บทที่4 เริ่มต้นของการเป็นสมาชิกซอย13
บทที่4 เริ่มต้นของการเป็นสมาชิกซอย13
ผมลืมตื่นขึ้นมาก็พบว่าเวลามันเลยมาจะตีสองแล้วสถานที่ก็ที่เดิมก่อนที่ผมจะสลบไป ผมลืมตาขึ้นพร้อมกับความปวดร้าวไปทั่วทั้งร่างกาย ลาก สังขานกลับมาห้องกินยาแก้ปวดเสร็จก็หลับยาวเลยครับ
ติ๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดหัวสุด เพราะเสียงโทรศัพท์ดัง ปลายสายไม่ขึ้นชื่อเป็นเบอร์แปลก
“ฮันโหล”รับด้วยน้ำเสียงที่เบามากจนตัวเองยังไม่ได้ยิน พยายามพูดเต็มที่
“มึงอยู่ไหน”น้ำเสียงไม่คุ้นถามด้วยความโมโห ก็เพราะว่ามันเล่นตะคอกกลับมาซะ ทำเอาผมตกใจ
“ใครครับ “ถามกลับไปอย่างสุภาพเพื่อเขาโทรผิด
“ผัวมึงมั้งครับ กูเก้าเจ้านายมึงไง”ผมตาสว่างเลยครับ
“ครับ มีอะไรครับ”พยายามตอบมันไปดีๆ
“เป็นเหี้ยไรไม่มาโรงเรียน”มันถาม
“เพิ่งตื่นครับ ทำไม”แล้วมึงเอาเบอร์กูมาจากไหนว่ะ
“มาเจอกูในสามนาทีที่ซอย13มึงไม่มากูเล่นไอ้เหี้ยแว่นนี่ก่อนคนแรก”มันพูดเสร็จก็กดว่างไปเลย กูไม่สงสัยแล้วว่ามึงเอาเบอร์กู
มาจากไหน ผมเลยรีบแต่งตัวแล้วขับโซนิคไปที่ซอย13สุดชีวิตซอยที่จริงมันไม่ได้บอกหรอกครับว่าอยู่ไหน แต่เดาๆเอา เลยคิดถึงที่นี่เป็นอันดับแรก
“สาย”พอจอดรถตรงบ้านสถานที่เมื่อวานผมเฉี่ยวรถมันยังไม่ทันได้ลงจากรถมันก็ยืนกอดอกมองผมอยู่ที่น้าประตูพร้อมกับคำทักทายที่ทำเอาผมเสียวหลังวาบ
“แต่ผมรีบสุดๆแล้ว”ผมตอบ3นาทีซุปเปอร์แมนเปลี่ยนชุดยังไม่ทันเลย
“กูให้มึงพูดหรอ”มันรีบเดินมาหาผมแล้วกระชากแขนอย่างแรง
“โอ๊ย! “ร้องไปแบบไม่ทันตั้งตัว จากเหตุการณ์เมื่อวานมันทำให้ผมระบมไปทั้งตัว แล้วมันยังมากระชากผมอีก
“สำออย!”แล้วมันก็สลัดมือมันออกจากแขนผม”มึงมานี่”มันพูดแล้วเดินนำเข้าไปในบ้าน(หน้าจะบ้านเพราะมันเป็นตึกไม่รู้จะเรียกอะไร) ผมก็เดินตามไป ข้างในก้ไม่มีอะไรมาก ก็พวกโต๊ะบิลเลียด3-4โต๊ะ พร้อมกับกลิ่นบุรี่ตลบอบอวล
“เฮ้ยคนนี้หรอเฮีย เด็กใหม่อ่ะ”อยู่ๆก็มีเอ่อ...คงเป็นเด็กรร.ผมแหละเพราะชุดมันมีตรารร.ผมอยู่บนเสื้อช็อปมัน แต่ไม่รู้ว่ามันเป็น
รุ่นพี่หรืออะไรเดินตรงเข้ามาจับผมหันซ้ายหันขวาแล้วถามขึ้น
“เอ่อ เมื่อวานกูบอกให้มันมารายงานตัวแต่มันดันไม่รู้ว่าฐานอยู่ไหน แล้วมีรถเบียดมัน มันเลยเฉี่ยวรถกู” มันแต่งเรื่องบอกไปไอ้คนนั้นออกไป มึงจะจับกูหมุนอีกนานไหม- -*
“อ้าวแล้วมันหนีทำไม”อีกคนนึ่งถามต่อ พวกมึงจะถามมันทำมะเขืออะไรกูยิ่งเสียวๆอยู่
“ถามมันดูดิ”ไอเก้าบอกบัดพร้อมไปนั่งบนเกาอี้นวมตัวใหญ่ที่มีโต๊ะกระจกวางด้านหน้า สบายจริงนะมึงโยนขี้มาให้กูเลย
“เอ่อ คือ ผมตกใจ”ตบไปแบบหาทางรอดที่จริงกูไม่ได้ตกใจหรอกแต่กูกลัวเหอๆ
“5555ตุ๊ดป่าวมึง”พากันหัวเราะดังลั่น แต่ไอ้เก้ายังมองมาที่ผมอย่างไม่วางตา ตุ๊ดพ่องมึงดิ แต่ก็ด่ามันได้แค่ในใจ
“นั้นดิเฮีย ตัวแม่งก็เล็กอย่างกับชิวาว่า บางขนาดนี้จะใช้การอะไรได้ว่ะ”มันพูดแล้วหันมามองผมแบบหยามๆ
“สัส พวกมึงเงียบกูจะนอน”ไอ้เก้าพูดพร้องเอาขาขึ้นพาดโต๊ะกระจกแล้วเอามือหนุนหัวแล้วหลับตา
“มานี่”อยู่ๆก็มีมือปริศนา มาดึงแขนผมจากข้างหลัง พอหันดูก็ไอ้คนเมื่อวานที่มันลากผมเข้าในช็อปนี่เอง”ทำเองได้ใช่ไหม”มัน
พาผมมานั่งที่โต๊ะไม้ยาวๆเก่าๆพร้อมกับเครื่องมือปฐมพยาบาล ผมมองมันแบบงงแล้วก็พยักหน้า
“กูชื่อวีมึงล่ะ”มันถาม
“คีย์”เงยหน้าจากกล่องปฐมพยาบาลตอบมัน
“อืม”มันตอบแค่นั้นแล้วก็นั่งดูผมทำแผล ช่วยบางนิดหน่อย ถึงมันจะเป็นอะไรที่แบบช่วยธรรมดานิดๆหน่อยๆแต่ใน ณ ที่นี่มันดูเป็นคนดีที่สุดแล้วถึงเมื่อวานมันยืนดูผมถูกซ้อมก็เถอะ
“ไม่ไปเรียนหรอ”ดูเหมือนผมจะเริ่มคุ้นๆกับมันนิดหน่อยแล้วเลยชวนมันคุย ไม่อยากให้มันเอาแต่จ้องผมคืดกูอึดอัดเข้าใจไหม
“ยุ่ง เอ้ากินยานี่ซะ”มันยื่นแผงยาพารา(น่าจะใช่)มาตรงหน้าผม ผมรับแล้วก็กิน”เรื่องเมื่อวานอย่าให้ใครรู้เด็ดขาดถ้ามึงยังไม่
อยากมีปัญหา ถ้ามึงทำตัวดีๆว่างานๆเดี๋ยวมึงก็ดีขึ้นเอง”มันร่ายยาวเสร็จก็ลุกออกไป ถึงผมจะยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมากนักแต่ถ้าแค่ทำตามที่พวกมันบอกซะก็คงไม่มีปัญหาอะไร
“แรดจริงนะมึง”ในขนาดที่ผมกำลังง้วนอยู่กับการเก็บยาเข้ากล่องอยู่ๆก็ได้ยินประโยคด่าที่ทำให้ผมต้องเลิกสนใจกล่องยาทันที่แล้วเงยหน้ามองเจ้าของเสียทันที ไอ้เชี่ยเก้านั้นเอง
“อะไร”ถามไปแบบเคืองๆแต่ก็รู้ตัวเองดีว่าคงทำอะไรมันไม่ได้ เลยได้ระงับอารมณ์ไว้เต็มที่
“หึ!”ไม่มีคำตอบที่ผมต้องการมีเพียงเสียหัวเราะในคอแล้วไอ้เก้ามันก็เดินออกนอกช็อปไป”มึงจะนั่งโง่ตรงนั้นอีกนานไหม”มัน
ตะโกนพลางหันมาจองหน้าผมอย่างหาเรื่องแล้วกูจะรู้ไหมว่ากูต้องตามมึงออกไปด้วย ผมเลยต้องลุกเดินตามมันไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
“อย่าให้ถึงที่กูมั้งนะมึง”พูดกับตัวเองเบาๆ ตอนนี้ถ้าจัดอันดับคนที่ผมเกียดขี้หน้าที่สุดก็ต้องเป็นไอเหี้ยเก้านี่แหละ
“มึงว่าไงนะ”มันหยุดเดินแล้วหันมาถามผมอย่าเอาเรื่อง หูมึงดีไปไหม ขนาดกูพูดกับตัวเองกูยังแทบไม่ได้ยินเลย
“อะไร”ผมก็ถามกลับทำทีไม่รู้ไม่ชี้
“อย่าให้กูรู้นะมึงว่าแอบด่ากู”มันว่าพลางเอานิ้วชี้หน้าผม
“ถ้าในใจล่ะ”ผมแค่คิดเล่นๆแต่ปากมันไวกว่าความคิดดันถามมันออกไป
“ไม่ได้! จะในใจหรือนอกใจก็ไม่ได้ มึงกวนตีนกูหรอ”มันถามแต่ดูสีหน้าเรียบเฉย สร้างความงงงวงแก่ผมไม่น้อย นึกว่าจะมีหมัด
ตรง เข้ามาประทับที่หนังหน้าซะอีกก็เลยหลับตาปี๋ แต่พอลืมตาขึ้นมาดันเดินมายืนเท้าเอวมองมาแบบหน้าตาธรรมดาซะงั้น
ไป”ขึ้นมา”มันว่าพลางขึ้นไปนั่งบนKSRสี่ม่วงดำของมัน
“ไปไหน”ผมถาม
“เอารถไปทำสี มึงจะถามเหี้ยอะไรจู่จี้จุกจิกอย่างกับผู้หญิงว่ะ กูรำคราญ กูบอกให้มึงทำอะไรก็ทำดิ กวนตีนกูจัง”มันด่ายาวเลย
ก็มันจริงไหมล่ะคนปกติเขาก็ถามกันทั้งนั้นแหละ กูไม่ง่ายนะที่จะลากกูไปไหนกูก็ไป แต่ก็ทำได้แค่ด่ามันในใจ
“ผมเอารถมา”ไปก็ได้ว่ะแต่กูก็เอารถมามึงจะให้กูซ้อนรถมึงทำเหี้ยอะไร
“เหี้ยนี่ซะทีดีไหม กูบอกให้มานี่”มันพูดแล้วทำท่าจะลุกจากKSRมาหาผม ผมผงะไปด้านหลังเล็กน้อยแต่ก็ต้องจำใจเดินไปนั่งซ้อนมัน แล้วคิดดูนะKSRมันคันแค่นิดเดียวแค่ไอเก้าคนเดียวก็แทบจะเต็มแล้วผมนี่นั่งได้ครึ่งตูดเอง
“พี่เบาๆ”ผมบอกไปแบบขอร้องเพราะผมแทบจะล่วงรถหลายทีแล้ว คือถ้ากูนั่งได้เต็มที่กูก็คงไม่มีปัญหาหรอก แต่กูนั่งได้แค่ครึ่งตูดแค่นั่งเฉยๆกุก็แทบจะร่วงอยู่แล้ว
“มึงเป็นใครมาสั่งกู แล้วนี้จับเสื้อกูถ้ายับนะมึง”มันว่า แต่ผมรู้สึกว่าความเร็วมันก็ลดลงเยอะ”เหี้ย!”จู่ๆรถก็เบรกกะทันหันผมนี่แทบ
จะลอยหลุดไปข้างหน้าเลย อะไรของมึงว่ะ
“เฮ้ย เป็นไงมาไงว่ะเฮียเก้าแห่งซอย13ถึงเหยียบมาแถวนี้ได้”อยู่ก็มีผู้ชาย เอ่ยน่าจะเป็น10คนได้อ่ะ คะแนนจากสายตามายืนขว้างหน้ารถ แล้วพูด พร้อมอาวุธครบมือ(พวกไม้โปร ไม้ทีอ่ะ) รางสังหรณ์ไม่ดีเริ่มเข้ามาแล้วล่ะครับ
TBC.
ถือว่าเป็นฉบับรีไรท์ได้เลย เพราะเขียนเพิ่มเยอะอยู่
ช่วงแรกๆมันอาจจะสั้นไปนิดแต่หลังจะเขียนให้มันยาวขึ้นแล้วกันนะฮ
ฉบับเขียนแก้