The Lost World มหัศจรรย์ดินแดนสาบสูญ EP204 + ประกาศอัพเดต 23/05/2018
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Lost World มหัศจรรย์ดินแดนสาบสูญ EP204 + ประกาศอัพเดต 23/05/2018  (อ่าน 444164 ครั้ง)

ออฟไลน์ yong

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ลุ้นมาก ทั้งเรื่องเฟี๊ยตธัน และราคาน้ำมันก๊าซ รอนะครับว่าใครจะให้ข่าวดีก่อนกัน

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
ไม่ได้เข้ามาอ่านหลายวัน เพราะไปติกคุณนายลั่นทม ตอนจบพอดี  กร๊ากกกกกก    เที่ยวตลอดอ่ะ   อยากเที่ยวบ้าง งุงิๆ

ตอนรองล่าสุดนี่นึกว่าดูนิยายสยองขวัญ กัดเลือดสาดเลยเรอะ!!  -0- 

แล้วตอนล่าสุดนี่  ธัน ฉลาดเนอะ 55555 (วิ่งหนีแขก)

รอลุ้นตอนต่อไปว่าจะเจอ คนข้ามแม่น้ำพร้อมกันหรือม่ายยยยยยยยย

ปล . ถ้าเหนื่อยก็พัก นิยาย ไว้มีรมแต่งแล้วค่อยแต่ง ไม่งั้น จะเกิดความรู้สึกตัน และไม่อยากแต่งอีกต่อปายยยย   เพราะเป็นอยู่บ่อยๆ อิๆๆ

ออฟไลน์ BlueJay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
สารภาพตามตรงตอนแรกผมกะจะไม่อ่านหรอกเรื่องนี้(คือชื่อเรื่องไม่ดึงดูดเท่าไร....)
เข้ามาอ่านตอนแรกก็เฉยๆพอเห็นว่าเป็นแนวๆเกมออนไลน์ยิ่งเฉยเข้าไปอีก(ผมไม่ค่อยสันทัดด้านเกม นิยายแนวเกมออนไลน์ก็ไม่ค่อยอ่าน)
แต่พออ่านไปเรื่อยมันดันติดซะเนี่ย...เลยไล่อ่านจนทันตอนนี้(ใช้เวลาไปตั้งสามวันแน่ะครับ)
ตัวละครที่ผมชอบคือไบเบิ้ล อยากให้ออกมาบ่อยๆจัง..(แล้วเฟี๊ยซกับธันล่ะ...//ก็ออกมาทุกตอนอยู่แล้วนี่โดยเฉพาะเฟี๊ยซ)
ส่วนบทอัศจรรย์ในตอนที่150-153(ถึงนี่รึเปล่านะ) ถึงตัวคนแต่งจะบอกว่าไม่สันทัดหรือไม่ถนัดก็เถอะแต่ผมว่าใช่ภาษาดีเลยนะครับ คืออ่านแล้วไม่เรทจนน่าเกียจแต่ชวนให้คิดตาม มันดูมีเสน่ห์ดีอะ5555
ส่วนตอนล่าสุดคือโหดแท้...เลือดกระจายกันเลยทีเดียว แต่ลำดับไพ่ไม่สูงมากคิดว่าเฟี๊ยซคงหาทางผ่านมันไปได้
สู้ๆนะครับ(ทั้งเฟี๊ยซ-ธันและคนเขียน)

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
บทที่ 167 The Wanderer


   ซู่มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

   เสียงคลื่นน้ำดังลั่นบริเวณเป็นการเปิดศักราชการต่อสู้ในสายวันนั้น เฟี๊ยตหลุดออกจากภวังค์ทันทีเมื่อได้ยินเสียงกึกก้องอันแสนจะคุ้นเคยนั่น เขาก้มมองผ่านพื้นล่องหนไปเบื้องล่างก็พบกับพื้นที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำแห่งชีวิตที่บัดนี้กลายเป็นสมรภูมิรบไปเสียแล้ว โชคดีที่แดดในยามเกือบเที่ยงนั่นเริ่มพาเอาหมอกที่เคยลงจัดกระจายหายไปหมดแล้ว เขาเองในเวลานี้มองเห็นการต่อสู้ได้อย่างชัดเจนดีทีเดียว และแน่นอน เจ้าปีศาจจากโลกดึกดำบรรพ์กับมนุษย์อีกคนที่กำลังต่อกรมันนั้นก็คงจะเห็นพวกเขาทั้งคู่ด้วยเช่นกัน


   ปีศาจยักษ์นั่นโผล่พ้นน้ำขึ้นมาราวีมนุษย์เดินดินที่น่าจะกำลังตัดสินใจหาวิธีข้ามแม่น้ำนั่น สภาพการณ์ตอนนี้คือ เฟี๊ยตไม่อาจมองเห็นผู้เล่นคนนั้นได้เลย เนื่องจากเจ้าไดโนเสาร์นั่นกำลังพ่นน้ำออกจากปากกว้างเข้าจู่โจมผู้เคราะห์ร้ายคนนั้นอย่างไม่หยุดหย่อน สายน้ำที่เชี่ยวกราดออกมาจากร่างกายมันนั้นเหมือนกับสายน้ำที่หล่นกระทบมาจากยอดน้ำตกอย่างใดอย่างนั้น มันดูรุนแรง มากมายมหาศาล และไม่มีวันจะหมดลง

   แต่ดูเหมือนว่าผู้เล่นคนนั้นจะกางบาเรียหรือเครื่องป้องกันอะไรสักอย่างขึ้นมาเป็นโดมปกป้องตัวเอง เพราะเท่าที่มองเห็น ณ ขณะนี้ มวลน้ำเหล่านั้นก็ยังไม่อาจเข้าจู่โจมคนคนนั้นได้เลย เหมือนมันแค่เข้าไปกระทบโดมที่เป็นรูปโค้งมนและกระเด็นออกไปเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดูได้เปรียบอะไร แต่เหยื่อในวันนี้ก็ดูจะรับมือกับเจ้าไดโนเสาร์ได้ดีกว่าคนเมื่อวานมากนัก


   “เอาไงดีธัน หมอกกระจายไปหมดแบบนี้มันมองเห็นเราแน่ จะกางบาเรียลวงตาเหมือนเมื่อวานดีไหม”

   เฟี๊ยตเอ่ยเป็นเชิงหารือ ตอนนี้ท้องฟ้ากับมาสว่างสดใสแล้ว ชายสองคนที่กำลังทรงตัวอยู่กลางอากาศนี่จึงจะกลายเป็นจุดเด่นอย่างห้ามไม่ได้เลย

   “ไม่ทันแล้วแหละ เหมือนเมื่อกี้มันก็หันมาทางพวกเรา และมองเห็นพวกเราไปแล้วเรียบร้อย” ธันเอ่ย

   “อ๊าว เฮ้ยยยย” เฟี๊ยตตอบมาอย่างงงๆ ปนตกใจ

   “แต่ไม่น่าจะเป็นอะไรนะ เพราะมันไม่ได้มีทีท่าจะสนใจหรือจู่โจมเข้ามาเลย เหมือนว่ามันจะปองร้ายเฉพาะคนที่คิดจะข้ามแม่น้ำเท่านั้น พวกเราในตอนนี้จึงดูเหมือนจะไม่ตกอยู่ในขอบเขตที่มันจะสนใจ” ธันเอ่ยสรุป


   ซู่มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

   เสียงมวลน้ำที่เชี่ยวกราดนั่นเร่งเสียงดังขึ้นเรียกร้องความสนใจพวกเขาทั้งคู่อีกครั้ง ราวกับว่าเจ้าไดโนเสาร์นี่ต้องการจะปิดเกมที่ดูเหมือนจะเริ่มยืดเยื้อเสียแล้ว เพราะผู้เล่นคนนั้นยื้อเวลาจากการโจมตีได้มาหลายนาทีแล้ว เจ้าปีศาจใต้น้ำนั่นจึงเหมือนจะเพิ่มพลังจักระใส่เข้าไปในการโจมตีนั่นไปอีก เสียงสายน้ำที่เชี่ยวกราดดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วสมรภูมินั่น

   แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าคนที่อยู่ภายใต้สายน้ำอันรุนแรงนั้นสามารถรับมือได้อย่างดีทีเดียว เพราะไม่ว่าเจ้าสัตว์ยักษ์นั่นจะเร่งพลังเพื่อปิดเกมเท่าไหร่ การป้องกันก็ไม่ได้ดูจะอ่อนด้อยลงเลยแม้แต่น้อย


   “โอ๊ยยย”

   เฟี๊ยตร้องออกมาเบาๆ อย่างไม่ตั้งใจเมื่อรู้สึกถึงความเจ็บปวดตรงข้อมือซ้าย เมื่อหันไปก็พบว่าเจ้ายุงรำคาญเพื่อนยากนั่นเอง ขณะนี้มันกำลังพยายามจะส่งสารให้เขาอีกแล้ว ธันที่ได้ยินเสียงนั่นหันมาชำเลืองมองเขาเพียงชั่วครู่


   “The wanderer was killed by the enemy.”

   ฝูงยุงรำคาญเหล่านั้นจัดเรียงตัวเพื่อแสดงเป็นตัวอักษรบนอากาศเพื่อสื่อความเรื่องราวที่เกิดขึ้นไกลออกไปให้เขาได้รับรู้

   “Who did it?”

   เฟี๊ยตพึมพำออกมาเสียงเบาอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเองนัก เพียงเวลาชั่วไม่กี่อึดใจนี่ก็มีผู้เคราะห์ร้ายเสียชีวิตไปอีกรายเสียแล้ว

   “The dinosaur from the river!”

   เฟี๊ยตค่อยๆ เลื่อนสายตากลับไปมองที่เจ้าไดโนเสาร์จากโลกยุคดึกดำบรรพ์นั่นอีกครั้ง ทั้งๆ ที่มันก็ต่อสู้ติดพันกับผู้เล่นอีกคนตรงหน้าอยู่ตลอดเวลา แต่มันกลับแยกตัวไปฆ่าผู้เล่นอีกคนได้ หมดความกังขาใดๆ เสียแล้ว การพยายามจะข้ามแม่น้ำพร้อมๆ กัน ดูเหมือนจะไร้ค่าเสียแล้ว


   “ธัน” เฟี๊ยตพูดขึ้นมาเบาๆ พร้อมกับเด็กหนุ่มอีกคนที่ละสายตาจากการต่อสู้ตรงหน้านั่นหันกลับมาตามเสียงเรียก

   “ว่า”

   ธันพูดสั้นๆ ก่อนจะหันกลับไปมองการต่อสู้อีกครั้ง เจ้ายักษ์นั่นยังคงพ่นน้ำใส่บาเรียนั่นไม่หยุด จนถึงบัดนี้ พวกเขาทั้งคู่ก็ไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าผู้เล่นคนนั้นได้เลย

   “ผู้เล่นอีกคนที่กำลังจะข้ามน้ำเหมือนกันตายแล้ว ถูกไดโนเสาร์จากแม่น้ำนั่นฆ่าในช่วงที่เรากำลังนั่งดูการต่อสู้ตรงหน้านี้อยู่” เฟี๊ยตพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงกระซิบ

   “เฮ้ยย มันก็อยู่ตรงหน้าเราตลอด แล้วมันจะไปฆ่าคนอื่นได้ไง” ธันถามขึ้นมาอย่างฉงน

   “มันอาจจะมีหลายตัว หรือไม่ มันก็อาจจะมีหลายร่าง” เฟี๊ยตพูดขึ้นอย่างคิดไม่ตก ดูเหมือนว่าอุปสรรคที่พาดผ่านเบื้องหน้าพวกเขานี้จะมีความซับซ้อนมากกว่าที่คิดเสียแล้ว
   

   ซู่มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

   ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

   เสียงกระแสน้ำดังลั่นขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะหายเงียบไปชั่ววินาทีหนึ่ง และตามมาด้วยเสียงกระทบกันอย่างสนั่นหวั่นไหวอีกครั้ง


   ใช่แล้ว เจ้าสัตว์ยักษ์นั่นมันเปลี่ยนกลยุทธ์!

   มันเปลี่ยนจากการจู่โจมที่เป็นสายน้ำต่อเนื่องไม่ให้หยุดพักหายใจนั้นเป็นลูกบอลน้ำยักษ์ที่ทยอยปล่อยออกมาเป็นระลอก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันอัดแน่นไปด้วยจักระมากมายขนาดไหน ทุกครั้งที่มวลน้ำกระทบเข้ากับบาเรียล่องหนนั้น เขารู้สึกได้เลยถึงความรุนแรงของการจู่โจมนั้น การสั่นสะเทือนส่งผ่านมวลอากาศมาถึงยังพวกเขาทั้งคู่ที่อยู่ห่างออกมาไม่น้อยเลย ดูท่าทางผู้เล่นคนนั้นจะทนทานต่อการโจมตีได้อีกไม่นานนัก เพราะจวบจนตอนนี้ เจ้าไดโนเสาร์นั่นก็หักโหมโรมรันมากว่าห้านาทีแล้ว


   การเปลี่ยนแบบแผนการโจมตีของเจ้ายักษ์มีครีบนั้นเผยให้เห็นผู้เล่นที่อยู่ภายใต้บาเรียนั้นอย่างชัดเจน หลังจากที่ถูกบดบังด้วยกระแสน้ำเชี่ยวมาเป็นเวลานาน

   ผู้เล่นคนนั้นเป็นชายหนุ่มร่างใหญ่สวมชุดสีดำสนิทตัดด้วยลายอักขระสีทองสด ใบหน้านั้นถูกปกปิดด้วยผ้าปิดปากสีดำจนทำให้ในขณะนี้มองเห็นได้เพียงแววตาคู่คมเท่านั้น ชายคนนั้นปราศจากอาวุธโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะมองอย่างไร เฟี๊ยตก็ไม่อาจเข้าใจกลยุทธ์ของคนตรงหน้านี้ได้ เหมือนจะมีเพียงเกราะล่องหนที่คอยปกป้องความปลอดภัยไว้เท่านั้น เห็นทีว่าเมื่อมันแตกสลายลงเมื่อไหร่ คนตรงหน้านี้ก็คงจะมีชะตากรรมไม่ต่างกับผู้เล่นคนอื่นที่เจ้าไดโนเสาร์นั่นได้พานพบมา


   ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

   เสียงกระทบระหว่างบาเรียกับมวลน้ำนั่นดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง พร้อมกันกับที่เฟี๊ยตขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด สถานการณ์ครั้งนี้ต่างจากครั้งที่แล้วมาก เนื่องจากผู้เล่นตรงหน้าเขาประวิงเวลาได้นานพอจะให้เขาตัดสินใจใดๆ ได้อย่างเพียงพอ ครั้งที่แล้วเขาไม่ค่อยรู้สึกผิดมากนัก ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน แต่ครั้งนี้เขาจะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างนั้นอีกเหรอ ในเมื่อเขามีโอกาสมากมายที่จะช่วยเหลือคนตรงหน้านี้ไว้


   ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

   ธันหันมามองหน้าเฟี๊ยตน้อยๆ อย่างรู้เท่าทันความคิดของเพื่อนชายดี เด็กหนุ่มได้แต่มองเฟี๊ยตอย่างเห็นใจ เขารู้ดีมาแต่ไหนแต่ไรว่าเฟี๊ยตเป็นคนขี้สงสารคนและจิตใจอ่อนไหวกับเรื่องแบบนี้อยู่ไม่น้อย การให้คนแบบนี้มานั่งมองคนตายไปต่อหน้าต่อตาก็คงจะกระไรอยู่ไม่น้อย คำพูดต่างๆ มากมายที่เตรียมจะพูดออกไปจึงสิ้นสุดอยู่เพียงเท่านั้น


   เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

   เสียงระเบิดของเกราะล่องหนนั่นดังขึ้นอย่างไม่สามารถทนทานต่อการโจมตีได้อีกต่อไป ชายหนุ่มเจ้าของเครื่องป้องกันนั่นล้มกระแทกลงไปบนพื้นจากแรงอัดที่ส่งผ่านมาทางมวลอากาศนั้น ดูเหมือนว่าการประลองระหว่างผู้เล่นคนนั้นกับปีศาจร้ายจะเข้าใกล้จุดยุติเต็มที เห็นทีว่าการโจมตีครั้งต่อไปอาจจะเป็นการโจมตีดับลมหายใจของชายคนนั้นจากโลกแห่งความฝันแห่งนี้


   “The defensive golem RELEASE!”

   “กำแพงทราย!”

   เฟี๊ยตตะโกนออกไปอย่างสุดจะกลั้นเมื่อสายตาของเขาเห็นอยู่ชัดๆ ว่ามวลน้ำก้อนสุดท้ายกำลังพุ่งเข้าจู่โจมผู้เคราะห์ร้ายคนนั้นแล้ว เขาไม่อาจทานทนต่อภาพโหดร้ายเฉกเช่นเมื่อวานนี้แน่นอน ถึงแม้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นการประกาศศัตรูกับเจ้าสัตว์จากโลกล้านปีนั่น เขาก็ต้องทำ


   ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

   มวลน้ำพุ่งประทะกับกำแพงทรายอย่างแรง ก่อนที่ของเหลวเหล่านั้นจะแทรกซึมไปตามกำแพงละเอียดนั่น พร้อมกับกลายสภาพมวลแข็งเหล่านั้นให้กลายเป็นทรายเปียกๆ ก่อนจะล้มสลายไปตามแรงโน้มถ่วง

   ใช่แล้ว ทรายแพ้น้ำ เฟี๊ยตจำบทเรียนเรื่องนี้ได้ดี!


   “กำแพงล่องหน!”

   ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

   เสียงของธันดังขึ้นสมทบทันทีเมื่อเห็นว่ากำแพงทรายของเฟี๊ยตไม่อาจต้านทานฤทธิ์ของอาวุธวารีนั่นได้อย่างแน่นอน


   เด็กหนุ่มสั่งให้พื้นล่องหนนั่นทอดยาวไปเบื้องล่าง ก่อนจะรีบสาวเท้าลงไปหาชายคนนั้นเพื่อเกาะกลุ่มกันก่อน ก่อนจะที่จะจัดการอะไรต่อไป เฟี๊ยตที่ในขณะนั้นก็ตระหนกในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานนั่นก็รีบวิ่งตามลงไปเช่นกัน ถ้าการตัดสินใจครั้งนี้ของเขานำมาซึ่งความตายของเขาและเพื่อน เขาคงจะโกรธและเกลียดตัวเองอย่างบอกไม่ถูกเลย


   “เฟี๊ยต” ธันพูดขึ้นพร้อมกับยังคงตรงไปที่ชายชุดดำคนนั้น

   “ว่าไงวะ”

   เฟี๊ยตถามพร้อมกับสายตาที่ยังจับจ้องไปที่กำแพงล่องหนที่เริ่มสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นด้วยแรงของมวลน้ำยักษ์นั่นอีกครั้ง

   “ขอเบอร์หน่อยดิ” ธันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

   “เอาไปทำไมวะ” เฟี๊ยตถามขึ้นอย่างงงๆ พร้อมกับเหลือบมองไปยังเจ้ายักษ์นั่นอย่างหวาดวิตกอยู่ไม่น้อย

   “ถ้ากูตายไปในไม่กี่อึดใจข้างหน้า กูจะตามหามึงเจอในโลกแห่งความเป็นจริงได้” ธันพูดมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วทำให้ใจของเฟี๊ยตโหวงไปอย่างบอกไม่ถูก


   “กูไม่ให้ เพราะมึงกับกูจะไม่ได้ตายในวันนี้แน่นอน!”

   เฟี๊ยตพูดขึ้นเสียงดัง พร้อมกับเอื้อมมือซ้ายหยิบการ์ดใบหนึ่งที่เตรียมไว้แล้วโยนขึ้นไปบนอากาศ แล้วจึงนำมือขวาจับมือเพื่อนชายไว้แน่น และเอื้อมมือซ้ายไปยังชายแปลกหน้าที่พวกเขาเคลื่อนตัวมาอยู่ตรงหน้าพอดี ใช่แล้ว เขาจะไม่มีวันยอมให้ใครต้องตายเพราะการตัดสินใจของเขาเด็ดขาด พวกเขาต้องรอดไปได้ทุกคน


   “Time Travelling RELEASE!”


   พูดคุยได้ที่ www.facebook.com/allornonetheauthor


ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
   จากผู้แต่ง : ลงช้าเพราะชีวิตมีแต่เรื่อง ฮือ พอเครียดแล้วมันแต่งไม่ออกหนะ ต้องรอเรื่องคลี่คลายถึงแต่งต่อไหว ขอโทษด้วยครับ

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
ย้อนเวลาหนีกันเลยทีเดียว =/\=

ออฟไลน์ Umiko

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ยังสนุกสนานเหมือนเดิม....

ลุ้นมาก

ออฟไลน์ เอาแต่ใจจะทำไม

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อืม มาแล้วดีใจจัง  :hao7:
แต่ตอนนี้ลุ้นมากกกก ค้างอะ จะรอดหรือจะจบเกม อิอิ รอต่อไป :ling1:

ออฟไลน์ Shadownights

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ดีแล้วล่ะที่หนีไปตั้งหลักก่อน ไดโนเสาร์เก่งเกินไป สงสัยจะมีหลายตัวแน่เลยยย

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
ใช้การ์ดใหม่เลยเรอะ

ท่าทางคนนั้นอาจจะเป็นสมาชิกใหม่ของกลุ่มเฟี๊ยตของเป็นไปได้นะ  :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ไดโนนั่นท่าจะเก่งมากเลย แล้วยังงี้สองหนุ่มนั่นจะผ่านไปยังไงล่ะเนี่ย คนที่มาใหม่อีก จะกลายเป็นสมาชิกใหม่มั้ยน้า

ออฟไลน์ yong

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
จากผู้อ่านถึงผู้เขียน คงไม่ต้องบอกว่าชอบแค่ไหน รอลุ้นรออ่านตลอด ที่อ่ายก่อนคือที่โพสท์หลังเรื่อง  ได้แต่บอก ทุกอย่างผ่านมา แล้วต้องผ่านไป  มีคนห่วงใยไม่ได้อยู่คนเดียว  มิตรอักษร

ออฟไลน์ igaga

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ตื่นเต้นๆๆๆๆๆๆ วันนี้มาลงอีกนะ   ิิ

ออฟไลน์ mnara

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
พึ่งเข้ามาอ่านจ้าแต่อ่านรวดเดียวเลย
จะบอกว่าชอบเรื่องนี้มากเลยนะ
ถ้าถามว่าชอบขนาดไหนก็จะบอกว่า
พอเริ่มอ่านก็หยุดไม่ได้เลยประมาณว่า
ไม่อยากทำอะไรเลยถ้ายังอ่านไม่หมด
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ
ขอให้มีสุขภาพแรงกายและแรงใจที่ดีนะ
ท้อแท้ได้แต่อย่าท้อถอยนะคะ สู้ สู้ o13

ออฟไลน์ savada

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ค้างคะ   2 วันอ่านไล่จี้มาเลยละ  ฮ่าๆๆๆ

มันยาวมากก  พูดเลยว่าจำการ์ดได้ไม่หมด  ฮ่าๆๆ  ตาลายสุดๆ

แต่ชอบการเดินเรื่องอะ  ละเอียดดี  แล้วตกลงคู่กันแล้วปะพ่อตี๋กะหนุ่มแขกเนี่ย

จะได้ชูป้ายไฟเชียร์ ฮู่เร่ๆๆๆ   ฮ่าๆๆ

งง แปป แทน ปัน ข้ามสบายเพราะเวทธาตุน้ำปะ   หรือนี่คือสมาชิกธาตุน้ำที่จะพาข้าม O.O

รอคะ ค้างงงงง    ชอบพ่อนักปรุงยาจริงจัง  ฮ่าๆๆๆ

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
บทที่ 168 That Guy


   ทันทีที่เสียงประกาศคำสั่งใช้การ์ดเวทมนตร์นั้นจบสิ้นลง เฟี๊ยตก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังตกอยู่ท่ามกลางกระแสของคลื่นอะไรสักอย่างที่แสนจะทรงอานุภาพอย่างใดอย่างนั้น เหมือนตัวเขาถูกดูดไปห้วงของสายธารแห่งการเคลื่อนไหวที่ไม่มีที่สิ้นสุด ชายหนุ่มรู้สึกจุกและมวนท้องราวกับมีมือที่มองไม่เห็นมาจับลำไส้ในท้องของเขาบิดไปบิดมาอย่างนั้น แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เฟี๊ยตก็ยังคงยึดมือของชายทั้งสองไว้แน่น เพื่อนตัวเองฝั่งหนึ่ง และชายปริศนาอีกฝั่งหนึ่ง เขาจะไม่ยอมปล่อยให้คนทั้งคู่หลุดมือไปในช่วงของการเคลื่อนที่ที่ไร้ทิศทางนี้แน่ พวกเขาน่าจะกำลังเดินทางข้ามเวลาอยู่ ซึ่งหากการพลัดพรากเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ เขาก็ยากที่จะหาคำตอบได้ว่าเขาจะไปตามหาคนทั้งสองได้อีกครั้งจากที่ไหน และด้วยวิธีใด ความปั่นป่วนที่กำลังเกิดขึ้นนี่ดูจะเกิดกว่าความควบคุมของเขาไปไกลเหลือเกิน


   ตึงงงงงง

   เสียงดังลั่นขึ้นเบาๆ พร้อมกับความพิอักพิอ่วนภายในช่องท้องที่จบลงเช่นกัน พวกเขาทั้งสามคนที่ลอยอยู่บนอากาศสูงไม่เกินหนึ่งเมตรตกลงมานั่งจ้ำเบ้าบนพื้นอย่างไม่ทันระวังตัว บรรยากาศรอบกายตอนนี้เงียบสงบมาก ความวุ่นวายจากการโจมตีของเจ้าไดโนเสาร์บ้าเลือดนั้นหายไปอย่างสิ้นเชิง บัดนี้เป็นเวลาค่ำเสียแล้ว ท้องฟ้าบนศีรษะของชายทั้งสามมืดสนิทโดยมีแสงดาวประกายระยิบระยับแทรกอยู่เป็นระยะ เฟี๊ยตกวาดสายตามองโดยรอบอย่างสงสัยอีกครั้ง พวกเขาทั้งสามไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหนเลย พวกเขายังอยู่ริมแม่น้ำฝั่งเดิมตรงที่เคยโรมรันกับเจ้ายักษ์นั่นอย่างนั้น ผิดไปก็เพียงแต่เวลา ณ ขณะนี้ และเจ้าไดโนเสาร์ตัวนั้นที่ไม่เห็นมีอยู่อีกแล้ว

   เฟี๊ยตค่อยๆ ปล่อยมือทั้งสองออกหลังจากตัดสินใจเห็นว่าสถานการณ์กลับมาปลอดภัยดีแล้ว ชายทั้งสามคนมีสติกลับคืนมาอีกครั้ง และเริ่มตรวจสอบความเรียบร้อยของร่างกายและทรัพย์สินของตัวเองว่ามีสิ่งใดขาดตกบกพร่อง หรือได้รับอันตรายไปบ้างหรือไม่จากการเดินทางข้ามผ่านกระแสเวลาครั้งนี้


   ชายผู้มาใหม่คนนั้นแกะผ้าคลุมที่หน้าออกแล้ว การแต่งกายของเขาดูเหมือนกองโจรอะไรทำนองนั้น ใบหน้าของเขาดูคมเข้มและเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นไทยอย่างบอกไม่ถูก ผิวที่เอนเอียงไปทางโทนน้ำผึ้งแต่ไม่ถึงกับแทนสอดรับกับดวงตาที่ดูอ่อนโยนแต่ไม่ถึงกับหวาน สันจมูกที่ไม่สูงโดดเด่นแต่วางแนวยาวเป็นแกนสวยคล้องกับใบหน้ารูปไข่มน หนวดอ่อนๆ กับไรขนของเคราที่เผยตัวอยู่แถบปลายคางนั้นแสดงความเป็นชายชาตรีออกมาอย่างลุ่มลึกแต่ก็ไม่ถึงกับโจ่งแจ้งนัก บุรุษผู้นี้มีลักษณะของความเป็นชายไทยอย่างแท้จริง ถึงแม้ว่าเฟี๊ยตจะบอกไม่ถูกเลยว่าคนตรงหน้านี้มีอวัยวะใดในเค้าหน้าที่เผยความเป็นชนชาติออกมาอย่างโดดเด่น แต่เมื่อพิจารณาภาพโดยรวมแล้ว ชายตรงหน้าคนนี้คมเข้มราวกับว่าหลุดมาจากภาพยนตร์หลงยุคก็ไม่ปาน สีผิวน้ำผึ้งกับร่างกายที่อุดมไปด้วยมัดกล้ามสมส่วนที่ไม่ถึงกับว่าจะหนาเท่าแทน แต่ก็ไม่ถึงกับบางเท่าธันหรือตัวเขานั้นให้ความรู้สึกเหมือนชายชาตรีที่หลุดมาจากนิยายประวัติศาสตร์อย่างใดอย่างนั้น ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้ชายแบบพิมพ์นิยมที่หญิงสาวสมัยนี้จะร่ำร้องเรียกหาเท่าใดนัก แต่ชายตรงหน้าเขาก็เรียกได้ว่าประกอบขึ้นด้วยกลิ่นอายแห่งบุรุษเพศที่สมบูรณ์พร้อมเลยทีเดียว


   ธันซึ่งอยู่ถัดออกไปอีกฝั่งหนึ่งชำเลืองสายตามองมาทางเฟี๊ยตและชายหนุ่มคนนั้นอย่างสนใจ ดวงตาคู่นั่นหรี่ลงอย่างตรึกตรองอะไรในใจภายใต้สีหน้าที่เรียบเฉยนั้น หากแต่ก็ไม่มีคำพูดใดหลุดออกไปในชั่วขณะจิตนั้นเช่นกัน ราวกับเล่นเกมจิตวิทยาอย่างนั้น ความเงียบบังเกิดขึ้นปกคลุมชายหนุ่มทั้งสามที่บริเวณอดีตสมรภูมินั่น รอเพียงแต่ว่าใครจะหาญกล้าที่จะทำลายมันเป็นคนแรก


   “ขอบคุณที่พวกคุณช่วยผมเอาไว้นะ”

   เสียงแรกที่ดังขึ้นนั้นเป็นของชายผู้มาใหม่นั่นเอง ชายหนุ่มคนนั้นตัดสินใจพูดขึ้นเป็นคนแรก หลังจากที่เขาเงียบไป และเหมือนจะรื้อหาของอะไรสักอย่างในกระเป๋าเสื้อคลุมชั่วจังหวะหนึ่ง

   “ไม่เป็นไร”

   เสียงของธันสอดรับขึ้นมาเป็นคนแรก สีหน้าของธันดูเรียบเฉยกว่าปรกติที่อยู่กับเฟี๊ยตพอสมควร ดูเหมือนเด็กหนุ่มจะยังไม่ค่อยไว้ใจชายหนุ่มตรงหน้านี่เท่าไหร่นัก

   “ด้วยความยินดีครับ”

   เฟี๊ยตพูดออกไปพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง โดยเนื้อแท้แล้ว เขาก็ยังไม่ได้ปักใจเชื่อใจคนตรงหน้านี่เท่าไหร่ แต่การจะแสดงออกทางสีหน้าว่าไม่ค่อยไว้ใจอย่างเด็กหนุ่มอีกคน ตัวเขาเองก็มองว่ามันเป็นการกระทำที่ไม่ฉลาดเท่าไรนัก
   

   “หวังว่าพวกคุณคงไม่ใช่อดิศร อิสระเมธีนะครับ” เสียงของชายคนนั้นสูงขึ้นน้อยๆ เป็นคำถาม

   “ไม่ใช่ครับ ผมชื่อเฟี๊ยต รัฐกิจ ป้องประสานกุลครับ” เฟี๊ยตตอบขึ้นก่อน เมื่อเห็นว่าธันยังคงเงียบไว้เชิงอยู่อย่างนั้น

   “ไม่ใช่เหมือนกัน ชื่อ อัศนิกร วรสวัสดิ์กุล เรียกสั้นๆ ว่าธันก็ได้” เด็กหนุ่มพูดขึ้นอย่างเสียไม่ได้ เมื่อเห็นว่าการไม่ตอบดูจะเสียมารยาทพอสมควร


   ทันใดนั้นเอง สิ่งที่พวกเขาทั้งสองคนคาดไม่ถึงก็เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว พื้นที่บริเวณที่พวกเขาทั้งสามนั่งอยู่นั่งเกิดแสงสว่างที่ทองอร่ามสาดขึ้นอย่างฉับพลันทันใด ลักษณะของมันถูกเขียนไว้ด้วยอักขระภาษาจีนที่เฟี๊ยตเองก็ไม่อาจตีความได้เหมือนกัน เพียงชั่วอึดใจหนึ่ง เส้นเหล่านั้นก็แยกตัวออกจากกันกลายเป็นเส้นตรงเดี่ยวๆ พร้อมกับลอยขึ้นจากพื้นราวกับมันมีชีวิต พร้อมกับตวัดตัวเองมาเกี่ยวรัดตัวเขาและธันดังเช่นดังว่าเป็นสายโซ่ที่มีชีวิตอย่างนั้น เฟี๊ยตเอื้อมมือจะเข้าไปคว้าขวดยาพิษที่อยู่ในเสื้อคลุม แต่เดชะบุญ ร่างกายของเขาไม่อาจขยับได้เลย เหมือนกับว่ามันถูกพันธนาการไว้ด้วยตรวนที่มองไม่เห็นฉะนั้น


   “พวกคุณคิดร้ายกับผมหรือเปล่าครับ”

   ชายคนนั้นหันมาถามด้วยน้ำเสียงสุภาพราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น แถมคำถามยังเป็นคำถามที่ตรงไปตรงมาเสียจนไม่น่าจะหลุดออกมาจากปากคนที่รู้จักกันได้ไม่ถึงชั่วโมงแบบนี้


   “เปล่าครับ!”

   “ไม่!”

   เสียงของเฟี๊ยตกับธันและเฟี๊ยตดังประสานกันออกมาอย่างน่ามหัศจรรย์ใจที่สุด ใช่แล้ว พวกเขาทั้งคู่ไม่อาจควบคุมร่างกายและความรู้สึกนึกคิดของตนเองได้เลย พวกเขาตอบไปตามความจริงที่อยู่ในสมองอย่างกับโดนมนต์สะกดของเวทมนตร์ลึกลับอย่างนั้น ชายตรงหน้าดูเหมือนจะมีความลึกลับมากมายกว่าที่จินตนาการไว้ตอนแรกเสียแล้ว เห็นว่าการที่พวกเขาทั้งคู่หวาดระแวงคนตรงหน้านี้จะไม่เป็นเรื่องที่เกินสมควรไปอย่างใดเลย


   “Hurricane!”

   “Tetrodotoxin!”

   สองเสียงของชายทั้งสองสอดประสานรับกันอย่างรวดเร็ว ธันเอามือทั้งสองมาประสานเพื่อให้แหวนที่นิ้วทั้งสองกระเทาะกันเพื่อสั่งใช้งานเรียกลมดั่งที่เคยต่อสู้กับเจ้าปีศาจโบราณนั่นมาแล้ว

   เด็กหนุ่มปลดปล่อยกระแสอากาศมหาศาลออกมาในช่วงเวลาพริบตาเดียวเท่านั้น รอบบริเวณที่พวกเขากำลังยืนอยู่นี้ ปรากฏเป็นกำแพงพายุหมุนขนาดใหญ่ มันทอดกายสูงสุดจนประเมินความสูงไม่ได้ สีหน้าของธันตอนนี้เริ่มฉายแววโทสะออกมาเสียแล้ว เด็กหนุ่มดูจะสูญเสียความสงบนิ่งไปพอสมควรซึ่งนั่นอาจจะนำมาสู่ความเพลี้ยงพล้ำต่อผู้ที่มาอย่างไม่รู้เจตนาตรงหน้าได้ แต่ดูเหมือนว่าความโกรธที่กำลังโหมกระพืออยู่นั้นจะไปปลดล็อคขุมพลังอะไรบางอย่างในตัวเด็กหนุ่มคนนั้น กำแพงวายุที่ธันสร้างขึ้นดูแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เฟี๊ยตจินตนาการไว้มากทีเดียว เห็นจะเป็นไปอย่างที่ครูอิสราว่า ธันเป็นคนที่มีความลึกที่ยากเกินจะหยั่งถึงจริงๆ


   เฟี๊ยตเองก็ไวกับสถานการณ์ด้วยเช่นกัน เขาหยิบหลอดยาพิษในเสื้อคลุมที่เตรียมไว้สามหลอด เขวี้ยงเข้าไปในกระแสของอากาศที่กำลังก่อรูปขบวนกันอย่างรุนแรงนั่น


   นี่คือหนึ่งในแผนการณ์ที่เขาเตรียมไว้ก่อนแล้ว!

   พายุของธันกับยาพิษของเฟี๊ยตจะผสมรวมกันกลายเป็นการโจมตีที่ไร้เขตแดน การโจมตีทางกายภาพของธันที่มีขอบเขตกว้างประกอบเข้ากับการโจมตีทางชีวภาพของเฟี๊ยตที่ยืดหยุ่นและรุนแรง นี่คือแผนกลยุทธ์หนึ่งในหลายๆ แผนที่พวกเขาเตรียมไว้โรมรันกับคู่ต่อสู้ที่มุ่งประสงค์ร้ายกับพวกเขา หนึ่งของธันกับหนึ่งของเฟี๊ยตจะรวมกันได้เกินสองแน่นอน!


   “The Defensive Golem RELEASE!”

   “กลยุทธ์หุ่นเชิดตุ๊กตาทรายไร้ชีวิต ประกอบค่ายกล!”

   เสียงคำสั่งเรียกใช้การ์ดที่คุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้หาได้มาจากปากเภสัชกรหนุ่มอย่างเคยไม่ หากแต่มันหลุดออกมาจากปากของชายชุดดำปริศนานั่น ชายคนนั้นดูไม่ยี่หระกับความกล้าแกร่งของอาวุธของพวกเขาแม้แต่น้อย แถมยังเรียกใช้กลยุทธ์เพื่อต่อกรอย่างสงบนิ่งเสียด้วย


   ดูเหมือนพวกเขาจะเลือกช่วยชีวิตผิดคนเสียแล้ว!


   จิ้มเบาเบา : www.facebook.com/allornonetheauthor
   
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0

   จากผู้แต่ง : ปรึกษาอย่างจริงจัง

สารภาพว่าตอนนี้ไม่มีเวลาแต่งนิยายเหมือนก่อนแล้ว เนื่องจากงานหนักขึ้นมาก อีกส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากการที่นิยายแต่งมานาน หรือผมลงไม่สม่ำเสมอ ทำให้คนเข้ามาเม้นมาให้กำลังใจน้อยลง แรงใจในการแต่งก็ลดลงไปอีก แถมยังมีหนังสืออื่นที่ผมแต่งอยู่อีกสองเล่ม กับงานพิเศษอีกหนึ่งงาน ทำให้เวลาลดน้อยถอยลงไปอีก

ผมควรทำอย่างไรต่อไปดี
สารภาพว่าตอนแรกตั้งใจจะตัดจบภาคแรกตอนตอนที่ 170 แล้วจะแต่งต่อหรือไม่ค่อยว่ากันต่อในอนาคต เพราะทุกวันนี้ลงได้ไม่สม่ำเสมอมากๆ บางสัปดาห์ลงแค่ตอนหรือสองตอน ใจหนึ่งก็รู้สึกผิด อีกใจหนึ่งก็เหนื่อยกับภาระหน้าที่หลัก

ผมควรหยุดแต่งต่อก่อนที่จะไม่เหลือคนเม้นเลยดี หรือว่าจะฝืนแต่งต่อไปแบบไม่สม่ำเสมออย่างนี้ดีครับ

ผมตัดสินใจไม่ถูกเลย หยุดไปก็กลัวคนอ่านจะโกรธ แต่แต่งต่อไปแบบกระท่อนกระแท่นก็กลัวคนอ่านจะโกรธอีก กลัวที่สุดคือสักวันคนอ่านเบื่อนิยายผมหมด ไม่มีใครเม้นให้สักคนเดียว ผมจะทำยังไงดีครับ ผมกลัวผมจะไม่เหลือความกล้าที่จะเขียนหนังสืออีกต่อไป

ผมสับสนและคิดไม่ตกมาหลายวันแล้ว ขอความคิดเห็นและคำแนะนำหน่อยครับ ผมไปต่อไม่ถูกเลย

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
ตอบคุณ savada : ที่ปันกับแทนข้ามไปได้เพราะสองคนนั้นข้ามไปก่อนช่วงเวลาที่ไดโนเสาร์ตัวนี้ปรากฏตัวครับ ถ้าอ่านรายละเอียดละเอียดๆ จะพบว่ามันเพิ่งออกอาละวาดครับผมม

ออฟไลน์ savada

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
เฮ้ย   อะไรยังไง  แก อะไร ฉัน งง อะ   ฮ่าๆๆๆ   

เออเนอะ  พึ่งออกมาไม่กี่วันนี่น่า แหะๆๆ  แต่แบบว่าบรรยายลักษณะบุคคลซะ น้ำลายไหลเลย  ฮ่าๆๆ

ชอบเรื่องนี้เพราะผู้ชายหล่อ  ฮ่าๆๆ  ไม่หล่อก็ล่ำปล้ำง่าย ไม่ก็เคะแมวน้อยไปเลย  เก๊าปลื้มผู้ชายเรื่องนี้ :mew1:

ฮ่าๆๆ  เริ่มไม่เกี่ยว เริ่มนอกเรื่อง   แต่แอบคิดว่า ตัวละครใหม่เนี่ย จงใจปะ แบบจงใจอ่อยให้ช่วยไรงี้ ฮ่าๆๆ  เอ๊ะหรือคิดเยอะ 

ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง    เออะๆๆๆๆๆๆ

ปล  อย่าคิดว่าเราไม่ตั้งใจอ่านนะ พอดี แบบว่าอ่านแบบไล่กวดไง แบบเบลอๆ ฮ่าๆ

ออฟไลน์ mildmint0

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
ผมชอบตอนนี้ ที่มันพลิกผันมาก ตรงที่คนที่ธันกับเฟี๊ยตช่วยไว้
ดันหันมาลอบแว้งกัด ซึ่งเจตนาจริงๆ คืออะไรก็ไม่รู้
แต่ดูท่าว่าคนนี้จะไม่ธรรมดา เพราะถ้าไม่เก่งจริง
ไม่กล้ามาเผชิญกับเฟี๊ยตและธันซึ่งมีกัน 2 คนหรอก
คนคนนี้ๆน่ากลัวจริงๆ
ปล.ผมแล้วแต่คนแต่งเลยครับ กลัวแนะนำอะไรไปแล้วมันไม่โอเค
ลองดูคนที่มาคอมเมนต์คนอื่นๆดู ว่าเค้าคิดว่ายังไง สู้ๆครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ cweanz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :katai5: :katai5: *กระดึ๊บบบ* ตามมาให้กำลังใจละจ้า ขออ่านก่อนเด้อหล่า

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
อ้าวตอนแรกนึกว่าจะมาแบบเป็นเพื่อนร่วมทีมคนใหม่
ดันไม่ใช่ซะงั้น ดูท่าทางจะเก่งซะด้วยนะ  :a5:

อดิสรเป็นใคร?  :hao3:

อิน้องธันเนี่ยความจริงเก่งมากเลยสิเนี่ย ต่อๆไปอาจจะมีโหมดบ้าคลั่งอ่ะป่าว



ปอลิง: คำปรึกษาอันนี้อยู่ในเฟส


 :fire: แอร๊ยยยยยย พูดได้ยังไงไม่มีคนอ่านไม่มีคนเม้นท์
นี่ที่ฉันอ่านฉันเม้นท์นี่ไม่ใช่คนเรอะ!!!!

งานหนัก หยุดพักทำงานเราก็โอเคเข้าใจเหตุผล
จะมาอาทิตย์ละตอน หรือสองอาทิตย์ตอน เราก็ไม่ว่า
แต่ไม่อยากให้พูดหรือมีความคิดที่จะทิ้งนิยายเลย
เราตามเชียร์มาตั้งนาน อยากให้เข้าใจในแง่คนที่อยากอ่านจริงๆจังเหมือนกันนะ เพราะรักนิยายนี้มากถึงคอยตามเชียร์อยากให้มันเข็นออกมาจนเป็นหนังสือจบได้แบบบริบูรณ์ ถึงจะใช้เวลาปีสองปีก็ไม่ว่าหรอก เพราะเราก็เข้าใจคนเขียนนิยายที่ตั้งใจเวลาในการเขียนมากกว่าอ่านอยู่แล้ว อยากให้สัญญากับตัวเองกับคนอ่านว่าจะลงให้จบก็พอ นานแค่ไหนก็รอได้ มันมาถึงขนาดนี้แล้วก็ไม่อยากจะให้ทิ้งตัวละคร
ขนาดนิยายเราเคยรอมา 5ปี เราก็รอมาแล้ว บางเรื่อง 7 ปียังไม่มาต่อก็ยังคงรอด้วยซ้ำ หวังว่านักเขียนจะคิดถึงตัวละคร แล้วทำให้มันกลับมาโลดแล่นอีกครั้ง
ในชีวิตจริงเราเข้าใจว่าต้องทำมาหากิน เราก็ไม่ได้ให้ทิ้งงานแล้วมาเขียนนิยายอย่างเดียวนี่ ตอนแรกๆเราเห็นเลยว่าคุณอ้นมีความสุขและติดลมในการเขียนนิยายเรื่องนี้จนถึงขนาดวางพล็อตเป็น mega project ขนาดนี้ อยากให้ย้อนกลับไปดูว่าตอนนั้นรู้สึกยังไงและตอนนี้ยังมีความรู้สึกชอบเหมือนเดิมหรือเปล่า ถ้าไม่ได้ชอบการเขียนนิยายแล้ว เราคงไม่มีอะไรจะพูดนอกจากเสียดายที่เราคงไม่ได้เห็นนิยายเรื่องที่เรา'ชอบมาก'จนถึงตอนจบ

ยังไงสุดท้ายนี้ ก็แล้วแต่คุณอ้นเถอะอยากให้คุณอ้นใช้ชีวิตแบบไม่หักโหม ไม่อยากให้มาเครียด อยากให้รู้ว่ายังไงก็ยังมีคนอ่านให้กำลังใจอยู่

ปอลิง: ยอมรับเลยว่าอ่านสเตตัสแล้วขึ้น!! ตรงที่คุณอ้นไม่เชื่อมั่นในนิยายที่ตัวเอง, ตัวเองและคนอ่านที่คอยติดตาม  :m16:
ปอลิ๊ง: ถ้าเม้นท์นี้สร้างความรำคาญใจหรือทำร้ายจิตใจ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ  :amen:
ปอลิ๋ง: ให้ตายสิทำไมฉันถึงเข้าโหมดซีเรียสขนาดนี้นะ ปกติออกจะทำตัวเป็นคนดีมีเมตตาโอบอ้อมอารี ก๊ากกกกกกก// โดนตบ  :beat:

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
สรุปนี่ ช่วยไปก็ไม่ได้อะไรเลยเรอะ

เห้ยคุณพี่ อย่าเพิ่งมาทิ้งนิยายสิ เห็นใจคนตามอ่านตั้งกะช่วงแรกๆหน่อยเห้อะ

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
อย่างแรก ขอ เม้นท์ก่อนแล้วกันนะ สนุกมาก ตอนนี้กลายเป็นว่า ผิดคาด คนที่ช่วยไว้กลับกลายเป็นคนร้าย โห...สุดยอด แล้วอย่างนี้ เฟี๊ยตกับธัน จะทำยังไง แอบ งงๆ ตรงที่ อยู่ๆกลายเป็นประกาศชื่อ สกุล จริง กันซะงั้น ไหงตอนแรกเกมส์นี้บอกว่า ผู้เล่นจะไม่รู้จักตัวตนของกันและกันจริงๆไง หรือเราจำผิด??
ต่อมา ที่คุณขอคำปรึกษา คือ ออกตัวก่อนนะไม่ได้เก่งอะไร แต่ เพราะคุณเคยถามลักษณะนี้ไปแล้วครั้งหนึ่ง ตอนที่ ลงได้ถึงประมาณ 150 ตอน เราก็เชียร์อัพ คุณว่า ให้แต่งต่อเถอะ แต่คุณก็ พูดเสมอว่า คนเม้นท์น้อย เลยไม่มีกระจิตกระใจจะเขียน เราเข้าใจนะ ว่า คนแต่งนิยาย ต้องอยากให้มีคนอ่านนิยายเรื่องนี้ เยอะๆ พอมีคนอ่านน้อยก็เสียกำลังใจ เป็นเรื่องธรรมดา แต่ว่า ถ้าคุณรักการเขียน อยากแบ่งปันกลวิธีการเขียนของคุณ จินตนาการของคุณให้คนอื่นได้รู้ ก็อย่าได้ใส่ใจมากเลยค่ะ คุณแต่งเก่ง ขอให้มั่นใจ อย่าดูถูกตัวเอง แบบว่า ไม่มีคนเม้นท์แล้วจะแปลว่าคุณห่วยนะคะ อยากให้คุณคิดถึงคนที่ตามอ่านของคุณ คอยเม้นท์ เชียร์อัพ คุณ อยู่บ่อยๆด้วย ว่า คนอ่านจะรู้สึกยังไง ถ้านักเขียน คอยแต่จะบ่นน้อยใจว่า คนเม้นท์น้อยจัง ไม่มีกำลังใจแต่งแล้ว หยุดแต่งดีมั้ย ฯลฯ คนอ่านก็น้อยใจนะคะ เราเอง มี แค่ 1 เสียง คอมเม้นท์ให้คุณได้ 1 คอมเม้นท์ คงไม่มีใคร คอมเม้นท์ ด้วยยูสเซอร์เดิม รัวๆ หรอกใช่มั้ยคะ เราคงทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ เรารู้ว่าคุณเหนื่อย งานหนัก ถ้าเหนื่อยก็พัก บ้าง คนอ่านไม่ว่าหรอกค่ะ คนอ่านเข้าใจว่า คนเขียนทุกคนมีภาระหน้าที่ของตัวเอง การเขียนนิยายไม่ใช่งานประจำ.... ยังไง ขอให้คุณสู้ๆนะคะ เราก็ยังรออ่านอยู่เช่นกัน...

ออฟไลน์ yong

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ผมก็คิดเหมือนคุณ iayuki ว่าเข้าใจผู้เขียน แต่ถ้าทำแล้วไม่สบายใจมีเหตุผลก็ทำได้ เหนื่อยก็พัก เพราะผู้เขียนอุตสาห์เสียเวลาสมองมาเขียนก็ไม่ได้อะไรตอบแทน ผู้อ่านก็ไม่ควรเรียกร้องเกินไป แต่ก็เสียดายนะครับถ้าเลิกเขียน คนอ่านสมัยนี้เขาเข้าใจบางเรื่องรอตั้งหลายปี  ผู้อ่านก็มีความสุขที่ได้อ่านก็ไม่อยากให้ผู้เขียนต้องทุกข์มากที่ต้องทำ  ทำตามใจ ต้องสนุกที่ได้เขียนได้ส่งต่อตัวอักษรให้ผู้อ่านได้อ่าน ผ้เขียนต้องเข้าใจว่าผู้อ่านส่วนใหญ่เขาก็ไม่รู้จะเขียนอะไร ถ้ามีแต่ ขอบคุณ รอนะครับ อื่นผู้เขียนคงไม่ชอบ และถ้าเขียนได้ก็เพียงความรู้สึกเพราะเราคงไม่สามารถวิจารณ์อะไรได้ นอกจากคำเขียนผิด หรือเดาว่าผู้เขียนจะเขียนอะไร ผมยังเดาเลยว่าคงต้องใช้เครื่องดนตรีที่ซื้อ อ่านนไปอ่านมาคิดว่ามันเป็นแม่น้ำที่มีชีวิต อาจมีช่วงจังหวะระดับน้ำ  สรุปก็เสียดายถ้าจะเลิกเขียน แต่ถ้าเหนื่อยก็ทิ้งช่วงห่างก็ได้  ผู้อ่านเขาก็ต้องรอถ้าเขาอยากอ่าน เพียงแต่อาจมีบ่นบาง  ขอมีความสุขทุกครั้งที่ทำนะครับ เพื่อนอักษร สายสือสัมพันธ์  ผูกพันเพราะหนังสือ

ออฟไลน์ hewlett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 560
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
อืม ก็ไม่อยากบังคับใจกันนะ ถ้าคิดว่าถึงที่สุดแล้วจะเลิกก็ไม่ว่ากันค่ะ
เราก็ทำงานยุ่งเหมือนกันจึงไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาเม้นหรือติดตามได้ตลอด
แต่ทุกครั้งที่ว่างก็จะพยายามหาเรื่องนี้ที่มันคงตกหน้าไปเร็วจนคนแต่งน้อยใจ
แต่บอกตรงๆเลยว่าชอบแนวนี้นะคะ แม้มันจะมีน้อยก็ตาม
ถ้าเลิกเขียนก็เสียดาย สงสารตัวละครทุกตัวในเรื่องที่อุตส่าห์ได้เกิดมาทั้งที แต่อายุสั้น
ตามใจผู้แต่งก็แล้วกัน ทุกวันนี้ตามอ่านนิยายเรื่องไหนแล้วมาหาอ่านอีกทีก็หายไปจนชินแล้ว

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
บทที่ 169 Three Minutes

   โกเลมทรายที่เฟี๊ยตแสนจะคุ้นเคยนั่นปรากฏกายขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่แน่นอนว่าสายตาในครั้งนี้หาได้มีความเป็นมิตรอย่างที่เคยไม่ มันชำเลืองมาทางพวกเขาทั้งคู่อย่างมาดหมาย ก่อนจะสลายร่างกลายเป็นทรายที่ฟุ้งกระจายไปในอากาศตามแรงลมเฮอริเคนนั่น และเพียงชั่วครู่เท่านั้น มันก็พุ่งตรงกลับเข้ามาที่ตัวชายคนนั้นราวกับผงโลหะต้องอำนาจแม่เหล็กอย่างใดอย่างนั้น ชั่วอึดใจเดียว ร่างของชายที่เฟี๊ยตได้ช่วยชีวิตเอาไว้นั้นก็หนาตัวขึ้นกลายสภาพเป็นปีศาจทรายขนาดใหญ่ที่ดูจะมีพลังอำนาจและยากที่จะรับมือได้โดยง่าย

   เจ้าร่างนั่นมีลักษณะคล้ายตุ๊กตาดินที่มีโครงสร้างง่ายๆ มีความสูงประมาณ 7 เมตร ร่างกายของมันประกอบขึ้นด้วยเม็ดทรายละเอียด เฟี๊ยตหรี่ตาอย่างพิจารณา ยากเหลือเกินที่จะเดาได้ว่าคนตรงหน้าจะมาไม้ไหน ถึงแม้ว่าจะใช้การ์ดธาตุทรายไม่ต่างจากเขา แต่นั่นก็ไม่หนักแน่นพอที่จะตีกลยุทธ์คนตรงหน้าให้แตกฉานไปได้


   “หอกอากาศ!”

   “กะหรี่กัญชา!”

   ตึงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

   เสียงคำสั่งของชายทั้งสองดังออกมาอย่างรวดเร็ว ราวกับกลัวว่าศัตรูคนนั้นจะประกอบร่างสำเร็จ แต่ก็เหมือนจะได้มีประโยชน์อันใดไม่ เพราะร่างจำลองทรายนั่นเคลื่อนไหวภายใต้ขอบเขตจำกัดของวงเฮอริเคนได้อย่างสมบูรณ์ มันกระโดดเบี่ยงตัวหลบหอกยักษ์ที่ประกอบขึ้นจากเวทย์ลมนั่นได้อย่างง่ายดาย เสียงกระแทกตัวของอาวุธของทางเฟี๊ยตกับพื้นดินดังก้องไปทั่วอาณาเขตแคบๆ นั้น ทันทีที่กลุ่มก้อนอากาศทรงอาวุธแหลมกระทบกับพื้น มันก็แตกสลายออกพ่นควันพิษออกมาปริมาณไม่น้อย แต่ก็น่าเสียดายที่อิทธิพลของมันส่งไปไม่ถึงเจ้าตุ๊กตาทรายที่รู้ทันหนีไปอีกขอบหนึ่งของสนามเสียแล้ว


   “อึ้กก”

   “อึ้กก”

   แต่แล้วเสียงของชายหนุ่มทั้งสองที่กำลังจะเรียกใช้การต่อสู้จากการ์ดลำดับถัดไปสะดุดไปอย่างไม่ทราบสาเหตุอีกครั้ง พวกเขาไม่อาจเปล่งเสียงใดๆ ออกมาจากลำคอได้เลย ร่างกายก็ถูกตรึงราวกับต้องมนต์ดำที่ไม่อาจต้านทานได้ วงเวทย์สีทองอร่ามปรากฏกายขึ้นบนพื้นดินโดยรอบอีกครั้ง อักขระภาษาจีนค่อยๆ ดึงตัวเองออกจากผืนดินล่องลอยไปบนอากาศในยามค่ำคืนนั่น เส้นสายที่ประกอบด้วยสีทองบริสุทธ์นำตัวเองขึ้นจากพื้นดินแกร่ง ก่อนจะตวัดตัวเข้าเกาะเกี่ยวชายทั้งคู่อย่างที่เคยเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานั้น ดูเหมือนว่าเฟี๊ยตกับธันจะติดกับดักอะไรสักอย่างเข้าอีกแล้ว

   เฟี๊ยตร้องออกมาอย่างขัดใจ แต่มันก็กลายสภาพเป็นเพียงลมเบาๆ ออกจากช่องคอเท่านั้น ระบบการพูดของเขาถูกปิดลงเสียแล้ว นั่นหมายความว่า เขาก็หมดโอกาสที่จะสั่งการใดๆ กับการ์ดทั้งหลายด้วยเช่นกัน


   ทันทีที่พวกเขาสูญเสียความสามารถในการควบคุมตัวเองไปอย่างสมบูรณ์ ร่างตุ๊กตาทรายของชายแปลกหน้าคนนั้นก็ค่อยๆ สลายตัวอย่างช้าๆ ก่อนจะหลุดลอยหายไปราวกับย้อนเทปเหตุการณ์เมื่อครู่อย่างใดอย่างนั้น เกราะที่เคยเป็นกำบังชายคนนั้นมลายหายไปในพริบตา เหลือแต่ชายชุดดำรูปร่างสูงใหญ่ในชุดคล้ายกองโจรนั่นที่ยืนอยู่เพียงลำพังท่ามกลางความมืดมิดในคืนเดือนมืดคืนนั้น


   “คำสาปที่พวกคุณกำลังติดกับอยู่นั้นชื่อว่า The Wick of Kongbeng หรือไส้ตะเกียงของขงเบ้ง มันเป็นการ์ดพรสวรรค์ที่ผมได้รับตอนต้นเกม และมันไม่ได้อันตรายอย่างที่คุณคิด”

   ชายในชุดดำคนนั้นเริ่มต้นอธิบายอย่างแช่มช้า ราวกับว่าสิ่งที่พูดเป็นสิ่งสามัญธรรมดาและไม่น่าตื่นเต้นแม้แต่เสี้ยวอณูเดียว เขากวาดสายตาไปยังพวกเขาทั้งสองคนที่ตกอยู่ในสภาวะที่ไม่อาจป้องกันตัวได้เลย แต่ดูเหมือนว่าชายคนนั้นก็ไม่ได้มีท่าทีคุกคามใดๆ นอกไปจากพูดไปเรื่อยๆ ตามความต้องการของตนเท่านั้น
   

   “อึ้กก”

   ธันในขณะนั้นดูเหมือนพยายามทำท่าจะตอบโต้ด้วยวาจาใดๆ ออกไป แต่ก็ไม่มีประโยชน์อันใดเกิดขึ้นเลย พวกเขาไม่สามารถพูดเอ่ยเสียงใดออกไปได้ทั้งสิ้น สีหน้าของเด็กหนุ่มแสดงความโกรธเกรี้ยวออกมาอย่างชัดเจน พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ชวนเจ็บใจที่สุด


   “การทำงานของไพ่ใบนี้น่าสนใจมาก คือ เมื่อต้องการใช้ก็ให้บอกความต้องการที่อยากจะให้เกิดขึ้น และไพ่จะให้เงื่อนไขมาว่าเจ้าของไพ่ต้องทำอะไรให้สำเร็จเพื่อแลกกับความสัมฤทธิ์ผลของความต้องการนั้น” ชายคนนั้นพูดอย่างสบายๆ

   “ความต้องการแรกของผม คือ อยากรู้ความจริงว่าพวกคุณทั้งคู่มีความประสงค์ร้ายใดๆ กับผมหรือไม่ และเงื่อนไขก็คือผมต้องทำให้พวกคุณเอ่ยชื่อและนามสกุลจริงออกมาให้ได้ และผมก็ทำสำเร็จ ผมจึงได้รู้ว่าโดยเนื้อแท้แล้ว พวกคุณไม่ได้มีความประสงค์ร้ายใดๆ กับผมเลย” ชายแปลกหน้าคนนั้นบอกเล่าเรื่องราว

   เฟี๊ยตซึ่งในขณะนั้นไม่อาจตอบโต้ด้วยคำพูดหรือการกระทำใดๆ ทั้งสิ้นได้แต่รับฟังอย่างสงบและคิดตาม ดูเหมือนว่าอันที่จริง ชายตรงหน้าก็ไม่ได้ร้ายเท่าที่จินตนาการไปสักเท่าไหร่นัก


   “แน่นอนว่าผมก็ไม่มีประสงค์ร้ายใดๆ กับพวกคุณเช่นกัน แต่เมื่อผมกำลังจะเฉลยความจริงกับพวกคุณทั้งสองคนทราบ คมดาบของอาวุธก็หันปลายคมเข้าสู่คอหอยผมเสียแล้ว ผมจึงต้องร้องขอเงื่อนไขถัดมา” ชายหนุ่มคนนั้นเอ่ยความเรื่อยๆ พร้อมกับรอยยิ้มตรงมุมปาก

   “ผมต้องหลอกล่อให้พวกคุณประสานการโจมตีกันเพื่อที่จะหยุดคำพูดและการเคลื่อนไหวพวกคุณได้ 3 นาที เวลานั้นน่าจะเพียงพอให้พวกคุณรับฟังเหตุผลของผมอย่างใจกว้าง” เขาเอ่ยต่อ

   “และดูเหมือนว่าผมจะโชคดีที่พวกคุณทั้งคู่ถนัดที่จะโจมตีแบบใช้กลยุทธ์ร่วมอยู่แล้ว”


   “ผมชื่อกันต์ กันต์ วิฬุณธรณ์ เชิดชูเกียรติวงศ์ สิ่งแรกที่ผมจะบอกคือผมมาดี สิ่งที่สองที่ผมจะบอกคือผมขอบคุณพวกคุณมากที่ช่วยชีวิตผมไว้จากไดโนเสาร์นั่น” เขายิ้มออกมาอย่างเปิดเผย

   “มนต์สะกดกำลังจะหมดลงภายในไม่กี่วินาทีข้างหน้า สิ่งสุดท้ายที่ผมจะบอกพวกคุณคือ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะรับฟังเหตุผลของผมที่ผมได้อธิบายไปอย่างบริสุทธ์ใจ”

   ชายในชุดกองโจรสีดำนั่นผายมือออกไปด้านข้างลำตัวน้อยๆ พร้อมกับแสงสีทองอ่อนๆ ที่ค่อยๆ กระจายออกมาจากร่างกายพวกเขาทั้งคู่อย่างอ้อยอิ่ง ดูเหมือนว่ามนต์สะกดจากดินแดนแผ่นดินใหญ่นั่นจะจบลงแล้ว


   “Herricane!”

   “ธัน!”

   เสียงของเด็กหนุ่มดังขึ้นทันทีที่เขาสามารถขยับร่างกายและสั่งการการทำงานของไพ่ได้ตามต้องการ เฟี๊ยตที่อยู่ไม่ห่างออกไปนักรีบตะโกนดักคอขึ้นมาทันที ด้วยว่าไม่อยากให้ธันทำอะไรลงไปด้วยความวู่โวมและไม่ได้ตั้งใจ


   “SEAL!”

   เสียงธันดังขึ้นเพียงแค่ในช่วงไม่กี่อึดใจต่อจากนั้น พายุเฮอริเคนที่เคยบ้าคลั่งอยู่ในราตรีที่แสนจะดำมืดสงบลงอย่างรวดเร็ว ลมปริมาณมหาศาลค่อยๆ ลดความแรงของกระแสอากาศไป ก่อนจะสลายตัวหายไปในที่สุด เด็กหนุ่มเลือกที่จะเดินหันหลังออกไปจากบริเวณนั้นด้วยความหงุดหงิดที่แสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด

   “ทำไมเกมนี้แม่งมีแต่พวกระบบความคิดซับซ้อนวะ ทำอะไรง่ายๆ ตรงไปตรงมาไม่เป็นรึไง” ธันงึมงำสบถออกมาไม่ยาวนัก พร้อมกับทิ้งให้เฟี๊ยตอยู่บริเวณนั้น เพื่อรับหน้าที่ในการเจรจากับผู้มาใหม่ต่อไป


   ติดตามข่าวสาร : www.facebook.com/allornonetheauthor

 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0

   จากผู้แต่ง : ขอโทษนะครับที่อาจจะทำให้หลายคนไม่พอใจที่คิดจะเลิกแต่งนิยาย ผมเหนื่อยมากกับหลายสิ่งหลายอย่างจริงๆ หลังจากที่กลับมานั่งทบทวนดูแล้ว ผมคงแต่งไปเรื่อยๆ ตราบเท่าที่ยังมีเวลาเอื้ออำนวยให้แต่งได้ อาจลงไม่บ่อย ไม่สม่ำเสมอ แต่ผมก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดครับ ผมคงไม่ได้ลงตามวันเวลาเหมือนเดิมแล้ว แต่ถ้าลงตอนใหม่จะพยายามอัพเดตในเพจครับ ถ้าไม่อยากกดเข้ามาเช็คบ่อยๆ ก็กดไลค์เพจไว้ก็ง่ายดีครับ ขอบคุณสำหรับกำลังใจ เห็นใจนักเขียนมือใหม่หน่อยนะครับ ยังปรับตัวไม่ค่อยได้จริงๆ

ออฟไลน์ เอาแต่ใจจะทำไม

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มาแล้วดีใจจัง  :mew1: อย่าเครียดมากน้า ชอบเรื่องนี้ เหนื่อยก้อพักแต่อย่าทิ้งเรื่องนี้น้า เราจะรอต่อไปให้กำลังใจน้า :L2:

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :a5: พรสวรรค์ออกแนวขี้โกงอีกแล้ว เอามาเป็นพวกให้ได้นะ
ที่น้องธันเกาเหลากับกันต์ คงมีลางสังหรณ์ว่าเป็นศัตรูหัวใจแน่ๆเลยล่ะ
ฉันสัมผัสได้นะ  :hao3:

ว่างๆค่อยแต่งแล้วมาลงก็ได้จ้า แต่แค่อยากให้ลงให้จบ //แอบกดดัน หึหึ  :hao3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด