ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 30 (จบ) up 29/6/2015 p.22  (อ่าน 254602 ครั้ง)

ออฟไลน์ PANGGii

  • ★ บังเอิญไม่มีจริง ★
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 193
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
พี่ชินนนน หลังจากวันนี้ไป พี่ชินจะเปนยังไง จะทำอะไรต่อ
แทบจะสิ้นสติเลยนะแบบนี้ เศร้าจัง -*-

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
 :sad11:  พี่ชินสู้ๆนะ  วีนี่ซึนจริงอะไรจริง คงจะไม่รู้ใจตัวเองจนกว่าจะเสียมันไปละมั้งงานนี้

ออฟไลน์ เคียงใจ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-4

            ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 19

   “พี่จะให้ผมแกล้งเป็นแฟนพี่จริงๆเหรอ”  ผมถามซ้ำเหมือนไม่แน่ใจ ไม่รู้ว่าพี่ชินกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

“เออ แค่วันเดียวได้ไหม” 

“...”แค่วันเดียวแลกกับยอดหนี้ทั้งหมดที่ผมเหลืออยู่ ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆที่ผมสามารถรับปากได้ทันที ถ้าไม่มีความรู้สึกใจหายแปลกๆเข้าจู่โจมผมอยู่เหมือนตอนนี้ ไอ้ความรู้สึกนี้มันทำให้การตัดสินใจที่ว่าง่ายๆของผมกลับกลายเป็นเรื่องยากซะอย่างนั้น

แค่รับปากหนี้ทั้งหมดก็จะหายไป ไม่ต้องคอยทำงานตามคำสั่งงกๆ ไม่ต้องรีบวิ่งออกจากห้องหลังเลิกเรียนเพื่อมาให้ทันกลับคอนโดพร้อมพี่ชิน  ไม่ต้องคอยฟังเสียงบ่นเสียงว่าแทบทุกวัน เรื่องดีๆทั้งนั้นทำไมผมถึงยังลังเลนะ

แต่ถ้ารับปากหลังจากนี้ผมกับพี่ชินจะกลายเป็นแค่คนรู้จัก หรือบางทีอาจจะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่ทักทายเวลาเดินสวนกันพอเป็นพิธี พอคิดมาถึงตรงนี้แล้วยิ่งทำให้ผมรู้สึกยากที่จะตอบรับคำขอในครั้งนี้

“ว่าไงกูรอคำตอบ”

“ผมว่าถ้าพี่ยิ่งยื้อเวลาหลังจากนี้พี่เองจะยิ่งเจ็บนะครับ ” ผมหายใจเข้าลึกๆก่อนตัดสินใจตอบ ไม่ได้อยากพูดแบบนี้ แต่จะให้บอกว่าเวลาในการใช้หนี้มันสิ้นสุดเร็วเกินไปผมยังทำใจไม่ทันมันคงจะแปลกเกินไป

“มึงคิดว่าระหว่างแกล้งเป็นแฟนกูวันเดียวกับทำงานใช้หนี้กูไปเรื่อยๆอะไรจะยื้อเวลามากกว่ากันวะ” สะอึกเลยครับ กลายเป็นผมเองที่กำลังจะยื้อความสัมพันธ์นี้ไว้ทั้งที่พี่ชินกำลังทำให้มันจบลงโดยเร็ว

“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ครับ วันนี้ฝากตัวด้วยนะครับ” ในเมื่อไม่มีอะไรเถียงได้ ผมก็ต้องรับข้อเสนอเท่านั้น

“ตกลงวันนี้มึงเป็นแฟนกูแล้วนะ” หลังพยักหน้าก็รู้ว่าคำตอบของผมมีค่าแค่ไหน เมื่อได้เห็นรอยยิ้มกระจ่างใสจากใบหน้าหล่อๆของผู้ชายตรงข้าม แถมยังน้ำเสียงถามย้ำแบบตื่นเต้น ดีใจนั่นอีกมันทำให้ผมอดยิ้มตามไม่ได้ ทำไมพี่ชินชอบทำให้ผมใจสั่นโดยไม่รู้สาเหตุแบบนี้วะ


“......พี่ชินผมหายใจไม่ออก” ผมท้วงเมื่อพี่ชินดึงตัวเข้าไปกอดแน่น แทบหายใจไม่ออก

“โทษที กูดีใจมากไปหน่อย” พี่ชินคลายอ้อมกอดก่อนขอโทษเบาๆชิดหู เล่นเอาขนลุกซู่เลยครับ

“แล้ววันนี้ผมต้องทำอะไรบ้างครับ” ผมถามเสียงตะกุกตะกัก ไม่รู้ว่าคนเป็นแฟนกันต้องทำอะไรบ้าง ก็ผมไม่เคยมีแฟนนี่น่า

“ไม่ต้องทำอะไรแค่เป็นแฟนพี่ก็พอ”

 หือออ....พี่  พี่ชินแทนตัวเองว่าพี่ด้วยอ่ะ

“พี่แม่ง” ผมว่าได้แค่นั้นก่อนเดินหนีออกจากห้องครัว ไม่รู้จะบอกอะไรก็ใจมันเต้นไม่หยุดเลยครับ  เล่นมาพูดเสียงนุ่มๆพร้อมยิ้มหวานขนาดนั้นใครเจอแบบนี้ไม่ใจสั่นผมให้ถีบยอดหน้าเลย

“ยังไม่ต้องกลับห้องนะ ดูหนังเป็นเพื่อนพี่ก่อนแล้วเดี๋ยวเย็นๆพี่พาไปส่ง”

ผมก็นึกว่าจะพาไปดูในโรงหนังที่ไหนได้  พี่ชินเดินไปเลือกแผ่นหนังที่ตัวเองซื้อสะสมไว้หลายเรื่องแต่คงยังไม่ได้ดู สังเกตจากพลาสติกบรรจุห่อยังไม่ได้แกะเลยครับ

“เรื่องนี้ดีกว่าพี่” ผมหยิบแผ่นหนังผีที่เล็งไว้ชูให้พี่ชินดู

“คนเป็นแฟนกันเค้าดูหนังเรื่องแรกด้วยกัน เค้าดูหนังผีเหรอวะ”

“อ้าว เค้าห้ามดูหนังผีเหรอ ผมไม่รู้”

“ไม่ได้ห้าม แต่ความโรมันติกมึงไม่มีมั่งเหรอไงวะแม่ง เอามาเรื่องนี้ก็เรื่องนี้” พี่ชินทำหน้าเซ็งในความโง่ของผมก่อนเอื้อมมือมาหยิบแผ่นหนังไปเปิด ก็ไม่รู้นี่หว่าคนอยากดูก็เสนอดิเห็นเลือกตั้งนานไม่ได้ซะที ผมเกาหัวงงๆพร้อมเดินมานั่งรอดูที่โซฟา 

“พี่ชินทำอะไรอ่ะ”  สงสัยมาซักพักแล้วครับ ก็พี่ชินเดินไปขนเบาะนอน หมอนผ้าห่มมาเต็ม แถมเดินไปปิดผ้าม่านซะมิด

 ผ้าม่านสีน้ำเงินเข้มจนเกือบดำช่วยให้ห้องที่สว่างอยู่เมื่อครู่กลายเป็นมืดสนิทเหมือนตอนกลางคืนเลยครับ



“ดูหนังผีมันก็ต้องสร้างบรรยากาศดิ ไม่งั้นจะสนุกเหรอ มานั่งกับกูนี่มา” ตอบพร้อมชวนผมลงไปนั่งบนเบาะที่ปูไว้หน้าโซฟาเรียบร้อย

“ไม่ใช่ตรงนั้น ตรงนี้” พอลงมานั่งข้างๆ พี่ชินดันบอกไม่ใช่ซะงั้น ผมมองตามสายตาที่สะท้อนจากแสงทีวีเห็นพี่แกมองลงไปที่หว่างขาตัวเองเท่านั้นแหละ ผมก็หน้าร้อนดิครับให้นั่งตรงไหนไม่นั่ง

“ให้ผมไปนั่งตรงนั้นจริงหรอพี่”

“เออดิมาเร็วๆ เสียเวลากูจะดูหนัง” เท่านั้นแหละครับ ตัวผมเลยต้องย้ายจากที่เดิมมาอยู่กลางหว่างขาพี่ชินที่นั่งพิงหลังกับโซฟา แต่เอาคางมาเกยไหล่ผม มือก็โอบเอวไว้หลวมๆ 

ผมดูไปก็เกร็งไปไม่ได้กลัวผีนะครับ แต่เสียงหายใจแผ่วๆที่อยู่ข้างหูนี่ดิ เล่นเอาดูหนังแทบไม่รู้เรื่องเลย ดูไปได้ซักครึ่งเรื่องก็เริ่มเคลิ้มขึ้นมาอีกรอบเมื่อคืนกว่าจะนอนได้ก็เกือบเช้าแล้วครับ




“เฮ้ย! พี่ชินเมื่อยไหม” สะลึมสะลือตื่นขึ้นมาในท่าเดิมก็ต้องตกใจ  คงหลับไปนานหนังตอนนี้ถูกเปลี่ยนเป็นรายการทีวีแล้วครับ

“หือ...อะไรนะ” อ้าวพี่ก็หลับเหมือนกันครับ แต่หลับทั้งที่ผมนั่งพิงอกอยู่เนี๊ยะนะ สุดยอดทำได้ไงวะ

“ผมถามว่าพี่เมื่อยไหม ผมนั่งพิงตั้งนาน”

“เรียกว่าชาเถอะอย่าเรียกเมื่อยเลยว่ะ ยังกะสิบล้อทับ”

“สมน้ำหน้าใครใช้ให้ผมมานั่งท่านี้เองล่ะ แล้วหนังจบไปนานรึยังพี่ผมไม่ได้ดูเลย”

“นานแล้ว เดี๋ยวค่อยมาดูวันหลังแล้วกัน ไปกินข้าวกันก่อนหิวแล้วว่ะ” วันหลังไหนอีกวะ ผมคิดอย่างแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ถาม

“ไม่สั่งขึ้นมากินเหรอพี่” ปกติสั่งร้านข้างล่างขึ้นมาครับ พี่ชินมีร้านประจำ

“เดี๋ยวพาไปกินข้างนอก”





“พี่ชินพาผมมาบ้านใครเหรอ” ผมถามอย่างแปลกใจเมื่อพี่ชินขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังหนึ่ง เป็นบ้าน 2 ชั้นดูเรียบหรู แต่บรรยากาศรอบๆเต็มไปด้วยต้นไม้ ร่มรื่นน่าอยู่มากเลยครับ ตอนแรกผมนึกว่าจะพามาร้านอาหารแต่พอมาถึงก็ต้องแปลกใจที่กลายเป็นบ้านคนแทน

“บ้านแม่กูเองเข้ามาดิ” ใช่เหรอ ผมเคยได้ข่าวว่าบ้านพี่ชินหลังใหญ่ยังกับวัง แล้วก็ไม่ได้อยู่แถวนี้ด้วยพี่ชินอำผมป่าววะ

“มาถึงกันแล้วเหรอแม่รอตั้งนาน” ผมหันไปมองหน้าพี่ชินทันทีหลังจากที่ผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาต้อนรับแล้วเรียกตัวเองว่าแม่ แต่ดูยังไงก็เรียกพี่ได้เลยครับ น่าจะอายุไม่น่าถึง 35 ด้วยซ้ำ ยังสาวยังสาวอยู่เลยแต่จริงๆคงอายุเยอะกว่านี้เพราะพี่ชินก็จะ 20 อยู่แล้ว

“หวัดดีครับแม่พอดีรถติดเลยมาช้า แม่ครับนี่วีแฟนผมที่เล่าให้ฟัง วีนี่แม่พี่เอง”

“เอ่อ  สวัสดีครับคุณน้า”  ตั้งสติได้ผมรีบยกมือไหว้แม่พี่ชินทันที จะไม่ให้ตกใจได้ไงครับ ก็มาถึงเล่นแนะนำว่าเป็นแฟนโดยที่ผมยังไม่ทันตั้งตัวเลย แถมไปแอบเล่าอะไรกันตอนไหนผมไม่เห็นรู้เรื่อง

“น่าตีจริงๆเด็กคนนี้ น้าที่ไหนกันเรียกแม่สิลูก หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูเหมือนที่แม่คิดไว้ไม่มีผิดเลย”  ถึงกับเงิบเลยผม นอกจากลูกพาผู้ชายมาแนะนำว่าเป็นแฟนแล้วคุณแม่ไม่ตกใจยังมีการเข้ามากอดพร้อมลูบหน้าลูบตาทำท่าชอบอกชอบใจที่ได้เจอผมซะอีกครับ

“เอ่อครับคุณแม่”

“แม่เฉยๆจ้ะไม่เอาคุณ ฟังแล้วห่างกันเกินไป”

“ครับแม่” ผมต้องเรียกใหม่อีกรอบ ถึงจะได้รับรอยยิ้มพอใจจากสองแม่ลูกที่กำลังยืนจ้องผมตาไม่กระพริบ

“แม่เตรียมกับข้าวไว้ให้แล้ว ไปกินข้าวกันก่อนเนอะ” แม่พี่ชินว่าพร้อมจูงมือผมเดินเข้าบ้าน ผ่านห้องรับแขกจนมาถึงห้องครัวที่มีอาหารวางอยู่เต็มโต๊ะพร้อมแม่บ้านที่ยืนคอยตักข้าวอีก 1 คน

“ขอบคุณครับแม่ มีแต่ของชอบมันทั้งนั้นเลย”  หือ ของชอบใครนะ ผมฟังผิดใช่ไหมคงไม่ใช่ของผมหรอก แต่มองแล้วคงเป็นของคนอื่นไปไม่ได้ เพราะบนโต๊ะทุกอย่างเป็นของที่ผมชอบจริงๆด้วยครับ ไม่รู้ว่าแม่พี่ชินรู้ได้ยังไงว่าผมชอบอะไรบ้าง เรื่องนี้อดแปลกใจไม่ได้จริงๆครับ

“เอ่อ อาหารนี่”

“เป็นไงน้องวีชอบไหม พี่ชินเขาโทรมาบอกแม่ตั้งแต่ช่วงสายๆว่าจะพาน้องวีมากินข้าวกับแม่ แม่ทำสุดฝีมือเลยนะ” ผมหันไปมองหน้าพี่ชินเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง แต่ก็ได้รับเพียงรอยยิ้มอบอุ่นที่ส่งมาให้แทนคำตอบ

“ชอบครับของโปรดผมทั้งนั้นเลย ขอบคุณนะครับ” แม่ผมยังไม่ทำให้ผมขนาดนี้เลย อย่างมากอยากกินอะไรก็ให้เงินไปซื้อเอาแต่ก็ไม่ใช่ว่าแม่ได้รักผมนะครับเพียงแต่รักน้อยกว่าสามีคุณนายนิดเดียว

“น้องวีชอบแม่ก็ดีใจแล้วจ้ะ ไหนมาลองชิมก่อนจะได้รู้ว่าอร่อยถูกปากรึเปล่า”

“ผมเป็นหมาหัวเน่าเลยนะครับ”

“ของชินเอาไว้วันหลังจ้ะ วันนี้แม่เลี้ยงตอนรับน้องวีก่อน  ทานเลยจ้ะน้องวี” หลังจากประโยคนี้ คำว่าเกรงใจไม่มีแล้วครับ ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไรนอกจากขนมปังแผ่นเดียว  พอได้มากินของโปรดอย่างนี้เอาอะไรมาฉุดก็ไม่อยู่ พี่ชินที่นั่งตรงข้ามผมกินไปยิ้มไปตักอาหารให้แม่บ้างให้ผมบ้างสลับกัน

“น้องวีเติมอีกไหม”

“ไม่เอาแล้วครับแม่ แน่นไปหมดแล้ว” เรียกเองก็ละลายใจเอง ทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองกำลังหลอกท่านอยู่แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ ไม่รู้พี่ชินกำลังคิดอะไรถึงได้พาผมมาแนะนำกับแม่อย่างนี้

“อะไรวะ เพิ่งจะ 2 จานเองปกติกินได้เป็นกะละมัง”

“อาหารแม่ไม่ถูกปากเหรอจ้ะ” นั่นไงไอ้พี่ชินแม่งหางานให้ผมแล้วไหมล่ะ

“อาหารแม่อร่อยมากครับ แต่ผมกินไปตั้งสองจานพูนๆแล้ว”

“อร่อยก็ทานอีกสิ แม่อยากให้น้องวีทานเยอะๆ ถึงแม่จะชอบที่น้องวีตัวเล็กแต่แม่ก็อยากให้สุขภาพดีด้วย”

   “งั้นอีกจานก็ได้ครับ” เอาเรื่องสุขภาพมาพูดแล้วผมจะปฏิเสธได้ยังไงล่ะ แล้วก็กลายเป็นว่าผมกินข้าวมื้อแรกกับแม่พี่ชินถึง 3 จานเลยครับตบท้ายด้วยของหวานอีก 1 ถ้วย แค่นี้ก็ท้องตึงคอตั้งก้มไม่ลงแล้วครับ

“กินข้าวเสร็จแล้วจะไปไหนกันต่อล่ะ” แม่พี่ชินถามพี่ชินที่กำลังนั่งเล่นกับหมาปอมตัวเล็กๆขนปุกปุยอยู่บนโซฟา

“เย็นๆผมว่าจะพาไปเดินเล่นที่เอเชียทีคครับแม่”

