ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 14 “ไงมึง ไปเที่ยวมาเสร็จไหมล่ะ” อะไรของมันวะมาถึงก็พูดไม่รู้เรื่องใส่ผมเลย เลิกคบมันทันไหม
วันนี้ผมกับไอ้แบตแยกกันมาเมื่อวานมันกลับไปนอนบ้านตัวเอง ผมเลยต้องมาคนเดียว มาถึงยังไม่เจอใครซักคน
“เสร็จอะไรของมึงวะ”
“อ้าวมึงไปกับใครก็เสร็จคนนั้นแหละ ไปเสม็ดมาไม่ใช่เหรอ เขาว่าไปเสม็ดเสร็จทุกรายไง” ไอ้เชี้ยแว่นกวนตีนแล้วไง
“เสร็จเชี้ยอะไรล่ะ พูดแบบนี้พี่ชินเสียหายนะมึง แล้วกูก็ไม่ได้ไปเสม็ดกูไปหาดดวงตะวันเฟ้ย” ผมว่าเสียงดัง ไม่ได้รักษาภาพลักษณ์อะไรพี่ชินหรอกแต่ผมกลัวโดนตีนแกมากกว่า
“ได้ข่าวว่าไปบ้านเพ กูก็นึกว่าจะข้ามไปเสียตัวที่เสม็ดซะอีก หึหึ” ไอ้แบตหัวเราะเสียงหลอนประสาทผม ก่อนนั่งลงตรงข้ามแล้วจ้องหน้าเหมือนจับผิด แต่ผมไม่มีอะไรให้จับอยู่แล้ว จ้องมาผมก็จ้องกลับ
หาดดวงตะวันที่ผมไป มองเห็นเกาะเสม็ดด้วยครับไม่ไกลมาก ถ้านั่งเรือไปก็ประมาณ 30 นาทีแต่ผมไม่ได้ไป ได้แต่นอนมอง
“เสียตัวอะไร มึงก็พูดไปเรื่อยพี่เขาไม่ได้คิดอะไรกับกูซะหน่อย ที่พากูไปก็แค่เอาไปเป็นเพื่อนเฉยๆพี่ชินเขาไปทำงาน”
“เหรอไม่คิดเหรอ ถ้าไม่บอกกูนึกว่าออกเดท”
“ผู้ชายกับผู้ชายไปด้วยกัน มันเหมือนออกเดทตรงไหนวะ” ผมถามด้วยความงงในระบบการคิดของไอ้เชี้ยแว่นตรงหน้า มันใช้สมองหรืออะไรคิดว่าผมกับพี่ชินไปเดท ถ้าไปกัดกันล่ะก็ว่าไปอย่างครับ
“ถ้าผู้ชายคนอื่นกูไม่คิดไง แต่เป็นมึงที่มีประวัติเรื่องนี้มีเหรอกูจะไม่คิด สรุปแล้วยังไม่เสร็จว่างั้น” ไอ้แบตยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นก่อนหรี่ตาแล้วถามย้ำ
“ไม่เสร็จ!”
“ไม่เสร็จได้ไงวะ กูนึกว่าพี่ชินชอบมึงซะอีก”
“มึงพูดอะไร เดี๋ยวถ้าพี่ชินได้ยินมึงโดนแน่” ไม่รู้อะไรซะแล้วพี่ชินน่ะชอบลูกแพรอยู่ถ้ารู้ว่าไอ้แบตที่เป็นศัตรูหัวใจมาว่าแกชอบผู้ชาย ไอ้แบตกลายได้เป็นปุ๋ยอยู่ในมอแน่
“กูก็พูดตามที่เห็นไง กูว่ากูมองไม่ผิดหรอก สายตาพี่ชินมันฟ้อง” ยังมีหน้ามายืนยันอีกนะ มันไปเอาความเชื่อผิดๆแบบนี้มาจากไหน
“มึงอย่ามามั่วเอาพี่ชินมาเกลือกกรั่วกับกูเลย ขอร้องปล่อยแกไปเถอะ” แค่ผมชอบผู้ชายนี่ก็รู้สึกผิดแล้ว
“แต่กูว่าพี่ชินชอบมึงจริงๆนะ”
“พอเลยๆ แล้วมึงกับลูกแพรคบกันยังวะ” ผมรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนไอ้แบตเพ้อเจ้อไปมากกว่านี้
“ยัง”
“อะไรวะ กูปล่อยให้อยู่ด้วยกันออกจะบ่อย ทำไมมึงไม่รีบทำคะแนนเดี๋ยวคนอื่นก็มาแย่งหรอก” ผมว่าพร้อมนึกถึงพี่ชินที่กำลังจ้องอยู่อีกคน
“ถ้ามันง่ายแบบนั้น กูคงเป็นแฟนกันตั้งแต่เรียนม.ปลายแล้ว ไม่ตามจีบให้เหนื่อยแบบนี้หรอก”
“ถ้าเหนื่อยก็เลิกไปสิ” เอาแล้วไงครับ คราวซวยไอ้แบตล่ะ ลูกแพรดันเดินมาได้ยินพอดี งานนี้ผมไม่เกี่ยวนะ
“เฮ้ย! ถึงเหนื่อยก็ไม่เลิกหรอก” มันรีบพูดประจบลูกแพรที่กระแทกตัวนั่งหน้าบึ้งข้างๆผม
“ไม่ต้องเลย วีทำการบ้านมารึเปล่า แพรขอดูหน่อยสิแพรทำไม่ได้ข้อนึง”
“การบ้านอะไรเหรอ”
“อ้าวก็ดอร์อิ้งไง”
“เฮ้ย! ซวยแล้ววีลืม ไอ้แบตๆเอามาลอกดิ อย่าเพิ่งงอนกัน” ผมว่าก่อนรีบคว้าสมุดไอ้แบตมาเปิดอย่างไว ผมลอกไปไอ้แบตก็ง้อลูกแพรไปจนถึงเวลาเข้าเรียนนั่นแหละครับ
“อ้าววีมาทำอะไรตรงนี้” พี่โยทักผมที่กำลังดอมๆมองๆอยู่ภาคไฟฟ้าหลังเรียนเสร็จ
“พี่โยหวัดดีครับ ผมมาหาพี่ชินอยู่ไหมครับ” ผมว่าจะติดรถไปทำความสะอาดห้องพี่ชินซะหน่อยขี้เกียจไปเองเปลืองค่ารถ
“เฮ้ย! ไอ้ชินไปไหนวะ ใครเห็นบ้าง” พี่โยมองหาก่อนตะโกนถามดังลั่น คนหันมามองผมเป็นตาเดียวกันเลย คิดบ้างไหมว่าผมก็อายเป็น
“ขึ้นไปหาอาจารย์บนห้องพักว่ะ” เสียงพี่คนหนึ่งตะโกนกลับมา
“มันไม่อยู่ มีอะไรรึเปล่า”
“งั้นผมคอยได้ไหมครับ พี่โยรู้ไหมว่าพี่ชินจะกลับมาที่นี่รึเปล่า”
“มาดิมันยังไม่ได้เอาของไปเลย เข้ามานั่งข้างในก่อนก็ได้” เมื่อได้รับคำเชิญผมเลยเดินเข้าไปนั่งโต๊ะเดียวกับพี่โย ตรงหน้าเป็นพวกอะไหล่และสายไฟเยอะแยะเลยครับ คอยไปผมก็นั่งคุยกับพี่โยไปด้วย
“พี่โยให้ผมช่วยไหมครับ” นั่งเฉยๆเลยเบื่อ ผมถามพี่โยที่กำลังนั่งปลอกสายไฟ งานนี้เคยช่วยพี่ชินมาบ้างคิดว่าทำได้
“เฮ้ย! ช่วยจริงดิ” พี่โยยิ้มพร้อมถาม
“จริงสิพี่ ผมทำได้นะ”
“งั้นเอาไปเลย เหลืออีกเยอะ” แหม่ะพี่โยรีบลุกไปหยิบสายไฟอีกม้วนนึงมาให้ผมช่วยปลอกซะงั้น ผมก็นึกว่ามีไม่เยอะที่ไหนได้ โคตรเยอะอ่ะ
“มาทำอะไรในนี้วะ” ผมที่กำลังคุยกับพี่โยต้องสะดุ้งเพราะเสียงดุๆของพี่ชินที่อยู่ๆก็ดังขึ้นมาไม่ทันได้ตั้งตัว
“ผมมา...”
“แล้วใครใช้ให้ทำงาน” ผมยังตอบไม่ทันจบพี่ชินแม่งก็ถามขึ้นมาอีก ผมเลยหันไปมองหน้ากับพี่โยงงๆ
“กูให้ทำเองแหละ น้องมันมารอมึงตั้งนอนแล้วเนี๊ยะ”
“รอทำไม โทรศัพท์ก็มี โทรหากูน่ะเป็นไหม” ไอ้พี่ชินมันไปโมโหใครมาอีกว่ะ มาถึงก็หงุดหงิดเชียว ก็รู้อยู่ว่าค่าโทรศัพท์มันแพง ผมเคยโทรหาใครที่ไหน มีเอาไว้รับสายอย่างเดียวมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าเหาแล้ว
“พี่เป็นอะไร ถ้าอารมณ์ไม่ดีผมกลับก่อนก็ได้” ว่าจะกลับด้วยไม่เอาแล้วครับ กลับเองดีกว่าไม่น่าคอยเลยกู
“จะไปไหน มีอะไรก็ว่ามาดิ”
“ไม่มีแล้วครับ ผมกลับก่อนนะครับพี่โย เดี๋ยววันหน้าผมมาช่วยใหม่” ผมตอบพี่ชินก่อนหันไปลาพี่โยที่ได้แต่พยักหน้ายิ้มๆ แล้วเดินออกมาเลย
“มึงจะไปไหน” ออกจากภาคได้ไม่ไกล อยู่ๆข้อมือผมก็โดนกระชากพร้อมเสียงถาม ข้อมือไม่ได้เจ็บนะครับ แต่ทำไมรู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหล มันร้อนผ่าวที่หัวตา ผมมองข้อมือตัวเองที่โดนจับเงียบๆ
ทำไมพี่ชินมันชอบอารมณ์เสียใส่ผมวะ อยู่ๆก็หงุดหงิด ไปโมโหใครมาก็ไม่รู้แล้วมาลงที่ผมหลายครั้งแล้วนะไม่ใช่ครั้งเดียว จะพูดดีๆกับผมบ้างไม่ได้เลยเหรอ นึกว่ากลับจากทะเลแล้วผมกับพี่ชินจะสนิทกันมากขึ้น แต่ดูเมื่อกี้แล้วเปล่าเลย ผมคิดไปเองทั้งนั้น
“ผมจะกลับแล้วช่วยปลอยผมด้วยครับ” ผมบอกพี่ชินเสียงเบา ไม่ยอมเงยหน้า
“ไหนไอ้โยบอกว่ามึงมารอกู แล้วจะรีบกลับทำไม” รู้สึกว่าเสียงพี่ชินจะนุ่มลงนิดหน่อย
“ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้วครับ”
“มึงกำลังงอนกูเหรอที่เสียงดังใส่” งอนตรงไหนวะ
“ผมไปงอนพี่ตรงไหน”
“ไม่งอนแล้วรีบหนีมาทำไม”
“ผมไม่ได้หนี”
“ไม่ได้หนีแล้วนี่มันอะไร” พี่ชินว่าพร้อมจับข้อมือผมแน่นขึ้น แต่ผมไม่ได้รู้สึกเจ็บเลยแต่ผมกำลังอึ้งกับคำถามมากกว่า นี่ผมกำลังเป็นอะไรวะ ทำไมทำเหมือนกำลังน้อยใจ กำลังประชดพี่ชินซะงั้น ผมกำลังทำตัวเหมือนพวกผู้หญิงเหรอ แล้วทำไมผมต้องเป็นแบบนี้ด้วยล่ะ
“ผมแค่จะกลับแล้ว” ผมตอบเสียงเบา เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรแปลกๆ
“กลับก็กลับ เดี๋ยวกูไปส่ง” พูดเสร็จพี่ชินก็เดินจูงผมมาขึ้นรถ
“ไปคอนโดพี่นะ” ผมบอกเมื่อพี่ชินตบไฟเลี้ยวไปทางหอผม
“ไปทำไมไม่กลับห้องมึงแล้วรึไง” พี่ชินหันมาถามผมเหมือนแปลกใจ
“ก็วันนี้เป็นวันที่ผมต้องไปทำความสะอาดห้องพี่ไง”
“เออ จริงกูลืมไปเลยงั้นก็ไปห้องกูแล้วกัน เออแล้วมึงไปหากูทำไม”
“ผมก็จะขอติดรถไปคอนโดพร้อมพี่นี่แหละ” ผมมองวิวข้างถนน ตอนนี้ไม่อยากมองหน้าพี่ชิน เห็นแล้วหงุดหงิด ช่วงนี้ผมยิ่งรู้สึกว่าถ้าอยู่ใกล้พี่ชินแล้วไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองอยู่ด้วย
“ที่หลังก็โทรหากูก็ได้ หรือรอแถวรถไม่ต้องเข้าไปที่ภาค”
“ทำไมผมถึงเข้าไปไม่ได้” ผมถามอย่างแปลกใจเรื่องโทรไปตัดได้เลย
“ในภาคคนมันเยอะมึงไม่เห็นรึไง เข้าไปก็เกะกะเปล่าๆ” ผมผิดใช่ไหม
“ที่หลังผมจะไม่เข้าไปแล้ว พี่ไม่ต้องอารมณ์เสียใส่ผมก็ได้ ไปหงุดหงิดคนอื่นแล้วก็มาลงกับผม” ผมเผลอว่าออกไปซะแล้วครับ ว่าจะไม่พูดแล้วนะแต่อารมณ์มันพาให้หลุดปากจนได้
“กูไม่ได้หงุดหงิดคนอื่น กูหงุดหงิดมึงนี่แหละ”
“หงุดหงิดผม! หงุดหงิดเรื่องอะไรผมยังไม่ได้ทำอะไรพี่เลย หรือเพราะผมเข้าไปเกะกะ” ผมหันไปถามทันทีที่พี่ชินพูดจบ
“ใครใช้ให้มึงไปนั่งทำงานในนั้น กูคนเดียวที่จะใช้มึงได้ คนอื่นไม่มีสิทธิ์จำไว้” ที่โมโหคือเรื่องนี้เหรอตลกล่ะ ผมไปให้สิทธิ์พี่ชินตอนไหนวะ
“พี่ได้สิทธ์นั้นตอนไหนผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
“ก็ตั้งแต่มึงติดหนี้กูนั่นแหละ กูบอกแล้วถ้าไม่มีเงินมาใช้คืนกู ก็ต้องเอาตัวมึงใช้แทน แรงมึงทั้งหมดที่มีเป็นของกู ไม่ใช่มัวไปทำให้คนอื่นจนไม่มีแรงมาทำงานให้กู” เอากับพี่ชินสิครับ ถ้าไม่บ้าคิดไม่ได้นะเนี๊ยะผมล่ะเพลีย
“ผมต้องเชื่อพี่ไหม” ผมถามกลับกวนๆ
“ถ้ามึงไม่เชื่อ กูจะถือว่าทำงานให้กูไม่เต็มที่ ราคาที่ตกลงไว้ลดลงครึ่งนึง”
“เฮ้ย! พี่แม่งหน้าเลือดว่ะ แล้วแบบนี้เมื่อไหร่ผมจะใช้หนี้หมด” ผมโวยวายสั่นรถ แบบนี้ไม่ยุติธรรมอ่ะผมไม่ยอมเด็ดขาด
“เรื่องของมึงดิ จะใช้ไปตลอดชีวิตก็ได้ แต่ถ้าไม่อยากให้กูลดก็ทำตามที่กูบอกซะ”
“ก็ได้ครับ ก็ได้ ผมจะทำตามบัญชาของพี่คนเดียวเลย” ผมตอบรับกึ่งประชด
“หึหึ ดีมาก แล้วกูก็แล้วบอกว่าไอ้โยมันมีแฟนแล้ว มึงจะไปนั่งกะหนุงกะหนิงกับมันทำไม” กะหนุงกะหนิงอะไรวะ ไม่เห็นรู้เรื่อง
“พี่ว่าอะไร ผมกับพี่โยเนี๊ยะนะ”
“เออ อย่าไปยุ่งกับมันให้มาก” พี่ชินมันประสาทรึเปล่า
“ผมผู้ชายนะพี่ แล้วพี่โยก็เป็นผู้ชาย แฟนพี่โยเขาไม่คิดมากหรอก”
“กูบอกอะไรก็ทำตามนั้น หรือจะให้หักเงิน” เงินค่าอะไรอีกวะ เอะอะแม่งหักตลอด หักจนจะไม่เหลืออะไรแล้วเนี๊ยะ
“ครับๆ น้อมรับบัญชาของพี่ครับ” ผมว่าก่อนเงียบไปจนถึงห้องพี่ชิน ขี้เกียจคุยด้วย คุยนิดคุยหน่อยจะหักเงินผมลูกเดียวเลย
“ทำไมวันนี้ห้องพี่สะอาดล่ะ”ผมถามอย่างแปลกใจเมื่อก้าวเข้ามาในห้องที่ทุกครั้งแทบหาทางเดินไม่ได้ แต่วันนี้กับสะอาดเอี่ยมแทบไม่มีฝุ่นเกาะ
“ก็...เมื่อคืนกูไม่ได้นอนนี่ไง กูเอาของฝากไปให้แม่แล้วนอนบ้านเลย” ทำไมต้องทำท่านึกด้วยล่ะ ถามแค่นี้
“งั้นผมไม่ทำนะวันนี้ สะอาดขนาดนี้ผมไม่รู้จะทำตรงไหน” ผมบอกก่อนหมุนตัวจะเดินออกจากห้อง
“มึงจะไปไหน กูว่าจะจัดห้องใหม่อยู่พอดี งั้นวันนี้จัดเลยแล้วกัน มาช่วยกูยกโซฟาดิ๊” อะไรของพี่ชินวะ จัดแบบนี้มันก็ดีอยู่แล้วไง แต่เจ้าของอยากจัดผมก็ไม่รู้จะขัดยังไง ต้องจำใจเดินไปช่วยยกครับ
“เอาไปไว้ไหนพี่” ผมถามพี่ชินที่กำลังยกอีกฝั่ง
“โน่นเลยๆ เอาไปไกลๆ ข้างหน้าจะได้มีที่ให้กูทำงาน” ไกลไปไหมวะ ชี้ไปซะเกือบติดห้องครัว
“พี่ชินอันนี้ล่ะ”
“เอาไว้ตรงโน้น”
“ผมว่ามันไม่เข้านะ”
“ลองก่อน กูว่าเข้า”
“พี่ชิน โคมไฟเอามาตรงนี้ทำไมเกะกะ”
“งั้นมึงยกมาตรงนี้ดิ” ไอ้พี่ชินเริ่มนั่งชี้นิ้วแล้วไง แกล้งหางานให้ผมทำรึเปล่าวะ ย้ายไปย้ายมาเกือบ 2 ชั่วโมงแล้ว มุมนั้นไม่ได้ มุมนี้ไม่ดีอะไรก็ไม่รู้ครับ
“พี่ชินผมเหนื่อยจนจะเป็นลมแล้วนะ แบบไหนพี่จะพอใจซะที” ผมนั่งลงกับพื้นพร้อมหอบหายใจแรงๆ เหนื่อยเป็นหมาหอบแดดเลยผม
“ลองเอาโคมไฟมาตรงนี้ก่อนดิ”
“อันสุดท้ายแล้วนะพี่”
“เออๆ ยกมาวางตรงนั้นแหละ อืม...กูว่าไม่ดีว่ะ สงสัยห้องแบบเดิมจะดีอยู่แล้วเนอะ”
“ไอ้พี่ชิน! พี่แกล้งผมใช่ไหม” ผมถามเสียงดังเลยครับ แทบอยากจะพ่นไฟใส่หัว ไม่ไหวแล้วแม่งเหนื่อยจะตายจะให้ย้ายกลับไปเหมือนเดิม
“ขึ้นไอ้เลยนะมึง ก็มันไม่ดีจะเอาไว้ทำไมจัดแบบเดิมแหละ ไปกินข้าวก่อนก็ได้ค่อยมาจัดกูสั่งมาแล้ว” เอาข้าวมาล่ออีกนะ ผมนี่อยากจะล่อหัวพี่ชินซักทีดูยังไงก็แกล้งผมแน่ๆ
“ไม่เอาแล้วผมไม่ทำ เหนื่อย”
“หนี้มึงเหลืออีกเท่าไหร่นะ ช่วยกูคิดดิ๊เหมือนจะอีกเยอะเนอะ” แม่งลายหน้าลอยตาพูดซะอยากโดดถีบเลยผม ท่องไหวนะโม เงินหนอเงิน อดทนอีกหน่อยค่อยถีบ เงินหนอเงิน
“ทำก็ได้ ไหนข้าวผมหิวแล้ว” เมื่อสะกดจิตตัวเองได้ ผมถามหาข้าวทันทีก่อนจะเดินไปนั่งกิน กองทัพต้องเดินด้วยท้องครับงานนี้ กินเสร็จทำงานต่อย้ายไปย้ายมาจนดึกนั่นแหละครับ
“มึงจะไปไหน”
“ถามแปลก ผมก็กลับห้องผมดิ” ผมตอบพี่ชินที่นั่งจ้องผมที่กำลังหยิบกระเป๋าตัวเองเตรียมตัวกลับห้อง
“ดึกขนาดนี้มึงจะกลับยังไง กูไม่ไปส่งนะขี้เกียจ”
“รถเมล์ก็มี ผมไม่หวังอะไรจากพี่อยู่แล้ว”
“นอนนี่แหละจะกลับไปทำไมให้เหนื่อยวะ พรุ่งนี้กูไปส่ง”
“จะนอนยังไง ชุดผมก็ไม่มี ผมกลับห้องดีหว่ารถคงยังไม่หมด” ผมว่าก่อนทำท่าจะก้าวขาออกจากห้อง
“นอนนี่แหละไม่ต้องกลับ พรุ่งนี้กูไปส่งไม่เปลืองค่ารถนะมึง น้ำไฟก็ใช้ห้องกู” เออจริงด้วยไม่เปลืองห้องผมซักอย่าง
“งั้นผมยืมชุดพี่ก่อนนะ” แต่ชุดเดิมผมก็ยังไม่ได้คืนเลย
“ตามสบาย มึงไปอาบน้ำก่อนเลยเหม็นเหงื่อทั้งตัวแล้วมึง” เพราะใครล่ะ ใช้ให้ผมทำงานไม่ได้หยุด สุดท้ายก็ได้ห้องแบบเดิมไม่รู้จะย้ายทำไม ขี้เกียจเถียงกับพี่ชินแล้วเลยผมเดินหนีเข้าห้องนอนก่อนหาเสื้อผ้าอาบน้ำให้สบายตัว
“พี่ชินไปอาบน้ำดิ ผมจะนอนแล้วง่วง” ผมไล่พี่ชินที่ยังนั่งดูทีวีไม่ยอมขยับไปไหน ทั้งที่ผมอาบน้ำเสร็จตั้งนานแล้ว
“ง่วงก็นอนเกี่ยวอะไรกับกู” ยังมีการหันมาถามแบบงงๆ
“ก็นี่มันที่นอนผม พี่นั่งหัวโด่แบบนี้ผมจะนอนยังไง”
“ที่นอนมึงตรงไหน นี่มันโซฟา จะนอนก็ไปนอนในห้องโน่น”
“แต่มันมีเตียงเดียว ผมไม่นอนพื้นนะปวดหลัง”
“มึงก็นอนบนเตียงดิ จะโง่นอนพื้นทำไม ทำยังกับไม่เคยนอนกับกู” ทำไมผมฟังแล้วมันแปลกๆวะ
“เคยนอนน่ะใช่แต่มันก็แปลกไหมพี่ ผมแค่มาทำความสะอาดจะให้นอนเตียงเดียวกับพี่ได้ไง” ผมถามตามที่คิด
“มึงไม่ใช่แค่เด็กทำความสะอาด” ทำไมฟังแล้วรู้สึกดี
“ถ้าไม่ใช่แล้วผมเป็นอะไรล่ะ” ผมถามพี่ชินที่จ้องหน้าผมนิ่ง
“มึงก็เป็นน้องเทคกูไง ไปนอนได้แล้วไป กูจะอาบน้ำแล้วเหมือนกัน” ทั้งที่เป็นเรื่องจริงแต่ทำไมผมถึงรู้สึกเหมือนไม่พอใจกับคำตอบที่ได้รับ รู้สึกผิดหวังแปลกๆทั้งที่ตัวเองก็ยังไม่รู้เลยว่าผมกำลังหวังอะไรอยู่ สงสัยฮอร์โมนผมกำลังเปลี่ยนครับช่วงนี้ถึงรู้สึกแปลกๆบ่อย
“หลับรึยัง” ผมลืมตาในความมืด เมื่อได้ยินเสียงถามของพี่ชินที่นอนข้างๆ
“ยังครับ พี่ชินมีอะไรเหรอ” ผมถามทั้งที่ตาจะปิดอีกครั้ง ง่วงจนแทบลืมไม่ขึ้นแล้ว หัวถึงหมอนก็พร้อมหลับเลยผม
“กูนอนไม่หลับคุยเป็นเพื่อนกูหน่อย” พี่ไม่หลับแต่ผมตาจะปิดแล้วครับ
“อืมๆ พี่ว่ามาดิ” ผมตอบ
“มึงมีแฟนรึยัง” ชวนคุยเรื่องอะไรวะ
“ยังไม่มี”
“เหรอ แล้วคนที่ชอบล่ะมีไหม”
“มีสิ ชอบมากด้วย” ผมตอบแบบเบลอๆ ก่อนอ้าปากหาวเต็มที่
“หึ มีก็เลิกชอบซะเขาไม่ได้ชอบมึงหรอก” พี่ชินว่าอะไรวะ
“พี่รู้ได้ไงว่าเขาไม่ชอบผม” เหมือนผมจะตาสว่างขึ้นมาหน่อย พี่ชินรู้ได้ไงว่าผมหมายถึงใคร
“รู้ก็แล้วกัน ตัดใจซะเขามีคนของเขาแล้ว” ไม่จริงอ่ะพี่ตินณ์เพิ่งเลิกกับพี่วิว ไอ้พี่ชินมั่วแล้วแกล้งอำจะให้ผมผิดหวังแน่ๆ
“อย่ามาหลอกผมเลยพี่ ผมรู้ทันน่า” ผมว่าก่อนเริ่มง่วงอีกแล้ว อะไรวะ
“กูจะหลอกมึงทำไม”
“ไม่รู้สิพี่ชอบแกล้งผมอ่ะ”
“แล้วมึงเกลียดกูไหม ที่กูแกล้งมึง” มาอารมณ์ไหนของเขาอีกวะ
“ไม่ได้เกลียด” ผมตอบเบาๆ
“แล้วรักไหม” พี่ชินว่าอะไรวะ ทำไมพูดเบาผมฟังไม่รู้เรื่องเลย
“พี่ว่าอะไรนะ” ผมถามอีกครั้งพร้อมตาที่ค่อยๆปิด ไม่ไหวแล้วครับง่วงมาก
“รักกูซะ กูขอสั่งให้รักกูซะ” เสียงพี่ชินดังแว่วๆก่อนที่ผมจะไม่รับรู้อะไรอีก
วันนี้ถ่านหมดแล้วครับ ขอเวลาชาร์ตพลังงานก่อน พรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะพี่
----- To be Con. -----
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

อ่านแล้วเม้นให้จักขอบคุณอย่างยิ่งจร้า
