- 7 -
(part2)
วันต่อมาผมไปมหาวิทยาลัยเพื่อเรียนตามปกติ แม้รอยฟกช้ำจะยังไม่จางหาย แต่ของแบบนี้มันปกปิดกันได้ อีกอย่างผมไม่อยากขาดเรียนแล้ว เดี๋ยวตามงานไม่ทัน
“สายเหมือนเดิมนะมึง” คำแรกที่เดินเข้าห้องมาเลยครับ นายปลาฉลาม
แต่ผมไม่ได้ตอบกลับอะไรมันไป เดินไปนั่งประจำที่ข้างๆบูม จงใจเลี่ยงเก้าอี้ที่เว้นว่างอยู่ข้างใครบางคน ไอ้โทมันมองผม ผมรู้ สายตาคมที่จ้องมาแบบนั้นต่อให้ตาบอดก็ยังรู้สึกถึงรังสีกดดันที่มันแผ่ออกมาได้เลย
อาจารย์เริ่มสอนไปได้สักพักแล้ว ผมตั้งหน้าตั้งตาจดเลคเชอร์ เพื่อให้ทันบทเรียนที่ผมขาดไป แต่ก็ยังงงอยู่ดี สงสัยต้องให้ไอ้บูมสอนนอกรอบ
ได้โปรดอย่าถามเรื่องการเรียนและเกรดของผม ไม่อยากจะอวดว่าในปี1ที่ผมรอดมาได้นั้นเพราะดวง...และไอ้คนที่ทำเรื่องเหี้ยๆกับผมช่วยติว
‘นี่มึงจับสลากเข้ามาใช่มั้ย?’
มันด่าผม แต่ก็ยอมอธิบายถึง 5 รอบจนกว่าผมจะเข้าใจ
‘ไปซื้อข้าวให้กูไป เห็นละหงุดหงิดชิบ’
ไอ้โทมันใช้ผมแต่ไม่ให้เงินสักบาทในขณะที่ผมกำลังทำงานที่อาจารย์สั่ง
‘แม่ง ไรวะ กูกำลังทำงานที่เจ๊สั่งอยู่นะเว่ย ส่งบ่ายนี้แล้วด้วย’
‘กูบอกให้ไปก็ไปสิวะ’
งานนั้นมันเป็นงานเดี่ยว โจทย์ที่แต่ละคนได้ไม่เหมือนกัน และบังเอิญว่าโจทย์ของผมมันยากมากๆ ผมนั่งคิดหัวแทบแตกแต่ยังไงก็คิดไม่ออก ส่วนรายนั้นน่ะเหรอ...เสร็จตั้งแต่อาจารย์ให้โจทย์ในชั่วโมงแล้วครับ
ผมไม่ได้โง่นะ อย่ามองผมแบบนั้น ผมไม่มีเวลาต่างหาก ตอนเย็นกลับไปก็ต้องทำงานจนตี1 พอถึงหอก็ล้มตัวลงนอนเลยบางวันไม่อาบน้ำด้วยซ้ำ จะเอาเวลาที่ไหนไปนั่งทบทวนบทเรียนหรือทำการบ้านที่อาจารย์แต่ละท่านสรรหามาให้ละครับ? ไม่รู้ว่าผมคิดผิดรึเปล่าที่มาเรียนวิศวะปิโตรเคมี แค่ให้ผมจำตารางธาตุก็แย่แล้ว
จ๊อบ บูม ปลาฉลาม .. 3ตัวนั้นอะเหรอ? โอ๊ยยยย มันก็ให้ไอ้โทช่วยสิครับ หัวสมองของไอ้จ๊อบก็มีแต่ผมฟูๆปกคลุมหัวมัน ของไอ้บูมก็มีแต่นม นม นม และนม ยิ่งไอ้หลาม..รายนี้คงมีแต่เรื่องเพลงกับผู้หญิง
ตอนนั้นผมก็ต้องจำใจลุกไปซื้อข้าวให้คุณชายแดก แล้วพอกลับมาผมก็เห็นมันนั่งเล่นเกมในไอโฟน มันเหลือบตาขึ้นมามองผมนิดๆก่อนจะกลับไปสนใจเกมในมือต่อ ผมวางกล่องข้าวกับน้ำให้มัน (ต้องซื้อน้ำด้วย ไม่งั้นเดี๋ยวมันก็ไล่ผมให้ไปซื้อน้ำให้มันอีกอยู่ดี) ตั้งใจว่าจะทำงานต่อ แต่พอจับปากกากำลังจะเขียนเท่านั้นแหละ..
บนกระดาษ A4 มีรอยดินสอขีดเขียนเต็มไปหมด มันเป็นวิธีการทำของโจทย์ที่ผมได้ สูตรคำนวณและคำตอบพร้อม
ผมหันไปมองเจ้าของลายมือ ซึ่งมันเก็บไอโฟนแล้วลุกขึ้นทันที
‘อ่าว น้องฝน สวัสดีคร้าบบบบ’ ไอ้หลามส่งเสียงทักน้องผู้หญิงที่กำลังเดินเข้ามาหาไอ้โท น้องคนนั้นเค้าทักกลับแล้วยิ้มให้ น่ารักสุดๆเลยครับ ดูเรียบร้อยสดใสเหมาะกับไอ้โทดี
มันเดินไปแล้ว ผมยังไม่ได้ขอบคุณมันเลย ไว้วันหลังละกัน...ผมบอกตัวเองในใจแบบนั้น แต่จนทุกวันนี้ผมก็ยังไม่มีโอกาสได้บอกขอบคุณมันจริงๆจังๆสักที
คงไม่ต้องแล้วล่ะมั้ง...เหตุการณ์ที่ผ่านมา 2 วันมันทำให้ความรู้สึกดีๆอันน้อยนิดในใจผมที่มีต่อไอ้โทหายวับไปกับตา
กลับมาที่ปัจจุบัน อาจารย์บอกเลิกคลาสแล้วครับ ผมเก็บของลงกระเป๋า
“เฮ้ยยยยยย เดี๋ยววววว พวกมึงทุกคนครับ ฟังกูหน่อยคร้าบบบบบบ” คนที่ยืนตะโกนหน้าห้องคือไอ้กอล์ฟ มันเป็นหัวหน้าภาครุ่นผม “คือขอความร่วมมือรุ่นพี่ปีสองทุกคนให้ไปประชุมที่ลานเกียร์ในตอนเย็นวันนี้”
“ประชุมเรื่องไรวะ?” ใครคนหนึ่งถามขึ้น
“นิทรรศการหมุนเฟืองครั้งที่ 36”
เอาแล้วไง ผมต้องโทรไปบอกเฮียโกวเพื่อที่จะเข้างานสายอีกแล้วสินะ นิทรรศการที่ว่าก็คล้ายๆเปิดบ้านแหละครับ จะมีกิจกรรมต่างๆที่คณะผม แล้วก็ตกแต่งสถานที่ด้วยบอร์ดความรู้ ให้เด็กนักเรียนระดับม.ปลายเข้ามาร่วมแข่งขันตอบปัญหาเพื่อชิงรางวัล บลาๆๆๆ
“เจอร์เราได้สถานที่ติดกับพวกเครื่องกลนะ ถ้ายังไงเดี๋ยวตอนเย็นหลังจากประชุมเสร็จก็ลองคุยเรื่องสถานที่ดูว่าจะแบ่งยังไง” ประธานเจอร์ผมพูดต่อ
เจอร์ในที่นี้ย่อมาจากคำว่า เมเจอร์(Major) ครับแปลง่ายๆตามความคิดผมก็คือภาควิชานั่นแหละ เพียงแต่เรียกให้หรูๆเท่านั้นเอง
ทั้งวันนั้นผมเอาแต่เรียนอย่างเดียว ตั้งใจฟังอาจารย์สอนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เวลาตอนพักกลางวันผมตั้งใจเลี่ยงไปอยู่หอสมุด ผมไม่อยากเห็นหน้าไอ้เหี้ยโท แม้แต่เสียงก็ไม่อยากได้ยิน
“เดี๋ยวกูถามเรื่องรูปให้นะ ไว้รอไอ้เหี้ยโทมันอารมณ์ดีกว่านี้ก่อน กูไม่กล้าเข้าไปตอนนี้ว่ะ แม่งน่ากลัวสัดๆ” ไอ้บูมกระซิบบอกผม
ก็จริงอย่างที่มันว่า ตอนนี้ใครก็เข้าหน้าไอ้โทไม่ติด กระทั่งสาวๆที่ต้องกรี๊ดเวลามันเดินผ่านหรือเดินเข้ามาทักก็ได้แต่ซุบซิบกันเงียบๆ ไอ้หลามก็ยังงงๆ แต่มันก็ร่าเริงยิ้มได้ตลอด สมกับที่เป็นมันจริงๆ
ที่ผมแยกตัวออกมานอกจากจะช่วยไม่ให้ผมต้องเห็นหน้ามันแล้ว ยังช่วยให้ผมหลุดพ้นสายตาคมที่มันจ้องมาตลอดด้วย
“ไง มานั่งทำไรคนเดียวตรงนี้วะ?” เสียงทักข้างหลังพร้อมกับแรงกดที่บ่าทำให้ผมหันไปมอง
“หวัดดีครับพี่พล” พี่รหัสผมเองครับ “อ่า...ผมง่วงๆครับเลยหนีมาหาที่นอน”
เราไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่หลังจากที่ผ่านพ้นช่วงรับน้องมา ต่างคนก็ต่างยุ่งๆ พี่พลก็เป็นพี่ที่ดีคนหนึ่ง เอาขนมเอาหนังสือมาให้ ถึงแม้ว่านานๆทีจะเจอกันก็เถอะ
“แล้วเพื่อนเราหายไปไหนหมดล่ะ?”
“มันไปกินข้าวครับ”
“อ่ออืม แล้วเฟรดเป็นไงมั่ง?” พี่พลถามถึงน้องรหัสผม อัลเฟรด น้องผมคนนี้เป็นลูกครึ่งครับ ครึ่งบกครึ่งน้ำ เอ๊ยไม่ใช่ เป็นลูกครึ่งอังกฤษครับ หน้าตามันก็ดีนะครับ แต่ดีน้อยกว่าผมหน่อยนึง
“ก็ดีมั้งครับ” ครั้งสุดท้ายที่ผมเห็นน้องรหัสตัวเองก็เมื่อตอนที่เอาหนังสือไปให้ เห็นว่าติดงานถ่ายแบบเดินแบบอะไรไม่รู้เยอะแยะ พวกเพื่อนๆในเจอร์พูดถึงน้องผมตลอด โดยเฉพาะพวกผู้หญิง แต่ผมเนี่ยสิ..เป็นพี่รหัสแท้ๆแต่ไม่ค่อยได้สนใจหรือดูแลสักเท่าไหร่เพราะลำพังตัวผมเองยังจะเอาไม่รอดเลย
“อะหะ ถ้างั้นมีอะไรสงสัยหรืออยากให้ช่วยก็บอกนะ” พี่พลบอกแบบนี้ทุกครั้งที่เราคุยกัน แต่ผมก็ไม่กล้าไปรบกวนพี่เขาอยู่ดี “เบอร์พี่ยังมีอยู่ใช่มั้ย?”
“มีครับ”
“อืม ไปละ”
โทรศัพท์มือถือ นั่นก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ผมกับพี่รหัส ลุงรหัสและน้องรหัสไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ เป็นที่รู้ๆกันว่าสมัยนี้ต้องมีไลน์ วอทแอพ อินสตาแกรม โซเชี่ยลแคมไว้แชทสื่อสารกันตลอดเวลา แต่ผม...จนๆอย่างผม ขอแค่มันโทรเข้า-ออกได้ก็ดีแล้วครับ
ยังดีที่ผมมีคอมไว้ที่หอ ไม่อย่างนั้นเฟซบุคผมก็คงไม่ได้แตะ
พอถึงตอนเย็นพวกผมก็ไปที่ลานเกียร์ซึ่งเป็นสถานที่นัดประชุมของพวกปีสองทุกเจอร์ในคณะ พวกมีหน้าที่แบ่งงานก็ทำงาน พวกที่มีหน้าที่คุยก็คุยกันไป
“นี่ไอ้โท มึงจะจ้องไอ้เตี้ยให้มันสูงขึ้นมารึไงวะ? กูเห็นมึงจ้องมานานละ” ไอ้หลามครับ ขนาดมันยังทนแทนผมไม่ไหวถึงกับเอ่ยปากถามอย่างไม่กลัวตาย
“เหอะ!” แล้วคนถูกถามก็ลุกเดินหนีไปเลยครับ
ตอนนี้ผม บูม จ๊อบ และหลามนั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่ ส่วนเพื่อนคนอื่นๆก็ปรึกษาหารือเรื่องงาน จะมีก็แต่พวกผมเนี่ยแหละที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
“เห้ยไอ้หลาม มึงอยู่เจอร์ปิโตรใช่ปะวะ?” จู่ๆก็มีคนเดินมาถามไอ้หลามครับ แต่งชุดนักศึกษาเหมือนกับพวกผม คนที่ถามหล่อมากครับ หล่อแบบเซอร์ๆ ไว้ผมยาวแล้วมัดเป็นหางม้าแบบลวกๆ ส่วนอีกคนที่เดินมาด้วยถ้าผมจำไม่ผิดเขาคือตัวแทนประกวดเดือนคณะและได้ตำแหน่งขวัญใจมหาชนมา
“เออใช่ มีไรวะทัช” อ๋อ คนผมยาวชื่อทัช
“ก็เรื่องนิทรรศการไงสาดดด เจอร์มึงกะเจอร์กูได้ที่ติดกัน” แต่คราวนี้คนที่ได้ตำแหน่งเดือนคณะปีที่แล้วตอบ
“หรอวะ...ถ้าอย่างนั้นเชิญคุณทัชกับคุณแทนเดินไปคุยกับประธานเจอร์กูเลยครับผม เพราะพวกกูที่นั่งอยู่ตรงนี้ไม่รู้เรื่องสักคน ฮ่าๆๆๆ”
“กูบอกแล้วไงสัดแทน ว่ามาถามไอ้เหี้ยหลามนี่ไม่ได้ความหรอก” คราวนี้มีอีกคนโผล่มา หน้าตาคุ้นๆแหะ...ใช่ไอ้คนปากดีแล้วโดนทำโทษตอนโดนว๊ากบ่อยๆ จนรุ่นพี่ปวดหัวกับมันรึเปล่าวะ?
“ไอ้แกรนด์ มึงบอกกูตอนไหนวะ?”
“เมื่อกี้ นับขึ้นไป3บรรทัด”
เอ่อ...เกิดสภาวะเดดแอร์ชั่วขณะ
“ให้กูไปหาไอ้กอล์ฟใช่มั้ย?” คนผมยาวหันมาถามไอ้หลามอีกครั้ง
“ใช่เลย”
“เออแล้วไว้เจอกันที่ร้านJKL” แล้ว 3 คนนั้นก็เดินจากไป ผมว่าที่พวกเค้ารู้จักไอ้หลามคงเพราะมันเล่นดนตรีที่ร้านเหล้าด้วยแหละ
ดีเนอะคนพวกนี้ วันๆไม่ต้องทำงาน เอาเงินไปทิ้งกับสิ่งอบายมุขโดยไม่ต้องกังวลถึงเรื่องค่าใช้จ่ายอะไรเลย ตัวผมตั้งแต่เข้ามหาลัยมาเคยไปร้านเหล้าแค่ 2 ครั้งเองครับ เป็นวันที่ได้รุ่นกับวันเลี้ยงสายรหัส
พูดถึงเลี้ยงสายรหัส...จะเอาเงินที่ไหนไปเลี้ยงวะเนี่ย? น้องรหัสแม่งยังรวยกว่าผมอีก เฮ้ออออ
Nwxt Chapter >> - 8 -Talk
ลืมแกรนด์แทนทัช 3หนุ่มแห่งภาคเครื่องไปรึยังเอ่ย? อิอิ