“ดีจ้ะวันหยุดก็พาน้องไปเที่ยวบ้าง เป็นแฟนก็ต้องคอยเอาใจใส่อย่าปล่อยให้น้องเหงานะ”

“ครับแม่ ผมไม่อยากปล่อยให้เหงาหรอก แต่ไม่รู้น้องวีของแม่จะอยากไปกับผมรึเปล่านี่สิ” พี่ชินเงยหน้าขึ้นตอบแม่ก่อนหันมาสบตาผมยิ้มๆ

“อ้าวทำไมน้องจะไม่อยากไปล่ะ จริงไหมน้องวี”

“ครับแม่”

“ครับอะไรจ้ะ”

“เอ่อ อยากไปครับ”

“นั่นไงเห็นไหมชิน น้องอยากไปเที่ยวกับเรา แม่บอกแล้วคนเป็นแฟนกันก็ต้องอยากอยู่ด้วยกันสิ ว่าแต่น้องวียอมใจอ่อนให้พี่ชินของแม่ตั้งแต่เมื่อไหร่จ้ะ”

“เอ่อ...”  แม่พี่ชินยิงคำถามมาเล่นเอาผมไปไม่เป็นเลย แล้วผมต้องตอบว่าไงล่ะทีนี้

“เมื่อเช้าครับแม่ พอตกลงผมก็พามาหาแม่เลย ตามที่ผมบอกไว้ว่าถ้ามีแฟนผมจะพามาหาแม่เป็นคนแรกไงครับ” พี่ชินคงเห็นผมอึกอักเลยชิงตอบซะเองเลยครับ

“ขอบใจจ้ะพ่อลูกชายที่ยังจำได้ ยังไงแม่ก็ดีใจด้วยที่ทั้งสองคนใจตรงกัน รักกันให้นานๆมีอะไรก็คุยกันต่างคนต่างดูแลกันนะ” แม่พี่ชินพูดพร้อมลูบหัวผมไปเรื่อยๆ  ผมถึงกับพูดไม่ออก ทำไมแม่พี่ชินถึงยอมรับในตัวผมง่ายขนาดนี้

“ขอบคุณครับแม่” ผมกับพี่ชินพูดขึ้นพร้อมกัน ก่อนมองอีกฝั่งเหมือนต่างคนต่างแปลกใจที่พูดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
ผมนั่งคุยกับแม่พี่ชินจนเกือบเย็น  ก่อนพี่ชินจะขอตัวพาผมไปเที่ยวเอเชียทีคต่อ  แม่พี่ชินเป็นผู้หญิงที่ทั้งสาว ทั้งสวย แถมยังใจดีอีกครับผมคุยด้วยแล้วสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นอ่อนโยนที่ท่านมอบให้ลูกชายและผมที่มาในฐานะแฟนของลูกชายเลย พี่ชินนี่โชคดีชะมัดที่มีแม่แบบนี้  แต่อยู่บ้านพี่ชินตั้งนานผมไม่เห็นพูดถึงพ่อเลย แถมรูปถ่ายอะไรก็ไม่มี

“พี่ชินผมถามอะไรหน่อยได้ไหมครับ” ลองหยั่งเชิงดูก่อนครับ

“อื้อ ถามมาดิ” พี่ชินที่กำลังตั้งใจขับรถ ตอบผมแต่ตาก็ยังไม่ล่ะจากถนน

“เอ่อ พ่อพี่ไม่อยู่บ้านเหรอครับ ผมไม่เห็นเจอ”

“...” เงียบครับ ผมถามอะไรผิดหรือป่าววะคิดว่าเลือกถามสุภาพที่สุดแล้วนะ

“ถ้าไม่อยากตอบไม่ต้องตอบก็ได้ครับ” ผมเลือกที่จะลืมคำถามนี้ซะ ดีกว่าทำให้บรรยากาศภายในรถวังเวงมากไปกว่านี้

“พ่อกูไม่ได้อยู่บ้านนี้หรอก แม่กูอยู่กับแม่บ้านแค่ 2 คน พ่อกับแม่กูเขาแยกทางกันมานานแล้ว พ่อกูเจ้าชู้มีผู้หญิงไปทั่ว ก่อนหน้านี้แม่กูไม่รู้ไงดันไปแต่งงานกันเข้าแล้วมารู้ทีหลัง พ่อกูก็เลิกเจ้าชู้ไม่ได้แม่กูก็ต้องทนเหงาอยู่บ้านหลังใหญ่ที่มีแต่คนใช้รายล้อมเกือบทุกวัน จนมีกูท่านถึงหายเหงาขึ้นมาบ้าง จนหลังๆพ่อกูไปเลี้ยงเด็กเป็นตัวเป็นตน มีบ้านเล็กหลายหลังแม่กูเลยขอแยกทางแล้วมาอยู่ที่นี่คนเดียว” พี่ชินเล่าด้วยเสียงเศร้าจนผมสัมผัสได้ ผมไม่น่าถามเรื่องนี้เลยจริงๆครับ

“ผมขอโทษที่ถามเรื่องนี้ครับ ผมไม่รู้”

“ไม่เป็นไรกูอยากเล่าเอง ทุกวันนี้แม่กูก็มีความสุขดี มีความสุขกว่าตอนที่อยู่กับพ่อกูอีก มึงเชื่อไหมเมื่อก่อนแม่กูเหมือนคนที่แบกโลกทั้งใบไว้คนเดียว กูต้องทนเห็นแม่ที่เอาแต่ร้องไห้ หรือไม่ก็นั่งเหม่อลอยคอยพ่อกูทุกวัน จนกูนึกไม่ออกเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่แม่สดใสเต็มไปด้วยรอยยิ้ม” พี่ชินคงจะรักแม่มากแน่ๆครับ เพราะตลอดเวลาที่เล่าพี่ชินมีรอยยิ้มเปื้อนหน้าตลอดเลย

“ถ้าอย่างนั้นแม่พี่คงเลือกถูกแล้วล่ะครับที่ไม่ยื้อชีวิตคู่ต่อไป”

“อื้อใช่แล้ว แม่กูถึงบอกไงว่าอย่าปล่อยมึงให้เหงาเพราะท่านรู้ว่ามันทรมานแค่ไหนก่อนจะมาถึงวันนี้แม่กูเจออะไรมาเยอะ กูเห็นชีวิตครอบครัวของตัวเองแล้วคิดมาตลอดว่าถ้ากูมีคนรักกูจะไม่ยอมให้เป็นแบบนี้แน่นอน


การเจ้าชู้ไม่ได้ทำให้ใครมีความสุขไปได้ตลอดหรอก แม่กูต้องทุกข์เพราะพ่อมีคนอื่น พ่อกูก็ถูกคนอื่นหลอกเอาเงินไปวันๆไม่มีใครจริงใจกับคนเจ้าชู้แล้วกระเป๋าหนักอย่างพ่อกูหรอก ทุกคนคิดว่าพ่อกูไม่มีวันหยุดที่ตัวเองได้เพราะฉะนั้นตอนนี้มีโอกาสก็ต้องกอบโกยให้ได้มากที่สุด แล้วสุดท้ายพ่อก็จะไม่เหลือใคร” ผมได้แต่นั่งฟังพี่ชินเล่าเรื่อยๆไม่รู้จะออกความเห็นว่ายังไงครับ ในเมื่อเป็นเรื่องในครอบครัวฟังเฉยๆคงดีกว่าให้พี่ชินได้ระบายอะไรออกมาบ้าง

“ถึงพ่อจะเจ้าชู้แต่กูก็ไม่ได้เกลียดพ่อนะทุกวันนี้กูก็ยังอยู่กับท่านสลับกับแม่บ้าง พ่อกูถือว่าเป็นผู้ชายที่แย่มากในฐานะสามีแต่ในฐานะพ่อท่านเป็นพ่อที่ดีมากสำหรับกูเลยหว่ะ”

“คนที่ได้เป็นแฟนพี่คงโชคดีมากแน่ๆ” คิดตามแล้วผมก็เผลอพูดออกไปโดยไม่รู้ตัวซะงั้น มารู้ตัวตอนที่พี่ชินหันหน้ามามองผมนิดนึงก่อนหันกลับไปมองถนนเหมือนเดิม แต่รู้ตัวตอนนี้ก็ไม่ช่วยอะไรแล้วครับในเมื่อพูดไปแล้ว

“มึงอยากเป็นคนโชคดีคนนั้นไหมล่ะ” จุกสิครับ เจอแบบนี้ผมไม่รู้จะตอบว่ายังไงเลย

“....”

“ยังไม่ต้องตอบก็ได้ กูยังไม่อยากได้ยินคำตอบว่ะ เดี๋ยวกูค่อยถามอีกครั้งแล้วกัน” พี่ชินคงเห็นผมเงียบนานเกินไปเลย ตัดบทซะเอง ผมรู้สึกผิดนะที่ยังไม่ยอมตอบให้ชัดเจนแต่ไม่รู้ทำไมพอจะตอบมันก็เหมือนมีก้อนอะไรแข็งๆมาจุกอยู่ที่คอทำให้ไม่สามารถตอบได้ทุกที





บรรยากาศในรถตอนนี้ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งหลังจากผมไม่รู้จะชวนคุยอะไรดี แล้วที่พึ่งสุดท้ายก็เป็นเสียงเพลงจากวิทยุหน้ารถที่ทำให้ภายในรถไม่เงียบจนวังเวงเกินไปนัก

“ที่นี่เหรอพี่” ผมเปิดประตูรถลงมามองรอบๆก่อนถามพี่ชิน

“เออที่นี่แหละ เอเชียทีค” ในที่สุดผมก็มาถึงแล้วครับ ตรงหน้าผมเขียนป้ายไว้ใหญ่เท่าฝาบ้านแต่ผมก็ยังจะถามพี่ชินอีกนะ

“ไปขึ้นเรือไหม”

“มีขึ้นเรือด้วยเหรอพี่”

   “เออมีล่องเรือทานอาหาร ดูบรรยากาศรอบๆ สนใจไหม” พี่ชินหันมาถามผมเหมือนถามเด็ก 3 ขวบอย่างนั้นแหละ แต่มีเหรอผมจะไม่สนใจ

“สนดิพี่ พาผมไปหน่อยนะ”

“โอเค วันนี้อย่างทำอะไร กินอะไร ซื้ออะไรบอกเลย กูจะบริการแฟนเต็มที่” 

“พูดแล้วห้ามคืนคำนะครับ” ผมแกล้งว่า

“ผมนายอครนัยพูดแล้วไม่เคยคืนคำครับ คุณนาวีนั่นแหละพร้อมที่จะทำตามใจตัวเองกับผมรึยัง” พี่ชินพูดยิ้มๆก่อนยื่นมือมาข้างหน้า

“พร้อมแล้วครับคุณแฟน” ผมก็ตอบพร้อมยื่นมือไปจับมือพี่ชินที่ส่งมารออยู่แล้วเช่นกัน

“ถ้าพร้อมแล้วก็ลุย” พูดจบพี่ชินก็เดินจูงมือผมเข้าไปขึ้นเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยาทันที


   ---To Be Con. ---

        ขอบคุณที่ติดตามค่ะ  :กอด1: :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-10-2014 00:12:43 โดย เคียงใจ »

ออฟไลน์ me_toey

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
จะว่าน่ารัก็น่ารัก

จะว่าสงสารก็สงสาร

เมื่อไหร่น้องวีจะรู้ใจตัวเองซักทีน้า

เชียร์ให้ได้เป็นแฟนกันเร็วๆน้า :call: :call: :call:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
รอวันวีรู้ใจตัวเอง
พี่ชินน่ารักอ่ะตามใจคุณแฟน

ออฟไลน์ Cinnamon Roll!!!

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อร๊ายยย เค้าเป็นแฟนกันแล้วว    ห่ะ!! อะไรน่ะ เป็นแฟนกันแค่วันเดียวว :o12:

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
เศร้าอ่ะสงสารพี่ชิน. เมื่อไหร่น้องวีจะใจอ่อนนะ

ออฟไลน์ PANGGii

  • ★ บังเอิญไม่มีจริง ★
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 193
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
หืมมมม มันรุ้สึกหน่วงๆ ยังไงก้ไม่รุ้
แบบ..น้องปากแข็ง พี่ก้เจ็บปวดสุดๆ คือหน่วงมากกกกกกกก

ไม่อยากจะนึกตอนไปส่งหอ ต้มน้ำรอมาม่าเดือด!!

ออฟไลน์ maminmeaw

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
หน่วงๆ แต่รอตอนต่อไปนะจ๊ะ ^___^

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
สงสารพี่ชิน  :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
สงสารชิน

ออฟไลน์ hibarihao

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
น่ารักขนาดนี้เป็นแฟนกันเถอะ

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :serius2: พอหมดวันแล้วทั้งสองคนจะทำใจกันได้มั๊ยเล่นกับความรู้สึกแบบนี้

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
อ่านแล้วจุก

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
สวีทแบบปนหน่วงๆ

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
น้องวีรู้ใจตัวเองเร็วๆ นะ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
อยากให้เป็นแฟนกันจริงๆอ่ะ

ออฟไลน์ เคียงใจ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-4
ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 20


สถานที่ที่พี่ชินพาผมมานี้เรียกว่าเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์อยู่ในกรุงเทพฯนี่เองครับ มองไปรอบๆแล้วบรรยากาศดีใช้ได้เลย อ่านป้ายคร่าวๆจะมี 4 ย่านคือ

ย่านเจริญกรุงมีพวกร้านขายของที่ระลึกและโรงละครที่แสดงหุ่นละครเล็กโจหลุยส์ โชว์จากคาลิปโซ่ คาบาเร่ต์ ย่านกลางเมืองเป็นโซนอาหารนานาชาติแล้วก็ลานกิจกรรมต่างๆครับ ส่วนย่านโรงงานมีร้านค้า ร้านอาหารและผับ โซนสุดท้ายเรียกย่านริมน้ำย่านนี้ถือเป็นจุดชมวิวแบบพาโนราม่าริมแม่น้ำเจ้าพระยาเลยทีเดียว ดูแล้วน่าเที่ยวเกือบทุกย่านเลยครับ ทำไมผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีที่แบบนี้อยู่ในกรุงเทพฯด้วย 

ผมกับพี่ชินลงเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมกินข้าวกันอีกรอบ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งก่อนเรือจะเทียบท่าแล้วพี่ชินก็พาผมเดินเล่นต่อ เข้าร้านโน้นออกร้านนี้ทั้งร้านเสื้อผ้า ของที่ระลึก หรือพวกโปรเตอร์ต่างๆพี่ชินชวนผมแวะเกือบทุกร้าน ก่อนหน้านี้มีถามเหมือนกันครับว่าอยากดูการแสดงรึเปล่า แต่ผมบอกไม่ดูขอเดินย่อยดีกว่าเลย ได้เดินสมใจ เล่นพาผมเดินซะหอบลิ้นห้อย


วันนี้เป็นวันหยุดคนค่อนข้างเยอะเหมือนกัน  พี่ชินเดินจูงมือหรือไม่ก็ยกแขนขึ้นมาพาดไหล่ผมตลอด ถ้าไม่ใช่คอยกันคนเดินมาชนก็คงกลัวผมไปทำอันตรายคนอื่น แต่ผมคิดว่าเป็นอย่างหลังมากกว่าครับ


“พี่ชินผมหิวน้ำ” ผมบอกหลังเดินคอแห้งมาได้ซักพัก

“เอาน้ำอะไรเดี๋ยวไปซื้อให้”

“ไม่เป็นไร ผมไปเองดีกว่าพี่”

“นั่งรอตรงนี้แหละเดี๋ยวกูมา”พี่ชินเดินแยกออกไปไม่ฟังที่ผมพูด ผมก็ได้แต่มองหาที่นั่งรอตามคำสั่ง แล้วก็เจอเก้าอี้ว่างไม่ไกลเท่าไหร่

“เอ่อ...ขอโทษนะคะ ช่วยถ่ายรูปให้หน่อยได้ไหมคะ”  นั่งตูดยังไม่ทันร้อนก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาถามผมพร้อมโทรศัพท์ในมือเตรียมยื่นให้

“ได้ครับ” ผมตอบก่อนรับไอโฟนมาถือ  ผู้หญิงที่เดินมาหาผมกวักมือเรียกเพื่อนเกือบ 10 คนให้มาถ่ายรูปพร้อมกัน  ความวุ่นวายเล็กๆจึงเริ่มขึ้นแต่พอจัดท่าได้ผมก็เริ่มกดชัตเตอร์พร้อมบอกให้เปลี่ยนท่าไปเรื่อยๆ

“แกๆ มีผู้ชายแอบมองฉันแหละ”  ผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มพูดกับเพื่อนที่เป็นสาวประเภทสองเสียงไม่เบาเลยครับ ได้ยินกันทั่ว

“แอร๊ยยย มองฉันรึเปล่าแก ยิ้มให้ด้วยดูสิๆ”

“เขาต้องแอบชอบแกแน่เลย ฉันเห็นเขามาหยุดมองตั้งแต่พวกเราเริ่มถ่ายรูป” เพื่อนอีกคนเสริมขึ้นมาบ้างครับ

“แกจะบ้าเหรอ หล่อขนาดนั้นฉันว่ามองนังหลิวนั่นแหละ” คราวนี้คนที่เดินมาหาผมเป็นคนสนับสนุนเพื่อนคนแรกที่คาดว่าชื่อหลิวครับ

“เออฉันยอมแกก็ได้นังหลิว แกมันสวยนี่ แล้วเอาไงเข้าไปคุยเลยไหม” สาวประเภทสองพูดขึ้น

“จะบ้าเหรอจะให้ฉันไปคุยกับผู้ชายก่อนเนี๊ยะนะ”

“ถ้าแกไม่เอาฉันเอานะนังหลิว”

“ได้ไง เขาสนใจฉันไม่ได้สนใจแกซะหน่อย” พูดเสร็จคนชื่อหลิวก็เดินแยกตัวออกไปทางที่บอกว่ามีคนมองอยู่ทันที ผมมองตามยิ้มๆอดขำไม่ได้ทั้งที่ตัวเองก็หน้าตาดี แต่ไม่รู้เพราะกลัวเพื่อนแย่งหรืออะไรถึงทำให้กล้าออกตัวแรงไม่แค่ภาพลักษณ์เรียบร้อยที่ผมเห็นขนาดนั้น

จังหวะที่ผมเอาโทรศัพท์คืนเจ้าของสายตาก็ดันเห็นผู้ชายที่ถูกพูดถึงมาตั้งแต่แรกว่าคือพี่ชินนั่นเองครับ แม่งบอกไปซื้อน้ำ ที่ไหนได้มาแอบยืนมองสาว

“ขอโทษครับพอดีผมไม่สะดวก” เสียงพี่ชินดังมาแว่วๆ

“ทำไมล่ะคะ ถ้าไม่สะดวกให้ไลน์จะให้เป็นเบอร์โทรเลยก็ได้ค่ะ” ตอนแรกบอกไม่กล้า แต่ที่ผมเห็นนี่เลยคำว่าหน้าด้านไปไกลแล้วนะครับ ผู้ชายไม่ให้ยังจะตื้ออีก

“ผมมีแต่ hi 5 ทักมาก็ได้นะครับ”

“แหม รูปหล่อแล้วยังตลกอีกนะคะ แบบนี้สเป็คเลย”

“ฮ่าๆ ถ่ายรูปเสร็จแล้วใช่ไหมครับ” อยู่ๆพี่ชินที่หัวเราะกับสาวก็ถามขึ้นทำเอาบรรดาเพื่อนๆที่กำลังมองทำหน้างงกันเป็นแถวเลยครับรวมทั้งผมด้วย

“เสร็จแล้วค่ะ มีอะไรหรือป่าวคะ”

“ถ้าเสร็จแล้ว ผมขอตัวแฟนผมคืนน่ะครับว่าจะพาไปเที่ยวต่อ” พี่ชินพูดพร้อมรอยยิ้มน้อยๆบนใบหน้าหล่อกระชากใจ ไม่รู้ต้องการทดสอบเสน่ห์ของตัวเองรึไงถึงได้ชอบทำให้ผมตาพร่าเพราะรอยยิ้มแบบนี้บ่อยๆ

“กรี๊ดดดดดด......มึง กูจะเป็นลมเขาเป็นแฟนกันอ่ะ” ผมที่กำลังหน้าร้อนฉ่าเพราะความอายถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของเหล่าสาวแท้สามเทียมที่ยืนอยู่ใกล้ๆ

“แอร๊ยย อะไรยังไงมึงบอกกูที”

“ไม่จริงอ่ะ ชะนีอย่างกูจะเหลืออะไร”

“อดนะคะนังหลิว สุดหล่อเค้าไม่แดกชะนีค่ะ”

“ไปกันเถอะ เวลาของมึงเป็นของกูไม่ใช่ของคนอื่น”

ไอ้พี่ชินแม่งโคตรหน้าด้านเลยครับ กล้าประกาศตัวว่าเป็นแฟนกับผู้ชายด้วยกันยังไม่พอ พี่แกเล่นเดินยิ้มหวานเข้ามากอดคอแล้วก้มลงกระซิบข้างซอกหูให้ผมขนลุกขึ้นไปอีก เสียงกรี๊ดที่เพิ่งเงียบดังขึ้นอีกรอบผมนี่ก้มหน้ามองพื้นอย่างเดียวเลยไม่กล้าสบตากับใครเลยบอกได้คำเดียวว่าโคตรอาย

ได้ยินเสียงซุบซิบรอบๆตัวนะแต่จับใจความไม่ได้ เพราะเสียงหัวใจตัวเองมันเต้นดังกว่าอีกครับ

ระหว่างที่ทำอะไรไม่ถูกรู้ตัวอีกทีข้อมือผมก็ถูกดึงให้เดินห่างจากคนกลุ่มนั้นซะแล้ว



“อ่ะน้ำมึง”
 
“ขอบคุณครับ” ผมขอบคุณเบาๆหลังพี่ชินส่งขวดน้ำเปล่าเย็นเจี๊ยบมาให้ ผมกับพี่ชินเดินมาไม่ไกลก็เจอเก้าอี้ว่างเลยนั่งพักขาข้างกัน

“เหนื่อยไหม

   “เหนื่อยแต่สนุกมากเลยพี่”

   “แล้วยังไหวไหม”

   “ตอนนี้ไม่ไหว ขอพักซัก 10 นาทีนะพี่ ไม่งั้นขาผมขาดแน่ๆ”

   “เวอร์นะมึง ขี่หลังกูเอาไหม”

“ไม่! เดี๋ยวพี่ก็มาว่าผมตัวหนักเป็นหมูอีก”

“รู้ดีนะมึง เหนื่อยก็นั่งพักก่อนเดี๋ยวค่อยเดินต่อก็ได้ ยังไม่เห็นได้อะไรซักชิ้นเลยนี่”

“แค่ดูก็พอแล้วพี่ ผมไม่อยากได้อะไรหรอก”

“แล้วพี่ล่ะไม่อยากได้อะไรบ้างเหรอ ผมไม่เห็นพี่ซื้ออะไรเลย” ผมถามพี่ชินบ้างเมื่อมองดูแล้วยังไม่เห็นพี่ชินซื้ออะไรเหมือนกันครับ

“ของที่กูอยากได้มันซื้อไม่ได้หรอก ถึงมีเงินมากขนาดไหนก็ซื้อไม่ได้ แต่แค่ที่ได้รับอยู่ตอนนี้ก็พอแล้วว่ะ”

“...” ไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆครับ ถ้าความรักมันสั่งกันได้ผมจะสั่งให้ตัวเองรักพี่ชินซะเดี๋ยวนี้เลยจะได้ไม่มีใครต้องเจ็บ พี่ชินก็ไม่ต้องเจ็บเพราะผม ผมก็ไม่ต้องเจ็บเพราะไปหลงรักพี่ตินณ์ แต่เพราะมันสั่งไม่ได้ทั้งผมและพี่ชินถึงต้องเจ็บเหมือนตอนนี้

“เงียบเลย กูล้อเล่นน่าอย่าไปคิดมากกูพามาเที่ยวให้สนุกจะมาทำหน้าเครียดทำไมวะ เอ้ายิ้มหน่อย ” เสี้ยววินาทีผมเห็นแววตาเศร้าๆของพี่ชินมองตรงมาที่ผม ก่อนเปลี่ยนเป็นร่าเริงเหมือนเดิมพร้อมยกมือขึ้นยีหัวผมแรงๆ

รู้สึกไม่ดีทุกครั้งที่เห็นแววตาแบบนั้น ถ้าเป็นไปได้ผมก็ไม่อยากให้พี่ชินต้องมีสายตาแบบนั้นเพราะผม

พี่ชินไม่ควรเลย....ไม่ควรรักผมจริงๆ

“ยิ้มแบบนี้รึเปล่า” ผมแกล้งยิงฟันจนเกือบครบสามสิบสองซี่ใส่พี่ชิน

“เออแบบนี้แหละยิ้มไว้นะอย่าหยุดยิ้ม”

“เฮ้ย! ผมไม่ได้บ้านะพี่ คนดีๆที่ไหนจะยิ้มได้ตลอดเวลา”

“อ้าวเหรอ แต่กูว่ามึงทำได้นะ”

“นี่พี่เห็นผมเป็นคนบ้ามาตลอดเลยเหรอ”

“กูไม่ได้พูดนะ มึงพูดเอง” นี่หลอกด่าผมทั้งที่ยิ้มๆเนี๊ยะนะ แม่งร้ายจริงๆผู้ชายคนนี้

“พี่ชิน!!” ผมเรียกพี่ชินเสียงดัง แต่กลับได้รับรอยยิ้มกวนๆกลับมาแทนหน้าตาสำนักผิดที่ผมอยากได้รับ

“กูล้อเล่นน่ามึงจะได้ไม่เครียด แล้วหายเหนื่อยรึยังจะได้เดินต่อ” แบบนี้จะเครียดหนักกว่าเดิมไหมล่ะ พี่ชินแม่งชอบเอาเรื่องจริงมาล้อเล่นหว่ะ



“ไม่ไหวอ่ะ  สงสัยผมต้องเสียขาอันเป็นที่รักไปแล้วแน่เลย” ผมแกล้งว่าพร้อมทำท่านวดขาไปด้วย

“ถ้าเสียไปแล้วก็คงไม่มีประโยชน์ ต้องตัดทิ้งแล้วว่ะ”

“เฮ้ย! พี่ชินแม่งใจโหดไปนะ จะตัดขาผมเลยเหรอ”

“แล้วจะเอาไว้ทำไม”

“พี่แม่ง ก็คนมันขี้เกียจเดินแล้วอ่ะ เออใช่พี่ชินขึ้นชิงช้าสวรรค์กันไหม”  ผมบ่นก่อนนึกขึ้นได้ ที่นี่มีชิงช้าสวรรค์ด้วยครับเป็นชิงช้าสวรรค์ที่สูงมาก สูงกว่าชิงช้าสวรรค์ตามงานวัดไม่รู้กี่เท่า ผมแหงนหน้าขึ้นมองชิงช้าสวรรค์ที่อยู่ตรงหน้า ทำไมไม่คิดได้ตั้งนานแล้ววะอยู่ตรงหน้าแท้ๆ

“ขึ้นชิงช้าสวรรค์เนี๊ยะนะ มึงเป็นเด็กรึไง”

“อื้อ เด็กโข่งอ่ะ” ตอบแต่ตาก็ยังไม่ล่ะไปจากชิงช้าสวรรค์ตรงหน้า

“หึหึ ไม่อายรึไง ผู้ชายสองคนขึ้นชิงช้าสวรรค์ด้วยกัน” ผมหันมาสบตาพี่ชินที่จ้องผมอยู่ก่อน

“ไม่อาย หรือพี่อาย” ก็ตอนนี้มันเมื่อยผมขี้เกียจเดินแล้วอ่ะ เรื่อยอายเอยอะไรไม่สนแล้วขอนั่งดูวิวรอบๆแบบไม่ต้องเดินดีกว่า

“ไม่อาย” พี่ชินตอบนิ่งๆ จริงจังไปไหนวะ

“พี่ไม่อาย งั้นก็ไปดิ” ผมว่ายิ้มๆก่อน มองไปทางที่ขายตั๋ว

“ก็ไปดิ๊” พี่ชินว่ากลับกวนๆเหมือนกันครับ พูดจบก็จูงมือผมออกเดินไปที่ช่องขายตั๋วทันที

ไม่นานผมก็มาห้อยต่องแต่งอยู่บนกลางอากาศ กระเช้าที่ผมกับพี่ชินนั่งเคลื่อนตัวไปช้าๆ ข้างบนนี้นอกจากวิวจะสวยแล้วบรรยากาศยังดีมากเลยครับ มีทั้งแม่น้ำ แสงไฟ และลมเย็นๆที่พัดมาตลอดเวลา



ผมนั่งมองวิวกรุงเทพฯยามค่ำคืนที่มีแต่แสงไฟ ตัดกับความมืดของท้องฟ้าที่ไม่มีดาวซักดวงทั้งที่ตอนนี้ก็ ใกล้จะ 5 ทุ่มเข้าไปทุกที ผมปล่อยใจให้คิดถึงเรื่องต่างๆระหว่างผมกับพี่ชินและพี่ตินณ์

อีกไม่นานก็จะหมด1วันที่ได้เป็นแฟนกับพี่ชินแล้ว หลังจากนี้ระหว่างผมกับพี่ชินจะเป็นยังไงต่อไปผมนึกภาพไม่ออกจริงๆครับ แต่ที่รู้ๆคือวันนี้ผมมีความสุขมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน พี่ชินดูแล เอาใจใส่ผมอย่างดีแม้ว่าจะไม่ต้องทำก็ได้ แล้วที่ผมแปลกใจคือทั้งๆที่รู้ว่าระหว่างผมกับพี่ชินมันเป็นแค่เรื่องหลอกลวง แล้วทำไมถึงต้องพาผมไปหาแม่ของพี่ชินด้วย  ผมรู้สึกไม่ได้เพราะมันเหมือนจงใจหลอกท่าน


ลึกๆความรู้สึกของผมบอกตัวเองว่า นี่แหละมันคือความสุขแล้วยังต้องการอะไรอีก ให้ลืมพี่ตินณ์ซะแล้วก็เป็นแฟนกับพี่ชินเหมือนวันนี้ไง แต่อีกใจผมก็อยากให้พี่ชินเจอคนที่ดีกว่าผม คนที่รักพี่ชินได้อย่างหมดใจ พร้อมทำทุกอย่างให้พี่ชินเหมือนที่พี่ชินบอกผมว่าจะซื่อสัตย์กับคนรักเพียงคนเดียวและไม่ทำให้คนรักของตัวเองเสียใจ ไม่ใช่ผู้ชายอย่างผมที่กำลังทำให้พี่ชินเสียใจ เพราะความไม่แน่ใจอะไรซักอย่าง ไม่รู้แม้กระทั้งว่าตอนนี้ตัวเองต้องการอะไร


“วี....วี!”

“พี่ว่าอะไรนะครับ” เสียงเรียกของพี่ชินทำให้ผมหลุดออกจากภวังค์ กำลังคิดอะไรเพลินๆเลยไม่ได้ฟังที่พี่ชินว่า

“กูถามว่าสวยไหม ชอบรึเปล่า” พี่ชินถามซ้ำอีกครั้ง

“สวยครับและก็ชอบมากเลยพี่ ขอบคุณนะครับที่พาผมมา” ผมขอบคุณพี่ชินเบาๆ วันนี้ผมมีความสุขมากจริงๆที่ได้ใช้เวลาทั้งวันกับพี่ แม้ว่าจะไม่อยากให้หมดวันนี้แต่มันก็คงเป็นไปไม่ได้

“แค่มึงชอบกูก็ดีใจแล้ว” พี่ชินว่ายิ้มๆก่อนมองวิวข้างนอกต่อ ผมรู้สึกว่าวันนี้พี่ชินจะขยันยิ้มเป็นพิเศษนะ แต่ผมก็ชอบเห็นพี่ชินยิ้มเพราะดูดีกว่าเวลาทำหน้าเรียบๆเยอะเลย

“พี่ชินผมถามหน่อยได้ไหมว่า ทำไมพี่ถึงรักผมเหรอ” ผมตัดสินใจถามคำถามที่อยากรู้มานานแต่ยังไม่มีโอกาสได้ถามซักที และที่เลือกใช้คำว่ารักเพราะพี่ชินเคยบอกว่ารักผมไม่ใช่แค่ชอบ

“...ไม่รู้สินะทำไมกูถึงรักวะ” พี่ชินเงียบไปนาน ก่อนพูดเหมือนคุยกับตัวเองเบาๆ

“...”

“มึงไม่ได้มีอะไรที่เรียกว่าตรงสเป็คกูซักอย่าง   ผมก็ไม่ยาว นมไม่มี แถมบางทียังชอบปากดีกับกูอีก ที่สำคัญมึงไม่ใช่ผู้หญิง ซึ่งแค่ข้อนี้ข้อเดียวมึงก็ควรจะอยู่ไกลจากคำว่ารักของกูแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมตั้งแต่วันแรกที่กูเจอมึงที่หอประชุม แค่เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ หน้ารูปไข่ผิวขาวปากแดงๆที่วิ่งมาเข้ากิจกรรมช้ากว่าคนอื่นถึงทำให้กูละสายตาไม่ได้ ตอนแรกก็แค่มองมึงเฉยๆนะไม่ได้คิดอะไร แต่มึงก็ทำให้กูได้เห็นความซวยของตัวเองบ่อยๆ จนบางครั้งกูยังสงสัยเลยว่าวันนึงมึงจะซวยมากสุดกี่ครั้งวะ เห็นมาช้าโดนทำโทษตลอด” ไอ้ที่โดนทำโทษก็เพราะพี่สั่งไม่ใช่เหรอวะ


“จากที่เห็นบ่อยๆพอไม่เห็นมึงในสายตา หรือวันไหนมาช้ากูก็เริ่มมองหาแล้ว บางวันยังไปถามจากเพื่อนมึงเลยตลกตัวเองชะมัดเลยว่ะ แล้วกูก็ได้เป็นพี่เทคมึงซะงั้น ไอ้จดหมายที่มึงเขียนมาด่ากู บ่นกูน่ะกูอ่านทุกอัน บางอันอ่านเสร็จกูยังอยากไปกระทืบมึงตอนนั้นก็มีนะ เด็กเปรตอะไรวะด่ากูซะเหมือนกูไปเผาแปลงนาบ้านมึง”


“ก็ตอนนั้นพี่ชอบแกล้งผมอ่ะ ผมจะรู้ได้ไงว่าพี่เป็นพี่เทคผมล่ะ” ถ้ารู้ผมจะไม่เขียนจดหมายไปหาซักฉบับแน่ๆครับ

“มึงก็เลยด่ากูซะจัดเต็มเลยดิ กูยังไม่ได้เอาคืนนะบอกไว้ก่อน”

“นี่ยังไม่เรียกเอาคืนอีกเหรอพี่ พี่ใช้งานผมจนแทบสลบเกือบทุกวันเลยนะ”

“ยัง อันนั้นเป็นเพราะมึงดันมาซวยทำรถกูพังเอง หึหึ”

“พี่แม่ง....” ผมว่าได้แค่นั้นเพราะไม่รู้จะว่าอะไรดี หมดคำพูดจะว่าพี่ชินจริงๆครับ

“จากเด็กที่กูไม่ค่อยชอบหน้ากลับกลายเป็นคนที่กูอยากเห็นหน้าทุกวันโดยไม่รู้ตัว แล้วกูก็รู้ว่ากูรักมึงหลังจากที่เห็นมึงไปวุ่นวายกับไอ้โย  กูแทบอยากต่อยหน้าเพื่อนตัวเองเพียงเพราะมันได้รับรอยยิ้มจากมึงแต่กูไม่เคยได้ 

กูหึงทุกคนที่อยู่ใกล้มึงตั้งแต่น้องลูกแพร ไอ้แบต และที่มากที่สุดแต่กูทำอะไรไม่ได้ก็คือพี่ตินณ์ กูคิดจะตัดใจถ้าต้องมาสู้กับคนอย่างพี่ตินณ์ แต่ในความหมดหวังนั้นกูก็ยังมีความหวังขึ้นมาอีกครั้งเมื่อรู้ว่าพี่ตินณ์ตามเฝ้าเด็กคณะอื่น กูหวังให้มึงเปลี่ยนใจและมองเห็นกูที่อยู่ข้างๆมึงมาตลอดบ้าง แต่มันก็คงเป็นไปไม่ได้ ยังไงก็ขอบใจนะที่ทำตามคำขอครั้งนี้ของกู”

 
“....” จุกเลยครับ ฟังพี่ชินเล่าจนจบผมก็ได้แต่อึ้งกับสิ่งที่เพิ่งได้รู้ ตลอดเวลาผมไปทำอะไรอยู่วะ ทำไมผมถึงโง่ขนาดนี้ ทำไมถึงมองไม่เห็นความรู้สึกของพี่ชินที่ส่งมาให้ แล้วรู้ตอนนี้มันจะทำอะไรได้ในเมื่อใจผมไปอยู่ที่คนอื่นแล้ว

“ใกล้จะครบรอบแล้ว เดี๋ยวลงไปแล้วกลับกันเลยไหมกว่าจะถึงหอมึงคงเที่ยงคืนพอดี”  พี่ชินเห็นผมเงียบไปนานเลยเปลี่ยนเรื่องเหมือนทุกครั้ง ที่ผมสัมผัสได้ จริงๆแล้วพี่ชินก็เป็นคนดีคนหนึ่งเลยครับ

   “พี่ชินทำไม...เอ่อ...ไม่มีอะไร กลับเลยก็ได้ครับ” ตอนแรกผมว่าจะถามเรื่องที่พาไปบ้าน แต่พอพี่ชินหันมาผมก็รู้ว่าถามไปมันจะมีประโยชน์อะไร ยังไงวันนี้ที่ผมเป็นแฟนกับพี่ชินมันก็ต้องจบอยู่ดี

   ชิงช้าสวรรค์หมุนครบ 4 รอบผมก็เดินตามพี่ชินลงมาเงียบๆก่อนจะเดินต่อไปยังลานจอดรถ ทั้งที่พี่ชินยังคงจับมือผมเหมือนเมื่อตอนที่เดินเข้าไป แต่ทำไมความรู้สึกมันถึงต่างกันขนาดนี้ 

   “หิวข้าวอีกไหม แวะกินอะไรก่อนเข้าหอรึเปล่า” พี่ชินหันมาถามผมที่เอาแต่นั่งมองออกไปนอกรถ

   “ไม่หิวครับ พี่หิวก็แวะเลยเดี๋ยวผมนั่งเป็นเพื่อน”

   “กูไม่ได้หิว แต่กลัวมึงจะหิวแล้วปวดท้องตอนกลางคืน” ไม่ต้องมาเป็นห่วงผมได้ไหม แค่นี้ผมก็รู้สึกผิดจนไม่รู้จะรู้สึกยังไงแล้ว เมื่อผมไม่ตอบอะไรพี่ชินเลยเงียบแล้วตั้งใจขับรถต่อปล่อยให้ภายในรถมีเพียงเสียงเครื่องยนต์ที่กำลังทำงานเบาๆแข่งกับความเงียบ




   “ขอบคุณครับสำหรับทุกอย่างในวันนี้ ผมสนุกมากเลย ขับรถกลับบ้านดีๆนะพี่ เจอกันที่มอ”

ผมบอกพี่ชินก่อนเปิดประตูลงจากรถ หลังรอพี่ชินพูดอะไรซักอย่างแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าพี่ชินจะพูดตั้งแต่มาจอดรถที่หน้าหอผมเกือบ 10 นาทีได้แล้วครับ ดูเวลาตอนนี้อีก 5 นาทีก็เที่ยงคืนพอดีครับ


   “วีขอกอดทีได้ไหม ตอนนี้ยังไม่หมดเวลาใช่ไหม” กำลังจะเดินเข้าหอพักก็ได้ยินพี่ชินเปิดประตูรถแล้วตะโกนถามผมเสียงดัง ถึงตอนนี้จะดึกแล้วแต่มันก็เงียบนะ ถ้าคนอื่นได้ยินผมไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนเลยครับที่อยู่ดีๆก็มีผู้ชายมาตะโกนขอกอดผู้ชายด้วยกันหน้าหอพักแบบนี้


แต่แทนที่ผมจะปฏิเสธผมกลับยืนนิ่งราวกับรูปปั้นเพื่อรอพี่ชินที่กำลังเดินมาหา  พี่ชินหยุดตรงหน้าผมก่อนเอื้อมมือมารวบตัวผมเข้าไปกอดจนแน่น แน่นมากครับมากจนผมนึกว่ากระดูกตัวเองจะแตกจนป่นไปแล้ว แต่มันคงไม่ใช่ในเมื่อแขนของผมมันยังสามารถเอื้อมไปโอบแผ่นหลังของพี่ชินได้

“ขอบคุณนะที่มึงทำให้กูได้รู้จักกับความรัก แม้ว่ามันจะไม่สมหวังก็ตาม แต่กูจะไม่เสียใจที่ได้รักมึงเลย วันนี้เป็น 1 วันดีๆที่กูจะไม่มีวันลืม กูมีความสุขทุกครั้งที่เห็นมึงยิ้ม เห็นมึงหัวเราะ กูอยากให้มึงเป็นแบบนั้นมากกว่าทำหน้าเศร้านะ หลังจากนี้ก็มีความสุขให้มากๆกูจะคอยดูอยู่ห่างๆ มีอะไรต้องการใช้กูช่วยก็บอกได้เสมอ เวลาที่มึงมีความสุขมึงไม่ต้องนึกถึงกูก็ได้ แต่ถ้าเวลาไหนที่มึงทุกข์คนแรกที่กูอยากให้นึกถึงขอให้เป็นกูได้ไหม” ตอนนี้หลายความรู้สึกกำลังเข้าจู่โจมผมพร้อมกับน้ำตาที่ค่อยๆไหลอย่างไม่รู้สาเหตุ มันทั้งจุก ทั้งเจ็บกับคำพูดของพี่ชินที่เหมือนหลังจากนี้ระหว่างเรามันจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป


“ผะ...ผมจะทำอย่างนั้นได้ยังไง ทั้งที่ผมกำลังทำร้ายพี่ พี่ก็ยังดีกับผมอีกนะ”

“ไม่เอาไม่ร้อง มึงจะร้องทำไม มึงต้องมีความสุขสิ กูปล่อยให้มึงไปมีความสุขนะ ถ้ากูรู้ว่ามึงไม่มีความสุขแบบนี้เดี๋ยวกูก็ไม่ปล่อยไปซะเลยนิ ปล้ำซะดีไหม” พี่ชินยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นเช็ดน้ำตาให้ผมพร้อมกับพูดล้อๆ แต่แววตานั้นเศร้าแบบที่ผมไม่อยากเห็นมันเลย


“ปล้ำก็ได้ ตอนนี้ผมยอม พี่ช่วยปล้ำผมหน่อยนะ” ไม่เอาแล้วผมไม่อยากรู้สึกอึกอัดเหมือนตอนนี้ ทำยังไงก็ได้ให้ความรู้สึกแบบนี้มันหายไปที ถ้าการปล้ำมันจะทำให้ผมไม่ต้องตัดสินใจอะไรอีกต่อไปผมก็ยอมแล้วครับ

“อย่าทำแบบนี้ อย่าพูดแบบนี้กับใครอีกนะ รักตัวเองให้มากๆ รักเผื่อความรักของกูที่ให้ไปด้วย อย่าหนีปัญหา ถ้าเกิดกูปล้ำขึ้นมาจริงๆ คนที่จะทุกข์ไม่ใช่กูคนเดียวแต่เป็นมึงด้วยเข้าใจไหม”  พี่ชินพูดเสียงนุ่มๆพร้อมมือที่ลูบหัวผมเบาๆเหมือนต้องการให้ผมคลายความสับสน


“พี่ชิน...” ผมเรียกพี่ชินเสียงเบา

“หือ...ว่าไง...”

“พี่เลิกรักผมได้ไหม” เป็นคำขอที่สิ้นคิด และงี่เง่าที่สุดเท่าที่ผมคิดได้ในตอนนี้

“ไม่แน่ใจว่ะว่ากูจะเลิกรักมึงได้ไหม แม้ว่ากูจะใช้เวลาไม่นานที่จะรัก แต่อาจใช่เวลาทั้งชีวิตเพื่อลืมใครซักคน เพราะฉะนั้นอย่าบอกให้กูเลิกรักมึงเลยนะ กูสัญญาแล้วไงว่าจะไม่เข้าไปวุ่นวายกับมึงอีกถ้ามึงไม่ต้องการ” พูดจบตัวผมก็ถูกดึงเข้าไปกอดอีกครั้งจากวงแขนเดิม

“พี่ชินผม...”

“เลยเที่ยงคืนแล้วสินะหมดเวลาของกูแล้ว มึงขึ้นห้องเถอะ ขอบคุณสำหรับความทรงจำดีๆในวันนี้อีกครั้ง เจอที่คณะก็ทักกูบ้างล่ะ ฝันดีไอ้น้องชาย” พี่ชินไม่ฟังที่ผมพูดแต่ดันตัวผมออกจากอ้อมกอดก่อนพูดยิ้มๆพร้อมมือที่ยีหัวผมอีกครั้ง แล้วหันหลังเดินกลับไปรถที่ยังติดเครื่องอยู่


จบแล้วสินะ หลังจากนี้ผมก็จะเป็นแค่น้องชายของพี่ชิน  แต่เหมือนผมจะไม่ชอบคำคำนี้เพราะเพียงแค่พี่ชินพูดจบน้ำตาที่แห้งไปแล้วกลับไหลลงมาอีกครั้งอย่างที่ผมแทบไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ

ผมมองพี่ชินที่กำลังเดินจากไปอย่างพร่าเลือนเพราะน้ำตาที่กำลังไหลมันกลบการมองเห็นของดวงตาจนเกือบหมด
ไปแล้วซินะ ต่อไปนี้จะไม่มีพี่ชินที่คอยมาวุ่นวายกับผม  ไม่ต้องมีใครมาคอยแย่งมาม่าให้ตู้ผมตอนดึกๆ ไม่ต้องคอยดูโทรศัพท์บ่อยๆเพราะกลัวว่าจะไม่เห็นข้อความที่มีคนส่งมาตามตัว ไม่ต้องไปทำความสะอาดห้องรกๆนั่นแล้ว  แถมไม่ต้องนอนแบ่งเตียงกับใครอีกด้วย มันดีจริงๆ

ดีจริงๆนะ


ดีที่สุดเลย




แต่….





ผมไม่ต้องการ



“พี่ชิน!...” ผมตะโกนสุดเสียงเพียงเพื่อให้ร่างหนาของพี่ชินที่กำลังจะก้าวขึ้นรถหยุดชะงักแล้วผมก็ทำสำเร็จ


พี่ชินหันมามองผมแล้ว


“ถ้า...ถ้าพี่คิดว่าผมดีพอ ถ้าพี่คิดว่าจะไม่เปลี่ยนใจ ถ้าคิดว่าทนคนอย่างผมได้ พี่รอผมหน่อยได้ไหมขอเวลาไม่นานผมขอจัดการกับความรู้สึกของตัวเองก่อน” ผมตะโกนบอกพี่ชินเสียงดังด้วยความรีบเร่ง เพราะกลัวพี่ชินจะจากผมไป แต่เมื่อตะโกนออกไปแล้วผมได้เห็นรอยยิ้มที่นึกว่าจะไม่ได้เห็นอีกแล้วค่อยๆปรากฏบนใบหน้าพี่ชิน


ผมออกวิ่งให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ระยะทางจะสั้นแต่ตอนนี้ผมกลับคิดว่ามันไกลหลายร้อยกิโล เหมือนวิ่งเท่าไหร่ก็ไปไม่ถึงพี่ชินซักที


“เมื่อกี้ว่าอะไรนะ พูดอีกครั้งสิกูไม่ได้หูฝาดใช่ไหม” พี่ชินถามอีกครั้งเมื่อผมมายืนอยู่ตรงหน้า


“ตอนนี้ผมอาจจะยังบอกไม่ได้ว่าผมรักพี่หรือป่าว เพราะผมก็ยังไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเอง แต่ถ้าพี่คิดว่าผมดีพอสำหรับพี่ พี่จะคิดว่าผมเห็นแก่ตัวก็ได้ ขอเวลาให้ผมหน่อยนะผมขอจัดการความรู้สึกของตัวเองซักพัก แล้วผมจะให้คำตอบของคำถามที่ผมยังไม่ได้ตอบพี่แน่นอน”

“รอๆ กูรอได้เสมอ แค่นี้ก็ดีมากแล้ว” พี่ชินพูดพร้อมใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม

“แต่ไม่รู้มันจะนานซักเท่าไหร่นะพี่”


   “เท่าไหร่ก็รอได้ แค่มึงให้โอกาสกูได้รอก็พอ” ผมยิ้มตอบพี่ชินที่ตอนนี้ดึงผมเข้าไปกอดอีกแล้วครับ

แต่กอดคราวนี้มันเต็มไปด้วยความรู้สึกดีๆ ที่ไม่เหมือนกอดก่อนหน้าสักนิด

ขอบคุณนะครับพี่ชินที่คิดว่าผมดีพอ



----- To Be Con. -----


ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์แล้วการติดตามค่ะ
สดใหม่แบบได้กลิ่นควันอยู่เลย
เพราะฉะนั้นคำผิดยังไม่ได้ตรวจถ้ามีก็ขออภัยมาณที่นี้ค่ะ

ตอนนี้หวานปนหน่วงเหมือนเดิม แต่ก็มาจากความตั้งใจล้วนค่า
รักเหมือนเดิมนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ pemiko2012

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
สงสารชินอ่า
ทำไมอ่านแล้วรู้สึกหน่วงๆ :mew4:
น้องวีจ๋า รู้ใจตัวเองไวน้า
พี่ชิน เค้ารออยู่นะ

ออฟไลน์ kitwiphat

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-7
สงสารชินอะเมื่อไหล่วีจะรู้ใจตัวเอบซะทีว่ารักพี่ชิน5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ NOO~KUNG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 718
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +175/-3
พี่ชินมาร้องไห้ซบอกเจ๊ก็ได้น่ะ....

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14

ออฟไลน์ Cinnamon Roll!!!

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :sad12: :sad12: อ่านแล้วเจ็บไปกับพี่ชิน   วีรู้ใจตัวเองเร็วๆซะทีเถอะน่ะ  :call:

ออฟไลน์ PANGGii

  • ★ บังเอิญไม่มีจริง ★
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 193
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ระหว่างรอ กับ ตัดใจ
ไม่รุ้อันไหนจะทรมานกว่ากัน
..

ความเจบปวดนี่แทบไม่ต่าง ต่างแค่ผลลัพท์เอง



ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
สงสารพี่ชิน
วีรู้ใจตัวเองเร็วๆนะ

april day

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วสงสารพี่ชินมาก  :m15: น้องวีค่ะ เมื่อไรจะรู้ตัว รู้ใจตัวเองค่ะ
รู้สึกตั้งมากมายขนาดนี้ พี่ว่าน้องวีรักพี่ชินไปแล้วล่ะค่ะ รีบๆ บอกไปเลย
สงสารพี่ชินเหลือเกิน  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ pachth

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5
ขอบคุณที่ไม่มาม่านานไม่งั้นคนอ่านใจสลาย
แค่นี้ก็ใจสลายตามพี่ชินแล้ว
ไม่เอามาม่าอีกแล้วนะ รับไม่ไหวจริงๆ

ออฟไลน์ Future

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-9
อยากบอกว่า ชอบมาก เพิ่งเห็นเรื่องนี้เมื่อเช้าเอง อ่านแลทเชอร์ไปด้วย อ่านเรื่องนี้ไปด้วย วันจันทร์สอบ คำตอบในกระดาษคงมีแต่ วีชิน วีชิน วีชิน อ้ายยยยยยยยยยยย ฟิน 55555

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
ชินหึงแหลกราญ

ออฟไลน์ zeroj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ขอบคุณค้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด