รักSMของหนุ่มดอกไม้ ตอนที่ 59 (จบ) p.12 (26/04/2558)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักSMของหนุ่มดอกไม้ ตอนที่ 59 (จบ) p.12 (26/04/2558)  (อ่าน 135997 ครั้ง)

sunshinesunrise

  • บุคคลทั่วไป
55555555 เดียร์โคตรตลกอ่ะ มาแปลกตลอดๆ และโดนขัดตลอดๆ 55555

ออฟไลน์ hello_lovestory

  • >>I'm C-Z@<<
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
น่าสงสารนะเดียร์แผนการไม่สำเร็จซักที  :ling3:

ออฟไลน์ musddmp

  • อิอิ คริคริ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
ลงทันกับที่ลงในเด็กดีแล้ว ขอขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่ติดตามกันมาถึงตอนล่าสุดนี้ :sad4: หลังจากนี้จะลงช้าลงนะงับ ขอบคุณงับ  :o8:

รักSMของหนุ่มดอกไม้ โดย Zore

ตอนที่ 9

“เอาน้องฉันคืนมาเดี๋ยวนี้นะ ไอ้สมองหมาปัญญาควาย ไปตายซะ!!” เสียงทุ้มดังลั่นแบบไม่เกรงใจหรือเกรงสายตาใครๆที่มองมา แต่แน่นอนว่าคนผ่านไปผ่านมาก็ไม่ค่อยจะกล้ามองสักเท่าไหร่ เพราะกลัวจะกลายเป็นเป้าหมายแรงโกรธนั่นแทนใครมันจะไปกล้าจ้องคนร่างหนาสูงตั้งร้อยแปดสิบหกที่กำลังอารมณ์แรงกันบ้างล่ะ“ถ้ายังไม่ออกมา ฉันจะพังประตูเข้าไปนะโว้ย!”

“ใจเย็นๆก่อนสิครับ” เนื่องจากไม่อยากไปประกันตัวเจ้านายให้เสียเวลามากไปกว่านี้ ชาจึงพยายามปราบด้วยน้ำเสียงและท่าทางเรียบนิ่งเท่าที่จะทำได้...แค่กับดรก็เสียเวลาเกินพอแล้ว “เรายังไม่รู้สักหน่อยว่าคุณเดียร์อยู่ที่นี่จริงๆหรือเปล่า ถ้าผลีผลามทำอะไรละก็…”

“ต้องอยู่สิครับ”

นั่นไม่ใช่เสียงของวิน แต่เป็นเสียงของชายรุ่นเดียวกับชาที่ยืนอยู่อีกฝั่งของวินความจริงเขาค่อนข้างตัวสูง เพียงแต่พอยืนอยู่กับวินและชา จึงดูตัวเล็กไปถนัดตา

“ผมไปสืบจนมั่นใจว่าคุณเดียร์เขาอยู่ที่นี่แน่นอน ไม่อย่างนั้น ผมไม่บอกคุณวินหรอกครับ”

ชามองธานินทร์…หรือนินผู้มีใบหน้าที่แลดูเจ้าเล่ห์มีเลศนัยเหมือนกับสันดานข้างในไม่ผิดเพี้ยน เขาก็ลอบถอนใจอย่างเหนื่อยหน่ายกับท่าทีประจบประแจงที่เห็นแล้วชวนให้อยากนำบาทาไปลูบไล้ใบหน้าเป็นยิ่งนัก ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาหงุดหงิดเรื่องนี้ เขาก็อาจจะทำไปแล้ว

“โฮ่ ไม่ทราบว่ารู้ได้อย่างไรหรือครับ ช่วยบอกที่มาของแหล่งข่าวคุณให้ผมทราบหน่อยสิ เผื่อวันหน้าถ้าคุณยุ่งหรือไม่ว่าง ผมจะได้ทำแทนให้”

และชาก็ได้รับรอยยิ้มหน้าเป็นของอีกฝ่าย ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่เห็นทีไร ขันติในใจมันลดลงทุกครา

“ไม่ได้หรอกครับ มันเป็นความลับ ถ้าบอก เดี๋ยวมีปัญหา แต่แหล่งข่าวผมเชื่อได้แน่นอนอยู่แล้ววางใจเถอะครับ”

แหล่งข่าวที่บอกที่มาไม่ได้ มันน่าเชื่อถือตรงไหนวะแบบนี้ฉันก็บอกได้เหมือนกัน ว่าฉันรู้ข้อมูลจากแหล่งข่าวอันน่าเชื่อถือที่ไม่สามารถบอกแกได้ ว่าแกมันชั่วช้าคิดจะหาทางยึดอำนาจและกิจการทั้งหมดของคุณวิน ได้เหมือนกัน และเชื่อถือได้ร้อยเปอร์เซ็น ถึงจะบอกที่มาไม่ได้เหมือนกันก็เถอะ

แต่ถึงไม่บอกเขาก็พอจะรู้ ก็คงแหล่งเดียวกับของเขานั่นละแต่ต่อให้รู้ ชาก็ไม่คิดจะบอกวินนักหรอก เพราะขืนวินรู้ว่าสิทธิ์อยู่กับเดียร์จริง…บวกกับข้อมูลที่ฟังแล้วไม่อยากจะเชื่อหูนั่น รับรองว่าได้ก่อสงครามเป็นแน่แท้ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาอยากให้เกิด เพราะนอกจากจะไม่เกิดประโยชน์อันใดแล้ว ยังจะมีไฮยีน่าที่รอโอกาสตะปบอยู่ด้านหลังด้วย

“เฮ้ย หมาขี้เรื้อนที่ไหนมาเห่าหน้าบ้านวะ เดี๋ยวเรียกเทศบาลมาจับเลย”

จากที่กำลังมองลูกน้องด้วยความสนใจใคร่รู้กับแหล่งข่าว ก็หันขวับกลับไปยังหน้าบ้านด้วยสีหน้าเหมือนร็อตไวเลอร์พร้อมขย้ำเหยื่อทันที

“มาแล้วเรอะ ไอ้โรคจิตวิปริตชอบลักพาตัวน้องชาวบ้าน เอาเดียร์คืนมาให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ” มาถึงก็ทวงของที่ไม่รู้แน่ว่าอีกฝ่ายมีอยู่หรือไม่ทันที

“ใครเขาลักพาตัวน้องแกมาวะ เมายาหรือไงไอ้แว่นติดน้อง” สิทธิ์สวนกลับเสียงเนิบ แต่อาการเหมือนพร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ จนนางที่ตามหลังมารู้สึกหวาดหวั่นว่าเจ้านายจะลงไม้ลงมือกับอีกฝ่าย “ไปๆได้แล้ว อย่าให้ฉันต้องเรียกตำรวจมาจับแกข้อหาพยายามบุกรุก”

“เฮอะ เอาเลยสิวะ ฉันจะได้แจ้งข้อหาลักพาตัวเดียร์ด้วยเลย” วินว้ากลั่นจนธานินทร์เขยิบหนีเพราะกลัวแก้วหูแตก ในขณะที่ชากลับยืนนิ่งเหมือนเสียงแปดหลอดนั่นไม่มีผลกับตน

ในขณะที่ด้านนอกทะเลาะกันอย่างเอาเป็นเอาตายแบบไม่อายฟ้าดิน ต้นเหตุที่นอนรออยู่บนเตียงก็ทำแค่เพียงนอนนิ่งไม่ขยับไปไหน เขาเหนื่อยหน่ายและท้อแท้กับเจ้าพี่ชายแสนรักนี่ ที่คอยตามช่วยตามเอาใจเสียจนแผนที่วางไว้กำลังจะล่มไม่เป็นท่า

“ให้ตายสิ”

เดียร์ลุกขึ้นแล้วปลดกุญแจมือออก…ซึ่งอันที่จริงเขาก็ไม่ได้กดล็อกไว้อยู่แล้ว…แต่ถึงจะกดไปจริงๆ เขาก็ยังกำกุญแจไว้ที่มืออยู่…เด็กหนุ่มลอบมองจากหน้าต่าง ท่าทางของพี่ชายเดือดดาลอย่างเป็นปรกติ ส่วนพ่อหมียักษ์เองก็เริ่มออกอาการคันไม้คันมือเข้าทุกที นั่นทำให้เดียร์รู้สึกใจเต้นรัว

อ๊า อยากเข้าไปยืนอยู่ตรงกลางนั่นจังเลย คงจะได้รับแรงกดดันจนอึดอัดแทบหายใจไม่ออกเป็นแน่แถมยังได้ลุ้นระทึกว่าใครจะเป็นฝ่ายออกหมัดมาหาก่อนด้วย…อ๊า…

เดียร์รีบสะบัดความคิดฟุ้งซ่านแสนหวาน(สำหรับตัวเองเพียงผู้เดียว)เอาไว้ แล้วเริ่มคิดหาทางทำอย่างไร ไม่ให้เรื่องจบโดยวินพาตัวเขากลับบ้าน

โผล่หน้าไปตอนนี้…คงโดนลากกลับแบบไม่ต้องพูดอะไรกันพอดี…แต่ถ้ารออยู่ในห้องนี้ แล้วตาพี่บ้าพลังนั่นบุกมาเห็น ก็จบกันพอดี…เจอสามรุมหนึ่ง ต่อให้คุณสิทธิ์เก่งยังไงก็คงไม่ไหวหรอกมั้ง…

“ผมว่า เราบุกเข้าไปเลยดีกว่าครับ อย่าให้คุณเดียร์ต้องรอนานเลย” ธานินทร์ออกความเห็นกระตุ้น เมื่อหัวหน้าไม่ยอมขยับสักที เขาจึงออกหน้าก่อนหวังเก็บโกยคะแนนแล้วเดินเข้าไปทางหญิงวัยกลางคน “ถ้าขวาง อย่าหาว่าผมใจร้ายละกัน”

พลั่ก

เดียร์เบิกตากว้างมองอย่างไม่อยากจะเชื่อนัก ก็ภาพชายวัยฉกรรจ์โดนคุณป้าจับทุ่มจนหงายหลังมันไม่ได้เห็นกันง่ายๆนี่…ท่าทางจะไม่ใช่สามต่อหนึ่ง แต่เป็นสามต่อสองสินะ…แต่ป้านางทุ่มได้แรงดีจริงๆ เห็นแล้วอยากโดนทุ่มมั่งจัง…ไม่ใช่สิ นี่ไม่ใช่เวลามานั่งดูสักหน่อย โทรศัพท์ๆ…ว้าเว้ย วางไว้อยู่บนโต๊ะชั้นล่างนี่หว่า

“ขอโทษนะคะ แต่ป้าคงให้พวกเธอบุกเข้ามาในบ้านไม่ได้หรอก เห็นใจป้าที่ต้องทำความสะอาดหลังจากพวกเธอมีเรื่องกันหน่อยเถอะ” คุณป้าร่างท้วมผู้มีใบหน้าโอบอ้อมพูดด้วยน้ำเสียงหวานราวกับต้องการความเห็นใจ…แต่ไม่รู้ทำไมเหล่าหนุ่มๆถึงได้รู้สึกเหมือนกำลังโดนขู่มากกว่า

ชาเกือบกลั้นยิ้มไม่ทันตอนเห็นธานินทร์ลงไปนอนหงายเงิบทำหน้าเอ๋ออยู่บนพื้น ไม่ติดว่าตอนนี้วินกับสิทธิ์กำลังเครียด เขาคงหัวเราะให้ดังลั่นโลกไปแล้ว

ธานินทร์รีบยันกายและกระเสือกกระสนกลับมาหาวินอย่างไม่เป็นท่า ความมั่นใจเต็มเปี่ยมเมื่อครู่ปลิวหายวับ แต่กระนั้นก็ยังสามารถเรียกคืนกลับมาได้อย่างรวดเร็ว…แม้จะไม่ทันหมดก็ตาม

“ผมไม่ได้จะมามีเรื่อง แค่จะเอาตัวน้องผมกลับ” วินบอกด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่นิ่งและดูมีมารยาทมากกว่าตอนที่คุยกับสิทธิ์โข “เดียร์อยู่ในบ้านใช่ไหมครับ ป้านาง”

นับว่าเล่นได้ถูกคนมาก แทนที่จะไปถามไอ้คนที่ไม่มีวันตอบดีๆ สู้ถามคนที่คุยกันรู้เรื่องดีกว่าเยอะ

“เฮ้ย นี่บ้านฉัน ก็คุยกับฉันสิวะ” สิทธิ์รีบสไลด์บังป้านางเหมือนกลัวเธอจะหลุดพิรุธออกมา “ไม่อยู่ ไม่มี และไม่ให้เข้าโว้ย”

นางอยากจะสอดปากเหลือเกิน ว่าตอบแบบนั้นน่ะ ใครที่ไหนเขาจะพยักหน้าแล้วเดินกลับกันเล่า

“ไอ้หอยดอง คิดว่าฉันโง่หรือไง ถ้าไม่อยากให้ฉันเข้าไป ก็เอาตัวเดียร์ออกมาเดี๋ยวนี้นะ”

“ไม่ให้เข้าว้อย ถ้าขืนก้าวเข้ามา ป้านางจับนายทุ่มแน่!”

ขู่แบบนี้ได้ผลกว่าเรื่องจะโทรหาตำรวจเป็นกอง

“ป้าไม่ทุ่มหรอกค่ะแต่ป้าจะโกรธมาก”

เมื่อกี้ตอนที่ทุ่มคือไม่ได้โกรธ แล้วถ้าโกรธ ป้ามิฆ่าเลยเหรอครับ

หนุ่มทั้งสามต่างพากันเห็นพ้องต้องกันแม้จะอยู่คนละฝ่ายก็ตาม

ทั้งคู่เถียงกันราวสิบนาทีกว่า ก่อนที่เสียงโทรศัพท์ของวินจะขัดจังหวะสงครามน้ำลายแตกฟองแบบไม่อายสายตาชาวบ้านนี่ ทั้งคู่หยุดปากกันทันควันอย่างมีมารยาทแบบผิดที่ผิดทาง ก่อนที่วินจะหน้าซีดเมื่อเห็นเบอร์ที่โทรมา

“…หวัดดีครับแม่…” เอ่ยทักไม่ทันจบประโยคก็ต้องยกโทรศัพท์ออกจากหูอย่างรวดเร็วเพราะเจอคลื่นเสียงความถี่สูงโจมตีจนหูเกือบหนวก

“ยังจะมาหวัดดงหวัดดีอีกเรอะ ไอ้ลูกบ้า!!” ขนาดสิทธิ์ซึ่งยืนห่างกว่าสองเมตรยังได้ยินเสียงมาริสาอย่างชัดแจ๋วแบบไม่ต้องเปิดเป็นลำโพง “นี่แกว่างมากนักหรือไง งานการไม่รู้จักทำ ถึงได้ไปตามไอ้เด็กนั่นถึงกระบี่น่ะ!หา!!!”

“เดี๋ยวสิ แม่รู้ได้ไงว่าผม…”

“นี่แกเปลี่ยนเรื่องเหรอ นี่แกหาเรื่องเมินที่ฉันเรียกตัวแกกลับใช่มั้ย!!กลับมาที่นี่เดี๋ยวนี้นะ ไม่อย่างนั้นฉันจะบินไปจิกหัวแกเดี๋ยวนี้เลย เข้าใจมั้ย ตอบฉันเดี๋ยวนี้!! ตอบสิ ตอบ!!!”

ถ้าพระคุณแม่จะรัวเร็วขนาดนี้ แล้วจะให้กระผมแทรกตรงไหนดีละครับ…

“ครับๆๆๆ เข้าใจแล้วครับ ผมจะกลับเดี๋ยวนี้” วินรีบตอบก่อนจะวางหูอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าตื่นตระหนกราวกับเพิ่งรับโทรศัพท์จากฆาตกรโรคจิตมาหมาดๆหนุ่มแว่นเหลือกตาจ้องคู่แค้น และยังไม่ทันจะเปิดปากพูด เสียงโทรศัพท์จากมารดาอันเป็นที่รักยิ่งก็ดังขึ้นอีก นั่นเป็นคำเตือนว่า ‘ไม่รับมีเรื่อง และถ้ารับแล้วรู้ว่ายังไม่ทำตามที่สั่ง มีเรื่องหนักกว่าเดิม’วินจึงได้แต่เดินออกจากบ้านของสิทธิ์อย่างจำยอม แต่แน่นอนว่าเขาไม่คิดจะเดินลิ่วออกไปเฉยๆหรอก “ไอ้หมาสิทธิ์ ไอ้พารามีเซียม มันไม่จบแค่นี้แน่”

“หนอย ว่าไงนะ ไอ้แว่นตาเหล่ อยากมาก็มาเลยสิวะ ฉันไม่กลัวไอ้ตาเขอย่างแกหรอก ไอ้@3@#i1!$”

ต่างคนต่างด่ากันอย่างไม่ลดละเสียจนคนฟังพากันหน่ายกว่าจะหยุดก็ตอนที่วินขึ้นรถและขับออกไปจนลับโน่น

“เฮอะๆเฮอะๆๆๆ” สิทธิ์หัวเราะเสียงสูงจนน่าเกลียด พร้อมกับฉีกยิ้มกว้างอย่างคนมีชัย ก่อนจะเดินอาดๆกลับบ้านไปด้วยความโล่งใจ

“เฮ้อ…”

แต่ก็แค่แว้บเดียวเมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจของหญิงวัยกลางคน ซึ่งเพียงแค่นั้นก็ทำเอาความรู้สึกผิดยิ่งกว่าโดนเทศนาร่ายยาวไปสามบท

“ป้าไม่ได้เดือดร้อนเลยนะคะ กับเรื่องที่คุณสิทธิ์ทำ” ว่าจบก็เดินดุ่ยหายไปในห้องครัวทันที ปล่อยให้ชายหนุ่มได้แต่มองตาปริบๆเพราะไม่รู้จะหาคำโต้ใดๆออกมา

สิทธิ์ยืนไว้อาลัยกับความผิดชอบชั่วดีอยู่สามสิบวินาที ก่อนจะเดินหน้านิ่งไปยังบันไดแต่ยังไม่ทันได้เหยียบขั้นบันไดก็เหลือบไปเห็นเรื่องน่าแปลกที่โต๊ะข้างบันได

มันเอียง

โอเคว่ามันดูธรรมดา แต่ถ้าเอียงจนเกือบจะตั้งฉากกับกำแพงแล้ว ดูอย่างไรก็แปลก…แถมเขาคลับคล้ายคลับคลาว่าบนโต๊ะมีของวางอยู่ ถึงจะจำไม่ได้ว่าเป็นอะไร แต่มั่นใจว่ามีของอยู่บนโต๊ะแน่ๆ แต่ตอนนี้กลับเป็นเพียงโต๊ะว่างๆเท่านั้น

“…สงสัยคงไม่ทันสังเกตเองละมั้ง”

คิดได้ดังนั้นก็รีบขึ้นไปหาลูกแมวตัวน้อยบนห้องทันทีสิทธิ์เกือบจะเผลอยิ้มออกมาอย่างโล่งใจเมื่อเห็นอีกฝ่ายยังอยู่ในสภาพเดิม…

ยกเว้นตำแหน่งของกุญแจมือที่คล้องอยู่กับโครงลวดบนหัวเตียง ทีแรกเขาจำได้ว่ามันอยู่ฝั่งซ้าย แต่ไหงตอนนี้มันย้ายไปทางฝั่งขวาได้ก็ไม่รู้…แล้วที่สำคัญคือ ไอ้จานขนมปังกับเบคอนนี่ละ เขาว่าเขายังไม่ได้ให้เดียร์กินเลย แล้วอาหารมันอันตรธานหายไปได้อย่างไรกันละเนี่ย…ถึงจะเห็นว่ามีเศษเบคอนติดอยู่บนแก้มเดียร์ก็เถอะ…

แต่เมื่อคิดไปก็ไม่ได้อะไร เลยเลิกคิดและหันมาสนใจคนบนเตียงดีกว่า

“อึก”

รอบนี้กระชากเทปออกแบบไม่มีการเห็นใจใดๆทั้งสิ้น ดวงหน้าเรียวที่ชื้นเหงื่อและแดงระเรื่อหันมองชายร่างสูงด้วยใบหน้าที่เหมือนจะคั่งแค้นปนเจ็บใจ จนทำให้คนมองเผลอแสยะยิ้มออกมา

“ไง ไม่ร้องให้พี่ชายมาช่วยเหรอ ร้องตอนนี้ไอ้วินมันอาจจะได้ยินก็ได้นะ” เสียงทุ้มดังนุ่มนวลแต่แฝงความเหี้ยมออกมาแบบไม่ปิดบัง

“คุณมันเลวที่สุด” เด็กหนุ่มพยายามกรีดเสียงออกมาให้ดูคับแค้นเท่าที่จะทำได้ “คุณคิดเหรอว่าถ้าทำแบบนี้แล้วเรื่องมันจะจบง่ายๆ”

ผมรู้ ว่าถ้ายิ่งพยายามเอาเรื่องจนถึงที่สุด มันจะถูกใจคุณมากกว่าให้ผมมาเว้าวอนอ้อนขอความเห็นใจใช่ไหมล่ะ เพราะงั้นมาเล้ย เอาความรุนแรงอาบน้ำผึ้งนั่นมาละเลงให้ทั่วทั้งร่างกายและจิตใจผมได้เลย

“ฉันก็ไม่คิดจะให้เรื่องของเราจบง่ายๆหรอก” สิทธิ์พยายามสะกดจิตตัวเอง ว่าคนตรงหน้านั้นหาได้มีสิ่งแปลกปลอมตรงหว่างขาเหมือนกับตน อย่างน้อยการที่อีกฝ่ายมีหน้าตาหวานสวยมันก็ช่วยให้เขาสะกดจิตตัวเองได้ง่ายขึ้น

“อย่าทำบ้าๆนะไอ้คนโรคจิตวิปริต วิตถาร” เมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มนุ่มนวล เดียร์เลยต้องจุดชนวนระเบิดใหม่ให้

“ปากดีไม่เลิกเลยนะ” ของขึ้นไวแบบไม่ต้องเสียเวลาด่าให้มากความ สิทธิ์บีบแขนเล็กเต็มแรง ทำเอาเด็กหนุ่มเสียวซ่าน…หากแต่ต้องพยายามสะกดกลั้นไม่ให้ใบหน้าแสดงความรื่นเริงออกมาจนหน้าบิดเบี้ยว “ท่าทางก่อนหน้านั้นคงยังโดนไม่สะใจล่ะสิ ได้ ฉันจะจัดหนักให้จนพูดไม่ออกเลย”

“ไม่นะ!” อย่าออมมือนะขอจัดหนัก เอาให้แรงกว่านี้อีกยิ่งดีเล้ย…โอ๊ะ ไม่ได้ๆ ต้องดิ้นเข้าไว้เดี๋ยวมันจะดูน่าสงสัย…อ๊า…แรงบีบที่ต้นแขนมันเจ็บจนร้าวรานเบิกบานใจจังเลย…โอวตอนนี้เราต้องทำหน้าให้ดูเจ็บปวดมากๆสินะ…อูว…มือหนาที่ขย้ำสายเข็มขัดด้วยแรงมหาศาลจนสายหนังบิดผิดรูป แล้วง้างขึ้นไว้หนือหัวนั้น มันช่างชวนให้ตื่นเต้นอะไรอย่างนี้…แรงฟาดที่กระทบลงมาคงจะหนักหน่วงเหมือนค้อนปอนด์เป็นแน่ อ๊า…เอาเลย ตรงนั้นละ…ตรงนั้นเลย

ตี๊ด…..

ทั้งเดียร์และสิทธิ์อยากจะสบถออกมาซักสามนาทีให้หายคับแค้น ทำไมพอเข้าด้ายเข้าเข็มแล้วมันต้องมีเรื่องขัดจังหวะเสียทุกทีสิ

“ครับ มีอะไรหรืออาวัฒณ์” สิทธิ์เลือกที่จะไปรับโทรศัพท์แทนที่จะลงไม้ลงมือไปสักทีสองที ทำให้เดียร์เผลอถลึงตามองหลังชายหนุ่มด้วยความขุ่นเคือง “หา แต่ว่าเมื่อวาน…โอเคครับๆ เดี๋ยวผมจะกลับเดี๋ยวนี้ละ”

หา จะกลับอีกแล้วเรอะ! อย่างน้อยก็ฟาดผมอีกหน่อยทีเถอะ เมื่อกี้มันแค่เรียกน้ำย่อยเองนะ!นี่ไม่ติดว่ากลัวคุณรู้ความจริง ผมจะกระโดดออกจากเตียง แล้วเอาเข็มขัดนี่รัดคอคุณแน่ ให้ตายสิ!

สิทธิ์ได้แต่ยืนนิ่วหน้าด้วยความไม่พอใจต่อสถานการณ์ที่ไม่ยอมเป็นใจให้เขาเอาเสียเลยชายหนุ่มไม่อยากจะหันไปมองอีกฝ่ายเพราะคิด(เอาเอง)ว่า เดียร์คงรู้สึกดีใจเป็นแน่ ที่รอดเงื้อมมือเขาไปได้ถึงจะแค่ชั่วคราวก็ตาม

ช่วยไม่ได้ละนะ…

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
อยากซ้อมเดียร์บ้างอ่ะะะะ  :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ Cherry Red

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-0
เพิ่งจะได้เข้ามาอ่าน แต่เล่นเอาขำหยุดไม่อยู่เลยค่ะ
นายเอกเรื่องนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ คิดมาแต่ละอย่าง SM ตบจูบ กระชากลากถูก แลดูสาแก่ใจ  :hao7:
แต่จนบัดนี้ต้องบอกว่า "เห็นสวรรค์อยู่รำไร แต่ไปไม่ถึงสักที"
เตรียมตัวเตรียมใจจะโดน(?)ให้เปรมซะหน่อย วืดทุกที แอบเห็นใจน้องเดียร์เล็ก ๆ นะคะ  :m26:
 

ออฟไลน์ Minerva

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 269
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
โดยขัดทุกทีเลยให้ตายสิ! ขัดใจแทนเดียร์จริงๆ

ออฟไลน์ Mookkun

  • magKapleVE
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
    • Consensual free relationships
ฮามากกก 5555555

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:เดีรย์จ๋าเดีรย์ทำให้พี่เริ่มสงสารอิตาสิทธิ์แล้วนะ :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2
 :m20: 5555++ โดนขัดจังหวะทุกทีสินะ คึ คึ คึ คึ  :hao3:

ออฟไลน์ andear

  • ยาราไนก๊ะ ??
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1
อิตาสิทธิ์ซื่อบื้อมากกกกกก :laugh: :laugh:
น้องเดียร์ก็โดนขัดตลอดๆ น่าสงสารเนอะ :laugh: :laugh: :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
....ทำไมตอนเราไปทำแผลรถล้ม อารมณ์ตอนโดนคุณหมอเวรล้างแผลให้ ถึงเป็นแบบเดียวกับกับน้องเดียร์เลย  โอ้ว!คุณหมอ เอาสำลีถูแรงอีกหน่อย ลาดยาฆ่าเชื้อซับอีก ซี๊ด  นั่นแหล่ะ ... (เสียงในใจล้วนๆ)    เราไม่ได้M ซักหน่อย แค่อารมณ์เจ็บปวดมันเบนไปทางอื่นแค่ันั้นเอ๊งงงงงงง!!!!

ออฟไลน์ krit24

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
ฮามากอ่ะ สงสารวินกับสิทธิ์ชอบกล

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
ตอนแรกนึกว่าเครียด ที่ไหนได้ฮาซะงั้น

ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
 :laugh: ตอนแรกกำลังเครียดได้ที่เลย
แต่ไหงเป็นฮาตอนท้ายเนี่ย  :hao4:

ออฟไลน์ raluf

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 499
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
ขำจนกลั้นไว้ไม่อยู่ นี่แหละหนา เสียฤกษ์ไปแล้วรอบนึง อะไรก็เลยติดขัดไปหมด ฮ่าๆๆๆ
อุปสรรคเยอะจริงๆ ทั้งยั่วโมโหก็แล้ว ยั่วสวาทก็แล้ว..ขอให้ตอนหน้าสมหวังนะน้องเดียร์ พี่เอาใจช่วย

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
ฮาสุดๆ ลุ้นให้เดียร์สมหวังเร็วๆก็แล้วกันนะคะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ raviiib❁

  • คนเขียนนิยาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
ฮาแตกค่ะ!!55555555555555

อีนุ้งเดียร์มันบ้าาาาา!
พี่สิทธิ์เค่อะ ถ้าความผิดชอบชั่วดีจะเยอะขนาดนี้555555 :laugh:

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
สงสารเดียร์อ่ะ มาๆเดี๋ยวเค้าตบตีเจ้าเอง ^^

ออฟไลน์ musddmp

  • อิอิ คริคริ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
รักSMของหนุ่มดอกไม้ โดย Zore

ตอนที่ 10

“มันจะดีหรือคะ ทิ้งเดียร์ไว้แบบนี้น่ะ”

นางหันมองไปยังบ้านพักด้วยความกังวลและเป็นห่วงเด็กหนุ่มแสนสวยที่โดนพันธนาการไว้กับเตียง ใจจริงเธอไม่อยากจะทิ้งเขาไว้ตามลำพังในสภาพเช่นนั้นเลยสักนิด

“ผมไม่ได้ทิ้ง ก็โทรตามคนมาแล้วไงครับ…แค่ให้อยู่แบบนั้นสองสามชั่วโมงไม่เป็นอะไรหรอก” สิทธิ์บอกอุบอิบเหมือนเด็กทำผิดแต่ไม่อยากยอมรับ “อีกอย่าง ป้าไม่ต้องห่วงเรื่องบ้านจะสกปรกหรอกครับ เพราะคนที่จะมา เขาเชี่ยวชาญเรื่องพวกนั้นเป็นพิเศษอยู่แล้ว”

หญิงวัยกลางคนได้แต่ยอมรับอย่างจำยอมเพราะถึงห้ามยังไงเธอก็รู้ว่าสิทธิ์คงไม่ยอมอยู่แล้ว ยิ่งถลำลึกจนมาถึงขั้นนี้ยิ่งแล้วใหญ่ไอ้เรื่องกิตติศัพท์ความรั้นของเจ้านาย เธอก็เห็นมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เพราะฉะนั้น พูดไปก็เสียเปล่า

และแน่นอนว่านางเองก็เป็นห่วงเดียร์เสียเปล่าเช่นกัน

เดียร์ลุกออกจากเตียงทันทีที่ทั้งสองลาลับ และเริ่มปฏิบัติการสำรวจทุกซอกทุกมุมในบ้านหลังนี้ ซึ่งก็ไม่มีอะไรอย่างที่คิด ดังนั้น เขาจึงเปลี่ยนมาเปิดมือถือของตน เพื่อกดดูอีเมล์ที่ตนส่งต่อมาจากอีเมล์ของสิทธิ์แบบไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง แต่ข้อความส่วนมากมักจะเป็นข้อความทางธุรกิจซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรที่ดูน่าสงสัยนัก จะมีก็แค่อีเมล์สองสามฉบับที่คุยกับนายธนเดชที่เกี่ยวข้องกับเขาโดยตรง เริ่มตั้งแต่ยุยงให้สิทธิ์มายุ่งกับเขา แล้วก็โพนทะนาข้อดีมากมายในการใช้ประโยชน์จากเดียร์ แถมเชียร์เสียยิ่งกว่าเซลล์ขายสินค้าก็ไม่ปาน

เด็กหนุ่มสะดุดเข้ากับข้อความช่วงหลังๆ ซึ่งเขียนเหมือนกับว่า ต้องการให้สิทธิ์แก้แค้นต่อสิ่งที่วินทำ…ซึ่งจากสายข่าวที่สุดน่าเชื่อถือของเขากลับบอกว่า ไม่มีใครทำใครทั้งนั้น

เดียร์เลิกคิ้วด้วยความสงสัย เขารู้สึกว่าคุณธนเดชนี่ดูจะเล่นไม่ซื่อต่อสิทธิ์ยังไงชอบกล เพราะจะให้บอกว่าไม่รู้ตื้นลึกหนาบางยังไง ก็ไม่มีคนดีๆที่ไหนเขาแนะนำแผนเฉียดคุกแบบนี้ให้หรอก

แต่เขาก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าทำแบบนี้แล้วจะได้อะไรกัน อย่างมากก็แค่ทำให้วินมาเสียเวลากับน้องชายแทนที่จะไปทำการทำงาน และในส่วนของสิทธิ์เองก็เช่นกัน…หรือถึงต่อให้มีเรื่องกันจนคอขาดบาดตาย ก็ใช่ว่าทรัพย์สินกิจการจะกลายเป็นของเจ้าคนวางแผนสักหน่อย…

หรือมันจะเป็นไปได้กัน…

แกรก

เดียร์สะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงไขกุญแจประตู เขารีบปรี่ไปที่หน้าต่าง เห็นผู้ชายกำลังยืนอยู่ที่ประตูเพียงคนเดียว ซึ่งคงจะเป็นคนที่มาเฝ้าตนอย่างที่สิทธิ์บอกเอาไว้ เมื่อเห็นอีกฝ่ายเข้ามาในบ้าน เดียร์ก็รีบจัดแจงพันธนาการตัวเองเอาไว้กับเตียงทันทีด้วยใจระทึก…อา ถ้าอีกฝ่ายอยู่ในโหมดโหดเหี้ยมอยากรังแกเราก็คงจะดีสิ…

เมื่อประตูเปิดออกเผยให้เห็นใบหน้าเหมือนคนสะลึมสะลือเพิ่งตื่นนอนของชายวัยเกือบสี่สิบ ดวงตากลมก็เบิกโตจนเกือบเท่าไข่ห่าน และเผลอลุกขึ้นออกมาจากเตียงอย่างลืมตัว เขาไม่ได้ประหลาดใจเรื่องที่อีกฝ่ายหัวยุ่งจนชี้โด่ชี้เด่ ใบหน้าครึ้มหนวดเหมือนขี้เกียจโกน หรือเพราะแว่นหนาเตอะที่ดูเชยระเบิดจนไม่คิดว่าจะยังมีมนุษย์หน้าไหนกล้าใส่…และชายคนดังกล่าวเองก็อ้าปากค้างเมื่อได้เห็นเดียร์…ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เพราะเดียร์ลุกขึ้นมาทั้งที่น่าจะโดนขึงไว้บนเตียง

“พี่ก้อง!/เดียร์!”

ทั้งสองตะโกนประสานเสียงพร้อมกันด้วยความประหลาดใจ ที่ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก ก่อนที่ก้องจะเดินเข้ามาแล้วขยับแว่นเหมือนต้องการดูให้ชัดๆว่าอีกฝ่ายใช่คนที่ตนคิดหรือไม่…แม้ว่าเดียร์จะเอ่ยชื่อตนแล้วก็ตาม

“เธอมาทำอะไรที่นี่เนี่ย…ไม่สิๆ นี่เธอเป็นน้องคุณวินหรอกเหรอ” เสียงทุ้มร้องราวกับยังไม่อยากจะเชื่อ “โลกมันจะกลมเกินไปแล้วมั้ง”

ฟังแล้วเดียร์ก็อดเห็นด้วยไม่ได้ เพราะเขาเองก็ไม่ได้เจอหน้าหนุ่มใหญ่มาเกือบสองปีได้แล้วกระมัง

“นั่นสิครับ ผมก็ไม่คิดว่าจะได้เจอพี่ที่นี่เหมือนกัน พี่เล่นหายหน้าหายตาไปเลย ไอ้ผมก็นึกว่าพี่คงกลับไปสู่เส้นทางสายปกติไปซะแล้ว…” เด็กหนุ่มเว้นช่วงเล็กน้อย เมื่อเห็นอีกฝ่ายอ้าปากเหมือนอยากจะแย้ง “ไม่ใช่เหรอครับ”

“…พอดี…ฉันเจอคนที่…เข้ากันได้แล้วน่ะ” เสียงทุ้มเจือเสียงหัวเราะ พร้อมกับยกมือขึ้นลูบหัว จนผมที่ยุ่งอยู่แล้วยิ่งยุ่งเข้าไปอีก “ก็เลยไม่ต้องไปที่สมาคมแล้ว”

‘สมาคม’ ที่ว่า คือสมาคมผู้นิยมความเจ็บปวด ที่นั้นเต็มไปด้วยเหล่าบุคคลที่มีจุดประสงค์ร่วมกันคอยแลกเปลี่ยนความเจ็บปวดอย่างถึงลูกถึงคนแก่กัน อีกทั้งยังเป็นสถานที่หาคู่ที่มีรสนิยมต้องกันอีกด้วย ซึ่งปกติเดียร์จะไปที่นั่นราวอาทิตย์ละครั้งถึงสามครั้ง ซึ่งก็ได้รู้จักกับก้องที่นั่น

“งั้นหรือ ถ้าถึงขนาดพี่ไม่ไปที่สมาคมเลยแสดงว่า คนนี้คงรุนแรงกับพี่ได้ถึงใจเลยล่ะสิ” ถึงจะยั้งไว้แล้ว แต่เดียร์ก็เผลอทำเสียงกระหายใคร่รู้ออกมาจนได้ “แล้วเขารู้หรือเปล่าว่าพี่เป็น…”

หน้าเหี่ยวปุ๊บเป็นหลักฐานที่แจ่มแจ้งมาก

“ขืนบอก คงทำหน้าแหยงแล้วหนีฉันไปแหงมๆ” ก้องถอนใจ “รายนั้นนิสัยรุนแรงชอบใช้อารมณ์เป็นปกติอยู่แล้ว ฉันเลยทำเป็นว่ากลัวเขาพอกล้อมแกล้มเอาน่ะ”

“สองปีเลยเนี่ยนะ” เด็กหนุ่มเอ่ยอย่างไม่อยากจะเชื่อนัก “แล้วเขาไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ”

“…ไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนั้นก็ได้เดียร์” หนุ่มใหญ่ปราม ก่อนจะนึกได้ “ไม่สิ เรื่องความหลังพวกนั้นช่างมันก่อน ไหนๆก็เป็นเธอพอดี ถือว่าโชคดีละนะ”

คิ้วบางเลิกขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยความสงสัย

ดวงตาเรียวสำรวจสภาพร่างบางที่ดูเหมือนเพิ่งผ่านการโดนกระทำชำเราอย่างโหดร้ายทารุณมา แล้วถอนใจเฮือก “…คุณสิทธิ์เขาทำอะไรเธอบ้างละเนี่ย”

ทำหน้าหน่ายใส่แบบไม่มีกั๊กแต่อย่างใด “ก็แค่ผลักแล้วก็ใช้แส้ฟาด”

ถ้าเป็นคนปกติก็ชวนให้รู้สึกตกใจอยู่หรอก

“แค่นั้นเองหรือ ถ้างั้นก็ค่อยยังชั่วหน่อย” ก้องโล่งใจสุดๆเมื่อได้ยิน ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าจริงจังขึ้นมา “ที่จริง ฉันตั้งใจจะมาปล่อยเธอให้หนีไปน่ะ”

“หา” เด็กหนุ่มร้องหน้าเบี้ยวแบบไม่ปิดบัง “ไหงงั้นละครับ”

ก้องมองสภาพของเดียร์อยู่พักหนึ่ง ก่อนจะลูบคาง “นี่ท่าทาง เธอจงใจโดนจับมาละสิ”

“แน่ละครับ อุตส่าห์มีคนมาทรมานให้ฟรีๆ ใครจะไม่เอาบ้าง” เสียงหวานเต็มไปด้วยความจริงจังจนน่ากลัว “แล้วพี่น่ะ เป็นลูกน้องคุณสิทธิ์ ทำแบบนี้จะดีหรือ”

หนุ่มใหญ่ถอนใจยาว “มันก็ไม่ดีหรอก แต่ไอ้ที่คุณสิทธิ์ทำแบบนี้ก็ไม่ดีเหมือนกันนั่นละ เพราะงั้น ฉันถึงได้จะปล่อยตัวเธอไง ขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ มีหวังเกิดเรื่องกันจริงๆแน่”

เดียร์ทำท่านึกก่อนจะยิ้มหวาน…แต่กลับทำให้คนมองรู้สึกขวัญผวา เพราะถึงจะไม่เจอกันนาน แต่ก้องก็รู้จักอีกฝ่ายดีพอว่า ตนไม่ควรโดนใบหน้าแสนหวานนั้นหลอกเอา

“แล้วเรื่องที่ว่าเนี่ย มันคืออะไรหรือครับ เผื่อผมรู้แล้ว จะได้ช่วยร่วมมือหาทางแก้ไง”

ใจจริง ก้องก็เห็นด้วยอยู่หรอก แต่ไม่รู้ทำไม ไอ้รอยยิ้มนั้นเห็นแล้วทำใจอยากให้เด็กหนุ่มร่วมมือไม่ลง…แต่ใช่ว่าเขาจะมีทางเลือกมากเสียเมื่อไหร่ ไม่บอก อีกฝ่ายก็ไม่ทำตามแน่นอน แต่ถ้าบอก เขามั่นใจว่าอีกฝ่ายคงไม่ยอมทำตามง่ายๆแต่โดยดี

ก็ได้แต่หวังให้มันเป็นทางออกที่ดีต่อทั้งสองฝ่ายละนะ

“เธอรู้จักธานินทร์ที่เป็นลูกน้องคุณวินใช่ไหม หมอนั่นน่ะร่วมมือกับลูกน้องที่คิดไม่ดีกับคุณสิทธิ์ ให้คุณวินกับคุณสิทธิ์มัวแต่ทะเลาะกัน แล้วพวกมันก็หาทางแทรกแซงกิจการภายใน…พอทั้งสองมัวแต่ยุ่งอยู่กับเธอ ก็ต้องหาคนมาช่วยดูแลแทนใช่ไหมล่ะ พวกมันเล็งจังหวะนั้นล่ะ”

พอฟังเด็กหนุ่มก็ถึงบางอ้อ ปกติวินก็ให้ธานินทร์ดูแลงานแทนอยู่แล้วก็จริง เพียงแต่ส่วนใหญ่ไม่ใช่งานใหญ่อะไรนัก อีกทั้งไม่ได้ให้ดูแลนาน แถมยังมีชาคอยเป็นก้างขวางด้วย ก็คงทำอะไรไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นักหรอก

แต่ลองว่าเป็นเรื่องของเขาสิ รับรองว่า ให้ทิ้งงานเป็นปีก็ยอม อย่างน้อย เด็กหนุ่มก็เคยเจอมาแล้ว

“แสดงว่า คนที่ชื่อธนเดชอะไรนี่ก็เป็นที่ไว้วางใจของคุณสิทธิ์น่าดูล่ะสิ” เดียร์เปรย เมื่อเห็นก้องพยักหน้า จึงเอ่ยต่อ “และเพื่อไม่ให้เป็นไปตามแผนพวกนั้น พี่เลยคิดจะปล่อยผมสินะ”

ก้องเผยยิ้มจางเพราะเข้าใจว่าอีกฝ่ายจะยอมทำตามแต่โดยดี

“ไม่ได้หรอกครับ”

เขาก็รู้…รู้อยู่แล้วนั่นล่ะ…แต่พอเจอจริงๆมันอดเศร้าไม่ได้อยู่ดี

“ต่อให้ผมหนีจากที่นี่ได้ แล้วไงล่ะครับ มันจะกลายเป็นว่า เข้าทางฝั่งธานินทร์น่ะสิ” ดวงตากลมมองหน้าเอ๋อของคนวัยอา “พอพี่วินรู้ว่าผมหนีไปได้ เขาคงต้องวุ่นวายอยู่กับการหาที่อยู่ที่ปลอดภัยให้ผมจ้าละหวั่น ตัดที่บ้านได้เลย เพราะพี่วินสัญญากับคุณแม่มาริสาว่าจะไม่พาผมไปที่บ้าน แล้วถ้าไปหาที่พักอื่น พี่ก็คงไม่ไว้ใจใครแน่ เพราะลูกน้องพี่วิน ส่วนใหญ่ก็ไม่ชอบหน้าผม หรือถึงไม่ได้เกลียดผม ก็ไม่ได้เก่งพอจะคอยคุ้มครองผม ซึ่งแน่นอนว่าเหลืออยู่ทางเดียวคือ พี่วินนั่นละ ต้องมาอยู่กับผมแทน พอถึงตอนนั้น คงไม่ต้องให้ผมเล่าแล้ว ใช่ไหม แบบนี้ฝั่งพี่วินก็แย่สิครับ เพราะฉะนั้น ผมคงยอมให้เป็นแบบนั้นไม่ได้หรอก”

เปล่าหรอก อันที่จริง ถ้าพี่วินจะโดนฮุบทรัพย์จนหมดตูดผมก็หาได้แคร์หรอก แต่ถ้าถึงชีวิตผมคงยอมไม่ได้ล่ะนะ ถึงจะรำคาญแล้วมีสายเลือดร่วมกันแค่ครึ่งเดียว แต่เขาก็เป็นพี่ผมล่ะนะ แล้วผมก็ไม่อยากเห็นคุณชาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ต้องโศกสลดเพราะเสียคนที่คอยมาทรมานเขาด้วย

ก้องได้แต่อ้าปากค้างเพราะไม่รู้จะแย้งตรงไหนและอย่างไรดี

“ตะ…แต่ถ้าเธอยังอยู่ มันจะแย่ทั้งสองฝ่ายนะ…” หนุ่มใหญ่เอ่ยค้านตะกุกตะกัก “แต่ทางฉันก็ไม่คิดจะปล่อยให้ฝั่งคุณวินเขาแย่หรอกน่า ยังไงซะมันก็ต้องมีหนทางอยู่…”

“แต่คิดดูสิครับ ระหว่างที่พี่วินจัดการเรื่องผม ธานินทร์ก็คงหาเรื่องไปก่อกวน ไม่ก็ทำร้ายฝั่งคุณสิทธิ์…หรืออาจจะมีนายเดชอะไรนั่นร่วมด้วย แล้วทีนี้คุณสิทธิ์ก็จะเข้าใจผิดไปใหญ่ว่าเรื่องทั้งหมดพี่วินเป็นคนทำ ในช่วงนั้นเองพี่วินก็จะอยู่กับผมตลอด ก็จะแทบไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วสองคนนั่นก็เกลียดกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ต่อให้พูดเรื่องจริง ก็คงเชื่อกันยาก ทีนี้คงได้มัวแต่ทะเลาะกันจนลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ซึ่งก็เข้าทางพวกนั้นพอดี ผมพูดอะไรผิดไหมละครับ”

เจอไล่ต้อนเสียจนไม่ให้พักหายใจหายคอกันแบบนี้ แล้วคนที่แค่ได้รับคำสั่งจะสู้อย่างไรไหว

“ละ…แล้วเธอจะทำยังไงละ” ถามเสร็จ ก้องก็ได้แต่ร้องโหยหวนอยู่ในใจ ที่พลาดท่าให้อีกฝ่ายเสียแล้ว ยิ่งเห็นรอยยิ้มหวานแต่แฝงไปด้วยออร่าชั่วร้ายเต็มที่ ยิ่งทำให้ก้องมั่นใจ

“ก็ทำให้พวกนั้นยอมโผล่หางออกมาไงละครับ”

 

“โธ่เว้ย ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยวะ”

วินสะบัดหัวมองรั้วบ้านที่ไม่ค่อยอยากจะมาเหยียบสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะตอนที่พระมารดารู้เรื่องที่ตนไปหาน้องชาย ท่าทีป่าเถื่อนปลิวหายกลายเป็นลูกหมาที่กำลังจะโดนเจ้านายทำโทษ ทันทีที่เดินเข้ามาในบ้าน และวินไม่ต้องทำใจนานก็เจอแจ๊คพ็อตที่ห้องนั่งเล่นเลย

“ช้าไปสามสิบนาที นี่แกแอบแว้บไปที่ไหนใช่มั้ย นี่แกไม่อยากให้ฉันรักษาสัญญาแล้วใช่มั้ย ไอ้เด็กนั่นจะเป็นยังไงก็ได้แล้วงั้นสิ ดี ฉันจะได้ไม่ต้องรักษาสัญญาบ้าๆนั่นแล้วสินะ ฉันจะได้ทำตามใจชอบสักที!” มาถึงสาวใหญ่ก็สาดเสียเทเสียแบบไม่ไว้หน้าอินหน้าพรหมใดๆ จนเหล่าลูกน้องผู้โชคร้ายพากันหูชากันเป็นแถบๆ จะมีเพียงแต่ชาเท่านั้นที่ดูจะเฉยๆต่อเสียงทำลายประสาทพวกนั้น

“เปล่าครับๆๆ” วินตอบแข่งกับเสียงสูงปรี๊ดของมาริสา ถ้าทำได้เขาก็อยากจะเอามือขึ้นมาอุดหูอยู่หรอก แต่ลองทำดูสิ รับรองว่าอีกฝ่ายปรี๊ดแตกหนักกว่าเดิมแน่ “เครื่องบินมันดีเลย์ครับ ไม่เชื่อก็ถามนินเอาก็ได้”

“ใช่ครับๆๆ คุณวินเขาไม่ได้แว้บไปไหนเลยครับ พอได้รับโทรศัพท์คุณนาย คุณวินก็รีบกลับมาหาทันทีเลยครับ” หนุ่มตาโศกรายงานด้วยความไวแสงไม่แพ้กันเหมือนกลัวหูจะได้รับความกระทบกระเทือนไปมากกว่านี้ “ผมกับชารับประกันเลยครับ”

ผู้มีอำนาจสูงสุดในบ้านเงียบเสียงลง เป็นผลให้หนุ่มๆทั้งหลายพากันใจชื้นที่รอดจากคลื่นเสียงทำลายโสตประสาท มาริสาเพียงแต่นิ่วหน้ามองชา ก่อนจะหันกลับมาหาลูกชายร่างยักษ์ซึ่งกำลังมีท่าทางหวาดกลัวไม่สมกับตัว

“ไหนลองว่าสัญญาที่แกกับฉันทำด้วยกันให้ฟังหน่อยสิ”

วินกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก “ถ้าแม่เลิกแกล้งเดียร์…ผมจะยอมทำตามที่แม่สั่งทุกอย่าง…”

“แล้วที่แกทำอยู่มันคืออะไร!อ้อ สัญญานั่นเป็นอันโมฆะแล้วใช่ไหม ดี! ฉันจะได้จัดการเด็กนั่นให้มันไม่กล้าเจอหน้าแกอีกเลย”

ชาได้แต่กลั้นขำ อยากจะรู้จริงๆว่าถ้าวินรู้ความจริงที่ว่าไอ้สัญญานั่นมันเป็นโมฆะตั้งแต่ตอนที่เริ่มทำสัญญาแทบจะทันที แล้ววินจะโต้ตอบมาริสาอย่างไร

“ไม่ใช่นะครับ อย่าทำแบบนั้นนะแม่” วินร้องเสียงหลง “ก็เดียร์โดนไอ้เวรสิทธิ์ลักพาตัวไปนี่ แล้วจะให้ผมอยู่เฉยๆดูน้องตัวเองโดนทำร้ายได้ไงละ…”

“น้อง!? ฉันจำได้ว่าฉันเบ่งแกออกมาแค่คนเดียวนะ อย่างไอ้เด็กนั่นฉันไม่นับเป็นญาติอะไรทั้งนั้น และแกเองก็ห้ามนับมันเป็นญาติด้วย!”

หนุ่มแว่นอ้าปากค้าง แต่การชะงักก็เท่ากับเสียโอกาสไปแล้ว

“ถ้าอยากจะช่วยมันนัก แกก็ให้ใครไปช่วยก็ได้ แต่แกห้ามไปเอง” มาริสายื่นคำขาดทันที และไม่ยอมปล่อยโอกาสให้ลูกชายเถียงแม้แต่น้อย “ถ้าแกทำไม่ได้ก็ถือว่าสัญญาเป็นอันยกเลิก ว่าไง บอกมาว่าได้หรือไม่ได้ นอกเหนือจากสองคำนี่ฉันไม่รับฟัง!”

แล้วจะให้เขาตอบอะไรได้ละ

“ได้ครับ” วินฝืนใจตอบอย่างไร้ทางเลือก

“ดี” มาริสายิ้มกว้างอย่างพอใจ เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ไม้แล้วเดินไปหยุดอยู่ที่ชา “ขอบใจที่โทรศัพท์มารายงานเรื่องลูกฉันด้วยนะ ถ้าไม่ได้เธอฉันก็คงไม่รู้ว่าตาวินเที่ยวตามก้นไอ้เด็กนั่นอยู่”

เสร็จธุระก็สะบัดชายกระโปรงยาวสีแดงฉลุด้วยลูกไม้สวยงามออกไปจากบ้านด้วยท่าทีของผู้มีชัย โดยทิ้งระเบิดลูกใหญ่เอาไว้ให้ชาไปแก้ตัวกับเจ้านายเอาเอง

อย่าว่าแต่วินเลย แม้แต่เจ้าตัวเองยังไม่เข้าใจเลยว่าคุณหญิงของบ้านพูดเรื่องอะไรกัน วันนี้ทั้งวันเขายังไม่ได้โทรไปหามาริสาสักครั้ง

แต่แน่นอนว่าคุณชายของบ้านเชื่อสนิทใจไปเสียแล้วว่าเรื่องทั้งหมดนี้ เป็นเพราะชา

“ออกไปให้หมด ยกเว้นแก” เสียงทุ้มกร้าวดังขึ้นอย่างเบาบางหากแต่ทรงพลังจนเหล่าลูกน้องที่เหลือพากันหลีกลี้หนีหายไปอย่างรวดเร็วเพราะกลัวโดนลูกหลง แน่นอนว่ารวมถึงธานินทร์ด้วย

“โชคดีนะครับ” ธานินทร์เดินเฉียดเข้าไปกระซิบบอกชาด้วยน้ำเสียงสะใจเสียเต็มประดา “หวังว่าจะยังอยู่ครบส่วนนะ”

ชายหนุ่มหน้านิ่งได้แต่เลิกคิ้วมองอีกฝ่าย เขารู้แค่ว่าคนแจ้งข่าวให้มาริสาต้องไม่ใช้ธานินทร์แน่ และไม่ใช่ตัวเขาด้วย

แล้วใครกัน

“อึ่ก” แต่ก่อนจะได้นึกสงสัยร่างของเขาก็โดนเหวี่ยงเข้ากับกำแพงเสียก่อน ความเจ็บรวดร้าวทำเอาหัวตื้อไปหมด

จะใครก็ช่างเถอะ อยากขอบคุณมันชะมัด

“ยิ้มหาอะไรวะ” วินกระชากคอเสื้อจนกระดุมสองเม็ดบนหลุดออกมา “ทำไมแกต้องทำแบบนี้ด้วยวะ ก็รู้อยู่ไม่ใช่หรือไง ว่าฉันเป็นห่วงเดียร์แค่ไหนจะกวนโมโหฉันก็ให้มันน้อยๆหน่อยเหอะ”

“ผมจะไปทำแบบนั้นได้ไงละครับ วันนี้ทั้งวันคุณก็เห็น…” พูดไม่ทันจบความก็ต้องหยุดไปเสียก่อนเพราะโดนชกเข้าไปเต็มแรง แต่ด้วยความทนทานเกินมนุษย์ทั่วไป อีกทั้งยังชินชากับการใช้ความรุนแรงของอีกฝ่าย ชาจึงมีเพียงรอยช้ำที่แก้มเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“ถ้าไม่ใช่แก แล้วแม่จะพูดแบบนั้นทำไมวะ” เสียงทุ้มตวาดลั่น พร้อมกับผลักร่างจนไปกระแทกเข้ากับกำแพงอีกครา แล้วดึงคอเสื้อขึ้นจนชาหายใจลำบาก “ต่อให้เป็นแก ถ้าขืนขัดขวางฉันไม่ให้ช่วยเดียร์อีกละก็ ฉันไม่เอาแกไว้แน่! ฉันจะไล่ให้แกกลับไปเป็นหมาข้างถนนเหมือนเมื่อก่อนเลย คอยดู!”

ผมอยากจะบอกจังเลยครับ ว่าตอนนี้ความสุขกับความทุกข์มันตีกันมั่วไปหมดแล้ว ผมไม่อยากโดนคุณเขี่ยทิ้งหรอกนะ แต่พอโดนคุณขู่แบบนี้ก็อดรู้สึกดีไม่ได้เลยแฮะ

“ผมบอกแล้วไงละครับว่าผมไม่ได้ทำ” ชายังยืนยันคำเดิม แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะอยากให้วินเชื่อความจริง แต่เพราะหวังให้อีกฝ่ายเลือดขึ้นหน้าจนต้องระบายออกมา ซึ่งก็ได้ผลดีชะงักนักแล

“นึกว่าฉันจะเชื่อคำโกหกพรรค์นั้นหรือไงวะ!” หลังจากซ้อมจนอีกฝ่ายทรุดลงกับพื้น วินก็ลงไปจิกหัวชาขึ้นมาอย่างไม่คิดสงสารแต่อย่างใด แน่นอนว่ายิ่งเห็นอีกฝ่ายยังเหลือรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยช้ำและห้อเลือด เขาก็ยิ่งไม่รู้สึกเห็นใจเข้าไปอีก มือหนาสะบัดหัวของชาออกจนเกือบกระแทกพื้น “วันนี้ฉันจะเข้าบริษัทเอง นายอยู่นี่ไม่ต้องตามฉันไป”

“แต่ว่า…”

“เดี๋ยวฉันให้คนอื่นไปด้วยเอง ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย ถ้าตามมาอย่าหาว่าฉันไม่เตือน”

ชาเพียงแต่นิ่ง ปล่อยให้หนุ่มแว่นกระทืบเท้าออกไปจากห้อง กะว่าเดี๋ยวสักครึ่งชั่วโมงแล้วจะค่อยตามไปเสนอหน้าให้วินของขึ้นอีก

“อื๋อ” ชายหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงข้อความเข้า ทันทีที่เห็นชื่อคนส่งข้อความ เขาก็รีบกดเข้าไปอ่านแทบไม่ทัน

 

[ข้อความเข้า]

[เค้าบอกมี้เอง หวังว่าจะชอบนะ คิๆ:3ส่วนนินเด๋วจัดเอง]

[จาก มีมี่ ส่งเมื่อ:วันนี้ เวลา: 14.23น.]

 

ไอ้คุณเดียร์!

ชาไม่แน่ใจว่าเขาควรจะดีใจ หรือควรจะโกรธจนหัวฟัดหัวเหวี่ยงดี โชคดีที่ยั้งมือไว้ทันก่อนจะบีบมือถือจนแหลกคามือ พอลองโทรไปหาปรากฏว่าอีกฝ่ายปิดมือถืออย่างรู้ทันไปเสียแล้ว ชายหนุ่มจึงได้แต่นั่งถอนใจอยู่กับพื้น ชักหมดแรงเสียดื้อๆยังไงชอบกล

“จัดการเองหรือ…” ชาทวนข้อความที่ได้รับ ก่อนจะถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้ม

เขาไม่ไว้ใจเจ้าเด็กนี่เลย กลัวจะมัวแต่หาเรื่องโดนทำร้ายจนเสียแผนนี่ล่ะ ซึ่งเขามั่นใจมากทีเดียวว่าต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆด้วย เพราะฉะนั้น จะให้ยอมทำตามใจ คงจะไม่ไหวหรอก



____________________________________________________________

เอาฉากทรมานเฮียชาไปแก้ขัดก่อน =w= ส่วนนายเอกเราก็วางแผนร้ายกันต่อไป

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
ชาโดนซ้อม ชอบเลยสิน่ะะะ  :katai3: :katai3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2
 :hao6:  ชาชอบสินะ สินะ สินะ สินะๆๆๆ   :hao7:

ออฟไลน์ raviiib❁

  • คนเขียนนิยาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
สนุกเลยละครับงานนี้5555555555555555 :m20:

ออฟไลน์ sbeam14

  • I♥เล้าเป็ด ก๊าบๆ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-4
 :m20: :laugh:เป็นSMที่ลุ้นให้Mทรมาตที่สุดเท่าที่เคยดูมาเลยอ่ะ :impress2:  :oo1:

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
สงสารชาตะหงิดๆนะ เอ้าเดียร์สู้ๆ

ออฟไลน์ Thyme103

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
เดียร์จะทำให้ยิ่งตีกันเข้าไปใหญ่ป่ะเนี่ย

ออฟไลน์ raluf

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 499
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
ชอบที่เดียร์ SMSคุยกับชา เหมือนเด็กน้อยคุยกัน

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
เป็นนิยาย SM เรื่อแรกที่อ่านแล้วไม่ได้สงสารนางเอกเล้ย...>__< (แถมเอาใจช่วย(ให้โดนซ้อม)อีกต่างหาก

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
 :katai3: จะได้เรื่องมั้ยเนี่ย

มาไวๆค่ะ  :call:

ออฟไลน์ himenana

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
รอฉากแซ่บ  :z1: :z1: :z1:

ออฟไลน์ musddmp

  • อิอิ คริคริ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
รักSMของหนุ่มดอกไม้ โดย Zore

ตอนที่ 11

วัฒน์กับเนเหลือบมองเจ้านายเป็นระยะๆ พวกเขาไม่แน่ใจว่าเพราะเพลีย หรือเพราะทำแผนไม่สำเร็จสักที สิทธิ์ถึงได้ออกอาการตายซากแบบนี้

“…วันนี้ผมคงนอนที่บ้านนะ”

ได้ยินอย่างนั้นแล้วทั้งหนุ่มใหญ่และหนุ่มน้อยอยากจะกระโดดกู่ร้องด้วยความดีใจเลยทีเดียว

“คุณสิทธิ์ไม่ต้องเป็นห่วงทางโน้นหรอกครับ ก้องน่ะเก่งจะตาย ไม่ปล่อยให้เด็กคนนั้นหนีไปได้หรอก” หนุ่มใหญ่เอ่ยให้อีกฝ่ายสบายใจ โดยเก็บความจริงที่ว่าเขานี่ละ ที่เป็นคนสั่งให้ก้องไปปล่อยตัวเดียร์แบบเนียนๆ

“นั่นสินะครับ…” ชายหนุ่มฝืนยิ้ม ขอบตาดำคล้ำเสียยิ่งกว่าหมีแพนด้าเพราะนอนไม่พอมาหลายวันแล้ว

“ถ้าอย่างนั้นจะกลับเลยไหมครับ งานที่เหลือก็ไม่ใช่งานด่วนหรืองานสำคัญอะไรแล้วเดี๋ยวพากลับไปทำต่อที่บ้านก็ได้นะครับ”วัฒน์เหลือบมองไปทางเนที่กำลังช่วยนั่งเรียงเอกสารที่วางกองอยู่ฝั่งขวาของโต๊ะ “เดี๋ยวผมกับเนจะเอาเอกสารไปเอง คุณสิทธิ์ไปรอที่รถก่อนก็ได้ครับ”

ดวงตาเรียวปรือมองเอกสารตรงหน้าด้วยความเหนื่อยล้าเต็มทีแล้วหันไปมองเนที่พยักหน้าให้ชายหนุ่มจึงผงกหัวรับแล้วเดินสะโหลสะเหลออกไปจากห้อง

“…เอานี่ไป แล้วไปดูว่าคุณสิทธิ์อยู่ในรถหรือเปล่า เดี๋ยวฉันจะตามไป”วัฒน์ยื่นเอกสารที่เหลือบนโต๊ะให้อีกฝ่ายโดยไม่มองหน้า

เนเงยหน้ามองหนุ่มใหญ่ที่ยังคงยืนหันหลังให้ เขาอ้าปากเหมือนต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็เก็บคำพูดลงคอ แล้วทำตามคำสั่งของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

พอเด็กหนุ่มออกจากห้องไปแล้ว วัฒน์ก็หยิบมือถือของตนขึ้นมาโทรออก

“ครับผม” ก้องรับเสียงค่อยเหมือนกลัวใครได้ยิน

“ปล่อยไปหรือยัง” วัฒน์เข้าเรื่องทันทีแบบไม่มีอารัมภบท

คนฟังได้แต่อึกอัก ก่อนจะกลั้นใจบอก “ยังครับ”

เงียบนิ่งไร้การตอบกลับใดๆ

“…เอ่อ ที่บอกว่ายังเพราะมันยังไม่มีจังหวะน่ะครับ…คือว่า…คือ…” ก้องบอกตะกุกตะกักจนวัฒน์นิ่วหน้า แต่กระนั้นเขาก็ไม่คิดจะพูดแทรกแต่อย่างใด โดยหารู้ไม่ว่านั่นยิ่งทำให้ก้องรู้สึกกดดันจนอยากระเบิดมือถือทิ้ง “ถ้าอยู่ๆปล่อยเลยเดี๋ยวคุณสิทธิ์จะสงสัยเอาน่ะครับ”

วัฒน์ยังคงเงียบ ปล่อยให้อีกฝ่ายรู้สึกกดดันไปเองอยู่ร่วมสามนาที ก่อนจะเอ่ยปาก

“ถ้างั้นก็หาทางทำให้มันดูไม่น่าสงสัยละกัน ภายในสามวันนะเท่านี้ล่ะ”

แน่นอนว่าที่หนุ่มใหญ่บอกเวลาไปก็แค่เตือนให้อีกฝ่ายอย่ามัวแต่ชักช้าจนไม่ทันการ ไม่ได้คิดขู่อะไรเลยสักนิด

“เป็นไงบ้างละครับ” เมื่อเห็นหนุ่มใหญ่วางมือถือลง เดียร์เอ่ยถามด้วยแววตาเป็นประกาย แต่คนมองกลับรู้สึกเหมือนโดนข่มขู่เสียมากกว่า

“ก็สามวัน” ก้องเกาคางพลางถอนใจราวกับคนหมดอาลัยตายอยากแล้วเหล่มองเด็กหนุ่มอย่างหวาดๆ “นี่ ทำแบบนี้มันจะช่วยให้เจ้าพวกนั้นโผล่หางให้เราจับได้คาหนังคาเขาจริงเหรอ”

“อ้าว พี่ก้องไม่เคยดูละครหรือนิยายหรือครับ พอตัวเอกเผลอหรือเปิดโอกาสให้ ตัวร้ายก็จะแสดงตัวออกมา จากนั้นตัวร้ายก็จะพลาดท่าเพราะความลำพองในชัยชนะของตัวเอง แล้วชัยชนะก็จะกลับกลายมาเป็นของตัวเอกไงล่ะครับ”

“ก็นั่นมันละคร มันจะไปเป็นแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะ แล้วถ้าให้ไปถึงตอนนั้น มันคงเสียหายเกินกว่าจะแก้ไขได้แล้วล่ะ พวกฉันเองก็ไม่มีทางจะโชคดีเหมือนในละครแน่” หนุ่มแว่นค้านเสียงแข็ง

“ก็นั่นมันในกรณีที่ตัวเอกไม่รู้เรื่องอะไรเลยนี่ครับแต่พวกเราไม่เหมือนกันใช่ไหมละ” เดียร์ยังคงยิ้มหวาน…แต่ก้องเห็นแล้วกลับขนลุกเกรียวรู้สึกโชคดีเหลือเกินที่อีกฝ่ายไม่ใช่สเปคตน ไม่อย่างนั้นคงตกหลุมพรางด้วยใบหน้าหวานสวยแบบนั้นไปนานแล้ว “เรื่องคุณสิทธิ์ ผมจัดการเอง ส่วนเรื่องจับพวกนั้น ก็เป็นหน้าที่พวกคุณ เราก็ได้ประโยชน์กันถ้วนหน้า ดีไหมละครับ”

ดี…แต่ไม่อยากตกลงยังไงก็ไม่รู้

“แผนเก่าๆที่ทำกันมามันก็ไม่เคยสำเร็จสักทีใช่ไหมละครับ ถ้างั้นจะลองแผนผมหน่อยจะเป็นไรไป”

เขากลัวมันจะแย่จนกู่ไม่กลับเสียมากกว่านี่สิ

“แต่ถึงพี่จะไม่ร่วมมือ ผมก็ไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว”

ทำไมก้องจะไม่รู้ ถึงเขาจะไม่ร่วมมือ ไอ้เด็กมาโซนี่มันก็คงจะเดินแผนต่ออยู่ดี และปัญหาคือ เขาหยุดแผนบ้านี่ไม่ได้แน่นอน ต่อให้พูดความจริง ใครมันจะเชื่อ ยิ่งโดยเฉพาะสิทธิ์นี่ละตัวดี เพราะถ้ายอมเชื่อแต่แรก เดชคงไม่อยู่เป็นเหลือบไรของชีวิตมาถึงทุกวันนี้หรอก

“ไม่ต้องห่วงเพราะผมก็ไม่ได้มีความสุขจนเพลินอย่างเดียวหรอกครับ ถ้ามีอะไรที่พอเป็นหลักฐานมัดพวกนั้น ผมไม่ปล่อยให้รอดสายตาแน่ เชื่อมือผมเถอะ”

ก้องอยากจะตะโกนเหลือเกิน…ถ้าอยากให้เชื่อมือ ก็เลิกฉีกยิ้มชั่วร้ายนั่นสักทีเถอะ

 

เนเร่งรีบหอบเอกสารเดินลงมายังอาคารจอดรถ เขาพุ่งตรงหารถแวนสีดำที่จอดอยู่ด้านในสุด และก็ต้องโดดจนตัวลอย เมื่อเห็นชายร่างยักษ์นอนพับอยู่บนฝากระโปรงรถด้านหน้า

“คุณสิทธิ์!” เด็กหนุ่มเผลอทิ้งเอกสารทั้งหมดในมือ แล้วปรี่ไปช่วยพยุงอีกฝ่ายขึ้นมา “คุณสิทธิ์ครับ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”

“อือ….กินม่ายหวายแล้ว…” เสียงทุ้มเครือที่ดังอยู่ในคอทำเอาเนเผลอถอนหายใจด้วยความโล่งอก “อ้าว…เน…”

“ครับ ยืนไหวหรือเปล่าครับเนี่ย” เด็กหนุ่มหิ้วปีกอีกฝ่ายก่อนจะพยายามใช้อีกมือเอื้อมไปบิดกุญแจรถที่เสียบคารูแล้วประคองร่างเข้าที่นั่งด้านหลังอย่างระมัดระวัง “ไม่เป็นอะไรนะครับ”

“อืม…ไม่เป็นไรหรอก” สิทธิ์บอกโดยไม่ลืมตาขึ้นมาด้วยซ้ำ ทำเอาลูกน้องหนุ่มรู้สึกหวั่นใจขึ้นมา “เน”

“ครับ?”

“ฉันจะโดนตำรวจจับข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวไหม”

เด็กหนุ่มฟังแล้วข้องใจเสียเหลือเกิน เขาคิดว่าคนที่เป็นเจ้าของผับ บาร์ อาบอบนวด แถมยังชอบมีเรื่องตีรันฟันแทงกับกลุ่มอื่นๆ น่าจะเลิกกลัวตำรวจไปตั้งนานแล้ว

“ไม่รู้สิครับ ผมไม่ค่อยแม่นเรื่องกฎหมาย ถ้าอีกฝ่ายไม่บาดเจ็บปางตาย แล้วก็ไม่แจ้งความ คงจะไม่โดนมั้ง” เนตอบตามตรงก่อนจะกลับไปเก็บเอกสารไปวางไว้ตรงฝั่งตรงข้ามของสิทธิ์ จากนั้นก็ลงไปนั่งฝั่งข้างคนขับ “แล้วคุณสิทธิ์ทำอะไรรุนแรงไปหรือยังล่ะครับ”

เงียบไปห้านาที จนเนนึกว่าสิทธิ์สลบไปแล้ว

“…เอาเข็มขัดฟาดไปไม่กี่ที เรียกว่าปางตายได้ไหม”

แล้วคำตอบที่ได้ ก็ทำเอาคนรอสะดุ้งจนตัวลอย

“ตะ…แต่ว่าฉันยังเห็นเขาแข็งแรงดี ยังพยายามดิ้นให้หลุดจากกุญแจมือด้วยนะ” ยิ่งฟังคำแก้ตัวของเจ้านาย เนก็เริ่มหน้าซีดลงเรื่อยๆ แต่เพราะไม่ได้หันไปหา สิทธิ์จึงไม่รู้ตัว “เพราะงั้นไม่เป็นไรใช่ไหม…ก็นะ คนอื่นที่ฉันเล่นงานยังหนักกว่านี้เลย ยังไม่เห็นเป็นอะไรเลยนี่ ใช่ไหมๆ”

“ก็นั่นมันมาหาเรื่องก่อน แถมคดีติดตัวยาวเป็นหางว่าว แล้วพวกมันจะกล้าแจ้งได้ไงล่ะครับ” เนปิดปากตัวเองแทบไม่ทันแต่แน่นอนว่าสายไปเสียแล้ว เพราะตอนนี้สิทธิ์ใจแป้วไปเรียบร้อย และด้วยความลนลาน จึงหลุดปากออกไปต่ออย่างไม่ลืมตัว“ตะ…แต่ว่า ถ้าคุณสิทธิ์ลองขู่แรงๆ หรือกุมความลับอะไรไว้ เขาอาจจะไม่แจ้งตำรวจก็ได้นะครับ”

กว่าจะคิดได้ว่าเพิ่งปล่อยโอกาสให้หัวหน้ากลับใจหลุดลอยไป อีกทั้งยังไปแนะนำเรื่องที่ไม่ควรแนะนำที่สุด ก็สายไปหลายโยชน์แล้ว

“นั่นสินะ…เรื่องแค่นี้ทำไมฉันลืมไปได้นะ” สิทธิ์เริ่มกลับมามีความหวังอีกครั้ง “ขอบใจนายมากเลยนะ ไม่งั้นฉันคงได้แต่กลุ้มจนทำอะไรไม่ถูกแน่”

เนยิ้มฝืน เขาก็ดีใจอยู่หรอกที่สิทธิ์กลับมาร่าเริงขึ้น แต่ไม่อยากให้มาดีใจกับเรื่องนั้นเลยสักนิด

 

ทันทีที่จัดการงานเสร็จเรียบร้อย อีกทั้งรองประธานยังให้คำมั่นสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าไม่น่าจะมีงานด่วนไปราวสองสามวัน สิทธิ์ก็รีบขึ้นเครื่องบินกลับไปหาลูกกวางน้อย ในใจก็คิดสารพัดถึงแผนที่วางไว้พลางยิ้มพราย

“…คุณสิทธิ์ครับ ออกที่หน้าหมดแล้ว” เนเอ่ยทักอย่างหมดความอดทนเขาเห็นอีกฝ่ายยิ้มเหี้ยมส่งเสียงหัวเราะในคอมาตั้งแต่ก่อนขึ้นเครื่องยันออกจากสนามบินแล้ว“ผมว่า…เผื่อใจไว้หน่อยก็ดีนะครับ บางทีมันอาจจะไม่ได้เป็นไปตามแผนก็ได้”

“นายหมายความว่าไง” จากที่กำลังยิ้มหวาน กลับมาหน้าเคร่งเครียดจนชวนสะดุ้งทันควัน

เนกลืนน้ำลายลงคอ พยายามหาคำโกหกสุดชีวิต ขืนสิทธิ์รู้ความจริง มีหวังไม่จบแค่โดนสิทธิ์ด่าคนเดียวแน่

“คือ…ผมก็แค่กลัวมันจะไม่เป็นไปตามที่คิด…ก็มันไม่ใช่นิยายใช่ไหมล่ะครับ มันจะง่ายๆขนาดนั้นหรือ ฝั่งคุ…วินคงไม่อยู่เฉยๆแน่ ระหว่างนั้นอาจจะแอบส่งคนมาเอาตัวเด็กคนนั้นกลับไปก็ได้”

สิทธิ์เปลี่ยนสีหน้าทันควัน และยังไม่ทันจะได้ทำอะไร เสียงโทรศัพท์ก็ดังขัดขึ้นเสียก่อน

“แย่แล้วครับ เดียร์หนีไปแล้ว”

แล้วก็ได้รับข่าวที่ตนกลัวทันที ช่างประจวบเหมาะเหมือนเตรียมการไว้เด๊ะๆ

“ละ…แล้วหนีไปนานหรือยัง เอาอะไรไปด้วยหรือเปล่า” เสียงทุ้มถามอย่างร้อนรน “พี่รีบออกไปหาเดี๋ยวนี้เลยนะ ตอนนี้คงยังไปได้ไม่ไกลหรอก ถ้าหนีไปได้ ผมจะหักเงินเดือนพี่แล้วจะบอกพี่ฤทธิ์ด้วยว่าพี่ใจอ่อนให้เด็กผู้ชายจนเสียงาน!!”

“เขาเพิ่งหนีไปได้ไม่นาน แล้วก็ไม่ได้เอาเงินไปซักแดง เพราะงั้นคงหนีไปได้ไม่ไกลหรอกครับ” เพราะรู้อยู่แล้วว่ายังไงเรื่องราวก็จะกลับเข้าสู่แบบเดิม เพราะงั้น ต่อให้โดนขู่กว่านี้ หนุ่มใหญ่ก็ไม่รู้สึกอะไรนักหรอก แถมไอ้อย่างหลังนี่ สำหรับเขาไม่เรียกว่าการลงโทษแม้แต่นิดเดียว “บางที เขาอาจจะไปแถวสนามบินก็ได้นะครับ คุณสิทธิ์ลองหาดูแถวๆนั้นสิครับ เผื่อจะเจอก็ได้”

เพราะไอ้เด็กนั่นมันตรงไปรอรับคุณตั้งแต่คุณขึ้นเครื่องบินแล้วล่ะ ถ้าจะเจอไอ้เด็กนั่นแถวนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอะไรหรอก…

“เน นายยืนเฝ้าอยู่แถวนี้นะ ถ้าเกิดเห็นเดียร์เมื่อไหร่ จับเอาไว้เลยนะ เดี๋ยวฉันจะลองไปดูตามทาง”

“เอ๋ เดี๋ยวสิครับ ผมปล่อยให้คุณไปไหนคนเดียวไม่ได้หรอกนะ” เนค้านเสียงตื่นและรีบคว้าแขนเจ้านายรั้งไว้สุดแรง “ถ้าจุดหมายเขาคือที่นี่ เราก็รอด้วยกันเลยสิครับ จะไปวิ่งให้เหนื่อยทำไม”

ถึงบางอ้อแล้วหายร้อนรนทันที

“เออ นั่นสินะ ฉันมัวแต่กลัวเลยไม่ทันคิด” แม้จะพูดอย่างนั้น แต่ก็ยังหน้าซีดไม่หาย “งั้นรออยู่ที่แถวนี้ละกันเดี๋ยวหมอนั่นก็คงมา…”

เนเลิกคิ้วมองสิทธิ์ที่พูดค้างไป ก่อนจะหันไปมองตามที่อีกฝ่ายมอง และก็เผลออ้าปากค้างไปด้วย

ถึงจะภาวนาไว้แล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้เจอเร็วขนาดนี้

“อ๊ะ”

ทันทีที่เดียร์หันมาสบตากับหนุ่มทั้งสอง ร่างบางก็ปลิวหายออกไปจากตรงนั้นทันทีและสิทธิ์เองก็รีบใส่เกียร์มาไล่ตามอย่างไม่คิดชีวิตทันที

“หยุดนะ คิดว่าจะหนีฉันพ้นหรือไง” เสียงทุ้มตะโกนไล่อย่างเดือดดาล แต่อีกฝ่ายก็วิ่งเร็วจนเขาไล่ตามไม่ได้ง่ายๆ

เนซึ่งวิ่งตามมาติดๆได้แต่มุ่นคิ้ว เพราะปกติ เวลาวิ่งไล่กันแบบนี้ เด็กหนุ่มคิดว่าฝั่งที่วิ่งไล่อย่างพวกเขาน่าจะดูเป็นผู้ร้าย ที่วิ่งไล่หนุ่มน้อยน่าสงสาร แต่ตอนนี้เขามองยังไงเหมือนกับ ไอ้คนวิ่งนำเพิ่งไปกระชากสร้อยสิทธิ์มามากกว่า…เพราะถ้าเดียร์เป็นฝ่ายเดือดร้อนจริงๆ อย่างน้อยก็น่าจะร้องขอความเชื่อเหลือบ้างสิ คนมากมายตามทางก็มีตั้งเยอะ แต่นี่อะไร วิ่งอย่างเดียวเนี่ยนะ แล้วถ้าวิ่งด้วยความเร็วแค่นั้น ไม่มีทางหนีรอดไปได้หรอก นอกเสียจากว่าสิทธิ์จะหมดแรงนั่นละซึ่งนั่นเป็นไม่ได้แน่ เพราะสิทธิ์ในตอนนี้ได้สะสมพลังมาเต็มที่ให้วิ่งสักสิบกิโลเมตรก็ยังไหว

สิทธิ์เผยยิ้มเมื่อเห็นความเร็วของอีกฝ่ายลดลง เขารวบรวมพลังทั้งหมด แล้วกระโจนเข้าไปหาร่างตรงหน้า ในที่สุดมือหนาก็คว้าแขนเล็กเอาไว้ได้ เขากระชากจนเดียร์หงายหลัง มาซบลงตรงอกหนาของสิทธิ์พอดี

“ปล่อยนะ!” เสียงหวานกรีดร้องปานจะขาดใจพลางดิ้นหนีสุดชีวิต แต่แขนแกร่งพันธนาการไว้ด้วยแรงมหาศาลจนเด็กหนุ่มไม่อาจสู้ไหว ทำเพียงแค่ดิ้นขลุกอย่างไร้ประโยชน์

“ฮึ คิดว่าจะหนีฉันพ้นหรือ” อันที่จริงก็กลัวแทบตาย เพราะวิ่งไล่อยู่ตั้งนาน ตอนที่จับได้นี่แทบอยากจะกระโดดกู่ร้องให้ลั่นโลก“กลับไปเจอดีแน่!”

เมื่อเห็นคนในวงแขนตัวสั่นระริก สิทธิ์ก็นึกสมเพชอีกฝ่ายอยู่ในใจ ก่อนจะหันไปหาลูกน้องหนุ่มที่เพิ่งไล่ตามมาทัน

“เน โทรบอกก้องให้มารับที ดูท่าวันนี้คงต้องเปิดคอร์สสั่งสอนเด็กดื้อนานหน่อย”

แต่เจ้าของชื่อไม่ได้ทำตามในทันที เนเลิกคิ้วมองสิทธิ์ค้างอยู่พักใหญ่ ก่อนจะชี้ไปยังฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นบ้านที่มีรั้วสีขาวล้อมรอบหน้าตาคุ้นเคยซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่พวกเขายืนอยู่เพียงไม่กี่สิบเมตร

“ผมว่าไม่จำเป็นแล้วมั้งครับ”เนขืนตอบ เห็นแล้วขำไม่ออกตงิดๆ นี่มันจะบังเอิญเกินเหตุไปแล้ว วิ่งมาตั้งแต่สนามบินจนมาเกือบถึงบ้านเนี่ยนะ ถึงระยะทางจากสนามบินมายังบ้านมันจะไม่ไกลมากก็เถอะ

“อ้าว พอดีเลยนี่” แต่ดูเหมือนเจ้านายแสนดีจะไม่ทันสังเกตถึงความผิดปกติ เขารีบลากร่างบางในอ้อมแขนตรงไปยังบ้านพักของตนทันที

“ตายห่า” เนสบถกับตัวเองเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่สิทธิ์วางไว้ แต่ก็ไม่อาจจะแก้ไขสิ่งใดได้ นอกจากภาวนาให้ก้องไม่ก็วัฒน์มีทางออกกับเรื่องนี้ได้

“ไม่ ปล่อยผมนะ ปล่อยผม” เดียร์ดิ้นสุดชีวิตและพยายามตะโกนสุดเสียงเท่าที่จะทำได้ ดวงตากลมเหลียวซ้ายแลขวาบนถนนที่ไม่มีผู้คนอื่นเดินเลยสักชีวิต “ช่วยด้วย!”

“ฮึ ร้องไปก็ไม่มีใครช่วยหรอก” สิทธิ์หัวเราะร่า หลังจากมองจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครอยู่ฟังเสียงร้องของเดียร์“อยากแหกปากร้องก็เอาเลย เพราะหลังจากนี้เธอได้ร้องเยอะกว่านี้แน่!”

“ฮึก…” ดวงตากลมรื้นไปด้วยน้ำตาที่แลดูสิ้นหวังนั่น ยิ่งทำให้สิทธิ์รู้สึกสะใจเล็กๆ “ไม่นะ…อย่าทำอะไรผมเลย”

ไอ้ตอนใจดีทำไมไม่ว่าง่ายแบบนี้ล่ะ มาทำตอนนี้ก็สายไปแล้วโว้ย!

สิทธิ์ลากเด็กหนุ่มอย่างไม่มีการเห็นใจจนเนที่ตามหลังมาออกอาการผวาและสงสารเดียร์ เพราะสิทธิ์เล่นไม่ยั้งมือเลยสักนิด

ก้องซึ่งรออยู่ที่หน้าบ้านอยู่นานแล้ว รีบเปิดประตูให้เจ้านายทันทีที่เห็นอีกฝ่ายตรงเข้ามาด้วยความเร็วสูงสิทธิ์ดูจะไม่สนใจเขาเท่าไหร่นัก เพราะชายหนุ่มไม่เอ่ยต่อว่าเรื่องที่ผิดพลาดนี่สักคำ สิทธิ์เพียงแต่ตรงลิ่วขึ้นไปยังชั้นสอง โดยมีเดียร์ที่ยังคงขัดขืนไม่เลิก

“…พี่ก้อง แล้วทีนี้จะทำยังไงละครับ” พอเจ้านายหายขึ้นไป เนก็ลนลานกระซิบถามก้องทันที “นี่มันไม่ใช่อย่างที่วางไว้เลยนะครับ ทำไมพี่ไม่ปล่อยเด็กนั่นก่อนที่คุณสิทธิ์จะมาละครับ”

“…ขืนทำแบบนั้น ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะ ถ้าใครรู้ว่าฉันปล่อยให้เด็กตัวเล็กๆนั่นหนีรอดไปได้ เสียชื่อหมด” ก้องตอบอย่างเหนื่อยใจในหลายๆเรื่อง “…เดี๋ยวฉันบอกกับคุณวัฒน์เอง นายสบายใจได้ไม่ต้องกลัวหรอก ฉันเข้าใจ”

เด็กหนุ่มชักสีหน้าใส่ทันที “ใครกลัวตาลุงนั่นกันครับผมแค่กังวลเรื่องคุณสิทธิ์ต่างหาก ดูสิครับ นี่มันเข้าทางไอ้เดชชัดๆเลยไม่ใช่เหรอ”

ก้องเลิกคิ้วให้ ก่อนจะกลับเข้าเรื่อง “นั่นมันก็ใช่อยู่หรอก แต่เรื่องมันเป็นแบบนี้ไปแล้วนี่ จะให้ทำไงได้ล่ะ”

เนบึ้งหน้า ก่อนจะหันกลับไปมองที่ชั้นสองอย่างร้อนรน พยายามหาทุกวิถีทางที่จะหยุดการกระทำของเจ้านาย โดยไม่ทันสังเกตว่าคนที่ยืนข้างๆมีสีหน้าแย่กว่าตนเยอะเพราะก้องรู้ดีว่า คนที่แย่ในตอนนี้ ไม่ใช่เดียร์หรอก

แต่เป็นคุณสิทธิ์ตังหาก!

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด