ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 16“มัวทำอะไรอยู่วะ ทำไมลงมาช้า กูรอจนยุงจะหามไปทำพันธุ์แล้วเนี๊ยะ”
ถ้าถามว่าในชีวิตผม คนรู้จักใครปากจัดที่สุดผมจะยกตำแหน่งให้พี่ชินอย่างไม่มีลังเลเลยครับ แค่ผมขึ้นไปเปลี่ยนชุดไม่ถึง 15 นาทีลงมาพี่แกเล่นบ่นไฟแลบ
“แล้วใครบอกให้พี่ออกมาคอยผมข้างนอกล่ะ ทำไมไม่รอในรถ” ผมถามอย่างแปลกใจ รอในรถสบายกว่าตั้งเยอะออกมารอทำไมข้างนอกวะ
“กูจะรอตรงไหนก็เรื่องของกู ไปขึ้นรถ” เรื่องของพี่แล้วมาว่าผมทำไม ผมผิดอะไรเนี๊ยะ ผมเกาหัวงงๆก่อนเดินขึ้นรถ คืนนี้มีงานเลี้ยงสายเทคเรียนเสร็จผมรีบมาเปลี่ยนชุดก่อนพี่ชินจะมารับไปร้าน นัดกับพี่ฝิ่นพี่นัทไว้ตอนหนึ่งทุ่มครับ
“ร้านนี้เหรอพี่” ผมถามก่อนมองป้ายหน้าร้าน It’s Me Bar เป็นร้านอาหารกึ่งผับ เห็นแล้วถึงกับต้องกลืนน้ำลายเลยครับ ร้านเหล้าแบบนี้ผมจะเมาหลุดรึเปล่าไม่รู้ครับ
“ร้านนี้แหละพวกเราวิศวะชอบมากินร้านนี้ เป็นร้านของรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว” พี่ชินบอกก่อนเดินนำเข้าร้านเงียบๆ
“โอ๊ะ!!” กำลังเดินตามพี่ชินอยู่ๆก็มีคนเดินมาชนจนเกือบล้ม ดีที่พี่ชินหันมามองแล้วคว้าผมไว้ทัน
“เป็นอะไรรึเปล่า”
“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณครับพี่” ผมพยุงตัวเองขึ้นยืนตรงอีกครั้งก่อนตอบพี่ชินที่แสดงสีหน้าเป็นห่วงชัดเจน
“ขอโทษครับผมไม่ได้ตั้งใจ” ผู้ชายที่ชนผมรีบขอโทษก่อนก้มเก็บกีตาร์ที่หล่นลงพื้น ยังเด็กอยู่เลยครับน่าจะอยู่ประมาณ ม.ปลาย เวลาพูดผมเห็นเหล็กดัดฟันที่เรียงตัวสีสวย แถมยังใส่แว่นเหมือนเด็กเนิร์ดด้วย แต่ไม่รู้ทำไมมาเที่ยวที่แบบนี้ก็ไม่รู้ครับ ผมมองอย่างแปลกใจ
“ไม่เป็นไรครับ พี่ไม่ได้เจ็บอะไร” ผมตอบยิ้มๆ
“ไอ้กาวมึงจะทำไหมงานน่ะ ถ้าไม่ทำกูจะได้ไล่ออกซะที” อยู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นข้างหลังผม พอหันไปก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งหน้าสวยได้รูป ปากนิดจมูกหน่อย ผิวขาวเนียนแบบที่ผู้หญิงยังอาย แต่บรรยากาศรอบตัวดูน่ากลัวขัดกับหน้าตาเลยครับ เพราะนอกจากตอนนี้สีหน้าจะดุแล้วยังมีบอดี้การ์ดเดินตามหลังถึง 2 คนช่วยเสริมให้ดูน่าเกรงขามขึ้นไปอีกครับ
“ทำครับทำ วันนี้ผมสายยังไม่ถึง 10 นาทีเลย พี่อย่าเพิ่งไล่ผมออกดิ”
“ถ้าทำก็เข้าไปเตรียมตัว ก่อนกูจะเปลี่ยนใจไล่มึงออก แม่งสายได้ทุกวัน”
“คร๊าบเฮียไปแล้วคร๊าบ ขอโทษอีกครั้งนะครับพี่ ถ้าเจ็บตรงไหนบอกผมได้เลยผมเล่นดนตรีอยู่ที่นี่ รับรองผมรับผิดชอบเต็มที่ ไปก่อนนะพี่” เด็กที่ถูกเรียกว่ากาวหันมาพูดกับผมก่อนเดินยิ้มเข้าไปในร้าน ไม่ได้มีท่าทีเกรงกลัวต่อคนที่ตัวเองเรียกว่าเฮียเลยซักนิด
“หวัดดีครับพี่มิน” อยู่ๆพี่ชินที่เงียบมาตลอดก็เอ่ยทักคนหน้าสวยที่ยืนตรงหน้าผมซะงั้น พี่ชินมันรู้จักคนที่หน้าตาดีขนาดนี้ด้วยเหรอวะ
“อ้าวชินเองเหรอ โทษทีไม่ทันเห็นมัวแต่โมโหเด็กในร้าน แม่งมาทำงานสายได้ทุกวัน”
“ไม่เป็นไรครับ วันนี้ผมมาเลี้ยงสาย พี่มาแจมด้วยกันไหมครับ”
“ตามสบายว่ะพี่ดูร้านก่อน เรียบร้อยแล้วจะแวะไป เห็นไอ้นัทกับเพื่อนมาแล้วอยู่ข้างใน”
“ครับ พี่นี่น้องเทคผมชื่อวี วีนี่พี่มินเจ้าของร้าน” พี่ชินแนะนำผมกับมินให้ได้รู้จักกัน
“สวัสดีครับ” ผมไหว้ทักทายพี่มินตามมารยาทก่อนยิ้มให้
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ น้องเทคหน้าตาน่ารักดีนะ ตามสบายเลยเดี๋ยวพี่ให้เด็กพาไป ไอ้ยูสพาน้องไปโต๊ะไอ้ตินณ์ดิ๊” พี่มินทักทายผมก่อนยิ้มน้อยๆ แล้วให้ลูกน้องที่เดินตามพาผมกับพี่ชินมาที่โต๊ะ
ตอนแรกผมนึกว่าโต๊ะจะอยู่ในโซนผับแต่ไม่ใช่ครับ โต๊ะอยู่ข้างนอกโซนร้านอาหารนั่งชิว คนคงจะเยอะเลยเอาโต๊ะมาเรียงต่อกันเป็นแนวยาว ตอนนี้ที่โต๊ะ มีพี่ตินณ์ พี่คิม พี่โฟม พี่นัท พี่อาร์มเพื่อนมาครบทั้งกลุ่มเลยครับ นอกนั้นก็เป็นรุ่นพี่ปี 2 กับพี่ 4 สงสัยเลี้ยงพร้อมกันหมด
“หวัดดีครับพี่” ผมไหว้รวมเลยครับ ไหว้ทีละคนไม่ไหวกว่าจะครบคงเช้าพอดี บรรดารุ่นพี่ต่างหันมามองผมแล้วยกมือทักทาย ก่อนผมจะเดินไปนั่งข้างพี่นัทรุ่นพี่ปี 3ที่ยกมือเรียก ถัดจากพี่นัทเป็นพี่ฝิ่นรุ่นพี่ปี 4 ส่วนพี่ชินนั่งที่ว่างข้างๆผม
ตรงข้ามผมตอนนี้เป็นสายเทคพี่โฟมที่มากันครบแล้วครับ ถัดจากพี่โฟมเป็นสายเทคพี่ตินณ์ ตรงข้ามพี่ตินณ์หรือที่นั่งถัดจากสายเทคผมจะเป็นสายเทคพี่คิมครับ ส่วนสายพี่อาร์มนั่งแถวๆหัวโต๊ะทั้งสองฝั่งเลยครับ
นั่งได้ไม่นานผมก็เห็นลูกแพรเดินเข้ามาในร้าน ตอนแรกก็งงเหมือนกันว่าลูกแพรมาทำไมแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าลูกแพรอยู่สายเทคพี่คิมครับ ก็พี่แกไม่ค่อยสนใจจนผมลืมไปเลย ของผมยังดีหน่อยที่พี่นัทโทรมาหาคุยบ้างแม้จะไม่บ่อยแต่ก็ไม่ได้หายไปเลย นานทียังมีปรึกษาเรื่องรายงานหรือสอนแคลคูลัสที่ผมไม่ค่อยเข้าใจ แต่พี่คิมนี่เงียบสุดๆเท่าที่จำได้ลูกแพรเคยได้ M 150 ขวดเดียวแล้วเงียบไปเลย ในกลุ่มพี่ตินณ์ทั้งหมด 5 คนผมบอกเลยว่าผมกลัวพี่คิมมากสุดครับก็แกทั้งเงียบ ทั้งนิ่ง แถมยังมีรังสีเย็นๆแผ่ออกมากับมาดนักเลงตลอดเวลาจะไม่ให้ผมกลัวได้ยังไง
“แพรไม่รู้ว่าวีมาด้วยไม่งั้นจะได้มาพร้อมกัน” ลูกแพรทักผมหลังหยุดคุยอะไรกับพี่ตินณ์ซักอย่าง
“วีก็ลืมว่าแพรเป็นน้องพี่คิม ตอนแพรเดินเข้ามายังแปลกใจอยู่เลย” ผมตอบกลับก่อนเหลือบไปมองพี่คิมที่กำลังเลือกเมนูอาหาร
“บางทีแพรเองยังลืมเลยว่าเป็นน้องพี่คิม ฮ๊ะๆๆ”
“นั่นสิ ถ้าไม่เจอแพรที่นี่วีคงลืมไปเลย” ผมบอกก่อนหัวเราะตามลูกแพร
“พี่คิมสนใจแพรม๊ากมากเนอะ แพรควรดีใจใช่ไหม แต่แพรอยากนั่งกับวีตรงนี้อ่ะ ดูแล้วคงไม่ได้ยังไงเดี๋ยวแพรจะแอบมาคุยด้วยบ่อยๆนะ”
“อืม มาได้ก็มาแต่ถ้ามาไม่ได้เดี๋ยวเจอกันตอนงานเลิกก็ได้” ผมบอกเมื่อเห็นพี่เทคของลูกแพรเริ่มกวักมือเรียก
“โอเค งั้นแพรไปก่อนนะ พี่เทคแพรเรียกแล้ว” ลูกแพรยิ้มให้ผมก่อนเดินไปนั่งข้างพี่เทคของตัวเอง
“เอาอะไรสั่งได้เต็มที่เลยนะวี” พี่นัทที่นั่งข้างยื่นเมนูให้ผม งานนี้ผมถือว่าพี่นัทอนุญาตแล้วไม่มีคำว่าเกรงใจครับ
“ผมว่าพี่นัทคิดผิดแล้วล่ะที่เอามันมาเลี้ยง” ไอ้พี่ชินแม่งดิสเครดิตครับ น่าหาอะไรอุดปากจริงๆ
“กูถึงได้เอามาเลี้ยงพร้อมกันไง เวลาหารมันจะได้สบายกระเป๋าหน่อย ฮ่าๆๆ โอ๊ะ” พี่นัทมองรอบๆโต๊ะก่อนหัวเราะ แล้วอยู่ๆขวดน้ำเปล่าก็ปลิวมากระแทกหัวอย่างจัง ทุกสายตาบนโต๊ะมองไปที่จุดเดียวปรากฏว่าพี่อาร์มเป็นคนปาขวดใส่พี่นัทก่อนหัวเราะสะใจแล้วทำหน้ากวนๆล้อเลียนเรียกเสียงหัวเราะได้ทั้งโต๊ะเลยครับ กลุ่มนี้ดูสนิทกันดี
“เอาไก่ผัดเม็ดมะม่วงไหม” รู้ได้ไงวะว่าผมชอบ ผมคิดก่อนพยักหน้ารัวๆให้พี่ชิน
“พี่เอาหมึกไข่นึ่งมะนาวด้วยนะ” เปิดเจอพอดีกำลังเปรี้ยวปากอยากกินเลยครับ
“เออ” หึหึ เสร็จผมล่ะงานนี้ ให้ห่อใส่กล่องกลับไปกินห้องด้วยได้ไหมน้า เผื่อจะได้ประหยัดค่าอาหารเช้าไปได้อีกซักมื้อ
“พี่ชินพี่เอาอะไรไหม” ผมหันไปถามเมื่อเลือกของตัวเองที่ตัวเองอยากได้เสร็จแล้ว
“ไม่เอา แค่กินที่มึงสั่งมานี่ก็ไม่รู้จะหมดรึเปล่า”
“เฮ้ยอะไรอ่ะ พี่คิดจะแย่งผมกินเหรอ” ผมถามเสียงดัง รู้สึกตัวอีกทีคนมองเต็มโต๊ะแล้วครับ ก็มันเคยชิน ลืมไปเลยว่าผมไม่ได้อยู่กับพี่ชินแค่ 2 คน
“ได้ขี้งก คิดจะแดกคนเดียวระวังขี้แตกนะมึง” ไร้มารยาทสิ้นดีไอ้พี่ชินแม่งเสือกมาพูดเรื่องขี้ๆบนโต๊ะอาหารได้ไงวะ
“เอาไปกินแล้วก็เงียบๆไปเลยพี่ชิน” ผมว่าก่อนตักปลาราดพริกที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วใส่จานให้ 2 ช้อนเต็มๆ ไม่รู้ใครสั่งไว้แต่กะว่าจะแกล้งไอ้พี่ชินซะหน่อยดันมายิ้มแล้วตักกินน่าตาเฉยเลยครับ
แล้วใจผมเป็นอะไรอีกวะแค่เห็นรอยยิ้มพี่ชินทำไมมันต้องหายใจสะดุดแล้วเต้นเร็วแบบนี้ด้วย เห็นหน้ากันมาตั้งนานนึกว่าจะอาการนี้จะหายแต่ที่ไหนได้นอกจากไม่หายแล้วยังเป็นหนักขึ้นอีกครับ
“พี่น้องสองคนนี้สนิทกันดีนะ” พี่นัทหันมาแซวผมยิ้มๆ
“สนิทกันมากๆระวังจะกลายเป็นรักไม่รู้ตัวนะเว้ย”
“แค่กๆๆ” พี่โฟมแซวผมเสียงดังข้ามฝั่งมาอีกคน เล่นเอาผมที่กำลังซดน้ำต้มยำเกือบสำลัก ขึ้นจมูกเลยไหมล่ะ
“เฮ้ยเป็นอะไรรึเปล่าวะ” พี่ชินรีบหยิบแก้วน้ำส่งให้พร้อมมือลูบหลังไม่หยุด
“ไม่เป็นไรครับพี่” ผมหันไปตอบก่อนเผลอสบตากัน
วินาทีนั้นคำพูดของพี่โฟมลอยเข้ามาในหัวผมอีกครั้ง หรือว่ามันจะเป็นอย่างที่พี่โฟมพูด อาการที่ผมเป็นนี่เรียกว่าผมกำลังตกหลุมรักพี่ชินโดยไม่รู้ตัวรึเปล่า ไม่งั้นผมจะใจเต้นทำไมบ่อยๆ
แต่มันไม่เห็นเหมือนตอนที่ผมรู้สึกใจเต้นกับพี่ตินณ์เลย
งั้นคงเป็นไปไม่ได้หรอก แค่ไอ้พี่ชินมันหล่อ มันเท่ มันดูดี มันสูง มันขาว ขามันยาวแบบที่ผมอยากจะมีเท่านั้นแหละ รักอะไรไม่ใช่หรอก
“ไม่เป็นไรก็กินต่อดิ จ้องหน้ากูทำไม หน้ากูเหมือนผัวแม่มึงรึไง”
สัส! ผมขอถอนคำพูด ผมไม่มีทางหลงรักผู้ชายปากหมาแบบนี้ไม่แน่นอนครับ ต้องสุภาพ แต่แบดบอยแบบผู้ดีเหมือนพี่ตินณ์สิถึงจะควรค่าแก่การใฝ่หา ไม่ใช่คนปากหมาแบบพี่ชิน ผมไม่น่าเสียเวลาคิดให้รกสมองเลยให้ตาย
“หน้าแบบพี่เทียบขี้ตีนพ่อผมยังไม่ได้เลยเห่อะ” เมื่อคิดได้ผมรีบหันไปว่าพี่ชินทันที ศึกนี้ผมจะพ่ายไม่ได้
“กินๆ อย่าเพิ่งทะเลาะกัน” พี่คิมที่นั่งคุยกับพี่ตินณ์หันมาบอกผมกับพี่ชินให้กินต่อ จากที่พี่ชินเหมือนจะพูดอะไรซักอย่างตอนนี้ถึงกับหุบปากสนิทเลยครับ
“อ้าววีทำไมไม่มีแก้วเหล้าล่ะ กินแต่น้ำเปล่าได้ไง” เอาแล้วไง คิดว่าจะรอดแล้วเชียว นั่งเนียนมาตั้งนานสุดท้ายไม่รอด เมื่อพี่ฝิ่นมองหาแก้วเหล้าผมไม่เจอ
ตอนนี้บนโต๊ะมีทั้งคนที่กินเหล้า กินเบียร์ สาวๆก็กินสไปร์เกือบทุกคนมีแก้วเครื่องดื่มที่มากกว่าน้ำเปล่า แม้กระทั้งลูกแพรยังมีแก้วสไปร์เป็นของตัวเอง แต่ผมแอบเนียนบอกเด็กเสิร์ฟว่าไม่เอาไง เพราะรู้ว่าตัวเองคออ่อนไม่อยากอายคนอื่นครับ
“ผมไม่เอาได้ไหมพี่ ผมดื่มไม่เป็น” ผมบอกพี่ฝิ่น
“ได้ไงเป็นผู้ชายมันต้องกินเหล้าเป็นดิ ไม่งั้นจะไปมอมเหล้าสาวได้ไงจริงไหมตินณ์” พี่ฝิ่นพูดกับผมก่อนไปลงที่พี่ตินณ์ซะงั้น ผมดูแล้วเหมือนพี่ฝิ่นจะสนิทกับพี่ตินณ์แล้วก็พี่คิมมากที่สุดในโต๊ะ
“อย่างไอ้ตินณ์มันไม่ต้องมอมเหล้าผู้หญิงก็พร้อมพลีกายถวายร่างให้จนคิวแทบจัดไม่ไหวแล้วพี่” พี่โฟมพูดขึ้นบ้าง
“สัส! ไม่ได้ขนาดนั้น” พี่ตินณ์ว่าก่อนทำตาดุๆใส่พี่โฟม
“ไม่ใช่ขนาดนั้นแต่มากกว่านั้นดิ อย่าให้กูพูดว่าเด็กมึงเยอะขนาดไหน” พี่คิมที่นั่งฟังเงียบๆมานานพูดขึ้นบ้าง
“เออ รุมกูนะไอ้พวกเชี้ย วีอย่าไปฟังมากพวกไร้สาระ น้องขอแก้วเปล่าใบนึง มาๆพี่รินเหล้าให้” ผมเข้าใจนะไอ้เรื่องไร้สาระน่ะ แต่ทำไมพี่ต้องขอแก้วให้ผมด้วยวะ ผมไม่อยากด๊าย
“พี่ตินณ์ผมว่าอย่าให้วีกินเหล้าเลยครับ มันคออ่อนแก้วเดียวก็หลุดแล้ว” ผมเพิ่งเห็นความดีพี่ก็ตรงนี้แหละครับ ช่วยผมหน่อยนะผมยังอยากกินหมึกนึ่งมะนาวต่อผมยังไม่อยากเมา
“ไม่ได้ๆ กูเลี้ยงทั้งทีมันต้องชน อ่ะมาชนหน่อย” พี่ตินณ์พูดเสร็จยกแก้วเหล้าขึ้นทำท่าชน ผมเลยต้องรับแก้วเหล้าที่พี่ตินณ์รินให้แล้วส่งต่อมาให้ผมขึ้นชนกลางอากาศก่อนทำท่าจิบ แต่เหล้าไม่ได้เข้าปากเพราะผมเม้มปากไว้ ยังไงก็เมาไม่ได้ครับเสียภาพลักษณ์
“เป็นไงมึง เมาไหม”พี่ชินกระซิบถามผมให้ได้ยินกันแค่ 2 คน
“ไม่เมาพี่ผมไม่ได้กิน” ผมตอบเสียงเบาไม่แพ้กัน ก่อนจะเห็นสีหน้าโล่งใจจากพี่ชิน
หมายความว่าไงวะทำไมต้องโล่งใจด้วย
บรรยากาศบนโต๊ะดำเนินไปด้วยเสียงหัวเราะและเสียงชนแก้วกันเป็นระยะ จากที่มาถึงร้านตอน 2 ทุ่ม ตอนนี้ 4 ทุ่มกว่าแล้วครับ หลายคนเริ่มเมาจนเห็นได้ชัด คนที่ตอนแรกไม่คอยพูดก็เริ่มพูดไม่หยุด หน้าก็เปลี่ยนเป็นสีแดงได้โดยไม่ต้องอาศัเครื่องสำอางซักนิด แต่ผมสติยังมีเต็มร้อยเพราะอาศัยช่วงคนเผลอแอบเทเหล้าลงใต้โต๊ะครับ แก้วเดียวของผมอยู่ได้ทั้งงาน เวลาเทก็แอบเททีละนิดไม่ให้ผิดสังเกต
“วีๆ กินอันนี้สิอร่อยนะ” ลูกแพรเดินถือแก้มที่มีน้ำปั่นสีเขียวมาตรงหน้าผม
“อะไรเหรอ” ผมถามก่อนรับแก้วขึ้นจิบ เปรี้ยวๆหวานๆแถมมีรสขมนิดหน่อยอร่อยดีเหมือนกันครับ
“แอปเปิ้ลเขียวอร่อยดีกินเลย คึคึ” แพรพูดไปหัวเราะไปทำไมอาการเหมือนคนเมาเลยวะ
“อร่อยจริงๆด้วย หวานดีเนอะ”
“งั้นวีกินให้หมดเลยนะ เดี๋ยวแพรไปเอาบลูฮาวายมาให้อีกอร่อยเหมือนกันเลย ตรงแพรมีหลายเยือก” ทำไมน้ำปั่นถึงใส่เยือกล่ะ นึกว่ามีแก้วเดียวซะอีกผมว่าจะถามแต่ไม่ทันแล้วครับ ลูกแพรเดินกลับไปที่โต๊ะแล้ว แต่กินไปกินมามันก็อร่อยดีครับ
“ง่วงยัง ถ้าง่วงจะได้กลับ”
“ไม่ง่วงผมไม่ง่วงเลย กำลังสนุกเลยพี่” ผมหันไปตอบพี่ชินที่เพิ่งกลับมานั่งที่หลังออกไปคุยโทรศัพท์เกือบครึ่งชั่วโมง ได้ยินเหมือนแม่พี่ชินโทรมาหรือยังไงนี่แหละครับจำไม่ได้แค่คุ้นๆ ระหว่างที่พี่ชินไม่อยู่ลูกแพรเอาน้ำปั่นมาให้ผมกินทั้งหลายเยือก มีแต่อร่อยๆทั้งนั้นเลยครับ
“ไอ้วีทำไมหน้ามึงแดงๆ”
“แดงที่ไหนไม่แดงซะหน่อย ไม่เชื่อพี่ดูใกล้ๆดิ” บอกไม่แดงๆ ไม่เชื่อยื่นหน้าให้ดูซะเลย
“เฮ้ยเข้ามาใกล้ทำไม แล้วนั่นแก้วอะไร”มาว่าผมหน้าแดง พี่นั่นแหละหน้าแดง
“น้ำปั่น พี่กินไหมอร่อยนะ อะกินดิ กิน”
“ไม่กินไม่ต้องยื่นมา นี่มันเหล้าปั่น ใช่น้ำปั่นของมึงที่ไหนล่ะ ใครเอามาให้กินวะ” หึหึ ทำไมพี่ชินมันต้องหน้าบึ้งด้วยวะ ไม่หล่อเลยสู้ตอนยิ้มก็ไม่ได้
“เสียงดังอะไรชิน”
“พี่ฝิ่นตอนผมไม่อยู่ใครเอาเหล้าปั่นมาให้ไอ้วีเหรอครับ มันกินไปเยอะไหมพี่เห็นรึเปล่า”
“อ๋อ น้องลูกแพรเพื่อนวีไง เห็นมานั่งกินอยู่ด้วยกัน หลายเยือกเหมือนกันนะ” หลายเยือกอะไรพี่ฝิ่นจำผิดแล้วผมเพิ่งกินไปติ๊ดเดียวเอง ผมจำได้
“ซวยแล้วไง ไอ้วีมึงเมาแล้วกลับเถอะ”
“ไม่เอาผมยังไม่กลับกำลังหนุกเลย อย่าดึงแขนดิ พี่ชินขออีกแก้วนะๆ” อยากกินน้ำปั่นอีกอ่ะ อร่อยดีมีของอร่อยก็ไม่สั่งมาให้ตั้งแต่แรก ให้กินแต่น้ำเปล่าอยู่ได้ ไอ้พี่ชินขี้หวง
“ไม่ได้มึงเมาแล้วนะ”
“เมาแล้วเหรอ ผมเมาเหรอ ม๊ายยผมไม่ได้เมา” ใครว่าผมเมา จะเมาได้ไงยังไม่ได้กินเหล้าซักหยด พี่ชินนี่มั่วจริงๆ
“ไม่เมาเชี้ยไรล่ะ พูดเป็นคนลิ้นไก่สั้นแล้วมึง” ลิ้นก่งลิ้นไก่อะไรของพี่ชินวะ ไม่รู้จัก
“พี่ครับ รถทะเบียน ชรว 99999 เป็นของโต๊ะพี่รึเปล่าครับ พอดีมีคนถอยมาชน เชิญเจ้าของไปดูหน่อยครับ” เสียงใครวะ กูไม่มีรถจะไปไหนก็ไปกำลังสนุกเลยขัดจังหวะจริงๆ
“ไอ้ชินรถมึงรึเปล่า”
“ใช่ครับ แม่งซวยชิบหายใครมันถอยมาชนวะ พี่นัทผมฝากดูไอ้วีแป๊บนึงนะครับเดี๋ยวผมมา”
“พี่ชินจาไปไหน” ผมเรียกพี่ชินที่ทำท่าจะเดินไปไหนอีกแล้ว เพิ่งกลับมาเองจะไปอีกแล้วเหรอ ทำไมชอบทิ้งกูวะไอ้พี่บ้า
“เดี๋ยวพี่ดูให้ แล้วให้ใครไปดูเป็นเพื่อนไหม”
“ผมไงผม ให้ผมไปเป็นเพื่อนพี่ชินนะ” ไปไหนไม่รู้แต่ กูอยากไปด้วย
“ไม่ต้องเลยมึง เมาจนพูดไม่รู้เรื่อง เดินจะตรงทางรึเปล่ายังไม่รู้ นั่งอยู่นี่นิ่งไม่ต้องไปไหนนะ เดี๋ยวผมไปเองได้ครับพี่แป๊บเดี๋ยวมา” พี่ชินไปแล้วอ่ะ
“พี่นัทผมขอกินน้ำปั่นอีกได้ไหมครับ น้าคร๊าบผมอยากกิน”
“ได้ดิเดี๋ยวพี่สั่งให้” ว่าแล้วพี่นัทใจดีกว่าพี่ชินเยอะเลย คึคึ
อะไรวะ อะไรสั่นอยู่ที่ขา อ่อโทรศัพท์นี่เอง ไอ้แว่นโทรมาทำไมตอนนี้
“ว่างายไอ้แว่น!”
“ไอ้วีมึงเมาเหรอ มึงอยู่ไหนให้กูไปรับไหม” ทำไมต้องทำเสียงตกใจด้วยวะ กูไม่ได้เมาซะหน่อย
“ม่ายด้ายเมาซะหน่อย”
“เออๆ ไม่เมาก็ไม่เมาแล้วพี่ชินไปไหน อยู่กับมึงรึเปล่า”
“ม่ายอยู่ พี่ชินทิ้งกูปายหน่ายม่ายรู้”
“เฮ้ยแล้วตรงนั้นมีใครบ้าง มึงจะกลับยังไงให้กูไปรับดีกว่า พี่ชินแม่งทิ้งมึงได้ไงวะ”
“กูม่ายด้ายมาว พี่นัทอยู่ พี่ตินณ์อยู่ พี่ฝิ่นก็อยู่ อยู่กานเต็มเลย คึคึ” คนอยู่เยอะแยะเลยไม่อยู่แค่พี่ชิน
“งั้นกลับพร้อมพี่ตินณ์นะ ขอพี่ตินณ์กลับด้วยให้มาส่งที่หอเลย แต่มึงอย่าไปปล้ำพี่ตินณ์ล่ะยิ่งเมาๆ รู้เรื่องไหม” เสียงดังใส่กูทำไมวะ กูได้ยินแล้ว แต่ทำไมต้องให้ปล้ำพี่ตินณ์ด้วยล่ะ ไม่เข้าใจ
“น้องวีเหล้าปั่นได้แล้วครับ” คึคึ พี่นัทเอาน้ำมาให้แล้ว
“รู้เรื่องๆ แค่นี้น้าน้ำป่านมาแล้ว”
“เออ รีบกลับนะกูเป็นห่วง” นี่ ตัดสายเลยเสียงดังดีนัก หึหึ
“อ้าวไอ้ชินไปไหนล่ะ” ใครวะมานั่งที่พี่ชิน ตรงนี้นั่งไม่ได้นะของพี่ชิน
“รถมันโดนถอยมาชนเลยออกไปดู แล้วมึงล่ะไปโทรหาสาวที่ไหนมา” พี่นัทอย่าไปคุยกับมัน มันแย่งที่พี่ชินนะ อ้าวพี่ตินณ์นี่น่า แต่พี่ตินณ์ก็นั่งไม่ได้นี่มันของพี่ชิน
“โทรหาเด็กว่ะแม่งดื้อชิบหาย โทรไปไม่คุย ปิดโทรศัพท์ใส่กูไปแล้ว”
“มีเด็กไม่บอกพวกกูนะมึง”
“ตรงนี้ของพี่ชิน พี่ตินณ์นั่งที่โผมหมายครับ”
“หึหึ ไม่นั่งหรอกก็วีนั่งอยู่พี่จะนั่งได้ไง เมาแล้วใช่ไหมเนี๊ยะหน้าแดงเลย” พี่ตินณ์ขยี้หัวผมทำไม ผมยุ่งหมดแล้ว จับแก้มผมอีก เจ็บนะ
“ม่ายมาวโผมม่ายด้ายมาวซะหน่อย” ทำไมใครๆถึงชอบว่าผมเมา ผมไม่ได้เมาซะหน่อย
“ไม่เมาอะไร หน้าแดงแป๊ดขนาดนี้ แต่หน้าแดงแบบนี้ก็น่ารักดีนะ ถึงว่าไอ้ชินหวงนักหวงหนา” อื้อ พี่ตินณ์อ่ะดึงแก้มผมอีกแล้ว
“ผมไม่น่ารัก พี่ตินณ์น่ารัก ผมรักพี่ตินณ์”
“หือรักพี่” ทำไมต้องทำหน้าสงสัยด้วยอ่ะ ก็ผมรักพี่ไง
“คร๊าบบ วีรักพี่ตินณ์” ผมบอกรักพี่ตินณ์แล้ว คึคึ
“รักได้ไงวีเป็นผู้ชายนะ พี่ก็เป็นผู้ชาย”
“แต่ผมใจเต้นน้า เต้นตึกตักๆเลยตอนเจอพี่ ผมต้องรักพี่แน่ๆ”
“ไม่ใช่หรอกแค่ใจเต้น ไม่ได้แปลว่ารักถ้ารักต้องจูบกัน มีอะไรกันเลยนะ วีจูบกับผู้ชายได้เหรอ”
“ได้ๆ ผมจูบได้ไม่เชื่อผมจะทำให้ดู” พี่ตินณ์อย่าหนีดิ
“เฮ้ยๆ อย่าวีพี่แค่พูดให้ฟัง วีกำลังเมานะ”
“ผมม่ายมาว จูบๆพี่ตินณ์อยู่เฉยๆวีจูบไม่ได้” เกือบถึงแล้วอีกนิดเดียว พี่ตินณ์เอามือบังทำไมอ่ะ เหนื่อยเลย
“หยุดๆๆ พอแล้วพี่ไม่เล่นแล้ว”
“พี่ตินณ์ขอจูบหน่อยครับ” ไม่ให้ดีๆ ขโมยเอาก็ได้ คึคึ
“เฮ้ย! วี” ใครกระชากอ่ะ เจ็บนะ
“ไอ้วีหยุด” พี่ชินกับพี่คิมเรียกผมพร้อมกันเลย เรียกผมทำไมอ่ะ พี่ชินกับมาตั้งแต่เมื่อไหร่อ่าแล้วมาดึงแขนผมทำไม พี่คิมด้วยจะเอาพี่ตินณ์ไปไหน
เพี๊ยะๆ!! เจ็บอ่ะมาตบผมทำไม
“นี่ใช่ไหมค่ะ สาเหตุที่ตินณ์บอกเลิกวิว เพราะตินณ์มาคบกับผู้ชายใช่ไหม”
“วิว...มาได้ยังไง”
“วิวจะมาได้ยังไงไม่สำคัญ แต่วิวนั่งมองมานานแล้ว ตินณ์จูบกับมัน ตินณ์ทำแบบนี้กับวิวได้ยังไง ทำไมตินณ์ถึงกลายเป็นแบบนี้” นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมพี่วิวใส่เป็นชุดแบบนี้ แล้วคนมุงอะไรกันเยอะแยะ
“มันไม่ใช่แบบที่วิวเข้าใจ เมื่อกี้มันไม่ใช่จูบ แล้วเรื่องของเรามันก็จบไปแล้ว”
“ไม่จบ ตินณ์จบคนเดียวแต่วิวไม่จบ”
“งั้นเราออกไปคุยกันข้างนอก ในนี้คนเยอะรุ่นพี่ผมอยู่กันเต็มเลย”
“ไม่ไปวิวจะคุยตรงนี้”
“ไม่ได้ ออกไปคุยกันข้างนอก ไอ้คิม ไอ้ชินฝากดูวีด้วยนะ”
“ไอ้วี! มึงทำอะไรลงไปรู้ตัวไหม ปล่อยไม่ได้เลยนะมึง” ทำไมพี่ชินต้องดุผมด้วยล่ะ ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย
“ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย” ผมถามเสียงเบา รู้สึกเจ็บๆปากจับดูเลือดไหลด้วยครับ พี่วิวนี่มือหนักจริงๆ
“ไม่ได้ทำเหี้ยอะไรล่ะ มึงไล่ปล้ำจูบพี่ตินณ์ คนเขาเห็นกันทั่ว”
“ห๊ะ ผมเนี๊ยะนะปล้ำจูบพี่ตินณ์” ผมถามเสียงดัง
“เออ มานี่เลยมึงไม่ต้องอยู่แล้วกลับห้อง ผมกลับก่อนนะครับพี่”
“พี่ชินคุยกันก่อนอย่าเพิ่งดึง เบาๆผมเจ็บ”
----- To be Con.-----
ขอบคุณที่ติดตามคร่าา
