให้นนหรอกครับ ปกติผมดูแลตัวเองอยู่แล้ว และเราก็เป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ เมื่อตกลงคบกันแล้ว ไม่ควรให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นคนคอยดูแล แต่เราควรจะดูแลซึ่งกันและกันมากกว่า แค่วันนี้คุณพ่อ คุณแม่ พี่ชนะ พี่กานต์ ไม่รังเกียจผมก็พอแล้วครับ”
‘อ่า คนอะไรหล่อทั้งกายหล่อทั้งใจ เหมาะกับไอ้นนที่สุด แต่เดี๋ยวก่อนนะ ท่านแม่จะทำอะไรกับแฟนผมครับ!’ ห้ามไม่ทันแล้วครับ ท่านแม่ขโมยหอมแก้มสุดหล่อผมไปฟอดใหญ่เลย สุดหล่อเองก็นั่งนิ่งยินยอมพร้อมใจอย่างดี ด้วยแก้มที่ขึ้นสีนิดๆระบายยิ้มหน่อยๆพาใจละลาย จนทำให้ว่าที่พ่อแม่สามีได้เป็นปลื้มมากกว่าเดิม
“ฟอดดดด...น้องเบสสุดหล่อของแม่ อะไรยะตานน ทำไมมองแม่แบบนั้น” โอ้โฮ! ฟังท่านแม่พูดกับผมซะก่อนเถอะ
แฟนก็แฟนลูก ก่อนหน้าแก้มก็ได้ไปแล้ว แถมเตรียมยึดสุดหล่อของผมไปเป็นของตัวเองด้วย แต่ยังมีแก่ใจหันมาจิกตาหาเรื่องลูกชายอย่างผมอีก ผมรึจะสู้ได้ จึงได้แต่ส่ายหน้านั่งจ๋อง มองสองแม่ลูกคู่ใหม่เค้าพะเน้าพะนอต่อกัน
‘ใช่ซี่! ไอ้นนตกกระป๋องแล้วนี่ เห่อสะใภ้หน้าหล่อกันเข้าไป’ ไม่ใช่แค่ท่านแม่หรอกครับที่รักที่หลงเบส เพราะท่านพ่อกับพี่ๆก็ให้ความสนใจสุดหล่อไม่ต่างกัน เรียกได้ว่าประโยคก่อนหน้าเป็นดังประโยคทอง ที่เพิ่มความนิยมในตัวสุดหล่อเข้าไปอีก ทุกคนผลัดกันส่งคำถามให้สุดหล่อตอบ ซึ่งเบสเองก็ไม่มีทีท่าเบื่อหน่ายให้เห็นสักนิด ยังคงตอบด้วยเสียงนุ่มๆระบายยิ้มน้อยๆตลอดเวลา ทำเอาชลาสินธุ์ทุกคนติดบ่วงเสน่ห์เจ้าชายรูปหล่อนามว่าภูธิปไปแล้วเรียบร้อย
ไม่เท่านั้นครับยังมีพี่อ๋อมแอ๋มแฟนสาวคนสวยของพี่กานต์ด้วยอีกคน ที่หลงเสน่ห์ความหล่อสุภาพแสนดีของเบส เมื่อพี่อ๋อมแอ๋มตามมาร่วมทานอาหารมื้อเย็นและเจอสุดหล่อของผมเข้า แถมยังเอ่ยปากชวนสุดหล่อเป็นนายแบบให้ห้องเสื้อที่พี่สะใภ้ผมทำงานอยู่ตอนนี้อีกด้วย
“น้องเบสมาลองถ่ายแบบสักงานสองงานก่อนมั้ยคะ ใสๆหล่อๆแบบนี้ เชื่อสายตาสไตล์ลิสมือหนึ่งคนนี้ได้เลยค่ะ น้องเบสต้องดังเป็นพลุแตกแน่นอน หลังจากนั้นพี่อ๋อมแอ๋มจะเก็บตัวน้องเบสไว้ และเปิดตัวอีกทีให้ห้องเสื้อของเรา ดีมั้ยคะกานต์ ช่วยอ๋อมแอ๋มพูดกับน้องสิคะ”
เอาล่ะสิเห็นแววงานจะเข้าไอ้นนเต็มๆ ผมมองหน้าเบสที่ยังคงประดับยิ้มไม่เปลี่ยน ซึ่งเบสเองได้มอบรอยยิ้มนั้นให้แก่ทุกคนรอบตัว ไม่เว้นแม้แต่พี่อ๋อมแอ๋มที่ดูตื่นเต้นเป็นพิเศษกับเพชรเม็ดงามที่เพิ่งเจอ
แต่แววตาหนักใจชั่วแวบที่ผมจับได้จากตาคู่เรียวสวยนั้น ทำให้ผมเอื้อมมือไปแตะหลังมือสุดหล่อเบาๆ ก่อนหันมาส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากพี่กานต์ ด้วยผมรู้ว่าสุดหล่อไม่ได้อยากเป็นนายแบบมากนัก แต่หากโดนพี่อ๋อมแอ๋มคะยั้นคะยอมากเข้า เบสคงต้องเอ่ยปากตกลงด้วยความเกรงใจอย่างแน่นอน ถ้าเหตุการณ์เป็นไปตามที่ผมเดาได้จากความคิดของสุดหล่อเข้าล่ะก็ ชีวิตรักของไอ้นนคงจะป่วนจากมือที่สองสามสี่ห้าเป็นแน่
