Beautiful hangover เมารัก [ตอนพิเศษ ช้าง : พิกเล็ต] หน้า ๕๐
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Beautiful hangover เมารัก [ตอนพิเศษ ช้าง : พิกเล็ต] หน้า ๕๐  (อ่าน 580932 ครั้ง)

ออฟไลน์ SoN

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2965
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-15

ออฟไลน์ RELAXED

  • ทำไงได้ก็ Y มันเรียกร้อง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0

ออฟไลน์ hongzaa

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
วันนี้มามั้ยยยยยยยย
มันจะม่ามากมุ้ยยยย แบบคือเค้ายังมิทันได้หวานกันเลย
อย่าพึ่งม่าเยอะได้มุ เก๊าหัวใจอ่อนแอๆๆๆๆ555

รอนะจ๊ะ

ออฟไลน์ ~l3aml3ery~

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0
มามั้ยน๊า  คืนนี้

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
เข้ามาปาดรอ เห็นเปลี่ยนหัวเรื่องแล้ว อิอิ

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
เข้ามาต้มน้ำรอ คึคึ

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2

ออฟไลน์ libra82

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-5
ตอนที่ ๑๗  คนลืมยาก


    วรทย์กำลังคิดว่าตัวเองชักจะเหมือนพวกผู้หญิงขี้ใจน้อยเข้าไปทุกที เขาสะบัดมือจากมือใหญ่แล้วเดินผ่านร่างผู้หญิงคนนั้นมาทันที ตามันพร่าไปหมดจนบันไดสามขั้นรวมเป็นขั้นเดียว เขาก้าวผิดเสียหลักหน้าถลาไปข้างหน้าและคงจะตกลงไปเจ็บหนักอีกหนถ้าหากว่าไม่มีมือของใครบางคนเกี่ยวเอวไว้ได้เสียก่อน

    ทั้งร่างถูกตวัดไว้ในอ้อมกอดมือใหญ่เหนี่ยวไว้อย่างเหนียวแน่น ตากลมกระพริบรัวใจหล่นไปที่ตาตุ่มเรียบร้อยแล้วด้วยความตกใจ วรทย์ยกมือเกาะหัวไหล่แข็งแรงของใครสักคนที่เขาเห็นแค่แผงอกเท่านั้น นานชั่วนาทีกว่าจะตั้งสติได้ ภาพตรงหน้าเริ่มชัดเจนขึ้นพร้อมกับน้ำเสียงที่เจือด้วยความเป็นห่วง ดังขึ้นเหนือศีรษะ

   “หมอเป็นอะไรหรือเปล่าครับ”

   คุณหมอตัวเล็กเงยหน้าขึ้นจากอกกว้าง สบกับดวงตาคมที่ทอดมองด้วยความห่วงใยระคนตกใจ หัวกลมสั่นเบาๆ เกือบจะบอกแล้วว่าไม่เป็นอะไรแต่พอจะขยับตัวข้อเท้าก็เกิดปวดแปลบขึ้นมา

   “เจ็บขาหรือครับ”

    เขาพยายามจะปฏิเสธแต่เพราะเก็บอาการไม่เก่งมันเลยแสดงออกให้อีกฝ่ายจับได้ วงแขนที่โอบรอบตัวเปลี่ยนเป็นช้อนตวัดร่างเขาขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ให้เวลาได้ทักทวง ตัวเขาลอยหวืออย่างง่ายดายจนต้องรีบคว้าลำคอแกร่งเอาไว้ก่อนที่ตกลงไป

   “ผะ..ผมเดินเองได้”

   “ให้ผมอุ้มดีกว่า”

   เพราะรู้ว่าปฏิเสธไปก็ไร้ผลเพราะตอนนี้เขาก็อยู่ในอ้อมแขนของจักษุแพทย์หนุ่มเสียแล้ว วรทย์ขอบคุณเบาๆ หากไม่ได้ภาคภูมิป่านนี้เขาคงได้ขาเดี้ยงเป็นรอบที่สามแน่ๆ

   ร่างสูงก้าวยาวๆ แต่เบาและนุ่มนวล ก่อนจะวางเขาลงอย่างเบามือบนโต๊ะไม้ตัวเดียวกับที่คิมหันต์นั่งอยู่ หมอหนุ่มตัวสูงอีกคนลุกพรวดพราดด้วยความตกใจ

   “มะรุมเป็นอะไร!”

   “ตกบันได” ภาคภูมิตอบ ดวงตาจับจ้องอยู่ที่ร่างบาง ความเป็นห่วงยังไม่คลายลงแม้แต่น้อย เขาย่อกายลงคุกเข่าลงกับพื้นถือวิสาสะประคองเท้าเล็กวางบนหัวเข่าตัวเอง เจ้าตัวทำท่าจะชักหนีแต่เขารู้ทันเลยใช้สายตาปรามไว้ “อยู่เฉยๆ ครับ ผมจะช่วยดูให้”

   “เอ่อ...ผมไม่เป็นอะไรแล้ว”

   พวงแก้มใสแดงเรื่อขึ้นอย่างน่ามอง จักษุแพทย์หนุ่มอมยิ้มด้วยความเอ็นดู เขาแพ้ทางคนน่ารักเสียด้วยถ้าไม่ติดว่าในบ้านมีคนเยอะไปหน่อยคงจะต้องมีขโมยหอมแก้มกันบ้าง

   ราวกับความร้อนทั้งหมดพุ่งไปที่หน้า ถ้าเอามือไปอังมันอาจจะโดนลวกจนไหม้ก็เป็นได้ ตาหรี่ลงพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะไม่วิ่งตามไปแล้วชกหน้าไอ้น้องชายเฮงซวยนั่นที่บังอาจอุ้มว่าที่เมียของเขาไปต่อหน้าต่อตา ร่างหนาก้าวลงบันไดทั้งโกรธทั้งเป็นห่วงไอ้หมอมะรุมจนเกือบลืมไปว่ามีผู้หญิงที่เขาเคยรักหมดใจกอดเกี่ยวเอวอยู่

   “พี่เสือจ๋า แพรวคิดถึงพี่เหลือเกิน”

   พศินชะงักลงในเสี้ยวนาทีนั้นเอง สำนึกได้ว่าเพราะปารินวรทย์ถึงดึงมือหลุดจากมือเขาแล้วก็เกือบจะตกบันได้ให้ขาเคล็ดอีกรอบถ้าหากไอ้ภูมิมันไม่โผล่มารับไว้เสียก่อน ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ ตัดสินใจไม่ถูกว่าเขาควรจะให้ความสำคัญกับฝ่ายไหนก่อนดี ปารินคนที่เขาปรารถนาร่ำร้องขอให้เธอคืนกลับมาตลอดกับใครอีกคนที่เข้ามาทดแทนในช่วงเวลาที่เจ็บปวด

   เขายอมรับว่าทั้งตกใจและยินดีที่ได้เห็นหน้าเธอ แต่มันเพียงแค่ชั่วประเดี๋ยวเท่านั้นพอเห็นวรทย์กำลังจะตกบันไดเขาก็ลืมหล่อนไปในวินาทีนั้น ตาคมมองท่อนแขนที่เกี่ยวเอวเขาอย่างเอาใจ ปารินรู้ดีว่าในยามที่เขาโกรธควรจะทำอย่างไรเพื่อให้อารมณ์ทุเลาลงเธอมีวิธีที่จะอ้อนเขาสารพัด และก็ทำลายเขาได้ด้วยวิธีของเธอเช่นกัน

    “พี่ว่าเราลงไปคุยกันข้างล่างดีกว่า”

    ปารินพยักหน้ายินยอม หญิงสาวยิ้มทั้งน้ำตาพลางโอบไหล่บุตรชายที่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมด้วยใบหน้าที่แสดงความสับสนอย่างเต็มที่ ไม่แปลกหรอกที่พิกเล็ตจะรู้สึกอย่างนั้นแม้แต่ผู้ใหญ่ยังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

   ภาพของสามคนพ่อแม่ลูกเดินเคียงกันสร้างความปวดใจให้กับคนมองยิ่งนัก วรทย์เบือนหน้าหนีเขากลืนก้อนแห่งความน้อยใจไว้ในอก เมื่อคืนนี้เขาได้ฟังคำสารภาพจากพศินที่มันตรงกับกับที่เขาบอกไป หัวใจพองโตเหมือนลูกโป่งเขานอนหลับฝันดี แต่เพียงแค่ข้ามคืนก็ต้องมาเจอกับคนที่กุมหัวใจของพศินไว้ได้ ความสามารถของเธอมีมากแค่ไหนเขาไม่รู้แต่มันก็มากพอที่จะทำให้ผู้ชายตัวโตๆ คนหนึ่งเสียผู้เสียคนได้

    เพียงแค่คิดว่าเขาคือตัวสำรองในยามที่ไม่มีใครตัวก็สั่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ เขาไม่อยากอยู่ในสถานการณ์อย่างนี้เลย อยากจะหนีไปให้พ้นๆ แต่เขาไม่ใช่พิกเล็ต โตพอที่จะเผชิญกับความจริงได้แล้ว ขอบคุณสวรรค์ที่ไม่ทำให้เขาเผลอใจมอบตัวให้พศินไปเมื่อคืนนี้ไม่เช่นนั้นเขาต้องเสียใจมากกว่านี้แน่  ต้องอาศัยพยายามเป็นอย่างมากในการเก็บอาการเพื่อไม่ให้ภาคภูมิเห็นไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะสังเกตหรือเปล่าว่าเท้าของเขามันสั่นพิกล

   มืออันอ่อนโยนหมุนข้อเท้าเขาเบาๆ มันแค่เสียบแปลบๆ เท่านั้นแต่ไม่ได้เจ็บเท่ากับตอนที่พลัดหล่นจากขั้นบันได ดวงตาคมช้อนมองพร้อมรอยยิ้ม

   “ไม่น่าจะเป็นอะไรมาก”

   “ผมก็คิดอย่างนั้น” เขาเห็นด้วยอย่างไม่มีข้อแม้ อันที่จริงภาคภูมิน่าจะปล่อยให้เขาตกลงมาเสียให้รู้แล้วรู้รอดจะได้กลับโรงพยาบาลไม่ต้องทนเห็นภาพบาดใจ

   วรทย์เม้มปากแน่นเขาเกลียดความคิดนี้ของตัวเองเหลือเกิน เขากำลังไม่พอใจปารินอย่างไม่มีเหตุผล เธอคือแม่ของพิกเล็ตคือผู้หญิงที่พศินรักหมดหัวใจ เขาต่างหากที่เป็นที่น่ารังเกียจเป็นผู้ชายแท้ๆ กลับอิจฉาผู้หญิง

   “พี่มะรุมไม่เจ็บเท้าแล้วใช่ไหมฮะ”

   พิกเล็ตเป็นคนแรกที่เอ่ยถามอาการของเขา เด็กชายยังน่ารักเหมือนเดิมจนเขาอดยิ้มให้ไม่ได้ทั้งที่หัวใจมันแสนหดหู่

    “ไม่เป็นไรแล้วครับ เมื่อกี้พี่ก้าวแรงไปหน่อยมันก็เจ็บ”

   “แน่ใจนะว่าไม่เป็นอะไรแล้ว” เสียงแหบต่ำดังมาจากอีกฝั่งของโต๊ะที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกัน ไม่ใช่รู้ว่าตาคมกริบคู่นั้นจ้องมองอยู่ แต่มันทำใจยากเหลือเกินที่จะสบตากันได้

   ศีรษะเล็กผงกรับโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากตักตัวเอง วรทย์ขยับเข้าหาเพื่อนรุ่นพี่ร่วมวิชาชีพเพื่อเปิดที่นั่งให้กับคุณหมออีกคน ทั้งสามนั่งอยู่บนโต๊ะยาวตัวเดียวกัน โดยมีเจ้าของบ้านพร้อมครอบครัวนั่งอยู่บนโต๊ะอีกตัวที่อยู่ตรงข้ามกัน ส่วนอาณกรเดินเลี่ยงออกไปตั้งแต่พิกเล็ตพาปารินไปหาบิดาแล้ว เขาเผลอยกมือกุมหลังมือของคิมหันต์โดยไม่รู้ตัวไออุ่นจากร่างกายของอีกฝ่ายมันให้ความรู้สึกว่าเขาไม่ได้อยู่ตามลำพังในยามที่หัวใจหนาวเหน็บเช่นนี้

   “ผมว่าเรากลับกันดีกว่า”

   คิมหันต์ออกความเห็น ถึงจะยังไม่เจ็ดโมงดีแต่กว่าจะไปถึงโรงพยาบาลก็คงได้เวลาทำงานพอดี วรทย์พยักหน้าเห็นด้วยขณะที่คุณหมออีกคนทำหน้าเสียดาย

   “ว้า เพิ่งจะเจอกันเองจะไปแล้วหรือครับ”

   “ผมมาอยู่มาทั้งคืนแล้ว ขอตัวก่อนนะครับ”

   วรทย์หันไปยิ้มให้กับภาคภูมิ แล้วหันไปค้อมศีรษะให้กับเจ้าของบ้านพร้อมภรรยาและลูก...หัวใจเขาเจ็บแปลบเหมือนโดนเข็มแทง ภาพครอบครัวอันแสนอบอุ่นมีทั้งพ่อแม่และลูก ส่วนเขาแค่ส่วนเกินที่ชดเชยในยามที่หัวหน้าครอบครัวเหงาเท่านั้น ชายหนุ่มกลืนก้อนสะอื้นไว้ในอกทำเข็มแข็งดึงมือของคิมหันต์ให้ออกไปจากสถานการณ์ชวนเสียน้ำตานีเสียที

   ร่างเล็กลุกขึ้นแล้วพยายามไม่สนใจสายตาของใครและอาการปวดหนึบที่ข้อขาของตัวเอง เขาจับมือของคิมหันต์ไม่ยอมปล่อยซ้ำยังบีบแน่นกว่าเดิมอีกด้วย ยิ่งเดินห่างออกมาความอดทนยิ่งลดน้อยลงน้ำตาเจียนจะไหลอยู่รอมร่อ แต่จังหวะการก้าวเดินก็ต้องเสียไปเพราะแรงยื้อจากด้านหลัง

   “หมอเป็นอะไรหรือเปล่า”

   ดวงหน้าขาวซีดเงยหน้าขึ้นจากผืนหญ้าสีเขียวชอุ่ม นึกขอบคุณความอดทนของตัวเองที่ยังมีพอที่จะกักเก็บน้ำตาเอาไว้ได้ เขาทำแค่สั่นหัวไม่อยากเปล่งเสียงออกมากลัวว่ามันจะสั่นจนอีกฝ่ายจับได้ว่าเขากำลังน้อยใจใครบางคนอยู่

   “เมื่อคืนหมอไปนอนที่ไหน ผมหาหมอไม่เจอเลย” 

    คิมหันต์ไม่รู้ตัวสักนิดว่าได้ถามคำถามเสียดแทงหัวใจยิ่งนัก หัวใจมันเต้นแรงจนเจ็บเสียดไปทั้งอก เขามันผู้ชายหน้าไม่อายเกือบจะแย่งสามีของผู้หญิง...ก็แค่เกือบเท่านั้นจากนี้ไปเขาจะไม่ขอเข้าไปข้องแวะกับคนๆ นั้นอีก เขาไม่อยากขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชายแพศยาแย่งของผู้หญิง

    “ว่าไงครับ”

   คิ้วหนาขมวดเข้าหากันแน่นขึ้นทุกที วรทย์ไม่ตอบคำถามแถมยังทำท่าทางน่าสงสัยตั้งแต่เมื่อครู่นี้แล้ว หัวใจเขากระตุกวูบเสี้ยวหนึ่งของความคิดมันอดคิดไปถึงพศินอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่อยากจะโยงอะไรเข้าด้วยกันสักนิดแต่ถ้าพิจารณาดีๆ จะรู้ทันทีว่าเมื่อคืนนี้คนที่หายไปด้วยกันมีแค่พศินกับวรทย์เท่านั้น ชายหนุ่มหลับตาลงปิดกั้นความคิดเลวร้ายนั่นเขาควรจะไว้ใจวรทย์ เชื่อใจให้มากไม่อย่างนั้นเขาจะกลายเป็นคนฟุ้งซ่าน

   แต่ท่าทางเงียบกริบนั่นก็ชวนสงสัยเหลือเกิน เขาอยากได้ยินคำตอบถึงแม้จะเป็นการโกหกก็ยังดีแต่การอมพะนำอย่างนี้ มันทำในอกร้อนรนไปหมด

   “หมอครับ ตอบ..”

   “หมอคีย์!”

   คำถามครั้งที่สี่ถูกระงับไปด้วยเสียงเรียกจากที่ไหนสักแห่ง พอกวาดตาหันมองก็พบร่างเล็กของผู้ชายที่จู่ๆ ก็หายตัวไป อาณกรเดินหน้ายุ่งเข้ามาพลางชูก้อนอะไรบางอย่างขึ้นด้วยนิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือ

   “นี่อะไร!”

   คิมหันต์เลิกคิ้วมองสิ่งนั้นจากปลายนิ้วของคนตัวเล็ก ใช้เวลาพิจารณาอยู่หลายนาทีกว่าจะรู้ว่าเจ้านั่นมันมือกางเกงในของเขานั่นเอง หมอหนุ่มหน้าวาบเมื่อเขานอนเปลือยกายตามนิสัยแต่เพราะคงจะมึนหนักเลยลืมใส่ปราการด่านสำคัญ นึกแปลกใจตัวเองที่ไม่ยักจะผิดสังเกต

   ผ้าสีขาวที่ขมวดม้วนเป็นก้อนกลมถูกโยนใส่อกจนเกือบจะรับไม่ทัน อาณกรหน้าบึ้งยิ่งกว่าเดิมต่อว่าเขาชุดใหญ่ในความซกมก แถมยังลืมของสำคัญไว้ในห้องเด็กในสภาพที่ไม่น่าดูอีกด้วย นี่ถ้าเจ้าตัวไม่เข้าไปสำรวจตรวจตราพิกเล็ตจะได้เห็นเจ้าก้อนกางเกงในนี้ก่อนผู้ใหญ่ มันก็น่าอายอยู่หรอกแต่มันคนมันลืมจริงๆ นี่นาจะให้ทำอย่างไร

   “ผมลืม”

   “ลืม! เหอะ” อาณกรเงยหน้าปล่อยเสียงแห่งอารมณ์ออกมา หงุดหงิดที่ยัยหน้าหนากลับมาไม่พอดันต้องมาเจอไอ้เจ้าผ้าน่าเกลียดนั่นอีก “อีกหน่อยก็ลืมใส่กางเกงไปทำงานหรอก”

   “ผมไม่ได้ตาแก่ความจำเสื่อมนะ มันผิดที่ผิดทางแล้วก็เบลอด้วย”

   “นั่นแหละอีกไม่นานคุณก็เป็นตาแกความจำเสื่อม”

   “อะไรนะ! ผมยังไม่แก่ด้วยนะ บางทีอาจจะเด็กกว่าคุณด้วยซ้ำ คุณน่ะตัวเล็กหรอกถึงได้ดูเด็กคุณเกิดปีอะไร”

   วรทย์ฟังทั้งสองเถียงกันได้ไม่กี่ประโยคเท่านั้น สภาพจิตใจของเขาตอนนี้ไม่พร้อมจะรับฟังเรื่องอะไรอีกแล้ว ชายหนุ่มหมุนตัวเดินหนี ตั้งใจว่าจะไปรอที่รถจนกว่าทั้งสองคนจะเถียงกันเสร็จ สองขาที่คล้ายจะอ่อนแรงลงเรื่อยๆ ลากผ่านผืนหญ้าที่ยังซึมน้ำค้าง ตาคู่หวานเศร้าหมองมองไปข้างหน้าอย่างไรจุดหมายในหัวมีแต่ภาพของพศิน พิกเล็ตและผู้หญิงคนนั้น ถ้าจำไม่ผิดหล่อนชื่อปาริน

(มีต่อ)

ออฟไลน์ libra82

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-5
เธอสวย...แม้จะเป็นแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่เขาก็ยังเห็นถึงความสวยของเธอ เขาไม่แปลกใจเลยที่พิกเล็ตจะหน้าตาน่ารักน่าชังเพราะมีแม่ที่สวยขนาดนี้นี่เอง และเหมาะสมกับพศินเหลือเกิน มือบางยกขึ้นกุมที่หน้าอกข้างซ้ายนี่แค่เพิ่งจะเริ่มชอบ เขายังเจ็บหัวใจถึงขนาดนี้ต้องขอบคุณปารินที่กลับมาเร็ว เพราะถ้ามาช้ากว่านี้แม้แค่เพียงวันเดียวเขาอาจจะรักพศินไปแล้วก็ได้ วรทย์ใช้มือปาดน้ำตาเมื่อภาพเบื้องหน้าพร่าเลือนมากขึ้นทุกที ในขณะที่ความคิดหลุดลอยเข้าสู่ห้วงของความเจ็บปวดทั้งร่างก็โดนกระชากจากเบื้องหลัง ชายหนุ่มสะดุ้งสุดตัวและกว่าจะตั้งสติได้ตัวเขาก็เข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของใครบางคนเสียแล้ว กลิ่นกายของบุรุษเพศที่กกกอดมาทั้งคืนรายล้อมรอบตัว อ้อมกอดอบอุ่นรัดแน่นจนน่าใจหาย

   “มึงอย่าคิดไปเอง” เสียงทุ้มติดแหบดังขึ้นแถวๆ ขมับ ก่อนที่ริมฝีปากอุ่นจัดจะกดลงมา
   เปลือกตาบางปิดลงพร้อมกับน้ำตาที่อาบลงแก้ม เรื่องความคิดและความรู้สึกมันห้ามกันได้เสียที่ไหนแค่เห็นคนรักเก่ากลับมา เขาก็คิดไปไกลถึงไหนแล้ว วรทย์ซบหน้าลงกับอกอุ่นสูดเอากลิ่นกายของคนตัวโตไว้ในอก เขาอยากเป็นผู้ชายหน้าด้านแย่งสามีผู้หญิง อยากฉีกม่านประเพณีทั้งหมดแล้วทำตามใจตัวเองแต่ทั้งหมดมันเป็นแค่ความคิดเท่านั้น ในความเป็นจริงแค่ผู้ชายชอบกับผู้ชายสังคมก็ยากจะยอมรับแล้ว

   พศินกดศีรษะเล็กๆ กับอกตัวเองเขารู้ว่ามันกำลังร้องไห้ มันทั้งตกใจและน่ายินดีไปพร้อมกันอดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่าที่มันร้องไห้เพราะเขาสำคัญกับมันไม่น้อย ชายหนุ่มจูบเบาๆ ที่กระหม่อมเล็กอีกครั้ง ความกลัดกลุ้มในอกลดลงไปเล็กน้อย แต้ถ้าจะระบายออกไปให้หมดเขาคงต้องนอนคุยกับมันทั้งคืน ไอ้ตุ๊ดนี่มันไม่รู้หรอกว่าเขาใจหายแค่ไหนตอนที่เห็นมันเกือบจะตกบันได แล้วเปลี่ยนเป็นหงุดหงิดทันทีเมื่อจู่ๆ ไอ้ภูมิก็มาอุ้มมันไปต่อหน้าต่อตา มิหนำซ้ำมันยังมาหนีหน้ากันอีกทั้งที่เขายังไม่ได้ถามอาการของมัน จนต้องทิ้งปารินไว้แล้วตามมันออกมา

    เขาไม่รู้หรอกว่าปารินกลับมาทำไม แต่ยอมรับว่าตกใจไม่น้อย ผู้หญิงที่เขาเฝ้าหวังมาเป็นปีว่าจะกลับมาหากัน...กลับมาจริงๆ แต่ดูเหมือนว่ามันจะสายไปแล้ว หัวใจที่แหลกสลายกำลังก่อร่างสร้างตัวใช้ความเจ็บปวดที่เธอสร้างไว้ให้เป็นปราการป้องกันตัวเอง ความรักสอนให้เราเรียนรู้ทั้งความสุขและความทุกข์ หกปีที่เขามีความสุขที่ได้รักเธอและในปีต่อมาเขาก็เจ็บเจียนตายเพราะทุกข์ระทม

     เขาไม่เคยลืมว่าตอนที่เธอทิ้งเขาไปอย่างไม่ไยดีนั้นเจ็บปวดแค่ไหน มันเหมือนมีใครเอามีดมากรีดลงบนเนื้อหัวใจแล้วราดน้ำเกลือซ้ำ ไม่ว่าจะลืมหรือหลับตาภาพของเธอไม่เคยหายไปไหนเลย แม้แต่น้ำเมาที่เขาว่าช่วยให้ลืมเธอยังหมดความหมายเมื่อดีกรีในเลือดมันจางลง กระทั่งได้พบกับใครบางที่เปลี่ยนความชอกช้ำให้กลับมารู้สึกถึงอารมณ์อย่างอื่นอีก

   แม้จะเริ่มต้นไม่น่าประทับใจนัก แต่ผู้ชายตัวเล็กๆ ขาวๆ คนนั้นก็ทำให้เขาคิดถึงได้ทุกนาทีเช่นกัน แต่ก็ไม่ปฏิเสธหรอกว่าเสี้ยวหนึ่งของความคิดเขายังต้องการให้ปารินกลับมา ทว่ามันไม่ใช่เพราะความเสน่หาเสียทีเดียว

   “มึงเชื่อใจกูนะ กูมันพวกเจ็บแล้วจำ”

   ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันได้สักอย่างว่าคำสัญญาจากคนขี้เมาเชื่อถือได้ วรทย์ไม่ตอบรับคำขอนั่นเขาได้แต่ฟังเสียงหัวใจที่เต้นนั่นเงียบๆ อยากจะแสร้งทำเป็นเข้มแข็งและเชื่อในสิ่งที่ได้ยินแต่ภาพครอบครัวที่แสนอบอุ่นนั่นมันทำให้เขาอ่อนแอเหลือเกิน ครอบครัวที่สมบูรณ์พิกเล็ตควรจะได้อยู่กับแม่แท้ๆ ที่เป็นผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชายอย่างเขา

   “พี่เสือจ๋า พี่เสืออยู่ไหน”

   วรทย์ดันอกกว้างออกห่าง เขาไม่ต้องการให้ปารินเห็นหรือรู้ระแคะระคายว่าผู้ชายอย่างเขากำลังคิดจะแย่งสามีของเธอ มือบางเช็ดน้ำตาที่ยังไหลอยู่ลวกๆ แต่ดูเหมือนมันจะไม่ทันใจอีกคนเท่าไรนัก พศินดึงคางมนเข้ามาใกล้แล้วใช้ริมฝีปากจูบซับรอยน้ำตา พลางกระซิบชิดมุมปากนุ่ม

   “กูดีใจที่มึงร้องไห้เพราะกู”

   “อยู่นี่นี่เอง แพรวหิวแล้วเราไปกินข้าวกันเถอะค่ะ”

   เขาผละจากคนตัวโตพอดีตอนที่ปารินเดินเข้ามา เขามองมือขาวที่ยกคล้องแขนสามีอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ ร่างบางหมุนตัวก้าวเดินเร็วๆ ปิดกั้นการรับรู้ทั้งหมดใช้รถยนต์ของคิมหันต์ที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตรเป็นที่กำบังกาย...

…………………………….


   “หมอระวัง!”

   คิมหันต์ถอนหายใจด้วยความโล่งอีก ถ้าเขาไม่เตือนอีกเพียงนิดเดียวหัวกลมๆ นั่นคงจะโคกกับเสาบ้านพักแล้ว คุณหมอตัวเล็กทำหน้าเหรอหราหันมองมาทางเขาแล้ววกกลับไปมองเสาตรงหน้าแล้วก็ยิ้มแหยๆ จากนั้นก็บังคับตัวเองให้เดินขึ้นบันไดไป

    นายแพทย์หนุ่มไม่ได้เดินไปที่ห้องพักของตัวเองแต่เขาเลือกที่จะเดินตามวรทย์ไป ความอดทนอดกลั้นที่เก็บมาถึงห้าวันมันหมดลงไปตั้งแต่เมื่อครู่นี้แล้ว ถ้าหากเขายังไม่ได้ถามหรือพูดอะไรมีหวังได้อกแตกตายแน่ มือหนาผลักประตูที่กำลังจะปิดแล้วแทรกกายเข้ามาในห้องพักส่วนตัวของวรทย์โดยไม่คิดจะขออนุญาต เจ้าของห้องทำตาโตเตรียมจะอ้าปากถามหรืออาจจะไล่เขา แต่เขาชิงห้ามเสียก่อน

   “ไม่ต้องมาไล่ผม”

   คิมหันต์บอกเสียงเรียบ ถือวิสาสะลากมือเล็กให้มานั่งที่เตียงด้วยกัน เพราะห้องที่มีพื้นที่จำกัดเฟอร์นิเจอร์เลยไม่ไม่ได้มีโอกาสได้มาตั้งรับแขก แต่ได้ข่าวว่าผู้อำนวยการกำลังดำเนินการปลูกบ้านพักให้ใหม่หลังจากที่ยื่นเรื่องไปก่อนหน้าที่วรทย์จะมาไม่กี่วัน ดังนั้นบ้านพักของวรทย์ที่เคยจะให้คนมาปรับปรุงก็ต้องถูกยกเลิกไปเพราะกำลังจะได้อาคารหลังใหญ่มาแทน

   เขาออกแรงกำข้อมือเล็กเมื่ออีกฝ่ายทำท่าจะขัดขืน แต่พอเงยหน้ามาสบตาก็อ่อนแรงลง หมอหนุ่มตัวสูงถอนหายใจอีกเฮือก คำถามนับร้อยอัดแน่นอยู่ในอกตั้งแต่วันนั้น เขาไมได้คิดไปเองหรอกว่าตั้งแต่วันเกิดของพศิน วรทย์ก็เปลี่ยนไป ทั้งเซื่องซึมเหม่อลอยและพูดน้อยลง อาการหนักจนน่าเป็นห่วง คราแรกคิดว่าทิ้งไว้สักหน่อยคงดีขึ้นแต่นี่ผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้วยังไม่เห็นวี่แววว่าจะดีขึ้นซ้ำดูท่าจะแย่กว่าเดิมอีกด้วย

   “มีอะไรก็พูดกับผมไหม”

   ดวงตากลมฉายแววสงสัยแค่ชั่ววินาทีเจ้าตัวก็สั่นหัวปฏิเสธ ซึ่งมันไม่ได้เกินไปจากที่คาดหมายสักนิด คิมหันต์เปลี่ยนจากจับข้อมือเป็นกุมมือบางไว้แทน

   “ผมเห็นหมอกับนายเสือ”

   “หะ..เห็นอะไร”

   “วันที่เมียนายเสือกลับมาน่ะ ผมเห็นนายเสือจูบหมอ”

   วรทย์ตาโตเลือดบนหน้าลดน้อยลงจนกลายเป็นซีดเผือด หมอหนุ่มตัวเล็กหันหน้าไปทางอื่นไม่ยอมสบตากับเขา บอกกับเขาเสียงเบาว่าไม่มีอะไร

   คิมหันต์ระบายลมหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า...ใช่เขาเห็นภาพที่ว่านั่นจริงๆ นายเสือกำลังก้มจูบที่มุมปากของวรทย์พอดีระหว่างที่เขาเดินกลับมาที่รถ แต่เขาไปถึงช้ากว่าปารินเจ้าหล่อนวิ่งพรวดพราดเข้าไปตอนที่ทั้งคู่ผละออกจากกัน เขาไม่รู้หรอกว่าหล่อนเห็นภาพเดียวกับเขาหรือเปล่า ทว่าคนที่เขาเป็นห่วงไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้นแต่เป็นวรทย์ต่างหากถึงหัวใจจะเจ็บจนปวดตุบๆ ก็ตาม

   สิ่งที่เห็นกอปรกับเรื่องที่วรทย์หายไปพร้อมกับพศินทำให้เขาพอจะปะติดปะต่ออะไรได้บ้าง มันอยู่ความคาดหมายจริงๆ คิดไม่ถึงว่าคนที่เจอหน้าก็พ่นแต่คำร้ายใส่กันจะเกิดมีจิตปฏิพัทธ์ต่อกันได้ ซ้ำยังรุกหน้าจนเขาตามไม่ทันอีกด้วย มันยากจะยอมรับว่าเขากำลังจะแพ้ให้กับม้ามืดให้กับนายเสือขี้เมานั่น ศัตรูที่แซงหน้ามาโดยไม่ทันได้ตั้งตัวทิ้งเขากับอาณกรชนิดไม่เห็นฝุ่นเลยทีเดียว

   “หมอชอบนายเสือใช่ไหม” เขาถามพยายามรักษาระดับน้ำเสียงให้มันต่ำหรือสูงเกินไป สภาพของวรทย์ตอนนี้เหมือนแก้วร้าวอะไรกระทบนิดเดียวก็อาจจะแตกได้

   ไม่คำตอบอีกเช่นเคย อีกฝ่ายเอาแต่ก้มหน้าหลบเลี่ยงทั้งคำถามและการมองตา วรทย์ไม่ใช่คนพูดเก่งขณะเดียวกันก็เก็บอาการไม่เก่งด้วยเช่นกัน เขาเดาเอาว่าที่เขาถามไปมันคือความจริง เจ็บหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ก็อดกระหวัดคิดถึงอีกคนไม่ได้ รายนั้นก็บอกว่าชอบวรทย์เหมือนกัน ถ้ารู้เรื่องนี้คงเจ็บไม่ต่างกับเขา แต่ที่น่าแปลกเขากลับไม่ยักจะอยากลงไปดิ้นทุรนทุรายหรือร้องไห้แค่เจ็บเท่านั้นเอง

   “บอกผมมาเถอะ ผมทำใจแล้ว”

   “ทำใจ?” วรทย์เงยหน้าขึ้น ดวงตาวาววับเหมือนลูกแก้วแช่น้ำ

   “ครับ” เขายอมรับสั้น ก่อนจะขยายความในใจเพิ่มอีกหน่อย “ผมชอบหมอ แต่ผมไม่ใช่เกย์นะบอกไว้ก่อนผมไม่เหมือนไอ้หมอตานั่นหรอก” เขาหมายถึงภาคภูมิรายนั้นดูออกทันทีเลยว่าเป็นเกย์ชอบผู้ชายด้วยกันมาตั้งแต่เกิด “ผมชอบที่หมอดูจริงใจ ซื่อๆ แล้วก็น่ารัก ไม่รู้ซิมันอยู่ด้วยกันแล้วสบายใจ ตอนแรกผมคิดว่าเป็นเพราะความเหงาแต่เอาจริงๆ เป็นเพราะหมอน่ารักมากกว่า”

   เขายิ้มนิดๆ ยกมือเกาท้ายทอยแก้เขิน แม้จะรู้ตัวว่าผิดหวังแต่ก็อดเขินอายไม่ได้ เขาไม่ได้สารภาพรักแต่หน้าใครมาเป็นสิบปีได้แล้วกระมัง ไม่แปลกใจสักนิดที่จะเห็นวรทย์ทำหน้าเหวอคงทั้งตกใจและรังเกียจเขาไปด้วย ใครกันจะยินดีจู่ๆ ก็มีผู้ชายมาสารภาพว่าชอบตัวเอง

   “มะ หมอชอบผมหรือ?”

   “บอกช้าไปใช่ไหม ไม่เป็นไรหรอกผมไม่ได้หวังอะไรมาก แต่คิดไม่ถึงว่าหมอจะชอบนายเสือได้ บอกผมได้ไหมว่าไปชอบกันตอนไหน มันดูไม่มีวี่แววเลย”

   พอถูกถามวรทย์ก็หุบปากฉับ เบนสายตามองไปที่หน้าต่างราวกับที่ตรงนั้นมีอะไรให้ระลึกหรือน่าประทับใจ หนุ่มตัวเล็กเงียบไปพักใหญ่ร่วมห้านาทีกว่าจะตัดสินใจตอบในสิ่งที่เขาอยากรู้

   “ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะผมเองก็ไม่เคยชอบผู้ชายมาก่อน รู้ตัวอีกทีก็ชอบเขาไปแล้ว”

   เจ็บซ้ำเจ็บซ้อนเจ็บซ่อนเงื่อน คิมหันต์ยิ้มให้กับความเจ็บซ้ำซากของตัวเอง เขาพยายามแทบตายแต่เป็นได้แค่มดแดงแฝงพวงมะม่วงเท่านั้น ทั้งที่อยู่ใกล้ชิดแต่กลับไม่เคยได้ใกล้ใจ

   “หมอชอบเขาตรงไหน” เขาถามข่มก้อนแข็งๆ ที่พาเอาจุกไปหมดไว้ในอก

   “ก็ไม่รู้อีกเหมือนกัน” วรทย์ตอบตรงๆ สายตายังจ้องไปที่บานหน้าต่างที่เขาจำได้ว่าเพิ่งมาเปลี่ยนกลอนให้เมื่ออาทิตย์ก่อน “ผมไม่ใช่เกย์ ไม่เคยชอบผู้ชาย แต่เวลาอยู่ใกล้เขาผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้หญิงอย่างไรก็ไม่รู้ น่าสมเพชดีไหมครับ”

   หมอหนุ่มตัวเล็กยิ้ม...แต่เป็นรอยยิ้มที่เหมือนจะเย้ยตัวเองมากกว่า คิมหันต์กุมมือเล็กกว่ากันแน่นกว่าเดิมเขาคิดว่าตอนนี้วรทย์ไมใช่แค่ชอบพศินเท่านั้นแต่มันยังมีความรู้สึกอื่นแทรกอยู่ด้วย บางทีคนที่เขาชอบอาจจะเจ็บปวดไม่ต่างกันกับเขาก็ได้

   “ผมขอถามอีกคำถาม หมอกับเขามีอะไรกันหรือยัง เพราะที่ผมเห็นมันเอ่อ...ค่อนข้างจะมากกว่าคนชอบกัน”

   วรทย์ละสายตาจากบานหน้าต่าง คิมหันต์ไม่รู้หรอกว่าในหัวของเขาตอนนี้มันเหมือนเครื่องเล่นแผ่นดีวีดีมันกำลังกรอภาพเก่าๆ กลับมาเป็นฉากๆ หลายต่อหลายครั้งที่หวิดจนใกล้คำว่า ‘มีอะไรกัน’ รอยสัมผัสของใครคนนั้นมักจะตราตรึงอยู่ในผิวหนังที่โดนสัมผัสอยู่เนิ่นนาน นั่นอาจจะเป็นหนึ่งใจเหตุผลที่ทำให้เขาหลงชอบไอ้เสือบ้ากามนั่นก็ได้ ร่างกายมันจดจำพาลให้หัวใจคล้อยตามไปด้วย   

     คำถามที่แสนน่าอายแต่เขาเต็มใจที่จะตอบ “ยังครับ ยังไม่มี”

   เขาได้ยินเสียงถอนหายใจจากอีกคน นายแพทย์หนุ่มตัวเล็กกระพริบตารัวไล่หยาดน้ำตาที่จ้องแต่จะไหลอยู่เรื่อย นึกสงสัยตัวเองว่าเขาอาจจะรู้สึกมากกว่าชอบไปแล้วก็ได้

   “ดีแล้วล่ะครับ ผมไม่อยากเห็นหมอเสียใจภายหลัง” คนตัวสูงบอกยิ้มๆ “บอกไว้ก่อนนะผมยังไม่ตัดใจหรอก หมอแค่ชอบยังไม่ได้จดทะเบียน ฉะนั้นผมมีสิทธิ์เต็มเปี่ยมที่จะแข่งกับไอ้เสือขี้เมานั่น”

   “ขอบคุณนะครับหมอ”

   คิ้วหนายกสูงเป็นเชิงสงสัย “เรื่องอะไร”

 
(มีต่อ)

ออฟไลน์ libra82

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-5
   “ก็เรื่องที่หมอชอบผม มีคนชอบดีกว่ามีคนเกลียด แต่จะดีกว่านี้ถ้าหมอเป็นผู้หญิงตัวเล็กนมตู้ม”

   คิมหันต์หัวเราะเบาๆ ปล่อยมืออีกฝ่ายให้เป็นอิสระ “ปล่อยผู้หญิงพวกนั้นไปหาผู้ชายหล่อๆ เถอะครับ อย่างหมอน่ะผู้หญิงเขาไม่อยากได้หรอก”

   “ทำไมล่ะครับ”

   “ก็หมอน่ะน่ารักกว่าผู้หญิงอีก”

   เขามองแก้มนวลที่สุกเปล่งขึ้น ดวงตาสีน้ำตาลมีประกายอีกครั้งหลังจากที่มันไร้เงามาหลายวัน “ผมไปก่อนนะ หมอเองก็อย่าคิดมาก ถ้านายเสือเขาคิดตรงกับหมอผู้หญิงคนนั้นก็ไร้ความหมาย”

   ร่างสูงเตรียมจะผละออกไปทว่าเจ้าของห้องรั้งชายเสื้อไว้ คิมหันต์เอียงคอมองใบหน้าที่กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

    “ขอบคุณจริงๆ นะครับ ผมรู้ว่าหมอเป็นห่วงผม”

    ชายหนุ่มระบายยิ้มบางเบาแม้ว่าภายในจะเจ็บร้าวแม้แต่หายใจยังลำบาก เขาเข้าใจความรู้สึกของอาณกรก็วันนี้นี่เอง รักโดยไม่หวังอะไรกลับมารักแม้ว่าเขาจะมีคนอื่น เจ็บจนพูดไม่ออกแต่ก็ตัดใจไม่ได้

   “ผมชอบเห็นหมอยิ้มมากกว่า แต่อย่าเพิ่งคิดว่าผมจะถอย ผมยังไม่เลิกชอบหมอง่ายๆ หรอกนะ ราตรีสวัสดิ์”

   หน้าผากนูนใต้กลุ่มผมที่ยาวปรกลงมาถึงคิ้วอุ่นวาบด้วยริมฝีปากจากคนตัวสูง เจ้าตัวส่งยิ้มอ่อนโยนเหมือนกับจูบที่หน้าผากก่อนจะจากไป วรทย์กระพริบตารัวไออุ่นยังไม่หายไปไหน เขารู้ว่าคิมหันต์ไม่ได้มีเจตนาจะลวนลาม คงแค่อยากให้กำลังใจ ดวงหน้าหวานก้มลงมองปลายนิ้วที่เพิ่งถูกปล่อยให้เป็นอิสระเมื่อไม่นานตลอดเวลาที่อีกฝ่ายเล่าความในใจที่มีต่อเขา มือที่กุมกันมันเย็นเฉียบ

   คิมหันต์เองก็ปวดร้าวไม่น้อยนัก สารภาพรักกับเขาทั้งที่รู้ว่าเขาชอบใครอีกคนไปแล้ว ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจแผ่วช้า ความอึดอัดในอกที่บ่มเอาความเศร้าหมองให้เกิดขึ้นด้วยมันทุเลาลงไปเล็กน้อยถึงจะไม่ได้รับการรักษาแต่มันได้ระบายออกมาบ้าง อย่างน้อยมันก็ทำให้หายใจได้คล่องขึ้น ร่างเล็กทิ้งตัวลงกับเตียงนอนเล็กๆ ของตัวเอง เกิดมาก็เพิ่งเคยเป็น ชอบผู้ชายด้วยกันเท่านั้นไม่พออีกฝ่ายยังมีครอบครัวแล้วด้วย มองไปทางไหนก็ไร้ความเป็นไปได้ เปลือกตาบางทาบปิดการมองเห็น แต่ในสมองยังคงมีแต่ภาพของคนๆ นั้น เหมือนกับทุกวันที่ผ่านมายิ่งพยายามอยากจะลืมกลับยิ่งจำ ไม่ใช่แค่ภาพของใครบางคนยังมีผู้หญิงอีกคนด้วย ผู้หญิงที่สวยและเหมาะสมคู่ควรกัน

   วรทย์พลิกกายนอนตะแคง ความอ่อนล้าจากการทำงานเทียบไม่ได้เลยกับภาวะทางจิตใจ เขาเหม่อลอยจนหลายๆ คนทัก ดีหน่อยที่ตอนทำงานเขาสามารถบังคับให้มันจดจ่ออยู่กับงานได้ แต่เมื่ออยู่คนเดียวเขาก็เอาแต่คิดถึงผู้ชายตัวใหญ่ ผิวคล้ำแดด ตาดุและปากร้าย คำพูดสุดท้ายที่ทิ้งไว้ก่อนจะจากกันยังฟังติดแน่นอยู่ในความทรงจำ ‘กูดีใจที่มึงร้องไห้เพราะกู’

   พศินจะรู้ที่มาของน้ำตาหรือเปล่าเขาไม่แน่ใจ แต่หลังจากวันนั้นเขาก็ไม่ร้องไห้อีกไม่ใช่เพราะไม่เสียใจ แต่เขาเก็บมันไว้ข้างในต่างหาก

   เสียงแกรกกรากที่บานหน้าต่างทำให้ต้องเปิดตาขึ้นอีก เขาคิดว่าคงเป็นเสียงของนกที่อาจจะบินมาหาที่ทำรังนอน แต่มันยังไม่หยุดดังแถมลักษณะของเสียงยังเปลี่ยนไปอีกด้วย ที่น่าตกใจมากไปกว่านั้นมันมีเสียงของคนลอดเข้ามาอีกด้วย

   “ไอ้มะรุม เปิดซักทีซิโว๊ย!”

   วรทย์จรีบถลามาที่หน้าต่าง มือไม้เขาสั่นไปหมดตอนที่ปลดกลอนหน้าต่าง และเพียงแค่บานหน้าต่างแง้มออกเขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่คิดถึงแทบจะทุกนาทีที่หายใจ

    พศินหน้าบึ้งเหมือนหมีไม่ได้กินน้ำผึ้ง ร่างสูงใหญ่อยู่ในท่าที่เรียกได้ว่าทุลักทุเล สองแขนพยายามจะเกาะขอบหน้าต่างไว้ ส่วนปลายเท้ายันอยู่บนบันได วรทย์ชะโงกหน้าผ่านไหล่คนตัวใหญ่ไปก็พบว่าดินกำลังช่วยเจ้านายจับขาบันไดไว้ ยังไม่ได้ทันจะได้อ้าปากถามอะไรมือใหญ่สีเข้มก็กระชากหน้าต่างให้เปิดกว้างกว่าเดิม ใช้มือข้างหนึ่งผลักหัวเขาเพื่อเปิดทางแล้วเหวี่ยงตัวเข้ามาในห้องเขาได้สำเร็จ

   “มึงกลับไปเลย เดี๋ยวกูโทรหา อ้อ!ให้ไอ้ปืนไปดูที่โรงงานด้วยพรุ่งนี้กูจะเอาน้ำมันไปส่ง”
   ผู้บุกรุกสั่งเสียเสร็จก็จัดการปิดหน้าต่างลงกลอนแน่นหนาทันที ก่อนจะหันมา
ประจันหน้ากับเจ้าของห้องที่ยังทำหน้าเลิกลั่กเหมือนเห็นผีไม่มีผิด มันถอยหลังห่างจากเขาไปหลายก้าวตาโตแต่ไม่ลึกของมันกระพริบปริบๆ จนดูเหมือนตุ๊กตาพอร์ชเลนของเด็กผู้หญิงที่พิกเล็ตเคยมีจำได้ว่าอาณกรเป็นคนซื้อให้ แต่เขาคิดว่าไอ้มะรุมมันน่ารักน่ากอดกว่าเยอะ

   ร่างสูงใหญ่สืบเท้าเข้าไปใกล้จนระยะห่างเหลือพอที่ช่วงแขนจะดึงคนที่แสนคิดถึงมากอดได้ เขาไม่รอให้เสียเวลาร่างที่เล็กกว่ากันเกินครึ่งถูกรวบกระหวัดเข้ามาในอกเขาถ่ายทอดความคิดถึงลงไปในอ้อมกอด พรมจูบที่กลุ่มผมนุ่มและแถวขมับอยู่หลายครั้ง แต่ความคิดถึงที่สุมแน่นอยู่หลายวันก็ไม่ทุเลาลงไปเลย

   เนิ่นนานจนไม่อาจนับเวลาได้กว่าที่อ้อมแขนแข็งแรงจะคลายออก เขาดันร่างเล็กห่างไปเล็กน้อยแล้วใช้ปลายนิ้วเชยคางมันขึ้น มองหน้าที่ไม่ได้เห็นมาหลายวัน ตาของมันยังกลมเหมือนลูกแก้วเหมือนเดิม แก้มยังใสเหมือนตูดเด็กและปากก็ยังน่าจูบเหมือนเดิม แต่นัยน์ตาของมันดูหม่นหมองจนน่าใจหาย

   “มึงเป็นอะไร” คนตัวเล็กก้มหน้าหลบตาไม่ยอมตอบคำถามจนเขาต้องดันนิ้วขึ้นอีก แล้วก้มหน้าต่ำลงไปหากระทั่งปลายจมูกติดชิดกัน “ถามทำไมไม่ตอบ”

   “เปล่า” เสียงเล็กติดแหบตอบกลับมา ซึ่งเป็นคำตอบที่ห่างไกลความเป็นจริงนัก

   “โกหก มึงคิดมากเรื่องกูใช่ไหม” ตากลมหม่นแสงลงไปอีกจนคนมองใจหาย เลื่อนจมูกที่ชิดกันไปที่แก้มเนียนสูดเอากลิ่นหอมเหมือนผิวเด็กเอาไว้อยู่อย่างนั้น “บอกซิ มะรุม”

   หัวใจที่ติดในจังหวะที่เอื่อยเฉือนจนคล้ายจะหยุดเต้นกลับกระเตื้องขึ้นเหมือนโดนเครื่องกระตุ้น ไออุ่นซ่านไร้ที่มาครอบคลุมลงบนความหนาวเหน็บในใจเมื่อได้ยินชื่อเล่นที่คนตัวโตไม่เคยเปล่งเรียกมาก่อน ตาช้อนมองใบหน้าคมคร้ามมันอยู่ห่างเพียงนิดเดียวเท่านั้น ไม่อยากเรียกสิ่งที่เต้นแรงอยู่ในอกว่าดีใจ แค่คำๆ เดียวแต่เขากลับปีติที่ได้ยินมัน

   “เรียกใหม่ซิ”

   “อะไร” คิ้วหนาขมวดน้อยๆ

   “เรียกชื่อฉัน”    “

   “มะรุม”

   เสียงของพศินทุ้มต่ำ พาให้หัวใจอุ่นวาบไปหมด ร่างเล็กขยับตัวเขาอย่างไร้เงื่อนไขเข้าใจคำว่าคิดถึงอย่างถ่องแท้ แค่อาทิตย์เดียว เจ็ดวัน หนึ่งร้อยหกสิบแปดชั่วโมง หนึ่งพันแปดสิบนาทีและอีกหกแสนสี่พันแปดร้อยวินาทีเท่านั้นแต่เขาคิดถึงผู้ชายคนนี้เหลือเกิน ไม่ใช่แค่คิดถึงแต่มันมากจนถึงขั้นโหยหาเลยก็ว่าได้

   “เสียงนายเพราะจังเลย”


   อ้อมแขนแข็งแรงรัดร่างเขาเข้าไปไว้ในอก กลิ่นไอที่ไม่ได้ปะพรมด้วยน้ำหอมราคาแพง กลิ่นกายของผู้ชายแท้ๆ เจอด้วยเหงื่อและโคโลญจน์ กลิ่นที่เขาซึมซับไปโดยไม่รู้ตัวและชอบให้มันวนเวียนอยู่ใกล้ๆ แต่ก็ยังอุตส่าห์ย้ำกับตัวเองว่าทำได้แค่ชอบแต่ห้ามรัก...รักคนมีเจ้าของมันบาปตกนรกไปต้องปีนต้นงิ้ว

   “คิดถึง”

   พศินกระซิบบอกที่ริมใบหู เสียงต่ำๆ เพราะยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ที่เคยได้ยิน ไพเราะจนไม่อยากให้ใครมาได้ยินนอกจากเขาคนเดียวเท่านั้น ความคิดน่ารังเกียจแต่มันสิ่งที่เขาปรารถนาจริงๆ

   กลิ่นแชมพูที่เหมือนกับกลิ่นดอกไม้ติดอยู่ที่ปลายเส้นผมมันหอมจนอดใจไม่ไหวต้องก้มลงเก็บกลิ่นดอกไม้ไว้ในอกหลายครั้ง เขาเก็บกักความคิดถึงและความปรารถนาไว้เต็มเปี่ยมถึงเจ็ดวัน...เจ็ดวันที่เอาแต่หมกตัวอยู่ในไร่กับโรงงาน ไม่กลับไปนอนบ้านอาศัยโรงงานนอนบ้าง บ้านไอ้ปืนบ้างเป็นที่ซุกหัวนอน ทำงานให้เหนื่อยกินเต็มที่แล้วก็หลับเป็นตายโดยในฝันมีแต่ภาพของผู้ชายตัวเล็กที่ใบหน้าเปื้อนน้ำตาแทบจะทุกคืน เขาไม่รู้หรอกว่ามันเชื่อในคำสัญญาปากเปล่าที่ให้ไว้หรือเปล่า แต่เขาจะทำมันให้ได้ เจ็บแล้วก็ต้องจำถึงคนทำจะเป็นคนที่เคยรักสุดหัวใจก็ตาม

   เขาใช้ข้ออ้างเรื่องงานมาเป็นเครื่องป้องกันไม่ให้ปารินเข้ามาใกล้เขามากนัก แต่เขาก็พอจะเดาจุดประสงค์ในการกลับมาของหล่อนได้ ถ้าหากเป็นเพราะความรักหล่อนคงไม่คิดจะจากไปตั้งแต่แรกทว่าพอเวลาผ่านไปถึงกลับมาไม่ใช่เพราะคิดได้อย่างที่หล่อนให้เหตุผล แต่เป็นเพราะอย่างอื่นมากกว่าถึงเขาจะเป็นไอ้บ้านนอกคอกนา เป็นไอ้ทึ่มเอาแต่ดักดานอยู่กับไร่ของตัวเองแต่ก็ไม่ได้โง่จนมองคนไม่ออก ปารินไมได้รักเขาเหมือนที่หล่อนพูดหรือจะเรียกให้ถูกหล่อนไม่ได้รักเขาด้วยใจจริงตั้งแต่แรกแล้ว

   ใช่เขารู้...รู้มาตั้งนานแล้วแต่แกล้งทำเป็นไม่เห็น เพราะคิดว่าถ้าหากมีโซ่ทองคล้องใจหล่อนจะเริ่มหันมารักเขาและลูก แต่ความคิดของเขามันก็เป็นได้แค่หวังลมๆ แล้งๆ เท่านั้น ปารินรักลูกก็จริงแต่ยังรักเขาแค่คำพูดเช่นเดิม หล่อนไม่เคยทำหน้าที่แม่แม้แต่น้ำนมพิกเล็ตก็ไม่เคยได้กิน กอดลูกแต่ก็ผละออกเมื่อมีโทรศัพท์จากเพื่อนมาและสุดท้ายก็ทิ้งเขากับลูกไปเมื่อมีสิ่งเร้าใจมาดึงดูด ความสิวิลัยที่หล่อนโหยหาอยากจะได้มาตลอดและผู้ชายที่เคยเป็นคู่แข่งและอดีตเพื่อนรักของเขา ถึงหล่อนจะกลับมาด้วยจุดประสงค์อื่นที่ไม่ใช่เพราะสำนึกผิดหรือเกิดรักเขาขึ้นมา แต่เขาก็สงสารพิกเล็ตจนไม่กล้าเอ่ยปากไล่หล่อนไปตรงๆ และเพราะเยื่อใยบางๆ อย่างคนที่เคยผูกพันด้วยกระมังเขาเลยยังทนเป็นไอ้โง่เสือต่อไป

   ชายหนุ่มซุกหน้าลงกับหัวไหล่อุ่น เขาเชื่อว่าถ้าหากยังไม่เจอไอ้หมอตัวเล็กนี่เขาอาจจะโผเข้าหาปารินพร้อมกับขวดเหล้าก็เป็นได้ ขอบคุณพิกเล็ตและไอ้หมอตัวป่วนนี่ที่ทำให้เขากลับมามีสมองไตร่ตรองได้อีกครั้ง ความเจ็บปวดมันเป็นบทเรียนก็จริงแต่การจะลืมใครสักคนไม่ใช่เรื่อง่ายไอ้หมอมะรุมมันจะโกรธเขาไหมที่เขาจะใช้มันลืมความเลวร้ายของปาริน

    “มะรุม”

   “หืม?” มันอู้อี้บอกติดหน้าอก หน้าของมันกดแน่นกับหน้าอกข้างซ้ายแน่ใจว่ามันได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกับของมันที่แนบชิดแถวๆ สีข้างของเขา

   “มึงจะเลิกชอบกูก็ได้นะแต่กูอยากให้มึงฟังกูให้จบก่อน”

   “อะไร”

   เขาดันร่างเล็กที่แทบจะจมหายในอ้อมกอดของเขายิ่งได้กอดยิ่งได้รู้ว่าตัวเล็ก บอบบางแต่ไม่ได้ผอมแกร็นพอจะมีกล้ามเนื้อบ้างแต่คงเป็นเพราะโครงสร้างไม่ใช่เพราะออกกำลังอย่างเขา มือหนาเทอะทะกุมที่ไหล่เล็ก รอให้มันเงยหน้าขึ้นมามองแล้วค่อยพูดสิ่งที่ติดค้างอยู่ตั้งแต่วันนั้น

   “มึงคิดเรื่องแพรวอยู่ใช่ไหม” ไม่มีคำตอบได้ใบหน้าน่ารักนั่นพยักรับช้าๆ มันก้มหน้าหนีกันอีกครั้ง เลยต้องใช้นิ้วดันคางมันเอาไว้ “กูเคยรักแพรว มึงรู้ใช่ไหม”

   “รู้” มันพึมพำตอบ เสียงสั่นจนใจเขาแกว่งไปด้วย

   “กูรักแพรวมาก รักจนเลือกที่จะมองข้ามอะไรไปมากมาย กูรักแพรวตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย กูจีบเขาพร้อมๆ กับเพื่อนกู แต่แพรวก็เลือกกู เราคบกันจนแพรวเรียนจบแล้วก็แต่งงานเลยแพรวไม่มีพ่อไม่มีแม่เลยไม่ต้องไปขอกับใครหลังจากนั้นเขาก็มีพิกเล็ตให้กู...ให้ออยมากกว่าเพราะออยทำหน้าที่แทนแพรวกับกูแทบจะทุกอย่างถ้ามีนมคงให้นมดูดไปแล้ว” เขาพูดติดตลกทั้งที่มันไม่ตลกเลยสักนิด “กูก็ทนโง่อยู่หกเจ็ดปี พอปีที่แล้วแพรวได้เจอกับไอ้โยอีกครั้ง กูไม่รู้หรอกว่าไปเจอกันยังไง แต่แพรวก็ทิ้งกูกับลูกไป”

   วรทย์ยืนนิ่งฟังคำพูดที่ถ่ายทอดจากอดีตจนถึงเกือบจะปัจจุบัน เท่าที่ฟังพศินรักปารินมากเหลือเกิน เขาไม่แปลกใจถ้าหากพศินเลือกที่จะกลับไปหารักครั้งเก่าในเมื่อพศินรักหล่อนมากขนาดนั้น ตาคมอ่อนแสงลงความเจ็บปวดอยู่ในตาคู่นั้นมันฉายชัดอย่างไม่คิดจะปิดบัง

   “กูมันโง่ ใครๆ ก็รู้ว่าแพรวตั้งใจจะหลอกเอาไร่กูตั้งแต่แรกแล้ว แม้แต่ไอ้ภูมิมันก็ดูออก กูเองก็รู้แต่กูคิดว่าอยู่ด้วยกันแล้วอะไรที่เป็นของกูก็จะแบ่งให้ แต่แพรวอยากให้กูขายแล้วไปอยู่ที่อื่น กูรักไร่ของกู ไร่ที่พ่อทำไว้ให้กู กูจะขายมันได้ยังไง”

    ปลายเสียงสั่นไหวและแหบพร่า วินาทีนั้นพศินคงเจ็บปวดมากที่ต้องเลือกระหว่างสิ่งที่รักและคนรัก เขายกมือในตอนนี้คงเทียบไม่ได้กับที่พศินเจอมา

   “แล้วนาย...ทำยังไง”

   “กูก็โดนทิ้งไง” คนตัวใหญ่ยิ้มขมขื่น “มะรุม กูมีเรื่องจะสารภาพกับมึง มึงจะเลิกชอบกูก็ได้ แต่มึงอย่างเกลียดกู มึงสัญญากับกูก่อนได้ไหม ถ้ากูบอกมึงแล้วมึงจะไม่เกลียดกู”

   “อะ..ไรเหรอ” ใจเขาหายพิกลไม่อยากได้ยินคำสารภาพนั่นเลย

   “กูยังลืมแพรวไม่ได้ กูอยากจะให้มึงช่วยกู...ช่วยกูนะมะรุมทำยังไงก็ได้ให้กูลืมผู้หญิงคนนั้นที”

………………………..

มาม่าไม่มากเท่าไร เพราะกลัวท้องอืดกัน เอิ๊ก   ๆ
ตอนหน้าเร้าใจมากค่ะ nc เลือดพุ่ง (แต่งไปกำเดาไหลไป) :jul1:
ไอ้เสือมันไม่โง่เท่าไรหรอกว่าไหม (เรื่องของเรื่องมีคนขู่ไว้ว่าถ้าไอ้เสือกลับไปหาปารินแล้วจะเลิกอ่านนิยายเรา คุณพระ! นี่มันข่มขู่กันชัดๆ ฮ่าๆๆ) ที่จริงแล้วก็ตั้งใจให้เป็นแนวนี้ค่ะแต่งไปอัพไปมันสดม๊ากมาก (แต่งไม่ทันเพราะต้องแต่งนิยายปกติด้วยจ้า) ขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ บางคนเมนท์ยาวเหมือนเรื่องสั้นเลย ขอบคุณมากนะคะ
ป.ล.ตุ๊กตาพอร์ซเลน คือตุ๊กตาที่กระพริบตาได้ค่ะ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
ถึงแม้จะไม่ได้อ่านตั้งแต่ต้นแต่อ่านตอนนี้น้ำตาซึมพอๆกับหมอมะรุมเลย!  :mew6:
รออ่านตอนหน้าที่ได้รับการประกันจากคนเขียนว่าต้องพึ่งสภากาชาดค่ะ >_<

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อค่ะ
 :z1:  รอเธอ เอิ้กๆๆ   :katai1:

ออฟไลน์ bloodั

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
กรี้ดๆๆจะรอตอนหน้านะคร่าาาา :hao6:

ออฟไลน์ pixie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พี่เสืออ! นายไม่ได้โง่(เท่าไหร่)นี่ ลืมปารินเร็วๆนะ สงสารหมอมะรุม  :monkeysad:

ปล.คำผิด.  ศิวิไล แบบนี้น่าจะดีกว่านะคะ :)

ออฟไลน์ momomo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ผู้หญิงแบบนั้นรีบลืมเร็วๆเลย หมอมะรุมน่ารักกว่าเยอะะะะ

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย นึกว่าจะได้กินมาม่าชามโตแล้ว

#ดับไฟ โยนมาม่าทิ้ง คว่ำหม้อ



ดีใจที่พี่เสือคิดได้ และดีใจที่พี่เสือคิดได้เพราะหมอใคร เพราะหมอตัวเล็กๆคนนี้ใช่ไหม ฉะนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลยที่หมอมะรุมจะทำให้พี่ผ่านอดีตที่เจ็บปวดได้ คนเรายังไงก็ไม่มีทางลืมได้ แต่เราทำยังไงที่เราจะเก็บมันไว้เป็นบทเรียนแล้วไม่ทำมันผิดพลาดซ้ำอีกต่างหาก

รอฉันรอตอนหน้าาาาา แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย   :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ ROCKLOBSTER

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-4
ขู่ไปงั้นแหละค่ะ แค่เห็นเปลี่ยนหัวเรื่อง คลิกเข้ามาแทบไม่ทัน กร๊ากกก

ออฟไลน์ Palmpalm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
เสือไม่ได้โง่น่ะ แค่ลืมไม่ได้

ออฟไลน์ aukuzt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ให้อภัยกับพี่เสือที่เป็นคนตรงไปตรงมา ปากตรงกับใจ น้องมะรุมไม่ต้องไปแคร์ผู้หญิงคนนั้นหรอก เค้ามาหลอกพี่เสือ มะรุมต้องเข้มแข็งนะ

อยากอ่านต่อไปแล้วอ่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-11-2013 21:12:34 โดย aukuzt »

ออฟไลน์ milkshake✰

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ค่ะ มาเถอะค่ะคนแต่ง เราพร้อมแล้วค่ะ
จะร้อนแรงกี่ร้อยดีกรีก็จัดมาเลย
มิกเซอร์พร้อม น้ำแข็งพร้อม ฮิฮิ
 :z1: :z1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ~l3aml3ery~

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0
เค้ายังไม่มั่นใจในตัวพี่เสือเลยอ่ะ เค้ายังไม่อยากยกหมอมะรุมให้เลย :z3:
ตอนหน้าจะบะละฮึ้มกันแล้วเหรอ :hao6:
แต่ยังไงก็เตรียมผ้าเช็ดหน้า :laugh:


คนเขียน เขียนฉากโรแมนติกได้กินใจสุดๆอ่ะ
รู้สึกถึงความคิดถึงของพี่เสือกะหมอมะรุมเลย o13


ปล.นั่งรออีก ๗ วัน :amen:


+๑
+เป็ด
 o13


ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
ทำไม????? ต้องใช้ร่างกายของมะรุมด้วย????? ดพื่อที่จะลืมอีผู้หญิงนั้นคนเดียว ถึงกับต้องทำขนาดนี้เลย  สงสารมะรุมอ่ะ ที่เป็นเครื่องมือแบบนี้  มันไม่ได้เกิดจากความรัก  รับไม่ได้  เกลียดไอ่เสืออออออเกลียดอิปาริผู้หญิงเห็นแต่ได้  ทำไมต้องทำแบบนี้!!!!!!   ถ้าเสือแม่งยังโง่แล้วกลับไปหาอิผู้หญิงนั้นจริงๆ นี่เลิกอ่านจริงๆ  แต่มาถึงตอนจบนี้ช็อคค่ะช็อค  อิเสือยังลืมไม่ได้  ขอให้มะรุมช่วยด้วยร่างกายยยยยย!!!!! อิชั้นรับไม่ได้อยางเเรงเลย  กรี๊ดดดดดดด   :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ เด็กหญิง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ไอพี่เสือฉลาดแล้วววววววววววววววววววว  :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ ~มือวางอันดับ1~

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
 :heaven ปูเสื่อ รอฟิน ตอนหน้าดีกว่า 1+

m_pop91

  • บุคคลทั่วไป
ดีใจที่อิพี่เสือมันมีสติไม่ได้หน้ามืดตามัวให้อิเมียเก่าจูงจมูก
มะรุมหนูก็ต้องเข้มแข็งไว้นะลูก

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
เออ.....พี่เสือก็ไม่ได้โง่นี่นา
ปล.รอตอนหน้าอย่างใจจดใจจ่อ 5555

ออฟไลน์ My_yunho

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
 :-[อยากอ่านตอนหน้าาาาาา

ออฟไลน์ KilGharRah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +169/-0
พี่เสือออกแนวเห็นแก่ตัวเล็กๆนะ ไปลืมเค้าให้ได้ก่อนดีกว่ามั้ย
สงสารหมอมะรุม เดี๋ยวหมอก็เสียใจอีก  :ling1:

ออฟไลน์ soul love

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
ก็ยังดีที่เลือกมาคุยกันตรงๆ ดีกว่าปล่อยให้อีกฝ่ายเข้าใจไปต่างๆ นานา
แล้วก็ไม่อธิบายอะไรกัน คิดว่าอีกฝ่ายเขาเข้าใจ

แต่บอกตามตรงว่า ถ้านายเสือยังเคลียร์ตัวเองไม่จบ
ยังไม่อยากให้หมอให้อะไรไปมากกว่านี้

รอดามใจอาออยดีกว่า!!!!

ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
มะรุมช่วยด้วยความรัก   :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด