พิมพ์หน้านี้ - ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: เคียงใจ ที่ 27-11-2013 20:02:48

หัวข้อ: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 27-11-2013 20:02:48
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0




___________________________________________________________________

ตามทวงนิยายได้ที่นี่ค่ะ :hao3:
  @ แฟนเฟซ Magicz  (https://www.facebook.com/magicz.magicz.71)   สำหรับพูดคุย เม้าส์มอยหอยสังข์และลงโมเม้นท์ค่ะ


  - Don't be Naughty คุณน่ะเมียผมครับ  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39439.msg2499018#msg2499018) 
  - พี่ขอร้อง น้องอย่ายั่ว  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39694.0) 



________________________________________________________________________________________


        ถ้าให้รักก็อย่าร้าย Intro


กริ๊ง...กริ๊ง...กริ๊ง...


ผมเอื้อมมือไปกดปิดนาฬิกาปลุกจากเรือนแรก ก็เอื้อมไปกดปิดเรือนที่สองต่อ ก่อนจะโยนไปที่ว่างข้างตัว ผมตั้งนาฬิกาปลุกไว้สองเรือนถ้าไม่ตั้งไว้สองเรือนผมไม่ตื่นแน่นอนครับ

ตอนนี้เวลาแปดโมงครึ่งแล้วผมมีเรียนเก้าโมงเช้า  พอนึกได้ก็รีบเด้งตัวจากที่นอนวิ่งไปกระชากผ้าขนหนูที่ราวแขวนผ้าข้างตู้ก่อน ก่อนเข้าห้องน้ำไปวิ่งผ่านน้ำอีกทีครับ วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกสายไม่ได้ครับ ผมยังไม่อยากเด่น


หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จผมก็รีบวิ่งมาที่ม. ตอนนี้ผมหยุดมองป้ายคณะที่เขียนว่าศิลปกรรมศาสตร์นิดนึงก่อนเดินผ่านไป ก็มันไม่ใช่คณะผม แค่ผมอาศัยเป็นทางผ่านแล้วไอ้หลอดสีอันใหญ่ๆที่อยู่หน้าคณะก็สวยดีผมเลยหยุดมองก่อนเดินผ่านคณะนี้ไปทางด้านหลัง มีสะพานข้ามคลองเล็กๆเชื่อมไปสู่คณะของผมครับ แต่ถ้าเอารถยนต์มาต้องอ้อมไกลมาก



แล้วผมก็มาถึงคณะที่ชื่อว่าวิศวกรรมศาสตร์ ไอ้คณะนี้แหละครับคณะที่ผมจะต้องเรียนถึง 4 ปี เป็นคณะในฝันของผมเลยนะ ผมอยากเรียนวิศวะไฟฟ้า แต่...แต่ไม่ใช่ที่นี่

ตอนผมยื่นคะแนนสอบผมเลือกแค่ที่เดียวเพราะคิดว่ายังไงก็ติดแน่ๆ เพราะเป็นมหาลัยในต่างจังหวัดคะแนนไม่ค่อยสูงเท่าไหร่ แต่พ่อผมบังคับให้เลือกที่นี่ไว้อีกที่ 

และสุดท้ายอะไรที่เราไม่อยากได้เรามักได้มันมาเสมอ ผมไม่ติดที่ตัวเองเลือกแต่ดันมาติดที่กรุงเทพฯ ที่พ่อให้ผมเลือกสำรองไว้ แต่ยังดีที่เป็นวิศวะปีหนึ่งต้องเรียนรวมไปก่อนครับเพราะทุกสาขาเรียนพื้นฐานเหมือนกัน มาแยกภาควิชาตอนปีสองอีกที
ผมเปิดประตูห้องเรียนเข้าไปเห็นคนนั่งกระจายตัวอยู่เป็นหย่อมๆ


เอ้ย! คนครับไม่ใช่ความกดอากาศ ผมเริ่มมองหาเพื่อน และในที่สุดก็เล็งไอ้แว่น หน้าซื่อๆ ตัวขาวๆ สูงกว่าผมนิดหน่อย ตอนนี้มันนั่งอยู่คนเดียวครับ ผมกะว่าไอ้นี่แหละที่จะเป็นเพื่อนเลิฟของผม เมื่อผมล็อคเป้าหมายได้แล้วก็เดินเข้าไปทำความรู้จักซะหน่อย


“หวัดดีแว่น เราชื่อวีนะ นายชื่ออะไร” เป็นไงครับผมทักทายได้เป็นที่หน้าประทับใจไหม ไอ้แว่นเงยหน้าจากหนังสือที่อ่านแล้วมองหน้าผมนิดนึงก่อนตอบ

“ ดี กูชื่อแบต มึงชื่อแปลกดีว่ะ วีนะ” ไอ้เชี้ยแว้นมันกวนตีนผม หรือมันซื่อจริงวะ เมื่อมันไม่ชอบการพูดสุภาพของผม ผมก็คงต้องแสดงบุคลิกที่ไม่ใช่ตัวเอง แต่ทำมาทั้งชีวิตซะหน่อย

“มึงกวนตีนกูรึไง ไอ้แว่น กูชื่อวี มึงแบต อืมก็โอเคถือว่าหลังจากนี้มึงเป็นเพื่อนกูแล้วนะ” ผมพูดเสร็จนั่งลงข้างมันเลยครับ ดูท่าว่ามันจะกวนตีนพอตัว ไม่ได้ติ๋มอย่างที่ผมคิดซะแล้ว แต่ไม่เป็นไรในเมื่อผมเลือกมันแล้วมันก็ต้องเป็นเพื่อนผม

“กูบอกรึยังว่าอยากเป็นเพื่อนกับมึง” มันถามก่อนทำหน้าอ้อนตีนครับ

“ยัง แต่กูให้เป็น มึงไม่ต้องขอกูให้เป็นเลย” ผมพูดพร้อมเอามือตบไหล่มัน 2 ทีดังปุปุ มันก็เหลือบตามามองแต่ไม่พูดอะไรก้มลงไปอ่านหนังสือต่อ ผมก็ก้มตามไปดูว่ามันอ่านหนังสืออะไรตั้งแต่เปิดเทอม

หนังสือการ์ตูนครับ กูนึกว่าอ่านหนังสือก่อนเข้าเรียน ผมเริ่มคิดใหม่ดีไหมวะเรื่องที่จะเป็นเพื่อนมัน ตอนแรกว่าจะอาศัยให้มันช่วยทำงานซะหน่อยแต่ดูจากคำพูดและหนังสือที่มันอ่าน มันคงช่วยผมไม่ได้แล้ว




ไม่นานวิชาแรกของเทอมก็เริ่มขึ้นด้วยวิชาแคลคูลัส 1 ครับ วิชานี้ไม่ยากเท่าไหร่พอเข้าใจอยู่บ้าง แต่ไอ้วิชาช่วงบ่ายนี่สิ วิชา Drawing เป็นวิชาที่แค่ฟังก็เครียดเป็นวิชาปราบเซียนอย่างผมเลย

เมื่อก่อนผมไม่รู้ว่าต้องเรียนไอ้วิชาวาดแบบ เขียนแบบนี่ด้วย พอลงทะเบียนเรียนเท่านั้นครับ เงิบเลย ผมถึงต้องเล็งไอ้แว่นเป็นตัวช่วย เข้าเรียนคาบแรกอาจารย์หนวดก็สั่งงานเลย


“เฮ้ยแว่น มึงวาดรูปเก่งป่าววะ” ผมถามไอ้แว่นหลังจากหมดคาบบ่าย

“ถามโง่ๆ ถ้าเก่งกูคงเรียนสิกำแล้วดิ” ไอ้เชี้ยกวนตีนกูตลอด แล้วไอ้สิกำที่มันว่าคือคณะศิลปกรรมนั่นแหละครับเด็กที่ม.เรียกสั้นๆว่าสิกำ

“สัส! กูแค่หมายถึงวิชา Drawing กูวาดไม่เป็นมึงเอามาให้กูลอกมั่งดิเวลาเสร็จแล้ว” ผมชัดเจนครับ ถ้าจะลอกก็บอกเลย ไม่มีอ่ะที่ว่าขอดูนงดูแนว


“เอ่อ ถ้ากูเสร็จนะจะให้ลอก แต่ปกติงานกูเสร็จก่อนส่งแบบตีนเหยียบเส้นยาแดงหว่ะ” มันตอบพร้อมยักคิ้วหน้าที่ว่ากวนอยู่แล้วยิ่งกวนใหญ่เลยครับ ไอ้แว่นนี่จริงๆก็หน้าตาดีนะครับ แต่มันใส่แว่นเลยดูไม่ค่อยออกเพราะแว่นมันบดบังความหล่อ

แต่ความหล่อมันไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือมันฉลาดพอจะเป็นเพื่อนผมหรือป่าว ที่ผมชอบคบคนฉลาดก็เพราะผมไม่ต้องทำตัวฉลาดไงเดียวเวลามีปัญหามันก็ทำเอง แล้วผมก็อยู่เฉยๆ ไงความคิดของผมชั่งเหมาะกับคนขี้เกียจอย่างผมจริงๆ


       ---- โปรดติดตามตอนต่อไป ----

เรื่องนี้คิดว่าคงจะเป็นเรื่องสั้นนะคะ เพราะเรื่องยาวยังไม่จบเลยเนอะ >_<
หัวข้อ: Re: เรื่องคิดว่าคงสั้น >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย<< up 27/11/2013
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 27-11-2013 21:41:19
 :hao3: จิ้มๆ ฉลองเรื่องใหม่ แต่คิมนาวยังไม่ไปไหนเลยนะคนเขียนครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องคิดว่าคงสั้น >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย<< up 27/11/2013
เริ่มหัวข้อโดย: teatimes ที่ 27-11-2013 23:24:54
น่าสนุกจัง  ติดตามๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: เรื่องคิดว่าคงสั้น >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 1<< up 27/11/2013
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 27-11-2013 23:37:56


    ถ้าให้รักก็อย่าร้าย  ตอนที่ 1

“ไอ้หน้าขาว กูไม่ได้ชื่อแว่น” ไอ้แบตหันมาบอกผมครับ

“เออ! แต่กูจะเรียก กูชอบชื่อนี้” ผมบอกมันพร้อมเดินออกจากห้อง มันก็เดินตามผมมาเรื่อยๆ

“ตามใจมึงแล้วกัน” มันว่าพร้อมเดินต่อ

“มึงจะเดินตามกูไปถึงไหนวะ” ผมตัดสินใจถามมัน

“กูไม่ได้ตามมึง” มันตอบ

“อ่าวก็เห็นอยู่มึงเดินตามกู” ผมเถียงมันทันที ก็เห็นๆกันอยู่ แม่งเดินตามเสือกไม่ยอมรับ

“หอกูอยู่ทางนี้” มันตอบก่อนชี้ไปที่หอข้างหน้า ผมมองตามเลยเห็นว่าหอที่มันชี้เป็นหอที่ผมอยู่ครับ

“เฮ้ย กูก็อยู่หอนี้” ผมตกใจ แม่งเสือกอยู่หอเล็กเท่ารังหนูเหมือนกันอีก

“ทำไมมึงอยู่หอนั้นวะ” ผมถามเพราะอดแปลกใจไม่ได้

“หออื่นเต็มกูขี้เกียจหา เจอว่างเลยตกลง เอาไรมากวะแค่ซุกหัวนอน” มันตอบก่อนเดินแยกไปทางห้องมัน ตอนนี้ผมเดินมาถึงหอแล้วครับ มันอยู่ชั้น 2 เหมือนผมแต่ห่างกัน 3 ห้อง

“เฮ้ย เค้านัดไปที่คณะอีกทีกี่โมงวะ” ผมถามเพราะลืมว่ารุ่นพี่นัดไว้กี่โมง

“ห้าโมงเย็นว่ะ”มันตอบพร้อมไขกุญแจห้อง

“เออเดี๋ยวออกไปพร้อมกันนะ” มันพยักหน้าก่อนเดินเข้าห้องตัวเอง

ผมกลับมาถึงห้องรีบอาบน้ำก่อนเลยครับ เรียนมาทั้งวัน แถมเดินไปเดินกลับโครตร้อน อาบเสร็จแต่ชุดลำลองตามที่รุ่นพี่สั่ง ก่อนดูเวลายังไม่ถึงเวลานัดผมเลยเปิดเกมส์เล่นฆ่าเวลาซักหน่อย


อ่อ! อยู่กับผมมาเกือบทั้งวันแต่ผมยังไม่ได้แนะนำตัวเองเลย ผมนายนาวี เจริญสกุล ครับแต่อย่าสนใจ เรียกผมว่าวีสั้นๆก็ได้ผมไม่ถืออะไร ผมเดินทางมาจากภาคตะวันออกของประเทศ  เพื่อเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยในเมืองหลวง ก็เด็กบ้านนอกนั่นแหละครับ แต่อย่าเข้าใจผิดว่าผมอยากจะมาเรียนที่นี่นะครับ

มันเป็นความซวยของผมเองที่ดันสอบไม่ติดม.แถวบ้านเป็นม.ที่ติดทะเลและใกล้บ้านผมมากๆ แต่ผมดันยื่นคะแนนแล้วมาติดที่นี่ ทั้งที่คะแนนผมก็สูงดันมาติดที่นี่เฉยเลย

ผมแปลกใจแต่ไม่รู้จะไปถามใครได้แต่ก้มหน้าก้มตาเรียนครับ ผมสอบติดที่นี่คนเดียวสวนกระแสกับเพื่อนๆที่อยากเรียนที่นี่แต่ได้เรียนม.แถวบ้าน ที่ผมไม่อยากเข้ามาเรียนในกรุงเทพมันมีสาเหตุครับ

นั้นก็เพราะว่าผมมันเป็นคนขี้เกียจตั้งแต่ขี้เกียจตื่น ขี้เกียจเรียน ขี้เกียจซักผ้าถูกบ้านล้างจานสารพัดครับ ถ้าได้อยู่บ้านผมก็สบายเลยดิ คุณนายเกสรทำให้ทุกอย่าง ไม่ต้องสงสัยครับคุณนายเกสร คือแม่ผมเอง

ถึงครอบครัวผมจะไม่ได้รวยจนถึงกับมีคนใช้แต่ก็พอมีพอกิน แม่เลี้ยงผมแบบตามใจเพราะเป็นลูกคนเดียว ทำให้ทุกอย่าง แต่ชอบบ่นนิดหน่อยผมเลยชอบเรียกแม่ว่าคุณนายครับล้อด้วยความรักนะครับ


ผมกำลังใช้ชีวิตที่สุขสบายอยู่เมืองชายทะเลแล้วชีวิตก็มาถึงช่วงพลิกผัน ดันสอบติดที่กรุงเทพ เหมือนฟ้าฟาดลงกลางกะบาลเลยครับ พ่อสั่งให้ผมมาเรียนทันทีเพราะอยากให้ผมใช้ชีวิตด้วยตัวเอง แต่พ่อไม่ถามผมเลยว่าผมต้องการรึเปล่า ว่าแล้วก็เซ็ง


ส่วนแม่ถึงจะไม่เห็นด้วยตอนแรกจะให้ผมเข้าเรียนแถวบ้านในภาคพิเศษ หรือที่เขาเรียกกันว่า ภาค Inter นั่นแหละครับแต่พอพ่อพูดคำเดียว คุณนายพ่อที่บูชาสามียิ่งชีพก็พร้อมใจเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าและแทบจะอุ้มผมมาส่งที่ม.เลยครับ


ผมก็คิดว่าเอาวะลองดูซักตั้งก็ไม่เป็นไร ตอนรายงานตัวก็มาติดต่อขออยู่หอพักในม. กะหาเพื่อนเลยครับก็ผมมาคนเดียวนี่นา  แต่ความซวยก็ตั้งเค้ามาเป็นระลอก เมื่อผมไปแจ้งความประสงค์ขออยู่หอใน เจ้าหน้าที่แจ้งผมว่า หอเพิ่งเต็มก่อนผมมาถึง แสดงว่าไอ้คนที่ผมเห็นตูดไวๆเมื่อกี้คือไอ้คนที่แย่งห้องผมไป



เมื่อหอในเต็มผมก็ต้องหาหอพักรอบๆมออยู่ครับ ผมไม่มีรถต้องเดิน กับเดินอย่างเดียวเท่านั้น ประหยัดครับ แต่ผมเดินถามหอไหนก็เต็ม จนมาเจอหอนึงราคาไม่แพงแต่เล็กไปหน่อย ผมต้องบวก ลบ คูณ หาร ใส่สูตรผลออกมาว่าเอาหอนี้แหละครับใกล้และถูก

ผมไม่ค่อยได้ทำอะไรมากแค่ซุกหัวนอนกับเล่นเกมส์เท่านั้นครับ

ผมเซ็นสัญญาทันทีโดยไม่ได้บอกพ่อกับแม่ว่าไม่ได้อยู่หอใน

วันที่ผมมาจากบ้านก็ไม่มีใครว่างเอาของมาให้ ผมเลยเอากระเป๋ามา1 ใบกับโน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งเครื่องครับ


นี่แหละครับจุดเริ่มต้นของผมก่อนเข้ามาอยู่ในรั่วมหาวิทยาลัยแห่งนี้   


หลังจากผมเล่นเกมส์ได้ซักพัก ประตูห้องก็ถูกเคาะอย่างดัง พอเปิดปรากฏว่าเป็นไอ้แว่นมาตามไปคณะครับ





เมื่อวานและเมื่อวันก่อนรุ่นพี่นัดรวมตอนเย็นเพื่อทำกิจกรรม ตั้งชื่อรุ่นพร้อมแนะนำคณะ ทำกิจกรรมสันทนาการ ร้องเพลงอะไรเรื่อยเปื่อย ผมอยากบอกว่าง่วงมากให้นั่งตบมือจนดึกครับ และวันนี้ก็เหมือนทุกวันผมรอทำกิจกรรมที่คณะ ผมไม่ค่อยอยากมาหรอกครับ แต่รุ่นพี่แม่งก็บังคับให้มาเช็คชื่อ เช็คอะไรไม่รู้วุ่นวาย

ผมไม่อยากให้เพื่อนเดือดร้อนก็เลยมา รอไม่นานรุ่นพี่ก็มาและบอกว่าจะพาเดินชมม.ครับ เริ่มจากแต่ละคณะจนมาถึงสวนออกกำลังกาย สองข้างทางร่มรื่นแถมที่สระน้ำด้วย แล้วก็พามาดูโรงยิมที่กว้างมากครับ แต่ผู้รู้สึกแปลกๆเพราะแม่งให้เดินเข้ามาจนหมดก่อนปิดประตู เหลือไว้แค่บานเดียว


“มึงคิดเหมือนกูไหมวะ” ผมหันไปถามไอ้แว่นที่เดินข้างๆทันทีครับ”

“เออ กูว่าใช่แน่ๆ” ไอ้แว่นตอบก่อนมองรอบๆตัว

ระหว่างที่หางตาผมเห็นคนเดินเข้าจากประตูบานเดียวที่เปิดอยู่ความชุนละมุนก็เกิดขึ้น

“หมอบๆ หมอบลงให้หมด ก้มหน้าลงไป ไม่ต้องเงยขึ้นมา” เสียงคนตะโกนหลายคนให้หมอบครับ  ต่างคนก็ต่างหมอบเพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ผมว่าผมรู้แล้วหล่ะ เชี้ยพากูมาเชือดชัดๆ

ความวุ่นวายเกิดจากกลุ่มคนที่สวมเสื้อยืดสีดำลายเดียวกัน มีทั้งหญิงและชายครับ พอเดินเข้ามาก็ตะโกนสั่งให้หมอบทันที มันเจ็บคอกันไงวะตะโกนอยู่ได้

“คุณรู้ไหมว่าคุณทำอะไรผิด” หลังจากคำถามที่ส่งออกมาจากชายเสื้อดำคนหนึ่งทุกอย่างก็เงียบครับ ใครจะกล้าตอบมัน แทบจะแดกหัวพวกผมอยู่แล้ว

“เงียบทำไมครับ ไม่ได้เอาปากมาเหรอ” เมื่อไม่มีใครกล้าตอบมันก็ถามต่อทันที

“...” เงียบเหมือนเดิมครับ

“เมื่อคุณเงียบผมถือว่าคุณไม่รู้ ผมจะบอกให้” หลังจากรอซักพักก็ยังไม่มีใครตอบ มันก็เลยพูดต่อทันที


“พวกคุณไม่มีความเคารพรุ่นพี่ของพวกคุณ คุณไม่เคารพผมไม่เป็นไร แต่คุณไม่เคารพรุ่นพี่ที่ดูแลพวกคุณ คอยแนะนำคอยพาคุณไปรู้จักคณะหรือทำกิจกรรมต่างๆ เวลาเดินเจอก็ไม่เห็นหัว เจอก็ไม่ไหว้ ผมเจอพวกคุณก็คิดว่าพวกคุณจะทักทายแต่ก็ไม่มี กิจกรรมก็ไม่เข้ามาทำ เมื่อคุณไม่เคารพรุ่นพี่ของพวกคุณ ต่อไปนี้ผมจะมาดูแลคุณเอง” มันพูดยาวก่อนหยุดเงียบไปครับ ผมเหลือบตาดูไอ้คนที่ตะโกนจนเส้นเสียงน่าจะอักเสบนิดนึงว่าหน้าตามันเป็นยังไง ปรากฏว่ามันเป็นผู้ชายตัวสูง จมูกโด่งขาวๆ คิ้มเข้มมากครับ ถือว่าหล่อเลยล่ะ แต่กูมามึงโหดไปหน่อยเสือกมาตะโกนอยู่ได้




หลังจากมันหยุดพักจนหายเหนื่อยมันก็เริ่มบ่นไปเรื่อยๆ ก่อนบอกกฎระเบียบอะไรมากมายแต่อย่าคิดครับว่าจะเข้าหัวผม ผมฟังจนจะหลับแล้ว

“ผมอยากรู้ว่าที่พูดไปเข้าใจไหมครับ” มันถามเสียงดังเหมือนเดิมครับ


ตอนนี้ผมไม่ได้สนใจอะไรรู้แต่ว่าร้อนฉิบหาย เสือกให้กูมานอนเอาหน้าแนบฟื้นปูนในโรงยิมที่ปิดประตูเกือบทุกบาน มีแต่บานที่มันเดินเข้ามาที่เปิดไว้ให้คนได้แย่งกันหายใจ


“น้องยืนขึ้นแล้วตอบสิว่า กฎของวิศวะมีกี่ข้ออะไรบ้าง” ไอ้เชี้ยผมเสียวตั้งแต่หัวถึงปลายตีนก็มีคนมาสะกิดผม พอหันไปเป็นรุ่นพี่ใส่เสื้อดำแก้งค์เดียวกับไอ้คนที่แหกปากถามอยู่นั้น แถมบอกให้ผมยืนขึ้นตอบไอ้คนถามอะไรจะมาซวยที่ผมขนาดนี้วะ มันจะไม่ซวยเลยถ้าผมตั้งใจฟังแต่นี่ไม่ได้เข้าหัวเลยครับ


“ทุกคนลุก” มันสั่งให้ทุกคนลุกแล้วครับ สงสัยมันไม่เอาคำตอบจากผมแล้ว


"นับ 1-25 ไปเรื่อยๆใครลงเลขไหนให้ไปต่อหลังคนที่นับเลขเดียวกับตัวเองปฏิบัติครับให้เวลา 2 นาที" เมื่อผมฟังเสร็จกำลังจะนับต่อจากคนข้างหน้า


“น้องไม่ต้องนับครับ” ไอ้รุ่นพี่หน้าหล่อบอกผม

“น้องจะต้องเป็นตัวแทยชนของเพื่อนท่องกฎให้ทุกคนฟังอีกครั้ง” เงิบเลยครับ ไอ้เชี้ยนึกว่ารอดแล้วนะ ไอ้แว่นอยู่หน่ายช่วยกูด้วย

“เมื่อได้แถวแล้วนั่งลงครับ” มันหันไปสั่งต่อ

“ฟังเพื่อนจะมาบอกกฎให้ฟังครับ แนะนำตัวครับ” มันสั่งก่อนหันมาบอกให้ผมแนะนำตัว

“ผมนายนาวี เจริญสกุล รหัส...” ผมแนะนำตัวเองด้วยเสียงสั่นหน่อยๆครับ โครตกดดัน

“เริ่มท่องกฎเลยครับ” มันสั่งต่อเมื่อเห็นผมเงียบ ผมก็มองหาไอ้แว่นก่อนเลยครับ พอเห็นมันก็ทำปากบอกกฎผมทีละข้อ ผมก็อ่านปากมันแล้วพูดตามจบเกือบครบ มาผิดข้อสุดท้ายครับ

“อืม เกือบครบแต่ไม่ครบ คุณต้องซ่อม วิ่งรอบโรงยิม 5 รอบปฏิบัติ” มันสั่งไม่สงสารสังขารกูเลยโรงยิมตั้งใหญ่แล้วร้อนจะตายห่าให้วิ่ง แต่ผมก็ต้องวิ่งตามที่มันสั่งครับ พอผมเริ่มวิ่งมันก็เรียกคนอื่นออกมาให้เริ่มท่องกฎใหม่

ผมวิ่งจนเสร็จก็กลับมานั่งลงที่ด้านหลังของแถวที่ไอ้แว่นนั่งครับ


“ผมหวังว่าหลังจากนี้ไป พวกคุณเจอผมที่ไหนจะมีการทักทายกันนะครับ” ไอ้หน้าหล่อมันยังไม่เลิกพูดครับ ผมคิดว่ามันคงเป็นหัวหน้ากลุ่มพี่ว๊ากนี่แน่ๆ


“ก่อนจากกันวันนี้ ผมขอแนะนำกลุ่มพี่ระเบียบ และกลุ่มผมที่จะมาดูแลพวกคุณจนกว่าพวกคุณจะได้รับเกียร์ที่เป็นสัญลักษณ์ของคณะเรา คุณคงรู้แล้วว่าคุณเป็นเกียร์รุ่นที่ 43 ผมนายอัครนัย หรือชิน เกียร์42 จากภาคไฟฟ้า”

 แม่งมันอยู่ภาคที่ผมอยากเข้าด้วยครับหลังมันแนะนำตัวเองจากนั้นมันก็แนะนำคนอื่นต่อ


“นอกจากเกียร์ 42 แล้วยังมีรุ่นพี่ปี 3 ที่เป็นเกียร์รุ่น 41จะมาดูแลคุณในบางครั้ง ผมขอแนะนำ คนแรกพี่ตินณ์หรือกฤษตินณ์ พี่คิม พี่โฟม และพี่ระเบียบพี่นัท พี่อาร์ม จากภาคเครื่องกล”

ต่อมาก็แนะนำจากภาคอื่นครับ รุ่นพี่ที่มาก็ประมาณ 10 คนแต่ที่สนใจ 5 คนแรก เพราะหน้าตาดี เหมือนดารามาเองเลยครับ โดยเฉพาะพี่ตินณ์ตอนแรกผมว่าพี่ชินหล่อแล้วนะมาเจอพี่ตินณ์ไอ้พี่ชินชิดซ้ายเลยครับ


“ผมตินณ์จากภาคเครื่องกล เป็นหัวหน้าพี่ว๊ากปี 3 ผมไม่มีอะไรจะพูดในวันนี้นอกจาก พวกคุณทุกคนถือว่าเป็นรุ่นน้องของผม ฉะนั้นขอให้ทุกคนทำตามกฎของวิศวะให้ครบทุกข้อ” พี่ตินณ์พูดแค่นี้แล้วเดินนำกลุ่มพี่ปี3 ออกนอกประตูไปเลยครับ


“ตามที่พี่ตินณ์บอกหวังว่าผมจะไม่ได้ยินว่าใครทำผิดกฎนะครับ วันนี้ผมขอเลิกทำกิจกรรมเท่านี้ พรุ่งนี้เจอกันเวลา 17.43 นาที รบกวนมาให้ตรงเวลา ที่นัดเวลานี้เพราะคุณเป็นเกียร์รุ่นที่ 43 เพราะฉะนั้นมาให้ทันก่อนกลับให้ทุกคนเอาสมุดกิจกรรมให้รุ่นพี่ประทับตราด้วย”

หลังจากมันพุดจบก็เดินออกไปทางประตูที่เปิดอยู่บานเดียวครับ จากนั้นพวกผมก็เดินไปให้รุ่นพี่ที่พามาประทับตราในสมุดกิจกรรมเหมือนทุกวัน

วันนี้โครตเหนื่อยเลยครับ สงสัยจะหลับสบายเพราะไอ้เชี้ยหล่อให้กูวิ่งซะตับแทบแตก

ผมรีบมองหาไอ้แว่นก่อนไปชวนมันกลับ ก่อนถึงหอแวะกินข้าวนิดนึงครับ ผมซัดเหมือนเพิ่งขึ้นมาจากนรกแล้วเจอของกิน

ผมกินแทบกินจานกับช้อนลงได้ด้วยเลยครับ

วันนี้เป็นอีกวันที่ชีวิตมหาลัยของผมเหนื่อยสุดๆ หวังว่าพรุ่งนี้ผมคงไม่ซวยโดนซ่อมอีกนะ


---โปรดติดตามตอนต่อไป---

ฝากติดตามอีกหนึ่งเรื่องคิดว่าเป็นเรื่องสั้นแก้เครียดจร้า

@ คุณหมอตัวเปียก > อัยยะมีการทวงคิมนาวถึงนี่เลย 555 ช่วงนี้เรื่องนั้นมีปัญหาทำให้อารมณ์การแต่ง
                            ไม่ได้น่ะคะ เมจิกเลยแอบมาลงเรื่องสั้นแก้เครียดนิดหน่อย ยังไงก็ยังลงเหมือนเดิมค่ะ
                             ไม่ต้องกังวลค่ะ >_<
หัวข้อ: Re: เรื่องคิดว่าคงสั้น >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 1<< up 27/11/2013
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 28-11-2013 08:02:36
เรื่องใหม่ จิ้มๆๆๆๆ :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องคิดว่าคงสั้น >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 1<< up 27/11/2013
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 28-11-2013 08:19:48
 :L2:
แปะไว้ก่อน
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องคิดว่าคงสั้น >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 1<< up 27/11/2013
เริ่มหัวข้อโดย: เหนือฟ้ายังมีจักรวาล ที่ 28-11-2013 08:50:58
อุ๊ย ติดตามเรื่องนี้ด้วยคน
หัวข้อ: Re: เรื่องคิดว่าคงสั้น >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 1<< up 27/11/2013
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 28-11-2013 12:09:06
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: มารอเรื่องนี้ด้วยคน
หัวข้อ: Re: เรื่องคิดว่าคงสั้น >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 1<< up 27/11/2013
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 28-11-2013 12:42:16
ตามคุณเมจิกมาาาาา :L1:
มีพี่ตินณ์พี่คิมโฟมนัท :o8: :katai1: ครบชุดตามมาจากเรื่องโน้นด้วยยยย
 :L2: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องคิดว่าคงสั้น >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 1<< up 27/11/2013
เริ่มหัวข้อโดย: jj_girl ที่ 28-11-2013 12:52:25
เอร้ยยยยยย


แก๊งค์ตินณ์มาครบเลย      :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เรื่องคิดว่าคงสั้น >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 1<< up 27/11/2013
เริ่มหัวข้อโดย: a-o-pai ที่ 28-11-2013 16:31:37
5555 แก๊งนั้นมาครบเลยอ่ะ แก๊งติณอ่ะ 555 (มาภาคนี้ติณดูโหดแหะ 5555 แต่ถ้าติณเจอคนที่โหดกว่าอยากพี่ชายของพรตจาเป็นยังไงน้า หุ้ยๆๆๆน่ากลัว)แล้วจะมีแก้งพรต มาด้วยหรือเปล่าน้า ว่าแต่มีคนทวงคิมนาวแล้ว เราทวง พีช - เนมด้วยน้า 5555
หัวข้อ: Re: เรื่องคิดว่าคงสั้น >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 1<< up 27/11/2013
เริ่มหัวข้อโดย: a-o-pai ที่ 28-11-2013 16:37:14
เอร้ยยยยยย


แก๊งค์ตินณ์มาครบเลย      :katai2-1:


เค้าชอบรูปโปรไฟล์ แจกได้มั้ยอ่ะงับ
หัวข้อ: Re: เรื่องคิดว่าคงสั้น >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 1<< up 27/11/2013
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 28-11-2013 19:57:15
เรื่องนี้ ไม่ทำให้ผิดหวังเช่นเคยนะคะ น่าติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่องคิดว่าคงสั้น >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 1<< up 27/11/2013
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 28-11-2013 20:37:52
ชอบตรงที่มีตัวละครจากเรื่องโน้นเรื่องนี้โผล่มาด้วยนี้แหละครับ ทำให้ได้รับรู้ชีวิตของตัวละครอื่นๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องคิดว่าคงสั้น >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 1<< up 27/11/2013
เริ่มหัวข้อโดย: jj_girl ที่ 29-11-2013 10:37:21

เค้าชอบรูปโปรไฟล์ แจกได้มั้ยอ่ะงับ



ส่งไปให้ทาง

 https://www.facebook.com/YuriYaoiBoystorylove

แล้วนะคะ
หัวข้อ: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 2<< up 1/12/2013
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 01-12-2013 21:38:04
       

            ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 2


   ผ่านมา 3 สัปดาห์แล้วครับสำหรับการใช้ชีวิตในรั่วมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ตอนนี้ผมมีเพื่อนสนิท 2 คน คนแรกก็ไอ้แว่นนั่นแหละครับที่ผมเล็งไว้ อีกคนเป็นสาวสวยเพื่อนไอ้แว่น ผมมารู้จักทีหลังชื่อ ลูกแพร ครับ


ลูกแพรเป็นผู้หญิงขาว สูงผมยาวถึงกลางหลังหน้าตาน่ารัก ช่วงแรกผมก็ยังไม่ค่อยกล้าคุยด้วยเท่าไหร่ แพรซะอีกเป็นคนชวนผมคุย ผมรู้สึกว่าแพรเป็นลูกคุณหนูที่นิสัยลุยๆ ไม่ได้รังเกียจคนจนจากบ้านนอกอย่างผม และนิสัยหลายๆอย่างก็เข้ากันได้  สุดท้ายก็เลยกลายเป็นว่าผมกับแพร และไอ้แว่นไปไหนไปกันครับ


   “วี จับพี่เทคพรุ่งนี้อยากได้ผู้หญิงหรือผู้ชาย” ลูกแพรถามผมหลังจากเรียนอิ้งเสร็จ พรุ่งนี้จะมีการจับสลากรุ่นพี่ที่ต้องดูแลเราตลอดเวลาที่เราเรียนที่นี่ครับ เป็นรุ่นพี่ปี 2


   “มันก็ต้องผู้หญิงอยู่แล้วคร๊าบบบบ” ลูกแพรยิ้มให้แบบไม่แปลกใจกับคำตอบของผม

   “แพรก็ว่าแล้วไม่ผิด ฮ๊ะ ฮ๊ะ” ลูกแพรพูดเสร็จก็หัวเราะอย่างน่ารัก

   “มึงอยากได้ผู้หญิงหรือผู้ชายวะ” ผมหันไปถามไอ้แว่นที่เอาแต่นั่งเล่นมเกมส์ในโทรศัพท์

   “หญิงดิ” มันตอบแต่ไม่ยอมเงยหน้าจากโทรศัพท์เลยครับ

   “ แพรไปไหนต่อไหม ไปกินข้าวกัน” ผมหันไปถามลูกแพร ปกติผมจะเรียกแพรเฉยครับขี้เกียจเรียกยาว

   “แพรต้องไปซ้อมหรีดมืออ่ะ โครตเบื่อวันที่รุ่นพี่มาเลือกถ้ารู้แพรหยุดไปแล้ว” ลูกแพรเริ่มบ่นเรื่องเดิมอีกแล้วครับ ก็เรื่องเป็นตัวแทนประกวดหรีดมือของคณะนั่นแหละครับ คนมันสวยหุ่นดีก็ได้รับเลือกเป็นธรรมดา แต่ดูเหมือนลูกแพรจะไม่ค่อยชอบทำตัวเด่นเหมือนผม


   “ทำๆไปเถอะเดี๋ยวก็จบแล้ว” ผมก็ว่าไปงั้นแหละครับ ทั้งๆที่ไม่รู้มันจะจบเมื่อไหร่ เหมือนไอ้รับน้องที่ผมโครตเบื่อเหมือนกัน ผมจะไม่เบื่อเลยถ้าผมจะไม่โดนออกไปทำกิจกรรมประหลาดๆ ให้คนอื่นหัวเราะใส่ทุกวัน ไม่รู้ผมซวยหรือไปเยียบตีนรุ่นพี่ไว้ถึงโดนตลอด


   “งั้นเจอกันตอนเย็นนะ” ไอ้แว่นหันไปบอกลูกแพรครับ


   “อืม งั้นแพรไปเลยแล้วกันเดี๋ยวคนอื่นคอย” แพรพูดเสร็จก็ลุกจากโต๊ะ หยิบกระเป๋าขึ้นสะพายแล้วเดินไปเลยครับ


   “มึงจะเล่นเกมส์ถึงเมือไหร่วะ ไปหาข้าวกินกันกูหิว” ผมหันกลับมายังเห็นไอ้แว่นนั่งกดเกมส์ยิกๆไม่สนใจสิ่งรอบข้าง

   “กูรอมึงนี่แหละ ป่ะ”  พูดจบแม่งลุกเดินเลยครับ ไม่มีรอผมซักนิด

   “เฮ้ย... รอกูด้วย” ผมเรียกมันพร้อมวิ่งตามเลยครับ ก็มันเดินไวเหมือนไปตามควายเลย

   






   “คุณมาสายเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว” ซวยเหมือนเดิมครับวันนี้ ผมมาเข้าซ้อมเชียร์ช้าเพราะมัวแต่ขี้อยู่เลยเวลามา 5 นาที พอเดินเข้ามาห้องเชียร์ทุกคนนั่งประจำหมายเลขของตัวเองเรียบร้อยแล้ว

ผมได้เลข B13มาจากแถว B เลขที่ 13 ครับ  ผมที่กำลังจะเดินเข้าไปนั่งที่ไอ้พี่ชิน หันมาปะทะสายตาพอดี ผมก็เลยโดยเรียกไปโชว์ตัวเหมือนเดิมครับ


   “ครั้งที่ 3 ครับ” ผมตอบไอ้รุ่นพี่หน้าหล่อเสียงดัง ครั้งก่อนหลับเพลิน ครั้งก่อนนั้นอีกผมเล่มเกมส์จนลืมเวลามาเข้าเชียร์สาย ประวัติผมยาวครับ


   “ครั้งนี้มาสายเพราะอะไร” มันถามผมต่อเสียงดังเลยครับ


   “ขี้อยู่ครับ” ผมมันลูกผู้ชายตัวจริง กล้าถามก็กล้าตอบครับ หลังผมตอบทุกคนก็ระเบิดเสียงหัวเราะ ยกเว้นไอ้พี่ชิน ผมเห็นเหมือนมันยิ้มมุมปากเฉยๆครับ


   “อืม เรื่องใหญ่เลย เมื่อเสร็จธุระแล้วก็ต้องมีความสุข ไหนแบ่งความสุขให้เพื่อนของคุณสิ เต้นไก่ย่างวิศวะ 3 รอบปฏิบัติ” กูว่าแล้วไม่มีทางรอด เมื่อวานให้เต้นมะหมี่วันนี้ไก่ย่าง พรุ่งนี้มันคิดเผื่อไว้ยังวะ

ผมคิดเล่นๆก่อนลงมือเต้นโดนเพื่อนๆที่นั่งอยู่เริ่มร้องเพลง  ผมเต้นจนเอวจะหักกว่าจะได้กลับไปนั่งในแถวก็มันเล่นแกล้งว่าผมเต้นไม่สนุกให้เต้นใหม่รวมแล้วมากกว่า 10 รอบครับ


   “วันนี้จะมีการจับพี่เทค คุณรู้กันแล้วใช่ไหม” มันตะโกนต่อเสียงดังครับ


   “ครับ/ค่ะ” มีเสียงตอบบ้างปะปรายครับ


   “เดี๋ยวผมจะให้เดินออกมาจับพี่เทคกันที่ละคน ใครจับได้อะไรให้อ่านรหัสดังๆพร้อมท่าพรีเซนต์รหัสเข้าใจไหมครับ” พี่ชินหยิบกล่องที่คงมีรหัสเทคอยู่ในนั้นมาถือไว้ก่อนบอกสิ่งที่พวกผมต้องทำ


แล้วก็เริ่มจากแถวแรกครับ มันเดินไปจับแล้วได้รหัสว่า เฒ่าทารก ครับท่าพรีเซนต์มันโครตฮา แม่งทำท่าคนแก่ถือไม่เท้าก่อนลงไปนอนดิ้นกะแด่วกะแด่วกับพื้นแล้วร้องอุแว้ๆ จากนั้นก็ทยอยไปจับเรื่อยครับ


จนถึงไอ้แว่นที่นั่งหน้าผมมันเดินไปจับ สีหน้ามันเปลี่ยนนิดนึงก่อนอ่านรหัส “ สหายหน้าขาวสาวขี้ให้หมีดม” พอมันอ่านจบเท่านั้นครับผมไม่ไหวจะกลั้นขำ แค่ชื่อยังขนาดนี้แล้วท่ามันจะขนาดไหน ผมเดาว่าพี่มันต้องเป็นผู้ชายแน่ๆถึงกล้าตั้งชื่อแบบนี้ 


ไม่นานมันก็นั่งลงก่อนทำท่าเบ่งขี้แล้วเอามือจับที่ตูดขึ้นมาให้ไอ้รุ่นพี่ใกล้ๆดม เชี้ยมันกล้ามาก ผมนับถือเลย แล้วก็มาถึงคราวผมบางครับ ผมเดินสวนกับไอ้แบตที่กำลังกลับเข้ามานั่งที่


“โชคดีได้เล่นขี้เหมือนกูนะมึง” เสียงมันพูดเบาๆตอนเดินสวนกันครับ ยังไม่ทันขอบคุณในคำอวยพรแม่งก็เดินไปนั่งที่ตัวเองแล้ว


“เชิญจับครับ” ไอ้พี่ชินยื่นกล่องให้ผมจับ  ผมค่อยๆเอื้อมมือลงไปในกล่องนึกแต่ว่าขอให้จับได้พี่เทคเป็นผู้หญิงๆ พอจับได้เปิด
อ่านเท่านั้นแหละครับ ความหวังริบหรี่ดับพรึบพรับเลยที่เดียวก็ไอ้รหัสที่ผมได้นะสิ บ่งบอกเลยว่ามันไม่ใช่ผู้หญิงแน่นอนก็ผู้หญิงที่ไหนละครับที่จะหล่อ


“หล่อพร้อมสับแม้ดับไฟ” ผมอ่านรหัสเสียงดังจากนั้นก็นึกท่าพรีเซนต์รหัส นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกครับ จนสุดท้าย ต้องทำท่าเก็กหล่อเอามือมาไว้ที่ค้างแบบเวลาถ่ายรูปแล้วเก็กหล่อ จากนั้นก็ทำท่าสับหมูและท่าดับไฟ กว่าจะผ่านไปได้ลุ้นมากครับ ถ้าโดนซ่อมอีกคืนนี้ผมนอนหลับแบบซักแห่งแน่ๆ วันนี้โครตเหนื่อย







หลังจากผมกลับมานั่งที่ตัวเองคนต่อๆมาก็ออกไปจับ ไม่นานก็เป็นลูกแพรเดินออกไปจับบ้างครับ หลังจากจับขึ้นมาอ่านนิดนึงลูกแพรก็ยืนนิ่งๆ จนรุ่นพี่สตาฟถามว่าได้รหัสอะไรครับ

“ขอบคุณค่ะสำหรับคำถาม” ลูกแพรหันไปยิ้มหวานก่อนกล่าวขอบคุณ กูว่ามาผิดเวทีป่าววะ

“รหัสที่แพรได้นะคะ เขียนว่า หมียายมอยนั่งทับหอยยายมีค่ะ” หลังลูกแพรอ่านจบเท่านั้นเสียงโห่ก็ดังขึ้นเลยครับ ก็คนสวยให้ไปทำท่าประหลาดๆ คงตลกน่าดู แล้วลูกแพรก็พรีเซนต์ท่าบ้าบออะไรไม่รู้ครับ

ทำท่าเหมือนกอลิล่าชกอกตัวเอง มันหมีหรือลิงวะ จากนั้นก็ทำท่าหอยร่วงแล้วลงไปนั่งทับ ผมขำจนน้ำตาไหลเลย พอเสร็จก็กลับเข้ามานั่งที่ครับ


วันนี้ผมเห็นรุ่นพี่มากันเยอะมากเลยครับถ้าดูไม่ผิดมาทั้ง 3 ชั้นปี คนเยอะจนแทบล้นห้องเชียร์

และที่เด่นสะดุดตาผมเหมือนเคยก็ยังเป็นพี่ตินณ์คนเดิมครับ จากมันที่ได้เจอพี่ตินณ์ตอนเปิดตัวพี่ระเบียบ พี่ว๊าก และสตาฟเชียร์ ผมก็คอยมองหาพี่ตินณ์ตลอด 

ผมไม่รู้เป็นอะไรคือผมว่าผมไม่ได้ชอบพี่เขานะ แต่มองแบบชื่นผมน่ะครับเหมือนไอดอล พี่เขาทั้งหล่อ หุ่นดี  แถมดูเข้าถึงยาก มาดดุแบบนิ่งๆ เฮ้ยหรือว่าผมจะเป็นเกย์วะ เพราะหลังๆผมมาเข้าเชียร์เพราะอยากเจอพี่ตินณ์นี่แหละ

แต่ผมก็ได้แค่มองครับไม่กล้าเข้าไปคุยหรอก คนในห้องผมกรี๊ดแกมาก แถมมีผู้ชายบางคนก็ชื่นชมเหมือนที่ผมชื่นชมครับ


“เอาหล่ะวันนี้ทุกคนก็ได้มีพี่เทคเป็นของตัวเองแล้ว ภายใน 1 เดือนตามหาพี่เทคของตัวเองให้เจอและคุณต้องออกมาบอกว่าพี่ของตัวเองเป็นใคร ถ้าผิดก็ต้องมีการซ่อม แต่ผมยังไม่ขอบอกว่าคืออะไร ขอให้โชคดีในการหา วันนี้เลิกเชียร์ได้” ไอ้พี่ชินพูดยาวก่อนสั่งเลิกเชียร์ครับ


ผมดูเวลาตอนนี้ก็จะเที่ยงคืนแล้ว วันนี้เลิกช้ากว่าทุกวัน เพราะปกติจะเลิกประมาณสี่ทุ่มครึ่ง แต่วันนี้พรีเซนต์ท่าบ้าๆบอๆกันนานเลยครับ


“แพรกลับไงอ่ะ” ผมถามแพรหลังจากแพรเดิมมารวมกลุ่มกับผมและไอ้แว่น

“เดี๋ยวพี่ชายมารับ” แพรบอกพร้อมคลี่กระดาษในมือให้ผมดู

“คิดว่าผู้ชายหรือผู้หญิง” แพรถาม

“ชาย” ผมเองครับ

“หญิง” ไอ้แว่นตอบ

“อ่าวงี้ก็เสมอกันดิ จะหาได้ง่ายไหมน้อ” แพรบ่นเบาๆครับ

“ของมึงดีเนอะตัดออกไปบานเลย” ไอ้แว่นหันมาว่าผมครับ

“ตัดยังไงวะ” ผมถามกลับงงๆ

“อ่าวก็ของมึง ตัดทั้งผู้หญิง ตัดทั้งคนไม่หล่อ ทีนี้ก็เหลือไม่กี่คนแล้ว” ไอ้แบตว่าต่อทันที

   “มึงไม่คิดว่าเขาจะหลอกให้กูตัดเหมือนมึงว่า แล้วจริงๆพี่เค้าเป็นผู้หญิง หรือไม่ก็ผู้ชายแต่หน้าเหี้ยเหรอวะ” ผมถามกลับทันที ก็มันอดคิดไม่ได้ครับว่าพี่เทคผมจะใจดีให้หาง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ

   “เออว่ะ สุดท้ายแม่งก็ยากพอกันหมดแหละ” ไอ้แว่นเกาหัวแกรกๆก่อนบ่นครับ

   “แพรว่าคงไม่ยากเท่าไหร่มั้ง มีเวลาตั้งเดือน” ลูกแพรว่ายิ้มๆครับ

   “อื้มให้เจอทีเถอะ วีไม่อยากไปทำท่าแปลกแล้วแค่นี้ก็เด่นจะแย่” ผมว่าขำๆครับก็ผมได้ออกไปเต้นท่าแปลกๆทุกวันเลย

   “อ่อ แล้วแพรโทรบอกพี่ชายยัง อีกนานไหมกว่าจะมา” ผมถามลูกแพรทันทีที่นึกได้

   “บอกแล้ว เดี๋ยวคงมา พี่เค้าเรียนที่นี่แหละคงอยู่คณะตัวเอง”

   “จริงเหรอ เรียนคณะอะไร ปีไหนอ่ะ” ผมถามเป็นชุดเลยครับ

   “เรียนคณะสิกำ ปี 2” อ่อไอ้คณะที่มีหลอดสีตั้งหน้าคณะนั้นเอง

   “อ่าว ไม่แพรไม่เรียนเหมือนพี่ล่ะ” ผมถามอย่างแปลกใจ เพราะปกติพี่น้องแถวบ้านผมชอบเรียนเหมือนกัน

   “ไม่เอาอ่ะ แพรไม่ชอบแบบนั้น อารมณ์ศิลปินเกินไป” แพรว่าพร้อมทำหน้าเบื่อๆ








   “อ่าว นั่นพี่ชายแพรมาแล้ว” ลูกแพรว่าก่อนชี้ไปทางหน้าคณะที่กำลังมีผู้ชายตัวสูง ผอม ผิวขาวหน้าหวานๆเดินเข้ามาครับ

   “นี่พี่พรตพี่ชายเราเอง” ลูกแพรแนะนำให้ผมรู้จักพี่ชายตัวเองครับ

   “สวัสดีครับ” ผมกับไอ้แบตไหว้พี่ชายลูกแพรพร้อมกัน

   “สวัสดีครับ” เพื่อนลูกแพรเหรอ

   “ค่ะ คนนี้ชื่อวีค่ะ เพิ่งรู้จักที่นี่ แล้วก็แบตที่พี่พรตเคยเจอ”

   “อ่อ ครับพี่จำได้แล้ว ยินดีที่ได้เจอทั้งสองคนนะ พี่ฝากดูแลแพรด้วยเวลาอยู่ที่คณะ” พี่พรตพูดฝากฝั่งลูกแพรอย่างดีเลยครับ ผมรู้สึกว่าพี่น้องสองคนนี้นิสัยดี ไม่หยิ่งเหมือนกันเลยครับ


   “แล้วสองคนกลับยังไงกัน พี่ไปส่งไหม” พี่พรตหันมาถามผมอย่างมีน้ำใจ ชั่งเป็นคนดีมีน้ำใจจริงๆ


   “ผมเดินกลับครับ พัก แถมกน้าม.เอง” ผมตอบพี่พรต


   “งั้นไปด้วยกันเลยพี่ไปส่งหน้าม. เดินไปกว่าจะถึงไม่ได้นอนพอดี” พี่พรตบอกเริ่มออกเดิน ก็เสร็จผมสิครับ ยิ่งขี้เกียจเดินกลับหออยู่ด้วยวันนี้ปวดขาไปหมด เป็นการปวดสะสมมาจากวันก่อนๆครับ


   “ไปแบตโชคดีไม่ต้องเดินเว้ย” ผมเรียกไอ้แบตก่อนเดินตามพี่พรตกับลูกแพรมาขึ้นรถ


   “ลูกแพรกินก๋วยเตี๋ยวไหม” พอถึงหน้ามอพี่พรตก็ถามลูกแพรทันทีครับ


   “ได้เหรอ งั้นลูกแพรกินก่อนนะค่อยกลับบ้าน” ลูกแพรถามพี่พรตก่อนทำท่าจะเปิดประตู


   “ไม่กลัวอ้วนเลยเนอะ” พี่พรตว่าตามหลัง


   “งั้นผมกับเพื่อนลาตรงนี้เลยนะครับ” ผมบอกลาทันที


   “กินก๋วยเตี๋ยวก่อนดิ เดี๋ยวพี่เลี้ยง” พี่พรตเอ่ยชวน







   “งั้นผมไม่เกรงใจนะครับ” ไอ้แว่นแม่งเห็นแก่กินแซงหน้าผมตอบไปแล้วครับ


   “อืมเต็มที่เลย” พี่พรตตอบก่อนลงรถตามพวกผมกับลูกแพรมาที่ร้านก๋วยเตี๋ยวสูตรเด็ดหน้าม.

   “ลูกแพรค่อยๆกิน หิวเหรอ” ผมบอกลูกแพรก่อนถาม เพราะเห็นกินเอาๆ กลัวจุกครับ

   “แพรหิวจนจะกินควายได้แล้ววี” แพรหันมาตอบก่อนลงมือกินต่อครับ

   “วีอิ่มแล้วเหรอสั่งอีกสิ” พี่พรตถามผมหลังจากผมวางตะเกียบ ผมกินไปสองชามแล้วครับ ไอ้แบต 3 ชาม พี่พรต 3 ชามเหมือนกัน มีแพรกับผมกิน 2 ชาม


   “อิ่มแล้วพี่ ไม่ไหวกินมากกว่านี้ผมนอนไม่หลับ เดี๋ยวฝันว่าต้องไปกู้โลก” เวลาผมกินอิ่มมากๆ ผมจะชอบไปฝันว่าตัวเองสู้กับสัตว์ประหลาดที่จะมาบุกโลกทุกที


   “หึหึ เพื่อนแพรตลกดีนะ” พี่พรตว่าขำๆ


   “ค่ะ มีแต่คนแปลกๆถึงคบกันได้ไง” แพรตอบก่อนยิ้มน่ารัก


   “เฮ้ยมึงยัดเข้าไปได้อีกเหรอวะ” ผมถามไอ้แบตที่ยังสาวเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าท้องไม่หยุด


   “เหลือพื้นที่อีกเยอะหว่ะ” มันตอบก่อนจ้วงต่อไม่สนใคร หลังจากหมดชามที่ 3 มันก็กินน้ำก่อนเรอเสียงดัง ไม่ได้อายผู้หญิงร่วมโต๊ะหรือเกรงใจพี่เขาเลยครับ สันดานเสียมากเชี้ยแบต










   
“ขอบคุณมากครับพี่ มีไรให้ผมช่วยบอกได้เลยครับ” ผมขอบคุณพี่พรตหลังกินอาหารเสร็จ


   “ขอบคุณที่เลี้ยงครับพี่” ไอ้แบตขอบคุณพี่พรตเหมือนกัน


“ไม่เป็นไร พี่ถือว่าเลี้ยงที่เรารู้จักกัน พี่ไปก่อนนะ”


“ครับ สวัสดีครับ” ผมกับไอ้แบตพูดพร้อมกันก่อนพี่พรตจะยิ้มให้แล้วเดินไปขึ้นรถ


“เจอกันพรุ่งนี้นะ” ลูกแพรพูดก่อนเดิมตามพี่


“อืมพรุ่งนี้เจอกัน” ไอ้แบตตอบ ผมเพียงพี่ยกมือลา






“ไปกลับวังกันกูอยากนอนเต็มแก่แล้ว” ผมชวนไอ้แบตกลับหอครับ

“เออไปดิ กูปวดเยี่ยวจะแย่” ไอ้เชี้ยแบตแม่งพูดเสร็จวิ่งนำเลยครับ

“เฮ้ย...มึงไม่รอกูอีกแล้วนะ” ผมกะโกนพร้อมวิ่งตามตูดมันไปติดๆครับ




--- โปรดติดตามตอนต่อไป ---

ลงเพิ่มอีก 1 ตอนจร้า
ของคุณที่ทุกคนเข้ามาติดตามอ่านค่ะ
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เรื่องคิดว่าคงสั้น >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 2<< up 1/12/2013
เริ่มหัวข้อโดย: Moonmaid ที่ 01-12-2013 22:15:05
ใครจะเป็นพระเอกเนี่ยยลุ้นๆๆๆหนุกอ่าา ฮามากตอนนี้นั่งขำอยู่คนเดียวเหมือนคนบ้า555555555 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: เรื่องคิดว่าคงสั้น >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 2<< up 1/12/2013
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 01-12-2013 22:38:08
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องคิดว่าคงสั้น >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 2<< up 1/12/2013
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 01-12-2013 23:32:09
เนื้อเรื่องตอนนี้เป็นตอนที่ตินณ์กับพรตยังไม่ได้คบกันใช่ไหมอะ???
หัวข้อ: Re: เรื่องคิดว่าคงสั้น >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 2<< up 1/12/2013
เริ่มหัวข้อโดย: a-o-pai ที่ 02-12-2013 01:00:51
มุมเพื่อนของลูกแพร หุๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องคิดว่าคงสั้น >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 2<< up 1/12/2013
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 02-12-2013 11:45:07
อุ๊ย เรื่องใหม่ เพิ่งเห็นได้ไงเนี่ย
วี ฮาดีนะ ฮ่าๆๆๆ
ติดตามๆ
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 2<< up 1/12/2013
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 02-12-2013 19:44:18
พระเอกคือใครละเนี่ยยยยย
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 2<< up 1/12/2013
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 02-12-2013 20:11:05
ฮาอ่ะ
ได้เห็นพี่ตินณ์ พรตอีกมุม น่ารักดีแฮะ :o8:
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 2<< up 1/12/2013
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 02-12-2013 21:12:58
จะหลุดประเด็นไหมถ้าจะบอกว่าพระเอกคือพี่ชายคนโตของพรตอ่ะ
เพราะเหมือนตอนที่พ่อพรตบอกว่าแกกับเด็กคนนั้นป่ะน่าจะเป็นอย่างงั้นนหนุกดี
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 2<< up 1/12/2013
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 02-12-2013 21:27:21
:m20: ฮากับรหัสพี่เทคของแต่ละคน  แต่ของวีจะใช่พี่ชินหรือเปล่า



หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 2<< up 1/12/2013
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 02-12-2013 21:28:16
แอบเห็นว่าติณณ์คู่พรตหรอคะ? ต้องไปหาอ่านนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 2<< up 1/12/2013
เริ่มหัวข้อโดย: jj_girl ที่ 02-12-2013 21:34:09
ตกลงผูัใดคือพระเอกก    :katai1:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 2<< up 1/12/2013
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 02-12-2013 21:49:24
ตกลงผูัใดคือพระเอกก    :katai1:


 :m26:  วี-ตินณ์ค่ะ เนี๊ยะเมียลับๆตินณ์
ถึงต้องแอบมาเปิดเรื่องใหม่ อย่าไปบอกพรตนะ จุ๊บจิ๊บไว้  :laugh:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 2<< up 1/12/2013
เริ่มหัวข้อโดย: jj_girl ที่ 02-12-2013 21:57:51

 :m26:  วี-ตินณ์ค่ะ เนี๊ยะเมียลับๆตินณ์
ถึงต้องแอบมาเปิดเรื่องใหม่ อย่าไปบอกพรตนะ จุ๊บจิ๊บไว้  :laugh:

จะปิดเป็นความลับไว้ให้กะด๊ะ

ถ้าเมจิกสัญญาว่าจะแต่ง  คิม&จุ๊บแจง  เอร้ย  คิม&นาว เร็วๆ  อิอิ
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 2<< up 1/12/2013
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 02-12-2013 22:42:17

ตอบ

คุณหมอตัวเปียก > รอติดตามนะคะ  ว่าใช่รึเปล่า

คุณ bulldog17 >  ปล่อยให้ งงก่อนค่ะ  อิอิ

คุณ บูมเบส  >  พี่พีชไม่ใช่เรื่องนี้ค่ะ เป็นอีกเรื่อง คู่พีชเนม

คุณ gookgik  > รอลุ้นนะคะว่ารหัสเทคของใคร

คุณ quiicheh  > ใช่ค่ะ ตินณ์คู่พรต  ขอบคุณค่ะที่จะตามอ่านอีกเรื่อง ><

คุณ jj_girl > เอ่อ คิม&จุ๊บแจง คืออะไรอ่ะ 555 ระวังนาวมาแหกอกเน้อ
                 นางก็หวงไม่แพ้เพื่อนเหมือนกันจร้า ส่วนเวลาลงออกแถลงการณ์ไปแล้วนะจ๊ะ
 


ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 2<< up 1/12/2013
เริ่มหัวข้อโดย: thyme812 ที่ 02-12-2013 23:08:38
ตามๆ o13
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 2<< up 1/12/2013
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 02-12-2013 23:13:47
ลุ้นพระเอกว่าเป็นใคร
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 2<< up 1/12/2013
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 04-12-2013 21:23:41
พี่เทควีก็ชินไง555
ถูกป่าวอ่ะ หล่อ+แม้ดับไฟ ก็น่าจะหมายถึงสว่าง
ชินใช่มะ
 :hao7:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 2<< up 1/12/2013
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 05-12-2013 17:04:25

Moment

วี: กร๊ากกๆๆ ไอ้เชี้ยแว่นพี่มึงเอาอะไรมาให้เนี๊ยะ
แบต: เออ กูมาเข้าเชียร์เหนื่อยๆที่จะให้อะไรกูเติมพลังเสือกให้โซดา อย่าให้กูรู้นะว่าใคร
ลูกแพร: ของแพรไม่ยิ่งกว่าเหรอ แพรเป็นผู้หญิงดันได้ M150 แล้วไม่ใช่พี่รหัสนะเป็นลุงรหัส (ปี 3) พี่รหัสให้อมยิ้ม
วี: แต่ละคนได้เหมาะกับชื่อรหัสเทคแล้วไง ก๊ากกก
ลูกแพร: รอของวีก่อนเถอะ แพรจะขำให้ดังกว่าเลย
แบต:อย่ารอเลยแพร แบตว่ามันคงไม่ได้หรอก พี่มันกลั้นใจตายตั้งแต่รู้ว่าได้มันเป็นน้องแล้ว
วี: เชี้ยแว่นรู้ได้ไง ได้กูไปเป็นน้องถือว่าโครตโชดดีเถอะ
พี่ปี2 : น้องครับพี่รหัสฝากมาให้ครับ (ยื่นทุเรียนลูกใหญ่มากให้ ไม่ปลอก ไม่กรีด และไม่มีถุง)
แบต: ก๊ากกกกกกก ไอ้เชี้ยวีมึงโดนแล้ว
ลูกแพร: ฮ๊ะๆๆๆ พี่เค้ารักมากเลยนะนี่
วี: สัส! รักกูมาก ให้ทั้งลูกไม่ปลอกด้วย แล้วกูจะแดกยังไงวะ


ปอรู: ที่แบตโมโห เพราะมีแต่โซดา ไม่มีเหล้า คึคึ



 :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 2<< up 1/12/2013
เริ่มหัวข้อโดย: jj_girl ที่ 06-12-2013 10:41:07
ที่พี่รหัสเค้าให้ทุเรียนไม่ปลอกเปลือกอ่ะ   เค้าหวังให้วีเอามาฟาดหน้าแบตรึเปล่า 
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 3<< up 12/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 12-12-2013 19:15:50

ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 3


ก๊อกๆๆๆ.........

ก๊อกๆๆ......ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


“เฮ้ยไอ้วีอยู่ป่าววะหรือตายแล้ว”


“อยู่โว๊ย! กูอาบน้ำแก้ผ้าอยู่รอเดี๋ยว  เคาะขนาดนั้นมึงพังประตูเข้ามาเถอะ”
ผมกำลังอาบน้ำอยู่ครับ ได้ยินเสียงเคาะประตูแว่วๆ
เลยรีบอาบแบบไฮสปีดเพื่อจะมาเปิด
แต่คงไม่ทันใจไอ้แว่น แม่งเคาะซ้ำอย่างกับผมไปปล้นเงินมันมา
พอผมแต่งตัวเสร็จก็เดินมาเปิดประตูให้มัน


“กูยืมแผ่นเกมส์หน่อย”
พอผมเปิดประตูได้เท่านั้นไอ้เชี้ยแว่นกระดิกมือขอเกมส์เลยครับ

“ห่า  กูก็นึกว่ามีเรื่องอะไร เคาะซะเจ้าของหอจะมาด่ากูแล้ว”
ผมว่ามันก่อนเดินเข้ามาในห้องเพื่อหาแผ่นเกมส์ให้มัน มันก็เดินตามผมเข้ามาในห้อง


“เอ้าเอาไป แล้วรีบออกจากห้องกูเลยนะ” ผมยัดเกมส์ที่หาได้ ใส่มือมันแล้วรีบไล่เลยครับ

“กูเปลี่ยนใจแล้ว เล่นที่ห้องมึงดีกว่า”

“เฮ้ยไม่ได้ มึงกลับไปเล่นที่ห้องมึงดิ” ผมรีบไล่ซ้ำเสียงดังเลยครับ

“ทำไมจะเล่นไม่ได้ มึงแอบใครไว้”
มันว่าพร้อมสอดส่ายสายตาหาใครซักคนในห้องเท่ารูหนูของผม
แต่มันจะแอบใครได้แค่วะ แค่ผมกับมันสองคนยืนอยู่นี่ก็จะเต็มห้องแล้ว


“เชี้ยเถอะ เล่นห้องกูก็เปลืองไฟห้องกูดิ มึงช่วยจ่ายไหมล่ะ”
ไม่ได้ครับ ผมมันคนงกโดยกำเนิด

“เดี๋ยวมึงจะโดนไอ้วี เมื่อวานเสือกไปนอนดูทีวีห้องกูทั้งวัน วันนี้จะมาหวงกูนะ หลบกูจะเล่น”
มันว่าก่อนเดินไปที่โต๊ะที่ผมวางโน๊ตบุ๊คไว้ 
เมื่อวานเป็นวันเสาร์ผมขี้เกียจอยู่ห้องคนเดียวเลยไปนอนดูทีวีห้องไอ้แว่นทั้งวัน


“เออ อย่าเสียงดังแล้วกันกูจะนอน”
ผมพูดเสร็จเอื้อมมือไปคว้าหนังสือการ์ตูนเล่มโปรดก่อนกระโดดขึ้นเตียง
มันก็เปิดโน๊ตบุ๊คผมที่วางอยู่บนโต๊ะเล่นเกมส์หน้าตาเฉยมาก



“ฮ๊ะ ฮ๊ะ  ฮ๊ะ”

“ไอ้เชี้ยวี มึงจะหัวเราะอะไรนักหนา กูไม่มีสมาธิเล่นเกมส์”
ผมกำลังนอนอ่านหนังสือการ์ตูนเพลินๆ อยู่ๆได้ยินเสียงไอ้แว่นบ่นครับ
เล่นเกมส์แม่งต้องใช้สมาธิด้วยเหรอวะ แค่ผมหัวเราะดังหน่อยมันทำบ่น ผมกำลังอินกับการ์ตูนอยู่นี่นา



“กูกำลังอิน มึงอย่าเพิ่งดิ”

“มึงก็อินเงียบๆดิ กูกำลังใช้สมาธิแม่งพลาดเลย โดนมันแดกไปแล้ว”
มันบ่นต่อนิดหน่อยก่อนเล่นเกมส์ต่อทันที


“เออๆ” ผมรับปากมันครับ ก่อนเริ่มอ่านต่อ

.

.

.

“ฮ๊ะ ฮ๊ะๆ     หึหึ”



“อ่าว มึงปิดเครื่องทำไม” ผมเงยหน้าจากหนังสือ เห็นมันกำลังปิดคอม

 “มึงทำเสียงประหลาดๆ อยู่ตลอดแบบนี้กูไม่มีสมาธิเล่นเว้ย”

“อ่าวเหรอ กูทำเหรอ”

“เออ ไม่รู้ตัวเลยไงมึง มึงแกล้งไม่ให้กูเล่นใช่ไหม”
มันว่าก่อนถอดแว่นวางไว้บนโต๊ะ เวลามันถอดแว่นแล้วก็ดูเป็นคนขึ้นมาเหมือนกันแฮะ


“ป่าวเว้ย มึงสายตาสั้นเท่าไหร่วะ” ผมรีบปฏิเสธก่อนถามมันเรื่องสายตา
ผมว่าถ้ามันไม่สั้นมากก็ไม่ต้องใส่ดีกว่านะ

“ใครบอกกูสายตาสั้น” ผมหันมาถามผมกลับหน้ากวนได้อีก

“อ่าว ก็มึงใส่แว่นไม่สั้นเหรอวะ” ผมว่าอย่างงงๆครับ


“หึหึ  กูไม่ได้สายตาสั้น ใส่ไว้งั้นแหละ ดูติ๋มๆเวลาไม่ใส่แม่งคนชอบมาชวนกูคุย
พอกูใส่ไม่ค่อยมีคนมายุ่งกับกูดี มีแต่มึงนั่นแหละเสือกทักกู”
เอาแล้วไงครับ ผมก็ไปทักมันนึกว่าเป็นเด็กเรียน
สิ่งที่ผมคิดไว้ผิดหมดเลยครับ เลิกคบแม่งเลยดีไหมวะ


“ถ้ากูรู้ตั้งแต่แรก กูจะไม่ทักมึงเด็ดขาด”

“หึหึ   ไม่ทันแล้ว” มันว่ายิ้มๆก่อนลุกเดินพร้อมหยิบแผ่นเกมส์ผมไปด้วย
มันเดินกลับห้องไปแล้วแต่ทิ้งแว่นไว้ให้ผมเจ็บใจเล่นๆซะงั้น











“เมื่อวานวีกินทุเรียนยังไงเหรอ” แพรถามผมถึงเรื่องของที่พี่เทคให้ผมครับ
เรื่องนี้ทำผมแสบมาก คือ หลังจากจับรหัสเทคไปแล้ว
หลังจากทำกิจกรรมเสร็จในช่วงดึกของแต่ละวันจะมีรุ่นพี่เอาของมาเทคครับ
เป็นรุ่นพี่ปี 2 เรียกพี่เทคหรือพี่รหัสครับ ปี3จะเรียกลุงหรือป้ารหัส
ถ้าปี4จะเรียกปู่หรือย่ารหัสครับแล้วแต่


ว่าวันไหนใครจะมา ของผมก็มีได้ของบ้างบางวัน บางวันไม่ได้เลย
ของแต่ละอย่างที่ได้ไม่รู้ว่าคิดได้ไง ที่จำได้ ก็จะมียาสีฟัน ถุงเท้า มาม่า อมยิ้ม
ไม้กวาดหรือมีแม้กระทั้งกะละมังซักผ้าครับ

ผมไม่รู้ว่าพี่แกเอาอะไรคิดของที่จะเอามาให้ผมนะ
แต่ผมอยากบอกมากเลยว่าของเป็นของเหมือนคนอื่นได้ไหม
ของคนอื่นก็จะเป็นของกินซะส่วนใหญ่ครับ


อ่อ!  ของกินผมก็เคยได้ วันนั้นเลิกเชียร์ดึก
ผมได้ข้าวกล่องมา 1 กล่อง เปิดดูเป็นข้าวผัดพริกแกงปลาไหลครับ
น้ำตาผมนี่แทบไหลตามกะว่าเปิดมาจะกินให้อร่อยเพราะตอนนั้นโครตหิว
ของกินอยู่ตรงหน้าแต่กินไม่ได้ คือผมกลัวปลาไหลไง
ตอนเปิดไม่อยากบรรยายผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นรู้ตัวอีกที
ข้าวกระจุยกระจาย เลอะตัวไอ้แว่นเลยครับโดนมันด่าเป็นอาทิตย์



   แล้วสุดท้ายเมื่อวาน ผมได้ทุเรียนครับ
ลูกใหญ่ตามความรักที่มีให้ผมแต่คือมันยังไม่ได้ปลอก
มาทั้งคั่วเลยครับไม่มีถุงใส่ให้ผมด้วย ผมโครตอาย
แบกอย่างหนักกลับห้อง ตอนนี้มันก็ยังนอนนิ่งอยู่ในห้องครับ


   “ยังไม่ได้ทำอะไรกับมันเลย นอนตายอยู่ที่ห้องวีน่ะ” ผมตอบแพรครับ

   “พี่เทควีนี่ก็ตลกดีเนอะ หาแต่ละอย่างมาแกล้งวีได้ตลอด” แพรว่าต่อยิ้มๆ ครับ
 แพรว่าผมแต่ของตัวเองนี่ก็ไม่ต่างเท่าไหร่นะ
มีได้แปลกๆเหมือนกันเมื่อวานได้จากลุงรหัสเป็น M 150 ครับ
เครื่องดื่มชูกำลังอย่างดี ตอนนี้แพรู้แล้วว่าลุงรหัสเป็นใคร พี่คิมสาขาเครื่องกลครับ
พี่เขาไม่ได้ปิดบังอะไร หรือให้คนอื่นเอามาให้เหมือนพี่เทคผม


   “กว่าจะหมดช่วงเชียร์วีว่าคงได้กินอมยิ้มจนฟันผุ” ผมพูดถึงของที่ต้องได้ทุกวัน
เป็นอมยิ้มวันละอันครับไม่รู้ใครให้ เพราะจะมีรุ่นพี่ปี 2 ผลัดกันเอามาให้ผมทุกวัน
ถามก็ไม่ตอบ แต่ผมเห็นคนที่มาบ่อยสุดจะเป็นพี่โย ภาคไฟฟ้าครับ
ผมกำลังสงสัยว่าแกจะเป็นพี่เทคผมรึเปล่า


   “เค้าให้มึงก็แดกทุกวันเนอะ” ไอ้แบตว่าผมบ้างครับ



ตอนนี้เรามารอเข้าเชียร์เหมือนทุกวัน เวลาเข้าเชียร์จะมีเสื้อเชียร์แจกด้วยนะครับ
 ผมเห็นคณะอื่นได้อย่างสวย แต่พอมาเห็นของที่ตัวเองได้
เป็นเสื้อที่มีตาเครื่องดื่มชูกำลังเป็นสัญลักษณ์ตัวสี่ขา สีแดงหันหน้าชนกัน
อย่างใหญ่อยู่ข้างหลัง แถมเสื้อตัวใหญ่เพราะไซด์ผมหมดต้องเอายางรัดจุกที่คอเสื้อ
อนาถกันไปครับ


   “ของฟรีกูเอาหมดแหละ ไม่เอาแต่ขี้”
ผมว่ามันกดรับโทรศัพท์ที่กำลังสั่น แม่โทรมาครับ








   “ครับแม่”

   “ว่าไงจ๊ะ ลูกชายหายเงียบเลยนะ เงินไม่หมดไม่มีโทรหาแม่”
แม่ผมเริ่มบ่นเรื่องผมไม่ค่อยโทรหาอีกแล้วครับ

   “แม้คุณนายแม่ก็กระผมเรียนหนักนี่ครับ เพิ่งเทอมแรก”

   “ย่ะ น่าเชื่อมาก ไปติดสาวแล้วลืมแม่รึเปล่า”


“โถแม่ครับสาวที่ไหนจะสนผม ถ้าหนุ่มก็ไม่แน่ตอนนี้มีเล็งๆไว้แล้วคร๊าบบบ”
 ผมบอกแม่แบบเล่นๆแต่นี่เรื่องจริงนะครับ

“ งั้นเดี๋ยวแม่บอกพ่อให้นะจ๊ะ” แม่ผมรีบเอาพ่อมาขู่เลยครับ

“อย่าเพิ่งครับแม่ ไว้ผมเป็นแฟนกันก่อนจะพาไปไหว้”

“ระวังพ่อเรา เขาจะเอาไม้แพ่นกะบาลแล้วกัน แม่ไม่ช่วยนะ”

“ไม่ช่วยไม่เป็นไร แค่แม่รับได้ก็พอครับ แห่ะๆ”

“จ้า พ่อตัวดี เงินหมดรึยัง”

“ยังครับ”




“ดีแล้ว ถ้าหมดจะได้ให้หาคุ้ยขยะกินไปก่อน แม่โทรมาแค่นี้แหละ” ดูแม่ผมครับ รักลูกมาก

“ขอบคุณคร๊าบบคุณนายแม่ ถ้าจะบอกจุดที่คุณนายคุ้ยประจำจะเป็นพระคุณยิ่ง”
ผมขอบคุณแม่ก่อนถามแหล่งอาหารต่อ


“ไม่มีย่ะ พ่อแกเลี้ยงฉันดี”

“ครับๆ รักกันจนลืมลูกคนนี้ไปแล้ว” ผมว่าล้อๆครับ

“ไม่ลืมหรอกจร้า พ่อลูกชาย แต่แค่นี้แหละเปลื้องเงินแม่” 

“ครับ รักแม่นะครับ”  ผมบอกรักแม่ก่อนวางสาย

“จ๊ะ แม่ก็รักวีนะ ว่างๆกลับมาบ้านบ้าง พ่อกับแม่คิดถึง”

“เดี๋ยวว่างแล้ววีรีบไปเลยครับ”  ผมบอกแม่อีกนิดก่อน ล่ำลาและวางสาย












“เชี้ย... งานเข้ากูอีกแล้ว”พอผมวางสายเสร็จเท่านั้นแหละครับ
หันไปแถวเชียร์ตั้งเสร็จแล้ว ตอนผมคุยผมเดินลุกจากโต๊ะออกมาคุยข้างนอกเพราะข้างในเสียงดัง
เข้ามาอีกที แถวพร้อมแล้วครับ


ผมค่อยๆย่องจะไปเข้าแถวจากข้างหลัง พี่ชินกำลังคุยกับเพื่อนครับ ยังไงวันนี้ผมรอดแน่

“นายนาวี ออกาข้างหน้า” ผมได้ยินเสียงชื่อตัวเองดังขึ้น ถึงกับสะดุ้งเลยครับ คิดว่ารอดแล้วนะ

“ครับ” ผมขานรับก่อนเดินออกมาหน้าแถวเชียร์ ที่ประจำผมเอง

“บอกเพื่อนสิทำไมมาสาย” พี่ชินยังเสียงดังไม่เลิกครับ ทั้งที่ผมก็ยืนข้างๆนี่จะตะโกนทำไมวะ

“ผมคุยโทรศัพท์เพลินครับ”




“ว่าไงนะ เสียงดังๆหน่อย เพื่อนไม่ได้ยิน” เพื่อนหรือมันวะไม่ได้ยิน หูหนวกแล้วผมว่า

“ผมคุยโทรศัพท์เพลินครับ” ผมตอบอีกครั้งเสียงดังกว่าเดิม

“คุณเอาเปรียบเพื่อน โดยการมาสายเสมอ คุณคิดจะขอโทษเพื่อนบ้างไหม” ไอ้พี่ชินเริ่มบ่นอีกแล้วครับ

“ขอโทษครับ” ผมพูดขอโทษเสียงดังอีกครั้ง

“เมื่อรู้จักของโทษ เพื่อนจะให้อภัยไหม” มันตะโกนถามเพื่อนที่อยู่ในแถวเชียร์ครับ

“ให้ครับ/ให้ค่ะ” เสียงเพื่อนตอบครับ เหมือนเสียงสวรรค์ที่จะทำให้ผมพ้นโทษของวันนี้



“อืม เพื่อนให้อภัยแล้ว...แต่คุณก็ต้องรับการทำโทษอยู่ดี”

“ครับ” ปากตอบรับแต่ใจอยากบอกว่าปล่อยกูไปนั่งเถอะคร๊าบบบ

“เดี๋ยวผมจัดการเอง” เสียงใครวะ ผมได้ยินเสียงมาจากด้านหลังหันกลับไปมองตกใจเลยครับ เป็นพี่ตินณ์


“ครับพี่ตินณ์” ไอ้พี่ชินหลบไปยืนข้างๆแทน

“ตั้งแต่เข้าเชียร์คุณมาสายกี่ครั้งแล้ว” พี่ตินณ์ถามผมเสียงนิ่งๆ ไม่ได้ตะโกนเท่าไหร่ครับ
แต่ตอนนี้ทุกอย่างเงียบเสียงพี่ตินณ์เลยได้ยินกันทุกคน


“ 7 ครับ” ผมกลั่นใจตอบ

“อืม สูงกว่าปีก่อนเยอะ” พี่ตินณ์ยังว่านิ่งๆเหมือนเดิมแต่ดูเท่ห์มาก

“...” ผมไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เงียบไว้ก่อนครับ


“ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไรคุณถึงมาสายเยอะขนาดนี้ แต่คนเราต้องมีความรับผิดชอบ
วันนี้ผมจะไม่ทำโทษคุณ แต่วันงานไหว้ครูคุณจะต้องเป็นคนถือพาน
มาเตรียมตัวเข้าหอประชุมตอนตี 5
และต้องตรงเวลาเพราะคุณคือตัวแทนของคณะวิศวะ เข้าใจไหม”
พอพี่ตินณ์พูดจบผมอึ้งเลยครับ
วิธีเลือกตัวแทนที่เป็นหน้าตาของคณะเขาเลือกกันอย่างนี้เหรอ 
ไม่ใช่ว่าต้องสวย ต้องหล่อเหรอวะ
ผมยิ่งไม่อยากทำตัวเด่น แค่นี้ก็ตนรู้จักแทบทั้งคณะแล้วครับ



“เอ่อ...จะดีเหรอครับ” ผมถามเสียงเบาๆ รู้สึกกดดันกับภาระนี้

“ผมสั่งคุณจะทำไหม” พี่ตินณ์พูดอีกครั้ง แบบเย็นๆ

“ทำครับ” ผมรีบตอบทันที




“ดี ไปนั่งได้” ผมเดินกลับเข้ามานั่งในแถวหลังจากพี่ตินณ์พูดจบ
จากนั้นพี่ชินก็มาพูดเรื่องงานไหว้ครูที่ต้องหาตัวแทนเป็นผู้หญิงอีก 1 คน
ผมเลยเสนอลูกแพรเพราะเป็นเพื่อนกันจะได้คุยง่าย แล้วก็ไม่มีใครคัดค้าน


จากนั้นก็เป็นเรื่องนัดแนะวันเวลาทำพาน ฝ่ายทำก็ทำไป
ผมมีหน้าที่ถืออย่างเดียวครับ  หลังจากนั้นก็เป็นการซ้อมร้องเพลงคณะ
และให้ของเทควันนี้ผมได้ชามกระเบื้องตาไก่จากพี่เทค
อมยิ้ม รองเท้าแตะจากพี่ปี3 และขนมจากพี่ปี 4 ก่อนปล่อยแถวเชียร์ครับ













“วันนี้พี่พรตมารับป่าว” ผมถามลูกแพรหลังจากเลิกเชียร์
“ไม่มา วันนี้คนขับรถที่บ้านมารับแพรน่ะ แต่วีร้ายมาก
ลากเอาแพรไปถือพานด้วยจนได้” แพรว่าผมพร้อมทำหน้าโกรธๆ
แต่ผมรู้ว่าแพรโกรธไม่จริงหรอกครับ



“กูว่าแล้วว่ามึงต้องเลือกแพร” ไอ้แบตว่าบ้างครับ
ตอนนี้เรายืนรอส่งลูกแพรขึ้นรถเหมือนทุกวัน
บางวันพวกผมก็ติดรถแพรไปลงหน้าม.


“ก็อยากไม่มีใครเรียกกูเขาเชียร์เอง”

“แพรจะไปเรียกแล้วนะ แต่แบตบอกว่าวีต้องออกไปทำกิจกรรมทุกวันอยู่แล้ว
ถึงไปตอนไหนก็โดน แพรเลยเห็นด้วย สุดท้ายเลยไม่ไปตาม” ลูกแพรว่ายิ้มๆครับ


“อืม!!  รักวีกันจังเลยเนอะ”

“อ่ะ รถแพรมาแล้ว กลับบ้านพร้อมกันเลยเดี๋ยวแพรแวะไปส่ง”
แพรมองเห็นรถที่แล่นเข้ามาก็เรียกผมกับไอ้แบตทันทีครับ


“ดีเลย แบตขี้เกียจเดิน” ไอ้แบตว่าก่อนเดินนำไปที่รถก่อนแพรอีกครับ
 แพรหันมามองผมยิ้มๆก่อนเดินตามไอ้แบตไปที่รถ แล้วผมจะอยู่ทำไมก็ตามด้วยสิครับ





ลูกแพรส่งผมที่หน้าม. เพราะผมกับไอ้แบตจะกินข้าวก่อนเข้าหอครับ
ผมเลิกเรียกมันว่าไอ้แว่นแล้วครับ
เพราะเรียกทีไรนึกถึงความโง่ของตัวเองที่หลงไปทักมันทุกที แสลงใจครับ



“กูเอาข้าวขาหมู” ไอ้แบตบอกผมแสดงว่าผมต้องไปสั่งครับ มันเชี้ยไหมล่ะ

“ลุงข้าวขาหมู กับข้าวหมูแดงอย่างละจาน”
ผมเดินไปสั่งลุงที่กำลังเอามีดเฉือนขาหมูอย่างเมามัน


“ล่ายๆ รอแป๊บ” เสียงลุงแกตอบก่อนเฉือนต่อ
ผมก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะ ไม่นานก็มีเด็กยกข้าวมาเสิร์ฟ





“กูเป็นเกย์” ผมตัดสินใจบอกไอ้แบตในเรื่องที่ผมสงสัยตัวเองครับ

“ห๊ะ!!!” ไอ้แบตร้องพร้อมแก้วน้ำที่กำลังถือเกือบหลุดมือ มันจ้องผมตาไม่กระพริบเลยครับ

“กูเป็นเกย์” ผมบอกมันอีกครั้ง
ถ้ามันรับได้ผมว่าจะบอกแพรอีกคน เลือกบอกเพื่อนผู้ชายก่อนครับ

“มึงหลอกกูป่าววะ ถึงกูจะรู้จักมึงเดือนกว่าๆ แต่กูว่ามึงไม่เหมือน” ไอ้แบตถามทันทีครับ

“กูยังไม่แน่ใจ เมื่อก่อนกูก็ไม่เป็นแต่เดี๋ยวนี้ก็เริ่มว่าใช่ จนแน่ใจวันนี้ว่ะ” ผมบอกมันในสิ่งที่คิด 
เมื่อก่อนตอนอยู่ม.ปลายผมเคยมีแฟนนะครับ แต่ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่ คบไปมีแต่เสียเวลา
 แถมต้องมาคอยดูแลพาไปซื้อของ ดูหนังและอื่นๆอีกเยอะแยะซึ่งล้วนผมต้องออกเงินทั้งหมด
ก็ผมมันคนขี้งกนี่ครับ เวลารู้ว่าไม่ใช่เลยขอเลิกดีกว่า
ถ้าคบต่อไปผู้หญิงก็มาเสียเวลากลับผมแทนที่จะเอาเวลาไปหาคนอื่น จริงไหมครับ




“มึงลองเล่ามาดิ” ไอ้แบตทำหน้าตาสนใจขึ้นมาบ้างครับ

“ก็ที่กูพูดว่ากูชอบมองพี่ตินณ์ มึงจำได้ไหม”
ผมถามไอ้แบต ถึงเรื่องที่ผมเคยบอกว่าผมชอบมองพี่ตินณ์

“จำได้”

“มันก็เริ่มจากตรงนั้นแหละ การที่กูมองผู้ชายคนหนึ่งตอนแรกกูก็แปลกใจ
แต่กูแค่คิดว่าพี่เขาเท่ห์ดี ดูน่าเอาเป็นแบบอย่าง
แล้วยิ่งกูได้เห็นเวลาพี่เขาอยู่กับเพื่อนกูว่าพี่เขามีเสน่ห์มาก
จากการที่กูชื่นชม กูว่ามันเปลี่ยนเป็นความรักหว่ะ”
ผมเล่าให้มันฟัง ถึงเรื่องที่ผมชอบมองพี่ตินณ์บ่อยๆ



“แล้วมึงแน่ใจได้ไงว่ารัก” มันถามผมหน้านิ่งๆ

   “ก็เมื่อกี้ตอนกูยืนใกล้พี่ตินณ์ กูใจเต้นแรงมากเลยนะมึง
มันดังตึก  ตึก  ตึก กูยังกลัวพี่ตินณ์ได้ยินเลย  ไม่เชื่อมึงลองฟัง”
ผมดึงหัวมันมาแนบหน้าอกข้างที่มีหัวใจผมครับ 



   “ไอ้เชี้ยวี อายคน” ไอ้แบตโวยวายขึ้นมาทันทีครับ

   “อ่าวกูอยากให้มึงช่วยกูพิสูจน์ไง”

   “กูไม่เห็นได้ยิน เหมือนที่มึงว่า”



   “ก็กูบอกแล้วว่ามันดังตอนอยู่กับพี่ตินณ์
ตอนนี้มันก็ต้องไม่ดังแล้วดิ เพราะมึงไม่เร้าใจกู” ผมว่าพร้อมยิ้มมุมปาก

   “สัส!! ถ้ามึงว่ากูเร้าใจมึงเมื่อไหร่ กูจะเลิกคบ เสียวเสียตูด” ไอ้เชี้ยแบตกวนตีนแล้วไง

   “กูก็ไม่รู้ว่ามึงเป็นไหม แต่ถ้าเป็นจริงมึงจะทำไง ตามจีบพี่เขาเหรอ”
ไอ้แบตถามสิ่งที่ผมก็ยังไม่รู้ครับ

   “เออ นั่นดิเอาไงดีวะ” ผมถามกลับอย่างไม่รู้จะเอายังไงดี

   “มึงตัดใจเถอะ พี่ตินณ์มีแฟนแล้วมึงก็รู้” ไอ้แบตพูดเรื่องที่ผมก็รู้อยู่แกใจดีครับ


   “แต่เพื่อนกูบอกว่า พี่ตินณ์ไม่ได้เป็นแฟนกับพี่วิวนะ”
ผมพูดถึงเรื่องที่ได้ยินมาว่าพี่ตินณ์ไม่ได้เป็นแฟนกับพี่วิว
พี่วิวนี่อยู่คณะบริหารหรืออะไรนี่แหละผมจำไม่ได้รู้อย่างเดียวว่าสวยซี๊ดส์ เปรี้ยวจี๊ดส์มาก

ถ้าผมต้องไปสู่คงแพ้ ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม หรือแพ้ตั้งแต่เกิดเป็นผู้ชายแล้วครับ



   “จะทำอะไรก็คิดดีๆก่อน ยังไงกูก็เป็นเพื่อนมึง 
บอกได้ เตือนได้แต่บังคับไม่ได้
ถ้ามึงชอบพี่เขาจริงกูคงไม่ห้ามแต่กูขอร้อง อย่าแย่งของใคร”
ไอ้แบตมันพูดสีหน้าจริงจังมากครับ
แต่ผมนึกว่ามันจะรับไม่ได้ซะอีก ดันรับได้ซะงั้น


   “อืม ขอบใจมาก กูเพิ่งรู้ว่าเลือกคบเพื่อนไม่ผิดตอนนี้เองว่ะ”
ผมบอกมันพร้อมยิ้มอย่างจริงใจสุดๆ

   “คบกู ก็เหมือนมีโครตเพรชเม็ดใหญ่อยู่ในมือ”  มันว่ากลับครับ


   “เออ กูจะรอดูว่าเพชรหรือกรวด”
ผมว่าก่อนลุกไปจ่ายเงินค่าข้าว แล้วมุ่งหน้ากลับห้องครับ

                           

 --- โปรดติดตามตอนต่อไป ---

 :katai5: :katai5:  กระดึ๊บๆมาอีกหนึ่งตอนจร้า
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาติดตามจร้า  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 3<< up 12/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 12-12-2013 19:34:56
น้องวีอยู่ห่างๆพี่ตินณ์ไว้นะจ๊ะ
แล้วจะดีเอง
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 3<< up 12/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ►MoNkEy-PrInCe◄ ที่ 12-12-2013 19:56:38
ใครเป็นพระเอกหว่า ลุ้นๆ   :confuse:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 3<< up 12/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 12-12-2013 21:48:17
วีโดนตลอด
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 3<< up 12/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 12-12-2013 21:56:37
เหอะๆ แบบว่าเมียพี่ตินณ์นั่นหนา ร๊อตไวเลอร์ยังหนีเลยนะ
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 3<< up 12/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: jj_girl ที่ 13-12-2013 00:30:38
นุ้งวี  เมียพี่ตินณ์ก็คือจุดใต้ตำตอนี่เองค่ะ

พี่แนะนำว่าให้วีตัดใจ ก่อนที่เจ้าของเค้าจะรู้ตัวนะคะ  พี่ห่วงกลัวว่าศพนุ้งวีกับตินณ์จะไม่สวย  เอิ๊กๆ
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 3<< up 12/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 13-12-2013 10:23:27
วีคับ เมียพี่ตินณ์โหด และโคตรขี้หึง
ระวังตัวไว้ให้ดี
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 3<< up 12/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: anuruk97 ที่ 13-12-2013 18:28:06
แล้วน้องวีวี่ของเจ๊จะได้คู่ใครว่ะเนี้ย 
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 3<< up 12/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 14-12-2013 01:28:35
อุ๊ย น้องวี
 :impress2:

ลป.ฉากในเรื่องเอามาจากมหาลัยติดทะลตะวันออกใช่มั้ยนิ  :hao6:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 3<< up 12/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 14-12-2013 01:39:23
อุ๊ย น้องวี
 :impress2:

ลป.ฉากในเรื่องเอามาจากมหาลัยติดทะลตะวันออกใช่มั้ยนิ  :hao6:


จุ๊ๆอย่าเอ็ดไป มันเป็นแค่จินตนาการขอรับ  555
เดี๋ยวถ้ามีรถ 2 บาทด้วยก็ใช่เลย คึคึ
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 3<< up 12/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D ที่ 14-12-2013 16:06:52
รอพระเอกออกโรงคร้าบบบ

นี้ถ้าพรตรู้เรื่องละก็เป็นเรื่องแน่ๆเลย ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 3<< up 12/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 14-12-2013 16:21:00
น้องวีให้ตอบใหม่ได้อีกครั้งนะ ว่ารักพี่ติณห์จริงๆ  กลัวว่าถ้าน้องรู้ความจริงแล้ว  น้องจะนอนสลบอยู่ตรงนั้นเลย  เพราะแฟนพี่ติณห์เค้า หึงแรงมากกกกกกกก
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 3<< up 12/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: muiko ที่ 15-12-2013 02:07:28
อ้าววีแอบชอบพี่ติณอีก
ที่มันก่อนหรือหลังพี่ติณเปนเเฟนกะพรตกันนะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 3<< up 12/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 15-12-2013 07:02:50
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 3<< up 12/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 15-12-2013 14:18:46
พี่ติณทำให้น้องวีเป็นเกย์
แต่เรื่องมันก็เกิดตั้งนานแล้ว
กรอนที่ติณจะมีพรตอีกนี่เนอะ
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 3<< up 12/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 15-12-2013 15:28:03
อุตะะะะะะะะ

หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 3<< up 12/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: toshika ที่ 15-12-2013 16:58:24
อุ๊ยเรื่องใหม่ ถุกใจอีกแล้ว นัองวีคะ อย่าเข้าใกล้พี่ติณเลยนะ ของเค่าแรงจริงอะไรจรืง โฮ๊ะๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 3<< up 12/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 15-12-2013 22:14:03
พระเอกเป็นอิตาพี่เทคป่ะเนี่ยยย 555

แสบมาก ให้ทุเรียนทั้งลูก คิดได้ นับถือโคตรรร
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 3<< up 12/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: rule ที่ 16-12-2013 01:27:23
ให้ทุเรียนไม่ว่าแต่ช่วยแกะมาให้ด้วย
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 3<< up 12/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: GintoniC ที่ 21-12-2013 05:52:22
วีคู่กับชิน(ใช่ไหม)
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 3<< up 12/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 21-12-2013 08:57:22
รออ่านนะครัช
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 4<< up 21/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 21-12-2013 13:19:51


ถ้าให้รักก็อย่าร้าย  ตอนที่ 4



“เฮ้ยไอ้วี...มึงอยู่ไหนวะไปแล้วเหรอ” ผมสะลึมสะลือมารับโทรศัพท์
ได้ยินเสียงเหมือนไอ้แบตเลยครับ

“ใครวะ” ผมถาม

“มึงยังไม่ตื่นเหรอ กูเคาะจนห้องจะพัง”
จำได้แล้วครับไอ้แบตแน่นอนแต่มันจะโทรมาทำไมวะ
ยังไม่เช้าเลย ผมมองนาฬิกาเพิ่งจะตี 4 เองครับ


“มึงโทรมาทำไมตอนนี้ กูจะหลับจะนอน” ผมบ่นมันครับ

“นอนเชี้ยไรล่ะ มึงต้องไปถือพานนะวันนี้ กูก็นึกว่ามึงไปแล้ว”
หลังมันพูดจบสมองผมประมวลผมอย่างไว ซวยแล้วไงครับ
วันนี้ผมต้องไปถือพานไหว้ครูทางคณะนัดเวลา ตี 4 ตอนนี้เลยมา5นาทีแล้ว

“เฮ้ย!! กูตายแน่มึงเอาไงดีวะ” ผมรีบลุก เข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้า
แต่ยังไม่ได้วางโทรศัพท์ครับ

“งั้นกูไปดูที่คณะก่อน มึงรีบตามไปเลยนะอย่างด่วน ไม่ต้องอาบแล้วน้ำ”

“เออ กูจะรีบตามไปถ้ารุ่นพี่ถามหากูบอกว่ารถติดนะ” ผมรีบบอกมันเลยครับ

“รถเชี้ยไรติดตอนนี้ แล้วมึงนะเดินเว้ย”

“เออๆ มึงจะบอกว่าอะไรก็เรื่องของมึง แต่เอาให้กูไม่โดนด่าแล้วกันแค่นี้ก่อนกูรีบ”
ผมพูดเสร็จรีบกดตัดสายเลย จากนั้นก็เอาน้ำราดตัวนิดหน่อย
สบู่อย่าพูดถึงแค่มองยังไม่ชายตาครับ พอแต่งตัวเสร็จผมก็รีบวิ่งออกจากหอทันที








 
ปรี๊นนนนน..............

เสียงแตรรถดังและยาวมาก ผมตกใจเสียงแตรเลยหันไปมองและผงะล้มลงกับพื้นถนน
รถยนต์ BMW คันงามไม่มีฝุ่นจับ มาหยุดใกล้ผมแค่คืบอีกนิดเดียวที่ทับแล้วครับ
ผมกำลังจะข้ามถนนเข้าไปในม. ด้วยความเร่งรีบทำให้ไม่ได้มองข้างทาง
แล้วก็เป็นจังหวะที่มีรถขับผ่านมาเกือบทับผมเป็นกล้วยปิ้งแล้วครับ


“เฮ้ย ข้ามถนนดูรถด้วยดิน้อง” เสียงคนขับเปิดกระจกตะโกนว่าผมครับ
ผมไม่โกรธนะก็ผมผิดจริง คนยิ่งรีบยิ่งซวยครับ
ผมลุกขึ้นเดินเข้าไปใกล้ฝั่งคนขับเพื่อจะขอโทษ
แต่แค่ผมเห็นคนขับเท่านั้นครับพูดอะไรไม่ออก


 “อ่าว น้องนั่นเอง” เสียงคนนั่งหลังพวงมาลัยทักผมก่อนเลย
จะดีใจดีไหมที่พี่เขาจำผมได้

“เอ่อ สวัสดีครับพี่ตินณ์” ผมทักพี่ตินณ์หลังจากหายตกใจ

“จะรีบไปไหนนักหนา ทีหลังข้ามถนนมองทางด้วยนะ”
พี่ตินณ์ว่าผมก่อนทำท่าจะออกรถ

“ผมขอโทษครับ  พอดีผมกำลังจะรีบเข้าไปในม.”

“วันนี้ถือพานใช่ไหม สายขนาดนี้ยังไม่ถึงอีก แก้ไม่หายจริงนะเรา 
ขึ้นมาเดี๋ยวพี่จะเข้าไปคณะเหมือนกัน” พี่ตินณ์พูดก่อนเรียกผมขึ้นรถครับ 
ผมได้ยินดังนั้นก็รีบเดินไปประตูรถอีกด้านอย่างเร็ว
กลัวพี่ตินณ์เปลี่ยนใจ นานๆจะได้มีโอกาสดีขนาดนี้
แต่สายตาผมก็ดันไปปะทะกับตุ๊กตาหน้ารถพี่ตินณ์ครับ
เป็นสาวสวยนามว่า พี่วิว
ผมเลยจำใจเดินไปเปิดประตูหลังแล้วเข้ามานั่งในรถ
เป็นบุญตูดมากครับในที่สุดผมก็ได้นั่งรถพี่ตินณ์แล้ว
แม้ว่าจะเป็นข้างหลังไม่ใช่ข้างคนขับแบบที่ผมอยากก็เถอะ


“เราชื่ออะไรนะ” เสียงพี่ตินณ์ถามผมครับ

“นาวีครับพี่ เรียกวีเฉยๆก็ได้ผมไม่ถือ”

“หึหึ” เสียงพี่ตินณ์หัวเราะสองหึแค่นั้นแล้วเงียบไป

“ตินณ์รู้จักน้องเค้าด้วยเหรอคะ” เสียงพี่วิวถามขึ้นมาบ้างครับ
เป็นเสียงหวานๆไม่เหมาะกับหน้าตาที่ดูเปรี้ยวๆเลยให้ตาย


“น้องที่คณะน่ะ” พี่ตินณ์ตอบแค่นั้นก่อนตั้งใจขับรถครับ
ผมก็ได้แต่นั่งสังเกตพี่ตินณ์และพี่วิวไปเรื่อยๆ
อยากรู้ว่าพวกเขาคบกันรึเปล่าครับ
แต่มาด้วยกันขนาดนี้คงคบกันไปถึงไหนๆแล้ว ผมคงต้องทำใจแล้วครับ


“เอ่อ พี่ตินณ์กับพี่วิวเป็นแฟนกันเหรอครับ”
อ่าวไหนว่าทำใจแต่ปากดันพาไป อยู่ๆผมก็ถามออกมาเฉยเลยครับ

“คิดว่าไง” พี่ตินณ์ถามผมกลับยิ้มๆครับ อย่าทำแบบนี้กูมีความหวัง

“เอ่อ ผมคิดว่าคบคงกันครับ มาด้วยกันแต่เช้าแบบนี้”
ผมก็ว่าตามที่คิดเลยครับ ไม่มีรักษามาดใดๆความเสือกชนะทุกสิ่ง


“หึหึ” พี่ตินณ์หัวเราะแค่นี้อีกแล้วครับ
ทำไมไม่ตอบอะไรให้มันรู้เรื่องบ้างวะ
แม่งเป็นภาระหัวใจ ถ้าใช่จะได้ตัดใจ ถ้าไม่จะได้รุกซะเลย





“น้องรู้จักพี่ด้วยเหรอคะ” พี่วิวถามผมบ้างครับ

“เอ่อ… ผมเคยได้ยินเพื่อนคุยกันนะครับ ก็พี่สวยขนานนี้”
ผมนี้ก็สกิวสตอได้เต็มเหมือนกันนะ

“เหรอคะ เพื่อนน้องตาถึงเหมือนกันนะนี่”
พี่วิวว่าแค่นั้นก่อนรถจะจอดเทียบหน้าคณะของพี่วิว
แล้วพี่แกก็เปิดประตูรถลงไปครับ
ก่อนลงมีจุ๊บแก้มพี่ตินณ์แล้วหันมายิ้มให้ผมด้วย โครตเจ็บครับ
แค่การกระทำคำพูดไม่ต้องรู้เลยครับสถานะของพี่วิวคงไม่ใช่เพื่อนธรรมดาแล้ว

“แล้ววิวจะโทรหานะคะตินณ์” พี่วิวบอกพี่ตินณ์ก่อนโบกมือลา

“ครับ” พี่ตินณ์รับคำก่อนออกรถ





“นายมาสายอีกแล้วนะ” พี่ตินณ์เริ่มว่าผมอีกแล้วครับ
ผมยังนั่งหลังเหมือนเดิมเพราะอีกนิดเดียวก็ถึงคณะผมแล้วเลยไม่ได้ย้ายนั่งหน้า
ใช่อยากเป็นคุณชายอะไรนะครับ


“เอ่อ... ขอโทษครับ ผมตื่นสาย”

“สายตลอดนะเรา” พี่ตินณ์ว่ายิ้มๆครับ
ไม่เห็นจะดุเหมือนตอนเข้าระเบียบเลย
เวลาพี่ตินณ์ยิ้มดูเทห์มากเลยครับ
ใจผมเต้นอีกแล้ว ทำไงดีพี่เขาจะได้ยินไหม


“ทำไมพี่ไม่ดุผมเหมือนตอนที่เข้าระเบียบล่ะครับ”
ผมถามพี่ตินณ์ในสิ่งที่ตัวเองสงสัย

“มันก็เป็นแค่หน้าที่ ถ้าตอนนี้พี่ก็อยากเป็นตัวเองบ้าง”
 
“ขอบคุณนะครับพี่ที่ไม่ดุผม เพราะผมรู้ว่าเข้าไปคงโดนหนัก”

“เตรียมตัวได้เลย วันนี้ไอ้ชินคงลงเต็ม พี่ไม่ได้ลงแค่มาดูเฉยๆ โชคดีนะ”
พี่ตินณ์บอกก่อนจอดรถหน้าคณะพอดี


“ครับ ขอบคุณที่มาส่งครับพี่”
ผมขอบคุณพี่ตินณ์ก่อนเปิดประตูลงจากรถแล้วรีบวิ่งเข้าคณะทันที
เรื่องหัวใจเอาไว้ที่หลัง ตอนนี้เอาเรื่องหัวกูก่อน
จะยังอยู่บนบ่าไหมก็ไม่รู้ครับ
แค่เดินเข้ามานิดเดียวก็เจอไอ้พี่ชินมารับผมที่หน้าคณะด้วยตัวเองเลยครับ
ทำไมถึงรู้ว่ามารับผมน่ะเหรอ ก็พี่ชินยืนจ้องผมยังกะจะแดกหัวขนาดนี้


“รู้ตัวไหมว่าสาย” เสียงดังมาก่อนเลยครับ
เก็บลำโพงไว้ในคอรึไงวะ จะเสียงดังไปไหนแต่เช้า

“รู้ครับ” ผมตอบ ก่อนสบตาสีดำวาวตรงหน้า
วันนี้พี่ชินแต่งชุกนักศึกษาเสื้อเชิ้ตขาว กางเกงสแล็กสีดำ
รองเท้าเงาวับจนส่องแทนกระจกได้เลยมั้ง
แถบผูกไทต์แบบที่ผมไม่เห็นครับ


“คนทั้งคณะรอนายคนเดียว ถ้าเพื่อนไม่บอกว่าป่วยคุณคงโดนหนักไปแล้ว
แต่ตอนนี้ขอติดไว้ก่อนรีบไปเอาพานแล้วมาขึ้นรถ” พี่ชินพูดอะไรวะ 
ใครป่วยผมไม่ได้ป่วยนะแต่ปล่อยให้พี่ชินคิดแบบนี้ไปก่อนก็ดีครับ
ผมจะได้ไม่โดนซ่อมแต่เช้า


“เอาพานแล้วขึ้นรถไปไหนครับ” ผมถามพี่ชินงงๆ

“ไปหอประชุมสิ คนอื่นเขาไปกันหมดแล้ว เหลือแต่นายนั่นแหละที่กว่าจะมาได้”
พี่ชินเริ่มบ่นอีกแล้วครับ ผมไม่น่าไปสะกิดต่อมคนแก่แกเลย


“ครับๆ ขอโทษครับเดี๋ยวผมไปเอาพานก่อนนะครับ”
ผมบอกพี่ชินเพื่อสะกัดกั้นการบ่นของแก
แล้วเดินเข้ามาเอาพานที่มีฝ่ายทำพานทำไว้ให้เมื่อคืน
ผมถือพานที่บรรจงตกแต่งอย่างสวยงามจนหนัก
ถ้าทำตกนผมต้องตายแน่เลยครับ
เกิดมาก็ยังไม่เคยถือกับเขาซักที
ผมออกมาก็เห็นพี่ชินยืนหน้าเป็นยักษ์อยู่ที่เดิม


“รถที่ชินคันไหนครับ” ผมถามก่อนมองหารถ

“คันนั้น” พี่ชินชี้ไปที่ไอ้เศษเหล็กก่อนเดินนำไปที่มันจอดไว้ครับ
เป็นมอไซด์ห้างเก่าๆ ถ้าผมเห็นที่อื่นคงคิดว่ามันเอาไว้ปลูกสาหร่าย
หรือมีไว้ให้สนิมขึ้นอย่างเดียวแต่พอพี่ชินชี้ไป แปลว่ามันคงยังใช้การได้

แต่พี่ชินทำลายความคิดของผมมากเลยครับ
เห็นแต่งตัวเนี๊ยบขนาดนี้นึกว่ามีรถหรู สมหน้าตา
ดันมาเป็นไอ้เศษเหล็กช็อคอึ้งเลยผม
แล้วให้ผมถือพานซ้อนท้ายไอ้นี่ไป
ไอ้ที่เขาตกแต่งไว้มันจะปลิวหายระหว่างทางไหม
ผมมองรถแล้วสงสัยสองคนมันจะหักกลางไหมวะ




“พี่คันนี้จริงดิ” ผมลองถาม เผื่อเข้าใจผิดครับ

“เออ คันนี้แหละมาเร็วๆ” พี่ชินพูดเสร็จขึ้นคร่อมไอ้เศษเหล็กทันทีครับ
ก่อนติดเครื่องไม่ต้องใช้กุญแจด้วยครับ แม่งดีเวอร์

“แล้วพานผมจะพังไหมพี่ ถ้าไปคันนี้”

“รถมันคงไม่เร็วจนทำให้พานปลิวได้หรอกนะ” พี่ชินว่า

ผมยืนลังเลไม่นานก่อนรีบวาดขาขึ้นซ้อนท้าย
ตอนขึ้นนั่งได้ เศษเหล็กที่ตูดมีเสียง
เอี๊ยดอ๊าดเหมือนสนิมมันเสียดสีกันด้วยนะครับ
บาดทะยักมันจะขึ้นตูดผมไหม



ผมแอบคิดวันนี้มันเป็นวันอะไร
เดี๋ยวก็มีเรื่องซวยเรื่องดีสลับกันตลอด ตั้งแต่เกือบโดนรถชน
แต่ดันเป็นรถของพี่ตินณ์สุดเลิฟของผม
แถมได้นั่ง BMW ให้เป็นบุญตูด 
แต่ไม่นานผมก็มาเสียความฟินให้กับไอ้เศษเหล็กของพี่ชิน
รถแล่นอย่างชิวมากครับไหนว่ารีบไงวะ
ผมเห็นสองข้างทางยังมีนักศึกษากำลังเดินไปที่หอประชุมเหมือนผม
เพราะการแต่งตัวถูกระเบียบกันสุดๆแบบที่ไม่เคยเป็น
เวลาผมผ่านก็จะมีคนหันมามองตลอดครับ
เพราะเสียงไอ้เศษเหล็กนี่ดังเรียกความสนใจคนมาก




“พี่มันจะพาเราไปถึงหอประชุมไหม”
ผมถามพี่ชินหลังจากรู้สึกว่ารถมันเริ่มกระตุก

“ถึงดิ มันแค่ไอ เช้าอยู่มันคงหนาว”
รู้สึกว่าพี่ชินจะเข้าใจในเศษเหล็กนี่ดีเกินไปนะ
ผมไม่รู้จะพูดอะไรได้แต่นั่งนิ่งๆตัวเกร็ง ถือพานในมือต่อไป
แล้วไอ้ทางในม.นี่ลูกระนาดจะเยอะไปไหนวะ 
เวลารถขึ้นแล้วลงมาทีนี่ตัวผมห็เลื่อนไปติดกับไอ้พี่ชินเรื่อยๆ 


ใช้เวลาซักพักและแล้วก็มาถึงหอประชุมที่ทำพิธีไหว้ครูครับ
ดีนะที่ถึงก่อนที่ผมจะได้เสียเป็นผัวเมียกับพี่ชิน
ก็พอรถลงลูกระนาดสุดท้ายนมแบนๆของผมแนบไปกับหลังพี่ชินเลยครับ
ผมจะกระเทิบไปข้างหลังก็ไม่ได้เพราะมือถือพาน
ถ้าเขยิบกลัวรถจะเสียการทรงตัวแล้วล้มครับ
ดีนะที่ผมเป็นผู้ชายถ้าเป็นผู้หญิงจะคิดว่ามันตั้งใจหาเรื่องแนบชิดกันแล้ว
ไม่คิดว่ารีบนี่ผมเดินเอาแล้วนะครับ

“ ไปนั่งรอกับเพื่อนก่อน อีก 20 นาทีจะเรียกตัวแทนเพื่อรวม”
สั่งเสร็จเดินสะบัดตูดไปเลยครับ

เชี้ยมาก ถ้าอีก 20 นาทีแล้วจะเร่งผมทำไมนักหนาวะ
ผมคิดอย่างโมโหก่อนเดินไปตรงจุดที่เห็นไอ้แบตกับลูกแพรอยู่ครับ


“วี มาสายอีกแล้วนะ แพรนึกว่าต้องเปลี่ยนคนซะแล้ว”
ลูกแพรฉะผมทันทีที่เห็นหน้าผมเลยครับ

“ขอโทษคร๊าบบ วีไม่ตื่นเองเหละ เกือบได้เปลี่ยนจริงถ้าไอ้แบตไม่โทรไปตาม”

“ กราบขอบคุณกูซะ” ไอ้แบตพูดหน้านิ่งกวนตีนได้อีกครับ

“ตีนดิ” ผมตอบก่อนยักคิ้วกวนตีน
วันนี้ลูกแพรแต่งตัวเรียบร้อยพอๆกับผมและไอ้แบตครับ
แต่มีทำผมสวยด้วยเอาเวลาที่ไหนไปทำกันนะ
ผมนี่แค่อาบน้ำยังแทบไม่ทัน



“กูอุตสาห์ช่วยให้มึงไม่โดนด่านะเว้ย” ไอ้แบตยังทวงไม่เลิกครับ

“เออ กูกำลังจะถามพอดี ว่ามึงบอกพี่เขาว่าอะไรวะกูถึงไม่โดนซ่อม”

“หึหึ กูก็บอกแค่ว่ามึงท้องเสีย ขี้แตกอยู่เดียวตามมา
ตอนแรกพี่ชินก็ไม่เชื่อนะ แต่พอกูบอกว่ามึงเป็นคนที่มีปัญหากับเรื่องขี้ๆเสมอ
พี่ชินดันเชื่อเลยเว้ย” ไอ้แบตแม่งโม้ป่าววะ

“จริงเหรอวะ” ผมไม่อยากจะเชื่อว่าพี่ชินจะไม่ซ่อมผมด้วยเรื่องโกหกแค่นี้

“เออดิ” ไอ้แบตตอบแค่นั้นครับ

ผมจะได้ยินเสียงเรียกตัวแทนถือพานของแต่ละคณะ
ให้ไปซ้อมถือพานบนเวทีจริงก่อนงานเริ่มตอน8โมง
คือมันจะซ้อมกันเร็วไปไหนวะ7 โมงผมว่ายังทันเลย


“ไปแพร รุ่นพี่เรียกแล้ว
ถ้าวันนี้วีทำพานล้มไม่ต้องแปลกใจนะ ตอนนี้ยังง่วงอยู่เลย”
ผมบอกลูกแพรยิ้มๆครับ

“แพรก็ง่วงเหมือนกันเลยวี ตื่นตั้งแต่ตี2ไม่รู้จะนัดทำไมเร็วขนาดนี้”
ลูกแพรก็เริ่มบ่นเหมือนกันครับ

“คงไม่ใช่นัดเผื่อวีสายนะ” ผมพูดเล่นๆก่อนหัวเราะครับ

“หรือว่าเป็นเรื่องจริง” อ่าวเอาแล้วไง
ตอนนี้หน้าลูกแพรคือกำลังคิดจริงๆแล้วครับ

“วีล้อเล่นนะ อย่างจริงจังดิครับ”

“อ่ะคะ คุณชายสายเสมอ”
แพรว่าก่อนเดินนำแล้วทิ้งไอ้แบตไว้กับเพื่อนในคณะคนอื่นครับ

หลังจากซ้อมเดินถือพานเสร็จก็นั่งรอเวลาเป็นชั่วโมงก่อนจะเริ่มพิธีจริง
พอเริ่มเท่านั้นครับทุกอย่างดูมีมนต์ขลังให้ดูศักดิ์สิทธิ์
การเข้าร่วมพิธีไหว้ครูถือเป็นสิริมงคลของการเรียนเลยนะครับ
ถ้ามีโอกาสถึงมันจะใช้เวลานานแต่ผมแนะนำเลยว่าให้เข้าร่วมพิธีเถอะครับ


และแล้วกว่าจะครบทุกคณะทุกเอกก็ใช้เวลาทั้งวันครับ
 ผมทั้งเหนื่อยทั้งหิวทั้งง่วงทุกความรู้สึกเลยตอนนี้

“แพรกลับบ้านเลยไหม” ผมถามลูกแพรหลังจากเดินออกจากหอประชุม
ตอนนี้คนเยอะมากครับ วุ่นวายไปหมดผมยังหาไอ้แบตไม่เจอเลย

“คงกลับเลยนะ แพรไม่ไหวแล้วปวดแขนไปหมด
ไม่รู้เอาอะไรใส่ในพานให้แพรถือ” ลูกแพรตอบยิ้มๆก่อนบ่นครับ 
ผมลองถือแล้วของแพรหนักกว่าผมเยอะครับ
ที่จริงผมก็สลับกับแพรถือนะ
ก่อนที่จะถึงอาจารย์แต่ของผมก็หนักเหมือนกัน
ถ้าให้ผู้หญิงตัวเล็กๆเป็นคนถือ

“งั้นแยกตรงนี้เลยแล้วกัน เดี๋ยววีไปตามหาไอ้แบตก่อน”
 
“โอเค  เจอกันวันพรุ่งนี้”
แพรว่าก่อนเดินแยกไปอีกทาง
สงสัยนัดคนขับรถที่บ้านมารับแล้วครับ



ผมเดินตามหาไอ้แบตนานมากก็ไม่เจอ
คนก็เยอะเป็นกองทัพ ไม่รู้จะไปตามตรงไหนเลยครับ
ก่อนแยกกันเมื่อเช้าก็ลืมนัดว่าเสร็จแล้วเจอกันที่ไหน


“อ่าวกำละงวีหาใคร” เสียงทักผมดังมาจากกด้านหลัง
ช่วงนี้ผมเป็นที่รู้จักของคนทั้งคณธแล้วครับ
ใครๆก็รู้จักผมทั้งๆที่ผมไม่ค่อยรู้จักใคร
ที่มีคนรู้จักผมก็เพราะต้องโดนซ่อมบ่อยๆจนเป็นที่กล่าวขานตำนานน้องปี1
นั่นแหละครับสาเหตุของคนดัง

“หวัดดีครับพี่โย พอดีผมกำลังมองหาเพื่อนครับ”
ผมทักพี่โยทันทีที่หันไปเจอ

“พี่ก็กำลังหาไอ้ชินเหมือนกัน  ว่าแต่เพื่อนเราใครล่ะ เผื่อพี่รู้จัก”
พี่โยถามผมอย่างใจดี ว่าที่พี่เทคผมก็ต้องดูแลผมเป็นธรรมดาครับ

“ไอ้แบตน่ะพี่ ไม่รู้มันอยู่ไหน” ผมตอบก่อนชะเง้อคอมองหาต่อ

“ไม่ลองโทรหามันดูล่ะ” อ่าว ผมก็โง่อยู่ตั้งนานลืมว่ามีโทรศัพท์ครับ
จริงๆผมไม่ค่อยได้ใช้บางทีก็ลืมๆไปว่ามีมันอยู่
ผมยิ้มเขินๆก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาไอ้แบต

“มึงอยู่ไหน”ผมถามทันทีหลังมันรับสาย

“กูออกมาแล้ว กูหามึงไม่เจอเลยขี้เกียจหา เจอที่ห้องนะมึง”

“ห่าห์ ให้กูตามหาตั้งนาน” ผมอวยพรนิดหน่อยก่อนบ่ น

“โทดทีว่ะ กูรีบมานอน”

“เออ เดี๋ยวเจอกันกูจะไปเตะมึงถึงห้องเลย เสือกชอบทิ้งกูนัก”
ผมว่ามันก่อนวางสายครับ



“แล้วพี่โยเจอพี่ชินหรือยังครับ” ผมถามพี่โยบ้างหลังจากวางสายจากไอ้แบต

“ไม่เจอเหมือนกัน สงสัยมันออกไปแล้ว  อ่ะ”
พี่โยว่ายิ้มๆก่อนยื่นอมยิ้มมาให้ผมครับ

“อะไรพี่ ให้ผมเหรอ” ผมถามงงๆครับ ปกติก็ได้ทุกวัน
แต่วันนี้ไม่ได้เข้าเชียร์เลยไม่คิดว่าจะได้อีกครับ

“อืม มันเป็นของเรา รับไปดิ”
พี่โยพูดเสร็จพร้อมเร่งให้ผมรับอมยิ้มในมือ


“พี่ให้เองหรือใครฝากมา” ผมถามอีกครั้ง

“ไม่ต้องรู้หรอก แค่รู้ว่ามันเป็นของวีก็พอ” พี่ชินก็ยังไม่ยอมตอบ
แถมเอาอมยิ้มมายัดใส่มือผมด้วยนะครับ

“ถ้าไม่บอกไม่เป็นไรครับ งั้นฝากไปบอกคนให้ด้วยว่า
ฟันผมจะผุหมดแล้วตั้งแต่ดูดอมยิ้มที่ได้มา”
ผมว่าพร้อมยิ้มเต็มหน้าแล้วหยิบอมยิ้มยัดลงกระเป๋าเสื้อด้านซ้าย

“อืมเดี๋ยวพี่บอกให้ครับ”

“พี่โย เป็นพี่เทคผมป่าวเนี๊ยะถามจริง” ผมลองถามดูครับเผื่อใช่

“โอ๊ย!! ไม่ใช่หรอกครับ ก็พี่มันคนไม่หล่อ” พี่โยรีบปฏิเสธทันที
อย่างพี่โยไม่หล่อแล้วใครหล่อวะ
แต่คนเป็นพี่เทคเวลาถามเขามักจะปฏิเสธไว้ก่อนจริงป่าว

“ครับๆ ไม่ใช่ก็แล้วไป ถ้าใช่ผมจะได้เตรียมใจ ฮ่า ฮ่า”
ผมพูดเสร็จหัวเราะอย่างมีปริศนา

“พูดงี้หมายความว่าไงน้องวี”

“ไม่มีอะไรครับ หึหึ” กวนตีนซ้ำอีกนิด

“อีกไม่นานก็รู้แล้ว อดใจหน่อยนะ เตรียมตัวซ่อมไว้ด้วยถ้าทายผิด”
เอาแล้วไงครับขู่ผมแล้ว

“คนฉลาดชาติเจริญอย่างผมไม่มีผิดครับเพ่” ผมรีบพูดข่มทันที

“เออ พี่จะรอดู งั้นพี่ไปแล้ว”

“ครับ หวัดครับเพ่” ผมบอกลาพี่โย แล้วแยกย้ายกัน






“เก็บบอลให้หน่อยครับพี่” ผมกำลังจะเดินไปทางหน้าม.
แต่ระหว่างทางก็ผ่านสนามบอล
อยู่ๆก็มีลูกบอลกลมๆกลิ้งหลุนๆมาตรงหน้า
แล้วตามด้วยเสียงคนตะโกนให้ผมช่วยเก็บบอล
ผมเงยหน้าจากลูกบอลขึ้นไปมองคนตะโกน
แม่งหน้าแก่กว่าผมอีกเสือกเรียกผมว่าพี่
จะเก็บให้มันดีไหมวะ



“รับนะ” ผมบอกคนที่ขอร้องให้ช่วยเก็บ

“ครับเตะมาเลย” ผมกำลังจะก้มเก็บ
แต่พอได้ยินแบบนั้นผมก็เปลี่ยนใจเตะแทนครับ






เพล้ง!!!..................


เฮ้ยย!!!!!...................


เสียงผมและเสียงไอ้คนที่ตะโกนให้ผมช่วยเก็บลูกบอล
จากในสนามดังขึ้นพร้อมกันครับ
ตอนนี้สายตาคนในสนามมองมาที่ผมเป็นจุดเดียว
วันนี้ผมคงยังซวยไม่ถึงที่สุดครับ
ก็ไอ้ลูกบอลที่ผมเตะไป มันดันไม่ไปทางที่ผมต้องการ
แต่ดันไปอีกทางและไปตกลงที่กระจกหน้ารถคันหนึ่งที่จอดไม่ไกล
พร้อมด้วยเศษกระจกที่แตกกระจาย

ผมนี่เหงื่อเริ่มไหลแล้วครับ ทำไมวันนี้ถึงซวยขนาดนี้
ถ้าตอนแรกหยิบแล้วโยนให้ก็ไม่เป็นแบบนี้แล้วนะ
รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองเตะบอลไม่เป็นยังเสือกจะเตะ
กูถึงเกลียดไอ้ลูกกลมๆนี่แม่งไม่เคยไปทิศทางที่กูอยากให้ไป
พาลครับพาล



“เฮ้ย!! ใครทำรถกูวะ” โจทย์มาแล้วครับ
จำเลยยังไม่ทันหนี แม่งก็มาไวเกิน
ผมหันกลับไปมองตามเสียงด้านหลังเป็นไอ้พี่ชินครับ

โอ๊ย! อะไรจะซวยขนาดนี้วะ

“ผะ..ผมเองครับพี่” ผมค่อยๆตอบ

“ไอ้เด็กเวรนี่เอง มึงรู้ไหมรถกูราคาเท่าไหร่”
เอาแล้วไงครับ พี่เพ่อไม่ต้องแล้ว
ขึ้นกูมึงเรียบร้อยงานนี้ผมเละเป็นโจ๊คแน่ๆ

“เอ่อ ผมขอโทษครับพี่
ผมจะชดใช้ค่าเสียหายให้ทั้งหมดเลยนะครับ”
ผมรีบพูดก่อนจะไม่มีสิทธิ์ได้พูด

“ไม่ต้องกลัวนายได้รับผิดชอบแน่ๆ” เสียงพี่ชินดูน่าขนหัวลุกมากครับ
ยิ่งมองหน้าผมรู้เลยว่าชะตาขาดแล้วครับ เหมือนเห็นยมฑูตกวักมือเรียกอยู่ไกลๆ

--- To be Con.---


จบอีกหนึ่งตอนค่ะ ขอโทษค่ะช่วงนี้เมจิกอัพช้าเพราะติดสอบ
แต่ตอนนี้มีเวลาแล้วจะพยายามลงให้บ่อยกว่านี้นะคะ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและเป็นกำลังใจให้เมจิกค่ะ
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 4<< up 21/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 21-12-2013 14:14:11
ความซวยมาเยือนแล้ววี รถพี่ชินด้วย
เท้าแม่นจริงๆ
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 4<< up 21/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: jj_girl ที่ 21-12-2013 15:55:33
วีเอ้ยยยยยยยยยย

ชินให้วีชดใช้ให้หนักเลยนะจ้ะ  อิอิ
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 4<< up 21/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 21-12-2013 17:02:52
ความซวยไม่เข้าใครนอกจาก"นาวี" 5555
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 4<< up 21/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: toshika ที่ 21-12-2013 17:13:56
น้องวี งานงอก5555
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 4<< up 21/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 21-12-2013 18:55:02
น้องวีคนนี้เอง ตัวปัญหาของเรื่องโน้น อิอิ
เพิ่งได้ตามมาอ่านค่าา >.<
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 4<< up 21/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 21-12-2013 19:27:34
ซวยจริงๆ 555
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 4<< up 21/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 21-12-2013 19:39:01
แอบหมั่นไส้นุ้งวี :ruready
โทษฐานที่ทำให้พี่ตินณ์พรต(เรื่องโน้น)ทะเลาะกัน
รอให้คุณเมจิกไปเคลียร์ปั๋วเมียคู่นั้่นให้ลงตัวก่อน
แล้วจะกลับมาอ่านเน้อออออ :z2:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 4<< up 21/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: -i z e l i z e- ที่ 21-12-2013 21:12:13

งานงอกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 4<< up 21/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 21-12-2013 22:41:28
 :m20:  ซวยอีกแล้ววววว
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 4<< up 21/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D ที่ 21-12-2013 23:17:28
อะไรคือความซวยซับซ้อน กร้ากกกกก
สงสารวีจริงๆอ่ะ
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 4<< up 21/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 22-12-2013 18:58:56
สงสัยน้องวีลืมดูดวงวันนี้มา  ต้องบอกว่าซวยตั้งแต่ตื่นนอนเลย แถมตอนซวยแต่ละครั้งจะต้องมีพี่ชินเป็นโจทก์อยู่ตลอด

ว่าแต่พี่ชินจะให้วีรับผิดชอบยังไง
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 4<< up 21/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 22-12-2013 22:21:28
บทพระเอกคนเขียนยื่นให้ใครเหรอครับ? :m28:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 4<< up 21/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 22-12-2013 22:24:52
ซวยยยยยยย จ้า วี
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 4<< up 21/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 23-12-2013 14:53:47
พระเอกเนี่ย  ชิน ป่ะ??   :ling1:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 4<< up 21/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 23-12-2013 16:20:52
สงสัยคู่เวรคู่กรรม
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 4<< up 21/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 23-12-2013 18:51:06
ได้ผัวมาชดใช้แน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 4<< up 21/12/2013 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: nada_dadida ที่ 25-12-2013 23:14:18
ตามวี มาจากเรื่อง ตินณ์-พรต  :กอด1:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 5<< up 27/12/2013 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 27-12-2013 20:59:36

ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 5


“พี่ครับ ผมผิดเองที่ให้พี่เขาช่วยเก็บบอล”
ไอ้คนที่ยื่นความซวยมาให้ผมพูดแทรกขึ้นมาบ้างครับ

“น้องไม่ผิดหรอก ไอ้คนเตะนี่แหละผิด” พี่ชินพูดเสียงเย็นเลยครับ
ผมคงไม่รอดแล้วล่ะ ช่วยใส่บาตรกรวดน้ำให้ผมด้วยนะครับเผื่อที่บ้านจะไม่มีใครรู้


“ผมเตะเองเดี๋ยวผมรับผิดชอบเองครับ  ไม่ต้องห่วง”
ผมหันไปบอกไอ้คนยืนใกล้ๆ

“แน่ใจนะครับว่าไม่ให้ผมช่วย”
มันยังถามกลับมาอีกนะ เดี๋ยวกูก็เปลี่ยนใจซะเลย

“แน่ใจครับ” ทำไมกูตอบเสียงสั่นๆวะ
แล้วสายตาพี่ชินคือมึงจะกินหัวกูหรือไงครับ
ไม่อร่อยหรอกนะบอกไว้ก่อนเลย
บางทีอาจมีเหาด้วยไปกินคนอื่นดีกว่าไหม 



มองเลยไปที่รถแม่งก็บอบบางจริงแค่โดนลูกบอลแค่นี้ดันแตก
ถ้าสังเกตดีๆคือมันไม่ได้แตกเยอะนะครับ
แตกนิดเดียวแต่ร้าวทั้งแผง สรุปมันก็ต้องเปลี่ยนนั่นแหละ
ผมจะมาอธิบายทำไมวะ


“นายไปเตะบอลต่อเถอะ” พี่ชินบอกไอ้หนุ่มนักเตะครับ
ไอ้นั่นก็หันมามองผมนิดนึงก่อนวิ่งกลับเข้าสนาม
ปล่อยผมเผชิญชะตากรรมคนเดียว


“ค่ากระจกเท่าไหร่ครับเดี๋ยวผมจ่ายให้”
ผมบอกพี่ชินอย่างป๋ามากครับ แต่มือนี่ชื้นเหงื่อกันเลย


“มึงจ่ายไหวเหรอ ค่ากระจกรถกูเกือบแสน
ไม่ใช่อะไรก็ได้ จะมีของหรือป่าวกูยังไม่รู้เลย”
พี่ชินยังไม่ลดอารมณ์โกรธลงเลยครับ
สงสัยจะรักรถมาก ผู้ชายสมัยนี้แม่งรักรถยังกะลูกกะเมียกันทุกคน
แล้วเป็นแสนกระจกหรือเพชรวะแพงชิบหาย กูจะเอาเงินที่ไหนล่ะ



“แล้วนี่รถพี่จริงหรือป่าวเมื่อเช้ายังขับไอ้เน่าอยู่เลย”
ผมถามถึงรถเศษเหล็กของแกที่เอามาให้ผมซ้อน
แต่พอเย็นดันมี BMW รุ่นใหม่เงาวับขนาดนี้จะเชื่อดีไหม
ไปยืมของใครมาขับแล้วตู่ว่าเป็นของตัวเองป่าวเห่อะ


“เมื่อเช้าของเพื่อนกูแต่คันที่มึงเพิ่งทำกระจกแตกน่ะของกู”



“ผมขอผ่อนจ่ายได้ไหม” ลองพูดดีๆดูก่อนครับ แกจะได้ใจเย็นๆ

“ตอนมึงเตะใส่ มึงค่อยๆเตะหรือป่าวล่ะ”
กูพูดดีแล้วแม่งยังกวนตีนกูอีกเดี๋ยวชิ่งซะเลย

“ผมไม่มีจ่ายหรอกเยอะขนาดนั้น” ผมบอกเลยครับ

“กูรู้ตั้งแต่มึงอ้าปากแล้ว”

“แล้วจะให้ผมทำไง” ผมถามอย่างเริ่มทนไม่ไหว


“อย่างมึงมีประโยชน์อะไรกับกูบ้างวะ” พี่ชินพูดแล้วทำท่าคิด
หน้าตาท่าทางถึงจะหล่อ แต่กวนตีนมากครับ
ถ้าไม่ใช่รุ่นพี่คงมีเรื่องไปแล้ว


“ผมไม่มีประโยชน์หรอก เอาเป็นว่าผมจะทยอยหาเงินมาคืนแล้วกันครับ”
ผมพูดเสร็จทำท่าออกเดินเลย คนยิ่งง่วงๆวันนี้ก็ดันมาเจอแต่เรื่องซวยๆตลอด


“นายจะหนีไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น” 
พี่ชินเดินมาขวางหน้าผมไว้แล้วพูดเสียงดังเลยครับ

“แล้วพี่จะให้ผมทำไงครับ” ผมถามอีกครั้ง

“มึงต้องทำตามที่กูสั่ง เพื่อเป็นค่าเสียหาย”
พี่ชินก้มหน้าลงมาพูดใส่หน้าผมเลย
หน้าดูร้ายๆ เหมือนตัวโกงช่องหลายสี

“แล้วผมต้องทำนานไหม” ผมถามก่อนครับ
เดี๋ยวเสียเปรียบ แม่สอนมาดีว่าอย่าให้ใครเอาเปรียบเราได้ หึหึ


“แล้วแต่กูพอใจ เบื่อเมื่อไหร่ก็เลิก”

“งั้นผมไม่ทำ พี่ไปแจ้งความเอาแล้วกัน”
ผมบอกปัดๆแบบไม่อยากสนใจ
แม่งไม่มีระยะเวลาถ้าให้ทำทั้งชีวิตผมก็ขาดทุนดิ เรื่องอะไรจะยอม




“มึงกล้าขัดคำสั่งกูเหรอ” พี่ชินเสียงดังขึ้นมาอีกแล้วครับ
คิ้วนี่ก็จะชนกันไปไหนนักหนา
หน้าบึ้งแก่เร็วนะผมอยากจะเตือนไว้แต่นี่คงยังไม่ใช่เวลา


“ก็มันไม่ยุติธรรม จะให้ผมทำได้ไง
เอาแบบนี้ไหมพี่ใช้ผมครั้งนึงผมคิดร้อยนึง
ผมจะยอมให้พี่ใช้จนกว่าจะได้หนึ่งแสนครบเมื่อไหร่หนี้ที่มีจบกัน”
ผมว่ากลับพร้อมเสนอทางเลือก


“ไม่เยอะไปเหรอวะ ตั้งร้อยนึง”

“ไม่ผมคิดราคานี้ ค่าตัวผมแพง”

“เออ ดีกว่ากูไม่ได้อะไรเลย แต่ถ้ามึงทำไม่ดีกูจะคิดเพิ่ม”
ในที่สุดพี่ชินก็ตกลงครับ ยอมซะตั้งแต่บอกจะจ่ายผ่อนให้ก็หมดเรื่อง
แต่ผมว่าแกคงอยากแกล้งผมมากกว่าเลยไม่ยอมรับข้อเสนอ


“เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลยแล้วกัน กูจะกลับบ้านแต่รถพังจะกลับได้ไง”

“ผมจะไปรู้พี่เหรอ ถ้าคิดไม่ได้ก็เดินไปแล้วกัน”
ผมพูดแบบไม่สนใจแล้วออกเดินเลยครับ ถือว่าการเจรจาสำเร็จ

“ มึงไปเรียกแท็กซี่มาให้กูดิ”

“ห๊ะ!!  แล้วพี่ไมไม่ไปเรียกเอง”

“มึงนี่ลืมไวดีนะ กูให้เวลาแค่สิบห้านาที
ถ้าแท็กซี่ไม่มาจอดตรงหน้ากู เงินต้นเป็นหนึ่งแสนหนึ่งร้อย”
พี่แกพูดเสร็จเดินไปหยิบของในรถ
แล้วยืนพิงจ้องนาฬิกาข้อมือ เริ่มจับเวลาเลยครับ


“เหลืออีก 13 นาที”

“เฮ้ย!! อย่าเพิ่งนับดีพี่ทางตั้งไกล” ผมว่าเสร็จออกวิ่งเลยครับ
กว่าจะถึงหน้าม.ที่มีแท็กซี่ผ่านกูตับแล๊บก่อนป่าววะ
แล้วผมก็วิ่งสุดฝีตีน มาเรียกแท็กซี่เข้าไปรับไปพี่บ้านั่นได้ทันพอดีครับ
พอแท็กซี่วนออกทางหน้าม.ผ่านจุดที่ผมยืนหอบอยู่
ไอ้พี่ชินแม่งยิ้มร้ายเยาะเย้ยผมด้วยนะ







“มึงไปไหนมาวะ ทำไมกลับช้า”
ผมมาถึงห้องได้ไม่นานไอ้แบตก็เปิดประตูห้องเข้ามาถามครับ

“มึงทิ้งกูดิ ดันเจอแต่เรื่องซวยๆ”

“ซวยไงวะ” ไอ้แบตรีบถามด้วยความสนใจทันทีครับ

“อยากรู้ไหม ถ้าอยากรู้กูไม่บอก” ต้องเล่นตัวหน่อยครับ

“กูไม่อยากรู้แล้ว มึงอย่าเผลอเล่าแล้วกัน”
มันว่าพร้อมเดินไปกดเปิดทีวีห้องผมครับ
ผมเพิ่งซื้อมือสองมาจากเพื่อนในเอก
พอดีมันซื้อใหม่แล้วเครื่องนี้ประกาศขายผมเลยไปหักคอมาในราคาเบาๆ

“เออ อย่ามาถามกูแล้วกัน” ผมว่ากลับพร้อมเดินไปถอดเสื้อ อาบน้ำครับ
เอาความซวยออกจากตัวซะหน่อยเผื่อจะดีขึ้น



“มึงยังไม่กลับห้องอีกเหรอวะ”
ผมถามไอ้แบตหลังออกมาจากห้องน้ำยังเจอมันนอนอืดอยู่บนเตียง
“กูรอมึงไปแดกข้าว กูหิว” มันพูดพร้อมลุกจากเตียงมากดปิดทีวี
“เออกูก็หิว ไส้จะขาด ป่ะ” ว่าเสร็จผมเดินนำมันออกจากห้อง
แล้วเราก็ไปกินข้าวแถวหอ
ก่อนผมจะกลับมาเล่นเกมส์ที่ห้องมันต่อ
จนลืมเล่าเรื่องที่ผมไปเตะบอลใส่รถพี่ชินให้ไอ้แบตฟัง











ตี๊ดๆ ตี๊ดๆ


เสียง SMS โทรศัพท์รุ่นน้องโบผมดังขึ้น ผมเลยหยิบมาดู
ปกติไม่ค่อยมีคนส่งหาผมหรอกครับ
เพราะเป็นที่รู้กันว่าส่งให้ตายผมก็ไม่ตอบกลับ ก็มันเปลืองเงินนิครับ

- กูหิวน้ำ ภาคไฟฟ้าให้เวลา 15 นาที –

ผมเปิดข้อความขึ้นมาเป็นเบอร์แปลก
แต่พออ่านแล้วรู้เลยครับเจ้านายผมเอง
แม่งหิวน้ำแต่ตีนจะเดินไปแดกไม่มีไงวะ
แล้วเป็นอะไรกับเลข15มากไหมให้เวลากู 15 นาทีอีกแล้ว
ไม่ถามเลยว่ากูอยู่ไหน ผมก็บ่นไปอย่างนั้นเองแหละครับ
แต่ขากำลังพาผมวิ่งไปศูนย์อาหารซื้อน้ำแล้ว


“ นี่ครับ 10 นาที ไม่เกิน” ผมยื่นน้ำแป๊บซี่ให้พี่ชิน
ที่ตอนนี้นั่งกระดิกตีนรอผมอยู่หน้าตึกภาคไฟ

“ใครบอกมึงว่ากูจะกินแป๊บซี่” เอาแล้วไง

“มันมีอย่างเดียว กินๆไปเถอะพี่” ผมรีบบอกเลยครับ

“ไม่เอากูจะกินน้ำเปล่า มึงไปซื้อมาใหม่” 
สั่งไม่ดูกูที่หอบลิ้นห้อยเลยนะครับคุณพี่

“งั้นเอาคืนมา ผมจะไปซื้อให้ใหม่”
ผมยื่นมือออกไปเพื่อจะรับแป๊บซี่คืน

“กูไม่คืน มึงรีบไปซื้อน้ำมาเร็วๆ”
พี่ชินพูดพร้อมชักมือที่ถือกระป๋องน้ำแป๊บซี่หลบ

“อะไรวะ” ผมบ่นกับตัวเองเบาๆแล้วออกเดินตรงไปที่ศูนย์อาหารอีกครั้ง
แล้วไม่นานผมก็วิ่งกลับมาด้วยอาการลิ้นห้อย
โครตเหนื่อยครับศูนย์อาหารกับภาคไฟไม่ใช่ใกล้ๆนะครับ
วิ่งบ่อยๆที่ผอมเลย พอผมมาถึงที่เดิมก็ไม่เห็นพี่ชินนั่งอยู่แล้วครับ
มองไปรอบๆก็ไม่เห็นใคร ผมเริ่มลังเลว่าจะเอายังไงดี
แล้วเสียงข้อความจากโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นอีกครั้ง


- มึงมาช้า กูเข้าเรียนแล้ว-


แม่งหลอกให้ผมวิ่งจนเหนื่อย คิดสองร้อยได้ป่าววะ
แต่มันถึงเวลาเข้าเรียนแล้วเหรอ
ผมก้มมองนาฬิกาข้อมือ บ่ายโมง 10 นาที
เอาแล้วไงครับผมก็มีเรียนตอนบ่าย
กว่าจะวิ่งกลับถึงตึกตัวเองหวังว่าอาจารย์คงไม่ล็อคห้องหนีไปก่อนนะ







“วี วันเสาร์รุ่นพี่นัดรับน้องคณะรู้รึยัง”
ผมหันไปทางเสียงแพรที่ดังมาจากข้างๆ ตอนนี้เลิกเรียนแล้วครับ
เมื่อตอนบ่ายผมเข้ามาทันก่อนอาจารย์หนวดจะล็อคห้องแบบฉิวเฉียด
แล้วไอ้พี่ชินก็ส่งข้อความมาว่า อย่าลืมกินน้ำแก้เหนื่อยนะ
ผมนี่อย่าพิมพ์กลับไปด่ามากครับ ถ้าไม่ติดว่ามันเสียเงินผมพิมพ์แล้ว



“อ่าว วีนึกว่าอาทิตย์ถัดไป ว่าจะกลับบ้าน”

“วันเสาร์นี้เว้ย เวลาเขาบอกมึงก็ไม่เคยจะฟัง”
ไอ้แบตเสือกขึ้นมาทันทีนะมึง

“เออ แค่นี้แม่งทับถม  แล้วต้องเตรียมตัวไรป่าว”

“ให้ใส่เสื้อที่คณะแจกสีดำ กางเกงยีนส์ 
แล้วเจอกัน 8 โมงหน้าคณะ” แพรเป็นคนตอบ

“แบตขี้เกียจไปวะแพร” ไอ้แบตเริ่มอ้อนแพรอีกแล้วครับ
ผมเห็นมันช่วงหลังๆเป็นแบบนี้บ่อยไม่รู้เกิดมีซัมติงอะไรกันรึเปล่า


“แพรก็ไม่อยากไปเหมือนกัน เหมือนไปให้รุ่นพี่แกล้งเลย”แพรเริ่มบ่นบ้างครับ
มันเป็นเหมือนตราบาปที่คนหน้าตาดีจะเป็นที่อิจฉาของรุ่นพี่แล้วก็รุมแกล้งครับ
จริงๆแล้วกลุ่มผมทั้งสามคนก็โดนทำกิจกรรมประหลาดๆบ่อยกว่าคนอื่นแต่ผมจะเยอะที่สุด


“เอางี้เรานัดกันไม่ไปไหม” ผมเสนอความคิดแสนชั่ว

“อย่างมึงไม่ไป พี่ชินตามถึงหอ”

“เขาจะรู้จักหอกูได้ไง”

“น้อยไปไอ้วี วันที่มึงมาถือพานช้า พี่เขาถามกูแล้วโว้ย
ตอนแรกจะไปจิกมึงที่หอแต่กูบอกเขาว่ามึงกำลังมา เขาเลยรอที่คณะ”

“ห่า มึงจะไปบอกทำไมว่ากูอยู่หอไหน” ผมว่ามันพร้อมตบหัวไปหนึ่งที

“สัส! ตบหัวกูนะมึง ถ้ามึงเห็นหน้าพี่ชินวันนั้นมึงจะไม่กล้าพูดกับกูแบบนี้เด็ดขาด”

“ทำไมหน้าพี่ชินเป็นไงเหรอ” แพรถามขึ้นมาบ้างครับ

“ก็เหมือน...” ไอ้แบตกำลังจะตอบ
แต่ข้อความผมดันดังขึ้นมาซะก่อน รู้เลยครับ เจ้านายตามตัว

“กูไปก่อนนะเจอกันที่หอ วีไปก่อนนะแพร”
พูดเสร็จผมหยิบกระเป๋าขึ้สะพายบ่า
แล้วเดินออกจากห้องท่ามกลางสายตางงๆของเพื่อนทั้งสองคน





แล้วผมก็มาถึงภาคไฟอีกครั้งตามคำเชิญของรุ่นพี่บ้าอำนาจ ที่ส่งข้อความมาเชิญแกมข่มขู่

“เอ่อ พี่ชินอยู่ไหมครับ” ผมเห็นพี่โยเลยถามซะเลยขี้เกียจตามหา

“อยู่ในช็อป มาหามันเหรอ” พี่โยตอบพร้อมชี้มือไปทางช็อปภาคไฟฟ้าครับ

“ครับ”

“อ่ะ วันนี้รสส้มนะชอบป่าว” พี่โยยื่นอมยิ้มให้ผมก่อนถาม

“ผมก็ชอบหมดแหละครับของฟรี ขอบคุณครับ ”
ผมตอบก่อนรับอมยิ้มมาแกะใส่ปาก

“มาตามมา เดี๋ยวพี่กำลังจะกลับไปทำงานเลย”
พี่โยเรียกผมให้เดินตามเข้าไปในช็อปครับ
ผมเห็นมีคนอยู่หลายคนกำลังก้มๆเงยๆทำอะไรซักอย่างกับแผงวงจรไฟฟ้า

“ไอ้ชิน อันนี้ต่อขนานหรืออนุกรมวะ”
ผมได้ยินพี่คนหนึ่งตะโกนถามพี่ชินเสียงดังเลยครับ

“ขนานเว้ย ดีๆนะมึงเดี๋ยวช็อต” พี่ชินตะโกนกลับเสียงดังไม่แพ้กัน

“ชิน แผงนี้ต้องตัดสีแดงหรือสีดำก่อน”
พอพี่ชินตอบพี่คนนั้นเสร็จก็มีพี่ผู้หญิงถือแผงไฟฟ้าอะไรไม่รู้ครับมาให้พี่ชินดูพร้อมถาม

“สีแดงก่อน” พี่ชินตอบก่อนหันมาเห็นผมเข้าพอดี

“มานานรึยัง”

“เพิ่งมาถึงครับ พี่เรียกผมมาทำไม”  ผมถามทันที

“มาช่วยกูทำงานหน่อย  อ่ะกรรไกรนั่งตัดสายไฟให้ยาวเท่าแบบที่กูตัดไว้
เอาสีละ 5 เส้น เสร็จแล้วมาบอกกูเดี๋ยวหางานใหม่ให้”
พี่แกสั่งเสร็จแล้วไปนั่งเอาหัวแร้งเชื่อมอุปการณ์อิเล็คทรอนิคส์ต่อไม่สนผมเลยครับ
ผมก็เดินไปนั่งใกล้ๆแล้วเริ่มลงมือตัดสายไฟตามที่แกสั่ง


“เหนื่อยไหมครับ” ผมนั่งตัดไปได้ซักพักก็ได้ยินเสียงคนถามใกล้ๆ
หันไปมองเป็นพี่โยยืนอยู่พร้อมส่งกระป๋องน้ำอัดลมให้ผมครับ

“ขอบคุณครับ” ผมเอ่ยขอบคุณเบาๆ
แม่งใจดีแบบนี้แล้วจะไม่ให้ผมคิดว่าเป็นพี่เทคผมได้ไง

“แล้วนึกไงมาช่วยงานไอ้ชินได้ เห็นไม่ค่อยถูกกันไม่ใช่เหรอ”

“ก็...พี่ชินเรียกให้มาช่วยครับ”
ผมไม่รู้จะบอกว่ายังไงถึงข้อตกลงแปลกๆของผมกับพี่ชินเลยเลือกไม่เล่าดีกว่า

“ไอ้ชินมันงานเยอะ ทำทั้งกิจกรรมแล้วก็ช่วยงานอาจารย์
คนเรียนเก่งก็งี้มีแต่คนอยากใช้งาน
แล้วมันดันเป็นคนขี้เกรงใจใครให้ทำอะไรก็ทำ”
พี่โยนั่งลงข้างผมแล้วเริ่มเล่าเรื่องพี่ชินครับ


“อ่าว ผมนึกว่าแกเป็นคนโหดซะอีกเห็นเป็นหัวหน้าพี่ว๊าก” ผมถามบ้างครับ


“หึหึ มันโหดแต่เปลือกนะซิ 
จริงๆแล้วมันใจดีจะตายถ้าได้รู้จักจริงๆแล้วเดี๋ยววีก็จะรู้”
ผมคงเป็นข้อยกเว้นมั้งครับ เพราะตั้งแต่เจอแกอยู่ไกลคำว่าใจดีมากไกลโขอยู่


“แล้วรู้รึยังว่าพี่เทคตัวเองเป็นใคร”
คำถามโดนใจมากครับ
อีก 2 อาทิตย์เปิดเทคผมยังหาไอ้พี่เทคปริศนาไม่เจอเลย

“ก็พี่ไงพี่เทคผม ถ้าไม่ใช่ก็ใช่ซะผมขี้เกียจหาแล้ว”

“ง่ายไปไอ้น้อง ถ้าจะเป็นน้องพี่ต้องมีคุณสมบัติสำคัญ1 ข้อ”
พี่โยพูดพร้อมรอยยิ้มพิมพ์สาวครับ

“อะไรครับ” ผมถามทันที

“ก็ต้องเป็นผู้หญิงน่ารักๆไง” หมดสิทธ์แม้แต่จะคิดเลยกู

“มึงไม่มีงานทำรึไงไอ้โย”
อยู่ๆก็มีเสียงแข็งๆถามมาจากข้างหลังผมครับ

“งานน่ะมีแต่ตอนนี้กูพัก”

“พักก็ไปพักที่โต๊ะมึงมานั่งอะไรตรงนี้ แถมชวนกันคุยงานกูไม่เดินพอดี”

“ไอ้แค่ตัดสายไฟ มึงจะอะไรนึกหนาวะ เออกูไปก็ได้ ”

“ รีบไสตูดมึงไปไกลๆ ตีนกูเลยนะ”

“พี่ไปก่อนนะครับน้องวี” พี่โยพูดยิ้มก่อนลุกออกจากโต๊ะ

“หน้าบานเลยนะมึง”
อยู่ๆพี่ชินก็ว่าผมหน้าบานแล้วเดินกลับไปนั่งทำงานต่อ
ทิ้งไว้แต่ความงุนงง ว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่
พี่ชินมันเป็นบ้าอะไรวะมาไล่เพื่อนแล้วก็ไปทำงานต่อ
ผมก็ได้แต่เกาหัวแล้วเริ่มงานของตัวเองเช่นกัน






“เตรียมตัวกลับ”
อ่า...ในที่สุดผมก็ได้ยินคำนี้ซักที
หลังจากนั่งหลังขดหลังแข็งทำงานอยู่จนสองทุ่มกว่าๆ
ผมรีบลุกจากโต๊ะพร้อมสะพายกระเป๋า


   “ผมไปนะพี่” ผมหันไปบอกพี่ชิน

   “มึงจะไปไหน” พี่ชินที่กำลังเก็บของบนโต๊ะเงยหน้าขึ้นมาถามทันทีหลังจากผมพูดจบ

   “กลับหอผมดิครับ” ผมก็ตอบซื่อๆ

   “ใครบอกให้มึงกลับหอกูบอกว่าให้เตรียมกลับหมายถึงห้องกู” 
แม่งพูดได้หน้านิ่งมาก

   “ห๊ะ! ไปทำไมห้องพี่ไม่ใช่ห้องผม”

   “ก็ห้องกูน่ะสิ ไปทำความสะอาดห้องกู
แม่บ้านกูลากลับบ้านนอกไม่มีคนทำ”
แม่ง ใช่งานกูเยี่ยงทาสเลยนะไอ้บ้าอำนาจ นี่มันสองทุ่มกว่าแล้ว


   “แล้วผมจะได้กลับกี่โมง นี่มันสองทุ่มแล้วนะ” ผมเริ่มโวยวายครับ

   “มึงก็ไม่ต้องกลับ นอนห้องกูเลย”

   “เฮ้ย!! ไม่เอาไม่ไป” 
ผมไม่ไปเด็ดขาดครับ ห้องตัวเองก็มีจะให้ไปนอนห้องคนอื่น
เกิดหิวแล้วแดกหัวกูขึ้นมาทำไง


   “กูหักให้ห้าร้อยเลย”
อ่าว!!ข้อเสนอเริ่มน่าสนครับ แต่ผมไม่ได้เป็นคนเห็นแก่เงินนะ

   “พันนึง” แต่ว่าถ้าได้หนี้ก็หมดไวจริงไหมครับ

   “เออ เคี้ยวนะมึง”
พี่ชินตกลงเสร็จเดินนำออกจากช็อปพาไปที่รถเก๋งสีดำใกล้ๆ

   “นี่รถพี่เหรอ” ผมถามอย่างแปลกใจ ทำไมมีรถหลายคัน

   “เออรถที่บ้านขึ้นรถ กูหิวแล้ว”
พี่ชินตอบเสร็จก็ก้าวขึ้นรถแล้วรอผมขึ้นตาม
จากนั้นก็ขับออกมาจากม.ตรงไปที่ห้องพี่ชินทันที

--- โปรดติดตามตอนต่อไป---

ตอนนี้ไม่รู้จะมีคนชอบหรือป่าว
ถ้าไม่สนุกต้องขอโทษด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกกำลังใจ รีพาย และบวกเป็ดค่ะ
เจอกันหลังปีใหม่จร้า
 :bye2: :bye2: :bye2:

หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 5<< up 27/12/2013 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 27-12-2013 21:18:33
 o13
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 5<< up 27/12/2013 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 27-12-2013 22:27:30
 o13 o13
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 5<< up 27/12/2013 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 27-12-2013 22:28:49
ชินนี่เอง หนุ่มต้องสงสัยของเรื่องนู้น 555
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 5<< up 27/12/2013 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: tityjiu ที่ 27-12-2013 23:28:20
ซึนป่าวเฮียชินเนี่ย ทะแม่งๆน้าา  :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 5<< up 27/12/2013 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: sweetbasil ที่ 27-12-2013 23:49:17
 o13
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 5<< up 27/12/2013 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: nada_dadida ที่ 28-12-2013 00:31:34
พี่ชินมีแอบเหวี่ยงพี่โยหวงน้องอะเด้   :laugh:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 5<< up 27/12/2013 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: jj_girl ที่ 28-12-2013 01:18:21
แหมชินนี่   หวงวีวี่สินะ
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 5<< up 27/12/2013 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 28-12-2013 01:44:18
 :z1:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 5<< up 27/12/2013 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 28-12-2013 02:05:02
เหยย~~~ พี่ชินชวนไปค้างที่ห้องด้วย~
เอาเรื่องทำความสะอาดมาอ้างอ่ะดิ๊

 :hao3:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 5<< up 27/12/2013 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Satanza321 ที่ 28-12-2013 06:49:23
แหมๆนายชิน เปลี่ยนกระจกเป็นแสนให้วีชดใช้ นี่ข้าอ้างใช่มะ :m12:
แอบมีรังสีอำมหิตเบาๆออกจากตัวพี่ชิน ตอนวีคุยกับพี่โย :laugh:
(พี่ชินนี่พระเอกใช่มั้ยครับ :z2:)
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 5<< up 27/12/2013 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 28-12-2013 07:11:55
ชินเอ๋ยชอบเค้าแล้วละซิ
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 5<< up 27/12/2013 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 28-12-2013 08:35:12
มาติดตามแล้วนะคะ
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 5<< up 27/12/2013 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 28-12-2013 08:51:22
ชินเริ่มออกอาการหวงหน่อยๆ   :hao7:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 5<< up 27/12/2013 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: blanchet ที่ 28-12-2013 08:57:54
แหมมม่ อยากเอาน้องไปนอนกอดล่ะสิ5555
พี่ชินใจดีหรอเนี่ยนึกไม่ค่อยออกเลย
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 5<< up 27/12/2013 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 28-12-2013 10:22:00
พี่ชินมีเหวี่ยงเพื่อนด้วย กลัวเพื่อนจะจีบวีอ่ะดิ  เลยรีบขวางไว้ก่อน    แค่ใช้งานวี 1-2 วัน ก็ชวนวีขึ้นห้องซะแล้ว  ชินคิดอะไรอยู่ป่าว


หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 5<< up 27/12/2013 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 28-12-2013 13:24:17
เสนอตัวไปเลย หักหนี้ทีเดียวแถมได้ผัวมาคนนึงด้วยนะหนูวี สนใจมะ  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 5<< up 27/12/2013 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: toshika ที่ 28-12-2013 19:02:04
หวงน้องวีแล้วล่ะสินังชิน5555555
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 5<< up 27/12/2013 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 28-12-2013 20:52:54
ช้นแม่งซึนเบา ๆ นะ

แน่ะ มีแอบขวางเพื่อนอีก 5555
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 5<< up 27/12/2013 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 29-12-2013 18:23:35
เพิ่งได้มาอ่านเรื่องของวี
ชินนี่เองหนุ่มต้องสงสัยของวี
ว่าแต่พี่เทควีนี่ก็ชินด้วยป้ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 5<< up 27/12/2013 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 29-12-2013 19:16:31
อืมมมตอนนี้แค่ไปเพื่อใช้หนี้
ใช้กันไปใช้กันมาไม่หมดสักที
เพราะกลายเป็นหนีใจกันหรือเปล่า  :o8:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 5<< up 27/12/2013 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 30-12-2013 19:45:43
ชินคิดไรกับวีป่าวเนี่ย

หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 5<< up 27/12/2013 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: ►MoNkEy-PrInCe◄ ที่ 10-01-2014 03:17:53
พี่ชินแกคิดไรกับน้องชัวร์

ไม่แน่มันอาจจะเป็นพี่เทคด้วย

 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 5<< up 27/12/2013 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 10-01-2014 06:29:25
พี่ชินปากแข็ง
ไม่ยอมใจดีกะน้องมั่งเล๊ยยยย
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 5<< up 27/12/2013 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: cinpetals ที่ 12-01-2014 15:07:29
อร๊ายยยยยยยยยยย
ชินแอบชอบน้องวีแล้วล่ะเซ่ะ
หัวข้อ: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 6<< up 14/1/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 14-01-2014 21:26:07


        ถ้าให้รักก็อย่าร้าย 6


 “เฮ้ย! มันใช่ห้องคนเหรอพี่” ผมถามพี่ชินเสียงดังเลยครับ
หลังจากเห็นสภาพห้องตอนนี้มันไม่น่าใช่ห้องที่คนจะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยซ้ำ
โครตรกครับ แค่จะหาที่ว่างๆเพื่อเดินเข้าห้องยังยาก


หลังจากพี่ชินเสนอข้อตกลงการทำความสะอาดห้องแลกกับการหักหนี้หนึ่งพันบาท
ผมก็นั่งรถมากับพี่ชินจนถึงคอนโดแห่งหนึ่ง ไม่ไกลจากม.มากนัก



ลงจากรถเสร็จพี่ชินพาผมกดลิฟต์ขึ้นมาที่ชั้น 8
พอเปิดห้องเท่านั้นครับผมอยากยกเลิกข้อตกลง หรือว่าเพิ่มค่าจ้างขึ้นซัก 10 เท่า
แม่งเห็นแล้วจะเป็นลม ไอ้พี่ชินมันอยู่ได้ไงวะ
ผมว่าผมเป็นคนขี้เกียจทำความสะอาดหรืองานจำพวกงานบ้านแล้วนะ
แต่ก็ไม่เคยปล่อยให้มันรกจนถึงขนาดเท่าห้องพี่ชินซะที



“เออ ห้องกูนี่แหละ”  ยังมีหน้ามายอมรับอยากภาคภูมิใจอีกนะครับ

“พี่อยู่มาได้ไงวะ” ผมเดินเอาตีนเขี่ยเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายให้พ้นทางเดินก่อนเดินเข้ามาภายในห้องครับ


“สัส! เสื้อกูไอ้เด็กเวร” พี่ชินว่าก่อนเดินมาหยิบผ้าโยนไปไว้บนโซฟาครับ
แม่งถ้ามีเวลาหยิบโยนลงโซฟาทำไมไม่เอาไปใส่ตะกร้าผ้าให้มันเรียบร้อยวะ


“แม่บ้านพี่ลาไปกี่วันแล้ว” ผมถามพร้อมมองไปรอบๆ

“อาทิตย์นึง” อาทิตย์เดียวนี่ไอ้พี่ชินมันผลาญทำลายห้องตัวเองได้มากขนาดนี้เลยเหรอวะ

“ทำไมห้องพี่แม่งรกขนาดนี้ พันนึงผมว่าไม่คุ้มแล้วล่ะ  ไปจ้างบริษัททำความสะอาดเถอะ”
ผมพูดก่อนเตรียมเดินออกจากห้องครับ ผมยอมลงทุนเสียค่าแท็กซี่กลับห้องตัวเองดีกว่า


“เฮ้ยๆ อย่าเพิ่งไป กูเพิ่มให้อีกพันเลยเอ้า” ไอ้พี่ชินพูดอย่างใจป๋าครับ
ผมเริ่มลังเลอีกครั้ง สองพันไม่ใช่เงินน้อยๆนะครับ


“เออ ก็ได้วะ เครื่องดูดฝุ่นอยู่ไหน” หลังจากผมชั่งน้ำหนักระหว่างเงินกับความเหน็ดเหนื่อย
แล้วในที่สุดเงินก็ชนะครับ เขาถึงว่าเงินคือพระเจ้าไงครับ


“เดี๋ยวกูเอาให้” พี่ชินพูดเสร็จเดินไปหยิบเครื่องดูดฝุ่นจากห้องห้องหนึ่งมาให้ผมครับ
ผมก็เริ่มลงมือทำความสะอาดเก็บเสื้อผ้าแยกกับจานชามที่ยังไม่ได้ล้าง
และขวดเหล้ากับน้ำอัดลมแยกกันให้เป็นสัดส่วนแล้วเอาถุงดำมาใส่ขยะ


อันไหนผมเห็นแล้วว่ามันไม่สมควรมีอยู่ในห้องผมเก็บทิ้งเรียบครับ
จะมาโทษผมไม่ได้นะก็ไม่ยอมบอกว่าอันไหนใช้ อันไหนทิ้ง
อันไหนผมไม่รู้จักก็ทิ้งเหมือนกันครับ หึหึ เร็วดีทิ้งแม่งให้หมด



ไอ้พี่ชินก็ไม่คิดช่วยผมเลยครับ นั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาสบายใจเชิบ
ผมก็ก้มหน้าก้มตาทำไปดิ ทำไปก็ท่องในใจไปครับ สองพันๆ


“ไอ้วีมากินข้าวก่อน เดี๋ยวค่อยไปทำต่อ” เสียงตะโกนเรียกผมให้ไปกินข้าวครับ
ตอนนี้ผมเข้ามาทำความสะอาดในห้องนอน  ห้องรับแขกทำเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ
สงสัยที่ชินมันสั่งข้าวให้เขามาส่งเพราะก่อนที่พี่ชินจะเรียกผมกินข้าว
ผมได้ยินเสียงคนมากดกริ่งประตู



“พี่ชินกินก่อนเลยผมใกล้เสร็จแล้ว” ผมบอกก่อนลงมือดูดฝุ่นต่อ


“ตามใจกูกินหมดมึงไม่ต้องมาว่ากูนะ” เสียงพี่ชินตะโกนเข้ามาอีกครับ
ผมเลยรีบปิดเครื่องดูดฝุ่นแล้วตรงรี่เข้าห้องครัว


“หึหึ มาไวนะมึง” พี่ชินหัวเราะก่อนส่งจานที่มีข้าวพูนจานมาให้ผม
เห็นว่าเยอะแบบนี้แต่ผมกินหมดนะครับก็ตอนนี้มันจะ 4 ทุ่มแล้วเพิ่งจะได้กินข้าวเย็น
ไอ้พี่ชินใช้ผมยิ่งกว่าแรงงานทาสอีกครับ


“ช้าๆเดี๋ยวติดคอ”


“ก็คนมันหิว แม่งพี่ใช้งานผมตั้งแต่เรียนเสร็จ จนถึงตอนนี้กี่ชั่วโมงมาแล้ว
ผมอุตส่าห์ดีใจว่าวันนี้ไม่ต้องเข้าเชียร์จะได้นอนสบาย
ที่ไหนได้ ไปเข้าเชียร์เหนื่อยน้อยกว่านี้เยอะ”
ผมดื่มน้ำแก้ติดคอนิดนึงก่อนเถียงกลับครับ


“บ่นนะมึง เดี๋ยวกูสั่งซ่อมซะดีไหม”

“ไม่ได้นะพี่ ที่นี่นอกม. ห้ามสั่งซ่อม”

“ถ้ากูอยากจะสั่ง ที่ไหนกูก็ไม่แคร์”  พี่ชินพูดเสร็จยิ้มกวนตี นซะด้วยนะครับ


“ครับๆ ไม่บ่นแล้วครับ” ผมว่าก่อนลงมือกินข้าวต่อ
อะไรวางอยู่ตรงหน้าโกยเข้าท้องอย่างเดียวเลยครับไม่สนแล้วว่าอร่อยหรือไม่อร่อย
เอาแค่มันกินได้เป็นพอ



หลังกินอาหารเสร็จผมก็ต้องเก็บจานไปล้างแล้วเข้าไปดูดฝุ่นในห้องนอนต่อ ไม่นานก็เสร็จ
ดูเวลา 5 ทุ่มกว่าๆแล้วครับ ผมอยากอาบน้ำเต็มทีตัวนี่เต็มไปด้วยเหงื่อ


“พี่ชินขอยืมผ้าขนหนูหน่อย” ผมตะโกนถามหาผ้าขนหนู

“เอาไป” พี่ชินเดินเข้ามาหยิบผ้าขนหนูในตู้เสื้อผ้าโยนให้ผมครับ

“ชุดนอนด้วยครับ” ผมขออีก

“หาเอาในตู้” พี่ชินว่าเสร็จเดินออกจากห้องไปดูทีวีต่อเลยครับ
ผมคุ้ยๆในตู้ได้เสื้อยืดกับกางเกงบอลที่พอจะใส่ได้ก็นำเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำครับ
ส่วนกางเกงในไม่ใส่แม่งหรอกจะให้กลับด้านใส่ผมไม่เอานะ ซักตากไว้ใส่พรุ่งนี้ครับ



ผมอาบน้ำไม่นานก็ออกมาเตรียมตัวนอนวันนี้โครตเหนื่อยสงสัยนอนหลับเป็นตายครับ

“พี่ชินจะให้ผมนอนไหน” ผมเดินออกมาถามพี่ชินที่กำลังดูทีวีพร้อมกับเอาแผงวงจรไฟฟ้ามาประกอบ
รกห้องอีกแล้วครับ ผมเพิ่งจะเก็บกวาดไปเมื่อกี้แป๊บเดียว
ไอ้พี่ชินแม่งรื้อออกมารกอีกแล้วครับ ผมอยากกัดลิ้นตาย


“อยากนอนตรงไหนก็นอน จะระเบียงหรือในห้องน้ำก็ได้”
ไอ้พี่ชินเงยหน้าขึ้นมาตอบกวนตีนซะแล้วครับ


“เก็บไว้นอนเองเถอะ” ผมว่าเสร็จเดินกลับเข้าห้องนอน
ล้มตัวลงนอนมันบนเตียงพี่ชินนี่แหละครับ เตียงออกจากใหญ่โต
ขอนอนซักหน่อยคงไม่เป็นไร ผมล้มตัวลงนอนไม่นานก็หลับครับ


ไม่รอมันแล้วเจ้าของห้อง


“ไอ้วีตื่น ไอ้วี กูเมื่อย” เสียงเหมือนใครเรียกผมค่อยๆลืมตาตื่น

“โอ๊ย!!”ทันทีที่เห็นว่าผมกำลังนอนกอดขาพี่ชินอยู่ผมสะดุ้ง
เด้งตัวถอยหลังตกเตียงเลยครับ สงสัยผมจะคิดว่าเป็นหมอนข้างดันนอนกอดไปได้
เสียมือจริงๆ


“สมน้ำหน้า” พี่ชินว่ากวนๆ ก่อนเดินเข้าห้องน้ำครับ

ผมดูเวลา 8 โมงเช้าแล้วครับ วันนี้ผมมีเรียน 10 โมงต้องรีบกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้อง

“ชงกาแฟให้แก้วนึงดิ” ไอ้พี่ชินออกจากห้องน้ำได้แม่งใช้ผมเลยครับ

“เรื่อง ชงเอาสิ” ผมว่ากลับก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำบ้าง ปวดฉี่ครับ

“ร้อยนึง เร็วๆ”

“เออ เดี๋ยวเยี่ยวก่อน” ผมตอบแล้วรีบเข้าห้องน้ำทันทีครับเดี๋ยวราด


“ล้างมือก่อนมาชงให้กูนะมึง” เสียงพี่ชินตะโกนดังเข้ามาในห้องน้ำครับ
จากที่ไม่คิดก็เริ่มคิดหรือว่าจะไม่ล้างดีครับ ชงให้มันทั้งอย่างนี้แหละ



“ไม่อร่อย ไปชงมาใหม่ เวลาชงวนซ้าย 5 ครั้งก่อนแล้ววนขวา 3 ครั้งครึ่ง”

ผมเอากาแฟที่ชงเสร็จมาให้พี่ชิน แต่พี่แกจิบไปนิดนึงก็บ่นเลยครับ
เชี้ยเถอะแดกยากขนาดนั้นไม่ชงเองวะ ผมเดินเข้ามาชงให้ใหม่ตามที่พี่แกต้องการ

“อ่ะ ตามที่สั่ง” ผมยื่นแก้วกาแฟแก้วใหม่ให้พี่ชิน

“เฮ้ย ทำไมหวานอย่างนี้วะ รถน้ำตาลคว่ำใส่แก้วกูไง เอาใหม่น้ำตาลครึ่งช้อน”
พี่ชินว่าพร้อมวางกาแฟลงบนโต๊ะหน้าโซฟา
ตาก็อ่านหนังสือพิมพ์ที่มีคนเอามาส่งในช่องรับจดหมายแต่เช้า


“แล้วทำไมพี่ไม่บอกตั้งแต่แรก แก้วแรกผมก็ชงแบบนี้” ผมกัดฟันถามเสียงเริ่มนิ่งแล้วครับ
พยายามสระกดกั้นอารมณ์อยากขบหัวไอ้พี่ชิน มันก็อ่านนิ่งไม่สนใจผม
ผมรู้ว่าพี่ชินมันจงใจแกล้งแต่ก็อยากให้หนี้หมดเร็วๆ จำใจเดินกลับไปชงกาแฟแก้วที่ 3 มาให้ใหม่ครับ

“หวังว่าแก้วนี้คงจะกินได้นะครับ” ผมพูดพร้อมยื่นกาแฟแก้วใหม่ให้

“แก้วนี้...” พี่ชินจิบไปนิดนึงแล้วกำลังจะเอ่ยปากว่าอะไรซักอย่างแต่ผมพูดแทรกเลยครับ

“ถ้าแก้วนี้แดกไม่ได้ พี่เชิญไปทำเองเลยครับ” โมโหครับโมโห 3 แก้วแล้วนะที่มันให้ผมไปชง
ไม่เคยอดทนอะไรเท่านี้มาก่อนเลย

“กูจะบอกว่าแก้วนี้ใช้ได้นี่หว่า พอกินได้” พูดจบมันยิ้มกวนตีนก่อนยกกาแฟขึ้นจิบช้าๆ
ผมล่ะอยากกระโดดเข้าถีบแล้วบีบคอซ้ำเลยครับ


“ผมกลับห้องแล้วนะ”
ผมตอบพี่ชินหลังจากเข้าไปอาบน้ำแต่งชุดเมื่อวานเรียบร้อย

“เฮ้ย! มึงจะรีบไปไหน”

“ผมก็ต้องไปเรียนมั่งดิ ไม่ได้อยากโง่เหมือนใครบางคน”
ผมว่าก่อนหยิบกระเป๋าใบโปรดขึ้นสะพายบนบ่า


“ อืม ดีนะกูไม่โง รอกูอาบน้ำก่อน เดี๋ยวพาไปเปลี่ยนชุดที่ห้อง”
พี่ชินว่าเสร็จลุกเดินเข้าไปอาบน้ำ ผมก็เปิดทีวีนั่งรอสิครับ
อย่านึกว่าผมจะหยิ่งขอไปเองนะ ไม่มีทางเรื่องประหยัดแม้บาทเดียวผมก็เอา










จากวันที่ผมไปค้างห้องไอ้พี่ชินครั้งแรกตอนนี้ก็ผ่านมา 3 วันแล้วครับ
ผมต้องไปทำความสะอาดวันเว้นวันจนกว่าแม่บ้านจะกลับมาจากต่างจังหวัด

เมื่อวานผมก็ต้องไปทำครับ รกเหมือนเดิมผมไม่เข้าใจเลยว่าพี่ชินมันก็หน้าตาดี
แต่ทำไมมันถึงได้โสโครกขนาดนั้น ขยันทำรกเหลือเกิน

แล้วใช่ว่าผมไปทำความสะอาดห้องเป็นการใช้หนี้ เวลาปกติไอ้พี่ชินจะละเว้นผมนะครับ
SMS สั่งงานผมดังแถมยังมีการมาว่าผมอีกว่าไม่รู้จักใช้ line
เหมือนคนอื่นเปลืองเงินค่าส่ง SMS 

ผมเลยควักโทรศัพท์น้องโบโชว์ไอ้พี่ชินซะเลยว่าไอ้ซัมซุงฮีโร่นี่มันเล่น line ได้ตรงไหน
พี่ชินก็บ่นๆเรื่องผมขี้งกครับ ผมไม่ได้ขี้งกนะครับ เขาเรียกประหยัด



ช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้คุยกับไอ้แบตแล้วก็ลูกแพรเท่าไหร่ครับ
ผมเข้าห้องเรียนก็ได้เวลาเริ่มบรรยาย
พอจบก็ต้องรีบออกมาทำตามคำสั่งไอ้พี่ชินครับ
ผมว่าผมทำงานโครตเยอะแต่ทำไมหนี้มันไม่ค่อยลดก็ไม่รู้ครับ

ตอนนี้หนี้เพิ่งจะลดไปได้แค่ แปดพันกว่าบาทเองครับ
แต่ถ้าผมไปทำความสะอาดห้องไอ้พี่ชินเรื่อยๆอีกไม่นานหนี้ก็คงจะหมด


“ไอ้วีช่วงนี้มึงหายไปไหนมาวะไม่ค่อยอยู่ห้อง”
ไอ้แบตตะโกนถามผมทันทีที่เดินมาเห็นผมนั่งอยู่หน้าคณะครับ
เมื่อคืนผมไปค้างที่ห้องพี่ชินไม่ได้กลับห้อง
แล้ววันนี้ต้องรับน้องคณะ พี่ชินเลยพาผมไปเปลี่ยนชุดที่หอแล้วพามาที่ม.เลยต่อเลยครับครับ
ผมเลยไม่ได้ไม่ได้มาพร้อมไอ้แบต


“ทำงานพิเศษวะ” ผมบอกมัน


“งานพิเศษเชี้ยไรวะไม่กลับมานอนห้อง มึงอย่าบอกนะว่า...”
ไอ้แบตพูดแค่นั้นแล้วเงียบไปเฉยครับ ผมรู้ว่ามันหมายถึงอะไร
แต่มันก็ช่างกล้าคิดเนอะไม่ดูหนังหน้าเพื่อนอย่างกูเลย

“สัส!! เลิกคิกเลยมึง ความคิดชั่วมาก” ผมว่ามันพร้อมลุกขึ้นตบหัวไป 1 ที

“มึงรู้เหรอว่ากูคิดว่าอะไร”  มันถามหน้าตายเลยครับ

“อย่างมึงคิดเรื่องดีไม่เป็นหรอกกูรู้”

“ไอ้เชี้ยรู้ดี แล้วสรุปมึงไปอยู่ไหนมา” มันถามผมไม่เลิกครับ

“กูก็ไปทำความสะอาดห้องไอ้...” 

“วี แบตมานานรึยัง” ผมยังพูดไม่ทันจบลูกแพรก็วิ่งเข้ามาถึงโต๊ะที่ผมนั่งอยู่ครับ

“เพิ่งมาถึงเหมือนกัน” ไอ้แบตตอบลูกแพร ผมเลยไม่ได้พูดต่อครับ

“ไม่รู้วันนี้จะโดนอะไรบ้างเนอะ” ลูกแพรเปิดประเด็นขึ้นมา



“ก็ไม่พ้นโดนแกล้งเหมือนทุกครั้งนั้นแหละ แล้วมีตั้งกี่สาขา”
ผมบอกพร้อมกับมองไปยังสถานที่จัดกิจกรรมรับน้องข้างหน้า
ตอนนี้คนเริ่มเยอะแล้วครับ มีการจัดเป็นซุ้มๆของแต่ละสาขา
ที่เห็นตอนนี้ก็มีสาขาเคมี ไฟฟ้า เครื่องกล โยธา คอมพิวเตอร์ อุตสาหกรรม
ตอนนี้เห็นเท่านี้ครับ แต่คิดว่าคงมีมากกว่านี้เดี๋ยวไปลุ้นเอา


“ไอ้วีกูว่ามึงอ่วมแน่” ไอ้แบตอวยพรผมแล้วครับ

“หึหึ  มึงก็ไม่ต่างเห็นนั่นไหม” ผมว่าพร้อมชี้ไปที่รุ่นพี่คนหนึ่งเป็นสาวประเภทสองครับ
กำลังยืนเอาแป้งผสมกับสีผสมอาหาร และเม็ดแมงลัก
แถมจ้องมาทางไอ้แบตตาเป็นมันเลยครับ

จะไม่ให้มองได้ไงก็วันนี้ไอ้แบตออร่าออกมา
มันไม่ใส่แว่นตาครับ สงสัยรู้ว่าจะเละเลยไม่เอามา


“สัส!! ขนลุก กลับหอทันไหมวะ” ไอ้แบตมองตามมือผมแล้วทำท่าขนลุกเลยครับ

“ไม่ต้องกลัว กลับไม่ทันแล้ว มึงเตรียมเสียตูดได้เลย  ฮ่าๆๆ”
 ผมว่าเสร็จหัวเราะซ้ำเพื่อความสะใจเลยครับ

“พ่องงง มึงดิ ใครจะยอม” ไอ้แบตหันมาว่าหน้าดุเลยครับ แต่ผมหรือจะสน

“แบตเสร็จแน่ หึหึ” ลูกว่าว่าไอ้แบตบ้างครับ

“เดี๋ยวก็รู้ว่าใครจะโดน” ไอ้แบตพูดเสร็จ เสียงเรียกรวมก็ดังขึ้นครับ
ผมและเพื่อนก็เดินไปเข้าแถวรอทำกิจกรรมเหมือนกัน









“วันนี้เป็นวันดี ที่พวกคุณจะได้ผ่านพิธีรับน้องของทางคณะ
หวังว่าพวกคุณจะได้รับความสนุก ความกลมเกลียว
รู้จักช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ที่สำคัญผมขอให้ดูแลตัวเอง
คงไม่มีใครเจ็บ ป่วยใครระหว่างรับน้องนะครับ”
เสียงไอ้พี่ชินแหกปากตะโกนอีกแล้วครับ บ้าพลังไปไหนวะ



“ผมจะแบ่งพวกคุณตามแถมที่จัดไว้ออกเป็นกลุ่มๆ
แล้วให้พวกคุณเข้าทำกิจกรรมทุกซุ้มเพื่อรับลายเซ็นจากเจ้าหน้าที่ประจำกลุ่ม
ลายเซ็นนี้มีความสำคัญในการส่งมอบเกียร์ ถ้าใครมีไม่ครบ ก็จะไม่ได้รับ
และถือว่าคุณไม่ใช่เลือดวิศวะของที่นี่ เข้าใจไหมครับ”
หลังจากไอ้ชินหยุดพักไปได้ไม่นานมันก็เริ่มตะโกนใหม่
แล้วส่งท้ายด้วยการถามเสียงดังเหมือนตะคอกครับ



“ ครับ/ค่ะ” เสียงตอบอย่างพร้อมเพรียงเหมือนฝึกนักศึกษาวิชาทหารเลยเว้ย
ไอ้พี่ชินแม่งก็มีพลังที่ทำให้คนกลัวเหมือน


“ถ้ารับทราบแล้ว แยกย้ายตามล่าหาลายเซ็นได้
พวกคุณมีเวลาแค่ไม่เกินเข็มสั้นชี้เลข 3 เข็มยาวชี้เลย 12 เข้าใจไหมครับ”
มันจะพูดง่ายๆว่ามีเวลาถึงบ่ายสามนี่มันจะตายไหมวะ ชอบทำให้ต้องเป็นเรื่อง
เดี๋ยวกูยืมวุ้นแปลภาษาของกูเกิ้ลแป๊บ  เพราะต้องแปลภาษาเชี้ยเป็นภาษาคนครับ


“ไอ้แบตไปเว้ย เข้าภาคเคมีก่อนกูว่า คนเรียนวิดวะเคมีคนไม่บ้าเท่าภาคอื่น”
ผมว่าเสร็จหันไปถามคนอื่นในกลุ่มต่อครับ กลุ่มนึงก็มีประมาณ 10 คน


“เออ ที่ไหนก็ได้ ยังไงก็ต้องผ่านทุกที ไปแพร ”ไอ้แบตว่าก่อนหันไปเรียกลูกแพรครับ
ดีนะที่ได้อยู่กลุ่มเดียวกัน ไม่งั้นอดขำมันครับ หึหึ

“ไปแพรก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะเหมือนที่ได้ยินข่าวมาหรือป่าว”
ลูกแพรพูดจบเดินนำเลยครับ พวกผมก็เดินตาม




“สวัสดีครับ พวกพี่ภาคเคมียินดีต้อนรับน้องใหม่ทุกคนนะครับ”
เสียงรุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่งกล่าวต้อนรับเมื่อพวกผมเดินไปถึงก่อนกลุ่มอื่นเลยได้ทำกิจกรรมก่อน
กลุ่มอื่นที่เล็งไว้เหมือนกันก็ต้องไปที่ซุ้มอื่นครับ


“สวัสดีครับ/ สวัสดีค่ะ” พวกผมก็รีบตอบเลยครับจะได้ทำไวๆแล้วปล่อยไปซะที

“ซุ้มนี้เกมส์ไม่อยาก เป็นเกมส์แต่งตัวให้จับคู่เพื่อนที่ยื่นข้างๆ
แล้วพี่จะแจกพู่กันกับสีให้แต่งหน้าเพื่อนให้สวยที่สุด ยางมัดผมอีกหนึ่งอัน
แต่มีข้อแม้ว่าคนแต่งจะต้องถูกปิดตานะครับ”

พอเสียงอธิบายจบ อุปกรณ์ต่างๆถูกส่งมาให้ ไอ้แบตคู่ลูกแพร
ผมก็คู่กับใครไม่รู้ครับที่ยืนข้างๆ มันจัดให้ผมก่อน
จิ้มมาที่แรกก็จะเข้าจมูกกูเลยนะมึง มันจิ้มสะเบะสะบะไปทั่ว
ผมก็คอยหลบไม่ให้เข้าตา เข้าปาก เมื่อมันพอใจก็หยุด
แล้วเปิดตาดูผมงาน พอเห็นมันหัวเราะพอใจใหญ่ครับ
หึหึ มันยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง


ผมปล่อยให้มันหัวเราะจนพอใจ ก่อนจะเอาผ้าปิดตาตัวเองแล้วละเลงสีบนหน้ามันครับ
ผมนี่ไม่มีเล็งเลย ตรงไหนปาดได้ปาด แปะได้แปะ
รุ่นพี่ก็ตีกลองเชียร์กันใหญ่ว่ายังไม่หล่อๆ
ผมก็ใส่อีก จนคิดว่าคงสวยแล้ว พอเปิดผ้าไอ้เชี้ยหน้ามันไม่เหลือความเป็นคนเลยครับ
แต่โทษผมไม่ได้นะทำผมก่อนเองหึหึ

หลังจากนั้นก็เป็นเกมส์เอาลุกโป่งใส่น้ำแล้วมาผูกที่ขา
ก่อนไล่เหยียบของเพื่อนให้แตกครับ นี้นี่ก็ผสมสีอีก
เลอะกันไปหมดแล้วครับนี่แค่ซุ้มแรกเองนะถ้าซุ้มอื่นจะขนาดไหน

ผมล่ะกลัวใจที่สุดคือซุ้มภาคไฟของไอ้พี่ชินครับ



    ---To be Con.---

ขอขอบคุณผู้สนับสนุนคอมเม้นท์ และบวกเป็ดทุกท่านเหมือนเช่นเคยค่ะ
ไม่มีข้อแก้ตัวในการห่างหาย นอกจากกำลังทยอยเร่งปิดเรื่องค่ะ
ต้องขออภัยในการปล่อยให้คอยนานจร้า   :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 6<< up 14/1/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-01-2014 21:31:39
เก๊าให้อภัยนะเตง :)
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 5<< up 27/12/2013 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D ที่ 14-01-2014 21:43:52
เบื่อจริงจริ๊งงงง
พวกคนแผนสูงเนี้ย
ฮ่าๆๆๆๆ  :laugh:

น้องวีสู้ๆ :a9:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 6<< up 14/1/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 14-01-2014 21:47:57
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 6<< up 14/1/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 14-01-2014 22:06:32
สู้ๆนะคนแต่ง   :a9:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 6<< up 14/1/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 14-01-2014 22:24:38
แผนสูงจริงๆ
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 6<< up 14/1/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: nada_dadida ที่ 14-01-2014 22:38:38
เย่! น้องวีมาแล้วววววว ดีใจๆๆๆๆ  แต่ตอนนี้ทำให้รู้ว่าพี่ชินนซกมกกไปนะ!!!!!
ขอบคุณที่มาต่อให้ค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 6<< up 14/1/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: tityjiu ที่ 14-01-2014 22:44:56
โดนหนักแน่ๆๆๆนู๋วี :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 6<< up 14/1/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 14-01-2014 22:54:07
โดนหนักแน่ๆ 555
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 6<< up 14/1/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Queen1001 ที่ 14-01-2014 23:06:44
แง ทำไมเสียใจ พระเอกไม่ใช่พี่ตินณ์ ;---;
พระเอกคือพี่ชินสินะ..... หึงออกลายยย :hao7:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 6<< up 14/1/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 14-01-2014 23:55:30
สนุกมากจ้า
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 6<< up 14/1/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 15-01-2014 07:50:06
ฐานต่อไปมันแน่ๆวีเอ้ยยย
พี่ชินคงจัดให้หนักแน่เลย 55555
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 6<< up 14/1/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 15-01-2014 10:36:26
วีเอ๋ย ....จะรอดมั้ยเนี้ย โดนอ่วมแน่ๆเลยน้อง
อยากอ่านส่วนพี่ชินบ้างคะ ...ว่าจะใจดีเหมือนที่พี่โยพูดรึเปล่าจ้า
เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ สู้ๆ ^__^¥
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 6<< up 14/1/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 15-01-2014 13:16:54
พี่ชินกับวีมาแร้วว คิดถึงจุง~
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 6<< up 14/1/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: ตัวเล็ก ที่ 15-01-2014 20:40:24
น้องวีทำงานหนักจริงจริ๊ง
พี่ชินมีจุดประสงค์อะไรป่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 6<< up 14/1/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 15-01-2014 20:48:55
สู้ๆพี่วีเดี๋ยวมันจะเสียใจที่มันทำกับเราแบบนี้ทนหน่อยแล้วตอนมันเป็นผัวเรา
เราค่อยคืนอีก 10 เท่าก็ยังไม่สายน่ะ
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 6<< up 14/1/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 16-01-2014 09:19:54
สงสัยพี่ชินจะอยากได้วีเป็นแม่บ้านแม่เรือน เลยหัดให้วีรู้ว่าการเป็นแม่บ้านต้องทำยังไง

รอภาคไฟฟ้า ว่าพี่ชินจะแกล้งน้องๆ ยังไงโดยเฉพาะวี  อ่วมแน่
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 6<< up 14/1/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: cinpetals ที่ 16-01-2014 14:03:49
5555555
รอลุ้นตอนหน้า
ส่าซุ้มพี่ชินจะให้ทำอะไร  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 6<< up 14/1/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 27-01-2014 18:22:42
วีระวังโดนแกล้งน่ะ 5555555+ :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 7<< up 1/2/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 01-02-2014 01:45:49
   

   ถ้าให้รักก็อย่าร้าย  7



“มาเลยๆ พวกเราดาวเด่นน้องใหม่ไฟแรงมาเว้ย”
เสียงพี่ผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนเรียกเพื่อนๆให้ลุกจากเก้าอี้
ขึ้นมาตอนรับพวกผมที่เพิ่งเดินเรียงแถวกันมาถึงซุ้มครับ
ซุ้มนี้เป็นซุ้มของภาคเครื่องกลครับ


 ใช่แล้วมันคือซุ้มของสุดที่รักของผมเอง แค่ผมรักพี่เขานะครับ
แต่พี่เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมรัก ฮ่าๆๆแบบว่าหมาเห่าเครื่องบินเลยผม


“ไหนวะ คนไหน”
เสียงผู้ชายดังขึ้นก่อนผมจะเห็นว่าเป็นพี่โฟมครับ พี่ว๊ากปี 3 คนหนึ่งนั่นเอง
ความเกรียน และความกวนตีนของพี่แกอย่าได้ให้ใครไปสะดุดต่อมอะไรแกนะครับ
แกจัดชุดใหญ่ให้ได้อายกันมานักแล้ว ไม่สนด้วยว่าจะเป็นหญิงหรือชาย



“นี่ไงน้องวีดาวเด่น น้องแบตสุดหล่อ แถมยังมีดาวคณะปีนี้น้องลูกแพรมากันครบเซ็ตนะจ๊ะ”
พี่ผู้หญิงผมยาวยังคงพูดต่อไปให้ผมได้เสียวสันหลังครับ
แค่ที่ผ่านมา สามสี่ซุ้มผมก็เลอะจนไม่เหลือสภาพ
แถมด้วยเสื้อผ้าที่เปียกเข้าไปจนถึงไข่ชั้นในนี่อีกครับ
ไม่รู้ไปตักน้ำจากคลองข้างๆคณะมาหรือป่าวผมเริ่มคันตามลำตัวแล้วสิครับ



“ว๊าวๆๆ กูจะจัดอะไรต้อนรับดีหน้า” พี่โฟมพูดพร้อมทำหน้าให้ผมขนลุกเลยครับ

 
“ไหนมีอะไรวะ” เสียงนิ่งๆดังขึ้นผมมองไปเป็นพี่คิมครับ
ตายแน่ผมแต่ละคนถ้าเคยลงเชียร์ก็จะรู้วีรกรรมที่ผมได้ก่อไว้ แน่นอน
แต่ผมมองหาแล้วไม่เห็นพี่ตินณ์ครับ
เห็นแต่รุ่นพี่ปีสี่ แล้วก็ปีสองบางคนที่เคยลงห้องเชียร์


“น้องวีครับ ได้ข่าวว่าออกไปเต้นบ่อยๆ
แบบนี้ก็คงชำนาญแล้วสิ ไหนลองเต้นให้พี่ดูซักเพลงสิครับ”
เอาแล้วไงพี่โฟมเปิดประเดินก่อนเพื่อนเลยครับ



“เอ่อ เพลงอะไรครับ” ผมถามพี่โฟมกลับเสียงไม่ดังเท่าไหร่

“เพลงอะไรดีวะ อยากดูน้องมันเต้นเพลงอะไร” 
พี่โฟมหันไปถามเพื่อน และรุ่นพี่รุ่นน้องตัวเองในซุ้มครับ

“เพลงฮวก กล้วยแขก ไก่ย่าง ว่าว  คัน”
เสียงบอกชื่อเพลงดังแข่งกันระงมเลยครับ
แต่ละเพลงไม่เห็นใจคนเต้นอย่างผมเลยครับแหม่


“งั้นเอาเพลงคัน เบาๆไปก่อนแล้วกัน เอากลองจัด”
สิ้นเสียงพี่โฟมเสียงกลองก็ดังให้จังหวะ คนในซุ้มก็เริ่มต้องครับ


“ คัน.................คัน คันตรงนี้ๆๆ พี่ช่วยหนูที หนูทนไม่ไหว
คันในร่มผ้า คันขา คันไหล่ (ซ้ำ)
คันเข้าไปข้าใน..........อู้ว.........ทั้งเสียว ทั้งคัน”

 เสียงเพลงดังขึ้นเพลงที่ผมต้องเริ่มเต้น
บอกได้เลยครับวันนี้ผมเอวเคล็ดแน่นอนเพราะทุกเพลงแม่งเด้งจนกางเกงจะทะลุแล้วครับ
ผมเต้นเสร็จมีร้องซ้ำแปลว่าต้องเต้นต่อ ผมก็เต้น


“อ่าว ยืนดูเพื่อนเฉยๆได้ไง เอาเปรียบเพื่อนเหรอ ช่วยกันเต้นสิ 
หลานรหัสพี่ของ 4 ชุดเลยนะ” สิ้นเสียงพี่คิมเท่านั้นครับ
เพื่อนๆก็มายืนเรียงแถวช่วยผมเต้นก่อนที่ลูกแพรจะโดนหนักกว่าเพื่อนเพราะเป็นหลานรหัสพี่คิม



“เอาหล่ะ เต้นกันพอหอมปากหอมคอ มาเข้าเกมส์ที่จะให้ทำในซุ้มนี้คือ เลี้ยงลูก”
พี่ผู้หญิงคนหนึ่งเป็นคนอธิบายเกมส์ครับ เกมส์ก็ไม่ยากเท่าไหร่
คือให้เอาเชื่อกที่ผูกมะเขือยาวไว้แล้วมาผูกที่เอวของเราให้มันห้อยลงข้างล่างในระดับเข่า
ก่อนที่จะเอาไปเขี่ยลูกมะนาวที่พื้นให้เข้าเส้นชัย เป็นการเลี้ยงลูกมานาวให้เข้าเส้น


ความสนุกของเกมส์นี้เหรอครับ คนเล่นไม่สนุกหรอกครับ
ก็เพราะว่าผมต้องย่อตัวลงไปให้มะเขือของตัวเองตีให้โดนมะนาวลูกเล็กๆ
ย่อแล้วย่ออีก มือสองข้างก็ต้องไขว้หลังไว้ห้ามเอามาช่วย สุดท้ายก็ต้องเด้งเอวช่วยอยู่ดี
คนที่เชียร์นี่ก็ขำกันขี้แตกขี้แตนสิครับก็ท่าแต่ละคร ทุเรศได้อีก 

เวลาแข่งๆที่ละ 4 คนครับชาย 2 หญิง 2 ใครเข้าคนแรกก็รอด
คนที่สองเต้นหนึ่งเพลง คนที่สามเต้นสองเพลง
คนสุดท้ายโดนเต้น 3 เพลงรวดครับ บอกเลยโครตซวย
และไอ้คนนั้นก็ไม่พ้นผมสิครับ ความซวยผมตกอยู่ที่ผมเสมอ



“วีมานี่ก่อน” พอผมทำกิจกรรมที่ซุ้มเครื่องกลเสร็จกำลังจะออกจากซุ้มนี้
อยู่ๆก็ได้ยินเสียงให้เดินไปหา พอมองไปเป็นพี่ตินณ์ ยืนอยู่กับเพื่อนครับ
ชื่อพี่อาร์มกับพี่นัท ผมก็ยิ้มให้ก่อนเดินเข้าไปหา

“ครับพี่ตินณ์ มีอะไรเหรอ” ผมถามยิ้มๆ

“ไม่มีอะไร พอดีเห็นหน้าลบแล้ว เลยอยากเติมให้”



“เติมอะไรครับ” ผมถามพี่ตินณ์งงๆ
ก่อนสายตาจะมองตามแกไปเห็นสิ่งที่อยู่ในมือพี่นัทครับ
มันเป็นแป้งผสมสีดำ ผมเลื่อนสายตาขึ้นมองหน้าพี่นัท
เท่านั้นแหละครับ เคยเห็นผู้ร้ายในคราบนักบุญไหมครับ
หน้าพี่นัทฉาบไว้ด้วยรอยยิ้มสดใสและจริงใจส่งให้สุดๆ
ก่อนที่มือแกจะจ้วงลงไปในขันที่ผสมแป้งแล้วยกขึ้นมาละเล้งหน้าผม
พี่ตินณ์ก็เอากับเขาด้วยครับ




“มึงว่าหล่อยังวะ”พี่นัทหันไปถามพี่อาร์มครับ

“กูว่ายังน้อยไปหว่ะ” พี่อาร์มตอบหน้านิ่งๆ

“งั้นกูเติมเอง” พี่ตินณ์คว้าขันที่ผสมแป้งมาถือแล้วละเลงหน้าผม
จนไม่เหลือพื้นที่ให้ชั้นหนังกำพร้าได้หายใจเลยครับ
ตอนนี้คือเหลือแต่ตาที่เป็นสีขาว
คือถ้าเป็นซุ้มอื่นแป้งจะเป็นสีขาวหรือสีสดใส แต่ซุ้มนี้สีดำเป็นขี้ควายเลยครับ
ผมว่าถ้าล้างออกนี่หน้าผมคงใสกิ๊กเหมือนทำสปาพอกโคลนแน่ๆ



“เสร็จแล้ว อ่ะแถมให้โชคดีไอ้น้อง”
พี่ตินณ์ว่าก่อนยิ้มให้ผมแล้วดึงที่คาดผมที่อยู่บนหัวแกมาใส่ให้ผมครับ
แล้วแกก็เดินไปล้างมือผมได้แต่มองอึ้งๆว่าที่อยู่บนหัวตัวเองเป็นของพี่ตินณ์ๆ   
ผมพี่แกยาวมาปิดตาแกเลยมีที่คาดผมสีดำอันเล็กๆอยู่บนหัว
แต่ตอนนี้มันมาอยู่ที่ผมแล้วครับ ผมก็ได้แต่เดินยิ้มไปตลอดทาง


“เฮ้ย! ไอ้วีหน้ามึงไปทำอะไรมา”
เสียงไอ้แบตทักผมเมื่อผมเดินตามมาจนทันกลุ่มของตัวเองที่ออกเดินมาก่อน

“พอกหน้าเพื่อหน้าที่ขาวใส ดั่งตูดเด็ก” ผมตอบไอ้แบตครับ

“ไอ้เชี้ยวี มึงอย่ากวนตีนเอาเรื่องจริงดิ เมื่อกี้ยังไม่มีเลย”

“หึหึ พี่ตินณ์แม่งละเลงหน้ากูดิ บอกมันจางเลยเติมให้ มึงเอาไหมพี่เขาเติมฟรีไม่คิดเงิน”
ผมถามไอ้แบตอย่างเผื่อแผ่ครับ อยากให้ได้เหมือนๆกันจะได้ไม่มาอิจฉาภายหลัง

“ไม่ต้องกูพอใจในสิ่งที่มี” ไอ้แบตว่าพร้อมรีบสั่นหัวเลยครับ

“ดูท่าพี่เขาเอ็นดูมึงมากเนอะให้มาซะเยอะเลย แทบไม่มีรูจมูกให้หายใจ”

“เออดิ รักมากแบบนี้กูก็มีสิทธิ์ใช่ป่ะ” ผมถามไอ้แบตพร้อมรอยยิ้มเต็มหน้าเลยครับ


“เออมี แต่มีสิทธิ์อกหักน่ะมึงเข้าใจไหม เต็มหน้าขนาดนี้
ถ้าเข้ารักเขาไม่ทำมึงหรอก ฟาย!! ใช้สมองคิดบ้างอย่างใช้แต่ขี้เลื่อยอย่างเดียว” 
นอกจากมันจะทำลายความหวังแล้วมันยังด่าผมด้วยครับ เลวไหมเพื่อนแบบนี้
แต่จะเลิกคบก็ไม่ทันแล้วครับ ก็ผมดันโง่เป็นเพื่อนมันไปแล้ว



“เออกูโง่ ถ้าไม่โง่คงไม่เป็นเพื่อนมึงหรอก”
ผมว่าก่อนเดินหนีมันเลยครับ มันก็ด่าตามหลังมาแต่ผมไม่สนใจซะอย่าง



“ว๊าย!!”

“อะไรแพร อย่าบอกนะว่าตกใจหน้าหล่อๆของวี”
ผมถามลูกแพรที่หันมาเห็นผมเดินอยู่ข้างหลังแล้วตกใจร้อง
ก่อนเพื่อนคนอื่นจะหันมาดูเป็นตาเดียว ผมไม่ใช่ของแปลกนะครับ
จะมองกันทำไมนักหนาวะ หรือว่าผมหล่อ
แอบเขินเหมือนกัน ถ้าหน้าแดงคงไม่มีใครรู้นะ


“ไม่ตกใจเลยจ๊ะ ไม่ตกใจ” แพรโกหกได้ไม่เนียนมากๆครับ

“หน้าวีมันหน้าตกใจขนาดนั้นเลยเหรอ” ผมถามพร้อมทำเสียงเศร้าเลยครับ


“ก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่มันหน้าตกใจมากอ่ะ
ถ้ามืดแล้วอย่าไปทำแบบนี้ที่ไหนนะเขาจะนึกว่าผี”
ลูกแพรว่ายิ้มๆก่อนหันไปหัวเราะกับเพื่อนผู้หญิงที่เดินด้วยกันครับ 
ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรไม่โกรธเพราะคนที่ทาให้เป็นพี่ตินณ์
ก็แบบนี้แหละครับยามรักน้ำต้มผักยังว่าหวาน ให้ทานขี้ก็ยังยิ้ม หึหึ



   “เราเหลือด่านเดียวแล้วใช่ป่ะ”ผมถามลูกแพรครับ

   “ใช่เหลือแค่ภาคไฟฐานเดียวก็จะได้กลับแล้ว”
ลูกแพรหันมาตอบผมพร้อมรอยยิ้มเต็มใบหน้าเลยครับ
แต่ก็ดีเหลือแค่ที่เดียวผมจะได้รีบกลับไปทำงานห้องไอ้พี่ชินแล้วกลับห้องตัวเองไม่ต้องค้าง


   “ฮิ้ว เอาต้องรับน้องๆกันหน่อย” เสียงเป่าปาก เสียงแซว
เสียงโห่ร้องแสดงการต้อนรับเหยื่ออย่างพวกผมดังมาแต่ไกลเลยครับ

   “แล้วตั้งแถวหน้ากระดานเลยค่ะ”
พี่คนหนึ่งในซุ้มออกมาต้อนรับพวกผมด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอาบยาพิษครับ

   “ซุ้มนี้เป็นซุ้มภาคไฟฟ้านะคะ พี่ทุกคนยินดีตอนรับน้องเข้าสู่รั่วมหาวิทยาลัยแห่งนี้
ยังไงขอให้น้องคนแรกแนะนำตัวเองหน่อยค่ะ ขอท่าพรีเซนต์ชื่อด้วย แล้วไล่มาเรื่อยๆ”
พี่แกทักทายเสร็จสั่งแนะนำตัวเลยครับพวกผมก็เริ่มแนะนำ
อันนี้ไม่ยากเท่าไหร่เพราะทุกๆซุ้มก็จะสั่งเหมือนกัน



   “ หลังจากแนะนำตัวเองแล้วพี่ก็จะอธิบายเกมส์ของซุ้มนี้ให้ฟังนะค่ะ 
เกมส์จะแบ่งเป็น 3 เกมส์ย่อยที่ต้องทำให้ผ่านทุกเกมส์ ถึงจะได้ลายเซ็นของซุ้มนี้
เริ่มจากเกมส์แรกคือให้น้องๆทุกคนขึ้นไปยืนบนหนังสือพิมพ์แผ่นนี้ให้ได้ทั้งหมด”
สิ้นเสียงพี่แก พวกผมก็เริ่มหันหน้ามามองกันเลยครับ
หนังสือพิมพี่ถูกตัดจนเหลือประมาณกระดาษ A4 สองแผ่นต่อกัน
แล้วให้คนเป็นสิบขึ้นไปยืนให้หมดเนี๊ยะนะ บ้าไปแล้ว



   “แผ่นนี้จริงเหรอครับ” ผมถามเพื่อความแน่ใจ

“จริงค่ะ เมื่อยืนได้แล้วพี่จะจำเวลา 2 นาที ถ้าไม่ล้มถือว่าผ่านค่ะ”
พี่แกตอบเสร็จแล้วมียิ้มเยอะสะใจด้วยครับ
การได้แกล้งเด็กปีหนึ่งมันคงสนุกมาใช่ไหม
ผมจะทำความรู้สึกนี้ไว้แล้วน้องรุ่นต่อไปเตรียมตัวได้เลย หึหึ


พวกผมก็เริ่มปรึกษากันว่าจะทำยังไง
จะได้ข้อสรุปว่าให้ผู้ชายยืนเป็นฐานแล้วเอามือประสานกันให้ผู้หญิงขึ้นไปยืนอีกที
แล้วคนที่เหลือก็พยายามเกาะหลังไว้ แค่นึกภาพตามผมก็จะแย่แล้วครับ
เมื่อพร้อมก็บอกพี่แก พี่แกก็ให้ขึ้นไปยืนแล้วเริ่มจับเวลาครับ 
บอกได้เลยว่าผมอยู่ข้างล่างโครตหนักทั้งหลังทั้งมือ
เกร็งจนหน้าเขียวแม่งก็ไม่สองนาทีซะที 
เวลาเหมือนเดินช้า หนึ่งนาทีเหมือนหนึ่งชาติเลยครับ
พอพี่แกบอกผ่านเท่านั้นครับ
ก้อนที่เกาะกันอยู่อย่างเหนียวแน่นก็พังทลายแยกตัวออกจากกัน
เหมือนแมลงวันตอมขี้ที่ใครเอาไม้ไปแย่แล้วฝูงแมลงวันแตกเลยครับ





“เกมส์แรกผ่านไปด้วยความสามัคคีกันมากค่ะน้องๆ
เกมส์ต่อไปจะเป็นรุ่นพี่ปี 3 มาอธิบายให้ฟังนะคะ” พอแกพูดจบเท่านั้นครับ
พี่ผู้ชายหน้าเข้มคนหนึ่งก็ลุกขึ้นจากโต๊ะที่ผมเห็นไอ้พี่ชินกับพี่โยนั่งอยู่ด้วย


“เกมส์ที่สองนี้ง่ายๆครับ อาศัยความสามัคคีเช่นเดิม กลุ่มนี้มี 10 คนพอดี
เอาเป็นว่าพี่จะให้แบ่งเป็น 2 แถวๆละเท่าๆกัน
โดยจะเป็นการส่งต่อคำคนหน้าสุดจะรับคำจากรุ่นพี่แล้วแสดงท่าทางให้เพื่อนคนแรกดู
แล้วเพื่อนคนแรกส่งต่อให้เพื่อนคนถัดไปจนถึงคนสุดท้ายเป็นคนตอบ
ตอบผิดโดนลงโทษ ตอบช้ากว่าอีกทีมโดนลงโทษเช่นกัน
เราจะนับไว้ก่อนว่าผิดกี่ครั้ง แพ้กี่ครั้งแล้วนับเป็นรอบให้เต้นนะครับ เข้าใจไหมครับ”
พี่แกอธิบายยาวเลยครับ จริงๆมันคือเกมส์ใบ้คำนั้นแหละครับ


“เข้าใจค่ะ /เข้าใจครับ” เสียงพวกผมตอบรับออกมาพร้อมกันอย่างพร้อมเพรียง

“งั้นแบ่งเลยครับ”  ผมอยู่กลุ่มเดียวกับไอ้แบตแล้วก็ลูกแพรครับ 
ไอ้แบตเป็นคนใบ้คนแรก ผมเป็นคนรับคำ
ไอ้แบตทำท่าเหมือนนกแล้วก็เอามือต่อกันเป็นสามเหลี่ยมก่อนท่ากากบาท
แล้วอะไรซักอย่างกลมๆแล้วทำท่าลาดตัว
ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจครับ แต่มันคงเห็นสายตาผม
มันเลยชี้ไปที่เป้ากางเกงตัวเองแล้วทำท่าโบกมือ เท่านั้นผมรู้เลยครับ
 ผมหันหลังกลับมาส่งท่า นกเขาไม่ขันให้แพรต่อ แพรก็เหมือนงงแล้วส่งต่อ
จนถึงคนสุดท้าย แม่งตอบนกกระจอกไม่กินน้ำครับผมโครตฮา
ความหมายใกล้เคียงนะแต่พี่หน้าหนวดแม่งโหดไม่ยอมให้ครับ
สรุปแล้วผิดทั้งสองแถว



ต่อมาผมเป็นคนใบ้ แพรเป็นคนรับไอ้แบตไปต่อท้ายเป็นคนทายครับ 
แล้วคำที่ผมได้คือ ผีหิ้วหัว ผมก็จัดการดึงหัวตัวเอง
โดยจับผมกำเต็มมือแล้วทำท่าดึงแล้วชี้ที่หน้าตัวเองที่กำลังดำได้ที่
ก่อนทำท่าเดินหิ้วของไปหา แพรยิ้มเลยครับคำนี้ไม่ยากเท่าไหร่
แพรก็หันไปใบ้โดยชี้มาที่หน้าผม ที่นี้ทุกคนก็ชี้ตามสุดท้ายไอ้แบตทายถูกครับ
ผมควรดีใจไหมว่าตัวเองหน้าเหมือนผีเนี๊ยะชักเริ่มสงสัย 



ต่อไปเป็นแพรใบ้บางครับผมเป็นคนตอบแล้วผมก็ตอบผิด
จากนั้นก็ผิดบ้างช้าบ้างสลับกันไป สุดท้ายนับแล้วผมต้องเต้น 4 เพลงครับ


เริ่มจากเพลงตุ่ม เมื่อกลองพร้อมเพลงพร้อมพวกผมก็เริ่มเต้นทันที

ตุ่มใส่น้ำ......ใส่น้ำให้เต็มตุ่ม (2 รอบ) แล้วเราจะชื้นใจ ๆ
ตุ่มตะลุ่มตุ่มโป๊ะ โป๊ะปะโล๊ะโป๊ะตุ่ม วี๊ดตุ่มว๊ายตุ่มๆ
เด้งซ้าย เด้งขวา เด้งหน้า เด้งหลัง เด้งพร้อมๆกัน เด้งๆๆๆๆ เด้งๆๆๆๆ


พอเพลงตุ่มจบกลองขึ้นเพลงใหม่ต่อเลยครับ ผมก็ต้องรีบปรับท่าตามเพลงแทบไม่ทัน
เพลงต่อไปแกจัดเพลงอารมณ์เสียวให้ครับ ไม่รู้เป็นไงผ่านซุ้มไหมจัดเพลงนี้ตลอด


อารมณ์เสียว ๆ ๆ อารมณ์เสียว ๆ ๆ สุดสยิว มันสุดสยิว ผู้ชายอะไร
นั่งรถมาตั้งไกล หัวใจมันเริ่มเปลี่ยว เห็นเธอมาคนเดียว ฉันนึกเสียวสุดไส้
อยากเดินเข้าไปทัก เธอรักฉันบ้างไหม เธอตอบมาทันใด
ฉันนี่ไง ลูกผู้ชายตัวจริง กระทิงแดง อู้ว...........เสียว
อารมณ์เสียว ๆ ๆ อารมณ์เสียว ๆ ๆ สุดสยิว มันสุดสยิว ผู้ชายอะไร โอ้วๆ


แสน..ปวดแขน อยากมีแฟนจนตัวสั่นๆ จะทำยังไงดีๆ ช่วยบอกฉันทีๆ ตรงไหนๆ ตรงนี้ๆ
แสน..ปวดขา อยากเตะหมาตัวสั่นๆ จะทำยังไงดีๆ ช่วยบอกฉันทีๆ ตัวไหนๆ ตัวนี้ๆ
แสน..ปวดหัว อยากมีผัวจนตัวสั่นๆ จะทำยังไงดีๆ ช่วยบอกฉันทีๆ คนไหนๆ คนนี้ๆ



ฉันเสียวตรงนี้ ตรงนั้น(ซ้ำ) ฉันเสียวตรงนั้น ฉันเสียวตรงนี้
พวกเธอมาทำอะไรกัน (ซ้ำ) หรือจะมาทำให้ฉันนั้นเสียว
(เสียวๆๆ) ๆโคตรเสียว โคตรเสียว


เพลงอารมณ์เสียวจบต่อด้วยเพลง แสน และก็เพลงเสียวครับ
คืออยากจะบอกพวกพี่ๆว่าผมเต้นจนเสียวสันหลังไปหมดแล้วครับ
ปั้นเด้าเคล็ดกันเลยทีเดียวรัวขนาดนี้
คือแต่ละเพลงก็เหมาะกับความหื่นของภาคนี้ดีครับผมไม่แปลกใจเลย
จริงๆมันมีเพลงธรรมดาเบาๆอีกเยอะแต่พี่แกคัดแต่ละเพลงมาให้พวกผมนี่เด็ดๆทั้งนั้นครับ



แล้วอีกทีมก็โดนเหมือนกันครับ อีกทีมเจอไป 5 เพลง มีเพลง
อารมณ์เสียวเหมือนกัน แล้วก็ว่าว กล้วยแขก นมไฮโซ มะหมี่ขูดมะพร้าวครับ


“เกมส์ที่สองเสร็จแล้วต่อไปจะเป็นเกมส์ของพี่ปี 4 เป็นเกมส์สุดท้ายนะคะ”
พี่ผู้หญิงคนเดิมออกมาบอกก่อนจะเปลี่ยนให้พี่ผู้หญิงสวยๆที่ดูจะเป็นพี่ปี 4 ลุกขึ้นจากโต๊ะครับ


“สวัสดีน้องๆทุกคนนะคะ เกมส์นี้อาศัยความเชื่อใจเท่านั้นค่ะ
โดยพี่จะแจกผ้าสีดำให้น้องคนละผืน
โดยจะมีรุ่นพี่ไปปิดให้แล้วจากนั้นน้องก็จะถูกพาไปยังเขาวงกต
โดยให้จับเพื่อนด้านหน้าตัวเองไว้เขาพาไปไหนก็ต้องไปเพราะเขาเป็นหัวหน้าทีม
ถ้าน้องสามารถออกจากเขาวงกตภายในเวลาที่กำหนดได้ถือว่าผ่านค่ะ
ถ้าไม่ผ่านก็เต้นเหมือนเดิมเพื่อเป็นการคลายเครียดให้พวกพี่นะจ๊ะ”
พี่แกพูดเสร็จส่งยิ้มหวานมาให้ผมด้วยครับ 
แล้วผมก็เห็นพี่โย พี่ชินเดินถือผ้าสีดำในมือตรงมาที่พวกมผมครับ


“ไอ้วีมึงเป็นคนนำ” เสียงไอ้แบตที่อยู่ใกล้ๆกระซิบครับ

“ทำไมต้องเป็นกูวะ” ผมถามกลับทันที

“ก็ไม่มีคนนำแล้วมึงยืนคนแรก มึงนำ”
พอมันพูดจบผมก็มองไปข้างหน้าจะเห็นเป็นสถานที่ที่ถูกกั้นด้วยผ้าสีดำทั้งหมด
เป็นสีเหลี่ยมกว้างพอสมควร ตอนแรกผมก็สงสัยว่าเอาไว้ทำอะไรตอนนี้ไม่สงสัยแล้วครับ


“กูปิดให้” ผมแบมือไปขอผ้าแต่พี่ชินบอกจะปิดให้เองเลยครับ

“แน่นไป” ผมบอกเมื่อรู้สึกว่าผ้ามันรัดแน่นมากไป

“พอยัง”

“ครับ” พี่ชินถามพร้อมคลายผ้าออกนิดนึง

“หึหึ ใครทาหน้าให้วะ ดูดีกว่าปกติเยอะเลย
ยิ่งปิดตาแม่งไม่เหลือความเป็นคนเลยซักนิด”
พี่ชินผูกตาให้ผมเสร็จก็เดินไปผูกคนอื่นต่อครับ

“ใครนำทางยกมือขึ้น” เสียงพี่ปี 4 คนเดิมถามผมก็ต้องยกมือสิครับ

“โยพาน้องเข้าไปได้เลย” ผมได้ยินเสียงพี่แกสั่งพี่โยครับ
แล้วก็รู้สึกเหมือนมีคนมาจับแขนผม

“เดินตามพี่นะวี” เสียงพี่โยครับผมจำได้

“ครับ” ผมตอบรับพร้อมเดินตามแรงจูงของแกไปเรื่อยๆ

“ตอนนี้เข้ามาแล้วนะ พี่จะปล่อยแล้วดูแลตัวเองนะ”
พี่โยพาผมมาหยุดแล้วก็ปล่อยแขนผมเลยครับ มืดขนาดนี้จะไปต่อได้ไงวะ

“ครับ” แล้วผมก็ตอบรับแกไปอย่างนั้นก่อนที่จะเริ่มเอามือคลำทาง
เหมือนคนตาบอดว่ามีอะไรอยู่ข้างหน้าหรือป่าว เสื้อก็ถูกไอ้แบตดึงจากด้วยหลังครับ
 ผมเริ่มเดินไปเรื่อยๆ จนเริ่มเหยียบอะไรซักอย่างมันนุ่มๆ บอกไม่ได้ครับว่าเป็นอะไร


“หมอบกิ่งไม้” อยู่ๆก็มีเสียงหนึ่งบอกให้ผมหมอบ ผมก็รีบหมอบเลยครับ

“กิ่งไม่ระวัง” ผมบอกคนถัดไปแล้วก็บอกกันเป็นทอดๆ
ไม่รู้ว่ามีจริงหรือป่าวแต่หมอบไว้ก่อนดีที่สุด
แล้วผมก็เดินไปจนรู้สึกว่าเหยียบพวกใบไม้แห้งหรือไปมะพร้าว
เพราะมันรู้สึกสากๆเท้า มือผมก็คลำทางจนไปเจอข้างฝา
ผมก็บอกคนข้างหลังว่าข้างฝาให้จับไปเลื่อยๆ


“กรี๊ดดดดด.......” อยู่ๆผู้หญิงข้างหลังผมก็ร้องขึ้นมาเสียงดังเลยครับ

“เป็นอะไร” ผมตะโกนถาม

“อะไรไม่รู้วิ่งชนขาเรา” เสียงตอบกลับมาครับ

“ไม่มีอะไรเกาะไว้แน่นๆ” ผมบอกกลับก่อนเริ่มเดินต่อ

“ไอ้วีมึงว่าใกล้ถึงยัง” ไอ้แบตถามผมครับ

“คงใกล้แล้วหว่ะเดินมานานแล้ว ตอนกูดูข้างนอกมันไม่ไกลเท่าไหร่นะ” ผมตอบมันกลับ

“เออ หวังว่ามึงคงไม่พาหลงนะ” ไอ้แบตแม่งดูถูก

“ไม่เว้ยคนอย่างกูไม่มีหลง” ผมโม้เลยครับ

“หึหึ” เสียงไอ้แบตหัวเราะใส่ผมสองหึครับ
กวนได้อีกผมก็เลิกสนใจมันแล้วเดินต่อไปเรื่อยๆ
แล้วอยู่ๆมือผมก็เหมือนคลำไปเจอตัวอะไรซักอย่างมันเกาะอยู่กำแพงครับ


ผมคลำดูว่ามันคืออะไรให้แน่ใจ
แล้วไอ้ตัวนิ่มๆหางยาวผิวขรุขระหน่อยๆมันดิ้นครับ ชัดเลย


   “อ๊ากกกกกกกกกก................”
ผมร้องเสียงดังก่อนก้าวสะดุดอะไรซักอย่างล้มครับ
ไอ้แบตที่จับผมอยู่ก็ล้มตามกัน ทันทีที่รู้สึกว่าตัวเองล้ม
ผมไม่เจ็บเท่าไหร่แต่มีมือใครมารับผมไว้

แล้วปากผมก็ไปสัมผัสกับอะไรซักอย่างที่นุ่มๆอุ่นๆไม่นานผมก็โดนผลักออก
ผมกำลังงงว่าตัวเองล้มใส่ใครก็ผมยืนหน้าสุดแล้วไอ้แบตก็อย่างข้างหลัง
แล้วความรู้สึกเมื่อซักครู่คืออะไร อาการใจเต้นแรงนี่มาจากไหน


   “ไอ้วีมึงเป็นอะไร โอเคไหม” เสียงไอ้แบตถามผมดังมาจากข้างหลังครับ

   “ไม่เป็นไร” ผมตอบมันแบบยังเบลอๆครับ

   “แล้วมึงร้องทำไม”

   “กูว่ากูจับโดนตุ๊กแกหว่ะ” ผมบอกมันเสียงสั่นเลยครับเมื่อนึกได้ว่าตัวเองจับโดนอะไรเข้า

   “ไอ้เชี้ย ร้องซะตกใจแถมพาล้มทั้งขบวนเลยนะมึง” เสียงมันว่าผมครับ

   “กูขอโทษ อ่ะจับใหม่ๆ” ผมบอกมันพร้อมควานมือไปเจอมือมัน
แล้วดึงมาจับชายเสื้อด้านหลังผมอีกครั้งครับ

   “เออนำดีๆหล่ะ”  จากนั้นผมก็บอกให้สำรวจว่าพร้อมไหมจะเดินกันต่อ
 ทุกคนตอบว่าพร้อมเลยเริ่มเดินอีกครั้งครับ เดินไปก็มีเสียงบอกให้หมอบ
ให้คลานเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาไปเรื่อยครับจนสุดท้ายผมก็ออกมาได้สำเร็จ

 เสียงที่ผมได้ยินก็จะเป็นเสียงที่เปลี่ยนกันไปเรื่อยๆ
ผมเลยไม่รู้ว่าเป็นเสียงใครบ้างครับ
พอออกมาได้ปรากฎว่าเลยเวลาโดนทำโทษให้เต้นไปตามระเบียบ
ก่อนจะได้ลายเซ็นภาคไฟฟ้ามาครองสมใจ

ตอนโดนทำโทษให้เต้นผมรู้สึกว่าพี่ที่ซุ้มมองผมแปลกๆ
บางคนก็เหมือนกั้นยิ้ม ผมว่าต้องมีคนเห็นแน่ๆ
ว่าผมล้มทับใครแต่ผมก็ไม่กล้าถามเพราะอายครับ



ผมรู้สึกว่าคนที่ผมล้มทับหน้าจะเป็นผู้ชาย
เพราะแรงตอนที่ผลักผมออกมาแรงมาก
ผู้หญิงคงไม่มีแรงเยอะเท่านี้
แถมหน้าอกก็แบนราบแข็งโป๊กเป็นไม่กระดานเลยครับ
ไม่มีส่วนเว้าส่วนโค้งใดๆ
และที่ผมอยากรู้คือเหมือนปากผมไปชนกับปากใครนี่สิครับ
มองพี่ชินกับพี่โยก็ทำเหมือนปกติไม่มีพิรุธซักคน
แล้วหมาตัวไหนเอาจูบแรกผมไปว่ะ แม่งอยากรู้แต่ไม่กล้าถามครับ



    “จากที่ดูสมุดกิจกรรมน้องๆทำกิจกรรมครบแล้ว
ก็ขอให้เดินทางกลับบ้านปลอดภัย อาบน้ำนอนให้สบาย
ใครที่โดนเมล็ดแมงลักไปเต็มหัวก็ไปสระผมเอานะคะ
อย่าแกะเพราะมันจะยิ่งพันกัน แล้วเจอกันวันจันทร์หน้าค่ะ”
พี่ผู้หญิงที่เดินมาตอนรับคนแรกเป็นคนมาพูดส่งท้าย
ก่อนพวกผมจะเดินแยกย้ายกันครับ


แต่ก่อนไปขอดูหน่อยเถอะว่ามันมีอะไรบ้างในเขาวงกตนั่นถึงให้หมอบให้คลานกันนัก
ผมเดินไปแอบดูตรงทางที่เดินออกมาครับปรากฏว่าไม่มีห่าอะไรเลย
นอกจากทางโล่งๆและใบมะพร้าวแห้งไม่เยอะ ดินเหลวที่เอามากองไว้ 
บอกไส้เลยว่าโครตเจ็บใจครับ ตอนพวกผมทั้งหมอบทั้งคลาน
คลำสะเบะสะบะไปทั่วรุ่นพี่คงขำกันน่าดูเลยสินะ

บทเรียนครั้งนี้ผมจะจำไว้ไม่มีทางลืมครับ

“วีเดี๋ยวแพรไปส่ง” เสียงลูกแพรเรียกผมที่กำลังเดินออกห่างไอ้เขาวงกตเชี้ยนั่นเรื่อยๆ

“แพรเอารถมาเหรอ” ผมถามกลับ

"ช่ายวันนี้แพรขับมาเอง"


“แต่รถแพรจะเลอะน่ะสิ” ผมถามอย่างเกรงใจครับ
เพราะตอนนี้ตัวผมเต็มไปด้วยเชือกฟางที่มัดผม
ที่คาดผม เมล็ดแมงลักบนหัว ชุดที่เปื้อนแป้งสีต่างๆมากมาย 
ฝุ่น และโคลนเต็มตัวไปหมดเลยครับ


“ไม่เป็นไรยังไงก็ต้องล้าง ไปแบตขึ้นรถ เดินไปอายเขาเปล่าๆ”
แพรบอกก่อนเรียกไอ้แบตขึ้นรถครับ ผมก็เลยขึ้นไปด้วย

สุดท้ายแพรก็มาส่งผมกับไอ้แบตที่หอ จากนั้นก็ขับออกไป
ผมรีบขึ้นมาอาบน้ำและนอนสลบไปเลยครับ
ความเหนื่อยทำให้ผมลืมกระทั้งเวรทำความสะอาดห้องพี่ชินวันนี้


            --- โปรดติดตามตอนต่อไป---


               ขอบคุณค่ะที่ติดตามเสมอ กดเป็ดก๊าบๆบวกคืนเรียบร้อยจ้า
               เจอกันตอนหน้าค่ะ รักคนอ่านเหมือนเดิมค่ะ ม๊วฟ :กอด1:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 7<< up 1/2/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 01-02-2014 02:32:09
พี่ชินใช่ไหมๆ
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 7<< up 1/2/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 01-02-2014 06:23:54
อัยย่ะ ใครนะ พี่ชินหรือป่าว
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 7<< up 1/2/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 01-02-2014 07:52:09
ใครน๊าที่จุ๊บน้องวีเนี่ย
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 7<< up 1/2/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 01-02-2014 09:12:42
คิดถึงตอนอยู่ปี 1 เลย 55555
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 7<< up 1/2/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: oyazuminasai ที่ 01-02-2014 09:25:15
ใครกันนะที่ได้จูบแรกของวีไป
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 7<< up 1/2/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 01-02-2014 09:38:46
  :katai1: จับโดนตุ๊กแก   :ling1:

 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 7<< up 1/2/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 01-02-2014 11:11:48
พี่ชินได้จูบแรกหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 7<< up 1/2/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: IIIA ที่ 01-02-2014 15:47:55
น้องวัจุ๊บพี่ชินแน่ๆเลยยยย  :katai5:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 7<< up 1/2/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 01-02-2014 17:32:46
ใช่พี่ชินป่ะนิ๊  กรี๊ดดดดดดดดดดดด :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 7<< up 1/2/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D ที่ 01-02-2014 17:47:41
รอตอนต่อไป วีจะโดนชินทำโทษป่ะเนี้ย
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 7<< up 1/2/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 01-02-2014 18:22:38
พี่ชินได้จูบแรกของวีไปแน่เลย

รออ่านตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 7<< up 1/2/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: panari ที่ 01-02-2014 20:03:14
ใครคือผู้โชคดี ใช่พี่ชินรึเปล่าหนอ ฮี่ๆๆ
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 7<< up 1/2/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 02-02-2014 21:33:19
ชินชัวร์ๆ ผัวของหนูในอนาคตไงจ๊ะ
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 7<< up 1/2/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 03-02-2014 07:03:11
เอร้ยยยย ใครกัน ๆ ที่ได้จูบแรกไปน้ออออ
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 7<< up 1/2/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 04-02-2014 14:30:20
ใครเป็นคนคิสน้องวี!!~
น้องวีไม่ได้ตื่นไปทำความสะอาดห้องพี่ชิน
เดี๋ยวอิพี่มาตามแน่ ๆ >.<
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 7<< up 1/2/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 04-02-2014 21:05:53
 :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 7<< up 1/2/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 05-02-2014 14:19:01
พี่ชินหรือเปล่าน่ะ
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 7<< up 1/2/2014 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 09-02-2014 20:37:55
รอๆๆๆๆๆๆๆๆจ้า...สนุกมากๆๆ
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย แจ้งข่าว<< up 19/2/2014 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 19-02-2014 08:46:03
จะรอค่า สู้ๆน่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย แจ้งข่าว<< up 19/2/2014 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 19-02-2014 11:28:20
จ้าาา เป็นกำลังใจให้นะ
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย แจ้งข่าว<< up 19/2/2014 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 19-02-2014 12:09:44
สู้ๆค่ะเป็นกำลังใจให้
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย แจ้งข่าว<< up 19/2/2014 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 19-02-2014 16:24:51
สู้ ๆ จ้า รอได้เสมอ
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย แจ้งข่าว<< up 19/2/2014 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: april day ที่ 26-02-2014 20:37:30
มาส่งกำลังใจค่ะ สู้ๆ นะ นานแค่ไหนเราก็จะรออ่านเรื่องนี้ค่ะ   :mew1:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย แจ้งข่าว<< up 19/2/2014 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 27-02-2014 02:33:14
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ
บอกเลยติดงอมแงม..
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น(ขี้เกียจเข้าไปดูในเพจ)
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ

รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย แจ้งข่าว<< up 19/2/2014 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 16-04-2014 11:26:00
รอมาอัพต่ออยู่นะครับ :กอด1:
หัวข้อ: Re: >>ถ้าให้รักก็อย่าร้าย แจ้งข่าว<< up 19/2/2014 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: thebest12 ที่ 26-06-2014 22:48:19
 :mew2:  :call: เป็นกำลังใจให้นะ
หัวข้อ: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย up 7/8/2014 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 07-08-2014 21:59:43

ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 8


   ก๊อกๆๆ  ก๊อกๆๆ

“เดี๋ยวๆ กำลังไป” ผมตะโกนบอกคนที่กำลังเคาะประตูห้องแทบพัง จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้แบต ผมสะดุ้งเพราะเสียงเคาะดังเป็นฟ้าผ่าของมันเลยครับคนกำลังนอนหลับสบายๆ

“มีอะไรวะ อ๊ะ!พี่ชิน” ตกใจเลยครับพี่ชินมาได้ไงวะ นึกว่าเป็นไอ้แบต

“เออกูเอง หลบ”พี่ชินอาศัยจังหวะที่ผมกำลังงงเดินสวนเข้าห้องเฉยเลย

“พี่ชินมาห้องผมถูกได้ไงครับ” ผมถามงงๆ

“กูมาส่งตั้งกี่ครั้งแล้ว เรื่องแค่นี้ไม่อยากหรอก”

“แล้วพี่มาหาผมดึกๆแบบนี้มีอะไรรึเปล่าครับ” ผมถามถึงจุดประสงค์ที่พี่แกมาเคาะห้อง

“ทำไมไม่ไปทำความสะอาด”

“ทำความสะอาดอะไรพี่”

“ห้องกูไง อย่าบอกนะว่ามึงลืมว่าวันนี้วันอะไร”



“เฮ้ย!”ผมร้องตกใจหลังตั้งสติได้ วันนี้เป็นวันที่ต้องไปทำความสะอาดห้องพี่ชินนี่หว่า

“เพิ่งจะนึกออกรึไงมึง”

 “เฮ้ยพี่ผมขอโทษ ผมลืมสนิทเลย” ผมรีบขอโทษทันทีที่นึกขึ้นได้ วันไปรับน้องกลับมาเหนื่อยหลับเป็นตายเพิ่งจะมาตื่นก็ตอนพี่ชินมาเคาะประตูนี่แหละครับ

“ขอโทษแล้วห้องกูมันจะสะอาดขึ้นไหมล่ะ” พี่ชินว่าพร้อมมองหน้าผมนิ่งๆ

“ ผมลืมจริงๆนะพี่ เดี๋ยวผมไปทำให้ตอนนี้แหละ”

“ตอนนี้เนี๊ยะนะ” ผมมองนาฬิกาทันทีที่พี่ชินพูดจบ 5 ทุ่มแล้วนี่หว่า

“เอ่อ 5 ทุ่มแล้วงั้นผมไปทำให้พรุ่งนี้ได้ไหมครับ” ผมลองขอพี่ชิน

“เออ ก็คงต้องเป็นตามนั้น” อ้าวแล้วพี่แกจะมาตามทำไมวะถ้าต้องทำพรุ่งนี้อยู่แล้ว ผมแค่แปลกใจแต่ก็ไม่ได้ถาม

“งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะพี่”

“ห้องน้ำอยู่ไหนวะ” ผมทำท่าจะส่งพี่ชิน แต่แกไม่สนใจกลับถามหาห้องน้ำแทน

“ทางขวามือครับ พี่จะเข้าห้องน้ำเหรอ” ผมถามเพราะคิดว่าแกคงปวดฉี่เลยขอเข้าก่อนกลับ

“เออดิไม่อาบจะนอนยังไง”

“นอน หมายความว่าไงพี่”

“ก็หมายความว่า กูจะนอนที่นี่ไงคืนนี้”

“นอนที่นี่ พี่จะมานอนห้องผมได้ไง” ผมรีบถามเสียงตะกุตะกัก

“ทำไมกูจะนอนไม่ได้ ในเมื่อมึงไม่ไปทำความสะอาดห้องให้กู แล้วกูจะนอนยังไง” อ้าวความผิดผมอีกครับ

“แต่ห้องผมมันทั้งเล็กทั้งแคบ พี่นอนไม่ได้หรอก” ผมบอกพร้อมมองสะภาพห้องตัวเองที่ก็ไม่ได้สะอาดมากมายอะไร แต่ก็ไม่ได้รกจนนอนไม่ได้

“กูจะนอนนี่ ไม่ต้องถามมากจัดที่นอนให้กูด้วย ขอยืมผ้าเช็ดตัวนะ” พี่ชินพูดเสร็จเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวของผมที่แขวนไว้ริมหน้าต่างมาถือ แล้วเดินเข้าห้องน้ำหน้าตาเฉยเลยครับ ไอ้ผมก็ยืนงงไปดิ กว่าจะตั้งสติได้เสียงน้ำจากฝักบัวก็ดังออกมาจากห้องน้ำซะแล้ว





“พี่ชินพี่กลับไปนอนที่ห้องพี่เถอะ” ผมรีบพูดทันทีที่ประตูห้องน้ำเปิดออก แล้วสายตาผมก็ต้องหยุดชะงักอยู่ที่แผงอกแกร่งที่มีหยดน้ำเกาะพราว ตอนนี้พี่ชินมีเพียงผ้าขนหนูสีขาวพันเอวอยู่เพียงผืนเดียวครับ สายตาไม่รักดีของผมไล่มองตั้งแต่หน้าลงไปยันเท้าก่อนจะมาหยุดที่อกอีกครั้งทำไมไอ้พี่ชินมันหุ่นดีจังวะ กล้ามนี่เป็นมัดๆ หน้าท้องก็เป็นล่อนมีซิกแพคเหมือนที่ผมอยากมีเห็นแล้วก็อิจฉา

“มองอะไร”

“ทำไมพี่หุ่นดีจัง ทำไงอ่ะสอนผมมั่งดิ”เสียงนิ่งๆของพี่ชินทำให้สติที่กำลังเตลิดของผมกลับมาอยู่ที่ตัวอีกครั้งก่อนรีบถามหาวิธีทำให้หุ่นดีแบบนี้บ้าง

“ออกกำลังกาย แต่มันก็อยู่ที่โครงสร้างร่างกายแต่กำเนิดด้วยว่ะ อย่างมึงให้ออกอีกซัก 10 ปีก็ไม่ได้แบบนี้หรอก”

“พี่ชินอย่าท้าผมนะ ถ้าวันนึงผมหุ่นดีแล้วพี่พุงพุ้ยขึ้นมาผมจะหัวเราะให้ฟันหักเลยคอยดูสิ”

“กูจะรอวันนั้นแล้วกัน หึหึ หากางเกงให้ใส่ตัวดิ” ผมลืมไปเลยว่ากำลังจะไล่แกกลับห้อง

“พี่ชินผมว่าพี่กลับไปนอนห้องพี่เถอะ ห้องผมเตียงก็แคบชุดก็ไม่มี แอร์ยิ่งไม่มีเลยพี่จะนอนยังไง” ผมเริ่มต้นไล่แกกลับห้องตัวเองอีกครั้ง

“ห้องกูมันนอนได้ที่ไหนล่ะ มึงไปนอนไหมกูให้กุญแจ แต่กูจะนอนนี่”

“แต่ห้องผมไม่มีแอร์”

“มึงนอนได้ไหม” พี่ผมถามสวนผม

“นอนได้ดิก็นี่มันห้องผม”

“มึงนอนได้งั้นกูก็นอนได้ หากางเกงมาได้แล้วกูง่วงถ้าไม่หากูแก้ผ้านอนนะ” พี่ชินว่าพร้อมทำท่าจะก้าวขึ้นเตียงซะงั้นครับ

“เฮ้ย! อย่าเพิ่งนอนพี่เดี๋ยวผมหากางเกงให้ก่อน” ผมรีบหยุดพี่ชินแล้วเปิดตู้หากางเกงตัวใหญ่ๆให้ ยังไงคืนนี้แกคงไม่กลับแน่ขืนไล่ไปก็เสียงเวลาเปลืองน้ำลายเปล่าครับ ให้นอนๆไปพรุ่งนี้จะได้ลืมตื่นให้มันจบๆไป

“งั้นก็เร็วๆดิ ง่วง”

“ตัวนี้ใส่ได้ไหมพี่” ผมยื่นกางเกงนอนขายาวให้

“ขาสั้นไม่มีไงวะ”

“ไม่มี ใส่ขายาวนี่แหละกลางคืนมันหนาว” ผมว่าไปงั้นแหละครับ หนาวเหนวอะไรร้อนจะตาย แต่ผมขี้เกียจหาเจอตัวนี้ก็หยิบให้แกเลย

“เออ งั้นเอามา” พี่ชินหยิบกางเกงจากมือผมไปสวมก่อนตวัดผแช็ดตัวตากแล้วก้าวขึ้นเตียงทันที

“พี่ชินคืนนี้ผมยอมให้พี่นอนที่นี่ก็ได้แต่ผมคิดว่าห้อง ค่าน้ำค่าไฟ ค่าเตียงนะ ทั้งหมด 5 พันบาทถ้วน”ผมรีบบอกทันทีใครจะให้มาอยู่ฟรีครับ ค่าไฟค่าน้ำค่าห้องต้องจ่ายเหมือนกัน

“เออ เค็มชิบหายปิดไฟได้แล้วกูจะนอน” พี่ชินตอบเสียงห้วนก่อนหันหลังให้ผม

“พี่นอนไปก่อนผมหิว” ผมว่าก่อนมองหาซองมาม่าอาหารประจำกาย ผมมีตุนไว้เยอะครับตั้งแต่เข้ามาเรียนที่นี่รุ่นผมก็ให้แต่มาม่าผมทั้งพี่เทค พี่เทคบุญธรรม ป้ารหัส ลุงรหัสเยอะแยะมีแต่มาม่ากะให้ผมเป็นโรคไตวายตายแน่ครับงานนี้




“เผื่อด้วย”

“พี่ชินว่าอะไรนะครับ” ผมตกใจหันไปตามเสียงก็เห็นพี่ชินมายืนด้านหลัง

“เผื่อกูด้วย ยังไม่ได้กินข้าว”

“แล้วทำไมพี่ไม่กินก่อนมาห้องผมล่ะ” ผมถามอย่างเก็บความสงสัยไม่อยู่ เวลาตั้งนานสองนานทำไมไม่หาอะไรกินก่อน

“เรื่องของกู ชงเผื่อด้วยแล้วกัน”

“ก็ได้ครับแต่ค่าบริการ 100 บาท”

“งกไม่เลิกนะมึง มาม่าก็ของกูแท้ๆ”



“ชินว่าอะไรนะ”

“มึงเป็นโรคหูตึงไงวะ พูดอะไรแม่งชอบถามซ้ำ”

“ก็พี่ชินชอบพูดตอนผมเผลอ ใครจะไปตั้งใจฟังล่ะ” ผมเถียงทันทีจะมาว่าผมได้ไงวะ ตัวเองชอบมาพูดแบบไม่ให้ผมตั้งตัวแท้ๆ

“ชั่งมันเถอะ น้ำเดือดแล้วเทซะทีดิกูหิวไส้จะขาดแล้ว” พี่ชินมีการมาเร่งผมอีกครับ มันน่าปล่อยให้หิวตายซะเลย

“นั่งกับพื้นนะพี่ห้องผมไม่มีครัว” ผมบอกพร้อมยกชามมาม่ามาตั้งที่โต๊ะญี่ปุ่น ใกล้ๆเตียง

“เออ กูไม่ได้ตาบอด ถ้ามีคงเห็นไปนอนแล้ว” กวนตีนผมอีกครับ

“งั้นก็กินๆไปเลยจะได้นอน” ผมบอกพร้อมเอาตะเกียบคีบเส้นมาม่าเข้าปาก แล้วพี่ชินก็เริ่มกินตามไม่นานทั้งผมและพี่ชินก็จัดการชามมาม่าตรงหน้าตัวเองจนหมด

“ล้างให้ด้วย”

“100 บาทขาดตัว” ผมบอกทันทีที่พี่ชินยกชามมาม่าเปล่ามาให้ผมล้าง

“เออ!!” พี่ชินกระแทกเสียงใส่ผมเลยครับ แต่มีหรือที่ผมจะใส่ใจในเมื่อมันทำให้หนีผมลดลงไวยังไงผมก็เอาครับ

“พี่ชินแปรงฟันไหม ผมมีแปรงสีฟันอันใหม่”ผมถามพี่ชินที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่หน้าเตียงหลังจากผมอาบน้ำแปรงฟันอีกรอบเรียบร้อยแล้ว

“เอาดิ แต้งกิ้วเมื่อกี้ใช้ของมึงไปรู้สึกแหยงๆหว่ะ”

“ห๊ะ ไอ้พี่ชินพี่ใช้แปรงสีฟันผมเหรอ”ผมรีบถามด้วยความตกใจ ใครเขาใช้แปรงสีฟันอันเดียวกันวะ มันจะซกมกเกินไปแล้ว

“กูล้อเล่นหรอกน่า หึหึ” พี่ชินเอาแปรงสีฟันอันใหม่ที่ยังอยู่ในกล่องตบแก้มผมเบาๆก่อนหัวเราะเสียงเจ้าเล่ห์แล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ

“พี่แม่ง” ผมว่าตามหลังเสียงดังแต่ทำอะไรไม่ได้ครับ

“ปิดไฟนอนได้แล้ว” ออกมาจากห้องน้ำพี่แกก็ขึ้นเตียงก่อนมีบัญชาให้ปิดไฟทันทีทั้งที่ผมยังนอนอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่บนเตียง

“พี่ง่วงก็นอนไปก่อนดิ ผมไม่ง่วงแล้ว” อาบน้ำแล้วตาสว่างเลยครับ

“กูนอนไม่หลับ ปิดไฟ” นี่ห้องผมไม่ใช่เหรอวะ ทำไมไอ้พี่ชินแม่งสั่งตลอด

ไอ้ผมก็ไม่ได้กลัวนะครับแต่เห็นว่ามันก็ดึกแล้วเกือบจะตีหนึ่งเลยเดินไปปิดไฟแล้วกำลังจะก้าวขึ้นเตียง แล้วสิ่งที่ผมลืมมาตลอดก็เข้ามาอยู่ในสมองผมทันที จะอะไรล่ะครับก็ไอ้เตียงนี่แหละเตียงผมมันแค่ 3.5 ฟุตเป็นเตียงเดียวจะนอนเข้าไปได้ยังไงตั้งสองคน ผมยืนมองเตียงผ่านความมืดที่มองเห็นเพียงรำไรเพราะแสงจากพระจันทร์ที่ส่องเข้ามาจากระเบียงหลังห้อง


ตอนนี้บนเตียงกำลังมีผู้ชายตัวสูง ใส่กางเกงขายาวตัวเดียวนอนตะแคงข้างหันหลังให้ผมอย่างสบายใจ ไม่ได้ระวังอะไรเลยมันน่าฆ่าให้ตายจะได้หมดหนี้กันไปซะที หึหึ ผมก็ได้แต่คิดครับเรื่องจริงคือผมเอื้อมมือไปหยิบหมอนมาถือแล้วมองพื้นข้างเตียงก่อนมองชุดที่ตัวเองสวมอยู่ ผมใส่เพียงเสื้อกล้ามกับกางเกงบอลตัวหลวมยังไงคืนนี้คงไม่หนาว


เมื่อตัดสินใจได้ผมวางหมอนลงบนพื้นกระเบื้องข้างเตียงแล้วล้มตัวลงนอน  ผ้าห่มผมมีพื้นเดียวและตอนนี้มันคลุมอยู่ที่ปลายเท้าพี่ชินผมเลยไม่อยากแย่ง ปล่อยแกนอนไปไอ้ไม่นานก็เช้าแล้วครับ ผมนอนไม่นานก็หลับไปอีกรอบเพราะความเหนื่อยจากกิจกรรมที่ทำมาทั้งวัน






ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ....ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ

ผมเอื้อมมือไปควานหานาฬิกาปลุกทั้งที่หลับตาเหมือนทุกเช้า แต่ยังไม่ทันเจอเสียงก็เงียบลง ผมเลยค่อยๆลืมตาด้วยความแปลกใจแล้วก็ต้องตกใจเพราะหน้าผมอยู่ชิดกับหน้าพี่ชินจนเรียกว่าจมูกแทบจะชนกัน

“เพิ่งเจ็ดโมงทำไมมึงตั้งนาฬิกาปลุกไวจังวะ วันนี้ไม่มีเรียนไม่ใช่เหรอนอนต่ออีกหน่อยดิ”พี่ชินว่าก่อนหลับตาแล้วกระชับวงแขน
กระชับวงแขนๆๆ เฮ้ย!ไอ้พี่ชินมันกอดผมอยู่ กอดได้ไงวะ กอดตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมผมมานอนอยู่บนเตียง จำได้ว่าเมื่อคืนผมนอนบนพื้นนี่นา

“พี่ชินมากอดผมทำไมปล่อย” ผมโวยวายเสียงดังเลยครับ

“อย่าเสียงดังคนจะนอน”

“แล้วพี่มากอดผมไว้ทำไมปล่อยผมก่อนสิ”

“กูหนาวขอกอดหน่อย  ผมห่มมึงบาง” ผมมองผ้าห่มที่พี่ชินว่าบาง มันก็จริงครับเพราะผมใช้ผ้าแพรสีน้ำเงินไว้ห่มนอน ถ้าเทียบกับผ้าห่มฟูกนุ่มๆที่ห้องแก ไอ้ผ้าแพรนี่คงจะบางจริงๆแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าแกจะมากอดผมได้นะ

“พี่ชินหนาวอะไรร้อนจะตาย ปล่อยผมก่อน” ผมบอกพร้อมขยับตัวเพื่อให้พี่ชินปล่อยแต่แขนแกก็แรงเยอะเหลือเกินผมขยับยังไงก็ไม่สามารถหลุดจากอ้อมแขนแกได้เลยครับ

“นอนนิ่งๆเป็นหมอนข้างให้กูหน่อย  กูง่วง” พี่ชินแล้วเงียบไปเลยครับ ไม่ว่าผมจะพูดจะว่าอะไรแกก็ไม่ตอบสนองผมอีกเลย สงสัยจะรำคาญเลยแกล้งหลับ ผมก็จนปัญญาที่จะเอาตัวเองออกจากแขนที่เหมือนคีมเหล็กที่หนีบผมไว้แน่น


เมื่อไม่รู้ว่าจะทำยังไงผมเลยนอนนิ่งๆ รอไอ้พี่ชินมันตื่น แต่ผมตื่นมาแล้วเจอผู้ชายด้วยกันมานอนกอดแบบนี้ตาสว่างเลย ความง่วงเมื่อครู่หายเป็นปลิดทิ้ง ผมมองหน้าพี่ชินที่กำลังหลับเวลาพี่แกหลับก็ดูเป็นเหมือนคนทั่วไป ไม่ได้ดุหรือเจ้าเล่ห์เหมือนตอนตื่น มองไปมองมาหน้าพี่ชินนี่หล่อเหมือนกันนะครับ ถือว่าหล่อมากเป็นนายแบบได้เลย แต่ถ้าเทียบกับพี่ตินณ์ผมว่าพี่ตินณ์ดูดีกว่านิดนึง ก็คนที่ผมชอบนี่นาจะไม่ให้บอกว่าหล่อกว่าได้ไง แต่แปลกนะครับทั้งที่ผมบอกว่าชอบพี่ตินณ์แต่ตอนนี้ผมกำลังรู้สึกใจเต้นแรงกับผู้ชายที่กำลังนอนหลับตาอยู่ตรงหน้า


มันคงไม่ใช่ความชอบหรือความรักหรอกครับเพราะความรู้สึกนี้ไม่เห็นจะเหมือนตอนที่ผมใจเต้นกับพี่ตินณ์เลย มันคงเป็นแค่ความตื่นเต้นและไม่ชินที่ตื่นเช้ามาแล้วเจอพี่ชินนอนกอดผมอยู่มากกว่า ผมเบนสายตาออกจากหน้าพี่ชินเพื่อไม่ให้ตัวเองใจเต้นแรงมากไปกว่านี้แล้วสายตาผมก็ไปเห็นท่อนแขนแกร่งที่มีกล้ามเป็นมัดของพี่ชินอยู่ใกล้หน้าของผม พอลองมองดีๆผมก็รู้ทันทีว่าตัวเองกำลังนอนหนุนแขนพี่ชินอยู่ งานนี้เล่นเอาผมงงเป็นครั้งที่สองของวัน ทำไมผมถึงมาอยู่ตรงนี้ได้วะแต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกครับ นึกไปนึกมาเลยเคลิ้มหลับไปอีกรอบ เรื่องที่สงสัยก็ปล่อยไปก่อนรอพี่ชินตื่นแล้วค่อยถามอีกทีครับ


“พี่ชินทำไมเมื่อคืนผมถึงมานอนบนเตียงได้ล่ะ” ผมถามทันทีที่เห็นพี่ชินเปิดประตูห้องน้ำออกมาด้วยชุดของแกที่ใส่มาเมื่อวานเรียบร้อย

“มึงจำไม่ได้รึไง”

“ไม่เห็นรู้เรื่องเลย จำไม่ได้อ่ะ” ผมหยุดคิดก่อนตอบ

“มึงขึ้นมานอนเองไม่ใช่เหรอ” พี่ชินตอบเรียบๆก่อนเดินไปส่องกระจก

“ทำไมผมไม่รู้เรื่องเลย” ผมยังคงไม่แน่ใจเพราะปกติผมไม่ใช่คนนอนละเมอแน่นอน

“กูจะรู้ได้ไง อยู่ๆก็ขึ้นมานอนเบียดกูยังกะงูหลาม ทั้งเบียดทั้งกอด กูบอกให้ปล่อยก็ไม่ปล่อย คิดแล้วขนลุกว่ะ” พี่ชินแม่งทำท่าขนลุกขนพอง แต่ทีตัวเองมากอดผมทำเป็นไม่พูดถึงนะ

“แล้วทำไมผมต้องหนุนแขนพี่ด้วย”

“อ้าวมึงคนหนุน กูน่าจะถามมากกว่านะประโยคนี้ขึ้นมาหมอนก็ไม่เอามาด้วย”

“งั้นก็ชั่งมันเถอะพี่ ผมไม่อยากรู้แล้ว”รู้สึกยิ่งถามจะกลายเป็นว่าผมเป็นคนเข้าหาแกเองหมดเลย เพราะงั้นเลิกถามดีกว่าครับเดี๋ยวเข้าตัว แต่เรื่องมันก็ผ่านไปแล้วอย่าไปคิดถึงมันเลย

 “เออเรื่องของมึง เสร็จยังจะได้ออกไปพร้อมกันเลย” ผมมองหน้าพี่ชินงงๆ ไปไหน ไปทำไมวันนี้วันหยุดผมนะ

“ไปไหนพี่” ผมถามงงๆ

“ก็ไปทำความสะอาดห้องกูไง ลืมไวจริงนะมึง” เสียงนิ่งเลยครับ

“เออเฮ้ยจริงด้วย ผมลืมสนิทเลย พี่รอผมแป๊บนึงนะผมอาบน้ำก่อนไม่เกิน ครึ่งนาที” ผมร้องอุทานก่อนกระโดนคว้าผ้าเช็ดตัวแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำอย่างไว

“ ให้ไว ช้ากูใหไปเองนะ” เสียงพี่ชินดังแว่วๆเข้ามาในห้องน้ำแต่ผมไม่ได้สนใจ มัวแต่จ้วงน้ำในถังขึ้นอาบ ตอนนี้ฝักบัวคงจะช้าไป


ไม่นานผมกับพี่ชินก็ออกจากห้องพักของผมแล้วตรงมาที่คอนโดพี่ชินทันที สิ่งแรกที่ผมเห็นเมื่อเปิดประตูเข้ามาคือกองผ้า และเศษโมเดลอิเล็กทรอนิกส์เต็มพื้นเลยครับ งานนี้ผมมีเหนื่อยอีกแน่ๆว่าแล้วก็เดินไปหยิบไม้กวาดกับที่โกยขยะมาถือแล้วเดินเข้าไปทำความสะอาดห้องนอนเป็นอย่างแรกครับ เข้ามาก็เห็นความรกของเสื้อผ้าที่วางกองระเกะระกะไม่แพ้ห้องรับแขกเลย วันหยุดนี้ผมคงไม่ได้หยุดอีกเช่นเคย ผมยืนทำใจสูดหายใจเข้าลึกๆสามวิแล้วเริ่มลงมือทำงานปลดหนี้ต่อไป




                    --- To Be Con. ---

               :กอด1: :mew1: ขอบคุณที่ติดตามค่า
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 8 up 7/8/2014 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: april day ที่ 07-08-2014 22:18:51
ดีใจที่สุดเลยค่ะ มาต่อแล้ว เย้ๆๆๆๆๆๆ  :katai2-1:
คิดถึงพี่ชินกับน้องวีสุด ๆ อ่านไปเขินไป   :-[
รออ่านตอนต่อไป เป็นกำลังใจให้นักเขียนค่ะ

 :mew1:  :L1: :L2: :3123: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 8 up 7/8/2014 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: tityjiu ที่ 07-08-2014 22:22:23
แหมะๆๆๆมาเนียนกอดน้องเค้าแล้วยังใส่ร้ายน้องเค้าป่าวพี่ชิน คึๆๆๆน่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 8 up 7/8/2014 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 07-08-2014 22:39:34
เนียนนะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 8 up 7/8/2014 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 08-08-2014 07:47:46
อิตาพี่ชินนี่โคตรเนียน 555
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 8 up 7/8/2014 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 08-08-2014 09:12:36
อร๊ายยยยยยยยย กรีดร้องด้วยความดีใจ
รอ พีช-เนม ด้วย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 8 up 7/8/2014 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 08-08-2014 09:20:55
 :impress2: พี่ชินมันมาตามน้องถึงทีแถมเนียนกอดนอนอีกต่างหาก
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 8 up 7/8/2014 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: nada_dadida ที่ 08-08-2014 12:12:01
กรีดดดด ดีใจจมาต่อแล้ววววว ขอบคุณนะค้ะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 8 up 7/8/2014 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 08-08-2014 13:53:05
พี่ชินไหนว่าใจดีไงแล้วไมใจร้ายกะน้องวีจัง
ตอนล่าสุดเนี่ยทำเนียนใช่ไหมแล้วทำเป็น
โทษน้องซะงั้น :really2: :really2:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 8 up 7/8/2014 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Paii ที่ 08-08-2014 19:33:56
พี่ชินทำคะแนนำโด่งงงงงงงงง
แล้วพี่ติณณ์ละ?
 :ling1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 8 up 7/8/2014 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 08-08-2014 21:11:09
เย้ๆ มาต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 8 up 7/8/2014 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 10-08-2014 05:47:22
เนียนนอนกอดน้องเลยนะชิน
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 8 up 7/8/2014 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: sey19 ที่ 26-08-2014 22:24:28
มาต่อเร็วๆ นะครับ
หัวข้อ: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 9 up 6/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 06-09-2014 22:03:16
ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 9

   “ไอ้เลวเมื่อวานมึงหายหัวไปไหนมา” เพื่อนกูทักได้น่ารักแต่เช้าเลยนะครับแหม่

   “กูหลับเพลิน ตื่นมาอีกทีเช้าเลยว่ะ” ผมรีบตอบไอ้แบตที่กำลังนั่งหน้าบึ้งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนหน้าหอพัก วันนี้มีเรียนมันเลยนั่งรอผมเพื่อเข้ามอพร้อมกัน

   “กูไม่เอาไฟเผาห้องมึงก็ดีเท่าไหร่แล้ว เขาตามหามึงกันให้วุ่น เดี๋ยวนี้นักวิทยาศาสตร์เขาผลิตนาฬิกาปลุกมาใช้ได้แล้วมึงรู้ยัง ไปซื้อมาใช้ซะนะ” ไอ้นี่จิกไม่เลิกเว้ย กูหลับก็คือหลับดิวะ

“โทรศัพท์ก็มีทำไมมึงไม่เสือกโทรมาล่ะ”

“โทรห่าอะไร ได้ข่าวว่ามึงปิดเครื่อง” อ้าวอันนี้ไม่รู้ครับ พอตื่นผมก็รีบอาบน้ำแต่งตัวลงมาใต้หอโทรศัพท์อยู่ไหนผมยังไม่รู้เลย

“สงสัยแบตหมดว่ะ กูไม่ได้เอามา แล้วเมื่อคืนเป็นไงใครได้เป็นเดือนคณะวะ” เมื่อคืนที่คณะมีงานประกวดดาวเดือนคณะครับ ผมก็เป็นหนึ่งในคนที่รุ่นพี่และเพื่อนส่งชื่อเข้าประกวด แต่ผมดันหลับเพลินเลยพลาดโอกาสเป็นเดือนไปอย่างหน้ายินดี  เพราะถ้าผมได้เข้าประกวดแล้วล่ะก็คนอื่นไม่มีทางได้ครับ หมดสิทธิ์ผมบอกเลย หึหึ

“จะใครซะอีกกูนี่แหละได้ ซวยชิบหายไม่รู้ใครมันตาบอดเลือก” ไอ้แบตว่าหน้าเซ็งจัดชัดเจนมากครับ เป็นที่รู้กันว่าถ้าได้เป็นเดือนคณะแล้วจะต้องขึ้นประกวดเดือนมหา’ลัยด้วยที่นี้ละมึ๊งสนุกแน่ ไอ้แบตเพื่อนผมยิ่งเป็นคนที่ไม่ชอบความวุ่นวายกับใครเขาอยู่ด้วย ผมว่ามีลุ้นมันเบี้ยวขึ้นประกวด

“ถูกแล้วไงก็มึงหล่อ มึงเท่ มึงเพอร์เฟคแมน เหมาะแล้วๆ”ผมว่าก่อนตบบ่ามันเบาๆแล้วหัวเราะทับ

“กูว่ากูจะไม่เข้าประกวดเดือนมหา’ลัยว่ะ” ว่าแล้วเชียว

“เฮ้ย!ไปดิไม่ไปได้ไง มึงเป็นหน้าเป็นตาของคณะเลยนะเว้ย”

“ไม่ถงไม่ถามกูซักคำว่ากูอยากเป็นรึเปล่า” มันว่าหน้าเซ็งๆ

“ถามไม่ถามมึงก็ได้เป็นแล้วว่ะ ทำใจยอมรับชะตากรรมซะเถอะเพื่อนเอ๊ย”   ผมว่าก่อนเดินผิวปากอย่างสบายใจนำหน้าไอ้แบตมุ่งหน้าสู่มหาวิทยาลัย




   “อ้าวแพรมาแต่เช้าเลย” ผมทักแพรที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนโต๊ะใต้ตึกคณะ

“แพรเพิ่งมาถึงไม่นานเหมือนกัน เมื่อวานวีหายไปไหนมาเค้าตามหากันทั่ว” เอาแล้วไงถามประโยคเดียวกับไอ้แบตเลยครับ

“มันหลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น”

“ไอ้เชี้ยแบตกูยังไม่ตาย” ผมว่าไอ้แบตที่ชิงตอบก่อนเสียงดัง

“เหรอนอนขนาดนั้นกูนึกว่าตายห่าไปแล้ว” ยังมาทำหน้ากวนตีนผมอีกนะ

“งั้นแปลว่าเมื่อวานวีนอนหลับเหรอ” แพรถามผมอีกครั้ง

“อืม”ผมได้แต่ยิ้มเจื่อนๆก่อนยอมรับความผิด

“แพรก็ว่าแล้ว แพรเลยบอกพี่ชินกับพี่โยว่าวีนอนไม่ตื่นแน่ๆ” เห้ยไอ้พี่ชินมาถามหาผมด้วยเหรอวะ ซวยแล้วงานจะเข้าผมไหม

“พี่ชินมาถามหาวีด้วยเหรอ” ถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจครับ

“มาสิมากับพี่โยพอแพรบอกว่าสงสัยวีจะนอนไม่ตื่น ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ” ขอให้ไม่มีอะไรจริงเถอะ แค่ได้ยินชื่อพี่ชินผมก็ขนหัวเตรียมจะลุกแล้วครับ ช่วงเกือบสองเดือนที่ผ่านมา พี่ชินแม่งใช้ผมยังกะทาสแถมเวลาทำกิจกรรมผมโดนทำโทษตลอด แต่เท่าไหร่ก็ยังไม่ชินครับ

“ถ้าไม่ได้ว่าอะไรก็ดีไป  แต่วีกลัวจะโดนซ่อมที่โดดอะดิ”  ผมบอกแพรยิ้มๆ

“ไม่เหลือมึงอ่ะ ตัวท็อปหายไปใครจะไม่ถามหาเผลอมึงโดนซ่อมตาย” ไอ้แบตยังไม่เลิกแค้นผมอีกครับ

“มึงนี่ก็กะเอากูตายเลยรึไง แค้นอะไรกูนักหนาวะ”

“เออดิจะเอาไว้ทำไม เพื่อนที่พากูซวยได้เกือบทุกวัน”

“เฮ้ยๆ ไม่ใช่ทุกวัน วันเว้นวันรึเปล่าวะ” ผมรีบแก้ตัวทันทีที่มันพูดจบ ถึงจะจริงก็เถอะแต่ผมไม่อยากยอมรับไง



“โชคดีเลยที่เจอ นึกว่าจะมาไม่ทันซะแล้ว”ผมหันไปมองเห็นพี่โยกำลังเดินแกมวิ่งมาที่โต๊ะที่พวกผม 3 คนนั่งอยู่  พี่โยใส่เสื้อช็อปสีน้ำเงินกับกางเกงยีนส์รองเท้านันยางสีขาว เท่ดีครับ

“มาหาผมเหรอครับ” ผมถามพี่โยอย่างแปลกใจเมื่อแกเดินมาถึงโต๊ะ

“ใช่ อ่ะอมยิ้มของเรา พี่มาแค่นี้แหละไปแล้ว”

“เฮ้ยพี่ จะรีบไปไหน” ผมเรียกพี่โยที่ทำท่าจะวิ่งกลับไปทางเดิม มาไวไปไวเกินไปป่าววะไม่คุยอะไรกันเลย

“มีไร พี่จะรีบไปเรียน”

“ทำไมเอาอมยิ้มมาให้ผมเยอะแยะขนาดนี้ล่ะ” ผมถามพร้อมมองอมยิ้มหลากรสในมือตัวเองที่มีเกือบ 20 อัน ปกติผมจะได้ 1 หรือ 2 อัน แต่ไม่เคยได้เยอะขนาดนี้ แล้วผมก็นึกว่าพี่โยจะพูดถึงเรื่องเมื่อวานแต่พี่โยกลับไม่พูดถึงเลยน่าแปลกใจมากครับ

“เอามาไว้เยอะๆแบบนี้แหละจะได้ไม่ต้องมาทุกวัน นานๆมาทีจะได้คิดถึงกัน” พี่โยตอบพร้อมรอยยิ้มทะเล้นที่ทำให้หน้าใสๆของแกดูหล่อขึ้นอีก 3 เท่า

“งั้นผมเอาอันเดียวได้ไหม พี่จะได้มาให้ผมหายคิดถึงทุกวัน” ผมแกล้งว่าก่อนยิ้มใส่ตา

“คงไม่ได้เพราะคนฝากเขา ...อ่อเพราะพี่ไม่ค่อยว่างวะ” พี่โยเหมือนจะพูดอะไรแล้วชะงักไปนิดนึงก่อนพูดใหม่ ผมได้ยินแต่ไม่อยากทักเพราะรู้ว่ายังไงของนี่ก็มาจากพี่เทคผม

 “แล้วไม่มีของแพรบ้างเหรอคะ”

“ของลูกแพรเดี๋ยวตอนเที่ยงคงได้นะ พี่เทคน้องแพรมันยังเมาไม่สร่างเลยรอก่อน”

“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวแพรแย่งวีกินก็ได้” แพรว่าก่อนคว้าถุงอมยิ้มของผมไปเลือก ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรปกติก็แบ่งกันประจำอยู่แล้วครับ

“ไอ้วีมันกินจนฟันจะพุหมดปากแล้ว  วันหลังซื้อน้ำยาบ้วนปากมาให้มันบ้างก็ดีนะพี่ เผื่อจะฆ่าทั้งเชื้อโรคทั้งหมาในปาก” พี่โยตอบแพรเสร็จ ไอ้แบตว่าผมต่อทันที แต่ผมว่าถ้าปากผมมีหมาปากมันก็มีเป็นฝูงพอๆกันแหละครับ

“เออเนอะ สงสัยวันหลังต้องซื้อมาให้บ้างแล้ว”

“พี่โย!!” ผมเรียกพี่โยเสียงดัง ดันไปเห็นดีเห็นงามกับไอ้แบตอีก

 “พี่ล้อเล่นน่าใครจะกล้าว่าดุขนาดนี้ งั้นพี่ไปก่อนนะเดี๋ยวเข้าเรียนไม่ทัน”  พวกผมยกมือไหว้พี่โยก่อนแกจะวิ่งหายขึ้นไปบนตึกเรียน

“เราก็ไปเรียนกันบ้างไหม เดี๋ยวเข้าที่หลังอาจารย์จะเป็นเรื่องนะ” แพรปิดหนังสือตรงหน้าก่อนชวนขึ้นห้องเรียนบ้าง

“ไปสิ” ผมตอบก่อนลุกจากเก้าอี้แล้วไอ้แบตกับลูกแพรจะลุกตามมาติดๆ





“ช้ากูบอกให้มาตั้งนานแล้วทำไมเพิ่งมา” มาถึงยังไม่ทันหยุดหอบไอ้พี่ชินแม่งว่าผมอีก

   “ผมรีบแล้วนะพี่ กว่าผมจะออกมาจากตึก กว่าจะหารถพี่เจอได้แค่นี้ก็ดีแล้ว” ผมว่าพร้อมยืนหายใจหอบ ทั้งตัวมีแต่เหงื่อ  จะไม่ให้ผมเหนื่อยได้ไงก็ไอ้พี่ชินเล่นส่งข้อความไปสั่งให้ผมมาที่รถภายใน 10 นาทีตั้งแต่ผมยังเรียนไม่เสร็จ แล้วว่าผมจะตรัสรู้ได้ว่ารถแกจอดที่ไหนอีก เล่นเอาลิ้นห้อยเป็นหมาเลยกู

   “ที่หลังก็มาให้ไวกว่านี้ดิ”

   “แล้วพี่เรียกผมมาทำไม บ่ายผมมีเรียนต่อ” ผมถามเข้าประเด็นทันที

   “ขึ้นรถเดี๋ยวก็รู้เอง”

   “เฮ้ย! พี่จะพาผมไปไหนบอกมาก่อนดิ หนี้ผมก็จ่ายจนเกือบหมดแล้วนะ” ผมรีบโวยวายทันที

   “หมดอะไรของมึง สองเดือนจ่ายมายังไม่ได้ครึ่ง ขึ้นรถเร็วๆก่อนที่กูจะอารมณ์เสีย” พี่ชินว่าพร้อมจ้องหน้าผมนิ่ง ทำเอาผมพูดไม่ออกเลยครับ แม่งทำงานมาตั้งนานยังจ่ายไม่ได้ครึ่งอีกเหรอวะ เหมือนตัวเลขต่างๆกำลังคำนวณอยู่ในหัว แล้วคำตอบก็คือยังไม่ถึงจริงๆด้วยครับ

   “พี่ก็บอกมาก่อนดิจะพาไปไหน แล้วกลับมาเรียนทันรึเปล่า”

   “ทันถ้ามึงไม่ลีลา เร็วๆ ยืนตากแดดกูร้อน” พี่ว่าก่อนเปิดประตูขึ้นรถฝั่งคนขับ แล้วบีบแตรเร่งผมเสียงดัง สุดท้ายผมเลยเปิดประตูเข้าไปนั่งคู่ ก่อนรถจะถูกขับออกจากมอ

   “เมื่อวานหายหัวไปไหนมาวะ” เอาแล้วไงนึกว่าจะรอด ผมอุตสาห์นั่งเงียบมาตลอดทาง

   “นอนหลับครับ” ผมตอบเบาๆ ไม่กล้าหันหน้าไปมอง กลัวเจอสายตาพิฆาตของพี่ชิน

   “กูว่าแล้วอย่างมึง ไม่นอนเป็นตายจะทำอะไร” ผมได้ยินเสียงพี่ชินหัวเราะ ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงติดตลกไม่ได้มีแววจะดุหรือโมโหผมเลยครับ

   “พี่ไม่ว่าผมเหรอ”

   “ว่าทำไมวะ”

   “ก็ผมโดดกิจกรรมไง ผมไม่ได้เข้าประกวดเดือนคณะ” ผมถามเสียงยังอ่อยอยู่ครับ ยังไม่กล้าเสียงดังเท่าไหร่

   “ดีซะอีกถ้ามึงไปประกวดก็ไม่มีใครเลือกขายขี้หน้าเขาตาย”

   “พี่ชิน! เห็นแบบนี้ผมก็มีคนเลือกหรอกน่า ผมออกหล่อ” ผมบอกพี่ชินก่อนดึงที่บังแดดหน้ารถออกมาเพื่อส่งกระจกที่ติดอยู่

   “มึงนี่ก็หลงตัวเองเหมือนกันเนอะ ถ้าอย่างมึงหล่อคณะนี้คงไม่มีใครขี้เหล่แล้ว”

   “พี่ชินแม่ง” ผมว่าแค่นั้นก่อนเลิกคุยกับไอ้พี่ชินที่นั่งหัวเราะสบายใจอยู่คนเดียว ไม่รู้ไปอารมณ์ดีอะไรมานักหนา

   “พาผมมาร้านอาหารทำไม” ผมถามงงๆเมื่อรถถูกบังคับให้เลี้ยวเข้ามาในร้านอาหารแห่งหนึ่ง   คนไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ดูแล้วเป็นอาหารมีระดับท่าทางคงจะราคาไม่ใช่ถูกแน่ครับ

“กูไม่ได้พามาล้างจานหรอกน่า ตามมา” พูดเสร็จเดินดุ่มๆเข้าร้านไปเลย ทิ้งให้ผมยืนงงเป็นบ้านนอกเข้ากรุงอยู่ข้างรถคนเดียว ผมมองซ้ายมองขวาไอ้พี่ชินมันคงไม่ได้เอาผมมาขายต่อให้ใครมั้ง มองจนแน่ใจผมเลยรีบตามเข้าไปในร้าน

“นั่งดิยืนค้ำหัวกูทำไม” ผมรีบนั่งทันทีไม่ต้องให้บอกซ้ำ

“พี่พาผมมานั่งเป็นเพื่อนเฉยๆใช่ไหม” ผมถามเสียงเบาก่อนมองไปโต๊ะรอบๆที่มีแต่พวกคนมีเงินมานั่งกินอาหารหรู ดูแล้วมื้อนึงผมคงเก็บเงินใช้หนี้ได้หลายพันหรือเป็นหมื่น

“กูจะพามานั่งดูกูกินทำไม ถามแปลกๆ”

“แต่ผมไม่กินนะ ผมไม่มีเงิน” ผมรีบออกตัว

“กูอยากกินแล้วมึงก็ต้องกินเป็นเพื่อนกูด้วย”

“หนี้พี่ผมยังไม่มีปัญญาจะจ่าย แล้วผมจะเอาเงินที่ไหนมากินอาหารหรูๆแบบนี้”

“งั้นกูคิดรวมในหนี้ของมึงก็ได้”

   “เฮ้ย! ได้ไงผมไม่ได้อยากกินซะหน่อย”


“แน่ใจ” พี่ชินเลิกคิ้วข้างนึงขึ้นถามผมแบบกวนๆ เห็นแล้วอดหมั่นไส้ไม่ได้ 

“แน่ใจที่สุด” ผมตอบก่อนจ้องตาพี่ชินไม่กระพริบ

“งั้นก็ตามใจ รอกูกินอิ่มก่อนแล้วเดี๋ยวพาไปส่ง” เอากับพี่ชินดิ แม่งพูดเสร็จอาหารที่พี่ชินสั่งไว้ก็เริ่มทยอยมาเสิร์ฟ ก่อนคนสั่งเริ่มลงมือกินอย่างเอร็ดอร่อย ผมก็ได้แต่กลืนน้ำลายเพราะความหิว แม่งไม่น่าทิ้งเพื่อนที่ชวนไปกินข้าวออกมาหาไอ้พี่ชินเลย ไม่งั้นก็ได้กินข้าวที่ศูนย์อาหารอิ่มไปนานแล้ว

“หิวก็กินดิ นั่งจ้องขนาดนี้กูกินไม่ลง” กินไม่ลงอะไรล่อไปครึ่งจานแล้ว  ผมมองตอบอย่างเคืองๆหลอกผมให้มานั่งกลืนน้ำตายตัวเอง โคตรทรมานท้องเลย

“พี่รีบๆกินเถอะ ผมอยากกลับแล้ว”

“กลับตอนนี้รถก็ติด กว่าจะถึงมอมึงหิวตายพอดี ของกินมีตรงหน้าทำไมไม่กินวะ กูไม่ให้มึงจ่ายหรอกน่ากินๆไปเถอะกูเลี้ยง”  ไอ้พี่ชินว่าก่อนตักกับข้าวใส่มาบนจานข้าวที่อยู่ตรงหน้าผม

“พี่ไม่ได้หลอกผมนะ มื้อนี้พี่เลี้ยง”

“เออบอกว่าเลี้ยงก็เลี้ยงดิ ถามมากเดี๋ยวกูให้จ่ายเองเลย”  พี่ชินไม่ต้องพูดจบมือผมก็เอื้อมไปจ้วงข้าวเข้าปากแล้วครับ ตอนนี้หิวจนหูอื้อตาลายแค่รู้ว่าไม่ต้องจ่ายเองอะไรก็ไม่สำคัญแล้วครับขอกินก่อนแล้วกัน

“ช้าๆก็ได้กูไม่เปลี่ยนใจให้มึงจ่ายหรอกน่า”

“พี่นึกไงใจดีมาเลี้ยงข้าวผมเนี๊ยะ”  แปลกใจสุดๆครับ ร้อยวันพันปีไม่เห็นจะมาใจดีกับผม

“เคี้ยวข้าวให้หมดก่อนไหมมึง ข้าวติดปากแล้วเนี๊ยะ”  เมื่อกี้มันอะไร จังหวะที่พี่ชินเอื้อมมือมาหยิบข้าวที่มุมปากผม ทำไมผมถึงรู้สึกเหมือนถูกกระแสไฟฟ้าช็อต แถมใจยังเต้นแรงเหมือนวันที่พี่ชินไปนอนค้างที่ห้องผมเลย ผมเป็นอะไรไม่สบายเป็นโรคหัวใจรึเปล่าวะ หรือผมกำลังจะตาย

“เป็นอะไรวะตัวแข็งทำไม ไอ้วี วี ไอ้วี!!”

“ฮ๊ะ! พี่ว่าอะไรนะ”  เรียกทำไมเสียงดังวะ คนมองกันเต็มแล้ว

“กูถามว่ามึงเป็นอะไรตัวแข็งทำไม แล้วยังเหม่ออีก” พี่ชินถามก่อนจ้องผมเหมือนจับผิด

“ป่าวพี่แค่กำลังนึกว่าพี่จะมาเลี้ยงผมทำไม”

“กูไม่ได้อยากเลี้ยงหรอกน่า  แค่หาเพื่อนมากินข้าวเฉยๆ”

“แล้วพี่โยล่ะ ทำไมไม่ชวนพี่โยมาด้วย” ผมถามหาคู่หูไอ้พี่ชิน เห็นไปไหนก็ไปด้วยกันตลอด

“มันก็ไปหาแฟนมันมั้งดิ  กูไม่ใช่แฟนมันจะได้ตัวติดกันตลอด”

“อ้าวพี่โยมีแฟนแล้วเหรอพี่ ผมไม่เห็นรู้เลย” 

“ทำไมมันมีหรือไม่มีต้องบอกมึงด้วยรึไง มึงเป็นอะไรกับมันถึงต้องรายงานมึง” ถามนิดเดียวทำไมต้องทำเสียงหงุดหงิดด้วยวะ ไม่เข้าใจอารมณ์ไอ้พี่ชินเลยครับ เดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็หงุดหงิดใส่ ทำเอาผมตามไม่ทัน

“ผมแค่แปลกใจ ไม่เห็นเคยรู้เลยว่าพี่โยมีแฟน เห็นอยู่กับพี่ตลอด” ผมว่าใหม่เสียงอ่อมแอ้ม เดี๋ยวพูดไม่ถูกใจไปสะดุดจุดหงุดหงิดเข้าอีก

“เออกูบอกว่ามีก็มีนั่นแหละ มึงไม่ต้องไปสนใจหรอก รีบกินเข้าไปเถอะจะได้รีบกลับไปเรียน” พอพูดเรื่องของกินอย่างอื่นผมก็ไม่สนใจแล้วครับ ใครจะมีแฟนหรือไม่มีก็ช่างแต่ตอนนี้ผมต้องรีบกินให้หมดก่อน ไม่งั้นเหลือแล้วเสียดายของแพงๆทั้งนั้น

“อิ่มรึยัง เอาของหวานเพิ่มไหม” พี่ชินถามหลังผมวางช้อนกับซ่อมแล้วหยิบน้ำขึ้นดื่ม

“ไม่เอาแล้วพี่ไม่ไหว แน่นท้อง” ผมลูบท้องตัวเองที่ตอนนี้แข็ง จนต้องนั่งตัวตรงก้มหรือขยับแทบไม่ได้มันแน่นไปหมด

“กูก็ถามไปงั้นแหละ ถ้ามึงยังกินได้อีกก็ไม่ใช่คนแล้ว น้องเก็บตังค์ครับ”

“ผมกินแค่พอเป็นพิธีเถอะ ถ้ากินจริงพี่หมดตัวไปแล้ว” ผมแกล้งว่าก่อนจะได้รับสายตาเอือมๆจากพี่ชินเหมือนไม่เชื่อที่ผมพูด





“อ้าวพี่ตินณ์หวัดครับ” 

“อ้าวไอ้ชิน มาทำอะไรที่นี่วะ”

“พาเด็กมากินข้าวครับ”

“เด็กที่ไหนวะ เดี๋ยวนี้มึงแอบมีเด็กซุกไว้เหรอ” เสียงพี่ชินทักคนที่ผมอยากเจอแต่ไม่ได้เจอมาหลายวัน ทำให้ผมต้องรีบโผล่หน้าออกจากด้านหลังพี่ชินที่ผมกำลังเดินตามเพื่อออกไปมองว่าใช่คนเดียวกันรึเปล่า แล้วก็ใช่ครับ

“สวัสดีครับพี่ตินณ์” จังหวะที่ผมโผล่ออกไป พี่ตินณ์ก็กำลังมองมาทางนี้พอดีทำให้ผมกับพี่ตินณ์สบตากันอย่างจัง  แต่แปลกทำไมผมไม่รู้สึกใจเต้นเหมือนเมื่อก่อน ทั้งที่เมื่อก่อนแค่แอบมองหน้าที่ตินณ์ผมก็ใจเต้นแล้ว แต่ตอนนี้จ้องตากันตรงๆผมกลับสามารถมองตอบได้อย่างไม่เขินหรือรู้สึกอะไรเลย แปลกมาก ผมมองพี่ตินณ์อยู่เป็นนาที

พี่ตินณ์ไม่ได้มาคนเดียวแต่มากับพี่วิว สงสัยพี่ตินณ์จะพาพี่วิวมากินข้าวผมเห็นพี่วิวเกาะแขนพี่ตินณ์อย่างแสดงความเป็นเจ้าของแล้วอดที่จะหมั่นไส้ไม่ได้ แค่เดินจากรถเข้าไปในร้านทำไมต้องเกาะแขนกันขนาดนี้ด้วยวะ เป็นแฟนกันก็รู้อยู่หรอกแต่ไม่ต้องออกนอกหน้าก็ได้

“อ้าววีเองเหรอนึกว่าใคร แล้วไงไปเป็นเด็กไอ้ชินมันตั้งแต่เมื่อไหร่” พี่ตินณ์ยิ้มให้ผมก่อนถามพี่วิวก็มองผมนิดนึงก่อนมองไปทางอื่นแบบไม่สนใจ

“ผมไม่ได้เป็นเด็กพี่ชินครับ แค่รุ่นน้องเฉยๆ” ผมรีบบอกพี่ตินณ์เพราะกลัวเข้าใจผิด

“พี่ก็นึกว่าไอ้ชินมันจะแอบเลี้ยงเด็กซะแล้ว” พี่ตินณ์ว่าก่อนหัวเราะ

“รุ่นน้องเท่านั้นครับพี่ อ่อ...พ่วงฐานะลูกหนี้อีกอย่าง” พี่ชินช่วยยืนยันอีกครั้งด้วยเสียงที่นิ่งๆจนผมต้องหันไปมองหน้า ผมพูดอะไรผิดเหรอก็ผมเป็นรุ่นน้องก็ถูกแล้วไงทำไมต้องทำเสียงนิ่งเหมือนไม่พอใจด้วยวะ

“ไปเป็นหนี้อะไรกันตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”

“ก็มันดันเตะบอลใส่กระจกรถผมแตกดิพี่ คันที่เอาเข้าร้านพี่อ่ะ”

“อ๋อไอ้คันนั้น ฝีมือน้องวีเหรอ เจ๋งนี่หว่า” พี่ตินณ์ว่าก่อนทำท่าจะเดินเข้ามาใกล้ผมแต่พี่วิวรั้งไว้ก่อน

“ตินณ์คะวิวหิวแล้ว เราเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ”

“งั้นกูไปก่อนนะ เจอกันวันแต้งนะน้องวี” พี่ตินณ์บอกพี่ชินก่อนหันมาบอกผม

“ครับพี่ตินณ์” ผมตอบรับก่อนพี่ตินณ์จะเดินเข้าไปในร้านพร้อมพี่วิว

ตอนนี้ผมไม่เห็นพี่ตินณ์เข้ากิจกรรมรับน้องแล้ว สงสัยให้เฉพาะปี 2 เป็นคนคุม แล้ววันแต้งที่พี่ตินณ์ว่าคือวันที่พวกผมจะได้รู้ว่าใครเป็นพี่เทค ป้าเทค ลุงเทคและพวกผมปี1 ต้องซื้อของไปขอบคุณที่ดูแลพวกผมมาตลอดตั้งแต่เข้าเรียน

“มาขึ้นรถจะเรียนไหมบ่ายอ่ะ” เสียงพี่ชินเรียกผมที่กำลังมองตามพี่ตินณ์เข้าไปในร้าน

“เรียนครับ” ผมตอบเสร็จรีบวิ่งมาขึ้นรถ ก่อนที่พี่ชินจะขับกลับมอด้วยความเร็ว







“ตอนเย็นมารอที่รถด้วยไม่ต้องให้ตาม” เท้าที่กำลังจะก้าวลงรถถึงกับชะงักก่อนจะหันหน้าไปมองคนสั่ง

“พี่จะให้ผมมารอทำไม วันนี้ไม่ใช่เวรทำความสะอาดซะหน่อย”

“วันนี้กูจะไปซื้อของเข้าห้อง มาถือของให้หน่อย”  พี่ชินว่าหน้าตาย มันอยู่ในข้อตกลงตรงไหนวะไอ้ถือของเนี๊ยะ

“ผมจำได้ว่ามันไม่ได้อยู่ในข้อตกลงนะ และเย็นนี้ผมก็ไม่ว่าง” ผมว่าจะไปตัดผมแล้วก็หาซื้อการ์ตูนเล่มใหม่มาอ่านเล่นซะหน่อย

“ถือของห้าร้อยเสียเวลาอีกห้าร้อย เลี้ยงข้าวเย็นด้วยจะไปไหม”

“ได้พี่ได้ ผมว่างพอดีเลย” ผมรีบตอบก่อนพี่ชินเปลี่ยนใจ

“หึ อย่าให้มาสายแล้วกัน ถ้าต้องตามห้าร้อยจะเหลือแค่ ร้อยเดียว” แค่นี้ก็ต้องขู่ แม่งชอบเอาเรื่องเงินมาขู่ผม ไอ้ผมมันก็เงินขู่ไม่ได้ซะด้วย ขู่แล้วต้องรีบทำตามตลอด

“รับรองพี่ อาจารย์สั่งเลิกคลาสปุ๊บไม่เกินห้านาทีผมมาถึงรถพี่แน่”

“ดีทำให้ได้แล้วกัน” พี่ชินพูดเสร็จก็เปิดประตูลงจากรถ
ผมก็ต้องรีบลงตามก่อนจะเดินแยกกันไปคนละทาง แล้วกลับมาเจอกันอีกทีตอนเย็น



    --- To Be Con. ---

   :กอด1: :mew1:  ขอบคุณที่ติดตามค่า


หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 9 up 6/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: tityjiu ที่ 06-09-2014 22:37:35
พี่ชินจะจีบรึป่าวเนี่ยนิ่งเชียว คึๆๆ วีร์จะรู้คงอีกนาน
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 9 up 6/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 06-09-2014 22:46:37
เนียนจีบนะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 9 up 6/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 06-09-2014 23:05:29
พี่ชินซึนมากเดี๋ยวได้ช้ำใจเพราะเด็กตัวเองไปบอกชอบพี่ติณณ์นะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 9 up 6/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 06-09-2014 23:39:19
พี่ชินกะค่อยๆคืบให้น้องตายใจใช่มะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 9 up 6/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 06-09-2014 23:41:36
สนุกมาก เมจิกสู้ๆ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 9 up 6/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 06-09-2014 23:59:46
ที่ไม่ใจเต้นก็เพราะมีภูมิคุ้มกันคนหล่อแล้วไง
แล้วก็เริ่มชินที่อยู่กะพี่ชินเค้าอะป่าววี
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 9 up 6/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 07-09-2014 01:56:38
เรื่องจิงมันจะมีแบบนี้มั้ยนะ 5555
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 9 up 6/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 07-09-2014 07:16:58
สุดๆๆๆรออ่านนะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 9 up 6/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 07-09-2014 09:06:57
พี่ชินเนียนจีบใช่ไหมนี่  :impress2:  รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 9 up 6/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 07-09-2014 09:19:31
แหมพี่ชิน ไม่ค่อยเลยนะ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 9 up 6/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: pachth ที่ 07-09-2014 14:14:39
ยิ่งอ่านยิ่งชอบอ่ะ
พี่ชินโคตรหวงน้องเลย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 9 up 6/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: april day ที่ 07-09-2014 16:21:35
ดีใจจังมาเขียนต่อแล้ว พี่ชินนี่แอบหวงน้องวีนะคะ พอบอกว่าเป็นแค่รุ่นน้องมีไม่พอใจด้วย
น้องวีเองก็เริ่มมีใจให้พี่ชินแล้วใช่ไหม อยู่ใกล้พี่ชินใจเต้น พอเจอพี่ตินณ์กลับเฉยๆ  :-[
หัวข้อ: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 10 up 9/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 09-09-2014 20:08:39

        ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 10

   “ไอ้แบตมึงว่าชุดนี้เป็นไง”

   “ดี”

   “แล้วชุดนี้ล่ะ หรือจะเอาชุดนี้ดีวะ”

   “มึงจะเอาชุดไหนก็เอาซักชุดเถอะเวียนหัว กูเล่นเกมส์ไม่รู้เรื่องแล้วเนี๊ยะ” ไอ้แบตทำเสียงหงุดใส่ผมที่กำลังยืนเลือกชุด

   “ก็กูเลือกไม่ถูก มึงช่วยกูเลือกหน่อยดิ อย่ามานั่งไร้ประโชยน์เฉยๆในห้องกู” ผมถามต่อมือก็หยิบชุดนั้นวางชุดนี้ ไม่เลิก
 
พรุ่งนี้จะเป็นวันเปิดเทคของคณะวิศวะแล้วก็เป็นวันขอบคุณรุ่นพี่ในวันเดียวกัน น้องๆปี 1 ก็ต้องจัดแสดงโชว์ให้รุ่นพี่ดู ซึ่งพวกผมจัดทั้งหมด 5 รายการ รายการแรกจะเป็นร้องเพลง พร้อมรีวิวประกอบ จากนั้นจะมีทอล์คโชว์ เดินแบบ เกมส์โชว์และจบด้วยละครเพลงปิดท้าย ซึ่งผมได้งานจากการมัดมือชกของเพื่อนในรุ่นมาทั้งเดินแบบและละครเวที

เดินแบบเป็นการเดินในคอนเซ็ปอาชีพในฝันมีทั้งหมอ พยาบาล ทหาร ตำรวจ ครู วิศวะหรือคนขายหวย ตอนคัดเลือกจะใช้วิธีการจับสลากเลือกอาชีพ แล้วความซวยก็ไม่เคยหายไปจากชีวิตผมเลยเพราะผมดันจับได้อาชีพพริตตี้สาว ลูกแพรเลยเอาชุดมาให้ผมเลือกเกือบสิบชุด แต่ผมไม่รู้จะใส่ชุดไหนเพราะแต่ละชุดก็สวยไปคนละแบบ

“มึงแน่ใจนะว่ามึงไม่เต็มใจแต่งชุดพวกนี้ กูเห็นเลือกไม่เลิก”

“เออดิ มึงก็เห็นว่ากูโดนบังคับ แต่ของแบบนี้เขาไว้ใจให้ทำแล้วมันต้องเต็มที่เว้ย กูมันมืออาชีพ” ผมว่าก่อนหยิบชุดเกาะอกสีฟ้า กับวิกผมลอนด์เดินเข้าห้องน้ำก่อนลองชุดให้ไอ้แบตดูอีกครั้ง

“กูกลัวมึงจะค้นพบตัวเองงานนี้มากกว่าว่ะ เอาซะกูขนลุกเลยมึง” เสียงไอ้แว่นตะโกนไล่หลังไม่เลิกแต่ผมไม่สนใจ ลองชุดต่อไปจนกว่าจะได้ชุดที่ต้องการ

“เฮ้ย!มึงชุดนี้เป็นไง” ผมเปิดประตูห้องน้ำก่อนเรียกไอ้แบตเสียงดัง

“อะไรของมึงนักหน.....อ๊ะ” เป็นอะไรวะพูดก็พูดไม่จบ  แล้วทำไมต้องทำท่าตกใจขนาดนั้นด้วย

“ไอ้แบตๆ ไอ้เชี้ยแว่นมึงตกใจอะไร เกมส์ตายแล้ว”ผมเรียกมันที่เอาแต่จ้องผมนิ่ง ไม่ยอมพูดอะไรแล้วปล่อยให้เกมส์ที่กำลังเล่นแพ้ไปซะอย่างนั้น

“อ้าวเฮ้ยกูลืมกดหยุด ตายห่าเลยไหมล่ะ” มันหันไปมองเกมส์ก่อนโวยวายเสียงดัง

“ช่วยไม่ได้เสือกโง่เอง แล้วทำไมต้องมองกูแบบนั้นวะ ชุดนี้ไม่สวยเหรอ ใส่แล้วน่าเกลียดเหรอ” ผมถามพร้อมหมุนตัวให้มันดูอีกรอบก่อนเดินไปส่องกระจกดูตัวเองก็ปกตินี่หว่าน่าจะพอใช้ได้นะ

“น่าเกลียดเหี้ยอะไรล่ะสวยเลยแหละ มึงนี่พอใส่กระโปร่งใส่วิกแล้วก็เหมือนผู้หญิงเหมือนกันนะ ถ้าได้แต่งหน้าทาปากซะหน่อยคงจะสวยกว่านี้เยอะ แถมผิวก็ขาวเนียนละเอียด ไอ้วีจริงๆมึงเป็นตุ๊ดรึเปล่าวะบอกกูมาตรงๆ”

“ไอ้เชี้ยมึงหยุดเลยนะ หยุดความคิดมึงเดี๋ยวนี้กูไม่ได้เป็นตุ๊ด แล้วมองหน้ากูทำไม อย่านะเว้ยๆ กูกับมึงเพื่อนกัน ถ้าอยากได้ไปหาเอาที่อื่น ถึงกูจะบอกว่าชอบผู้ชายแต่ยังไงกูก็ไม่เอาเพื่อน ถึงหล่อกูก็ไม่เอา กลับห้องมึงไปเลยนะ” ผมรีบไล่ไอ้เชี้ยแว่นที่นั่งจ้องหน้าผมไม่เลิก สายตาแม่งน่ากลัวผมเริ่มไม่ไว้ใจมันแล้ว

“อย่าว่าแต่มึงไม่เอา กูก็ไม่เอามึงเหมือนกันถ้าให้เอามึงกูไปเอาข้างฝาห้องกูดีกว่าอีก” มันว่าพร้อมทำหน้าอ้อนตีนผมซะเหลือเกิน ถ้าถีบเพื่อนออกจากห้องนี่จะผิดไหมวะ แต่ก็ดีแล้วที่มันไม่ได้คิดอะไรเกิดมันคิดขึ้นมาผมต้องรำบากหาเพื่อนใหม่อีก โง่ๆอย่างมันยิ่งหายากอยู่ด้วย

“เออไม่คิดก็ดีไป แต่ชุดนี้สวยแล้วใช่ไหมวะจะได้เอาชุดนี้”  ขี้เกียจเลือกแล้วครับ  ลองมาหลายชุดเริ่มเหนื่อย

“เออสวยแล้ว แต่มึงอย่าพูดวะโว้ยตอนใส่ชุดนี้ได้ไหมวะ มันขัดกันว่ะ”

“ไม่ได้ กูเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิงจะได้มา คะขา จ๊ะจ๋า”

“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ แค่มึงอย่าวะก็พอ” ไอ้นี่ก็ไม่ยอมจริง

“หึหึ ไม่มีทาง” ผมหัวเราะก่อนดึงวิกออกจากหัว แล้วเดินไปถอดชุดเก็บเข้าตู้ ไอ้แบตก็ได้แต่มองตามผมก่อนส่ายหัวนิดๆแล้วเริ่มเล่นเกมส์ของมันต่อ

“วีชุดที่ให้ไปใส่ได้บ้างไหม”

“ใส่ได้สิพอดีเลย ทำไมแพรรู้ขนาดวีเลยล่ะ”  ผมกับลูกแพรนั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะประจำใต้คณะ รอขึ้นเรียนส่วนไอ้แบตเห็นบ่นว่าหิวน้ำก่อนเดินหายไปไหนไม่รู้ครับไม่ได้บอกไว้ สงสัยไปซื้อน้ำ

   “ก็วีตัวเล็กกะขนาดไม่ยากหรอก แล้วเลือกได้รึยังว่าชอบตัวไหน” ลูกแพรถามก่อนยิ้มรอลุ้นว่าผมจะชอบตัวเดียวกับที่แพรเชียร์รึเปล่า

   “ตัวเกาะอกสีฟ้าอ่ะ ไอ้แบตบอกวีใส่แล้วสวย”

   “แบตได้เห็นวีลองชุดแล้วเหรอ น่าอิจฉาอ่ะเดี๋ยวก่อนงานเริ่มแพรไปช่วยวีแต่งตัวดีกว่าจะได้ช่วยเลือกอีกครั้งว่าชุดไหนสวยกว่ากัน” ลองอีกแล้วเหรอเมื่อวานผมก็ลองจนเกือบ 5 ทุ่มกว่าจะได้นอน

   “วีว่าชุดนั้นก็ดีแล้วนะ” ผมว่าเสียงเบา ไม่กล้าบอกว่าขี้เกียจลอง

   “ไม่ได้ยังไงงานนี้แพรเป็นพี่เลี้ยงทั้งที วีก็ต้องสวยที่สุด” ผมได้แต่หัวเราะเพราะไม่รู้จะตอบว่าอะไร ดูเหมือนแพรจะสนุกที่ได้แต่งตัวผมยังไงไม่รู้ครับ ตั้งแต่รู้ว่าผมได้แต่งตัวเป็นพริตตี้ แพรรีบหาเสื้อผ้า เครื่องประดับ วิกผม ถุงน่องรองเท้ามาให้ผมลองวุ่นวายไปหมด

   แพรเดินแบบเซ็ตเดียวกับผมแต่แต่งเป็นนางพยาบาลสุดเซ็กซี่ ผมไม่เห็นแพรจะเตรียมตัวหรือตื่นเต้นอะไร ยังมีการบอกผมอีกว่าแต่งเองไม่สนุกเท่าจับผมแปลงร่างเป็นผู้หญิง เอากับเพื่อนผมสิถ้ามีน้องสาวหรือลูกสาวคงชอบใจน่าดู ส่วนไอ้แบตมันไม่ได้เดินแบบแต่มันได้เล่นละครเป็นพระเอก ทั้งๆที่มันไม่ชอบวุ่นวายเพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะแพรได้เป็นนางเองไงครับตอนแรกเขาจะให้มันเป็นมันก็ไม่เอาจนเพื่อนถอดใจไปหาคนอื่น แต่พอแพรเป็นนางเอกเท่านั้นแหละมันรีบเสนอหน้าของเล่นเลยผลละอยากถีบมันซักทีโทษฐานที่เปลี่ยนใจไปมาทำให้เขาวุ่นวายกันทั่ว ส่วนผมก็เล่นเป็นต้นไม้ใบหญ้าไปเรื่อย


   “อ่ะพี่โยฝากมาให้” ผมมองอมยิ้มที่ถูกยื่นมาตรงหน้าก่อนเงยขึ้นมองไอ้แบตที่อีกมือกำลังยกกระป๋องน้ำอัดลมขึ้นดื่ม

   “เจอพี่โยที่ไหนวะ” ผมไม่เจอพี่โยนานมากแล้วครับตั้งแต่วันที่เอาอมยิ้มมาให้ผมเป็นกองแล้วหายเงียบไปเลย ผมกินอมยิ้มวันละอันจนหมดเมื่อวาน เหมือนพี่โยนับไว้เลยครับว่าจะหมดวันไหน ผมนึกว่าวันนี้จะได้จากมือคนที่เป็นเจ้าของซะอีกเพราะเป็นวันเปิดเทคแล้ว แต่ถ้ามาให้แบบนี้แล้วผมจะได้รู้ไหมละว่าใครเป็นคนให้แน่

   “เจอที่ร้านขายของ กูเห็นพี่เขากำลังซื้ออมยิ้มอยู่ พอแกเดินออกจากร้านกูเลยรีบไปซื้อน้ำแล้วเดินตามไปทัก”

   “งั้นพี่โยก็ไม่รู้ว่ามึงเห็นตอนเขาซื้ออมยิ้มเหรอ” ผมถามอีกครั้งอย่างสงสัย

   “เออไม่เห็น ถึงได้กล้าฝากกูมาให้มึงมั้ง” ไอ้แบตว่าก่อนยักคิ้ว ผมเริ่มสงสัยว่าพี่โยจะเป็นคนให้ผมเองรึเปล่าแล้วมาบอกว่าคนอื่นฝากมา  หรือว่าพี่โยจะเป็นพี่เทคผมวะ   





เพี๊ยะ!

   ผมยังไม่ทันได้ตอบอะไรไอ้แบต เสียงเหมือนฝ่ามือกระทบกับผิวเนื้อก็ดังขึ้นมาก่อนที่ผมจะหันไปทางที่มาของเสียง

“แล้วตินณ์จะต้องเสียใจที่บอกเลิกวิว” ผม ไอ้แบต ลูกแพรมองไปที่จุดเดียวกัน เห็นพี่ตินณ์ยืนเผชิญหน้ากับพี่วิวที่กำลังร้องไห้  ผมคาดว่าเสียงเมื่อกี้น่าจะเป็นเสียงจากผ่ามือพี่วิวที่ตบหน้าพี่ตินณ์ เพราะผมนั่งอยู่ไม่ไกลจากที่ทั้งสองคนยืนคุยกันเท่าไหร่ เลยมองเห็นรอยแดงเป็นแนวบนหน้าพี่ตินณ์ ขึ้นไวมากสงสัยจะมือหนักไม่ใช่เล่น

ผมมองทั้งสองคนคุยกันด้วยสีหน้าเครียดก่อนพี่วิวจะเดินหนีไป พี่ตินณ์มองตามก่อนจะเดินไปโต๊ะที่เพื่อนๆแกอยู่ครบทั้งกลุ่ม

“เค้าเลิกกันแล้วนะ มึงรอเสียบได้เลย” ไอ้แบตที่เงียบไปนานหันมาสบตาผมก่อนว่า

“กูไม่ใช่คนฉวยโอกาส แล้วพี่ตินณ์ก็ไม่ได้สนใจกูแบบนั้นด้วย” ผมเถียงทันที

“แต่ตอนนี้พี่เขาโสดแล้วนะ วีจะไม่ลองดูหน่อยเหรอ” แพรที่รู้ว่าผมชอบพี่ตินณ์ เริ่มยุอีกคน

“ไม่เอาหรอก ถ้ามันจะเป็นคู่กันซักวันคงได้เป็นเอง” ผมบอกตรงๆไม่กล้าจีบผู้ชายก่อน ไม่รู้ต้องเริ่มยังไง ขนาดผู้หญิงยังไม่เคยแล้วผู้ชายผมจะกล้าเหรอครับ แค่ได้ชอบก็พอแล้ว

“มึงมันป๊อด โอกาสมาแล้วยังไม่คว้าถ้ามาเสียใจตอนพี่เขามีคนใหม่กูจะหัวเราะให้ฟันร่วง” ไอ้แบตว่าเสียงดังเลยครับ มันจะดังทำไมวะกูอายคนเป็นเหมือนกันนะเว้ย

“ใช่แบตพูดถูก” ลูกแพรรีบสนับสนุนอีกคน

“แต่วียังไม่กล้า ขอเวลาทำใจก่อนนะ ไปเข้าเรียนกันเถอะถึงเวลาแล้ว” ผมบอกก่อนเรียกเพื่อนเข้าเรียน ตอนนี้ปล่อยให้พี่ตินณ์โสดไปก่อนครับ เดี๋ยวผมทำใจได้เมื่อไหร่จะไปสอยลงมาเอง หึหึ









“แพรเสร็จรึยัง วีเมื่อยแล้วนะ” ผมบอกแพรที่กำลังติดเข็มกลัดด้านหลังชุดให้ผมอยู่ ชุดนี้แพรเพิ่งเอามาเปลี่ยนให้ผมใหม่เป็นเกาะอกแนบตัวสีชมพูอ่อน กระโปรงเข้าทรงสั้น แล้วมีผ้าพริ้วๆบางๆคลุมยาวลงไปถึงปลายเท้า ตอนแรกผมจะไม่ยอมเปลี่ยนเพราะผมใส่ชุดเดิมไปแล้วแต่แพรก็ไม่ต้องจะให้ผมใส่ชุดนี้ให้ได้ สุดท้ายผมก็ต้องยอมเปลี่ยนแล้วปรากฏว่าชุดหลวมไปนิดต้องเอาเข็มกลัดกลัดไว้

แพรมาช่วยผมแต่งตัวที่ห้องตั้งแต่เรียนเสร็จตอน 4 โมงเย็น เกือบ2 ชั่วโมงได้แล้วครับที่ผมต้องวุ่นวายกับเรื่องชุด ทั้งขนาดไม่พอดี ถุงน่องไม่เข้าสี แล้วยังขนาดนมปลอมนี่อีกไม่รู้แพรไปขนมาจากไหน แล้ววิกก็มีทั้งผมสั้น ผมยาว สีทอง สีดำ น้ำตาล
เพลินมือเพื่อนผมแต่ผมไม่ได้เพลินด้วยเลย เพราะนอกจากแต่ชุดแล้วยังต้องแต่งหน้า ติดกันสาดขนตาแล้วเอาอะไรไม่รู้ครับที่คล้ายๆกากเพชรมาทาตัวแว๊บๆไปหมด

“วีอยู่นิ่งๆสิ แพรติดไม่ได้” เสียงแพรว่า

“ก็วีเมื่อยแล้ว พอแค่นี้ได้ไหม แพรไปแต่งของแพรเถอะเดี๋ยวไม่ทัน” ผมบอกแพรที่ติดเข็มกลัดเสร็จแล้วเดินมาขยับนมปลอมให้ผม

ผมเพิ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้มันมีนมปลอมที่เป็นซิลิโคลนนิ่มๆ เด้งดึ๊งดั๋ง เอามาแปะอกไว้แล้วใส่เสื้อคล้ายๆเสื้ออุ้มนมแต่ไม่มีสายคอยรัดไว้ ท่าอย่างนั้นที่ผมเห็นอึ๋มๆกันทั่วนี่ของจริงรึเปล่าวะ โลกนี้ชั่งน่ากลัวแล้วผมว่า

“ของแพรแต่งนิดเดียวก็เสร็จ ลองใส่รองเท้าหน่อยวีจะได้รู้ว่าเข้ากับชุดรึเปล่า โหเข้ามากเลยวีสวยจังเลย สวยกว่าแพรอีกอ่ะ เดี๋ยวเติมปากอีกนิดนะเอาสีชมพูอ่อนก็พอ” ผมว่าดูท่าแพรจะมีความสุขกว่าผมอีกครับ

“ไอ้วี แพรเสร็จกันรึยัง เฮ้ย!” ผมหันไปมองไอ้แบตที่เปิดประตูเข้ามาพร้อมตะโกนเสียงดัง ก่อนมันจะตะลึงเหมือนเมื่อวานเลยครับ

“แบตเป็นอะไร อึ้งเลยดิวีสวยใช่ไหมล่ะ” แพรแซวไอ้แบตที่ยืนเงียบเลยครับ ผมก็รอลุ้นไปด้วยเริ่มไม่มั่นใจเพราะชุดที่เปลี่ยนใหม่

“สวย สวยมากเลยแพร เหมือนไม่ใช่ไอ้วี”

“ไม่ใช่อะไร ก็กูนี่แหละจะใคร ป๊าบ! เป็นไงทีนี้ใช่รึยัง” ผมบอกก่อนตบหัวไปทีนึง

“กูขอถอนคำพูดมือหนักแบบนี้มีแต่มึงเท่านั้นแหละ ไอ้วีมึงเป็นผู้หญิงปลอมตัวมารึเปล่าวะ นมนี่ของจริงใช่ไหม” มันว่าก่อนเดินเข้ามาจับแขนผมยกขึ้นลงแล้ว แล้วจับนมปลอมที่หน้าอก

“สัส กูมีจู๋มึงอยากดูไหม” ผมว่าก่อนทำท่าจะเปิดประโปรงขึ้น

“วีทำอะไร เป็นผู้หญิงมาเปิดประโปรงให้ผู้ชายดูได้ไง” ยังไม่ทันได้เปิดเลยครับ แค่ทำท่ายกชายผ้าบางๆลูกแพรก็ตีไหล่ผมเต็มแรง

“แพรก็ไม่เชื่อเหรอว่าวีเป็นผู้ชาย งั้นป่ะวีพาไปดู” ผมว่าก่อนทำท่าจะจับมือแพรเดินเข้าห้องน้ำ






“ไอ้วีทะลึ่งแล้วมึงแฟนกู”

“อ้าวไอ้เชี้ยแบตมึงไปเป็นแฟนแพรตอนไหน ทำไมกูไม่รู้” ผมโวยวายก่อนมองหน้าแพรกับไอ้แบตสลับกัน มันไปจีบกันเป็นแฟนกันตอนไหนทำไมผมไม่รู้ แล้วยังปิดบังผมอีกนะ

“ไม่ใช่ซะหน่อย แบตอย่าขี้ตู่” แพรว่าแต่หน้าแดงเลยครับ

“ยังไง เอาเรื่องจริงอย่าโกหกวีนะไม่งั้นวีโกรธจริงๆด้วย” ผมคาดคั้นแพร เพราะเชื่อว่าถ้าถามไอ้แบตไม่มีทางรู้แน่นอน

“ก็ไปถามแบตเองสิ” อ้าวโยนซะงั้น แล้วผมจะได้รู้ไหมล่ะ

“ไอ้แบตตกลงยังไง” ผมหันไปถามไอ้แบตก่อนส่งสายตากดดันทั้งสองคน

“กูจีบแพร แต่แพรยังไม่ยอมเป็นแฟนกู แค่นี้พอใจยัง” ทำมาเป็นหงุดหงิดกลบเกลื่อนนะมึง

“แล้วทำไมกูไม่รู้ว่ามึงจีบแพร”

“ก็กูไม่ได้จีบมึง มึงถึงต้องรู้ไง ชัดเจนไหม”

“สัส! อย่ากวนตีนกูเพื่อนมึงนะ ทำไมไม่บอกกูบ้างวะ ทีกูชอบพี่ตินณ์ยังบอกมึงเลย”ผมว่าเสียงดังก่อนลดเสียงลงตอนท้าย

“กูไม่ได้จะไม่บอกแต่ กูก็ไม่รู้จะบอกยังไง กูกับแพรเป็นเพื่อนกันคำว่าจีบของกูก็แค่ไปไหนด้วยกัน ทำอะไรด้วยกันเหมือนเพื่อนไม่ได้มีอะไรพิเศษ และเกือบทุกครั้งมึงก็ไปด้วย แล้วจะให้กูบอกยังไงวะ ถ้ากูบอกมึงก็ไม่ไปกับพวกกูอีก ตามนิสัยถ้ามึงรู้มึงก็ต้องหาทางให้กูได้อยู่กับแพรสองคน แล้วมึงก็ต้องอยู่คนเดียว กูทำแบบนั้นไม่ได้ว่ะ”  กูต้องซึ้งน้ำใจมึงไหมวะ จะจีบหญิงแต่ก็ไม่ทิ้งเพื่อนเนี๊ยะ

“เออกูไม่โกรธก็ได้ แต่สรุปมึงยังไม่ได้เป็นแฟนกับแพร” ผมสรุป

   “เออรออยู่”มันตอบผมแต่ตามองไปที่แพรเหมือนต้องการบอกให้รู้ว่ามันกำลังรอคำตอบ

“งั้นแพรอย่าใจอ่อนง่ายๆนะ มันกะล่อนจะตายถ้าแพรเป็นแฟนมันง่ายๆวีไม่ยอมด้วย” ผมหันไปบอกแพรที่ยืนยิ้มให้เมื่อผมพูดจบ

“ใครบอกแพรจะยอมเป็นแฟนกับแบต วีเข้าใจผิดรึเปล่า” แพรพูดก่อนหัวเราะ

“แพรอย่าพูดแบบนี้สิ แบตหมดกำลังใจพอดี” ไอ้แบตทำหน้าอ้อนได้น่าหมั่นไส้มากครับ

“อย่ายอมนะแพร” ผมรีบบอกก่อนหัวเราะพร้อมแพร ไอ้แบตก็ได้แต่ทำหน้าโมโหผมแต่ทำอะไรไม่ได้จากนั้นลูกแพรก็ขอเวลาแต่งตัวไม่ถึง 30 นาทีก็เสร็จพร้อมออกเดินทางเข้ามอ








มาถึงมอ ผมก็ตรงไปที่ลานเกียร์หน้าอาคารกิจกรรมของคณะทันที บรรยากาศภายในงานกำลังครึกครื้น คนเยอะมากครับวันนี้ทุกคนตั้งแต่ปี 1 ถึงปี 4 ของทุกภาควิชามากันครบเลย งานเริ่มไปแล้วเกือบครึ่งชั่วโมงผมมาช้าเพราะมัวแต่ซ้อมเดินด้วยรองเท้าส้นสูง ก็ไม่เคยใส่ซักที ตอนใส่อยู่กับที่ก็ไม่มีอะไรแต่พอเดินเท่านั้นครับ หน้าจะทิ่มให้ได้เลยต้องมีซ้อมก่อนไม่งั้นดั้งหักกลางเวทีขึ้นมาผมขายขี้หน้าตาย


เดินเข้ามาด้านหลังเวทีทุกคนมองผมเหมือนไม่เคยเห็น ก่อนจะมีคนถามแพรว่าพาใครมาแล้วถามหาผมต่อ ตลกดีครับทำไมทุกคนจำผมไม่ได้ ผมก็ไม่ได้แปลกอะไรมากแค่ใส่ชุดผู้หญิง ใส่วิกผมยาวสีน้ำตาลเข้มก่อนแต่งหน้าเติมนมนิดหน่อย ทุกคนกลับมองเหมือนไม่รู้จักแต่พอแพรบอกว่าเป็นผมเท่านั้นและครับเสียงเหมือนนกกระจอกแตกรัง เดินมาดูมาจับผมกันใหญ่

“วีตื่นเต้นเหรอ”ลูกแพรเดินมาถามผมที่กำลังนั่งทำสมาธิ ตอนนี้มือเย็นไปหมดเลยครับ กลัวจะไปเดินสะดุดขาตัวเองบนเวที

“นิดหน่อย แพรไม่ตื่นเต้นเหรอ” ผมตอบก่อนถามกลับ

“ก็มีบ้างแต่คงไม่เยอะเท่าวี ดูสิมือเย็นไปหมดเลย” แพรจับมือผมบีบเบาๆ

“เดินดีๆนะมึงระวังสะดุดขาล้มหน้าแหกล่ะ” ไอ้เชี้ยแบตกูยิ่งกลัวแม่งก็ยังจะมาแช่งกูอีกนะ

“กูเปลี่ยนใจไม่เดินทันไหมวะ” ผมถามเสียงเบา

“ไม่ทันแล้วทอล์คโชว์จะจบแล้ว ไปเดินๆเดี๋ยวก็เสร็จ”

“พี่ชินกับพี่โยนี่น่ามาทำอะไรตรงนี้” ผมมองตามสายตาลูกแพรก่อนจะเห็นพี่ชินกับพี่โยเดินเข้ามาด้านหลังเวทีพร้อมมองหาอะไรซักอย่าง แล้วผมก็สบตากับพี่โยก่อนตามมาด้วยพี่ชินที่มองผมแค่แว๊บเดียวก่อนมองไปทางอื่นเหมือนหาของที่ต้องการต่อ

“พี่โย พี่ชินสวัสดีค่ะมาทำอะไรข้างหลังเหรอคะ ไม่ดูโชว์เหรอกำลังจะเริ่มชุดที่ 3 แล้วนะคะ” ลูกแพรถามพี่โยกับพี่ชินที่เดินเข้ามาตรงที่ผมนั่งอยู่

“ดูครับแต่พี่เอาถ่านไมล์ลอยมาเปลี่ยนให้ ไม่รู้คนที่ไปบอกพี่หายไปไหนแล้ว  วันนี้น้องแพรแต่งชุดพยาบาลแล้วสวยนะครับ สวยจนพี่อยากไปรักษาโรคหัวใจเลย” พี่โยตอบก่อนแซวลูกแพรกลับยิ้มๆ

“ยินดีรับรักษาให้ค่ะ แต่แพรคิดว่ารักษาแพงนะคะ” แพรตอบก่อนส่งยิ้มหวาน แล้วเสียงไอเหมือนส้นตีนติดคอของไอ้แบตก็ดังขึ้น ผมได้แต่สมน้ำหน้ามันในใจถ้าให้ผมช่วยป่านนี้ได้เป็นแฟนไปแล้วไม่ต้องมาทำเป็นหวงแต่ออกหน้าไม่ได้แบบนี้หรอก

“แล้ววีไม่มาเข้ากิจกรรมอีกแล้วเหรอ” อ้าวบรรยากาศกำลังดี ไอ้พี่ชินแม่งมาใส่ร้ายให้ผมอารมณ์เสียซะงั้น โดดอะไรวะคนนั่งหัวโด่อยู่นี่ ผมมองหน้าแม่งเลย แต่ไอ้พี่ชินก็ไม่มองผมซักนิด

“ก็มานี่ค่ะ ไม่ได้โดดซะหน่อย”

“แล้วไปไหนล่ะ พี่ยังไม่เจอเลย” เฮ้ยไอ้พี่ชินแม่งจำผมไม่ได้หรือว่าแกล้งวะ

“ก็นั่งอยู่...”

“โชว์เดินแบบเตรียมตัว” ผมกำลังจะบอกพี่ชินว่าอยู่นี่ แต่เสียงตะโกนเรียงให้ไปตั้งแถวก็ดังขึ้นก่อน

“งั้นแพรไปเตรียมตัวก่อนนะคะ ไปวี” ลูกแพรพูดเสร็จก็ดึงมือผมให้ลุกขึ้นเดินมาต่อแล้วตามคิว ผมไม่ทันมองพี่ชินกับพี่โยว่าได้ยินที่แพรเรียกผมรึเปล่า แต่ก็ไม่ได้สนใจดูเพราะตอนนี้มัวแต่ตื่นเต้นจนไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างแล้วครับ

แล้วเสียงพิธีกรก็ประกาศเริ่มก่อนคนแรกจะเดินออกไปแล้วมีเสียงแนะนำตลอดเวลาว่าคนที่เดินชื่ออะไร จบจากที่ไหน จบแล้งอยากเป็นอะไร คนข้างหน้าผมถูกเรียกออกไปทีละคนๆ จนเสียงประกาศชื่อผมดังขึ้น


“สู้เขานะวีแพรเป็นกำลังใจให้ วีทำได้อยู่แล้ว” ลูกแพรที่เดินกลับเข้ามาสวนกับผมพูดให้กำลังใจก่อนเดินลงจากเวทีเพราะคนต่อไปมารอ

ผมค่อยๆสูดหายใจลึกๆแล้วก้าวเดินออกไปตามที่ซ้อม สองข้างเวทีเต็มไปคนที่กำลังจ้องมาที่ผม ผมพยายามไม่มองคนแต่มองไปข้างหน้าเพื่อลดความตื่นเต้น  ผมเดินมาเรื่อยๆจนถึงหน้าเวทีที่ทอดยาว หยุดโพสท่า แล้วสายตาผมก็เห็นพี่ตินณ์ พี่ชินและพี่โยยืนอยู่ด้วยกัน

พี่ตินณ์มองผมยิ้มๆ ก่อนยกนิ้วโป้งให้ พี่โยกับพี่ชินมองผมเหมือนไม่แน่ใจว่าเป็นผม ผมคิดว่าอย่างนั้นนะเพราะผมสบตากับพี่ชินแล้วสายตาพี่ชินคล้ายกับไอ้แบตตอนเห็นผมครั้งแรก  คือจ้องนิ่งเดาอารมณ์ไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง แต่ผมก็ยิ้มให้พวกพี่ๆ ก่อนหมุนตัวกลับ

จังหวะหมุนตัวผมรู้สึกว่ารองเท้าจะพลิกเพราะผมหมุนไว แล้วผมก็เซไปข้างหน้านิดนึงเหมือนจะล้ม ผมเห็นพี่ชินขยับมาข้างหน้าเตรียมรับถ้าผมร่วงจากเวที แต่ผมก็ประคองตัวไว้ได้ก่อนค่อยๆถอดรองเท้าส้นสูง แล้วเอานิ้วเกี่ยวสายรัดข้อเท้าเส้นบาง มีปัญหามานักถอดแม่งเลยครับ ผมเอารองเท้าพาดไหล่แล้วหมุนตัวด้วยเท้าเปล่าอีกครั้งก่อนเดินเฉิดฉายเข้ามาหลังเวที ก่อนเสียงปรบมือจะดังตามหลัง

“วีเก่งมากเลย ทำได้ดีมากเลย เยี่ยมสุดๆไปเลย”ผมได้ยินคนพูดประโยคนี้ซ้ำๆแต่ไม่รู้ว่ามาจากใครบ้างเพราะตอนนี้ผมตื่นเต้น ใจสั่นไปหมดเลยครับนึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว
“วีเจ๊งมากเลย” ลูกแพรเดินเข้ามากอดผมด้วยความดีใจ

“วีตื่นเต้นไปหมดเลยแพร นึกว่าจะล้มหัวทิ่มตกเวทีจริงๆแล้ว” ผมกอดตอบแบบไม่รู้ตัว

“เบาหน่อยๆ เอาแค่คำพูดก็พอมั้งมือไม่ต้องก็ได้” ไอ้แบตเดินมาจากไหนไม่รู้ตีมือผมที่กำลังกอดแพรไว้ ผมถึงได้รู้ตัวว่ากอดแพรไว้แล้วรีบปล่อย

“ขอโทษนะแพร พอดีวีลืมตัว”

“แพรก็ลืมเหมือนกัน วันนี้วีสวยที่สุดเลย” แพรว่าก่อนยิ้มให้ผม ผมก็ได้แต่ยิ้มตอบแบบเขินๆนานๆทีจะมีคนชมว่าน่ารัก ปกติมีแต่คนชมว่าหล่อ

“เมื่อกี้มึงเดินดีมาก กูอยู่ข้างนอกมีแต่คนชมมึง”

“จริงเหรอวะ

“เออดิ พี่ตินณ์กับพี่โยยังชมเลย”

“มึงรู้ได้ไง พี่ตินณ์ชมกูด้วยเหรอ”

“เออดิกูยืนข้างหลังพี่เขาไง ไม่งั้นจะรู้เหรอ”  ไอ้แบตตอบก่อนยักคิ้ว

“มึงเดี๋ยวกูมานะ” ผมบอกก่อนเดินออกมา ผมว่าผมเห็นหลังพี่ชินไวๆ กำลังจะเดินตามแต่ก็ไม่ทันแล้วครับไม่รู้หายไปไหน ว่าจะถามซะหน่อยว่าจำผมไม่ได้จริงๆ หรือว่าเป็นอะไรทำไมต้องทำเมินผมด้วย

“ชุดละครเตรียมตัวนะครับ”

“ไอ้วีมาเปลี่ยนชุดก่อนเร็ว” เสียงทีมงานตะโกนบอก ก่อนไอ้แบตจะเดินมาเรียกผมไปเปลี่ยนชุดเพื่อขึ้นแสดงต่อเกมส์โชว์เหลือเวลาไม่นาน เดี๋ยวค่อยไปคุยก็ได้ยังไงวันนี้ก็คงได้เจอกันอีก ผมคิดก่อนเดินตามไอ้แบตกับลูกแพรมาเปลี่ยนชุด


------ To be Con ------

ขอบคุณที่ติดตามค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 10 up 9/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 09-09-2014 20:22:50
 :z13:  พี่ชินจำวีไม่ได้จริงๆหรือแกล้งเมินเพราะเหคุผลอื่น
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 10 up 9/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 09-09-2014 20:35:29
พี่ชินเจอคู่แข่งที่น่ากลัวแล้ว พี่ิติณณ์โสดแล้ว  น้องวีจะทำยังไงต่อนี่

รอตอนต่อไปค่ะ  :3123:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 10 up 9/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 09-09-2014 22:35:43
 :mew1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 10 up 9/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 09-09-2014 22:40:24
พี่ชินเมินน้องทำไม
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 10 up 9/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 10-09-2014 01:13:49
พี่ชินจำไม่ได้หรือตั้งใจเมิน
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 11 up 10/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 10-09-2014 02:42:08


       ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 11


   “วันนี้สวยจนพี่เกือบจำไม่ได้” ตกใจเลยนึกว่าใคร เดินไปเข้าห้องน้ำกลับมาอยู่ๆก็มีคนทักหันไปเป็นพี่ตินณ์เองครับ

   “สวยจริงเหรอครับ” ผมถามไปอย่างนั้นไม่รู้จะคุยอะไร ยังตั้งตัวไม่ทันอยู่ๆก็เจอ

   “จริงสิ ตอนแรกที่ยังไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นวี  จากเด็กผู้ชายดื้อๆ ไฮเปอร์ๆ กลายมาเป็นผู้หญิงสวยเซ็กซี่ซะพี่กับเพื่อนตะลึงเลย” พี่ตินณ์พูดจริงหรือแกล้งยอวะพูดซะผมเขินเลย แต่ผมไม่ได้ไฮเปอร์นะ

   “ผมไม่ได้ไฮเปอร์ซะหน่อยพี่ แต่ผมดีใจนะครับที่พี่ชอบ” ผมว่าก่อนยิ้มให้

   “ตอนแสดงละครก็แสดงดีนะ ถึงจะเป็นต้นไม้แต่ก็สมจริงมาก แข็งโป๊กเลย ฮ่าๆๆ”

   “พี่ตินณ์แกล้งว่าผมอ่ะ” ผมว่ากลับก่อนทำหน้าเป็นตูด ก็ให้ผมแสดงเป็นต้นไม้แล้วจะไม่ให้แข็งได้ไง

   “หึหึ แซวเล่นเฉยๆน่า”

   “แล้วเพื่อนพี่ไปไหนครับ ทำไมพี่มายืนตรงนี้คนเดียว” ผมมองรอบๆเห็นพี่ตินณ์ยืนอยู่คนเดียว

   “พี่ออกมาโทรศัพท์น่ะ ข้างในเสียงดังกำลังจะกลับเข้าไปเห็นเราเดินมาพอดี เราจะเข้าเลยไหมจะได้เดินไปพร้อมกัน”

   “ครับ เอ่อพี่ตินณ์ตอนนี้ไม่ได้เป็นแฟนกับพี่วิวแล้วเหรอครับ ขอโทษครับพอดีผมเห็นเมื่อกลางวันตอนที่พี่คุยกับพี่วิว” ผมรีบอธิบายทันทีที่พี่ตินณ์หันมามองหน้า

   “อืมเลิกแล้ว เราเห็นด้วยเหรอ มือผู้หญิงเจ็บดีนะ หึหึ” พี่ตินณ์พูดเรื่อยๆก่อนหัวเราะในลำคอเหมือนไม่ได้ทุกข์ใจกับเรื่องที่ต้องเลิกกับพี่วิว แต่ก็แบบนี้ครับคนหล่อมักไม่เสียใจเพราะคนใหม่มีเข้ามาให้เลือกเยอะ หรือผมจะตัดสินใจลองบอกความในใจของตัวเองดี  ผมเริ่มลังเล

   “อย่างนั้นตอนนี้พี่ตินณ์ก็โสดนะสิครับ ผู้หญิงคงต่อแถวยื่นใบสมัครกันเพียบแน่ๆ” ผมลองหยั่งเชิงซะหน่อยถ้าพี่ตินณ์บอกว่าไม่โสดผมคงต้องตัดใจ

   “จะว่าไงดี ไอ้โสดมันก็โสดนะแต่ตอนนี้เริ่มไม่อยากโสดแล้ววะ” พี่ตินณ์ตอบก่อนหันมายิ้มให้ผม เท่านั้นแหละครับ ใจแม่งเต้นรัวเลย จากที่ผมว่าทำใจได้แล้วแต่ทำไมแค่พี่ตินณ์หันมายิ้มให้ผมถึงได้ใจเต้นขนาดนี้วะ เอาแล้วไงสงบใจไว้ก่อนนาวี

   “ตินณ์มานี่หน่อย” ใครวะขัดจังหวะ หันไปพี่คิมกำลังเรียกพี่ตินณ์พร้อมกับเพื่อนๆทั้งกลุ่มเลยครับ

   “พี่ไปก่อนนะแล้วเจอกัน โชคดีล่ะ” พี่ตินณ์บอกก่อนตบบ่าผมเบาๆสองทีแล้ววิ่งไปหาเพื่อน ผมก็ได้แต่มองตามด้วยรอยยิ้ม วันนี้โชคดีได้คุยกับพี่ตินณ์




   “หายไปไหนมาวะตั้งนาน” ผมถึงโต๊ะไอ้แบตถามคนแรกเลยครับ

   “ไปเยี่ยวมีอะไรไหม” ตอบก่อนยักคิ้วกวนตีน ตอนนี้ผมมานั่งกินอาหารด้านหน้าเวทีเป็นโต๊ะจีนอาหารเต็มโต๊ะผมก็ซัดเลยครับไม่สนใจการแสดงของปี 2 บนเวทีแล้ว ยิ่งตอนนี้เปลี่ยนชุดมาเป็นเสื้อยืดกางเกงยีนส์แล้วผมก็ไม่ต้องระวังอะไร

   “ต่อไปจะเป็นกิจกรรมที่ทุกคนรอคอย นั่นคือให้รุ่นน้องปี 1 ออกมาทายว่าพี่เทคของตัวเองเป็นใคร โดยก่อนทายพี่ขอให้น้องพรีเซ็นต์ท่าที่เป็นรหัสของสายตัวเองยังจำกันได้ไหมวันที่จำสายได้ว่าอะไรกัน”

เสียงพิธีกรพูดจบพวกผมก็ตะโกนขึ้นพร้อมกันว่าจำได้ก่อนจะมีพี่ระเบียบมาเรียกรวมรุ่นน้องปี 1 ให้ไปรอที่หลังเวทีอีกครั้ง แล้วขึ้นไปตอบบนเวทีครั้งละ 10 คน กว่าจะครบทุกคนผมว่ามีดึกแน่ครับ หรือต้องกลับเช้าแน่วะเริ่มไม่มั่นใจ

   แล้วการทายก็ผ่านมาเรื่อยๆจนมาถึงไอ้แบต มันขึ้นไปพรีเซนต์ท่าสหายหน้าขาวสาวขี้ให้หมีดม เรียกเสียงหัวเราะจากคนข้างล่างเป็นแถวเลยครับ ผมบอกเลยถ้าหน้าตาไม่ดีทำแล้วมีดับแต่ดีนะเป็นไอ้แว่น คนเลยให้ผ่าน ก่อนมันจะทายว่าพี่มันเป็นใคร แล้วมันเสือกทายถูกอีก พี่เทคไอ้แบตอยู่สาขาเคมีเป็นผู้หญิงสวยเลยล่ะผมเห็นเอาของมาให้มันหลายครั้งเหมือนกันครับ แล้วต่อไปก็เป็นผมที่ต้องตอบ

   “มาแล้วครับน้องวี หรือนางสาววีวี่ตัวท็อปของเราปีนี้ ไม่ว่างานไหนก็ต้องโดนรุ่นพี่จัดทุกครั้งรู้สึกยังไงบ้างครับ” อ้าวเชี้ยคำถามไม่เตี๊ยมเลยนะ แถมถามผมคนเดียวอีกให้ตอบว่าไงล่ะ

   “ดีครับ รู้สึกรุ่นพี่เอ็นดูผมดี กลับห้องไปแต่ละวันสลบเลยครับ” ผมตอบก่อนหัวเราะ

   “แล้ววันนี้มั่นใจไหมว่าจะทายถูกว่าพี่เทคตัวเองเป็นใคร” ทำไมถามเยอะแยะวะคนอื่นไม่เห็นจะถามซักคำ

   “ไม่มั่นใจเท่าไหร่ครับ” ผมตอบเสียงเบาก่อนมองสบตาพี่โยกับพี่ชินที่ยืนอยู่ข้างล่าง ทั้งสองคนก็มองมาที่ผมเหมือนกันแต่เหมือนจะต่างอารมณ์

   “งั้นนำเสนอท่าของตัวเอง แล้วทายเลยครับ” พอรุ่นพี่พูดจบผมก็เริ่มพรีเซ็นต์ท่า พร้อมนึกชั่งใจระหว่างพี่โยกับพี่ชินว่าใครเป็นเจ้าของ สายรหัสหล่อพร้อมสับแม้ดับไฟที่ตั้งมาให้ผม ก็ไอ้พี่ชินกับพี่โยแม่งหล่อทั้งคู่แถม 2 คนนี้ยังมาป่วนเปี้ยนเอาของมาให้ผมเยอะกว่าใครแล้วผมจะรู้ไหมครับว่าคนไหน


   “ผมขอทายว่าเป็นพี่โย โยธินสาขาไฟฟ้าเป็นพี่รหัสผมครับ” ผมตอบเสร็จมองไปที่พี่โย พี่โยกลับยิ้มแห้งๆให้ผมก่อนโบกมือบอกว่าไม่ใช่ตัวเองเบาๆ เท่านั้นแหละครับเหมือนมีมวลอะไรซักอย่างเกิดขึ้นที่ช่องท้อง ผมรู้สึกปั่นป่วนขึ้นมาทันที  ไม่กล้าจะเหลือบไปมองพี่ชินเลยครับ ผมว่าต้องใช่แน่ๆทำไมผมไม่ทายว่าเป็นพี่ชินวะ

   “เอาแล้วครับ พี่โยของน้องวีปฏิเสธมาแล้วว่าไม่ใช่ตัวเองแล้วยังนี้ใครกันล่ะที่จะเป็นผู้ลงโทษน้องที่ตามหาตัวเองไม่เจอแบบนี้” เงียบครับ รุ่นพี่พูดจบไม่มีใครเสนอตัวออกมาว่าเป็นพี่เทคผมซักคน แปลว่าผมไม่ได้รับการยอมรับให้เป็นน้องในสายเหรอ แค่ผมทายผิดเนี๊ยะนะ


    ผมก็หันไปมองพี่ชินอีกครั้งว่าแกไม่ยอมรับผมหรือว่าพี่ชินไม่ใช่พี่เทคผมอย่างที่ผมคิดไว้อีกแล้ว ทำไมถึงผิดซ้ำผิดซ้อนจังวะ แค่มองไปผมก็ต้องขนคอตั้งชัน แม่งพี่ชินมองผมตาดุเลยครับ โกรธอะไรผมวะ
   “ไม่มีใครเป็นพี่เทคน้องวีเลยเหรอครับ งั้นน้องวีมาเป็นน้องบุญธรรมพี่ไหม เดี๋ยวพี่รับเลี้ยงเอง”รุ่นพี่ที่เป็นพิธีกรคงจะสงสารที่ไม่มีใครยอมมาเป็นพี่เทคให้ผม


   “ไม่ต้อง ผมดูแลเองได้” ช่วงที่ผมกำลังสับสนว่าสรุปแล้วใครเป็นพี่เทคผมว่ะ ไอ้พี่ชินแม่งก็ตะโกนขึ้นมาเสียงดังเหมือนกำลังว๊ากน้อง แล้วทำไมไม่เสือกบอกให้ไวกว่านี้ว่าเป็นพี่เทคกู กูใจแป่วแล้วไหมล่ะ

   “อ้าวพี่ว๊ากสุดหล่อของเรานี่เองครับที่เป็นพี่เทคของน้องวี  งานนี้มีเฮแน่ แล้วจะลงโทษน้องยังไงครับที่น้องทายไม่ถูก” พี่จะขยี้ผมไปไหนวะ แค่ไม่ถูกนี่ผมก็เสียวแล้ว ยังจะขยี้ให้ไอ้พี่ชินมันฆ่าผมบนเวทีรึไง ไม่ดูหน้าพี่แกเลย

   “เดี๋ยวผมขอจัดการน้องผมเองแล้วกันครับ” พี่ชินพูดเสียงนิ่งหน้านิ่ง จนในที่สุด พิธีกรเลยส่งผมลงมาไว้ในอุ้งตีนพี่ชิน งานนี้รู้สึกว่าผมต้องโดนตะปบเละแน่

   “น้องวีทำไมไม่ทายว่าเป็นไอ้ชินล่ะ” แล้วพี่โยทำไมไม่บอกผมล่ะครับแหม่ะยังมีหน้ามาถาม

   “ก็พี่เอาของมาให้ผมบ่อยๆ จะให้ผมข้ามหน้าพี่ไปได้ไง” ผมตอบพี่โยเสียงเบา ไม่กล้าเสียงดังเกรงใจรังสีอัมหิตข้างๆ

   “เรื่องนั้น...”

   “คุยอะไรกัน ไม่เคยคุยกันรึไง”  พี่โยยังไม่ทันตอบไอ้พี่ชินเสียงนิ่งมาอีกแล้วครับ มันเป็นบ้าอะไรวะ

   “ไอ้ชินมึงเป็นอะไร แค่น้องมันตอบผิดมึงต้องโมโหเหมือนน้องไปเผาบ้านมึงเลยเหรอวะ” พี่โยเจ๋งเอาไปเลยหนึ่งกะโหลก พูดโดนใจผมมาก

   “เรื่องของกู  เดี๋ยวกูพาไปไหว้รุ่นพี่ปี3 กับพี่ปี 4 สายกูตามมา ไอ้โยกูกลับเลยนะ มึงกับเองนะ”ไอ้พี่ชินสั่งคนนั้นคนนี้เสร็จเดินนำไปเลยครับ ไม่สนใจผมกับพี่โยที่มองตากันปริบๆ

   “พี่โยงั้นผมไปก่อนะครับ”ผมรีบบอกพี่โยเมื่อคนผีเข้าหันมามองว่าทำไมผมไม่ตามไปซะที พอพี่โยยิ้มให้เหมือนเข้าใจผมก็ออกวิ่งตามพี่ชินที่เดินเหมือนลมบ้าหมูหอบทันที

   “พี่นัทนี่น้องเทคผมครับ” พี่ชินมันพาผมเดินมาถึงโต๊ะที่รุ่นพี่ปี 3 นั่งอยู่แล้วความสงสัยว่าทำไมต้องเดินมาโต๊ะพี่ตินณ์ก็หมดไปเมื่อผมรู้ว่าพี่นัทเพื่อนพี่ตินณ์เป็นลุงรหัสผม พี่นัทเป็นผู้ชายตัวเล็กๆผิวขาวๆ ผมยาวละบ่า แต่งตัวเซอร์ผมเห็นเคยเห็นพี่นัทชอบแต่งตัวแนววินเทจ และชอบไปไหนกับพี่โฟมเพื่อนในกลุ่มเป็นประจำ ที่ผมรู้ละเอียดก็เพราะพี่นัทอยู่กลุ่มเดียวกับพี่ตินณ์แล้วเวลาเรียนที่ตึกคณะผมก็ชอบมองตามพี่ตินณ์บ่อยๆเลยรู้ว่า ในกลุ่มพี่ตินณ์มีใครบ้าง


   “น้องวีใช่ไหม ยินดีที่ได้รู้จักและยินดีต้อนรับเข้าสายรหัสนะ อ่ะพี่ให้”พี่นัทหันมายิ้มให้ผมก่อนส่งกล่องของขวัญกล่องเล็กมาให้ ผมขอบคุณแล้วคุยกันซักพัก

จากนั้นพี่ชินก็พาไปหารุ่นพี่ปี 4 ชื่อพี่ฝิ่นครับ พี่เขาเป็นผู้ชายอยู่สาขาโยธา

ผมคุยกับพี่ฝิ่นไม่นานก่อนพี่ชินจะลากผมมาขึ้นรถแล้วขับออกจากมอโดยไม่พูดไม่จากับผมซักคำ ผมก็ไม่ถามเพราะรู้ว่าถามไปก็เปล่าประโยชน์  ผมเลือกโทรไปหาแพรให้ช่วยเก็บชุดกับสัมภาระผมไว้ในรถก่อนแล้วบอกให้กลับได้เลยไม่ต้องรอ ผมออกมาข้างนอกกับพี่ชินแล้ว



   “พี่ชินพาผมมาร้านเหล้าทำไม”ผมถามพี่ชินเมื่อรถมาจอดหน้าร้านเหล้า

   “กูพามึงมาซ่อมไง ลืมไปแล้วรึไงว่าตัวเองทำอะไรผิด ตามมา” พี่ชินตอบเสียงดุก่อนเดินนำเข้าร้านไปเลยครับ แม่งพามาด้วยทีไรชอบเดินหนีให้ผมต้องวิ่งตามตลอดเลย

   “น้องวอสก้าร์2แก้ว” มาถึงนั่งได้สั่งเลยครับ พี่ชินมันติดเหล้าป่าววะสั่งคล่องเชียว

   “เอาไปดื่ม” แก้วเหล้าถูกส่งมาตรงหน้าผม

   “ผมกินไม่เป็นพี่ ขอเป็นน้ำเปล่าได้ไหม หรือที่อ่อนกว่านี้ก็ได้” ผมขอน้ำเปล่าก่อนเปลี่ยนใจเมื่อเห็นสายตาที่พี่ชินส่งมาให้

   “น้อง ดราย มาร์ตินี่แก้วนึง”พี่ชินหันไปสั่งเครื่องดื่มแก้วใหม่ก่อนกระดกวอสการ์แก้วแรกลงคอแล้วตามด้วยแก้วที่สองตรงหน้าผม
   
“กินซะ”พี่ชินยื่นแก้วใหม่มาให้ผมก่อนหันไปสั่งของตัวเองต่อ ผมมองไอ้ดราย มาร์ตินี่ตรงหน้าสีสวยกว่าอันเดิมเยอะเลยครับ แต่มันไม่แรงแน่เหรอเพราะผมแค่ดมกลิ่นก็เหมือนจะเมาแล้วครับ ผมลองจิบๆดูก่อนจะรู้สึกว่ารสชาติก็พอใช้ได้ ผมนั่งจิบไปก็มองพี่ชินไป พี่ชินมันเป็นอะไรไม่รู้ครับมาถึงก็นั่งกินแต่เหล้าไม่พูดไม่จา ผมนึกว่าจะพาผมไปลงโทษโดดน้ำ โดดบ่อแถวมอเหมือนที่เป็นข่าวแต่ก็ไม่ใช่กลับพาผมมากินเหล้าซะนี่ เดาทางไม่ถูกจริงๆผู้ชายคนนี้

   “มึงมีแฟนแล้วเหรอ” อะไรวะอยู่ๆก็ถาม

   “ไม่มีครับ พี่ไปเอาที่ไหนมา” ผมตอบก่อนถามกลับงงๆ

   “ถ้าไม่มีแล้วมึงจะกอดกับผู้หญิงคนนั้นทำไม อย่ามาหลอกกู” ผมไปกอดกับผู้หญิงคนนั้นตอนไหนวะ ผู้หญิงคนนั้นคือคนไหนผมยังไม่รู้เลย ผมนั่งนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก

   “อ๋อ แพรเหรอพี่ แพรก็เพื่อนผมไงเพื่อนกันกอดกันไม่ได้เหรอ” ผมถามกลับเมื่อนึกได้ เพิ่งรู้ว่าแค่กอดกันก็ต้องเป็นแฟนกัน เป็นแบบอื่นกอดกันไม่ได้เหรอวะ

   “เพื่อนก็เพื่อนแต่ไม่ต้องกอด” พี่ชินพูดนิ่งๆ ผมรู้สึกเหมือนอารมณ์แกจะไม่ตึงเครียดเหมือนตอนแรกที่เดินเข้ามาในร้านแล้ว สงสัยคงได้เหล้าเข้าไปเส้นสมองมันเลยหย่อนลงมาหน่อยไม่งั้นนะ ตึงจนหัวจะแตกตายอ่ะผมว่า

   “กอดแล้วมันผิดตรงไหนอ่ะ ผมกับแพรเป็นแค่เพื่อนกันแต่ก็กอดได้นะพี่ แค่แสดงความดีใจ”

   “แต่น้องเขาเป็นผู้หญิงใครเห็นจะเสียหาย” หรือว่าไอ้พี่ชินมันกำลังหลงรักลูกแพรอยู่วะ มีเป็นห่วงกันด้วย

   “ผมไม่กอดแล้วก็ได้ ทำเป็นห่วงที่แท้ก็หวงนั่นแหละ” ผมว่าขำๆ ก่อนจิบน้ำในแก้วอีกนิด ถึงหวงไปยังไงผมว่าพี่ชินก็ไม่ได้แอ้มเพราะไอ้แบตเอาไปก่อนแน่นอน ดูยังไงลูกแพรก็มีใจให้ไอ้แบตชัวร์

   “หึหึ เออหวง” พี่ชินพูดก่อนยิ้มมุมปาก เป็นอะไรวะอยู่ๆก็เหมือนจะอารมณ์ดีขึ้นมาซะงั้น

   “พี่ชินพี่โกรธอะไรผมหรือเปล่า” สงสัยเหล้าจะมีผลทำให้คนกล้าขึ้นจริงๆครับ  พอเห็นพี่ชินอารมณ์เย็นลงผมเลยกล้าถาม

   “กูจะไปโกรธอะไรมึง” พี่ชินจ้องตาผมไม่กระพริบ จนผมต้องหลบสายตาเพราะโต๊ะที่นั่งอยู่เป็นโต๊ะแคบๆ หน้าแทบจะชนกันแค่พี่ชินโน้มมาอีกหน่อย

   “แล้วทำไมพี่ชินต้องทำเหมือนโกรธผมด้วย ผมไม่เข้าใจตั้งแต่ก่อนผมจะออกไปเดินแบบแล้วพี่ก็ไม่ทักผม ทำเป็นจำผมไม่ได้  ยังตอนที่ผมทายผิดอีกอันนี้ผมรู้ว่าผมผิดแต่พี่ไม่น่าจะต้องโกรธผมขนาดนี้เลยนี่น่า” ผมพูดหมดเลยครับสิ่งที่กังวล สิ่งที่สงสัยมาตั้งแต่ในงาน จนถึงตอนนี้ไม่มีอะไรหยุดความสงสัยของผมได้อีกแล้ว

   “กูไม่ได้โกรธมึง แต่กูไม่เข้าใจทำไมเรื่องแค่นี้มึงถึงตอบผิดวะ เรื่องแค่นี้มึงทำไมตอบไม่ได้ กูเป็นพี่เทคมึงเนี๊ยะมันเดายากตรงไหน มึงโง่รึโง่ถึงไม่รู้ รหัสก็บอกอยู่แล้วว่าต้องหล่อแล้วไอ้โยมันหล่อตรงไหน” อ้าวด่ากูอีก ไอ้พี่ชินเริ่มเมารึเปล่าวะเห็นซัดไปหลายแก้วแล้ว

“ทำไมต้องเป็นไอ้โยคนมีเป็นร้อยมึงไม่ทาย ทำไมต้องทายว่าเป็นไอ้โยวะ” แล้วทายว่าเป็นพี่โยมันต่างกับคนอื่นตรงไหนวะ ก็ผิดเหมือนกันผมสงสัยแต่ไม่ได้ถามกลัวไปสะกิดติ่งอะไรแกเข้าอีก

“เรื่องนี้ผมขอโทษพี่ ผมลังเลอระหว่างพี่โยกับพี่ชินแต่พี่โยเป็นคนเอาอมยิ้มมาให้ผมทุกวันแล้วจะไม่ให้ผมคิดว่าเป็นพี่โยได้ยังไง” ผมพูดเสร็จเหมือนได้ยินเสียงพี่ชินหัวเราะ หึในรำคอเพียงครั้งเดียวแล้วเงียบไปเลย

“แล้วเรื่องที่พี่เมินผมพี่จะว่ายังไง”ผมถามอีกครั้งเมื่อพี่ชินไม่ยอมพูดอะไรก่อนจิบน้ำสีสวยในแก้วตรงหน้าต่อ

“กูไม่ได้เมินแต่กูจำไม่ได้จริงๆ”

“พี่จำผมไม่ได้เหรอ” ผมถามอย่างแปลกใจ

“เออดิ ก็กูไม่รู้ว่าวันนี้มึงจะแต่งเป็นผู้หญิง แล้วผู้ชายอะไรวะแต่งเป็นผู้หญิงได้เหมือนขนาดนั้น” พี่ชินพูดพร้อมทำท่าคิด

“แล้วถ้าผมสวยทำไมพี่ต้องเมิน พี่ไม่ชอบผู้หญิงสวยเหรอ” ผมแกล้งถามเพื่อให้อารมณ์พี่ชินเย็นลง

“ถ้ากูไม่สนต่อให้สวยขนาดไหนก็ไม่อยู่ในสายตากูหรอก” จริงเหรอวะ ผมนึกว่าผู้ชายเวลาเห็นผู้หญิงหน้าตาดีก็จะต้องมองตลอดซะอีก

“ที่หลังอย่าทำแบบนี้อีก” อยู่ๆพี่ชินก็พูดขึ้นหลังจากต่างคนต่างเงียบไปนาน แล้วผมจะรู้ไหมล่ะว่าอย่าทำแบบนี้คือแบบไหน

“อย่าทำอะไรพี่” ผมถามงงๆ

“อย่าแต่งเป็นผู้หญิงอีก กูไม่ชอบ ห้ามแต่ง” แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพี่ชินวะผมล่ะงง ตัวก็ตัวผมจะมาบังคับได้ไง

“พี่ไม่ชอบก็เรื่องของพี่สิ ทำไมผมต้องทำตามด้วย”

“มึงชอบให้ผู้ชายมองมึงตาเป็นมันส์รึไง หรือว่าเวลาคนชมว่าสวยแล้วรู้สึกดี” อ้าวประชดผมอีกนะ ไอ้พี่ชินมันเป็นอะไรมากรึเปล่าเนี๊ยะ

“ไม่ใช่ซะหน่อยผมไม่ได้ชอบ แต่ผมไม่เข้าใจว่าพี่จะมาบังคับผมทำไม” รู้สึกผมจะเริ่มมึนๆแล้วครับ

“มึงเป็นน้องกูรึเปล่า ถ้าเป็นก็ทำตามซะ” เอาง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ

 “ก็ได้ผมไม่แต่งอีกก็ได้ แต่ผมไม่ได้เชื่อพี่นะ ผมแค่ไม่อยากแต่ง” ผมตอบก่อนกินน้ำสีสวยๆในแก้วจนหมด จริงๆแล้วมันก็อร่อยดีเหมือนกันนี่น่า

“เออเรื่องของมึงจะไม่แต่งเพราะอะไรก็ช่าง แค่ไม่แต่งก็พอ”

“พี่ชินเอาน้ำหวานอีกได้ไหม” ผมขอก่อนแกว่งแก้วตรงหน้าให้ดูว่าหมดแล้ว

“น้องดราย มาร์ตินี่อีกแก้วนึง” ผมยิ้มหวานเมื่อพี่ชินหันไปสั่งเหล้าให้ผมเพิ่ม

“พี่ชินพี่เป็นคนให้อมยิ้มผมเหรอ ดูดิผมกินจนฟันจะผุหมดแล้วเนี๊ยะ” ผมบอกก่อนยื่นหน้าไปใกล้แล้วยิ้มยิงฟันให้พี่ชิน แต่ทำไมผมรู้สึกเหมือนหนักๆมึนๆหัววะ กินแค่น้ำหวานเอง

“ใครไปให้มึงตอนไหน กูไม่รู้เรื่องไม่ต้องเอาหน้าเข้ามาใกล้เดียวความบ้าหล่นใส่กู” ไอ้พี่ชินแม่งผลักหน้ากูนะ 

“รังเกียจผมเหรอๆ เดี๋ยวหอมแก้มซะเลย” ผมว่าก่อนยื่นมือออกไปจะจับหน้าพี่ชิน แต่ทำไมจับไม่ได้วะ หน้าเหมือนไกลออกไปเรื่อยๆ

“เฮ้ยแก้วเดียวเมาแล้วเหรอ ไอ้วีมึงอย่าเรื้อน เฮ้ยนั่งดีๆเดี๋ยวหงายหลัง กูให้แดกเหล้ารับเข้าสาย อย่ามาเมาง่ายๆ” เสียงเหมือนใครมาพูดอะไรใกล้ๆ หรือรถอะไรมาประกาศขายของวะ เสียงดังน่ารำคาญ

“อื้อ เสียงดังเงียบๆหน่อยดิ  เพล้ง!!” ผมว่าเสียงดังก่อนจะรู้สึกว่าโลกหมุนแล้วเสียงอะไรแตกที่ไหนอีกวะน่ารำคาญไม่เลิก

“เฮ้ยๆ วีอย่าขยับเดี๋ยวแก้วบาดทำไมเมาง่ายจังวะ น้องเก็บเงินเลยค่าแก้วกับค่าทำความสะอาดด้วย” 

“อะไรมาจับทำไม ไม่ต้องมาจับปล่อย ไม่เดินจะนอน” ใครมันมาวุ่นวายกับผมนักหนาวะคนจะนอนมาวุ่นวายอยู่ได้

“ไอ้วีเดินดีๆ” เดี๋ยวล้ม

“ไม่โล้ม จะนอน” เสียงใครวะคุ้นๆ

   “ถึงรถแล้ว ก้มหัวระวังชน”

   “ง่วงนอนโว๊ย อย่าเสียงดังได้ไหม” ใครมันมาเสียงดังตึงตังไม่เลิก

   “ไอ้เชี้ยนี่เมาแล้วเรื้อนนะมึง สร่างเมื่อไหร่มึงเจอแน่ หลับไปเลย ถึงห้องแล้วกูบอก”

   “นอนได้แล้วเหรอ นอนนะนาวีนอนได้แล้วลูก”เสียงแม่มาไล่บอกให้ผมไปนอนในห้องอีกแล้ว หึหึ แม่ไล่ทุกวันเลย

   “หึหึ มึงจะเอาไงแน่วะเดี๋ยวโวยวาย เดี๋ยวเป็นเด็ก ไอ้ลูกหมาเอ๊ยกินเหล้าของผู้หญิงแค่นี้ยังเมา แล้วถ้ามีแฟนจะไปปกป้องเขาได้ไง”

   “แฟนๆ มีแฟน นาวีชอบพี่ตินณ์ พี่ตินณ์เป็นแฟนนาวีนะ”


              ----- To Be Con . -----


  ขอบคุณที่ติดตามค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 11 up 10/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 10-09-2014 09:22:19
พี่ชินสู้ๆ จีบวีเลย ยังไงก็รู้แล้วว่าวีชอบผู้ชายแล้ว  :ped149: :ped149:

จีบวีเลยก่อนที่ติณณ์จะรู้ตัวว่าวีแอบปลื้ม

หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 11 up 10/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: nada_dadida ที่ 10-09-2014 12:31:09
นาวีใจเย็นลูกกกก เด๋ยวพี่พรตจะมาฉีกอกเอาน้าลูกกกเอ่ยยยยย ~
ขอบคุณที่มาต่อนะจ้าาา เอามาลงเรื่อยยๆๆเลยเหอะนะ พลีสสสสสส   :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 11 up 10/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: pachth ที่ 10-09-2014 13:48:13
เป็นเรื่องแน่ๆ
เป็นเรื่องชัวร์
ไม่รอด
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 11 up 10/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 10-09-2014 14:17:16
วี งานเข้าแล้ว รังสีอมหิตออกอีกแน่
กอดกับ ผญ ยังโกรธ แล้วถ้ารู้ว่าชอบพี่ตินณ์หนักกว่าเดิมแน่
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 11 up 10/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: kimjuy_o ที่ 10-09-2014 16:31:42
อ่าน 11 ตอนรวดเลย เหอๆ
สนุกนะ น่าลุ้นดีว่าใครจะเป็นพี่เทค
แล้วเราคิดว่าพี่ชินน่าจะเป็นพระเอกแหงมๆ ฮ่าๆ
นี่ค้างมาก เล่นบอกรักพี่ติณณ์ต่อหน้าพี่ชิน
ศพไม่สวยแน่น้องวีเอ๋ย
รอตอนต่อไปนะคะ  :z2:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 11 up 10/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Teddysdeath ที่ 10-09-2014 17:02:17
อู้ยยยยย o22
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 11 up 10/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 10-09-2014 20:34:41
น้องวี !!!!!
ไม่กลัวพี่ชินเชือดทิ้งเรอะะะะ
เมาแล้วหลุดหมดเลยวีเอ้ยยยย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 11 up 10/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: 1bigmie1 ที่ 11-09-2014 00:15:43
ระวังจะโดนจับกด นะน้องวี เอ๊ะว่าแต่ว่า ตอนนี้พี่ติณได้พรตยังอ่ะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 11 up 10/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: PANGGii ที่ 11-09-2014 00:31:23
โอ้วววว 2 ตอนรวด พี่ชินแม่งหวงงงงง
...

แต่เด็ดดวงตรงประโยคสุดท้าย พี่ชินจะทำไงล่ะที่นี้
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 11 up 10/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 11-09-2014 22:26:37
วีวี่ ผู้น่าร้ากกกกกกก
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 11 up 10/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: matame ที่ 12-09-2014 19:52:57
งานงอก
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 11 up 10/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: april day ที่ 12-09-2014 20:35:21
“แฟนๆ มีแฟน นาวีชอบพี่ตินณ์ พี่ตินณ์เป็นแฟนนาวีนะ”   :a5:
ต๊ายยยยยยยยยยแล้วน้องวี น้องพูดอะไรออกมาค่ะ
ตื่นขึ้นมารับศึกหนักกับพี่ชินแน่นอน พี่ออกจะหวงน้องขนาดนี้
ประโยคนี้ทำร้ายจิตใจพี่ชินมาก  :katai1:
หัวข้อ: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 12 up 13/9/2014 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 13-09-2014 22:35:46
 
ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 12


   “โอ๊ยยยยย!” ใครเอาค้อนมาทุบหัวผมรึเปล่าวะ ปวดเหมือนหัวจะแตก ทำไมมันปวดขนาดนี้ คลำดูแผลก็ไม่มี

   “เฮ้ย! แขนใคร” กำลังปวดหัวหันมาเจอแขนพาดเอวอีก ผมรีบหันไปมองก่อนถอนหายใจเบาๆ ไอ้พี่ชินนี่เองนึกว่าเอาสาวที่ไหนมานอนด้วยตกใจเลยครับ แล้วทำไมผมต้องถอนหายใจด้วยวะไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน

   เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ทำไมผมกับพี่ชินถึงได้มานอนเตียงเดียวกันอีกแล้ว ผมจำอะไรแทบไม่ได้ที่จำได้คือผมถูกพี่ชินลากออกจากงานในมอมากินเหล้า  เหมือนพี่ชินจะบอกว่าชอบลูกแพรแล้วก็หวงที่ผมกอดเผลอไปกอดเข้า จากนั้นผมก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย
   ผมขยับตัวลุกนั่ง สะบัดหัวไล่อาการมึนงง  ก่อนมองรอบตัวที่เหมือนจะไม่ใช่ห้องตัวเอง ทั้งเตียงขนาดใหญ่ ผ้าปูสีขาวสะอาดตา ผ้านวมนุ่มๆนี่อีก ห้องนี้เป็นห้องพี่ชินแน่ๆ ผมจำสภาพรอบๆห้องได้ดีเพราะเข้ามาทำความสะอาดบ่อย แต่ที่ไม่รู้คือผมเข้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง สงสัยผมเมาแล้วพี่ชินพามาแน่ๆ


   “จะไปไหน” เชี้ยสะดุ้งเลยครับ กำลังจะก้าวลงจากเตียงอยู่ๆเสียงพี่ชินก็ดังขึ้นมาทามกลางความเงียบ นึกว่าหลับ

   “ผมจะไปเข้าห้องน้ำ”

   “นอนต่ออีกหน่อยก็ได้จะรีบตื่นไปไหน กูปวดหัว” พี่ปวดแล้วเกี่ยวอะไรกับผมวะ

   “พี่ก็นอนไปดิ ผมตื่นแล้ว”
 
   “เข้าเสร็จแล้วกลับมานอนด้วย” ผมได้ยินเสียงพี่ชินดังแว่วๆ ก่อนจะปิดประตูห้องน้ำ  กำลังจะเยี่ยวซะหน่อย แต่นี่มันไม่ใช่กางเกงผมนี่หว่า เสื้อด้วยของพี่ชินทั้งนั้น จำได้เพราะเพิ่งซักเมื่ออาทิตย์ก่อน แล้วเสื้อผ้าผมไปไหนทำไมต้องเปลี่ยนด้วยวะ 
ผมคิดระหว่างอาบน้ำและทำธุระส่วนตัวแล้วอยู่ๆผมก็เหมือนนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อคืนผมอ้วกใส่รถ ใส่ตัวพี่ชินด้วย ตายห่าดีที่ยังมีชีวิตอยู่ หรือว่าเมื่อคืนพี่ชินจะเมาวะเลยไม่ได้ฆ่าผม เมื่อกี้ก็ยังไม่ตื่นดีผมเลยยังไม่ตาย หรือว่าผมจะฝันว่าอ้วกแต่จริงๆไม่ได้อ้วกวะ

   “พี่ชินๆเมื่อคืนผมอ้วกใส่พี่เหรอ”  อาบน้ำเสร็จผมรีบออกมาทั้งผ้าขนหนูผืนเดียวแล้วกระโดดขึ้นเตียงถามพี่ชิน ก็คนมันสงสัยไม่รอให้ตื่นแล้วครับ ปลุกแม่งเลย

   “อะไรของมึงวะกูจะนอน เอะอะทำไม”

   “พี่ชินตื่นก่อน ผมถามหน่อยเมื่อคืนผมอ้วกใส่พี่รึเปล่า” ผมเขย่าตัวก่อนถามซ้ำ

   “เออ พอใจรึยังกูจะนอนเงียบๆด้วย” พี่ชินตอบเสียงดังเหมือนรำคาญก่อนปัดมือผมทิ้ง

   “แล้วทำไมพี่ชินไม่ว่าผมล่ะ”

   “กูจะด่ามึงด้วยถ้ายังกวนไม่เลิก ไปไกลๆ กูจะนอน”  ถือว่าถามแล้วนะจะมาว่าทีหลังไม่ได้

ผมยอมปล่อยแขนพี่ชินที่กำลังจับไว้ก่อนก้าวลงจากเตียงอีกครั้ง ให้ไอ้พี่ชินหลับตามสบาย 

เดินตามหาชุดของตัวเองก่อนมาเจอนอนแอ้งแม้งอยู่ในถังขยะสภาพคงใช้ไม่ได้แล้วครับ ทั้งเลอะทั้งเหม็น ผมเดินกลับเข้าไปในห้องนอนอีกครั้งก่อนเปิดตู้เสื้อผ้าพี่ชิน แล้วขโมยเสื้อยืดกับกางเกงขายาวมาใส่  แต่ทำไมผมใส่แล้วเหมือนฮอปบิทเลยวะ เสื้อยาวเกือบถึงเข่า กางเกงพับเอวแล้วขายังยาวลากพื้นจนต้องพับขากางเกงอีกครั้ง ผมมองตัวเองในกระจกก่อนขำ

หันไปมองพี่ชินยังนอนไม่ยอมตื่นสงสัยจะยังไม่สร่าง ผมเองก็ยังรู้สึกปวดหัวอยากนอนอยู่เหมือนกัน แต่กลับไปนอนห้องตัวเองดีกว่า

   ทำไมวันนี้ห้องสะอาดจังวะไม่เหมือนทุกครั้งที่ต้องมาทำเลย แทบจะหาทางเดินไม่ได้ ผมคิดอย่างแปลกใจก่อนเดินเข้าครัวจัดการชงกาแฟและปิ้งขนมปังไว้ให้พี่ชิน ทำเสร็จผมออกจากห้องมาเงียบๆหลังทิ้งโน๊ตว่าขอยืมชุดใส่มาก่อน หวังว่าพี่ชินคงไม่หวงนะ




   “เมื่อคืนมึงไปนอนที่ไหนมา กูโทรหาก็ไม่ติด มือถือหรือสากกระเบือว่ะติดต่อยากชิบหาย แล้วนี่เอาชุดอะไรมาใส่วะ” ผมกำลังไขประตูด้วยกุญแจสำรองที่ใส่ไว้ในรองเท้าหน้าห้อง อยู่ๆไอ้แบตก็เปิดประตูห้องมันออกมาตะโกนถามเสียงดังไม่กลัวใครออกมาด่าเลยรึไงวะ

   “นอนห้องพี่ชิน เมื่อคืนกูเมา”ผมตอบก่อนไขต่อ

   “งั้นนี่ก็ชุดพี่ชินดิ กูก็เป็นห่วงโทรหาเท่าไหร่ไม่ติด นึกว่าโดนฆ่าหมกป่าหญ้าไปแล้ว” ไอ้แบตเดินมาใกล้ก่อนมองทั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาเหยียดสุดตีนเลยครับ

   “เออชุดพี่ชิน โทรศัพท์สงสัยแบตหมดกูฝากแพรไว้ในรถวะ” ผมว่าก่อนเดินเข้าห้อง

   “ถ้าไม่เป็นอะไรก็ดี งั้นกูไปนอนก่อนเมื่อคืนนอนไม่หลับเลยหว่ะ” ไอ้แบตว่าก่อนทำท่าหาวปากกว้างใส่ผม

   “เออ กูก็จะนอนเหมือนกันขอบใจที่เป็นห่วง ไม่มีอะไรหรอกแค่พี่ชินพาไปกินเหล้ารับเข้าสายว่ะ เดี๋ยวบ่ายเจอกัน” ผมบอกไอ้แบตที่กำลังจะเดินกลับห้องตัวเอง มันหันมาก่อนยกมือขึ้นโบกเหนือหัวว่าไม่เป็นไรแล้วเดินต่อ ผมเปิดประตูห้องตอนนี้ขอนอนซักหน่อยเดี๋ยวบ่ายมีเรียนอีกครับ




   ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆ

   “เสร็จแล้วๆ อ้าวพี่ชิน” ผมรีบวิ่งมาเปิดประตูนึกว่าไอ้แบตมาตามไปเรียน ที่ไหนได้เป็นพี่ชินมายืนเป็นยักษ์หน้าหักอยู่
   “จะไปไหน” ทำไมต้องทำเสียงดุด้วยวะ

   “ไปเรียนดิพี่ บ่ายผมมีเรียน พี่มาหาผมมีอะไรรึเปล่าหรือว่ามาทวงชุด ผมยังไม่ได้ซักเลยเดี๋ยวผมซักเสร็จแล้วจะรีบเอาไปให้นะครับ” ผมรีบบอกเมื่อนึกขึ้นได้

   “หลบดิขวางทาง” พี่ชินไม่ตอบแต่แทรกตัวเข้าห้องผม ก่อนเดินไปนั่งอยู่ที่ปลายเตียงจ้องผมนิ่ง

   “พี่ชินเข้ามาในห้องผมทำไม ผมจะรีบไปเรียนเดี๋ยวไม่ทัน”

   “เมื่อเช้ามึงหนีมาทำไม” หนีอะไรวะ คนเดินออกมาเฉยๆ ว่าหนี

   “ผมไม่ได้หนีซะหน่อย ผมเดินออกมาขึ้นรถเมล์ดีๆยามยังเห็นเลย”

   “มึงจะกวนตีนรึไง” อ้าวบอกดีๆว่าผมกวนตีนอีกนะ

   “ผมไม่ได้กวนตีน แค่จะบอกว่าไม่ได้หนี เสื้อผ้าก็ไม่ได้ขโมยผมเขียนโน๊ตไว้แล้วไง พี่ไม่เห็นเหรอ”ผมรีบถามถึงโน้ตที่แปะไว้หน้าตู้เย็นกลัวพี่ชินไม่เห็น

   “เห็นแต่ทำไมมึงไม่ปลุกจะได้มาส่ง กูมีเรียนบ่ายเหมือนกัน มาพร้อมกันก็ได้” ว่าแล้วทำไมพี่ชินถึงใส่ชุดช็อป มีเรียนเหมือนกันนี่เอง

   “ปลุกอะไรล่ะ แค่ผมถามอะไรหน่อยพี่ยังดุขนาดนั้นขืนผมปลุกพี่ไม่กินหัวผมเหรอ”

   “กูจะกินตอนมึงไม่ปลุกแล้วหนีมานี่แหละ”



 
   ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆ

   “ไอ้วีเสร็จรึยังเดี๋ยวไปไม่ทัน”ผมยังไม่ทันว่าอะไร เสียงไอ้แบตมาตะโกนเรียกผมอยู่หน้าห้องก็ดังขัดขึ้นมาก่อน อันนี้ไอ้แบตของจริงแน่นอนไม่ผิดคนแล้วครับ

   “พี่ชินผมต้องไปเรียนแล้วเดี๋ยวไม่ทัน ตอนเย็นค่อยคุยกันนะพี่” ผมหันมาบอกพี่ชินที่ยังนั่งนิ่งอยู่บนเตียงไม่ยอมขยับ

   “อ้าวพี่ชินมาอยู่นี่ได้ไงครับ” พี่ชินไม่ตอบแต่เดินออกไปเปิดประตูห้องซะงั้น ผมได้แต่มองตามงงๆ ก่อนไอ้แบตจะงงอีกคนที่เจอพี่ชินเป็นคนเปิดประตูห้องผม

   “เดี๋ยวกูไปส่ง” พูดเสร็จเดินนำไปเลย ไอ้แบตหันมามองผมก่อนส่งสายตาเป็นคำถาม ผมก็ได้แต่ยักไหล่ตอบไปว่าไม่รู้ ก่อนเดินตามพี่ชินลงมา พี่ชินมันผีจะมาจะไปทำอะไรเดาใจยากครับ



   “ตอนเย็นไปรอที่รถด้วยไม่ต้องให้ตาม” ถึงคณะพี่ชินหันมาสั่งผมก่อนเดินแยกไปตึกภาคไฟฟ้า ยังไม่ทันได้ตอบอะไรก็เห็นแต่หลังซะแล้ว จะเดินไวไปไหนวะ

   “ตอนเย็นมึงมีนัดกับพี่ชินอีกเหรอวะ” วันนี้เป็นวันที่ผมต้องไปทำความสะอาดห้องพี่ชินนี่หว่า ลืมไปเลย แต่เมื่อเช้าก่อนออกมาผมเห็นห้องไม่ได้รกอะไรไม่ต้องทำก็ได้มั้ง

   “พี่ชินจ้างกูทำความสะอาดห้องว่ะ แม่บ้านแกไปไหนไม่รู้กูจำไม่ได้” ผมตอบไอ้แบตก่อนเดินไปหาที่นั่ง วันนี้เป็นบรรยายรวมหลายสาขา ที่นั่งเป็นแบบสโลปแน่นจดหาที่ว่างไม่ค่อยเจอ

   “วี แบตทางนี้ นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว” กำลังมองหาที่นั่ง เสียงลูกแพรเรียกผมกับไอ้แบตดังขึ้นก่อนผมจะหันไปเห็นลูกแพรยกมือโบกไหวๆ

   “มาสิ ไม่มาได้ไงอาจารย์ยิ่งเข้มอยู่ด้วย” ผมตอบก่อนมองที่นั่งเหลือข้างแพรหนึ่งที่  แล้วก็เป็นแถวหลังที่อยู่สูงขึ้นไป
 
   “มึงนั่งกับแพรนี่แหละเดี๋ยวกูไปนั่งข้างหลังเอง”ผมกำลังจะเดินไปนั่งข้างหลัง ไอ้แบตชิงไปนั่งก่อนให้ผมนั่งคู่ลูกแพรแทนซะงั้น

   “แล้วจะไม่หึงกูว่างั้น” ผมแกล้งยักคิ้วขึ้นถาม

   “ถ้าจะหึงกูคงหึงไปนานแล้ว”

   “เมื่อคืนพี่ชินพาวีไปไหนมาเหรอ ไม่เห็นกลับมาเลย ติดต่อก็ไม่ได้ แพรกับแบตเป็นห่วงรู้ไหม” ลูกแพรมาเป็นชุดไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนเลย

   “แพรใจเย็นๆ เมื่อวานพี่ชินไม่ได้ทำอะไรวีหรอกไม่ต้องห่วง แค่พาไปกินเหล้า แล้ววีไม่เคยกินเลยเมาหลับไม่รู้เรื่อง โทรศัพท์วีก็อยู่กับแพรในรถจะติดต่อวีได้ไง” ผมว่ายาวก่อนพักเหนื่อย

   “แพรก็ว่าแล้ว แต่ทำไมต้องพาไปกินเหล้าด้วยล่ะ”

   “สงสัยเลี้ยงต้อนรับเข้าสายรหัสมั้ง เห็นพี่ชินว่าแบบนั้นนะ” ผมตอบแพรที่สงสัยไม่เลิก




   “ไอ้วีนี่ลอยอะไร” พอแพรเงียบไปอยู่ๆไอ้แบตก็เอามือมาจิ้มๆต้นคอด้านหลัง ก่อนดึงปกเสื้อผมลง คนเยอะแยะแม่งทำอะไรไม่คิดว่าผมจะเสียหายรึไงวะ

   “อะไรวะกูเจ็บนะโว๊ย” ผมว่ามันเสียงไม่ดังนักตอนนี้คนเกือบเต็มห้องแล้วครับ

   “ไม่ต้องมาเสียงดัง กูอยากรู้ว่าได้รอยแดงๆจ้ำๆ นี่มันรอยอะไรมึงไปนอนให้ใครดูดมา”

   “ดูดเหี้ยอะไรล่ะ รอยแบบนี้รึเปล่า” ผมหันไปหาไอ้แบตแล้วดึงปกเสื้อด้านหน้าลงนิดนึงเผยให้เห็นรอยแดงเป็นจ้ำที่อกด้านซ้ายใต้ไหปลาร้าลงไปหน่อยเดียว เมื่อเช้าอาบน้ำก็แปลกใจว่ามีรอยแบบนี้ได้ยังไง ผมเห็นจุดเดียวไม่นึกว่าที่อื่นก็มีด้วย

   “เออดิเหมือนกันเลย แต่ต้นคอมึงมีเยอะชิบหาย ไม่รู้ลึกลงไปในเสื้อจะมีอีกไหม” ไอ้แบตว่าพร้อมทำท่าจะถลกเสื้อผมขึ้นซะงั้น

   “เฮ้ยๆ อย่าคนเต็มห้องไม่เห็นเหรอ นี่มันรอยแมลงกัด สงสัยเป็นแมลงที่ห้องพี่ชิน เมื่อคืนกูคงนอนไม่ได้ห่มผ้า แล้วกูเห็นพี่ชินแม่งไม่เปิดประตูระเบียงวะ” ผมรีบร้องห้ามทันทีที่ไอ้แบตจะเปิดเสื้อ

   “มึงแน่ใจว่าแมลง” ทำไมต้องทำหน้ากวนตีนเหมือนไม่เชื่อคำพูดกูด้วยวะ

   “เออดิ หรือว่ากูจะแพ้เหล้าวะ ตื่นมามันก็เป็นเลย” ผมอาจจะแพ้เหล้าก็ได้ เพราะผมไม่เคยกินพอกินแล้วตื่นมาถึงเป็นแบบนี้

   “แพรว่าไม่น่าใช่เหล้านะ เพราะเห็นพี่พรตกินไม่เคยเป็นแบบนี้เลย”

   “งั้นก็ต้องเป็นแมลงนั่นแหละ” ผมฟันธงเลยครับว่ามันต้องเป็นแมลงแน่ๆ

   “เออแมลงก็แมลง ไปค้างห้องนั้นก็ระวังมันไว้ดีๆล่ะท่าทางแมลงตัวนี้มันจะร้าย” ไอ้แบตมันเป็นอะไรวะพูดจาแปลกๆ ผมไม่เห็นตัวจะรู้ได้ไงว่าเป็นแมลงแบบไหนจะได้ระวังถูก

   “เออ อาจารย์มาแล้ว” ผมรับคำตัดรำคาญ ก่อนเห็นอาจารย์เดินเข้ามาเลยแยกย้ายกันตั้งใจเรียน ไม่ตั้งใจไม่ได้ครับ ถ้าอาจารย์เห็นว่าคุยแกเรียกเสียงดังให้อายทั้งห้องแน่




   
   “ทำไมพี่พามาห้องผมล่ะ ไม่ไปห้องพี่เหรอ”ผมถามพี่ชินงงๆหลังเรียนเสร็จผมมารอพี่ชินที่ใต้คณะก่อนเห็นแกเดินมากับพี่โย ส่วนไอ้แบตพาลูกแพรไม่ซื้อหมาเห็นว่าอยากเลี้ยง

   “ลงไปเก็บเสื้อผ้า”

   “ฮ๊ะ เก็บเสื้อผ้าเก็บทำไม เสื้อผ้าอะไรของใคร” ผมถามงงๆ ทำไมวันนี้ไอ้พี่ชินทำให้ผมงงหลายอย่างจังวะ

   “เสื้อผ้ามึงนั่นแหละ กูจะพาไปรับน้อง”

   “รับน้องอะไรพี่ ไม่เห็นที่คณะแจ้งเลย แล้วคนอื่นๆล่ะไปไหม ไอ้แบต ลูกแพรแล้วก็เพื่อนผมด้วย” ผมถามต่อเมื่อได้รับคำตอบ รับน้องอะไรผมไม่เคยรู้เรื่องเลย

   “แค่มึงกับกู มึงเป็นน้องเทคกูไม่ใช่เหรอ กูพูดอะไรบอกอะไรก็ทำตามอย่าสงสัย ไปเก็บของ” ไอ้พี่ชินแม่งสั่งจังวะแค่เป็นรุ่นพี่สั่งยังกับเป็นพ่อ

   “แล้วจะไปที่ไหน ไปนานไหมอันตรายรึเปล่า” ถามก่อนครับดูท่าทางไม่น่าไว้ใจ ผมลูกมีพ่อมีแม่นะ จะพาไปไหนถ้าอันตรายต้องไปขอแม่ผมโน่นเลย

   “กลับวันอาทิตย์เตรียมไปหลายชุด” บอกแค่นี้แล้วกูจะรู้เรื่องไหมครับไอ้พี่ชิน วันนี้วันศุกร์แปลว่าไป 2 วันอย่างอื่นไม่รู้เลย

   “แล้วไปที่ไหนล่ะพี่ อันตรายไหม”ผมถามซ้ำอีกครั้ง

   “ถึงแล้วก็รู้เอง อย่าถามมาก” ไอ้พี่เชี้ยชอบวางอำนาจ ผมด่าในใจก่อนเปิดประตูรถเดินลงแล้วปิดเสียงดังไล่หลัง


 เก็บของก็เก็บของวะก่อนเก็บผมโทรหาไอ้แบตบอกว่าจะไปรับน้องกับพี่ชิน ถ้าวันอาทิตย์ไม่กลับมาหรือติดต่อไม่ได้ให้ไปเอาผิดมันได้เลย   เก็บของใส่กระเป๋าเป้ก่อนเดินลงมาจากชั้นสอง เห็นรถพี่ชินจอดอยู่พร้อมสตาร์ทเครื่องรอ พอเข้ามานั่งได้ผมปิดประตูเสียงดังอีกครั้ง

   “เบาๆหน่อย รถกูไม่ได้มีไว้ให้มึงพังหลายคันหรอกนะ” สิ้นเสียงพี่ชินผมถึงได้สังเกตว่ารถคันนี้ไม่ใช่คันที่ผมทำกระจกแตก แล้วก็ไม่ใช่คันที่ผมเห็นพี่ชินขับบ่อยๆ เหมือนจะเปลี่ยนรถมาอีกแล้วครับ บ้านไอ้พี่ชินจะรวยไปไหนวะ สามคันนี่เบนส์ทั้งสามคันเลยนะแค่คนละรุ่น

   “หิวไหมกินอะไรก่อนรึเปล่า อีกนานกว่าจะถึง” ขับออกมาได้ไม่ถึงครึ่งชม.พี่ชินก็หันมาถามผมที่นั่งจ้องสองข้างทางไม่ยอมหลับ ผมกำลังจำทางอยู่ครับเผื่อเกิดอะไรขึ้นผมจะได้รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน
 
   “หิว” ผมตอบเร็วไม่ต้องคิด ตอนนี้ท้องผมคิดแทนให้แล้ว  ผมตอบเสร็จพี่ชินหักพวงมาลัยเข้าปั๊มน้ำมันทันที

   “ไปหาอะไรกินในซุปเปอร์แล้วกันกูรีบ ซื้อมาเผื่อกูด้วย  อะไร” รถจอดเสร็จคุณพี่ชินสั่งการทันที ผมก็หันไปมองก่อนแบบมือทันทีเหมือนกัน

   “ให้ซื้อเผื่อก็ขอเงินด้วยครับ ผมไม่ได้เอาใบไม้ไปแลกมาได้นะ”

   “ไอ้ขี้เหนียว” พี่ชินว่าผมก่อนควักแบงค์พันออกจากกระเป๋าสตางค์ส่งให้ ผมก็รับอย่างไว

   “ที่เหลือติ๊บนะพี่” เสร็จโจรครับ ผมรีบลงจากรถก่อนพี่ชินจะคัดค้าน มาถึงร้านผมหยิบตะกร้าก่อนเป็นอันดับแรกตามด้วยขนมเป็นสิบถุง น้ำ ลูกอมและข้าวกล่องให้ร้านเวฟให้ คิดเงินเสร็จผมรับตังค์ทอนเก็บใส่กระเป๋ากางเกงถือว่าเข้าเล็บผมไปแล้วกัน  เดินกลับมาไม่เจอคน ยืนค่อยซักพักพี่ชินก็เดินถือแก้วกาแฟกับโกโก้เย็นมายื่นให้  ผมก็รีบรับซิครับของฟรีมีหรือนาวีจะไม่เอา

   “พอรึยังถ้าพอแล้วก็ขึ้นรถจะได้ไปต่อ” เสียงจะดุไปไหนวะ แล้วทำไมต้องมองขนมในมือผมแบบนั้น นี่ไม่ได้เยอะนะผมเอามาแค่อิ่ม



   “ใกล้ถึงรึยังพี่” ผมเปิดประตูเข้ามานั่งในรถก่อนถาม ตอนนี้ออกนอกเมืองมาไกลแถมท้องฟ้าก็เริ่มมืดเข้าไปทุกที ผมมองสองข้างทางจนเหนื่อยเลิกมองไปแล้วครับจะพาไปไหนไกลนักวะ

   “ยังอีกไกล” คำตอบที่ได้ทำเอาผมถอนหายใจนิดนึงก่อนเปิดถุงหาของกินดีกว่าไม่อยากรู้แล้วจะพาไปไหนก็ไปเถอะถึงแล้วก็คงรู้เองว่าเป็นที่ไหน

“ซื้ออะไรมาให้กูกินมั่งวะ”  ข้าวจะเข้าปากอยู่แล้วนะ พอพี่ชินถามผมถึงกับชะงักก่อนวางช้อน

   “ข้าวกระเพราหมูสับไข่ดาว ซาลาเปากับขนม พี่จะกินอะไร” ซื้อข้าวมาเหมือนกันจะได้ไม่ต้องแย่งกัน ถ้ากินไม่ได้ก็เรื่องของพี่ชินผมกินคนเดียวก็ได้ เรื่องนี้คิดมาแล้วครับ จะมาว่าผมไม่ได้อยากได้อะไรไม่ยอมบอก

   “มีอะไรกินก็เอามากินดิ๊” อ้าวแล้วเสือกถามทำไมตั้งแต่แรกวะ ผมส่งค้อนให้ทั้งที่ไม่รู้ว่าคนขับรถจะรู้ตัวรึเปล่า
 
   “กูจะกินข้าว” ผมแกะซาลาเปาไส้หมูก่อนส่งให้ แต่ไอ้พี่ชินแม่งกวน ไม่ยอมรับดันจะกินข้าวแล้วเมื่อกี้บอกว่าอะไรก็ได้

   “แล้วพี่จะกินยังไงขับรถอยู่ไม่ใช่เหรอ ผมไม่ขับนะผมขับไม่เป็น” ผมรีบบอก ถ้าจักรยานอ่ะได้แต่รถยนต์ขอบายครับ นั่งอย่างเดียวไม่ขับ

   “เออกูไม่คิดจะให้มึงขับหรอก แต่กูคงหวังมากไปที่จะเห็นน้ำใจจากมึง”
 
   “น้ำใจอะไร พี่จะให้ผมทำอะไรก็บอกมาเลยดีกว่า” ผมกัดฟันถามไอ้พี่ชินแม่งอยากได้อะไรทำไมไม่บอกวะ


   “ป้อนกูดิ”

   “เฮ้ย! ป้อนอะไร ผมเป็นผู้ชายจะให้มานั่งป้อนข้าวผู้ชายด้วยกันได้ไง” ผมรีบโวยวายเลยครับ เกิดมายังไม่เคยป้อนข้าวใครซักคน

   “แต่มึงยังรักผู้... ป้อนๆมาเถอะน่าอย่าเรื่องมาก กูหิวจะแย่แล้วเนี๊ยะ” พี่ชินเหมือนจะพูดอะไรซักอย่างก่อนหยุดไป แล้วเสียงดังขึ้นมาซะงั้นครับ ผมที่รอฟังก็ได้แต่งงก่อนชั่งใจว่าจะป้อนดีหรือไม่ป้อนดีวะ

   “แกะกล่องใหม่ทำไม” 

   “ก็พี่จะกินข้าวไม่ใช่เหรอ”

   “กูกินกล่องเดียวกับมึงก็ได้กูไม่ถือ สองกล่องเหมือนกันไม่ใช่เหรอ” พี่ไม่ถือแต่ผมถือป่าววะ ไม่นึกเลยรึไงว่าผมจะรังเกียจ

   “อ่ะ อ้าปากดิ” ผมตัดสินใจตัดข้าวจากกล่องในมือตัวเองแล้วป้อนพี่ชินที่ตามองถนนแต่อ้าปากรอผมป้อน ผมตักให้คำใหญ่ๆเลย จะได้ไม่ต้องตักบ่อย 

พอพี่ชินกินเสร็จผมก็ตักเข้าปากตัวเองบ้างก่อนจะรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนเห่อขึ้นมาเฉยๆ แค่คิดว่าตอนนี้ผมกำลังกินข้าวช้อนเดียวกับพี่ชิน นี่มันใช่ที่เขาเรียกว่าจูบทางอ้อมรึเปล่านะ แล้วทำไมผมต้องรู้สึกร้อนตั้งแต่ใบหน้าถึงลำคอขนาดนี้ ใจก็ดันมาเต้นอีก มันอะไรกันวะไม่เข้าใจผมกำลังเป็นอะไรแน่ช่วงนี้ขยันใจเต็นเหลือเกิน

“หมดแล้ว ไอ้วีหมดแล้ว”

“ฮ๊ะ พี่ชินว่าอะไรนะ” ผมสะดุ้งตามเสียงเรียก อยู่แค่นี้จะเสียงดังทำไม

“กูบอกว่าหมดแล้ว เหม่ออะไรของมึงวะ”

“ถนนๆ มองถนนพี่” ผมบอกพี่ชินที่หันมามองผม

 พอพี่ชินหันไปมองถนนเหมือนเดิม ผมก็รอจนแน่ใจว่าปลอดภัยถึงตักข้าวส่งเข้าปากอีกคำ แล้วตักเข้าปากตัวเองต่อ พอกล่องแรกหมด กล่องที่สองก็ตามมาจนหมดในไม่ช้าจากนั้นผมแกะขนมอะไรก็ต้องยื่นไปให้พี่ชินและกินเองด้วยความเคยชินไปตลอดทาง

“ถึงแล้วลงมา” พี่ชินจอดรถหน้ารีสอร์ทริมทะเลแห่งหนึ่งก่อนเรียกผมลงรถ  อ่านป้ายชื่อชายหาดดวงตะวันครับ แม้เวลาจะเกือบ 3 ทุ่มแล้วแต่ผมรู้สึกว่าสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นสนเรียงรายมาตลอด หาดนี้เลยสวนสนแถวบ้านเพมานิดเดียวเองครับ ดีนะผมเป็นคนพื้นที่เลยพอรู้จักอยู่บ้าง

“พี่จะพาผมมารับน้องที่นี่เหรอ” ผมเดินลงมามองรอบๆที่ค่อยข้างมืดก่อนหันไปถาม

“อยากให้รับไหมล่ะ”

“ไม่อยากอ่ะ เปลี่ยนเป็นมาเที่ยวได้ไหม” ผมรีบตอบ

“กูจะมาดูสถานที่พาพวกมึงมารับน้องแค่หาเพื่อนนั่งมาด้วยเท่านั้นแหละไม่ต้องป๊อด ” พูดเสร็จปิดกระโปรงท้ายรถแล้วเดินเข้ารีสอร์ทไปคนเดียวไม่รอผมเลยครับ

“พี่ชินรอผมด้วย” ผมมองรอบข้างที่มีแต่ความมืดอีกครั้งก่อนวิ่งตามพร้อมตะโกนเรียกเสียงดังนิสัยชอบเดินทิ้งผมนี่ไม่เคยเปลี่ยน
 


          ----- To be Con.-----

 ขอบคุณที่ติดตามค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 12 up 13/9/2014 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 13-09-2014 22:48:19
แอบพาน้องวีมาทำคะแนนป่ะเนี่ยพี่ชิน
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 12 up 13/9/2014 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: jung2115 ที่ 13-09-2014 22:49:12
สงสัยแมลงที่ห้องพี่ชินจะร้ายไม่เบานะเนี่ย
ทำน้องวีเป็นรอยได้
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 12 up 13/9/2014 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: p^tarn ที่ 13-09-2014 22:49:51
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 12 up 13/9/2014 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: tityjiu ที่ 14-09-2014 00:00:15
แมลงตัวใหญ่จริงๆด้วยสินะนั่น งานนี้เผด็จศึกป่าวเนี่ยนู๋วีมีใจเต้นแว้ววววว :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 12 up 13/9/2014 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 14-09-2014 02:09:23
ติดเรื่องนี้ซะแล้วอ่ะ

วี มันจะรู้ตัวบ้างไหมเนี้ยชาตินี้

หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 12 up 13/9/2014 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: Teddysdeath ที่ 14-09-2014 03:52:36
ทำเนียนนะ

เนียนมากไประวังแห้วนะ :hao3:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 12 up 13/9/2014 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 14-09-2014 06:08:19
แมลง มีชื่อ รูปงามนามเพราะซะด้วยยย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 12 up 13/9/2014 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 14-09-2014 06:50:37
โหดเข้าใส่ตลอดนะพี่ชิน
พาน้องมันมาเที่ยวก็บอกดีๆก็ได้
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 12 up 13/9/2014 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 14-09-2014 09:15:25
แผนสูงจริงๆ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 12 up 13/9/2014 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 14-09-2014 20:19:00
พี่ชินโคตรเนียน
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 12 up 13/9/2014 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 14-09-2014 21:46:58
ชอบทำโหดใส่น้องน้องมันจะชอบเมื่อไรล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 12 up 13/9/2014 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: bankksd ที่ 14-09-2014 22:44:16
ชอบเรื่องนี้มากๆๆๆ
หัวข้อ: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 13 up 15/9/2014 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 14-09-2014 23:50:46
          ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 13


“พี่ชินจะให้ผมนอนตรงไหน” ผมถามพร้อมมองไปรอบๆห้องที่มีแค่เตียงเดียวขนาดคิงไซด์ แต่จะให้นอนด้วยกันผมก็ไม่ได้จ่ายเงินไงเลยถามก่อนดีกว่า  มองแล้วโซฟาก็น่าจะนอนสบายเหมือนกันครับ

   หลังลงรถเช็คอินเสร็จพี่ชินพาผมเดินมาบ้านพัก ตลอดทางมีโคมไฟและต้นไม้ร่มรื่น บรรยากาศเย็นสบาย แถมมีลมจากทะเลพัดมาตลอด เดินไม่นานก็ถึงบ้านพักมองข้างนอกเป็นบ้านชั้นเดียวที่ทำจากเปลือกไม้กลมกลืนกับธรรมชาติอีกทั้งยังมีแสงสว่างจากโคมไฟสีเหลืองอ่อนที่ช่วยให้บ้านดูน่าอยู่ขึ้นอีกเท่าตัว

มองภายนอกเหมือนเป็นบ้านที่กลมกลืนกับธรรมชาติแต่พอเปิดเข้ามาภายในผมต้องแปลกใจกับการตกแต่งที่ทันสมัย มีทั้งทีวี แอร์ ตู้เย็น โซฟา และเครื่องอำนวยความสะดวกอื่นๆ การจัดวางและสีที่เลือกใช้ล้วนลงตัวไปหมดเห็นแล้วอยากนอนหลับเลย

   “ก็นอนเตียงดิ หรือมึงจะนอนพื้นก็ตามใจ”

   “นอนเตียง ผมกับพี่เหรอ” ผมเลิกคิ้วถามก่อนมองเตียงสลับกับหน้าพี่ชิน พี่ชินมันไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอวะที่ต้องนอนกับผม หรือมีแต่ผมที่คิดแล้วก็ใจเต้นอยู่คนเดียว

   “ถ้าไม่ใช่มึงกับกูแล้วจะใคร แล้วบอกเลยนะถ้าไม่ใช่กูก็ไม่ต้องไปนอนกับใคร”  ผมได้ยินไม่ผิดใช่ไหม

   “พี่ชินพี่หมายความว่ายังไง” ผมถามซ้ำหรือผมจะได้ยินผิดวะ ไอ้พี่ชินสั่งไม่ให้ผมไปนอนกับคนอื่นทำไมยังไงก็มาแค่สองคน

   “หมายความตามที่ได้ยินนั่นแหละ อย่าเซ้าซี้กูจะไปอาบน้ำแล้ว ขับรถมาตั้งแต่เย็นเหนียวตัว” พูดเสร็จหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไปเลย ปล่อยผมยืนงงๆอยู่กลางห้องซะงั้น

   “อาบน้ำไหม ถ้าอาบก็ไปอาบซะ เสร็จแล้วกูจะพาไปกินข้าว”พี่ชินเดินออกมาจากห้องน้ำทั้งที่มีแค่พันเช็ดตัวพันเอวผืนเดียว  ตามลำตัวและหน้าอกมีหยดน้ำเกาะพราวเลยครับ ทำไมไม่แต่งตัวให้มันดีก่อนค่อยออกมาวะ ผมคิดก่อนเบนหน้าไปทางอื่น กลัวจะโดนจับได้ว่าแอบมองหุ่นแมนๆของพี่ชินอีกแล้วครับ

   “ผมอาบน้ำก่อนพี่รอเดี๋ยวนะ” ผมว่าก่อนคว้าผ้าเช็ดตัวมาถือแล้วรีบเดินสวนทางเข้าห้องน้ำบ้าง

   อาบน้ำเสร็จออกมาเจอพี่ชินนั่งเล่นโทรศัพท์รอผมอยู่ ก่อนจะออกไปกินอาหารที่ทางรีสอร์ทจัดไว้ ขนาดผมกินข้าวกล่องกับขนมมาแล้วแต่พอเจอข้าว ผมก็กินได้อีกเหมือนอาหารยังไม่ตกถึงท้อง กินเสร็จกลับเข้าห้องพัก ตอนนี้ 4 ทุ่มกว่าผมเริ่มง่วงแล้ว

   “พี่ชินผมนอนก่อนนะ” ผมบอกพี่ชินที่นั่งดูทีวีเสียงง่วงๆก่อนคานขึ้นเตียงนอนชิดติดกำแพง

   “เออกูก็ง่วงแล้วเหมือนกัน” พี่ชินพูดเสร็จไฟในห้องก็ดับลงก่อนผมจะรู้สึกว่าที่นอนข้างๆถูกทิ้งน้ำหนัก

   “พี่ชินจะมานอนเบียดผมทำไมที่ตั้งกว้าง”  ใกล้ขนาดนี้ไม่สิงร่างเลยวะ

   “กูนอนดิ้นเดี๋ยวตก” เสียงทุ้มๆของพี่ชินดังท่ามกลางความมืดและเสียงเครื่องปรับอากาศที่ทำงานเบาๆ

   “ถ้างั้นพี่มานอนติดกำแพงไหม ผมนอนข้างนอกเอง” ผมเสนอ

   “ไม่เอากูจะนอนตรงนี้มึงนอนของมึงไปเถอะ แล้วก็เงียบได้แล้วกูจะนอน”  คนหวังดีนะเนี๊ยะ กลัวจะตกไปคอหักตาย เตียงก็ยิ่งสูงๆ ช่างแม่งตกมาจะไม่ดูเลย ผมนึกอย่างหมั่นไส้ก่อนนอนหันหลังให้ไม่นานก็หลับ



   “ไอ้วีเช้าแล้ว ตื่นได้แล้ว”

   “ขอนอนอีกนิดนึงนะแม่ ผมยังง่วงอยู่เลย” ผมบอกแม่ก่อนดึงผ้าห่มขึ้นคลุมหัว ยังง่วงอยู่เลยทำไมวันนี้แม่เรียกไวจัง

   “หน้ากูเหมือนแม่มึงตรงไหน ตื่นได้แล้วจะนอนให้ตายเลยรึไง”

   “อื้อ...อีกนิดนึงครับ”

   “ไอ้วีถ้าไม่ตื่นกูเอาน้ำสาดนะ” ทำไมเสียงแม่ใหญ่แบบนี้วะ เสียงเหมือนไม่ใช่แม่ผมเลย

   “เฮ้ย! พี่ชินเข้ามาในห้องผมตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมลืมตาก่อนตกใจผุดลุกขึ้นนั่ง

   “แหกตาดูดีๆ นี่มันห้องมึงรึไง นอนแบบนี้ใครมาฆ่าจะรู้ตัวไหม”  ไม่ใช่ห้องผมจริงๆด้วยครับ  แล้วก็ถึงบ้างอ้อ นี่มันรีสอร์ทนี้หว่านึกว่านอนอยู่บ้าน  แล้วทำไมพี่ชินต้องยืนหน้าบึ้งแบบนั้นด้วยวะ ดูเวลาเพิ่ง 7 โมงเช้าเอง

   “ไม่ใช่ห้องผมจริงด้วย แห่ะๆ”  ได้แต่หัวเราะพร้อมเกาหัวแก้เขินให้พี่ชินที่ตอนนี้อาบน้ำแต่งตัวใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสามส่วนสีเทาดำเรียบร้อย

   “ไปอาบน้ำล้างหน้าซะ กูให้เวลา 10 นาที”

   “ฮ๊ะ 10 นาทีเหรอพี่จะทันได้ไง แค่ขี้ก็หมดเวลาแล้ว พี่จะให้ผมไปไหน” ผมถามก่อนลุกจากที่นอน

   “ใครให้มึงขี้ กูบอกว่าให้ไปอาบน้ำ อยากขี้เก็บกลับไปขี้หอมึงโน่น” พี่ชินแม่งกวนตีนแต่เช้าเลยครับ  แล้วจะให้ไปไหนก็ไม่บอกผมมองค้อนก่อนเดินเข้าห้องน้ำ

   “พี่ชินๆ เมื่อคืนพี่เปิดหน้าต่างไว้รึเปล่า ตัวอะไรกัดผมก็ไม่รู้อ่ะเป็นรอยเต็มเลย พี่เป็นไหม” ผมเอาผ้าเช็ดตัวพันเอวก่อนเดินออกมาถามพี่ชิน กำลังจะอาบน้ำพอถอดเสื้อ แม่งรอยแดงเพิ่มขึ้นอีกแล้วครับ ด้านหน้าเพิ่มมาอีก 2 รอย  ส่องดูด้านหลังเหมือนจะเพิ่มขึ้นอีกแต่ไม่รู้กี่รอย ของเดิมก็เยอะอยู่แล้วคราวนี้ยิ่งเยอะเข้าไปใหญ่ เห็นแล้วตกใจเลยแต่มันก็ไม่ได้คันนะ ไม่รู้แมลงอะไร หรือผมเป็นโรครึเปล่าชักเริ่มหวั่น

   “ไม่ได้เปิด ไหนอะไรของมึงดูดิ เป็นพรายจ้ำรึเปล่าวะ”

   “พรายจ้ำคืออะไรพี่” เหมือนไอ้พี่ชินพูดภาษาต่างดาวใส่ เกิดมาไม่เคยได้ยินโรคอะไรวะพรายจ้ำ

   “ก็เป็นแบบนี้แหละ มันจะเป็นรอยแดงๆ จ้ำๆขึ้นมาเหมือนที่มึงเป็น แต่เดี๋ยวก็หายไม่ต้องกังวล” พี่ชินเอามือแตะๆตามรอยก่อนวินิจฉัย จะเชื่อได้รึเปล่าไม่รู้ครับ

   “แล้วมันเกิดจากอะไรเหรอพี่”

   “นอนน้อยไง นอนน้อยมันจะเป็น” ผมว่าผมก็นอนเยอะนะ แต่ถ้าพี่ชินว่านอนน้อยก็นอนน้อยครับ หมดข้อสงสัยผมก็เดินกลับเข้าไปอาบน้ำต่อ พรุ่งนี้มันจะเป็นอีกรึเปล่าวะ ผมกลัวมันลามทั้งตัวน่าเกลียดตายผมนึกพลางอาบน้ำไปด้วย ไม่นานก็เสร็จออกมาพี่ชินพับเก็บที่นอนเรียบร้อย ก็ทำเองเป็นนี่หว่าแล้วจะมาจ้างผมให้เปลืองเงินทำไมก็ไม่รู้




   “ปลุกผมมาถีบจักรยานเนี๊ยะนะ” ผมถามเสียงดังพร้อมมองจักรยานที่ทางรีสอร์ทเตรียมไว้ให้เพียงคันเดียว เป็นจักรยานคันใหญ่มีที่ซ้อนท้าย

   “เออดิไปถีบให้กูนั่ง”

   “แล้วทำไมผมต้องถีบด้วย” ผมถามรวนๆ

   “ก็เมื่อวานกูขับให้มึงนั่งแล้ว วันนี้มึงก็ถีบไปดิ หรือมึงชอบเอาเปรียบคน”

   “พี่จะไปทางไหนบอกมาเลยดีกว่า” ว่าแบบนี้ใครจะยอม คนอย่างนายนาวีไม่เคยเอาเปรียบใครอยู่แล้ว  ผมจับจักรยานก่อนขึ้นคร่อม แล้วพี่ชินก็ขึ้นซ้อนท้ายหันหน้าไปข้างหลังแผ่นหลังชนหลังผม

   “ถีบตามถนนไปเรื่อยๆ กูจะดูว่าตรงไหนน่าทำกิจกรรมบ้าง” พอได้รับคำสั่งผมก็ค่อยๆออกตัว ตอนแรกรถส่ายไปมาเพราะผมคุมน้ำหนักไม่ได้ แล้วไอ้พี่ชินแม่งก็ตัวใหญ่กว่าผมไง แต่ดันให้ผมมาถีบดีไม่ลงป่าสนข้างทาง

   ผมถีบรถจักรยานตามถนนลาดยางเล็กๆหน้ารีสอร์ท สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นสนขนาดใหญ่ซ้ายมือถัดจากต้นสนลงไปจะเป็นชายหาด ผมถีบไปก็ถามนั่นนี่ชวนพี่ชินคุยไปเรื่อยๆเพื่อไม่ให้เหนื่อย พี่ชินก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง บางทีก็บ่นผมซะงั้น แต่ผมไม่ว่าหรอกตอนนี้ผมกำลังอารมณ์ดีเพราะเหมือนได้มาถีบรถเล่น รับลมเย็นๆ แถมได้กลิ่นทะเลแล้วรู้สึกสดชื่นเหมือนได้กลับบ้านเลยครับ


   “พี่ชินผมเหนื่อยแล้ว ไปเดินเล่นที่ชายหาดก่อนได้ไหมแล้วค่อยกลับนี่ก็มาไกลแล้วนะ” ผมถามพี่ชินเมื่อรู้สึกว่าตอนนี้ผมถีบจักรยานมาไกลเกือบ 4 กิโลแล้วครับ เหนื่อยจนลิ้นห้อย

   “เออตามใจ” สิ้นเสียงตอบผมเบรกรถทันที หัวพี่ชินเงยมากระแทกหลังผมจนต้องรีบขอโทษก่อนจะโดนด่า

   “พี่ชินทรายที่นี่ละเอียดดีเนอะ” ผมถอดรองเท้าเดินบนพื้นทรายสีขาวเม็ดเล็กเนียนละเอียด ให้ความรู้สึกนุ่มสบาย ยิ่งลองหลับตาแล้วอ้าแขนออกรับลม พร้อมหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดลึกๆ สุดยอดของความชดชื่นเลยครับไม่เชื่อลองทำดู

   “เออ น้ำก็ใสดีแต่ไม่รู้เค็มเท่าแถวชลบุรีรึเปล่า”

   “มันจะไม่เหมือนกันได้....อ๊ากกกกกพี่ชินทำอะไร” กำลังจะว่าอยู่ๆตัวผมก็ลอยขึ้นจากพื้นทราย ไอ้พี่ชินแม่งเล่นผมแล้วไง

   โครม!!!

   “ชิมให้กูหน่อย เค็มเท่ากันไหม ได้ข่าวว่ามึงเป็นคนพัทยาไม่ใช่เหรอ ฮ่าๆๆๆ”

“แค่กๆๆ ไอ้พี่ชินแกล้งผมทำไม” ไอ้พี่เชี้ยเล่นที่เผลอนะ น้ำเข้าหู เข้าปากเต็มไปหมด ผมสำลักจนแสบตาแสบจมูกเลย

“เป็นไงเค็มเหมือนกันไหม เฮ้ยอย่าสาดเปียก”  มีการมายิ้มกวนถามผมอีกนะ ผมเลยวักน้ำใส่พี่ชินที่ลงมายืนน้ำในแค่เข่าซะเลย

“เค็มเหมือนกันนั่นแหละ! ผมเปียกไปหมดแล้วเนี๊ยะทำไง” ผมตะโกนใส่เสียงดังแต่เหมือนเสียงผมไม่ได้ทำอะไรหนังหน้าด้านๆที่เอาแต่ยิ้มกวนของพี่ชินได้เลยครับ

“มึงก็ว่ายน้ำกลับรีสอร์ทไปดิ เดี๋ยวกูปั่นจักรยานกลับเอง” นั่นไงผมว่าแล้ว พูดจบหันหลังเดินหนีผมทันที แต่คิดเหรอว่าจะรอด

“เฮ้ย! ไอ้วีทำอะไร มันเปียก”  ผมรีบพุ่งตัวขึ้นจากน้ำแล้วใช้สองแขนโอบลำตัวพี่ชินไว้แล้ว ก่อนหันหน้าแกเข้าทะเลแล้วดันหลังให้เดิน พี่ชินทำท่ารังเกียจผมที่ตัวเปียกแถมขืนตัวไม่ยอมเดินด้วยนะ

“พี่ชินมาเปียกกับผมเลย อย่าคิดว่าแกล้งผมแล้วจะรอด” ผมว่าก่อนเพิ่มแรงดันขึ้นอีก พื้นทรายอย่างนี้ง่ายเลยครับ

“เฮ้ย! ล้ม”

“อ๊ะ พี่ชิน” พี่ชินที่เดินเซตามแรงดันที่เพิ่มขึ้นของผมก่อนสะดุดทรายล้มตรงน้ำตื้นแค่เข่า  จังหวะที่ล้มผมยังโอบตัวพี่ชินไว้เลยล้มลงไปด้วยกัน

พี่ชินก็เหมือนรู้ตัวว่าจะล้มเลยพลิกเอาหลังลงแทนหน้า ทำให้ผมที่ล้มตามเอามือคร่อมตัวพี่ชินแล้วหน้าผมกับหน้าพี่ชินก็เข้าไปใกล้กันจนเรียกว่าแค่กระดาษที่สามารถรอดผ่านได้

“เอ่อ ขอโทษครับ” ผมจ้องตากับพี่ชินจนรู้สึกว่าได้ยินเสียงใจเต้นเหมือนจะทะลุออกมาจากอก เลยรีบขอโทษแล้วลุกขึ้นยืน

“มึงกล้าลากกูลงน้ำรู้ไหมว่าต้องเจออะไร” พี่ชินที่นิ่งไปพูดเสียงเหมือนกัดฟันระงับความแค้น

   “อ๊ากกกกพี่ชิน ผมขอโทษไม่เอาไม่แกล้งแล้ว ปล่อยผม” ผมร้องเสียงดัง พี่ชินก็ลุกขึ้นมาเกี่ยวเอวผมแล้วลากลงน้ำลึกซะงั้น

   “จับกดน้ำซะดีไหมวะ”

   “เฮ้ยๆ! อย่าพี่เดี๋ยวผมตาย พี่โดนจับนะ”  แค่พี่ชินเอื้อมมาจับหัว ผมรีบร้องห้ามเสียงหลง นี่มันฆาตกรรมเลยนะ

   “ปากดีจริงๆ ปล่อยจะมาเกาะกูทำไม” ใครจะปล่อยให้โง่ ปล่อยก็จมดิ พอพี่ชินปล่อยเอวผมรีบคว้าคอไว้แล้วไปเกาะหลังอย่างไว
 
   “ไม่ปล่อย พี่พาผมเข้าฝั่งเลย ผมขี้เกียจว่าย” พี่ชินมันยืนได้สบายแต่ขาผมไม่ถึงพื้นแล้วครับ

   “กลับเอง ปล่อย” จะแกะมือทำไม ยิ่งแกะผมยิ่งกอดแน่นขึ้น

   “พี่ชินพาผมเข้าฝั่งหน่อยนะผมไม่แกล้งพี่แล้วครับ ผมขอโทษ” ผมเปลี่ยนเป็นพูดเสียงอ้อน ใช้ไม้แข็งไม่ได้ผลมันก็ต้องใช้ไม้อ่อนบ้าง

   “น้ำแค่นี้ทำไมมึงถึงไม่ไปเอง มึงว่ายน้ำไม่เป็นใช่ไหม” ตายห่าทำไงดีพี่ชินรู้แล้วครับว่าผมว่ายน้ำไม่เป็น แล้วผมจะโดนแกล้งไหมล่ะ

   “ใครว่าผมว่ายไม่เป็น แค่นี้เรื่องเด็กๆผมมันลูกทะเลนะ อยู่ทะเลมาตั้งแต่เกิด” ปากดีไว้ก่อนครับเผื่อจะรอด

   “ถ้าลูกทะเลงั้นมึงก็ว่ายไป ไม่ต้องมาเกาะกู”

   “เฮ้ยๆ พี่อย่าแกะมือๆ  เดี๋ยวหล่น เออผมว่ายน้ำไม่เป็นพอใจรึยัง” เมื่อเห็นท่าว่าจะขืนแรงพี่ชินที่กำลังแกะมือผมออกจากคอตัวเองไม่ไหว หลังจากพี่แกแกะขาที่ผมเกี่ยวเอวไว้ออก ผมเลยต้องสารภาพทั้งที่ไม่เต็มใจ

   “ก็แค่นั้นทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกว่ะ ถ้าตายไปจะมาโทษกูอีก”  เสียงว่าฉุนๆก่อนปล่อยให้ผมกอดคอ และเอาขาเกี่ยวเอวได้ตามสบาย ใจดีเหมือนกันนะเนี๊ยะนึกว่าจะโดนแกล้งซะแล้วผม

   “พี่ทำไมใจดี ไม่แกล้งผมเหรอ” ผมยื่นหน้าไปถามคางเกยบ่า   

   “ทำไมอยากให้กูแกล้งรึไง”

   “เปล่าๆ ผมแค่แปลกใจ”

   “หึหึ แล้วทำไมมึงถึงว่ายน้ำไม่เป็นลูกทะเลไม่ใช่เหรอ” พี่ชินไม่ยอมตอบแต่ดันเอาเรื่องที่ผมขี้โม้ไว้มาถามซะงั้น

   “ก็ไม่มีคนสอนผมจะเป็นได้ไง” ผมว่าอย่างเคืองๆคนที่บ้าน ไม่มีใครสอนผมว่ายน้ำซักคน จนทุกวันนี้ผมถึงได้ว่ายน้ำไม่เป็น ทั้งที่เพื่อนแถวบ้านว่ายจนจะแข่งกับฉลามได้อยู่แล้ว





   “งั้นกูสอนให้เอาไหม”

   “พี่จะสอนผมจริงๆเหรอ”

   “เออดิ จับกดน้ำทีสองทีก็เป็นแล้ว”

   “ง่ะ พี่ชินอ่ะ เอาจริงๆดิผมอยากว่ายน้ำเป็นจริงๆนะ”

   “เอองั้นเดี๋ยวสอน แต่ไปสอนที่สระในรีสอร์ทนะไม่สอนในทะเล”

   “ได้ๆ ที่ไหนก็ได้พี่” ผมรีบตอบรับอย่างไว กลัวพี่ชินเปลี่ยนใจ

   “งั้นกลับไปกินข้าวกันก่อนค่อยเรียน” พี่ชินบอกหลังเดินแบกผมมาถึงที่น้ำตื้นผมลงยืนได้แล้ว

   “ครับ ผมก็กำลังหิวเลย ว่าจะชวนกลับอยู่พอดี” ผมบอกพร้อมรอยยิ้มแล้วเอามือลูบท้องตัวเองไปมา

   ขากลับดีหน่อยพี่ชินมาปั่นจักรยานแทนผมเลยได้นั่งซ้อนท้ายดูวิวสบายใจเฉิบ  แต่ผมนั่งซ้อนเหมือนคนปกตินะ ไม่ได้ทำอะไรประหลาดเหมือนใครบางคนครับ กลับมาถึงผมรีบชิงอาบน้ำก่อน ปล่อยพี่ชินนั่งรอทั้งตัวเปียกๆไปก่อน อาบน้ำเสร็จเราก็ไปกินข้าว ก่อนตกลงว่าพี่ชินจะสอนผมว่ายน้ำเย็นนี้ครับ

เรียนว่ายน้ำตอนเย็น กลางวันเลยว่างไม่มีอะไรทำผมก็เอาหนังสือไปนอนอ่านเล่นบนเปลริมหาดที่ทางรีสอร์ทผูกไว้ แค่เดินข้ามถนนเล็กๆหน้ารีสอร์ทก็ถึงเลยครับ ไม่ได้เดินไปไกล  ส่วนไอ้พี่ชินนอนดูทีวีอยู่ในห้องก่อนจะไปเอากีตาร์ใครไม่รู้มาดีดอยู่ข้างๆสร้างความรำคาญให้ผมจนอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องเลย  ว่าก็ไม่ได้นะครับไม่ยอมไปไหนอีก ผมเลยต้องทนนอนฟังไปจนเผลอหลับ

ตกเย็นผมก็ไปเรียนว่ายน้ำกับอาจารย์ชิน สอนไปดุไปทำยังไงผมก็ว่ายไม่ได้ซะที เหมือนที่เขาว่าไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยากต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆครับ ผมเรียนจนเหนื่อยสุดท้ายเลยขอยอมแพ้ เอาไว้วันหลังค่อยเรียนใหม่แล้วกัน




“ไอ้วีกูจะออกไปตกหมึกมึงจะไปไหม” ผมกำลังนอนเล่นรอย่อยหลังกินอาหารเย็นเสร็จ อยู่ๆพี่ชินก็เปิดประตูห้องเข้ามาถาม

“ไปตกที่ไหนพี่”

“ตกบนฟ้ามั้ง ก็ต้องในทะเลดิมึงจะไปรึเปล่า”  ทำไมพี่ชินมันชอบกวนผมวะ จะตอบดีๆซักครั้งมันจะตายรึไง

   “รู้แล้วว่าในทะเล แต่ทะเลตรงไหน แล้วพี่จะไปกับใคร” ผมถามซ้ำด้วยเสียงเคืองๆ

   “ไม่รู้ กูเห็นชาวบ้านแถวนี้เขาจะไปกัน กูเลยอยากไปด้วย มึงจะไปไหม” เริ่มดูน่าสนใจขึ้นมาแล้วครับ

   “งั้นผมไปด้วย” ผมตอบก่อนปิดทีวีแล้วตามพี่ชินมาขึ้นเรือ เป็นเรือประมงของชาวบ้านที่อยู่ติดกับรีสอร์ทลำไม่ใหญ่เท่าไหร่  มีผมกับพี่ชินแล้วก็เจ้าของเรือกับลูกเรืออีกประมาณ 5 คนครับ

   เรือแล่นออกจากฝั่งประมาณทุ่มกว่า  ซักครึ่งชั่วโมงก็จอดนิ่งกลางทะเล ก่อนผมจะเห็นเขาเอาไฟมาล่อหมึกดูแล้วน่าสนุกดีครับ

   “ทำเป็นรึเปล่ามึง” พี่ชินที่นั่งข้างๆหันมาถาม ตอนนี้ทุกคนเริ่มลงมือโยนเบ็ดของตัวเองลงน้ำแล้วครับ

   “เป็นไม่เป็นเดี๋ยวคอยดูล่ะกัน” ผมตอบก่อนนั่งรอไปเรื่อยๆ

“อย่าขี้โม้อีกก็แล้วกัน” พี่ชินแม่ง โม้ครั้งเดียวไม่มีลืมเอามาล้อผมได้ตลอดนะ วันนี้ล้อผมเรื่องนี้มาทั้งวันเลยครับ

“อ๊ะๆ ติดแล้วพี่ชิน ติดแล้ว” ผมเรียกพี่ชินด้วยความดีใจ เมื่อรู้สึกว่าเบ็ดที่หย่อนลงไปเริ่มมีการกระตุก

“ค่อยๆสาวขึ้นมาครับ” เจ้าของเรือก็มาช่วยลุ้นกับผมเหมือนกันครับ ผมมารู้หลังจากลงเรือว่าพี่ชินให้เงินเจ้าของเรือค่าพาผมกับแกขึ้นมาบนเรือด้วย แต่ไม่รู้เท่าไหร่ท่าทางจะเยอะอยู่เหมือนกัน

   “ตัวใหญ่นี่หว่า แต่เดี๋ยวรอดูขอกูก่อน อาจจะใหญ่เท่าแขนก็ได้” ผมว่าจริงๆแล้วพี่ชินก็ขี้โม้ไม่แพ้ผมหรอกครับ

หลังจากได้มาอยู่ด้วยกันแบบนี้ผมถึงรู้ว่า พี่ชินเป็นคนที่คุยสนุก แถมเวลาพี่ชินเผลอจะมีมุกมาอำให้ผมขำได้ตลอด ผมว่าแบบนี้ดีกว่าเวลาปกติเยอะ ไม่รู้ทำไมถึงชอบเก๊กดุใส่ผมตลอด

“พี่ชินถามจริงที่ตกเป็นรึเปล่า” ผมหันไปถามพี่ชินที่เปลี่ยนมุมตกแทบจะทั่วเรือแล้วแต่ก็ยังไม่ได้ซักตัว คนอื่นเขาได้จะเต็มถังแล้ว ผมเองก็ได้เกือบ 10 ตัว

“ไม่เป็น แต่กูก็ไม่ได้โม้ว่าตกเป็นเหมือนใครบางคนแล้วกัน” นั่นไงโดนอีกดอกจนได้ผม

“ตกไม่เป็นก็บอกตกไม่เป็นดิ ผมจะได้สอน” ผมแกล้งว่าเหมือนที่พี่ชินเคยพูดกับผม

“ไหนมันต้องตกแบบไหน”  พี่ชินเดินมายืนด้านหลังผมแล้วถาม

“ก็ไม่อยากแบบนี้ไง ตวัดเบ็ดไปไกลจากเรือนิดนึง แต่ไม่ต้องไกลมากเดี๋ยวจะห่างไฟ หมึกมันชอบแสงไฟ ผมบอกไปก็สาธิตให้ดูไปด้วย

“เฮ้ย! นี่ไงพี่ชินติดแล้ว ไวมากเลย” ผมหย่อนเบ็ดลงไปได้ไม่นาน หมึกก็ติดแล้วครับ ดีนะอันนี้ผมพอมีความรู้อยู่บ้าง ไม่งั้นอายลูกศิษย์คนแรกแน่ เดี๋ยวจะมาว่าผมขี้โม้อีก

“ไหนวะ ดึงขึ้นมาดิ”

“นี่ไงพี่ อ๊ะ” ผมดึงหมึกขึ้นมาก่อนหันไปหาพี่ชินด้านหลังแล้วก็ต้องตกใจ เพราะพี่ชินยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมจนปากผมแทบชนปากพี่ชินแล้วถ้าผมไม่ตกใจผละออกมาก่อน แล้วทำไมต้องเอามือมาคร่อมตัวผมแบบนี้ด้วยวะ ตกใจหมด

“พี่ชินถอยออกไปหน่อย ผมจะเอาหมึกไปเก็บ” 

“หึหึ ก็เอาไปดิ” พี่ชินแม่งทั้งหัวเราะทั้งยิ้มกวนผมอีกนะ ตลกนักรึไงที่เห็นผมตกใจ ไม่รู้ตอนนั้นทำอะไรตลกๆให้ดูด้วยรึเปล่า

“พี่ชินไม่ต้องมาหัวเราะเลยนะ” ผมว่าเสียงไม่ดังเท่าไหร่ กลัวรบกวนคนอื่น

“ตกใจอะไร แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วย”

“หน้าแดงอะไรเล่า แสงไฟรึเปล่า” ผมว่าก่อนเอามือถูหน้าตัวเองไปมา แม่งว่าแล้วทำไมร้อนๆ

“อายเหรอ คิดอะไรกับกูอยู่รึเปล่าเนี๊ยะ คิดก็บอกมาเถอะ ชอบกูเหรอ” ไอ้พี่ชินแม่ง ทำไมมันถึงเป็นคนขี้ล้อแบบนี้วะ

“ชอบเชิบอะไรล่ะ อย่ามามั่ว ไปตกหมึกของตัวเองเลยไม่สอนแล้ว” ผมว่าก่อนผลักอกคนที่เอาแต่ยืนจ้องหน้าผมแล้วยิ้มกริ่ม เป็นบ้าอะไรไม่รู้หรือเมากาววะ ยิ้มอยู่ได้

“หึหึ” ดูสิครับยังมีการหัวเราะผมแล้วเดินยิ้มก่อนไปนั่งตกหมึกอีกฝั่ง ผมไม่อยากสนใจคนบ้า นั่งหันหลังให้ซะเลย

 ผมกับพี่ชินตกหมึกจนเกือบ 4 ทุ่มครึ่งถึงได้เลิกแล้วกลับเข้าฝั่ง สรุปแล้วผมได้ 18 ตัว พี่ชิน ได้ 3 ตัวเองครับ ไอ้ที่จะไปๆไม่ใช่ว่าอยากกินหรือตกเป็นอะไรนะครับ  มาบอกผมทีหลังว่าเคยเห็นในรายการทีวีดูน่าสนุกดีเลยอยากไปลอง ตอนนี้ก็สมใจเขาแล้วครับคงจะนอนหลับฝันได้ซะที


ผมอยู่ที่รีสอร์ทกับพี่ชินจนถึงวันอาทิตย์ ช่วงสายๆถึงได้เก็บของกลับกรุงเทพฯ  เวลาสองวันสองคืนที่ผมอยู่กับพี่ชินเหมือนได้มาเที่ยวเลยครับ ผมเห็นพี่ชินสำรวจที่พักแค่นิดเดียวนอกนั้นพักผ่อนล้วนๆจากตอนแรกนึกว่าผมจะโดนพามารับน้องสายโหดที่ไหนได้ กับได้เที่ยวซะงั้น ถือว่าทริปนี้เป็นทริปกระชับมิตรระหว่างพี่เทคกับน้องเทค แล้วผมยังได้รู้มุมแปลกๆของพี่ชินที่ผมไม่เคยรู้อีก ถือว่าคุ้มแล้วครับ

               -----  To Be Con.-----
                ขอบคุณที่ติดตามค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 13 up 15/9/2014 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: PANGGii ที่ 15-09-2014 00:43:34
ดูสวีทไงก้ไม่รุ้ .. อยากอ่านตอนที่วีเมาแล้วบอกชอบพี่ตริณย์เนี่ย
พี่ชินเขารู้สึกยังไงคิดอะไรอยู่ 5555555
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 13 up 15/9/2014 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 15-09-2014 00:45:12
เค้าพาแกมาเที่ยวเหอะ

ไม่รู้เรื่องรู้ราวเลยย


55555
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 13 up 15/9/2014 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: Pednoiinnocent ที่ 15-09-2014 02:49:02
มาต่อไวๆนะครับ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 13 up 15/9/2014 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: Teddysdeath ที่ 15-09-2014 03:01:21
มึนต่อไปแบบนี้แหละดีแล้วนายเอกเรา
 :hao7:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 13 up 15/9/2014 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 15-09-2014 06:37:53
บอกเลยว่าฟิน
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 13 up 15/9/2014 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-09-2014 07:08:41
ถามจริงงงงงงง
เธอโง่หรือซื่อคะ 55555555
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 13 up 15/9/2014 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 15-09-2014 09:13:06
พี่ชินเริ่มค่อยๆซึมเข้าไปในความคิดน้องแระ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 13 up 15/9/2014 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 15-09-2014 09:59:46
ตอนนี้น่ารักอ่ะ :o8:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 13 up 15/9/2014 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 15-09-2014 11:16:53
อ๊ายยยยยยย น้องวีจ้า น้องน่ารักได้ใจพี่จริงๆเลยอ่ะ
ส่วนคุณพี่ชิน. นายเนียนมากขอบอกเลย!!!!! เยี่ยมมากๆ 555 :mew3:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 13 up 15/9/2014 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 15-09-2014 11:46:53
 :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 13 up 15/9/2014 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 15-09-2014 12:15:39
พี่ชินเนียนมากกกกก หรือน้องวีซื่อเกินไปนี่  :impress2:

รอตอนต่อไปค่ะ รุกต่อไปนะพี่ชิน  :3123:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 13 up 15/9/2014 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 15-09-2014 19:15:46
น้ำทะเลคงออกหวานนะแบบนี้ 555
หัวข้อ: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 14 up 21/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 21-09-2014 17:40:22


                  ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 14

   “ไงมึง ไปเที่ยวมาเสร็จไหมล่ะ” อะไรของมันวะมาถึงก็พูดไม่รู้เรื่องใส่ผมเลย เลิกคบมันทันไหม

วันนี้ผมกับไอ้แบตแยกกันมาเมื่อวานมันกลับไปนอนบ้านตัวเอง ผมเลยต้องมาคนเดียว มาถึงยังไม่เจอใครซักคน

   “เสร็จอะไรของมึงวะ”

   “อ้าวมึงไปกับใครก็เสร็จคนนั้นแหละ ไปเสม็ดมาไม่ใช่เหรอ เขาว่าไปเสม็ดเสร็จทุกรายไง” ไอ้เชี้ยแว่นกวนตีนแล้วไง 

   “เสร็จเชี้ยอะไรล่ะ พูดแบบนี้พี่ชินเสียหายนะมึง แล้วกูก็ไม่ได้ไปเสม็ดกูไปหาดดวงตะวันเฟ้ย” ผมว่าเสียงดัง ไม่ได้รักษาภาพลักษณ์อะไรพี่ชินหรอกแต่ผมกลัวโดนตีนแกมากกว่า

   “ได้ข่าวว่าไปบ้านเพ กูก็นึกว่าจะข้ามไปเสียตัวที่เสม็ดซะอีก หึหึ” ไอ้แบตหัวเราะเสียงหลอนประสาทผม ก่อนนั่งลงตรงข้ามแล้วจ้องหน้าเหมือนจับผิด แต่ผมไม่มีอะไรให้จับอยู่แล้ว จ้องมาผมก็จ้องกลับ

   หาดดวงตะวันที่ผมไป มองเห็นเกาะเสม็ดด้วยครับไม่ไกลมาก ถ้านั่งเรือไปก็ประมาณ 30 นาทีแต่ผมไม่ได้ไป  ได้แต่นอนมอง   

   “เสียตัวอะไร มึงก็พูดไปเรื่อยพี่เขาไม่ได้คิดอะไรกับกูซะหน่อย ที่พากูไปก็แค่เอาไปเป็นเพื่อนเฉยๆพี่ชินเขาไปทำงาน”

“เหรอไม่คิดเหรอ  ถ้าไม่บอกกูนึกว่าออกเดท”

“ผู้ชายกับผู้ชายไปด้วยกัน มันเหมือนออกเดทตรงไหนวะ” ผมถามด้วยความงงในระบบการคิดของไอ้เชี้ยแว่นตรงหน้า มันใช้สมองหรืออะไรคิดว่าผมกับพี่ชินไปเดท ถ้าไปกัดกันล่ะก็ว่าไปอย่างครับ

“ถ้าผู้ชายคนอื่นกูไม่คิดไง แต่เป็นมึงที่มีประวัติเรื่องนี้มีเหรอกูจะไม่คิด สรุปแล้วยังไม่เสร็จว่างั้น” ไอ้แบตยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นก่อนหรี่ตาแล้วถามย้ำ

“ไม่เสร็จ!”

“ไม่เสร็จได้ไงวะ กูนึกว่าพี่ชินชอบมึงซะอีก”

“มึงพูดอะไร เดี๋ยวถ้าพี่ชินได้ยินมึงโดนแน่” ไม่รู้อะไรซะแล้วพี่ชินน่ะชอบลูกแพรอยู่ถ้ารู้ว่าไอ้แบตที่เป็นศัตรูหัวใจมาว่าแกชอบผู้ชาย ไอ้แบตกลายได้เป็นปุ๋ยอยู่ในมอแน่

“กูก็พูดตามที่เห็นไง กูว่ากูมองไม่ผิดหรอก สายตาพี่ชินมันฟ้อง” ยังมีหน้ามายืนยันอีกนะ มันไปเอาความเชื่อผิดๆแบบนี้มาจากไหน

“มึงอย่ามามั่วเอาพี่ชินมาเกลือกกรั่วกับกูเลย ขอร้องปล่อยแกไปเถอะ”  แค่ผมชอบผู้ชายนี่ก็รู้สึกผิดแล้ว

“แต่กูว่าพี่ชินชอบมึงจริงๆนะ”

“พอเลยๆ แล้วมึงกับลูกแพรคบกันยังวะ” ผมรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนไอ้แบตเพ้อเจ้อไปมากกว่านี้

“ยัง”

“อะไรวะ กูปล่อยให้อยู่ด้วยกันออกจะบ่อย ทำไมมึงไม่รีบทำคะแนนเดี๋ยวคนอื่นก็มาแย่งหรอก” ผมว่าพร้อมนึกถึงพี่ชินที่กำลังจ้องอยู่อีกคน

“ถ้ามันง่ายแบบนั้น กูคงเป็นแฟนกันตั้งแต่เรียนม.ปลายแล้ว ไม่ตามจีบให้เหนื่อยแบบนี้หรอก” 

“ถ้าเหนื่อยก็เลิกไปสิ” เอาแล้วไงครับ คราวซวยไอ้แบตล่ะ ลูกแพรดันเดินมาได้ยินพอดี งานนี้ผมไม่เกี่ยวนะ

“เฮ้ย! ถึงเหนื่อยก็ไม่เลิกหรอก” มันรีบพูดประจบลูกแพรที่กระแทกตัวนั่งหน้าบึ้งข้างๆผม

“ไม่ต้องเลย วีทำการบ้านมารึเปล่า แพรขอดูหน่อยสิแพรทำไม่ได้ข้อนึง”

“การบ้านอะไรเหรอ”

“อ้าวก็ดอร์อิ้งไง”

“เฮ้ย! ซวยแล้ววีลืม ไอ้แบตๆเอามาลอกดิ อย่าเพิ่งงอนกัน” ผมว่าก่อนรีบคว้าสมุดไอ้แบตมาเปิดอย่างไว  ผมลอกไปไอ้แบตก็ง้อลูกแพรไปจนถึงเวลาเข้าเรียนนั่นแหละครับ




“อ้าววีมาทำอะไรตรงนี้”  พี่โยทักผมที่กำลังดอมๆมองๆอยู่ภาคไฟฟ้าหลังเรียนเสร็จ

“พี่โยหวัดดีครับ ผมมาหาพี่ชินอยู่ไหมครับ” ผมว่าจะติดรถไปทำความสะอาดห้องพี่ชินซะหน่อยขี้เกียจไปเองเปลืองค่ารถ

“เฮ้ย! ไอ้ชินไปไหนวะ ใครเห็นบ้าง” พี่โยมองหาก่อนตะโกนถามดังลั่น คนหันมามองผมเป็นตาเดียวกันเลย คิดบ้างไหมว่าผมก็อายเป็น

“ขึ้นไปหาอาจารย์บนห้องพักว่ะ” เสียงพี่คนหนึ่งตะโกนกลับมา

“มันไม่อยู่ มีอะไรรึเปล่า”

“งั้นผมคอยได้ไหมครับ พี่โยรู้ไหมว่าพี่ชินจะกลับมาที่นี่รึเปล่า”

“มาดิมันยังไม่ได้เอาของไปเลย เข้ามานั่งข้างในก่อนก็ได้” เมื่อได้รับคำเชิญผมเลยเดินเข้าไปนั่งโต๊ะเดียวกับพี่โย ตรงหน้าเป็นพวกอะไหล่และสายไฟเยอะแยะเลยครับ คอยไปผมก็นั่งคุยกับพี่โยไปด้วย

“พี่โยให้ผมช่วยไหมครับ” นั่งเฉยๆเลยเบื่อ ผมถามพี่โยที่กำลังนั่งปลอกสายไฟ งานนี้เคยช่วยพี่ชินมาบ้างคิดว่าทำได้

“เฮ้ย! ช่วยจริงดิ” พี่โยยิ้มพร้อมถาม

“จริงสิพี่ ผมทำได้นะ”

“งั้นเอาไปเลย เหลืออีกเยอะ” แหม่ะพี่โยรีบลุกไปหยิบสายไฟอีกม้วนนึงมาให้ผมช่วยปลอกซะงั้น ผมก็นึกว่ามีไม่เยอะที่ไหนได้ โคตรเยอะอ่ะ

“มาทำอะไรในนี้วะ” ผมที่กำลังคุยกับพี่โยต้องสะดุ้งเพราะเสียงดุๆของพี่ชินที่อยู่ๆก็ดังขึ้นมาไม่ทันได้ตั้งตัว

“ผมมา...”

   “แล้วใครใช้ให้ทำงาน”  ผมยังตอบไม่ทันจบพี่ชินแม่งก็ถามขึ้นมาอีก ผมเลยหันไปมองหน้ากับพี่โยงงๆ

   “กูให้ทำเองแหละ น้องมันมารอมึงตั้งนอนแล้วเนี๊ยะ”

   “รอทำไม โทรศัพท์ก็มี โทรหากูน่ะเป็นไหม” ไอ้พี่ชินมันไปโมโหใครมาอีกว่ะ มาถึงก็หงุดหงิดเชียว ก็รู้อยู่ว่าค่าโทรศัพท์มันแพง ผมเคยโทรหาใครที่ไหน มีเอาไว้รับสายอย่างเดียวมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าเหาแล้ว

   “พี่เป็นอะไร ถ้าอารมณ์ไม่ดีผมกลับก่อนก็ได้” ว่าจะกลับด้วยไม่เอาแล้วครับ กลับเองดีกว่าไม่น่าคอยเลยกู

   “จะไปไหน มีอะไรก็ว่ามาดิ”

   “ไม่มีแล้วครับ ผมกลับก่อนนะครับพี่โย เดี๋ยววันหน้าผมมาช่วยใหม่” ผมตอบพี่ชินก่อนหันไปลาพี่โยที่ได้แต่พยักหน้ายิ้มๆ แล้วเดินออกมาเลย




   “มึงจะไปไหน” ออกจากภาคได้ไม่ไกล อยู่ๆข้อมือผมก็โดนกระชากพร้อมเสียงถาม  ข้อมือไม่ได้เจ็บนะครับ แต่ทำไมรู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหล มันร้อนผ่าวที่หัวตา ผมมองข้อมือตัวเองที่โดนจับเงียบๆ

ทำไมพี่ชินมันชอบอารมณ์เสียใส่ผมวะ อยู่ๆก็หงุดหงิด  ไปโมโหใครมาก็ไม่รู้แล้วมาลงที่ผมหลายครั้งแล้วนะไม่ใช่ครั้งเดียว  จะพูดดีๆกับผมบ้างไม่ได้เลยเหรอ นึกว่ากลับจากทะเลแล้วผมกับพี่ชินจะสนิทกันมากขึ้น แต่ดูเมื่อกี้แล้วเปล่าเลย ผมคิดไปเองทั้งนั้น

“ผมจะกลับแล้วช่วยปลอยผมด้วยครับ” ผมบอกพี่ชินเสียงเบา ไม่ยอมเงยหน้า

“ไหนไอ้โยบอกว่ามึงมารอกู แล้วจะรีบกลับทำไม” รู้สึกว่าเสียงพี่ชินจะนุ่มลงนิดหน่อย

“ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้วครับ”

   “มึงกำลังงอนกูเหรอที่เสียงดังใส่”  งอนตรงไหนวะ

“ผมไปงอนพี่ตรงไหน”

“ไม่งอนแล้วรีบหนีมาทำไม”

“ผมไม่ได้หนี”

“ไม่ได้หนีแล้วนี่มันอะไร”  พี่ชินว่าพร้อมจับข้อมือผมแน่นขึ้น แต่ผมไม่ได้รู้สึกเจ็บเลยแต่ผมกำลังอึ้งกับคำถามมากกว่า นี่ผมกำลังเป็นอะไรวะ ทำไมทำเหมือนกำลังน้อยใจ กำลังประชดพี่ชินซะงั้น  ผมกำลังทำตัวเหมือนพวกผู้หญิงเหรอ แล้วทำไมผมต้องเป็นแบบนี้ด้วยล่ะ

“ผมแค่จะกลับแล้ว” ผมตอบเสียงเบา เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรแปลกๆ

   “กลับก็กลับ เดี๋ยวกูไปส่ง” พูดเสร็จพี่ชินก็เดินจูงผมมาขึ้นรถ




“ไปคอนโดพี่นะ” ผมบอกเมื่อพี่ชินตบไฟเลี้ยวไปทางหอผม

“ไปทำไมไม่กลับห้องมึงแล้วรึไง” พี่ชินหันมาถามผมเหมือนแปลกใจ

“ก็วันนี้เป็นวันที่ผมต้องไปทำความสะอาดห้องพี่ไง”

“เออ จริงกูลืมไปเลยงั้นก็ไปห้องกูแล้วกัน เออแล้วมึงไปหากูทำไม”

“ผมก็จะขอติดรถไปคอนโดพร้อมพี่นี่แหละ” ผมมองวิวข้างถนน ตอนนี้ไม่อยากมองหน้าพี่ชิน เห็นแล้วหงุดหงิด ช่วงนี้ผมยิ่งรู้สึกว่าถ้าอยู่ใกล้พี่ชินแล้วไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองอยู่ด้วย

“ที่หลังก็โทรหากูก็ได้ หรือรอแถวรถไม่ต้องเข้าไปที่ภาค”

“ทำไมผมถึงเข้าไปไม่ได้” ผมถามอย่างแปลกใจเรื่องโทรไปตัดได้เลย

“ในภาคคนมันเยอะมึงไม่เห็นรึไง เข้าไปก็เกะกะเปล่าๆ” ผมผิดใช่ไหม

“ที่หลังผมจะไม่เข้าไปแล้ว พี่ไม่ต้องอารมณ์เสียใส่ผมก็ได้ ไปหงุดหงิดคนอื่นแล้วก็มาลงกับผม” ผมเผลอว่าออกไปซะแล้วครับ ว่าจะไม่พูดแล้วนะแต่อารมณ์มันพาให้หลุดปากจนได้

“กูไม่ได้หงุดหงิดคนอื่น กูหงุดหงิดมึงนี่แหละ”

“หงุดหงิดผม! หงุดหงิดเรื่องอะไรผมยังไม่ได้ทำอะไรพี่เลย หรือเพราะผมเข้าไปเกะกะ” ผมหันไปถามทันทีที่พี่ชินพูดจบ

“ใครใช้ให้มึงไปนั่งทำงานในนั้น กูคนเดียวที่จะใช้มึงได้ คนอื่นไม่มีสิทธิ์จำไว้”  ที่โมโหคือเรื่องนี้เหรอตลกล่ะ ผมไปให้สิทธิ์พี่ชินตอนไหนวะ

“พี่ได้สิทธ์นั้นตอนไหนผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย”

“ก็ตั้งแต่มึงติดหนี้กูนั่นแหละ กูบอกแล้วถ้าไม่มีเงินมาใช้คืนกู ก็ต้องเอาตัวมึงใช้แทน แรงมึงทั้งหมดที่มีเป็นของกู ไม่ใช่มัวไปทำให้คนอื่นจนไม่มีแรงมาทำงานให้กู” เอากับพี่ชินสิครับ ถ้าไม่บ้าคิดไม่ได้นะเนี๊ยะผมล่ะเพลีย

“ผมต้องเชื่อพี่ไหม” ผมถามกลับกวนๆ

“ถ้ามึงไม่เชื่อ กูจะถือว่าทำงานให้กูไม่เต็มที่ ราคาที่ตกลงไว้ลดลงครึ่งนึง”

“เฮ้ย! พี่แม่งหน้าเลือดว่ะ แล้วแบบนี้เมื่อไหร่ผมจะใช้หนี้หมด” ผมโวยวายสั่นรถ แบบนี้ไม่ยุติธรรมอ่ะผมไม่ยอมเด็ดขาด

“เรื่องของมึงดิ จะใช้ไปตลอดชีวิตก็ได้ แต่ถ้าไม่อยากให้กูลดก็ทำตามที่กูบอกซะ”

“ก็ได้ครับ ก็ได้ ผมจะทำตามบัญชาของพี่คนเดียวเลย” ผมตอบรับกึ่งประชด

“หึหึ ดีมาก แล้วกูก็แล้วบอกว่าไอ้โยมันมีแฟนแล้ว มึงจะไปนั่งกะหนุงกะหนิงกับมันทำไม”  กะหนุงกะหนิงอะไรวะ ไม่เห็นรู้เรื่อง

“พี่ว่าอะไร ผมกับพี่โยเนี๊ยะนะ”

“เออ อย่าไปยุ่งกับมันให้มาก” พี่ชินมันประสาทรึเปล่า

“ผมผู้ชายนะพี่ แล้วพี่โยก็เป็นผู้ชาย แฟนพี่โยเขาไม่คิดมากหรอก”

“กูบอกอะไรก็ทำตามนั้น หรือจะให้หักเงิน” เงินค่าอะไรอีกวะ เอะอะแม่งหักตลอด หักจนจะไม่เหลืออะไรแล้วเนี๊ยะ

“ครับๆ น้อมรับบัญชาของพี่ครับ” ผมว่าก่อนเงียบไปจนถึงห้องพี่ชิน ขี้เกียจคุยด้วย คุยนิดคุยหน่อยจะหักเงินผมลูกเดียวเลย




“ทำไมวันนี้ห้องพี่สะอาดล่ะ”ผมถามอย่างแปลกใจเมื่อก้าวเข้ามาในห้องที่ทุกครั้งแทบหาทางเดินไม่ได้ แต่วันนี้กับสะอาดเอี่ยมแทบไม่มีฝุ่นเกาะ

“ก็...เมื่อคืนกูไม่ได้นอนนี่ไง กูเอาของฝากไปให้แม่แล้วนอนบ้านเลย” ทำไมต้องทำท่านึกด้วยล่ะ ถามแค่นี้

“งั้นผมไม่ทำนะวันนี้ สะอาดขนาดนี้ผมไม่รู้จะทำตรงไหน” ผมบอกก่อนหมุนตัวจะเดินออกจากห้อง

“มึงจะไปไหน กูว่าจะจัดห้องใหม่อยู่พอดี งั้นวันนี้จัดเลยแล้วกัน มาช่วยกูยกโซฟาดิ๊” อะไรของพี่ชินวะ จัดแบบนี้มันก็ดีอยู่แล้วไง แต่เจ้าของอยากจัดผมก็ไม่รู้จะขัดยังไง ต้องจำใจเดินไปช่วยยกครับ

“เอาไปไว้ไหนพี่” ผมถามพี่ชินที่กำลังยกอีกฝั่ง

“โน่นเลยๆ เอาไปไกลๆ ข้างหน้าจะได้มีที่ให้กูทำงาน” ไกลไปไหมวะ ชี้ไปซะเกือบติดห้องครัว

“พี่ชินอันนี้ล่ะ”

   “เอาไว้ตรงโน้น”

“ผมว่ามันไม่เข้านะ”

“ลองก่อน กูว่าเข้า”

“พี่ชิน โคมไฟเอามาตรงนี้ทำไมเกะกะ”

“งั้นมึงยกมาตรงนี้ดิ”  ไอ้พี่ชินเริ่มนั่งชี้นิ้วแล้วไง แกล้งหางานให้ผมทำรึเปล่าวะ ย้ายไปย้ายมาเกือบ 2 ชั่วโมงแล้ว มุมนั้นไม่ได้ มุมนี้ไม่ดีอะไรก็ไม่รู้ครับ

“พี่ชินผมเหนื่อยจนจะเป็นลมแล้วนะ แบบไหนพี่จะพอใจซะที” ผมนั่งลงกับพื้นพร้อมหอบหายใจแรงๆ เหนื่อยเป็นหมาหอบแดดเลยผม

“ลองเอาโคมไฟมาตรงนี้ก่อนดิ”

“อันสุดท้ายแล้วนะพี่”

“เออๆ ยกมาวางตรงนั้นแหละ อืม...กูว่าไม่ดีว่ะ สงสัยห้องแบบเดิมจะดีอยู่แล้วเนอะ”

“ไอ้พี่ชิน! พี่แกล้งผมใช่ไหม” ผมถามเสียงดังเลยครับ แทบอยากจะพ่นไฟใส่หัว ไม่ไหวแล้วแม่งเหนื่อยจะตายจะให้ย้ายกลับไปเหมือนเดิม

“ขึ้นไอ้เลยนะมึง ก็มันไม่ดีจะเอาไว้ทำไมจัดแบบเดิมแหละ ไปกินข้าวก่อนก็ได้ค่อยมาจัดกูสั่งมาแล้ว” เอาข้าวมาล่ออีกนะ ผมนี่อยากจะล่อหัวพี่ชินซักทีดูยังไงก็แกล้งผมแน่ๆ

“ไม่เอาแล้วผมไม่ทำ เหนื่อย”

“หนี้มึงเหลืออีกเท่าไหร่นะ ช่วยกูคิดดิ๊เหมือนจะอีกเยอะเนอะ” แม่งลายหน้าลอยตาพูดซะอยากโดดถีบเลยผม ท่องไหวนะโม เงินหนอเงิน อดทนอีกหน่อยค่อยถีบ เงินหนอเงิน

“ทำก็ได้ ไหนข้าวผมหิวแล้ว”  เมื่อสะกดจิตตัวเองได้ ผมถามหาข้าวทันทีก่อนจะเดินไปนั่งกิน กองทัพต้องเดินด้วยท้องครับงานนี้ กินเสร็จทำงานต่อย้ายไปย้ายมาจนดึกนั่นแหละครับ


“มึงจะไปไหน”

“ถามแปลก ผมก็กลับห้องผมดิ” ผมตอบพี่ชินที่นั่งจ้องผมที่กำลังหยิบกระเป๋าตัวเองเตรียมตัวกลับห้อง

“ดึกขนาดนี้มึงจะกลับยังไง กูไม่ไปส่งนะขี้เกียจ”

“รถเมล์ก็มี ผมไม่หวังอะไรจากพี่อยู่แล้ว”

“นอนนี่แหละจะกลับไปทำไมให้เหนื่อยวะ พรุ่งนี้กูไปส่ง”

“จะนอนยังไง ชุดผมก็ไม่มี  ผมกลับห้องดีหว่ารถคงยังไม่หมด” ผมว่าก่อนทำท่าจะก้าวขาออกจากห้อง

“นอนนี่แหละไม่ต้องกลับ พรุ่งนี้กูไปส่งไม่เปลืองค่ารถนะมึง น้ำไฟก็ใช้ห้องกู” เออจริงด้วยไม่เปลืองห้องผมซักอย่าง

“งั้นผมยืมชุดพี่ก่อนนะ”  แต่ชุดเดิมผมก็ยังไม่ได้คืนเลย

“ตามสบาย  มึงไปอาบน้ำก่อนเลยเหม็นเหงื่อทั้งตัวแล้วมึง” เพราะใครล่ะ ใช้ให้ผมทำงานไม่ได้หยุด สุดท้ายก็ได้ห้องแบบเดิมไม่รู้จะย้ายทำไม ขี้เกียจเถียงกับพี่ชินแล้วเลยผมเดินหนีเข้าห้องนอนก่อนหาเสื้อผ้าอาบน้ำให้สบายตัว



“พี่ชินไปอาบน้ำดิ ผมจะนอนแล้วง่วง” ผมไล่พี่ชินที่ยังนั่งดูทีวีไม่ยอมขยับไปไหน ทั้งที่ผมอาบน้ำเสร็จตั้งนานแล้ว

“ง่วงก็นอนเกี่ยวอะไรกับกู” ยังมีการหันมาถามแบบงงๆ

   “ก็นี่มันที่นอนผม พี่นั่งหัวโด่แบบนี้ผมจะนอนยังไง”

   “ที่นอนมึงตรงไหน นี่มันโซฟา จะนอนก็ไปนอนในห้องโน่น”

   “แต่มันมีเตียงเดียว ผมไม่นอนพื้นนะปวดหลัง”
 
   “มึงก็นอนบนเตียงดิ จะโง่นอนพื้นทำไม ทำยังกับไม่เคยนอนกับกู”  ทำไมผมฟังแล้วมันแปลกๆวะ

   “เคยนอนน่ะใช่แต่มันก็แปลกไหมพี่ ผมแค่มาทำความสะอาดจะให้นอนเตียงเดียวกับพี่ได้ไง” ผมถามตามที่คิด

   “มึงไม่ใช่แค่เด็กทำความสะอาด” ทำไมฟังแล้วรู้สึกดี

   “ถ้าไม่ใช่แล้วผมเป็นอะไรล่ะ” ผมถามพี่ชินที่จ้องหน้าผมนิ่ง

   “มึงก็เป็นน้องเทคกูไง ไปนอนได้แล้วไป กูจะอาบน้ำแล้วเหมือนกัน”  ทั้งที่เป็นเรื่องจริงแต่ทำไมผมถึงรู้สึกเหมือนไม่พอใจกับคำตอบที่ได้รับ รู้สึกผิดหวังแปลกๆทั้งที่ตัวเองก็ยังไม่รู้เลยว่าผมกำลังหวังอะไรอยู่ สงสัยฮอร์โมนผมกำลังเปลี่ยนครับช่วงนี้ถึงรู้สึกแปลกๆบ่อย



   “หลับรึยัง” ผมลืมตาในความมืด  เมื่อได้ยินเสียงถามของพี่ชินที่นอนข้างๆ

   “ยังครับ พี่ชินมีอะไรเหรอ” ผมถามทั้งที่ตาจะปิดอีกครั้ง ง่วงจนแทบลืมไม่ขึ้นแล้ว หัวถึงหมอนก็พร้อมหลับเลยผม

   “กูนอนไม่หลับคุยเป็นเพื่อนกูหน่อย” พี่ไม่หลับแต่ผมตาจะปิดแล้วครับ

   “อืมๆ พี่ว่ามาดิ” ผมตอบ

   “มึงมีแฟนรึยัง” ชวนคุยเรื่องอะไรวะ

   “ยังไม่มี”

   “เหรอ แล้วคนที่ชอบล่ะมีไหม”

   “มีสิ ชอบมากด้วย” ผมตอบแบบเบลอๆ ก่อนอ้าปากหาวเต็มที่

   “หึ มีก็เลิกชอบซะเขาไม่ได้ชอบมึงหรอก” พี่ชินว่าอะไรวะ

   “พี่รู้ได้ไงว่าเขาไม่ชอบผม”  เหมือนผมจะตาสว่างขึ้นมาหน่อย พี่ชินรู้ได้ไงว่าผมหมายถึงใคร

   “รู้ก็แล้วกัน ตัดใจซะเขามีคนของเขาแล้ว” ไม่จริงอ่ะพี่ตินณ์เพิ่งเลิกกับพี่วิว ไอ้พี่ชินมั่วแล้วแกล้งอำจะให้ผมผิดหวังแน่ๆ

   “อย่ามาหลอกผมเลยพี่ ผมรู้ทันน่า” ผมว่าก่อนเริ่มง่วงอีกแล้ว อะไรวะ

   “กูจะหลอกมึงทำไม”

“ไม่รู้สิพี่ชอบแกล้งผมอ่ะ”

“แล้วมึงเกลียดกูไหม ที่กูแกล้งมึง” มาอารมณ์ไหนของเขาอีกวะ

   “ไม่ได้เกลียด” ผมตอบเบาๆ

   “แล้วรักไหม” พี่ชินว่าอะไรวะ ทำไมพูดเบาผมฟังไม่รู้เรื่องเลย

   “พี่ว่าอะไรนะ” ผมถามอีกครั้งพร้อมตาที่ค่อยๆปิด ไม่ไหวแล้วครับง่วงมาก

   “รักกูซะ กูขอสั่งให้รักกูซะ” เสียงพี่ชินดังแว่วๆก่อนที่ผมจะไม่รับรู้อะไรอีก

วันนี้ถ่านหมดแล้วครับ ขอเวลาชาร์ตพลังงานก่อน พรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะพี่


            ----- To be Con. -----


           ขอบคุณที่ติดตามค่ะ   :กอด1:
        อ่านแล้วเม้นให้จักขอบคุณอย่างยิ่งจร้า :-[
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 14 up 21/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 21-09-2014 18:05:13
 :hao3: พี่ชินสั่งอย่างงี้เลยเหรอ วีรักเฮียซะเฮียสั่งแล้ว
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 14 up 21/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: tityjiu ที่ 21-09-2014 18:32:25
ตรงไปไหนค่ะ คึๆๆๆแต่โดนรีบรักเลยวี พี่เค้าทุ่มขนาดนี้ :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 14 up 21/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 21-09-2014 19:17:30
พรายจ้ำ กล้าพูดอิพี่ชิน
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 14 up 21/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: pachth ที่ 21-09-2014 20:57:07
รักสั่งได้เรอะชิน
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 14 up 21/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 21-09-2014 20:58:30
ทำตามที่พี่เขาสั่งเลยนะน้องวี  :mew1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 14 up 21/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 21-09-2014 22:15:13
 :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 14 up 21/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: april day ที่ 21-09-2014 22:33:38
 :ling1: น้องวีนู๋หลับเร็วไปนะคะ แล้วอย่างนี้ตื่นขึ้นมาจะจำคำสั่งของพี่ชินได้ไหม
มาต่อไวๆ นะคะ รออ่านตอนต่อไป ลุ้นมาก  :hao5:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 14 up 21/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 21-09-2014 22:41:30
น้ำตาจะไหล เป็นใครก็งง อยู่ดีๆมาสั่งให้รักกก

อีพี่ชิน ซึนไปนะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 14 up 21/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 21-09-2014 22:55:16
อุ๊ยๆๆ พี่เขาสั่งขนาดนี้ทำตามไปเถอะลูกเอ๊ย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 14 up 21/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 21-09-2014 22:59:49
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 14 up 21/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: 1bigmie1 ที่ 21-09-2014 23:43:15
อ๊ากๆๆๆ รีบๆมานะ รีบๆมาต่อน๊าาาาา
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 14 up 21/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: Teddysdeath ที่ 22-09-2014 03:31:49
มันแพ้แล้ว  จงกลายร่างเป็นเคะนางพญา ณ บัดนี้ค่ะน้องวี  :laugh:
กวนตีนนักจงกลัวเมียซะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 14 up 21/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 22-09-2014 10:02:04
ตื่นเช้ามาวีจะจำที่พี่ชินสั่งก่อนหลับได้ไหม
ง่วงจนเบลอขนาดนั้น 5555
อึนต่อไปนะวี
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 14 up 21/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 22-09-2014 11:07:38
สั่งให้รัก
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 14 up 21/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 22-09-2014 19:34:09
พี่ชินจริงๆ หวงน้องล่ะซิ่
หัวข้อ: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 15 up 25/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 25-09-2014 20:42:22

                 ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 15

“อ้าวพี่ตินณ์มาทำอะไรเหรอครับ”  ผมทักพี่ตินณ์ที่กำลังนั่งอยู่ใต้คณะศิลปกรรม ตอนแรกนึกว่าไม่ใช่ พอมองดีๆแล้วพี่ตินณ์แน่นอนครับ

กำลังจะเดินผ่านไปคณะวิศวะแต่เห็นพี่ตินณ์ซะก่อน ที่แปลกใจเพราะพี่ตินณ์มานั่งอยู่คนเดียว ดูทรงแล้วไม่ได้เพิ่งมาซะด้วยครับน้ำอัดลมถูกเปิดไปแล้ว 2 กระป๋อง

“มารอคนน่ะ แล้ววีมาทำอะไรแถวนี้” ไม่รู้มารอใครขนาดตอบผมตายังไม่ยอมละจากบันไดทางลงตึกเลยครับ

“ผมแค่จะเดินผ่านไปคณะครับ ทางนี้ใกล้ดีขี้เกียจอ้อมไกล” ผมตอบยิ้มๆ

“วันนี้มีเรียนเหรอ หรือมาทำอะไร”

“ครับ วันนี้ผมมีเรียน 4 โมงเย็นกว่าจะเลิกดึกเลย หิวแน่ผม แล้วพี่ตินณ์ไม่มีเรียนแล้วเหรอครับ” ผมตอบพี่ตินณ์ก่อนถามต่อ

“วันนี้ไม่มีเรียนแล้วกำลังจะกลับ” กำลังจะกลับแต่มานั่งอยู่ใต้คณะศิลปกรรมเนี๊ยะนะ

“ที่ยังไม่กลับตอนนี้เพราะรอสาวรึเปล่าครับพี่” ผมล้อพี่ตินณ์ ที่เอาแต่จ้องทางลงกับโทรศัพท์สลับกันไปมา

“หึหึ”ไม่ยอมตอบซะด้วยครับ ได้แต่หัวเราะเหมือนที่ผมพูดเป็นเรื่องจริงซะงั้น

ผมแค่พูดเล่นไม่นึกว่าจะเป็นเรื่องจริง แต่ถึงรู้ว่าเป็นเรื่องจริงทำไมผมไม่ได้ตกใจอะไรเลย แถมยังไม่รู้สึกเสียใจด้วย แปลกนะครับทั้งที่ผมคิดว่าตัวเองชอบพี่ตินณ์แต่พอรู้แบบนี้ทำไมถึงได้ไม่รู้สึกอะไรเลย
 
“เรื่องจริงเหรอครับ พี่ตินณ์มีแฟนใหม่แล้วเหรอ” ผมถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง

“ยังไม่ได้เป็นหรอก” ตอบพร้อมยิ้มน้อยๆแบบนี้ ผมรู้เลยว่าพี่ตินณ์คงมีอะไรพิเศษกับคนนั้นแน่ๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่ยิ้มแบบนี้หรอก

“แสดงว่าอนาคตไม่แน่ใช่ไหมครับ”

“หึหึ” หัวเราะแบบนี้อีกแล้ว

“พี่ทำให้ผมอยากรู้เลยว่าใครกันที่โชคดีได้เป็นแฟนพี่”

“ไม่มีหรอก พี่ยังโสดอีกนานว่ะ แล้วเรียนเป็นไงบ้างเรียนมาหลายเดือนแล้ว” เหลืออีกไม่ถึงเดือนผมก็จะเรียนจบเทอมแรกแล้วครับ เหมือนจะนานแต่ผมว่าแป๊บเดียวก็ผ่านไปเทอมนึงแล้ว

“เรียนได้ครับพี่ ถึงผมจะไม่ค่อยชอบวิชาดอร์อิ้งแต่นอกนั้นผมก็เรียนได้”

“ดีแล้ว มีปัญหาอะไรก็มาปรึกษาพี่ได้”

“ขอบคุณครับ งั้นผมไม่กวนพี่ดีกว่า ผมต้องไปเรียนแล้ว” ผมขอบคุณก่อนขอตัวไปเรียนหลังนึกได้ว่านั่งคุยกับพี่ตินณ์นานแล้ว

“อย่าหลับในห้องเรียนล่ะ เออวี ศุกร์นี้ไปไหนรึเปล่า”

“ไม่ได้ไปครับ พี่มีอะไรรึเปล่า” ผมถามอย่างแปลกใจปกติพี่ตินณ์ไม่เคยถามแบบนี้ หรือผมจะมีหวังอาทิตย์นี้ก็ไม่ได้กลับบ้านด้วย

“พี่ว่าจะพาน้องไปเลี้ยงสายเทค ถ้าเราว่างจะได้ชวนไอ้นัทไปเลี้ยงพร้อมกันเลย” แป่ว นึกว่าไปกันสองคน แต่ถึงไปหลายคนก็ไม่เป็นไรแค่ได้ไปก็พอ

“อ๋อ ผมว่างครับ”

“งั้นเตรียมล้างท้องรอได้เลย เดี๋ยวพี่ให้ไอ้นัทมันโทรไปบอกไอ้ชินอีกที”

“ครับ” พี่นัทเป็นพี่เทคของพี่ชิน เลยต้องส่งสาสน์ผ่านพี่ชินมาบอกผมอีกทีตามลำดับครับ

“แล้วเจอกันพี่ไปก่อนนะ”  ผมยังไม่ทันตอบ พี่ตินณ์ก็ลุกเดินเร็วๆไปทางหน้าตึก ผมเห็นเดินตามผู้ชายคนหนึ่งออกไป แต่ไม่รู้ว่าใครเพราะเขาเดินหันหลังให้ผมซะก่อน ผมที่จะแยกไปตอนนี้กลายเป็นคนถูกทิ้งให้ยืนงงอยู่กับที่ซะงั้น  แล้วจะอยู่ทำไมล่ะครับไปเรียนดีกว่า





“ทำไมวันนี้วีมาช้าจัง แพรนึกว่าจะไม่มาซะแล้ว” ลูกแพรถามผมหลังเรียนเสร็จ  เมื่อต้นคาบเกือบเข้าเรียนไม่ทันครับมาถึงอาจารย์เพิ่งเข้าพอดีรอดตัวหวุดหวิด

“พอดีเจอพี่ตินณ์เลยคุยเพลินไปหน่อยน่ะ” ผมตอบพร้อมเก็บสมุดเตรียมตัวกลับหอ

“แบบนี้มึงก็มีสิทธิ์ดิ”

“มีอะไรล่ะ พี่ตินณ์ชอบผู้ชายรึเปล่ากูยังไม่รู้ แถมกูรู้สึกว่าพี่ตินณ์จะชอบคนอื่นแล้วว่ะ” ไอ้แบตที่นั่งอยู่ข้างผมถามขึ้นมาบ้าง

“อ้าวชอบใครวะมึงรู้ไหม กูเห็นมึงมองพี่ตินณ์บ่อยๆ”

“ไม่รู้ว่ะ เห็นทีไรพี่ตินณ์ก็อยู่กับเพื่อนไม่เห็นจะมีผู้หญิงที่ไหน”  เท่าที่ผมรู้ไม่มีผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้พี่ตินณ์เลยซักคนครับ

“งั้นอาจจะยังไม่มีก็ได้ มึงกับพี่ตินณ์ก็สนิทกันนี่หว่า ไม่ลองจีบแกดูหน่อยเหรอ ถ้าไม่ได้ก็แค่เสมอตัวแต่ถ้าพี่ตินณ์เล่นด้วยมึงก็ถือว่าได้กำไรเลยนะ” เออจริงของมันครับ

   “แพรก็เห็นด้วยกับแบตนะ ถ้าโชคดีพี่ตินณ์อาจจะคิดเหมือนวีก็ได้” บิ๊วกันใหญ่

“ถ้ามึงไม่รีบบอกพี่ตินณ์โดนคนอื่นคาบไปแดกไม่รู้นะ ตอนนี้กำลังว่างจะทำอะไรก็รีบๆทำ”เหมือนประโยคนี้คุ้นๆ แต่ผมก็เคยคิดนะเริ่มก่อนมีสิทธิ์ก่อน

“ถ้าพี่ตินณ์ไม่เล่นด้วยแล้วรังเกียจกูขึ้นมากูจะทำยังไง” ผมเริ่มกังวล

“แพรว่าคงไม่ถึงกับรังเกียจหรอกมั้งดูพี่ตินณ์ไม่ใช่คนแบบนั้น”

“เหรอ งั้นวีขอทำใจก่อนนะ”

   “แพรกับแบตเป็นกำลังใจให้ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงวีก็ยังเป็นเพื่อนเราสองคนเหมือนเดิมนะ”  ลูกแพรเดินมาจับมือผมทั้งสองข้างก่อนจ้องตานิ่งๆ เพื่อสื่อให้เห็นความจริงใจที่ส่งมา

“ขอบคุณมากนะทั้งแพรและมึงเลยไอ้แว่น” ผมตอบแพรก่อนหันไปบอกไอ้แบต

“อื้ออ... ถึงไม่ค่อยเต็มใจแต่กูก็เป็นเพื่อนมึงแล้วเพราะงั้นจะให้ช่วยอะไรก็บอก”  เชี้ยพูดเฉยๆก็ได้ไม่ต้องตบหลังกูด้วยหรอก ตบทีนึกว่าหมีตะปบมือหรือตีนวะ

“กูลดตัวเป็นเพื่อนมึงเนี๊ยะ ถือว่ามึงโชคดีสุดๆแล้ว ไม่มีกูก็ไม่มีใครคบมึงหรอกสำนึกบุญคุณกูซะ หึหึ” ผมว่าก่อนยักคิ้วให้มันกวน ๆ แล้วเดินหนี ได้ยินเสียงลูกแพรหัวเราะพร้อมไอ้แบตว่าอะไรซักอย่างดังไล่หลังแต่ผมขี้เกียจฟังครับ เดินมาไม่นานไอ้แบตกับลูกแพรก็เดินมาทันผมที่หน้าคณะ

“ลูกแพรวันนี้กลับยังไง” เสียงไอ้แบตถามลูกแพรที่กำลังเดินคุยกับผม

“วันนี้แพรไม่ได้เอารถมาเหรอ” ผมถามอย่างสงสัย เพราะช่วงหลังๆลูกแพรจะเอารถมาเองเกือบทุกวัน

“ไม่ได้เอามารถแพรยางรั่วเลยเอาไปเข้าอู่น่ะ เดี๋ยวพี่พรตมารับแพร” ลูกแพรตอบผมก่อนหันไปตอบไอ้แบต ผมนึกว่าไม่มีคนมารับ จะได้นั่งแท็กซี่ไปส่งพร้อมไอ้แบตเพราะมืดแล้ว ผมไม่กล้าให้นั่งไปคนเดียวเดี๋ยวนี้อันตรายครับ

“ดีแล้วจะได้ไม่ต้องห่วง” ไอ้แบตว่า

“พี่พรตโทรมาพอดีเลย  พี่พรตแพรอยู่หน้าคณะแล้วค่ะ เบนส์สีดำอ๋อเห็นแล้วค่ะ เดี๋ยวแพรเดินไปหานะคะ”  ผมได้ยินแพรคุยโทรศัพท์กับพี่ชายก่อนวางสาย

“พี่พรตมาแล้วเหรอแพร”

“อื้อมาแล้ว งั้นแพรกลับก่อนนะพรุ่งนี้เจอกัน แพรกับก่อนนะวี” ลูกแพรบอกลาไอ้แบตก่อนลาผมแล้วรีบเดินไปทางรถที่จอดอยู่หน้าคณะ  ผมมองตามเห็นรถเบนส์สีดำเหมือนของพี่ตินณ์จอดอยู่ แต่คงไม่ใช่ สงสัยวันนี้ผมจะคิดเรื่องพี่ตินณ์มากไป เรื่องอะไรพี่ตินณ์ต้องมารับลูกแพรด้วยผมคงเลอะเทอะเกินไปแล้ว

“ไอ้แบตไปกลับห้อง”

“เออจะอยู่ทำไมล่ะ กลับดิแต่แวะกินข้าวหน้ามอก่อนนะกูหิว”

   “เออกูก็กำลังจะบอกเหมือนกัน แม่งหิวจนจะแดกหมาได้แล้วกู” ผมว่าพลางเอามือลูบท้อง หิวตั้งแต่ก่อนหมดคาบเรียนแล้วครับ




“ไปไหนมาทำไมกลับช้า”

“เชี้ย! ตกใจหมดพี่ชินทำไมมานั่งมืดๆแบบนี้” เข้าห้องมาตกใจเลยครับ กำลังจะเอื้อมเปิดไฟอยู่ๆเสียงก็ดังขึ้นนิ่งๆเล่นเอาขนลุกซู่ นึกว่าผีหลอกแล้วผม

“กูก็มารอมึงไง แล้วไปไหนมาจะบอกกูได้รึยัง” จะเสียงแข็งใส่ทำไมวะ

“ผมก็ไปเรียนมาดิ แล้วพี่เข้าห้องผมเองอีกแล้วนะ”  ผมตอบก่อนเริ่มบ่น

ตั้งแต่ผมกับพี่ชินกลับมาจากทะเลก็ผ่านไปเกือบ 2 เดือนแล้วครับ ช่วงสองเดือนนี้จะว่าผมสนิทกับพี่ชินมากขึ้นจนมีกุญแจห้องผมก็ไม่เชิง ต้องเรียกว่าพี่ชินมันหน้าด้านมากกว่าก็ผมเคยทำกุญแจห้องหายแต่ขี้เกียจหาเลยใช้กุญแจสำรองมาตลอด แล้วมารู้ที่หลังว่ามันไปอยู่กับพี่ชินวันที่ผมกลับดึกแล้วพี่ชินมานั่งเสนอหน้าในห้องผมแบบนี้แหละครับ 

ถามไปถามมาปรากฏว่าผมทำหล่นไว้ในห้องแก แต่ผมไม่ถามพี่ชินเลยไม่บอกแถมเอามาไขเข้าห้องผมซะงั้น  ผมไม่แปลกใจเรื่องไขเข้ามาเท่าไหร่เพราะพี่ชินมันเป็นโรคมารยาทบกพร่องอยู่แล้วครับ  กับคนอื่นนี่ดีสุดๆกับผมไม่เคยจะมีผมชินซะแล้ว แต่ที่ผมแปลกใจคือผมทวงแล้วก็ยังไม่ยอมคืนกุญแจห้องผมนี่แหละครับ  ไม่รู้จะเอาไว้ทำไมห้องตัวเองก็ไม่ใช่

“กูเมื่อยใครจะยืนคอยได้เป็นชั่วโมงๆ แล้วมึงเลิกตั้งแต่ 2 ทุ่มนี่มันจะ 3 ทุ่มกว่าแล้วมึงเพิ่งถึง” พี่ชินแม่งชาติที่แล้วเกิดเป็นพ่อผมรึเปล่าวะ ถึงได้ตามมาจับผิดผมขนาดนี้

“ผมกินข้าวอยู่หน้ามอนี่แหละ พี่จะอยากรู้ไปทำไมว่าผมไปไหนมา” ผมว่าฉุนๆ ทำไมผมต้องคอยรายงานตลอดเลยว่าผมไปไหน ทำอะไรกับใคร

“ก็กูมาคอยมึงจนรากจะงอกแล้วนี่ไง เหตุผลพอที่จะอยากรู้ว่ามึงไปไหนมาได้ไหม”
 
“ผมไม่ได้บอกให้พี่คอยซะหน่อย แล้วพี่มาคอยผมทำไมล่ะ”

“กูเอางานมาให้ทำ”

“ฮ๊ะ งานอีกแล้วเหรอพี่ เมื่อวานก็เพิ่งทำไปนะ” เมื่อวานผมไปทำที่ห้องพี่ชินจนเกือบเที่ยงคืนกว่าจะเสร็จวันนี้มีอีกแล้วเหรอ

“เออดิ กูไม่ได้ใช่มึงฟรีๆหรอกน่า ที่กูสอนการบ้านมึงกูยังไม่เคยบ่น”  ไม่บ่นเพราะพี่ด่าผมเลยไงที่นี้ทำเป็นลืม

“แต่วันนี้ผมมีรายงานต้องทำ”

“มึงก็ทำของมึงก่อนเสร็จแล้วค่อยทำของกู หรือจะทำของกูก่อน” สรุปแล้วผมต้องทำทั้งสองอย่างว่างั้น แล้วกูจะได้นอนไหมวะแค่คิดก็อยากหลับแล้วครับ

“ไม่! ทำของผมก่อนดิ เรื่องอะไรจะทำของพี่ก่อน” ผมว่าก่อนเดินไปเปิดโน๊ตบุ๊คเตรียมทำงาน พี่ชินก็เดินไปหยิบโน๊ตบุ๊คของตัวเองมาวางบนโต๊ะญี่ปุ่นตัวเดียวกับผมแต่นั่งตรงข้ามกัน

“มองอะไรทำงานมึงไปดิ กูรู้ว่ากูหล่อแต่ไม่ต้องมองขนาดนั้น”  ผมขยับปากบอกว่า “หล่อตายล่ะ”แบบไม่ออกเสียงใส่ก่อนก้มหน้าทำงานต่อ พี่ชินก็ยิ้มขำๆซะงั้น

ไอ้พี่ชินแม่งขี้หวงมองนิดมองหน่อยทำเป็นหวง ผมไม่ได้มองเพราะหล่อแต่มองเพราะความเคยชินครับ เวลาผมอยู่กับพี่ชินผมมักจะเผลอมองพี่ชินบ่อยๆรู้ตัวอีกทีสายตาก็ไปอยู่ที่หน้าหรือไม่ก็ริมฝีปากแล้วครับ



“วีๆ ไอ้วีง่วงก็ไปอาบน้ำนอน” ผมเผลอหลับฟุบไปกับหน้าคอมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ครับ

“อีกเดี๋ยวนึงพี่ใกล้เสร็จแล้ว”  ว่าไปปากก็หาวน้ำตาไหลเลย

“มึงพิมพ์ไม่เป็นภาษาคนแล้วเนี๊ยะ ไปอาบน้ำให้ตาสว่างแล้วค่อยมาทำต่อ” พี่ชินชะโงกหน้ามามองรายงานที่ผมกำลังพิมพ์แต่เริ่มอ่านไม่เป็นภาษาแล้วครับ

“งั้นเดี๋ยวมานะพี่” ผมว่าก่อนลุกไปอาบน้ำ อาบเสร็จออกมาเห็นพี่ชินกำลังตั้งใจพิมพ์งานของตัวเองไม่ได้สนใจผมที่ยืนดูเงียบๆ มือที่กำลังรัวนิ้วบนคีย์บอร์ดไวจนผมแทบมองไม่ทัน  ตอนทำงานก็ใส่แว่นด้วย ปกติก็ดูดีอยู่แล้วเวลาใส่แว่นยิ่งดูเท่เพิ่มขึ้นไปอีก

“ไปใส่เสื้อเดี๋ยวก็เป็นหวัด”  สะดุ้งเลยผม นึกว่าไม่เห็นขนาดผมยืนข้างหลังยังรู้อีกว่าไม่ได้ใส่เสื้อ ไม่ต้องรอให้บอกรอบสองผมรีบเดินไปใส่เสื้อยืดตัวใหญ่ที่ใส่มาตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว ตอนนี้ก็ยังใส่ได้แม้มันจะเก่าจนเรียกว่าเน่า แต่ก็ใส่สบายครับ

“งานพี่ใกล้เสร็จรึยัง” ผมถามเมื่อเดินไปใกล้ ตอนนี้จะตี 1 แล้วครับ

“อีกเยอะ มึงจะช่วยได้รึยัง”

“ยังๆ ของผมยังไม่เสร็จเลย” ผมรีบว่าก่อนกลับมานั่งที่ตัวเองแล้วลงมือพิมพ์รายงานต่อ พี่ชินก็มองผมด้วยหางตาเหมือนหมั่นไส้ ก่อนทำงานของตัวเองอีกครั้ง



“ตอนเที่ยงกูมารับ”

“รับไปไหนพี่ ผมนัดดูหนังกับเพื่อน” ผมถามพี่ชินที่บอกจะมารับผมก่อนลงรถ

วันนี้พี่ชินมาส่งผมที่คณะตั้งแต่เช้า เมื่อคืนก็ค้างห้องผมอีกตามเคย ผมหลับไปตอนไหนไม่รู้ครับงานตัวเองก็ไม่เสร็จ งานพี่ชินก็ไม่ได้ทำ เช้าตื่นมาด้วยพลังนาฬิกาปลุก 3 เครื่องผมอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้วแถมมีพี่ชินนอนข้างๆอีก 

พอนึกได้ว่ารายงานไม่เสร็จก็รีบไปเปิดเครื่องเพื่อทำต่อเพราะต้องส่งเช้านี้ปรากฏว่ารายงานเสร็จแล้วครับ ดีกว่าผมทำเองอีก  จริงๆพี่ชินมันก็ใจดีเหมือนกันนะครับทำให้ผมด้วย ถ้ารู้ว่าจะทำให้แบบนี้ผมนอนไปตั้งแต่ 4 ทุ่มแล้ว ไม่นั่งทำจนตาแทบหลุดหรอกแต่ไม่รู้พี่ชินได้นอนตอนไหน ทั้งงานผมทั้งงานตัวเอง


“ไปกับเพื่อนที่ไหนวะ” จะอยากรู้ไปทำไมไม่เข้าใจ

“ก็เพื่อนในคลาสผมไง ไอ้แบตกับลูกแพรน่ะพี่รู้จักไหม”  ผมขี้เกียจหาเรื่องเลยตอบๆไป

“งั้นกูไปด้วย”

“ไปไหนพี่” ผมถามพร้อมทำหน้าสงสัยเต็มที่ หรือได้ยินผิดวะ

“ก็มึงจะไปดูหนังไม่ใช่เหรอ กูบอกจะไปดูด้วยไง ไม่ได้ดูมานานแล้ว”

“ไปจริงอ่ะ ผมไปกับเพื่อนนะ” พี่ชินมันจะไปทำไมวะแปลกคน ผมก็บอกว่าจะไปกับเพื่อน หรือไอ้พี่ชินมันไม่มีเพื่อนแล้ว

“เออดิ เดี๋ยวกูมารับไปรถกูนี่แหละทั้งมึงทั้งเพื่อน” อ๋อ ผมว่าแล้วที่ขอไปนี่เพราะลูกแพรไปด้วยแน่ๆครับ  ผมลืมไปเลยว่าพี่ชินมันชอบลูกแพรไม่งั้นคงไม่ขอไปด้วย

“ก็ได้ครับ แต่พี่ต้องเลี้ยงหนังผมกับเพื่อนนะ ไม่งั้นไม่ให้ไป” ผมต่อรอง

“มึงนี่มันงกยังไงก็งกไม่เลิกเนอะ”

“แล้วพี่จะเอาไง ไปหรือไม่ไป” ผมถามเร่ง

“ไป!” โธ่ ก็ถึงว่าจะไม่ไป ดันหันมาตอบเสียงดังว่าไปซะงั้น

“งั้นเตรียมมาหมดตัวได้เลยครับ พี่มาถึงแล้วก็โทรหาผมนะ”  ผมบอกพี่ชินล้อๆเมื่อพี่ชินพยักหน้ารับรู้ ผมเลยเปิดประตูลงรถแล้วเดินเข้าคณะ ตอนแรกว่าจะไม่ให้ไปด้วยแต่คิดอีกทีเอาไปเป็นเสี่ยกระเป๋าหนักเลี้ยงหนังก็ดีเหมือนกันแถมจะได้ไปเห็นไอ้แบตกับลูกแพรสวีทกันด้วยจะได้ตัดใจ แบบนี้เรียกกำไรเห็นๆครับ ได้ดูหนังฟรีพร้อมกำจัดศัตรูหัวใจให้เพื่อนด้วยผมนี่โคตรฉลาดเลย


“มึงเอาพี่ชินมาด้วยทำไมวะ” ไอ้แบตแอบกระซิบถามก่อนเข้าโรงหนัง

“กูไม่ได้เอามาแต่พี่ชินตามกูมาเอง” ผมก็กระซิบตอบไม่ดังนักเพราะพี่ชินเดินตามหลังผมอยู่

“ไอ้เชี้ย แบบนี้พี่ชินต้องคิดอะไรกับมึงแน่ๆ ไม่งั้นไม่ตามมึงหรอก”

   “ผิดแล้ว พี่เขาไม่ได้คิดกับกู แต่เค้าคิดกับลูกแพรต่างหาก พี่ชินนะชอบลูกแพรมึงระวังไว้ให้ดีนะ” ผมตัดสินใจบอกให้มันได้ระวังตัว ถ้าเผลอพี่ชินมันจะทำคะแนนนำซะก่อนเพราะเมื่อกี้ก็เห็นอาสาซื้อน้ำซื้อขนมให้

“แต่กูว่ากูมองไม่ผิด”

“เรื่องของมึงไม่เชื่อก็ตามใจ” ขี้เกียจจะเถียงกับมันครับ ปล่อยแม่งไปเดี๋ยวก็รู้เอง

“กูเชื่อมึงก็ได้ แหมเรื่องแค่นี้ทำเป็นหงุดหงิด ไปๆดูหนังกัน” เป็นอะไรของมันวะ อยู่ๆก็เสียงดังขึ้นมาแล้วยังจะมากอดคอผมอีก

“ไอ้วี เอาน้ำมากินบ้างดิ”

“อ้าวเมื่อกี้ผมถามบอกว่าไม่เอา” ตอนจะซื้อบอกไม่เอา ตอนนี้จะมาขอกิน ผมหันไปถามงงๆ

“ก็ตอนนี้กูอยากกินมีอะไรไหม” ใครจะอยากมีเรื่องด้วย ทำหน้ากวนตีนขนาดนั้น

“ไม่มีครับ อ่ะน้ำจะกินก็กินไป”  ผมว่าก่อนเดินถือน้ำมาให้พี่ชินที่ไปนั่งตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ครับ

“หึหึ” เสียงไอ้เชี้ยแบตหัวเราะตามหลัง  ผมหันกลับไปมองว่ามันหัวเราะทำไมมันดันมายักไหล่กวนใส่ผมอีก ทำไมรอบตัวผมมีแต่คนกวนตีนวะ

“วีแพรมีอะไรจะบอก” ลูกแพรที่นั่งห่างพี่ชินออกไปไม่มากเท่าไหร่ เรียกผมบ้าง

“เรื่องอะไรเหรอ ทำไมทำหน้าแปลกๆ”

“คือเรื่องพี่ตินณ์น่ะ”

“พี่ตินณ์มีอะไรเหรอ” ผมยิ่งงงหนักกว่าเก่า

“เมื่อวานคนที่ขับรถมารับแพรพร้อมพี่พรตคือพี่ตินณ์” ผมว่าแล้วทำไมรถเหมือนของพี่ตินณ์ที่แท้ก็รถพี่ตินณ์จริงๆด้วยครับ

“แล้วยังไง ทำไมพี่ตินณ์ถึงไปกับพี่พรตได้ล่ะ เขารู้จักกันเหรอ” ผมถามต่อทันที

“แพรคิดว่าพี่ตินณ์กับพี่พรต...”

“ไอ้วี ลูกแพรโรงหนังเปิดแล้วครับ เข้าไปข้างในกันเถอะ” ลูกแพรยังพูดไม่ทันจบ พี่ชินดันเรียกเข้าโรงซะก่อน ผมกับลูกแพรมองหน้ากันก่อนจะเดินตาม ไอ้แบตกับพี่ชินเข้าโรงหนังก่อน เดี๋ยวค่อยถามเรื่องพี่ตินณ์ใหม่ก็ได้ครับ

เข้ามาในโรงหนังได้ไม่รู้เป็นอะไรไอ้แบตกับพี่ชินดันจะเรื่องมากอยากนั่งเก้าอี้ตัวเดียวกันเป็นเก้าอี้ระหว่างผมกับลูกแพร ด้านซ้ายผมมีคนนั่งอยู่ก่อน แต่ด้านขวาผมว่างเลยแย่งกันซะงั้น แต่ผมงงว่านั่งตรงไหนก็ได้นั่งข้างลูกแพรทั้งซ้ายขวาแล้วจะมาแย่งเก้าอี้ตัวเดียวกันทำไม

สุดท้ายพี่ชินก็ได้นั่ง ก่อนผมจะเห็นไอ้แบตมันยิ้มขำๆ แล้วไปนั่งข้างแพรอีกฝั่งเป็นคนสุดท้าย ผมรู้สึกเหมือนมันจะแกล้งพี่ชินแต่บางทีผมอาจคิดไปเอง


                     ----- To be Con.-----

           ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์และการติดตามค่ะ  :กอด1: :-[
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 15 up 25/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-09-2014 20:48:34
คิดถึงติณพรตๆๆ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 15 up 25/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 25-09-2014 20:56:09
เค้าเป็นแฟนกันจ้ะหนูวี หนูต้องมองแต่พี่ชินนะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 15 up 25/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 25-09-2014 21:06:37
พี่ชินเรียกได้ถูกจังหวะมาก ลูกแพรยังไม่ได้บอกเลย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 15 up 25/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 25-09-2014 21:13:03
ชินรู้ตัวได้ละว่าชินชอบ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 15 up 25/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 25-09-2014 21:13:14
ชินรู้ตัวได้ละว่าชินชอบ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 15 up 25/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 25-09-2014 21:13:25
ชินรู้ตัวได้ละว่าชินชอบ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 15 up 25/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 25-09-2014 21:14:05
ชินรู้ตัวได้ละว่าชินชอบ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 15 up 25/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: april day ที่ 25-09-2014 21:45:32
น้องวีค่ะ พี่ชินรุกหนูขนาดนี้ หนูรู้สึกสักนิดบ้างก็ดีนะคะ เริ่มเหนื่อยแทนพี่ชิน
ส่วนน้องแบต แกล้งพี่ชินต่อไปค่ะ พี่ชินโกรธคือความสุขของเรา  :hao7:
เป็นกำลังใจให้คนเขียน รออ่านตอนต่อไปค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 15 up 25/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 25-09-2014 22:01:35
พี่ชินต้องรุกมากกว่านี้แล้ว
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 15 up 25/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 25-09-2014 22:29:18
 :pig4: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 15 up 25/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 25-09-2014 23:17:13
วีรู้ัตัวสัักทีว่าพี่ชินแอบชอบอยู่
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 15 up 25/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 26-09-2014 19:03:34
ชอบก้อบอกเพ่ !!!! น้องวี มันอึน 555555

ปล่อยนานนน น้องโดน มคปด . นะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 15 up 25/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 26-09-2014 20:08:00
ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยยิแต่ก็เข้าใจนะ ใครมันจะคิดว่าผู้ชายด้วยกันมันจะชอบ ผู้หญิงมาทำแนวๆนี้ก็ว่าไปอย่าง
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 15 up 25/9/2014 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: Teddysdeath ที่ 26-09-2014 22:14:41
อีพี่ชินจะจีบก็จีบดีๆเซ่ เมื่อไหร่น้องมันจะมาตกหลุมเล่า :katai1:
หัวข้อ: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 16 up 26/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 26-09-2014 23:07:36
         ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 16


“มัวทำอะไรอยู่วะ ทำไมลงมาช้า กูรอจนยุงจะหามไปทำพันธุ์แล้วเนี๊ยะ”

ถ้าถามว่าในชีวิตผม คนรู้จักใครปากจัดที่สุดผมจะยกตำแหน่งให้พี่ชินอย่างไม่มีลังเลเลยครับ แค่ผมขึ้นไปเปลี่ยนชุดไม่ถึง 15 นาทีลงมาพี่แกเล่นบ่นไฟแลบ

   “แล้วใครบอกให้พี่ออกมาคอยผมข้างนอกล่ะ ทำไมไม่รอในรถ” ผมถามอย่างแปลกใจ รอในรถสบายกว่าตั้งเยอะออกมารอทำไมข้างนอกวะ

   “กูจะรอตรงไหนก็เรื่องของกู ไปขึ้นรถ” เรื่องของพี่แล้วมาว่าผมทำไม ผมผิดอะไรเนี๊ยะ ผมเกาหัวงงๆก่อนเดินขึ้นรถ คืนนี้มีงานเลี้ยงสายเทคเรียนเสร็จผมรีบมาเปลี่ยนชุดก่อนพี่ชินจะมารับไปร้าน นัดกับพี่ฝิ่นพี่นัทไว้ตอนหนึ่งทุ่มครับ

   “ร้านนี้เหรอพี่” ผมถามก่อนมองป้ายหน้าร้าน It’s Me Bar เป็นร้านอาหารกึ่งผับ เห็นแล้วถึงกับต้องกลืนน้ำลายเลยครับ ร้านเหล้าแบบนี้ผมจะเมาหลุดรึเปล่าไม่รู้ครับ

   “ร้านนี้แหละพวกเราวิศวะชอบมากินร้านนี้ เป็นร้านของรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว” พี่ชินบอกก่อนเดินนำเข้าร้านเงียบๆ

   “โอ๊ะ!!” กำลังเดินตามพี่ชินอยู่ๆก็มีคนเดินมาชนจนเกือบล้ม ดีที่พี่ชินหันมามองแล้วคว้าผมไว้ทัน

   “เป็นอะไรรึเปล่า” 

   “ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณครับพี่” ผมพยุงตัวเองขึ้นยืนตรงอีกครั้งก่อนตอบพี่ชินที่แสดงสีหน้าเป็นห่วงชัดเจน

   “ขอโทษครับผมไม่ได้ตั้งใจ” ผู้ชายที่ชนผมรีบขอโทษก่อนก้มเก็บกีตาร์ที่หล่นลงพื้น ยังเด็กอยู่เลยครับน่าจะอยู่ประมาณ ม.ปลาย เวลาพูดผมเห็นเหล็กดัดฟันที่เรียงตัวสีสวย แถมยังใส่แว่นเหมือนเด็กเนิร์ดด้วย แต่ไม่รู้ทำไมมาเที่ยวที่แบบนี้ก็ไม่รู้ครับ  ผมมองอย่างแปลกใจ

   “ไม่เป็นไรครับ พี่ไม่ได้เจ็บอะไร”  ผมตอบยิ้มๆ

   “ไอ้กาวมึงจะทำไหมงานน่ะ ถ้าไม่ทำกูจะได้ไล่ออกซะที” อยู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นข้างหลังผม พอหันไปก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งหน้าสวยได้รูป ปากนิดจมูกหน่อย  ผิวขาวเนียนแบบที่ผู้หญิงยังอาย  แต่บรรยากาศรอบตัวดูน่ากลัวขัดกับหน้าตาเลยครับ เพราะนอกจากตอนนี้สีหน้าจะดุแล้วยังมีบอดี้การ์ดเดินตามหลังถึง 2 คนช่วยเสริมให้ดูน่าเกรงขามขึ้นไปอีกครับ

   “ทำครับทำ วันนี้ผมสายยังไม่ถึง 10 นาทีเลย พี่อย่าเพิ่งไล่ผมออกดิ”

   “ถ้าทำก็เข้าไปเตรียมตัว ก่อนกูจะเปลี่ยนใจไล่มึงออก แม่งสายได้ทุกวัน”

   “คร๊าบเฮียไปแล้วคร๊าบ ขอโทษอีกครั้งนะครับพี่ ถ้าเจ็บตรงไหนบอกผมได้เลยผมเล่นดนตรีอยู่ที่นี่ รับรองผมรับผิดชอบเต็มที่ ไปก่อนนะพี่” เด็กที่ถูกเรียกว่ากาวหันมาพูดกับผมก่อนเดินยิ้มเข้าไปในร้าน ไม่ได้มีท่าทีเกรงกลัวต่อคนที่ตัวเองเรียกว่าเฮียเลยซักนิด

   “หวัดดีครับพี่มิน” อยู่ๆพี่ชินที่เงียบมาตลอดก็เอ่ยทักคนหน้าสวยที่ยืนตรงหน้าผมซะงั้น พี่ชินมันรู้จักคนที่หน้าตาดีขนาดนี้ด้วยเหรอวะ

   “อ้าวชินเองเหรอ โทษทีไม่ทันเห็นมัวแต่โมโหเด็กในร้าน แม่งมาทำงานสายได้ทุกวัน”    

   “ไม่เป็นไรครับ วันนี้ผมมาเลี้ยงสาย พี่มาแจมด้วยกันไหมครับ”

   “ตามสบายว่ะพี่ดูร้านก่อน เรียบร้อยแล้วจะแวะไป เห็นไอ้นัทกับเพื่อนมาแล้วอยู่ข้างใน”

   “ครับ พี่นี่น้องเทคผมชื่อวี วีนี่พี่มินเจ้าของร้าน” พี่ชินแนะนำผมกับมินให้ได้รู้จักกัน

   “สวัสดีครับ” ผมไหว้ทักทายพี่มินตามมารยาทก่อนยิ้มให้

   “ยินดีที่ได้รู้จักครับ น้องเทคหน้าตาน่ารักดีนะ ตามสบายเลยเดี๋ยวพี่ให้เด็กพาไป ไอ้ยูสพาน้องไปโต๊ะไอ้ตินณ์ดิ๊” พี่มินทักทายผมก่อนยิ้มน้อยๆ แล้วให้ลูกน้องที่เดินตามพาผมกับพี่ชินมาที่โต๊ะ

   ตอนแรกผมนึกว่าโต๊ะจะอยู่ในโซนผับแต่ไม่ใช่ครับ โต๊ะอยู่ข้างนอกโซนร้านอาหารนั่งชิว คนคงจะเยอะเลยเอาโต๊ะมาเรียงต่อกันเป็นแนวยาว ตอนนี้ที่โต๊ะ มีพี่ตินณ์ พี่คิม พี่โฟม พี่นัท พี่อาร์มเพื่อนมาครบทั้งกลุ่มเลยครับ นอกนั้นก็เป็นรุ่นพี่ปี 2 กับพี่ 4  สงสัยเลี้ยงพร้อมกันหมด

   “หวัดดีครับพี่” ผมไหว้รวมเลยครับ ไหว้ทีละคนไม่ไหวกว่าจะครบคงเช้าพอดี บรรดารุ่นพี่ต่างหันมามองผมแล้วยกมือทักทาย ก่อนผมจะเดินไปนั่งข้างพี่นัทรุ่นพี่ปี 3ที่ยกมือเรียก ถัดจากพี่นัทเป็นพี่ฝิ่นรุ่นพี่ปี 4 ส่วนพี่ชินนั่งที่ว่างข้างๆผม

   ตรงข้ามผมตอนนี้เป็นสายเทคพี่โฟมที่มากันครบแล้วครับ ถัดจากพี่โฟมเป็นสายเทคพี่ตินณ์ ตรงข้ามพี่ตินณ์หรือที่นั่งถัดจากสายเทคผมจะเป็นสายเทคพี่คิมครับ ส่วนสายพี่อาร์มนั่งแถวๆหัวโต๊ะทั้งสองฝั่งเลยครับ

นั่งได้ไม่นานผมก็เห็นลูกแพรเดินเข้ามาในร้าน ตอนแรกก็งงเหมือนกันว่าลูกแพรมาทำไมแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าลูกแพรอยู่สายเทคพี่คิมครับ  ก็พี่แกไม่ค่อยสนใจจนผมลืมไปเลย ของผมยังดีหน่อยที่พี่นัทโทรมาหาคุยบ้างแม้จะไม่บ่อยแต่ก็ไม่ได้หายไปเลย นานทียังมีปรึกษาเรื่องรายงานหรือสอนแคลคูลัสที่ผมไม่ค่อยเข้าใจ แต่พี่คิมนี่เงียบสุดๆเท่าที่จำได้ลูกแพรเคยได้ M 150 ขวดเดียวแล้วเงียบไปเลย ในกลุ่มพี่ตินณ์ทั้งหมด 5 คนผมบอกเลยว่าผมกลัวพี่คิมมากสุดครับก็แกทั้งเงียบ ทั้งนิ่ง แถมยังมีรังสีเย็นๆแผ่ออกมากับมาดนักเลงตลอดเวลาจะไม่ให้ผมกลัวได้ยังไง

   “แพรไม่รู้ว่าวีมาด้วยไม่งั้นจะได้มาพร้อมกัน” ลูกแพรทักผมหลังหยุดคุยอะไรกับพี่ตินณ์ซักอย่าง

   “วีก็ลืมว่าแพรเป็นน้องพี่คิม ตอนแพรเดินเข้ามายังแปลกใจอยู่เลย” ผมตอบกลับก่อนเหลือบไปมองพี่คิมที่กำลังเลือกเมนูอาหาร

   “บางทีแพรเองยังลืมเลยว่าเป็นน้องพี่คิม   ฮ๊ะๆๆ”

“นั่นสิ ถ้าไม่เจอแพรที่นี่วีคงลืมไปเลย” ผมบอกก่อนหัวเราะตามลูกแพร

“พี่คิมสนใจแพรม๊ากมากเนอะ แพรควรดีใจใช่ไหม แต่แพรอยากนั่งกับวีตรงนี้อ่ะ ดูแล้วคงไม่ได้ยังไงเดี๋ยวแพรจะแอบมาคุยด้วยบ่อยๆนะ”

“อืม มาได้ก็มาแต่ถ้ามาไม่ได้เดี๋ยวเจอกันตอนงานเลิกก็ได้” ผมบอกเมื่อเห็นพี่เทคของลูกแพรเริ่มกวักมือเรียก

“โอเค งั้นแพรไปก่อนนะ พี่เทคแพรเรียกแล้ว” ลูกแพรยิ้มให้ผมก่อนเดินไปนั่งข้างพี่เทคของตัวเอง

“เอาอะไรสั่งได้เต็มที่เลยนะวี” พี่นัทที่นั่งข้างยื่นเมนูให้ผม งานนี้ผมถือว่าพี่นัทอนุญาตแล้วไม่มีคำว่าเกรงใจครับ

“ผมว่าพี่นัทคิดผิดแล้วล่ะที่เอามันมาเลี้ยง” ไอ้พี่ชินแม่งดิสเครดิตครับ น่าหาอะไรอุดปากจริงๆ

“กูถึงได้เอามาเลี้ยงพร้อมกันไง เวลาหารมันจะได้สบายกระเป๋าหน่อย ฮ่าๆๆ โอ๊ะ” พี่นัทมองรอบๆโต๊ะก่อนหัวเราะ แล้วอยู่ๆขวดน้ำเปล่าก็ปลิวมากระแทกหัวอย่างจัง ทุกสายตาบนโต๊ะมองไปที่จุดเดียวปรากฏว่าพี่อาร์มเป็นคนปาขวดใส่พี่นัทก่อนหัวเราะสะใจแล้วทำหน้ากวนๆล้อเลียนเรียกเสียงหัวเราะได้ทั้งโต๊ะเลยครับ กลุ่มนี้ดูสนิทกันดี

“เอาไก่ผัดเม็ดมะม่วงไหม” รู้ได้ไงวะว่าผมชอบ ผมคิดก่อนพยักหน้ารัวๆให้พี่ชิน

“พี่เอาหมึกไข่นึ่งมะนาวด้วยนะ” เปิดเจอพอดีกำลังเปรี้ยวปากอยากกินเลยครับ

“เออ” หึหึ เสร็จผมล่ะงานนี้ ให้ห่อใส่กล่องกลับไปกินห้องด้วยได้ไหมน้า เผื่อจะได้ประหยัดค่าอาหารเช้าไปได้อีกซักมื้อ

“พี่ชินพี่เอาอะไรไหม” ผมหันไปถามเมื่อเลือกของตัวเองที่ตัวเองอยากได้เสร็จแล้ว

“ไม่เอา แค่กินที่มึงสั่งมานี่ก็ไม่รู้จะหมดรึเปล่า”

“เฮ้ยอะไรอ่ะ พี่คิดจะแย่งผมกินเหรอ” ผมถามเสียงดัง รู้สึกตัวอีกทีคนมองเต็มโต๊ะแล้วครับ ก็มันเคยชิน ลืมไปเลยว่าผมไม่ได้อยู่กับพี่ชินแค่ 2 คน

“ได้ขี้งก คิดจะแดกคนเดียวระวังขี้แตกนะมึง” ไร้มารยาทสิ้นดีไอ้พี่ชินแม่งเสือกมาพูดเรื่องขี้ๆบนโต๊ะอาหารได้ไงวะ

“เอาไปกินแล้วก็เงียบๆไปเลยพี่ชิน” ผมว่าก่อนตักปลาราดพริกที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วใส่จานให้ 2 ช้อนเต็มๆ ไม่รู้ใครสั่งไว้แต่กะว่าจะแกล้งไอ้พี่ชินซะหน่อยดันมายิ้มแล้วตักกินน่าตาเฉยเลยครับ

แล้วใจผมเป็นอะไรอีกวะแค่เห็นรอยยิ้มพี่ชินทำไมมันต้องหายใจสะดุดแล้วเต้นเร็วแบบนี้ด้วย เห็นหน้ากันมาตั้งนานนึกว่าจะอาการนี้จะหายแต่ที่ไหนได้นอกจากไม่หายแล้วยังเป็นหนักขึ้นอีกครับ

“พี่น้องสองคนนี้สนิทกันดีนะ” พี่นัทหันมาแซวผมยิ้มๆ

“สนิทกันมากๆระวังจะกลายเป็นรักไม่รู้ตัวนะเว้ย”

“แค่กๆๆ” พี่โฟมแซวผมเสียงดังข้ามฝั่งมาอีกคน เล่นเอาผมที่กำลังซดน้ำต้มยำเกือบสำลัก ขึ้นจมูกเลยไหมล่ะ

“เฮ้ยเป็นอะไรรึเปล่าวะ” พี่ชินรีบหยิบแก้วน้ำส่งให้พร้อมมือลูบหลังไม่หยุด

“ไม่เป็นไรครับพี่” ผมหันไปตอบก่อนเผลอสบตากัน

วินาทีนั้นคำพูดของพี่โฟมลอยเข้ามาในหัวผมอีกครั้ง หรือว่ามันจะเป็นอย่างที่พี่โฟมพูด อาการที่ผมเป็นนี่เรียกว่าผมกำลังตกหลุมรักพี่ชินโดยไม่รู้ตัวรึเปล่า ไม่งั้นผมจะใจเต้นทำไมบ่อยๆ

 แต่มันไม่เห็นเหมือนตอนที่ผมรู้สึกใจเต้นกับพี่ตินณ์เลย

งั้นคงเป็นไปไม่ได้หรอก แค่ไอ้พี่ชินมันหล่อ มันเท่ มันดูดี  มันสูง มันขาว ขามันยาวแบบที่ผมอยากจะมีเท่านั้นแหละ รักอะไรไม่ใช่หรอก

“ไม่เป็นไรก็กินต่อดิ จ้องหน้ากูทำไม หน้ากูเหมือนผัวแม่มึงรึไง”

สัส! ผมขอถอนคำพูด ผมไม่มีทางหลงรักผู้ชายปากหมาแบบนี้ไม่แน่นอนครับ ต้องสุภาพ แต่แบดบอยแบบผู้ดีเหมือนพี่ตินณ์สิถึงจะควรค่าแก่การใฝ่หา ไม่ใช่คนปากหมาแบบพี่ชิน ผมไม่น่าเสียเวลาคิดให้รกสมองเลยให้ตาย

“หน้าแบบพี่เทียบขี้ตีนพ่อผมยังไม่ได้เลยเห่อะ” เมื่อคิดได้ผมรีบหันไปว่าพี่ชินทันที ศึกนี้ผมจะพ่ายไม่ได้

“กินๆ อย่าเพิ่งทะเลาะกัน” พี่คิมที่นั่งคุยกับพี่ตินณ์หันมาบอกผมกับพี่ชินให้กินต่อ จากที่พี่ชินเหมือนจะพูดอะไรซักอย่างตอนนี้ถึงกับหุบปากสนิทเลยครับ

“อ้าววีทำไมไม่มีแก้วเหล้าล่ะ กินแต่น้ำเปล่าได้ไง” เอาแล้วไง คิดว่าจะรอดแล้วเชียว นั่งเนียนมาตั้งนานสุดท้ายไม่รอด เมื่อพี่ฝิ่นมองหาแก้วเหล้าผมไม่เจอ

ตอนนี้บนโต๊ะมีทั้งคนที่กินเหล้า กินเบียร์ สาวๆก็กินสไปร์เกือบทุกคนมีแก้วเครื่องดื่มที่มากกว่าน้ำเปล่า แม้กระทั้งลูกแพรยังมีแก้วสไปร์เป็นของตัวเอง แต่ผมแอบเนียนบอกเด็กเสิร์ฟว่าไม่เอาไง เพราะรู้ว่าตัวเองคออ่อนไม่อยากอายคนอื่นครับ

“ผมไม่เอาได้ไหมพี่ ผมดื่มไม่เป็น” ผมบอกพี่ฝิ่น

“ได้ไงเป็นผู้ชายมันต้องกินเหล้าเป็นดิ ไม่งั้นจะไปมอมเหล้าสาวได้ไงจริงไหมตินณ์” พี่ฝิ่นพูดกับผมก่อนไปลงที่พี่ตินณ์ซะงั้น ผมดูแล้วเหมือนพี่ฝิ่นจะสนิทกับพี่ตินณ์แล้วก็พี่คิมมากที่สุดในโต๊ะ

“อย่างไอ้ตินณ์มันไม่ต้องมอมเหล้าผู้หญิงก็พร้อมพลีกายถวายร่างให้จนคิวแทบจัดไม่ไหวแล้วพี่” พี่โฟมพูดขึ้นบ้าง

“สัส! ไม่ได้ขนาดนั้น” พี่ตินณ์ว่าก่อนทำตาดุๆใส่พี่โฟม

“ไม่ใช่ขนาดนั้นแต่มากกว่านั้นดิ อย่าให้กูพูดว่าเด็กมึงเยอะขนาดไหน” พี่คิมที่นั่งฟังเงียบๆมานานพูดขึ้นบ้าง

“เออ รุมกูนะไอ้พวกเชี้ย วีอย่าไปฟังมากพวกไร้สาระ น้องขอแก้วเปล่าใบนึง มาๆพี่รินเหล้าให้” ผมเข้าใจนะไอ้เรื่องไร้สาระน่ะ แต่ทำไมพี่ต้องขอแก้วให้ผมด้วยวะ ผมไม่อยากด๊าย

“พี่ตินณ์ผมว่าอย่าให้วีกินเหล้าเลยครับ มันคออ่อนแก้วเดียวก็หลุดแล้ว” ผมเพิ่งเห็นความดีพี่ก็ตรงนี้แหละครับ ช่วยผมหน่อยนะผมยังอยากกินหมึกนึ่งมะนาวต่อผมยังไม่อยากเมา

“ไม่ได้ๆ กูเลี้ยงทั้งทีมันต้องชน อ่ะมาชนหน่อย” พี่ตินณ์พูดเสร็จยกแก้วเหล้าขึ้นทำท่าชน ผมเลยต้องรับแก้วเหล้าที่พี่ตินณ์รินให้แล้วส่งต่อมาให้ผมขึ้นชนกลางอากาศก่อนทำท่าจิบ แต่เหล้าไม่ได้เข้าปากเพราะผมเม้มปากไว้  ยังไงก็เมาไม่ได้ครับเสียภาพลักษณ์

“เป็นไงมึง เมาไหม”พี่ชินกระซิบถามผมให้ได้ยินกันแค่ 2 คน

“ไม่เมาพี่ผมไม่ได้กิน” ผมตอบเสียงเบาไม่แพ้กัน ก่อนจะเห็นสีหน้าโล่งใจจากพี่ชิน

หมายความว่าไงวะทำไมต้องโล่งใจด้วย

บรรยากาศบนโต๊ะดำเนินไปด้วยเสียงหัวเราะและเสียงชนแก้วกันเป็นระยะ จากที่มาถึงร้านตอน 2 ทุ่ม ตอนนี้ 4 ทุ่มกว่าแล้วครับ หลายคนเริ่มเมาจนเห็นได้ชัด คนที่ตอนแรกไม่คอยพูดก็เริ่มพูดไม่หยุด หน้าก็เปลี่ยนเป็นสีแดงได้โดยไม่ต้องอาศัเครื่องสำอางซักนิด แต่ผมสติยังมีเต็มร้อยเพราะอาศัยช่วงคนเผลอแอบเทเหล้าลงใต้โต๊ะครับ แก้วเดียวของผมอยู่ได้ทั้งงาน เวลาเทก็แอบเททีละนิดไม่ให้ผิดสังเกต

“วีๆ กินอันนี้สิอร่อยนะ” ลูกแพรเดินถือแก้มที่มีน้ำปั่นสีเขียวมาตรงหน้าผม

“อะไรเหรอ” ผมถามก่อนรับแก้วขึ้นจิบ เปรี้ยวๆหวานๆแถมมีรสขมนิดหน่อยอร่อยดีเหมือนกันครับ

“แอปเปิ้ลเขียวอร่อยดีกินเลย คึคึ” แพรพูดไปหัวเราะไปทำไมอาการเหมือนคนเมาเลยวะ

“อร่อยจริงๆด้วย หวานดีเนอะ”

“งั้นวีกินให้หมดเลยนะ เดี๋ยวแพรไปเอาบลูฮาวายมาให้อีกอร่อยเหมือนกันเลย ตรงแพรมีหลายเยือก” ทำไมน้ำปั่นถึงใส่เยือกล่ะ นึกว่ามีแก้วเดียวซะอีกผมว่าจะถามแต่ไม่ทันแล้วครับ ลูกแพรเดินกลับไปที่โต๊ะแล้ว แต่กินไปกินมามันก็อร่อยดีครับ
“ง่วงยัง ถ้าง่วงจะได้กลับ”

“ไม่ง่วงผมไม่ง่วงเลย กำลังสนุกเลยพี่” ผมหันไปตอบพี่ชินที่เพิ่งกลับมานั่งที่หลังออกไปคุยโทรศัพท์เกือบครึ่งชั่วโมง ได้ยินเหมือนแม่พี่ชินโทรมาหรือยังไงนี่แหละครับจำไม่ได้แค่คุ้นๆ ระหว่างที่พี่ชินไม่อยู่ลูกแพรเอาน้ำปั่นมาให้ผมกินทั้งหลายเยือก มีแต่อร่อยๆทั้งนั้นเลยครับ

“ไอ้วีทำไมหน้ามึงแดงๆ”

“แดงที่ไหนไม่แดงซะหน่อย ไม่เชื่อพี่ดูใกล้ๆดิ” บอกไม่แดงๆ ไม่เชื่อยื่นหน้าให้ดูซะเลย

“เฮ้ยเข้ามาใกล้ทำไม แล้วนั่นแก้วอะไร”มาว่าผมหน้าแดง พี่นั่นแหละหน้าแดง

“น้ำปั่น พี่กินไหมอร่อยนะ อะกินดิ กิน”

“ไม่กินไม่ต้องยื่นมา นี่มันเหล้าปั่น ใช่น้ำปั่นของมึงที่ไหนล่ะ ใครเอามาให้กินวะ” หึหึ ทำไมพี่ชินมันต้องหน้าบึ้งด้วยวะ ไม่หล่อเลยสู้ตอนยิ้มก็ไม่ได้

“เสียงดังอะไรชิน” 

“พี่ฝิ่นตอนผมไม่อยู่ใครเอาเหล้าปั่นมาให้ไอ้วีเหรอครับ มันกินไปเยอะไหมพี่เห็นรึเปล่า”

“อ๋อ น้องลูกแพรเพื่อนวีไง เห็นมานั่งกินอยู่ด้วยกัน หลายเยือกเหมือนกันนะ” หลายเยือกอะไรพี่ฝิ่นจำผิดแล้วผมเพิ่งกินไปติ๊ดเดียวเอง ผมจำได้

“ซวยแล้วไง  ไอ้วีมึงเมาแล้วกลับเถอะ”

“ไม่เอาผมยังไม่กลับกำลังหนุกเลย อย่าดึงแขนดิ พี่ชินขออีกแก้วนะๆ” อยากกินน้ำปั่นอีกอ่ะ อร่อยดีมีของอร่อยก็ไม่สั่งมาให้ตั้งแต่แรก ให้กินแต่น้ำเปล่าอยู่ได้ ไอ้พี่ชินขี้หวง

“ไม่ได้มึงเมาแล้วนะ”

“เมาแล้วเหรอ ผมเมาเหรอ ม๊ายยผมไม่ได้เมา” ใครว่าผมเมา จะเมาได้ไงยังไม่ได้กินเหล้าซักหยด พี่ชินนี่มั่วจริงๆ

“ไม่เมาเชี้ยไรล่ะ พูดเป็นคนลิ้นไก่สั้นแล้วมึง” ลิ้นก่งลิ้นไก่อะไรของพี่ชินวะ ไม่รู้จัก

“พี่ครับ รถทะเบียน ชรว 99999 เป็นของโต๊ะพี่รึเปล่าครับ พอดีมีคนถอยมาชน เชิญเจ้าของไปดูหน่อยครับ” เสียงใครวะ กูไม่มีรถจะไปไหนก็ไปกำลังสนุกเลยขัดจังหวะจริงๆ

“ไอ้ชินรถมึงรึเปล่า”

“ใช่ครับ แม่งซวยชิบหายใครมันถอยมาชนวะ  พี่นัทผมฝากดูไอ้วีแป๊บนึงนะครับเดี๋ยวผมมา”

“พี่ชินจาไปไหน” ผมเรียกพี่ชินที่ทำท่าจะเดินไปไหนอีกแล้ว เพิ่งกลับมาเองจะไปอีกแล้วเหรอ ทำไมชอบทิ้งกูวะไอ้พี่บ้า

“เดี๋ยวพี่ดูให้ แล้วให้ใครไปดูเป็นเพื่อนไหม”

“ผมไงผม ให้ผมไปเป็นเพื่อนพี่ชินนะ” ไปไหนไม่รู้แต่ กูอยากไปด้วย

“ไม่ต้องเลยมึง เมาจนพูดไม่รู้เรื่อง เดินจะตรงทางรึเปล่ายังไม่รู้ นั่งอยู่นี่นิ่งไม่ต้องไปไหนนะ  เดี๋ยวผมไปเองได้ครับพี่แป๊บเดี๋ยวมา”  พี่ชินไปแล้วอ่ะ

“พี่นัทผมขอกินน้ำปั่นอีกได้ไหมครับ น้าคร๊าบผมอยากกิน”

“ได้ดิเดี๋ยวพี่สั่งให้” ว่าแล้วพี่นัทใจดีกว่าพี่ชินเยอะเลย คึคึ

อะไรวะ อะไรสั่นอยู่ที่ขา อ่อโทรศัพท์นี่เอง ไอ้แว่นโทรมาทำไมตอนนี้

“ว่างายไอ้แว่น!”

“ไอ้วีมึงเมาเหรอ มึงอยู่ไหนให้กูไปรับไหม” ทำไมต้องทำเสียงตกใจด้วยวะ กูไม่ได้เมาซะหน่อย

“ม่ายด้ายเมาซะหน่อย”

“เออๆ ไม่เมาก็ไม่เมาแล้วพี่ชินไปไหน อยู่กับมึงรึเปล่า”

“ม่ายอยู่ พี่ชินทิ้งกูปายหน่ายม่ายรู้”

“เฮ้ยแล้วตรงนั้นมีใครบ้าง มึงจะกลับยังไงให้กูไปรับดีกว่า พี่ชินแม่งทิ้งมึงได้ไงวะ”

“กูม่ายด้ายมาว พี่นัทอยู่ พี่ตินณ์อยู่ พี่ฝิ่นก็อยู่ อยู่กานเต็มเลย คึคึ” คนอยู่เยอะแยะเลยไม่อยู่แค่พี่ชิน

“งั้นกลับพร้อมพี่ตินณ์นะ ขอพี่ตินณ์กลับด้วยให้มาส่งที่หอเลย แต่มึงอย่าไปปล้ำพี่ตินณ์ล่ะยิ่งเมาๆ รู้เรื่องไหม” เสียงดังใส่กูทำไมวะ กูได้ยินแล้ว แต่ทำไมต้องให้ปล้ำพี่ตินณ์ด้วยล่ะ ไม่เข้าใจ

“น้องวีเหล้าปั่นได้แล้วครับ” คึคึ พี่นัทเอาน้ำมาให้แล้ว

“รู้เรื่องๆ แค่นี้น้าน้ำป่านมาแล้ว”

“เออ รีบกลับนะกูเป็นห่วง” นี่ ตัดสายเลยเสียงดังดีนัก หึหึ

“อ้าวไอ้ชินไปไหนล่ะ”  ใครวะมานั่งที่พี่ชิน ตรงนี้นั่งไม่ได้นะของพี่ชิน

“รถมันโดนถอยมาชนเลยออกไปดู แล้วมึงล่ะไปโทรหาสาวที่ไหนมา” พี่นัทอย่าไปคุยกับมัน มันแย่งที่พี่ชินนะ  อ้าวพี่ตินณ์นี่น่า แต่พี่ตินณ์ก็นั่งไม่ได้นี่มันของพี่ชิน

“โทรหาเด็กว่ะแม่งดื้อชิบหาย โทรไปไม่คุย ปิดโทรศัพท์ใส่กูไปแล้ว”

“มีเด็กไม่บอกพวกกูนะมึง”

“ตรงนี้ของพี่ชิน พี่ตินณ์นั่งที่โผมหมายครับ”

“หึหึ ไม่นั่งหรอกก็วีนั่งอยู่พี่จะนั่งได้ไง  เมาแล้วใช่ไหมเนี๊ยะหน้าแดงเลย” พี่ตินณ์ขยี้หัวผมทำไม ผมยุ่งหมดแล้ว จับแก้มผมอีก เจ็บนะ

“ม่ายมาวโผมม่ายด้ายมาวซะหน่อย” ทำไมใครๆถึงชอบว่าผมเมา ผมไม่ได้เมาซะหน่อย

“ไม่เมาอะไร หน้าแดงแป๊ดขนาดนี้ แต่หน้าแดงแบบนี้ก็น่ารักดีนะ ถึงว่าไอ้ชินหวงนักหวงหนา” อื้อ พี่ตินณ์อ่ะดึงแก้มผมอีกแล้ว

“ผมไม่น่ารัก  พี่ตินณ์น่ารัก ผมรักพี่ตินณ์”

“หือรักพี่” ทำไมต้องทำหน้าสงสัยด้วยอ่ะ ก็ผมรักพี่ไง

“คร๊าบบ วีรักพี่ตินณ์”  ผมบอกรักพี่ตินณ์แล้ว คึคึ

“รักได้ไงวีเป็นผู้ชายนะ พี่ก็เป็นผู้ชาย”

“แต่ผมใจเต้นน้า เต้นตึกตักๆเลยตอนเจอพี่ ผมต้องรักพี่แน่ๆ”

“ไม่ใช่หรอกแค่ใจเต้น ไม่ได้แปลว่ารักถ้ารักต้องจูบกัน มีอะไรกันเลยนะ วีจูบกับผู้ชายได้เหรอ”

“ได้ๆ ผมจูบได้ไม่เชื่อผมจะทำให้ดู” พี่ตินณ์อย่าหนีดิ

“เฮ้ยๆ อย่าวีพี่แค่พูดให้ฟัง วีกำลังเมานะ”

“ผมม่ายมาว จูบๆพี่ตินณ์อยู่เฉยๆวีจูบไม่ได้” เกือบถึงแล้วอีกนิดเดียว พี่ตินณ์เอามือบังทำไมอ่ะ เหนื่อยเลย

“หยุดๆๆ พอแล้วพี่ไม่เล่นแล้ว”

“พี่ตินณ์ขอจูบหน่อยครับ” ไม่ให้ดีๆ ขโมยเอาก็ได้ คึคึ

“เฮ้ย! วี”  ใครกระชากอ่ะ เจ็บนะ

“ไอ้วีหยุด”  พี่ชินกับพี่คิมเรียกผมพร้อมกันเลย เรียกผมทำไมอ่ะ พี่ชินกับมาตั้งแต่เมื่อไหร่อ่าแล้วมาดึงแขนผมทำไม พี่คิมด้วยจะเอาพี่ตินณ์ไปไหน

เพี๊ยะๆ!!  เจ็บอ่ะมาตบผมทำไม

“นี่ใช่ไหมค่ะ สาเหตุที่ตินณ์บอกเลิกวิว เพราะตินณ์มาคบกับผู้ชายใช่ไหม”

“วิว...มาได้ยังไง”

“วิวจะมาได้ยังไงไม่สำคัญ แต่วิวนั่งมองมานานแล้ว ตินณ์จูบกับมัน ตินณ์ทำแบบนี้กับวิวได้ยังไง ทำไมตินณ์ถึงกลายเป็นแบบนี้”  นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมพี่วิวใส่เป็นชุดแบบนี้ แล้วคนมุงอะไรกันเยอะแยะ

“มันไม่ใช่แบบที่วิวเข้าใจ เมื่อกี้มันไม่ใช่จูบ แล้วเรื่องของเรามันก็จบไปแล้ว”

“ไม่จบ ตินณ์จบคนเดียวแต่วิวไม่จบ”

“งั้นเราออกไปคุยกันข้างนอก ในนี้คนเยอะรุ่นพี่ผมอยู่กันเต็มเลย”

“ไม่ไปวิวจะคุยตรงนี้”

“ไม่ได้ ออกไปคุยกันข้างนอก ไอ้คิม ไอ้ชินฝากดูวีด้วยนะ”

“ไอ้วี! มึงทำอะไรลงไปรู้ตัวไหม ปล่อยไม่ได้เลยนะมึง” ทำไมพี่ชินต้องดุผมด้วยล่ะ  ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย

“ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย” ผมถามเสียงเบา รู้สึกเจ็บๆปากจับดูเลือดไหลด้วยครับ พี่วิวนี่มือหนักจริงๆ

“ไม่ได้ทำเหี้ยอะไรล่ะ มึงไล่ปล้ำจูบพี่ตินณ์ คนเขาเห็นกันทั่ว”

“ห๊ะ ผมเนี๊ยะนะปล้ำจูบพี่ตินณ์” ผมถามเสียงดัง

“เออ มานี่เลยมึงไม่ต้องอยู่แล้วกลับห้อง  ผมกลับก่อนนะครับพี่”

“พี่ชินคุยกันก่อนอย่าเพิ่งดึง เบาๆผมเจ็บ”



                ----- To be Con.-----

     ขอบคุณที่ติดตามคร่าา  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 16 up 26/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: april day ที่ 26-09-2014 23:45:27
และแล้วก็ได้อ่านฉากในตำนาน น้องวีไล่จูบพี่ติณน์  :hao7:
เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 16 up 26/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 26-09-2014 23:55:35
วีเอ้ยยย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 16 up 26/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 27-09-2014 08:54:40
โดนแน่วี...พี่ชินจะทำอะไรวีไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 16 up 26/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 27-09-2014 11:49:19
โดนพี่ชินลงโทษแน่วี
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 16 up 26/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 27-09-2014 12:32:00
วีเอ๋ยแกโดนแน่
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 16 up 26/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 27-09-2014 12:43:32
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 16 up 26/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 27-09-2014 12:50:52
เมาจนได้เรื่องงงงง 5555
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 16 up 26/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 27-09-2014 14:54:41
พี่ชินจะทำยังไงต่อหล่ะทีนี้ น้องวีเล่นไล่จูบพี่ติณณ์  :z1:
รอตอนต่อไปค่ะ  :3123:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 16 up 26/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 27-09-2014 17:17:08
อ่านจบตอนที่5แล้ว
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 16 up 26/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 28-09-2014 00:04:34
ตอนแรกๆอ่ะ " คุณนายพ่อที่บูชาสามียิ่งชีพ" พ่อวีมีสามีเร้อะ!!!
แล้วที่เตะบอลกระจกแตก ตอนแรกบอก BMW ตอนหลังบอกเ็นเบนซทั้งหมด (รถยุโรปเมกา กระจกมันไม่แตกง่ายๆขนาดนั้นนะ 5555)

สนุกดี พี่ชินนี่หวงมากแต่ไม่บอกออไปสักที

มาต่อๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 16 up 26/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 28-09-2014 06:30:10
อ่ะ อ่ะ มันทำให้อยากกลับไปอ่านติณน์-พรต อีกรอบเลยอ่ะ
หัวข้อ: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 17 up 28/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 28-09-2014 23:03:02
         

              ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 17

   “พี่ชินช้าหน่อย ผมเดินไม่ทัน”  หัวก็มึน ขาก็เดินเซแต่พี่ชินลากผมไม่ปราณีเลยครับ

   “...” ผมมองแผ่นหลังของคนที่จับข้อมือผมจนเจ็บอย่างตัดพ้อ

หลังจากร้องขอให้ปล่อยก็ไม่ยอมปล่อย ให้เดินช้าลงซักนิดก็ไม่มีทีท่าว่าพี่ชินจะทำตามที่ขอ

ผู้ชายที่กำลังเดินอยู่ข้างหน้าเหมือนไม่ใช่คนที่ผมรู้จัก

ความเงียบเท่านั้นที่เป็นเพื่อนผมในตอนนี้

รู้ว่าตัวเองผิด รู้ว่าทำในสิ่งที่ไม่สมควรทำ แต่คนที่ควรจะโกรธผมต้องเป็นพี่ตินณ์สิ ไม่ใช่พี่ชินที่ตอนนี้เหมือนอยากจะฉีกเนื้อผมออกเป็นชิ้นๆ

“เข้าไป” พี่ชินลากผมมาถึงรถเบนซ์สีดำเงาที่ตอนนี้ท้ายรถมีรอยยุบให้เห็นชัดเจนก่อนปลดล็อคและสั่งให้ผมขึ้นนั่งด้วยเสียงที่แข็งจนผมอยากจะถอยหนีแทนการเข้าไปนั่งในนั้น แต่มันคงเป็นไปไม่ได้สุดท้ายผมก็เปิดประตูขึ้นไปนั่งนิ่งๆ

“คาดเข็มขัดซะ”น้ำเสียงที่สั่งไม่ต่างจากเดิม ผมได้แต่ทำตามคำสั่งเงียบๆก่อนพี่ชินจะออกรถด้วยความเร็วแบบที่ผมไม่เคยเห็นบ่อยนัก ถึงผมจะคิดว่ามันเร็วเกินไปแต่ก็ไม่คิดจะห้ามหรือท้วงติงใดๆ เพราะตอนนี้สมองผมกำลังประมวลผลว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ที่รู้ๆคือผมเมา ต้องเมาเพราะน้ำที่ลูกแพรเอามาให้กินแน่ๆ แต่เมาแล้วผมไปจูบพี่ตินณ์จริงๆเหรอ ผมไม่อยากจะเชื่อตัวเอง ผมพยายามนึกแล้วก็นึก แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก


“ไอ้วีๆ ถึงแล้วลงมา” ผมสะดุ้งตัวเพราะเสียงที่ดังใกล้ตัว ก่อนจะรู้ว่าเป็นเสียงพี่ชิน
 
ผมเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่พอได้หลับ ตื่นขึ้นมาอาการปวดหัว และความรู้สึกมึนๆที่เป็นอยู่ก่อนหน้าเหมือนจะลดลงมาก จนผมคิดว่าตอนนี้ผมมีสติเกือบร้อยเปอร์เซนต์

 “ทำไมเป็นคอนโดพี่ ผมจะกลับห้องผม” ผมบอกพี่ชินเสียงเบาหลังก้าวลงมายืนข้างรถ มองไปรอบๆก่อนจะรู้ว่าเป็นคอนโดพี่ชินไม่ใช่หอผมอย่างที่ผมนึกตอนแรก

“ไม่ต้องกลับ นอนที่นี่”

“แต่เพื่อนผมรออยู่” จำได้ลางๆว่าไอ้แบตมันโทรตาม ป่านนี้มันคงคอยแย่แล้วครับ  ถึงจะอยู่คนละห้องแต่วันไหนที่ผมไม่กลับ ถ้าไม่บอกไว้มันก็จะโทรถามตลอด

“โทรไปบอกมันว่าจะนอนค้างห้องกู”

“แต่...”

“กูบอกให้โทร มึงไม่โทรกูโทรเอง” ผมยังไม่ทันว่าอะไรพี่ชินล้วงมือเข้ามาในกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์ผมไปกดโทรหาไอ้แบตเอง  ผมได้ยินพี่ชินพูดไม่กี่คำก่อนวางสาย

“หมดปัญหาแล้วใช่ไหม ที่นี้ก็ขึ้นห้องซะที”  พูดเสร็จก็เดินห่างออกไป ผมได้แต่เดินตามเงียบๆโดยไม่กล้าขัดใจอะไรพี่ชินตอนนี้ เสี่ยงเกินไปที่จะกวนใจตอนนี้




“พี่ชินผมขอโทษ” ขอโทษที่ทำให้เรื่องวุ่นวาย ขอโทษที่ทำให้ขายหน้า

เมื่อเข้ามาอยู่ในห้องกัน 2 คน ผมทนความเงียบและเฉยชาของพี่ชินไม่ไหว จนต้องเอ่ยปากขึ้นมาก่อน จากตอนแรกที่ทำท่าโมโหเหมือนจะระเบิดออกมาได้ตลอดเวลา แต่เมื่อเวลาผ่านไปผมกลับได้รับเพียงความเฉยชา ถ้าเลือกได้ผมอยากให้พี่ชินโมโหเหมือนเก่ามากกว่า เพราะตอนนี้ผมไม่รู้ว่าพี่ชินกำลังคิดอะไรอยู่

“มึงรู้ตัวไหมว่ามึงทำอะไรลงไป”

“...”

“กูบอกมึงแล้วใช่ไหมว่าพี่ตินณ์เค้าไม่ได้สนใจมึง” พี่ชินบอกตอนไหนทำไมผมไม่เห็นจำได้

“พี่บอกผมเหรอ”

“เออ กูบอกมึงแล้วแต่มึงไม่คิดจะเชื่อกูเอง พี่ตินณ์เค้ามีคนอื่น เค้ารักคนอื่นที่ไม่ใช่มึงแล้วมึงรู้ไหม”

“พี่รู้ได้ยังไงว่าผมชอบพี่ตินณ์” ผมถามด้วยเสียงที่เริ่มสั่น

เรื่องนี้มีแค่ผม ไอ้แบตแล้วก็ลูกแพรเท่านั้นที่รู้  แต่พี่ชินกลับรู้ว่าผมชอบพี่ตินณ์ แล้วยังรู้อีกว่าพี่ตินณ์มีคนอื่นอยู่แล้วตลอดเวลาคงหัวเราะเยาะในความโง่ ความไม่เจียมตัวของผมสินะ ที่กล้าไปชอบคนที่ไม่คู่ควรกับตัวเอง

“ทำไมกูจะไม่รู้ กูรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับมึง”

“...” พี่ชินพูดก่อนหยุดไป ผมก็เงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรดีในสถานการณ์ที่กดดันนี้

“กูรู้และกูก็บอกให้มึงเลิกแต่มึงไม่เลิกเอง มึงทำแบบนั้นได้ยังไง มึงจูบพี่ตินณ์ได้ยังไง มึงให้คนอื่นมาซ้ำรอยกูทำไม” พี่ชินเสียงดังขึ้นเรื่อย แต่ในน้ำเสียงและแววตาทำไมผมรู้สึกเหมือนสัมผัสได้ถึงความปวดร้าวชั่วครู่ก่อนจางหายไปเหลือไว้แต่แววตาดุๆ  จากดวงตาสีน้ำตาลเข้ม

“พี่พูดอะไร ซ้ำรอยอะไร ผมกับพี่เคยจูบกันตอนไหน” ผมถามเสียงเครียด ถึงผมจะยังมึนๆอยู่บ้างแต่ก็จำได้ว่าไม่เคยจูบกับพี่ชินซักครั้ง

“เคย! มึงเป็นคนจูบกูเองแท้ๆแต่ทำไมถึงจำไม่ได้วะ  แล้วก็จำไว้ด้วยนะว่าตั้งแต่วันนั้นจูบมึงเป็นของกูห้ามให้ใครทั้งนั้น”

“ผมไม่เคยไปจูบพี่ซักครั้ง พี่อย่ามามั่ว”  ถ้าจูบจริงทำไมผมถึงจะจำไม่ได้

“ทำไมจะไม่เคย วันนั้นวันที่มึงรับน้องแล้วล้มลงมาจูบกูไง  หรือต้องให้กูสาธิตให้ดูว่าความรู้สึกมันเป็นแบบไหนมึงถึงจะจำได้”
คนที่ผมล้มลงไปจูบในครั้งนั้นเป็นพี่ชินเหรอ คนที่ผมสงสัยมาตลอด คนที่เอาจูบแรกของผมไปเป็นพี่ชินเองเหรอ ผมไม่อยากจะเชื่อ


“อ๊ะ...”

เพี๊ยะ!!

ระหว่างที่ผมกำลังอึ้งกับความจริงที่ได้รับรู้ อยู่ๆตัวผมก็ถูกดึงเข้าไปปะทะหน้าอกแกร่งของพี่ชินก่อนที่ริมฝีปากหนาจะบดขยี้ลงมาที่ริมฝีปากผม ด้วยอาการตกใจผมเลยเผลอผลักพี่ชินออกแล้วยกมือขึ้นตบหน้าเต็มแรง

“พี่ผมขอโทษ...ผมไม่ได้...”

“มึงตบกูเหรอ คนอื่นมึงให้ได้แต่กับกูมึงรังเกียจใช่ไหม” ผมยังพูดไม่ทันจบพี่ชินก็พูดแทรกขึ้นมาก่อนด้วยเสียงที่ดังและใบหน้าที่แสดงความไม่พอใจชัดเจน

“ไม่..ไม่ใช่แบบนั้นพี่” ผมรีบพูดแทบหาเสียงตัวเองไม่เจอ ตอนนี้กลัวพี่ชินจะต่อยคืนหรือไม่ก็กระทืบผมที่บังอาจไปทำให้หล่อแบบได้รูปขึ้นรอยแดงเป็นแนว

“ไม่ใช่แบบนั้นแล้วเป็นแบบไหนห๊ะ” พี่ชินตะคอกถามผมเสียงดัง

“ผมไม่ได้จูบกับพี่ตินณ์ ยังๆไม่โดนจริงๆนะพี่ มันไม่เหมือนที่พี่ทำ” ผมรีบพูดรัวเร็วลิ้นแทบพันกัน ทำไมผมต้องรีบอธิบายให้พี่ชินฟังก็ไม่รู้ครับ

ตอนนี้จำได้แล้วว่าผมกับพี่ตินณ์ยังไม่ได้จูบกัน จังหวะที่ผมกำลังโน้มคอพี่ตินณ์จนเกือบได้จูบอยู่ๆผมกับพี่ตินณ์ก็โดนจับแยกออกจากกัน แต่ผมไม่รู้ว่าคนอื่นจะมองว่าผมกับพี่ตินณ์จูบกันไปแล้วหรือเปล่า แต่ยังไงผมกับพี่ตินณ์รู้ดีว่ายังไม่ได้จูบแน่นอน

“ไม่ได้จูบอะไรกูเห็นกับตาว่ามึงจูบกัน”

“ผมยังไม่ได้จูบ” ผมยืนยันอีกครั้ง ก่อนจะเห็นแววตาของพี่ชินที่เปลี่ยนไป แววตาที่ดุดันเมื่อครู่ดูอ่อนลงทันที ผมไม่รู้ว่าพี่ชินจะเชื่อผมหรือเปล่า  ใครจะคิดยังไงก็ชั่งแต่อย่างน้อยคนที่ผมอยากให้เชื่อคำพูดผมมากที่สุดคือพี่ชิน

“ยังไม่ได้จูบก็ดี ต่อไปนี้ห้ามไปจูบกับใครเด็ดขาดนอกจากกู”

“พี่เชื่อผมเหรอ” ผมถามอยากแปลกใจ

“เชื่อ” เพียงแค่นี้ก็พอแล้วครับ

แต่....เมื่อกี้เหมือนผมพลาดอะไรไป 

“เดี๋ยวนะเมื่อกี้พี่ว่าอะไร พี่บอกให้ผมจูบกับพี่คนเดียวเหรอ”  แล้วทำไมต้องจูบกับพี่ชินด้วยวะ พี่ชินมันเมารึเปล่า

“ใช่ ตั้งแต่วินาทีนี้ไปมึงห้ามจูบกับใครอีก”

“พี่บ้ารึเปล่า ผมจะจูบกับพี่ทำไม”

“เป็นกูไม่ได้เหรอ...”

“...” พูดแล้วก็หยุดไปเฉยๆ ผมก็เลือกที่จะเงียบเพราะไม่เข้าใจว่าพี่ชินหมายความว่าอะไร เป็นอะไรของมันวะ

“เป็นกูไม่ได้เหรอ คนที่มึงจะรัก มึงรักกูไม่ได้เหรอ” ล้อเล่นใช่ไหม

“อะ... อะไรนะพี่ชิน พี่พูดอะไรรู้ตัวไหม” ผมถามพี่ชินด้วยเสียงที่รู้สึกว่าสั่นเต็มที ทั้งตกใจ และแปลกใจกับสิ่งที่ได้ยิน เรียกว่าช็อคเลยก็ได้ครับไม่รู้ว่าผมได้ยินผิดรึเปล่า พี่ชินขอให้ผมรักเหรอ จะเป็นไปได้ยังไง คนอย่างพี่ชินเนี๊ยะไม่มีทาง

“กูบอกว่าคนที่มึงจะรัก เป็นกูไม่ได้รึไง กูที่ทำทุกอย่างให้มีมึงอยู่ข้างๆ กูที่ใช้ทุกวิธีเพื่อเอามึงไว้กับตัว กูที่รู้ว่ามึงไม่ได้รักแต่ก็คิดว่าซักวันมึงจะเปลี่ยนใจ ขอให้เป็นกูได้ไหมคนที่มึงรัก ถ้าคนที่มึงให้ใจไปเค้าไม่ต้องการ เอากลับมาเถอะ กูขอ ให้กูได้ไหมกูจะดูแลใจมึงเอง” พี่ชินคว้าตัวผมที่กำลังอึ้งและทำตัวไม่ถูกเข้าไปกอดแน่น

ผมไม่รู้จะทำตัวอย่างไรได้แต่ยืนนิ่งปล่อยให้พี่ชินกอดอยู่อย่างนั้นเพราะสิ่งที่ได้รับรู้มันเหนือความคาดหมายจริงๆครับ  นี่ผมกำลังฝันรึเปล่าวะ

   พี่ชินคนที่ชอบแกล้ง คนที่ใช้งานผมสารพัด คนที่หงุดหงิดใส่ผมเสมอ พี่ชินคนนั้นตอนนี้กำลังขอให้ผมรักเหรอ พี่ชินที่ผมคิดว่าเกลียดขี้หน้าผม ไม่ชอบผม คอยกลั่นแกล้งผมตลอดเวลาคนนั้นเหรอ ตอนนี้ผมสับสนไปหมดแล้วครับ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไปผมรับไม่ทันจริงๆ

   “ได้ไหมรักกูได้ไหม” เสียงถามคาดคั้นดังอยู่ใกล้หู แต่สมองที่มีน้อยของผมตอนนี้มันยังประมวลผลไม่ได้ ว่าต้องตอบยังไง

ถ้ามันรักกันง่ายๆแบบนั้น คงไม่มีคนที่เจ็บเพราะความรักหรอกครับ

   “พี่ชินผมไม่เคยคิดแบบนี้กับพี่เลย” ผมพูดในสิ่งที่คิด ก่อนจะรับรู้ถึงอาการเกร็งตัวของคนที่กำลังกอดผมอยู่

   “มึงต้องรักกู กูสั่งให้มึงรักกูเข้าใจไหม”

   “ความรักมันสั่งกันได้เหรอพี่ ผมทำแบบนั้นไม่ได้หรอก”

   “ทำไม ทำไมถึงไม่ได้ ที่พี่ตินณ์มึงยังรักได้ แล้วทำไมกูที่อยู่กับมึงตลอด มึงถึงรักไม่ได้ ” พี่ชินคลายอ้อมกอดก่อนจับต้นแขนทั้งสองข้างของผมเขย่า จนหัวสั่นหัวคอน

   “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงรักพี่ไม่ได้ และทำไมผมถึงรักพี่ตินณ์ ตอนนี้ผมสับสนกับความรู้สึกของตัวเองไปหมดแล้วพี่ บางทีผมอาจจะยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรคือความรัก แล้วพี่เองก็อาจจะกำลังสับสนเหมือนผม พี่ชอบลูกแพรไม่ใช่เหรอ พี่ไม่ได้ชอบผมหรอก แค่อุบัติเหตุที่ผมไปจูบพี่พอวันนี้พี่เห็นผมกำลังจะไปจูบคนอื่นพี่เลยสับสนเท่านั้นเอง” ผมลืมไปได้ยังไงว่าพี่ชินรักลูกแพร พี่ชินไม่ได้รักผมหรอก ตอนนี้คงแค่สับสน แถมคนอย่างพี่ชินแค่กระดิกนิ้วก็มีผู้หญิงพร้อมมาให้เลือกเป็นร้อยจะมาจริงจังอะไรกับคนอย่างผมที่ไม่มีอะไรดีเลยซักอย่าง

   “มึงไม่ใช่กูอย่ามารู้ดีแทนกู กูบอกมึงกี่ครั้งแล้วว่ากูรักมึง กูไม่ได้รักใครทั้งนั้นนอกจากมึง มึงเคยคิดจะรับรู้บ้างไหม”

   “พี่บอกผมเมื่อไหร่ทำไมผมไม่รู้” ผมถามอย่างแปลกใจ วันนี้มีแต่เรื่องให้ผมแปลกใจ

   “...” พี่ชินไม่ตอบแต่กลับจ้องหน้าผมนิ่งๆ ผมก็มองตอบอย่างไม่ลดละ พร้อมทั้งพยายามนึกว่าพี่ชินบอกรักผมตอนไหน 
แล้วความรู้สึกเลือนรางในคืนหนึ่งที่พี่ชินชวนผมคุยก่อนนอนก็ผ่านเข้ามาในความคิด ตอนนั้นผมคิดมาตัวเองหูฝาดที่พี่ชินสั่งให้รัก แถมยังบอกรักผมด้วยเป็นเรื่องจริงเหรอ ผมไม่ได้หูฝาดใช่ไหม และยังมีเสียงที่ได้ยินเหมือนคนบอกรักตอนกลางคืนนี่ใช่พี่ชินไหม 


ผมเริ่มไม่แน่ใจเพราะคิดมาตลอดว่าตัวเองฝัน หรือไม่ก็คิดไปเองว่ามีคนมาบอกรักเพราะตัวเองคิดเรื่องความรักมากเกินไปจนเก็บไปฝัน  แล้วเหมือนความทรงจำของผมก็ย้อนกลับไปคืนที่ผมเมาและพี่ชินพากลับมานอนที่ห้องนี้ครั้งแรก

   “ง่วงนอนโว๊ย อย่าเสียงดังได้ไหม”

   “ไอ้เชี้ยนี่เมาแล้วเรื้อนนะมึง สร่างเมื่อไหร่มึงเจอแน่ หลับไปเลย ถึงห้องแล้วกูบอก”

“นอนได้แล้วเหรอ นอนนะนาวีนอนแล้วน้า”

   “หึหึ มึงจะเอาไงแน่วะเดี๋ยวโวยวาย เดี๋ยวเป็นเด็ก ไอ้ลูกหมาเอ๊ยกินเหล้าของผู้หญิงแค่นี้ยังเมา แล้วถ้ามีแฟนจะไปปกป้องเขาได้ไง”

   “แฟนๆ มีแฟน นาวีชอบพี่ตินณ์ พี่ตินณ์เป็นแฟนนาวีนะ”

   “มึงว่าอะไรนะ! มึงชอบพี่ตินณ์เหรอ”

   “ช่ายโผมชอบพี่ตินณ์ ชอบมากด้วย”

   “มึงชอบได้ยังไง ทำไมถึงชอบ มึงอย่าเพิ่งหลับ”

   “ม่ายยรู้ รู้แต่วีชอบพี่ตินณ์ที่สุดในโลกเลย”

   “ไอ้เหี้ยแล้วกูล่ะ กูอยู่กับมึงทุกวันทำไมมึงไม่รัก มึงมองข้ามกูได้ยังไง

ทำไม!

ทำไมไม่เป็นกู

กูรักมึงก่อนใคร กูที่อยู่ข้างๆมึงไง มึงได้ยินไหม กูรักมึง”

“อื้อ แม่วีจะนอน เบาทีวีหน่อยครับเสียงดัง”

“เฮ้ยอย่าเพิ่งหลับดิ ตื่นมาคุยกันก่อน ตื่นดิ ตื่นเดี๋ยวนี้”

“อ๊ะ...พรวดดด”

“เฮ้ย!...มึงจะอ้วกทำไมไม่บอกกูวะ 

เดี๋ยวๆอย่าเพิ่ง  รอเดี๋ยว อ่ะอ้วกใส่เสื้อกูเลย อ้วกให้หมดจะได้สบาย

ไม่ร้องๆ

หมดยังหมดแล้วกินน้ำบ้วนปากนะ
 
หลับซะไม่ต้องร้องกูไม่ปลุกแล้ว ไม่เขย่าแล้วหลับซะนะ”

ทำไมผมถึงจำไม่ได้นะ วันนั้นที่ผมโดนพี่ชินเขย่าตัวอย่างแรงจนทนไม่ไหวอ้วกออกมาเลอะทั้งเสื้อพี่ชินและเสื้อผมเอง แถมยังจำได้ลางๆว่ารถก็เลอะ แต่แทนที่พี่ชินจะว่า พี่ชินกลับถอดเสื้อตัวเองออกเพื่อเอามารองอ้วกให้ผมอย่างไม่รังเกียจซะงั้น
หมายความว่าตลอดมาพี่ชินชอบผมเหรอ ผมไม่รู้ตัวเลยทั้งๆที่ไอ้แบตก็พยายามบอกผมแล้ว ทำไมตอนนั้นผมไม่สะกิดใจอะไรเลยวะ

“พี่ชิน พี่ชอบผมจริงๆเหรอ” ผมถามเหมือนคนที่ยังตกอยู่ในภวังค์

“ไม่ใช่!

กูไม่ได้แค่ชอบ แต่กูรักมึง” รักเหรอ พี่ชินจะรักผมได้ยังไง ผมมองไม่เห็นถึงความน่าจะเป็นไปได้เลยซักนิด

“พี่ชินพี่ชอบผู้ชายเหรอ”

“ไม่ใช่”

“แต่ผมเป็นผู้ชายนะครับ”

“กูรักมึง ไม่เกี่ยวหรอกว่าเป็นเพศไหน ถ้ากูรักก็คือรัก แล้วมึงล่ะจะรักกูบ้างได้ไหม ถึงตอนนี้มึงจะไม่รักแต่กูพอจะมีความหวังบ้างไหม” 

“พี่ชิน...ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าพี่คิดยังไงกับผม ผมไม่เคยคิดแบบนี้กับพี่ และที่สำคัญตอนนี้ผมชอบคนอื่นอยู่ ผมขอโทษจริงๆครับ”  ผมพูดเบาๆก่อนน้ำตาจะเริ่มไหล

มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ผมต้องมารับรู้ว่าเผลอบอกรักคนที่ชอบมาตลอดและทำอะไรแย่ๆในเวลาที่เขามีคนของเขาแล้ว และมันเร็วเกินไปที่ผมจะทำใจได้เพียงแค่มีใครอีกคนหนึ่งมาบอกรัก

ถ้าตอนนี้ผมตอบรับความรู้สึกของพี่ชินทั้งที่ตัวผมเองยังไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเองมันคงเป็นการทำร้ายพี่ชิน ยิ่งรู้ว่าพี่ชินคิดยังไงกับผม ผมคงไม่กล้าทำร้ายความรู้สึกพี่ชินอีกแล้วถ้าเกิดผมตอบรับแล้วมารู้ว่าจริงๆแล้วตัวเองไม่ได้รักพี่ชินในภายหลัง
เจ็บแค่นี้ดีกว่าถลำลึก จนไม่สามารถแก้ไขได้ ให้พี่ชินไปเจอคนที่ดีกว่าผมดีกว่าครับ

“ทำไม ทำไมถึงรักกูไม่ได้ ทั้งที่กูก็บอกแล้วว่าพี่ตินณ์เขามีคนอื่นแล้วมึงยังคิดจะรักอีกเหรอ พี่ตินณ์มีอะไรที่กูไม่มี กูต้องทำยังไงมึงถึงจะรักได้บอกมาสิ” พี่ชินเริ่มเสียงดังขึ้นมาอีก

“มันไม่ใช่แบบนั้นครับ พี่ไม่ได้มีอะไรไม่ดี แต่บางทีความรักก็ไม่มีเหตุผล” ผมบอกเสียงเรียบทั้งที่น้ำตายังคงไหล

น้ำตาที่อยากบอกว่าผมความเสียใจ

น้ำตาที่อยากบอกว่าผมรู้สึกผิด

น้ำตาที่อยากบอกว่าผมขอโทษ

น้ำตาที่อยากบอกว่าตอนนี้ผมสับสน และอึดอัดเหลือเกินกับสถานการณ์ตอนนี้ ถ้าหายตัวไปได้ ผมอยากหายตัวไปจากตรงนี้แล้วให้เรื่องทั้งหมดเป็นแค่ความฝัน

“ถ้าความรักมันไม่มีเหตุผล งั้นกูก็จะไม่มีเหตุผลบ้าง ในเมื่อใจมึงกูไม่ได้ แต่ยังไงตัวมึงต้องเป็นของกู กูไม่ให้ใครทั้งนั้น”

“พี่ชินจะทำอะไร ปล่อยผม พี่ชินหยุด พี่ชิน! ปล่อย” ชั่วเสี้ยวนาทีที่พี่ชินพูดจบ แขนแกร่งของพี่ชินเอื้อมมารวบเอวผมก่อนแบกขึ้นบ่าแล้วเดินตรงเข้าห้องอย่างง่ายดาย  ผมขอร้อง ก่อนตะโกนให้หยุดแต่ไม่มีวีแววว่าพี่ชินจะฟังคำพูดของผม

   “เงียบๆ” เสียงแข็งกระด้างเหมือนพี่ชินคนที่ผมไม่รู้จักกลับมาอีกแล้ว

   “พี่ชินผมขอร้องอย่าทำอะไรผมเลย”  ผมบอกพี่ชินเมื่อโดนโยนลงมาบนเตียงกว้างที่เคยนอนมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ครั้งนี้ต่างออกไป ผมเริ่มกลัวพี่ชินโหมดนี้ แววตาขี้เล่น แววตาอ่อนโอนที่ผมเคยเห็นบ่อยๆตอนนี้ไม่มีแล้วครับ มีแต่แววตาดุดัน และขุ่นมัวพร้อมที่ทำร้ายผมได้ตลอดเวลา

   “หุบปาก ในเมื่อมึงไม่รักกู มึงก็เกลียดกูไปเลยแล้วกัน เพราะมันจะทำให้มึงจำกูไปตลอดชีวิต”



แคว๊ก!

“พี่ชินอย่าทำผม ผมขอร้อง ผมกลัว” ผมรีบจับสาบเสื้อกระชับเข้าหากันเมื่อพี่ชินกระชากจนกระดุมขาดกระเด็นออกไปคนละทิศละทาง

“กูบอกให้หุบปาก ตอนนี้กูไม่อยากได้ยินเสียงมึง” พี่ชินที่ตอนนี้ไม่เหมือนพี่ชินไม่แม้แต่จะฟังสิ่งที่ผมพูด มือของผมทั้งสองข้างที่ใช้ปกป้องร่างกายถูกรวบขึ้นไว้เหนือหัวอย่างง่ายดาย  ก่อนพี่ชินจะเริ่มก้มหน้าลงมาซุกไซ้ตามซอกคอและหน้าอกของผมไปทั่ว

“พี่ชินหยุดเถอะ ผมกลัว” ผมขอร้องอีกครั้งก่อนปากจะถูกปิดลงด้วยริมฝีปากของพี่ชิน และรู้สึกเจ็บเพราะแรงบดขยี้ที่ไร้ความอ่อนโยนใดๆ


   ----- To be Con.-----

   ขอบคุณที่ติดตามค่า   :กอด1:

หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 17 up 28/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 28-09-2014 23:22:02
ดีมากชิน วีต้องโดนแบบนี้
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 17 up 28/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 29-09-2014 00:08:01
พี่ชินน่าสงสารนะ ทำไมวีมันไม่ขอเวลาแทน หรือไม่อยากให้ความหวัง
ถ้าพี่ชินรักวีจริง พี่วีจะต้องไม่ทำร้ายวีแบบนั้น ทนได้หรอที่เห็นคนที่ตัวเองรักกลัวและเกลียดหน่ะ


ต่อๆ เราติดเรื่องนี้ละเนี่ย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 17 up 28/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: PANGGii ที่ 29-09-2014 00:26:23
โอ๊ยยยย พี่ชินนนน ช่างปวดร้าววว โดนปฏิเสธแบบนี้ โหดร้ายนัก
....


ว่าแต่.. เอาจริงดิ จะทำร้ายน้องจริงดิ
อย่าเลยน้าาาาาา เด่วจะแย่ไปกันใหญ่ จะดราม่าหนักกว่าเดิม

ม่ายยยยยย น๊าาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 17 up 28/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 29-09-2014 00:51:52
เราจะรักคนที่ข่มขืนเราลงจริงๆเหรอ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 17 up 28/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: maiQ ที่ 29-09-2014 00:53:29
กรี๊ดดดดดดด พี่ชินมาแบบ พิศาลอ่า :hao7:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 17 up 28/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 29-09-2014 01:33:47
กรี้ด  ค้างมากมายอะ :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 17 up 28/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 29-09-2014 02:36:58
ชอบเค้าไม่รู้ตัว
แต่ไปบอกแบบนี้แทน
พี่ชินเมาดิบเสร็จแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 17 up 28/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: pemiko2012 ที่ 29-09-2014 05:39:00
สงสารชินนนนนนนน
 :sad4: :เฮ้อ:

แต่ไม่ควรทำแบบนี้กะน้องนะ
วีแค่ยังไม่รู้ใจตัวเองงง
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 17 up 28/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: Teddysdeath ที่ 29-09-2014 05:42:15
อีชินนี่ท่าจะบ้า :katai1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 17 up 28/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 29-09-2014 08:27:59
 :serius2: พี่ชินทำแบบนี้แล้วน้องวีจะรักมั๊ย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 17 up 28/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 29-09-2014 11:58:59
ชอบอ่ะ "ในเมื่อมึงไม่รักกูงั้นก็เกลียดกูเลยละกัน"
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 17 up 28/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 29-09-2014 12:23:10
เจ็บทั้งคู่  เฮ้อออออออออออออ
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 17 up 28/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: chaotic69 ที่ 29-09-2014 15:10:17
พี่ชินบทโหด  :a5:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 17 up 28/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 29-09-2014 16:08:55
พี่ชินโดนปฏิเสธซะจุกอ้ะ

มาต่อไว ๆ น้าาาา
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 17 up 28/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 29-09-2014 16:39:21
เฮ้ย !!!! เอาจริงดิ พี่ชินแน่ใจเหรอจะให้วีเกลียดอ่ะ
อย่าใจน้อย & ใจร้อนเลยนะ T_T
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 17 up 28/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 29-09-2014 17:19:19
ทำไมชินทำอย่างนี้ รอวีหน่อยก็ไม่ได้ใจร้อนจริง
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 17 up 28/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 29-09-2014 17:36:12
ขอตอนต่อไปด่วนๆๆๆๆ o13
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 17 up 28/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 29-09-2014 18:13:52
สงสารพี่ชินจังทำวีมันซื่อบื้อแบบนี้ื..ข่มขืนแม่งเลยพี่ชิน
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 17 up 28/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 29-09-2014 19:59:13
พี่ชินใจเย็นนะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 17 up 28/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: hibarihao ที่ 29-09-2014 20:46:03
พีชิน ใจเย็น น้องเค้ากำลังสับสนอยู่
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 17 up 28/9/2014 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: Na_RimKLonG ที่ 01-10-2014 02:43:40
เกลียดสมใจแน่ๆ
หัวข้อ: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 18 up 3/10/2014 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 03-10-2014 19:39:28


            ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 18

“อื้อออ.....” อึดอัด หายใจไม่ออกเหมือนคนกำลังสำลักน้ำ พยายามดิ้นให้หลุด เท้าก็ถีบแต่ดูเหมือนสิ่งที่ผมทำจะไม่สะเทือนผิวคนที่นอนคร่อมผมอยู่ซักนิด

“ยะ...หยุด ไม่แล้ว ไม่เอาแล้ว ผมหายใจไม่ออก” ผมรีบบอกพร้อมหายใจเหนื่อยหอบ โกยอากาศเข้าปอดให้ได้มากที่สุดหลังปากเป็นอิสระ  พอเอาหน้าหลบเป้าหมายก็ถูกเปลี่ยนเป็นซุกไซ้ลำคอแทน

 ผมไม่ได้รังเกียจสัมผัสของพี่ชินแต่ผมกลัว กลัวความรุนแรงที่ได้รับ กลัวสายตาที่เย็นชาและดุร้ายเหมือนสัตว์ป่า  มันไม่เหมือนสายตาของพี่ชินคนเดิมที่ผมรู้จัก ความหวาดกลัวทำให้ผมพยายามหนี หนีให้ถึงที่สุด

“กูบอกให้หุบปาก” เสียงแข็งกระด้างที่ได้ยินทำให้ความหวาดกลัวเพิ่มขึ้นไปอีก

“พี่ชินปล่อย...ปล่อยผม ”  ทั้งร้อง ทั้งดิ้นจนเกือบหมดแรง แต่มันก็ไม่ช่วยให้ร่างหนาของพี่ชินหยุดทำรุนแรงกับผม ริมฝีปากอุ่นร้อนจูบสะเปะสะปะไปทั่ว ความรู้สึกเจ็บเกิดขึ้นเป็นระยะเมื่อโดนดูดจนเหมือนเนื้อจะหลุดติดปาก

“ไม่นะ พี่...พี่อย่าถอด” ผมตกใจอีกครั้ง เมื่อกางเกงถูกกระชากออกพ้นปลายเท้า ตามด้วยกางเกงใน ผ้าชิ้นสุดท้ายที่เหลืออยู่ ผมพยายามใช้เท้าถีบแต่ก็ไม่สำเร็จเมื่อโดนทับไว้ทั้งตัวอีกครั้ง

“ไอ้พี่เหี้ย กูบอกให้ปล่อย ปล่อยกูเดี๋ยวนี้ ปล่อย!” ผมรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายตะโกนออกไปสุดเสียง ก่อนจะดิ้นสุดแรงอีกครั้ง

“อยู่นิ่งๆ มึงจะดิ้นทำไม เสียงแรงเปล่ายังไงมึงก็ต้องเป็นของกู” พี่ชินที่กำลังไล่จูบตามหน้าท้องเงยหน้าขึ้นมาสบตาก่อนว่าเสียงนิ่ง

“ถึงตัวผมจะเป็นของพี่ พี่ก็จะได้แค่ตัวเพราะใจผมเป็นของคนอื่น”

“...” ไม่มีเสียงตอบโต้ใดๆ แต่การซุกไซ้เหมือนจะลดความรุนแรงลง

“พี่ไม่มีทางมีความสุขหรอก อย่าทำผมเลยพี่เชื่อผมเถอะ” ผมว่าเสียงอ่อนลงไม่มีแล้วแรงที่จะสู้ ในเมื่อตัวผมไม่ได้ใกล้เคียงกับร่างหนาๆของพี่ชินซักนิดแล้วผมจะเอาแรงที่ไหนไปสู้ 

“กูไม่เคยมีความสุขอยู่แล้วตั้งแต่รู้ว่ามึงรักคนอื่น หลังจากนี้ถ้ากูจะไม่มีความสุขต่อไปมันก็คงไม่เป็นไร”

“งั้นพี่อยากทำอะไรก็ทำเถอะผมจะไม่สู้ไม่ขัดขืนแล้ว  แต่หลังจากนี้แม้แต่หน้าพี่ผมก็จะไม่มีวันมอง” ผมพูดอย่างสิ้นหวัง ก่อนน้ำตาที่แห้งไปนานเริ่มไหลอีกครั้ง

“...”ร่างหนาที่กำลังซุกไซ้ตามซอกคอผมหยุดชะงักนิดนึงก่อนไซ้ต่อ


“ผมเกลียดพี่”

เอ่ยออกไปเบาเท่าเสียงกระซิบ นึกว่าพี่ชินจะไม่ได้ยิน แต่เขาได้ยิน

ได้ยินแน่ๆเพราะนอกจากทุกการกระทำจะหยุดลงแล้ว ผมยังรู้สึกถึงบางอย่างที่หยดลงบนหัวไหล่

น้ำตาของพี่ชินมันกำลังหยด  ไม่มีเสียงสะอื้นใดๆ มีเพียงความเงียบระหว่างเรา

ข้อมือที่ถูกรวบไว้ตอนนี้มันเป็นอิสระแล้วแต่ผมก็ไม่คิดจะใช้มันผลักผู้ชายตรงหน้า

ผู้ชายที่กำลังร้องไห้ ผู้ชายที่ไม่เหลือท่าทีดุร้ายเหมือนเมื่อครู่อีกแล้ว

พี่ชินกระพริบตาถี่ๆเพื่อไล่น้ำตาเหมือนไม่ต้องการให้ผมเห็นแต่ผมก็เห็นมันแล้ว

“คำว่ารักกูยังไม่เคยได้ยินสักคำ แต่คำว่าเกลียดทำไมมึงถึงพูดง่ายนักนะ” พี่ชินพูดช้าๆเหมือนคนหมดแรง ก่อนลุกขึ้นนั่งริมขอบเตียงหันหลังให้ผมที่รีบคว้าผ้าห่มคลุมตัว

“พี่อยากให้ผมเกลียดไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ผมเกลียดพี่แล้วไง พี่ยังต้องการอะไรอีก” ถามทั้งที่รู้ว่าไม่ได้ต้องการคำตอบ

“ไม่เลย กูไม่เคยต้องการ”

“...” ไม่ต้องการแล้วทำทำไม ผมให้ผมเจ็บ ทำให้ผมเกลียดทำไม ผมไม่เข้าใจว่าตอนนี้พี่ชินกำลังคิดอะไรอยู่

“ในเมื่อมึงไม่เคยเห็นกูอยู่ในสายตา ถ้ารักไม่ได้มันก็ต้องเกลียดเท่านั้นกูถึงจะมีตัวตนไม่ใช่อากาศธาตุ ไม่ใช่วิญญาณที่มึงมองไม่เห็นเหมือนทุกวันนี้”

“ไม่ใช่นะพี่ ผม...”

“ทั้งที่กูคิดแล้วว่าอยู่เพราะรักไม่ได้ กูก็จะทำให้มึงเป็นของกูแล้วอยู่ด้วยกันทั้งที่เกลียดนี่แหละ กูจะไม่ยอมให้มึงกับใคร หน้าไหนก็มาเอามึงไปไม่ได้ทั้งนั้น ทั้งที่ทำใจแล้วแต่แค่ได้ยินมึงบอกว่าเกลียด กูถึงกับเสียศูนย์อีกครั้ง
ไม่ว่าจะเบาแค่ไหนแต่กูกลับได้ยินชัดเจน

มันอยู่ตรงนี้ที่ใจกูนี่ ตอนนี้มันเหมือนจะขาดเลยว่ะ

ไปซะ รีบออกไปจากห้องซะก่อนที่กูจะเปลี่ยนใจ”

พี่ชินไม่แม้แต่จะหันกลับมามองผมที่ตอนนี้พยายามลุกนั่งอย่างทุลักทุเล เพราะผ้าน่วมผืนใหญ่ที่ใช้หุ้มตัว

ร่างใหญ่ของพี่ชินสั่นน้อยๆถ้าไม่ได้สัมผัสคงไม่รู้ แต่ผมรู้เพราะตอนนี้กำลังเอื้อมมือออกไปโอบกอดพี่ชินจากด้านหลัง พี่ชินเหมือนสะดุ้งน้อยๆที่ผมทำอย่างนี้
 
จะว่าผมบ้าก็ได้แต่ผมไม่สามารถทิ้งพี่ชินในสภาพนี้ไปได้ พี่ชินที่ผมไม่เคยเห็น พี่ชินที่เหมือนคนหมดสภาพ

“พี่ผมขอโทษ” ขอโทษที่ผมไม่เคยรู้อะไรเลย ขอโทษที่ผมรักคนอื่นไปแล้ว

“มึงไม่ต้องขอโทษหรอก มึงไม่ผิดกูเองที่เป็นคนผิด   ผิดเองที่รักมึงแล้วยังจะทำร้ายมึงอีก”

“ผมไม่ใช่คนดีอะไร พี่ไม่ควรรักผมเลย” ผมพูดเบาๆพร้อมหัวที่ซบลงด้านหนังของไหล่หนาๆ

“กูก็ว่าอย่างนั้นแหละ แต่ทำไงได้วะก็มันดันรักไปแล้ว” ผมควรดีใจหรือเสียใจดีวะเนี๊ยะ

“พี่ชิน...”

“กูต้องทำยังไง มึงถึงจะรักกูได้บ้างวะ” ผมยังพูดไม่จบเสียงพี่ชินก็แทรกขึ้นมาก่อน

“...” ไม่รู้จะตอบว่าอะไร ตอนนี้ผมทำได้เพียงกอดพี่ชินไว้จากด้านหลัง อยากใช้อ้อมกอดนี้ถ่ายทอดความรู้สึกทั้งหมด ถึงผมไม่ได้รักแต่ผมก็ไม่ได้เกลียดพี่ ไม่เคยเกลียดและไม่คิดจะเกลียดเลยซักนิด ที่ผมพูดเพราะอารมณ์แต่ผมไม่เคยรู้สึกแบบนั้นเลยจริงๆนะ

“ไปซะ  ถ้าไม่รักก็อย่าทำแบบนี้กูจะมีความหวัง แล้วมึงจะไม่มีโอกาสได้ไปจากกูอีกเลย ตอนนี้อาจจะยังทันมึงไปทำตามหัวใจมึงเถอะ ถ้ารักก็สู้ให้ถึงที่สุดแต่ถ้าสู้แล้วรู้ว่ามันไร้ความหมายก็หยุดซะก่อนที่ใจมันจะเจ็บไปมากกว่านี้ อยากทำอะไรก็ทำแต่อย่าทำเรื่องที่ผิดเหมือนที่กูกำลังทำ” พี่ชินค่อยๆแกะมือผมที่กำลังโอบพี่ชินไว้ออกที่ละข้าง

มองไม่เห็นสีหน้าว่าพี่ชินกำลังรู้สึกอย่างไร แต่ที่แน่ๆผมรู้สึกใจหายที่ตอนนี้เป็นพี่ชินเองที่เหมือนกำลังไล่ผมให้ออกไปจากชีวิต

“ขอเวลากูหน่อยแล้วกูสัญญาว่าจะลืมมึง” พี่ชินว่าก่อนจะเดินไปยืนริมประตูระเบียงแล้วมองฝ่าความมืดออกไปอย่างไร้จุดหมาย ผมที่ยังอยู่บนเตียงมองตามด้วยความรู้สึกโหวงๆเมื่อได้ยินประโยคนี้ ผมควรจะดีใจสิที่พี่ชินลืมผมได้  แต่ทำไมมันไม่เป็นอย่างนั้นเลยไม่เลยซักนิดเดียว

“ขอบคุณครับที่พี่หยุด ขอบคุณที่พี่ไม่ทำอะไรผมมากกว่านี้” ผมเอ่ยขอบคุณก่อนลุกขึ้นหยิบกางเกงที่ตกอยู่ข้างเตียงขึ้นสวม ต่อด้วยการหยิบเสื้อขึ้นมาดูว่ามันยังสามารถใช้งานได้หรือไม่ แล้วก็ปรากฏว่ามันไม่เหลือกระดุมซักเม็ดแถมยังมีรอยขาดเป็นทางยาว

“ตอนนี้มืดแล้วมึงนอนที่นี่แหละ กูจะไปเอง” ตอนแรกไล่ให้ผมไปแต่ตอนนี้จะให้อยู่ซะงั้น เคยถามผมบ้างไหมว่าผมอยากอยู่หรืออยากไป

   “ไม่เป็นไรครับผมกลับได้ ที่นี่เป็นห้องพี่ พี่จะออกไปทำไม” ผมบอกก่อนสวมเสื้อที่ไม่มีกระดุมซักเม็ดนั่นแหละครับ

   “มึงอยากโดนข่มขืนจริงๆใช่ไหมถึงคิดจะออกไปทั้งสภาพแบบนี้” พี่ชินถามเสียงดังก่อนไล่สายตามองผมตั้งแต่หัวจรดตีน

   “ผมไม่ได้คิดแบบนั้น” ผมรีบตอบ

   “ถ้าไม่คิดก็นอนที่นี่ซะอย่าเรื่องมาก

   “แล้วพี่จะไปไหน” ผมถามเมื่อเห็นพี่ชินกำลังจะก้าวออกจากห้องที่เป็นของตัวเอง

   “มึงไม่ต้องรู้หรอก กูบอกให้นอนก็นอนซะ กูจะไปไหนไม่สำคัญหรอก”

   “สำคัญสิ ถ้าพี่ไม่อยู่ผมก็จะกลับเหมือนกัน จะให้ผมเป็นต้นเหตุให้พี่ไม่มีที่นอนได้ยังไง” ผมรีบพูดก่อนพี่ชินจะปิดประตู

   “มึงรู้ได้ยังไงว่ากูไม่มีที่นอน ผู้หญิงกูมีออกเยอะแยะจะไปนอนกับใครซักคนก็ได้” รู้ว่ามีแต่จะพูดทำไมวะ แล้วคิดว่าผมเชื่อเหรอไม่มีหรอกคนที่บอกจะไปนอนกับสาวด้วยเสียงเศร้าขนาดนี้ ยิ่งดวงตาเศร้ากว่าเสียงอีกครับ

   “ผมไม่ให้ไป”ผมบอกพร้อมเดินเข้าหามือเกือบจะคว้าแขนพี่ชินไว้ แต่นึกขึ้นได้ก่อนว่าผมไม่มีสิทธิ์เลยแค่หยุดยืนใกล้ๆ  ใครจะยอมให้ไปทั้งเป็นห่วง ทั้งความรู้สึกแปลกๆตีกันให้วุ่น

   “หึหึ ถ้ากูอยู่มึงจะไม่ปลอดภัย” รอยยิ้มน้อยๆปรากฏบนหน้าพร้อมเสียงเศร้าไม่หาย

   “ผมรู้ว่าพี่จะไม่ทำอย่างนั้นอีกแล้ว ถ้าทำพี่คงไม่หยุดตั้งแต่แรก” รีบตอบด้วยความมั่นใจ

   “มึงไว้ใจคนง่ายเกินไป” พี่ชินว่าก่อนเอื้อมมือมาโยกหัวผมเบาๆ ไม่รู้เพราะความลืมตัวหรืออะไร

   “เฉพาะพี่หรอกที่ผมไว้ใจ นอนที่นี่เถอะผมไม่อยากให้พี่ออกไป”

   “อืม มึงไปอาบน้ำซะจะเช้าแล้ว”

   “พี่ชินจะไม่ไปไหนจริงๆนะ ถ้าผมอาบน้ำออกมาแล้วพี่ชินไม่อยู่ผมจะกลับห้อง” ผมไม่ค่อยไว้ใจเลยแอบขู่แต่ไม่รู้จะได้ผมหรือเปล่า

   “กูไม่ไปไหนหรอก มึงรีบไปอาบน้ำซะกูง่วงแล้วเหนื่อยมาทั้งวัน” พอพี่ชินบอกเหนื่อยผมเลยรีบคว้าผ้าขนหนูแล้วเดินเข้าห้องน้ำด้วยความไว


   
   อาบน้ำเสร็จผมขึ้นมานอนบนเตียงรอพี่ชินที่เข้าไปอาบต่อ ความเมาไม่มีเหลือแล้วครับแม่งเจอแต่เรื่องตื่นเต้น แถมตอนนี้ยังรู้สึกหน่วงๆกับความรู้สึกของพี่ชินที่ได้รู้ มันมีมากกว่าความเสียใจที่รู้ว่าพี่ตินณ์มีคนที่รักแล้วอีกครับ

“พี่ชินจะไปไหน” แต่งตัวเสร็จนึกว่าจะขึ้นมานอน แต่ผิดเพราะพี่ชินคว้าหมอนไปถือก่อนทำท่าจะเดินออกจากห้อง

“กูจะไปนอนข้างนอก มึงน่ะหลับได้แล้วเดี๋ยวตาก็ดำเป็นหมีแพนด้าหรอกมึง” ยังมีการมาว่าผมอีกนะ

“ไม่ต้องเลยพี่จะไปทำไม มานอนด้วยกันนี่แหละผมไม่อยากแย่งเตียงเจ้าของห้องหรอกนะ ถึงมันจะสบายก็เถอะแต่มันบาป”

“คนอย่างมึงไม่น่าจะกลัวแล้วนะบาปน่ะ นรกเท่านั้นที่รอมึงอยู่” โห ถ้าไม่ได้ยินกับหูผมจะไม่มีทางเชื่อเลยว่าผู้ชายคนนี้จะเป็น ผู้ชายคนเดียวกับที่บอกรักผมจะเป็นจะตายอยู่เมื่อกี้

“พี่แม่ง มานอนผมไม่อยากทะเลาะด้วยแล้ว”

“มึงนอนไปเถอะ”

“พี่นั้นแหละมานอนอย่าเรื่องมาก หรือกลัวผมจะปล้ำ”

“ปากดี เห็นกูไม่ทำหน่อยเอาใหญ่ เดี๋ยวจับปล้ำแม่งก็แหกปากร้องห้องแตกอีก” แล้วใครมันจะนอนแข็งนิ่งไม่แหกปากยอมให้ปล้ำง่ายๆบ้างวะ ถ้าแบบนั้นเค้าไม่เรียกปล้ำแล้ว

“โอเคๆ ผมยอมแพ้มานอนเถอะพี่” ผมยกมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือหัว ทำท่ายอมแพ้ก่อนเรียกพี่ชินมานอนอีกครั้ง พี่ชินทำท่าลังเล แต่สุดท้ายก็ยอมขึ้นมานอนข้างๆเหมือนทุกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้พี่ชินมันหยิบหมอนข้างมากั้นกลางระหว่างผมกับตัวเองไว้ ผมก็มองเอือมๆก่อนล้มตัวลงนอนบ้าง หมอนข้างใบแค่นั้นมันจะกั้นอะไรได้ครับถ้าคนมันจะทำ มันอยู่ที่ใจมากกว่า ตอนนี้ผมรู้ว่าพี่ชินไม่มีทางทำผมแน่นอนผมถึงกล้าที่จะนอนด้วยอย่างสบายใจ





ชัดเลยครับ ไอ้ที่สงสัยมาตลอดว่ารอยแดง ม่วงๆเน่าๆเหมือนแมลงกัดที่ขึ้นตามตัวผมตลอดแล้วไอ้พี่ชินมันบอกว่าเป็นพรายย้ำห่าเหวอะไรนั่นไม่ใช่เลยครับ

ผมสงสัยมาตั้งแต่เมื่อคืนตอนอาบน้ำแล้วว่ามันคลายๆกันแต่ก็ไม่มีเวลาดู พอเช้ามาไม่ผิดแน่ครับ

ก็รอยที่ไอ้พี่ชินมันทำไว้เมื่อคืน ที่ผมเห็นแดงๆ ตอนนี้มันเป็นสีม่วงช้ำๆ เหมือนที่ผมเคยเป็นแล้วครับ แสดงว่าตลอดมาไอ้พี่ชินแม่งรวนลามผมมาตลอดโดยที่ผมไม่รู้ แล้วยังมาบอกหน้าซื้อตาใสว่าเป็นโรคเหี้ยไรนั้นอีก  ถ้าไม่เรียกว่าเลวผมก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดีแล้วครับ

“ไอ้พี่ชินตื่น ตื่นเดี๋ยวนี้” ผมตะโกนเรียกผู้ชายร่างสูงที่นอนเหยียดยาวบนเตียง พร้อมผ้าน่วมผืนหนาที่ปิดขึ้นมาถึงอกเพราะฝีมือผมเอง

เช้านี้ผมตื่นมาแบบไม่ค่อยสดใสนัก อาจจะเพราะเหล้าที่กินเข้าไปเมื่อคืนทำให้ผมรู้สึกหนักๆหัว แถวยังมีมือปลาหมึกของพี่ชินที่รัดผมแน่นจนฝันว่า โดนจับถ่วงน้ำแล้วกำลังสำลักน้ำ หายใจไม่ออกจนต้องตื่น

ตื่นมาก็รู้ว่าจริงๆไม่ได้โดนถ่วงหรอกครับ แต่เป็นไอ้พี่ชินที่รัดผมแน่นเหมือนงูกำลังรัดเหยื่อ ถ้ารัดแรงอีกหน่อยกระดูกผมแตกก็แดกได้เลย แล้วไอ้หมอนข้างที่สรรหามากั้นซะดิบดี ผมเห็นลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่ที่พื้นเรียบร้อย ไม่รู้จะเอามาให้เกะกะตั้งแต่แรกทำไม

“เรียกทำไมวะ คนจะหลับจะนอน” พี่ชินว่าพร้อมดึงผ้าน่วมขึ้นคลุมหัว หนีเสียงรบกวนหรือแสงแดดที่ส่องเข้ามาจากประตูระเบียงเป็นนิสัยประจำที่ผมเห็นจนชิน

“ผมอยากรู้ว่าทำไมรอยแดงๆ มันถึงเต็มตัวผมขนาดนี้  เมื่อคืนตอนอาบน้ำมันยังไม่เยอะเท่านี้เลย” ผมถามเสียงดังพร้อมมือที่เอื้อมไปดึงผ้าน่วมออกจากตัว แต่พี่ชินพยายามขืนไว้

“กูจะไปรู้ไหมล่ะ ตัวมึงมาถามอะไรกู”

“ก็พี่นั่นแหละตัวดีเลย ถ้าพี่ไม่รู้แล้วใครจะรู้”

“กูก็แค่สั่งลา มึงจะอะไรนักหนาวะ เฮ้ย!ไม่ใช่มึงเป็นพรายย้ำอีกรึเปล่า” ฮ้วย พรายย้ำอะไรนี่มาอีกแล้ว หรือผมควรจะชกหน้าพี่ชินซักทีดี ไอ้พรายย้ำนี่จะได้ไปขึ้นที่หน้าพี่ชินบ้าง

“พี่แม่งถ้าจับไม่ได้คาตาไม่เคยยอมรับอะไรเลยว่ะ” ผมว่าพร้อมกอกตาไปมาใส่ผู้ชายหน้าหล่อที่กำลังนอนจ้องผมอยู่บนเตียง

“บ่นอะไรของมึงวะ เอะอะแต่เช้ากูไม่นอนแม่งแล้วไปอาบน้ำก่อน อย่าเพิ่งไปล่ะเดี๋ยวไปส่ง” พูดเสร็จลุกเดินเข้าห้องน้ำไปเลย ผมว่าจะอาละวาดเรื่องรอยนี่ซะหน่อยเลยอดเพราะจำเลยชิ่งซะดื้อ

   ระหว่างรอพี่ชินอาบน้ำผมเก็บที่นอนก่อนออกมาชงกาแฟพร้อมปิ้งขนมปังให้เจ้าของห้องเหมือนทุกครั้งที่มาค้าง  ไม่รู้อาบหรือไปนอนเล่นอยู่ในปลักกันแน่กาแฟชงจนหายร้อนยังไม่ออกจากห้องน้ำเลยครับ  เปิดทีวีก็ไม่มีอะไรน่าดูผมเลยทำความสะอาดห้องฆ่าเวลาซะเลย

   เมื่อก่อนผมเป็นคนที่ถือว่าขี้เกียจมาก ถ้ามีแข่งขันโอลิมปิกขี้เกียจตัวเป็นขนประเภทบุคคลผมว่าผมนอนมารับรองได้รางวัลเหรียญทองมาครองแบบไม่ผิดผลาดแน่ๆ

แต่พอชีวิตลูกคุณหนูยาจกอย่างผมได้มาเป็นขี้ข้าพี่ชินมันทำให้ผมกลายเป็นคนที่ขยันทำงานบ้าน ปัดกวาดเช็ดถูเห็นตรงไหนสกปรกไม่ได้เลยครับ ผมต้องเผลอจัดการซะทุกที ถือเป็นข้อดีข้อเดียวที่ผมคิดว่าได้รับจากงานเจเนอรัลเบ๊

   ดูดฝุ่นในห้องรับแขกเสร็จก็เลยเข้ามาดูดในห้องนอนต่อรอพี่ชินที่เหมือนไม่ได้นอนเล่นในปลักซะแล้วครับนานขนาดนี้ไม่รู้ตายไปรึยัง แต่คงยังเพราะวันหยุดพี่ชินมันชอบนอนแช่ในอ่าง สงสัยเป็นคนชีวิตติดอ่าง

ระหว่างที่กำลังดูดฝุ่นตาผมก็ไปเห็นกล่องสี่เหลี่ยมแปลกๆขนาดเท่าลังเบียร์แต่เป็นสีน้ำเงินเข้มตั้งอยู่ทั้งที่ผมเข้ามาในห้องนี้บ่อยๆแต่กลับไม่เคยเห็นมาก่อน เมื่อคืนก็ไม่ได้สังเกต

   ด้วยความอยากรู้ระดับสูงหรือที่เรียกว่าเสือกเลเวลสูงนั่นแหละครับ ผมจัดการเปิดเลย ตอนแรกคิดไว้ว่าคงเป็นอุปกรณ์ชิ้นส่วนสายไฟ วงจรอิกเล็กโทนิกส์ที่พี่ชินชอบเอากลับมาทำที่ห้องแต่ผิดครับ 

ข้างในเป็นจดหมายที่ผมเขียนถึงพี่เทคหรือก็คือไอ้พี่ชินนี่แหละครับ  ตอนที่ยังไม่รู้ว่าพี่ชินเป็นพี่เทคผมก็จะใช้วิธีเขียนจดหมายแล้วเล่าเรื่องราวที่ผมเจอมาในแต่ละวัน โดยส่งผ่านรุ่นพี่ปีสองคนไหนก็ได้ หน้าซองก็เขียนรหัสเทคไว้

   เรื่องที่เล่าส่วนมากเป็นเรื่องที่ผมโดนซ่อมในกิจกรรมรับน้อง หรือบ่นอะไรไปเรื่อยเปื่อย เรื่องเรียนเป็นส่วนน้อยครับแต่ที่สำคัญผมแอบนินทาพี่ชินให้พี่เทคผมอ่านด้วย ก็ใครจะรู้ล่ะครับว่าคนเดียวกัน ถ้ารู้ผมไม่เขียนหาแม่งหรอก

แล้วใช่ว่าที่เขียนนี่ผมอยากเขียนเองนะ ผมเขียนเพราะผมได้รับจดหมายสั่งที่ให้มาพร้อมน้ำยาล้างห้องน้ำในคืนหนึ่งหลังเสร็จกิจกรรมรับน้อง จดหมายที่ได้ก็ไม่ได้ดีอะไรตัวหนังสือเหมือนเอาตีนเขี่ยๆไว้ในบิลค่าอาหารแล้วขยำมาให้ผม แต่ผมก็ไม่ได้คิดมากบอกให้เขียนก็เขียน 3 บรรทัดบ้าง  5 บรรทัดบ้าง บางวันขยันก็ครึ่งแผ่น

ผมเขียนเกือบทุกวัน แต่จดหมายตอบนี่ผมไม่เคยได้เลยครับ ผมเขียนจนถึงวันเปิดเทคหลังจากวันนั้นแล้วผมก็ลืมเรื่องนี้ไปเลย เพิ่งมานึกออกตอนเห็นจดหมายที่เขียนนอนนิ่งอยู่ในกล่องนี่แหละครับ

   นอกจากจดหมายแล้วยังมีอมยิ้มอีก 3-4 อันนอนนิ่งอยู่ด้วยกัน สิ่งที่ทำให้ผมแปลกใจไม่ใช่จดหมายแต่เป็นอมยิ้ม ทำไมพี่ชินถึงมีอมยิ้มอยู่ในกล่องนี้ เพราะคนที่ให้อมยิ้มผมมาตลอดคือพี่โย

ไม่น่าผิดเพราะมีวันนึงผมเจอพี่โยโดยบังเอิญแล้วพี่โยถามผมว่าได้อมยิ้มที่ฝากเพื่อนมาให้หรือเปล่าทั้งที่ช่วงนั้นผมไประยองกับพี่ชิน แต่พอกลับมาถึงห้องไอ้แบตก็เอาอมยิ้มมาให้ในส่วนของหลายวันที่ไม่อยู่ และจนถึงวันนี้ผมก็ยังได้อมยิ้มวันละอันเหมือนเดิมแม้ว่าบางครั้งมันจะมาหลายอัน แต่ก็ต้องกินวันละอันเท่านั้นเพราะผมกลัวฟันผุ

ทั้งๆที่ผมแน่ใจว่าไม่ใช่ของพี่ชินแต่ทำไมมันถึงมีอยู่ในกล่องนี้ได้ เรื่องนี้ผมคิดว่าถ้าเจอพี่โยผมคงต้องถามซักหน่อย

ระหว่างที่กำลังค้นกล่องเพลินๆเสียงเปิดประตูห้องน้ำก็ดังขึ้นผมรีบปิดฝากล่องแล้วดันมันไว้ที่เดิม ก่อนทำการดูดฝุ่นต่อ

   “อาบน้ำหรือไปชุบตัวในนรกมาพี่นานเป็นชาติขนาดนี้” ผมแกล้งว่าก่อนจะได้รับสายตาดุๆส่งมาให้

   “ชาติเดียวก็เอาให้รอดเถอะมึงน่ะ ไม่ต้องมาเสือกมากเดี๋ยวจะได้ไปชาติหน้าก่อนวัยอันควร”พี่ชินแม่งปากร้ายอ่ะ

“กาแฟอยู่บนโต๊ะนะพี่ เดี๋ยวผมตามออกไป ดูดฝุ่นก่อน”

“อืม” ผมบอกก่อนจะได้ยินเสียงตอบรับเบาๆในลำคอ ไม่นานพี่ชินก็เดินออกไปพอผมดูดฝุ่นเสร็จก็เดินตามออกมาเงียบๆ แล้วก็ได้เห็นพี่ชินที่นั่งเหม่อเหมือนคิดอะไรซักอย่าง กาแฟที่ตั้งไว้ไม่ได้ยุบลงเลย แล้วทำไมแววตาและบรรยากาศรอบๆมันถึงได้ดูเศร้าหมองขนาดนั้น ทั้งที่ก่อนออกมายังล้อเล่นกับผมอยู่เลย

“พี่ชิน  พี่ชินครับ”

“ฮ๊ะ! มึงว่าอะไรนะ”

“ผมถามว่าเอากาแฟแก้วใหม่ไหม แก้วนี้มันเย็นหมดแล้วคงจะไม่อร่อย”

“ไม่เป็นไร กูกินแก้วนี้แหละ” พูดพร้อมรอยยิ้มที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยนัก แต่เห็นทีก็ทำให้ใจสั่นได้เสมอ ผมมองเพลินจนพี่ชินกินหมดแก้วตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ครับ



“ไอ้วีกูขออะไรอย่างนึงได้ไหม” ระหว่างที่ผมกำลังล้างแก้วเสียงของพี่ชินก็ดังขึ้นจากโต๊ะอาหารใกล้ๆ

“พี่ว่ามาก่อนดิ” ขออะไรไม่รู้ไว้ใจได้รึเปล่า

“จ้างก็ได้” เริ่มน่าสนขึ้นมานิดนึง

“ผมไม่ใช่คนเห็นแก่เงินนะพี่ แต่ว่าเท่าไหร่ แล้วจ้างอะไร” เป็นอันว่าคำขอตกไว้เหลือเพียงคำว่าธุรกิจ

   “หนี้ที่เหลือทั้งหมดของมึง”

   “ห๊ะพี่ว่าอะไรนะ” ผมถามอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

“หนี้ที่มีทั้งหมดของมึงจะหายไป แค่มึงทำตามที่กูขอ” ผมรู้สึกว่าคำขอนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆเพราะมันแลกด้วยจำนวนยอดหนี้ทั้งหมดและอิสระภาพของผม

“หนี้ทั้งหมดเลยเหรอ แล้วพี่จะให้ผมทำอะไรล่ะ”  ผมถามเสียงเบา พร้อมรอลุ้นคำตอบ

“วันนี้ขอแค่วันนี้ช่วยแกล้งเป็นแฟนกับกูได้ไหม แค่วันเดียวเท่านั้นแล้วหลังจากนี้กูจะไม่รบเร้าอะไรมึงอีกเลย”


            ----- To be Con.-----

ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ และการติดตามค่า :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 18 up 3/10/2014 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: maiQ ที่ 03-10-2014 19:47:00
พี่ชินพระเอกมากมาย
 :-[
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 18 up 3/10/2014 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 03-10-2014 20:07:13
สงสารพี่ชินอ้ะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 18 up 3/10/2014 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: Cinnamon Roll!!! ที่ 03-10-2014 20:11:46
 :sad11:สงสารพี่ชินจับใจ 
           

            น้องวีรู้ใจตัวเองซะทีเถอะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 18 up 3/10/2014 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 03-10-2014 20:19:50
ดีใจที่ชินไม่ทำตามใจตัวเอง สงสารนะแต่ถ้าไม่ได้ใจก็เจ็บทั้งคู่   :sad11:

รอวันที่วีจะรู้ใจตัวเอง  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 18 up 3/10/2014 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 03-10-2014 20:20:03
โห่พี่ชิน น่าสงสารง่ะแบบนี้
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 18 up 3/10/2014 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 03-10-2014 21:41:18
ฟิลลิ่งบลูมากกกกกกกก
ไอ้วีมันก็ชอบๆพี่ชินอยู่ไม่ใช่หรอ ตื้ออีกสิพี่ชิน อย่าพึ่งยอมแพ้นะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 18 up 3/10/2014 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: hibarihao ที่ 03-10-2014 21:46:44
สงสารพี่ชิน  :mew4:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 18 up 3/10/2014 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 03-10-2014 22:13:19
สงสารพี่ชิน   :hao5:
คนที่อึนก็น้องวี รักพี่ชินแล้วยังไม่รู้ตัว
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 18 up 3/10/2014 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 03-10-2014 22:13:49
ชอบพี่ชินจังงงงงงงเลย o13
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 18 up 3/10/2014 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 03-10-2014 22:15:04
พี่ชินตรูบทโศกมาเต็ม
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 18 up 3/10/2014 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: becrazie ที่ 03-10-2014 22:49:30
 :hao5: สงสารอ่ะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 18 up 3/10/2014 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 03-10-2014 22:54:52
โคตรสงสารพี่ชินอ่ะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 18 up 3/10/2014 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: tkaekaa ที่ 04-10-2014 01:05:41
พี่ชิน ช้าหน่อยดีมั้นน้องกำลังซึนๅ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 18 up 3/10/2014 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: Teddysdeath ที่ 04-10-2014 02:02:19
น่าสงสารจัง พี่ชินอย่าเพิ่งถอดใจสิ
จีบตรงๆง่ายๆไปเลย น้องมันคนซื่อ ตอนนี้แหละ :ling1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 18 up 3/10/2014 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: muiko ที่ 04-10-2014 03:13:41
เห้อ สงสารพี่ชินอ่ะ
  :hao5:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 18 up 3/10/2014 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 04-10-2014 09:00:23
 :m15: อ๊ากกกพี่ชินจะใจหล่อไปไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 18 up 3/10/2014 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 04-10-2014 13:02:52
สงสารชินอะทำไมวีมันงี่เง่าแบบนี้
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 18 up 3/10/2014 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 04-10-2014 14:43:57
เศร้าแทนพี่ชิน. แต่....มีแผนอะไรรึเปล่าจ๊ะ  อิอิ.  ^____^
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 18 up 3/10/2014 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: PANGGii ที่ 04-10-2014 18:12:28
พี่ชินนนน หลังจากวันนี้ไป พี่ชินจะเปนยังไง จะทำอะไรต่อ
แทบจะสิ้นสติเลยนะแบบนี้ เศร้าจัง -*-
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 18 up 3/10/2014 p.10
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 04-10-2014 22:31:29
 :sad11:  พี่ชินสู้ๆนะ  วีนี่ซึนจริงอะไรจริง คงจะไม่รู้ใจตัวเองจนกว่าจะเสียมันไปละมั้งงานนี้
หัวข้อ: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 19 up 14/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 14-10-2014 23:49:10

            ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 19

   “พี่จะให้ผมแกล้งเป็นแฟนพี่จริงๆเหรอ”  ผมถามซ้ำเหมือนไม่แน่ใจ ไม่รู้ว่าพี่ชินกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

“เออ แค่วันเดียวได้ไหม” 

“...”แค่วันเดียวแลกกับยอดหนี้ทั้งหมดที่ผมเหลืออยู่ ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆที่ผมสามารถรับปากได้ทันที ถ้าไม่มีความรู้สึกใจหายแปลกๆเข้าจู่โจมผมอยู่เหมือนตอนนี้ ไอ้ความรู้สึกนี้มันทำให้การตัดสินใจที่ว่าง่ายๆของผมกลับกลายเป็นเรื่องยากซะอย่างนั้น

แค่รับปากหนี้ทั้งหมดก็จะหายไป ไม่ต้องคอยทำงานตามคำสั่งงกๆ ไม่ต้องรีบวิ่งออกจากห้องหลังเลิกเรียนเพื่อมาให้ทันกลับคอนโดพร้อมพี่ชิน  ไม่ต้องคอยฟังเสียงบ่นเสียงว่าแทบทุกวัน เรื่องดีๆทั้งนั้นทำไมผมถึงยังลังเลนะ

แต่ถ้ารับปากหลังจากนี้ผมกับพี่ชินจะกลายเป็นแค่คนรู้จัก หรือบางทีอาจจะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่ทักทายเวลาเดินสวนกันพอเป็นพิธี พอคิดมาถึงตรงนี้แล้วยิ่งทำให้ผมรู้สึกยากที่จะตอบรับคำขอในครั้งนี้

“ว่าไงกูรอคำตอบ”

“ผมว่าถ้าพี่ยิ่งยื้อเวลาหลังจากนี้พี่เองจะยิ่งเจ็บนะครับ ” ผมหายใจเข้าลึกๆก่อนตัดสินใจตอบ ไม่ได้อยากพูดแบบนี้ แต่จะให้บอกว่าเวลาในการใช้หนี้มันสิ้นสุดเร็วเกินไปผมยังทำใจไม่ทันมันคงจะแปลกเกินไป

“มึงคิดว่าระหว่างแกล้งเป็นแฟนกูวันเดียวกับทำงานใช้หนี้กูไปเรื่อยๆอะไรจะยื้อเวลามากกว่ากันวะ” สะอึกเลยครับ กลายเป็นผมเองที่กำลังจะยื้อความสัมพันธ์นี้ไว้ทั้งที่พี่ชินกำลังทำให้มันจบลงโดยเร็ว

“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ครับ วันนี้ฝากตัวด้วยนะครับ” ในเมื่อไม่มีอะไรเถียงได้ ผมก็ต้องรับข้อเสนอเท่านั้น

“ตกลงวันนี้มึงเป็นแฟนกูแล้วนะ” หลังพยักหน้าก็รู้ว่าคำตอบของผมมีค่าแค่ไหน เมื่อได้เห็นรอยยิ้มกระจ่างใสจากใบหน้าหล่อๆของผู้ชายตรงข้าม แถมยังน้ำเสียงถามย้ำแบบตื่นเต้น ดีใจนั่นอีกมันทำให้ผมอดยิ้มตามไม่ได้ ทำไมพี่ชินชอบทำให้ผมใจสั่นโดยไม่รู้สาเหตุแบบนี้วะ


“......พี่ชินผมหายใจไม่ออก” ผมท้วงเมื่อพี่ชินดึงตัวเข้าไปกอดแน่น แทบหายใจไม่ออก

“โทษที กูดีใจมากไปหน่อย” พี่ชินคลายอ้อมกอดก่อนขอโทษเบาๆชิดหู เล่นเอาขนลุกซู่เลยครับ

“แล้ววันนี้ผมต้องทำอะไรบ้างครับ” ผมถามเสียงตะกุกตะกัก ไม่รู้ว่าคนเป็นแฟนกันต้องทำอะไรบ้าง ก็ผมไม่เคยมีแฟนนี่น่า

“ไม่ต้องทำอะไรแค่เป็นแฟนพี่ก็พอ”

 หือออ....พี่  พี่ชินแทนตัวเองว่าพี่ด้วยอ่ะ

“พี่แม่ง” ผมว่าได้แค่นั้นก่อนเดินหนีออกจากห้องครัว ไม่รู้จะบอกอะไรก็ใจมันเต้นไม่หยุดเลยครับ  เล่นมาพูดเสียงนุ่มๆพร้อมยิ้มหวานขนาดนั้นใครเจอแบบนี้ไม่ใจสั่นผมให้ถีบยอดหน้าเลย

“ยังไม่ต้องกลับห้องนะ ดูหนังเป็นเพื่อนพี่ก่อนแล้วเดี๋ยวเย็นๆพี่พาไปส่ง”

ผมก็นึกว่าจะพาไปดูในโรงหนังที่ไหนได้  พี่ชินเดินไปเลือกแผ่นหนังที่ตัวเองซื้อสะสมไว้หลายเรื่องแต่คงยังไม่ได้ดู สังเกตจากพลาสติกบรรจุห่อยังไม่ได้แกะเลยครับ

“เรื่องนี้ดีกว่าพี่” ผมหยิบแผ่นหนังผีที่เล็งไว้ชูให้พี่ชินดู

“คนเป็นแฟนกันเค้าดูหนังเรื่องแรกด้วยกัน เค้าดูหนังผีเหรอวะ”

“อ้าว เค้าห้ามดูหนังผีเหรอ ผมไม่รู้”

“ไม่ได้ห้าม แต่ความโรมันติกมึงไม่มีมั่งเหรอไงวะแม่ง เอามาเรื่องนี้ก็เรื่องนี้” พี่ชินทำหน้าเซ็งในความโง่ของผมก่อนเอื้อมมือมาหยิบแผ่นหนังไปเปิด ก็ไม่รู้นี่หว่าคนอยากดูก็เสนอดิเห็นเลือกตั้งนานไม่ได้ซะที ผมเกาหัวงงๆพร้อมเดินมานั่งรอดูที่โซฟา 

“พี่ชินทำอะไรอ่ะ”  สงสัยมาซักพักแล้วครับ ก็พี่ชินเดินไปขนเบาะนอน หมอนผ้าห่มมาเต็ม แถมเดินไปปิดผ้าม่านซะมิด

 ผ้าม่านสีน้ำเงินเข้มจนเกือบดำช่วยให้ห้องที่สว่างอยู่เมื่อครู่กลายเป็นมืดสนิทเหมือนตอนกลางคืนเลยครับ



“ดูหนังผีมันก็ต้องสร้างบรรยากาศดิ ไม่งั้นจะสนุกเหรอ มานั่งกับกูนี่มา” ตอบพร้อมชวนผมลงไปนั่งบนเบาะที่ปูไว้หน้าโซฟาเรียบร้อย

“ไม่ใช่ตรงนั้น ตรงนี้” พอลงมานั่งข้างๆ พี่ชินดันบอกไม่ใช่ซะงั้น ผมมองตามสายตาที่สะท้อนจากแสงทีวีเห็นพี่แกมองลงไปที่หว่างขาตัวเองเท่านั้นแหละ ผมก็หน้าร้อนดิครับให้นั่งตรงไหนไม่นั่ง

“ให้ผมไปนั่งตรงนั้นจริงหรอพี่”

“เออดิมาเร็วๆ เสียเวลากูจะดูหนัง” เท่านั้นแหละครับ ตัวผมเลยต้องย้ายจากที่เดิมมาอยู่กลางหว่างขาพี่ชินที่นั่งพิงหลังกับโซฟา แต่เอาคางมาเกยไหล่ผม มือก็โอบเอวไว้หลวมๆ 

ผมดูไปก็เกร็งไปไม่ได้กลัวผีนะครับ แต่เสียงหายใจแผ่วๆที่อยู่ข้างหูนี่ดิ เล่นเอาดูหนังแทบไม่รู้เรื่องเลย ดูไปได้ซักครึ่งเรื่องก็เริ่มเคลิ้มขึ้นมาอีกรอบเมื่อคืนกว่าจะนอนได้ก็เกือบเช้าแล้วครับ




“เฮ้ย! พี่ชินเมื่อยไหม” สะลึมสะลือตื่นขึ้นมาในท่าเดิมก็ต้องตกใจ  คงหลับไปนานหนังตอนนี้ถูกเปลี่ยนเป็นรายการทีวีแล้วครับ

“หือ...อะไรนะ” อ้าวพี่ก็หลับเหมือนกันครับ แต่หลับทั้งที่ผมนั่งพิงอกอยู่เนี๊ยะนะ สุดยอดทำได้ไงวะ

“ผมถามว่าพี่เมื่อยไหม ผมนั่งพิงตั้งนาน”

“เรียกว่าชาเถอะอย่าเรียกเมื่อยเลยว่ะ ยังกะสิบล้อทับ”

“สมน้ำหน้าใครใช้ให้ผมมานั่งท่านี้เองล่ะ แล้วหนังจบไปนานรึยังพี่ผมไม่ได้ดูเลย”

“นานแล้ว เดี๋ยวค่อยมาดูวันหลังแล้วกัน ไปกินข้าวกันก่อนหิวแล้วว่ะ” วันหลังไหนอีกวะ ผมคิดอย่างแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ถาม

“ไม่สั่งขึ้นมากินเหรอพี่” ปกติสั่งร้านข้างล่างขึ้นมาครับ พี่ชินมีร้านประจำ

“เดี๋ยวพาไปกินข้างนอก”





“พี่ชินพาผมมาบ้านใครเหรอ” ผมถามอย่างแปลกใจเมื่อพี่ชินขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังหนึ่ง เป็นบ้าน 2 ชั้นดูเรียบหรู แต่บรรยากาศรอบๆเต็มไปด้วยต้นไม้ ร่มรื่นน่าอยู่มากเลยครับ ตอนแรกผมนึกว่าจะพามาร้านอาหารแต่พอมาถึงก็ต้องแปลกใจที่กลายเป็นบ้านคนแทน

“บ้านแม่กูเองเข้ามาดิ” ใช่เหรอ ผมเคยได้ข่าวว่าบ้านพี่ชินหลังใหญ่ยังกับวัง แล้วก็ไม่ได้อยู่แถวนี้ด้วยพี่ชินอำผมป่าววะ

“มาถึงกันแล้วเหรอแม่รอตั้งนาน” ผมหันไปมองหน้าพี่ชินทันทีหลังจากที่ผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาต้อนรับแล้วเรียกตัวเองว่าแม่ แต่ดูยังไงก็เรียกพี่ได้เลยครับ น่าจะอายุไม่น่าถึง 35 ด้วยซ้ำ ยังสาวยังสาวอยู่เลยแต่จริงๆคงอายุเยอะกว่านี้เพราะพี่ชินก็จะ 20 อยู่แล้ว

“หวัดดีครับแม่พอดีรถติดเลยมาช้า แม่ครับนี่วีแฟนผมที่เล่าให้ฟัง วีนี่แม่พี่เอง”

“เอ่อ  สวัสดีครับคุณน้า”  ตั้งสติได้ผมรีบยกมือไหว้แม่พี่ชินทันที จะไม่ให้ตกใจได้ไงครับ ก็มาถึงเล่นแนะนำว่าเป็นแฟนโดยที่ผมยังไม่ทันตั้งตัวเลย แถมไปแอบเล่าอะไรกันตอนไหนผมไม่เห็นรู้เรื่อง

“น่าตีจริงๆเด็กคนนี้ น้าที่ไหนกันเรียกแม่สิลูก หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูเหมือนที่แม่คิดไว้ไม่มีผิดเลย”  ถึงกับเงิบเลยผม นอกจากลูกพาผู้ชายมาแนะนำว่าเป็นแฟนแล้วคุณแม่ไม่ตกใจยังมีการเข้ามากอดพร้อมลูบหน้าลูบตาทำท่าชอบอกชอบใจที่ได้เจอผมซะอีกครับ

“เอ่อครับคุณแม่”

“แม่เฉยๆจ้ะไม่เอาคุณ ฟังแล้วห่างกันเกินไป”

“ครับแม่” ผมต้องเรียกใหม่อีกรอบ ถึงจะได้รับรอยยิ้มพอใจจากสองแม่ลูกที่กำลังยืนจ้องผมตาไม่กระพริบ

“แม่เตรียมกับข้าวไว้ให้แล้ว ไปกินข้าวกันก่อนเนอะ” แม่พี่ชินว่าพร้อมจูงมือผมเดินเข้าบ้าน ผ่านห้องรับแขกจนมาถึงห้องครัวที่มีอาหารวางอยู่เต็มโต๊ะพร้อมแม่บ้านที่ยืนคอยตักข้าวอีก 1 คน

“ขอบคุณครับแม่ มีแต่ของชอบมันทั้งนั้นเลย”  หือ ของชอบใครนะ ผมฟังผิดใช่ไหมคงไม่ใช่ของผมหรอก แต่มองแล้วคงเป็นของคนอื่นไปไม่ได้ เพราะบนโต๊ะทุกอย่างเป็นของที่ผมชอบจริงๆด้วยครับ ไม่รู้ว่าแม่พี่ชินรู้ได้ยังไงว่าผมชอบอะไรบ้าง เรื่องนี้อดแปลกใจไม่ได้จริงๆครับ

“เอ่อ อาหารนี่”

“เป็นไงน้องวีชอบไหม พี่ชินเขาโทรมาบอกแม่ตั้งแต่ช่วงสายๆว่าจะพาน้องวีมากินข้าวกับแม่ แม่ทำสุดฝีมือเลยนะ” ผมหันไปมองหน้าพี่ชินเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง แต่ก็ได้รับเพียงรอยยิ้มอบอุ่นที่ส่งมาให้แทนคำตอบ

“ชอบครับของโปรดผมทั้งนั้นเลย ขอบคุณนะครับ” แม่ผมยังไม่ทำให้ผมขนาดนี้เลย อย่างมากอยากกินอะไรก็ให้เงินไปซื้อเอาแต่ก็ไม่ใช่ว่าแม่ได้รักผมนะครับเพียงแต่รักน้อยกว่าสามีคุณนายนิดเดียว

“น้องวีชอบแม่ก็ดีใจแล้วจ้ะ ไหนมาลองชิมก่อนจะได้รู้ว่าอร่อยถูกปากรึเปล่า”

“ผมเป็นหมาหัวเน่าเลยนะครับ”

“ของชินเอาไว้วันหลังจ้ะ วันนี้แม่เลี้ยงตอนรับน้องวีก่อน  ทานเลยจ้ะน้องวี” หลังจากประโยคนี้ คำว่าเกรงใจไม่มีแล้วครับ ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไรนอกจากขนมปังแผ่นเดียว  พอได้มากินของโปรดอย่างนี้เอาอะไรมาฉุดก็ไม่อยู่ พี่ชินที่นั่งตรงข้ามผมกินไปยิ้มไปตักอาหารให้แม่บ้างให้ผมบ้างสลับกัน

“น้องวีเติมอีกไหม”

“ไม่เอาแล้วครับแม่ แน่นไปหมดแล้ว” เรียกเองก็ละลายใจเอง ทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองกำลังหลอกท่านอยู่แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ ไม่รู้พี่ชินกำลังคิดอะไรถึงได้พาผมมาแนะนำกับแม่อย่างนี้

“อะไรวะ เพิ่งจะ 2 จานเองปกติกินได้เป็นกะละมัง”

“อาหารแม่ไม่ถูกปากเหรอจ้ะ” นั่นไงไอ้พี่ชินแม่งหางานให้ผมแล้วไหมล่ะ

“อาหารแม่อร่อยมากครับ แต่ผมกินไปตั้งสองจานพูนๆแล้ว”

“อร่อยก็ทานอีกสิ แม่อยากให้น้องวีทานเยอะๆ ถึงแม่จะชอบที่น้องวีตัวเล็กแต่แม่ก็อยากให้สุขภาพดีด้วย”

   “งั้นอีกจานก็ได้ครับ” เอาเรื่องสุขภาพมาพูดแล้วผมจะปฏิเสธได้ยังไงล่ะ แล้วก็กลายเป็นว่าผมกินข้าวมื้อแรกกับแม่พี่ชินถึง 3 จานเลยครับตบท้ายด้วยของหวานอีก 1 ถ้วย แค่นี้ก็ท้องตึงคอตั้งก้มไม่ลงแล้วครับ

“กินข้าวเสร็จแล้วจะไปไหนกันต่อล่ะ” แม่พี่ชินถามพี่ชินที่กำลังนั่งเล่นกับหมาปอมตัวเล็กๆขนปุกปุยอยู่บนโซฟา

“เย็นๆผมว่าจะพาไปเดินเล่นที่เอเชียทีคครับแม่”

“ดีจ้ะวันหยุดก็พาน้องไปเที่ยวบ้าง เป็นแฟนก็ต้องคอยเอาใจใส่อย่าปล่อยให้น้องเหงานะ”

“ครับแม่ ผมไม่อยากปล่อยให้เหงาหรอก แต่ไม่รู้น้องวีของแม่จะอยากไปกับผมรึเปล่านี่สิ” พี่ชินเงยหน้าขึ้นตอบแม่ก่อนหันมาสบตาผมยิ้มๆ

“อ้าวทำไมน้องจะไม่อยากไปล่ะ จริงไหมน้องวี”

“ครับแม่”

“ครับอะไรจ้ะ”

“เอ่อ อยากไปครับ”

“นั่นไงเห็นไหมชิน น้องอยากไปเที่ยวกับเรา แม่บอกแล้วคนเป็นแฟนกันก็ต้องอยากอยู่ด้วยกันสิ ว่าแต่น้องวียอมใจอ่อนให้พี่ชินของแม่ตั้งแต่เมื่อไหร่จ้ะ”

“เอ่อ...”  แม่พี่ชินยิงคำถามมาเล่นเอาผมไปไม่เป็นเลย แล้วผมต้องตอบว่าไงล่ะทีนี้

“เมื่อเช้าครับแม่ พอตกลงผมก็พามาหาแม่เลย ตามที่ผมบอกไว้ว่าถ้ามีแฟนผมจะพามาหาแม่เป็นคนแรกไงครับ” พี่ชินคงเห็นผมอึกอักเลยชิงตอบซะเองเลยครับ

“ขอบใจจ้ะพ่อลูกชายที่ยังจำได้ ยังไงแม่ก็ดีใจด้วยที่ทั้งสองคนใจตรงกัน รักกันให้นานๆมีอะไรก็คุยกันต่างคนต่างดูแลกันนะ” แม่พี่ชินพูดพร้อมลูบหัวผมไปเรื่อยๆ  ผมถึงกับพูดไม่ออก ทำไมแม่พี่ชินถึงยอมรับในตัวผมง่ายขนาดนี้

“ขอบคุณครับแม่” ผมกับพี่ชินพูดขึ้นพร้อมกัน ก่อนมองอีกฝั่งเหมือนต่างคนต่างแปลกใจที่พูดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
ผมนั่งคุยกับแม่พี่ชินจนเกือบเย็น  ก่อนพี่ชินจะขอตัวพาผมไปเที่ยวเอเชียทีคต่อ  แม่พี่ชินเป็นผู้หญิงที่ทั้งสาว ทั้งสวย แถมยังใจดีอีกครับผมคุยด้วยแล้วสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นอ่อนโยนที่ท่านมอบให้ลูกชายและผมที่มาในฐานะแฟนของลูกชายเลย พี่ชินนี่โชคดีชะมัดที่มีแม่แบบนี้  แต่อยู่บ้านพี่ชินตั้งนานผมไม่เห็นพูดถึงพ่อเลย แถมรูปถ่ายอะไรก็ไม่มี

“พี่ชินผมถามอะไรหน่อยได้ไหมครับ” ลองหยั่งเชิงดูก่อนครับ

“อื้อ ถามมาดิ” พี่ชินที่กำลังตั้งใจขับรถ ตอบผมแต่ตาก็ยังไม่ล่ะจากถนน

“เอ่อ พ่อพี่ไม่อยู่บ้านเหรอครับ ผมไม่เห็นเจอ”

“...” เงียบครับ ผมถามอะไรผิดหรือป่าววะคิดว่าเลือกถามสุภาพที่สุดแล้วนะ

“ถ้าไม่อยากตอบไม่ต้องตอบก็ได้ครับ” ผมเลือกที่จะลืมคำถามนี้ซะ ดีกว่าทำให้บรรยากาศภายในรถวังเวงมากไปกว่านี้

“พ่อกูไม่ได้อยู่บ้านนี้หรอก แม่กูอยู่กับแม่บ้านแค่ 2 คน พ่อกับแม่กูเขาแยกทางกันมานานแล้ว พ่อกูเจ้าชู้มีผู้หญิงไปทั่ว ก่อนหน้านี้แม่กูไม่รู้ไงดันไปแต่งงานกันเข้าแล้วมารู้ทีหลัง พ่อกูก็เลิกเจ้าชู้ไม่ได้แม่กูก็ต้องทนเหงาอยู่บ้านหลังใหญ่ที่มีแต่คนใช้รายล้อมเกือบทุกวัน จนมีกูท่านถึงหายเหงาขึ้นมาบ้าง จนหลังๆพ่อกูไปเลี้ยงเด็กเป็นตัวเป็นตน มีบ้านเล็กหลายหลังแม่กูเลยขอแยกทางแล้วมาอยู่ที่นี่คนเดียว” พี่ชินเล่าด้วยเสียงเศร้าจนผมสัมผัสได้ ผมไม่น่าถามเรื่องนี้เลยจริงๆครับ

“ผมขอโทษที่ถามเรื่องนี้ครับ ผมไม่รู้”

“ไม่เป็นไรกูอยากเล่าเอง ทุกวันนี้แม่กูก็มีความสุขดี มีความสุขกว่าตอนที่อยู่กับพ่อกูอีก มึงเชื่อไหมเมื่อก่อนแม่กูเหมือนคนที่แบกโลกทั้งใบไว้คนเดียว กูต้องทนเห็นแม่ที่เอาแต่ร้องไห้ หรือไม่ก็นั่งเหม่อลอยคอยพ่อกูทุกวัน จนกูนึกไม่ออกเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่แม่สดใสเต็มไปด้วยรอยยิ้ม” พี่ชินคงจะรักแม่มากแน่ๆครับ เพราะตลอดเวลาที่เล่าพี่ชินมีรอยยิ้มเปื้อนหน้าตลอดเลย

“ถ้าอย่างนั้นแม่พี่คงเลือกถูกแล้วล่ะครับที่ไม่ยื้อชีวิตคู่ต่อไป”

“อื้อใช่แล้ว แม่กูถึงบอกไงว่าอย่าปล่อยมึงให้เหงาเพราะท่านรู้ว่ามันทรมานแค่ไหนก่อนจะมาถึงวันนี้แม่กูเจออะไรมาเยอะ กูเห็นชีวิตครอบครัวของตัวเองแล้วคิดมาตลอดว่าถ้ากูมีคนรักกูจะไม่ยอมให้เป็นแบบนี้แน่นอน


การเจ้าชู้ไม่ได้ทำให้ใครมีความสุขไปได้ตลอดหรอก แม่กูต้องทุกข์เพราะพ่อมีคนอื่น พ่อกูก็ถูกคนอื่นหลอกเอาเงินไปวันๆไม่มีใครจริงใจกับคนเจ้าชู้แล้วกระเป๋าหนักอย่างพ่อกูหรอก ทุกคนคิดว่าพ่อกูไม่มีวันหยุดที่ตัวเองได้เพราะฉะนั้นตอนนี้มีโอกาสก็ต้องกอบโกยให้ได้มากที่สุด แล้วสุดท้ายพ่อก็จะไม่เหลือใคร” ผมได้แต่นั่งฟังพี่ชินเล่าเรื่อยๆไม่รู้จะออกความเห็นว่ายังไงครับ ในเมื่อเป็นเรื่องในครอบครัวฟังเฉยๆคงดีกว่าให้พี่ชินได้ระบายอะไรออกมาบ้าง

“ถึงพ่อจะเจ้าชู้แต่กูก็ไม่ได้เกลียดพ่อนะทุกวันนี้กูก็ยังอยู่กับท่านสลับกับแม่บ้าง พ่อกูถือว่าเป็นผู้ชายที่แย่มากในฐานะสามีแต่ในฐานะพ่อท่านเป็นพ่อที่ดีมากสำหรับกูเลยหว่ะ”

“คนที่ได้เป็นแฟนพี่คงโชคดีมากแน่ๆ” คิดตามแล้วผมก็เผลอพูดออกไปโดยไม่รู้ตัวซะงั้น มารู้ตัวตอนที่พี่ชินหันหน้ามามองผมนิดนึงก่อนหันกลับไปมองถนนเหมือนเดิม แต่รู้ตัวตอนนี้ก็ไม่ช่วยอะไรแล้วครับในเมื่อพูดไปแล้ว

“มึงอยากเป็นคนโชคดีคนนั้นไหมล่ะ” จุกสิครับ เจอแบบนี้ผมไม่รู้จะตอบว่ายังไงเลย

“....”

“ยังไม่ต้องตอบก็ได้ กูยังไม่อยากได้ยินคำตอบว่ะ เดี๋ยวกูค่อยถามอีกครั้งแล้วกัน” พี่ชินคงเห็นผมเงียบนานเกินไปเลย ตัดบทซะเอง ผมรู้สึกผิดนะที่ยังไม่ยอมตอบให้ชัดเจนแต่ไม่รู้ทำไมพอจะตอบมันก็เหมือนมีก้อนอะไรแข็งๆมาจุกอยู่ที่คอทำให้ไม่สามารถตอบได้ทุกที





บรรยากาศในรถตอนนี้ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งหลังจากผมไม่รู้จะชวนคุยอะไรดี แล้วที่พึ่งสุดท้ายก็เป็นเสียงเพลงจากวิทยุหน้ารถที่ทำให้ภายในรถไม่เงียบจนวังเวงเกินไปนัก

“ที่นี่เหรอพี่” ผมเปิดประตูรถลงมามองรอบๆก่อนถามพี่ชิน

“เออที่นี่แหละ เอเชียทีค” ในที่สุดผมก็มาถึงแล้วครับ ตรงหน้าผมเขียนป้ายไว้ใหญ่เท่าฝาบ้านแต่ผมก็ยังจะถามพี่ชินอีกนะ

“ไปขึ้นเรือไหม”

“มีขึ้นเรือด้วยเหรอพี่”

   “เออมีล่องเรือทานอาหาร ดูบรรยากาศรอบๆ สนใจไหม” พี่ชินหันมาถามผมเหมือนถามเด็ก 3 ขวบอย่างนั้นแหละ แต่มีเหรอผมจะไม่สนใจ

“สนดิพี่ พาผมไปหน่อยนะ”

“โอเค วันนี้อย่างทำอะไร กินอะไร ซื้ออะไรบอกเลย กูจะบริการแฟนเต็มที่” 

“พูดแล้วห้ามคืนคำนะครับ” ผมแกล้งว่า

“ผมนายอครนัยพูดแล้วไม่เคยคืนคำครับ คุณนาวีนั่นแหละพร้อมที่จะทำตามใจตัวเองกับผมรึยัง” พี่ชินพูดยิ้มๆก่อนยื่นมือมาข้างหน้า

“พร้อมแล้วครับคุณแฟน” ผมก็ตอบพร้อมยื่นมือไปจับมือพี่ชินที่ส่งมารออยู่แล้วเช่นกัน

“ถ้าพร้อมแล้วก็ลุย” พูดจบพี่ชินก็เดินจูงมือผมเข้าไปขึ้นเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยาทันที


   ---To Be Con. ---

        ขอบคุณที่ติดตามค่ะ  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 19 up 14/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: me_toey ที่ 15-10-2014 00:07:06
จะว่าน่ารัก็น่ารัก

จะว่าสงสารก็สงสาร

เมื่อไหร่น้องวีจะรู้ใจตัวเองซักทีน้า

เชียร์ให้ได้เป็นแฟนกันเร็วๆน้า :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 19 up 14/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 15-10-2014 00:08:28
รอวันวีรู้ใจตัวเอง
พี่ชินน่ารักอ่ะตามใจคุณแฟน
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 19 up 14/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: Cinnamon Roll!!! ที่ 15-10-2014 00:26:31
อร๊ายยย เค้าเป็นแฟนกันแล้วว    ห่ะ!! อะไรน่ะ เป็นแฟนกันแค่วันเดียวว :o12:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 19 up 14/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 15-10-2014 00:38:06
เศร้าอ่ะสงสารพี่ชิน. เมื่อไหร่น้องวีจะใจอ่อนนะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 19 up 14/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: PANGGii ที่ 15-10-2014 00:43:13
หืมมมม มันรุ้สึกหน่วงๆ ยังไงก้ไม่รุ้
แบบ..น้องปากแข็ง พี่ก้เจ็บปวดสุดๆ คือหน่วงมากกกกกกกก

ไม่อยากจะนึกตอนไปส่งหอ ต้มน้ำรอมาม่าเดือด!!
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 19 up 14/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 15-10-2014 01:03:24
หน่วงๆ แต่รอตอนต่อไปนะจ๊ะ ^___^
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 19 up 14/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 15-10-2014 06:35:54
สงสารพี่ชิน  :hao5:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 19 up 14/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 15-10-2014 06:59:48
สงสารชิน
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 19 up 14/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: hibarihao ที่ 15-10-2014 08:11:20
น่ารักขนาดนี้เป็นแฟนกันเถอะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 19 up 14/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 15-10-2014 08:27:55
 :serius2: พอหมดวันแล้วทั้งสองคนจะทำใจกันได้มั๊ยเล่นกับความรู้สึกแบบนี้
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 19 up 14/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 15-10-2014 08:49:15
อ่านแล้วจุก
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 19 up 14/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 15-10-2014 09:34:24
สวีทแบบปนหน่วงๆ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 19 up 14/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 15-10-2014 13:56:56
น้องวีรู้ใจตัวเองเร็วๆ นะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 19 up 14/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 15-10-2014 17:36:33
อยากให้เป็นแฟนกันจริงๆอ่ะ
หัวข้อ: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 20 up 15/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 15-10-2014 23:52:50
ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 20


สถานที่ที่พี่ชินพาผมมานี้เรียกว่าเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์อยู่ในกรุงเทพฯนี่เองครับ มองไปรอบๆแล้วบรรยากาศดีใช้ได้เลย อ่านป้ายคร่าวๆจะมี 4 ย่านคือ

ย่านเจริญกรุงมีพวกร้านขายของที่ระลึกและโรงละครที่แสดงหุ่นละครเล็กโจหลุยส์ โชว์จากคาลิปโซ่ คาบาเร่ต์ ย่านกลางเมืองเป็นโซนอาหารนานาชาติแล้วก็ลานกิจกรรมต่างๆครับ ส่วนย่านโรงงานมีร้านค้า ร้านอาหารและผับ โซนสุดท้ายเรียกย่านริมน้ำย่านนี้ถือเป็นจุดชมวิวแบบพาโนราม่าริมแม่น้ำเจ้าพระยาเลยทีเดียว ดูแล้วน่าเที่ยวเกือบทุกย่านเลยครับ ทำไมผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีที่แบบนี้อยู่ในกรุงเทพฯด้วย 

ผมกับพี่ชินลงเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมกินข้าวกันอีกรอบ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งก่อนเรือจะเทียบท่าแล้วพี่ชินก็พาผมเดินเล่นต่อ เข้าร้านโน้นออกร้านนี้ทั้งร้านเสื้อผ้า ของที่ระลึก หรือพวกโปรเตอร์ต่างๆพี่ชินชวนผมแวะเกือบทุกร้าน ก่อนหน้านี้มีถามเหมือนกันครับว่าอยากดูการแสดงรึเปล่า แต่ผมบอกไม่ดูขอเดินย่อยดีกว่าเลย ได้เดินสมใจ เล่นพาผมเดินซะหอบลิ้นห้อย


วันนี้เป็นวันหยุดคนค่อนข้างเยอะเหมือนกัน  พี่ชินเดินจูงมือหรือไม่ก็ยกแขนขึ้นมาพาดไหล่ผมตลอด ถ้าไม่ใช่คอยกันคนเดินมาชนก็คงกลัวผมไปทำอันตรายคนอื่น แต่ผมคิดว่าเป็นอย่างหลังมากกว่าครับ


“พี่ชินผมหิวน้ำ” ผมบอกหลังเดินคอแห้งมาได้ซักพัก

“เอาน้ำอะไรเดี๋ยวไปซื้อให้”

“ไม่เป็นไร ผมไปเองดีกว่าพี่”

“นั่งรอตรงนี้แหละเดี๋ยวกูมา”พี่ชินเดินแยกออกไปไม่ฟังที่ผมพูด ผมก็ได้แต่มองหาที่นั่งรอตามคำสั่ง แล้วก็เจอเก้าอี้ว่างไม่ไกลเท่าไหร่

“เอ่อ...ขอโทษนะคะ ช่วยถ่ายรูปให้หน่อยได้ไหมคะ”  นั่งตูดยังไม่ทันร้อนก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาถามผมพร้อมโทรศัพท์ในมือเตรียมยื่นให้

“ได้ครับ” ผมตอบก่อนรับไอโฟนมาถือ  ผู้หญิงที่เดินมาหาผมกวักมือเรียกเพื่อนเกือบ 10 คนให้มาถ่ายรูปพร้อมกัน  ความวุ่นวายเล็กๆจึงเริ่มขึ้นแต่พอจัดท่าได้ผมก็เริ่มกดชัตเตอร์พร้อมบอกให้เปลี่ยนท่าไปเรื่อยๆ

“แกๆ มีผู้ชายแอบมองฉันแหละ”  ผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มพูดกับเพื่อนที่เป็นสาวประเภทสองเสียงไม่เบาเลยครับ ได้ยินกันทั่ว

“แอร๊ยยย มองฉันรึเปล่าแก ยิ้มให้ด้วยดูสิๆ”

“เขาต้องแอบชอบแกแน่เลย ฉันเห็นเขามาหยุดมองตั้งแต่พวกเราเริ่มถ่ายรูป” เพื่อนอีกคนเสริมขึ้นมาบ้างครับ

“แกจะบ้าเหรอ หล่อขนาดนั้นฉันว่ามองนังหลิวนั่นแหละ” คราวนี้คนที่เดินมาหาผมเป็นคนสนับสนุนเพื่อนคนแรกที่คาดว่าชื่อหลิวครับ

“เออฉันยอมแกก็ได้นังหลิว แกมันสวยนี่ แล้วเอาไงเข้าไปคุยเลยไหม” สาวประเภทสองพูดขึ้น

“จะบ้าเหรอจะให้ฉันไปคุยกับผู้ชายก่อนเนี๊ยะนะ”

“ถ้าแกไม่เอาฉันเอานะนังหลิว”

“ได้ไง เขาสนใจฉันไม่ได้สนใจแกซะหน่อย” พูดเสร็จคนชื่อหลิวก็เดินแยกตัวออกไปทางที่บอกว่ามีคนมองอยู่ทันที ผมมองตามยิ้มๆอดขำไม่ได้ทั้งที่ตัวเองก็หน้าตาดี แต่ไม่รู้เพราะกลัวเพื่อนแย่งหรืออะไรถึงทำให้กล้าออกตัวแรงไม่แค่ภาพลักษณ์เรียบร้อยที่ผมเห็นขนาดนั้น

จังหวะที่ผมเอาโทรศัพท์คืนเจ้าของสายตาก็ดันเห็นผู้ชายที่ถูกพูดถึงมาตั้งแต่แรกว่าคือพี่ชินนั่นเองครับ แม่งบอกไปซื้อน้ำ ที่ไหนได้มาแอบยืนมองสาว

“ขอโทษครับพอดีผมไม่สะดวก” เสียงพี่ชินดังมาแว่วๆ

“ทำไมล่ะคะ ถ้าไม่สะดวกให้ไลน์จะให้เป็นเบอร์โทรเลยก็ได้ค่ะ” ตอนแรกบอกไม่กล้า แต่ที่ผมเห็นนี่เลยคำว่าหน้าด้านไปไกลแล้วนะครับ ผู้ชายไม่ให้ยังจะตื้ออีก

“ผมมีแต่ hi 5 ทักมาก็ได้นะครับ”

“แหม รูปหล่อแล้วยังตลกอีกนะคะ แบบนี้สเป็คเลย”

“ฮ่าๆ ถ่ายรูปเสร็จแล้วใช่ไหมครับ” อยู่ๆพี่ชินที่หัวเราะกับสาวก็ถามขึ้นทำเอาบรรดาเพื่อนๆที่กำลังมองทำหน้างงกันเป็นแถวเลยครับรวมทั้งผมด้วย

“เสร็จแล้วค่ะ มีอะไรหรือป่าวคะ”

“ถ้าเสร็จแล้ว ผมขอตัวแฟนผมคืนน่ะครับว่าจะพาไปเที่ยวต่อ” พี่ชินพูดพร้อมรอยยิ้มน้อยๆบนใบหน้าหล่อกระชากใจ ไม่รู้ต้องการทดสอบเสน่ห์ของตัวเองรึไงถึงได้ชอบทำให้ผมตาพร่าเพราะรอยยิ้มแบบนี้บ่อยๆ

“กรี๊ดดดดดด......มึง กูจะเป็นลมเขาเป็นแฟนกันอ่ะ” ผมที่กำลังหน้าร้อนฉ่าเพราะความอายถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของเหล่าสาวแท้สามเทียมที่ยืนอยู่ใกล้ๆ

“แอร๊ยย อะไรยังไงมึงบอกกูที”

“ไม่จริงอ่ะ ชะนีอย่างกูจะเหลืออะไร”

“อดนะคะนังหลิว สุดหล่อเค้าไม่แดกชะนีค่ะ”

“ไปกันเถอะ เวลาของมึงเป็นของกูไม่ใช่ของคนอื่น”

ไอ้พี่ชินแม่งโคตรหน้าด้านเลยครับ กล้าประกาศตัวว่าเป็นแฟนกับผู้ชายด้วยกันยังไม่พอ พี่แกเล่นเดินยิ้มหวานเข้ามากอดคอแล้วก้มลงกระซิบข้างซอกหูให้ผมขนลุกขึ้นไปอีก เสียงกรี๊ดที่เพิ่งเงียบดังขึ้นอีกรอบผมนี่ก้มหน้ามองพื้นอย่างเดียวเลยไม่กล้าสบตากับใครเลยบอกได้คำเดียวว่าโคตรอาย

ได้ยินเสียงซุบซิบรอบๆตัวนะแต่จับใจความไม่ได้ เพราะเสียงหัวใจตัวเองมันเต้นดังกว่าอีกครับ

ระหว่างที่ทำอะไรไม่ถูกรู้ตัวอีกทีข้อมือผมก็ถูกดึงให้เดินห่างจากคนกลุ่มนั้นซะแล้ว



“อ่ะน้ำมึง”
 
“ขอบคุณครับ” ผมขอบคุณเบาๆหลังพี่ชินส่งขวดน้ำเปล่าเย็นเจี๊ยบมาให้ ผมกับพี่ชินเดินมาไม่ไกลก็เจอเก้าอี้ว่างเลยนั่งพักขาข้างกัน

“เหนื่อยไหม

   “เหนื่อยแต่สนุกมากเลยพี่”

   “แล้วยังไหวไหม”

   “ตอนนี้ไม่ไหว ขอพักซัก 10 นาทีนะพี่ ไม่งั้นขาผมขาดแน่ๆ”

   “เวอร์นะมึง ขี่หลังกูเอาไหม”

“ไม่! เดี๋ยวพี่ก็มาว่าผมตัวหนักเป็นหมูอีก”

“รู้ดีนะมึง เหนื่อยก็นั่งพักก่อนเดี๋ยวค่อยเดินต่อก็ได้ ยังไม่เห็นได้อะไรซักชิ้นเลยนี่”

“แค่ดูก็พอแล้วพี่ ผมไม่อยากได้อะไรหรอก”

“แล้วพี่ล่ะไม่อยากได้อะไรบ้างเหรอ ผมไม่เห็นพี่ซื้ออะไรเลย” ผมถามพี่ชินบ้างเมื่อมองดูแล้วยังไม่เห็นพี่ชินซื้ออะไรเหมือนกันครับ

“ของที่กูอยากได้มันซื้อไม่ได้หรอก ถึงมีเงินมากขนาดไหนก็ซื้อไม่ได้ แต่แค่ที่ได้รับอยู่ตอนนี้ก็พอแล้วว่ะ”

“...” ไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆครับ ถ้าความรักมันสั่งกันได้ผมจะสั่งให้ตัวเองรักพี่ชินซะเดี๋ยวนี้เลยจะได้ไม่มีใครต้องเจ็บ พี่ชินก็ไม่ต้องเจ็บเพราะผม ผมก็ไม่ต้องเจ็บเพราะไปหลงรักพี่ตินณ์ แต่เพราะมันสั่งไม่ได้ทั้งผมและพี่ชินถึงต้องเจ็บเหมือนตอนนี้

“เงียบเลย กูล้อเล่นน่าอย่าไปคิดมากกูพามาเที่ยวให้สนุกจะมาทำหน้าเครียดทำไมวะ เอ้ายิ้มหน่อย ” เสี้ยววินาทีผมเห็นแววตาเศร้าๆของพี่ชินมองตรงมาที่ผม ก่อนเปลี่ยนเป็นร่าเริงเหมือนเดิมพร้อมยกมือขึ้นยีหัวผมแรงๆ

รู้สึกไม่ดีทุกครั้งที่เห็นแววตาแบบนั้น ถ้าเป็นไปได้ผมก็ไม่อยากให้พี่ชินต้องมีสายตาแบบนั้นเพราะผม

พี่ชินไม่ควรเลย....ไม่ควรรักผมจริงๆ

“ยิ้มแบบนี้รึเปล่า” ผมแกล้งยิงฟันจนเกือบครบสามสิบสองซี่ใส่พี่ชิน

“เออแบบนี้แหละยิ้มไว้นะอย่าหยุดยิ้ม”

“เฮ้ย! ผมไม่ได้บ้านะพี่ คนดีๆที่ไหนจะยิ้มได้ตลอดเวลา”

“อ้าวเหรอ แต่กูว่ามึงทำได้นะ”

“นี่พี่เห็นผมเป็นคนบ้ามาตลอดเลยเหรอ”

“กูไม่ได้พูดนะ มึงพูดเอง” นี่หลอกด่าผมทั้งที่ยิ้มๆเนี๊ยะนะ แม่งร้ายจริงๆผู้ชายคนนี้

“พี่ชิน!!” ผมเรียกพี่ชินเสียงดัง แต่กลับได้รับรอยยิ้มกวนๆกลับมาแทนหน้าตาสำนักผิดที่ผมอยากได้รับ

“กูล้อเล่นน่ามึงจะได้ไม่เครียด แล้วหายเหนื่อยรึยังจะได้เดินต่อ” แบบนี้จะเครียดหนักกว่าเดิมไหมล่ะ พี่ชินแม่งชอบเอาเรื่องจริงมาล้อเล่นหว่ะ



“ไม่ไหวอ่ะ  สงสัยผมต้องเสียขาอันเป็นที่รักไปแล้วแน่เลย” ผมแกล้งว่าพร้อมทำท่านวดขาไปด้วย

“ถ้าเสียไปแล้วก็คงไม่มีประโยชน์ ต้องตัดทิ้งแล้วว่ะ”

“เฮ้ย! พี่ชินแม่งใจโหดไปนะ จะตัดขาผมเลยเหรอ”

“แล้วจะเอาไว้ทำไม”

“พี่แม่ง ก็คนมันขี้เกียจเดินแล้วอ่ะ เออใช่พี่ชินขึ้นชิงช้าสวรรค์กันไหม”  ผมบ่นก่อนนึกขึ้นได้ ที่นี่มีชิงช้าสวรรค์ด้วยครับเป็นชิงช้าสวรรค์ที่สูงมาก สูงกว่าชิงช้าสวรรค์ตามงานวัดไม่รู้กี่เท่า ผมแหงนหน้าขึ้นมองชิงช้าสวรรค์ที่อยู่ตรงหน้า ทำไมไม่คิดได้ตั้งนานแล้ววะอยู่ตรงหน้าแท้ๆ

“ขึ้นชิงช้าสวรรค์เนี๊ยะนะ มึงเป็นเด็กรึไง”

“อื้อ เด็กโข่งอ่ะ” ตอบแต่ตาก็ยังไม่ล่ะไปจากชิงช้าสวรรค์ตรงหน้า

“หึหึ ไม่อายรึไง ผู้ชายสองคนขึ้นชิงช้าสวรรค์ด้วยกัน” ผมหันมาสบตาพี่ชินที่จ้องผมอยู่ก่อน

“ไม่อาย หรือพี่อาย” ก็ตอนนี้มันเมื่อยผมขี้เกียจเดินแล้วอ่ะ เรื่อยอายเอยอะไรไม่สนแล้วขอนั่งดูวิวรอบๆแบบไม่ต้องเดินดีกว่า

“ไม่อาย” พี่ชินตอบนิ่งๆ จริงจังไปไหนวะ

“พี่ไม่อาย งั้นก็ไปดิ” ผมว่ายิ้มๆก่อน มองไปทางที่ขายตั๋ว

“ก็ไปดิ๊” พี่ชินว่ากลับกวนๆเหมือนกันครับ พูดจบก็จูงมือผมออกเดินไปที่ช่องขายตั๋วทันที

ไม่นานผมก็มาห้อยต่องแต่งอยู่บนกลางอากาศ กระเช้าที่ผมกับพี่ชินนั่งเคลื่อนตัวไปช้าๆ ข้างบนนี้นอกจากวิวจะสวยแล้วบรรยากาศยังดีมากเลยครับ มีทั้งแม่น้ำ แสงไฟ และลมเย็นๆที่พัดมาตลอดเวลา



ผมนั่งมองวิวกรุงเทพฯยามค่ำคืนที่มีแต่แสงไฟ ตัดกับความมืดของท้องฟ้าที่ไม่มีดาวซักดวงทั้งที่ตอนนี้ก็ ใกล้จะ 5 ทุ่มเข้าไปทุกที ผมปล่อยใจให้คิดถึงเรื่องต่างๆระหว่างผมกับพี่ชินและพี่ตินณ์

อีกไม่นานก็จะหมด1วันที่ได้เป็นแฟนกับพี่ชินแล้ว หลังจากนี้ระหว่างผมกับพี่ชินจะเป็นยังไงต่อไปผมนึกภาพไม่ออกจริงๆครับ แต่ที่รู้ๆคือวันนี้ผมมีความสุขมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน พี่ชินดูแล เอาใจใส่ผมอย่างดีแม้ว่าจะไม่ต้องทำก็ได้ แล้วที่ผมแปลกใจคือทั้งๆที่รู้ว่าระหว่างผมกับพี่ชินมันเป็นแค่เรื่องหลอกลวง แล้วทำไมถึงต้องพาผมไปหาแม่ของพี่ชินด้วย  ผมรู้สึกไม่ได้เพราะมันเหมือนจงใจหลอกท่าน


ลึกๆความรู้สึกของผมบอกตัวเองว่า นี่แหละมันคือความสุขแล้วยังต้องการอะไรอีก ให้ลืมพี่ตินณ์ซะแล้วก็เป็นแฟนกับพี่ชินเหมือนวันนี้ไง แต่อีกใจผมก็อยากให้พี่ชินเจอคนที่ดีกว่าผม คนที่รักพี่ชินได้อย่างหมดใจ พร้อมทำทุกอย่างให้พี่ชินเหมือนที่พี่ชินบอกผมว่าจะซื่อสัตย์กับคนรักเพียงคนเดียวและไม่ทำให้คนรักของตัวเองเสียใจ ไม่ใช่ผู้ชายอย่างผมที่กำลังทำให้พี่ชินเสียใจ เพราะความไม่แน่ใจอะไรซักอย่าง ไม่รู้แม้กระทั้งว่าตอนนี้ตัวเองต้องการอะไร


“วี....วี!”

“พี่ว่าอะไรนะครับ” เสียงเรียกของพี่ชินทำให้ผมหลุดออกจากภวังค์ กำลังคิดอะไรเพลินๆเลยไม่ได้ฟังที่พี่ชินว่า

“กูถามว่าสวยไหม ชอบรึเปล่า” พี่ชินถามซ้ำอีกครั้ง

“สวยครับและก็ชอบมากเลยพี่ ขอบคุณนะครับที่พาผมมา” ผมขอบคุณพี่ชินเบาๆ วันนี้ผมมีความสุขมากจริงๆที่ได้ใช้เวลาทั้งวันกับพี่ แม้ว่าจะไม่อยากให้หมดวันนี้แต่มันก็คงเป็นไปไม่ได้

“แค่มึงชอบกูก็ดีใจแล้ว” พี่ชินว่ายิ้มๆก่อนมองวิวข้างนอกต่อ ผมรู้สึกว่าวันนี้พี่ชินจะขยันยิ้มเป็นพิเศษนะ แต่ผมก็ชอบเห็นพี่ชินยิ้มเพราะดูดีกว่าเวลาทำหน้าเรียบๆเยอะเลย

“พี่ชินผมถามหน่อยได้ไหมว่า ทำไมพี่ถึงรักผมเหรอ” ผมตัดสินใจถามคำถามที่อยากรู้มานานแต่ยังไม่มีโอกาสได้ถามซักที และที่เลือกใช้คำว่ารักเพราะพี่ชินเคยบอกว่ารักผมไม่ใช่แค่ชอบ

“...ไม่รู้สินะทำไมกูถึงรักวะ” พี่ชินเงียบไปนาน ก่อนพูดเหมือนคุยกับตัวเองเบาๆ

“...”

“มึงไม่ได้มีอะไรที่เรียกว่าตรงสเป็คกูซักอย่าง   ผมก็ไม่ยาว นมไม่มี แถมบางทียังชอบปากดีกับกูอีก ที่สำคัญมึงไม่ใช่ผู้หญิง ซึ่งแค่ข้อนี้ข้อเดียวมึงก็ควรจะอยู่ไกลจากคำว่ารักของกูแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมตั้งแต่วันแรกที่กูเจอมึงที่หอประชุม แค่เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ หน้ารูปไข่ผิวขาวปากแดงๆที่วิ่งมาเข้ากิจกรรมช้ากว่าคนอื่นถึงทำให้กูละสายตาไม่ได้ ตอนแรกก็แค่มองมึงเฉยๆนะไม่ได้คิดอะไร แต่มึงก็ทำให้กูได้เห็นความซวยของตัวเองบ่อยๆ จนบางครั้งกูยังสงสัยเลยว่าวันนึงมึงจะซวยมากสุดกี่ครั้งวะ เห็นมาช้าโดนทำโทษตลอด” ไอ้ที่โดนทำโทษก็เพราะพี่สั่งไม่ใช่เหรอวะ


“จากที่เห็นบ่อยๆพอไม่เห็นมึงในสายตา หรือวันไหนมาช้ากูก็เริ่มมองหาแล้ว บางวันยังไปถามจากเพื่อนมึงเลยตลกตัวเองชะมัดเลยว่ะ แล้วกูก็ได้เป็นพี่เทคมึงซะงั้น ไอ้จดหมายที่มึงเขียนมาด่ากู บ่นกูน่ะกูอ่านทุกอัน บางอันอ่านเสร็จกูยังอยากไปกระทืบมึงตอนนั้นก็มีนะ เด็กเปรตอะไรวะด่ากูซะเหมือนกูไปเผาแปลงนาบ้านมึง”


“ก็ตอนนั้นพี่ชอบแกล้งผมอ่ะ ผมจะรู้ได้ไงว่าพี่เป็นพี่เทคผมล่ะ” ถ้ารู้ผมจะไม่เขียนจดหมายไปหาซักฉบับแน่ๆครับ

“มึงก็เลยด่ากูซะจัดเต็มเลยดิ กูยังไม่ได้เอาคืนนะบอกไว้ก่อน”

“นี่ยังไม่เรียกเอาคืนอีกเหรอพี่ พี่ใช้งานผมจนแทบสลบเกือบทุกวันเลยนะ”

“ยัง อันนั้นเป็นเพราะมึงดันมาซวยทำรถกูพังเอง หึหึ”

“พี่แม่ง....” ผมว่าได้แค่นั้นเพราะไม่รู้จะว่าอะไรดี หมดคำพูดจะว่าพี่ชินจริงๆครับ

“จากเด็กที่กูไม่ค่อยชอบหน้ากลับกลายเป็นคนที่กูอยากเห็นหน้าทุกวันโดยไม่รู้ตัว แล้วกูก็รู้ว่ากูรักมึงหลังจากที่เห็นมึงไปวุ่นวายกับไอ้โย  กูแทบอยากต่อยหน้าเพื่อนตัวเองเพียงเพราะมันได้รับรอยยิ้มจากมึงแต่กูไม่เคยได้ 

กูหึงทุกคนที่อยู่ใกล้มึงตั้งแต่น้องลูกแพร ไอ้แบต และที่มากที่สุดแต่กูทำอะไรไม่ได้ก็คือพี่ตินณ์ กูคิดจะตัดใจถ้าต้องมาสู้กับคนอย่างพี่ตินณ์ แต่ในความหมดหวังนั้นกูก็ยังมีความหวังขึ้นมาอีกครั้งเมื่อรู้ว่าพี่ตินณ์ตามเฝ้าเด็กคณะอื่น กูหวังให้มึงเปลี่ยนใจและมองเห็นกูที่อยู่ข้างๆมึงมาตลอดบ้าง แต่มันก็คงเป็นไปไม่ได้ ยังไงก็ขอบใจนะที่ทำตามคำขอครั้งนี้ของกู”

 
“....” จุกเลยครับ ฟังพี่ชินเล่าจนจบผมก็ได้แต่อึ้งกับสิ่งที่เพิ่งได้รู้ ตลอดเวลาผมไปทำอะไรอยู่วะ ทำไมผมถึงโง่ขนาดนี้ ทำไมถึงมองไม่เห็นความรู้สึกของพี่ชินที่ส่งมาให้ แล้วรู้ตอนนี้มันจะทำอะไรได้ในเมื่อใจผมไปอยู่ที่คนอื่นแล้ว

“ใกล้จะครบรอบแล้ว เดี๋ยวลงไปแล้วกลับกันเลยไหมกว่าจะถึงหอมึงคงเที่ยงคืนพอดี”  พี่ชินเห็นผมเงียบไปนานเลยเปลี่ยนเรื่องเหมือนทุกครั้ง ที่ผมสัมผัสได้ จริงๆแล้วพี่ชินก็เป็นคนดีคนหนึ่งเลยครับ

   “พี่ชินทำไม...เอ่อ...ไม่มีอะไร กลับเลยก็ได้ครับ” ตอนแรกผมว่าจะถามเรื่องที่พาไปบ้าน แต่พอพี่ชินหันมาผมก็รู้ว่าถามไปมันจะมีประโยชน์อะไร ยังไงวันนี้ที่ผมเป็นแฟนกับพี่ชินมันก็ต้องจบอยู่ดี

   ชิงช้าสวรรค์หมุนครบ 4 รอบผมก็เดินตามพี่ชินลงมาเงียบๆก่อนจะเดินต่อไปยังลานจอดรถ ทั้งที่พี่ชินยังคงจับมือผมเหมือนเมื่อตอนที่เดินเข้าไป แต่ทำไมความรู้สึกมันถึงต่างกันขนาดนี้ 

   “หิวข้าวอีกไหม แวะกินอะไรก่อนเข้าหอรึเปล่า” พี่ชินหันมาถามผมที่เอาแต่นั่งมองออกไปนอกรถ

   “ไม่หิวครับ พี่หิวก็แวะเลยเดี๋ยวผมนั่งเป็นเพื่อน”

   “กูไม่ได้หิว แต่กลัวมึงจะหิวแล้วปวดท้องตอนกลางคืน” ไม่ต้องมาเป็นห่วงผมได้ไหม แค่นี้ผมก็รู้สึกผิดจนไม่รู้จะรู้สึกยังไงแล้ว เมื่อผมไม่ตอบอะไรพี่ชินเลยเงียบแล้วตั้งใจขับรถต่อปล่อยให้ภายในรถมีเพียงเสียงเครื่องยนต์ที่กำลังทำงานเบาๆแข่งกับความเงียบ




   “ขอบคุณครับสำหรับทุกอย่างในวันนี้ ผมสนุกมากเลย ขับรถกลับบ้านดีๆนะพี่ เจอกันที่มอ”

ผมบอกพี่ชินก่อนเปิดประตูลงจากรถ หลังรอพี่ชินพูดอะไรซักอย่างแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าพี่ชินจะพูดตั้งแต่มาจอดรถที่หน้าหอผมเกือบ 10 นาทีได้แล้วครับ ดูเวลาตอนนี้อีก 5 นาทีก็เที่ยงคืนพอดีครับ


   “วีขอกอดทีได้ไหม ตอนนี้ยังไม่หมดเวลาใช่ไหม” กำลังจะเดินเข้าหอพักก็ได้ยินพี่ชินเปิดประตูรถแล้วตะโกนถามผมเสียงดัง ถึงตอนนี้จะดึกแล้วแต่มันก็เงียบนะ ถ้าคนอื่นได้ยินผมไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนเลยครับที่อยู่ดีๆก็มีผู้ชายมาตะโกนขอกอดผู้ชายด้วยกันหน้าหอพักแบบนี้


แต่แทนที่ผมจะปฏิเสธผมกลับยืนนิ่งราวกับรูปปั้นเพื่อรอพี่ชินที่กำลังเดินมาหา  พี่ชินหยุดตรงหน้าผมก่อนเอื้อมมือมารวบตัวผมเข้าไปกอดจนแน่น แน่นมากครับมากจนผมนึกว่ากระดูกตัวเองจะแตกจนป่นไปแล้ว แต่มันคงไม่ใช่ในเมื่อแขนของผมมันยังสามารถเอื้อมไปโอบแผ่นหลังของพี่ชินได้

“ขอบคุณนะที่มึงทำให้กูได้รู้จักกับความรัก แม้ว่ามันจะไม่สมหวังก็ตาม แต่กูจะไม่เสียใจที่ได้รักมึงเลย วันนี้เป็น 1 วันดีๆที่กูจะไม่มีวันลืม กูมีความสุขทุกครั้งที่เห็นมึงยิ้ม เห็นมึงหัวเราะ กูอยากให้มึงเป็นแบบนั้นมากกว่าทำหน้าเศร้านะ หลังจากนี้ก็มีความสุขให้มากๆกูจะคอยดูอยู่ห่างๆ มีอะไรต้องการใช้กูช่วยก็บอกได้เสมอ เวลาที่มึงมีความสุขมึงไม่ต้องนึกถึงกูก็ได้ แต่ถ้าเวลาไหนที่มึงทุกข์คนแรกที่กูอยากให้นึกถึงขอให้เป็นกูได้ไหม” ตอนนี้หลายความรู้สึกกำลังเข้าจู่โจมผมพร้อมกับน้ำตาที่ค่อยๆไหลอย่างไม่รู้สาเหตุ มันทั้งจุก ทั้งเจ็บกับคำพูดของพี่ชินที่เหมือนหลังจากนี้ระหว่างเรามันจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป


“ผะ...ผมจะทำอย่างนั้นได้ยังไง ทั้งที่ผมกำลังทำร้ายพี่ พี่ก็ยังดีกับผมอีกนะ”

“ไม่เอาไม่ร้อง มึงจะร้องทำไม มึงต้องมีความสุขสิ กูปล่อยให้มึงไปมีความสุขนะ ถ้ากูรู้ว่ามึงไม่มีความสุขแบบนี้เดี๋ยวกูก็ไม่ปล่อยไปซะเลยนิ ปล้ำซะดีไหม” พี่ชินยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นเช็ดน้ำตาให้ผมพร้อมกับพูดล้อๆ แต่แววตานั้นเศร้าแบบที่ผมไม่อยากเห็นมันเลย


“ปล้ำก็ได้ ตอนนี้ผมยอม พี่ช่วยปล้ำผมหน่อยนะ” ไม่เอาแล้วผมไม่อยากรู้สึกอึกอัดเหมือนตอนนี้ ทำยังไงก็ได้ให้ความรู้สึกแบบนี้มันหายไปที ถ้าการปล้ำมันจะทำให้ผมไม่ต้องตัดสินใจอะไรอีกต่อไปผมก็ยอมแล้วครับ

“อย่าทำแบบนี้ อย่าพูดแบบนี้กับใครอีกนะ รักตัวเองให้มากๆ รักเผื่อความรักของกูที่ให้ไปด้วย อย่าหนีปัญหา ถ้าเกิดกูปล้ำขึ้นมาจริงๆ คนที่จะทุกข์ไม่ใช่กูคนเดียวแต่เป็นมึงด้วยเข้าใจไหม”  พี่ชินพูดเสียงนุ่มๆพร้อมมือที่ลูบหัวผมเบาๆเหมือนต้องการให้ผมคลายความสับสน


“พี่ชิน...” ผมเรียกพี่ชินเสียงเบา

“หือ...ว่าไง...”

“พี่เลิกรักผมได้ไหม” เป็นคำขอที่สิ้นคิด และงี่เง่าที่สุดเท่าที่ผมคิดได้ในตอนนี้

“ไม่แน่ใจว่ะว่ากูจะเลิกรักมึงได้ไหม แม้ว่ากูจะใช้เวลาไม่นานที่จะรัก แต่อาจใช่เวลาทั้งชีวิตเพื่อลืมใครซักคน เพราะฉะนั้นอย่าบอกให้กูเลิกรักมึงเลยนะ กูสัญญาแล้วไงว่าจะไม่เข้าไปวุ่นวายกับมึงอีกถ้ามึงไม่ต้องการ” พูดจบตัวผมก็ถูกดึงเข้าไปกอดอีกครั้งจากวงแขนเดิม

“พี่ชินผม...”

“เลยเที่ยงคืนแล้วสินะหมดเวลาของกูแล้ว มึงขึ้นห้องเถอะ ขอบคุณสำหรับความทรงจำดีๆในวันนี้อีกครั้ง เจอที่คณะก็ทักกูบ้างล่ะ ฝันดีไอ้น้องชาย” พี่ชินไม่ฟังที่ผมพูดแต่ดันตัวผมออกจากอ้อมกอดก่อนพูดยิ้มๆพร้อมมือที่ยีหัวผมอีกครั้ง แล้วหันหลังเดินกลับไปรถที่ยังติดเครื่องอยู่


จบแล้วสินะ หลังจากนี้ผมก็จะเป็นแค่น้องชายของพี่ชิน  แต่เหมือนผมจะไม่ชอบคำคำนี้เพราะเพียงแค่พี่ชินพูดจบน้ำตาที่แห้งไปแล้วกลับไหลลงมาอีกครั้งอย่างที่ผมแทบไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ

ผมมองพี่ชินที่กำลังเดินจากไปอย่างพร่าเลือนเพราะน้ำตาที่กำลังไหลมันกลบการมองเห็นของดวงตาจนเกือบหมด
ไปแล้วซินะ ต่อไปนี้จะไม่มีพี่ชินที่คอยมาวุ่นวายกับผม  ไม่ต้องมีใครมาคอยแย่งมาม่าให้ตู้ผมตอนดึกๆ ไม่ต้องคอยดูโทรศัพท์บ่อยๆเพราะกลัวว่าจะไม่เห็นข้อความที่มีคนส่งมาตามตัว ไม่ต้องไปทำความสะอาดห้องรกๆนั่นแล้ว  แถมไม่ต้องนอนแบ่งเตียงกับใครอีกด้วย มันดีจริงๆ

ดีจริงๆนะ


ดีที่สุดเลย




แต่….





ผมไม่ต้องการ



“พี่ชิน!...” ผมตะโกนสุดเสียงเพียงเพื่อให้ร่างหนาของพี่ชินที่กำลังจะก้าวขึ้นรถหยุดชะงักแล้วผมก็ทำสำเร็จ


พี่ชินหันมามองผมแล้ว


“ถ้า...ถ้าพี่คิดว่าผมดีพอ ถ้าพี่คิดว่าจะไม่เปลี่ยนใจ ถ้าคิดว่าทนคนอย่างผมได้ พี่รอผมหน่อยได้ไหมขอเวลาไม่นานผมขอจัดการกับความรู้สึกของตัวเองก่อน” ผมตะโกนบอกพี่ชินเสียงดังด้วยความรีบเร่ง เพราะกลัวพี่ชินจะจากผมไป แต่เมื่อตะโกนออกไปแล้วผมได้เห็นรอยยิ้มที่นึกว่าจะไม่ได้เห็นอีกแล้วค่อยๆปรากฏบนใบหน้าพี่ชิน


ผมออกวิ่งให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ระยะทางจะสั้นแต่ตอนนี้ผมกลับคิดว่ามันไกลหลายร้อยกิโล เหมือนวิ่งเท่าไหร่ก็ไปไม่ถึงพี่ชินซักที


“เมื่อกี้ว่าอะไรนะ พูดอีกครั้งสิกูไม่ได้หูฝาดใช่ไหม” พี่ชินถามอีกครั้งเมื่อผมมายืนอยู่ตรงหน้า


“ตอนนี้ผมอาจจะยังบอกไม่ได้ว่าผมรักพี่หรือป่าว เพราะผมก็ยังไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเอง แต่ถ้าพี่คิดว่าผมดีพอสำหรับพี่ พี่จะคิดว่าผมเห็นแก่ตัวก็ได้ ขอเวลาให้ผมหน่อยนะผมขอจัดการความรู้สึกของตัวเองซักพัก แล้วผมจะให้คำตอบของคำถามที่ผมยังไม่ได้ตอบพี่แน่นอน”

“รอๆ กูรอได้เสมอ แค่นี้ก็ดีมากแล้ว” พี่ชินพูดพร้อมใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม

“แต่ไม่รู้มันจะนานซักเท่าไหร่นะพี่”


   “เท่าไหร่ก็รอได้ แค่มึงให้โอกาสกูได้รอก็พอ” ผมยิ้มตอบพี่ชินที่ตอนนี้ดึงผมเข้าไปกอดอีกแล้วครับ

แต่กอดคราวนี้มันเต็มไปด้วยความรู้สึกดีๆ ที่ไม่เหมือนกอดก่อนหน้าสักนิด

ขอบคุณนะครับพี่ชินที่คิดว่าผมดีพอ



----- To Be Con. -----


ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์แล้วการติดตามค่ะ
สดใหม่แบบได้กลิ่นควันอยู่เลย
เพราะฉะนั้นคำผิดยังไม่ได้ตรวจถ้ามีก็ขออภัยมาณที่นี้ค่ะ

ตอนนี้หวานปนหน่วงเหมือนเดิม แต่ก็มาจากความตั้งใจล้วนค่า
รักเหมือนเดิมนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 20 up 15/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: pemiko2012 ที่ 16-10-2014 00:12:20
สงสารชินอ่า
ทำไมอ่านแล้วรู้สึกหน่วงๆ :mew4:
น้องวีจ๋า รู้ใจตัวเองไวน้า
พี่ชิน เค้ารออยู่นะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 20 up 15/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 16-10-2014 04:35:09
สงสารชินอะเมื่อไหล่วีจะรู้ใจตัวเอบซะทีว่ารักพี่ชิน5555
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 20 up 15/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: NOO~KUNG ที่ 16-10-2014 08:12:36
พี่ชินมาร้องไห้ซบอกเจ๊ก็ได้น่ะ....
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 20 up 15/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 16-10-2014 12:05:10
 :impress: :impress: :impress: :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 20 up 15/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: Cinnamon Roll!!! ที่ 16-10-2014 21:53:05
 :sad12: :sad12: อ่านแล้วเจ็บไปกับพี่ชิน   วีรู้ใจตัวเองเร็วๆซะทีเถอะน่ะ  :call:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 20 up 15/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: PANGGii ที่ 17-10-2014 00:52:07
ระหว่างรอ กับ ตัดใจ
ไม่รุ้อันไหนจะทรมานกว่ากัน
..

ความเจบปวดนี่แทบไม่ต่าง ต่างแค่ผลลัพท์เอง


หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 20 up 15/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 17-10-2014 20:11:03
สงสารพี่ชิน
วีรู้ใจตัวเองเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 20 up 15/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: april day ที่ 17-10-2014 21:30:59
อ่านแล้วสงสารพี่ชินมาก  :m15: น้องวีค่ะ เมื่อไรจะรู้ตัว รู้ใจตัวเองค่ะ
รู้สึกตั้งมากมายขนาดนี้ พี่ว่าน้องวีรักพี่ชินไปแล้วล่ะค่ะ รีบๆ บอกไปเลย
สงสารพี่ชินเหลือเกิน  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 20 up 15/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: pachth ที่ 17-10-2014 22:29:06
ขอบคุณที่ไม่มาม่านานไม่งั้นคนอ่านใจสลาย
แค่นี้ก็ใจสลายตามพี่ชินแล้ว
ไม่เอามาม่าอีกแล้วนะ รับไม่ไหวจริงๆ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 20 up 15/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: Future ที่ 18-10-2014 13:58:21
อยากบอกว่า ชอบมาก เพิ่งเห็นเรื่องนี้เมื่อเช้าเอง อ่านแลทเชอร์ไปด้วย อ่านเรื่องนี้ไปด้วย วันจันทร์สอบ คำตอบในกระดาษคงมีแต่ วีชิน วีชิน วีชิน อ้ายยยยยยยยยยยย ฟิน 55555
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 18/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 18-10-2014 23:31:59
ชินหึงแหลกราญ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 18/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 18-10-2014 23:35:49
ขอบคุณค้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 18/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: me_toey ที่ 18-10-2014 23:44:19
น่ารักพรุ้งพริ้ง พี่ชินอ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

อยากได้ ผช แบบนี้ บ้าง :ling1: :ling1: :ling1:
 #เพ้อล่ะๆๆๆๆ :angry2: :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 18/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 19-10-2014 00:07:19
ชินหึงแหลกราญ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 18/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 19-10-2014 00:35:20
พี่ชินรุกแล้ว เดินหน้าจีบเต็มที่
คงได้เห็นทั้งความหวานและความขี้หึงขิงพี่ชินแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 18/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 19-10-2014 05:52:17
.ไหนอะตอนที่21อะรอนะๆๆๆๆะะะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 18/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 19-10-2014 06:30:27
รู้ใจตัวเองได้แระวี
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 18/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 19-10-2014 06:31:06
 :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 18/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: ►MoNkEy-PrInCe◄ ที่ 19-10-2014 08:08:26
แม่งเศร้าว่ะ!~
สงสารพี่ชินโพดๆ TT
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 18/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: Cinnamon Roll!!! ที่ 19-10-2014 09:05:43
ไม่เห็นตอนที่21 อ่ะ  ต้องทำไง อยากอ่านน :z3:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 18/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 19-10-2014 09:12:38
 o18 พี่ชินรุกหนักหัวใจน้องวีทำงานหนักแน่
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 18/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: kamenashi ที่ 19-10-2014 09:20:17
หาตอน 21 ไม่เจออ่าาา... :o12:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 18/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: kurumi_nut ที่ 19-10-2014 09:20:59
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 18/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 19-10-2014 13:16:03
ชินนนนนน มายืมไหล่เจ้ม่ะ เค้ารักเมื่อไหล่ค่อยกลับไป

น่าสงสารรอ่า อย่าปล่อยให้รอนานนะน้องนะ รีบตัดใจเร็วเข้า
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 18/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 19-10-2014 14:18:17
นั่นจิ 21  ไปไหนอะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 18/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 19-10-2014 17:54:24
ง่ะ หาตอน 21 ไม่เจออ่ะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 18/10/2014 p.11
เริ่มหัวข้อโดย: NOO~KUNG ที่ 19-10-2014 18:08:50
มาตามตอนที่ 21...??
หัวข้อ: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 19/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 19-10-2014 19:56:02

ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21


   “เชี้ยวีหายหัวไปไหนมาวะ โทรหาก็ไม่ติดกูถามจริงทุกวันนี้มึงพกโทรศัพท์หรือสากกะเบือ ติดต่อโคตรยาก คราวหน้าถ้าจะติดต่อมึงกูจะจุดธูปเรียกแม่งแล้ว”  ตัวยังมาไม่ถึงโต๊ะแต่เสียงบ่นนี่นำหน้ามาแล้วครับ  พอมาถึงหน้าตาก็บอกบุญไม่รับมาเลย

   “โทรศัพท์กูแบตหมด อยู่ไหนกูยังไม่รู้เลยโทษทีว่ะ”  ไม่รู้ผมเอาไว้ไหนครับ นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก ถ้าหายไปคงเสียดายแย่ซื้อมาตั้งเกือบ 800 กินข้าวได้ตั้งหลายมื้อ

   “แล้วหายหัวไปไหนมา เคาะประตูห้องจนมือจะหักก็ไม่เปิด”

   “มึงจะเคาะทำเชี้ยไรให้เจ็บมือ ไม่เปิดก็แปลว่าไม่อยู่ดิ ถ้าประตูห้องกูพังกูจะคิดตังค์แม่ง 3 เท่าของค่าซ่อมเลย” ผมว่ามันกลับเสียงดังมีอย่างที่ไหน คนไม่เปิดแม่งก็เคาะอยู่ได้ มือมันน่ะผมไม่ห่วงหรอกห่วงแต่ไม้ประตูผมดิจะพังเอา


   ป๊าบ!


   “ห่าถ้าไม่กลัวมึงนอนหนอนแดกอยู่ในนั้นจ้างให้ก็ไม่เคาะให้เจ็บมือกูหรอก คนเป็นห่วงยังมากวนตีนนะมึง” ไอ้แบตฟาดสมุดลงมาบนกระบาลผมดังป๊าบอย่างเหลืออด สงสัยจะหมั่นไส้ผมน่าดู

“คนอย่างกูไม่ตายง่ายๆหรอกไม่ต้องห่วง กูเป็นอมตะ หึหึ” ผมแกล้งว่า

“มึงมันบ้าดิเขาว่าคนบ้าจะไม่ตายเร็วคงจริง แล้วสรุปมึงจะไม่บอกว่าไปมุดหัวอยู่ไหนมาแน่นะ”

   “กูไปอยู่ห้องพี่ชินมา” ผมตอบเสียงเบาก่อนหลบสายตาไอ้เชี้ยแบตที่มองมาเหมือนล้อๆ มันเป็นบ้าอะไรวะ

   “นั่นแน่” แค่สายตาว่ากวนตีนแล้ว แต่พอเจอคำพูด น้ำเสียง สีหน้าของมันตอนนี้ยิ่งโคตรกวนตีนเพิ่มขึ้นไปอีกไม่รู้กี่เท่าครับ

   “นั่นแน่เชี้ยไรของมึงวะ อย่ามากวนตีน” ผมว่าพร้อมเตะขามันที่อยู่ใต้โต๊ะไม่เบา

   “มึงมีซัมติงอะไรกับพี่ชินใช่ไหม ตั้งแต่ไปกินเลี้ยงสายมานี่ก็ 3 คืนแล้วนะที่มึงไม่กลับห้อง” ปากว่ามือก็เอามาชูสามนิ้วแล้วโบกไปมาตรงหน้า จะกัดแม่งให้นิ้วกุดกวนนัก


   “รู้ได้ไงว่ากูไม่กลับ กูกลับมาแล้วมึงไม่เห็นเองรึเปล่า” ผมไม่ได้โกหกนะก็คืนวันเสาร์ผมกลับมาตอนเที่ยงคืน แต่แค่ไม่ได้กลับมานอนเพราะพี่ชินแม่งลากผมกลับไปนอนห้องตัวเองซะงั้น ตอนนั้นผมก็กำลังเบลอๆ ดันขึ้นไปเฉยรู้ตัวอีกทีก็ถึงคอนโดพี่แกแล้ว ไอ้จะโวยวายให้มาส่งอีกก็ใช่เรื่องเลยนอนมันที่คอนโดพี่ชินจนถึงวันจันทร์เลยครับ

   “ถ้าหมายถึงคืนที่มึงกับพี่ชินมาเล่นละครรักสนั่นหอนั่นกูไม่นับเพราะมึงไม่ได้นอนนี่”


   “มึงรู้...” ผมถามเสียงเบาลงทันที  มันรู้ได้ไงวะ

   “ถ้าไม่รู้กูจะพูดได้ไง คิดสิคิด”

   “กวนนะมึงแล้วมึงรู้ได้ไงวะ” ผมถามอย่างแปลกใจ เรื่องนี้ผมไม่เคยบอกใครซักคน

   “กูจะไม่รู้ได้ไง พี่ชินขอกอดมึงเสียงดังขนาดนั้น กูยังไม่ทันหลับก็ออกมายืนดูสบายไปดิ ลุ้นแม่งให้ได้กันซะทีไม่รู้ป่านนี้สำเร็จไปยัง” ไอ้แบตพูดก่อนยักคิ้วให้เหมือนคนถือไพ่เหนือกว่า

   “เสร็จพ่องมึงดิ กูกับพี่ชินยังไม่ได้เป็นอะไรกัน” ผมรีบเถียงทันที

   “แต่พี่แกก็รักมึงเหมือนที่กูเคยบอกใช่ไหมล่ะ”

   “เออ รู้แล้วจะย้ำทำไมวะ” ผมตอบพร้อมหลบตา หน้าอยู่ๆก็ร้อนขึ้นมาเฉยเลยครับ ปกติมีแต่ไปแอบชอบคนอื่นเขานานๆจะมีคนมาชอบซะทีเล่นเอาทำตัวไม่ถูกกันเลยครับ


   “หึหึ แล้วเอาไงจะรับรักไหม หรือจะปล่อยไว้แบบนี้” เสียงมันหัวเราะ ก่อนถามจริงจังเล่นเอาผมปรับอารมณ์ตามแทบไม่ทัน

   “กูขอเวลาพี่ชินจัดการหัวใจตัวเองก่อนว่ะ กูรู้สึกว่ากูไม่ได้เกลียดพี่ชินนะ แต่ชอบรึเปล่าไม่แน่ใจ เพราะกูเชื่อว่าตัวเองรักพี่ตินณ์มาตลอด  ส่วนพี่ชินเวลาอยู่ใกล้กูก็ใจเต้นแปลกๆ”

   “งั้นมึงก็รับรักพี่ชินไปเลย ลังเลอะไรวะไหนๆพี่ตินณ์ก็ไม่สนใจมึงแล้ว”

   “มึงรู้ได้ไงว่าพี่ตินณ์ไม่สนใจกู”

   “ลูกแพรเล่าให้กูฟัง”

   “อืม พี่ชินบอกกูว่าพี่ตินณ์มีคนที่พี่ตินณ์รักแล้วเหมือนที่กูสงสัยนั่นแหละแค่กูไม่รู้ว่าใคร แต่กูเพิ่งรู้ว่าพี่ชินชอบกูเมื่อไม่กี่วันนี้เองนะ จะให้กูรับรักได้ไงทั้งที่กูไม่เคยคิดแบบนี้กับพี่ชินเลย กูอยากแน่ใจว่ารักพี่ชินมากกว่านี้แล้วก็ตัดความรู้สึกที่มีกับพี่ตินณ์ให้ได้ก่อนว่ะ ไม่งั้นกูคงเอาเปรียบความรู้สึกของพี่ชินเกินไป”


ผมบอกมันเรื่อยๆเหมือนคุยเรื่องดิน ฟ้า อากาศ ตอนนี้ไม่อยากเครียดแล้วครับ ผมใช้ชีวิตหนักๆมีรักก็อยากให้ผ่อนคลาย แต่ตอนนี้บอกเลยเครียดชิบหาย เพราะดันไปรักคนที่ไม่สมควรรัก ส่วนคนที่มารักก็ไม่รู้ไม่เคยสนใจ จนทำให้อีกฝ่ายเจ็บไปเท่าไหร่ผมก็ไม่เคยรู้


   “กูบอกได้เลยว่าความรักของมึงโคตรยุ่งเหยิงว่ะ ขนาดกูจีบแพรแค่คนเดียวไม่มีคู่แข่งแม่งยังไม่รู้ว่าจะติดไม่ติดทั้งที่แพรก็ไม่ได้มีใครในใจเหมือนมึงนะ แต่ของมึงนี่รักแม่งซ้ำซ้อนซ่อนเงื่อนเกิน เอาเป็นว่ากูเอาใจช่วยแล้วกัน มีอะไรให้ช่วยก็บอก ไม่ว่ามึงจะเลือกใครยังไงมึงก็เป็นเพื่อนกูเหมือนเดิม”  ไอ้แบตพูดช้าๆพร้อมมือที่ตบลงมาบนบ่าเพื่อให้กำลังใจ

   “ขอบใจว่ะ บางทีเพื่อนอย่างมึงก็ดูเป็นเพื่อนที่ดีเหมือนกันนะ”

   “ไอ้เชี้ยนี้กวนตีนนะ เดี๋ยวแช่งแม่งให้อดแดกหมด พี่ชินรอไม่ไหวไปหาคนอื่นส่วนพี่ตินณ์ก็ไม่รักไม่สนใจมึงซะนี่” ไอ้เชี้ยแว่นว่าเสียงดังพร้อมผลักหัวผมที่แกล้งไปซบไหล่มันเบา

   “ขอโทษคร๊าบบบเพื่อนแบตผู้หล่อเหลา แสนดี มีปัญญาเป็นเลิศผมแค่ล้อเล่นนะครับอย่าแช่งผมเลย” ผมรีบว่าพร้อมเข้าไปลูบแขนลูบขาพ่อมหาจำเริญ

   “เออ ที่หลังก็ให้มันรู้บ้างว่าอย่ามากวนตีนกู” ไอ้เชี้ยนี่ยอมหน่อยทำเป็นเก็กเอาแขนเอาขาหลบผมแล้วทำเป็นปัดฝุ่นตามรอยที่ผมจับ เหมือนรังเกียจด้วยนะ

“เห็นกูยอมแล้วเอาใหญ่นะมึง เลิกเล่นไปเข้าเรียนได้แล้ว เดี๋ยวก็ไม่ทัน  เออแล้วลูกแพรไปไหนวะกูยังไม่เห็นมา” ผมชวนไอ้แบตเข้าห้องเรียนก่อนลุกขึ้นยืนเตรียมเดิน แต่นึกขึ้นมาได้วันนี้ยังไม่เห็นลูกแพรปกติป่านนี้ต้องมาแล้ครับ

“เห็นไลน์มาบอกว่ารถติดหว่ะ วันนี้คงเข้าสายหน่อย”

“อ่อ งั้นเราก็เข้าเรียนก่อนแล้วกัน”

“เออ” ไอ้แบตตอบเสร็จก็เดินนำผมเข้าห้องเรียนทันที วันนี้มีเรียน แคลคูลัสตอนเช้า ส่วนบ่ายเรียนพื้นฐานวิศวกรรม เรียนหนักทั้งวันเลยครับแค่คิดผมก็อยากโดดเลย






“พี่ขอนั่งด้วยนะ” กำลังนั่งรอไอ้แบตกับลูกแพรไปซื้อข้าว อยู่ๆก็มีคนมาขอนั่งด้วย เงยหน้าขึ้นมองถึงรู้ว่าเป็นพี่ชินกับพี่โย

“ตามสบายครับ โต๊ะมันของสาธารณะพ่อผมไม่ได้ซื้อไว้” ผมตอบพี่ชินนิ่งๆก่อนทำเป็นไม่สนใจ

“กวนตีนนะครับน้องวี ระวังจะเจอจัดอีกรอบ”  ขนลุกเลยเชี้ย พี่ชินนั่งลงข้างๆผมก่อนกระซิบข้างหูให้ได้ยินกันแค่สองคน ผมทำตาดุใส่ก่อนหันไปหาพี่โยแทน

เรื่องของเรื่องที่ผมโมโหพี่ชินก็เพราะเมื่อเช้าผมมาเรียนพร้อมกัน แต่ก่อนลงรถพี่แกเล่นคว้าคอผมไปจูบแบบไม่ทันตั้งตัว ทั้งทุบทั้งตีก็ไม่หยุด จูบเหมือนจะดูดวิญญาณกว่าจะปล่อยได้เล่นเอาหายใจไม่ออกเลยครับ ไม่รู้เป็นบ้าอะไรนึกจะทำอะไรก็ทำ อยู่ในรถแท้ๆไม่กลัวใครผ่านมาเห็นเลยรึไง


“หวัดดีครับพี่โย วันนี้เรียนอะไรเหรอครับ” ผมทักพี่โยที่นั่งถัดจากพี่ชิน

“วันนี้พี่เรียนกลศาสตร์ของไหลครับ แล้ววีเรียนอะไรล่ะ”

“ผมเรียน”

“เช้าเรียนแคลคูลัส บ่ายเรียนพื้นฐานวิศวะอยากรู้อะไรอีกไหม”ผมกำลังจะตอบแต่อยู่ๆพี่ชินก็เสียงดังแทรกขึ้นมาตอบแทนซะก่อนทำเอาผมกับพี่โยมองหน้าสบตากันปริบๆ พี่ชินเป็นอะไรวะอยู่ๆก็เหมือนอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาซะงั้น

“หึหึ ไม่อยากรู้แล้วว่ะ กินข้าวเถอะ” พี่โยหัวเราะในลำคอก่อนอมยิ้ม แล้วหันไปตักข้าวเข้าปาก พอดีไอ้แบตกับลูกแพรเดินกับมาที่โต๊ะผมเลยเลิกสนใจเตรียมจะลุกไปซื้อข้าวของตัวเองบ้าง

“หวัดดีค่ะพี่ชิน  พี่โย” ลูกแพรรีบทักทายรุ่นพี่ที่นั่งอยู่บนโต๊ะงงๆ ก่อนพี่ชิน พี่โยจะทักทายกลับ

“หวัดดีครับพี่ชิน พี่โย”ไอ้แบตก็ทักทายเหมือนกันครับ แต่นอกจากมันจะไม่งงเหมือนลูกแพรแล้วมันยังมองหน้าผมก่อนยิ้มล้อๆ ไม่รู้ล้อเชี้ยอะไรของมัน

“เดี๋ยวกูไปซื้อข้าวก่อนนะ” ผมบอกพร้อมลุกขึ้นยืน ตอนแรกนั่งเฝ้าของให้เลยยังไม่ได้ซื้อครับ

“ไม่ต้องไปพี่ซื้อมาให้แล้ว” แรงดึงที่ข้อมือและเสียงนิ่งๆทำให้ผมชะงัก ก่อนมองไปบนโต๊ะเพิ่งเห็นว่าพี่ชินถือข้าวมา 2 จาน เป็นข้าวขาหมูกับข้าวหมูแดงที่ผมกำลังอยากกิน ไม่รู้พี่ชินมีญาณวิเศษรึไงถึงรู้ว่าผมอยากกินอะไร

“ขอบคุณครับ” คิดว่าผมจะปฏิเสธใช่ไหม ผิดครับคนอย่างผมเรื่องของฟรีมาก่อนศักดิ์ศรีที่กินไม่ได้เยอะ  พอทรุดตัวนั่งลงที่เดิมพี่ชินก็เลื่อนจานข้าวหมูแดงมาให้ก่อนลงมือกินของตัวเองเงียบๆ

“อ่ะให้”กำลังกินเพลินๆพี่ชินก็ตักไข่ต้มในจานตัวเองมาใส่จานผม ผมก็ตักจะเข้าปากอยู่แล้วถ้าไม่ชะงักเพราะสายตาของคนทั้งโต๊ะที่มองผมเป็นตาเดียวกัน

“อะไรเหรอ” ผมถามงงๆ มองอะไรกันวะ

“ไม่มีอะไร แค่อยากรู้ว่าข้าวหมูแดงอร่อยไหม” ไอ้แบตถามยิ้มๆก่อนตักข้าวกินต่อเหมือนไม่อยากได้คำตอบ ถ้าไม่อยากได้แล้วมันจะถามทำไมวะแปลกคน ส่วนคนอื่นพอผมมองก็หลบตาไปตักข้าวของตัวเองขึ้นกินเหมือนไม่มีอะไรซะงั้น ทำไมผมรู้สึกว่าบรรยากาศบนโต๊ะมันแปลกๆไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า

“ก็อร่อยดี มึงลองกินไหมล่ะ” ผมว่าก่อนตักข้าวในจานตัวเองส่งให้ไอ้แบต มันก็เงยหน้าขึ้นมารับข้าวที่ผมป้อนเข้าปากเหมือนทุกครั้ง



เคร้ง!!!

“กูอิ่มแล้ว” อยู่ๆพี่ชินก็ทำเสียงช้อนกระทบจานดังขึ้นมาพาให้คนทั้งโต๊ะหันมามองแกกันเป็นตาเดียว

พี่ชินเป็นอะไรอีกแล้ววะ

“เห้ย อิ่มอะไรมึงกินไปได้ไม่กี่คำเอง” พี่โยรีบถามพี่ชินทันที

“หึหึ ขี้หึงใช้ได้นี่หว่า” เสียงไอ้แบตกระซิบ ผมหันไปมองมันแทนถึงได้เห็นมันทำหน้าเหมือนล้อๆ

“หึงอะไรวะ ใครหึงใคร” ผมถามเบาๆ

“ก็พี่ชินไง หึงมึงกับกู”

“กูกับมึงเนี๊ยะนะ มีอะไรให้หึงวะ” ถามกลับด้วยความงงยิ่งกว่าเก่า ถ้ากับคนอื่นก็ว่าไปอย่างแต่นี่ผมกับไอ้เชี้ยแว่นมีอะไรให้หึงวะ ไม่เข้าใจเลย

“เมื่อกี้มึงป้อนข้าวกู”


   “แล้วไงกูกับมึงก็ทำแบบนี้ออกบ่อย”  ผมกับไอ้แบตก็ทำแบบนี้บ่อยๆจนเป็นเรื่องปกติ ไม่เห็นมีใครคิดอะไรเลยครับ ลูกแพรนี่เห็นจนชิน


“แต่พี่ชินไม่เคยรู้นี่หว่า ไปง้อแกหน่อยดิ เดี๋ยวก็หึงลมออกหูคว่ำโต๊ะกินข้าวกูขึ้นมาล่ะเรื่องใหญ่”

“กูต้องง้อเหรอ”

   “เออดิ ยังไม่รู้ตัวรึไงวะ”

“แล้วต้องง้อยังไงอ่ะ กูไม่เคยทำ”

“มึงทำยังไงกับกูมึงก็ทำแบบนั้นแหละมั้ง” จะดีเหรอวะ ไม่เคยทำอ่ะ ผมมองหน้าไอ้แบตเป็นคำถามแต่ก็ได้รับเพียงการพยักหน้าไปทางพี่ชินที่กำลังนั้นหน้าบึ่งรอพี่โยกินข้าวไม่สนใจผมแล้วครับ

แล้วต้องเริ่มยังไงวะเนี๊ยะ เอาวะลองก็ลอง

“พี่ชินข้าวไม่อร่อยเหรอ” ผมถามเสียงเบา

“อร่อยกูก็แดกหมดแล้วดิ อยากรู้ทำไม” เสียงห้วนไปไหนวะ เล่นเอาใจฝ่อเลยครับ ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้แบตบอกที่เป็นแบบนี้เพราะหึงผมจ้างให้ก็ไม่ง้อแล้วนะ มาเสียงดังใส่กันแบบนี้

“ทำกับข้าวหมาไม่แดกแบบนี้ ไม่รู้เอามาขายได้ไงเนอะ”

“ไอ้วี มึงว่ากูเป็นหมาเหรอ” อ้าว ซวยอีกแล้วกูจะพูดให้ดีเสือกเผลอปากหมาซะงั้น

“เปล่าพี่ๆ ใครจะกล้าว่าพี่แค่เปรียบเทียบอ่ะ ถ้าพี่ไม่กินผมกินแทนนะ อ่ะจานนี้อร่อยม๊ากกกผมยกให้” ผมรีบแก้ตัวลิ้นพันกัน ก่อนยกจานข้าวตัวเองให้พี่ชินแล้วเอาของพี่ชินมาไว้ที่ตัวเองแล้วตักกินทันที

“กูไม่กินซ้ำกับคนอื่น” พี่ชินพูดเสียงเบาจนผมต้องเงยหน้ามอง สงสัยงานนี้จะง้อไม่สำเร็จเพราะพี่แกไม่สนใจจะหยิบช้อนเลยครับ

“อ้าว งั้นเอาจานใหม่ไหม ผมไปซื้อให้จานนี้ผมกินแล้ว” ผมรีบเสนอทางออกอีกครั้ง

“กูหมายถึงช้อนไม่ได้หมายถึงข้าวมึง”

หือ...ช้อน...ช้อนอะไรวะ 

อ๋อช้อนที่ผมใช้ป้อนไอ้แบต


ลืมไปเลยผมสลับจานไม่ได้สลับช้อนแต่คันนี้ผมก็กินแล้วอ่ะ


“คันของพี่ผมก็ใช้แล้วอ่ะ ขอโทษครับผมลืมเดี๋ยวไปหยิบให้ใหม่นะ” ผมว่าพร้อมเลียช้อนโชว์ว่าเพิ่งแสดงความเป็นเจ้าของคนใหม่ไปหมาดๆ


“ไม่ต้องเอาคันนี้แหละ” คันที่ผมเลียเนี๊ยะนะ พี่ชินมันบ้าป่าววะ

“แต่คันนี้ผมใช้แล้วนะ ผมก็เป็นคนอื่นพี่จะมาใช้ต่อได้ไงสกปรกตาย”  ผมถามกลับงงๆ แต่ก็ลืมไปว่าตัวเองก็ใช้ต่อพี่ชินเหมือนกัน

“มึงไม่ใช่คนอื่นอย่ามาเรื่องมาก ตักป้อนกูดิเมื่อยมือ” คนที่เรื่องมากมันพี่ไม่ใช่เหรอวะ ไม่ใช่ผมซะหน่อยโบ้ยตลอด แล้วเมื่อยมีคืออะไร?

“แค่ช้อนเองนะพี่ ถือไม่ไหว?”

“ทีคนอื่นมึงป้อนได้ กลับกูนี่ไปได้เหรอ” เสียงนิ่งตาแข็งมาเลยครับ 

เท่านั้นแหละผมเลยต้องตักข้าวในจานตัวเองป้อนพี่ชิน ก็ไอ้ข้าวที่พี่ชินบอกไม่อร่อยน่ะแหละครับ พอป้อนให้ก็เห็นกินได้กินดีไม่มีบ่นว่าไม่อร่อยซักคำ ผมตักให้พี่ชินบ้างให้ตัวเองบ้างจนหมดจาน ก่อนหยิบจานตรงหน้าพี่ชินมากินต่อ


ระหว่างที่กินก็มีทั้งสายตาของไอ้แบต ลูกแพร และก็พี่โยมองอยู่ตลอด แถมคนที่เดินผ่านไปผ่านมาในศูนย์อาหารก็หันมามองกันเป็นแถวเลยครับ  ผมก็อาศัยความหน้าด้านขั้นเทพบวกวิชาก้มหน้ามองตีนที่ได้ตอนรับน้องเอามาใช้รวมกันไปก่อน  การจะง้อใครซักคนนี่ต้องใช้ความหน้าหนาเหี้ยๆเลยนะครับผมเพิ่งจะรู้

 
หลังจากกินข้าวเสร็จก็ต่อด้วยขนมหวานที่พี่ชินใช้พี่โยให้ลุกไปซื้อมาให้ ผมบอกจะไปเองก็ไม่ยอมให้ไป ไม่รู้เป็นไรนักหนา

“เออ...พี่ชินกับวีเป็น...แฟนกันเหรอคะ” มือที่กำลังถือช้อนที่ตักบัวลอยถึงกับสั่นเมื่อได้ยินเสียงถามตะกุกตะกักของลูกแพร อยู่ๆถามอะไรไม่ปรึกษากันเลย ถามเพื่อนก็ได้น้าจะไปถามพี่ชินทำม๊ายยยย

“หึหึ ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะครับ ยังไม่ได้เป็นหรอก” พี่ชินบอกพร้อมตักบัวลอยในถ้วยผมไปกินหน้าตาเฉย

“ก็แพรเห็น...สนิทกันแบบนี้ก็นึกว่าพี่ชินเป็นแฟนกับวีแล้วซะอีก ขอโทษค่ะที่เข้าใจผิด” ลูกแพรรีบตอบพร้อมขยายความหน้าแตกของตัวเองให้คนอื่นได้รู้ด้วย


“ไม่ได้เข้าใจผิดหรอกครับ เข้าใจถูกแล้วแค่ผิดเวลาเฉยๆ  ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นแต่เดี๋ยวอีกไม่นานก็เป็นครับ เพราะตอนนี้พี่กำลังจีบเพื่อนน้องอยู่  อ้าปากครับ” พี่ชินตอบลูกแพรพร้อมรอยยิ้มหล่อๆบนหน้า ก่อนจะตักกล้วยบวชชีมาป้อนผมบ้าง คือผมมือไม่ได้ง่อยนะตักเองได้ แล้วทำแบบนี้นึกว่าผมไม่อายเหรอ อายครับแม่งตัวจะระเบิดอยู่แล้วถึงจะเป็นเพื่อนกันแต่ผมก็อายป่ะวะ


“อ้าวเปิดตัวแกนด์โอเพ่นแล้วเหรอพี่  งี้ก็กะเอาจริงเลยดิ” เสียงไอ้แบตถามขึ้นมาบ้าง


“เออดิ เพื่อนน้องอ่ะพี่จองนะ ดูให้ด้วยอย่าให้ใครมาวุ่นวาย รวมทั้งน้องด้วย” พี่ชินพูดเสียงนิ่งๆเหมือนหาเรื่องไอ้แบตตอนท้าย


“อู้ยยยยยยยยยย.........มาโหดซะด้วยเว้ย” เสียงไอ้แบตอุทานเบาๆ ก่อนรับปากพี่ชิน ผมก็ได้แต่นั่งนิ่งๆทำเหมือนเป็นอากาศอยู่รอบโต๊ะ ใครจะพูดอะไรไม่ถามความเห็นกูเร้ย

หลังอาหารมื้อนี้สิ้นสุดลงด้วยบรรยากาศแปลกๆผมก็ต้องไปเรียนต่อ แต่พี่ชินกับพี่โยไม่มีเรียนแล้วครับ เห็นพี่ชินบอกว่าจะไปทำรายงานที่ใต้คณะกับเพื่อนให้ผมรอกลับพร้อมกัน







“อ่ะ วันนี้ยังไม่ได้ใช่ไหม”  อมยิ้มรสสตอเบอร์รี่ถูกส่งมาตรงหน้า ผมจะไม่แปลกใจเลยถ้ามันมาจากพี่โยแต่นี่มันมาจากมือพี่ชิน

“กูพาลูกแพรไปซื้อของเซเว่นก่อนนะ เอาอะไรไหม”  ไอ้แบตบอกก่อนผมจะส่ายหน้ามันเลยเดินแยกไปพร้อมลูกแพร ตอนนี้ก็เหลือผมกับพี่ชินแล้วก็พี่โยแค่ 3 คนครับ

“พี่ให้ผมเหรอ” ผมถามอย่างอดแปลกใจไม่ได้

“เออดิไม่ให้มึงแล้วกูให้หมาอยู่รึไง” แรงอ่ะ แน่ใจว่าคนเดียวกับที่บอกว่ารักผมนะ

“ก็ผมไม่แน่ใจอ่ะ พี่โยฝากพี่มาให้เหรอ”ถามพี่ชิน แต่ตามองหน้าพี่โยเพื่อขอคำตอบ

“กูนี่แหละให้มึง ทำไมต้องคิดว่าเป็นไอ้โยวะ อะไรๆก็ไอ้โยตลอด ทำไมชอบมันรึไง” อ้าวกูผิดอีก

“ไม่ใช่ของพี่หรอกของไอ้ชินมันน่ะ แต่ทำไมมันถึงไม่ให้เองก็ถามมันเอานะ พี่ขี้เกียจอยู่เป็น พยัญชนะไทยไงก็ขอตัวก่อน เดี๋ยววันหลังค่อยแอบมาคุยกันนะ”พี่โยพูดยิ้มๆ ก่อนรีบเดินหนีตีนพี่ชินออกไป แม่งมุกกขค.แก่นี่ผมยืมไปใช้ได้ไหมวะ แนวดี

“ไม่ต้องไปแอบคุยกับมันเลยนะ พี่ขอห้าม” หือ จะพี่หรือจะกูวะ สรรพนามแทนตัวเองของพี่ชินนี่มันเปลี่ยนได้ตามอารมณ์แกจริงๆนะครับ

“ทำไมต้องห้ามด้วยล่ะ พี่โยก็เป็นรุ่นพี่ผมเหมือนกัน” ผมถามกลับแบบไม่เข้าใจจริงๆครับ

“เออน่ะพี่ไม่ชอบ บอกไม่ให้ทำก็เชื่อกันหน่อยเถอะ”

“ก็ได้ครับ” รับปากไปก่อนครับ เดี๋ยวคุณพี่เขาจะอารมณ์เสียขึ้นมาอีก

“แล้วอมยิ้มนี่จะเอาไหม หรือว่าพอมาจากพี่แล้วไม่อยากได้ อยากได้จากไอ้โยมากกว่า” พี่ชินมันเป็นอะไรกับพี่โยมากป่าวว่ะ ถ้าไม่รู้เองจะไม่เชื่อเลยนะว่าพี่สองคนนี้เป็นเพื่อนสนิทกัน


“จากใครผมก็เอาหมดและของพี่นาวีช๊อบชอบ ขอบคุณครับ”ผมรับมาก่อนแกะเข้าปากทันที

“ไปเรียนเถอะเดี๋ยวเข้าเรียนไม่ทัน พี่ก็จะไปทำรายงานแล้ว

 “พี่ชินเดี๋ยวครับ” พี่ชินบอกก่อนทำท่าจะเดินไปทางหน้าคณะแต่ผมเรียกไว้ก่อน

“มีอะไร”

“ผมถามหน่อยทำไมพี่ไม่เอาอมยิ้มมาให้ผมเองอ่ะ ทำไมต้องให้พี่โยเอามาให้” ผมดึงอมยิ้มออกจากปากก่อนถาม

“เดี๋ยววันไหนอารมณ์ดีๆพี่จะบอก วันนี้มีให้กินก็กินๆไปก่อนเถอะน่า แค่นี้ใช่ไหมกพี่จะไปแล้ว”

“เดี๋ยวพี่ผมขอถามอีกเรื่อง ที่พี่บอกเพื่อนผมในโรงอาหารน่ะพี่พูดจริงเหรอ”

“เรื่องไหนวะ กูพูดตั้งเยอะ” พี่ชินทำคิ้วย่นชนกันเป็นคนแก่ก่อนถาม

“ก็ที่บอกว่าจะจีบผมไง” ตอนถามนี่หน้าจะแดงไหมวะ  ตอนนี้รู้สึกหน้ามันร้อนๆ

“จริงสิ อะไรที่ทำให้คิดว่าพี่พูดเล่น” สายตาคาดคั้นกว่าคำพูดอีกครับ

“มะ...ไม่มีครับ”  ตอบเหมือนคนติดอ่างเพราะสายตาที่แผ่รังสีคาดคั้นนั่นเลยครับ

“เมื่อก่อนพี่อาจจะเดินเกมส์ผิดถึงทำอะไรให้มันเป็นเหมือนทุกวันนี้ แต่ต่อจากนี้ไปพี่จะทำเหมือนที่คนอื่นๆเขาทำดูบ้าง เผื่อคนแถวนี้จะใจอ่อนรับรักพี่ซักที เตรียมตัวให้ดีหลังจากนี้พี่จะเดินหน้าจีบเต็มที่แล้วนะ”

พูดเฉยๆก็ได้ทำไมต้องยิ้มแบบนี้ด้วย รู้ไหมว่ามันทำให้หัวใจผมทำงานหนักแค่ไหน แถมยังจะเอาหน้ามาใกล้แล้วบีบจมูกผมไปมาอีกนะ จากที่ว่าหน้าร้อนๆตอนนี้ร้อนกว่าจนเอาน้ำมาตั้งแล้วชงมาม่าบนหน้าผมได้เลยล่ะ

แล้วพอพูดเสร็จก็เดินไปเลยปล่อยให้ผมยืนใบ้แดกอยู่ตรงทางเดินคนเดียวซะงั้นครับ


เฮ้อ!ต่อไปนี้ผมจะเจออะไรที่ทำให้หัวใจทำงานหนักอีกหรือป่าวนะแค่นี้ก็แทบจะไม่ไหวแล้วครับ



----- To be Con. -----


   ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ค่ะ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 19/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 19-10-2014 20:06:08
ชอบพี่ชินนนนนนนนนนนนนนนนนนนน



 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 19/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: Cinnamon Roll!!! ที่ 19-10-2014 20:33:31
 :-[ :-[  เพ่ชินนน  ตื้อเยอะๆๆ เอาให้วีตั้งหลักไม่ทันเลยย   คึคึ
           

           ว่าแต่ใกล้จะได้เป็นแฟนกันแล้วใช่ม่ะ  อิอิ  :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 19/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: nanazaa002 ที่ 19-10-2014 20:56:38
เพิ่งมาอ่าน  น่ารักมากกกก :hao5:รอตอนต่อไปนะคะ o13
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 19/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: Running girl~ ที่ 19-10-2014 21:00:30
เพิ่งเริ่มอ่าน ติดตามต่อๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 19/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 19-10-2014 22:12:09
หึงโหดจริงพี่ชิน
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 19/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: PANGGii ที่ 19-10-2014 22:27:01
โถ่!! ไอ้แบตกวนตีนผิดเวลาแล้ววว
เขาหวงของเขา ก้ยังจะไปแหย่!!
.....

แต่เด่วนะ!! มาถึงหอแต่ยังจะหนีไปน้องห้องพี่อีก
อิพี่แม่งร้ายยยย
ลากน้องไปกกตั้ง 3 วัน ร้ายจริงๆ
ได้กำไรอะไรบ้างมั้ยเนี่ย 3 วันเนี่ย
.....

น้องวี รักพี่เขาแล้ว ยังมาไม่รุ้ตัวอีก
น่าจับจูบให้หมดแรงซะที 5555555
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 19/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 19-10-2014 22:36:49
วี รับรัก ว่อง ๆ 55555

ชินนายเยี่ยมมาก
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 19/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: NOO~KUNG ที่ 19-10-2014 23:58:51
ขี้หึงสุดๆ....เอา 3 วันมาแฉด่วน....พี่ชินทำอะไรน้องวีมั้ง...
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 19/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: tityjiu ที่ 20-10-2014 00:02:26
พี่ชินนนนน  น่ารักเว่อร์อ่าาา  นาวีใจอ่อนเลยลูกของดีมีมาต้องคว้า :mew1: :mew1: :hao5:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 19/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 20-10-2014 22:01:57
พี่ชิน  ยังมีพี่แบบนี้อยู่อีกมั่งมั๊ยอะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 19/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 20-10-2014 22:24:34
รุกหนักจัดเต็มเลยนะพี่ชิน 5555
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 21 up 19/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: ekonut ที่ 22-10-2014 22:02:27
เชียร์ๆ
หัวข้อ: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 22 up 12/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 23-10-2014 00:01:05

ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 22

   “ทำอะไรน่ะ”

   “ตกใจหมดเลยพี่ชิน กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ” ผมถามพี่ชินที่เดินเข้ามาสวมกอดจากด้านหลัง วันนี้พี่ชินมีเรียนเช้าแต่ผมเรียนบ่ายเลยอยู่ห้องรอกินข้าวพร้อมพี่ชินตอนเที่ยง

“เพิ่งกลับมาเดี๋ยวนี้แหละ แล้วทำอะไรอยู่ทำไมไม่แต่งตัวเตรียมไปเรียน”

“อีกแป๊บเดียวก็เสร็จแล้วครับ พี่ไปกินข้าวก่อนเลยก็ได้ผมโทรสั่งไว้ให้แล้ว อื้อ พี่ชินผมตัวเหนียว” ผมว่าพร้อมย่นคอหนีจมูกโด่งๆ ที่กำลังไล่ชนแก้ม ทั้งที่มีเหงื่อไหลเป็นเม็ดแต่ก็ยังจะหอมเนอะพี่ชินนี่สุดยอดจริงๆ

“พี่บอกแล้วไงว่าไม่ต้องทำ ยังไงแม่บ้านก็มาทำอยู่แล้ว”

“ก็ผมทำจนชินแล้วนี่นา อีกอย่างจะให้ผมโกงหนี้พี่เฉยๆได้ไง หนี้ผมสร้างเองผมก็จะใช้เอง” ผมว่าเสียงดังแข่งกับเสียงเครื่องดูดฝุ่นที่กำลังทำงานอยู่ในมือ

“หนี้ก็ใช้หมดแล้วไงตั้งแต่วันที่วีแกล้งเป็นแฟนกับพี่”

“อันนั้นผมไม่นับ พี่จะนับก็นับไปคนเดียวเถอะ ผมจะทำงานใช้หนี้พี่เหมือนเดิมจนกว่าจะครบตามสัญญา” ผมว่าก่อนดูดฝุ่นตามพื้นห้องนั่งเล่นต่อไม่สนใจพี่ชินที่ยืนทำหน้าขัดใจอยู่ข้างๆ

ตั้งแต่ผมโดนลากจากห้องตัวเองมาอยู่ห้องพี่ชินก็เกือบเดือนแล้วครับที่ผมยังไม่ได้กลับไปนอนห้องตัวเองอีกเลยอย่างมากก็แค่กลับไปเอาเสื้อผ้าและตำราเรียน 

สาเหตุก็เพราะพี่ชินนี่แหละครับบังคับผมมานอนด้วย ถ้าไม่ยอมมาก็หน้าหงิกหน้างอจะขอนอนที่ห้องผม แล้วห้องผมก็เป็นห้องเล็กเท่ารูหนู เตียงนอนแค่3.5 ฟุต นอนคนเดียวก็สบายดีหรอกครับ แต่พอมันต้องมารองรับน้ำหนักของผู้ชายสองคนผมก็สงสารขาเตียง แล้วไหนจะห่วงว่าผู้ชายหน้าหงิกๆจะนอนไม่สบายตัวสุดท้ายผมเลยทนไม่ไหวเก็บเสื้อผ้ามานอนห้องพี่ชินซะเลย


ตอนก่อนจะมาพี่แกก็พูดโน้มน้าวผมสารพัดว่าห้องตัวเองสะดวกสบายอย่างโน้นอย่างนี้ มีทีวี แอร์ พัดลม อ่างน้ำ และสุดท้ายก็มีตัวแกเองนั่นแหละครับเป็นเจ้าของห้องที่ใครๆก็อยากมานอนด้วย 

แต่ผมไม่ค่อยอยากมาเท่าไหร่ไง ที่ไม่อยากก็เพราะกลัวเปลืองตัวนี่แหละครับ ขนาดว่ายังไม่ได้เป็นแฟนกันพี่ชินก็ชอบหาเศษหาเลยกับผมทุกวัน กอดได้กอด จูบได้จูบ พอผมว่าเข้าหน่อยก็ทำหน้าเศร้า บอกขอเป็นค่ารอเวลาแล้วจะไม่ให้ผมใจอ่อนได้ยังไงล่ะครับ 



    ตั้งแต่มาอยู่กับพี่ชินผมได้รู้อะไรที่ไม่เคยรู้หลายอย่าง ทั้งเรื่องที่ผมคิดว่าพี่ชินเป็นคนสกปรกปรากฏว่าไม่ใช่ครับ ไอ้พี่ชินมันสร้างภาพโดยการทำให้ห้องสกปรกเพื่อจะให้ผมมาทำความสะอาดแทบตายเกือบทุกวัน ผมรู้เพราะมีวันหนึ่งพี่ชินไปเรียนแต่ผมกำลังนอนอยู่ดีๆแม่บ้านก็เข้ามาในห้อง

ไม่ได้เข้ามาทำความสะอาดนะครับ แต่เข้ามารื้อห้องให้รกพอผมออกมาเห็นก็ตกใจ ต้องเค้นกันอยู่นานกว่าจะสารภาพว่าไม่ได้กลับบ้านที่ต่างจังหวัดหรือพี่ชินเลิกจ้างๆเหมือนที่หลอกผมหรอกครับ ยังจ้างอยู่แต่เปลี่ยนจากงานทำความสะอาดเป็นทำให้รกในวันที่ผมต้องเข้ามาทำ บางวันรกไม่พอพี่ชินแม่งก็ทำให้รกเองครับ


   ตอนที่รู้ผมแทบอยากกระโดดงับหัวพี่ชินซักที คนปกติคิดไม่ได้นะครับเรื่องแบบนี้ สงสัยแกจะเป็นโรคจิตชอบแกล้งผม วันนั้นจำได้ว่าพอพี่ชินกลับมาผมก็โวยวายเลย แต่สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้เพราะพี่ชินแม่งเอาแต่ยืนยิ้มหน้าหล่อให้ผมโวยวายจนหมดแรง ไม่ได้รู้สึกผิดหรืออะไรที่ผมจับได้เลยซักนิดครับนอกจากบอกว่าต่อไปนี้ผมก็ไม่ต้องทำแล้วไง ให้แม่บ้านมาทำเหมือนเดิม


   “วีๆ....ไอ้วี”

   “ครับพี่ว่าไงนะ” ผมหันไปถามพี่ชินที่ยืนเรียกเสียงดังอยู่ใกล้ๆ

   “พี่บอกว่าเครื่องดูดฝุ่นมันดูดกระดาษเข้าไปติดเห็นไหม”

   “เฮ้ย! จริงด้วยผมขอโทษครับ” ผมกำลังคิดอะไรเพลินๆเลยไม่ได้มองว่าเอาเครื่องดูดฝุ่นไปดูดกระดาษบนโต๊ะทำงานของพี่ชินซะงั้น

   “เหม่ออะไรวะ แล้วงานก็เลิกทำได้แล้วรีบมากินข้าวจะได้ไปเรียน”

   “อีกนิดเดียวก็เสร็จแล้ว พี่กินก่อนเลย”

   “งั้นก็เร็วๆล่ะพี่รอ ถ้าให้กินคนเดียวพี่กินที่มอไปแล้วไม่หิ้วท้องกลับมากินที่ห้องหรอก” เสียงแบบนี้มีน้อยใจอีกแล้วครับ ผมทำอะไรผิดวะ คนแค่กลับจะหิวเลยให้กินก่อนเอง   

   “คร๊าบบขอโทษครับ เสร็จแล้ว” ผมรีบเก็บเครื่องดูดฝุ่นเข้าที่แล้ววิ่งไปล้างมือล้างหน้า ออกมากินข้าวพร้อมกันไม่อยากให้พี่ชินอารมณ์เสีย

   หลังกินข้าวด้วยกันเสร็จผมก็รีบอาบน้ำเปลี่ยนชุดมาเรียน โดยมีคนขับรถส่วนตัวขับมาส่ง ผมก็นั่งสบายไปดิครับ ผมบอกจะนั่งรถเมล์มาเองก็ไม่ยอมทั้งที่มอกับคอนโดพี่ชินอยู่ห่างกันไม่กี่ป้ายรถเมล์เองครับ

พี่ชินค่อยๆเข้ามาแทรกซึมในชีวิตผมทีละน้อย จนตอนนี้เรียกว่าแทบทุกอย่างแล้วก็ว่าได้ครับ ตื่นมาก็เจอก่อนนอนก็เจอ เวลาว่างๆก็มาอยู่กับผมตลอด เแค่ช่วงที่มีเรียนเท่านั้นแหละครับที่ผมไม่ได้เห็นหน้าพี่ชิน


พี่แกจีบเต็มสตีมจริงๆครับ จากที่เมื่อก่อนชอบบังคับให้ผมทำโน่นทำนี่เอาเรื่องหนี้มาขู่ แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีขู่เลยนะครับ เวลาอยากให้ผมทำอะไรก็จะพูดให้ตัวเองดูน่าสงสารและให้ผมรู้สึกผิดจนต้องยอมทำตาม เหมือนเรื่องห้องที่ต้องไปค้างกับพี่ชินหรือเรื่องไปรับไปส่งทุกวันนี่แหละครับพอไม่ให้ส่งก็หาว่าผมกีดกันไม่ยอมให้ทำคะแนน  จริงๆผมอยากบอกนะว่าคะแนนน่ะไม่ต้องทำเยอะนักหรอกแค่นี้ก็นับแทบไม่ทันแล้ว


บางครั้งผมยังสงสัยคนจีบกันเขาต้องทำเหมือนเป็นแฟนกันขนาดนี้เลยเหรอ บางทีคนเป็นแฟนยังไม่ทำขนาดนี้เลยนะ พี่ชินโคตรเนียนทุกวันนี้ถึงไม่ใช่แฟนแต่ก็เหมือนเป็นแฟนผมไปแล้วครับ เพราะทุกคนที่เรียนคลาสเดียวกันจะรับรู้ว่าพี่ชินเป็นแฟนผม จากการที่คอยไปรับไปส่งหรือคอยเป็นป๋าเลี้ยงข้าวเลี้ยงขนมเพื่อนผมด้วย แต่ถ้ามีคนมานั่งใกล้หรือพูดจาสนิทสนมกับผมเป็นพิเศษไม่ว่าผู้หญิงผู้ชายไอ้พี่ชินก็เริ่มออกอาการหน้ามืด หึงแหลกตลอดครับ อันนี้ผมไม่ค่อยรู้หรอกส่วนมากไอ้แบตจะเป็นคนบอกผมซะมากกว่า






“ขอบคุณครับพี่ ผมไปเรียนแล้วนะตอนเย็นไม่ต้องมารับก็ได้ ไม่รู้จะเลิกกี่โมงอาจารย์ขอสอนชดเชยคาบที่แล้วที่เลิกไว” ผมหันไปหยิบสมุดที่วางไว้เบาะหลังก่อนบอกพี่ชินแล้วเตรียมตัวเปิดประตูลงจากรถ
 

   “เดี๋ยวพี่มารับ เลิกเมื่อไหร่ก็โทรมาแล้วกันพี่อยู่คณะนี่แหละ”

   “จะโทรบอกได้ไงโทรศัพท์ผมหาย พี่ลืมแล้วเหรอ” ผมทวนความจำพี่ชินอีกครั้ง

หลังจากหาโทรศัพท์เท่าไหร่ก็หาไม่เจอผมเลยลงความเห็นว่าหายแน่นอนครับ คงหายวันที่ไปเที่ยวกับพี่ชิน ถ้าไม่โดนล้วงก็คงทำตกเอง แต่ผมว่าเป็นอย่างหลังมากกว่าเพราะถ้าโดนล้วงไอ้คนล้วงคงเอามาปาหัวผมคืนทั้งแต่วันนั้นแล้ว

“อ่อใช่พี่ลืมเลย หยิบถุงที่เบาะหลังให้พี่หน่อย”

“อันนี้เหรอพี่” ถามพร้อมมือที่กำลังเอื้อมไปหยิบถุงกระดาษที่วางไว้เบาะหลัง เห็นตั้งแต่เอาสมุดวางแล้วครับแต่ไม่ได้สนใจว่าเป็นอะไร

“อันนั้นแหละ เปิดดูสิว่าชอบรึเปล่า”

“อะไรเหรอ รุ่นใหม่เลยนี่นาพี่จะเปลี่ยนเครื่องเหรอ” ผมถามพร้อมมองโทรศัพท์มือถือ i Phone รุ่นใหม่ล่าสุดในมือ

“ของวีนั่นแหละ พี่ซื้อมาให้ชอบไหม”

“เฮ้ย! ไม่เอาหรอก ผมซื้อเองได้แค่ตอนนี้ยังไม่มีเวลาไปซื้อเท่านั้นเอง”  โทรศัพท์ในมือถูกเก็บลงถุงด้วยความไว้แล้วส่งไปให้พี่ชินที่เอาแต่นั่งยิ้มมือกุมพวงมาลัยรถ ของผมผมซื้อเองได้ถึงมันจะไม่ได้แพงเท่าของพี่ชินแต่ผมก็คิดว่าผมพอใจที่จะใช้ซัมซุงฮีโร่เหมือนเดิมมากกว่า

“ไม่ต้องซื้อหรอกพี่ซื้อมาให้แล้วจะไปซื้อใหม่ทำไม”

“แต่มันแพงเกินไป ผมรับไว้ไม่ได้หรอกยิ่งผมกับพี่ไม่ได้เป็นอะไรกันด้วยจะให้รับได้ยังไง” ถึงผมจะงกแค่ไหนแต่ก็รู้ว่าอะไรควรเอาไม่ควรเอา

“ตอนนี้ยังไม่เป็นแต่อีกหน่อยก็ไม่แน่นะรับไปเถอะพี่ไม่ได้ให้วีฟรีๆ ถือว่าให้ยืมใช้ระหว่างที่วียังไม่ได้ซื้อก็แล้วกันหรือมีเงินเมื่อไหร่ค่อยเอามาจ่ายคืนพี่ก็ได้”

“แต่มันก็แพงเกิน ผมไม่มีปัญญาใช้ของแพงแบบนี้หรอกครับพี่ ทีวีผมยังซื้อมือสองเลย” ผมว่าพร้อมดันถุงที่พี่ชินพยายามยัดใส่มือคืนไป

“เอาไปเถอะมีเมื่อไหร่ค่อยใช้10ปี 20ปีพี่ก็รอได้ เครื่องนี้พี่ไปเปิดเบอร์เก่าของวีให้แล้ว แต่เปลี่ยนจากเติมเงินเป็นรายเดือนนะค่าโทรพี่จ่ายให้ แล้วก็ไลน์พี่สมัครให้แล้วเล่นด้วย ”  เอิ่ม พี่ชินจัดการทุกอย่างไม่ปรึกษาผมเลยวะ

“ถ้าพี่จะจัดการขนาดนั้นแล้วผมรับไว้ก็ได้ครับ แต่เรื่องค่าเครื่องกับค่าโทรเดี๋ยวผมทยอยเอามาให้พี่แล้วกันครับแต่เมื่อไหร่จะหมดไม่รู้นะ” ผมว่าพร้อมรับโทรศัพท์เจ้าปัญหามาถือไว้ในมือ

“อื้อว่าง่ายๆแบบนี้สิถึงจะน่ารัก แล้วเรื่องเงินไม่ต้องคิดมากจะผ่อนทั้งชีวิตก็ได้” หัวผมโดนโยกไปมาพร้อมกับเสียงพูดนุ่มๆจากผู้ชายหน้าหล่อข้างๆ

“หึหึ เดี๋ยวโด้เลยนิ แต่ขอบคุณนะครับ ที่คอยจัดการให้ผมขนาดนี้ ผมยังลืมเรื่องซื้อโทรศัพท์ไปแล้วเลย”

“อะไรที่เกี่ยวกับวีพี่ไม่ลืมหรอก ไปเรียนเถอะเดี๋ยวสาย”

“เฮ้ย! ไม่ทันแล้วพี่เย็นนี้เจอกันนะครับ” ดูนาฬิกาสายไปเกือบ 10 นาทีแล้วผมเลยต้องรีบลงจากรถแล้ววิ่งขึ้นตึกคณะด่วนจี๋  มาถึงห้องใช้เวลาไม่ถึงนาทีเสียงพี่ชินหัวเราะไล่หลังยังดังอยู่ในหัวเลยครับ







“เย็นนี้ไปกินข้าวด้วยกันไหม กูอยากกินหมูกะทะว่ะ” ไอ้แบตถามขึ้นหลังอาจารย์เดินออกจากห้องสอน ตอนท้ายคาบเรียน

“หมูกระทะเหรอ น่าสนเหมือนกันแล้วลูกแพรไปไหม”  ผมหันไปถามลูกแพรที่นั่งข้างๆ

“ไปสิแพรก็อยากกินเหมือนกัน ไม่ได้กินมานานแล้ว”

“งั้นเดี๋ยวโทรบอกพี่ชินก่อนนะว่าไม่ต้องมารับ” โทรศัพท์เครื่องหรูถูกหยิบขึ้นมาเตรียมกดเบอร์พี่ชินที่ผมจำได้แม่น

“เฮ้ย ไฮโซเว้ยเพื่อนกูมีโทรศัพท์ใหม่ใช้แล้วเหรอวะ รุ่นใหม่ซะด้วยนะ” ไอ้เชี้ยแบตว่าพร้อมแย่งโทรศัพท์ผมไปดู

“พี่ชินให้กูยืมใช้น่ะ ไม่ใช่ของกูหรอก” ไม่คิดบ้างวะว่าคนอย่างผมจะเอาปัญญาที่ไหนมาซื้อ

“พี่ชินแม่งป๋าเว้ย กูถามจริงพี่ชินกับมึงนี่เป็นแฟนกันยังวะ ไปไหนมาไหนด้วยกันตัวติดกันยิ่งกว่าผัวเมียอีก” สายตาแม่งจะกวนตีนไปไหนวะ

“ยัง!”

“ยังอะไร ยังไม่ได้กันหรือยังไม่ได้เป็นแฟนกัน ขอความชัดเจนให้เพื่อนด้วยครับคุณนาวี”

“ยังทั้งหมดนั่นแหละ กวนตีนนะมึง” ผมว่ากลับเสียงดังก่อนเอาตีนเตะขาไอ้แบตที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะ

“แล้ววีชอบพี่ชินบ้างหรือยังล่ะ” คราวนี้เสียงใสๆของลูกแพรถามขึ้นบ้าง

“อื้อ...” ก้มหน้าตอบเสียงเบา

“มึงเป็นเหี้ยอะไรวะ จะตอบให้มันยาวกว่านี้ไม่ได้รึไง” ไอ้แบตเสียงดังจนเพื่อนที่กำลังเก็บของเตรียมตัวแยกย้ายหันมามองกันเป็นแถวเลยครับ


“...”

“อื้อนี่หมายความว่า วีชอบพี่ชินแล้วใช่ไหม” ลูกแพรถามย้ำอีกครั้งด้วยเสียงที่ตื่นเต้นจนปิดไม่มิด แต่ผมนี่ดิครับหน้าร้อนเห่อขึ้นมาเลย ทำไมตอนบอกว่าชอบพี่ตินณ์ใจมันไม่เต้นเหมือนตอนนี้วะ แค่ยอมรับว่าผมชอบพี่ชินความรู้สึกนี่เหมือนโดนจับได้ว่าแอบกินขนมที่แม่ห้ามตอนเด็กๆเลยครับ


“อื้อ...ชอบ” ผมตอบอีกครั้งก่อนเงยหน้าสบตากับลูกแพรและมองเลยมาที่ไอ้แบต ทั้งสองคนจ้องหน้าผมเหมือนผมเป็นผู้ร้ายที่กำลังโดนสอบปากคำซะงั้น

ตลอดเวลาเกือบเดือนหลังจากผมรู้ความรู้สึกของพี่ชิน ผมก็เริ่มเปิดใจและมองพี่ชินในมุมใหม่ๆจากที่ไม่เคยคิดกับพี่ชินในมุมของคนรักก็เริ่มคิด เริ่มทบทวนสิ่งต่างๆมากขึ้น พี่ชินค่อยๆเข้ามาอยู่ในความคิดของผมที่ละน้อยจนตอนนี้ไม่มีเวลาไหนที่ผมจะไม่คิดถึงพี่ชินแล้วครับ


ตอนแรกผมคิดว่าตัวเองใจง่ายไปไหม พอพี่ตินณ์ไม่รักก็จะไปรักพี่ชินเลย คำตอบคือไม่ใช่ครับเพราะผมรู้แล้วว่าตลอดเวลาผมไม่ได้รักพี่ตินณ์เหมือนคนรัก ผมแค่ชื่มชมพี่ตินณ์ที่เป็นคนเก่ง สุขุม ดูน่าเคารพ พี่ตินณ์เหมือนเป็นไดดอลของผม
 
ตอนแรกผมคิดว่าพี่ตินณ์เป็นคนหยิ่งเข้าถึงยากแต่จริงๆแล้วไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยครับ พี่ตินณ์เป็นคนที่อัธยาศัยดีเข้ากับคนง่าย แถมยังชอบโปรยเสน่ห์โดยไม่รู้ตัว จนทำให้ผมเผลอคิดไปว่าตัวเองเป็นคนที่พิเศษกว่าคนอื่นหรือเปล่า

แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ครับผมเข้าใจผิดไปเองและยังเข้าใจผิดในความรู้ตัวของตัวเองอีกด้วย ผมเหมือนคนที่ชื่มชมดารา อยากเป็นเหมือนเขา คอยมองคอยติดตาม พอเขาคุยด้วยหน่อยก็ใจเต้นแรงคิดไปไกลเข้าใจผิดไปกันใหญ่   


พอได้ผ่านเรื่องต่างๆ ผมมาย้อนถามตัวเองว่าถ้าได้เป็นแฟนพี่ตินณ์จริงๆเอาไหม ตอบได้เลยว่าไม่เอาครับ พี่ตินณ์เป็นคนที่ผมเอาไว้แค่มอง เอาไว้แค่ชื่นชมก็พอ ผมอยากให้พี่ตินณ์เห็นแต่ด้านดีๆ เรื่องดีๆของผม แต่กับพี่ชินผมไม่ได้เริ่มด้วยคำว่าชอบแต่มันเป็นความสัมพันธ์ที่พัฒนามาจากการที่ไม่ถูกกัน ต่างฝ่ายต่างเห็นด้านเสียๆของกันละกัน และยอมรับมันได้นี่แหละครับที่ผมคิดว่าผมรักพี่ชินเข้าแล้วโดยไม่รู้ตัว พี่ชินไม่เคยบอกให้ผมเปลี่ยนแปลงอะไรในตัวเอง รักผมทั้งที่ผมไม่มีอะไรดีซักอย่าง 


กับพี่ชินผมไม่ต้องพยายามเป็นคนดีในสายตาพี่ชินเลยซักนิด สามารถทำได้ทุกอย่างที่อยากทำ เป็นได้ทุกอย่างที่อยากเป็น อยู่ด้วยแล้วมีแต่ความสบายใจ ผมอาจไม่ได้รักพี่ชินทันทีที่พี่ชินบอกรักผม แต่ความรักของผมค่อยๆเพิ่มขึ้นทีละน้อยจากความดีที่พี่ชินทำให้ มันค่อยๆมากขึ้นๆจนตอนนี้เรียกว่าแทบล้นใจอยู่แล้วครับ


“จริงดิ มึงชอบพี่เขาแล้วเหรอ” ไอ้แบตมึงจะเสียงดังทำไมวะ คนยิ่งอายๆอยู่

“เออ แล้วมึงจะเสียงดังทำไม”


ป๊าบ!!!

“ไอ้ฟาย กว่าจะรู้ใจตัวเองได้นะมึง ดีใจด้วยว่ะเลิกแดกหญ้าซะที” เต็มหลังเลยครับ ไอ้เชี้ยแบตแม่งซัดมือลงมาเต็มๆ หลังผมจะหักไหมวะ

“แดกหญ้าเชี้ยไรล่ะ พูดซะเหมือนกูเป็นควาย ควายที่ไหนจะหล่อขนาดนี้วะ แม่งพูดไม่คิด”

“มึงยังไม่รู้ตัว?!”

“สองคนนี้จะตีกันอีกแล้วนะ เลิกๆ แพรดีใจด้วยนะวีที่รู้ใจตัวเองซักที แล้วพี่ชินรู้เรื่องนี้รึยังเหรอ” ทำไมทุกคนดูไม่แปลกใจเหมือนรู้อยู่แล้วว่าผมต้องชอบพี่ชินทั้งๆที่ผมยังเพิ่งรู้ตัวเอง

“ยังไม่ได้บอกน่ะคิดว่าจะเคลียร์ตัวเองกับพี่ตินณ์ก่อน”

“วี...แพรมีอะไรจะบอก จริงๆแพรอยากบอกนานแล้วแต่หาโอกาสเหมาะๆไม่ได้ซักที”

“อะไรเหรอ” อยู่ๆลูกแพรก็ทำน้ำเสียงและสีหน้าจริงจังจนผมอดระแวงไม่ได้

“คือเรื่องพี่ตินณ์น่ะ...ตอนแรกแพรจะบอกแล้วแต่กลัววีรับไม่ได้”

“รับไม่ได้ ทำไมล่ะ”

“ก็แพรคิดว่าคนที่พี่ตินณ์ชอบน่ะเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง  ถ้าแพรบอกวีก่อนหน้านี้แพรกลัววีจะเสียใจที่วีก็เป็นผู้ชายเหมือนกันแต่พี่ตินณ์ไม่ได้เลือกวี” ลูกแพรบอกด้วยน้ำเสียงที่เหมือนยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ คงยังกลัวว่าผมจะคิดมากอยู่ แต่เรื่องนี้ผมไม่คิดอะไรแล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายแค่เป็นคนที่พี่ตินณ์รักผมคิดว่าคงเป็นคนดีแน่นอน

“เสียใจอะไร วีไม่เสียใจหรอกไม่ต้องคิดมาก แล้วแพรรู้ได้ยังไงล่ะว่าเป็นผู้ชาย”

“จำวันนั้นได้ไหมวันที่แพรบอกว่าพี่ตินณ์มารับแพรกับบ้านพร้อมพี่พรต”

“อย่าบอกนะว่าผู้ชายที่พี่ตินณ์ชอบเป็น...”

   “ใช้แล้ว แพรคิดว่าเป็นพี่พรต” ยังไม่ทันพูดจบประโยคลูกแพรก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน

“ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะพี่เขาอาจจะแค่รู้จักกันหรือป่าว” ผมถามเพราะไม่อยากให้ลูกแพรคิดไปเองทั้งที่ยังไม่แน่ใจ เดี๋ยวทั้งพี่ตินณ์กับพี่พรตจะเสียหาย ไม่ใช่ว่ายังคิดอะไรกับพี่ตินณ์หรอกครับ

“ตอนนั้นแพรก็ไม่ค่อยแน่ใจหรอก แต่เดี๋ยวนี้แพรเห็นพี่ตินณ์ไปไหนมาไหนกับพี่พรตตลอด แถมเวลาพี่พรตอยู่กับแพรพี่ตินณ์ก็โทรมาหาตลอด ถ้าไม่รับก็กระหน่ำโทรมาไม่ได้หยุด แบบนี้มันเกินคำว่าคนรู้จักแล้วล่ะ”

เรื่องนี้ผมไม่เคยรู้เลยครับ หลังจากวันเลี้ยงน้องที่เกิดเรื่องขึ้นผมก็ยังไม่ได้คุยกับพี่ตินณ์ตรงๆนอกจากยืมโทรศัพท์ลูกแพรโทรไปขอโทษ พี่ตินณ์ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะรู้ว่าผมคงเมา แต่เหมือนความสัมพันธ์ของผมกับพี่ตินณ์ตั้งแต่นั้นก็ห่างๆกัน พี่ตินณ์คงไม่อยากให้ผมคิดอะไรมากกว่าที่เป็นอยู่

“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีสิ พี่ตินณ์กับพี่พรตเป็นคนที่วีชื่นชมทั้งคู่เลย ถ้าเป็นแฟนกันจริงคงเหมาะกันน่าดู” ผมบอกลูกแพรยิ้มๆ

“คิดอย่างนั้นจริงๆเหรอ” ไอ้แบตถามผมบ้าง

“อื้อ...แล้วทำไมถึงคิดว่าไม่ใช่ล่ะ”

“เปล่าถ้าคิดแบบนี้ได้จริงๆก็ดี กูกลัวว่ามึงจะเสียใจเท่านั้นเอง ถึงมึงจะบอกว่ารักพี่ชินแล้วแต่กูก็กลัวมึงจะยังลืมพี่ตินณ์ไม่ได้”

“บ้าดิ ถ้ากูไม่แน่ใจกูจะไม่บอกว่ารักพี่ชินแน่ๆ แค่นี้กูก็ทำให้พี่เขาเจ็บมามากพอแล้ว”

“แพรดีใจแทนพี่ชินจริงๆเลยอ่ะ ถ้าพี่ชินรู้พี่ชินคงมีความสุขมากแน่ๆ”

“วีก็อยากให้เป็นแบบนั้นเหมือนกัน” ผมตอบแพรที่มองผมยิ้มๆ เหมือนลุ้นแทนผม

“งั้นเย็นนี้บอกเลยไหม”

“เดี๋ยวดิ กูขอทำใจก่อน มันไม่ได้บอกกันง่ายๆนะเว้ย”

“ระวังนะมึงลีลามากๆ พี่ชินไม่รอไปม่อสาวอื่นก่อนจะหาว่ากูไม่เตือน”

“สัส! ไม่แช่งกูซักวันมึงจะนอนไม่หลับรึไง” ผมว่าไอ้แบตเสียงดังก่อนมันจะหัวเราะกวนๆส่งมาให้

ผมขี้เกียจเถียงกับมันแล้วเลยคว้าสมุดบนโต๊ะแล้วเดินออกจากห้องมาโทรชวนพี่ชินไปกินหมูกะทะด้วยกัน





“พี่ตินณ์” ผมเรียกพี่ตินณ์ที่กำลังเดินลงจากคณะมุ่งหน้าไปลานจอดรถ  ตอนนี้ผมกำลังนั่งรอพี่ชินอยู่ใต้คณะคนเดียวส่วนไอ้แบตกับลูกแพรเดินไปกดเงินหน้าศูนย์อาหาร

“อ้าววี วันนี้มีเรียนเหรอ” 

“ครับพี่ วันนี้เรียนวันสุดท้ายพรุ่งนี้ก็สอบแล้ว พี่ตินณ์พอจะวีเวลาว่างสักแป๊บนึงไหมครับผมขอคุยด้วยหน่อย” ผมลองถาม

“ถ้าไม่นานก็ได้นะ พอดีพี่มีนัดต่อ” พี่ตินณ์ก้มมองนาฬิกาข้อมือนิดนึงก่อนเงยหน้าขึ้นตอบ



“ไม่นานครับ ผมแค่อยาก...”


ครืด...ครืด... 

ผมยังพูดไม่ทันจบโทรศัพท์ในมือพี่ตินณ์เกิดสั่นขึ้นมาซะก่อน ผมเลยชะงักไปเมื่อพี่ชินยกขึ้นมามองเบอร์โทรเข้า

“เดี๋ยวนะพี่ขอรับโทรศัพท์แป๊บนึง  ครับว่าไง เฮ้ย! ไม่ได้กูไม่ให้ไป มึงอยู่ไหนเดี๋ยวกูไปหาไม่ต้องไปไหนนะ รอกูอยู่ตรงนั้นเลย .....พรตๆ อย่างเพิ่งวาง ห่าเอ๊ย...เคยเชื่ออะไรกูมั่งเนี๊ยะ ขอโทษนะวีเอาไว้วันหลังแล้วกันพอดีพี่มีธุระด่วนนะ”  หลังพี่ตินณ์คุยโทรศัพท์อยู่ไม่นานก็เหมือนหัวเสียกับคนปลายสายแล้วบอกขอโทษผมก่อนเดินไปเลย

“ไม่เป็นไรครับ ไว้วันหลังก็ได้”  ผมยังตอบไม่ทันจบด้วยซ้ำ พี่ตินณ์ก็เดินห่างไปไกลทิ้งให้ผมยืนมองจนลับตา





“รอพี่นานไหม”

“อ้าวพี่ชินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ” ผมถามพี่ชินที่ทักผมมาจากด้านหลัง มาตั้งแต่เมื่อไหร่ผมไม่รู้ตัวเลยครับ

“พี่เพิ่งมาถึง แล้วเราล่ะรอพี่นานไหม”

“ไม่นานครับผมก็เพิ่งมาถึง ขอบคุณครับ” ผมตอบพร้อมรับน้ำชามะนาวที่พี่ชินยื่นให้

“ไปกันเลยไหมไอ้โยมันขอไปด้วยตอนนี้รอที่รถ”

“เดี๋ยวรอเพื่อนผมแป๊บนึงครับ”

“เออใช่ แล้วไปไหนกันหมดล่ะ” ผมชินถามกลับพร้อมมองไปรอบๆ

“เดินไปกดเงิน เดี๋ยวมาครับ นั่นไงมาพอดีเลย”

“งั้นครบแล้วไปกันเลยเนอะ” พอพี่ชินเห็นจำนวนสมาชิกครบแล้ว ก็ชวนกันออกจากมอมุ่งหน้าไปร้านหมูกะทะใกล้ๆ เย็นนี้เลี้ยงฉลองเรียนวันสุดท้ายหน่อยครับ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าก็เริ่มสอบปลายภาคแล้ว



             ----- To Be Con.-----

             ขอบคุณที่ติดตามคร่าา :กอด1: :กอด1:
           

หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 22 up 23/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 23-10-2014 00:23:47
วียอมรับใจตัวเองแล้ว
 :o8: :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 22 up 23/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 23-10-2014 00:26:18
 o13 วีรู้ใจตัวเองแน่แล้วนะ อย่าทำพี่ชินเสียใจล่ะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 22 up 23/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: shijino ที่ 23-10-2014 00:28:55
ตามอ่านทันแล้ว ดีใจที่วียอมรับและรู้หัวใจตัวเองได้ซะที เฮ้อออ
พี่ชินแมนมากป๋ามากอ่า ชอบตอนพี่ชินรุกเต็มกำลังและขี้หึงเต็มที่เลย
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 22 up 23/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: BBlabong ที่ 23-10-2014 00:41:26
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 22 up 23/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: kurumi_nut ที่ 23-10-2014 00:45:06
พี่ชิน ไม่เห็นหรอว่าคุยกะพี่ติณท์อะ อยากให้พี่ชินหึงอะ อิอิ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 22 up 23/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: Cinnamon Roll!!! ที่ 23-10-2014 00:49:37
เพ่ชินหวานเว่อร์อ่าาา    :o8:

ดีใจที่วีรู้ใจตัวเองซะที
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 22 up 23/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 23-10-2014 01:45:20
รีบๆบอกพี่ชินนะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 22 up 23/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 23-10-2014 05:49:53
วีเปิดใจให้ชินอ่าดีแล้ว
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 22 up 23/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 23-10-2014 06:18:30
พี่ซินอดทนอีกนิดนะจ๊ะ
อ้อนๆเนียนๆเข้าไว้ รับรองได้เป็นแฟนน้องสมใจแน่ :z2:

ส่วนวี ถ้าโอกาสไม่มีจะคุยกับติณณ์ ก็ปล่อยไปเถอะ
ค่อยไปคุยหลังเป็นแฟนพี่ซินก็ได้
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 22 up 23/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 23-10-2014 06:44:57
รีบบอกพี่ชินเลย พี่ชินรอนานแล้ว
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 22 up 23/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 23-10-2014 09:12:46
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 22 up 23/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: 1bigmie1 ที่ 23-10-2014 09:57:48
จะบอกรักแล้วๆๆๆๆๆ สมใจพี่ชินสักที ติดตามตามติด ชีวิตคนเขียน แอบส่องเฟสทุกวัน ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 22 up 23/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: PANGGii ที่ 23-10-2014 19:49:12
รุ้ใจตัวเองแล้วก้ดีนะวี
แต่เมื่อไรพี่ชินถึงจะได้รุ้่ะ
บอกเร็วๆนะ  เด่วเสียของไปซะก่อน 55555
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 22 up 23/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 23-10-2014 21:46:51
หนูวีรู้ใจตัวเองซะที
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 22 up 23/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 24-10-2014 06:46:38
ในที่สุด !!!!!! วีก็ชอบพี่ชิน เย้ !
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 22 up 23/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 24-10-2014 06:52:06
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 22 up 23/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 27-10-2014 07:22:32
5555555วีรู้ใจตัวเองสักที
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 22 up 23/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: สุนิสา ที่ 15-11-2014 17:03:18
รอๆ  :katai5: :katai5: :katai5:   ชอบวีน่ารัก :กอด1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 22 up 23/10/2014 p.12
เริ่มหัวข้อโดย: Future ที่ 08-01-2015 22:15:42
ข้ามปีแล้วนะครับ ยังไม่มาต่อเลยหรอ คิดถึงวีชินจังเลย ถ้าครบกำหนดสามเดือนนิยายนี้ไม่มาต่อจะโดนลบ เหลืออีก 2 อาทิตย์นะครับ มาต่อด่วนๆ คิดถึงนะครับ :katai2-1: :hao5: :sad4:
หัวข้อ: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 23 up 21/1/2015 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 20-01-2015 23:55:16

         ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 23

   “ไอ้โยอ่ะกูให้ ถ้าไม่รักกูไม่ให้นะมึง”  ผมมองพี่ชินคีบหมูที่ปิ้งจนสุก ใส่ถ้วยพี่โยที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก 

   “เก็บความรักของมึงไว้ให้น้องวีคนเดียวเถอะแม่ง แดกไม่หมดแล้วถึงให้กูนะ”

   “อ้าวมิตรภาพนะมึง กินๆเข้าไปเถอะอย่าบ่น”

   “มิตรภาพที่เกิดขึ้นได้ตอนมึงอิ่มสินะ ห่าทำมาพิศวาสกูตอนนี้ ถุ๊ย!” เสียงพี่โยกับพี่ชินคุยกันกระหนุงกระหนิงเรียกเสียงหัวเราะจากผมและเพื่อนๆตั้งแต่มาถึงร้านหมูกระทะจนตอนนี้ 3 ทุ่มกว่าแล้วก็ยังได้ยินเสียงหัวเราะอยู่เลยครับ

   หมูกระทะร้านนี้เป็นร้านขึ้นชื่ออยู่ใกล้ๆมอ มาถึงคนก็เยอะแล้วครับเพราะเป็นวันศุกร์สิ้นเดือน แถมเป็นวันที่มีการเรียนการสอนวันสุดท้ายของเทอมอีกกว่าผมจะหาโต๊ะได้ก็นานเหมือนกันครับ  โชคดีมีคนอิ่มพอดีผมเลยได้นั่งโต๊ะหินอ่อนเดินไม่ไกลจากที่ตักอาหารมากนัก

    พี่ชินจองนั่งเก้าอี้ตัวเดียวกับผมส่วนด้านขวามือเป็นพี่โยที่นั่งคนเดียว  ที่เหลือไอ้แบตกับลูกแพรนั่งกันคนละตัว พอได้ที่นั่งเท่านั้นแหละครับเหมือนปอบลงต่างคนต่างหาของที่ตัวเองอยากกินมาจัดการทั้งปิ้งย่างต้มซัดกันเพลินเลย



   “วีเอากุ้งอีกไหม”

   “ไม่เอาแล้วครับอิ่มท้องจะแตก พี่เอาไหมผมแกะให้” ผมถามพี่ชินที่กำลังนั่งย่างกุ้งตัวใหญ่อยู่บนตะแกง ร้านนี้นอกจากจะมีกระทะย่างหมูแล้วยังมีเตาย่างอาหารทะเลแยกต่างหากให้ด้วยครับ

“ไม่ไหวเหมือนกัน แล้วที่เหลือนี่ใครจะกินล่ะ”

   “ไอ้แบตไงพี่ จริงไหมไอ้แบตมึงยังไม่อิ่มเนอะ” ผมตอบพร้อมถามไอ้แบตต่อ

   “คนนะเว้ยไม่ใช่รถถัง แม่งจะให้กินได้เป็นตันๆเลยรึไงวะ”

   “กูรู้ว่ามึงยังกินได้อีก ถ้าไม่หมดโดนปรับนะมึง”

   “ให้กูอ้วกออกมาโชว์ไหมล่ะ มึงจะได้รู้ว่ากูไหวรึเปล่าจุกอยู่ที่คอแล้วเนี๊ยะ” ไอ้เชี้ยแว่นว่าพร้อมทำท่าจะอ้วกให้ผมดู

   “สัส! พูดซะกูอยากอ้วกด้วยอีกคน”

   “เวลาตักเสือกไม่ประมาณตัวเองแล้วมารำบากกูไหม”

   “ก็ตอนนั้นกูหิวนี่หว่านึกว่าจะกินหมด”

   “หมดก็ไม่ใช่คนแล้วมึง ถ้ากินขนาดนี้มึงเป็นปอบเถอะ”

   “แล้วจะทำยังไงกับของบนโต๊ะดีวะ”

   “ไม่หมดก็เอาไว้อย่างนี้แหละ เดี๋ยวพี่จ่ายค่าปรับเอง” พี่ชินแทรกขึ้นมาระหว่างที่ผมกับไอ้แบตกำลังเถียงกันอย่างเอาเป็นเอาตาย

   “ทิ้งได้ไงพี่เสียดายของ” ผมหันไปตอบพี่ชินที่นั่งจ้องหน้าผมจนเกือบชิด

   “มึงเสียดายมึงก็กินเองดิ กูไม่ช่วยนะบอกเลย” ไอ้แบตรีบออกตัวก่อนคนอื่นเลยครับ

“เออกูก็ไม่คิดว่ามึงจะมีน้ำใจขนาดนั้นหรอก พี่โยกินอีกหน่อยนะครับผมแกะให้”  เปลี่ยนเป้าหมายมาที่พี่โยแทนหลังจากดูสภาพแล้วคนอื่นคนหมดสิทธิ์จะหวังพึ่งลูกแพรยิ่งไม่ได้ใหญ่คนนี้ยกธงขาวก่อนใครไปกินบุฟเฟ่ต์ด้วยกันที่ไรไม่เคยคุ้มซักครั้ง

“ก็ได้ครับเดี๋ยวพี่กินให้” หุหุ มีคนช่วยแล้วครับหลังจากนั่งยิ้มฟังผมกับไอ้แบตเถียงกันอยู่นานพี่โยก็ยอมอาสากินอาหารบนโต๊ะที่เหลือ

“ได้แล้วครับพี่โย อ๊ะ!”

   “เอามานี่กูกินเอง”  อยู่ๆกุ้งตัวโตที่ผมแกะจนเสร็จและกำลังจะยื่นใส่จานพี่โยก็ถูกขโมยโดยการจับข้อมือผมไว้แล้วใช้ปากงับกุ้งจากมือผมไปกินหน้าตาเฉยเลยครับ

ไหนบอกว่าอิ่มแล้วไงวะ แล้วกินจากมือผมแบบนี้คิดว่าผมจะอายไหมล่ะ ตอบเลยว่าอายครับอายมากยิ่งไอ้เพื่อนผมทั้งสองคนนี่จ้องเขม็งเลย

   “ฮิ้ววววว.......พี่ชินทำอะไรเกรงใจคนโสดอย่างผมบ้างนะครับ ตาร้อนเป็นไฟแล้วเนี๊ยะ” เสียงไอ้แบตแซวก่อนใคร

   “ใช่ค่ะแพรยังแอบอิจฉาเลย”

   “อย่าอิจฉาพี่เลยครับรอไว้เพื่อนเราใจอ่อนก่อนค่อยมาอิจฉาพี่นะ” พี่ชินว่ายิ้มๆก่อนเพื่อนผมทั้งสองคนจะอมยิ้มเหมือนรู้กันว่าอีกไม่นานพี่ชินต้องสมหวังแน่ๆ

   “พี่ชินไหนว่าอิ่มแล้วไงครับ”  ไม่รู้จะว่าอะไรก็พี่ชินเล่นหันมาจ้องหน้าผมไม่เลิก ผมเลยเปลี่ยนเรื่องซะเลย ใครจะกล้าสารภาพรักกลางร้านหมูกระทะที่หน้ามันเยิ้มขนาดนี้ แถมยังมีคนจ้องอีกล่ะครับ

   “ก็อิ่มแล้วแต่วีแกะให้คนอื่นทำไมล่ะ จำไวนะวีแกะให้พี่ได้คนเดียวเท่านั้น” พี่ชินว่าพร้อมเอนตัวนั่งสบายพาดแขนบนพนักพิงด้านหลังผม มองเผินๆเหมือนกำลังโอบผมไว้แต่ไม่ใช่นะครับ พี่ชินคงแค่กำลังเมื่อย

   “เอ่อครับงั้นผมแกะให้อีกนะ” ผมขานรับงงๆ ก่อนเริ่มแกะตัวใหม่ให้พี่ชินพี่พยักหน้ารับแล้วยกเบียร์ขึ้นจิบ 

   ผมถูกสั่งห้ามแตะแอลกอฮอลล์เด็ดขาด วันนี้เลยกินแต่น้ำอัดลมล้วนๆ ส่วนไอ้แบตกับพี่โยก็กินเบียร์เป็นเพื่อนพี่ชินตาเยิ้มเลยครับ   

   “พี่โยคราวหน้าชวนแฟนพี่มาด้วยนะครับผมอยากรู้จัก”  ผมถามจบพี่โยถึงกับชะงักมือที่กำลังส่งลูกชิ้นเข้าปาก อะไรจะหวงแฟนขนาดนั้นไม่อยากให้ใครรู้จักเลยหรอ

   “วีว่าอะไรนะ”

   “แฟนพี่โยไงครับ ผมอยากรู้จักได้ยินว่าพี่มีแฟนตั้งนานแล้วยังไม่เคยเจอซักที” ผมถามย้ำอีกครั้งเหมือนไม่เห็นอาการแกล้งงงของแก

   “ไปรู้ข่าวมาจากไหน”

   “อ้าวก็...ช่างมันเถอะครับสรุปแล้วพี่ยังไม่มีแฟนเหรอครับ” ผมกำลังจะพูดพร้อมหันไปทางพี่ชินเพื่อหาคนช่วยยืนยันแต่พี่ชินกลับมองไปทางอื่นเหมือนหลบตาผมซะงั้น เท่านี้รู้เลยผมแม่งโดนพี่ชินอำอีกแล้ว   

“มันจะมีหรือไม่มีไปยุ่งอะไรกับมัน สนใจอะไรมันนักหนาวะ”  อ้าวอยู่ๆพี่ชินกลับเสียงแข็งกับผมอีกแล้ว หลังๆมาผมเริ่มสงสัยทำไมพอเป็นเรื่องพี่โยทีไรพี่ชินมีอาการตลอดเป็นอะไรของเขาวะ

   “ผมแค่อยากรู้นิดเดียวไม่ได้เหรอ ก็คนมันรู้จักกัน”

   “หึหึ มึงจะขี้หึงไปไหนวะ กูบอกว่าไม่จีบก็ไม่จีบแล้วดิ”  พี่โยพูดอะไร

   “พี่โยอย่าบอกนะว่าพี่คิดจะจีบไอ้วีด้วยอีกคน” ไอ้แบตถามเสียงตื่นเลยครับ ทำไมวะคนอย่างกูมีอะไรไม่ดีถึงคิดจีบไม่ได้ ผมมองไอ้แบตเคืองๆ

   “ก็แบบนั้นแหละ เมื่อก่อนพี่ไม่รู้ไงว่าไอ้ชินมันชอบอยู่ ดันไปเปรยๆกับมันว่าจะจีบทีนี้องค์ลงว่ะแค่พูดถึงก็ไม่ได้จะแดกหัวตลอด”

“พี่คิดอะไรอยู่ทำไมถึงไปชอบคนอย่างมันได้ ผมล่ะแปลกใจจริงๆ” ไอ้แบตถามพร้อมทำหน้าสงสัยอย่างไม่ปิดบัง

“ตอนนั้นพี่ชอบในความสดใสของวีเลยคิดจะจีบไง  แต่พอมาเจอตอเข้าเลยถอยดีกว่ารู้ว่ายังไงก็สู้ไม่ได้ แต่ไม่คิดว่าแม่งจะหักหลังมาบอกว่าพี่มีแฟนแล้วแบบนี้” พี่โยเล่าก่อนหัวเราะขำๆกับความเจ้าเล่ห์ของพี่ชิน

“กูก็ไม่ได้โกหกไหม น้องน้ำฝนที่กูแนะนำให้มึงไงเห็นจะคบกันอยู่แล้วไปไงดันจีบไม่ติดเอง”

   “เออ ใช่ๆหลังจากมันบอกให้พี่เลิกยุ่งกับวี อีกวันมันพาสาวมาแนะนำให้พี่ด้วยนะ ดีกรีดาวคณะวิทย์เลย แต่น้องเขาชอบมันไงไม่ได้ชอบพี่สุดท้ายกินแห้วไปอีกตามระเบียบ”

   “มึงแม่งไม่มีน้ำยาเอง อย่ามาโทษกู”

   “เออๆ ว่ากูอีกคำกูแย่งน้องวีมึงนะ” พี่โยทำท่าขู่ก่อนหันมายิ้มหวานให้ผมที่กำลังประมวลผลเรื่องราวที่เพิ่งรับรู้  ผมไม่รู้มาก่อนเลยจริงๆครับว่าพี่โยชอบผม

   “สัส! อย่ายุ่งกับคนของกู”  เสียงพี่ชินว่ากลับก่อนยกตะเกียบชี้หน้า

“พี่โย พี่เป็นเกย์เหรอ” หลังจากเงียบไปสักพักไอ้แบตก็เริ่มถามขึ้นมาใหม่

“ป่าว”

“อ้าว ไม่ได้เป็นแล้วพี่จะจีบไอ้วีมันทำไมครับ”

“ไม่ได้เป็นเกย์แต่รู้สึกว่าวีมันน่ารัก อยากจีบพี่ก็จีบดิเหมือนไอ้ชินมันก็ไม่ได้เป็นเกย์ แฟนมันทุกคนที่ผ่านมาเป็นผู้หญิงหมด มีน้องวีนี่แหละเป็นผู้ชายคนแรก แล้วเวลาพี่รักใครพี่ไม่สนหรอกว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงแค่เป็นคนที่พี่รักก็พอ” พูดจบพี่โยดูหล่อไปเลยครับ ผมเปลี่ยนใจไปหาพี่โยทันไหมวะ

“หมั่นไส้ว่ะ มึงไปทำหล่อไกลๆกูเลย เอ้าเอาไปแดกแล้วเงียบไปเลยนะ” พี่ชินทำหน้าหมั่นไส้ก่อนคีบหมูคีบผักใส่ถ้วยพี่โยจนพูน พวกผมก็มองพร้อมหัวเราะในความสนิทและขี้แกล้งของทั้งสองคน


   ………………………………..



   “พี่ชินมาอาบน้ำก่อน อย่าเพิ่งนอน”  ผมดึงแขนผู้ชายร่างหนาที่มาถึงห้องแล้วไม่ยอมอาบน้ำแต่กลับเดินไปทิ้งตัวลงบนที่นอนทันที

   “ไม่อาบได้ไหม ง่วงแล้ว”

   “ไม่ได้ตัวเหม็นขนาดนี้ ทั้งเหงื่อทั้งควันจากร้านหมู ลุกเลยพี่ชินอย่ามาทำตัวหนัก โอ๊ย!”

   “พี่จะเหม็นได้ไงขนาดวียังตัวหอมอยู่เลย ฟอดดด”

   “อื้อ...ปล่อยจะไปอาบน้ำแล้ว พี่ไม่อาบก็ไม่ต้องอาบ” ผมว่าก่อนดันหน้าพี่ชินออกห่าง หลังจากโดนดึงลงมาบนที่นอนพี่ชินก็พลิกตัวขึ้นเอาคางเกยหน้าอกผมทันที

   “ไม่อาบได้จริงๆนะ”

   “จริง แต่ผมไม่นอนกับพี่นะเหม็น ผมจะออกไปนอนโซฟาข้างนอก”

   “เฮ้ย! ได้ไงไม่เอางั้นดิแล้วพี่จะกอดใคร”

   “ถ้าไม่เอาก็ไปอาบน้ำ ป่านนี้ที่นอนเหม็นตามพี่ไปแล้วมั้ง”

   “อาบให้หน่อยนะ” จังหวะที่กำลังลุกขึ้นยืนอยู่ๆพี่ชินก็ดึงผมลงไปนั่งบนตักตัวเอง ก่อนเอาหน้ามาคลอเคลียด้านหลังแล้วกระซิบใกล้หู ขนลุกซู่เลยแม่งเอ๊ยเล่นอะไรวะ

   “พี่ชิน!ปล่อยเลย ถ้าพี่ทำแบบนี้อีกผมกลับไปอยู่ห้องผมแล้วนะ” พอพี่ชินคลายมือจากเอวผมรีบเด้งตัวหนีทันที อยู่ท่านี้นานไม่ได้กลัวใจตัวเองเหมือนกันครับ

   “หึหึ ปล่อยก็ได้ ขู่ตลอดนะไปอาบเดี๋ยวนี้แหละ”มือหนาที่ยกขึ้นมายีหัวผมเต็มแรงก่อนเดินผิวปากเข้าห้องน้ำเหมือนอารมณ์ดีที่ได้แกล้งผมซะงั้น

   “วีเสร็จแล้วอาบต่อได้เลย”

   “อาบไวจังพี่ อาบหรือวิ่งผ่านแน่” ผมถามหลังหันไปเห็นพี่ชินที่มีผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันรอบเอวเผยให้เห็นหน้าท้องแบบราบหน้ามอง มานั่งดูทีวีคอยคิวอาบน้ำยังไม่ได้ 10 นาทีเลยครับ

   “อาบดิสะอาดทุกมุม ไม่เชื่อจะลองดมดูไหมว่าหอมขนาดไหน”

   “ไม่ๆ เชื่อแล้วว่าสะอาดไม่ต้องเข้ามา ผมไปอาบน้ำต่อแล้วนะ”  รีบชิ่งทันทีที่เห็นสายตาวาววับคู่นั่นบวกการเดินกางแขนโชว์รักแร้เข้าหา รู้ได้เลยว่าต้องมีอะไรมาแกล้งผมอีกแน่ๆแล้วมีเหรอผมจะอยู่รอ

   “อาบเร็วๆนะ พี่ง่วงแล้ว”

   “ง่วงพี่ก็นอนไปก่อนดิไม่ต้องรอ” ผมตะโกนตอบก่อนเริ่มลงมืออาบน้ำ ได้โดนน้ำเย็นๆนี่มันสดชื่นดีจริงๆครับ กว่าจะอาบเสร็จก็เกือบครึ่งชั่วโมง

   “มานั่งนี่มากูเป่าผมให้” เสียงพี่ชินดังขึ้นทันทีที่ผมเดินออกจากห้องน้ำ  ตอนนี้พี่ชินใส่เสื้อกางเกงชุดนอนเรียบร้อยในมือมีไดร์เป่าผมคงเป่าผมตัวเองเสร็จพอดี

   “เกิดอะไรขึ้นกันแน่พี่ถึงมาทำใจดีกับผม มันแปลกๆนะ” แกล้งถามพร้อมยักคิ้วกวน

   “ถามมากเว้ยคนจะรีบนอนมาเร็วๆ”

   “ผมทำเองได้ พี่นอนเถอะง่วงไม่ใช่เหรอ”

   “จะนอนหลับได้ไงเสียงไดร์เป่าผมดังขนาดนี้ มานั่งนี่เร็วๆกูจะได้รีบเป่ารีบนอน”

   “ครับๆๆ” ผมรับคำก่อนเดินไปนั่งบนพื้นห้องกลางหว่างขาพี่ชินเอาหลังพิงเตียงให้พี่ชินที่นั่งขอบเตียงเป่าผมให้ได้สะดวก  ใช้เวลาไม่นานผมก็แห้งสนิทพี่ชินเลยเก็บไดร์เป่าผมก่อนปิดไฟแล้วขึ้นมานอนบนเตียงที่ผมขึ้นมาซุกตัวใต้ผ้าห่มตั้งแต่ผมแห้งแล้วครับ


   “อื้อพี่ชินหายใจไม่ออก” ผมประท้วงทันทีที่รู้สึกแรงมหาศาลดึงตัวผมเข้าปะทะอกแล้วกอดไว้แน่น

   “ขอกอดนิดเดียว เดี๋ยวนอนไม่หลับ”

   “กอดนิดเดียวอะไร ร่างผมจะแหลกอยู่แล้วเนี๊ยะ นึกว่าจะโดนงูแดก”

   “พูดใหม่ พูดไม่เพราะ”

   “ไม่เพราะตรงไหน พี่อย่าหาเรื่องผมดีกว่า”

   “ถ้าไม่พูด พี่จูบนะ”

   “พะ...อื้อออ” กำลังจะขยับปากพูดแต่ไม่ทันริมฝีปากหนาๆที่โน้มเข้ามาใกล้ก่อนกดลงบนริมฝีปากผม แล้วไม่แค่นั้นผมรู้สึกได้ถึงลิ้นร้อนๆที่พยายามจะดุนดันเข้ามาในปากผมให้ได้  ระหว่างที่สมองผมกำลังประมวลผลว่าจะทำยังไงดี ร่างกายมันก็ไม่ยอมรอแล้วครับริมฝีปากเริ่มเปิดออกเพื่อต้อนรับการลุกลานจากพี่ชิน สองมือแทนที่จะผลักร่างหนาๆออกให้พ้นตัวดันเอื้อมไปโอบรอบไหล่แกร่ง แล้วเหมือนสติผมก็ไม่รับรู้อะไรอีกนอกจากความนุ่มนวลจากจูบที่พี่ชินกำลังมอบให้แล้วเปลี่ยนเป็นความรุนแรงขึ้นเรื่อยตามการบดขยี้ริมฝีปาก


   ระหว่างที่ผมกำลังเบลอกับจูบหอมหวานแบบที่ไม่เคยได้รับอยู่นั้น เหมือนมีอะไรอุ่นๆพยายามลอดเข้ามาในเสื้อนอนผมและสูงขึ้นมาเรื่อย แล้วก็ได้รู้ว่ามันเป็นมือของพี่ชินพี่กำลังเข้ามากอบกุมหน้าอกแบนราบที่มีเพียงตุ่มไตแข็งๆ ไม่ได้มีก้อนเนื้อนุ่มๆเหมือนที่ผู้หญิงเขามีกันเพียงเท่านั่นสติผมที่กำลังหลุดลอยก็กลับมาทันที
 
ผมไม่ใช่ผู้หญิง!!  พี่ชินจะรับได้เหรอ ถ้าทำมากกว่านี้พี่ชินจะผิดหวังในตัวผมไหม

“พี่ชิน อย่า....” ผมบอกเสียงเบาหลังพี่ชินผละจากริมฝีปากไปไล่จูบตามลำคอผมแทน และทันทีที่ผมพูดจบพี่ชินก็ชะงักตัวก่อนเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมนิ่งๆ

“ขอโทษ...พี่ลืมตัวไปหน่อย ทั้งๆที่สัญญาแล้วว่าพี่จะไม่บังคับผืนใจวี”

“...” ผมไม่รู้จะบอกว่าอะไร ถ้าจะบอกว่าไม่ได้ผืนใจมันจะดีเหรอ

“พี่จะรอจนกว่าวีจะรักพี่และเต็มใจให้พี่นะ”  หลังพูดจบสัมผัสอุ่นๆจากริมฝีปากก็สัมผัสข้างแก้มผมก่อนพี่ชินจะพลิกตัวไปนอนตะแคงข้างแล้วกอดผมเหมือนหลายๆคืนที่ผ่านมา

ผมมองตามพี่ชินนิ่งๆ พร้อมกับสมองที่กำลังคิดวกไปวนมาว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงทำให้ผมรักเพิ่มมากขึ้นทุกวันแบบนี้ คงถึงเวลาแล้วสินะที่ผมควรทำให้พี่ชินมีความสุขบ้าง

“พี่ชินคือ....” รวบรวบกำลังใจทั้งหมดเพื่อจะบอกรักใครซักคน แม้จะอยู่ในความมืดแต่ผมก็ยังรู้สึกได้ว่าหน้าตัวเองคงแดงมากๆเพราะตอนนี้ รู้สึกร้อนไปหมดทั้งหน้า บวกกับอาการมือเย็นแถมใจยังเต้นรัวเลยครับ

“...” ยิ่งพี่ชินเงียบผมยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่เลยครับ

“พี่ชินคือ ผมอยากบอกว่าพี่ไม่ต้องรอผมรักหรอกเพราะตอนนี้ผมระ......”

“นอนเถอะ ตอนนี้พี่ยังไม่พร้อมได้ยินอะไร”  ยังไม่ทันเอ่ยจบประโยคพี่ชินก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน คำพูดของพี่ชินทำให้ความตื่นเต้นทั้งหมดของผมกลายเป็นศูนย์

“พี่ชินฟังผมก่อน”

“นอนซะเดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสาย” พี่ชินลูบหัวผมเบาๆก่อนพลิกตัวนอนหันหลังให้เหมือนไม่อยากคุย และแล้วการตัดสินใจจะสารภาพรักของผมก็ต้องพับเก็บอีกตามเคย ไม่รู้กี่ครั้งแล้วนะที่ผมพยายามจะบอกแต่ก็ไม่เคยได้บอกซักครั้ง  ผมถอนหายใจเบาๆก่อนดึงผ้าห่มขึ้นมาถึงคอแล้วค่อยๆหลับตา ในเมื่อวันนี้พี่ชินยังไม่พร้อมฟังผมคงต้องคอยไปก่อน



……………………………………………………………..


“มั่นใจไหมวันนี้”

“ผมก็มั่นใจเหมือนทุกวันที่พี่ถามนั้นแหละครับ”

“หึหึ ทำให้ได้นะ อ่านมาเต็มที่แล้วนิ เดี๋ยวเย็นพี่มารับ”

“ครับ” ผมตอบรับพี่ชินพี่เอามือโยกหัวผมเพื่อให้กำลังใจก่อนเปิดประตูลงจากรถ วันนี้สอบปลายภาควันที่ 3 ของสัปดาห์ ผมเหลืออีกไม่กี่ตัวก็จะสอบเสร็จได้ปิดเทอมกับเค้าซักที  ถามว่ามั่นใจไหมผมตอบได้เลยว่าไม่ครับ เมื่อวานสอบแคลคูลัสที่มั่นใจว่าทำได้ยังเกือบตาย แล้ววันนี้เป็นพื้นฐานวิศวกรรม 2 เรื่องที่ผมจะรอดคงยากครับ

“วีทางนี้ๆ”

“อ้าวลูกแพรมานานแล้วเหรอ”

“เพิ่งมาเหมือนกัน”

“ไอ้แบตล่ะ มายัง” ผมถามหาไอ้แว่นหลังมองหาไม่เจอ

“มาแล้วแต่เห็นบอกลือเอาดินสอ 2B มาเลยวิ่งไปซื้อ โน่นไงมาแล้ว”

“เชี้ยกูลือดินสอเฉยเลยว่ะ ดีนะนึกออกก่อนเข้าห้องสอบ”

“มันใช้ด้วยเหรอวะ กูนึกว่าบรรยายอย่างเดียว”

“มันก็ต้องมีฝนบ้างดิ อะไรจะบรรยายหมดเลย งั้นกูไปลงเรียนซ่อมเลยล่ะกันถ้าไม่มีปรนัยอ่ะ”

“ถ้างั้นกูก็ซวยดิ ไม่ได้เอามาเหมือนกัน เดี๋ยวไปซื้อก่อนนะเข้าห้องกันก่อนเลย”

“ไม่ต้องๆ กูซื้อมาให้แล้ว” จังหวะที่ผมกำลังจะออกวิ่งไอ้แว่นแม่งดึงเสื้อผมไว้หน้าเกือบทิ่มพื้นเลยครับ

   “เออขอบใจ” กำลังจะด่าแต่มันยื่นดินสอมาให้ก่อน ผมเลยเปลี่ยนจากคำด่าเป็นขอบใจมันสะหน่อยเดี๋ยวจะว่าไม่มีมารยาท ทั้งที่ผมก็ไม่มีนั่นแหละครับ

   “งั้นเราเข้าห้องสอบกันเลยไหม ถึงเวลาแล้ว” ลูกแพรถาม

   “อื้อไปเลย สู้เว้ย” ผมตอบก่อนเราสามคน จะยกมือที่กำเป็นกำปั้นแล้วเอาหลังนิ้วชนกันแล้วแยก  3 ชั่วโมงต่อจากนี้คือการชี้ชะตาว่าผมจะต้องซ่อมตัวนี้ใหม่ในเทอมหน้ารึเปล่า

   “วีเป็นไงทำได้ไหม” ลูกแพรถามผมทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะนั่งใต้คณะที่ผมนั่งรออยู่ วันนี้ผมออกก่อนใครเพราะทำไมได้นั่นแหละครับ เลยมั่วแม่งเลย ยิ่งนั่งยิ่งเครียด

   “ให้เดา”

   “ได้ดิ ออกเร็วขนาดนี้ ตอนวีลุกนะแพรตกใจเลย ยังทำไม่ได้ครึ่ง”

   “ได้ก็ดีดิ ได้ทำซะมากกว่า ปรนัยนะวีเอาไม่บรรทัดหั่นยางลบเป็นลูกเต๋าแล้วเขียน ตัวเลือกโยนเสี่ยงทายเลยเห่อะ ผ่านไม่ผ่านดวงล้วนๆ

   “จริงดิ แพรก็เข้าใจว่าวีทำได้เห็นออกไวขนาดนั้น”

   “ไงมึงทำได้ไหม” ผมเงยหน้าขึ้นมองไอ้แบตที่เดินมาถึงโต๊ะแล้วถามประโยคเดียวกะลูกแพรเด๊ะๆเลยครับ

   “มึงถามแบบอื่นบ้างได้ไหม อันนี้คนอื่นเขาถามไปแล้ว”

   “อ้าวเหรอ งั้นถามใหม่มึงได้กับพี่ชินยัง”

   “สัส! กวนตีนนะมึง ว่าแต่เย็นนี้ติวที่ไหนดีวะ” ผมว่าก่อนถามถึงวิชาที่ต้องสอบวันถัดไป

“ใต้คณะนี่แหละ ห้องสมุดคนน่าจะเยอะ” ลูกแพรเสนอ

“เอางั้นก็ได้ งั้นกูว่าไปซื้อข้าวมานั่งกินกันตรงนี้เลยไหม เดี๋ยวกูไปซื้อให้” ไอ้แบตมองหน้าผมก่อนตอบเมื่อเห็นผมพยักหน้าแล้วถามต่อ

“เออกูรอนี่แล้วกันขี้เกียจเดิน”

“ตลอดอ่ะมึง” ไอ้แว่นแม่งผลักหัวผมก่อนชวนลูกแพรไปซื้อข้าวด้วยกัน ผมเลยยกนิ้วกลางขึ้นมาทำท่าอวัยวะเบื้องล่างให้มันไปหนึ่งที  ไม่เข้าใจทำไมใครๆก็ชอบเล่นหัวซะเหลือเกิน อย่าให้ผมสูงมั่งแล้วกันแม่งจะไล่ตบเรียงตัวเลย  ผมคิดพลางมองไอ้แบตกับลูกแพรเดินคู่กันไปทางโรงอาหาร


“ไอ้วีฟังกูอยู่รึเปล่าเนี๊ยะ”

“ห๊ะ อะไรนะ” ผมละสายตาจากคนที่กำลังมองมาสนใจไอ้แบตที่ทำหน้าเป็นยักษ์อยู่ตรงข้าม

“กูถามว่ามึงฟังที่กูพูดไหม ถ้าไม่ฟังกูไม่ติวให้แล้วนะ พูดเหนื่อยชิบหายแม่งไม่ฟังกูอีก”
 
“ฟังๆ มึงพูดใหม่ดิ” ผมตอบก่อนเริ่มตั้งใจฟังอีกครั้ง แต่ไม่นานสายตาผมก็เหลือบไปมองคนที่เดินลงจากตึกคณะจนตอนนี้ไปถึงถนนหน้าคณะแล้ว

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมมองพี่ตินณ์แต่เป็นเกือบทุกครั้งที่เวลาผมเห็นพี่ตินณ์ผมต้องมองตามจนสุดสายตา มันคงเป็นความเคยชินตั้งแต่ผมคิดว่าผมชอบพี่ตินณ์จนตอนนี้รู้ตัวแล้วว่าไม่ได้ชอบแต่ปฏิกิริยาของร่างกายมันก็ยังทำทุกอย่างเหมือนที่เคย

“ไอ้วีถ้ามึงไม่ฟังกูจะ...”

“โทษที เดี๋ยวกูมานะ” ผมบอกไอ้แบตก่อนลุกจากโต๊ะเพื่อเดินตามพี่ตินณ์ วันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายของเทอมที่ผมจะได้เจอพี่ตินณ์ก็ได้ ยังไงผมก็อยากขอโทษให้มันชัดเจนซักครั้ง เพื่อความสบายใจของผมเองและของพี่ตินณ์ด้วย

ไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่าแต่ผมรู้สึกวันนี้พี่ตินณ์ดูเนือยๆ ไม่ค่อยสดใสเหมือนทุกครั้งที่เจอ อาจจะเพราะช่วงนี้เป็นช่วงสอบและงานก็ต้องระดมส่งพร้อมกันเลยทำให้พี่ตินณ์ดูซูบๆลงกว่าครั้งล่าสุดที่ผมเจอผมคิดพร้อมก้าวขาไวๆเพื่อให้ทันพี่ตินณ์ที่กำลังจะข้ามถนนไปยังลานจอดรถ
 
“พี่ตินณ์ระวัง!!” จากที่คิดว่าจะเรียกให้พี่ตินณ์หยุด กลายเป็นตะโกนสุดเสียงพร้อมขาที่วิ่งเร็วขึ้นสุดฝีเท้า ก่อนกระโดดผลักพี่ตินณ์ให้กระเด็นไปอีกฝั่งของถนนเพียงเพราะผมเห็นรถเก๋งคันหนึ่งแล่นมาด้วยความเร็วในขณะที่พี่ตินณ์ก้าวขาไปบนถนนแล้ว

“วี!!”

“พี่ตินณ์เป็นอะไรไหม เจ็บตรงไหนรึเปล่าครับ” ผมที่ล้มลงข้างๆพี่ตินณ์รีบลุกขึ้นนั่งแล้วถามทันที มือก็พยายามจับสำรวจหาบาดแผลตามร่างกายพี่ตินณ์ไปทั่ว

“พี่ไม่เป็นไรหรอก แต่วีนั่นแหละเป็นไรไหมเลือดออกด้วย” ผมงงว่าพี่ตินณ์พูดอะไร ก่อนที่มือของพี่ตินณ์จะเอื้อมมาจับหน้าผม เอานิ้วแตะๆตรงขมับเท่านั้นครับผมเจ็บจี๊ดขึ้นมาทันที แล้วพอเห็นว่าปลายนิ้วพี่ตินณ์เปื้อนเลือดพร้อมกับน้ำสีแดงๆที่หยดลงมาตามเสื้อนักศึกษาของผมความรู้สึกก็ดับลงทันที




“วีๆ ได้ยินพี่ไหม”

“โอ๊ะ!” ผมร้องทันทีที่ขยับตัวแล้วรู้สึกเจ็บหัวอย่างรุนแรง

“อย่าเพิ่งขยับหัววีกระแทกขอบฟุตบาทน่ะ” ผมหันไปมองตามเสียงเห็นพี่ตินณ์นั่งอยู่ข้างๆ เสื้อนักศึกษาเปื้อนเป็นลอยเลือดวงใหญ่ที่แห้งบ้างไม่แห้งบ้าง

“ผมมาอยู่นี่ได้ยังไงครับ” ผมค่อยๆขยับปากถามออกไป หลังมองแล้วน่าจะเป็นโรงพยบาล

“พี่พามาส่งเองแหละ ตอนนี้หมอบอกว่าปลอดภัยแล้วแต่ต้องดูผลเอ็กซ์เลย์อีกครั้งว่ากระทบกระเทือนสมองรึเปล่า”

“พี่ไม่เป็นอะไรนะครับ” ผมถาม

“ไม่เป็นไร ปลอดภัยทุกอย่างขอบใจมากนะแต่ทีหลังอย่าทำแบบนี้ รักชีวิตตัวเองให้มากๆ” ผมตินณ์ว่าก่อนเอามือลูบแก้มที่มีรอยยิ้มของผมเบาๆ ผมดีใจที่อย่างน้อยการเจ็บครั้งนี้ก็สามารถช่วยให้พี่ตินณ์ปลอดภัย

“ผมเต็มใจครับ”

“พี่รู้ แต่ถ้าวีเป็นอะไรขึ้นมาพี่จะเสียใจแค่ไหน ไอ้ชินล่ะแล้วเพื่อนๆพ่อแม่ของวีอีก”

“แต่ผมก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่ครับ”

“มีใครเคยบอกไหมว่าเราเป็นคนดื้อ”

“ก็มีพี่เป็นคนแรกมั้งครับ” ผมตอบเสียงเบาก่อนยิ้มให้”

“จะไปไหน” พี่ตินณ์ถามทันทีที่ผมขยับตัวจะลุก

“เข้าห้องน้ำครับ”

“เดี๋ยวพี่พาไป”  พี่ตินณ์ก็ช่วยขยับราวกั้นขอบเตียงให้ผมลงได้สะดวก ก่อนเดินเข็นเสาน้ำเกลือมายืนคอยผมหน้าห้องน้ำ

“ตอนนี้กี่โมงแล้วเหรอครับ” ผมถามหลังเข้าห้องน้ำเสร็จ

“ทุ่มนึ่งแล้ว”

“ทุ่มนึง!!” ผมทวนเสียงดังก่อนเอื้อมมือไปดึงเข็มสายน้ำเหลือที่มือ

“จะทำอะไรอย่าเลยนะวี”

“ผมต้องไปหาพี่ชินป่านนี้พี่ชินคอยผมแย่แล้ว ผมนัดให้พี่ชินมารับตอนสี่โมงเย็น” ผมบอกพร้อมมองหาเสื้อผ้าที่ใส่มา โทรศัพท์ผมอยู่ในกางเกงอย่างน้อยถ้าไม่ได้ออกไปโทรไปบอกก่อนก็ยังดี

“วียังไปไหนไม่ได้นะ หมอให้ดูอาการก่อน”

“แต่...”

“เรื่องชินไม่ต้องห่วงเพื่อนเราโทรบอกแล้วเดี๋ยวมันก็มา”

“เพื่อนผม” ผมทวนด้วยความสงสัย

“ก็แบตกับลูกแพรไง เขามาอยู่เฝ้าวีด้วยพี่เพิ่งให้ออกไปกินข้าวเมื่อกี้”

“อ่อ ครับ” ผมรับคำนิ่งๆ

“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวก็ได้ออก หมอขอดูอาการอีกนิดหน่อย แต่วีเสียเลือดมากหมอเลยให้เลือดไป ถุงนึงกับน้ำเกลืออีกถุง”พี่ตินณ์บอกก่อนช่วยพยุงผมขึ้นนั่งบนเตียงอีกครั้ง

“พี่กลับก่อนก็ได้ครับ ผมอยู่ได้”  ผมบอก

“ได้ไงพี่จะปล่อยเราอยู่คนเดียวได้ยังไง แล้วพี่ถามหน่อยว่าอยู่ดีๆทำไมเราถึงเข้ามาช่วยพี่ได้ล่ะ”

“ก็ผมกำลังจะเดินไปหาพี่”

“หาพี่? หาทำไม”

“คือผมอยากจะไปขอโทษพี่ตินณ์เรื่องวันนั้น”

“วันนั้น อ่อ!วันที่ไปกินเลี้ยงเหรอ”

“ใช่ครับ ผมอยากขอโทษพี่ด้วยตัวเองอีกครั้ง และอธิบายเรื่องต่างๆ”

“พี่ไม่โกรธอะไรหรอกอย่าคิดมาก เรื่องมันผ่านไปแล้ว แถมวีก็เมาด้วย”

   “ผมก็อยากขอโทษ เพราะผมรู้สึกว่าหลังจากวันนั้นพี่หลบหน้าผม พี่อาจจะรังเกียจผมที่ครั้งนึงผมเคยคิดว่าตัวเองชอบพี่แล้วยังทำแบบนั้นอีก แต่พี่สบายใจได้เลยนะครับเพราะตอนนี้ผมรู้แล้วว่าผมไม่ได้ชอบพี่แบบนั้น ผมแค่ชื่มชมพี่เฉยๆ พี่เป็นเหมือนไอดอลของผม เพราะฉะนั้นถ้าพี่ไม่ได้รังเกียจและยกโทษให้ผม ช่วยทำตัวเหมือนเดิมกับผมได้ไหมครับ ผมไม่อยากให้เป็นแบบนี้” ผมพูดเสียงสั่นก่อนที่จะรู้สึกว่ามีมืออุ่นๆของพี่ตินณ์มาดึงผมที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงเข้าซบอก

“พี่ไม่เคยโกรธหรือโทษวีเลย แต่ที่พี่ถอยห่างออกมาเพราะพี่ไม่อยากให้วีถลำลึกกว่านี้ วีควรรู้ใจตัวเองได้แล้วว่าวีรักใคร วีไม่ได้รักพี่หรอกพี่รู้”

“ขอบคุณครับพี่ที่เข้าใจผม”

“ยังไงวีก็ยังเป็นน้องชายของพี่เหมือนเดิม มีอะไรก็ปรึกษาพี่ได้เสมอ ไม่เอาไม่ขี้แย” พี่ตินณ์ผละตัวออกก่อนจ้องหน้าแล้วว่า

“ผมไม่ได้ขี้แยซะหน่อย”

“แล้วจะตาแดงทำไมหื้อ” พี่ตินณ์พูดพร้อมยิ้มเล็กที่ดูอบอุ่นส่งให้ผม  มันเป็นรอยยิ้มของพี่ชายที่มีห้น้องชายแบบผมแค่นี้ผมก็สุขใจแล้วครับ

“ผมดีใจไง ที่พี่ตินณ์เข้าใจ”

“ดีใจก็ยิ้มสิ ไม่ใช่จะมาร้องไห้แบบนี้” แก้มผมทั้งสองข้างถูกดึงเบาๆให้เห็นรอยยิ้ม ผมก็ยิ้มตาม

“ผมชอบพี่ตินณ์แบบนี้ที่สุดเลย”

“แบบไหน?”

“ก็แบบอบอุ่นๆ ไม่เก็กแล้วก็ไม่ห่างเหินกับผมเหมือนไม่กี่วันที่ผ่านมา”

“หึหึ โอเคพี่จะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้วสบายใจได้ ไหนขอกอดรับขวัญน้องชายหน่อยสิ” พี่ตินณ์อ้าแขนก่อนโอบลงไหล่ผมทั้งสองข้างพร้อมกันนั้นผมก็กอดตอบโดยการยื่นแขนออกไปโอบรอบลำตัวพี่ชายเบาๆเพื่อไม่ให้สะเทือนเข็มที่หลังมือด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม ความไม่สบายใจต่างๆตอนนี้เหมือนถูกละลายหายไปแล้ว  การเจ็บตัวของผมครั้งนี้ไม่เสียเปล่าจริงๆครับ

 “พี่ชิน!!”ในระหว่างที่ผมกำลังมีความสุขอยู่นั้นผมก็ต้องยิ้มค้าง เมื่อสายตามองไปเห็นพี่ชินที่เข้ามายืนอยู่ตรงประตูห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ครับ  ด้วยหลังพี่ชินมีทั้งไอ้แบตและลูกแพรมากันครบเลย

          ----- โปรดติดตามตอนต่อไป -----

           แฮ่! มาลงต่อแล้วจร้า   :กอด1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 23 up 21/1/2015 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: Cinnamon Roll!!! ที่ 21-01-2015 00:36:30
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:


ทำไมพี่ชินต้องมาเห็นภาพแบบนี้ทุกทีสิน่ะ  :katai1:


มาต่อเร็วๆเถอะน่ะ ได้โปรดดดดดด

มันค้างงงงง
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 23 up 21/1/2015 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 21-01-2015 00:41:23
นึกว่าตาฝาดดดดดดดด
พี่ชินมาได้จังหวะเกินไปแล้ว งานเข้าแล้วนู๋วี
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 23 up 21/1/2015 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 21-01-2015 02:05:38
ง่าาา. โอ๊ยยย สงสารพี่ชิน คงเข้าใจผิดไปถึงไหนต่อไหนแระ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 23 up 21/1/2015 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 21-01-2015 07:12:41
สงสารชินอะเข้าใจวีผิด
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 23 up 21/1/2015 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 21-01-2015 07:25:20
ชิน นะชิน ช๊อตเด็ดตลอดดดดด
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 23 up 21/1/2015 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: tityjiu ที่ 21-01-2015 08:01:14
งานช้างๆๆๆๆ  อันเก่าไม่เคลียรงานใหญ่ก็งอก 5555
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 23 up 21/1/2015 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 21-01-2015 08:32:32
 :katai1: :katai1: :katai1: ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงง  :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 23 up 21/1/2015 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 21-01-2015 08:51:39
ปวดใจแทนพี่ชินชอบมาถูกจังหวะเด็ดตัลลอดดด
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 23 up 21/1/2015 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: patjk ที่ 21-01-2015 08:55:42
งานเข้าซะเเล้ววีเอ๋ย เพ่ชินยิ่งเป็นคนชอบคิดเองเออเองด้วยสิ

ค้างงง มาต่อเลยได้ไหมอ่ะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 23 up 21/1/2015 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 21-01-2015 08:57:52
โอ๊ยยยยย มาได้จังหวะทุกทีซิน่าพี่ชิน :katai1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 23 up 21/1/2015 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 21-01-2015 09:26:33
หวังว่าพี่ชินจะไม่เข้าใจผิดน้า ตอนนี้วีรู้ใจตัวเองแล้ว
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 23 up 21/1/2015 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 21-01-2015 10:17:01
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 23 up 21/1/2015 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: smilepengy ที่ 22-01-2015 08:04:49
 :sad4: คุยกันให้จบ ๆ เนอะ เครียดแทน สงสารพี่ชินด้วย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 23 up 21/1/2015 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: shokon ที่ 22-01-2015 22:07:05
โอ๊ยยยย!!!!! อย่าเข้าใจผิดนะพี่ชิน เครียดแทนเลย :serius2:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 23 up 21/1/2015 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: PK13 ที่ 23-01-2015 09:10:33
โอยยยยยยยยพี่ชินอย่าดราม่าน้าาาาาา
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 23 up 21/1/2015 p.13
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกสมุนตัวเอฟ ที่ 24-01-2015 17:30:44
รอๆๆๆfcพี่ชิน
หัวข้อ: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 24 up 22/2/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 22-02-2015 17:19:18


          ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 24

   “หวัดดีครับพี่ตินณ์  เป็นยังไงบ้างกูรู้ก็รีบมาเลย”

   “เจ็บหัวนิดหน่อยครับ แต่ตอนนี้หายแล้ว” ผมรีบผละออกจากพี่ตินณ์ทันทีก่อนตอบเสียงเบา แล้วส่งยิ้มแห้งๆให้พี่ชินที่เดินเข้ามายืนใกล้เตียง

   “แล้วไปทำอีกท่าไหนถึงเป็นขนาดนี้ได้ ไหนหันดิพี่ขอดูหน่อย” 

   “มันกระโดดเข้ามาผลักกูหลบรถน่ะ  ถ้าไม่ได้มันป่านนี้กูคงเจ็บหนักไปแล้ว” พี่ตินณ์ตอบแทน

   “แล้งนี่หมอว่ายังไงบ้างครับ ต้องอยู่อีกกี่คืน”

   “หัวแตกเพราะแรงกระแทกต้องเย็บ 14 เข็ม เลือดออกมากตอนนี้หมอให้เลือดไปแล้วเหลือน้ำเกลืออาการโดยรวมไม่น่าเป็นห่วง แต่หมออยากให้แสกนสมองด้วยว่าได้รับผลกระทบอะไรรึเปล่า ยังไงคืนนี้ก็ต้องนอนที่นี่ก่อนแล้วพรุ่งนี้จะยังไงก็ค่อยรอหมออีกที” ผมนั่งมองพี่ตินณ์กับพี่ชินคุยกันในเรื่องของตัวเองโดยไม่สามารถหาจังหวะเข้าไปแทรกได้จริงๆครับ

   “งั้นผมว่าพี่กลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็พักผ่อนเถอะ เดี๋ยวทางนี้ผมดูแลเองไม่ต้องห่วง” พี่ชินมองเสื้อพี่ตินณ์ที่ตอนนี้มีแต่คราบเลือดเกรอะกรังก่อนไล่ให้ไปอาบน้ำ

   “แต่…”

   “เชื่อพี่ชินเถอะค่ะพี่ตินณ์ตอนนี้วีไม่มีอะไรต้องห่วงแล้วพี่กลับไปผักผ่อนเถอะ แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาเยี่ยมก็ได้” ลูกแพรที่เห็นว่าพี่ตินณ์ทำท่าลังเลเหมือนไม่อยากกลับช่วยพูดให้

   “ก็ได้งั้นพี่กลับก่อนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่มาเยี่ยม แล้วลูกแพรกลับพร้อมพี่เลยไหมเดี๋ยวพี่ไปส่ง” พี่ตินณ์หันมาบอกลาผมก่อนชวนลูกแพรกลับพร้อมกัน

   “แพรเอารถมา เดี๋ยวแพรกลับเองได้ค่ะ”

   “งั้นพี่กลับเลยนะ”  พี่ตินณ์หันมาบอกลาอีกครั้งก่อนเดินไปเปิดประตูห้องผู้ป่วยพิเศษแล้วเดินออกทิ้งให้ภายในห้องเต็มไปด้วยความเงียบ และความอึดอัดที่แพร่กระจายออกมาจากรอบๆตัวพี่ชิน

   ผมที่ไม่รู้จะเริ่มต้นพูดยังไงได้แต่กลืนน้ำลายเพื่อแก้อาการคอแห้งเป็นผงในขณะนี้

   “แบต ลูกแพรกลับเลยก็ได้นะ  เดี๋ยวพี่อยู่ดูวีเอง” พี่ชินหันไปบอกเพื่อนผมที่ยืนอยู่กลางห้องเหมือนไม่รู้จะทำอะไรต่อดี

   “เออแพรว่าแพรอยู่เป็นเพื่อนวีก่อนดีไหมค่ะ แล้วถ้าพี่ชินจะอยู่เฝ้าวีพี่ชินน่าจะกลับไปเปลี่ยนชุดหรือหาเสื้อผ้ามานอนค้างไหมคะ”  ลูกแพรพูดขึ้นถึงทำให้ผมสังเกตว่าตอนนี้พี่ชินยังอยู่ในชุดนักศึกษาเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวกับกางเกงสแลคสีดำเหมือนเมื่อเช้าก่อนที่จะแยกกัน

   “ใช่ครับพี่ชินผมว่าพี่ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดให้เป็นชุดสบายๆก่อนดีไหม” ไอ้แบตเสริม

   “งั้นพี่ไปซื้อเสื้อผ้าตรงมาร์ทข้างล่างเดี๋ยวขึ้นมา ฝากดูวีก่อนนะ”

   “ได้ค่ะ เดี๋ยวแพรกับแบตดูให้อย่างดีเลยค่ะ”






   “ไงมึง เล่นเอากูเกือบหัวใจวาย อยู่ๆกูลุกพรวดพลาดออกไป”

   “ใช่ แพรกรี๊ดเสียงดังมาก”

   “กูไม่รู้ตัวว่ะ ขามันก้าวออกไปเองตอนที่เห็นรถพุ่งมา”ผมตอบไอ้แบตกับลูกแพรเสียงเบาก็ตอนนั้นผมไม่รู้ตัวจริงๆนี่ครับ

   “มึงไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว กูนึกว่าจะต้องไปจ้างโคโยตี้มาเต้นงานมึงแล้วไหมล่ะ”

   “สัส! เอาไว้งานมึงเถอะกูจะจ้างให้แบบไม่เสียดายเงินเลย”

   “มีแรงแบบนี้แพรว่าวีคงหายแล้วล่ะมั้ง”

   “วีไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย แค่เจ็บๆตรงหัวเอง”

   “งั้นก็นอนพักนะ เดี๋ยวแพรกับแบตอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าพี่ชินจะกลับมา” ลูกแพรบอกก่อนขยับผ้าห่มให้ผมเอนตัวลงนอน

   “มึงว่าพี่ชินจะโกรธกูไหม”  ผมลืมตาขึ้นมาถามลอยๆหลังจากพยายามหลับแล้วแต่ก็ไม่ยอมหลับง่ายๆในหัวเห็นแต่ภาพที่พี่ชินยืนนิ่งอยู่หน้าประตูห้อง

   “กูว่าไม่หรอก ถ้าโกรธพี่เขาจะอยู่เฝ้ามึงเหรอป่านนี้ทิ้งมึงไปแล้ว”

   “แพรก็ว่าไม่น่าจะโกรธเหมือนกัน แต่อาจจะตกใจนิดหน่อยที่เปิดประตูเข้ามาเห็นวีกับพี่ตินณ์กอดกัน”

   “กูไม่ได้กอดแบบนั้น” ผมตอบตาก็มองเพดานห้อง

   “กูรู้และคิดว่าพี่ชินก็คงรู้เหมือนกัน ไม่ต้องคิดมากหรอกมึง” ไอ้แบตว่า

   “ถ้าวีคิดมากแพรว่าลองคุยกับพี่ชินดีไหม วีจะได้สบายใจ”

   “อื้อ...วีก็ว่าจะลองคุยอยู่เหมือนกันรอพี่ชินกลับมาก่อน” ผมตอบก่อนทั้งห้องจะตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง แล้วไม่นานผมก็เผลอหลับทั้งที่คิดว่าจะรอพี่ชินกลับมาก่อน




   “พี่ชิน...” ผมเรียกพี่ชินเสียงเบาหลังจากตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกมีอะไรมาไต่ที่มือ พอลืมตาก็เห็นพี่ชินนั่งเอาหน้าซบลงมาบนเตียงพร้อมจับมือผมคลึงนิ้วเล่น

   “ตื่นแล้วเหรอ เป็นไงบ้างเจ็บตรงไหนไหม” คำถามแรกที่ได้รับทำให้ผมรู้สึกได้ถึงความเป็นห่วงที่พี่ชินส่งมาให้เลยครับ

   “ไม่เจ็บตรงไหนครับ ผมสบายดีแล้วพี่ได้นอนบ้างรึเปล่า” ผมถามก่อนมองไปรอบๆพบว่าตอนนี้เป็นเช้าของอีกวัน เมื่อคืนพี่ชินมาตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วพวกไอ้แบตกับลูกแพรกลับไปตอนไหนผมไม่รู้เรื่องเลย

   “นอนสิ ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวไปล้างหน้าแปรงฟันไหวไหม เสร็จแล้วพี่จะเช็ดตัวให้”

“ผมอาบน้ำเองได้ ไม่ต้องเช็ดตัวหรอกครับ”

“เอางั้นเหรอ”

“ครับ” ผมตอบก่อนลงจากเตียงคนไข้แล้วเดินเข้าห้องน้ำโดยมีพี่ชินคอยเข็นเสาน้ำเกลือตาม


หลังจากนั้นผมกับพี่ชินก็แทบจะไม่มีเวลาคุยกันเลยครับ ทั้งหมอทั้งพยาบาลเปลี่ยนกันเข้ามาวัดความดัน ตรวจไข้ พาไปตรวจคลื่นสมองวุ่นวายไปหมด พอตรวจเสร็จกลับมาที่ห้องพี่ตินณ์กับเพื่อนๆในห้องก็แห่กันมาเยี่ยมกว่าจะกลับก็บ่ายเลยครับ หมอจะให้ผมอยู่ต่ออีกคืนหนึ่งแต่ผมดูแล้วว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไรมากเลยขอกลับก่อนเพราะต้องสอบวิชาที่เหลือ ไม่อยากสอบหลังเพื่อน


พี่ชินพาผมกลับมานอนที่คอนโดเหมือนทุกครั้ง แต่ความรู้สึกตลอดระยะทางที่รถแล่นผ่านจากโรงพยาบาลจนถึงคอนโดผมรู้สึกว่าพี่ชินดูเงียบไป ไม่ชวนคุยหรือเปิดเพลงภายในรถเหมือนทุกครั้ง แถมเวลาผมถามคำก็ตอบคำทำให้ผมยิ่งเดาอารมณ์ไม่ถูกเข้าไปใหญ่ว่าตอนนี้พี่ชินกำลังคิดอะไรอยู่

“พี่ชินผมมีเรื่องอยากจะคุยด้วย” ผมว่าหลังเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น

“เดี๋ยวค่อยคุยนะวันนี้พี่เหนื่อยขอพี่พักก่อน วีรีบกินข้าวกินยาเถอะจะได้อาบน้ำแล้วนอนพัก” พี่ชินตอบเร็วก่อนหยิบถุงยาออกมาจัดให้ผม แล้วเดินหายเข้าไปในห้องนอนทิ้งให้ผมได้แต่มองตาม สงสัยเพราะเมื่อคืนไม่ค่อยได้นอนเลยเพลียเอาไว้คุยวันหลังก็ได้ครับ 


   หลังกินข้าวกินยาเสร็จตามที่พี่ชินสั่งผมก็เดินเข้ามาในห้องนอนบ้าง ได้ยินเสียงน้ำไหลดังมาจากห้องน้ำผมเลยนอนรอให้พี่ชินอาบน้ำเสร็จก่อนจะได้อาบต่อแต่สงสัยเพราะฤทธิ์ยาทำให้ผมเผลอหลับไปทั้งที่ยังไม่อาบน้ำ มารู้สึกตัวอีกทีทั้งห้องมืดสนิท แถมพี่ชินยังนอนเอาแขนกอดผมไว้ผมต้องค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียงก่อนเปิดโคมไฟดูนาฬิกา 5ทุ่มกว่าแล้วครับ เสื้อผ้าตอนนี้ก็ถูกเปลี่ยนเป็นชุดนอนเรียบร้อย พี่ชินคงเช็ดตัวพร้อมเปลี่ยนเสื้อผ้าให้



ผมมองเสื้อผ้าที่สวมอยู่ก่อนหันไปมองผู้ชายที่นอนข้างๆ แม้ว่าตอนนี้พี่ชินจะหลับสนิทแต่ผมก็สัมผัสได้ถึงร่องรอยของความเหนื่อยล้าบนใบหน้าหล่อๆนั้น  ตัวเองแทบจะไม่ได้นอนแล้วยังมาคอยดูแลผมอีกนะ ไม่รู้จะใจดีไปถึงไหนจะเอาให้ผมไปไหนไม่รอดเลยรึไงนะ ผมนึกขำๆแล้วก้มตัวกดจมูกลงบนแก้มเนียนที่ไร้ตำหนิเบาๆเพื่อไม่ให้รบกวนการนอนหลับของใครบางคนก่อนถอนจมูกออกมาพร้อมร้อยยิ้มบนในหน้า นี่ผมกำลังลักหลับพี่ชินใช่ไหม หวังว่าพี่ชินคงจะไม่รู้ตัวนะเพราะถ้ารู้ผมคงต้องอายจนแทนแทรกแผ่นดินแน่ๆครับ


“วีเป็นไงบ้างได้คุยกับพี่ชินรึยัง” เสียงลูกแพรถามผมหลังการสอบวิชาสุดท้ายของเทอมแรกสิ้นสุดลง

   “ยังเลย” ผมตอบเสียงเบาก่อนมองไปทางอื่น ไม่อยากคิดเรื่องนี้จริงๆครับ

   “ทำไมถึงยังไม่ได้คุยล่ะ นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้วนะ”

   “ไม่ใช่ว่าวีไม่อยากคุย วีอยากคุยจะแย่แต่พี่ชินไม่มีเวลาให้วีได้คุยเลยน่ะสิ”

   “หมายความว่ายังไงวะ” ไอ้แบตถามขึ้นมาบ้าง

   “ก็พี่ชินไปติวหนังสือสอบที่บ้านพี่โย กว่าจะกลับก็ดึกกูหลับไปแล้วบ้าง บางวันไม่กลับเลย กูแทบไม่ได้เห็นหน้าพี่ชินเลยว่ะ”

   “พี่ชินเค้าไม่ได้หลบหน้ามึงนะ”

   “กูก็ไม่รู้แต่คิดว่าคงไม่ เพราะวันที่กูออกจากโรงพยาบาลพี่ชินยังไปรับแถมอยู่กับกูก็ปกติดีนี่หว่า” ผมนึกก่อนว่า

   “ถ้าอย่างนั้นคงเป็นช่วงเตรียมสอบ พี่ชินคงต้องอ่านหนังสือจริงๆว่ะ” ไอ้แบตว่าสีหน้าจริงจัง

   “ใช่อย่าคิดมากเลยเดี๋ยววันนี้ก็ได้คุยกันแน่ๆเพราะยังไงก็สอบวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว” ใช่ครับมอผมกำหนดตารางสอบปลายภาควันนี้เป็นวันสุดท้ายของทุกชั้นปี ลูกแพรถึงคิดเหมือนผมว่ายังไงวันนี้ผมคงได้คุยกับพี่ชินอย่างจริงจังซักที

“แล้วพี่ชินสอบเสร็จกี่โมงล่ะ จะมารับมึงรึเปล่า” ไอ้แบตหันมาถาม

“สอบเสร็จ 2 ทุ่ม กูกลับไปรอที่ห้องดีกว่าเหลือเวลาอีกตั้งหลายชั่วโมง” ผมดูเวลาก่อนตอบ

“งั้นเราไปหาอะไรกินฉลองสอบเสร็จกันก่อนนะแล้วเดี๋ยวลูกแพรขับรถไปส่งวีที่คอนโดพี่ชินเอง”

“โอเคตอนนั้นเลยครับคุณผู้หญิง” ไอ้แบตชิงตอบคนแรก

“แบตก็ต้องตามใจแพรอยู่แล้วล่ะ แต่วีนี่สิว่าไงคะจะไปด้วยกันไหมหรือว่าจะกลับห้องเลย” ลูกแพรสงสายตาคาดคั้นมาพร้อมกับความคาดหวังทำให้ผมไม่สามารถปฏิเสธได้ทั้งที่ใจผมอยากกลับไปรอพี่ชินมากกว่า สุดท้ายผมกับเพื่อนๆก็มาหาของกินที่ห้างจนเกือบทุ่มถึงได้เวลากลับ


มาถึงผมก็จัดการทำความสะอาดห้องเหมือนทุกครั้งก่อนโทรสั่งอาหารขึ้นมาหลายอย่างเตรียมฉลองสอบเสร็จกับพี่ชินอีกครั้ง แต่อาหารของผมท่าทางจะเป็นหมันเพราะตอนนี้มันยังวางอยู่ที่เดิมไร้การแตะต้องใดๆทั้งที่นาฬิกาบอกเวลา 4 ทุ่มกว่าแล้วครับ  ผมพยายามโทเข้าเครื่องพี่ชินหลายครั้งทั้งที่มีสัญญาณรอสายแต่ไม่มีคนรับ  สุดท้ายทนไม่ไหวผมเลยลองโทรเข้าเบอร์พี่โยแทน




 
“สวัสดีครับ” พี่โยรับสายเสียงดังแข่งกับเสียงเพลงที่แทรกเข้ามา


“สวัสดีครับพี่โย ผมวีนะครับ”

“อ้าววีเองเหรอ ว่าไงครับ”

“พี่ชินอยู่กับพี่โยรึเปล่าครับ ผมโทรหาไม่รับสายเลย” ผมรีบถาม

“อ๋อไอ้ชินเหรอ อยู่ๆ เฮ้ย!ไอ้ชินไปไหนแล้ววะ วีๆยังอยู่ไหม” เสียงพี่โยตอบคำถามผมก่อน หันไปถามใครอีกคน

“ยังอยู่ครับ”

“ตอนนี้ไอ้ชินมันไปเข้าห้องน้ำไม่ได้เอาโทรศัพท์ไป วีมีอะไรรึเปล่า เดี๋ยวพี่บอกมันให้”

“ไม่มีครับ ถ้าพี่ชินอยู่กับพี่โยผมก็สบายใจแล้ว เห็นยังไม่กลับกลัวจะเกิดอันตรายรึเปล่า”

“มันอยู่กับพี่นี่แหละปลอดภัยดีไม่ต้องห่วง  มาเลี้ยงฉลองสอบเสร็จกันนิดหน่อยเดี๋ยวก็กลับแล้ว”

“งั้นผมไม่รบกวนแล้ว ขอบคุณมากครับ” ผมตอบรับพี่โยก่อนวางสายอย่างแปลกใจว่าทำไมพี่ชินถึงไปกินเลี้ยงแล้วไม่ยอมบอกผม ทั้งที่ปกติไปไหนก็จะบอกผมทุกครั้ง 





“พี่ชิน!” ผมอุทานด้วยความตกใจหลังเห็นพี่โยกับเพื่อนในภาคอีกคนช่วยกันหิ้วปีกพี่ชินเข้ามาในห้อง

“อ้าววียังไม่นอนเหรอ จะให้พี่เอาไอ้ชินไว้ตรงไหนดี ตัวแม่งโครตหนัก”

“เอ่อ ทางนี้เลยครับ”ระหว่างที่ผมยังไม่หายตกใจพี่โยถามแทรกขึ้นมาทำให้ผมหันรีหันขวางอย่างทำอะไรไม่ถูกก่อนตัดสินในเปิดประตูห้องนอนให้เอาพี่ชินที่เมาไม่ได้สติเข้าไปนอนในห้อง

“เหล้าไปไหน เอาเหล้ามาอีก” เสียงพี่ชินเรียกหาเหล้าหลังถูกพาขึ้นเตียง

   “เหล้าอะไรของมึง เมาเหมือนหมาขนาดนี้ยังจะกินอีก” เพื่อนพี่ชินที่มาด้วยกันว่า

   “วีพี่ฝากดูมันด้วยนะ ไม่รู้เป็นอะไรกินหนักจนเมาขนาดนี้” พี่โยมองพี่ชินที่นอนอยู่บนเตียงก่อนหันมาบอกผม


“ครับเดี๋ยวผมดูพี่ชินเอง ของคุณพี่โยกับพี่มากนะครับ” ผมขอบคุณพี่โยกับพี่อีกคนที่ผมไม่รู้จักชื่อแต่เคยเห็นหน้าบ่อยๆ

“ไม่เป็นไร งั้นพี่กลับแล้วนะ อ่ะนี่กุญแจห้องกับกุญแจรถไอ้ชิน รถพี่ขับมาจอดให้ข้างล่างแล้ว” พี่โยบอกก่อนยื่นกุญแจให้ ผมรับมาถือพร้อมเดินไปส่งพี่ทั้งสองคนแล้วกลับเข้าห้องนอนเพื่อมาดูพี่ชินอีกครั้ง

“พี่ชินๆ ได้ยินไหมครับ ” ผมลองเรียกพี่ชินที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงเพื่อจะให้ไปอาบน้ำก่อนแล้วค่อยมานอน

“อย่ามายุ่ง กูจะกินเหล้าไปเอาเหล้ามา”

“เหล้าไม่มีแล้ว พี่เมามากแล้วนะครับ” ผมบอกพี่ชินที่ลุกขึ้นนั่งแล้วทำท่าจะเดินไปหาเหล้าในครัวทั้งที่เดินยังแทบไม่มีแรง

“กูไม่เมา ถอยไป”

“พี่ชินพี่จะกินเหล้าทำไมเยอะแยะ เมาขนาดนี้ผมไม่ให้กินแล้ว”

“มึงเป็นใครมาห้ามกู มันยังไม่ห้ามกูเลย คนที่กูรักมันยังไม่สนใจกูเลยแล้วมึงจะมาสนใจทำไม ปล่อย!!”

“โอ๊ย!......พี่ชินนี่ผมเอง ผมวีไง” พี่ชินเริ่มเสียงดังก่อนผลักผมล้มลงกับพื้นแล้วเดินเซออกจากห้องนอน ผมรีบลุกแล้วตามเข้าไปพยุงร่างที่เหมือนจะทรุดลงไปกองกับพื้นได้ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ทันเพราะพี่ชินลงไปนั่งกองกับพื้นห้องข้างโซฟาเรียบร้อยแล้ว  ผมเลยต้องพยายามดึงพี่ชินให้ลุกขึ้นอีกครั้งแต่กลับถูกดึงให้ล้มลงในอ้อมกอดของคนเมา

“วี.....วีเหรอ วีจริงๆใช่ไหม วียังไม่ได้ทิ้งพี่ไปใช่ไหม” พี่ชินที่ตอนนี้เหมือนคนไม่มีสติดันผมออกเพื่อจ้องหน้าก่อนดึงเข้าไปกอดจนแน่น

“พี่ชิน....ผมเจ็บ” เหมือนแขนทั้งสองที่อยู่ข้างลำตัวจะถูกบีบรัดจากอ้อมกอดของผู้ชายตรงหน้าจนสามารถแตกออกเป็นเสี่ยงได้เลยครับ

“เจ็บเหรอ พี่ขอโทษพี่จะไม่ทำให้วีเจ็บนะ วีอย่าทิ้งพี่ไปนะ อย่าทิ้งพี่” พี่ชินรีบคลายอ้อมกอดพร้อมว่าเสียงตระหนก

“ใครบอกผมจะทิ้งพี่  ผมไม่มีทางทิ้งพี่ชินหรอกครับ ในเมื่อผมรักพี่ขนาดนี้” ผมบอกพี่ชินที่จ้องหน้าพร้อมแววตาสับสน

“รักเหรอ วีรักพี่เหรอ”พี่ชินทวนคำอีกครั้งเหมือนไม่แน่ใจ

“ใช่ครับผมรักพี่ ผมรักพี่ชินนะครับ”  ยังไม่ทันสิ้นประโยคดีตัวผมก็ถูกดึงเข้าไปกอดอีกครั้งแต่ครั้งนี้ไม่มีความรุนแรงใดๆ มีแต่ความนุ่มนวลและอบอุ่นถึงแม้จะเป็นอ้อมกอดของคนที่มีสติไม่ครบร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม

“วีรักพี่แล้วใช่ไหม ในที่สุดวีก็รักพี่แล้ว”

“ผมรักพี่ชินมาตั้งนานแล้วแต่ไม่กล้าบอกต่างหาก”

“ในที่สุดวีก็รักพี่แล้ว.......”  ผมได้ยินเหมือนพี่ชินจะพูดประโยคเดิมซ้ำๆ แต่เสียงค่อยๆเบาลงจนเงียบไป พร้อมกับน้ำหนักตัวของพี่ชินที่โถมเข้าหาผมเต็มที่

“พี่ชินๆ พี่ชินครับ” พี่ชินหลับไปแล้วครับ  ผมลองเขย่าตัวพี่ชินเพื่อปลุกอีกรอบแต่ก็ไม่เป็นผลตอนนี้พี่ชินหลับสนิท

เมื่อปลุกยังไงก็ไม่ยอมตื่น ผมเลยไปหาที่นอนมาปูให้พี่ชินที่หน้าโซฟาก่อนหาผ้ามาเช็ดตัวแล้วเปลี่ยนชุดที่มีแต่กลิ่นเหล้าคละคลุ้งออกไปลงเครื่องซัก  หลังจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นผมก็หยิบหมอนมาวางแล้วล้มตัวลงนอนข้างๆพี่ชิน


ไม่รู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุให้เข้าใจผิดว่าผมจะทิ้งพี่ชินไป แต่ตราบใดที่พี่ชินยังรักผมอยู่ก็ไม่มีทางที่ผมจะทิ้งพี่ชินไปไหนได้หรอกครับ ในเมื่อตอนนี้ผมรักพี่ชินจนหมดใจ

หวังว่าตื่นมาพี่ชินจะยังจำที่ผมบอกรักในคืนนี้ได้นะ  ผมนอนคิดพร้อมมองรอยยิ้มน้อยๆตรงมุมปากของพี่ชินที่สะท้อนแสงไฟเข้ามาจากระเบียงห้องนอน สงสัยคืนนี้จะฝันดีครับถึงได้ยิ้มแบบนี้ ผมมองเพลินจนเผลอยิ้มตาม ขอให้ในฝันดีคืนนี้มีผมอยู่ในนั้นบ้างนะ



        ---โปรดติมตามตอนต่อไป ---

      ขอบคุณที่ติดตามค่ะ  :กอด1: :katai4:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 24 up 22/2/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 22-02-2015 17:54:53
พี่ชินแอบไปคิดมากกกกก
วีไม่ได้คิดอะไรกับพี่ติณแล้วซะหน่อย
พี่ชินน่ะไม่ยอมให้น้องอธิบายเลย
ตื่นมา ต้องให้วีลงโทษละแบบนี้ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 24 up 22/2/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 22-02-2015 17:58:54
พี่ชินคงคิดว่าวียังรักพี่ตินณ์ บวกกับเหตุการณ์วันนั้นด้วย
พี่ชินถึงได้หลบหน้ากลัววีบอกเลิก กินเหล้าเมาขนาดนี้
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 24 up 22/2/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 22-02-2015 18:39:21
พี่ชินนี่คิดเองนอยย์เองทุกทีเห็นกล้า คราวนี้ไม่ถามวีให้รู้เรื่อง
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 24 up 22/2/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: pemiko2012 ที่ 22-02-2015 18:52:59
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด
 :katai2-1: :katai2-1:

ในที่สุดที่ชินกับน้องวีก็มาแล้ว
รอมานานมากมาน ขอบคุณที่มาสต่อค่า ^^
โถ่ สงสารพี่ชิน กินเหล้าสะเหมา
หลบหน้าน้องชัวร์ เข้าใจผิดแน่ๆ
หวังว่าตื่นมาคงจะมาทำความเข้าใจกันใหม่นะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 24 up 22/2/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: natt teng ที่ 22-02-2015 19:09:23
น่ารัก กรี๊ดกร๊าด :impress2:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 24 up 22/2/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: Cinnamon Roll!!! ที่ 22-02-2015 19:11:37
ในที่สุดก็มาซะที   ดีใจกะพี่ชินด้วยน่ะพี่ น้องวีรักพี่ชินแล้วน่ะ ไม่นอยด์น่าา :mew1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 24 up 22/2/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 22-02-2015 20:01:30
 :z3: :z3: :z3: อ๊ากกกกกกก..อีพี่ชิน..ตื่นมาก่อนซิ..หลับไปแบบนี้ตื่นมาจะเป็นไงเนี่ยะ.. :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 24 up 22/2/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 22-02-2015 20:42:32
อิพี่ชินพอตื่นมาจะรู้เรื่องไหมเนี่ย
เมาซะขนาดนั้นไม่ใช่ตื่นมาแล้วจำไรไม่ได้นะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 24 up 22/2/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: april day ที่ 22-02-2015 21:08:01
สงสารพี่ชิน ท่าทางจะเข้าใจผิดจนเสียใจขนาดหนัก คิดว่าตื่นขึ้นมาก็คงจะสับสนและคิดว่าฝันไปเองแน่เลย
น้องวีค่ะ หาทางคุยกับพี่ชินตอนที่มีสติมากว่าตอนนี้นะคะ เอาใจช่วยทั้งสองคนนะคะ  :o12:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 24 up 22/2/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 22-02-2015 21:42:19
ง่าาาา. โอ๊ยย จะรู้เรื่องกันไหมเนี่ยะ.  มาบอกตอนเมาขนาดนี้ ตื่นก็ลืมแล้วละ เฮ้อออออ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 24 up 22/2/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 22-02-2015 22:02:16
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ในที่สุดน้องวีก็กล้าที่จะบอกออกไป
แต่ไม่รู้พี่ชินตอนมาจะลืมท่น้องบอกมั้ยล่ะเนี่ย  :z3:
นานๆมาให้หายคิดถึงที แค่นี้ก็ชื่นใจแล้ว
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 24 up 22/2/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: patjk ที่ 22-02-2015 23:39:04
หวังว่าหายเมาแล้วจะไม่ลืมที่น้องบอกนะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 24 up 22/2/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 22-02-2015 23:42:58
 :-[
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 24 up 22/2/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 24-02-2015 11:54:36
อ่านทันแล้วค่า  o13
....แต่....เหมือนว่าวิบากความรักยังคงอยู่ยังไงก็ไม่รู้  :z3:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 24 up 22/2/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: Future ที่ 14-03-2015 23:47:44
รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะครับ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 24 up 22/2/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: harumi ที่ 22-03-2015 08:10:14
ตื่นมาพี่ชินคงไม่ลืม
แล้วหลบหน้าวีอีกนะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 24 up 22/2/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: a_n ที่ 02-04-2015 21:30:46
 :call:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 24 up 22/2/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: JAROEN ที่ 23-04-2015 12:21:48
ตอนที่ 25 จงมา ตอน 25 จงมา  :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 24 up 22/2/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 25-04-2015 05:25:05
มาให้อยากก็จากไป
หัวข้อ: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 25-04-2015 16:20:08
        ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25

   “พี่ชินๆ รอผมด้วย” ผมตะโกนเรียกพี่ชินที่กำลังเดินเข้าอาคารเรียนสุดเสียงก่อนที่ร่างหนาจะหยุดชะงักแล้วหันมามองผมที่เดินเข้าไปหาอย่างเร่งรีบ

   “มีอะไรรึเปล่าพี่กำลังรีบ”

เสียงถามที่แสดงถึงความห่างเหินทำให้ผมเกือบถอดใจ แต่ยังไงผมก็ตัดสินใจแล้วว่าวันนี้จะคุยกับพี่ชินให้รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรากันแน่ ทำไมพี่ชินถึงได้เปลี่ยนไป


   ใช่ครับฟังไม่ผิดหรอกตอนนี้พี่ชินคนเดิมของผมได้เปลี่ยนไปแล้วตั้งแต่สิ้นสุดเทอมที่แล้วโดยที่ผมไม่ทราบสาเหตุอะไรเลย  เท่าที่จำได้หลังสอบเสร็จพี่ชินไปเลี้ยงฉลองกับเพื่อนๆในภาคแล้วเมาไม่ได้สติกลับมา ตอนนั้นผมดันเผลอสารภาพรักออกไปแต่มาคิดอีกทีพี่ชินคงจะจำอะไรไม่ได้แน่ๆก็เมาซะขนาดนั้น ผมคิดไว้ว่าเช้ามาจะคุยกันให้รู้เรื่อง แต่ที่ไหนได้ตื่นมาผมกลับพบว่าตัวเองนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้านวมหนาคนเดียว พี่ชินไม่รู้หายไปไหนแล้วครับ

 
   ผมพยายามโทรหาเท่าไหร่ก็ไม่มีคนรับ จนต้องโทรหาพี่โยเหมือนเดิม แต่ความหวังสุดท้ายของผมก็อันต้องดับลงเมื่อพี่โยบอกไม่ได้ติดต่อกับพี่ชินตั้งแต่หิ้วปีกมาส่งที่ห้อง ขนาดพี่โยยังไม่รู้ผมก็ไม่รู้แล้วว่าจะไปติดต่อพี่ชินได้ที่ไหนแต่ในระหว่างที่ผมกำลังวุ่นวายใจอยู่นั้นเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น จำได้เลยว่าตัวเองดีใจและมือสั่นแค่ไหนกว่าจะกดรับโทรศัพท์ที่แสดงเบอร์โทรที่ผมจำได้ขึ้นใจ


   พี่ชินโทรมาบอกว่ามีธุระต้องไปจัดการให้พ่อที่ต่างประเทศ กำลังจะขึ้นเครื่องไม่ต้องเป็นห่วงแล้วให้ผมดูแลตัวเองดีๆ แถมยังบอกว่าจะติดต่อมาหาผมด้วย  ผมรีบรับปากด้วยความดีใจที่พี่ชินติดต่อมาจนไม่ทันสังเกตทั้งน้ำเสียงและคำพูดว่านั่นอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้คุยกับพี่ชินของผม เพราะตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้เป็นเวลา 1 เดือนเต็มที่พี่ชินหายไปจากชีวิตผมโดยไร้การติดต่อใดๆอีก


   ผมรอพี่ชินอยู่ที่คอนโดหลายวันก่อนที่จะตัดสินใจกลับไปอยู่บ้านต่างจังหวัดในช่วงปิดเทอม  เพราะรู้ว่าถึงอยู่ไปยังไงพี่ชินคงไม่ติดต่อมาแล้ว ผมเริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนบางอย่างตลอดระยะเวลา  1 เดือนผมจมอยู่กับความสับสน ความเคลือบแคลงใจว่าพี่ชินต้องการหลบหน้าผมใช่ไหม ทำไมพี่ชินออกไปถึงไม่ยอมบอกผมทั้งๆที่นอนอยู่ด้วยกัน ทำไมโทรไปถึงไม่ยอมรับ แล้วนอกจากโทรศัพท์สายนั้นสายเดียวพี่ชินก็ไม่เคยติดต่อผมอีกเลย 


พี่ชินพี่จะรู้บ้างไหมว่าได้เอาใจของผมหายไปกับข่าวคราวของพี่แล้ว ผมเฝ้ารอการติดต่ออย่างมีความหวังแต่มันก็ไม่มีเลยซักครั้งที่ผมจะสมดังใจ


การรอของผมเหมือนจะทรมานมากแต่มันก็ยังไม่ทรมานมากเท่ากับการที่เปิดเทอมมาเห็นพี่ชินอยู่กับกลุ่มเพื่อนเหมือนไม่เคยรู้เลยว่ามีใครคนหนึ่งกำลังรอพี่อยู่ แล้วพอผมเข้าไปหาพี่กลับหลบหน้าโทรศัพท์ก็ถูกเปลี่ยนเบอร์ ไปเคาะห้องก็ไม่มีคนเปิดรับรหัสก็เปลี่ยน

อย่างนี้จะให้ผมเข้าในว่ายังไงตอนนี้ผมไม่รู้เลยว่าผมทิ้งพี่เหมือนที่พี่เคยว่าหรือพี่กันแน่ที่กำลังจะทิ้งผม ความสัมพันธ์ของผมกับพี่ชินตอนนี้ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรเลยครับ  จะบอกว่าเลิกกันแต่เราก็ไม่เคยตกลงคบกันซักครั้ง จะบอกว่าผมโดนทิ้งก็ยังไม่เต็มปากนักยังไงผมก็จะรอถามพี่ชินให้มันชัดเจนก่อน


“ผมขอคุยกับพี่ซักครู่ได้ไหมครับ” ผมรีบถาม

“มีอะไร” น้ำเสียงติดห้วนที่ได้รับทำให้เหมือนมีก่อนอะไรมาจุกอยู่ที่คอโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้แม้แต่รอยยิ้มก็ไม่มีให้ผมแล้ว เกิดอะไรขึ้นกับพี่กันแน่

“พี่ชินกลับมานานแล้วเหรอครับ”  คำถามเหมือนคนสิ้นคิดถูกส่งออกไปโดยไม่รู้ตัว

“หลายวันแล้ว”

“แล้วพี่ทำไมไม่ติดต่อมาหาผมบ้าง พี่รู้ไหมผมรอพี่ตลอดเลย” ผมถามด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ ระคนน้อยใจผู้ชายตรงหน้า

“มีเรื่องแค่นี้ใช่ไหม พี่ต้องไปเรียนแล้ว” พี่ชินไม่ตอบแต่ถามกลับเสียงติดรำคาญที่ผมมายื่นเสนอหน้าตั้งคำถามให้รำคาญใจอยู่ตรงนี้   

“พี่ชินผมอยากถามพี่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมพี่ถึงเปลี่ยนไปพี่ชินคนเดิมของผมไปไหนแล้วครับ” ผมถามเสียงแผ่วก่อนเดินเข้าไปใกล้หมายจะจับข้อมือคนตรงหน้า พี่ชินเหมือนรู้แล้วเบี่ยงตัวหลบทำให้มือที่กำลังจะยื่นออกไปถึงกับชะงักค้าง

“พี่ชินของผมเหรอ........มันไม่เคยมีหรอก ถึงเคยมีต่อไปนี้มันจะไม่มีอีกแล้วเพราะพี่ไม่เคยเป็นของน้อง”

“พี่ชิน…..” ผมครางชื่อพี่ชินเสียงเบา ถึงกับปากสั่น หน้าชา พูดอะไรไม่ออกเลยครับ

“........” พี่ชินเงียบก่อนเบือนหน้าหนีไม่ยอมสบตากับผมแม้แต่น้อย

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ผมทำอะไรผิดไปใช่ไหมหรือพี่ไปได้ยินอะไรมา ถ้าผมทำอะไรให้พี่ไม่พอใจผมขอโทษ ขอโอกาสให้ผมอธิบายได้ไหมครับ” ผมรีบพูดทันทีก่อนที่พี่ชินจะเดินหนี


ตอนนี้ผมเหมือนคนหัวใจสลายที่อยู่ดีๆพี่ชินก็มาเปลี่ยนไป ถ้าผมปล่อยพี่ชินไปทั้งที่ยังไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ผมคงทนอยู่แบบนี้อีกต่อไปไม่ได้เวลา 1 เดือนที่ผ่านมาผมถือว่ามันเป็นความทรมานที่ยาวนานเกินพอแล้ว

“ไม่ต้องอธิบายอะไรหรอกสิ่งที่พี่เห็น สิ่งที่พี่รับรู้มาตลอดมันมากเกินพอแล้ว พี่เคยคิดว่าซักวันจะสามารถเปลี่ยนใจวีได้ แต่ตอนนี้พี่รู้แล้วว่าต่อให้พี่พยายามแค่ไหนมันก็ไม่มีวันเป็นจริง พี่ขอยอมแพ้”

“..................................”

“หลังจากนี้พี่จะไม่เหนี่ยวรั้งอะไรวีอีก ยินดีด้วยกับความรักที่ได้รับดูแลมันให้ดีนะพี่เอาใจช่วย” พี่ชินพูดพร้อมรอยยิ้มที่ผมสัมผัสได้ว่ามันเศร้าจนผมเองยังใจหาย แต่ผมว่าเรื่องนี้มันมีอะไรบางอย่างที่ผิด

“เดี๋ยวนะพี่ชินพี่กำลังพูดเรื่องอะไร ผมไปรักกับใครผมว่าพี่กำลังเข้าใจผิดแล้วล่ะ”

“พี่เห็นกับตาตัวเองไม่ต้องปิดบัง ไม่ต้องกลัวพี่เสียใจ ทำตามใจตัวเองเถอะ พี่ตินณ์เป็นคนดีพี่เชื่อว่าพี่ตินณ์จะดูแลวีได้ดีอย่างที่พี่อยากให้เป็น”

“พี่ตินณ์มาเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ครับผมกับพี่ตินณ์ไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย” ตอนนี้ผมงงไปหมดแล้วครับ ทำไมพี่ชินถึงได้คิดว่าผมกับพี่ตินณ์เป็นอะไรกัน

“ถ้าไม่ได้เป็นจะกล้ากอดกันขนาดนั้นเหรอ”  เหตุการณ์วันที่ผมกับพี่ตินณ์ปรับความเข้าใจกันลอยเข้ามาให้หัวผมทันที ตอนนี้ผมเริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว

“พี่กำลังเข้าใจผิดจริงๆด้วย ผมไม่ได้คิดอะไรกับพี่ตินณ์แล้วนะครับ วันนั้นพี่เปิดประตูเข้ามาผมกับพี่ตินณ์กำลัง.....”

“กูไม่อยากรู้”


“แต่พี่ต้องฟัง ตอนนี้ผมมีคนอื่นที่ผมรักแล้ว ถึงพี่ไม่อยากรู้แต่ผมอยากบอก ตอนนี้ผมรักพี่นะครับ ผมรักพี่พี่ได้ยินไหม” ในที่สุดผมก็ได้พูดออกมันไปซักที  ความอึดอัดที่สะสมมานานเหมือนถูกยกออกไป

“อย่าหลอกตัวเองเลย วีไม่ได้รักพี่หรอก” เหมือนแส้พาดลงกลางใจ เมื่อคนที่เรารักไม่เชื่อสิ่งที่ผมพูด ทำไมล่ะทำไมพี่ชินถึงไม่เชื่อ ทั้งที่กว่าผมจะพูดมันออกมาได้ผมต้องรวบรวมความกล้าขนาดไหนพี่ชินจะรู้บ้างไหม

“ทำไมพี่ถึงพูดแบบนี้ พี่ไม่เชื่อว่าผมรักพี่จริงๆเหรอครับ” ผมถามกลับเสียงสั่น

“วีรักพี่ตินณ์ถึงขนาดตายแทนกันได้จะให้พี่เชื่อเหรอว่าตอนนี้วีรักพี่ ทั้งๆที่พี่พยายามทำดีกับวีมาตลอดแต่มันก็ไม่เคยทำให้วีใจอ่อนได้แล้วอะไรล่ะที่สามารถเปลี่ยนใจวีได้”

“พี่ชินคือ....”

“ชินทำอะไรอยู่คะอาจารย์เริ่มเช็คชื่อแล้วนะ”  จังหวะที่ผมกำลังนึกหาคำมาอธิบายอยู่ๆก็มีเสียงผู้หญิงดังแทรกขึ้น หันไปมองเป็นเพื่อนในห้องพี่ชินครับ

“ไปเดี๋ยวนี้แหละ ดูแลความรักของน้องให้ดี อย่าเอาเรื่องของพี่ไปคิดจนความสุขมันหายไปพี่ต้องไปแล้ว” พี่ชินตอบเพื่อนก่อนหันมาพูดกับผมแล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็วทิ้งให้ผมได้แต่มองตามแผ่นหลังหนาจนลับตา





“เป็นไงวะได้คุยกับพี่ชินหรือยัง” ไอ้แบตถามทันทีที่ผมเดินเข้าห้องเรียน

“คุยแล้ว”

“แล้วเป็นไงเกิดอะไรขึ้นวะ”

“พี่ชินเข้าใจผิดว่ากูกับพี่ตินณ์คบกัน” ผมตอบเหมือนคนไร้วิญญาณตอนนี้ในหัวมีแต่เรื่องของพี่ชินเต็มไปหมด

“เฮ้ย! ได้ไงทำไมพี่ชินถึงคิดแบบนั้นวะ ในเมื่อพี่ชินก็รู้ว่าพี่ตินณ์มีแฟนแล้ว”

“เรื่องนั้นกูไม่รู้ แต่พี่ชินไม่เชื่อว่ากูรักพี่ชิน พี่ชินคิดว่ากูรักพี่ตินณ์จนสามารถตายแทนกันได้ถึงเข้าไปช่วยพี่ตินณ์ไว้ แล้วยังมาเห็นกูกอดกับพี่ตินณ์อีก” ผมตอบก่อนนั่งที่ว่างข้างๆไอ้แบต ตอนนี้ไม่อยากคิดอะไรแล้วครับ เหนื่อยเหลือเกินกับความรัก ถ้ามันจะวุ่นวายขนาดนี้ผมขอไม่มีซะยังดีกว่า

“ซวยชิบหายไอ้วีเอ้ย อย่างนี้มึงก็ต้องหาทางอธิบายให้พี่ชินเข้าใจนะ มึงกับพี่ชินใจตรงกันแต่จะให้ความเข้าใจผิดมาทำให้ความรักต้องจบลงแบบนี้ไม่ได้”

“กูก็อยากทำแบบนั้น แต่ตอนนี้พี่ชินแทบไม่เปิดโอกาสให้กูอธิบายเลยวะ”

“มันต้องมีซักทางดิวะ เดี๋ยวกูกับลูกแพรหาทางช่วย มึงใจเย็นๆก่อน” ไอ้แบตว่าพร้อมตบบ่าผม 2 ทีเพื่อให้กำลังใจ

“ขอบใจว่ะ กูจะพยายามหาทางคุยกับพี่ชินให้ได้”  ผมหันไปตอบยิ้มๆ มีกำลังใจขึ้นมานิดนึงอย่างน้อยตอนนี้ผมก็รู้แล้วว่าสาเหตุที่พี่ชินเปลี่ยนไปเป็นเพราะอะไร

   “ไม่เป็นไรมึงเป็นเพื่อนกู เวลามีปัญหากูก็ต้องช่วยอยู่แล้ว” เสียงมันว่าก่อนที่อาจารย์จะเดินเข้ามา หลังอาจารย์สอนได้ยังไม่ถึง 5 นาทีลูกแพรก็วิ่งเข้าห้องด้วยท่าทางเหนื่อยหอบ  ไอ้แบตกระซิบถามถึงได้รู้ว่าวันนี้มาสายเพราะรถติด





   “วีพี่ชินกำลังเดินมา” ผมเงยหน้าจากชามก๋วยเตี๋ยวที่กำลังกินอยู่เพื่อหันไปมองตามลูกแพรทันที ใช่พี่ชินจริงๆด้วยครับ ผมเห็นพี่ชินกำลังเดินเข้ามาในโรงอาหารพร้อมกลุ่มเพื่อน

   “พี่ชิน” ผมเรียกเมื่อพี่ชินมองเลยผมไปเพื่อหาที่นั่ง

   “อ้าวน้องวี วันนี้มีเรียนเหมือนกันเหรอครับ” เสียงพี่โยทักเมื่อหันมาเจอผม แต่คนที่ผมเรียกกลับไม่สนใจแม้แต่จะปรายตามอง

   “ครับพี่ วันนี้ผมมีเรียนทั้งเช้าทั้งบ่ายเลย พี่โยกับพี่ชินนั่งโต๊ะเดียวกับผมไหมครับ” ผมถามก่อนขยับที่ว่างให้

   “เอ่อ...ดีเหมือนกันครับ พี่จะได้คุยกับวีด้วยไม่ได้คุยกันมาตั้งนานแล้ว”

   “ชินเราไปนั่งตรงนั้นกันเถอะ ตรงนั้นมีที่ว่างพอดีเลย” ผมหันไปมองทันทีเมื่อมีเสียงผู้หญิงแทรกขึ้น แล้วก็เป็นคนเดียวกับที่ผมเจอเมื่อเช้าเลยครับ

ตั้งแต่เปิดเทอมมาผมเห็นพี่คนนี้อยู่กับพี่ชินบ่อยๆ ตอนแรกคิดว่าคงทำงานกลุ่มเดียวกันแต่ตอนนี้ผมคิดว่ามันไม่น่าจะใช่แล้วครับ ในเมื่อมือของพี่เขากำลังเกาะแขนพี่ชินของผมอยู่

   “อ้าวเฮ้ยไอ้ชินมึงจะไปไหนไม่นั่งนี่เหรอ” ระหว่างที่ผมกำลังมองมือของพี่ผู้หญิงที่เกาะแขนพี่ชินอยู่เสียงพี่โยก็เรียกสติผมกลับมาอีกครั้ง

   “มึงจะนั่งนี่ก็นั่งเรื่องของมึง แต่กูจะไปนั่งกับน้ำ” พี่ชินพูดเสียงนิ่งไม่มองหน้าผมซักนิดก่อนจะเดินนำพี่คนที่ชื่อน้ำและเพื่อนผู้หญิงอีกคนจากไปเงียบ

“งั้นเอาไว้วันหลังพี่...”

“พี่โยครับนั่งนี่เถอะ ผมขอร้องผมมีเรื่องจะคุยด้วย”  ผมว่าพรางเลื่อนชามก๋วยเตี๋ยวตรงหน้าออกห่าง ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะกินอะไรแล้วครับ

“ก็ดีพี่ก็มีเรื่องอยากถามวีเหมือนกัน อึดอัดมานานแล้ว”

“พี่โยกินข้าวก่อนไหมครับ” ผมถามก่อนเพราะตอนนี้พี่โยยังไม่ได้กินอะไร ไอ้แบตกับลูกแพรได้แต่นั่งคอยดูเหตุการณ์อยู่เงียบๆ

“ไม่เป็นไร พี่อยากคุยกับเรามากกว่า มีอะไรว่ามาเลย”

“เอ่อ.....คือผู้หญิงคนนั้น” ผมหันไปมองพี่ชินกับผู้หญิงคนนั้นที่นั่งข้างกันก่อนถามพี่โยเสียงเบาเหมือนไม่แน่ใจว่าจะถามดีรึเปล่า ผมยอมรับครับว่าผมกลัว กลัวคำตอบที่จะได้รับว่ามันเป็นอย่างที่ผมคิด

“เธอชื่อน้ำเป็นเพื่อนในภาคของพี่กับไอ้ชิน”

“เอ่อครับ”

   “แล้วก็เป็นแฟนไอ้ชินด้วย”

   “...............................” ประโยคแรกทำให้ผมถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอกพี่น้ำเป็นแค่เพื่อนกับพี่ชินสงสัยผมจะคิดมากไปเองเพราะความเครียด แต่ความโล่งใจเกิดขึ้นได้ยังไม่ทันถึงนาทีก่อนจะมีมือจากเงามัจจุราชมากระชากผมให้จมลงไปสู่ก้นบึ้งแห่งความเวิ้งว้างอีกครั้ง

พี่น้ำเป็นแฟนพี่ชิน เป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมผมไม่รู้แล้ว แล้วทำไมทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ผมยังทำใจไม่ทันเลยจริงๆครับ

“แฟนพี่ชินเหรอครับ” เสียงไอ้แบตถามเหมือนไม่แน่ใจ

“ใช่ไอ้ชินกับน้ำเพิ่งคบกันก่อนเปิดเทอมได้ไม่นาน พี่ถึงอยากถามวีไงว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ทำไมอยู่ๆไอ้ชินถึงได้เป็นแฟนกับน้ำ ทั้งที่มันเป็นแฟนกับวีอยู่ไม่ใช่เหรอ”


“พี่โยผม....ผมต้องทำยังไงดี.....ตอนนี้พี่ชินเข้าใจผิดว่าผมรักคนอื่น  พี่ชินไม่รักผมแล้วพี่ชินเป็นของคนอื่นแล้ว ผมจะทำยังไงดี” ผมถามพี่โยเสียงกระท่อนกระแท่นเพื่อพยายามควบคุมไม่ให้น้ำตาไหลออกมา


ตอนนี้ผมจะอ่อนแอไม่ได้ แต่ภาพที่ผมกำลังเห็นมันบากลึกเข้าไปในใจเหลือเกินครับ  ที่ตรงนั้นเคยเป็นของผม มือคู่นั่นที่กำลังจับกันมันก็เคยทาบอยู่บนฝ่ามือผมมาก่อน แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว ผมจะทำยังไงดีตอนนี้พี่ชินเป็นของคนอื่นแล้ว


“ใจเย็นๆวี พี่ว่าไอ้ชินมันยังไม่ลืมวีหรอก แต่ที่มันคบกับน้ำอาจจะเพราะต้องการหาใครซักคนมาทำให้ลืมวีก็ได้นะ”

“ทำไมต้องลืมในเมื่อผมรักพี่ชิน ผมไม่ได้รักคนอื่นทำไมพี่ชินต้องลืมผมด้วย ทำไม? ผมไม่เข้าใจ” ผมถามเสียงสั่นกว่าเดิม ลูกแพรที่นั่งข้างต้องเอื้อมมือมากุมมือผมไว้

“แล้ววีเคยบอกมันบ้างรึเปล่าว่าวีรักมัน”

“..............................”

“ถ้าไม่ได้บอกมันก็ไม่รู้หรอกนะ เรื่องอื่นมันอาจจะฉลาดแต่เรื่องความรักบางครั้งมันก็ชอบทำอะไรโง่ๆจนพี่เองยังคิดไม่ถึง”

“ผมบอก บอกแล้วแต่พี่ชินไม่เชื่อ”

“ถ้าอย่างนั้นวีก็ต้องพิสูจน์ให้มันเห็นว่าวีรักมันจริงๆ ก่อนที่จะเสียมันไป”

“แล้วผมต้องทำยังไงเหรอครับ” ผมถามเหมือนคนโง่ที่ไม่รู้อะไรเลย ตอนนี้ใครบอกให้ผมทำอะไรผมก็จะทำ ผมยอมทำทุกอย่างเพียงแค่ขอให้ได้พี่ชินกลับมาเป็นของผม พี่ชินคนเก่าที่ผมรัก

“เรื่องนั้นพี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ในเมื่อไอ้ชินเป็นคนที่วีรักวีต้องคิดเองนะ แล้วพี่จะคอยช่วยอยู่ข้างๆ” พี่โยว่าพร้อมกับน้ำเสียงอบอุ่น ความห่วงใยและกำลังใจที่ส่งมาทำให้ผมสัมผัสได้ว่าพี่โยก็อยู่ข้างผม แล้วเต็มใจที่จะช่วยผมในครั้งนี้

“ครับพี่โยผมจะพิสูจน์ให้พี่ชินรู้ให้ได้ว่าผมรักพี่ชินมากแค่ไหน” ผมตอบด้วยความมุ่งมั่นก่อนจะมองไปยังพี่ชินอีกครั้ง แม้ภาพที่เห็นจะทำให้ผมอยากถอดใจแต่เพื่อความรักครั้งนี้ ไม่ว่าผลมันจะเป็นยังไงผมก็ขอลองสู้ดูซักตั้งก่อนครับ







“พี่ชินให้ผมกลับด้วยนะครับ ผมจะไปทำความสะอาดห้องพี่ให้” ผมมาดักรอพี่ชินที่รถตั้งแต่เลิกเรียนตอนบ่าย 3 จนตอนนี้ 6 โมงเย็นพี่ชินเพิ่งจะเดินลงมา

“พี่บอกแล้วไงว่าน้องไม่ต้องทำงานให้พี่แล้ว”

“แต่ผมยังเป็นหนี้พี่อยู่นะครับ ผมยังใช้ไม่หมดเลย” ผมเอาเรื่องหนี้มาอ้างเพราะรู้ว่าเป็นเรื่องเดียวที่มันยังเชื่อมโยงระหว่างผมกับพี่ชินไว้ด้วยกัน

“พี่ยกหนี้ให้น้องไปตั้งนานแล้ว ระหว่างน้องกับพี่ตอนนี้มันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกแล้วครับ” พี่ชินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาจนผมถึงกับใจหาย พี่ชินไม่เคยเป็นแบบนี้กับผมมาก่อนเลยจริงๆครับ

“แต่ผมไม่รับไง ผมจะทำงานใช้หนี้พี่จนกว่าจะครบตามสัญญา” ผมยังคงตื้อต่อไป

“ถ้าน้องจะไม่รับมันก็เป็นเรื่องของน้อง แต่สำหรับพี่เรื่องทุกอย่างมันจบแล้ว”

“แต่ผมไม่จบแล้วผมก็จะไปด้วย” ผมพูดเสร็จเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถทันที 

“ลงมา นั่นไม่ใช่ที่ของน้อง” ฟังแล้วเจ็บจี๊ดเลยครับ แต่ทำไมได้ในเมื่อผมเป็นคนผิดก็ต้องอดทนไปก่อน ตอนนี้ขอแค่ได้ใกล้ชิดพี่ชินเพื่อหาโอกาสอธิบายทุกอย่างก็พอ

“ผมไม่ลง พี่นั่นแหละขึ้นมาได้แล้ว” ผมว่ากลับ ก่อนจะเห็นพี่ชินทำท่าหัวเสียแล้วเดินมาเปิดประตูฝั่งคนขับ

“รอนานไหมคะชิน ขอโทษทีพอดีคุยกับยัยสานานไปหน่อย อ๊ะ!” อยู่ๆประตูฝั่งที่ผมนั่งก็ถูกเปิดออกพร้อมเสียงพูดเจื่อนแจ้วก่อนจะหยุดชะงักเพราะเจอผมนั่งอยู่ก่อนแล้ว

“ไม่นานหรอกครับ  ถ้าจะไปก็ไปนั่งข้างหลัง” พี่ชินตอบพี่น้ำยิ้มๆก่อนสั่งให้ผมเปลี่ยนที่นั่งด้วยน้ำเสียงที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด  ผมกัดริมฝีปากเพื่อระงับอารมณ์น้อยใจที่กำลังแล่นขึ้นมาอย่างยากลำบากก่อนจะลงจากรถแล้วเดินไปเปิดประตูขึ้นนั่งเบาะหลังแทน

“เอ่อ…..ใครเหรอคะชิน” เสียงพี่น้ำถามดังมาจากด้านหน้าทำให้ผมที่กำลังข่มน้ำตาต้องเงยหน้าขึ้นสบตากับพี่ชินผ่านกระจกส่องหลัง

“รุ่นน้องน่ะ” พี่ชินตอบเรียบๆพร้อมขับรถไปเรื่อยๆ

“รุ่นน้องแล้วทำไม...”

“ผมชื่อวีครับเป็นคนทำความสะอาดห้องพี่ชิน วันนี้เลิกเรียนตรงกันเลยขออาศัยรถไปคอนโดพี่ชินด้วยครับ” ผมชิงตอบเองเพราะกลัวว่าจะรับคำตอบของพี่ชินไม่ได้ ยอมรับครับว่าตอนนี้ผมอ่อนแอแค่คำพูดไม่กี่คำของพี่ชินมันมีผลกับความรู้สึกของผมเหลือเกิน ถ้าต้องทนฟังอะไรที่ทำร้ายจิตใจผมอีกผมไม่แน่ใจว่าจะสามารถกลั้นน้ำตาเพื่อไม่ให้มันไหลลงมากลางรถคันนี้ได้

“อ๋อ คนนี้เองเหรอที่ชื่อวี” พี่น้ำทำเสียงเหมือนรู้จักผมมาก่อนอย่างนั้นแหละครับ

“พี่รู้จักผมเหรอครับ” ผมถามอย่างแปลกใจ

“รู้จักสิ รู้ดีซะด้วยว่าน้องเคยทำให้แฟนพี่เสียใจขนาดไหน”

“....................”

“น้องคงยังไม่รู้ว่าตอนนี้ชินกับพี่เป็นแฟนกันแล้ว เพราะฉะนั้นต่อไปนี้น้องไม่ต้องมาทำอะไรที่น้องเคยทำ พี่ไม่ชอบให้แฟนพี่ต้องมาเกี่ยวข้องอะไรกับน้องอีก” คำพูดของพี่น้ำยังไม่เจ็บเท่าท่าทางไม่ยินดียินร้ายของพี่ชินที่ผมได้รับเลยครับ 

“แต่................”

“หวังว่าน้องจะเข้าใจนะคะ  พี่ไม่ได้พูดอะไรที่เข้าใจยากเลย”

“ครับ” ถ้ายังพอมีความหวังผมคงดื้อที่จะรั้งไว้แต่ตอนนี้ผมมองไม่เห็นเลยว่าสิ่งที่กำลังทำจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อพี่ชินก็ดูเหมือนอยากให้เป็นอย่างนั้น

“ดีค่ะ เข้าใจอะไรง่ายดีแล้วก็ช่วยเลิกยุ่งกับแฟนพี่ด้วยนะคะ” เสียงพี่น้ำดังขึ้นอีกครั้ง

“งั้นถ้าผมไม่ต้องทำความสะอาดแล้วพี่ชินช่วยจอดให้ผมลงตรงนี้ด้วยครับ” ผมกลืนก้อนเหนียวๆลงคอก่อนตัดสินใจบอกพี่ชิน

“เดี๋ยวพี่วนกลับไปส่งที่หอ”

“ไม่ต้องลำบากหรอกครับผมกลับเองได้”  เมื่อพูดจบความเร็วรถค่อยๆชะลอลงก่อนจอดสนิท ผมมองสบตาพี่ชินอีกครั้งผ่านกระจก ตอนนี้ในดวงตาคู่นั้นไม่มีผมอีกต่อไปแล้วครับ มันเป็นสายตาที่ว่างเปล่าจนผมใจหาย 


ผมยืนมองรถที่ค่อยๆเคลื่อนตัวจากไปจนลับสายตา ตรงหน้าผมเต็มไปด้วยการจราจรที่แสนวุ่นวาย แต่ใจผมกลับวุ่นวายยิ่งกว่า  พี่ชินตอนนี้ไม่เหมือนพี่ชินที่ผมเคยรู้จักเลยซักนิด แต่ก็ไม่รู้จะโทษใครนอกจากตัวผมเอง

ผมเป็นคนทำให้พี่ชินเปลี่ยนไปด้วยความลังเลความไม่แน่นอนผม ถ้าเพียงแค่ผมรู้ใจตัวเองให้เร็วกว่านี้ ให้คำตอบพี่ชิน บอกรักพี่ชินให้เร็วกว่านี้เรื่องทุกอย่างก็คงไม่จบลงแบบนี้ 


ผมถือว่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นเวรกรรมที่ผมเคยทำไว้กับพี่ชิน  ผมปล่อยให้พี่ชินต้องรอ ให้พี่ชินต้องทรมานกับความรักที่ไม่แน่ ไม่นอน จนตอนนี้พี่ชินทนต่อไปไม่ไหว ถึงจะเคยรักมากขนาดไหนแต่ถ้าทำดีทุกอย่างแล้วยังไม่ได้รับรักตอบมันก็คงจะหมดรักได้ซักวัน แล้วตอนนี้ล่ะพี่ชินหมดรักผมแล้วรึยังผมอยากรู้ หลังจากนี้ไปผมควรทำยังไงดีครับ  ปล่อยให้พี่ชินได้มีความสุขในทางที่ควรกับพี่น้ำหรือทำทุกอย่างเพื่อแย่งชิงกลับมาเป็นของผม



                        ----- โปรดติดตามตอนต่อไป -----


                       ขอบคุณที่ติดตามมาจนใกล้จบแล้วค่าาา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 25-04-2015 16:43:33
ถ้าทำขนาดนี้แล้วอิพี่ชินมันยังไม่ฟังยังไม่เชื่อก็ปล่อยมันไปเหอะ น่ารำคาญมากคนแบบนี้
ปล่อยมันไปแล้วเราก็ไปหาความสุขที่อื่นเอา ให้มันเห็นว่าราก็ไม่ง้อมันหรอก
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 25-04-2015 16:47:14
ใกล้จบแล้วหรอคร้าแต่นุ้งวียังไม่ได้
ปรับความเข้าใจกับพี่ชินเลยยยยยย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: cross ที่ 25-04-2015 16:55:07
อธิบายยังไงก็ไม่เชื่อสินะ  ในเมื่อขอโอกาสอธิบายแล้วเขาไม่ฟัง และเขามีแฟนแล้ว ก็ปล่อยไปเถอะ
ตัดใจก็ได้นะวี สู้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 25-04-2015 17:03:11
ไม่ต้องง้ออิพี่ชินแล้วหนูวี
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 25-04-2015 18:09:47
คืออะไรหรือพี่ชิน  ทำแบบนี้เพื่อ.......
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-04-2015 18:20:04
โถ่ ... วีเอ้ย ทนอีกนิดนะ เดี๋ยวอะไรๆ คงดีขึ้น
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: Aumy8059yaoi ที่ 25-04-2015 18:30:02
ช่างหัวไอ้พี่ชินมันเหอะวี :z6:
ถ้าจะทำแบบนี้นะขอเปลี่ยนพระเอกกกกกก :katai1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 25-04-2015 18:55:39
เซงเพราะวีแท้ๆๆเลยกว่าจะพูดความจริงได้
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: P★RiTŸ ที่ 25-04-2015 19:03:18
คือถ้ามันมีแฟนใหม่แล้วก็ไม่ต้องไปง้อมันค่ะ
ทำใจเลยน้องวี ถ้าอยากได้คืนก็ต้องแย่งมา
ซึ่ง..อย่าเลยค่ะ น้องวีไม่ได้น่าสมเพชขนาดนั้น
ก็ถ้ามันคิดว่ามันเลือกถูกแล้ว ทั้งตัดโอกาสของตัวเอง
และตัดโอกาสของน้องวี ก็ปล่อยมันไปเถอะ ทำใจซะ

หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: rule ที่ 25-04-2015 19:19:40
วีเหมือนไม่รักตัวเองเลย ศักดิ์ศรีมันหายไปเลยแบบนี้ ถ้าพี่ชินเขาเลือกแบบนั้นก็ต้องปล่อยไป เป็นบทเรียนให้กับตัวเอง
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: JAROEN ที่ 25-04-2015 19:27:03
 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: มาแบบนี้เศร้าแปลบ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: kurumi_nut ที่ 25-04-2015 19:44:22
 :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 25-04-2015 19:56:06
มันคืออะไรพี่ชินทำไมไม่เชื่อที่น้องพูด ที่น้องบอกฮะ

ปล. รีบมาต่อไวๆ นะ อยากรู้ว่าวีจะยอมแพ้และตรอมใจหรือเปล่า
 และอยากรู้ว่าพี่ชินมีความสุขมั้ย ที่ทิ้งหัวใจตัวเองแบบนี้
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: pemiko2012 ที่ 25-04-2015 20:13:58
 :sad4: :sad4: :sad4: :katai1:
อีพี่ชินงี่เง่า!!!!!!
หัดฟังคนอื่นบ้าง คิดเองเออเอง
ถ้าวีไม่กลับมาง้อแล้วจริงๆ จะสมน้ำหน้ามากๆ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: Eangoey ที่ 25-04-2015 22:02:10
ปล่อยๆไปเถอะน้องวี สงสารอ่ะ ไม่ต้องง้อหรอก :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 25-04-2015 22:04:52
พอเลยหนูวีปล่อยอีตาพี่ชินอยู่กับสิ่งที่มันเลือกเลย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 25-04-2015 22:39:34
หาแฟนใหม่เลยวี
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 25-04-2015 23:18:06
ทำไมอ่านแล้วน้ำตาไหล ร้องแทนน้องวีไปแล้ว  :o12:
ทำไมไม่ลองฟังน้องอีกสักที  :z6: :z6:
มีแต่ต้องให้เห็นพี่ตินณ์กะน้องพรตสวีทโชว์แล้วมั้ง
ถึงระลึกได้ว่าอีพี่มีเจ้าของแล้ว ชริๆๆ
รอตอนต่อไปค่ะ ใจจะขาด  :z3:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: ยัยหมูตัวกลม ที่ 26-04-2015 00:12:59
จะเป็นยังงัยต่อไปเนี้ยมาต่อเร็วน้า
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 26-04-2015 01:03:19
บอกตามตรง เป็นเราเราท้อแทนวีละ สู้ต่อไม่ไหว สงสารวีว่ะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: LeeGwakNAT ที่ 26-04-2015 01:10:16
พี่ชิน ทำเเบบนี้เพื่อ .......
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: mr.nine ที่ 26-04-2015 02:05:29
 :mew2: :mew1: :mew2: :mew6:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: fahhee_zeze ที่ 26-04-2015 03:35:05
ถ้าทำขนาดนี้แล้วอิพี่ชินมันยังไม่ฟังยังไม่เชื่อก็ปล่อยมันไปเหอะ น่ารำคาญมากคนแบบนี้
ปล่อยมันไปแล้วเราก็ไปหาความสุขที่อื่นเอา ให้มันเห็นว่าราก็ไม่ง้อมันหรอก


โดนจายยยย เอาไปสิบกระโหลกกก
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 26-04-2015 04:39:34
 ตอนนี้อ่านแล้วหน่วงมากเลย :sad4:
คนแบบนี้ไม่ต้องไปสนใจหรอก หาใหม่เอาข้างหน้าก็ได้ อาจจะเจอคนที่ดีกว่านี้นะวี
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: muiko ที่ 26-04-2015 10:45:45
ถึงวีจะผิดที่บอกช้าไป
แต่ถ้าพี่ชินไม่ฟัง ก็ปล่อยเค้าไปเถอะ
ถ้าคิดว่าดีก็ทำไปค่ะพี่ชิน  :m16:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: LeeGwakNAT ที่ 26-04-2015 17:07:03
ทำไมอารมณ์มันค้างอ่ะ มาต่อเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 26-04-2015 19:01:31
เฮ้ออออ.   สงสารวีมากอะ. ร้องไห้หนักมากๆๆ.  วีจะทำไงต่องะ. อีพี่ชินใจร้ายมาก เฮ้ออ.  มาต่อเร็วๆๆ นะ ค้างมากๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: เลิฟลี่ ที่ 26-04-2015 22:27:02
เลิกไปเลยค่ะ ตามอ่านมาทั้งวันเจอตอน25 ไปไม่อยากอ่านตอนต่อไปเลย น้องวีมีแฟนใหม่ไปเลยค่ะ

แต่ก็เพราะพฤติกรรมตัววีเองด้วยที่ที่ทำให้ชินเสียใจ ขอสมน้ำหน้าดังๆนะคะ มันจะอะไรนักหนาที่ต้องเคลียร์กะพี่ติน

บอกชอบพี่ชินมันไปก่อนแล้วเคลียร์กัพี่ตินมันก็ได้ ควรละไม่คิดถึงใจพี่ชินเค้าบ้าง :hao3:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 26-04-2015 23:23:34
 :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 28-04-2015 00:10:30
           
    ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26


“ทำไมวะ ทำไมชีวิตกูถึงเป็นแบบนี้” ผมว่าเสียงดังก่อนกระแทกแก้วในมือลงกับโต๊ะเสียงดัง ไม่สนใจว่าใครจะมองยังไง


“เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเชื่อกูสิ” ไอ้แบตปลอบผมเบาๆก่อนคนหลอดในแก้วโกโก้ไปมาๆ ใช่ครับแก้วโกโก้เพราะตอนนี้พวกผมกำลังนั่งอยู่ที่ร้านนมสดหน้ามอ  คิดว่าเวลาเครียดถ้าได้เติมน้ำตาลให้กระแสเลือดซะหน่อยคงดีขึ้นแต่เปล่าเลยมันไม่ได้ช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นซักนิด


“ชีวิตกูแม่งบัดซบว่ะ ต้องให้กูเสียใจต้องให้กูช้ำใจอีกเท่าไหร่ถึงจะพอ กูไปรักใครแม่งก็ไม่รักกู คนที่มารักกูกูก็ดันไม่รักเขาแต่พอกูรักแม่งก็ไปรักคนอื่น เหี้ยเอ๊ย! อึก”

“ถ้าทนไม่ไหวมึงก็ระบายออกมา ร้องออกมาอย่าเก็บไว้”

“อึก....กู........กูเสียใจ ทำไมพี่ชินไม่รอกูวะ ทำไม” ผมว่าเสียงดังไม่เลิก ตอนนี้สิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจพร้อมที่จะระเบิดออกมาทุกเมื่อ อยากรู้จริงๆทำไมพี่ชินถึงทำกับผมได้ขนาดนี้
 
 “....................”

“ชีวิตกูโดนสาปใช่ไหมวะ มึงบอกกูสิมึงบอกกู ไอ้แบตมึงบอกกู”

“ไม่ใช่หรอกชีวิตมึงไม่ได้โดนสาป แต่มันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด”

“กูเหนื่อยวะ เหนื่อยเหลือเกินกับความรัก ถ้ามันจะร้ายขนาดนี้กูจะไม่รักใครอีกแล้ว” ผมว่าอย่างถอดใจตอนนี้ไม่เหลืออะไรให้หวังอีกแล้ว

ทุกวันนี้เวลามาเรียนผมต้องเห็นภาพบาดตาระหว่างพี่ชินกับพี่น้ำที่อยู่ด้วยกัน ถึงมันไม่ได้เป็นภาพที่หวานอะไรแต่ไม่รู้ทำไมผมเห็นทีไรต้องปวดใจทุกครั้ง การพยายามลืมคนที่เรามันเป็นเรื่องที่ทรมานมากจริงๆครับ ตอนแรกคิดว่าการตัดใจจากพี่ตินณ์เป็นเรื่องที่ยากแล้วแต่การต้องมาตัดใจจากพี่ชินยิ่งเป็นเรื่องที่ยากกว่า ทรมานกว่าเป็นร้อยเท่าพันเท่า


ตอนนี้ไม่ว่าผมจะมองไปทางไหนเดินไปทางไหนก็มีแต่ภาพพี่ชินอยู่ในหัว ตั้งแต่ตื่นมาก็เจอกับห้องนอนเล็กเท่ารังหนูที่พี่ชินเคยนอนเบียดด้วยกัน ผ้าเช็ดตัวที่เคยใช้ร่วมกัน หรือแม้แต่แปรงสีฟันที่ตอนนี้ยังวางอยู่คู่กัน ถึงเจ้าของมันจะไม่ต้องการแล้วแต่ผมก็ไม่เคยคิดจะทิ้งมันซักครั้ง


“มึงเชื่อกูสิมันไม่มีอะไรที่ดีเสมอและร้ายเสมอหรอก เหมือนเวลาฝนตก ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ ชีวิตมึงก็เหมือนกันมันต้องดีซักวันสิน่า”

“มันจะมีเหรอ มันจะมีวันนั้นจริงๆเหรอวะ” ผมว่าอย่างเลือนลอย จิตใจตอนนี้ไปอยู่ที่พี่ชินอีกแล้วครับ ผมมักจะไม่มีสมาธิและเอาแต่คิดเรื่องของพี่ชินจนบางครั้งอยู่ๆน้ำตาก็ไหลออกมาไม่รู้ตัว






“ไอ้วีมึงเตรียมกระเป๋าเสร็จหรือยังวะ”

“เสร็จแล้วกูเอาไปแค่สองสามชุด ไม่มีอะไรมากหรอก” ผมตอบไอ้แบตที่เปิดประตูห้องเข้ามาถาม

“อะไรวะไปตั้งหลายคืน มึงเอาชุดไปแค่นี้เหรอ”

“ใส่ตัวเดิมเอาก็ได้ กูไม่ได้อยากใส่ไปอวดใครอยู่แล้ว” ผมว่าเรื่อยๆ สายตาทอดยาวไปบนท้องฟ้ากว้างจากริมหน้าต่างเหมือนทุกๆวัน

“ไอ้เชี้ยวีใส่อวดกับซกมกมันคนละเรื่องกันเว้ย มึงจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนวะ หัดหันมาสนใจตัวเองบ้างเถอะผอมจนเหลือแต่หนังติดกระดูกแล้วมึง” เสียงมันว่าเอ็ดตะโลลั่นห้องแต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมคิดอยากทำอะไรไปมากกว่าการนั่งอยู่ตรงนี้ นั่งเฉยๆเพื่อให้วันเวลาผ่านไปเรื่อยๆ เผื่อซักวันผมจะสามารถลืมผู้ชายคนนั้น คนที่ทำให้ผมเสียใจมาถึงทุกวันนี้ได้

หลังจากวันที่ผมก้าวลงมาจากรถพี่ชินก็เหมือนผมก้าวออกมาจากชีวิตพี่ชินด้วย  แม้ว่าแรกๆผมยังคอยมองพี่ชินอยู่ห่างๆ มองอย่างคนที่เคยรัก คนที่เคยมีใจแต่ไม่ได้ครอบครอง แต่เมื่อเวลาผ่านไปได้ซักสองสามสัปดาห์ผมก็ค้นพบว่ายิ่งคอยมองพวกเขาอยู่ด้วยกันผมก็ยิ่งเจ็บผมจึงเลิกมอง เลิกเฝ้าดูว่าเขาจะทำอะไร หรือมีความสุขกันแค่ไหน


ในเมื่อตอนนี้พี่ชินมีคนอื่นแล้ว ผมก็มีศักดิ์ศรีพอที่จะไม่รั้งไว้ ไม่แย่งใคร ผมตัดสินใจปล่อยให้พี่ชินไปมีชีวิตตามทางที่ตัวเองเลือก ถึงจะเสียใจ ถึงจะเจ็บแต่ถ้าพี่ชินไม่เห็นค่าผมแล้วก็หมดประโยชน์ที่จะยื้อ ชีวิตหลังจากนี้ผมจะใช้มันเพื่อลืมพี่ชินให้ได้ อาจจะไม่ใช่เร็วๆนี้เพราะถึงแม้เรื่องจะผ่านมาหลายเดือนแล้วผมก็ยังลืมไม่ได้แต่มันคงมีซักวันที่วันนั้นจะมาถึงอย่างแน่นอน ผมมั่นใจ



“วี....วี........ ไอ้วี!!!”

“ฮ๊ะ! มึงว่าอะไรนะ” ผมหันไปสนใจไอ้แบตที่ตะโกนเรียกเสียงดังทั้งที่อยู่ด้วยกันภายในห้องแคบๆไม่รู้มันจะตะโกนทำไม


“มึงนี่เนอะช่วยสนใจสิ่งรอบข้างหน่อยเถอะ กูบอกว่าไปกินข้าวกันกูเลี้ยง”

“ไม่อยากกินว่ะมึงไปกินเถอะ เดี๋ยวกูจะนอนแล้ว”


“มึงจะนอนได้ไงมึงยังไม่ได้กินข้าวเย็น มานี่เลยเดินตามกูมาดีๆเดี๋ยวกูพาไปกินข้าวมันไก่ร้านอร่อยหน้ามอ” มันจับข้อมือผมก่อนลากออกจากห้องทั้งที่ผมพยายามขืนตัวแต่เหมือนเรี่ยวแรงไม่รู้มันหายไปไหนหมด ทั้งที่เมื่อก่อนยังพอสู้มันได้บ้างแต่เดี๋ยวนี้แค่มันสะกิดนิดเดียวผมก็แทบจะปลิวตามมือมันแล้วครับ

“ไอ้แบตกูไม่อยากกิน กูไม่กินไม่ได้เหรอ”

   “ไม่ได้ถ้ามึงยังเห็นกูเป็นเพื่อนมึงต้องกิน มึงไม่ได้มีแค่พี่ชินคนเดียวนะรอบตัวมึงยังมีกูมีลูกแพร มีพ่อมีแม่ที่รักมึงอยู่เพราะฉะนั้นมึงต้องกิน กูขอสั่งให้มึงกินเดี๋ยวนี้” มันว่าเสียงดัง


“แต่.....................” ผมไม่ได้อยากทำร้ายตัวเองแต่จากช่วงแรกที่ไม่อยากกินอะไรกลายเป็นตอนนี้เริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นโรคต่อต้านอาหาร ไม่ว่าจะกินอะไรเข้าไปก็อาเจียนออกมาจนหมด ทำให้ไม่คิดจะอยากกินอะไรมากกว่าเดิมอีกครับ

   “กูเข้าใจแต่มึงกินซะหน่อยเถอะไม่ต้องเยอะก็ได้” เมื่อผมทำท่าจะไม่ยอมกินจากที่เสียงดังมันเริ่มพูดเสียงอ่อนพร้อมส่งสายตาขอร้องมาให้

“อืม.....นิดเดียวนะ” ผมว่าก่อนเริ่มตักข้าวมันไก่ร้านโปรดเข้าปากเงียบๆ มื้อนี้ก็คงต้องกินเพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้เพื่อคนตรงหน้า และเพื่อคนอื่นๆที่รักผม





   “วี แบตทางนี้ๆ”

   “ลูกแพรทำไมมาถึงไวจัง รถไม่ติดเหรอ” ไอ้แบตถามลูกแพรที่ตะโกนเรียกเสียงดัง

วันนี้พวกผมต้องไปทำกิจกรรมรับน้องที่ต่างจังหวัดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนปิดเทอม ก็เป็นที่ระยองที่ที่ผมกับพี่ชินเคยไปสำรวจที่พักมาด้วยกันเมื่อเทอมที่แล้วนั่นแหละครับ ความจริงกิจกรรมนี้ต้องจัดขึ้นเทอมที่แล้วแต่ไม่รู้เกิดปัญหาอะไรถึงมีการเลื่อนมาจัดในเทอม 2 แทน

   “วันนี้พี่พรตมาส่งน่ะเลยออกมาไว แล้วกระเป๋าวีไปไหนเหรอ” ลูกแพรตอบไอ้แบตก่อนหันมาถามผมที่เดินตัวปลิวตามไอ้แบตมาตั้งแต่ออกจากหอ

   “อยู่กระเป๋าเดียวกับไอ้แบตน่ะ มันไปวุ่นวายเอาใส่ของมันเอง” ผมว่าก่อนมองกระเป๋าใบใหญ่ที่ไอ้แบตสะพายบ่าอยู่ ในกระเป๋าใบนั่นบรรจุไปด้วยเสื้อผ้า ของใช้ และกางเกงในทั้งของผมและของมัน

ตอนแรกผมก็จัดของผมใส่กระเป๋าไว้แล้ว แต่พอกินข้าวเสร็จไม่รู้ไอ้แบตเมาข้าวมันไก่รึไงเข้ามาจัดโน่นจัดนี่ให้ผมแล้วเอาใส่กระเป๋าร่วมกับของตัวเองเฉยเลยครับ ผมขี้เกียจจะบ่นมันอยากทำอะไรก็ปล่อยมันไป ดีซะอีกผมไม่ต้องถือให้หนัก


   “อย่างนี้วีก็สบายเลยสิไม่ต้องถือ อ่อ!ลืมบอก ไปลงชื่อก่อนเลยเดี๋ยวรุ่นพี่จะเช็คชื่อขึ้นรถแล้ว” 

“ไอ้วีเดี๋ยวกูลงให้”

“กูลงเองได้ ไม่ได้เป็นง่อยเว้ย” ผมว่าก่อนผลักหัวมันไปทีแล้วรีบเดินนำมาบริเวณที่รุ่นพี่กำลังเช็คชื่อ ทำไมมันชอบทำเหมือนผมเป็นง่อยวะ ทั้งๆที่ผมก็ไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย

“คนต่อไปเชิญครับ ชื่ออะไรครับ”

“นาวีครับ” ผมตอบก่อนยิ้มจางๆให้รุ่นพี่ที่กำลังขานชื่อ

“น้องวี! หายไปไหนมาพี่ไม่เคยเจอเลย” หลังผมบอกชื่อพี่โยรีบเงยหน้าขึ้นจากเอกสารมามองคล้ายตกใจที่เห็นผม

“ผมก็ไม่ได้ไปไหนนี่ครับ แค่ไม่ค่อยได้อยู่มอเรียนเสร็จผมก็กลับห้องเลย”

“รู้ไหมพี่เป็นห่วง ถามไอ้แบตมันก็ว่าวีสบายดีแต่พี่ว่าดูวีซูบไปเยอะเลยนะ” พี่โยว่าก่อนจับผมหมุนไปมาทำเอาผมเวียนหัว

“ผมสบายดีจริงๆพี่ไม่ต้องห่วง ว่าแต่เช็คชื่อเสร็จแล้วใช่ไหมครับผมจะได้ไปรอขึ้นรถ”

“เสร็จแล้วๆ ไอ้น็อตเช็คชื่อแทนกูหน่อย”

“อ้าวมึงจะไปไหน”

“เรื่องของกูมั่งได้ไหมวะ มึงว่างก็มาเช็คให้ก่อนเดี๋ยวกูมา” ผมได้ยินเสียงพี่โยตะโกนคุยกับเพื่อนร่วมภาคดังไล่หลังแต่ก็ไม่สนใจจะหันไปมอง ตอนนี้อยากออกจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดเพราะไม่รู้ว่าพี่ชินอยู่แถวนี้ด้วยรึเปล่า ถึงจะรู้ว่ายังไงก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอแต่ตอนนี้ผมยังไม่พร้อมขอทำใจก่อนได้ไหม


“วีนั่งกับลูกแพรนะเดี๋ยวให้แบตไปนั่งข้างหลัง” หลังเช็คชื่อเสร็จก็ได้เวลาเรียกขึ้นรถครับ รถที่รุ่นพี่จัดไว้ให้จะเป็นรถทัวร์ 5 คัน เบาะนั่งเป็นเบาะคู่ลูกแพรจะให้ผมนั่งด้วย แต่ผมรู้ว่าไอ้แบตกับลูกแพรมันเป็นแฟนกันแล้วก็อยากให้มันนั่งด้วยกันมากกว่าครับ

“ลูกแพรนั่งกับไอ้แบตเถอะเดี๋ยววีไปนั่งข้างหลังเอง” ผมว่าก่อนมองหาที่นั่งว่างๆ

“แต่แพรว่าวีนั่งกับแพรดีกว่า”

“เอามึงนั่งกับลูกแพร เดี๋ยวกูไปนั่งข้างหลังเอง”

“น้องๆครับเลือกที่นั่งกันเสร็จรึยังครับ ถ้าเสร็จแล้วจะได้ออกรถ” ระหว่างที่พวกผมยังตกลงกันไม่ได้นั้นเสียงรุ่นพี่คนหนึ่งก็ตะโกนถามขึ้นมาจากหน้ารถ  ผมที่กำลังจะเดินไปนั่งเบาะหลังไอ้แบตถึงกับขาชาก้าวไม่ออกซะอย่างนั้น ก็เสียงที่ได้ยินนั้นมันเป็นเสียงที่ผมจำได้ดีแม้การได้ยินครั้งสุดท้ายจะผ่านมาหลายเดือนแล้วก็ตาม

“วีมานั่งกับพี่ตรงนี้มา” ผมมองพี่โยที่เรียกให้ผมไปนั่งด้วยอย่างลังเล ก่อนจะพบว่าตอนนี้คนอื่นเลือกที่นั่งไปจนเกือบหมดแล้วครับเหลือแต่ที่ว่างข้างๆพี่โยกับที่ว่างข้างๆผู้ชายคนนั้น

“เดี๋ยวกูไปนั่งให้มึงนั่งนี่แหละ” เสียงไอ้แบตพูดนิ่งๆ สายตาก็จ้องไปยังคนที่นั่งลงบนเบาะหน้าพี่โย

“ไม่ต้องกูไปเอง มึงนั่งนี่แหละ” ผมตัดสินใจก่อนเดินกลับไปทางหน้ารถ แล้วจังหวะที่ผมใกล้จะถึง อยู่ๆก็มีรุ่นพี่คนหนึ่งเดินมานั่ง ถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะเป็นพี่น็อตครับ

“ไอ้เชี้ยน็อตลุกเลย ตรงนี้มีคนนั่งแล้ว”  พี่โยว่าอย่างอารมณ์เสียก่อนส่งสายตามาบอกให้ผมรอแกเคลียร์กับเพื่อนก่อน

“ก็ให้ไปนั่งที่อื่นดิ กูจะนั่งตรงนี้”

“มึงเป็นเชี้ยอะไรต้องมานั่งตรงนี้ ตกลงกันแล้วไงมึงไปนั่งข้างไอ้ชินดิ”

“ก็ไอ้ชินมันไล่กูมานั่งนี่ มึงก็รู้ช่วงนี้มันอารมณ์ไม่ดี ใครจะกล้าไปขัดใจมันวะ น้องๆที่น้องเหรอพี่ขอนะ น้องมานั่งข้างหน้าพี่มา” พี่น็อตตอบพี่โยก่อนหันมาบอกผม  ผมหันไปมองหน้าพี่โยเพื่อขอความช่วยเหลือแต่เหมือนพี่โยจะไม่เข้าใจ เพราะนอกจากจะไม่ช่วยแล้วพี่โยยังบอกผมว่าไปนั่งข้างหน้าแกอีก ในเมื่อไม่มีทางเลือกผมเลยตัดสินใจเดินไปนั่งที่ว่างข้างๆพี่ชิน


   ตอนนี้ใจผมเต้นรัวเร็วมากจนแทบนับไม่ทันเลยครับ ต้องถือว่าครั้งนี้เป็นการอยู่ใกล้กันมากที่สุดในรอบ 3 เดือนก็ว่าได้ ความตื่นเต้นที่เกิดขึ้นทำให้ผมไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำยังไงต้องทักทายหรือจะทำเหมือนไม่รู้จักกันแบบนี้ ผมนั่งคิดวนเวียนไปมาพร้อมกับรถที่เริ่มเคลื่อนตัว





“ไม่เจอกันนานนะ สบายดีไหม” ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน อยู่ๆคนข้างๆผมก็เอ่ยขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ

“สะสบายดีครับ” ผมตอบเสียงสั่นก่อนค่อยๆหันไปมองหน้าพี่ชินอย่างเต็มตาครั้งแรก

พี่ชินที่ผมเคยคิดว่าหล่อ สมาร์ทจนผู้ชายหลายๆคนต้องอิจฉา ตอนนี้เปลี่ยนไปเยอะเลยครับ ดวงตาคมที่แฝงไว้ด้วยความขี้เล่นตอนนี้มันกลับหม่นหมอง ใบหน้าที่เคยสดใสตอนนี้ก็ดูโทรมลงไปแถมมีหนวดเคราขึ้นไรเขียว ผมที่เมื่อก่อนสั้นได้รูปก็ยาวจนผิดรูปบ่งบอกได้เลยว่าเจ้าของไม่ให้ความสนใจ แถมพี่ชินยังดูผอมลงไปเยอะเลยครับ ผมเห็นแล้วถึงกับใจหายทำไมพี่ชินถึงปล่อยตัวเองให้โทรมขนาดนี้  3 เดือนที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นผมพลาดอะไรไปรึเปล่า ใครทำให้พี่ชินที่เคยสดใส ยิ้มง่ายใจเย็นของผมกลายเป็นแบบนี้หรือว่าพี่น้ำทิ้งพี่ชินไปแล้ว ใช่สิพี่น้ำไปไหนตั้งแต่มาผมยังไม่เห็นพี่น้ำเลย


“สบายดีก็ดีแล้ว ดูแลตัวเองบ้างซูบไปนะ” ผมมองค้างเหมือนจะเห็นความห่วงใย ความอาทร ที่ถ่ายทอดออกมาจากตาคู่นั้นแต่มันก็เป็นเวลาชั่ววินาทีก่อนพี่ชินจะเบือนหน้าหนีออกไปมองนอกหน้าต่างรถ

“แล้วพี่........สบายดีไหมครับ” ผมตัดสินใจถามในที่สุด

“อืม....สบายดี” พี่ชินตอบเสียงเบาพร้อมสายตาที่ทอดมองออกไปนอกรถ

แล้วความเงียบก็เข้าปกคลุมระหว่างผมกับพี่ชินอีกครั้ง ผมไม่รู้จะชวนพี่ชินคุยอะไรพี่ชินเองก็คงไม่อยากคุยกับผมเท่าไหร่เพราะเอาแต่มองวิวข้างทางไม่หันมาทางผมอีกเลย ผมนั่งคิดถึงสาเหตุที่ทำให้พี่ชินเป็นแบบนี้แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกนอกจากเรื่องของพี่น้ำแต่ก็ไม่กล้าถามอยู่ดีเลยได้แต่คิดเองจนเผลอหลับไปบนรถ

“วีๆ ถึงแล้วครับ”

“ถึงแล้วเหรอพี่ชิน” ผมถามคนที่กำลังเขย่าตัวเรียกก่อนค่อยๆลืมตาขึ้นมอง

“เอ่อ............ลงไปข้างล่างกันเถอะถึงแล้ว” แล้วผมก็ได้รู้ว่าตัวเองเข้าใจผิดด้วยความเคยคิด เพราะคนที่ปลุกผมไม่ใช่พี่ชินแต่เป็นพี่โย

“ขอโทษครับ.........เอ่อ” ผมรีบขอโทษพี่โยก่อนจะลุกขึ้นยืน แล้วทันใดนั่นก็มีบางอย่างหล่นลงที่เท้า มันเป็นเสื้อแจ็คเก็ตที่ผมจำได้แม่นว่าก่อนจะหลับไปมันยังอยู่บนตัวพี่ชิน

“ไอ้วีลงมาเร็ว ที่นี่สวยมากเลยวะ อากาศดี๊ดี” เสียงไอ้แบตตะโกนเรียกผมมาจากด้านล่าง คงไม่มีใครรู้สินะว่าผมเคยมาที่นี่แล้ว และก็ไม่ได้มาคนเดียวแต่ผมมากับคนที่ขโมยหัวใจผมไปในครั้งนั้น

“ขอบคุณครับ” ผมว่าก่อนหันไปยื่นเสื้อคืนให้  พี่ชินก็รับไปถือนิ่งๆไม่ว่าอะไร
 
ตอนนี้ผมไม่เข้าใจการกระทำของพี่ชินที่สุดเลยครับ ทำเหมือนยังมีใจแต่ก็เหมือนไม่มีใจในเวลาเดียวกัน ถ้าไม่รักผมแล้วทำไมยังมาทำดีกับผมยังมาดูแล มาห่วงใยผมอยู่ทำไม แล้วตอนนี้ทำไมพี่ถึงเฉยชากับผมมันเป็นเพราะอะไรผมอยากรู้





“ไอ้วีเป็นอะไรวะ เงียบเชียว”

“กูไม่ได้เป็นอะไร มึงเก็บของเสร็จรึยังจะได้ออกไปข้างนอก” ผมตอบก่อนถามกลับ ตอนนี้รุ่นพี่ให้พวกผมพักกินข้าวแล้วเอากระเป๋ามาเก็บในที่พัก ผู้ชายกับผู้หญิงแยกกันพักชัดเจน มาบ้านให้เป็นหลังหลังละ 5-15 คน แล้วแต่ขนาดของบ้าน พวกผมกับรุ่นพี่ก็พักแยกกันครับ

“เสร็จแล้วออกไปเดินเล่นก็ดีเหมือนกันว่ะ” ไอ้แบตว่าก่อนเดินนำผมออกมาจากบ้านพัก

“แบต วี ไปเดินเล่นกัน”

“กำลังจะไปเลยแพรเอาของไปเก็บเสร็จแล้วเหรอ”

“เสร็จแล้ว”

“ชินคะ รอน้ำก่อนสิคะ” ผมหันไปมองตามที่มาของเสียงก่อนจะเห็นพี่น้ำเดินตามพี่ชินเข้าไปบริเวณที่ทำเตรียมจัดกิจกรรม สงสัยขอสันนิฐานของผมจะผิดซะแล้วครับในเมื่อพี่น้ำก็ดูยังรักพี่ชินดีนี่นา

“ไปกันเถอะวีอย่าไปสนใจเลย” ลูกแพรว่าก่อนดึงมือผมให้เดินตาม

“อื้อ....ไปเดินเล่นกันดีกว่า ไปทางนี้ไหมมีร้านขายไอศกรีมด้วย” ผมเดินนำก่อนหันไปถาม บ่ายๆแบบนี้อากาศกำลังร้อนได้กินไอศกรีมเย็นๆซักแท่งคงดี


“วีรู้ได้ยังไงว่าข้างหน้ามีร้านขายไอศกรีม” เท้าที่กำลังก้าวเดินหยุดชะงักตามเสียงทัก


“เออ กูก็สงสัยเหมือนลูกแพรมึงรู้ได้ยังไงวะ” ไอ้เชี้ยแว่นสงสัยอีกคนครับ แล้วผมจะบอกว่ายังไงดีล่ะ ไม่ใช่ว่าอยากปิดบังอะไรเพียงแต่ไม่อยากนึกถึงมันเท่านั้น

“กูเห็นก่อนรถเลี้ยวเข้ามาน่ะ” หวังว่าจะไม่มีใครจำได้น่ะว่าผมนั่งหลับมาเกือบตลอดทาง

“เออกูก็ว่าอยู่” ไอ้แบตว่าก่อนเดินนำไป แต่ลูกแพรกลับมองหน้าผมเหมือนไม่ค่อยเชื่อแต่ก็เลือกที่จะไม่ถามแล้วเดินตามไอ้แบตไปเหมือนกันครับ

หลังจากพวกผมเดินไปไม่ไกลก็เดินกลับมาที่รีสอร์ตเพราะได้เวลาเรียกรวม ก่อนจะทำการเปิดกิจกรรมรับน้องนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ กิจกรรมหลักๆที่รุ่นน้องได้รับมอบหมายคือ ต้องล่าลายเซ็นต์รุ่นพี่ที่มาร่วมกิจกรรมนี้ให้ครบทุกคนโดยทำยังไงก็ได้ให้ได้ลายเซ็นต์รุ่นพี่มาให้ครบภายในเวลา 3 วันที่อยู่ที่นี่  จากนั้นก็มีเข้ากิจกรรมฐานในแต่ละฐาน แสดงละครรอบกองไฟช่วงกลางคืน ส่วนอีก 2 วันรุ่นพี่ยังไม่ได้แจ้งครับ


“ซ้ายอีกๆๆ  ขวาๆ ซ้ายหน่อย พอๆ ช้าๆ” เสียงทุกคนร่วมกันเชียร์กิจกรรมที่ 3 ของกลุ่มผมครับ กิจกรรมแรกที่ผ่านมารุ่นพี่ให้นั่งส่งคนไปนั่งบนลูกโป่ง 3 ลูกนั่งยังไงก็ได้ไม่ให้แตกภายในเวลาที่กำหนด กิจกรรมนี่เป็น 2  เป็นการแข่งวิ่งผลัดโดยการให้ส่งไม้ต่อกันแต่ไม้จะใช้มือจับไม่ได้ ต้องใช้หน้าขาหนีบไว้แล้วส่งต่อกันไปเรื่อยๆ เกมส์นี้เรียกเสียงหัวเราะได้ดีทีเดียวครับ

ส่วนเกมส์ที่ผมกำลังเล่นกันอยู่นี้เป็นเกมส์ที่ต้องใช่สมาธิและสติปัญญาโดยจะมีขวดแก้วล้มอยู่ที่พื้น 1 ขวดแล้วมีเชือกล้อมเป็นวงกลมห่างรัศมีประมาณ 1 เมตร แล้วมียางวงให้ 1 กำมือให้ทุกคนช่วยกันคิดว่าจะเอาขวดตั้งได้ยังไง

“ไอ้วีเดินหน้าไปหน่อย” เสียงไอ้แบตสั่งก่อนผมจะทำตามพร้อมดึงยางที่ผูกต่อกันแล้วดึงไปคนละฝั่งทั้งหมด 4 ฝั่งไปด้วย

“ดีๆ พอ เบาๆนะ”

“เย้ ได้แล้วๆ ขึ้นแล้ว” เสียงเพื่อนๆที่ร่วมเชียร์ต่างแสดงความดีใจไม่ต่างกับผมครับ


“เฮ้ย! วี” อยู่ๆผมก็ได้ยินเสียงคนเรียกชื่อตัวเองคล้ายอาการตกใจ ก่อนความรู้สึกจะวูบดับไป



    ----- โปรดติดตามตอนต่อไป -----

      ช่วงนี้น้องวีเราจะนึกเยอะนิดนึง ตามแบบฉบับละครหลังข่าวนะคะ
ที่เวลาใครจบไม่นางเองก็พระเอกจะนึกแล้วนึกอีกย้อนไปย้อนมา ยืดดดจนจบ
นิยายเราก็จะเป็นเยี่ยงนั้น ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (ล้อเล่นค่ะ)


 ขอ 1 กอดให้น้องวีค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: harumi ที่ 28-04-2015 00:25:05
 :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 28-04-2015 00:29:56
สรุปทั้งสองคนก็มีอาการเดียวกัน
พี่ชินนี่มัน...........บอกไม่ถูกอ่ะ
เมื่อไหร่จะเข้าใจกันซะทีนะ
สงสารวี...........
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 28-04-2015 00:35:28
สั้นนนนนนนนนนไปมั้ย พี่ชินต้องวิ่งมาคนแรกมั้ย ลุ้นอะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: P★RiTŸ ที่ 28-04-2015 00:36:13
เออนะ ทรมานตัวเอง
เฮ้ออ น้องวีเอ๊ย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: p-lim ที่ 28-04-2015 00:36:57
งื้อออ วีเป็นอะไร
ต่างคนก็ต่างรักกัน หันหน้ามาคุยมาปรับความเข้าใจกันเหอะ
:ling1:   :o12:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: naoai ที่ 28-04-2015 00:41:34
อีพี่ชินนี่ไม่สังเกตุมั่งรึไงว่าวีไม่ได้ไปไหนมาไหนก้บพี่ติณอะ  โอ้ย ให้วีได้กับแบตแล้ว happy  ending ไปเลยดีไหมครับ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: honey_noii ที่ 28-04-2015 00:45:48
 :mew4: :mew4: :mew4: :mew6: :mew6: สงสารน้องวี อีพี่ชินใจร้ายทำร้ายจิตใจน้องทำมายยยยย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 28-04-2015 00:51:50
ทรมานกันทั้งคู่
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: JAROEN ที่ 28-04-2015 01:03:50
เกิดคำถามขึ้นมากลางใจ ว่าทำไมหวั่นไหวเมื่อเจอเธอ เฝ้าค้นหาเหตุผลแต่แล้วก็ไม่เจอ เฮ้อออออออ !!! สั้นจังเลยอ่ะ หนูชอบยาววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววอะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 28-04-2015 01:04:53
วีเข้มแข็งไว้นะ ถ้าพี่ชินมันทนได้ตัดใจได้
วีก็ต้องทำได้
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-04-2015 01:10:45
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: Eangoey ที่ 28-04-2015 01:20:43
สงสารนุ้งวี  :hao5:  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 28-04-2015 01:26:32
 :เฮ้อ:เลิกกันทั้งๆที่ยังรักอยู่
รอเมจิกมาต่อตอนหน้าเลยค่ะ
น้องวีวูบไปดูสิอิพี่ชินมันจะทำไง
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: pemiko2012 ที่ 28-04-2015 01:33:28
 :sad4: :sad4:
เป็นเรา เราจาไม่ไปนั่งข้างๆะชินเลย
สงสารวี เห้อออออ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 28-04-2015 01:34:10
 :mew6: :mew6: :mew6:
ร้องอีกแล้ว ร้องแทนน้องวี  :ling2:
เหมือนพี่ชินจะได้รับผลกระทบไม่แต่งกัน
รอตอนต่อไป รอเมจิกด้วย น้องวีเป็นอะไร พี่ชินมาทันมั้ย
โอยยยยยยย  :ling1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 28-04-2015 03:00:16
ทำไมต้องมีชะนีมายุ่งด้วยนะ  :mew5:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 28-04-2015 06:44:25
วีเป็นอะไรค้างอ่ะ มาต่อด่วน
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 28-04-2015 07:05:56
เมจิกอ๊ามาแค่นี้ขัดใจกำลังสนุกเลย..แต่ขอบคุณคับ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: kutelittlepoly ที่ 28-04-2015 09:10:54
ตามอ่าน2ตอนรวดเลย :katai5:

อัพต่อเลยได้ไหม  :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: LeeGwakNAT ที่ 28-04-2015 10:13:09
ค้างมาก มาต่อด่วยนะครับ 5555
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 28-04-2015 11:36:53
วีเป็นอะไรอ่ะ พี่ชินมาดูวีด่วนเลย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 28-04-2015 16:45:13
ต่อไปเป็นบทพระเอกป่ะ อิอิ รอไม่ไหวแล้ววว
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: ernnnxx ที่ 28-04-2015 16:47:23
คือเราอ่านรวดเดียวจนถึงตอนล่าสุด ...สุดจะบรรยายจริงๆ เหมือนกำลังเข็นครกขึ้นเขาแล้วสะดุดก้อนหินกลิ้งตกเขาไปกับครกทั้งๆ ที่อีกนิดเราก็จะถึงเป้าหมายแล้วอ่ะ  แล้วเราก็ไม่เข้าใจนะว่าบักพี่ชินมันจะปิดกั้นใจตัวเองทำไม น้องก็ตามมาบอกแล้วแหม ถ้าลองเปิดใจสักนิดจะรู้เลยว่ามันไม่ใช่อย่างที่ตัวคิด สุดท้ายก็ต้องทรมานกันทั้งคู่ เราขัดใจจจจ ส่วนน้ำเธอไปเถอะ เราไม่อยากเจอเธอเลย รำคาญ :z6:
รีบมาต่อนะคะ  :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 28-04-2015 20:16:23
สงสารทั้งคู่เลยง่ะะะะ
คืนดีกันเถอะน๊า
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: rinmapi ที่ 28-04-2015 20:37:13
 :m15: เคืองอิพี่ชินมาก อุสาเชียร์ ทำไมทำงี้ จะโกรธก็ได้แต่ทำไมไปคบน้ำ สงสารน้องวีจัง ใจแข็งนะวี ทำใจได้ไวไว ขอให้วีไปชอบคนอื่นแทน พี่โยก็ได้ :hao4:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: maytarapat ที่ 28-04-2015 21:10:54
สงสารน้องวี รักแต่ทำอะไรไม่ได้
สู้ๆๆๆๆ นะน้องวี
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: SLEEPERINDY ที่ 28-04-2015 22:49:07
ใจจิขาด หน่วงเฟ้อออ เจ็บทั้งคู่อ่ะเนอะ ไอ้คนรอก็ท้อ ไอ้คนเจ็บก็พยายามลืมเพื่อคนรอ มาต่อไวไวน้า  :o12: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: muiko ที่ 28-04-2015 23:00:24
หึ ยังรักวีสินะ
แต่ทำแบบนี้นะพี่ชิน มีแต่คนเสียใจป่ะ
หลายเดือนที่ผ่านมา ถ้าไม่ไปอยู่ในหลีบไหนของโลก
ทึ่ไม่ได้ติดต่อผู้คน คงพอจะตรัสรู้ได้นะ ว่า วีไม่ได้คบพี่ติณ
ถ้ายังหยิ่ง ไม่มาขอคืนดี ก็ขอให้วีไปรักคนอื่นเถอะ
รำคาญอ่ะ ผู้ชายแบบนี้
แล้วน้ำอีก ก็คบมาได้หลายเดือนดีนะ หึ คบต่อไปเลย อย่ามายุ่งกะวีนะ  :m31:
วีวูบไปแบบนี้ จะทำไง ถ้าไม่เข้ามาช่วย ก็แล้วแต่นะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: Cinnamon Roll!!! ที่ 29-04-2015 21:46:46
จะสนใจน้องได้รึยังพี่ชิน นี่ถึงขนาดน้องเป็นลมแล้วน่ะ สังเกตุไหมว่าน้องมันไม่ได้เป็นแฟนกับพี่ตินณ์น่ะ  แล้วน้ำนี่ยังคบกันอยู่เนอะ  ถ้าน้องมันลืมได้แล้วมีคนใหม่ จะสมน้ำหน้าให้ดู หึหึ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 26 up 28/4/2015 p.15
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 29-04-2015 23:05:29
มาต่อไวๆนะครับ อ่านรวดเดียวถึงตอนที่ 26 เลย

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 ที่ผมอ่านแล้วอยู่ๆ น้ำตาไหล
อาจจะเคยมีประสบการณ์แบบนี้ ที่รู้ใจตัวเองช้า ผมเลยเข้าใจความรู้สึกของตัวหลัก (วี)
โดยเฉพาะฉากลากันตอนเป็นแฟนๆปลอม มันสะกิดใจผมลึกๆมาก เข้าใจเลย

ไงก็มาต่อไวๆนะครับ เรื่องดีๆแบบนี้ เขียนให้จบเลยนะครับ เป็นกำลังใจให้คนเขียนครับ
หัวข้อ: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 29-04-2015 23:13:45

ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27


“เออฝากดูด้วยแล้วกัน กูขอเฝ้าทางนี้ก่อน น้องยังไม่ฟื้นเลย เออๆเดี๋ยวโทรบอก”

“ผมเป็นอะไรเหรอครับ” ผมถามพี่โยเสียงเบาหลังตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียง และพี่โยยื่นโทรศัพท์อยู่ข้างๆ

“วี! ฟื้นแล้วเหรอ เป็นไงบ้างปวดหัวรึเปล่า หิวน้ำไหม”  พี่โยถามเสียงตื่นเมื่อหันมาเห็นผม

“ไม่ครับ ผมอยากรู้ว่าตอนนี้ผมอยู่ที่ไหนและเป็นอะไรมากกว่า” ผมส่ายหน้าช้าๆก่อนถามอีกครั้ง

“ตอนนี้วีอยู่ห้องพยาบาลของทางรีสอร์ทน่ะ จำได้ไหมว่าวีเป็นลมตอนทำกิจกรรม หมอมาดูแล้วบอกว่าวีพักผ่อนไม่เพียงพอ แถมร่างกายังขาดสารอาหารด้วยต้องให้น้ำเกลือกับกลูโคส ถ้าหมดขวดก็คงอาการดีขึ้น” ผมเพิ่งสังเกตเห็นว่าหลังมือตัวเองมีเข็มเจาะอยู่แล้วมันก็โยงสายไปที่กระปุกน้ำเกลือที่อยู่บนยอดเสาข้างเตียง


“ผมไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย” ผมว่าเสียงอู้อี้

“ไม่ได้เป็นอะไรล่ะ ร่วงทั้งยืนขนาดนั้น ดีนะที่ทางรีสอร์ทมีห้องพยาบาลกับหมอที่โทรตามได้ตลอด”

“ขอบคุณนะครับที่ช่วยพาผมมาที่นี่” จำได้ว่าก่อนจะหมดสติผมกำลังทำกิจกรรมอยู่แล้วเสียงพี่โยกับไอ้แบตก็ดังขึ้นพร้อมกัน ภาพสุดท้ายที่เห็นคือทั้ง 2 คนกำลังวิ่งมาที่ผมหน้าตาตื่น

“วีจำเหตุการณ์ตอนนั้นไม่ได้เหรอ” พี่โยนั่งลงข้างเตียงก่อนถาม

“จำได้แค่พี่กับไอ้แบตกำลังวิ่งมาหาผมพร้อมกัน เอ่อ...มีอะไรหรือเปล่าครับหรือผมเข้าใจผิด จริงๆแล้วไอ้แบตเป็นคนพาผม” ผมชักเริ่มไม่แน่ใจ

“เปล่าหรอก ไอ้แบตไม่ได้พาวีมา”

“แล้วตอนนี้มันไปไหนเหรอครับ” ตั้งแต่ตื่นมายังไม่เห็นมันเลยครับ

“อ๋อ! มันไปตักข้าวต้มมาให้วีน่ะดึกแล้วเผื่อตื่นมาแล้วจะหิว พี่เลยอยู่เฝ้าวีก่อน นั่นไงมาพอดีเลย” พี่โยว่าก่อนประตูห้องพยาบาลจะถูกผลักเข้ามา


“ไอ้วีตื่นแล้วเหรอวะ มึงรู้ไหมกูเป็นห่วงแทบแย่  มึงนอนไป 5 ชั่วโมงเลยนะเว้ย” เสียงดังมาแต่ไกลมือยังไม่วางชามข้าวต้มด้วยซ้ำครับ


“ตื่นแล้วทีโทษนอนนานไปหน่อย แล้วลูกแพรไปไหนล่ะ” ผมแกล้งว่าก่อนถามหาลูกแพรหลังมองหาแล้วไม่เห็นเดินตามเข้ามาด้วย

“ลูกแพรก็อยากมาเฝ้ามึงนะ แต่ถูกขอให้ไปช่วยดูแลเรื่องอาหารเลยมาไม่ได้เห็นบอกว่าถ้าเสร็จแล้วจะรีบมา ว่าแต่มึงกินข้าวเลยไหมกูป้อน” 

“กูยังไม่หิวเลยว่ะ ตอนนี้กี่โมงแล้ววะ” ผมตอบก่อนขยับตัวนั่งแล้วมองไปข้างนอกตอนนี้มืดสนิทแล้วครับ

“สองทุ่มครึ่ง ถึงไม่หิวมึงก็ต้องกินใช่ไหมครับพี่โย” มีการหันไปหาผู้ช่วยด้วยนะ

“ใช่ครับ วีต้องกินนะจะได้หายไวๆ ข้าวต้มร้อนๆ หอมมากเลยพี่ป้อนก็ได้” พี่โยว่ายิ้มๆก่อนรับชามข้าวต้มจากไอ้แบตขึ้นมาทำท่าสูดกลิ่นหอมโชว์ผม


“เอ่อ.....”

“อ่ะ…อ้าปากครับ” พี่โยว่าพร้อมยื่นช้อนที่ตักข้าวต้มทะเลมาตรงหน้า

“งั้นผมกินเองได้ครับ”  ผมชะงักไปก่อนบอกพี่โยเสียงเบา ทำไมทั้งที่ตรงหน้าเป็นพี่โยแท้ๆแต่ผมกลับเห็นเป็นใครอีกคนหนึ่งซ้อนทับขึ้นมา  ภาพที่เคยหยอกล้อป้อนข้าวให้กันในวันที่มีความสุขกว่านี้

“ไม่ได้ตอนนี้วียังไม่มีแรงเดี๋ยวทำหก ให้พี่ป้อนดีแล้ว” เมื่อพี่โยว่าอย่างนั้นผมก็ไม่อยากดื้อดึงเอาชนะยอมปล่อยให้พี่โยป้อน หลังจากคำแรกหมดคำใหม่ก็ถูกส่งมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนไอ้แบตก็นั่งยิ้มบ้าอะไรของมันคนเดียวก็ไม่รู้ครับ

“ไอ้โยวีฟื้นรึยังวะ” ช้อนที่กำลังยื่นมาจนเกือบถึงปากผมมีอันต้องชะงักพร้อมกับผมที่หันไปมองที่มาของเสียง

“ฟื้นแล้วนี่ไงกำลังกินข้าวอยู่” พี่โยตอบพี่ชินก่อนยื่นช้อนมาตรงหน้าผมอีกครั้ง

“ผมอิ่มแล้วครับพี่โย” ผมว่าก่อนส่ายหน้า

“อิ่มอะไรเพิ่งกินไปไม่กี่คำเอง กินอีกหน่อยสิ”

“แต่ผมไม่ไหวแล้วจริงๆครับ” ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกอยากอาเจียนเอาสิ่งที่เพิ่งกินเข้าไปออกมาให้หมดไส้หมดพุง

“อีกคำเดียวจริงๆ หมดคำนี้แล้วพอเลยนะ” พี่โยประเลาะผมเป็นเด็กเลยครับ แต่เห็นรอยยิ้มจริงใจแบบนี้แล้วผมก็ปฏิเสธไม่ลง
 
“พอแล้วนะครับ” ผมว่าก่อนอ้าปากรับข้าวต้มคำสุดท้ายเข้าปาก ทั้งที่ความรู้สึกมวนท้องยังไม่หาย




“ทำไมต้องป้อนกันด้วย”

“ก็วีไม่สบายมึงก็เห็น ไม่ป้อนแล้วจะให้น้องกินเองรึไง” พี่โยหันไปตอบพี่ชินเสียงดังเลยครับ

“แค่เป็นลมไม่ได้เป็นง่อย มึงไม่ต้องบริการขนาดนั้นก็ได้มั้ง” ไม่รู้พี่ชินไปโมโหอะไรมารึเปล่าถึงได้พูดเสียงแข็งจนผมจับอารมณ์ได้ว่าตอนนี้คงอารมณ์ไม่ดีแน่ๆครับ


“มันเป็นเรื่องของกูมึงไม่เกี่ยว”  ผมเห็นพี่โยจ้องหน้าพี่ชินนิ่งๆเหมือนพยายามสงบอารมณ์ก่อนว่าช้าๆและเน้นประโยคสุดท้าย

“..........................” พี่ชินยืนเงียบ แต่สายตาขุ่นมัวพร้อมจะมีเรื่องเต็มที่  ผมเห็นแล้วไม่สบายใจเลยครับ ถึงจะรักพี่ชินแค่ไหนแต่ทำแบบนี้มันไม่ถูก ไม่รู้ไปโกรธใครมาแล้วจะมาลงที่พี่โยได้ยังไง พี่โยไม่ใช่ที่จะรองรับอารมณ์ใครนะ

“พี่ชินผมอยากพักผ่อน ขอร้องเถอะครับอย่าหาเรื่องกันเลย พี่โยขอบคุณนะครับ” ผมว่าก่อนล้มตัวลงนอนบนที่นอนอีกครั้ง

“เดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้นะ”

“ไม่ต้อง!!” เสียงพี่ชินแทรกขึ้นก่อนที่พี่โยจะพูดจบประโยคซะอีกครับ

“...........................” ผมกับไอ้แบตมองหน้ากันนิ่งๆ เหมือนขอคำปรึกษาไม่รู้ว่าระว่างพี่โยกับพี่ชินมีอะไรกันมาก่อนหน้ารึเปล่าถึงได้อารมณ์เสียใส่กัน  ผมสงสัยตั้งแต่ตอนนั่งรถมาพี่โยก็ไม่นั่งเบาะเดียวกับพี่ชินทั้งที่ออกจะสนิทกัน

“วีพี่ว่า..........”

“ผมขอพักผ่อนก่อน พี่โยไม่ว่ากันนะครับ”  ผมว่าเมื่อพี่โยทำท่าจะไม่ยอม ผมเห็นสายตามุ่งมั่นอยากเอาชนะมาจากดวงตาคู่นั่น แต่ผมต้องไม่ใช่เครื่องมือ

“ไม่ว่าครับงั้นน้องวีนอนไปเถอะ อีกซักครึ่งชม. น้ำเกลือคงหมดเดี๋ยวพี่มาดูใหม่นะ”

“ครับ” ผมตอบรับก่อนพี่โยจะยิ้มให้แล้วเดินออกจากห้องไป   ผมหันกลับมองพี่ชินที่ยืนนิ่งอยู่กลางห้อง แล้วก็เดินออกไปไม่พูดอะไรซักคำ

“เกิดเป็นมึง ชีวิตแม่งหน้าปวดหัวชิบหาย”

“มึงว่าอะไรนะ” ผมหันไปถามไอ้แบตที่พูดอะไรแว่วๆแต่ผมฟังไม่ทัน

“ป่าว แล้วมึงจะนอนรึยังกูจะได้ไปกินข้าวบ้าง”

“เออๆ มึงไปกินเลยเดี๋ยวกูหลับอีกตื่น น้ำเกลือคงหมดพอดีว่ะ อยากออกไปดูการแสดงรอบกองไฟ”  ป่านนี้คงเริ่มการแสดงกันไปแล้วครับ ไม่รู้ใครจะมาเล่นแทนผมแต่คงหาคนได้ไม่อยากเพราะผมไม่ได้รับบทเด่นอะไร

“กูจะรีบไปรีบมานะ” ไอ้แบตว่าผมก็พยักหน้าให้มันถึงยอมเดินถือชามข้าวต้มที่เหลือออกจากประตูไป





โอ๊ก!!...........โอ๊ก!!...........

เสียงโก่งคออาเจียนดังไปทั่วห้องน้ำ ตอนนี้ผมแทบเกาะขอบชักโครกอาเจียนถ้าไม่ติดสายน้ำเกลือที่ต้องหิ้วมาด้วย หลังจากไอ้แบตออกไปยังไม่พ้นประตูดี ความรู้สึกปั่นป่วนก็ตีขึ้นจากช่องท้องมาจุกอยู่ที่คอ ผมรีบก้าวลงจากเตียงอย่างทุลักทุเลเพื่อพาเจ้าขวดน้ำเกลือมาเข้าห้องน้ำด้วย แล้วทุกสิ่งที่อยู่ในท้องมันก็ถูกระบายออก ผมอาเจียนจนแสบจมูกแสบคอ  น้ำตาก็ไหล ทั้งที่อาเจียนจนมีแต่น้ำ ไม่เหลืออะไรแล้วมันก็ยังรู้สึกอยากอาเจียนอยู่เลยครับ

“มึงกำลังคิดจะทำอะไรกันแน่”

“กูจะทำอะไรมันก็ไม่เกี่ยวกับมึง ทำไมหวงของที่ทิ้งไปแล้วรึไง” หลังอาการดีขึ้น  ผมป้วนปากเสร็จแล้วออกจากห้องน้ำเพื่อจะเดินกลับไปที่เตียงแต่ก็ต้องชะงักเพราะได้ยินเสียงคนคุยกันดังลอดเข้ามาในห้อง

“ไอ้สัส! กูบอกแล้วว่าไม่ได้ทิ้ง แล้วมึงก็เคยรับปากว่าจะไม่ยุ่งกับวี”

“นั่นมันเรื่องสมัยไหน กูไม่ยุ่งเพราะเห็นว่าเพื่อนอย่างมึงจีบไง แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ ตัวเองไม่เอาก็อย่ามาหวงก้างเพื่อน กูจะดูแลวีเองมึงนั่นแหละหลบไป”

“กูไม่หลบจนกว่ามึงจะรับปากกูว่าจะไม่ยุ่งกับวีอีก”

   “ เรื่องนี้วีต้องเป็นคนตัดสินใจ ไม่ใช่เรื่องของมึง!!”

“ไอ้โย!!”

“มึงเป็นคนตีตัวออกมาจากน้องเองแล้วจะมาโวยวายอะไร ทำตัวจะเป็นตายทั้งที่มีแฟนใหม่แทบทันที มึงบอกกูสิว่าควรให้กูสงสารมึงไหมที่มึงทำตัวเองแบบนี้”

“..............................”

“วีเป็นคนไม่ได้เป็นตุ๊กตา น้องมันมีหัวใจนะเว้ยไม่ใช่มึงอยากให้ชีวิตน้องเป็นแบบไหน น้องก็ต้องทำตาม เป็นตามที่มึงอยากให้เป็น มึงไปกำหนดชีวิตน้องไม่ได้มึงไม่ใช่ศูนย์กลางจักรวาล”

“กูไม่ได้................”

    “มึงไม่ได้อะไร มึงนั่นแหละตัวดี กูจะบอกให้หายโง่ มึงมันเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด ดูน้องมันดิตอนนี้มีความสุขไหม มีความสุขอย่างที่มึงอยากให้มีไหม  ถ้ากูปล่อยให้มึงจีบน้องแล้วมึงทำกับน้องแบบนี้ ต่อไปมึงอย่างหวังว่ากูจะให้แม้แต่เข้าใกล้ ”

“ถึงกูจะโง่ที่ทำทุกอย่างเพื่อความสุขของวี แต่มึงก็ไม่มีสิทธ์ยุ่งกับเรื่องนี้”

“ความสุขเหี้ยอะไรของมึง มึงมองบ้าง น้องมันมีความสุขจนต้องเป็นลมเป็นแร้ง หามกันมาถึงห้องพยาบาลแบบนี้เหรอที่มึงเรียกความสุข กูจะไม่ทนดูมึงทำร้ายทั้งร่ายกายและจิตใจน้อง โดนไม่ทำอะไรอีกต่อไป หลบ”






“เฮ้ย! ไอ้วีมึงเป็นอะไรทำไมมานั่งร้องไห้ตรงนี้”

“อึก...ไอ้แบตกะ...กูไม่รู้ กูสับสน อึกมึงช่วย....ช่วยกูนะช่วยกูด้วยนะ  อึก....กูเจ็บ เจ็บตรงนี้เจ็บเหลือเกิน” ผมโผเข้ากอดทันทีที่มันยื่นมือเข้ามาจะช่วยพยุงผมที่นั่งอยู่หน้าประตูขึ้นยืน  จานใส่ผลไม้ที่มันถือมาร่วงไปกองอยู่ที่พื้นข้างตัว หลังจากเสียงคุยกันด้านนอกเงียบไปผมก็ได้แต่นั่งสับสนอยู่ตรงนี้ ไม่รู้จะหาทางออกให้ตัวเองยังไงดี

 “มึงเป็นอะไร ใจเย็นๆค่อยๆเล่านะ”

ตอนนี้หัวใจผมมันไม่แข็งแรงเลยครับ เวลาหลายเดือนที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้ผมเข้มแข็งขึ้นเลย ทั้งที่รู้ว่าพี่โยเป็นห่วงและหวังดีกับผมมากขนาดไหนแต่มันก็ยังไม่ดีใจเท่ารู้ว่าพี่ชินยังหวงผมอยู่  นั่นแปลว่าพี่ชินยังมีผมอยู่ในหัวใจใช่ไหม แม้มันจะเป็นเศษเสี้ยวเล็กๆแต่มันก็ยังมีเหลือใช่ไหม เพียงเท่านี้ความตั้งใจที่จะลืมพี่ชินของผมก็พังทลาย ผมแทบอยากวิ่งเข้าไปขอร้อง อ้อนวอนให้พี่ชินกลับมา กลับมาเถอะกลับมารักกันเหมือนเดิม


แต่ความถูกต้องมันกำลังตีกับความต้องการจนยุงเหยิงไปหมด ผมต้องเตือนตัวเองว่าตอนนี้พี่ชินมีแฟนแล้ว พี่ชินไม่ใช่ของผมแล้วผมต้องทำใจ ต้องตัดใจให้ได้แต่มันยากเหลือเกิน


“กู....อึก....กูจะทำยังไงดี กูลืมพี่ชินไม่ได้”

“...............................”


   “กูรู้ว่า.....อึก....มันผิด...แต่กูพยายามแล้ว .....กูจะทำยังไงดี มึงบอกกูหน่อยว่ากูควรทำยังไง แค่ได้ยินเสียง แค่รับรู้ว่าเขายังห่วงยังหวง กูก็ดีใจแทบบ้า อึก.....กูเกลียดตัวเองว่ะ ทำไมวะทำไมกูถึงลืมไม่ได้ซะที” ผมร้องไปพูดไปจนแทบฟังไม่รู้เรื่อง ตอนนี้เสื้อมันคงเปียกไปด้วยน้ำตาแต่ผมก็ไม่สนใจ


“มึงต้องเข้มแข็งนะ กูรู้ว่ามึงทำได้แต่มันคงต้องใช้เวลา กูอยู่ตรงนี้อยู่กับมึงตรงนี้มีอะไรบอกกู”

“บอกกูที กูต้องทำยังไงถึงจะลืมพี่ชินได้”

“มึงต้องเข้มแข็งไง เข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจแล้วมึงก็จะเอาชนะความรู้สึกนั้นได้เอง”

“มึงต้องช่วยกูนะ สัญญาสิว่าจะช่วยกู ทำให้กูลืมพี่ชินให้ได้ กูไม่อยากทรมานแบบนี้อีกแล้ว”

“ความทรมานมันอยู่ที่ใจ ถ้ามึงปล่อยได้เมื่อไหร่มึงก็จะสบายเอง”

“ปล่อยเหรอ” ผมเงยหน้าจากเสื้อที่ชื้นน้ำตา ขึ้นจ้องหน้า

“อืม อะไรที่ทำให้มึงไม่สบายใจก็ปล่อยมันไปอย่าไปยึดติด เอาแบบนี้ไหมมึงก็ถือซะว่าครั้งนี้เรามาเที่ยวพักผ่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้กูจะพาไปปั่นรถเล่น ได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้างมึงอาจจะดีขึ้นก็ได้”

“ปั่นรถจักรยานเหรอ”

“ใช่รถจักรยานปั่นไปตามแนวสนช่วงเช้าๆอากาศดีนะ” ครั้งก่อนผมก็ถีบรถจักรยานกับพี่ชินเหมือนกัน แต่ครั้งนี้มันอาจจะไม่เหมือนเดิมก็ได้

“ไปสิ” ผมไม่อยากทำให้ไอ้แบตมันผิดหวังที่อุตส่าห์ช่วยคิดหาทางออกให้เลยยอมตกลงไป ทั้งที่ก็ไม่รู้ว่ามันจะทำให้ดีขึ้นหรือแย่ลงกว่าเดิมแน่

“งั้นวันนี้มึงไปนอนที่เตียงก่อนแล้วพรุ่งนี้ค่อยไปกัน”

   “แต่กูอยากออกไปดูการแสดงรอบกองไฟ”

“มึงป่วยขนาดนี้ยังอยากจะไปอีกนะ ไม่ต้องเลยมึงไปนอนที่เตียงเดี๋ยวนี้”

หลังจากมันพยุงผมกลับมานอนที่เตียงได้สำเร็จมันก็นั่งเฝ้าไม่ยอมให้ผมขยับตัวไปไหนอีก ผมก็เอาแต่นอนคิดวกวนในเรื่องเดิมๆซ้ำมาซ้ำไปจนลูกแพรเข้ามาเยี่ยมพร้อมพี่โย ไอ้แบตเลยขอตัวไปอาบน้ำก่อนจะกลับมานอนเฝ้าผมอีกครั้ง ตอนแรกน้ำเกลือหมดผมจะกลับไปนอนที่บ้านพักของตัวเองแต่ไอ้แบตกับพี่โยไม่ยอมจะให้ผมนอนที่นี่เพื่อดูอาการก่อน ผมเลยจำใจนอนจนถึงเช้า


เมื่อคืนผมฝันด้วยครับเป็นฝันดีที่มีพี่ชินอยู่ข้างๆ ผมรู้สึกว่าตัวเองตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วมีคนมานั่งอยู่ข้างเตียงคอยจับมือผมไว้แล้วฟุบหน้ากับเตียงที่ผมนอน ตอนแรกผมนึกว่าไอ้แบตแต่มองไปในเงาสลัวกลับเห็นมันก็นอนอยู่ที่โซฟาไม่ห่างกัน ดังนั้นคนที่จับมือผมต้องไม่ใช่มันแน่ๆ ความอบอุ่นที่ได้รับผ่านสัมผัสที่ปลายนิ้วบอกผมว่ามันเป็นสัมผัสที่ผมคุ้นเคย สัมผัสที่ผมโหยหามาหลายเดือน ความอบอุ่นที่ได้รับทำให้ผมรู้ว่าผู้ชายคนนี้ต้องเป็นพี่ชินของผมแน่ๆ 

อยากเอื้อมมือไปสัมผัสเส้นผมนุ่มตรงหน้าเหลือเกินแต่ก็กลัวว่าคนตรงหน้าจะหายไป เป็นเพียงนโนภาพที่ผมสร้างขึ้น ผมเลยได้แต่นอนมองและรับสัมผัสอบอุ่นจากมือที่โดนจับไว้จนหลับตอนไหนไม่รู้  ตื่นเช้ามาในห้องก็ไม่เหลือใครนอกจะผมคนเดียว  ผมเลยคิดว่าเมื่อคืนผมต้องฝันแน่ๆครับ ก็ผมไม่ได้เจอพี่ชินมาตั้งนานพอเจอเลยเก็บมาฝันสินะ





“ไอ้วีทางนี้ มึงปั่นไหวแน่นะ”

“ไหวดิ กูไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นเว้ย” ผมว่าไอ้แบตก่อนยิ้มให้ลูกแพรที่ยืนอยู่ข้างกัน หลังจากกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จผมก็เดินมาหาไอ้แบตที่ยืนรอไปปั่นจักรยานด้วยกันตามนัด

“ถ้าไหว งั้นก็กันเลยเนอะ” ลูกแพรว่ายิ้มๆ เมื่อผมพยักหน้าไอ้แบตกับลูกแพรก็เริ่มปั่นจักรยานนำหน้า ผมก็ปั่นตามไปติดๆ เช้าๆแบบนี้อากาศเย็นสดชื่นมากเลยครับ ลมเย็นๆปะทะหน้าไปตลอดทาง ผมปั่นไปเรื่อยๆพร้อมกับนึกถึงวันเวลาที่เคยมีความสุขร่วมกับใครอีกคนหนึ่ง ตอนผมเราปั่นจักรยานคันเดียวกัน ถึงผมจะโดนแกล้งให้เอาผู้ชายตัวโตซ้อนท้าย แต่ก็ยังยิ้มได้ไม่เหมือนตอนนี้ที่ต้องปั่นคนเดียวมันไม่สนุกเอาซะเลยครับ


“ไอ้แบต ลูกแพร ปั่นไปกันก่อนเลยนะ” ผมบอกพร้อมชะลอความเร็วรถลงเรื่อยๆ

“อ้าวทำไมล่ะวี” ลูกแพรหันมาถามพร้อมหยุดรถตาม

“วีปั่นไม่ไหวแล้ว ขอเดินเล่นแถวนี้แทนนะ”

“แบตงั้นเราเดินเล่นกันไหม”

“เดินเล่นก็ดีนะ”

“เฮ้ย! ไม่ต้องไปปั่นรถจักรยานเล่นกันเถอะ ข้างหน้าคงจะสวยกว่านี้”  ผมเคยไปแล้วสวยจริงๆเลยอยากให้มันไปปั่นรถเล่นกัน ไม่อยากให้มาคิดมากกับเรื่องของผม

“แต่.......”

“กูขอเดินเล่นคนเดียวนะ ขอให้กูได้คิดอะไรหน่อย” ผมบอกไอ้แบตเบาๆ มันจ้องหน้านิ่งเหมือนกำลังตัดสินใจ

“มึงจะไม่ทำอะไรโง่ๆใช่ไหม” มันถามเสียงนิ่ง

“กูไม่ได้สิ้นคิดขนาดนั้นมึงไม่ต้องห่วง ไปเที่ยวกันเถอะ”  ผมว่าก่อนยิ้มให้ทั้ง 2 คน

“งั้นเดี๋ยวกูกลับมารับนะ”


“อืม ไม่ต้องรีบ” ผมว่าก่อนมันจะเริ่มปั่นนำลูกแพรออกไป  ผมมองจนลับตาก่อนเข็นรถจักรยานมาแอบไว้ข้างต้นสน แล้วเดินจากถนนลงไปริมชายหาดที่ทอดยาวและมีแสงแดดอ่อนๆ ตอนนี้ยังไม่ร้อนมาก

ผมถอดรองเท้าเดินไปเรื่อยๆตามทางที่ทอดยาว ปล่อยให้น้ำทะเลซัดฟองคลื่นมากระทบขาให้ความรู้สึกเย็นสบาย ตอนนี้เหมือนใจจะสงบลงเมื่อได้อยู่กับธรรมชาติ แบบนี้หรือป่าวนะที่เขาเรียกกันว่าปล่อยให้ธรรมชาติได้เยี่ยวยาหัวใจ


            ----- โปรดติดตามตอนต่อไป -----

             ไม่รู้จะบอกว่าอะไร นอกจากอย่าเกลียดพี่ชินเลยค่ะ
                :กอด1:   :กอด1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 29-04-2015 23:23:23
มาม่าใกล้หมดชามแล้วใช่มั้ยยยย
สงสารนุ้งวีจะแย่แล้ว
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: kutelittlepoly ที่ 29-04-2015 23:27:42
ขอบคุณค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: gwaiplay ที่ 29-04-2015 23:28:37
โถ..คุณวีของบ่าว  :hao5:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: pemiko2012 ที่ 29-04-2015 23:30:01
 :serius2: :serius2: :serius2:
 :sad4: :sad4: :sad4:

สงสารวี ฮือออออออออออออ
พี่ชินใจร้าย ไม่สงสารน้องหรอ
อย่าทำแบบนี้
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: muiko ที่ 29-04-2015 23:42:14
คบน้ำเพืีอหลอกให้วีไปมีความสุขกับคนที่รักหรอพี่ชิน
คือมันบ้ามากกกก
ใจตรงกันแท้ๆ
แล้วทำหวงก้างแบบนี้ไม่ไหวนะ รักแต่ไม่ดูแล
เราถือว่าไม่ใช่ความรักนะ  :m16:

ขอให้กลับใจทัน ก่อนจะเสียวีไปตลอดกาล   :katai1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: Cinnamon Roll!!! ที่ 30-04-2015 00:06:20
พี่ชินมะรัยจะเลิกๆกะยัยน้ำเน่าซะที   จะบื้อจะเก๊กจะไปไหน  รึจะรอให้พี่โยมาเสียบ ก็ดีน่ะพี่โยคงแสดงออก และดูแลน้องได้ดีกว่าพี่ชินน    :katai1:  ค้างอย่างแรง
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 30-04-2015 00:48:31
เข้มแข็งไว้น้องวี
พี่ชินทำตัวเองแท้ๆ เจ็บคนเดียวไม่พอ ทำคนอื่นๆเจ็บด้วย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 30-04-2015 00:56:20
เฮ้ออออ. เมื่อไหร่จะเข้าใจกัน.
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 30-04-2015 01:52:55
แถวนั้นมีมะพร้าวเป็นลูกใช่ไหม?
ขอสักโหล จะเอามาเขวี้ยงใหส่หัวอิชิน
เรื่องมากนัก ท่ามากนัก พี่โยจีบไปเลย
คิดแทนคนอื่นเขา เมิงก็ไปเอาชะนีแล้วด้วย  ชริ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: JAROEN ที่ 30-04-2015 02:40:48
รอ รอ รอ รอ รอ จะเอ๋ รอ รอ รอ จะเอ๋
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 30-04-2015 02:45:35
สงสารหนูวี
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: P★RiTŸ ที่ 30-04-2015 03:18:41
หืมมมมม หมดคำพูด
จะด่ามันว่าไรดีเนี้ยยย
สงสารก็แต่น้องวี เฮ้อ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 30-04-2015 04:14:41
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: honey_noii ที่ 30-04-2015 06:32:48
พี่ชินคนโง่  สงสารน้องวี
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 30-04-2015 07:11:56
อยากเปลี่ยนพระเอกกระทันหันมาเป็นพี่โยจังและค่อยกลับไปคืนดีกับพี่ชินทีหลังให้พี่ชินมันเจ็บอีกนิดนะะะะะะเมจิกสนุกดี555555555
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: cross ที่ 30-04-2015 07:15:25
หมดคำพดกับชิน เหตุผลแค่นี้ ฟังไม่ขึ้นว่ะ
ปล่อยแล้วปล่อยเลยอย่าหวงก้างชิว่ะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 30-04-2015 07:18:39
อยากเปิดเพลงนี้ให้น้องวีมากกก#ปล่อย#
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 30-04-2015 07:21:07
 :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: mr.nine ที่ 30-04-2015 07:50:51
ขอบคุณคับ o13
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: naoai ที่ 30-04-2015 08:18:10
ไม่ทันละ เกลียดอีพี่ชินไปละ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 30-04-2015 08:53:47
มาม่าหมดชามยัง สงสารวีแล้ววววววว
 :mew6:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: fahhee_zeze ที่ 30-04-2015 08:59:13
บอกว่าอย่าเกลียดพี่ชิน?.....ไม่เกลียดหรอก..... แต่โคตรเกลียด !!!!!!  :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: JAROEN ที่ 30-04-2015 09:16:16
หึ ยังรักวีสินะ
แต่ทำแบบนี้นะพี่ชิน มีแต่คนเสียใจป่ะ
หลายเดือนที่ผ่านมา ถ้าไม่ไปอยู่ในหลีบไหนของโลก
ทึ่ไม่ได้ติดต่อผู้คน คงพอจะตรัสรู้ได้นะ ว่า วีไม่ได้คบพี่ติณ
ถ้ายังหยิ่ง ไม่มาขอคืนดี ก็ขอให้วีไปรักคนอื่นเถอะ
รำคาญอ่ะ ผู้ชายแบบนี้
แล้วน้ำอีก ก็คบมาได้หลายเดือนดีนะ หึ คบต่อไปเลย อย่ามายุ่งกะวีนะ  :m31:
วีวูบไปแบบนี้ จะทำไง ถ้าไม่เข้ามาช่วย ก็แล้วแต่นะ
ชอบมากอ่ะ อารมย์เข้าถึงสุดๆเลย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: maytarapat ที่ 30-04-2015 13:24:07
สงสารวี ปล่อยให้มันผ่านพ้นไปนะน้องวี
ชินนี่ยังไง อยากให้น้องมีความสุขแบบไหนกัน
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 30-04-2015 14:44:04
 :katai1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 01-05-2015 07:33:42
อ่านพาร์ทหลังๆ คือน้ำตาคลอดตลอด โกรธพี่ชินมาก คือจี๊ดดดเลย ทุกอย่างกำหนดขึ้นเองหมด
น้องอยากบอกรักหลายรอบก็ไม่เคยฟัง เอาแต่หนีปัญหา ถึงเวลาก็เย็นชาแล้วมีแฟนใหม่ คือไร
น้องก็ไม่ได้ไปคบกับพี่ติณแถมยังผอมลงๆ น่าสงสารมากอ่ะ นังแฟนใหม่ก็วีนแถมปากเสีย สมน้ำหน้าแล้ว
ที่แกเจอคนแบบนั้น มาโมโหตอนยังหวงกับพี่โยนี่แหละ จะเอาอะไร ไม่เข้าใจ แทบอยากเปลี่ยนพระเอกค่ะ
งอนหนักมาก น้องวีห้ามคิดสั้นนะ เข้มแข็งแล้วเชิดใส่ หาแฟนใหม่เลย #ทีมน้องวี

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 01-05-2015 12:58:36
รักแบบนี้...กุเหนื่อย!!!
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 01-05-2015 19:00:23
 ชินแม่งง่าวววว.  :z6:  ขออนุญาตไม่สุภาพ

คิดเอง เลือกเอง ถามวีสักคำป่ะว่าคบกับติณห์รีเปล่า
ปิดหู ปิดตา บอกรักวี แต่ไม่ฟังคำพูดอะไรสักอย่าง

สุดท้ายเลือกวิธีคบใครสักคนเพื่อลืมน้อง เจ็บกันให้ถ้วนหน้า
รักประสาอะไรฟะ. โอ๊ยเคือง   :katai1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: JAROEN ที่ 01-05-2015 20:57:20
 มาต่อเร็วๆนะจ๊ะ   :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: JAROEN ที่ 02-05-2015 21:27:13
 :monkeysad:แอบมาส่อง  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 03-05-2015 13:58:57
เศร้าแฮะ ตัดใจเป็นเรื่องยาก

ยิ่งอยากลืม หัวใจกลับยิ่งจำ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: Isunn ที่ 03-05-2015 17:51:11
เข้าใจอารมณ์ของชินนะ  เวลาที่รักใครจริงๆ  ก็อยากให้คนๆนั้นมีความสุข แม้ไม่ใช่ตัวเองก็ตาม

แต่การที่ชิน ทำเย็นชา และไม่ยอมฟังน้องอธิบายอะไร แถมหายหน้าไปเฉยๆแบบที่ผ่านมา ก็ไม่ถูก

สุดท้าย ทั้ง 2 คน ต้องค้นพบความต้องการของหัวใจแน่ๆ   เอาใจช่วยนะ  o13
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 03-05-2015 20:15:50
เข้าใจอารมณ์ของชินนะ  เวลาที่รักใครจริงๆ  ก็อยากให้คนๆนั้นมีความสุข แม้ไม่ใช่ตัวเองก็ตาม

แต่การที่ชิน ทำเย็นชา และไม่ยอมฟังน้องอธิบายอะไร แถมหายหน้าไปเฉยๆแบบที่ผ่านมา ก็ไม่ถูก

สุดท้าย ทั้ง 2 คน ต้องค้นพบความต้องการของหัวใจแน่ๆ   เอาใจช่วยนะ  o13

ดีใจน้ำตาจะไหล มีคนเข้าใจพี่ชินแล้ววว  :hao5: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: sittawan ที่ 04-05-2015 10:45:47
มาต่อเร้วๆน้าาา
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 04-05-2015 12:41:39
อยากจะเกลียดชินจริงๆ ปั๊ดโถ่
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: JAROEN ที่ 04-05-2015 17:41:06
 :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :katai4: :katai4: :katai4: :call: :call: :call: :call: :call: :call: จงมา
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 05-05-2015 19:47:40
คิดถึงวีจัง
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: BBlalabong ที่ 05-05-2015 22:08:02
รีบมาๆๆๆๆๆ :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: JAROEN ที่ 06-05-2015 22:02:55
 :c4: :c4: :c4: มาต่อเร็วๆ น้าาาาา  :L1: :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 09-05-2015 14:59:24
เมื่อไรจะมาต่ออ่ะ :(
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 10-05-2015 09:11:49
เมจิกคิดถึงน้องวีจังเมื่อไหร่น้องจะมาน้าาาา
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: JAROEN ที่ 10-05-2015 23:13:14
 :m15: เมจิก ตามหาน้องวีเจอยังอ่ะ ถ้าเจอแล้วฝากบอกน้องวีด้วย ว่าคิดถึงนะ รอเสมอ  :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 11-05-2015 22:55:22
เมื่อไรจะมาต่ออ่ะ อยากอ่านเรื่องนี้มากๆ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: chilatata ที่ 12-05-2015 21:29:37
เพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้นะคะ ชอบมากเลยค่ะ น่าร๊ากกก เป็นกำลังใจให้นะคะ รอตอนต่อไปอยู่นะคะ ^^
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: domeloly ที่ 13-05-2015 13:28:10
โง่ทั้งพระเอก และก็นางเอก
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27 up 29/4/2015 p.16
เริ่มหัวข้อโดย: เลิฟลี่ ที่ 13-05-2015 13:58:07
ดันๆ อยากอ่านต่อแล้วจ้าคนเขียน

น้องจะเป็นยังไงต่อไป ไม่ชอบชินตอนนี้เลยให้ตายสิ
หัวข้อ: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 13-05-2015 20:04:26

                ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 27.5


“เฮ้ย!วีจะทำอะไร”


“ไอ้วีอย่านะ ใจเย็นๆนะ ไหนมึงบอกจะไม่ทำอะไรแบบนี้ไงวะ”  อยู่ๆตัวผมก็ถูกรวบจากด้านหลัง ก่อนที่เสียงโวยวายจะดังขึ้นจนไม่รู้จะฟังใครก่อน 


ไม่รู้ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ทุกคนถึงได้แห่กันมาเยอะขนาดนี้ ทั้งพี่ชินที่รวบตัวผมชิดอกจนได้ยินเสียงหายใจหอบแรงเร็ว ไอ้แบตที่ยืนหน้าเครียดอยู่ข้างลูกแพรที่ทำหน้าตื่นไม่แพ้กัน แถมยังมีพี่โยกับชรุ่นพี่อีก 3 คนวิ่งเข้ามายืนมองไม่ห่าง

“เกิดอะไรขึ้น” ผมมองทุกคนสลับกันไปมาก่อนเอ่ยถามพร้อมพยายามแกะมือที่รัดลำตัวจนแน่น มือแกร่งที่เคยมั่นคงตอนนี้สั่นจนผมสัมผัสได้

“ก็มึงกำลังคิดจะทำอะไรล่ะ ไหนมึงบอกจะไม่คิดสั้นไง” ไอ้แบตตอบเสียงดังไปทั่วบริเวณสะพานปลาที่ผมมานั่งรับลมอยู่เมื่อไม่นานนี้เองครับ

“กูไม่....”


“ทำไมถึงทำแบบนี้ บอกพี่สิทำไมถึงคิดทำเรื่องสิ้นคิดแบบนี้” ผมพูดยังไม่ทันจบ เสียงสั่นๆของพี่ชินก็ดังขึ้นข้างหู นอกจากจะไม่ยอมปล่อยมือแล้วพี่ชินยังรัดผมแน่นขึ้นกว่าเดิมอีกครับ ในความรู้สึกอึดอัดผมกลับพบว่ามันมีความอบอุ่นซ่อนอยู่ นานเท่าไหร่แล้วนะที่ผมไม่เคยสัมผัสความอบอุ่นจากอ้อมแขนนี้


“พี่ชินปล่อยเพื่อนผมได้แล้ว” เสียงเครียดดังขึ้นจากเพื่อนผม


“พี่ชินผมหายใจไม่ออกครับ” ผมบอกเมื่อเห็นว่าพี่ชินไม่มีทีท่าจะคลายอ้อมแขนตามที่ไอ้แบตว่าแต่อย่างใด ถึงแม้ผมจะโหยหาอ้อมแขนนี้มากขนาดไหนแต่ในเมื่อมันไม่ใช่ของผมแล้วผมก็ไม่อยากได้อ้อมกอดที่จอมปลอม


“ไอ้วีมึงมานี่เรามีเรื่องต้องคุยกัน ไหนมึงบอกจะไม่คิดสั้นไงวะ”  ไอ้แบตว่าเสียงดังอีกครั้งก่อนเอื้อมมือมาดึงแขนผมเพื่อจะให้หลุดจากอ้อมกอดของพี่ชิน แต่แรงดึงหรือจะสู้แรงรัดที่เอวได้ นอกจากผมจะเจ็บแขนฟรีแล้วยังเจ็บเอวที่โดนรัดเข้าไปอีก


“คิดสั้น... ทำไมวีต้องคิดสิ้นด้วยบอกพี่สิ วีที่พี่รู้จักไม่ใช่คนที่อ่อนแอแบบนี้นี่” พี่ชินถาม


“ผมไม่ได้คิดสั้นอะไรทั้งนั้นแหละ มึงด้วยไอ้แบตพูดอะไรโง่ๆคนอย่างกูไม่มีทางสิ้นคิดขนาดนั้นหรอก” ผมตอบพี่ชินก่อนหันไปว่าไอ้แบต คนอื่นๆมองผมเหมือนเห็นตัวประหลาด ทำไมทุกคนต้องคิดว่าผมจะฆ่าตัวตายด้วยวะ ความคิดนี้ไม่เคยอยู่ในหัวผมเลยซักครั้ง


“ถ้ามึงไม่คิดแล้วมึงกำลังจะทำอะไร กูเห็นอยู่ว่ามึงกำลังจะกระโดดลงไป มึงว่ายน้ำไม่เป็นไม่ใช่เหรอ”


“เออว่ายไม่เป็นแล้วกูก็ไม่ได้จะกระโดดด้วย แต่กูกำลังจะเก็บรองเท้า มึงเห็นไหมไม้ที่ตกอยู่นั่นกูจะเอามาเขี่ยรองเท้าที่มันตกลงไป ถ้าไม่มีคนโวยวายเข้ามาจับกูไว้ป่านนี้เก็บได้แล้ว

ตอนนี้แม่งไม่รู้ลอยไปไหนแล้วอย่างนี้ใครจะรับผิดชอบล่ะคู่ตั้งหลายบาท” ผมว่ายาว ยังนึกเสียดายรองเท้าแตะที่เผลอทำตกลงน้ำไม่หาย ถึงจะคู่ล่ะ 49 บาท ข้างนึง 24 บาท 50 สตางค์ก็เถอะ แต่ใครล่ะจะขายรองเท้าข้างเดียวให้ผม ยังไงก็ต้องซื้อใหม่ทั้งคู่อยู่ดี


“ไอ้เชี้ยที่พวกกูตกใจกันหัวใจแทบวายนี่มึงแค่เก็บรองเท้า”

“อื้อ....” ผมพยักหน้าตอบนิ่งๆ

“สัส! น่าถีบลงน้ำให้ปลาแดกนักนะมึง พี่ชินช่วยปล่อยเพื่อนผมด้วยครับ” มันว่าผมเสียงโมโหเต็มที่ก่อนเปลี่ยนเป็นบอกพี่ชินนิ่งๆในตอนท้าย

“พี่ขอคุยกับวีก่อน”

“ไม่ได้ผมไม่ให้คุย พี่ควรปล่อยเพื่อนผมได้แล้ว ปล่อยให้มันเป็นอิสระเถอะ อย่ามารั้งมันไว้ด้วยความรู้สึกครึ่งๆกลางๆของพี่อีกเลย อย่าคิดนะว่าไม่มีคนรู้คนเห็นที่พี่มานั่งเฝ้ามันเมื่อคืนพี่จะทำไปทำไมในเมื่อพี่ไม่ได้รักมันแล้ว พี่มีคนของพี่ พี่เอาเวลาเอาความหวังดีที่มีไปให้คนของพี่เถอะ อย่ามายุ่งกับเพื่อนผมอีกเลย”

“พี่ชินปล่อยผมเถอะครับ อย่าทำให้ผมลำบากใจเลย” ผมว่าเสียงเบาเมื่อไอ้แบตพูดจบ แล้วอ้อมแขนที่รัดจนแน่นก็ค่อยๆคลายตัวออกจากเอวผมโดยง่าย  เรื่องเมื่อคืนที่ผมคิดว่าเป็นความฝันตอนนี้คงไม่ใช่แล้วสินะ


“วี” เสียงพี่ชินดังไล่หลังแม้จะเบาแสนเบาแต่ผมก็ได้ยิน และไม่คิดจะหันกลับไปมองด้วย


“ไอ้แบตลูกแพรกลับกันเถอะ” ผมเรียกเพื่อน 2 คนก่อนเดินผ่านพี่โยที่ยิ้มจางๆแล้วทำท่าจะให้รองเท้าตัวเองกับผมแต่ผมปฏิเสธก่อนเดินเท้าเปล่ามาตามผืนทราย


ผมกับเพื่อนเดินย้อนกลับมาทางเดิมก่อนไปเอารถจักรยานที่จอดทิ้งไว้โคนต้นส้น ลูกแพรกับไอ้แบตบ่นผมไปตลอดทางว่าหลังปั่นจักรยานกลับมาแล้วเห็นรถผมจอดอยู่แต่หาผมไม่เจอ เดินตามหาซะทั่วแต่หาอยู่นานก็ไม่เจอจนมาพบพี่ชินกับพวกพี่โยเข้าเลยขอแรงให้ช่วยกันตามหา แล้วก็มาเจอผมที่กำลังก้มๆเงยๆทำท่าเหมือนจะกระโดดลงน้ำอยู่ที่สะพานปลาเลยยิ่งตกใจ ลูกแพรเล่าว่าพี่ชินเป็นคนเห็นผมคนแรกแล้วรีบวิ่งแบบไม่คิดชีวิตเข้าไปจับผมไว้ก่อนที่คนอื่นๆจะวิ่งตามไปสมทบ


ถึงว่าทำไมพี่ชินถึงได้ตัวสั่น คงตกใจจริงๆครับผมก็มัวแต่อยู่กับตัวเองจนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานขนาดไหน ตั้งแต่แยกกับลูกแพรแล้วก็ไอ้แบตผมก็เดินตามชายหาดมาเรื่อยๆจนถึงโขดหินที่เคยมานั่งเล่น 

คิดว่าจะขึ้นไปนั่งซะหน่อยเพราะตรงนี้เห็นวิวรอบๆสวยดีแต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงคนกำลังคุยกัน  มองไปเห็นพี่น้ำกำลังยืนคุยกับใครซักคนเลยคิดจะถอยออกมา แต่เสียงที่ดังโต้ตอบกับพี่น้ำทำให้ผมต้องชะงัก

เสียงพี่ชินทำให้ขาที่กำลังจะก้าวหนักอึ้งจนเหมือนมีหินซักร้อยโลมาถ่วงไว้  ไม่ได้อยากรู้ไม่ได้ตั้งใจแอบฟังแต่ขามันไม่ยอมขยับเอง เสียงพี่น้ำกับเสียงพี่ชินดังสลับกันไปมาเป็นระยะก่อนผมจะเห็นพี่น้ำเดินเข้าไปกอดพี่ชินไว้ ภาพที่เห็นทำให้ผมเบือนหน้าหนีแล้วไม่รู้ผมออกมาจากตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีก็อยู่ที่สะพานปลาแล้วครับ


“แบต วีข้าวหมดแล้วกินมาม่าไหมเดี๋ยวแพรต้มให้” ลูกแพรที่อาสาเข้าไปหาของกินในครัวเดินออกมาถาม กลับมาถึงรีสอร์ตก็เลยเวลาอาหารเช้าจนเกือบถึงเวลาอาหารเที่ยวแล้วครับใครที่ไหนจะเก็บไว้รอ


“แบตเอา 2 ซองเลยนะ ไอ้วีมึงเอาไหม”


“เอา 2 ซองเหมือนกัน ทำไมมีอะไรวะ” ผมตอบก่อนถามกลับเมื่อเห็นไอ้แบตกับลูกแพรจ้องหน้าผมนิ่งเลยครับ เป็นอะไรวะไม่เคยเห็นกันรึไง

“กูแค่แปลกใจ เห็นมึงไม่ค่อยกินอะไรมานานแล้วทำไมอยู่ๆถึงจะกินตั้ง 2 ซองวะ”


“ไม่รู้สิ อยู่ๆกูก็อยากกินขึ้นมา”


"แบบนี้กูว่าอาการมึงดีขึ้นแล้วล่ะมั้ง"


"หึหึ ก็คงงั้นว่ะ"


“ได้ๆงั้นเดี๋ยวแพรไปต้มให้นะ ใส่หมูใส่ไข่แล้วก็ผักด้วยนะ” ลูกแพรว่าเสียงตื่นเต้น สีหน้าดีใจดีผมกินได้ไม่แพ้น้ำเสียเลยครับ


“ของแบตใส่ความรักลงไปด้วยก็ได้นะ” ไม่วายที่มันจะหยอด ขนาดอยู่ต่อหน้าผมนะ ถ้าไม่ใช่จะขนาดไหน


“มะเหงกแหนะ เดี๋ยวไม่ได้กินหรอก” ลูกแพรทำท่ายกมือยกไม้ส่งให้ไอ้แบตก่อนเดินเลี่ยงเข้าครัวอีกรอบ สงสัยไปตีซี้แม่ครัวของทางรีสอร์ตไว้ตั้งแต่เมื่อคืนครับ


“มึงได้ลายเซ็นใครบ้างรึยังวะ”  หลังต่างคนต่างนั่งเงียบกันซักพักไอ้แบตก็ถามขึ้นทำลายความเงียบ ผมกำลังคิดอะไรเพลินๆ สะดุ้งเลย

“ลายเซ็นอะไรวะ”


“อ้าวก็ลายเซ็นของรุ่นพี่ไง มึงไม่เอาไงเกียร์น่ะ”


“ลืมไปสนิทเลยว่ะ กูยังไม่ได้ขอใครซักคนแล้วของมึงล่ะได้บ้างรึยัง”


“ได้มาบ้างแล้วเมื่อคืน แต่ก็ยังขาดอีกเยอะอยู่”


“งั้นเดี๋ยวกินเสร็จค่อยไปเริ่มเดินขอกันไหม ช่วงบ่ายเขาให้อิสระอยู่แล้วนี่”


“เออ แต่มึงระวังไว้นะพี่แต่ละคนแม่งบ้าไม่รู้คิดว่าตัวเองเป็นดารารึไงกว่าจะให้ได้แทบคลานเข่าเข้าไปขอ”


“ฮ่าๆๆ ขอบใจที่บอกว่ะแต่ถ้าอยากได้รุ่นพี่ให้คลานกูก็คงต้องคลาน”  ผมว่าก่อนหยิบสมุดขอลายเซ็นที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงตั้งแต่เมื่อคืนขึ้นมาเปิดดู มีรายชื่อรุ่นพี่อยู่ทางซ้ายเต็มไปหมดแต่ทางขวาเป็นช่องลายเซ็นว่างเปล่าเลยครับ ยังไม่ได้ให้ใครเจิมแม้แต่ช่องเดียว  เมื่อสายตามองเห็นชื่อภิณโญก่อนไล่ไปสุดที่อัครนัยแล้วถึงกับต้องถอนหายใจยาวๆ ไม่รู้ผมต้องเจอกับอะไรอีกบ้างวะเนี๊ยะ


“พี่โยครับ”


“อ้าววีมีอะไรรึเปล่าถึงได้มาหาพี่ถึงนี่ แล้วหายดีแล้วเหรอทำไมไม่นอนพักต่อล่ะ” พี่โยถามทันทีที่หันมาเห็นผมยืนอยู่ไม่ห่าง ผมเห็นพี่โยกำลังนั่งดูรูปอยู่กับเพื่อนเลยเดินเข้ามาทัก


“ผมมีเรื่องยากคุยกับพี่ครับ”


“ได้สิว่ามาเลย  อ๋อแป๊บนึงนะ อ่ะเดี๋ยวกูมาดูต่อขอไปคุยธุระแป๊บ” พี่โยทำหน้าสงสัยว่าทำไมผมถึงไม่ยอมพูดธุระซักทีก่อนนึกขึ้นได้เลยหันไปส่งกล่องให้เพื่อนแล้วเดินนำผมออกมาจากโต๊ะนั่งใต้ต้นไม้หน้าบ้านพักของตัวเอง


“เด็กมาล่ะทิ้งพวกกูเลยนะมึง” เสียงเพื่อนๆพี่โยแซวดังไล่หลัง แต่ผมไม่ได้หันกลับไปมองว่าใครเป็นคนแซวครับ


“ไหนมีอะไรบอกพี่สิครับ” เดินห่างจากบ้านพักได้ซักระยะพี่โยก็หันกลับมายิ้มให้ผมก่อนถามเสียงอ่อนโยน นี่ผมไม่ได้กำลังจะทำอะไรผิดไปใช่ไหม


“ผมจะมาถามพี่โยว่าเรื่องที่พี่โยเคยถามผมไว้ตอนนี้ยังเหมือนเดิมรึเปล่าครับ”  ผมถอนหายใจหนักๆหนึ่งครั้งก่อนตัดสินใจถามถึงเรื่องที่เคยคุยกันไว้นานแล้วแต่ตอนนั้นผมยังไม่ได้ตอบพี่โย


“เหมือนเดิมสิ พี่ยังรออยู่เสมอ ถามแบบนี้แปลว่าวีตัดสินใจได้แล้วเหรอ”


“ครับผมตัดสินใจได้แล้ว ถ้าพี่ไม่เปลี่ยนใจผมก็พร้อมจะเป็นแฟนพี่แล้วครับ” ผมตอบเสียงมั่นคงการตัดสินใจครั้งนี้เดิมพันด้วยความสุขของผมทั้งชีวิตก็ว่าได้


หลังจากมีเวลาคิดทบทวนเรื่องต่างๆจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่ผมจะมาจมกับความรู้สึกเสียใจอยู่อย่างนี้ชีวิตยังต้องเดินต่อไป ถ้าผมเอาแต่คิดถึงเรื่องในอดีตที่ไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้ ผมก็เหมือนตายทั้งเป็นอยู่แบบนี้คงถึงเวลาต้องปล่อยแล้วก้าวเดินไปข้างหน้าซักที


ทุกวันนี้ผมยังคิดถึงพี่ชินอยู่เสมอและไม่คิดว่าจะสามารถลืมได้ เพราะเราผ่านเรื่องราวต่างๆด้วยกันมามากมายทั้งช่วงเวลาที่มีความสุขและช่วงเวลาที่แสนเศร้า แต่หลังจากนี้ผมขอเลือกเก็บเรื่องราวดีๆเอาไว้แล้วลืมสิ่งไม่ดีเหล่านั้นไปให้หมดดีกว่าครับ
“พี่ดีใจนะที่วีตัดสินใจแบบนี้ ต่อไปนี้พี่จะดูแลวีเอง” พี่โยว่าก่อนดึงมือผมไปกุมไว้


“ขอบคุณครับพี่โย” ผมว่าตอบยิ้มๆ


“แล้วนี่กินข้าวกลางวันรึยัง”

“ยังครับแต่ผมเพิ่งกินมาม่าไปไม่นานนี้เอง”


“ไม่ได้มาม่าจะมีประโยชน์เท่าข้าวเหรอ ตอนนี้วีเป็นแฟนพี่แล้วนะพี่จะไม่ยอมให้แฟนพี่ อดข้าวอดน้ำจนป่วยไปอีกเด็ดขาด” พี่โยว่ากึ่งดุแต่ตายังมีแววอบอุ่นส่งให้ก่อนออกแรงจูงมือผมให้เดินตาม


“จะไปไหนกัน แล้วทำไมต้องจับมือกันด้วย” เสียงนิ่งเย็นจนน่าขนลุกดังขึ้นจากด้านหลังทำเอาผมกับพี่โยชะงักแล้วหันไปมองพร้อมกัน คิดไว้ว่าเรื่องที่ผมกับพี่โยคบกันยังไงพี่ชินก็ต้องรู้แต่ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ ถ้าไม่คิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไปผมคงต้องคิดว่า ผมทำอะไรก็อยู่ในสายตาพี่ชินตลอดแน่ๆ


“พวกกูจะไปไหนแล้วมันเกี่ยวอะไรกับมึง”


“กูไม่ได้ถามมึง กูถามวี” พี่ชินตวัดตามองพี่โยดุๆก่อนหันมาทางผมแล้วเลยไปมองมือผมกับพี่โยที่กำลังสอดประสานกันแน่นอีกครั้ง สายตาของพี่ชินมันแข็งก้าวจนน่ากลัวก่อนจะเปลี่ยนเป็นเย็นชา


“มึงจะถามวีหรือถามกูก็มีค่าเท่ากันในเมื่อกูกับวีเป็นแฟนกันแล้ว”


“ไม่จริงมึงโกหก ไม่จริงใช่ไหมวีไม่ได้เป็นแฟนกับไอ้โยอย่างที่มันพูดใช่ไหม” ผมเห็นแววสั่นไหวในน้ำเสียงและแววตาของพี่ชินแต่ตอนนี้มันไม่สามารถทำอะไรกับความรู้สึกของผมได้แล้ว


“ไม่ผิดหรอกครับ ผมกับพี่โยเราตกลงเป็นแฟนกันแล้ว” ผมจ้องหน้าพี่ชินนิ่งไม่หลบตาก่อนตอบช้าๆชัดๆเพื่อตอบย้ำความรู้สึกของตัวเองและของคนตรงหน้าว่าตอนนี้ผมเป็นแฟนของพี่โยแล้ว เรื่องที่เคยผ่านมาก็เป็นเพียงอดีต  ผมต้องลืมมันให้ได้


“ทำไม....ทำไมถึงเป็นแบบนี้”


“ผมจะมีความสุขบ้างไม่ได้เหรอครับ ในเมื่อพี่ยังมีความสุขกับพี่น้ำได้เลย”


“แล้วทำไมต้องมีกับมัน ทำไมถึงเป็นมัน ทำไมไม่เป็นพี่ตินณ์ล่ะ”


“ผมถามจริงๆพี่ไปอยู่ไหนมาถึงได้ไม่รู้ว่าผมกับพี่ตินณ์ไม่ได้เป็นแฟนกัน  ผมเคยบอกพี่แล้วไงว่าผมกับพี่ตินณ์เป็นแค่พี่น้องกัน ผมไม่ใช่ดาราถึงต้องมานั่งโกหกแล้วพี่ตินณ์ก็มีแฟนแล้วด้วยจะมาสนใจผมทำไม


ส่วนคนที่ผมรักเขาก็ไม่เคยฟังหรือเชื่อใจอะไรผมเลย เขาทิ้งผมไปทั้งที่เข้าใจผิด ปล่อยให้ผมอยู่คนเดียวอยู่กับความสับสน ความอ้างว้าง อยู่กับอดีตที่มันตามหลอกหลอนผมไปทุกที่ พี่รู้ไหมไม่ว่าผมจะไปตรงไหนทำอะไรก็ล้วนแต่เป็นที่ที่ผมกับเขาเคยใช้เวลาร่วมกัน มันถึงทำให้ผมไม่สามารถกลับมาเป็นผมคนเดิมได้ไงล่ะ


ผมที่โดนทิ้งกลายเป็นคนเฝ้ารอการกลับมาของคนคนนั้น รอด้วยความหวังว่าซักวันเขาจะรู้ความจริงแล้วกลับมาหาผม แต่ชีวิตจริงมันไม่เหมือนในละคร คนที่เป็นฝ่ายเดินจากไปมักไม่หันกลับมามองคนที่ตัวเองทิ้งไว้ ผมก็เหมือนกันได้แต่รอเก้อไปวันๆ จนวันนี้วันที่ผมตัดสินใจจะเริ่มต้นใหม่กลับใครซักคน เขากลับมาถามผมว่าทำไม”


เมื่อได้พูดก็เหมือนสิ่งที่อัดแน่นในใจทั้งหมดมันพร้อมจะระเบิดตัวออกมาพร้อมกันในคราวเดียว น้ำตาที่คิดว่ามันไม่มีจะไหลแล้วทำไมมันถึงยังไหลออกมาอีกได้จนผมเองยังแปลกใจ

“วีอย่าร้องไห้เลยนะ”


เพี๊ยะ!!


“อย่าเอามือของมึงมาแตะต้องแฟนกูอีก อดีตจะเป็นยังไงกูไม่สนใจแต่ตอนนี้น้องวีเป็นแฟนกูแล้ว ถ้ามึงยังคิดว่ากูเป็นเพื่อนอยู่ หวังว่ามึงจะเลิกยุ่งวุ่นวายกับแฟนของเพื่อนนะ” พี่โยปัดมือพี่ชินที่กำลังจะเอื้อมมาเช็ดน้ำตาให้ผมทิ้งก่อนว่าเสียงดัง ผมเห็นแววไหววูบในดวงตาสีเข้มก่อนเปลี่ยนมาเป็นดวงตามั่นคงเหมือนเดิม




                                        ------ โปรดติดตามตอนต่อไป------

 ขออัพค่ะ 50% ก่อนนะคะ ตอนนี้สารภาพว่าแต่งยากจริง
เพราะจำกัดด้วยจำนวนตอนที่ต้องจบภายในอีก 3 ตอน
และความรู้สึกของน้องวีและพี่ชินที่ยังไม่ลงตัวทำให้เมจิกเครียดไปเลย
แต่งลบๆ อยู่หลายรอบมาก  ฮ่าาาาาาาา ยังไงจะรีบเอาส่วนที่เหลือมาลงต่อนะคะ

ขอบคุณที่ติดตามค่า  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: Aumy8059yaoi ที่ 13-05-2015 20:20:44
แงงงงงงง ไมเป็นแบบนี้อ่าาาาา :katai1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: kutelittlepoly ที่ 13-05-2015 20:21:31
สายไปแล้วจริงเหรอ?
เฮ้ออ่านแล้วก็หน่วงแทน ถ้าพี่ชินยอมเปิดใจรับฟังตั้งแต่แรก มันก็จะไม่ลงท้ายแบบนี้หรอกนะพี่  :a5:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 13-05-2015 20:22:11
ไปไกลแระเนี่ย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 13-05-2015 20:26:08
แอบสะใจเบาๆ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 13-05-2015 20:31:24
 :m16: สมควรอยากให้พี่ชินโดนหนักๆบ้าง เอาความรักของวีมาแต่ไม่ยอมดูแล
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: Cinnamon Roll!!! ที่ 13-05-2015 20:35:01
สมนะหน้าพี่ชิน  น้องวีเค้ามีแฟนใหม่ไปแล้ว
 เลิกยุ่งกับน้องเค้าได้แล้วว   กลับไปหาชนีน้ำเลยไปชิ้วๆๆๆๆ     :angry2:
ปูลู   ยืดอีกสักตอนสองตอนกะได้น้อออ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 13-05-2015 20:39:52
 :katai1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: เลิฟลี่ ที่ 13-05-2015 20:41:40
สมน้ำหน้าชิน ยืดตอนออกไปอีกก็ได้ค่าจะได้ไม่เสียอัถรสถ้ากดดันไปนะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 13-05-2015 20:43:47
เห้อ.................. เรื่องทั้งหมดมันเริ่ม
มาจากพี่ชินกับวี แต่ตอนนี้มันลามมาไกลมาก
เราเห็นใจทั้งพี่ชินทั้งวีนะ ถ้าใครเจออย่างพี่ชินไป
ก็คงคิดมากแหละ มาเสียที่มาคบน้ำเพื่อ???????
ส่วนวีตอนที่พี่ชินต้องการก็ไม่พูดออกมา พอเหตุมันเริ่ม
บานปลายกลายเป็นว่าอิพี่ชินไม่เชื่ออีก
เจ็บกันหลายคน ทั้งพี่ชิน วี พี่โย น้ำ  เห้ออออออ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: P★RiTŸ ที่ 13-05-2015 20:44:52
   :เฮ้อ:
ชินเป็นคนเลือกแบบนี้เองนะ
ก็จงยอมรับซะ ขอมอบเพลงนี้แด่ทั้งสองคน

"คงไม่ทัน"

ในแววตาที่เธอได้มองฉัน
ทำให้รู้ว่านาฬิกา ไม่อาจหมุนทวนกาลเวลา
และทำให้รู้ว่าคงไม่มีหวัง
ที่ให้เธอได้ไปด้วยกัน ที่ให้เราได้ก้าวไปพร้อมกัน

แค่ฝันไว้สักวัน เธอจะเป็นคนๆ นั้น มีสิ่งนั้นร่วมกับฉัน
สิ่งที่คนรักกันนั้นควรจะมี จากวันนี้ จนวันสุดท้าย

แล้วเธอก็เดินจากไป ปล่อยให้วันเวลาดีๆ เป็นเพียงแค่ฝุ่นผง
ทุกอย่างคงต้องเดินต่อไป
แต่ถ้าฉันต้องรอให้เธอกลับมาเริ่มใหม่ คงไม่ทัน

ปล่อยฉันไว้คนเดียวที่ตรงนี้
ก็คงไม่เป็นอะไร ให้เธอได้ไปตามต้องการ

แค่ฝันไว้สักวัน เธอจะเป็นคนๆ นั้น มีสิ่งนั้นร่วมกับฉัน
สิ่งที่คนรักกันนั้นควรจะมี จากวันนี้ จนวันสุดท้าย

แล้วเธอก็เดินจากไป ปล่อยให้วันเวลาดีๆ เป็นเพียงแค่ฝุ่นผง
ทุกอย่างคงต้องเดินต่อไป
แต่ถ้าฉันต้องรอให้เธอกลับมาเริ่มใหม่ คงไม่ทัน

แล้วเธอก็เดินจากไป ปล่อยให้วันเวลาดีๆ เป็นเพียงแค่ฝุ่นผง
ทุกอย่างยังคงต้องหมุนไป
แต่ถ้าฉันต้องรอให้เธอกลับมาเริ่มใหม่ คงไม่ทัน
แต่ถ้าฉันต้องรอให้เธอกลับมาเริ่มใหม่ คงไม่ทัน

นาฬิกาไม่เคยจะเดินกลับหลัง
เธอก็ยังจะมีทางเดินของเธอ
ฉันก็ยังต้องเดินต่อไปจากนี้ คงเป็นไปไม่ได้กับคำว่าเหมือนเดิม
เพราะนาฬิกาไม่เคยจะเดินกลับหลัง

>>>สุดท้ายไม่ว่าทั้งสองคนจะตัดสินใจยังไง
คนที่เสียใจคงมีมากกว่า 2 คน
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: maytarapat ที่ 13-05-2015 20:46:07
เรื่องจะเป็นไงต่อหละเนี่ย
อิรุงตุงนังไปหมดแล้วววว 5555
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 13-05-2015 20:46:23
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 13-05-2015 20:50:57
สมน้ำหน้า ความจริงไม่น่าแค่ตบ แต่น่าจะ :z6: มันด้วยซ้ำ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: cross ที่ 13-05-2015 20:51:14
ถึงอยากให้ชินเจ็บ และรู้ว่าทั้งหมดเพราะตัวชินเอง แต่วีตัดสินใจคบกับโย มันไม่ถูกเท่าไหร่นะ มันเหมือนวีตัดสินใจทั้งๆที่ยังรักชิน รู้ว่าเจ็บทุกครั้งที่เจอชิน โยชินเป็นเพื่อนกัน วีมั่นใจตัวเองแค่ไหนว่าจะรักโยได้ ถ้ารักได้ก็ดี เรื่องจะได้จบๆ ให้ชินเจ็บคนเดียว(เพราะเลือกพลาดเอง) แต่ถ้าวีรักโยไม่ได้ คนที่เจ็บมีกี่คน และถ้าสุดท้าย ชินกะวีกลับมาคบกัน คิดว่าใครเจ็บ ถ้าไม่ใช่โย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 13-05-2015 20:57:23
เศร้าอ่ะ เชื่อว่าลึกๆ วียังรักพี่ชิน พี่ชินก็รักวี แต่ไม่คุยกันแบบเปิดใจเอง
ถ้าพี่ชินยอมฟังวีตั้งแต่แรก คงเคลียกันไปละ :(

อีกอย่างก็สงสารโยอีกคน เฮ้อ รักสามเศร้า
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 13-05-2015 21:00:11
ถ้าหากว่าวีร์เปิดใจจริงก็โอเคกลัวแต่ว่ายังรักชินอยู่เท่านั้นแหละที่จะทำให้ทุกอย่างมันยุ่งเหยิง ถ้าหากว่าโยเป็นพระเอกก็คงจะเป็นพระเอกที่ออกมาแค่ไม่กี่ตอนเป็นประวัติการณ์  ชินน่าจะเลิกกับน้ำไปแล้ว ตอนนี้เป็นช่วงเอาคืนชินสินะ ตราบใดที่ไม่อิรุงตุงนังก็โอเคค่ะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 13-05-2015 21:10:56
หน่วงได้อีก
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 13-05-2015 21:15:17
เปลี่ยนพระเอกเลยค่ะ  :hao7:
////วิ่งไปหลบรองเท้าพี่ชิน
จะทรมานกันไปถึงไหน
อ่านแล้วน้ำตาซึม   :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: JAROEN ที่ 13-05-2015 21:43:48
พันกันอินุงตุงนังหมดเลยคราวนี้ แต่อย่างไงก็เอาใจช่วยนะน้องวี สู้ๆ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: naoai ที่ 13-05-2015 21:50:24
ไม่มีใครสงสารพี่ชินเลย ซึ่งผมก็เป็นหนึ่่งในนั้น 555 ผมจะไม่รู้สึกเสียดายเลยถ้าวีได้กับโยแล้วชินรู้สึกผิด ต่อให้พยายามง้อ ทำดีเท่าไรวีก็ไม่กลับมา แล้วชินก็เสียใจไปจนตาย และผมก็อยากให้จบแบบนี้นะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 13-05-2015 21:52:22
เฮ้ออออ. ประชดกันไป ประชดกันมา.
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 13-05-2015 22:01:48
หน่วงมากกกกกก ฮือออ
สงสารทั้งพี่ชินทั้งวี เห้อออ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: pemiko2012 ที่ 14-05-2015 01:42:49
 :sad4: :katai1:

สงสารวี
และสมน้ำหน้าอีพี่ชิน ให้เจ็บซะบ้าง โง่นัก
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 14-05-2015 08:20:01
ฉันเกลียดนังวี........นังตัวร้ายยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 14-05-2015 09:04:20
พันกันเป็นตังเมแย้ววววว

=_= หลายเส้าเลยทีนี้
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: diszalove_ ที่ 14-05-2015 09:11:06
ถ้าเรื่องนี้พี่ชินกับวีได้คู่กัน พี่โยจะเป็นไงอ่ะ เราสงสารพี่โย
พี่โยเหมือนคนที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรตั้งแต่แรกอ่ะ
เว้นก็แต่ ความรู้สึกที่ตอนแรกมีให้วี แล้วเราก็ไม่คิดว่ามีมาจนถึงตอนนี้
พี่โยต้องเจ็บเหรอ ทำไมพี่โยของเค้าต้องเจ็บด้วยอ่ะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 14-05-2015 09:17:29
 :sad4: :sad4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 14-05-2015 11:16:38
สมน้ำหน้าชิน อย่ากลับมาอีกนะวี
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: muiko ที่ 14-05-2015 17:43:16
เห้อออ
อยากจะสมน้ำหน้าพี่ชิน
แต่ก็สงสารเหมือนกัน
เรื่องจะจบยังไงน้า วีเล่นไปคบกับพี่โยแบบนี้ :-[
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 15-05-2015 18:09:31
พูดยาวเกินไปนะวี55สงสารความโง่ของอีพี่ชิน
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: boommerang ที่ 16-05-2015 06:11:54
รีบๆมาต่อนะครับ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: kkmm ที่ 17-05-2015 01:19:32
มารอ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 17-05-2015 06:20:15
น้ำตาไหลพรากกกกกกก
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: nooklepper ที่ 19-05-2015 17:12:32
เพิ่งได้อ่าน  ลงชื่อไว้ก่อน รอจบนะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 13/5/2015 p.18
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 20-05-2015 16:35:49
แวะมาดู...ยังไม่มาต่อหรอ อยากดราม่า อิอิ
หัวข้อ: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 23-05-2015 16:42:36
 
       ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28

“ถ้าไม่ใช่พี่ตินณ์วีก็เป็นแฟนใครไม่ได้ทั้งนั้น”


“มันไม่ใช่เรื่องที่มึงจะยอมรับหรือไม่ยอมรับแต่มันเป็นเรื่องของกูกับวี คนนอกอย่างมึงไม่เกี่ยว วีไปกันเถอะอย่าไปสนใจเลย” พี่โยว่าเสร็จดึงมือผมให้เดินต่อทิ้งพี่ชินไว้ข้างหลังโดยไม่สนใจจะหันกลับไปมองอีกเลย

พี่โยพาผมมาตักอาหารบริเวณที่ทางรีสอร์ทจัดไว้ให้เป็นเพิงพักอยู่ริมชายหาด มีอาหารหลายอย่างเลยครับ ดูแล้วมีแต่อาหารน่ากินแต่ผมไม่ค่อยรู้สึกอยากกินเท่าไหร่เพราะเพิ่งกินซัดมาม่าไป 2 ซอง 

พี่โยตักข้าวพร้อมกับข้าวราดมาให้หลายอย่างแถมยังมีของตัวเองมานั่งกินเป็นเพื่อน ผมเลยจำเป็นต้องลงมือกินอีกครั้งทั้งที่ยังอิ่มอยู่เลยครับ  จังหวะที่ผมกำลังเคี้ยวข้าวเรื่อยๆพี่โยที่นั่งยิ้มสมใจที่ผมยอมกินข้าวได้ก็เอื้อมมือมาตรงหน้า ผมเอียงหลบแต่ไม่พ้นก่อนจะได้รู้ว่าพี่โยช่วยเอาเมล็ดข้าวสวยที่ติดอยู่มุมปากออกให้

“กินยังไงให้เลอะ กินเป็นเด็กเลยนะเรา” เสียงว่าพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ ทำให้ผมรู้สึกตาพร่าเพราะภาพพี่ชินที่ซ้อนทับขึ้นมาผมต้องส่ายหน้าเพื่อสลัดภาพเหล่านั้นออกไปจากหัว

“ขอบคุณครับพี่โย”  ตอบพร้อมหลบสายตาที่กำลังจ้องอยู่ แต่ไม่รู้เพราะความบังเอิญหรือมีอะไรดึงดูดให้สายตาผมไปสบเข้ากับดวงตาอีกคู่ที่อยู่ไม่ไกล มันเป็นสายตาที่แข็งก้าวแบบที่ผมไม่คุ้นชินเลยจริงๆ

“กินเยอะๆนะ จะได้ตัวนิ่มๆแก้มยุ้ยๆกว่านี้หน่อย ตอนนี้วีผอมไปแล้วรู้ไหม” เสียงพี่โยดังแว่วเข้าหูทำให้ผมหันมามองจานข้าวตัวเองที่ตอนนี้มีไข่ดาวเพิ่มขึ้นมา

“เอ่อ....”

“เอ้ากินเข้าไปเยอะๆ พี่ป้อน” ยังไม่ทันได้พูดตามที่ตั้งใจ ช้อนที่ตักข้าวจนพูนถูกยื่นมาตรงหน้า ผมลังเลเล็กน้อยก่อนจะอ้าปากรับ

เพล้ง!!

“เฮ้ย! ไอ้ชินเป็นอะไรวะ” เสียงพี่น็อตดังต่อจากเสียงอะไรซักอย่างหล่นแตก  ผมรีบหันไปมองถึงเห็นว่ามีเศษแก้วน้ำตกแตกอยู่บนพื้นข้างตัวพี่ชิน

“มือลื่น” พี่ชินตอบเสียงนิ่งก่อนลุกเดินออกจากโต๊ะท่าทางเหมือนใครทำให้โมโห แล้วผมก็ดันไปสบตาเข้ากับพี่น็อตก่อนแกจะส่ายหน้าเหมือนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน

“พี่โย ผมว่า....ผมควรไปคุยกับพี่ชินให้รู้เรื่องดีไหมครับ”

“ปล่อยมันไปเถอะ มันบ้าไปแล้วอย่าไปยุ่งกับมันเลย อ่ะกินต่อนะกินเสร็จพี่จะได้พาไปขอลายเซ็นเพื่อนๆ”

“เอ่อ...ครับ” ผมตอบก่อนเริ่มตักอาหารเข้าปากอีกครั้ง หลังฝืนกินต่อไปได้สองสามคำก็กินต่อไม่ไหว

   “วีอยากได้ลายเซ็นใครก่อนเล็งไว้บ้างรึยัง”


   “ยังเลยครับ”

   “งั้นพี่เซ็นให้ก่อนนะเอามาสิ”

“แล้วผมไม่ต้องทำอะไรแลกลายเซ็นพี่เหรอครับ” ผมถามพี่โยด้วยความสงสัยไหนไอ้แบตว่าต้องมีอะไรแลกเปลี่ยนก่อนไง

“คนอื่นอาจจะมีแต่สำหรับวีไม่ต้องหรอกพี่เซ็นให้เลย แต่ถ้าเอาใจมาแลกก็ดีนะ” พี่โยว่าก่อนหยิบปากกาจากกระเป๋าด้านหลังกางเกงขึ้นมาตวัดลายเซ็นลงบนสมุดบันทึกกิจกรรม

“พี่โยล้อล้อผมนะ” ผมแกล้งว่า

“ถ้าไม่ให้ล้อแล้วจะให้พี่ทำอะไรล่ะ” พี่โยว่าพร้อมทำหน้าล้ออย่างชัดเจนมีเหรอผมจะไม่รู้

“ไม่รู้ เอ่อ....ขอบคุณนะครับสำหรับลายเซ็น”


“เรื่องเล็กน้อยน่า มาเดี๋ยวพี่พาไปให้คนอื่นช่วยเซ็นด้วย”  พี่โยว่าเสียงดังก่อนลุกนำผมเดินไปทางกลุ่มรุ่นพี่ที่นั่งเล่นหมากรุกกันอยู่  แล้วก็ไม่รู้ว่าช่วยให้ง่ายหรือยากขึ้นกันแน่เพราะแค่พวกรุ่นพี่เห็นผมเดินไปพร้อมพี่โยต่างพากันโห่แซวว่าผมเป็นเด็กเส้นแล้วรุมแกล้งให้ผมทั้งร้องเพลง ทั้งทำท่าแปลกๆ กว่าจะได้ลายเซ็นกลุ่มนี้ครบเล่นเอาเหนื่อยเลยครับ


พอเสร็จจากกลุ่มนี้ก็ไปกลุ่มอื่นต่อ ผมเดินตามพี่โยไปกลุ่มต่างๆพร้อมกับความรู้สึกว่าเหมือนมีใครกำลังจ้องมองอยู่ แล้วก็ไม่ได้คิดไปเองจริงๆครับ เพราะเมื่อลองมองไปรอบๆผมก็จะเจอสายตาของพี่ชินคอยมองอยู่ตลอดหันไปเมื่อไรก็ต้องสบตากันร่ำไป จนผมต้องเตือนตัวเองว่าอย่าหวั่นไหวไปกับสายตาคู่นั้นง่ายๆ




“น้ำไม่เซ็นให้หรอกนะถึงโยจะเป็นคนพามาก็เถอะ”

“วีเอาไง” พี่โยหันมาถามผมหลังจากพี่น้ำว่าเสียงไม่เบา ทำเอาคนที่อยู่ใกล้ๆพากันหันมามอง ผมคิดไว้แล้วว่ายังไงก็คงไม่ได้ลายเซ็นของพี่น้ำแน่ๆและไม่คิดจะขอตั้งแต่แรก แต่มีรุ่นพี่คนอื่นอยู่ตรงนี้พี่เขาเซ็นเสร็จเลยหวังดียื่นไปให้พี่น้ำด้วย

“ไม่เซ็นก็ไม่เป็นไรครับ” ผมตอบพี่โยก่อนทำท่าจะเดินออก

“เชิดให้มันได้ตลอดนะ คิดว่าทำนิ่งๆแล้วจะไม่มีใครรู้เหรอว่าแกมันเป็นนางวันทองสองสามใจ  ใครทำดีด้วยก็วิ่งเข้าหาไปทั่ว คนนี้ไม่เอาก็ไปหาคนนั้นทีคนโน้นที เขารู้กันหมดแล้วว่าแกน่ะขาดผู้ชายไม่ได้ แล้วก็มั่วแค่ไหน ระวังไว้นะโยน้ำขอเตือนในฐานะเพื่อนถ้าไม่อยากติดเชื้อโรคจากคนสำส่อนอย่างมันก็รีบออกมาห่างๆเลย” เสียงดังไล่หันทำให้ผมต้องหยุดชะงักก่อนหันกลับไปมอง

“น้ำพูดอะไรอย่างนั้น” เพื่อนพี่น้ำรีบปรามเมื่อเห็นผมจ้องหน้าคนที่ส่งเสียงดังไม่วางตา

“ก็มันจริงนิ แกไม่รู้อะไร”

“น้ำโยว่าน้ำพูดเกินไปแล้วนะ”

“ไม่เกินไปหรอกโย ตอนนี้โยกำลังหลงมันใช่ไหมถึงได้ว่าน้ำพูดเกินไป แต่คิดดูสิมันทำให้โยกับชินที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานแตกคอกันได้มันร้ายขนาดไหน”

“มันไม่ใช่ความผิดของวี”

“โยอย่ามาปกป้องมันหน่อยเลย  ผู้ชายอะไรทำตัวไม่ต่างกับผู้หญิงสำส่อน โยกับชินก็เหมือนกันกลายเป็นพวกวิปริตผิดเพศก็เพราะมันยั่วใช่ไหม”

“กรุณาระวังคำพูดของพี่ด้วยครับ ถ้าพี่จะว่าให้ว่าผมคนเดียว อย่าเอาพี่โยกับพี่ชินเข้ามาแปดเปื้อนด้วย” ผมว่าเสียงนิ่ง ถึงจะว่าผมขนาดไหนผมก็ไม่สนใจในเมื่อรู้อยู่แก่ใจว่าไม่ใช่เรื่องจริง แต่เรื่องที่ยอมไม่ได้คือการที่เอาพี่ชินกับพี่โยมาว่าให้แปดเปื้อนไปด้วย

“รู้เหมือนกันนี่นาว่าตัวเองเป็นสาเหตุให้คนอื่นเขาแปดเปื้อน ถ้าอย่างนั้นก็ไปสิไสหัวไปจากชีวิตเพื่อนฉัน อย่ามาวนเวียนเป็นสัมภเวสีคอยขอส่วนบุญอยู่แบบนี้”

“น้ำมันจะมากไปแล้วนะ วีทำอะไรให้น้ำถึงไปว่าน้องขนาดนั้น”

“มากไปเหรอโย นี่มันยังน้อยไปด้วยซ้ำกับเรื่องที่มันทำกับน้ำ”

“ผมทำอะไรให้พี่เหรอครับ”

“แกไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพี่ ฉันไม่นับญาติกับคนอย่างแก”

“ถ้าผมไปทำอะไรไม่ดีกับคุณไว้ ก็ช่วยบอกด้วยครับ ถ้าไม่บอกผมจะถือว่าผมไม่ได้ทำและสิ่งที่คุณกำลังพูดเป็นเรื่องที่คุณปั้นแต่งขึ้นมา”

   “แก!! กล้าพูดกับฉันแบบนี้เหรอ มันต้องสั่งสอนให้มันรู้จักรุ่นพี่ซะบ้าง”

“น้ำอย่า”

“น้ำหยุดเดี๋ยวนี้ นี่มันเกิดอะไรขึ้น!” เสียงพี่โยร้องห้ามจังหวะเดียวกับที่พี่ชินเข้ามาจับมือพี่น้ำที่กำลังเงื้อขึ้นเตรียมฟาดผมเต็มที่

“ชิน! ไม่มีอะไรค่ะ แค่รุ่นน้องมาขอลายเซ็นแต่น้ำไม่อยากให้ก็แค่นั้น”

“ขอลายเซ็นแล้วทำไมต้องถึงขั้นลงไม่ลงมือ”

“เอ่อ....คือ”

“ชินเคยบอกอะไรไว้จำได้ใช่ไหม”

“ก็มันปากดีกับน้ำก่อน”

“จริงรึเปล่าวะ” พี่ชินหันมาถามพี่โย

“ไม่รู้เคลียร์กันเอง ไปเถอะวีพี่ไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว”

   “ครับ คุณพูดจบแล้วใช่ไหมผมจะได้ไป ถ้าไม่มีอะไรที่คุณจะพูดแล้วผมขอถือว่าเรื่องทั้งหมดเป็นสิ่งที่คุณมโนขึ้นมาเองนะครับ” ผมว่าก่อนคว้ามือพี่โยแล้วดึงให้เดินตาม ตอนนี้อยากออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด

“กรี๊ดดด........ไอ้เด็กเปรตแกจะลองดีกับฉันเหรอ  ชินปล่อยน้ำ น้ำจะตบสั่งสอนมัน ปล่อยสิชิน ไม่เห็นเหรอมันว่าน้ำนะ  ชินปล่อย”

“เงียบ!! ไม่อายคนอื่นรึไงที่ทำแบบนี้”  เสียงกรี๊ดเงียบลงหลังเสียงดุๆของพี่ชินดังแทรกขึ้น ผมที่เดินออกมาไกลไม่คิดจะหันกลับไปมองเลยซักนิด






“ไอ้วีหายหัวไปไหนมาวะ กูกับลูกแพรว่าจะชวนมึงมาขอลายเซ็นรุ่นพี่แถวชายหาดซะหน่อยคนเยอะเลยนะเว้ย” ไอ้แบตรีบถามทันทีที่หันมาเห็นผมกับพี่โยที่เดินข้ามถนนหน้ารีสอร์ทออกมาบริเวณสวนสนที่มันกำลังนั่งอยู่

“พี่โยพากูไปขออยู่ข้างในว่ะ มึงได้เยอะยัง”

“เยอะ ได้เกือบครบแล้วนะเว้ย”

“เฮ้ย! อะไรวะของกูเหลืออีกเกินครึ่ง”

“มึงก็รีบๆขอดิ แล้วทำไมพี่โยต้องพามึงไปขอลายเซ็นเพื่อนตัวเองด้วยวะ”


“ก็......”

“พี่กับวีเป็นแฟนกันน่ะ” ผมยังไม่ทันตอบพี่โยที่ยืนอยู่ข้างหลังชิงตอบแทน

“ห๊ะ!! แฟนกัน พี่กับไอ้วีเนี๊ยะนะ”


“จริงเหรอคะ ทำไมแพรกับแบตไม่รู้เรื่องเลย”

“มึงไปเป็นแฟนกับพี่โยตอนไหนวะ ไหนบอกกูดิ”

“ใจเย็นๆ กูกับพี่โยเพิ่งตกลงกัน” ผมตอบไอ้แบตที่ทำหน้าตกใจไม่แพ้ลูกแพร

“ไอ้วีมึงแน่ใจแล้วเหรอวะ”

“อืม กูคิดดีแล้วมึงไม่ต้องเป็นห่วงนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้กูจะยอมรับผลที่จะตามมาทั้งหมด” ผมตอบก่อนยิ้มให้ไอ้แบต  มันมองตอบด้วยสายตาไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่

“ไอ้วีกูว่ามันเร็วเกินไป มึงทำใจได้แล้วเหรอ”

“แบตปล่อยให้วีได้ตัดสินใจเถอะ เราเป็นเพื่อนก็ได้แต่ให้กำลังใจ” ลูกแพรจับแขนไอ้แบตก่อนว่าเสียงเบา

“แต่แพร ไอ้วีมันกำลังจะทำร้ายทั้งตัวเองและพี่โย แถมเผลอๆแบตว่าพี่ชินด้วยนะ” มันหันไปคุยกับลูกแพร

“วีลูกแพรว่า”


“แบต ลูกแพร วีขอบคุณนะที่ทุกคนคอยเป็นห่วงและอยู่เคียงข้างวีมาตลอด แต่ครั้งนี้วีขอเป็นคนตัดสินใจอีกครั้งได้ไหม” ผมรู้ว่าลูกแพรกำลังจะพูดอะไรเลยต้องรีบพูดแทรกขึ้นก่อนที่ใจผมจะโอนเอนไปตามที่ลูกแพรและไอ้แบตอยากให้เป็น


“ถ้าอย่างนั้นกูกับลูกแพรก็ขอเป็นกำลังใจให้มึงเหมือนเดิมแล้วกันนะ ถึงกูจะไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจในครั้งนี้ของมึงแต่มีอะไรให้ช่วยก็บอก”

“ขอบใจว่ะ” ผมตอบไอ้แบตที่ยกมือขึ้นตบบ่าผมเบาๆเพื่อเป็นกำลังใจก่อนยิ้มให้ลูกแพรอีกคน จากนั้นก็ถึงเวลาเริ่มล่าลายเซ็นอีกครั้ง


ถึงแม้ว่าผมจะรู้ว่าตัวเองคงได้ลายเซ็นไม่ครบตามที่กำหนดเพราะอย่างน้อยของพี่น้ำผมก็ไม่ได้ไปแล้ว 1 คน และคิดว่าของพี่ชินก็คงไม่ได้อีกเหมือนกันแต่ในเมื่อทำมาขนาดนี้แล้วผมก็อยากจะทำให้เต็มที่ที่สุด ครบไม่ครบช่างมันเถอะครับ


ผมเดินขอลายเซ็นรุ่นพี่ตามหาดกับไอ้แบตและลูกแพรไปเรื่อยๆ ปล่อยให้พี่โยไปอยู่กับเพื่อนแกบ้าง รุ่นพี่ทั้งหมด 50 กว่าคนทำไมมันดูเยอะขนาดนี้ไม่รู้ครับเดินจนจะมืดอยู่แล้วยังได้ไม่ครบเลย ยิ่งเหลือคนน้อยเท่าไหร่ลายเซ็นที่ได้ยิ่งแลกมาด้วยการทำอะไรยากๆทั้งนั้นเลยครับ


“เป็นไงบ้างได้ครบรึยังครับ” เสียงพี่โยถามทันทีเมื่อเห็นผมเดินกลับมาเข้าในรีสอร์ท คิดว่าจะเข้ามากินข้าว อาบน้ำพักผ่อนซักพักแล้วค่อยไปขอใหม่ครับ ตอนนี้เหลือแค่ 3 คนแล้ว

“เหลือ 3 คนเองครับพี่โย” ผมตอบยิ้มๆด้วยความภูมิใจ

“เก่งนี่น่าเหลือใครบ้างล่ะ”

“เหลือพี่น้ำ พี่ชินแล้วก็พี่น็อตครับ”

“ไอ้น็อตด้วยเหรอ ทำไมมันถึงไม่เซ็นให้ " พี่โยทำหน้าสงสัยก่อนขอสมุดผมไปเปิดดู

“ผมหาพี่น็อตไม่เจอ ไม่รู้อยู่ที่ไหนครับ" ตั้งแต่เจอพี่น็อตเมื่อตอนกินข้าวก็ไม่ได้เจออีกเลยครับ

   “อ๋อ สงสัยมันนอนอยู่เพราะพี่เพิ่งเห็นมันเดินหัวยุ่งออกมาจากห้องเมื่อกี้  นั่นไงมันมาโน่นแล้วไอ้น็อตๆมานี่เดี๋ยวดิ”  พี่โยว่าก่อนจะเห็นพี่น็อตเดินดูดไอติมอยู่ไม่ไกลเลยตะโกนเรียก

   “มีไรวะ กูหิวจะไปกินข้าว”

   “ของกินยังอยู่ในปากจะกินอีกแล้วนะมึง”

   “เออ แค่นี้มันจะไปอิ่มอะไรแล้วตกลงมีอะไรวะ”

   “เซ็นให้น้องหน่อยดิ” พี่โยว่าพร้อมยื่นสมุดและปากกาไปตรงหน้าพี่น็อต

   “นี่มันของน้องไม่ใช่เหรอ มันเรื่องอะไรที่อยู่ๆมึงจะเอามาให้กูเซ็นง่ายๆ แล้วทำไมน้องไม่มาเอง”

   “ก็นี่ไงน้องก็ยืนอยู่นี่มึงจะเรื่องมากทำไมเซ็นๆไปเถอะ” พี่โยว่า


   “ไม่! บอกมาก่อนทำไมมึงต้องออกหน้าด้วย แล้วน้องคนนี้ใช่คนที่กูเห็นไอ้ชินมันจีบๆอยู่เมื่อเทอมที่แล้วป่าววะ”  พี่น็อตว่าก่อนเดินมาจ้องหน้าผมใกล้ๆแต่มือก็ยังถือไอติมดูดอยู่ ดูแล้วพี่น็อตท่าทางกวนๆเหมือนจะแกล้งพี่โย

   “เสือกนะมึง จีบแล้วไงในเมื่อตอนนี้น้องมันเป็นแฟนกู พอใจยังรู้แล้วก็รีบๆเซ็นซะ” พี่โยว่าเสียงดัง

   “เฮ้ย! น้องคนนี้เป็นแฟนมึง เป็นตอนไหนเป็นได้ไง” พี่น็อตทำเสียงสูงพร้อมท่าทางตกใจ

   “มึงรู้แล้วจะรวยขึ้นไหม ไม่ต้องเสือกหรอกน่ารีบๆเซ็นซะที”


   “กูไม่เชื่อมึงอย่ามาอำ ไอ้ชินไอ้โยมันบอกน้องคนที่มึงเคยจีบเป็นแฟนมันจริงป่าววะ” อยู่ๆพี่น็อตก็ถามขึ้นมาแต่สายตามองเลยไปข้างหลังผมกับพี่โย ผมเลยรีบหันไปมองตามแล้วก็เจอพี่ชินมายื่นอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ครับ ช่วงนี้ทำไมพี่ชินทำตัวเหมือนผีแบบนี้วะ เดี๋ยวก็ไปโผล่ตรงโน้นตรงนี้


   “ไม่รู้กูไม่ได้สนใจ” พี่ชินตอบปัดๆก่อนทำท่าจะเดินผ่านไป เหมือนไม่ได้สนใจสิ่งที่พี่น็อตถาม  คำตอบของพี่ชินถ้าฟังผ่านๆก็ไม่มีอะไรแต่ใครจะรู้ว่าแค่คำพูดสั้นๆไม่กี่คำก็ทำให้ใจของผมที่คิดว่าตอนนี้มันด้านชากลับมาเจ็บปวด ราวกับถูกมีดกรีด ทั้งๆที่คิดว่ารับได้ ทั้งๆที่คิดว่าจะไม่แคร์ไม่ใส่ใจแต่ทำไมไม่เคยทำได้ซะทีนะ ต้องเจ็บต้องช้ำอีกเท่าไหร่ใจผมมันถึงจะจำ  จำเถอะจำไว้ว่าเรามันไม่มีค่าอะไรให้พี่ชินใส่ใจอีกต่อไปแล้ว


   “อะไรวะ งั้นถ้ามึงเป็นแฟนกับน้องมันมึงก็จูบกันให้กูดูดิ”  พี่น็อตทำท่าหัวเสียใส่พี่ชินก่อนหันมาพูดกับพี่โย แต่สิ่งที่พี่น็อตพูดทำให้ผมถึงกับอึ้ง พี่จ้องหน้าพี่น็อตนิ่ง พี่ชินที่กำลังเดินก็ชะงักเหมือนหกันครับ


จูบกับพี่โย เรื่องนี้ไม่เคยมีอยู่ในความคิดผมเลยซักครั้ง นอกจากพี่ชินแล้วผมก็ไม่คิดจะจูบกับใครอีก ถึงแม้ว่าผมเกือบจะจูบกับพี่ตินณ์มาแล้วก็เถอะแต่ก็เพราะเมาแถมยังไม่ได้จูบด้วย  ดังนั้นก็ถือว่าคนที่จูบผมมีแค่คนเดียวคือพี่ชินแล้วผมอยากให้เป็นแบบนี้ตลอดไป ถ้าจะให้ใครมาทับรอยที่พี่ชินเคยทำไว้ผมคงรับไม่ได้


   “ทำไมกูต้องจูบกันให้มึงดูด้วย ไอ้เชี้ยน็อตมึงไม่ใช่พ่อที่ต้องมาสั่งให้กูทำอะไร” พี่โยว่า

   “ก็ตามใจ งั้นลายเซ็นก็ไม่ต้องเอา กูก็แค่อยากรู้ว่ามึงเป็นแฟนกับน้องจริงรึเปล่า ถ้าคนเป็นแฟนกันแค่เรื่องจูบมันจะไปยากอะไร เว้นแต่ว่ามึงจะไม่ใช่แฟนกันจริงๆ” พี่น็อตว่าพร้อมทำท่ายักไหล่แบบไม่แคร์


   “กูจะหลอกมึงเพื่ออะไรวะ”

   “กูจะไปรู้ไง จะให้กูเชื่อเหรอว่าอยู่ๆมึงจะมีแฟนเป็นผู้ชาย มึงอาจจะหลอกกูเล่น แล้วก็ไปแอบหัวเราะเยาะทีหลังที่กูโง่เป็นควายเชื่ออะไรมึงง่ายๆ”

   “ประสาทแล้วมึง”

   “ก็ถ้ามึงไม่ได้โกหกจะเดือดร้อนทำไมวะ”

   “แล้วใครบอกมึงว่ากูเดือดร้อน” ยังไม่ทันสิ้นเสียงพี่น็อตพี่โยก็พูดสวนขึ้น ผมรีบหันไปมองหน้า อย่าบอกนะว่าพี่โยคิดจะ


   “พี่โยอย่า”

ผัวะ!!


“เฮ้ย! ไอ้ชิน”

“พี่ชินอย่า!” ผมรีบร้องห้ามพร้อมยื้อแขนพี่ชินที่กำลังจะระดมหมัดที่ 2 เข้าใส่หน้าพี่โยหลังจากหมัดแรกเข้าเต็มๆหน้าโดยไม่มีใครทันตั้งตัว


“วีปล่อยพี่” พี่ชินไม่ฟังเสียงจะซ้ำอย่างเดียว

“ไอ้เหี้ยชินมึงต่อยกูเหรอ” พี่โยยกหลังมือขึ้นเช็ดเลือดที่มุมปากตัวเองก่อนถามเสียงต่ำ

“เออ กูนี่แหละต่อยแล้วจะต่อยซ้ำด้วย”


ผัวะ!! แล้วจังหวะที่ไม่มีใครระวังพี่โยก็พุ่งเข้าต่อยพี่ชินคืนเต็มแรงเลยครับ ผมรับรู้ได้จากหน้าพี่ชินที่หันไปตามแรงหมัด

“ตอบแทนสำหรับหมัดเมื่อกี้ และนี่สำหรับที่มึงทำกับวี” พูดจบพี่โยต่อยซ้ำอีกครั้ง พี่ชินที่ถูกผมรั้งแขนไว้โดนต่อยเข้าที่หน้าอีกครั้ง

“พี่โยพอเถอะครับผมขอร้อง” ผมรีบว่าด้วยอาการตกใจก่อนที่พี่น็อตจะเข้าไปล็อคแขนพี่โยไว้อีกแรง


“แล้วที่มึงทำกับวีล่ะ มึงจูบวีทำไม มึงจูบทำไมไอ้เหี้ย”


ผลัก!

พูดจบพี่ชินยกเท้าขวาขึ้นถีบพี่โยเต็มแรง ก่อนจะสะบัดแขนออกจากผมสำเร็จ แล้วความวุ่นวายก็เกิดขึ้นเมื่อพี่โยก็ไม่ยอมสะบัดตัวหลุดจากการยื้อยุดของพี่น็อตแล้วทั้งสองคนก็ต่อยกับแบบไม่ฟังเสียงห้ามของใครเลยครับ

“พี่น็อตๆ  ช่วยหยุดพี่ชินด้วยครับ” ผมร้องบอกพี่น็อตที่ยืนอยู่ข้างๆแบบไม่รู้จะทำยังไงดี


“ไอ้เหี้ย ฟัดกันอย่างหมา มึงอยากฟัดฟัดไป อย่าเลิกนะมึง เลิกเมื่อไหร่กูจะซ้ำให้” พี่น็อตว่าเสียงดัง หงุดหงิดเต็มที่ เมื่อพยายามจะเข้าไปห้ามแล้วโดนลูกหลงออกมา


“ไอ้เหี้ยชินกูจะเอาเลือดโง่ๆออกจากตัวมึงให้หมด”


“มึงเข้ามาเลยอย่าดีแต่พูด คนที่มันหักหลังเพื่อนอย่างมึงกูก็ไม่เอาไว้เหมือนกัน”


ผัวะ! 


“ใครไปหักหลังมึง มีแต่มึงที่โง่โง่จนมองไม่เห็นอะไร น้องมันรักมึงขนาดไหนยังผลักไสได้ แล้วตอนนี้จะมาทำเป็นหมาหวงก้างมันสายไปแล้วโว้ย น้องมันรักกูแล้ว”


ผัวะ! 

 “มึงหุบปากไปเลย  มึงไม่รู้หรอกว่ากูรักวีมากขนาดไหนมึงไม่มีสิทธ์พูด”

“ถุ้ย! รักวีหรือรักใครถ้ารักมึงจะมีแฟนใหม่ให้มายืนด่าน้องมันปาวๆอยู่แบบนั้นเหรอวะ”

“กูบอกให้หุบปาก”


“พี่โยพอเถอะครับผมขอร้อง พี่ชินหยุดเถอะ” ผมขอร้องพร้อมจับแขนพี่โยไว้ ตอนนี้ทั้งสองคนสภาพดูไม่ได้แล้วครับ


 “วีหลบไปพี่จะสั่งสอนเพื่อนพี่ให้มันหายโง่ซะหน่อย”

ผัวะ! 

   “พี่โย!”

   “กูนี่สิจะสั่งสอนมึง”

   “พี่ชินพอแล้ว อย่าทำพี่โย

   ผัวะ!


   “วี!!” ผมเซไปชนกับอะไรซักอย่างเข้าเต็มแรงพร้อมกับได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเองดังขึ้นจากทั้งพี่โยและพี่ชินก่อนที่ความปวดหนึบ จนชาจะเกิดขึ้นที่หน้า


   “วีพี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจ เจ็บไหม” ผมพยายามหันหน้ากลับมามองพี่ชินแต่มันก็ยากเหลือเกินเพราะตอนนี้เจ็บร้าวไปทั้งสันกราม


“ไอ้สัสมึงทำน้องกู”


 “พี่ชินระวัง!!”

   ผมเห็นอะไรซักอย่างกำลังร่วงลงมาทางหางตา ก่อนจะร้องเต็มเสียงทันทีที่รู้ว่ามันคือกระเบื้องมุงหลังคาแผ่นใหญ่ 
   โครม!!

   “วีเป็นอะไรรึเปล่า เจ็บตรงไหนไหม”

   “ไม่ ไม่เจ็บเลย แต่ๆพี่ชินพี่เลือดออก” ผมพูดไม่เป็นประโยคเมื่อเห็นเลือดที่กำลังไหลออกมาจากหัวพี่ชินเหมือนสายน้ำ พี่ชินเอาตัวเองเข้าบังโดยกอดรอบลำตัวแล้วกดหัวผมไว้กับอกก่อนที่กระเบื้องจะหล่นใส่หัวพี่ชินและตกลงพื้นเสียงดัง

   “พี่ไม่เป็นไร ไม่ต้องตกใจนะ พี่ขอโทษพี่ไม่ได้ตั้งใจต่อยวะ....”

   “ไอ้ชิน!”


   “พี่ชิน! พี่อย่าเป็นอะไรนะ พี่ลืมตาขึ้นมาก่อน พี่ชินผมรักพี่นะพี่อย่าเพิ่งตาย” ผมตะโกนสุดเสียงเมื่ออยู่ๆพี่ชินก็หมดสติฟุบหน้าลงมาที่ไหล่ผมพร้อมกับอุ่นของเลือดที่ไหลลงมาที่ซอกคอผมไม่หยุด


              ----- โปรดติดตามตอนต่อไป -----

 รักเหมือนเดิมค่าาา  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-05-2015 16:56:55
เอาอีน้ำไปเก็บที. อีชะนีแร่ด ร่านน. ผู้ชายไม่เอาแล้วมาเหวี่ยงใส่คนอื่น.  มโนได้โล่.
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 23-05-2015 17:07:19
ยัยน้ำแกรเอานี่ไปซะ :z6: :z6: :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 23-05-2015 17:07:33
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 23-05-2015 17:11:29
โอ๊ย พี่ชินงี่เง่า ที่เรื่องมันเป็นยังงี้เพราะพี่ไม่ยอมฟังน้องมันอธิบายยังไงล่ะ ที่นี้ทำมาเป็นหวงก้าง

ขัดขวางพี่โยเค้า มาปรับความเข้าใจเลยนะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: sweetyswtcou ที่ 23-05-2015 17:15:27
แปะไว้ก่อน เดี๋ยวมาอ่านน้า :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: JAROEN ที่ 23-05-2015 17:35:28
อึม แบบว่า อึม แบบว่า อึม ปวดหนึบๆเลยอ่ะ เศร้าใจ ร้องไห้แปลบ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: P★RiTŸ ที่ 23-05-2015 17:39:22
เอิ่ม นิสัยแต่ละคนแปลกๆอ่ะ
อิน้ำก็เหมือนคนเป็นโรคประสาท
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 23-05-2015 17:47:08
ใครมาเอายัยน้ำไปไกลๆ เลย ผู้หญิงบ้าอะไร พูดจาเหมือนแม่ค้ามากกว่าเป็นนักศึกษา

อิพี่ชินนี่ก็หมาหวงก้าง พอเพื่อนตัวเองเริ่มชอบวี ก็ดันมาทนไม่ได้ที่เห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกัน  แต่ก็ดีแล้วล่ะเอาเลือดออกจากหัวบ้าง ความโง่  ความทิฐิ  ความปากหนัก จะได้หายไปจากสมอง  จะได้มีความฉลาด  กล้าพูด กล้าแสดงออกว่ารักวีมากแค่ไหน

รออ่านตอนต่อไปค่ะ  คนเขียนอย่าหายไปนานนะคะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 23-05-2015 17:49:55
ไม่มีใครฟังใคร ก็เลยเจ็บตัวกันแบบนี้ เฮ้อ
หลังจากนี้หวังว่าคงเคลียกันได้นะ

เอาจริงๆ ก็สงสารโยอ่ะ อย่างที่เพื่อนวีบอก  วีทำร้ายทั้งตัวเองและโย
เศร้า...

แต่น้ำนี่เป็นไรมากปะ เป็นผู้หญิง..ที่แบบว่า...
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 23-05-2015 18:06:25
 :เฮ้อ: ดีเฟ้ยมีแต่คนใช้อารมณ์ สุดท้ายก็เจ็บตัวกันหมด บ้าว่ะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 23-05-2015 18:40:17
จะว่าไงดี คุยกันดีๆ แต่แรกก็คงอาจไม่เป็นแบบนี้
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 23-05-2015 18:48:31
เห้ออออออออ  มันป่วง
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 23-05-2015 18:54:10
เอาเลือดออกกันบ้างก็ดี อิพี่ชินจะได้เลิกอมพะนำ
เป็นคนอ่านที่ไม่ค่อยสงสารพระเอกเลย ฮ่าๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 23-05-2015 18:58:48
น้ำ ถามนิดนะที่ว่าชินกับโยชอบชายแล้ววิปริตผิดเพศนี่แล้วถ้าเอาเป็นผัวเอาไหม?   เอาแน่นอน ทุกวันนี้ก็ตามติดต้อยๆอยู่แล้ว วิปริตเฉพาะสถาณการณ์สินะ

เรื่องชินนี่ตอบแบบโลกสวยนะ คือเราว่าชินมันรักวีแต่พอได้ยินกับหูว่าวีรักคนอื่น  ก็เจ็บก็เฮิร์ท คนรักมากก็เจ็บมาก  ชินมันก็ถึกมากๆด้วยแหละเพราะการที่ได้ยินกับหู คนที่ตัวเองรักพูดเอง อีกฝ่ายก็มีแฟนแล้วก้น่าจะทำให้คิดว่าวีเอาตัวเองเป็นตัวแทน ก้เลยคิดว่าไหนๆก็รักทางนั้นมากแล้วก้ไปหาคนนั้นเถอะ   จากนั้นก็ปิดหูปิดตา อาจจะคบกับน้ำแค่โชว์หรือไม่เราว่าชินคงบอกน้ำไปแล้วว่ารักวี ำยายามเปิดใจให้น้ำแต่ก็ทำไม่ได้ ไม่งั้นน้ำมันไม่มาโกรธเป็นนางร้ายละครหลังข่าวแบบนี้หรอก   เลิกกันเพราะว่าต่างฝ่ายต่างยังรักกันอยู่นี่เจ็บนะ     วีเองก็ไม่น่ารีบร้อนเรื่องโยทั้งๆที่ในใจยังรักชินอยู่น่าจะลองๆดูกันไปก่อน เหมือนกับใช้โยเป็นตัวแทนเหมือนกัน   เราว่าน็อตต้องคิดอะไรกับโยแน่ๆ  น่าจะปรับความเข้าใจกันได้แล้ว  ไม่ก็เลิกกันไปให้จบสิ้น ไม่ต้องมาค้างคา
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: april day ที่ 23-05-2015 19:43:28
สงสารพี่โยจัง ต้องมาเจ็บตัวและยังไงก็ต้องเสียใจเพราะน้องวีรักแต่พี่ชิน

พีชิน เจ็บตัวขนาดนี้ก็ใจเย็นๆ ฟังเรื่องราวต่างๆ คิดและตรึกตรองให้ดีนะคะอย่าทำให้ความเสียใจความน้อยใจมาทำอะไรให้เรื่องราวแย่ลงไปกว่านี้อีกมั่นใจตัวเองหน่อย ว่าน้องวีรักพี่ชินแล้วนะ ใจน้องวียกให้พี่ชินไปแล้ว

ส่วนน้องวี น้องต้องชัดเจนมากกว่านี้นะคะ อย่าคลุมเครืออะไรอีก ช่วยพูดและกระทำให้ชัดเจนว่าน้องรักพี่ชินจริงๆ พูดตอนที่พี่ชินมีสติครบถ้วนนะคะ ขอร้องอย่าดึงใครเข้ามาทำให้เรื่องวุ่นวายมากไปกว่านี้ (จุดนี้สงสารพี่โยมากค่ะบอกเลย)

สุดท้ายแล้ว รออ่านตอนต่อไปนะคะ อยากรู้เรื่องราวความรักของทั้งสามคนจะสรุปออกมาเป็นอย่างไร เป็นกำลังใจให้นักเขียนค่ะ  :L1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: kurumi_nut ที่ 23-05-2015 20:38:16
 :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 23-05-2015 20:43:07
 :เฮ้อ: วุ่นวายยุ่งเหยิงกันเข้าไป ถามจริงมีสติกันบ้างมั้ย
ใช้แต่อารมณ์เป็นที่ตั้ง เวลาจะบอกอะไรกัน ก็ไม่มีใครฟังใคร
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: Cinnamon Roll!!! ที่ 23-05-2015 21:04:51
ดึงสติหน่อยน่ายัยน้ำเน่า ก็รู้ผู้ชายเค้าไม่เอายังระรานไม่เลิก น่ามคานจริงๆยัยชะนี
 สามหนุ่มนี่ก็ชุนลมุนดีแท้  พี่โยที่มาขอน้องเป็นแฟนนี่คือเป็นแผนใช่มะ
แบบอยากให้อิพี่ชินมันหึงน้องงี้   แล้วอิพี่ชินกับน้องวีนี่มะรัยจะชัดเจนกัลซะทีๆๆ
ลุ้นจนเหนื่อยล่ะเนี้ยะ  เฮ้ออ สู้ๆน่ะพี่ชินแค่หัวแตกแค่เน้จิ๊บๆ แลกกับคำบอกรักของน้อง
ถือว่าคุ้มมมมมม   หายไวๆ น่ะพี่น่ะ   :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 23-05-2015 22:00:59
เห้อ. วีไม่น่าดึงโยมาเลย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 23-05-2015 22:08:16
ฉันเพลีย______________กับตอนนี้ นังวีคงดูมีความสุขนะ มีผู้ชายต่อยกันเพราะหล่อน ..........

ส่วนอิชินรัย (ชิน+จัญไร) ฉันไม่ได้ยิ้มหรือมีความสุขอะไรเลยยยยยที่หล่อนเสียเลือดชั่วๆ........(me//เกาพุง)
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: naoai ที่ 23-05-2015 23:55:29
ตัดจบเลยได้ไหม ชักจะรำคาญ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: fahhee_zeze ที่ 24-05-2015 00:20:00
นังชะนีน้ำกลับสวนสัตว์ไปไป๊!!
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: โซดาหวาน ที่ 24-05-2015 08:16:10
อีน้ำอีเป็ดดดดด (โอ้ยยยยอินมากนี่บอกเลออ)
ตบมานนนนคร๊าา  #งานตบต้องมาาาา
ตบคงไม่พอออ เอานี้ไปเลยยรัววววววๆ :z6:
555555
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: boommerang ที่ 24-05-2015 09:21:40
น้ำร้ายกาจมากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 24-05-2015 10:23:59
เหอ เหอ เม้นไม่ออก
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: ordinary_y ที่ 26-05-2015 10:35:24
โว้ยยยยยยยยยย  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 26-05-2015 21:18:08
วีแม่งทำตัวไม่ชัดเจน
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: sodawan1 ที่ 01-06-2015 18:38:47
เกลียดดดดดดน้ำมากกกกก เอาไปเก็บด่วนน!!
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28 up 23/5/2015 p.19
เริ่มหัวข้อโดย: Chinchin ที่ 04-06-2015 16:29:28
ชินแกไม่รักน้ำแล้วดึงน้ำมาเกี่ยวข้องเพื่อ สงสารวีมาก  :hao5:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 10/6/2015 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: sweetyswtcou ที่ 10-06-2015 00:18:58
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 10/6/2015 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: Cinnamon Roll!!! ที่ 10-06-2015 00:48:50
 o18 o18 o18 o18
ฮิฮิ   เค้าจะดีกันแล้วใช่มะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 10/6/2015 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 10-06-2015 01:47:50
3 คำเรื่องนี้ รัก หลอก ลวง

น่าจะใกล้จบแล้วนะ  เหลือจัดการกับน้ำอีกคนมั๊งเนี่ย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 10/6/2015 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-06-2015 01:54:56
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 10/6/2015 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 10-06-2015 06:52:46
 :angry2: :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 10/6/2015 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: kurumi_nut ที่ 10-06-2015 08:24:28
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 10/6/2015 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 10-06-2015 09:09:28
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 10/6/2015 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 10-06-2015 09:40:22
ฟังวีเล่าแล้ว พี่ชินจะเอายังไง
คนที่เป็นฮีโร่ก็คือพี่โย เพื่อนพระเอกตัวจริงเสียงจริง
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 10/6/2015 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: JAROEN ที่ 10-06-2015 10:50:37
โปรด ติดตาม ตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 10/6/2015 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: JAROEN ที่ 10-06-2015 11:09:42
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: รู้สึกดีอ่ะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 10/6/2015 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: naoai ที่ 10-06-2015 16:33:47
ไม่ใช่ชินมางอนวีเพราะเรื่องที่วีหลอกว่าเป็นแฟนโยอีกนะ ขออย่าใหเป็นอย่างนั้นเลยไม่งั้นผมจะ  โคตรเซ็ง
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 10/6/2015 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 10-06-2015 17:32:41
ไม่ใช่ว่าพอรู้ว่าเขาคบกันหลอกๆแล้วงอนนะ รักกันเถอะพี่ขินเอ๊ย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 10/6/2015 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 10-06-2015 21:05:40
โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยย นายเอกสองใจ โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 10/6/2015 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 10-06-2015 21:38:17
    ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5


“อีกนานไหมครับกว่าพี่ชินจะฟื้น”

“ไม่ต้องห่วงหรอกเดี๋ยวมันก็ฟื้นนะ”  พี่โยเดินเข้ามายืนใกล้ผมที่นั่งอยู่ข้างเตียงคนป่วยก่อนว่าเสียงเบา

“แต่พี่ชินสลบไปนานแล้วนะครับ”  แม้พี่โยจะยืนยันแต่ผมยังคงกังวลไม่เลิก ตั้งแต่มาถึงโรงพยาบาลจนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้วพี่ชินยังไม่ยอมฟื้นขึ้นมาซักที

“หมอบอกว่ามันแค่เสียเลือดมากจากหัวที่แตกแล้วก็พักผ่อนไม่เพียงพอเลยสลบไปนานแค่นั่นเอง วีกลับไปผักผ่อนก่อนก็ได้เดี๋ยวพี่อยู่เฝ้ามันเอง ถ้ามันตื่นเมื่อไรพี่จะโทรบอก”

“ไม่ครับผมอยากเห็นพี่ชินฟื้นขึ้นมาด้วยตาตัวเอง พี่โยนั่นแหละ ไปพักผ่อนเถอะครับ”

“งั้นพี่ลงไปซื้ออะไรร้อนๆมาให้กินรองท้องก่อนแล้วกัน อยู่คนเดียวได้นะ”

“อยู่ได้ครับพี่โยไม่ต้องเป็นห่วง”

“เดี๋ยวพี่จะรีบกลับมานะ”

“ครับ” ผมตอบรับเสียงเบาก่อนพี่โยจะเดินออกจากห้อง


ความเงียบเข้าปกคลุมภายในห้องพักผู้ป่วยพิเศษอีกครั้ง ได้ยินเพียงเสียงหายใจของตัวเองกับเสียงทำงานของเครื่องปรับอากาศเบาๆ ผมนั่งมองพี่ชินที่ยังคงนอนหลับสนิทอยู่ตรงหน้า อากาศที่หนาวเย็นรอบตัวทำให้ผมรู้สึกหนาวมาถึงใจ ความหวาดกลัวเริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง กลัวว่าพี่ชินจะไม่ฟื้นขึ้นมา กลัวว่าพี่ชินจะหลับแบบนี้ไปอีกนาน


ผมจะไม่คิดมากถ้าไม่บังเอิญได้ยินพี่โยคุยกับหมอว่ากระเบื้องที่ตกใส่หัวพี่ชินอาจกระทบกระเทือนถึงสมองและมีผลข้างเคียงตามมา หมอบอกให้ทำใจเผื่อไว้ แต่พี่โยไม่ยอมบอกผมสักคำ ได้แต่บอกว่าพี่ชินไม่เป็นไรคงเพราะกลัวว่าผมจะคิดมากที่เป็นต้นเหตุให้พี่ชินเป็นแบบนี้ 


ถ้าผมไม่เอาตัวเองเข้าไปบังพี่โยแล้วรับหมัดจากพี่ชินเพื่อหวังจะให้ทั้งสองคนเลิกทะเลาะกัน ผมก็คงไม่เซไปชนนั่งร้านจนกระเบื้องที่ช่างยกขึ้นไปไว้ข้างบนเพื่อรอซ่อมหลังคาร่วงลงมาใส่พี่ชินแบบนั้น แล้วพี่ชินก็ยังเอาตัวเองมาบังผมไว้อีก ไม่ว่ายังไงก็หนีความจริงที่ผมเป็นสาเหตุให้พี่ชินต้องมานอนเจ็บอยู่แบบนี้ไม่ได้ ถ้าพี่ชินเป็นอะไรไปผมจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองเด็ดขาด


“พี่ชินพี่ได้ยินผมไหม ถ้าได้ยินพี่ตื่นขึ้นมาเถอะครับ ตื่นขึ้นมาหาผม ตื่นขึ้นมา อึก ผมรอพี่อยู่นะ พี่ต้องไม่เป็นอะไรนะ” ผมไล้มือไปตามแก้มตอบของพี่ชินที่ตอนนี้มันซีดจนเหมือนไม่มีเลือดสูบฉีด พร้อมกับน้ำตาที่แห้งไปนานเริ่มไหลอีกครั้ง


“พี่รู้ไหมผมมีอะไรจะพูดจะเล่าให้พี่ฟังเยอะแยะไปหมด พี่ตื่นขึ้นมาฟังผมนะ อึก ถ้าพี่หลับอยู่แบบนี้แล้วผมจะเล่าให้ใครฟัง
อึก....ล่ะ”  ม่านน้ำตาที่ยังคงไหลทำให้ภาพตรงหน้าพร่าเลือนจนผมต้องซบหน้าลงบนแขนของผู้ชายที่ผมรัก


“อย่า.....”


“พี่ชิน!” ผมรีบผงกหัวขึ้นมองทันทีที่ได้ยินเสียงแว่วๆ ใช่ไหม...ใช่เสียงพี่ชินไหม


“อย่าร้อง” แล้วผมก็เห็นคนที่นอนหลับสนิทมาตลอดตอนนี้ลืมมามองผมแล้วครับ  ดวงตาที่อ่อนแรงคู่นี้กำลังมองผมอยู่


“พี่ชินฟื้นแล้ว พี่ชินฟื้นแล้วใช่ไหม”  เสียงถามรัวเร็ว ทั้งๆที่รู้ว่าพี่ชินฟื้นแล้วแต่ผมก็ยังย้ำถามเพื่อตอกย้ำให้ตัวเองแน่ใจว่านี่ผมไม่ได้เพียงแค่ฝันไป


“ร้องทำไม ไม่ร้องนะ เจ็บมากเหรอ.... พี่ขอโทษนะ” เสียงแหบแห้งที่พยายามเปล่งออกมาเหมือนคนไม่มีแรง พร้อมกับมือที่ยกขึ้นมาไล้นิ้วโป้งบนแก้มผมข้างที่โดนต่อย ทำให้ผมถึงกับน้ำตาร่วงอีกครั้ง


“ไม่เจ็บเลยครับ ไม่เจ็บเลยซักนิด ผมแค่ดีใจที่พี่ฟื้นแล้ว ต่อไปนี้พี่อย่าทำแบบนี้อีกนะครับ ถ้าพี่เป็นอะไรขึ้นมาแล้วผมจะอยู่ยังไง ผมอยู่ไม่ได้หรอกนะถ้าไม่มีพี่”


“ทำไมล่ะทำไมถึงอยู่ไม่ได้”  หลังจากเงียบไป อยู่ๆพี่ชินก็ถามขึ้นมาเสียงเบาแทบ แต่มีรู้ว่าเพราะความเงียบจากบรรยากาศรอบๆหรืออะไรถึงทำให้ผมได้ยินชัดเจน


“เพราะผมรักพี่ไง ผมรักพี่ไม่ว่าตอนนี้หรือตอนไหนพี่เป็นคนเดียวที่ผมรัก และจะรักตลอดไปด้วยเพราะฉะนั้นพี่อย่าทิ้งผมไปนะครับ พี่ต้องอยู่กับผมถึงพี่จะไม่รักไม่ต้องการผมแต่ห้ามทิ้งผมไป”  ผมว่าพร้อมเอื้อมแขนไปกอดพี่ชินที่ยังนอนอยู่


“พี่ก็รัก รักวี”


“พี่ชินๆ พี่ชินเป็นอะไร ตื่นขึ้นมาก่อน พี่ชิน” ความตื่นเต้นดีใจที่ได้ยินคำว่ารักจากปากพี่ชิน ต้องเปลี่ยนเป็นความตกใจทันทีที่เงยหน้าขึ้นมาแล้วพบว่าพี่ชินที่เพิ่งคุยกับผมตอนนี้ดวงตาปิดสนิทไปอีกครั้ง  แม้ว่าผมจะพยามยามเรียกแต่ก็ไร้การตอบสนองใดๆ
พี่แค่หลับใช่ไหม


ไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม


ผมต้องตามหมอ ........


ใช่ตามหมอ   ด่วนเลย










“พี่ชินกินอีกคำนะครับ พี่เพิ่งกินไปนิดเดียวเอง” ผมบอกพี่ชินที่ทำท่าจะไม่ยอมกินข้าวที่ผมป้อนให้ทั้งที่เพิ่งจะกินไปได้ไม่กี่คำ


“พี่อิ่มแล้ว”


“ถ้าพี่ไม่กินแล้วเมื่อไรพี่จะหายละครับ กินน้อยแบบนี้กินยาตามไปพี่จะแสบท้องนะ” ผมว่าก่อนยื่นช้อนที่ตักข้าวจนพูนไปตรงหน้าพี่ชินอีกครั้ง



หลังจากเมื่อคืนนี้ที่พี่ชินฟื้นขึ้นมาคุยกับผมแล้วสลบไปจนทำให้ผมแตกตื่นไปตามหมอให้วุ่น ปรากฏว่าพี่ชินแค่เพลียเพราะเสียเลือดมากเลยหลับไปอีกครั้ง พอเช้ามาอาการก็ดีขึ้น คุณหมอตรวจแล้วอาการปกติดีเลยอนุญาตให้กลับมาพักที่รีสอร์ทได้ แต่ต้องไปล้างแผลที่เย็บไว้เพราะหัวแตกเป็นทางยาว


ไม่รู้เพราะเพิ่งฟื้นขึ้นมาหรืออาการปวดแผลถึงทำให้ผมรู้สึกว่าพี่ชินไม่ค่อยสดชื่น ตั้งแต่กลับมารีสอร์ทพี่ชินก็เงียบ ผมถามคำก็ตอบคำ หรือไม่ก็เอาแต่นอนมองผมนิ่งๆจนผมอดแปลกใจไม่ได้


“พี่กินอีกคำเดียวแล้วพอเลยนะ”


“ครับ กินข้าวกินยาเสร็จแล้วผมจะเช็ดตัวให้นะครับ ” เสียงต่อรองนิ่งๆของพี่ชินทำให้ผมอดใจอ่อนไม่ได้


“วี.....”


“ครับ” อยู่ๆเสียงเรียกชื่อผมก็ดังขึ้นระหว่างที่กำลังเช็ดแขนให้พี่ชินเพลินๆ


“วีรักพี่จริงๆเหรอ” เสียงถามเบาเหมือนไม่แน่ใจดังขึ้นจากผู้ชายตรงหน้า ทำให้ผมละมือจากสิ่งที่กำลังทำอยู่แล้วหันมาจ้องตากับเจ้าของคำถามแทน


“จริงสิครับ อะไรทำให้พี่ชินคิดว่าผมไม่รักพี่เหรอ พี่รู้ไหมผมรักพี่มาตลอดไม่มีสักนาทีที่ผมจะไม่รัก หรือคิดเปลี่ยนใจไปรักคนอื่น” 

“พี่คิดว่าตัวเองฝันไปซะอีก”


“ไม่ได้ฝันหรอกครับ” ผมยืนยันให้พี่ชินมั่นใจอีกครั้ง นี่สินะเรื่องที่ทำให้พี่ชินแปลกไป


“ไอ้ชินเป็นไงบ้าง  กินข้าวรึยังวะ” ผมหันไปมองพี่โยที่เปิดประตูห้องพักเข้ามาถามอาการพี่ชินหลังจากปล่อยให้ผมดูแลมาเกือบทั้งวัน เพราะต้องออกไปทำกิจกรรมกับรุ่นน้อง


“กินแล้ว”


“อะไรวะ เนี่ยนะกินแล้วมึงกินให้มันมากกว่านี้หน่อย ข้าวสารมันคงไม่ขาดตลาดหรอก”


“กูไม่หิววะ”


“ไม่หิวมึงก็ต้องกิน หรือจะให้กูจับกรอกปาก คนป่วยเหี้ยอะไรดื้อฉิบหาย”  ผมมองเพื่อนสองคนที่เมื่อวานทะเลาะต่อยตีกันเอาเป็นเอาตายแต่วันนี้กลับมาเป็นห่วงเป็นใยจนแทบจะป้อนข้าวให้กัน ไม่รู้ว่าไปดีกันตอนไหน แต่เห็นแบบนี้แล้วผมก็สบายใจกว่าตอนนี้ที่ทะเลาะกันเยอะเลย นี่แหละครับที่เขาเรียกว่าเพื่อนกันยังไงก็ตัดกันไม่ขาด


“วีกินข้าวรึยังครับ ไปกินข้าวก่อนก็ได้ ไอ้ชินเดี๋ยวพี่ดูมันเอง” พี่โยหันมาถามผมที่เดินเอาผ้าที่ใช้เช็ดตัวพี่ชินไปซักตากในห้องน้ำเสร็จพอดี


“แล้วพี่โยกินหรือยังครับ จะให้ผมตักมาให้ไหม”


“ไม่ต้อง พี่กินแล้ว วีไปเถอะ”


“งั้นผมขอไปกินข้าวแล้วจะรีบกลับมานะครับ พี่ชินอยากได้อะไรไหม เอาผลไม้หรือขนมหวานไหมครับ” ผมบอกพี่โยก่อนหันไปถามพี่ชินที่กำลังนั่งกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเพราะพี่โยตักข้าวในจานขึ้นทำท่าจะป้อน แต่พี่ชินเอามือกันไว้


“ไม่เอา รีบไปเถอะเดี๋ยวข้าวหมด”  พี่ชินตอบก่อนบอกให้ผมรีบไป เพราะตอนนี้เป็นว่าเวลาอาหารเย็นถ้าออกไปช้าเดี๋ยวจะหมดซะก่อน

 เมื่อพี่ชินไม่เอาอะไรผมเลยเดินออกมาจากห้องพักของพี่ชินกับพี่โยก่อนมองหาไอ้แบตกับลูกแพรไม่รู้พวกมันกินข้าวกันรึยัง






“ไอ้วี ๆ ทางนี้ พี่ชินเป็นไงบ้างวะอาการดีขึ้นรึยัง” เดินหาไม่นานก็มาเจอมันกำลังนั่งกินข้าวอยู่พอดี


“ก็ดีขึ้นแล้วนะ คงปวดแผลแต่ไม่มีอาการไข้แทรกซ้อน”  ผมตอบไอ้แบตที่ถามทันทีที่ผมมาถึง ยังไม่ทันได้นั่งเลยครับ


“แล้วทำไมไม่กินข้าวเองวะ แค่หัวแตกไม่ได้เป็นง่อยทำไมมึงต้องป้อน กูสงสัยตั้งแต่เมื่อกลางวันแล้ว” ก็พี่ชินแม่งไม่ยอมกินข้าวกูเลยต้องป้อนไง ถ้าไม่ป้อนไม่บังคับก็ไม่ยอมกิน บอกแต่ว่าไม่หิว


“แล้วแฟนพี่ชินไปไหน ทำไมไม่มาป้อนล่ะ ทำไมต้องใช้วีด้วย” ลูกแพรที่นั่งฟังเงียบ ๆ ถามขึ้นบ้าง


“ไม่รู้เหมือนกัน” ผมชะงักไปนิดหนึ่งก่อนตอบแล้วเริ่มลงมือกินข้าวในจาน ไอ้แบตกับลูกแพรเห็นผมเงียบเลยหันไปสนใจข้าวของตัวเอง ก่อนจะชวนคุยเรื่องอื่น


“กินข้าวเสร็จแล้วมึงไปไหนต่อวะ”


“นั่นสิวีจะเข้าทำกิจกรรมไหม วันนี้มีบูมทะเลนะ” ลูกแพรถามผมต่อจากไอ้แบต


“คงไม่ได้เข้าหรอกแพร วีว่าเดี๋ยวจะกลับไปดูพี่ชินต่อ ไม่อยากปล่อยไว้คนเดียว”


   “วีลูกแพรว่าปล่อยให้พี่น้ำเป็นคนดูแลพี่ชินดีไหม ยังไงเขาก็เป็นแฟนกัน ที่แพรบอกไม่ได้จะว่าอะไรวีนะ แต่แพรกลัวว่าวีจะเจ็บเหมือนที่ผ่านมา ยิ่งวีเอาตัวเองไปใกล้พี่ชินมากเท่าไรวีก็จะเจ็บมากเท่านั้น”


“แต่วีอยากดูแลพี่ชิน”


“แล้วพี่โยล่ะวี พี่โยจะคิดยังไงที่แฟนตัวเองไปคอยดูแลคนรักเก่า ตอนนี้วีเป็นแฟนพี่โยไม่ใช่เหรอ แล้วยังพี่น้ำอีกเดี๋ยวก็มาอาละวาดใส่วีอีก”


“วีเข้าใจที่แพรบอกนะ แต่วีเป็นคนทำให้พี่ชินเจ็บตัวอยู่แบบนี้ วีก็อยากจะดูแลพี่ชิน  มันอาจจะเป็นข้ออ้างที่ดูงี่เง่า แต่มันก็เป็นเพียงข้ออ้างเดียวที่วีจะเข้าใกล้พี่ชินได้ในตอนนี้  วีไม่สามารถทนเห็นพี่ชินเจ็บโดยได้แต่ทนดูอยู่เฉย ๆ ขอให้วีได้ทำตามใจตัวเองเถอะนะ วีเชื่อว่าพี่โยจะต้องเข้าใจ” ผมบอกลูกแพรที่ช่วยเตือนสติ แต่ผมไม่สามารถทำตามคำแนะนำนี้ได้จริง ๆ ครับ ผมคงเป็นผู้ชายที่เลวมากในสายตาของใครต่อใคร แต่ผมก็ไม่สนใจทุกอย่างที่ทำลงไปก็เพียงเพราะคำว่า “รัก” คำเดียวเท่านั้น



“ถ้าวีตัดสินใจแบบนั้นและพร้อมจะยอมรับผลที่ตามมา แพรก็คงห้ามอะไรไม่ได้  แพรคงได้แต่เอาใจช่วยวีเท่านั้น”


“แค่นี้ก็มากเกินพอแล้ว วันไหนที่วีพลาดกลับมาอย่าลืมให้วียืมไหล่ซับน้ำตาก็แล้วกัน” ผมแกล้งว่าล้อๆ แต่ทุกคำผมพูดจริงจากใจ 


“หวังว่าคงไม่มีวันนั้นหรอกนะ”


“สองคนนี้จะดึงซึ้งกันทำไมวะ ไหนว่าจะไปหาพี่ชินไม่ใช่เหรอ ไม่ไปแล้วไงวะ” ไอ้แบตว่าเสียงดังขึ้นมาก่อนถามต่อ


“นั่นดิลูกแพรนั่นแหละคนเปิดประเด็นเลย กูไปหาพี่ชินดีกว่าป่านนี้ไม่รู้พี่โยเอาข้าวกรอกปากไปรึยัง มึงจะไปด้วยไหม”


“ไปดิไปเยี่ยมพี่ชินก่อน เดี๋ยวค่อยไปทำกิจกรรมต่อ ลูกแพรไปไหม”


   “ไปสิ ลูกแพรก็เป็นห่วงพี่ชินเหมือนกัน”


   หลังจากตกลงกันได้ผมก็เอาจานข้าวไปเก็บก่อนเดินนำเพื่อนทั้งสองคนมายังบ้านพักของพี่ชิน






“กูรู้ว่ากูเป็นเพื่อนที่เหี้ยมากที่ไปรักแฟนเพื่อน แต่ในเมื่อกูรักไปแล้วจะให้กูทำยังไงวะ”


“มึงไม่ต้องมาถามกูหรอกว่าต้องทำยังไง มึงถามใจมึงเองเถอะว่ามันสมควรไหม” มือที่หมุนลูกบิดและกำลังจะดันประตูให้เปิดออกมีอันต้องชะงักเพราะเสียงที่ดังรอดออกมาจากภายใน

 
“แต่มึงก็รู้ว่ากูรักวี รักมานานก่อนที่มึงจะรักซะอีก” ผมได้ยินไม่ผิดใช่ไหม เสียงนั้นเป็นเสียงพี่ชิน เสียงพี่ชินที่กำลังบอกว่ารักผม  จากที่คิดจะเดินออกเพื่อปล่อยให้พี่ชินกับพี่โยได้คุยกันแต่เพราะประโยคที่ได้ยินมันทำให้ใจผมเต้นแรง เหมือนมันพองโตจนคับอก พี่ชินบอกว่ารักผม พี่ชินยังรักผมอยู่ คำที่รอมานานรอพี่ชินที่มีสติครบสมบูรณ์ดี ไม่ใช่ครึ่งหลับครึ่งตื่นเหมือนที่ผ่านมา  หัวใจที่พองโตมันคงทำให้เท้าของผมทำงานผิดปกติไปด้วย เพราะตอนนี้มันไม่ยอมขยับไปไหน


“แล้วไง ระยะเวลามันไม่ได้เป็นตัวกำหนดหรอกนะว่ามึงรักมาก่อนแล้วมึงต้องได้เป็นแฟนวี ตอนที่มึงมีโอกาสทำไมมึงถึงเลือกที่จะปล่อยมันไป แล้วตอนนี้ตอนที่กูกับน้องเป็นแฟนกัน มึงจะมาเรียกร้องอะไร”


“แต่วีบอกว่าวีรักกู”


“แล้วไง กูรู้ แต่กูไม่แคร์ ในเมื่อน้องเป็นแฟนกู ตอนนี้ถึงจะไม่รักแต่สักวันกูจะทำให้น้องรักกูให้ได้”


“กูมันเป็นเพื่อนที่เลว  มึงจะเกลียด จะโกรธกูยังไงก็ได้ แต่กูขอร้องยกวีให้กูเถอะ กูอยู่ไม่ได้หรอกถ้าขาดวี สำหรับกูมึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดที่กูคิดว่าชาตินี้คงหาที่ไหนอีกไม่ได้  มึงเป็นเพื่อนตายของกู ถ้ามึงเดือดร้อนไม่ว่ามึงต้องการอะไรหรืออยากได้อะไรกูก็ให้ได้ทั้งนั้น แต่กูขอเถอะแค่วี แค่วีคนเดียวที่กูให้ไม่ได้  มึงก็รู้ว่าน้องเป็นทุกอย่างของกู”


“มึงก็เป็นเพื่อนแท้ เพื่อนตายคนเดียวของกูเหมือนกัน แต่สำหรับน้องวีกูคงให้ไม่ได้ว่ะ”


“กูต้องทำยังไงมึงถึงจะยอม  หรือต้องให้กูก้มหัวขอร้อง”


“ไม่นะพี่ชิน อึก..... พี่อย่าทำแบบนั้น ผมขอโทษผมผิดเอง ผมผิดคนเดียว อึก...ผมขอโทษ” ผมร้องห้ามพร้อมพุ่งตัวมากอดพี่ชินไว้ทันทีที่พี่ชินพูดจบ  มาถึงตอนนี้ผมคงทนยืนฟังเฉยๆอีกไม่ได้ เพราะเรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะผมเองเพราะผมคนเดียว


   “วีถอยไป เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของพี่กับไอ้ชิน”


“ผมไม่ถอย เพราะเรื่องนี้มันเกี่ยวกับผมด้วย ผมเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด”


“วีพี่ขอเคลียร์กับไอ้โยก่อนนะ ถึงวีจะบอกว่ารักพี่ แต่ตอนนี้วีเป็นแฟนไอ้โยที่เป็นเพื่อนพี่ ถึงเราจะรักกันแต่ถ้าพี่ต้องหักหลังเพื่อนแบบนี้ พี่กับวีคงไม่มีทางมีความสุขไปได้หรอก”

   “ไม่ ผมไม่ได้......”

“แล้วมึงคิดเหรอว่าถ้ากูให้น้องวีกับมึงไปแล้วกูจะมีความสุข กูก็รักวีเหมือนกัน”


“กูรู้ว่ามึงรัก แต่กูเป็นเพื่อนมึง กูจะดูไม่ออกเหรอว่ามึงรักวีแบบไหน มึงไม่ได้รักวีแบบคนรักที่จะอยู่ด้วยกันไปชั่วชีวิตหรอก”


“มึงจะมารู้ดีกว่ากูได้ยังไง กูอาจจะรักน้อยจนเปลี่ยนใจได้วันนี้พรุ่งนี้ หรืออาจจะรักมากจนทำให้กูฆ่าใครก็ได้ที่คิดจะมาแย่งคนที่กูรักไปจากกูก็ได้”


“ไอ้โยกูเป็นเพื่อนมึงมากี่ปี ไม่ใช่ว่าเพิ่งเป็น มึงอย่าหลอกตัวเองเลยยิ่งมึงหลอกตัวเอง ตัวมึงเองจะยิ่งเป็นทุกข์ และไม่ใช่แค่มึงแต่วีและกูก็เป็นทุกข์ไม่ต่างจากมึงหรอก”


“ที่มึงพูดมาทั้งหมดเพราะต้องการให้กูยกน้องวีให้มึงใช่ไหม”


“กูอยากให้มึงยอมรับความจริง”


“หึ ถ้ามึงอยากได้วีมากนัก มึงลองก้มหัวขอร้องกูดูสิ ลองเป็นคนที่ต้องทำตามที่คนอื่นบงการดูบ้างเป็นไง มันไม่ได้มีความสุขหรอกนะ”


“ได้ แค่นี้ใช่ไหมที่มึงต้องการ”


“พี่ชินไม่นะ พี่อย่าทำแบบนั้น”

“เร็วสิช้าอยู่ทำไม”

“พี่โยผมขอร้องพอเถอะครับ ผมไม่อยากให้เป็นแบบนี้ ผมผิดไปแล้ว ผมขอโทษ ผมไม่ได้เป็นแฟนกับพี่โย ผมหลอกพี่ พี่ได้ยินไหมว่าผมหลอกพี่” ผมดึงพี่ชินที่กำลังจะทรุดตัวลงเพื่อก้มหัวให้พี่โย พร้อมรับสารภาพเสียงดัง ไม่ไหวแล้วครับ ผมทนเก็บมันไว้กับตัวไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว


“นี่มันหมายความว่ายังไง” พี่ชินหันมาถามเสียงนิ่ง


“พี่ชินผมขอโทษ”  ผมว่าเสียงเบาพร้อมเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อสามวันก่อนจะผ่านเข้าในความคิด







   - สามวันก่อนหน้า -

“น้องวี! หายไปไหนมาพี่ไม่เคยเจอเลย”


“ผมก็ไม่ได้ไปไหนนี่ครับ แค่ไม่ค่อยได้อยู่มอ เรียนเสร็จผมก็กลับห้องเลย”


“รู้ไหมพี่เป็นห่วง ถามไอ้แบตมันก็ว่าวีสบายดี แต่พี่ว่าดูวีซูบไปเยอะเลยนะ”


“ผมสบายดีจริงๆพี่ไม่ต้องห่วง ว่าแต่เช็คชื่อเสร็จแล้วใช่ไหมครับผมจะได้ไปรอขึ้นรถ”


“เสร็จแล้วๆ ไอ้น็อตเช็คชื่อแทนกูหน่อย”


“อ้าวมึงจะไปไหน”


“เรื่องของกูมั่งได้ไหมวะ มึงว่างก็มาเช็คให้ก่อนเดี๋ยวกูมา วีๆ รอพี่ก่อน”


“มีอะไรเหรอครับ” ผมหันไปถามพี่โยอย่างแปลกใจ เมื่อเห็นพี่โยที่เมื่อครู่นั่งเช็คชื่อวิ่งตามผมมาพร้อมเรียกเสียงดัง


“เกือบไม่ทันแล้วไหมล่ะ พี่มีเรื่องอยากจะคุยกับวีหน่อย”


“เรื่องอะไรเหรอครับ”


“เรื่องไอ้ชิน พี่ว่ามันยังรักวีอยู่นะ วีไม่ลองคุยกับมันอีกครั้งเหรอ”


“พี่โยเอาอะไรมาพูดครับ  พี่ก็เห็นว่าพี่ชินมีแฟนแล้ว พี่โยเข้าใจผิดแล้วล่ะตอนนี้แม้แต่หางตาพี่ชินยังไม่อยากจะมองผมเลย”


“ไม่จริงหรอก พี่เป็นเพื่อนมันพี่ดูออกว่ามันไม่มีความสุขเลยตลอดสามเดือนที่ผ่านมา แล้วไอ้เรื่องเป็นแฟนกับน้ำพี่ก็ไม่อยากเชื่อ พี่ว่ายังไงมันก็ยังรักวีอยู่เชื่อพี่สิ”


“พี่โยอย่ามาพูดให้ผมมีความหวังเลยครับ ถึงจะเป็นจริงตามที่พี่ว่า แต่ยังไงตอนนี้พี่ชินก็เป็นแฟนกับพี่น้ำแล้ว รู้ไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงความจริงไปได้หรอกครับ”


“ได้สิ แค่วีร่วมมือกับพี่ พี่เชื่อว่าไอ้ชินมันยังรักวีอยู่ และพี่สามารถทำให้มันกลับมาหาวีอีกครั้งได้”


“พี่จะทำไปเพื่ออะไรครับ”


“เพื่อวีที่เป็นเหมือนน้องของพี่ พี่ไม่อยากเห็นวีตรอมใจอยู่แบบนี้ และ....เพื่อมันด้วยพี่ไม่อยากเห็นเพื่อนพี่เป็นเหมือนผีดิบเดินได้เหมือนทุกวันนี้เหมือนกัน พี่ไม่เข้าใจว่าคนที่ใจตรงกันสองคนทำไมต้องทำร้ายตัวเองและทำร้ายคนที่ตัวเองรักขนาดนี้ วีร่วมมือกับพี่นะ”


“ร่วมมือยังไงเหรอครับ”



   “เป็นแฟนพี่”


“เป็นแฟนพี่” ผมทวนคำพี่โยอย่างตกใจ

“ใช่แค่วีเป็นแฟนพี่ก็พอ ที่เหลือพี่จัดการเอง”

“แต่”
“แค่เป็นแฟนหลอกๆ เท่านั้นพี่ไม่ได้ให้มาเป็นจริงๆ แต่เรื่องนี้ต้องรู้แค่เราสองคนนะให้คนอื่นรู้มากไม่ได้ เดี๋ยวเสียแผน แม้แต่เพื่อนสนิทวีก็ห้ามบอก ที่มันยอมปล่อยวีไปก็เพราะมันเข้าใจว่าวีรักพี่ตินณ์ แต่พี่ว่าถ้าไอ้ชินมันรู้ว่าวีเป็นแฟนพี่ ไม่นานหรอกไอ้ชินมันต้องทนไม่ได้แน่ๆ”


“ขอบคุณมากครับพี่โย แต่ผมไม่อยากโกหกความรู้สึกตัวเอง ไม่ว่าตอนนี้หรือตอนไหนผมก็ไม่เคยหยุดรักพี่ชินได้ แล้วผมไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถหลอกคนอื่นว่าเป็นแฟนกับพี่ได้ ยังไงก็ต้องโดนจับได้แน่ๆครับ”


“ไม่ลองดูก่อนจะรู้เหรอ มันก็ไม่ได้มีอะไรเสียหายนิ ถ้ามันไม่สำเร็จวีก็แค่บอกว่าเลิกกับพี่แล้ว  อาจจะบอกว่าพี่นอกใจหรืออะไรก็ได้ แต่ถ้ามันสำเร็จวีจะได้มีความสุขกับไอ้ชินสักที”


“แล้วพี่น้ำล่ะครับ ตอนนี้พี่ชินเลือกพี่น้ำไปแล้ว ผมว่าปล่อยให้มันเป็นไปตามทางของมันเถอะครับ ผมคงมีวาสนากับพี่ชินมาแค่นี้ ถ้าผมยังมีวาสนาอยู่ซักวันผมกับพี่ชินคงได้เริ่มต้นกันใหม่เอง”


“แต่.......”


“ผมรู้ว่าพี่รักแล้วหวังดีกับผมและพี่ชินจริงๆ แต่ตอนนี้ใจผมมันยังไม่แข็งแรงพอที่จะไปบอกพี่ชินได้ว่าผมมีแฟนเป็นคนอื่นแล้ว แค่ผมคิดถึงสายตาหรือปฏิกิริยาที่จะเกิดขึ้นใจผมมันก็แทบสลายแล้วครับ พี่โยเข้าใจผมนะครับตอนนี้ผมไม่พร้อมเผชิญหน้ากับพี่ชินจริง ๆ”


“พี่จะไม่บังคับวี แต่พี่อยากให้วีเก็บไปคิดดู ถ้าเปลี่ยนใจแล้วอยากให้คำตอบพี่เมื่อไหร่ บอกพี่ได้ตลอดเลยนะ พี่พร้อมช่วยวีเสมอ” ผมมองเห็นรอยยิ้มของพี่โยที่ส่งให้ผมอย่างจริงใจ


“ขอบคุณครับพี่โย ขอบคุณที่เข้าใจผม”


     ----- โปรดติดตามตอนต่อไป -----

           ขอบคุณที่ติดตามค่ะ  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 10/6/2015 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 10-06-2015 21:53:09
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 10/6/2015 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: boommerang ที่ 10-06-2015 22:07:57
มาแว้วววววว
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 10/6/2015 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 10-06-2015 23:16:36
เหมือนจะได้กินมาม่าหม้อใหม่จากพี่ชิน
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 10/6/2015 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 10-06-2015 23:41:20
ไม่ใช่พอพี่ชินรู้ที่น้องหลอกแล้วโกรธอีกนะ เฮ้อ


เครียดแทนเลย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 10/6/2015 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 11-06-2015 07:07:26
เรื่องจะเป็นอย่างไรต่อไปเนี่บ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 10/6/2015 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 11-06-2015 10:11:51
พี่ชินฟังเหตุผลน้องมันก่อนนะ  อย่าเพิ่งงอนเป็นตุ๊ดไปอีกล่ะ  ไม่งั้นเรื่องนี้ไม่จบแน่ 555  และถ้าพี่จะงอนหรือจะซัดใครก็ไปซัดพี่โยเพื่อนพี่แล้วกัน   ว่าแต่พี่เคลียร์เรื่องยัยชะนีน้ำกับวีหรือยัง  ดูแล้วมันยังไม่เคลียร์เหมือนกันนะเรื่องของพี่อ่ะ

อยากเห็นฉากหวานของคู่นี้บ้าง  เพราะช่วงนี้กินมาม่าบ่อยล่ะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 28.5 up 10/6/2015 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 11-06-2015 17:22:00
อัยย๊ะ แผนสูงนะ เนียนเชียว :ruready
หัวข้อ: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29 up 23/6/2015 p.20
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 23-06-2015 22:04:05
          ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29


“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ใครจะช่วยอธิบายทีได้ไหม” พี่ชินว่าเสียงดังก่อนมองผมสลับกับพี่โย


“ผมหลอกพี่ชินครับ ผมไม่ได้เป็นแฟนกับพี่โย เราแค่แกล้งเป็นแฟนกัน” ผมเงยหน้าขึ้นสบตาพี่โยนิดหนึ่งก่อนว่าเสียงเบา ความรู้สึกผิดที่กดไว้เริ่มเกาะกินใจอีกครั้ง


“น้องไม่ผิดหรอก กูผิดเองที่หลอกมึง มึงไม่สังเกตเหรอ ทุกครั้งน้องวีไม่เคยพูดเองกับปากเลยว่าเป็นแฟนกู มีแต่กูพูดอยู่คนเดียว” เสียงพี่โยดังแทรกขึ้นก่อนที่ผมจะทันได้อธิบายต่อ


“ทำไม...ทำไมวีกับไอ้โยถึงต้องร่วมมือกันหลอกพี่ด้วย” สีหน้าพี่ชินเหมือนไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน ดวงตาคู่นั้นสะท้อนให้เห็นความสับสนระคนผิดหวังอย่างชัดเจน

“กูต้องการให้มึงเลิกโง่ เลิกหลอกตัวเองแล้วยอมรับซะทีว่ามึงไม่มีทางลืมวีได้หรอก ทั้งที่มึงก็รู้ว่าตัวเองรักใคร แล้วทำไมต้องทำเป็นไม่รักด้วยวะ มึงว่ามึงเป็นเพื่อนกูมานาน แล้วกูที่เป็นเพื่อนมึงนานพอกันจะดูไม่ออกเหรอว่ามึงรู้สึกยังไง มึงอย่าทำร้ายทุกคนเพียงเพราะความคิดผิดๆของมึงเลยว่ะ แต่ถ้ามึงยังไม่เข้าใจแล้วยึดมั่นกับความคิดของตัวเองอยู่ก็ขอให้คิดว่าเรื่องนี้กูผิดคนเดียว วีไม่เกี่ยว” 


“ผมต่างหากที่ผิด ถ้าผมมั่นใจและบอกความรู้สึกของตัวเองให้พี่ชินรู้เร็วกว่านี้ เรื่องทุกอย่างก็คงไม่วุ่นวายแบบที่เป็นอยู่” ผมรีบว่าเมื่อพี่โยเอาความผิดทั้งหมดไปไว้ที่ตัวเองทั้งที่มันไม่ใช่


“ไม่ต้องเถียงกันหรอก เรื่องนี้คงเป็นพี่ที่ผิดเอง พี่ทำให้คนที่พี่รักและรักพี่ต้องเป็นทุกข์เพียงเพราะพี่เข้าใจผิดว่าวียังรักพี่ตินณ์ แถมยังไม่ยอมเชื่ออะไรง่ายๆ เชื่อแต่ความรู้สึกตัวเอง ปิดหูปิดตาไม่ยอมฟังใครจนทุกคนเดือดร้อนกันไปหมด”


“พี่ชิน...” ผมครางเสียงเบา ไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกของตัวเองตอนนี้ว่าอะไร ความสับสน ความไม่สบายใจ ความทุกข์ใจต่างๆที่เป็นเหมือนเมฆหมอกในใจมานานตอนนี้มันคล้ายกำลังสลายไปเหมือนควันสีจาง


“ไอ้โยกูขอโทษนะที่ต่อยมึง กูยอมรับว่ากูหึง หึงจนขาดสติตอนที่มึงจูบวี”


“ไม่เป็นไรว่ะ กูเป็นคนยั่วมึงเอง แถมกูก็ต่อยมึงคืนพร้อมเอากำไรมาเหมือนกัน   อ่อ! กูจะบอกความจริงอะไรให้อีกอย่างนะ ตอนนั้นกูไม่ได้จูบน้องวีของมึงหรอกว่ะ เจ็บตัวฉิบหายน่าเสียดายกูไม่น่าเอานิ้วกั้นไว้เลย ไม่งั้นคงได้กำไรมาอีกนิดหน่อย” พี่โยว่าก่อนสบตาผมยิ้มๆ ใช่ครับวันนั้นตอนที่ผมกำลังตกใจคิดว่าจะโดนพี่โยจูบแต่ พี่โยเพียงแค่เอานิ้วทาบบนริมฝีปากผมก่อนกดหน้าตามมา ผมยังไม่ทันได้คิดอะไร พี่โยก็โดนกระชากไปต่อยเข้าเต็มๆ


“วี ไอ้โยมันพูดจริงเหรอ” พี่ชินหันมาถามผมพร้อมสายตาคาดคั้น จนผมต้องพยักหน้ายืนยัน


“มึงคงสบายใจได้แล้วนะว่าน้องวีของมึงไม่ได้มัวหมองเพราะมือกู” เสียงพี่โยแกล้งว่า


“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น วีก็ไม่เคยมัวหมองในสายตากู แต่ยังไงก็ขอบใจนะที่ทำให้กูตัดสินใจได้” 


“เออ หมดเรื่องแล้วใช่ไหม จะได้หมดหน้าที่เพื่อนผู้แสนดีอย่างกูสักที กลับกรุงเทพฯรอบนี้กูต้องไปทำคางใหม่ซะมั้ง ไอ้เชี้ยชกทีทั้งดั้งทั้งคางกูแทบหลุดไปพร้อมกัน” พี่โยว่าก่อนเอามือจับปลายคางตัวเองทำท่าสำรวจหาร่องรอยความเสียหาย


“มึงเองก็เบามือที่ไหน ตากูปูด ปากกูเจ่อเนี๊ยะเพราะใครวะ”  พี่ชินว่ากลับไม่จริงจัง หน้าที่เหมือนพยายามจะยิ้มแต่เพราะรอยฟกช้ำและแผลที่มุมปากทำให้ยิ้มของพี่ชินดูเหมือนการแยกเขี้ยวใส่ซะมากกว่า สิ้นเสียงพี่ชินพี่โยก็ได้แต่หัวเราะกวนๆตอบกลับแล้วเปิดประตูออกไปจากห้องโดยไม่ลืมเอาเพื่อนผมทั้งสองคนออกไปด้วย ทิ้งให้ผมและพี่ชินอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง


 จังหวะที่พี่โยเดินผ่านเพื่อออกจากห้อง ผมได้แต่นึกขอบคุณสำหรับทุกๆเรื่องที่พี่โยทำให้ และสัญญากับตัวเองว่าซักวันผมจะต้องหาโอกาสตอบแทนความดีของพี่ชายคนนี้ของผมให้ได้


 “พี่ขอโทษนะครับสำหรับทุกเรื่อง ทั้งเรื่องที่พี่เข้าใจผิดว่าวียังรักพี่ตินณ์ เพียงเพราะพี่เห็นวีกอดกับพี่ตินณ์วันนั้น แถมยังเข้าใจว่าวีช่วยพี่ตินณ์รัก แต่พี่มาคิดดูแล้วถ้าเป็นพี่ถึงไม่ได้รักแต่ถ้าคนรู้จักมีอันตรายพี่ก็คงช่วยเหมือนกัน ตอนนั้นความเข้าใจผิดและเหตุการณ์หลายๆอย่างมันทำให้พี่ปักใจเชื่อ โดยไม่มีอะไรทำให้พี่คิดว่าวีรักพี่ได้เลย  ผู้ชายคนหนึ่งทำเรื่องโง่ ๆโดยการผลักไสคนที่ตัวเองรักออกไปจากชีวิต เพียงเพื่อต้องการให้คน ๆ นั้นมีความสุข โดยที่เขาไม่เคยรู้เลยว่าสิ่งที่ทำมันเป็นเรื่องที่โง่และเลวร้ายที่สุด นอกจากพี่จะทำร้ายวี ทำร้ายตัวพี่เองแล้วพี่ยังดึงคนอื่นเข้ามาทำร้ายด้วย” อยู่ๆผมก็รู้สึกถึงอ้อมแขนของพี่ชินที่เอื้อมมาโอบกอดจากด้านหลัง ก่อนที่เสียงกระซิบแผ่วเบาจะถ่ายทอดเรื่องราวที่สงสัยมานานหลายเดือนให้ได้รับรู้ นี่สินะสาเหตุที่พี่ชินเปลี่ยนไป ไม่ใช่ไม่รัก แต่รักมากจนทำให้คนฉลาดอย่างพี่ชินก็กลายเป็นคนที่ทำอะไรโง่ๆได้อย่างไม่น่าเชื่อ


เพราะมาจากครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ เพราะไม่ต้องการให้คนที่ตัวเองรักต้องทุกข์ทรมานจากความรักเหมือนแม่ตัวเอง เพราะต้องการให้คนที่รักมีความสุข จนยอมเป็นคนเจ็บซะเองโดยไม่รู้เลยว่าการตัดสินใจของตัวเองเป็นเรื่องที่ผิดพลาดที่สุด


“ถ้าพี่จะหมายถึงพี่น้ำ ผมรู้เรื่องทั้งหมดแล้วครับ”  ผมยกมือขึ้นทาบบนแขนสั่นๆที่กำลังโอบรอบลำตัว

“วีรู้ รู้ได้ยังไง” เสียงพี่ชินเหมือนแปลกใจ ก่อนจับผมพลิกตัวให้หันมาเผชิญหน้าจ้องตานิ่ง

“ผมบังเอิญได้ยินตอนที่พี่ชินคุยกับพี่น้ำที่โขดหินริมหาด ผมขอโทษนะครับที่แอบฟัง แต่มันทำให้ผมตัดสินใจได้ว่าผมจะทิ้งความรู้สึกเสียใจทั้งหมดที่ผ่านมา แล้วเลือกเก็บไว้แค่ความทรงจำดีๆของเรา ก่อนที่จะตอบตกลงแกล้งเป็นแฟนกับพี่โยเพื่อเอาพี่ชินคืนมาไงครับ” ผมบอกพี่ชินเสียงเบาพร้อมจ้องตอบดวงตาสีดำคมเข้มตรงหน้าอย่างแน่วแน่ ก่อนที่เหตุการณ์วันนั้นจะหวนเข้ามาในความคิดอีกครั้ง


“ทำไมชินทำอะไรไม่รักษาหน้าน้ำบ้าง กี่ครั้งแล้วที่น้ำต้องเสียใจกับการกระทำของชิน มีอย่างที่ไหนอยู่กับน้ำแต่แค่มันเป็นลม ชินก็รีบถลาเข้าไปอุ้มทันที ชินทำแบบนี้ได้ยังไง เราเป็นแฟนกันนะรักษาน้ำใจน้ำบ้าง”


“น้ำก็รู้ว่าเราไม่ได้เป็นแฟนกัน”  ขาที่กำลังจะก้าวถอยหลังออกจากบริเวณโขดหินถึงกับชะงักค้างเมื่อได้ยินเสียงตอบจากพี่ชิน
พี่ชินไม่ได้เป็นแฟนกับพี่น้ำเหรอ แล้วที่ผ่านมาคืออะไร เกิดอะไรขึ้นกันแน่ คำถามมากมายเกิดขึ้นในใจผมราวกับเชื้อราที่หาทางยับยั้งไม่เจอ


“แต่ทุกคนก็เข้าใจว่าน้ำกับชินเป็นแฟนกันนะ ชินควรรักษาหน้าน้ำบ้าง ถึงชินจะไม่รักไม่สนใยดีผู้หญิงคนนี้ที่มันหลงรักชินมาไม่รู้กี่ปี แต่แค่ตอนนี้ ตอนนี้เท่านั้นชินช่วยทำดีกับน้ำหน่อยได้ไหม ชินรู้ไหมว่าการที่เราได้แค่ร่างกายของคนที่เรารักมาไว้ข้างตัว แต่ไม่ได้หัวใจมันเจ็บแค่ไหน น้ำขอซักครั้งได้ไหมแค่ครั้งเดียวที่ชินจะทำดีกับน้ำ ใส่ใจน้ำด้วยความจริงใจ” พี่น้ำว่าเสียงเศร้า เข้าใจความรู้สึกของพี่น้ำเป็นอย่างดีเพราะผมเองก็เคยรู้สึกแบบเดียวกันนี้


“ขอโทษนะ ชินคงทำไม่ได้ ระหว่างเรามันมีแค่ความเป็นเพื่อน”


“เพราะมันใช่ไหม ทำไม...ทำไมชินถึงยังรักมันอยู่  ชินก็เห็นมันร้ายขนาดไหน พอมันทำให้ชินหลงจนหัวปลักหัวปำ มันก็ทิ้งแล้วหันไปหาผู้ชายคนใหม่ โอ๊ย! ชินน้ำเจ็บ”


“ถ้าไม่รู้อะไรอย่ามาพูดถึงวีแบบนี้ให้ผมได้ยินอีก”  พี่น้ำร้องทันทีที่พี่ชินจับต้นแขนทั้งสองข้างของพี่น้ำ แล้วว่าเสียงดุแบบที่ผมไม่เคยเห็นบ่อยนัก

“สำหรับชินน้ำคงแตะอะไรมันไม่ได้เลยสินะ แต่อย่าลืมนะว่าถ้าชินผิดคำพูดที่ให้ไว้จะเกิดอะไรขึ้น”

“ถ้าคิดว่าเรื่องแค่นั้นจะเอามาขู่ผมได้ลองดู”


“ชิน ๆ น้ำขอโทษอย่าพูดเหินห่างกับน้ำแบบนี้เลย ถึงชินจะไม่รักน้ำก็ไม่เป็นไรแต่ชินต้องไม่ทิ้งน้ำไปนะ” พี่น้ำที่ขึ้นเสียงเมื่อครู่รีบโผกอดพี่ชินทันทีที่เสียงแข็งกระด้างดังขึ้น ภาพตรงหน้าทำให้ผมค่อยๆถอยเท้าออกมาเงียบๆ ความสับสบ ความสงสัยต่างๆวนเวียนอยู่เต็มหัว ทำไมพี่ชินต้องทำแบบนั้น แล้วเรื่องที่พี่น้ำพูดถึงคืออะไรแน่   

ไม่ว่าคิดยังไงก็คิดไม่ออกตอนนี้สิ่งที่คิดออกมีเพียงเรื่องเดียวคือ พี่ชินไม่ได้เป็นแฟนกับพี่น้ำ ถ้าผมจะทำทุกอย่างเพื่อเอาพี่ชินมาเป็นของผม ผมก็ไม่ได้แย่งของใครใช่ไหม ผมไม่ได้ทำผิดใช่ไหมในเมื่อพี่ชินไม่ได้เป็นของใคร ความคิดที่ตีกันวุ่นวายทำให้ขาทั้งสองข้างพาผมมาหยุดอยู่ที่สะพานปลาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ตัวเลยจริงๆ



   “แล้วถ้าพี่ไม่ทำตามที่ไอ้โยมันคิดไว้ล่ะ”


“พี่ชินว่าอะไรนะครับ” ผมถามพี่ชินอีกครั้ง มัวแต่คิดถึงเรื่องที่ผ่านมา จนไม่ทันฟังว่าพี่ชินพูดอะไร


“พี่ถามว่าแล้วถ้าพี่ไม่ทำตามที่ไอ้โยมันคิดไว้ล่ะ วีจะเป็นยังไง รู้ไหมว่าในสายตาคนอื่นวีจะกลายเป็นคนแบบไหน” 


“ผมไม่สนใจหรอกแค่คนที่ผมรักเข้าใจก็พอ แล้วผมก็มั่นใจว่าครั้งนี้ผมตัดสินใจไม่ผิดแน่ๆ”  ผมบอกตามความรู้สึกลึกๆ ทั้งที่ไม่มีอะไรยืนยันได้ว่าผลจะออกมาแบบไหนแต่ผมก็เชื่อในการตัดสินใจครั้งนี้และพร้อมจะเดิมพัน


“ใช่ไม่ผิด เพราะตอนนี้พี่มีวีอยู่ตรงหน้าพี่แล้ว ขอบคุณนะครับที่ตัดสินใจแบบนี้”


“พี่ชินไม่โกรธที่ผมหลอกพี่เหรอครับ” ผมตัดสินใจถาม


“พี่ไม่มีทางโกรธวีได้หรอก เพราะพี่เองก็มีส่วนทำให้วีเข้าใจผิดจนวีต้องมาเอาคืนพี่แบบนี้ใช่ไหมล่ะ” พี่ชินว่าอย่างรู้ทันก่อนดึงผมเข้าไปใกล้มากขึ้นจนหน้าแทบชิดกัน


“ใช่ครับ ผมยอมรับว่านอกจากผมต้องการพิสูจน์ความรู้สึกของพี่ชินแล้ว ผมก็อยากเอาคืนที่พี่ชินหลอกผมว่าเป็นแฟนกับพี่น้ำเหมือนกัน”  ถึงผมจะรักแต่ตอนนั้นพอได้รู้ว่าทั้งสองคนไม่ได้เป็นแฟนกัน ความคิดอยากเอาคืนก็เข้ามาในใจผมบ้าง ทั้งที่ตั้งใจแล้วว่าผมจะไม่ทำตามแผนที่พี่โยวางไว้แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจ


“ร้ายเหมือนกันนะเนี๊ยะ”


“ร้ายสิครับ ถ้าไม่ร้ายผมจะได้พี่ไหมล่ะ” ผมแกล้งว่าเสียงงอนตอบผู้ชายตรงหน้าที่เอาแต่ยิ้มล้อ


“ขี้ตู่ยังไม่ได้ซะหน่อย แต่ถ้าเป็นวีพี่ยอม เอาเลยไหมครับ”


“พี่ชิน!” ผมเรียกเสียงดุ พูดไม่ทันจบพี่ชินทำท่าจะถอดเสื้อซะอย่างนั้น ไม่รู้คิดอะไรอยู่ สงสัยผมจะพูดอะไรแปลกๆออกไปซะแล้ว แต่พี่ชินก็หน้าหนาจริงๆยังมายิ้มอยู่ได้ทั้งที่หน้าปูดขนาดนั้นยังจะยิ้มอีก


“มีอะไรที่วีอยากรู้อีกไหม ถ้าอยากรู้หรือสงสัยอะไรพี่อยากให้ถามเลยไม่ต้องเก็บไว้ให้เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันอีก” อยู่ ๆ พี่ชินก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังจนผมปรับอารมณ์ตามไม่ทัน แต่พี่ชินถามก็ดีเหมือนกันเพราะผมมีเรื่องที่ยังอยากรู้


“คือผมอยากรู้ว่า”

“ชินเป็นไงบ้างคะ เจ็บแผลไหม กะ...แกมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” ผมยังไม่ทันถามจบประโยค เสียงพี่น้ำก็ดังแทรกขึ้นพร้อมประตูห้องพักที่ถูกเปิดออกโดยไม่มีการขออนุญาตเหมือนการเข้าห้องพี่ชินเป็นเรื่องปกติธรรมดา


“ไม่เป็นไรหายแล้ว”


“ผมมาเฝ้าที่ชินครับ” ผมกับพี่ชินตอบพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย


“ทำไมต้องเฝ้า มันไม่ใช่หน้าที่แก ถอยไปเลยตรงนี้มันหน้าที่ฉัน นอกจากจะไม่สำนึกว่าตัวเองเป็นต้นเหตุให้ชินเจ็บแล้วยังหน้าด้านมาเฝ้าอีกเหรอ ไหนว่าเป็นแฟนโยไงไปสิไปดูแลแฟนตัวเองโน่นไม่ใช่คอยจ้องแต่จะแย่งแฟนคนอื่น” พี่น้ำว่าเสียงดังหน้าเครียด ตั้งแต่พี่ชินกลับมาจากโรงพยาบาลนี่เป็นครั้งแรกที่ผมเผชิญหน้ากับพี่น้ำตรงๆ


“ผมไม่ได้เป็นแฟนกับพี่โย ทั้งชีวิตผมมีคนที่ผมรักเพียงคนเดียวคือพี่ชินและไม่คิดว่าจะรักใครได้อีก ส่วนเรื่องพี่กับพี่ชินผมรู้แล้วว่าไม่ได้เป็นแฟนกัน เพราะฉะนั้นจะเรียกว่าผมมาแย่งคงไม่ได้ ก่อนหน้านี้ถ้าผมเคยทำอะไรไม่ดีกับพี่น้ำไว้ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ แต่ขอให้ผมได้รักกับพี่ชินเถอะครับ”


“แกรู้ รู้ได้ยังไง ชินบอกมันเหรอ ทำไมชินถึงทำแบบนี้”


“ชินไม่ได้บอกทั้งเรื่องที่เป็นแฟนหรือไม่ได้เป็น น้ำยอมรับเถอะว่าเรื่องระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้ ที่ผ่านมาน้ำก็คงรู้แล้วว่ายังไงชินก็เปลี่ยนใจจากวีมารักน้ำไม่ได้ อย่าพยายามหลอกตัวเองเหมือนที่ชินเคยทำเลย มันไม่มีอะไรดีหรอก”


“ไม่! ถ้าไม่มีมันชินก็ต้องรักน้ำ เพราะมัน เพราะมันคนเดียว”


“น้ำอย่า!” พี่ชินเอาตัวเข้าขวางทันทีที่พี่น้ำทำท่าจะเข้ามาทำร้ายผม


“ชินถอยไป แกอย่านึกนะว่าจะเอาชนะชั้นได้ ถึงแกจะได้ชินไป แต่อย่านึกนะว่าแกจะมีความสุขเรื่องของแกกับชินมันจะต้องดังไปทั่วมอแน่ๆ ชั้นจะเอารูปแกไปประจาน ร่านดีนักคนอย่างแกมันต้องเจอฉัน”


“น้ำ! บอกแล้วไง ถ้าไม่อยากเดือดร้อนอย่ายุ่งกับวี ชินไม่ได้แค่ขู่นะ” พี่ชินจับข้อมือพี่น้ำแล้วบีบแน่นจนหน้าเปลี่ยนสี แต่ผมยังเห็นดวงตาที่วาวโรจน์ไปด้วยความโกรธคู่นั้นไม่ได้อ่อนลงเลย


“น้ำก็ไม่ได้ขู่ น้ำจะทำจริงๆ ปล่อย! ” พี่น้ำเหมือนคนเสียสติจนผมตกใจ ไม่รู้พี่น้ำพูดถึงเรื่องอะไร


“ถ้าเรื่องรูปน้ำจะทำอะไรก็ตามใจ แต่ถ้าทำให้วีเดือดร้อน ผมจะทำให้น้ำเดือดร้อนยิ่งกว่า เลิกคิดอะไรเป็นเด็กๆเถอะ การบังคับให้คนมารักมันไม่มีความสุขหรอก ชินไม่อยากทำร้ายน้ำนะ ตัดใจซะแล้วลองมองคนอื่นที่รักน้ำดีกว่า”  ทั้งสองคนพูดอะไรที่เหมือนจะเข้าใจกันแค่สองคน ทั้งเรื่องรูปและเรื่องบังคับอะไรกัน ผมก็ได้แต่ฟังเงียบๆ


“แล้วใคร ใครที่รักน้ำ ไม่มีซักคนทั้งพ่อทั้งแม่ อึก ทั้งชินไม่มีซักคนที่รักน้ำ น้ำมีอะไรที่ด้อยกว่ามัน ชินบอกน้ำสิ บอกน้ำ” พี่น้ำร้องไห้ก่อนเขย่าตัวพี่ชินพร้อมถามเสียงเครือ ผมได้แต่มองไม่กล้าพูดอะไรยังไงพี่น้ำกับพี่ชินก็เป็นเพื่อนกัน


“น้ำไม่มีอะไรด้อยกว่าหรอก เพียงแต่ชินรักวีแล้วและไม่คิดจะรักใครอีก ชินขอโทษที่ไม่สามารถรักน้ำแบบที่น้ำต้องการได้ แต่เราเป็นเพื่อนกันได้นะ”


“ไม่! น้ำไม่ต้องการแค่เพื่อน น้ำต้องการชิน น้ำรักชิน ชินได้ยินไหม ฮืออออ....ทำไมชินต้องรักมัน น้ำเกลียดมัน เกลียด” พี่น้ำร้องไห้ไปว่าไปก่อนกันมาจ้องผมสายตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธแค้น


“พี่จะเกลียดผม ผมไม่ว่า แต่ขอร้องเราต่างคนต่างอยู่ได้ไหมครับ” ผมตัดสินใจว่า


“แก!”


“น้ำชินขอนะ ถ้าเรายังเป็นเพื่อนกันได้ก็ขอให้ต่างคนต่างอยู่เถอะ” ก่อนพี่น้ำจะทันได้ว่าอะไร พี่ชินก็ขัดขึ้นมาก่อน


“ชินรู้ไหมว่าชินใจร้ายมากแค่ไหน อึก...ได้ ถ้าชินต้องการแบบนี้ก็ได้ จำใส่หัวแกเอาไว้เลยนะ หลังจากนี้แกกับฉันต่างคนต่างอยู่ ไม่ต้องมานับรุ่นพี่รุ่นน้อง มีฉันที่ไหนต้องไม่มีแกที่นั่น ถ้าฉันเจอแกอีกเมื่อไรแกได้เจอดีฉันแน่” พี่น้ำว่าพี่ชินเสียงเครียดก่อนหันมาจ้องหน้าผมแล้วว่าเสียงดังขึ้น ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตอบโต้ใด ๆ พี่น้ำก็เปิดประตูห้องออกไปทิ้งให้ผมกับพี่ชินมองหน้าสบตากันผ่านความเงียบ





“เอ่อ..... พี่น้ำคงเกลียดผมมากเลยนะครับ” ผมว่าแก้เก้อหลังจากผ่านไปหลายนาที แต่ทั้งห้องก็ยังไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมาก่อน


“ถึงจะมีคนเกลียดวีเป็นร้อยเป็นพัน แต่หนึ่งในนั้นจะไม่มีพี่แน่นอน พี่สัญญา” มือผมถูกพี่ชินจับไว้ก่อนบีบเบาๆเพื่อให้รับรู้ถึงความหนักแน่นของคำสัญญา


“พี่ชินเล่าให้ผมฟังหน่อยได้ไหมครับว่าทำไมพี่ชินต้องบอกว่าเป็นแฟนกับพี่น้ำด้วย แล้วเรื่องรูปคืออะไรเหรอครับ” ผมตัดสินใจถามเรื่องที่ยังค้างคาใจ


“พี่จะเล่าให้ฟัง มานั่งนี่สิ  เรื่องทั้งหมดเริ่มจากความเข้าใจผิดของพี่เอง ตอนแรกพี่คิดว่าสามารถเปลี่ยนใจวีให้มารักพี่ได้บ้างแล้วถึงจะยังไม่เต็มร้อยก็ตาม แต่แล้วพี่ก็มาเริ่มไม่แน่ใจ ไม่รู้ว่าวีจำได้ไหมวันที่เรานัดไปกินหมูกระทะกัน พี่เห็นวีเข้าไปคุยกับพี่ตินณ์เหมือนพยายามจะคุยอะไรซักอย่างแต่พี่ไม่ได้ฟังหรอก พี่ทำใจไม่ได้ที่จะรับรู้ว่าวียังรักพี่ตินณ์อยู่ ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าซักวันวีจะต้องเปลี่ยนใจมารักพี่แน่แค่ตอนนั้นมันยังไม่ถึงเวลา


แต่ความเชื่อมั่นของพี่ก็ลดลงเรื่อยๆ แม้ว่าวีจะเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงโดนรถชนแทนพี่ตินณ์พี่ก็ยังไม่ถอดใจเท่าวันที่เห็นวีกับพี่ตินณ์กอดกันที่โรงพยาบาล ความหวังทุกอย่างพังทลายพี่แทบบังคับตัวเองให้เป็นปกติไม่ได้ พี่อยากเข้าไปกระชากวีออกมาแล้วต่อยพี่ตินณ์เต็มแรงซักครั้ง แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ในเมื่อพี่เป็นคนที่เข้าไปอยู่ผิดที่ผิดเวลาเอง หลังจากวันนั้นพี่พยายามทำใจรับความจริงจนวีหายดีพี่ถึงตัดสินใจถอนตัวออกมาเอง ถ้าพี่ยังอยู่พี่อาจจะเป็นภาระ ทำให้วีลำบากใจจนไม่กล้าตัดใจคบกับพี่ตินณ์” พี่ชินว่าพร้อมดึงผมลงนั่งตักตัวเองที่นั่งลงบนเก้าอี้ก่อนหน้าแล้วเริ่มเล่าเรื่อยๆ


“ผมไม่ได้เป็นแบบที่พี่ชินเข้าใจซะหน่อย” ผมค้านเสียงเบา


“ตอนนั้นพี่ยอมรับว่าพี่โง่เอง โง่มากด้วย  ก่อนปิดเทอมน้ำมาสารภาพรักกับพี่แต่พี่ปฏิเสธเพราะใจพี่มีแต่วีคนเดียวจนไม่สามารถเอาใครมาแทนที่ได้ แต่น้ำก็เอารูปของพี่กับวีมาขู่ว่าถ้าไม่ยอมคบด้วย จะเอารูปไปแปะประจานให้ทั่วมอ รวมทั้งลงเว็ปให้วีกับพี่อายจนไม่สามารถเรียนที่นี่ได้อีก”


“จริงเหรอครับพี่น้ำไม่ได้เพิ่งรู้จักผมวันที่ผมไปดักรอตามตื้อพี่ชินเหรอ แล้วรูปมันเป็นรูปอะไรเหรอครับ ทำไมพี่ชินต้องยอมทำตามด้วย” ผมถามอย่างสงสัยในเมื่อเท่าที่จำได้ผมกับพี่ชินไม่น่าจะเคยทำอะไรให้เอามาขู่แบบนี้ได้


“ไม่ใช่หรอก พี่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมน้ำถึงต้องทำเป็นไม่รู้จักวีทั้งที่เป็นคนเอารูปที่พี่จูบวีมาข่มขู่พี่เอง”


“จูบ รูปพี่ชินจูบกับผม” ผมทวนอย่างตกใจ ตายๆๆ ถ้ารูปนี้หลุดออกไปผมจะเอาหน้าไปไว้ไหน พ่อ แม่เอาผมตาย  แต่ผมไปจูบกับพี่ชินตอนไหนวะทำไมจำไม่ได้


“ใช่ครับ รูปที่พี่จูบวีในรถตอนส่งวีที่หน้าคณะ” แล้วความทรงจำเลือนรางก็ค่อยๆชัดขึ้น ใช่ครับไอ้พี่ชินมันชอบจูบผมในรถ ในที่สุดก็เป็นเรื่องจนได้


“ถึงผมจะเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ แต่ก็ไม่คิดว่าพี่ชินจะยอมทำตามที่คนอื่นบังคับเพราะเรื่องแค่นี้ใช่ไหมครับ” ผมถามตามที่รู้สึก


“มันก็ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ทั้งหมดหรอก เพียงแต่น้ำเข้ามาได้จังหวะที่พี่ต้องการให้วีเลือกพี่ตินณ์โดยไม่ต้องกังวลว่าพี่จะเจ็บหรือเสียใจ พี่เลยปล่อยให้น้ำทำตามที่ตัวเองต้องการ โดยไม่คิดจะขัดหรือพยายามแก้ความเข้าใจผิดของคนอื่นๆ ไม่ว่าน้ำจะว่าอะไรพี่ไม่คิดว่าตัวเองจะเดือดร้อนในเมื่อใจพี่มันด้านชาไปแล้ว


พี่ยอมรับว่าพี่พยายามตัดใจจากวี พี่อ่อนแอเกินกว่าจะรับรู้ว่าวีไปได้ดีกับพี่ตินณ์ขนาดไหน จนเลือกที่จะไม่รับรู้อะไรจากคนรอบข้าง แต่พี่ก็ผ่านแต่ละวันไปได้ด้วยความทรมานเหลือเกิน ใจพี่คอยแต่อยากจะไปหาวีไปแย่งวีมาเป็นของพี่โดยไม่คิดถึงใจใครทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นวีหรือพี่ตินณ์  เชื่อไหมพี่เอาชนะใจตัวเองได้จนถึงวันที่พี่เห็นวีมาเช็คชื่อเข้ารับน้อง มันนานเหลือเกินที่พี่ไม่ได้เจอวี นานจนพี่แทบวิ่งเข้าไปกอดผู้ชายตัวบางๆที่เดินเหมือนคนไร้วิญญาณเข้ามาในสายตา รู้ไหมวีผอมไปจนพี่ตกใจ คำถามมากมายเข้ามาในหัวพี่ เกิดอะไรขึ้นกับคนที่พี่รัก พี่พลาดอะไร ทำไมวีถึงดูไม่มีความสุขเลย” 


เสียงเล่าเรื่อยๆริมหู พร้อมอ้อมแขนที่กระชับรอบเอวทำให้ผมอยากซุกร่างเข้าไปในอ้อมกอดที่โหยหามานานเพื่อชดเชยกับเวลาที่เคยเสียไป นี่สินะสาเหตุที่ทำให้พี่ชินคนที่ผลักไสผมกลับมาทำดีกับผม โดยที่ผมไม่เข้าใจการกระทำที่เหมือนยังรักแต่ก็ไม่แคร์ผมตอนนั้นเลย


“ตอนนั้นพี่ชินทำผมสับสนมากเลยพี่ชินรู้ตัวไหมครับ”


“ไม่ใช่แค่วีหรอกที่สับสน พี่เองก็ว้าวุ่นใจจนแทบไม่เป็นอันทำอะไร แล้วยิ่งไอ้โยมันชอบมาเกาะแกะตามวีแจพี่แทบอยากฉีกมันออกมาเป็นชิ้นๆ รู้ไหมตอนที่มันบอกว่ามันกับวีเป็นแฟนกัน พี่ไม่เคยคิดอยากฆ่าใครเท่ามันมาก่อนเลย”


“วีรู้พี่ชินไม่ฆ่าพี่โยหรอกครับ” ผมว่าก่อนเอียงหน้าไปมองพี่ชินยิ้มๆ


“พี่ก็ทำได้แค่อยากฆ่า แต่มันเป็นเพื่อนรักพี่มานานยังไงก็ฆ่ามันไม่ได้หรอก แถมตอนนี้พี่ยังรู้สึกว่าติดหนี้บุญคุณมันด้วยที่ทำให้พี่กับวีได้รักกันแบบนี้”  อื้อ ...มาหอมแก้มทำไมเนี๊ยะ


“ใครไปรักพี่ล่ะ ใจร้ายแบบนี้แล้วยังไปให้ความหวังพี่น้ำอีก ไม่รู้ป่านนี้โกรธวีจนเอารูปไปลงตามเวปแล้วมั้ง กลับไปคงเจอรูปเต็มคณะแน่ๆ ไม่รู้จะเอาหน้าไปไหวที่ไหนเลย”


“เรื่องรูปวีไม่ต้องกังวลหรอกพี่ลบไปตั้งนานแล้ว แต่ถึงมีพี่ก็คิดว่าจัดการได้ ส่วนน้ำพี่ก็ไม่เคยให้ความหวังและบอกทุกครั้งว่ามันเป็นไปไม่ได้และนี่คงเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้น้ำมาพูดจาว่าวีบ่อย ๆ  พี่ขอโทษนะที่ไม่สามารถปกป้องวีได้”


“ใครว่าไม่ได้ล่ะครับ ทุกครั้งพี่ชินจะมาช่วยผมไม่ใช่เหรอ ทั้งตอนที่ผมเป็นลมพี่ก็เข้ามาช่วยผมเป็นคนแรก ตอนที่คิดว่าผมจะฆ่าตัวตายพี่ก็วิ่งเข้ามาก่อนใคร ตอนที่พี่น้ำมาโวยวายพี่ชินก็มาช่วยแล้วไงครับถึงจะช้าไปหน่อยก็ตาม หรือแม้กระทั่งแผลที่ยังเย็บอยู่นี่ก็เพราะพี่ช่วยผมไม่ใช่เหรอ เจ็บมากไหมครับ” ผมว่าก่อนเอื้อมมือไปสัมผัสข้างรอยแผลที่เย็นแผ่วเบา ถ้าสัมผัสแรงกว่านี้ก็กลัวพี่ชินจะต้องเจ็บเพราะผมขึ้นมาอีก



“ไม่เจ็บหรอก ถ้ารู้ว่าเจ็บแล้วจะได้วีมาอยู่ในอ้อมกอดแบบนี้ต่อให้เจ็บมากกว่านี้พี่ก็ทนได้”


“หึหึ มันน่าปล่อยให้เจ็บจนตายไปเลย ชอบคิดเองเออเองไม่ยอมฟังใครดีนัก” ผมแกล้งว่าก่อนจ้องหน้าดุ แต่มือทั้งสองข้างกลับคล้องคอแกร่งราวกลัวว่าถ้าปล่อยมือแล้วคนตรงหน้าจะหายไป


“พี่ขอโทษ ต่อไปนี้จะไม่มีอีกแล้ว”


“แน่ใจนะ”  ผมแกล้งว่าต่อไม่เลิก


“แน่ใจที่สุด ไม่มีอะไรที่พี่จะแน่ใจมากกว่านี้ นอกจากความรู้สึกรักที่พี่มีให้ผู้ชายตรงหน้า พี่บอกรึยังครับว่าพี่รักวี”


“อื้อ....พี่ชิน ผมก็” บอกแต่ปากก็ได้ทำไม ต้องยื่นหน้าเข้ามาคลอเคลียขนาดนี้ด้วย แล้วใจผมยังไม่เลิกเต้นแรงจนผิดจังหวะ หน้าพี่ชินก็ยื่นเข้ามาใกล้ก่อนริมฝีปากอุ่นร้อนจะประกบริมฝีปากผมจนไม่สามารถเอ่ยได้จบประโยคด้วยซ้ำ แต่ในเมื่อใจผมโหยหาสัมผัสอ่อนโยนจากพี่ชินมานาน ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องผลักไสนอกจากโอนอ่อนตามใจแต่พี่ชินจะต้องการ


            ----- โปรดติดตามตอนต่อไป -----


             ขอบคุณที่ติดตามค่า   รักเสมอ  :กอด1: :กอด1:

            ปล. มีคำผิดช่วยสะกิดแรงๆค่ะ
 
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29 up 23/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-06-2015 22:25:10
อีนังน้ำนี้หน้าตบจริงๆ. ผู้ชายเขาไมีเอายังจะมาโวยวายอะไร
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29 up 23/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 23-06-2015 22:47:33
น้ำนี่อาการหนักนะเธออออ !
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29 up 23/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 23-06-2015 22:50:13
 :hao3: พี่ชินจะเข็ดมั๊ย งานเข้าเลย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29 up 23/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: JAROEN ที่ 23-06-2015 22:52:53
ประโยคที่ ว่า  วีรู้ไหมอ่ะ ผิดครับ อิอิ  :z2: :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29 up 23/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: JAROEN ที่ 23-06-2015 22:54:09
เฮ้อ  ช่างมีความสุขจริงๆ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29 up 23/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 23-06-2015 22:59:58
ประโยคที่ ว่า  วีรู้ไหมอ่ะ ผิดครับ อิอิ  :z2: :z2: :z2: :z2:


ขอบคุณค่า แก้ไขเรียบร้อยจ้า
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29 up 23/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: Cinnamon Roll!!! ที่ 23-06-2015 23:24:20
เย้ๆๆ เข้าใจกัลล้าวว  ลุ้นเหนื่อยม๊ากกก
ปูลู   ยัยน้ำเน่านี่ยังไม่เลิกน่ะ :angry2: :angry2: :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29 up 23/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: naoai ที่ 23-06-2015 23:38:40
เข้าใจกันสักทีนะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29 up 23/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 23-06-2015 23:59:15
เข้าใจกันได้ก็ดีแล้ว
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29 up 23/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 24-06-2015 04:42:25
 :katai1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29 up 23/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 24-06-2015 09:15:42
เข้าใจกันซะทีนะ ทีนี่ก็เลยแต่ว่ายัยน้ำจะมาทำอะไรวีหรือเปล่า พี่ชินคอยดูแลน้องดีๆนะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29 up 23/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 24-06-2015 10:00:08
เห็นผญ แบบยัยน้ำนี่ทำเอาเพลียจิต สักวันคงเป็นบ้า เรียกร้องและทำอะไรที่ไม่เข้าท่าอยู่ได้  :m16:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29 up 23/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: New_Tai ที่ 24-06-2015 11:00:33
ยัยน้ำเน่าาาาาา เอาไปเก็บด่วน!!!!
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29 up 23/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 24-06-2015 12:23:41
สงสารยัยน้ำเหมือนกันที่แม้แต่พ่อแม่ก็ไม่รักเธอ  ทำให้เธอต้องโหยหาความรักแบบไม่นึกถึงวิธีการ ว่ามันจะร้ายแรงแค่ไหน

เฮ้อ! กว่าพี่ชินกับวีจะกลับมาลงเอยกันได้ ต้องผ่านอุปสรรคมากจริงๆ ทั้งความเข้าใจผิด การคิดเอง เออเองของแต่ละฝ่าย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29 up 23/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 24-06-2015 18:42:32
ลุ้นจนเหนื่อย เข้าใจกันสักที
เอายัยน้ำไปเก็บที
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29 up 23/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: kurumi_nut ที่ 24-06-2015 20:13:23
ลงเอยด้วยดี จ้าาาา
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29 up 23/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 24-06-2015 22:45:20
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29 up 23/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 24-06-2015 23:36:41
เข้าใจกันสะที
หัวข้อ: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29.5 up 28/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 28-06-2015 16:44:53
ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29.5


“ตกลงว่ามึงแค่แกล้งเป็นแฟนพี่โย”

“เออ” ไอ้แบตถามทันทีที่ผมล้มตัวลงนอนข้างๆ หลังจากเห็นพี่ชินหลับไปเพราะฤทธ์ยาแก้ปวดผมก็กลับห้องพักของตัวเองตอนเกือบเที่ยงคืน

ตอนแรกว่าจะรอพี่โยกลับมาก่อนแต่รอไม่ไหว เมื่อคืนผมแทบไม่ได้นอนคืนนี้เลยง่วงเร็วกว่าปกติ  ระหว่างทางเดินกลับห้องผมได้ยินเสียงพี่โยนั่งกินเหล้าอยู่กับเพื่อนๆบริเวณโต๊ะหินหน้าห้องพี่น็อต สงสัยจะเมากันเละครับ เสียงร้องเพลงครื้นเครงน่าดู ดีนะผมไม่อยู่รอไม่งั้นกว่าพี่โยจะกลับห้องคงเช้าแน่ๆ

 ตอนมาถึงห้องคนอื่นๆหลับกันหมด เหลือแต่ไอ้แบตไม่รู้ทำไมยังไม่ยอมหลับยอมนอน  ห้องพักผมเป็นห้องใหญ่นอนเรียงกันทั้งหมด 8 คน ผมได้นอนริมติดกำแพงต่อด้วยไอ้แบตและเพื่อนๆอีก 6 คน ที่นอนเป็นเบาะนุ่มวางเรียงต่อกันนอนสบายดีครับ

“งั้นตอนนี้มึงก็เป็นแฟนพี่ชินแล้วดิ ปรับความเข้าใจกันได้แล้วนี่” เสียงถามเบาๆ ดังอยู่ในความมืด


“ไม่รู้ว่ะ ไม่เห็นพี่ชินขอกูนะ” ผมหยุดคิดก่อนตอบ

“พ่อง! ขนาดนี้แล้วยังไม่ตกลงกันอีกวะ”

“แล้วมึงจะเสียงดังทำไมวะ เขานอนกันหมดแล้ว” ผมว่าทันทีที่ไอ้แบตเด้งตัวขึ้นจากที่นอนมาจ้องมองผมผ่านความมืด

“โทษทีกูลืมตัว แล้วตกลงระหว่างมึงกับพี่ชินเป็นไงกันวะ”

“สำหรับกูให้พี่ชินเป็นคนรักมาตั้งนานแล้ว แต่สำหรับพี่ชินกูยังไม่แน่ใจว่ะ  กูไม่อยากคิดอะไรเองอีกแล้ว เดี๋ยวถ้าพี่ชินหายดีกูคงคุยกันอีกที”


“ยังไงก็ดีใจด้วยนะเว้ย ในที่สุดก็สมหวังกับเขาสักที”

“ขอบใจว่ะ สงสัยพรุ่งนี้คงต้องไปตอบคำถามลูกแพรอีกเยอะแน่ๆ”

“เออดิ ตอนพี่โยชวนกูกับแพรออกมาจากห้องนะ ลูกแพรถามพี่โยไม่ยั้งเลย แม่งรวมหัวกันหลอกพวกกูได้นะมึง”

“โทษทีว่ะกูไม่ได้ตั้งใจ แต่พี่โยไม่ให้กูบอกใคร”

“ชั่งมันเถอะ แต่อย่ามีอีกแล้วกัน ถ้ามีอีกมึงเจ็บตัวแน่” เสียงขู่มาพร้อมแววตานิ่งๆที่ผมมองเห็นผ่านแสงสลัวจากโคมไฟนอกหน้าต่าง

“คร๊าบๆ ไม่กล้าแล้วครับ แม่งเพื่อนหรือพ่อว่าดุเชียวมึง”

“เลิกบ่นแล้วนอนเลย พรุ่งนี้มึงต้องเข้ารับน้องด้วยนะวันสุดท้ายแล้ว”


“เกือบลืมเลยว่ะวันสุดท้ายแล้วเหรอวะ เออๆฝันดีเว้ย” ผมว่ากับตัวเองก่อนบอกลาไอ้แบต ได้ยินมันว่าอืออาอะไรกลับมาไม่รู้ ผมเลยเลิกสนใจแล้วหลับบ้างครับ




“เหี้ย! ไอ้แบตมึงทำอะไร”

“ชู่ววว.....พี่เอง”

“พี่ชิน! พี่มาทำอะไรที่นี่ ตกใจหมดเลย แล้วจะล้วงมือเข้ามาในเสื้อผมทำไม” ผมว่าเสียงเบาลงหลังรู้ว่าคนที่พยายามล้วงมือเข้ามาในเสื้อตัวเองเป็นใคร ตอนแรกนึกว่าไอ้เชี้ยแบตเตรียมด่าเต็มที่เลยครับ

“พี่ก็มาตามหาหัวใจพี่สิ หนีพี่มาทำไมล่ะ นึกว่าจะนอนด้วยกัน” เสียงกระซิบข้างหูทำเอาขนลุกซู่เลยแม่ง พี่ชินเล่นอะไรวะ


“พี่ชินอย่าทำแบบนี้ ผมจักจี้” ผมว่าพร้อมพยายามเอียงหัวหลบลมหายใจอุ่นๆข้างหู มือก็ต้องคอยดันคอยหยิกไม่ให้มือปลาหมึกของพี่ชินเข้ามาวุ่นวายในเสื้อผมได้ แล้วไอ้แบตไปไหนวะทำไมถึงกลายเป็นพี่ชินที่มานอนข้างๆผมได้


“หึหึ ก็มันหอม พี่อดใจไม่ไหว”


“พี่ชินเดี๋ยวคนอื่นตื่นมาเห็นครับ แล้วพี่เข้ามาได้ยังไงไอ้แบตไปไหน”


“ไปเข้าห้องน้ำ  แบตเดินไปเปิดประตูให้พี่เองแหละ ก็พี่มาเรียกวีแล้ววีไม่ยอมตื่นเองนี่น่า ขอพี่นอนด้วยคนนะ”


“นอนอะไรล่ะ ที่มันเต็ม พี่ชินก็ไปนอนห้องพี่สิ เดี๋ยวก็เช้าแล้ว” เสียงว่าไม่ได้ดังขึ้นจากเดิมเลยเพราะกลัวจะทำให้คนอื่นที่กำลังนอนอยู่ตื่นขึ้นมาได้ยิน


“ไม่เอาพี่อยากนอนกอดวีนี่นา พี่ไม่ได้อยู่ใกล้วีมาตั้งนานเบียดๆกันอบอุ่นดีออก” ว่าเสร็จยังจะขยับมาเบียดผมอีกนะ ทั้งที่ตอนนี้ตัวผมแทบจะแทรกเข้าไปในกำแพงได้อยู่แล้วครับ

“พี่ชินๆ ไอ้แบตมา” ผมว่าพร้อมรับดันมือที่ล้วงเข้ามาในเสื้อออกแล้วแกล้งหลับทันที ตอนนี้ไม่กล้าสู้หน้าเพื่อนเลยครับ ไอ้พี่ชินแม่งทำอะไรไม่ได้อายใครเลยจริงๆ

“พี่ชินจะนอนที่นี่จริงเหรอ”

   “เออดิ นอนนี่แหละ มึงนอนได้ไหมถ้าไม่ได้ก็ไปนอนห้องกูนะ ไอ้โยมันคงไม่กลับมาหรอก เห็นนอนห้องไอ้น็อตไปแล้ว”

“นอนได้พี่ ผมกลัวพี่นั่นแหละจะนอนลำบาก ขยับมาที่ผมอีกก็ได้จะได้ไม่ต้องเบียดไอ้วี”

 “ไม่เป็นไรกูนอนสบายแล้ว มึงนอนเถอะ” เสียงพี่ชินกับไอ้แบตคุยกันก่อนจะเงียบไป พร้อมกับอ้อมแขนของพี่ชินที่กลับมากอดรัดผมใต้ผ้าห่มมากขึ้น  จากที่นอนหันหลังพี่ชินจับผมพลิกตัวให้เอาหน้าซุกแผงอกอุ่นของตัวเองซะงั้น ผมพยายามขัดขืนแต่ก็สู้แรงคนป่วยไม่ได้สุดท้ายเลยนอนมันท่านั้น ไม่อยากโวยวายเสียงดังเดี๋ยวได้ตื่นขึ้นมาดูกันวุ่นวาย 


พอเห็นผมเลิกขัดขืนพี่ชินก็กดจมูกมาที่หน้าผากผมเบาๆก่อนกระชับกอดแน่นขึ้น ผมได้แต่นอนลืมตานิ่งหัวใจเต้นเร็วจนนับไม่ทัน กลัวว่าจะมีอะไรมากกว่านี้แต่ผมคงคิดมากไปเองเพราะผมนอนระแวงจนเผลอหลับไปอีกรอบเมื่อไหร่ไม่รู้ครับ






“พี่ชินเซ็นชื่อให้ผมหน่อยนะครับ วันนี้วันสุดท้ายแล้วนะ” 

“พี่ปวดแขน เซ็นไม่ไหวหรอก” แม่งลีลาไม่เลิก ผมตื้อให้พี่ชินเซ็นชื่อในสมุดล่าลายเซ็นตั้งแต่เช้าจนบ่ายแก่ๆก็ยังไม่มีทีท่าว่าพี่ชินจะยอมใจอ่อนเซ็นให้ซะทีครับ


เมื่อเช้าตื่นมานึกว่าจะเจอพี่ชินนอนอยู่ข้างๆ ที่ไหนได้เจอแต่ไอ้แบต ไม่รู้พี่ชินลุกออกไปตอนไหน อาบน้ำแต่งตัวเสร็จออกมาก็เห็นพี่แกนั่งกินกาแฟอยู่กับพี่โยพี่น็อตที่ทำท่าแฮงค์มาจากเมื่อคืน นั่งคอพับคออ่อนตาแดงกันเลยทั้งคู่  พี่ชินหันมาเห็นผมแล้วทำท่าจะเรียกแต่ผมรีบเดินไปหาไอ้แบตกับลูกแพรที่นั่งกินข้าวอีกโต๊ะแทนครับ ตอนนี้ไม่ค่อยกล้าสู้หน้าเท่าไร


หลังกินข้าวเสร็จรุ่นพี่เรียกไปแจ้งกำหนดการของวัน โดยช่วงเช้าและบ่ายปล่อยฟรีทั้งวัน ใครยังล่าลายเซ็นไม่ครบให้ไปตามเก็บก่อน ห้าโมงเย็น แล้วเอาสมุดไปส่ง จากนั้นจะทำพิธีมอบเกียร์และปิดกิจกรรมรับน้อง


ตอนแรกผมว่าจะไปเล่นน้ำกับเพื่อนๆ ไอ้แบตกับลูกแพรก็ชวนแต่ดันนึกได้ว่าผมยังล่าลายเซ็นไม่ครบขาดของพี่ชินกับพี่น้ำ เลยต้องมาขอก่อนแล้วค่อยตามไปเล่น นึกว่าจะได้ง่ายๆที่ไหนได้พี่ชินแม่งแกล้งผมครับ ทั้งให้บีบให้นวด เอาข้าว เอาน้ำ เอาขนมมาให้ คอยดูแลครึ่งค่อนวันก็แล้วยังไม่ได้ลายเซ็นจนผมเริ่มขี้เกียจขอแล้วครับ  ไอ้แบตกับลูกแพรก็เลิกเล่นน้ำกลับมานานแล้ว



“พี่ชินพี่จะแกล้งผมอีกนานไหมครับ ถ้าไม่ให้ก็บอกผมจะได้เลิกตื้อ” ผมว่าเสียงนิ่ง หน้าเหวี่ยงไปแล้ว ตามใจมาตั้งแต่เช้าแม่งก็ยังไม่ได้


“พี่ไม่ได้แกล้งซะหน่อย เอาที่ไหนมาว่า” ยังมีหน้ามายิ้มอีกนะครับอยากเอานิ้วจิ้มให้ตาแตก


“ไปแกล้งน้องมันมาก ระวังมึงจะอดแล้วจะว่ากูไม่เตือน” เสียงพี่โยที่นั่งข้างแกล้งว่า แต่มันเกี่ยวกันที่ไหนล่ะ


   “อดเชี่ยไร ตั้งแต่ได้เข้าห้องไอ้น็อตนี่ปากดีนะมึง”


“ก็ไม่รู้สินะ หรือมึงไม่เอา”


   “เอา!”


“พี่ชิน!” ผมเรียกเสียงดังหลังพี่ชินตอบ คนอะไรหน้าด้านขนาดนี้ พูดได้หน้าตาเฉยไม่สนผมที่ยืนอยู่ด้วยซักนิด คิดบ้างไหมล่ะว่าผมจะอาย ตอนนี้ไม่รู้หน้าแดงไปถึงไหนต่อไหนแล้วครับ


“เอาก็รีบๆเซ็นให้น้องไปสิ” แต่พี่โยก็พยายามช่วยผมเต็มที่ครับ น่ารักจริงๆ


“ถ้าอยากให้พี่เซ็นให้ วีต้องทำให้พี่เห็นก่อนว่าวีรักพี่แค่ไหน” อยู่ๆพี่ชินแม่งพูดหน้ามึน ไม่สนใจว่าใครจะนั่งอยู่ด้วยเลยครับ  ผมรีบมองหน้าพี่โยกับพี่น็อตทันที สองคนนี้นอกจากไม่ช่วยอะไรแล้วยังส่งยิ้มให้แบบรอคอยเรื่องสนุกด้วยอีก นี่ผมโดนแกล้งจริงๆใช่ไหม


“พี่ชินจะให้ผมทำอะไรครับ” ผมกัดฟันถาม เอาวะลองหน่อยถ้ามันไม่ยากเกินไปผมคงทำได้


“ไม่รู้สิครับ วีอยากทำอะไรก็แล้วแต่วี แค่ทำให้พี่รู้ก็พอ” พี่ชินว่าก่อนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ปล่อยให้ผมคิดไปสิ


“หรือจะจูบพี่โชว์เพื่อนก็ได้นะ” เสียงว่าล้อๆพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ทำให้ผมรู้สึกอยากเอามือข่วนหน้าพี่ชินขึ้นมาตะหงิดๆ


“โรคจิต ฝันไปเถอะ” ผมว่าก่อนเดินหนีเลยครับ ไม่ให้ก็ไม่เอาแม่งแล้ว เบื่อพี่ชินชอบแกล้ง



“เป็นไงได้มาแล้วเหรอ” ไอ้แบตทักเมื่อผมวางสมุดลงบนโต๊ะเสียงดังก่อนหย่อนก้นลงนั่งตรงข้าม


“ยังเลยว่ะ ไม่เอาแล้วแม่งหงุดหงิด”


“อ้าวทำไมล่ะวี  เห็นตื้อมาตั้งแต่เช้าแล้วถอดใจแล้วเหรอ เดี๋ยวก็โดนซ่อมหรอก” แพรถามก่อนหยิบสมุดผมขึ้นเปิด ถ้าลายเซ็นได้ไม่ครบนอกจากจะไม่ได้รับเกียร์แล้วยังโดนซ่อมด้วยครับ จากที่ฟังจากรุ่นพี่มาการซ่อมวันรับเกียร์นี่โหดขนาดให้วิ่งรอบรีสอร์ททั้งคืนก็มีมาแล้ว พวกผมเลยไม่มีใครอยากซ่อมซักเท่าไรถ้าไม่จำเป็น


“ก็ไอ้พี่ชินมันแกล้งมาตั้งแต่เช้าแล้วยังไม่ยอมเลิก วีไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ตอนลูกแพรขอพี่ชินแกล้งแบบนี้ไหม” ผมว่าก่อนถามต่อ


“ก็ไม่ได้แกล้งนะ แพรแค่บอกพี่ชินก็เซ็นให้เลย”


   “เออของกูก็เหมือนกัน” ไอ้แบตบอกอีกคน


   “อ้าว ไอ้พี่ชินแม่งแกล้งกูคนเดี๋ยวเลยเหรอวะ งั้นไม่เอาแม่งแล้ว”


“เฮ้ย! ยอมได้ไงมาถึงขนาดนี้แล้ว มึงขอมาเกือบทั้งวันแล้วนะเว้ยอย่ายอมแพ้ดิ”


“แต่…” ผมว่าก่อนเงียบไปก็จะให้บอกได้ไง


“แต่อะไรวะ” ผมพร้อมทำหน้าสงสัยว่าทำไมผมถึงเงียบไป


“ก็ไอ้พี่มันจะให้กูทำยังไงก็ได้ให้มันรู้ว่ารัก”


“แค่ให้รู้ว่ารัก”


“เออ”


“งั้นก็บอกรักแม่งเลยดิกลัวอะไร” ทำไมมันถึงพูดเหมือนเป็นเรื่องง่ายขนาดนั้นวะ


“อยู่ๆให้กูไปบอกรักผู้ชายเนี่ยนะ คิดถึงหน้ากูบ้างไหม กูจะเอาหน้าไปไว้ไหน”


“เอาเลยวี ไม่ต้องคิดอะไรมากหรอก คิดแค่ว่าวีรักพี่ชินหรือป่าวถ้ารักก็ไม่เห็นต้องกลัวอะไรนี่” ลูกแพรช่วยพูดอีกคนทำเอาผมคิดหนักเลยครับ


“เอาแบบนั้นเหรอ” ผมยังลังเลไม่เลิก


“เออแบบนี้แหละ เอาแบบที่ทุกคนรู้ไปด้วยเลยมึงจะได้ไม่ต้องคอยหวงพี่ชิน ยิงปืนนัดเดียวได้นกเป็นฝูงเลยนะเว้ย”


   “แต่....” แค่นึกภาพตามใจผมก็เต้นรัวแบบควบคุมไม่อยู่แล้วครับ


   “ไม่ต้องกลัวหรอกวี แพรว่าคนอาจจะคิดว่าพี่วีแค่แกล้งวีที่เป็นน้องเทคให้บอกรักก็ได้นะ สู้ๆ” 


   “อืม วีจะลองดู งั้นกูไปก่อนนะ” ผมตอบแพรก่อนหันไปบอกไอ้แบต


   “มึงจะไปไหน”


   “อ้าวก็ไปบอกรักพี่ชินตามที่มึงบอกไงวะ”


   “ไม่ต้องไป บอกตรงนี้เลย”


   “ตรงนี้เลยเหรอวะ” ผมถามย้ำ ตรงนี้ของมันคือเพิงพักหน้ารีสอร์ทแล้วพี่ชินก็อยู่หน้าบ้านพักของตัวเอง ระยะห่างนี่มีทั้งถนน และผู้คนอยู่เต็มเลยนะ


   “เออ ลงทุนหน่อยเล่นทั้งทีต้องเอาให้ใหญ่” มันว่าก่อนยิ้มกวน ไม่รู้ว่าผมกำลังโดนใครแกล้งกันแน่ระหว่างพี่ชินกับไอ้แบต 
ผมมองมันเคืองๆก่อนสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินออกไปยืนริมถนนสองเลนส์หน้ารีสอร์ท


สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นสนเรียงราย ไม่มีรถผ่านมาซักคันช่างเงียบสงบเหมาะกับภารกิจของผมตอนนี้เหลือเกิน


ความเงียบรอบข้างที่ได้ยินเพียงเสียงคลื่นกระทบฝั่งกับบรรยายการยามเย็นทำให้มือผมเย็นไปหมดเลยครับ ทำไมผมต้องมาทำอะไรหน้าอายแบบนี้ด้วยวะ แต่ก็เอาเถอะในชีวิตคงได้ทำแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว




“พี่ชินครับ! ผมมีเรื่องจะสารภาพ ผมรักพี่ชินครับ รักมานานแล้วพี่เป็นแฟนกับผมนะครับ ” ผมตะโกนสุดเสียงเพื่อให้พี่ชินที่กำลังนั่งคุยกับเพื่อนอยู่อีกฝั่งของถนนได้ยิน ไหนๆบอกรักแล้วผมถือโอกาสขอเป็นแฟนด้วยซะเลยครับ 



เหมือนความพยายามของผมจะสำเร็จ แต่ไม่ใช่แค่พี่ชินที่หันมามองคนอื่นๆที่อยู่บริเวณหน้ารีสอร์ทต่างก็หยุดกิจกรรมของตัวเองแล้วหันมามองผมเป็นตาเดียวเลยครับ โครตอายผมจะเอาหน้าไปไว้ไหนวะ ไอ้พี่ชินแม่งก็จะทำหน้าเอ๋อทำไม รีบๆพูดอะไรหน่อยดิ กูเขินนะเนี่ยทำไปได้ไงวะ


“ว่าอะไรนะครับพี่ไม่ได้ยินเลย”  พ่องงง! ไม่ได้ยินอะไรล่ะหน้าบานขนาดนั้น แม่งรู้ตัวไหมว่าปากตัวเองจะฉีกยิ้มไปถึงใบหูอยู่แล้ว


“ผมบอกว่าผมรักพี่ชินครับ รักมานานแล้ว รักมากกว่าใครๆ ถ้าพี่ชินยังไม่มีแฟนเป็นแฟนกับผมนะครับ” เอาวะมาขนาดนี้แล้ว จะต้องอายอะไร ผมตะโกนตอบอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังขึ้นกว่าเดิม สายตามองตรงไปที่พี่ชินคนเดียวไม่กล้ามองคนรอบๆเลยครับ


“แล้วๆๆๆๆ เอาแล้วเว้ยไอ้ชิน มึงเสร็จแน่” เสียงพี่โยแซวพี่ชินดังขึ้นท่ามกลางความเงียบระหว่างผมกับพี่ชิน


“บอกอีกครั้งได้ไหมครับ พี่อยากได้ยิน” หูตึงไววะ


“ผมรักพี่! เป็นแฟนกันนะ ถ้าพี่ตกลงช่วยเซ็นชื่อให้ผมด้วยครับ” ผมพูดเสร็จยกสมุดขึ้นโชว์เหนือหัวแล้วโบกไปมา


“รู้ว่ารัก แต่รักเพื่อนพี่มากรึเปล่าครับ” เสียงพี่น็อตตะโกนถามกลับมา ทำเอาผมหน้าร้อนกว่าเดิมที่ร้อนจนตั้งน้ำเดือนได้อยู่แล้วครับ


“มากครับมากกว่าที่พี่ชินจะรู้ซะอีก”


“หึหึ ถ้ารักมากก็มาเอามันไปเลย พี่ยกให้” คราวนี้เป็นพี่โยว่าก่อนเอาเท้าถีบตูดพี่ชินออกมาจากโต๊ะ พี่ชินหันไปด่าเพื่อนก่อนกวักมือเรียกผมให้เข้าไปหา


“ตกลงครับ” พี่ชินว่าเสียงนุ่มก่อนดึงสมุดจากมือผมไปถือไว้


“ตกลงอะไรครับ” ผมถามงงๆ ไม่รู้พี่ชินตกลงอะไร


   “ก็ตกลงเป็นแฟนวีไงครับ พี่ก็รักวีเหมือนกัน หลังจากนี้เราเป็นแฟนกันนะ


 “พี่ชิน!” ผมว่าก่อนผงะถอยหลังด้วยความตกใจ ”  เสียงกระซิบที่ข้างหูพร้อมสมุดที่มีลายเซ็นพี่ชินเรียบร้อยแล้วถูกยื่นใส่มือ ทำเอาขนลุกซู่เลยครับ


“เอ้ยๆๆ! ใจเย็นเว้ยคนเยอะแยะ อย่าเพิ่งจู๋จี๋กัน” สิ้นเสียงพี่โยทำให้ผมมีสติหันไปมองรอบๆก็เจอเข้ากับสายตาคนรอบข้างที่มองอย่างสนใจใคร่รู้ เท่านั้นไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน ผมรีบก้มหน้าแล้วเดินหนีออกมาจากตรงนั้นไม่ฟังแม้เสียงเรียกที่ดังตามหลัง สงสัยผมต้องรีบไปเหมาปี๊บมาคลุมหัวซะแล้วครับ หลังจากนี้ไม่รู้จะโดนล้ออีกเท่าไร



        ----- โปรดติดตามตอนต่อไป -----

        ขอแบ่งตอนจบเป็น 2 พาร์ทนะคะเนื่องจากยาวเกินไปไม่สามารถลงตอนเดียวได้
        ตอนนี้ยังแต่งไม่เสร็จ เลยขอตัดมาให้อ่านก่อนค่ะ   :กอด1: :กอด1:

     
       
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29.5 up 28/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 28-06-2015 17:41:59
กว่าจะได้ลายเซ็นพี่ชิน  น้องวีโดนทั้งพี่ชินและเพื่อนแบตแกล้งให้ได้อายหนักมาก แต่ได้คำบอกรักจากพี่ชินมาแล้ว  ต่อไปเหลือลายเซ็นยัยน้ำ  วีจะโดนอะไรหรือเปล่า แต่ยังไงพี่ชินคงไม่ปล่อยให้ยัยน้ำเน่าทำร้ายวีแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29.5 up 28/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: sodawan1 ที่ 28-06-2015 17:42:43
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29.5 up 28/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 28-06-2015 18:37:48
พี่ชินแกล้งวี ตะโกนบอกรักกันด้วย ขอเป็นแฟนอีกต่างหาก
แต่ก็ดีนะเปิดตัวไปเลย ลายเซ็นต์ก็เหลือของน้ำเน่าคนเดียว
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29.5 up 28/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: Cinnamon Roll!!! ที่ 28-06-2015 19:03:47
กรี๊ดดดดดดด   :-[ :-[ :-[ :-[  นู๋ไปเอาความกล้ามาจากไหนลูกนู๋วีๆๆๆๆ
บอกรักกะเปิดตัวเป็นแฟนได้อลังการม๊ากกกกก   หมั่นใส้อิพี่ชินหุบยิ้มไม่ลง 
 ง้อววววว   อ่านตอนเน้ล่ะยิ้มแก้วแตก
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29.5 up 28/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 28-06-2015 19:11:22
ลุ้นจนเหนื่อย เข้าใจกันสักที
เอายัยน้ำไปเก็บที :hao4: :hao4: :mew1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29.5 up 28/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: sweetyswtcou ที่ 28-06-2015 19:16:30
เขินอ่ะ  :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29.5 up 28/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 28-06-2015 23:50:04
 :-[
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29.5 up 28/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 29-06-2015 01:56:43
แล้วน้ำจะเซ็นต์ให้วีป่าวเนี่ย ประกาศตัวกร้าวซะขนาดนั้น
สงสัยจะโดนชินลากไปซ่อมแน่เลย อิอิ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29.5 up 28/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 29-06-2015 02:10:53
หวานนน. วีกล้ามากๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29.5 up 28/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 29-06-2015 02:32:23
หวานกันเชียวนา เหลือแต่ลายเซ็นต์ยัยพี่น้ำสินะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29.5 up 28/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 29-06-2015 09:39:41
 :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29.5 up 28/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 29-06-2015 11:05:48
5555
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 29.5 up 28/6/2015 p.21
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 29-06-2015 16:21:00
น้องอุตส่าห์บอกรักยังแกล้งน้องอีกน่ะพี่ชิน
หัวข้อ: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 29-06-2015 22:52:05
         ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30


“คุณนาวีทำไมลายเซ็นถึงไม่ครบ ไหนคุณตอบผมสิ” เสียงถามจากพี่ว๊ากปีสองดังขึ้นท่ามกลางความเงียบริมหาดตอนเวลาสองทุ่มทำเอาผมถึงกับเหงื่อตก ไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี ถ้าตอบว่าที่ไม่ได้ก็เพราะผมมีปัญหาส่วนตัวกับเจ้าของลายเซ็นคงไม่ดีแน่ 



ผมนั่งมองเพื่อนๆ ทยอยเดินออกไปรับเกียร์ทีละคน ไอ้แบตกับลูกแพรก็ได้รับเรียบร้อย จนมาถึงผมบ้าง ตอนแรกนึกว่าเรียกตามรหัสรับน้อง แต่มารู้ทีหลังว่าคนที่ได้ลายเซ็นไม่ครบจะอยู่หลังจากคนที่ได้รับเกียร์ แล้วผมดันส่งสมุดหลังคนอื่นเลยได้อยู่เป็นคนสุดท้ายของรุ่น แบบนี้สงสัยจะโดนหนักแน่ๆครับ



“ผมขอไม่ทันครับ” ผมตัดสินใจตอบให้เรื่องมันจบไป ไม่อยากมีปัญหากับพี่น้ำ ต่างคนต่างอยู่ดีกว่ายิ่งวันนี้เรื่องที่ผมตะโกนสารภาพรักกับพี่ชินจะดังไปทั่ว ถึงบางคนจะคิดว่าจริงบ้างโดนแกล้งบ้าง แต่มันก็ทำให้พี่น้ำถึงกับจ้องหน้าผมด้วยสายตาพร้อมมีเรื่องเต็มที่ตอนผมเดินผ่านโดยบังเอิญ  ผมเลือกเดินเลี่ยงแทนการปะทะเพราะบอกแล้วว่าต่างคนต่างอยู่ ครอบครัวผมสอนเสมอว่า ผู้ชายมีความแข็งแรงของร่างกายเพื่อไว้ปกป้องผู้หญิงไม่ใช่มีไว้ทำร้าย ถ้ามีเรื่องกันไปมันคงไม่ดีแน่ 




“รู้ไหมถ้าได้ไม่ครบจะต้องเจออะไรบ้าง”  เสียงดุๆดังขึ้นด้านหลัง หันหน้าไปมองใช่เลยครับ ไอ้พี่ชินยังมีหน้ามาช่วยเพื่อนว๊ากผมอีกนะ ไม่ใช่เพราะความหน้าตาดีของตัวเองรึไงผมถึงต้องมายืนอยู่ตรงนี้


“ทราบครับ” ผมตอบเสียงหนัก อย่างเคืองๆ


“ทราบก็ดี  ร้องเพลงไก่ย่าง พร้อมท่าประกอบ 1 รอบแล้วกลับไปนั่งที่ได้” อะ... อ้าวอะไรวะ นึกว่าจะโดนซ่อมมากกว่านี้ซะอีก ผมหันไปมองพี่ชิน พี่โยและเหล่าพี่ว๊ากอีกหลายคนที่ทำหน้านิ่งเหมือนไม่ได้ยินคำพูดของพี่ชิน เมื่อไม่มีใครคัดค้านผมเลยรับคำก่อนเริ่มทำตามคำสั่งแล้วกลับไปนั่งในแถวตัวเอง


“ทำไมมึงโดนซ่อมน้อยจังวะ” เสียงไอ้แบตกระซิบถามผมจากด้านหลัง


“ไม่รู้เหมือนกัน สงสัยพี่ชินมันคงรู้ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุมั้ง”


“คงจริงว่ะ แต่น่าเสียดายมึงเลยไม่ได้เกียร์ เอาของกูไหมกูยกให้”


“คิดไรกับกูป่าวเนี่ยะจะเอามาให้ อย่านะเว้ยกูมีแฟนแล้ว แฟนขี้หึงด้วย” ผมแกล้งว่ากลับเสียงเบา ดูท่าแล้วถ้าไม่อยู่ในระเบียบแถมมันคงตบหัวผมทิ่มไปแล้ว


“คิดพ่องงง กูสมเพชเว้ย รับน้องแม่งก็โดนหนักกว่าคนอื่นตลอดเสือกมาไม่ได้เพราะเรื่องผู้ชาย ไร้สาระว่ะ” เสียงมันฟังหงุดหงิดตอนท้ายแต่ทำไงได้วะ


“เออวะแม่งไร้สาระ แต่ชั่งมันเถอะกูทำใจแล้ว”  คิดแล้วก็เสียดายเหมือนกันเพราะผมตั้งใจเข้ารับน้องเพื่อที่จะให้ได้รับเกียร์ที่เป็นสัญลักษณ์ของคณะวิศวะ แต่ในเมื่อมันมีเหตุสุดวิสัยผมก็ต้องทำใจครับ ยังไงความหวังต่อไปก็คงเป็นใบปริญญาบัตรที่ได้จากคณะนี้แทน


“ตอนนี้พิธีมอบเกียร์ก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว ต่อไปเราจะทำการบูมทะเลพร้อมกันเพื่อแสดงความยินดีให้กับคนที่ได้รับ ปฏิบัติ!”


“ทราบ!” พวกผมตะโกนตอบรับพร้อมเพรียง ก่อนลุกขึ้นวิ่งเตรียมจัดแถมบูมทะเลตามที่ได้รับคำสั่ง


“เดี๋ยว! ยังไม่ต้องไป นั่งลงที่เดิมก่อน” อยู่ๆเสียงห้ามก็ดังแทรกความชุลมุนขึ้นทำให้ทุกคนถึงกับชะงักค้างแล้วหันไปมอง ปรากฏว่าพี่ชินเป็นคนห้ามครับ ผมกับไอ้แบตถึงกับมองหน้ากันไม่เข้าใจว่าพี่ชินห้ามทำไม


“มีอะไรวะ” พี่โยถามขึ้นแทนคนนับร้อยที่กำลังสงสัย


“ขอยกเลิกคำสั่ง น้องปีหนึ่งทุกคนกลับไปนั่งที่เดิม เวลานี้มันมืดและน้ำทะเลกำลังลงอันตรายเกินไปที่จะให้บูมทะเล”  พี่ชินว่าเสียงนิ่ง


“แต่เราก็ทำแบบนี้มาทุกปี” พี่ว๊ากเจ้าของคำสั่งถามขึ้น


“ถ้ารู้ว่าอันตรายแล้วทำไมต้องทำตามรุ่นอื่น ทุกอย่างมันสามารถเปลี่ยนแปลงได้บนพื้นฐานความปลอดภัยของรุ่นน้อง”


“แต่”


   “กูเป็นหัวหน้ามึงจะเชื่อกูหรือเชื่อรุ่นพี่ที่ไม่ได้มาด้วย” เสียงพี่ชินดังไปทั่วบริเวณ


“ถึงมึงจะเป็นหัวหน้าพี่ว๊าก แต่ไม่ใช่ว่ามึงจะมาเปลี่ยนแปลงอะไรก็ได้นะ ธรรมเนียมปฏิบัติเขาทำกันมาตลอด” พวกผมเด็กปี 1 ที่กลับมานั่งเป็นแถมตามเดิมต่างชะเง้อคอมองว่าเกิดอะไรขึ้น เสียงพี่ชินหัวหน้าชุดว๊ากกับรองกำลังทะเลาะกันด้วยเรื่องจะให้พวกผมลงบูมทะเลหรือไม่ คนหนึ่งไม่อยากให้ลงเพราะเกรงว่าจะมีอันตราย แต่อีกคนก็ยืนยันว่าต้องลงบูมเพราะเป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมาทุกรุ่น ต่างคนต่างเถียงกันด้วยเหตุและผลของตัวเอง


“ก้มหน้าลงไป ไม่ใช่เรื่องของพวกคุณ อยากรู้อะไรนักหนา” อยู่ๆเสียงรุ่นพี่ที่ยืนคุมแถมก็ตะโกนดังแทรกขึ้นมา ทำให้บรรดายีราฟทั้งหลายต้องหดคอลงเป็นแถว ทั้งทีเสียงพี่ชินกับเพื่อนทะเลาะกันยังดังแว่วเข้ามาในหู


“ชอบนักรึไงเรื่องของคนอื่นนะ คุณมีหน้าที่นั่งรอคำสั่งก็นั่งเงียบๆ ไม่ต้องอยากรู้อยากเห็น อะไรที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองก็ไม่ต้องไปสนใจ”  ผมจำได้ว่าเป็นเสียงพี่น็อต


“ก้มหน้าลงไปแล้วหลับตาให้หมด ไม่ต้องดู ไม่ต้องมองอะไรทั้งนั้น นั่งเงียบๆแล้วฟัง” เสียงรุ่นพี่อีกคนดังขึ้น ก่อนหลับตาผมเห็นพี่ชินกับเพื่อนและคณะพี่ว๊ากเดินแยกออกไปอีกด้านคงไปตกลงกันว่าสรุปจะให้บูมหรือไม่บูมกันแน่


“พวกผมพาพวกคุณมารับน้องเพื่อสร้างความสามัคคี สร้างความรักใคร่สนิทสนมระหว่างเพื่อน ระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง สร้างความอดทน รู้จักแก้ปัญหาและช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ไม่ใช่ให้มาทะเลาะกันอย่างที่พวกคุณเห็นเมื่อซักครู่ นั่นเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี เข้าใจไหม อะไรที่ดีก็ควรเอาเป็นแบบอย่าง อะไรไม่ดีก็ให้ทิ้งมันไว้อย่าได้ทำตาม” ผมหลับตาฟังเสียงพี่โยที่ตะโกนดังไปรอบๆ



“จำไว้ว่าเวลาที่คุณมีตำแหน่งที่ใหญ่โตก็ไม่สามารถตัดสินใจอะไรโดยไม่ฟังคนรอบข้างได้ เพราะการตัดสินใจนั้นอาจจะไม่ถูกต้อง คุณควรรับฟังเสียงคนส่วนมากบ้าง และบางอย่างที่เป็นกฎระเบียบที่ยึดถือปฏิบัติกันมานานมันก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตราบใดที่การเปลี่ยนแปลงนั่นก่อให้เกิดประโยชน์แก่คนส่วนใหญ่และไม่ได้ทำให้ใครเดือนร้อน วันหนึ่งที่พวกคุณได้เป็นเจ้าคนนายคนเรียนจบไปจากสถาบันแห่งนี้ขอให้พึงระลึกไว้เสมอว่า อย่าหลงใหลในยศถาบรรดาศักดิ์แต่จงใช้วิชาความรู้เลี้ยงชีพและประกอบกิจให้เกิดประโยชน์แก่ตนและส่วนรวมด้วย”


“ผมในฐานะหัวหน้าพี่ว๊ากขอขอบคุณทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมเป็นอย่างดีตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ หลังจากนี้พวกผมยังถือพวกคุณเป็นน้องผมโดยสมบูรณ์แล้ว ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปอีกกี่ปี คุณจะอยู่ที่ไหนในรั้วมหาวิทยาลัยหรือตะเข็บชายแดนไทยคุณก็จะได้ชื่อว่า ชาวสีเลือดหมูร่วมสถาบันเดียวกัน คุณเป็นรุ่นน้องของพวกเรา ขอให้ทุกคนรักและสามัคคีกันอย่างนี้ตลอดไป” เมื่อเสียงพี่น็อตหยุดลง เสียงพี่ชินก็ดังขึ้นแทนที่พร้อมเสียงใครอีกคนกระซิบให้ผมลุกขึ้นยืนทั้งที่หลับตา มือผมจะถูกดึงให้ไปจับกับใครอีกคนแล้วเดินตามท่ามกลางความมืด ผมต้องค่อยเดินเพื่อไม่ให้สะดุดล้ม แต่ตลอดทางก็จะมีเสียงรุ่นพี่กระซิบให้เดินซ้ายขวาอยู่ตลอดและไม่ต้องกลัวว่าจะเดินแยกจากเพื่อนเพราะมือผมจับกับทั้งคนข้างหน้าและข้างหลัง



“หลังจากนี้ผมอยากให้พวกคุณช่วยเหลือประคับประคองเพื่อนของคุณให้เรียนจบไปด้วยกัน  เหมือนมือที่คุณกำลังจับกันอยู่ตอนนี้ ผมในฐานะรุ่นพี่อยากขอพวกคุณเพียงข้อเดียว คือขอให้พวกคุณเรียนจบไปด้วยกันได้ไหม”


“ได้ครับ/ได้ค่ะ”


“ทำไมเสียงเบา ผมถามว่าได้ไหม” เสียงถามย้ำดังขึ้นอีกครั้ง


“ได้ครับ/ได้ค่ะ” ผมและเพื่อนตอบพร้อมกันอีกครั้ง ทั้งเสียงดังและหนักแน่นกว่าเดิม


“ดีมาก จำไว้ว่าพวกคุณรับปากผมแล้วนะ ลืมตาได้ ”  ผมลืมตาทันทีที่สิ้นเสียงพี่ชินแล้วก็ต้องตกใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า


..ล้า..ลา..ล้า..ลา..ลา..ล้า..ลา..ลา..ล้า..ลา..ลา
.. โอ้ น้องเอย
พี่นี้ขอชื่นเชย จะมิเลยแรมไกล
รักเจ้าดั่งดวงใจ จะมิคลายหน่ายนา
..ล้า..ลา..ล้า..ลา..ลา..ล้า..ลา..ลา..ล้า..ลา..ลา
พี่จะรับขวัญเจ้า เอามาเข้าเป็นขวัญจิต
จะรักดังชีวิต ใจคิดกรุณา..



เสียงร้องประสานดังขึ้นท่ามกลางแสงเทียนสีอ่อนที่จุดขึ้นแทนไฟสปอร์ตไลท์ริมหาดที่ดับไป รุ่นพี่เกือบ 60 ชีวิตยืนเป็นลงกลมล้อมพวกผมที่ถูกจัดให้ยืนจับมือเรียงกันเป็นวงกลมด้านในและหันหน้าเข้าหารุ่นพี่


..ล้า..ลา..ล้า..ลา..ลา..ล้า..ลา..ลา..ล้า..ลา..ลา
ขอจงหายโศก พ้นภัยหายโรค
ให้มีโชคนะน้องยา
จะเอาผ้ายาวขาวบริสุทธิ์



เสียงเพลงที่รุ่นพี่ช่วยกันประสานเสียงร้อง ทำให้ผมรู้สึกขนลุก บรรยากาศเย็นๆริมทะเล กับแสงเทียนในกรวยแก้ว และเสียงประสานหวานหูทำให้ทุกอย่างดูมีมนต์ขลัง รุ่นพี่ที่ยืนตรงหน้าเอื้อมมือมาจับข้อมือผมขึ้นก่อนบรรจงผูกด้ายสีขาวบริสุทธิ์พร้อมคำอวยพรด้วยรอยยิ้ม ผมไหว้ขอบคุณก่อนเดินไปหารุ่นพี่คนถัดไป ไอ้แบตที่ยืนข้างๆก็เดินตามหลังมาเช่นกัน เราวนให้รุ่นพี่ผูกข้อมือรับขวัญไปเรื่อยๆจนมาถึงพี่น้ำผมเลยเดินผ่านไป พี่น้ำก็ไม่ได้ว่าอะไรมองนิ่งๆก่อนผูกให้ไอ้แบต   เสียงเพลงถูกขับร้องวนไปเรื่อยๆพร้อมรุ่นพี่ที่บรรจงผูกด้ายรับขวัญ มาถึงตอนนี้ผมรู้แล้วว่าเรื่องที่พี่ชินกับพี่รองทะเลาะกันคงไม่ใช่เรื่องจริงแต่แกล้งทะเลาะกันเพื่อรับขวัญมากกว่า ครับ



..หล่า..ลา..ล้า..ลา..ลา..หล่า
พันมัดผูกไว้ ที่ข้อมือของเจ้า
..หล่า..ลา..ล้า..ลา..ลา..หล่า
เหมือนดังใจพี่ ผูกพันเจ้าไว้ ไม่หน่ายหนี
..ล้า.. ลา.. ใจผูกพัน.



สายตาผมมองหาพี่ชินอยากให้เป็นคนผูกด้ายรับขวัญให้ผมบ้าง แต่ดูแล้วพี่ชินเป็นคนยืนคุมไม่ได้เข้ามาอยู่ในแถวด้วย ถ้าจะให้ผูกต้องเดินออกไปหา และตอนนี้ก็มีเพื่อนผู้หญิงหลายคนรุมให้พี่ชินผูกอยู่ ผมมองอย่างเสียดายก่อนที่กิจกรรมรับน้องจะสิ้นสุดลงด้วยบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยรอยยิ้มและรอยน้ำตาแห่งความปลื้มปิติของรุ่นพี่ รุ่นน้อง ที่ทำกิจกรรมร่วมกันมาเกือบปี


“พรุ่งนี้ต้องกลับแล้วเหรอวะ ไวเหมือนกันเนอะ” ไอ้แบตว่าขณะก้าวเดินกลับที่พักด้วยกัน


“แพรก็รู้สึกเหมือนเราเพิ่งมาถึงเมื่อวานเอง”


“นั่นสิ เหมือนวียังไม่ค่อยได้ทำกิจกรรมอะไรเลย” ผมว่าบ้างพร้อมยกแขนขึ้นมองข้อมือตัวเองที่มีด้ายสีขาวพันไว้จนหนา


เพี้ยะ!


“มันก็แน่สิวะ มึงแม่งมีแต่เรื่อง เคยได้เข้ากิจกรรมที่ไหนล่ะ”  ไอ้เชี่ยแบตแม่งตบหัวผมเต็มแรงก่อนว่าเล่นเอาหัวเกือบทิ่ม แม่งเอ้ยหัวคนนะไม่ใช่ปิงปองถึงได้ตีเอาๆ


“ห่า ถ้าสมองกูเสื่อมทำไงวะ ตบมาได้”


“เสื่อมก็ดีดิ กูจะได้เลิกคบแม่ง คบกับมึงปวดหัวฉิบหาย” บางทีมึงก็พูดหน้าตามึงจริงจังไปนะ


“เลิกคบกูเมื่อไร กูยิงไส้แตก” ผมแกล้งว่า


“หึหึ ก่อนจะปากดีเอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ หัวยังสูงไม่พ้นราวนมกูนี่ปากดีจริงๆ”


“แบตก็อย่าไปล้อว่าวีเตี้ยสิ”  เสียงหวานของลุกแพรแทรกขึ้นบ้าง


“แพรถ้าช่วยแบบนี้วีว่าไม่ต้องช่วยดีกว่านะ จะขยี้ทำไม” ผมว่าหน้างอ ไอ้พวกนี้แม่งกวนอารมณ์จริงๆ ยังมีหน้ามาหัวเราะอีกนะ


“แพรไม่ได้ว่าซะหน่อย ช่วยต่างหากล่ะ ถึงพอดีงั้นแพรไปก่อนนะ พรุ่งนี้เจอกัน” ลูกแพรว่าจบก็เดินกันมาถึงบ้านพักตัวเองพอดี ผมกับไอ้แบตบอกลาก่อนเดินต่อ


“เกือบลืมพี่โยกับพี่น็อตชวนกูไปกินเหล้านี่หว่า เขาให้มาชวนมึงด้วยนะไปไหม” อยู่ๆไอ้แบตทำท่านึกได้แล้วหันมาถาม มันไปนัดกับพี่เขาตอนไหนวะ


“ไม่ไปดีกว่า กูคออ่อนเดี๋ยวเมาแล้วเป็นเรื่องอีก แม่งเข็ด” ผมนึกก่อนว่ากลับ


“เออตามใจแล้วกัน งั้นกูไปบ้านพี่น็อตนะ ถ้ามึงเปลี่ยนใจก็ตามมา”


“ตามสบายว่ะ กูขอนอนเอาแรงดีกว่าพรุ่งนี้ว่าจะตื่นมาเล่นน้ำก่อนกลับซะหน่อย” ผมว่าตามหลังไอ้แบตที่เดินย้อนกลับไปทางบ้านพักพี่น็อต ตอนเดินผ่านมาผมเห็นเริ่มตั้งวงกันแล้ว มีทั้งรุ่นพี่และเพื่อนผมอีกหลายคนล้อมวงกันอยู่


“เห้ยเชี่ย!!  พี่ชินทำอะไร” ผมร้องเสียงดังทันทีที่อยู่ๆก็โดนดึงแขน หันไปถึงรู้ว่าเป็นพี่ชิน ทำไมพี่ชินชอบทำให้ตกใจวะ


“ก็วีกำลังจะหนีพี่ไปไหนล่ะ พี่ไม่ให้ไป วันนี้วีต้องนอนห้องพี่” พี่ชินว่าหน้าตาเฉยเลยครับ


“หนีที่ไหน พี่อย่ามาขี่ตู่ จะให้ผมมานอนห้องพี่ชินได้ไงล่ะ ห้องผมก็มีแล้วพี่ก็นอนกับพี่โย ไม่เกรงใจพี่โยเหรอที่ให้ผมมานอนด้วย” ผมว่าเป็นชุดเลยครับ


“ไอ้โยมันไม่นอนนี่หรอก พี่บอกมันแล้ว”


   “บอกอะไร” ผมถามเสียงนิ่งระหว่างที่ถูกจูงให้เดินเข้ามาในบ้าน ปากก็บอกว่าไม่แต่พอพี่ชินจูงมือผมก็ดันเดินตามไม่มีขัดขืนซะอย่างนั้น ปากไม่ตรงกับใจเลยให้ตายเถอะ


“ยืมห้อง” เชี่ย ขนลุก ก็พี่ชินดันก้มหน้ามากระซิบเสียงเบาข้างหูก่อนเป่าลมเข้าหูผมอีกด้วยนะ


“พี่ชินเล่นอะไรเนี่ย แล้วจะยืมทำไม ผมไม่นอนที่นี่นะผมจะนอนห้องผม ปล่อยเลย” ผมว่าก่อนพยายามแกะมือพี่ชินที่จับข้อมือผมอยู่ เปลี่ยนใจเดินออกตอนนี้คงยังทัน


“วันนี้นอนกับพี่นะ พี่ป่วยอยู่เห็นไหม เดี๋ยวกลางคืนพี่ปวดหัวจะทำยังไง พี่อยู่คนเดียวไม่ได้หรอก จะใจร้ายปล่อยให้พี่นอนคนเดียวเหรอ” 


“พี่ชินอย่ามาสำออย แค่หัวแตกไม่ได้ขาขาดซะหน่อย” ผมแกล้งว่าพร้อมผลักพี่ชินที่เอาหัวยื่นเข้ามาให้ดูออกห่าง มีการเอาเรื่องป่วยมาขู่ด้วยนะ


“ถึงขาไม่ขาด แต่ใจพี่สิมันจะขาดแทนมากกว่า ไม่ได้อยู่กับวีตั้งนาน กว่าเราจะเข้าใจกันได้มันเสียเวลาไปนานขนาดไหนวีรู้ไหม หลังจากนี้พี่ไม่อยากให้มีซักนาทีที่เราต้องห่างกัน ตามใจพี่หน่อยนะครับ ใครก็อยากนอนกับแฟนตัวเองทั้งนั้นแหละ” พี่ชินว่าเสียงอ้อน หน้าอ้อนจนใจผมกระตุกเลย เล่นแบบนี้แล้วผมต้องทำยังไงล่ะ เอาไงดีวะไอ้วี จะปฏิเสธใจก็ไม่อยากแต่ถ้าอยู่แล้วเกิดอะไรขึ้นล่ะ ยิ่งใจตรงกันถ้าห้ามใจตัวเองไม่ได้จะทำยังไง ความสับสนตีกันให้วุ่นไปหมดไม่รู้จะตัดสินใจยังไงดีครับ


“แต่ผมว่า...”


“ไม่ต้องว่าอะไรแล้ว นอนนี่แหละพี่ตัดสินใจให้ ไปอาบน้ำนอนกันดีกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่พาไปปั่นรถจักรยานกัน” 


“ผมไม่มีชุด ผมว่า ผมไปนอนห้องผมดีกว่านะครับ”


“ใช้ของพี่ก็ได้ แล้วด้ายนี่จะถอดออกก่อนไหม ถ้าเปียกน้ำแล้วมันจะแห้งยากนะเยอะขนาดนี้” พี่ชินว่าพร้อมเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวกับชุดนอนตัวเองส่งให้ผม 


“ไม่ถอดดีกว่าครับ เดี๋ยวก็แห้งผมยังไม่อยากถอดแต่น่าเสียดายความจริงผมอยากให้พี่ชินผูกให้ผมด้วย” ผมมองด้ายขาวที่ข้อมือตัวเองก่อนว่าเสียงเบา


“ถึงพี่ไม่ได้ผูกให้ก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะตัวพี่จะอยู่กับวีแทนไง ไหนยิ้มสิพี่ไม่ชอบให้เราทำหน้าแบบนี้ นั่นแหละต้องแบบนี้สิเวลาวียิ้มน่ารักกว่าเยอะเลย  รีบไปอาบน้ำแล้วมานอนกันดีกว่า” ผมยิ้มตามที่พี่ชินต้องการก่อนจะโดนไล่ให้ไปอาบน้ำ ถึงจะยังเสียดายอยู่แต่ถ้าพี่ชินบอกจะอยู่กับผมแทนก็ไม่เป็นไรครับผมไม่เอาก็ได้แค่มีพี่ชินผมก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว 


“ครับ” ผมรับคำก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าห้องน้ำ




     ต่อด้านล่าง
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 29-06-2015 23:06:37
      ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (ต่อ)


“หึหึ ครับแล้วทำไมกลับมาทำหน้าแบบนี้อีกแล้ว อยากได้มากเหรอได้อ่ะ” ยังไม่ทันออกเดินข้อมือผมก็ถูกรั้งไว้ มองไปพี่ชินที่นั่งบนขอบเตียงเป็นคนรั้งผมไว้ด้วยใบหน้ายิ้มๆ


“ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าได้มันก็ดีกว่าไม่ใช่เหรอครับ” ผมว่าเสียงเบา อดน้อยใจไม่ได้ ผูกให้คนอื่นตั้งเยอะแยะแค่จะเก็บไว้ผูกให้ผมซักเส้นก็ไม่ได้ ของแบบนี้ไม่ใช่หาที่ไหนก็ได้ซะหน่อย


แล้วทำไมผมต้องน้อยใจด้วยล่ะ นี่ผมกลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยไปแล้วเหรอ แค่ได้เป็นแฟนพี่ชินมันทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองได้เป็นเจ้าของได้ครอบครองผู้ชายคนนี้ จนคิดว่าตัวเองต้องพิเศษกว่าคนอื่น พอคาดหวังแล้วไม่ได้อย่างที่หวัง ก็มาเสียใจเอง ทำไมผมถึงมีความรู้สึกนี้ได้วะ ผมเริ่มกลัวตัวเองซะแล้วครับ ต้องไม่ใช่แบบนี้สิ ทำไมถึงอ่อนไหวอะไรง่ายๆกับเรื่องแค่นี้


“คิดอะไรอยู่ หื้ออ....ถ้าเครียดอีกแล้ว” พี่ชินถามพร้อมดึงผมลงนั่งซ้อนตัก


“พี่ชินผมกลัวตัวเอง พี่รู้ไหมอยู่ๆผมก็น้อยใจที่พี่ไม่ยอมผูกด้ายให้ทั้งที่เราเป็นแฟนกัน  ผมไม่ควรมีความรู้สึกนี้แค่เรื่องเล็กน้อยทำไมผมถึงเก็บมาคิด แล้วต่อไปเมื่อไรผมจะคิดเล็กคิดน้อยแบบนี้อีกก็ไม่รู้ พี่ชินจะเบื่อ จะรำคาญผมไหมครับ ผมอาจจะไม่ใช่คนอย่างที่พี่ชินเคยรักก็ได้” ผมว่าเสียงเครือ ความรู้สึกตอนนี้ไม่รู้มันเรียกว่าอะไร มันทั้งกลัวทั้งสับสนกับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นกับตัวเอง



“วีไม่ผิดหรอกไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ในเมื่อตอนนี้วีเป็นแฟนพี่ วีคือคนพิเศษคนสำคัญของพี่นะ วีมีสิทธิ์เต็มที่ จะหวง จะหึง จะทำอะไรก็ได้ที่คนเป็นแฟนเขาทำกัน ในเมื่อพี่เลือกวีแล้วพี่ก็ไม่มีทางเบื่อหรือรำคาญคนที่พี่เลือกมาเองกับมือหรอก จำไว้ว่าสำหรับพี่วีคือคนรัก คือคนที่พิเศษกว่าคนอื่นเสมอ


..ล้า..ลา..ล้า..ลา..ลา..ล้า..ลา..ลา..ล้า..ลา..ลา ..
 โอ้ น้องเอยพี่นี้ขอชื่นเชย จะมิเลยแรมไกล
  รักเจ้าดั่งดวงใจ จะมิคลายหน่ายนา
..ล้า..ลา..ล้า..ลา..ลา..ล้า..ลา..ลา..ล้า..ลา..ลา
   พี่จะรับขวัญเจ้า เอามาเข้าเป็นขวัญจิต จะรักดังชีวิต ใจคิดกรุณา
.. พี่จะรับขวัญเจ้า เอามาเข้าเป็นขวัญจิต เอามาเป็นคู่ชีวิตจะได้ไหมหนา
..ล้า..ลา..ล้า..ลา..ลา..ล้า..ลา..ลา..ล้า..ลา..ลา



ร้องไห้ทำไมไม่ร้องนะครับคนดี ไม่มีใครทำอะไรให้เจ็บซะหน่อย”  ปลายนิ้วเรียวค่อยๆเกลี่ยหยดน้ำตาที่ไหลอาบสองข้ามแก้มผมทีละข้าง


สิ่งที่พี่ชินทำให้ผมไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้จริงๆครับ หลังจากพี่ชินพูดจบเสียงร้องเพลงรับขวัญก็ดังขึ้น ผมเห็นพี่ชินล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อช็อปแล้วนำด้ายขาวขึ้นมาผูกข้อมือให้ และไม่ใช่แค่เพียงด้ายที่ถูกนำมาบรรจงผูกแต่มันมีเกียร์สีเงินที่ร้อยด้ายไว้ด้วย 


“ผมขอโทษครับที่ผมน้อยใจพี่ ผมผิดไปแล้ว ต่อไปนี้จะไม่มีอีกแล้ว”


“บอกแล้วไงครับว่าวีไม่ผิดหรอก ไม่เอาน้าไม่ร้องสิ”


“ขอบคุณครับ ขอบคุณทุกอย่างที่พี่ชินทำให้ผม” ผมว่าก่อนเอียงตัวเข้าโอบแขนรอบคอและซุกหน้าชื้นน้ำตาเข้ากับอกพี่ชิน


“แล้วตกลงว่ายังไงครับ ยังไม่ได้ให้คำตอบพี่เลยนะ”


“คำตอบอะไรเหรอครับ” ผมถามเสียงเบา หน้ายังไม่ผละจากอกอุ่น


“ก็ที่พี่บอกว่า พี่จะรับขวัญเจ้า เอามาเข้าเป็นขวัญจิต เอามาเป็นคู่ชีวิต จะได้ไหมหนา  มาเป็นคู่ชีวิตพี่นะครับพี่ไม่อยากรออะไรแล้ว”


“ยังเรียนกันอยู่เถอะ จะมาเป็นคู่ชีวิตอะไรล่ะเพิ่งเป็นแฟนกันได้วันเดียวเถอะ” ผมว่าเสียงอู้อี้ ตอนนี้ใจเต้นแรงหน้าคงแดงเถือกไปถึงไหนๆแล้วครับ เกิดมาไม่เคยคิดว่าจะมีคนมาร้องเพลงขอเป็นคู่ชีวิตแบบนี้ซักครั้งพี่ชินคิดจะทำให้ผมเขินตายไปเลยรึไงก็ไม่รู้ กลางวันผมขอเป็นแฟนกลางคืนพี่ชินของเป็นคู่ชีวิตมันจะรวดเร็วไปไหน


“ก็พี่พร้อมเป็นคู่ชีวิตวีนี่นาแล้ววีพร้อมรึยัง”


“เวอร์เถอะ”


“ไม่ได้เวอร์ พี่พร้อมแล้วจริงๆ ไม่จำเป็นหรอกว่าเราต้องคบกันไปนานๆ ดูใจกันไปก่อนถึงจะเป็นคู่ชีวิตกันได้ คนถึงเจอกันวันเดียวอยู่ด้วยกันจนแก่ยังมีเลย แล้วพี่กับวีก็รู้จักกันมาเกือบปีแล้วทำไมพี่จะไม่พร้อมละครับ คนที่พี่บอกว่าใช่ก็คือคนที่ใช่สำหรับพี่”


“แต่....ผมคงยังไม่พร้อม ไม่ใช่ว่าผมไม่รักพี่ชิน หรือรักน้อยไปนะครับ แต่สำหรับผมการใช้ชีวิตคู่กับใครซักคนผมว่าผมยังเด็กเกินไป ทุกวันนี้ผมยังแบมือขอเงินพ่อกับแม่ใช้อยู่เลย ผมอยากหาเลี้ยงตัวเองให้ได้ก่อน พี่ชินเป็นแรกที่ผมรักและเป็นแฟนคนแรกของผม ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นแฟนกันต้องทำยังไงบ้าง ยังมีเรื่องอีกมากมายที่ผมต้องเรียนรู้ขอให้ผมได้เรียนรู้มันในฐานะแฟนพี่ก่อนนะครับ  เมื่อถึงเวลาถ้าเราถูกกำหนดให้เกิดมาคู่กันผมเชื่อว่าซักวันเราคงได้ใช้ชีวิตคู่กันแน่ๆครับ”


ผมเงยหน้าจากอกขึ้นมาสบตาพี่ชินก่อนว่าอย่างจริงจัง ไม่ใช่ว่าไม่ดีใจแต่มันจะเร็วเกินไปสำหรับผม ถ้าวันนี้ผมตกลงแล้วเกิดวันหนึ่งพี่ชินเปลี่ยนใจคนที่จะเจ็บเจียนตายคงไม่พ้นผมแน่ๆครับ ยังไงขอให้ความสัมพันธ์มันค่อยๆพัฒนาไปด้วยกันดีกว่า



“ได้ครับ พี่จะไม่เร่งรัดแต่เราจะค่อยๆก้าวไปพร้อมกัน จนกว่าจะถึงวันที่เราทั้งสองคนพร้อมค่อยมาพูดเรื่องนี้กันอีกครั้งดีไหม”


“ดีครับ ขอบคุณนะครับที่พี่เข้าใจผม”


“ถ้าพี่ไม่เข้าใจคนที่พี่รักแล้วพี่จะไปเข้าใจใครล่ะ แต่กลับไปวีต้องย้ายไปอยู่ห้องพี่เหมือนเดิมนะ ใครให้คนของกลับไปก็ไม่รู้”


“แล้วใครล่ะที่ไม่ยอมกลับห้องตัวเอง ปล่อยให้ผมนอนเฝ้าอยู่ได้คนเดียว” ผมว่าเสียงงอน


“หึหึ ไม่เอาพี่ผิดไปแล้ว อย่าทำหน้าแบบนั้นเดี๋ยวพี่ก็บ้าจี้ปล้ำซะเลยนิ” 


“ไม่ต้องมาแกล้งเลยพี่ชิน ปล่อยเลยผมจะไปอาบน้ำแล้ว อ่อ เกียร์อันนี้ของผมเหรอครับ” ผมถามหลังจากนึกได้


“ใช่มันเป็นของวี วีมีสิทธิ์ที่จะได้รับมันไป”


“แต่ผมไม่มีลายเซ็นพี่น้ำ”


“พี่ไปบังคับให้น้ำเซ็นมาแล้วล่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะทำผิดระเบียบหรอก”


“อ้าวแล้วแบบนี้ที่พี่กับเพื่อนสั่งซ่อมผมล่ะ”  ผมถามเสียงดัง

 
“อ้าวเหรอ พี่สั่งซ่อมวีด้วยเหรอ พี่ไม่เห็นจำได้เลย” ยังจะมาทำเอ๋อแกล้งความจำเสื่อมอีกนะ


“ไม่ต้องเลยพี่ชิน แกล้งผมอีกแล้วนะ นี่แหน่ะ แกล้งใช่ไหมจะทุบให้ตายเลย”  ผมรัวมือใส่ทั้งแขนและอกพี่ชินให้หายเจ็บใจที่วันนี้โดนแกล้งแทบนับครั้งไม่ถ้วน


“อย่าๆ พี่เจ็บ ทุบมาพี่จูบนะ”


“อื้อ.....พี่ชินผมยังไม่ได้ทุบเลย”   หลังพี่ชินถอนริมฝีปากออกผมรีบว่าทันที ก็ผมหยุดทุบแล้วแต่พี่ชินก็ยังก้มหน้าลงมาจูบผมอีก


   “ขอพี่ชื่นใจหน่อยนะ พี่คิดถึงวีจะแย่ พี่ไม่เจอหน้าวีตั้งนานแต่พอเจอก็ไม่สามารถแตะต้องได้ มันทำให้พี่ทรมานขนาดไหนวีรู้
ไหม” เสียงนุ่มทุ้มมาพร้อมประกายตาบางอย่างจากผู้ชายที่มีผ้าก๊อตพันหัวตรงหน้า มันเป็นสายตาที่ทำให้ผมรู้สึกสะเทิ้นได้อย่างไม่ยากเลย แล้วใจผมก็ต้องเต้นแรงอีกครั้งเมื่อพี่ชินก้มหน้าลงมาจูบผมพร้อมกับฝ่ามือที่เริ่มลูบไปตามแผ่นหลัง แม้ว่ามันจะอยู่นอกเสื้อแต่ก็ทำให้ผมถึงกับขนลุกชันด้วยความรู้สึกบางอย่างที่เริ่มปะทุขึ้น



   “พี่ชิน พี่เคยบอกว่าจะไม่ทำอะไรผมไง” ผมทวงถามคำพุดที่เคยได้รับเมื่อนานมาแล้ว


   “พี่ก็บอกแล้วไงว่าจะไม่ทำถ้าวีไม่เต็มใจ” เสียงกระซิบแผ่วเบาข้างหูไม่ได้ทำให้สถานการณ์ตรงหน้า ลดความตื่นเต้นลงได้แม้แต่น้อย


   “ก็ตอนนี้ผมไม่เต็มใจไงครับ”  ผมว่าก่อนหลบตาไม่กล้าสบตาผู้ชายตรงหน้าจริงๆ


   “พี่ก็กำลังจะทำให้วีเต็มใจไงครับ” 


   “อ๊ะ....พี่ชินอย่าครับ” ผมห้ามเสียงไม่มั่นคงนักเมื่อพี่ชินเริ่มจูบเล็มตามลำคอและเลื่อนขึ้นมาตามใบหน้า ก่อนจะครอบริมฝีปากตัวเองลงมาบนริมฝีปากผมอย่างอ่อนโยนอีกครั้ง ความเงียบของเครื่องปรับอากาศทำให้ผมได้ยินเสียงวงเหล้าจากบ้านหลังข้างๆดังแว่วเข้ามาก่อนความกังวนว่าจะมีใครเข้ามาเห็นก็ถูกทำลายลงเพราะลีลาการพลิกพลิ้วปลายลิ้นของพี่ชินที่ทำเอาสติผมเริ่มหลุดลอย รู้ตัวอีกทีหลังผมก็สัมผัสเข้ากับผ้าปูเตียงเนื้อนุ่ม


   “อย่าห้ามพี่เลย เป็นของพี่นะครับ พี่อดทนมานานเกินพอแล้ว”


   “พี่ชิน อะ....อย่าเพิ่ง” ผมยังตอบไม่จบประโยคริมฝีปากที่เป็นอิสระกับถูกพี่ชินคลอเคลียก่อนจะแทรกปลายลิ้นเข้ามาอีกครั้ง ผมรู้สึกถึงความอุ่นร้อนที่พยายามไล่กวาดต้อนลิ้นผมให้จนมุม 


ความรู้สึกมันต่างจากทุกครั้งที่ได้รับจูบจากพี่ชิน ความอ่อนหวานที่เคยได้รับกลับกลายเป็นการเรียกร้องให้ผมต้องสนองและเหมือนธรรมชาติจะสร้างให้มนุษย์รู้จักการเรียนรู้ เพราะไม่ว่าพี่ชินจะเรียกร้องเท่าไรผมก็ตอบสนองกลับในระดับที่ไม่ต่างกัน ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อพี่ชินเริ่มไล่จับไปตามลำคอ และเลื่อนมือเข้าไปในเสื้อและมือร้อนเข้าเกาะกุมยอดอกของผม ผมเริ่มรู้สึกว่าแค่จูบที่ได้รับมันไม่เพียงพอ  ผมอยากได้มากกว่านี้  ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่ความรุ่มร้อนที่เกิดขึ้นในตัวทำให้มือค่อยเอื้อมไปปลดกระดุมเสื้อช็อป และดึงเสื้อยืดตัวในของพี่ชินออกไปให้พ้นหัว  ตอนนี้ผมอยากสัมผัสอยากแตะต้องพี่ชินไปทั้งตัว


“ซี๊ดดดด......อ๊ะ......พะพี่ชิน” ผมเผลอครางเสียงเบาเมื่อยอดอกที่แข็งเป็นไตถูกพี่ชิน ไล้เลียอย่างหยอกเอินและเข้าครอบครองด้วยเรียวปากหนา ความรู้สึกเสียดเสียววิ่งไปทั่วเมื่อพี่ชินพยายามแกะกางเกงผมออกแต่มือกับไปสัมผัสโดยจุดอ่อนไหวที่ตอนนี้มันดันไม่อ่อนซะแล้วครับ  ผมจะทำยังไงดีตอนนี้ทั้งเสื้อและกางเกงผมถูกถอดออกจนหมด



“อย่าปิดสิครับ ขอพี่ดูหน่อยนะ” พี่ชินว่าเมื่อผมรีบเอามือเข้ากอบกุมส่วนนั้นทันทีที่กางเกงหลุดพ้นปลายเท้า สติเริ่มกลับมาอีกครั้ง


“พี่ชินผมอาย พอเถอะครับขอกางเกงผมคืนเถอะ” ผมว่าก่อนหลบตา


“อายอะไรครับ พี่ก็มีเหมือนกับวีนั่นแหละ และตอนนี้พี่คงหยุดไม่ได้แล้ว เห็นไหมครับว่ามันต้องการวีขนาดไหน”


“พี่ชิน” ผมพยายามดึงมือตัวเองที่พี่ชินพาไปกอบกุมส่วนกลางลำตัวที่ตอนนี้ขยายใหญ่ดุนดันอยู่ในกางเกงยีนออก แม้ว่าจะไม่ได้สัมผัสโดยตรงแต่ก็รู้ว่าขนาดของมันต่างจากของผมจนน่าตกใจ


“ขอพี่เถอะนะให้พี่ได้รักวี พี่สัญญาจะทะนุถนอมอย่างดี” พี่ชินอ้อนขอทั้งคำพูดและสีหน้าก่อนจะแกะมือผมที่เกาะกุมส่วนนั้นอยู่ขึ้นจูบเบาๆ  ความลังเลเกิดขึ้นทันที


“พี่ชิน ผมกลัวผมไม่เคย”


“ไม่ต้องกลัวนะ พี่ก็ไม่เคยเหมือนกันแต่พี่จะค่อยๆทำไปพร้อมกันเนอะ” พี่ชินว่าก่อนโน้มหน้าลงมาจูบผมอีกครั้งพร้อมทั้งมือที่เอื้อมไปกอบกุมลูกชายของผมที่ขยายตัวเต็มที่ แม้ตอนแรกผมจะตกใจขยับถอยหนีแต่พี่ชินก็รั้งไว้ก่อนจะค่อยไล้มือวนส่วนบนและขยับมือขึ้นลงให้ผมรู้สึกหัวหมุน มันรู้สึกวูบวาบ และตื่นเต้นไปพร้อมกันจนไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ 


“ซี๊ดดด......อะ.....พะ....พี่ชิน.....ซี๊ดด.....หยุด .....หยุดก่อนครับ”

 
“พี่หยุดไม่ได้แล้วครับ พี่ขอร้องอย่าให้พี่หยุดเลยนะ”  เสียงพี่ชินแหบพร่าก่อนที่ผมจะรู้สึกว่าพี่ชินจับส่วนนั้นของตัวเองเสียดสีกับของผม


“อืมมมมมมม.....ไฟ....พี่ชินปิดไฟก่อน ผมอาย” ผมพยายามดึงสติตัวเองไม่ให้เตลิดไปไกลก่อนว่าเสียงเบาเหมือนไม่ใช่เสียงตัวเอง


“รอพี่แป๊บเดียวนะ เดี๋ยวพี่กลับมา” ผมได้ยินเหมือนเสียงพี่ชินจะหงุดหงิดแต่เพียงนิดเดียวก่อนขยับตัวลุกเดินไปปิดไฟและล็อกประตูห้อง ที่ผมกับพี่ชินคลอเคลียกันมาตลอดนี่พี่ชินไม่ได้ล็อกห้องเหรอ ความจริงที่รับรู้ทำให้ผมอยากพาดมือลงบนหลังพี่ชินซักตุบสองตุบ ถ้าใครเปิดมาเจอจะทำยังไง ผมไม่รู้จะเอาหน้าไปไหวที่ไหนของจริงเลยทีนี้


“แค่นี้ก็ไม่ต้องกังวลแล้วนะครับ” พี่ชินกลับขึ้นมาบนเตียงอีกครั้งก่อนว่าเสียงเบา ผมเห็นพี่ชินถอดกางเกงตัวเองในความมืดก่อนจะเดินไปหยิบอะไรซักอย่างมาด้วยแต่ผมมองไม่เห็นคิดว่าคงเป็นถุงยางอนามัย นี่ผมกำลังจะเป็นของพี่ชินจริงๆแล้วเหรอความกลัวแล่นเข้ามาในหัวอีกครั้งเมื่อผมสบตากับคนตรงหน้าฝ่าความสลัวของแสงที่ลอดเข้ามาจากริมหน้าต่าง


“พี่ชินผมว่าเราเปลี่ยน”


“ชู่วววว....ตอนนี้แค่วีทำตามที่พี่บอกก็พอนะ อย่าห้ามหรือเปลี่ยนใจอีกเลย ” นิ้วเรียวถูกยื่นมาแตะริมฝีปากผมก่อนเสียงห้ามจะตามมา


“ถ้าอย่านั้นก่อนที่ผมจะเปลี่ยนใจ พี่ชินก็เริ่มเลยเถอะครับ” ผมว่าก่อนคว้าคอพี่ชินลงมาจูบซะเอง แค่ตอนนี้ตอนนี้เท่านั้นที่ผมกำลังมีความกล้า ช่วยทำให้ผมเป็นของพี่ก่อนที่ความกล้านี้จะเปลี่ยนเป็นความกลัวจนผมต้องเปลี่ยนใจด้วยเถอะ


จากที่ผมเริ่มจูบพี่ชินก่อนกลับกลายเป็นพี่ชินที่รุกไล่จนผมต้องจนมุมจากความเร่าร้อนที่ได้รับพร้อมกับการขยับมือของพี่ชินกับแก่นกลางกายผมจนปวดร้าวเหมือนมันจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ


“ซี๊ดดดด .....อ๊ะๆๆ.....พี่ชิน....เบาๆๆ โอ๊ยยยย พี่ชินผมเสียว” จังหวะการขยับมือของพี่ชินเร็วขึ้นพร้อมกับรู้สึกว่าพี่ชินเอาส่วนกลางลำตัวมาเสียดสีกับผมอีกครั้งแล้วขยับไปพร้อมกัน หน้าพี่ชินเกร็งเครียดมีเหงื่อเป็นหยดเกาะพราวท่ามกลางความมืดและเสียงซี๊ดปากเบาๆแทบฟังไม่ได้ยิน



“อ๊ะ.... พี่ชินทำอะไร” ผมร้องถามทันทีที่อยู่พี่ชินเลื่อนมือลงไปที่ช่องทางด้านล่างแล้วค่อยๆแหย่นิ้วเข้าไปจนผมต้องขยับหนี
“ขอพี่เตรียมให้ก่อนนะ” แล้วความเย็นของอะไรบางอย่างก็ถูกชโลมก่อนเพิ่มนิ้วเข้ามาให้ผมอึดอัดมากขึ้นก่อนขยับและส่ายวนจนผมเผลอครางเพราะความเสียวที่เข้ามาแทนที่ความตื่นตกใจในตอนแรก


“พร้อมแล้วนะครับ” พี่ชินก้มหน้าลงมากระซิบถามชิดหูทั้งที่นิ้วยังคงค้างคา ผมได้แต่พยักหน้าเป็นสัญญาณ แล้วความรู้สึกของนิ้วที่ห่างหายก็กำลังจะถูกแทนที่ด้วยอะไรซักอย่างที่อุ่นร้อนและใหญ่กว่าหลายเท่าตัว


“โอ๊ยยยย.....พะพี่ชินเจ็บพอก่อน หยุดก่อน” ผมรีบว่าเสียงละล่ำละลักพร้อมขยับตัวถอยหนีแต่พี่ชินยึดตัวผมไว้ไม่ให้ขยับหนีได้จนห่างหาย ผมรู้สึกว่ายังมีบางส่วนเข้ามาในตัวผมแล้ว 


“ไม่ต้องกลัวนะ มันไม่เจ็บมากหรอกพี่สัญญาว่าจะทะนุถนอมวีไงจำได้ไหม” พี่ชินพยายามปลอมประโลมแต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมคลายใจลงเลย  แล้วนั่นอะไรผมลองขยับตัวขึ้นมองไปยังสิ่งที่พี่ชินกำลังนำมันเข้ามาในตัวผมแล้วก็ต้องตกใจนอกจากขนาดที่ใหญ่จนน่าเกรงขาม


“พี่ชิน ผมทำไม่ได้ มันใหญ่เกินไป เข้าไม่ได้หรอก” ผมว่าก่อนเงยหน้าขึ้นสบตา


“เข้าได้สิ นั่นไงมันเข้าไปแล้วนิดหนึ่งแล้วไง ซี๊ดดดดอย่าขยับ เดี๋ยวพี่ทนไม่ได้แล้วจะรุนแรงกับวีนะ” พี่ชินว่าเสียงกัดฟัน ก่อนผมจะมองเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่าง ไอ้นั่นมันไม่มีสิ่งใดห่อหุ้มไว้เลย


“พี่ชินถุงยางล่ะพี่ไม่ได้ใส่ถุงยางเหรอ ผมไม่ทำนะเอาออกไป...อึก ใส่ถุงก่อนนะพี่” ผมว่าก่อนจะรู้สึกเจ็บเพราะการขยับตัว


“พี่ไม่มี พี่จะไปเอามาจากไหนในเมื่อพี่มีวีคนเดียวและไม่คิดจะไปมีอะไรกับคนอื่น”


“แล้วที่พี่เอามาเมื่อกี้ล่ะไม่ใช่ถุงยางเหรอ” ผมถามถึงสิ่งที่เห็นเมื่อก่อนหน้า


“ไม่ใช่นั่นแค่ครีมทาผิว พี่เอามาช่วยให้ขยับตัวได้ง่ายขึ้น พี่ไม่มีถุงยาง”


“งั้นไม่ทำได้ไหม เอาไว้วันหลังนะพี่ ผมกลัว”


“วีกลัวอะไร พี่มั่นใจในตัววีและพี่เองก็ไม่เคยมีอะไรกับใครมานานมากจนแทบจำไม่ได้ แต่ถึงเคยมีพี่ก็ป้องกันทุกครั้ง พี่ไม่มีโรคหรอก” พี่ชินว่าก่อนเอามือลูบหน้าให้ผมคลายกังวล


“ผมกลัวท้อง พี่ชินถ้าทำแล้วท้องผมจะทำยังไง ไม่ทำนะ”


   “หึหึ ผู้ชายมันท้องไม่ได้หรอกไม่ต้องกังวนนะ ตอนม.ปลายโดดเรียนชีวะเหรอครับ งั้นเดี๋ยวพี่สอนเอง นอนลงไปได้แล้วครับ” พี่ชินว่าก่อนดันตัวผมให้นอนลงท่าเดิมแล้วค่อยๆขยับสิ่งนั้นเข้ามาในตัวผมมากขึ้น แต่มันไม่ท้องจริงเหรอ ถ้าผมเป็นคนถูกทำก็ท้องไม่ได้เหรอ


“โอ๊ยยยย.....เจ็บๆๆๆๆ พี่ชินผมเจ็บ” ผมร้องเสียงหลงเมื่อความสงสัยถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกเจ็บจนไม่สามารถทนได้


   “ชู่ววววไม่เจ็บนะ” เสียงพี่ชินว่าก่อนก้มหน้ามาจูบปิดปากไม่ให้ผมร้องโวยวายได้อีกพร้อมเอื้อมมือไปขยับลูกชายตัวน้อยของผมให้ขยายใหญ่อีกครั้งทั้งที่ส่วนนั้นก็ยังคืบคลานเข้ามาทีละน้อย


“ซี๊ดดดด ....อ๊ะๆๆ..... พี่ชิน......อ่ะ...โอ๊ยๆๆ...”ผมครางตามการขยับตัวเข้าออกทันทีที่พี่ชินปล่อยให้ริมฝีปากผมเป็นอิสระ ความคับแน่นถูกผ่อนคลายลงด้วยก่อนถอดถอนก่อนจะถูกแทรกเข้ามาให้ ความเจ็บที่ได้รับตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นความเสียวตั้งแต่เมื่อไรผมก็ไม่รู้รู้ตัวอีกทีผมกำลังจิกมือลงบนบ่าพี่ชินเต็มแรก รอยกัดที่บ่าเพื่อระบายความเจ็บยังมีให้เห็นเป็นรอยฟัน


“อืมมมม แน่นมากเลย..... อึ่มๆๆ” ผมได้ยินเหมือนเสียงพี่ชินดังอยู่ข้างหนู แต่ก็ไม่สามารถจับใจความได้เพราะตอนนี้สติไปอยู่กับจังหวะขยับตัวเข้าออกเป็นจังหวะของพี่ชินแทน


“โอ๊ยๆๆๆ......บะเบาครับ.....พี่ชินเบา .....โอ๊ะ...โอ๊ยๆๆ....ซี๊ดดดดด”  ผมร้องครางเป็นระยะเมื่อพี่ชินเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเน้นหนักทั้งแรงที่โถมเข้ามาจนผมแทบจะทนรับไม่ไหว


“ทนหน่อยนะครับ อีกนิดเดียว เดี๋ยวพี่จะทำให้นาวีของพี่มีความสุขนะ ซี๊ดดด อย่ารัดแน่นขนาดนั้นครับเดี๋ยวพี่ทนไม่ได้” เสียงแหบพร่าว่าพร้อมนิ้วมือที่พยายามเกลี่ยหยดเหงื่อตามหน้าผากให้ผม  แต่ผมไม่ได้รัดอะไรซะหน่อยไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันทำยังไง



ทำไมพี่ชินถึงดูเจ็บปวด แล้วผมต้องทำยังไงถึงจะช่วยพี่ชินได้ ผมคิดพร้อมเอื่อมมือที่สั่นตามแรงขยับตัวของพี่ชินขึ้นลูบหน้าคมเบาๆก่อนรั้งลงมาบดจูบ ตอนนี้ผมอยากจูบพี่ชินเหลือเกิน ความเสียวที่กำลังวิ่งแล่นไปทั่วทั้งตัวทำให้ผมแทบจะทนต่อไปไม่ไหว


“อ๊ะๆๆ....อ๊ะ...พี่ชิน ผม...มะไม่ไหวแล้ว เสียว...ซี๊ดดดดด  .....อ๊ะๆๆๆๆ” ผมร้องบอกพี่ชินทันทีที่ถอดปากออกแล้วรับรู้ถึงการเร่งเครื่องและส่ายวนของคนเหนือร่าง


“รอพี่ก่อน  รออีกนิดเดียวพี่ก็จะถึงแล้ว อืมมม”


“พี่ชิน...อ๊ะๆๆๆ.....ขอ....ขอผมไปเถอะ...ผมไม่ไหวแล้วพี่ชิน....ช่วยด้วยผม....อึกไม่ไหวจะไปแล้ว”


“ไม่ไหวก็ปล่อยเลยครับ ปล่อยออกมาพร้อมกันเลย พี่ก็จะเสร็จแล้ว”


“โอ๊ะๆๆ.....ซี๊ดดด ...โอ๊ยยๆๆ.....อ๊ะ...อ่าา.....พี่ชินจูบ....จูบหน่อยขอจูบหน่อยครับ”  พี่ชินเร่งขยับตัวแรงและเร็วขึ้นจนความรู้สึกผมพุ่งขึ้นสูง ความเสียววิ่งพร่านไปทั่ว ผมเกร็งตัวจิกเท้าบนที่นอน จิกมือบนหลังพี่ชิน ตัวก่อนทุกอย่างจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆจนผมต้องร้องขอจูบจากพี่ชิน ของเหลวขาวขุ่นพุ่งออกมาเป็นระลอก เปรอะเปลื้อนมือพี่ชินและหน้าท้องแบนราบของผมไปทั่ว


“อ๊ะๆ อืมมมมมม”


“โอ๊ะ...พี่ชิน....ซี๊ดดดดดด” หลังเสร็จสิ้นพี่ชินขยับตัวอีกไม่กี่ครั้งก่อนครางเสียงทุ้มแล้วบางอย่างก็ถูกฉีดพ่นเข้ามาในตัวผมจนเสียวจี๊ดขึ้นมาเป็นระลอกตามฉีดพ่นของลูกชายพี่ชินที่เหมือนมีชีวิตอยู่ในร่างกายผม


“ขอบคุณครับที่มอบทุกอย่างให้พี่พี่จะดูแลอย่างดี พี่รักวีนะ”  พี่ชินซบหน้าลงที่ซอกคอผมก่อนเอียงหน้ามาหอมแก้มชื้นเหงื่อแล้วว่าเสียงเบา


 “ผมก็รักพี่ชินครับ” กรุ่นกลิ่นความหอมหวานในอารมณ์ทำให้ผมเผลอคลี่ยิ้มแล้วเอียงหน้าไปหอมข้างแก้มพี่ชินตอบ
“...อืมมมม อย่าเพิ่งจับมัน เดี๋ยวพี่อดใจไม่.....ดูสิมันตื่นอีกแล้วทำยังไงดีล่ะ”  พี่ชินเหมือนจะห้ามเมื่อผมพยายามจะขยับถอดถอนแต่กลับเปลี่ยนเป็นเงยหน้าขึ้นมาว่าถามด้วยรอยยิ้ม แล้วยังแกล้งขยับช่วงล่างให้ผมได้รับรู้


“อ๊ะ...พี่ชินพอแล้วครับ ผมเจ็บ” ผมค้านเมื่อพี่ชินเริ่มระดมจูบตามข้างแก้มและลำคอแถมยังหายใจแรงเป็นสัญญาณให้รู้ว่าพี่ชินกำลังจะทำอะไรผมอีกแน่ๆ


“แล้วพี่จะทำยังไงละครับ ขออีกครั้งนะก็วีน่ารักพี่อดใจไม่ไหวจริง”


“งั้น...อีกครั้งเดียวนะครับ มากกว่านี้ผมไม่ไหวแล้ว”


“ได้เลยครับ วีของพี่น่ารักที่สุดในโลกเลย” พี่ชินว่าเสียงดีใจเหมือนเด็กได้ของเล่น แต่ผมรู้ว่าไม่เล่นแน่นอนเพราะหลังจากนั้นสติผมแทบไม่อยู่กับตัว พี่ชินพาผมล่องลอยไปกับความหวานหอมและแปลกใหม่ของรสสัมผัสจนเผลอตามใจพี่ชินไปไม่รู้กี่ครั้งยังไม่ทันที่ผมจะรู้ตัวผมก็หมดแรงหลับไปซะก่อน








“พี่ชินปั่นเบาๆผมยังเจ็บอยู่เลย” ผมบอกพี่ชินเสียงดังเมื่อพี่ชินพาผมปั่นจักรยานลงจากถนนลงมาบนพื้นทราย มันจะไปได้ยังไงกันล่ะ


“ขอโทษครับพี่ลืม ว่าจะพาไปปั่นจักรยานสวีทหวานดูพระอาทิตย์ตกซะหน่อยอดเลยเรา งั้นไปเดินเล่นกันนะ” รถจักรยานถูกจอดก่อนพี่ชินจะหันมาถามพร้อมรอยยิ้มหวาน ผมยิ้มตอบก่อนลงจากรถแล้วยื่นมือให้พี่ชินจูงเดินไปเรื่อยๆ



ลมเย็นถูกพัดเข้ากระทบผิวกายให้ความรู้สึกเย็นสบายพร้อมกับพระอาทิตย์ยามเย็นที่สาดแสงกระทบผิวน้ำทำให้ผมอยากหยุดเวลาเอาไว้ตรงนี้ ที่มีแค่เพียงผมกับพี่ชิน ไม่อยากรับรู้ความวุ่นวายของโลกภายนอกแต่มันคงเป็นไปไม่ได้ในเมื่อชีวิตต้องก้าวไปข้างหน้า


หลังจากคืนนั้นที่ผมยอมเป็นของพี่ชินเต็มตัว เช้ามาผมไข้ขึ้นลุกไม่ไหวเลยต้องขออยู่ต่อแล้วปล่อยให้คนอื่นกลับไปก่อน ดีที่เป็นวันเสาร์ผมเลยได้พักยาวมาถึงวันอาทิตย์ด้วย แล้วผมคงเป็นคนที่ถึกเกินไปเลยไม่เป็นอะไรมากสามารถฟื้นตัวได้เร็ว


“เดี๋ยวก็ต้องกลับแล้วใช่ไหมครับ ผมคงคิดถึงที่นี่มากแน่ๆ ที่นี่เหมือนเป็นที่แห่งความทรงจำของผม”


“ความทรงจำยังไงหือ” พี่ชินหยุดเดินก่อนก้มหน้ามาถามยิ้มๆ  จนผมต้องหลบตา


“ก็ที่นี่เป็นเหมือนสถานที่ที่ผมตกหลุมรักพี่ชินโดยไม่รู้ตัวก่อนที่ผมจะสภาพรักและยอมเป็นของพี่ชินที่รีสอร์ทแห่งนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นที่นี่แล้วจะไม่ให้ผมคิดว่าเป็นสถานที่แห่งความทรงจำได้ยังไงครับ”


“ทุกอย่างอาจจะเกิดขึ้นที่นี่แต่มันจะไม่จบลงที่นี่แน่นอน พี่ให้แค่เก็บมันไว้เป็นความทรงจำเท่านั้นนะ เพราะปัจจุบันและอนาคตของวีต้องอยู่กับพี่ตกลงไหมครับ”


“จะไม่ตกลงได้ยังไงครับ ในเมื่อทั้งใจผมยกให้พี่ไปหมดแล้ว” ผมหันไปยิ้มตอบเต็มหน้าก่อนว่าเสียงเบา นานๆจะพูดอะไรแบบนี้ทีก็ทำเอาผมเขิลแทบไปต่อไม่เป็นเหมือนกันครับ


“งั้นหลังจากนี้เราไปเริ่มต้นใหม่กันที่กรุงเทพฯ จะไม่มีความเข้าใจผิด ความหวาดระแวง ความไม่เข้าใจกันอีก จะมีแต่พี่คนนี้ที่รักวีหมดใจ”


“และก็มีผมที่รักพี่เพียงคนเดียวเท่านั้น  ไม่ใช่รักพี่ตินณ์ รักพี่โยหรือรักใครก็ตามที่พี่คิดว่าผมรักนอกจากพี่ ผมจะทิ้งทุกอย่างไว้เป็นเพียงความทรงจำที่เป็นบทเรียนสอนให้ผมรู้ว่ากว่าจะได้รักครั้งนี้มามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ผมจะรักและดูแลความรักของผมครั้งนี้เป็นอย่างดี” ผมว่าก่อนมองสบตาพี่ชินเพื่อสื่อให้เห็นถึงความจริงใจทั้งหมดที่ผมมี


 “ขอบคุณที่รักและเลือกพี่นะครับ พี่จะดูแลวีให้ดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำเพื่อคนที่ตัวเองรักได้ พี่สัญญา” พี่ชินว่าเสียงมั่นคงไม่แพ้กันก่อนดึงผมเข้าไปกอดแน่น ผมค่อยๆเอื่อมมือไปโอบรอบแผ่นหลังแกร่งในที่สุดผมก็ได้มามาอยู่ในอ้อมกอดนี้อีกครั้ง  ตอนนี้พี่ชินเป็นของผมแล้วเป็นของผมคนเดียวเท่านั้นผมคิดก่อนเผลอคลี่ยิ้มบาง


อนาคตเราจะจับมือกันฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆที่ต้องเผชิญ โดยจำเรื่องราวความเข้าใจผิดครั้งนี้ไว้เป็นบทเรียนว่ามันทำให้ทั้งผมและพี่ชินเจ็บเจียนตายขนาดไหนและจะไม่มีอีกแล้ว ต่อไปนี้เราทั้งสองคนจะประคับประคองความรักครั้งนี้ ด้วยความรัก ความเข้าใจและการอภัยให้กัน


“สองตัวผัวเมียตรงนั้นน่ะ จะพลอดรักกันอีกนานไหม กูหิวข้าวแล้วถ้าไม่รีบมากูจะแดกให้หมดแม่งเลย”


“ไอ้วีกูไม่อยากกินน้ำตาลแทนข้าว รีบมาได้แล้วก่อนที่มึงกับพี่ชินจะทำหน้าทะเลจืด”


ผมหันไปมองตามเสียงก็เห็นพี่โยกอดคอหัวเราะอยู่กับพี่น๊อต และไอ้แบตที่ยืนยิ้มอยู่ข้างลูกแพร สี่คนนี้ก็ไม่รู้ทำไมไม่ยอมกลับไปพร้อมคนอื่นตื้อขออยู่ต่อจนพี่ชินใจอ่อนให้กลับพร้อมกันด้วยความไม่ค่อยเต็มใจเท่าไรนั่นแหละครับ ก็ทุกคนชอบมาแกล้งขัดพวกผมให้ได้อายตลอดแบบนี้ไงพี่ชินถึงอยากไล่กลับกรุงเทพฯวันละหลายหน



“เงียบไปเลย คนจะจู๋จี๋กัน พวกมึงแม่งชอบขัดจังหวะตลอด” พี่ชินว่ากลับอย่างหัวเสียก่อนที่ผมจะหัวเราะไปกับคนอื่นๆที่ทำให้พี่ชินหลุดมาดได้  อยู่กับพี่ชินคงมีเรื่องสนุกๆให้ได้หัวเราะตลอดแน่ๆครับ





       --------------------- จบ -----------------------------

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและอยู่ด้วยกันมาถึงตอบจบของเรื่อง ถ้าให้รักก็อย่าร้าย
ขอบคุณคอมเมนท์ที่เป็นเหมือนกำลังใจทำให้เมจิกมีแรงมาต่อจนจบค่ะ
อยากบอกว่าเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่เมจิกเข็ญมาก กว่าจะเสร็จแต่ละตอนได้ยาวนานมากเลยค่ะ
แต่ก็แต่งมาจนจบได้ ไม่รู้ต้องบอกว่าอย่างไรดี  แบบว่ามันดีใจ 5555


ตอนจบเป็นอย่างไรบ้างค่ะ ถูกใจทุกคนไหม ยังไงอย่าลืมบอกกล่าวกันบ้างนะคะ
ถ้ามีโอกาสอาจจะได้พบกันในเรื่องถัดไปค่า 


รักคนอ่านเสมอจ้า  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 29-06-2015 23:36:56
ได้กันซะที เอ้ยยยยย ดีกันซักที ฮ่าาาาาา

เอาจริงๆ ไม่คิดว่าจะจบแบบนี้นะ
นึกว่าจะซ่าๆ แสบๆ กว่านี้

รอตอนพิเศษจ้าาา คึคึ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 30-06-2015 00:02:00
 :a2: ในที่สุดก็เป็นแฟนกันเต็มตัว
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: Cinnamon Roll!!! ที่ 30-06-2015 00:11:24
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5
เขิลง่าาา   เพ่ชินกะนุ้งวีหวานกันจนน้ำมะเลจืดล้าววว
สมหวังกันซะทีเน้ออ    เดินทางมาถึงตอนจบแล้วใจหายจุงเบย
ไม่อยากให้จบจริงๆ // ขอบคุนเมจิกที่แต่งเรื่องน่ารักๆแบบนี้ให้อ่านค่าา
รักน่ะชุบุ๊ๆๆ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 30-06-2015 00:42:21
วีได้เป็นแฟนพี่ชินเต็มตัวแล้ว ถึงกับไข้ขึ้น
สวีทจนน้ำทะเลจืด
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: naoai ที่ 30-06-2015 01:12:39
ขอบคุณมากครับที่แต่งนิยายดีๆ ให้อ่าน จบแบบนี้ก็โอเคนะครับ แต่แอบอยากรู้เรื่องราวการเริ่มต้นใหม่ของสองคนนี้ไปจนจบมหาวิทยาลัย จะมีภาคสองน่าจะดี
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 30-06-2015 02:19:39
ิแหม่ ลุ้นจนตัวโก่งว่าจะได้กันไหม ในที่สุด คริๆ
ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 30-06-2015 14:25:01
จบละเย้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 30-06-2015 17:33:08
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 30-06-2015 18:44:14
เป็นตอนจบที่หวาน ปนฮา และซึ้งมากๆ  คู่นี้กว่าจะเข้าใจกันนี่อุปสรรคเยอะจริงๆ แต่เป็นอุปสรรคที่เกิดจากความทิฐิ การไม่ฟังเหตุผลของอีกฝ่าย มัวแต่คิดเอง เออเอง จนเป็นเรื่องขึ้นมา แต่สรุปสุดท้ายเพราะรักคำเดียว ก็ทำให้กลับมาเข้าใจกันได้ในที่สุด

ขอบคุณ คนแต่งที่แต่งนิยายสนุกๆ ให้ได้อ่าน  รอติดตามผลงานเรื่องต่อไป  :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 30-06-2015 19:16:22
เย้ๆๆๆ. จบแว้วว. ขอบคุณคนแต่งมากๆครับบบบ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 30-06-2015 21:41:27
อ่านมายาวๆเลยว่าแต่จบแค่นี้แล้วเหรอครับไม่มีเรื่องราวต่อจากนี้แล้วเหรอ อยากให้มีต่ออีกจังคับ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: l3loodl2o5e ที่ 30-06-2015 23:25:00
อ่านรวดเดียวจบเลย หืม ตามมาจาก อีกเรื่อง รักคนเเต่งจัง แต่งได้ครบรสดี บางชอตอ่านละจิกหมอน ไอ้ที่บ้านทำไมมันไม่เจ๋งแบบนี้วะ :katai1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: เคียงใจ ที่ 30-06-2015 23:30:41
แปลกเนาะ ทั้งๆที่ทั้งเรื่องมีแต่ชินเจ็บแต่กลับมีคนอื่นด่า ทีตอนวีหลายใจโลเลนี่อวยกันจัง
อ่านไม่จบหรอก ความคิดความรู้สึกตัวละครมันยังไงไม่รู้ ทำไมอ่านมีแต่ความรู้สึกว่าวีนั่นแหล่ะที่น่าจะเจ็บ
เห็นแก่ตัวแปลกๆ


อ่านให้จบก่อนดีไหมคะ อย่าเพิ่งตัดสินใครทั้งที่ยังอ่านไม่จบเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: JAROEN ที่ 01-07-2015 00:33:16
กว่าจะได้กัน อิอิ เคลิ้มแปลบ    :pighaun: :haun4: :jul1: โปรดติดตามเรื่องต่อไป อิอิ :L2: :3123: :L1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 01-07-2015 08:53:43
 :m25: :m25: :m25:
 :pig4: :pig4: :pig4:
รอ พีช-เนม
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 01-07-2015 09:48:15
ในที่สุดก็ได้รักกันซะที :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: sodawan1 ที่ 01-07-2015 14:09:56
เค้ารักกันแล้วววววว  :ling1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: New_Tai ที่ 01-07-2015 14:10:35
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 01-07-2015 18:45:51
จบแล้ว เย้ๆๆๆๆ รอตอนพิเศษ (ขอประจำ)
ขอบคุณสำหรับพี่ชินกับน้องวีนะคะ  รัก/เศร้า ได้อารมณ์มากคะ. ^^
เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 02-07-2015 00:36:04
ในที่สุดก็ได้กันแล้ว 5555+


แฮปปี้มากๆ เรื่องนี้สนุกมากๆ เวลาดราม่าก็น้ำตาไหลเลย

ขอบคุณคนเขียนนะครับที่เขียนเรื่องสนุกๆแบบนี้
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 02-07-2015 16:13:07
เล่นเอาน้ำตาไหลเลย สุดได้ก็ได้กันซะที
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: Aumy8059yaoi ที่ 02-07-2015 22:53:20
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 03-07-2015 05:07:36
จบแล้ว อ่านรวดเดียวจบ สนุก ๆ ^_^
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: Ningg.Destiny ที่ 04-07-2015 23:07:53
จบแบบแฮปปี้ เริ่ด~
ลุ้นตอนน้องวีพยายามบอกรัก
อิพี่ชินก็ไม่ฟังอะไรเลย บอกปัดท่าเดียว
ทำให้น้องช้ำใจ เสียใจอีก คะแนนติดลบมากย่ะ
ยังดีที่ทำคะแนนได้ช่วงท้ายๆ
แต่นี่ก็เทใจให้พี่โยเกินครึ่งละพูดเลย 5555
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 05-07-2015 08:42:14
ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: GAZESL ที่ 07-07-2015 16:05:44
โฮ้ยยยยย ลุ้นมากกก กว่าจะลงเอยกันได้ สลับซับซ้อนน่าดู
พี่ชินกับน้องวีคงได้บทเรียนความรักแบบไม่มีวันลืม
สนุกมากกกกกค่ะ ขอบคุณคนแต่งค่าาา
รักแบต รักลูกแพร รักพี่โย :กอด1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: naamsomm ที่ 12-07-2015 16:06:28
สนุกจ้าาาาา
แต่กว่าจะลงเอยกันได้
แอบเสียน้ำตาตามวีไปเยอะ
ปล.แอบหลงรักพี่โย
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 12-07-2015 18:55:08
โมโหอิพี่ชิน ตอนจีบล่ะรักมากมาย เเต่เข้าใจผิดเสือกไม่ฟังวีอธิบาย  :z6:

ชอบตอนพี่โยด่ามัน “มึงเป็นคนตีตัวออกมาจากน้องเองแล้วจะมาโวยวายอะไร ทำตัวจะเป็นตายทั้งที่มีแฟนใหม่แทบทันที”   
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 07-10-2015 13:56:34
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: natt lUcky ที่ 08-10-2015 21:16:37
พึ่งได้มาอ่าน อ่านมาพักนึ่งยังไม่เจอพระเอก
555 ใครกันนะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 10-10-2015 10:58:55
กว่าจะจบได้ เหนื่อยใจมากมาย กว่าจะเข้าใจ เสียเวลาไปนานแค่ไหน ถ้ายอมคุยกัน ก็รักกันนานและ :ling3:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: M.J. ที่ 11-10-2015 01:15:23
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 13-10-2015 08:39:04
มีความสุข

เห็นผู้ชายรักกัน

ฟินจัง

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: snack ที่ 15-10-2015 13:33:09
สนุกค่ะ..แต่กว่าจะลงเอยกันได้ลุ้นจนเหนื่อย :pig4:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: whyrockstarx3 ที่ 16-10-2015 00:22:50
โอ้ย ลุ้นแทบตายกว่าจะเข้าใจกันนี่อุปสรรคเยอะจริงๆ แต่สรุปสุดท้ายเพราะรักคำเดียวที่ทำให้กลับมาเข้าใจกันได้

หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: Rosnest ที่ 17-10-2015 19:06:56
  :hao6:  ในที่สุด 2 คนนี้ก็เป็นแฟนกันจนได้ (หลังจากหน่วงตั้งนาน ถถถ+)  :hao7:

ใจหายจังเลย จบสะแล้ว  :hao5: แต่ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ

                                                 :z2:  :z2:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: AngPao1932 ที่ 06-11-2015 05:07:26
อ่านจบแว้ว ด้วยความที่เป็น Fcน้องพรต พูดเลยว่าตอนแรกหึงพี่ตินแทนน้องพรตมาก  :hao7: :hao7: :hao7:

ข้อคิดเยอะดี ขอบคุณนะจ๊ะที่เขียนเรื่องดีๆแบบนี้มาให้อ่าน :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 06-11-2015 09:23:54
อ๊ายยยยฟินเฟร่ออออออออ เพิ่งจะรู้ว่ามีเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับติณณ์พรตด้วย เรื่องนั้นเป็นเรื่องที่ชอบมากๆเลย ส่วนเรื่องก็ชอบเช่นกัน แต่กว่าจะได้รักกันหน่วงจิตแล้วหน่วงจิตอีก

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: numildkub ที่ 12-12-2015 10:29:47
อ่านจบแล้วว เรื่องนี้อบอุ่นมากกก
พระเอกรักมากและโง่มาก
ทำให้เข้าใจสำนวน ความรักทำให้คนตาบอด
ถึงแม้จะหน่วงๆตอนกลางเรื่อง
และคิดถึงว่านักเขียนอาจเปลี่ยนพระเอกกลางอากาศ
เพราะพระเอกของเราโง่ซะเหลือเกินแต่ก็ยังพยายาม
ยืนยัดเอาชินกลับมาฉลาดอีกครั้งนึง
ขอบคุณที่สร้างสรรค์นิยายดีๆนะค้า
รักนักเขียนมากๆเลย เรื่องนี้อ่านแล้วน่ำตาซึมจริงๆ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 04-04-2016 23:21:37
ขอบคุณค่ะ เรื่องนี้สนุกเพลิดเพลินอีกเช่นกัน
เราตามมาจากตินณ์พรตค่ะ
กว่าน้องวีพี่ชินจะเข้าใจกันนี่ เราเสียน้ำตาไปหลายหยดเลย (T_T)
เรารู้สึกว่าเรืีองนี้ดราม่ามากกว่าตินณ์พรตนะ ไม่รู้มีใครคิดเหมือนเราบ้าง...
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: Nattarat ที่ 19-04-2016 08:24:42
ขอบคุณสำหรับนอยายสนุกๆนะค่ะ อยากได้ตอนพิเศษอีกอ่า
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: Sweettemp ที่ 20-04-2016 19:12:40
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 21-04-2016 21:45:05
กว่าจะลงเอยกันลุ้นแทบแย่ สนุกมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: BankkunG23 ที่ 28-04-2016 14:45:05
ขอบคุณมากๆนะครับ ^.^
สนุกมากๆ หน่วงอยู่พักใหญ่
จบ แฮปปี้ ค่อยยังชั่วหน่อย อิอิ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: whyrockstarx3 ที่ 01-05-2016 01:15:52
แฮปปี้เอนดิ้ง อิอิ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: Be mine ที่ 13-06-2016 22:17:35
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆแบบนี้นะคะ เราอ่านแล้วได้ข้อคิดดีไปเยอะเลยจริงๆ ถึงแม้จะมีดราม่าจนทำให้เราเสียน้ำตา แต่ก็ทำให้เรารู้สึกรักนิยายเรื่องนี้จนอยากจะให้มีตอนพิเศษมาให้อ่านอีกเรื่อยๆ ไม่อยากให้พี่ชินดับน้องวีเป็นแค่ความทรงจำดีๆที่ได้แต่คิดถึง  ถ้าคนแต่งมีเวลาก็อย่าทิ้งพี่ชินกับน้องวีนะ ช่วยแต่งตอนพิเศษอีกสัก 100 ตอนด้วยนะคะ กอดคนแต่งแน่นๆ300000 นาที
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: Gottomon ที่ 30-06-2016 18:00:16
จริงๆอยากจะเม้นต์ หลายๆตอนมากเลยค่ะ แต่กลัวคนมาอ่านที่หลังจะงง 555
เป็นแนวนิยายที่ชอบมากจริงๆค่ะ ช่วงแรก เป็นความน่ารักแบบรุ่นพี่รุ่นน้อง
กัดๆ แกล้งๆ สนุกมากจริงๆ พี่ชินแสดงความรักชอบ ได้ไร้น้ำตาลมากๆ 555
พอมาเริ่มสารภาพรัก ช่วงนี้สงสารพี่ชินมา คิดว่าคนไม่เคยรัก พอมารักแล้วจริงจังตั้งใจมาก
เจ็บแทนจริงๆ ช่วงที่ขอเป็นแฟนกัน 1 วันนี่มันดีกับใจมากๆมถึงจะรู้ว่าสุดท้ายมันต้องจบ
แต่น้องวี ไม่ทำฝันเราสลายซะทีเดียว เพราะน้องก็เริ่มรุ้ใจตัวเองทีละนิด
(พอจะเข้าใจความรู้สีก ที่ว่า เราไม่ได้ชอบนะ แต่พอเค้าจะไปจากเราจริงๆ เราทำใจให้ไปไม่ได้ แล้วจะเริ่มรู้ใจตัวเอง)
แต่มันดันมาดราม่า ตรงความจั๊ดง่าวของพี่ชิน (น้องขอโท๊ดดด) ดันไปหวังดีแบบผิดๆ เจ็บทุกทางเลยทีนี้ ร้องไห้ด้วยอะT^T

ส่วนตอนเอาคืนพี่ชินนี่ ตอนนั้นก็กำลังคิด ไม่สมเหตุสมผลเลย ทำไมรักพี่ชินอยู่ปันใจไปหาพี่โย ประชด?
พอเฉลยเท่านั้นแหละ บางอ้อเลยย

ชอบตอนขอลายเซ็นพี่ชินมาก ตะโดนข้ามฟากกันเบนทีเดียว><

ฉากโปรดคงเป็นตอนมาเที่ยวระยองกัน อร้าย เท๊อ พี่ชิน#แอบดูดหนักมาก 555555

รอซื้อเล่มอยู่ค่ะ อิอิ เด๋วจะตามไปอาานพี่ตินณ์โด้ยย อ่านข้ามมาเรื่อยนี้เลย 55
ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆออกมาค่ะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 28-08-2016 02:04:14
มาอ่านอีกรอบค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 28-08-2016 12:09:00
ชอบ สนุกมาก
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 09-04-2017 17:17:44
ขอบคุณมากๆค่ะ แม้หลังจะบีบหัวใจ แต่ในที่สุดก็เข้าใจกัน
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 16-07-2017 21:29:48
มาอ่านรอบนี้ก็ยังมีน้ำตา
โฮๆๆ กว่าจะรักกันได้โนะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: TheGraosiao ที่ 24-01-2018 10:32:31
 :3123: :3123:

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: AgotoZ ที่ 14-08-2018 21:27:35
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 16-08-2018 07:47:01
สนุกมากกก มีความสุขอ่ะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 30-11-2018 23:59:02
ดีนะที่ชินเกิดเรื่อง ไม่งั้นก็หลงวนกันไปมา
ตามหวงไม่จบสิ้น แต่ก็ไม่กลับมา

สงสารวี ล่องลอยไปนาน กว่าจะเข้มแข็งได้
วีชัดเจนนะ รักไม่รักก็บอก แต่ตอนบอก ดันไม่เชื่อ
แถมโดนหนีไปมีคนอื่น ไม่บอกไม่ถามสักคำ
ชินน่าโดนทุบจริงเลย

โยคือเพื่อนที่ดีมากเลยล่ะ อยากช่วยเพื่อนและน้อง
แบตแพรก็เป็นห่วงไม่ต่างกัน และคอยอยู่ด้วยเสมอ

สงสารคนที่แอบรักแล้วไม่สมหวัง รักข้างเดียวมันก็เจ็บ
แต่ถ้าอีกคนชัดเจนก็ควรจะจบนะ

ขอบคุณมากนะคะ ลงเอยด้วยดี ตอนวีเศร้า น้ำตามาเลยจ้า
เป็นกำลังใจต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: HappyYaoi ที่ 01-12-2018 23:16:21
คิดถึงคุณนักเขียนเลยแวะมาอ่านอีกรอบ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: konfaibint ที่ 03-12-2018 20:31:26
วี ถูก ชิน ชิม จน ติด ใจ ไป อีก นาน  :haun4:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 04-12-2018 05:15:05
ความกลัวท้องโอ๊ยยยยหนูลูกกกกก 555555
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: TuEyyy ที่ 16-12-2018 00:09:40
จบแบบแฮปปี้ ดีใจจัง สงสารวีมากเลย แต่ก็พอกันทั้งคู่ ทำเอาน้ำตาซึม ขอบคุณนะคะ ชอบบบ  :กอด1: :กอด1:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: sk_bunggi ที่ 25-12-2018 23:16:17
สนุกมากๆเลยค่า ตอนดราม่านี้น้ำตาซึมเลย สงสารทั้งสองคนมากๆ  :sad4:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: Nattarat ที่ 13-02-2019 20:56:28
เข้ามาอ่านรอบ 2 ค่ะ สนุกมาก
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: everlastingly ที่ 17-02-2019 23:18:53
 :pig4: ประทับใจนิยายเรื่องนี้จังเลย แอบลุ้นแทนวีมานานมาก แต่หมั่นไส้ไอ้พี่ชินหลายรอบอยู่เหมือนกัน
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 18-02-2019 19:23:51
 :hao5: :hao5: โอ้ยยยย กว่าจะรักกันได้  :katai1: :katai1: :katai1:  แต่ในที่สุดก็ Happy  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 11 up 10/9/2014 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 23-09-2020 14:16:02


       
   “น้องวอสก้าร์2แก้ว” 
VODKA วอดก้า
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 up 25/4/2015 p.14
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 23-09-2020 18:32:58
         

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ผมทำอะไรผิดไปใช่ไหมหรือพี่ไปได้ยินอะไรมา ถ้าผมทำอะไรให้พี่ไม่พอใจผมขอโทษ ขอโอกาสให้ผมอธิบายได้ไหมครับ” ผมรีบพูดทันทีก่อนที่พี่ชินจะเดินหนี


ตอนนี้ผมเหมือนคนหัวใจสลายที่อยู่ดีๆพี่ชินก็มาเปลี่ยนไป ถ้าผมปล่อยพี่ชินไปทั้งที่ยังไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ผมคงทนอยู่แบบนี้อีกต่อไปไม่ได้เวลา 1 เดือนที่ผ่านมาผมถือว่ามันเป็นความทรมานที่ยาวนานเกินพอแล้ว

“ไม่ต้องอธิบายอะไรหรอกสิ่งที่พี่เห็น สิ่งที่พี่รับรู้มาตลอดมันมากเกินพอแล้ว พี่เคยคิดว่าซักวันจะสามารถเปลี่ยนใจวีได้ แต่ตอนนี้พี่รู้แล้วว่าต่อให้พี่พยายามแค่ไหนมันก็ไม่มีวันเป็นจริง พี่ขอยอมแพ้”

 
คนนึงรักก็ไม่ยอมพูดปล่อยจนสาย อีกคนนึงคิดเองเออเองมีอะไรไม่ถาม  เลิกกันไปเลย นิสัยแบบนี้อยู่กันต่อไปก็จะมีปัญหามาไม่จบ
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 24-09-2020 23:02:39
  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: TaddyC ที่ 26-09-2020 15:28:55
กว่าจะได้กันมันช่างยากเย็น :hao7: :hao5:
หัวข้อ: Re: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
เริ่มหัวข้อโดย: Nattarat ที่ 27-08-2023 03:15:34
มาอ่านเป็นรอบที่ 3 แล้ว ขอบมากเลยค่ะ