ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 12 “โอ๊ยยยยย!” ใครเอาค้อนมาทุบหัวผมรึเปล่าวะ ปวดเหมือนหัวจะแตก ทำไมมันปวดขนาดนี้ คลำดูแผลก็ไม่มี
“เฮ้ย! แขนใคร” กำลังปวดหัวหันมาเจอแขนพาดเอวอีก ผมรีบหันไปมองก่อนถอนหายใจเบาๆ ไอ้พี่ชินนี่เองนึกว่าเอาสาวที่ไหนมานอนด้วยตกใจเลยครับ แล้วทำไมผมต้องถอนหายใจด้วยวะไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ทำไมผมกับพี่ชินถึงได้มานอนเตียงเดียวกันอีกแล้ว ผมจำอะไรแทบไม่ได้ที่จำได้คือผมถูกพี่ชินลากออกจากงานในมอมากินเหล้า เหมือนพี่ชินจะบอกว่าชอบลูกแพรแล้วก็หวงที่ผมกอดเผลอไปกอดเข้า จากนั้นผมก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย
ผมขยับตัวลุกนั่ง สะบัดหัวไล่อาการมึนงง ก่อนมองรอบตัวที่เหมือนจะไม่ใช่ห้องตัวเอง ทั้งเตียงขนาดใหญ่ ผ้าปูสีขาวสะอาดตา ผ้านวมนุ่มๆนี่อีก ห้องนี้เป็นห้องพี่ชินแน่ๆ ผมจำสภาพรอบๆห้องได้ดีเพราะเข้ามาทำความสะอาดบ่อย แต่ที่ไม่รู้คือผมเข้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง สงสัยผมเมาแล้วพี่ชินพามาแน่ๆ
“จะไปไหน” เชี้ยสะดุ้งเลยครับ กำลังจะก้าวลงจากเตียงอยู่ๆเสียงพี่ชินก็ดังขึ้นมาทามกลางความเงียบ นึกว่าหลับ
“ผมจะไปเข้าห้องน้ำ”
“นอนต่ออีกหน่อยก็ได้จะรีบตื่นไปไหน กูปวดหัว” พี่ปวดแล้วเกี่ยวอะไรกับผมวะ
“พี่ก็นอนไปดิ ผมตื่นแล้ว”
“เข้าเสร็จแล้วกลับมานอนด้วย” ผมได้ยินเสียงพี่ชินดังแว่วๆ ก่อนจะปิดประตูห้องน้ำ กำลังจะเยี่ยวซะหน่อย แต่นี่มันไม่ใช่กางเกงผมนี่หว่า เสื้อด้วยของพี่ชินทั้งนั้น จำได้เพราะเพิ่งซักเมื่ออาทิตย์ก่อน แล้วเสื้อผ้าผมไปไหนทำไมต้องเปลี่ยนด้วยวะ
ผมคิดระหว่างอาบน้ำและทำธุระส่วนตัวแล้วอยู่ๆผมก็เหมือนนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อคืนผมอ้วกใส่รถ ใส่ตัวพี่ชินด้วย ตายห่าดีที่ยังมีชีวิตอยู่ หรือว่าเมื่อคืนพี่ชินจะเมาวะเลยไม่ได้ฆ่าผม เมื่อกี้ก็ยังไม่ตื่นดีผมเลยยังไม่ตาย หรือว่าผมจะฝันว่าอ้วกแต่จริงๆไม่ได้อ้วกวะ
“พี่ชินๆเมื่อคืนผมอ้วกใส่พี่เหรอ” อาบน้ำเสร็จผมรีบออกมาทั้งผ้าขนหนูผืนเดียวแล้วกระโดดขึ้นเตียงถามพี่ชิน ก็คนมันสงสัยไม่รอให้ตื่นแล้วครับ ปลุกแม่งเลย
“อะไรของมึงวะกูจะนอน เอะอะทำไม”
“พี่ชินตื่นก่อน ผมถามหน่อยเมื่อคืนผมอ้วกใส่พี่รึเปล่า” ผมเขย่าตัวก่อนถามซ้ำ
“เออ พอใจรึยังกูจะนอนเงียบๆด้วย” พี่ชินตอบเสียงดังเหมือนรำคาญก่อนปัดมือผมทิ้ง
“แล้วทำไมพี่ชินไม่ว่าผมล่ะ”
“กูจะด่ามึงด้วยถ้ายังกวนไม่เลิก ไปไกลๆ กูจะนอน” ถือว่าถามแล้วนะจะมาว่าทีหลังไม่ได้
ผมยอมปล่อยแขนพี่ชินที่กำลังจับไว้ก่อนก้าวลงจากเตียงอีกครั้ง ให้ไอ้พี่ชินหลับตามสบาย
เดินตามหาชุดของตัวเองก่อนมาเจอนอนแอ้งแม้งอยู่ในถังขยะสภาพคงใช้ไม่ได้แล้วครับ ทั้งเลอะทั้งเหม็น ผมเดินกลับเข้าไปในห้องนอนอีกครั้งก่อนเปิดตู้เสื้อผ้าพี่ชิน แล้วขโมยเสื้อยืดกับกางเกงขายาวมาใส่ แต่ทำไมผมใส่แล้วเหมือนฮอปบิทเลยวะ เสื้อยาวเกือบถึงเข่า กางเกงพับเอวแล้วขายังยาวลากพื้นจนต้องพับขากางเกงอีกครั้ง ผมมองตัวเองในกระจกก่อนขำ
หันไปมองพี่ชินยังนอนไม่ยอมตื่นสงสัยจะยังไม่สร่าง ผมเองก็ยังรู้สึกปวดหัวอยากนอนอยู่เหมือนกัน แต่กลับไปนอนห้องตัวเองดีกว่า
ทำไมวันนี้ห้องสะอาดจังวะไม่เหมือนทุกครั้งที่ต้องมาทำเลย แทบจะหาทางเดินไม่ได้ ผมคิดอย่างแปลกใจก่อนเดินเข้าครัวจัดการชงกาแฟและปิ้งขนมปังไว้ให้พี่ชิน ทำเสร็จผมออกจากห้องมาเงียบๆหลังทิ้งโน๊ตว่าขอยืมชุดใส่มาก่อน หวังว่าพี่ชินคงไม่หวงนะ
“เมื่อคืนมึงไปนอนที่ไหนมา กูโทรหาก็ไม่ติด มือถือหรือสากกระเบือว่ะติดต่อยากชิบหาย แล้วนี่เอาชุดอะไรมาใส่วะ” ผมกำลังไขประตูด้วยกุญแจสำรองที่ใส่ไว้ในรองเท้าหน้าห้อง อยู่ๆไอ้แบตก็เปิดประตูห้องมันออกมาตะโกนถามเสียงดังไม่กลัวใครออกมาด่าเลยรึไงวะ
“นอนห้องพี่ชิน เมื่อคืนกูเมา”ผมตอบก่อนไขต่อ
“งั้นนี่ก็ชุดพี่ชินดิ กูก็เป็นห่วงโทรหาเท่าไหร่ไม่ติด นึกว่าโดนฆ่าหมกป่าหญ้าไปแล้ว” ไอ้แบตเดินมาใกล้ก่อนมองทั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาเหยียดสุดตีนเลยครับ
“เออชุดพี่ชิน โทรศัพท์สงสัยแบตหมดกูฝากแพรไว้ในรถวะ” ผมว่าก่อนเดินเข้าห้อง
“ถ้าไม่เป็นอะไรก็ดี งั้นกูไปนอนก่อนเมื่อคืนนอนไม่หลับเลยหว่ะ” ไอ้แบตว่าก่อนทำท่าหาวปากกว้างใส่ผม
“เออ กูก็จะนอนเหมือนกันขอบใจที่เป็นห่วง ไม่มีอะไรหรอกแค่พี่ชินพาไปกินเหล้ารับเข้าสายว่ะ เดี๋ยวบ่ายเจอกัน” ผมบอกไอ้แบตที่กำลังจะเดินกลับห้องตัวเอง มันหันมาก่อนยกมือขึ้นโบกเหนือหัวว่าไม่เป็นไรแล้วเดินต่อ ผมเปิดประตูห้องตอนนี้ขอนอนซักหน่อยเดี๋ยวบ่ายมีเรียนอีกครับ
ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆ
“เสร็จแล้วๆ อ้าวพี่ชิน” ผมรีบวิ่งมาเปิดประตูนึกว่าไอ้แบตมาตามไปเรียน ที่ไหนได้เป็นพี่ชินมายืนเป็นยักษ์หน้าหักอยู่
“จะไปไหน” ทำไมต้องทำเสียงดุด้วยวะ
“ไปเรียนดิพี่ บ่ายผมมีเรียน พี่มาหาผมมีอะไรรึเปล่าหรือว่ามาทวงชุด ผมยังไม่ได้ซักเลยเดี๋ยวผมซักเสร็จแล้วจะรีบเอาไปให้นะครับ” ผมรีบบอกเมื่อนึกขึ้นได้
“หลบดิขวางทาง” พี่ชินไม่ตอบแต่แทรกตัวเข้าห้องผม ก่อนเดินไปนั่งอยู่ที่ปลายเตียงจ้องผมนิ่ง
“พี่ชินเข้ามาในห้องผมทำไม ผมจะรีบไปเรียนเดี๋ยวไม่ทัน”
“เมื่อเช้ามึงหนีมาทำไม” หนีอะไรวะ คนเดินออกมาเฉยๆ ว่าหนี
“ผมไม่ได้หนีซะหน่อย ผมเดินออกมาขึ้นรถเมล์ดีๆยามยังเห็นเลย”
“มึงจะกวนตีนรึไง” อ้าวบอกดีๆว่าผมกวนตีนอีกนะ
“ผมไม่ได้กวนตีน แค่จะบอกว่าไม่ได้หนี เสื้อผ้าก็ไม่ได้ขโมยผมเขียนโน๊ตไว้แล้วไง พี่ไม่เห็นเหรอ”ผมรีบถามถึงโน้ตที่แปะไว้หน้าตู้เย็นกลัวพี่ชินไม่เห็น
“เห็นแต่ทำไมมึงไม่ปลุกจะได้มาส่ง กูมีเรียนบ่ายเหมือนกัน มาพร้อมกันก็ได้” ว่าแล้วทำไมพี่ชินถึงใส่ชุดช็อป มีเรียนเหมือนกันนี่เอง
“ปลุกอะไรล่ะ แค่ผมถามอะไรหน่อยพี่ยังดุขนาดนั้นขืนผมปลุกพี่ไม่กินหัวผมเหรอ”
“กูจะกินตอนมึงไม่ปลุกแล้วหนีมานี่แหละ”
ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆ
“ไอ้วีเสร็จรึยังเดี๋ยวไปไม่ทัน”ผมยังไม่ทันว่าอะไร เสียงไอ้แบตมาตะโกนเรียกผมอยู่หน้าห้องก็ดังขัดขึ้นมาก่อน อันนี้ไอ้แบตของจริงแน่นอนไม่ผิดคนแล้วครับ
“พี่ชินผมต้องไปเรียนแล้วเดี๋ยวไม่ทัน ตอนเย็นค่อยคุยกันนะพี่” ผมหันมาบอกพี่ชินที่ยังนั่งนิ่งอยู่บนเตียงไม่ยอมขยับ
“อ้าวพี่ชินมาอยู่นี่ได้ไงครับ” พี่ชินไม่ตอบแต่เดินออกไปเปิดประตูห้องซะงั้น ผมได้แต่มองตามงงๆ ก่อนไอ้แบตจะงงอีกคนที่เจอพี่ชินเป็นคนเปิดประตูห้องผม
“เดี๋ยวกูไปส่ง” พูดเสร็จเดินนำไปเลย ไอ้แบตหันมามองผมก่อนส่งสายตาเป็นคำถาม ผมก็ได้แต่ยักไหล่ตอบไปว่าไม่รู้ ก่อนเดินตามพี่ชินลงมา พี่ชินมันผีจะมาจะไปทำอะไรเดาใจยากครับ
“ตอนเย็นไปรอที่รถด้วยไม่ต้องให้ตาม” ถึงคณะพี่ชินหันมาสั่งผมก่อนเดินแยกไปตึกภาคไฟฟ้า ยังไม่ทันได้ตอบอะไรก็เห็นแต่หลังซะแล้ว จะเดินไวไปไหนวะ
“ตอนเย็นมึงมีนัดกับพี่ชินอีกเหรอวะ” วันนี้เป็นวันที่ผมต้องไปทำความสะอาดห้องพี่ชินนี่หว่า ลืมไปเลย แต่เมื่อเช้าก่อนออกมาผมเห็นห้องไม่ได้รกอะไรไม่ต้องทำก็ได้มั้ง
“พี่ชินจ้างกูทำความสะอาดห้องว่ะ แม่บ้านแกไปไหนไม่รู้กูจำไม่ได้” ผมตอบไอ้แบตก่อนเดินไปหาที่นั่ง วันนี้เป็นบรรยายรวมหลายสาขา ที่นั่งเป็นแบบสโลปแน่นจดหาที่ว่างไม่ค่อยเจอ
“วี แบตทางนี้ นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว” กำลังมองหาที่นั่ง เสียงลูกแพรเรียกผมกับไอ้แบตดังขึ้นก่อนผมจะหันไปเห็นลูกแพรยกมือโบกไหวๆ
“มาสิ ไม่มาได้ไงอาจารย์ยิ่งเข้มอยู่ด้วย” ผมตอบก่อนมองที่นั่งเหลือข้างแพรหนึ่งที่ แล้วก็เป็นแถวหลังที่อยู่สูงขึ้นไป
“มึงนั่งกับแพรนี่แหละเดี๋ยวกูไปนั่งข้างหลังเอง”ผมกำลังจะเดินไปนั่งข้างหลัง ไอ้แบตชิงไปนั่งก่อนให้ผมนั่งคู่ลูกแพรแทนซะงั้น
“แล้วจะไม่หึงกูว่างั้น” ผมแกล้งยักคิ้วขึ้นถาม
“ถ้าจะหึงกูคงหึงไปนานแล้ว”
“เมื่อคืนพี่ชินพาวีไปไหนมาเหรอ ไม่เห็นกลับมาเลย ติดต่อก็ไม่ได้ แพรกับแบตเป็นห่วงรู้ไหม” ลูกแพรมาเป็นชุดไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนเลย
“แพรใจเย็นๆ เมื่อวานพี่ชินไม่ได้ทำอะไรวีหรอกไม่ต้องห่วง แค่พาไปกินเหล้า แล้ววีไม่เคยกินเลยเมาหลับไม่รู้เรื่อง โทรศัพท์วีก็อยู่กับแพรในรถจะติดต่อวีได้ไง” ผมว่ายาวก่อนพักเหนื่อย
“แพรก็ว่าแล้ว แต่ทำไมต้องพาไปกินเหล้าด้วยล่ะ”
“สงสัยเลี้ยงต้อนรับเข้าสายรหัสมั้ง เห็นพี่ชินว่าแบบนั้นนะ” ผมตอบแพรที่สงสัยไม่เลิก
“ไอ้วีนี่ลอยอะไร” พอแพรเงียบไปอยู่ๆไอ้แบตก็เอามือมาจิ้มๆต้นคอด้านหลัง ก่อนดึงปกเสื้อผมลง คนเยอะแยะแม่งทำอะไรไม่คิดว่าผมจะเสียหายรึไงวะ
“อะไรวะกูเจ็บนะโว๊ย” ผมว่ามันเสียงไม่ดังนักตอนนี้คนเกือบเต็มห้องแล้วครับ
“ไม่ต้องมาเสียงดัง กูอยากรู้ว่าได้รอยแดงๆจ้ำๆ นี่มันรอยอะไรมึงไปนอนให้ใครดูดมา”
“ดูดเหี้ยอะไรล่ะ รอยแบบนี้รึเปล่า” ผมหันไปหาไอ้แบตแล้วดึงปกเสื้อด้านหน้าลงนิดนึงเผยให้เห็นรอยแดงเป็นจ้ำที่อกด้านซ้ายใต้ไหปลาร้าลงไปหน่อยเดียว เมื่อเช้าอาบน้ำก็แปลกใจว่ามีรอยแบบนี้ได้ยังไง ผมเห็นจุดเดียวไม่นึกว่าที่อื่นก็มีด้วย
“เออดิเหมือนกันเลย แต่ต้นคอมึงมีเยอะชิบหาย ไม่รู้ลึกลงไปในเสื้อจะมีอีกไหม” ไอ้แบตว่าพร้อมทำท่าจะถลกเสื้อผมขึ้นซะงั้น
“เฮ้ยๆ อย่าคนเต็มห้องไม่เห็นเหรอ นี่มันรอยแมลงกัด สงสัยเป็นแมลงที่ห้องพี่ชิน เมื่อคืนกูคงนอนไม่ได้ห่มผ้า แล้วกูเห็นพี่ชินแม่งไม่เปิดประตูระเบียงวะ” ผมรีบร้องห้ามทันทีที่ไอ้แบตจะเปิดเสื้อ
“มึงแน่ใจว่าแมลง” ทำไมต้องทำหน้ากวนตีนเหมือนไม่เชื่อคำพูดกูด้วยวะ
“เออดิ หรือว่ากูจะแพ้เหล้าวะ ตื่นมามันก็เป็นเลย” ผมอาจจะแพ้เหล้าก็ได้ เพราะผมไม่เคยกินพอกินแล้วตื่นมาถึงเป็นแบบนี้
“แพรว่าไม่น่าใช่เหล้านะ เพราะเห็นพี่พรตกินไม่เคยเป็นแบบนี้เลย”
“งั้นก็ต้องเป็นแมลงนั่นแหละ” ผมฟันธงเลยครับว่ามันต้องเป็นแมลงแน่ๆ
“เออแมลงก็แมลง ไปค้างห้องนั้นก็ระวังมันไว้ดีๆล่ะท่าทางแมลงตัวนี้มันจะร้าย” ไอ้แบตมันเป็นอะไรวะพูดจาแปลกๆ ผมไม่เห็นตัวจะรู้ได้ไงว่าเป็นแมลงแบบไหนจะได้ระวังถูก
“เออ อาจารย์มาแล้ว” ผมรับคำตัดรำคาญ ก่อนเห็นอาจารย์เดินเข้ามาเลยแยกย้ายกันตั้งใจเรียน ไม่ตั้งใจไม่ได้ครับ ถ้าอาจารย์เห็นว่าคุยแกเรียกเสียงดังให้อายทั้งห้องแน่
“ทำไมพี่พามาห้องผมล่ะ ไม่ไปห้องพี่เหรอ”ผมถามพี่ชินงงๆหลังเรียนเสร็จผมมารอพี่ชินที่ใต้คณะก่อนเห็นแกเดินมากับพี่โย ส่วนไอ้แบตพาลูกแพรไม่ซื้อหมาเห็นว่าอยากเลี้ยง
“ลงไปเก็บเสื้อผ้า”
“ฮ๊ะ เก็บเสื้อผ้าเก็บทำไม เสื้อผ้าอะไรของใคร” ผมถามงงๆ ทำไมวันนี้ไอ้พี่ชินทำให้ผมงงหลายอย่างจังวะ
“เสื้อผ้ามึงนั่นแหละ กูจะพาไปรับน้อง”
“รับน้องอะไรพี่ ไม่เห็นที่คณะแจ้งเลย แล้วคนอื่นๆล่ะไปไหม ไอ้แบต ลูกแพรแล้วก็เพื่อนผมด้วย” ผมถามต่อเมื่อได้รับคำตอบ รับน้องอะไรผมไม่เคยรู้เรื่องเลย
“แค่มึงกับกู มึงเป็นน้องเทคกูไม่ใช่เหรอ กูพูดอะไรบอกอะไรก็ทำตามอย่าสงสัย ไปเก็บของ” ไอ้พี่ชินแม่งสั่งจังวะแค่เป็นรุ่นพี่สั่งยังกับเป็นพ่อ
“แล้วจะไปที่ไหน ไปนานไหมอันตรายรึเปล่า” ถามก่อนครับดูท่าทางไม่น่าไว้ใจ ผมลูกมีพ่อมีแม่นะ จะพาไปไหนถ้าอันตรายต้องไปขอแม่ผมโน่นเลย
“กลับวันอาทิตย์เตรียมไปหลายชุด” บอกแค่นี้แล้วกูจะรู้เรื่องไหมครับไอ้พี่ชิน วันนี้วันศุกร์แปลว่าไป 2 วันอย่างอื่นไม่รู้เลย
“แล้วไปที่ไหนล่ะพี่ อันตรายไหม”ผมถามซ้ำอีกครั้ง
“ถึงแล้วก็รู้เอง อย่าถามมาก” ไอ้พี่เชี้ยชอบวางอำนาจ ผมด่าในใจก่อนเปิดประตูรถเดินลงแล้วปิดเสียงดังไล่หลัง
เก็บของก็เก็บของวะก่อนเก็บผมโทรหาไอ้แบตบอกว่าจะไปรับน้องกับพี่ชิน ถ้าวันอาทิตย์ไม่กลับมาหรือติดต่อไม่ได้ให้ไปเอาผิดมันได้เลย เก็บของใส่กระเป๋าเป้ก่อนเดินลงมาจากชั้นสอง เห็นรถพี่ชินจอดอยู่พร้อมสตาร์ทเครื่องรอ พอเข้ามานั่งได้ผมปิดประตูเสียงดังอีกครั้ง
“เบาๆหน่อย รถกูไม่ได้มีไว้ให้มึงพังหลายคันหรอกนะ” สิ้นเสียงพี่ชินผมถึงได้สังเกตว่ารถคันนี้ไม่ใช่คันที่ผมทำกระจกแตก แล้วก็ไม่ใช่คันที่ผมเห็นพี่ชินขับบ่อยๆ เหมือนจะเปลี่ยนรถมาอีกแล้วครับ บ้านไอ้พี่ชินจะรวยไปไหนวะ สามคันนี่เบนส์ทั้งสามคันเลยนะแค่คนละรุ่น
“หิวไหมกินอะไรก่อนรึเปล่า อีกนานกว่าจะถึง” ขับออกมาได้ไม่ถึงครึ่งชม.พี่ชินก็หันมาถามผมที่นั่งจ้องสองข้างทางไม่ยอมหลับ ผมกำลังจำทางอยู่ครับเผื่อเกิดอะไรขึ้นผมจะได้รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน
“หิว” ผมตอบเร็วไม่ต้องคิด ตอนนี้ท้องผมคิดแทนให้แล้ว ผมตอบเสร็จพี่ชินหักพวงมาลัยเข้าปั๊มน้ำมันทันที
“ไปหาอะไรกินในซุปเปอร์แล้วกันกูรีบ ซื้อมาเผื่อกูด้วย อะไร” รถจอดเสร็จคุณพี่ชินสั่งการทันที ผมก็หันไปมองก่อนแบบมือทันทีเหมือนกัน
“ให้ซื้อเผื่อก็ขอเงินด้วยครับ ผมไม่ได้เอาใบไม้ไปแลกมาได้นะ”
“ไอ้ขี้เหนียว” พี่ชินว่าผมก่อนควักแบงค์พันออกจากกระเป๋าสตางค์ส่งให้ ผมก็รับอย่างไว
“ที่เหลือติ๊บนะพี่” เสร็จโจรครับ ผมรีบลงจากรถก่อนพี่ชินจะคัดค้าน มาถึงร้านผมหยิบตะกร้าก่อนเป็นอันดับแรกตามด้วยขนมเป็นสิบถุง น้ำ ลูกอมและข้าวกล่องให้ร้านเวฟให้ คิดเงินเสร็จผมรับตังค์ทอนเก็บใส่กระเป๋ากางเกงถือว่าเข้าเล็บผมไปแล้วกัน เดินกลับมาไม่เจอคน ยืนค่อยซักพักพี่ชินก็เดินถือแก้วกาแฟกับโกโก้เย็นมายื่นให้ ผมก็รีบรับซิครับของฟรีมีหรือนาวีจะไม่เอา
“พอรึยังถ้าพอแล้วก็ขึ้นรถจะได้ไปต่อ” เสียงจะดุไปไหนวะ แล้วทำไมต้องมองขนมในมือผมแบบนั้น นี่ไม่ได้เยอะนะผมเอามาแค่อิ่ม
“ใกล้ถึงรึยังพี่” ผมเปิดประตูเข้ามานั่งในรถก่อนถาม ตอนนี้ออกนอกเมืองมาไกลแถมท้องฟ้าก็เริ่มมืดเข้าไปทุกที ผมมองสองข้างทางจนเหนื่อยเลิกมองไปแล้วครับจะพาไปไหนไกลนักวะ
“ยังอีกไกล” คำตอบที่ได้ทำเอาผมถอนหายใจนิดนึงก่อนเปิดถุงหาของกินดีกว่าไม่อยากรู้แล้วจะพาไปไหนก็ไปเถอะถึงแล้วก็คงรู้เองว่าเป็นที่ไหน
“ซื้ออะไรมาให้กูกินมั่งวะ” ข้าวจะเข้าปากอยู่แล้วนะ พอพี่ชินถามผมถึงกับชะงักก่อนวางช้อน
“ข้าวกระเพราหมูสับไข่ดาว ซาลาเปากับขนม พี่จะกินอะไร” ซื้อข้าวมาเหมือนกันจะได้ไม่ต้องแย่งกัน ถ้ากินไม่ได้ก็เรื่องของพี่ชินผมกินคนเดียวก็ได้ เรื่องนี้คิดมาแล้วครับ จะมาว่าผมไม่ได้อยากได้อะไรไม่ยอมบอก
“มีอะไรกินก็เอามากินดิ๊” อ้าวแล้วเสือกถามทำไมตั้งแต่แรกวะ ผมส่งค้อนให้ทั้งที่ไม่รู้ว่าคนขับรถจะรู้ตัวรึเปล่า
“กูจะกินข้าว” ผมแกะซาลาเปาไส้หมูก่อนส่งให้ แต่ไอ้พี่ชินแม่งกวน ไม่ยอมรับดันจะกินข้าวแล้วเมื่อกี้บอกว่าอะไรก็ได้
“แล้วพี่จะกินยังไงขับรถอยู่ไม่ใช่เหรอ ผมไม่ขับนะผมขับไม่เป็น” ผมรีบบอก ถ้าจักรยานอ่ะได้แต่รถยนต์ขอบายครับ นั่งอย่างเดียวไม่ขับ
“เออกูไม่คิดจะให้มึงขับหรอก แต่กูคงหวังมากไปที่จะเห็นน้ำใจจากมึง”
“น้ำใจอะไร พี่จะให้ผมทำอะไรก็บอกมาเลยดีกว่า” ผมกัดฟันถามไอ้พี่ชินแม่งอยากได้อะไรทำไมไม่บอกวะ
“ป้อนกูดิ”
“เฮ้ย! ป้อนอะไร ผมเป็นผู้ชายจะให้มานั่งป้อนข้าวผู้ชายด้วยกันได้ไง” ผมรีบโวยวายเลยครับ เกิดมายังไม่เคยป้อนข้าวใครซักคน
“แต่มึงยังรักผู้... ป้อนๆมาเถอะน่าอย่าเรื่องมาก กูหิวจะแย่แล้วเนี๊ยะ” พี่ชินเหมือนจะพูดอะไรซักอย่างก่อนหยุดไป แล้วเสียงดังขึ้นมาซะงั้นครับ ผมที่รอฟังก็ได้แต่งงก่อนชั่งใจว่าจะป้อนดีหรือไม่ป้อนดีวะ
“แกะกล่องใหม่ทำไม”
“ก็พี่จะกินข้าวไม่ใช่เหรอ”
“กูกินกล่องเดียวกับมึงก็ได้กูไม่ถือ สองกล่องเหมือนกันไม่ใช่เหรอ” พี่ไม่ถือแต่ผมถือป่าววะ ไม่นึกเลยรึไงว่าผมจะรังเกียจ
“อ่ะ อ้าปากดิ” ผมตัดสินใจตัดข้าวจากกล่องในมือตัวเองแล้วป้อนพี่ชินที่ตามองถนนแต่อ้าปากรอผมป้อน ผมตักให้คำใหญ่ๆเลย จะได้ไม่ต้องตักบ่อย
พอพี่ชินกินเสร็จผมก็ตักเข้าปากตัวเองบ้างก่อนจะรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนเห่อขึ้นมาเฉยๆ แค่คิดว่าตอนนี้ผมกำลังกินข้าวช้อนเดียวกับพี่ชิน นี่มันใช่ที่เขาเรียกว่าจูบทางอ้อมรึเปล่านะ แล้วทำไมผมต้องรู้สึกร้อนตั้งแต่ใบหน้าถึงลำคอขนาดนี้ ใจก็ดันมาเต้นอีก มันอะไรกันวะไม่เข้าใจผมกำลังเป็นอะไรแน่ช่วงนี้ขยันใจเต็นเหลือเกิน
“หมดแล้ว ไอ้วีหมดแล้ว”
“ฮ๊ะ พี่ชินว่าอะไรนะ” ผมสะดุ้งตามเสียงเรียก อยู่แค่นี้จะเสียงดังทำไม
“กูบอกว่าหมดแล้ว เหม่ออะไรของมึงวะ”
“ถนนๆ มองถนนพี่” ผมบอกพี่ชินที่หันมามองผม
พอพี่ชินหันไปมองถนนเหมือนเดิม ผมก็รอจนแน่ใจว่าปลอดภัยถึงตักข้าวส่งเข้าปากอีกคำ แล้วตักเข้าปากตัวเองต่อ พอกล่องแรกหมด กล่องที่สองก็ตามมาจนหมดในไม่ช้าจากนั้นผมแกะขนมอะไรก็ต้องยื่นไปให้พี่ชินและกินเองด้วยความเคยชินไปตลอดทาง
“ถึงแล้วลงมา” พี่ชินจอดรถหน้ารีสอร์ทริมทะเลแห่งหนึ่งก่อนเรียกผมลงรถ อ่านป้ายชื่อชายหาดดวงตะวันครับ แม้เวลาจะเกือบ 3 ทุ่มแล้วแต่ผมรู้สึกว่าสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นสนเรียงรายมาตลอด หาดนี้เลยสวนสนแถวบ้านเพมานิดเดียวเองครับ ดีนะผมเป็นคนพื้นที่เลยพอรู้จักอยู่บ้าง
“พี่จะพาผมมารับน้องที่นี่เหรอ” ผมเดินลงมามองรอบๆที่ค่อยข้างมืดก่อนหันไปถาม
“อยากให้รับไหมล่ะ”
“ไม่อยากอ่ะ เปลี่ยนเป็นมาเที่ยวได้ไหม” ผมรีบตอบ
“กูจะมาดูสถานที่พาพวกมึงมารับน้องแค่หาเพื่อนนั่งมาด้วยเท่านั้นแหละไม่ต้องป๊อด ” พูดเสร็จปิดกระโปรงท้ายรถแล้วเดินเข้ารีสอร์ทไปคนเดียวไม่รอผมเลยครับ
“พี่ชินรอผมด้วย” ผมมองรอบข้างที่มีแต่ความมืดอีกครั้งก่อนวิ่งตามพร้อมตะโกนเรียกเสียงดังนิสัยชอบเดินทิ้งผมนี่ไม่เคยเปลี่ยน
----- To be Con.-----
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