“อ๋อมแอ๋ม ใจเย็นๆค่ะ น้องตกใจหมดแล้ว กานต์ว่าเอาแบบนี้ดีกว่า รอให้อ๋อมแอ๋มเปิดตัวห้องเสื้อของตัวเองก่อนดีกว่ามั้ยคะ แล้วค่อยคุยกับน้องใหม่ ถึงเวลานั้นถ้าเบสตกลง กานต์ว่าจะเป็นผลดีกับทั้งสองฝ่ายมากกว่านี้นะคะ”
ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าของพี่กานต์ที่ใช้กับพี่อ๋อมแอ๋มนั้น ทั้งอ่อนโยนและเต็มไปด้วยความรัก จนทุกคนบนโต๊ะอาหารสัมผัสได้ รวมถึงผมด้วยที่เผลอบีบมือสุดหล่อ ทำให้เราได้สบตากันอีกครั้ง ก่อนจะยิ้มให้กันอย่างยินดี เมื่อประจักษ์ในความรักของคนเป็นพี่ ส่วนคนที่ได้รับสิ่งดีๆเหล่านี้โดยตรงแล้ว คงไม่ต้องพูดถึงว่าจะมีปฏิกิริยาอย่างไร
เมื่อพี่กานต์กุมทับหลังมือขาวๆของพี่อ๋อมแอ๋มไว้ทันทีที่พูดจบ พร้อมเปิดยิ้มสว่างใส่ตาคนเป็นแฟนนั้น ทำให้พี่อ๋อมแอ๋มได้แต่มองพี่กานต์ตาเยิ้ม ก่อนจะระบายยิ้มเอียงอาย และพยักหน้ายอมรับให้อย่างไม่มีข้อแม้
‘ไอ้นนคงต้องเรียนรู้อีกเยอะ งานนี้ผมต้องขอฝากตัวเป็นศิษย์เอกพี่กานต์ซะแล้ว’
เมื่อเหตุการณ์คลี่คลาย ผมก็หันมาส่งยิ้มให้สุดหล่อข้างตัวอีกครั้ง และเนียนไม่ยอมปล่อยมืออุ่นที่กุมไว้ แม้เบสจะพยายามกระตุกมือคืนเท่าไหร่ก็ตาม
หลังจากของคาวก็ตามมาด้วยของหวาน เป็นวุ้นผลไม้ร้านดังที่พี่อ๋อมแอ๋มซื้อเข้ามา ซึ่งเป็นของโปรดของท่านแม่ แม่ผมทานไปชมลูกสะใภ้คนกลางไปไม่ขาดปาก และคงกลัวว่าที่สะใภ้เล็กจะน้อยใจ มีหันมาตักวุ้นเติมใส่จานให้เบสด้วย เมื่อเห็นว่าสุดหล่อของผมตักชิ้นสุดท้ายเข้าปากไปแล้ว
ท่านพ่อที่ได้เห็นเหตุการณ์เดียวกันนี้พร้อมผมและคนที่เหลือ ถึงกลับกลั้วหัวเราะและแซวคู่ชีวิตขึ้นมาเชียว ซึ่งก็ได้ค้อนงามๆวงน้อยๆจากแม่ไปเบาๆหนึ่งวง พาให้ลูกๆต่างหัวเราะขึ้นมากับการหยอกเย้าของบุพการี ช่วยเพิ่มบรรยากาศมื้อเย็นอันแสนชื่นมื่นของครอบครัวชลาสินธุ์
ผมเหลือบมองสมาชิกคนล่าสุดของชลาสินธุ์ แล้วก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม เมื่อได้เห็นใบหน้าด้านข้างของสุดหล่อที่กำลังหัวเราะน้อยๆ ดวงตาแพรวพราวอย่างคนที่กำลังมีความสุข
หลังจากนี้ผมคงต้องไปขอบคุณพี่กานต์อย่างเป็นทางการซะแล้ว ที่ทำให้ผมตัดสินใจพาเบสเข้าบ้านมารู้จักกับทุกคนในครอบครัว ไม่เช่นนั้นวันนี้คงไม่ได้เป็นวันที่แสนน่าจดจำวันหนึ่งของครอบครัวชลาสินธุ์อย่างแน่นอน
..........................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะครอบครัวชลาสินธุ์อบอุ่นและน่ารักจริงๆเนอะ คงไม่แปลกใจแล้วมั้งคะ
ว่าทำไมชนนนถึงได้กลายเป็นชายหนุ่มคิดบวกได้ขนาดน้าน ซึ่งบางที
ก็เข้าขั้นเพ้อเจ้อไปบ้าง
ส่วนตอนหน้าห้ามพลาดเชียวค่ะ สปอยด์ไว้เลยว่าพลาดแล้วจะเสียใจ
เพราะลูกแกะน้อยโดนขย้ำแล้ว

แต่ทำไมลูกแกะถึงยอม มีเฉลยในวันพุธค่ะ
ปล.ใครที่อยากฟังเบสเล่าเรื่องอดใจนิด เพราะสุดหล่อของชนนนจะมา
พร้อมความลับในอดีตในอีก2ตอนนะคะ
+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์ ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ
