SF : ป่วย (เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลักนะคะ อย่าเอามาปนกันน๊า ….)
พี่ใหญ่ไม่สบาย…
ไอ้เล็กเพิ่งโทรมาบอกเมื่อเช้า
“เมฆทำอะไรน่ะ” พี่ชินที่เพิ่งเข้ามาในบ้านเอ่ยถาม
“ทำข้าวต้มน่ะครับ ไอ้เล็กโทรมาบอกว่าพี่ใหญ่ไม่สบาย”
“เหอะ ตอแหลหรือเปล่า ไอ้ใหญ่ไม่สบายทำไมไม่โทรเรียกหมอ โทรเรียกเมฆไปทำไม”
“พี่ชิน ไม่เอาน่า”
“เอาเถอะๆ อยากทำอะไรก็ทำ พี่มันก็แค่พี่ชายจะสำคัญกว่าไอ้ใหญ่ได้ยังไง” พี่ชินตัดพ้อ
“คิดว่าน่ารักหรือไงเนี่ยห่ะ จะหน้างอทำไม ผมไม่ใช่…”
“พอๆ เลิกพูดๆ จะไปเยี่ยมไอ้ใหญ่ไม่ใช่เหรอไปสิไปๆ” พี่ชินบอก แต่ผมว่าเหมือนผมโดนไล่เลยนะ แค่สะกิดไปหน่อยเดียวเอง ฮ่าๆๆ พี่ชายผมร้อนตัวนี่หว่า
“งั้นผมไปนะพี่ ”
ผมจอดรถที่หน้าบ้านศิริพิทักษ์ พลางมองรอบๆ นานแค่ไหนแล้วนะที่ผมไม่ได้มาที่นี่ อ้อ จริงๆ เพิ่งมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ตังหาก
“อ้าว เมฆมาแล้วเหรอลูก” ป้าทิพย์เอ่ยทัก
“สวัสดีครับป้าทิพย์” ผมยกมือไหว้ทักทาย
“มาเยี่ยมตาใหญ่เหรอจ๊ะ ตาใหญ่อยู่บนห้องแน่ะ ข้าวปลาก็ไม่ยอมกิน แถมยังดื้อไม่ยอมกินยาอีก ป้ากับนมพิศพูดจนปากจะฉีกอยู่แล้ว
เมฆมาก็ดีแล้ว ช่วยไปดูให้ป้าหน่อยเถอะ” ป้าทิพย์บ่น
“เอ่อ ได้ครับ” ผมตอบรับก่อนจะขึ้นมาบนห้องของคนป่วย
ก๊อกๆๆๆ
“ไม่เอา ผมไม่หิว แม่กับนมพิศไม่ต้องเอาอะไรมาให้ผมกินเลยนะ” คนในห้องบอก ผมได้แต่กลั้นขำอย่างยากเย็น ก็นะ ใครมาเห็นผู้ชาย
ตัวอย่างกะยักษ์ งอแงไม่ยอมกินข้าวเป็นเด็กๆแบบนี้ก็ต้องขำทั้งนั้น
“ถ้าไม่กินแล้วจะหายเหรอครับ พี่ใหญ่”
“หือ เมฆเหรอ” คนป่วยเด้งลุกจากที่นอนก่อนจะจ้องผมเขม็ง
“จ้องผมทำไมครับ”
“เมฆมาได้ยังไง”
“ไอ้เล็กมันโทรไปบอกน่ะครับ” ผมบอกพลางวางชามข้าวต้มไว้บนโต๊ะหัวเตียง
“แล้วนี่พี่ใหญ่ กินยาหรือยังครับเนี่ย”
“กิน เอ่อ กินแล้วสิ เนี่ยพี่ว่าจะนอนพักแล้วนะ”
“แต่ป้าทิพย์บอกว่า พี่ใหญ่ไม่ยอมกินข้าวแล้วก็ไม่ยอมกินยาด้วยนะครับ”
“เอ่อ คือ ว่า พี่..” พี่ใหญ่อึกอัก จนผมอดหัวเราะไม่ได้ บอกแล้ว ถ้าใครมาเห็นพี่ใหญ่มุมนี้ ต้องฮาแตกแน่นอน
“ขำอะไรพี่ครับ”
“อายุเท่าไหร่แล้ว ยังกินยายากเป็นเด็กๆอยู่ได้” ผมเอ่ยล้อ
“ของแบบนี้มันไม่ได้อยู่ที่อายุหรอกครับ ก็พี่ไม่ชอบ”
ที่เขาบอกว่าคนป่วยมักจะอ้อนเก่ง ผมก็เพิ่งเห็นก็วันนี้ล่ะครับ ปกติ คุณชลธร เขารักษามาด จะตาย ดูวันนี้สิ อ้อนเป็นเด็กๆเลย
“กินข้าวดีกว่าครับ จะได้กินยาได้หาย”
“กินก็ได้ แต่เมฆป้อนพี่ได้ไหม” คนป่วยยังอ้อนไม่เลิก
“เป็นไข้ไม่ใช่เหรอครับ มือไม่ได้พิการซะหน่อย”
“โถ่ เมฆครับ ป้อนพี่หน่อยนะ นะครับนะ”
“ก็ได้ครับ แต่ถ้าผมป้อน พี่ต้องกินยาด้วยนะ”
“ครับผม ” คนป่วยยิ้มร่า
ผมจัดการป้อนข้าวต้มก่อนจะบังคับให้คนป่วยกินยาอย่างเย็น เฮ้อ ไม่เคยดูแลคนป่วยที่ไหน แล้วลำบากเท่าคนนี้มาก่อนเลยครับ
“จะกลับแล้วเหรอครับ” พี่ใหญ่จับมือผมไว้แน่น
“แต่นี่มันค่ำแล้วนะครับ”
“แต่ว่า พี่ป่วยอยู่นะ เมฆจะไม่อยู่ดูแลหน่อยเหรอ”
“อยู่ทำไมครับ คนอยู่ตั้งเยอะแยะ คุณป้าก็อยู่ นมพิศ ก็อยู่”
“ก็มันไม่เหมือนกันน่ะ พี่ไม่ได้อยากให้แม่ดูแลสักหน่อย อยากให้เมีย ดูแลมากกว่า”
“พี่ใหญ่ พูดอะไรครับ” ผมแหวลั่น ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เขิน
“ก็พูดความจริงไง พี่พูดผิดตรงไหน ก็เมฆเป็น เมีย พี่จริงๆ”
“แต่ผมเป็นผู้ชายนะ”
“พี่ว่าประเด็นนั้น น่าจะตัดไปตั้งนานแล้วนะครับ น่าอยู่กับพี่นะ”
“แต่ว่า”
“นะครับนะ” พี่ใหญ่ไม่พูดเปล่าแต่กลับดึงผมให้ล้มลงบนที่นอนด้วย พลางคร่อมผมไว้ทั้งตัว ทำไมท่าทางมัน ล่อแหลมแบบเน้
“ทำอะไรครับ”
“ถ้าไม่อยู่กับพี่จะจูบจนกว่าจะยอมเลย” พี่ใหญ่กระซิบเสียงแหบพร่า อย่ามาใกล้สิเว้ย มันเขิน ทำไมพักนี้ชอบขยันทำผมเขินจังก็ไม่รู้
“โอเคๆ ยอมแล้วก็ได้”
“ยอมให้จูบนะเหรอครับ” คนเจ้าเล่ห์ถาม
“ยอมอยู่ด้วยต่างหากเล่า”
“ว้าเสียดายเนาะ นึกว่าจะยอมให้พี่จูบซะอีก” พี่ใหญ่บอกก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆ พลางดึงผมเข้าไปซุกอกแกร่ง
“เฮ้อ”
“หืม” ผมเลิกคิ้วก่อนจะมองพี่ใหญ่ด้วยความสงสัย
“กว่าเราสองคนจะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ ไม่รู้ว่าพี่ทำเมฆเสียใจมากี่ครั้ง พี่ขอโทษนะครับ”
“เรื่องมันผ่านไปแล้วผมไม่อยากเก็บมาคิดมากอีก พี่ใหญ่ก็ไม่จำเป็นต้องคิดมากนะครับ วันนี้ ตอนนี้ ผมมีความสุข มีความสุขมากจริงๆนะครับ”
“พี่รักเมฆนะ ถึงพี่จะรู้ตัวช้าไปหน่อย แต่พี่ก็รักเมฆมากนะ” พี่ใหญ่บอกพลางกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น
“อื้อ ผมก็รักพี่ครับ” ผมกอดตอบ พลางซุกหน้าลงบนอกกว้าง
ผมไม่อยากคิดถึงเรื่องที่ผ่านมา ไม่อยากเก็บความทุกข์พวกนั้นมาใส่ใจ ไม่ใช่เพราะผมเป็นคนดีอะไรหรอกนะครับ แต่เพราะ ผมไม่อยากให้อะไรมาทำลายความสุขของผมในตอนนี้ ชีวิตของคนเราจะอยู่ได้อีกกี่วันไม่มีใครรู้ แล้วทำไมผมต้องเอาความทุกข์ในอดีตมาปั่นทอนความสุขในปัจจุบันด้วย แค่วันนี้พี่ใหญ่รักผม ก็พอแล้ว ………..
.......END.....................
เอาตอนหวานๆมาให้อ่านกันบ้าง ฮ่าๆๆ
จะได้ไม่อืด มาม่า ซะก่อน