The Lost World มหัศจรรย์ดินแดนสาบสูญ EP204 + ประกาศอัพเดต 23/05/2018
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Lost World มหัศจรรย์ดินแดนสาบสูญ EP204 + ประกาศอัพเดต 23/05/2018  (อ่าน 444143 ครั้ง)

mikamika

  • บุคคลทั่วไป
โฮกกกกพึ่งเคยหาเรื่องที่อ่านเเล้วถูกใจขนาดนี้ สู้นะคับ ถ้าเหนื่อยก็พักบ้าง ขอโทดที่ไม่เคยเม้นเลยนะคับนี่เม้นเเรกหลังจากที่เจอ //ตามอ่านสองสามวันกว่าจะถึงตอนล่าสุด ก็เลยพึ่งได้มาเม้น รออ่านอยู่นะคับ

ออฟไลน์ yong

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
กำลังรอล้นว่าจะสู้กับไดโนสัตว์ประหลาดอย่างไร  ต้องมาลุ้นมา กันต์มาทำไมแทน 

ออฟไลน์ savada

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ไม่รู้จะคอมเม้นอะไร  งง แปป

ฮ่าๆๆ 

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ใจหายยย หมดเลย ตอนเฟี๊ยตกับธัน ติดกับดัก พูดไม่ได้ ควบคุมตัวเองไม่ได้ นึกว่าจะตายซะแล้ว เห้อ..ตาคนนั้น มันน่านัก ไม่สำนึกบุญคุญเลย ไม่น่าช่วยๆ
กระหรี่กัญชา คืออารายยค้าาา งงมากเลย
ยังคงเป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมค่ะ สู้ๆ สนุกมากกกก อย่าเพิ่งท้อค่ะ

ออฟไลน์ หยาดน้ำค้าง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อร้ายยยย อ่านทันแล้ววววว เพิ่งได้เข้ามาอ่านเมื่อคืน จากที่คิดว่าจะลองอ่านสักตอนสองตอนจนไปๆมาๆตอนนี้อ่านจนครบจนทันแล้วว ชอบพัฒนาการของเฟี๊ยตนะ มันเป็นการพัฒนาการแบบมีเหตุผลทุกอย่าง แล้วก็ชอบตรงที่เฟี๊ยตไม่ได้เก่งเทพตั้งแต่แรกเริ่มแต่จะค่อยๆพัฒนาความสามารถของตัวเองอย่างมีเหตุมีผล แล้วก็ชอบพัฒนาการด้านความรู้สึกความสัมพันธ์ของตัวละครมากกก มันเหมือนค่อยๆเป็นค่อยๆไป ไม่เร่งรีบอะไรมากมาย เหตุผลต่างๆที่ใช้เกี่ยวโยงกันก็สมเหตุสมผลดี ถ้าไม่บอกว่าเป็นเรื่องแรกนี่คือจะคิดเคยแต่งมาหลายเรื่องแล้วแน่ๆ ภาษาอ่านง่ายดี ไม่เข้าใจยากเกินไป

ปล.สู้ๆนะคะ นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีมากเรื่องหนึ่ง นับถือคนแต่งจริงๆ

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
บทที่ 170 Ratthakit’s Playground


   “ตกลงว่าคุณมาดี”

   เสียงของเฟี๊ยตดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง เมื่อเด็กหนุ่มอีกคนเดินออกจากบริเวณดังกล่าวไปแล้ว ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ อย่างเป็นมิตร

   “ครับ”

   ชายหนุ่มในชุดดำคนนั้นตอบมาด้วยท่าทีสบายๆ เช่นกัน ราวกับว่าการประลองระหว่างตุ๊กตาดินยักษ์กับพายุหมุนลูกใหญ่เมื่อครู่นั้นไม่เคยเกิดขึ้นเลย

   “ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีนะครับ” เฟี๊ยตพูดทั้งยังคงฉายรอยยิ้มกว้างอยู่อย่างนั้น

   “หมายความว่า?” ชายชื่อกันต์คนนั้นขึ้นเสียงสูงอย่างสงสัย คิ้วของชายคนนั้นเลิกขึ้นเล็กน้อย

   “เดี๋ยวก็รู้” เฟี๊ยตพูดสั้นๆ

   “สนามเด็กเล่นของรัฐกิจ RELEASE!”

   เสียงของเฟี๊ยตดังขึ้นเบาๆ เมื่อจบคำพูดนั้น และนั่นก็เป็นถ้อยคำสุดท้ายที่ชายชุดนั้นได้ยิน ก่อนที่เขาจะรู้สึกว่าตัวเองได้หลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่งที่เขาไม่เคยรู้จักเลย


   ชายหนุ่มผู้รอดชีวิตจากสัตว์ดึกดำบรรพ์รู้สึกเหมือนจิตใจของตัวเองล่องลอยไปไกลแสนไกล เขารู้สึกเหมือนตัวเองล่องลอยไปกลางอากาศกว้างที่ไร้ขอบเขต ภาพที่เห็นขณะนี้มันระยิบระยับจับตาไปหมด มันสวยงามและชวนถวิลหาอย่างอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้เลย อุปมาเหมือนเขาจะมีปีกให้โบยบินไปในท้องฟ้ากว้างอย่างใดอย่างนั้น เขาเสพความรู้สึกที่ลุ่มลึกจนหาที่สุดไม่ได้นี่อย่างคนที่เคว้งคว้างอยู่กลางทะเลกว้างและได้ผ่านมาพานพบกับพื้นแผ่นดินอย่างนั้น มันอิ่มเอมลึกๆ ในอกจนถอนตัวไม่ขึ้นเลย

   “สวัสดี”

   เสียงหนึ่งล่องลอยมาจากที่ไหนสักที่ จะว่าไกลก็คงไม่ใช่ เพราะเสียงนั้นชัดเจนในโสตประสาทเขาเหลือเกิน แต่จะบอกว่าใกล้ก็คงไม่ถูกนัก เพราะไม่ว่าเขาพยายามจะหาต้นตอของเสียงนั่นเท่าไหร่ เขาก็มองไม่เห็นสิ่งใดเลย คลองจักษุของชายหนุ่มในเวลานี้มีแต่เพียงภาพวิบวับเป็นประกายเหมือนอยู่ในโลกที่มีแต่อัญมณีมากมายเหลือคณานับ เขามองไม่เห็นสิ่งใดเลยนอกจากตัวเขาเองเลย

   “สวัสดี”

   เขาตอบออกไปสั้นๆ อย่างจับทิศทางไม่ถูกนัก เขารู้สึกเหมือนหัวเขาหนักๆ และคิดอะไรได้ช้าลง ราวกับว่าทุกสิ่งที่ผ่านจากปากเขาไปมันมาจากสันชาตญาณเท่านั้น ความรู้สึกนึกคิดของชายหนุ่มดูเหมือนจะตกหล่นหายไปในโลกไร้ขอบเขตนี่เสียแล้ว

   “นายชื่อกันต์เหรอ”

   เสียงปริศนานั่นดังขึ้นมาอย่างไร้ทิศทางอีกครั้ง ทันทีที่มันแตะต้องกับโสตประสาทของชายหนุ่มคนนั้น เขาก็ไม่อาจต้านทานที่จะตอบสนองไปได้เลย เสียงนั้นเป็นเหมือนของหวานที่นุ่มลึกเข้าไปในรสชิวหา แม้ว่ามันจะแฝงความเฝื่อนขมอยู่ตรงปลายความรู้สึกอยู่บ้าง แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้เขาปฏิเสธคำถามนั้นได้

   “ใช่ ผมชื่อกันต์ ทำไมหรือ ทำไมรู้ชื่อผมด้วย”

   เขาตอบออกไปจากความสัตย์จริง ทุกคำตอบนั้นไม่ได้ผ่านออกมาจากระบบกลั่นกรองทางความคิดแม้แต่นิดเดียว มันถูกตอบสนองออกมาจากสามัญสำนึกของเขาอย่างแท้จริง

   “เมื่อกี้นายเรียกใช้วงเวทย์นั่นเพื่อทำร้ายชายทั้งสองคนนั้นใช่ไหม”

   เสียงนั่นยังคงถามออกมาโดยไม่สนใจจะตอบคำถามที่แย้งกลับมาจากทางชายชุดดำนั่นบ้าง ในโลกแห่งนั้น เสียงคำถามนั่นดังขึ้นซ้อนไปซ้อนมาจากหลายทิศทางราวกับว่าคนถามสามารถแยกกาย และเอ่ยถามมันออกมาพร้อมกันจากทุกทิศทางได้

   “ไม่ ไม่ใช่สักหน่อย”

   ชายหนุ่มคนนั้นตอบออกมาอย่างร้อนรน เขาส่ายหัวแสดงความปฏิเสธซ้ำไปซ้ำมา เหมือนเด็กที่กำลังแก้ตัวจากการถูกเข้าใจผิด มันดูจริงใจและเข้าใจได้อยู่ในที

   “แล้วนายทำทำไม” เสียงนั่นดังต่อเนื่องขึ้นทันที

   “ผมแค่อยากเป็นเพื่อนกับพวกเขา”

   เสียงของชายหนุ่มในชุดมืดสนิทนั่นพูดขึ้นด้วยเสียงที่แผ่วเบา น้ำเสียงนั้นแสดงความรู้สึกผิดออกมาอย่างจับรู้สึกได้

   “นายต้อนรับเพื่อนใหม่ด้วยการสาปเวทมนตร์ใส่เนี่ยนะ”

   เสียงนั่นตวัดปลายเสียงขึ้นด้วยอารมณ์เล็กน้อย ราวกับว่าเจ้าของคำถามนั่นกำลังไม่พอใจอยู่อ่อนๆ ซึ่งนั่นทำให้คนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ที่ไร้ขอบเขตยิ่งร้อนรนเข้าไปใหญ่

   “ช่วงนี้พรรคมังกรทมิฬกำลังขยายอิทธิพลมาก ผมไว้ใจคนแปลกหน้าในทันทีไม่ได้หรอก อีกอย่าง อาคมที่ใช้ก็ไม่ได้สร้างความบาดเจ็บอะไร มันอาจจะทำให้เข้าใจผิดไปบ้าง แต่เรื่องแบบนี้มันก็น่าจะอะิบายกันได้ด้วยเหตุผลได้นี่”

   เสียงนั่นแย้งมาพร้อมกับเหตุผลที่มีน้ำหนักพอสมควร แต่อย่างไรก็ตาม ในน้ำเสียงนั้นก็ยังคงเจือความรู้สึกผิดอยู่อย่างจับสังเกตได้

   “นึกว่าจงใจเรียกใช้อาคมเพื่อทดสอบฝีมือเสียอีก”

   เสียงนั้นยังคงดังมาอย่างหยั่งเชิง ภายใต้โลกที่เต็มไปด้วยแสงวูบวาบและกลิ่นอายของอารมณ์ที่ชวนหลงใหลนั้น ชายหนุ่มชื่อกันต์คนนั้นก็ยังคงควบคุมความเป็นตัวของตัวเองไม่ได้แม้แต่นิดเดียว

   “ก็ส่วนหนึ่ง ผมแค่รู้สึกได้ว่าชายสองคนนั้นต้องมีดีอะไรสักอย่าง การเข้าใจช่วยคนแปลกหน้าในสถานการณ์คับขันนั่นก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่พอจะบ่งชี้ได้ ผมก็แค่อยากพิสูจน์ความคิดตัวเองว่ามันถูกต้องหรือเปล่า”

   เสียงของผู้มาใหม่คนนั้นตอบออกมาอย่างแผ่วเบา เหมือนกับว่าตัวเขาเองก็ไม่ค่อยอยากจะเปิดเผยมันออกมาเท่าไหร่นัก แต่ตัวชายหนุ่มคนนั้นก็ไม่อาจฝืนต้านทานอำนาจภายใต้โลกมหัศจรรย์นี้ได้

   “นายเกือบจะลงมือทำร้ายผู้ที่มีพระคุณต่อนาย เพียงเพราะแค่อยากพิสูจน์สมมติฐานบ้าๆ บอๆ เนี่ยนะ”

   เจ้าของคำถามนั้นส่งเสียงกึ่งไม่พอใจขึ้นอีกครั้ง เสียงนั่นดังก้องไปก้องมาในโลกเสมือนที่ระยิบระยับไปด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจแตะต้องได้ เหมือนกับความไม่พอใจนั้นจะถูกขยายขนาดเป็นทบเท่าทวีคูณ เสียงนั้นทำเอาชายหนุ่มชื่อกันต์คนนั้นหน้าซีดไปอย่างห้ามไม่ได้เลย

   “ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมขอโทษ”

   เสียงของเขาพึมพำออกมาราวกับความพร่ำเพ้อที่กระจายออกมาด้วยพิษไข้ ความรู้สึกในอกของชายหนุ่มมันลุกลี้ลุกลนจนดูเหมือนโลกใบนั้นจะบูดเบี้ยวไปเพราะความผันผวนทางอารมณ์นั่น

   “ช่างมันเถอะ อย่างน้อยมันก็ไม่ได้ตั้งอยู่บนเจตนาร้ายอะไร”

   เสียงปริศนานั่นดังขึ้นเป็นลำดับสุดท้าย พร้อมกับเสียงถอนหายใจน้อยๆ อย่างตัดสินใจได้ และสัญญาณนั่นก็ทำให้ชายหนุ่มในโลกเบี้ยวๆ แห่งนั้นผ่อนคลายลงอย่างบอกไม่ถูกเลย

   “รางจืด RELEASE!”


   “แอวะะะะ”

   ชายชุดดำที่กำลังนอนแผ่ตัวเองอยู่บนพื้นดินนั่น สำลักออกมาเสียงดังลั่น ก่อนจะพ่นสสารในกระเพาะอาหารคืนกลับมาสู่โลกภายนอกอย่างหมดสิ้น เขาวิงเวียนศีรษะไปหมด เขาจำได้ว่าครั้งล่าสุดเขาตกอยู่ในโลกที่มหัศจรรย์ถึงที่สุดและหาอาณาเขตสิ้นสุดไม่ได้ แต่เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้ง เขาก็กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงเสียแล้ว แถมกลับมาพร้อมกับอาการคลื่นไส้ วิงเวียน และทรมานในช่องท้องอีกด้วย

   “แอวะะะะ”

   เขาสำรอกอีกระลอกอย่างต้านทานต่ออาการข้างในไม่ได้ ชายหนุ่มหันไปมองด้านหลังเมื่อรู้สึกว่ามีมือสองข้างกำลังลูบหลังให้เขาในตอนที่เขากำลังอาเจียนอยู่นั่นเอง มือหนึ่งเป็นของชายเจ้าของลมพายุบ้าคลั่งนั่น ใจร้อน มุทะลุอยู่บ้าง แต่ก็มีพลังเวทย์ที่ยากจะหยั่งถึง และอีกมือหนึ่งเป็นของชายผิวขาวบริสุทธิ์ ตาคู่เล็กนั่นมองมาที่เขาอย่างเป็นมิตร รอยยิ้มมุมปากนั่นแสดงความฉลากแกมโกงออกมาอย่างรู้สึกได้ เขารู้สึกได้เลยว่าชายคนนั้นต้องมีปัญญาเป็นอาวุธอย่างแน่แท้ ถ้าชายอีกคนมีพลังเวทย์และพละกำลังที่ยากจะสัมผัส ชายคนนี้ก็น่าจะมีพลังอำนาจแห่งสติปัญญาที่ยากเกินจะหยั่งถึงด้วยเช่นกัน


   “ยินดีต้อนรับ” เสียงทักทายแรกดังมาจากเภสัชกรหนุ่ม

   “ว่าไง ไอ้เพื่อนใหม่” เสียงต่อมาเป็นของว่าที่สถาปนิกที่เผยรอยยิ้มกว้างกึ่งสะใจ

   “เกิดอะไรขึ้น ผมไม่เข้าใจ” เขาตอบกลับมาอย่างสติสัมปชัญญะไม่สู้สมประกอบนัก ร่างกายเขายังรวนๆ และไม่คืนสู่สภาพปรกติดี
   

   “นายแค่ต้องอาคมของสนามเด็กเล่นของรัฐกิจแค่นั้นแหละ นายบีบเค้นความจริงจากพวกเราได้อย่างไร พวกเราก็บีบเค้นเอาความจริงจากนายได้เหมือนกัน ไม่ดีเหรอ แฟร์ๆ อาการข้างเคียงมากหน่อยก็ถือว่าเป็นการรับน้องแล้วกัน ฮ่าฮ่า” เสียงของเฟี๊ยตดังขึ้น พร้อมกับเสียงหัวเราะน้อยๆ ตรงท้ายประโยคนั้น

   “นายเป็นพ่อมด?” เสียงนั่นดังขึ้นอย่างตระหนกน้อยๆ

   “เปล่า ผมเป็นนักวางยาพิษ!”


   จิ้มกันสักนิด www.facebook.com/allornonetheauthor


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-06-2014 21:58:51 โดย lukkeng »

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0

   จากผู้แต่ง : พอไม่มีพันธะผูกพันเรื่องเวลาก็แต่งสบายนะครับ มีอารมณ์ก็แต่ง เหนื่อยก็พัก ฮ่าฮ่า อาจจะไม่สม่ำเสมอหน่อยนะครับ ทนๆ กันไปนะ ผมตามอ่านทุกคอมเม้นนะครับ คอมเม้นยาวๆ นี่อ่านแล้วมีแรงฮึดแต่งเลย อ่านซ้ำๆ เป็นกำลังใจในการแต่งครับ สิ่งเดียวที่ยังทำให้ผมแต่งนิยายจนถึงทุกวันนี้ก็คือคอมเม้นคนอ่านนี่แหละครับ อ่านจบแล้วก็เม้นให้กันหน่อยนะ แบ่งปันกำลังใจให้กัน เย่

   ปล. กะหรี่กัญชาเป็นชื่อเรียกปลายเกสรของต้นกัญชาครับ เป็นส่วนที่ออกฤทธิ์หลอนประสาทสุดๆ เลยยย

ออฟไลน์ เอาแต่ใจจะทำไม

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ว้าวๆๆๆๆ มาใหม่อีกตอนแล้ว ดีใจจัง :mew1:
สรุปว่าได้เพื่อนร่วมกลุ่มใหม่อีกคนแล้วคนนี้จะมีคู่กะเขาไหมหรือจะมาเป็นก้างขวางคอหว่า
อืมๆๆ ท่าทางเกมนี้จะชนะได้เงินล้านต้องหลายคนช่วยสิเนอะ
รอลุ้นกันต่อไป :ling1:
 ได้ความรู้ด้วยนะ นิยายเรื่องนี้หลายอย่างละชอบมาก กะหรี่กัญชา อืมๆๆๆพึ่งรู้นะเนี่ย :mew5:

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
คือเราสงสัยมากๆว่า รัฐกิจเป็นใคร ก๊ากกกกกกกกกกกกก //โดนตบ
ล้อเล่น รัฐกิจคือชื่อของเฟี๊ยตใช่ป่ะ แล้วทำไมการ์ดถึงชื่อสนามเด็กเล่นของรัฐกิจได้อ่ะ
ชื่อเฟี๊ยตมันไม่น่าอยู่ในสารระบบนี่

อยากรู้ว่าไอ้การ์ดสนามเด็กเล่นมันเป็นมนต์แล้วทำไมต้องใช้รางจืดแก้อาการด้วยอ่ะ งงตรงนี้

อ้างถึง
   “ตกลงว่าคุณมาดี”

   เสียงของธันดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง เมื่อเด็กหนุ่มอีกคนเดินออกจากบริเวณดังกล่าวไปแล้ว ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ อย่างเป็นมิตร

แล้วก็นี่ ตอนที่แล้วธันปล่อยให้เฟี๊ยตเจรจา พอมาอีกตอนธันดันเป็นคนคุย แถมอัธยาศัยดี
คือข้ามตอนไปรึเปล่าอ่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-06-2014 00:12:12 โดย IsDeer »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ igaga

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
กรีสๆๆๆๆๆๆๆ "ผมเป็นนักวางยาพิษ!"
อย่างเท่อะคนเขียน

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
แง่ะ บังคับมาบังคับกลับไม่โกง :laugh:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ดีมากกกก เฟี๊ยต ตบมือให้รัวๆเลย เอาคืนบ้าง ตากันต์นิสัยเสีย แกล้งเพื่อนน อิอิ อ่านตอนนี้ก็ได้ทบทวนความรู้สมุนไพรที่เคยเรียนรู้พร้อมๆกับเฟี๊ยตเมื่อตอนเข้าเกมมาใหม่ๆด้วย อิอิ ทีนี้กลุ่ม3 คนผจญภัยก็จะเริ่มขึ้นอีกแล้ว ลุ้นมากเลยว่า จะข้ามแม่น้ำนี่ไปได้ยังไง

ออฟไลน์ yong

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
มีเอาคืนด้วย ร้ายไม่เบา รถเต่าคันนี้
ดูๆผู้เขียนคงจริงจังเร่งรัดตัวเองมาก  แต่ผู้เขียนหน้าจะเที่ยวเก่ง หน้าจะสบายๆๆนะ แต่ก็ดีแล้วที่อารมณ์ดี ผู้อ่านก็นั่งรออ่านต่อไป คิดมาก ตีนกาตามหานะ

ออฟไลน์ savada

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
กริ๊ดๆๆๆๆๆ   อะไรไม่รู้ตามคอมเม้นข้างบน   ฮ่าๆ  เพื่อนใหม่หล่ออะ   อ้ายยย  กริ๊ดแปปป

พี่เฟี๊ยตหล่อเว่อร์ เอ๊ะ ต้องพี่มะ  เอาเป็นว่าวลีเด็ดประจำวันนี้

 “นายเป็นพ่อมด?” เสียงนั่นดังขึ้นอย่างตระหนกน้อยๆ

   “เปล่า ผมเป็นนักวางยาพิษ!”

ฮ่าๆๆ  หล่อเท่ห์ สะใจ   ฮ่าๆ   แต่เรายังไม่ลืมนะ ใครเป็นพระเอกตอบมานะ  จะได้เชียร์มวยถูกคู่  ฮ่าๆๆๆ

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
บทที่ 171 Someone New


   และค่ายค้างแรมง่ายๆ ก็ถูกตั้งขึ้นในค่ำคืนนั้น

   ชายจากโลกที่แตกต่างทั้งสามคนนั่งล้อมวงล้อมรอบกองไฟที่กำลังลุกโชติช่วงในราตรีที่แสนเงียบสงบคืนนั้น ราวกับเฟี๊ยตและธันจะตอบรับชายคนใหม่มาเป็นเพื่อนไปเสียแล้ว เพราะคนทั้งคู่เตรียมอาหารและที่พักราวกับว่ามีสมาชิกในทีมเป็นสามคนอย่างนั้น ธันรับหน้าที่จัดการอาหารมื้อเย็นที่โอนเอียงจนจะกลายเป็นค่ำ ในขณะที่เฟี๊ยตยังคงเฝ้าอาการของกันต์ไม่ห่าง เภสัชกรหนุ่มยังคงต้องให้ยาถอนพิษเพื่อนใหม่ตามจังหวะเวลาที่เหมาะสม ดูเหมือนว่ากลยุทธ์สนามเด็กเล่นของรัฐกิจที่เขาคิดขึ้นจะเอาเรื่องอยู่ไม่ใช่น้อย


   “ตั้งแต่เมื่อไหร่” เสียงแหบพร่านั่นหันมาถามเฟี๊ยตที่กำลังนั่งอยู่เคียงข้าง

   “หืมม” เสียงของเฟี๊ยตแย้งมาอย่างงงๆ เมื่อได้ยินประโยคที่คล้ายกับเป็นคำถามนั่น แต่เขาก็ไม่ได้ชะงักมือที่ส่งแก้วน้ำให้คนตรงหน้า น้ำเสียงนั่นดูแหบแห้งและต้องการเครื่องดื่มเป็นพิเศษ


   “นายวางยาตั้งแต่ตอนไหน ทำไมไม่เห็นรู้สึกตัวเลย” กันต์พูดขึ้นหลังจากที่ดื่มน้ำที่เพื่อนชายส่งให้จนหมดแก้วแล้ว

   “อ่อ มันเป็นวิธีการวางยาคิดที่เราคิดค้นขึ้นใหม่หนะ เป้าหมายแทบจะไม่รู้ตัวเลยว่าโดนวางยาพิษอยู่” เฟี๊ยตตอบออกมาเมื่อเข้าใจว่าสิ่งที่อีกฝ่ายสงสัยคืออะไร

   “อธิบายได้ไหม เป็นความลับหรือเปล่า” กันต์ถามออกมาอย่างระมัดระวัง

   “ได้ วิธีก็คือเลือกใช้ยาพิษที่ระเหยได้ดี เอาพวกยาพิษเหล่านั้นผสมลงในทรายแล้วก็กระจายอยู่รอบๆ ตัวเป้าหมาย พอถึงเวลา ทรายก็จะปลดปล่อยไอพิษเหล่านั้นออกมาจากตัวเองไปสู่เป้าหมายตามต้องการ” เฟี๊ยตอธิบายอย่างไม่หวงห้ามอะไรนัก เขารู้ดีว่าอะไรควรบอก อะไรไม่ควรบอก

   “อ๊าว นี่แปลว่ามีทรายผสมยาพิษกระจายอยู่รอบตัวผมมาตั้งนานแล้ว” กันต์เอ่ยอย่างสงสัย

   “ใช่ ความจริงคือเราอาศัยจังหวะปล่อยทรายพิษไปตั้งแต่ตอนที่นายเรียกใช้ไพ่ทรายเหมือนกันแล้ว นายคงไม่ได้สังเกตว่ามันยังมีทรายเหลืออยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งๆ ที่นายเรียกเก็บไพ่โกเลมไปแล้ว” เฟี๊ยตพูด

   “อ๊าว นายรู้จักไพ่โกเลมด้วย?” กันต์เอ่ยอย่างฉงน

   “เรียกว่าจุดไต้ตำตอดีกว่า เพราะไพ่ที่ใช้วางยานายก็ไอ้โกเลมนั่นแหละ ดูเหมือนว่าพวกเราจะบังเอิญมีการ์ดใบเดียวกัน” เฟี๊ยตพูดพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ

   “เออ บังเอิญจังแฮะ” กันต์ตอบรับสั้นๆ


   “ว่าแต่ถ้าปล่อยทรายพิษมานานขนาดนั้น ผมก็น่าจะโดนพิษไปตั้งนานแล้วสิ ทำไมถึงรอดมาจนหมดฤทธิ์อาคมได้” เขาเอ่ยอย่างไม่หมดความสงสัย

   “ทรายพิษถูกห่อหุ้มไว้ด้วยทรายอย่างหนาพิเศษ พิษจะไม่สามารถทะลุออกมาเครื่องห่อหุ้มเหล่านั้นก่อนเวลาที่ต้องการ เมื่อมีคำสั่ง ทรายรอบนอกจะระเบิดตัวออกปลดปล่อยทรายพิษเพื่อปลดปล่อยไอพิษออกมาอีกทอดหนึ่ง ตูมม กว่าเป้าหมายจะรู้ตัวก็ช้าไปเสียแล้ว ฮ่าฮ่า” เฟี๊ยตพูดพร้อมกับหัวเราะอย่างขำๆ

   “โหดหวะ นี่แปลว่าหลอกผมมาตลอดอะดิ ความจริงจะวางยาผมตั้งแต่ตอนที่ผมกางเขตอาคมรอบที่สองก็ได้ ทำไมถึงไม่จัดการผมตั้งแต่ตอนนั้นหละ” น้ำเสียงของกันต์เป็นไปในทางร่าเริง และไม่ได้มีเค้าความขุ่นมัวแม้แต่น้อย

   “ช่วงที่คนรู้สึกว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่าอย่างถึงขีดสุด ช่วงนั้นมักจะเป็นช่วงที่มีสิ่งดีๆ หลุดออกมาให้เก็บเสมอ ยิ่งอยากพูด ยิ่งต้องให้พูด พิษหนะ วางเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ข้อมูลดีๆ พลาดไปแล้วไม่รู้ว่าจะมีให้เก็บอีกไหม จริงไหม?” เฟี๊ยตทิ้งท้ายพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเดินไปหาธันที่ส่งสัญญาณมาว่าอาหารค่ำเรียบร้อยแล้ว


   พวกเขากลับมานั่งล้อมรอบกองไฟกันอีกครั้ง แต่คราวนี้มีอาหารค่ำอยู่ในวิถีชีวิตกลางป่าด้วย อาหารเย็นเป็นแกงเขียวหวาน กับผัดผัก พร้อมข้าวสวยร้อนๆ สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นไพ่สำเร็จรูปมากกว่าฝีมือของธันโดยตรง เพราะดูจากส่วนผสมที่มีมากมายหลายชนิด ถ้าธันลงมือปรุงจากวัตถุดิบสดเองจริงๆ น่าจะใช้ไพ่เป็นสิบๆ ใบอยู่ ซึ่งไม่น่าจะเป็นสิ่งที่เป็นไปได้


   “แอวะะะะะะะะะ”

   เสียงของกันต์ดังมาอีกครั้ง เมื่ออาหารคำแรกผ่านพ้นเข้าปากของชายหนุ่มไปได้สำเร็จ ดูเหมือนว่าฤทธิ์ของยาพิษของเฟี๊ยตยังไม่ยอมหมดลงง่ายๆ

   “เฮ้ยยยยยยยยยย”

   เฟี๊ยตอุทานขึ้นอย่างตกใจ ก่อนจะเรียกไพ่ยาต้านอาเจียนที่ปรุงจากน้ำลูกยอมาให้กันต์ดื่มอีกรอบ พลางลูบหลังกันต์ด้วยความรู้สึกผิดน้อยๆ

   “ผมจะเป็นอย่างนี้อีกนานไหม” กันต์ถามออกมาด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีนัก

   “พรุ่งนี้เช้าทุกอย่างจะกลับไปเป็นปรกติแน่นอน รับประกันเลย” เฟี๊ยตพูดพร้อมกับฉายรอยยิ้มกว้างเรียกความมั่นใจให้คนตรงหน้า

   
   “เฟี๊ยต มึงวางยาอะไรวะ ทำไมยังถอนพิษไม่ได้สักที” ธันถามขึ้น เมื่ออาการของกันต์ดูดีขึ้นมานิดหน่อยแล้ว

   “มันต้องวางแรงนิดนึงหวะ ไม่งั้นมันไม่ได้ผล” เฟี๊ยตตอบออกมา

   “ชื่ออะไรของมึงนะ รัดๆๆ อะ” ธันถามต่อ

   “สนามเด็กเล่นของรัฐกิจ รัดๆๆ พ่องงง มึงสิ พูดซะชื่อท่ากูเสียลุคหมด อุตส่าห์ตั้งชื่อคูลๆ” เฟี๊ยตจงใจเอาลิ้นไปแตะปุ่มเหงือกตรงคำสุดท้ายเพื่อออกเสียงตัวแอลให้ชัดเป็นการกวนประสาทคนถามไปในตัว

   “คูลพ่องงงง ชื่อแม่งโคตรเอาท์ ฮ่าฮ่า” ธันพูดทับมาอย่างไม่ยี่หระ

   
   “ว่าแต่ มันเป็นยาพิษประเภทไหนเหรอครับ” กันต์แทรกขึ้นมาอย่างเป็นกังวลน้อยๆ

   “อ่อ สนามเด็กเล่นของรัฐกิจเป็นกลยุทธ์ที่จะใช้ล้วงความลับของเป้าหมาย ยาพิษที่ใช้ก็จะเป็นพวกหลอนประสาทกับกล่อมประสาทเป็นหลัก จุดประสงค์ก็เพื่อจะหยุดสมองส่วนความคิดซ้ำซ้อนให้ทำงานไม่ได้อะไรประมาณนี้” เฟี๊ยตอธิบายคร่าวๆ

   “โหดสัด เลวจริงๆ หวะ ข้าน้อยขอคารวะ ฮ่าฮ่าฮ่า” ธันพูดขึ้นอย่างขำๆ

   “แปลว่าผมถูกล้วงความลับไปหมดแล้วเมื่อกี้นี้” กันต์พูดพร้อมกับหรี่ตาลงน้อยๆ อย่างสงสัย

   “ไม่มีอะไรมากหรอก พวกเราแค่ถามว่ามาดีหรือมาร้ายก็แค่นั้นแหละ ไม่ได้ยุ่มย่ามอะไรไปมากกว่านั้นหรอก” ธันตอบให้อีกฝ่ายสบายใจ

   “แล้วคำตอบ?” กันต์พูดเป็นทีหยั่งเชิงถึงคำตอบที่เขาพูดออกไปตอนไร้สตินั้น

   “สามัญสำนึกนายเป็นยังไง คำตอบนายก็เป็นอย่างนั้นแหละ ไม่มีใครโกหกสามัญสำนึกได้ยังไง ในสนามเด็กเล่นของรัฐกิจก็ไม่มีใครโกหกได้อย่างนั้นแหละ”

   เฟี๊ยตหันกลับมาพูดกับกันต์อย่างเรียบๆ ดวงตาของชายหนุ่มจ้องลงเข้าไปค้นหาในความเป็นปริศนาของชายผู้มาใหม่คนนั้น ดูเหมือนว่าโลกเสมือนใบนี้จะพาคนที่น่าสนใจมาให้เขาพานพบอีกเสียแล้ว


   “แล้วจะเอายังไงต่อไป เรื่องไดโนเสาร์”

   เฟี๊ยตเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ ชายหนุ่มมองไปทางเด็กหนุ่มสายฟ้านั่นเพียงชั่วครู่ ก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มอีกคนอย่างเป็นคำถาม

   “ผมลองใช้ไส้ตะเกียงของขงเบ้งแล้ว การจะผนึกการ์ดใบนี้ได้ ผมจะต้องยืนอยู่เฉยๆ โดยไม่ขยับตัวเลยเป็นเวลาสิบนาทีเต็ม ซึ่งผลก็เห็นชัดกันไปแล้ว”

   กันต์ตอบออกมาอย่างเปิดเผย ประโยคนั่นเองที่ทำให้เฟี๊ยตถึงกับต้องย้อนไปคิดถึงภาพแรกที่เขาทั้งคู่ได้พบกับกันต์ ด้วยเหตุนี้สินะ ชายตรงหน้าถึงไม่ตอบโต้เจ้ายักษ์นั่นเลยแม้แต่น้อย

   “แต่ถ้าเปลี่ยนจากคนเดียวเป็นสามคนอาจจะทำได้ก็ได้” ธันเปรยออกมาเบาๆ

   “หมายความว่า?” กันต์หันไปมองหน้าเจ้าของประโยคนั่น

   “ผมจะป้องกันเป็นด่านแรก ผมเชื่อว่าผมมีกลยุทธ์ที่เหมาะกับมันมากกว่าบาเรียของนาย ลำดับที่สองจะเป็นบาเรียอย่างที่นายเคยใช้ และถ้ามันแตกลงเฟี๊ยตจะปกป้องนายจนกว่าเวลาจะหมดลง” ธันอธิบายแผนการณ์อย่างสบายๆ

   “แต่ไส้ตะเกียงของขงเบ้งทำให้มันสามารถถูกผนึกได้เท่านั้น นั่นแปลว่าเราต้องหาวิธีผนึกมันด้วย” กันต์พูดอย่างหารือ

   “จากการเก็บข้อมูล เจ้าไดโนเสาร์นั่นน่าจะเป็นเพียงรูปสมมติเท่านั้น เพราะมันสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายสถานที่ในเวลาเดียวกัน พลังเวทย์ของมันน่าจะรวมอยู่ในน้ำที่ขึ้นทรงเป็นรูปร่างมันเท่านั้น” เฟี๊ยตพูดขึ้น

   “กำจัดน้ำ ฟังดูยากกว่าการฆ่าสัตว์ที่มีตัวตนจริงๆ ซะอีก” ธันบ่น

   “อาจจะยากหรืออาจจะง่าย ต้นไม้ย่อมกินน้ำเป็นอาหาร เทียนเกล็ดหอยเป็นสมุนไพรที่ดูดน้ำและพองตัวได้ถึง 50 เท่าของน้ำหนักตัวเอง และพวกเราจะใช้พืชพันธุ์นี้เผด็จศึกมัน!”


   อัพเดตการลงตอนใหม่ๆ : www.facebook.com/allornonetheauthor

    :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
จากผู้แต่ง : มีอารมณ์แต่งก็ลงบ่อย ไม่มีอารมณ์แต่งก็ลงน้อย คนแต่งติสสสสส 555 ปล. มีแก้ตอนที่แล้วนิสนึง คือลงชื่อตัวละครผิด กราบขอบคุณผู้พบเจอจุดผิดมา ณ ที่นี้ดั้ววววววว

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
อาห์ ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมชื่อสนามเด็กเล่นของรัฐกิจ
คือกลยุทธ์ยอดแต่ชื่อมันแบบว่า...... เห็นด้วยกับน้องธัน  :laugh:
มีแววว่าต่อไปอาจจะเป็นทีมสามคนนะเนี่ย
ถ้าเข้ามาร่วมทีมจริงก็น่าสงสารน้องธันสิ อดสวีทสองต่อสองเลย  :hao3:
เทียนเกล็ดหอยดูดน้ำ 50 เท่า แต่นี่น้ำทั้งแม่น้ำเลยนะ จะทำยังไง
แนะนำให้น้องธัน สร้างเขื่อนกั้นน้ำ แม่น้ำจะได้แห้ง ฮ่าฮ่าฮ่า

ออฟไลน์ igaga

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ว้าวๆๆๆๆๆ ตื่นเต้นๆๆๆๆๆ
เอาอีกๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ savada

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :mew3: :mew5:โอ้   วิชาการแท้เหลา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
งี้ต้องให้ธันสร้างคันกั้นน้ำที่จะไหลมาสมทบก่อนปะ ไม่งั้นไม่แห้งแน่ๆ

ออฟไลน์ yong

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ทึ่งและเท่ห์จริงสำหรับหนุ่มสาระพัดพิษ ดูนิ่มๆแต่แพรวพรายนะ  อยากรู้ว่าจำสู้ไดโนยังไง  หวังว่าผู้เขียนคงมีอารมณ์ดี มีคนรอลุ้น
 :katai4:

ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
ยู้ฮู้ววววววว  อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกเหมือนอ่านเลกเชอร์ของวิชาเรียนเลยอ่ะ  เนื้อหาปึ๊ก ความรู้แน่นปั่ก สู้ๆเน้ออออออ o13 :กอด1:

ออฟไลน์ QSAR

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สวัสดีครับ Writer

บทที่ 168 That Guy
"เสียงดังลั่นขึ้นเบาๆ พร้อมกับความพิอักพิอ่วนภายในช่องท้องที่จบลงเช่นกัน"  ผมค้นไม่เจอคำนี้ครับ น่าจะเป็น "กระอักกระอ่วน" หรือ "พิพักพิพ่วน" มากกว่าครับ

ตอนแรกก็งงเหมือนกันว่าเฟี๊ยตได้ไพ่ สนามเด็กเล่นของรัฐกิจ มาตอนไหน แต่ชื่อมันคุ้นๆ ไปสืบค้นดูพบว่า
ในบทที่ 159 Reward ทั้ง 2 ได้รางวัลเป็นเงิน 10,000 เหรียญ และ ได้ซองเอาไปแลก Card ใน บทที่ 161 May Day ซองที่แลกได้ไพ่ชื่อ
The Playground of Maxwell (สนามเด็กเล่มของแม็กซ์เวลล์) เอ มันก็ชื่อ สนามเด็กเล่นของ Maxwell นี่นา ไม่ใช่ รัฐกิจ  สรุปว่า สนามเด็กเล่นของรัฐกิจ เป็น ทักษะ หรืออะไรประเภทนี้ใช่มั้ยครับ ไม่ใช่ Card  หรือว่า ใน 10 ซองที่ไปแลกมา มันมีไพ่ชื่อนี้อยู่จริงๆอ่ะ  แต่ชอบมากเรื่อง ระบบ Controlled Release โดยใช้ทรายในการควบคุมการปลดปล่อยพิษนะ แสดงให้เห็นว่า เฟี๊ยตมีพัฒนาการ มีจินตนาการ มีการต่อยอดจากสิ่งที่ได้รับและเรียนรู้มาครับ ชอบมากๆ สมกับเป็นเภสัชกรจริงๆ

อยากอ่านต่อ อยากอ่านต่อ อยากอ่านต่อ โอม writer จงมีอารมณ์ จงมีอารมณ์ จงมีอารมณ์   :laugh: :laugh: :laugh:

Spanish Fly RELEASE!

ไม่รู้อารมณ์อาราย  :z1: :z1: :z1:

ออฟไลน์ Shadownights

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ธันกับเฟี๊ยตเริ่มรู้ใจกันโดยมองตากันก็พอแล้วสินะ กลัวคนใหม่จะหลงเสน่ห์เฟี๊ยตจัง  :ling3:

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
บทที่ 172 Nervous


   ควันจางๆ ลอยตัวอย่างอ้อยอิ่งในค่ำคืนที่ฟ้ามืดสนิทคืนนั้น เพื่อนทั้งสองของเขาหลับไปแล้ว กันต์หลับไปเป็นคนแรกด้วยความเหนื่อยอ่อนและอาการข้างเคียงจากยาพิษของเขา ในขณะที่ธันก็ล่วงเข้าสู่นิทรารมณ์เป็นลำดับต่อไป หลังจากที่นั่งตากน้ำค้างเป็นเพื่อนเขาอยู่อีกชั่วระยะหนึ่ง ชายหนุ่มปฏิเสธที่จะเข้านอนในเวลานั้น เขารู้สึกว่าคืนนี้ความรู้สึกของเขาว้าวุ่นกว่าที่เคยเป็นนัก

   ชายหนุ่มหยิบสมุดการ์ดขึ้นมาเปิดไปทีละหน้าอย่างครุ่นคิด พรุ่งนี้จะเป็นวันประกาศศึกแล้ว เขาเองก็พูดได้อย่างไม่เต็มปากนักว่าเทียนเกล็ดหอยนั่นจะได้ผลจริงๆ เขาเองยังไม่มั่นใจว่าเจ้าไดโนเสาร์นั่นมีกายเนื้ออยู่หรือเปล่า ทุกอย่างดูเป็นปริศนาไปเสียหมด แต่การจะยืดเวลาต่อไปอีกนั้นก็ดูจะหาประโยชน์ไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะวันนี้พรุ่งนี้หรือวันไหน พวกเขาก็ต้องเผชิญหน้าจากเจ้าสัตว์ยักษ์จากดึกดำบรรพ์นั่นอยู่ดี

   เฟี๊ยตถอนหายใจออกมาเสียงดังท่ามกลางบรรยากาศเหงาๆ ของความมืดนั้น เขากวาดสายตามองไปโดยรอบก่อนจะรู้สึกอ้างว้างอย่างบอกไม่ถูก มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบายออกมาเป็นคำพูด เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยู่ผิดที่ผิดทาง ยิ่งคิดเขายิ่งสงสัยว่าเขามาทำอะไรอยู่ที่นี่ เวลานี้ เมื่อกวาดสายตาไป ชายหนุ่มก็พบกับกันต์ ผู้มาใหม่ที่ดูจะมีความลับมากมายซ่อนอยู่ในตัวตนนั้น ถัดไปไม่ไกลก็เป็นธันที่เบื้องหลังที่ดูจะเป็นปริศนาไม่แพ้กัน โลกนี้ซับซ้อนเกินกว่าที่เขาจะเข้าใจได้ หรือตัวเขาเองต่างหากที่อ่อนด้อยเกินกว่าจะยอมรับมัน


   เช้าวันรุ่งขึ้นเริ่มต้นด้วยบรรยากาศหนักหน่วงพิกล ดูเหมือนว่าหมอกแถบริมแม่น้ำจะลงอีกแล้ว ถึงแม้จะไม่จัดเท่าครั้งก่อน แต่มันก็มากพอที่จะสร้างความรู้สึกขะมุกขมัวให้พวกเขาทั้งสามคน พวกเขาซักซ้อมความเข้าใจกันครั้งสุดท้าย ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังแม่น้ำสายยักษ์สายนั้น สมรภูมิรบกำลังจะเปิดฉากขึ้นแล้ว

   
   จ๋อมมมมมมมมมม

   เสียงก้อนหินที่ธันหยิบมาจากพื้นดินแถวนั้นและขว้างลงไปที่ลำน้ำดังกังวานขึ้นในความเงียบของสายวันนั้น หัวใจของเฟี๊ยตหวาดหวั่นอย่างบอกไปถูก คลื่นน้ำที่เคลื่อนตัวออกมาเป็นระลอก ทำเอาใจเขาระส่ำระสายด้วยความกังวลที่ยากจะควบคุมได้


   ซู่มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

   เสียงลำน้ำยกตัวสูงขึ้นราวกับมีสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์อะไรสักอย่างพยายามจะแสดงตนออกมาจากใต้กระแสน้ำเหล่านั้น มือของเฟี๊ยตกำแน่นอย่างตื่นเต้น ถ้าวันนี้พลาด พวกเขาก็ยากที่จะหาโอกาสแก้ตัวได้อีกครั้ง

   “ใจเย็นๆ”

ธันเอื้อมมือมาแตะไหล่ของเพื่อนชาย เมื่อเห็นว่าเฟี๊ยตเริ่มมีอาการลนจนรู้สึกได้ ธันบีบไหล่เภสัชกรหนุ่มอย่างให้กำลังใจ

“ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี” ว่าที่สถาปนิกหนุ่มคนนั้นเอ่ยสำทับมาอย่างมั่นใจ


ก๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ

เสียงคำรามที่พวกเขาฟังจนคุ้นเคยดังก้องขึ้นอีกครั้ง เจ้าสัตว์ประหลาดยักษ์โชว์ตัวเหนือแม่น้ำแห่งชีวิตนั้นอย่างองอาจ ในเวลาที่บรรยากาศเต็มไปด้วยหมอกบางๆ แบบนี้ มันดูราวกับจะมีขนาดใหญ่โตมโหฬารเพียงพอจะบดบังดวงอาทิตย์ให้หายไปทั้งดวงอย่างใดอย่างนั้น

“The Wick of Kongbeng RELEASE!”

เสียงของกันต์เอ่ยดังขึ้นเปิดศักราชการสู้รบเป็นคนแรก ตัวของเขาเรืองด้วยสีทองขึ้นครั้งหนึ่งก่อนจะวูบหายไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้น

“10 นาที 10 นาที เพื่อที่จะทำให้มันอ่อนแอพอจะให้พวกเราผนึกมันได้” เสียงของกันต์เอ่ยขึ้นอย่างมั่นคง เวลาแห่งการเดิมพันด้วยชีวิตเริ่มต้นขึ้นแล้ว!

   
   10 นาที

   “The Town Builder RELEASE!”

   “The Unbreakable Dam!”

ธันตะโกนพร้อมกับวิ่งขึ้นไปบนบันไดล่องหนที่ทอดยาวออกไปเบื้องหน้า พร้อมกันกับที่กำแพงคอนกรีตขนาดมหึมากำลังแทรกตัวขึ้นจากพื้นดินอย่างช้าๆ มันค่อยๆ กลายสภาพเป็นปราการป้องกันการโจมตีล้อมรอบพวกเขาทั้งสามไว้ กำแพงนั้นก่อนตัวสูงขึ้นจนบัดนี้ เฟี๊ยตและกันต์ที่ยืนอยู่บนพื้นเบื้องล่างไม่อาจเห็นทัศนียภาพภายนอกได้อีกแล้ว เขื่อนยักษ์สร้างตัวเองเสร็จสิ้นพอดีในจังหวะเดียวกันกับที่ธันก้าวขึ้นไปเหยียบที่ยอดกำแพงฝั่งที่ติดกับแม่น้ำแห่งชีวิตพอดี

ก๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ

เสียงร้องอย่างเกรี้ยวกราดดังขึ้นที่หลังกำแพงนั่น ไม่มีใครรู้ความเป็นไปใดๆ นอกสันเขื่อนเหล่านั้นเลยนอกจากธันที่บัดนี้กำลังเผชิญหน้าอยู่กับอสุรกายนั่นเพียงลำพัง เฟี๊ยตหันไปมองหน้ากันต์ที่ยืนอยู่อย่างเงียบสงบนั้น หากแต่ชายหนุ่มคนนั้นก็ไม่ได้แสดงอาการตื่นเต้นอะไรออกมาให้เห็นเลย

ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

ดูเหมือนว่าการโจมตีระลอกแรกจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว เฟี๊ยตสังเกตเห็นน้ำส่วนหนึ่งกระเซ็นกระจายไปในอากาศ ถ้าเขาเดาไม่ผิด คงจะเป็นบอลน้ำของเจ้ายักษ์นั่นที่เข้าจู่โจมเขื่อนของธัน


9 นาที

ก๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ

เจ้าไดโนเสาร์นั่นคำรามก้องอีกครั้ง ดูเหมือนความโกรธเกรี้ยวมันจะทวีคูณขึ้นจนหาที่สุดไม่ได้ เหงื่อน้อยๆ ซึมมาตามไรผมของเภสัชกรหนุ่มที่ยืนลุ้นอยู่ห่างๆ นั้น เขาห่วงเพื่อนที่กำลังยืนเด่นอยู่บนสันเขื่อนนั่นอย่างบอกไม่ถูก ใจเขามันร้อน ร้อนเกินกว่าจะยืนอยู่เฉยๆ มองดูเพื่อนตัวเองกำลังต่อสู้อยู่เพียงลำพังอย่างนี้

ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

เสียงวัตถุขนาดใหญ่ชนิดหนึ่งเคลื่อนที่พุ่งเข้าชนเขื่อนนั่นอย่างรุนแรง เฟี๊ยตรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนน้อยๆ ที่กระจายแผ่ไปตามสิ่งก่อสร้างนั่น เฟี๊ยตกัดริมฝีปากอย่างเริ่มจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ทำไมเขารู้สึกพะว้าพะวงกับการต่อสู้นี้อย่างเกินปรกติไปนัก มันเหมือนมีลางสังหรณ์อะไรสักอย่างมาดลใจเขาอยู่เลย

“ดูเหมือนว่ามันจะรู้แล้วว่าสสารธาตุน้ำน่าจะแพ้ทางสิ่งก่อสร้างนี่ มันเลยเอาตัวเองพุ่งเข้าชนเขื่อนนี่เสียเลย และดูเหมือนว่าความคิดของมันก็ได้ผลไม่ใช่น้อย” กันต์เอ่ยขึ้นอย่างเรียบๆ ชายหนุ่มคนนั้นยืนนิ่งสงบ เขาดูใจเย็นต่อการรบรากับสัตว์ประหลาดนี่เหลือเกิน


8 นาที

ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

“แล้วเราจะทำยังไงกันดี อย่างนี้ไม่แปลว่าอีกไม่นานเขื่อนนี่ก็จะพังเหรอ เอาไงดีกันต์” เสียงของเฟี๊ยตถามขึ้นอย่างเริ่มเก็บอารมณ์ไม่อยู่ ทำไมความรู้สึกเขาบอกว่าเรื่องนี้เข้าสู่ภาวะฉุกเฉินเสียแล้ว

“ใจเย็นๆ เฟี๊ยต นี่มันคือสิ่งที่เราคาดการณ์ไว้ไม่ใช่เหรอ ปราการด่านแรกจะต้องพังทลายลง หลังจากนั้น ผมจะใช้มนต์ที่เตรียมไว้กางเป็นปราการด่านที่สอง” กันต์พูดอย่างใจเย็น

“แต่...”

เฟี๊ยตขัดขึ้นพร้อมหยิบไพ่อะไรสักอย่างในมือขึ้น ซึ่งกันต์เองก็เห็นไม่ชัดเจนนักว่าคือไพ่อะไร รู้เพียงแต่ว่าเหมือนจะเป็นไพ่เวทมนตร์เท่านั้น

“อย่าทำเสียแผน พวกเราวางแผนกันตั้งนานไม่ใช่เพื่อจะให้ใครมาทำลายมันลงด้วยความใจร้อนนะ ถ้าเฟี๊ยตออกไปสู้แล้วยื้อเขื่อนนี้ไว้ไม่ได้ แล้วหลังจากมนต์ของผมประสบความสำเร็จ ใครจะเป็นคนผนึกมัน” กันต์พูดอย่างมีเหตุผล


7 นาที

“แต่แผนการมันต้องเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ไม่ใช่เหรอ” เฟี๊ยตเถียงออกมาด้วยความร้อนรน

ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

“หายใจเข้าลึกๆ แล้วคิดช้าๆ เฟี๊ยต เหตุการณ์มันยังไม่วิกฤตถึงขั้นนั้น อย่าให้ความเป็นห่วงธันทำให้ทุกอย่างพัง” กันต์พูดออกมาอย่างต้องการหยุดความร้อนรนของคนตรงหน้า

ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

“แล้วถ้าเขื่อนพังลงแล้วธันจะทำยังไง ไพ่ใบนี้ใช้เสร็จแล้วพลังเวทย์ธันจะเกลี้ยงแน่ๆ ไม่กลายเป็นว่าเราปล่อยให้ธันตายไปโดยที่พวกเราปลอดภัยอยู่ในกำแพงที่แข็งแรงเหรอ” น้ำเสียงของเฟี๊ยตเริ่มตวัดขึ้นเล็กน้อยอย่างปิดบังความร้อนรนของอารมณ์ไม่มิด


6 นาที

“ถ้าเฟี๊ยตห่วงธันขนาดนั้นก็เตรียมไพ่ไว้รอรับธันให้ทันก่อนที่ไดโนเสาร์นั่นมันจะโจมตีมาถึงบาเรีย แต่ไม่ใช่ว่าเอาพลังเวทย์ไปใช้ต่อสู้จนไม่มีใช้ตอนขั้นตอนสุดท้าย”

กันต์พูดด้วยน้ำเสียงเย็นๆ และนั่นดูเหมือนจะทำให้เฟี๊ยตรู้สึกได้ว่าตัวเองเริ่มแสดงความงี่เง่าออกไปอย่างไม่รู้กาลเทศะเลย

ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

“โอเค” เฟี๊ยตรับคำอย่างง่ายๆ เขาเริ่มรู้สึกผิดที่งี่เง่าจนเกินสมควรเสียแล้ว

ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

“The Defensive Golem RELEASE!”

คำสั่งของเฟี๊ยตดังขึ้นอย่างตัดสินใจได้ในที่สุด ทันทีที่ปีศาจทรายนั่นปรากฏกายขึ้น ดวงตาของกันต์ก็เลิกขึ้นน้อยๆ ก่อนจะพึมพำอะไรในลำคออยู่คนเดียวเงียบๆ

ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง


5 นาที

ครืนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

เสียงสุดท้ายดังขึ้นอย่างไม่อาจต้านทานแรงของเจ้าปีศาจดึกดำบรรพ์นั่นได้อีกแล้ว เขื่อนยักษ์นั่นสั่นอย่างรุนแรงก่อนจะทรุดตัวพังทลายอย่างหมดท่า มวลน้ำก้อนหนึ่งพุ่งเข้าปะทะกับผนังเขื่อนและระเบิดขึ้นอย่างดัง บริเวณปะทะนั้นกลายเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ เผยให้เห็นเจ้าสัตว์ประหลาดที่รอคอยจังหวะนี้อยู่บริเวณภายนอก ปราการด่านแรกของพวกเขาพังลงอย่างหมดท่าเสียแล้ว

แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่สร้างความตระหนกให้กับเฟี๊ยตในเวลานี้ที่สุด ภาพที่ส่งผลต่ออารมณ์ของเขาได้มากที่สุดในเวลานี้คือภาพของชายหนุ่มที่ตกลงจากเขื่อนพุ่งลงตามแรงโน้มถ่วงลงสู่พื้นดินอย่างไม่อาจควบคุมตัวเองได้ ดูเหมือนพลังเวทย์ของธันจะเกลี้ยงหลอดเสียแล้ว ร่างกายของเด็กหนุ่มตกสู่พื้นอย่างรวดเร็ว ราวกับว่ามันจะแตกสลายเป็นเศษเถ้าธุลีภายในไม่อีกอึดใจข้างหน้าเท่านั้น

“ไอ้ธัน ไอ้เพื่อนชั่ว มึงไม่มีสิทธิ์ตาย ถ้ากูไม่อนุญาต มึงห้ามตาย มึงได้ยินกูไหม!”


จิ้มเบาเบา www.facebook.com/allornonetheauthor

 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
จากผู้แต่ง : หายไปสักพักหนึ่ง ไม่กี่วันเองเนอะ ปั่นบทความส่งประกวดอ่า ย๊ากยากกกกกกกกก ยากกว่าแต่งนิยายสิบเท่า เอาเป็นว่าอวยพรให้ผมได้รางวัลด้วยนะ เผื่อผมจะมีชื่อเสียงกับเขาบ้าง ถึงแม้โอกาสชนะจะเป็นลิมิตเข้าใกล้ศูนย์ก็ตาม 555

ปล. สนามเด็กเล่นของรัฐกิจเป็นกระบวนท่าที่เฟี๊ยตคิดเองครับ ไม่ใช่การ์ดน้า

 :katai3: :katai3: :katai3: :katai3: :katai3: :katai3: :katai3: :katai3: :katai3: :katai3:

ออฟไลน์ หยาดน้ำค้าง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อร้ายยยยยย มาต่อแล้ววววว ลุ้นอ่าาาา คนเขียนอย่าปล่อยให้ค้างอย่างนี้สิคะ!!

ออฟไลน์ Umiko

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
มาเป็นกำลังใจห้อีกแรง....


ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
อุกรี๊ดดดดดดดดดดดดด  :hao5:
ค้างมากกกกกกกกกก มาต่อเร๊ว  :ling1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด