My..Love
Part 64
[Special Butus]หลังดูเถื่อนเขม โจ๊ก กนกซ้อมตระกร้อทีมประหลาด บังคับมีหญิงในทีม 1 คน
สมราคาคุยเถื่อนฝีมือเทพ ฟาดตระกร้อฝังหน้าเน็ทจนคู่ซ้อมรุ่นพี่แพ้ราบคาบสามเซ็ท
ยกความดีให้เถื่อนคนเดียวไม่ได้ ต้องยกนิ้วให้ทีม กนกเสิร์ฟลูกเฉียบขาดอย่างกับทีมชาติ
โจ๊กก็คล่องตัวรับลูกตบ ตั้งลูกให้เถื่อนฟาดได้ดีเยี่ยม สามคนเข้าขากันสุดๆ
คงไม่ลำบากถ้าต้องแข่ง อย่างน้อยพวกเพื่อนผมทักษะเกินตัว
เราพากันแวะหาอะไรกิน เสร็จเตรียมแยกย้าย แบมกับพี่ต้นต้องพาน้องเต้ยไปบ้านปู่ย่าค้างบ้านสวน
เถื่อนเขมกับน้องหนุ่ยกลับคอนโด ตั้งแต่เข้าเตรียมอุดมน้องหนุ่ยโดนเถื่อนใช้อำนาจมืดบังคับ
ลากออกมาอยู่คอนโดสร้างรังรักสองคน ให้เหตุผลเดินทางสะดวกระหว่างมหา’ลัยกับโรงเรียนน้องตี๋
ผู้ใหญ่เห็นดีเห็นงามสองฝ่าย ครอบครัวน้องหนุ่ยคุณแม่นุ้ยปลื้มเถื่อนเป็นทุนนิยม
ไว้ใจสามารถดูแลลูกชายคนเล็กได้แน่
ส่วนครอบครัวเถื่อนก็ปลื้มน้องหนุ่ยพอกัน ฝ่ายหลังพอรู้น้องหนุ่ยคอยดูแลเถื่อนทำให้เลิกเสเพลเปย์สาว
สามารถให้เถื่อนอยู่ในกรอบประพฤติตัวดี ก็เตรียมยกทองใส่พานไปหมั้นสะใภ้หน้าตี๋ด้วยซ้ำ
อันหลังผมคิดเอง..อิอิ รู้แต่สองครอบครัวเห็นดีเห็นงามไม่มีปัญหา
ระหว่างรอแบมกับพี่ต้นพาน้องเต้ยไปเข้าห้องน้ำ บอลลูนกับตี๋หนุ่ยถือโอกาสดูปลาทะเลที่ทางร้านอาหารเขาเลี้ยง
น้องหนุ่ยชอบเลี้ยงปลาศึกษาเอาเป็นแบบอย่าง ส่วนผมกับเถื่อนเขมขอรอตรงลานจอด เถื่อนระยำชวนคุยฆ่าเวลา
“บูตัส..หลังกูฟาดตระกร้อจนเน็ทกระจุย คืนนี้ขอซัลโวประตูให้รูพรุนอีกระลอก
สมฉายานักกีฬาร้อยแรงม้า..ฮะฮ่าๆๆ” งง?..มันจะไปเตะบอลต่อเหรอ ถามโดยไม่คิดอะไร
“มึงไม่พัก..บอลเตะวันหลังก็ได้ สามทุ่มแล้วนะ” หวังดีล้วนๆ
ไม่อยากให้มันบ้าพลัง ผีนักกีฬาเข้าสิงหรือไง..ไอ้นี่นิ
“เฮ้ย! พักไม่ได้เว้ย!” สีหน้าท่าทางจริงจังเกินไปแหละ
“มึงไม่ห่วงน้องหนุ่ยต้องลากสังขารไปสนามบอลอีก แทนที่น้องเขาจะได้อ่านหนังสือ
ทำการบ้านให้เรียบร้อย” อบรมเสียเลย ไกลหูไกลตาผู้ปกครอง
มันลัลลาจนละเลยความรับผิดชอบอันพึงกระทำ
“สนามเหี้ยไรมึง” กรรม! ซื่อบื้ออีก บางมุมมันก็โง่บรรลัย เตะบอลไม่ไปสนามแล้วเตะที่ไหน
“มึงบอกจะไปเตะบอล ไม่เตะสนามหรือเตะบนดาวอังคาร..ชิส!”
กวนแม่งเลย เสือกทำหน้าเอ๋อตลกพิลึก
“โอ้มายก๊อด!! ลืมจนได้กำลังสนทนาอึนตัวแม่ราชินีในสามโลก
ครองตำแหน่งอึนตลอดกาล” มันเอากำปั้นทุบหน้าผากพูดเสียงเนือยใส่
ชักหงุดหงิดแหละ ทำไมใครๆต้องมองตรูแบบนี้วะ!
“อย่ามาแถ กูได้ยินเต็มสองหูมึงบอกเองจะเตะบอล”
นิสัยเจ้าเล่ห์ใช้กับบูตัสไม่ได้หรอก..กูฉลาดเหอะ!
“จร้า!! ตีความตรงม๊าก! พูดคำไหนไปเตะบอล กูบอกจะทำประตู คนละเรื่องกับเตะบอลเว้ย!..บูตัส”
เวร! หรือเข้าใจผิดจริงๆ ลองทบทวนคำพูดมันดู จริงเหะมันบอกจะทำประตูพรุน
ที่แท้จะซ่อมประตู ลืมไปมันเรียนช่างกลนี่หว่า ประตูคอนโดพังสินะ..
“อืม..เข้าใจแล้ว มึงจะซ่อมประตู ยังไงไม่สมควรทำอยู่ดี ห้องอื่นเขากำลังพักผ่อน
มึงใช้เสียงมันเป็นการเสียมารยาท ทำกลางวันเอาสิ คอนโดนะเขมไม่ใช่บ้านสวน”
ฮะฮ่าๆหน้าเหวอสะใจชะมัด นึกว่ารอดไม่โดนอบรมสิท่า ยังไงบูตัสขอซักหน่อย..คึคึ
“กูยอม..เฮ้อ! มีไอ้บอลคนเดียวสื่อสารกับมึงรู้เรื่อง ห่าแม่ง..เสียอารมณ์บรรลัยหมดมู๊ดเลยกู..
คิดได้ไงซ่อมประตูคอนโด..กรรม!” โว๊ะๆ! ดูมันทำหน้าเอือมระอาสุดๆ ส่ายหัวไปมาต่างหาก
“ไอ้บ้า..อย่าทำหน้าหน่ายใส่กูดิ รับไม่ได้ที่โดนกูอบรมเหรอไง ก็มึงห่ามไม่เข้าเรื่อง
คิดแผลงๆพิเรนทร์เองนี่นา ใครเขาซ่อมอะไรค่ำมืดดึกดื่น กูไม่อยากให้มึงสร้างศัตรูข้างห้อง
ด้วยความปรารถนาดีหรอกนะเขม” ถือซะมันเป็นน้องน้อยโตแต่ตัวกับอายุ
นิสัยยังทะลึ่งตึงตังห่ามเป็นเด็ก ยื่นมือตบบ่าแปะๆ หน้ามันเหมือนเห็นผีซะงั้น
เหี้ย!จริงไอ้นี่ ต่อให้หน้ากูดูบ้านก็เถอะ ไม่ถึงอุบาทว์จนรับไม่ได้ เล่นทำปากอ้าตาโตอึ้งกิมกี่
ช่างเถอะถืออะไรกับไอ้เถื่อนมัน ท่าทางประหลาดกว่านี้มันยังทำเลย..?
“อ่ะ!..ทยอยมากันแล้ว” จังหวะบอลลูนกับพวกเพื่อนๆเดินมากัน ได้เวลาแยกย้ายกลับซักที
“บูตัส..ความหมายทำประตูกูคือตุ๋ยทวารเมีย ถ้ามึงจะหมายถึงเตะบอลอย่างที่คิด
สนามกูคือเตียงผู้เล่นคือไอ้หนุ่ย ทำหน้าที่รักษาประตู ต่อให้มันป้องกันยังไงกูมีวิธียิงอยู่ดี
ซ่อมประตูห่าเหวอะไรมึง..กรรมจริง! อึนได้โล่ยังเสือกอบรมกูอีก ไปดีกว่า..ลาล่ะ”
มันเป็นฝ่ายยกมือลาสีหน้าเคร่งเครียดพูดเน้นทีละคำ อยากมุดใต้ท้องรถสุดๆหน้าแตกไม่เท่าไหร่
กูอายไอ้เหี้ยเขม..มึงมันจัญไรฉิบหาย ใครจะคิดแบบมึงเล่า..อร๊ายย!!
“เป็นอะไร..นั่งทำปากมุมมิบบ่นอะไร..หืม”
ขึ้นรถมาผมยังสลัดเรื่องไอ้ห่าเขมไม่หลุดจากหัว
“เปล่า” ตอบไปงั้น นึกแล้วก็หน้าแตกหมอไม่รับเย็บ
“เปล่าอะไร ทำสีหน้าแบบนี้ยังบอกว่าเปล่าอีก” น้องชำเลืองมองผมแวบ
ก่อนหันไปสนใจขับรถต่อ มาหยุดตรงสี่แยกไฟแดง
“ก๊อกๆ” ผมกับน้องหันดู ตำรวจจราจรตะเบ๊ะที ส่งสัญญาณมือให้น้องลดกระจก
น่าแปลกนึกยังไงมาเคาะรถเรา ทั้งที่รถน้องติดฟิล์มมองเข้ามาไม่น่าจะเห็น
เว้นแต่เจาะจง บอลลูนสีหน้าไม่ดี น้องยังไม่มีใบขับขี่
เอาไงดีล่ะวิธีเดียวคือต้องสลับที่กับผมเป็นทางออก
“บอล..สลับที่กันเร็ว” น้องพยักหน้า ก่อนเบี่ยงตัวหลบ ผมรีบมุดมาประจำพลขับ
รอให้น้องนั่งคาดเข็มขัดเรียบร้อย ค่อยเตรียมเผชิญหน้า
ตื่นเต้นพิลึกลุ้นชะมัดไม่เคยเจอกรณีแบบนี้
“สวัสดีครับ มีอะไรครับ” ผมกดเลื่อนกระจก หันไปยิ้มทักทายกับจราจรนายนั้น
พอเขาเห็นหน้าผมมีชะงักเล็กน้อย ก่อนยิ้มกว้างให้เช่นกัน
“รบกวนขอตรวจใบอนุญาตขับขี่หน่อยนะครับ” เตรียมไว้แล้ว ผมยิ้มแหยให้พี่เขา
หยิบกระเป๋าตังค์ซึ่งวางเตรียมตรงคอลโซลหน้ารถ เปิดเอาใบขับขี่มายื่นให้
จังหวะไฟเขียวกำลังเปลี่ยนขืนยังยืนอยู่รถติดแน่
“ขับไปจอดริมทางก่อนครับ” พี่เขาพูดจบเดินลิ่วนำไปก่อน
ผมเลยต้องขับไปจอดริมทางตามที่เขาบอก มองสบตาบอลลูนอย่างสงสัย
น้องไม่รอช้ากดโทรหาโจ๊กทันควัน
“พี่โจ๊ก ผมถูกตำรวจเรียกตรงแยกxxx ครับพี่ โชคดีเปลี่ยนบูขับ
แต่สีหน้าท่าทางแกเหมือนสงสัย เอาใบขับขี่ของบูไปสั่งให้เราชิดข้างทาง
รบกวนหน่อยครับพี่” น้องคุยกับโจ๊ก ระหว่างผมนำรถเข้าชิด พี่จราจรเดินตามหลังมา
“จดมาแล้ว หมายเลขหมวกxxx ครับพี่ ขอบคุณครับ” ไม่ต้องแปลกใจ
ตั้งแต่น้องขับรถ เรื่องการเตรียมตัวถูกเตี๊ยมมาแล้ว เผื่อเกิดเหตุการณ์จะได้ไม่ตื่นตกใจ
ถามผมเห็นด้วยไหมที่บอลลูนอายุแค่ 16 แต่ขับรถยนต์ มีเยอะครับขึ้นอยู่ใครโดนเรียก
ติดสินบนพนักงานเป็นเรื่องปกติ ทั้งแท็กซี่ รถตู้ รถบรรทุกผมเห็นออกบ่อย
ไม่ใช่สนับสนุนให้คนเราติดสินบน แต่สังคมไทยมันเป็นเช่นนี้ วัฒนธรรมในการเอาตัวรอดเป็นอย่างนี้
กลายเป็นเรื่องปกติในท้องถนนที่เห็นกันประจำ
“โจ๊กมันว่าไง” ถามหลังจอดรถเรียบร้อย คุณจราจรยังเดินมาไม่ถึงเลยมีจังหวะคุย
“พี่เขาโทรหาพ่อก่อน ไม่เกินห้านาที” สีหน้าพวกผมคลายกังวลถ้าโจ๊กพูดแบบนี้
“คุณขับเองเหรอครับ” หืม..คำถามที่โพล่งมา ทำให้ผมกับบอลลูนหันสบตากันอย่างไม่ได้นัด
เป็นน้องไวกว่าชิงถามกลับไปว่า
“ทำไมตั้งคำถามแบบนี้ครับ” พี่เขาอึ้งนิดนึง
“เปล่าครับ” พี่แกพูดจบเดินอ้อมไปชะโงกดูทะเบียนหน้ารถ
ก่อนทำท่าครุ่นคิด แล้วหยิบวิทยุเคลื่อนที่คุยกับปลายสาย
“อืม..ทะเบียนตรงตามที่แจ้ง เรียกแล้วแต่คนขับมีใบขับขี่
ไม่ได้ทำผิดกฎจะให้ผมทำไงครับ” ชัดเลย รถเรามีคนแจ้งให้สกัด
“ใครแจ้งดักเรา” ผมเปรยเบาๆ หน้าหล่อของน้องขมวดมุ่น
“พัชรแน่ๆ บอลกับหนุ่ยออกมาเอารถ พัชรขับรถมาจอดมองอยู่ครู่แล้วแสยะยิ้มให้ นึกว่าไม่มีอะไร”
“แล้วยัยพัชรรู้เหรอ ว่าเรามาแวะทำอะไรที่ไหน”
“บูอย่าลืมสิ พ่อเธอใหญ่พอตัว น่าจะให้ลูกน้องดูเลขทะเบียนแล้วดักเรียก โชคดีเปลี่ยนบูทัน”
“ครับท่าน..ครับๆ” พี่เขายังคุยอยู่ มือถือของน้องดังขึ้น
“หวัดดีครับ ผมบอลครับ” น้องรับสาย
“ครับหวัดดีครับพ่อ ขอโทษครับที่รบกวนพ่อ ติดอยู่แยกxxx ครับ” น้องพูดจบบอกพี่จราจรว่า
“รบกวนรับโทรศัพท์หน่อยสิครับ” พร้อมกับส่งโทรศัพท์ให้
จราจรทำหน้างง แต่ก็ยอมยื่นมือมารับไป..งงๆ?
“หวัดดีครับ..ประทานโทษครับท่าน ผมสังกัดหน่วยจราจร บลาๆๆ กำลังปฏิบัติหน้าที่แยกxxx
ขอประทานอภัยครับท่าน ครับๆจะรีบปฏิบัติ” พูดจบหน้าพี่เขาถอดสีเจื่อนสนิทซีดเป็นไก่ต้ม
“ขอประทานโทษที่ทำให้เสียเวลา นี่ครับผมคืนใบขับขี่เชิญครับ”
ยื่นใบขับขี่ให้ผมพร้อมโทรศัพท์บอลลูน ก่อนถอยห่างรถตะเบ๊ะให้ที
ผมเลื่อนกระจกปิดหันไปสบตาน้องแวบ แล้วเคลื่อนรถออกช้าๆ
มองกระจกข้างพี่เขายืนเอามือปาดเหงื่อดูน่าสงสารชะมัด
“ในสายที่คุยใครอ่ะ” ได้จังหวะถามน้อง
“พ่อพี่โจ๊ก” มิน่าพี่เขาถึงเหงื่อตก นายทหารใหญ่ชื่อดังไม่รู้จักก็แปลกแล้วล่ะ
“แล้วเรื่องนี้..จบไหม” น้องเข้าใจผมหมายถึงอะไร
“ไม่อยากทะเลาะกับผู้หญิง เล็กน้อยจบไปเถอะ รอแผนพี่แบมวางไว้คงหมดเรื่องหยุมหยิม”
น้องเอนตัวพิงเบาะหน้านิ่ง เห็นแล้วก็สงสาร เกิดมาหล่อก็มีเรื่องกวนใจไม่หยุดหย่อน
โชคดีผมหน้าตาไม่โดดเด่น เลยไม่เจอเรื่องปวดหัว มีแต่รับรู้เรื่องของเพื่อนใกล้ตัว
โดยเฉพาะแฟนสุดหล่อที่พริ้มตาหลับมือกอดอกไปเรียบร้อย หลับยังหล่อเทพอะไรจะขนาดนั้นเนอะ
มิน่ามีแต่คนหวังกิน เสียใจครับ..ของผมบูตัสหวง..อิอิ
มาอัพก่อน 50% เย็นๆ มาอัพอีก 100%
เมื่อวานโดนล็อกกระทู้ไป 1 วัน
ฮะฮ่าๆๆๆ คนอ่านตกใจถามทางเมลล์หลายคน
ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่พวกเราดันใช้คำรุนแรงตอบเม้นท์
เจ้สองโมฯน่ารัก เลยต้องล็อกไว้ก่อน ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี
พรุ่งนี้จบบริบูรณ์ ใครอยากได้หนังสือ รีบสั่งนะจ๊ะ
จะหมดแล้วนะคะ รักคนอ่านทุกคน
แฮปปี้วาเลนไทน์ย้อนหลังนะคะคนอ่านจ๋า
Luk.