ผู้เป็นอาสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อชายเสื้อโดนดึง อาณกรฝืนยิ้มให้หลายชายทำทีเป็นสนใจเจ้าลูกบอลแก้วที่มีครอบครัวของเจ้าหมีตัวอ้วนสีเหลืออยู่ในนั้นทั้งที่หัวใจนั้นหล่นไปที่อยู่ที่ปลายเท้าแล้วเรียบร้อย
“นะ น่ารักครับ”
“นี่ๆ อันนี้พิกเล็ต อันนี้พ่อเสือ อันนี้อาออยแล้วก็อันนี้พี่มะรุม” นิ้วป้อมๆ ชี้ไปที่เจ้าตุ๊กตาหมูสีชมพู เสือสีส้ม ลาสีฟ้าและหมีตัวเหลืองตามลำดับ เขาดีใจที่พิกเล็ตให้เป็นหนึ่งในคนสำคัญ แต่หัวใจมันปวดร้าวเมื่อมีอีกคนเข้ามาด้วย มีของขวัญที่น่ารักอย่างนี้ของที่เขาเตรียมไว้มันคงไร้ความหมายคงต้องเก็บเอาไว้ในที่เดิม ไม่ต่างกันกับเขาที่สมควรต้องอยู่ในที่ๆ ของตัวเอง
“ออยพาพิกเล็ตลงไปก่อนนะ เดี๋ยวพี่ตามไป” เจ้าของห้องตะโกนอยู่เบื้องหลังเจ้าตัวเล็ก
เขาทำได้แค่พยักหน้าเท่านั้นก่อนจะประคองเด็กชายให้เดินไปกับตัวเอง ต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดในการห้ามน้ำตาไม่ให้มันไหลลงมา พร้อมกันนั้นก็ต้องบังคับสายตาไม่ให้หันกลับไปมองทั้งคู่ ชายหนุ่มผู้อาภัพกลืนก้อนความเสียใจอย่างยากลำบาก มันไม่ใช่ความอิจฉาแต่ก็ไม่อาจฝืนใจยินดีได้ ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะเมื่อไรเขาคงไม่อาจเปลี่ยนสถานะของตัวเองได้จริงๆ
“น่าเสียดายจังเลยเนอะ เมื่อคืนหนูเลยไม่ได้กินวุ้นเลย”
“ไม่เป็นไรครับ วุ้นยังอยู่ในตู้เย็นอาให้พี่เมี่ยงเก็บไว้แล้ว วันนี้ค่อยกินก็ได้”
“แต่หนูอยากกินเค้กมากกว่า พ่อเสือเมื่อไรจะหายนะหนูจะได้กินเค้ก”
อาณกรยิ้มบางๆ ให้หลานชายอยากจะบอกเหลือเกินมีคุณหมออยู่ข้างตัวมิหนำซ้ำความสัมพันธ์ยังมากกว่าหมอกับคนไข้แล้วด้วย อาการของพ่อเสือคงดีวันดีคืนแน่ แต่เขาทำได้แค่ลูบหัวทุยๆ ของพิกเล็ตเท่านั้น
มีเสียงพูดคุยเบาๆ ดังมาจากในห้องโถง คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันน้อยๆ นึกสงสัยว่าเป็นเสียงของใครกัน ทว่าประโยคที่ได้ยินถัดมาทำให้นึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนนี้เขาได้มีแขกคนพิเศษอีกคน เพราะมัวแต่เสียใจจนลืมคิมหันต์ไปเลย
“ผมเป็นหมอน่ะครับ เป็นลูกน้องของท่านผู้อำนวยการ”
ปลายเท้าเล็กหมุนเข้าสู่ตัวห้องโถง ตาหวานปะทะกับเจ้าของร่างที่เพิ่งจะนึกได้ว่าพิกเล็ตบริจาคห้องให้นอนไป แต่เขาไม่ได้อยู่ตามลำพังยังมีผู้หญิงอีกคนด้วย หัวใจเขากระตุกวูบ แผ่นหลังของผู้หญิงคนนั้นคุ้นตาเหลือเกินแม้จะไม่ได้เห็นมาเป็นปีแต่เขาก็จำไม่ได้เคยลืม มือเรียวกุมกระชับมือน้อยแน่นกว่าเดิมและคิดว่าพิกเล็ตคงจะรู้แล้วเหมือนกันว่าผู้หญิงที่นั่งหันหลังให้อยู่นั้นเป็นใคร
“อาออยฮะ นั่น..”
“อารู้” เขากระซิบกับหลานชาย รั้งร่างเล็กมาชิดลำตัวมากขึ้นสัญชาติญาณบางอย่างบอกกับเขาว่าการกลับมาครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องดีแน่
“แล้วเขาไปไหนกันหมดล่ะคะ ฉันมาตั้งพักใหญ่แล้วยังไม่เห็นใครเลยนอกจากคุณ”
พิกเล็ตขยับตัวเข้าชิดเขามากขึ้น น้ำเสียงที่ใช้และลักษณะการพูดจาไม่ต่างจากเมื่อก่อนเลยสักนิด ท่าทางที่เขาไม่เคยทำใจให้ชอบได้เลยสักครั้งแม้ว่าหล่อนจะเป็นคนที่พี่ชายของเขารักมากที่สุดก็ตาม พิกเล็ตเองก็เหมือนกันแต่ไหนแต่ไรเด็กชายไม่ค่อยสนิทกับมารดาเท่าไรนักและมักจะตกใจกลัวเมื่อได้ยินเสียงตวาด ปารินไม่ค่อยได้ทำหน้าที่แม่เท่าไรนัก ส่วนใหญ่จะเป็นเขา เมี่ยงและน้ากลอยที่ช่วยกันดูแลพิกเล็ต เจ้าตัวน้อยติดเขาแจตั้งแต่จำความได้โดยแทบจะไม่เรียกหาแม่ด้วยซ้ำ เขาไม่ได้ใส่ร้ายคนรักของพศินแต่หล่อนเป็นเช่นนั้นจริงๆ
เวลานี้ไม่คงยังไม่เหมาะที่จะเผชิญหน้ากันเท่าไร ลำพังตัวเขาเองไม่มีปัญหาอะไรเพราะอย่างไรเสียหล่อนก็เป็นแม่ของพิกเล็ตเป็นเมียของคนที่เขารัก หากคนทั้งคู่ยอมให้อภัยเขาก็พร้อมจะปฏิบัติตัวเหมือนเดิม แต่กับพิกเล็ตเขาไม่แน่ใจตั้งแต่โดนทิ้งไปเจ้าตัวไม่เคยเรียกร้องหาแม่เขาไม่รู้ว่าพิกเล็ตรู้นึกอย่างไรกันแน่แต่คงยังไม่พร้อมจะเจอหน้าในตอนนี้ เขากำลังจะพาพิกเล็ตเลี่ยงทางอื่น ทว่ายังช้าไปสำหรับสายตาของคนที่รออยู่แล้ว
“นั่นไงครับ คุณออยพาพิกเล็ตลงมาพอดี”
สิ้นประโยคจากนายแพทย์หนุ่ม คนที่นั่งหันหลังให้ก็เอี้ยวตัวมาทันที รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความยินดีกระจายอยู่ทั่วใบหน้า เรือนร่างที่ยังคงความสมส่วนเอาไว้อย่างดีไม่เหมือนคนที่มีลูกอายุห้าขวบลุกขึ้นพรวด วิ่งตรงมาหาเด็กชายตัวน้อย
“พิกเล็ต! แม่คิดถึงหนูที่สุดเลยรู้ไหมครับ”
อ้อมแขนของผู้เป็นแม่ดึงร่างของลูกชายเข้าไปไว้แนบอก ก่อนจะประคองใบหน้าที่แทบจะถอดพิมพ์ของตัวเองมาหมดทุกยกเว้นดวงตา ปลายนิ้วเกลี่ยไปบนแก้วนุ่มแล้วกดจมูกหอมแก้มซ้ายแก้มขวาด้วยความคิดถึงที่คล้ายกับออกมาจากใจจริง…แค่คล้ายเท่านั้นสำหรับคนที่เห็นพฤติกรรมมาโดยตลอดมันทำให้ปักใจเชื่อไม่ได้ว่าไอ้ท่าทีที่ทำราวกับทั้งรักและคิดถึงมันคือเรื่องจริง
พอถูกหอมแก้มจนพอใจ ปารินก็อุ้มร่างของลูกชายแล้วพากลับไปที่เดิมโดยไม่สนใจผู้ชายอีกคนที่ยืนอยู่ข้างพิกเล็ตตั้งแต่แรก
อาณกรยืนนิ่งเขาไม่ได้ตกใจหรือแปลกใจกับท่าทางของปารินนัก เพราะที่ผ่านมาหล่อนก็ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนอยู่แล้ว คุยกันจนนับครั้งได้ส่วนใหญ่จะเป็นเขาที่เป็นฝ่ายเลี่ยงไปเอง แต่วันนี้มันไม่เหมือนวันวานเขารับไม่ได้ถ้าหากว่าหล่อนจะมาทำดีกับลูกเพราะหวังอย่างอื่น
ชายหนุ่มก้าวตามสองแม่ลูกไป หย่อนสะโพกลงนั่งเคียงข้างผู้ชายอีกคนโดยที่สายตาจับจ้องอยู่ที่คนที่เขาเกลียดชังมากที่สุด ไม่ใช่เพราะหล่อนมาแย่งพศินไป แต่เพราะหล่อนไม่มีความจริงใจแม้แต่คนที่รักตัวเอง พิกเล็กขยับตัวอย่างอึดอัดบนตักของมารดา แสดงสีหน้าชัดเจนว่าไม่ชอบใจนักกับการแสดงความรักเกินความจำเป็น อาณกรแค่นยิ้มแม้แต่เด็กยังดูออก
“มาทำไม”
ใบหน้าสวยแทบจะหาที่ติดไม่ได้เชิดขึ้น ปลายจมูกแหลมอย่างถือดี “เรื่องของครอบครัว คนอื่นไม่เกี่ยว”
“เหอะ!” อาณกรทำเสียงเย้ยในคอ “ลืมไปหรือว่าเธอทิ้งครอบครัวนี้ไปแล้ว”
ตาเรียวที่ได้รับการจัดแต่งอย่างดีตวัดมองผู้ชายตัวเล็กผู้ที่ถือฐานะน้องชายกิตติมาศักดิ์ของอดีตสามี เธอไม่ชอบหน้าหมอนี่ตั้งแต่ก่อนแต่งงานด้วยซ้ำ ถึงพศินจะแนะนำว่าอาณกรคือรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัย แต่สายตาที่มันใช้มองสามีของเธอมันไม่เหมือนรุ่นพี่รุ่นน้องเลยสักนิด จนกระทั่งตอนนี้เธอก็ยังเชื่อว่าอาณกรไม่เคยคิดว่าพศินเป็นพี่ชาย
“พี่เสืออยู่ไหน” เธอไม่สนใจประโยคที่สวนกลับมา เหมือนอย่างที่เคยทำ เธอไม่สนใจหรอกว่าอาณกรจะคิดอย่างไรกับอดีตสามีของเธอเพราะอย่างไรเสียพศินก็รักเธอแค่คนเดียวเท่านั้น
อาณกรไม่ตอบคำถาม แต่คนอย่างเธอไม่ใช่พวกเลิกล้มความตั้งใจง่ายๆ ไม่เช่นนั้นคงไม่แบกหน้ากลับมาที่นี่อีก มือเรียวโอบรอบเอวของบุตรชายแน่นเพราะเจ้าตัวดีขยุกขยิกไปมาไม่อยู่สุข
“พิกเล็ตพ่อเสืออยู่ไหนครับ บอกแม่หน่อยซิ” พิกเล็ตก้มหน้าเงียบ ไม่ยอมตอบคำถามหญิงสาวเม้มปากแน่นด้วยขัดใจ อาณกรต้องสอนไม่ให้ลูกพูดกับเธอแน่ คิดแล้วก็น่าเจ็บใจนักเพราะไอ้นิสัยไม่รักเด็กของเธอแท้ๆ พิกเล็ตถึงติดอาณกรมากกว่าแม่แท้ๆ อย่างเธอ
แต่ถึงจะไม่ได้เลี้ยงดูกันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเธอก็พอรู้ว่าพิกเล็ตไม่ใช่เด็กดื้อ ซ้ำยังเป็นเด็กหัวอ่อนว่านอนสอนง่ายอีกด้วย เธอยกมือลูบเส้นผมนิ่มเบามือพยายามไม่ลงน้ำหนักมากเกินไปนักทำให้เหมือนกำลังปลอบโยนมากกว่าจะคาดคั้น
“แม่ขอโทษนะที่ทิ้งลูกไป แม่จำเป็นจริงๆ ตอนนี้แม่คิดได้แล้วว่าไม่มีอะไรจำเป็นมากไปกว่าลูกกับพ่อเสือ” ปารินเว้นช่วงนิดหน่อย พลางสูดน้ำมูกเบาๆ “แม่เสียใจที่ตัดสินใจผิดพลาด ลูกจะให้อภัยแม่ได้ไหม พิกเล็ตคนดีของแม่”
เด็กชายวัยเพียงแค่ห้าขวบมิอาจรู้ได้ว่าถ้อยคำที่ฟังดูเหมือนจะกลั่นมาจากก้นบึ้งของหัวใจนั้นมันมิได้มาจากใจจริงแต่อย่างใด เจ้าตัวน้อยยอมเงยหน้าจากมือตัวเองส่งสายตาไปหาผู้เป็นอา แต่เมื่อถูกกระตุ้นอีกครั้งใจก็ไม่อาจทัดทานได้
“แม่อยากคุยกับพ่อ แม่อยากขอโอกาสกลับมา ลูกไม่อยากให้แม่กลับมาอยู่ที่นี่แล้วหรือ”
“หนูจะพาแม่ไปหาพ่อเสือจ้ะ”
ปารินยิ้มกว้างแล้วเบนสายตาไปยังอาณกร เธอใช้สายตาเยาะเย้ยในความสำเร็จที่แสนง่ายดายของตัวเอง ถึงจะไม่สนิทกันเหมือนแม่ลูกคู่อื่นแต่พิกเล็ตก็รักแม่ เธอปล่อยมือจากเอวของลูกชายพอเห็นว่าเดินไปทางบันไดก็เดาออกได้ทันทีว่าอดีตสามีคงจะยังอยู่ชั้นบน หญิงสาวไม่รอให้เสียเวลารีบสาวเท้าตามบุตรชายไป ทว่ายังไม่ทันจะได้ก้าวขึ้นบันได้ขั้นแรกคนที่เธอต้องการจะพบมากที่สุดก็ปรากฏตัวขึ้น แต่เขาไม่ได้อยู่ตามลำพังข้างกายกันนั้นยังมีผู้ชายอีกคนที่เธอไม่รู้จักอีกด้วย
“แพรว!”
เหมือนท้องฟ้าถล่มลงตรงหน้า ตาคมจับจ้องไปยังร่างอรชรของผู้หญิงที่เขาเคยเฝ้าปรารถนาให้เธอกลับมาแทบจะทุกครั้งที่หายใจ ดวงหน้าสวยหวานที่ติดตรึงในดวงจิตตั้งแต่ครั้งแรกที่สบตายังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ตาเรียวสวยช้อนมองเขาอ่อนเชื่อมชวนให้รำลึกถึงอดีตที่มีร่วมกัน ความคิดถึงมันเอ่อล้นในอกจนพูดไม่ออกหรือแม้แต่จะหายใจยังอึดอัด เธอกลับมาแล้ว ปารินกลับมาหาเขาแล้ว หรือว่ามันเป็นเพียงแค่ฝันไป ที่เห็นตรงหน้าเป็นแค่ภาพมายาที่เขาชอบสร้างไว้หลอกตัวเองเท่านั้น ชายหนุ่มหลับตาลงแล้วเปิดขึ้นแต่ใบหน้าสวยงามน่ารักของปารินก็ยังอยู่ที่เดิม
“พี่เสือ”
เขาไม่ต้องเป็นฝ่ายเข้าไปพิสูจน์ว่าสิ่งที่เห็นมันคือความจริงหรือแค่มโนภาพที่สร้างขึ้นเอง ปารินโผเข้ากอดเขาไออุ่นจากกายและกลิ่นหอมหวานที่เขารักเหลือเกินรายล้อมรอบกาย ใบหน้าที่ถ่ายทอดไปถึงบุตรชายซุกซบบนอกกระชับมือที่โอบรอบเอวแน่นขึ้นเพื่อตอกย้ำว่าที่อยู่ตรงนี้คือปารินเมียเขาจริงๆ
“พะ แพรว กลับมาแล้วหรือ?” เขาถามเสียงแผ่ว ไม่ได้ดังไปกว่าการกระซิบกล่องเสียงของเขามันกลั่นออกมาได้เท่านี้จริงๆ
“กลับมาแล้วจ้ะพี่เสือแพรวกลับมาแล้ว ขอโทษนะจ๊ะที่แพรวทำตัวไม่ดีทิ้งลูกทิ้งผัวไป”
วงแขนใหญ่เกือบจะยกขึ้นโอบกอดตอบ ทว่ามันติดตรงที่เขายังกุมมือใครบางคนอยู่ คนที่เขาเพิ่งจะบอกว่าชอบไปเมื่อคืนนี้เอง
“ฉันขอตัวก่อนนะ”
……………………..
โฮะๆ ดราม่าวันลอยกระทง แบบว่าคนแต่งไม่มีคู่ไปลอยด้วยก็เลยอิจฉา (ใคร?) จัดดราม่ามันซะเลย (เพราะมันหวานกันมาหลายตอนแล้ว) ตอนหน้าเข้มข้นกว่านี้อีกนะคะ เตรียมท้องอืดกันได้เลย ป.ล.ลืมบอกไปเรื่องนี้จะได้ตีพิมพ์นะคะ ดีใจฝุดๆ ไปเลย
ป.ล. มีนักอ่านที่น่ารักท้วงติงเรื่องตัวละคร ว่า...
1. ตกลงว่าเมียเก่าไอ้เสือชื่อ "ริน" หรือ "แพรว" กันแน่ สรุปว่าชื่อ "แพรว" นะคะ (ถึงนางจะชื่อจริงว่าปารินก็เถอะ)
2. ออยจะเป็นอาหรือว่าน้ากันแน่ (นั่นซิแกนี่มึนจริงๆ) เป็นอานะคะ ตอนหลังๆ อาหมดเลยเนอะ
3. ชื่อพิกเล็ต ตอนแรกก็ิพิมพ์ฺว่าพิกเล็ตนั่นแหล่ะแต่ดันไปเสิร์ชในเน็ตแล้วเจอ "พิกเร็ต" ก็เลยสับสน หลังๆ ตัดสินใจเปลี่ยนเป็น "พิกเล็ต" เหมือนเดิม
สรุปว่าทั้งหมดมันเปลี่ยนหมดแล้วที่ไฟล์เวิร์ด แต่อิฉันดันไม่ได้มาแก้ในบอร์ด ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้สับสน แล้วจะหาเวลามาลงให้ใหม่นะคะ ขอบคุณมากๆ เลยที่ช่วยกันเตือนกัน