…………………..26……………………………..
“คุณเมฆว่า ชุดนี้เป็นยังไงบ้างคะ” เสียงของคุณแพรเอ่ยถามพลางยื่นรูปชุดแต่งงานให้ผมดูด้วย
“ก็ดีนะครับ แต่ผมว่าแบบมันค่อนข้างจะเว่อร์ไปสักหน่อย ผมว่าหาแบบเรียบๆกว่านี้น่าจะดีกว่านะครับ” ผมออกความเห็น ถ้าถามว่าตอนนี้ผมอยู่ไหนก็คงต้องบอกตรงๆว่าอยู่ที่ร้าน เวดดิ้ง นั่นแหล่ะครับ ทั้งๆที่ไม่ได้จะแต่งงานแต่ด้วยความที่ผมเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ก็เลยต้องมาช่วยคุณแพรตัดสินใจ
“เหรอคะ”เธอบอกเสียแผ่ว ทำเอาผมอดที่จะเอ็นดูไม่ได้ จริงๆแล้วคุณแพรเป็นผู้หญิงที่นิสัยดีมาก คุยเก่ง แล้วก็ดูเธอจะหัวสมัยใหม่พอสมควร นั่นทำให้ผมแปลกใจว่าคุณแพรมีเหตุผลอะไรถึงยอมแต่งงานกับคนที่ไม่เคยเจอหน้ากันแค่ครั้งเดียวแต่นั่นมันไม่ใช่เรื่องของผม หน้าที่ของผมคือช่วยเธอจัดงานออกมาให้ดีที่สุดก็เท่านั้น
“แต่ถ้าคุณแพรชอบ ผมว่าเอาชุดนี้เลยก็ได้นะครับ”
“ไม่ดีกว่าค่ะ แพรว่าเอาตามที่คุณเมฆบอกดีกว่า ชุดนี้ดูท่าแล้วมันจะเวอร์ไปจริงๆ” เธอบอกด้วยรอยยิ้มก่อนจะมองชุดแต่งงานเจ้าปัญหาตาละห้อย
“เอ่อ อันที่จริงผมเป็นแค่ที่ปรึกษานะครับ คุณแพรไม่ต้องเชื่อผมทุกอย่างก็ได้”
“ไม่ได้หรอกค่ะ แพรบอกตรงๆนะคะ ว่าแพรเลือกไม่ถูก แพรไม่รู้ว่าคุณใหญ่เขาชอบแบบไหน แพรแค่อยากให้คุณใหญ่เขาประทับน่ะค่ะ”
“ถ้าบอกไปแล้วคุณเมฆอย่าบอกใครนะคะ แพรน่ะชอบคุณใหญ่ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นแล้วล่ะค่ะ คนอะไรก็ไม่รู้ ทั้งเท่ ทั้งหล่อ แถมยังฉลาดมากๆด้วย คุณใหญ่เนี่ยเป็นผู้ชายประเภทที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝันเลย คุณเมฆว่าไหมคะ” เธอบอกผมด้วยสีหน้าเพ้อฝัน เหอะ ผมว่าคุณแพรคงโดนหน้ากากที่ผู้ชายคนนั้นใส่เอาไว้หลอกเข้าเต็มๆเหมือนคนอื่นๆนั่นแหล่ะครับ ภาพเจ้าชายในนิทานที่ทุกคนเห็นมันเป็นแค่ภาพลวงตาเท่านั้น
“เหรอครับ” ผมตอบรับอย่างแกนๆ
“อืม ผมว่าชุดนี้ดีไหมครับ” ผมเลือกที่จะเปลี่ยนประเด็นเป็นชุดเจ้าสาวแทนที่จะคุยเรื่องใครคนนั้น ผมแค่ไม่อยากจะคิดอะไรที่มันต้องเจ็บปวดอีกเพราะแค่ที่เป็นอยู่ตอนนี้มันก็มากเกินพอแล้ว
“สวยจังเลยค่ะ เหมือนเจ้าหญิงเลย งั้นแพรเอาชุดนี้เลยนะคะ จะได้ลองแล้วถ่ายรูปเลย” เธอบอกก่อนจะจัดแจงให้พนักงานพาไปลองชุด
“เป็นไงบ้างครับ” เสียงของพี่ชายข้างบ้านดังขึ้นก่อนที่จะนั่งลงแทนที่คุณแพร
“ก็ดีครับ คุณแพรเธอน่ารักดี”
“พี่ไม่ได้หมายถึงคุณแพร แต่พี่หมายถึงเมฆตังหาก ไหวแน่นะ”
“ไหวสิพี่ โถ่ ผมนายเมฆานะครับ แค่นี้สบายมาก”
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จำไว้นะว่าพี่ยังอยู่ข้างเมฆเสมอ นะครับน้องชาย” พี่ชินบอกก่อนจะจับมือผมแน่น
“ครับพี่ชาย”
“หึ รอให้กลับถึงบ้านก่อนดีไหมครับ ทำอะไรอย่าให้มันประเจิดประเจ้อนัก” เสียงทุ้มคุ้นหูเอ่ยขึ้นก่อนที่ร่างสูงของคนที่ผมคุ้นเคยดีจะเดินเข้ามาในร้าน
“พวกผมยังไม่ทำอะไรเลยนะครับ ก็แค่จับมือ คนเราน่ะถ้าจิตใจสูงก็คงมองเห็นแต่เรื่องดีๆ แต่ถ้าจิตใจมันต่ำมันก็คงมองเห็นแต่
เรื่องเลวๆนะรับ คุณชลธร” พี่ชินพูดเรียบๆ แต่ผมว่าคนถูกพูดถึงคงจะไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่
“ไอ้ชิน!!”
“อะไรว่ะ ไอ้ใหญ่!!”
“พี่ชิน พอเถอะครับอย่ามีเรื่องกันเลย อายเขา นะครับถือว่าผมขอร้องล่ะ” ผมร้องห้ามเพราะตอนนี้คนในร้านเริ่มจะมองเราสามคนกันแล้ว ขอเถอะ ผมยังไม่พร้อมที่ตกเป็นขี้ปากใครตอนนี้นะครับ
“เจ้าสาวมาแล้วค่ะ” เสียงพนักงานเอ่ยขึ้น ก่อนที่คุณแพรจะเดินออกมา พร้อมกับชุดเจ้าสาวที่ผมเลือก
“เอ่อ เป็นไงบ้างคะคุณเมฆ” เธอถามผมด้วยใบหน้าที่แดงนิดๆ คงเพราะอายร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆผมมั้งครับ
“สวยครับ คุณแพรเหมาะที่จะเป็นเจ้าหญิงจริงๆนะครับ”
“แล้วคุณใหญ่ล่ะคะ แพรดูเป็นยังไงบ้าง” เธอถามอีกคน
“คุณแพรใส่อะไรก็สวยทั้งนั้นแหล่ะครับ เจ้าหญิงของผม” พี่ใหญ่บอกก่อนจะเดินเข้าไปจับมือคุณแพรแล้วกดจูบลงบนมือบาง
นั่น
“คุณใหญ่ก็ อายเขาค่ะ” เธอบอกด้วยท่าทางเขินอาย
“อายทำไมครับ ก็เราจะแต่งงานกันแล้วนะ ใครๆจะได้รู้ว่า ว่าที่ภรรยาผมน่ารัก”
“บ้า”
ท่าทางหยอกล้อของว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวเรียกร้อยยิ้มจากคนในร้านได้ไม่ยาก ใครๆก็คงมองออกว่าทั้งคู่เหมาะสมกันมาก ไม่ว่าจะรูปร่าง หน้าตาหรือชาติตระกูล
“ไหวแน่นะ”เสียงกระซิบของพี่ชายข้างบ้านดังขึ้นที่ข้างหู
“ไหวสิครับ อย่าห่วงเลย” ใช่ ผมไหว ถึงต่อให้ไม่ไหวก็ต้องทนให้ไหว ผมจะอ่อนแอไม่ได้เด็ดขาด ผมจะไม่มีวันแสดงความอ่อนแอออกมาให้เขาเห็น ต่อให้หัวใจของผมมันจะอยากร้องไห้ก็ตาม
“คุณเมฆคะ ไปทานข้าวกับแพรนะคะ แพรจะได้ถือโอกาสเลี้ยงขอบคุณที่คุณเมฆมาช่วยแพรวันนี้” คุณแพรบอกหลังจากที่ลองชุดเสร็จแล้ว
“อย่าดีกว่าครับ ผมเกรงใจ”
“อย่าเกรงใจเลยค่ะ นะคะ แพรอยากเลี้ยงขอบคุณ จริงๆนะคะ”
“แต่ว่าผม..”
“นะคะ น๊า” เธอบอกเสียงอ่อน ทำเอาผมใจอ่อนยวบ
“ผมว่า เราปล่อยให้คุณเมฆเขากลับดีกว่านะครับ ดูท่าทางจะเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ส่วนเรื่องกินข้าว ผมอาสาพาคุณแพรไปเองนะครับ” พี่ใหญ่พูดขึ้น
“แต่ว่าแพรอยากเลี้ยงคุณเมฆด้วยนิคะ”
“เอาไว้คราวหน้าก็ได้นิครับ วันนี้คุณแพรต้องไปเดทกับผมนะ อย่าลืมสิครับ” พี่ใหญ่บอกเสียงนุ่ม
“ก็ได้ค่ะ แต่คราวหน้าคุณเมฆต้องให้แพรเลี้ยงนะคะ” เธอบอกก่อนจะถูกใครคนนั้นพาไปขึ้นรถ
“เอาละ ทีนี้ก็เหลือแค่เราแล้วนะ จะไปไหนดีครับน้องชาย ” น้ำเสียงปนทะเล้นของพี่ชายข้างบ้านถาม
“กลับบ้านกันเถอะครับ” ผมบอกก่อนจะเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ
“เฮ้อ อย่าทำเสียงหงอยแบบนั้นสิ พี่ไม่สบายใจนะที่เห็นเมฆเศร้าแบบนี้ อยากร้องก็ร้องออกมาซะระบายมันออกมาบ้าง เข้าใจ
ไหมครับ” พี่ชินที่ตามเข้ามาบอกด้วยรอยยิ้ม
“ไหล่พี่ว่างเสมอ สำหรับน้องชายพี่คนนี้”
“ขอบคุณนะครับ ขอบคุณที่อยู่ข้างผม”
……………………………………………………………..
“หายไปไหนกับมันมาตั้งนานสองนาน” เสียงทุ้มตะคอกถามทันทีที่ผมกลับมาถึงบ้าน
“ทำไมผมต้องบอก ในเมื่อคุณยังไปกับคู่หมั้นคุณได้ผมก็มีสิทธิ์ไปได้เหมือนกัน”
“อ้อ จะบอกว่าพี่ไปกับ คู่หมั้น ส่วนเมฆไปกับ “คู่ขา” มางั้นเหรอครับ พี่บอกเมฆไปกี่ร้อยรอบแล้วพี่พี่ไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร”
เขาบอกเสียงลอดไรฟัน
“หยุดพูดจาดูถูกคนอื่นสักทีได้ไหมครับ คุณชลธร!!”
“ใช่ พี่ดูถูก พี่ไม่เคยดูเมฆผิดหรอกครับ เพราะเมฆ มั่วไม่เลือกมาแต่ไหนแต่ไรแล้วไม่ใช่เหรอ คนที่ขนาดวางยาปลุก แฟนพี่สาวตัวเองได้น่ะ จะให้พี่มองแบบไหนล่ะครับ ที่รัก”
“ในเมื่อคุณบอกเองว่าผมเลว แล้วคุณมายุ่งกับคนเลวๆอย่างผมทำไม เมื่อไหร่ที่เราสองคนจะสิ้นสุดเวรกรรมกันสักที”
“ไม่มีวัน พี่ไม่มีทางปล่อยเมฆไปเสวยสุขกับไอ้ชินเด็ดขาด อย่าหวังว่าชาตินี้เมฆจะได้มีความสุขกับมันเลย!!!!”
..................TBC.......................
อิพี่ใหญ่หวงก้างงงงงงงง
เหนมีหลายคน สงสัยเหี่ยวกับพี่ชิน
พิตบอกได้แค่ว่ารอโุกันไป นะคะ คนๆนี้จะมาดีหรือมาร้าย
เด๋วเฉลยแน่นอน
ปล แอบสปอย ว่าอีกไม่นาน เมฆจะหลุดพ้นแแล้ว???
แต่จะหลุดด้วยวิธีไหน หรือเพราะใคร อุบไว้ก่อน
