ตอนที่ 30 The Victims
“The Diagnosis of Holmes RELEASE”
เฟี๊ยตเรียกใช้การ์ดขณะที่ยังใช้มือซ้ายเกาะขาเจ้านกกระจอกตัวนั้นอยู่ ทันทีที่สิ้นสุดคำสั่ง แว่นขยายอันขนาดประมาณฝ่ามือของเขาก็ปรากฏลอยขึ้นอยู่ตรงหน้าของชายหนุ่ม เขาใช้มือขวาเอื้อมไปหยิบ ก่อนจะนำมาทาบลงบนดวงตาข้างขวา แล้วมองไปที่เจ้างูยักษ์ตัวนั้น
‘Owner : None’
ตัวอักษรบ่งบอกถึงสถานะความเป็นเจ้าของลอยขึ้นบริเวณเจ้าสิ่งมีชีวิตนั้น เมื่อใช้สายตามองผ่านเลนส์ของโฮล์มส์อันดังกล่าว
‘ไม่มีเจ้าของ แปลว่าไม่ใช่การสู้กันเองของผู้เล่น คงจะเป็นมอนสเตอร์ตามธรรมชาติสินะ’
‘นี่แค่ป่าแรก ยังมีงูยักษ์ออกมาขนาดนี้ ถ้าไปถึงเมืองสุดท้ายนี่จะมีอะไรโผล่ออกมาบ้างเนี่ย’ เฟี๊ยตโคลงหัวอย่างรู้สึกไม่ค่อยดี ชายหนุ่มเป็นคนไม่ชอบอะไรที่อยู่เหนือความคาดหมายสักเท่าไหร่ และเขาต้องยอมรับว่า ไอ้เจ้าลิ้นสองแฉกขนาดเท่าหัวรถจักรนี่ก็จัดเป็นหนึ่งในนั้น
สมุนมีปีกของเขาบินพาเขาไปยังจุดเกิดเหตุอย่างไม่รวดเร็วนัก เป็นที่รู้กันดีว่าเจ้าการ์ดใบนี้มีความสามารถในการบินช้ามาแต่ไหนแต่ไร ช้าจนเขาคิดว่าหลังจากไปถึงที่เมืองใหม่ เขาน่าจะต้องหาการ์ดสักใบที่น่าจะใช้การได้ดีกว่านี้ แต่เอาจริงๆ แล้ว ในตอนนี้เขาก็ไม่ได้อยากไปถึงร่างเจ้ามฤตยูยักษ์เร็วสักเท่าไหร่ บางที เขาก็อาจจะต้องการเวลาทำใจสักพักหนึ่ง
ทันทีที่พ้นต้นสนที่เรียงตัวกันอยู่อย่างไม่เป็นระเบียบ ชายหนุ่มที่โดยสารนกกระจอกอยู่นั้นก็ได้เข้ามาในที่ราบที่ปูไปด้วยต้นหญ้าพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 400 ตารางวา พลันสายตาก็ไปปะทะเข้ากับวัตถุขนาดมหึมาที่เป็นเหตุที่พาเข้ามาสู่ที่แห่งนี้ ห่างจากตัวเขาออกไปประมาณ 30 เมตร สัตว์เลื้อยคลานจำพวกงูตัวหนึ่ง ลำตัวพรางไปด้วยเกล็ดสีดำและสีขาวสลับกันไปอย่างเป็นระเบียบราวกับทางม้าลายฉะนั้น ขนาดร่างกายที่ใหญ่โตเกินกว่าสัตว์ประเภทเดียวกันไปมากจนทำให้เขานึกถึงรถไฟที่มีชีวิตเสียมากกว่า ในขณะนี้หัวของมันหุบต่ำลงเล็กน้อย จ้องมองไปที่ชายป่าด้านหนึ่งที่น่าจะเป็นที่อยู่ของเหยื่อของมัน อสรพิษร้ายขดตัวสูงขึ้นทำท่าจะสปริงตัวเข้าจู่โจมอีกครั้ง!
“The Defensive Golem RELEASE”
“กำแพงทราย!” เขาเรียกมอนสเตอร์คู่ใจของเขา พลางชี้ถึงบริเวณที่ต้องการให้คำสั่งนั้นสัมฤทธิ์ผล อย่างรวดเร็วทันใจ กำแพงที่ประกอบขึ้นด้วยเม็ดทรายขนาดพอฟัดพอเหวี่ยงก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วที่หน้าผู้เคราะห์ร้ายที่เขาเห็นอยู่ไกลๆ นั้น พอดีกับที่เจ้าสัตว์ร้ายฉกลงเข้ากับผนังโกเลมจำแลงพอดี มันสะบัดหัวไปมาอย่างดุร้าย ก่อนจะถอยหลังไประยะไม่ไกลเพื่อตั้งหลักอีกครั้ง
เฟี๊ยตมาที่ผู้เคราะห์ร้ายหลังจากที่เจ้างูยักษ์ผละออกไปเพียงชั่วพริบตาเดียว เขาค้นพบว่า เขาเข้าใจอะไรหลายอย่างผิดไป ครั้งแรกที่เขาเข้าใจนั้นคือ น่าจะมีผู้บาดเจ็บคนเดียว แต่เมื่อมาถึง เขากลับพบว่า เหยื่อของเจ้ามอนสเตอร์เป็นชาย 2 คน คนหนึ่งผิวขาวสะอาด ซึ่งตอนนี้ฝาดไปด้วยสีชมพู ด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าวของตอนบ่ายหรือความตื่นเต้นจากการต่อสู้ไม่ทราบได้ ส่วนชายอีกคนรูปร่างสูงใหญ่อย่างคนที่เล่นกีฬาเป็นกิจวัตร ผิวสีน้ำผึ้งละเอียด มือขวาของเขากุมอยู่ที่หัวไหล่ซ้าย เฟี๊ยตมองเห็นเลือดไหลออกมาจากมือนั้นไม่น้อยที่เดียว ผู้บาดเจ็บได้แต่นั่งกัดฟันกดแผลอยู่อย่างนั้น สีหน้าบูดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่ เพื่อนผิวขาวของเขาตอนนี้น้ำตาไหลอาบไปทั่วหน้า ฟูมฟายอะไรที่เฟี๊ยตเองก็จับใจความไม่ได้ หนังสือการ์ดของทั้งคู่หล่นอยู่บนพื้นข้างๆตัว ราวกับว่าทั้งคู่ถอดใจในการต่อสู้ไปเสียแล้ว
“The Mini Laboratory for Pharmacy Practice RELEASE”
“Siam Weed Paste RELEASE”
เฟี๊ยตเรียกใช้การ์ดตำรับยาใบหนึ่งที่ตนได้ปรุงเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉิน ซึ่งถูกเก็บไว้ในห้องปรุงยาของเขา
“สาบเสือ” หรือ “Siam Weed” เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่พบได้ไม่ยากนักในประเทศไทย คุณสมบัติของมันที่โดดเด่นคือ ใช้ห้ามเลือดจากบาดแผลสดได้ชะงัดนัก โดยก่อนใช้ต้องทำล้างใบสาบเสือให้สะอาดเสียก่อน แล้วจึงจะขยี้และโปะลงบนแผล แต่เฟี๊ยตได้เตรียมสาบเสือที่ขยี้ไว้แล้ว โดยผสมกับเจลบางชนิดให้มีลักษณะเหนียวหนืด เพื่อให้สามารถใช้ได้ทันทีในสถานการณ์ฉุกเฉิน เขาจับมือของชายผิวน้ำผึ้งออกจากบาดแผล ก่อนจะหยิบกระติกน้ำที่หล่นอยู่เทน้ำสะอาดลงล้างบาดแผลและเลือดบางส่วนที่ยังเกรอะกรังอยู่ หลังจากเอ่ยถามได้ความว่าในกระติกเป็นน้ำสะอาดที่ใช้รับประทานได้
เฟี๊ยตไม่ได้เอ่ยอะไรทั้งสิ้นกับชายทั้งสองด้วยว่ารีบทำงานแข่งกับเวลา ส่วนด้านการเบนความสนใจของงูยักษ์นั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโกเลมของเขาเสีย จิตของเขาส่วนหนึ่งยังรับรู้ได้ถึงสถานการณ์คร่าวๆ ทางฝั่งนั้น ปีศาจทรายของเขารับมือกับสัตว์ร้ายได้ดี ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถโจมตีหรือสร้างความเสียหายใดๆ กับเจ้าอสรพิษได้ แต่ก็ถือว่าเป็นการซื้อเวลาที่มีค่าพอสมควร
“Heal RELEASE”
เฟี๊ยตสั่งเรียกใช้การ์ดเวทมนตร์เพื่อฟื้นฟูพลังกายและพลังใจให้กับผู้เคราะห์ร้ายคนนั้น แสงสีขาวบริสุทธิ์อ่อนๆ ปรากฏขึ้นบริเวณบาดแผลที่ไหล่ซ้ายนั้น ร่องรอยแผลเปิดที่เคยเป็นแหล่งกำเนิดของเลือดที่ซึมออกมาอยู่ตลอดเวลานั้น ขณะนี้ค่อยๆ ประสานรวมกันอย่างช้าๆ ราวกับมีมนต์วิเศษมากระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังเหล่านั้นเติบโตเข้าหากันฉะนั้น รวมไปถึงร่องรอยการบาดเจ็บจากการต่อสู้อื่นๆ ที่มีอยู่เล็กน้อยตามอวัยวะต่างๆ ที่เคยเป็นรอยฟกช้ำดำเขียว บัดนี้ก็มีสีค่อยๆ จางลงอย่างเห็นได้ชัด จากสีคล้ำไปทางม่วง ก็ค่อยๆกลับคืนมาเป็นสีแดง และสีเนื้อในที่สุด อาการการบาดเจ็บทางร่างกายโดยภาพรวมดูดีขึ้นมาก โดยเฉพาะแผลใหญ่บริเวณไหล่ซ้ายนั้นที่ได้ทั้งฤทธิ์ของสาบเสือกับเวทมนตร์การรักษาผสมผสานกันจนตอนนี้เลือดที่เคยไหลได้หยุดสนิทลง เมื่อเฟี๊ยตเงยหน้ามองขึ้นจากบาดแผลเหล่านั้น สายตาก็ไปพบเข้ากับใบหน้าของชายผิวสีเข้ม เฟี๊ยตรู้สึกได้ว่าสีหน้าของชายหนุ่มคนนั้นดีขึ้นจนเขารู้สึกได้
“หายหรือยัง ยังมีอาการอะไรหลงเหลืออยู่หรือเปล่า” เฟี๊ยตเอ่ยถามขึ้นอย่างเป็นห่วง นี่เป็นการรักษาอาการบาดเจ็บด้วยตัวเองอย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรก ชายหนุ่มสารภาพได้ว่าเขายังไม่ค่อยวางใจในฝีมือการรักษาของตัวเองนัก
“ดีขึ้นมาก แต่ยังปวดแปล๊บๆ ตรงไหล่ซ้ายอยู่” คนเจ็บเอ่ยตอบด้วยเสียงแหบพร่า สายตาฉายชัดถึงความรู้สึกขอบคุณที่มีให้แก่ตัวเขา พลางชำเลืองสายตามาทางแผลดังกล่าว
“รอแป๊บ” เฟี๊ยตพูด พลางก้มหน้าเพื่อค้นหาตำรายาในห้องปรุงยาของเขาที่ถูกเรียกใช้ค้างไว้อยู่แล้ว
“Opium Tincture RELEASE” ชายหนุ่มตัดสินใจเรียกใช้การ์ดตำรายาอีกใบ
“Opium” หรือ “ฝิ่น” อาจจะถูกรู้จักในฐานะของต้นไม้ที่นำมาทำยาเสพติดกันอย่างแพร่หลายก็จริง แต่ morphine (มอร์ฟีน) ที่เป็นสารสำคัญที่ได้จากยางของต้นไม้ชนิดนี้ ก็มีประโยชน์ทางการแพทย์มหาศาลด้วยเช่นกัน มันสามารถบรรเทาปวดได้อย่างชะงัดนัก เขาเปิดขวดยา ก่อนจะกรอกยาน้ำดังกล่าวลงในปากผู้ป่วยปริมาณหนึ่ง เพื่อลดอาการปวดให้แก่ผู้บาดเจ็บ
เขาคิดว่าพลังเวทย์เขาอาจจะยังน้อยเกินไปที่จะใช้การ์ดเวทมนตร์รักษาอาการบาดเจ็บให้หายขาดได้ นี่เขายังคงต้องฝึกเพิ่มอีกสินะ
“เก็บยานี้ไว้ กินประมาณอึกหนึ่งทุก 2 ชั่วโมง แต่ถ้าหายปวดแล้วก็ไม่ต้องกิน” เฟี๊ยตเอ่ยบอก พลางหยิบขวดยาดังกล่าวยัดใส่มือของชายคนนั้น
“นาย?”
“เดี๋ยวค่อยคุยกัน เอาชีวิตรอดจากเจ้ายักษ์นั่นให้ได้เสียก่อน เราคงมีเวลาคุยกันอีกเยอะ” เฟี๊ยตตัดบท และเมื่อสายตากวาดไปพบกับเพื่อนร่วมทางอีกคนของชายบาดเจ็บผู้นั้น ก็มองเห็นถึงสายตายินดีอย่างปกปิดไว้ไม่มิด ที่จ้องมองไปยังเพื่อนที่มีทีท่าดีขึ้นจากอาการบาดเจ็บอย่างเห็นได้ชัด ริมฝีปากเรียวบางนั้นเอ่ยพึมพำพูดอะไรที่เขาก็ไม่อาจได้ยินได้ มือของเขาคนนั้นเขย่าตัวเพื่อนชายผู้บาดเจ็บอย่างยินดี
จากผู้แต่ง : โคจรมาถึงตอนที่ 30 แล้วครับ ไม่น่าเชื่อเลย ตอนแรกคิดว่าแต่งได้อย่างมากก็คงสักสิบตอน แต่มาได้ไกลขนาดนี้ ต้องขอบคุณทุกความคิดเห็นเลยครับ เป็นแรงใจที่ดีสุดๆ จะแต่งไปให้ไกลที่สุดตามที่วางพล๊อตไว้เลยครับ
![Smiley :)](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/smiley.gif)
)
พูดแล้วก็อยากรวมเล่มเหมือนกันนะ วางไว้บนหัวเตียง ว่าชาตินี้ก็มีหนังสือเป็นของตัวเองสักเล่มหนึ่งนะเออ พิมพ์ชุดเดียวพอ เก็บไว้คนเดียว เพราะขายไม่ออก 555