บทที่ 44 Psychiatry
ชายหนุ่มก้มลงมองแขนขวาของตัวเองเป็นอย่างแรก และก็พบว่าร่องรอยของรอยแผลยาวที่เห็นในเกมนั้น ไม่มีปรากฏอยู่บนแขนของเขา ณ ขณะนี้เลย เฟี๊ยตลองเลื่อนมือกดไปตามบริเวณที่เขาคิดว่าเคยมีแผลอยู่นั่น ก็ไม่มีอาการปวดแสบแต่อย่างใด
“สมกับชื่อเป็นเกมแห่งความฝันจริงๆ” ชายหนุ่มที่ในตอนนี้เริ่มมีเค้าโครงแห่งมัดกล้ามของชาตรีบ่นเบาๆ กับตัวเอง ก่อนจะลุกไปทำกิจวัตรยามเช้าตามลำดับ
“หืออ”
เฟี๊ยตพึมพำในลำคอก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเบอร์โทรเข้าที่เขาไม่คุ้นเคย ตั้งแต่เลิกกับแฟนสาวคนล่าสุด โทรศัพท์ของเขาก็เหมือนจะกลายเป็นใบ้ไปเสียแล้ว ยิ่งไม่มีงานทำอย่างนี้ด้วย เขาแทบไม่จำเป็นต้องชาร์ตแบตโทรศัพท์เลย เพราะคนติดต่อเข้ามาน้อยเหลือเกิน
“ฮัลโหล สวัสดีครับ” เขากดรับ
“แหม สุภาพเชียว นี่พี่ขวัญเอง จำพี่ไม่ได้หรอ” เสียงจากปลายสายที่คุ้นเคยดังทักขึ้น
“อ๊าว พี่ ทำไมเครื่องผมไม่โชว์ชื่อพี่อ่ะ พี่ไม่ได้เปลี่ยนเบอร์ใช่เปล่า” เขาถามด้วยความงุนงง
“เปลี่ยน ฮ่าฮ่าฮ่า” หญิงสาวเฉลย
“โอ๊ย แล้วผมจะไปรู้เบอร์ใหม่พี่ได้ไงอ่า ว่าแต่พี่โทรมาเรื่องงานหรือเปล่าครับ” เขาเข้าเรื่อง
“แหม ใจร้อนจริงนะพ่อคุณ เพิ่งวันเดียวเอง อะไรมันจะรวดเร็วทันใจขนาดนั้น” พี่ขวัญย้อนมาอย่างตลกๆ
“แต่ก็จริงแหละ พี่จะโทรมาบอกว่า เดี๋ยววันนี้เฟี๊ยตเข้ามาส่งเอกสารที่ขาดอยู่ที่โรงพยาบาลก่อน เพราะถ้าเอกสารไม่ครบ มันจะยื่นให้ผู้ใหญ่เซ็นไม่ได้ แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้มาทำงานได้เลย” หญิงสาวพูดต่อ
“เฮ้ย พี่ ทำไมเร็วจัง วันเดียวก็ได้แล้วหรอ พี่ขวัญนี่ใหญ่จริงๆ” ประโยคสุดท้ายเขาเผลอพูดออกไป มากกว่าจะตั้งใจจะพูดออกไปจริงๆ
“ก็ให้มันรู้ซะบ้างว่าระดับไหนเป็นระดับไหน” หญิงสาวพูดอย่างกึ่งอวดกึ่งล้อ
“ผมหมายถึงขาหนะพี่ที่ใหญ่ ไม่ใช่ตำแหน่ง ฮ่าฮ่าฮ่า” เขาแกล้งเย้า
“ย่ะ แม่ลูกสองได้หุ่นแค่นี้ก็เก่งแล้วย่ะ อย่ามาทับถม เฟี๊ยต พี่วางก่อนนะ เจอกันที่โรงพยาบาล เข้ามาหาพี่ที่ห้องได้เลย เดี๋ยวพี่จะได้คุยกันเบื้องต้นไปก่อนเลย” ประโยคสุดท้ายของเภสัชกรสาวปรับเป็นน้ำเสียงที่เป็นทางการมากขึ้น ก่อนจะวางสายไปในที่สุด
ชายหนุ่มมาถึงโรงพยาบาลที่คุ้นเคยในเวลาสายจนเกือบเที่ยง เฟี๊ยตตรงไปหาพี่ขวัญที่ห้องทำงานเพื่อส่งเอกสารทันที ความจริงเขาน่าจะมาถึงที่นี่ตั้งแต่ช่วงสายๆ แต่ด้วยเขายังขาดรูปถ่ายที่ต้องใช้เวลาในการสมัครงาน ชายหนุ่มจึงต้องเสียเวลาแวะถ่ายรูปเพิ่มก่อนจะมาถึงโรงพยาบาล
พี่ขวัญพาเขามาที่แผนกจิตเวชที่กำลังจะเป็นที่ทำงานเขาในอนาคต แผนกดังกล่าวเปิดขึ้นเพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตและประสาทที่มีเพิ่มมากขึ้นในยุคดิจิตอลแบบนี้ โดยแบ่งออกเป็นทั้งฝ่ายผู้ป่วยในที่จะพักค้างคืนที่โรงพยาบาล และฝ่ายผู้ป่วยนอกที่จะมารับการรักษาและรับยากลับไปที่บ้าน เฟี๊ยตกวาดสายตาดูก็พอจะรู้เลยว่า ที่นี่สร้างมาสำหรับคนที่ “เหลือ” ไม่น้อย เพราะการตกแต่งสถานที่ที่ดูหรูหรา แต่รับคนได้ไม่มาก แสดงให้เห็นได้ชัดว่า คนป่วยอาจจะต้องจ่ายไม่น้อยเลยเพื่อเข้ามารักษาตัว
“สรุปคร่าวๆ นะเฟี๊ยต งานของเฟี๊ยตจะอยู่ในช่วงเวลาที่คนไข้เยอะ คือ 10 โมงถึงบ่าย 3 วันละ 5 ชั่วโมง ค่าแรงอยู่ที่ชั่วโมงละ 300 บาทขาดตัว” พี่ขวัญเริ่มต้นอธิบายงานเขาพร้อมกับพาเดินดูสถานที่แผนกดังกล่าวไปในตัว เนื้อความดูเหมือนจะจริงจัง แต่ก็ยังคงพูดล้อเล่นกับเขาเช่นเดิม
“มาสัปดาห์ละกี่วันครับพี่” เขาเอ่ยถาม
“พี่อยากให้มาทุกวันนะเฟี๊ยต เพราะช่วงนี้โรงพยาบาลยังขาดคนมาก ถือว่ามาช่วยพี่ก่อน แต่ถ้าวันไหนเฟี๊ยตอยากหยุดก็แจ้งพี่ล่วงหน้าก่อนสักอาทิตย์นึง ไว้รอให้ช่วงที่คนเริ่มเยอะแล้วเฟี๊ยตจะหยุดถี่ขึ้นก็ได้” หญิงสาวกล่าวเรื่อยๆ
“ผมต้องรับผิดชอบงานในส่วนไหนบ้างครับพี่” เขาซัก
“หลักๆ จะเป็นห้องยานะเฟี๊ยต ตรวจยา จ่ายยาตามปรกตินั่นแหละ แต่ช่วงบ่ายอาจจะมีไปราวน์วอร์ดผู้ป่วยในร่วมกับหมอบ้าง มันเป็นนโยบายของโรงพยาบาลหนะ อาจจะต้องให้เฟี๊ยตไปช่วยเสริมตรงนี้ด้วย ตอนนี้เภสัชเรายังไม่มากพอ” เธอตอบ
ราวน์วอร์ด คือ การที่บุคลากรทางการแพทย์ไปติดตามอาการเจ็บป่วยของผู้ป่วยในตามเตียงคนไข้ ในยุคก่อนๆ หน้าที่นี้จะเป็นของแพทย์โดยเฉพาะ แต่ช่วงหลังตั้งแต่เขาเริ่มเข้ามหาวิทยาลัย บทบาทนี้ก็กลายเป็นงานร่วมของหลายๆ วิชาชีพ ตั้งแต่แพทย์ เภสัชกร พยาบาล นักโภชนาการ รวมไปถึงนักกายภาพบำบัด
หญิงสาวผู้อาวุโสกว่าเดินพาชายหนุ่มดูงานคร่าวๆ ไปทั่วแผนกอย่างสนิทสนม ก่อนจะขอตัวแยกไปทำงานของตนต่อตามเดิม เฟี๊ยตจึงขอตัวกลับออกจากโรงพยาบาลเมื่อได้เวลาบ่ายๆ นิด
เฟี๊ยตพาตัวเองมาเดินเล่นในห้างสรรพสินค้าใจกลางกรุงเพื่อผ่อนคลายความเครียด และหาอะไรรองท้องหลังจากที่ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องมาตั้งแต่เช้า เขาเลือกเข้าร้านอาหารร้านโปรดที่กินมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ชายหนุ่มเลือกสั่งชุดอาหารกระทะร้อนที่ทางร้านจะให้วัตถุดิบมาเป็นอาหารสด และให้ลูกค้าจัดการปรุงอาหารบนกระทะนั้นเอง เฟี๊ยตจัดการผัดๆ ทอดๆ และปรุงรสจนหนำใจแล้ว ก็ลงมือกินอาหารมื้อนั้นอย่างมีความสุข ชายหนุ่มแอบคิดถึงตอนที่เขานั่งทำอาหารกินอยู่กลางป่า ในบางครั้งเขายังสงสัยว่าอะไรกันแน่ที่เป็นความฝัน อะไรกันแน่ที่เป็นความจริง เพราะตอนนี้ เขาเริ่มรู้สึกว่าเขาคุ้นเคยกับชีวิตในเกมยิ่งกว่าชีวิตจริงเสียอีก
ก่อนกลับเขาแวะร้านหนังสือร้านที่เขาเข้าเป็นประจำด้วยความคุ้นเคยมากกว่าจะเป็นความจงใจจะเลือกซื้อหนังสือใดเป็นพิเศษ เขาเดินไล่ไปตามชั้นหนังสือต่างๆ อย่างเพลิดเพลิน เฟี๊ยตเป็นคนอ่านหนังสือทุกประเภทอย่างไม่มีข้อแม้ ตั้งแต่วิทยาศาสตร์ นวนิยาย เศรษฐกิจ ทำอาหาร แต่งสวน ท่องเที่ยว ไปจนถึงปรัชญา เขารักการอ่านมาตั้งแต่เด็ก ด้วยรู้สึกว่าตัวหนังสือเหล่านั้นจะพาเขาออกไปสู่โลกใบใหม่ที่หลายครั้ง มันไม่อาจหาในชีวิตจริงได้
มือเรียวยาวของเขาไล่มาจนถึงหนังสือเล่มหนึ่งที่วางอยู่ตรงมุมของชั้นหนังสือปรัชญาที่อยู่ในส่วนลึกเข้าไปร้านหนังสือนั้น เฟี๊ยตหยิบมันขึ้นมาหลังจากที่ได้เห็นเพียงชื่อหนังสือจากสันปกนั้น
“ประลองปัญญา สารพันปัญหาโลกแตก”
เฟี๊ยตอ่านชื่อหนังสือนั่นออกมาอย่างสนใจ ชายหนุ่มเปิดอ่านรายละเอียดคร่าวๆ ในหนังสือเล่มนั้น เขาพบว่ามันเป็นหนังสือเกี่ยวกับเกมเชาวน์ปัญญารวมถึงปริศนาต่างๆ จากทั่วโลก เขาพลิกหน้าหนังสือเหล่านั้นไปอย่างผ่านๆ ตา หนังสือดังกล่าวจะพูดถึงปริศนาแต่ละประเภท โดยจะอธิบายตั้งแต่กติกา แนวการคิด ไปจนถึงการแก้ปัญหาอย่างถูกทิศทาง เฟี๊ยตหยิบมันใส่ลงตะกร้าอย่างแทบไม่ต้องเสียเวลาคิด เขาเป็นคนชอบปัญหาเชาวน์มาแต่ไหนแต่ไร หนังสือเล่มนี้เหมือนถูกส่งมาเพื่อปลุกจินตนาการในวัยเด็กของเขาอีกครั้ง หนังสือเล่มดังกล่าวถูกลัดคิวการอ่านให้มาเป็นเล่มแรกจากหนังสือที่กองอยู่ในตะกร้านั้นมากมาย แค่คิด มุมปากของชายหนุ่มก็ยกขึ้นเพราะรู้สึกสนุกและท้าทาย
เขาใช้เวลาที่เหลือของวันนั้นทั้งหมดไปกับการอ่านหนังสือเล่มดังกล่าวที่ร้านกาแฟใต้คอนโดของเขา ชายหนุ่มเลือกสั่งชากับของหวานเล็กน้อยประกอบช่วงเวลานั้น เฟี๊ยตตื่นเต้นไปกับเกมปริศนาต่างๆ ที่บรรจุอยู่ในหนังสือเล่มนั้นมาก เขาแทบไม่รู้จักเกมในหนังสือดังกล่าวเลย เพราะมันถูกรวบรวมมาจากรอบโลกจริงๆ เขาตื่นเต้นกับเกมใหม่ๆ หลายเกม จนถึงกับต้องหยิบโทรศัพท์คู่ใจมากดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเกี่ยวกับเกมดังกล่าวมาประลองปัญญาด้วยจำนวนคำถามในเล่มมันน้อยไปและไม่จุใจเขา
รู้สึกตัวอีกครั้ง ชายหนุ่มก็พบว่าพระอาทิตย์ได้ตกดินไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาจัดการเก็บสัมภาระทั้งหมด พร้อมลุกขึ้นเพื่อกลับสู่ห้องของเขาเพื่อจัดการธุระต่างๆ ก่อนกลับเข้าสู่เกมอีกครั้ง
เฟี๊ยตอาบน้ำแต่งตัวในชุดนอนลายทางสำหรับคืนนี้ เขาออนไลน์ในโซเชียลมีเดียเป็นเวลาเล็กน้อยเพื่อเช็คความเคลื่อนไหวของเพื่อนๆ และคนรู้จักของเขา ก่อนจะปิดคอมพิวเตอร์แล้วพาตัวเองเข้าสู่ห้องนอน
ชายหนุ่มนั่งสมาธิเป็นช่วงเวลาสั้นๆ พร้อมสวดมนต์อีกบทสองบทก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเพื่อเตรียมพร้อมที่จะเข้าสู่นิทราสวัสดิ์อีกครั้ง เขากดเปิดนาฬิกาที่ข้อมือซ้ายก่อนจะปล่อยให้คลื่นอ่อนๆ นั้นกระจายไปทั่วร่าง ในตอนแรกเขาพยายามกำหนดจิตให้ติดตามการเคลื่อนที่ของกระแสคลื่นนั้นว่ามันไปที่จุดไหนแห่งใดของร่างกายบ้าง แต่ยังไม่ทันที่นาฬิกานั้นจะทำงานได้อย่างสมบูรณ์ เฟี๊ยตก็เผลอหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าที่สะสมกับมาจากตะลุยอยู่ในโลกแห่งความฝันนั้นอย่างต่อเนื่อง
จากผู้แต่ง : ขอแว๊บมาแอบลงไว้ก่อนนะฮ๊าฟฟฟฟฟฟ คืนนี้ผมจะหนีเที่ยว อิอิ
ใครใจดีเมนท์ให้หน่อย ห้าห้า เยิฟๆ