Part 22 ความสุขมักไม่ยั่งยืน
“ ก็ข่าวออกจะแรงว่าพี่ไปเดินหว่านเสน่ห์ให้อาจารย์ในมหาลัยฯ จนขวางทางรถ ไม่จริงเหรอคะ”
“ซูกัส!!”ทุกคนจ้องมาที่ผมที่ตอนนี้กำลังอึ้งกับคำพูดของน้องสาวต่างพ่อต่างแม่...พี่โอขมวดคิ้วก่อนจะหันมาเลิกคิ้วใส่ผมเหมือนขอคำอธิบายว่าเรื่องมันเป็นมายังไง...
...สายตาซูกัสจ้องมาอย่างสะใจ ที่ทุกคนทำเหมือนกับตกใจสิ่งที่ได้ยิน...ผมยักไหล่ใส่น้องสาวคนละขั้ว...เหมือนกับไม่ได้เดือดร้อนอะไรกับคำบอกเล่านั่น...ก่อนจะจ้องตาดวงตาคู่สวยอย่างค้นหาความจริง...ว่าต้องการอะไรกันแน่...ในฐานะที่ผมเป็นราชสีห์เกริกไกรอย่างเต็มตัว ไม่มีทางจะหวั่นไหวกับเรื่องกะโหลกกะลาที่ลูกนอกสายเลือดอย่างซูกัสนำมาเล่าแน่ ๆ
“เรื่องที่เธอไม่เห็นกับตา ทำไมถึงใช้ถ้อยคำเหมือนไม่ได้เรียนหนังสืออย่างนั้นล่ะซูกัส”
“...................” ....อึ้งกันอีกรอบกับสิ่งที่ผมพูด...อยากจะบอกว่าทุกคนควรจะทำใจให้ชินกับการเปลี่ยนแปลงของผมบ้าง...
...จะน่ารักแค่กับคนที่ผมรักและรักผมเท่านั้น....
“ พี่ซอ ทำ ไมถึงพูดซูกัสอย่างนั้นล่ะคะ ซูกัสแค่ได้ยินข่าวมา...พี่โซดูสิคะ..พี่โอดูสิคะ...”
“....สิ่งที่แค่ได้ยินมา พูดได้ขนาดนี้เลยเหรอ...อยากฟังความจริงกันไหมครับ...”
“ ครับ / ฟังครับ” ผมเลิกคิ้วพร้อมกับพยักหน้ารับรู้ หลังจากที่ชี้นิ้วไล่ถามพวกที่นั่งทานข้าวกันอยู่...ทุกคนพยักรับและพูดออกมาพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย...ก่อนจะเลิกกินข้าวและตั้งใจฟังผมอยู่...
“..พี่โอ ซออยากกินกุ้งก่อน...”
“..นี่ครับ พี่แกะให้..”
“..คุณพ่อครับ..นี่ครับซอตักให้...”
“ ออ! ขอบใจมากลูก อร่อยมากเลย..”
“ พี่โซ...ซออยากกินไวน์ได้ไหมอ่ะครับ..”
“..ไม่เป็นไรมั้งเนอะ ซัน ไซน์...”
“ ไม่เป็นไรครับ / ไม่เป็นไรหรอกพี่”
ส่งยิ้มที่คิดว่าน่ารักที่สุดให้บรรดาคนที่เอาใจผมทุกอย่าง...ตั้งแต่พี่โอรีบตักกุ้งมาแกะให้ คุณพ่อรีบทานหมูทอดที่ผมตักให้แล้วบอกว่าอร่อย..พี่ไซ พี่ไซน์ และพี่ซัน ที่ยอมให้ผมดื่มไวน์ พร้อมกับบอกให้คนรินมาให้...แต่พอสุดท้ายเสร็จทุกอย่างทุกคนก็นั่งนิ่งรอฟังเรื่องที่ผมเล่า...หันไปส่งยิ้มให้ซูกัส...ยิ้มที่เหมือนจะเอ็นดู แต่ผมรู้ว่าซูกัสมองออก มามันเต็มไปด้วยชัยชนะนิด ๆ....
...เห็นรึยัง...ว่าทุกคนจะเชื่อฟังพี่มากกว่าเธอ...
“เรื่องวันนั้นก็คือ ซอเดินเข้าไปในมหาลัยฯ...แล้ว...”
“ ไอ้คนที่จะชนซอมันเป็นใครบอกพี่มา!!”
“ ..........................”
“ อือ เล่าต่อสิพี่อยากฟัง..” คนเลือดร้อนอย่างพี่โซพูดโพล่งออกมา ทำให้ผมต้องหันไปมองก่อนจะทำนหน้างอน ๆ ใส่ที่มา
ขัดจังหวะ จนพี่โซต้องรีบแก้คำ...
“ ซอกำลังจะข้ามถนนเพื่อไปคณะ ทั้งที่มองซ้ายขวาแล้วว่าไม่มีรถ แต่จู่ ๆ รถก็วิ่งมาจะชน… พอดีที่อาจารย์ทัศ เพื่อนพี่โซนั่นแหละมาช่วยดึงแขนซอออกมา...ซึ่งไม่ได้ตั้งใจไปอ่อย ไปเดินหว่านเสน่ห์อะไรทั้งนั้น...และซอก็ไม่รู้ด้วยว่าอาจารย์ทัศมาตอนไหน...”
“ แต่พี่ซอก็ไม่ยอมขอโทษที่ไปเดินตัดหน้ารถ!..”
“...ใครอ่ะซอ....” พี่ไซน์ถามผมหลังจากที่หันไปมองหน้าน้องสาวตัวเองที่ดูจะเสียมารยาท...ตอนนี้ทุกคนพยักหน้าเข้าใจ แต่พอพี่ไซน์ถามก็เริ่มจะตั้งใจฟังกันอีก...ส่งความห่วงใยฟุ้งกระจายว่อนไปหมด...อุ่นใจดีจัง...ผมยิ้มก่อนจะสูดลมหายใจเตรียมเล่า
ต่อ...
“...ถามซูกัสสิครับ เธอรู้ เพราะตอนเย็นของวันนั้นซอยังเห็นเธอขึ้นรถไปกับผู้หญิงคนนั้นอยู่เลย….อือ....แต่ซอจะบอกให้ก็ได้...ได้ยินแล้วจะตกใจ เธอคือลูกสาวของอธิการบดีของที่นั่น...นอกจากจะไม่ขอโทษซอแล้ว เธอยังมาต่อว่าซอว่าเดินอ่อย
เหมือนที่ซูกัสพูด...ซูกัสคงไม่ผิดหรอกครับที่จะเชื่อเพื่อนตัวเอง...ผิดแค่...ไม่ค่อยใช้สมองแค่นั้นเอง...”
“พี่ซอ!!! ทำไมถึงว่าซูกัสแบบนั้น!! หรือที่คนอื่นเขาว่ามันไม่จริง!!”
“ ซูกัส!!!”
“ พี่โซ!! พี่ก็ดูน้องพี่สิ มาว่าซูกัสไม่ใช้สมองได้ยังไง!!”
“......................” ผมไม่สนใจซูกัสที่กรีดร้องหลังจากที่ถูกพี่โซตวาดใส่....จิ้มฝรั่งเข้าปากพี่โอที่อ้าปากงับโดยดีทั้งที่ยังเคี้ยวข้าวอยู่เต็มปาก...เวลาสู้คนแล้วชนะ มันรู้สึกดีอย่างนี้นี่เอง....
“ ....ร้าย จริง ๆ.... “
“...ว่าซอ...”
“... ไม่ได้ว่าซักหน่อย ชม.....” หัวเราะคิกคักกับพี่โอสองคน ทำให้ซูกัสยิ่งกระฟัดกระเฟียด....ช่างเถอะผมไม่สนใจ...
“ซอ พี่อิ่มแล้ว อยากไปเดินเล่นจัง เห็นสวนสวยๆ หน้าบ้านด้วย”
“ครับพี่ไซน์ ซอพาไป” ผมลุกขึ้นหลังจากดื่มน้ำเสร็จแล้ว...เพราะดูเหมือนว่าพี่ไซน์มีเรื่องอยากคุย...บรรยากาศบนโต๊ะเริ่มหาย
จากตึงเครียดเพราะพี่โซ กับพี่ซัน ชวนคุณพ่อกับพี่โอคุยต่อ ไม่ได้สนใจซูกัสอีก...
เดินกอดเอวพี่ไซน์ออกมาหน้าบ้านก่อนจะพาไปนั่งที่โต๊ะสีขาวในสวน...ผมแอบถือแก้วน้ำกระเจี๊ยบออกมาด้วย เลยได้นั่งจิบ...เสียงนกที่มาทำรังในสวนส่งเสียงร้องทำให้มันธรรมชาติขึ้นไปอีก...
“ ซอดูเข้มแข็งขึ้นมากเลย “
“..แต่บางครั้งซอก็ใจสั่นเหมือนกัน..มันดีไหมครับพี่ไซน์ที่ซอจะเปลี่ยนแปลงตัวเองแบบนี้..” ส่งยิ้มให้พี่ไซน์ที่มองผมอยู่...พวก
พี่ ๆ จะคิดว่ามันดีรึเปล่า หรือไม่ชอบใจที่ผมไปว่าน้องอย่างนั้น...
“...ทำไมต้องถามคนอื่นล่ะ...ในเมื่อสิ่งที่ซอทำซอคิดว่าดีแล้ว...รู้ไหม พวกพี่กังวลมากแค่ไหนที่ซอต้องมาอยู่ที่นี่...กลัวสารพัดว่าจะทันคนไหม จะสู้ใครได้รึเปล่า...แม้กระทั่งไปเรียน..ซอจะทำได้ไหม...”
“......................”
“ แต่พอเห็นวันนี้...พี่มั่นใจ...ว่าซอทำได้ทุกอย่าง...รวมถึงเจ้าสัวกับผู้นำพยัคฆราช ที่ดูจะเอ็นดูซอมาก...มันทำให้พวกพี่โล่งใจ...แค่สู้คนที่ทำร้ายเราเท่าที่พอทำได้..อย่าก้าวร้าว...อย่าอวดเก่ง....รักคนที่รักเรา...เคารพคนที่ให้เกียรติเรา..เข้าใจไหม..”
“..ครับพี่ไซน์ ซอรับทราบ..ไม่ต้องห่วงซอครับ ถ้ามีอะไรที่เหนือบ่ากว่าแรง ซอจะเรียกบริการพี่ ๆ ทุกคนเลย..”
“..ได้เลยทุกเมื่อ...งั้นเข้าบ้านกันเถอะครับ..”
“ครับผม” ผมกับพี่ไซน์เดินช้า ๆ เพื่อกลับเข้าบ้าน บรรยากาศตอนเที่ยงๆ อย่างนี้แดดแรงพอสมควร แต่เพราะลมเย็นๆ ที่พัดมาทำให้สดชื่นขึ้น
..... มีความสุขจัง...ผมมีคนที่รักผมเยอะแยะเต็มไปหมด...และจะรักษาพวกเขาไว้ตราบเท่าที่ผมยังมีชีวิตอยู่...
“พี่พิง จะไปไหนครับ”
“..พี่จะไปธุระนิดหน่อย...วันนี้มีพี่ ๆตั้งหลายคน อ้อนให้เต็มที่เลยนะ...” เดินมาถึงหน้าบ้านก็เห็นพี่พิงกำลังเดินออกมาพอดี...หลังจากที่รับโทรศัพท์ก็ไม่เห็นว่าไปไหน...ทำไมสีหน้าพี่พิงดูเคร่งเครียดอย่างนั้น...คิ้วเรียวขมวดหากันอย่างครุ่นคิด...
“พี่พิงจะไปไหน ให้ซอไปเป็นเพื่อนไหม..ซอเป็นห่วง”
“ จะไปหาเพื่อนครับ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก..” รู้สึกกังวล...เลยเดินไปเกาะแขนพี่พิงไว้...คงไม่มีเรื่องอะไรหรอกนะถึงได้รีบออกไป...
“ ถ้ามีอะไรรีบโทรหาซอนะ”
“ ครับพี่รู้...ไปนะ..” ผมยู่จมูกเพราะมือเรียวนั่นยื่นมาจับ...พยักหน้ารับรู้....ก่อนจะปล่อยแขนพี่พิงให้เป็นอิสระ คนที่กำลังจะไปโค้งหัวให้พี่ไซน์แล้วเดินไปที่รถตัวเอง...ทำไมผมถึงรู้สึกเป็นห่วงอย่างบอกไม่ถูก...
“ ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ “
“ ซอเป็นห่วงพี่พิงครับ ช่วงนี้มีเรื่องนิดหน่อย..”
“ อย่าห่วงคนอื่น จนลืมห่วงตัวเอง เข้าบ้านเถอะ”
พี่ไซน์จูงมือผมเข้าบ้าน...ตอนนี้ทุกคนรวมตัวกันที่ห้องนั่งเล่นแล้ว...ซูกัสชายตามองผมหลังจากที่เจ้าตัวกำลังแกะส้มยื่นเข้าปากพี่โอ...ก่อนจะยิ้มหวานและรีบรบเร้าให้พี่โอรับส้มเข้าปาก ท่ามกลางสายของพี่ ๆ ที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าไม่พอใจนิสัยของน้องสาว...
“ ตรงนี้ว่าง...อยากกินส้มจัง..” ทำหน้ายู่ พร้อมกับส่งสายตาอ้อน ๆ ไปให้คนที่นั่งตรงข้ามกัน...ผมแอบเห็นคุณพ่ออมยิ้มด้วย...
“ .......นี่ครับ.......” พี่โอเลิกคิ้วแล้วรีบลุกขึ้นจากที่นั่งข้างซูกัส แล้วมานั่งลงข้างผม...ก่อนจะยื่นส้มที่ซูกัสแกะให้ตัวเองให้ผมทาน...คนที่ถูกทิ้งทำสีหน้าหงุดหงิดเต็มที่...ช่างสิ...ไม่เห็นจะน่าสนใจเธอตรงไหน...
“ นี่ก็มานานแล้ว แล้วที่สำคัญก็เห็นแล้วว่าน้องชายผมมีความสุขแค่ไหน...แค่อยากมาเห็นกับตาเท่านั้น..ขอบคุณเจ้าสัวกับคุณโอมาก ๆ พวกผมวางใจได้แล้ว...”
“ ไม่ต้องห่วง ซอก็เหมือนลูกหลานฉัน รวมถึงพวกเธอด้วย...ว่าง ๆก็แวะมาอีก...ฉันชอบคุยกับพวกเธอ..”
“ ครับเจ้าสัว “
“..ซอจะไปส่ง..” ผมพูดเบา ๆ หลังจากที่ลุกขึ้นมาเกาะแขนพี่โซ...ทุกคนลุกขึ้นแล้วเดินออกมาหน้าบ้าน...ก่อนจะร่ำลากันอีกรอบ...
...ความสุขในวันนี้มันเหมือนฝันจริง ๆ อยากจะมีช่วงเวลาอย่างนี้อีกนานๆ .... ถ้าคุณแม่รู้และเห็นเหตุการณ์ในวันนี้...ท่านจะต้องมีความสุขเหมือนอย่างที่ผมเป็นอยู่แน่ ๆ อิ่มเอม และ...อิ่มใจ...
...................................
..................................
ปิดประตูลงเบา ๆ หลังจากที่ตามพี่พิงเข้าไปในห้อง....แต่เพราะอยากให้อีกคนได้พักผ่อนเลยยอมที่จะออกมาทั้งที่ยังห่วงอยู่...พวกพี่ ๆ กลับกันหมดแล้ว...แต่พี่พิงก็ยังไม่กลับมาซักที เลยไปยืน ๆ เล่นรออยู่หน้าบ้าน... ใบหน้าสวยที่ก้าวลงจากรถดูซีดและดูเหนื่อย ๆ จึงตามขึ้นห้องด้วย...มีคำถามมากมายที่อยากจะถามว่าเป็นรึเปล่า แต่ก็ไม่กล้า...สุดท้ายก็ทนความเป็นห่วงในหัวรบเร้าไม่ไหว เมื่อเห็นคราบเลือดที่ติดอยู่กับนิ้วมือที่ยกมือลูบหัวผม...จนต้อง...ร้องไห้....เพราะคิดว่าตัวเองช่วยเหลืออะไรพี่พิงไม่ได้เลย...
...เป็นอะไร...ใครทำอะไรมา....ผมไม่อยากจะเชื่อที่พี่พิงว่าเป็นเลือดสุนัข..ที่เจ้าตัวเข้าไปช่วยเพราะถูกรถชน...แต่ในเมื่อพี่พิงไม่อยากเล่า ผมก็ไม่ควรเซ้าซี้ ได้แต่ปล่อยให้พี่ชายอยู่คนเดียว...
“ เป็นอะไร มายืนให้ยุงกัดตรงนี้”
“..พี่โอ...ซอเป็นห่วงพี่พิงครับ...”
“ มีอะไรรึเปล่า...” พี่โอเดินมายืนข้างผมที่กำลังจ้องปลาในบ่ออยู่...กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของอาฟเตอร์เชฟจากตัวผู้ชายคนนี้ทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้นอย่างประหลาด...
“ เปล่าครับ พี่พิงเหมือนจะไม่สบายใจ...ตอนกลับมา ซอแอบเห็นมีเลือดติดที่มือพี่พิงด้วย..”
“..งั้นเหรอ...”
“..ทำไมพี่โอ ทำเหมือนไม่ห่วงพี่พิงเลยล่ะครับ..” เงยหน้ามองคนที่ยังทำสีหน้านิ่งๆ เหมือนเดิมแบบไม่รู้สึกอะไรมากมาย...ทั้งที่สำหรับผมมันอาจจะเป็นเรื่องร้ายแรงที่พี่พิงไม่ยอมบอกพวกเราก็ได้...
“...เพราะพี่รู้จักพิงดี...ว่าเขาเอาตัวรอดได้...”
“..ซอรู้...แต่ก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี...”
“..ซอ...บางครั้ง..เราก็ไม่สามารถที่จะรู้ดีไปกว่าเจ้าตัว ว่าคิดอะไรอยู่..อย่ากังวลหรือคิดแทนว่าเขาจะทนไม่ได้...พิงผ่านอะไรมามากกว่าที่ซอรู้..ทำใจให้สบาย...ถึงเวลาที่เขาถึงทางตัน หรือกำลังจะทนไม่ไหว...เมื่อนั้นเราค่อยยื่นมือเข้าไป พี่รู้ว่าพิงต้องการอย่างนั้น...อย่างน้อย ๆ เขาก็ไม่อยากให้ซอไปเป็นกังวลหรือเป็นห่วงเขามากจนเกินไป...เพราะมันจะทำให้ความสุขที่ซอมีหาย
ไปเพราะเขา...ซึ่งพิงไม่ต้องการอย่างนั้น..”
“......................” หันไปย่นจมูกใส่คนพูด...ก็เข้าใจอยู่หรอกกับสิ่งที่พี่โอพูด...แต่ก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี...ก็คงจะถูกว่าถึงจะเป็นห่วงยังไง สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือห่วงอยู่ห่าง ๆ และคอยช่วยเหลือเวลาที่พี่พิงต้องการความช่วยเหลือเท่านั้น...
“ อย่าคิดมากได้ไหม...เดี๋ยวแก่..”
“ มีคนแก่กว่าซอเหอะ..”
“ อ้อ เหรอ...ระวังจะโดนคนแก่กินเหอะ...”
“ ไม่มีทาง!...ไม่คุยกับพี่โอแล้ว ไปหาคุณพ่อดีกว่า”
“ ซะงั้น ไปด้วยสิ เด็กชายซอ..”
“..ไม่ต้องตาม ผู้เฒ่าโอ!..” เดินหนีคนที่เดินตามมาติด ๆ รู้สึกเขินเมื่อพูดถึงเรื่องถูกกิน...ก็สายตาที่มาพร้อมคำพูดนั่นมันบ่งบอกชัดเจนว่าคืออะไร...
...ผมไม่ใช่คนใจง่ายซักหน่อย...อย่าป้อซะให้ยาก...ชิ!...
*********************************************
วันปกติก็กลับมาอีกครั้ง...ผมกับพี่พิงลงจากรถที่มาจอดหน้าคณะ...ก่อนจะเดินไปนั่งที่ม้าหินอ่อนแถวนั้น เพื่อกินขนมที่ซื้อมากัน...มาก่อนเวลาก็มีเวลาเตรียมตัวทำอะไรได้มากมาย และไม่ต้องรีบร้อนอะไรด้วย..
“ ชิ้นนี้นิ่มมากเลย”
“ ทานเลยครับ ทานเยอะๆ จะได้อ้วน ๆ”
“ ไม่อ้วนหรอก ซอทานเก่งมากเลยแต่ก็ไม่อ้วน ทั้งที่อยากจะขึ้นกว่านี้อีกซักนิด”
พูดคุยกันไปเรื่อย ๆ เพื่อรอเวลาเรียน...สีหน้าพี่พิงดีขึ้นแล้ว... ทำให้ผมสบายใจขึ้นเหมือนกัน...วันนี้มีเรียนแค่สองวิชาติดกันในช่วงเช้าทำให้ช่วงบ่ายพวกผมว่าง ผมกับพี่พิงว่าจะไปซื้อหนังสือเพิ่มและเดินซื้อของกันที่ห้าง...
“ มีเรื่องจะคุยด้วย..”
“...มีอะไร...” หันมองตามเสียงทุ้มที่ได้ยิน...ก่อนจะเจอปุญไพรคชสารคนพี่ยืนอยู่ด้านหลังผม ...สีหน้าดูเคร่งขรึมกว่าปกติ...พี่
พิงถามขึ้นทั้งที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง...
“ กลัวรึไง “
“ ตอนบ่ายเจอกันที่หน้าตึกวิศวะ...ถ้าไม่มีอะไรสำคัญ...ผมจะฆ่าคุณ..”
“...................” พี่ฟอยของสาว ๆ ไม่พูดอะไร ก่อนจะหันตัวแล้วเดินออกไปอย่างเงียบๆ อดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แล้วจะคุยกับพี่พิงเรื่องอะไร...
“..ไม่มีอะไรหรอก...พอดีเพื่อนมันมีปัญหากับพี่นิดหน่อย..”
“ ครับ...ให้ซอไปเป็นเพื่อนไหม...”
“..ไม่ต้องหรอก รอพี่อยู่แถวนี้แหละ เดี๋ยวพี่กลับมา...แต่ตอนนี้ขึ้นเรียนก่อนเถอะ...” ผมพยักหน้ากับคนที่ยื่นมือมาขยี้หัว
ผม...ยิ้มหวานให้คนคนที่เลื่อนมือมาเช็ดมุมปากที่มีเศษขนมเลอะอยู่ออกให้...
...ทุกอย่างก็คงต้องดำเนินไปในทางของใครของมัน...ไม่มีใครห้ามและ....กำหนดให้ใครได้...
หลังจากเรียนเสร็จทั้งสองวิชาพี่พิงก็เดินไปตามนัด ส่วนผมก็นั่งรอที่เดิมที่นั่งก่อนขึ้นเรียน หยิบหนังสือเรียนขึ้นมาทบทวนเรื่องที่เรียนไปพลาง ๆ ทั้งที่ความจริงแล้วอยากเดินตามพี่พิงไปใจจะขาด...แต่คงจะไม่ดี พิ่พิงรู้คงโกรธมากแน่ๆ
ตึ๊ด ๆ
“....................”
ตึ๊ดๆ
“....................”
ตื้ดๆ
“....................” ถอนหายใจก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา...คงจะเป็นพี่โออีกล่ะสิ...ส่งมาแบบติด ๆ กันแบบนี้คงไม่มีใคร...ข้อความศูนย์คงไม่ตื้อ 3 ฉบับขนาดนี้...หยิบออกมาก่อนจะเปิดอ่าน...
// ซูกัสอยากเจอพี่ซอ ขอโทษกับสิ่งที่ซูกัสทำ เจอกันร้านไอศกรีมตอนนี้เลยได้ไหมคะ ซูกัสมีเรียนต่อ //
“..ซูกัส..” ผมพึมพำกับหน้าจอโทรศัพท์...ก่อนจะชั่งใจว่าจะเอายังไงดี ชะเง้อคอมองพี่พิงก็ยังไม่มีวี่แวว...ส่งข้อความไปละกันไม่อยากโทรไปกวน... ว่าแล้วก็กดข้อความส่งหาพี่พิงว่าจะออกไปรอหน้ามอ ตรงร้านไอศกรีม...
ผมเดินออกมาจากมหาลัยฯ ก่อนจะตรงไปที่ร้านไอศกรีม มองจากตรงนี้แทนที่จะเห็นซูกัสนั่งอยู่ในร้านเธอกลับยืนรอผมอยู่ข้างๆ ร้าน...จะว่าคนเยอะก็ไม่ใช่ เพราะตอนนี้แทบจะไม่มีใครเลย..
“พี่ซอคะอยู่นี่ค่ะ”
“ซูกัส ทำไมไม่เข้าไปข้างในล่ะ” ผมเดินเข้าไปหาน้องสาวที่ยืนโบกมืออยู่หน้าร้าน...รอยยิ้มสดใสนั่นดูน่ารักจนหนุ่มๆ หัน
มอง...ถ้าเป็นความจริงอย่างที่เธอส่งข้อความไปบอกผม...ผมกำลังจะได้น้องสาวที่น่ารักกลับมาสินะ...
“ซูกัสรีบน่ะค่ะ พี่ซอเรียนเสร็จแล้วเหรอคะ”
“อืม พี่เรียนเสร็จแล้ว มีอะไรรึเปล่า..” ซูกัสยังอยู่ในชุดนักศึกษาอยู่ เธอเรียนปีหนึ่งที่มหาลัยชื่อดังอีกที่...ซูกัสมองผมแต่ไม่พูดอะไร...ก่อนจะลากมือผมไปยืนข้างๆ ร้านไอศกรีมที่เป็นที่ลับตาคน...
“..คือพี่ซอคะ...ซูกัสขอโทษ..”
“...พี่ไม่ได้ โกรธ...ซู..กัส...” ผมพูดอึกอักเมื่อจู่ ๆซูกัสก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋าก่อนจะหยิบบางอย่างออกมา...สิ่งที่ทำให้ผมนิ่งจนไม่กล้าขยับ...เป็นจังหวะเดียวกับที่มีรถมาจอดเทียบ..และประตูรถด้านที่ผมยืนอยู่เปิดออก...
“ ซูกัสขอโทษ ที่ทำให้พี่ซอหลงกล...ขึ้นรถไปกับพวกเขาเถอะค่ะ..”
“..ทำไม เธอทำอย่างนี้!!..”
“ อย่าตุกติกไม่งั้นซูกัสยิง!!” กำมือแน่นก่อนจะมองวัตถุสีดำที่อยู่ในมือของซูกัส...ทำไมเธอถึงกล้าทำอย่างนี้...ขยับตัวน้อย ๆ เมื่อชายสองคนออกจากรถแล้วมาประกบผมไว้...
“ เชิญครับ “
“...เธอมันเลวได้พ่อจริงๆ ซูกัส...เลวแบบไม่มีคำบรรยาย!!..”
“เข้าไป!!”
เพราะแรงฉุดที่แขนและปืนที่จี้อยู่ ทำให้ผมต้องยอมที่จะเข้าไปนั่งในรถ ก่อนผู้ชายสองคนจะเข้ามานั่งประกบ...รถเคลื่อนออกไปโดยมีซูกัสที่ไม่ได้ขึ้นมาด้วยมองอย่างสะใจ...
“ จะพาผมไปไหน “
“ เดี๋ยวก็ทราบครับ “ หนึ่งในนั้นตอบอย่างนิ่งๆ ผมกลืนน้ำลายอย่างลำบากก่อนจะขยับตัวเพื่อทำอะไรบางอย่าง....แต่สุดท้ายก็ถูกคว้าข้อมือไว้ โทรศัพท์ถูกคนที่นั่งขนาบเอาไปเก็บไว้...โดยที่ผมไม่มีสิทธิพูดหรือทำอะไร...
...อยากรู้เหมือนกันว่าจะทำอะไรกัน...จะจับผมไปทำอะไร คงจะเป็นคนของเจ้าสัวศรันย์สินะ...ถ้าจะฆ่ากันจริงๆ คงไม่จำเป็นต้องจับผมมาอย่างนี้..สิ่งที่ทำได้คือ..ผมต้องตั้งสติ...
ของทุกอย่างถูกบังคับให้ทิ้งไว้ในรถ ...ถูกพาลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในคอนโดแห่งหนึ่งก่อนจะพาขึ้นลิฟท์ไปชั้นสี่...รู้สึกว่าตัวเองสงบจนเกินไป....อาการตื่นกลัวพยายามกลืนลึกลงไป...เพราะถึงผมจะตะโกนหรือโวยวาย...ก็คงไม่มีใครช่วยผมได้แน่ ๆ เพราะภายในคอนโดเงียบจนเหมือนไม่มีคนอยู่....และ....เพียงเพราะอยากรู้ว่าใครกันแน่ที่ทำกับผมอย่างนี้...ยอมที่จะเดินออกจากลิฟท์แล้วเดินเข้าห้องที่ไม่ติดป้ายห้องเหมือนห้องอื่น...
“ยินดีต้อนรับค่ะ คุณน้องซอ”
“..นรินดา...”
“..ใช่ค่ะพี่เอง...” จ้องมองหญิงสาวที่ใส่ชุดนักศึกษา...ตอนนี้เธอนั่งมองผมอยู่บนโซฟา...เป็นเธอจริงๆ ด้วย...อย่าบอกว่าแค้นเรื่องเมื่อวันนั้นถึงขนาดต้องทำอย่างนี้...
กริ๊ก!
“ ต้องการอะไรครับรุ่นพี่!” พูดออกไปพร้อมกับหรี่ตามองคนที่นั่งจิบน้ำส้มอย่างสบายใจ...ข้อมือผมถูกพันธนาการด้วยกุญแจมือสีเงิน ความเย็นของมันสัมผัสกับผิวจนรู้สึกขนลุก....ก่อนที่จะถูกบังคับให้นั่งลงกับพื้นตรงหน้าของผู้หญิงคนนั้น...
“ แปลกจังนะคะ พี่คิดว่าจะได้เห็นสีหน้าตื่นกลัวตกใจ ไร้สติอย่างที่ซูกัสบอก...แต่กลับได้เห็นใบหน้านิ่ง ๆ”
“.......................”
“ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พี่แค่รู้สึกหมั่นไส้น้องมาก ๆ แค่นั้นเอง”
“ จะฆ่าไหมครับ “
“ ...ไม่หรอก...ในฐานะที่นิ่งจนพี่รู้สึกเกลียดน้องมากขึ้น...จะให้ดูอะไรดี ๆ ดีไหม...มันดีกว่าฆ่าน้องเป็นไหน ๆ...”
“.....................” หนึ่งในสองคนที่คุมตัวผมเข้ามาเดินไปหยิบโทรศัพท์ของผู้หญิงที่นั่งอยู่ ก่อนจะเดินมาหาผม...แล้วยื่นโทรศัพท์มาไว้ตรงหน้า...ภาพที่เห็นทำให้ตาผมเบิกกว้าง...แต่ก็ยังพยายามควบคุมตัวเองแล้วเงยหน้ามองคนที่ทำหน้าสะใจที่
เห็นผมนิ่งไป...
“....หน้าซีดเลยเหรอ...มีเด็ดกว่านั้นอีกนะ...นนท์เปิดให้คุณซอฟังซิ...แล้วมานี่...”
ติ๊ด!.
..ชายหนุ่ร่างสูงที่คุมตัวผมพากดปุ่มในโทรศัพท์แล้วให้อีกคนถือไว้ ส่วนตัวเองก็ไปนั่งนิ่ง ๆ ข้างนายหญิง ปล่อยให้ผู้หญิงที่ดูกร้านโลกคนนั้นลูบไว้ตามแผ่นอก....แต่สิ่งที่ดังขึ้นมามันกลับเรียกร้องความสนใจของผมมากกว่า...
/...พี่โอเมื่อไหร่จะบอกความจริงคนอื่นเรื่องความสัมพันธ์ของเราคะ.../
/..พร้อมเสมอครับ.../
/...ทำอย่างนี้พี่ซอก็เสียใจแย่สิคะ../
/...ไม่แคร์ครับ..../
/........................../
ร่างกายผมชาไปหมด...ภาพแรกที่เห็นมันก็ทำให้หัวใจผมเต้นแรงขึ้น....แต่สิ่งที่ทำให้หัวใจผมเกือบหยุดเต้นคือคลิปที่เห็นเป็นภาพเคลื่อนไหวของรูปนิ่งที่เห็นตอนแรก...ภาพผู้ชายร่างสูงกับหญิงสาวหุ่นเพรียว.....กอดก่ายกันอยู่ในห้องที่ผมจำได้แม่นว่านั้นคือห้องใคร.....หญิงสาวกอดพร้อมกับซบหน้าลงกับอกกว้างของชายหนุ่มที่หลังชิดกำแพง.....ดวงตาที่ทอดมองกันมันดูมีความหมาย....ภาพเคลื่อนไหวที่ทั้งสองคนยืน..อยู่ท่าเดิมอย่างนั้น...ก่อนจะมีเสียงพูดออกมา...ซึ่งสิ่งที่ทำให้ผมหมดแรงและหัวใจเหมือนถูกกระชากคือ..ผมจำได้แม่นว่าเสียงนั้นเป็นเสียงใคร....และสิ่งสุดท้ายที่ทำให้ตาผมพร่าเบลอเพราะน้ำตาที่เอ่อคลอและหัวใจมันตีบตันเหมือนไม่มีเลือดมาหล่อเลี้ยง...คือ..
...ซูกัสกับพี่โอ....กำลังจูบกัน....
***
![:o12:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/onion072.gif)
ขอโทษที่มาช้าค่ะ งานเยอะพอสมควร สมองมึนตึ๊บไปหมด...ขอบคุณหลาย ๆ คนที่ยังรออ่านและเป็นกำลังใจให้กัน...รอตอนต่อไปนะคะ...เป็นกำลังใจให้น้องซอด้วยจ้า