ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้าม มิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม
5.ขอ ให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่ นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อ ความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 *****************************************************************************************
เรื่องใหม่ของพี่ sake ค่า ได้รับอนุญาตให้มาลงที่นี่เเล้ว อ่านกันให้สนุกนะคะ
ตอนที่ 1
กรุงเทพมหานคร
ห้องสูทชั้นบนของโรมแรมระดับห้าดาว ขณะนี้คือที่พำนักของเชื้อพระวงศ์สำคัญยิ่งของราชอาณาจักรปัญจคีรี ระบบความปลอดภัยถูกกวดขันมากขึ้นแต่ไม่ถึงขั้นต้องตรวจค้นทุกผู้คนเข้าออก ด้วยผู้พำนักมิได้มาด้วยข้อราชการอย่างเป็นทางการระหว่างรัฐต่อรัฐ
“ฝ่าบาท เครื่องเสวยพร้อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
บุรุษในชุดสูทสากลสีเข้มพยักหน้ารับรู้เพียงนิด จากนั้นค่อยละสายตาจากแฟ้มเอกสาร ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงที่มากกว่าคนทั่วไปๆยังห้องรับประทานอาหาร
หนังสือพิมพ์หัวนอกถูกจัดเตรียมวางไว้บนโต๊ะอาหารเช่นปกติ ทว่าผู้นั่งหัวโต๊ะไม่คิดจะหยิบขึ้นมาอ่าน หากชำเลืองไปทางที่ตั้งของโทรทัศน์จอกว้าง
“เปิดโทรทัศน์”
“พ่ะย่ะค่ะ” ราชองครักษ์ประจำพระองค์เจ้านรพยัคฆาภูบดินทร์ พระอนุชาต่างมารดาของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรปัญจคีรีรีบทำตาม
นัมทัคเปิดช่องรายการข่าวภาคภาษาอังกฤษให้พระองค์ทอดเนตร แล้วจึงนำรีโมทคอลโทรลไปวางใกล้ๆ จากนั้นถวายคำนับขอพระราชทานพระอนุญาตทรุดตัวนั่งเบื้องขวาเช่นทุกวัน
องค์นรพยัคฆ์เสวยพลางชำเลืองดูภาพเคลื่อนไหวในหน้าจอโทรทัศน์เป็นระยะ จวบจนรายการข่าวจบก็ต่อด้วยข่าวบันเทิงของประเทศที่ทรงพำนักอยู่
ข่าวคาวดาราผ่านไปเรื่อยๆจากปากผู้ประกาศข่าวสาวที่จีบปากจีบคอพูดฉะฉาน องครักษ์นัมทัคอดที่จะชำเลืองมองบุรุษซึ่งนั่งหัวโต๊ะไม่ได้
ปกติพระองค์ไม่เคยทอดพระเนตรข่าวบันเทิงพวกนี้ ทรงดุเสียด้วยซ้ำว่าเกินพอดีทั้งนักข่าวและดารา
ข่าวดาราสาวหน้าตาจิ้มลิ้มแต่ทรงโตให้สัมภาษณ์ถึงแฟนหนุ่มคนปัจจุบันอย่างร่าเริง และออกจะภาคภูมิใจอยู่ไม่น้อย ภาพข่าวจึงตัดไปที่งานคอนเสิร์ตแห่งหนึ่งและซูมหน้าชายหนุ่มที่คาดว่าจะเป็นแฟนของเธอให้เห็นชัดๆ ก่อนจะตัดภาพกลับมาที่ผู้ประกาศข่าวสาวอีกครั้ง
มีแฟนเก่ง ฉลาด แสนดีแบบนี้ก็อย่าปล่อยให้หลุดมือเชียวนะคะคุณน้อง เดี๋ยวจะหาว่าพี่ไม่เตือน
เสียงผู้ประกาศข่าวสาวเอ่ยเตือนหวังดี แต่ดูคล้ายไก่แก่แม่ปลาช้อนไม่มีผิด จากนั้นจึงยกมือไหว้บอกลาผู้ชม
นัมทัคเหลือบมองวงพักตร์ขมวดมุ่น เจ้าตัวรีบก้มหน้ากลืนอาหารเงียบๆ
“ถ้าบ้านเมืองเราปล่อยให้สื่อเสรีแบบนี้ เจ้าชอบไหมนัมทัค?” สุรเสียงถามเรียบ แต่คนฟังรู้ว่าจะตอบเล่นๆไม่ได้
“ชอบและก็ไม่ชอบพ่ะย่ะค่ะ”
ปรายเนตรมองคนตอบก่อนยกมุมโอษฐ์ขึ้น
“สรุปว่าชอบหรือไม่ชอบกันล่ะ?”
“ชอบที่สื่อนั้นมีประโยชน์ เข้าถึงประชาชนได้ง่าย แต่คำว่าเสรีใช่ว่าไม่มีขอบเขต ต้องวางรากฐานและสร้างจิตสำนึกผู้ใช้สื่อเสียก่อนจะเปิดเสรี มิฉะนั้นวัฒนธรรมอันดีงามของเราจะถูกกลืนกินจนคนรุ่นใหม่เห็นเป็นเรื่องล้าสมัย และต้องล้มล้างเสีย”
“แต่ก็ชอบมิใช่หรือ?”
“อะ...เออ...ฝ่าบาท” นัมทัค องครักษ์คนสนิททอดเสียงยาวโอดครวญ “จะให้กระหม่อมดูแต่ข่าวทั้งวันก็แย่เหมือนกันนะพ่ะย่ะค่ะ”
มุมโอษฐ์ยกขึ้นเล็กน้อย ก่อนยกถ้วยชาขึ้นจิบรอเวลากลับบ้านเกิดเมืองนอนในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
เกือบพลบค่ำ รถยนต์สีขาวแต่งลายซิ่งติดฟิล์มดำแล่นปราดเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์หลังงามด้วยความคุ้นเคย ชายหนุ่มรูปร่างโปร่งเพรียวใส่แว่นกันแดดตามสมัยนิยมก้าวออกจากรถด้วยท่าทางมาดมั่น ใบหน้าคล้ายยิ้มละมุนตลอดเวลา ทำให้เจ้าตัวดูอารมณ์แจ่มใสเป็นนิจ เดินหอบหิ้วข้าวของพะรุงพะรังจนแม่บ้านมาพบร้องทักเสียงดัง
“หอบอะไรมาตั้งมากมายล่ะคะคุณต่าย มาป้าช่วย”
“ของขวัญที่แฟนๆคลื่นวิทยุเขาส่งมาให้วันเกิดครับป้าหยด”
ชายหนุ่มตัวไม่โตตอบพร้อมเอี้ยวหลบไม่ให้แม่บ้านเชื้อสายจีนช่วยถือ ก่อนรีบเดินไปยังห้องนั่งเล่นแล้ววางข้าวของบนพื้นพรมหนานุ่ม ส่วนตัวเองเอนตัวนอนบนเก้าอี้ยาวทำท่าเหนื่อยเสียเต็มประดา หากใบหน้าเกลื่อนรอยยิ้ม
“วันเกิดคุณต่ายผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้วนี่คะ”
“ครับป้า ของพวกนี้ผมให้ทางสถานีเขาช่วยเก็บไว้ให้ก่อน เพิ่งมีโอกาสขนกลับก็วันนี้ล่ะครับ” ก็ถ้าไม่เอากลับวันนี้ เจ้าหน้าที่เขาจะเอาไปทิ้งแล้ว
ป้าหยดทรุดตัวนั่ง หยิบของที่อยู่ในถุงพลาสติกใบใหญ่ออกมาพลิกพิจารณา
“มีแต่ตุ๊กตา ผ้าเช็ดหน้า ขวดโหลดาวกระดาษ นกกระดาษทั้งนั้นเลยนะคะ” ผู้สูงวัยเขม่นมองชายหนุ่มรุ่นลูกยิ้มละไม
“ก็ของที่กินได้ก็กินกับเพื่อนๆดีเจที่สถานีไปหมดแล้วนี่จ๊ะป้าหยดคนสวย เหลือแต่ที่กินไม่ได้ก็เลยต้องเอากลับบ้าน ต่ายว่าต่ายจะเอาไปบริจาคให้เด็กๆที่เขาไม่มี”
“ของสาวๆทั้งนั้นเลยนะคะเนี่ย ถ้าเขามารู้เข้าคงเสียใจกันน่าดู”
ป้าหยดส่งสายตาค้อนให้คุณชายคนเล็กของบ้านวงโต กับความเนื้อหอมที่นับวันจะทวีคูณ
“โธ่ป้าหยด” ชายหนุ่มหัวเราะเห็นแนวฟันขาวสะอาด “ถ้าเป็นผู้ชายป้าค่อยมากลุ้มใจดีกว่า”
“จะผู้ชายผู้หญิงก็เหมือนกันล่ะค่ะ เดี๋ยวนี้ไว้ใจใครไม่ได้หรอก ยิ่งคุณต่ายกำลังดังแบบนี้ยิ่งมีพวกไม่หวังดีเข้ามาเยอะนะคะ ระวังตัวไว้เถอะค่ะ ถึงเป็นผู้หญิงก็อย่าไว้ใจเชียว นางนกต่อเยอะแยะไปค่ะ”
ป้าหยดมองชายหนุ่มที่ตนเองถนอมกล่อมเกลี้ยงมากับมือ ในสายตายังคงเห็นอีกฝ่ายเป็นหนุ่มน้อยตลอดกาล เพียงสวมใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ก็ไม่สามารถกลบราศีความเป็นผู้ลากมากดีได้หมด ด้วยสะท้อนออกมาในทุกอิริยาบถของชายหนุ่มจากสายตระกูลผู้ดีเก่า และตอนนี้บิดาของชายหนุ่มดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตเก่า ตำแหน่งนี้จึงสมเหตุสมผลกับทุกฝ่ายซึ่งอยู่ในขั้วเดียวกัน
“คร๊าบป้า”
ชายหนุ่มขานรับเสียงพร่ำสอนของแม่บ้านซึ่งเลี้ยงกันมาแต่เล็กแต่น้อยอย่างเกียจคร้าน พลางซบหน้ากับหมอนอิง สูดลมหายใจยืดยาว วันนี้รู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน
ตั้งแต่เรียนจบปริญญาโทมาจากอังกฤษปีที่แล้ว เขาได้บอกกับบิดาว่าอยากจะไปเที่ยวรอบโลกซักรอบแล้วค่อยทำงาน ทว่าก่อนจะได้ทำดังใจฝันก็จับพลัดจับผลูได้ถ่ายโฆษณาแป้งหอมเย็นยี่ห้อดังในท้องตลาดยี่ห้อหนึ่งจนเกิดติดตาผู้บริโภค คราวนี้เลยต้องพับโครงการเที่ยวรอบโลกไว้ก่อน เพราะมีงานวิ่งเข้าใส่แบบไม่ทันตั้งตัว และเขาคิดว่ามันเป็นประสบการณ์ชีวิตที่หาไม่ได้ง่ายๆ จึงรับงานติดพันเรื่อยมาถึงปัจจุบัน ยกเว้นงานถ่ายหนังถ่ายละครที่ต้องปฏิเสธลูกเดียว เพราะมันกินเวลาส่วนตัวเยอะ จึงเลือกรับงานตามที่พอใจ เลยมีเสียงค่อนแคะว่าเป็นคุณชายจอมเรื่องมากอยู่เนืองๆ
“ไปอาบน้ำสิคะ นอนแบบนี้ไม่สบายตัวหรอกค่า”
กระต่ายน้อยของป้าหยดเดินหมดแรงขึ้นไปยังห้องพัก จัดการอาบน้ำอาบท่าเสร็จก็ทิ้งตัวเองลงบนที่นอนนุ่มหอมสะอาด หลับตาลงอย่างเมื่อยล้า
แม้งานที่ทำอยู่ตอนนี้จะสนุกและรายได้ดี หากเขายังรู้สึก มันไม่ใช่สิ่งเติมเต็มให้ชีวิตเขาสมบูรณ์ ชีวิตที่เขาสามารถเลือกได้ เพราะฐานะทางครอบครัวที่ทำให้เขาไม่มีวันอดไปจนตาย เป็นที่อิจฉาของคนค่อนประเทศ จนเกิดกระแสไฮโซแย่งงานดารานักร้องเป็นว่าเล่น ทั้งที่เมื่อก่อนอาชีพเต้นกินรำกินพวกผู้ดีเขาไม่ทำกัน หากเขาก็ใช้โอกาสที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดแสวงหาจุดหมายในชีวิต ใครหรือคนค่อนประเทศจะมองและคิดกันไปอย่างไร เขาไม่เก็บมาบั่นทอนกำลังใจตัวเอง เพราะกำพืดมันเลือกกันไม่ได้
“คุณต่ายคะ ลงไปทานข้าวเย็นเถอะค่ะ”
ชายหนุ่มลืมตาพลันเมื่อได้ยินเสียงแม่บ้านเคาะประตูแล้วเปิดเข้ามาบอกเสียงนุ่ม
“พ่อกลับมาแล้วเหรอป้า”
“กลับมาแล้วค่ะ คุณช้างก็มาด้วยนะคะ”
“พี่ช้างมาเหรอ งั้นไอ้ตัวแสบสองคนก็มาด้วยสิ”
ชายหนุ่มนึกไปถึงหลานชายทั้งสองคน อายุไล่เลี่ยกัน อยู่ชั้นปอห้าปอหกเห็นจะได้ และเลยวัยที่เขาจะหลอกได้แล้ว เลยไม่ค่อยสนุกเวลาแกล้ง เพราะเด็กๆมันรู้ทันเสียทุกทีไป เด็กเดี๋ยวนี้โตไวรู้มากกันจะตาย
“ดูพูดเข้า” ป้าหยดค้อน “มากันหมดบ้านล่ะค่ะ”
กระต่ายเดินลงไปหาพี่ชายซึ่งพาภรรยาและลูกชายทั้งสองมาทานข้าวที่บ้านบิดามารดาเป็นนิจ เมื่อลงมาถึงก็เห็นเจ้าหลานชายทั้งสองวิ่งไล่ไปมาให้ผู้เป็นย่าอ่อนอกอ่อนใจ ไล่ต้อนไปนั่งเก้าอี้รอทานอาหารอย่างสงบเสงี่ยมเรียบร้อย
“ไงเรา พักนี้กลับบ้านเร็วนะ”
คุณอดิศัย วทนะเจริญ ประมุขของบ้านทักบุตรชายคนเล็กที่เดินหน้าขาวผ่องมานั่งทานข้าวด้วย เพราะนับแต่รับงานวงการบันเทิง บุตรชายคนเล็กก็กลับบ้านไม่เป็นเวล่ำเวลา
“ก็เหลือแต่งานดีเจที่คลื่นวิทยุนี่ครับ เลยว่าง”
“อ้าว! ทำไมล่ะ เบื่อซะแล้วรึ” ผู้เป็นพี่เอ่ยทักร่วมวงสนทนา “ยังดังอยู่เลยนา”
“โธ่พี่ก็รู้ ต่ายไม่ได้อยากดังซะหน่อย”
“อย่าๆเอ็ง เห็นมีข่าวกับสาวๆไปทั่ว”
พี่ชายปรามาสน้องชายอย่างสนิทชิดเชื้อ ไม่คิดถนอมคำพูดคำจาเหมือนเวลาพูดคุยกับมารดาหรือน้องสาว ที่ใครๆได้ฟังก็ต้องอมยิ้มอดชื่นชมไม่ได้ คุณแม่คะ น้องกวางคะ ไม่ต่างกับผู้เป็นบิดาเลยทีเดียว
ก็บ้านนี้เขายกย่องให้เกียรติเพศหญิงกันทุกลมหายใจ
ส่วนไอ้ผู้ชายอย่างเราๆไม่ต้องถนอมกันมาก ก็เลยดิบๆเถื่อนๆวะโว้ยกันมาแต่เล็ก จนคุณหญิงประไพผู้เป็นแม่หน่ายจะตักเตือน
“นักข่าวก็เขียนขายข่าวไปเรื่อย แค่คุยด้วยไม่ถึงสามคำ เขียนซะว่าต่ายชวนเขาไปเที่ยว เลยไปถึงเปิดห้องนอนด้วยกัน ว่าไปนั่น”
“แต่น่าปลื้มใช่หยอกนา แต่ละคนที่เป็นข่าวกับแกนี่สวยๆทั้งนั้น” ปราโมทย์ทำหน้าเคลิ้มจนน้ำหนึ่งผู้เป็นภรรยาเขม่นใส่ “โธ่ๆ พี่พูดเล่นน่า”
น้องชายแอบขำกับท่าทางเกรงอกเกรงใจเมียของพี่ชาย แม้จะมีหน้าที่การงานเป็นนักการทูตอนาคตไกลเจริญรอยตามบิดา หากเบื้องหลังก็ต้องยอมสยบให้แก่ศรีภรรยาเพื่อนคู่คิดคนนี้ที่พี่ชายทั้งรักทั้งหวงมาแต่สมัยจีบกันใหม่ๆ
“งานที่ทำก็สนุกนะพี่ช้าง แต่ต่ายว่าต่ายไม่ได้รักมัน ไม่รู้สิ คือให้ต่ายทำต่อไปก็ได้นะ แต่มันไม่มีความหมายกับชีวิตยังไงก็ไม่รู้พี่ช้าง”
“แล้วงานร้องเพลงล่ะ เห็นอัลบั้มรวมศิลปินที่ไปร้องมาเพลงหนึ่งดังเปรี้ยงปร้างเลยนี่นา คนเขาร้องเพลงนั้นได้ทั่วบ้านทั่วเมือง”
คนเป็นพี่ลองหยั่งเชิง ด้วยไอ้น้องคนนี้นอกจากจะพูดเก่งแล้วยังร้องเพลงเก่งมาตั้งแต่เด็ก ตอนเห็นน้องไปออกคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้ม ยังคิดว่าไอ้เด็กคนนี้มีแววเป็นนักร้องดัง ทั้งเต้นทั้งร้องดูเข้าที ไม่มีเคอะเขิน
“มันเป็นธุรกิจจนไม่สนุกสิพี่”
ปราโมทย์ส่ายหน้ากับคำตอบของน้องชาย “มันก็เป็นธุรกิจตั้งแต่แรกแล้วนี่”
“ถ้าแบบนั้นก็หันมามองงานตามที่ร่ำเรียนมาดีไหมล่ะ?” คุณอดิศัยตักกับข้าวใส่จานพลางเหลือบมองใบหน้าบุตรชาย ซึ่งเรียนมาทางด้านอักษรศาสตร์ ด้วยเจ้าตัวมีนิสัยอยากรู้อยากเห็น ช่างซักช่างถาม อยู่นิ่งๆไม่เป็นมาแต่เด็ก จึงฉายแววนักภาษาศาสตร์มาแต่นั้น น่าเสียดายหากบุตรชายที่พูดได้ถึงสี่ห้าภาษา ทั้งไทย ลาว อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส จะมาทำงานที่ใช้ความรู้ที่อุตส่าห์ร่ำเรียนมาน้อยนิด แต่จะพูดไปก็ขำที่เจ้าตัวแสบพูดได้หลายภาษา นอกเหนือจากที่ครอบครัวส่งเสริมหาครูอาจารย์มาสอนให้แล้ว อีกส่วนก็เป็นเพราะเหตุบังเอิญ เพราะลูกชายคนเล็กคนนี้เปลี่ยนพี่เลี้ยงเป็นว่าเล่น ทั้งคนไทยอีสาน คนลาว คนจีน เลยได้ภาษาติดตัวมาแบบไม่ตั้งใจ
“ก็ยังไม่รู้จะไปลงด้านไหนน่ะพ่อ” ลูกชายหัวเราะฝืดๆที่ไม่รู้ตัวเองอยากทำอะไร
“ไปสอบบรรจุที่กระทรวงเหมือนพี่แกไหมล่ะ?”
“โฮ้พ่อ จะให้เป็นทูตกันทั้งบ้านเลยเหรอ ไม่เอาอะ”
“บะ!ไอ้นี่ ไอ้นั่นก็ไม่เอา ไอ้นี่ก็ไม่เอา แล้วแกจะเอาอะไร”
“ยังคิดไม่ออกพ่อ”
“ตอบง่ายนะลูกฉัน นี่ถ้าพ่อมันไม่มีสมบัติเก่าให้ใช้ แกได้ไปแก้ผ้าถ่ายนู๊ดกันบ้างหรอก”
“อย่าท้านะพ่อ มีคนติดต่อมาด้วย”
“ถ้าแกไม่อาย ก็เอาเลย” คนเป็นพ่อยุส่งเข้าให้ ทำให้ลูกชายทำปากยื่น
“ลูกพ่อใช่จะขี้เหร่ซะหน่อย มีคนอยากดูเยอะแยะ นี่ๆ มีซิกแพคเหมือนกันนา”
“เฮอะ ไอ้ช้าง แกดูน้องแกหลงตัวเองนะ”
คุณอดิศัยหันไปบุ้ยใบ้กับบุตรชายคนโต หากในความจริงแล้ว หน้าตาลูกชายคนเล็กคนนี้กระเดียดไปทางยายที่มีเชื้อสายจีนอยู่ไม่น้อย ใบหน้าผิวพรรณจึงขาวเป็นหยวกกล้วย รูปร่างโปร่งไม่หนาล่ำอย่างพี่ชายคนโต ถ้ามองตามกระแสนิยมแล้วไอ้ลูกคนนี้มันหล่อแบบดาราเกาหลี หรือนักร้องญี่ปุ่น ที่คนเป็นพ่อชอบค่อนแคะบ่อยๆ
ผู้ชายอะไรทำหน้าทำตายังกะผู้หญิง
และตอนนี้ลูกตัวเองก็ไม่ต่างจากที่ว่าซักเท่าไร
“งั้นก็ไปช่วยงานบริษัททัวร์ของพี่กวางเราสิ คงชอบล่ะ มีคนไปให้ใช้”
“ก็ว่างั้นล่ะพี่ช้าง ได้เที่ยวรอบโลกฟรีด้วย”
ชายหนุ่มนึกถึงพี่สาวคนรองที่ตอนนี้คงอยู่ประเทศไหนซักประเทศบนโลก ด้วยนิสัยใจคอกล้าได้กล้าเสีย ทะมัดทะแมงไม่ต่างกับผู้ชาย และยังชอบผจญภัยเป็นชีวิตจิตใจ เจ้าตัวจึงเปิดบริษัททัวร์กับเพื่อนตั้งแต่เรียนจบ โดยมีบิดาเป็นผู้สนับสนุนด้วยดี หรืออาจไม่ค่อยดีแต่จำต้องดี ด้วยเป็นผู้หญิงยิงเรือ คนเป็นพ่อย่อมกังวล หากพี่สาวก็ไม่ได้เอาเงินทุนที่บิดาให้ไว้ไปละลายน้ำ เพราะกิจการเจริญรุ่งเรืองโตวันโตคืน ให้พี่สาวยิ้มแก้มปริที่ได้ทำงานที่อยากทำพร้อมกับรับทรัพย์เป็นกอบเป็นกำ
เดือนก่อนยังลากเขาไปเป็นพรีเซ็นเตอร์บริษัท เอารูปไปลงโบว์ชัวร์ ไม่ได้ตังซักกะบาทเดียว
“น้าต่ายๆ” เสียงหลานคนเล็กเรียกมาจากเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม “เดี๋ยวพี่โจ้เขาจะให้น้าต่ายเซ็นชื่อให้ด้วยล่ะ”
คำบอกเล่าของหลานทำให้ชายหนุ่มเลิกคิ้วฉงน
“อะไร เราก็บ้าดารากับเขาด้วยรึ นี่น้านะเว้ย”
“โจ้เปล่าซะหน่อย เพื่อนที่โรงเรียนฝากมาขอต่างหาก” เด็กชายโจ้หลบตาวูบวาบ แล้วจึงหันไปค้อนน้องชาย พูดมาก ทว่าอีกฝ่ายกลับทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้เสียนี่
“พี่โจ้เขาไปโม้ว่ารู้จักน้าต่าย เพื่อนเลยให้เอาลายเซ็นไปยืนยัน”
“แล้วเพื่อนโจ้จะรู้หรือว่าเป็นลายเซ็นน้า” น้าชายถามกลับทำให้เด็กน้อยทำหน้าปั้นยาก “งั้นวันจันทร์เดี๋ยวน้าไปรับที่โรงเรียน เอาตัวเป็นๆไปให้ดูเลย ดีกว่าลายเซ็นอีก”
เจ้าหลานคนโตยิ้มหน้าบาน ทำให้ชายหนุ่มลอบถอนหายใจ เดี๋ยวนี้มันเป็นแบบนี้ไปกันหมดแล้วหรือ
สื่อมีอำนาจชักจูงจนน่ากลัว