Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17  (อ่าน 283951 ครั้ง)

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
เกียร์รุกแทนแล้ว

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
 :impress2: :impress2:

อร๊าย เพิ่งเข้ามาอ่าน ทำไมชั้นถึงรู้สึกว่าพลาดขนาดนี้
เรื่องนี้มัน สนุกมว๊ากกกกกกกกกก อ๊าก ชอบๆๆๆๆๆๆ
ชอบสุดๆเลยค่า จะเอาๆเอาอีกเอาแบบนี้ อร๊าย
ขอกอดคนเขียนทีนึง :man1:

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
สรุปว่าชอบอะ น่ารักดี

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
แปะไว้ก่อน

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
เรื่องนี้น่ารัก

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
ท่าทางเกียร์จะหึงแรงนะ นี่ขนาดยังไม่เป้นแฟนกันนะเนี่ย แต่ไอรักน่าจะชอบนะ หุหุ

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
กรี๊ดดดด จุ๊บไปแล้ววว ท่าทางเจ้าชายจะได้สามีในเร็ววัน เอิ้ก ๆ

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
น่ารักอ่ะ มีจุ๊บแก้มไอรักด้วย แสดงว่าเกียร์เริ่มชอบไอรักแล้ว

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
ทำไงได้ ก็ปากมันไปเอง5555555

 :-[ :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ Calypso

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-0
ตอน7


อรุณเบิกฟ้า นกกาโบยบิน~

วันนี้ตื่นขึ้นมาเช้ากว่าปกติ อารมณ์ดีเกินหน้าเกินตาจนยามข้างล่างคอนโดทักนึกว่าผีเข้า เมื่อวานหลังจากกลับมาถึงคอนโด ก็มีความสุขจนไม่ได้หลับได้นอน แต่ไม่ได้ทำให้ไอรักอารมณ์เสียในเช้าวันนี้ได้ ขณะที่ผมเดินลงจากรถเพื่อไปซื้อปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้ให้เกียร์ ก็มีเสียงดังมาจากข้างซอย


“อ๊ะ ปล่อย!” เสียงอะไรวะ

“หึ.. เป็นของนัทแล้วก็อย่าได้หวังจะไปจากนัทเลยน้ำ”

“ไม่ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!” ท่าจะไม่ดีละ ทำไงดีวะ

“พี่น้ำคร้าบบ สายแล้ว เดี๋ยวอาจารย์จะดุผมเอานะครับรุ่นพี่” ไม่ใช่ใคร ไอรักเอง ผมทำเป็นวิ่งส่งตาวิ๊งๆไร้เดียงสาไปให้ทั้งคู่ แอ็คติ้งดีเหมือนกันนะนี่ ฮ่าๆๆ

“อ้าวแล้วนี่ใครอ่ะ เพื่อนพี่เหรอ สวัสดีครับบ”

“มึงเป็นใคร” อะโด่ทำเป็นหน้าโหด ถ้าเป็นคนอื่นคงเผ่นแนบไปแล้ว แต่เผอิญด้านภูมิต้านทานนี้ผมเรียนรู้จากเกียร์มาเยอะ เหอะๆ

“อ๋อ ผมเป็นรุ่นน้องของพี่น้ำ เดี๋ยวต้องไปคุยงานกับอาจารย์ด้วยกันน่ะครับ” ผมยิ้มใสๆให้มันไป ..ตายห่าลืมคิดไป คนที่ชื่อน้ำตัวเล็กนิดเดียว ถ้ามันอยู่ปีหนึ่ง ผมคงตายคาตีนไอ้ล่ำคนนี้แหงๆ เอาไงดีวะ ถึงหน้าจะยังยิ้มอยู่ แต่เหงื่อเริ่มผุด มือเริ่มชื้น

“ปล่อยเถอะนัท น้ำต้องรีบพาน้องไปหาอาจารย์นะ” ผู้ชายตัวเล็กจิ้มลิ้มได้สติก็แหลใส่ไอ้ล่ำ แอ็คติ้งดีเหมือนผมเลยอ่ะ กร๊ากก

“จิ๊ คราวหน้าอย่าคิดว่าจะหนีนัทพ้นนะ”


“เฮ้ออ ขอบใจนะน้องไอรัก ถ้าไม่ได้น้องคงแย่แน่ๆ” โหนี่ผู้ชายเหรอวะ ตัวเล็กแก้มแดงๆ ปีหนึ่งแหง ว่าแต่เคยรู้จักกันด้วยเหรอ ไม่ยักจะจำได้ มันคงเห็นผมหน้างงใส่

“ไม่มีใครไม่รู้จักเจ้าชายของมหาลัยหรอก พี่ชื่อน้ำอยู่ศิลปกรรม ปี3นะ” พี่น้ำยื่นมือมาทำความรู้จักพร้อมยิ้มแก้มปริ

“อ่า..ครับ” ผมยื่นไปจับมือ

“เอ้อว่าแต่เมื่อกี้รู้จักชื่อพี่ได้ไงล่ะ”

“อ๋อผมได้ยินก่อนหน้านี้ พี่คนนั้นพูดชื่อพี่น้ำก็เลยเอ่อ...สวมรอยซะเลย แฮ่ะๆ” ความจริงอยากจะบอกว่าไอรักเข้าไปเจือกเอง แต่หน้าตาน่ารักขนาดนั้นไม่กล้าหยาบเลยจริงๆ

“..เห็นใกล้ๆแบบนี้สมคำล่ำลือจริงๆ”

“อะไรมะลึกกึกกือนะครับ?”

“เปล่าๆ พอดีพี่อยากจะขอติดรถไปมอด้วยน่ะ ลืมเอารถมา”

“อ่อได้ครับ...เฮ้ยย” พึ่งนึกออกว่าดันลืมสามอย่างที่ใหญ่หลวงเอามากๆคือ ปาท่อง น้ำเต้า เกียร์ด้วย สายแล้วๆ ตายห่า ฮืออ

“มีอะไรเหรอ”

“รีบไปเถอะครับ!”






“อรุณสวัสดิ์ครับเกียร์ ทานปาท่องโก๋ก่อนนะ หายร้อนแล้วจะไม่อร่อย” เช้านี้คุณเกียร์ดูอารมณ์ดีผิดปกติ ซึ่งไม่ต่างกับผมเท่าไร ยิ้มมาแต่ไกลเชียว ถึงจะยกแค่มุมปากก็เหอะ

“ทำไมมาสาย”

“อ๋อพอดีมีปัญหานิดหน่อย อ้ะ นี่รุ่นพี่ชื่อน้ำ อยู่ศิลปกรรม แล้วนี่ชื่อเกียร์ครับพี่น้ำ” เหมือนเกียร์จะพึ่งรู้สึกตัวว่ามีคนอยู่ข้างหลังจึงหันไปมองและหันกลับมามองผม หน้าบึ้งคิ้วขมวดนิดหน่อยแล้วมองพี่น้ำอีกรอบ ..เป็นไรวะ

“สวัสดีฮะ” ทำไมเสียงพี่น้ำเย็นๆวะ

“....” อะไรกันความรู้สึกนี้ เหมือนน้องไอรักคนนี้อยู่ในลาวาก็ไม่ใช่ ขั้วโลกก็ไม่เชิง ไอ้เกียร์ทำไมมึงไม่ทักพี่เค้าตอบล่ะวะ มึงอย่าหยิ่งได้ไหมมม ตอนนี้รถไม่ต่างอะไรกับป่าช้า ฮืออไอรักอยากร้องไห้

“รู้จักกันตอนไหน” มึงอย่าหันมามองกูด้วยสายตาแบบน้านนนน

“เอ่อ กะ..ก็ตอนผมกำลังลงไปซื้อปาท่องโก๋ให้เกียร์ แต่ดันไปเจอพี่น้ำทะเลาะกับแฟนเขา ก็เลย..” ยังพูดไม่จบ พี่น้ำก็พูดแทรกขึ้น

“แฟนเก่าต่างหาก  ตอนนี้พี่โสด แต่กำลังจะมีแฟนใหม่แล้วเนอะไอรักเนอะ” อย่านะ อย่ามาเนอะมาส่งสายตาหวานเชื่อมกับกูตอนนี้  เมย์เดย์ๆ เจ้าชายขอส่งสัญญาณSOSให้ไอ้ไทป์มาแก้สถานการณ์ตอนนี้จะทันไหมครับท่านผู้ช๊มมม

“อ่ะเหรอครับ แฮ่ะๆ” มันจ้องผมเขม็ง กูผิดอะไรอ่ะ

“เอ๊ะ น้องไอรัก เดี๋ยวพี่ลงตรงนี้นะ เอ้อว่าแต่พี่ยังไม่มีเบอร์น้องเลย”

“ไม่ให้” ผมอ้าปากทำท่าจะตอบ แต่ไอ้คนข้างๆชิงตอบให้ผมเสียก่อน

“น้องเป็นอะไรกับไอรักล่ะ อย่าบอกว่าเป็นแฟนกันนะ เหอะ ใครจะไปเชื่อ.. ปัง!” พี่น้ำลงไปแล้ว ทิ้งคำพูดให้ผมกับมันสะอึก

เราไม่ได้เป็นอะไรกัน

มันไม่ได้รักผม

เราไม่ได้รักกัน   

เพราะผมรักมันอยู่คนเดียว

“เลิกเรียนเที่ยงใช่ไหม เดี๋ยวมารับไปทานข้าวกลางวันด้วยกันนะครับ” ผมคว้าแขนมันแน่นก่อนที่มันจะลงไปเรียน

“ไม่ต้องมา” มันหันหลังพูดสวนกลับเสียงแข็ง เหมือนคราวแรกที่เราเจอกัน เล่นเอาผมจุก ก้มหน้าคลายมือที่จับแขนมันพร้อมพูดเสียงแผ่ว

“ผมจะมา …ไม่ว่ายังไงผมก็จะมา”

“...เรื่องของมึง”


...............................................



“เจ้าชายยย...ชะอูยยย ทำไมทำหน้าเหมือนเจ้าหญิงจับได้ว่ามีชู้อย่างนั้นละ” ไอรักสะดุ้งสิครับ มองหน้าพวกมันขวาง

“เฮ้ย จริงอย่างที่ไอ้คลื่นพูดเหรอวะ ไหนบอกรักเดียวใจเดียวไง ไม่ทันไรซาตานในคราบเจ้าชายกลับมาแล้วเหรอวะ กร๊ากก” ผมเดินไปตบกระบาลไอ้คลื่นกับไอ้เนมแล้วนั่งข้างไอ้บอสที่ตอนนี้กำลังโทรศัพท์หน้าเคร่งเครียดอยู่

“ไม่ใช่โว้ย กูมีอยู่คนเดียวก็เครียดตีนกาจะขึ้นอยู่แล้วแมร่ง”

“อ้ะหรา ไหนเล่ามาดิ้ตะเอง” ผมก็เล่าไปละเอียดไส้หมดพุง

“เคี้ยก เคี้ยก เคี้ยกกกก สมน้ำหน้า ทำความดีทีไร มีความซวยติดมาตลอด” พวกมึงแปรงล่างเป็นลิงแล้วสินะ

“กูจะทำยังไงดีวะ” ถ้ามีไอ้ไทป์ ผมคงขอคำปรึกษามัน เพราะรายนั้นเจ้าคิดแผนการเลยล่ะ แต่ตอนนี้ไม่มีน่ะสิเฮ้อ

“กูว่ามึงไม่ผิดเลยนะเรื่องนี้ แต่จะผิดก็คือพาพี่น้ำมา แล้วมาพูดไม่เข้าหูเกียร์เข้านี่ละ ฉะนั้นมึงก็ผิด”

“แล้วให้กูทำยังไงอ่ะ”

“ไอ้โง่! เรื่องอื่นมึงฉลาดเพอร์เฟคจนพวกกูหมันไส้ แต่เรื่องขี้ประติ๋วของไอ้หนุ่มวิศวะร่างถึกเจือกทำให้มึงโง่ดักดาน แล้วมึงมีเพื่อนขี้งอนไว้ทำพระแสงขอนง้าวอะไรล่ะวะ มึงก็ถามมันสิว่าวิธีง้อแบบไหนจะตอบโจทย์ผู้ชายแมนๆอย่างมันบ้าง โว้ะ!” ไอ้เนมบ่นยาวเหยียดก่อนยกชินจังอ่านอีกรอบอย่างสนุกสนาน(คนเดียว ) เออว่ะ ผมหันไปมองไอ้คลื่นไส้ มันสะดุ้งแล้วชี้เข้าหาตัวมันแบบ อ้าวกูเหรอ? ผมพยักหน้าประมาณว่า จ้า มึงนั่นล่ะขี้งอนตัวพ่อ


.........................................................



“ไปครับ ขึ้นรถ” ผมเดินเข้าไปหาเมื่อเห็นมันกับเพื่อนๆเดินลงจากตึกเรียน มันเหล่ตาเลิกคิ้วเชิงถาม ผมจึงคว้าแขนมันขึ้นรถ ตลอดทางไม่มีใครปริปากพูดออกมา มันไม่แม้แต่จะถามว่าไปไหน ผมก็ไม่ได้บอกเหมือนกัน หันมาอีกทีมันก็หลับไปแล้ว ผมลอบมองหน้ามัน แม้แต่ตอนนอนยังคิ้วขมวดเหมือนมีเรื่องคาใจ

“เกียร์ครับ ตื่นได้แล้วนะ” มันขยับตัวนิด ลืมตาขึ้นมามองหน้าผมนิ่ง

“ที่ไหน”

“หัวหินครับ”


“มึงว่าดอกไม้จะดีปะวะ”
“ถุยเหอะ ถ้าเป็นกูนะ ไม่ชอบหรอกพวกดอกไม้ แมร่งเกย์ไปปะ  แล้วอีกอย่างนะ กูคิดว่าถ้าดอกไม้แท้ วันหนึ่งมันก็ต้องเหี่ยวใช่ปะ แล้วถ้าดอกไม้เทียมก็เหมือนเรารักไม่จริง ความหมายไม่ดีๆ ตัดไปเลย”
“ครับ แล้วผู้เชี่ยวชาญจะให้กระผมทำอะไรดีล่ะครับ”
“หึหึ อย่างแรกก็...ทะเลไง ผู้ชายอย่างเราต้องผจญภัย”





“…..หัวหิน....”

“ใช่ครับ ปะ ลงไปทานข้าวกัน... เอ๊ะ เป็นไรหรือเปล่าครับ” ผมยิ้มให้มัน แต่สีหน้าเกียร์เปลี่ยนไป ผมเห็นแววตาอ่อนไหววูบหนึ่ง ตัวมันสั่นเหมือนหวาดกลัวบางอย่าง

“เปล่า” แล้วมันก็เปิดประตูลงไป ทิ้งให้ผมงงอยู่ในรถคนเดียว อะไรวะ..

กลิ่นเค็มของไอทะเล ทำให้ผมเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ผิดกับอีกคนหนึ่งที่ทำหน้าเหมือนเลื่อนลอย ผมไม่มั่นใจว่าที่เกียร์เป็นแบบนี้เพราะมันยังโกรธผมอยู่ หรือมีอะไรในใจ

“เอา.... เกียร์เอาอะไรครับ” ผมสั่งอาหารไปสองสามเมนู

“…”

“เอ่อเกียร์ครับ ..เกียร์” มันสะดุ้งแล้วหันมามองหน้าผมที่ทำตาแป๋วใส่มันอยู่

“มีอะไร”

“จะเอาอะไรเพิ่มอีกไหมครับ” มันส่ายหน้า ผมจึงหันไปบอกพนักงาน

“อ้าวไอ้เกียร์  ไปไงมาไง” ชายวัยกลางคนเข้าทักมัน

“อาโบ้ นี่ไอรัก” มันเรียก สงสัยจะเป็นอาของเกียร์

“สวัสดีครับ” ผมไหว้อาโบ้แล้วยิ้มให้ทีหนึ่ง

“อ้อ อาชื่อโบ้นะ เป็นอาของมัน แล้วมึงมาหัวหินได้ไงวะ ไม่คิดถึงความหลังแล้วหรือไง ตอนกูชวนทำเป็นเล่นตัวเป็นตุ๊ดไปได้นะ ฮ่าๆๆๆ” ความหลังงั้นเหรอ

“หึ อาเงียบเหอะ”

“เอ๊ะ ไอนี่พูดกับอาตัวเองให้ดีดิวะ มึงไม่คิดมากก็ดีแล้ว เรื่องมันผ่านไปแล้ว” อาโบ้พูดหน้าจริงจัง ทั้งสองสบตากันพักหนึ่งจนกระทั่งเกียร์พยักหน้า

“หนูไอรักกินตามสบายเลยนะ มื้อนี้อาเลี้ยงเอง เดี๋ยวไปเก็บกับพ่อไอ้เกียร์มัน ฮ่าๆๆ” อาโบ้พูดหน้าระรื่นแล้วเดินจากไป ขี้เล่นไม่เหมือนหลานเล้ยย

“อาของเกียร์ตลกดีนะครับ” มันส่ายหน้าระอา

“เป็นแบบนี้ตั้งนานละ ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นอีก ...อะไร” มันเห็นผมท้าวคางมองมันยิ้มๆ

“คุณหายโกรธผมแล้วใช่ม้า พูดจ้อเชียว” มันมองผมตาเขียวแล้วเสตาไปมองวิวร้าน

“กูโกรธมึงตอนไหน”

“อ้าว ก็เมื่อเช้าคุณพูดกับผมเสียงแข็งขนาดนั้นนี่นา”

“กูไม่ได้โกรธ”

“โกรธ”

“ไม่ได้โกรธ”

“โอเค ไม่ได้โกรธก็ไม่ได้โกรธ แค่งอนเท่านั้นเอง ใช่ม้า” ผมขยิบตาให้มันทีหนึ่ง

“….”

“เกียร์” มันยังมองด้านข้างไม่สบตาผม หน้าบึ้งเหมือนเด็กสามขวบ เอ่ออาการแบบนี้ต้องเรียกว่างอนจริงๆใช่ไหม อยากจะหัวเราะนะนี่ แต่กลัวมันจะพาลโกรธผมน่ะสิ

“....”

“เกียยร์”

“….”

“ที่รัก อย่าโกรธกันเลยนะครับ”

ชะงักกึก!

ทั้งมันและผมชะงักกลางอากาศตอนที่ผมดันเผลอพูดคำหวานออกไป มันหันมามองผมตาวาว ผมรีบก้มหน้า ถ้ามุดโต๊ะได้คงทำไปแล้ว

“อีกที”

“อะ..อะไรครับ”

“พูดอีกทีสิ”

 “..ระ..เรารีบกินแล้วไปเดินเล่นกันดีกว่าเนอะ แฮ่ะๆ”

“หึหึ” เดี๋ยวกูทืบหน้าแหก



“อย่างที่สอง... มึงต้องทำให้มันสนุกจนลืมไปเลยว่าเคยโกรธมึง เรื่องจะทำอะไรนั้นมึงต้องคิดเองนะ กูไม่ใช่ผัวมัน กร๊ากก”
“หวังว่ามึงจะไม่ทำออกกำลังกายในที่ร่มจนร่างกายทรุดโทรมหรอกนะ ฮ่าๆๆ” ไอ้พวกบักจวย กูงอน จบ




“ไม่เดินชายหาดได้ไหม”

“มาถึงที่แล้วก็ต้องเดินให้คุ้มสิ ทำไมเหรอครับ” ผมเงยหน้ามองมันด้วยความสงสัย ด้วยคำพูดของอาโบ้กับท่าทางของเกียร์มันทำให้ผมยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่

“เปล่า”

“ถ้าไม่สบายใจที่จะเล่า ก็ไม่ต้องเล่าก็ได้นะครับ” มันมองผมนิ่ง

“…”

“เอาอย่างนี้ดีกว่า ถ้าเกียร์มีเรื่องฝังใจที่นี่ นั้นเราก็มาสร้างความทรงจำที่ดีสำหรับเราดีกว่าไหม” ผมยิ้มตาหยีท้าแสงแดดจ้าให้มัน พร้อมวิ่งไปเช่าม้าตัวเดียว เพราะเกียร์ใส่เผือกอยู่ ตัวหนึ่งสีดำขลับเงางามแต่กีบเท้าเป็นสีขาว ผมหันไปหาเกียร์ที่เดินตามมาแต่สายตาจ้องมองไปที่ทะเลสุดสายตา  พอได้คำตอบแล้วผมจึงหันไปบอกเจ้าของม้าว่าไม่ต้องเดินตาม ขี่เป็นและต้องการความเป็นส่วนตัว

ตอนแรกมันก็ขัดขืน ไม่ยอมซ้อนผม ก็มันตัวใหญ่กว่าผมแถมถึกแมนร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ขามันเจ็บเสียขนาดนี้จะขี่ได้อย่างไรล่ะ ผมขี่กันไปเรื่อยๆ ผมหันไปมองมันเป็นระยะ แรกๆมันก็เหมอลอยมองไปที่ทะเล ผมจึงเร่งขี่ และดริฟท์ม้าเสียจนมันสะดุ้งออกจากภวังค์และส่งตาขวางมาให้ผมที่หลุดหัวเราะเสียงดังไม่สนภาพพจน์เมื่อเห็นหน้ามัน จนฝรั่งหลายคนที่อาบแดดหันมามอง หัวเราะกันคิกคัก เราสองคนหันมามองหน้ากันเขินๆ

ม้าวิ่งเยาะๆตามเลียบชายหาดสักพักจูงม้ากลับ และชวนมันทำหลายๆอย่างที่เราทั้งคู่ไม่เคยทำด้วยกัน ไม่ว่าจะเล่นก่อกองทราย ซึ่งผมออดอ้อนแกมบังคับให้เล่น หน้าอย่างมันไม่มีทางชวนผมเล่นกากเกรียนแบบนี้หรอก ไม่ก็นอนอาบแดดตอนเย็นบ้าง

จากนั้นผมกับมันเดินไปซื้อของมินิมาร์ทแถวนั้น แล้วกลับมาชายหาด นักท่องเที่ยวต่างทยอยกันกลับขึ้นชายฝั่งกัน เรานั่งมองพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าพร้อมกระป๋องในมือของทั้งคู่ ของผมเป็นน้ำผลไม้ ส่วนของมันเป็นเบียร์ ช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ยังไม่ทันไรมันก็ห้ามโน่นห้ามนี่ทำอย่างกับผมเป็นเด็ก ไอรักก็อยากกินเบียร์บ้างอะไรบ้างนะ ฮึ่ย! แต่ถ้าถามว่ายอมไหม คำตอบอยู่ในมือผมแล้วล่ะ

“เหมือนลูกชิ้นหมู/เหมือนขนมดังโงะเลย” ผมกับมันพูดพร้อมกัน เราหันมามองหน้ากันพักหนึ่งแล้วหัวเราะออกมา

“ดังโงะตรงไหน ลูกชิ้นหมูชัดๆ”

“ไม่ใช่อ่ะ เหมือนดังโงะต่างหาก เมฆสามลูกเรียงกันน่ากินกว่าลูกชิ้นหมูด้วย” มันหันมามองผมที่ทำหน้ามุ่ยเถียงเสียงงุ้งงิ้งเอาเป็นเอาตายแล้วคงขำ เห็นอย่างนี้หัวรั้นไม่เบาเลยล่ะผมอะ

“..ความจริงกูมีน้องแท้ๆคนหนึ่ง เด็กกว่ากูสองปี” ผมหันมามองหน้ามันที่มองไปทางทะเล

“ตอนมอหนึ่ง กูอยากมาทะเล พ่อกับแม่เลยพากูกับน้องมา...หัวหิน.. ” เสียงแผ่วเบาลอยมาตามลมถูกกลืนเข้าไปในลำคออย่างขมขื่น น้ำเสียงที่ผมฟังแล้วรู้สึกเจ็บปวดเหมือนคนเอามีดมากรีดหน้าอกข้างซ้ายอย่างช้าๆ ผมหันไปมองหน้ามันที่เหม่อลอยมองออกไปที่ทะเลอย่างหว่าเว้เดียวดาย และหดหู่จนทุกข์ทรมาน

“เกียร์...”ผมกุมมือมองหน้ามัน มันหันมามองแล้วยิ้มให้ผมเหมือนอยากบอกว่า ไม่เป็นไร ..กูต้องไม่เป็นอะไร

“น้องกูทั้งดื้อทั้งซน อ้อนพ่อให้ลงไปเล่นน้ำด้วยกัน แต่พ่อบอกให้กูไปเป็นเพื่อนน้องแทน เพราะกูว่ายน้ำแข็ง ต่างจากน้องกู...เราเล่นกันจนพระอาทิตย์เริ่มเป็นสีส้ม ตอนนั้นพ่อเรียกกูบอกให้เลิกเล่นแล้วไปเอาเสื้อคลุมจากแม่ข้างในบ้านพักเพื่อที่จะเอามาห่มน้อง ..กูกับแม่เดินออกมาพร้อมกันก็ได้ยินเสียง ...เสียงพ่อกูร้องขอความช่วยเหลือ ...คนมุงกันเต็ม ...แม่กับกูวิ่งเข้าไปดู กูเห็น..เห็นน้องกูอยู่ในอ้อมแขนพ่อกู...ตัวซีดไปหมด ..พ่อเขย่าตัวน้องจนหัวสั่นไปหมด...มันเหมือนนอนหลับไม่รู้เรื่อง ..น้ำตาของกูไหลออกมาไม่แพ้พ่อกับแม่...กูไม่รู้จะทำยังไง ....ถ้ากูไม่ปล่อยน้องให้เล่นน้ำคนเดียว …ถ้ากูไม่ปล่อยให้เกรย์เล่นน้ำคนเดียว”
ผมฟังแล้วพูดไม่ออก ไม่คิดว่ามันจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเด็กอายุเพียงสิบสองสิบสาม เพราะอย่างนี้หรือเปล่า ที่มันกลายเป็นคนเงียบขรึม นิ่งจนน่ากลัว ปิดกั้นตัวเองและไม่สนใจคนรอบข้าง

“ไม่ใช่หรอกครับ อย่าโทษตัวเองเลย เรื่องมันผ่านไปแล้ว ถ้าลืมมันไม่ได้ ก็ให้มันเป็นแค่อดีตที่เคยพบเจอ อย่าให้มันมาทำลายปัจจุบันของเกียร์เลย”

“..”

“ไหนดูสิ เกียร์ที่สุขุมเหมือนน้ำแข็งหายไปไหนหมดนี่ เอาคนเดิมกลับมาเลยนะ” ผมชะโงกหน้าไปมองมัน แสร้งหน้าบูดใส่มัน

“หึ แล้วไม่รักหรือไง” มันยิ้มให้ผมที่ชะงัก ก่อนกดท้ายทอยลงประกบปากอย่างอ่อนโยนสลับเร้าร้อนเหมือนความต้องการลึกที่ตอนนี้ได้ถูกแสดงออกมา มันควานหารสอ่อนหวานจากริมฝีปากผมที่เผยออ้าปากรับอย่างไม่รู้ตัว

“อืม ..อื้ออ..” เสียงครางหวิวของผม ยิ่งทำให้อีกฝ่ายได้ใจ สองแขนผมเกาะบ่าอีกฝ่ายไว้แน่นราวกับกลัวมันหายไป มันดึงเสื้อที่อยู่ในกางเกงออกแล้วสอดมือคลึงเอว ก่อนที่มือข้างซ้ายจะเคลื่อนมาลูบหลังให้ผมสยิวแอ่นตัวอัตโนมัติ ผมเริ่มดิ้น ทุบอกมันเบาๆ จนมันหยุดจูบผมแล้วกดหัวผมลงกับบ่าหนาของมัน แต่มืออีกข้างยังคงทำงานลูบเอวผมเบาๆ

“เกียร์สุขุมกลับมาหรือยังล่ะ..หึหึ”

‘ไอ้น้ำแข็งบ้า!!’ ความรู้สึกแปลกๆตอนนี้มันกำลังจะทำให้ผมเป็นบ้า ให้ตายสิ!





“แล้วตกลงวันนี้เรามาหัวหินแค่กินข้าว เล่นแถวชายทะเลว่างั้น?”

“อ่อเปล่าหรอก ความจริงจะพาไปหลายที่ แต่มีเรื่องเกียร์เสียก่อน เลยต้องยกเลิกไปน่ะ แฮ่ะๆ”

“...นั้นเอาไว้ครั้งหน้าเราค่อยมากันใหม่นะ” มันหันมาบอกผม และยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ก่อนที่ผมจะยิ้มทะเล้นกลับ

“ห้ามเบี้ยวล่ะ คุณน้ำแข็ง” ของผม...

มันยกมือขึ้นมาขยี้ผมนิ่มๆด้วยความหมั้นเขี้ยว ไม่รู้ว่าตั้งแต่ตอนไหน  เมื่อไร ที่กำแพงน้ำแข็งในใจเขาค่อยๆละลายอย่างไม่รู้ตัว

ส่วนอีกด้านตั้งความหวังว่า ..ถึงมันจะลืมความทรงจำที่เจ็บปวดกับที่นี่ไม่ได้ แต่หวังว่าจะไม่ลืมการมาหัวหินคราวนี้เหมือนกันนะ



“อย่างที่สามสำคัญที่สุด... กลับมาเลี้ยงข้าวกูหนึ่งอาทิตย์ด้วยไอ้เจ้าชาย~ ”




TBC-------------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>




อั้ยย้ะ..! ความจริงเรื่องนี้ไม่ดราม่านะคะ บังเอิญตอนนี้อ้างอิงจากเรื่องจริงเล็กน้อย

งานเยอะมากๆ ถ้ามีเวลาจะมาต่อนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-05-2013 13:49:51 โดย Calypso »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ bytoey

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 865
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +197/-3
สนุกมากกก น่ารักที่สุด รอตอนต่อไปคร้า มาไวไวนะคะ o13

ออฟไลน์ honeyhoon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
 :กอด1:
 :o8:
สนุกมาก o13
 :L2:
 :pig4:

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
อย่าดราม่ามากน้าตะเอง ชอบให้หวานๆแบบนี้แหล่ะ อิอิ

เจ้าชายรุกขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่หลงให้รู้ไปสิ กร๊ากกกกก



 :-[ :-[ :-[ :L2:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
นำ้แข็งละลายแล้วสินะ

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
อรั๊ยยยยๆๆๆๆๆ ชอบบบบบบบบบบๆๆๆๆๆๆๆ  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ไอรักกับเกียร์น่ารักมว๊ากกกกกกกกกกกกก :-[ :-[ :-[ :-[ :o8: :o8: :o8: :o8: :impress2: :impress2: :impress2:

เรื่องนี้หนุกมากอ่ะ กรี๊ดดดดดดด~~~  o13 o13 o13 o13 o13

มาอัพเร็วๆน้าค่า ขอบคุณล่วงหน้าคร๊าบบบบบบ.. :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-11-2012 19:36:46 โดย LadySaiKim »

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
น่ารักมาก  :-[



โคตรชอบเลยอ่ะ  o13

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
ฮึ่มม หวานเจี๊ยบ

ออฟไลน์ Calypso

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-0
ตอนที่8



ปกติวันนี้เป็นวันหยุดที่ผมต้องตะลอนเดินห้างทั่วเมืองสักร้อยรอบ แต่วันนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้ว เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็ต้องทำภารกิจพิชิตใจเกียร์ไงล่ะ ต้องใกล้ชิดเข้าไว้อย่าได้ห่างหาย หึหึ ผมกำลังเดินเข้ามินิมาร์ทหน้ามอก่อนไปหาเกียร์ที่นั่งทำงานกับเพื่อนในคณะ

-   Cause there’ll be no sunlight … ปิ๊บบ-

“เออว่าไง”

‘เฮ้ยมึง ไปค่ายกันๆ’ แหมเสียงกระดี๊กระด๊ามาแต่ไกลเลยนะไอ้คิม

“ค่ายไรวะ เดี๋ยวนี้หัดเป็นเด็กกิจกรรมเหรอมึง หึหึ” ปกติมันไม่ค่อยทำหรอกกิจกรรม จะเป็นไอ้เนมมากกว่าที่บ้ากิจกรรม

‘ไอ้เสมหะเป็ด กูก็อยากดีบ้างอะไรบ้าง มันเป็นค่ายของมหาลัยวะ ไปหลังสอบเสร็จ เขาให้ไปสร้างโรงเรียน แจกขนมกับน้องๆตามภาษาคนใจบุญแบบกูอะมึงอิอิ ไปนะไปนะ ตอนนี้ไอ้เนมไอ้พิชไอ้ไทป์ตกลงแล้ว เหลือแต่มึงนี่ล่ะ’

“เออๆ เดี๋ยวกูขอคิดก่อน”

‘โหสาดด ไอ้คุณชายอีเว้นท์เยอะ กูเห็นแต่ตามผู้ชายกับส่งข้าวส่งน้ำให้ผู้ชายด้วย อย่านึกว่ากูจะไม่รู้ไม่เห็นนะ’ เฮ้ย ผมหันซ้ายหันขวาเลยสิทีนี้

“เหี้ยยยยย” วางสายแมร่ง ฟังมันล้อแล้วขัดหูจริงๆ ไปฟังเสียงหล่อๆดีกว่า ว่าแล้วผมก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาเสียเลย

ตู๊.....

“ถึงแล้วเหรอ” รับไวเวอร์ ยังไม่ทันจบตู๊ดหนึ่งเลย

“สวัสดีครับ ผมอยู่หน้ามอแล้วน่ะ เกียร์จะเอาขนมอะไรไหม”

“มีอะไรบ้างน่ะ” ฟัคยูแหนม!! สินค้าในมินิมาร์ทไม่ได้มีแค่สองสามชิ้นนะสาดด ถามแบบนี้แกล้งกูป่าวนี่

“มีชีสไบท์ โอริโอ้ โซฟี ฟุตลองชีส คอลแกต เดนทีน ดูเร็กซ์ มะขามจี๊ดจ๊าด มาม่าต้มยำกุ้ง ผงวิเศษ โออิ.....”

“หยุด ยาวไปละ”

“ฟุตลองชีสอะเหรอ”

“เปล่า ที่ประชดมาน่ะ”

“อ้าว ผมไม่ได้ประชดนะ แค่ตอบตามที่เห็น”

“หมั่นไส้ ถ้าอยู่ตรงนี้จะจับตบหัวให้คว่ำ” รุนแรงกับทุกรุ่น...

“คุณพึ่งหมั่นไส้เหรอ แต่ผมแอบหมั่นไส้คุณตั้งแต่ถามมาแล้วล่ะครับ ฮ่าๆๆ”

“หึหึ อยากกินอะไรก็ซื้อมาแล้วกัน ค่อยมาเก็บเงินปลายทาง” ได้ข่าวว่ากูโทรหามึงเพื่อถามว่ามึงอยากกินอะไรไหม สรุปไม่ได้คำตอบว่างั้น?

“โอเค ผมซื้อดูเร็กซ์ไปให้คุณกินแล้วกัน”

“อยากให้ทดลองใช้กับมึงก็ซื้อมา” อูยย .. หนูเงิบเลย

"อะย้อเย่นนน"


“…รีบมานะ”



.............................................................................



“สวัสดีครับ” ผมทักมันกับกลุ่มเพื่อนมันแล้วยิ้มให้กับเพื่อน รุ่นพี่รุ่นน้องที่อยู่กันเกือบสามสิบคนที่หันมาอ้าปากค้าง วันหยุดสบายๆแบบนี้บางคนใส่เสื้อไปรเวทบ้าง นิสิตบ้าง สบายตาไปอีกแบบ ผมเดินไปหามันมันที่เขยิบให้ผมนั่งพื้นข้างๆมัน

“เจ้าช๊ายยยยยย กริ๊ดดดดด”

“สวัสดีค่ะ หนูชื่อกิ๊บเก๋ เป็นน้องรหัสพี่สา อายุ19ปี สัดส่วน 36-25-37 นมซีลีโกน ไม่กินยาคุม รักผัวหลวง หวงผัวน้อย ได้เจ้าชายจะไม่แล‘ตอ’อื่น ลีลาแซบไม่แพ้ชะนีชมดชม้อยหลังเขานะจะบอก” อ้ายเชรี่ยยยย วิ่งกันมาอย่างกับกระทิงขวิดผ้าแดง ทับกูมานี่ดับแน่ๆ ผมดับนะ ไม่ใช่พวกน้องกิ๊บเก๋ ..

“อ๊ายยยยอีกิ๊บ กูขอเหอะคนนี้อย่ามายุ่ง ดีค่ะหนูชื่อ ส่วนอีนี่ใบเฟิร์น ลูกครึ่งมนุษย์ครึ่งนางฟ้าค่า พูดน้อยแต่อึ๊บว่องคล่องไวค่า กิกิ”

“ถุยยย ไอ้ชาติชายกับไอ้สมบัติ มึงรีบกลับมาทำงานที่กองท่วมหัวพวกมึงเลยนะ คนนี้สมบัติของเจ๊ย่ะ อย่าแหยม” สาวคนเดียวในกลุ่มเกียร์พูดขึ้น ผมได้แต่หัวเราะแฮะๆ

“โถๆๆนั่นมันชื่อตั้งแต่บรรพบุรุษยังขายบ๊วยเค็มแถวเยาวราชอยู่เลยค่าคุณพี่ ชิชิชิ เนอะใบเฟิร์นเนอะ ชิชิชิ”

“ใบเฟิร์นหรือเฟิร์นหยันวะ กร๊ากกกกกก” ไอ้พัตตอกน้องใบเฟิร์นมา สาดด น้องเขากำลังดัดฟันให้เข้าอยู่นะมึง

“อร๊ายยยยย เดี๋ยวเถอะพี่พัต ถ้าไม่ติดว่าพี่งวงเล็ก ป่านนี้หนูฟาดด้วยประตูหลังไปแล้วนะ...แก๊แกดูดู๊ดูแค่เขายิ้ม ฉันก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว เอาไปเลย ให้ทั้งกายและใจ..... กริ๊ดดด .... ไปก็ได้.. เจ๊สาอ้ะ อ๊ากก.... อั่ก....” สองสาว(?)และแล้วถูกประทุษร้ายไปเป็นที่เรียบร้อย

“อ่ะ กินขนมไปพลางๆก่อนนะครับ ไว้เสร็จงานแล้วไปกินข้าวกัน…ผมซื้อขนมมาเยอะ เอาไปแบ่งกันนะครับ” ผมยิ้มบอกคนข้างๆ ก่อนหันไปหาบอกเพื่อนมันที่นั่งทำงานอย่างจริงจัง(?) ผมนั่งมองมันทำงาน คนอะไรวะ หน้านิ่งยังหล่อ มีหลายครั้งที่มันหันมา พอเห็นผมก็ยิ้มนิดๆให้แล้วทำงานต่อ ผมก็จ้องสิ ไหนๆก็ตามมันขนาดนี้แล้ว ด้านหน่อยจะเป็นไร ใช่ไหมครับทุกคน

“ชอบกินนมช็อกเหรอ”

“หือ”

“หมดไปสามกล่องแล้ว”

“อ๋อใช่ครับ”

“ระวังท้องอืดล่ะ” ห้ะ.. อย่างนี้มันเรียกว่าห่วงหรือเปล่าครับ

“อ๋อ ไม่เป็นไรครับผมเป็นบ่อยๆ” มันหันมาจ้องผมเขม็ง ก่อนหยุดพิมพ์งานแล้วคว้านมช็อคไปดูดหน้าตาเฉย เฮ้ยยย กูกำลังกัดหลอดอย่างเมามันนะเว้ย น้ำแข็งขี้ขโมยยยย

“คุณเกี๊ยยย ถ้าคุณชอบทำไมไม่บอกผมเล่า เอ้า เอาไปอีกกล่อง” มันกรอกตาไปอย่างเบื่อๆ

“หยุดกินนมได้แล้ว เก็บไว้ให้ลูกมึงกินเหอะ” กูรอมึงผลิตให้อยู่นี่ไง



กว่างานกลุ่มมันจะเสร็จก็ปาไปเกือบสองทุ่ม พวกผมจึงไปกินราเมนแถวซอยธนิยะ เอารถไปสองคัน รถของโฟ่ มี สา พัต ข้าวต้มมัด เน ส่วนของผมมีเกียร์....คนเดียว เพราะไอ้เกียร์ไล่ให้ไปนั่งรถคันโน้นหมด บอกอึดอัดน่ารำคาญ พวกนั้นก็งอแง แต่ก็ไป?

“เฮ้ยพวกมึงสั่งเลยหารกัน ส่วนเจ้าชายสั่งเลยครับไม่อั้น ไม่ต้องเกรงใจนะ”

“มึงจะเลี้ยงเจ้าชายเหรอวะไอ้มัด”

“เปล่า ไอ้เกียร์ดิ มันสนิทที่สุด จริงปะ ฮ่าๆๆ” กูว่าละ

“ไม่เป็นไรครับ หารครึ่งนั่น..”

“สั่งไปเหอะ มื้อนี้กูเลี้ยงมึงเอง หิวนานแล้วนิ” ยังพูดไม่จบมันก็พูดแทรกขึ้นมา แถมยิ้มน้อยๆให้กูอีก มึงเปิดทางแล้วนะช่วยไม่ได้ กูจะถลุงให้หมดตัวเลยอะ หึหึ

“โหตอนทำงาน ผมแทบจะแทะแขนคุณมากินแทนอาหารเย็นแล้ว”

“แล้วไม่แทะล่ะ”

“ไม่ไหวล่ะ คงเค็มน่าดู เมื่อคืนดองเค็มหรือเปล่าก็ไม่รู้”

“หึ แขนอาจจะเค็ม ...แต่ที่อื่นเคยพิสูจน์แล้วนิ หวานหรือเค็มล่ะ” มันก้มมากระซิบประโยคหลังข้างหูผม แล้วผละออกไปหัวเราะหึหึเหมือนคนโรคจิต ผมได้แต่อ้าปากหวอหน้าแดงก้มหัวงุดๆมองเมนู แล้วหันไปร่ายชื่อเมนูอาหารยาวกับพนักงาน ไอ้คนข้างๆก็ขยันยิ้มมาให้เหลือเกิน ถ้าผมหัวใจวายไป เลี้ยงพ่อแม่ผมด้วยแล้วกัน

“หึหึหึ” ผมหันควับส่งสายตาค้อนๆให้มันทีหนึ่งก่อนสะบัดบ๊อบใส่ แต่เอ๊ะเหมือนผมลืมอะไรไป ...

“…..เอ่อพวกมึง” กูว่าละ ลืมคนในโต๊ะนี่เอง

“ไอ้เกียร์... มึงยิ้ม?!” ผมกันไปมองเกียร์ที่หุบยิ้มแล้วทำหน้าขรึมใส่พวกมัน

“ตอนไหน”

“เมื่อกี้”

“เหรอ” แล้วมันก็หยิบน้ำเปล่าขึ้นมาดื่ม ทำเป็นไม่สนใจ ในขณะที่พวกมันพยักหน้าและมีความหมายคำถามปรากฏบนหน้าตัวเบ้อเร่อ หากอยู่ในเวิร์ด ฟอนต์ตัวอักษรคงเกือบเจ็ดสิบสอง

“เฮ้ยยยย อะไรของมึงเนี่ยไอ้เกียร์ ร้อยวันพันปีกูไม่เคยเห็นมึงยิ้ม นอกจากตอนที่ไอ้พัตทำโก๋แก่หกใส่หัวไอ้โฟ่” นั่นเขาเรียกยิ้มเหรอวะ ผมว่าแสยะยิ้มแกมสมน้ำหน้าหรือเปล่า

“อย่าเอากูเข้าไปเกี่ยว เดี๋ยวมึงได้หัวหลุด” โฟ่ มึงนี่มันโหดไม่แพ้ไอ้พิชกับไอ้บอสจริงๆ

“เออแต่ก็จริงนิ นั่นล่าสุด แต่ตอนนี้ฉันไม่คิดเลยนะว่าก้ามเนื้อปากแกจะมีวันกระตุกยิ้มอ่อนโยนขนาดนั้นได้อ่ะไอ้หมา ฮ่าๆๆ” สงสัยสาคงอยู่กับพวก(เถื่อน)นี้เยอะไปหน่อย อาหารเริ่มทยอยเสริฟ

“ถ้าพวกมึงยังไม่จบ กูจะบอกพ่อมึงไอ้สา ว่ามึงชอบไอ้ดิน ถึงขนาดแอบไปหอพักผู้ชาย ไอ้มัดเงินสองพันห้า ไอ้พัตพันเจ็ดคืนพรุ่งนี้ภายในเที่ยงคืน ส่วนไอ้เน ถ้ามึงไม่หุบปาก แว่นของมึงที่สะสมทั้งคอลเลคชั่นนั่นอาจแตกละเอียด แม้กระทั่งบนหัวมึงตอนนี้” ฉิบหาย เวรกรรมพวกมึงแท้ๆ เล่นกับใครไม่เล่น ..

“อูยยย” พวกนั้นร้องประสานเสียงออกมา

“..ฮึก ฮืออ มึงจะทำกับพวกกูที่นั่งตาดำๆกินข้าวร่วมโต๊ะกับมึงอยู่ทุกเช้าเย็นได้ลงคอเหรอ ฮืออ” ดราม่าให้เกียร์เสียคนเลยไหมล่ะ แต่เสียใจด้วย เกียร์ก็ยังเป็นเกียร์..

“จะไม่มีการร่วมโต๊ะอีกเป็นครั้งที่สอง ถ้าพวกมึงไม่หยุดพูด” โอเค กริบ





“เดินต่อกันหรือเปล่าพวกมึง”

“กูไปฮิฮิ”

“เรื่องแบบนี้กูกับไอ้มัดเคยพลาดอ้ะเปล่าสาดด ไอ้โฟ่ถ้ามึงสู้ กูก็ไม่ถอยอะ หึหึ แล้วมึงอะ” ไอ้เนหันมาถามเกียร์

“กลับ”

อย่าคิดว่าตอนนี้พวกผมเล่นหมากรุกกันนะครับ คือหลังจากกินข้าวเสร็จ พวกเด็กวิศวะ(สุดโฉด)เขาจะไปต่อที่ผับที่บาร์แถวนี้กัน

“นั้นเจ้าชาย ป่ะ”

“ไม่ดีกว่าครับ ตามสบายเลย แฮะๆ” อย่านะ อย่ามาป่ะ มาไปกับกู เดี๋ยวกูจะงานเข้า....เข้าใจผิดไปกันใหญ่

“โถๆ พ่อพระของสา ดีแล้วล่ะค่ะ ปล่อยไอ้พวกนี้ไปเสพสุขเถอะ ไม่ระวังเดี๋ยวจะติดโรค ชิ!”

“โหอีสามึงไม่รู้อะไร ความจริงมันเป็นซาตานในคราบเจ้าชายนะโว้ย  พวกเพื่อนมันแมร่งเที่ยวกันอย่างกับบ้านหลังที่สอง เปลี่ยนหญิงยิ่งกว่าเปลี่ยนถุงเท้า อย่าปฏิเสธเลย ไปด้วยกันๆหึหึ” ทุกคนหันกันมองผมควับ แม้กระทั้งไอ้เกียร์ ...ไอ้เชรี่ยยมัดแฉกูอีก กูอยู่ของกูเฉ๊ยเฉยย ลืมไปว่ามันอยู่ชมรมเดียวกับไอ้คิม เห็นว่าไปกินเหล้าด้วยกันบ่อยๆ

“ไม่ล่ะครับ เรื่องพวกนี้ผมหักดิบไปนานตั้งแต่ชอบใครบางคนแล้วล่ะ” ว่าแล้วผมก็เหล่ตามองมัน จากหน้าเย็นชาเมื่อกี้ ก็ เปลี่ยนเป็นปากกระตุกขึ้นทั้งสองข้าง ตาประกายวิบวับดูระริกระรี้พิกล ผมจึงรีบหันกลับมือข้างขวากุมหัวใจข้างซ้ายเอาไว้ไม่ให้กระเด็นไปหาคนข้างๆ

“หูยย แมร่งรักแท้ เออๆนั้นแยกกันตรงนี้แล้วกัน”



...........................................................................




“ขอบคุณที่มาส่งแล้วก็ขับรถดีๆนะคะเจ้าชาย ไว้เจอกันไอ้เกียร์”

“เออ/ครับ ไปนะ”

“เก่งอังกฤษไหม”

“??” อะไรคือประธาน กรรมของประโยคนั้นวะนั่น เอ๊ะ อย่าบอกนะว่ามันจะทาบทามผมไปเจรจากับโอบามา!

“ช่วยทำการบ้านหน่อยดิ เกลียดอังกฤษอะ ได้หรือเปล่า” มันเล่นพูดออดอ้อนแบบนี้ทำเอาผมไปไม่เป็น คำตอบผมคงมีเพียงหนึ่งเดียว!!..

“..ครับ”




“ดึกแล้ว นอนนี่แล้วกัน” เออว่ะ แล้วมึงพึ่งบอกตอนกูเข้าห้องมาได้ก้าวเดียวนี่นะ

“อ๋อไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมขับรถกลับได้”

“ไม่ต้อง ดึกดื่นอันตราย เป็นอะไรไปกูไม่มีใช้คืนพ่อแม่มึง”

“ง่ะ..”

“พอ เลิกเถียง รังเกียจหรือไง” ไปกันใหญ่แล้ว ยิ่งรู้จัก มึงยิ่งตุ๊ดออกนะ

“เปล่าครับๆ คือ...”

“กูนอนโซฟาข้างนอกก็ได้” โอยยเอาง่ายๆเปล่า ตอนแรกคือกูกลัวจะไปปล้ำมึง! แต่ตอนนี้กูเริ่มเกรงใจแทนละ แล้วนี่มึงวางแผนไว้ก่อนหน้านี้หรือเปล่าวะนั่น พูดเหมือนท่องสคริปไว้แล้ว

“ไม่เป็นไรครับๆ นอนบนเตียงด้วยกันนี่ล่ะ”

“แปบเดียวชวนกูขึ้นเตียงแล้วเหรอ หึ” บ้าแล้ว.. ผิด!! ..ผิดที่กูนี่ล่ะที่พูดสองแง่สองง่ามให้มันโจมตีผมทางคำพูด ผมคิดถูกหรือคิดผิดนี่

หลังจบสงครามประสาทเสร็จ เราก็เริ่มรายงาน ไม่สิ จะพูดว่าเราก็ไม่ถูก เพราะมันไม่ได้ให้ผมช่วยอะไรเลย พอผมถามว่าให้ช่วยอะไรไหม มันก็ตอบว่านั่งกินขนมไปเถอะ คือวิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาบังคับ ทุกคนจำเป็นต้องผ่านตัวนี้ ผมจึงช่วยมันได้ แต่มันเล่นตอบแบบนี้ ผมที่ว่างเกินจึงลุกไปอาบน้ำก่อนมานั่งกินป๊อกกี้ในห้องมันจนจะมีลูกเป็นแท่งอยู่แล้ว โอ๊ะ หรือว่าผมมีนานแล้ว ก็ไอรักน้อยไง หึหึ ผมว่ามันก็ทำของมันได้นะ แล้วจะอัญเชิญให้ผมมานั่งทำจ่าเฉยอะไรนี่! อ๊ะ..หรือมันจะให้ผมมาช่วยกินป๊อกกี้ บ้าแล้วก็ไม่บอก เสร็จผมสิ ..

“หึหึ ทำหน้าตลก”

“ห้ะ อะไรครับ หน้ายังไง”

“คิดอะไรอยู่ คิ้วขมวดบ้าง อมยิ้มบ้าง หรือเมาป๊อกกี้?”

“บ้าเหรอคุณ ผมไม่ได้คิดอะไร๊..อะไรไม่ได้คิดจริงจริ๊ง” ทำไมกูต้องเสียงสูงด้วยวะ มันหันมาเต็มตัวแล้วเลิกคิ้วสูง

“อะไรของมึง แค่นี้ต้องปิดบัง ไม่ต้องบอกกูก็ได้” ว่าแล้วมันก็หันหลังไปทำงานงกๆ

“โธ่คุณ ผมแค่คิดว่าผมจะมีลูกเป็นแท่งป็อกกี้แล้ว ให้ผมมายืนนั่งเป็นจ่าเฉย ไหนบอกให้ผมมาช่วยงานไง” อ้าวกูก็ใจง่ายเนอะ เขาบอกให้บอกก็บอกหมดเปลือก มันยังไม่ทันตอบก็มีโทรศัพท์เข้ามา

-   Cause there’ll be no sunlight if I … ปิ๊บบ-

‘ฮัลโหล อยู่ไหนครับตัวดี พี่ไปหาที่หอแล้วไม่เจอ ดึกแล้วรู้ไหม’ ฉิบ! รัวเป็นชุดกลองยาว

“อ้าวพี่ติมมีอะไรหรือเปล่า เค้ามาช่วยเพื่อนทำงานอยู่หอเพื่อนน่ะครับ”

‘หืม ดึกดื่นอันตรายนะ พี่มาเที่ยวกับเพื่อนแถวนี้เลยแวะมาดูตัวเล็กนั่นล่ะ แล้วหอเพื่อนอยู่ไหนครับ เดี๋ยวพี่ไปรับ’

“อ้ะ ไม่ๆๆ ไม่ได้ เอ้ย ไม่เป็นไรคืองานเค้ายังไม่เสร็จเลยกะจะนอนหอเพื่อน ตัวเองนอนห้องเค้าไปนั่นล่ะ ตัวเองเหนื่อยมาไม่ใช่เหรอครับ” ทำไมพี่ต้องมาหาวันนี้ด้วยนี่ ผมแอบเหล่ด้านหลัง ชะอุ้ย .. ร็อตไวเลอร์มาอยู่ในหอได้อย่างไรนั่น นั่งตีหน้ายักษ์ตรง
โต๊ะทำงาน สายตาจับจ้องมาทางโซฟาที่น้องไอรักตัวลีบๆนั่งอยู่ พุทโธ พุทโธ ยุบหนอ พองหนอ

‘โธ่ พี่กะจะมาเซอร์ไพรส์เสียหน่อย แต่คงไม่คิดถึงกันสินะ  มีเพื่อนแล้วคงลืมพี่คนนี้..พี่เข้าใจ’ มาอีกแล้ว โรคติดน้องติดนุ่ง

“ตัวเองงง อย่างอนเค้าสิ เค้าก็คิดถึงตัวเอง แต่เค้าต้องทำงานนะ อย่างอแงสิครับ” ปัง! เสียงประตูห้องนอนดังสะเทือนทั่วด้านนอก ผมสะดุ้งหันไปมองทั่วห้อง พบแต่ความว่างเปล่า สงสัยมันคงเข้าไปนอนแล้ว

‘เฮ้ยเสียงอะไร คนจุดพลุเหรอ โอเคไม่กวนเราแล้วไปทำงานเถอะ เมื่อกี้พี่ล้อเล่นน่ะ ฮ่าๆๆ’ โธ่ไอ้พี่คนนี้ เล่นไม่รู้สถานการณ์เลย ผมคุยกับพี่อีกเล็กน้อยแล้วจึงวางสายไป ผมลุกขึ้นไปจะปิดโคมไฟบนโต๊ะทำงาน แต่บังเอิญตาเจ้ากรรมไปเห็นรายงานที่มันยังทำไม่เสร็จ สงสัยคงเหนื่อยก่อน เห็นแล้วก็สงสารเหมือนกัน จบงานโน้น มานั่งทำงานนี้ ใช่ว่าแพทย์จะเรียนหนักที่สุด คนอื่นชอบคิดว่าเด็กแพทย์จำเป็นต้องเรียนเก่งทุกคนหากเปรียบกับคนอื่นๆ แต่ผมว่าคณะอื่นๆก็มีความยากง่ายแตกต่างกันมากกว่า ผมสวมรอยช่วยมันจนเสร็จ อย่างที่บอกว่าผมได้เรื่องภาษาหลายภาษา อังกฤษก็เช่นกัน แต่ก็ทำผมตาลายไปเหมือนกัน ต้องยกมือนวดขมับสองสามทีก่อนเงยหน้ามองเวลา..อีกสิบห้านาทีตีหนึ่ง หลังปิดคอมปิดไฟด้านนอก ผมก็ต้องใช้วิชานินจาย่องเข้าห้องไปแปรงฟันแล้วเดินไปนอนอีกฝั่งของเกียร์

“คุยโทรศัพท์เสร็จแล้วเหรอ”

“อ้าว คุณยังไม่นอนอีกเหรอครับ” ผมทำเสียงแปลกใจก่อนหันหน้าไปคุยกับมันที่หันหลังให้ผมอยู่

“ตอบ”

“ถ้าผมคุยอยู่ คุณคงได้ยินแล้วล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ..”

“ไม่ขำ” เสียงแข็งแทรกเสียงหัวเราะ ทำเอาผมกามค้าง มึงเป็นอะไรอี๊กก.. เดี๋ยวนะ แต่ผมว่าผมเริ่มเข้าใจมันเข้าแล้วล่ะ ..หึหึ

“อ่าวผมคิดว่ามันจะขำอะ สงสัยผมคงต้องให้พี่โน้ตฝึกวิชาใหม่เสียแล้ว”

“ใคร โน๊ต?” น่านน ตอนแรกเสียงแข็งอยู่แล้วนะ แต่นี่ทั้งแข็งทั้งโหด มึงทำเสียงซอฟๆสมูทตี้นุ่มนวลไม่เป็นเหรอครับ

“ก็โน้ต...อุดมไงครับ หึหึ รู้ไหมผมไม่เคยพลาดเดี่ยวพี่เขาสักเดี่ยวเลยอ่ะ มีครั้งหนึ่งที่ผมกับพี่ไอติมพี่ไออุ่นไปดูเดี่ยวแปดกัน อาทิตย์นั้นพวกพี่ๆผมก็คุยกันแต่เรื่องขี้อะ จนพ่อกับแม่ดุว่าถ้าติดใจเรื่องขี้มากจะส่งไปอินเดียกับจีนทั้งสองคนเลยหยุด ฮ่าๆๆ” พูดแล้วผมก็ขำไป นึกถึงพวกพี่ๆผมก็คิดถึงเหมือนกันนะนี่

“พี่ไอติม พี่ติม ที่คุยเมื่อกี้เป็นพี่น้องแท้ๆ?” มันเริ่มหันกลับมาคุยกับผมแล้วทำหน้าแปลกใจแต่คิ้วมึงนี่ยังเป็นปมอยู่นะ

“ใช่สิ พี่แท้ๆของผมไง ไออุ่น ไอติม ไอรัก มีอะไรหรือเปล่า ฮันแน่ ผมหวงพี่ชายผมมากเลยนะ ไม่ให้หรอกนะจะบอก” ผมหน้าบึ้งใส่ทำเอาอีกคนยิ้มละมุนละไมให้อย่างไม่รู้ตัว ถึงแม้ว่าเราจะปิดไฟแล้ว แต่ยังคงมีแสงด้านนอกเล็กลอดเข้ามาในห้องพอให้เห็นหน้าได้ลางๆ

“ไม่เอาหรอกไออื่น แค่ไอรักคนเดียว...ก็พอแล้ว” มันว่าแล้วก็จูบหน้าผากก่อนดึงผมเข้าไปกอดแน่นจนผมร้องเสียงอุบาทที่สุดไร้ซึ่งความโรแมนติก

“แอ่กก.. โอ้ยคุณ ผมยังอยากเอาร่างพร้อมกระดูกไปหาพ่อแม่วันพรุ่งนี้นะ” ผมพูดเสียงอู้อี้เล็กน้อย มันคลายกอดเล็กน้อยแล้วพลางถอนหายใจ   

“ไปกี่โมงกี่วันอะ”

“คงไปเช้าเย็นกลับน่ะ เพราะวันอังคารผมมีสอบต้องรีบกลับมาอ่านหนังสือครับ” พอดีวันจันทร์แคนเซิลคลาสผมคงอ่านวันจันทร์ แต่ก็ไม่เครียดมากเท่าไร เพราะอาจารย์บอกมานานแล้วว่าจะสอบวันนั้น จึงอ่านเตรียมตัวมาก่อนหน้านี้แล้ว จะเหลือแค่ทบทวนเท่านั้น

“เดี๋ยวไปส่ง ปลุกด้วยแล้วกัน…ไม่ต้องปฏิเสธเลย นอนได้แล้วไอ้แมวน้อย” โหมึงเรียกซะกูตุ๊ดเลยอะ แต่ไม่เป็นไร น่ารักเหมือนกัน ไอรักไม่ได้ยอตัวเองนะไอรักแค่พูดความจริง หึหึ



TBC-------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>



ไม่รู้ว่าจะมีคู่รองดีไหม แต่ให้ไอรักเขาบรรยายเหมือนเดิมน่ะค่ะ
แล้วชอบเถื่อนๆไหม ยังไงก็ร่วมแสดงความคิดเห็นให้ฟังได้นะ อยากฟังความเห็นของทุกคนค่ะ^^

ปล. final projectยังค้างอยู่เลย กร๊ากก งานเยอะจริงๆปีสอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-05-2013 14:12:53 โดย Calypso »

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
มาต่อล่น

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
นี่ขนาดยังไม่ได้เป็นแฟนยังสวีทกันขนาดนี้แล้วถ้าเป็นละ ?  :pighaun: :pighaun: :pighaun: :m25: :m25: :m25:

ชอบบบๆๆ ไอรักก็น่ารัก ฮาๆดี ชอบเคะแบบนี้อ่ะ  :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

ส่วนเกียร์ก็ขรึมๆแต่อ่อนโยน ชอบเมะแบบนี้เช่นกัน :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:

สรุป !!!!!!! ชอบทั้งไอรัก ทั้งเกียร์เลย  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :L2: :L2: :L2: :L1: :L1: :L1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ NONSENSE

  • เพ้อฝัน ไปวันวัน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 644
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-2
ชอบอ่ะ น่ารักดี
เหมือน เกียร์จะชอบ นู๋ไอ มาก่อนนะเนี่ย
เลยข้ามถนนให้รถเฉี่ยวเหมือนที่เพื่อนเกียร์ว่า คิคิ

ไอรัก ดูติ๊งต๊อง นิดๆอ่ะ น่าร๊ากกกกก
like ๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
เกียร์ นอกจากปากแข็งแล้วยังขี้หวงอีกนะ  :laugh3:

ออฟไลน์ bytoey

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 865
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +197/-3
น่ารักทั้งคู่เลย เกียร์เทอแอบขี้หึงนะ 555

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
เจ้าชายไอรักคุยกับพี่ชายได้น่ารักมากกกกกกกกกกกกก
มากจนเกียร์ออกอาการหึงแล้ว

+1จ้า มาต่อไวๆนะ ชอบบบบบบบบบบบบบบ

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
เกียร์หึงโหดดดดด

ขอเถื่อน ๆ ชอบบบบ 555

ออฟไลน์ anuruk97

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-4
ชอบเจ้าค่ะ....

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
เจ้าชายจะพาไปพบพ่อตาแม่ยายต้องใส่สูทไปรึเปล่าคะนี่ ฮ่าๆๆ


"เรื่องพวกนี้ผมหักดิบไปนานตั้งแต่ชอบใครบางคนแล้วล่ะ" <<ชัดเจนมากลูกขา หึหึ




 :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m18:

ออฟไลน์ Calypso

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-0
ตอนที่9




“คุณเกียร์ๆๆ จอดหน่อยย”

“ห้ะ อะไร!” มันทำหน้าเสียงตกใจ(แต่หน้ามึงนิ๊งนิ่ง) มันขับรถผมมาส่ง จะบอกว่ามันสามารถหรือไม่เจียมสังขารดี ขาซ้ายใส่เผือกอ่อน ขาขวาเหยียบคันเร่ง เมื่อเช้าแม่โทรมาพอดี ผมบอกว่าอยู่หอเพื่อนแล้วเขาจะขับรถไปส่ง แม่ผมจึงชวนเกียร์มาทานข้าวด้วยกัน

“ผมอยากกินนมช็อกอะแวะหน่อยสิ นะน้าน้า...” ผมส่งสายตาปิ๊งๆอ้อนวอนแทบจะพนมมือกราบแนบอกมัน จนมันหัวเราะในลำคอ

“คนผลิตคงรวยเพราะไอ้แมวน้อยตัวนี้แหงๆ”

“ไม่ใช่หรอก ผมว่าเป็นเพราะคุณมากกว่า” มันทำหน้างงประมาณว่ากูไปซื้อกินตอนไหน

“?”

“เพราะตอนนี้ผมจะให้คุณจ่าย ผมลืมเอากระเป๋าตังค์ลงมาอะ แฮ่ะๆ” มันอมยิ้มพลางส่ายหน้าแล้วหยิบขนมสามสี่อย่างเดินไปจ่ายเงิน


“อ่ะ” ผมหยิบเงินส่งให้มันหลังจากเราขึ้นรถได้สักพัก

“ไม่เอา เกียร์เลี้ยง” ผมชะงักมองหน้ามันเอ๋อๆ อะไรวะ ร้อยวันพันปีไม่เคยเรียกชื่อตัวเอง แต่คนอย่างมันหาได้สนใจไม่

“ทำไม ก็เรียกกู-มึง มันเชย เปลี่ยนตามอารมณ์”เหมือนมึงจะพยายามโยงให้เกี่ยวกันเหลือเกิน ความจริงผมพูดแบบนั้นได้สบายนะ แต่กับมันผมว่า มันไม่เข้ากับหนังหน้าอะ ไม่รู้สิ ไม่เคยเห็นมันพูดแบบนั้นเลยไม่ชินมั้ง

“มันแปลกๆเนอะ ว่าไหม”

“เด็กวิศวะ ไม่ธรรมดา” เกี่ยวไหม..มึงมาเป็นคติคณะเชียว ไปกันใหญ่แล้ว


.......................................................................



“ตัวเล็กมาแล้วเหรอลูก” เสียงสตรีหมายเลขหนึ่งของบ้านมาก่อนตัวเกือบทุกครั้งที่มาเยือน

“โอะฮาโย โกไซอิมัสครับมาม๊า”ผมวิ่งเข้าไปกอดหอมแก้มซ้ายขวา

“โถ ลูกผอมลงหรือเปล่าคะ เรื่องนี้ต้องมีเคลีย มาม๊าไม่ปลื้มเท่าไรนะ อ้าว นั่นลูกเกียร์ใช่ไหมจ๊ะ มาๆเข้ามากันก่อน”ผมวิ่งไปเปิดกรงให้ไอแดดกับไอหมอก สุนัขบ้านผมเอง ปกติมันจะออกมาวิ่งต้อนรับคนในบ้านตลอดไม่เคยอยู่ในกรงหรอก แต่สงสัยคงถูกลงโทษ ส่วนแม่จูงมือเกียร์เข้ามาในบ้านเข้ามานั่งห้องนั่งเล่น

‘โฮ่งโฮ่ง’ ยังเปิดกรงไม่ทันเสร็จ ไอ้ตัวดีทั้งคู่ก็กระโจนเข้าหาผม ตะกุยตะกายเสียอย่างกับผมเป็นเทศบาลมาจับพวกมึง

“สวัสดีครับไอแดด ไอหมอก ดื้อเหมือนเดิมเลยนะนี่” ผมเล่นกับมันสักพักหนึ่งแล้วพาพวกมันไปทักทายว่าที่พ่อ(อีกคน)ของลูกผม

“ไอแดด ไอหมอก ทำความเคารพพี่เกียร์ก่อนเร็ว สาม.. สี่.. สวัสดีครับ” นั่งยกขาหน้าขึ้นแลบลิ้นพอน่าเอ็นดูให้แขกใหม่ที่กำลังอึ้งๆก่อนจะหลุดขำพรืดออกมา ผมนั่งยองๆลูบหัวทั้งสองไอเป็นคำชม

“พันธุ์อะไรเหรอไอรัก”

“ตัวนี้ชื่อไอแดด พันธุ์ SibirskiyHaskiกับไอหมอก พันธุ์ shetland sheepdog ครับ” ผมลุกขึ้นไปนั่งข้างเกียร์ตามด้วยสมุนเดินตามมานอนแทบเท้า เกียร์เริ่มจับหูจับหางมัน พวกมันมองปรายตาก่อนหันกลับซุกเข้าขาผมอีก ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี เพราะถ้าไม่ใช่พวกเพื่อนในกลุ่มผมที่มาบ้านบ่อยๆ มันจะกระโจนเห่าและเชิดใส่ อีกไม่นานคงยอมรับพ่อคนใหม่คนนี้อีกคนแล้วล่ะ

“รัก เกียร์ปวดฉี่” มันกระซิบมาบอกผมตอนที่แม่ผมคุยกับแม่บ้านเรื่องอาหารกลางวันอยู่

“เลี้ยวซ้าย ตรงไปนิดหนึ่งแล้วเลี้ยวขวานะเกียร์”ผมพูดพร้อมก้มตัวเอามือไปเกาที่หน้าอกลูกๆให้เคลิ้ม

“ถ้ามึงไม่พาไป กูคงหลงอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้” สรุปผมก็ต้องไปเฝ้ามันหน้าห้องน้ำ ไอรักเป็นคนหรือเป็นหมาวะ เริ่มสับสน





“พี่ไออุ่นนนพี่ไอติมม♥” หลังจากเสร็จภารกิจของไอ้เกียร์ก็เดินมาห้องเดิม แต่เห็นผู้ชายร่างสูงสมชายชาตรีทั้งสองมานั่งก่อนหน้านี้แล้ว คนหนึ่งสุขุมหน้านิ่ง แต่พอได้ยินเสียงผมก็หันมายิ้มอ่อนโยนให้ กับอีกคนหน้าเจ้าชู้นิดๆยักคิ้วมาให้ผม ผมโผเข้าไปนั่งบนตักกอดพี่ชายที่รักคนแรก ก่อนจะหันไปหอมแก้มคนนั่งใกล้ๆ ถึงผมจะติดพี่ไออุ่นมากกว่าคนอื่นแต่ผมก็รักทุกคนเท่ากันหมดนะ

“ว่าไงครับตัวเล็ก ทำตัวเป็นเด็กไปได้ไม่อายเพื่อนเขาเหรอ” พี่อุ่นลูบหัวยิ้มให้ผมก่อนจ้องหน้าเกียร์นิ่งๆ

“ตัวเองไปไหนมา วันนี้วันอาทิตย์ไม่ใช่เหรอ”

“งานมีปัญหานิดหน่อยครับ พี่เลยรีบไปเคลียแล้วรีบกลับมาทานข้างกลางวันกับเราไงครับ”

“นี่เราคิดว่าอย่างพี่อุ่นจะเถลไถลเหมือนเราน่ะเหรอ ฝันไปเหอะ..หึหึ”เสียงไอ้พี่ติมเหน็บแนมไอรักเล็กน้อยพองาม แต่ทำเอาพี่ไออุ่นหันมาคิ้วขมวดใส่ ผมรีบส่ายหน้าหัวแทบหลุดโบกไม้โบกมือว่าไม่มี๊ ..ไม่มีจริงจริ๊งงง

“ว่าแต่เพื่อนเราชื่ออะไรน่ะ” ถ้าพี่อุ่นไม่ทัก ไอรักคงลืมไปเรียบร้อยละ

“ชื่อเกียร์ครับ อยู่วิศวะปีสองเหมือนผมนั่นล่ะ” ไอ้เกียร์ยกมือไหว้ พี่ทั้งสองพยักหน้าเฉยๆ

“วิศวะ? แล้วไปรู้จักกันได้ยังไง”

“คนนี้ใช่ไหม ที่ตัวยุ่งไปนอนด้วยเมื่อวาน”พี่ติมหันมาถามประโยคล่อแหลม

“นอน?”

“อืม เห็นบอกไปทำงาน”

“งานอะไร คนละคณะกันไม่ใช่เหรอ” สองพี่น้องถกเถียงถามไอ้เกียร์ที่เนื้อตัวเริ่มซีดจากแรงกดดันสายตาคมทั้งสองคู่ แต่หน้ามึงก็ยัง..นิ่ง..นิ่งได้อีก ผมนี่นั่งเหรอหราหันมองพี่อุ่นพี่ติมสลับไปมาบนตักพี่ชาย

“เดี๋ยวคร้าบบบ ..หยู๊ดด.. คือไอรักไปช่วยงานวิชาภาษาอังกฤษของเกียร์ที่ทุกคณะต้องเจอวิชานี้อยู่แล้ว ส่วนรู้จักกันได้ไง เค้าว่าไม่แปลกนะ เพื่อนนอกคณะเค้าตั้งเยอะ พี่ชายไม่สนใจเรื่องเค้าต่างหาก” ก่อนที่พี่ชายทั้งคู่จะฆ่า(ว่าที่)พ่อของลูกผม ผมขอสารภาพบาปแทนพ่อมันก่อนจะแสร้างตีหน้าเศร้าใส่เพื่อดึงความสนใจพี่ทั้งสองคนนี้ แล้วมันก็ได้ผล..ตลอด

“โอ๋ๆตัวเล็กของพี่ ไม่ใช่พี่ไม่สนใจ แต่พี่ไม่มีเวลา ช่วยงานแม่ตลอด ส่วนพี่อุ่นเขาก็ช่วยงานพ่อไงตัวเล็ก”

“ขอโทษนะครับที่พวกพี่ไม่มีเวลา ยกโทษให้พี่อุ่นนะครับตัวเล็ก” เวรกรรม ทำเอากูรู้สึกผิดที่ตีหน้าเศร้าเลย พอดีกับแม่บ้านเรียกไปทานอาหาร โต๊ะนี้ยังอบอุ่นเหมือนเดิม แต่เสียดายพ่อน่าจะมาทานด้วยกัน แต่แม่บอกว่าพ่อติดไปตีกอล์ฟกับเพื่อน ตอนเย็นจะรีบกลับมากินข้าวด้วยกันตอนนี้แม่ผมชวนเกียร์คุยจนจะกลายเป็นลูกสนิทอีกคนหนึ่งแล้ว ส่วนพี่ทั้งสองคนฟังเฉยๆ จะมีบ้างที่พี่ติมชวนมันคุย แต่ก็นะพวกพี่ๆหวงผมมาก แล้วยิ่งพี่อุ่น พี่ติมบอกว่าถ้าอยู่กับคนอื่นจะนิ่งแข็งเหมือนเหล็ก แต่อยู่กับพ่อแม่หรือกับไอรักเปลี่ยนเป็นคนละคนเลยล่ะ หลังจากกินข้าวเสร็จ ผมก็อัญเชิญคุณเกียร์เขาขึ้นไปนั่งเล่นห้องผม มันก็ทำตัวเป็นแขกที่ดีนะครับ ถึงห้องมาก็เดินเข้าไปหยิบจับโน่นนี่จนได้สิ่งที่น่าสนใจก็มานั่งจุ้มปุกที่โซฟาใกล้ๆเตียง

“ไอรัก มึงสนิทกับพี่มากเลยเหรอ” อ้าว ไอ้นี่ถามแมวๆ

“แน่นอนสิครับความจริงผมติดครอบครัวมากๆ ตอนแรกพี่ๆไม่อยากให้ผมออกมาอยู่ข้างนอกหรอก แต่ผมไม่ยอม พี่ติมเลยหาคอนโดให้..เป็นอะไรหรือเปล่าครับเกียร์ ”ก็มันเล่นทำหน้าบึ้งเสียขนาดนั้น

“กูไม่ชอบ..”

“ไม่ชอบ?ไม่ชอบพี่ผมเหรอ” ผมเริ่มใจเสียแล้วสิ กลัวมันเข้ากับครอบครัวผมไม่ได้มันหันมามองตาผมพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่

“เปล่า กูไม่ชอบที่ตัวเองรู้สึกแปลกๆบอกไม่ถูกตอนมึงนั่งตักพี่มึง กูแทบอยากจะกระชากมึงออกมาจากตัก แล้วเอามึงมานั่งตักกู ...กู..ไม่เข้าใจตัวเอง” มันดูสับสนเอามากๆ ผมเคยเป็นตอนที่แอบตามมันตอนที่ยังไม่รู้จักกัน เห็นมันไม่สนใจผู้หญิงคนอื่น แต่ดันคุยกับสา ตอนนั้นผมแอบคิดแวบหนึ่งว่าอยากจะกระชากมันล่ามโซ่เอาไว้ในห้องไม่ต้องเจอใคร แต่หลังๆก็เริ่มรู้ว่าเป็นเพื่อนสนิทไม่ได้คิดเกินเลยกันหรอก แต่ตอนนี้ไม่ไม่อยากจะเข้าข้างตัวเองว่ามันก็เริ่มมีใจให้ เพราะผมกลัว กลัวว่าความหวังเล็กๆจะย้อนมาทำร้ายผม

“ผมนั่งแบบนั้นตั้งแต่จำความได้แล้วนะ..อูยย แฮะๆก็..มันเรื่องจริงหนิ” จบประโยคแรกมันก็ส่งตาขวางมาให้

“เออ ช่างแมร่งเหอะ ..เป็นเหี้ยอะไรวะ”ประโยคหลังมันพึมพำๆกับตัวเอง เออกูก็ว่า ช่างแมร่งเหอะนอนกลิ้งเล่นดีกว่า กลิ้งไปกลิ้งมาดันหลับจริงๆตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาอีกทีปาไปสี่โมงกว่า กะจะยืดตัวมองหามันว่าหายไปไหน แต่ก็มีแขนหนักๆพาดลำตัวอยู่ ผมจ้องใบหน้าคมๆของมัน เหมือนหลุดมาจากหนังไทย มันคงเป็นคนไทยแท้ ผิวสีแทนน้ำผึ้ง ไม่ดำไม่ขาว คิ้วเข้ม ตาดุๆ

“ห้าร้อยบาทค่าจ้องโดยไม่ได้รับอนุญาต”

“งื้ออตื่นตอนไหนอะ ผมตกใจหมด” ผมดิ้นอยู่ในวงแขนมันยิ่งทำให้มันกอดแน่นขึ้น

“ก็เล่นจ้องขนาดนั้นใครจะนอนหลับลง”

“ก็คุณน่ามองเองนิ..เอ๊ยไม่ใช่ หมายถึงใครมานอนข้างๆแบบนี้ก็ต้องมองอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ..นี่ อย่ามาขำผมนะ!” ฉิบ! หลุดปาก มึงขำเข้าไป เออแมร่ง! เดี๋ยวทนไม่ไหว ผมจะปาอึไอแดดใส่หัวมัน

“หึหึ ไม่ขำแล้ว ลงไปได้แล้ว เมื่อกี้มีคนมาเรียกแล้ว นี่ถ้าอีกสิบนาทีไม่ตื่นกะจะปลุกอยู่แล้วล่ะ” นี่สรุปมึงแกล้งหลับตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม!! ผมหน้ามุ่ยเดินสะบัดก้นไปล้างหน้าล้างตา มันก็เดินอมยิ้มตามมา พอเสร็จแล้วก็เดินลงมาพร้อมกัน

“แด๊ดครับ คิดถึงจัง ..จุ๊บ” ผมหอมแก้มซ้ายขวาเสร็จก็นั่งลงข้างๆตามด้วยเกียร์

“ว่าไงลูกรัก เห็นว่าทำม๊าเขาเครียดเรื่องน้ำหนักนิ งานเยอะหรือเงินไม่พอหรือเปล่าตัวเล็ก” ถ้าใครถามว่ามาดพี่อุ่นเหมือนใคร ผมว่าเหมือนพ่อเด๊ะๆเลยล่ะครับ บางคนที่ไม่รู้จักมักจะเกรงกลัวพ่อผม แต่ความจริงท่านเป็นคนขำขันมากเลยนะ ชอบยิงมุขหน้านิ่ง เสียดายที่ติดหน้าดุไปหน่อย ส่วนพี่อุ่นไม่มีอารมณ์ขำขันแบบพ่อหรอกครับ นิ่งอย่างเดียว แต่พี่อุ่นอ่อนโยนกับไอรักมากๆ ทำให้ผมรักพี่อุ่นสุดใจเลย

“ไอรักก็ตัวเท่านี้มานานแล้วนะครับแด๊ดมาม๊ากังวลเกินไปต่างหาก อยู่ที่โน่นเพื่อนก็ขุนนมช็อก เอ้ย อาหารจนจะกลายเป็นหมูอยู่แล้วครับ” ผมทำปากจู๋อย่างขัดใจจนคนข้างๆแอบขำพรืดออกมาเบาๆ แต่ผมได้ยิน จึงส่งสายตาค้อนแต่พองามไปให้

“โถ มาม๊ากอดหนูมาตั้งแต่เกิดทำไมจะไม่รู้ว่าลูกอ้วนขึ้นหรือผอมลง ไม่รู้ล่ะ ถ้าไม่อ้วนขึ้นมาม๊าจะให้กลับมาอยู่บ้าน” ว่าแล้วคุณนายก็เชิดใส่ ผมอ้าปากค้าง

“คุณเหงาก็บอกเถอะ ไม่ต้องอ้างเรื่องน้ำหนักลูกหรอก หึหึ”

“ก็คุณดูสิ อดมื้อกินมื้อหรือเปล่าก็ไม่รู้ ออกไปอยู่คนเดียว อันตรายอีกนะคะคุณ”

“ไม่เอานะครับแด๊ด นี่พี่ติมอุส่าหาคอนโดให้ ระบบความปลอดภัยก็ดีเยี่ยมเกินคอนโดอื่นแล้ว อุส่าซื้อ ไม่อยู่เดี๋ยวไม่คุ้มนะครับ อีกอย่างไอรักก็มีเพื่อนฝูงแถวนั้นเยอะด้วย ไม่อันตรายหรอกครับ เนอะๆ” ผมเนอะๆใส่พี่อุ่นพี่ติมที่กำลังส่ายหน้าเอือมใส่ผม อะไรอะ ก็เขากำลังหาผู้ร่วมอุดมการณ์นี่นา

“ไม่ต้องห่วงครับ ผมอยู่คอนโดใกล้ๆกับไอรักเหมือนกัน มีอะไรช่วยกันได้ครับ” พ่อของลูกผมในอนาคตพูดขึ้นมา

“จะดีเหรอคะ ต้องลำบากน้องเกียร์ มาม๊าเกรงใจ”

“ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ” ว่าแล้วแม่ผมก็พยักหน้าเป็นอันว่าตกลงอย่างง่ายๆ เฮ้ยนี่จะง่ายไปนะ ขนาดผมพูดแล้วพูดอีกเอาแต่จะค้าน ก็นะ ลูกรักคนใหม่ของเขา เรามันหมาหัวเน่าไปแล้ว ฮืออ

หลังจากเรากินข้าว ร่ำลากันเสร็จแล้ว เกียร์นึกอยากซื้อของใช้ส่วนตัว จึงแวะเข้าห้างใกล้ๆมอ

“โหเกียร์คุณซื้อแปรงสีฟันไปอมเล่นเหรอ” ผมพูดขึ้น หลังจากมันหยิบแปรงสีฟันใส่รถเข็นครึ่งโหล ไหนจะของสด นมสด ขนมอีกมากมาย นี่มึงกะจะไม่เดินห้างตลอดชีวิตแล้วเหรอ โอ้ไม่นะ เกียร์จำศีล..

“เห็นกูเป็นบ้าหรือไงนั่งอมแปรงสีฟันเล่นนี่ ..กูซื้อไว้เอาไว้ให้ใครบางคน” มันพูดเสียงเบาตอนหลัง ใคร ..คนนั้นคงสำคัญกับมันมากสินะ ผมเดินตามไม่พูดอะไรจนถึงลานจอดรถ

“เป็นอะไรหรือเปล.../น้องไอร๊ากก” เสียงใครคนหนึ่งแทรกเสียงมันขึ้น ผมมองผ่านไหล่มัน เห็นผู้ชายร่างบางตาโตใส่เสื้อคอกลม กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน หากไม่รู้จักกันคงคิดว่าเป็นเด็กมัธยมแน่ๆ ‘พี่น้ำ’

“จะไปไหนเหรอน้องไอรัก นี่ๆ พี่ตามหาน้องแทบจะทั่วตึกแพทย์เลยนะ เห็นคนอื่นบอกเดี๋ยวนี้น้องชอบรีบออกไปหลังเลิกเรียน พี่เลยไม่เคยเจอเลยอะ คิดถึงจะแย่ แฮ่ๆ”

“สวัสดีครับพี่ ช่วงนี้ผมไม่ค่อยว่าง เดี๋ยวต้องรีบกลับไปอ่านหนังสือน่ะครับ” ผมเหลือบไปมองเกียร์ มันคงรู้สาเหตุที่ผมไม่ค่อยอยู่ที่ตึกตัวเอง เพราะผมมาตึกมันนั่นล่ะ

 “พอดีเลย คือน้องพี่กะจะเข้าแพทย์อะ อยากได้หนังสือกับคำแนะนำ แต่พี่ไม่รู้เรื่องนี้เลย ว่าแต่พี่ไปด้วยได้ไหม เอ่อแต่ไม่ได้ไม่เป็นไรนะ น้องอาจจะรังเกียจพี่ พี่เข้าใจ” พี่น้ำจับแขนเหย่าเบาๆพลางช้อนตาโตๆอ้อนเหมือนแมวมาให้ อย่างนี้กูจะปฏิเสธลงไหมละนี่ ทำไงดีวะ ผมอ้ำๆอึ้งๆ

“กูไปละ” ว่าแล้วมันก็ทำท่าจะเดินเข้าห้าง

“ห้ะ ไปไหนครับ”

“แท็กซี่”

“ได้ไง ก็คุณมากับผม”

“มึงจะไปส่งเขาไม่ใช่เหรอวะ มายุ่งกับกูทำเหี้ยไรนักหนา” มันเริ่มขึ้นเสียง

“ให้ผมไปส่งคุณเถอะเกียร์”

“มึงอย่าตื้อได้ไหมวะ เลิกยุ่งกับกูเสียทีเหอะ แค่นี้กูก็รำคาญจะตายห่าแล้ว ไอ้สัญญาห่าไรนั่นกูยกเลิก กูกลับละ ส่วนมึง...จะไปไหนก็ไป” มันตะคอกใส่ผมเหมือนอยากระบายสิ่งที่อัดอั้นออกมา ผมยืนอึ้งมองมันอย่างตัดพ้อ ก่อนที่มันเดินออกไปจากตรงนี้

สงสัยจะจริงอย่างที่พวกนั้นเคยบอก ผู้ชายอย่างมันจะมาชอบผมได้อย่างไร ผมไม่ได้อยากจะคาดหวังอะไรกับการที่จะรักมัน แต่ทำไมมัน..เจ็บ..เจ็บมากกว่าทุกครั้ง เจ็บมากกว่าตอนผมรู้ว่าดันไปหลงรักคนที่ใครต่างบอกว่าไร้หัวใจคนนี้..ที่แล้วมา ผมเคยคิดว่ามันจะเปิดรับผมบ้าง..เพียงเป็นเพื่อนก็ดี..คนรู้จักก็ดี แต่ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะทำให้มันรำคาญได้ถึงเพียงนี้ ผมผิดอีกแล้วใช่ไหม


...............................................................................


ไม่ว่านานเท่าไร แผลข้างในหัวใจ
มันไม่เคยลบเลือน แม้ฉันพบเจอใคร
ก็ไม่ทำให้ใจมันดีขึ้นมา มันยังเหมือน



.....ภาพขาวดำเมื่อวันก่อนตอนมันเดินจากไป ฉายเข้ามาในสมอง…ซ้ำแล้ว..ซ้ำเล่า..เหมือนตอกย้ำให้ตัวเอง..จำ......จำว่าเคยเจ็บมากถึงเพียงนี้


วันที่เธอทิ้งฉันไป เมื่อไหร่ก็เหมือนเก่า
ความเจ็บนั้นยังตาม ติดตัวเป็นเหมือนเงา
ก็ไม่รู้ทำไม เมื่อไหร่จะบรรเทาความเจ็บนี้
….ที่อยู่ในหัวใจ…..



 ‘รกหูรกตา’ รกไปหมด โทรทัศน์ กรอบรูป ตุ๊กตา กระเป๋าเครื่องมือแพทย์ แม้กระทั่ง นาฬิกา ที่ยังคงหลอกหลอน เหมือนมันค่อยๆฉีก..ใจ..ทีละนิด..ทีละนิด


นาฬิกา...เพื่อเตือนให้ตื่นเช้า ทั้งๆที่ตัวเองไม่มีเรียนเช้า หึ....งี่เง่า.. ..

เอามาเตือนตัวเองก่อนดีกว่าไหม

......เพล้ง!!!


ทำไมยังต้องรักเธออยู่ ยังคิดถึงเธออยู่
ยังเห็นเธออยู่ในความฝัน วันที่เธอทิ้งฉันไป
ทุกอย่างก็เปลี่ยนฝัน มีแต่แผลที่อยู่กลางใจฉัน
.....ที่มันไม่เปลี่ยนไป….



เท้าย่ำเหยียบไม่สนเศษซากนาฬิกากระจายไปทั่วห้อง เดินไปกระชากตู้เย็นเพื่อหาสิ่งที่พอประทังชีวิตให้อยู่รอด

แต่เปิดมาเจอ...ความว่างเปล่า...เหมือนกับความรู้สึกตอนนี้

โทรทัศน์ฉายวิวทะเลที่แสนงดงามสำหรับคนอื่น..แต่อ้างว้าง..สำหรับผม…


“แล้วตกลงวันนี้เรามาหัวหินแค่กินข้าว เล่นแถวชายทะเลว่างั้น?”
“อ่อเปล่าหรอก ความจริงจะพาไปหลายที่ แต่มีเรื่องเกียร์เสียก่อน เลยต้องยกเลิกไปน่ะแฮ่ะๆ”
“...นั้นเอาไว้ครั้งหน้าเราค่อยมากันใหม่นะ”
“ห้ามเบี้ยวล่ะ คุณน้ำแข็ง” ของผม........งั้นเหรอ...



......ตอกย้ำกันเข้าไป






ปิ๊งป่อง… ปิ๊งป่อง ปิ๊งป่อง….


“สาดด ทำไมเปิดช้าจังวะ กูจะมาเอาแผ่นเกมส์อะ...เฮ้ยยย” หยาดน้ำตา...ไร้เสียงสะอื้น มีแต่น้ำที่แสดงความอ่อนแอออกมาหล่นลงบนบ่าหนาของคนตรงหน้า

“แพ้..กูแพ้แล้ว”

“เกมส์อะเหรอวะ เฮ้ยเอาใหม่ดิ โห่มึงนู้บเหรอสาดด แค่นี้ทำอ่อนร้องไห้”

“เกียร์....อึก”

“....กูเข้าใจละ เดี๋ยวนะ...ฮัลโหลไอ้พิช เรียกประชุมด่วนห้องไอ้เกียร์..เดี๋ยวค่อยคุย กูก็ไม่รู้...ร้องไห้ว่ะ ท่าจะหนัก ...โอ้ยย เออรีบมาแล้วกัน แค่นี้นะโว้ย… ไปๆมึง เข้าห้องก่อน”

“เฮ้ยเป็นไรวะมึง” หลังจากที่ทุกคนมาในห้องแล้ว ไอ้คิมถามขึ้น

“เป็นอะไรไอ้รัก”

“.....กู..มันบอกให้กูเลิกยุ่ง มันบอกว่ารำคาญ กูผิดมากเหรอวะที่อยากอยู่ใกล้ อยากทำอะไรสักอย่างให้มัน.. กู...กูเจ็บว่ะมึง”

“ไอ้เหี้ยนี่!!!”ไอ้พิชกับไอ้คิมลุกขึ้นจะวิ่งออกไปจากห้องแต่ไอ้ไทป์ห้ามไว้ก่อน

“เดี๋ยว! ไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาหรอก มีแต่จะมองหน้ากันไม่ติด”

“ช่างแมร่งดิ กูอยากมองหน้าแมร่งเมื่อไรวะ กูหมันไส้ฉิบ ...มันทำเพื่อนกูนะมึง กูว่าแล้วว่าต้องเอาเลือดมันออกแมร่งสักวัน” คิมพูด

“ที่แล้วมากูมีความสุข โดยที่กูไม่รู้ว่ากูกำลังมีความสุขอยู่คนเดียว ทั้งๆที่มันไม่ได้รู้สึกเหมือนกูเลย..สักนิด...กูเหนื่อย...เหนื่อยมากๆจนกูอยากหยุด ...แต่กูทำไม่ได้สักที” ไอ้คิมทิ้งหัวแรงๆ ก่อนจะนั่งข้างไอ้พิชที่ตอนนี้ไม่ต่างกัน ...น้ำตาผมไหลลงมาเหมือนไม่เคยออกมานานจนมันทะลักออกมาจนหยุดไม่อยู่

“อดีตมันกลับมาไม่ได้ มันกลับมาได้ก็แค่ความทรงจำที่มึงได้เคยทำ แล้วมึงจะมัวแต่ติดอยู่กับมันทำไม ในเมื่อวินาทีที่ผ่านไปมันก็เป็นอดีตไปแล้ว มึงเจ็บกับมันตอนนี้ กูก็เข้าใจ แต่ถ้ามันไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบ มึงจะทำให้มันมาทำร้ายปัจจุบันเหรอ มึงไม่ได้อยู่บนดวงจันทร์กับกระต่ายตัวหนึ่งหรอกนะ แต่มึงมีคนรอบข้าง มีสังคมที่มึงต้องเผชิญ มึงไม่ลองเปิดใจรับสิ่งใหม่ที่ดีกว่าจมอยู่กับคนที่ไม่ได้รักไม่ดีกว่าเหรอ” จบคำพูดไทป์ทุกคนต่างเงียบ

“...กูขออยู่คนเดียวก่อนได้ไหมวะ”

“แต่..”

“อืม แต่ขอบอกมึงไว้ก่อนว่า ไม่ว่ามึงจะตัดสินใจอย่างไร คนข้างหลังมึง พ่อ แม่ พี่ เพื่อน พวกกู จะอยู่กับมึงเสมอ” ไอ้ไทป์มองผมนิ่งก่อนตบบ่าผมแล้วพยักหน้าให้ไอ้เนมที่ลังเล มันคงกลัวผมจะคิดอะไรแปลกๆสินะ แต่ผมไม่ทำหรอกนะ ผมรู้ว่าไม่ใช่เพียงผมแค่เจ็บกาย เจ็บใจ แต่คนข้างหลังที่ไอ้ไทป์บอก เจ็บกว่าผมหลายเท่า
   
หากผมผมไม่หยุดเองตอนนี้ ...

“เดี๋ยว..ไอ้คิม..เรื่องค่ายกูตกลงนะ แล้วมึงช่วยหากิจกรรมหรืองานอะไรก็ได้ให้กูหน่อยได้ไหม” พวกมันมองหน้าผม ไอ้คิมพยักหน้า พวกมันคงรู้ว่าผมไม่อยากอยู่เฉยๆให้ความเหงากัดกินผมไปเรื่อยๆ

“มึงไปทำอะไร กูไปด้วยอิอิ” ไอ้เนมโผล่งขึ้น ไม่ว่ากี่ปี มันก็ห่วงผมเกินเหตุตลอดผมคิดและหัวเราะในลำคอ

“อิพ่องมึง มึงจะไปกันสองคนเหรอ เหอะ! กูทำด้วยนะ” ไอ้พิชรีบตอบออกนอกหน้าไม่แพ้ไอ้เนมเหมือนกัน

“ไอ้พวกจู๋เล็ก มึงไม่ต้องแย่งกัน ทำแมร่งทุกคนนี่ล่ะ”    

“เออ รีบไปเลยไปพวกมึง กูเบื่อหน้าละหึหึ”

“โหหไอ้สาด เมื่อกี้ใครแอบซบกูบนบ่าวะ นี่กูยังไม่ได้เช็คบิลเลยนะ ทำเสื้อกูเปียกซะอย่างกับตกคลองแสนแสบ” เนมเบะปากใส่ ผมรู้ว่ามันไม่อยากให้ผมเศร้า

“มึงไปได้ละไอ้เนม บ่นเป็นหมีแดกผึ้ง ถ้ามึงไม่ไปตอนนี้เดี๋ยวคงยันสว่าง”

“แหงะ พรุ่งนี้สอบนะมึงอย่าลืม.. ไอ้เชี่ย เออๆไปก็ได้แมร่ง จิ๊” ผมยิ้มขำให้กับเนม




นี่สินะ....มิตรภาพ....




TBC--------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-05-2013 14:36:45 โดย Calypso »

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
 :z6: เกียร์

ออฟไลน์ mind223

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

รอจร้าาา

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด