Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17  (อ่าน 284098 ครั้ง)

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
เกียร์หึงโหดจริงจริง

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
แรงรักแรงหึงของเกียร์รุนแรงไปไหนเนี่ย กลัวไอรักกระดูกแตก T^T

แล้วใครเป็นคนพูดคนสุดท้ายอะ นิสัยไม่ดี ไปพูดแบบนั้นได้ไงงงง !!!!!!

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
ใครพูดหนอ??? :m28: :m28:

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
เกียร์โหดเกิ๊นนน !!!! :a5: :a5: :a5:

ออฟไลน์ Calypso

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-0
ตอนที่15


“.....”

“มึงไม่ได้จริงจังใช่ไหม”

“กูจริงจัง” เกียร์เอ่ยปากตอบ พลางจ้องตาคนตรงหน้าที่คิ้วขมวดอย่างไม่ชอบใจกับคำตอบเมื่อครู่

“กูว่ามึงแค่กำลังหลงตามกระแสกันชั่วคราว มึงไม่ได้เป็นกันจริงๆหรอกใช่ไหม”

“หมายความว่าไง”

“ใครๆก็รู้ว่าผู้ชายกับผู้ชายไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว มึงคิดดูว่าคนอื่นจะมองพวกมึงยังไง! พวกมึงเดินจูงมือเข้าโบสถ์ไปแต่งงานเหมือนคนอื่นก็ไม่ได้ ลูกก็ไม่มีให้พ่อแม่มึง เดินจับมือยังต้องระวังสายตาคนอื่น จะทำอะไรมากก็ไม่ได้ ต้องอยู่แบบหลบๆซ่อน มึงจะทนสายตาคนอื่นได้สักกี่น้ำวะ” ทุกคนในโต๊ะเงียบกริบมองหน้ากันเลิกลั่ก จะมีแต่โฟ่กับเกียร์ที่จ้องกันอย่างไม่วางตา ผมพูดไม่ออกได้แต่นั่งก้มหน้ากำมือตัวเองแน่นจนกระดูกนูนสะกดกั้นอารมณ์คุกกรุ่น

“ไม่ใช่เรื่องของมึง” เกียร์พูดออกมาเสียงนิ่งเฉียบขาดจนคนฟังสะอึกตัวเกร็ง

“...แต่กูเตือนมึงด้วยความหวังดี เลิกตอนนี้ยังทันนะโว้ย ถ้ามึงเดินไปทางนั้น มึงจะหันกลับไปไม่ได้แล้ว” โฟ่ตอบ น้ำเสียงอ่อนลง แต่สีหน้าเครียดยังไม่คลาย

“กูตัดสินใจแล้ว มึงไม่ต้องเข้ามาเสือกช่วยกูคิด” เกียร์ตอบ จริงของมัน เวลาเกียร์จะทำอะไร มันต้องผ่านการคิดและตัดสินใจจนแน่ใจจริงๆก่อนลงมือทำ และไม่ประกาศโอ้อวดผลลัพธ์กับคนอื่น จนต้องให้คนอื่นสังเกตเห็นและถามมันเสียก่อน ถึงจะรู้คำตอบ อย่างเช่นเรื่องนี้...

“แต่กูรับไม่ได้ที่เพื่อนเป็นเกย์ว่ะ มึงเพี้ยนเหรอวะ”เกียร์เริ่มหน้าตึงกว่าเดิม เหมือนกำลังจะระเบิดอีกในไม่ช้า

“เอ่อ...ไอ้โฟ่ กูว่ามึงพูดแรงไปปะวะ”พัตพูดขัดขึ้น

“เพราะพวกมึงมัวแต่สนับสนุนมันแบบนี้ไง มันถึงได้เดินทางผิด! พวกมึงรู้ก่อนหน้านี้แต่เสือกห้ามไม่ให้กูไปขวางไอ้เกียร์จนมันเลยเถิดแบบนี้!”

“เออ! พวกกูผิด ที่คิดว่าต่อให้มันเป็นเหี้ยเป็นห่าอะไรยังไงแมร่งก็เพื่อนกันไม่ใช่หรือไง อะไรที่มันเป็น ไม่ว่ามึงจะชอบหรือไม่ชอบ ก็ต้องยอมรับมันให้ได้ แล้วที่มันรักกัน มันก็ไม่ได้ไปทำร้ายใครไม่ใช่เหรอวะ มึงจะไปขัดขวางความสุขเพื่อนทำเหี้ยอะไรวะ” สาลุกแล้วขึ้นเสียงใส่ โดยมีมัดคอยดึงแขนเล็กเอาไว้เนืองๆ

“สา ใจเย็นๆ”

“ก็มึงดูปากไอ้เหี้ยโฟ่ดิไอ้เน! มันก็รู้ว่าไอ้เกียร์มันเป็นคนยังไง ถ้ารับเรื่องแค่นี้ไม่ได้ แมร่งก็เหี้ยไปละสัด!” สาพยายามใจเย็นลง กระแทกตัวนั่งเหมือนเดิมตามแรงดึงของมัด

“ที่กูพูดก็เพราะอนาคตมัน! มึงแค่อยากลองของแปลก ให้ชีวิตเร้าใจขึ้น กูไม่ได้พูดแรงไปหรอก ถ้ามันจะทำให้จิตมึงไม่ผิดปกติแบบตอนนี้…” ปึ้ง! เสียงฝ่ามือใหญ่กระทบโต๊ะดังสนั่น พร้อมกับผมที่เงยหน้ามองคนพูดจากระแทกใจผมรุนแรงอย่างเจ็บปวด ทุกเสียงการเคลื่อนไหวในร้านเงียบกริบ แต่ไม่ใช่อารมณ์ที่ผมจะมานั่งสนใจสายตาคนอื่นเพราะอีกมือที่จับมือผมไว้ไม่ยอมคลาย บีบแรงขึ้นเหมือนกำลังระงับอารมณ์

“อย่ามาจุ้นจ้านกับกู ใจกูความรู้สึกกูอนาคตกู กูเป็นคนกำหนด ไม่ใช่มึง มึงรับไม่ได้ก็เรื่องของมึง แต่กูคงไม่มีไรต้องคุยกับมึงอีก” เกียร์ลุกขึ้นเค้นเสียงลอดฟันระงับอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพร่าจบประโยคแล้วมองโฟ่หางตาอย่างเย็นชา ก่อนดึงมือออกจากบ้านโดยไม่หันหลังกลับไปมอง

ตลอดทางไม่มีใครเอ่ยเสียงออกมาจนถึงบ้าน แต่ทั้งวันเกียร์ยังคงทำตัวเหมือนเดิม เดินไปล้างเท้าแล้วดึงผมให้นั่งข้างๆ มันเปิดช่องการ์ตูนดูอย่างสบายใจ ดูไม่ทุกข์ร้อนเหมือนที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้…

“กินไหม” มันยื่นโหลคุกกี้สีใสมาให้ หลังจากที่ดูการ์ตูนอยู่หลายชั่วโมงแบบไม่ขยับไปไหน ผมส่ายหัว

“….”

“เป็นอะไร”มันคงเห็นผมกระวนกระวายใจ นั่งตูดไม่ติดโซฟา จึงถามโดยที่สายตายังมองโทรทัศน์ ผมมองเสี้ยวหน้าด้านข้างมันอย่างเหม่อลอย

ถ้าผมไม่มายุ่งมันตั้งแต่แรก.....ป่านนี้เกียร์คงมีแฟนสวยๆน่ารักให้เดินควงอย่างเชิดหน้าชูตามากกว่ามาเดินกับผู้ชาย..อย่างผม

“เปล่าครับ” มันหันมาจ้องผมหน้านิ่ง

“…..”

“…..”

“…..”

“ผม....แค่กังวลนิดหน่อย” ในที่สุดผมก็ต้องเอ่ยปากบอก มันเล่นจ้องผมไม่วางตา คล้ายจะกดดันให้ตอบขนาดนั้น

“เรื่อง?”

“ที่โฟ่พูดมา มันถูกทุกอย่าง จนผม...”เริ่มไม่มั่นใจในตัวเอง และอนาคตที่ต้องเจอ ผมก้มหน้ากลืนคำพูดต่อท้าย ผมกลัว กลัวมีใครจับแยกเพียงเพราะความรักที่ผิดรูปแบบจากคนส่วนมาก แค่เพื่อนมัน ยังรับไม่ได้เลย

แล้วพ่อแม่ผมกับมันล่ะ ท่านจะรับพวกผมได้หรือเปล่า...

“…….”

“…….”

“จะเลิกกับเกียร์เหรอ”

“ไม่ครับ ผมไม่เคยคิดที่จะ...” ผมรีบเงยขึ้นมาจะแย้งตอบ แต่พลันเห็นสายตาเศร้าหมองของมันที่มองมา ทำให้ผมใจหวิวรู้สึกผิดที่ไม่มั่นคงกับความรักที่ผมกับมันได้สร้างขึ้นมา

“แล้วจะแคร์คนอื่นทำไม” นั่นสิ ผมจะกังวลเพราะคำพูดคนอื่นไปทำไม สู้แคร์คนที่เรารักไม่ดีกว่าเหรอ ในเมื่อมันพร้อมที่จะฟันฝ่าหากมีอุปสรรคใดๆกับผมอยู่แล้ว

“ผม.....เฮ้อ ไม่รู้สิ มันหวั่นยังไงไม่รู้ ผมพยายามไม่คิดแล้วนะ แต่มันกลับคิดขึ้นมาเอง”

“มีความสุขเหรอ”

“ครับ?”

“คิดแบบนั้นแล้วมีความสุขไหม”

“….” ผมส่ายหน้า มันดึงผมให้ซบลงอกอุ่นๆ แล้วลูบหัวผมเบาๆ

“แล้วจะคิดทำไม”

“แต่ผมทำให้เกียร์กับเพื่อนต้องผิดใจกัน”

“ถ้ารับในตัวเกียร์ไม่ได้ ก็ไม่ใช่เพื่อนแท้”

“ผมขอโทษนะ” ผมจับมือใหญ่ของมันเล่นแต่หัวยังซบอยู่กับอกของมัน

“เรื่อง?”

“ผมไม่น่าดึงเกียร์จนต้องมาเจอเรื่องแบบนี้เลย ถ้าผมเลือกที่จะไม่บอกเกียร์คราวนั้น..” คราวที่ผมบอกชอบมันครั้งแรก...

ผมทนพูดต่อไปไม่ไหว เสียงมันสั่นคลอนไปหมด

“ไอรักไม่ผิด เราไม่ผิด คนอื่นไม่ผิด แต่ความถูกต้องที่แตกต่างกันต่างหากที่ผิด”

 “.......”มันจ้องตาผมลึกลงไปแล้วจูบลงหน้าผาก แล้วกอดผมแน่นอย่างหวงแหน

“เกียร์ไม่เคยคิดว่าเรื่องที่ทำให้เราได้มารู้จักกันเป็นเรื่องไม่ดี ....ตรงกันข้าม มันกลับดีมากด้วยซ้ำ”

“.......”

“ถ้าไอรักไม่เข้ามา....เกียร์ก็คงรักใครไม่เป็นอยู่อย่างนั้น”

“…..เกียร์.....”

“เลิกกังวลได้แล้ว ไหนยิ้มสิ” มันยืดแก้มผมทั้งสองข้าง

“อ้า แอ้วอะอิ้มอังไออ่ะ” มันคลายมือ แต่มือยังแนบแก้มทั้งสองของผมอยู่ ผมทำปากจู๋ใส่

“ฮี่”เกียร์ก้มมองผมในอ้อมแขนของมันผมเลยเงยหน้าฉีกยิ้มกว้างให้มันจนตาหยี พอมันเห็นก็บีบก้นผมแรงๆ จนผมต้องตวัดสายตาดุๆไปมองมัน ผมว่านานๆทีผมจะแสดงอิทธิฤทธิ์โหดๆทางหน้าตานะ แต่ทำไมมันไม่กลัวเลยอะ กลับอมยิ้มอย่างชอบใจอีก!

“หึ ....นอนนะครับ ...แมวน้อย” เกียร์ลูบหัว โยกตัวผมที่ซุกอกมันตาปรือเบาๆไปมาเหมือนกล่อม พูดคำสุดท้ายก่อนเปลือกตาผมจะปิดลงด้วยเสียงนุ่มอย่างที่ไม่มีใครเคยได้ยินจากมันมาก่อน






“ตัวเองงงงงงงงงง” เสียงไอ้เนมมาแต่ไกลเลยครับ

“เสียงดังทำห่าอะไรทุกวันวะไอ้เนม” ผมทนไม่ไหวเลยยื่นมาจะไปตบหัวมันสักฉาด แต่มีมือเลวรั้งเอาไว้ได้ทัน

“หยุดเลยๆ”

“ไรวะ” ผมพูดเสียงสะบัดอย่างขัดใจไปให้ไอ้คลื่น

“มึงจะทำเนมแบบนั้นได้ไง” คลื่นพูดเสียงเข้มขึ้นจนผมแปลกใจ ไอ้บอสคิ้วขมวดวางหนังสือรถแข่งแล้วมองคู่เห็บของมัน

“อะไรของมึงอะ”

“กูจะบอกว่ามึงอ่อนโยนกับหัวมันเกินไป ต้องแรงกูนี่ แบบนี้ ป๊าบบ!” เยดเข้!! มึงดังกังวานทั่วราชอาณาจักรมาก จนไอ้เนมหัวหันอะ

“ไอ้เชี่ยคลื่น!!!!!!!” แล้วพวกมันก็วิ่งไล่จับเหมือนหนังอินเดียรอบตึกคณะ…จบบริบูรณ์

“วันนี้มึงกินข้าวกับพวกกูด้วย ไอ้เชี่ยไทป์บ่นคิดถึงมึงจนใจขาดดิ้นแล้ว” ผมเลิกคิ้วไปมองเนมที่ยืนหอบแฮ่กๆค้ำหัวผมอยู่ อย่างไอ้ไทป์อะนะคิดถึงผม ผมว่าไอ้คิมยังน่าเชื่อถือมากกว่าอีกนะ

“กูไม่ได้หลอก แต่ดูจากสีหน้าแล้ว จิตใจกูมโนได้ว่ามันคิดถึงมึงอะ” หือ? จิตมึงมโนปรุงแต่งขึ้นมาเอง??



..................................................................



“ป้าบบ เหี้ยนี่มีผัวแล้วไม่เคยเห็นหน้าเลยนะ”พิชเดินตบหัวผมเสียงดังทันทีที่ผมหย่อนก้นนั่ง ไม่เจ็บนะ แต่กูไม่จบ!...

“อ้าว ว่าไงครับเพื่อนทูนหัว” กูไม่จบ แต่กูกลัวเจ็บ(อีก) ใครจิไปกล้าหือกับมึงครับพิช ตัวมึงก็ชนะกูขาดลอยแล้วเพื่อนเอ๋ย

“หัวกับบุพการีมึงสิ เล่นลิ้นเหรอสัด” อูยย ไมพันธุ์โหดจังวะ

“ไอ้คิมไปไหนวะ” ผมถามพิช เห็นแต่ไอ้ไทป์ที่เดินมานั่งตรงข้ามผมแล้วจ้องแทบจะแดกหน้าผมเป็นอาหาร ส่วนคนอื่นไปซื้อข้าวกันอยู่

“ไปทำความดีอยู่เดี๋ยวคงตามมา”

“หะ?มึงว่าไงนะ อะไรกะหล่ำปลีๆ” ผมหูฝาดหรือเปล่า หรือหูตามันอื้อลายไปหมดหนอ...

“มันไปทำความดี”

“เด็กชายคชาไปทำความดี!?”

“เออ”

“มันเนี่ยนะ ทำไรวะ” มันเนี่ยนะ ผมยังงงไม่หาย

“ดีไม่ห่างเหิน”

“สัด!!” หยาบคายฉิบหาย! กูว่าละ วันๆมันเคยทำห่าอะไรบ้างนอกจากปี้หญิง เอ้ย ปู้หญิง

“ที่รักขา~ สองขา สามขา สี่ขา อ้าขา เอ้ยห้าขา” นั่นไงครับ เสียงมันมาแต่ไกลเหมือนไอ้เนมตอนเช้าไม่มีผิด

“ไมมาช้าวะ ไม่คิดถึงกูเหรอ”

“ว้ายๆๆ คิดถึงเด้ แต่พอดีเจอคนสวยกลางทางว่ะ หึหึ” มันทำหน้าเพ้อฝัน จนไอ้เนมที่เข้ามาได้ยินพอดีเป่าลมปากใส่หน้าไอ้คิมผมเห็นแว้บๆว่ามีสิ่งแปลกปลอม อาจเป็นน้ำลายหลุดออกมาพร้อมลมปากของมัน

“สวยจริงดิ แล้วมึงได้ขอเบอร์ปะ” คลื่นถาม จนโดนบอสผลักหัวแล้วด่าเสียงเนิบๆว่า

“เสือกไปเรื่อย”

“กูใครๆๆ หะ กูใครครับน้องคลื่น ระดับนี้ เลขห้อง ชื่อคอนโดพร้อมเสร็จสรรพครับผม ตอนก้มลงเขียนกระดาษให้กูนะ นมเป็นนมเลยครับ กูเห็นแล้วสวยสัดๆ”

“สวยเหี้ยไรอีก” พิชถามขึ้น

“สวยหัวเคียว หึหึ”

...เอ่อผมว่า เรื่องนี้มัน ฉ20+ แล้วล่ะ....

“ทะลึ่งใหญ่แล้วพวกมึงจะกินไหมข้าวน่ะ” ไทป์พูดขึ้นหลังจากทนไม่ไหวจากคำผวนสุดกู่ของเพื่อนผอง

-This is not the end,This is not the beginning ..-

“สวัสดีครับว่าไง” ไอ้ฉิบหาย กูลืมบอกมันนี่หว่าว่าจะมากินข้าวกับเพื่อน ป่านนี้คงจอดรถรอผมหน้าคณะแหงๆ ตายโหงแล้วตูเอ๋ย..

‘อยู่ไหน’ น่านนน เสียงแข็งเหมือนหน้าตาเป๊ะ

“เอ่อ.. อ๋อ โรงรวมครับ ผมลืมส่งไปบอกเลยว่าจะกินข้าวกับเพื่อนน่ะ แฮะๆ”

‘เดี๋ยวไปหา’

“จะดีเหรอ แล้ว..เพื่อนคุณไม่ว่าเหรอครับ ที่..เอ่อมาอยู่กับผมน่ะ” ผมพูดสีหน้าเครียด คิม(ตัวเสือก)ที่กินข้าวถึงกับเงยขึ้นมามอง

‘ไม่ได้สนใจ เดี๋ยวไปหานะ’

“คร้าบ”



“มีไรกันวะ” คิมพูดขึ้น รู้เลยครับว่าเสือกฟังบทสนทนาเมื่อครู่นี้

“ไม่บอก”

“ไอ้สัดนี่” มันขยับตัวแล้วปาน้ำแข็งก้อนใหญ่ใส่สองก้อน

“เออๆๆ ไม่มีไรมากหรอก เพื่อนมันคนนึงไม่ยอมรับที่กูกับมันรักกันว่ะ” ผมพูดแล้วคีบลูกชิ้นของไอ้บอสกินต่อ มันทำหน้าดุใส่แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็ไอ้คลื่นมันไม่กินลูกชิ้น เลยให้ไอ้บอสตลอด ชามไอ้บอสเลยมีลูกชิ้นมากกว่าคนอื่น

“ใครวะ” เนมถามขึ้น

“โฟ่”

“เออ ไม่ต้องเครียด อุปสรรคมีไว้พุ่งชน” มันตบหลังปุๆให้กำลังใจผม

“กระทิงแดง” คลื่นพูดพร้อมทำมือยกขึ้นข้างหนึ่งสูง อีกข้างหนึ่งอยู่ระดับอกเหมือนบินได้ยังไงอย่างนั้น

“ถุยยย”

“มึงเห็นกูเครียดเหรอ” หลังจากเมื่อวานที่มันบอกไม่ให้ผมคิดมาก ผมก็ไม่เก็บมาคิดแล้วนะ

“ไม่อะ ยิ้มเห็นเหงือกและฟันสามสิบสี่ซี่ รวมฟันคุดเจ็ดเปอร์เซนต์” เนมพูด

“เอ๊ย นั่นมันละมุดเจ็ดเปอร์เซนต์” คิมปล่อยฮุคซ้าย

“เอ๊ย นั่นมันมังคุดเจ็ดเปอร์เซ็นต์” เนมยิงฮุคขวา

“เอ๊ย นั่นมึงVatเจ็ดเปอร์เซ็นต์” คิมไม่ยอมแพ้

“เอ๊ยยยย” คลื่นมาแต่ไกล

“อ้ะ ถูกแว้ว” สองตัวพูดพร้อมกัน

ผั๊วะ!

“ปัญญาอ่อน”

และแล้วทั้งสามตัวก็โดนโหดพิชฟาดหน้าเข้าให้ไปตามระเบียบ

“เออ ก็ตามนั้น”

“เอาไปแมร่งทั้งชามเลยดีปะ” ไอ้บอสพูดขึ้นแล้วเอาตะเกียบด้านที่ไม่เปื้อนเคาะมือผมแรงๆ

“โอ้ยๆ มาดิ กูอยากกินพอดี” ผมยิ้มตาหยีให้ พอดีกับมีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามายื่นชามลูกชิ้นล้วนๆมาให้

“ไอรักคะ ผัดหมี่ซื้อลูกชิ้นมาฝากค่ะ เห็นว่าชอบ” ผู้หญิงชุดรัดติ้ว หน้าเติมแต่งบางๆยืนบิดตัวหน้าแดงแล้วพูดขึ้น ได้ข่าวผมไม่ได้ชอบลูกชิ้นเป็นพิเศษนะ

“วิดวิ้วว!” เสียงโห่ร้างทั่วทั้งโรงอาหาร ทำให้ผู้หญิงคนตรงหน้าเขินกว่าเดิม

“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มให้ไปที เธออึ้งๆก่อนวิ่งหนีออกไปจากโรงอาหาร เอ่อ ไม่ต้องรีบครับ เดี๋ยวสะดุดหรอก ผมไม่ได้สนใจอะไร หันกลับมาจะคีบลูกชิ้นในชามนั้นกิน แต่แล้วมีมือมาจับตะเกียบแน่นแทบหักจนผมต้องปล่อยมือแล้วค่อยๆเงยไปมอง

....โห...โหดสัด

“สะ สวัสดีครับคุณน้ำแข็ง” ผมใจดีสู้เสือยิ้มทักทายคนหน้าบึ้งที่กำตะเกียบไม้จนหักป็นสองท่อน ไอ้เนมที่นั่งอยู่ข้างผมรีบถอยกรูให้มันนั่งโดยที่มันไม่เอ่ยปากขอ

“งานเข้าแล้วมึง” ไอ้บอสที่นั่งอีกข้างพูดเบาๆให้ผมได้ยิน เออ กูรู้ กูเรียนมา

“ไม่ต้องกิน” มันยกชามนั้นไปเททิ้งแล้วเดินกลับมานั่งข้างๆ ผมมองตาละห้อย อ้อย อ้อย .....โถ่... ลูกชิ้นของฉัน.....

“กินอะไรกันดีครับเกียร์ เดี๋ยวผมไปซื้อให้เอง” ผมเอี้ยวตัวไปมองหน้าคนข้างๆที่ไม่ยอมกหันมามองกันสักที นั่นๆ มีเชิดใส่กูอีกนะ งอนกูอีกแล้วไงคราวนี้ ถ้าผมกระทืบหน้าไอ้น้ำแข็ง จะมีใครด่าพ่อแม่ผมไหมเนี่ย

“ตัวเอง ตัวอยากกินอะไรอะ เค้าอยากกินข้าวมันไก่ ตัวเองว่าไงคะ” ผมพูดอ้อนๆที่สุดจะกระดากปาก(ลอกไอ้เนมมา)แล้วทำตาโตปริบๆ ที่ใช้ได้ผลตลอด แล้วมันก็ได้ผลจริงๆ มันหันมาปรายตามอง แต่หน้ายังบูดอยู่ สงสัยจะชอบตาผมล่ะมั้ง ผมทำทีไร ใจอ่อนทุกที

“นั่งดีๆ อย่าดื้อ” แล้วมันก็ลุกออกไป ไม่วายหันกลับมาสั่งผมไม่ให้ดื้ออีก กูทำผิดตรงไหนครับ!

“ไงล่ะมึง ยิ้มจนเป็นเรื่อง” ไอ้คิมพูดขึ้น ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่

“มึงก็รู้ว่ามันขี้หึง ไปรับของมาทำไม” พิชพูด

“ก็มึงดูเขายืนบิดตัวแดง ไม่รับก็เหี้ยละ”

“ถุยย ไอ้พ่อพระจนตัวเองเดือดร้อน สร้างปัญหาให้มันปวดกระโหลกได้ไม่เว้นแต่ละวัน ถ้ามันเปลี่ยนใจจากมึงแล้วจะหนาว ควาย” ไอ้คิมแมร่งพูดโหดจังวะ ผมเสียวๆขึ้นมาเลยอะ

“มึงอย่าด่ากูดิ กูยิ่งกลัวอยู่”

“ควายอีก มึงจะกลัวห่าอะไรของมึง กูล้อเล่น แค่นี้กูก็เห็นมันซ้ายนำ ขวาตามเหมือนลูกเป็ดตามแม่”

“ซ้ายนำขวาตามห่าอะไร กูโดนนำน่ะสิไม่ว่า”

“เหรอ/เหรอ/เหรอ/เหรอ/เหรอ/เหรอ”

“ไอ้สัด”พูดพร้อมกันซะกูเสียศูนย์ในตัวเองเลย

“แต่เมื่อกี้มึงเกือบตายท่ากายกรรมแล้วอะ กูเสียวแทน” ไอ้คลื่นทำท่าขนลุกซู่  จนไอ้เนมต้องแคะขี้มูกป้ายให้หายหนาว

“เหี้ย! มึงๆๆ มึงดูมันมันป้ายขี้มูกใส่กูอะ แง้ๆๆๆมึงเอาของตัวเองกลับไปเลยไอ้เนม แง้ๆๆ” ไอ้คลื่นเบะปากหันซ้ายหันขวาฟ้องแมร่งกับทุกคน

“เชี่ยเนมมึงแกล้งมันทำไมวะ ลำบากกูอีก”ไอ้บอสบ่นอย่างหัวเสีย เพราะรู้ดีกับหน้าที่ตัวเอง ฉุดคลื่นลุกขึ้นไปล้าง คลื่นมันรักสะอาดมากๆครับ ถ้าเป็นผมคงใช้ทิชชู่สีชมพูบนโต๊ะเช็ดออกอะ

“ฮ่าๆๆ กูขำว่ะ ตัวโตกว่าไอ้บอสอีก แต่ใจแมร่งเท่ามดดำ”

“เดี๋ยวมึงก็โดนแกล้งกลับหรอก” ไอ้พิชพูดขึ้น เกียร์เดินมาวางจานข้าวพอดี แล้วเดินออกไปซื้อน้ำอีกครั้ง ก่อนกลับมานั่งที่เดิม

“ร้อนเหรอ” มันเหงื่อแตกผลักๆเลยครับ ปกติโรงรวมจะมีโซนติดแอร์ กับติดพัดลมเฉยๆ แต่พวกผมมันกันสาย เลยจองโซนแอร์ไม่ทัน ผมยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ ผมพกมาทุกวันครับ เคยชินตั้งแต่เด็กๆมันส่ายหน้าแล้วเอียงหน้าเข้ามาใกล้ แฟนกูเป็นง่อยอีกแล้ว ถึงจะบ่นแต่ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงยิ้มก็ไม่รู้

“ทำไมมึงไม่บอกว่าวันนี้มันร้อนขนาดนี้ จะได้เปลี่ยนที่ ดูสภาพไอ้เกียร์ดิ เหงื่อแตกอย่างกับสายน้ำ” ไอ้เนมบ่นขึ้น เออวันนี้อากาศมันร้อนจริงๆนะครับ แต่ผมไม่ได้ลุกเดินไปเบียดซื้อข้าวซ้อน้ำกับคนอื่นมั้ง เหงื่อเลยไม่ออก

“กูไม่ได้เป็นกรมอุตุ”พิชตอบ

“จ๊ะ แค่นั้นแหล่ะจ๊ะที่รัก”



ตลอดทั้งอาทิตย์ผมนั่งติวหนังสือสอบกับเพื่อนอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง จะมีบางวันที่กลับมาอ่านหนังสือคนเดียวที่บ้านของเราบ้าง(ห้องมันนั่นละ) ส่วนมันก็สอบเหมือนกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้เจอหน้ากันนะครับ

ทุกวันมันจะต้องมาเจอหน้ากัน สักหนึ่งนาทีก็ยังดี แต่ครั้งนี้ผมถูกเรียกให้ไปหาครับ เพราะมันต้องอ่านหนังสือโค้งสุดท้ายเลยไม่ว่างมาหาผม ไอ้ผมก็บอกไปแล้วนะว่าไว้ค่อยเจอกันวันอื่นก็ได้ คือผมไม่อยากไปหาเพื่อนมันเลยพูดตรงๆ มันไม่มั่นใจอะ แต่มันบอกต้องมาให้ได้ พอผมเถียงก็ชิงเงียบอีก สุดท้ายผมก็ต้องไปหามันสิถึงจะหายใบ้ เฮ้อ

“สวัสดีครับ”ผมเดินเข้าไปทักทายกลุ่มมัน มีสองคนที่ไม่คุ้นหน้ายิ้มให้ผมนิดๆ

“อ๊ายย เจ้าชายมาหาสาเหรอคะ คิดถึงจัง” สาวิ่งเข้ามาหมายจะเกาะแขนฉับ แต่โดนเกียร์ดันหน้าเสียก่อน ส่วนโฟ่นั่งมองผมนิ่ง ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่

“มันไปจับหน้ามันทำไมวะ เดี๋ยวผื่นขึ้นหรอก” มัดพูดขึ้น

“อีเวร กูเป็นคนนะไม่ใช่หมามุ่ย”

“อ้าวเหรอ แต่กูนึกว่าลมพิษว่ะ ฮ่าๆๆๆ”

“ไอ้มัด! แมร่ง กูไม่ตงไม่ติวให้มึงแล้ว ปล่อยให้โง่แบบนี้แหละ” สาสะบัดหน้าเชิดใส่เตรียมตัวจะลุกขึ้นหนีแต่โดนมัดรั้งข้อมือเอาไว้

“โอ๋ๆๆ กูล้อเล่นน่า หยอกเพราะรักนะครับ” ประโยคสุดท้ายมัดทำเสียงนุ่มๆของมัน สามองมัดอึ้งๆแต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ

“พวกมึงจะติวกันหรือพลอดรักกันเอาสักอย่าง กูงง Mechanicsฉิบหายจะตายอยู่ละ ไอ้แว่นมึงอธิบายอีกรอบดิ้”พัตพูดขึ้น

“กูอธิบายมึงมาเป็นล้านรอบแล้วนะ” เนบ่นๆแต่ก็ยอมอธิบายให้อีกครั้งอย่างละเอียด

“เดี๋ยวพวกกูไปก่อนนะ” คนแปลกหน้าคนหนึ่งพูดขึ้น อืม..หน้าเหมือนกาฟิวเลยครับ แต่สูงมากๆ

“อ้าว ไอ้เมสรีบไปไหนวะ” พัตถามขึ้น

“นัดเมีย ด่ากูตายห่าละแมร่ง ส่วนไอ้เต้โดนแม่ตาม” เหตุผลมีน้ำหนักมากๆครับ รีบไปเถอะครับ เดี๋ยวจะโดนส้นเท้าของคุณภริยาทับประสาทตาเสียก่อน

“เออๆๆ เมียหรือแม่วะ ฮ่าๆๆ”

“มึงอย่าเล่นของสูงของกูนะโว้ย กูนี่แทบจะบูชาเหนือหัว นางยังอุส่ายื่นมือลงมาตบหัวกูได้ทุกวี่ทุกวัน” คนชื่อเมสบ่นเป็นหมีกินน้ำผึ้งเลยครับ สงสัยจะโดนมาเยอะ เจ็บมาเยอะ

“รีบไปเหอะมึง เดี๋ยวแผ่นดินบ้านมึงจะแยกจากกันซะก่อน โชคดีเว้ยๆ” พัตหัวเราะเสียงดังแล้วพูดขึ้น

“เออๆๆ ไปนะ” เต้เก็บของบอกลาเพื่อนในกลุ่ม เผื่อแผ่รอยยิ้มมาถึงผมด้วยเช่นกัน

“กูก็ไปละเหมือนกัน อ้ออ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับเจ้าชาย” คนชื่อเมส(มั้ง) หันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้เพียงเสี้ยววินาทีเดียว มียางลบไซส์บิ๊คที่สุดในบีทูเอสปาเข้าเบ้าตาอย่างแรงตั้งแต่ยังไม่ได้ออกจากคณะเพื่อไปโดนส้นเท้าภริยาที่บ้าน เหตุเกิดจากคนข้างๆผมอย่างไม่ต้องสืบ

“โอ้ยย ไอ้เหี้ยเกียร์กูเจ็บนะโว้ย” อึ้งครับ ทุกคนอึ้ง แม้แต่ผมยังตกใจไม่แพ้กัน เมื่อกี้มันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแรงสูงมากครับ

“…..”

“เอ่อไอ้เชี่ยเกียร์มันทำหลุดมือน่ะ มึงไปเถอะเต้เมส ไว้เจอกันๆ” สารีบแก้สถานการณ์ให้เพราะเห็นว่าเกียร์เฉยเมยไม่แก้ตัวใดๆ

“เออๆแมร่ง กูไปละ บายโว้ย” แล้วสองหน่อก็จากไปจากเฟลมเป็นที่เรียบร้อย

“ฟาย มึงทำอะไรเนี่ย รุนแรงไปหรือเปล่าวะ อย่าลืมว่าพวกมันไม่รู้เรื่องที่มึงคบกันนะ” สาหันมาด่าเกียร์เบาๆ แต่เกียร์หันมามองสาแล้วเมินเหมือนไม่สนใจ

“ไอ้เกียร์มันด้านจะตาย คนอื่นรู้มันไม่อายหรอก ยิ่งเหลิงด้วยซ้ำ มีแฟนหล่อรวยกวยเพอร์เฟค” พัตพูดพร้อมทำหน้ากระล่อนใส่ผม แต่ก็ต้องชะงักเพราะรัศมีเงามืดตีแพร่กระจายวงกว้างทั่วระยะพันเมตรของไอ้หมาน้ำแข็งตัวข้างๆ

“ถ้ามึงจะหวงเมียขนาดนี้ ไม่เอาปี๊บมาคุมหัวไอรักเลยวะ น่ากลัวสัด” มัดเอ่ยขึ้น ทำผมหน้าร้อนขึ้นมาทันที เมียอะไรกัน ผมยังซิงอยู่นะ! แล้วนี่ร่างกายผมจะสูบฉีดดีเกินไปไหม ไอ้คนข้างๆเห็นสีหน้าผมก็หัวเราะหึหึอารมณ์ดีขึ้นมาทันตาเลยอะ

ผู้ชายหน้าแดงมันน่าอายนะครับ!

“เชี่ยย กูขอจำภาพนี้แปบนึงๆ เจ้าชายหน้าแดงแปร๊ดเป็นมะเขือเทศ เพิ่มความน่ารักขึ้นยี่สิบเท่า กับไอ้เชี่ยมนุษย์เส้นประสาทหน้าตายเสือกหัวเราะได้ มันยกมุมปากขึ้นด้วยอะ!” พัตปัดมือสาที่สะกิดยิกๆและเอามือทาบอกตัวเอง สายตามองมาที่พวกผมสองคนกันหมด ยกเว้นโฟ่ที่คิ้วขมวดฉับเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง

“โอว...ตาพร่าฉับพลัน” สาทำท่าจะล้มทับพัต แต่โดนพัตยันหน้ากลับ คอแทบหลุด โถคุณสา ไม่น่าเลย...

“อ่านถึงไหนแล้ว” คนข้างๆผมหันมาถาม

“จบหมดแล้วครับ แต่จะทบทวนผ่านๆอีกรอบ” แล้วผมก็หยิบหนังสือปึกใหญ่มากางอ่าน เริ่มสอบวันแรกตั้งแต่พรุ่งนี้ แต่ผมอ่านจบแล้วเลยอ่านไปเรื่อยๆไม่ต้องรีบร้อนอะไร ส่วนพวกวิศวะเริ่มสอบทีหลังแพทย์ จึงสอบเสร็จหลังผมสองวันครับ

“อยู่ต่อเลยได้ไหม”

“อย่าปล่อยให้ตัวฉันไป ..ถุยยย มึงมาเป็นเพลงเลยดีไหมเชี่ยเกียร์” พัตหันมาต่อให้เกียร์ เออเนอะ เกียร์อุส่าพูดเบาๆ แต่หูมึงนี่ยื่นมาอย่างกับจมูกพินอคคิโอ  แล้วมึงได้ดูหน้าเนบ้างไหม แทบจะแดกหัวพี่สิงโต นำโชคของกูเสียให้ได้

“....” เกียร์ก็ยังตีหน้าตายเหมือนเดิม

“มา!อีกรอบ เดี๋ยวกูขึ้นให้” มัดเริ่มหยุดประสาทหลอนจากหนังสือ หันมาต่อเพลงกับพัตแล้วครับคราวนี้

“เดี๋ยวกูลงแล้วกัน”

-_-????

แล้วพระ-นายสองคนก็ประสานเสียงคอรัสกันสนุกสนาน ปล่อยให้เกียร์กับสานั่งอ่านหนังสืออย่างใจจดใจจ่อ เนเอามือปิดหู ปากพึมพำเหมือนอยากจะอ่านหนังสือแต่ไม่มีสมาธิ ส่วนโฟ่นั่งคิ้วขมวดเหมือนอารมณ์ไม่ดีตั้งแต่ผมเดินเข้ามาแล้วครับ

“กูว่ากูกดปิดเพลงแล้วนะ” สาครับ เทปนี้กอได้ Nextได้ แต่ไม่มีปุ่มStopครับ

“กูทนไม่ไหวละ ล้มโต๊ะโว้ยยยยย” อยู่ดีๆเนตะโกนออกมาเสียงดัง เจ้าตัวที่ต่อเพลงผงะแล้วหันมายิ้มแหยะๆให้เพื่อนแว่น

“กูสมองล้านักอะ เห็นเพื่อนหวานก็อยากเติมเกลือให้มันบ้างอะไรบ้าง แต่กูฟังมึงอยู่นะต่อเลยๆ” ล้านัก ลักน้า มึงจะเล่นอะไรอะพัต ลักขโมยเหรอ ก็ไม่ใช่.....

“ไหน มึงลองตอบข้อนี้ให้กูดูหน่อย” พัตหันก้มหน้าก้มตาขีดเขียนแล้วยื่นกระดาษไปให้ครู(จำเป็น)เน

ผั๊วะ!

“พ่อมึงสิการกระจัดมีขนาด 20 √2 เมตร ทำมุม45องศากับแกน xต่างหากโว้ยย สอนไม่เคยจำ แล้วมึงจะแดกข้าวไหมไอ้มัด ถ้าอยากแดกไวๆก็หันไปอ่านกับไอ้สาได้แล้ว มัวแต่เล่นโทรศัพท์ เชี่ยโฟ่มึงจะหน้าบึ้งเหมือนอมดากหมีอีกนานไหม เดี๋ยวกูเตะยอดหน้ามะพร้าวอ่อนเลยสัด!” เอ่อ...เนระเบิดลง ด่าทุกคนหน้าหงายเลยครับ แต่คงไม่กล้าเอ่ยด่าคนที่หันมาแกล้งจับมือผมเล่นไปมาสักพักหนึ่งแล้ว เพราะอะไรคงรู้กันดี

“มึงก็มัวแต่เล่นกับขี้อยู่นั่นแหละ เดี๋ยวไม่รู้เรื่องหรอก”สาหันมาด่าพัต

“อ้าวหมูสา กูหล่อขนาดนี้ ด่ากูเป็นขี้ซะงั้น” มัดสวนกลับ

“กูก็ว่าอยู่ กลิ่นตุๆ” พัตบอก

“สัด! หยุดเล่นได้ละ เรียกสติหน่อยดิวะ” เนพูดน้ำเสียงขึงขัง ผมว่ามันตลกมากกว่าน่ากลัวนะครับ

“หากพวกเรากำลังสบาย จงตบมือพลัน ..แปะ แปะ” อันนี้ผมพูดครับ เพื่อเรียกสติสตังทุกคนให้กลับมาอ่านหนังสืออีกรอบเลยร้องเพลงละลายพฤติกรรม ฟังคนอื่นมานานละ ขอมีบทบ้าง แต่ทำไมมันเงียบฉี่เลยวะ สักพักพวกมันหัวเราะก๊ากเสียงดังเลยครับ

“ฮ่าๆๆๆ ...กร๊ากกก.. โอ้ยมุขนี้กูขำสัตว์ๆ ไอ้เน มึงโดนเจ้าชายเล่นแล้ว ฮ่าๆๆ” พัตพูดไปน้ำตาเล็ดไป ส่วนเนเม้มปากแน่นหน้างอเหมือนถูกกวนประสาท

“อะ..ไอรักคะ คิกๆ สาไม่เคยคิดเลยว่าไอรักจะกวนส้นบาทาได้ขนาดนี้”

“ผมกวนตอนไหนอะครับ” ไม่ทราบจริงๆครับ ผมไม่รู้เรื่อง

“ถา..มเกียร์..เห้อะ แฮ่กๆเหนื่อยว่ะ” กว่ามัดจะกลั่นคำพูดออกจากหลอดลม แทบขาดใจเลยทีเดียว

“ทำไมเหรอครับเกียร์” ผมทำตาแป๋วไปให้ไอ้คนนั่งไหล่สั่นอยู่ข้างๆ

“หึ ไม่มีไรหรอก หิวหรือยังแมวน้อย” มันยกมือขึ้นมายีผมเบาๆแล้วถามขึ้นพร้อมรอยยิ้มนิดๆที่แสนอบอุ่น สงสัยผมต้องหาแว่นกรองแสงมาใส่แล้วล่ะครับ มันทำผมใจสั่นมาหลายรอบแล้วนะ

“นิดหน่อยครับ วันนี้ผมอยากกินราดหน้าใส่หมูเยอะๆอะ” มีร้านราดหน้าอยู่หน้ามอ หมูนุ่มอร่อยมากครับ ผมสั่งหมูพิเศษตลอด แถมเกียร์ใจดีแบ่งของตัวเองให้อีก นาทีนั้นมีแต่จุกกับจุกเลยครับ มันหยักหน้าแล้วชูห้านิ้วเป็นสัญญาณว่าขอห้านาทีแล้วอ่านหนังสือต่อ

-I'm gonna pop some tags Only got twenty dollars in my pocket I … -

เบอร์แปลกแฮะ..

“สวัสดีครับ”

‘สวัสดีค่ะ ใช่ไอรักหรือเปล่าคะ’

“ครับ ไม่ทราบว่านี่ใครครับ” ผมพูดกรอกไป เกียร์เริ่มหันมามองอย่างสงสัย ผมเลยส่ายหน้า ไม่รู้ว่าใครเหมือนกัน

‘เราชื่อมุก อยู่นิเทศปีเดียวกับไอรักค่ะ’



“มุก นิเทศ?”




TBC---------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>


หลังจากนี้จะลุยโปรเจ็คงานวิจัยครั้งใหญ่นะคะ ไม่รู้ว่าจะได้ต่ออีกตอนไหน คงเป็นตอนที่สะดวกและจำนวนคนเม้นท์นะคะ

เลิฟยูทุกคน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-10-2013 20:24:44 โดย Calypso »

ออฟไลน์ yokerohz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ค้างเลยอ่ะ

 :a5: :a5:

ต่อเร็วๆนะคะ ชอบมากมากเลย  o13 o13

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
หลังคำว่า "มุก นิเทศ" นี่โทรศัพท์อาจโดนกระชากพรืดไปได้นะ พระเอกเราขี้หวงโคตร ๆ
เสมอต้นเสมอปลายมาก ชอบอ่ะ ก๋วยเตี๋ยวชามนั้นที่สาว ๆ เอามาให้เททิ้งเกลี้ยงจ้า
เพื่อนแค่ยิ้มให้ก็โดนเสยด้วยยางลบ เกรียนจริงพระเอกเรา

ไอรักน่ารักมากตอนปล่อยมุขเกรียน ฮาเงิบกันทั้งกลุ่มอ่ะ คืออารมณ์แบบเนกำลังด่า
กลุ่มเกียร์ก็รั่วกันเนอะ แ่ต่กลุ่มไอรักนี่รั่วกว่า ฮาเวลา่ต่อมุขกัน แถม 20++ อีกตะหาก 555

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
มุกคือผู้ใดหนอ  งานจะเข้าไอรักอีกหรือเปล่า
เกียร์ยิ่งหึงโหดน่ากลัวนะ

Ella Killer

  • บุคคลทั่วไป
เป็นเพื่อนกันก็ควรยอมรับในสิ่งที่เพื่อนเป็นสิ

ปล.งานเข้าไอรักแน่ๆ  :z3:

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
ชะนีนี่นี้มันเป็นใคร???

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ honeyhoon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
  o13
กำลังสนุกเลย
อยากอ่านต่อ
 :3123:
 :pig4:

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
เกียร์ขี้หึงขี้หวงน่าดูเ้หมือนกันนะเนี่ย

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
ใครอ่ะ ?  :m28: :m28:

ออฟไลน์ Zurruz

  • สาววายพันธุ์ยัน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้. รวดเดียวจบเลยทีเดียว

น่ารักมากๆค่ะ อ่านไปกลั้นขำไปตลอด แทบขาดใจ

แรกๆยังเฉยอยู่ ก็คิดแค่ว่าภาษาสวยดี อ่านๆไป

พอเจอมุกจับปล้ำในรถของไอรักเข้าไปก็ติดใจทันที

คนอะไร ความคิดน่ารักจริงๆ

ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1622
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
 :z10:  รออยู่นะคะ

ออฟไลน์ cowinsend

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 463
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
สนุก+สนุกมากๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ

รอตอนต่อไปน้า

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
ชะนีคนนี้เป็นใครรรรรร!

แล้วพี่โฟ่เป็นโรคอะไรเนี่ย ไม่รักเพื่อนเลยเหรอ ชิชะ!

ออฟไลน์ Calypso

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-0
ตอนที่16


‘จ้า ไอรักจำเราไม่ได้เหรอ เสียใจนะนี่ ... ก็ดาวนิเทศปีที่แล้ว ที่มุกยืนถัดจากไอรักไปสองคู่ไง จำมุกได้หรือยังเอ่ย’ ผมคิดอยู่เป็นนานสองนาน ก็นึกออกว่าเคยควงเธออยู่ไม่กี่วัน เท่าที่จำได้ ผมไม่เคยแลกเบอร์เลยนะครับ แต่เธอให้เพียงเลขห้องคอนโดเท่านั้นเอง ..แต่ยังไม่ทันตอบอะไรไป  คนหน้าโหดแบมือขอโทรศัพท์ไปคุยเลยครับ

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมคุยเอง” ผมเอามือกันเสียงรอดไปโทรศัพท์ แล้วกระซิบบอก แต่มันปฏิเสธแกมข่มขู่ผมทางสายตา

“ใคร” มันกรอกเสียงถามกระชากสุดๆพร้อมสีหน้านิ่ง

“ไม่รู้จัก”

“เสือก”

“ไม่ มันมีแฟนแล้ว”

“เอาเบอร์มาได้ยังไง”

“ชื่อ?”อยู่ดีๆเกียร์ก็คิ้วขมวดฉับ ก่อนจะตัดสายทิ้งส่งโทรศัพท์มาให้ผมแล้วหันไปจ้องโฟ่ที่มองอยู่ก่อนหน้านี้


“กิ๊กมึงโทรมาเหรอ” โฟ่หันมาแสยะยิ้มให้ ผมคิ้วขมวดขึ้นทันที

“อะไรครับ”

“เปล๊า กูเห็นมึงฮอตจะตายไป เป็นเรื่องขี้ๆสำหรับมึงนิ ถ้าคิด.. จะมีชู้สักคนสองคน”โฟ่ยังยิ้มแสยะอยู่ ตอบมองหน้าผมพร้อมเอนหลังนั่งพิงเก้าอี้ แล้วเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ คงไม่ต้องเดาว่าฝีมือใคร

“......”

“หึ.. ไม่ตอบ แสดงว่าใช่จริงๆสินะ”

“กูจำเป็นต้องอธิบายให้มึงฟังเหรอ” มันคิ้วกระตุกขึ้น ไหนๆก็ไหนๆละ พวกมันอยากให้พูดหยาบๆ ผมก็สนองหยาบให้ทันที พร้อมกระตุกยิ้มข้างเดียวด้วยท่าทางกวนประสาท คนอื่นจะมองยังไงผมไม่สน เพราะตอนนี้กรามเริ่มเป็นสันนูนมากขึ้นเรื่อยๆ ขอผมกวนส้นตีนมันบ้างเถอะ

“ไม่อยากอธิบาย หรือไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงกันแน่”

“ไม่รู้มั้ง”

“ฮ่าๆๆ แค่นี้มึงยังไม่ตอบไม่ได้เล้ย แล้วพวกมึงจะมั่นคงกันอย่างที่ปากพูดกันเหรอวะ? หึ ไร้สาระว่ะ” มันพูดดูถูกแล้วหัวเราะเยาะใส่ ท่าสบายๆของมันทำให้ฟางเส้นสุดท้ายของผมแทบขาดผึง ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนเกียร์ ผมไม่ไว้หน้ามันแน่

“เปล่า กูไม่รู้ว่าควรทำหนังสือรายงาน‘คนอื่น’ว่า....ใคร...ที่เอาเบอร์กูไปแจกคนอื่นมั่วซั่ว เพื่อจะให้ครอบครัวคนอื่นแตกแยกกันละมั้ง” ผมเลียนแบบท่าทางสบายๆและกวนโอ๊ยของโฟ่ มันกำหมัดแน่น ดูท่าจะโกรธแค้นผมมาก

“เหอะ! กำแพงมีหู ประตูมีช่อง เคยทำอะไรไว้ คนอื่นเขาก็รู้กันทั่ว.....”

“นั่นกูควรพูดมากกว่าไม่ใช่เหรอ” มันยังพูดไม่จบก็ต้องสะอึกกับเสียงสวนกลับด้วยน้ำเสียงดังกว่ามัน

“สัด!อย่าคิดว่ากูไม่รู้ว่ามึงเคยมั่วคั่วตัวเมียมากหน้าหลายตาก่อนจะเอาตัวผู้อย่างเพื่อนกูมาเป็น...”มันลุกขึ้นเริ่มกระแทกเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังไม่ทันจบประโยคมัดที่รั้งแขนมันพูดขัดขึ้น

“ไอ้โฟ่!.....มึงใจเย็นดิวะ”

“เย็นเหี้ยไร! มึงดูปากมันดิ! กวนส้นตีนกูทุกคำเอาเลือดออกปากแมร่งสักทีดิ้สัดเอ้ย!”มันทำท่าจะเข้ามาหาผม พร้อมเกียร์ที่ลุกมาบัง ผมไม่รู้ว่ามันแสดงสีหน้าอย่างไร แต่มันทำให้ไอ้โฟ่ที่จ้องจะเข้ามาทางผมชะงักทันที

“เฮ้ยๆๆ พวกมึงหยุดกัดกันได้แล้ว เป็นเพื่อนกันนะโว้ย มึง ไอ้โฟ่ดูปากตัวเองบ้าง มันแรงไปนะเว้ย”พัตพูดเสียงละล่ำละลัก

“ไอ้เกียร์ มึงพาไอรักออกไปก่อนดีกว่าว่ะ” มัดบอก เพราะดูท่าโฟ่จะยังไม่จบ จ้องจะกินเลือดกินเนื้อผมอยู่ตลอดเวลา

“ไปเถอะครับ..ไปก่อนนะครับ” ผมบอกเกียร์ที่ยืนนิ่งเป็นสากกะเบือ แล้วหันไปลาเพื่อนๆมัน





หลังจากวันนั้นผมก็ไม่ได้ไปเจอเพื่อนมันอีก ไม่ใช่ใครบังคับหรอก แต่เป็นผมที่หลีกเลี่ยงเสียเอง ไม่อยากให้เกิดเรื่องวุ่นวายอีก เพราะมันเหมือนผมเป็นตัวปัญหาที่ทำให้เพื่อนแตกคอกัน ผมรู้ตัวว่าพูดแรงไป แต่จะยืนอยู่เฉยๆให้โฟ่ด่าเล่นก็ไม่ใช่เรื่อง พ่อแม่ผมเพื่อนสนิทผมยังไม่เคยเหน็บแนมดูถูกกันถึงขนาดนี้ แล้วมันเป็นใคร?

ทุกวันเกียร์ก็ยังมาทานข้าวกลางวันกับผมเหมือนปกติ แล้วแยกย้ายไปอ่านหนังสือสอบกับเพื่อนมัน แต่สิ่งที่แปลกไปคือพักหลังมันชอบนั่งเหม่อเหมือนคิดอะไรคนเดียว ผมถามอะไรไปก็ต้องถามซ้ำอีกรอบ แล้วมีเบอร์แปลกและไม่แปลกโทรมาหาผมไม่ขาดสาย ทั้งคนที่เคยควง และคนที่ไม่เคยรู้จักมักจี่ รวมถึงคำพูดของคิมที่บอกกับผมเมื่อวันก่อนว่าเจอมันเดินกับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่สา เพื่อนสนิทในกลุ่มมัน ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นไปได้ยากมาก แต่หากเป็นอย่างที่มันพูด..

“ไม่ไปอาบน้ำก่อนเหรอครับ” ผมถามมันหลังจากกลับคอนโดมาได้ครู่ใหญ่ เห็นนั่งจัดแผ่นการ์ตูนอะไรของมันอยู่เงียบๆ ไม่หือไม่อืออยู่นาน เมื่อกี้จะโทรไปฝากลาอาจารย์กับไอ้เนมเสียหน่อย เพราะรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะไม่สบาย แต่มันดันชิงโทรมาบอกว่าอาจารย์ยกเลิกคลาสกะทันหันพอดี ผมจึงไม่ต้องเสียสิทธิ์ในความรู้และคะแนนเข้าห้องเรียน รอดตัวไปอีกคาบ

“…….”

“เกียร์ครับ” ผมเรียกอีกครั้ง แต่มันหันหลังส่ายหน้าปฏิเสธเบาๆ

“………”

“เป็นอะไรเหรอครับ” ผมเดินไปนั่งใกล้ๆ แล้วแตะแขนมันเบาๆ มันหันมามองแวบหนึ่งแล้วหันไปจัดของเหมือนเดิม

“เปล่า”

“ตอบไม่มองหน้ากันอย่างนี้ ผมควรจะเชื่อคำตอบเมื่อกี้หรือเปล่าครับ”มันนิ่งไปพักหนึ่งก่อนเอ่ยพูดออกมา

“...ท.......”

“ครับ?” ผมถามย้ำอีกครั้ง เพราะมันพูดเสียงเบามากจนฟังไม่รู้เรื่อง

เกียร์ล้วงกระเป๋ากางเกงก่อนหยิบภาพสี่-ห้าใบมาวางบนตักผม ผมมองหน้ามันแล้วหยิบขึ้นมาดู เป็นภาพที่ผมควงผู้หญิงเข้าคอนโดของคุณเธอทั้งหลายในอดีต แต่มีเพียงรูปเดียวเท่านั้นที่เหมือนถ่ายเมื่อเร็วๆนี้ เป็นรูปผู้ชายคนหนึ่งโอบกอดเอวผู้หญิงผมดำยาวเอาไว้ แล้วโน้มคอลงเหมือนจูบ ถึงแม้ว่าจะเห็นไม่ชัด แต่มองยังไงนั่นมันคือผมชัดๆ

และมันคือรูปตัดต่อที่แนบเนียนชัดๆ!

“มันไม่จริงใช่ไหม”

“……….”

“ตอบมาสิ!”

“ไม่...” เสียงโทรศัพท์ของผมดังแทรกขึ้น มันปรายตามองสิ่งนั้นที่โซฟาแล้วเดินไปคว้ามาดูเบอร์ แล้วคิ้วขมวดมองผม ก่อนกดรับพร้อมกดสปีกเกอร์โฟน

‘ที่รักคะ ทำอะไรอยู่เอ่ย มุกรอตั้งนาน.....’

“หึ”มันกดตัดสายแล้วเลื่อนดูบางอย่างซ้ำๆ คงจะเป็นประวัติการโทรเข้า-โทรออก มันยิ้มแสยะให้กับตัวเอง

“เฮ้ย มันไม่ใช่อย่างที่คิดนะเกียร์” ผมรีบเดินเข้าไปจับข้อมือทั้งสองข้าง

“ที่รักงั้นเหรอ นี่กูมีแฟนเป็นที่รักของคนอื่นเหรอวะ เขาคุยโทรศัพท์กันทุกเวลา ...ที่ผ่านมามึงคิดไปเองไงไอ้โง่เกียร์” มันพูดขึ้นเหมือนตอกย้ำตัวเอง แล้วพลิกข้อมือออกคล้ายจะกระชากออกจากมือผม

“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะ” ผมพยายามจับมือมันอีกครั้ง แต่ไม่เป็นผล

“เกียร์พยายามที่จะไม่เชื่อคำพูดมัน! ไม่ถาม ไม่สนใจว่าไอรักจะคุยกับใคร จะโทรหาใคร จะไปกับใคร พยายามจะไม่เชื่อรูปภาพที่มันส่งหาเกียร์ซ้ำๆ ทุกวัน!” มันพูดยาวมองผมนิ่ง แต่สายตามันเศร้าหมองและอ่อนล้าเหมือนคนไม่ได้หลับได้นอนมาหลายคืน

“.........”

“หรือจะบอกว่ารูปพวกนี้มันไม่ใช่เรื่องจริง”

“ผม ผมยอมรับว่ามันคือรูปผมจริงๆ แต่อันนี้มันไม่ใช่เรื่องจริงเลยนะครับ เกียร์เชื่อผมนะ นะครับ” ผมอ้อนวอนคว้ามือมันมาบีบแน่น มันไม่ได้บีบตอบเลยแม้แต่น้อย แต่หลับตาส่งคำพูดเสียดแทงหัวใจผมซะไม่มีชิ้นดี

“เหมือนที่ผ่านมา เกียร์ไม่รู้เรื่องไอรักเลยสักนิด” ผมมองหน้ามันอย่างผิดหวัง นี่เหรอคนที่รักกัน นี่เหรอความคิดข้างในของคนที่นอนกอดกันทุกวัน

...ไม่ไว้ใจ.....ไม่เชื่อใจ....

“เกียร์......ไม่เชื่อใจผมเหรอครับ”

“……” มันหลบตาไม่มั่นใจที่จะตอบ เพียงแค่นี้ผมก็รู้แล้วล่ะ

“คุณไม่เชื่อใจผม”

“ไม่......”

“ผมไม่รู้ว่าคุณไปได้ยินอะไรมา แต่ภาพพวกนี้ ในตอนนั้น มันเป็นแค่อดีต อดีตที่ผมไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ ทั้งๆ..ทั้งๆที่ผมพยายามที่จะเปลี่ยนตัวเองเพื่อ..ผู้ชายคนหนึ่งที่ผมรัก แต่ไม่ว่าผมจะทำปัจจุบันได้ดีแค่ไหน ก็ไม่ทำให้เขาคนนั้นเชื่อใจผมได้เลย...แม้แต่น้อย”

“……”

“....ผมว่าเราลองถอยห่างกันดูดีกว่าไหม เผื่อจะมองเห็นสิ่งที่ไม่เห็นในตอนนี้บ้าง”

“ไม่! เกียร์ไม่ยอม!” มันรีบจับมือดึงผมเข้าไปกอด อ้อมกอดแสนอบอุ่นที่ทำให้ผมมีความสุขอยู่เสมอ

ทั้งๆที่มันยังคงอบอุ่นเหมือนเดิม แต่ทำไมตอนนี้มันทำให้หัวใจผมไม่หยุดร้องไห้เสียที

“คุณไม่ให้ผมไปไหนเพราะคุณไม่เคยเชื่อใจผมเลย เรื่องนี้มันเกิดขึ้นกี่ครั้ง มันก็ยังเกิดขึ้นอยู่ซ้ำๆ ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงให้คุณมั่นใจ เพราะสุดท้ายคุณก็ไม่เชื่อใจผมอยู่ดี ผมตัดสินใจแล้ว ลองก้าวออกมามองอะไรบ้างจะดีกว่าไหม ขนาดรูปนั้น คุณยังหน้ามือตามัวเชื่อมันอย่างสนิทใจ บางอย่างถ้าดูดีๆ มันอาจจะไม่ทำให้เราต้องมาเป็นแบบนี้หรอกนะ” พูดจบก็เดินออกจากห้องไม่สนเสียงร่ำร้องตามหลัง

“ไอรัก! ไอรัก! เดี๋ยวก่อน!”








“มึงเป็นไรวะไอ้เชี่ยเจ้าชายหำเปียก” คิมทักด้วยสีหน้ากังวล

ผ่านมาสี่วันแล้วที่ผมพยายามหลบหน้ามัน กลับไปนอนคอนโดตัวเอง ออกไปทานข้าวเอง ขับรถมาเรียนโดยไม่ต้องพึ่งมอเตอร์ไซค์ตากลมของใครบางคน ทุกอย่างยังดำเนินเหมือนตอนที่ไม่มีพันธะอะไร

แตกต่างกันที่ไม่หาใครมาปลดปล่อยความใคร่ตัวเองเหมือนชีวิตที่แล้วมา แต่เรื่องนั้นมันไม่สำคัญอะไร หากเทียบกับความว่างเปล่าในตอนนี้

เหมือนชีวิตขาดอะไรไป.......มันไม่เหมือนเดิม

“เปล่า” ผมถามพวกมันที่นั่งจ้องมาที่ผม

“สัด ทำหน้าหมาซึมแบบนี้ยังบอกเปล่า ถ้าไอ้เนมไม่โทรมาบอก ป่านนี้พวกกูคงไม่เห็นมึงนอนให้แมลงวันแดกอยู่ในห้องทั้งวันทั้งคืนแบบนี้หรอก” คิมตีหัวผมอย่างแรง แต่ทำไมผมไม่เจ็บเลย มันด้านชายังไงไม่รู้

“เมนส์ไม่มาเหรอ” คลื่นพูดหน้าซื่อ แล้วโดนบอสตบหัวลากไปห้องครัว

“ไอ้เกียร์ใช่ไหม” ทุกคนหันไปมองไทป์ที่พูดเสียงนิ่งเฉย

“มันทำอะไรมึงอีกวะ!” คิมเริ่มหงุดหงิดขึ้นมา ด้วยความที่ในอดีตไม่ค่อยชอบเกียร์เป็นทุนเดิม

“เปล่า เข้าใจผิดกันเฉยๆ” ผมกระดิกตัวลุกขึ้นเดินไปเปิดโทรทัศน์ช่องหุ้นไปพลางๆ แต่พวกมันฉลาด

“มึงอย่ามาเปลี่ยนเรื่อง”

“……” สายตายังจดจ้องอยู่ที่ตัวเลขที่วิ่งผ่านไปมา

“บางเรื่องมึงไม่จำเป็นต้องเก็บเอาไว้คนเดียวให้รกสมองหรอกนะ” พิชลุกขึ้นมานั่งไขว้ขามือประสานบนหน้าตักตรงข้ามผม

“……..”

“……..”

“เฮ้ออ ไอ้เหี้ยรักเอ๊ยย บทจะดื้อ มึงก็ดื้อไม่แพ้ใคร เออๆพวกกูยอมแพ้ละ ลุกขึ้นมาแดกข้าวก่อน เร็วๆ” เนมถอนหายใจยอมแพ้อย่างแรงแล้วดึงแขนให้ลุกขึ้นตาม

“มึงจะเป็นเหี้ยห่าอะไรก็เป็นไป แต่อย่าลืมสอบตัวสุดท้ายของวันพรุ่งนี้ ถ้าเกรดตก พี่มึงสั่งให้ไปนอนบ้านแน่” ไทป์พูดเตือนสติ ผมนิ่งคิดก่อนพยักหน้ารับเบาๆ













“สอบเสร็จแล้วเหรอ” เสียงดังนิ่งจากข้างหลังของพวกผมที่กำลังเดินไปลานจอดรถ

“........”

“โอ๊ะโอ อะไรกัน ทำไมมองกันอย่างนั้นล่ะ กูแค่จะมายินดีกับมึงเฉยๆ” มันพูดไปยิ้มเยาะไป

“มีอะไรวะ” เนมถามขึ้น

“ได้ข่าวว่ากูคุยกับไอ้รักนะ”

“มึงหลอกด่ากูเหรอไอสัด!” เนมทำท่าจะปรี่เข้าไปหามัน แต่คลื่นดึงแขนเอาไว้

“มีธุระอะไร” ผมพูดขึ้นบ้าง

“นิดหน่อยวะ พอดีกูรับหน้าที่มาส่งสารให้น่ะ อ่ะ! บาย” มันโยนซองน้ำตาลกระแทกลงบนหน้าเท้าผมแล้วเดินออกไป

“หน้าตากวนส้นตีนฉิบหาย เชี่ยเกียร์มีเพื่อนแบบนี้ด้วยเหรอวะ อูย โทษว่ะๆ รีบแกะดิมึง” ผมก้มลงมาเปิดดูสิ่งที่อยู่ข้างใน เป็นภาพเกียร์หลายอิริยาบถกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ใช่สา

“เฮ้ย ไม่ใช่เกียร์หรอก มึงอย่าเข้าใจผิดนะโว้ย”

“คลื่น ถ้ามึงไม่พูด หิ่งห้อยคงไม่บังคับให้มึงพูดหรอก” เนมพูด

“มึงโอเคไหม” บอสถาม

“กูไม่เชื่อหรอก” ไม่เชื่อจริงๆ ไม่ระแวงกังวลใดๆด้วย ไม่ใช่แค่เชื่อใจและนิสัยของมัน แต่ทุกรูปพยายามหามุมกล้องหลอกตาให้มากที่สุด แถมมันยังนั่งนิ่ง ยืนนิ่ง แถมไปทางไม่สบอารมณ์เสียด้วยซ้ำ ดูยังไงก็ไม่มีทางเกินเลยกันเป็นแน่


แต่แค่นี้ก็รู้แล้วว่าใครเป็นคนปั่นหัวให้เกิดเรื่องบ้าๆนี้





TBC------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>


+ แว้บมาโพสต์ เหตุเพราะพรุ่งนี้และวันข้างหน้าตารางสอบเต็มเอี้ยดจนแทบไม่มีที่ให้หายใจ


+ อ้ะๆ ทำไมแต่งไปแต้่งมามันดราม่าซะงั้น อีตานายเกียร์ก็โง่เง่าเต่าตุนเหลือเกิน โซ่อยากจะจับตีก้นซะให้เป็นลายแทงเสียจริงๆ


+ แต่มันกำลังจะกลับมาคงเส้นคงวาค่ะ คือไม่เศร้า! ซีเรียส! เครียด! เสียใจ! และหวานกว่าเดิมหลายเท่า(เหรอ?) เพราะตอนนี้ชีวิตดิฉันก็เศร้าหมองพอแล้ว :o12:


+ ขอบคุณทุกคอมเม้น ไว้เจอกันนะค่ะ.

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
พระเอกโง่ตลอด -"-

ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
ในความคิดเรา สำหรับปัญหานี้เกียร์ก็ไม่ได้ดูโง่ขนาดนั้นนะ
เพราะรูปถ่ายประกอบกับโทรศัพท์ บวกกับเรื่องราวความฮอตทั้งในอดีตและปัจจุบันของไอรัก บางทีมันก็ทำให้น่าคิดอยู่นะ
ยิ่งเกียร์ของไอรักนี่หึงโหด(มาก)เป็นทุนอยู่แล้วเสียด้วย ฮ่าาาาา
เพียงแต่อาจพลาดที่ไม่ยอมเอาปัญหามาคุยกันปรึกษากันให้มากขึ้น

เราแอบหวังให้โฟ่ยอมรับความสัมพันธ์ของสองคนนี้ได้นะ
แต่สงสัยมาถึงขั้นนี้-พยายามทำให้คนรักเขาแตกแยกกันอย่างจริงจังอย่างนี้ เราคงไม่มีหวังแล้วล่ะ
เพราะจากคำพูดของเกียร์ตอนที่ผ่านมา ถ้ารู้ความจริงละก็ อาจจะมีตัดเพื่อนกันได้เลยนะ โฟ่ไม่น่าทำอย่างนี้เล๊ย
รอความจริงปรากฎ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ IRIS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 434
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
โฟ่แค่รับไม่ได้ หรือโฟ่แอบรักเกียร์ว่ะ ชักสับสน..

แอบผิดหวังในตัวโฟ่นะ เราคิดว่าคนแรกที่เข้าใจต้องเป็นโฟ่ แต่ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
โฟ่เป็นอะไรมากป่ะ

เข้าข่ายโรคจิตนะเนี่ย -_-

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
โฟ่นี่เป็นอะไรมากหรือเปล่าเนี่ย ทำแบบนี้ทำไม นิสัยแย่มาก ๆ เลยนะเนี่ย

ออฟไลน์ krit24

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
ไอ้พี่โฟ่เป็นไรมากป่าวเนี่ย คนแบบนี้น่ารำคาญอ่ะ ใครเอาไปเก็บที

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
ไม่ใช่ว่าโฟ่แอบรักเจ้าชายหรอกนะ

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
ถ้าเกียร์ไม่เชื่อใจไอรักบ้างก็จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่านะ
โฟ่ทำทำไม ชอบเกียร์เหรอ หรือรักเพื่อน เกินไปป่ะ น่าโมโหจริง ๆ
ไอรักจริงใจกับเกียร์มากถ้าเป็นเพื่อนที่ดีต้องดีใจด้วยนะ โกรธแทนไอรักจริง ๆ  :angry2:
อยากให้บทเรียนพระเอกเยอะๆๆๆๆ โทษฐานเชื่อคนอื่นไม่ดูตาม้าตาเรือ

ขอบคุณค่ะ

Ella Killer

  • บุคคลทั่วไป
โฟ่เอ้ยยยยยยยยยยยย  :angry2:

แค่เพื่อนมีแฟนเป็นผู้ชายต้องทำกันขนาดนี้เลยเหรอ  :เฮ้อ:

แอบชอบเกียร์ป่าวเนี่ย

แล้วเกียร์ ทำไมไม่เชื่อใจไอรักบ้างเลย  :serius2:

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
เกลียดโฟ่อะ อะไรมันจะขนาดนั้นนน!! เป็นเพื่อนกันก็ต้องรับกันได้สิ โกรธแทนไอรักนะเนี่ย!

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
ถ้ามีเพื่อนแบบโฟ่อย่างมีซะดีกว่า ทำตัวน่ารังเกียจจัง
เกียร์ก็หัดฟังไอรักพูดบ้าง ไม่ก็ถามหรือพูดคุยกันดีๆ ชอบใช้อารมณ์
หาหนุ่มหล่อๆ มาจีบไอรักบ้างสิ เกียร์มันจะได้เต้น 5555

ออฟไลน์ Calypso

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-0
ตอนที่17

-   Shame pulses through my heart from the things I've done to you ..-

“อืม..”ผมพูดเสียงงัวเงีย เอื้อมมือไปกดไฟนาฬิกาข้างเตียงเพื่อดูเวลาก็ตีหนึ่งกว่าแล้ว ผมพึ่งจะหลับลงเป็นครั้งแรกในรอบสองอาทิตย์ แล้วพรุ่งนี้เช้าไอรักต้องไประยองนะให้ตายสิ!

‘เฮ้ยๆๆๆ มันรับแล้วโว้ย สัด อย่าเพิ่งสะกิดกูดิวะ เฮ้ยนี่ไอรักใช่ปะวะ ตอบหน่อยๆ!’

“หืออ อะไร ใครครับเนี่ย” ผมลากเสียงอย่างหงุดหงิด ยกโทรศัพท์มาดูเป็นเบอร์เกียร์ ก็สะดุ้งตื่นนั่งตัวตรงขึ้นทันที

‘กูพัตโว้ยย มึงไม่ต้องนอนแล้ว มาดูผัวมึงด่วน!’

“หัว?”ใครหัวแตกตอนตีหนึ่งวะ เจริญล่ะทีนี้

‘ผัวโว้ยผัว ไอ้เชี่ยเกียร์แฟนมึงไง มึงเลิกงงได้แล้ว ตื่นโว้ย! ก่อนที่พวกมันจะต่อยกันตายเสียก่อน พวกกูปวดกระบาลจะตายแล้วเนี่ย เฮ้ยยยย เหี้ย!’ เสียงเจี้ยวจ๊าวดังลอดสาย เหมือนกำลังชุลมุนกันอยู่

อ่าวเหรอ งืมๆ เกียร์แฟนผม อืม....ต่อยกัน .....ต่อย..........งั้นเหรอ

เห้ยยยยยยยยยยยยย

“ที่ไหนครับ!”

‘ร้านหยีๆๆ’

‘หมีโว้ย’ เสียงใครวะ

‘เออๆๆ สัด ลิ้นพัน กูผิดจริงไม่ได้เล่นมุขใดๆ ร้านหมี หมีนะมึงหมี’

“ครับๆ เดี๋ยวผมรีบไป” ผมรีบพูดแล้วหยิบกุญแจรถออกไป




“ฮัลโหล พี่พัช ที่ร้านมีเรื่องกันเหรอพี่.....ครับๆ....พี่ ผมฝากดูหน่อยได้ไหมอะ เดี๋ยวผมรีบตามไป...เพื่อนครับ...ครับๆ ขอบคุณครับ”ผมโทรไปหาพี่พัชพี่ของไอ้พิช ที่เป็นเจ้าของร้านที่นั่น






“ไอรัก มึงๆๆทางนี้”พัตวิ่งหน้าตื่นออกมาจากหน้าร้านพอดี

“กะ เกียร์ แฮ่กๆ เกียร์ล่ะครับ” ผมถามเสียงหอบ

“อยู่หลังร้าน มาๆ ตามกูมา” มันพูดแล้วก็รีบดึงไปหลังร้าน ผมเห็น เน สา มัด ยืนอยู่มุมมืดสีหน้าไม่สู้ดีนัก เยื้องห่างออกไปเล็กน้อยคือพี่พัชยืนกอดอกพ่นควันบุหรี่ กับการ์ดของร้านสามคน มองสองชายร่างใหญ่ต่อยกันอย่างไม่ยอมแพ้

“เกียร์!” มันชะงักแล้วหันมามองด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปมากจากเมื่อครู่ โฟ่เห็นจังหวะ ต่อยเข้าไปที่หน้าเต็มๆ มันหันไปตามแรงมือ แต่ยังไม่ละสายตาไปจากผม เพื่อนรอบวงตกใจ แต่ไม่กล้าเข้าไปห้าม

“โอ้ย ไอสัดไอรัก!!” ผมวิ่งเข้าไปถีบตัวโฟ่ที่หมายจะเข้ามาต่อยมันอีกครั้ง โฟ่ถไลล้มลงไป มันเงยขึ้นมามองผมด้วยความโมโห

“มันเกิดอะไรขึ้น! ทำไมต้องลงไม้ลงมือกันด้วย...ครับ” ผมถามมองหน้าโฟ่อย่างเคร่งเครียด ก่อนจะหันไปต่อว่าคนที่ผมหลบหน้ามาตลอดเมื่อมันมาดักเจอ แต่เสียงตอนท้ายแผ่วลง

แต่แวบแรกที่เห็น ทำผมน้ำตาแทบร่วง เกียร์ในระยะใกล้กันเพียงเอื้อมมือ ดูซูบลงจนใจผมสั่นไปหมด เหมือนคนไม่ได้กินไม่ได้นอนคนอื่นอาจบอกว่าเพียงนิดเดียว แต่ผมอยู่กับมันทุกวัน ทำไมผมจะไม่รู้ว่ามันแย่ลงมากเสียเหลือเกิน อาทิตย์สองอาทิตย์ที่ผ่านมามันกินอยู่อย่างไร หลับสนิทบ้างไหม ทั้งๆที่ผมควรรู้ก่อนใคร แต่กลับไม่รู้อะไรเลย มันรวบตัวผมเข้าไปกอดแน่น

“ไอรัก……ไอรัก.......ไอรัก” ใจผมแทบขาดเมื่อมันเรียกชื่อผมเสียงสั่นซ้ำไปซ้ำมา

“มึงมาทำไม! มึงมาทำให้เพื่อนกูรักทำไม! ไอ้เหี้ย!!”ยังไม่ทันที่ผมจะสองแขนยกขึ้นกอดตอบ โฟ่ตะโกนลั่นพร้อมปรี่จะเข้ามาซัดแต่โดนการ์ดของผับสาดน้ำใส่จนตัวเปียกไปด้วยน้ำ

“คุยกันดีๆ เอาให้เคลียกันสักทีดิ๊” พี่พัชบอกเสียงเย็น ทิ้งบุหรี่ขยี้มันจนดับสนิทส่งสัญญาณบอกการ์ดไม่ให้เข้าไปยุ่ง

“มีเรื่องอะไรกันครับ” ผมถามเสียงอูอี้อยู่บนอกมัน

“เมา” เกียร์พูดข้างหูแบบไม่ค่อยใส่ใจ

“หะ?”

“มึงไม่บอกมันไปล่ะ ว่าเรื่องของแมร่งนั่นแหละ!”

“เรื่องผมเหรอ” ผมผละออกจากอ้อมกอดแน่น มองหน้าโฟ่แล้วพูดขึ้น

“เออ! มึงไงที่ทำให้กูกับมันต้องต่อยกัน เพราะมึงไง!” มันตะโกนสุดเสียงสายตาที่มองมามีแต่ความโกรธ

“กูไปทำอะไรให้มึงนักหนาวะ เป็นเหี้ยอะไรก็โทษกูอยู่ได้ กูถามหน่อย มึงชอบเกียร์หรือไง” ผมอดไม่ไหวที่จะระเบิดความในใจออกมา ผมไม่อยากจะผิดใจกับโฟ่ ยังไงมันก็เป็นเพื่อนเกียร์ แต่ผมก็ไม่อยากให้ผมกับเกียร์ต้องผิดใจกันอีก นานวันเรื่องเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ มันไม่จบไม่สิ้นเสียที

“ถุย ไอ้สัด!อย่ามาเหมารวมกับกู กูไม่ใช่เกย์เหมือนมึง!” มันทำท่าเหมือนจะเข้ามา แต่การ์ดคุมเชิงอยู่ จึงได้แต่ยืนหงุดหงิดอยู่อย่างนั้น

“แล้วทำไมต้องมายุ่งเรื่องของกูกับเกียร์ขนาดนี้ด้วยกูไม่เข้าใจว่ะ”ผมเริ่มหัวเสีย ไอ้โน่นก็ไม่ใช่ ไอ้นี่ก็ไม่ใช่

“กูเกลียดเกย์โว้ย”

“เกลียดแม้กระทั้งพ่อตัวเองสินะ”

เงียบ

ผมหันไปมองคนข้างๆอย่างไม่เข้าใจ

“หมายความว่าไงวะไอ้เกียร์” พัตถามขึ้น มือเกียร์ยังเกาะเอวผมอยู่ แต่สายตาไม่ละไปจากโฟ่เลยสักนิด

“มะ มึง! อย่าพูดนะ มึงรู้ได้ไง” โฟ่รีบพูดอย่างละล่ำละลัก

“หึ”

“หรือว่าพ่อมึงเป็น..เอ่อ เกย์ แล้วมึงฝังใจ?? ไม่มั้ง นิยายไปเปล่าวะ” พัตพูด

“มึงหยุดพูดเดี๋ยวนี้! ไม่! กูไม่มีพ่อเป็นเกย์! กูมีแม่คนเดียว!!”โฟ่โมโหพยายามเหวี่ยงตัวให้ออกจากเงื้อมมือของการ์ดทั้งสองคน

“กูพอเข้าใจละ มึงห่วงเพื่อนมากไปมั้งไอ้ก้ามปูน้อย” พี่พัชพูดขึ้น

“อะไรของมึง!”

“หึ ริอาจปีนเกลียวกับกูเหรอ” พี่พัชเดินเข้าไปจับบุหรี่จ่อใกล้แก้มด้านขวาของโฟ่ มันชะงัก สายมองบุหรี่ตื่นตระหนก พี่พัชมองหน้าโฟ่ครู่ใหญ่ เห็นว่ามันนิ่งไปก็ลดมือลง

“บางเรื่องมึงก็ไม่ควรเอาเรื่องส่วนตัวของตัวเองมาปะปนกับคนอื่นให้เขาเดือดร้อนหรอกนะ มันจะรัก จะชอบก็ไม่ใช่เรื่องที่มึงต้องเข้าไปยุ่งวุ่นวายมากไปกว่าดูอยู่ห่างๆ หัดปล่อยวางบ้าง เพื่อตัวมึงแล้วก็คนอื่นด้วย ไม่ดีกว่าหรือไงหืมก้ามปูน้อย” พี่พัชทิ้งบุหรี่แล้วขยี้จนดับสนิท ก่อนพูดขึ้นอย่างจริงจัง แล้วตบบ่าโฟ่แรงๆเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นพี่พัชพูดสีหน้าจริงจังขนาดนี้

“มีอะไรก็พูดไปเหอะ ยังไงนั่นก็เพื่อนมึงทั้งนั้น” พี่พัชพูดขึ้นอีกที

“…..กูไม่มี” โฟ่เสตาหลบไปด้านข้าง ปากเม้มเข้าหากันแน่น

“มึงแน่ใจ?”

“...........”

“ความลับของมึงกำลังทำร้ายความรักของเพื่อนมึงอยู่ ไม่รู้ตัวบ้างหรือ?” พี่พัชเริ่มพูดกดดัน

“…….…”

“มิตรภาพคือภาพที่พวกมึงวาดด้วยกันมา แต่มึงกำลังจะทำลายภาพด้วยอดีตของมึงงั้นเหรอ หึ มันดีแล้วหรือไง”

“.....สัดเอ๊ย..............มึงเลิกชอบกันไม่ได้เหรอวะ เพื่อตัวพวกมึงเอง” มันสบถแล้วเอ่ยบอกเสียงอ่อนลง

“ตัวมึงหรือตัวกู” โฟ่สะอึกกับคำพูดและน้ำเสียงนิ่งเฉยของเกียร์

“ทำไมถึงอยากให้พวกกูเลิกชอบกันนักหนา ..คือกูไม่อยากให้เราผิดใจกัน กูอยากเป็นเพื่อนที่ดีกับมึงนะ บอกกูหน่อยได้ไหม” ผมพูดด้วยท่าทางที่อ่อนลงเช่นกัน

ผมอยากใช้ความจริงใจเป็นกุญแจไขความลับของมัน

“.......กู......ก็กูไม่อยากให้พวกมึงต้องลงเอยแบบ..พ่อกู” โฟ่ยืนก้มหน้านิ่งอยู่นานพูดขึ้น

“ทิ้งแม่กับกูไปหาไอ้เหี้ยนั่น ครอบครัวกูไม่เป็นสุขเหมือนก่อน สุดท้ายก็โดนมันทิ้งไปจนไม่เป็นผู้เป็นคน จุดจบก็คือตรอมใจตาย กู...กูไม่อยากให้เพื่อนกูต้องเจออะไรแบบที่กูเคยเจอ”

“แต่ผมไม่ได้มาหลอกเกียร์นะ”ผมรีบแย้งขึ้น

“กูรู้! แต่..เหี้ยเอ๊ย ก็กูกลัว! กูเคยเจอเรื่องเหี้ยๆแบบนี้มา พวกมึงไม่เข้าใจความรู้สึกกันหรอก!อีกอย่างไอ้ไอรักแมร่งก็โคตรป๊อบ มึงไม่รู้หรอกว่าคนอื่นเขาอยากได้มึงขนาดไหน ถ้ามึงนอกใจเพื่อนกูขึ้นมา มันก็แย่ดิวะ”

อ้าว เหี้ยละ โยนขี้ให้กูตอนคับขันอีกแล้วไง เดี๋ยวกูเตะผ่าหมากให้ไก่มึงไม่ขันเลยนิไอ้เชี่ยโฟ่ ไอรักจะหาทางแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินยังไงดีวะ โอ๊ย ไอ้มือที่จับเอวไอรักไม่ปล่อยเริ่มบีบแรงขึ้นแล้วไงครับ

“มันไม่ใช่จะเกิดเรื่องแบบนี้กับทุกคนหรอกนะไอ้ก้ามปูน้อย อีกอย่างไอรักกับพ่อมึงไม่ใช่คนเดียวกัน ไม่ลองเปิดใจยอมรับมันบ้างวะ ตัวใหญ่ฉิบหายแต่ใจแมร่งเท่าแมงกระจั๊ว เดี๋ยวพ่อซัดให้เยินซะเลยดีไหม” เอ่อก็จริงครับ ตัวโฟ่เกือบๆเท่าพี่พัชเลยล่ะ แต่โฟ่เตี้ยกว่าบางกว่านิดหน่อย

“........เออ!....ขอกูทำใจก่อนเหอะว่ะ” มันก้มหน้าตอบ

“ทำตัวอย่างกับไปสมรภูมิรบ เหอะ” โฟ่หันมาค้อนพี่พัชทันที ส่วนพี่พัช ฮีแกก็ตีหน้ามึนๆ หัวเราะเยาะมุมปากตามภาษาคนกวนตีน

“กริ๊ดดด มึงดีกันแล้วเหรอไอ้เพื่อนเวร กูเลี้ยงฉลองเลยวันนี้ คิกๆๆ” สามาจากไหนไม่รู้ วิ่งเข้ามาจะกอดโฟ่ แต่โดนมัดที่วิ่งตามมาดันหน้าไว้เสียก่อน เออเนอะ ลืมสองคนนี้ไปเลย สงสัยพี่พัชให้มัดกันสาไม่ให้ออกมาเห็นอะไรไม่ดีล่ะมั้ง ถึงยังไงสาก็เป็นผู้หญิงล่ะนะ

“กูกลับล่ะ” เกียร์พูดแล้วเกี่ยวเอวผมหนีบกลับไปด้วย เอ่อ ผมบอกหรือเปล่าว่าจะกลับด้วย?

“เดี๋ยว!” ผมกับมันชะงัก หันไปมองโฟ่ที่เสมองด้านข้าง มีอะไรน่ามองวะ ถังขยะสีเหลืองที่มีถุงขยะสีดำกองพะเนินเทินทึกล้นออกมา

“กู...คือ.....กู...”

“อะไรของมึง อ้ำๆอึ้งๆ เดี๋ยวกูตบเลยนะคะ ติดอ่างนัก” สาพูด

“เงียบไปไอ้อ้วน ฟังไอ้โฟ่พูดดิ”พัตผลักตัวสาเบาๆ แต่หญิงสาวแทบปลิวเลยครับ

“อ๊ายยยยยย...” ยังไม่ทันจะเถียง ก็โดนเนอุดปากไปทั้งคู่ รู้สึกเงียบขึ้นดีนะครับ

“ว่าไงครับ” ผมถาม

“กู.....ขอโทษ” มันพูดไปก้มมองเท้าเขี่ยฝุ่นไป เออสรุปมึงขอโทษตีนเหรอ

“หึ ..อึก” ไอ้น้ำแข็งทำเสียงในลำคอไม่ใส่ใจอย่างเสียมารยาท จนผมต้องเอาศอกไปกระทุ้งหน้าท้องมัน

“ครับ หวังว่าจะยอมรับพวกผมได้ไวๆนะ” โฟ่เงยหน้าขึ้นมา ผมยิ้มให้มันอย่างจริงใจ

ผมไม่เคยเกลียดมันเลยนะครับ ถึงผมจะไม่ได้สนิทสนามกับมันเหมือนกับพวกไอ้เนมที่คบกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย

แต่ยังไงมันก็คือเพื่อนผมคนหนึ่งล่ะนะ

“อะ เอ่อ เออมึงไปยิ้มไกลๆเหอะ” มันบอกแล้วรีบหันหลังกลับไปในร้าน อะไรของมัน งึกๆงักๆ

“แล้วจะกลับกันหรือยังครับ” ผมหันไปถามคนอื่น

“ยังค่ะ วันนี้สายินดีเลี้ยงเหล้าไอรักด้วยนะคะ อยู่ก่อนน้า” สาจะเข้ามาออดอ้อน แต่โดนเจ้าเดิมกันท่าเอาไว้ เลยหันไปทำหน้าเหม็นเบื่อใส่

“ยัยอ้วน เขามีแต่ผู้ชายเลี้ยง แต่อีนี่ดันจะไปเลี้ยงผู้ชายเขา ปล่อยไอรักไปเหอะเค้าจะไปสวีทกัน มึงนี่ก็นะ” มัดขยี้หัวสาเบาๆ

“อะไรยะ เจ้าชายอยากจะไปกับกูจะตาย ถ้าไม่ติดอิเกียร์หน้านิ่งนะ ป่านนี้ ..โฮ๊ะๆๆ เสร็จฉันล่ะ” สาทำท่าหัวเราะเหมือนแม่มดร้าย เธอมาแรงจริงๆครับคนๆนี้

“เฮ้ยๆ ชะนีเริ่มทวงสิทธิ์แล้ว ไปเลยมึง เดี๋ยวไอ้โฟ่มันจะรอนาน” พัตพูดแล้วผลักลากสาที่มองผมด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์แล้วโดนมัดลากเข้าไปในร้าน

“เออกูฝากมึงดูแลไอ้เกียร์มันด้วยนะ อาทิตย์สองอาทิตย์เป็นห่าไรนักหนาไม่รู้หงุดหงิดแมร่งทั้งวัน จนคนอื่นไม่กล้าเข้าใกล้ แล้ววันๆไม่กินข้าว แต่เสือกซื้อนมเอาไว้ในห้องทำห่าอะไรไม่รู้เยอะแยะสงสัยจะต่อวงจรไฟฟ้าบ่อยจนเพี้ยนขึ้นทุกวัน” พัตพูดขึ้นผมหันไปมองคนที่กระตุกมือมาตั้งแต่เมื่อกี้ละ มันทำเป็นไม่สนใจคำพูดพัต แต่ทำปากขยับให้ผม‘ง่วงแล้วๆ’

เฮ้ออออ ลูกกูคนนี้ เมื่อไหร่จะหย่านม

“ครับ ขอบใจมากนะ อ้อแล้วก็ขอบคุณพี่พัชด้วยนะ” เสือกชื่อเหมือนกันอีก ไอรักเริ่มสับสนแล้วนะ ผมหันไปขอบคุณ พี่พัชผงกหัวตีหน้ามึนๆตามสไตล์

เห็นอย่างนี้พี่พัชก็เป็นอาจารย์สอนจิตวิทยาในมหาลัยเชียวนะครับ ดูปราดเดียวก็รู้ถึงจิตใจโฟ่ ไม่ธรรมดาจริงๆ

“เออ ช่างเหอะ ไอ้พิชมันบ่นเรื่องมึงเช้าเย็น พวกมึงรักกันให้ดีเหอะ จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนกูอีก” ผมว่าที่พี่พัชไม่ตกใจเรื่องที่ผมมีแฟนเป็นผู้ชาย ก็คงเพราะปากไอ้พิชนั่นแหล่ะ มันรักษาความลับเก่งมาก ไม่ใช่เรื่องของมัน มันจะไม่พูด แต่กับครอบครัว แม้แต่เรื่องเสียตัว(ให้ผู้หญิง)ครั้งแรกตอนไหนยังบอกทั้งครอบครัวมันเลย

แต่ตอนนี้แรงกระตุกมันเริ่มแรงขึ้นแล้วครับ......ก่อนที่ไอรักจะโดนตีน ขอกราบลาพี่พัชเลยดีกว่า

“เอ่อ นั้นผมกลับแล้วนะพี่พัช สวัสดีครับ” พร้อมไหว้มือข้างเดียวอย่างงามๆไปทีหนึ่ง




“แล้วนี่เอารถมาหรือเปล่าครับ” มันพยักหน้าหงึกหงัก แล้วจูงผมไปลานจอดรถมอเตอร์ไซค์ มันมีแบ่งรถยนต์กับมอเตอร์ไซค์น่ะครับ แต่อยู่ติดกันนี่แหล่ะ

“นั้นผมส่งแค่นี้แล้วกัน” ผมแกล้งแงะมือออกแล้วหันหลังทำเมินไปลานจอดรถ

“ไปไหน”

“กลับบ้านไง”

“บ้านไหน” โหพูดเหมือนไอรักมีบ้านเล็กบ้านน้อยเลยนะครับคุณผัวหลวง

ห้ะ?? เมื่อกี้ผมพูดอะไร? ใคร? ใครผัว? ไม่มี๊

ผมนี่แหล่ะสามี! ลูกผู้ชายตัวจริง!!!

“บ้านผมสิ”

“กลับด้วยกัน” มันเริ่มเสียงแข็ง

“ไม่ได้หรอก ผมต้องกลับไปห้องตัวเอง เกียร์ก็ไปห้องเกียร์ไง” ผมหันไปทำตาใสซื่อใส่ ฮิ_ฮิ อยากให้ง้อ

“กลับบ้านเรากันเถอะ...นะ” มันรีบเดินมากอดแล้วพูดเสียงนิ่งติดอ้อนหน่อยๆ ทำใจผมกระตุกเลย

“หืม.. ผมเอารถมานะครับ อีกอย่าง..เกียร์มั่นใจแล้วงั้นเหรอ” ผมถาม

“มั่นใจ”

“แต่ผมไม่มั่นใจ”ผมพูดสวนขึ้นทันที มันคลายกอดแล้วมองผมนิ่งๆ แต่เหมือนผิดหวังอยู่ข้างใน ก่อนจะหันไปถอยรถตัวเอง อ้าวเฮ้ย ง้ออีกหน่อยไม่ได้หรืองายยยอาการแบบนี้เขาเรียกว่า...งอน....หรือเปล่า

“เดี๋ยวสิ! ก็ผมไม่มั่นใจแล้วว่าชอบนั่งขับรถมีแอร์มากกว่านั่งเฉยๆเอาหน้าตากลมแบบนี้หรือเปล่า” ว่าแล้วก็รีบกระโดดไปกอดร่างใหญ่ๆของมันให้หายคิดถึงแน่นๆ แล้วจุ๊บลงบนซอกคอมันสองสามที มันหันมาทำตาวิบวับ ผมรีบหลบตาแล้วซบหน้าบนไหล่กว้าง ก็ดูมันมองผมสิ! ล้อกันชัดๆ แง่งง

“หึ”

สรุปว่าใครโดนใครแกล้งกันแน่เนี่ยย






“โอ๊ะ โอ” ผมร้องเสียงปัญญาอ่อน(จำมาจากเทเลทับบี้ที่ไอ้น้ำแข็งเคยเปิดดูบ่อยๆ)

“นี่มันเป็นลังเลยนะเกียร์” ผมชี้ไปชี้มือสั่นๆไปยังตู้เย็นที่อัดแน่นไปด้วย ....นมช็อคโกแล็ต

ว๊าวว...ดินแดนแห่งนมช็อค

“อืม” มันเงยหน้าขึ้นมาตอบแล้วก็จมหายไปในซอกคอผม ได้โปรดสนใจกันหน่อยเหอะไอ้น้ำแข็ง

“ซื้อมาอาบเหรอครับ” เห็นแล้วอดไม่ได้ที่จะจิกกัดว่าแล้วก็หยิบมาเจาะดูดแล้วเดินไปที่โซฟา โดยมีหมาน้ำแข็งตัวผู้เกาะติดไม่ห่าง

นี่ผมต้องมีลูกเป็นลิงจริงๆเหรอ ไม่อยากจะเชื่อ

“อาบก็ได้ แต่อาบด้วยกันนะ”

-____-

อะไรของมึง

อาบน้ำนม(ช็อคโกแล็ต) โรแมนติดที่สุดอะไรสุด

“อ๊ะ ขอผมดื่มอย่างมีความสุขเถอะครับ”ผมแกะมือแล้ว สะบัดตัวแล้ว อะไรก็แล้วแต่ไอ้มือปลาหมึกตกมันล้วงจ้วงจับจูบอยู่แถวสีข้างผมไม่ห่าง

“ก็กินไปสิ” ไอ้หอก แล้วกูจะกินแบบปกติได้ไงล่ะ!

“อื้อ...อย่าสิ” มันชะงักมือที่กำลังเอานิ้วกลางวนถูช่องหลังผ่านอันเดอร์แวร์สีขาวกับลิ้นที่เลียลงซอกคอชวนสยิว

เมื่อกี้ถ้าไม่ห้าม ผมต้องเสียหนุ่ม(?)แน่ๆ

มันจับผมนั่งกลางหว่างขา กอดผมไว้หลวมๆ

“อย่าห่างกันอีกนะ”มันก้มกระซิบข้างหูแล้วเลื่อนมาคลอเคลียข้างแก้ม

“ทำไมอะ” ผมแกล้งถาม

“.......” มันทำหน้าประมาณว่า มึงรู้คำตอบอยู่แล้ว ยังจะถามอีก

“บอกให้ผมฟังหน่อยไม่ได้เหรอ” ผมทำตาปริบๆ ติดอ้อนๆไปให้มัน มันก็มองนิ่งๆแล้วก้มลงจุ๊บปากผมเบาๆไปทีหนึ่ง

“……….”

“ทำไมเดี๋ยวนี้ใจร้ายจัง” ผมแกล้งทำเสียงตัดพ้อใส่ แล้วหันหลังให้ มันจับผมให้หันมานั่งคล่อมมันทั้งตัว หารู้ไม่ว่าเมื่อกี้ผมกลั้นยิ้มแทบตายอยู่แล้ว

“ก็ใจมันโหวงๆ”

“’งืม” ไม่เอาอีกแล้วล่ะ แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว ผมกอดแล้วซุกลงไหล่ มันคงไม่รู้ว่าผมก็ไม่ได้รู้สึกต่างไปจากมันเท่าไรหรอก แต่เพียงทิฐิ เอาแต่คิดว่าตัวเองเป็นคนขอห่างไปเอง หากไปก็กลัวจะเสียหน้า หลบหน้าเสียยังดีกว่า จนทำให้ต่างฝ่ายต่างรู้สึกแย่ลงไป

ไม่มีเกียร์ ก็เหมือนมีใครกระชากดวงใจผมออกไปเหมือนกัน

“แล้วเรื่องโฟ่ คุณรู้มาก่อนหน้านี้เหรอ” ผมเอ่ยถาม

“อืม”

“เล่าให้ผมฟังหน่อยสิ” ผมพูดแล้วมองตามันตรงๆ

“หึหึ แมวน้อยอยากรู้อยากเห็นจังนะ” อ้าว มึงด่ากูทำไมอะ มันด่าผมอะ ไม่ยอม แงง

“อะไรอะ ไม่อยากรู้ก็ได้” ผมหน้าบึ้ง แล้วเงียบใส่

“หลังจากวันที่เราแยกกันนอน เกียร์ก็คิดว่ามันต้องแก้ถึงต้นเหตุ เลยไปหา จนเจอเรื่องนี้นี่แหล่ะ” เห็นไหมล่ะ ผมชิ่งเงียบ มันก็จะเล่าเอง เอาเป็นว่า แผนนี้สำเร็จ! ผมหัวเราะฮ่าๆๆๆ(ในใจ)

“แล้วเจอได้ไงอะ อย่าบอกนะว่าคุณไปขโมยเรซูเม่จากฝ่ายทะเบียนประวัตินิสิต” ผมทำตาโตใส่มัน

“อยากให้โดนจับนักเหรอ พอดีวันนั้นเจอแม่มันแถวห้าง เลยถามไปตรงๆ” มันเล่าไปไซ้คอไป แต่ตอนนี้ผมไม่สนอะไร สนแต่เรื่องที่คุยอย่างเดียว

“อ๊ะ ถามไปว่าอะไรอะครับ”

“มันเป็นเกย์เหรอ อืม..”

“เอ้ยย ไปถามอย่างนั้นได้ยังไงเกียร์ แล้วแม่เขาว่ายังไงบ้างอะ” ผมกระเด้งหลังตรงแล้วถามเสียงหลง

“เขาก็ตกใจแล้วดูซึมๆลง บอกเกียร์ ไม่มีทางหรอก แล้วก็เล่าให้ฟังว่ามันฝังใจขนาดไหน จะถามอะไรอีกไหม”

 “ไม่แล้วๆ เอ๊ะ แล้วทำไมถึงผอมลงแบบนี้ล่ะ พัตบอกว่าคุณไม่ทานข้าว ดื้ออีกแล้วใช่ไหม” ผมหยิกแก้มคนหน้ามุ่ยเหมือนเด็กโดนจับได้

อาการแบบนี้ สงสัยมีแค่ผมคนเดียวที่ได้เห็นล่ะมั้ง แอ๊บแม๊วชะมัด

“กินตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”

???

“หิวไหมครับ”ผมถามเสียงห่วงใยเพราะรู้ว่ามันคงพูดจริง มันก็ถามย้อนผมอย่างห่วงใยเช่นกัน

“ไอรักจะทำให้กินเหรอ” ก็รู้ว่าไอรักทำไม่เป็น ยังจะทำหน้าซื่อๆกวนบาทาผมอีกนะครับ เดี๋ยวมึงจะไม่ได้กินข้าวทั้งชีวิต

“ซื้อไง”

“หึ ไม่ต้องหรอก” ผมเลยลุกไปกดน้ำร้อนลงในมาม่าคัพ โดยที่มันมองตามไม่ห่าง

“อ่ะ ผมทำเป็นแค่นี้อะ” ผมตอบอายๆ ยื่นให้มัน อีกมือเกาแก้มแก้เก้อ มันนิ่งไปก่อนจะกระตุกยิ้ม หอมแก้มแทนคำขอบคุณก่อนรับไปทาน

ผมเดินไปอาบน้ำ ตอนแรกมันบอกให้รอด้วย กลัวผมหายหรือไงไม่รู้ แต่ผมบอกให้รีบๆกินเถอะ จะไปอาบน้ำ จะได้นอนเสียกัน พอออกมาจากห้องน้ำก็เห็นมันนั่งอยู่ปลายเตียง พอเห็นผมออกมามันก็เดินหน้า(ด้าน)นิ่งๆแล้วจุ๊บปากผม ก่อนคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าไปอาบต่อ ปล่อยให้ผมยืนเขินหน้าแดงอยู่คนเดียว

ผมรีบทาครีมแล้วนอนดูโทรทัศน์ในห้องนอนรอมันไปเรื่อย คือมันเป็นคนอาบน้ำไวมากๆนะ แต่วันนี้ ขอเถอะ ไอรักง่วงจริงจังครับ ตาจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่อยู่แล้ว สักพักมันก็เดินออกมาแต่งตัว ..หุ่นดีว่ะ เอ้ยย ไอ้ไอรัก มึงหื่นไปแล้ว เก็บอาการด่วน ฮึ้บบบ!

โอเค พอแต่งตัวเสร็จก็ล้มตัวลงนอนข้างๆ ผมเลยจัดการปิดโทรทัศน์แล้วนอนขดตัวอยู่ข้างแขนมัน เกียร์หันมากอดด้วยความเคยชิน

“อ๊ะ ไม่เอาครับ ผมง่วงแล้วนะ” มันกอดรัดแล้วซุกลงคอ

“ก็..มันคิดถึง” มันบ่นงึมงำก่อนจะถอนหายใจแล้วผละมานอนกอดหลวมๆ

“อ้าว ลืมทายาให้เลย ลุกขึ้นนั่งดีๆก่อนครับ” ผมจับมันพิงหัวเตียง แล้วไปเอากระเป๋าใส่เครื่องมือแพทย์

เดินไปรินน้ำมาให้ จัดแจงยายัดใส่มือมัน แล้วนั่งทำแผลให้มันเงียบๆ แผลมันมีไม่กี่จุดครับ ช้ำตรงแก้มขวา ตอนที่ผมเรียกแล้วมันหันมามองตามเสียงนั่นแหละ แล้วก็เขียวตรงแขนประมาณสอง-สามจุด ถ้าเทียบกับสภาพโฟ่ที่โดนมันต่อย เกียร์ถือว่าน้อยมากแล้วล่ะ

“อะ เสร็จแล้ว..” ผมเงยขึ้น เจอตาคู่เฉี่ยวมองอยู่ก่อนแล้ว เลยทำให้เราสบตากันโดยไม่ตั้งใจ มันเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนแทบจะได้ยินเสียงหัวใจคนตรงข้าม ปากใกล้กันจนแทบจะสัมผัสกับอีกฝ่าย

“..เกียร์..เอ่อ...” แล้วก็เป็นผมที่ได้สติก่อน เอ่ยเสียงแผ่ว ตอนนี้คงหน้าแดงไปเรียบร้อยแล้ว


“….เราลองมาเล่นบทหมอกับคนไข้หน่อยไหม”


ผั๊วะ!!!!


แล้วก็เป็นผม........ที่ทำร้ายร่างกายมันก่อน





แต่ เอ... เหมือนผมลืมอะไรไปอีกอย่างนะ









TBC------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>


โอ้ตายๆๆๆ วันๆนั่งอยู่หน้าคอมนี่แหละ ไม่ได้ทำอะไรนอกจากลุยโปรเจคที่คั่งค้างมาเป็นเวลานาน อาจารย์ตีกลับมาหลายครั้งด้วยความรักความเอ็นดูโซ่สุดใจขาดดิ้น

แต่มาต่อให้แล้วนะคะ เราชอบอ่านคอมเม้นต์นะ มีกำลังใจดี ถึงจะดูน้อยๆ แต่ก็มีล่ะนะ T^T :o12: แอบน้อยใจ

แล้วพบกันใหม่จ้า

..โซ่♥
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-03-2013 15:26:49 โดย Calypso »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด