- 6 -
(part1)
“มะ..ไม่..มะ..ไม่..ไป..โรง..บะ บาล” ผมเค้นคำออกมาอย่างยากลำบาก
ดูท่าอาการจะหนักขึ้นเรื่อยๆ
“อ้าว! แล้วจะไปไหน?” เขาหันมาถามผม ในขณะที่โชเฟอร์แท็กซี่ยังคงมึนงงว่าตกลงผู้โดยสารจะไปไหนกันแน่ ผู้หวังดีเอื้อมมือไปกดเปิดไฟกลางรถแท๊กซี่โดยไม่ขออนุญาต นั่นทำให้ผมกระพริบตาถี่ๆและได้เห็นหน้าเขาในระยะประชิด
มองยังไงก็เด็กม.ปลาย
ถึงแม้ว่ารูปร่างจะสูงใหญ่กว่าผมมากก็เถอะ แต่ผมสั้นเกรียนแบบนั้นเด็กมหาลัยที่ไหนเขาจะตัดกัน? นัยน์ตาใสแจ๋วนั่นดูใสซื่อเกินไป
“เอ้า ตอบดิ ไม่ไปโรงบาลแล้วจะไปไหนครับคุณ?” ผู้หวังดีจะกลายเป็นผู้หวังร้ายเพราะเขาเขย่าตัวผมนี่แหละ “เห้ยคุณ! อย่าหลับนะ!” แถมตบหน้าแปะๆอีก
ปวดระบมไปทั้งตัวเลยแหะ...อยากนอน...
แอร์ในแท็กซี่มันเย็นสบายแบบนี้เองเหรอ มิน่าคนถึงได้ยอมฟุ่มเฟือยเพื่อแลกกับความสบายกันนัก ขอเอนหลับสักงีบละกันนะ ไม่ไหวแล้ว...
“คุณตอบผมมาก่อนว่าจะไปไหน? คุณ .. คุณ ... คุณ...”
เสียงของเขาเหมือนไกลออกไปจนผมไม่ได้ยินอะไรอีก
“ตื่น..คุณ...ตื่น ไม่งั้นผมอุ้มคุณออกไปนะ..ตื่นได้แล้ว” เสียงที่ผมได้ยินก่อนจะหลับไปดังขึ้นในโสตประสาทอีกครั้ง
ผมตื่นขึ้นมาในแท็กซี่คันเดิมที่จอดลงตรงหน้าคลินิกแห่งหนึ่ง โดยมีผู้หวังดีคนเดิมจ้องอยู่ข้างๆ
“อ้าว ตื่นแล้วนิ ปะๆ ไปหาหมอกัน” เขายื่นเงินให้โชเฟอร์แล้วพูดว่า “ไม่ต้องทอนครับ ขอโทษที่ผมรบกวนพี่ตั้งเยอะ แถมทำให้พี่เสียเวลาทำมาหากินอีก”
“ไม่เป็นไรครับ รีบพาเค้าไปหาหมอเถอะ อาการแย่มากๆเลยนะนั่น”
“นี่คุณ ลุกเถอะ อีกนิดเดียวก็จะถึงมือหมอแล้ว” เขาหันมาบอกผม
ช่วยไม่ได้แหะ...มาถึงนี่แล้ว
ผมค่อยๆขยับตัวก้าวลงจากรถ พยายามฝืนเดินตัวตรงทั้งๆที่ระบมไปหมด เหมือนผู้หวังดีจะรู้ เขาเข้ามาค่อยประคอง เปิดประตูให้ ไปคุยกับพยาบาลพลางพยักเพยิดมาทางผม ไม่กี่นาทีต่อมาพยาบาลก็เรียกผมให้เข้าไปตรวจ
หา? แซงคิวคนอื่นเข้าไปตรวจเลยเนี่ยนะ? ถึงจะมีคนไข้รอคิวอยู่แค่ไม่กี่คนก็เถอะ
“ไปเหอะ นี่คลินิกพี่สาวผมเอง” ผู้หวังดีบอกผม พยาบาลมาช่วยพาผมเข้าไปในห้องตรวจ
เมื่อเข้ามาในห้องก็พบกับคุณหมอในชุดกาวน์ที่สามารถชมได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า ‘สวย’ ใบหน้าเกลี้ยงเกลา รอยยิ้มส่งมาให้ผม บรรยากาศรอบๆตัวดูสว่างไสว นั่นทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจ
“สวัสดีค่ะ ดูท่าทางอาการไม่ค่อยดีเลยนะคะ” แม้แต่เสียงยังเพราะเลย “คุณหมอขอตรวจหน่อยนะคะ” ผมปล่อยให้คุณหมอทำตามใจชอบ เอาเศษเสื้อที่ปิดบังรอยฟกช้ำตรงหน้าท้องออกไป
“เห้ย! คุณโดนทำร้ายมานี่!”
อ้อ...ผมลืมบอกไปว่าผู้หวังดีก็เข้ามาในห้องตรวจด้วย
“อย่าเสียงดัง เจ้าป้อง ออกไปก่อนเลย” คุณหมอหันไปดุ
“งะ พี่แป้ง ผมเป็นห่วงเค้านะ”
“รู้แล้วล่ะน่า ยังไงมันก็หน้าที่ฉัน ออกไปได้แล้ว” คุณหมอสาวย้ำอีกครั้ง
“ก็ได้...ผมรออยู่ข้างนอกนะ” ผู้หวังดีเดินคอตกออกไป ท่าทางเขาเหมือนหมาหงอยยังไงก็ไม่รู้ ในห้องตรวจเหลือเพียงแค่ผม คุณหมอ และนางพยาบาลอีกคน
“เจ็บตรงไหนบ้างคะ?”
“อ่า..ก็หลายที่ครับ” ไม่ได้ตั้งใจจะกวนตีนหมอ จริงๆนะ “หัวผมโดนกระแทกด้วย ตอนนี้ยังปวดตุบๆอยู่ครับ” ผมบอกหมอไปตามตรง ชี้ให้ดูทุกจุดที่ปวดระบม คุณหมอกับพยาบาลก็ช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น เช็คโน่นเช็คนี่เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีกระดูกผมส่วนไหนแตกหรือหัก ไม่มีจุดไหนช้ำใน ส่วนศีรษะคุณหมอบอกว่ากระแทกไม่โดนจุดสำคัญ แต่เพื่อความไม่ประมาท เธอบอกให้ผมไปตรวจอีกครั้งที่โรงพยาบาล
“สุดท้ายนี้มีตรงไหนที่ยังเจ็บอยู่มั้ยคะ?” คุณหมอถามพลางเขียนใบสั่งยายิกๆ ผมเห็นแล้วรู้สึกตัวเบาหวิว...เงินในกระเป๋าจะพอค่ายาค่าตรวจไหมนี่?
ถ้าผมตอบว่าเจ็บที่ใจคุณหมอคงหาว่าผมเป็นพวกเสี่ยวแดกสินะ...แต่ผมเจ็บที่ใจจริงๆ และต่อให้หมอเก่งแค่ไหนก็คงไม่มีวันรักษาให้หายได้
“หมอก็ไม่อยากถามหรอกนะคะว่าทำไมคุณถึงโดนทำร้ายมา...แต่ทางที่ดีคนไข้ควรบอกจุดที่ผิดปกติทุกจุดเพื่อให้หมอรักษานะคะ อย่างน้อย...อะไรๆจะได้ไม่สายเกินไป” คุณหมอยิ้มให้ผม “รับรองหมอเก็บเป็นความลับไม่บอกใครแน่นอนค่ะ ด้วยจรรยาบรรของแพทย์เลย”
“ผม...โดนข่มขืนมาครับ” ผมตัดสินใจบอก ปฏิกิริยาของคุณหมอสาวคือเบิกตากว้างนิดหน่อยก่อนจะปรับให้เป็นดังเดิม
“แล้ว..”
“ไม่ได้หลั่งข้างใน แต่ก็ไม่ได้ใส่ถุงยางครับ”
“ถ้าอย่างนั้นคนไข้ควรจะตรวจเลือดนะคะ หมอแนะนำให้ไปที่โรงพยาบาลดีกว่าค่ะ” แล้วคุณหมอก็ร่ายยาวอธิบายถึงวิธีการตรวจ สำรวจตัวเอง ตบท้ายด้วยการให้กำลังใจผม ผมเดินออกมาจากห้องตรวจ ผู้หวังดียืนคอยอยู่แล้ว
“เป็นยังไงบ้างครับ? คุณดีขึ้นแล้วใช่มั้ย?” เขามองผมแล้วยื่นเสื้อให้ตัวหนึ่ง “เอ้าใส่ด้วย หนาวไม่ใช่หรอ?” ผมรับมา
“ขอบคุณ...”
ขอบคุณจริงๆ หากไม่มีเขา ป่านนี้ผมคงนอนซมอยู่ข้างถนน
“ไม่เป็นไรๆ อ้อ แล้วนี่ก็ยา” เขาชูถุงยาขึ้นมา มันทำให้ผมคิดได้
“เอ่อ..ค่ารักษา” ค่าแท็กซี่ ค่าเสียเวลาอีก ผมจะจ่ายเขายังไง ทั้งเนื้อทั้งตัวมีไม่ถึง 500 บาท
“ไว้ก่อนๆ” เขาบอกปัด “บ้านคุณอยู่ไหน เดี๋ยวผมไปส่ง”
“เอ่อ...แต่ผมต้องไปถอนเงินที่ธนาคารมาให้ก่อน...” ผมไม่มีบัตรเอทีเอ็มอย่างคนอื่นเขาหรอก มันเป็นการเซฟตัวเอง หากเงินสามารถถอนออกมาได้ตลอดเวลา ผมคงไปกดเงินอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง
“บอกว่าไว้ก่อนไงคุณ นี่มันจะ5ทุ่มแล้ว ไม่อยากกลับบ้านเหรอ?” เขากับผมยืนอยู่หน้าคลีนิคเพื่อหาข้อสรุปว่าผมจะกลับบ้านหรือผมจะไปถอนเงินเพื่อมาคืนเขาก่อน
“ถ้าผมกลับ แล้วผมจะเอาเงินมาคืนคุณยังไง?” มันเป็นเรื่องซีเรียสอีกอย่างหนึ่งสำหรับคนแปลกหน้าที่จู่ๆต้องมาช่วยใครก็ไม่รู้ แถมยังต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้อีก
“สรุปว่าคุณจะเอาเงินมาคืนผมให้ได้สินะ”
“ใช่”
“งั้นเอางี้ นี่เบอร์ผม ถ้าคุณพร้อมเอาเงินมาคืนผมเมื่อไหร่ก็โทรมาแล้วกัน” ผู้หวังดียัดกระดาษแผ่นเล็กใส่ลงไปในถุงยาแล้วยื่นมาให้ผม “ตกลงตามนี้ ไม่งั้นผมไม่รับเงินคืน”
ผมกำลังประมวลผลแต่เป็นอันว่าได้ข้อสรุปเรียบร้อย
ผู้หวังดีโบกมือให้แท็กซี่จอด ดันตัวผมเข้าไปในรถ
“กินยาให้ครบ ทายาทุกครั้ง แล้วก็กลับบ้านดีๆนะครับคุณ” เขายิ้มอย่างอารมณ์ดี “หวังว่าคราวหน้าที่เจอกันคุณจะไม่มีสภาพแบบนี้นะ”
“อื้อ ขอบคุณมากนะ”
“อ้อ! แล้วก็มาร์กหน้าโสมเกาหลี ขอแนะนำว่ามาร์ก 10 นาทีพอเพราะกลิ่นมันแรงมาก บ๊ายบาย” ผู้หวังดีปิดประตูรถ ทิ้งให้ผมงงกับคำพูดของเขา
มาร์กหน้าโสมเกาหลี? อะไรวะ?
ผมบอกจุดหมายปลายทางกับโชเฟอร์ ก่อนจะหันมามองถุงยาที่เยอะเกินควรในมือ ภายในถุงมีซองยาทั้งแบบแคปซูลและแบบเม็ด เจลทาแก้อาการฟกช้ำ แผ่นแปะคลายกล้ามเนื้อ ของพวกนี้ไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้หลอดยาเล็กๆที่เขียนว่า ยาลดรอยแดง ลดรอยดำ กันแดดSPF30 แต้มจุดด่างดำ และที่มาร์กหน้าโสมเกาหลีช่วยกระชับรูขุมขนนี่มันคืออะไร!?
ทันใดนั้นแสงสว่างจากนอกหน้าต่างลอดเข้ามาทำให้ผมสังเกตชื่อคลีนิคที่ถุงยา
นี่มันคลินิกสำหรับเสริมความงามชัดๆ!
ให้ตายเถอะ ทำไมผมไม่แอะใจผนังภายในห้องตรวจที่เต็มไปด้วยโปสเตอร์การรักษาสิว ฝ้า กระ แปะอยู่นะ...แถมมียิงเลเซอร์กำจัดขนด้วยเอ้า!
ผู้หวังดีคนนี้นี่ไม่ธรรมดาจริงๆ ไม่ได้พาผมไปโรงพยาบาล แต่กลับพาผมมาคลินิกเสริมความงาม ผมยิ้มให้กับตัวเอง
อย่างน้อยวันนี้ก็มีเรื่องดีๆเรื่องนึงล่ะนะ...
ผมหยิบซองยาแคปซูลขึ้นมา แต่มีกระดาษใบเล็กติดมาด้วย
ปกป้อง 090-0xx-xxxx
Next Chapter >> - 6 - (part2)Talk
มาลงให้ไว เพราะตอนดึกจะไปแรด กร๊ากกกกกกก
และขั้นตอนการตรวจรักษาพยาบาลอะไรนั่น แพรมั่วล้วนๆนะคะ โปรดอย่าถือสาและใส่ใจกับมันมาก
อ่านให้สนุกค่า ^^
รู้สึกกำลังใจดีสุดๆ แบบว่ามัน...พูดไม่ถูกอะ แพรอ่านทุกคอมเม้นต์ ขอขอบคุณจริงๆนะคะ
สัญญาว่าจะพยายามมาอัพทุกวันให้ได้แบบนี้ค่ะ ^^v
ปล.มีเรื่องถามค่ะ การลงนิยาย คือว่าแพรพิมในเวิดแล้วก๊อบมาลง ซึ่งในเวิดแพรก็ตั้งค่าเวลากดenterแล้วจะย่อหน้าอัตโนมัติ
แต่พอก๊อบมาลงในนี้มันไม่ย่อหน้าให้อ่า
ต่างจากเรื่อง
ขอโทษครับฯ(คลิกไปดูเลย) แพรก๊อบมาจากเวิดเช่นกัน แต่มันกลับย่อหน้าให้ซะงั้นอะ ดูอ่านสบายตาอ่านง่ายและหน้าจัดเรียงสวยกว่าเยอะเลย
ทำยังไงถึงจะให้มันมีย่อหน้ามาด้วยอ่าาาาา แง๊
when we แพรพิมในเวิด 2007
แต่ ขอโทษครับฯ แพรพิมตั้งแต่เวิดรุ่นแรกๆอะ ลืมละว่ารุ่นอะไร แล้วคือเซฟมาเปิดในคอมตอนนี้ด้วยเวิด2007 จะมี [โหมดความเข้ากันได้] แบบนี้อะคะ
มันเกี่ยวกับที่เวอชั่นเวิดด้วยรึเปล่าเอ่ย?
ใครเป็นกูรูผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญ แนะนำด้วยนะคะ T_T