บทที่ 43 Triad of Unicorns
“Fire Extender RELEASE”
ไม้อันหนึ่งความยาวประมาณเมตรกว่าปรากฏขึ้นในมือของชายหนุ่ม ไม้ดังกล่าวมีขนาดเรียวยาว โดยตรงปลายมีลักษณะกลมแบบเป็นรูปวงแหวน เฟี๊ยตมองแล้วก็ได้แต่สงสัยว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน เพราะตัวเขาเองคุ้นกับลักษณะรูปร่างดังกล่าวมากจริงๆ
“แต่ถ้าน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ อันนี้ก็ถูกเหมือนกัน!”
“Fire!”
แทนสั่งพร้อมกับเป่าลมไปตรงกลางวงแหวนนั้นอย่างแรง เมื่อลมนั่นเคลื่อนที่ผ่านวงแหวนไปก็ปรากฏกลายเป็นเปลวไฟขนาดใหญ่รูปทรงเหมือนพญาราชสีห์ควบทะยานออกจากปลายไม้ โดยที่ร่างกายยืดยาวออกไปเรื่อยๆ ทั้งที่ส่วนปลายของลำตัวยังคงติดกับวงแหวนอยู่อย่างนั้น สิงโตที่ร่างประกอบขึ้นด้วยเปลวไฟบึ่งฝีเท้าซิกแซกไปตามอากาศราวกลับว่ามีพื้นดินที่มองไม่เห็นให้มันเหยียบเป็นทางเดินไปยังจุดหมาย เจ้าป่านั่นพุ่งตรงสู่ศัตรูที่บัดนี้ยังขยับร่างกายไม่ได้ มันเบิ่งตากว้างโพลนด้วยว่าเหตุแห่งมรณะกำลังดิ่งเข้ามาโดยที่ตัวมันเองไม่อาจหลบเลี่ยงได้เลย
ทันทีที่พญาราชสีห์นั่นไปถึงศัตรูของมัน เปลวไฟทรงสิงโตนั่นก็ขยายขนาดราวกับว่ามีใครโหมน้ำมันเชื้อเพลิงใส่มันฉะนั้น เปลวเพลิงขนาดมหึมานั่นอ้าปากอันมโหฬารของมันตวัดร่างของเจ้ายูนิคอร์นที่บัดนี้ดูเหมือนเป็นเพียงหยดน้ำเล็กๆ ในทะเลเพลิงกลืนลงไปอย่างรวดเร็ว เหยื่ออันโอชะที่เคยแข็งกร้าวด้วยรู้สึกว่าตัวเองยิ่งใหญ่เสียเต็มประดา บัดนี้หายไปอย่างราบคาบด้วยมหาอำนาจแห่งอัคคีที่ชายหนุ่มผิวน้ำผึ้งนั้นเป็นผู้บงการ
เฟี๊ยตคิดออกแล้วว่าเจ้าไม้นั่นมันเหมือนกับอะไร มันเหมือนกับก้านพลาสติกของเล่นที่เอาไว้เป่าน้ำยาให้ออกมาเป็นฟองสบู่ที่เขาเคยเห็นในละครย้อนยุคนี่เอง
“ชื่อ Triad of Unicorns (ยูนิคอร์นสามสหาย) ประเภท PC (ไพ่สูงสุด) ลำดับที่ 73 ความสามารถ ใช้ในการต่อสู้”
“เฮ้ย แทน โคตรเก่งอ่ะ ทำได้ไง”
เฟี๊ยตพูดออกมาหลังตะลึงไปหลายอึดใจ หลังจากเห็นเปลวไฟปริมาณมหาศาลที่แทนได้ใช้ในการโรมรันกับคู่ต่อสู้ที่เหมือนกับหลุดมาจากเทพนิยายนั่น เขาคิดมาอยู่บ้างว่าแทนนั้นน่าจะมีฝีมือพอสมควร แต่ที่เขาเห็นนี่เรียกได้ว่า แทนเก่งกว่าที่เขาคิดไปไม่น้อยเลย
“ก็บอกแล้ว ว่าแทนหนะเก่ง แต่ไม่ชอบแสดงออก ฮ่าฮ่า” ชายผิวเข้มกล่าวออกมาด้วยท่าทางเล่นๆ มากกว่าจะโอ้อวดความสามารถอย่างจริงจัง
“ไอ้ขี้โม้เอ๊ย” ปันพูดอย่างหมั่นไส้ พร้อมกับเอามือผลักไปที่หัวของคนที่อวดเบ่งอยู่เมื่อครู่นี้
“ว่าแต่ เฟี๊ยตก็ไวไม่ใช่เล่นนะ ที่วางยาไอ้ตัวสุดท้ายนั่นได้ทันท่วงที ไม่งั้นละ ไม่มีเวลาหายใจหายคออย่างนี้แน่ เพราะท่าทางมันยังแข็งแรงอยู่มาก มันคงไล่ต้อนเราไม่หยุด” แทนหันมาชมเขาอย่างนึกขึ้นได้
“เฟี๊ยตว่าเฟี๊ยตเป็นตัวถ่วงของกลุ่มซะมากกว่า เกือบจะตายแหล่ไม่ตายแหล่อยู่รอมร่ออยู่แล้ว แต่ปันนี่ดิ ไหวพริบดีมากเลย เพราะทันทีที่เจ้าไอน้ำนั่นกระโดด ปันก็วางกับดักเป็นแอ่งน้ำนั่นทันที จัดการตัวที่สองไปได้ง่ายๆ เลย” เฟี๊ยตหันไปชื่นชมในปฏิภาณของชายหนุ่มอีกคน ที่วางกับดักราวกับรู้ล่วงหน้ามาก่อนว่าเขาจะลอบโจมตีคู่ต่อสู้อย่างไร ทั้งที่ๆ ต่างฝ่ายต่างไม่ได้นัดแนะกันมาก่อนเลย
“ถ้าจะให้ยกความดีความชอบให้ใครสักคน ก็คงต้องเป็นแทนหละนะงานนี้ ถ้าไม่มีไฟของแทน ปันก็รอดมาจากน้ำแข็งไม่ได้หรอก เพราะเวทย์น้ำโจมตีไม่เข้าเลย แพ้ทางมันตลอด” ปันหันกลับมายิ้มให้เพื่อนผิวแทนของตนอย่างยอมรับในฝีมือ
“นี่ๆ รู้ไหมใครในนี้เก่งสุด” แทนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกระซิบกระซาบ พร้อมทำท่าราวกับว่านี่เป็นความลับสุดยอดที่สุด
“ใครหรอ” เฟี๊ยตเอ่ยปากถามกลับมาในทันที เมื่อแทนเห็นดังนั้นก็กวักมือให้เพื่อนทั้งสองสุมหัวลงมาฟังคำตอบใกล้ๆ ตน
“ก็ Illusory Gang ของเราไง พวกเราสามคนเก่งที่สุดเลย เย่!” เพื่อนร่างหนาของเขาจับมือตัวเขาเองและปันชูขึ้นพร้อมร้องดีใจ ราวกับเป็นเด็กๆ ฉะนั้น เฟี๊ยตถึงกับหลุดหัวเราะมาอย่างห้ามไม่ได้ พลางร้องยินดีตามไปด้วย เมื่อหันไปทางเพื่อนผิวขาวก็พบว่ากำลังอยู่ในท่าทางไม่ต่างกัน พวกเขาสามคนกอดคอกันโวยวายในความสำเร็จเร็วกันเป็นเด็กๆ บางที การผ่านวินาทีเฉียดตายมาได้ มันก็ทำให้เราหัวเราะได้ง่ายกว่าเคย
หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายมาแล้ว แผลพุพองที่แขนขวาของเขาก็เริ่มร้องอุธรณ์มาด้วยความเจ็บปวดที่เขาเองก็ลืมไปเสียสนิท ด้วยถูกความตื่นเต้นตกใจปิดบังไว้เสียมิด เขาเริ่มจัดการกับแผลที่แขนข้างขวาเขา เฟี๊ยตหยิบการ์ดอุปกรณ์สำหรับนักเดินทางออกมาเรียกใช้ เพื่อใช้การ์ดอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นจากการโดนแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก เขาโปะครีมสีขาวข้นนั่นลงบนแผลอย่างทั่วถึง พลางชโลมไปทั่วๆ ให้ความเย็นกระจายไปอย่างทั่วถึง เขาไม่ใช้การ์ดอะไรเพื่อการรักษาเพิ่มเติม เพราะเห็นว่าแค่ใช้ครีมดังกล่าว อาการก็ทุเลาขึ้นมากแล้ว อีกอย่าง เดี๋ยวพรุ่งนี้เขาก็ตื่นแล้ว กว่าจะกลับมาอีกครั้ง แผลก็คงหายดีทีเดียว
“อะ” เมื่อเขาจัดการอาการบาดเจ็บของตัวเองจนเสร็จ แทนก็หยิบการ์ดสีทองใบล่าสุดที่เพิ่งได้รับจากการเอาชนะยูนิคอร์นตัวสุดท้ายส่งให้เขา ด้วยท่าทีง่ายๆ ราวกับมันไม่ได้มีค่าอะไรฉะนั้น
“เฟี๊ยตรับไว้ไม่ได้หรอก แทนเป็นคนปราบมันลงได้ มันควรจะเป็นของแทนต่างหาก” เขาเอ่ยปฏิเสธไปอย่างเกรงใจ เขารู้สึกว่ามันไม่คู่ควรกับเขาเลย
“คิดมากน่า แทนมีแล้วใบนึง จะให้แทนเก็บไว้สองใบทำไม รับไปเถอะ” แทนจับมือเขาแบออก พลางยัดการ์ดใบดังกล่าวให้เขา ก่อนจะก้มลงเก็บการ์ดของตัวเองลงสมุด ปิดโอกาสไม่ให้เขาปฏิเสธอีกเลย เฟี๊ยตหันหน้ามาทางปันอย่างขอความเห็น ก็พบว่าเพื่อนผิวขาวของเขาพยักหน้าลงน้อยๆ
“รับไว้เถอะเฟี๊ยต อย่างไรเราก็ทีมเดียวกัน มีอะไรก็ต้องแบ่งปันกันอยู่แล้ว” ปันยิ้มกว้างให้เขาสบายใจพลางเดินตามแทนกลับไปนั่งพักที่บริเวณร่มเงาใกล้ๆ ที่น่าจะสบายกว่าตรงสมรภูมิเมื่อสักครู่ เมื่อเห็นดังนั้น เขาจึงเก็บการ์ดลงสมุด พลางก้าวเท้าตามเพื่อนทั้งสองคนไปที่ร่มไม้ดังกล่าว
ทันทีที่เขาหย่อนตัวนั่งลงบริเวณก้อนหินเล็กๆ ที่ยังว่างอยู่ ปันก็ส่งสปาเกตตี้ซอสมะเขือเทศให้เขาจานหนึ่ง ขณะที่ตัวเองและแทนมีประจำอยู่คนละจานอยู่แล้ว เฟี๊ยตรับมาพลางเอ่ยปากขอบคุณเบาๆ เขาคิดว่าอาหารนี่น่าจะเป็นอาหารสำเร็จรูปที่เพื่อนเขาคนใดคนหนึ่งใช้ขึ้นสำหรับมื้อนี้
“มื้อนี้ไม่ต้องทำอาหารเองละกันนะเฟี๊ยต เหนื่อยมามากแล้ว พักบ้างเถอะ ตอนเย็นค่อยว่ากันใหม่” แทนพูดกับเขาพลางยิ้มให้ ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินอาหารในส่วนของตนต่อไป
เฟี๊ยตเริ่มลงมือรับประทานอาหารเป็นคนสุดท้าย เขารู้สึกดีมากเมื่ออาหารตกถึงท้อง เพราะนี้ก็เลยเวลาเที่ยงมาพอสมควรแล้ว ความเหนื่อยอ่อนของเขาส่วนหนึ่งอาจจะเกิดเพราะขาดอาหารด้วย เมื่อได้พลังงานมาเติมเต็ม เขาจึงรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นอีกครั้ง
“เฟี๊ยต ปันขอพูดอะไรหน่อยได้ไหม” ชายผิวขาวเอ่ยขึ้น และประโยคดังกล่าวก็ทำให้เพื่อนอีกคนเงยหน้าจากสปาเก็ตตี้จานนั้นมามองคนที่เอ่ยคำถามด้วยเช่นเดียวกับเขา
“อืม ได้สิ” เฟี๊ยตตอบด้วยเสียงเรียบๆ เพราะเดาถึงเนื้อความที่จะได้ยินถัดไปไม่ออกเหมือนกัน
“เฟี๊ยต ตอนนี้เราเป็นทีมเดียวกันแล้วนะ ถ้าเป็นไปได้ เฟี๊ยตอย่าพยายามฉายเดี่ยวอย่างวันนี้อีก ถ้าเราถูกแยกออกจากกัน สิ่งแรกที่ควรทำคือพยายามกลับมารวมกลุ่มกันไว้ เราเป็นเพื่อนกัน มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน เฟี๊ยตรู้ไหม ตอนที่พวกเขาทะลายกำแพงมาได้ แล้วเจอเฟี๊ยตนอนแน่นิ่งอยู่ และกำลังจะโดนลูกพลังนั่นอัด พวกเราใจหายกันแค่ไหน ปันไม่ชอบความรู้สึกอย่างนั้นเลย ถ้าเป็นไปได้ พยายามอยู่รวมกลุ่มกันไว้ให้มากที่สุดนะ” ถึงแม้เนื้อความอาจจะค่อนไปทางตำหนิอยู่บ้าง แต่น้ำเสียงของเพื่อนของเขานั้นไม่มีอารมณ์ด้านลบปนอยู่เลย เนื้อความทั้งหมดอัดแน่นไปด้วยความห่วงใยที่เขาเองก็คาดไปไม่ถึงเหมือนกัน
“ขอโทษนะปัน ตอนนั้นมันเลือดขึ้นหน้า ลืมคิดหน้าคิดหลังไปหมด เฟี๊ยตเองก็ประมาทคู่ต่อสู้มากเกินไป ไม่คิดว่ามันจะเก่งขนาดนี้” เขาตอบออกมาด้วยความจริงใจ เป็นที่เขาเองนี่แหละที่พลาดเอง
“ไม่หรอกเฟี๊ยต มันจงใจเลือกคู่ต่อสู้ที่แพ้ทางมันไม่เห็นหรอ แทนเองใช้ไฟเจอกับตัวน้ำ ปันใช้น้ำเจอกับตัวน้ำแข็ง ส่วนเฟี๊ยตเองใช้ทรายเจอกับตัวไอน้ำ มันเล่ห์เหลี่ยมกับเรามากกว่า” แทนตอบมาอย่างให้กำลังใจ
“อีกอย่าง แทนไม่ได้ตั้งใจจะช่วยใครก่อนใครนะ แต่ตอนที่โดนน้ำแข็งนั้นมากั้นไว้ แทนมองไม่ทันว่าใครไปอยู่ตรงไหน เพราะไม่ว่ายังไง ปันกับเฟี๊ยตก็เป็นเพื่อนแทนเหมือนกัน” แทนจงใจพูดให้เขาสบายใจว่าไม่ได้จงใจละเลยเขาแต่อย่างใด
“ไว้คราวหน้าเราจะทำให้ดีกว่านี้ รวมกลุ่มกันไว้สำคัญที่สุด” เฟี๊ยตยิ้มให้กับเพื่อนทั้งสอง เขามองที่ปันและแทนด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก เขารู้สึกถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นไกลกว่าเวลาเพียงไม่กี่วันที่รู้จักกันจะถักทอให้ผูกพันกันได้ เฟี๊ยตรู้สึกราวกับว่ารู้จักกับเพื่อนสองคนนี้มาอยู่ก่อนแล้วเป็นเวลานานแสนนาน
ปันกับเฟี๊ยตตกลงใจกันจะพักเรื่องการหาวิหารไว้เพียงเท่านี้ก่อน เนื่องจากการต่อสู้ในช่วงบ่ายได้ริดรอนพลังเวทย์ลงไปมาก รวมถึงต่างฝ่ายต่างก็ใช้พลังเวทย์ในใช้การ์ดยุงรำคาญไปมากโขตั้งแต่ช่วงเช้า เขาทั้งสองคนในเวลานี้เหนื่อยอ่อนมาก ง่วงจนตาจะปิดตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ตก เหลือเพียงแต่แทนคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงสดชื่นด้วยยังคงมีแรงเหลืออยู่มากที่สุด
พวกเขาตัดสินใจพักค้างแรมที่บริเวณเดิมพลางตกลงเรื่องเรื่องแผนการอีกครั้ง คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่เฟี๊ยตจะอยู่ในเกมนี้ในรอบนี้ เพราะในวันรุ่งขึ้นเขาจะต้องตื่นแล้ว ในขณะที่ปันกับแทนยังคงอยู่ต่ออีกวันหนึ่ง ปันต้ังใจจะหาวิหารต่อไปในวันรุ่งขึ้นในขอบเขตที่เหลือของตน โดยมีแทนเฝ้าสถานการณ์ให้ตามเดิม โดยทั้งสามคนนัดแนะที่จะนอนในวันถัดไปพร้อมกันเวลาสองทุ่ม เพื่อที่จะมีช่วงเวลาที่ลงล็อคทับซ้อนกันพอดี
ทันทีที่ตกลงแผนการทุกอย่างเรียบร้อย เฟี๊ยตก็ขอตัวไปนอนเป็นคนแรก เขาเหนื่อยอ่อนมากจนอย่างจะปิดตาลงเสียเดี๋ยวนี้ เฟี๊ยตใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีในการล่วงเข้าสู่นิทราสวัสดิ์ในคืนนั้น ที่ต่างจากคืนที่แล้วที่เขานอนไม่หลับอย่างสิ้นเชิง
และแล้วเภสัชกรหนุ่มก็ยันกายขึ้นจากเตียงนอนที่แสนจะคุ้นเคยในโลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง
จากผู้แต่ง : ผมขอโทษนะฮะ ถ้าหลายๆอย่างในเรื่องอาจจะไม่โดนใจคนอ่านมาก คือผมวางพล๊อตเรื่องไว้หมดแล้ว ผมไม่อยากตัดทิ้งน่ะฮะ T^T บางทีอาจจะไม่ถูกใจตรงไหนบางจุด มองข้ามกันไปนิดละกันนะฮะ ขอบคุณฮะ
คลังของผมเหลือพรุ่งนี้เป็นตอนสุดท้าย ถ้าแต่งเพิ่มไม่ทัน แปลว่าวันเสาร์ไม่ได้ลงนะครับ ขออภัยล่วงหน้า
เดี๋ยวจะไปปั่นต่อแล้ว ขอกำลังใจเป็นคอมเมนท์ยาวๆ T^T
