The Lost World มหัศจรรย์ดินแดนสาบสูญ EP204 + ประกาศอัพเดต 23/05/2018
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Lost World มหัศจรรย์ดินแดนสาบสูญ EP204 + ประกาศอัพเดต 23/05/2018  (อ่าน 487679 ครั้ง)

ออฟไลน์ zylph_z

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
สรุปก็ได้การ์ดไปคนละใบ แทนนี่ใจดีจัง มิตรภาพของทีมมายาก็แน่นแฟ้นขึ้นไปอีกขั้นนึงแล้ว

ปล.คนเขียนอยากได้เม้นยาวๆ แต่คนอ่านเรียบเรียงประโยคไม่เก่งนี่ซิ เอาเป็นว่ายังไงก็จะติดตามต่อไป ไม่ต้องถึงกับมาลงนิยายทุกวันก็ได้ แต่ขอแค่ไม่หายไปนานๆก็พอแล้ว เป็นกำลังใจให้จ้า ^^

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
บทที่ 44 Psychiatry

   ชายหนุ่มก้มลงมองแขนขวาของตัวเองเป็นอย่างแรก และก็พบว่าร่องรอยของรอยแผลยาวที่เห็นในเกมนั้น ไม่มีปรากฏอยู่บนแขนของเขา ณ ขณะนี้เลย เฟี๊ยตลองเลื่อนมือกดไปตามบริเวณที่เขาคิดว่าเคยมีแผลอยู่นั่น ก็ไม่มีอาการปวดแสบแต่อย่างใด

   “สมกับชื่อเป็นเกมแห่งความฝันจริงๆ” ชายหนุ่มที่ในตอนนี้เริ่มมีเค้าโครงแห่งมัดกล้ามของชาตรีบ่นเบาๆ กับตัวเอง ก่อนจะลุกไปทำกิจวัตรยามเช้าตามลำดับ


   “หืออ”

   เฟี๊ยตพึมพำในลำคอก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเบอร์โทรเข้าที่เขาไม่คุ้นเคย ตั้งแต่เลิกกับแฟนสาวคนล่าสุด โทรศัพท์ของเขาก็เหมือนจะกลายเป็นใบ้ไปเสียแล้ว ยิ่งไม่มีงานทำอย่างนี้ด้วย เขาแทบไม่จำเป็นต้องชาร์ตแบตโทรศัพท์เลย เพราะคนติดต่อเข้ามาน้อยเหลือเกิน

   “ฮัลโหล สวัสดีครับ” เขากดรับ

   “แหม สุภาพเชียว นี่พี่ขวัญเอง จำพี่ไม่ได้หรอ” เสียงจากปลายสายที่คุ้นเคยดังทักขึ้น

   “อ๊าว พี่ ทำไมเครื่องผมไม่โชว์ชื่อพี่อ่ะ พี่ไม่ได้เปลี่ยนเบอร์ใช่เปล่า” เขาถามด้วยความงุนงง

   “เปลี่ยน ฮ่าฮ่าฮ่า” หญิงสาวเฉลย

   “โอ๊ย แล้วผมจะไปรู้เบอร์ใหม่พี่ได้ไงอ่า ว่าแต่พี่โทรมาเรื่องงานหรือเปล่าครับ” เขาเข้าเรื่อง

   “แหม ใจร้อนจริงนะพ่อคุณ เพิ่งวันเดียวเอง อะไรมันจะรวดเร็วทันใจขนาดนั้น” พี่ขวัญย้อนมาอย่างตลกๆ

   “แต่ก็จริงแหละ พี่จะโทรมาบอกว่า เดี๋ยววันนี้เฟี๊ยตเข้ามาส่งเอกสารที่ขาดอยู่ที่โรงพยาบาลก่อน เพราะถ้าเอกสารไม่ครบ มันจะยื่นให้ผู้ใหญ่เซ็นไม่ได้ แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้มาทำงานได้เลย” หญิงสาวพูดต่อ

   “เฮ้ย พี่ ทำไมเร็วจัง วันเดียวก็ได้แล้วหรอ พี่ขวัญนี่ใหญ่จริงๆ” ประโยคสุดท้ายเขาเผลอพูดออกไป มากกว่าจะตั้งใจจะพูดออกไปจริงๆ

   “ก็ให้มันรู้ซะบ้างว่าระดับไหนเป็นระดับไหน” หญิงสาวพูดอย่างกึ่งอวดกึ่งล้อ

   “ผมหมายถึงขาหนะพี่ที่ใหญ่ ไม่ใช่ตำแหน่ง ฮ่าฮ่าฮ่า” เขาแกล้งเย้า

   “ย่ะ แม่ลูกสองได้หุ่นแค่นี้ก็เก่งแล้วย่ะ อย่ามาทับถม เฟี๊ยต พี่วางก่อนนะ เจอกันที่โรงพยาบาล เข้ามาหาพี่ที่ห้องได้เลย เดี๋ยวพี่จะได้คุยกันเบื้องต้นไปก่อนเลย” ประโยคสุดท้ายของเภสัชกรสาวปรับเป็นน้ำเสียงที่เป็นทางการมากขึ้น ก่อนจะวางสายไปในที่สุด


   ชายหนุ่มมาถึงโรงพยาบาลที่คุ้นเคยในเวลาสายจนเกือบเที่ยง เฟี๊ยตตรงไปหาพี่ขวัญที่ห้องทำงานเพื่อส่งเอกสารทันที ความจริงเขาน่าจะมาถึงที่นี่ตั้งแต่ช่วงสายๆ แต่ด้วยเขายังขาดรูปถ่ายที่ต้องใช้เวลาในการสมัครงาน ชายหนุ่มจึงต้องเสียเวลาแวะถ่ายรูปเพิ่มก่อนจะมาถึงโรงพยาบาล

   พี่ขวัญพาเขามาที่แผนกจิตเวชที่กำลังจะเป็นที่ทำงานเขาในอนาคต แผนกดังกล่าวเปิดขึ้นเพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตและประสาทที่มีเพิ่มมากขึ้นในยุคดิจิตอลแบบนี้ โดยแบ่งออกเป็นทั้งฝ่ายผู้ป่วยในที่จะพักค้างคืนที่โรงพยาบาล และฝ่ายผู้ป่วยนอกที่จะมารับการรักษาและรับยากลับไปที่บ้าน เฟี๊ยตกวาดสายตาดูก็พอจะรู้เลยว่า ที่นี่สร้างมาสำหรับคนที่ “เหลือ” ไม่น้อย เพราะการตกแต่งสถานที่ที่ดูหรูหรา แต่รับคนได้ไม่มาก แสดงให้เห็นได้ชัดว่า คนป่วยอาจจะต้องจ่ายไม่น้อยเลยเพื่อเข้ามารักษาตัว


   “สรุปคร่าวๆ นะเฟี๊ยต งานของเฟี๊ยตจะอยู่ในช่วงเวลาที่คนไข้เยอะ คือ 10 โมงถึงบ่าย 3 วันละ 5 ชั่วโมง ค่าแรงอยู่ที่ชั่วโมงละ 300 บาทขาดตัว” พี่ขวัญเริ่มต้นอธิบายงานเขาพร้อมกับพาเดินดูสถานที่แผนกดังกล่าวไปในตัว เนื้อความดูเหมือนจะจริงจัง แต่ก็ยังคงพูดล้อเล่นกับเขาเช่นเดิม

   “มาสัปดาห์ละกี่วันครับพี่” เขาเอ่ยถาม

   “พี่อยากให้มาทุกวันนะเฟี๊ยต เพราะช่วงนี้โรงพยาบาลยังขาดคนมาก ถือว่ามาช่วยพี่ก่อน แต่ถ้าวันไหนเฟี๊ยตอยากหยุดก็แจ้งพี่ล่วงหน้าก่อนสักอาทิตย์นึง ไว้รอให้ช่วงที่คนเริ่มเยอะแล้วเฟี๊ยตจะหยุดถี่ขึ้นก็ได้” หญิงสาวกล่าวเรื่อยๆ

   “ผมต้องรับผิดชอบงานในส่วนไหนบ้างครับพี่” เขาซัก

   “หลักๆ จะเป็นห้องยานะเฟี๊ยต ตรวจยา จ่ายยาตามปรกตินั่นแหละ แต่ช่วงบ่ายอาจจะมีไปราวน์วอร์ดผู้ป่วยในร่วมกับหมอบ้าง มันเป็นนโยบายของโรงพยาบาลหนะ อาจจะต้องให้เฟี๊ยตไปช่วยเสริมตรงนี้ด้วย ตอนนี้เภสัชเรายังไม่มากพอ” เธอตอบ

   ราวน์วอร์ด คือ การที่บุคลากรทางการแพทย์ไปติดตามอาการเจ็บป่วยของผู้ป่วยในตามเตียงคนไข้ ในยุคก่อนๆ หน้าที่นี้จะเป็นของแพทย์โดยเฉพาะ แต่ช่วงหลังตั้งแต่เขาเริ่มเข้ามหาวิทยาลัย บทบาทนี้ก็กลายเป็นงานร่วมของหลายๆ วิชาชีพ ตั้งแต่แพทย์ เภสัชกร พยาบาล นักโภชนาการ รวมไปถึงนักกายภาพบำบัด

   หญิงสาวผู้อาวุโสกว่าเดินพาชายหนุ่มดูงานคร่าวๆ ไปทั่วแผนกอย่างสนิทสนม ก่อนจะขอตัวแยกไปทำงานของตนต่อตามเดิม เฟี๊ยตจึงขอตัวกลับออกจากโรงพยาบาลเมื่อได้เวลาบ่ายๆ นิด


   เฟี๊ยตพาตัวเองมาเดินเล่นในห้างสรรพสินค้าใจกลางกรุงเพื่อผ่อนคลายความเครียด และหาอะไรรองท้องหลังจากที่ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องมาตั้งแต่เช้า เขาเลือกเข้าร้านอาหารร้านโปรดที่กินมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ชายหนุ่มเลือกสั่งชุดอาหารกระทะร้อนที่ทางร้านจะให้วัตถุดิบมาเป็นอาหารสด และให้ลูกค้าจัดการปรุงอาหารบนกระทะนั้นเอง เฟี๊ยตจัดการผัดๆ ทอดๆ และปรุงรสจนหนำใจแล้ว ก็ลงมือกินอาหารมื้อนั้นอย่างมีความสุข ชายหนุ่มแอบคิดถึงตอนที่เขานั่งทำอาหารกินอยู่กลางป่า ในบางครั้งเขายังสงสัยว่าอะไรกันแน่ที่เป็นความฝัน อะไรกันแน่ที่เป็นความจริง เพราะตอนนี้ เขาเริ่มรู้สึกว่าเขาคุ้นเคยกับชีวิตในเกมยิ่งกว่าชีวิตจริงเสียอีก

   ก่อนกลับเขาแวะร้านหนังสือร้านที่เขาเข้าเป็นประจำด้วยความคุ้นเคยมากกว่าจะเป็นความจงใจจะเลือกซื้อหนังสือใดเป็นพิเศษ เขาเดินไล่ไปตามชั้นหนังสือต่างๆ อย่างเพลิดเพลิน เฟี๊ยตเป็นคนอ่านหนังสือทุกประเภทอย่างไม่มีข้อแม้ ตั้งแต่วิทยาศาสตร์ นวนิยาย เศรษฐกิจ ทำอาหาร แต่งสวน ท่องเที่ยว ไปจนถึงปรัชญา เขารักการอ่านมาตั้งแต่เด็ก ด้วยรู้สึกว่าตัวหนังสือเหล่านั้นจะพาเขาออกไปสู่โลกใบใหม่ที่หลายครั้ง มันไม่อาจหาในชีวิตจริงได้

   มือเรียวยาวของเขาไล่มาจนถึงหนังสือเล่มหนึ่งที่วางอยู่ตรงมุมของชั้นหนังสือปรัชญาที่อยู่ในส่วนลึกเข้าไปร้านหนังสือนั้น เฟี๊ยตหยิบมันขึ้นมาหลังจากที่ได้เห็นเพียงชื่อหนังสือจากสันปกนั้น

   “ประลองปัญญา สารพันปัญหาโลกแตก”

เฟี๊ยตอ่านชื่อหนังสือนั่นออกมาอย่างสนใจ ชายหนุ่มเปิดอ่านรายละเอียดคร่าวๆ ในหนังสือเล่มนั้น เขาพบว่ามันเป็นหนังสือเกี่ยวกับเกมเชาวน์ปัญญารวมถึงปริศนาต่างๆ จากทั่วโลก เขาพลิกหน้าหนังสือเหล่านั้นไปอย่างผ่านๆ ตา หนังสือดังกล่าวจะพูดถึงปริศนาแต่ละประเภท โดยจะอธิบายตั้งแต่กติกา แนวการคิด ไปจนถึงการแก้ปัญหาอย่างถูกทิศทาง เฟี๊ยตหยิบมันใส่ลงตะกร้าอย่างแทบไม่ต้องเสียเวลาคิด เขาเป็นคนชอบปัญหาเชาวน์มาแต่ไหนแต่ไร หนังสือเล่มนี้เหมือนถูกส่งมาเพื่อปลุกจินตนาการในวัยเด็กของเขาอีกครั้ง หนังสือเล่มดังกล่าวถูกลัดคิวการอ่านให้มาเป็นเล่มแรกจากหนังสือที่กองอยู่ในตะกร้านั้นมากมาย แค่คิด มุมปากของชายหนุ่มก็ยกขึ้นเพราะรู้สึกสนุกและท้าทาย


เขาใช้เวลาที่เหลือของวันนั้นทั้งหมดไปกับการอ่านหนังสือเล่มดังกล่าวที่ร้านกาแฟใต้คอนโดของเขา ชายหนุ่มเลือกสั่งชากับของหวานเล็กน้อยประกอบช่วงเวลานั้น เฟี๊ยตตื่นเต้นไปกับเกมปริศนาต่างๆ ที่บรรจุอยู่ในหนังสือเล่มนั้นมาก เขาแทบไม่รู้จักเกมในหนังสือดังกล่าวเลย เพราะมันถูกรวบรวมมาจากรอบโลกจริงๆ เขาตื่นเต้นกับเกมใหม่ๆ หลายเกม จนถึงกับต้องหยิบโทรศัพท์คู่ใจมากดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเกี่ยวกับเกมดังกล่าวมาประลองปัญญาด้วยจำนวนคำถามในเล่มมันน้อยไปและไม่จุใจเขา

รู้สึกตัวอีกครั้ง ชายหนุ่มก็พบว่าพระอาทิตย์ได้ตกดินไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาจัดการเก็บสัมภาระทั้งหมด พร้อมลุกขึ้นเพื่อกลับสู่ห้องของเขาเพื่อจัดการธุระต่างๆ ก่อนกลับเข้าสู่เกมอีกครั้ง


เฟี๊ยตอาบน้ำแต่งตัวในชุดนอนลายทางสำหรับคืนนี้ เขาออนไลน์ในโซเชียลมีเดียเป็นเวลาเล็กน้อยเพื่อเช็คความเคลื่อนไหวของเพื่อนๆ และคนรู้จักของเขา ก่อนจะปิดคอมพิวเตอร์แล้วพาตัวเองเข้าสู่ห้องนอน

ชายหนุ่มนั่งสมาธิเป็นช่วงเวลาสั้นๆ พร้อมสวดมนต์อีกบทสองบทก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเพื่อเตรียมพร้อมที่จะเข้าสู่นิทราสวัสดิ์อีกครั้ง เขากดเปิดนาฬิกาที่ข้อมือซ้ายก่อนจะปล่อยให้คลื่นอ่อนๆ นั้นกระจายไปทั่วร่าง ในตอนแรกเขาพยายามกำหนดจิตให้ติดตามการเคลื่อนที่ของกระแสคลื่นนั้นว่ามันไปที่จุดไหนแห่งใดของร่างกายบ้าง แต่ยังไม่ทันที่นาฬิกานั้นจะทำงานได้อย่างสมบูรณ์ เฟี๊ยตก็เผลอหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าที่สะสมกับมาจากตะลุยอยู่ในโลกแห่งความฝันนั้นอย่างต่อเนื่อง


จากผู้แต่ง : ขอแว๊บมาแอบลงไว้ก่อนนะฮ๊าฟฟฟฟฟฟ คืนนี้ผมจะหนีเที่ยว อิอิ

ใครใจดีเมนท์ให้หน่อย ห้าห้า เยิฟๆ

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
ขอติดตอบคอมเมนท์ไว้เหมือนเดิมนะครับ คิดว่าวันอาทิตย์น่าจะกลับมาตอบได้แล้น อิอิ

ขอปั่นไว้ก่อน จนถึงปัจจุบันก็ยังอยู่ในภาวะวันต่อวันฮ๊าฟ

 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ maew189870

  • รักทุกคนนะคับ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 726
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
เที่ยวให้สนุกนะคาบบบบบบบบบบบบบบ

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ
ติดลมอย่างรุนแรง อยากอ่านต่อจังเลย
สนุกมากๆค่ะ

ออฟไลน์ Noo_Patchy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1055
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-4
 :t3: :t3: :t3: :t3: :t3:  เฟีียตหลับไปซะแล้ว

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1511
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
เย้จะเข้าสู่เกมส์อีกครั้งแล้ว ><
เค้ารอพระเอก 55

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1859
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
สวัสดีสองตอน เย้ :katai2-1:

เฟี๊ยตจะติดเกมเชาว์เอาไปตอบปัญหาที่วิหารรึเปล่าน้อออออ ลุ้นๆ :hao7:

ออฟไลน์ zylph_z

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
วันนี้มาลงไว ที่แท้ก็จะหนีเที่ยวนี่เอง
เฟี๊ยตฝึกทักษะความคิดไหวพริบเชาว์ปัญญาละ หวังว่าคงจะมีประโยชน์ในเกมบ้างน้า~

ออฟไลน์ naneku

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
พรุ่งนี้กับวันอาทิตย์เค้าสอบ มศว.แหละพี่คนเขียนน


อวยพรเค้าด้วยน้าาาาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ saiiisai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
มาติดตามเรื่อย ๆ ทุกวันคร้าบ
ยังหวังตอนยาว ๆ อ่านนาน ๆ สะใจ ๆ อยู่เด้อ

kingdaemon

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมากๆเลยคั๊ฟ

รอมาต่อเลย
ปูเสื่อรอละ 555+ :hao6:

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
เด็กติดเกมส์ ฮาาาาา มันดีนะเรื่องนี้

ออฟไลน์ sukaz

  • I Will Love You Unconditionally
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
บทที่ 45 The Albatros

   เฟี๊ยตกลับเข้าสู่ป่าทิวสนอีกครั้งที่บริเวณเดิมที่เขาได้หลับไปเมื่อคืนก่อน ชายหนุ่มยันตัวลุกขึ้นในเต็นท์สำเร็จรูปของเขาเอง ความจริงเขาไม่เคยตื่นขึ้นในเกมที่สถานที่อื่นนอกจากโรงแรมที่เมืองมกราคมเลย ตอนแรกเฟี๊ยตเองสงสัยในเรื่องของการ์ดที่เขาเรียกใช้ไว้ขณะที่เขาหลับไปเพื่อตื่นในโลกความเป็นจริง เขากลัวว่าพวกอุปกรณ์เดินป่าต่างๆ ของเขาจะถูกทำลายด้วยมอนสเตอร์ต่างๆ ขณะที่เขาไม่อยู่ในเกม แต่เพื่อนทั้งสองของเขาได้อธิบายว่าทันทีที่ออกจากเกม ความสามารถของไพ่ทั้งหมดที่ใช้อยู่จะหายไปโดยอัตโนมัติ เนื่องจากจิตของผู้ควบคุมหลุดจากการ์ดไปแล้ว และทันทีที่ผู้เล่นกลับเข้าสู่เกม การ์ดที่เคยเรียกใช้ไว้จะกลับมาเหมือนเดิมด้วยระบบกู้คืนของเกมนั่นเอง

   เพื่อนใหม่ของเขาทั้งสองคนนั้นจัดได้ว่ามีความเชี่ยวชาญในเกมนี้อยู่ไม่น้อย ปันและแทนเข้ามาเล่นเกมนี้ได้เดือนกว่าๆ แล้ว ในขณะที่ตัวเขาเองเพิ่งมาเล่นได้เพียง 15 วันเท่านั้น จากการซักถามของเขาทำให้ทราบว่า ทั้งคู่ได้ไปเก็บการ์ดที่เมืองกุมภาพันธ์มาแล้ว โดยหลังจากที่เคลียร์วิหารกุมภาพันธ์เสร็จ ทั้งคู่ตั้งใจจะไปยังเมืองพฤษภาคมที่อยู่ติดกันเป็นลำดับต่อไป ซึ่งแผนการดังกล่าวถือว่าขัดกับความต้องการของเขาพอสมควร เพราะเขาตั้งใจจะไปยังที่เมืองกุมภาพันธ์ก่อน แต่ความรู้สึกของเฟี๊ยตในตอนนี้เอนเอียงไปตามแผนการเดินทางของทั้งคู่มาก เพราะตัวของเฟี๊ยตเองตอนนี้ถือว่าติดใจในการเดินทางเป็นกลุ่มไปเสียแล้ว บางที เขาอาจจะค่อยตามไปเก็บเมืองกุมภาพันธ์ทีหลังก็ได้

   เฟี๊ยตใช้มือจัดผมให้เขาทรง พลางสำรวจความเรียบร้อยของตนเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะพาตัวเองออกมานอกที่พัก เขากวาดสายตาไปมองก็พบเต็นท์ของเพื่อนทั้งสองยังกางอยู่ด้วย นั่นแปลว่า ปันและแทนได้กลับเข้ามาสู่เกมแล้ว แต่อาจจะยังไม่ลุกออกมาจากเต็นท์ เพราะเขาเองยังมองไม่เห็นทั้งคู่ ณ ขณะนี้เลย

   เขาตัดสินใจตรงไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายเป็นอันดับแรก ก่อนจะออกมานั่งทำข้าวต้มหมูสับง่ายๆ เพื่อรอเพื่อนทั้งสองคน


   “อ๊าว เฟี๊ยต ตื่นเร็วจัง” เสียงทักดังมาจากทางด้านหลังทำให้เขาหันหลังไปพบกับปันที่ตอนนี้กำลังถือผ้าขนหนูเตรียมตัวที่จะไปอาบน้ำ

   “ตอนที่ตื่นไปไม่ค่อยได้ทำอะไรมากหนะ เช้านี้เลยกระปรี้กระเปร่า” เฟี๊ยตตอบอย่างง่ายๆ พลางชวนเพื่อนชายนั่งลงกินอาหารเช้าที่เขาเตรียมไว้ให้ แต่ปันขอตัวไปอาบน้ำให้เรียบร้อยก่อน เฟี๊ยตจึงนั่งจิบกาแฟเงียบๆ ชมบรรยากาศตอนเช้าต่อไป

   “เฟี๊ยตตตตตตตตตตตตตต แทนคิดถึงเฟี๊ยตจังเลย” ผ่านไปไม่นาน เสียงร้องทักจากชายหนุ่มอีกคนก็ทำให้เขาอดหันหลังกลับไปมองอย่างตลกๆ ไม่ได้ แทนในชุดนอนกำลังตรงมาทางเขาอย่างร่าเริง

   “ปัญญาอ่อน” เสียงขัดมาจากชายหนุ่มอีกคนที่อาบน้ำเสร็จพอดีดังขึ้นมาอย่างไม่จริงจังนัก

   “จริงๆ นะเฟี๊ยต เมื่อวานตอนเฟี๊ยตตื่นไปแล้วอ่ะ ห้องน้ำห้องท่าก็ไม่มี กองไฟสำเร็จรูปก็ไม่มี แทนก็ต้องจุดกองไฟเอง ควันงี้ฟุ้งแสบจมูกไปหมด” แทนบ่นออกมาอย่างหาเรื่องชวนคุยมากกว่าจะเป็นความรู้สึกที่แท้จริง

   “ไร้สาระน่า นี่เฟี๊ยต เมื่อกี้ปันลืมบอกข่าวสำคัญไป ปันกับแทนเจอวิหารกุมภาพันธ์แล้วนะ” ปันตัดบท พลางเอ่ยเรื่องที่สำคัญกว่า พร้อมกับยิ้มกว้าง

   “จริงหรอปัน จริงหรอแทน เล่าหน่อยๆ แล้วได้ไปกันมาหรือยัง” เฟี๊ยตเร่งรัดมาอย่างตื่นเต้น

   “เมื่อวานปันใช้การ์ดยุงรำคาญหาต่อนะเฟี๊ยต มันอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ เกือบสุดแผ่นดินเลย แถบนั้นไม่ใช่ทางผ่านที่คนทั่วไปจะสัญจรกัน มันไม่มีสถานที่สำคัญหรือเมืองอะไรเลย ถึงว่าทำไมมันถึงหายากหาเย็นนัก” ปันขยายความเพิ่ม

   “แทนกับปันตกลงกันว่าจะยังไม่ไปกันหนะ เพราะว่ามันค่อนข้างไกลพอสมควร กลัวว่าไปถึงแล้วกลับมาที่นี่ไม่ทันภายในวันเดียว จะทำให้คลาดกับเฟี๊ยตเสียเปล่าๆ อีกอย่าง พวกเราทีมเดียวกัน เวลาจะทำอะไร แทนก็อยากให้อยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา” ชายผิวเข้มพูดอย่างง่ายๆ แต่ทำเอาเขารู้สึกดีไม่น้อย ถึงแม้ว่าปันกับแทนจะสนิทกันมาก แต่ทั้งคู่ก็ไม่เคยทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินเลย

   “เฟี๊ยตอยากไปถึงเร็วๆ จัง ตื่นเต้นอ่ะ อยากเห็นวิหารของจริงแล้ว มันจะเป็นเหมือนดันเจี้ยนลับในเกมต่อสู้ที่เคยเล่นรึเปล่านะ ฮ่าฮ่า” เขารู้สึกร่าเริงอย่างบอกไม่ถูก เมื่อพบว่าหนทางการพิชิตวิหารนั่นสว่างขึ้นทีละน้อย

   “ความจริงปันมีการ์ดที่ช่วยในการเดินทางนะ เร็วมากด้วย แต่เสียอย่างเดียวว่ามันจะต้องรู้พิกัดที่แน่นอนในการเดินทาง ซึ่งพิกัดของสถานที่ มันจะปรากฏขึ้นเมื่อเราเคยไปมาก่อนแล้ว ไม่อย่างนั้นหละก็รับประกันว่าไม่เกินหนึ่งวัน ปันพาเฟี๊ยตไปเหยียบยอดวิหารนั่นได้เลย” ปันพูดเชิงเสียดายถึงข้อจำกัดของการ์ดของตน

   “เดี๋ยวก่อนนะ ปันได้เก็บรายละเอียดวิหารที่พบไว้ไหม ขอเฟี๊ยตดูหน่อย เผื่อจะหาพิกัดของมันได้” เฟี๊ยตถามกลับมาเพราะต้องการทดสอบบางอย่าง

   “เก็บอยู่ในการ์ดของแทนหนะ ปันให้แทนจดไว้ให้ เฟี๊ยตรอแปบนะ” ชายหนุ่มพูดพลางหยิบสมุดการ์ดของตนขึ้นมาหาการ์ดที่ต้องการ

   “Data No. 348776 (ข้อมูลหมายเลข 348776) RELEASE” สิ้นเสียงคำสั่งของแทน กระดาษใบหนึ่งก็ลอยอยู่เบื้องหน้าของเขาทั้งสามคน เอกสารดังกล่าวเหมือนเป็นแผนที่ที่ตัดมาเฉพาะพื้นที่ส่วนปลายตะวันตกเฉียงใต้ของแผ่นดิน ถัดลงมาทางด้านล่างของเมืองกุมภาพันธ์อีกทีหนึ่ง

   ‘ไบเบิ้ลรู้พิกัดของสถานที่ที่อยู่ตรงรอยกากบาทบนแผนที่นี่ไหม’ เขาเอ่ยถามต่างหูของเขาอย่างไม่มั่นใจ

   “พิกัดดังกล่าวมีความชัดเจนน้อยเกินไปนายท่าน แต่บริเวณดังกล่าวมีก้อนหินใหญ่อยู่ก้อนหนึ่ง ไบเบิ้ลคิดว่าถ้านายท่านไปถึงก้อนหินใหญ่นั่น นายท่านจะไปถึงที่หมายได้อย่างไม่ยากนัก” หนังสือคู่ใจเขาตอบ ถึงแม้จะยังไม่ใช่คำตอบที่ต้องการ แต่ก็ถือว่าไม่ได้น่าผิดหวังนัก

   ‘ขอพิกัดก้อนหินนั่นหน่อย ไบเบิ้ล’

   “สถานที่ ก้อนหินเดียวดาย พิกัด 105.55638.642.11.8 นายท่าน”

   “เป็นไงบ้างเฟี๊ยต คุยกับไบเบิ้ลอยู่หรือเปล่า ได้ความว่าไงบ้าง” เสียงจากชายหนุ่มผิวขาวดังเร่งเร้ามา ด้วยความตื่นเต้น

   “ไม่มีพิกัดตรงวิหารเลย เพราะแผนที่มันละเอียดน้อยเกินไป มีแต่พิกัดของก้อนหินใหญ่ที่อยู่ใกล้เคียง ไบเบิ้ลบอกว่า ถ้าไปถึงที่นั่น น่าจะหาวิหารได้ไม่ยาก” เฟี๊ยตตอบตามที่ไบเบิ้ลแนะนำ

   “ก้อนหินที่ใหญ่มากเกือบเท่าต้นสนเลยหรือเปล่าเฟี๊ยต รอบๆ มีหินเรียงอยู่เต็มไปหมดใช่เปล่า ปันเห็นอยู่แถวนั้นนะ ตอนแรกยังคิดเลยว่านี่จะเป็นวิหารหรือเปล่า” ปันพูดมาอย่างนึกขึ้นได้

   “น่าจะใช่มั้งปัน แต่เฟี๊ยตก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน ถึงแล้วน่าจะรู้ว่าใช่กับที่ปันเห็นหรือเปล่า” เขาตอบกลับไปอย่างไม่มั่นใจ

   “ขอพิกัดหน่อยเฟี๊ยต”

   “พิกัด 105.55638.642.11.8”

   “ไปกันเลยไหม” ปันเอ่ยถามมาอย่างตื่นเต้น

   “อื้ออ” เฟี๊ยตรีบตอบ

   “เดี๋ยวๆๆ ก่อนครับบ คุณชายบ้าพลังทั้งสอง คุณลืมไปหรือเปล่าครับว่าผมที่เป็นลูกกระจ๊อกของพวกคุณยังไม่ได้อาบน้ำ แปรงฟัน หม่ำข้าวเช้าเลยครับบ คุณชายใจเย็นกันหน่อยครับบ ไปช้าหน่อย วิหารมันไม่ถอดรากถอนโคนขึ้นวิ่งหนีไปหรอกครับคุ๊ณณ” แทนรีบขัดมาอย่างขำๆ ความตื่นเต้นในเบาะแสใหม่ทำให้ปันและเฟี๊ยตลืมเรื่องราวรอบตัวไปเสียหมด ลืมแม้กระทั่งว่าพวกเขาทั้งสองคนเองก็ยังไม่ได้กินข้าวเช้าด้วยเช่นกัน

   “ฮ่าฮ่าฮ่า” ปันกับเฟี๊ยตถึงกับหัวเราะขึ้นมาเมื่อได้ฟังแทนพูดเป็นเด็กๆ นั่นแล้ว ทั้งสองปรับอารมณ์ก่อนจะนั่งลงคุยอะไรกันเรื่อยเปื่อยรอแทนที่กำลังจะไปอาบน้ำกลับมากินข้าวเช้าพร้อมๆ กัน


   “The Titanic Albatros RELEASE” ชายหนุ่มผู้ใช้น้ำสั่งเรียกการ์ดใบหนึ่งขึ้นหลังจากที่พวกเขาทั้งสามคนจัดการธุระทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อย

   นกสีขาวบริสุทธิ์ปีกดำขนาดลำตัวเกือบเท่าเฮลิคอปเตอร์ตัวหนึ่งปรากฏกายขึ้นตรงหน้าพวกเขาทั้งสามคน มันใช้ปลายจงอยปากสีเหลืองอ่อนไซ้ขนปีกอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่ราวกับเครื่องบินเล็กขนาดย่อมๆ นั้นการันตีได้ดีว่าเจ้านกน้ำดังกล่าวน่าจะพาพวกเขาไปยังจุดหมายได้อย่างรวดเร็วทันใจแน่นอน

   ชายหนุ่มผู้เป็นนายเดินไปยังสมุนของตนพลางเหนี่ยวปีกด้านขวาของมันโหนกายขึ้นไปทรงตัวอยู่บนร่างมหึหานั่น แทนมองนกยักษ์ดังกล่าวด้วยท่าทีเฉยๆ ราวกับว่าเคยเห็นกันมาเป็นอย่างดี ขณะที่เฟี๊ยตในตอนนี้เบิกตากว้างอย่างเก็บความตื่นเต้นไว้ไม่มิด ชายหนุ่มไม่เคยเห็นนกตัวไหนขนาดใหญ่เท่ากับเจ้าตัวที่อยู่ตรงหน้าเขานี่มาก่อนเลย เขารู้ดีว่านี่มันเป็นแค่เกม แต่เขาก็อยากจะซึมซับความสวยงามของเกมไว้ให้มากที่สุดนี่นา

   ปันก้มลงกระซิบกระซาบอะไรบางอย่างกับนกน้ำสีขาวสะอาดนั่น มันสยายปีกสีดำสนิทยาวด้านละกว่าสามเมตรนั่นก่อนจะเหินตัวขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างน่าหลงใหล เฟี๊ยตเงยหน้ามองตามเจ้าสิ่งมีชีวิตนั่นอย่างตกอยู่ในภวังค์ นกอัลบาทรอสยักษ์กลับตัวลงสู่พื้นดินอีกครั้ง พร้อมกางเท้าที่เกาะกันเป็นพังผืดตามลักษณะของสัตว์ที่ใช้ชีวิตอยู่กับแหล่งน้ำนั่นตวัดตัวเขาและแทนเข้าไปอยู่ในอุ้งเท้าของมัน พร้อมกระพือปีกอีกครั้งพร้อมทะยานตัวสู่ท้องฟ้าเบื้องบนราวกับจะพาพวกเขาทั้งสามไปสู่สรวงสวรรค์บนก้อนเมฆที่อยู่ลิบๆ นั่น

   เฟี๊ยตกางมือทั้งสองข้างออกเหมือนเด็กๆ ที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ในความฝันไม่รู้จบ กระแสลมบริสุทธิ์ยามเช้าพัดผ่านเขาไปด้วยความเร็วไม่น้อย ชายหนุ่มรู้สึกว่าตัวเองตกอยู่ในโลกแห่งจินตนาการอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตอนเด็กๆ เขาเคยคิดอยากลองบินได้สักครั้ง ไม่แน่ พระเจ้าอาจจะได้ยินเสียงขอพรของเขาในวันนั้นก็เป็นได้

   “วู๊ววววววววววววววววววววววววววววว สนุกสุดๆ ไปเลยเว่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ฮ่าฮ่าฮ่า”


จากผู้แต่ง : กลับมาแล้ว ชะเอิงเอยยยย ใครเชียร์วอลเล่บอลมั่ง อิอิ ฟินอ่ะ ฮู่เร่ๆๆๆๆ

อ่านแล้วเมนท์ อ่านแล้วเมนท์ อุตส่าห์มาลงทุกวันนะ ขอคอมเมนท์เป็นกำลังใจหน่อย อิอิ

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
เดี๋ยวพรุ่งนี้มาตอบคอมเมนท์นะ อิอิ

ตอนนี้ตอนบ๋อแบ๋แล้ววว ไม่เหลือสักกะตอน  555

หวังว่าพรุ่งนี้จะนั่งตุนแต่งไว้ทั้งวันห้าสิบตอนรวดดดด

เว่อ ห้าห้า

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
วันนี้มีเพิ่มเติม Q&A คำถามที่พบบ่อยด้วยนะครับ

ใครไม่เคยอ่านลองแว๊บไปอ่านที่หน้าแรกของนิยายนะครับ

จะได้เข้าใจนิยายเรื่องนี้มากขึ้นฮะ

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ zylph_z

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ฮูเร่ๆๆ เย้ๆ ไทยชนะ (นอกเรื่องละ 555+) ดีใจด้วยกะทีมมายาที่เจอวิหารกุมภาพันธ์แล้ว ต่อไปก็ไปฝ่าด่านล่าหาการ์ดสูงสุดข้างในวิหารต่อเลย

ปอลอ.สาธุ~~~~ ขอให้คนเขียนแต่งให้ได้ห้าสิบตอนด้วยเถอะ~ อยากอ่านแบบคอมโบเซ็ทเลยอ่ะ (=/\=)

kingdaemon

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมากเลยคั๊ฟ
บอกตรงๆว่าเพิ่งอ่านนิยายแนวนี้ครั้งแรกและเป็นแนวที่ชอบมากๆ
มาอ่านแล้วยอมรับคั๊ฟว่าชอบมากๆ
อ่านไปนึกภาพบรรยากาศในเรื่องได้เลย^^ :impress2:

ออฟไลน์ hewlett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 560
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
เฟี๊ยตเริ่มหลงโลกในฝันซะแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ maew189870

  • รักทุกคนนะคับ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 726
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
สนุกสุดเหมือนกันคับ

ขอให้ได้นะ

nemesis

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ได้เจ้ามาหลายวันเลย

ออฟไลน์ mildmint0

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
ยังมาตามอ่านทุกวันเหมือนเคยยยยยยยยยยยยยย ลุ้นๆๆๆ ชอบเรื่องนี้มากๆเลยยย :impress2: :-[ :o8:

ออฟไลน์ wasawath

  • เด็กดีบนโลกที่ว่างเปล่า
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
มารายงานตัวค้าบบบ นิยายแบบนี้ในเล้ามีน้อยจริงๆ เรื่องนี้ไปแบบช้าๆ แต่ก็จะอยู่กันไปนานๆเนอะ คนแต่งแต่งได้สนุกมาก เป็นกำลังในให้คนแต่งเด้อ

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1859
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
 :กอด1: เฟี๊ยตคงจะสนุกไปเลยสิน้าา

chawalinee

  • บุคคลทั่วไป
อยากเห็นพระเอกของเพี๊ยตอ่า

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
เฟี๊ยตน่ารักอ่ะ

ออฟไลน์ tutankamen

  • ผีสิงประจำเล้า
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
    • Facebook ของผมเองครับ
สนุกมากเลย พ่อหนุ่ม ขอบคุณสำหรับนิสายสนุกๆ และขอบคุณความขยันของท่านด้วย

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
บทที่ 46 Crisis

   นกยักษ์สีขาวบริสุทธิ์ของปันกระพือปีกเพียงครั้งเดียว ก่อนจะร่อนตัวเองอยู่ในอากาศราวกับว่าตัวมันเป็นเครื่องบินขนาดย่อมฉะนั้น ทีมมายาที่กำลังใช้นกน้ำเป็นพาหนะกำลังมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้สุดของแผ่นดิน บริเวณดังกล่าวเรียกได้ว่าเป็นจุดที่อยู่นอกสายตาอย่างแท้จริง เนื่องจากไม่ได้เป็นที่อยู่ของสถานที่หรือเมืองสำคัญใดๆ ทั้งสิ้น รวมถึงไม่ได้ใช้เป็นทางผ่านในการเดินทางสัญจรระหว่างเมืองอีกด้วย แต่จะเรียกว่านอกสายตาโดยแท้แล้วคงไม่ถูกนัก เพราะที่จริง ที่ดังกล่าวเป็นสถานที่ที่ควรจะเรียกว่าอยู่ในสายตาเลยทีเดียว เพราะมันเป็นที่ตั้งของวิหารกุมภาพันธ์ที่พวกเขากำลังตามหากันอยู่นั่นเอง

   อัลบาทรอสยักษ์พาพวกเขามายังเป้าหมายของการเดินทางโดยใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที มันร่อนลงบริเวณที่ว่างตอนหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ห่างจากสถานที่ที่เป็นเป้าหมายนัก เฟี๊ยตและแทนถูกวางลงบนพื้นหญ้านุ่มอย่างบรรจง ก่อนที่พาหนะตัวนั้นจะบินเลยไปอีกไม่ไกลเพื่อลงเหยียบพื้นและก้มตัวลงให้ชายผิวขาวผู้เป็นนายก้าวลงจากตัวมันอย่างสะดวก นกน้ำดังกล่าวร้องเสียงยาวอย่างเป็นธรรมชาตินิสัยหนึ่งครั้ง ก่อนจะกลับกลายสภาพมาเป็นการ์ดในมือของชายหนุ่ม และคืนไปอยู่ในหนังสือตามเดิม

   
   “ปันจำได้เปล่าว่า พวกเราต้องไปต่อกันอย่างไร” แทนเอ่ยถามขึ้น เพราะก้อนหินเดียวดายไม่ใช่ที่อยู่ของวิหาร แต่เป็นแค่สถานที่ใกล้เคียงเท่านั้น พวกเขาจำเป็นต้องหาทางไปต่อ

   “คิดว่าพอได้ แต่ไม่ค่อยมั่นใจ ใช้การ์ดยุงรำคาญจะดีกว่านะ” ปันเอ่ยตอบมาอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก แล้วจึงเรียกสั่งใช้การ์ดที่ได้มาจากการเลียนแบบการ์ดของเฟี๊ยตมาอีกทอดหนึ่ง

   “ทางนี้” หลังจากปันหลับตาพร้อมเงียบไปพักหนึ่ง ชายหนุ่มก็ลืมตาขึ้น ก่อนจะออกเดินต่อเข้าไปในดงไม้ พร้อมเอ่ยปากให้พวกเขาตามไปเป็นลำดับ


   ชายหนุ่มผิวขาวผู้เปรียบเสมือนมัคคุเทศก์ในการเดินทางของวันนี้พาพวกเขามาหยุดอยู่หน้าต้นสนต้นหนึ่งที่ไม่ได้มีความโดดเด่นจากต้นไม้ที่อยู่รายล้อมแต่อย่างใดเลย เฟี๊ยตเข้าใจโดยทันทีว่า สิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเขานี้นั้นไม่ใช่ต้นไม้อย่างที่รูปลักษณ์ภายนอกพึงให้มองเห็น แต่มันเป็นวิหารกุมภาพันธ์ที่พวกเขากำลังตามหาอยู่นั่นเอง ต้นไม้ตรงหน้านี่ดูธรรมดาจนน่าสงสัย เขาตีความมาโดยตลอดว่า ถึงแม้ว่าจะเป็นวิหารที่ซ่อนกายอยู่ในรูปต้นไม้ใหญ่ แต่อย่างน้อย มันก็น่าจะมีความโดดเด่นเหนืออยู่กว่าต้นไม้อื่นอยู่บ้าง อาจจะเป็นขนาดที่ใหญ่กว่า รูปลักษณ์ที่แปลกตามากกว่า หรือจะเป็นสถานที่ตั้งที่โดดเด่นออกมาจากดงไม้ แต่สิ่งที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้านี่เรียกได้ว่าไม่มีความแตกต่างใดๆ เลย ราวกับว่ามันถูกสร้างมาเพื่อวัด “กึ๋น” ของผู้เล่นโดยแท้ เพราะหากผู้เล่นไม่ใช้ความสามารถในการแยกความแตกต่างของมันจากต้นไม้อื่นแล้ว โอกาสที่จะค้นพบวิหารดังกล่าวน่าจะยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก ในครั้งแรก เฟี๊ยตตั้งใจจะใช้ยุงรำคาญเพื่อตรวจสอบต้นไม้ตรงหน้านี่อีกครั้งหนึ่ง แต่ก็เปลี่ยนใจเสียด้วยไว้วางใจในเพื่อนของตน พวกเขาทั้งสามคนต่างยืนเงียบมองต้นไม้ตรงหน้าอยู่พักหนึ่ง ราวกับว่าต่างฝ่ายต่างก็มีปริศนาที่ขบไม่แตกอยู่ในใจทั้งสิ้นทุกคน


   “นี่คือที่ที่เราตามหาใช่ไหม ปัน” แทนเอ่ยทำลายความเงียบหลังจากที่ทุกคนตกอยู่ในภวังค์ของตัวเองไปสักพักหนึ่ง

   “ที่นี่คือวิหารกุมภาพันธ์หรือเปล่า ไม่มั่นใจ แต่ที่แน่ใจ คือ นี่คือต้นไม้ต้นเดียวในระยะหลายตารางกิโลเมตรที่ไม่หายใจเอาคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา” ปันตอบอย่างไว้เชิงอยู่ในที

   “งั้นก็เป็นที่นี่แหละ ปัน คำใบ้ที่ได้มาบอกไว้ว่าอย่างนั้น” เฟี๊ยตเอ่ยสนับสนุน เพราะเขาเป็นคนแปลเบาะแสนั่นเอง และเขาคิดว่าเขาไม่น่าจะแปลผิดด้วย

   “ว่าแต่ ทำไมวิหารมันเล็กจัง ฮ่าฮ่าฮ่า” แทนเอ่ยขึ้นมาอย่างตลกๆ แต่คำถามนั่นสะท้อนไปถึงความรู้สึกทุกคน นี่คือคำถามที่ทุกคนได้แต่ขบคิดอยู่ วิหารควรจะเป็นสถานที่ที่มนุษย์สามารถเข้าไปได้ไม่ใช่หรือ แต่ขณะนี้ พวกเขาทั้งสามคนยังจินตนาการภาพไม่ออกเลยว่าจะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในต้นไม้ตรงหน้าที่ได้อย่างไร แทนหันมามองหน้าเพื่อนอีกสองคนราวกับว่า ปันและเฟี๊ยตน่าจะมีวิธีการรับมือรออยู่ก่อนแล้ว แต่ปันทำได้เพียงยักไหล่ขึ้น ขณะที่เฟี๊ยตได้แต่สั่นหัวไปมาเป็นสัญญาณว่าตัวเขาเองก็จนปัญญาเหมือนกัน


   “ไรอะ ทำไมฝ่ายบุ๋นไม่มีแผนการเลยอ่ะ โอ๊ย ฝ่ายบู๊เซ็ง คันไม้คันมือ เผามันทิ้งเลยไหม วิหงวิหารไรเนี่ย ฮ่าฮ่า” แทนพูดอย่างอารมณ์ดีพลางเดินเข้าไปใกล้ต้นไม้นั่น พร้อมหยิบปืนขึ้นทำท่าราวกับว่าจะเผาวิหารตรงหน้านั่นจริงๆ

   “อย่าไร้สาระน่าแทน สมองมีก็หัดคิดซะบ้าง อย่าสักว่ามีแต่เอาไว้คั่นหู เดี๋ยวมันจะฝ่อหมด” ปันเดินตามไปพูดจาหาเรื่องตามประสา พลางใช้มือผลักหัวแทนอย่างที่เคยทำเป็นประจำ ร่างของแทนเอียงเซไปอย่างไม่ได้ตั้งตัวและชนเข้ากับต้นไม้นั่นอย่างจัง


   “เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”

   เสียงแทนตะโกนขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งตัว และเพียงไม่ถึงเสี้ยววินาที ร่างของชายหนุ่มผิวเข้มที่เซไปกระทบกับเจ้าต้นไม้ปริศนานั่นก็หายไปอย่างปราศจากร่องรอย ราวกับว่าถูกฉกตัวไปยังมิติอื่นฉะนั้น!

   “แทน แทน แทน!” ชายหนุ่มผิวขาววิ่งเข้าไปจุดที่เพื่อนชายเคยยืนอยู่อย่างตกใจสุดขีด พลางใช้มือทุบไปบริเวณต้นไม้นั่นไม่หยุด ร่างบางร้องโวยวายอย่างตระหนกใจแบบที่เฟี๊ยตไม่เคยเห็นมาก่อน เขารีบวิ่งตรงเข้าไปอย่างพยายามช่วยเหลืออะไรให้ดีขึ้น ทั้งๆ ที่ตัวเขาเองก็ยังไม่มั่นใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น และตัวเขาเองจะช่วยเหลือได้อย่างไร

   “ปัน นี่มันเกิดอะไรขึ้น” เฟี๊ยตพยายามเอ่ยถามคนตรงหน้าที่กำลังลงมือใช้กำปั้นทุบต้นไม้นั่นอย่างเอาเป็นเอาตาย

   “แทน ทะ แทน” ปันตอบเขากลับมาอย่างสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มือทั้งสองข้างยังคงประทุษร้ายลงบนเชลยไร้ชีวิตนั่นไม่หยุด ราวกับว่าการกระทำนี่จะทำให้แทนคืนมาได้

   “ปัน ใจเย็นๆ บอกมาก่อนว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น จะได้หาทางแก้ไข!” เฟี๊ยตตัดสินใจใช้มือทั้งสองจับที่ไหล่เพื่อนชาย พลางใช้กำลังบิดร่างดังกล่าวให้มันมามองหน้าเขา เฟี๊ยตขึ้นเสียงกับปันเป็นครั้งแรก แต่ก็เพื่อเรียกสติของชายหนุ่มให้กลับมาอีกครั้ง

   “ปะปะปะปันก็ไม่รู้ อยู่ดีๆ แทนก็หายไป เฟี๊ยต พวกเราจะทำอย่างไรกันดี” เสียงของปันละล่ำละลัก สติตอนนี้ของปันดูจะมีไม่มากพอให้ไตร่ตรองถึงสถานการณ์ฉุกเฉินตรงหน้าแล้ว

   “ใจเย็นๆ ปัน ใจเย็นๆ แทนไม่เป็นอะไรหรอก แค่หายไปเฉยๆ แทนอาจจะแกล้งหายตัวหลอกพวกเราเล่นก็ได้ แทนชอบทำอะไรขำๆ อยู่แล้ว” เฟี๊ยตเอ่ยปลอบใจปันไปอีกทางหนึ่ง ทั้งๆ ที่ตัวเขาเองไม่ได้รู้สึกว่านี่เป็นการล้อเล่นเลย เขามั่นใจว่าเขาจับน้ำเสียงสุดท้ายของแทนก่อนจะหายไปได้ว่า เสียงร้องนั่นไม่ได้มาจากความตั้งใจสักนิดเดียว มันน่าจะเป็นเสียงของความตกใจอย่างไม่ทันตั้งตัวเสียมากกว่า

   “เฟี๊ยต แทนจะตายไหม ถ้าแทนตายไปแล้วเราจะทำอย่างไร” ปันพูดอย่างวิตกจริต ร่างบางนั่นโผเข้ากอดเขาราวกับเขาเป็นที่พึ่งสุดท้ายในเวลานี้ ใบหน้าราวกับนายแบบตามหน้าปกนิตยสารนั่นซบลงที่ไหล่ข้างขวาเขา แทนดูเป็นบุคคลที่มีความสำคัญกับปันอย่างมหาศาลเหลือเกิน ปันในเวลานี้เรียกได้ว่าพ่ายแพ้อย่างหมดรูป ส่วนตัวเขาเองก็เรียกได้ว่าตกใจไม่น้อยกับเหตุการณ์ตรงหน้านี้นั้น แต่เขาเองก็ไม่อาจจะแสดงความรู้สึกด้านลบใดๆ ออกไปได้ เฟี๊ยตทำได้เพียงยืนนิ่งๆ ให้เพื่อนของเขายืมอ้อมกอดและไหล่กว้างอยู่อย่างนั้น มือของเขาลูบหลังของปันอย่างปลอบโยน ตัวเขาเองก็ไม่อาจรับรองได้ว่าแทนจะไม่เป็นอะไร แต่เขายังไม่คิดไปไกลถึงขั้นว่าแทนจะเป็นอันตรายร้ายแรงอะไรมากนัก เขาอยากตรวจสอบสถานที่รอบๆ นี้ก่อน บางที มันอาจจะมีกลไกอะไรบางอย่างที่ลักพาตัวแทนไปก็ได้ ติดตรงที่เพื่อนชายที่ยังยึดตัวเขาเป็นฟางเส้นสุดท้ายไว้อย่างนี้ เฟี๊ยตจึงได้แต่ปล่อยให้ปันได้ระบายและสบายใจขึ้นก่อน

   “เฟี๊ยต แทนจะเป็นอะไรไหม แทนเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด เรายังมีเรื่องอะไรตั้งหลายอย่างที่ไม่ได้บอกแทนอีกมากมาย ถ้าแทนตายไป แล้วเราจะทำอย่างไรดี เฟี๊ยต เราจะทำอย่างไร” ปลายประโยคของชายผิวขาวเจือไปด้วยเสียงสะอื้นที่ไม่ดังนักอย่างรู้สึกได้

   “ปัน ใจ เย็น เย็น” เขาพูดช้าๆ เน้นหนักไปทีละคำ เฟี๊ยตตัดสินใจดึงตัวเพื่อนออกจากอ้อมกอดของเขา และจับที่ไหล่ของปันทั้งสองข้าง พร้อมออกแรงสะบัดอย่างรุนแรงให้เพื่อนของเขารู้สึกตัวสักที

   “ปัน นี่มันเป็นแค่เกม เป็นแค่เกม ได้ยินไหม ถ้าแทนตาย ตื่นไปปันก็จะเจอแทนอยู่ที่ห้องตามปรกติ ไม่ได้ตายจากกันไปไหนเสียหน่อย แต่เรามั่นใจว่าตอนนี้แทนยังไม่ตาย แทนแค่หายตัวไปเฉยๆ และอาจจะกำลังรอให้เราไปช่วยอยู่ ถ้าปันยังไม่มีสติอยู่อย่างนี้ แทนอาจจะตายจริงๆ ก็ได้ ตอนนี้ ปันต้องมาช่วยกันคิดก่อนว่าจะช่วยแทนได้ยังไง เข้าใจไหม มีสติได้แล้วปัน!” เฟี๊ยตเอ่ยอย่างดุดันเพื่อเรียกสติคนตรงหน้าคืนมาให้ได้ ใจของเฟี๊ยตร้อนและอยากจะไปช่วยเพื่อนอีกคนแล้ว และทุกอย่างจะดำเนินต่อไปไม่ได้ถ้าคนตรงหน้าไม่มีสติเสียที

   ปันที่กำลังร้อนรนอยู่ในตอนนี้ นิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะสูดลมหายใจลึกอย่างพยายามจะเรียกสติกลับมาอีกครั้ง หนุ่มผิวขาวไม่ได้พูดอะไรมากกว่าการพยักหน้าหนึ่งครั้งเพื่อบอกกับเฟี๊ยตว่าตัวเขาเองนั้นโอเคขึ้นแล้ว ตาแดงก่ำของปันฉายแววเด็ดเดี่ยวมากขึ้น

   เมื่อเพื่อนอีกคนดีขึ้นแล้ว ปัญหาตอนนี้จึงวนมาอยู่ที่เพื่อนอีกคนที่ยังไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร เฟี๊ยตบอกให้ปันเล่าเหตุการณ์เมื่อครู่โดยละเอียดอีกครั้ง

   ‘แทนหายไปไหน หายไปได้อย่างไร หรือแทนจะตายไปอย่างที่ปันนึกกลัวจริงๆ’ ความไม่มั่นใจดังลั่นขึ้นในความรู้สึกของเฟี๊ยต แต่ตัวเขาเองไม่อยู่ในฐานะที่จะแสดงความวิตกกังวลใดๆ ออกไปได้ เขาทำได้เพียงใช้มือลูบไปตามต้นไม้ปริศนานั่นอย่างครุ่นคิด พลางคิดหาวิธีแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินตรงหน้านี่อย่างรอบคอบ



จากผู้แต่ง : วันนี้ทั้งวันแต่งได้แค่สองตอนครึ่งเอง T^T ทำไงดี แต่งไม่ทันแล้ว อาทิตย์หน้าอาจจะลงทุกวันไม่ได้แล้วนะครับ ไว้เดี๋ยวมาบอกอีกที วิกฤตสุดๆ ห้าห้า

ทำไมช่วงนี้รู้สึกนิยายเงียบๆ ไม่ค่อยมีคนอ่าน เอ๊ะ หรือผมคิดไปเอง ห้าห้า

ไม่เป็นไรหรอกเนอะ ขนาดผมยังไม่ค่อยมีเวลาแต่ง คนอ่านก็คงไม่ค่อยมีเวลาอ่านมั้ง ห้าห้า

แต่แวะเข้ามาเมนท์ให้กันบ้างน้าาา

ออฟไลน์ zylph_z

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
แทนหายไปแล้ววว เฟี๊ยตกะปันรีบหาทางช่วยด่วน เดี๋ยวจะม่องเท่งซะก่อน
เฟี๊ยตนี่พึ่งได้จริงๆ ไม่สติแตกไปอีกคน ถือว่าเก่งนะเนี่ย ยังไงก็ต้องคิดหวิธีช่วยแทนต่อไป

ปล. ห้าสิบตอนกะสองตอนครึ่งนี่มันห่างกันมากมายนะ 555+

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด