Beyond The Sky And The Earth: ยิ่งกว่าผืนฟ้าและแผ่นดินbysake Spe1 P19 29/11/13
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Beyond The Sky And The Earth: ยิ่งกว่าผืนฟ้าและแผ่นดินbysake Spe1 P19 29/11/13  (อ่าน 423347 ครั้ง)

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
รอดแล้วต่ายเรา

ออฟไลน์ AeRoMoZa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
งุ้ย มาแล้ว แต่มานิดเดียวเองอ่า อยากเห็นตอนกระต่ายน้อยดื้อๆอ่า อิอิ
ูซิว่านายเสือจะปวดหัวแค่ไหน555

รออ่านต่ออยู่นะคะ

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
กระต่ายปลอดภัยแล้ว (มั้ง?)  :L2:
เลยได้เข้าวงเข้าวังเลย ตื่นมาจะเป็นไงล่ะเนี่ย

ออฟไลน์ boboaje

  • ไม่ชอบหวาน ชอบครบรส
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4
รอตอนต่อไปค่ะ :katai5:

ออฟไลน์ Monochrome

  • โคอาล่า มาร์ช *O*
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
บรรยายไม่ถูก รู้สึกดีที่ได้อ่าน

ออฟไลน์ LimousinX9

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 229
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
อุ้ย แอบมานั่งปูเสื่อรอตอนต่อไป ฮี่ๆ

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
รอๆๆ ฉันรอเธออยู่ แต่ไม่รู้เธออยู่หนใด เธอจะมาๆ เมื่อไร บอกได้ไหม...

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
ค้างอ่ะ :mew2: รออยู่นะ  :katai4:

ออฟไลน์ AGALIGO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4

สนุกมากๆเลย

+ เป็ดจ้า

ออฟไลน์ GUNPLAPLASTIC

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
เสือน้อยเริ่มชอบต่ายเเล้วใช่ป่ะ 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
รอตอนใหม่คับ ลุ้นๆ

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
รออย่างใจจดใจจ่อค่ะ  :ling1:

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
 :pig4: รอตอนต่อไป  :z2:

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
รอกระต่ายป่าฟื้นตัวมาปะทะกับเสือเจ้าถิ่น

ออฟไลน์ pockypocky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 179
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
น่าสนุกมากค่ะ

มาต่อไวๆนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
อยากอ่านต่อจังค่ะ

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1510
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
แค่เห็นชื่อคนแต่งก็ต้องรีบมาอ่าน
มาต่ออีกไวๆนะค๊าบบ อยากอ่านต่อแล้ว

ออฟไลน์ takuya

  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0
มาเเล้วจ้า ขอโทษที่ให้รอนานนะคะ  :katai2-1:

ตอน 6

รุ่งเช้าในวันที่อากาศสดใส ท้องฟ้าเปิดกว้างเป็นสีครามเข้ม พระราชวังอลิซาเบธตั้งอยู่บนเชิงเขาเลียบแม่น้ำทอดยาวลัดเลาะสู่ตัวเมืองหลวง สมเด็จพระราชาธิบดีโปรดสร้างพระราชทานให้อนุชาประทับ และนำชื่อมารดาชาวต่างชาติของอนุชามาตั้ง เพื่อเชิดชูเกียรติและอยากให้รู้สึกว่า ที่นี่ก็คือบ้าน

ที่ประทับซึ่งไม่เคยต้องใช้ต้องรับแขกบ้านแขกเมือง ขณะนี้มีชายชาวต่างชาตินั่งงงอยู่บนเตียงในห้องกว้าง มีนางฝ่ายในหน้าหวานยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ไม่ห่าง พร้อมนางพยาบาลวัยกลางคนดึงปรอทใต้ลิ้นไปพิจารณา

“ยังมีไข้นะคะ”

ภาษาอังกฤษสำเนียงหนุงหนิงเป็นที่ซาบซึ้งใจคนป่วย จะได้พูดกันเข้าใจเสียที

“ผมอยู่ที่ไหนคุณพยาบาล?”

นพรัตน์ยิงคำถามทันทีที่สบโอกาส พลางสำรวจรอบๆตัว ห้องพักประดับด้วยเครื่องใช้เครื่องเรือนทำจากไม้ทั้งสิ้น  ดูยังไงก็ไม่ใช่โรงพยาบาล ถ้าหญิงสาวตรงหน้าไม่มีเครื่องหมายกาชาดติดที่หน้าอก เขาก็คงไม่รู้ว่าเป็นพยาบาลเพราะเจ้าตัวใส่ผ้าซิ่นกับเสื้อป้ายข้างแขนกระบอกสีขาว ยังมีสาวน้อยวัยกำดัดอมยิ้มน้อยๆคอยช่วยอยู่ไม่ห่าง หากสาวน้อยนางนี้ใส่เสื้อคอตั้งสีกลีบบัวกับผ้าซิ่นสีตองอ่อน ติดเข็มกลัดสีทองตราอะไรสักอย่างที่หน้าอกด้านซ้าย ซึ่งเขามารู้ในภายหลังว่า มันคือสัญลักษณ์บ่งบอกลำดับชั้นยศในหน้าที่การงาน รูปแบบ สี แตกต่างกันไปตามหน่วยงานที่ตนเองสังกัด และสีทองคือสีของผู้ทำงานในสำนักพระราชวัง

“ที่นี่พระราชวังอลิซาเบธ ที่ประทับของเจ้านรพยัคฆาภูบดินทร์ค่ะ”นางพยาบาลยิ้มละไม แต่คนฟังอึ้งไปพักหนึ่ง

“ใครหรือครับ เจ้านรพยัคฆาภูบดินทร์?”

คุณพยาบาลดูจะแปลกใจไม่น้อยเมื่อได้ยินคำถามของคนป่วยซึ่งทำหน้าสงสัยไม่ปิดบัง “คือ...เออ...ก็พระองค์ที่พาคุณมายังไงล่ะคะ” คนตอบยังเห็นอีกฝ่ายทำหน้าสงสัยต่อ “องค์ที่มีดวงตาสีฟ้าๆไงคะ” ประโยคหลังคุณพยาบาลบอกเสียงเบาคล้ายกระซิบ กลัวใครจะได้ยิน

นพรัตน์นิ่งอึ้งไปอีกครั้ง...ไม่ใช่แค่รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศจริงๆด้วย

แม้จะประหลาดใจแต่ก็รู้สึกโล่งใจตามมา ความเคลือบแคลงใจที่มีเริ่มจางหาย  แบบนี้ถ้าอาการทุเลาพอเดินทางได้  เขาก็จะได้กลับเมืองไทยแล้ว

ชายหนุ่มยิ้มออกและทำให้สาวน้อยสาวใหญ่หน้าอุ่นวาบกับดวงตาวาววับสดใส ริมฝีปากเริ่มมีฝ่าเลือดสีเรื่อจับตา อวดฟันขาวเรียงสวย

“คุณพยาบาล ผมอยากใช้โทรศัพท์ จะได้ไหมครับ?”

“เออ เดี๋ยวจะถามเจ้าหน้าที่ทางนี้ให้นะคะ ตอนนี้คุณต้องทานอาหารเช้าก่อนค่ะ แล้วจะได้ทานยา ทายาด้วยค่ะ”

“ครับ แต่ผมขออาบน้ำก่อนดีกว่า”

“ยังมีไข้ แค่เช็ดตัวก็พอค่ะ”

“เช็ดไม่ไหวแล้วครับคุณพยาบาล ผมไม่ได้อาบน้ำมาเป็นอาทิตย์ ผมขอเถอะนะครับ”

ร่างโปร่งส่งสายตาวิงวอน แม้จะไม่เหนียวตัวดังก่อน แต่ก็เหม็นอยู่ดี

คุณพยาบาลยอมใจอ่อนกับดวงตาคู่สวย หันไปบอกนางฝ่ายในเตรียมน้ำอุ่นจัดให้คนป่วย

“ระวังสายน้ำเกลือนะคะ”

ชายหนุ่มลากสังขารทุลักทุเลของตัวเองไปยังห้องน้ำข้างๆ จัดการอาบน้ำให้ตัวเองด้วยมือข้างเดียว จากนั้นจึงสวมเสื้อผ้าเหมือนคนพื้นถิ่นที่เตรียมไว้ คือกางเกงเป้ายาว ส่วนเสื้อแขนยาวป้ายข้างยังแขวนดังเดิม  นพรัตน์สางผมเหนียวเหนอะของตัวเอง ก่อนแง้มประตูโผล่ศีรษะออกไปด้านนอก ซึ่งเหลือแต่นางฝ่ายในคนงามกำลังเปลี่ยนผ้าปูที่นอน จึงกวักมือเรียก

ร่างโปร่งถือขวดยาสระผมโชว์ให้ดู จากนั้นชี้ที่ศีรษะตัวเอง  เป็นอันเข้าใจ  นางฝ่ายในจึงยินยอมเข้าไปสระผมให้คนเจ็บซึ่งสวมกางเกงตัวเดียว หากเมื่อออกมาก็พบนางพยาบาลนำถาดอาหารเข้ามาให้พอดี พร้อมกับค้อนขวับเข้าให้

“เดี๋ยวคุณหมอเข้ามาเห็นต้องถูกดุแน่ๆ รีบเช็ดผมให้แห้งเถอะค่ะ”

เดือดร้อนนางฝ่ายในหน้าสวยต้องรีบนำผ้านุ่มๆมาซับหยาดน้ำให้ชายหนุ่มพัลวัน ส่วนคุณพยาบาลก็ช่วยใส่เสื้อให้  จังหวะนั้นเองที่ประตูห้องพักเปิดออก

องครักษ์เคอแสนเดินนำแพทย์อาวุโสเข้ามาภายใน ตามมาด้วยองค์สูงใหญ่และองครักษ์นัมทัค

ภาพที่ผู้เข้ามาใหม่เห็นคือคนเจ็บกำลังถูกสาวเล็กสาวใหญ่รุมล้อมเอาใจ จนเคอแสนอดเหล่มองนัมทัคเพื่อนรักไม่ได้

มันแน่
นายแพทย์สูงวัยรูปร่างท้วมท่าทางใจดีฉีกยิ้มกว้างกับความเจ้าเสน่ห์ของหนุ่มน้อย ก่อนลงมือตรวจและสอบถามอาการด้วยภาษาอังกฤษช้าชัด

“ระยะนี้ควรพักผ่อนให้มาก อย่าเที่ยวเดินไปเดินมา ให้ร่างกายได้ฟื้นฟูตัวเองซักหน่อยแล้วค่อยไปจีบสาว ถึงนางฝ่ายในวังนี้จะน่ารักจนเกินห้ามใจก็ตามเถอะ เดี๋ยวจะหาว่าหมอไม่เตือนไม่ได้นะ”

คุณหมอยิ้มบางหากนางพยาบาลที่ยืนอยู่ด้วยถึงกับต้องก้มหน้า พวงแก้มแดงเรื่อ ส่วนนางฝ่ายในร่างเล็กนิ่งเป็นหินในบัดดล ด้วยยังอยู่ในสายพระเนตรเจ้านรพยัคฆ์

“ไม่ใช่แบบนั้นคุณหมอ” ร่างโปร่งพลอยเขินตามบรรดาผู้หญิงไปด้วย “ว่าแต่คุณหมอ จะถอดสายน้ำเกลือได้เมื่อไรครับ ผมอยากขึ้นเครื่องกลับประเทศไทยเร็วๆ”

“อีกวันสองวันล่ะ แต่ต้องอยู่พักฟื้นอีกระยะหนึ่งนะ”

แพทย์ยิ้มให้จากนั้นจึงกลับออกไป เหลือแต่คนตัวโตๆเต็มห้อง วรองค์สูงประทับบนเก้าอี้ขาสิงห์ตัวเขื่องใกล้เตียงผู้ป่วย จากนั้นองครักษ์เคอแสนจึงเอ่ยนามขององค์นรพยัคฆาภูบดินทร์ให้อีกฝ่ายได้รับทราบ

“เพราะเกิดเรื่อง เราเลยไม่ได้แนะนำตัวกันอย่างเป็นทางการ” เจ้านรพยัคฆ์จับจ้องใบหน้าตื่นๆของอีกฝ่าย “ยินดีต้อนรับสู่ราชอาณาจักรปัญจคีรี เราเสียใจกับการท่องเที่ยวอันไม่สะดวกในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง”

ดวงตาคู่สุกใสเบิกกว้างแทบถลนออกมา  ไม่ใช่แค่ไม่สะดวกหรอกท่าน แต่มันเกือบตายเอา! ภาษานักการทูตฟังแล้วดูดีเป็นบ้า

นพรัตน์สูดลมหายใจเข้าลึก เม้มริมฝีปากแน่น ดวงตาหรี่ลงข่มความเจ็บปวดตามร่างกายที่ประท้วงขึ้นเมื่อเขาเกิดอาการโมโหควันออกหู  แล้วจึงค่อยเอ่ยถามสาเหตุ

“เรื่องที่เกิดขึ้น...เพราะอะไร ทำไมต้องจับตัวกระหม่อม?”

“เป็นความวุ่นวายภายใน เราเสียใจที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดนี้ขึ้น”

“วุ่นวาย  วุ่นวายอะไร?”

แม้ตัวเล็กกว่าแต่ดวงตาเอาเรื่องถามเสียงห้วน ไม่สนใจฐานะเจ้าเจี้ยวตรงหน้า องค์นรพยัคฆ์จึงลอบทอดถอนใจ ก่อนตรัส

“กลุ่มติดอาวุธต้องการสร้างเงื่อนไขเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง”

“อะไร?”

“ยังไม่แน่ชัด”

“ไม่แน่ชัด! เป็นไปไม่ได้ ทางนี้ต้องรู้เรื่องมาก่อนแน่” ร่างเล็กถลึงตา รู้สึกถึงเลือดร้อนๆวิ่งพล่านไปทั่วร่าง เขาไม่ใช่เด็กสามขวบนะ เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ไม่มีทางที่ทางการจะไม่รู้อะไร นอกเสียจากต้องการจะปิดบัง “พวกนั้นจับคนต่างชาติเป็นตัวประกัน จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้! แล้วที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวต้องเจอแบบนี้ไปกี่คนแล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกใช่ไหม? แต่ทางนี้ปิดข่าว ไม่ยอมให้นักท่องเที่ยวหรือคนภายนอกได้รู้ แบบนี้ไม่ใช่การจงใจปล่อยให้คนนอกมาเสี่ยงในประเทศนี้หรอกหรือ เลว เห็นแก่ตัว  ทำได้ยังไง!”

“คุณ!เสียมารยาท” นัมทัคปรามเสียงกร้าวใส่คนที่กำลังหอบหายใจแรง หากแต่องค์นรพยัคฆ์เพียงประสานหัตถ์ลงบนพระเพลาแข็งแรง ดวงเนตรคมหรี่ลงพินิจใบหน้าฉุนโกรธของอีกฝ่าย

“ใช่ นี่ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ขอให้เธอเชื่อ ทางเรากำลังพยายามคลี่คลายเรื่องนี้อย่างสุดความสามารถ” องค์นรพยัคฆ์หยุด ก่อนทอดสายพระเนตรผ่านหน้าต่างสู่ผืนแผ่นดินสีทองด้านนอกแล้วจึงหันกลับมาทอดเนตรคนบนเตียงอีกครั้ง “เพื่อบ้านของทุกคน”

กระแสเสียงราบเรียบทว่าหนักแน่นมั่นคงในสิ่งที่ตรัส ทำเอานพรัตน์นิ่งงัน จู่ๆความรู้สึกกรุ่นโกรธที่อัดแน่นในช่องอกค่อยจางลงไปอย่างฉับพลัน คล้ายถูกดวงเนตรสีฟ้าดุจสายธาราชุ่มฉ่ำชะล้างความขุ่นมัวไปจนสิ้น

“ถ้าเป็นคนที่นี่ เขาจะไม่ยินดีในความฉิบหายของผู้อื่นแน่นอน  นอกเสียจาก...คนไม่รักแผ่นดินเกิด”

แวบหนึ่งร่างโปร่งรู้สึกถึงความเงียบงันสุดหยั่งถึง  หัวใจกรุ่นโกรธอ่อนไหวไปชั่ววูบ หากต่อมาตัวเองกลับนึกแค้นใจคนหน้าดุตรงหน้าที่กำลังเล่นเอาเถิดเหมือนเขาเป็นเด็กๆ

“เธอจะไม่ต้องประสบพบเจออันตรายเช่นที่ผ่านมาอีกแล้ว ขอให้วางใจ”

“พะ... พ่ะย่ะค่ะ  แล้วกระหม่อมจะกลับเมืองไทยได้เมื่อไร?” ร่างโปร่งเรียกสติดึงตัวเองออกมาจากการดำดิ่งในดวงเนตรสีฟ้าลึกสุดหยั่งถึงคู่ตรงหน้า

“ขอให้เราได้ชดเชยสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับเธอ นับจากนี้เธอคือแขกของราชวงศ์ เพราะฉะนั้นขอให้วางใจพักอยู่ที่นี่ และท่องเที่ยวชมศิลปวัฒนธรรมของเราดังที่ตั้งใจไว้แต่แรก  หากต้องการไปเยี่ยมชมที่ไหนเป็นพิเศษขอให้บอกกับเจ้าหน้าที่ จะจัดการให้เรียบร้อย” องค์สูงไม่ตอบหากเปลี่ยนมาชักจูงร่างโปร่งแทน

“เออ...กระหม่อมอยากกลับบ้านมากกว่า”

“ไม่ต้องการชมป่ากุหลาบพันปีบนเทือกเขาของเราแล้วหรือ ดอกไม้เหล่านั้นยังรอให้เธอไปเยี่ยมอยู่นะ”

“เออ...ไว้คราวหลังดีกว่ากระหม่อม”

ดวงเนตรสีฟ้าตวัดมองใบหน้าเรียวเล็ก  ถ้าออกไปได้ไม่มีทางเสียล่ะที่จะหันกลับมามองประเทศวุ่นวายแร้นแค้นนี้อีก  หากพระองค์คลี่โอษฐ์

“ถ้าอย่างนั้นก็รอให้หายก่อนเถอะนะ”

นพรัตน์พยักหน้า ลืมเรื่องขอใช้โทรศัพท์ไปเลย  ด้วยเพราะกำลังดีใจที่จะได้กลับบ้านในอีกไม่ช้า โดยไม่เฉลียวใจเลยว่า การรอให้หายก่อนนั้น นั่นน่ะเมื่อไร

พระองค์มิได้ปดเลยสักคำ

เคอแสนนำกระเป๋าเดินทางซึ่งทิ้งไว้ที่โรงแรมพร้อมกับเป้ที่ถูกชิงไปมาวางบนเตียง

“หากมีสิ่งใดหายไปขอให้บอกนะครับ ทางเราจะชดใช้ให้”  องครักษ์กล่าวก่อนมองรอยเขียวๆช้ำๆบริเวณแก้มอีกฝ่าย “ขอโทษที่ต่อยคุณ”

“ฝีมือลุงเองเหรอ ยังเจ็บจนปวดหัวอยู่เลยนะ” คนเจ็บที่ถูกต่อยจนเบลอจำไม่ได้ว่าถูกใครต่อยเรียกท่านองครักษ์เสียสูงเกินกว่าอายุจริงทำให้คนฟังทำหน้าปูเลี่ยน

ร่างโปร่งทำหน้าขยาดกับแรงกำปั้น แต่ไม่ได้ติดใจเอาความ ก่อนสนใจเป้มีรอยเลือดแห้งกรังติดอยู่ มือขาวชะงัก หวนนึกถึงศีรษะไอ้โจรคนนั้นทะลุเป็นรู ความกลัวแล่นจับจิต รีบเหวี่ยงกระเป๋าเป้วางบนพื้น

“คง...คงครบล่ะ”

นพรัตน์ก้มหน้าอ้อมแอ้มไม่กล้าสบสายพระเนตรติดดุคู่นั้น

“ต้องการอะไรก็บอกนายทหารไว้ จะให้อยู่เป็นเพื่อน”

นพรัตน์พยักหน้า และกว่าจะรู้ว่าการให้นายทหารมาอยู่เป็นเพื่อน นั่นคือการเก็บนางฝ่ายในหน้าตาขาวผ่องออกไปจนเกลี้ยงก็เมื่อตอนอาหารเย็น นางฝ่ายในที่เคยดูแลเขาหายเรียบ และมีนายทหารหนุ่มมาคอยดูแลเรื่องต่างๆแทน

นี่กลัวว่าเขาจะจับนางฝ่ายในกินรึไง เจ็บหนักออกปานนี้ใครจะมีปัญญา  ร่างโปร่งค่อนขอดองค์สูงซึ่งเสด็จกลับออกไปพร้อมองครักษ์ แล้วจึงค่อยๆไถลตัวลงนอนเพราะรู้สึกวิงเวียนเหมือนไข้จะขึ้น มือขาวลูบใบหูข้างที่ถูกกระชากตุ้มหูเพชรไปจนเกิดแผล เขาไม่ได้รู้สึกเสียดายตุ้มหู เพียงแต่รอยสัมผัสนั้นยังฝั่งอยู่ในหัว รู้สึกขยักแขยง

ก่อนจะหลับไปด้วยอ่อนเพลีย เจ้าตัวลุกขึ้นไปคุ้ยกระเป๋าเดินทางอยู่ชั่วอึดใจ ค้นหาอยู่สักพักก็เจอแหวนทองที่แอบซ่อนซุกไว้ จึงนำมันขึ้นมาสวมที่นิ้วนางข้างซ้ายอย่างเคยชิน 

ไม่ได้มีความหมาย เพียงแต่ชอบใส่ที่นิ้วนี้เท่านั้น...

แสงแดดส่องสว่างทั่วพื้นราบอันน้อยนิดระหว่างหุบเขา นาขั้นบันไดสีเขียวสลับเหลืองเห็นอยู่ลิบๆเมื่อมองจากพระราชวังอลิซาเบธ  สายลมพัดพาความเย็นปะทะผิวกายร่างโปร่งจนเส้นผมพลิ้วไสว อุณหภูมิกลางวันอุ่นสบายแต่เวลากลางคืนอาจถึงติดลบ

นพรัตน์ขมวดคิ้วมุ่น จนถึงวันนี้เขาก็ยังไม่ได้โทรศัพท์หาครอบครัวเลยซักครั้ง  เพราะถามใครๆก็ตอบว่าต้องขออนุญาตเจ้าก่อน แต่ว่าเจ้าก็ไม่เคยเสด็จมาให้เห็นตั้งแต่วันนั้น  ชายหนุ่มครุ่นคิดเหมือนหนูติดจั่น  สายน้ำเกลือก็ถูกถอดออกไปแล้ว อาการวิงเวียนหน้ามืดก็หายแล้ว เหลือแต่รอยฟกช้ำ หน้าตากลับมาสดใสดุจเดิม เพียงแต่ทรงผมชี้ๆตั้งๆทิ้งตัวสลวย ส่งผลให้ใบหน้าแลอ่อนเยาว์กว่าอายุยิ่งกว่าเดิม

เสียงประตูในห้องพักเปิด ชายหนุ่มซึ่งยืนชมวิวอยู่ริมระเบียงเหลียวมอง 

เคอแสนยื่นเสื้อกั๊กสีน้ำเงินให้ชายหนุ่ม

“วันนี้ผมจะพาคุณไปชมรอบๆเมืองหลวง ไม่ต้องห่วงครับ เราจะไปแบบสบายๆ เหนื่อยเมื่อไรก็กลับ พระองค์ท่านเกรงคุณจะเบื่อครับ”

ภาษาอังกฤษสำเนียงแปร่งทว่าฟังรื่นสบายหู ผิดกับอีกคนที่รัวเร็วเป็นข้าวตอกแตก สำเนียงไม่เพี้ยนจากเจ้าของภาษา

ร่างโปร่งเลิกคิ้ว รับเสื้อกั๊กมาสวมทับอย่างว่าง่าย ตอนนี้เขากลายร่างเป็นคนพื้นเมืองของที่นี่ไปแล้ว ใส่เสื้อคอกลมป้ายข้างแขนยาวกับกางเกงทรงเป้ายาวคล้ายกางเกงชาวเขาสีนวล ชายแขนเสื้อปักด้วยลวดลายของชนเผ่าเทือกเขาสูงสีสันฉูดฉาด หากต้องติดต่อราชการหรือไปงานพิธีต่างๆจะมีผ้าคาดเอวปักลวดลายสวยงามเพิ่มอีกหนึ่งชิ้น 

เหมือนหลุดมาอยู่เมืองโบราณ

“เออลุง เอ๊ย! คุณเคอแสน ผมพักจนหายดีพอจะเดินทางกลับประเทศได้แล้ว เมื่อไรผมจะได้รับอนุญาตให้เดินทางได้ หรือไม่ก็ขอผมโทรศัพท์กลับบ้านหน่อยได้รึเปล่าครับ?”

“เออ...คือ...ต้องขออนุญาตเจ้านรพยัคฆ์ก่อนครับ” เคอแสนยิ้มคล้ายกำลังปลอบเด็กซนๆคนหนึ่งที่บังอาจเรียกนายทหารมหาดเล็กใกล้ชิดอย่างเขาว่าลุงทุกครั้งที่เผลอ

“แล้วพระองค์ของเคอแสนเมื่อไรจะเสด็จมาล่ะ ผมจะได้ทูลขออนุญาต?”

“ไม่ทราบครับ”

“งั้นฝากไปทูลหน่อยได้ไหม?” ดวงตาคนขอแวววาว

“ครับ”

“ตอนนี้”

“ไม่ได้ครับ ตอนนี้ต้องพาคุณไปชมเมืองก่อน”

“ทูลแล้วค่อยชมไม่ได้รึไง?”

“พระองค์ไม่อยู่ในวังแล้วครับ”  แต่ประทับอยู่แถวริมแม่น้ำห่างพระราชวังไม่ถึงร้อยเมตร เขาไม่ได้ปดสักนิดนะ

“งั้นกลับมาต้องรีบทูล?”

เคอแสนยิ้มรับใบหน้าขาวๆริมฝีปากแดงๆทำท่าคาดโทษ แล้วจึงนำร่างโปร่งไปยังรถยนต์ซึ่งจอดคอยท่าอยู่ก่อนแล้ว 

นพรัตน์เห็นเลกซัสคันใหม่เอี่ยมแล้วตงิดในใจ เมื่อเข้าไปนั่งในห้องโดยสารจึงเอ่ยปาก

“น่าจะจัดงบซื้อรถเมล์เพิ่มอีกซักหน่อยนะคุณ คันนี้นั่งได้สี่ห้าคน แต่รถเมล์บรรทุกได้ครึ่งร้อย ราคาพอๆกันใช้ประโยชน์ผิดกันลิบ”

องครักษ์เหลือบมองชายหนุ่มอายุเกินวัยรุ่นมาหลายปี หากหน้าตายังคงสดใสอ่อนเยาว์ เจริญหูเจริญตาคนมอง กำลังทำหน้าทำตาแดกดันรักษาผลประโยชน์ชาติของเขาอยู่ 

“ครับ ผมก็ว่าอย่างนั้น”

“นี่ลุงกำลังประชดผมรึไง?”

เคอแสนหัวคิ้วกระตุก มองแขกต่างเมืองอย่างอ่อนใจ “ไม่หรอกครับ ดีใจซะอีก ที่คนนอกอย่างคุณจะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมของเรา”

ร่างโปร่งทำเสียงขึ้นจมูก ก่อนเสมองวิวข้างทางที่กำลังเปลี่ยนจากทุ่งนาเป็นบ้านเรือนมากขึ้นเรื่อยๆ  สถาปัตยกรรมคล้ายของทิเบตผสมจีนกลมกลืนไปกับธรรมชาติ ไม่ขัดหูขัดตา ทางการของที่นี่เขาจำกัดความสูงของบ้านเรือนเพียงแค่สี่ชั้น

เมืองหลวงเล็กๆที่มองจากที่สูงก็เห็นได้ถ้วนทั่ว มีแม่น้ำไหลขนาบเป็นสายธารหล่อเลี้ยงผู้คน

แม้ไม่เคยไปบนสวรรค์ แต่อยากจะเปรียบเหลือเกินว่าที่นี่คือสวรรค์บนดินที่สัมผัสได้ด้วยตา 

“รถส่วนพระองค์ทุกคัน ใช้ทรัพย์สินส่วนพระองค์ทั้งนั้นครับ คุณอย่าได้รังคัดรังแคเรื่องนี้เลย  ” อยู่ๆเคอแสนก็เอ่ยบอกขึ้นเรียบๆ

นพรัตน์เลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งมองคนเอ่ย “หรือครับ  แปลกจริง ที่ผมได้ยินมามีแต่เรื่องไม่ดีของเจ้าของนายทั้งนั้น”

เคอแสนหันมองร่างโปร่งเต็มตา “ไม่ว่าคุณจะได้ยินได้ฟังอะไรมา ผมขอให้ต่อแต่นี้ไปโปรดใช้ใจของคุณสัมผัสเองเถอะครับ แล้วค่อยตัดสินใจสิ่งที่คุณได้ยินว่าจริงหรือไม่”

นพรัตน์อยากจะยักไหล่ใส่คนพูด หากสำนึกอะไรบางอย่างยังนึกปรามกริยาไม่สมควรนั้น

คนเราอย่าฟังความข้างเดียว

“แสดงว่าที่นี่มีแต่คนดี ไม่โกงไม่กิน ไม่หาผลประโยชน์ใส่ตัว ทิ้งชาวบ้านตาดำๆให้อดๆอยากๆหรือครับ?”

“คนที่นี่รังเกียจการคอรัปชั่นครับ” เคอแสนตอบเรียบๆ

“ที่นี่ไม่มีคอร์รับชั่น?”

“ทุกคนมีความโลภอยู่ในจิตใจทั้งนั้นครับ”

นพรัตน์หรี่ตากับความเจ้าสำบัดสำนวนของคนขับ “สรุปว่ามีหรือไม่มี”

“ส่วนน้อยครับ เราเคร่งครัดกับเรื่องนี้มาก เพราะฉะนั้นจึงต้องให้คนดีมีศีลธรรมได้ปกครองคนหมู่มากครับ ไม่อย่างนั้นนโยบายที่สมเด็จท่านวางไว้ก็คงล้มเหลว แล้วประชาชนของเราจะเดือนร้อน แผ่นดินจะลุกเป็นไฟ”

เหมือนบ้านเรา...  นพรัตน์สะอึกในอก

“ถามนิดเดียว ตอบซะยาว ผมไม่มีอคติกับที่นี่ขนาดนั้นหรอกน่า เห็นก็ถามเท่านั้น”

เคอแสนยิ้มให้คนหน้ายุ่งๆ “ขอให้ถามเถอะครับ จะได้ไม่เข้าใจเราผิดๆ”

“แล้วเป็นเจ้าเป็นนาย หลวงเขาไม่ให้เงินส่วนพระองค์เลยหรือ ถึงต้องซื้อเอง”

“ให้ครับ” องครักษ์ผู้กินนอนมากับเจ้านรพยัคฆ์กลั้นหัวเราะ “ข้าวของเครื่องใช้หรือเงินปี ก็ได้รับตามที่กำหนดล่ะครับ”

“อ้าว แล้วจะซื้อเองทำไม?”

“อืม  นั่นสินะ” คนขับทำท่าคิดอย่างน่าหมั่นไส้ “ถ้ารถปี1980ยังวิ่งได้อยู่ พระองค์ก็คงนำออกมาใช้จนล้อหลุดกันไปข้างหนึ่งล่ะครับ”

“ห๋า!”

“งบประมาณมีจำกัดครับ ต้องนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ข้าวของเครื่องใช้ในวังนี้จึงมาจากทรัพย์สินส่วนพระองค์เกือบทั้งหมดครับ”

ไม่รู้ทำไม ร่างโปร่งจึงรู้สึกโล่งใจอย่างประหลาด ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ได้ฟังเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า



ออฟไลน์ takuya

  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0
…………………….

เช้าวันรุ่งขึ้น นพรัตน์ทวงถามทันทีที่เห็นหน้าพลทหารรับใช้

“ผมขอใช้โทรศัพท์หน่อยครับ คุณเคอแสนน่าจะสั่งไว้นะ”

“เออ คือ...ไม่เห็นท่านราชองครักษ์สั่งอะไรไว้” พลทหารพูดภาษาอังกฤษตะกุกตะกักพอฟังออก

“ก็เขาสัญญากับผมว่าจะทูลเจ้านรพยัคฆ์เรื่องผมขอใช้โทรศัพท์ทันทีที่กลับมาจากข้างนอก!”

“ไม่ทราบจริงๆครับ”

“งั้นขอผมพบคุณเคอแสนหน่อย”

“ท่านราชองครักษ์ตามเสด็จไปข้างนอกครับ”

โอ๊ย! ให้มันได้อย่างนี้สิ เสียงร้องครวญครางดังขึ้นในหัวร่างโปร่ง  และวันนั้นทั้งวันก็มีแต่คนตอบว่า ไม่ทราบๆ จนผ่านไปอีกหนึ่งวันที่ทำให้คนคอยถึงขีดสุด

เมื่อเคอแสนต้องเข้ามาถามไถ่สารทุกข์สุกดิบแขกคนสำคัญนำไปรายงานให้เจ้านรพยัคฆ์ทราบความเป็นอยู่ทุกวัน

“นี่มันเป็นการกักตัวกันชัดๆ เพราะอะไร ทำไม ไหนว่าจะส่งกลับไง พวกนายกำลังทำอะไรกันแน่ กักตัวผมไว้ทำไม!”

“ไม่ใช่แบบนั้นครับคุณ ตอนนี้คุณปลอดภัยแล้ว ก็อยากให้คุณท่องเที่ยวประเทศเราเหมือนดังที่ตั้งใจไว้เท่านั้นเองครับ”

“ก็บอกว่าจะกลับไง!” คนตัวเล็กตาโต เค้นเสียงขู่อีกฝ่าย “ไปบอกเจ้าของลุงเลยนะว่าผมจะกลับ ไม่งั้นต่อให้ต้องเดินกลับประเทศตัวเอง ผมก็จะทำ!”

เคอแสนเดินกลับออกไปพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ และเมื่อนำความไปทูล เจ้าชีวิตกลับอมยิ้มเสียนี่

“กลับไปบอกเขาว่าเราอนุญาตให้เขาเดินกลับประเทศไทยได้”

“พระองค์!” องครักษ์เผลอคราง

วงพักตร์อิดโรยหากในดวงเนตรกลับทอประกายรื่นรมย์

“ดีซะอีกเคอแสน เขาจะได้ค่อยๆซึมซับเรียนรู้วัฒนธรรมประเพณีของเราด้วยขาของตัวเอง กว่าจะถึงประเทศไทย กระต่ายตัวนี้จะซาบซึ้งถึงแก่นแท้ในวิถีชีวิตของคนปัญจคีรี ทุกสิ่งที่เขาได้เห็นได้สัมผัสจะประทับอยู่ในใจเขา ดีกว่าบังคับพาเขาเที่ยวเป็นไหนๆ”

และกระต่ายที่พระองค์กล่าวถึง เมื่อได้ฟังคำตอบก็นึกอยากตีอกชกตัวเอง แหกปากโวยวายระบายความคับแค้นภายในห้องพัก  ให้เจ้านรพยัคฆ์ที่ตั้งใจตามมาอธิบายได้ยินเข้าโดยบังเอิญ

“ฝ่าบาทอย่าเพิ่งเข้าไปดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ โกรธน่าดู ไว้พรุ่งนี้เถอะพ่ะย่ะค่ะ” เคอแสนทูลอย่างกริ่งเกรง

องค์นรพยัคฆ์จึงยอมล่าถอย หากในเช้าวันรุ่งขึ้นก็ให้นัมทัคไปเชิญชายหนุ่มมาร่วมโต๊ะเสวย

นพรัตน์ยอมมาร่วมโต๊ะอาหารแต่โดยดี ผิดจากที่พระองค์คาดไว้ ร่างโปร่งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยอมนั่งทานข้าวด้วยไปอย่างเงียบๆไม่พูดไม่จาแต่สีหน้าหงิกงอ

เจ้าเสือน้อยทอดเนตรกระต่ายหน้าบึ้งขึ้นเรื่อยๆก่อนหลุดโอษฐ์สรวลยกใหญ่  คนร่วมโต๊ะเงยหน้ามองก่อนเม้นริมฝีปากไม่พอใจ

“พระองค์จะสรวลแทนเสวยหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

“เปล่า แต่เธอน่าขำ”

“ตรงไหนกัน!?”

“ดื้อ”

นพรัตน์ฉุนทันทีที่ถูกคนตรงหน้าวิจารณ์

“อย่างกระหม่อมเขาไม่เรียกว่าดื้อ แต่เรียกว่ากำลังเรียกร้องสิทธิของตัวเองอยู่ต่างหาก”

“ทุกคนรู้จักแต่จะเรียกร้องสิทธิของตัวเอง”

“แล้วกระหม่อมผิดหรือ?”

“ไม่ เธอทำถูกแล้ว เพียงแต่ฉันยังตอบสนองไม่ได้”

“เพราะ...”

“เธอคือเป้าหมายของคนร้ายที่มีเครือข่ายโยงใยทั้งในและนอกประเทศ เธอถูกจับเป็นตัวประกัน รับรู้แผนการ เธอคือพยานตัวเป็นๆที่เป็นสื่อกลางให้โลกทั้งโลกรุมประณามและตัดความช่วยเหลือ คงยากถ้าพวกมันคิดจะปล่อยเธอไปง่ายๆ เพราะฉะนั้นเราต้องแน่ใจว่าการให้เธอกลับ คือเธอจะปลอดภัย”

“กระหม่อมสามารถดูแลตัวเองได้”

เจ้านรพยัคฆ์ส่ายหน้ากับร่างโปร่งที่ทำหน้าขึงขัง

“นั่นต้องหลังจากที่เราพิจารณาแล้ว ตอนนี้เธอต้องอยู่ในที่ปลอดภัยที่เราจัดให้ไปซักพัก”

นพรัตน์สะกดกลั้นแรงลมที่เริ่มตีขึ้นหน้า กำมือเย็นๆของตัวเองแน่น

“งั้นขอกระหม่อมโทรศัพท์ถึงพ่อหน่อย หายไปแบบนี้ท่านจะเป็นห่วง”

“ไม่ได้”

“ท่าน!” ร่างโปร่งสติขาดผึง ลุกขึ้นยืนหน้าตาแดงก่ำ

“ฉันให้ท่านรัฐมนตรีของประเทศไทยรู้ความวุ่นวายภายในไม่ได้หรอก เพราะนั่นคือการป่าวประกาศให้ทั้งโลกจับจ้องปัญจคีรี ความร่วมมือกับองค์กรนานาชาติจะถูกเก็บหรือทบทวนใหม่อีกครั้ง ต้องขอโทษด้วย ประเทศนี้ยังไม่พร้อมจะสู้รบตบมือกับนานาชาติได้ดีนักหรอก เราอาจถูกแทรกแซงได้โดยง่าย เพียงมีข้อพิพาทนิดเดียว”

นพรัตน์กัดฟันแน่น ก่อนกระแทกตัวนั่งบนเก้าอี้ดังเดิม

สรุปคือ ยังไงก็ต้องอยู่ที่นี่ และห้ามติดต่อใครๆ  เจ้าเจี้ยวตรงหน้านี่วางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว

“ถ้ากระหม่อมต้องตายอยู่ที่นี่ก็ขอได้โปรดส่งเถ้ากระดูกไปให้พ่อแม่ของกระหม่อมดูต่างหน้าจะเป็นพระกรุณายิ่งพ่ะย่ะค่ะ”

กระต่ายขนปุยก้มหน้ารับประทานอาหารบนโต๊ะต่อ  ไม่ยี่หระกับการเสียมารยาทเสี่ยงหัวขาดต่อหน้าพระพักตร์เมื่อครู่แม้แต่นิดเดียว

ใครใช้ให้มากักตัวกันแบบนี้เล่า เจ้าก็เจ้าเถอะ ไม่กลัวหรอก

คำประชดประชันของแขกที่เจ้านรพยัคฆ์กว่าจะควานหาตัวมาได้อย่างยากลำบาก ไม่ทำให้ระคายพระเนตรพระกรรณ ทรงพระทัยเย็น ค่อยเป็นค่อยไปกับคนตรงหน้าจนองครักษ์ยังประหลาดใจ

ปกติพระองค์พระทัยร้อนเพียงใด ข้าราชบริพารใกล้ชิดรู้ดี

“เดี๋ยวจะให้นัมทัคส่งเมล์ให้ อยากเล่าอะไรก็เขียนมา”

“แบบนั้นพ่อก็สงสัยสิว่าอยู่ดีๆทำไมลูกชายต้องใช้เมล์คนอื่นส่งหา” ร่างโปร่งยังคงกระทบกระเทียบ

“ใช่ เพราะฉะนั้นถึงต้องขออีเมล์และพาสเวิร์ดของเธอยังไงล่ะ”


เสร็จกัน!

นพรัตน์เม้มริมฝีปากตัวเองอีกครั้ง  หนึ่งเดือน  หนึ่งเดือนเท่านั้นกับการใช้ชีวิตบนแผ่นดินที่อาจลุกเป็นไฟได้ทุกเวลา

ดวงตาคู่แวววาวมองวรองค์สูงประทับเสวยไปอย่างเงียบๆ

คอยดูเถอะ กลับไปได้จะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีกเลย

“เดี๋ยวจัดเสื้อผ้าซักสองสามชุดนะ จะพาไปข้างนอก”

“ไปไหน?...” นพรัตน์ทำหน้าสงสัย

หากพระองค์ไม่ตอบ กลับหันไปสั่งนายทหารคนสนิทเป็นภาษาประจำชาติ จากนั้นก็ดำเนินลิ่วออกไปจากโต๊ะเสวย

“จะไปไหนกันเคอแสน?” ร่างโปร่งหันมาถามองครักษ์

“เออ... ไม่ทราบครับ”

เคอแสนเลือกคำตอบที่ไม่ทำให้ตัวเองโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง  ด้วยหมายกำหนดการของเจ้าชายคือการไปทรงงานที่ค่ายทหารในแคว้นขาลทางตอนเหนือของประเทศสองวัน และวกลงใต้ แคว้นชมพูนุชอีกสามวัน  ฝ่าบาทจะพาแขกไปด้วยนะหรือ?

นพรัตน์จัดกระเป๋าไปในใจนึกขุ่น  คนที่นี่จะมาจะไปไม่คิดจะบอกกล่าวล่วงหน้ากันซักคำ

ชายหนุ่มมองรถยนต์แฮมเมอร์ เอช2 คันโตสีดำที่เคยนั่งมาก่อนหน้านี้อย่างท้อแท้ในอก เนื่องจากเห็นเงาสูงใหญ่รางๆภายใน

จะต้องนั่งไปกับเจ้าตาดุอีกแล้วเหรอ...

“ขอโทษครับคุณเคอแสน ผมไม่ค่อยถูกโรคกับรถยุโรป ขอนั่งรถญี่ปุ่นได้ไหมครับ?”  ดวงตาคู่สุกใสหลิ่วไปทางเจ้าโตโยต้าพราโด้คันข้างหน้า

“ขึ้นมา!”

สุรเสียงเข้มงวดดังลอยมาจากในห้องโดยสาร  ทำเอาทั้งสองสะดุ้ง  เคอแสนรีบรุนหลังร่างโปร่งขึ้นรถ ก่อนอ้อมไปนั่งประจำข้างพลขับ

“พระองค์จะไปไหนพ่ะย่ะค่ะ?”  นพรัตน์เลือกถามอีกฝ่าย แทนที่จะถามว่าจะพาเขาไปไหน

“ไปทำงาน”

“เออ...งั้นกระหม่อมขออยู่ที่นี่ดีกว่า จะได้ไม่เกะกะพระองค์ทรงงาน”

“เอาไปเป็นเพื่อนคุย  ไม่ได้เกะกะ”

ปลายเนตรเหลือบแลคนหน้างอลงฉับพลัน ก่อนสรวลเบาๆ “ไม่อยากดูวิถีชีวิตชาวบ้านแท้ๆของที่นี่แล้วหรือ จะพาไปดูไงล่ะ?”

“แต่ตรัสว่าจะไปทรงงานนี่”

“จะให้คนพาไป”

สรุปจะพาไปให้ได้ว่างั้นเถอะ

นพรัตน์เม้มปากก่อนเสมองวิวข้างทาง

ถนนคดเคี้ยวลัดเลาะไปตามชายเขาไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆจนเหลือบมองลงข้างทางลงไปคือหุบเหวลึกชวนหวาดเสี้ยว  พลขับคงชำนาญทางมากถึงได้ใช้ความเร็วได้ในระดับหนึ่ง  แต่ไอ้การต้องหักเลี้ยวตลอดเวลามันช่างทรมานจิตใจคนไม่คุ้นเหลือเกิน  สงสัยที่นี่จะมีถนนเส้นเดียวที่ตรงเป็นไม้บรรทัด ก็คือรันเวย์สนามบินที่เขาเห็นตอนมาเท่านั้น

“ใช้เวลานานไหมกว่าจะถึง?”

“หนึ่งวันเต็ม”

ได้ฟังคำตอบ นพรัตน์ก็ทำหน้าพะอืดพะอม

“เวียนศีรษะหรือ?”

“พ่ะย่ะค่ะ”

“ขอโทษด้วย ไม่ทันคิดว่าเธอไม่คุ้นกับระดับความสูงเป็นพันเมตรแบบนี้ จะได้ให้ดื่มน้ำสมุนไพรกันหูอื้อวิงเวียนศีรษะเวลาขึ้นที่สูงก่อนขึ้นรถ”

“งั้นขอตอนนี้เลยได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ?”

“ไม่มี”

นพรัตน์ตาโต  แล้วจะบอกทำไม!

“แต่ตอนแวะพักระหว่างทางจะให้เขาหามาให้”

คำตอบหน้าตาเฉยทำเอานพรัตน์รู้สึกว่าอยู่กับเจ้าองค์นี้แล้วคันไม้คันมือบ่อยเหลือเกิน

แม้วิวทิวเขาสูงต่ำตัดกับท้องฟ้าสีครามข้างทางจะงดงามจับตา หากคนไม่คุ้นเส้นทางยังต้องพยายามข่มตาหลับ ไม่งั้นได้ขับไปจอดอ้วกไปแน่ๆ

ตื่นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองกำลังหนุนตักแข็งของคนสายตาดุอยู่พอดี

“อะ!”

นพรัตน์อุทานในลำคอ รีบลุกขึ้นพลางลูบหน้าตัวเองแก้เก้อ  ดวงตาคู่ดำเสหลบหูหลบตาอีกฝ่ายยกใหญ่ เพราะในดวงเนตรคู่งามคมดุนั้นมีแวววิบวับจับตา

“อีกไม่ไกลเราจะแวะพัก  ที่นั่นเป็นจุดพักนักท่องเที่ยวก่อนจะขึ้นไปชมวัดเก่าแก่อายุหลายร้อยปี  สร้างบนหน้าผาสูงเพื่อบูชาพระศรีอาริยเมตตรัย จะมีสินค้าพื้นเมืองมาวางจำหน่ายนักท่องเที่ยว เพื่อจะอยากดูอะไรไปเป็นที่ระลึก”

“เราจะขึ้นไปที่วัดนั่นหรือ?”  กระต่ายเมืองไทยรีบหันกลับมา ดวงตาเป็นประกายกระตือรือร้น

“ไม่  เราเพียงแวะพักเท่านั้น”

หน้าตาบ่งบอกเสียดายของนพรัตน์ทำให้วรองค์สูงใหญ่ผู้เป็นเจ้าของดวงเนตรสีท้องฟ้าจุดประกายสว่างวาบ

“ถ้ามีเวลาเหลือจะพาขึ้นไป”

แต่ถ้าปล่อยผมไว้ที่วัง คงได้ไปถึงไหนต่อไหนแล้วล่ะท่าน!

คนหน้าขาวสไตล์เกาหลีผสมญี่ปุ่นต่อปากต่อคำในใจ

จุดแวะพักนักท่องเที่ยวที่ว่า คือร้านค้าริมทางขนาดย่อมๆยาวต่อกันไม่กี่หลังบนเทือกเขาสูง สามารถมองลงไปเห็นทิวเขาระดับต่ำกว่าสลับสับหว่างในหมอกจางๆ แม้เป็นเวลาบ่าย

พวกเขาเข้าไปพักรับประทานอาหารในร้านหนึ่งที่องครักษ์พิจารณาแล้วว่าดูดีที่สุดในย่านนี้  อาคารสองชั้นกลางเก่ากลางใหม่ตั้งท้าลมฝนมาหลายฤดู ภาพวาดสัญลักษณ์มงคลสีสวยสดบนกำแพงซีดจางลอกร่อนไปบ้างแล้ว  หากยังแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของผู้ตวัดปลายแปรง บ่งบอกแรงศรัทราในพุทธศาสนา

เครื่องเสวยถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ทำให้นพรัตน์ถึงบางอ้อว่าตัวเองมากับบุคคลสำคัญที่มีหมายกำหนดการล่วงหน้า ไม่ใช่เช่นคราวก่อน

องครักษ์ทั้งสองนั่งร่วมโต๊ะเสวยพร้อมร่างโปร่ง  สายพระเนตรเหลือบแลแขกต่างถิ่นนั่งทานอาหารพื้นเมืองหน้าตาเฉย ทานได้บ้างไม่ได้บ้างแต่คนตรงหน้าก็ทานโดยไม่มีวี่แววอิดออด  บางครั้งบางคราวยังมีแอบกระซิบกระซาบกับเคอแสนดังคนสนิทสนมกันมานาน

ปรับตัวเร็วจริง!

หลังจากทานอาหารเสร็จนพรัตน์ขอตัวออกไปดูสินค้าตามแผงลอยใกล้ๆ โดยมีทหารรักษาพระองค์ติดตามไปด้วยสองคน  ระหว่างทางลงไปชั้นล่างสวนกับพนักงานหญิงในร้าน จึงหันไปถามคนติดตามเบาๆ ก่อนหันกลับไปยิ้มให้หญิงสาวนางนั้น

“อาหารอร่อยมากครับ”

คำพูดภาษาถิ่นสำเนียงเพี้ยนๆหากทำให้ผู้ฟังถึงกับยิ้มหน้าแดงเรื่อ โค้งรับคำชมของชายหนุ่มต่างชาติหน้าตาหมดจดอย่างขวยเขิน

เจ้าชายนรพยัคฆ์ต้องลอบครางในพระทัย เห็นทีนางฝ่ายในจะอยู่ไม่เป็นสุขแน่แท้หากทิ้งไว้ที่วัง

หลังจากเดินดูข้าวของสินค้าพื้นเมืองมาซักพัก ก็ได้งานไม้แกะสลักมาชิ้นหนึ่ง ลวดลายแปลกตาหากความประณีตละเอียดลออต้องช่างไทย  ชายหนุ่มจ่ายเงินที่เคยถูกชิงไปคืนมา เพราะคนชิงได้ลาโลกไปเสียแล้ว

ชีสแข็งร้อยเป็นพวงวางขายกับพื้นเป็นที่สนใจ จึงหันไปถามทหารรักษาพระองค์คนข้างๆ

“เอาไว้ทำอะไร?” 

ดวงตากระจ่างใสอยากรู้อยากเห็นเหมือนเด็กๆพลอยทำให้นายทหารทั้งสองยินดีร่วมสนทนาด้วยความเต็มใจ

“นำไปประกอบอาหารครับ หรือพวกคนที่ต้องเดินทางไกลจะพกไว้ทานระหว่างเดินทาง ชีสพวกนี้ให้พลังงานสูง พวกเขาจะอมไว้ในปาก ค่อยๆเคี้ยวไปเรื่อยๆจนละลาย ช่วยสร้างความอบอุ่นแก่ร่างกายเวลาขึ้นที่สูง  ลองทานดูสิครับ รสชาติดีนะครับ”

นายทหารมีน้ำใจซื้อให้ชายหนุ่มพวงหนึ่ง  นพรัตน์ถือแท่งชีสแข็งสีหม่นในมือ จ้องมองราวกับของประหลาด ก่อนแทะชีสแข็งที่สามารถทำให้ฟันหักได้อย่างระวัง

กลิ่นและรสไม่คุ้น หากก็พยายามอมจนมันอ่อนนุ่มละลายลง

“กินไอ้นี่ทุกวัน คนบ้านเมืองคุณต้องรวยกันถ้วนทุกคนแน่ๆ เพราะกว่าจะกินหมดแท่งคงใช้เวลาแรมเดือน  เกลือบ้านผมยังสู้ไม่ได้เลย”

ทุกคนหัวเราะกับคำเปรียบเทียบก่อนเดินกลับมายังรถพระที่นั่งซึ่งจอดรออยู่

องค์นรพยัคฆ์ทอดเนตรคนมีอัธยาศัยดีหันซ้ายทีขวาที ทำตัวสนิทกับคนรอบข้างไม่มีขัดเขิน ก็นึกเอ็นดูในพระทัยอยู่  หากแต่ตงิดในพระทัยอยู่นิดเดียวที่ทหารรักษาพระองค์ก็ดูเต็มใจมีไมตรีจนออกนอกหน้า

สงสัยจะไม่ใช่แค่นางฝ่ายในที่ปั่นป่วนเสียล่ะมัง

กระต่ายตัวนี้ใครเห็นใครก็รักก็เอ็นดูกันทั้งนั้น

หัตถ์ใหญ่ส่งแก้วยาสมุนไพรให้หลังจากชายหนุ่มเข้ามาอยู่ในห้องโดยสาร  สียาเขียวปี๋น่ากลัว นพรัตน์เหลือบมองมันสลับกับพักตร์ดุกึ่งบังคับ จึงฝืนกระดกครั้งเดียวหมดแก้ว

“ฝาด!... เปรี้ยว!”

คนเฝ้ามองอมยิ้มกับใบหน้าขาวเหยเก

“เขาผสมมะนาวกับน้ำผึ้งให้ดื่มง่ายขึ้นแล้วนะ”

นพรัตน์มองแก้วเปล่า ไม่อยากเชื่อที่พระองค์ตรัส  “ไม่ได้รสน้ำผึ้งซักกะนิด”

เจ้าชายยกมุมโอษฐ์ขึ้นเล็กน้อยก่อนผินวงพักตร์ชมวิวทิวทัศน์ข้างทาง

ก็ให้ใส่นิดเดียว!

TBC




 
 

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
สนุกๆๆมากๆๆจ้า  กระต่ายน้อยนี่โปรยเสน่ห์โดยไม่รุ้ตัวน่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pockypocky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 179
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
กระต่ายน่าร้ากกกกกกก

แล้วมาต่อไวๆนะค้า  :mew1:

ออฟไลน์ treerat002

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
กระต่ายน่ารักเกินไปแล้วนะ  :-[

ขวัญใจประชาชนตัวจริงเสียงจริง  :hao6:

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
กระต่ายไทยตัวนี้น่ารักจริงๆ

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
อั๊ยย

อยู่นานๆนะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ jinjin283

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 934
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
ตอนนี้กระต่ายน่ารักจัง ฮ่าๆ ร้องโวยวายแต่ก็ปรับตัวได้เร็ว
ระวังจะถูกเจ้าชายเสือเอ็นดูจนไ่ได้กลับบ้านนะคะ อิอิ
ชอบตอนพาเที่ยวอะ อยากไปเที่ยวด้วยจังคะ


ออฟไลน์ BitterSweet~

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 788
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-0
กระต่ายน้อยสุดแสบใครเห็นก็รักก็หลง

รออ่านตอนต่อไปนะคะ ^^

ออฟไลน์ akiko

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
กระต่ายน้อยน่ารักจริงๆๆ
อยากอ่านต่อไวๆๆๆ ซะแล้ว
รีบมาต่อนะคะ
 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
สนุกมาก
กระต่ายน้อยน่ารักจัง
เจ้าชายทรงเท่มากๆเพคะ

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
หลงเสน่ห์กระต่างเมืองกรุงกันถ้วนหน้า

lovelymoo

  • บุคคลทั่วไป
กระต่ายน้อยน่าร้ากกกกกกกกกกกกกกก :-[

ปรับตัวเข้ากับทุกคนได้เร็วจริงๆน้า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด