Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17  (อ่าน 283761 ครั้ง)

ออฟไลน์ Kaame

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
อยากจะกระโดดเตะเกียร์ อ้ากกกก   :z3:

ออฟไลน์ IRIS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 434
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
เกียร์ :beat:
หึงเค้าทำไมไม่บอกเค้าตรงๆ ถ้าไอรักตัดใจไปแล้วจะรู้สึก :m16:

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
บังอาจมารังแกเจ้าชายของเดี๊ยนได้ยังไงเนี้ย o18

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
ทำไมเกียร์ถึงพูดกับไอรักอย่างนั้น ทั้งๆที่น่าจะเข้าใจกัน
สงสารไอรักจังเลย เกียร์นิสัยไม่ดี

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
เกียรรรรรรรร์ นิสัยไม่ดีอะ ทำไมต้องทำร้ายเจ้าชายด้วยอะ

แอร้ยยยย เดี๋ยวจะยุให้ไปคู่กับไทป์แมร่งเลย

ปอลิง เกลียดพี่น้ำ มาให้ร้าวฉานทำม้ายยย

 :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ Calypso

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-0
Special GEAR




ผมชื่อเกียร์ เป็นผู้ชายคนหนึ่งเรียนวิศวกรรมศาสตร์ สาขาไฟฟ้ากำลัง ปีสอง อดีตรองเดือนวิศวะ ไม่ได้หน้าตาวิเศษวิโสอะไรมากมาย แค่สูงกว่าคนอื่น คิ้วเข้ม ผิวแทน ไม่ได้ขาวตี๋เหมือนสเป็คผู้หญิงสมัยนี้ ไอ้พัตบอกผมตาดุเหมือนนิสัย ซึ่งไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า แต่มันคงไม่โกหกหรอกมั้ง มีคนบอกว่าผมไม่ชอบพูด มืดมน แต่ถ้าโกรธขึ้นมาอะไรก็ห้ามไม่อยู่ เรื่องผู้หญิงก็ไม่ได้สนใจอะไร มีเอาไว้แค่ปลดปล่อยให้สบายตัวเท่านั้น แต่ไม่ได้ถี่เหมือนคนอื่นหรอก เพราะผมไม่ได้ติดเซ็กส์
 
เพื่อนผมเคยบอกว่าชาตินี้ผมคงรักใครไม่เป็นหรอกและผมก็คิดแบบนั้น

แต่ตอนนี้ ความคิดนั้นเหมือนจะสั่นคลอน..

“แก๊ๆๆ พวกแกดู เจ้าชายอะเจ้าชายยยยย” ไอ้สากรี๊ดกร๊าดเหมือนได้สามีเป็นไอ้ดิน เมื่อชายซึ่งจัดได้ว่าหน้าตาดีกลุ่มหนึ่งเดินมาทางสนามฟุตบอลที่พวกผมเล่นกันอยู่ ผมตั้งใจจะปรายตามองกลุ่มนั้นเพียงแวบหนึ่ง แต่ดันไปสะดุดกับผู้ชายร่างเพรียว สมส่วนแบบชายไทยปกติ ตาโตยิ้มสดใสตลอดทาง เหมือนชีวิตไม่เคยทุกข์ร้อนอะไร นี่ละมั้ง เจ้าชายอะไรที่ไอ้สามันว่า ผมหันกลับไม่สนใจอะไร

“เฮ้ยพวกมึงจะพักครึ่งก่อนเปล่า เดี๋ยวกูมาแปบนึงนะโว้ย” คิมเพื่อนใหม่ที่ไอ้มัดสนิทตอนเข้าชมรมด้วยกันตะโกนขึ้น คนอื่นพยักหน้าเป็นอันว่าพักครึ่ง ผมเดินไปข้างไอ้สาหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม แต่สายตามองไปที่คิมกับกลุ่มเพื่อนของมัน กลุ่มไอ้ตาหวานนั่นละ คนเหี้ยอะไรตาเหมือนแมวฉิบหาย ถ้ามันเป็นผู้หญิงแล้วมากระแซะออดอ้อน ผมว่าคงสายพันธุ์เดียวกับแมวแหงๆ ผมคิดในใจ

“เฮ้ยไอ้มัด เดี๋ยวกูคงต้องไปแล้วว่ะ โทษทีนะพวกมึง ไว้ค่อยเล่นใหม่” ไอ้คิมวิ่งมาตบไหล่ไอ้มัด ก่อนหันมามองผมแปลกๆ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย จึงเมินกับสิ่งรอบตัว เดินไปนั่งพักให้หายเหนื่อย กวาดตามองไปเรื่อย แต่ดันสะดุดกับไอ้สายตาแมวคู่นั้นอีก บังเอิญที่สายตานั้นก็มองผมอยู่พอดี ผมมองมันนิ่งเหมือนปกติ แต่ไอ้หน้าแมวมันดันยิ้มทั้งตาทั้งปากให้ผม ทำให้ผมที่ไม่เคยหลบสายตาใครต้องเสตามองด้านอื่น

รอยยิ้มเมื่อกี้เหมือนเป็นเทียนสว่างจุดในใจที่มันมืดมนแปลกๆ

ช่วงค่ำของวันหนึ่งผมเดินลงไปหาอะไรกินแถวตลาดโต้รุ่ง เมื่อคืนนั่งดูบอลกับพวกไอ้เหี้ยโฟ่ ขนม มาม่า บุหรี่ ในห้องแมร่งหายหมดห้อง กินหรือเอาเก็บไว้ในกระทุ้งแก้มไม่รู้ ทีหน้าจะไม่ให้มันมาดูบอลห้องผมละ ผมยืนรอทางม้าลายให้ถนนว่างก่อนเดินข้ามอย่างระมัดระวัง แต่มีบีเอ็มคันหนึ่งพุ่งมาอย่างเร็ว ผมกระโดดไปยังฟุตบาททำให้ขากระแทกกับฟุตบาทอย่างจัง

“เป็นไรไหมครับ”  ไอ้เหี้ย มึงก็เห็นอยู่ว่ากูเจ็บขา กวนส้นตีนนัก! ผมเคยหน้าไปมองคู่กรณี ไอ้หน้าแมวนี่หว่า ยิ่งเห็นหน้ามันแล้วโคตรอยากแกล้งให้ร้องไห้มากๆ ผมเลยแกล้งตะโกนด่ามันเสียเลย

“รีบไปตายตามพ่อมึงเหรอ ไอ้สัด” เหมือนมันอึ้งอะไรสักอย่างผมเลยใส่เต็ม ข้อหาทำผมบาดเจ็บแล้วยืนดูนิ่ง ช่วยพยุงก็ไม่มี มันน่าหมันไส้ไหมล่ะ

มันพามาโรงพยาบาลเอกชนหรูหราแห่งหนึ่ง ตอนแรกผมก็สงสัยเพราะมันขับผ่านโรงพยาบาลรัฐซึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ แต่ผมเก็บความสงสัยเอาไว้ ขี้เกียจเอ่ยถาม จะไปไหนก็ไป เอาให้ถึงมือหมอก็พอ จนได้เข้ามาในโรงพยาบาลนี่ละ ถึงได้เข้าใจ พนักงานก้มหัวให้มันทุกคน มันคงเป็นเจ้าของ รวยฉิบหายไอ้แมวเอ้ย

“แล้วมีอะไรให้ผมได้ไถ่โทษอีกไหมครับ” ก็ยังดี มันยังเป็นคนดีมารับผิดชอบ แต่ไหนๆกูก็เจ็บเพราะมึงละ มาเป็นเบ๊ให้กูเสียดีๆ

“มี”

“มารับ-ส่งกูทุกครั้งที่กูมีเรียนหรือจะไปไหน เลี้ยงข้าวกลางวันให้กู กูสั่งอะไรต้องทำ แค่นี้มึงทำได้ไหม”  หึ ลูกคุณหรูอย่างมันต้องปฏิเสธทันควันแน่ๆ

“ได้สิครับ” มันตอบสวนอย่างเร็ว จนผมตกใจ แถมคำตอบตรงกับความคิดของผมอย่างสิ้นเชิง และดูเหมือนไอ้ตาแมวมันจะระริกระรี้เกินเหตุ

"....."

 “ผมชอบคุณ ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ”

กูเงิบสิครับ

ผมตัดสินใจผิดไปใช่ไหมวะเนี่ยยยยยยย

หลังจากวันที่ผมตัดสินใจให้ชีวิตตัวเองวิกฤต การดำเนินชีวิตของผมก็พลิกไปอย่างสิ้นเชิง จากขับมอเตอร์ไซค์ไปมอ ก็ต้องนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้รถหรู จากไม่กินข้าวเช้า ต้องสูบบุหรี่ทุกเช้าก่อนมาเรียน ก็มีอาหารมาจ่อให้ถึงหน้า และไม่อยากให้รถหรูๆของมันมีกลิ่นบุหรี่ติด เดี๋ยวคุณหนูแมวมันจะไม่ชอบ อีกอย่างมันเป็นหมอคนด้วย มีกลิ่นบุหรี่ติดไปมันจะดูไม่ดี ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะใส่ใจเรื่องบ้าๆโง่ๆแบบนี้ทำไม แต่พอจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ แม่งก็ไม่อยากขึ้นมา ทั้งๆที่แต่ก่อนติดมันจะตายห่า

และมันก็ทำอย่างที่ผมขออย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง ทำไมผมจะไม่รู้ว่าบางวันมันไม่มีเรียนเช้า ก็แฟ้มตารางเรียนมันวางขั้นกลางระหว่างเบาะนั่งของผมกับมันตลอด แต่มันก็ยังยิ้มรับอรุณให้ผมเหมือนอารมณ์ดีที่ตื่นเช้า ต่างจากผม ตอนเช้าจะหงุดหงิดกว่าปกติ แต่อยู่กับมันไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกว่าตัวเองสงบขึ้นกว่าเก่า


ตอนมันเดินเข้าโรงอาหารวิศวะ เหมือนเป็นแกะขาวในหมู่กระทิงดำ ตัวมันขาวหล่อแต่ผมว่ามันไปทางน่ารักมากกว่า น่ารักแบบผู้ชาย ทั้งผู้หญิงผู้ชายหันไปมองตาเป็นมัน ผมก็ไม่ได้อะไร จนไอ้พัตเอาเท้าสะกิดเท้าผมว่าให้ดูเจ้าชายอะไรของมัน แมร่ง กูเจ็บขาอยู่ไม่เห็นเหรอวะสัด! มันเดินเข้ามาทักผมจนเป็นที่ฮือฮาของเด็กวิศวะ อะไรนักหนาวะ กูรู้จักมันแล้วมันน่าตกใจมากหรือไง พวกเพื่อนผมก็น่ารำคาญชะมัดเข้าข้างมันอยู่นั่นละ กูเจ็บ กูเป็นผู้เสียหายนะเฮ้ย!

แล้วชีวิตผมก็ไม่เคยสงบสุขเมื่อมาเจอมัน ขนาดผมไปดูพวกเพื่อนเตะบอล มันก็ยังตามมาอีก แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกเกลียดมันนะ แต่ไม่รู้เหมือนกัน มันรู้สึกแปลกๆ คนอื่นเขาไม่อยากจะมาคุยกับผม ขนาดผู้หญิงที่มองแต่ภายนอกมาชวนคุย ผมรำคาญจนไล่เตลิด แต่กับมันผมเห็นตาแมวๆหน้ายิ้มแย้มแบบนั้นแล้วมันรู้สึก .. เออช่างเหอะ

มันชอบมาบอกชอบผมโต้งๆ หยอดคำหวานให้ผมตายใจ คือกูเป็นผู้ชายไง ส่วนมึงก็เป็นผู้ชาย จะให้กูอายม้วนก็ยังไงอยู่ ไอ้ผมก็ทำได้แค่ทำเป็นไม่สนใจมันดิ มองโน่นมองนี่แทนตาหวานๆของมัน แต่ผมไม่เข้าใจว่ามันมาชอบคนอย่างผมได้ยังไง มันเพียบพร้อมที่จะไปหยุดอยู่กับผู้หญิงดีๆคนไหนสักคน แต่มันดันมาบอกชอบผม หรือมันแค่จะปั่นหัวผม?....

“ทำไมถึงชอบกูล่ะ คนอย่างมึงน่าจะหาได้ดีกว่านี้ เอ่อ กูหมายถึงผู้หญิงสวยอึ๋มประมาณนี้” ผมพยายามพูดให้ยาวที่สุด เพราะอยากพูด ไม่ใช่ฝืนใจพูด

“ชอบก็คือชอบครับ บางอย่างไม่จำเป็นต้องนั่งกังวลหรอก แต่เพียงยอมรับและเข้าใจมันให้ได้ ถ้าสวยอึ๋มน่ารักเป็นแม่ศรีเรือนขนาดไหนแต่ไม่ได้ชอบ มันก็บังคับความรู้สึกไม่ได้อยู่ดี ผมว่าคุณมีอะไรดีมากกว่าที่คุณรู้นะ ที่สำคัญเกียร์อย่าดูถูกตัวเองแล้วก็ความรู้สึกผมเลย”ผมถามมันประโยคสั้นๆ มันเสือกตอบมาซะกระจ่างเกือบทุกอย่าง แต่ผมสงสัยว่าทำไมมันพูดเหมือนรู้จักผมมานานอย่างนั้นละ พวกคุณสงสัยเหมือนผมไหม

“…กูคงห้ามให้มึงไม่ชอบกูไม่ได้สินะ” ผมไม่อยากหลอกตัวเองว่ากำลังรู้สึกดีกับคำตอบที่ได้รับมาก่อนหน้านี้

“อยากให้ผมเลิกชอบไหมล่ะ” ผมหันควับ เหี้ยสิ เฮ้ยแล้วนี่ผมจะเป็นเดือดเป็นร้อนทำไมวะ

“ถ้าเป็นอย่างนั้นคงเสียใจด้วย เพราะผมคงทำให้คุณไม่ได้หรอก” ผมลุกขึ้นพรวด กลัวมันเห็นว่าตอนนี้...ผมยิ้มแก้มแทบแตก

และผมก็ต้องรู้สึกว่าตัวเองกำลังเพี้ยน คิดว่าผู้ชายหน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศน่ารักฉิบหาย ก็ตอนที่มันเขินผมเรียกชื่อมันเป็นครั้งแรก

ตอนผมลากมันไปตลาดโต้รุ่ง เหมือนตลาดเป็นที่ตระการตาสำหรับคนอย่างมันมากๆ เห็นมันกินโน้นถามนี่แล้วรู้สึกอยากจะขำออกมาให้คนข้างๆได้ยิน เหมือนผมพาเด็กอายุสามขวบเที่ยวงานวัดเลยล่ะ ผมพามันมากินขนมจีนร้านดังของละแวกนี้ มันอร่อยจริงๆครับ แต่ดูเหมือนจะมีคนหนึ่งที่รู้สึกว่าขยาดมันเสียแล้ว ก็ไอ้แมวน้อยที่ผมพามามันดันกินเผ็ดไม่เป็น ร้องไห้เป็นสายเลยล่ะ มีหลุดคำหยาบออกมาด้วยนะ ถ้าเป็นคนอื่นมันจะไม่แปลกเลย แต่นี่เป็นมัน เจ้าชายของมหาลัย ผมจะบ้าตายเสียให้ได้ มันทำผมหัวเราะมาหลายครั้งแล้ววะวันนี้ ตอนมันสั่งก็กระอักกระอ่วนสั่งตามผมด้วยนะ เหมือนลูกเป็ดตามแม่เป็ดเลย ผมแอบขำมันเพราะเริ่มรู้แล้วล่ะว่ามันสั่งไม่เป็น

วันนี้ผมเรียนด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย อาจารย์ให้สอบโดยที่ไม่ได้บอกเด็กก่อนเลยสักนิด คนที่เข้าใจเนื้อหาก่อนหน้านี้แล้วก็รอดตัวไป แต่ไอ้คนที่ยังไม่เข้าใจแบบพวกผมสิ เกือบตายเหมือนกัน พอเลิกเรียนอารมณ์ก็ค่อนข้างลงตัว เพราะในสมองเปลี่ยนไปคิดเรื่องอื่น ไอ้ตาแมวจะมาถึงหรือยังไม่รู้ ส่วนใหญ่จะเห็นมันมนั่งรอก่อนผมเลิกตลอด

“กูไปละ”

“อ้าวเฮ้ยไปไหนวะ” ไอ้พัตตอบผม จะให้บอกไปนั่งรอไอรักมารับก็ยังไงอยู่นะ

“เรื่องของกู”

“จ่ะ ตามนั้นเลย” มันเบะปากให้ก่อนแล้วบอกลาไปเล่นบอล ผมเดินไปนั่งแถวม้าหินอ่อนริมถนน มันมาจะได้เห็นชัดๆ สงสัยวันนี้มันเลิกช้ามั้ง จะให้โทรไปถามก็ไม่ใช่ตัวผม

“เฮ้ยว่าไงมึง วันนี้อยู่คนเดียวเหรอวะ เดี้ยงอีก หึหึ” เสียงไอ้เหี้ยกิตดังขึ้นจากข้างหลัง สัด! ดันเจอมันตอนร่างกายไม่พร้อม

“ดูท่ากูควรจะเคลียกับมึงก่อนเสียแล้วม้างงง ฮ่าฮ่าฮ่า” ไอ้กิตมันไม่ถูกกับไอ้โฟ่ มีเรื่องกับมันก็คงไม่แปลก เพราะผมเป็นเพื่อนสนิทของไอ้โฟ่ ผมเดินตามมันไปซอกตึก

“มึงมีไรก็ว่ามา”

“ก็ไม่ว่าไง กูหมันไส้ว่ะ เห็นหน้ามึงแล้วนึกถึงไอ้เหี้ยโฟ่หึหึ” มันว่าแล้วก็ปล่อยหมัดมาทางผม แต่ผมหลบทัน ผมต่อยมันทั้งๆที่ใส่เฝือกอยู่ ทำให้ผมเป็นรองพวกมัน ไอ้เหี้ย!หมาหมู่

“ทำอะไร” เสียงหนึ่งดังขึ้น

“ห้ะ จะ..เจ้าชาย?!”

เหมือนว่าไอ้พวกกิตจะมีความเกรงต่อไอรักพอสมควร เหี้ยเอ้ย! ให้มันเห็นภาพน่าสมเพชอีกแล้ว ขากูก็เดี้ยง ถ้าไม่มีเฝือกห่านี่ พวกมึงคงตายคาตีนกูไปละแมร่ง แล้วมันดันมาถามอีกนะ ว่าสบายดีไหม ผมกลั้นขำแทบตาย มึงท่าจะบ้าเนอะ ไอ้หน้าแมว

ผมขึ้นคอนโดมันครั้งแรก นี่คอนโดหรือโรงแรมห้าดาววะ ใหญ่กว่าห้องกูสักสามเท่าได้ สงสัยมันเอาเนื้อที่ไว้ปลูกพืชผักสวนครัว ไอ้แมวนั่งทำแผลให้ผมอย่างประณีต ทำให้ผมลอบมองมันใกล้ๆได้ ยิ่งดูหน้ามันใกล้แล้วยิ่งคิดว่าคนเหี้ยอะไรวะ จะหล่อก็ได้ จะน่ารักก็น่ารักเหี้ยๆ ........เฮ้ยเมื่อกี้กูคิดอะไรวะ!!!

มันคงจะเป็นลูกครึ่ง ตาสีฟ้าน้ำทะเลที่ผมชอบ.. หมายถึงชอบมองเฉยๆ ตัวขาวอมชมพู ปากชมพูอ่อนชวนให้ผมเผลอเผยอปากตัวเอง ผมลอบมองจนมันทำแผลให้เสร็จ กะจะขอบคุณมันเสียหน่อยเลยดึงให้มันหันกลับมา แต่ไม่คิดว่าตัวมันจะเบาขนาดนั้นทำให้มันพลาดท่าล้มทับ ปากประกบกัน ผมตกใจมาก แต่ผมคิดว่ามันคงตกใจมากกว่าผมแน่ๆ แต่ปากมันนุ่มจนผมอยากกดให้แน่นขึ้น มือยกขึ้นจะจับท้ายทอย แต่มันรีบลุกขึ้นเสียก่อน ผมคิดในใจว่า..

‘เสียดายชะมัด’

ตอนมันคุยกับเพื่อน ผมรู้สึกตะหงิดๆ มันพูดเหมือนคนอื่นพูดกับเพื่อนนั่นละ มีวะมีโว้ย มึงกู แต่ผมฟังแล้วขัดหูยังไงไม่รู้ อยากจะเอามือไปตบปากมัน แต่คิดได้ว่าผมก็พูดกับมันอย่างนั้นนะ อีกอย่าง มันก็ไม่ได้เป็นอะไรกับผมเสียหน่อย แล้วจะไปเดือดร้อนชีวิตมันทำไม

เรานั่งดูหนังชีวิตซึ้งๆเรื่องหนึ่ง หนังไรวะแมร่งซึ้งฉิบ แต่ผมก็ไม่ได้ร้องนะ ล่าสุดที่ร้อง ก็คงเป็นเรื่อง...น้องชายคนเดียวของผม.. ผมนั่งดูไปสักพักก็ได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆ จึงหันไปมองไอ้แมวน้อยตัวข้างๆ ได้ยินเสียงแหมะๆบนแขนของมันเลยครับ ผมเลยยื่นทิชชู่ให้มัน ไม่รู้ดิ ถ้าเป็นคนอื่นมาร้องไห้ตรงหน้าผมก็เมิน เรื่องของมึง แต่กับไอ้แมวตัวนี้ มันจี๊ดแปลกๆ

ผมกับมันเดินเข้าผับแห่งหนึ่ง มันนั่งคุยกับเพื่อนผมก่อนขอตัวแยกไปหาเพื่อนมัน ผมไม่อยากให้มันห่างจากตัวเลยให้ตายสิ แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไปรั้งมัน กูเป็นโรคอะไรวะ หาสาเหตุไม่ได้

“มึงรู้ปะ เจ้าชายแทบไม่เคยร้องเพลงเลยนะ ทั้งๆที่เสียงเพราะมากอะ ฉันเคยได้ยินแค่ครั้งเดียวก็ตอนที่อาจารย์ขอร้องเจ้าชายในคอนเสิร์ตใหญ่ของมหาลัยอ่ะ”

“อ่าว ทำไมวะ หรือเจ้าชายขี้อาย ถ้ากูหน้าตาแบบนั้น กูจะสละความอายแล้วควงกับดาวทุกคณะอะ ฮ่าๆๆ”

“เหี้ยเหอะ เห็นว่าจะร้องให้เฉพาะคนสำคัญฟังเท่านั้น กูว่าเป็นกูแน่ๆ กริ๊ดดด” ผมหันไปมองมันที่เล่นเบสอยู่บนเวที ไอ้แมวมันเจิดจรัสมากๆเมื่อแสงสีสปอตไลท์ส่องไปทางมันที่อยู่บนเวที

มันมองหน้าผมตลอดสองเพลง ผมเข้าข้างตัวเองได้ไหมว่ามันกำลังร้องเพลงนี้ให้ผม แต่ดูมันร้องแต่ละเพลงให้ผมฟังดิ เป็นคุณ คุณจะเขินไหม ผมเป็นผู้ชายร่างถึกบึกบึนน่าโว้ย มาร้อง น่ารักอะ ชอบอะ อะไรของมันนนนนนน

แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ผมยิ้มขำเพราะความน่ารักของมันได้อย่างไรเล่า

“ใครจะบอกว่าเขาหน้านิ่งหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ผมว่าเขาน่ารักมากกว่านะ” มันพูดขึ้น ทำให้ผมขึ้นหวานให้มันทันที ผมพึ่งเห็นอีกมุมหนึ่งของมัน มุมขี้เล่น กวนตีนน่ารักๆ มันทำให้ผมยิ้มได้ตลอด สักพักมีผู้หญิงคนหนึ่งยื่นกระดาษมาให้พร้อมยิ้มยั่ว ถ้าเป็นปกติ ผมคงลุกออกไปพร้อมเสือสาวแล้วจบที่เตียงไหนสักแห่ง แต่ไม่รู้อะไรทำให้ผมรับมาฉีกทิ้งต่อหน้าผู้หญิงคนนั้น แล้วไม่สนใจคำด่าทอข้างหู ผมไม่สนใจใครทั้งสิ้น ไม่สนใจเพื่อนหรือคนอื่นจะมองอย่างไร จะสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น สายตาผมจ้องไปที่ผู้ชายคนหนึ่งกลางเวที

“เพลงเพราะไหมอะครับ” มันคงไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองตอนร้องเพลง เพราะผมเห็นตอนมันเล่นเบส มันเฉยจะตาย แต่พอจับไมค์ที ปากแทบสั่นอย่างกับพายุเข้า นี่มันคงไม่รู้ว่าตัวเองร้องได้น่ารักแค่ไหน

“หึหึ ก็ดี” ผมตอบตามแบบฉบับของตัวเอง

“แหม เพราะมากก็บอกมาเห้อะ ผมร้องให้คุณโดยเฉพาะเลยนะ”

“ลองร้องให้คนอื่นสิ..”ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมพูดคำนี้ออกไป แต่มันคงไม่ได้ยิน เพราะผมพูดเบามาก มันจึงถามอีกครั้งพร้อมยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ผมเห็นแก้มเนียนนั้น อดไม่ไหวที่จะฝังจมูกลงไปบทแก้มใสๆนั้น แล้วคำแก้ตัวที่แย่ที่สุดออกไปจากปากตัวเอง

“..โทษที ปากมันไปเอง”

ผมคงบ้าแล้ว

แล้วผมก็บ้าจริงๆ

เมื่อเห็นมันมากับไอ้รุ่นพี่หน้าอ่อนนั่น เสือกพูดจาไม่เข้าหูผมอีกนะ ปรี๊ดเลยครับกูปรี๊ดเลย พาลโกรธไอรักทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่ผิดอะไร แต่มันหงุดหงิด ไม่รู้ว่าตัวเองโมโหอะไร แต่แมร่งงงงง โมโหโว้ยย

แล้วมันดันง้อผมโดนการมาสถานที่ที่ผมไม่อยากมาที่สุด เจริญเหอะ กูจะหายโกรธมึงไหมละ แต่ผมก็ไม่ได้โกรธมันหรอก ยิ่งมันชวนทำโน่นทำนี่ให้ลืมความเจ็บปวดกับที่นี่ไป ซึ่งมันก็ทำให้ลืมได้จริงๆ ถึงแม้ว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น ผมตัดสินใจเล่าเรื่องนั้นให้มันฟัง ทั้งๆที่ไม่จำเป็นต้องเล่าก็ได้ แต่ไม่รู้ทำไม อยู่กับมันแล้วสงบ อยากระบายก็ระบายได้อย่างสบาย อยากทำอะไรก็ทำ อยากให้มันรู้เรื่องของผมบ้าง อยากให้มีใครเข้าใจผมบ้างสักคน…

แล้วมันก็ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นจริงๆ ทั้งความรู้สึกกับที่นี่ และกับมัน.. ผมเผลอจูบมันรอบสอง มันหวานเหลือเกิน มันรู้สึกดีจนไม่อยากผละมันออกเพียงวินาทีเดียว มือผมอยู่ไม่สุข เผลอจับตัวนุ่มๆของมัน จนมีมือเล็กๆดันอกผมนั่นละ

ผมกับเพื่อนๆพามันไปกินข้าวหลังทำโปรเจคกลุ่มเสร็จ มันแปลกเหรอที่ผมยิ้มให้มัน เพื่อนๆผมแซวอย่างกับผมไม่เคยยิ้มอย่างนั้นละ หรือจะเป็นอย่างนั้นวะ ไม่รู้เหมือนกัน จำไม่ได้แล้วว่ายิ้มครั้งล่าสุดตอนไหน และวันนั้นผมก็พึ่งรู้ว่ามันก็เพลย์บอยตัวยงไม่แพ้ใคร ดูแค่หน้าเพื่อนของมันก็น่าจะรู้ละว่าเจ้าชู้แค่ไหน แล้วนี่ทำไมกูต้องหงุดหงิดวะแมร่ง!

แล้วก็โคตรหงุดหงิดอีกรอบก็ตอนมันคุยกระดี๊กระด๊ากับปลายสาย ชื่อติม เติมเหี้ยไรไม่รู้  หมันไส้ว่ะ ทั้งมัน ทั้งปลายสายนั่นละ ห่าเอ้ย แล้วพึ่งมารู้ทีหลังว่าพี่ติมอะไรของมันนั่นเป็นพี่ชายแท้ๆของมัน กูก็หน้าแตกดิ มันคงไม่รู้หรอกว่าผมหงุดหงิดมันเรื่องนี้แค่ไหน ใครรู้แล้วก็เบาๆหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวมันรู้ตัว

มันจะรักพี่ตัวเองอะไรขนาดนั้นวะ ถึงขนาดนั่งคร่อมตักกัน กูจะบ้าตาย แมร่งคิดดูดิ ผมที่มันบอกชอบนักชอบหนา นั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ ส่วนมันไปนั่งตักพี่ชายมัน หอมโน่นจุ๊บนี่ แต่กับกูนี่ไม่มีสักแอะ แล้วพี่แมร่งโคตรน่ากลัว มองอย่างกับผมไปฆ่าไอแดดกับไอหมอก ถามกูแต่ละคำ ผมนึกว่ากำลังให้ปากคำกับตำรวจอยู่ แต่แม่ไอรักน่ารักสุดๆ สวยมากครับ เห็นบอกว่าเคยโดนทาบทามไปเป็นนางแบบที่จีนด้วยนะ แต่โดนพ่อมันไล่เตลิด พ่อมันหน้าดุมากครับ เหมือนพี่ไออุ่นเลยล่ะ ดีอย่างที่ใจดีไม่เหมือนหน้าตา แต่พี่ไออุ่นนี่ดุทั้งหน้าทั้งนิสัย จะดีก็ต่อเมื่อคุยกับน้องรักเขานั่นแหละ แล้วผมขอเผาหน่อยเหอะ ตอนที่มันบอกให้เลี้ยวเข้าบ้านหลังนี้ บ้านหรือคฤหาสน์วะ แค่รั้วก็สูงฉิบหายแล้ว เข้ามาก็ต้องมีพิธีดีตองในการวนรอบน้ำพุก่อนจอดรถด้วยนะ เหนื่อยไหมวะ ผมถามรถอะ เหนื่อยไหม ส่วนหมามัน น่ารักมากๆ แต่เสียดาย หยิ่งไปหน่อย ติดคุณหนูฉิบ นี่ขนาดหมานะ แม่บ้านใส่ชุดฟอร์มก็เดินตัวตรงอย่างกับผ่านการฝึกทหารมาอย่างไงอย่างนั้น กูละขำกับสิ่งมีชีวิตในบ้านนี้สุดๆ

ผมกับมันเดินซื้อของในห้างแถวๆมอ ผมก็ไม่ได้ซื้อของตัวเองหรอก ซื้อให้ไอ้คนข้างๆนั่นแหละ พอมันถามว่าซื้อไปทำห่าไรเยอะแยะ ผมก็ตอบไม่ถูก มันจุกอยู่ในคอ เลยบอกซื้อไปให้ใครบางคน มันก็เงียบไปเลย จนมาถึงลานจอดรถ ผมทนไม่ไหวเลยจะถามว่าเป็นอะไร แต่ไอ้รุ่นพี่หน้าอ่อนแมร่งพูดแทรกขึ้นมา กูหมั่นไส้แม่งสัดๆ อยากจะกระทืบหน้ามันให้ยับเยินตั้งแต่คราวก่อน ยิ่งมันมาออเซาะไอ้แมว กูเหมือนจะเป็นบ้า แต่ผมรู้สึกแปลกๆเวลามองมันทั้งสองคนยืนข้างกัน

ทั้งคู่ดูเหมาะสมกันเกินไป

คนหนึ่งหล่ออย่างไม่มีที่ติ อีกคนน่ารักแบบเด็กๆ ถ้ามันคบกันคงรู้สึกดีกว่าต้องมาอยู่กับผู้ชายห่วยๆแบบผมที่ไม่มีอะไรดีเลิศเลอเลยสักอย่าง ผมกับมันต่างก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน เราไม่คู่ควรกัน มันผิดเหลือเกิน ถ้าผมกับมันจะรักกัน ความน้อยใจเข้ามาแทรกในความรู้สึก แล้วยิ่งมันอ้ำๆอึ้งๆตอนไอ้หน้าอ่อนกระแนะกระแหนไปคอนโดมัน ผมอยากชกหน้ามันมาก แต่ทำไม่ได้ ไหนบอกชอบกูนักหนาไง แค่เลือกแค่นี้มึงยังลังเล ตอนนั้นผมโกรธมันมากๆ เลยพูดทำร้ายจิตใจมันไป มาคิดอีกครั้งก็ต้องกุมขมับตัวเอง ผมพูดอะไรไป

ผมทำร้ายจิตใจคนที่มีรอยยิ้มที่สดใสที่สุดลงไป...

หลังจากวันนั้น มันก็หายไปจากชีวิตผมอย่างที่ผมต้องการ ไม่มีการโทรหา ไม่มีการตามมารับมาส่งเหมือนเคย ผมควรจะยินดีกับการสละพันธะบ้าๆบอๆนี้ไม่ใช่เหรอ แต่ทำไม...ผมไม่รู้สึกมีความสุขขึ้นเลยล่ะ

“เฮ้ยไอ้เกียร์ เป็นเหี้ยไรเนี่ย” ผมเงยหน้ามองมันจากการรอคอยเสียงโทรศัพท์

“ไร”

“ไม่ไรหรอกสัด กูเห็นวันๆมึงจ้องแต่โทรศัพท์ ไม่ทำเหี้ยอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แล้วไอ้เจ้าชายหายไปไหนวะ ปกติเห็นมาหามึงทุกเช้าเย็น” กูเป็นคนไล่เขาไปเองละ

“อ้าวมึงไม่รู้อะไรไอ้พัต เห็นเขาว่าเจ้าชายมีแฟนเป็นรุ่นพี่ศิลป์-กำชื่อน้ำอะ ที่สำคัญ เป็นผู้ชายนะโว้ย ปกติกูเห็นควงแต่ผู้หญิง สงสัยพี่น้ำแม่งมีของดีว่ะ ฮ่าฮ่า” ผมทำเป็นไม่สนใจ วางโน๊ตบุ๊คกระแทกโต๊ะเสียงดัง ทำเป็นกดโน่นกดนี่ แต่ในใจกระวนกระวายเหมือนแมวโดนน้ำร้อน

“เฮ้ย รวยเหรอสัด วางซะเสียงดัง ไปโมโหใครมาวะ เออมึงอย่าลืมรายงานอังกฤษนะโว้ย วันนี้กูจะรวบรวมไปส่งแล้ว เหลือของมึงกับไอ้โฟ่อะ รีบๆทำเลยสาดด” เออว่ะ ลืมสนิท ผมเปิดไฟล์งานที่ทำค้างไว้ครั้งก่อน แต่ก็ต้องประหลาดใจ งานทำเสร็จหมดเรียบร้อย ถูกต้องแถมมีการแก้ไขให้ดีขึ้นกว่าเก่าอีกต่างหาก ผมฟุบลงบนแป้นพิมพ์ กำหมัดแน่น ...ไอรัก...

ผมโกรธตัวเอง โกรธจนอยากทำร้ายตัวเองให้มันเจ็บ เจ็บกว่าตอนที่เห็นสีหน้ามันก่อนเดินจากมา หลายวันที่ผ่านไปเหมือนเอาร่างไร้วิญญาณไปเรียน หนวดไม่โกน ผมเผ้ารุงรัง เหมือนโจรเข้าไปทุกวัน จนไอ้พวกไอ้สาต้องจับมาโกนหนวด มันไม่รู้ว่าผมเป็นไร ผมไม่ได้บอก ถึงแม้ว่ามันจะถามซ้ำแล้วซ้ำเล่า วันไหนที่ผมเข้ามินิมาร์ท ผมพยายามไม่มองเชลล์วางนมช็อกโกแลต วันไหนที่กินข้าว ผมไม่มีแรงแม้แต่จะใส่พริก ทั้งๆที่ผมชอบกินเผ็ด ผมไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับความรู้สึกนี้ได้อย่างไร

...ความเหงา..

...คิดถึง..

...อ้างว้าง..

...อ่อนแอ..

...กลัว..

…จากลา..

...เดียวดาย..


ถ้าหากผมได้เจอกับเขาอีกครั้ง.. ผมจะบอกเขาว่า…










TBC--------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>




ปีนี้ไม่ได้กราบพ่อเลย

แต่นั่งคุยกัน ยิ้มให้กัน ให้เวลาอยู่กับพ่อทั้งวัน หากิจกรรมทำร่วมกันกับครอบครัว

ถือว่าเป็นวันหยุดที่วิเศษที่สุดจริงๆค่ะ

สุขสันต์วันพ่อนะคะ


โซ่♥
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-05-2013 23:36:49 โดย Calypso »

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
ตามไปง้อเส่ะ เชอะ

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
โทไปง้อดิพ่อคู้ณณณณณณณณณณณ

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
55555 โอยยยน่ารักอะ

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
เกียร์ใจร้ายอะ แต่มันก้เพราถน้ำใช่มะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
อะไรนะ เป็นแฟนกับพี่น้ำไปล่ะเรอะ

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
ฮือออออออออออ  :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ง้อเลยจ่ะเกียร์จ๋า ง้อเลยๆๆ  :m17: :m17: :m17: :m17: :m17:

แล้วอิพี่น้ำนี้นะ  :m16: :m16: :m16: :z6: :z6: :z6: :beat: :beat: :beat:

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
สมน้ำหน้าเกียร์อยากปากไม่ดีมาว่าไอรัก

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
ตามไปง้อ เร็วๆเลย
เดี๋ยวก็โดนคนอื่นแย่งไปหรอก
สมน้ำหน้า โกรธแล้วทำไมไม่ควบคุมตัวเองดีๆ
ไปลงกับเจ้าชายทำไม
รีบๆไปง้อเลย  :a14: :a14:

ออฟไลน์ IRIS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 434
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
ไหนๆ ก็รู้ตัวแล้ว ก็ตามไปง้อเค้าซะสิ..

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
ไปขอโทษนายเอกเราเลยพ่อน้ำแข็ง!!

มัวแต่ปากแข็ง อย่างนี้เดี๋ยวไอรักหายไปแล้วจะเสียใจ

สงสารไอรัก ป่านนี้เป็นยังไงแล้วเนี่้ยย เพราะไอหนุ่มช่างซึนคนเดียวเลย โว้ะ !!



+เป็ดค่า

ออฟไลน์ Calypso

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-0
ตอนที่10




หลังจากวันนั้นผมตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือ เข้าแลป กลับคอนโด นอน เหมือนวัฏจักรหุ่นยนต์ ส่วนพวกไอ้พิชผลัดกันมาหาผมที่คอนโดบ้าง ซื้อข้าวมาให้บ้าง มานอนค้างบ้าง มันบอกไม่อยากปล่อยให้ผมอยู่คนเดียว ทั้งๆที่ผมบอกมันว่าอยู่ได้จริงๆ แต่มันกลับตอบมา

‘มึงเห็นสภาพตัวเองตลอดสาม-สี่อาทิตย์ที่ผ่านมาปะ เหมือนซากศพเดินได้ โทรมฉิบหาย กินข้าวไม่ถึงห้าคำต่อมื้อ กูเห็นแล้วสุดจะทนว่ะ อีกอย่างไอ้พวกแฟนคลับมึงถามกูทุกเช้าว่าเจ้าชายเป็นอะไร ไปๆมาๆเสือกโทษกูซะงั้นว่าไม่ดูแลมึง เวรกูอีกไง’

ส่วนพี่น้ำก็มาป้วนเปี้ยนในชีวิตผม โทรมาคุยทุกคืน คอยส่งข้าวส่งน้ำให้ถึงคณะ จนข่าวลือออกไปต่างๆนาๆว่าผมมีเจ้าของแล้วบ้าง เปลี่ยนรสนิยมแล้วบ้าง แต่ผมยังคงทำตัวเหมือนเดิม ใครเขาให้ทำอะไรก็ทำ ให้อะไรก็ยิ้มรับ ถึงแม้ว่ารอยยิ้มนั้นจะไม่ได้สดใสเหมือนเคยก็ตาม



“แลปกริ๊งหรือแลปกริ๊ดวะ กูอยากอ้วกตั้งแต่เห็นข้อสอบ”ไอ้คลื่นไส้ปาดน้ำตาบ่นงุ้งงิ้งหลังออกจากห้องสอบ

“มึงทำได้ปะ” บอสหันมาถาม

“ไม่รู้ดิ”

“ห่า มึงทำฐานคะแนนสูงลิบขนาดนี้ วิชานี้เสือกตัดเกรดอิงกลุ่ม คนอื่นเลยได้กันต่ำเพราะมึง ถ้ามึงทำไม่ได้ พวกกูคงดิ่งลงเหวละคราวนี้ เบลอสัด”ไอ้คลื่นหันมาแว๊ดใส่ผม

“กูก็เบลอว่ะ”

“มึงก็ทำไม่ได้เหมือนกันใช่ปะ”

“เปล่า อาจารย์คุมสอบแมร่งสวยฉิบหาย ฮ่าฮ่าฮ่า”

“ถุยย ไอ้เนมมึงไม่รู้เหรอวะว่าอาจารย์คนนั้นเขาเป็นกระเทยโว้ย” พอคลื่นพูดจบ ไอ้เนมหน้าซีดกว่าตอนออกมาจากห้องสอบ

“เฮ้ย กูไม่เชื่ออะ ..ไอ้บอสมึงก็ไม่เชื่อใช่ปะ”

“ตอนแรกไม่เชื่อ แต่เมื่อวานก่อนได้ยินอาจารย์บอกรักไอ้ไอรักในห้องน้ำชายก็เลยเชื่อ”

“เชี่ยยยยยรักกกก!!!” ผมทำหน้ามึนๆไปให้มัน

“เงียบ! แล้วไปกินข้าวได้แล้ว” สิ้นเสียงไอ้บอส ทุกคนก็เดินขึ้นรถไอ้บอสไปอย่างเงียบๆ




…………………………...............................................




“ไอ้บอส มาขี่คอกูดิ” คลื่นพูดหลังจากที่เดินเข้ามาในโรงอาหารรวม ส่วนมากคนที่มากินจะเป็นวิศวะที่ใส่เสื้อช็อปกับมนุษยศาสตร์มากกว่า ทำให้คนเสื้อกาวน์สีขาวอย่างพวกผมเป็นจุดเด่นขึ้นมาทันตา

“อยากคอหัก?”

“งะ ก็มึงดูดิคนเยอะจนจะขี่กันได้ละ มึงชวนพวกกูมากินที่นี่ทำกึ๋นหมูอะไรวะ” มันหันไปถามไอ้เนม

“เดี๋ยวไอ้พวกพิชมากินด้วย มันคิดถึงลูกมัน” ว่าแล้วมันก็ปรายตาใส่ผม ชวนให้หมันไส้นะมึงนี่

“เออๆ ว่าจะไปเยาะเย้ยไอ้คิมถึงคณะเสียหน่อย หึหึ..เดี๋ยวกูกับไอ้เนมไปซื้อข้าวให้แล้วกัน มึงหาโต๊ะไปก่อน จะได้ไม่เสียเวลา”เมื่อวานไอ้คิมมันท้าไอ้คลื่นแข่งรถ หนึ่งต่อหนึ่งครับ แต่ดันแพ้เสียเอง ของเดิมพันก็คงไม่พ้นเรื่องผู้หญิง ผมก็นั่งดูอยู่ด้วยนั่นละ แต่ไม่ได้มีอารมณ์ร่วมเหมือนคนอื่นที่ยืนเชียร์โหวกเหวกโวยวายข้างสนาม

“นั่งไหนดีวะคนเยอะสัด” บอสพูดแล้วขมวดคิ้วมองหาที่นั่ง อีกสิบนาทีถ้าไม่มีโต๊ะนั่ง เสี่ยบอสคงระเบิดลงชุดใหญ่แน่ๆ แต่คนก็เยอะอย่างที่พวกมันบ่นนั่นละ ปกติผมยิ้มจริงใจให้ใครคนไหนก็ตกหลุมพราง ลุกให้นั่งตลอด แต่ตอนนี้ยิ้มไม่ออกยังไงไม่รู้ เพราะเสียงไอ้พัตมันเข้ามาในโสตประสาท...


“อ้าวเจ้าชาย ไปอยู่ไหนมาวะ ไม่ได้เจอนานเลยนะโว้ย” ผมหันไปยิ้มฝืนๆให้มัน ใจกระตุกไปเล็กน้อย ถึงผมจะพยายามมองหน้าพัตอย่างดียว แต่หางตาดันเห็นว่ามันมองมาทางนี้ มันคงถอดเฝือกอ่อนแล้วสินะ ..ดีแล้วล่ะ

“เดี๋ยวนี้ติดหญิง เอ้ย หรือว่าติดชายวะ ได้ข่าวว่าชื่อน้ำอะไรนั่นปะ ฮิ้ววว” ไอ้แว่นแซวขึ้น ผมยิ้มรับให้กับข่าวลวง

“ไม่มีโต๊ะนั่งกันเหรอคะ มานั่งกับสาก็ได้มา อิอิ”

คนน่ารังเกียจอย่างผม คงไม่อยู่ให้ใครรำคาญใจหรอก อยากจะตอบไปอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ

แต่ทุกคำพูดที่อยากจะพูดออกมามันจุกอยู่ที่คอ

“โถอีสา ทีกับกูละตบเอาตีเอา แรดจริงๆมึงนิ”

“พวกมึงหุบตูดไปเลยไอ้มัด ไอ้สา นั่งเลยเจ้าชาย”

“อ่อไม่ดีกว่าครับ..ไปกินหน้ามอแล้วกันบอส” ผมตอบโฟ่ก่อนหันไปบอกบอสที่ทำหน้าโหดจ้องเกียร์เขม็ง ผมรู้ว่าพวกมันห่วงผมทุกคน ผมกระตุกข้อมือบอสเบาๆก่อนมองมันด้วยสายตาอ้อนวอน ไม่อยากให้มีเรื่องกัน เพราะผมก็..ยังห่วง..มันเหมือนกัน

“ไปเถอะ” ก่อนที่ใจผมจะเจ็บไปมากกว่านี้ ผมบอกมันต่อในใจ ไอ้บอสโทรบอกเนมว่าเปลี่ยนไปกินหน้ามอจากนั้นก็เดินไปรอมันแถวลานจอดรถ

หมับ!!

“เดี๋ยว” เสียงทุ้มที่..เคย..คุ้นเคยดังขึ้นให้รู้สึกเจ็บแปลบๆที่อกพร้อมมือใหญ่รั้งแขนผมเอาไว้จากข้างหลัง

อย่า

อย่าทำให้ผมคิดไกลไปมากกว่านี้

ได้โปรด

อย่าทำร้ายใจกันไปมากกว่านี้เลย

ผั๊วะ!!

“ไสหัวของมึงไปซะ!” เสียงหมัดไอ้บอสกระทบเข้าหน้า มันเซถอยจนเกือบล้ม เลือดติดอยู่มุมปาก ทำเอาใจผมแทบขาด มันสวนหมัดเข้าหน้าบอสอย่างไม่ยอมกัน ผมยืนนิ่งไร้เรี่ยวแรงที่จะก้าวเมื่อเห็นหน้าแสนคิดถึงมาตลอดหลายอาทิตย์ จนพวกไอ้เนมไอ้พิชวิ่งเข้ามาห้ามก่อนที่จะแย่ไปมากกว่านี้

“เฮ้ย หยุด ไอ้บอสหยุดโว้ยย” ไอ้คิมดึงไอ้บอสมายืนข้างตัว ส่วนไอ้คลื่นดันตัวมันให้ห่างจากกัน แววตาดุดันของมันตอนนี้ที่ผมเคยเห็นเป็นครั้งแรกจ้องไปที่ไอ้บอสอย่างไม่ละสายตา

“เกียร์ มึงมีอะไร” ไอ้ไทป์ถาม เจ้าตัวไม่ตอบแต่กลับหันมาพูดกับผม

“ไอรัก เกียร์อยากคุยด้วย ..แปบเดียว”

“โหไอ้สัด ล่าสุดใครไล่เพื่อนกูอย่างกับหมูกับหมาวะ แล้วเสือกขอเวลาเพื่อนกูแปบเดียว ค-ย!!” ไอ้เนมทำท่าจะวิ่งไปต่อยมัน แต่ไทป์ห้ามเอาไว้

“เพื่อนกูเคยให้โอกาสนั้นแล้ว โอกาสที่จะให้มึงตัดสินใจ แล้วตอนนี้เพื่อนกูก็รู้แล้ว ว่าคำตอบมึงคืออะไร ดังนั้นมึงจะขอมันอีก พวกกูคงให้ไม่ได้ ไม่ใช่แค่ตอนนี้..แต่มันคือหลังจากนี้ด้วยต่างหาก”หลังจากนี้หมายความว่าอะไร ไทป์กับมันสบตากันนิ่งปล่อยให้คนอื่นมองกันงุนงง

“นี่มันเรื่องกูกับไอรัก มึงอย่ามายุ่ง!”

“ใช่ มันเรื่องของไอ้รัก แต่ไอ้ไอรักมันคือเพื่อนกู แล้วกูก็รู้ด้วยว่าตอนนี้มันอยากจะไปไกลๆจากตรงนี้ ใช่ไหมไอ้รัก” ผมสะดุ้งเพราะพวกมันเล่นหันมามองผมทุกคน ผมมองหน้ามันที่รอคำตอบด้วยความหวังก่อนหยักหน้า รีบหันหลังให้กับสีหน้าตัดพ้อไม่ต่างอะไรกับตอนที่ผมมองมันจากไปคราวนั้น..ผมกลัว ผมไม่อยากเจ็บเหมือนครั้งก่อน




“เมื่อกี้ที่มึงบอกหลังจากนี้หมายความว่าไงวะ” ตอนนี้พวกผมไม่มีอารมณ์จะไปไหนแล้ว พวกมันจึงยกโขยงมาคอนโดผมกัน ผมนั่งนิ่งหลับตาให้อารมณ์สงบอยู่บนโซฟาตัวใหญ่หน้าทีวีที่ไอ้เนมเปิดช่องการ์ตูน ส่วนอาหารมื้อนี้คงต้องพึ่งคลื่นกับบอส ไอ้คลื่นมันทำอาหารเก่ง ส่วนไอ้บอสทำอะไรไม่เป็นสักอย่างแต่เสือกโดนอ้อนให้ไปช่วยในครัว มันก็ต้องไป เพราะเดี๋ยวมันจะโดนไอ้คลื่นงอนจนไม่ได้กินอีก ไอ้พิชกับคิมลงไปซื้อเหล้าบุหรี่ข้างล่างสักพักก็ขึ้นมาตั้งวงเหล้า พอดีกับคลื่นทำอาหารเสร็จ

“หึ หลังจากนี้ชีวิตไอ้รักคงต้องโดนรังควานจนกว่าใครสักคนจะหมดความอดทนไงละ” ไทป์พูดขึ้น พลางกระดกเหล้าเพียว

“ยังไงวะ” ผมถามมันไปงั้น ทั้งที่ในใจไม่อยากจะรับรู้อะไรทั้งสิ้นแล้ว ขณะที่คนอื่นทำหน้าเหมือนถึงบางอ้อกันแล้ว

“ช่างแมร่งเหอะ เอาเป็นว่ากูดูมันออก”

“มึงอะเฉยๆไปเลยเถอะไอ้รัก” อ่าว อ๋อ นี่มันคือเรื่องของมึงสินะ ไม่ใช่เรื่องของกูหรอก ไอ้เชี่ยยย กูยิ่งนอยอยู่

“แต่กูไม่อยากได้ไอ้เหี้ยเกียร์มาควบตำแหน่งนี้วะ แมร่งจะใครก็ได้ที่ไม่ใช่ไอ้ห่านี่อะ” ไอ้คิมทิ้งหัวแรงๆก่อนทำหน้ามุ่ย

“ถ้ามันใจตรงกันจริงๆ มึงก็หยุดพวกมันไม่ได้ อะไรที่ควรสนับสนุนก็ควรทำ..เอาเป็นว่าตอนนี้เราเล่นเป็นตัวร้ายคอยกีดกันพวกมันก็แล้วกัน หึหึ” ไทป์พูดกับไอ้คิมแล้วกันไปพูดกับทุกคน ทิ้งให้ผมนั่งงงอยู่คนเดียว

-Let the skyfall, when it crumbles, we will stand tall Face it all together…-

“ครับพี่น้ำ” พวกมันหันมามองผมก่อนยิ้มกรุ้มกริ่มชั่วๆให้กัน ผมเห็นแล้วขนลุกยังไงไม่รู้สิ

‘อยู่ไหนครับน้องไอรัก พี่ไปหาไม่เจอเลย คิดถึ๊งคิดถึงงะ’ เสียงเล็กๆสดใสลอยมาตามสาย อดถามตัวเองไม่ได้ว่าใครเป็นพี่ใครเป็นน้องกันแน่นะ

“อยู่วงเหล้าครับ”

'โห กินแต่วันเลยเหรอ ไม่ดีมั้ง ระวังคุณหมอจะต้องมารักษาตัวเองนะ คริคริ'

“โหพี่ครับ ผมยังไม่เป็นหมอนะ เป็นแค่นิสิตแพทย์ต๊อกต๋อยเอง”

'น้องไอรักเก่งอยู่แล้ว พี่เชื่อนะว่าน้องไอรักต้องเป็นหมอที่ดีได้แน่ๆ' เสียงเล็กจริงจังขึงขังขึ้นมาทันที ผมอดยิ้มตามไม่ได้ คุยไปสักพักรู้สึกเหมือนคุยกันหลายคนยังไงไม่รู้ ก็เพื่อนผมแทบจะเอาหูแนบโทรศัพท์อยู่แล้ว ผมจึงตัดบทวางสายไป


“ห่า เสียงน่ารักฉิบหาย หน้าตาก็จิ้มลิ้ม” เสียงไก่กายุยงเสียงดัง

“เออ บอบบาง น่าทะนุถนอมเป็นที่สุด หึหึ” พิชพูด

“ตะเอง เค้าคิดถึ๊งคิดถึงงะ กร๊ากก” ไอ้เนมตาม

“ว่าแต่พี่น้ำนี่เขาก็ดีนะไอ้รัก ถามจริงเหอะ มึงไม่สนใจเขาเลยเหรอวะ”

“...พวกมึงก็รู้คำตอบนั้นดี” ผมตอบคิมแล้วทิ้งตัวหลับตาลงนอนโซฟาตัวเดิม



......................................................................................




“อนาโตมี่ร้ายกาจจจมาก” ไอ้คลื่นบ่นหลังออกจากห้องสอบเหมือนเคย มึงกะบ่นทุกวิชาที่สอบใช่ไหม

“เออแมร่ง ตอนบ่ายก็มีเรียนอีกตัว หัวกูจะแตกอยู่แล้วโอยย” เมื่อมีไอ้คลื่นบ่น ตัวสนับสนุนอย่างไอ้เนมก็ต้องบ่นตาม

“ฮืออแดกข้าวเหอะ หิวว่ะ”

“มึงควรหยุดบ่น แล้วไปกินข้าวได้ตั้งนานละ มัวแต่บ่นอยู่แบบนี้โรคกระเพราถึงได้ถามหา” ไอ้บอสหันไปดุคลื่น

“งือ ...แต่เมื่อกี้กูจะบ้าจริงนะโว้ย ออกมาฆ่านิสิตหรือไงวะ บลา บลา บลา..”มันบ่นงุ้งงิ้งให้ไอ้บอสที่ปิดรับทุกประสาทฟัง

“ไอ้รัก แล้วไอ้เชี่ยเกียร์ได้มาหามึงบ้างหรือเปล่าวะ” จู่ๆไอ้เนมหันมาถาม เท้าผมชะงักก่อนหลบตากลืนน้ำลายตอบมัน

“..มันจะมาสนใจคนอย่างกูได้ไง” หลังจากวันนั้นก็ผ่านมาสี่วันแล้ว แต่มันเหมือนพึ่งเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นเมื่อวาน ชัดเจนไม่เคยเลือนลาง

“เฮ้ย กูขอโทษ อย่าหงอยดิวะ แมร่งไม่ใช่มึงเลยอะ ใครไม่สนใจมึงไม่เป็นไร มีพวกกูอยู่ก็ไม่ต้องเหงาแล้วสาด มาๆเดี๋ยวมื้อนี้กูเลี้ยงมึงเอง แถมนมช็อคด้วยเลยอะ เอ้า ยิ้มหน่อยยย”

“หึ”ผมยิ้มแสยะไปให้มันก่อนที่มันจะเบ้หน้าอย่างบิดเบี้ยว

“...แต่กูว่ากูไม่ได้เลี้ยงมึงแล้วว่ะ ไอ้เหี้ยโย่งนั่นยืนหัวโด่แต่ไกล”

“อะไร” ผมมองตามมือที่ไอ้เนมที่ชี้ผู้ชายร่างสูงชุดช็อปใส่แว่นกันแดดสีชายืนกอดอกพิงต้นไม้อยู่ไกลๆเป็นที่สนใจของเด็กแพทย์ที่เดินผ่านไปมา พอดีที่มันหันมาแล้วสาวเท้ามาทางนี้

“กูไปก่อนนะ” ผมเดินเดินเร็วหนีไปอีกทาง หันหลังไปมองมันที่จะวิ่งตามมาแต่โดนไอ้พวกเนมกระชากตัวเอาไว้ก่อนที่จะเดินอ้อมไปยังลานจอดรถข้างตึกด้วยใจเต้นไม่เป็นจังหวะเท้า เท้าวิ่งหนี แต่หัวใจหนีมันไม่เคยพ้นเลยสักที



.............................................................................




หลังจากวันนั้นมันก็ตามมาหาผมทุกวัน ทุกที่ไม่ว่าผมจะกระดิกตัวไปไหน แต่แปลกที่มันคลาดกับพี่น้ำเสมอ ไม่เคยมาตรงกันเลยสักที พวกไอ้เนมก็คอยกันท่าไม่ให้มันเข้าใกล้ผม มันจึงไม่เคยถึงผมเลยสักครั้ง วันนี้พี่น้ำนัดทานข้าวเย็นกับผมที่ห้างดังแถวพระรามเก้า

“พี่น้ำอยากทานอะไรครับ” ผมถามตามมารยาทเหมือนถามคนอื่นๆที่เคยมาทานข้าวด้วยกัน แต่สายตาคนอื่นคงมองว่า เทคแคร์เอาใส่ใจดีเกินจนเป็นมากกว่ารุ่นพี่รุ่นน้อง แล้วผมรู้ว่าคนอื่นคิดแบบนี้ได้อย่างไรน่ะเหรอ ก็พวกเดอะแกงค์ผมไงล่ะ

“เค้าอยากกินอาหารญี่ปุ่นอะน้องไอรัก นะนะ” พี่น้ำส่งสายตาวิ้งๆ ท่าจะอยากกินจริงๆ ผมรู้สึกเอ็นดูจึงเผลอยกมือลูบหัวพี่เขา แต่ก็ต้องชะงักดึงมือออก ขอโทษขอโพยใหญ่ เพราะยังไงเขาก็มีศักดิ์เป็นรุ่นพี่

“ขอโทษครับพี่น้ำ ผมไม่ได้ตั้งใจ”

“ไม่เป็นไร เอ่อ มันก็อบอุ่นดี .. ถ้าเป็นคนอื่นพี่คงถีบไปแล้วนะนี่ คริคริ” ประโยคหลังทำเอาผมเสียวสันหลังวาบ เกาแก้มยิ้มแหยะๆ แต่ทำให้คนตรงหน้าแก้มแดงเป็นตูดลิงเสียอย่างนั้น

“อ้ะ เอ่อ ..ปะ..ไปทานข้าวกันดีกว่าเนอะ” พี่น้ำว่าแล้วก็จูงมือผมเข้าไปร้านอาหารญี่ปุ่น

“โห อยากกินทั้งชุดแซลมอน ทั้งเซ็ทซูชิเลยอะ เลือกไม่ถูกทำไงดี” พี่น้ำคิ้วขมวดให้เมนูจนพนักงานยิ้มขำให้พี่น้ำก่อนทำตาประกายแพรวพราวให้ผม

“ก็สั่งทั้งสองอย่างสิ ป๋าอยู่ตรงนี้แล้วจะกลัวอะไรครับพี่”ผมพูดหยอกเล่น เพราะกี่ทีๆผมก็จ่ายทุกครั้ง จะกังวลไปทำไมวะ

“โหป๋าจะพุงยุบก่อนน่ะสิ เดี๋ยวจะสั่งให้ขนหน้าแข้งร่วงเสียเลย กินสองอย่างแล้วมันกินไม่หมดอะ ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง”

‘เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง’งั้นเหรอ

แล้วถ้าสิ่งที่เลือก ไม่ได้เลือกเราล่ะ

“..ไอ...ไอรัก ไอรัก! เป็นอะไรอะ” ผมสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์ เพราะเสียงเรียกและมือเรียวสัมผัสแถวแก้มด้วยคนตรงหน้า

“เปล่าครับๆ สั่งมาสองอย่างแล้วกัน เดี๋ยวผมช่วยทา....” ยังพูดไม่จบประโยคก็มีมือตบโต๊ะดังปึง! พร้อมเสียงหอบเหมือนวิ่งมา

“ไม่ต้องสั่งอะไรทั้งนั้น มานี่เดี๋ยวนี้!” มันกระชากแขนผมออกจากร้าน


มะ..มาได้ยังไง?!


“เดี๋ยว! นายจะพาน้องไอรักไปไหน เขามากับพี่นะ!!”

“นี่แฟนกู! จะพาไปไหนก็เรื่องของกู มึงกลับไปหาแฟนเก่ามึงเลยไป!” มันตะคอกหยาบคายใส่พี่น้ำเสียงดัง ไม่สนใจใครจะมองไม่ดี

แฟน?????????

อะไรวะเฮ้ยย

“หยาบคาย!นายอย่ามามั่ว น้องไอรักไม่เอานายหรอก คะ..คิดว่าร่างใหญ่กว่าแล้วคนอื่นจะกลัวหรือไง” พี่น้ำตะกุกตะกักตอนที่เกียร์ง้างมือขึ้นเหมือนจะต่อย แต่ผมดึงแขนอีกข้างที่ไม่ได้จับผมไว้ มันมองคิ้วขมวดน่ากลัวก่อนหันไปบอกพี่น้ำด้วยน้ำเสียงเย็น

“ทำไม! ถ้ามาขวางกู จะเป็นผู้หญิงหรือเกย์ ผู้ชายห่าเหวอะไร กูก็จะไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น กูขอเตือนไว้ตรงนี้ อย่า-มา-ยุ่ง-กับ-แฟน-กู-อีก” มันว่าแล้วฉุดแขนผมแรงให้หยุดอยู่ในซอกเล็กหน้าประตูสำหรับพนักงาน มันดึงตัวผมเข้าไปกอดแน่นอย่างถวิลหา

“ปะ ปล่อย.. ปล่อยได้แล้ว” ผมเริ่มได้สติ พยายามดันตัวให้ห่างจากวงแขนแกร่ง ก่อนที่ตัวเองจะคิดไกลไปกว่านี้

“ไม่! ขอเถอะไอรัก คุยกันก่อน อย่าหนีกันแบบนี้ ตอนนี้กูเหมือนจะบ้าตายอยู่แล้ว” มันซุกหน้าเข้ากับซอกคอพร้อมพูดเสียงสั่นออกมาให้ใจผมสั่นคลอน

“หึ แต่คุณคงรู้สึกไม่ถึงครึ่งที่ผมรู้สึก” เกียร์สะอึก ผมจึงพูดต่อ

 “คุณต้องการอะไรอีก แค่นี้ยังทำร้ายกันไม่พออีกใช่ไหม หรือต้องให้ผมกลับไปจมปลักอยู่กับคนที่ผลักไสตัวเองต่อไป ผมผิดเอง ผิดที่ไปตื้อคนที่เขาไม่ได้รัก ผม...”

“ไม่! ไอรัก ไม่ใช่ เกียร์ขอโทษ ..กูผิดเอง ที่พูดทำร้ายจิตใจมึงวันนั้นเพราะกูน้อยใจ กูไม่คู่ควรกับมึงเลยสักนิด ยิ่งเห็นมึงอยู่กับไอ้พี่หน้าอ่อนแล้วกูรู้สึกว่ามันเหมาะสมกว่าที่จะมาเดิน มาอยู่ใกล้ๆกับคนอย่างกู กูกลัว กูไม่กล้ายอมรับความจริงว่าต้องโดนคนอื่นมองเพราะเพียงแค่คำนิยามว่าเป็นเกย์”

“...ผมเข้าใจว่ามันยากที่จะยอมรับ ยากที่จะเปลี่ยนแปลง เกียร์ไม่จำเป็นต้องยอมรับมันหรอกครับ ถ้าคิดว่าทำเพราะความสงสาร” ความรู้สึกนั้นผมเคยรู้สึกมาแล้ว มันไม่ใช่เรื่องที่จะยอมรับกันง่ายๆ ผมเคยคิดว่าต้องแปลกแยกในสังคม แต่ความรักมันเป็นสิ่งสวยงาม ไม่ได้จำเป็นต้องเกิดขึ้นเพียงแค่สังคมเป็นตัวกำหนด แต่จะมีอีกสักกี่คนที่คิดแบบนี้ได้ หนึ่งในนั้นคงไม่ใช่มัน.. ไม่ใช่เกียร์

“ไม่ กูเคย กูเคยแล้ว มันไม่มีความสุข กินไม่ได้นอนไม่หลับ มันเป็นอะไรไม่รู้ ยิ่งไม่เจอหน้าไอรัก เกียร์กระวนกระวายเหมือนจะเป็นบ้า แค่คิดว่าในสายตาไอรักไม่มีเกียร์ เกียร์ก็ทนไม่ไหวแล้วไอรัก ไม่เอาแล้ว เกียร์ทนไม่ได้จริงๆ ไอรักเข้าใจเกียร์ไหม”

“…”

“ตอนนี้เกียร์เลือกแล้ว ต่อให้ใครจะมองยังไง แต่ถ้ามีไอรักอยู่ข้างๆ เกียร์ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น” เกียร์ผละตัวออกมาเล็กน้อย มือทั้งสองประคองต้นแขนผมอย่างทะนุถนอม สายตาอ้อนวอนและจริงจังจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลของเขา ไอรักละสายตาไปจากดวงตาสีเข้มคนนี้ไปไม่ได้เช่นกัน ...อย่าไขว่เขวนะใจ ตอนนี้มันกำลังจะใจอ่อนให้ผู้ชายน้ำแข็งคนนี้

 “เกียร์ขอโทษ”

“…”

“ให้โอกาสเกียร์อีกครั้งได้ไหม”

“…”

“นะครับ... นะ ไอรัก” เกียร์แหว่งทั้งสองมือของผมอย่างเอาใจ น้ำเสียงออดอ้อนและทำหน้าเหมือนลูกหมา(ตัวโคตรใหญ่)หูตก ผมเกือบหลุดยิ้มออกมา แต่ต้องพยายามตีหน้านิ่ง

“...แต่เกียร์จะไม่มีอัลบั้มรูปแต่งงานให้ดูตอนแก่” ผมเม้มปากแน่นหลบสายตาคู่นั้นก่อนพูดน้ำเสียงแสร้งแข็งกร้าว แต่ความหมายของคำพูดนั้นทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาเริ่มใจอ่อนแล้ว คนฟังยิ้มกว้างเป็นครั้งแรกที่เห็นมันยิ้มทั้งตาและปาก ดูเหมือนใจมันคงพองโตขึ้นมากว่าเมื่อกี้หลายเท่าตัว

“ถ้าไอรักอยากถ่ายรูป เอาไว้ไปสตูดิโอบ้านไอ้สามันก็ได้” ฟวยย กูพูดเฉยๆอะ เข้าใจหรือเปล่า มึงต้องอยู่กับกูไปอีกนาน เราแต่งงานกันไม่ได้นะโว้ย

“จะไม่มีลูกให้เลี้ยง”

“เกียร์เกลียดเด็ก” เกียร์สวนขึ้นทันควัน

“ไม่มีหลานให้วิ่งบนสนามหญ้าหน้าบ้านนะ”

“แต่มีตาแมวแก่กับไอ้เฒ่าน้ำแข็งนอนกอดกันกลิ้งอยู่บนสนามหญ้าสองคนไง”อ้าวไอ้เชี่ยนี่ มึงคิดไปไกลลลลลเนอะ อย่างนี้ผมก็คงมีหน้าที่เดียว

ก็เขินน่ะสิครับ!!!!!!!

“เกียร์..เอ่อ คิดดีแล้วเหรอ ว่าจะมาจมปลักอยู่กับผมที่ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง”

“หึหึ ตัวเองเคยบอกเองไม่ใช่เหรอว่าอย่าดูถูกตัวเอง ทำไมคราวนี้ทำไมถึงเป็นเองละ..แล้วที่เกียร์เป็นไม่ได้เรียกว่าจมปลัก เขาเรียกว่าตกหลุมที่ไอรักเป็นคนขุดไว้เข้าไปเต็มๆเลยต่างหาก” มันกระซิบก่อนจูบใบหูผมเบาๆชวนให้สยิว

“หละ..หลุมอะไร ผมไม่เคยขุดเหอะมั่วแล้ว ผมคนนะไม่ใช่ตัวตุ่น” ผมเอียงคอหลบมัน ปากพูดแว๊ดๆกลบแก้เขินอย่านะมึง ถ้าตัวตุ่นตัวนี้เกิดอารมณ์ขึ้นมา แล้วมึงจะหนาว

“หึหึ ไอ้แมวน้อยเอ้ย ..ให้โอกาสเกียร์นะครับ หลังจากนี้เกียร์จะทำให้ไอรักมีความสุขที่สุด ถึงแม้ว่าเกียร์จะไม่สัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป เพราะอนาคตมันไม่เคยแน่นอน แต่เกียร์จะอยู่ดูแลไอรักให้นานที่สุด” ผมจ้องนัยน์ตาสีเข้มนิ่ง สายตามันแสดงถึงความจริงใจออกมา มีคนเคยบอกว่าตาคนไม่เคยโกหกใคร มันคงจะจริง และผมก็เชื่อสายตาที่มันพยายามสื่อ ผมยิ้มให้มันแทนคำตอบ มันยิ้มตอบอย่างอ่อนโยนก่อนโน้มตัวเข้ามาใกล้ขึ้น ผมหลับตารอสัมผัสจากริมฝีปากที่แสนรักใคร่และคิดถึง..

กริ๊ก!!

“อุ้ย ขะ..ขอโทษค่ะ” แม่บ้านเปิดประตูออกมาเห็นผมกับเกียร์ก็ตาโต มือปิดปากแน่น ก่อนหันหลังปิดประตูดังเดิมเดี๋ยวป้า!! อย่าพึ่งไป ผมไม่ได้(ตั้งใจ)ทำอนาจารในห้างนะ!!ตายห่า กูจะโดนจับไหมวะนี่ ฮือออ ไอร๊ากกก ชีวิตเอ็งนี่มันน่าสงสารเสียจริงเอย ขณะที่ผมกำลังสติแตก มีมือใหญ่สัมผัสบนกระหม่อมอย่างนุ่มนวล ผมเงยหน้ามองหน้าเกียร์ที่มองมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว เราอมยิ้มให้แก่กันก่อนที่ผมจะเบี่ยงประเด็นแก้เขิน

“หิวงะ”

“เหมือนกัน ...มัวแต่มองไอรักกับไอ้รุ่นพี่บ้านั่น” มันบ่นงึมงำๆหน้ามุ่ย

“หืม? อะไรนะครับ”

“เปล่า อยากกินอาหารไทย ไม่เอาญี่ปุ่น” มันง้องแง้งใส่ผม เอ่อ.. ให้ตายเหอะ ยิ่งรู้จัก มึงยิ่งแอ๊บแบ๊วขึ้นเรื่อยๆนะหอกหัก สงสัยคงฝังใจกับร้านญี่ปุ่นแล้วมั้งนี่ ก็ดีแล้วล่ะ หน้าโคตรไทยแต่เข้าร้านอาหารต่างชาติก็ไม่เข้ากันหรอก เหอะๆ นี่ถ้ามันได้ยินความในใจผม ก็เตรียมข้าวต้มและจองศาลาให้ไอรักคนนี้ด้วยนะครับทุกคน....



..............................................................................



“ไปมอเตอร์ไซค์เกียร์นะ”

“อ้าวแล้วรถผมอะ”

“เดี๋ยวให้ไอ้เนมาเอาให้ก็ได้ มันอยู่คอนโดเดียวกับเกียร์” ไอ้เนก็คือไอ้แว่นนั่นล่ะ

“?????” ผมทำหน้างงใส่มัน มันเกี่ยวอะไรครับนี่ท่านผู้ชม

“วันนี้ไปนอนด้วยกัน...นะ” มันทำเสียงอ้อนใส่ผม เล่นเอาผมอ้าปากค้าง ตัวมึงไม่ใช่เล็กๆนะเฮ้ย!! นี่เกียร์วิศวะไฟฟ้าที่เคยรู้จักเหรอวะ ทำไม.........ทำไม.........น่ารักจังวะ แอร้ยยยยยยย อิ_อิ

“ทำไมอะครับ”

“..ก็มันคิดถึงอะ” ตอนนี้ไม่ใช่แค่อ้าปากค้างแล้วครับ ตาโตเหมือนเห็นผี ตายห่า ใจผมกระเด็นไปอยู่ที่ทางช้างเผือกหรือยังวะ คุณเล่นพูดแบบนี้ผมใจสั่นนะโว้ย ตอนนี้แก้มเป็นลูกมะเขือเทศแล้วแน่ๆ ผมกัดริมฝีปากไว้ไม่ให้มันคลี่ยิ้มออกมา แต่ไม่วายทำให้คนตรงหน้าเห็น หัวเราะหึหึอย่างหมั่นไส้ ก่อนหันมากัดขบแก้มนุ่มเบาๆอย่างหมันเขี้ยวแล้วบอกกับคนตรงหน้าให้ยิ้มกว้าง

“ชอบอะ ไอ้แมวน้อยแก้มแดง”



อนาคตไอรักจะเป็นโรคหัวใจไหมครับทุกคนนนน






TBC-------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-05-2013 18:01:22 โดย Calypso »

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
เอาล่ะ เคลียร์แล้วววววววววววววว จากนี้คงเดินหน้าหวานแล้วนะ
จะว่าไป เจ้าชายเองก็ไม่เด็ดขาดเรื่องน้ำนะ ไม่ยอมปฏิเสธให้ชัดเจนด้วย แถมจะเรื่องข่าวอีก

ออฟไลน์ Pigstar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
ไอ้แมวน้อยแก้มแดง
เขินวุ้ย ย เรียกซะน่ารักเลย

 :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ yokerohz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เจ้าชายสมหวังแล้ว

ฉลอง ฉลอง  :mc4: :mc4: :mc4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
โอ๊เยส!!!  :mc3: :mc2:

เป็นแฟนกันแล้ว อย่าทำเจ้าชายเจ็บอีกนะ

คนแต่งเมื่อไหร่ เขาจะได้กัน  :z1: :z1:

ออฟไลน์ Kaame

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
หวาน เบาหวานจะกิน แอร้ยยย  :o8:

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
ดีแล้วๆ

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
เจ้าชายไม่เล่นตัวเลยง่ะ 555

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
น่ารักอ้ะ หวานให้เต็มที่ไปเลยน้า แอร๊ยกกกก  :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:


ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
น่ารัก  :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ krit24

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
หวานมากๆ ดีใจที่ดีกันแล้ว
สงสารเจ้าชายมากๆอ่ะ

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
พอดีกันแล้วนี่เกียร์รุกใหญ่เลยนะ แต่น่ารักกกกกกกกกกก
ไอรักไม่ต้องกลัวเป็นโรคหัวใจหรอก เดี๋ยวมันก็หาย 5555

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
แมวแก้มแดงน่าร๊ากกกกกกกกอะ

แต่เสียดายตอนป้าแม่บ้านเปิดประตูผ่างง!!ออกมาเกิ้นน มาผิดจังหวะไปไหมป้า>0<



คลื่นมีสิทธิ์กับบอสไหมน่ะ ดูกุ๊กกิ๊กจัง อิอิ

ออฟไลน์ Calypso

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-0
ตอนที่11





“ไอ”

“ครับ”

“ไอรัก”

“...” ผมหันไปเลิกคิ้วคนข้างหลังที่เข้ามาสวมกอดหลังจากเข้ามาในห้องเกียร์

“อยากกินไอผัดผัก ไอรักสามรส ไอรักกระพงทอดน้ำปลาจัง”เกียร์ทำตาแพรวพราวยิบยับให้ผม กูอะนะ?!!

“ได้สิ เมื่อวันก่อนก็ไปทำอาหารแสดงฝีมือบ้านไอ้คิม หลังจากนั้นผมกับเพื่อนก็ไม่ออกไปไหนเลย”

“ติดใจเสน่ห์ปลายจวักไอรักจนถอนตัวไม่ขึ้นเลยเหรอ”

“เปล่า นอนซม ท้องร่วง..”จากหน้าตื่นเต้นดีใจเป็นเหยเก มือที่กอดเริ่มร่วงลงไป ขาเริ่มเดินไปห้องครัวเองแทน มึงรู้แล้วสินะ…เสียใจด้วยครับ มึงต้องทำเองแล้วล่ะ

“อืม.... กระทะอยู่ไหนนะ”






“ไอรัก อาหารเสร็จแล้ว” คนใส่ผ้ากันเปื้อนสีเทาเดินมาเรียก ผมเงยขึ้นจากตลาดหุ้นที่ปรากฏบนโทรศัพท์ ก่อนเดินตามมันไปห้องครัว

“คร้าบบ”

“กินได้หรือเปล่า”

“โห กินได้ครับ คุณทำอาหารเก่งขนาดนี้แล้วเมื่อกี้ใช้ผมทำไมนี่”

“ก็อยากกินฝีมือแฟนบ้างไม่ได้เหรอ” อั้ยยะ! มีหวานเว้ยเฮ้ย ผมกำช้อนแน่นก่อนก้มหน้าก้มตาชิมอาหารมากหน้าหลายตาบนโต๊ะ เชี่ยยย อาหารที่ทำไม่ใช่แค่หน้าตาดีนะ มันอร่อยด้วยอะ ชีวิตนี้ไอรักไม่อดตายแล้ว เฮ!!

“ของในตู้เย็นหมด เลยทำได้ไม่กี่อย่าง แถมมันเกือบจะเน่าหมดละ”ไม่กี่อย่างของมันก็เกือบเต็มโต๊ะ ถ้าทำเต็มสตรีมคงไม่ต้องต่อโต๊ะเลยเหรอวะ กระเพาะควายจริงมึง

“อ้าว แล้วคุณไม่ได้ไปซื้อมาเติมเลยเหรอครับ” มันยิ้มให้เฉยๆ ไม่ได้ตอบอะไร ถ้าผมไม่คิดไปเอง มันคงเหมือนผม ตอนนั้นคงไม่มีอารมณ์ทำอะไร แค่จะกินข้าวแทบไม่มีแรงเลยด้วยซ้ำ

“ไว้พรุ่งนี้เราค่อยไปซื้อด้วยกันนะ”

“ไม่เอาอะ”

“ทำไม” มันคิ้วขมวดแน่นตีหน้ายักษ์ใส่แล้วถามเสียงแข็ง ฉิบหายไอรักอีกแล้วไง

“ก็พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปเที่ยวไง"ผมพูดพร้อมแจกยิ้มหวาน ขยิบตาให้ไปหนึ่งที คนหน้ายักษ์เมื่อครู่มองตาค้างหน้าแดง เลื่อนมือไปกุมตรงหว่างขา ผมมองมันอย่างงงๆ

"ให้ตายสิ! แค่เห็นไอ้แมวยิ้ม ถึงกับเกิดอารมณ์เลยเหรอวะ" มันบ่นงึมงำ ผมได้ยินไม่ชัดจึงถามมันอีกรอบ แต่มันปัดๆไป

“เอ๊ะ เป็นอะไรเหรอครับ ไม่ไปก็ไม่เป็นไรนะ อยู่ห้องเฉยๆก็ได้” เสียงสลดดังขึ้น คนตรงหน้าผมสะดุ้ง ผมมองมันงงๆรอบสอง เจ้าเข้าเหรอมึง ผมก็พูดไม่ได้ดังนะ แต่เหมือนมันอยู่ในภวังค์อะไรสักอย่าง

“เอ่อ อ๋อ เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร แล้วอยากไปไหนล่ะ”

“ตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกไง”

“อืม.. จะไปตอนกลางวันเหรอ”

“กลางวันสิ”

“ร้อนอยู่นะ ไอรักจะเดินไหวหรือเปล่า” มันพูดพร้อมเก็บจานไปล้าง แต่ผมแย่งจานมาล้างก่อน เขาบอกกันว่า อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้น... เพล้ง... โอเค สรุปเดินมานั่งมองมันล้างท่าจะรุ่งกว่า

“ไหวสิ ดูด้วยครับ นี่ใครๆ ไอรักเด็กแพทย์นะครับ”

“หึหึ ไม่มีใครเก่งเกินไอรักเด็กแพทย์คนนี้แล้วครับ เรื่องล้างจานก็พอรู้แล้วครับ”

“อันนั้นมือมันลื่น”

“เชื่อครับ มือมันลื่นจริงๆ แตกเป็นเสี่ยงๆเลย”

“ผีผลักอีกต่างหาก”

“เชื่อครับ ผีตัวไหนนะ มาผลักไอ้แมวน้อยได้ยังไง นิสัยไม่ดีเลยเนอะ”

“ผีทะเลตัวนี้นี่แหล่ะ! เอามือคุณออกไปเลย แอบเช็ดมือด้วยใช่ไหมนี่” ก็ดูผีทะเลตัวนี้สิ ล้างจานเสร็จแล้วก็เดินมากอดแล้วลูบคลำๆอย่างกับปลาหมึกตกมัน

“หึหึ โทษที มือมันลื่น”ยอกย้อน!!!!






“อ้าว นั่นชมพูนี่หว่า เป็นดาราดังตอนไหนฟะ” ผมบ่นเบาๆบนโซฟาหน้าโทรทัศน์หลังจากอาบน้ำกันเสร็จเรียบร้อย นานๆทีจะดูช่องดาราเซเลบ ปกติผมไม่ค่อยได้ดูช่องคลายเครียดหรอก แต่ไอ้คนข้างหลังที่กอดเอวเกยคางกับไหล่ผมนี่ เห็นหน้าเถื่อนๆแบบนี้ ดูเบ็นเท็น ซุบซิบดารา บล็อกเซ็ตเรื่องง้องแง้งกับเงอะงะเต็มไปหมด ซึ่งผมอยากจะถามว่า...อะไรคือความเข้ากันกับหน้ามันหรือครับ

“รู้จักเหรอ”

“รู้จักดีเลยล่ะครับ ผมนี่ไม่เคยลืมชมพูได้เลยอะ” มันหันมามองคิ้วขมวดแน่น อ้าวนี่ผมพูดอะไรผิดไปเหรอ

“...รักแรก?”

“เปล่า ตอนมอสองมันแอบกินยางลบผมไปแปดก้อน นี่แค่เทอมเดียวนะ ยิ่งคิดแล้วยิ่งแค้น” ผมพูดอย่างหัวเสีย มันหัวเราะเสียงดังเลย อีชมพูนะอีชมพู สวยแต่รูปแต่หารู้ไม่ไอ้มนุษย์คนนี้ มันเจริญเติบโตมาจากยางลบ(ของกู)

“แล้วไป อย่าให้รู้นะว่ามีอะไรลึกซึ้งกว่านั้น”

“จะพาไปเลี้ยงข้าวแล้วถามดีๆใช่ไหม”

“จะฆ่าทั้งคู่ต่างหาก...หึหึ” อูยย ไอรักสะดุ้งสิครับ

“ไม่ๆๆ ใครจะมาเอาผมล่ะ ผมไม่มีใครจริงจริ๊ง ผมมีคุณคนเดียวก็พอแล้ว เนอะๆๆ”

“หัดรู้ตัวบ้างสิว่าตัวเองมีเสน่ห์ดึงดูดคนรอบข้างแค่ไหน นี่ไม่เคยเข้าใจตัวเองเลยหรือไงหื้มไอรัก”

“.....” ผมหน้าแดงซ่าน มันมาชมกันตรงๆแบบนี้ บอกตรงๆ อายโคตร

“ถ้าไม่รู้ตัว เกียร์จะทำให้ไอรักรู้เอง” มันว่าแล้วก็สอดมืออุ้มผมตัวลอยไปห้องนอน

“เฮ้ยคุณ เดี๋ยวๆ ผมตัวหนักนะ ปล่อยผมลงก่อน! เดี๋ยวมันตก ..คู๊ณณ”

“หนักอะไร ตัวเบาขนาดนี้ หืม” ว่าแล้วมันวางตัวผมลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล เกียร์กอดผมแน่นก่อนก้มลงพรมจูบไปทั่วหน้า ซุกไซร้ด้วยตอหนวดสร้างความเสียวซ่านและจั๊กจี้ไปพร้อมๆกัน แต่ผมยกมือปิดหน้าปิดตา หัวเราะเอิ้กอ้าก  มันยิ้ม ทำเป็นไม่สนใจ จับมือผมที่ปิดอยู่บนหน้าไปคล้องคอมัน ก่อนไซร้คอให้เป็นรอยแดงเพราะตอหนวดและแรงเม้มเบาๆ

“เดี๋ยวๆๆฮ่าๆๆ ..เดี๊ยววว ..เกียร์ฮ่า ฮ่า... โอ้ย เหนื่อยนะเนี่ยคุณ”

“หึหึ ไอ้แมวบ้าจี้”

“หยุดเลยคุณ ได้ยินหลายครั้งละ อะไรแมวๆ ผมต้องเป็นสิงโตเหอะ หล่อขนาดนี้” เดี๋ยวนะ ขอลิ้นห้อยแปบ กูยังหายใจจังหวะไม่สม่ำเสมอเลย พักยกแปบหนึ่ง แฮ่ะๆๆๆ

“แมวนั่นล่ะเหมาะที่สุดแล้ว” มันว่าแล้วก็จูบบนเปลือกตาทั้งสองข้างอย่างแผ่วเบา โดนอย่างนี้ไป เหมาะก็เหมาะครับที่รัก

“โทรหาเพื่อนแปบนึงนะ ห้านาที” มึงไม่ต้องบอกกูทุกอย่างก็ได้ ทำอย่างกับกูเป็นเมียจ้องจับผิดสามี ..เดี๋ยวนะ เมียจับผิด?? อย่างนี้ผมก็ต้องเป็นคนโดนทำมิดีมิร้ายสิ เอ้ยยยย

มันเดินออกไปคุยโทรศัพท์สักพักหนึ่ง ไม่ถึงสามนาที แล้วเดินเข้ามาง่วนอยู่กับโน้ตบุ๊คบนโต๊ะทำงานอยู่นาน แล้วโทรไปหาใครไม่รู้อีกรอบ

“ส่งให้ไปแล้ว ..เอาตามแบบที่ส่งให้แบบเป๊ะๆ ..ขอเป็นพรุ่งนี้..เออ” มันวางสาย โยนโทรศัพท์ทิ้งไว้ไหนสักที่หนึ่งแล้วล้มตัวนอนกอดผมที่ตาปรือๆอยู่บนเตียง

“ง่วงแล้วเหรอ”

“อือ..”

“นอนเถอะ พรุ่งนี้จะปลุกนะครับ” สัมผัสสุดท้ายแถวริมฝีปากก่อนดิ่งสู่ห้วงนิทรา



......................................................................




“ทำไมมันร้อนได้ใจอย่างนี้ล่ะนี่”ผมเริ่มบ่นทำหน้ายู่ยี่ พระเจ้าช่วย! นี่ผมเดินอยู่ที่อิรักหรือเปล่าวะ คนเยอะอย่างกับหนอน ไอ้ผมก็ใส่เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่สีดำของเกียร์ มันก็ดูดแสงอย่างเต็มที่เลยสิทีนี้ ไอ้ตอนจะใส่สีขาว มันก็ห้ามโน่นห้ามนี่ ว่ากลัวเหงื่อเปื้อนแล้วจะโป๊บ้าง ไม่สุภาพบ้าง สุภาพพ่อมึงสิ! ให้กูใส่ราชปะแตนมาเดินจตุจักรเลยไหม คิดถูกหรือคิดผิดวะที่มาที่นี่ ตอนแรกไอ้เรานึกว่าจะเดินสวีทวิ้ดวิ้วให้แช่มชื่นหัวใจ แต่นี่ไม่ใช่ชื่นหัวใจแล้ว นี่มันชื้นทั้งตัว!!

“หึหึ ปากเชิดถึงจมูกแล้ว ตัวเองอยากมาเองไม่ใช่เหรอ” มันพูดพร้อมลูบหัวผมอย่างเอ็นดู

“มันก็ใช่ครับ แต่ผมไม่คิดว่าเดินตอนเที่ยงมันจะร้อนขนาดนี้นี่นา” ปกติผมมาเดินตอนกลางคืนไง มันจะมีของถูกเยอะแยะเต็มไปหมด แล้วเที่ยวผับต่อแถวๆนั้นนั่นละ

“นั้นไปหาอะไรกินก่อนแล้วกัน” แล้วมันก็จูงผมมาร้านก๋วยเตี๋ยว ผมสั่งน้ำเย็นก่อนอย่างแรกเลย ฮ้า~ ชื่นใจ

“เดี๋ยวไปเดินดูโซนสัตว์ดีกว่าเนอะ” ผมหันไปเนอะๆตาแป๋วๆกับเกียร์ มันหยุดหัวเราะครืดออกมา

“แมวหน้าบึ้งตัวเมื่อกี้หายไปไหนแล้ว”

“อะไรอะ ก็มันเหนื่อยนี่นา คุณไม่เหนื่อยหรือไงครับ ว่าแต่คนอื่น ชิ”

“แค่นี้เอง ไม่เหนื่อยหรอก เหงื่อออกเฉยๆ มีแต่ไอ้แมวหน้าบึ้งตัวไหนไม่รู้ที่ชวนมานั่นละ”

“อะไร ใครๆๆ หน้าบึ้งอะไรครับ ดูด้วยรุ่นไหนแล้วไม่มีบึ้งเหอะ มั่วแล้ว บุยบุยย”

“หึหึ ไม่รู้สิ เห็นโดนน้ำเย็นหน่อยก็หายบึ้งไปซะงั้น”

“โอ้ยคุณ อยากกินข้าวเคล้าน้ำตาหรือไง” ผมมองค้อนใส่มัน เดี๋ยวนี้ปากกล้าขาแข็งมากๆนะครับไอ้ถึกร่างบึ้กนี่ เดี๋ยวเถอะมึง เดี๋ยวเถอะ แล้วยังมีหน้ามาหัวเราะอีกนะ ที่กูให้ค้อนไปนี่มึงไม่กลัวเลยใช่ไหม!!!! เดี๋ยวค้อนจริงจะทุบเข้าหัวมึง ระวังเถอะ

“เกียร์ๆ คุณว่าปลอกคอสีฟ้ากับสายจูงสีขาวสวยปะ” ผมหันไปถามคนข้างหลัง ตลอดทางที่เดินมา มันทำตัวติดผมอย่างกับเงา หน้านี่บึ้งยู่ยี่บู้บี้มากอะ ร้อนแทนผมแล้วหรือไง สมน้ำหน้า กร๊ากก แต่พอมองมาทางผมนี่ยิ้มหวานเชียว เป็นโรคเหรอวะ คือถ้าเดินขนาบกัน มันจะไม่แปลกนะ แต่นี่มันเล่นจับเอวผมจากด้านหลังทั้งสองข้าง เนื้อแทบจะแนบเนื้อกันอยู่แล้ว ตอนแรกผมก็อายอยู่หรอก แต่ตอนนี้.....กูร้อน!!!!!

“จะซื้อไปให้ไอหมอกเหรอ”

“เปล่าครับ”

“ไอแดด?” ผมยิ้มส่ายหน้า มันเลิกคิ้วขึ้น ประมาณว่า ‘หมาบ้านมึงมีสองตัวไม่ใช่เหรอวะ’

“ให้คุณอะ ก็คุณเล่นเดินแทบจะสิงผมอยู่แล้วนี่ กลัวผมหลงนักเหรอครับ ไม่ต้องห่วง ผมมีโทรศัพท์นะ”

“ไม่รู้ตัวเลยหรือไง” ผมทำหน้างงใส่มัน แต่มันหาได้สนใจไม่ กอดเอวดึงออกจากโซนสัตว์เลี้ยงไปร้านขายรองเท้าเท่ห์ๆ สเก๊ตบอร์ดตามสไตล์ฮิปฮอป

“ของได้ยัง” มันเดินเข้าไปถามผู้ชายวัยเดียวกับเราที่ยืนอยู่ตรงเคาเตอร์ แต่งตัวโคตรแหวกแนวเลย เสื้อตัวใหญ่ หมวกสีเจ็บ เจาะหูแบบไม่กลัวตายเลยทีเดียว คงจะเป็นเจ้าของร้านนี้ ว่าแต่เกียร์รู้จักคนแนวนี้ด้วยเหรอนี่ ขัดแย้งกับมึงอีกละ

“โหไอ้คุณเกียร์ค้าบบ มึงโทรมาสั่งเมื่อวาน เต่มาเอาของวันนี้ ถ้าร้านกูไม่เทพจริง และรัดคิวให้มึงไม่ได้...”

“ขอเนื้อๆ”

“เสร็จละ ไอสัดเอาไปเลย แล้วนึกยังไงถึงทำวะ ปกติไม่เห็นมึงสนใจห่าอะไร หรือไปตกหลุมรักใครเขาวะ ดูจากลายกูว่าใช่อะ ฮ่าๆๆ ....เฮ้ย จริงเหรอวะ เฮ้ยยย กูไม่เชื่ออะ หน้าอย่างมึง ใครวะผู้โชคร้าย” นายหมวกสีเจ็บหัวเราะค้างเมื่อเห็นมุมปากเกียร์กระดกขึ้นเล็กน้อยแล้วหันมามองผม

“เท่าไหร่” มันหันไปมองถุงกระดาษสีดำสนิทเพ้นท์โลโก้ชื่อร้านแบบอาร์ตๆ

“หกร้อยราคากันเอง เอ้ย ไอ้เกียร์! มึงตอบกูมาก่อนเลยไอ้สัด ไม่งั้นกูไม่ให้อะ”

“เออ! ก็อย่างที่มึงคิด เอามาได้แล้ว” มันตอบอย่างหัวเสีย นายหมวกสีเจ็บตอนนี้ค้างไปแล้ว ก่อนที่เกียร์เอื้อมไปหยิบถุงแล้ววางเงินอย่างเสร็จสรรพ

“มึงงงงง สรุปเขาคนนั้นเป็นใครนี่ กูเริ่มอยากรู้แล้วนะโว้ย ..อ้าวแล้วนี่มึงมากับเพื่อนเหรอวะ สวัสดีคร้าบบ ผมชื่อต้นนะ” มึงพึ่งเห็นกูว่างั้นเถอะ เจริญล่ะ

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมไอรัก” ผมยิ้มให้ต้นที่ตอนนี้กำลังหน้าแดงอ้าปากค้างชี้หน้าสั่น โดนเกียร์ตบหัวเสียงโคตรดัง หมวกหลุดเลยอะ แล้วมันเอาตัวบังผมกับต้นมิดในเวลาต่อมา

“โอ้ยย ..เฮ้ย เมื่อกี้กูใจเต้นแรงได้ไงวะ ไม่ๆๆ”

“ไอ้เหี้ยต้น!! มึงอยากโดนอีกรอบใช่ไหม หยุดคิดเดี๋ยวนี้!!”

“อะไรของมึง จะเสียงดังไปไหนวะ..ว่าแต่ไอรักรู้จักกิ๊กไอ้เกียร์รึเปล่าคร้าบบ กระผมโคตรอยากรู้ลยอะบอกหน่อยดิคนงาม” มันก็ไม่วายชะโงกตัวเข้ามาถามผมอีกนะ ผมหันไปมองไอกียร์

“ไอ้สัด! กูไม่ได้มีกิ๊ก ..เกียร์ไม่มีนะ” มันหันไปด่าแล้วรีบโบกไม้โบกมือให้ผมใหญ่ คือได้ข่าวผมยืนเฉยๆไม่ได้ทำอะไรเลยนะ

“ไอ้เกียร์ มึงมีอารมณ์ตกใจกับเขาด้วยเหรอวะ ปาฏิหาริย์บังเกิดในร้านกูแล้ว ฮึ่ยๆๆ” เกียร์ กูว่าเพื่อนมึงเริ่มสติเลอะเลือนแล้วล่ะ..

“ค-ย กูไปละ” มันลาเพื่อนอย่างอ่อนช้อยรีบคว้าถุงและจูงมือของผมออกจากร้านฮิปๆ



“เกียร์ๆ อยากกินอะ” ผมส่งตาวิบวับแล้วชี้ไปทางป้าคนหนึ่งที่กำลังหมุนถังไอติมที่มีหลอดเต็มไปหมด

“เอาสิ เอารสอะไรบ้างล่ะ” ผมเดินไปดูใกล้ๆ มีหลากหลายสีมากๆ

“อยากกินสีแดงกับสีเขียวอะครับ ไม่มีสีเหลืองเหรอเกียร์”

“????” เกียร์กับป้าหันมามองผม

“อยากจะกินแบบชาวเรกเก้สการ์อะ”

“..........เอ่อ แดงกับเขียวอย่างละสองครับป้า”



.....................................................................................



“ถึงซะที โซฟาๆ”ผมทำท่าจะกระโจนขึ้นโซฟา แต่โดนมือใหญ่รั้งเสียก่อน

“ไปล้างเท้าอาบน้ำก่อน”

“บู้ๆๆบู้ววววว”

“เดี๋ยวไว้เย็นๆไปห้องไอรักแล้วกันนะ”

“อ้าว...” พูดเสียงน้อยใจ มันเบื่อผมแล้วเหรอ วันเดียวเองนะ

“อ้าวอะไร ไปขนเสื้อกับของใช้มานี่ไง”อ๋อ กูใจเสียหมดไอ้คุณน้ำแข็ง

“คุณพูดเหมือนจะชวนผมหนีตามกันเลยนะครับ” ผมทำท่ากระมิดกระเมี้ยน จนมันอมยิ้มส่ายหน้า

“แล้วไม่ใช่หรือไง”

อั๊ยย๊ะ! ใช่ก็ใช่จ๊ะ



.......................




“มาแล้วๆ”

“อะไรเหรอ” ผมนั่งดูข่าวCNNอยู่สะดุ้งจำเป็นต้องเงยมองมันที่ตะโกนมาแต่ไกล

“เบ็นเท็นๆๆ เปลี่ยนให้เกียร์หน่อยๆ” อะ...ไอ้เหี้ยยย มึงแย่งกูเพื่อมาดูการ์ตูนเหรอครับ ไอ้สันฝานน

สุดท้ายผมก็ต้องนั่งดูเบ็นนาย เบ็นเท็นอะไรของมัน ฟังเสียงไอ้ตัวเอกช้งเช้งๆกับพักพวกเป็นยากล่อมให้เคลิ้มอย่างดีเยี่ยม ไม่นานคอเริ่มไหลเลื้อยลงเรื่อยๆ จนรู้สึกผ้าบางๆห่มให้อุ่นขึ้น กะจะเงยขึ้นมาขอบคุณแต่หนังตาตอนนี้มันไม่ไหวจะถ่าง ประสาทเริ่มปิดการรับรู้ นอนนานไปเท่าไรไม่รู้ จนได้ยินเสียงออดกับคนพูด ผมปิดตาหลับแหล่ไม่หลับแหล่อีกรอบแต่ยังได้ยินเสียงแว่วๆ


“ไฮ~ ไอ้เชี่ยเกียร์”

“ชู่วว”

“ชู่อะไรของมึ๊งง เห็นหน้ากูเป็นทิชชู่ว่างั้น กร๊ากกก”

“เบาๆ มาทำไมกันเยอะแยะ”

“ไม่เยอะอะ คนเท่าเดิม ขอเข้าห้องก่อน แมร่งเจ้าของห้องต้อนรับพวกกูดีฉิบหาย ให้บ่นอยู่หน้าห้อง”

“สัด! เสียงเบาๆหน่อย มีคนนอนอยู่”

“ใครวะ .. อ้าวเฮ้ยมาไงวะน่ะ”เสียงกระซิบลง

“พวกมึงสิ มาได้ยังไง” น่ารำคาญฉิบ! ผมพลิกตัวจากนอนหันหน้าออกจากโซฟาเป็นนอนหงาย

“ผ้าห่มเริ่มร่นอะ”

“ไอ้สัด!!เอามือออกไปเลยไอ้โฟ่ กูทำเอง”ผมรู้สึกเหมือนมีคนจับห่มจนถึงคออย่างนุ่มนวล

“..อะ ไอ้เหี้ย เมื่อกี้กูเหมือนเห็นแบล็คกราวน์สีชมพูยังไงไม่รู้อะไอ้มัด”

“คิดเหมือนกูเลย บีสอง”

“บีสองพ่อง! กูบีหนึ่งโว้ย”

“เชี่ยเสียงดังพวกมึงออกไปจากห้องกูเลย”

“เออกูกะจะชวนมึงไปแดกเหล้าเสียหน่อยคืนนี้ เปรี้ยวปาก”

“กูเห็นมึงเปรี้ยวทุกวัน คงไม่ไปอะ ไอรักอยู่”

“สัด! พูดอย่างกับเจ้าชายเป็นเมีย กลัวเมียว่างั้น ฮ่าๆๆ พาเจ้าชายไปด้วยดิ”

“เดี๋ยวไว้ค่อยถาม พวกมึงไปได้แล้ว ไปๆๆ”



[ต่อด้านล่าง]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-05-2013 19:31:13 โดย Calypso »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด