Special Part Phon + Ping (ตอนที่ 1)
*** เป็นการรีโพตส์จากในกลุ่มค่ะ ใครที่กดเข้ากลุ่มคงได้อ่านก่อนคนอื่นแล้ว ส่วนใครที่ยังไม่ได้อ่านก็เชิญได้เลย หลายคนบอกให้เอามาลงด้วยเพราะมันจะขาดตอน แต่เราก็แจ้งไปแล้วว่าไม่...แต่ไม่เป็นไรค่ะ ลงให้อ่านกันเลยละกัน...ใครชอบก็รอตอนต่อไปนะคะ
ลมเย็น ๆที่พัดประทะใบหน้าทำให้รู้สึกสดชื่นนานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้ออกมานั่งท่ามกลางธรรมชาติอย่างนี้...สวนสาธารณะในกรุงเทพฯเป็นที่สำหรับคนที่ชอบความสงบอย่างผม...เบื้องหน้าคือแผ่นน้ำที่ไหวระริกตามสายลมที่พัดผ่าน...ความเงียบสงบในช่วงเวลากลางวันอย่างนี้ชวนให้อยากหลับใหลอยู่บนเตียงนุ่ม...
/แล้วซอจะซื้อขนมมาฝากพี่พิงเยอะ ๆ เลย/
ผมยกยิ้มเมื่อนึกถึงนายน้อยคนใหม่ของบ้านพยัคฆราชวันหยุดยาวในวันนขัตฤกษ์อย่างนี้ทำให้เจ้าตัวเรียกร้องอยากกลับไปที่สวนคุณโอเลยพากลับส่วนผมมีธุระที่ต้องทำให้เจ้าสัวนิดหน่อยเลยไปด้วยไม่ได้...แต่ก็ดีเหมือนกัน...ที่จะได้มีส่วนตัว...ไม่ใช่ว่าอยู่กับซอแล้วจะเบื่ออะไร...กลับรู้สึกสนุกไม่เหงา...เพราะนายน้อยของบ้านเป็นคนน่ารัก จิตใจดี... แต่คนเราก็ต้องมีช่วงเวลาที่ต้องการอยู่กับตัวเอง...ยามที่มีเรื่องเข้ามาให้คิด...
จิ๊บๆๆๆ
เสียงนกร้องอยู่ด้านข้างพุ่มดอกพุทธรักษา...สูดลมหายใจก่อนจะหลับตาลงซึมซับบรรยากาศธรรมชาติที่มีไม่กี่แห่งในกรุงเทพฯคราวนี้ผมควรจะขอตามไปที่สวนด้วย...เพราะที่นั่นคือธรรมชาติอย่างแท้จริง...
ฟึ่บ!
“...............” ลืมตาขึ้นก่อนจะจ้องผืนน้ำข้างหน้าไม่ได้สนใจคนที่มานั่งลงข้าง ๆ บรรยากาศปลอดโปร่งเมื่อครู่กลับเริ่มเหม็นเน่าขึ้นมา...เพราะสัญชาติญาณทำให้ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าใคร...ตั้งแต่งานวันเกิดคุณโอก็ไม่เจอกันอีกแล้วแท้ๆ วันนี้คงไม่บังเอิญที่จะเจอกันที่นี่...ในวันที่ผมคิดว่าสงบที่สุด...
“...วันนี้ไม่ตามติดคุณหนูเหรอครับพี่เลี้ยง...”
“.................”
“...ไม่ยักกะรู้ว่าคนที่วัน ๆเอาแต่ทำหน้าเครียดจะชอบธรรมชาติอย่างนี้ด้วย..”
“...ครับ..ชอบ..แต่ก่อนหน้านี้มันดีกว่านี้เยอะ...” พูดออกไปทั้งที่ตายังจ้องที่ผืนน้ำตรงหน้าเหมือนเดิม...
“..หึๆ...แขนเป็นยังไงบ้างครับ..ยังมีรอยช้ำอยู่เลย...น่าเป็นห่วงจัง”
“.....!!.....” สะบัดข้อมือออกจากมือหนาที่จู่ ๆก็เอื้อมมาจับขึ้นไปพลิกดูอย่างถือวิสาสะ..ดูรอยที่เกิดจากเจ้าตัวเป็นคนทำ...ลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างไม่ต้องการที่จะอยู่ใกล้พวกหมารอบกัด
“...ทำไมเหรอครับรังเกียจเหรอ...คนของพยัคฆราชคงจะเลิศเลอมากสำหรับคุณสินะ..”
“ แน่นอนครับ...อย่างน้อย ๆพยัคฆราชก็ไม่เคยลอบกัด...อย่าทำตัวเหมือนเหลือบไรดีกว่า..มันน่ารำคาญ..”
“ ปากดีเกินความจำเป็นแล้วนะคุณพี่เลี้ยง!”
“..ไม่ต้องมาทำหน้าอย่างนี้หรอกครับเพราะผมไม่กลัว...ปล่อยได้แล้ว...เพราะอย่างที่คุณพูดผมรู้สึกรังเกียจ..” พยายามดึงมือตัวเองกลับหลังจากคนที่นั่งอยู่ลุกขึ้นมาแล้วคว้าข้อมือผมไว้...แววที่มุ่งร้ายไม่ได้ทำให้ผมกลัว...แต่กลับกันมันรู้สึกสมเพชกับพวกแมลงเล็ก ๆ อย่าง คชสารแดงพยายามดิ้นรนให้ตัวเองมีตัวตนในวงสังคมมาเฟีย...
“...พักพิง วริศกาฬ...ผมจะทำให้คุณรู้จักกับสิ่งที่คุณรังเกียจ...ว่ามันเป็นยังไง..”
“..ปล่อยผมซะ...” มองข้อมือตัวเองที่ถูกบีบแน่นไม่ต่างจากวันนั้น...ถึงจะไม่แสดงสีหน้าอะไรออกไปแต่คนมีเลือดเนื้อย่อมเข้าใจว่ามันเจ็บปวด ยิ่งมือของลูกชายคนรองของปุญไพรคชสารผมกล้าบอกได้เต็มปากว่าแข็งแรงจนผมสะบัดไม่หลุด...
“..ไม่ปล่อย....”
“...ปล่อย!!...” บิดข้อมือออกก่อนจะหันตัวเพื่อตวัดศอกใส่คนที่ยังจับข้อมือผมไม่ปล่อย...ยกขาขึ้นหลบอย่างเร็ว..เพราะอีกคนเตะเข้ามาเหมือนกับต้องการให้ผมล้มลง...ใช้มือปัดหมัดที่พยายามจะเหวี่ยงใส่ลำตัว...ก้าวไปข้างหน้าทั้งที่ข้อมือยังถูกจับแน่น ก่อนจะเหวี่ยงศอกถองมาด้านหลังเป้าหมายคือใบหน้าของผู้ชายคนนั้น...
“เก่งแค่ไหน...แต่คุณก็แพ้ผมครับคุณพักพิง..”
“..นี่ปล่อย!!...ผมบอกให้ปล่อย!!..โอ๊ย!!..” เหมือนโทสะผมจะแรงขึ้นเรื่อย ๆเมื่อเป้าหมายพลาดและร่างสูงใหญ่กว่าผมรวบกอดผมไว้ทั้งตัว...แขนแข็งแรงกอดแขนผมไว้ แล้วเหนี่ยวให้ล้มลงบนผืนหญ้าไปพร้อมกับคนที่กอดอยู่ก่อนขายาวนั่นจะเกี่ยวกระหวัดขาผมไว้...สภาพผมเหมือนกำลังถูกงูตัวใหญ่รัดแน่น...
“ คนรอบกัด..ก็ทำเหมือนรอบกัดไงครับ..”
“..ปล่อย อื้ออ!!..” หายใจติดขัดเมื่อผ้าเช็ดหน้าผืนสีขาวถูกนำมาปิดปากและจมูกผมไว้....กลิ่นแปลกปลอมทำให้รู้ว่าในผ้ามีสารอะไรบางอย่างพยายามกลั้นหายใจและดิ้นรน...แต่สติผมก็ค่อย ๆ ดับ...ทุกอย่างดูล่องลอยร่างกายหยุดนิ่ง...และทุกอย่างก็ดับมืดในที่สุด...
ซ่าส์!!
“ เฮือก!” ความเย็นยะเยือกเสียดแทงร่างกายจนสะดุ้งสุดตัว...ตื่นจากภวังค์ลึก...ลืมตาโพลงขึ้นก่อนจะสะบัดความเย็นเยียบออกจากใบหน้า..หรี่ตามองไปตรงหน้า...
แคร้ง!
“ ตื่นซักที”
“ แกทำอะไร!!..” ใจตกวูบก่อนจะกลายเป็นความโกรธ เมื่อแขนและขาผมถูกโซ่ล่ามไว้บนเตียงสีขาวที่ตอนนี้เปียกโชกไปด้วยน้ำที่สาดมาเพื่อปลุก...เสื้อเชิ๊ตสีเขียวอ่อนของผมเปียกจนแนบลำตัว...พยายามสะบัดแต่ความแข็งแรงของโซ่มันไม่ทำให้หลุดออกง่ายๆ อย่างที่คิด...
“ ฮ่าๆๆก็แค่อยากเล่นอะไรนิดหน่อย...ลดความปากดีของใครบางคน..ถ้าไม่..ก็ยอมเอ่ยปากขอโทษผมซะ..คุณพักพิง...”
“ ถุย!..” พ่นน้ำลายใส่หน้าคนที่เดินมาข้างเตียงก่อนจะใช้มือหนาจับโครงหน้าผมให้หันไปสบดวงตาแข็งกร้าว...ใบหน้าหล่อเข้มแสดงสีหน้าออกมาเหมือนคนโรคจิตที่กำลังสะใจที่ผมจะจนมุม...แต่ไม่มีวันนั้นแน่นอน...
“.............”
“..จะทำอะไรล่ะ...จะฆ่าก็รีบฆ่า...จะทรมานอะไรก็รีบทำ...แต่จะให้เอ่ยปากขอโทษพวกที่รอบทำร้ายเจ้าสัว...ไม่มีทาง!!”
เพี๊ยะ!!!
“...............” หน้าสะบัดตามแรงตบที่ใบหน้าอย่างแรง...รับรู้ได้ถึงความเฝื่อนของเลือดตัวเอง...ตวัดสายตามองกลับอย่างแค้นเคือง...พร้อมกับยกยิ้มมุมปากส่งให้คนที่กำลังเช็ดน้ำลายผมออกจากหน้าตัวเอง...เอาสิ...มีอะไรมากกว่านี้อีกไหม...
“ เจ็บไหมครับ...คนที่ไม่กลัวความเจ็บปวด...รักศักดิ์ศรียิ่งชีพของพยัคฆราชอย่างคุณ...สิ่งเดียวที่จะทำให้จำและเป็นตราบาป...เหมือนศักดิ์ศรีถูกกระชากมาฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย...นั่นก็คือความอับอาย...”
“...จะมีอะไรอีก...นอกจากใช้กำลัง...พวกที่ไม่มีสมองก็ใช้กำลังเป็นเรื่องธรรมดา..”
ปึ๊ก!! ปึ๊ก!!
“..หึ..หึ...อยากรู้เหมือนกันว่าจะทำหน้าหยิ่งผยองอย่างนั้นได้อีกนานแค่ไหน..”
“ จะ ทำ อะ..ไร...” ความจุกที่วิ่งพล่านทั่วท้อง เมื่อหมัดรุ่น ๆถูกกระแทกลงมาสองครั้งติด...จุกจนตาพร่า...แรงหมัดเหมือนอีกคนทุ่มทั้งตัวเพราะไม่ต้องการให้ผมมีฤทธิ์มากไปกว่านี้....หันไปถามกระท่อนกระแท่นเมื่อร่างสูงนั่นขึ้นมาบนเตียงก่อนจะขึ้นคล่อมผมไว้....
“...ก็แค่..อยากลอง...ก็แค่อยากลอง..และอยากฝากความอับอายพวกนี้กลับไปฝากพยัคฆราชด้วย...ถ้าติดใจ...ผมอาจจะขอลองกับคุณหนูซอผู้น่ารักน่าทนุถนอมนั่นอีกคน...”
“ ไอ้ชั่ว!!ห้ามยุ่งกับซอเด็ดขาด!!”
“ งั้นเหรอ..ก็ไม่รู้เหมือนกัน...”
“...ออกไปจากตัวกู!!..” ดิ้นพร่านเมื่อมือของคนที่คล่อมกำลังปลดกระดุมเสื้อผมอย่างเชื่องช้าและไม่ทุกข์ร้อนอะไร...เสียงโซ่ที่ข้อมือและข้อเท้าผมกระทบกันเสียงดัง...ในชีวิตไม่เคยกลัวอะไรแม้กระทั่งการสูญเสีย...แต่เหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดทำให้ผมเริ่มจะคลั่ง...ไม่ใช่คนโง่พอที่จะไม่รู้ว่ามันตั้งใจจะทำอะไร...ยิ่งดิ้นก็ยิ่งหมดแรง...
“...อื้อหือ...ทั้งขาวทั้งเนียน...”
“..ปล่อย!!บอกให้ปล่อย!!..” เลือดสด ๆไหลลงที่มุมปากจากการตบที่รุนแรงก่อนหน้า....เสื้อผมถูกแหวกออก...ก่อนที่เป้าหมายของมือหนานั่นจะไปจับที่เข็มขัด...หัวใจเต้นแรงและรู้สึกรังเกียจสัมผัสพวกหยาบช้า....
“ นอนนิ่งๆ ถ่างขากว้าง ๆ มันก็ไม่มียากหรอกนะครับพิงที่รัก”
“ไอ้เลว!!ไปลงนรกซะ!! ไปตายซะ!!” กางเกงผมถูกดึงลงไปถึงครึ่งขา ดวงตาจาบจ้างจนความแค้นสุมไปทั่วร่างกาย...เมื่อปราการด่านสุดท้ายผมถูกปลดลงไป....อีกคนลุกไปหยิบกรรไกรมา...ทำให้ตาผมเบิกโพลง....สเตฟานค่อยๆ กดตัดกางเกงผมรวมถึงกางเกงชั้นในเพียงเพราะขาผมมีโซ่พันธนาการอยู่เลยไม่สามารถที่จะถอดออกได้...มองกางเกงตัวเองที่ถูกตัดออกด้วยความคับแค้น....
“......ร่างกายอย่างนี้..ไม่น่าเชื่อว่าจะมีแรงไปปกป้องคุณหนูซอได้นะ...”
“...แกมันไม่ใช่คน!!มีเพียงสัตว์เดรัจฉานเท่านั้นที่สมสู่ไม่เลือกที่ ไม่เลือกคน!!..” ความสัมพันธ์ที่มันเกิดโดยไม่ได้มาจากความรักมันก็เหมือนการลาดน้ำร้อนลงบนผิวเนื้อของคน...มันทั้งเจ็บปวดและเป็นแผลน่าเกลียดให้จดจำไปชั่วชีวิต...ความหนาวเย็นจากน้ำและแอร์ทำให้ผมขนลุกชันไปหมด...ขบฟันลงพร้อมผิวหน้าที่ร้อนผ่าวเมื่อสำนึกได้ว่าตอนนี้ผมไม่มีอาภรณ์อะไรปกปิดร่างกายเลย...
“...เอาหน่า...เลิกปากดีซักที...ถ้าเกิดอารมณ์ขึ้นมาก็อย่ามาร้องขอละกัน...”
“........!!.....” จ้องมองคนที่ยกตัวลุกขึ้นยืนก่อนจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าตัวเองออก....เสื้อเชิ๊ตสีเข้ม..ถูกรั้งออกจากแขนเผยให้เห็นกล้ามเนื้อของคนที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ผิวกายขาวสะอาด...ใบหน้าหล่อยังหันตรงมาสายตายังจับจ้องมาที่ผม....กางเกงยีนส์ขาเดฟสีดำ ถูกถอดออกอย่างรวดเร็ว...ตามด้วยปราการสุดท้ายที่ถูกดึงออกอย่างไม่ลังเล...ก็มีแต่โรคจิตเท่านั้นที่มายืนแก้ผ้าต่อหน้าคนอื่น....
“...หน้าแดงเลย...อายเหรอครับ...ไม่ต้องห่วง...คุณจะจดจำและนึกถึงมันไปอีกนาน...”
“...ปล่อย!!..ไอ้โรคจิต!! ไอ้สัตว์นรก!!แกจะทำอย่างนี้ไม่ได้!!”
“ ทำไมจะทำไม่ได้และตอนนี้ผมก็เริ่มมีอารมณ์กับร่างกายคุณแล้วด้วย” ร่างสูงใหญ่นั่งลงระหว่างขาผมที่ถูกโซ่ล่ามไว้ทั้งสองข้าง...มือหนายื่นมาลูบวนบริเวณหน้าท้องจนรู้สึกหายใจติดขัด...พยายามไม่สนใจและดิ้นจนรู้สึกเจ็บแปลบที่ข้อมือและข้อเท้าเพราะแรงเสียดสีของเครื่องพันธนาการ
“..อย่าดื้อสิ...”
“ อย่านะ!!ปล่อย!! ปล่อย!!” เป็นครั้งแรก...ครั้งแรกจริง ๆที่รู้สึก...กลัว...
“..หึ..หึ..”
“..อื้ออ!!..”
...................................
...................................
ความกลัวและความโกรธแค้นมีพอ ๆกัน...มือหนาเอื้อมมาบีบบริเวณคางเรียวก่อนจะยกตัวให้ทาบทับร่างกายสูงโปร่งที่เปลือยเปล่าไว้...รอยยิ้มแห่งความสะใจยังมีประดับเรียวปากสีพีช...ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าสวยที่ตอนนี้มีเหงื่อซึมออกมาทั้งที่แอร์เย็นฉ่ำ...
....คิดว่าจะแน่ซักแค่ไหน....ตอนแรกก็ยอมรับว่าจะทำให้หมดปากหมดเสียง...อยากเห็นสีหน้าหวาดกลัวของคนอวดดี...แต่พอเห็นร่างกายขาวเนียนเอวสอบสะโพกผาย ร่างกายสวยงามเกินกว่าชายทั่วไป...เรียวขาขาวนั่นก็ทำให้เขาเริ่มจะยั้งใจไม่ได้....ยิ่งสีหน้าตื่นกลัวที่แสดงออกมาโดยที่เจ้าตัวคงนึกไม่ถึงว่าตัวเองจะเปลี่ยนจากสีหน้านิ่งๆ มาได้ขนาดนี้...มันชั่งกระตุ้นอารมณ์ได้เป็นอย่างเดียว...
“ อื้มมมม!!..” บีบคางแน่นให้อยู่กับที่ก่อนมอบจุมพิตที่ร้อนแรงให้ ปากบางเม้มแน่นแต่ก็ต้องเผยอออกเพราะแรงบีบเรียวปากและลิ้นร้อนของอีกคนเลาะเล็มและกวาดเข้าไปในโพรงปากของคนที่พยายามจะหันหนี...
“ อึ๊ก!!..”
“...............” สเตฟานยกตัวขึ้นพร้อมกับใช้มือเช็ดเลือดที่ริมฝีปาก...ฟันคมของคนรั้นกดลงที่ปากเขาจนได้เลือด....สายตาคมจ้องไปด้วยแววตาอาฆาตน้อยๆ ....
เพี๊ยะ!!
“..อึก...” ฝ่ามือหนัก ๆ ตบลงที่แก้มใสอย่างเต็มแรงจนใบหน้าสวยสะบัดตามแรงตบอีกครั้ง...เลือดที่แห้งไปแล้วบัดนี้ไหลออกมาเพราะรอยแตกแยกของริมฝีปากจากแรงตบ...
“...เลว...เลว…ไอ้เลว!!!...”
“...แค่นี้คงไม่เจ็บสินะ...งั้นเรามาลองกันซักตั้ง...”
ร่างสูงร่นตัวลงมานั่งหว่างขาเรียวนั่นอีกครั้งก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบกุญแจในกระเป๋ากางที่ถอดวางไว้หัวเตียงก่อนจะไขให้ขาข้างนึงของคนที่นอนอยู่พ้นจากโซ่ตรวน..
“ไอ้!!”
หมับ!
“ หึๆๆ เจ็บขนาดนี้แต่ก็ยังฤทธิ์มากเกินไปแล้ว...อยากจะลิ้มรสความเจ็บปวดจริงๆ หรือยัง..”
“..อย่า...อย่านะ...ออกไป!!!..” ร่างกายของพักพิงสั่นระริกเมื่อขาข้างที่ตั้งใจจะถีบคนที่นั่งอยู่หลังจากหลุดจากโซ่แต่กลับถูกจับไว้อย่างง่ายดาย..ความเจ็บจุกที่หน้าท้องและแรงตบจนรู้สึกหัวหมุนทำให้ทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่คิด....
“ ฮ่าๆๆ ให้ออกเหรอได้แต่หลังจากกิจกรรมเราเสร็จสิ้นนะ..”
“...กูจะฆ่ามึง!!..กูจะฆ่ามึง!!..” เสียงใสก้องไปทั่วห้อง...สติของร่างสูงโปร่งที่เปลือยเปล่ากำลังหลุด ควบคุมตัวเองไม่ได้...เมื่อคนที่ทำหน้าหื่นกระหาย ยกขาเขาขึ้นพร้อมกับสอดหมอนรองที่สะโพก...ดิ้นจนสุดแรงเสียงโซ่ดังสนั่น...แต่ก็ไร้ผล...
“พร้อมนะครับ”
“..ไม่!!..ปล่อยกู!!...ฮึก ปล่อย!!!..” กรีดร้องเสียงหลงเมื่อสิ่งที่เห็นคืออีกคนเอาท่อนเนื้อที่ตอนนี้โป่งพองขึ้นเต็มที่มาจ่อที่ช่องทางด้านหลัง...สายตาส่งมาเยอะเย้ยในที...
“ไม่มีอารมณ์เลยเหรอ...ช่างเถอะนะ...ช่วยไม่ได้..”
“ โอ๊ย!!!เอาออกไป!!..” บิดตัวทั้งที่สะโพกและขาข้างที่เป็นอิสระถูกตรึงไว้แน่น...ท่อนเอ็นใหญ่โตค่อยๆ สอดแทรกเข้ามาในร่างกายที่ไร้การเร้าโรมอย่างไร้ความปราณี...
“ ฮ่าๆๆๆๆ รู้สึก ดีเ ป็น บ้า”
“อ๊ากก!!อึก!!! อ๊ากกกกกกกก!!” ความเจ็บที่ไม่เคยรับรู้มาก่อนมันทำให้พักพิงแทบจะหมดสติ...กลิ่นคาวเลือดคลุ้งไปทั่วห้อง...คนที่สอดใส่หยุดผ่อนลมหายใจเมื่อเข้าไปได้มิดหลังจากกระแทกตัวแค่สองสามครั้ง....ความสะใจและความปรารถนาวิ่งพร่านจนแทบจะทนไม่ไหว...แต่พอมองหน้าคนที่ร้องเสียงดังเพราะความเจ็บปวดก็ตั้งหยุดไว้ก่อน...มองใบหน้าสวยที่ขึ้นสีจัด....เหงื่อออกตามไรผมจนชุ่ม...ใบหน้าเหยเกเพราะความเจ็บปวด...กลิ่นเลือดคลุ้งขึ้นมาของเหลวสีแดงซึมออกเปื้อนผ้าปูสีขาวจนแดงฉาน....
“ พร้อมแล้วนะ”
“..อึก...” พักพิงหลับตาลง หยุดดิ้นรนขัดขืนเมื่อเห็นว่ามันไร้ประโยชน์...ในชีวิตไม่คิดว่าจะเจออย่างนี้ร่างโปร่งขยับตามแรงกระแทกของคนที่ความต้องการพุ่งสูงขึ้น...
“.............” ตาคมจ้องมองคนที่นอนหลับตานิ่งเหมือนคนที่ไร้วิญญาณหลังจากกรีดร้องเพราะความเจ็บ
ปวด...แค่ลมหายใจและแรงสะดุ้งทุกครั้งที่เขาโถมตัวเข้าไปเท่านั้นที่ทำให้รู้ว่ายังไม่ตาย.....แรงตอดรัดแทบทำให้เขาละลายไปกับร่างกายของอีกคน...ไม่มีเวลาพอที่จะเล้าโลมหรือหาความสุขอื่นนอกเหนือจากนี้
...หลับตาลงเช่นกัน เพราะตอนนี้ที่จ้องใบหน้าสวยที่นิ่งไปก็มีความรู้สึกอื่นเข้ามาแทนที่...สงสาร....ไม่อยากจะใจอ่อนกับคนที่ดูถูกเขาสารพัดอย่างคนใต้ร่างคนนี้...ปิดเปลือกตากัดริมฝีปากตัวเองเพราะความเสียวซ่านที่เกิดขึ้น..
“ อึก อืมม พิง..”
“.................”
“ พิง...อา..”
ผับๆๆๆ!!
“ อึก” กัดฟันเพราะความเจ็บปวดแม้อีกคนจะเล้าโลมที่ด้านหน้าแค่ไหนแต่ความเกลียดชังและขยะแขยงทำให้ไม่ได้รู้สึกมีอารมณ์ร่วมด้วยซักนิด..แต่คนที่กำลังหลงระเริงกับร่างกายเขากลับทำหน้าเหมือนสุขสมซะเต็มประดา...
...น่ารังเกียจ...สกปรก...ตอนนี้ความโสมมอดสูกำลังถ่ายทอดมาที่ร่างกายเขา....
“อ่าส์!! อืมมม..”
ร่างกายขาวนอนหายใจระรวยอยู่บนเตียง ส่วนคนที่พึ่งเสร็จกิจการมรมณ์กำลังใส่เสื้อผ้า...ก่อนจะจ้องมองคนที่ยังนอนนิ่งไม่ขยับทั้งที่เขาปลดโซ่ให้แล้วเพราะมั่นใจว่า พักพิง คนเก่งไม่มีทางลุกขึ้นมาทำร้ายเขาได้แน่...
“ใส่ซะ แล้วจะไปส่ง”
“..................” สเตฟานโยนชุดเขาให้อีกคนใส่เพราะกางเกงของพักพิงเขาเป็นคนตัดมันขาดกับมือ....คนที่นอนอยู่ลุกขึ้นมาอย่างว่าง่าย...มันประจวบเหมาะที่คอนโดเขาอยู่ใกล้ๆสวนที่คนหน้าสวยนี่ไปนั่งเล่น....เห็นตั้งแต่ขับรถเข้ามาจอดเลยเดินตามก็เท่านั้น...
“...ไม่ไหวก็บอกสิ...”
“..ปล่อย...” พักพิงสะบัดแขนตัวเองออกหลังจากที่อีกคนทำท่าจะเข้ามาประคอง ...เขาใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้วพยายามลุกขึ้นแต่เกิดขาอ่อนขึ้นมาเพราะเขาฝืนลุกขึ้นทั้งที่มันสั่นระริกและอ่อนแรง....
“...อย่าดื้อน่า...”
ปึก!!
“...เอาอีกไหม...” สเตฟานถามคนที่เหวี่ยงหมัดใส่หน้าเขา...ใบหน้าขาวขึ้นสีเพราะความโกรธ...ทั้งที่เขาเห็นน้ำตาของคนตรงหน้าคลอหน่วยตาเหมือนจะร้องไห้ แต่สุดท้ายก็ไม่เห็น....เป็นคนที่เข้มแข็งเกินไป...เกินกว่าที่จะควบคุมได้...แต่ยังไงซะมันก็ไม่สุดความสามารถเขาแน่นอน..
ปึก!!
“...ถ้าพอใจแล้วก็ตามออกมา...เดินตามดี ๆจะพาไปส่ง...อย่าตุกติกไม่งั้นผมจะไปเล่นอย่างนี้กับคุณหนูซอของคุณด้วย...รวมถึงคลิปที่ผมอัดไว้จะถูกโพตส์ลงโชเชี่ยว...”
“ ไอ้เลววว!!!”
“.................” ไม่ฟังเสียงคนที่เกี้ยวกราด...เขาเดินออกจากห้องหลังจากที่ถูกหมัดหนัก ๆของอีกคนไปสองหมัด ไม่ถึงกับเจ็บจนทนไม่ไหวแต่คนที่เรียนการต่อสู้มาแรงมักจะมากกว่าคนธรรมดาแน่นอน...แต่ถึงพักพิงจะเรียนมาแค่ไหนก็คงจะสู้เขาที่เริ่มเรียนตั้งแต่ 5 ขวบไม่ได้แน่ๆ
รถวิ่งมาจอดเยื้องหน้าบ้านของตระกูลราชสีห์เกริกไกร คนที่นั่งคู่คนขับขยับตัวจะออกจากรถ...ทั้งที่ใบหน้าบอบช้ำและเจ็บระบมไปทั้งตัว...พักพิงกัดฟันอย่างอดกลั้นต่อความเจ็บปวด...มันจะซักเท่าไหร่กัน...
“เดี๋ยว!”
“................”
“เปล่า..ก็แค่จะบอกว่า..ถ้าไม่อยากตายเร็วก็หายาทายากินซะ..ลงไปได้แล้ว..”
“....สเตฟาน..คุณจำเอาไว้...ว่าผมจะฆ่าคุณทันทีที่มีโอกาส..”
ประตูรถถูกกระแทกปิดเสียงดังก่อนจะพยุงตัวเองเดินไปที่ประตูรั้ว...การ์ดที่เห็นเขาตั้งแต่ตอนแรกวิ่งเข้ามาช่วยประคองก่อนจะมองรถที่เคลื่อนออกไปช้าๆ ร่างกายบอบช้ำถูกประคองเข้าบ้าน...ดูทุกคนจะตกใจที่เห็นสภาพของคุณพักพิงคนที่เปรียบเสมือนน้องชายของเจ้าสัวน้อยสะบักสะบอมขนาดนี้...
“บอกฉันสิว่าใครทำ”
“........................” ร่างที่นอนอยู่ยังนิ่ง ...ไม่ตอบคำถามเจ้าสัวแห่งพยัคฆราชที่เข้ามาดูอาการหลังจากมีคนไปรายงาน....ทุกคนแค่เข้าใจว่าเขาถูกซ้อมแต่ก็ดีแล้วที่รู้แค่นั้น...
“ ถ้าเธอพร้อม ฉันจะรอฟังว่าเกิดอะไรขึ้น...เธอคือคนของพยัคฆราช เป็นเหมือนลูกชายฉันอีกคน...ไม่มีทาง
ให้ใครมาทำร้ายได้แบบนี้!” เสียงเจ้าสัวฉุนเฉียวขึ้นจนเขาลอบกลืนน้ำลาย....ก่อนจะมองร่างสูงของคนมีอายุที่
กำลังจะเดินออกจากห้อง...
“ ผมจะฆ่ามันเองครับเจ้าสัว”