บทที่ 167 The Wanderer
ซู่มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
เสียงคลื่นน้ำดังลั่นบริเวณเป็นการเปิดศักราชการต่อสู้ในสายวันนั้น เฟี๊ยตหลุดออกจากภวังค์ทันทีเมื่อได้ยินเสียงกึกก้องอันแสนจะคุ้นเคยนั่น เขาก้มมองผ่านพื้นล่องหนไปเบื้องล่างก็พบกับพื้นที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำแห่งชีวิตที่บัดนี้กลายเป็นสมรภูมิรบไปเสียแล้ว โชคดีที่แดดในยามเกือบเที่ยงนั่นเริ่มพาเอาหมอกที่เคยลงจัดกระจายหายไปหมดแล้ว เขาเองในเวลานี้มองเห็นการต่อสู้ได้อย่างชัดเจนดีทีเดียว และแน่นอน เจ้าปีศาจจากโลกดึกดำบรรพ์กับมนุษย์อีกคนที่กำลังต่อกรมันนั้นก็คงจะเห็นพวกเขาทั้งคู่ด้วยเช่นกัน
ปีศาจยักษ์นั่นโผล่พ้นน้ำขึ้นมาราวีมนุษย์เดินดินที่น่าจะกำลังตัดสินใจหาวิธีข้ามแม่น้ำนั่น สภาพการณ์ตอนนี้คือ เฟี๊ยตไม่อาจมองเห็นผู้เล่นคนนั้นได้เลย เนื่องจากเจ้าไดโนเสาร์นั่นกำลังพ่นน้ำออกจากปากกว้างเข้าจู่โจมผู้เคราะห์ร้ายคนนั้นอย่างไม่หยุดหย่อน สายน้ำที่เชี่ยวกราดออกมาจากร่างกายมันนั้นเหมือนกับสายน้ำที่หล่นกระทบมาจากยอดน้ำตกอย่างใดอย่างนั้น มันดูรุนแรง มากมายมหาศาล และไม่มีวันจะหมดลง
แต่ดูเหมือนว่าผู้เล่นคนนั้นจะกางบาเรียหรือเครื่องป้องกันอะไรสักอย่างขึ้นมาเป็นโดมปกป้องตัวเอง เพราะเท่าที่มองเห็น ณ ขณะนี้ มวลน้ำเหล่านั้นก็ยังไม่อาจเข้าจู่โจมคนคนนั้นได้เลย เหมือนมันแค่เข้าไปกระทบโดมที่เป็นรูปโค้งมนและกระเด็นออกไปเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดูได้เปรียบอะไร แต่เหยื่อในวันนี้ก็ดูจะรับมือกับเจ้าไดโนเสาร์ได้ดีกว่าคนเมื่อวานมากนัก
“เอาไงดีธัน หมอกกระจายไปหมดแบบนี้มันมองเห็นเราแน่ จะกางบาเรียลวงตาเหมือนเมื่อวานดีไหม”
เฟี๊ยตเอ่ยเป็นเชิงหารือ ตอนนี้ท้องฟ้ากับมาสว่างสดใสแล้ว ชายสองคนที่กำลังทรงตัวอยู่กลางอากาศนี่จึงจะกลายเป็นจุดเด่นอย่างห้ามไม่ได้เลย
“ไม่ทันแล้วแหละ เหมือนเมื่อกี้มันก็หันมาทางพวกเรา และมองเห็นพวกเราไปแล้วเรียบร้อย” ธันเอ่ย
“อ๊าว เฮ้ยยยย” เฟี๊ยตตอบมาอย่างงงๆ ปนตกใจ
“แต่ไม่น่าจะเป็นอะไรนะ เพราะมันไม่ได้มีทีท่าจะสนใจหรือจู่โจมเข้ามาเลย เหมือนว่ามันจะปองร้ายเฉพาะคนที่คิดจะข้ามแม่น้ำเท่านั้น พวกเราในตอนนี้จึงดูเหมือนจะไม่ตกอยู่ในขอบเขตที่มันจะสนใจ” ธันเอ่ยสรุป
ซู่มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
เสียงมวลน้ำที่เชี่ยวกราดนั่นเร่งเสียงดังขึ้นเรียกร้องความสนใจพวกเขาทั้งคู่อีกครั้ง ราวกับว่าเจ้าไดโนเสาร์นี่ต้องการจะปิดเกมที่ดูเหมือนจะเริ่มยืดเยื้อเสียแล้ว เพราะผู้เล่นคนนั้นยื้อเวลาจากการโจมตีได้มาหลายนาทีแล้ว เจ้าปีศาจใต้น้ำนั่นจึงเหมือนจะเพิ่มพลังจักระใส่เข้าไปในการโจมตีนั่นไปอีก เสียงสายน้ำที่เชี่ยวกราดดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วสมรภูมินั่น
แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าคนที่อยู่ภายใต้สายน้ำอันรุนแรงนั้นสามารถรับมือได้อย่างดีทีเดียว เพราะไม่ว่าเจ้าสัตว์ยักษ์นั่นจะเร่งพลังเพื่อปิดเกมเท่าไหร่ การป้องกันก็ไม่ได้ดูจะอ่อนด้อยลงเลยแม้แต่น้อย
“โอ๊ยยย”
เฟี๊ยตร้องออกมาเบาๆ อย่างไม่ตั้งใจเมื่อรู้สึกถึงความเจ็บปวดตรงข้อมือซ้าย เมื่อหันไปก็พบว่าเจ้ายุงรำคาญเพื่อนยากนั่นเอง ขณะนี้มันกำลังพยายามจะส่งสารให้เขาอีกแล้ว ธันที่ได้ยินเสียงนั่นหันมาชำเลืองมองเขาเพียงชั่วครู่
“The wanderer was killed by the enemy.”
ฝูงยุงรำคาญเหล่านั้นจัดเรียงตัวเพื่อแสดงเป็นตัวอักษรบนอากาศเพื่อสื่อความเรื่องราวที่เกิดขึ้นไกลออกไปให้เขาได้รับรู้
“Who did it?”
เฟี๊ยตพึมพำออกมาเสียงเบาอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเองนัก เพียงเวลาชั่วไม่กี่อึดใจนี่ก็มีผู้เคราะห์ร้ายเสียชีวิตไปอีกรายเสียแล้ว
“The dinosaur from the river!”
เฟี๊ยตค่อยๆ เลื่อนสายตากลับไปมองที่เจ้าไดโนเสาร์จากโลกยุคดึกดำบรรพ์นั่นอีกครั้ง ทั้งๆ ที่มันก็ต่อสู้ติดพันกับผู้เล่นอีกคนตรงหน้าอยู่ตลอดเวลา แต่มันกลับแยกตัวไปฆ่าผู้เล่นอีกคนได้ หมดความกังขาใดๆ เสียแล้ว การพยายามจะข้ามแม่น้ำพร้อมๆ กัน ดูเหมือนจะไร้ค่าเสียแล้ว
“ธัน” เฟี๊ยตพูดขึ้นมาเบาๆ พร้อมกับเด็กหนุ่มอีกคนที่ละสายตาจากการต่อสู้ตรงหน้านั่นหันกลับมาตามเสียงเรียก
“ว่า”
ธันพูดสั้นๆ ก่อนจะหันกลับไปมองการต่อสู้อีกครั้ง เจ้ายักษ์นั่นยังคงพ่นน้ำใส่บาเรียนั่นไม่หยุด จนถึงบัดนี้ พวกเขาทั้งคู่ก็ไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าผู้เล่นคนนั้นได้เลย
“ผู้เล่นอีกคนที่กำลังจะข้ามน้ำเหมือนกันตายแล้ว ถูกไดโนเสาร์จากแม่น้ำนั่นฆ่าในช่วงที่เรากำลังนั่งดูการต่อสู้ตรงหน้านี้อยู่” เฟี๊ยตพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงกระซิบ
“เฮ้ยย มันก็อยู่ตรงหน้าเราตลอด แล้วมันจะไปฆ่าคนอื่นได้ไง” ธันถามขึ้นมาอย่างฉงน
“มันอาจจะมีหลายตัว หรือไม่ มันก็อาจจะมีหลายร่าง” เฟี๊ยตพูดขึ้นอย่างคิดไม่ตก ดูเหมือนว่าอุปสรรคที่พาดผ่านเบื้องหน้าพวกเขานี้จะมีความซับซ้อนมากกว่าที่คิดเสียแล้ว
ซู่มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
เสียงกระแสน้ำดังลั่นขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะหายเงียบไปชั่ววินาทีหนึ่ง และตามมาด้วยเสียงกระทบกันอย่างสนั่นหวั่นไหวอีกครั้ง
ใช่แล้ว เจ้าสัตว์ยักษ์นั่นมันเปลี่ยนกลยุทธ์!
มันเปลี่ยนจากการจู่โจมที่เป็นสายน้ำต่อเนื่องไม่ให้หยุดพักหายใจนั้นเป็นลูกบอลน้ำยักษ์ที่ทยอยปล่อยออกมาเป็นระลอก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันอัดแน่นไปด้วยจักระมากมายขนาดไหน ทุกครั้งที่มวลน้ำกระทบเข้ากับบาเรียล่องหนนั้น เขารู้สึกได้เลยถึงความรุนแรงของการจู่โจมนั้น การสั่นสะเทือนส่งผ่านมวลอากาศมาถึงยังพวกเขาทั้งคู่ที่อยู่ห่างออกมาไม่น้อยเลย ดูท่าทางผู้เล่นคนนั้นจะทนทานต่อการโจมตีได้อีกไม่นานนัก เพราะจวบจนตอนนี้ เจ้าไดโนเสาร์นั่นก็หักโหมโรมรันมากว่าห้านาทีแล้ว
การเปลี่ยนแบบแผนการโจมตีของเจ้ายักษ์มีครีบนั้นเผยให้เห็นผู้เล่นที่อยู่ภายใต้บาเรียนั้นอย่างชัดเจน หลังจากที่ถูกบดบังด้วยกระแสน้ำเชี่ยวมาเป็นเวลานาน
ผู้เล่นคนนั้นเป็นชายหนุ่มร่างใหญ่สวมชุดสีดำสนิทตัดด้วยลายอักขระสีทองสด ใบหน้านั้นถูกปกปิดด้วยผ้าปิดปากสีดำจนทำให้ในขณะนี้มองเห็นได้เพียงแววตาคู่คมเท่านั้น ชายคนนั้นปราศจากอาวุธโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะมองอย่างไร เฟี๊ยตก็ไม่อาจเข้าใจกลยุทธ์ของคนตรงหน้านี้ได้ เหมือนจะมีเพียงเกราะล่องหนที่คอยปกป้องความปลอดภัยไว้เท่านั้น เห็นทีว่าเมื่อมันแตกสลายลงเมื่อไหร่ คนตรงหน้านี้ก็คงจะมีชะตากรรมไม่ต่างกับผู้เล่นคนอื่นที่เจ้าไดโนเสาร์นั่นได้พานพบมา
ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
เสียงกระทบระหว่างบาเรียกับมวลน้ำนั่นดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง พร้อมกันกับที่เฟี๊ยตขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด สถานการณ์ครั้งนี้ต่างจากครั้งที่แล้วมาก เนื่องจากผู้เล่นตรงหน้าเขาประวิงเวลาได้นานพอจะให้เขาตัดสินใจใดๆ ได้อย่างเพียงพอ ครั้งที่แล้วเขาไม่ค่อยรู้สึกผิดมากนัก ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน แต่ครั้งนี้เขาจะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างนั้นอีกเหรอ ในเมื่อเขามีโอกาสมากมายที่จะช่วยเหลือคนตรงหน้านี้ไว้
ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
ธันหันมามองหน้าเฟี๊ยตน้อยๆ อย่างรู้เท่าทันความคิดของเพื่อนชายดี เด็กหนุ่มได้แต่มองเฟี๊ยตอย่างเห็นใจ เขารู้ดีมาแต่ไหนแต่ไรว่าเฟี๊ยตเป็นคนขี้สงสารคนและจิตใจอ่อนไหวกับเรื่องแบบนี้อยู่ไม่น้อย การให้คนแบบนี้มานั่งมองคนตายไปต่อหน้าต่อตาก็คงจะกระไรอยู่ไม่น้อย คำพูดต่างๆ มากมายที่เตรียมจะพูดออกไปจึงสิ้นสุดอยู่เพียงเท่านั้น
เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
เสียงระเบิดของเกราะล่องหนนั่นดังขึ้นอย่างไม่สามารถทนทานต่อการโจมตีได้อีกต่อไป ชายหนุ่มเจ้าของเครื่องป้องกันนั่นล้มกระแทกลงไปบนพื้นจากแรงอัดที่ส่งผ่านมาทางมวลอากาศนั้น ดูเหมือนว่าการประลองระหว่างผู้เล่นคนนั้นกับปีศาจร้ายจะเข้าใกล้จุดยุติเต็มที เห็นทีว่าการโจมตีครั้งต่อไปอาจจะเป็นการโจมตีดับลมหายใจของชายคนนั้นจากโลกแห่งความฝันแห่งนี้
“The defensive golem RELEASE!”
“กำแพงทราย!”
เฟี๊ยตตะโกนออกไปอย่างสุดจะกลั้นเมื่อสายตาของเขาเห็นอยู่ชัดๆ ว่ามวลน้ำก้อนสุดท้ายกำลังพุ่งเข้าจู่โจมผู้เคราะห์ร้ายคนนั้นแล้ว เขาไม่อาจทานทนต่อภาพโหดร้ายเฉกเช่นเมื่อวานนี้แน่นอน ถึงแม้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นการประกาศศัตรูกับเจ้าสัตว์จากโลกล้านปีนั่น เขาก็ต้องทำ
ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
มวลน้ำพุ่งประทะกับกำแพงทรายอย่างแรง ก่อนที่ของเหลวเหล่านั้นจะแทรกซึมไปตามกำแพงละเอียดนั่น พร้อมกับกลายสภาพมวลแข็งเหล่านั้นให้กลายเป็นทรายเปียกๆ ก่อนจะล้มสลายไปตามแรงโน้มถ่วง
ใช่แล้ว ทรายแพ้น้ำ เฟี๊ยตจำบทเรียนเรื่องนี้ได้ดี!
“กำแพงล่องหน!”
ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
เสียงของธันดังขึ้นสมทบทันทีเมื่อเห็นว่ากำแพงทรายของเฟี๊ยตไม่อาจต้านทานฤทธิ์ของอาวุธวารีนั่นได้อย่างแน่นอน
เด็กหนุ่มสั่งให้พื้นล่องหนนั่นทอดยาวไปเบื้องล่าง ก่อนจะรีบสาวเท้าลงไปหาชายคนนั้นเพื่อเกาะกลุ่มกันก่อน ก่อนจะที่จะจัดการอะไรต่อไป เฟี๊ยตที่ในขณะนั้นก็ตระหนกในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานนั่นก็รีบวิ่งตามลงไปเช่นกัน ถ้าการตัดสินใจครั้งนี้ของเขานำมาซึ่งความตายของเขาและเพื่อน เขาคงจะโกรธและเกลียดตัวเองอย่างบอกไม่ถูกเลย
“เฟี๊ยต” ธันพูดขึ้นพร้อมกับยังคงตรงไปที่ชายชุดดำคนนั้น
“ว่าไงวะ”
เฟี๊ยตถามพร้อมกับสายตาที่ยังจับจ้องไปที่กำแพงล่องหนที่เริ่มสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นด้วยแรงของมวลน้ำยักษ์นั่นอีกครั้ง
“ขอเบอร์หน่อยดิ” ธันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“เอาไปทำไมวะ” เฟี๊ยตถามขึ้นอย่างงงๆ พร้อมกับเหลือบมองไปยังเจ้ายักษ์นั่นอย่างหวาดวิตกอยู่ไม่น้อย
“ถ้ากูตายไปในไม่กี่อึดใจข้างหน้า กูจะตามหามึงเจอในโลกแห่งความเป็นจริงได้” ธันพูดมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วทำให้ใจของเฟี๊ยตโหวงไปอย่างบอกไม่ถูก
“กูไม่ให้ เพราะมึงกับกูจะไม่ได้ตายในวันนี้แน่นอน!”
เฟี๊ยตพูดขึ้นเสียงดัง พร้อมกับเอื้อมมือซ้ายหยิบการ์ดใบหนึ่งที่เตรียมไว้แล้วโยนขึ้นไปบนอากาศ แล้วจึงนำมือขวาจับมือเพื่อนชายไว้แน่น และเอื้อมมือซ้ายไปยังชายแปลกหน้าที่พวกเขาเคลื่อนตัวมาอยู่ตรงหน้าพอดี ใช่แล้ว เขาจะไม่มีวันยอมให้ใครต้องตายเพราะการตัดสินใจของเขาเด็ดขาด พวกเขาต้องรอดไปได้ทุกคน
“Time Travelling RELEASE!”
พูดคุยได้ที่
www.facebook.com/allornonetheauthor