บทที่9 ฆ่าตัวตาย
ผมลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องใครก็ไม่รู้ พอลืมตาขึ้นมาอันดับแรกที่รู้คือความเจ็บปวดที่แล่นไปทั่วทั้งร่างกายจนไม่สามารถขยับได้ ทำได้แค่นอนนิ่งๆ และคิดถึงเหตุการณ์อันเลวร้ายที่พามา
ผมโดนข่มขืนจากผู้ชายชั่วคนหนึ่ง ใช่ไอ้เหี้ยนั้น มันทำร้ายผมไม่ใช่แค่จิตใจแต่ร่างกายก็ด้วย ผมรู้สึกสิ้นหวังมากๆในชีวิตไม่รู้ว่าตัวเองจะทำอะไร และควรทำอะไรต่อไปดี หมดแล้วศักศรีของลูกผู้ชายคนหนึ่ง
รู้สึกขยะแขยงร่างการที่ยังคงมีสัมผัสจากไอ้เก้าไม่จากหาย พาให้หยดน้ำตาของลูกผู้ชายต้องไหลออกมาอีกครั้งอย่างห้ามไม่ได้ เจ็บที่ร่างกายอีกไม่นานมันก็คงหาย แต่ที่หัวใจ ถึงวันตายผมก็คงจะไม่ลืม
ผมร้องไห้อยู่แบบนั้นไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ไม่รู้ว่าร้องออกไปมากแค่ไหนร้องจนน้ำตาไม่มีให้ไหลแต่ภาพความทรงจำเลวร้ายไม่ได้ลดเลือนไปกับหยดน้ำตาเลยสักนิด แล้วก็เผลอหลับไปอีกครั้ง
ผมลืมตาขึ้นมาอีกที ก็พอว่ามีเสียงลอดจากผ้าม่านมายังเตียงที่ผมใช้นอนอยู่
รู้สึกเหมือนร่างกายจะดีขึ้นกว่าเมื่อวานมาก ตอนนี้เริ่มขยับได้แล้ว ลุกขึ้นนั่งอย่างลำบากเพราะอาการเจ็บยังคงแล่นมาเมื่อขยับตัว โดนเฉพาะที่สะโพก ตอกย้ำให้ภาพความทรงจำเลวร้ายเมื่อวานถาโถมเข้ามาให้หัวอีกครั้ง
ถึงจะผ่านมาอีกวัน แต่ความรู้สึกเจ็บซ้ำที่จิตใจไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย กลับกัน กลับมีมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อกระจกตู้เสื้อผ้าบานโตสะท้อนให้เห็นร่างกายขาวซีดที่เต็มไปด้วยรอยช้ำจากการขับกัดไปทั่วทั้งลำคอและแผ่นอก เมื่อเห็นภาพนั้นกลับทำให้ผมรังเกียจตัวเองมากกว่าเดินอีกหลายเท่าตัว
มุ่งตรงไปในห้องน้ำ ไร้สติ จิตใจตอนนี้คิดเพียงอยากจะหนี้ให้พ้นจากเรื่องพวกนี้ แต่ก็ไร้ซึ่งทางออก
ใบมีดโกนโกนหนวดที่ว่าอยู่ขอบอ่างเป็นเหมือนหนทางสุดท้ายที่มีในตอนนี้
ลืมเลือนเรื่องดีๆในชีวิต ลืมเรื่องคนที่ตัวเองรัก ลืมเรื่องคนที่รักตัวเอง ไร้สติ รู้เพียงแค่ตอนนี้อยากจะหนีจากปัญหาเล่านี้ให้พ้น หนีให้พ้นจากร่างกายน่ารังเกียจและสัมผัสน่าขยะแขยงพวกนี้
อยากจะหนีให้พ้น ความผิดชอบชั่วดีที่เคยมีในจิตใต้สำนึกถูกปิดกั้นจดหมด
มองภาพที่ใบมีดบางคมค่อยจมเข้าไปกับข้อมือข้างซ้ายทีละนิด ของเหลวสีแดงสดเริ่มล้นทะลักออกมาจากข้อมือ กรีดลึกที่สุดเท่าที่ใบมีดเล่มเล็กจะทำได้ ลากยาวเป็นทางจนสุดข้อมือ
ไร้ซึ่งความเจ็บปวด นั่งมองภาพที่ของเหลวสีแดงไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย ด้วยแววตาที่ไร้ความรู้สึก
สายตาเริ่มพร่ามัว อากาศโดยรอบเย็นลงอย่างเห็นได้ชัด เลือดยังคงไหลไม่หยุด จนขยะวงกลางไปรอบตัว
มันกำลังจะจบแล้วซินะ พ่อครับม่าม๊ายกโทษให้คีย์ด้วยที่ไม่มีโอกาสตอบแทนพระคุณ หวังว่าพ่อกับม่าม๊าจะยกโทษให้คีย์ คีย์รักม่าม๊ากับพ่อมากนะครับ จิตใต้สำนึกของแรงเฮือกสุดท้ายร่ำร้องอยู่ในใจ ก่อนที่สติจะดับวูบไป
พอดีกับร่างของชายหนุ่มผมสีทองที่เข้ามาเจอ เมื่อเห็นร่างที่จมกองเลือดถึงกับช็อค รวบรวมสติที่มี รีบเข้าไปเอาเน็คไทด์รัดห้ามเลือดก่อนที่จะช้อนร่างไร้สติลมหายใจรวยรินแล้วพาออกมายังนอกห้อง
“ออกรถ”ตะโกนบอกคนขับรถอย่างร้อนลน ไม่ต่างอะไรกับเหล่าแม่บ้านที่พากันกรี๊ดวี๊ดว๊าย เมื่อเห็น
คนในอ้อมแขนของคุณชายที่มีเลือดไหลตลอดทางที่คุณชายเดินผ่าน
“เฮ้ยมึงอย่าเป็นอะไรนะคีย์”ร้องบอกเสียงดังหวังแค่เพียง ร่างที่ไร้สตินั้นจะได้ยิน”เร็วกว่านี้อีก”ออกปากบอกคนขับรถให้เพิ่มความเร็วให้มากขึ้น ก่อนที่ร่างในอ้อมแขนจะหลับไปตลอดกาล
รพ.เอกชน.....
“ญาติรอด้านนอกนะค่ะ”เสียงพยาบาลร้องบอกก่อนที่จะประตู้ห้องฉุกเฉินปิดลงพร้อมกับร่างบนเตียงที่หายเข้าไปทันที
ชายหนุ่มผู้นำคนเจ็บมาส่ง ทำได้เพียงเกาะประตูอยู่แบบนั้นและหวังให้คนที่หายเข้าไปเกือบจะครึ่งชั่วโมงนั้น ออกมาสักที เดินไปเดินมาอย่างร้อนลน
กำปั่นแกร่งซัดเข้ากำแพงเต็มแรงอย่างนึกโทษตัวเองเดือดร้อนให้คนขับรถที่มองอาการของคุณชายของบ้านอยู่นั้นต้องรีบมาห้ามไว้
เป็นเพราะเค้า ถ้าร่างบางเป็นอะไรทั้งหมดเป็นเพราะเค้า เค้าที่เหยียบย่ำสักศรีของคนตัวเล็กอย่างไม่ใยดี เป็นเพราะอารมณ์แค่ชั่ววูบถึงทำให้คนตัวเล็กนั้นต้องมาทำเรื่องแบบนี้ ถ้าเกิดคนตัวเล็กเป็นอะไรไปเค้าจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองเด็ดขาด
“หมอ”พอประตูห้องฉุกเฉินเปิดออกเก้าก็รีบพุ่งตรงไปยังหมอที่เดินออกมาจากห้องฉุกเฉินทันที”เป็นไงมั้งครับหมอ”ถามอย่างร้อนรน
“คนไข้พ้นขีดอันตราแล้วครับ แต่เสียเลือดมากหมอคงต้องให้เลือดแล้วรอดูอาการอีกสองสามวันนะครับ”คุณหมอพูดพร้อมกับเดินจากไป พร้อมๆกับที่เตียงคนไข้ที่มีร่างแสนคุ้นตานอนหลับอยู่ออกมา
“เดี๋ยวญาติเชิญทางนี้ก่อนนะ”พยาบาลสาวเดินมาบอก เพื่อให้ไปจัดการเรื่องประวัติคนไข้ เก้ารู้สึกโล่งใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ดีใจจริงๆที่ไอ้ตัวเล็กของเค้าปลอดภัย
TBc.
ดร่าม่ากันเลยทีเดียวตอนนี้ คนเขียนเจ็บปากมากเพราะพึ่งไปติดเหล็กดัดฟันเปวดปากมาก
แต่ขะพยายามลงทุกวัย ถ้าทำได้
ขอบคุณที่ติดตาม อย่าไปว่าเฮียเก้าเลย เขากะมีข้อดีอยุ่นะ(หรอ)