พิมพ์หน้านี้ - Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Calypso ที่ 07-10-2012 06:51:59

หัวข้อ: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 07-10-2012 06:51:59
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 
หัวข้อ: Re: . Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่1 P.1 07/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 07-10-2012 07:11:13
ตอนที่1


“กว่าจะเสด็จมาได้ ลีลาเหลือเกิน ไอ้เจ้าชายหล่อลาก”  ไอ้คุณเนมตะโกนข้ามหัวคนนับร้อยกลางโรงอาหาร แค่ผมเดินมาทุกคนก็จ้องเหมือนกับหมีแพนด้าหลุดมาเดินในมหาวิทยาลัยใจกลางกรุงเทพแล้วนะ โบกรายตัวเลยดีไหมวะแมร่ง

“เฮ้อ เบาๆหน่อยสิวะครับไอ้คุณเนม” ผมรีบเดินมานั่งข้างไอ้ไทป์ที่เงียบเป็นป่าช้าแล้วทักทายด้วยภาษาที่บ่งบอกถึงต้นตระกูลเป็นดิบเป็นดี

“เออไอเวร พวกกูรอกินข้าวอยู่นานละ หิวจนไส้บิดเป็นรูปกางเกงในไอ้พิชแล้วเนี่ย” ไอ้คิมบ่นไปจกส้มตำไปอย่างหมดความเป็นผู้บริหารในอนาคต สาดดดไหนว่ารอกูวะ เหลือแต่ขาปูม้าเท่าเม็ดจิ้มฟัน

“เดี๋ยวมึงโดนกูโบกกระบาลไอ้คิม อาทิตย์นี้กูยังไม่ได้ใส่กางเกงในสักตัว”  ไอ้พิชบอกแบบเซอร์(ถุน)โหดๆ พิชเป็นลูกครึ่ง สูง193  เรียนสถาปัตย์ มันทั้งตัวใหญ่ใจใหญ่ แต่ไม่รู้อย่างอื่นใหญ่ด้วยหรือเปล่า แต่ที่รู้ๆคือมันถึกเถื่อน บึกบึนที่สุดในกลุ่ม

“.........ยานแน่มึง” ทุกคนหันมาพูดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

“ค_ย” คุณพิชพูดพร้อมแจกนิ้วกลางให้เพื่อนๆที่ล่มหัวจมท้ายกันมาเกือบทั้งชีวิตด้วยความรักความเอ็นดู

หลังจากนั้นผมก็ส่งกระแสจิตอ่อนๆไปหาไอ้เนม ให้มันไปซื้อส้มตำมาให้ผมใหม่ เพราะเมื่อวานเราเล่นเกมส์แข่งกัน แล้วมันแพ้นั่นเอง หึหึ

“ว่าแต่มึงแอบไปตาม 'ไอ้นั่น' อีกแล้วเหรอวะ” รู้แล้วทำเป็นถามนะมึง

“อือ”

“โหยไอสาดดดดดดด มึงตามมันเป็นปีแล้วนะโว้ยไอ้รัก จริงจังชิบ” ไอ้คิม กูเป็นผู้ชาย อายเป็นนะโว้ย เบาเสียงมึงหน่อยก็ดี...

“กูก็ไม่เข้าใจมันชอบไปได้ไง หยิ่งก็หยิ่ง หน้าตาก็เฉยๆอะ” หน้ามึงไม่หยิ่งเลยเนอะไอ้พิช ไอ้เวรตะไลด่าคนของผมซะงั้น

“กูก็ว่างั้นอะ ว่างั้นปะไอ้รัก”ไอ้คิม มึงหล่อตายอะ

“อืม” เรื่องมึงเหอะ มันหล่อกับผมคนเดียวก็พอแล้ว

แต่ตอนนี้กูหิวโว้ย ไอ้คิมแม่งชวนคุยตอนหิว เดี๋ยวไอรักล้มโต๊ะขึ้นมาแล้วจะหนาว

ในที่สุดไอ้เนมก็บริการผมถึงที่ ลงมือกินส้มตำ(ไม่ใส่พริก)ได้สักที

ครับ ผมชื่อ ไอรัก บางคนเรียกรักอย่างเดียว บางคนก็ควบสองแม่งเลยตามอารมณ์ ผมเป็นคนตาโต ผอม สูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเจ็ด ผมว่าสูงแล้วนะ แต่ผมเตี้ยที่สุดในกลุ่มอะ แต่ดีอย่างคือมีแต่คนบอกว่าผมหล่อเหมือนเจ้าชาย จนได้ฉายาเจ้าชาย ไม่นะ ผมเปล่ายอตัวเอง แต่มันเรื่องจริง เพราะผมเกือบได้เป็นเดือนมหาลัยแล้ว ถ้าผมไม่ลืมเวลาแล้วติดพันอยู่กับน้องยาหยีบนเตียงจนเช้า ตอนนี้ผมอยู่ ปีสอง คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพ ความจริงผมอยากเรียนบริหารมากกว่า จะได้มาช่วยพ่อแม่บริหาร พ่อผมเป็นเจ้าของโรงพยาบาล มีกระจายสาขาทั่วประเทศ และเอเชีย ส่วนแม่เป็นเจ้าของโรงแรม รีสอร์ท ตอนผมประถมหก พ่อเคยห้ามแม่ให้อยู่บ้านเฉยๆ แต่แม่บอกว่าแม่จบมาสูงไม่ได้จะมานั่งเก็บเงินจากสามีอย่างเดียว หลังจากนั้นพ่อก็ไม่เคยตอแยแม่อีกเลย ผมมีพี่อีก2คน ชื่อไออุ่นกับไอติม ถึงแม้ว่าความหมายและความรู้สึกจะต่างกัน แต่อบอุ่นทั้งคู่ครับ ผมติดพี่มาก เรียกว่าอ้อนมืออ้อนตีนเลยดีกว่า แต่กับคนอื่นที่ไม่สนิทจริงๆ ผมไม่ค่อยพูดเกินจำเป็นหรอก

“ใครแมร่งจะไปรู้วะ ว่าไอรักแสนเพอร์เฟคที่ทุกคนทั้งเพศผู้เพศเมียหลงใหลเนี่ยไปแอบรักรองเดือนวิศวะ กร๊ากกกกก” ไอ้เนมมึงหัวเราะปากกว้างดีเนอะ

“พี่เกียร์ขา พี่เกียร์จะรู้ไหมว่าน้องไอรักแอบรักแอบตามตั้งแต่ออกจากหอยันหน้าตึกเรียนเลยนะคะ โฮ๊ะๆๆ....แอ๊ก” ผมประทับรอยเท้าให้ไอ้คิมและโบกหัวไอ้เนมอย่างงามๆ ดูโอ้คู่ห่าสองตัวนี้เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยจังนะ

“สมน้ำหน้า” ตั้งแต่ผมนั่งข้างไอ้ไทป์เด็กนิติศาสตร์มา เพิ่งได้ยินเสียงมันก็ตอนนี้หละ

เกียร์ที่มันว่าอยู่ปี2 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มันเคยเป็นรองเดือนคณะวิศวะ ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงไม่ได้เป็นเดือนคณะ สำหรับผม มันหล่อกว่าไอ้เดือนวิศวะหน้าปลาจวดนั่นอีกชิ มันหน้าคมๆ ไทยจ๋าเลยครับ ผิวแทนออกคล้ำ ตาดุบ่งบอกถึงนิสัยของมันนั่นแหละ สูงน้อยกว่าไอ้พิชเล็กน้อย ประมาณหนึ่งร้อยเก้าสิบ ส่วนไอ้ปลาจวดนี่แค่ขาว ตี๋ ใส่รั้วในปากแค่นั้นเอ๊งง เกียร์ของผมหล่อกว่าตั้งเยอะ เหอะ

“กูทำอะไรผิด ไอ้เจ้าชายอสูรรรรรรรรร”

“กูใกล้ติดคอแล้วไอ้เนม ไอ้คิมด้วย ไปซื้อน้ำ” สั่งแก้เขินแมร่งเลย

“เย้ยย กูเกี่ยวไรอะ” ไอ้คิวทำหน้าเหรอหรา อ่อนต่อโลก เดี๋ยวกูเอาตีนลูบหน้าให้หายอ่อนเลยหนิ

“แหม ทำเป็นใช้กูไปซื้อน้ำ เขินก็บอก กิ้วๆๆ” ไม่จบครับ มันไม่จบ

“นับ1”

“อ๊างงง ไปก็ได้ ฮือออ” เออไปก็ดี

“....”

“ว่าแต่ถ้ามึงเป็นแฟนกันแล้วมึงก็เป็นรับอะดิ……ปึก....โอ้ยยยยยย ไปจริงๆก็ได้สาด”

“เออไอ้รัก วันนี้มึงต้องไปร้านหมีกับกู ...หยุด หยุด ห้ามปฏิเสธ” ไอ้เวร ผมกำลังจะอ้าปากส่งเสียงบอกมันว่ากูไม่ไป กูจะไปตามผู้ชายนะโว้ย ภารกิจหลักของไอรักเลย ไอสาดดดด

“ทำไมกูต้องไปอะ” ร้านหมีคือผับหลังมอ เป็นร้านของพี่ไอ้พิชนั่นแหล่ะ พี่มันชื่อพัช ที่ตั้งชื่อว่าร้านหมีเพราะบ้านมันตัวควายๆทุกคน เปล่านะ ผมเปล่าด่าเพื่อนตัวเองนะ ผมพูดความจริง

ระหว่างนั้นผมเห็นพวกที่เดินผ่านไปมาแอบเหล่ๆผม แต่พอผมหันไปมอง พวกเธอทั้งหลายก้มหน้างุดหน้าแดงแล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

“ได้ข่าวมึงปฏิเสธกูมาแล้วเจ็ดครั้ง ด้วยเหตุผลโง่ๆคือไปดูผู้ชายเตะบอล มึงนี่มันแรดจริงๆ” อ้ายเหรี้ยยยยยย มึงแรงไปไหม เอ่อแต่ก็จริงของมัน แหะๆ

“ใช่ๆ ไอรักเจอชายแล้วลืมแลเพื่อน กระซิกๆ” ไอ้เนมเริ่มดราม่า

“โอ๋ๆน้องคิม มาซบอกพี่คิมมามะ” ครับ

แล้วมันก็โอ๋กันเกือบ5นาที

ว่าแต่ไอ้เนมมันกลับมาตอนไหน

อืม ช่างเหอะ ผมเลยเบี่ยงสายตาไปมองรอบๆ แล้วสะ...

สะดุด....

ชะอุ้ยยย ..

ชัดเลย....

มึง..........

ไอ้พิชมันข่มผมด้วยสายตาอันโหดเหี้ยมเหมือนหมาตกมัน เอ้ยหมาบ้า ช่วยผมด้วยครับบบ มันยังคงกัดผมไม่ปล่อย ผมจึงจำใจตกลงไปกับพวกมัน ไอ้พิชเลยยิ้มออก

“มึงก็พูดเกินไป กูไม่ได้แรดเลย เนอะไอ้ไทป์เนอะ” ผมบ่นอุบอิบ และเริ่มมองหาตัวช่วย

“อืม” คุณเพื่อนไทป์นี่น่ารักจริงๆ

“เห็นไหม ไอ้ไทป์ยังรักกูมากกว่าพวกมึงเลย แมร่งชอบด่ากู” ผมหันไปแขวะไอ้พวกสามตัว

“เปล่า กูจะบอกว่ามึงไม่ได้แรดอย่างเดียว”

“......” ผม ไอ้เนม ไอ้คิม ไอ้พิช หันไปมองมันหน้างงๆ

“….มึงร่านด้วย”

“........................”

ไอ้สาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดนรกไทป์ กูลืมไปว่ามันพูดน้อยต่อยหนักแทบอัดผมเข้าข้างฝาโรงอาหารอย่างยับเยิน

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ ไงหล่ะไอ้รัก ขนาดไอ้ไทป์ยังพูดแบบนี้ มึงจงสำเหนียกตัวเองได้แล้วนะ” จ้าไอ้คิม ฝากไว้ก่อนเหอะมึง

แล้วไอ้พวกเปรตสามตัวนั่งหัวเราะไม่เกรงใจคนรอบข้างทั้งเดินผ่านไปมา

“น้องรักแรดร่านตามคอนเซ็ปละครหลังข่าว กร๊ากกกกก ” ไอ้คิม น้ำลายมึงกระฉอกออกจากปากมาถึงส้มตำกูเลยเนี่ยไอ้เวร ไม่ด่งไม่แดกมันแล้ว

“กูงอนละแมร่ง” ผมนั่งหน้าบูดแล้วสะบัดหน้าใส่พวกมัน

“โอ๋ๆขอโทษ ไม่เล่นแล้วค่ะ ตัวเองอย่างอนเค้านะคะ” ไอ้เนมบอก ผมเลยหันไปมองพวกมันอีกครั้ง

ไอห่า

มึงขอโทษกูแต่หน้าพวกมึงนี่กลั้นขำจนตดแตกให้ได้เลยไหมมมม




TBC-------------------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

 :3123:


ชอบหรือไม่ชอบอย่างไรบอกนะคะ จะได้เป็นกำลังใจด้วยค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: . Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่1 P.1 07/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 07-10-2012 12:39:34
อั๊ยะห์....จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเจ้าชายแอบรักผู้ชาย 5555
หัวข้อ: Re: . Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่1 P.1 07/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 07-10-2012 16:06:06
เชียร์น้องไอรักจีบหนุ่มสู้ๆ
หัวข้อ: Re: . Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่1 P.1 07/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: AGALIGO ที่ 07-10-2012 16:20:59

กว่าจะเสร็จมาได้---กว่าจะเสด็จมาได้ค่ะ

หิวจนใส้บิด---ไส้บิดค่ะ

+ เป็ดค่ะ

ปล. ลงให้จบนะคะ---อย่ามาทำให้อยากแล้วก็จากไป
หัวข้อ: Re: . Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่1 P.1 07/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 07-10-2012 16:22:52
น่ารักดีค่ะ
ติดตามๆ
หัวข้อ: Re: . Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่1 P.1 07/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: second ที่ 07-10-2012 16:23:26
สนุกอ่ะ รอติดตามนะค้าา  :mc4:
ว่าแต่ พิช ไม่ใส่กางเกงในงั้นเรอะ !!!  :a5:
หัวข้อ: Re: . Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่2 P.1 07/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 08-10-2012 02:16:00
ตอนที่2


หลังจากฟาดส้มตำที่โรงอาหารกันอิ่ม พวกมันก็แยกย้ายไปเรียนคาบบ่าย แล้วค่อยเจอกันที่ร้านหมูตอนสองทุ่ม ผมเลิกเรียนเสร็จก็ดิ่งกลับไปนอนคอนโดของตัวเอง ที่นี่พ่อเป็นคนซื้อให้ตอนสอบติด ความจริงบ้านผมก็อยู่ในเมืองนะ แต่แค่ไกลกับมอเท่านั้นเอง ห้องผมอยู่บนสุดของคอนโด ทั้งชั้นมีอยู่4ห้อง ค่อนข้างหรู แบ่งโซนชัดเจน วันไหนว่างๆไอ้พวกเปรตทั้งหลายจะชอบมาตั้งวงเหล้ากันเบาๆ

   -   It started with a whisper and that was when i kissed her … -

“สวัสดีครับ*Vaterสุดหล่อ คิดถึงอยู่พอดีเลย”  ไม่ต้องแปลกใจครับ ผมพูดแบบนี้กับพ่อตลอด พ่อผมเป็นลูกครึ่งไทย-เยอรมัน ส่วนแม่ ญี่ปุ่น-ไทย ผมเลยพูดได้หลายภาษา แต่หลังจากนี้ผมจะเรียกแด๊ดแล้วกัน (*Vaterแปลว่าพ่อ)

“ปากหวาน เชื่อไม่ได้ หึ ” แหนะ มีงอน

“โถ่สุดหล่อครับ ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะครับ”

“ไม่ได้กลับบ้านมากี่อาทิตย์แล้วล่ะ”

ชะอุยย ...

“…แฮ่”

“กี่อาทิตย์แล้วที่ให้พ่อแม่พี่ไออุ่น นั่งกินข้าวกันอยู่3คนล่ะหืม ” อั๊ยย่ะ! .. สุดหล่ออย่ากดดันไอรักด้วยการทำเสียงน้ำแข็งขั้วโลกอย่างนั้นสิจ๊ะ

“แม่น้องไอนั่งเหงาเศร้าซึมในบ้าน ไม่ได้ทำงานทำการ เพราะใครล่ะ”

โดนอีกดอก....

“ครับบบสุดหล่อ ฝากบอกที่รักของน้องไอรักด้วยว่าคิดถึงมากๆ อีกถ้าว่างๆจะแวะเข้าไปหานะครับ”

“เหอะ! อย่าลืมแล้วกันล่ะ” จ้าๆ

“ครับ เดี๋ยวผมขอเฝ้าพระอินทร์ก่อนนะครับสุดหล่อ ง่วงขนาดด”

“บาย ไอ้ลูกรัก”


.......................................................................




-   You and I go hard at each other like we're going to war.. –

อืมม... เสียงอะไรวะ...


-   You and I go rough, we keep throwing things and slamming the door.. .ปิ๊บ -


“เออ ว่าไง”  ผมส่งเสียงงัวเงียไปให้ไอ้พวกเปรต เพราะเสียงเรียกเข้านี้เฉพาะพวกมัน

“ไอ้เวร มึงตื่นเลย ลืมนัดพวกกูได้ไงวะ ” เสียงไอ้คิวกรอกมาตามสาย อืม.. นัดเหรอวะ

เหี้ยแล้วตู!!!!!!!!!!

“เฮ้ยไอ้สัดกูลืม อีก15นาทีไปถึง”

“ไอ้….” ผมรีบกดวางก่อนที่พวกมันจะรุมด่า หึ แล้วใช้เวลาในการแต่งตัวไม่ถึง10นาที

“ไปก่อนนะครับลุงยาม!” เจริญพรเลยกู ทั้งๆที่รีบก็ยังมีอารมณ์มาทักยามข้างล่างคอนโดอีกเนอะ

“จ้าเจ้าชาย” ลุงครับบ ผมชื่อไอรัก บอกเป็นร้อยรอบฮืออ แต่ไม่ทันจะเถียง ผมก็รีบกระโจนขึ้น BMW Series Seven สีดำ ด้วยความเร่งรีบ


-   You and I go hard at each other like we're going to war.. –

ไอ้พวกเหี้ยยย รอกู15นาทีไม่ได้หรือไงวะ จิกกูยิ่งกว่าไก่  ฝนก็ตกกระหน่ำ หงุดหงิดนะโว้ย

ผมกำลังหยิบโทรศัพท์ยี่ห้อผลไม้ขึ้นมา แต่มันดันหลุดมือแล้วกระโดดไปที่นั่งข้างคนขับ

-   You and I go rough, we keep throwing things......... –


เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

เอี๊ยดดดดดดดด ....

เอาแล้วไงกู ดวงซวยชิบหายวันนี้!!!!!!!!! ผมรีบออกจากรถไปดูคนบาดเจ็บ

“โอ๊ย…” คู่กรณีของผมนั่งก้มหน้าจับข้อเท้าตัวเองอยู่

“เป็นไรไหมครับ” ผมถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน เห็นอยู่เต็มตาว่ามันเจ็บ

“รีบไปตายตามพ่อมึงเหรอ ไอ้สัด” มันหันขึ้นมาอวยพรก่อนวันเกิดให้ผม น่าปิติยินดีจริงๆ


อะเด๊ะ.....

ฝัน.......

ฝันแน่ๆ.........

ฝันเปียกด้วย..........

กรี๊ดดดดดดดดดดด พบรักเกียร์ท่ามกลางสายฝน กูขอแต๋วแตกสักวันเหอะ

“อึ้งเหี้ยไร ไม่มีตาเหรอวะว่ามันไฟเขียวให้คนข้ามทางม้าลายแล้ว!@#&#^@!$^&” ผมยืนตัวแข็งทื่อแข่งกับจ่าเฉยแถวเกาะกลางถนน หูอื้อชั่วขณะ ปิดการรับรู้ทุกโสตประสาท จนเกียร์สุดหล่อของผมเอาบาทาอีกครั้งที่ไม่เจ็บมาสะกิดอย่างน่ารัก โอ้ยอย่าสะกิดสิครับ แค่มองไกลๆผมก็ใจสั่นแล้ว เดี๋ยวจับขึงกลางถนนเสียเลยดีไหม

“...ครับ?”

 “มึงรับผิดชอบกูด้วยไอ้ตาถั่ว”

เอ๊ะ?

“พากูไปส่งโรงพยาบาล ด่วน!”

ไอ้เชี่ยยยย มึงเปิดทางกูเองนะ

“ครับๆ” ผมจะเข้าไปพยุงเกียร์ให้เดินไปยังรถผม แต่มันสะบัดอย่างไร้เยื่อใย แล้วเดินกะเผลกไปที่รถ

ไม่นะ อย่าเพิ่งเกลียดผมเลย

หรือปล้ำในรถเลยดีวะ ไหนๆขามันก็เป๋แล้ว

ไม่ได้ๆ เดี๋ยวมันจะเกลียดผมไปมากกว่านี้

“รีบๆเดินสิวะ” เสียงตวาดของมันทำให้ผมสะดุ้ง

ผมรีบนั่งฝั่งคนขับ แล้วพามันไปโรงพยาบาลของพ่อผมที่อยู่ใกล้ๆนี่ละ

“หนาวไหมครับ”

“......” กริบ

“หิวหรือเปล่าครับ”

“......” กริ๊บกริบ

ครับ โอเค มันเกลียดผมแล้วล่ะ

เอ๊ะ แต่ปกติมันก็เป็นคนที่เงียบๆอยู่แล้วนะ จนเพื่อนลืมว่ามันมาเรียนด้วยเลย แหม อะไรกันครับ ทำไมถึงรู้น่ะเหรอ ก็ผมแอบตามมันเป็นปี เรื่องแค่นี้ถือว่าเบสิกมากๆ หึหึ

เปล่า ผมเปล่า

ผมไม่ได้เป็นสโตกเกอร์นะ

ไม่ใช่โรคจิตด้วย

แต่ผมเป็นโรครักต่างหากล่ะ

ผมนั่งฟังเสียงหัวใจตัวเองที่เต้นเป็นจังหวะสามช่า กับเสียงหายใจของตัวเองและคนข้างๆ โอ๊ยคุณเกียร์จะรู้ไหม ว่าผมใจเต้นโครมครามขนาดไหน

หลังจากนั้นผมก็พาเกียร์ลงจากรถ และเข้าไปในโรงพยาบาล พนักงานต่างก้มหัวให้ผมอย่างกับผมอายุ50 เซ็งนะโว้ย ผมไม่ชอบมาเพราะอย่างนี้แหล่ะ แล้วหน้าแดงกันทำไมวะ ผู้หญิงทำยังพอทน แต่ผู้ชายด้วยนี่มัน....

“สวัสดีครับคุณหนู วันนี้คุณผู้ชายไม่เข้ามาสาขานี้นะครับ”

“ผมไม่ได้มาหาคุณพ่อหรอก พอดีเพื่อนผมบาดเจ็บน่ะ”

“ครับๆ นั้นเชิญเลยครับ” ผมหันไปหาเกียร์ที่ทำหน้างงมั้ง เพราะมันหน้านิ่งแต่แววตางงงวยนิดๆ แต่พอเห็นผมมองมันก็ทำหน้าตึงเหมือนเดิม สงสัยไม่รู้สินะว่าผมเป็นเจ้าของที่นี่

จากนั้นผมก็ส่งเกียร์เข้าไปให้หมอตรวจ ส่วนผมรอข้างนอก

แต่เหมือนผมลืมอะไรไปอย่าง

ช่างเหอะๆ ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับสุดที่รักของผมแล้ว ฮาๆๆ

สักพักใหญ่ๆมันก็ออกมาพร้อมเฝือกสีขาว ไม้ค้ำยัน กับหน้าตาบึ้งตึงของมัน ทำให้ผมรู้สึกผิดทันตา

“ขอโทษนะครับ เรื่องค่าใช้จ่ายผมจะจัดการให้”

"......." มันยังไม่สบตาผมเลย

“แล้วมีอะไรให้ผมได้ไถ่โทษอีกไหมครับ” คราวนี้มันหันมามองผม

“มี”

“…..” มีอะไรอีกวะ แต่เพื่อคุณ หนักหนาแค่ไหนผมก็ทำได้นะ ซึ้งว่ะ

“มารับ-ส่งกูทุกครั้งที่กูมีเรียนหรือจะไปไหน เลี้ยงข้าวกลางวันให้กู กูสั่งอะไรต้องทำ แค่นี้มึงทำได้ใช่ไหม” อ้าว เปิดทางให้กูอีก เอ้อออออ ทำไมผมถึงคิดไม่ถึงวะ ฟ้าฝนเป็นใจให้ผมแล้วทีนี้ ฮ่าๆๆๆ แหมไม่ต้องยิ้มเยาะผมหรอก ผมเต็มใจ

“ได้สิครับ” ผมรีบตอบรับคำ จนมันอึ้ง

“.....”

“ผมชอบคุณ ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ”



TBC--------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>


 :3123:


ขอบคุณทุกคอมเม้นต์นะคะ
ขอบคุณ คุณAGALIGO เรื่องการสะกดคำผิดตอนที่แล้วด้วยค่ะ แก้ให้แล้วน้าตัวเอง
อาทิตย์นี้มีสอบหลายตัวอยู่ แต่จะมาต่อให้ได้ไม่เกินวันศุกร์แน่ๆค่ะ
พยายามทำตัวให้ชิวอยู่ ฮ่าๆๆ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: . Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่1 P.1 07/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 09-10-2012 17:43:10
ไอรักฝันเปียกซะงั้น .....
555555555555555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่3 P.1 18/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 18-10-2012 08:06:46
ตอน3

วันนี้ผมตื่นเช้าตรู่ ทั้งๆที่มันไม่มีเรียนเช้า แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมอารมณ์เสียได้เลย เพราะอะไรน่ะเหรอ หึหึ

 “สวัสดีครับ”

“.....เออ”

หืมม ... ขนาดเสียงงัวเงียยังหล่อเลย ไม่สิ น่ารักมากกว่า

“ผมอยู่ข้างล่างคอนโดคุณเกียร์แล้วนะครับ”

“อีกสิบนาที” แล้วก็วางสาย รวดเร็วติดจรวดเสียจริง

หลังจากเมื่อวานที่ผมได้สารภาพบาป เอ๊ยรักแบบโต้งๆไป มันอึ้งปนเหวอ น่าเอ็นดูมากๆ และดูเหมือนว่ามันคงไม่อยากคุยกับผมสักเท่าไร จะมีแค่เวลามันบอกทางไปคอนโดมันนั่นแหละ ความจริงผมรู้ตั้งนานแล้วว่ามันพักอยู่ที่ไหน เรียนวันไหนบ้าง แต่กลัวมันด่าผมว่าเป็นโรคจิต ตามติดชีวิตรองเดือนวิศวะเกินไป ฮ่าๆๆ

ผมลงรถไปมินิมาร์ทแถวคอนโด ตั้งใจว่าจะซื้อเครื่องดื่มบำรุงสมองกับขนมปังให้กับคุณเกียร์เสียหน่อย เอ๊ะ นมจืดรสช็อกโกแลตของผมด้วย ผมเป็นคนติดนมรสช็อกโกแลตมาก กินได้ไม่เคยเบื่อจริงๆ หลังจากคิดเงินเสร็จผมก็ตรงไปที่รถ กลัวเกียร์จะรอน่ะครับ

แหมะ วันนี้ก็ยังคงความหล่อเหมือนเดิมเลยนะครับ

“ไปครับ” ผมยิ้ม

“……” เกียร์มองผมด้วยหางตา เอ่อ อย่าพยายามทำหน้าแบบนั้นเลยครับ แค่นี้ผมก็หลงคุณจะแย่แล้ว ยิ่งได้เห็นคุณระยะประชิดแบบนี้ ผมอยากจะกระชากคุณมากอดเลยละ

 “วันเลิกเรียนกี่โมงครับ” ถามไปงั้นละ ก็บอกแล้วไง เรื่องของคุณ ผมรู้หมด

“...สิบเอ็ดโมงครึ่ง” เกียร์นั่งเท้าคางมองไปนอกหน้าต่าง

“อ่า นั้นเดี๋ยวผมมารับไปทานข้าวแล้วกันนะครับ” เกียร์เหล่ตามอง

“วันนี้กูจะกินที่โรงอาหารวิศวะ อย่ามาช้าละ ” สงสัยประโยคนี้จะยาวที่สุดในวันนี้ละมั้ง

“ครับ”


....................................................................



“ฮัลโหล ไอ้เพื่อนเลวใจหยาบบ เมื่อคืนมึงหายไปไหนมา ทำไมไม่รับสาย แล้ว#%$*$^”

“…ให้กูตอบคำถามไหนก่อนดีล่ะ”

“มึงไม่ต้องเลย คดีติดตัวเป็นกระทง แล้วตอนนี้สรุปมึงอยู่ไหน กูไปหาที่คอนโดทำไมไม่เจอ มีเรียนบ่ายไม่ใช่เหรอวะ” ไอ้หมาคิมสบถมาตามสาย

“มึงจะเจอได้ไงล่ะ ตอนนี้กูอยู่ใต้ตึกคณะ”

“อ้าว เออๆไว้เคลียเดี๋ยวพวกกูไปหา” หืม? พวกกู



“ไอ้เจ้าชายเหี้ยยยยยยยยยย” เสียงไอ้เนมมาแต่ไกล

ผัวะ ปัก ปึก!!!!! “โอ๊ย!!!!!” เสียงไอ้เนมหลังจากที่โดนรองเท้า แก้วน้ำ และอื่นๆอีกมากมายที่บินมาจากไหนไม่รู้

“สมน้ำหน้า มึงบังอาจไปตะโกนด่าเจ้าชายสุดหล่อแสนเพอร์เฟคของมหาลัยเองช่วยไม่ได้” พิชยิ้มแสยะ พร้อมส่ายหัวมองไอ้เนมแหนมเนืองอย่างระอา

“เออแม่ง กูผิด! ….ผิดตรงไหนวะแม่งไอ้เจ้าชายเฮงซวย” แหมถึงประโยคหลังมึงจะบ่นพึมพำในลำคอ แต่หูกูดีกว่าหมานะมึง

“ว่าไงไอ้รัก มีอะไรจะสารภาพไหม” พ่อพิชสุดโฉดถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกชวนเสียวสันหลัง

“มี เมื่อวานกูขับรถเฉี่ยวคนมา” ผมพูดพร้อมดูดนมช็อกที่แสนอร่อย โดนไม่รู้ว่าเป็นการเชิญชวนสายตาคนรอบข้างที่ผ่านไปมาหันมามองอย่างหยดเยิ้มกันเป็นแถว

‘หล่อชะมัด อยากจะเป็นหลอดอันนั้นจังแก แอร๊ยย’

‘มึงๆ เจ้าชายชอบกินนมช็อกเว้ย จดใส่ในโทรศัพท์ด่วน!!’

‘คนอะไรวะ ทำอะไรก็เท่ หล่อ สมาร์ท’

‘กูขอเอาไปนอนกอดสักคืนคงฟินน่าดู’



“ห๊ะ!!!” สี่หนุ่มเอฟโฟร้องเสียงหลงประสานกัน ขนาดไอ้ไทป์ยังไม่อาจเก็บเสียงของมันไว้ได้

“แล้วผู้เสียหายที่ดวงโคตรซวยของกูคือ... เกียร์”

“ห๊า!!!!!”

“แล้วมันก็ให้กูเลี้ยงข้าว มารับ-ส่ง ทำตามคำสั่ง”

“ห๊า!!!!!!!!!!”

“ถ้าพวกมึงจะพูดแค่ห๊า ก็กลับไปนอนบ้านเหอะ”

“ไม่ๆกูงง ไม่ดิกูตกใจ เอ้ย ไปยังไงมายังไงวะ โอ้ยยปวดตับชิบ” มึงพึมพำไรคนเดียววะน่ากลัวชิบ เหมือนความคิดในสมองของไอ้เนมกำลังตีกัน

“เออกูก็งง พรหมลิขิตบันดาลชักพาเหรอวะ” มึงเลือกเพลงไม่เข้ากับหนังหน้าเลยอะพิช

“สงสัยเมื่อคืนฟ้าฝนเป็นใจให้เรามาพบกัน” ถ้าไม่รู้จักกันมา ผมคงคิดว่าบ้านไอ้คิมผลิตน้ำคลองแสนแสบ เน่าได้อีกเหอะ

“แต่กูว่าดีเหมือนกัน”

“ยังไงวะไอ้ไทป์”

“พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสไงล่ะ หึหึหึ” เชี่ยย มึงหัวเราะอย่างนี้กูเสียวสันหลังตลอดเลย

“พลิกยังไงวะ ..อ้าวเฮ้ยจะไปไหนวะไทป์”

“กูมีเรียนสิบเอ็ดโมง” อยู่ดีๆมันก็ลุกขึ้นแล้วเดินจากไป

“อ้าวแม่งนึกอยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไป”

“เออแล้วทำไมมึงมาไวอะ” แหนะ หันมาสนใจเรื่องผมอีกละ

“ก็กูมารับเกียร์ไปเรียนคาบเช้า ส่วนกูก็มานั่งแกร่วรอมันไปกินข้าวกลางวันพร้อมกันแล้วมาเรียนบ่าย”

“โหไอสาดดด เผลอแปบเดียวแมร่งพัฒนาไปเยอะเลยวะแมร่งงงงง” กูว่ามึงติดคำว่าแมร่งเกินไปละไอ้เนม พูดย้ำอยู่ได้คำเดียว

“กูเป็นคนรับใช้ส่วนตัวมัน ไม่มีอะไรเกินกว่านั้นโว้ย”

“ก็ถือว่าดีกว่าแต่ก่อนที่มึงมัวแต่สะกดรอยตามโดยที่เขาไม่รู้หรือเปล่าละ”

“แต่มันไม่อยากคุยกับกูเลยอะไอ้พิช พูดแล้วน้อยใจชิบหาย ฮืออ” ผมพูดไปทำเป็นสะอื้นไป ไอ้พวกสามตัวนี้ไม่รู้สึกรู้สาอะไรหรอก

“มึงไปขับรถเฉี่ยวเค้า แล้วยังจะให้เค้าคุยเล่นกับมึงอีกเหรอวะ ประสาท” อูยย ..

“มึงก็หน้าด้านเข้าไว้ดิวะ ปกติกูก็เห็นมึงยิ้มแย้มโลกสดใสชื่นมื่นพาเอาคนหนุ่มสาวในมหาลัยมองกันตาละห้อย ทำตัวให้ปกตินั่นละดีแล้ว” จ้าพ่อเนมรูปหล่อ

“เออยิ้มแย้ม ชวนคุย เฟรนลี่กับเพื่อนๆมัน เข้าทางพ่อตาแม่ยาย จะไปยากอะไรวะ ฮ่าๆๆ”

“พูดง่ายๆเนอะไอ้คิม เฮ้อออ”

“อ้าว หรือเพื่อรักของมึง มึงทำไม่ได้?”

“ได้” กูก็บ่นไปอย่างนั้นเอง ฮ่าๆๆๆ




สิบเอ็ดโมงครึ่ง
โรงอาหารวิศวะ


ผมจอดรถอยู่ข้างหน้าโรงอาหารวิศวะแต่ยังไม่ลงไป ก็ใครมันจะไปกล้าลงวะแค่ขับเข้ามาก็มองกันตาเป็นมัน มันแปลกมากเหรอวะที่BMWจะมาจอดในเขตวิศวะเนี่ย แต่ไม่เป็นไรวันนี้อารมณ์ดี จิตใจเบิกบาน หึหึ

“สวัสดีครับ เลิกเรียนหรือยัง” ผมกดโทรศัพท์ไปหาเกียร์

“อยู่กลางโรงอาหาร”

 ปิ๊บบ ...

ยังคุยไม่ถึงหนึ่งนาทีมันก็วางสายใส่ผมเลยอะ คือมึงไม่ต้องห่วงค่าโทรศัพท์กูขนาดนี้ก็ได้นะ

ผมลงจากรถเดินเข้าไปในโรงอาหาร จากเสียงครึกโครมเงียบขึ้นทันตา ไอ้สาดผมก็คนนะ มันมองอย่างกับผมเป็นตัวประหลาด อย่าค้างดิ มึงมองผ่านๆไปไม่ได้เหรอวะ เสียงดังตึก ตึก ตึก ก้องทั่วโรงอาหาร ไม่ใช่เสียงหัวใจใครหลุดออกมาหรอก แต่เป็นเสียงผมเดินนี่ละ ผมเดินไปยืนตรงข้ามฝั่งที่เกียร์นั่ง มันนั่งก้มหน้าจับแผลอยู่



“เรียนเป็นยังไงบ้างครับเกียร์” เกียร์เงยขึ้นมาช้าๆ

“…..” กริบทั้งโรงอาหาร

“…ก็ดี”

“ตรงนี้มีคนนั่งหรือเปล่าครับ” ผมหันไปถามเพื่อนๆมันที่นั่งหน้าเหวออยู่รอบข้างมัน

“อ๊ะ เชิญครับเชิญ ตามสบายเลยครับ” พวกเพื่อนมันรีบกุลีกุจอเคลียที่ให้ผมอย่างรวดเร็ว พร้อมเสียงฮือฮาในโรงอาหารกลับมาดังอีกครั้ง

‘เหี้ยย เจ้าชายมาที่นี่ได้ไงวะ’

‘ถึงกูจะเป็นชายเถื่อน แต่กูยอมพรีกายให้ฟรีเลยจริงๆอะ’

‘ออร่าสว่างไปไหน กริ๊ดดด’



เสียงที่ได้ยินนี่เป็นปกติอยู่แล้วไม่ว่าผมจะเดินไปทางไหนก็จะมีเสียงรอบข้างแบบนี้อยู่ทุกครั้งไป แต่ผมไม่สนใจหรอก คนตรงหน้าน่าสนใจกว่าเยอะ


“ขอบคุณครับ..เอ่อวันนี้อยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า” ผมหันไปขอบคุณเพื่อนๆที่น่ารักของมันก่อนจะหันมาพูดกับมัน

“คะน้าหมูกรอบพิเศษ”

“แล้วน้ำ?”

“โอเลี้ยง” ถ้าโอไม่เลี้ยงไม่เป็นไร เดี๋ยวไอ(รัก)เลี้ยงเอง ฮ่าๆๆ

“ได้ครับ” ผมลุกออกไปซื้อข้าวซื้อน้ำให้มันโดยไม่ต้องต่อแถวแต่อย่างใด ผมยิ้มงงๆให้คนระแวกใกล้ๆที่เหมือนจะต่อแถวซื้อข้าวกัน แต่แหวกหนีอะไรสักอย่าง แปบเดียวก็ได้ของที่สั่งมาอย่างรวดเร็ว

“กู เอ่อผมชื่อพัตนะครับ ส่วนไอ้ผู้หญิงห้าวในกลุ่มคนนี้ชื่อสา ไอ้หน้าเหี้ยมชื่อโฟ่  ส่วนไอ้แว่นชื่อเน มันไม่กินผัก แล้วก็ไอ้ตัวโตๆขาวๆชื่อข้าวต้มมัด เรียกมัดก็ได้คร้าบบ” พัตหน้ากะล่อนกวนบาทาฟาดหน้านิดๆพูดขึ้น

“เจ้าชาย เอ้ยคุณไอรักไปรู้จักกับไอ้เหี้ยเกียร์ได้ไงอะ...ครับ” หืม..เสียงมึงไม่เหี้ยมสมหน้าตาเลยอะ นุ่มนวลฟังแล้วเพลิน น่าจะไปเป็นดีเจมากกว่าวิศวะนะ

“ครับยินดีที่ได้รู้จัก เรียกไอรักเฉยๆก็ได้ครับ คือผมเป็นคนทำคุณเกียร์เขาบาดเจ็บน่ะครับ” ผมยิ้มบางๆให้พัต ทุกคนทำหน้าอึ้งชั่วขณะ จนได้สติแล้วจึงคุยต่อ

“อ๊ะ ไอ้เพื่อนเหี้ยย มึงไปเดือนตัดหน้ารถเขาใช่ไหม มึงนี่มันเลวจริงๆ .. เอ่อขอโทษแทนไอ้เกียร์ด้วยนะคะ แหมมันคงเดินไม่ดูตาม้าตาเรือน่ะค่ะ” สาหันไปโวยวายให้เกียร์ก่อนจะหันมาพูดกับผมด้วยน้ำเสียงที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

“มันเฉี่ยวกูเอง ไฟเขียวให้คนข้ามถนนแล้ว แต่เสือกไม่หยุดรถ” มันบอกเพื่อนอย่างหงุดหงิด

“เค้าไม่ได้ตั้งใจหรอก มึงอะผิด”

“มันผิด”

”มึงอะผิด”

“กูไม่ผิด มันผิด” เกียร์เริ่มตะคอก

“เอ่อผมผิดเองครับ เดี๋ยวผมจะรับผิดชอบและชดเชยเสียหายให้เอง”

“โหยไอ้เพื่อนเลว มึงไม่ได้ตายสักหน่อย” อย่าไปแช่งที่รักผมสิครับไอ้คุณพิต

“เออใจร้ายว่ะมึง เค้าเสียเงินให้มึงแล้วต้องรับผิดชอบมึงอีก” หญิงสาวคนเดียวในกลุ่มบอก

“กูมองคนผิดไปสินะ” ข้าวต้มมัดดราม่าซะงั้น? เพื่อนมันมีคนเต็มสักคนไหมวะ

“โว้ยย เออ! มึงไม่ต้องชดเชยค่าเสียหายให้กู แต่มันต้องมาดูแลกูตามที่ตกลงกันไว้แค่นั้น”

“ตกลงไรกันวะ” พัดยังคงความเสือก

“ไปรับไปส่ง เลี้ยงข้าว ทำตามคำสั่ง”

“ไอ้สาดดดดดด เจ้าชายไม่ต้องทำนะครับเดี๋ยวจะเหนื่อยเปล่าๆ”

“ช่างน่าสงสารจริงๆ”

“เอ่อไม่เป็นไรครับ ถ้าเป็นเกียร์ผมเต็มใจ”

“......เอ่อ ฮ่าๆๆ ประโยคแปลกๆดีนะครับ” เสียงหัวเราะฝืดๆออกมาพร้อมกันห้าคน แต่เกียร์ยังหน้าบูดเหมือนเคย

“เออวันนี้ไปเตะบอลด้วยนะโว้ยอย่าลืม นัดพวกไอ้ดินเรียบร้อยแล้ว ส่วนไอ้เกียร์มึงก็ต้องไปนั่งดูด้วยกูเหงา” พัตบอกเพื่อนในกลุ่ม ลืมบอกไปว่าเกียร์เป็นกัปตันทีมในชมรมฟุตบอล

“เอ่อผมขอไปดูด้วยได้ไหมครับ” ก็คนอยากไปดู เป็นห่วงเกียร์ด้วยยิ่งขาเป๋อยู่ ถึงมันจะไปนั่งดูเฉยๆก็เหอะ

“เอ๊ะ ได้ครับๆ โหเจ้าชายมาสนามบอลทอล์คออฟเดอะทาวน์แหงๆ” นายแว่นไม่กินผักเจือกตอบ

“จะไปทำไม” เสียงทุ้มโหดๆติดหงุดหงิดดังขึ้น

“ตอนนี้ผมเป็นคนดูแลเกียร์ เพราะฉะนั้นผมต้องทำหน้าที่ให้ได้ดีที่สุดสิครับ” ผมยิ้มแก้มปริ มีเหตุผลอ้างโว้ย อย่าได้แคร์

“แล้วแต่มึง” มันลุกเดินไปยังตึกเรียน สงสัยจะไปเรียนต่อ

“อ๊ะ ผมช่วยครับ” ผมรีบเข้าไปพยุงเกียร์ มันมองปรายตา น่าทางยโสเสียจริง แต่ยอมให้ช่วยแค่นี้ก็ดีใจแล้ว

ผมเดินไปส่งมันที่อาคารเรียนแล้วกลับไปเรียนคาบบ่ายของตัวเอง


TBC------------>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

 :pig4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่3 P.1 18/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 18-10-2012 14:01:59
สนุกดีค่ะ ทำไมยังไม่มาต่อล่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่3 P.1 18/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: mind223 ที่ 18-10-2012 18:11:54
ติดตามๆๆๆ


 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:

 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่3 P.1 18/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 18-10-2012 18:29:53
 :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่3 P.1 18/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 18-10-2012 19:39:26
ไอรักน่ารักอะชอบด้านดี กร๊ากกก
อยากให้พิชเป็นคู่รองมากๆ ชอบพิช♥

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่3 P.1 18/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 18-10-2012 21:33:01
อร๊ายยย ชอบบบบ ติดแล้วอ่าา มาต่อเร็วๆน๊า :dont2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่4 P.1 20/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 20-10-2012 17:34:38
ตอน4


“ไงพวกมึง มากันแล้วเหรอ” ใครคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงขอบสนามทักขึ้น

“ถามโง่ๆ ยังไม่มามั้งไอ้ดิน” โฟ่ตอบกลับพร้อมโยนกระเป๋าสัมภาระไว้แถวที่นั่ง

“อ้าวไอ้นี่  ไอ้ดินอุส่าทักไพเราะ เดี๋ยวเถอะมึง….อ้าวแล้วไอ้หล่อนั่นใครวะหน้าคุ้นๆ”  ใครอีกวะ มามองหน้ากูกับให้กูท้องแฝด พวกห่าเหวที่ผมไม่รู้จักนับสิบหันมามองกันพรึบ

“มึงไม่คุ้นหน้าเจ้าชายก็แปลกละ ชื่อไอรัก เรียนแพทย์” ผมกำลังอ้าปากตอบแต่ไม่ทันไอ้คุณเนแนะนำให้เสร็จสรรพ

“อ้าวเฮ้ยคนของมหาลัย หวัดดีค้าบบบเจ้าชายไอรัก เอ๊ะหรือรักไอวะ ฮ่าๆๆ” ไอ้ปลาดุกชนท่อประปาแตก แมร่งหัวเราะกันยกใหญ่ เออขำเข้าไปพวกมึง

“หวัดดีๆ กู..เอ้ยผมชื่อดินนะ” เออไอ้นี่ค่อยดูน่าคบหา แมร่งไปคบกับพวกเวรนั่นได้ไงวะ พวกเวรนั่นค่อยๆไปยืดแข้งยืดขาเตรียมเล่นบอล มีดินกับเพื่อนเกียร์ยังนั่งจับเข่าคุยกันอยู่

“เรียกมึงกูก็ได้ ผมไม่ถือ ตามสะดวกเลยครับ” แต่สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล อันนี้ผมเติมในใจเอง

“โหไอรักค้าบบ มึงพูดซะไพเราะ ให้กูไปต่ำทรามจิตใจโทรมได้ไงวะ” ไอ้ดินยิ้มแหยๆให้ผม ได้ข่าวประโยคที่มึงพูดมาก็หยาบแล้วนะ

“เออเจ้าชายไม่ต้องสุภาพกับคนใช้แรงงานพวกนี้ก็ได้ ลองพูดกูมึงดูสิ” เฮ้ยไอ้พัตมาออเซาะกูต่อหน้าเกียร์ได้ไง ผมค่อยๆแกะมือพัตออกอย่างสุภาพแล้วพูดว่า...

“ไอ้คุณพัตครับ มึงเกาะกูแบบนี้เดี๋ยวกูก็ปล้ำตรงนี้เลยดีไหมครับ” แล้วยิ้มพิฆาตอย่างงามๆให้ไอ้พัตทีหนึ่ง

“……” มึงอึ้งทำไม??????? อยากให้หยาบๆเถื่อนๆไม่ใช่เหรอครับ

“กร๊ากกกกกกก”

“ฮ่าๆๆๆ ไอ้ไอรัก มึงบ้าจี้วะ ถ้ามึงจะพูดมึงกู มึงตัดคำว่าครับออกไปดีกว่านะสาดดด โคตรไม่เข้าเลยวะ” อ้าวแล้วไม่บอกกูอะพวกเวร แมร่งขายหน้าเกียร์หมด โอ้ยขนาดเกียร์ยังหลุดหัวเราะออกมาด้วยอะ เจ้าชายเซ็ง!!!!! มีไอ้พัตที่นั่งหน้าซีดหลังจากฟังประโยคนั้นจบ

“หึหึ..เอาเป็นว่าพวกกูบังคับให้มึงพูดกูมึง ที่สำคัญตัดคำว่าครับ คุณ ออกไปด้วยจะได้(แลดู)สนิทกันเร็วมากขึ้น โอเคปะ?” ไอ้โฟ่หน้าโถดออกคำสั่งแกมบังคับ ถ้ากูไม่โอเคก็ไม่ได้เกียร์เป็นแฟนสิวะ

“โอเค แต่เว้นเกียร์ไว้คนนึงแล้วกันได้ปะ” กูอยากหวานกับแฟนกูอะใครจะทำไม หึ ผมมองเกียร์ยิ้มๆ สื่อความนัยออกมาจากดวงตาให้มันได้รับรู้ถึงความรู้สึกข้างในว่า....เอ่อ อย่ามองกูเขม็งอย่างนั้นเซ่!!!!

“ทำไมวะ” น่านน กูไม่น่ากระตุ้นต่อมเสือกพวกมันเลยให้ตายสิ

“อะ อ๋อเปล่าหรอก คือกูคุยแบบนั้นกับเกียร์จนชินแล้ว มันเปลี่ยนยาก” แถครองโลก

หลังจากพูดเสร็จเสียงสวรรค์ดังช่วยชีวิตลูกช้างเอาไว้ ให้เจ้าหนูจำไมทั้งสี่คนคือไอ้เชี่ยดิน ไอ้แว่นเน ไอ้โฟ่หน้าโถด ไอ้พัตน่าเอาตีนลูบหน้า ลงไปเตะบอลเสียที เออไปๆก็ดี ผมหันมาชะงักเมื่อเกียร์จ้องหน้าผมอยู่ หืมม หน้าเหี้ยมดีเนอะ มึงจะแอ๊บหน้าโหดไปไหนนี่ ผมหันซ้ายแลขวากะจะเอาถุงดำครอบหน้าเสียหน่อย อย่ามาจ้องกันดิ้

“เอ่อ มองอะไรครับ”

“พูดกับกูเหมือนกับพวกนั้นก็ได้นะ”

“โถ่ ก็ผมชอบเกียร์นี่ครับ ไม่ได้ชอบพวกนั้นซะหน่อย” แหม ได้ผลแฮะ รีบหลบหน้าหลบตากูเชียวนะ

“ฮึ่ย! ทำไมวะ” กูได้ยินเสียงไม่พอใจในลำคอหรอก ไม่ต้องแอบหันไปทำก็ได้ไอ้เวร

“ก็คนที่รักที่ชอบกันต้องพูดเพราะนี่ครับ หวานดีออก” หยอดเข้าไป หยอดเข้าไปหึหึ

“แต่กูไม่ได้ชอบมึง กูไม่ได้เป็นเกย์ ไอ้สัด” เชี่ยย กูเสียใจเป็นนะแมร่ง แต่ท่องไว้ในใจว่า ‘ด้านได้อายอด’


“ผมก็ไม่ได้เป็นเกย์ซะหน่อย” อ้าวงงละซิมึง


“แต่ผมแค่ชอบเกียร์แค่นั้นเอง”


ก็จริงนิครับ ผมไม่เคยสนใจผู้ชายคนไหนเลย แม้ว่าจะมีผู้ชายบอบบาง ร่างตุ๊ด กระเทยบึกบึนเข้ามาหา แต่แค่ผมเห็นก็กระเดือกน้ำลายไม่ลงแล้ว ถ้าบอบบางน่ารักน่ากดนี่ยังไม่เท่าไรพอรับได้ แต่ก็ไม่ได้ชอบหรือสนใจ อีกอย่างผมก็มีอะไรกับผู้หญิงตลอด ไม่เคยลองผู้ชาย จนเจอเกียร์นี่ละ ผมก็หยุดเรื่องกิจกามซี้ซั้วกับคนอื่นไป


“ทำไมถึงชอบกูล่ะ คนอย่างมึงน่าจะหาได้ดีกว่านี้  กูหมายถึงผู้หญิงสวยอึ๋มประมาณนี้” 

“ชอบก็คือชอบครับ บางอย่างไม่จำเป็นต้องนั่งกังวลหรอก แต่เพียงยอมรับและเข้าใจมันให้ได้ ถ้าสวยอึ๋มน่ารักเป็นแม่ศรีเรือนขนาดไหนแต่ไม่ได้ชอบ มันก็บังคับความรู้สึกไม่ได้อยู่ดี ผมว่าคุณมีอะไรดีมากกว่าที่คุณรู้นะ ที่สำคัญเกียร์อย่าดูถูกตัวเองแล้วก็ความรู้สึกผมเลย” ผมตอบพร้อมมองมันหน้านิ่ง

อย่างตอนที่ผมรู้ว่าผมสนใจแล้วเริ่มชอบเกียร์ ผมนั่งกังวล ปรับทุกข์กับเพื่อน เมาหัวราน้ำอยู่หลายวัน แค่เหตุผลเพียงไม่กี่อย่าง ว่าเป็นเกย์บ้าง คนนั้นตัวใหญ่กว่าผมบ้าง แล้วมันดันเย็นชาอีกต่างหาก แต่พวกไอ้ไทป์ก็บอกว่า ‘ถ้ามึงไม่ยอมรับมันให้ได้ มึงก็เลิกชอบมันดิ แต่มึงตัดใจได้ไหมละ’ ผมจึงจำเป็นต้องหันเหความคิดตัวเองใหม่หมด

“…กูคงห้ามให้มึงไม่ชอบกูไม่ได้สินะ” แหมมึง ทำเป็นถอนหายใจหันไปทางอื่น กูเห็นหูมึงแดงอยู่แวบหนึ่งอยู่หรอก

“อยากให้ผมเลิกชอบไหมล่ะ” มันหันควับ คิ้วขมวด เม้มปากแน่น เฮ้ยยย ปกติมึงหน้านิ่งไม่ใช่เหรอวะ อ้ายเกียร์เปลี่ยนหน้าได้แล้วโว้ยยย

“ถ้าเป็นอย่างนั้นคงเสียใจด้วย เพราะผมคงทำให้คุณไม่ได้หรอก” ผมยิ้มตอบ แต่มันลุกขึ้นพรวด

“กูหิวแล้ว กลับ” อ้าวไอ้ด้วงติดไฮสปีด บทจะกลับก็ไวเหลือหลาย

“เฮ้ย กูกับไอรักกลับก่อนนะ” เห้ยยยยย มันเรียกชื่อผมอะ เสียงทุ้มหล่อปนโหดๆเรียกชื่อ วันนี้กูฟินกี่ครั้งแล้ววะ

“เออๆ รีบเอาเจ้าชายกลับเลย แมร่งสาวผ่านไปมาไม่มองกูสักคน” เรื่องของมึง วันนี้ผมไม่โกรธ เพราะตอนนี้กำลังเขินหน้าแดงอยู่

“ลุกดิ นั่งก้มหน้าทำอะไร” หันมาด่ากูอีก

"............"

“เร็วๆ เงยหน้ามามองกู” เชี่ยเอ้ย มองก็มองวะแมร่งพอใจยัง แล้วมึงจะอึ้งห่าไรละ

"............."

“ไม่สบาย?”

“เปล่าครับ”

“…”

“เมื่อกี้เกียร์เรียกชื่อผมครั้งแรกอะ” ผมเสหลบตาไปมองต้นไม้เหี่ยวๆด้านหลังเกียร์

“แล้ว?” แมร่งถามไรกูนักหนาวะไอ้หล่อเข้ม หัวกูก้มงุดๆจนคอจะหักแล้วนะสาดด

“ก็.....ผมเขิน” ผมตอบเสียงแผ่ว ไม่รู้ว่ามันทำหน้าตาอะไรอยู่ อาจจะรังเกียจผมอยู่ ทำไงได้วะก็มึงทำกูเขินอะ รับผิดชอบด้วยแง่งๆๆ

“ไปได้แล้ว” มันเงียบไปพักหนึ่ง แล้วเดินออกไป ผมรีบเข้าไปพยุงด้านที่ไม่ได้จับไม้ค้ำยัน


......................................................



“อยากทานอะไรครับ” ผมหันไปมองมันที่กำลังทำหน้าขรึมเหมือนคิดอะไรอยู่

“แวะตลาดโต้รุ่งแล้วกัน” มันอยู่ตรงไหนของโลกวะ

“บอกทางผมหน่อยแล้วกันนะ” มันหันมามองผมเอือมประมาณว่าไม่เคยไปเหรอวะ? แล้วผมผิดไหมถ้าจะส่ายหน้า

“ไม่เคยไปหลังมอ?”

“เปล่าครับ เคยไป แต่ไม่เคยไปตลาดโตรุ่งน่ะ”

“เคยแต่ไปผับสินะ” มันบ่นงึมงำ

“อะไรนะครับ?”

“เลี้ยวซ้ายแล้วตรงไป เลี้ยวซ้ายซอยหน้า” เวร มึงจะรีบบอกกูทำหอกอะไร เห็นไหมรถติดอยู่ สันดาน


.....................................................



“เกียร์ๆๆ กินอันนี้ไหม” ใครไม่เคยเห็นเจ้าชายกระดี้กระด๊าโปรดมาเห็นซะ แมร่งของโคตรเยอะถูกเวอร์ คนเยอะมากๆด้วยครับ

“อันนี้อะไรครับ มันต้องซื้อยังไงอะ” ผมถามป้าตรงหน้า

“หมูสะเต๊ะไม้ละสี่บาท สามไม้สิบจ้าหนู”

“เอาด้วยไหม” ผมหันมาถามคนข้างๆหน้าตื่นเต้น มันมองหน้าผมนิ่งๆ

“ไม่”

“นั้นเอาสิบไม้ครับป้า” ผมซื้อไปเผื่อไอ้คนข้างๆอยากกินด้วย


มันพาผมมาร้าน  ‘ขนมจีนน้ำยาป้าแจ๋วเผ็ดสะเด่า’ เอ่อแค่ชื่อมึงก็ฆ่ากูละ ผมไม่อยากจะบอกจุดอ่อนด้อยพล้อยตกต่ำของตัวเองเลยว่า กูกินเผ็ดไม่ด้ายยยยยยยยย ฮือออทำไงดีวะ จะบอกไอ้คนหน้าโหดข้างๆเดี๋ยวมันจะหันมาหัวเราะเยาะด้วยสายตาประณาม

“ขนมจีนน้ำยาป่า พิเศษหนึ่ง น้ำแข็งสองน้ำเปล่าหนึ่ง ..มึงเอาไร” มันหันไปสั่งเด็กเสริฟแล้วหันมาถามผม

“เอ่อ...ขนมจีนน้ำยาป่า” มันมองผมที่ตอบกระอักกระอ่วน

“มึงไม่เคยเดินตลาดใช่ไหม”

“อืม”

“มึงไม่เคยกินขนมจีน?”

“เคย แต่ผมเอ่อ สั่งไม่เป็น ..ทำไมมันไม่มีเมนูให้อะ” อ้าวไอ้ห่านี่กูถามดีๆ เจือกหัวเราะกูอีก มึงหัวเราะทำส้นตึกเหรอ

“หึหึ.. มันคงมีให้มึงเนอะ ไม่มีใครเค้าไม่รู้รายการอาหารอย่างมึงหรอก มันมีอยู่ไม่กี่อย่าง” มันพูดพอดีกับอาหารที่เด็กเสริฟอุส่าประเคนให้เราแบบกระแทกหน้าได้คงกระแทกแล้ว ผมเห็นสีในจานแล้วกลั้นใจหยิบส้อมงอๆหงิกๆนั้นขึ้นมา มันลงมือกินแล้วจึงกินตาม...... อ๊ากกกกกกกกก ทำไมแมร่งเผ็ดจัดวะ ผมกินไม่ได้จริงๆ ไม่ได้สำออยหรือคุหนแต่อย่างใด คำแรกทำเอาหน้าปากหูกูแดงอย่างกับฝรั่งหัดกินส้มตำปูปลาร้า น้ำหูน้ำตาไหลเป็นทาง ไอ้ป๋าแจ๋วววววเพราะมึงคนเดียวว

“เฮ้ยย เป็นไรวะ” มึงยังมีหน้ามาตกใจถาม

“ผะ......ผะ......เผ็ดโว้ยยยยยย” มันรีบรินน้ำให้ผมพร้อมสีหน้าเหมือนจะขาดใจตาย คือมึงจะหัวเราะกูก็หัวเราะเหอะ กูเห็นแล้วทรมานแทน จากที่สองคนเดินขนาบกันก็เป็นจุดสนใจแล้ว ยิ่งเป็นแบบนี้ยิ่งถูกจ้องมองเข้าไปใหญ่

ใครหนึ่งคนมีสีหน้าทรมานจากการอดกลั้นอะไรสักอย่าง ใครอีกคนนั่งหน้าแดงน้ำตาไหลประหนึ่งเด็กโดนลาบราดอร์วิ่งไล่

เข้ากันมากกกกกกกกก

“หยาบคายเป็นแล้วเหรอวะ เผ็ดจนตบะแตกว่างั้น หึหึ” เออหัวเราะจนได้นะปลวก ขำเข้าไป อย่าหยุดขำนะมึง ถาเห็นหยุดกูจะเอารองเท้าฟาดหน้า

“ซื๊ดดด มาเป็นผมแล้วคุณจะรู้ ให้ตายสิเผ็ดเป็นบ้า” มือปาดน้ำตาที่ร่วงปลอยๆไม่หยุด ซื๊ดจมูดแบบมีมารยาท ดังไปถึงหน้าปากซอย

“กินเผ็ดไม่ได้แล้วจะสั่งทำไมล่ะ..หึ” มัน(อุส่า)กลั้นหัวเราะคุยกับผม

“ก็..ก็ผมสั่งไม่เป็นนี่”

“เออ.. น้อง ขนมจีนน้ำยากะทิ ไม่เผ็ดหนึ่งที่” แล้วมันก็ก้มหน้ากินต่อ

“หึหึ” ยังครับ ยังไม่จบ กูไม่สนใจแมร่งละ ทำเป็นมองคนโน้นทีคนนี้ที จนขนมจีนน้ำยากะทิมาเสริฟ ผมเริ่มกินในขณะที่มันหมดจาน เป็นไงล่ะ มึงกินเสร็จต้องมารอกูกินอีก กร๊ากกกสะใจ

ผมหัวเราะเยาะมัน(ในใจ)แล้วพูดว่า..


“ทานหมูสะเต๊ะรอก็ได้ครับ รอผมแปบหนึ่งนะ”



TBC------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>


 :pig4:


ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ที่เป็นกำลังใจให้

ไม่รู้ว่าชอบเรื่องนี้กันหรือเปล่า ติชมได้นะคะ

โซ่*
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่4 P.1 20/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: didi ที่ 20-10-2012 22:50:54
น่าสนุกคะ :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่4 P.1 20/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: INMINTHA ที่ 21-10-2012 03:10:27
เจ้าชายน่ารักที่สุดอ่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่4 P.1 20/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 21-10-2012 10:17:30
 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่4 P.1 20/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: Mekaming ที่ 22-10-2012 00:04:01
เจ้าชายน่ารัก :z1: :z1: :z1:
รอดูคนเขาจะรักกัน  :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่4 P.1 20/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: biwtiz ที่ 22-10-2012 00:41:47
รอติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่4 P.1 20/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 22-10-2012 20:54:49
ถ้าคนอื่นเห็นความคิดภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มดั่งเจ้าชาย

คงหัวใจวายกันเป็นแถวอะ55555555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่4 P.1 20/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: mind223 ที่ 22-10-2012 21:49:38
 o13      o13          o13
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่4 P.1 20/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 22-10-2012 22:35:35
เจ้าชายเป็นนายเอก ?
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่5 P.1 25/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 25-10-2012 13:05:32
ตอน5


“มึงหลุดมาดเพราะขนมจีนน้ำยาป่า?”

“เออพูดแล้วเจ็บใจ ชาตินี้กูจะไม่กินอีกเด็ดขาด”

“กร๊ากกกก ไอ้เจ้าชายมาดหลุด”

“เดทแรกของมึงคือตลาดโต้รุ่ง หวานว่ะ ฮ่าๆๆๆ”


ครับ ตอนนี้ผมนั่งกินเหล้ากับสัมภเวสีทั้งสี่ตัว หลังจากที่ผมส่งคุณเกียร์เสร็จ ไอ้พิชก็โทรมาชวนแกมบังคับให้ผมไปกินเหล้ากับเดอะแก๊งค์เนื่องในโอกาสที่ไอ้ไทป์เลิกกับแฟนที่คบกันมาเกือบปี เห็นมันเงียบๆแต่มันเจ้าชู้ไม่แพ้ไอ้คิม ซุ่มเงียบเลยละ


“ได้ข่าวที่ชวนกูเพราะไอ้ไทป์เลิกกับแฟน”

“อ้าว มึงอะมาช้า เขาคุยกันจบสามรอบละห่า” กูผิด..

“เออแล้วมึงเศร้าเปล่าวะ” ผมหันมาถามไอ้ไทป์ เหมือนมันจะชิวไม่เข้ากับอารมณ์คนอกหัก

“มึงเห็นมันทำหน้าอมทุกข์หรือเปล่าละ ไอ้นี่ถามโง่ๆ” ไอ้คิมพูด พร้อมหันไปอี๋อ๋อกับสาวที่สอยมาตอนไหนไม่รู้ อืม...เนื้อนมไข่

“ไม่อะ กูไม่ได้จริงจังอยู่แล้ว” มันตอบหน้านิ่ง

“ไอ้รักๆ โต๊ะนั้นมองมึงใหญ่เลยวะ” ไอ้เนมทักขึ้น มันบุ้ยปากไปด้านข้าง โต๊ะ พวกผมหันพร้อมกันพรึบ เออมองจริงวะ

“ไอ้สาดด กูบอกไอ้รักคนเดียว เจือกหันกันคอเคล็ดเชียวนะมึง”

“คนขวาสวยดีวะ เสียดายตาต่ำไปหลงไอ้รัก” พิชประโยคหลังถ้ามึงไม่พูด ไม่มีใครบึ้มแฟนแม่มึงหรอก ชวนเส้นส้นเท้ากระตุกอยู่เนืองๆ ผมหันมานั่งกินต่อ แค่จิบๆเดี๋ยวพรุ่งนี้ไปรับสุดที่รักไม่ไหว

“เฮ้ยๆๆ ไอ้รักตายด้านแล้ววะ ฮ่าๆๆ”

“อยากโดนตีนลูบหน้าหรือไง”

“แหมตัวเอง เค้าล้อเล่นนะคะ กุชิกุชิ” ไอ้เนมทำหน้าทำตาบ้องแบ๊วใส่ผม ช่างน่าสะอิดสะเอียน ผมนั่งคุยกับพวกมันสักพักก็ขอตัวกลับก่อน

“เฮ้ย กูกลับก่อนนะ”

“รีบไปไหนวะ” พิชถาม พวกมึงยังสนใจกูอีกเนอะ ควงหญิงคนละคนสองคน

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นไม่ไหว เกียร์เรียนเช้าด้วย” เออแล้วพรุ่งนี้กูเรียนกี่โมงวะนี่

“ถุยย ไอ้คนมีผัวเป็นฝั่งเป็นฝาจนลืมเพื่อน” ไอ้คิมหยาบคายยยยย

“ได้หลังแล้วลืมหน้า” เจริญพรโยมไทป์

“เออไอ้รักพรุ่งนี้อาจารย์เขาเลื่อนไปสอนแปดโมงครึ่งนะ อย่ามัวแต่กกผู้ชายนะมึง ฮ่าๆๆๆ” ไอ้เวรเนมเตือนดีๆไม่เคยได้ กวนผมตลอดด เสียเชิงชายหมด มันเรียนแพทย์กับผมนี่ละ ก็ไม่เข้าใจว่าอย่างมันจะเป็นแพทย์รอดไหม กวนตีนทั้งนิสัยและหนังหน้า

“เออๆไว้เจอกัน” ผมรีบตัดบทก่อนจะสาวความยืดไปมากกว่านี้


..............................................


“อรุณสวัสดิ์ครับ ทานปาท่องโก๋ได้เลยนะครับ” ผมทักคนข้างๆที่นั่งสะลึมสะลืออยู่

“…อืม” ตอบหน้าเบลอๆแบบนี้สงสัยยังไม่ตื่น

“วันนี้เลิกกี่โมงเหรอครับ"

“มีคาบเช้าที่อาคารS เลิกสิบเอ็ดโมงครึ่ง”

“เดี๋ยวผมรับไปทานอาหารกลางวันแล้วกัน”

“เป็นหน้าที่ของมึงอยู่แล้ว” มันพูดกับผมพลางหันไปมองนอกหน้าต่าง ข้างนอกมันมีอะไรดีวะ กูติดฟิล์มมึดขนาดนี้แล้วนะ

“อ้อเดี๋ยวครับ.........ตั้งใจเรียนนะ” ผมเรียกมันแล้วยิ้มให้ก่อนที่มันจะเปิดประตู

“มึงควรบอกตัวเองด้วย”แหมจะบอกตั้งใจเรียนเช่นกันก็บอกสิ อ้อมจักรวาลไปเพื่อ เปลืองน้ำมัน


.......................................


“วู้ววๆ ทางนี้โว้ย” ไอ้เชี่ยเนมมึงจะตะโกนทำพระแสงด้ามยาวทำไมวะ อาจารย์ยังไม่มา เอาใหญ่เชียวนะมึง

“ชู่ เบาๆสิวะมึง” ผมรีบเดินไปนั่งข้างๆมัน

“แหมตัวเองก็ เค้าคิดถึงตัวเองนะ มัวแต่ไปไตอยู่นั่นแหล่ะชิ”

“อะไรของมึงไปไต”

“ไตหาหัวจาม ตามหาหัวใจไงคะฮิ้ววว”

???

สวัสดีนี่หรือ...แพทย์ในอนาคต

แป้กเหี้ยยยยยยย กูว่ามันหมดเทรนด์ของมุขนี้ไปนานมากแล้วนะ

“แล้วไอ้คลื่นกับไอ้บอสอะ” ไอ้สองคนนี้ผมไปขุดเจอตอนขึ้นปีหนึ่งนี่ละ มันเป็นเพื่อนกันตั้งแต่มัธยม ไอ้บอสมันเหี้ยมาก เห็นบอกว่าพ่อมันเป็นมาเฟียตามใจมันสุดๆ แต่มันเรียนเก่ง พ่อมันเลยขอให้เรียนแพทย์ ซึ่งไม่ได้เข้ากับนิสัยของมันเลยแม้แต่นิด ส่วนไอ้คลื่น มันเคยบอกว่าชื่อมันไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด ตอนผมรู้จักมันครั้งแรกผมก็ถามว่าชื่อมันมาจากโต้คลื่น คลื่นทะเลเหรอ แต่มันบอกเปล่า ตอนแม่ท้องมัน ท่านแพ้ท้องบ่อยมาก คลื่นไส้ตลอด แต่พี่น้องมันไม่เป็นนะ เป็นตอนท้องมันคนเดียว มารครอบครัวจริงๆ ไอ้นี่มันรักเพื่อนมากแคร์เพื่อนสุดๆ แต่ขี้งอนสุดๆเหมือนกัน ตัวใหญ่เท่าควายแฝดแต่ดันขี้งอน

“ไอ้คลื่นอยากกินเสลอปี้ มันอ้อนกู แต่กูทำเป็นหลับ เลยไปอ้อนตีนไอ้บอส โดนไอ้บอสถีบไปเป็นสิบรอบ รอบที่สิบเอ็ดไอ้บอสใจอ่อนเลยไปเป็นเพื่อนมัน”

“กูอยากกินนมช็อกอะ โทรไปสั่งให้กูหน่อยดิ”ผมหันไปสั่งไอ้เนม แล้วหยิบหนังสือการ์ตูนในมือมันไปอ่าน อืม..ช้างน้อยของไอ้ชินจังจอมแก่นเมื่อหลายปีที่แล้วก็ไซส์นี้ เมื่อไหร่มันจะโตขึ้นวะ

“ไอ้ไอรัก เอาของกูมา แมร่ง ทำไมกูอ่านชินจังแล้วเพื่อนในเซคมองกูเหยียด แต่มึงอ่านแมร่งมองกันเหมือนมึงอ่านฟิสิก ถุย” ตามเวร ตามกรรมครับ

“โทรไปสั่งให้กูก่อน”

“กูว่าไม่ต้องโทรละ สมน้ำหน้าอดกินแล้วละมึง ฮ่าๆๆ” ผมเงยไปเห็นไอ้สองตัวนั้นกำลังเดินมานั่ง ฝันสลายเลยกู ฮืออ

“อ้ายอายร๊ากกก มาแล้วเหรอออ” ไอ้ไอรัก มาแล้วเหรอ ภาษาไอ้คลื่น กูต้องแปลให้คนอ่านฟังอีกรอบใช่ไหม

“เออ กูโกรธมึง”

“ห้ะ อะไรของมึง เอ้าเอาไปนมช็อก ไอ้บอสอุส่าหยิบมาให้มึงเชียวนะ” ผมตาวาวมองนมช็อก หายโกรธไปสนิท แหมเพื่อนรัก ไม่เคยทิ้ง(ท้อง)กูจริงๆ ไอ้บอสหันมาทำหน้าเอือมใส่ ทำไม ก็กูหิวอะ มีปัญหาเหรอ แง่งๆ


หลังจากจัดการเสบียงเสร็จ อาจารย์ก็มาพอดี โหอาจารย์มาสายไป20นาทีไม่มีใครด่า ทีกูมาสายด่ายันอากงอาม่าอาเหล่าเจ็ก วันนี้ผมเลยเลิกช้ากว่าปกติ

ผมรีบบึ่งไปอาคารS ระหว่างทางผมหันไปเห็นแถวซอกตึกเห็นกลุ่มคนชุดขาวกางเกงดำ เอ่อชุดนักศึกษานั่นแหละ ผมเลยชะลอดูว่าเกิดอะไรขึ้น เอ๊ะ คุ้นๆ .....

เห้ยยยยยยยยยยยยยย

ผมรีบสาวเท้าเข้าไปด้วยความโทสะ

หมับบ!!

“ทำอะไร” ผมหันไปรับหมัดคนหนึ่งที่กำลังจะซัดเกียร์

“ห้ะ จะ..เจ้าชาย?!”

“กูถามว่ามึงจะทำอะไร” ผมตะคอก

“ไม่เกี่ยวกับมึง” อีกคนหันมาตะคอกใส่ผม

“มึงเป็นใครจะทำอะไรกูไม่สน แต่นี่เป็นคนของกู อย่ามายุ่งกับคนของกูอีก กูถือว่าเตือนพวกมึงแล้ว” ผมบิดแขนไอ้กิตจนมันร้องเสียงหลง แล้วปล่อยมัน

“อ้อกิต ถ้ามีครั้งหน้าอีก ระวังกิจการทางบ้านของคุณจะไม่ราบรื่นนะ” ผมยิ้มแสยะให้ไอ้กิต ไอ้นี่ผมรู้จักดี พ่อแม่มันมายืมเงินบ้านผมบ่อยๆ แต่พ่อแม่มันดีครับ ยืมแล้วคืนทบต้นทบดอกไม่บกพร่อง

“หึ่ย.. ฝากไว้ก่อนนะมึงไอ้เกียร์ ไปพวกมึง!”


ผมหันไปมองร่างใหญ่ที่ยืนพิงผนังอาคาร โหมันเล่นซะเยิน และแล้วความเงียบก็เข้ามาปกคลุม...

“ยังสบายดีไหมครับ” โว้ยยย อยากตบปากตัวเอง ถามไรวะนี่

“...ยังไม่ตาย” ความจริงมันมีเรื่องกับคนอื่นบ่อย แต่ครั้งนี้มันคงโดนหมารอบกัด แถมขาเจ็บคงทำอะไรพวกนั้นไม่ได้มาก ผมเข้าไปช่วยพยุงขึ้นรถ

“คนของกูงั้นเหรอ หึหึ” มึงจะตายแล้วยังมีหน้ามาหัวเราะคนอื่นอีกเนอะ

“แฮ่” ผมยิ้มแหยๆให้มัน ก็ตอนนั้นอารมณ์มันขึ้นนี่หว่า

“แล้วทำไมอยู่คนเดียวครับ พวกพัตไปไหน” ผมเปลี่ยนเรื่อง ตามองแก้มมัน โหช้ำได้อีกนะมึง

“กลับไปแล้ว กูนั่งรอคนเดียวอยู่แถวม้าหินอ่อนใต้อาคารS” พูดซะผมรู้สึกผิดที่มาสายเลย

“เหรอครับ” ยัง ผมยังไม่หยุดสำรวจแผลตามร่างกายมันยันถึงรถ เอ๊ะเดี๋ยวก่อนนะ นั่งรอ นั่งรอคนเดียว เพื่อนกลับหมด เอ้ยยย ถ้างั้นมันก็รอผมสิ ทั้งๆที่มันก็กลับกับเพื่อนก็ได้ แต่มันรอผม มันรอโผ๊มมม ผมรีบวิ่งไปฝั่งคนขับ ณ จุดๆนี้ปากคงถึงหูแล้วละ


“ไปทำแผลที่คอนโดผมก่อนแล้วกันนะ” คอนโดผมอยู่ใกล้กว่ามัน

“กูไม่เป็นไรมาก” จ้า ไม่เป็นอะไรมาก แต่เป็นไม่น้อยเลย

“ครับ ปากช้ำ ท้องเขียว คิ้วแตก แก้มบวม เป็นน้อยจริงๆครับ” ผมประชด มันคิ้วขมวดเม้มปากแน่นเชียว ก็คนมันเป็นห่วงนี่หว่า

“ตามใจมึงแล้วกัน” กูชนะ


.....................................



“ตามสบายนะครับ” ผมวางกระเป๋าเรียน แล้วเดินไปเปิดแอร์เปิดม่านให้แดดเข้า รินน้ำเปล่าสองแก้วแล้วส่งแก้วหนึ่งไปให้มันที่นั่งอยู่บนโซฟา จากนั้นก็หันไปเอากระเป๋าเครื่องมือแพทย์มาทำแผลให้มัน

“กูทำเอง” เดี้ยงแล้วยังดื้ออีกนะมึง

“ให้ผมทำเถอะ จะได้ฝึกไปในตัวด้วย” มันมองผมนิ่ง แหมขอแถหน่อยเหอะ ก็อยากทำให้อะ ผมทำแผลให้มันเงียบๆ วันพรุ่งนี้เขียวทั้งหน้าแบบไม่ต้องสืบแน่ๆ ก่อนที่จะเขยิบเข้าไปทายาแถวหน้าท้องมัน ผมส่งโทรศัพท์ให้มันสั่งอาหารขึ้นมากินบนห้อง จะได้ไม่ต้องเสียเวลาออกไปข้างนอก หืมม ทำไมกูไม่มีซิกแพ็คเหมือนมันวะ หมันไส้น่ากัดให้แฟ่บจริงๆ

“อะ เสร็จแล้ว” ผมพูดพร้อมลุกขึ้นจะเอากระเป๋าเครื่องมือแพทย์ไปเก็บที่เดิม

“เดี๋ยว” มันรั้งแขนผมเอาไว้แต่แรงดึงทำให้ผมตกใจเซล้มไปทับตัวมัน ตาทั้งสองคู่เบิกโพลง ทั้งคู่นิ่งนานนับนาทีราวกับเวลาหยุดเดิน สายตาสีฟ้าน้ำทะเลจ้องมองดวงตาสีเข้มที่หลุบลงมองริมฝีบางชมพูต่างหน้า ก่อนจะเคลื่อนเข้าไปใกล้ขึ้น ริมฝีปากแตะกันเพียงนิดเดียวแต่ทำให้รู้สึกถึงความนุ่มนวล อีกฝ่ายทำมือเหมือนยกขึ้นจะคว้าท้ายทอย แต่ผมไม่รู้ว่ามันจะกดให้จูบกันแน่นขึ้นหรือจะดึงหัวผมออกพร้อมสวนหมัดหนักๆใส่หน้า ผมจึงรีบผละปากออกแล้วลุกขึ้นยืนทำอะไรไม่ถูก

“อ๊ะ เอ่อ มะ มีอะไรเหรอครับ” ผมถามตะกุกตะกัก เชี้ยย ปากสั่นทำหน้าเลิกลั่กทำไมวะกูไม่เข้าใจตัวเอง

“เปล่า แค่จะบอกว่า ...ขอบใจ” ต่างกันต่างเบนสายตาไปคนละทาง มันนั่งมองแจกัน ทีวี(ที่ปิดอยู่)  ส่วนผมก็เม้มปาก เกาหัวดิ เผอิญมือมันว่าง ฮือออ ทำไมกูเหมือนสาวน้อยเสียจูบแรกอย่างนี้วะ เสียเชิงชายยย

ออดดดดด

กริ๊ดดดดด(ในใจ) เจ้าชายแต๋วหลุดตกใจหมด ใครมาตอนนี้วะช่วยชีวิตพวกกูจริงๆ ให้ตายสิ

“อาหารที่สั่งได้แล้วครับ ทั้งหมดXXXบาท” จากเหตุการณ์นั้น ทำให้ผมมองคนส่งอาหารหล่อขึ้นประมาณแปดสิบเปอร์เซนต์ ผมจ่ายเงิน แล้วเดินไปห้องครัว

ข้าวสองจาน ต้มยำกุ้ง ปลาเผาราดพริก กับ ‘สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า’

???

......สปาเก๊ตตี้มาได้อย่างไร

“กูเห็นมึงคุณหนู กลัวกินต้มยำกับปลาเผาไม่เป็น” มันคงเห็นผมทำหน้างงใส่สปาเก๊ตตี้ สงสัยผมตั้งใจทำแผลมากไปหน่อย เลยไม่ได้ฟังว่ามันสั่งอะไรบ้าง

“โห ผมทานเป็นหน่า ดูถูกชะมัด” ผมทำหน้ามุ่ย คนอะไรวะกินต้มยำกุ้งไม่เป็น

“กูจะรู้ไหม ขนาดขนมจีนยังกินไม่เป็น” อีขนมจีนมันมาอีกแล้วววววววว คิดแล้วหงุดหงิด

“ผมบอกแล้วว่าผมทานเป็น แต่ผมแค่สั่งไม่เป็น ...คุณไม่ต้องเอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่หรอก จิ๊”

“หึ เด็กน้อยเอ๊ย” เมื่อกี้เหมือนผมเห็นรอยยิ้มมันแวบๆ เอ๊ะ สงสัยตาหลับด้าน

หลังจากที่กินอาหารมื้อพิสดารเสร็จ มันก็ทำหน้าที่แขกที่ดีโดยการเก็บจานไปล้าง แต่ผมบอกไม่เป็นไรเดี๋ยวก็มีคนมาล้างเอง มันเลยสวนกลับมาว่า ‘มือกูไม่ได้เป็นง่อย กูทำเองได้’ จ้า กูผิดเองจ๊ะ

- You and I go hard at each other like we're going to war.. –

“เออ” ผมรับสายไอ้คิม

‘มึ๊งงงงวันนี้แดกเหล้าแดกเหล้า แดกเหล้าแดร๊กกกเหล้ากันน’ อะไรของมันวะนั่น

“มึงกะจะให้กูตับแข็งเลยเหรอวะ แมร่งชวนกูทุกวัน” ไอ้เกียร์หันมามองเลิกคิ้ว ก่อนจะขมวดเป็นปมแน่น แหมมึงไม่เคยเห็นกูหยาบคายกับฝูงควายสินะ

‘ตัวเองงง วันนี้ฉลองเค้าซื้อคอมใหม่ไง ถ้าตัวเองไม่มา เค้าโกรธ!’ อย่างนี้ไอ้เนมชัดๆ

“เชี่ย หาเรื่องให้กูออกทุกวัน ตั้งแต่เพื่อนอกหัก แมวคลอดลูกยันซื้อคอมใหม่ กูไม่ไปเว้ย” กูจะสวีทกับแฟนกู๊!!!

‘กูโกรธ.....’ เสียงนิ่งของไอ้พิชกับไอ้ไทป์พูดพร้อมกัน

“เรื่องของมึง”

‘……’

“…..เฮ้ย อย่าเงียบดิ”

‘…..’

“เฮ้อออ เออๆสองทุ่มร้านหมีแล้วกัน”

‘เฮฮฮฮฮฮ’ พวกมารเฮกันคับคั่งเสร็จก็วางสาย วอทเดอะฟัค นี่กูโดนหลอกอีกแล้วใช่ไหม...


“ไว้ออกพร้อมกัน” ห้ะ อะไร??

“ครับ?”

“กูบอกว่าไว้ออกไปร้านหมีพร้อมกัน กูนัดเพื่อนกูไว้เหมือนกันวันนี้” ห๊า ไปกินเหล้า(ร้านเดียว)กับเกียร์ แอร๊ยยเบาๆ

“อ้ะ อ๋อนั้นสักทุ่มครึ่งค่อยออกไปหอเกียร์ก่อนแล้วกัน”

“เออ ดูเรื่องนี้ได้ปะ” มันหยิบซีรี่ย์ญี่ปุ่นเรื่องone Litre of Tears โหหน้าอย่างมึงควรดูพวกsci-fi หรือหนังฆาตกรรมนะ ความจริงผมชอบหนังหรือซีรี่ย์ต่างประเทศ แนวบู๊หรือใช้หัวคิดหน่อย พวกprison break อยากบอกว่าสนุกมาก แต่เรื่องรักๆใคร่ๆนี่บางเรื่องที่ชอบจริงๆถึงจะซื้อมาเก็บเอาไว้

“ได้สิครับ เปิดเลย”

ผมกับมันนั่งดูอยู่บนโซฟา ผมห่มผ้านั่งคุดคู้ ส่วนมันกอดหมอน ดูไปดูมาน้ำตาเริ่มซึม เหลือบไปมองคนข้างๆยังนิ่งอยู่ ใจแข็งจริงๆ ใครเคยดูแล้วไม่ร้องไห้นะ ผมว่าคนนั้นโคตรเทพอะ ผมแค่เห็นนางเอกทรุดลงไปกับพื้น ใจแทบขาดรอนๆแทน น่าสงสารได้อีก

“อึก…” กูไม่สนละภาพพจน์ ร้องแมร่ง สักพักมีกล่องทิชชู่ยื่นมาตรงหน้า

“จะสงสารหรือสมเพชดี” ปากดี

“จิ๊.. ขอบคุณครับ” แล้วผมก็หันไปสนใจหนังต่อ ประมาณทุ่มครึ่งเกียร์ทักขึ้น

“เดี๋ยวค่อยดูต่อ ไปเตรียมตัวได้แล้ว” จ้าที่รัก



TBC-->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>


หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่5 P.1 25/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 25-10-2012 13:30:39
เสียงเรียกเข้าเสียงเดียวกับเจ้าชาย 555

มาดหลุด 2 รอบแล้วนะเจ้าชายยยยย อิอิ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่5 P.1 25/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 25-10-2012 18:20:55
น่ารักจังเจ้าชายเวลาอยู่กับเกียร์พูดเพราะตลอด

บวกหนึ่งให้นะค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่5 P.1 25/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: mind223 ที่ 26-10-2012 21:29:33
 o13 o13 o13 o13 o13





 :3123: :3123: :3123: :3123: :3123:
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:





 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่5 P.1 25/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 27-10-2012 14:55:40
เจ้าชายน่ารักใสๆ

เคยร้องไห้เพราะบันทึกน้ำตาหนึ่งลิตรเหมือนกัน  :m15:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่5 P.1 25/10/12]
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 06-11-2012 16:24:09
ตอน6


“ฮู้ว เกียร์ทางนี้ อ้าวเจ้าชาย มาได้ไงนั่น มาๆๆนั่ง”

“ไอ้เลวเกียร์ มึงใช้เจ้าชายมาส่งดึกๆดื่นๆได้ไงวะ ....สวัสดีค้าบไอรัก” สงสัยไอ้พัตคงจะมีสองเสียง ช่างแตกต่าง

“เอาไปของมึงผสมโซดา ..เจ้าชายเอาผสมอะไรดีคะ” สามือชงอันดับหนึ่งของโต๊ะ ตั้งแต่นั่งมาเห็นยังง่วนอยู่กับการชงให้เพื่อนไม่หยุดไม่หย่อน

“ฟายเหอะ ร้อยวันพันปีไม่เคยพูดคะขากับพวกกู กับอาจารย์มึงยังด่าทอไม่เว้น แล้วนี่อะไร!! สองมาตรฐานเห็นอีวันทองสองหัว” วันทองสองใจไม่ใช่เหรอครับ

“กูเป็นกุลสตรีนานแล้ว พวกมึงไม่เคยสนใจเอง เก็บหน้าแว่นๆของมึงไปเลยไป๊ ชิ”

“กูว่าโลกร้อน สาถึงเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังบาทา” แต่กูว่าไม่เกี่ยว

“โว้ะ กูไม่คุยกับมึงละไอ้เน ว่าแต่จะผสมอะไรดีคะเจ้าชาย” สาหันมาถามอีกรอบ

“เป๊ปซี่ ไม่ต้องกินเหล้า” ไอ้เกียร์หันไปสั่งสา ได้ข่าวกูมาร้านเหล้า แล้วไม่ให้กูกินเหล้า มึงไม่รู้อะไรเสียแล้ว กูคอแข็งกว่าหินปูนอีกนะ เหอะๆ

“อ่อ ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจะไปนั่งกับเพื่อนแล้ว” ผมตอบยิ้มๆให้ พวกทั้งโต๊ะอึ้งหน้าแดงกันเป็นแถว

“ทำไม” เสียงหล่อๆดุๆแบบนี้มีแค่คนเดียว

“ป่านนี้เพื่อนผมรอเหงือกแห้งแล้ว” ผมบุ้ยปากไปทางโต๊ะเพื่อนผมเยื้องๆไม่ใกล้ไม่ไกล มันนั่งฝอยกันจนลืมว่ามีเพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งยังไปไม่ถึง ไอ้เลววว

“แต่กินโต๊ะนี้กับโฟ่สนุกกว่าน้า” มึงอย่ามายิ้มกรุ่มกริ่ม กูเห็นแล้วคลื่นไส้

“อ่าไม่ดีกว่าครับ เดี๋ยววันนี้คงขึ้นร้องเพลงด้วยต้องไปเตรียมก่อน แฮะๆ” ความจริงผมเป็นมือเบสของวงในคณะ แต่พวกเพื่อนผมชอบให้ผมร้องเพลงด้วย มันบอกเสียงผมนุ่มๆ แต่น้อยครั้งที่ผมจะยอมร้องเพลง ส่วนไอ้คลื่น(ไส้)เป็นนักร้องเสียงหล่อๆ ปรกติพวกผมไม่ค่อยได้เล่นให้ผับบ่อยนักหรอก แค่วันนี้พี่พัชขอมาเลยจัดให้สักที

“วิ้ดวิ้ววว ผัวตามมาเฝ้าหรือครับไอ้ท่านรัก” เกลียดไอ้พิชตอนกวนตีนจริงๆ พอน้ำเมาเข้าปากมันทีไร พูดมากทุกที

“กูนึกว่าจะไม่มาโต๊ะนี้เสียแล้ว ก็นะ เพื่อนมันไม่เร้าใจเท่าไอ้หนุ่มหน้ามนชาววิศวะนี่นะ เนอะตัวเองเนอะ” ไอ้เนมพูดพร้อมออฟชั่นหันเอาหน้าไปถูกับแขนไอ้คิม เชี่ยขนลุก จากสีหน้าไอ้คิม ผมว่าคงคิดไม่ต่างจากผมเท่าไรนะ

“เออไอ้บอสกับไอ้คลื่นบอกว่าให้มันไปเตรียมตัวได้ละ” วงผมมีสี่คน บอสมือกลอง คลื่นนักร้อง ผมเบส ส่วนไอ้เนมกีต้าร์ ถ้าผมร้อง คลื่นก็จะมาเล่นเบสแทน

ผมเดินไปพร้อมไอ้เนม ทักทายคู่เห็บหมัดเล็กน้อย คือคลื่นกับบอสนั่นละ ตัวติดกันตลอด

“ไอ้ร๊ากกก กว่าจะมานะสาดด พี่พัชบ่นพวกกูจนผมหงอกขึ้นรอบหัวละแมร่ง”

“กูหล่อไง” ผมว่าผมพูดความจริง และตรงประเด็นที่สุด

“เกี่ยวกับเรื่องที่กูพูด?”

“กูว่าไม่”

“…” เงิบ....

“กูร้องแค่สองเพลงหลังนะ ที่เหลือให้ไอ้คลื่นร้องแล้วกัน”

“เออ เอาเพลงไร” ไอ้บอสหันมาถามผม ไอ้คลื่นกับไอ้เนมกำลังง่วนทดสอบเสียงกีต้าร์กับเบสอยู่ข้างๆ

“หึหึ...” ผมแสยะยิ้มมองหน้าพวกมันที่หันมามองผมด้วยสายตาประหนึ่งว่าผมเป็นโรคจิต

“เอาเพลงนี้จริงเหรอวะ กูอยากจะเห็นว่าแมร่งจะทำหน้ายังไงวะเจ้าชาย ฮ่าๆๆ” ไอ้เนมพูดกับผมก่อนเดินขึ้นไปประจำที่ของมัน

“กูว่าก็คงหน้านิ่งเหมือนเดิมล่ะ เพราะกูแทบจะไม่เคยเห็นมันเปลี่ยนสีหน้านอกจากหน้านิ่งๆของมันอะ ตอนนั้นกูกับไอ้บอสเคยเห็นมันชนผู้หญิงแล้วน้ำลำไยรดใส่หัวเขา มันยังขอโทษหน้าตายเลยอะ แต่กูนี่ดิอึ้งฉิบ” กูฟังกูก็อึ้ง คนห่าไรวะสงสัยหน้าตายด้าน พวกผมเดินขึ้นไป พร้อมเสียงปรบมือดังขึ้นพร้อมเสียงกรี๊ดเสียงโห่ให้กำลังใจน่าจะเอาไปเดินขบวนแห่ขันหมากนะนี่

“..... 3  2 1.. ” แสงสีที่ส่องมาบทเวทีที่เดียวทำให้แทบทุกคนต่างจ้องมองที่ที่เดียวกัน แม้กระทั่งคนนั้น ..ที่ยังนั่งหน้าขรึมอยู่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ผมเล่นเบสไปมองโน่นมองนี่ไปเรื่อยๆจน…

“..ครับ และวันนี้พิเศษหน่อย มีนักร้องหน้าใหม่เสียงหวานที่ไม่ค่อยเห็นมันร้องเพลงที่ไหน ปรบมือให้กับ เจ้าชายของมหาลัย ไอรัก คณะแพทยศาสตร์!” เชี่ยย มาเต็มยศ ผม(พยายามฝืน)ยิ้มให้ทุกคน แต่ตาจิกไปที่ไอ้คลื่น เล่นไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวเถอะมึง เสียงกรี๊ดดังกระหึ่มร้าน เล่นซะกูก้าวขาแทบไม่ออก

แล้วกูจะพูดอะไรดีวะ เอ็นเตอร์เทรนด์คนฟังไม่เป็น “เบื่อกันรึยังครับ”

‘ยังงง กริ๊ดดด’

“ผมไอรักนะครับ”

‘รู้ตั้งนานแล้วว กริ้ดดด’

“อ่า ... แฮะๆ นั้นมาฟังเพลงเลยแล้วกันนะ เพลงนี้ผมมอบให้กับคนที่ผมชอบแล้วกัน ..ตั้งใจฟังนะ” ผมยิ้มๆมองไปที่เกียร์ ไม่สนเสียงซุบซิบถกเถียงอะไรทั้งสิ้น คนอื่นคงไม่รู้หรอกว่าผมมองใคร เพราะคนมันเยอะ


“สมองแขนขา หูตามันลาย
คล้ายๆ จะเดินไม่ไหว หัวใจโครมคราม
และกระวนกระวาย จะแทบระเบิดออกไป
เมื่อได้พบเธอ และเมื่อได้เห็นเธอ
และเมื่อได้ใกล้เธอ

โลกทั้งโลกเหมือนกำลังจะหยุด
สะดุดตั้งแต่เห็นแค่ข้างหลัง
ยอมฉันยอมแม้อะไรจะพัง ฉันก็ไม่แคร์ไม่ใจแล้ว
เมื่อได้พบเธอ และเมื่อได้เห็นเธอ
และเมื่อได้ใกล้เธอ จะเสียฟอร์มก็ยอมแล้ว


เกียร์หันมามองผมอึ้งปนเหวอ ไม่คิดว่าผมจะร้องเพลงจีบมันแบบนี้ จ้องมาประมาณว่ามึงเลือกเพลงนี้ได้ไง ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ก็มันอยากน่ารักเองนี่หว่า

**พูดได้เพียงคำเดียวจากใจก็คือ ชอบอ่ะ
มอบให้เธอคนเดียวเท่านั้นเพราะเธอ น่ารักอ่ะ
สุดสุดแล้ว คือที่สุดของสุดแล้ว
ไม่มีใครเทียบกับเธอ ได้อีกแล้ว


เอาสิมึง ไม่รักไม่ชอบกูไม่สน ร้องเพลงจีบแมร่งเลย หึหึ ผมเห็นมันหน้าแดงเม้มปากแน่นเหมือนคนกลั้นยิ้มเวลาผมร้องคำหลัง ‘ชอบอ่ะ น่ารักอ่ะ ใช่อ่ะ’ ชอบอะดิ้


จะเรียกว่ารักหรือหลง หรือใครจะเรียกอะไร
ฉันไม่สนใจทั้งนั้น เพราะว่าฉัน
ได้พบเธอ และเมื่อได้เห็นเธอ
และเมื่อได้ใกล้เธอ จะเสียฟอร์มก็ยอมแล้ว

พูดได้เพียงคำเดียวจากใจก็คือ ชอบอ่ะ
มอบให้เธอคนเดียวเท่านั้นเพราะเธอ น่ารักอ่ะ
สุดสุดแล้ว คือที่สุดของสุดแล้ว
ไม่มีใครเทียบกับเธอ
จึงพูดได้เพียงคำเดียวจากใจว่าเธอน่ะ ใช่อ่ะ
ไม่ว่ามองกี่ทีกี่ทีก็ น่ารักอ่ะ
สุดสุดแล้ว คือที่สุดของสุดแล้ว
ไม่มีใครเทียบกับเธอ ได้อีกแล้ว”

[ชอบอ่ะ - ROCK it LIKE it – P.O.P]



“ใครจะบอกว่าเขาหน้านิ่งหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ผมว่าเขาน่ารักมากกว่านะ” เสียงโห่ดังจากลิงในดงป่าดิบ โต๊ะเพื่อนผมนั่นละ ก็คนรู้มีแค่เพื่อนผมกับเกียร์เท่านั้นเอง

เอี้ยยย ส่งรอยยิ้มแบบนั้นมา ทำเอาใจไอรักจะละลายเสียตรงนี้ จัดไปอีกเพลงแล้วกัน ผมหันไปพยักหน้าใส่ไอ้บอสให้เริ่มอีกเพลงได้เลย

“มีคนมากมาย พูดแต่เรื่องความรัก
บางคนก็ช้ำ บ้างสุขนัก บ้างก็ทุกข์มากมาย
ฉันก็เป็นอีกคนที่ไม่ค่อยอินกับความหมาย
รักคืออะไรไม่เคยเข้าใจสักที

Love sick! back again!
สุภาษิตจีนที่กล่าวไว้ว่า ที่ใดรักต้องมีทุกข์
รักแท้นั้นหายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร
Aha สุดๆ ขุดให้ลึกถึงแกนโลก
เอียงไม่เท่าครึ่งหนึ่งของใจคนเศร้าเหมือนดูสวรรค์เบี่ยง
แต่ว่า Hey ทำไมตอนเจอเธอ ใจมันเริ่มจะเกเร
ผิดถูกไม่รู้ขอให้เป็นเธอก็ โอเค
จะทำทุกทางให้เธอมาเป็น
Ma baby ba ba ba baby!


ผมยิ้มกวนตีนให้มันที่ยิ้มขำๆให้ผมตลอดทั้งเพลง สายตาทั้งคู่ไม่ได้ละจากกันเลยแม้แต่วินาทีเดียว

**เกิดอาการ Love sick เธอทำฉันเป็น Love sick
จะคิดอะไรก็ติด ติด ติด อยู่ที่เธอ อย่างนั้น
เกิดอาการ Love you บอกตรงๆ I need you
รู้หรือเปล่าฉันมองอยู่ ฝันอยู่
อยากจะมีเนื้อคู่เป็น You เหลือเกิน


รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มีผู้หญิงหุ่นดี ผมยาว เข้ามาหาเกียร์พร้อมยื่นกระดาษใบหนึ่ง ถ้าผมเดาไม่ผิดคงเป็นเบอร์โทร มันคงจะไม่เลวร้ายถ้าหากเกียร์ไม่รับกระดาษแผ่นนั้น ผมหุบยิ้มทันที แต่มันก็ทำให้ผมยิ้มกว้างกว่าเดิมแล้วหลุดหัวเราะออกมา เมื่อมันฉีกต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นและหันมามองที่ผมโดยไม่สนใจเสียงกรี๊ดของคนข้างๆมัน แบบนี้รักตายเลยกู

Love sick เป็นอาการของคนที่มีความรัก
ก็ใจมันเต้นตึกตักไม่เคยจะพักเลย
อยู่ๆ ก็เกิดเข้าใจความรักขึ้นมาเฉยๆ
ไม่เหมือนเคย สรุปว่ารักกันซะงั้นเลย

เลิกซึม เลิกเซ็ง และเลิกเศร้า
บทกลอนเชยๆ ที่เคยอ่านแล้วมันคงจะน้ำเน่า
ภาษาไทยผมอ่อนยวบ สะกดไม่เป็นหรอกคำว่าเหงา
วันนี้เป็นวันอะไร ผมตอบให้ อ๊ะ วันของเรา

เพิ่งรู้ว่ารักมันดีอย่างนี้เมื่อฉันมีเธอ
มีใครให้คิดถึงอยู่เสมอตลอดเวลา
ขอบคุณที่ฟ้านำพาให้เราได้เจอกัน (*)(**)”

[Love Sick-Mild]




เสียงปรบมือกริ๊ดดังส่งท้ายเมื่อผมร้องจบ ผมเดินแหวกวงล้อมผู้คนออกมาไปนั่งโต๊ะที่มี(ว่าที่)แฟนผมอยู่

“กริ๊ดด เจ้าชายร้องดีมากเลยค่ะ ผู้หญิงที่เจ้าชายร้องให้นี่เป็นสาหรือเปล่าคะนี่” ผมยิ้มแหยๆให้ ถ้ารู้ว่าคนที่ผมร้องให้ไม่ใช่ผู้หญิง คงสลบกันพอดี ฉะนั้นเงียบๆดีกว่า

“โถอีสา มึงไปจำพรรษาเหอะ กูคนหนึ่งอะ”

“กูคนหนึ่งไรวะ” สาหันมาทำหน้างงใส่ข้าวต้มมัด

“กูคนหนึ่ง ที่ไม่เอามึงไง ฮ่าๆๆๆๆ” สากันมาด่าข้าวต้มมัดกำหมัดแน่นหน้าดำหน้าแดง เล่นเอาฮากันทั้งโต๊ะ

“เพลงเพราะไหมอะครับ” ผมหันไปถามมัน

“หึหึ ก็ดี” มันหันมามองหน้าผมแล้วยิ้มขำๆ ขำไรวะ ทำเอาไอ้ไอรักเสียเซลฟ์หมด

“แหม เพราะมากก็บอกมาเหอะ ผมร้องให้คุณโดยเฉพาะเลยนะ” ผมยิ้มกรุ่มกริ่มให้มัน ประโยคหลังผมกระซิบบอกมัน

“ก็ลองร้องให้คนอื่นสิ..” มันพูดเสียงเบาๆให้ผม แต่ร้านเสียงดังมากผมจึงไม่ได้ยินว่ามันพูดอะไร

“อะไรนะครับ?” ผมเอี้ยวตัวเอาหูใกล้มันพร้อมช้อนตามองถาม มันมองหน้าผมนิ่งไปแปบหนึ่งก่อนจะ..


จุ๊บ


เสียงสัมผัสแถวแก้มเพียงชั่ววินาที ทำเอาผมค้างไปทั้งตัว เมื่อกี้มันหอมแก้มผม... เกิดอะไรขึ้น .... เมื่อกี้ผมไม่ได้ถูกผีอำใช่ไหม หันซ้ายหันขวา โอเคไม่มีใครสนใจเรื่องเมื่อกี้ ผมรีบเด้งตัวนั่งก้มหน้าหลังตรง

“..โทษที ปากมันไปเอง” ห้ะ?


ปากมันไปเอง???



ปากมันไปเอ๊งงงงง?????




TBC------->>>>>>>>>>>>>>


เปิดเทอมแล้ว ไม่ค่อยมีเวลาเลยค่ะ อาทิตย์สองอาทิตย์แรกก็เรียนหัวฟูแล้ว อิฉันจะบ้าตายเสียให้ได้

เรื่องนี้ดำเนินไปเรื่อยๆนะคะ ออกแนวน่ารักใสๆ(รึเปล่า)

 :pig4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่6 06/11/12]
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 06-11-2012 21:02:34
เกียร์รุกแทนแล้ว
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่6 06/11/12]
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 07-11-2012 00:48:46
 :impress2: :impress2:

อร๊าย เพิ่งเข้ามาอ่าน ทำไมชั้นถึงรู้สึกว่าพลาดขนาดนี้
เรื่องนี้มัน สนุกมว๊ากกกกกกกกกก อ๊าก ชอบๆๆๆๆๆๆ
ชอบสุดๆเลยค่า จะเอาๆเอาอีกเอาแบบนี้ อร๊าย
ขอกอดคนเขียนทีนึง :man1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่6 06/11/12]
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 07-11-2012 02:11:55
สรุปว่าชอบอะ น่ารักดี
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่6 06/11/12]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 07-11-2012 03:09:33
แปะไว้ก่อน
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่6 06/11/12]
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 07-11-2012 06:10:25
เรื่องนี้น่ารัก
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่6 06/11/12]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 07-11-2012 09:19:24
ท่าทางเกียร์จะหึงแรงนะ นี่ขนาดยังไม่เป้นแฟนกันนะเนี่ย แต่ไอรักน่าจะชอบนะ หุหุ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่6 06/11/12]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 07-11-2012 09:40:03
กรี๊ดดดด จุ๊บไปแล้ววว ท่าทางเจ้าชายจะได้สามีในเร็ววัน เอิ้ก ๆ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่6 06/11/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 07-11-2012 11:21:31
น่ารักอ่ะ มีจุ๊บแก้มไอรักด้วย แสดงว่าเกียร์เริ่มชอบไอรักแล้ว
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่6 06/11/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 10-11-2012 13:50:03
ทำไงได้ ก็ปากมันไปเอง5555555

 :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่7 18/11/12]
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 18-11-2012 13:20:04
ตอน7


อรุณเบิกฟ้า นกกาโบยบิน~

วันนี้ตื่นขึ้นมาเช้ากว่าปกติ อารมณ์ดีเกินหน้าเกินตาจนยามข้างล่างคอนโดทักนึกว่าผีเข้า เมื่อวานหลังจากกลับมาถึงคอนโด ก็มีความสุขจนไม่ได้หลับได้นอน แต่ไม่ได้ทำให้ไอรักอารมณ์เสียในเช้าวันนี้ได้ ขณะที่ผมเดินลงจากรถเพื่อไปซื้อปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้ให้เกียร์ ก็มีเสียงดังมาจากข้างซอย


“อ๊ะ ปล่อย!” เสียงอะไรวะ

“หึ.. เป็นของนัทแล้วก็อย่าได้หวังจะไปจากนัทเลยน้ำ”

“ไม่ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!” ท่าจะไม่ดีละ ทำไงดีวะ

“พี่น้ำคร้าบบ สายแล้ว เดี๋ยวอาจารย์จะดุผมเอานะครับรุ่นพี่” ไม่ใช่ใคร ไอรักเอง ผมทำเป็นวิ่งส่งตาวิ๊งๆไร้เดียงสาไปให้ทั้งคู่ แอ็คติ้งดีเหมือนกันนะนี่ ฮ่าๆๆ

“อ้าวแล้วนี่ใครอ่ะ เพื่อนพี่เหรอ สวัสดีครับบ”

“มึงเป็นใคร” อะโด่ทำเป็นหน้าโหด ถ้าเป็นคนอื่นคงเผ่นแนบไปแล้ว แต่เผอิญด้านภูมิต้านทานนี้ผมเรียนรู้จากเกียร์มาเยอะ เหอะๆ

“อ๋อ ผมเป็นรุ่นน้องของพี่น้ำ เดี๋ยวต้องไปคุยงานกับอาจารย์ด้วยกันน่ะครับ” ผมยิ้มใสๆให้มันไป ..ตายห่าลืมคิดไป คนที่ชื่อน้ำตัวเล็กนิดเดียว ถ้ามันอยู่ปีหนึ่ง ผมคงตายคาตีนไอ้ล่ำคนนี้แหงๆ เอาไงดีวะ ถึงหน้าจะยังยิ้มอยู่ แต่เหงื่อเริ่มผุด มือเริ่มชื้น

“ปล่อยเถอะนัท น้ำต้องรีบพาน้องไปหาอาจารย์นะ” ผู้ชายตัวเล็กจิ้มลิ้มได้สติก็แหลใส่ไอ้ล่ำ แอ็คติ้งดีเหมือนผมเลยอ่ะ กร๊ากก

“จิ๊ คราวหน้าอย่าคิดว่าจะหนีนัทพ้นนะ”


“เฮ้ออ ขอบใจนะน้องไอรัก ถ้าไม่ได้น้องคงแย่แน่ๆ” โหนี่ผู้ชายเหรอวะ ตัวเล็กแก้มแดงๆ ปีหนึ่งแหง ว่าแต่เคยรู้จักกันด้วยเหรอ ไม่ยักจะจำได้ มันคงเห็นผมหน้างงใส่

“ไม่มีใครไม่รู้จักเจ้าชายของมหาลัยหรอก พี่ชื่อน้ำอยู่ศิลปกรรม ปี3นะ” พี่น้ำยื่นมือมาทำความรู้จักพร้อมยิ้มแก้มปริ

“อ่า..ครับ” ผมยื่นไปจับมือ

“เอ้อว่าแต่เมื่อกี้รู้จักชื่อพี่ได้ไงล่ะ”

“อ๋อผมได้ยินก่อนหน้านี้ พี่คนนั้นพูดชื่อพี่น้ำก็เลยเอ่อ...สวมรอยซะเลย แฮ่ะๆ” ความจริงอยากจะบอกว่าไอรักเข้าไปเจือกเอง แต่หน้าตาน่ารักขนาดนั้นไม่กล้าหยาบเลยจริงๆ

“..เห็นใกล้ๆแบบนี้สมคำล่ำลือจริงๆ”

“อะไรมะลึกกึกกือนะครับ?”

“เปล่าๆ พอดีพี่อยากจะขอติดรถไปมอด้วยน่ะ ลืมเอารถมา”

“อ่อได้ครับ...เฮ้ยย” พึ่งนึกออกว่าดันลืมสามอย่างที่ใหญ่หลวงเอามากๆคือ ปาท่อง น้ำเต้า เกียร์ด้วย สายแล้วๆ ตายห่า ฮืออ

“มีอะไรเหรอ”

“รีบไปเถอะครับ!”






“อรุณสวัสดิ์ครับเกียร์ ทานปาท่องโก๋ก่อนนะ หายร้อนแล้วจะไม่อร่อย” เช้านี้คุณเกียร์ดูอารมณ์ดีผิดปกติ ซึ่งไม่ต่างกับผมเท่าไร ยิ้มมาแต่ไกลเชียว ถึงจะยกแค่มุมปากก็เหอะ

“ทำไมมาสาย”

“อ๋อพอดีมีปัญหานิดหน่อย อ้ะ นี่รุ่นพี่ชื่อน้ำ อยู่ศิลปกรรม แล้วนี่ชื่อเกียร์ครับพี่น้ำ” เหมือนเกียร์จะพึ่งรู้สึกตัวว่ามีคนอยู่ข้างหลังจึงหันไปมองและหันกลับมามองผม หน้าบึ้งคิ้วขมวดนิดหน่อยแล้วมองพี่น้ำอีกรอบ ..เป็นไรวะ

“สวัสดีฮะ” ทำไมเสียงพี่น้ำเย็นๆวะ

“....” อะไรกันความรู้สึกนี้ เหมือนน้องไอรักคนนี้อยู่ในลาวาก็ไม่ใช่ ขั้วโลกก็ไม่เชิง ไอ้เกียร์ทำไมมึงไม่ทักพี่เค้าตอบล่ะวะ มึงอย่าหยิ่งได้ไหมมม ตอนนี้รถไม่ต่างอะไรกับป่าช้า ฮืออไอรักอยากร้องไห้

“รู้จักกันตอนไหน” มึงอย่าหันมามองกูด้วยสายตาแบบน้านนนน

“เอ่อ กะ..ก็ตอนผมกำลังลงไปซื้อปาท่องโก๋ให้เกียร์ แต่ดันไปเจอพี่น้ำทะเลาะกับแฟนเขา ก็เลย..” ยังพูดไม่จบ พี่น้ำก็พูดแทรกขึ้น

“แฟนเก่าต่างหาก  ตอนนี้พี่โสด แต่กำลังจะมีแฟนใหม่แล้วเนอะไอรักเนอะ” อย่านะ อย่ามาเนอะมาส่งสายตาหวานเชื่อมกับกูตอนนี้  เมย์เดย์ๆ เจ้าชายขอส่งสัญญาณSOSให้ไอ้ไทป์มาแก้สถานการณ์ตอนนี้จะทันไหมครับท่านผู้ช๊มมม

“อ่ะเหรอครับ แฮ่ะๆ” มันจ้องผมเขม็ง กูผิดอะไรอ่ะ

“เอ๊ะ น้องไอรัก เดี๋ยวพี่ลงตรงนี้นะ เอ้อว่าแต่พี่ยังไม่มีเบอร์น้องเลย”

“ไม่ให้” ผมอ้าปากทำท่าจะตอบ แต่ไอ้คนข้างๆชิงตอบให้ผมเสียก่อน

“น้องเป็นอะไรกับไอรักล่ะ อย่าบอกว่าเป็นแฟนกันนะ เหอะ ใครจะไปเชื่อ.. ปัง!” พี่น้ำลงไปแล้ว ทิ้งคำพูดให้ผมกับมันสะอึก

เราไม่ได้เป็นอะไรกัน

มันไม่ได้รักผม

เราไม่ได้รักกัน   

เพราะผมรักมันอยู่คนเดียว

“เลิกเรียนเที่ยงใช่ไหม เดี๋ยวมารับไปทานข้าวกลางวันด้วยกันนะครับ” ผมคว้าแขนมันแน่นก่อนที่มันจะลงไปเรียน

“ไม่ต้องมา” มันหันหลังพูดสวนกลับเสียงแข็ง เหมือนคราวแรกที่เราเจอกัน เล่นเอาผมจุก ก้มหน้าคลายมือที่จับแขนมันพร้อมพูดเสียงแผ่ว

“ผมจะมา …ไม่ว่ายังไงผมก็จะมา”

“...เรื่องของมึง”


...............................................



“เจ้าชายยย...ชะอูยยย ทำไมทำหน้าเหมือนเจ้าหญิงจับได้ว่ามีชู้อย่างนั้นละ” ไอรักสะดุ้งสิครับ มองหน้าพวกมันขวาง

“เฮ้ย จริงอย่างที่ไอ้คลื่นพูดเหรอวะ ไหนบอกรักเดียวใจเดียวไง ไม่ทันไรซาตานในคราบเจ้าชายกลับมาแล้วเหรอวะ กร๊ากก” ผมเดินไปตบกระบาลไอ้คลื่นกับไอ้เนมแล้วนั่งข้างไอ้บอสที่ตอนนี้กำลังโทรศัพท์หน้าเคร่งเครียดอยู่

“ไม่ใช่โว้ย กูมีอยู่คนเดียวก็เครียดตีนกาจะขึ้นอยู่แล้วแมร่ง”

“อ้ะหรา ไหนเล่ามาดิ้ตะเอง” ผมก็เล่าไปละเอียดไส้หมดพุง

“เคี้ยก เคี้ยก เคี้ยกกกก สมน้ำหน้า ทำความดีทีไร มีความซวยติดมาตลอด” พวกมึงแปรงล่างเป็นลิงแล้วสินะ

“กูจะทำยังไงดีวะ” ถ้ามีไอ้ไทป์ ผมคงขอคำปรึกษามัน เพราะรายนั้นเจ้าคิดแผนการเลยล่ะ แต่ตอนนี้ไม่มีน่ะสิเฮ้อ

“กูว่ามึงไม่ผิดเลยนะเรื่องนี้ แต่จะผิดก็คือพาพี่น้ำมา แล้วมาพูดไม่เข้าหูเกียร์เข้านี่ละ ฉะนั้นมึงก็ผิด”

“แล้วให้กูทำยังไงอ่ะ”

“ไอ้โง่! เรื่องอื่นมึงฉลาดเพอร์เฟคจนพวกกูหมันไส้ แต่เรื่องขี้ประติ๋วของไอ้หนุ่มวิศวะร่างถึกเจือกทำให้มึงโง่ดักดาน แล้วมึงมีเพื่อนขี้งอนไว้ทำพระแสงขอนง้าวอะไรล่ะวะ มึงก็ถามมันสิว่าวิธีง้อแบบไหนจะตอบโจทย์ผู้ชายแมนๆอย่างมันบ้าง โว้ะ!” ไอ้เนมบ่นยาวเหยียดก่อนยกชินจังอ่านอีกรอบอย่างสนุกสนาน(คนเดียว ) เออว่ะ ผมหันไปมองไอ้คลื่นไส้ มันสะดุ้งแล้วชี้เข้าหาตัวมันแบบ อ้าวกูเหรอ? ผมพยักหน้าประมาณว่า จ้า มึงนั่นล่ะขี้งอนตัวพ่อ


.........................................................



“ไปครับ ขึ้นรถ” ผมเดินเข้าไปหาเมื่อเห็นมันกับเพื่อนๆเดินลงจากตึกเรียน มันเหล่ตาเลิกคิ้วเชิงถาม ผมจึงคว้าแขนมันขึ้นรถ ตลอดทางไม่มีใครปริปากพูดออกมา มันไม่แม้แต่จะถามว่าไปไหน ผมก็ไม่ได้บอกเหมือนกัน หันมาอีกทีมันก็หลับไปแล้ว ผมลอบมองหน้ามัน แม้แต่ตอนนอนยังคิ้วขมวดเหมือนมีเรื่องคาใจ

“เกียร์ครับ ตื่นได้แล้วนะ” มันขยับตัวนิด ลืมตาขึ้นมามองหน้าผมนิ่ง

“ที่ไหน”

“หัวหินครับ”


“มึงว่าดอกไม้จะดีปะวะ”
“ถุยเหอะ ถ้าเป็นกูนะ ไม่ชอบหรอกพวกดอกไม้ แมร่งเกย์ไปปะ  แล้วอีกอย่างนะ กูคิดว่าถ้าดอกไม้แท้ วันหนึ่งมันก็ต้องเหี่ยวใช่ปะ แล้วถ้าดอกไม้เทียมก็เหมือนเรารักไม่จริง ความหมายไม่ดีๆ ตัดไปเลย”
“ครับ แล้วผู้เชี่ยวชาญจะให้กระผมทำอะไรดีล่ะครับ”
“หึหึ อย่างแรกก็...ทะเลไง ผู้ชายอย่างเราต้องผจญภัย”





“…..หัวหิน....”

“ใช่ครับ ปะ ลงไปทานข้าวกัน... เอ๊ะ เป็นไรหรือเปล่าครับ” ผมยิ้มให้มัน แต่สีหน้าเกียร์เปลี่ยนไป ผมเห็นแววตาอ่อนไหววูบหนึ่ง ตัวมันสั่นเหมือนหวาดกลัวบางอย่าง

“เปล่า” แล้วมันก็เปิดประตูลงไป ทิ้งให้ผมงงอยู่ในรถคนเดียว อะไรวะ..

กลิ่นเค็มของไอทะเล ทำให้ผมเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ผิดกับอีกคนหนึ่งที่ทำหน้าเหมือนเลื่อนลอย ผมไม่มั่นใจว่าที่เกียร์เป็นแบบนี้เพราะมันยังโกรธผมอยู่ หรือมีอะไรในใจ

“เอา.... เกียร์เอาอะไรครับ” ผมสั่งอาหารไปสองสามเมนู

“…”

“เอ่อเกียร์ครับ ..เกียร์” มันสะดุ้งแล้วหันมามองหน้าผมที่ทำตาแป๋วใส่มันอยู่

“มีอะไร”

“จะเอาอะไรเพิ่มอีกไหมครับ” มันส่ายหน้า ผมจึงหันไปบอกพนักงาน

“อ้าวไอ้เกียร์  ไปไงมาไง” ชายวัยกลางคนเข้าทักมัน

“อาโบ้ นี่ไอรัก” มันเรียก สงสัยจะเป็นอาของเกียร์

“สวัสดีครับ” ผมไหว้อาโบ้แล้วยิ้มให้ทีหนึ่ง

“อ้อ อาชื่อโบ้นะ เป็นอาของมัน แล้วมึงมาหัวหินได้ไงวะ ไม่คิดถึงความหลังแล้วหรือไง ตอนกูชวนทำเป็นเล่นตัวเป็นตุ๊ดไปได้นะ ฮ่าๆๆๆ” ความหลังงั้นเหรอ

“หึ อาเงียบเหอะ”

“เอ๊ะ ไอนี่พูดกับอาตัวเองให้ดีดิวะ มึงไม่คิดมากก็ดีแล้ว เรื่องมันผ่านไปแล้ว” อาโบ้พูดหน้าจริงจัง ทั้งสองสบตากันพักหนึ่งจนกระทั่งเกียร์พยักหน้า

“หนูไอรักกินตามสบายเลยนะ มื้อนี้อาเลี้ยงเอง เดี๋ยวไปเก็บกับพ่อไอ้เกียร์มัน ฮ่าๆๆ” อาโบ้พูดหน้าระรื่นแล้วเดินจากไป ขี้เล่นไม่เหมือนหลานเล้ยย

“อาของเกียร์ตลกดีนะครับ” มันส่ายหน้าระอา

“เป็นแบบนี้ตั้งนานละ ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นอีก ...อะไร” มันเห็นผมท้าวคางมองมันยิ้มๆ

“คุณหายโกรธผมแล้วใช่ม้า พูดจ้อเชียว” มันมองผมตาเขียวแล้วเสตาไปมองวิวร้าน

“กูโกรธมึงตอนไหน”

“อ้าว ก็เมื่อเช้าคุณพูดกับผมเสียงแข็งขนาดนั้นนี่นา”

“กูไม่ได้โกรธ”

“โกรธ”

“ไม่ได้โกรธ”

“โอเค ไม่ได้โกรธก็ไม่ได้โกรธ แค่งอนเท่านั้นเอง ใช่ม้า” ผมขยิบตาให้มันทีหนึ่ง

“….”

“เกียร์” มันยังมองด้านข้างไม่สบตาผม หน้าบึ้งเหมือนเด็กสามขวบ เอ่ออาการแบบนี้ต้องเรียกว่างอนจริงๆใช่ไหม อยากจะหัวเราะนะนี่ แต่กลัวมันจะพาลโกรธผมน่ะสิ

“....”

“เกียยร์”

“….”

“ที่รัก อย่าโกรธกันเลยนะครับ”

ชะงักกึก!

ทั้งมันและผมชะงักกลางอากาศตอนที่ผมดันเผลอพูดคำหวานออกไป มันหันมามองผมตาวาว ผมรีบก้มหน้า ถ้ามุดโต๊ะได้คงทำไปแล้ว

“อีกที”

“อะ..อะไรครับ”

“พูดอีกทีสิ”

 “..ระ..เรารีบกินแล้วไปเดินเล่นกันดีกว่าเนอะ แฮ่ะๆ”

“หึหึ” เดี๋ยวกูทืบหน้าแหก



“อย่างที่สอง... มึงต้องทำให้มันสนุกจนลืมไปเลยว่าเคยโกรธมึง เรื่องจะทำอะไรนั้นมึงต้องคิดเองนะ กูไม่ใช่ผัวมัน กร๊ากก”
“หวังว่ามึงจะไม่ทำออกกำลังกายในที่ร่มจนร่างกายทรุดโทรมหรอกนะ ฮ่าๆๆ” ไอ้พวกบักจวย กูงอน จบ




“ไม่เดินชายหาดได้ไหม”

“มาถึงที่แล้วก็ต้องเดินให้คุ้มสิ ทำไมเหรอครับ” ผมเงยหน้ามองมันด้วยความสงสัย ด้วยคำพูดของอาโบ้กับท่าทางของเกียร์มันทำให้ผมยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่

“เปล่า”

“ถ้าไม่สบายใจที่จะเล่า ก็ไม่ต้องเล่าก็ได้นะครับ” มันมองผมนิ่ง

“…”

“เอาอย่างนี้ดีกว่า ถ้าเกียร์มีเรื่องฝังใจที่นี่ นั้นเราก็มาสร้างความทรงจำที่ดีสำหรับเราดีกว่าไหม” ผมยิ้มตาหยีท้าแสงแดดจ้าให้มัน พร้อมวิ่งไปเช่าม้าตัวเดียว เพราะเกียร์ใส่เผือกอยู่ ตัวหนึ่งสีดำขลับเงางามแต่กีบเท้าเป็นสีขาว ผมหันไปหาเกียร์ที่เดินตามมาแต่สายตาจ้องมองไปที่ทะเลสุดสายตา  พอได้คำตอบแล้วผมจึงหันไปบอกเจ้าของม้าว่าไม่ต้องเดินตาม ขี่เป็นและต้องการความเป็นส่วนตัว

ตอนแรกมันก็ขัดขืน ไม่ยอมซ้อนผม ก็มันตัวใหญ่กว่าผมแถมถึกแมนร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ขามันเจ็บเสียขนาดนี้จะขี่ได้อย่างไรล่ะ ผมขี่กันไปเรื่อยๆ ผมหันไปมองมันเป็นระยะ แรกๆมันก็เหมอลอยมองไปที่ทะเล ผมจึงเร่งขี่ และดริฟท์ม้าเสียจนมันสะดุ้งออกจากภวังค์และส่งตาขวางมาให้ผมที่หลุดหัวเราะเสียงดังไม่สนภาพพจน์เมื่อเห็นหน้ามัน จนฝรั่งหลายคนที่อาบแดดหันมามอง หัวเราะกันคิกคัก เราสองคนหันมามองหน้ากันเขินๆ

ม้าวิ่งเยาะๆตามเลียบชายหาดสักพักจูงม้ากลับ และชวนมันทำหลายๆอย่างที่เราทั้งคู่ไม่เคยทำด้วยกัน ไม่ว่าจะเล่นก่อกองทราย ซึ่งผมออดอ้อนแกมบังคับให้เล่น หน้าอย่างมันไม่มีทางชวนผมเล่นกากเกรียนแบบนี้หรอก ไม่ก็นอนอาบแดดตอนเย็นบ้าง

จากนั้นผมกับมันเดินไปซื้อของมินิมาร์ทแถวนั้น แล้วกลับมาชายหาด นักท่องเที่ยวต่างทยอยกันกลับขึ้นชายฝั่งกัน เรานั่งมองพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าพร้อมกระป๋องในมือของทั้งคู่ ของผมเป็นน้ำผลไม้ ส่วนของมันเป็นเบียร์ ช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ยังไม่ทันไรมันก็ห้ามโน่นห้ามนี่ทำอย่างกับผมเป็นเด็ก ไอรักก็อยากกินเบียร์บ้างอะไรบ้างนะ ฮึ่ย! แต่ถ้าถามว่ายอมไหม คำตอบอยู่ในมือผมแล้วล่ะ

“เหมือนลูกชิ้นหมู/เหมือนขนมดังโงะเลย” ผมกับมันพูดพร้อมกัน เราหันมามองหน้ากันพักหนึ่งแล้วหัวเราะออกมา

“ดังโงะตรงไหน ลูกชิ้นหมูชัดๆ”

“ไม่ใช่อ่ะ เหมือนดังโงะต่างหาก เมฆสามลูกเรียงกันน่ากินกว่าลูกชิ้นหมูด้วย” มันหันมามองผมที่ทำหน้ามุ่ยเถียงเสียงงุ้งงิ้งเอาเป็นเอาตายแล้วคงขำ เห็นอย่างนี้หัวรั้นไม่เบาเลยล่ะผมอะ

“..ความจริงกูมีน้องแท้ๆคนหนึ่ง เด็กกว่ากูสองปี” ผมหันมามองหน้ามันที่มองไปทางทะเล

“ตอนมอหนึ่ง กูอยากมาทะเล พ่อกับแม่เลยพากูกับน้องมา...หัวหิน.. ” เสียงแผ่วเบาลอยมาตามลมถูกกลืนเข้าไปในลำคออย่างขมขื่น น้ำเสียงที่ผมฟังแล้วรู้สึกเจ็บปวดเหมือนคนเอามีดมากรีดหน้าอกข้างซ้ายอย่างช้าๆ ผมหันไปมองหน้ามันที่เหม่อลอยมองออกไปที่ทะเลอย่างหว่าเว้เดียวดาย และหดหู่จนทุกข์ทรมาน

“เกียร์...”ผมกุมมือมองหน้ามัน มันหันมามองแล้วยิ้มให้ผมเหมือนอยากบอกว่า ไม่เป็นไร ..กูต้องไม่เป็นอะไร

“น้องกูทั้งดื้อทั้งซน อ้อนพ่อให้ลงไปเล่นน้ำด้วยกัน แต่พ่อบอกให้กูไปเป็นเพื่อนน้องแทน เพราะกูว่ายน้ำแข็ง ต่างจากน้องกู...เราเล่นกันจนพระอาทิตย์เริ่มเป็นสีส้ม ตอนนั้นพ่อเรียกกูบอกให้เลิกเล่นแล้วไปเอาเสื้อคลุมจากแม่ข้างในบ้านพักเพื่อที่จะเอามาห่มน้อง ..กูกับแม่เดินออกมาพร้อมกันก็ได้ยินเสียง ...เสียงพ่อกูร้องขอความช่วยเหลือ ...คนมุงกันเต็ม ...แม่กับกูวิ่งเข้าไปดู กูเห็น..เห็นน้องกูอยู่ในอ้อมแขนพ่อกู...ตัวซีดไปหมด ..พ่อเขย่าตัวน้องจนหัวสั่นไปหมด...มันเหมือนนอนหลับไม่รู้เรื่อง ..น้ำตาของกูไหลออกมาไม่แพ้พ่อกับแม่...กูไม่รู้จะทำยังไง ....ถ้ากูไม่ปล่อยน้องให้เล่นน้ำคนเดียว …ถ้ากูไม่ปล่อยให้เกรย์เล่นน้ำคนเดียว”
ผมฟังแล้วพูดไม่ออก ไม่คิดว่ามันจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเด็กอายุเพียงสิบสองสิบสาม เพราะอย่างนี้หรือเปล่า ที่มันกลายเป็นคนเงียบขรึม นิ่งจนน่ากลัว ปิดกั้นตัวเองและไม่สนใจคนรอบข้าง

“ไม่ใช่หรอกครับ อย่าโทษตัวเองเลย เรื่องมันผ่านไปแล้ว ถ้าลืมมันไม่ได้ ก็ให้มันเป็นแค่อดีตที่เคยพบเจอ อย่าให้มันมาทำลายปัจจุบันของเกียร์เลย”

“..”

“ไหนดูสิ เกียร์ที่สุขุมเหมือนน้ำแข็งหายไปไหนหมดนี่ เอาคนเดิมกลับมาเลยนะ” ผมชะโงกหน้าไปมองมัน แสร้งหน้าบูดใส่มัน

“หึ แล้วไม่รักหรือไง” มันยิ้มให้ผมที่ชะงัก ก่อนกดท้ายทอยลงประกบปากอย่างอ่อนโยนสลับเร้าร้อนเหมือนความต้องการลึกที่ตอนนี้ได้ถูกแสดงออกมา มันควานหารสอ่อนหวานจากริมฝีปากผมที่เผยออ้าปากรับอย่างไม่รู้ตัว

“อืม ..อื้ออ..” เสียงครางหวิวของผม ยิ่งทำให้อีกฝ่ายได้ใจ สองแขนผมเกาะบ่าอีกฝ่ายไว้แน่นราวกับกลัวมันหายไป มันดึงเสื้อที่อยู่ในกางเกงออกแล้วสอดมือคลึงเอว ก่อนที่มือข้างซ้ายจะเคลื่อนมาลูบหลังให้ผมสยิวแอ่นตัวอัตโนมัติ ผมเริ่มดิ้น ทุบอกมันเบาๆ จนมันหยุดจูบผมแล้วกดหัวผมลงกับบ่าหนาของมัน แต่มืออีกข้างยังคงทำงานลูบเอวผมเบาๆ

“เกียร์สุขุมกลับมาหรือยังล่ะ..หึหึ”

‘ไอ้น้ำแข็งบ้า!!’ ความรู้สึกแปลกๆตอนนี้มันกำลังจะทำให้ผมเป็นบ้า ให้ตายสิ!





“แล้วตกลงวันนี้เรามาหัวหินแค่กินข้าว เล่นแถวชายทะเลว่างั้น?”

“อ่อเปล่าหรอก ความจริงจะพาไปหลายที่ แต่มีเรื่องเกียร์เสียก่อน เลยต้องยกเลิกไปน่ะ แฮ่ะๆ”

“...นั้นเอาไว้ครั้งหน้าเราค่อยมากันใหม่นะ” มันหันมาบอกผม และยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ก่อนที่ผมจะยิ้มทะเล้นกลับ

“ห้ามเบี้ยวล่ะ คุณน้ำแข็ง” ของผม...

มันยกมือขึ้นมาขยี้ผมนิ่มๆด้วยความหมั้นเขี้ยว ไม่รู้ว่าตั้งแต่ตอนไหน  เมื่อไร ที่กำแพงน้ำแข็งในใจเขาค่อยๆละลายอย่างไม่รู้ตัว

ส่วนอีกด้านตั้งความหวังว่า ..ถึงมันจะลืมความทรงจำที่เจ็บปวดกับที่นี่ไม่ได้ แต่หวังว่าจะไม่ลืมการมาหัวหินคราวนี้เหมือนกันนะ



“อย่างที่สามสำคัญที่สุด... กลับมาเลี้ยงข้าวกูหนึ่งอาทิตย์ด้วยไอ้เจ้าชาย~ ”




TBC-------------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>




อั้ยย้ะ..! ความจริงเรื่องนี้ไม่ดราม่านะคะ บังเอิญตอนนี้อ้างอิงจากเรื่องจริงเล็กน้อย

งานเยอะมากๆ ถ้ามีเวลาจะมาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่7 18/11/12]
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 18-11-2012 14:29:28
สนุกมากกก น่ารักที่สุด รอตอนต่อไปคร้า มาไวไวนะคะ o13
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่7 18/11/12]
เริ่มหัวข้อโดย: honeyhoon ที่ 18-11-2012 15:16:08
 :กอด1:
 :o8:
สนุกมาก o13
 :L2:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่7 18/11/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 19-11-2012 15:37:11
อย่าดราม่ามากน้าตะเอง ชอบให้หวานๆแบบนี้แหล่ะ อิอิ

เจ้าชายรุกขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่หลงให้รู้ไปสิ กร๊ากกกกก



 :-[ :-[ :-[ :L2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่7 18/11/12]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 19-11-2012 16:37:33
นำ้แข็งละลายแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่7 18/11/12]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 19-11-2012 17:18:17
อรั๊ยยยยๆๆๆๆๆ ชอบบบบบบบบบบๆๆๆๆๆๆๆ  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ไอรักกับเกียร์น่ารักมว๊ากกกกกกกกกกกกก :-[ :-[ :-[ :-[ :o8: :o8: :o8: :o8: :impress2: :impress2: :impress2:

เรื่องนี้หนุกมากอ่ะ กรี๊ดดดดดดด~~~  o13 o13 o13 o13 o13

มาอัพเร็วๆน้าค่า ขอบคุณล่วงหน้าคร๊าบบบบบบ.. :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่7 18/11/12]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 19-11-2012 17:39:23
น่ารักมาก  :-[



โคตรชอบเลยอ่ะ  o13
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่7 18/11/12]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 19-11-2012 20:07:36
ฮึ่มม หวานเจี๊ยบ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่8 25/11/12]
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 25-11-2012 14:05:09
ตอนที่8



ปกติวันนี้เป็นวันหยุดที่ผมต้องตะลอนเดินห้างทั่วเมืองสักร้อยรอบ แต่วันนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้ว เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็ต้องทำภารกิจพิชิตใจเกียร์ไงล่ะ ต้องใกล้ชิดเข้าไว้อย่าได้ห่างหาย หึหึ ผมกำลังเดินเข้ามินิมาร์ทหน้ามอก่อนไปหาเกียร์ที่นั่งทำงานกับเพื่อนในคณะ

-   Cause there’ll be no sunlight … ปิ๊บบ-

“เออว่าไง”

‘เฮ้ยมึง ไปค่ายกันๆ’ แหมเสียงกระดี๊กระด๊ามาแต่ไกลเลยนะไอ้คิม

“ค่ายไรวะ เดี๋ยวนี้หัดเป็นเด็กกิจกรรมเหรอมึง หึหึ” ปกติมันไม่ค่อยทำหรอกกิจกรรม จะเป็นไอ้เนมมากกว่าที่บ้ากิจกรรม

‘ไอ้เสมหะเป็ด กูก็อยากดีบ้างอะไรบ้าง มันเป็นค่ายของมหาลัยวะ ไปหลังสอบเสร็จ เขาให้ไปสร้างโรงเรียน แจกขนมกับน้องๆตามภาษาคนใจบุญแบบกูอะมึงอิอิ ไปนะไปนะ ตอนนี้ไอ้เนมไอ้พิชไอ้ไทป์ตกลงแล้ว เหลือแต่มึงนี่ล่ะ’

“เออๆ เดี๋ยวกูขอคิดก่อน”

‘โหสาดด ไอ้คุณชายอีเว้นท์เยอะ กูเห็นแต่ตามผู้ชายกับส่งข้าวส่งน้ำให้ผู้ชายด้วย อย่านึกว่ากูจะไม่รู้ไม่เห็นนะ’ เฮ้ย ผมหันซ้ายหันขวาเลยสิทีนี้

“เหี้ยยยยย” วางสายแมร่ง ฟังมันล้อแล้วขัดหูจริงๆ ไปฟังเสียงหล่อๆดีกว่า ว่าแล้วผมก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาเสียเลย

ตู๊.....

“ถึงแล้วเหรอ” รับไวเวอร์ ยังไม่ทันจบตู๊ดหนึ่งเลย

“สวัสดีครับ ผมอยู่หน้ามอแล้วน่ะ เกียร์จะเอาขนมอะไรไหม”

“มีอะไรบ้างน่ะ” ฟัคยูแหนม!! สินค้าในมินิมาร์ทไม่ได้มีแค่สองสามชิ้นนะสาดด ถามแบบนี้แกล้งกูป่าวนี่

“มีชีสไบท์ โอริโอ้ โซฟี ฟุตลองชีส คอลแกต เดนทีน ดูเร็กซ์ มะขามจี๊ดจ๊าด มาม่าต้มยำกุ้ง ผงวิเศษ โออิ.....”

“หยุด ยาวไปละ”

“ฟุตลองชีสอะเหรอ”

“เปล่า ที่ประชดมาน่ะ”

“อ้าว ผมไม่ได้ประชดนะ แค่ตอบตามที่เห็น”

“หมั่นไส้ ถ้าอยู่ตรงนี้จะจับตบหัวให้คว่ำ” รุนแรงกับทุกรุ่น...

“คุณพึ่งหมั่นไส้เหรอ แต่ผมแอบหมั่นไส้คุณตั้งแต่ถามมาแล้วล่ะครับ ฮ่าๆๆ”

“หึหึ อยากกินอะไรก็ซื้อมาแล้วกัน ค่อยมาเก็บเงินปลายทาง” ได้ข่าวว่ากูโทรหามึงเพื่อถามว่ามึงอยากกินอะไรไหม สรุปไม่ได้คำตอบว่างั้น?

“โอเค ผมซื้อดูเร็กซ์ไปให้คุณกินแล้วกัน”

“อยากให้ทดลองใช้กับมึงก็ซื้อมา” อูยย .. หนูเงิบเลย

"อะย้อเย่นนน"


“…รีบมานะ”



.............................................................................



“สวัสดีครับ” ผมทักมันกับกลุ่มเพื่อนมันแล้วยิ้มให้กับเพื่อน รุ่นพี่รุ่นน้องที่อยู่กันเกือบสามสิบคนที่หันมาอ้าปากค้าง วันหยุดสบายๆแบบนี้บางคนใส่เสื้อไปรเวทบ้าง นิสิตบ้าง สบายตาไปอีกแบบ ผมเดินไปหามันมันที่เขยิบให้ผมนั่งพื้นข้างๆมัน

“เจ้าช๊ายยยยยย กริ๊ดดดดด”

“สวัสดีค่ะ หนูชื่อกิ๊บเก๋ เป็นน้องรหัสพี่สา อายุ19ปี สัดส่วน 36-25-37 นมซีลีโกน ไม่กินยาคุม รักผัวหลวง หวงผัวน้อย ได้เจ้าชายจะไม่แล‘ตอ’อื่น ลีลาแซบไม่แพ้ชะนีชมดชม้อยหลังเขานะจะบอก” อ้ายเชรี่ยยยย วิ่งกันมาอย่างกับกระทิงขวิดผ้าแดง ทับกูมานี่ดับแน่ๆ ผมดับนะ ไม่ใช่พวกน้องกิ๊บเก๋ ..

“อ๊ายยยยอีกิ๊บ กูขอเหอะคนนี้อย่ามายุ่ง ดีค่ะหนูชื่อ ส่วนอีนี่ใบเฟิร์น ลูกครึ่งมนุษย์ครึ่งนางฟ้าค่า พูดน้อยแต่อึ๊บว่องคล่องไวค่า กิกิ”

“ถุยยย ไอ้ชาติชายกับไอ้สมบัติ มึงรีบกลับมาทำงานที่กองท่วมหัวพวกมึงเลยนะ คนนี้สมบัติของเจ๊ย่ะ อย่าแหยม” สาวคนเดียวในกลุ่มเกียร์พูดขึ้น ผมได้แต่หัวเราะแฮะๆ

“โถๆๆนั่นมันชื่อตั้งแต่บรรพบุรุษยังขายบ๊วยเค็มแถวเยาวราชอยู่เลยค่าคุณพี่ ชิชิชิ เนอะใบเฟิร์นเนอะ ชิชิชิ”

“ใบเฟิร์นหรือเฟิร์นหยันวะ กร๊ากกกกกก” ไอ้พัตตอกน้องใบเฟิร์นมา สาดด น้องเขากำลังดัดฟันให้เข้าอยู่นะมึง

“อร๊ายยยยย เดี๋ยวเถอะพี่พัต ถ้าไม่ติดว่าพี่งวงเล็ก ป่านนี้หนูฟาดด้วยประตูหลังไปแล้วนะ...แก๊แกดูดู๊ดูแค่เขายิ้ม ฉันก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว เอาไปเลย ให้ทั้งกายและใจ..... กริ๊ดดด .... ไปก็ได้.. เจ๊สาอ้ะ อ๊ากก.... อั่ก....” สองสาว(?)และแล้วถูกประทุษร้ายไปเป็นที่เรียบร้อย

“อ่ะ กินขนมไปพลางๆก่อนนะครับ ไว้เสร็จงานแล้วไปกินข้าวกัน…ผมซื้อขนมมาเยอะ เอาไปแบ่งกันนะครับ” ผมยิ้มบอกคนข้างๆ ก่อนหันไปหาบอกเพื่อนมันที่นั่งทำงานอย่างจริงจัง(?) ผมนั่งมองมันทำงาน คนอะไรวะ หน้านิ่งยังหล่อ มีหลายครั้งที่มันหันมา พอเห็นผมก็ยิ้มนิดๆให้แล้วทำงานต่อ ผมก็จ้องสิ ไหนๆก็ตามมันขนาดนี้แล้ว ด้านหน่อยจะเป็นไร ใช่ไหมครับทุกคน

“ชอบกินนมช็อกเหรอ”

“หือ”

“หมดไปสามกล่องแล้ว”

“อ๋อใช่ครับ”

“ระวังท้องอืดล่ะ” ห้ะ.. อย่างนี้มันเรียกว่าห่วงหรือเปล่าครับ

“อ๋อ ไม่เป็นไรครับผมเป็นบ่อยๆ” มันหันมาจ้องผมเขม็ง ก่อนหยุดพิมพ์งานแล้วคว้านมช็อคไปดูดหน้าตาเฉย เฮ้ยยย กูกำลังกัดหลอดอย่างเมามันนะเว้ย น้ำแข็งขี้ขโมยยยย

“คุณเกี๊ยยย ถ้าคุณชอบทำไมไม่บอกผมเล่า เอ้า เอาไปอีกกล่อง” มันกรอกตาไปอย่างเบื่อๆ

“หยุดกินนมได้แล้ว เก็บไว้ให้ลูกมึงกินเหอะ” กูรอมึงผลิตให้อยู่นี่ไง



กว่างานกลุ่มมันจะเสร็จก็ปาไปเกือบสองทุ่ม พวกผมจึงไปกินราเมนแถวซอยธนิยะ เอารถไปสองคัน รถของโฟ่ มี สา พัต ข้าวต้มมัด เน ส่วนของผมมีเกียร์....คนเดียว เพราะไอ้เกียร์ไล่ให้ไปนั่งรถคันโน้นหมด บอกอึดอัดน่ารำคาญ พวกนั้นก็งอแง แต่ก็ไป?

“เฮ้ยพวกมึงสั่งเลยหารกัน ส่วนเจ้าชายสั่งเลยครับไม่อั้น ไม่ต้องเกรงใจนะ”

“มึงจะเลี้ยงเจ้าชายเหรอวะไอ้มัด”

“เปล่า ไอ้เกียร์ดิ มันสนิทที่สุด จริงปะ ฮ่าๆๆ” กูว่าละ

“ไม่เป็นไรครับ หารครึ่งนั่น..”

“สั่งไปเหอะ มื้อนี้กูเลี้ยงมึงเอง หิวนานแล้วนิ” ยังพูดไม่จบมันก็พูดแทรกขึ้นมา แถมยิ้มน้อยๆให้กูอีก มึงเปิดทางแล้วนะช่วยไม่ได้ กูจะถลุงให้หมดตัวเลยอะ หึหึ

“โหตอนทำงาน ผมแทบจะแทะแขนคุณมากินแทนอาหารเย็นแล้ว”

“แล้วไม่แทะล่ะ”

“ไม่ไหวล่ะ คงเค็มน่าดู เมื่อคืนดองเค็มหรือเปล่าก็ไม่รู้”

“หึ แขนอาจจะเค็ม ...แต่ที่อื่นเคยพิสูจน์แล้วนิ หวานหรือเค็มล่ะ” มันก้มมากระซิบประโยคหลังข้างหูผม แล้วผละออกไปหัวเราะหึหึเหมือนคนโรคจิต ผมได้แต่อ้าปากหวอหน้าแดงก้มหัวงุดๆมองเมนู แล้วหันไปร่ายชื่อเมนูอาหารยาวกับพนักงาน ไอ้คนข้างๆก็ขยันยิ้มมาให้เหลือเกิน ถ้าผมหัวใจวายไป เลี้ยงพ่อแม่ผมด้วยแล้วกัน

“หึหึหึ” ผมหันควับส่งสายตาค้อนๆให้มันทีหนึ่งก่อนสะบัดบ๊อบใส่ แต่เอ๊ะเหมือนผมลืมอะไรไป ...

“…..เอ่อพวกมึง” กูว่าละ ลืมคนในโต๊ะนี่เอง

“ไอ้เกียร์... มึงยิ้ม?!” ผมกันไปมองเกียร์ที่หุบยิ้มแล้วทำหน้าขรึมใส่พวกมัน

“ตอนไหน”

“เมื่อกี้”

“เหรอ” แล้วมันก็หยิบน้ำเปล่าขึ้นมาดื่ม ทำเป็นไม่สนใจ ในขณะที่พวกมันพยักหน้าและมีความหมายคำถามปรากฏบนหน้าตัวเบ้อเร่อ หากอยู่ในเวิร์ด ฟอนต์ตัวอักษรคงเกือบเจ็ดสิบสอง

“เฮ้ยยยย อะไรของมึงเนี่ยไอ้เกียร์ ร้อยวันพันปีกูไม่เคยเห็นมึงยิ้ม นอกจากตอนที่ไอ้พัตทำโก๋แก่หกใส่หัวไอ้โฟ่” นั่นเขาเรียกยิ้มเหรอวะ ผมว่าแสยะยิ้มแกมสมน้ำหน้าหรือเปล่า

“อย่าเอากูเข้าไปเกี่ยว เดี๋ยวมึงได้หัวหลุด” โฟ่ มึงนี่มันโหดไม่แพ้ไอ้พิชกับไอ้บอสจริงๆ

“เออแต่ก็จริงนิ นั่นล่าสุด แต่ตอนนี้ฉันไม่คิดเลยนะว่าก้ามเนื้อปากแกจะมีวันกระตุกยิ้มอ่อนโยนขนาดนั้นได้อ่ะไอ้หมา ฮ่าๆๆ” สงสัยสาคงอยู่กับพวก(เถื่อน)นี้เยอะไปหน่อย อาหารเริ่มทยอยเสริฟ

“ถ้าพวกมึงยังไม่จบ กูจะบอกพ่อมึงไอ้สา ว่ามึงชอบไอ้ดิน ถึงขนาดแอบไปหอพักผู้ชาย ไอ้มัดเงินสองพันห้า ไอ้พัตพันเจ็ดคืนพรุ่งนี้ภายในเที่ยงคืน ส่วนไอ้เน ถ้ามึงไม่หุบปาก แว่นของมึงที่สะสมทั้งคอลเลคชั่นนั่นอาจแตกละเอียด แม้กระทั่งบนหัวมึงตอนนี้” ฉิบหาย เวรกรรมพวกมึงแท้ๆ เล่นกับใครไม่เล่น ..

“อูยยย” พวกนั้นร้องประสานเสียงออกมา

“..ฮึก ฮืออ มึงจะทำกับพวกกูที่นั่งตาดำๆกินข้าวร่วมโต๊ะกับมึงอยู่ทุกเช้าเย็นได้ลงคอเหรอ ฮืออ” ดราม่าให้เกียร์เสียคนเลยไหมล่ะ แต่เสียใจด้วย เกียร์ก็ยังเป็นเกียร์..

“จะไม่มีการร่วมโต๊ะอีกเป็นครั้งที่สอง ถ้าพวกมึงไม่หยุดพูด” โอเค กริบ





“เดินต่อกันหรือเปล่าพวกมึง”

“กูไปฮิฮิ”

“เรื่องแบบนี้กูกับไอ้มัดเคยพลาดอ้ะเปล่าสาดด ไอ้โฟ่ถ้ามึงสู้ กูก็ไม่ถอยอะ หึหึ แล้วมึงอะ” ไอ้เนหันมาถามเกียร์

“กลับ”

อย่าคิดว่าตอนนี้พวกผมเล่นหมากรุกกันนะครับ คือหลังจากกินข้าวเสร็จ พวกเด็กวิศวะ(สุดโฉด)เขาจะไปต่อที่ผับที่บาร์แถวนี้กัน

“นั้นเจ้าชาย ป่ะ”

“ไม่ดีกว่าครับ ตามสบายเลย แฮะๆ” อย่านะ อย่ามาป่ะ มาไปกับกู เดี๋ยวกูจะงานเข้า....เข้าใจผิดไปกันใหญ่

“โถๆ พ่อพระของสา ดีแล้วล่ะค่ะ ปล่อยไอ้พวกนี้ไปเสพสุขเถอะ ไม่ระวังเดี๋ยวจะติดโรค ชิ!”

“โหอีสามึงไม่รู้อะไร ความจริงมันเป็นซาตานในคราบเจ้าชายนะโว้ย  พวกเพื่อนมันแมร่งเที่ยวกันอย่างกับบ้านหลังที่สอง เปลี่ยนหญิงยิ่งกว่าเปลี่ยนถุงเท้า อย่าปฏิเสธเลย ไปด้วยกันๆหึหึ” ทุกคนหันกันมองผมควับ แม้กระทั้งไอ้เกียร์ ...ไอ้เชรี่ยยมัดแฉกูอีก กูอยู่ของกูเฉ๊ยเฉยย ลืมไปว่ามันอยู่ชมรมเดียวกับไอ้คิม เห็นว่าไปกินเหล้าด้วยกันบ่อยๆ

“ไม่ล่ะครับ เรื่องพวกนี้ผมหักดิบไปนานตั้งแต่ชอบใครบางคนแล้วล่ะ” ว่าแล้วผมก็เหล่ตามองมัน จากหน้าเย็นชาเมื่อกี้ ก็ เปลี่ยนเป็นปากกระตุกขึ้นทั้งสองข้าง ตาประกายวิบวับดูระริกระรี้พิกล ผมจึงรีบหันกลับมือข้างขวากุมหัวใจข้างซ้ายเอาไว้ไม่ให้กระเด็นไปหาคนข้างๆ

“หูยย แมร่งรักแท้ เออๆนั้นแยกกันตรงนี้แล้วกัน”



...........................................................................




“ขอบคุณที่มาส่งแล้วก็ขับรถดีๆนะคะเจ้าชาย ไว้เจอกันไอ้เกียร์”

“เออ/ครับ ไปนะ”

“เก่งอังกฤษไหม”

“??” อะไรคือประธาน กรรมของประโยคนั้นวะนั่น เอ๊ะ อย่าบอกนะว่ามันจะทาบทามผมไปเจรจากับโอบามา!

“ช่วยทำการบ้านหน่อยดิ เกลียดอังกฤษอะ ได้หรือเปล่า” มันเล่นพูดออดอ้อนแบบนี้ทำเอาผมไปไม่เป็น คำตอบผมคงมีเพียงหนึ่งเดียว!!..

“..ครับ”




“ดึกแล้ว นอนนี่แล้วกัน” เออว่ะ แล้วมึงพึ่งบอกตอนกูเข้าห้องมาได้ก้าวเดียวนี่นะ

“อ๋อไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมขับรถกลับได้”

“ไม่ต้อง ดึกดื่นอันตราย เป็นอะไรไปกูไม่มีใช้คืนพ่อแม่มึง”

“ง่ะ..”

“พอ เลิกเถียง รังเกียจหรือไง” ไปกันใหญ่แล้ว ยิ่งรู้จัก มึงยิ่งตุ๊ดออกนะ

“เปล่าครับๆ คือ...”

“กูนอนโซฟาข้างนอกก็ได้” โอยยเอาง่ายๆเปล่า ตอนแรกคือกูกลัวจะไปปล้ำมึง! แต่ตอนนี้กูเริ่มเกรงใจแทนละ แล้วนี่มึงวางแผนไว้ก่อนหน้านี้หรือเปล่าวะนั่น พูดเหมือนท่องสคริปไว้แล้ว

“ไม่เป็นไรครับๆ นอนบนเตียงด้วยกันนี่ล่ะ”

“แปบเดียวชวนกูขึ้นเตียงแล้วเหรอ หึ” บ้าแล้ว.. ผิด!! ..ผิดที่กูนี่ล่ะที่พูดสองแง่สองง่ามให้มันโจมตีผมทางคำพูด ผมคิดถูกหรือคิดผิดนี่

หลังจบสงครามประสาทเสร็จ เราก็เริ่มรายงาน ไม่สิ จะพูดว่าเราก็ไม่ถูก เพราะมันไม่ได้ให้ผมช่วยอะไรเลย พอผมถามว่าให้ช่วยอะไรไหม มันก็ตอบว่านั่งกินขนมไปเถอะ คือวิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาบังคับ ทุกคนจำเป็นต้องผ่านตัวนี้ ผมจึงช่วยมันได้ แต่มันเล่นตอบแบบนี้ ผมที่ว่างเกินจึงลุกไปอาบน้ำก่อนมานั่งกินป๊อกกี้ในห้องมันจนจะมีลูกเป็นแท่งอยู่แล้ว โอ๊ะ หรือว่าผมมีนานแล้ว ก็ไอรักน้อยไง หึหึ ผมว่ามันก็ทำของมันได้นะ แล้วจะอัญเชิญให้ผมมานั่งทำจ่าเฉยอะไรนี่! อ๊ะ..หรือมันจะให้ผมมาช่วยกินป๊อกกี้ บ้าแล้วก็ไม่บอก เสร็จผมสิ ..

“หึหึ ทำหน้าตลก”

“ห้ะ อะไรครับ หน้ายังไง”

“คิดอะไรอยู่ คิ้วขมวดบ้าง อมยิ้มบ้าง หรือเมาป๊อกกี้?”

“บ้าเหรอคุณ ผมไม่ได้คิดอะไร๊..อะไรไม่ได้คิดจริงจริ๊ง” ทำไมกูต้องเสียงสูงด้วยวะ มันหันมาเต็มตัวแล้วเลิกคิ้วสูง

“อะไรของมึง แค่นี้ต้องปิดบัง ไม่ต้องบอกกูก็ได้” ว่าแล้วมันก็หันหลังไปทำงานงกๆ

“โธ่คุณ ผมแค่คิดว่าผมจะมีลูกเป็นแท่งป็อกกี้แล้ว ให้ผมมายืนนั่งเป็นจ่าเฉย ไหนบอกให้ผมมาช่วยงานไง” อ้าวกูก็ใจง่ายเนอะ เขาบอกให้บอกก็บอกหมดเปลือก มันยังไม่ทันตอบก็มีโทรศัพท์เข้ามา

-   Cause there’ll be no sunlight if I … ปิ๊บบ-

‘ฮัลโหล อยู่ไหนครับตัวดี พี่ไปหาที่หอแล้วไม่เจอ ดึกแล้วรู้ไหม’ ฉิบ! รัวเป็นชุดกลองยาว

“อ้าวพี่ติมมีอะไรหรือเปล่า เค้ามาช่วยเพื่อนทำงานอยู่หอเพื่อนน่ะครับ”

‘หืม ดึกดื่นอันตรายนะ พี่มาเที่ยวกับเพื่อนแถวนี้เลยแวะมาดูตัวเล็กนั่นล่ะ แล้วหอเพื่อนอยู่ไหนครับ เดี๋ยวพี่ไปรับ’

“อ้ะ ไม่ๆๆ ไม่ได้ เอ้ย ไม่เป็นไรคืองานเค้ายังไม่เสร็จเลยกะจะนอนหอเพื่อน ตัวเองนอนห้องเค้าไปนั่นล่ะ ตัวเองเหนื่อยมาไม่ใช่เหรอครับ” ทำไมพี่ต้องมาหาวันนี้ด้วยนี่ ผมแอบเหล่ด้านหลัง ชะอุ้ย .. ร็อตไวเลอร์มาอยู่ในหอได้อย่างไรนั่น นั่งตีหน้ายักษ์ตรง
โต๊ะทำงาน สายตาจับจ้องมาทางโซฟาที่น้องไอรักตัวลีบๆนั่งอยู่ พุทโธ พุทโธ ยุบหนอ พองหนอ

‘โธ่ พี่กะจะมาเซอร์ไพรส์เสียหน่อย แต่คงไม่คิดถึงกันสินะ  มีเพื่อนแล้วคงลืมพี่คนนี้..พี่เข้าใจ’ มาอีกแล้ว โรคติดน้องติดนุ่ง

“ตัวเองงง อย่างอนเค้าสิ เค้าก็คิดถึงตัวเอง แต่เค้าต้องทำงานนะ อย่างอแงสิครับ” ปัง! เสียงประตูห้องนอนดังสะเทือนทั่วด้านนอก ผมสะดุ้งหันไปมองทั่วห้อง พบแต่ความว่างเปล่า สงสัยมันคงเข้าไปนอนแล้ว

‘เฮ้ยเสียงอะไร คนจุดพลุเหรอ โอเคไม่กวนเราแล้วไปทำงานเถอะ เมื่อกี้พี่ล้อเล่นน่ะ ฮ่าๆๆ’ โธ่ไอ้พี่คนนี้ เล่นไม่รู้สถานการณ์เลย ผมคุยกับพี่อีกเล็กน้อยแล้วจึงวางสายไป ผมลุกขึ้นไปจะปิดโคมไฟบนโต๊ะทำงาน แต่บังเอิญตาเจ้ากรรมไปเห็นรายงานที่มันยังทำไม่เสร็จ สงสัยคงเหนื่อยก่อน เห็นแล้วก็สงสารเหมือนกัน จบงานโน้น มานั่งทำงานนี้ ใช่ว่าแพทย์จะเรียนหนักที่สุด คนอื่นชอบคิดว่าเด็กแพทย์จำเป็นต้องเรียนเก่งทุกคนหากเปรียบกับคนอื่นๆ แต่ผมว่าคณะอื่นๆก็มีความยากง่ายแตกต่างกันมากกว่า ผมสวมรอยช่วยมันจนเสร็จ อย่างที่บอกว่าผมได้เรื่องภาษาหลายภาษา อังกฤษก็เช่นกัน แต่ก็ทำผมตาลายไปเหมือนกัน ต้องยกมือนวดขมับสองสามทีก่อนเงยหน้ามองเวลา..อีกสิบห้านาทีตีหนึ่ง หลังปิดคอมปิดไฟด้านนอก ผมก็ต้องใช้วิชานินจาย่องเข้าห้องไปแปรงฟันแล้วเดินไปนอนอีกฝั่งของเกียร์

“คุยโทรศัพท์เสร็จแล้วเหรอ”

“อ้าว คุณยังไม่นอนอีกเหรอครับ” ผมทำเสียงแปลกใจก่อนหันหน้าไปคุยกับมันที่หันหลังให้ผมอยู่

“ตอบ”

“ถ้าผมคุยอยู่ คุณคงได้ยินแล้วล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ..”

“ไม่ขำ” เสียงแข็งแทรกเสียงหัวเราะ ทำเอาผมกามค้าง มึงเป็นอะไรอี๊กก.. เดี๋ยวนะ แต่ผมว่าผมเริ่มเข้าใจมันเข้าแล้วล่ะ ..หึหึ

“อ่าวผมคิดว่ามันจะขำอะ สงสัยผมคงต้องให้พี่โน้ตฝึกวิชาใหม่เสียแล้ว”

“ใคร โน๊ต?” น่านน ตอนแรกเสียงแข็งอยู่แล้วนะ แต่นี่ทั้งแข็งทั้งโหด มึงทำเสียงซอฟๆสมูทตี้นุ่มนวลไม่เป็นเหรอครับ

“ก็โน้ต...อุดมไงครับ หึหึ รู้ไหมผมไม่เคยพลาดเดี่ยวพี่เขาสักเดี่ยวเลยอ่ะ มีครั้งหนึ่งที่ผมกับพี่ไอติมพี่ไออุ่นไปดูเดี่ยวแปดกัน อาทิตย์นั้นพวกพี่ๆผมก็คุยกันแต่เรื่องขี้อะ จนพ่อกับแม่ดุว่าถ้าติดใจเรื่องขี้มากจะส่งไปอินเดียกับจีนทั้งสองคนเลยหยุด ฮ่าๆๆ” พูดแล้วผมก็ขำไป นึกถึงพวกพี่ๆผมก็คิดถึงเหมือนกันนะนี่

“พี่ไอติม พี่ติม ที่คุยเมื่อกี้เป็นพี่น้องแท้ๆ?” มันเริ่มหันกลับมาคุยกับผมแล้วทำหน้าแปลกใจแต่คิ้วมึงนี่ยังเป็นปมอยู่นะ

“ใช่สิ พี่แท้ๆของผมไง ไออุ่น ไอติม ไอรัก มีอะไรหรือเปล่า ฮันแน่ ผมหวงพี่ชายผมมากเลยนะ ไม่ให้หรอกนะจะบอก” ผมหน้าบึ้งใส่ทำเอาอีกคนยิ้มละมุนละไมให้อย่างไม่รู้ตัว ถึงแม้ว่าเราจะปิดไฟแล้ว แต่ยังคงมีแสงด้านนอกเล็กลอดเข้ามาในห้องพอให้เห็นหน้าได้ลางๆ

“ไม่เอาหรอกไออื่น แค่ไอรักคนเดียว...ก็พอแล้ว” มันว่าแล้วก็จูบหน้าผากก่อนดึงผมเข้าไปกอดแน่นจนผมร้องเสียงอุบาทที่สุดไร้ซึ่งความโรแมนติก

“แอ่กก.. โอ้ยคุณ ผมยังอยากเอาร่างพร้อมกระดูกไปหาพ่อแม่วันพรุ่งนี้นะ” ผมพูดเสียงอู้อี้เล็กน้อย มันคลายกอดเล็กน้อยแล้วพลางถอนหายใจ   

“ไปกี่โมงกี่วันอะ”

“คงไปเช้าเย็นกลับน่ะ เพราะวันอังคารผมมีสอบต้องรีบกลับมาอ่านหนังสือครับ” พอดีวันจันทร์แคนเซิลคลาสผมคงอ่านวันจันทร์ แต่ก็ไม่เครียดมากเท่าไร เพราะอาจารย์บอกมานานแล้วว่าจะสอบวันนั้น จึงอ่านเตรียมตัวมาก่อนหน้านี้แล้ว จะเหลือแค่ทบทวนเท่านั้น

“เดี๋ยวไปส่ง ปลุกด้วยแล้วกัน…ไม่ต้องปฏิเสธเลย นอนได้แล้วไอ้แมวน้อย” โหมึงเรียกซะกูตุ๊ดเลยอะ แต่ไม่เป็นไร น่ารักเหมือนกัน ไอรักไม่ได้ยอตัวเองนะไอรักแค่พูดความจริง หึหึ



TBC-------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>



ไม่รู้ว่าจะมีคู่รองดีไหม แต่ให้ไอรักเขาบรรยายเหมือนเดิมน่ะค่ะ
แล้วชอบเถื่อนๆไหม ยังไงก็ร่วมแสดงความคิดเห็นให้ฟังได้นะ อยากฟังความเห็นของทุกคนค่ะ^^

ปล. final projectยังค้างอยู่เลย กร๊ากก งานเยอะจริงๆปีสอง
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่8 25/11/12]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 25-11-2012 15:42:32
มาต่อล่น
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่8 25/11/12]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 25-11-2012 23:27:42
นี่ขนาดยังไม่ได้เป็นแฟนยังสวีทกันขนาดนี้แล้วถ้าเป็นละ ?  :pighaun: :pighaun: :pighaun: :m25: :m25: :m25:

ชอบบบๆๆ ไอรักก็น่ารัก ฮาๆดี ชอบเคะแบบนี้อ่ะ  :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

ส่วนเกียร์ก็ขรึมๆแต่อ่อนโยน ชอบเมะแบบนี้เช่นกัน :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:

สรุป !!!!!!! ชอบทั้งไอรัก ทั้งเกียร์เลย  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :L2: :L2: :L2: :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่8 25/11/12]
เริ่มหัวข้อโดย: NONSENSE ที่ 26-11-2012 02:26:05
ชอบอ่ะ น่ารักดี
เหมือน เกียร์จะชอบ นู๋ไอ มาก่อนนะเนี่ย
เลยข้ามถนนให้รถเฉี่ยวเหมือนที่เพื่อนเกียร์ว่า คิคิ

ไอรัก ดูติ๊งต๊อง นิดๆอ่ะ น่าร๊ากกกกก
like ๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่8 25/11/12]
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 26-11-2012 08:51:03
เกียร์ นอกจากปากแข็งแล้วยังขี้หวงอีกนะ  :laugh3:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่8 25/11/12]
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 26-11-2012 09:21:07
น่ารักทั้งคู่เลย เกียร์เทอแอบขี้หึงนะ 555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่8 25/11/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 26-11-2012 10:38:11
เจ้าชายไอรักคุยกับพี่ชายได้น่ารักมากกกกกกกกกกกกก
มากจนเกียร์ออกอาการหึงแล้ว

+1จ้า มาต่อไวๆนะ ชอบบบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่8 25/11/12]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 26-11-2012 11:23:41
เกียร์หึงโหดดดดด

ขอเถื่อน ๆ ชอบบบบ 555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่8 25/11/12]
เริ่มหัวข้อโดย: anuruk97 ที่ 26-11-2012 12:40:11
ชอบเจ้าค่ะ....
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่8 25/11/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 26-11-2012 19:41:28
เจ้าชายจะพาไปพบพ่อตาแม่ยายต้องใส่สูทไปรึเปล่าคะนี่ ฮ่าๆๆ


"เรื่องพวกนี้ผมหักดิบไปนานตั้งแต่ชอบใครบางคนแล้วล่ะ" <<ชัดเจนมากลูกขา หึหึ




 :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m18:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่9 01/12/12]
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 01-12-2012 15:20:59
ตอนที่9




“คุณเกียร์ๆๆ จอดหน่อยย”

“ห้ะ อะไร!” มันทำหน้าเสียงตกใจ(แต่หน้ามึงนิ๊งนิ่ง) มันขับรถผมมาส่ง จะบอกว่ามันสามารถหรือไม่เจียมสังขารดี ขาซ้ายใส่เผือกอ่อน ขาขวาเหยียบคันเร่ง เมื่อเช้าแม่โทรมาพอดี ผมบอกว่าอยู่หอเพื่อนแล้วเขาจะขับรถไปส่ง แม่ผมจึงชวนเกียร์มาทานข้าวด้วยกัน

“ผมอยากกินนมช็อกอะแวะหน่อยสิ นะน้าน้า...” ผมส่งสายตาปิ๊งๆอ้อนวอนแทบจะพนมมือกราบแนบอกมัน จนมันหัวเราะในลำคอ

“คนผลิตคงรวยเพราะไอ้แมวน้อยตัวนี้แหงๆ”

“ไม่ใช่หรอก ผมว่าเป็นเพราะคุณมากกว่า” มันทำหน้างงประมาณว่ากูไปซื้อกินตอนไหน

“?”

“เพราะตอนนี้ผมจะให้คุณจ่าย ผมลืมเอากระเป๋าตังค์ลงมาอะ แฮ่ะๆ” มันอมยิ้มพลางส่ายหน้าแล้วหยิบขนมสามสี่อย่างเดินไปจ่ายเงิน


“อ่ะ” ผมหยิบเงินส่งให้มันหลังจากเราขึ้นรถได้สักพัก

“ไม่เอา เกียร์เลี้ยง” ผมชะงักมองหน้ามันเอ๋อๆ อะไรวะ ร้อยวันพันปีไม่เคยเรียกชื่อตัวเอง แต่คนอย่างมันหาได้สนใจไม่

“ทำไม ก็เรียกกู-มึง มันเชย เปลี่ยนตามอารมณ์”เหมือนมึงจะพยายามโยงให้เกี่ยวกันเหลือเกิน ความจริงผมพูดแบบนั้นได้สบายนะ แต่กับมันผมว่า มันไม่เข้ากับหนังหน้าอะ ไม่รู้สิ ไม่เคยเห็นมันพูดแบบนั้นเลยไม่ชินมั้ง

“มันแปลกๆเนอะ ว่าไหม”

“เด็กวิศวะ ไม่ธรรมดา” เกี่ยวไหม..มึงมาเป็นคติคณะเชียว ไปกันใหญ่แล้ว


.......................................................................



“ตัวเล็กมาแล้วเหรอลูก” เสียงสตรีหมายเลขหนึ่งของบ้านมาก่อนตัวเกือบทุกครั้งที่มาเยือน

“โอะฮาโย โกไซอิมัสครับมาม๊า”ผมวิ่งเข้าไปกอดหอมแก้มซ้ายขวา

“โถ ลูกผอมลงหรือเปล่าคะ เรื่องนี้ต้องมีเคลีย มาม๊าไม่ปลื้มเท่าไรนะ อ้าว นั่นลูกเกียร์ใช่ไหมจ๊ะ มาๆเข้ามากันก่อน”ผมวิ่งไปเปิดกรงให้ไอแดดกับไอหมอก สุนัขบ้านผมเอง ปกติมันจะออกมาวิ่งต้อนรับคนในบ้านตลอดไม่เคยอยู่ในกรงหรอก แต่สงสัยคงถูกลงโทษ ส่วนแม่จูงมือเกียร์เข้ามาในบ้านเข้ามานั่งห้องนั่งเล่น

‘โฮ่งโฮ่ง’ ยังเปิดกรงไม่ทันเสร็จ ไอ้ตัวดีทั้งคู่ก็กระโจนเข้าหาผม ตะกุยตะกายเสียอย่างกับผมเป็นเทศบาลมาจับพวกมึง

“สวัสดีครับไอแดด ไอหมอก ดื้อเหมือนเดิมเลยนะนี่” ผมเล่นกับมันสักพักหนึ่งแล้วพาพวกมันไปทักทายว่าที่พ่อ(อีกคน)ของลูกผม

“ไอแดด ไอหมอก ทำความเคารพพี่เกียร์ก่อนเร็ว สาม.. สี่.. สวัสดีครับ” นั่งยกขาหน้าขึ้นแลบลิ้นพอน่าเอ็นดูให้แขกใหม่ที่กำลังอึ้งๆก่อนจะหลุดขำพรืดออกมา ผมนั่งยองๆลูบหัวทั้งสองไอเป็นคำชม

“พันธุ์อะไรเหรอไอรัก”

“ตัวนี้ชื่อไอแดด พันธุ์ SibirskiyHaskiกับไอหมอก พันธุ์ shetland sheepdog ครับ” ผมลุกขึ้นไปนั่งข้างเกียร์ตามด้วยสมุนเดินตามมานอนแทบเท้า เกียร์เริ่มจับหูจับหางมัน พวกมันมองปรายตาก่อนหันกลับซุกเข้าขาผมอีก ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี เพราะถ้าไม่ใช่พวกเพื่อนในกลุ่มผมที่มาบ้านบ่อยๆ มันจะกระโจนเห่าและเชิดใส่ อีกไม่นานคงยอมรับพ่อคนใหม่คนนี้อีกคนแล้วล่ะ

“รัก เกียร์ปวดฉี่” มันกระซิบมาบอกผมตอนที่แม่ผมคุยกับแม่บ้านเรื่องอาหารกลางวันอยู่

“เลี้ยวซ้าย ตรงไปนิดหนึ่งแล้วเลี้ยวขวานะเกียร์”ผมพูดพร้อมก้มตัวเอามือไปเกาที่หน้าอกลูกๆให้เคลิ้ม

“ถ้ามึงไม่พาไป กูคงหลงอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้” สรุปผมก็ต้องไปเฝ้ามันหน้าห้องน้ำ ไอรักเป็นคนหรือเป็นหมาวะ เริ่มสับสน





“พี่ไออุ่นนนพี่ไอติมม♥” หลังจากเสร็จภารกิจของไอ้เกียร์ก็เดินมาห้องเดิม แต่เห็นผู้ชายร่างสูงสมชายชาตรีทั้งสองมานั่งก่อนหน้านี้แล้ว คนหนึ่งสุขุมหน้านิ่ง แต่พอได้ยินเสียงผมก็หันมายิ้มอ่อนโยนให้ กับอีกคนหน้าเจ้าชู้นิดๆยักคิ้วมาให้ผม ผมโผเข้าไปนั่งบนตักกอดพี่ชายที่รักคนแรก ก่อนจะหันไปหอมแก้มคนนั่งใกล้ๆ ถึงผมจะติดพี่ไออุ่นมากกว่าคนอื่นแต่ผมก็รักทุกคนเท่ากันหมดนะ

“ว่าไงครับตัวเล็ก ทำตัวเป็นเด็กไปได้ไม่อายเพื่อนเขาเหรอ” พี่อุ่นลูบหัวยิ้มให้ผมก่อนจ้องหน้าเกียร์นิ่งๆ

“ตัวเองไปไหนมา วันนี้วันอาทิตย์ไม่ใช่เหรอ”

“งานมีปัญหานิดหน่อยครับ พี่เลยรีบไปเคลียแล้วรีบกลับมาทานข้างกลางวันกับเราไงครับ”

“นี่เราคิดว่าอย่างพี่อุ่นจะเถลไถลเหมือนเราน่ะเหรอ ฝันไปเหอะ..หึหึ”เสียงไอ้พี่ติมเหน็บแนมไอรักเล็กน้อยพองาม แต่ทำเอาพี่ไออุ่นหันมาคิ้วขมวดใส่ ผมรีบส่ายหน้าหัวแทบหลุดโบกไม้โบกมือว่าไม่มี๊ ..ไม่มีจริงจริ๊งงง

“ว่าแต่เพื่อนเราชื่ออะไรน่ะ” ถ้าพี่อุ่นไม่ทัก ไอรักคงลืมไปเรียบร้อยละ

“ชื่อเกียร์ครับ อยู่วิศวะปีสองเหมือนผมนั่นล่ะ” ไอ้เกียร์ยกมือไหว้ พี่ทั้งสองพยักหน้าเฉยๆ

“วิศวะ? แล้วไปรู้จักกันได้ยังไง”

“คนนี้ใช่ไหม ที่ตัวยุ่งไปนอนด้วยเมื่อวาน”พี่ติมหันมาถามประโยคล่อแหลม

“นอน?”

“อืม เห็นบอกไปทำงาน”

“งานอะไร คนละคณะกันไม่ใช่เหรอ” สองพี่น้องถกเถียงถามไอ้เกียร์ที่เนื้อตัวเริ่มซีดจากแรงกดดันสายตาคมทั้งสองคู่ แต่หน้ามึงก็ยัง..นิ่ง..นิ่งได้อีก ผมนี่นั่งเหรอหราหันมองพี่อุ่นพี่ติมสลับไปมาบนตักพี่ชาย

“เดี๋ยวคร้าบบบ ..หยู๊ดด.. คือไอรักไปช่วยงานวิชาภาษาอังกฤษของเกียร์ที่ทุกคณะต้องเจอวิชานี้อยู่แล้ว ส่วนรู้จักกันได้ไง เค้าว่าไม่แปลกนะ เพื่อนนอกคณะเค้าตั้งเยอะ พี่ชายไม่สนใจเรื่องเค้าต่างหาก” ก่อนที่พี่ชายทั้งคู่จะฆ่า(ว่าที่)พ่อของลูกผม ผมขอสารภาพบาปแทนพ่อมันก่อนจะแสร้างตีหน้าเศร้าใส่เพื่อดึงความสนใจพี่ทั้งสองคนนี้ แล้วมันก็ได้ผล..ตลอด

“โอ๋ๆตัวเล็กของพี่ ไม่ใช่พี่ไม่สนใจ แต่พี่ไม่มีเวลา ช่วยงานแม่ตลอด ส่วนพี่อุ่นเขาก็ช่วยงานพ่อไงตัวเล็ก”

“ขอโทษนะครับที่พวกพี่ไม่มีเวลา ยกโทษให้พี่อุ่นนะครับตัวเล็ก” เวรกรรม ทำเอากูรู้สึกผิดที่ตีหน้าเศร้าเลย พอดีกับแม่บ้านเรียกไปทานอาหาร โต๊ะนี้ยังอบอุ่นเหมือนเดิม แต่เสียดายพ่อน่าจะมาทานด้วยกัน แต่แม่บอกว่าพ่อติดไปตีกอล์ฟกับเพื่อน ตอนเย็นจะรีบกลับมากินข้าวด้วยกันตอนนี้แม่ผมชวนเกียร์คุยจนจะกลายเป็นลูกสนิทอีกคนหนึ่งแล้ว ส่วนพี่ทั้งสองคนฟังเฉยๆ จะมีบ้างที่พี่ติมชวนมันคุย แต่ก็นะพวกพี่ๆหวงผมมาก แล้วยิ่งพี่อุ่น พี่ติมบอกว่าถ้าอยู่กับคนอื่นจะนิ่งแข็งเหมือนเหล็ก แต่อยู่กับพ่อแม่หรือกับไอรักเปลี่ยนเป็นคนละคนเลยล่ะ หลังจากกินข้าวเสร็จ ผมก็อัญเชิญคุณเกียร์เขาขึ้นไปนั่งเล่นห้องผม มันก็ทำตัวเป็นแขกที่ดีนะครับ ถึงห้องมาก็เดินเข้าไปหยิบจับโน่นนี่จนได้สิ่งที่น่าสนใจก็มานั่งจุ้มปุกที่โซฟาใกล้ๆเตียง

“ไอรัก มึงสนิทกับพี่มากเลยเหรอ” อ้าว ไอ้นี่ถามแมวๆ

“แน่นอนสิครับความจริงผมติดครอบครัวมากๆ ตอนแรกพี่ๆไม่อยากให้ผมออกมาอยู่ข้างนอกหรอก แต่ผมไม่ยอม พี่ติมเลยหาคอนโดให้..เป็นอะไรหรือเปล่าครับเกียร์ ”ก็มันเล่นทำหน้าบึ้งเสียขนาดนั้น

“กูไม่ชอบ..”

“ไม่ชอบ?ไม่ชอบพี่ผมเหรอ” ผมเริ่มใจเสียแล้วสิ กลัวมันเข้ากับครอบครัวผมไม่ได้มันหันมามองตาผมพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่

“เปล่า กูไม่ชอบที่ตัวเองรู้สึกแปลกๆบอกไม่ถูกตอนมึงนั่งตักพี่มึง กูแทบอยากจะกระชากมึงออกมาจากตัก แล้วเอามึงมานั่งตักกู ...กู..ไม่เข้าใจตัวเอง” มันดูสับสนเอามากๆ ผมเคยเป็นตอนที่แอบตามมันตอนที่ยังไม่รู้จักกัน เห็นมันไม่สนใจผู้หญิงคนอื่น แต่ดันคุยกับสา ตอนนั้นผมแอบคิดแวบหนึ่งว่าอยากจะกระชากมันล่ามโซ่เอาไว้ในห้องไม่ต้องเจอใคร แต่หลังๆก็เริ่มรู้ว่าเป็นเพื่อนสนิทไม่ได้คิดเกินเลยกันหรอก แต่ตอนนี้ไม่ไม่อยากจะเข้าข้างตัวเองว่ามันก็เริ่มมีใจให้ เพราะผมกลัว กลัวว่าความหวังเล็กๆจะย้อนมาทำร้ายผม

“ผมนั่งแบบนั้นตั้งแต่จำความได้แล้วนะ..อูยย แฮะๆก็..มันเรื่องจริงหนิ” จบประโยคแรกมันก็ส่งตาขวางมาให้

“เออ ช่างแมร่งเหอะ ..เป็นเหี้ยอะไรวะ”ประโยคหลังมันพึมพำๆกับตัวเอง เออกูก็ว่า ช่างแมร่งเหอะนอนกลิ้งเล่นดีกว่า กลิ้งไปกลิ้งมาดันหลับจริงๆตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาอีกทีปาไปสี่โมงกว่า กะจะยืดตัวมองหามันว่าหายไปไหน แต่ก็มีแขนหนักๆพาดลำตัวอยู่ ผมจ้องใบหน้าคมๆของมัน เหมือนหลุดมาจากหนังไทย มันคงเป็นคนไทยแท้ ผิวสีแทนน้ำผึ้ง ไม่ดำไม่ขาว คิ้วเข้ม ตาดุๆ

“ห้าร้อยบาทค่าจ้องโดยไม่ได้รับอนุญาต”

“งื้ออตื่นตอนไหนอะ ผมตกใจหมด” ผมดิ้นอยู่ในวงแขนมันยิ่งทำให้มันกอดแน่นขึ้น

“ก็เล่นจ้องขนาดนั้นใครจะนอนหลับลง”

“ก็คุณน่ามองเองนิ..เอ๊ยไม่ใช่ หมายถึงใครมานอนข้างๆแบบนี้ก็ต้องมองอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ..นี่ อย่ามาขำผมนะ!” ฉิบ! หลุดปาก มึงขำเข้าไป เออแมร่ง! เดี๋ยวทนไม่ไหว ผมจะปาอึไอแดดใส่หัวมัน

“หึหึ ไม่ขำแล้ว ลงไปได้แล้ว เมื่อกี้มีคนมาเรียกแล้ว นี่ถ้าอีกสิบนาทีไม่ตื่นกะจะปลุกอยู่แล้วล่ะ” นี่สรุปมึงแกล้งหลับตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม!! ผมหน้ามุ่ยเดินสะบัดก้นไปล้างหน้าล้างตา มันก็เดินอมยิ้มตามมา พอเสร็จแล้วก็เดินลงมาพร้อมกัน

“แด๊ดครับ คิดถึงจัง ..จุ๊บ” ผมหอมแก้มซ้ายขวาเสร็จก็นั่งลงข้างๆตามด้วยเกียร์

“ว่าไงลูกรัก เห็นว่าทำม๊าเขาเครียดเรื่องน้ำหนักนิ งานเยอะหรือเงินไม่พอหรือเปล่าตัวเล็ก” ถ้าใครถามว่ามาดพี่อุ่นเหมือนใคร ผมว่าเหมือนพ่อเด๊ะๆเลยล่ะครับ บางคนที่ไม่รู้จักมักจะเกรงกลัวพ่อผม แต่ความจริงท่านเป็นคนขำขันมากเลยนะ ชอบยิงมุขหน้านิ่ง เสียดายที่ติดหน้าดุไปหน่อย ส่วนพี่อุ่นไม่มีอารมณ์ขำขันแบบพ่อหรอกครับ นิ่งอย่างเดียว แต่พี่อุ่นอ่อนโยนกับไอรักมากๆ ทำให้ผมรักพี่อุ่นสุดใจเลย

“ไอรักก็ตัวเท่านี้มานานแล้วนะครับแด๊ดมาม๊ากังวลเกินไปต่างหาก อยู่ที่โน่นเพื่อนก็ขุนนมช็อก เอ้ย อาหารจนจะกลายเป็นหมูอยู่แล้วครับ” ผมทำปากจู๋อย่างขัดใจจนคนข้างๆแอบขำพรืดออกมาเบาๆ แต่ผมได้ยิน จึงส่งสายตาค้อนแต่พองามไปให้

“โถ มาม๊ากอดหนูมาตั้งแต่เกิดทำไมจะไม่รู้ว่าลูกอ้วนขึ้นหรือผอมลง ไม่รู้ล่ะ ถ้าไม่อ้วนขึ้นมาม๊าจะให้กลับมาอยู่บ้าน” ว่าแล้วคุณนายก็เชิดใส่ ผมอ้าปากค้าง

“คุณเหงาก็บอกเถอะ ไม่ต้องอ้างเรื่องน้ำหนักลูกหรอก หึหึ”

“ก็คุณดูสิ อดมื้อกินมื้อหรือเปล่าก็ไม่รู้ ออกไปอยู่คนเดียว อันตรายอีกนะคะคุณ”

“ไม่เอานะครับแด๊ด นี่พี่ติมอุส่าหาคอนโดให้ ระบบความปลอดภัยก็ดีเยี่ยมเกินคอนโดอื่นแล้ว อุส่าซื้อ ไม่อยู่เดี๋ยวไม่คุ้มนะครับ อีกอย่างไอรักก็มีเพื่อนฝูงแถวนั้นเยอะด้วย ไม่อันตรายหรอกครับ เนอะๆ” ผมเนอะๆใส่พี่อุ่นพี่ติมที่กำลังส่ายหน้าเอือมใส่ผม อะไรอะ ก็เขากำลังหาผู้ร่วมอุดมการณ์นี่นา

“ไม่ต้องห่วงครับ ผมอยู่คอนโดใกล้ๆกับไอรักเหมือนกัน มีอะไรช่วยกันได้ครับ” พ่อของลูกผมในอนาคตพูดขึ้นมา

“จะดีเหรอคะ ต้องลำบากน้องเกียร์ มาม๊าเกรงใจ”

“ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ” ว่าแล้วแม่ผมก็พยักหน้าเป็นอันว่าตกลงอย่างง่ายๆ เฮ้ยนี่จะง่ายไปนะ ขนาดผมพูดแล้วพูดอีกเอาแต่จะค้าน ก็นะ ลูกรักคนใหม่ของเขา เรามันหมาหัวเน่าไปแล้ว ฮืออ

หลังจากเรากินข้าว ร่ำลากันเสร็จแล้ว เกียร์นึกอยากซื้อของใช้ส่วนตัว จึงแวะเข้าห้างใกล้ๆมอ

“โหเกียร์คุณซื้อแปรงสีฟันไปอมเล่นเหรอ” ผมพูดขึ้น หลังจากมันหยิบแปรงสีฟันใส่รถเข็นครึ่งโหล ไหนจะของสด นมสด ขนมอีกมากมาย นี่มึงกะจะไม่เดินห้างตลอดชีวิตแล้วเหรอ โอ้ไม่นะ เกียร์จำศีล..

“เห็นกูเป็นบ้าหรือไงนั่งอมแปรงสีฟันเล่นนี่ ..กูซื้อไว้เอาไว้ให้ใครบางคน” มันพูดเสียงเบาตอนหลัง ใคร ..คนนั้นคงสำคัญกับมันมากสินะ ผมเดินตามไม่พูดอะไรจนถึงลานจอดรถ

“เป็นอะไรหรือเปล.../น้องไอร๊ากก” เสียงใครคนหนึ่งแทรกเสียงมันขึ้น ผมมองผ่านไหล่มัน เห็นผู้ชายร่างบางตาโตใส่เสื้อคอกลม กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน หากไม่รู้จักกันคงคิดว่าเป็นเด็กมัธยมแน่ๆ ‘พี่น้ำ’

“จะไปไหนเหรอน้องไอรัก นี่ๆ พี่ตามหาน้องแทบจะทั่วตึกแพทย์เลยนะ เห็นคนอื่นบอกเดี๋ยวนี้น้องชอบรีบออกไปหลังเลิกเรียน พี่เลยไม่เคยเจอเลยอะ คิดถึงจะแย่ แฮ่ๆ”

“สวัสดีครับพี่ ช่วงนี้ผมไม่ค่อยว่าง เดี๋ยวต้องรีบกลับไปอ่านหนังสือน่ะครับ” ผมเหลือบไปมองเกียร์ มันคงรู้สาเหตุที่ผมไม่ค่อยอยู่ที่ตึกตัวเอง เพราะผมมาตึกมันนั่นล่ะ

 “พอดีเลย คือน้องพี่กะจะเข้าแพทย์อะ อยากได้หนังสือกับคำแนะนำ แต่พี่ไม่รู้เรื่องนี้เลย ว่าแต่พี่ไปด้วยได้ไหม เอ่อแต่ไม่ได้ไม่เป็นไรนะ น้องอาจจะรังเกียจพี่ พี่เข้าใจ” พี่น้ำจับแขนเหย่าเบาๆพลางช้อนตาโตๆอ้อนเหมือนแมวมาให้ อย่างนี้กูจะปฏิเสธลงไหมละนี่ ทำไงดีวะ ผมอ้ำๆอึ้งๆ

“กูไปละ” ว่าแล้วมันก็ทำท่าจะเดินเข้าห้าง

“ห้ะ ไปไหนครับ”

“แท็กซี่”

“ได้ไง ก็คุณมากับผม”

“มึงจะไปส่งเขาไม่ใช่เหรอวะ มายุ่งกับกูทำเหี้ยไรนักหนา” มันเริ่มขึ้นเสียง

“ให้ผมไปส่งคุณเถอะเกียร์”

“มึงอย่าตื้อได้ไหมวะ เลิกยุ่งกับกูเสียทีเหอะ แค่นี้กูก็รำคาญจะตายห่าแล้ว ไอ้สัญญาห่าไรนั่นกูยกเลิก กูกลับละ ส่วนมึง...จะไปไหนก็ไป” มันตะคอกใส่ผมเหมือนอยากระบายสิ่งที่อัดอั้นออกมา ผมยืนอึ้งมองมันอย่างตัดพ้อ ก่อนที่มันเดินออกไปจากตรงนี้

สงสัยจะจริงอย่างที่พวกนั้นเคยบอก ผู้ชายอย่างมันจะมาชอบผมได้อย่างไร ผมไม่ได้อยากจะคาดหวังอะไรกับการที่จะรักมัน แต่ทำไมมัน..เจ็บ..เจ็บมากกว่าทุกครั้ง เจ็บมากกว่าตอนผมรู้ว่าดันไปหลงรักคนที่ใครต่างบอกว่าไร้หัวใจคนนี้..ที่แล้วมา ผมเคยคิดว่ามันจะเปิดรับผมบ้าง..เพียงเป็นเพื่อนก็ดี..คนรู้จักก็ดี แต่ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะทำให้มันรำคาญได้ถึงเพียงนี้ ผมผิดอีกแล้วใช่ไหม


...............................................................................


ไม่ว่านานเท่าไร แผลข้างในหัวใจ
มันไม่เคยลบเลือน แม้ฉันพบเจอใคร
ก็ไม่ทำให้ใจมันดีขึ้นมา มันยังเหมือน



.....ภาพขาวดำเมื่อวันก่อนตอนมันเดินจากไป ฉายเข้ามาในสมอง…ซ้ำแล้ว..ซ้ำเล่า..เหมือนตอกย้ำให้ตัวเอง..จำ......จำว่าเคยเจ็บมากถึงเพียงนี้


วันที่เธอทิ้งฉันไป เมื่อไหร่ก็เหมือนเก่า
ความเจ็บนั้นยังตาม ติดตัวเป็นเหมือนเงา
ก็ไม่รู้ทำไม เมื่อไหร่จะบรรเทาความเจ็บนี้
….ที่อยู่ในหัวใจ…..



 ‘รกหูรกตา’ รกไปหมด โทรทัศน์ กรอบรูป ตุ๊กตา กระเป๋าเครื่องมือแพทย์ แม้กระทั่ง นาฬิกา ที่ยังคงหลอกหลอน เหมือนมันค่อยๆฉีก..ใจ..ทีละนิด..ทีละนิด


นาฬิกา...เพื่อเตือนให้ตื่นเช้า ทั้งๆที่ตัวเองไม่มีเรียนเช้า หึ....งี่เง่า.. ..

เอามาเตือนตัวเองก่อนดีกว่าไหม

......เพล้ง!!!


ทำไมยังต้องรักเธออยู่ ยังคิดถึงเธออยู่
ยังเห็นเธออยู่ในความฝัน วันที่เธอทิ้งฉันไป
ทุกอย่างก็เปลี่ยนฝัน มีแต่แผลที่อยู่กลางใจฉัน
.....ที่มันไม่เปลี่ยนไป….



เท้าย่ำเหยียบไม่สนเศษซากนาฬิกากระจายไปทั่วห้อง เดินไปกระชากตู้เย็นเพื่อหาสิ่งที่พอประทังชีวิตให้อยู่รอด

แต่เปิดมาเจอ...ความว่างเปล่า...เหมือนกับความรู้สึกตอนนี้

โทรทัศน์ฉายวิวทะเลที่แสนงดงามสำหรับคนอื่น..แต่อ้างว้าง..สำหรับผม…


“แล้วตกลงวันนี้เรามาหัวหินแค่กินข้าว เล่นแถวชายทะเลว่างั้น?”
“อ่อเปล่าหรอก ความจริงจะพาไปหลายที่ แต่มีเรื่องเกียร์เสียก่อน เลยต้องยกเลิกไปน่ะแฮ่ะๆ”
“...นั้นเอาไว้ครั้งหน้าเราค่อยมากันใหม่นะ”
“ห้ามเบี้ยวล่ะ คุณน้ำแข็ง” ของผม........งั้นเหรอ...



......ตอกย้ำกันเข้าไป






ปิ๊งป่อง… ปิ๊งป่อง ปิ๊งป่อง….


“สาดด ทำไมเปิดช้าจังวะ กูจะมาเอาแผ่นเกมส์อะ...เฮ้ยยย” หยาดน้ำตา...ไร้เสียงสะอื้น มีแต่น้ำที่แสดงความอ่อนแอออกมาหล่นลงบนบ่าหนาของคนตรงหน้า

“แพ้..กูแพ้แล้ว”

“เกมส์อะเหรอวะ เฮ้ยเอาใหม่ดิ โห่มึงนู้บเหรอสาดด แค่นี้ทำอ่อนร้องไห้”

“เกียร์....อึก”

“....กูเข้าใจละ เดี๋ยวนะ...ฮัลโหลไอ้พิช เรียกประชุมด่วนห้องไอ้เกียร์..เดี๋ยวค่อยคุย กูก็ไม่รู้...ร้องไห้ว่ะ ท่าจะหนัก ...โอ้ยย เออรีบมาแล้วกัน แค่นี้นะโว้ย… ไปๆมึง เข้าห้องก่อน”

“เฮ้ยเป็นไรวะมึง” หลังจากที่ทุกคนมาในห้องแล้ว ไอ้คิมถามขึ้น

“เป็นอะไรไอ้รัก”

“.....กู..มันบอกให้กูเลิกยุ่ง มันบอกว่ารำคาญ กูผิดมากเหรอวะที่อยากอยู่ใกล้ อยากทำอะไรสักอย่างให้มัน.. กู...กูเจ็บว่ะมึง”

“ไอ้เหี้ยนี่!!!”ไอ้พิชกับไอ้คิมลุกขึ้นจะวิ่งออกไปจากห้องแต่ไอ้ไทป์ห้ามไว้ก่อน

“เดี๋ยว! ไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาหรอก มีแต่จะมองหน้ากันไม่ติด”

“ช่างแมร่งดิ กูอยากมองหน้าแมร่งเมื่อไรวะ กูหมันไส้ฉิบ ...มันทำเพื่อนกูนะมึง กูว่าแล้วว่าต้องเอาเลือดมันออกแมร่งสักวัน” คิมพูด

“ที่แล้วมากูมีความสุข โดยที่กูไม่รู้ว่ากูกำลังมีความสุขอยู่คนเดียว ทั้งๆที่มันไม่ได้รู้สึกเหมือนกูเลย..สักนิด...กูเหนื่อย...เหนื่อยมากๆจนกูอยากหยุด ...แต่กูทำไม่ได้สักที” ไอ้คิมทิ้งหัวแรงๆ ก่อนจะนั่งข้างไอ้พิชที่ตอนนี้ไม่ต่างกัน ...น้ำตาผมไหลลงมาเหมือนไม่เคยออกมานานจนมันทะลักออกมาจนหยุดไม่อยู่

“อดีตมันกลับมาไม่ได้ มันกลับมาได้ก็แค่ความทรงจำที่มึงได้เคยทำ แล้วมึงจะมัวแต่ติดอยู่กับมันทำไม ในเมื่อวินาทีที่ผ่านไปมันก็เป็นอดีตไปแล้ว มึงเจ็บกับมันตอนนี้ กูก็เข้าใจ แต่ถ้ามันไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบ มึงจะทำให้มันมาทำร้ายปัจจุบันเหรอ มึงไม่ได้อยู่บนดวงจันทร์กับกระต่ายตัวหนึ่งหรอกนะ แต่มึงมีคนรอบข้าง มีสังคมที่มึงต้องเผชิญ มึงไม่ลองเปิดใจรับสิ่งใหม่ที่ดีกว่าจมอยู่กับคนที่ไม่ได้รักไม่ดีกว่าเหรอ” จบคำพูดไทป์ทุกคนต่างเงียบ

“...กูขออยู่คนเดียวก่อนได้ไหมวะ”

“แต่..”

“อืม แต่ขอบอกมึงไว้ก่อนว่า ไม่ว่ามึงจะตัดสินใจอย่างไร คนข้างหลังมึง พ่อ แม่ พี่ เพื่อน พวกกู จะอยู่กับมึงเสมอ” ไอ้ไทป์มองผมนิ่งก่อนตบบ่าผมแล้วพยักหน้าให้ไอ้เนมที่ลังเล มันคงกลัวผมจะคิดอะไรแปลกๆสินะ แต่ผมไม่ทำหรอกนะ ผมรู้ว่าไม่ใช่เพียงผมแค่เจ็บกาย เจ็บใจ แต่คนข้างหลังที่ไอ้ไทป์บอก เจ็บกว่าผมหลายเท่า
   
หากผมผมไม่หยุดเองตอนนี้ ...

“เดี๋ยว..ไอ้คิม..เรื่องค่ายกูตกลงนะ แล้วมึงช่วยหากิจกรรมหรืองานอะไรก็ได้ให้กูหน่อยได้ไหม” พวกมันมองหน้าผม ไอ้คิมพยักหน้า พวกมันคงรู้ว่าผมไม่อยากอยู่เฉยๆให้ความเหงากัดกินผมไปเรื่อยๆ

“มึงไปทำอะไร กูไปด้วยอิอิ” ไอ้เนมโผล่งขึ้น ไม่ว่ากี่ปี มันก็ห่วงผมเกินเหตุตลอดผมคิดและหัวเราะในลำคอ

“อิพ่องมึง มึงจะไปกันสองคนเหรอ เหอะ! กูทำด้วยนะ” ไอ้พิชรีบตอบออกนอกหน้าไม่แพ้ไอ้เนมเหมือนกัน

“ไอ้พวกจู๋เล็ก มึงไม่ต้องแย่งกัน ทำแมร่งทุกคนนี่ล่ะ”    

“เออ รีบไปเลยไปพวกมึง กูเบื่อหน้าละหึหึ”

“โหหไอ้สาด เมื่อกี้ใครแอบซบกูบนบ่าวะ นี่กูยังไม่ได้เช็คบิลเลยนะ ทำเสื้อกูเปียกซะอย่างกับตกคลองแสนแสบ” เนมเบะปากใส่ ผมรู้ว่ามันไม่อยากให้ผมเศร้า

“มึงไปได้ละไอ้เนม บ่นเป็นหมีแดกผึ้ง ถ้ามึงไม่ไปตอนนี้เดี๋ยวคงยันสว่าง”

“แหงะ พรุ่งนี้สอบนะมึงอย่าลืม.. ไอ้เชี่ย เออๆไปก็ได้แมร่ง จิ๊” ผมยิ้มขำให้กับเนม




นี่สินะ....มิตรภาพ....




TBC--------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่8 25/11/12]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 01-12-2012 15:34:24
 :z6: เกียร์
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่9 01/12/12]
เริ่มหัวข้อโดย: mind223 ที่ 01-12-2012 15:39:16
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

รอจร้าาา

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่9 01/12/12]
เริ่มหัวข้อโดย: Kaame ที่ 01-12-2012 21:48:53
อยากจะกระโดดเตะเกียร์ อ้ากกกก   :z3:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่9 01/12/12]
เริ่มหัวข้อโดย: IRIS ที่ 02-12-2012 05:55:23
เกียร์ :beat:
หึงเค้าทำไมไม่บอกเค้าตรงๆ ถ้าไอรักตัดใจไปแล้วจะรู้สึก :m16:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่9 01/12/12]
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 02-12-2012 12:06:11
บังอาจมารังแกเจ้าชายของเดี๊ยนได้ยังไงเนี้ย o18
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่9 01/12/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 03-12-2012 18:16:01
ทำไมเกียร์ถึงพูดกับไอรักอย่างนั้น ทั้งๆที่น่าจะเข้าใจกัน
สงสารไอรักจังเลย เกียร์นิสัยไม่ดี
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ตอนที่9 01/12/12]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 05-12-2012 18:28:59
เกียรรรรรรรร์ นิสัยไม่ดีอะ ทำไมต้องทำร้ายเจ้าชายด้วยอะ

แอร้ยยยย เดี๋ยวจะยุให้ไปคู่กับไทป์แมร่งเลย

ปอลิง เกลียดพี่น้ำ มาให้ร้าวฉานทำม้ายยย

 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ *Special GEAR P.3 05/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 05-12-2012 22:00:14
Special GEAR




ผมชื่อเกียร์ เป็นผู้ชายคนหนึ่งเรียนวิศวกรรมศาสตร์ สาขาไฟฟ้ากำลัง ปีสอง อดีตรองเดือนวิศวะ ไม่ได้หน้าตาวิเศษวิโสอะไรมากมาย แค่สูงกว่าคนอื่น คิ้วเข้ม ผิวแทน ไม่ได้ขาวตี๋เหมือนสเป็คผู้หญิงสมัยนี้ ไอ้พัตบอกผมตาดุเหมือนนิสัย ซึ่งไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า แต่มันคงไม่โกหกหรอกมั้ง มีคนบอกว่าผมไม่ชอบพูด มืดมน แต่ถ้าโกรธขึ้นมาอะไรก็ห้ามไม่อยู่ เรื่องผู้หญิงก็ไม่ได้สนใจอะไร มีเอาไว้แค่ปลดปล่อยให้สบายตัวเท่านั้น แต่ไม่ได้ถี่เหมือนคนอื่นหรอก เพราะผมไม่ได้ติดเซ็กส์
 
เพื่อนผมเคยบอกว่าชาตินี้ผมคงรักใครไม่เป็นหรอกและผมก็คิดแบบนั้น

แต่ตอนนี้ ความคิดนั้นเหมือนจะสั่นคลอน..

“แก๊ๆๆ พวกแกดู เจ้าชายอะเจ้าชายยยยย” ไอ้สากรี๊ดกร๊าดเหมือนได้สามีเป็นไอ้ดิน เมื่อชายซึ่งจัดได้ว่าหน้าตาดีกลุ่มหนึ่งเดินมาทางสนามฟุตบอลที่พวกผมเล่นกันอยู่ ผมตั้งใจจะปรายตามองกลุ่มนั้นเพียงแวบหนึ่ง แต่ดันไปสะดุดกับผู้ชายร่างเพรียว สมส่วนแบบชายไทยปกติ ตาโตยิ้มสดใสตลอดทาง เหมือนชีวิตไม่เคยทุกข์ร้อนอะไร นี่ละมั้ง เจ้าชายอะไรที่ไอ้สามันว่า ผมหันกลับไม่สนใจอะไร

“เฮ้ยพวกมึงจะพักครึ่งก่อนเปล่า เดี๋ยวกูมาแปบนึงนะโว้ย” คิมเพื่อนใหม่ที่ไอ้มัดสนิทตอนเข้าชมรมด้วยกันตะโกนขึ้น คนอื่นพยักหน้าเป็นอันว่าพักครึ่ง ผมเดินไปข้างไอ้สาหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม แต่สายตามองไปที่คิมกับกลุ่มเพื่อนของมัน กลุ่มไอ้ตาหวานนั่นละ คนเหี้ยอะไรตาเหมือนแมวฉิบหาย ถ้ามันเป็นผู้หญิงแล้วมากระแซะออดอ้อน ผมว่าคงสายพันธุ์เดียวกับแมวแหงๆ ผมคิดในใจ

“เฮ้ยไอ้มัด เดี๋ยวกูคงต้องไปแล้วว่ะ โทษทีนะพวกมึง ไว้ค่อยเล่นใหม่” ไอ้คิมวิ่งมาตบไหล่ไอ้มัด ก่อนหันมามองผมแปลกๆ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย จึงเมินกับสิ่งรอบตัว เดินไปนั่งพักให้หายเหนื่อย กวาดตามองไปเรื่อย แต่ดันสะดุดกับไอ้สายตาแมวคู่นั้นอีก บังเอิญที่สายตานั้นก็มองผมอยู่พอดี ผมมองมันนิ่งเหมือนปกติ แต่ไอ้หน้าแมวมันดันยิ้มทั้งตาทั้งปากให้ผม ทำให้ผมที่ไม่เคยหลบสายตาใครต้องเสตามองด้านอื่น

รอยยิ้มเมื่อกี้เหมือนเป็นเทียนสว่างจุดในใจที่มันมืดมนแปลกๆ

ช่วงค่ำของวันหนึ่งผมเดินลงไปหาอะไรกินแถวตลาดโต้รุ่ง เมื่อคืนนั่งดูบอลกับพวกไอ้เหี้ยโฟ่ ขนม มาม่า บุหรี่ ในห้องแมร่งหายหมดห้อง กินหรือเอาเก็บไว้ในกระทุ้งแก้มไม่รู้ ทีหน้าจะไม่ให้มันมาดูบอลห้องผมละ ผมยืนรอทางม้าลายให้ถนนว่างก่อนเดินข้ามอย่างระมัดระวัง แต่มีบีเอ็มคันหนึ่งพุ่งมาอย่างเร็ว ผมกระโดดไปยังฟุตบาททำให้ขากระแทกกับฟุตบาทอย่างจัง

“เป็นไรไหมครับ”  ไอ้เหี้ย มึงก็เห็นอยู่ว่ากูเจ็บขา กวนส้นตีนนัก! ผมเคยหน้าไปมองคู่กรณี ไอ้หน้าแมวนี่หว่า ยิ่งเห็นหน้ามันแล้วโคตรอยากแกล้งให้ร้องไห้มากๆ ผมเลยแกล้งตะโกนด่ามันเสียเลย

“รีบไปตายตามพ่อมึงเหรอ ไอ้สัด” เหมือนมันอึ้งอะไรสักอย่างผมเลยใส่เต็ม ข้อหาทำผมบาดเจ็บแล้วยืนดูนิ่ง ช่วยพยุงก็ไม่มี มันน่าหมันไส้ไหมล่ะ

มันพามาโรงพยาบาลเอกชนหรูหราแห่งหนึ่ง ตอนแรกผมก็สงสัยเพราะมันขับผ่านโรงพยาบาลรัฐซึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ แต่ผมเก็บความสงสัยเอาไว้ ขี้เกียจเอ่ยถาม จะไปไหนก็ไป เอาให้ถึงมือหมอก็พอ จนได้เข้ามาในโรงพยาบาลนี่ละ ถึงได้เข้าใจ พนักงานก้มหัวให้มันทุกคน มันคงเป็นเจ้าของ รวยฉิบหายไอ้แมวเอ้ย

“แล้วมีอะไรให้ผมได้ไถ่โทษอีกไหมครับ” ก็ยังดี มันยังเป็นคนดีมารับผิดชอบ แต่ไหนๆกูก็เจ็บเพราะมึงละ มาเป็นเบ๊ให้กูเสียดีๆ

“มี”

“มารับ-ส่งกูทุกครั้งที่กูมีเรียนหรือจะไปไหน เลี้ยงข้าวกลางวันให้กู กูสั่งอะไรต้องทำ แค่นี้มึงทำได้ไหม”  หึ ลูกคุณหรูอย่างมันต้องปฏิเสธทันควันแน่ๆ

“ได้สิครับ” มันตอบสวนอย่างเร็ว จนผมตกใจ แถมคำตอบตรงกับความคิดของผมอย่างสิ้นเชิง และดูเหมือนไอ้ตาแมวมันจะระริกระรี้เกินเหตุ

"....."

 “ผมชอบคุณ ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ”

กูเงิบสิครับ

ผมตัดสินใจผิดไปใช่ไหมวะเนี่ยยยยยยย

หลังจากวันที่ผมตัดสินใจให้ชีวิตตัวเองวิกฤต การดำเนินชีวิตของผมก็พลิกไปอย่างสิ้นเชิง จากขับมอเตอร์ไซค์ไปมอ ก็ต้องนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้รถหรู จากไม่กินข้าวเช้า ต้องสูบบุหรี่ทุกเช้าก่อนมาเรียน ก็มีอาหารมาจ่อให้ถึงหน้า และไม่อยากให้รถหรูๆของมันมีกลิ่นบุหรี่ติด เดี๋ยวคุณหนูแมวมันจะไม่ชอบ อีกอย่างมันเป็นหมอคนด้วย มีกลิ่นบุหรี่ติดไปมันจะดูไม่ดี ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะใส่ใจเรื่องบ้าๆโง่ๆแบบนี้ทำไม แต่พอจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ แม่งก็ไม่อยากขึ้นมา ทั้งๆที่แต่ก่อนติดมันจะตายห่า

และมันก็ทำอย่างที่ผมขออย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง ทำไมผมจะไม่รู้ว่าบางวันมันไม่มีเรียนเช้า ก็แฟ้มตารางเรียนมันวางขั้นกลางระหว่างเบาะนั่งของผมกับมันตลอด แต่มันก็ยังยิ้มรับอรุณให้ผมเหมือนอารมณ์ดีที่ตื่นเช้า ต่างจากผม ตอนเช้าจะหงุดหงิดกว่าปกติ แต่อยู่กับมันไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกว่าตัวเองสงบขึ้นกว่าเก่า


ตอนมันเดินเข้าโรงอาหารวิศวะ เหมือนเป็นแกะขาวในหมู่กระทิงดำ ตัวมันขาวหล่อแต่ผมว่ามันไปทางน่ารักมากกว่า น่ารักแบบผู้ชาย ทั้งผู้หญิงผู้ชายหันไปมองตาเป็นมัน ผมก็ไม่ได้อะไร จนไอ้พัตเอาเท้าสะกิดเท้าผมว่าให้ดูเจ้าชายอะไรของมัน แมร่ง กูเจ็บขาอยู่ไม่เห็นเหรอวะสัด! มันเดินเข้ามาทักผมจนเป็นที่ฮือฮาของเด็กวิศวะ อะไรนักหนาวะ กูรู้จักมันแล้วมันน่าตกใจมากหรือไง พวกเพื่อนผมก็น่ารำคาญชะมัดเข้าข้างมันอยู่นั่นละ กูเจ็บ กูเป็นผู้เสียหายนะเฮ้ย!

แล้วชีวิตผมก็ไม่เคยสงบสุขเมื่อมาเจอมัน ขนาดผมไปดูพวกเพื่อนเตะบอล มันก็ยังตามมาอีก แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกเกลียดมันนะ แต่ไม่รู้เหมือนกัน มันรู้สึกแปลกๆ คนอื่นเขาไม่อยากจะมาคุยกับผม ขนาดผู้หญิงที่มองแต่ภายนอกมาชวนคุย ผมรำคาญจนไล่เตลิด แต่กับมันผมเห็นตาแมวๆหน้ายิ้มแย้มแบบนั้นแล้วมันรู้สึก .. เออช่างเหอะ

มันชอบมาบอกชอบผมโต้งๆ หยอดคำหวานให้ผมตายใจ คือกูเป็นผู้ชายไง ส่วนมึงก็เป็นผู้ชาย จะให้กูอายม้วนก็ยังไงอยู่ ไอ้ผมก็ทำได้แค่ทำเป็นไม่สนใจมันดิ มองโน่นมองนี่แทนตาหวานๆของมัน แต่ผมไม่เข้าใจว่ามันมาชอบคนอย่างผมได้ยังไง มันเพียบพร้อมที่จะไปหยุดอยู่กับผู้หญิงดีๆคนไหนสักคน แต่มันดันมาบอกชอบผม หรือมันแค่จะปั่นหัวผม?....

“ทำไมถึงชอบกูล่ะ คนอย่างมึงน่าจะหาได้ดีกว่านี้ เอ่อ กูหมายถึงผู้หญิงสวยอึ๋มประมาณนี้” ผมพยายามพูดให้ยาวที่สุด เพราะอยากพูด ไม่ใช่ฝืนใจพูด

“ชอบก็คือชอบครับ บางอย่างไม่จำเป็นต้องนั่งกังวลหรอก แต่เพียงยอมรับและเข้าใจมันให้ได้ ถ้าสวยอึ๋มน่ารักเป็นแม่ศรีเรือนขนาดไหนแต่ไม่ได้ชอบ มันก็บังคับความรู้สึกไม่ได้อยู่ดี ผมว่าคุณมีอะไรดีมากกว่าที่คุณรู้นะ ที่สำคัญเกียร์อย่าดูถูกตัวเองแล้วก็ความรู้สึกผมเลย”ผมถามมันประโยคสั้นๆ มันเสือกตอบมาซะกระจ่างเกือบทุกอย่าง แต่ผมสงสัยว่าทำไมมันพูดเหมือนรู้จักผมมานานอย่างนั้นละ พวกคุณสงสัยเหมือนผมไหม

“…กูคงห้ามให้มึงไม่ชอบกูไม่ได้สินะ” ผมไม่อยากหลอกตัวเองว่ากำลังรู้สึกดีกับคำตอบที่ได้รับมาก่อนหน้านี้

“อยากให้ผมเลิกชอบไหมล่ะ” ผมหันควับ เหี้ยสิ เฮ้ยแล้วนี่ผมจะเป็นเดือดเป็นร้อนทำไมวะ

“ถ้าเป็นอย่างนั้นคงเสียใจด้วย เพราะผมคงทำให้คุณไม่ได้หรอก” ผมลุกขึ้นพรวด กลัวมันเห็นว่าตอนนี้...ผมยิ้มแก้มแทบแตก

และผมก็ต้องรู้สึกว่าตัวเองกำลังเพี้ยน คิดว่าผู้ชายหน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศน่ารักฉิบหาย ก็ตอนที่มันเขินผมเรียกชื่อมันเป็นครั้งแรก

ตอนผมลากมันไปตลาดโต้รุ่ง เหมือนตลาดเป็นที่ตระการตาสำหรับคนอย่างมันมากๆ เห็นมันกินโน้นถามนี่แล้วรู้สึกอยากจะขำออกมาให้คนข้างๆได้ยิน เหมือนผมพาเด็กอายุสามขวบเที่ยวงานวัดเลยล่ะ ผมพามันมากินขนมจีนร้านดังของละแวกนี้ มันอร่อยจริงๆครับ แต่ดูเหมือนจะมีคนหนึ่งที่รู้สึกว่าขยาดมันเสียแล้ว ก็ไอ้แมวน้อยที่ผมพามามันดันกินเผ็ดไม่เป็น ร้องไห้เป็นสายเลยล่ะ มีหลุดคำหยาบออกมาด้วยนะ ถ้าเป็นคนอื่นมันจะไม่แปลกเลย แต่นี่เป็นมัน เจ้าชายของมหาลัย ผมจะบ้าตายเสียให้ได้ มันทำผมหัวเราะมาหลายครั้งแล้ววะวันนี้ ตอนมันสั่งก็กระอักกระอ่วนสั่งตามผมด้วยนะ เหมือนลูกเป็ดตามแม่เป็ดเลย ผมแอบขำมันเพราะเริ่มรู้แล้วล่ะว่ามันสั่งไม่เป็น

วันนี้ผมเรียนด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย อาจารย์ให้สอบโดยที่ไม่ได้บอกเด็กก่อนเลยสักนิด คนที่เข้าใจเนื้อหาก่อนหน้านี้แล้วก็รอดตัวไป แต่ไอ้คนที่ยังไม่เข้าใจแบบพวกผมสิ เกือบตายเหมือนกัน พอเลิกเรียนอารมณ์ก็ค่อนข้างลงตัว เพราะในสมองเปลี่ยนไปคิดเรื่องอื่น ไอ้ตาแมวจะมาถึงหรือยังไม่รู้ ส่วนใหญ่จะเห็นมันมนั่งรอก่อนผมเลิกตลอด

“กูไปละ”

“อ้าวเฮ้ยไปไหนวะ” ไอ้พัตตอบผม จะให้บอกไปนั่งรอไอรักมารับก็ยังไงอยู่นะ

“เรื่องของกู”

“จ่ะ ตามนั้นเลย” มันเบะปากให้ก่อนแล้วบอกลาไปเล่นบอล ผมเดินไปนั่งแถวม้าหินอ่อนริมถนน มันมาจะได้เห็นชัดๆ สงสัยวันนี้มันเลิกช้ามั้ง จะให้โทรไปถามก็ไม่ใช่ตัวผม

“เฮ้ยว่าไงมึง วันนี้อยู่คนเดียวเหรอวะ เดี้ยงอีก หึหึ” เสียงไอ้เหี้ยกิตดังขึ้นจากข้างหลัง สัด! ดันเจอมันตอนร่างกายไม่พร้อม

“ดูท่ากูควรจะเคลียกับมึงก่อนเสียแล้วม้างงง ฮ่าฮ่าฮ่า” ไอ้กิตมันไม่ถูกกับไอ้โฟ่ มีเรื่องกับมันก็คงไม่แปลก เพราะผมเป็นเพื่อนสนิทของไอ้โฟ่ ผมเดินตามมันไปซอกตึก

“มึงมีไรก็ว่ามา”

“ก็ไม่ว่าไง กูหมันไส้ว่ะ เห็นหน้ามึงแล้วนึกถึงไอ้เหี้ยโฟ่หึหึ” มันว่าแล้วก็ปล่อยหมัดมาทางผม แต่ผมหลบทัน ผมต่อยมันทั้งๆที่ใส่เฝือกอยู่ ทำให้ผมเป็นรองพวกมัน ไอ้เหี้ย!หมาหมู่

“ทำอะไร” เสียงหนึ่งดังขึ้น

“ห้ะ จะ..เจ้าชาย?!”

เหมือนว่าไอ้พวกกิตจะมีความเกรงต่อไอรักพอสมควร เหี้ยเอ้ย! ให้มันเห็นภาพน่าสมเพชอีกแล้ว ขากูก็เดี้ยง ถ้าไม่มีเฝือกห่านี่ พวกมึงคงตายคาตีนกูไปละแมร่ง แล้วมันดันมาถามอีกนะ ว่าสบายดีไหม ผมกลั้นขำแทบตาย มึงท่าจะบ้าเนอะ ไอ้หน้าแมว

ผมขึ้นคอนโดมันครั้งแรก นี่คอนโดหรือโรงแรมห้าดาววะ ใหญ่กว่าห้องกูสักสามเท่าได้ สงสัยมันเอาเนื้อที่ไว้ปลูกพืชผักสวนครัว ไอ้แมวนั่งทำแผลให้ผมอย่างประณีต ทำให้ผมลอบมองมันใกล้ๆได้ ยิ่งดูหน้ามันใกล้แล้วยิ่งคิดว่าคนเหี้ยอะไรวะ จะหล่อก็ได้ จะน่ารักก็น่ารักเหี้ยๆ ........เฮ้ยเมื่อกี้กูคิดอะไรวะ!!!

มันคงจะเป็นลูกครึ่ง ตาสีฟ้าน้ำทะเลที่ผมชอบ.. หมายถึงชอบมองเฉยๆ ตัวขาวอมชมพู ปากชมพูอ่อนชวนให้ผมเผลอเผยอปากตัวเอง ผมลอบมองจนมันทำแผลให้เสร็จ กะจะขอบคุณมันเสียหน่อยเลยดึงให้มันหันกลับมา แต่ไม่คิดว่าตัวมันจะเบาขนาดนั้นทำให้มันพลาดท่าล้มทับ ปากประกบกัน ผมตกใจมาก แต่ผมคิดว่ามันคงตกใจมากกว่าผมแน่ๆ แต่ปากมันนุ่มจนผมอยากกดให้แน่นขึ้น มือยกขึ้นจะจับท้ายทอย แต่มันรีบลุกขึ้นเสียก่อน ผมคิดในใจว่า..

‘เสียดายชะมัด’

ตอนมันคุยกับเพื่อน ผมรู้สึกตะหงิดๆ มันพูดเหมือนคนอื่นพูดกับเพื่อนนั่นละ มีวะมีโว้ย มึงกู แต่ผมฟังแล้วขัดหูยังไงไม่รู้ อยากจะเอามือไปตบปากมัน แต่คิดได้ว่าผมก็พูดกับมันอย่างนั้นนะ อีกอย่าง มันก็ไม่ได้เป็นอะไรกับผมเสียหน่อย แล้วจะไปเดือดร้อนชีวิตมันทำไม

เรานั่งดูหนังชีวิตซึ้งๆเรื่องหนึ่ง หนังไรวะแมร่งซึ้งฉิบ แต่ผมก็ไม่ได้ร้องนะ ล่าสุดที่ร้อง ก็คงเป็นเรื่อง...น้องชายคนเดียวของผม.. ผมนั่งดูไปสักพักก็ได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆ จึงหันไปมองไอ้แมวน้อยตัวข้างๆ ได้ยินเสียงแหมะๆบนแขนของมันเลยครับ ผมเลยยื่นทิชชู่ให้มัน ไม่รู้ดิ ถ้าเป็นคนอื่นมาร้องไห้ตรงหน้าผมก็เมิน เรื่องของมึง แต่กับไอ้แมวตัวนี้ มันจี๊ดแปลกๆ

ผมกับมันเดินเข้าผับแห่งหนึ่ง มันนั่งคุยกับเพื่อนผมก่อนขอตัวแยกไปหาเพื่อนมัน ผมไม่อยากให้มันห่างจากตัวเลยให้ตายสิ แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไปรั้งมัน กูเป็นโรคอะไรวะ หาสาเหตุไม่ได้

“มึงรู้ปะ เจ้าชายแทบไม่เคยร้องเพลงเลยนะ ทั้งๆที่เสียงเพราะมากอะ ฉันเคยได้ยินแค่ครั้งเดียวก็ตอนที่อาจารย์ขอร้องเจ้าชายในคอนเสิร์ตใหญ่ของมหาลัยอ่ะ”

“อ่าว ทำไมวะ หรือเจ้าชายขี้อาย ถ้ากูหน้าตาแบบนั้น กูจะสละความอายแล้วควงกับดาวทุกคณะอะ ฮ่าๆๆ”

“เหี้ยเหอะ เห็นว่าจะร้องให้เฉพาะคนสำคัญฟังเท่านั้น กูว่าเป็นกูแน่ๆ กริ๊ดดด” ผมหันไปมองมันที่เล่นเบสอยู่บนเวที ไอ้แมวมันเจิดจรัสมากๆเมื่อแสงสีสปอตไลท์ส่องไปทางมันที่อยู่บนเวที

มันมองหน้าผมตลอดสองเพลง ผมเข้าข้างตัวเองได้ไหมว่ามันกำลังร้องเพลงนี้ให้ผม แต่ดูมันร้องแต่ละเพลงให้ผมฟังดิ เป็นคุณ คุณจะเขินไหม ผมเป็นผู้ชายร่างถึกบึกบึนน่าโว้ย มาร้อง น่ารักอะ ชอบอะ อะไรของมันนนนนนน

แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ผมยิ้มขำเพราะความน่ารักของมันได้อย่างไรเล่า

“ใครจะบอกว่าเขาหน้านิ่งหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ผมว่าเขาน่ารักมากกว่านะ” มันพูดขึ้น ทำให้ผมขึ้นหวานให้มันทันที ผมพึ่งเห็นอีกมุมหนึ่งของมัน มุมขี้เล่น กวนตีนน่ารักๆ มันทำให้ผมยิ้มได้ตลอด สักพักมีผู้หญิงคนหนึ่งยื่นกระดาษมาให้พร้อมยิ้มยั่ว ถ้าเป็นปกติ ผมคงลุกออกไปพร้อมเสือสาวแล้วจบที่เตียงไหนสักแห่ง แต่ไม่รู้อะไรทำให้ผมรับมาฉีกทิ้งต่อหน้าผู้หญิงคนนั้น แล้วไม่สนใจคำด่าทอข้างหู ผมไม่สนใจใครทั้งสิ้น ไม่สนใจเพื่อนหรือคนอื่นจะมองอย่างไร จะสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น สายตาผมจ้องไปที่ผู้ชายคนหนึ่งกลางเวที

“เพลงเพราะไหมอะครับ” มันคงไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองตอนร้องเพลง เพราะผมเห็นตอนมันเล่นเบส มันเฉยจะตาย แต่พอจับไมค์ที ปากแทบสั่นอย่างกับพายุเข้า นี่มันคงไม่รู้ว่าตัวเองร้องได้น่ารักแค่ไหน

“หึหึ ก็ดี” ผมตอบตามแบบฉบับของตัวเอง

“แหม เพราะมากก็บอกมาเห้อะ ผมร้องให้คุณโดยเฉพาะเลยนะ”

“ลองร้องให้คนอื่นสิ..”ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมพูดคำนี้ออกไป แต่มันคงไม่ได้ยิน เพราะผมพูดเบามาก มันจึงถามอีกครั้งพร้อมยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ผมเห็นแก้มเนียนนั้น อดไม่ไหวที่จะฝังจมูกลงไปบทแก้มใสๆนั้น แล้วคำแก้ตัวที่แย่ที่สุดออกไปจากปากตัวเอง

“..โทษที ปากมันไปเอง”

ผมคงบ้าแล้ว

แล้วผมก็บ้าจริงๆ

เมื่อเห็นมันมากับไอ้รุ่นพี่หน้าอ่อนนั่น เสือกพูดจาไม่เข้าหูผมอีกนะ ปรี๊ดเลยครับกูปรี๊ดเลย พาลโกรธไอรักทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่ผิดอะไร แต่มันหงุดหงิด ไม่รู้ว่าตัวเองโมโหอะไร แต่แมร่งงงงง โมโหโว้ยย

แล้วมันดันง้อผมโดนการมาสถานที่ที่ผมไม่อยากมาที่สุด เจริญเหอะ กูจะหายโกรธมึงไหมละ แต่ผมก็ไม่ได้โกรธมันหรอก ยิ่งมันชวนทำโน่นทำนี่ให้ลืมความเจ็บปวดกับที่นี่ไป ซึ่งมันก็ทำให้ลืมได้จริงๆ ถึงแม้ว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น ผมตัดสินใจเล่าเรื่องนั้นให้มันฟัง ทั้งๆที่ไม่จำเป็นต้องเล่าก็ได้ แต่ไม่รู้ทำไม อยู่กับมันแล้วสงบ อยากระบายก็ระบายได้อย่างสบาย อยากทำอะไรก็ทำ อยากให้มันรู้เรื่องของผมบ้าง อยากให้มีใครเข้าใจผมบ้างสักคน…

แล้วมันก็ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นจริงๆ ทั้งความรู้สึกกับที่นี่ และกับมัน.. ผมเผลอจูบมันรอบสอง มันหวานเหลือเกิน มันรู้สึกดีจนไม่อยากผละมันออกเพียงวินาทีเดียว มือผมอยู่ไม่สุข เผลอจับตัวนุ่มๆของมัน จนมีมือเล็กๆดันอกผมนั่นละ

ผมกับเพื่อนๆพามันไปกินข้าวหลังทำโปรเจคกลุ่มเสร็จ มันแปลกเหรอที่ผมยิ้มให้มัน เพื่อนๆผมแซวอย่างกับผมไม่เคยยิ้มอย่างนั้นละ หรือจะเป็นอย่างนั้นวะ ไม่รู้เหมือนกัน จำไม่ได้แล้วว่ายิ้มครั้งล่าสุดตอนไหน และวันนั้นผมก็พึ่งรู้ว่ามันก็เพลย์บอยตัวยงไม่แพ้ใคร ดูแค่หน้าเพื่อนของมันก็น่าจะรู้ละว่าเจ้าชู้แค่ไหน แล้วนี่ทำไมกูต้องหงุดหงิดวะแมร่ง!

แล้วก็โคตรหงุดหงิดอีกรอบก็ตอนมันคุยกระดี๊กระด๊ากับปลายสาย ชื่อติม เติมเหี้ยไรไม่รู้  หมันไส้ว่ะ ทั้งมัน ทั้งปลายสายนั่นละ ห่าเอ้ย แล้วพึ่งมารู้ทีหลังว่าพี่ติมอะไรของมันนั่นเป็นพี่ชายแท้ๆของมัน กูก็หน้าแตกดิ มันคงไม่รู้หรอกว่าผมหงุดหงิดมันเรื่องนี้แค่ไหน ใครรู้แล้วก็เบาๆหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวมันรู้ตัว

มันจะรักพี่ตัวเองอะไรขนาดนั้นวะ ถึงขนาดนั่งคร่อมตักกัน กูจะบ้าตาย แมร่งคิดดูดิ ผมที่มันบอกชอบนักชอบหนา นั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ ส่วนมันไปนั่งตักพี่ชายมัน หอมโน่นจุ๊บนี่ แต่กับกูนี่ไม่มีสักแอะ แล้วพี่แมร่งโคตรน่ากลัว มองอย่างกับผมไปฆ่าไอแดดกับไอหมอก ถามกูแต่ละคำ ผมนึกว่ากำลังให้ปากคำกับตำรวจอยู่ แต่แม่ไอรักน่ารักสุดๆ สวยมากครับ เห็นบอกว่าเคยโดนทาบทามไปเป็นนางแบบที่จีนด้วยนะ แต่โดนพ่อมันไล่เตลิด พ่อมันหน้าดุมากครับ เหมือนพี่ไออุ่นเลยล่ะ ดีอย่างที่ใจดีไม่เหมือนหน้าตา แต่พี่ไออุ่นนี่ดุทั้งหน้าทั้งนิสัย จะดีก็ต่อเมื่อคุยกับน้องรักเขานั่นแหละ แล้วผมขอเผาหน่อยเหอะ ตอนที่มันบอกให้เลี้ยวเข้าบ้านหลังนี้ บ้านหรือคฤหาสน์วะ แค่รั้วก็สูงฉิบหายแล้ว เข้ามาก็ต้องมีพิธีดีตองในการวนรอบน้ำพุก่อนจอดรถด้วยนะ เหนื่อยไหมวะ ผมถามรถอะ เหนื่อยไหม ส่วนหมามัน น่ารักมากๆ แต่เสียดาย หยิ่งไปหน่อย ติดคุณหนูฉิบ นี่ขนาดหมานะ แม่บ้านใส่ชุดฟอร์มก็เดินตัวตรงอย่างกับผ่านการฝึกทหารมาอย่างไงอย่างนั้น กูละขำกับสิ่งมีชีวิตในบ้านนี้สุดๆ

ผมกับมันเดินซื้อของในห้างแถวๆมอ ผมก็ไม่ได้ซื้อของตัวเองหรอก ซื้อให้ไอ้คนข้างๆนั่นแหละ พอมันถามว่าซื้อไปทำห่าไรเยอะแยะ ผมก็ตอบไม่ถูก มันจุกอยู่ในคอ เลยบอกซื้อไปให้ใครบางคน มันก็เงียบไปเลย จนมาถึงลานจอดรถ ผมทนไม่ไหวเลยจะถามว่าเป็นอะไร แต่ไอ้รุ่นพี่หน้าอ่อนแมร่งพูดแทรกขึ้นมา กูหมั่นไส้แม่งสัดๆ อยากจะกระทืบหน้ามันให้ยับเยินตั้งแต่คราวก่อน ยิ่งมันมาออเซาะไอ้แมว กูเหมือนจะเป็นบ้า แต่ผมรู้สึกแปลกๆเวลามองมันทั้งสองคนยืนข้างกัน

ทั้งคู่ดูเหมาะสมกันเกินไป

คนหนึ่งหล่ออย่างไม่มีที่ติ อีกคนน่ารักแบบเด็กๆ ถ้ามันคบกันคงรู้สึกดีกว่าต้องมาอยู่กับผู้ชายห่วยๆแบบผมที่ไม่มีอะไรดีเลิศเลอเลยสักอย่าง ผมกับมันต่างก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน เราไม่คู่ควรกัน มันผิดเหลือเกิน ถ้าผมกับมันจะรักกัน ความน้อยใจเข้ามาแทรกในความรู้สึก แล้วยิ่งมันอ้ำๆอึ้งๆตอนไอ้หน้าอ่อนกระแนะกระแหนไปคอนโดมัน ผมอยากชกหน้ามันมาก แต่ทำไม่ได้ ไหนบอกชอบกูนักหนาไง แค่เลือกแค่นี้มึงยังลังเล ตอนนั้นผมโกรธมันมากๆ เลยพูดทำร้ายจิตใจมันไป มาคิดอีกครั้งก็ต้องกุมขมับตัวเอง ผมพูดอะไรไป

ผมทำร้ายจิตใจคนที่มีรอยยิ้มที่สดใสที่สุดลงไป...

หลังจากวันนั้น มันก็หายไปจากชีวิตผมอย่างที่ผมต้องการ ไม่มีการโทรหา ไม่มีการตามมารับมาส่งเหมือนเคย ผมควรจะยินดีกับการสละพันธะบ้าๆบอๆนี้ไม่ใช่เหรอ แต่ทำไม...ผมไม่รู้สึกมีความสุขขึ้นเลยล่ะ

“เฮ้ยไอ้เกียร์ เป็นเหี้ยไรเนี่ย” ผมเงยหน้ามองมันจากการรอคอยเสียงโทรศัพท์

“ไร”

“ไม่ไรหรอกสัด กูเห็นวันๆมึงจ้องแต่โทรศัพท์ ไม่ทำเหี้ยอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แล้วไอ้เจ้าชายหายไปไหนวะ ปกติเห็นมาหามึงทุกเช้าเย็น” กูเป็นคนไล่เขาไปเองละ

“อ้าวมึงไม่รู้อะไรไอ้พัต เห็นเขาว่าเจ้าชายมีแฟนเป็นรุ่นพี่ศิลป์-กำชื่อน้ำอะ ที่สำคัญ เป็นผู้ชายนะโว้ย ปกติกูเห็นควงแต่ผู้หญิง สงสัยพี่น้ำแม่งมีของดีว่ะ ฮ่าฮ่า” ผมทำเป็นไม่สนใจ วางโน๊ตบุ๊คกระแทกโต๊ะเสียงดัง ทำเป็นกดโน่นกดนี่ แต่ในใจกระวนกระวายเหมือนแมวโดนน้ำร้อน

“เฮ้ย รวยเหรอสัด วางซะเสียงดัง ไปโมโหใครมาวะ เออมึงอย่าลืมรายงานอังกฤษนะโว้ย วันนี้กูจะรวบรวมไปส่งแล้ว เหลือของมึงกับไอ้โฟ่อะ รีบๆทำเลยสาดด” เออว่ะ ลืมสนิท ผมเปิดไฟล์งานที่ทำค้างไว้ครั้งก่อน แต่ก็ต้องประหลาดใจ งานทำเสร็จหมดเรียบร้อย ถูกต้องแถมมีการแก้ไขให้ดีขึ้นกว่าเก่าอีกต่างหาก ผมฟุบลงบนแป้นพิมพ์ กำหมัดแน่น ...ไอรัก...

ผมโกรธตัวเอง โกรธจนอยากทำร้ายตัวเองให้มันเจ็บ เจ็บกว่าตอนที่เห็นสีหน้ามันก่อนเดินจากมา หลายวันที่ผ่านไปเหมือนเอาร่างไร้วิญญาณไปเรียน หนวดไม่โกน ผมเผ้ารุงรัง เหมือนโจรเข้าไปทุกวัน จนไอ้พวกไอ้สาต้องจับมาโกนหนวด มันไม่รู้ว่าผมเป็นไร ผมไม่ได้บอก ถึงแม้ว่ามันจะถามซ้ำแล้วซ้ำเล่า วันไหนที่ผมเข้ามินิมาร์ท ผมพยายามไม่มองเชลล์วางนมช็อกโกแลต วันไหนที่กินข้าว ผมไม่มีแรงแม้แต่จะใส่พริก ทั้งๆที่ผมชอบกินเผ็ด ผมไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับความรู้สึกนี้ได้อย่างไร

...ความเหงา..

...คิดถึง..

...อ้างว้าง..

...อ่อนแอ..

...กลัว..

…จากลา..

...เดียวดาย..


ถ้าหากผมได้เจอกับเขาอีกครั้ง.. ผมจะบอกเขาว่า…










TBC--------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>




ปีนี้ไม่ได้กราบพ่อเลย

แต่นั่งคุยกัน ยิ้มให้กัน ให้เวลาอยู่กับพ่อทั้งวัน หากิจกรรมทำร่วมกันกับครอบครัว

ถือว่าเป็นวันหยุดที่วิเศษที่สุดจริงๆค่ะ

สุขสันต์วันพ่อนะคะ


โซ่♥
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ *Special GEAR P.3 05/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 05-12-2012 22:35:40
ตามไปง้อเส่ะ เชอะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ *Special GEAR P.3 05/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 05-12-2012 23:20:03
โทไปง้อดิพ่อคู้ณณณณณณณณณณณ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ *Special GEAR P.3 05/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 05-12-2012 23:50:43
55555 โอยยยน่ารักอะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ *Special GEAR P.3 05/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 06-12-2012 00:17:15
เกียร์ใจร้ายอะ แต่มันก้เพราถน้ำใช่มะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ *Special GEAR P.3 05/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 06-12-2012 00:28:05
อะไรนะ เป็นแฟนกับพี่น้ำไปล่ะเรอะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ *Special GEAR P.3 05/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 06-12-2012 10:06:37
ฮือออออออออออ  :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ง้อเลยจ่ะเกียร์จ๋า ง้อเลยๆๆ  :m17: :m17: :m17: :m17: :m17:

แล้วอิพี่น้ำนี้นะ  :m16: :m16: :m16: :z6: :z6: :z6: :beat: :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ *Special GEAR P.3 05/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 06-12-2012 13:04:16
สมน้ำหน้าเกียร์อยากปากไม่ดีมาว่าไอรัก
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ *Special GEAR P.3 05/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 06-12-2012 21:52:12
ตามไปง้อ เร็วๆเลย
เดี๋ยวก็โดนคนอื่นแย่งไปหรอก
สมน้ำหน้า โกรธแล้วทำไมไม่ควบคุมตัวเองดีๆ
ไปลงกับเจ้าชายทำไม
รีบๆไปง้อเลย  :a14: :a14:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ *Special GEAR P.3 05/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: IRIS ที่ 06-12-2012 22:39:13
ไหนๆ ก็รู้ตัวแล้ว ก็ตามไปง้อเค้าซะสิ..
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ *Special GEAR P.3 05/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 08-12-2012 23:14:09
ไปขอโทษนายเอกเราเลยพ่อน้ำแข็ง!!

มัวแต่ปากแข็ง อย่างนี้เดี๋ยวไอรักหายไปแล้วจะเสียใจ

สงสารไอรัก ป่านนี้เป็นยังไงแล้วเนี่้ยย เพราะไอหนุ่มช่างซึนคนเดียวเลย โว้ะ !!



+เป็ดค่า
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ ตอนที่10 P.3 09/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 09-12-2012 17:12:45
ตอนที่10




หลังจากวันนั้นผมตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือ เข้าแลป กลับคอนโด นอน เหมือนวัฏจักรหุ่นยนต์ ส่วนพวกไอ้พิชผลัดกันมาหาผมที่คอนโดบ้าง ซื้อข้าวมาให้บ้าง มานอนค้างบ้าง มันบอกไม่อยากปล่อยให้ผมอยู่คนเดียว ทั้งๆที่ผมบอกมันว่าอยู่ได้จริงๆ แต่มันกลับตอบมา

‘มึงเห็นสภาพตัวเองตลอดสาม-สี่อาทิตย์ที่ผ่านมาปะ เหมือนซากศพเดินได้ โทรมฉิบหาย กินข้าวไม่ถึงห้าคำต่อมื้อ กูเห็นแล้วสุดจะทนว่ะ อีกอย่างไอ้พวกแฟนคลับมึงถามกูทุกเช้าว่าเจ้าชายเป็นอะไร ไปๆมาๆเสือกโทษกูซะงั้นว่าไม่ดูแลมึง เวรกูอีกไง’

ส่วนพี่น้ำก็มาป้วนเปี้ยนในชีวิตผม โทรมาคุยทุกคืน คอยส่งข้าวส่งน้ำให้ถึงคณะ จนข่าวลือออกไปต่างๆนาๆว่าผมมีเจ้าของแล้วบ้าง เปลี่ยนรสนิยมแล้วบ้าง แต่ผมยังคงทำตัวเหมือนเดิม ใครเขาให้ทำอะไรก็ทำ ให้อะไรก็ยิ้มรับ ถึงแม้ว่ารอยยิ้มนั้นจะไม่ได้สดใสเหมือนเคยก็ตาม



“แลปกริ๊งหรือแลปกริ๊ดวะ กูอยากอ้วกตั้งแต่เห็นข้อสอบ”ไอ้คลื่นไส้ปาดน้ำตาบ่นงุ้งงิ้งหลังออกจากห้องสอบ

“มึงทำได้ปะ” บอสหันมาถาม

“ไม่รู้ดิ”

“ห่า มึงทำฐานคะแนนสูงลิบขนาดนี้ วิชานี้เสือกตัดเกรดอิงกลุ่ม คนอื่นเลยได้กันต่ำเพราะมึง ถ้ามึงทำไม่ได้ พวกกูคงดิ่งลงเหวละคราวนี้ เบลอสัด”ไอ้คลื่นหันมาแว๊ดใส่ผม

“กูก็เบลอว่ะ”

“มึงก็ทำไม่ได้เหมือนกันใช่ปะ”

“เปล่า อาจารย์คุมสอบแมร่งสวยฉิบหาย ฮ่าฮ่าฮ่า”

“ถุยย ไอ้เนมมึงไม่รู้เหรอวะว่าอาจารย์คนนั้นเขาเป็นกระเทยโว้ย” พอคลื่นพูดจบ ไอ้เนมหน้าซีดกว่าตอนออกมาจากห้องสอบ

“เฮ้ย กูไม่เชื่ออะ ..ไอ้บอสมึงก็ไม่เชื่อใช่ปะ”

“ตอนแรกไม่เชื่อ แต่เมื่อวานก่อนได้ยินอาจารย์บอกรักไอ้ไอรักในห้องน้ำชายก็เลยเชื่อ”

“เชี่ยยยยยรักกกก!!!” ผมทำหน้ามึนๆไปให้มัน

“เงียบ! แล้วไปกินข้าวได้แล้ว” สิ้นเสียงไอ้บอส ทุกคนก็เดินขึ้นรถไอ้บอสไปอย่างเงียบๆ




…………………………...............................................




“ไอ้บอส มาขี่คอกูดิ” คลื่นพูดหลังจากที่เดินเข้ามาในโรงอาหารรวม ส่วนมากคนที่มากินจะเป็นวิศวะที่ใส่เสื้อช็อปกับมนุษยศาสตร์มากกว่า ทำให้คนเสื้อกาวน์สีขาวอย่างพวกผมเป็นจุดเด่นขึ้นมาทันตา

“อยากคอหัก?”

“งะ ก็มึงดูดิคนเยอะจนจะขี่กันได้ละ มึงชวนพวกกูมากินที่นี่ทำกึ๋นหมูอะไรวะ” มันหันไปถามไอ้เนม

“เดี๋ยวไอ้พวกพิชมากินด้วย มันคิดถึงลูกมัน” ว่าแล้วมันก็ปรายตาใส่ผม ชวนให้หมันไส้นะมึงนี่

“เออๆ ว่าจะไปเยาะเย้ยไอ้คิมถึงคณะเสียหน่อย หึหึ..เดี๋ยวกูกับไอ้เนมไปซื้อข้าวให้แล้วกัน มึงหาโต๊ะไปก่อน จะได้ไม่เสียเวลา”เมื่อวานไอ้คิมมันท้าไอ้คลื่นแข่งรถ หนึ่งต่อหนึ่งครับ แต่ดันแพ้เสียเอง ของเดิมพันก็คงไม่พ้นเรื่องผู้หญิง ผมก็นั่งดูอยู่ด้วยนั่นละ แต่ไม่ได้มีอารมณ์ร่วมเหมือนคนอื่นที่ยืนเชียร์โหวกเหวกโวยวายข้างสนาม

“นั่งไหนดีวะคนเยอะสัด” บอสพูดแล้วขมวดคิ้วมองหาที่นั่ง อีกสิบนาทีถ้าไม่มีโต๊ะนั่ง เสี่ยบอสคงระเบิดลงชุดใหญ่แน่ๆ แต่คนก็เยอะอย่างที่พวกมันบ่นนั่นละ ปกติผมยิ้มจริงใจให้ใครคนไหนก็ตกหลุมพราง ลุกให้นั่งตลอด แต่ตอนนี้ยิ้มไม่ออกยังไงไม่รู้ เพราะเสียงไอ้พัตมันเข้ามาในโสตประสาท...


“อ้าวเจ้าชาย ไปอยู่ไหนมาวะ ไม่ได้เจอนานเลยนะโว้ย” ผมหันไปยิ้มฝืนๆให้มัน ใจกระตุกไปเล็กน้อย ถึงผมจะพยายามมองหน้าพัตอย่างดียว แต่หางตาดันเห็นว่ามันมองมาทางนี้ มันคงถอดเฝือกอ่อนแล้วสินะ ..ดีแล้วล่ะ

“เดี๋ยวนี้ติดหญิง เอ้ย หรือว่าติดชายวะ ได้ข่าวว่าชื่อน้ำอะไรนั่นปะ ฮิ้ววว” ไอ้แว่นแซวขึ้น ผมยิ้มรับให้กับข่าวลวง

“ไม่มีโต๊ะนั่งกันเหรอคะ มานั่งกับสาก็ได้มา อิอิ”

คนน่ารังเกียจอย่างผม คงไม่อยู่ให้ใครรำคาญใจหรอก อยากจะตอบไปอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ

แต่ทุกคำพูดที่อยากจะพูดออกมามันจุกอยู่ที่คอ

“โถอีสา ทีกับกูละตบเอาตีเอา แรดจริงๆมึงนิ”

“พวกมึงหุบตูดไปเลยไอ้มัด ไอ้สา นั่งเลยเจ้าชาย”

“อ่อไม่ดีกว่าครับ..ไปกินหน้ามอแล้วกันบอส” ผมตอบโฟ่ก่อนหันไปบอกบอสที่ทำหน้าโหดจ้องเกียร์เขม็ง ผมรู้ว่าพวกมันห่วงผมทุกคน ผมกระตุกข้อมือบอสเบาๆก่อนมองมันด้วยสายตาอ้อนวอน ไม่อยากให้มีเรื่องกัน เพราะผมก็..ยังห่วง..มันเหมือนกัน

“ไปเถอะ” ก่อนที่ใจผมจะเจ็บไปมากกว่านี้ ผมบอกมันต่อในใจ ไอ้บอสโทรบอกเนมว่าเปลี่ยนไปกินหน้ามอจากนั้นก็เดินไปรอมันแถวลานจอดรถ

หมับ!!

“เดี๋ยว” เสียงทุ้มที่..เคย..คุ้นเคยดังขึ้นให้รู้สึกเจ็บแปลบๆที่อกพร้อมมือใหญ่รั้งแขนผมเอาไว้จากข้างหลัง

อย่า

อย่าทำให้ผมคิดไกลไปมากกว่านี้

ได้โปรด

อย่าทำร้ายใจกันไปมากกว่านี้เลย

ผั๊วะ!!

“ไสหัวของมึงไปซะ!” เสียงหมัดไอ้บอสกระทบเข้าหน้า มันเซถอยจนเกือบล้ม เลือดติดอยู่มุมปาก ทำเอาใจผมแทบขาด มันสวนหมัดเข้าหน้าบอสอย่างไม่ยอมกัน ผมยืนนิ่งไร้เรี่ยวแรงที่จะก้าวเมื่อเห็นหน้าแสนคิดถึงมาตลอดหลายอาทิตย์ จนพวกไอ้เนมไอ้พิชวิ่งเข้ามาห้ามก่อนที่จะแย่ไปมากกว่านี้

“เฮ้ย หยุด ไอ้บอสหยุดโว้ยย” ไอ้คิมดึงไอ้บอสมายืนข้างตัว ส่วนไอ้คลื่นดันตัวมันให้ห่างจากกัน แววตาดุดันของมันตอนนี้ที่ผมเคยเห็นเป็นครั้งแรกจ้องไปที่ไอ้บอสอย่างไม่ละสายตา

“เกียร์ มึงมีอะไร” ไอ้ไทป์ถาม เจ้าตัวไม่ตอบแต่กลับหันมาพูดกับผม

“ไอรัก เกียร์อยากคุยด้วย ..แปบเดียว”

“โหไอ้สัด ล่าสุดใครไล่เพื่อนกูอย่างกับหมูกับหมาวะ แล้วเสือกขอเวลาเพื่อนกูแปบเดียว ค-ย!!” ไอ้เนมทำท่าจะวิ่งไปต่อยมัน แต่ไทป์ห้ามเอาไว้

“เพื่อนกูเคยให้โอกาสนั้นแล้ว โอกาสที่จะให้มึงตัดสินใจ แล้วตอนนี้เพื่อนกูก็รู้แล้ว ว่าคำตอบมึงคืออะไร ดังนั้นมึงจะขอมันอีก พวกกูคงให้ไม่ได้ ไม่ใช่แค่ตอนนี้..แต่มันคือหลังจากนี้ด้วยต่างหาก”หลังจากนี้หมายความว่าอะไร ไทป์กับมันสบตากันนิ่งปล่อยให้คนอื่นมองกันงุนงง

“นี่มันเรื่องกูกับไอรัก มึงอย่ามายุ่ง!”

“ใช่ มันเรื่องของไอ้รัก แต่ไอ้ไอรักมันคือเพื่อนกู แล้วกูก็รู้ด้วยว่าตอนนี้มันอยากจะไปไกลๆจากตรงนี้ ใช่ไหมไอ้รัก” ผมสะดุ้งเพราะพวกมันเล่นหันมามองผมทุกคน ผมมองหน้ามันที่รอคำตอบด้วยความหวังก่อนหยักหน้า รีบหันหลังให้กับสีหน้าตัดพ้อไม่ต่างอะไรกับตอนที่ผมมองมันจากไปคราวนั้น..ผมกลัว ผมไม่อยากเจ็บเหมือนครั้งก่อน




“เมื่อกี้ที่มึงบอกหลังจากนี้หมายความว่าไงวะ” ตอนนี้พวกผมไม่มีอารมณ์จะไปไหนแล้ว พวกมันจึงยกโขยงมาคอนโดผมกัน ผมนั่งนิ่งหลับตาให้อารมณ์สงบอยู่บนโซฟาตัวใหญ่หน้าทีวีที่ไอ้เนมเปิดช่องการ์ตูน ส่วนอาหารมื้อนี้คงต้องพึ่งคลื่นกับบอส ไอ้คลื่นมันทำอาหารเก่ง ส่วนไอ้บอสทำอะไรไม่เป็นสักอย่างแต่เสือกโดนอ้อนให้ไปช่วยในครัว มันก็ต้องไป เพราะเดี๋ยวมันจะโดนไอ้คลื่นงอนจนไม่ได้กินอีก ไอ้พิชกับคิมลงไปซื้อเหล้าบุหรี่ข้างล่างสักพักก็ขึ้นมาตั้งวงเหล้า พอดีกับคลื่นทำอาหารเสร็จ

“หึ หลังจากนี้ชีวิตไอ้รักคงต้องโดนรังควานจนกว่าใครสักคนจะหมดความอดทนไงละ” ไทป์พูดขึ้น พลางกระดกเหล้าเพียว

“ยังไงวะ” ผมถามมันไปงั้น ทั้งที่ในใจไม่อยากจะรับรู้อะไรทั้งสิ้นแล้ว ขณะที่คนอื่นทำหน้าเหมือนถึงบางอ้อกันแล้ว

“ช่างแมร่งเหอะ เอาเป็นว่ากูดูมันออก”

“มึงอะเฉยๆไปเลยเถอะไอ้รัก” อ่าว อ๋อ นี่มันคือเรื่องของมึงสินะ ไม่ใช่เรื่องของกูหรอก ไอ้เชี่ยยย กูยิ่งนอยอยู่

“แต่กูไม่อยากได้ไอ้เหี้ยเกียร์มาควบตำแหน่งนี้วะ แมร่งจะใครก็ได้ที่ไม่ใช่ไอ้ห่านี่อะ” ไอ้คิมทิ้งหัวแรงๆก่อนทำหน้ามุ่ย

“ถ้ามันใจตรงกันจริงๆ มึงก็หยุดพวกมันไม่ได้ อะไรที่ควรสนับสนุนก็ควรทำ..เอาเป็นว่าตอนนี้เราเล่นเป็นตัวร้ายคอยกีดกันพวกมันก็แล้วกัน หึหึ” ไทป์พูดกับไอ้คิมแล้วกันไปพูดกับทุกคน ทิ้งให้ผมนั่งงงอยู่คนเดียว

-Let the skyfall, when it crumbles, we will stand tall Face it all together…-

“ครับพี่น้ำ” พวกมันหันมามองผมก่อนยิ้มกรุ้มกริ่มชั่วๆให้กัน ผมเห็นแล้วขนลุกยังไงไม่รู้สิ

‘อยู่ไหนครับน้องไอรัก พี่ไปหาไม่เจอเลย คิดถึ๊งคิดถึงงะ’ เสียงเล็กๆสดใสลอยมาตามสาย อดถามตัวเองไม่ได้ว่าใครเป็นพี่ใครเป็นน้องกันแน่นะ

“อยู่วงเหล้าครับ”

'โห กินแต่วันเลยเหรอ ไม่ดีมั้ง ระวังคุณหมอจะต้องมารักษาตัวเองนะ คริคริ'

“โหพี่ครับ ผมยังไม่เป็นหมอนะ เป็นแค่นิสิตแพทย์ต๊อกต๋อยเอง”

'น้องไอรักเก่งอยู่แล้ว พี่เชื่อนะว่าน้องไอรักต้องเป็นหมอที่ดีได้แน่ๆ' เสียงเล็กจริงจังขึงขังขึ้นมาทันที ผมอดยิ้มตามไม่ได้ คุยไปสักพักรู้สึกเหมือนคุยกันหลายคนยังไงไม่รู้ ก็เพื่อนผมแทบจะเอาหูแนบโทรศัพท์อยู่แล้ว ผมจึงตัดบทวางสายไป


“ห่า เสียงน่ารักฉิบหาย หน้าตาก็จิ้มลิ้ม” เสียงไก่กายุยงเสียงดัง

“เออ บอบบาง น่าทะนุถนอมเป็นที่สุด หึหึ” พิชพูด

“ตะเอง เค้าคิดถึ๊งคิดถึงงะ กร๊ากก” ไอ้เนมตาม

“ว่าแต่พี่น้ำนี่เขาก็ดีนะไอ้รัก ถามจริงเหอะ มึงไม่สนใจเขาเลยเหรอวะ”

“...พวกมึงก็รู้คำตอบนั้นดี” ผมตอบคิมแล้วทิ้งตัวหลับตาลงนอนโซฟาตัวเดิม



......................................................................................




“อนาโตมี่ร้ายกาจจจมาก” ไอ้คลื่นบ่นหลังออกจากห้องสอบเหมือนเคย มึงกะบ่นทุกวิชาที่สอบใช่ไหม

“เออแมร่ง ตอนบ่ายก็มีเรียนอีกตัว หัวกูจะแตกอยู่แล้วโอยย” เมื่อมีไอ้คลื่นบ่น ตัวสนับสนุนอย่างไอ้เนมก็ต้องบ่นตาม

“ฮืออแดกข้าวเหอะ หิวว่ะ”

“มึงควรหยุดบ่น แล้วไปกินข้าวได้ตั้งนานละ มัวแต่บ่นอยู่แบบนี้โรคกระเพราถึงได้ถามหา” ไอ้บอสหันไปดุคลื่น

“งือ ...แต่เมื่อกี้กูจะบ้าจริงนะโว้ย ออกมาฆ่านิสิตหรือไงวะ บลา บลา บลา..”มันบ่นงุ้งงิ้งให้ไอ้บอสที่ปิดรับทุกประสาทฟัง

“ไอ้รัก แล้วไอ้เชี่ยเกียร์ได้มาหามึงบ้างหรือเปล่าวะ” จู่ๆไอ้เนมหันมาถาม เท้าผมชะงักก่อนหลบตากลืนน้ำลายตอบมัน

“..มันจะมาสนใจคนอย่างกูได้ไง” หลังจากวันนั้นก็ผ่านมาสี่วันแล้ว แต่มันเหมือนพึ่งเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นเมื่อวาน ชัดเจนไม่เคยเลือนลาง

“เฮ้ย กูขอโทษ อย่าหงอยดิวะ แมร่งไม่ใช่มึงเลยอะ ใครไม่สนใจมึงไม่เป็นไร มีพวกกูอยู่ก็ไม่ต้องเหงาแล้วสาด มาๆเดี๋ยวมื้อนี้กูเลี้ยงมึงเอง แถมนมช็อคด้วยเลยอะ เอ้า ยิ้มหน่อยยย”

“หึ”ผมยิ้มแสยะไปให้มันก่อนที่มันจะเบ้หน้าอย่างบิดเบี้ยว

“...แต่กูว่ากูไม่ได้เลี้ยงมึงแล้วว่ะ ไอ้เหี้ยโย่งนั่นยืนหัวโด่แต่ไกล”

“อะไร” ผมมองตามมือที่ไอ้เนมที่ชี้ผู้ชายร่างสูงชุดช็อปใส่แว่นกันแดดสีชายืนกอดอกพิงต้นไม้อยู่ไกลๆเป็นที่สนใจของเด็กแพทย์ที่เดินผ่านไปมา พอดีที่มันหันมาแล้วสาวเท้ามาทางนี้

“กูไปก่อนนะ” ผมเดินเดินเร็วหนีไปอีกทาง หันหลังไปมองมันที่จะวิ่งตามมาแต่โดนไอ้พวกเนมกระชากตัวเอาไว้ก่อนที่จะเดินอ้อมไปยังลานจอดรถข้างตึกด้วยใจเต้นไม่เป็นจังหวะเท้า เท้าวิ่งหนี แต่หัวใจหนีมันไม่เคยพ้นเลยสักที



.............................................................................




หลังจากวันนั้นมันก็ตามมาหาผมทุกวัน ทุกที่ไม่ว่าผมจะกระดิกตัวไปไหน แต่แปลกที่มันคลาดกับพี่น้ำเสมอ ไม่เคยมาตรงกันเลยสักที พวกไอ้เนมก็คอยกันท่าไม่ให้มันเข้าใกล้ผม มันจึงไม่เคยถึงผมเลยสักครั้ง วันนี้พี่น้ำนัดทานข้าวเย็นกับผมที่ห้างดังแถวพระรามเก้า

“พี่น้ำอยากทานอะไรครับ” ผมถามตามมารยาทเหมือนถามคนอื่นๆที่เคยมาทานข้าวด้วยกัน แต่สายตาคนอื่นคงมองว่า เทคแคร์เอาใส่ใจดีเกินจนเป็นมากกว่ารุ่นพี่รุ่นน้อง แล้วผมรู้ว่าคนอื่นคิดแบบนี้ได้อย่างไรน่ะเหรอ ก็พวกเดอะแกงค์ผมไงล่ะ

“เค้าอยากกินอาหารญี่ปุ่นอะน้องไอรัก นะนะ” พี่น้ำส่งสายตาวิ้งๆ ท่าจะอยากกินจริงๆ ผมรู้สึกเอ็นดูจึงเผลอยกมือลูบหัวพี่เขา แต่ก็ต้องชะงักดึงมือออก ขอโทษขอโพยใหญ่ เพราะยังไงเขาก็มีศักดิ์เป็นรุ่นพี่

“ขอโทษครับพี่น้ำ ผมไม่ได้ตั้งใจ”

“ไม่เป็นไร เอ่อ มันก็อบอุ่นดี .. ถ้าเป็นคนอื่นพี่คงถีบไปแล้วนะนี่ คริคริ” ประโยคหลังทำเอาผมเสียวสันหลังวาบ เกาแก้มยิ้มแหยะๆ แต่ทำให้คนตรงหน้าแก้มแดงเป็นตูดลิงเสียอย่างนั้น

“อ้ะ เอ่อ ..ปะ..ไปทานข้าวกันดีกว่าเนอะ” พี่น้ำว่าแล้วก็จูงมือผมเข้าไปร้านอาหารญี่ปุ่น

“โห อยากกินทั้งชุดแซลมอน ทั้งเซ็ทซูชิเลยอะ เลือกไม่ถูกทำไงดี” พี่น้ำคิ้วขมวดให้เมนูจนพนักงานยิ้มขำให้พี่น้ำก่อนทำตาประกายแพรวพราวให้ผม

“ก็สั่งทั้งสองอย่างสิ ป๋าอยู่ตรงนี้แล้วจะกลัวอะไรครับพี่”ผมพูดหยอกเล่น เพราะกี่ทีๆผมก็จ่ายทุกครั้ง จะกังวลไปทำไมวะ

“โหป๋าจะพุงยุบก่อนน่ะสิ เดี๋ยวจะสั่งให้ขนหน้าแข้งร่วงเสียเลย กินสองอย่างแล้วมันกินไม่หมดอะ ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง”

‘เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง’งั้นเหรอ

แล้วถ้าสิ่งที่เลือก ไม่ได้เลือกเราล่ะ

“..ไอ...ไอรัก ไอรัก! เป็นอะไรอะ” ผมสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์ เพราะเสียงเรียกและมือเรียวสัมผัสแถวแก้มด้วยคนตรงหน้า

“เปล่าครับๆ สั่งมาสองอย่างแล้วกัน เดี๋ยวผมช่วยทา....” ยังพูดไม่จบประโยคก็มีมือตบโต๊ะดังปึง! พร้อมเสียงหอบเหมือนวิ่งมา

“ไม่ต้องสั่งอะไรทั้งนั้น มานี่เดี๋ยวนี้!” มันกระชากแขนผมออกจากร้าน


มะ..มาได้ยังไง?!


“เดี๋ยว! นายจะพาน้องไอรักไปไหน เขามากับพี่นะ!!”

“นี่แฟนกู! จะพาไปไหนก็เรื่องของกู มึงกลับไปหาแฟนเก่ามึงเลยไป!” มันตะคอกหยาบคายใส่พี่น้ำเสียงดัง ไม่สนใจใครจะมองไม่ดี

แฟน?????????

อะไรวะเฮ้ยย

“หยาบคาย!นายอย่ามามั่ว น้องไอรักไม่เอานายหรอก คะ..คิดว่าร่างใหญ่กว่าแล้วคนอื่นจะกลัวหรือไง” พี่น้ำตะกุกตะกักตอนที่เกียร์ง้างมือขึ้นเหมือนจะต่อย แต่ผมดึงแขนอีกข้างที่ไม่ได้จับผมไว้ มันมองคิ้วขมวดน่ากลัวก่อนหันไปบอกพี่น้ำด้วยน้ำเสียงเย็น

“ทำไม! ถ้ามาขวางกู จะเป็นผู้หญิงหรือเกย์ ผู้ชายห่าเหวอะไร กูก็จะไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น กูขอเตือนไว้ตรงนี้ อย่า-มา-ยุ่ง-กับ-แฟน-กู-อีก” มันว่าแล้วฉุดแขนผมแรงให้หยุดอยู่ในซอกเล็กหน้าประตูสำหรับพนักงาน มันดึงตัวผมเข้าไปกอดแน่นอย่างถวิลหา

“ปะ ปล่อย.. ปล่อยได้แล้ว” ผมเริ่มได้สติ พยายามดันตัวให้ห่างจากวงแขนแกร่ง ก่อนที่ตัวเองจะคิดไกลไปกว่านี้

“ไม่! ขอเถอะไอรัก คุยกันก่อน อย่าหนีกันแบบนี้ ตอนนี้กูเหมือนจะบ้าตายอยู่แล้ว” มันซุกหน้าเข้ากับซอกคอพร้อมพูดเสียงสั่นออกมาให้ใจผมสั่นคลอน

“หึ แต่คุณคงรู้สึกไม่ถึงครึ่งที่ผมรู้สึก” เกียร์สะอึก ผมจึงพูดต่อ

 “คุณต้องการอะไรอีก แค่นี้ยังทำร้ายกันไม่พออีกใช่ไหม หรือต้องให้ผมกลับไปจมปลักอยู่กับคนที่ผลักไสตัวเองต่อไป ผมผิดเอง ผิดที่ไปตื้อคนที่เขาไม่ได้รัก ผม...”

“ไม่! ไอรัก ไม่ใช่ เกียร์ขอโทษ ..กูผิดเอง ที่พูดทำร้ายจิตใจมึงวันนั้นเพราะกูน้อยใจ กูไม่คู่ควรกับมึงเลยสักนิด ยิ่งเห็นมึงอยู่กับไอ้พี่หน้าอ่อนแล้วกูรู้สึกว่ามันเหมาะสมกว่าที่จะมาเดิน มาอยู่ใกล้ๆกับคนอย่างกู กูกลัว กูไม่กล้ายอมรับความจริงว่าต้องโดนคนอื่นมองเพราะเพียงแค่คำนิยามว่าเป็นเกย์”

“...ผมเข้าใจว่ามันยากที่จะยอมรับ ยากที่จะเปลี่ยนแปลง เกียร์ไม่จำเป็นต้องยอมรับมันหรอกครับ ถ้าคิดว่าทำเพราะความสงสาร” ความรู้สึกนั้นผมเคยรู้สึกมาแล้ว มันไม่ใช่เรื่องที่จะยอมรับกันง่ายๆ ผมเคยคิดว่าต้องแปลกแยกในสังคม แต่ความรักมันเป็นสิ่งสวยงาม ไม่ได้จำเป็นต้องเกิดขึ้นเพียงแค่สังคมเป็นตัวกำหนด แต่จะมีอีกสักกี่คนที่คิดแบบนี้ได้ หนึ่งในนั้นคงไม่ใช่มัน.. ไม่ใช่เกียร์

“ไม่ กูเคย กูเคยแล้ว มันไม่มีความสุข กินไม่ได้นอนไม่หลับ มันเป็นอะไรไม่รู้ ยิ่งไม่เจอหน้าไอรัก เกียร์กระวนกระวายเหมือนจะเป็นบ้า แค่คิดว่าในสายตาไอรักไม่มีเกียร์ เกียร์ก็ทนไม่ไหวแล้วไอรัก ไม่เอาแล้ว เกียร์ทนไม่ได้จริงๆ ไอรักเข้าใจเกียร์ไหม”

“…”

“ตอนนี้เกียร์เลือกแล้ว ต่อให้ใครจะมองยังไง แต่ถ้ามีไอรักอยู่ข้างๆ เกียร์ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น” เกียร์ผละตัวออกมาเล็กน้อย มือทั้งสองประคองต้นแขนผมอย่างทะนุถนอม สายตาอ้อนวอนและจริงจังจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลของเขา ไอรักละสายตาไปจากดวงตาสีเข้มคนนี้ไปไม่ได้เช่นกัน ...อย่าไขว่เขวนะใจ ตอนนี้มันกำลังจะใจอ่อนให้ผู้ชายน้ำแข็งคนนี้

 “เกียร์ขอโทษ”

“…”

“ให้โอกาสเกียร์อีกครั้งได้ไหม”

“…”

“นะครับ... นะ ไอรัก” เกียร์แหว่งทั้งสองมือของผมอย่างเอาใจ น้ำเสียงออดอ้อนและทำหน้าเหมือนลูกหมา(ตัวโคตรใหญ่)หูตก ผมเกือบหลุดยิ้มออกมา แต่ต้องพยายามตีหน้านิ่ง

“...แต่เกียร์จะไม่มีอัลบั้มรูปแต่งงานให้ดูตอนแก่” ผมเม้มปากแน่นหลบสายตาคู่นั้นก่อนพูดน้ำเสียงแสร้งแข็งกร้าว แต่ความหมายของคำพูดนั้นทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาเริ่มใจอ่อนแล้ว คนฟังยิ้มกว้างเป็นครั้งแรกที่เห็นมันยิ้มทั้งตาและปาก ดูเหมือนใจมันคงพองโตขึ้นมากว่าเมื่อกี้หลายเท่าตัว

“ถ้าไอรักอยากถ่ายรูป เอาไว้ไปสตูดิโอบ้านไอ้สามันก็ได้” ฟวยย กูพูดเฉยๆอะ เข้าใจหรือเปล่า มึงต้องอยู่กับกูไปอีกนาน เราแต่งงานกันไม่ได้นะโว้ย

“จะไม่มีลูกให้เลี้ยง”

“เกียร์เกลียดเด็ก” เกียร์สวนขึ้นทันควัน

“ไม่มีหลานให้วิ่งบนสนามหญ้าหน้าบ้านนะ”

“แต่มีตาแมวแก่กับไอ้เฒ่าน้ำแข็งนอนกอดกันกลิ้งอยู่บนสนามหญ้าสองคนไง”อ้าวไอ้เชี่ยนี่ มึงคิดไปไกลลลลลเนอะ อย่างนี้ผมก็คงมีหน้าที่เดียว

ก็เขินน่ะสิครับ!!!!!!!

“เกียร์..เอ่อ คิดดีแล้วเหรอ ว่าจะมาจมปลักอยู่กับผมที่ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง”

“หึหึ ตัวเองเคยบอกเองไม่ใช่เหรอว่าอย่าดูถูกตัวเอง ทำไมคราวนี้ทำไมถึงเป็นเองละ..แล้วที่เกียร์เป็นไม่ได้เรียกว่าจมปลัก เขาเรียกว่าตกหลุมที่ไอรักเป็นคนขุดไว้เข้าไปเต็มๆเลยต่างหาก” มันกระซิบก่อนจูบใบหูผมเบาๆชวนให้สยิว

“หละ..หลุมอะไร ผมไม่เคยขุดเหอะมั่วแล้ว ผมคนนะไม่ใช่ตัวตุ่น” ผมเอียงคอหลบมัน ปากพูดแว๊ดๆกลบแก้เขินอย่านะมึง ถ้าตัวตุ่นตัวนี้เกิดอารมณ์ขึ้นมา แล้วมึงจะหนาว

“หึหึ ไอ้แมวน้อยเอ้ย ..ให้โอกาสเกียร์นะครับ หลังจากนี้เกียร์จะทำให้ไอรักมีความสุขที่สุด ถึงแม้ว่าเกียร์จะไม่สัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป เพราะอนาคตมันไม่เคยแน่นอน แต่เกียร์จะอยู่ดูแลไอรักให้นานที่สุด” ผมจ้องนัยน์ตาสีเข้มนิ่ง สายตามันแสดงถึงความจริงใจออกมา มีคนเคยบอกว่าตาคนไม่เคยโกหกใคร มันคงจะจริง และผมก็เชื่อสายตาที่มันพยายามสื่อ ผมยิ้มให้มันแทนคำตอบ มันยิ้มตอบอย่างอ่อนโยนก่อนโน้มตัวเข้ามาใกล้ขึ้น ผมหลับตารอสัมผัสจากริมฝีปากที่แสนรักใคร่และคิดถึง..

กริ๊ก!!

“อุ้ย ขะ..ขอโทษค่ะ” แม่บ้านเปิดประตูออกมาเห็นผมกับเกียร์ก็ตาโต มือปิดปากแน่น ก่อนหันหลังปิดประตูดังเดิมเดี๋ยวป้า!! อย่าพึ่งไป ผมไม่ได้(ตั้งใจ)ทำอนาจารในห้างนะ!!ตายห่า กูจะโดนจับไหมวะนี่ ฮือออ ไอร๊ากกก ชีวิตเอ็งนี่มันน่าสงสารเสียจริงเอย ขณะที่ผมกำลังสติแตก มีมือใหญ่สัมผัสบนกระหม่อมอย่างนุ่มนวล ผมเงยหน้ามองหน้าเกียร์ที่มองมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว เราอมยิ้มให้แก่กันก่อนที่ผมจะเบี่ยงประเด็นแก้เขิน

“หิวงะ”

“เหมือนกัน ...มัวแต่มองไอรักกับไอ้รุ่นพี่บ้านั่น” มันบ่นงึมงำๆหน้ามุ่ย

“หืม? อะไรนะครับ”

“เปล่า อยากกินอาหารไทย ไม่เอาญี่ปุ่น” มันง้องแง้งใส่ผม เอ่อ.. ให้ตายเหอะ ยิ่งรู้จัก มึงยิ่งแอ๊บแบ๊วขึ้นเรื่อยๆนะหอกหัก สงสัยคงฝังใจกับร้านญี่ปุ่นแล้วมั้งนี่ ก็ดีแล้วล่ะ หน้าโคตรไทยแต่เข้าร้านอาหารต่างชาติก็ไม่เข้ากันหรอก เหอะๆ นี่ถ้ามันได้ยินความในใจผม ก็เตรียมข้าวต้มและจองศาลาให้ไอรักคนนี้ด้วยนะครับทุกคน....



..............................................................................



“ไปมอเตอร์ไซค์เกียร์นะ”

“อ้าวแล้วรถผมอะ”

“เดี๋ยวให้ไอ้เนมาเอาให้ก็ได้ มันอยู่คอนโดเดียวกับเกียร์” ไอ้เนก็คือไอ้แว่นนั่นล่ะ

“?????” ผมทำหน้างงใส่มัน มันเกี่ยวอะไรครับนี่ท่านผู้ชม

“วันนี้ไปนอนด้วยกัน...นะ” มันทำเสียงอ้อนใส่ผม เล่นเอาผมอ้าปากค้าง ตัวมึงไม่ใช่เล็กๆนะเฮ้ย!! นี่เกียร์วิศวะไฟฟ้าที่เคยรู้จักเหรอวะ ทำไม.........ทำไม.........น่ารักจังวะ แอร้ยยยยยยย อิ_อิ

“ทำไมอะครับ”

“..ก็มันคิดถึงอะ” ตอนนี้ไม่ใช่แค่อ้าปากค้างแล้วครับ ตาโตเหมือนเห็นผี ตายห่า ใจผมกระเด็นไปอยู่ที่ทางช้างเผือกหรือยังวะ คุณเล่นพูดแบบนี้ผมใจสั่นนะโว้ย ตอนนี้แก้มเป็นลูกมะเขือเทศแล้วแน่ๆ ผมกัดริมฝีปากไว้ไม่ให้มันคลี่ยิ้มออกมา แต่ไม่วายทำให้คนตรงหน้าเห็น หัวเราะหึหึอย่างหมั่นไส้ ก่อนหันมากัดขบแก้มนุ่มเบาๆอย่างหมันเขี้ยวแล้วบอกกับคนตรงหน้าให้ยิ้มกว้าง

“ชอบอะ ไอ้แมวน้อยแก้มแดง”



อนาคตไอรักจะเป็นโรคหัวใจไหมครับทุกคนนนน






TBC-------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ ตอนที่10 P.3 09/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 09-12-2012 18:18:34
เอาล่ะ เคลียร์แล้วววววววววววววว จากนี้คงเดินหน้าหวานแล้วนะ
จะว่าไป เจ้าชายเองก็ไม่เด็ดขาดเรื่องน้ำนะ ไม่ยอมปฏิเสธให้ชัดเจนด้วย แถมจะเรื่องข่าวอีก
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ ตอนที่10 P.3 09/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Pigstar ที่ 09-12-2012 18:22:19
ไอ้แมวน้อยแก้มแดง
เขินวุ้ย ย เรียกซะน่ารักเลย

 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ ตอนที่10 P.3 09/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: yokerohz ที่ 09-12-2012 18:48:55
เจ้าชายสมหวังแล้ว

ฉลอง ฉลอง  :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ ตอนที่10 P.3 09/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 09-12-2012 23:25:06
โอ๊เยส!!!  :mc3: :mc2:

เป็นแฟนกันแล้ว อย่าทำเจ้าชายเจ็บอีกนะ

คนแต่งเมื่อไหร่ เขาจะได้กัน  :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ ตอนที่10 P.3 09/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Kaame ที่ 09-12-2012 23:28:26
หวาน เบาหวานจะกิน แอร้ยยย  :o8:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ ตอนที่10 P.3 09/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 09-12-2012 23:37:03
ดีแล้วๆ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ ตอนที่10 P.3 09/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 09-12-2012 23:42:42
เจ้าชายไม่เล่นตัวเลยง่ะ 555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ ตอนที่10 P.3 09/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 10-12-2012 00:16:24
น่ารักอ้ะ หวานให้เต็มที่ไปเลยน้า แอร๊ยกกกก  :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:

หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ ตอนที่10 P.3 09/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 10-12-2012 13:23:54
น่ารัก  :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ ตอนที่10 P.3 09/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: krit24 ที่ 10-12-2012 17:48:29
หวานมากๆ ดีใจที่ดีกันแล้ว
สงสารเจ้าชายมากๆอ่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ ตอนที่10 P.3 09/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 10-12-2012 17:59:32
พอดีกันแล้วนี่เกียร์รุกใหญ่เลยนะ แต่น่ารักกกกกกกกกกก
ไอรักไม่ต้องกลัวเป็นโรคหัวใจหรอก เดี๋ยวมันก็หาย 5555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ ตอนที่10 P.3 09/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 10-12-2012 19:17:41
แมวแก้มแดงน่าร๊ากกกกกกกกอะ

แต่เสียดายตอนป้าแม่บ้านเปิดประตูผ่างง!!ออกมาเกิ้นน มาผิดจังหวะไปไหมป้า>0<



คลื่นมีสิทธิ์กับบอสไหมน่ะ ดูกุ๊กกิ๊กจัง อิอิ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ ตอนที่11 P.3 12/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 12-12-2012 00:41:13
ตอนที่11





“ไอ”

“ครับ”

“ไอรัก”

“...” ผมหันไปเลิกคิ้วคนข้างหลังที่เข้ามาสวมกอดหลังจากเข้ามาในห้องเกียร์

“อยากกินไอผัดผัก ไอรักสามรส ไอรักกระพงทอดน้ำปลาจัง”เกียร์ทำตาแพรวพราวยิบยับให้ผม กูอะนะ?!!

“ได้สิ เมื่อวันก่อนก็ไปทำอาหารแสดงฝีมือบ้านไอ้คิม หลังจากนั้นผมกับเพื่อนก็ไม่ออกไปไหนเลย”

“ติดใจเสน่ห์ปลายจวักไอรักจนถอนตัวไม่ขึ้นเลยเหรอ”

“เปล่า นอนซม ท้องร่วง..”จากหน้าตื่นเต้นดีใจเป็นเหยเก มือที่กอดเริ่มร่วงลงไป ขาเริ่มเดินไปห้องครัวเองแทน มึงรู้แล้วสินะ…เสียใจด้วยครับ มึงต้องทำเองแล้วล่ะ

“อืม.... กระทะอยู่ไหนนะ”






“ไอรัก อาหารเสร็จแล้ว” คนใส่ผ้ากันเปื้อนสีเทาเดินมาเรียก ผมเงยขึ้นจากตลาดหุ้นที่ปรากฏบนโทรศัพท์ ก่อนเดินตามมันไปห้องครัว

“คร้าบบ”

“กินได้หรือเปล่า”

“โห กินได้ครับ คุณทำอาหารเก่งขนาดนี้แล้วเมื่อกี้ใช้ผมทำไมนี่”

“ก็อยากกินฝีมือแฟนบ้างไม่ได้เหรอ” อั้ยยะ! มีหวานเว้ยเฮ้ย ผมกำช้อนแน่นก่อนก้มหน้าก้มตาชิมอาหารมากหน้าหลายตาบนโต๊ะ เชี่ยยย อาหารที่ทำไม่ใช่แค่หน้าตาดีนะ มันอร่อยด้วยอะ ชีวิตนี้ไอรักไม่อดตายแล้ว เฮ!!

“ของในตู้เย็นหมด เลยทำได้ไม่กี่อย่าง แถมมันเกือบจะเน่าหมดละ”ไม่กี่อย่างของมันก็เกือบเต็มโต๊ะ ถ้าทำเต็มสตรีมคงไม่ต้องต่อโต๊ะเลยเหรอวะ กระเพาะควายจริงมึง

“อ้าว แล้วคุณไม่ได้ไปซื้อมาเติมเลยเหรอครับ” มันยิ้มให้เฉยๆ ไม่ได้ตอบอะไร ถ้าผมไม่คิดไปเอง มันคงเหมือนผม ตอนนั้นคงไม่มีอารมณ์ทำอะไร แค่จะกินข้าวแทบไม่มีแรงเลยด้วยซ้ำ

“ไว้พรุ่งนี้เราค่อยไปซื้อด้วยกันนะ”

“ไม่เอาอะ”

“ทำไม” มันคิ้วขมวดแน่นตีหน้ายักษ์ใส่แล้วถามเสียงแข็ง ฉิบหายไอรักอีกแล้วไง

“ก็พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปเที่ยวไง"ผมพูดพร้อมแจกยิ้มหวาน ขยิบตาให้ไปหนึ่งที คนหน้ายักษ์เมื่อครู่มองตาค้างหน้าแดง เลื่อนมือไปกุมตรงหว่างขา ผมมองมันอย่างงงๆ

"ให้ตายสิ! แค่เห็นไอ้แมวยิ้ม ถึงกับเกิดอารมณ์เลยเหรอวะ" มันบ่นงึมงำ ผมได้ยินไม่ชัดจึงถามมันอีกรอบ แต่มันปัดๆไป

“เอ๊ะ เป็นอะไรเหรอครับ ไม่ไปก็ไม่เป็นไรนะ อยู่ห้องเฉยๆก็ได้” เสียงสลดดังขึ้น คนตรงหน้าผมสะดุ้ง ผมมองมันงงๆรอบสอง เจ้าเข้าเหรอมึง ผมก็พูดไม่ได้ดังนะ แต่เหมือนมันอยู่ในภวังค์อะไรสักอย่าง

“เอ่อ อ๋อ เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร แล้วอยากไปไหนล่ะ”

“ตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกไง”

“อืม.. จะไปตอนกลางวันเหรอ”

“กลางวันสิ”

“ร้อนอยู่นะ ไอรักจะเดินไหวหรือเปล่า” มันพูดพร้อมเก็บจานไปล้าง แต่ผมแย่งจานมาล้างก่อน เขาบอกกันว่า อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้น... เพล้ง... โอเค สรุปเดินมานั่งมองมันล้างท่าจะรุ่งกว่า

“ไหวสิ ดูด้วยครับ นี่ใครๆ ไอรักเด็กแพทย์นะครับ”

“หึหึ ไม่มีใครเก่งเกินไอรักเด็กแพทย์คนนี้แล้วครับ เรื่องล้างจานก็พอรู้แล้วครับ”

“อันนั้นมือมันลื่น”

“เชื่อครับ มือมันลื่นจริงๆ แตกเป็นเสี่ยงๆเลย”

“ผีผลักอีกต่างหาก”

“เชื่อครับ ผีตัวไหนนะ มาผลักไอ้แมวน้อยได้ยังไง นิสัยไม่ดีเลยเนอะ”

“ผีทะเลตัวนี้นี่แหล่ะ! เอามือคุณออกไปเลย แอบเช็ดมือด้วยใช่ไหมนี่” ก็ดูผีทะเลตัวนี้สิ ล้างจานเสร็จแล้วก็เดินมากอดแล้วลูบคลำๆอย่างกับปลาหมึกตกมัน

“หึหึ โทษที มือมันลื่น”ยอกย้อน!!!!






“อ้าว นั่นชมพูนี่หว่า เป็นดาราดังตอนไหนฟะ” ผมบ่นเบาๆบนโซฟาหน้าโทรทัศน์หลังจากอาบน้ำกันเสร็จเรียบร้อย นานๆทีจะดูช่องดาราเซเลบ ปกติผมไม่ค่อยได้ดูช่องคลายเครียดหรอก แต่ไอ้คนข้างหลังที่กอดเอวเกยคางกับไหล่ผมนี่ เห็นหน้าเถื่อนๆแบบนี้ ดูเบ็นเท็น ซุบซิบดารา บล็อกเซ็ตเรื่องง้องแง้งกับเงอะงะเต็มไปหมด ซึ่งผมอยากจะถามว่า...อะไรคือความเข้ากันกับหน้ามันหรือครับ

“รู้จักเหรอ”

“รู้จักดีเลยล่ะครับ ผมนี่ไม่เคยลืมชมพูได้เลยอะ” มันหันมามองคิ้วขมวดแน่น อ้าวนี่ผมพูดอะไรผิดไปเหรอ

“...รักแรก?”

“เปล่า ตอนมอสองมันแอบกินยางลบผมไปแปดก้อน นี่แค่เทอมเดียวนะ ยิ่งคิดแล้วยิ่งแค้น” ผมพูดอย่างหัวเสีย มันหัวเราะเสียงดังเลย อีชมพูนะอีชมพู สวยแต่รูปแต่หารู้ไม่ไอ้มนุษย์คนนี้ มันเจริญเติบโตมาจากยางลบ(ของกู)

“แล้วไป อย่าให้รู้นะว่ามีอะไรลึกซึ้งกว่านั้น”

“จะพาไปเลี้ยงข้าวแล้วถามดีๆใช่ไหม”

“จะฆ่าทั้งคู่ต่างหาก...หึหึ” อูยย ไอรักสะดุ้งสิครับ

“ไม่ๆๆ ใครจะมาเอาผมล่ะ ผมไม่มีใครจริงจริ๊ง ผมมีคุณคนเดียวก็พอแล้ว เนอะๆๆ”

“หัดรู้ตัวบ้างสิว่าตัวเองมีเสน่ห์ดึงดูดคนรอบข้างแค่ไหน นี่ไม่เคยเข้าใจตัวเองเลยหรือไงหื้มไอรัก”

“.....” ผมหน้าแดงซ่าน มันมาชมกันตรงๆแบบนี้ บอกตรงๆ อายโคตร

“ถ้าไม่รู้ตัว เกียร์จะทำให้ไอรักรู้เอง” มันว่าแล้วก็สอดมืออุ้มผมตัวลอยไปห้องนอน

“เฮ้ยคุณ เดี๋ยวๆ ผมตัวหนักนะ ปล่อยผมลงก่อน! เดี๋ยวมันตก ..คู๊ณณ”

“หนักอะไร ตัวเบาขนาดนี้ หืม” ว่าแล้วมันวางตัวผมลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล เกียร์กอดผมแน่นก่อนก้มลงพรมจูบไปทั่วหน้า ซุกไซร้ด้วยตอหนวดสร้างความเสียวซ่านและจั๊กจี้ไปพร้อมๆกัน แต่ผมยกมือปิดหน้าปิดตา หัวเราะเอิ้กอ้าก  มันยิ้ม ทำเป็นไม่สนใจ จับมือผมที่ปิดอยู่บนหน้าไปคล้องคอมัน ก่อนไซร้คอให้เป็นรอยแดงเพราะตอหนวดและแรงเม้มเบาๆ

“เดี๋ยวๆๆฮ่าๆๆ ..เดี๊ยววว ..เกียร์ฮ่า ฮ่า... โอ้ย เหนื่อยนะเนี่ยคุณ”

“หึหึ ไอ้แมวบ้าจี้”

“หยุดเลยคุณ ได้ยินหลายครั้งละ อะไรแมวๆ ผมต้องเป็นสิงโตเหอะ หล่อขนาดนี้” เดี๋ยวนะ ขอลิ้นห้อยแปบ กูยังหายใจจังหวะไม่สม่ำเสมอเลย พักยกแปบหนึ่ง แฮ่ะๆๆๆ

“แมวนั่นล่ะเหมาะที่สุดแล้ว” มันว่าแล้วก็จูบบนเปลือกตาทั้งสองข้างอย่างแผ่วเบา โดนอย่างนี้ไป เหมาะก็เหมาะครับที่รัก

“โทรหาเพื่อนแปบนึงนะ ห้านาที” มึงไม่ต้องบอกกูทุกอย่างก็ได้ ทำอย่างกับกูเป็นเมียจ้องจับผิดสามี ..เดี๋ยวนะ เมียจับผิด?? อย่างนี้ผมก็ต้องเป็นคนโดนทำมิดีมิร้ายสิ เอ้ยยยย

มันเดินออกไปคุยโทรศัพท์สักพักหนึ่ง ไม่ถึงสามนาที แล้วเดินเข้ามาง่วนอยู่กับโน้ตบุ๊คบนโต๊ะทำงานอยู่นาน แล้วโทรไปหาใครไม่รู้อีกรอบ

“ส่งให้ไปแล้ว ..เอาตามแบบที่ส่งให้แบบเป๊ะๆ ..ขอเป็นพรุ่งนี้..เออ” มันวางสาย โยนโทรศัพท์ทิ้งไว้ไหนสักที่หนึ่งแล้วล้มตัวนอนกอดผมที่ตาปรือๆอยู่บนเตียง

“ง่วงแล้วเหรอ”

“อือ..”

“นอนเถอะ พรุ่งนี้จะปลุกนะครับ” สัมผัสสุดท้ายแถวริมฝีปากก่อนดิ่งสู่ห้วงนิทรา



......................................................................




“ทำไมมันร้อนได้ใจอย่างนี้ล่ะนี่”ผมเริ่มบ่นทำหน้ายู่ยี่ พระเจ้าช่วย! นี่ผมเดินอยู่ที่อิรักหรือเปล่าวะ คนเยอะอย่างกับหนอน ไอ้ผมก็ใส่เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่สีดำของเกียร์ มันก็ดูดแสงอย่างเต็มที่เลยสิทีนี้ ไอ้ตอนจะใส่สีขาว มันก็ห้ามโน่นห้ามนี่ ว่ากลัวเหงื่อเปื้อนแล้วจะโป๊บ้าง ไม่สุภาพบ้าง สุภาพพ่อมึงสิ! ให้กูใส่ราชปะแตนมาเดินจตุจักรเลยไหม คิดถูกหรือคิดผิดวะที่มาที่นี่ ตอนแรกไอ้เรานึกว่าจะเดินสวีทวิ้ดวิ้วให้แช่มชื่นหัวใจ แต่นี่ไม่ใช่ชื่นหัวใจแล้ว นี่มันชื้นทั้งตัว!!

“หึหึ ปากเชิดถึงจมูกแล้ว ตัวเองอยากมาเองไม่ใช่เหรอ” มันพูดพร้อมลูบหัวผมอย่างเอ็นดู

“มันก็ใช่ครับ แต่ผมไม่คิดว่าเดินตอนเที่ยงมันจะร้อนขนาดนี้นี่นา” ปกติผมมาเดินตอนกลางคืนไง มันจะมีของถูกเยอะแยะเต็มไปหมด แล้วเที่ยวผับต่อแถวๆนั้นนั่นละ

“นั้นไปหาอะไรกินก่อนแล้วกัน” แล้วมันก็จูงผมมาร้านก๋วยเตี๋ยว ผมสั่งน้ำเย็นก่อนอย่างแรกเลย ฮ้า~ ชื่นใจ

“เดี๋ยวไปเดินดูโซนสัตว์ดีกว่าเนอะ” ผมหันไปเนอะๆตาแป๋วๆกับเกียร์ มันหยุดหัวเราะครืดออกมา

“แมวหน้าบึ้งตัวเมื่อกี้หายไปไหนแล้ว”

“อะไรอะ ก็มันเหนื่อยนี่นา คุณไม่เหนื่อยหรือไงครับ ว่าแต่คนอื่น ชิ”

“แค่นี้เอง ไม่เหนื่อยหรอก เหงื่อออกเฉยๆ มีแต่ไอ้แมวหน้าบึ้งตัวไหนไม่รู้ที่ชวนมานั่นละ”

“อะไร ใครๆๆ หน้าบึ้งอะไรครับ ดูด้วยรุ่นไหนแล้วไม่มีบึ้งเหอะ มั่วแล้ว บุยบุยย”

“หึหึ ไม่รู้สิ เห็นโดนน้ำเย็นหน่อยก็หายบึ้งไปซะงั้น”

“โอ้ยคุณ อยากกินข้าวเคล้าน้ำตาหรือไง” ผมมองค้อนใส่มัน เดี๋ยวนี้ปากกล้าขาแข็งมากๆนะครับไอ้ถึกร่างบึ้กนี่ เดี๋ยวเถอะมึง เดี๋ยวเถอะ แล้วยังมีหน้ามาหัวเราะอีกนะ ที่กูให้ค้อนไปนี่มึงไม่กลัวเลยใช่ไหม!!!! เดี๋ยวค้อนจริงจะทุบเข้าหัวมึง ระวังเถอะ

“เกียร์ๆ คุณว่าปลอกคอสีฟ้ากับสายจูงสีขาวสวยปะ” ผมหันไปถามคนข้างหลัง ตลอดทางที่เดินมา มันทำตัวติดผมอย่างกับเงา หน้านี่บึ้งยู่ยี่บู้บี้มากอะ ร้อนแทนผมแล้วหรือไง สมน้ำหน้า กร๊ากก แต่พอมองมาทางผมนี่ยิ้มหวานเชียว เป็นโรคเหรอวะ คือถ้าเดินขนาบกัน มันจะไม่แปลกนะ แต่นี่มันเล่นจับเอวผมจากด้านหลังทั้งสองข้าง เนื้อแทบจะแนบเนื้อกันอยู่แล้ว ตอนแรกผมก็อายอยู่หรอก แต่ตอนนี้.....กูร้อน!!!!!

“จะซื้อไปให้ไอหมอกเหรอ”

“เปล่าครับ”

“ไอแดด?” ผมยิ้มส่ายหน้า มันเลิกคิ้วขึ้น ประมาณว่า ‘หมาบ้านมึงมีสองตัวไม่ใช่เหรอวะ’

“ให้คุณอะ ก็คุณเล่นเดินแทบจะสิงผมอยู่แล้วนี่ กลัวผมหลงนักเหรอครับ ไม่ต้องห่วง ผมมีโทรศัพท์นะ”

“ไม่รู้ตัวเลยหรือไง” ผมทำหน้างงใส่มัน แต่มันหาได้สนใจไม่ กอดเอวดึงออกจากโซนสัตว์เลี้ยงไปร้านขายรองเท้าเท่ห์ๆ สเก๊ตบอร์ดตามสไตล์ฮิปฮอป

“ของได้ยัง” มันเดินเข้าไปถามผู้ชายวัยเดียวกับเราที่ยืนอยู่ตรงเคาเตอร์ แต่งตัวโคตรแหวกแนวเลย เสื้อตัวใหญ่ หมวกสีเจ็บ เจาะหูแบบไม่กลัวตายเลยทีเดียว คงจะเป็นเจ้าของร้านนี้ ว่าแต่เกียร์รู้จักคนแนวนี้ด้วยเหรอนี่ ขัดแย้งกับมึงอีกละ

“โหไอ้คุณเกียร์ค้าบบ มึงโทรมาสั่งเมื่อวาน เต่มาเอาของวันนี้ ถ้าร้านกูไม่เทพจริง และรัดคิวให้มึงไม่ได้...”

“ขอเนื้อๆ”

“เสร็จละ ไอสัดเอาไปเลย แล้วนึกยังไงถึงทำวะ ปกติไม่เห็นมึงสนใจห่าอะไร หรือไปตกหลุมรักใครเขาวะ ดูจากลายกูว่าใช่อะ ฮ่าๆๆ ....เฮ้ย จริงเหรอวะ เฮ้ยยย กูไม่เชื่ออะ หน้าอย่างมึง ใครวะผู้โชคร้าย” นายหมวกสีเจ็บหัวเราะค้างเมื่อเห็นมุมปากเกียร์กระดกขึ้นเล็กน้อยแล้วหันมามองผม

“เท่าไหร่” มันหันไปมองถุงกระดาษสีดำสนิทเพ้นท์โลโก้ชื่อร้านแบบอาร์ตๆ

“หกร้อยราคากันเอง เอ้ย ไอ้เกียร์! มึงตอบกูมาก่อนเลยไอ้สัด ไม่งั้นกูไม่ให้อะ”

“เออ! ก็อย่างที่มึงคิด เอามาได้แล้ว” มันตอบอย่างหัวเสีย นายหมวกสีเจ็บตอนนี้ค้างไปแล้ว ก่อนที่เกียร์เอื้อมไปหยิบถุงแล้ววางเงินอย่างเสร็จสรรพ

“มึงงงงง สรุปเขาคนนั้นเป็นใครนี่ กูเริ่มอยากรู้แล้วนะโว้ย ..อ้าวแล้วนี่มึงมากับเพื่อนเหรอวะ สวัสดีคร้าบบ ผมชื่อต้นนะ” มึงพึ่งเห็นกูว่างั้นเถอะ เจริญล่ะ

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมไอรัก” ผมยิ้มให้ต้นที่ตอนนี้กำลังหน้าแดงอ้าปากค้างชี้หน้าสั่น โดนเกียร์ตบหัวเสียงโคตรดัง หมวกหลุดเลยอะ แล้วมันเอาตัวบังผมกับต้นมิดในเวลาต่อมา

“โอ้ยย ..เฮ้ย เมื่อกี้กูใจเต้นแรงได้ไงวะ ไม่ๆๆ”

“ไอ้เหี้ยต้น!! มึงอยากโดนอีกรอบใช่ไหม หยุดคิดเดี๋ยวนี้!!”

“อะไรของมึง จะเสียงดังไปไหนวะ..ว่าแต่ไอรักรู้จักกิ๊กไอ้เกียร์รึเปล่าคร้าบบ กระผมโคตรอยากรู้ลยอะบอกหน่อยดิคนงาม” มันก็ไม่วายชะโงกตัวเข้ามาถามผมอีกนะ ผมหันไปมองไอกียร์

“ไอ้สัด! กูไม่ได้มีกิ๊ก ..เกียร์ไม่มีนะ” มันหันไปด่าแล้วรีบโบกไม้โบกมือให้ผมใหญ่ คือได้ข่าวผมยืนเฉยๆไม่ได้ทำอะไรเลยนะ

“ไอ้เกียร์ มึงมีอารมณ์ตกใจกับเขาด้วยเหรอวะ ปาฏิหาริย์บังเกิดในร้านกูแล้ว ฮึ่ยๆๆ” เกียร์ กูว่าเพื่อนมึงเริ่มสติเลอะเลือนแล้วล่ะ..

“ค-ย กูไปละ” มันลาเพื่อนอย่างอ่อนช้อยรีบคว้าถุงและจูงมือของผมออกจากร้านฮิปๆ



“เกียร์ๆ อยากกินอะ” ผมส่งตาวิบวับแล้วชี้ไปทางป้าคนหนึ่งที่กำลังหมุนถังไอติมที่มีหลอดเต็มไปหมด

“เอาสิ เอารสอะไรบ้างล่ะ” ผมเดินไปดูใกล้ๆ มีหลากหลายสีมากๆ

“อยากกินสีแดงกับสีเขียวอะครับ ไม่มีสีเหลืองเหรอเกียร์”

“????” เกียร์กับป้าหันมามองผม

“อยากจะกินแบบชาวเรกเก้สการ์อะ”

“..........เอ่อ แดงกับเขียวอย่างละสองครับป้า”



.....................................................................................



“ถึงซะที โซฟาๆ”ผมทำท่าจะกระโจนขึ้นโซฟา แต่โดนมือใหญ่รั้งเสียก่อน

“ไปล้างเท้าอาบน้ำก่อน”

“บู้ๆๆบู้ววววว”

“เดี๋ยวไว้เย็นๆไปห้องไอรักแล้วกันนะ”

“อ้าว...” พูดเสียงน้อยใจ มันเบื่อผมแล้วเหรอ วันเดียวเองนะ

“อ้าวอะไร ไปขนเสื้อกับของใช้มานี่ไง”อ๋อ กูใจเสียหมดไอ้คุณน้ำแข็ง

“คุณพูดเหมือนจะชวนผมหนีตามกันเลยนะครับ” ผมทำท่ากระมิดกระเมี้ยน จนมันอมยิ้มส่ายหน้า

“แล้วไม่ใช่หรือไง”

อั๊ยย๊ะ! ใช่ก็ใช่จ๊ะ



.......................




“มาแล้วๆ”

“อะไรเหรอ” ผมนั่งดูข่าวCNNอยู่สะดุ้งจำเป็นต้องเงยมองมันที่ตะโกนมาแต่ไกล

“เบ็นเท็นๆๆ เปลี่ยนให้เกียร์หน่อยๆ” อะ...ไอ้เหี้ยยย มึงแย่งกูเพื่อมาดูการ์ตูนเหรอครับ ไอ้สันฝานน

สุดท้ายผมก็ต้องนั่งดูเบ็นนาย เบ็นเท็นอะไรของมัน ฟังเสียงไอ้ตัวเอกช้งเช้งๆกับพักพวกเป็นยากล่อมให้เคลิ้มอย่างดีเยี่ยม ไม่นานคอเริ่มไหลเลื้อยลงเรื่อยๆ จนรู้สึกผ้าบางๆห่มให้อุ่นขึ้น กะจะเงยขึ้นมาขอบคุณแต่หนังตาตอนนี้มันไม่ไหวจะถ่าง ประสาทเริ่มปิดการรับรู้ นอนนานไปเท่าไรไม่รู้ จนได้ยินเสียงออดกับคนพูด ผมปิดตาหลับแหล่ไม่หลับแหล่อีกรอบแต่ยังได้ยินเสียงแว่วๆ


“ไฮ~ ไอ้เชี่ยเกียร์”

“ชู่วว”

“ชู่อะไรของมึ๊งง เห็นหน้ากูเป็นทิชชู่ว่างั้น กร๊ากกก”

“เบาๆ มาทำไมกันเยอะแยะ”

“ไม่เยอะอะ คนเท่าเดิม ขอเข้าห้องก่อน แมร่งเจ้าของห้องต้อนรับพวกกูดีฉิบหาย ให้บ่นอยู่หน้าห้อง”

“สัด! เสียงเบาๆหน่อย มีคนนอนอยู่”

“ใครวะ .. อ้าวเฮ้ยมาไงวะน่ะ”เสียงกระซิบลง

“พวกมึงสิ มาได้ยังไง” น่ารำคาญฉิบ! ผมพลิกตัวจากนอนหันหน้าออกจากโซฟาเป็นนอนหงาย

“ผ้าห่มเริ่มร่นอะ”

“ไอ้สัด!!เอามือออกไปเลยไอ้โฟ่ กูทำเอง”ผมรู้สึกเหมือนมีคนจับห่มจนถึงคออย่างนุ่มนวล

“..อะ ไอ้เหี้ย เมื่อกี้กูเหมือนเห็นแบล็คกราวน์สีชมพูยังไงไม่รู้อะไอ้มัด”

“คิดเหมือนกูเลย บีสอง”

“บีสองพ่อง! กูบีหนึ่งโว้ย”

“เชี่ยเสียงดังพวกมึงออกไปจากห้องกูเลย”

“เออกูกะจะชวนมึงไปแดกเหล้าเสียหน่อยคืนนี้ เปรี้ยวปาก”

“กูเห็นมึงเปรี้ยวทุกวัน คงไม่ไปอะ ไอรักอยู่”

“สัด! พูดอย่างกับเจ้าชายเป็นเมีย กลัวเมียว่างั้น ฮ่าๆๆ พาเจ้าชายไปด้วยดิ”

“เดี๋ยวไว้ค่อยถาม พวกมึงไปได้แล้ว ไปๆๆ”



[ต่อด้านล่าง]
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ ตอนที่11 P.3 12/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 12-12-2012 01:08:31
[ต่อจากด้านบน]



“ตื่นแล้วเหรอไอ้แมวหัวยุ่ง” ผมลุกขึ้นออกจากห้องหัวฟูงัวเงีย นี่กูอยู่ในห้องนอนได้ไงนี่ จำได้ว่าเมื่อกี้นอนโซฟา

“งือ.. ทำอะไรอยู่เหรอครับ” ผมขยี้ตาแล้วเดินเข้าไปนั่งข้างมันที่มันกำลังเล่นโน๊ตบุ๊คบนโซฟา มือเกี่ยวเอวผมแล้วดึงเข้ามาหอมหัวฟูๆก่อนหนึ่งฟอด

“หึหึ ทำงานอยู่ครับ พรุ่งนี้พรีเซนต์แต่เช้า หิวหรือยัง”

“งืมๆๆ นิดหน่อยครับ”

“เดี๋ยวนะ ..อ่ะ” มันหยิบบางอย่างออกจากถุงร้านของต้น เป็นCaseไอโฟนสีดำทั้งสองอันมีรูปแมวยืนยิ้มน่ารักอยู่ตรงกลาง ตัวไม่เล็กไม่ใหญ่ กำลังถือก้อนน้ำแข็งที่กำลังละลายในมือ ด้านข้างของเท้าแมวมีน้ำเอ่อนองนิดหน่อย อันหนึ่งเขียนด้านขวาล่างว่า ♥rukGEAR ส่วนอีกอันเขียนด้านซ้ายล่างว่า gearRUK♥ ตัวอักษรสีเทา ส่วนรูปหัวใจเป็นสีแดง ตามสไตล์ผู้ชายเรียบง่าย

“ให้ผมเหรอ” ผมพูดน้ำเสียงดีใจอย่างปิดไม่มิด ทำตาวิบวับ มันน่ารักกุ๊กกิ๊กมากเลยครับ ผมไม่คิดว่ามันจะใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆขนาดนี้  แล้วที่สำคัญผมมันเป็นของฟรีโว้ย วะฮ่าๆๆๆ

"อืม ชอบหรือเปล่า" มันพูดแล้วหยิบโทรศัพท์ผมขึ้นมาเปลี่ยนให้เสร็จสรรพ ของไอรักเป็น gearRUK♥ น่ารักที่สุด!

“ผมชอบเรียบๆแบบนี้ล่ะ น่ารักมากๆเลยอะคุณ ขอบคุณนะครับน้ำแข็ง>w< ”ผมทำหน้าแบบนั้นเลย แล้วกอดคนตรงหน้าแน่นๆแทนคำขอบคุณ โคตรดีใจอะ คุณน้ำแข็งทำให้

“หึหึ น้ำแข็งมันละลายไปตั้งแต่เห็นรอยยิ้มไอรักแล้วล่ะ”




“คืนนี้ไอ้พัตชวนไปกินเหล้า ไม่ต้องไปดีกว่าเนอะ”

“อ้าว เพื่อนคุณชวนไม่ใช่เหรอ จะไปก็ได้นะ”

“ไม่อะ เดี๋ยวต้องไปเอาเสื้อที่ห้องด้วยนิ”

“ไม่เป็นไรเกียร์ ผมไปเอาคนเดียวก็...”

“ไม่ สรุปไม่ไป ตกลงตามนี้” คำตอบมีเพียงหนึ่งเดียว...

“ครับ”






“เอาเสื้อไปให้หมดเลย”

“เอ่อ เกียร์กะจะไม่ให้ผมกลับมาที่นี่เลยใช่ไหม”

“ก็ต้องเป็นอย่างนั้นสิ” แล้วพี่กูจะเสียเงินซื้อให้ทำไมตั้งหลายล้าน ไอ้จวยย

“-3-”

“ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นเลย ล้อเล่นน่า เอาไปเท่านั้นก็ได้ ไว้ค่อยซื้อใหม่ แล้วครีมอะไรเยอะแยะไปหมด ต้องเอาไปหมดหรือเปล่า”

“ทั้งหมดเลยครับ” ความจริงพี่ติมเป็นคนปลูกฝังให้ผมทาคงทาครีม หาวิตามินให้กินสารพัด จากที่ผมเกลียด กลั้นใจทาๆกินๆอะไรพวกนี้ จนตอนนี้ทำจนเคยชินแล้วครับ


ผมกับมันช่วยกันขนของเข้าและจัดห้องมันใหม่จนเสร็จ จากโต๊ะเครื่องแป้งโล่งๆของมัน ที่มีโรลออน ครีมทาตัวที่รู้สึกเจ้าตัวไม่เคยแตะมันเลย ตอนนี้กลายเป็นแน่นเอี๊ยด หาที่วางหวีแทบไม่เจอ ครีมบำรุงหน้าแทบจะขี่วิตามินซีกันเลยทีเดียว ตู้เสื้อผ้าจากที่มีช่องว่างให้แต่ละตัวหายใจ แต่ตอนนี้กลายเป็นแย่งออกซิเจนแบบกลัวตาย ผมหันไปยิ้มแหะๆให้เจ้าของห้อง(ที่ตอนนี้ไม่รู้ใครควรเป็นเจ้าของมากกว่ากัน) ช่างน่าสงสารเสียจริงเอย มุมนั้นคือพื้นที่เล็กๆของเจ้าใช่ไหม โถพ่อคุณ....

“ไปกินข้าวข้างนอกแล้วกัน”เห็นด้วยอย่างแรง ดูท่ามันจะเหนื่อย คือถึงผมจะบอกว่า เราช่วยกันจัด แต่ความจริงแล้ว เหมือนมันจะทำคนเดียวมากกว่า ผมแค่จัดบนโต๊ะเครื่องแป้งแค่นั้นเองน่ะ แฮะๆๆ

“บะหมี่เกี๊ยวน้ำสาม น้ำแข็งสอง น้ำเปล่าหนึ่ง ...กินได้แน่นะไอรัก” ตอนนี้ผมนั่งอยู่ร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทาง

“แค่คุณสั่งให้ ผมก็กินได้อยู่แล้ว หมูๆ” ว่าแล้วก็ยืนอกตบดังปึกๆ พร้อมยกคิ้วให้แบบที่(คิดว่า)เท่ห์ที่สุด จนคนตรงข้ามหลับหูหลับตาหัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตาย

“ฮ่าๆๆ ..เกี๊ยวกุ้ง ไม่ใช่เกี๊ยวหมู” นี่มึงจะกวนตีนกูใช่ม้ายยยย ฟัคยู!!

“อิ่มจังตังค์อยู่ครบ วู้วว” ผมเดินลูบท้องก่อนขึ้นมอเตอร์ไซค์ ตอนผมถามว่าทำไมไม่เอารถของผมไป มันบอกไม่ชอบขับรถเก๋ง อยากให้ผมเป็นสก๊อยซ้อนแว๊นอย่างมัน แบบนี้อบอุ่นกว่า โถๆๆ พ่อคนอบอุ่นดั่งดวงอาทิตย์ แต่ผมก็เริ่มชินกับรถมันแล้วนะ แนบชิดดี อิอิ

“แน่นอนสิครับคุณชาย มาก็มารถเกียร์ กินก็กินเงินเกียร์ กลับก็เกาะล้อรถเกียร์อีกต่างหาก ได้เปรียบจริงๆ” เกียร์พูดแหย่

“อะไรครับ แค่นี้ทำให้ไม่ได้ใช่ไหม โอเค้ จะได้จำไว้” ผมแกล้งหน้าบึ้งใส่

“ล้อเล่นนะครับ รถคันนี้ให้ซ้อนได้คนเดียวเท่านั้น กระเป๋าตังค์เอาไปเลยก็ได้ ให้ทั้งตัวเลยแมวขี้น้อยใจ” มันทำท่าจะกอด แต่ผมยันมือเอาไว้ จะบ้าเหรอ!! คนอย่างกับแย้ลงรู มารุ่มร่ามได้ไง ไอรักก็รักนวลสงวนตัวนะครับ

“หยุดเลยเกียร์ หันกลับไปขับดีๆได้แล้วครับ”

“หึหึ นึกว่าชอบ”

“นี่คุณ ไม่จบอีกเหรอ จิ๊!” ผมตีบนเอวมันเบาๆ ไม่กล้าทำมันเจ็บอะ ถ้ามันหันเอางวงฟาดหน้าทำไงล่ะ ไอรักตายคามอไซค์สิครับ

“ครับๆจบก็จบ พรุ่งนี้มีเรียนเช้าเหมือนกันใช่ไหม”

“อ๋อใช่ๆ รู้ได้ไงอะ”

“จำได้” น่านนน ไม่ธรรมดานะโว้ยผู้ชายคนนี้ ผมสวมกอด อบอุ่นอย่างที่มันว่าจริงแฮะ ทั้งๆที่ลมตีหน้า หัวแทบเถิก


......................................................................


“ไอรัก”

“ครับ”

“ไอครับ”

“ว่าไงครับ”

“จะนอนหรือยังอะ”

“แปบนึงนะครับ”

“................เสร็จหรือยังอะ”

“ใกล้แล้วครับ แปบนึงๆ”

“.........”

“……….”

“เสร็จยัง”

“อีกนิดหนึ่งครับ”

“เร็วๆสิ”

โอ้ยยยยยยย บักเหียกกกกก

อย่าพึ่งคิดไปไกลกันนะครับ ตอนนี้ผมกำลังทาสารพัดครีมตรงหน้า มันอาบน้ำทีหลังผมนะ แต่ตอนนี้ไปนอนตีพุงรออยู่บนเตียงละ แล้วมีหน้ามาเร่งคนอื่นด้วยนะ ได้ข่าวจู๋มึงไม่ได้ติดกับกะปู๋กูเลยสักกะติ๊ดดด

“ไอรักมานอนได้แล้ว” ฉิบหาย น้ำเสียงเริ่มแข็งเหมือนหน้าตาแล้ว

“ครับๆๆ” ผมรีบเดินไปนอนอีกฟากหนึ่ง แต่ไม่วายโดนคนข้างๆดึงตัวปลิวมาซุกในอ้อมกอดแกร่งหอมหน้าผาก แก้ม ลามไปถึงริมฝีปากเหมือนเคย แล้วเอ่ยมนต์สะกดให้เป็นจริงดั่งปาฏิหาริย์

“นอนเถอะ ฝันดีนะครับ”

....................................................................................



“ไม่จริ๊งงงงงงงงงงงงงงงง” เสียงชายโฉดผู้หนึ่งนามว่าชายคิมตะโกนออกมาสุดเสียง โต๊ะนี้จึงเป็นที่สนใจ(มากกว่าเดิม)

“จริง”

“โอยย ลมจะจับ” ไอ้เนมเอนตัวทำท่าจะสลบไปทางไอ้คลื่น แต่มันลุกขึ้นหนีพอดี มึงวืดเลย กร๊ากกก

“กูว่าละ คำสันนิฐานไอ้ไทป์แมร่งไม่เคยผิด ยิ่งกว่าเจ้าแม่แม่นดวง”ไอ้พิชเอ่ยปากชมคุณชายไทป์ที่นั่งท่องหนังสือเชี่ยไรไม่รู้หนาฉิบ ปากขมุบขมิบไม่สนใจใครทั้งสิ้น นี่ถ้าพวกเมียน้อยเมียหลวงเห็นมันเป็นเด็กเนิร์ดเอ๋อแดกขนาดนี้ จะขอเลิกมันไหมนี่

“สรุปกูต้องยินดียินงามกับมึงด้วยใช่ไหมวะ”ก็เออสิไอ้ห่า กูรักของกูขนาดนี้

“เออดิ มันน่ารักนะโว้ยมึง นิสัยดีด้วย มึงอย่าอคติสีหน้ามันดิ”

“ถุยย ไอ้สาดดด น่ารักกับมึงคนเดียวดิ แมร่งมองคนอื่นอย่างกับจะแช่แข็งเขา มองกูอย่างกับจะจับกูไปฆ่าทิ้ง หน้าแมร่งโคตรเย็นชาเลย กูไม่อคติเหอะ แมร่งเรื่องจริง กร๊ากก”

“มึงอะ ไม่รู้อะไรแล้วมาพูด จิ๊!” ผมล่ะอยากจะเดินไปตบกระบาลไอ้เนมเน้นๆเสียเหลือเกินแมร่ง ผมรู้ว่ามันไม่ได้กีดกันอะไรหรอก ถึงจะไม่ชอบขี้หน้าเกียร์ แต่พวกมันก็เป็นคนที่เข้าใจผมที่สุดรองจากครอบครัว คาบเมื่อเช้าอาจารย์ปล่อยไว ผมเลยส่งไลน์ไปทักทายเดอะแก๊งค์ กะจะนัดเจอคุยกันนิดๆหน่อยๆเสียหน่อย แล้วเป็นไงล่ะ ยาวเลย ยาวตลอดด

- I wanna be your everything, I want to be the one you need ..ปิ๊บบ-

“ถุยยยยย อยากจะเป็นทุกอย่าง อยากจะเป็นคนเดียวที่เกียร์ต้องการ ถุยยยยยย” เชี่ยยยย คุณเกียร์ได้ยินแน่ๆ ไอ้พวกเวร!

“สวัสดีครับ เลิกแล้วเหรอ”

‘อืม อยู่กับเพื่อนเหรอ’

“ครับ พอดีอาจารย์ปล่อยเร็ว เลยมาเจอมันใต้ตึกคณะนิติ” ‘มีการบอกพิกงพิกัดเว้ยเฮ้ยเดี๋ยวนี้ ฮิ้ววววว’ ไอ้เชี่ยเนมไม่จบ

‘ไปหา..ได้ไหม’โอ้มายกอด ถ้าจอร์ชจะทำเสียงอ้อนใส่ซาร่าขนาดนี้แล้วล่ะก็ ไม่ต้องถามครับ ไม่ต้องถามรู้ๆคำตอบกันอยู่

“ได้สิ ...จะรอนะ”

‘หึหึ ครับ’


“มีการจะลงจะรอด้วยโว้ยย พัฒนาแบบก้าวกระโดดมากความสัมพันธ์พวกมึง” ไอ้เนมเบะปากใส่ แบบหน้าตาอ้อน(ตีน)มากครับ

“ไอ้ห่า ตอนแรกไอ้รักเดินตามติดต้อยๆอย่างกับเห็บ แต่มาตอนนี้แมร่งดันมาหาเช้าถึง เย็นถึงขนาดนี้ กูถามจริงเหอะ มึงไปเล่นของมาใช่ไหม”ไหนๆไอ้คลื่นก็ทำ(เป็น)จริงจังแล้ว เล่นกับมันหน่อยแล้วกัน

“เออดิ พึ่งรู้เหรอ” พวกมันหันมาควับ แม้แต่ไอ้บอสที่นั่งปอกส้มให้ไอ้คลื่นกินอย่างสุขใจ กับไอ้ไทป์ที่นั่งท่องคาถากลัวเมีย เอ้ยหนังสืออะไรของมันนั่นละ

“เฮ้ย พูดจริงพูดเล่น”

“จริง ตำหนักเจ้าแม่ขุนไชยชาญ”

“ทำไมกูไม่เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามเลยวะ แต่ศักดิ์สิทธิ์แน่เลยว่ะ แมร่งกูถึงได้ว่า ทำไมไอ้เกียร์มันถึงสยบขนาดนั้น” กูจะสงสารหรือสมน้ำหน้าดีวะ หน้าพวกมึงจริงจังมาก แล้วมีหน้ามามองผมแบบระแวงนิดๆอีกนะ เดี๋ยวถีบยอดกระดุมเสื้อเลยนิ

“เออดิ แล้วกูจะบอกอะไรอย่าง แบบความลับมากๆอะ” ผมทำท่ากระซิบเบาๆกลางวง ให้พวกแมร่งยื่นหน้าเข้ามาใกล้

“....อะไรวะ....”

“พวกมึง...........โง่เชื่อกูเหรอวะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆผั๊วะ ..โอ้ยย” ช่วยด้วยค้าบบ ไอรักโดนรุมสะกำหลากหลายไซส์ตีนเหลือเกิน โอ้ย หัวใจผมเดาะ

“ทำอะไรน่ะ” เสียงเข้มดังขึ้นจากข้างหลังทำให้พวกผมต้องไปมอง

“อะ อ้าว มาแล้วเหรอครับ”

“จะทำอะไรไอรัก!” มันคิ้วขมวดมองไอ้คลื่นที่กำข้อมือผมอยู่ คนอื่นมุงจะเข้ามาทำร้ายแต่ยังไม่ถึงตัว ส่วนไอ้เนมที่คล่อมจับตัวผมไว้แน่นด้วยท่าทางที่...ช่างล่อแหลมเสียเหลือเกิน .....ตายห่า....

“เอ่อ เปล๊า เราเล่นกันเฉยๆใช่ไหมๆๆไอ้คิม” เนม กูว่ามึงไม่ทันแล้วล่ะ... ผมโดนกระชาก(กระแทก)เข้ากับอกแน่นๆของมัน หืมม.. ชื่นใจ เอ้ย ไม่ใช่อารมณ์หื่นนะโว้ยตื่นเลยไอรัก ตื่นนนน

“เล่นกันจริงๆครับ เพื่อนๆผมทั้งนั้น ไปกินข้าวกันดีกว่าเนอะเกียร์ เนอะพวกมึงเนอะๆๆ” พวกมัน(ยกเว้นไทป์ที่นั่งอ่านหนังสือต่อกับไอ้พิชที่มองสถานการณ์ตาปริบๆ และไอ้บอสยืนหน้าโหดเหมือนเดิม) พยักหน้ารัวยิ่งกว่ากลองวงร็อค เกียร์มองผมพักหนึ่ง ก่อนปั้นตาดุใส่ไอ้พวกนั้น แล้วกอดผมแน่นขึ้นกว่าเก่า แอ่ก .. กูจะตายก็เพราะแขนปลาหมึกมึงนี่ละ

“ทีหน้าไม่เล่นแบบนี้แล้วนะ ..เจ็บมากไหม” มันหันมาหน้าบึ้งเป็นตูดกระรอก แล้วพลิกข้อมือขึ้นแดงเป็นแถบกลับไปมา เห็นข้อมือกูเป็นปลานีโมพันธุ์ใหม่หรือไงวะ

“ไม่เป็นไรหรอก แค่แดงๆเอง ปกติพวกผมก็เล่นมวยปล้ำด้วยกันบ่อยๆ” นี่ผมพูดอะไรผิดไปเหรอ มึงถึงได้ตีหน้าแอ๊บบูดขนาดนั้น

“ทำไมไม่รู้จักระวังตัวเองบ้าง หื้ม” มันยกมือจับผมที่แยงตาทัดหู ก่อนเอี้ยวตัวไปปัดฝุ่นที่เปื้อนแถวกางเกงด้านหลังให้ เอ้ยยย จะอ่อนโยนไปแล้ว มึงไม่เห็นกูยืนหน้าไหม้เกรียมเลยใช่ไหม แล้วช่วยสำเหนียกตัวเองสักนิดเลยสินิดหนึ่งได้ไหมว่าตอนนี้เราอยู่ในพื้นที่สาธารณะนะโว้ย ผมรีบหันซ้ายหันขวามองเพื่อนเวรที่(แอ๊บ) อ่านหนังสือกับไอ้ไทป์(กูอยากถามว่ามึงเข้าใจกับมันเหรอ) เล่นโทรศัพท์บ้าง ถ่ายรูปเล่นบ้าง แคะขี้เล็บบ้าง ห่า ทำเป็นเก๊กหน้าขรึม ไม่สนใจ แต่กูรู้ว่าพวกมึงแอบหูผึ่งกันใช่ไหม!!!!

“แฮะๆ”

“ต่อไปห้ามเล่นแบบนี้อีก เข้าใจไหม” คือประโยคคำสั่งมากกว่าขอร้องสินะ ผมคงตอบอะไรไม่ได้นอกจาก ...

“จ๊ะ”



“กูอยากกินราเมน ฮาจิบัง โอเปล่า” ไอ้คิมพูดขณะที่เราอยู่โซนร้านอาหาร แปลกเนอะ ทั้งๆที่มีเรียนคาบบ่าย แต่วัยรุ่นแบบผมเป็นห่าบ้าตายอะไรไม่รู้ ต้องถ่อมากินในห้าง ทั้งๆที่โรงอาหารก็มีนะ

“แต่กูอยากกินสปาเก็ตตี้” ไอ้พิชค้านขึ้น

“กูอยากกินซิสเลอร์” ไอ้บอสตามมา

“แต่กูอยากกินอาหารไทย” ไอ้เนมไม่ยอมยกธงขาว

“กูอยากกินเหมือนไอ้บอส” ไอ้คลื่นตอบพร้อมหันไปส่งซิกกับไอ้บอส ไอ้เห็บกับหมัด เข้าขากันอีกละ

“สองเสียง หึหึ”

“แยกแดกจบ” สิ้นเสียงไอ้ไทป์ ทุกคนหันมามอง อะไรของมึ๊งง แล้วจะมาด้วยกันทำหอกหักอะไรวะ ไอ้หนอนหนังสือป่วย

“โอน้อยออกดิ” ทุกคนที่หันมามองไอ้ไทป์เมื่อกี้เปลี่ยนพิกัดมามองไอ้เกียร์พรึบ! วิธีมึงแอ๊บขัดแย้งกับหน้าตามึงอีกแล้ว แต่พอดีผมรู้ก่อนพวกมัน ว่าเกียร์ซ่อนความเด็กน้อยขนาดไหน จึงไม่ได้ตกใจ แถมพยักหน้าให้โอน้อยออกตามน้ำมันไป คิดดูว่าผู้ชายร่างถึกแปดคนยืนโอน้อยออกหน้าตู้กดเงินสีม่วง ช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจที่สุด

“โอ น้อยยยย อ๊อก! น้อย ออก! น้อยย ออก! … โอ น้อยยย ออก!!”  สรุป ผมชนะ วิน!!!!!!!! ..กินอะไรดีวะ

“ไอ้มดคันไฟ ไอ้กาน้ำร้อนลวก ไอ้แผลพุพอง ไอ้เป็นหนอง ไอ้ผิวหนังอักเสบ ไอ้เย็นเตร๊กซ์ มึงจะชนะกูทุกเรื่องเลยใช่ไหม!!” เรื่องของมึง กูไม่สนคำชมจากใจ(?) ผมหันไปถามเกียร์ที่ยืน.......นิ่งๆ ผ่อนลมหายใจ.....นิ่งๆ...... มองผม......นิ่งๆ...... สวัสดีครับจ่าเฉย

“เกียร์อยากกินอะไรเหรอ” มันกวักมือ ทำมือป้องหู มึงต้องกระซิบบอกชื่อร้านเชียว ลึกลับๆ ผมเงยหน้าขึ้น เอี้ยวหูเข้าไปใกล้ มันก้มลงมากระซิบบอก



“อยากกินไข่เจียวไอรักแบบฟูๆอะ”อ้ายเหรี้ยยยยยยยยยยยยย


“แดกอาหารฝรั่งจบ!”



TBC---------------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>



ไอร๊ากกกกกกกกก♥



(http://upic.me/i/32/robbiewadge36.jpg)

(http://upic.me/i/1f/robbiewadge39.jpg)




เกียร์♥

(http://24.media.tumblr.com/tumblr_lm8sgtUCWK1qfi41uo1_500.jpg)

(http://www.tumblr.com/photo/1280/oursean/2460082765/1/tumblr_lduxu0ODWI1qdyt9f)
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ ตอนที่11 P.3 12/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 12-12-2012 11:53:53
เกียร์น่ารักที่สุดอ่า โอ้ยยๆ ละลายยยย ~ :กอด1: :กอด1:

 :m25: :m25: :m25: :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ ตอนที่11 P.3 12/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 12-12-2012 17:40:05
 :jul1: :jul1:
 :m25: :m25:
ตาคาคอม น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ ตอนที่11 P.3 12/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: yokerohz ที่ 12-12-2012 19:51:53
น่ารักสุดสุด

 :impress2:

 o13 o13
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ ตอนที่11 P.3 12/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: TAYJae1108 ที่ 14-12-2012 18:07:15
ชอบเรื่องนี้ ><

เนื้อเรื่องน่ารักดีคะ จะรอตอนต่อไปนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ ตอนที่11 P.3 12/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: IRIS ที่ 15-12-2012 02:29:18
พอคบกันแล้วหวานมาก เกียร์น่ารักมากเลย..
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ ตอนที่11 P.3 12/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 15-12-2012 12:41:08
ตลกตรงมายืนโอน้อยออกนี่แหล่ะ555555555 จะฮาไปไหนเนี่ย

เกียร์ไม่ห่างไอรักเลยนะจ๊ะ แหม ตอนนั้นไล่เขาไปใหญ่ อิฉันจิบ้า

ป.ล. รูปที่มาแปะ ไอรักน่ารักเวอร์!!!!!!!!  :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ ตอนที่11 P.3 12/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 15-12-2012 21:23:50
น่ารักวุ้ยเรื่องนี้   :-[

แต่คำบรรยาย  บางทียังงงๆอยู่
ว่าตรงไหนใครพูด ตรงไหนเป็นความคิดของใคร    เลยสับสนบางช่วงน่ะจ้ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ ตอนที่11 P.3 12/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 16-12-2012 02:42:31
เพิ่งเข้ามาอ่าน

สนุกอ่ะ  o13

ชอบบบบบบ เขินมากด้วยยย :-[

ปล.อิมเมจไอรักสุดยอดดดดดดดดด กรี๊ดให้เลย มันใช่อ่ะ
     อิมเมจเกียร์แซ่บเวอร์  :z1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ ตอนที่11 P.3 12/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 16-12-2012 12:36:52
สวัสดีค่า เข้ามาทักทาย บวกให้กับทุกคนแล้วนะคะ

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์เป็นกำลังใจให้นักเขียนแต่งต่อ เรื่องติชม จะพยายามแก้ให้ดีที่สุดนะคะ  :กอด1:

ส่วนเรื่องนี้จะเป็นเรื่องยาว หวานบ้าง เศร้าบ้าง ฮาบ้างตามอารมณ์นักเขียน ฮ่าๆๆๆ

ปีใหม่นี้มีสอบหลายตัว เครียดหัวแทบฟู แต่ถ้ามาต่อได้จะพยายามปลีกตัวมาอัพให้นะคะ

แล้วเจอกันใหม่ค่า เลิฟยูทุกคน :oni2:



เอ้า แถมเจ้าชายกับน้ำแข็งอีกสักหน่อย หึหึ

(http://1.bp.blogspot.com/_MwuTWTSe3ZI/SycMFcG6jGI/AAAAAAAAHmY/JBcfSGk42r4/s400/tumblr_kuj07uGsLS1qao0izo1_500.jpg)

(http://lh6.ggpht.com/_o-YYWem_k_g/TAOVgjEsSTI/AAAAAAAAFx8/QeavLhdzIig/RW01.jpg)

(http://www.vincent-ko.com/wp-content/uploads/2011/11/Sean-OPry-Viktor-Rolf-Spicebomb-01-290x290.jpg)

(http://data.whicdn.com/images/14881995/Portrait-Model-Sean-O-Pry-for-7th-Man1_large.jpg)

(http://img1.bdbphotos.com/images/orig/f/k/fkaonmvizfmikfof.jpg)
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ ตอนที่11 P.3 12/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 16-12-2012 16:22:16
อิมเมจไอรักยิ้มน่ารักมากเลยค่ะ ตรงตามคาแล็คเตอร์สุดๆ

เกียร์นี่ก็แฮนด์ซั่มเวอร์ ชายกล้ามปู อิอิอิ

เป็นกำลังใจให้นะคะ ^___^
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน [ ตอนที่12 P.4 19/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 19-12-2012 14:16:38
ตอนที่12


“เอาล่ะ โปรเจคเทอมนี้จะให้นิสิตทุกกลุ่ม กลุ่มละไม่เกินสิบคน ทำการวิจัยเชิงคุณภาพหรือเชิงปริมาณก็ตามแต่ โดยสำรวจหรือสัมภาษณ์จริงและวิเคราะห์ออกมาตามทฤษฎีที่ได้สอน ให้เวลาปรึกษาเรื่องหัวข้อการวิจัยครั้งนี้กับเพื่อนในกลุ่มเป็นเวลาสิบนาที ..จับเวลา” อาจารย์พูดจบ เสียงฮือฮาดังขึ้นทั่วห้องเรียนรวม

“แม่กูทารุณกูอีกแล้ว โปรเจคใหญ่ขนาดนี้ ให้เวลากูคิดหัวข้อสิบนาที เจริญล่ะยัยหัวม่วง”คิมบ่นหัวหมุน แอบส่งสายตาด่าทออาจารย์หน้าห้องจากมุมอับ ตอนนี้ผมเรียนกับพวกเดอะแก๊งค์ เป็นวิชาหลักของมหาลัยที่ทุกคนต้องเจอ พวกผมเลยลงเซคเดียวกัน จะได้เรียนด้วยกันสักวิชาหนึ่งก็ยังดี

“กูว่าเกี่ยวกับด้านวัฒนธรรมดีเปล่า” คลื่นเสนอขึ้น

“การใช้เทคโนโลยีของคนเมืองก็มาแรงวะ กูโคตรเวียนหัวตอนเห็นคนเดินไปกดโทรศัพท์ไปฉิบ” คู่หูเห็บหมัดของไอ้คลื่นเสนอต่อ

“โอมจงเงย”

“แต่แล้วเธอก็ไม่มอง แล้วเธอก็ไม่มา ก้มหน้าก้มตาละเลงนิ้วมือลงบนเครื่องนั้น” มันมาเป็นเพลงกันเลยทีเดียว

“พี่แสตมป์มาเต็ม”

“กลับเข้าเรื่องเดิมด่วน” ไอ้ไทป์ตบกระบาลน้องเนมกับน้องคิมท่วงท่าคลับคล้ายเฟเดอเรอร์กำลังหวดลูกเทนนิส

“สิ่งแวดล้อมในชุมชนเป็นไง”

“เออกูว่าของไอ้พิชอันนี้น่าสน แล้วจะไปไหนดีวะ” คิมถามต่อ

“ชุมชนในจังหวัดระยองดิ โรงงานตรึม พอเก็บข้อมูลเสร็จก็เที่ยวกันเลยไง หึ”บอสพูดขึ้นพร้อมหันไปหาคลื่น บ้านไอ้คลื่นมีรีสอร์ตอยู่ที่นั่นพอดี พ่อมันสนิทกับแม่ผมเพราะทำงานวงการเดียวกัน แต่แม่ผมไม่มีแถวระยอง เลยเป็นมิตรกัน ฮ่าๆ ส่วนรุ่นลูก (ผมกับไอ้คลื่น) พึ่งจะมารู้จักกันตอนเข้ามหาลัยอย่างที่เคยบอกไป

“จัดไปดิ~ ”ไอ้คลื่นระริกระรี้วิ่งไปเขียนชื่อหัวข้อกับอาจารย์

“ค่ะ ทุกกลุ่มลงชื่อกันเสร็จเรียบร้อยแล้วนะคะ ดิฉันให้เวลาเดือนครึ่งในการทำโปรเจคชิ้นนี้ อย่างไรก็ตาม คนที่ทำตามต่างจังหวัดก็เอาตัวเองกลับมาครบสามสิบสองด้วยล่ะ วันนี้พอแค่นี้ก่อน สวัสดีค่ะนิสิตที่น่ารักน่า‘ชัง’ทุกคน” อาจารย์ผมสีม่วงแดงขยับแว่นแล้วยิ้มชนิดโคตรพิฆาตให้คนในห้องขนหัวลุกเป็นทั่วกัน

“กูขอโด๊ปนมช็อคด่วนๆเลยแมร่ง” ผมกับเพื่อนรีบก้าวออกจากห้องมุ่งหน้าไปโรงอาหารรวมที่ใกล้ที่สุด ก่อนที่มันจะไม่มีที่ให้ได้จับจอง เพราะโรงอาหารรวมคนเยอะมากๆ


-   The other night, you wouldn't believe the dream I just had about you and me.. ปี๊บ -


“จ๋า ตัวเอง” แหม่ กำลังคิดถึงอยู่พอดี ขอหวาน ให้พอโรแมนติกหน่อย ‘อ้วกกกก .....’ ถ้าไม่ตามด้วยเสียงจัญไรพวกนี้

‘หึหึ เลิกยังตัวเอง’ หูยยย รับมุขด้วยแฮะ ถ้าคนอื่นได้ยินคงตะลึกตึงๆ

“เลิกเมื่อตะกี้เลยครับบ กำลังจะไปทานข้าวที่โรงฯรวม แล้วนี่ตื่นนานหรือยัง ทานข้าวได้แล้วนะตัวเอง” วันนี้มันไม่มีเรียน แต่ยังสะลึมสะลือตื่นมาส่งผมได้ด้วยนะ ส่งเสร็จก็กลับไปนอนอีกรอบ ตอนแรกผมบอกไม่ต้องไปส่งหรอก เพราะกลัวจะไม่ถึงทั้งคู่ ก็ตามันแทบจะปิดอยู่ทุกนาที แต่มันยืนยันนอนยันตะแคงยันจะมาส่ง ผมก็ต้องพยักหน้าเออออกับมันไปตามระเบียบ

‘อืม ตื่นได้สักพักแล้ว ไอ้เนกับไอ้พัตชวนไปกินแถวคอนโด..แต่อยากไปกินกับไอรัก’

“ไปทานกับเพื่อนนั่นล่ะดีแล้ว เดี๋ยวคุณเพื่อนเนกับคุณเพื่อนพัตน้อยใจขึ้นมา ไอรักจะซวยนะครับ”

‘หึหึ ถ้ากินเสร็จแล้วโทรมาแล้วกัน เดี๋ยวไปรับ’

“โอเค้!” แล้ววางสาย ผมเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงก่อนเงยขึ้น เห็นสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่ผมกับโทรศัพท์ราวกับตัวประหลาด

“ห่า เดินไปไม่กี่ก้าวก็โทรมาตามละ แมร่งเรียนกับมึงหรือเปล่าวะ กะเวลาได้เยี่ยมสัดๆ” ไอ้คิม ชายหนุ่มขี้อิจฉาเพราะช่วงนี้ไร้คู่ควงปรายตามองเขม็งพร้อมเบะปากให้น่าหมันไส้ขึ้นอีก

“เ-ดแม่ กูอุส่ารีบมา” พิชสบถเบาๆ แต่ได้ยินทั้งกลุ่ม ผมว่าผมรีบมาแล้วนะ แทบจะไม่มีโต๊ะเหลือเลยอะ ไม่รู้ว่าผู้คนมาจากขุมไหนมากมาย หรือมันจะมานั่งจองกันตั้งแต่ประตูมอเปิดวะ ยื่นเรื่องขอเพิ่มโต๊ะโรงอาหารไปที่อธิการบดีดีไหมนี่

“เออพวกมึง แบบสอบถามกับบทสัมภาษณ์ที่จะถามคนในชุมชน เดี๋ยวทำพรุ่งนี้เลยดีนะ วันเสาร์พอดี งานจะได้ไม่ค้าง”หลังจากที่พวกเราลงมือกินข้าวกันไปสักพักหนึ่ง ไอ้เนมก็วางแพลนลงมือทำงาน พวกผมพยักหน้า เห็นด้วยอย่างแรงเพราะไหนจะทำงานนี้ แล้วก็มีการบ้านอีกหลายวิชาที่ต้องทยอยปั่นให้เสร็จก่อนไฟนอล เป็นนักศึกษาไม่ง่ายเหมือนปอกกล้วยนะโว้ย ฮือออ

“ที่เดิมนะ” คอนโดผมคือที่เดิมของพวกมัน อืม..ผมต้องไปขนอะไรไปห้องตัวเองอีกไหมนะ เสื้อที่โน่นก็มีอยู่นะ ครีมก็ช่างแม่ง วันสองวันจะเป็นอะไรไป อืมม.. คิดไปคิดมา รู้สึกตงิดชอบกล นี่มันใช่ห้องกูจริงหรือเปล่าวะนี่

“น้องไอรัก”ผมเงยขึ้นตามเสียงเรียก ทุกคนในโรงฯรวมส่งเสียงฮือฮาสักพักหนึ่งก่อนเงียบเหมือนรอฟังบางอย่าง

“อะ อ้าว สวัสดีครับพี่น้ำ” ผมยิ้มแหยๆไปให้ แน่นอนว่าผมยังไม่ลืมเรื่องเมื่อวันก่อนเลยนะ โดนเกียร์ตอกหน้าขนาดนั้น โหดจริงโว้ย แฟนใครวะ

“ไม่ทักทายกันเลยนะ” คือผมก็พึ่งเห็นพี่นี่แหละครับ

“อ่าแฮะๆ แล้วทานข้าวหรือยังครับ”

“กินเสร็จนานแล้วล่ะ”

“อ๋อครับ”

“……”

“……” มึงต้องการจะสื่ออะไรกับกูทางตาคู่นั้นวะ จ้องนิ่งไม่พูดไม่จาขนาดนั้น ไอรักสั่นสู้นะเฮ้ย มีไรก็รีบบอกสิ เดี๋ยวข้าวเย็นหมด

“จะไม่ถามหน่อยเหรอว่าพี่มาหาเพื่อจะพูดอะไร” อ้าว กูผิดอีก

“ครับๆ จะพูดอะไรเหรอครับพี่”

“พี่ชอบน้องไอรัก” ห๊า?

“ครับ???” หน้าผมตอนนี้

“น้ำชอบไอรัก” เ-ดเป็ดดดดดดด เปลี่ยนสรรพนามให้กูเสร็จสรรพ

“เอ่อ คือ..”

“แต่พี่พอจะรู้คำตอบแล้วล่ะ” กรรม เสือกรู้อีก ผมทำอะไรไม่ถูก ได้แต่มองคนตรงหน้านิ่ง เพราะผมรู้ว่าหากพูดอะไรไปหรือยืนเงียบแบบนี้ คำตอบที่เขารู้ก็ยังเหมือนเดิม

“…….”

“..เพราะไอรักชอบคนนั้นใช่ไหม” ดวงตาโตเริ่มมีน้ำคลอจ้องตาสีน้ำทะเลขอคำตอบให้แน่ใจ จมูกและแก้มแดงอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าปากเล็กนั้นกำลังยกยิ้มก็ตามที


“ไม่ใช่ครับ”


“หมายค...”


“ไม่ใช่แค่ชอบ เพราะมันข้ามคำว่าชอบไปแล้ว ...ขอโทษด้วยนะครับ” ไหนๆพี่เขาก็มาพูดตรงๆ ผมก็ตอบไปตรงๆแบบแฟร์ๆ ผมก้มหน้าให้ทีหนึ่ง ผมทำให้คนดีๆที่แสนน่ารักต้องมาเจ็บปวด ถึงแม้ว่าปลายทางจะต้องมีคนเจ็บ แต่ก็อดรู้สึกผิดและสงสารคนข้างหน้าจับใจไม่ได้ พี่น้ำโบกไม้โบกมือพัลวัน

“ไม่เป็นไรๆ บอกตรงๆแบบนี้พี่ก็สบายใจขึ้นเยอะเลยล่ะ ...ไม่ต้องขอโทษพี่หรอก แค่นี้เอง สบายมาก” พี่น้ำปั้นยิ้มทั้งใบหน้าไม่ใช่แค่ผมที่ดูออก หากเป็นคนอื่นก็ดูออกว่าคนตรงหน้าฝืนยิ้มขนาดไหน

“ถึงผมจะตอบรับพี่น้ำในเรื่องนั้นไม่ได้ แต่พี่ก็ยังเป็นรุ่นพี่ที่น่ารักและน่าเคารพอยู่เสมอนะครับ” ผมอยากจะยื่นไปบีบมือเพื่อยืนยันคำพูดนั้น แต่ไม่อยากให้คนอื่นมองว่าผมให้ความหวังใครอีก เพราะผมเจอคนที่ต้องคอยเทคแคร์และใส่ใจเพียงคนเดียวแล้ว พี่น้ำคลายหน้าฝืนนั้นลง เม้มปากแน่น หยาดน้ำตาเริ่มร่วงออกมาอย่างหยุดไม่ได้

“..อึก ..น้องไอรัก พี่ขอกอดน้องเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหม.. หลังจากนี้ ..เราจะเป็นเพียงรุ่นพี่รุ่นน้องที่ดีต่อกันได้ไหม”ผมนิ่งไปครู่ ก่อนพยักหน้าร่างเล็กโผเข้ากอดอย่างแรง ปล่อยร้องไห้โฮออกมาอย่างน่าสงสาร ผมทำได้เพียงลูบผมนิ่มๆของพี่น้ำอย่างช้าๆ

“ขอบใจนะ ที่ผ่านมาพี่มีความสุขมาก ถึงแม้ว่าพี่จะรู้ว่าน้องไอรักจะไม่ได้คิดอะไรกับพี่ก็ตาม ขอให้น้องไอรักกับเขาโชคดีนะครับ” พี่น้ำยิ้มให้ก่อนแหงนหน้ามองเพดานไม่ให้น้ำตาไหลออกมาและหันหลังเดินจากไป




“มีอะไรหรือเปล่า” เกียร์มองคนที่เงียบตลอดทางจากกระจก ผมหลับตาส่ายหน้า พิงหัวตัวเองกับหลังมันอย่างเหนื่อยล้า

“เปล่าครับ ไม่มีอะไร”

“อยากเล่าตอนไหนก็บอกแล้วกัน” มันดูผมออกเสมอ ไม่ว่าผมจะปฏิเสธอย่างไรก็ตาม ผมรู้ คนที่ตัดสินใจคบหาดูใจ ไม่ควรปิดบังแม้ว่าจะเป็นปัญหาเล็กน้อย เพราะชีวิตคู่ไม่ได้เดินไปแค่ตัวเราคนเดียว ยังมีคนข้างๆที่ต้องคอยใส่ใจ คนที่คอยฟังทุกข์สุขของเรา ผมแค่ไม่อยากให้มันลำบากใจ ไม่อยากให้มันโกรธที่ผมไปคุยกับพี่น้ำ ในทางกลับกัน ถ้าผมไม่ได้บอก ปล่อยให้เกียร์คิดเองไปต่างๆนาๆ มันก็อาจไม่ได้มีผลดีขึ้นกับเราทั้งคู่ ซ้ำยังแย่ลงกว่าเก่า

“อ่ะ” เกียร์ยื่นแก้วรูปร่างคล้ายแมวที่ซื้อจากจตุจักรคราวก่อน ผมพยักหน้าขอบคุณก่อนรับนมอุ่นมาดื่ม มันเดินไปเปิดทีวี แล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ

“เอ่อเกียร์วันนี้ ...เกียร์” ผมหันจะไปเล่าให้มันที่เล่นโทรศัพท์ผมอยู่ แต่สายตามันแข็งกร้าวจนผมกลัว มันเควี้ยงโทรศัพท์ลงโซฟาอย่างแรงจนกระเด้งลงพื้น เดินกระแทกปึงปังปิดประตูเข้าห้องเสียงดัง จนผมสะดุ้งหน้าซีด คิดอย่างเดียวว่าเกียร์โกรธอะไร...
ผมไม่ลังเลที่จะหยิบโทรศัพท์ที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาดู หน้าจอล่าสุดหยุดอยู่หน้าไทม์ไลน์ของโปรแกรมโซเชียลเน็ตเวิร์ค ปรากฏรูปผู้ชายที่คุ้นเคยเป็นใครไปไม่ได้ นั่นก็คือผม กำลังยืนลูบหัวคนร่างบางที่กอดผมแน่นท่ามกลางคนในโรงอาหารนับร้อย



[ต่อด้านล่าง]
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน P.4 *ตอนที่12* [19/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 19-12-2012 14:46:55
[ต่อจากด้านบน]




ฟัคยู๊ววววววววววววววว!!!!!!!!!


ไอรักชะตาขาดก็ตอนนี้ใช่ไหม เอาไงดีวะ ทำไงดี ฮือออ .. อีข้อความบรรยายใต้ภาพมึงเล็กไปไหน แล้วมันเสือกเลื่อนดูแค่รูปด้วยนะ ไม่ได้มองข้อความที่เป็นออกซิเจนต่อชีวิตให้กูเลยใช่ไหม โอ้ยยยยยยย

‘ไอรักหนุ่มรูปงามปฏิเสธรักรุ่นพี่ตัวเล็กคณะศิล-กำด้วยอ้อมกอดครั้งสุดท้ายอย่างอ่อนโยนตามฉบับเจ้าชาย งานนี้ใครกันนะที่จะเป็นเจ้าของหัวใจตัวจริงของเจ้าชายมหาลัยXX!?’

ไอ้ประโยคนี้ ทำไมมึงไม่อ่านฮะ ไอ้หน้าไส้กรอก ไอ้เปรตถึก!!! ผมไม่รอช้า หิ้วปีกตัวเองเข้าห้องที่มีบรรยากาศมืดมนปกคลุมอย่างหนาแน่น เป็นใจให้ไอรักตายไวที่สุด ฉิบหายละ กูจะเจอเอ็ดเวิร์ดไหมนี่ ว๊ากกก แวมไพร์นอนอยู่ เอ๊ย นั่นแฟนกูนิ

“ก...เกียร์ ค..คืองี้” ผมบังคับขาที่กำลังสั่นผลั่บๆให้นั่งยองๆ หูลู่ลง มือทั้งสองเกาะเตียงด้วยท่าทางน่าสงสาร ตาช้อนตามองคนนอนโชว์แผ่นหลังให้

“…”

“เกียร์จ๋า หันมาก่อน ไอรักอธิบายได้นะ” ยังนิ่งครับ ยังนิ่ง

“…”

“เฮ้ออ งั้นก็ตามใจ” ไม้ตายสุดท้ายทำเป็นจะลุกออกจากห้อง

“มันหมายความว่ายังไง” และแล้วไม้ตายไอรักก็ได้ผล ฮี่_ฮี่

“ก็หันมาดูใหม่สิ ..เอ้า” ในเมื่อมันไม่หัน ผมก็ยัดโทรศัพท์ใส่มือแม่งเลย ไอ้ห่าบอกอะไรไม่เคยฟัง

“อ่านให้ครบทุกตัวเลยนะ อ่านออกเสียงด้วย!” ผมเผลอขึ้นเสียงให้รู้ว่าอารมณ์กูขึ้นนะโว้ยไอ้เสมหะเป็ด ไอรักจะน็อตหลุดแล้วนะ

“ไอรักหนุ่มรูปงามปฏิเสธรักรุ่นพี่ตัวเล็กคณะศิล-กำด้วยอ้อมกอดครั้งสุดท้ายอย่างอ่อนโยนตามฉบับเจ้าชาย งานนี้ใครกันนะที่จะเป็นเจ้าของหัวใจตัวจริงของเจ้าชายมหาลัยXX …จริงเหรอ” มันเริ่มหันมาละ ยังมีหน้ามาถามอีกนะว่าจริงหรือเปล่า ไอรักคนนี้จะได้ซัดหน้าไอ้น้ำแข็งก็คราวนี้แหละ

“ก็เออสิ ไม่เชื่อก็ตามใจ ตอนแรกผมก็จะบอกเกียร์เรื่องนี้นี่ล่ะ ผมสงสารพี่น้ำ รู้สึกผิดยังไงไม่รู้ แต่ตอนนี้ผมสงสารตัวเองมากกว่าละ ไม่มีใครเชื่อใจสักคน” ผมประชด หน้าบึ้งใส่ พลางจะลุกออกจากห้อง

“เดี๋ยว ก็คนไม่รู้นี่ เกียร์เชื่อใจไอรัก แต่แม่ง รำคาญไอ้ปลิงพวกนั้นฉิบ มาเกาะแฟนกูทุกรูปแบบ เชี่ยเอ๊ย” มันคว้าผมมากอดแน่นบนเตียง แล้วทำหน้ามุ่ย บ่นเบาๆอย่างหัวเสีย แต่ผมได้ยินนะ ก็มันเล่นกอดซะอย่างกับจะให้ผมสิงร่างมัน มึงจะแสดงความรักแบบไร้ปรานีไปละ

“ผมไม่ได้เล่นด้วยซะหน่อย จะระแวงทำไมนี่”

“ก็ไอรักแม่งจะฮอตไปไหน เกียร์หวงของเกียร์อะ” ผมอมยิ้มบนอกมัน แล้วส่ายหัวดุ๊กดิ๊กให้มันจั๊กจี้ โดยที่ลืมไปว่ามัน เอ่อ ..ไม่ใช่คนบ้าจี้.. แผนไอรักล่มไม่เป็นท่าครับ เลยขอกัดอกแน่นๆของมันเบาๆอย่างหมันเขี้ยวแล้วกัน งับ! งับ! มันหัวเราะหึหึ แล้วแก้แค้นโดยการบีบก้นไอรัก จนสะดุ้งโหยง อย่านะโว้ย ไอรักขอให้ชีวิตกับความซิงของตัวเองก่อน อย่าพึ่งพรากมัน T0T

“ฮอตตรงไหน คูลจะตาย”

“กวนละๆ” มันเขกหัวผมเบาๆ แต่ผมร้องโอ้ยดังๆ แอ็คติ้งดีไปหน่อย มันอมยิ้มส่ายหัวเอือม

“อ้าวผมพูดผิดเหรอ เปิดตั้งยี่สิบองศา กะจะให้หิมะตกในห้องเลยหรือไงนี่คุณ” มันกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น แล้วยืดแก้มไอรักกว้างๆ พลางถามคำถามที่ค้างคาใจ

“หึ แล้วไปยืนให้ไอ้พี่หน้าอ่อนนั่นกอดง่ายๆได้ไง”

“อ้ออี้อ้ามอ๋อออด โอ้ยย ก็พี่น้ำขอกอดครั้งสุดท้ายนี่น่า แฮะๆ ไม่มีอะไรแล้ว รุ่นพี่รุ่นน้องกันธรรมดา” ผมจับมือที่ยืดแก้มผมเล่นไม่หยุดออก มึงจะสนุกกับแก้มกูเยอะไปละห่า

“แน่ใจ?” ผมพยักหน้าหงึกหงัก ไม่มีซัมติงกันแน่นอน ไอรักเอาหัว(กะหล่ำปลี)เป็นประกัน!

“เกียร์ ทีหลังมีอะไรก็ถามสิ อย่าเดินหันหลังให้แบบเมื่อกี้ ผมรู้สึกใจไม่ดี”มันจริงๆนะครับ ผมเห็นแผ่นหลังมันเมื่อกี้แล้วรู้สึกเหมือนมันกำลังเดินจากผมไป ทั้งๆที่รู้ว่าแค่คิดมาก แต่มันก็อดคิดไม่ได้

“ครับ” แล้วส่งจูบหวานแทนคำขอโทษ มันพลิกคล่อมตัวแล้วไล้มือตามเอว ผมสะดุ้ง ก่อนวนลิ้นดูดหัวนมผมอย่างหื่นกระหาย

“พ..พอก่อน..อื้อ..ผม.......โครกกกก” ใช่ ไอรักแค่จะบอกว่าไอรักหิวข้าวมาก! T.T

“อุ๊บ หึหึ โอเคๆ” มันยกมือทั้งสองขึ้นเหมือนยอมแพ้ ก่อนรีบฝังจมูกลงหน้าผากอย่างเร็วแล้วเดินออกไปทำอาหาร เชี่ยเอ้ยย อายฉิบหาย กระเพาะลูกพ่อ ทำไมเอ็งช่างเลือกร้องตอนที่อยู่กับผู้ชายคนนี้วะเนี่ยยย หรือมันร้องแล้วเป็นเรื่องดีจะได้ไม่ต้องเสียตัว(ตอนนี้) แง่งง กับคนอื่นหล่อๆเท่ห์ๆตามสไตล์ไอรัก แต่พออยู่ข้างหน้าผู้ชายหน้าน้ำแข็งคนนี้ทีไร ไอรักฟอร์มหลุด สติแตกทุกที แพ้(ใจตัวเอง)ยับเยิน ฮืออ



“ไปด้วย”

“แต่ผมไปทำงานนะ เดี๋ยวคุณก็เบื่อหรอก”

“ไม่เบื่อ อยู่คนเดียวมันนอนไม่หลับ นะเกียร์ไปด้วย” มันจับชายเสื้อผมแกว่งไปมาเหมือนเด็กง้องแง้ง ถ้าไม่ติดว่าตัวใหญ่กว่าเด็กห้าขวบสักห้าเท่าตัว

“วันเดียวเอง คุณพาเนมานอนเป็นเพื่อนก็ได้”

“ไม่เอา จะไปกับไอรัก” มันเริ่มตีหน้ายุ่ง เม้มปากอย่างขัดใจ นี่กูขัดมึงไม่ได้สักเรื่องเลยใช่ไหมฮะไอ้น้ำแข็ง!

“..เฮ้ออ..ก็ได้ๆ”

“เยส!” มันเยส!เบาๆ แต่ผมได้ยินเหอะ จะดีใจไปไหน ผมไปทำงานนะไม่ใช่พาไปสวรรค์ชั้นเจ็ด อ้ะเจ๊ยย ผมเปล่าพูดอะไรน่ะ ปากมันลั่นไปเอง

ผมวางกระเป๋าเล็กๆของตัวเองไว้ข้างโซฟา แต่มันกลับหยิบกระเป๋าของผมแล้วเดินดุ่มๆไปในห้อง สักพักมันก็ออกมาพร้อมกระเป๋าใบปานกลาง

“อ้าว แล้วกระเป๋าผมอะ” ในนั้นไม่มีอะไรมากครับ แค่แม็คบุ๊ค กับพวกชีทงาน เพราะในห้องผมก็ยังมีเสื้ออยู่ห้า-หกตัว ส่วนของใช้ส่วนตัวมีในห้องอยู่แล้ว

“ก็ในนี้ไง” มันชูกระเป๋าขึ้น ผมทำหน้างงใส่ มึงจะเล่นอะไรกับกูอีก

“ใส่ไปด้วยกันจะได้ขนใบเดียวไง เกียร์เอาเสื้อไปเผื่อไว้ในห้องไอรักด้วย วันไหนไปนอนอีกจะได้ไม่ต้องขน” โอ้โห นี่มึงวางแผนก่อนล่วงหน้าเลยใช่ไหม เอาเลยครับ ตามสบายเลยครับคุณแฟนเทวดา!


......................................................................



“ไอ้สาดดด หวานโว้ยหวานนนน” เสียงกระซู่แรดกระทิงสารพัดสัตว์มาก่อนตัวเชียว แต่เหลือคู่หูเห็บหมัด มันบอกติดธุระนิดหน่อย จะตามมาทีหลัง ผมไม่ได้ล็อคห้องไง เพราะรู้ว่าอีกไม่นานเดี๋ยวพวกแม่งก็คงมา ผมกับเกียร์จึงมาทำอาหารรอพวกมัน เราแวะซื้อวัตถุดิบมาระหว่างทางน่ะครับ

“ไอ้สัดเนมเบาๆ มันสองคนกำลังสวีททำอาหารสุดหวานให้พวกเรากินนะโว้ย” ผมหันไปมองพวกมันที่ยืนทำหน้ากรุ่มกริ่มขวางประตู

“แต่กูว่าไม่ว่ะ”

“ทำไมวะไอ้คิม”ไอ้พิชถามขึ้น

“กูเห็นไอ้เกียร์ทำคนเดียว ส่วนไอ้เชี่ยรักเดินป้วนเปี้ยนให้ไอ้เกียร์เสียสมาธิอะดิ หึๆๆๆ เฮ้ยย..อ้ายเชี่ยร๊ากกก!” ส้นตีนเหอะ ปาผักข้างตัวใส่หัวมันอย่างจัง สะใจไอรักโว้ย กร๊ากก

“อย่านะโว้ยไอ้คิม ว๊ากกก อย่ามาตามกู๊ ..อะ..ไอ้ฟัคยู! กูเหนื่อยโว้ยย ไป๊ๆๆ..แฮ่กๆ เหี้ยยยย” ไอ้คิมวิ่งไล่(ฆ่า)ไอรักรอบโต๊ะอาหาร เฮ้ยยไอ้หมาบ้า มันกำลังจะจับไอรักได้แล้วค้าบทุกคนนแง้ง


ปึก! หมับ!!


“หั่นผักนะ” เสียงสุดหล่อของผมวางมีด แล้วดึงให้ผมมายืนหอบอยู่หน้าเคาน์เตอร์ ใช้แขนแกร่งคล่อมผมก่อนก้มลงหอมแก้ม สายตาปรายตาไปมองไอ้คิม แล้วหันกลับทำเป็นไม่สนใจ กอดเอวผมซุกหน้าเข้าซอกคอแล้วสั่งกระซิบให้คนในห้องอ้าปากค้างหวอ

“ทำสิ”

“กะ..กูว่าข้างนอกระเบียงอากาศดีเนอะ” ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าแต่ละคนทำสีหน้าแบบไหน เพราะผมหันหลังให้พวกมันอยู่ แต่ฟังจากน้ำเสียงแล้วคงไม่พ้นตะลึง อายแทนไอรักแหงๆ ฮืออ อย่าพึ่งทิ้งกูกันดิวะเฮ้ยย ตอนนี้ผมกำลังเขินจนแก้มจะแตกอยู่แล้ว

“เออกูก็ว่า ..แม่งกูแค่จะแก้แค้นไอ้รัก แต่เจ้าของแมร่งดุฉิบหาย สาดด”ไอ้คิม(พยายาม)พึมพำเสียงเบา มันด่าผมเป็นหมาหรือเปล่านั่น

“ปะ..ปล่อยได้แล้วคุณ” ผมเอียงหน้า ดันหัวให้มันออกไปจากซอกคอผม จะแกะมือมันก็ไม่ได้ กลับรัดแน่นขึ้นอีกไอ้มือปลาหมึก!

“อืม.. ทำต่อไปสิ” มันงึมงำ เลียหลังหูให้ชวนสยิว มือซ้ายขยำสะโพกอย่างหมั่นเขี้ยว มืออีกข้างช้อนคางให้เงยหน้า มันก้มลงมาประกบปากก่อนแลกลิ้นกันพัลวัน ก่อนสอดมือเข้าไปลูบไล้หน้าท้องลอนเล็ก ขาข้างหนึ่งสอดใต้หว่างขาผม

“อื้ออ..ก..เกียร์ ..อื้ม..”


“ทาด๊า อ๊า อ๊า ....อะ เอ่อ .. โทษทีๆ กูกับไอ้บอสเข้าห้องผิด” ปัง!


ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ไอรักจะบ้าตายยย ตายห่า ตายห่า ทำไงดีวะ แอร้ยยยย กูจะเอาหนังหน้าหล่อๆของตัวเองไปไว้ที่ไหนดีวะ ใครก็ได้ ช่วยไอรักด้วยค๊าบบบ

“เพราะคุณคนเดียว!” พาลแม่ง แง่งๆๆ

“เกียร์ผิดตรงไหน” มึงผิดเต็มๆเลยครับไอ้น้ำแข็งหน้าหูด มีหน้ามาถามอีกนะว่าผิดตรงไหน ก็ผิดตรงลิ้นกับมือมึงไง ไอรักขอไว้อาลัยตัวเองสามวิ

“โอ้ยย มันต้องล้อผมแน่ๆเลยอะเกียร์ ทำไงดี” กูว่ากูเครียดแล้วนะ มึงยังมาอมยิ้มมองคนเต้นจ้าละหวั่นอีก ผมอยากจะบีบคอมันจริงๆ แต่ไม่กล้า ยังกลัวตายอยู่ ฮืออ

“ทำใจ”

“….” ส้นตีน

“ก็ทำให้เพื่อนไอรักชินไง ไหนๆเราก็เป็นแฟนกัน มันก็ต้องเห็นภาพแบบนี้ไปอีกนาน อาจจะนานจนเราแก่เลยด้วยซ้ำ ฟอดด..” มันหอมแก้มทั้งสองข้าง อย่าย้ำคำนั้นดิ กูเขินนะ แล้วดูมันมอง ตาเยิ้มซะผมอยากเยิ้มตาม เย้ยย.. ไอ้อารมณ์เครียดของผมมันหายไปตั้งแต่ตอนไหนวะ

“....” ผมก้มหลบสายตาคมที่มองมาอย่างอบอุ่น อย่ามองนะ! ตอนนี้หน้าผมคงแดงแปร๊ดแน่ๆ

“เลิกอายเพื่อนได้หรือยัง... จุ๊บ ...ว่าไงหื้ม” มันระดมจุ๊บทั่วไปหน้าให้ผมจั๊กจี้เล่น ถ้ามึงยังจุ๊บกูไม่เลิก กูจะเลิกอายพวกมัน แต่มาอายมึงแทนแล้วนะ

“หื้ออ ก็ได้ ...จะพยายามแล้วกันครับ” กูอยากตอบแบบชัดเจนนะ แต่ไหงเสียงมันแผ่วตอนท้ายก็ไม่รู้ มันหัวเราะในลำคอ ผมล่ะหมั่นไส้เสียงหัวเราะของมันแบบนี้ชะมัด แล้วยิ่งตอนส่งสายตาหื่นๆด้วยนะ อย่างกับตาแก่ตัญหากลับ

“ไอ้รัก มึงได้ดิบได้ดีแล้ว มีคนมารับมาส่ง เชฟส่วนตัว ปรนนิบัติหน้าที่แฟนไม่ขาดตกบกพร่อง ถ้าซักเสื้อผ้ากวาดถูบ้านให้ คงพ่วงพ่อบ้านให้ด้วยอะ หาให้กูบ้างดิ ฮ่าๆๆ” พวกมึงไม่รู้อะไร มันเคยซักถุงเท้าให้กูด้วยนะโว้ย ตอนนั้นผมตกใจเลยอะ บอกมันว่าไม่ต้องๆ เพราะเดี๋ยวก็ส่งซักอยู่แล้ว แต่มันบอกไม่สะอาด แถมดุผมด้วยนะ ทำไมของส่วนตัวถึงให้คนอื่นซัก อ้าวกูจ่ายเงินให้เขาแล้วส่งให้ซักนี่กูผิดใช่ไหม แต่มันเล่นทำหน้าโคตรโหดมหาประลัยขนาดนั้น ผมก็ต้องเออออสิ เดี๋ยวโดนโบกร่องขมับขึ้นมา ไอรักจะเจ็บเอาสิ แต่เกือบทุกครั้งผมก็ช่วยมันซักนะ บรรยากาศเหมือนสามีภรรยา แต่หารู้ไม่ว่าเล่นเอาผมหลังยอกเหมือนกัน ส่วนงานบ้านมันก็ทำเองคนเดียว ห้องมันก็จ้างแม่บ้านทุกอาทิตย์นะ แต่บางวันเกิดผีเข้าอะไรไม่รู้ ลุกขึ้นมาเก็บกวาดเช็ดถูเอง โถพ่อพระหน้าโหดจิตใจงาม พ่อประเสริฐเลิศล้ำ

“แต่มึงต้องเป็นรับนิ โดนอัดตูดแน่มึง ฮ่าๆๆ” สนุกปากเลยไอ้เชี่ยเนม นี่แหละที่กูกลัว..ฮือ

“แล้วลีลาไอเกียร์เป็นไงบ้างวะ ดุเดือดหรือเปล่า” เหี้ยเหอะ ไอ้คิมแม่งหื่นได้ทุกสถานการณ์

“เดือดเหี้ยไร ใครต้มน้ำ” ผมแถกวนตีนแก้เขิน

“ฟวย ทำเป็นซุย ใหญ่กว่ากูปะ” จัญไร

“มึงก็พูดไปไอ้พิช ว่าแต่กี่กระบวนท่าต่อครั้งวะ” คลื่นพูด พวกมึงก็ขี้เสือกจริงวุ้ย

“สัด!” ผมเงยขึ้นจากโน๊ตบุ๊คหันไปด่าไอ้คลื่นที่ยังทำหน้าล้อเลียนใส่ผม ไม่อยากจะบอกพวกมันว่าเกียร์ทะนุถนอมผมแค่ไหน ถึงแม้ว่าจะมีลูบคลำจับจูบบ้าง แต่มันไม่เคยทำเกินเลยสักครั้ง อยากจะตะโกนบอกว่า กูยังซิง!!!!! เกียร์มันลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ มันเลยนินทาได้ ต่อหน้าเห็นแม่งเงียบกันกริบ อะโด่ๆๆ ไม่กล้าอะดิ อย่าว่าแต่มึงเลย ไอรักก็ไม่กล้า

“ทำเรื่องอะไร” มันกลับมานั่งซ้อนตัวกอดเอวทั้งสองด้านของผมไว้หลวมๆ ผมกับมันนั่งบนพื้น มีโต๊ะเตี้ยไว้วางโน๊ตบุ๊ค ส่วนไอ้คลื่นกับไอ้บอสนั่งทำบนโซฟา ไอ้ไทป์ทำบนโต๊ะทำงาน ส่วนพิช คิม เนม หมดคราบเจ้าชู้ชั่วขณะ นอนทำบนพื้น แผ่ขาอ้าซ่า ข้างตัวเต็มไปด้วยขนมขบเคี้ยว อืดแน่พวกมึง หึ

“อืมม วิจัยสิ่งแวดล้อมในชุมชนแถวพื้นที่อุตสาหกรรมจังหวัดระยองครับ” ผมหันไปยิ้มให้มันทีหนึ่งก่อนหันกลับไปพิมพ์ต่อ

“ต้องลงพื้นที่จริงด้วยเหรอ”

“ครับ คงต้องหาเวลาไปสักสาม-สี่วัน เพราะกว่าจะกระจายแบบสำรวจกับกลุ่มเป้าหมายหลักและเป้าหมายรอง แล้วก็สัมภาษณ์ตัวต่อตัว ให้ได้ข้อมูลเชิงลึกที่สุด อืม..พอเสร็จแล้วก็อาจจะขับไปทะเลแถวนั้นเลย พวกมันอยากเที่ยวด้วยน่ะ”

“อืม” มันตอบกลับ ผมจึงลงมือพิมพ์งานอย่างจริงจัง ไม่มีเสียงพูดคุยเล่น จะมีก็แต่ถามเรื่องาน เสียงกดแป้นพิมพ์ และเมาส์ จวบจนจะขึ้นวันใหม่

จึกจึก

อะไรสะกิดวะ

จึกจึกจึก

ผมหันไปมองตัวการที่ทำหน้าสะลึมสะลือตาปรือๆ พูดเสียงงัวเงีย

“ง่วงแล้ว” มันพูดงึมงำ นี่กูเอาลูกมาที่ทำงานด้วยหรือเปล่าวะนี่

“ไปนอนในห้องก่อนเลยก็ได้ครับ” ผมยกมือลูบหน้าลูบตาให้มัน แล้วตบแปะๆบนแก้มเบาๆ

“ไม่ ใกล้เสร็จหรือยัง”

“อีกนิดหนึ่งครับ ทำมาเกินครึ่งละ”

“อืมม.. หันไปทำได้แล้ว...ฟี้ ฟี้” มันสั่งผมด้วยน้ำเสียงอู้อี้ แล้วเอาหัวพิงหลังผม มือทั้งสองวางบนต้นขาของผมทั้งสองข้าง ก่อนหลับไปอย่างหน้าด้านๆ
   



“กูว่ามึงพามันไปนอนเหอะว่ะ เห็นแล้วสงสารเชี่ยๆ” ผมหันไปมองไอ้พิชที่มองคนพิงหลังผม แล้วกลับมาดูงานที่เหลืออีกเพียงนิดเดียว ก่อนหันไปมองคนที่นั่งหลับซบผมอยู่ข้างหลัง

“เดี๋ยวที่เหลือกูทำเอง ส่วนของกูทำเสร็จละ” ไอ้ไทป์เดินพูดพร้อมเสยผมไปด้านหลัง ผมมองเกียร์นิ่งแล้วพยักหน้า

“เกียร์ เกียร์ครับ” ผมแตะหน้ามันสองสามทีก็ลืมตาปรือขึ้น

“อือ.. ว่าไง” หื้อ เสียงน่ารักสัด!

“ไปนอนที่ห้องได้แล้วครับ” มันพยักหน้างัวเงีย ยืดแขนขาให้หายเมื่อยก่อนลุกขึ้นจูงแขนผมแล้วเดินงมตาปิดไปที่ห้อง


......................................................................



“โถ่ ม๊าครับ ไอรักไม่อยากทำจริงๆนะครับ”

‘ไม่ได้ค่ะน้องไอรักมาม๊ารับปากคนเขาไว้แล้ว คราวนี้ปฏิเสธมาม๊าไม่ได้แล้วนะคะ’

“แต่ไอรักไม่ชอบนี่ แล้วพี่อุ่นกับพี่ติมเขาก็ไม่ให้ไอรักถ่ายแบบหรอก”

วันนี้แม่ผมโทรมาปลุกผมตั้งแต่เช้าตรู่ ให้ไปถ่ายแบบขึ้นหน้าปกนิตยสารชื่อดัง แถมตอนเย็นก็ให้ไอรักไปเดินแบบการกุศลอีก ผมไม่ได้จะจบไปทำงานทางนิเทศนะครับคุณนายที่รัก อีกอย่างผมเชื่อเลยว่าพี่ทั้งสองต้องไม่อนุมัติแน่ๆ เพราะเขาปฏิเสธหน้าตั้งทุกครั้งที่แม่ผมจะลากไอรักไปเดินโชว์ให้คนอื่นดูแบบนี้

‘ไม่ต้องห่วงนะคะ มาม๊าจะบอกพี่เขาก็ต่อเมื่องานเสร็จ โฮ๊ะๆๆ’ นั่นไง คุณนายคนนี้ร้ายกาจจริงๆ

“เฮ้ออ” ผมทิ้งตัวลงโซฟาอย่างแรง ส่วนเกียร์กำลังทำอาหารอยู่ เช้าขนาดนี้มีผมกับมันตื่นกันสองคน ส่วนคนอื่นยังนอนอุตุอยู่

“อาหารเสร็จแล้วเหรอครับ” ผมถามมันที่ถอดเสื้อกันเปื้อนแล้วเดินมานั่งข้างๆหอมแก้มฟอดหนึ่ง

“อืม เมื่อกี้เป็นอะไร” มันจูงผมเข้าห้องอาหาร คดข้าวส่งให้สองจานแล้วเดินมานั่งตรงข้าม ผมตักพริกในถ้วยพริกน้ำปลา ราดจานข้าวของเกียร์ก่อนยื่นจานให้คนชอบเผ็ด มันยิ้มขอบคุณ ก่อนทำหน้าตึงในประโยคต่อมา

“แม่ให้ไปถ่ายแบบน่ะ”

“ถ่ายอะไร ยังไง ถอดเสื้อ?”

“ไม่รู้เหมือนกันครับ รู้แค่ของนิตยสารXX”

 “ปฏิเสธไม่ได้เลยเหรอ” ที่มันไม่สั่งห้าม ก็เพราะเป็นคำบัญชาของคุณนายใหญ่ของบ้านนี่แหละ

“แม่ผมเขารับปากคนไว้แล้ว งานนี้คงปฏิเสธไม่ได้อะครับ”

“เฮ้ออ ไม่อยากให้ไป” ไอรักมีคนถอนหายใจเป็นเพื่อนละครับ เย้!

“ผมก็ไม่อยากไปเหมือนกัน” ผมทำหน้ายู่ยี่ กระแทกข้าวใส่ปากอย่างเซ็งๆ

“แล้วจะไปกี่โมง เดี๋ยวไปส่ง”

“คงออกสักประมาณสิบโมงครับ ..เอ้อ ..เอ่อ เกียร์ไม่ต้องไปส่งหรอก เดี๋ยวตอนเย็นต้องไปเดินแบบการกุศลด้วย แฮะๆ” สิ้นคำพูด คนหน้าบึ้งตึงรวบช้อนส้อมเป็นสัญญาณว่า กู-อิ่ม-แล้ว

“แล้วมีอะไรอีกไหม”

“ไม่ๆๆ ไม่มีแล้ว มีสองงานนี่แหละ แค่นี้ก็เหนื่อยแล้วเนอะ”

“ทุกสิบห้านาที”

“?” what??

“โทรหาเกียร์ทุกสิบห้านาที” สันฝานนนนนนนน ถ้าอย่างนั้นกูว่ายกกองมาถ่ายในห้องนี้แม่งเลยดีไหม

“หนึ่งชั่วโมงเถอะครับ”

“สิบห้า”

“หนึ่งชั่วโมงๆ”

“สิบ” อ้าวต่อไปต่อมาทำไมมันลดลงวะ แง่งง

“นั้นสามสิบก็ได้ กว่าจะถ่ายเสร็จมันต้องยิงยาว ไอรักปลีกตัวมาโทรยากนะ จริงๆไม่โม้”

“เฮ้อออ สามสิบก็สามสิบ แต่ถ้าไม่โทรมาจะตามไปถึงสตูดิโอ ตกลง?”

“จ้า” ก็ได้จ้า ปฏิเสธได้เหรอ กูถามหน่อย



“เชี่ยยยย ข้าวต้มกุ้ง อุ้ง อุ้ง อุ้งงง ...” ไอ้เนมตะโกนเสียงเอคโค่วิ่งหน้าปลวกๆหัวยุ่งๆแบบคนยังไม่ตื่นเต็มที่ มาจุ้มปุ๊กข้างผม ก่อนที่ผมโดนเกียร์ลากไปนั่งข้างมันในเวลาต่อมา

“หอมว่ะ มีไรกินบ้างว๊า แหง่มๆๆ” ผมหันไปมองตามเสียงเปรตคิมเดินเกาพุงเข้ามาพร้อมกับคนอื่น แต่ละคนสภาพแย่มากอะ ไอ้คลื่นยังมีคราบน้ำลายติดอยู่เลย ไอรักจะบ้าตาย แต่มีไอ้ไทป์ดูดีที่สุด เพราะว่ามันอาบน้ำแล้ว

“สัด ไม่อาบน้ำกันก่อนวะ” ผมหันไปถามเชี่ยพิช ขี้ตาหรืออุกาบาตรวะ ใหญ่ฉิบหาย

“กูหิว” เสียงประสานหลายชีวิตตอบคำถามผมด้วยคำเดียวเป็นอันว่าเข้าใจ

“ออกเที่ยวกันเปล่า”

“กูไปไม่ได้นะ มีนัดไปถ่ายแบบทั้งวัน” ผมหันไปตอบไอ้บอสอย่างเนือยๆ

“จนได้นะแม่มึงอะ” ไทป์ตอบกลับมา เพื่อนผมทุกคนมันรู้ครับว่าแม่ผมพยายามยุแยงให้ถ่ายแบบหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จเสียที

“เออ เซ็งฉิบหาย ปฏิเสธก็ไม่ได้อีก เบื่อไอ้เครื่องสำอาง แสง สี สป็อตไลท์”

“สมน้ำหน้า อยากเกิดมาหล่อ กร๊ากก”

“เดี๋ยวกูก็ต้องไปคุยเรื่องค่ายให้พวกมึงวันนี้นี่หว่า ลืมสนิท”

“พวกกูส่งมึงไปนั่งฟังแล้วกันไอ้คิม ครุคริ”

“ค-ย ไม่มีใครไปเป็นเพื่อนกูเลยเหรอ กระซิกๆ” ไอ้คิมแสร้งเช็ดน้ำตาชวนน่าหมันไส้ เลยโดนไอ้ไทป์ตบหัวคะมำ แต่ไอ้เนมมากระแซะไอ้คิมแล้วเล่นต่อ

“เดี๋ยวเค้าไปเป็นเพื่อนตะเองเองนะคะ ไม่ร้องนะคะ โอ๋ๆ” พลางดึงไอ้คิมมาซบลงไหล่ เชี่ยยย ขนลุก

“สาดด ไม่ได้มีดีแค่หน้าตานะโว้ย ทำอร่อยว่ะไอ้เกียร์” ไอ้คลื่นหันไปชมเกียร์ที่นั่งหน้านิ่ง เกียร์หันไปมองก่อนหันกลับเหมือนเดิม หูยย เฉยเมยเหี้ยๆ แต่พวกมันก็เริ่มสนิท(เหรอ)กับเกียร์ในระดับหนึ่งแล้วนะครับ บอกแล้ว เพื่อนผมมันเฟรนลี่

“อ๋อ มึงจะบอกว่า ‘เออ’ ใช่ไหม อืมมๆๆ” ไอ้เนมเริ่มเข้าใจเกียร์นิดหนึ่งละ ว้าวว ไอรักดีใจชะมัด เกียร์ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องครัว แล้วกลับมาพร้อมขนมหวานสองถ้วย

“ขอบคุณครับ” บริการดีจังวะบริกรคนนี้ แหมๆๆ เดี๋ยวเฮียให้ทิปนะจ๊ะหนู ผมลงมือบัวลอยมะพร้าวอ่อน กลมกล่อม ไม่หวานมาก เพราะผมกับเกียร์ไม่ชอบหวานอยู่แล้ว มันเดินเข้าไปในห้องครัวอีกรอบแล้วเดินกลับมาพร้อมนมช็อคหนึ่งกล่องกับนมอุ่นหนึ่งแก้ว มันยื่นนมช็อคให้ ส่วนนมอุ่นเป็นของเกียร์ ผมตาวาวเลยสิเมนูนี้ มื้อนี้จะหรู(?)ไปแล้วนะ!

“ขอบคุณอีกครั้งครับบคุณน้ำแข็ง” แหม่ รู้ใจจริงๆ ผมรับมาแล้วยิ้มกว้างให้ มันกระตุกยิ้มเล็กๆ ลูบหัวผมก่อนจูบหน้าผากอย่างอ่อนโยน โดยลืมคนในห้องส่งเกือบสิบชีวิต

“ลืมสิ่งมีชีวิตอย่างพวกกูไปแล้วใช่ไหมพวกมึงทั้งสอง”

“เปล๊า อะไรๆๆ พวกมึงมั่วแล้ว” ผมลอยหน้าลอยตาตอบไอ้คิม

“ควาย กูแย่งออกซิเจนมึงหายใจตั้งหลายเฮือก ยังไม่รู้สึกตัว มัวแต่พลอดรักกันลืมพวกหน้าสลอนอย่างกู เฮอะ!”

“ตะเองขา มาจูจุ๊บกันนะคะ” ไอ้เนมทำท่าจะจูบไอ้คิมที่ทำหน้าเหม็นเบื่อ มันกระแดะดัดเสียงโคตรตุ๊ดอะ

“บัวลอยสีชมพูขึ้นบนหน้ามึงแล้วอะ ทำไงวะ บอกกูบ้างดิ กร๊ากกก” เหี้ยย ผมก้มหน้าก้มตากินบัวลอยอย่างเอาเป็นเอาตาย ไอรักก็อายเพื่อนๆเป็นนะครับ ส่วนเกียร์ก็ตีหน้านิ่งนั่งกินอย่างไม่สนใจเสียงโห่ฮิ้วใดๆทั้งสิ้น

“แม่งเอ้ย ถ้ากูไม่เห็นกับตา นี่กูไม่รู้เลยนะโว้ย ว่าแมร่งยิ้มได้อะ...อูยย แฮะๆๆ” มึงเห็นแฟนกูเป็นตัวอะไรวะ ไอ้เกียร์ตวัดสายตาหาเรื่องใส่ไอ้คลื่น เล่นเอากริบเลยจ้า

“ไปว่าแต่ไอ้เกียร์ มึงดูเพื่อนมึงดิ อายแทบจะม้วนเป็นเกลียวสว่านเจาะปูน” เหี้ยยไทป์ ดอกเดียวเจ็บ อย่าล้อดิ แง้งๆๆ ผมช้อนตามองพวกมันที่กำลังมองมาทางผม ไอรักถลึงตาใส่พวกมันที่กุมท้องหัวเราะกันอยู่

“ฮ่าๆๆๆ ไอ้เชี่ยรัก มึงหน้าแดงแปร๊ดเลยอะ ฮ่าๆๆ โอ้ย กูขำ” ไอ้คลื่นหัวเราะจนน้ำตานองหน้า ขอบคุณมากเพื่อนกูแต่ละคน หันไปมองเกียร์ที่กำลังจ้องมาทางผมเหมือนกัน มันกระตุกยิ้มนิดๆ แต่กูเห็นสายตามึงล้อเลียนกูเหลือเกินนะไอ้จวย

“หึหึ เออหว่ะ ไม่กินแล้วเหรอ ก้มหน้าทำไมวะ จะวัดไซส์รองเท้ารึไง กร๊ากก” ผมปาช้อนใส่หัวไอ้พิช ไม่กงไม่กินแม่งแล้ว ก่อนลุกออกไป ไม่ลืมหยิบนมช็อคติดมือมาด้วย

“ห่า จะสะดีดสะดิ้งแต่เสือกห่วงนมอีกนะมึง ฟายย ฮ่าๆๆ” ไอ้เชี่ยคิมมม!!!!!!!

“บัวลอยอยู่ในหม้อ” เสียงไอ้เกียร์บอกพวกนั้นแล้วเดินตามออกมา ผมนอนคว่ำหน้ากับหมอนเล็กบนโซฟา มันนั่งบนขอบโซฟาแล้วลูบหัวผมเบาๆ

“เป็นอะไรครับ หื้ม”

“มันล้อหน้าผมอะ” ผมพูดอู้อี้กับหมอน

“อายเหรอ”

“ไม่อาย ผมไม่ได้หน้าแดงซะหน่อย แง่งๆๆ”

“ไหนดูหน้าคนที่ไม่อายซิ หึหึ” มันหัวเราะในลำคอก่อนจับผมให้นอนหงาย

“อย่าสิ ไม่เอา ไม่เล่นนะ!” ผมยื้อกับมันสักพักจนต้องยอมแพ้เสียเอง

“ไม่เห็นแดงเลย เนอะ หายแล้ว” หมายความว่าไงวะ คือเมื่อกี้มันแดงใช่ไหมเนี่ยยย ผมส่งหน้าบูดไปให้มัน โทษฐานพูดไม่เข้าหู

“อะๆ พูดใหม่ก็ได้ ไม่ได้แดงเลยสักนิด เมื่อกี้ก็ไม่แดง ตอนนี้ก็ไม่แดง ไม่ต้องอายแล้ว โอเค?” ผมเม้มปากแน่นหลบสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักความเอ็นดู ก่อนพยักหน้าหงึกๆ กับคนนี้ ไปไม่เคยเป็นเลยสักครั้ง

“โอเคแล้วก็ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้วครับ หรือจะให้อุ้มไปอาบให้ หื้ม” ไม่รอให้พูดจบ ผมใส่เกียร์หมาดริฟท์ควันขโมงเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว จนเสียงหัวเราะดังตามหลังมา





TBC--------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>


ไปประชุมคณะก่อนนะคะ งานเยอะมากกกกกกกกก กิจกรรมคณะก็ตรึม อิฉันกำลังจะตาย ฮืออTT

คิดถึงทุกคนค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน P.4 *ตอนที่12* [19/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 19-12-2012 18:27:28
เกียร์น่ารักอ่ะ
เทคแคร์ดีเว่อร์
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน P.4 *ตอนที่12* [19/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 19-12-2012 20:08:21
น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก อ่ะ
 :-[
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน P.4 *ตอนที่12* [19/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 19-12-2012 21:26:41
เกียร์คนเดิมรึเปล่านะเนี่ยยย 555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน P.4 *ตอนที่12* [19/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 19-12-2012 23:31:19
อั๊ยย๊ะ   :z1: :z1: :z1: :m25: :m25: :m25: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :haun4: :haun4: :haun4:

น่ารักเว่อร์ อร๊ายยยยยย ~  :oo1: :oo1: :oo1: :o8: :o8: :o8: :-[ :-[ :-[ :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน P.4 *ตอนที่12* [19/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 22-12-2012 13:16:06
ไอรักน่ารักมากอะ เกียร์ก็อ๊อนอ้อน แต่กับเพื่อนหนูไอรักนะ เย็นช๊าเย็นชา

เหมือนบอสจะคู่กับคลื่นยังไงไม่รู้ หรือคิดไปเอง555

หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน P.4 *ตอนที่12* [19/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 22-12-2012 15:16:34
เขินมากมายยยยยยยยยย  :-[
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน P.4 *ตอนที่12* [19/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 22-12-2012 18:48:29
พอเกียร์ยอมรับว่าชอบไอรัก แสดงออกไม่มีเขินเลย
น่ารักอ่ะ ยิ่งไอรักแล้วยิ่งน่ารัก
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน P.4 *ตอนที่12* [19/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 24-12-2012 00:04:35
โอ๊ย คุณพระเอกน่ารักเกิ้น ห่างไม่ได้เลยติดหนึบตลอดดดด เอาใจทำโน่นนี่ให้เยอะด้วย
กว่าจะมีวันนี้ไม่ได้ง่าย ๆ นี่เนอะ ชอบจู๋จี๋ต่อหน้าประชาชีอีกต่างหาก คือเกียร์ไม่อาย
แต่ไอรักก็มีอายบ้างไรบ้างอ่ะนะ ไม่แคร์สื่อทั้งสิ้น คนอ่านชอบมากจ้า...
เสียอย่างเดียวคือเกียร์ขี้หึงมากจนน่ากลัว หลอนตั้งแต่คราวหึงพี่น้ำจนต้องห่างกันแล้ว
ประคองความรักกันไปดี ๆ น้า ไอรักก็เสน่ห์แรงจนน่าระแวงเหลือเกิน

สนุกมากค่ะ เพิ่งตามอ่านทัน รออ่านต่อนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน P.4 *ตอนที่12* [19/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: phakajira ที่ 25-12-2012 01:34:03
ชอบ. สนุกมากๆเลยยย >.<.  เกียร์น่ารักกกอ่ะ. เจ้าชายก็เพอเฟคตค -///-

อิมเมจตรงใจมากก. แอบเชียร์คิมเนม 555

เราเป็นFC บอสสสมาเฟียสุดโหด 555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน P.4 *ตอนที่12* [19/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 25-12-2012 04:45:16
 :call: :call: 
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน P.4 *ตอนที่12* [19/12/12 ]
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 25-12-2012 09:20:35
มาอ่านเรื่องนี้ด้วยคน
น่ารักมากๆเลยคู่นี้
หว้านหวานนน
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *HAPPY NEW YEAR2013* P.4 [01/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 01-01-2013 22:47:57
HAPPY NEW YEAR 2013


“ก็ไหนเราตกลงกันแล้วไง”

“โถ่เกียร์ มันไม่ได้จริงๆนิครับ เข้าใจนะครับ?”

“ไม่”

“น้าน้า” นั่นไง มันเริ่มมาละ ไอ้น้ำเสียงและสายตาออดอ้อนที่ทำให้ผม(ต้อง)ตายใจตลอด แต่คราวนี้มันจะต้องไม่เป็นแบบนั้น! ผมชิ่งเงียบ เถียงไม่ออก

“…”

“นะครับน้ำแข็ง น้ำแข็งของไอรัก” ได้ยินประโยคนี้ จบเลยครับ ความตั้งใจของผมที่มันมักจะไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง

มันอะไรกันนักหนา! ปีใหม่ทั้งทีแต่ไม่ได้อยู่กับแฟน แมร่งโคตรจะหดหู่อารมณ์เสียมากๆ ตั้งแต่ที่ไอรักเดินเข้ามาบอก…

‘เกียร์ๆ ปีใหม่นี้ไอรักหยุดไม่ได้นะครับ หมอคนอื่นก็ไม่หยุด เรื่องที่ตกลงจะไปเที่ยวต้องพับเก็บไว้ก่อน ยังไงก็ไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วกันนะครับ’

มันอะไรกันนนนนนนนนนวะ!!!! มันเป็นถึงเจ้าของโรงพยาบาล แต่วันๆทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อต เดี๋ยวนี้ก็ไม่รู้ไปไหน กลับมืดกลับค่ำ หรือมันจะแอบไปมีกิ๊กวะ ไม่ ไม่ใช่หรอก เราสองคนก็ผ่านมาเยอะพอสมควร ไม่มีวันเอนเอียงไปหาใครได้อีกแล้ว ใช่ ไม่มีทางเสียหรอก ...



แต่ตอนนี้กูเริ่มหวั่นไหว



ไอรักจะมีกิ๊กชื่องานหรือเปล่าวะ!! วันๆก็ทำแต่งาน งาน งาน จนผมแทบจะบ้าตายแทนมัน รู้ว่ามันเหนื่อยจากทำงานก็หมดวันแล้ว แต่กูก็เหนื่อยตัวเองที่ต้องหึงไอ้เหี้ยห่าที่ไหนไม่รู้ที่ชื่อ

‘งาน’

อย่าให้กูเจอมึงนะ พ่อจะกรีดรถด่าพ่อกระทืบซ้ำให้เสียหมาสัดเอ๊ย!


“แล้วปีนี้เกียร์จะอยู่กับใคร” ผมทำหน้าหงอยๆไปให้มันสงสารบ้างสักนิดก็ยังดี

ปีก่อนๆเราก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ส่วนปีนี้ผมรีบเคลียงาน นัดมันเสียดิบดี แถมบอกตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม แต่พอใกล้จะถึงวันไป มันดันกลับลำ มาบอกไปไม่ได้เสียอย่างนั้น ผมก็เข้าใจนะว่ามันทำงานหนัก ไหนจะตรวจคนไข้เองในบางครั้ง บริหารโรงพยาบาลที่พ่อมันอุส่าสร้างให้ลูกหลานตั้งหลายที่ ยังไงก็ต้องสำคัญอยู่แล้ว...

...แต่ผมก็สำคัญเหมือนกันไม่ใช่เหรอ...

...แม่งน้อยใจฉิบ...


“อยู่กับพวกพัตไงครับ ไม่เอาหน่า คิ้วพันกันยุ่งไปหมดแล้ว ยิ้มหน่อยครับคุณน้ำแข็ง” ไอ้พวกเพื่อนผมตอนนี้ก็ยังติดต่อกันอยู่ครับ จะไม่ให้ติดต่อกันได้ไงละก็เล่นติดบริษัทเดียวกันเกือบยกกลุ่ม

ไอรักเขยิบตัวเข้าใกล้ผมที่นั่งอยู่บนโซฟายาวสีดำ เอานิ้วชี้คลึงปมแล้วส่งหน้ายิ้มกว้างมาให้ใจคนมองพองโต

เหี้ยเอ๊ยแค่นี้ก็ทำของกูแทบตั้งโด่ ถ้าไม่ติดว่ากูกำลังหงุดหงิดที่ไม่ได้เค้าท์ดาวน์กับมันนะ แมร่ง ใครจุดประเด็นนี้ขึ้นมาอีกวะ กูเริ่มคันตีนยิกๆอยากกระทืบ ต่อยหน้าไอ้เหี้ยงานอีกแล้วว่ะ

ผมรีบหันหลังหลบหน้าซื่อๆตาแป๋วๆก่อนที่จะใจอ่อน ความจริงกูก็เถียงมันไม่ได้อะ แค่เห็นหน้ามัน กูก็ทำไม่ลงแล้ว เซ็งตัวเองฉิบหาย กับลูกน้องแมร่งกดขี่เข้าไปดิ แต่กับไอ้แมวตัวนี้แมร่งอ่อนสัด อย่าว่าแต่กูเลย ใครมาเห็นหน้าใสๆของมันก็คงจะเป็นเหมือนกู

...ไม่กล้าขัดจริงๆว่ะ...

ผมนั่งไขว่ห้าง มือประสานที่หน้าตัก ไม่ให้มันตกใจเมื่อเห็น ‘ไอ้เกียร์น้อย’ ที่กำลังโกรธ โดยที่มันไม่ได้แตะเลยด้วยซ้ำ

แต่ตอนนี้มันกำลังปลุกลูกผมให้ผงาดมากกว่าเก่าด้วยการ ..

จุ๊บ

“เข้าใจไอรักหน่อยนะครับ” จุ๊บ

“นะครับ” จุ๊บ

แมร่งเอ๊ยยย ให้กูชนะมึงบ้างไม่ได้เลยเหรอวะ ถึงกูจะไปโกรธฆ่าคนทั้งโลกได้ แต่พอเจอแบบนี้ ไอ้อารมณ์ฉุนเฉียวมันหายไปตั้งแต่จุ๊บแรก เหลือแต่อารมณ์หื่นที่บังหน้ากูแล้วโว้ย



“อ๊า ..อ๊ะ...”



…………………………………….
………………………..
……………..
……




“ฮ่าๆๆ ดูไอ้เหี้ยเกียร์ดิ ไอรักมันทำงานนะโว้ย ไม่ใช่ไปนอนกับกิ๊ก เอ้ยๆ กูพูดผิด กิ๊กกั๊กอะไร ไม่มีหรอก ใช่ปะไอ้มัด” ไอ้สัดพัตรีบกลับคำเมื่อผมตวัดสายตาไปมองมัน กูไม่น่ามากับพวกมึงเลยว่ะ อารมณ์เสียฉิบหาย หงุดหงิดโว้ยยยยยย

“เออ ไอ้เชี่ยเกียร์ หยุดตีหน้ายักษ์ได้แล้ว ปกติหน้านิ่งๆของมึงก็โหดอยู่แล้ว ถ้ามึงไม่ได้อยู่กับแฟน กูคงไม่ได้เห็นรอยยิ้มมึงเลยใช่ไหม ห่า!” ไอ้มัดพูดแกมน้อยใจแล้วยกเบียร์ซดอึกๆ เรื่องของกูดิ กูจะยิ้มให้พวกมึงทำซากอะไร เปลืองแรงกระตุกบนใบหน้าเสียเปล่าๆว่ะ

“ไม่ได้ยินเสียงแมร่งด้วย” ไอ้เหี้ยโฟ่เหยียบซ้ำ

“อ้าวคุณมึงก็พูดเหมือนปกติมันเคยหืออือกับเราเนอะไอ้ห่าราก มึงกินข้าวดิไอ้เกียร์”

“เหี้ยแว่น มึงดูหน้าคนที่มึงถามด้วย ระวังกระดูกตัวเองหายหรอกมึงนิ”

“มึงว่าไอ้เกียร์เป็นหมาเหรอวะไอ้มัด” ไอ้แว่นเนเบิ่งตาโตอย่างแปลกใจ

“เหี้ย กูแค่จะบอกว่ามันหงุดหงิดอยู่โว้ย ไอ้ห่าปากพล่อยนะมึง เดี๋ยวบิดากูหาศพลูกตัวเองไม่เจอกันพอดี” ไอ้มัดหันมามองผมด้วยหน้าตาเลิ่กลั่ก ผมก็ไมได้ว่าอะไร

“สรุปมึงจะไม่แดกข้าวปลาอาหารใช่ไหม” ไอ้เนหันมาถามผมอีกรอบ ไอ้เวรนี่ก็เสือกจริงวุ้ย ผมปรายตามองมันก่อนหันไปทางอื่น มันพยักหน้ารับรู้ว่า ‘โอเค มึงไม่แดก’

“เอ่อ คุณเพื่อนค้าบบ คุณเพื่อนช่วยปั้นหน้าเพื่อหน้าตาของโต๊ะพวกเราหน่อยได้ไหมครับ ผู้หญิงผ่านไปผ่านมากลัวจนจะฉี่ราดอยู่แล้วมึงไม่เห็นเหรอวะครับ เหยื่อกูไม่ติดเลยวันนี้ ไอ้เพื่อนหน้าเหี้ย เอ้ย หน้าโหด” ทุกคนพยักหน้ากับคำพูดไอ้พัต ช่างแมร่งดิ กูแคร์ที่ไหน ตัวผู้ตัวเมียหน้าไหนอย่ามาใกล้กู เดี๋ยวกูอัดให้หนังหลุดเลยนิสัด

ผมเสยผมไปข้างหลัง กอดอกไขว่ห้างอย่างหงุดหงิด เหี้ยเอ๊ย เก้าอี้แมร่งก็นั่งไม่สบาย หาดเหี้ยไรมีแต่หิน เรียกเทศบาลมาเก็บแมร่งเลยดีไหม สัด ทำไมตอนกูมากับไอรัก หินมันไม่ขวางหูขวางตาแบบนี้วะ แล้วพวกมึงเล่นน้ำกันสนุกเนอะไอ้ฝรั่งหัวแดง ไอ้ห่า กูอารมณ์เสียจะตายห่า แต่พวกมึงเสือกร่าเริงครื้นเครงกันทั้งหาด ไอ้ทุ่งดอกกระเจี๊ยว! อะไรวะทุ่งดอกกระเจี๊ยว เออช่างแมร่งเหอะ

ย้อนไปก่อนหน้านี้นิดหนึ่ง

‘โหลเจ็ดสิบ สองโหลยี่สิบห้า อ้ายยยคุณเพื่อนเกียร์’
“เหี้ยไร”ผมทักทายไอ้พัตอย่างมีมารยาท
‘สมพรปากครับเพื่อนกู ไปเค้าท์ดาวน์ที่หัวหินเป็นถิ่นมีหอย ฝรั่งนั่งคอย ดูหอยติดหินกันมึง!’ ผมถอดรหัสที่มันต้องการสื่อสารคือ’ไปหัวหินกัน’
“ไม่” ผมตอบทันทีโดยที่ไม่ต้องคิด
‘ไม่ได้ๆๆๆ แล้วมึงจะไปไหนของมึง ได้ข่าวไอรักไม่ว่างให้มึงนิ หึหึ’ ค-ย เรื่องบ้านคนอื่นเสือกรู้ดี ถึงไอรักจะไม่ว่าง แต่กูก็ไม่ไปกับมึงโว้ย ที่สำคัญ ถึงแม้ว่าผมกับไอรักจะไปหัวหินกันหลายครั้งจนผมแทบจะลืมเหตุการณ์ร้ายๆไปแล้ว แต่ถ้าไอรักไม่ไปด้วย ผมก็ไม่อยากไปนักหรอก
“ไม่ กูจะอยู่บ้าน” ปกติมันรู้ว่าถ้าผมบอกไม่ ก็คือไม่ ใครก็ห้ามผมไม่ได้ แต่วันนี้มันเกิดอาเพศอะไรของพวกมันไม่รู้ ซึ่งคำตอบของผมไม่มีทางเปลี่ยนไปแน่นอน...
‘ไม่ได้! มึงเป็นหมารึไงวะ ปีใหม่ทั้งที เสือกนอนเฝ้าบ้าน สรุป มึงต้องไป! มึงต้องไป! ห้ามปฏิสูด เอ้ย ปฏิสีด เอ้ย ปฏิเสธ เอ้ย ถูกแล้วว’ ไอ้เหี้ยนี่พูดไม่รู้เรื่องกูต้องทำให้มึงมีเหมือนสภาพศพชายปริศนาไม่ทราบชื่อนอนเสียชีวิตอยู่บนสายโมเด็มใช่ไหม

“ไปเถอะครับเกียร์” ผมหันไปมองเสียงคนรักจากข้างหลัง



และด้วยคำพูดเพียงคำเดียว ผมจึงต้องมานั่งอารมณ์ประหนึ่งหญิงสาวประจำเดือนมาไม่ปกติบนเก้าอี้ผ้าใบริมชายหาด ลมก็ตีหน้ากูเหลือเกิน จะพัดเหี้ยไรรุนแรงนักหนา ช่วงนี้เครียดๆ ผมกูยิ่งร่วงอยู่ เยดโด้!

“อากาศดีว่ะ” กูพึ่งด่าในใจไปแหมบๆ

“โว้ววว มึงดูคนนั้นดิ สวยจังวะ กูล่ะอยากจะไปสาดน้ำกับสาวบีกินนี่สีแดงคนนั้นฉิบ”

“เออว่ะ น่ากระตุกสายบีกินนี่ดีว่ะ แมร่งคงทะลักน่าดู”

“โหเหี้ยมัดครับ ว่าแต่นมเขา ตามึงก็แทบจะทะลักออกจากเบ้า เก็บหน่อยเพื่อน กร๊ากก”

“สัด แล้วไมมึงไม่เข้าไปจีบน้องเขาเลยวะไอ้พัต อารมณ์อยากป๊อดเหรอมึง”

“ก็ถ้าไม่ติดว่ามีชายฉกรรจ์ตามติดชีวิตนางฟ้าของกูนะแมร่ง ฮึ่ยๆๆ”

“มึงเคยแคร์?” ไอ้โฟ่หันไปถามพัตกับมัดที่กำลังมองออกไปทางทะเล ผมไม่ได้มองผู้หญิงหรอกว่าสวยจริงหรือเปล่า เพราะกูไม่มีอารมณ์หันห่าไรทั้งสิ้น จบ

“ม่ายยยย อิอิ” มันว่าแล้วก็ลุกออกไป

“อย่านั่งเครียดดิวะไอ้เตียหมิด แดกปูๆ” ไอ้แว่นไม่กินผักแต่กับอาหารทะเลแทบใช้ตีนช่วยคีบเข้าปาก มึงไม่มีเมียให้ติดแล้วอย่าพูด ผมนั่งคิ้วขมวดอยู่ไม่นานก็ต้องคลายลงเพราะเสียงที่รอคอยมา(เหมือน)แสนนานดังขึ้น

‘เกียร์ของไอรัก ไอรักของเกียร์ เกียร์ของไอรัก ไอรักของเกียร์ ... ปี๊บบ’

เสียงรอสายนี้ผมกับไอรักอัดเสียงตั้งนานแล้ว เราตั้งให้เหมือนกันทั้งคู่ ‘เกียร์ของไอรัก’ อันนี้เสียงผม ส่วน ‘ไอรักของเกียร์’ เป็นเสียงแมวบ้านผมเอง หึ

“คิดถึง” ผมชิงหยอดคำหวาน ด้วยเสียงทุ่มนุ่มที่ใช้เฉพาะกับมันคนเดียวเท่านั้นไปก่อนที่เจ้าตัวจะอ้าปากทัก

‘หูยย คนโทรยังไม่ได้พูดอะไรเลย คนรับชิงพูดก่อนเลยนะ ตอนจะไปผมก็ไปส่ง มาคิดถงคิดถึงอะไรเล่า ฮ่าๆๆ’ เสียงใส แง้วๆลอยมาตามสาย ทำให้ผมยิ้มอย่างห้ามไม่ได้ ..คิดถึงเจ้าของเสียงว่ะ...

“ก็คืนนี้ไม่มีคนให้นอนกอด มันนอนไม่ค่อยหลับ”

‘โอ๋ๆ เดี๋ยวพ่อจะกล่อมเจ้าเอง อย่าร้องไห้นะลูกนะ เก็บน้ำตาจ่าโทเอาไว้ตอนซื้อของขวัญวันปีใหม่ให้เพื่อนในบริษัทเถอะ’ เอาแล้วไง เล่นกูแล้วไหมละไอ้แมว ดูสิ มันน่าจับมาตีก้นไหมล่ะ เลี้ยงไม่เคยเชื่อง เปลืองข้าวเปลืองน้ำจริงๆ แรงก็แรงกู ข้าวกูก็ยังต้องหุงเอง แอ๊บไหมล่ะ นายช่างใหญ่อย่างกูคนนี้คือพ่อศรีเรือนที่สุดในโลกนี้แล้ว

“เดี๋ยวจะโดน แล้วทำอะไรอยู่ หื้ม”

‘อ๋อ มากินข้าวแถวซอยอารีย์ครับ อร่อยนะ มากินด้วยเปล่า คิกๆ’

“เอาไหมล่ะ”ผมถามจริงๆครับ เพราะใจผมตอนนี้ไปอยู่กับมันแล้ว เที่ยวไปก็ไม่สนุก

‘ไอ้หยา ไอรักล้อเล่นครับคุณน้ำแข็ง เอาจริงเอาจังตล๊อดด อ๊ะ! เดี๋ยวผมกินข้าวก่อนแล้วกันนะครับ’

“อืม ...คิดถึงนะ”

‘คร้าบบ คิดถึงเหมือนกัน’



“กูว่ามึงจะอิ่มเอิบกับโทรศัพท์มึงเกินไปละ ไม่แดกคงแดกข้าว” ไอ้แว่นเงยหน้าจากก้ามปูมาแขวะ มึงเป็นเหี้ยอะไรกับกระเพาะท้องไส้กูนักหนาวะ มึงกินเหอะ มือของมันข้างหนึ่งถือก้ามปู อีกข้างถือกุ้งที่จิ้มน้ำจิ้มซีฟู๊ดแล้ว ผมเห็นแล้วอยากจะตบหน้าผากตัวเองแรงๆ อนาถจิตกับเพื่อนคนนี้เป็นที่สุด

“เมื่อกี้หน้าเป็นตูด ตอนนี้หน้าบานเป็นจานใส่ปู เป็นห่าไรมากปะสัด” ไอ้แว่นพยักหน้าเห็นด้วยกับไอ้เหี้ยโฟ่แล้วนั่งแดกต่อ กูไม่ได้เป็นห่า กูแค่อยากกลับไปกอดเมียโว้ยยย

“ไอรักลิซึ่มทั้งปี” ไอ้สาที่ใส่ทูพีชเดินขึ้นจากทะเลด้วยรูปร่างและท่าทางอ้อนแอ้นให้ชายแถวนี้มองตามเป็นแถว แต่คำพูดแต่ละคำแมร่งน่าเอากระบวยยัดปาก





ผมเดินแยกกับพวกนั้นก่อนเข้าห้องตัวเอง ไอ้เนกับไอ้มัดอยู่ห้องTwin Room ส่วนไอ้โฟ่ และไอ้สา แยกกันคนละห้อง  ผมก็ขึ้นลิฟท์ไปนอนห้องสวีทบนสุดของแฟนผม โรงแรมนี้เป็นของไอรักครับ เห็นมันบอกว่าจองช่วงไฮซีซั่นกะทันหันแบบนี้ห้องจะไม่มีเลยเพราะเต็มหมดแล้ว แต่มันก็โทรไปเคลียห้องให้พวกเพื่อนผมจนได้

ผมเปิดไฟ เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวในกระเป๋าแล้วเข้าไปอาบน้ำอย่างไม่รีบร้อน เสร็จก็ออกมาใส่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวที่ดูเหมือนชุดนอนประจำของผมไปแล้ว จะมีบางวันเท่านั้นที่ผมเกิดอาการมึนเมาอยากใส่เสื้อยืดนอน

ผมนั่งเลื่อนดูรูปไอรักในโทรศัพท์รอพวกมันที่โซฟารับแขกไปพลางๆ เพราะพวกมันบอกจะขึ้นมาเค้าท์ดาวน์ที่ห้องนี้ จนรู้สึกว่ามันจะนานไปละ ผมเงยมองนาฬิกาที่แขวนในห้อง อีกสามนาทีเที่ยงคืน ทำไมยังไม่มากันวะ กูเริ่มมีน้ำโห ไม่ชอบรอใครนานๆ แต่ครั้นกำลังจะโทรตามพวกมัน



พรึ่บ!



อ้าวววววเชี่ยย!!


ไฟตก ไฟตัด หรือไฟดับวะ แล้วนี่มันใช่เวลาที่กูจะมาคิดกวนตีนแบบนี้ไหมเนี่ย

ผมกระพริบตาให้คุ้นชินกับความมืดก่อนตัดสินใจจะก้าวไปดูข้างนอกเสียหน่อย


หมับ!






“Happy new year my sweetheart.”เสียงหวานและอ้อมกอดที่คุ้นเคยเขย่งกระซิบจากข้างหลังผมยืนนิ่งไม่ตอบรับใดๆ


“.....”


“เกียร์ ..”


“…..”


“เกียร์ครับ พูดอะไรหน่อยสิ” ให้กูพูดอะไรวะ อารมณ์ในตัวผมตีกันยุ่งเหยิงไปหมด ทั้งดีใจ น้อยใจ คิดถึง หมั่นเขี้ยว เครียด งอน


โว้ยยยยย ไอ้หอกหัก! กูเริ่มงงตัวเอง สรุปกูงอนแปล่มๆแล้วกัน


“.....”


“โกรธผมเหรอ” มันเริ่มคลายกอดถามเสียงสั่นอย่างน่าสงสาร ผมไม่ได้โกรธหรอกนะ แค่เห็นมันมาอยู่ด้วยกันกับผมในวันนี้ก็ดีใจมากแล้ว แต่แค่งอนที่มันโกหกให้ผมเครียดตั้งหลายวัน

เห็นกูเงียบ ไม่ค่อยพูด ใช่ว่ากูจะเป็นคนไร้อารมณ์ ดีใจ น้อยใจใครไม่เป็น ที่ไม่แสดงบางสิ่งออกมาเหมือนคนอื่นเพราะกูต้องการข่มความเจ้าอารมณ์และความรู้สึกที่รุนแรงบางอย่างเอาไว้เท่านั้น แต่กลับกัน ผมไม่สามารถข่มความรู้สึกนี้เอาไว้ได้เลยสักครั้ง

“ไอรักขอโทษ ไอรักแค่จะ..อื้ออ...” ไม่ต้องให้มันพูดจบประโยค ผมหันไปมอบจูบปากมันที่กำลังเผยอจะพูดอะไรต่อ จับขามันมาเกี่ยวเอวแล้วอุ้มมันขึ้น รีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปหน้าห้องนอน มือข้างหนึ่งเปิดประตูก่อนใช้เท้าปิดอย่างรีบร้อน แล้วกดตัวตัวมันลงบนเตียงโดยที่ปากยังพันกันมัวมันไม่ห่างไปไหน

“ช่วยถอดหน่อยสิ” ผมละจากปากมัน ซุกเข้าซอกคอหอมๆ เอามือมันมาวางไว้แถวขอบกางเกงผม มันหลบตาอายหน้าแดงก่อนค่อยๆเอื้อมมือถอดบ๊อกเซอร์ของผม ผมเลยช่วยถอดเสื้อผ้ามันอย่างรวดเร็ว

เหี้ยเอ๊ย กูเห็นหน้าแดงๆของมันแล้วอยากเสร็จในตัวมันตอนนี้เลยฉิบหาย

เงี่ยนโว้ยยยยยยยย

“..อะ..อือ...เกียร์ ..ยะ อย่าขยำแรงสิ ผม ..อ๊ะ..อ๊า ..” ปากขบลงยอดอกชมพูของมัน จนหัวนมมันเป็นไต มือขยำก้นนิ่มเต็มแรงจนแดงเป็นรอยมือ มือผมลุกล้ำต้นขาเนียนก่อนขึ้นไปชักน้องชายของมันเบาๆ

“อื้ออ กะ...เกียร์”มันแอ่นตัวบิดอย่างเสียวซ่าน ครางเรียกชื่อผมเสียงหลง ยิ่งทำให้ผมแทบแตก ผมรีบยืดตัวใส่ถุงยาง ละเลงเจลบนมังกรใหญ่ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อมีมือเล็กจับมือผมที่กำลังละเลงเจลบนมังกรใหญ่

“เดี๋ยว.. วะ วันนี้ไอรักให้สดก็ได้” เยดแม่ม ร้อยวันพันปีแทบไม่เคยให้ผมสด เพราะมันรักสะอาดมากถึงมากที่สุด ผมยิ้มหวานรีบถอดปอกออกอย่างว่องไว ไอรักหลับตาปี๋ด้วยความอายแล้วหันไปด้านข้าง

“ลืมตาแล้วมองเกียร์ชัดๆนะครับ” ผมประคองหน้ามันให้มองตรงมาทางผม โน้มตัวจูบโพลงปากหวาน มันค่อยๆลืมตามองผมที่จ้องดูมันอยู่ตลอด นิ้วค่อยๆคลึงปากทาง แทรกเข้าไปทีละนิ้ว ชักสามนิ้วเข้าออก ควงหมุนให้ช่องขยายกว้างขึ้นเพื่อไม่ให้มันเจ็บ

“พร้อมนะ” ผมพูดเมื่อเห็นจากสีหน้าเหยเกมันได้เปลี่ยนเป็นเสียวซ่าน มันพยักหน้า

“เกียร์ ...เข้ามาเถอะ อ๊ะ..” ผมไม่รอช้า ค่อยๆแทรกดุ้นแข็งเข้าไปเรื่อยๆจนขนดำดกขยุบขยับสัมผัสกับเนื้ออีกคน ผมซูดปากอย่างลืมตัว ไล้ลิ้นจากหัวนมขึ้นไปกัดซอกคอสองสามที่ก่อนดูดปากมัน ด้านล่างขมิบตอดรัดน้องชายผมแน่นจนเจ็บ ขยับก็ไม่ได้

“หายใจลึกๆ ผ่อนคลายนะ” ผมกัดฟันพูดจนกรามนูน อยากจะเร่งเครื่องเต็มทน แต่ไม่อยากให้คนตรงหน้าต้องเจ็บ ไอรักเริ่มทำตามที่ผมบอก

“อ้ะ...” เมื่อมันผ่อนแรงตอดลง ขาเริ่มหุบจนผมต้องกระทุ้งมันเบาๆ แล้วเริ่มขยับสะโพกซอยเนิบๆ สายตาผมยังจ้องไปยังตาสีน้ำทะเลที่สะท้อนเงาผมให้รู้ว่าตอนนี้สายตามันมีผมเพียงคนเดียว ..คนเดียวเท่านั้น..

“กะ .. เกียร์... อื้มม เกี..ยร์.. อ๊ะ ..”

“ซี๊ดดด อืมม..ไอรัก ...ที่รัก” ผมครางเสียงกระเซ่า กระแทกค-ยไม่ยั้ง มันเด้งเอวสวนอย่างลืมตัว เสียงสะโพกผมกระทบกับก้นมันดังระงมคับห้อง

“อ๊า อ๊ะ ..เกียร์.. ไอ.. อ้ะ ไม่ไหวแล้ว ..อ๊า...” ผมซอยยิกๆ เร็วขึ้น เร็วขึ้น มือรีบชักน้องชายมันเร็วขึ้น มันจิกเล็บเข้าต้นแขนของผมแน่น จนบิดครางตัวแอ่น ปล่อยน้ำเต็มมือใหญ่

“ไอรัก อึก..”ผมเด้าเร็วๆสี่-ห้าที จนแตกตามไปติดๆ ล้มตัวซบลงซอกคอมัน แต่ยังไม่ถอนไอ้มังกรน้อย แถมยังส่ายสะโพก หลับตาพริ้มกับความเสียวกระสั่นอยู่





“เล่ามาให้หมดเลยนะ” หลังจากที่ผมอุ้มมันไปล้างเนื้อล้างตัว ก็มานอนกอดลูบหัว หอมกระหม่อมมันอย่างถวิลหา มันตัวเบากว่าที่ผมคิดอีกนะครับ มันตัวเล็กและเตี้ยกว่าผมเยอะเลยอุ้มไหว แต่ยังไงมันก็หุ่นมาตรฐานชายไทยนะครับ อุ้มนานๆก็เล่นเอาเมื่อยเหมือนกัน

“ก็.. ก็ผมนึกว่าเกียร์จะเข้าห้องครัว ผมเลยไปแอบข้างในแล้วจะโผล่ไปจ๊ะเอ๋ให้ตกใจงะ แต่เกียร์ไม่ยอมเข้ามาซะทีอะ เลยออกมาเซอร์ไพร์สแทน แหะๆ ทีแรกกะจะลากเข้าไปในห้องครัวก็ไม่ทันความหื่นที่บังตาคุณเนี่ย ก็เลยเสียแผนไปหมด นี่ผมอุส่าไปเตี๊ยมกับเพื่อนของคุณ แล้วไปหัดทำอาหารที่คุณชอบด้วยนะจะบอกให้” อ๋อ ที่กลับค่ำๆมืดๆนี่เพราะไปซุ่มหัดทำอาหารใช่ไหม รู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองกำลังยิ้มหน้าบานยังไงไม่รู้ มันเหมือนผีเสื้อที่บินอยู่ในท้องเต็มไปหมด

ก็มันเล่น ‘ไม่มีสัจจะในหมู่แมว’ แบบน่ารักๆกับผมขนาดนี้

ไม่ให้ผมรักมันได้ยังไงล่ะวะ

“หิวแล้ว” ผมลุกขึ้นดึงมือมันไปห้องครัว มันทำหน้าเหวองงๆประมาณว่าอารมณ์ไหนของมึงเนี่ย ก็อยู่ดีๆผมก็ลุกขึ้นแล้วบอกว่าหิว มันเลยตามไม่ทัน ผมอมยิ้มกับใบหน้าเอ๋อๆของมัน

ผมนั่งลงพลางมองอาหารเต็มไปหมด แต่ละจานผ่านการพิถีพิถันมาอย่างเห็นได้ชัด ผมรู้ว่ามันทำอาหารไม่เป็น แค่ไข่ดาวมันยังทำไข่แดงแตก แถมไหม้อีกต่างหาก แต่นี่มันทำหลายต่อหลายอย่างที่ผมคิดว่าชาตินี้คงไม่ได้กินฝีมือเมียตัวเองแน่ๆ แต่มันกลับพยายามทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ถนัดเพื่อผม มันทำให้ผมอดยิ้มกว้างไม่ได้ ผมไม่เคยกลายเป็นเกียร์คนที่อยู่ต่อหน้าคนอื่นเลยสักครั้ง อดคิดไม่ได้ว่าไอรักทำให้ผมมีสองบุคลิกไปโดยปริยาย

“เดี๋ยวอุ่นก่อนนะครับ แปบหนึ่งๆ” ผมยิ้มหน้าบานนั่งรอมัน นานเท่าไรไม่รู้ที่ผมนั่งเท้าคางมองเจ้าตัวที่หัวหมุนจับโน่นจับนี่อย่างยุ่งเหยิงไปหมด เจ้าแมวตัวนี้ชอบซุ่มซ่ามเวลาเข้าห้องครัว ผมแอบหวั่นว่ามันจะทำงานอาหารตกแตก อยากจะเข้าไปช่วยมันนะ แต่มองไอ้แมวเอ๋อทำอะไรแบบนี้แล้วมีความสุขชะมัด เลยขอมองมันอยู่ตรงนี้แล้วกัน

จะน่ารักไปไหนวะไอ้ตัวยุ่งเอ๊ย

“ฮ่า~ เอาล่ะ กินได้แล้วครับ” มันยิ้มแป้นแล้นแข่งกับผม แต่พอเงยหน้าขึ้นมาเจอผมที่กำลังยิ้มให้มันอยู่ ก็ก้มหน้างุดๆแทบจะไหลลงไปใต้โต๊ะ

“นะ นี่คุณยิ้มอะไรอะ อย่ายิ้มแบบนั้นดิ” อ้าว กูยิ้มแบบไหนไปวะ

“แบบไหน”

“ก็ แบบยิ้มกว้างๆ ตาหื่นๆอะ ..โอ้ยๆ ใจกูหยุดเต้นไปยังวะนี่” ผมหลุดหัวเราะพรืดตอนมันพึมพำก้มหน้าจับอกข้างซ้ายของตัวเองที่ดูเหมือนจะหายใจเร็วกว่าปกติ ผมยังงงไม่หาย นี่ตากูแสดงความหื่นชัดขนาดนั้นเลยเหรอวะ หึ ไอ้ตาไม่รักดี เสือกแสดงออกหมดเปลือกแบบไร้ข้อกังขา

“ไม่ใช่แค่ตา เมื่อกี้ก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอ” พูดเสร็จ เหมือนเสียง ‘บุ๋ง’ ถูกปล่อยออกมาจากแก้มแดงแปร๊ดของมัน ยิ่งกว่าลูกมะเขือเทศอีก แก้มจะไหม้ไหมวะ แมร่งเอ๊ย แล้วนี่จะไม่ให้ผมหื่นได้ไง เห็นแล้วน่ากดลงโต๊ะอาหารตรงนี้สัดๆ

“โอ้ยย กินข้าวได้แล้วเกียร์” อะๆไม่แกล้งแล้วก็ได้ผมตักต้มข่าไก่ จะยกซดน้ำ แต่ดันเห็นสายตาโตๆเหมือนลุ้นอะไรบางอย่างอยู่ตรงหน้า ผมแอบยิ้มในใจก่อนค่อยๆชิมช้าๆ มันลุ้นกำช้อนส้อมแน่น มองสีหน้าผมที่แกล้งนิ่งๆคิ้วขมวด แล้วยิ้มออกมา  พร้อมพูดบางคำลอยๆให้คนตรงหน้าได้ยิน ก่อนที่มันจะหลุบตาลงมองจานข้าวตรงหน้าของมัน แล้วยิ้มหวานที่สุดให้กับตัวเอง


ทั้งชีวิต ผมไม่เคยตามหาความสุข ไม่เคยสนใจสิ่งสวยงามรอบตัว ไม่เคยให้ใครรุกล้ำก้าวก่ายเข้ามาในชีวิตให้ปั่นป่วนจนเกินจำเป็น ไม่เคยรู้ว่าการที่มีคนที่เรารักและเขารักตอบจะมีความสุขเพียงใด

ไม่เคยรู้จัก และไม่เคยคิดที่จะสนใจ

แต่เมื่อผมได้รู้จักไอรัก ได้รัก เห็นมันงอน หัวเราะ มีความสุข อยู่ข้างๆผม และได้ร่วมใช้ชีวิตไปพร้อมกับมัน ..

ผมพึ่งเข้าใจสิ่งนั้น

สิ่งที่หลายคนวิ่งหา ที่ตั้งชื่อให้มันว่า ‘ความสุข’ มันเป็นอย่างไร



ไอรักคือความสุขที่แท้จริงของผม







“อร่อยกว่าที่คิดแฮะ”






สุขสันต์วันปีใหม่ครับ




TBC--------------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>




*เรื่องตอนต่อไปขอรอดูเรทติ้งตอนนี้ก่อนแล้วกันนะคะ แล้วจะอัพให้ถ้ามีคนโพสต์พอสมควร เพราะมาคิดๆแล้วโซ่อาจจะอัพติดกันเกินไปหน่อยน่ัะค่ะ*

ปีใหม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนกันเอ่ย~ อืมมม .. ปีนี้ก็ขอให้ทุกท่านมีความสุข สมดังปราถนาทุกประการ

อย่าได้เจ็บอย่าได้ไข้ การงานรุ่งเรือง การเรียนเกรดAทุกตัว ร่ำรวยกันทุกคน ความรักก็สมหวัง อย่าได้มีอุปสรรคใดๆ



สุขสันต์วันปีใหม่นะคะทุกคน


 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *Special HAPPY NEW YEAR 2013* P.4 [01/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 01-01-2013 23:49:23
 :กอด1:  สวัสดีปีใหม่คร่าาาาาาาาาาา



 :m25: อร๊ายยย  เขินวุ๊ยยย
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *Special HAPPY NEW YEAR 2013* P.4 [01/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: bluerose ที่ 02-01-2013 00:06:08
อ๊ายยยยย เขิน รักไอรัก ไอรักน่ารัก 55555 ว่าแต่เกียร์เธอแอ๊บแบ๊วมาก
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *Special HAPPY NEW YEAR 2013* P.4 [01/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 02-01-2013 00:47:55
ไอรักน่ารักเหมือนเดิม เพื่อน ๆ เกียร์นี่ก็เป็นใจให้เพื่อนสะใภ้เหลือเกินนะ 555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *Special HAPPY NEW YEAR 2013* P.4 [01/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 02-01-2013 01:03:54
คุณเกียร์หลงแฟนมากจ้า แต่ก็น่าหลงจริง ๆ แหละ เพราะไอรักน่ารักมากกกกก
เซอร์ไพร์สซะพระเอกเครียดไปหลายวัน แถมกินอะไรไม่ได้เลยเหอะ
ดี ๆๆ จะได้หิวมากินกับข้าวของไอรักเนอะ น่ารักที่สุดเลย พยายามทำเพื่อคนรักสุด ๆ
อีตาเกียร์อย่าหื่นมาก ไอรักเขินจะแย่แล้ว 555

ขอบคุณค่ะ สวัสดีปีใหม่ค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *Special HAPPY NEW YEAR 2013* P.4 [01/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: yokerohz ที่ 02-01-2013 11:24:30
เกียร์หลงไอรักสุดๆไปเลย

น่ารักโฮกกกก  o13 o13

เขิน จะเป็นลม  :m25: :m25: :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *Special HAPPY NEW YEAR 2013* P.4 [01/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 02-01-2013 12:37:43
เกียร์ขี้แกล้งที่จริงก็มองไอรักตั้งแต่แรกแล้วนี่นะ เกียร์ไม่ค่อยขี้หึงขี้หวงขี้ห่วงเลยนะ แต่เกียร์เนี่ยปากไม่ค่อยตรงกับใจเลยนะ ไอรักร้องได้เลยนะนั่น แต่เพื่อน ๆ ไอรักก็ขี้แกล้ง แกล้งเกียร์ทำไมกันนั่น เพื่อนเกียร์ก็ฮากันจริงจังนะนั่น เกียร์บุคลิกขัดแย้งกันในตัวหรือเปล่าเนี่ย อ้อนไอรักขนาดนั้น แต่กับคนอื่นนิ่งจัง ตอนพิเศษอย่างหวานเลยนะเนี่ย Happy New Year ค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *Special HAPPY NEW YEAR 2013* P.4 [01/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 02-01-2013 12:43:44
ชอบเรื่องนี้มากกกก เลยค่ะ ><'

เขินตลอดกับเจ้าชายอุ่นไอรัก อิอิ  :-[

สู้ๆนะคะ รอตอนต่อไปน้า จุ้บ จุ้บ  :z2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *Special HAPPY NEW YEAR 2013* P.4 [01/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 03-01-2013 10:25:56
 .................:m25: :m25: :m25: :m25: :m25:.................

..................................หวานรับปีใหม่......................................

...............................น่ารักตลอดจริงๆคู่นี้ .................................

.......................   :-[:-[ :-[ :-[.......................
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *Special HAPPY NEW YEAR 2013* P.4 [01/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 03-01-2013 11:00:43
แอร๊ยยย หวานกันซะ  :m1:
รอนะฮะ  :')
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *Special HAPPY NEW YEAR 2013* P.4 [01/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 05-01-2013 08:42:48
อ๊ายยย ความในใจของเกียร์

ไอรักไปแกล้งเกียร์ซะงั้นอะ ระวังโดนแกล้งคืนนะเออ 5555

สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังค่า
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *Special HAPPY NEW YEAR 2013* P.4 [01/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 05-01-2013 12:51:14
น่ารักมากกกกกกกกกก  :o8:

ไอรักน่ารักสุดๆอ่ะ  :impress2:

เกียร์หื่นนนน  :z1:
หัวข้อ: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่13* P.5 [07/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 07-01-2013 15:40:29
ตอนที่13


ว๊ากกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!

ไอรักใกล้จะบ้าตายแล้วนะ!!!!

ตอนนี้ผมอยู่ในชุดเสื้อกล้ามสีดำ ทับด้วยแจ็คเก็ตสีน้ำตาลเข้มปกขนเฟอร์ กางเกงสีดำสกินนี่แนบเนื้อจนแทบไม่มีที่ระบายอากาศ รองเท้าบูทสีเดียวกับแจ็คเก็ต มายืนโพสต์สารพัดท่าจนแทบจะกลายเป็นตุ๊กตายางให้พี่จิมทารุณเล่น ก็เล่นถ่ายเป็นพันๆรูป แต่เลือกออกมาไม่ถึงสิบ วันนี้ไอรักคงไม่ต้องทำอะไร ยืนให้พี่จิมถ่ายถึงเที่ยงคืน

“หันซ้ายหน่อยน้อง อีกนิดๆ เออนั่นแหละ แชะ แชะ! โอเค ไอ้ฟ้าใส พานายอชิระไปเปลี่ยนอีกชุดได้แล้ว เดี๋ยวไม่ทันเวลาที่กำหนด ไวๆเลย” อืม นั่นสิ จะได้เสร็จไวๆ ...ห๊า!!!! อีกชุด?! จะบ้าเร๊อะ! นี่กูต้องถ่ายอีกกี่ชุดวะ วันนี้ไม่ได้นอนแล้วกู..

“ค่ะๆๆ ไปกันค่ะน้องไอรัก”

“ดะ เดี๋ยวครับพี่จิม มีอีกชุดเหรอครับ” ผมหันไปถามพี่จิม

พี่จิมเป็นตากล้องมืออาชีพชื่อดังอายุไม่ยังถึงเลขสามที่เซอร์มากที่สุดเท่าที่เคยเจอ ผมหยักศกยาวเฟื๊อยถูกเกล้าขึ้นสูง ไม่รู้ว่าเคยแกะออกมาสัมผัสกับน้ำหรือเปล่า แว่นกลมกรอบสีทองเลนส์สีดำสนิทเสริมความติสโคตรใหญ่จนบดบังหน้าไปเกือบครึ่ง หนวดนี่ไม่ต้องพูดถึง ถ้าเป็นสีขาว ผมนึกว่าซานต้ามาถือกล้อง

ดีอยู่สองอย่างคือหุ่นนายแบบ กับโครงหน้า หน้าตาพี่เขาหล่อโคตร น่าเสียดายจริงๆ

“ถูกต้อง ชุดสุดท้ายแล้ว ชิวๆโว้ยชุดนี้ เบาตัว ไม่ต้องหนักเครื่องทรง แทบไม่ต้องใส่อะไรเลย ใจปะอชิระ” พี่จะติสไปไหน คนอื่นเขาเรียกกันไอรัก สั้นๆ แต่พี่เรียกชื่อเต็มอย่างกับอาจารย์ที่มหาลัย ทำไมไม่เอานามสกุลด้วยเลยล่ะคร๊าบบ

ไอ้ผมก็กวนไปงั้นแหละ ความจริงแม่พี่จิมเป็นเพื่อนกับแม่พี่ผม ผมกับพี่จิมจึงสนิทกันพอสมควร

“อ๋อ ....ห๊า!! ไม่ต้องใส่อะไรอะพี่” ประโยคดังกล่าวทำเอาตาเบิกกว้างขึ้นทันที ผมรีบเอ่ยปากถาม แอบหวั่นเรื่องเสื้อผ้าในใจ เพราะแม่บอกเพียงเวลาและสถานที่เท่านั้น

“ไม่ต้องตกใจไอ้น้องรัก พี่มีกางเกงในให้น้องตัวนึง อย่าได้ซี(เรียส)” มึงจะย่อทำไม

ฉิบหายสิครับพี่ น้ำแข็งที่บ้านยิ่งสั่งห้ามอยู่ กว่าจะได้ออกจากบ้านก็กำชับแล้วกำชับอีก กูกลับไปตายในบ้านแน่ๆ

“ไม่ได้อะพี่”

“เฮ้ย ปฏิเสธไม่ได้โว้ย เอ็งอย่าเรื่องมากดิวะ มันเป็นศิลป์อะเอ็งเข้าใจปะไอ้จ้อน”

“ไม่เข้าใจอะ มันโป๊ ไอรักก็หวงพี่มังกรของตัวเองเป็นนะ”

“ไม่ต้องมาทำเป็นปากยื่นปากยาวใส่เลยนะโว้ย เดี๋ยวข้าโบกหนังกำพร้าหลุดเลยนิไอ้นี่ มาทำเป็นหวงตัว ข้าเห็นเอ็งตั้งแต่จู๋เท่าเข็มฉีดยา จะมาอายอะไรตอนนี้วะ” พี่จิมแสดงความเถื่อนออกมา(อีก)แล้ว ด้วยความที่ว่าพี่เขาซกมก โสโครก เสียงดัง และอารมณ์ขึ้นๆลงๆ คนในสตูดิโอถึงขนาดผวากันซู่ซ่า

แต่พอดีผมเจอมาตั้งแต่เริ่มตั้งไข่ แบบนี้จิ๊บๆ

“ยังไงก็ไม่ได้เด็ดขาดอะพี่จิม ไอรักเปลือยได้แค่ท่อนบนเท่านั้น! โอเคไหม?” ไอ้พี่ซกมกทำหน้าครู่คิด

“ถ้าพี่จิมไม่ตกลงตามนี้ ไอรักก็ถ่ายต่อไม่ได้แล้ว” ผมทำท่าจะเดินออกจากห้องแต่พี่จิมรีบรั้งไว้

“เอ้ยๆ เดี๋ยว!! โอเคก็ได้โว้ยย แมร่ง ไวๆเลย ข้าหิวขี้ เอ๊ย หิวข้าวแล้ว” ต้องให้กูพูดกระตุ้นใช่ไหม ถึงจะตกลงเนี่ย อีพี่จิมทำหน้าหงุดหงิดไปสั่งสตาฟที่รีบกุลีกุจอฉุดผมเข้าไปห้องแต่งตัว



“ถอดเสื้อเลยค่าแล้วหลับตานะคะสุดหล่อ” ช่างแต่งหน้าหุ่นล่ำ จิตใจนางฟ้า สั่งแล้วลงมือละเลงหน้าผมอย่างทำเวลา ส่วนอีกคนกำลังทาอะไรไม่รู้บนตัวผมให้ดูเป็นผิวสีเข้มขึ้น อื้อหือ กลิ่นชวนเมาอ้วกมาก

“ซี๊ดดดด..”

“อ๊ายยอีเชอร์รี่ แกทาดีๆก็ได้ ทำเสียงซี๊ดซ๊าดทำไมยะ”

“ก็มึงดูสิ มันน่า........ แฮะๆ ขอโทษค่ะน้องไอรัก ไม่ต้องกลัวค่ะไม่ต้องกลัว” พี่คนที่ทาขอโทษขอโพยเมื่อเงยมาเห็นผมส่งสายตาหวาดกลัวใส่พี่เขา

“เอ่อ เดี๋ยวผมทำเองดีกว่าครับ” ว่าแล้วก็คว้ามาทาเองเสียเลย ถ้าให้พี่เขาทำนานไปกว่านี้ ไอรักอาจจะโดนประทุษร้ายก็เป็นได้



“ชุดนี้เป็นธีมเถื่อนดิบ พี่จะโฟกัสไปที่ใบหน้าเสียส่วนใหญ่และสรีระท่อนบนบ้างนิดหน่อย ฉะนั้น! เอ็งต้องทำหน้าดุๆนะไอ้จ้อน จะแลบลิ้นแบบเถื่อนๆ หน้ากวนตีน หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่โดยรวม โดยเฉพาะตาเอ็ง พี่ขอโหดๆแล้วกัน เข้าใจนะนายอชิระ”

“โหพี่ครับ ธีมยากสำหรับไอรักเลยนะ ไอรักทำโหดไม่เป็น”

“โอ้ยไอ้บักสีดา ทีหลังข้าจะให้เอ็งไปเรียนแอ็คติ้งสักคอร์สสองคอร์สก่อนมา หลุดเข้ามาสตูได้ไงวะเนี่ยไอ้จ้อนเอ๊ย” คือผมจำใจมาครับ และไม่ได้ตั้งใจจะมาหากินทางด้านนี้ครับ ผมจะเป็นหมอครับพี่จิ๊มมม ผมว่าพี่น่าจะเปลี่ยนชื่อเล่นของตัวเองนะ ยิ่งลากเสียง ยิ่งอุบาทยังไงไม่รู้

“ไหนคุณน้องลองทำหน้าโกรธให้พี่ดูหน่อยสิคะ” พี่กระเทยคนหนึ่งตะโกนจากข้างหลังกล้อง ผมจึงปั้นหน้าโหดให้เขาดู

“เอ่อ....น้องจิม เจ๊ว่าไม่รอดว่ะ”

“ผมก็ว่างั้นอะพี่จิม น้องเขาสดใสเรียบร้อยขนาดนั้น เคยโกรธหรือเปล่ายังไม่รู้เลย” ผู้ช่วยตากล้องพูดขึ้นดูจากสีหน้าทุกคนช่างอมทุกข์เสียเหลือเกิน ทำไงได้ ไอรักทำไม่เป็นนี่หน่า

ไอ้จ้อนคนนี้ผิดมากใช่ไหม.....

“ไม่ได้โว้ย ตอนนี้ไม่เป็นก็ต้องเป็นแล้วไอ้จ้อน เอ็งก็หาเรื่องมาบิ้วอารมณ์เอ็งดิวะ”

“.....” ผมทำหน้างงใส่ พี่จิมส่ายหน้าพร้อมยกน้ำชี้โบกไปมา

“นั่นๆ โง่อีก ทำหน้าโง่อีก ไอ้น้องเวร รักษาความโง่เหมือนเกลือรักษาความเค็มเชียวนะเอ็งนิ ต้องให้ข้าช่วยทุกเรื่อง” ปากคอเราะร้าย..

“ไม่ทุกเรื่องซะหน่อย ..อีตอนเด็กๆแมร่งยังให้กูสอนผูกเชือกรองเท้าให้ตัวเองอยู่เลย กูไม่ทวงบุญคุณก็บุญแค่ไหนแล้ว หมีถึกซกมกเอ๊ย” ผมบ่นอุบอิบเบาๆตามพาสาคนพาล

“บ่นไรของเอ็งคนเดียววะ”

“เปล่าจ๊ะเปล่า อยากเสี่ยงเซียมซีที่วัดเล่งเน่ยยี่ซะหน่อยน่ะ แฮะๆ”กูก็แถไปโน่น แต่ยังดีที่พี่จิมเขาฉลาดเรื่องกล้องอยู่เรื่องเดียว

“เออๆ เข้าเรื่องๆ เอางี้ เอ็งก็คิดถึงหน้าเมียตอนที่กำลังนอนกอดคนอื่นบนเตียงที่พวกเอ็งนอนด้วยกันทุกวันดิวะ” อ้าว เหี้ยสิครับ ภาพเกียร์นอนกกอยู่กับชะนีตัวหนึ่งผุดขึ้นมาทันที

“แชะ แชะ ! โอเค เลิศมาก เมียเอ็งขย่มตออื่นต่อหน้าเอ็งอะ แมร่งจะยอมได้ไงวะ แชะ! แถมยังมีหน้ามาบอกอีกว่าแค่สนุกเอง ขำๆ ขำกับพ่อมันดิ เอ็งว่างั้นปะไอ้จ้อน เหี้ยเอ้ย กูพูดแล้วขึ้นแทน ทำไมกูเห็นหน้าเมียกูนอนกอดคนอื่นลอยมาวะ แชะ! แชะแชะ! Shit!” ผมไม่รู้ว่าแสดงสีหน้าอย่างไรไป แต่คนในสตูดิโอยิ้มปราบปลื้มกับผมเหลือเกิน

“ถ่ายชุดนี้แล้วอารมณ์ขึ้นว่ะ เมียกูไปเถลไถลไหนปะเนี่ย แมร่ง สายอีก โว๊ะ! เดี๋ยวผมกับอชิระกลับก่อนนะ ฝากเก็บของให้หน่อยแล้วกัน วันนี้ขอบใจมากทุกคน” ไอ้พี่จิมบ่นห่าไรไม่รู้แล้วหันไปสั่งลาลูกน้อง หลังจากที่ผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อเสร็จ พี่จิมก็ดึงขึ้นรถแล้วดิ่งตรงไปงานการกุศลอย่างเร็วที่สุด

“ไม่รู้มาก่อนว่าไอ้จ้อนไข่เล็กของพี่มีเมียซะแล้ว หึหึ”

“ไอรักไม่มีเมียซะหน่อย” มีแต่..




“สวัสดีครับๆๆ คิดถึงจังครับมาม๊า” ผมกับพี่จิมรีบไหว้พวกแม่ๆที่กรูเข้ามาทักทาย ผมกอดแม่แล้วหอมแก้มทั้งสองข้าง

“โถ่ มาม๊านึกว่าน้องไอรักจะมาไม่ทันเสียแล้ว รีบไปแต่งตัวได้แล้วนะคะตัวเล็ก” มาถึงคุณนายก็เฉดหัวผมเข้าไปหลังเวทีเลยครับเหล่าสไตล์ลิสกรูเข้ามารุมไอรักที่มาสายเพียงคนเดียว เด่นอีกแล้วกู

“น้องไอรัก ทำไมมาสายจังคะนี่ พวกพี่เครียดจนจะบ้าตาย” พี่พึ่งจะบ้า แต่ได้ถามผมไหมครับว่าผมบ้าไปหรือยัง ฮืออ ไอรักหัวหมุนติ้วๆ

“เหอะๆ โทษทีครับ” ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ปล่อยให้พวกเจ๊ๆดึงหัว แต่งตัวแต่งหน้าตบแป้งอะไรของเขาไป อื้อหือ สิบเจ็ดมิสคอล เกียร์ทั้งนั้น ปกติมันไม่โทรมากมายขนาดนี้ แค่สี่สายก็ถือว่าเยอะมากๆสำหรับมันแล้ว แสดงว่าตอนนี้ต้องโมโหแล้วแน่ๆ ผมไม่รอช้าพิมพ์หาไอ้หมาน้ำแข็ง ก่อนที่มันจะคลั่งไปกว่านี้

“สวัสดีค่ะ” ผมเงยขึ้นไปมองหน้า ใครวะ ผมมองหน้าผู้หญิงหุ่นดีอกอึ๋มตรงหน้าอย่างงงๆ ผมเคยบอกแล้วไงครับ ถ้าเป็นคนแปลกหน้า ผมไม่ค่อยอยากจะพูดเกินจำเป็น ผมไม่ได้หยิ่งนะครับ แต่คนไม่สนิท จะให้คุยเล่นก็ยังไงอยู่

“ฮ่าๆ ยังมีคนที่ไม่รู้จักฉันอีกเหรอคะนี่”

“…” รู้สึกว่าญาติผมไม่มีคนหน้าเกาหลีแบบนี้ ผมจึงเงียบรอฟังเธอแนะนำตัวเอง

“ฉันชื่อนัทตี้ เรียกตี้ก็ได้นะคะ ความจริงฉันให้เรียกได้เฉพาะคนสำคัญเท่านั้นน่ะค่ะ” นัทตี้? ที่แปลว่าบ๊องน่ะเหรอ พ่อแม่คิดยังไงถึงตั้งชื่อนี้เนี่ย ผมแอบหลุดขำเบาๆ คุณนัทตี้นั่งลงข้างๆโดยไม่ได้เอ่ยคำขอใดๆ แล้วส่งรอยยิ้มหวานเยิ้มมาให้ ผมแอบเห็นพวกสไตล์ลิสเบะปากให้เธอด้วย แต่นั่นไม่ใช่เรื่องของผม จึงยิ้มแหยๆให้คุณนัทตี้แล้วก้มลงเล่นโทรศัพท์อีกครั้ง

“แล้วนี่....จะไม่แนะนำชื่อให้ตี้รู้จักเลยเหรอคะ” จังหวะที่เว้น นิ้วชี้และนิ้วกลางของคุณนัทตี้ไต่ต้นแขนผมขึ้นลง แล้วยื่นหน้าเข้ามาถามจนจมูกเธอแทบจะชิดกับแก้มผม

“เอ่อ ไอรักครับ” ผมเลื่อนตัวออกห่างช้าๆเพื่อไม่ให้น่าเกลียดจนเกินไป

“อ๊ะ!? คุณไอรัก อชิระ ลูกเจ้าของโรงพยาบาลและอสังหาริมทรัพย์น่ะเหรอคะ” คุณนัทตี้ทำท่าตกใจ ผมพยักหน้าเนืองๆ

“แหม ไม่คิดว่าจะได้คุยกับทายาทตระกูลอัศววัฒนไพศาลนะคะนี่ ว่าแต่เคยเดินมาก่อนหรือเปล่าคะ ไม่เคยเห็นหน้าคุณเลย” คุณนัทตี้เอียงคอเอ่ยถามแล้วเขยิบตัวเข้ามาใกล้กว่าเดิมสายตาหวานเชื่อมส่งออกมาอย่างเปิดเผย เล่นเอาคนรอบข้างอดหมั่นไส้กับท่าทางของเธอไม่ได้

“จะเคยได้ไงล่ะคะคุณน้อง พี่ๆของน้องไอรักเขาหวงจะตาย ยิ่งมีชะนีประหยัดเนื้อผ้ากร้านโลกมาเกาะแกะ เขาคงไม่ชอบใจนักหรอกค่ะ” พี่ที่ทำผมให้ไอรักแขวะขึ้นพร้อมจิกตาใส่คุณนัทตี้ที่ทำหน้าเกรี้ยวกราดใส่ก่อนยิ้มเยาะออกมา

“อ๋อ แต่ชะนีตัวนั้นก็มีของดีกว่าและสวยกว่ากระซู่ตัวป้อมหน้าเหี่ยวบางตัวที่พยายามจะกลายพันธุ์แต่ก็ทำไม่เสร็จ ของปลอมๆหรือจะสู้ของจริง เหอะ!” นัทตี้เชิดหน้ากระแทกเสียงใส่หน้าช่างทำผม

“โถแม่คุณ ของจริง?พูดมาได้  ได้ข่าวบินไปเกาหลีเดือนละสามหน ยิ่งกว่างิ้วเปลี่ยนหน้า จนคนอื่นเขาเอือมหน้าน้องแล้วไม่รู้หรือไงคะ!”

“กริ๊ดด แกว่าใครห๊ะ อีพวกตุ๊ดน่าขยะแขยง” พี่กระเทยในห้องแต่งตัวหันกันพรึบ เอ่อ คุณนัทตี้ไม่ได้ดูสถานที่เลยนะครับ

“กูตุ๊ดแล้วทำไมล่ะอีด-ก กูไปขี้รดใส่หัวพ่อมึงหรือไง เขาไม่อยากจะร่วมงานกับมึงกันก็เพราะมึงเป็นแบบนี้ไงอีแกรบ!” พี่ช่างแต่งหน้าอีกคนที่อยู่มุมห้องเริ่มบรรเลงฝีปากเสียงดัง

“กริ๊ดดดดดดด ไอ้..”

- I found you in my darkest hour I found you in the pourin rain ..–


“เสร็จแล้วใช่ไหมครับ ผมขอตัวแล้วกัน ปี๊บบ สวัสดีครับ ว่าไงครับเกียร์” ผมผละออกจากสงครามน้ำลายก่อนออกมายืนคุยโทรศัพท์ข้างนอก ขอโทษครับทุกคน ตอนนี้ไอรักขอรักสงบสักครู่

‘เสร็จยัง’ เสียงแข็งเชียวนะมึง ได้ข่าวกูพึ่งแต่งตัวเสร็จ

“ยังไม่ได้เดินเลยอะ น่าเบื่อเป็นบ้าเลย อยากกลับแล้ว อะไรกันก็ไม่รู้”

‘มีอะไรหรือเปล่า’

“เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอกครับ”

‘แล้วมีใครเข้ามายุ่งวุ่นวายหรือเปล่า’ ผมสะดุ้งโหยงหันซ้ายหันขวา คุณเกียร์ จุดสัมผัส ชวนกูได้ผวาตลอด แม้กระทั่งในโทรศัพท์..

“ไม่มี๊ ไม่มีคร๊าบบ”

‘อย่าโกหก’ ผมสะอึกไปครู่หนึ่ง แต่ต้องจำใจโกหกไปเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ

“ไม่โกๆ”

‘แน่?’

“อื้อ อย่าซีเครียดสิ เดี๋ยวหน้าย่นเป็นบลูด็อกหรอก” ผมเผลอปล่อยหัวเราะก๊ากเสียงดัง เพราะความคิดเสี้ยววินาทีแวบหนึ่งนึกถึงเกียร์ตอนหน้ามู่ทู่ ป่านนี้คงหน้ายับปากยื่นอยู่แน่นอน

‘อย่าให้รู้แล้วกัน’ ตกลงนี่มึงเชื่อกูเปล่าวะ

“แฮะๆ แล้วนี่คุณทำอะไรอยู่เหรอ”

‘นั่งคุยโทรศัพท์’ กวนส้นตีนกูแล้วไง

“คร๊าบบ เรื่องนั้นรู้แล้วเหอะ หมายถึงเมื่อกี้คุณทำอะไรต่างหาก”

‘นั่งเล่นไลน์กับไอรัก รอโทรศัพท์จากไอรัก’ เ-ดเข้ มึงอายบ้างเหอะ นี่กูยึดมึงเกินไปหรือเปล่าวะ ฟังแล้วชีวิตมันรู้สึกหดหู่แปลกๆ

“ไปอยู่กับพัตก่อนก็ได้นะครับ ผมคงอีกสักพักใหญ่ๆ”

‘เกียร์รออยู่บ้านเราดีกว่า’ ผมยิ้มกว้างให้กับคำพูดนิ่งๆของมัน แต่แฝงไปด้วยความอบอุ่น ..บ้านเรา..

“นั้นผมเดินเล่นจนงานเลิก แล้วปล่อยให้ตาเฒ่าบางคนเฝ้าบ้านดีกว่าเนอะ” มันรู้ครับว่าโรงแรมอยู่ไหน ก็เล่นเปิดข้อความในไลน์ที่แม่ผมบอกสถานที่ก่อนเจ้าของเครื่องเสียอีก

‘ลองสิ’

“อูยย อ้ะเค้าล้อเล่นนะคะที่รัก” เอาดิ ใครๆๆ ใครกลัว มึงเสียงแข็งมา กูเสียงหวานตอบ เริ่มกลัวกูแล้วละซี่ อะโด่

‘หึหึ ..เสร็จแล้วตรงกลับบ้านเลย เข้าใจไหม’

“ตรงอย่างเดียวไม่ได้ มันมีทางโค้งด้วย”

‘อยากโดนกัดปาก?’

“ไม่เอา เดี๋ยวปากแตก กะจะไปแอบกินข้าวข้างทางก่อนกลับซะหน่อย” ผมล้อเล่นน่ะ ไม่อยากตายก่อนวัยอันควรหรอก แต่แกล้งมันแล้วเพลินดี

‘ไอ้แมวดื้อ!’

“ไอ้น้ำแข็งขี้สั่ง!”

‘ไอ้แมวขี้เถียง!’

“ไอ้น้ำแข็งชอบดุ!”

‘โอเค ยอม’

“มันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วครับ” ผมหัวเราะให้กับเสียงยอมแพ้ขึงขังของมัน

‘หึ น่ารักว่ะไอ้แมว’

“แน่นอนครับ พึ่งรู้ว่าเฒ่าน้ำแข็งตาถึงก็ตอนนี้แหละ”

‘แมวเหลิง’

“ไม่เหลิงๆ มันเป็นความจริงที่สุดในโลกแล้วครับ หรือไม่จริง?”

‘หึ’ ผมเริ่มอยากเอานิ้วโป้งเท้ายัดปากเพราะเสียงหัวเราะหึหึของมันจัง...

“คุณน้ำแข็ง”

‘หืม’

“เอ่อ ผม..ระ..”

“น้องไอรักคะ ได้เวลาแล้วค่ะ” ผมขานรับตอบอย่างเสียไม่ได้ เมื่อสตาฟคนหนึ่งเดินออกมาตามพอดี เปลือกตาปิดลงอย่างช้าๆ นึกเสียดายที่ไม่ทันได้พูดบางคำให้อีกฝ่ายชื่นใจ

“เฮ้อ ..นั้นแค่นี้ก่อนนะครับ”



“เดี๋ยวน้องๆเดินตามที่เคยได้ซ้อมกันไว้นะครับ ส่วนน้องไอรักกับน้องมาร์ชที่ไม่เคยซ้อมและประสบการณ์ เดินไปหลุดจุดแดงที่ทำเครื่องหมายเล็กๆไว้ตรงกลางปลายทางแล้วหมุนหรือโพสต์ท่าเล็กน้อยก่อนหมุนเดินกลับทางด้านขวา หน้าเชิดหลังตรงดูทะมัดทะแมง ห้ามลอกแลกมองคนดู โอเคนะครับ” ผมพยักหน้าเบาๆ บุคลิกผ่านอยู่แล้วครับ ไม่ว่าจะเดินหรือนั่ง หลังจะตรงตลอด ไหล่ไม่ตก ไม่ห่อตัว แม่ผมเจ้าระเบียบเรื่องนี้มาก จึงปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กๆ

ฉีดดดดๆ

เชี่ยยยยยยยย!

พี่ช่างแต่งหน้าฉีดน้ำแร่ใส่หน้าไอรักสองฉึก ไม่บอกไม่กล่าวไอรักเลยสักกะติ๊ด ไม่กลัวเข้าหูเข้าตาไอรักเลยใช่ไหม พ่อเจ้าแม่เจ้า!

“เรียบร้อยจ๊ะ อิอิ” ยังมีหน้ามาอิอิอีก

ผมหันหยิบโทรศัพท์ของตัวเองที่วางอยู่ข้างตัวขึ้นมาส่งข้อความไปหาน้ำแข็งเสียหน่อย

‘นายแบบสุดหล่อแมนแฮนซั่มคนนี้จะเดินแล้วนะครับ’

แล้วแปะสติ๊กเกอร์รูปกระต่ายวิ่งร้องไห้น้ำตาสยายไปให้ตัวนึง เพียงไม่ถึงหนึ่งนาทีมีข้อความตอบกลับมา

‘อย่าลื่นหน้าคว่ำบนแคทวอล์คล่ะ’

......รักกูมาก ขอบคุณครับ..... . .


 “ไอรักคะ แหม อยู่ตรงนี้นี่เอง ตี้หาตั้งนาน” เสียงเล็กคนเดิมดังขึ้นจากข้างหลัง ให้ผมต้องเอี้ยวไปมอง

“มีไรเหรอครับ”

“ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แล้วนี่ตื่นเต้นเหรอ ดูสิเหงื่อแตกหมดเลย แรกๆนัทตี้ก็กลัวแบบนี้แหละ แต่ไม่ต้องกังวลนะคะไอรัก ตี้เป็นกำลังใจให้” คุณนัทตี้เดินเข้ามาลูบไล้ใบหน้าผมแล้วช้อนตาอ้อนๆให้ดูน่ารักขึ้น

แต่ตอนนี้ผมอยากจะบอกเหลือเกินว่า นั่นมันน้ำแร่โว้ยยย ไม่ใช่เหงื่อตู ปัดโธ๊! แล้วนั่นจะลูบอีกนานไหม อย่าเอานมมาเบียดดิ ร้อนโว้ย

“น้องนัทตี้ ได้ข่าวจะถึงตาน้องแล้วนะคะ ชุดน้องธรรมดา ไม่ใช่ชุดฟินาเล่ที่จะได้ไปออกทีหลัง ถ้ามัวแต่มายืนอ่อยผู้ชายอยู่ตรงนี้ก็ไม่ต้องเดินกันแล้วล่ะค่ะ สงสัยจะยาว” พี่ช่างแต่งหน้าส่ายหน้าเอือม คุณนัทตี้จะอ้าปากเถียง แต่โดนพี่สตาฟลากไปเสียก่อน เฮ้ออ ค่อยหายใจโล่งคอหน่อย ผู้หญิงแบบนี้นี่น่ากลัวจริงๆ


หลังจากที่ผมโดนสายตาหลายร้อยจ้องจะแทะกระดูกเสร็จ ก็รีบเดินออกมาหาคุณนายกับเพื่อนๆเขาที่นั่งอยู่โต๊ะหน้าสุด ส่วนพวกนายแบบนางแบบ เซเลปทั้งหลายจะไปเลี้ยงฉลองที่ไหนต่อไม่รู้ ผมไม่ได้สนใจเท่าไรนัก

“วันนี้น้องไอรักหล่อมากๆเลยนะคะ นี่ถ้าเข้าวงการบันเทิง น่าจะรุ่งนะคะคุณมิกิ” มิกิคือแม่ของผม

“นั่นสิคะคุณมิกิ ทำไมไม่ให้น้องไอรักเข้าวงการเสียเลยล่ะคะ”

“อืมม ดิฉันให้มาเดินเป็นบางครั้งบางคราวได้นะคะ แต่จะให้เดินเข้าสายนั้นคงจะไม่ไหวหรอกค่ะ อีกอย่างน้องไอเขาไม่ได้ชอบเท่าไรน่ะค่ะ” แม่ผมหันไปตอบคุณหญิงตีโป่งสูงราวสองเมตร เอ่อ ไอรักเวอร์น่ะครับ แต่มันก็สูงกว่าคนอื่นจริงๆนะครับ

“ว่าแต่ลูกคุณมิกิมีใครในใจหรือยังคะ ลูกสาวดิฉันก็รุ่นราวคราวเดียวกับน้องไอรัก หน้าตาดี มีการศึกษา น่าจะไปได้สวยนะคะ” คุณหญิงอีกคนที่นั่งอยู่ในโต๊ะถามขึ้น อื้อหือ นั่นเพชรแท้หรือเทียมวะ กระแทกลูกตาไอรักแทบบอด

“อ๋อยังหรอกค่ะ แต่เรื่องนี้ ดิฉันเข้าไปยุ่งไม่ได้หรอกค่ะ ปล่อยให้เขาหาเองจะดีกว่า” ใช่ๆๆ ถูกต้มแล้วครับคุณนายที่รัก

ตอนนี้ไอรักก็หาเจอคนๆนั้นแล้วครับ แต่ถ้าแม่เห็น แม่อาจจะเปลี่ยนคำพูดก็ได้ ผมกัดปาก เริ่มคิดฟุ้งซ่านรีบเปลี่ยนเรื่องดีกว่า

“เอ่อ มาม๊าครับ เดี๋ยวไอรักกลับก่อนนะครับ”

“อ้าว จะรีบกลับไปไหนล่ะคะตัวเล็ก” แม่ผมเลิกคิ้ว ได้โปรดอย่าแปลกใจเลยครับ ตอนนี้โทรศัพท์สั่นแนบขาไอรักไม่หยุด เป็นสัญญาณที่ซินเดอลิล่าต้องกลับบ้านเกิดแล้วล่ะครับคุณบุพการี

“อ๋อๆ ไอรักปวดท้อง เป็นไข้จับไข่ เอ้ยไข่จับไก่ เอ้ย ไข้จับไก่ เฮ้ยย ไข้จับสั่น คล้ายจะอาเจียนเล็กน้อย แต่ๆๆเอ่อ ไอรักจะกลับหอนะครับ เทอมนี้งานเย๊อะเยอะ” ห่าเอ๊ย กว่าจะมุสาตลอดรอดฝั่ง พูดลิ้นพันแทบอยากจะปาดเหงื่อ แถมต้องพูดดักไว้ก่อน เพราะรู้ว่าแม่ต้องเป็นห่วง แล้วให้กลับบ้านพร้อมกันแน่ๆ

“แล้วหนูจะกลับยังไงล่ะคะ ไม่ได้เอารถมาไม่ใช่เหรอ ให้พี่จิมไปส่งก็ได้” พี่จิมนั่งเป็นสากกะเบือข้างๆป้าสา(แม่ของพี่จิม) ตั้งแต่นั่งมา ผมยังไม่เห็นพี่เขาหยุดกินไก่จ๊อเลยครับ

“ป้าก็ว่าอย่างนั้นนะน้องไอรัก ยังไงวันนี้พี่เขาก็ต้องรีบกลับไปคอนโดอยู่แล้วใช่ไหมลูกจิม” ป้าสาพูดขึ้น

“อ้าวไอ้จ้อน ไม่มีปัญญากลับเองก็เดินไปดิ” ไอ้พี่เวร สิบปีกูจะเดินถึงไหม คำพูดขวานผ่าซากกลางโต๊ะของชายจิมทำให้พวกคุณนายแทบตกเก้าอี้กันเลยทีเดียว

“น้องจิม! ทำไมหนูพูดไม่เพราะแบบนี้ มันไม่ดีนะลูก” ผมอยากจะถามป้าสาจัง ...หนูของคุณป้าทำไมตัวใหญ่จังครับ

“จิมก็พูดแบบนี้กับน้องอชิระเป็นปกติอยู่แล้วนะครับ เขาเรียกว่าภาษาคนสนิทกัน จริงปะไอ้จ้อน” ชายจิมลอยหน้าลอยตาตอบ แล้วยัดไก่จ๊อใส่ปากไอรักคำโต

“อ้ะ ไออั๊กไอ้อิ๋ว อื้ออ” ไอ้พี่ซกมกยัดเข้ามาอีกลูก แค่ลูกเดียวปากกูจะไม่มีที่ให้แมงกินฟันอยู่แล้วนะ

“อร่อยปะ อร่อยอะดิ๊ พี่ยังติดใจเลยว่ะ มากินเป็นเพื่อนพี่หน่อย เฮ้ย น้องๆเอาไก่จ๊อเพิ่มหน่อยดิ แล้วก็ .. บลา บลา บลา” พี่จิมเออออคนเดียวเสร็จสรรพ แล้วหันไปสั่งพนักงานอย่างไม่สนใจคนอื่นที่นั่งเหวอกันอยู่ ส่วนผม..นั่งเคี้ยวไก่จ๊อตุ้ยๆ เป็นภาระให้ปากกูอีก เวรกรรมของกูแท้ๆ

“เอ่อ นั้นไอรักกลับก่อนนะครับ เดี๋ยวดึกแล้วจะหาแท็กซี่ยาก” แม่ผมยกมือปิดปากแน่น ทำหน้าตกใจมากๆ

“แท็กซี่?! มันอันตรายนะคะไอรัก ให้ลุงสมานไปส่งดีกว่าไหมคะ”

 “ไม่เป็นไรครับ ไอรักจะได้มีภูมิต้านทานเหมือนคนอื่นบ้างไง นะนะ นะครับสุดสวยของผม ..จุ๊บ โอเคนะครับ ตามนั้นเลย ไอรักไปก่อนนะครับมาม๊า ไว้ว่างๆจะไปหาที่บ้านครับสวัสดีครับๆๆๆ” ไงล่ะ เจอลูกอ้อนของลูกคนเล็กไป แม่ผมทำหน้าครู่คิด ผมจึงตัดบทไหว้บรรดาคุณนายทั้งหลายเสียเลย

“อ้าวเฮ้ย ไอ้จ้อนนนนนนน กลับมากินด้วยกันก่อนนนนนนนนน” พี่เชิญเถอะครับ ...




“ไอรักคะ จะกลับแล้วเหรอ” อีกไม่ถึงสิบก้าวก็จะหลุดจากประตูโรงแรมแล้วนะ มันยังไม่หลุดจากคนในงานอีกเหรอวะ ผมหันไปเจอคุณหน้าอกทะลักยืนอยู่ คือไอรักเปล่าหื่น เปล่านอกใจน้ำแข็งนะ แต่มันแค่เตะตาไอรักมากๆๆเท่านั้นเอง

“ครับ คุณพริตตี้”

“นัทตี้ค่ะ”

...เพล้ง....

“เอ่อครับ คุณนัทตี้” ใจดีจัง แก้ให้กูด้วย นัทตี้ยิ้มฝืนแวบหนึ่งก่อนเปลี่ยนมายิ้มเย้ายวน เดินเข้ามาชิดจนหน้าอกเบียดเข้าแขนผม นิ้วเรียวไล้อกผมเบาๆ เอาอีกแล้ว ไปไกลๆหน่อยได้ไหม กูร้อนมึงเข้าใจไหม กูร้อนนนนน

“ตี้ไม่มีรถกลับ รบกวนไอรักไปส่งตี้หน่อยได้ไหมคะ” เธอเงยหน้าขึ้นมากระซิบข้างหู

“คงจะไม่ได้หรอกครับ ผมไม่ได้เอารถมาน่ะ” ผมขยับตัวห่างออกเล็กน้อยแล้วมองท่าทีคนตรงหน้านิ่ง นัยน์ตาบ่งบอกชัดเจนว่าผมไม่เล่นกับคุณ

“ระ เหรอคะ แต่ยืนนานๆแล้วเมื่อยจัง เรานั่งแท็กซี่ไปคอนโดตี้กันดีไหมคะห้องตี้อยู่ใกล้ๆนี้เอง ..นะคะ” คุณนัทตี้ยังไม่หยุดความพยายามที่จะขยับเข้ามาใกล้และมือลูบต้นขาผมช้าๆ

“ไม่ดีหรอกครับ ผมต้องรีบกลับบ้านน่ะ” ผมผละเธอออก นัทตี้คิ้วขมวดก่อนยิ้มหวานให้อีกครั้ง

“แหม เล่นตัวแบบนี้ ตี้ชอบจัง” ฟัคแหนมมม กูต้องปล้ำมึงใช่ไหม มึงถึงจะหยุดสักที

นัทตี้เอียงคอ แขนกอดคอผมแล้วดึงท้ายทอยลง

“เอ่อ....”


“ไอ้แมว!!!!!!!” เย๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดเข้






TBC----->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>


พรุ่งนี้สอบแล้วจ้า มาอัพก่อนไปอ่านหนังสือ เดี๋ยวจะไม่ได้มีโอกาสอัพ T.T
เป็นอาทิตย์หลังปีใหม่ที่ทรหดมากมายหลายตลบ
ไปละจ้า เลิฟยูทุกคน :)
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่13* P.5 [07/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: yokerohz ที่ 07-01-2013 17:58:28
โอ๊ะ!!! ตายล่ะ  o22 o22 o22

ใครจะโดนตื้บกันละเนี่ย  :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่13* P.5 [07/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 07-01-2013 18:12:10
เกียร์จะเข้าใจผิดไหมนะนั่น
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่13* P.5 [07/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 07-01-2013 18:23:16
ย๊าก งานเข้าไอรักแล้ว คุณแฟนอยากเอาใจมารับล่ะสิเนี่ย
แล้วยัยนัทตี้ต้องการอะไรจากสังคมมายั่วอยู่ได้นิ เห็นโปรไฟล์น้องไอรักเก๋ล่ะสิยายนี่
ไอรักเอ๋ย ถ่ายแบบเซ็กซี่ เดินแบบก็เซ็กซี่ แล้วแถมมีผู้่หญิงมานัวเนีย แฟนเอาตายแน่
เกียร์ใจเย็น ๆ เน้อ อย่าเอาแต่อารมณ์จนเสียเรื่อง โอเค้ (ถามว่าพระเอกจะฟังมั้ย 555)

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่13* P.5 [07/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 07-01-2013 20:53:37
ติดตามอ่านอยู่ค่ะ...น้องไอรักกับเกียร์หวานไม่แพ้ใคร...
เบาๆ อ่านได้ตลอด..แบบมีความสุขไปด้วย.. :กอด1:

 :L2: &  :pig4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่13* P.5 [07/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 07-01-2013 22:23:27
งานเข้า!!!!!  :m29:

ชะนีนัตตี้น่าเบื่อมากกกกกก  :z6:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่13* P.5 [07/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 07-01-2013 22:41:23
งานเข้าแล้วไอรักเอ้ยยยยยยยยยย  :a6: :a6: :a6: :a6: :a6:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่13* P.5 [07/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: nut_ml ที่ 08-01-2013 00:59:43
 อ๊ากกกก อยากอ่านต่อ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่13* P.5 [07/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: MangoBlue ที่ 10-01-2013 01:43:28
งานเข้าแล้วมั้ยละไอ้แมวววว  :m31:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่13* P.5 [07/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 10-01-2013 04:08:26
 :z6: กระโดดถีบมันที
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่13* P.5 [07/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 11-01-2013 18:15:20
ไอ้แมว เอ็งโดนดีแน่ๆ 5555

นัทตี้ก็อ่อยไอรักเหลือเกิน หมันไส้อะ ชะนีเอ๊ยยยย
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่13* P.5 [07/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 12-01-2013 17:22:24
เอาชะนีไปเก็บค่า :z6:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่13* P.5 [07/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 12-01-2013 20:43:33
หึหึหึ
และแล้ววว แมวน้อยก็โโนเฆี่ยนนนนน กร๊ากกกก
เค้าล้อตัวเองเล่นนะไอรัก  จุ๊บุๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่14* P.5 [13/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 13-01-2013 17:55:00
ตอนที่14


ผลัก!!

“เฮ้ยย”

เสียงผมดังขึ้นเมื่อชายหน้าทมิฬก้าวขายาวๆมากระชากแขนผมก่อนใช้มือผลักไหล่คุณนัทตี้ล้มลงไปไม่สนใจว่านั่นคือเพศแม่มึงนะโว้ย ถึงแม้ว่าผมจะไม่ชอบให้คุณนัทตี้เข้ามาเกาะแกะแต่ก็ไม่เคยคิดจะลงไม้ลงมือกับเขาอย่างที่มันทำอยู่ตอนนี้

“กริ๊ดดดดด!!”

“เอ้ยย หยุดเถอะครับเกียร์” ผมร้องเสียงหลง คว้าแขนมันมากอดเพราะมันทำท่าจะเข้าไปซ้ำ

แต่ทันทีที่ผมเข้ามาห้าม ลางร้ายก็บังเกิดขึ้นในบัดดล มันตวัดสายตาดุอย่างกับหมามามองผม แสดงอาการไม่พอใจอย่างแรง ไอรักอยากจะฉี่แตกเสียตรงนี้ ..เค้ากลัวแล้วตัวเอง..

“อี!!!!... นะ.. นายทำอะไรฉันยะ!” คุณนัทตี้ตั้งใจจะเงยหน้าขึ้นด่า แต่พอเห็นสีหน้าคนตรงหน้าจึงพูดตะกุกตะกักอัตโนมัติ คุณไม่กลัวก็บ้าแล้ว ขนาดผมอยู่กับมันมานาน ขาทั้งสองข้างยังสั่นผับๆ

“อะ อ้าว เกียร์มาตอนไหนเหรอครับ เมื่อกี้คุณก็เห็นแมงมุมตรงไหล่คุณนัทตี้เหมือนผมใช่ไหมครับ โฮ้ะๆ ..แหะๆ”ผมรีบพูดละล่ำละลัก เกียร์ยังมองนิ่งเหมือนเดิมจนผมหงอหูตก

ผมว่ามันไม่ใช่เถื่อนอย่างเดียวนะ มันถ่อยด้วยอะ แงง

“แมงมุม?!ไหนล่ะซากแมงมุม ตี้ว่าไม่ใช่นะคะ หมอนี่มันจ้องจะทำร้ายตี้ ตี้ไม่ยอมนะคะไอรัก! ตี้ไม่ยอม!” นัทตี้ลุกขึ้นมาจับแขนผมข้างหนึ่งเขย่า โดยที่มืออีกด้านของผมยังจับแขนเกียร์ไว้อยู่ เกียร์หันไปปรายตาแข็งมองมือนัทตี้ ก่อนตีหน้าเรียบเฉยดังเคย แต่ผมสัมผัสได้ถึงความมาคุยิ่งขึ้นกว่าเก่า

“คุณนัทตี้ ผมว่า..”

“ตี้ไม่ใช่คนโง่นะคะ อยู่ดีๆมันเข้ามาผลักตี้ นี่ตี้จนเจ็บไปหมดทั้งเนื้อทั้งตัว ..ไม่รู้ช้ำหรือเปล่าไอ้โรคจิต!”นัทตี้เขย่าแขนพูดกับผม แต่ประโยคหลังหันไปพูดกับเกียร์ที่ยืนมองมือนัทตี้ไม่วางตา

“เอ่อ...”ผมค่อยๆเบี่ยงแขนออก แต่นัทตี้กลับจับแน่นขึ้น

“แต่ยังไงนัทตี้ก็ไม่ยอมนะคะไอรัก อีตาคนนี้ก็ไม่รู้ มาทำร้ายฉันได้ยังไง! ฉันไปทำอะไรให้นายหะ นี่! ฉันถาม! เป็นใบหรือไง!!”

“โง่”

“อ้ะ! อีตาบ้า! แกพูดแบบนี้กับฉันได้ยังไง ไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นใคร?!”

“เสือก”

“กริ๊ดดดดดดดด!!ผีเจาะปากแกหรือไงแกคิดว่าแกเป็นใครหะ..อะ ไอ้ผู้ชายหน้าตัวเมีย กริ๊ดดดด!”นัทตี้ยืนขึ้นกระทืบพื้นด่าเกียร์ที่แผ่รังสีอำหิตด้วยสีหน้านิ่งเฉย

“กูหน้าเหมือนแม่มึง?” คุณรปภ.และทุกคนบริเวณโดยรอบยืนยึกยักไม่กล้าเข้าใกล้เพราะรังสีมืดๆจากตัวคุณเหี้ยม รวมถึงไอรักตัวน้อยๆด้วย

ตายละกู ถอยดีกว่า..ใครก็ได้บอกไอรักทีว่าไอ้รักแค่ฝันไป ฮื้ออ

“กริ๊ดดดดดดดดด! ไอรักคะ มันมาทำแบบนี้กับตี้แบบนี้ได้ยังไง?!” ผมสะดุ้งโหยง อย่า อย่ามามองกู๊ T0T

“อะ เอ่อ เกิดอะไรขึ้นครับ” หน่วยกล้าตายคนหนึ่งซึ่งเป็นพนักงานต้อนรับของโรงแรมเดินเข้ามาถามอย่างกล้าๆกลัวๆ

“อยู่ดีๆไอ้ผู้ชายคนนี้เข้ามาผลักฉันจนหงายท้อง นี่ตัวฉันสกปรกไปหมดแล้ว ฉันไม่ยอมนะ ลากมันไปโรงพักเดี๋ยวนี้!ตอนนี้!” นัทตี้โวยวายเสียงดัง คนผ่านไปมาเริ่มมองอย่างสนใจ

“หุบปาก! จะมายุ่งกับใครแหกตาดูด้วยว่าคนนั้นมีเจ้าของหรือเปล่า ครั้งนี้กูแค่เตือน ถ้ามีครั้งหน้า กูไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น!”เกียร์ตะคอกเสียงดังกังวานจนพนักงานคนนั้นถอยกรูด กวาดตามองคนรอบข้างก่อนหยุดสายตาอยู่ตรงนัทตี้ที่ตกใจหน้าซีดเผือกจากเสียงตะคอกเมื่อครู่

“ไอรัก มันหมายความว่ายังไงคะ!สรุปอีตานี่มันเป็นใคร?!”

“เอ่อ..”คุณนัทตี้รอคำตอบด้วยสีหน้าหงุดหงิด ส่วนคุณเกียร์จ้องเค้นจนลูกตาแทบถลน พร้อมส่งกระแสจิตอ่อนๆมาให้..

‘มึงตอบดีๆนะศพอาจจะสวยขึ้น’

“คะ คือ เอ่อ ...คะคือ ..คนสำคัญของผมเอง”เกียร์กอดอกเผยแหยะยิ้มเย็นเล็กน้อยให้กับคำตอบที่พึ่งพอใจ แล้วหลุบตาลงมองนัทตี้จากมุมสูง ให้รู้ว่าใครเหนือกว่ากัน

“กลับ” มันว่าแล้วก็หันหลังกลับเดินดุ่มๆ ผมสะดุ้งรีบวิ่งตามมันออกไป








“วะ ว้าว เอามอไซค์มารับเหรอ ได้โต้ลมแล้ว เย้เย้”

“.....”

“หูวว ข้าวต้มโต้รุ่งตรงนั้นน่ากินจังเลยเนอะ แต่คิดถึงฝีมือคุณมากกว่า คุณว่างั้นไหม”

“....”

“โห คู่รักสองคนนั้นน่ารักจัง ต้องพึ่งเป็นแฟนกันแน่ๆเลย สวีทวิ้ดวิ้วว”

“....”

ไอ้น้ำแข็ง มึงกำลังก่อสงครามเย็นกับกูอยู่ใช่ไหม!!

ทันทีที่ถึงคอนโด มันจอดรถเดินขึ้นห้องทันทีโดยไม่รอผมที่ยืนเหวออยู่ข้างมอไซค์ ผมรีบตามขึ้นไปก็เห็นมันกระชากผ้าขนหนูแล้วปิดประตูห้องน้ำเสียงดังจนผมสะดุ้งตัวโยน กลับนั่งกุมหัวทิ้งตัวลงข้างเตียงคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา ถามตัวเองไปว่า กูผิดอะไรวะ ปัจจุบันก็ยังหาคำตอบไม่ได้

กริ๊ก..

“เกียร์ ..เอ่อ ผมขอโทษเรื่องเมื่อกี้..” ผมรีบลุกขึ้นพูด มันมอลงมาด้วยสายตาเย็นชาอย่างที่ไม่เคยทำกับผมทำเอาขนลุกตั้งชัน

“ทำอะไรผิดล่ะ”น้ำเสียงแข็งสวนกลับมาให้ผมสะอึกไปครู่หนึ่ง กระบอกตาร้อนพร่าไปหมดจนต้องแหงนหน้ามองเพดาน

“กะ ก็..เอ่อ ที่ไม่ระวังตัวปล่อยให้คนอื่นเข้ามายุ่งวุ่นวาย”

“หึ” มันหันหลังไปแต่งตัวเปิดตู้เสื้อผ้าอย่างแรง ผมก้มหน้ามองเท้าอยู่ข้างหลัง

“เกียร์...”

“ถ้าเกียร์ไม่เป็นห่วงจนต้องไปออกไปรอรับ เกียร์จะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นไหม”

“ผมเห็นมันไม่ค่อยสำคัญ กะจะบอกอยู่แล้ว..”

“แล้วคิดว่าเมื่อไรจะบอก!เมื่อไหร่หะไอรัก เมื่อไหร่!แล้วให้เกียร์นั่งโง่รอไอรักอยู่ในห้องคนเดียวจนถึงเมื่อไหร่!” เกียร์ กระชากต้นแขนอย่างแรงแล้วบีบแน่นจนเจ็บ ผมพยายามสะบัดแต่ไม่หลุด

“….”

“คิดว่ามันไม่สำคัญงั้นเหรอจะเรื่องเล็กหรือใหญ่ มันต้องสำคัญอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง! แต่นี่ไอรักเลือกที่จะโกหกเกียร์ ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก!ถ้าบอกตอนนั้นเกียร์อาจจะไม่ได้โมโหขนาดนี้ก็ได้! ให้กูบ้าอยู่คนเดียว กูคลั่งแทบตายตอนเห็นมันมากระแนะกระแหนมึง ..หรือว่าชอบ ชอบแบบนั้นนักหรือไง!ถ้าเกียร์ไม่ไป ป่านนี้คงไปต่อกันบนเตียงแล้วใช่ไหม!”มันฟิวส์ขาด ตะคอกบอกความในใจเสียงดัง

“เกียร์!!! ..ฮึก ผมไม่เคยคิดแบบนั้นเลยนะที่ไม่ได้บอกก็เพราะไม่อยากให้เกียร์อารมณ์เสียแบบนี้ไง! ฮึก.. เพราะผมแคร์เกียร์แคร์มากกว่าตัวเองด้วยซ้ำ! ผมไม่อยากให้เกียร์คิดมาก ต้องคอยพะว้าพะวังเป็นห่วง ผมรักเกียร์คนเดียว ไม่เปลี่ยนใจแล้ว ทำไมเกียร์ไม่เชื่อใจกันบ้าง ทำไมต้องดูถูกความรักที่ผมมีให้ด้วย ..ฮึก”มันชะงักเมื่อเห็นน้ำตาผมที่เอ่อล้นทะลักนอกขอบตาผมสะบัดแขนทั้งสองข้างอย่างแรงจากการจับกุมแล้วเดินหนีไปทางประตู มันหน้าเสียเพราะคงรู้ว่าพูดแรงเกินไป

“ปล่อย ..อึก” ตะโกนบอกสุดเสียง

“ไม่ใช่แบบนั้น อย่าพึ่งไป เกียร์ไม่ได้หมายความอย่างนั้น” สองแขนแกร่งกอดผมจากข้างหลัง แต่ด้วยความที่ยังโมโหอยู่เลยพยายามแกะแขนนั้นออก แต่มันกลับรัดแน่นขึ้น

“….”

“เกียร์ทนเห็นคนอื่นเข้าใกล้ไอรักไม่ได้ มันหงุดหงิดทุกครั้ง” ผมสะบัดหน้าหนีเมื่อมันเอื้อมมาจะเช็ดน้ำตา

“เกียร์รักผมบ้างหรือเปล่า ฮึก เคยแคร์ผมสักนิดบ้างไหม”

“ไม่รักแล้วจะเป็นแบบนี้เหรอไอรัก ยิ่งรักก็ยิ่งกลัว มันยิ่งกังวล มีอะไรทำไมไม่บอกกัน เกียร์เป็นห่วงเกียร์หวง”น้ำเสียงของเกียร์อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด

“…”

“เกียร์มีคนสำคัญไม่กี่คน หนึ่งในนั้นคือไอรักที่เกียร์แคร์ที่สุด”

มันยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้ผมอีกรอบ พรมจูบไป ที่เปลือกตา แก้มทั้งสองข้าง ก่อนเม้มลงที่ซอกคอหลายแห่งเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ

“อื้อ..”

“เจ็บมากไหม” มันพลิกต้นแขนที่เป็นรอยมือแดงๆม่วงๆด้วยสีหน้าเคร่งเครียด มันต้องโทษตัวเองอยู่ในใจแน่ๆ

“นิดหน่อยครับ ไม่เป็นไรมากหรอก” ผมยิ้มบางให้มั่นใจว่าไม่เป็นอะไรจริงๆ

“ขอโทษ”เกียร์พูดหน้านิ่ง แต่จากสายตามันบ่งบอกว่าเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นผมยิ้มให้แล้วจูบอย่างดูดดื่มมันผงะเพราะผมเป็นคนเริ่มก่อนแล้วจูบตอบอย่างนุ่มนวล

“ว่าแล้ว”

“ครับ?”

“ที่ออกมาช้าเพราะมัวแต่กินหอยจ๊อใช่ไหม” จากที่จ้องมองตากันซึ้ง กลับกลายเป็นว่าผมจำเป็นต้องเสไปมองด้านข้าง

….กูหมดอารมณ์....

“ไก่จ๊อต่างหาก”

....ขอให้มึงหมดสมรรถภาพทางเพศเพราะไก่จ๊อของมึง ไอ้พี่เวร.....

มันไล่ผมไปอาบน้ำ แล้วทายาให้อย่างเบามือกว่าจะได้นอนล่อไปตีสอง ก็มันเล่นกอดแน่นกว่าทุกคืน เอาน้องชายมาถูก้นผมจนป่องเป็นลำ ใหญ่ฉิบหาย ถ้าใครโดนของมึงไปคงเจ็บอะ(เดี๋ยวกูก็โดนนี่หว่า) มือก็ลูบโน่นคลำนี่จนผมเกือบคล้อยตาม แต่จิตใต้สำนึกบอกว่าพรุ่งนี้กูกับมึงเรียนเช้าบ้างก็พอ เสียวก็เสียววะ แต่เสียวเจ๊หัวม่วงตามมาแหกอกมากกว่า


อุปสรรคการเสียตัวของไอรักช่างเยอะแยะมากมายเหลือเกิน



........................................................
...................................
..........................
..........
...


“ไอรวยยยยย” ผมหันไปตามเสียงหล่อๆของนักร้องวงตัวเอง

“อะไรของมึง”ผมเลิกคิ้วใส่ไอ้คคู่หูเห็บหมัด บอสเดินหน้าโหดตามหลังกระตุกยิ้มทักทายผมนิดหนึ่ง ส่วนไอ้คลื่นเดินร่างสูงๆถือถุงขนมสีใสใบใหญ่มาด้วย ผมตาวาวหางกระดิกทันทีเมื่อเห็นของโปรดแวบๆ มีของมาเซ่นกูอีกแล้วหึหึ

“ไม่บอกหุหุ”

“หุกับพ่องมึงสิ กวนตีน” ผมเขย่งไปโบกหนังหัวไอ้คลื่นทันที มือรับถุงใบใสแล้วคุ้ยนมช็อกโกแลตมาดื่ม

“ใจร้ายอะ ไอ้บอสมึงช่วยกูด้วย ฮื้อฮื้อ” บอสทำหน้าเหม็นเบื่อใส่ไอ้คลื่นทันที ตัวเท่าควาย แต่ใจมึงสาวน้อยอีกแล้วเพื่อนกู เฮ้ออ

“สรุปอะไรวะไอรวย คู่หูมึงทำให้กูเกิดความสงสัยสัดๆ” ผมหันไปถามไอ้บอสแทน เพราะถามเจ้าของคำพูดไปก็คงไม่ได้คำตอบ

“มันจะบอกมึงว่า ไอรวยหัวคัก แต่มันงอนมึงก่อน เลยไม่ได้พูดต่อ”

“ไอรวยหัวคัก ไอรักหัว... ไอ้สัสคลื่นหลอกด่ากูอะ!”ชัดเจน ล่อถึงลูกใต้หว่างขากูอีก ไอ้เหี้ยถึก!

“เปล่า กูด่ามึงตรงๆนี่แหละ อยากฝึกให้มึงรู้คำผวนบ้างไงคุคิ” คิกับพ่อมึงสิ เดี๋ยวกูก็kickมึงตรงนี้เลยดีไหม

“ขี้หน้าหืน”

อั่ก!

“ไอ้พวกเหี้ยหยาบคายแต่เช้า” กูควรด่ามึงมากกว่าไหมไอ้เนม มันเดินมาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ ตีหลังดังอั่ก ว่าแต่ทำไมกูโดนคนเดียววะพระเจ้าไม่ยุติธรรมกับไอรักอีกแล้ว

“ถุยย มึงไม่หยาบเลยสักกะติ๊ดด”

“แต่กูหล่อ กูหุ่นดี กร๊ากกกกก” คลื่นมองไอ้เนมสายตาเหยียดๆแล้วดีดลูกอมไปทางเนม แต่มันดันเข้าปากคลื่นที่หัวเราะปากกว้างพอดี

“อ้ะ แค่กๆ เชี่ย เกือบเข้าคอกู” บอสทำหน้าที่เพื่อนที่ดี ยื่นน้ำที่ตัวเองกำลังดูดให้ไอ้คลื่น

“โปรเจคอาจารย์หัวม่วงเริ่มตอนไหนวะ” บอสหันไปถามคู่หูของมัน

“กูจองห้องไว้หลังสอบมิดเทอมเสร็จอะ” คลื่นบอก

“นั้นเดี๋ยวกูไปบอกคนอื่นให้แล้วกัน ไอ้เชี่ยคิมแมร่งถามเช้าถามเย็นจนกูรำคาญ”

“มันเนี่ยนะ?” ผมถามไอ้เนม เพราะอย่างไอ้คิมวันๆไม่ทำอะไร เหล่หญิง เสียบปล้ำกระทำชำเราก็หมดวันแล้ว

“เออ มันไม่ได้ขยันหรอก แต่มันอยากเที่ยวหลังจากทำโปรเจคเสร็จไง ขนาดอยู่ในเกม แมร่งก็ยังถามอะ กวนกูปะล่ะแบบนี้”เนมบ่นอย่างหัวเสีย ปากบอกรำคาญ แต่มึงก็เล่นกับมันทุกวันนะได้ข่าว เกรียนจริงเพื่อนกูคนนี้

“มึงไปโดนอะไรมา” ไอ้บอสตัดบทถามขึ้น

“หือ โดนไอ้เนมตบหลังตะกี้ไง เจ็บฉิบหาย”

“เปล่า แขนทั้งสองของมึง” ก่อนออกจากห้อง เกียร์มันทายาแล้วพันแผลให้ ผมบอกว่าไม่ต้องพันหรอกอึดอัด ใส่เสื้อกันหนาวไปเรียนอยู่แล้ว แต่มันบอกอากาศร้อน เดี๋ยวก็ถอดอยู่ดี ซึ่งมันก็จริง เพราะผมถอดตั้งแต่ลงจากรถได้ไม่กี่ก้าว

ผมนักถือในความคิดการณ์ไกลของมันจริงๆ

“ชนขอบโต๊ะ” ทันทีที่ตอบ มีไอ้บอสคนเดียวที่หรี่ตามองอย่างไม่เชื่อ ส่วนไอ้คลื่นกับไอ้เนมมันเชื่อเกินเชื่อ นั่งตบหลังผมหลายปึกแล้วหัวเราะน้ำหูน้ำตาเล็ดอย่างสะใจ



............................................................



“สวัสดีครับทุกคน” ผมทักทายเพื่อนๆเกียร์ที่นั่งอยู่ในร้านอาหารหน้ามอ หลังจากที่เกียร์ขี่มอไซค์มารับไปกินข้าวกลางวันด้วยกัน

“อ้าวไอรักไปไงมาไงวะนั่น” พัตทักขึ้น

“นั่งมอร์ไซค์มาครับ” ผมก็พูดตามความจริงนะ ก็กูแว้นมาอะ ทำไมทุกคนมองเหมือนผมไปสะกิดส้นเท้ามายังไงไม่รู้สิ

“สวัสดีค่าเจ้าชาย มาหล่อกว่าทุกวันเลยนะคะ” ผมยิ้มเขินๆให้สา เหลือบไปมองคนข้างๆที่หน้าบึ้งตึงมองอยู่ก่อนแล้ว อีกแล้วนะมึง กูว่าแล้วไม่มีผิด

“หล่อกว่าไอ้ดินผัวมึงปะ”

“อีเวร มันไม่ได้เป็นผัวกูโว้ย” สาหันไปด่ามัดที่กำลังอมน้ำแข็งรูก้อนใหญ่แล้วส่ายหัวด๊อกแด๊กล้อเลียน

“อ๋อ อยากแต่เขาไม่เอาใช่ปะ ตามเช้าเย็นขนาดนี้แล้ว สงสารจังเลย กร๊ากก”

“อีกละ คู่นี้” เนส่ายหน้ากับคู่กัดประจำกลุ่ม

“มันยังไม่ใจอ่อน เอ้ย กูไม่ได้ทำแบบนั้นซะหน่อย จิ๊”

“โถๆๆ ปิดคนอื่นปิดได้ แต่ปิดกูไม่ได้หรอกโว้ย เออ แต่ใครมึงคงโคตรโชคร้ายสุดๆอะ ถึกเกินชาย ฮ่าๆๆ”

“ไอ้มัด!”

“อะไรๆ ประโยคบอกเล่าเสือกเข้าหูหมา”

“ประโยคไม่ปราถนาหมาเสือกเอามาเล่า”

“ไอ้โฟ่ช่วยด้วย ไอ้สาด่ากูผู้หญิงห่าไรวะ ปากจัดฉิบหาย” มัดหันไปเกาะโฟ่ที่นั่งหน้าเหี้ยมอยู่ข้างตัวมัน ไอ้นั่นก็ไม่ได้ฟังกับเขาหรอก เหมือนคนข้างๆผมเป๊ะเลย แต่ติดที่ว่าคนข้างผมหน้านิ่งกว่า

“เออ ผู้หญิงอย่างกูนี่แหละ เขาเรียกสปอร์ตเกิร์ลโว้ย ใช่ไหมคะเจ้าชาย”

“อ่า..ครับ” ผมเออออไปตามนิสัย สายิ้มให้แล้วหันไปยักคิ้วใส่มัดที่นั่งหน้าบูด โฟ่ไม่เล่นกับมัน ผมก็ไม่ได้เข้าข้างมัน น่าสงสารจริงๆ

“กูว่ามันไม่ได้เห็นด้วยกับมึงหรอกไอ้สา เขาเรียกว่าตอบไปตามมารยาทต่างหากใช่ปะ ฮ่าๆๆ”

“มัดอย่าแกล้งสาสิครับ คนสวยผมหน้างอหมดแล้ว”ทันทีที่พูดจบ สายิ้มแก้มปริเลยครับ ผมไม่ได้หยอดคำหวานนะ ปากมันไปอัตโนมัติ มันเป็นไปตามธรรมชาติจริงๆแต่ท่าทางผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มจะบ้ายอไม่เบาเลยนะเนี่ย แต่น่ารักดีนะครับ ผมก็ชอบผู้หญิงลุยๆห่ามๆแบบนี้เหมือนกันนะ ...ถ้าไม่ติดว่าคนข้างผมกระแทกแก้วซะเสียงดังสนั่น

“รสนิยมควรพิจารณานะ” มัดส่ายหน้าเบาๆ

“ไอรัก กูบอกให้มึงพูดกูมึงไง ลื่นรูหูกูดี” พัตแสดงความถ่อยออกมาทันทีที่ผมสุภาพใส่พวกมัน

“โอเคครับ มึง” แต่ดูเหมือนเกียร์จะคิ้วขมวดฉับเหมือนไม่ชอบอะไรสักอย่าง แต่ผมไม่ได้ถามไปหรอก

“เหมือนเพชรงามในดินร่วนฉิบหาย” มึงเป็นคนบอกให้กูพูดเองไม่ใช่เหรอ

-This is not the end,This is not the beginning ..-

“ขอโทษนะครับ ปิ๊บบ สวัสดีครับพี่”

‘ไอ้น้องเวร เมื่อคืนเอ็งไปก่อเรื่องอะไรมาห๊ะ คนอื่นเขาวุ่นวายกันหมดแล้วนะโว้ย’

“อะไรเหรอพี่จิม” เกียร์หันขวับ มองผมแทบจะเอาอะไหล่ในตัวไปผัดกินแทนข้าว เปล่านะ นี่พี่ผมT^T

‘ก็ยัยซีลีโคนเน่าที่เป็นดาราดังมันบอกเพื่อนเอ็งไปทำร้ายเขา เห็นจ้องจะเอาเรื่องอยู่ แต่พอดีพี่ออกมาเห็นเลยไกล่เกลี่ยให้ แถมข้ายังต้องฟาดเงินให้นักข่าวอีก กว่าจะปิดข่าวได้ ข้าหมดตูดเลยไอ้จ้อนเอ๊ย’

“อ้าว คุณนัทตี้เป็นดาราเหรอครับ”

‘...เอาเถอะ ข้าไม่อยากคุยกับมนุษย์วงการตัวเลขอย่างเอ็งละ ไอ้จ้อนเอ๊ย เขาออกจะดัง ไปอยู่ขุมไหนมาวะ’ ขุมทรัพย์แม่น้ำแควมั้งครับพี่ ผมยังไม่หายเคืองเรื่องไก่จ๊อของพี่เลยนะครับ ระวังตัวไว้ เดี๋ยวเถอะ

“อ๋อ ไอรักขอบคุณพี่จิมมากนะครับ”

‘แน่นอน ข้ามีบุญคุณกับอชิระครั้งนึงละนะอย่าลืม หึหึ’

-_- กูว่าละ

“คร๊าบ ต้องการอะไรก็สั่งกระผมได้เลย ถ้าทำได้ จะทำให้ตามคำบรรชานะคร๊าบ” ผมลากเสียงยาวๆกวนตีนใส่ แต่มันดันหัวเราะก๊ากเสียงดังไม่อายผีฟ้า

‘ฮ่าๆๆๆ จ้อนเอ๊ย น่าตีตูดจังวะ’

“ไม่เอาอะ พี่จิมชอบรุนแรง ก้นผมระบมพอดี” ตอนเด็กๆพี่จิมชอบแสดงความรักความอบอุ่นโดยการแกล้งผมในเวลาที่พี่อุ่นกับพี่ติมเผลอ พอพี่ทั้งสองกลับมาเห็นสภาพผมก็แทบจะฆ่าไอ้พี่จิม แต่มันดันรู้ทัน หนีกลับบ้านก่อนตลอด เลวไหมล่ะพี่ผมคนนี้

‘เออๆ พี่ล้อเล่นโว้ย แค่นี้ก่อนแล้วกัน เปลืองตัวว่ะ’

“เปลืองตัง!”

‘เออนั่นแหล่ะ บุยๆ’ บุยคือ??ผมวางสายแล้วเงยหน้าขึ้นมาเห็นคนข้างๆถลึงตาดุๆเต็มไปด้วยคำถามเป็นอันดับแรก มันไม่ได้ถามอะไร แต่ไอ้สายตาแบบนั้นมันก็เหมือนคาดคั้นคำตอบผมอยู่แล้วอะ เฮ้ออไอ้น้ำแข็งเอ๊ย เป็นแฟนหรือเป็นพ่อกูกันแน่วะเนี่ย

“พี่จิมเป็นลูกของเพื่อนสนิทแม่ผม แล้วก็ยังเป็นตากล้องเมื่อวานด้วย เราสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่มีอะไรในกอไผ่”ผมกระซิบบอก มันหรี่ตาเหมือนจับผิด แต่ผมพูดความจริง มันก็คงรู้เลยพยักหน้าเบาๆ

“ไอรักจะสั่งอะไรเพิ่มอีกหรือเปล่า หรือสั่งแยกจานเหมือนไอ้เกียร์ก็ได้” เนพูดขึ้นมาพวกพัตสั่งกับข้าวเป็นจานมาทานร่วมกัน แต่เกียร์มันบ้า ไม่ชอบกินกับข้าวร่วมกันกับใคร ยกเว้นผม เพราะถ้าเราอยู่ด้วยกันแค่สองคน มันจะสั่งกับข้าวมาทานด้วยกัน ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ไม่กล้าถามเหตุผล กลัวโดนรุมทึ้ง

“มึงแพ้อาหารทะเลหรือเปล่าวะ”พัตถามขึ้น

“กูชนะมาโดยตลอด” พูดจบ ทั้งโต๊ะหันมามองหน้าผมพรึบผมเห็นเกียร์ยิ้มขำๆอยู่แปบหนึ่งแล้วตีหน้านิ่งเหมือนเคย มันก็ชอบทำตัวแปลกประหลาด เวลาอยู่กับคนอื่นชอบแอ๊บหน้านิ่งๆดุๆอย่างเดียว เวลาอยู่กับกูมีการเพิ่มฟังก์ชั่นอีกหน้าหนึ่งคือหน้าหื่น

“กูโดนกวนตีนหรือเปล่าวะ อ๋อ สงสัยหูกูฝาด”

“ฝาดห่าไร กูก็ได้ยินเต็มๆสองรูหู บวกรูอื่นด้วย” มัดพูดกระซิบกระซาบกับพัต แต่ได้ยินทั้งโต๊ะ

“ไอ้มัด! หยาบคาย”สาด่าแว๊ดๆ

“กูหมายถึงรูจมูก มึงคิดเหี้ยไรวะสา มึงแหละหยาบ ฮ่าๆๆ”

“สั่งเดี่ยวทั้งคู่” คำตัดสินจากฟากฟ้า ผ่ามากลางกระบาลผมเต็มๆครับ ผมหันไปสั่งอาหารให้ตัวเองและเกียร์ พวกมันมองหน้ากันอย่างแปลกใจ แต่ก็ไม่พูดอะไร

“แล้วพึ่งเลิกเหรอคะหมอไอรัก”

“ครับ พอดีอาจารย์เก็งข้อสอบให้”อาทิตย์หน้าสอบกลางภาคแล้วครับ ระเหี่ยใจแท้

“เมื่อกี้กูก็ตกใจ อยู่ดีๆไอ้เชี่ยเกียร์ก็ลุกออกไป แล้วก็ตกใจกว่าที่มันกลับมาพร้อมมึง ฮ่าๆๆ” ผมหัวเราะเจื่อนๆไปให้พัต เพราะพวกมันยังไม่รู้ว่าผมกับเกียร์เป็นอะไรกัน

“อ้าวแล้วนั่นไปทำอะไรมาวะ”โฟ่ที่นั่งตรงข้างผมถามขึ้น รู้สึกว่าวันนี้ผมตอบคำถามเรื่องนี้หลายสิบคนแล้วนะ มึงล่อทั้งมหาลัยเลยไหม

“ชนขอบโต๊ะ” คำตอบเดิม

“โง่ฉิบ…..โอ้ย มึงทำเหี้ยไรเนี่ยไอ้เกียร์” ผมทำหน้าสยองใส่ เพราะเมื่อกี้มันเล่นตบหัวพัตเต็มแรง กระบาลไม่แยกกันก็ดีขนาดไหนแล้ว

“เอ็นยึด” เกียร์ตอบหน้าตายเป็นอะไรที่กวนส้นตีนสุดๆเลยครับ

“เชี่ยเหอะ หัวกูแทบหลุดเพราะเอ็นมึง แมร่งเต็มหัวกูเลย เจ็บฉิบหาย”พัตลูบหัวตัวเองป้อยๆ ทำปากขมุบขมิบ

“แล้วหมอว่าไงบ้างอะ”เนถามขึ้นแล้วขยับแว่นเบาๆ มาเรียนหมอกับกูเหอะ หน้าไม่เข้ากับความสถุนของกลุ่มนี้เลยสักกะติ๊ด

“ต้องถามหมอเกียร์นะ”ผมบุ้ยปากไปทางเกียร์ พอดีกับอาหารที่สั่งมาเสริฟ

“หือ?” เนเลิกคิ้วสูงผมเลื่อนเครื่องปรุงไปให้เกียร์โดยที่เจ้าตัวยังไม่ได้เอ่ยปากขอ มันยกยิ้มให้แวบหนึ่งแล้วตักพริกใส่จานอาหารมัน

“ไอ้เหี้ยเกียร์ทำแผลให้?!” ทุกเสียงประสานกัน ผมพยักหน้าหงึกหงักแล้วกินข้าวต่อ

“อื้อหือ” ผมร้องขึ้น

“เผ็ดเหรอ” เกียร์เลิกคิ้วถาม แล้วมองจานข้าวผม ไก่อบกับไข่ตุ๋น มึงได้ดูก่อนถามหรือเปล่าน้ำแข็ง

“เปล่า ร้อนอะ แหะๆ” ผมแลบลิ้นแดงๆให้มันดู รู้สึกเลยว่าลิ้นพองแปลกๆ มันมองลิ้นผมอยู่นาน เลื่อนแก้วน้ำให้ แล้วเอื้อมมือมาลูบต้นขาผมที่อยู่ใต้โต๊ะเบาๆ แต่สายตายังอยู่ที่ปากผมไม่ละไปไหน

นี่มึงอย่าบอกนะ....

“แล้วมึงแขนไม่หักเหรอวะไอรัก มันแรงควายขนาดนั้น”พัตถามต่อ เสือกไม่จบจริงๆกลุ่มนี้

“แต่กูแปลกใจอย่างอื่นมากกว่า ..มันทำแผลให้ไอรักได้ไง ก่อนหน้านี้มันไม่เคยทำให้ใครเลยสักคนบนโลก กูเห็นแม่มึงมีดบาดนิ้วมันยังแค่ยื่นพลาสเตอร์ให้หน้าตาเฉย” มัดพูด อืม...เป็นลูกที่จัญไรมากๆเลยนะครับคุณเกียร์

“นี่ถ้ากูไม่ได้รู้จักมึง กูคงนึกว่ามึงเป็นแฟนกันอะ ฮ่าๆๆ”

“ไม่ได้คิดผิดนิ”

“…..”

“หมายความว่าไงวะ ...มึงอย่าบอกนะว่า..”ผมรวบช้อนส้อม เริ่มกินไม่ลง หายใจไม่ทั่วท้องยังไงไม่รู้ จึงได้แต่ก้มหน้ามองจานข้าวตัวเอง มันถึงเวลาแล้วสินะ..


เวลาที่ต้องจากลากับไก่อบเกือบหนึ่งน่องเต็มๆ

...เสียดายว่ะ...


“เออ”

“เฮ้ยยยยยยย จริงปะเนี่ย กูว่าแล้วไงไอ้แว่น กูคิดไม่มีผิด เอามาเลยไอ้เชี่ยโฟ่ ฮ่าๆๆๆ” ผมเงยไปมองงงๆ พัตเลยขยายความต่อ

“พวกกูพนันกันว่ามึงต้องมีซัมติงกันแน่ๆเพราะมีคนเห็นมึงทั้งสองไปไหนมาไหนกันบ่อย มีไอ้เชี่ยโฟ่ที่แมร่งไม่เชื่อกู กูว่าแล้วไง ในที่สุดเพื่อนกูมีฝั่งมีฝาแล้วโว้ย กร๊าก”

“กริ๊ดด เจ้าชายของกูโดนไอ้เกียร์หลอกลวงซะแล้ว” สาทำท่าร้องไห้เสียใจประหนึ่งโดนต้มตุ๋นโดยชายอันเป็นที่รัก

“แล้วที่มึงไม่มีแฟนมาตลอด ก็เพราะมึงเป็น…” เนถามขึ้น

“เปล่า”

“อ่าวแล้วมึงเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรวะ กูไม่ตงิดเลยว่ะ”พัตพูดแล้วทำหน้าหมางงใส่

“ตั้งแต่เจอคนนี้” เกียร์พูดแล้วจับมือผมจากใต้โต๊ะ ผมว่าตอนนี้ผมต้องหน้าแดงมากแน่ๆเลยอะ เพราะมันหันมามองสายตาวิบวับเหมือนล้อเลียนทางสายตา อย่าดิวะ แค่นี้กูก็หลงมึงจนโงหัวไม่ขึ้นแล้วไอ้น้ำแข็งยูนิต

“เอ่อ....”

“อ้าว มึงอิ่มแล้วเหรอวะ” เนหันไปถามพัตที่วางช้อนส้อม

“เปล่า กูจะอ้วก กูชินนะ ไอ้หน้าตายด้านของมัน แต่กูไม่ชินตรงสายตาหยึกหยึ๋ยพิลึกเมื่อกี้ว่ะกูไม่ชินอะมึง กูไม่ชินน”พัตทำท่าผะอืดผะอมใส่เกียร์ มันไม่สนใจหันมากินข้าวต่อ

“ไอ้เหี้ยพวกมึงเป็นเกย์เหรอวะ!” เสียงเข้มดังขึ้นจากคนตรงข้าม จนทั้งโต๊ะหันไปมอง..





TBC------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่14* P.5 [13/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 13-01-2013 19:38:08
 :a5:  ใคระวะๆ  ใครๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 
ใครมาพูดประโยคเช่นนีแล้วจากไป
มาต่อเลยน๊าาา
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่14* P.5 [13/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: yokerohz ที่ 13-01-2013 19:50:17
มาแล้วมาแล้ว

อ่านแล้วเขิน  :o8: :o8: :o8:

น่ารักอ่ะ

 o13 o13
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่14* P.5 [13/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 13-01-2013 20:16:22
เอิ่ม ทั้งชะนีและไอรักเกือบจะโดนเกียร์ขยี้ตายคามือ พระเอกเค้ารักแรงหวงแรงจริง ๆ จ๊ะ
อารมณ์ขึ้นทียากจะยับยั้งมาก ดูสิทำไอรักเจ็บตัวอีกแล้วนะเกียร์ ใจเย็นหน่อยน่า
สงสารไอรักเบา ๆ นะ ยัยชะนีนั่นก็แร๊งแรง
ที่มองลิ้นไอรักนี่คิดหื่นใช่มั้ยเกียร์ ชัวร์ล้านเปอร์เซ็นต์ เำพื่อนมีพนันกันด้วยเรื่องสองคนนี้ ฮา่อ่ะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่14* P.5 [13/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 13-01-2013 20:34:15
เกียร์ขี้หึงน่าดูนะนั่น
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่14* P.5 [13/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 13-01-2013 21:32:56
 :m31: ใครอ่ะ อย่ามาว่า น้ำแข็งกะไอรักนะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่14* P.5 [13/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: MangoBlue ที่ 13-01-2013 21:54:41
ใครมาพูดอะไรเนี่ยยยยยย  :fire:

หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่14* P.5 [13/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: shockoBB ที่ 13-01-2013 23:24:26
ใครโผล่มาอยากรู้ๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่14* P.5 [13/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 14-01-2013 04:37:26
เอ๊ย  ใครอ่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่14* P.5 [13/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 14-01-2013 10:55:03
ตอนนี้สงสารไอรักเบาๆ เกียร์ทำร้ายไอรักอ่ะ  :o12:

แต่ก็ยังหวานชื่นเหมือนเดิม  :impress2:

ปล.เขาคือใคร?????
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่14* P.5 [13/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 14-01-2013 12:11:48
ใครนะปากไม่สร้างสรรซะเลย
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่14* P.5 [13/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 15-01-2013 20:33:21
เกียร์หึงโหดจริงจริง
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่14* P.5 [13/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 17-01-2013 22:32:07
แรงรักแรงหึงของเกียร์รุนแรงไปไหนเนี่ย กลัวไอรักกระดูกแตก T^T

แล้วใครเป็นคนพูดคนสุดท้ายอะ นิสัยไม่ดี ไปพูดแบบนั้นได้ไงงงง !!!!!!
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่14* P.5 [13/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 21-01-2013 22:49:18
ใครพูดหนอ??? :m28: :m28:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่14* P.5 [13/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 24-01-2013 18:35:54
เกียร์โหดเกิ๊นนน !!!! :a5: :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่15* P.6 [26/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 26-01-2013 14:48:18
ตอนที่15


“.....”

“มึงไม่ได้จริงจังใช่ไหม”

“กูจริงจัง” เกียร์เอ่ยปากตอบ พลางจ้องตาคนตรงหน้าที่คิ้วขมวดอย่างไม่ชอบใจกับคำตอบเมื่อครู่

“กูว่ามึงแค่กำลังหลงตามกระแสกันชั่วคราว มึงไม่ได้เป็นกันจริงๆหรอกใช่ไหม”

“หมายความว่าไง”

“ใครๆก็รู้ว่าผู้ชายกับผู้ชายไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว มึงคิดดูว่าคนอื่นจะมองพวกมึงยังไง! พวกมึงเดินจูงมือเข้าโบสถ์ไปแต่งงานเหมือนคนอื่นก็ไม่ได้ ลูกก็ไม่มีให้พ่อแม่มึง เดินจับมือยังต้องระวังสายตาคนอื่น จะทำอะไรมากก็ไม่ได้ ต้องอยู่แบบหลบๆซ่อน มึงจะทนสายตาคนอื่นได้สักกี่น้ำวะ” ทุกคนในโต๊ะเงียบกริบมองหน้ากันเลิกลั่ก จะมีแต่โฟ่กับเกียร์ที่จ้องกันอย่างไม่วางตา ผมพูดไม่ออกได้แต่นั่งก้มหน้ากำมือตัวเองแน่นจนกระดูกนูนสะกดกั้นอารมณ์คุกกรุ่น

“ไม่ใช่เรื่องของมึง” เกียร์พูดออกมาเสียงนิ่งเฉียบขาดจนคนฟังสะอึกตัวเกร็ง

“...แต่กูเตือนมึงด้วยความหวังดี เลิกตอนนี้ยังทันนะโว้ย ถ้ามึงเดินไปทางนั้น มึงจะหันกลับไปไม่ได้แล้ว” โฟ่ตอบ น้ำเสียงอ่อนลง แต่สีหน้าเครียดยังไม่คลาย

“กูตัดสินใจแล้ว มึงไม่ต้องเข้ามาเสือกช่วยกูคิด” เกียร์ตอบ จริงของมัน เวลาเกียร์จะทำอะไร มันต้องผ่านการคิดและตัดสินใจจนแน่ใจจริงๆก่อนลงมือทำ และไม่ประกาศโอ้อวดผลลัพธ์กับคนอื่น จนต้องให้คนอื่นสังเกตเห็นและถามมันเสียก่อน ถึงจะรู้คำตอบ อย่างเช่นเรื่องนี้...

“แต่กูรับไม่ได้ที่เพื่อนเป็นเกย์ว่ะ มึงเพี้ยนเหรอวะ”เกียร์เริ่มหน้าตึงกว่าเดิม เหมือนกำลังจะระเบิดอีกในไม่ช้า

“เอ่อ...ไอ้โฟ่ กูว่ามึงพูดแรงไปปะวะ”พัตพูดขัดขึ้น

“เพราะพวกมึงมัวแต่สนับสนุนมันแบบนี้ไง มันถึงได้เดินทางผิด! พวกมึงรู้ก่อนหน้านี้แต่เสือกห้ามไม่ให้กูไปขวางไอ้เกียร์จนมันเลยเถิดแบบนี้!”

“เออ! พวกกูผิด ที่คิดว่าต่อให้มันเป็นเหี้ยเป็นห่าอะไรยังไงแมร่งก็เพื่อนกันไม่ใช่หรือไง อะไรที่มันเป็น ไม่ว่ามึงจะชอบหรือไม่ชอบ ก็ต้องยอมรับมันให้ได้ แล้วที่มันรักกัน มันก็ไม่ได้ไปทำร้ายใครไม่ใช่เหรอวะ มึงจะไปขัดขวางความสุขเพื่อนทำเหี้ยอะไรวะ” สาลุกแล้วขึ้นเสียงใส่ โดยมีมัดคอยดึงแขนเล็กเอาไว้เนืองๆ

“สา ใจเย็นๆ”

“ก็มึงดูปากไอ้เหี้ยโฟ่ดิไอ้เน! มันก็รู้ว่าไอ้เกียร์มันเป็นคนยังไง ถ้ารับเรื่องแค่นี้ไม่ได้ แมร่งก็เหี้ยไปละสัด!” สาพยายามใจเย็นลง กระแทกตัวนั่งเหมือนเดิมตามแรงดึงของมัด

“ที่กูพูดก็เพราะอนาคตมัน! มึงแค่อยากลองของแปลก ให้ชีวิตเร้าใจขึ้น กูไม่ได้พูดแรงไปหรอก ถ้ามันจะทำให้จิตมึงไม่ผิดปกติแบบตอนนี้…” ปึ้ง! เสียงฝ่ามือใหญ่กระทบโต๊ะดังสนั่น พร้อมกับผมที่เงยหน้ามองคนพูดจากระแทกใจผมรุนแรงอย่างเจ็บปวด ทุกเสียงการเคลื่อนไหวในร้านเงียบกริบ แต่ไม่ใช่อารมณ์ที่ผมจะมานั่งสนใจสายตาคนอื่นเพราะอีกมือที่จับมือผมไว้ไม่ยอมคลาย บีบแรงขึ้นเหมือนกำลังระงับอารมณ์

“อย่ามาจุ้นจ้านกับกู ใจกูความรู้สึกกูอนาคตกู กูเป็นคนกำหนด ไม่ใช่มึง มึงรับไม่ได้ก็เรื่องของมึง แต่กูคงไม่มีไรต้องคุยกับมึงอีก” เกียร์ลุกขึ้นเค้นเสียงลอดฟันระงับอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพร่าจบประโยคแล้วมองโฟ่หางตาอย่างเย็นชา ก่อนดึงมือออกจากบ้านโดยไม่หันหลังกลับไปมอง

ตลอดทางไม่มีใครเอ่ยเสียงออกมาจนถึงบ้าน แต่ทั้งวันเกียร์ยังคงทำตัวเหมือนเดิม เดินไปล้างเท้าแล้วดึงผมให้นั่งข้างๆ มันเปิดช่องการ์ตูนดูอย่างสบายใจ ดูไม่ทุกข์ร้อนเหมือนที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้…

“กินไหม” มันยื่นโหลคุกกี้สีใสมาให้ หลังจากที่ดูการ์ตูนอยู่หลายชั่วโมงแบบไม่ขยับไปไหน ผมส่ายหัว

“….”

“เป็นอะไร”มันคงเห็นผมกระวนกระวายใจ นั่งตูดไม่ติดโซฟา จึงถามโดยที่สายตายังมองโทรทัศน์ ผมมองเสี้ยวหน้าด้านข้างมันอย่างเหม่อลอย

ถ้าผมไม่มายุ่งมันตั้งแต่แรก.....ป่านนี้เกียร์คงมีแฟนสวยๆน่ารักให้เดินควงอย่างเชิดหน้าชูตามากกว่ามาเดินกับผู้ชาย..อย่างผม

“เปล่าครับ” มันหันมาจ้องผมหน้านิ่ง

“…..”

“…..”

“…..”

“ผม....แค่กังวลนิดหน่อย” ในที่สุดผมก็ต้องเอ่ยปากบอก มันเล่นจ้องผมไม่วางตา คล้ายจะกดดันให้ตอบขนาดนั้น

“เรื่อง?”

“ที่โฟ่พูดมา มันถูกทุกอย่าง จนผม...”เริ่มไม่มั่นใจในตัวเอง และอนาคตที่ต้องเจอ ผมก้มหน้ากลืนคำพูดต่อท้าย ผมกลัว กลัวมีใครจับแยกเพียงเพราะความรักที่ผิดรูปแบบจากคนส่วนมาก แค่เพื่อนมัน ยังรับไม่ได้เลย

แล้วพ่อแม่ผมกับมันล่ะ ท่านจะรับพวกผมได้หรือเปล่า...

“…….”

“…….”

“จะเลิกกับเกียร์เหรอ”

“ไม่ครับ ผมไม่เคยคิดที่จะ...” ผมรีบเงยขึ้นมาจะแย้งตอบ แต่พลันเห็นสายตาเศร้าหมองของมันที่มองมา ทำให้ผมใจหวิวรู้สึกผิดที่ไม่มั่นคงกับความรักที่ผมกับมันได้สร้างขึ้นมา

“แล้วจะแคร์คนอื่นทำไม” นั่นสิ ผมจะกังวลเพราะคำพูดคนอื่นไปทำไม สู้แคร์คนที่เรารักไม่ดีกว่าเหรอ ในเมื่อมันพร้อมที่จะฟันฝ่าหากมีอุปสรรคใดๆกับผมอยู่แล้ว

“ผม.....เฮ้อ ไม่รู้สิ มันหวั่นยังไงไม่รู้ ผมพยายามไม่คิดแล้วนะ แต่มันกลับคิดขึ้นมาเอง”

“มีความสุขเหรอ”

“ครับ?”

“คิดแบบนั้นแล้วมีความสุขไหม”

“….” ผมส่ายหน้า มันดึงผมให้ซบลงอกอุ่นๆ แล้วลูบหัวผมเบาๆ

“แล้วจะคิดทำไม”

“แต่ผมทำให้เกียร์กับเพื่อนต้องผิดใจกัน”

“ถ้ารับในตัวเกียร์ไม่ได้ ก็ไม่ใช่เพื่อนแท้”

“ผมขอโทษนะ” ผมจับมือใหญ่ของมันเล่นแต่หัวยังซบอยู่กับอกของมัน

“เรื่อง?”

“ผมไม่น่าดึงเกียร์จนต้องมาเจอเรื่องแบบนี้เลย ถ้าผมเลือกที่จะไม่บอกเกียร์คราวนั้น..” คราวที่ผมบอกชอบมันครั้งแรก...

ผมทนพูดต่อไปไม่ไหว เสียงมันสั่นคลอนไปหมด

“ไอรักไม่ผิด เราไม่ผิด คนอื่นไม่ผิด แต่ความถูกต้องที่แตกต่างกันต่างหากที่ผิด”

 “.......”มันจ้องตาผมลึกลงไปแล้วจูบลงหน้าผาก แล้วกอดผมแน่นอย่างหวงแหน

“เกียร์ไม่เคยคิดว่าเรื่องที่ทำให้เราได้มารู้จักกันเป็นเรื่องไม่ดี ....ตรงกันข้าม มันกลับดีมากด้วยซ้ำ”

“.......”

“ถ้าไอรักไม่เข้ามา....เกียร์ก็คงรักใครไม่เป็นอยู่อย่างนั้น”

“…..เกียร์.....”

“เลิกกังวลได้แล้ว ไหนยิ้มสิ” มันยืดแก้มผมทั้งสองข้าง

“อ้า แอ้วอะอิ้มอังไออ่ะ” มันคลายมือ แต่มือยังแนบแก้มทั้งสองของผมอยู่ ผมทำปากจู๋ใส่

“ฮี่”เกียร์ก้มมองผมในอ้อมแขนของมันผมเลยเงยหน้าฉีกยิ้มกว้างให้มันจนตาหยี พอมันเห็นก็บีบก้นผมแรงๆ จนผมต้องตวัดสายตาดุๆไปมองมัน ผมว่านานๆทีผมจะแสดงอิทธิฤทธิ์โหดๆทางหน้าตานะ แต่ทำไมมันไม่กลัวเลยอะ กลับอมยิ้มอย่างชอบใจอีก!

“หึ ....นอนนะครับ ...แมวน้อย” เกียร์ลูบหัว โยกตัวผมที่ซุกอกมันตาปรือเบาๆไปมาเหมือนกล่อม พูดคำสุดท้ายก่อนเปลือกตาผมจะปิดลงด้วยเสียงนุ่มอย่างที่ไม่มีใครเคยได้ยินจากมันมาก่อน






“ตัวเองงงงงงงงงง” เสียงไอ้เนมมาแต่ไกลเลยครับ

“เสียงดังทำห่าอะไรทุกวันวะไอ้เนม” ผมทนไม่ไหวเลยยื่นมาจะไปตบหัวมันสักฉาด แต่มีมือเลวรั้งเอาไว้ได้ทัน

“หยุดเลยๆ”

“ไรวะ” ผมพูดเสียงสะบัดอย่างขัดใจไปให้ไอ้คลื่น

“มึงจะทำเนมแบบนั้นได้ไง” คลื่นพูดเสียงเข้มขึ้นจนผมแปลกใจ ไอ้บอสคิ้วขมวดวางหนังสือรถแข่งแล้วมองคู่เห็บของมัน

“อะไรของมึงอะ”

“กูจะบอกว่ามึงอ่อนโยนกับหัวมันเกินไป ต้องแรงกูนี่ แบบนี้ ป๊าบบ!” เยดเข้!! มึงดังกังวานทั่วราชอาณาจักรมาก จนไอ้เนมหัวหันอะ

“ไอ้เชี่ยคลื่น!!!!!!!” แล้วพวกมันก็วิ่งไล่จับเหมือนหนังอินเดียรอบตึกคณะ…จบบริบูรณ์

“วันนี้มึงกินข้าวกับพวกกูด้วย ไอ้เชี่ยไทป์บ่นคิดถึงมึงจนใจขาดดิ้นแล้ว” ผมเลิกคิ้วไปมองเนมที่ยืนหอบแฮ่กๆค้ำหัวผมอยู่ อย่างไอ้ไทป์อะนะคิดถึงผม ผมว่าไอ้คิมยังน่าเชื่อถือมากกว่าอีกนะ

“กูไม่ได้หลอก แต่ดูจากสีหน้าแล้ว จิตใจกูมโนได้ว่ามันคิดถึงมึงอะ” หือ? จิตมึงมโนปรุงแต่งขึ้นมาเอง??



..................................................................



“ป้าบบ เหี้ยนี่มีผัวแล้วไม่เคยเห็นหน้าเลยนะ”พิชเดินตบหัวผมเสียงดังทันทีที่ผมหย่อนก้นนั่ง ไม่เจ็บนะ แต่กูไม่จบ!...

“อ้าว ว่าไงครับเพื่อนทูนหัว” กูไม่จบ แต่กูกลัวเจ็บ(อีก) ใครจิไปกล้าหือกับมึงครับพิช ตัวมึงก็ชนะกูขาดลอยแล้วเพื่อนเอ๋ย

“หัวกับบุพการีมึงสิ เล่นลิ้นเหรอสัด” อูยย ไมพันธุ์โหดจังวะ

“ไอ้คิมไปไหนวะ” ผมถามพิช เห็นแต่ไอ้ไทป์ที่เดินมานั่งตรงข้ามผมแล้วจ้องแทบจะแดกหน้าผมเป็นอาหาร ส่วนคนอื่นไปซื้อข้าวกันอยู่

“ไปทำความดีอยู่เดี๋ยวคงตามมา”

“หะ?มึงว่าไงนะ อะไรกะหล่ำปลีๆ” ผมหูฝาดหรือเปล่า หรือหูตามันอื้อลายไปหมดหนอ...

“มันไปทำความดี”

“เด็กชายคชาไปทำความดี!?”

“เออ”

“มันเนี่ยนะ ทำไรวะ” มันเนี่ยนะ ผมยังงงไม่หาย

“ดีไม่ห่างเหิน”

“สัด!!” หยาบคายฉิบหาย! กูว่าละ วันๆมันเคยทำห่าอะไรบ้างนอกจากปี้หญิง เอ้ย ปู้หญิง

“ที่รักขา~ สองขา สามขา สี่ขา อ้าขา เอ้ยห้าขา” นั่นไงครับ เสียงมันมาแต่ไกลเหมือนไอ้เนมตอนเช้าไม่มีผิด

“ไมมาช้าวะ ไม่คิดถึงกูเหรอ”

“ว้ายๆๆ คิดถึงเด้ แต่พอดีเจอคนสวยกลางทางว่ะ หึหึ” มันทำหน้าเพ้อฝัน จนไอ้เนมที่เข้ามาได้ยินพอดีเป่าลมปากใส่หน้าไอ้คิมผมเห็นแว้บๆว่ามีสิ่งแปลกปลอม อาจเป็นน้ำลายหลุดออกมาพร้อมลมปากของมัน

“สวยจริงดิ แล้วมึงได้ขอเบอร์ปะ” คลื่นถาม จนโดนบอสผลักหัวแล้วด่าเสียงเนิบๆว่า

“เสือกไปเรื่อย”

“กูใครๆๆ หะ กูใครครับน้องคลื่น ระดับนี้ เลขห้อง ชื่อคอนโดพร้อมเสร็จสรรพครับผม ตอนก้มลงเขียนกระดาษให้กูนะ นมเป็นนมเลยครับ กูเห็นแล้วสวยสัดๆ”

“สวยเหี้ยไรอีก” พิชถามขึ้น

“สวยหัวเคียว หึหึ”

...เอ่อผมว่า เรื่องนี้มัน ฉ20+ แล้วล่ะ....

“ทะลึ่งใหญ่แล้วพวกมึงจะกินไหมข้าวน่ะ” ไทป์พูดขึ้นหลังจากทนไม่ไหวจากคำผวนสุดกู่ของเพื่อนผอง

-This is not the end,This is not the beginning ..-

“สวัสดีครับว่าไง” ไอ้ฉิบหาย กูลืมบอกมันนี่หว่าว่าจะมากินข้าวกับเพื่อน ป่านนี้คงจอดรถรอผมหน้าคณะแหงๆ ตายโหงแล้วตูเอ๋ย..

‘อยู่ไหน’ น่านนน เสียงแข็งเหมือนหน้าตาเป๊ะ

“เอ่อ.. อ๋อ โรงรวมครับ ผมลืมส่งไปบอกเลยว่าจะกินข้าวกับเพื่อนน่ะ แฮะๆ”

‘เดี๋ยวไปหา’

“จะดีเหรอ แล้ว..เพื่อนคุณไม่ว่าเหรอครับ ที่..เอ่อมาอยู่กับผมน่ะ” ผมพูดสีหน้าเครียด คิม(ตัวเสือก)ที่กินข้าวถึงกับเงยขึ้นมามอง

‘ไม่ได้สนใจ เดี๋ยวไปหานะ’

“คร้าบ”



“มีไรกันวะ” คิมพูดขึ้น รู้เลยครับว่าเสือกฟังบทสนทนาเมื่อครู่นี้

“ไม่บอก”

“ไอ้สัดนี่” มันขยับตัวแล้วปาน้ำแข็งก้อนใหญ่ใส่สองก้อน

“เออๆๆ ไม่มีไรมากหรอก เพื่อนมันคนนึงไม่ยอมรับที่กูกับมันรักกันว่ะ” ผมพูดแล้วคีบลูกชิ้นของไอ้บอสกินต่อ มันทำหน้าดุใส่แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็ไอ้คลื่นมันไม่กินลูกชิ้น เลยให้ไอ้บอสตลอด ชามไอ้บอสเลยมีลูกชิ้นมากกว่าคนอื่น

“ใครวะ” เนมถามขึ้น

“โฟ่”

“เออ ไม่ต้องเครียด อุปสรรคมีไว้พุ่งชน” มันตบหลังปุๆให้กำลังใจผม

“กระทิงแดง” คลื่นพูดพร้อมทำมือยกขึ้นข้างหนึ่งสูง อีกข้างหนึ่งอยู่ระดับอกเหมือนบินได้ยังไงอย่างนั้น

“ถุยยย”

“มึงเห็นกูเครียดเหรอ” หลังจากเมื่อวานที่มันบอกไม่ให้ผมคิดมาก ผมก็ไม่เก็บมาคิดแล้วนะ

“ไม่อะ ยิ้มเห็นเหงือกและฟันสามสิบสี่ซี่ รวมฟันคุดเจ็ดเปอร์เซนต์” เนมพูด

“เอ๊ย นั่นมันละมุดเจ็ดเปอร์เซนต์” คิมปล่อยฮุคซ้าย

“เอ๊ย นั่นมันมังคุดเจ็ดเปอร์เซ็นต์” เนมยิงฮุคขวา

“เอ๊ย นั่นมึงVatเจ็ดเปอร์เซ็นต์” คิมไม่ยอมแพ้

“เอ๊ยยยย” คลื่นมาแต่ไกล

“อ้ะ ถูกแว้ว” สองตัวพูดพร้อมกัน

ผั๊วะ!

“ปัญญาอ่อน”

และแล้วทั้งสามตัวก็โดนโหดพิชฟาดหน้าเข้าให้ไปตามระเบียบ

“เออ ก็ตามนั้น”

“เอาไปแมร่งทั้งชามเลยดีปะ” ไอ้บอสพูดขึ้นแล้วเอาตะเกียบด้านที่ไม่เปื้อนเคาะมือผมแรงๆ

“โอ้ยๆ มาดิ กูอยากกินพอดี” ผมยิ้มตาหยีให้ พอดีกับมีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามายื่นชามลูกชิ้นล้วนๆมาให้

“ไอรักคะ ผัดหมี่ซื้อลูกชิ้นมาฝากค่ะ เห็นว่าชอบ” ผู้หญิงชุดรัดติ้ว หน้าเติมแต่งบางๆยืนบิดตัวหน้าแดงแล้วพูดขึ้น ได้ข่าวผมไม่ได้ชอบลูกชิ้นเป็นพิเศษนะ

“วิดวิ้วว!” เสียงโห่ร้างทั่วทั้งโรงอาหาร ทำให้ผู้หญิงคนตรงหน้าเขินกว่าเดิม

“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มให้ไปที เธออึ้งๆก่อนวิ่งหนีออกไปจากโรงอาหาร เอ่อ ไม่ต้องรีบครับ เดี๋ยวสะดุดหรอก ผมไม่ได้สนใจอะไร หันกลับมาจะคีบลูกชิ้นในชามนั้นกิน แต่แล้วมีมือมาจับตะเกียบแน่นแทบหักจนผมต้องปล่อยมือแล้วค่อยๆเงยไปมอง

....โห...โหดสัด

“สะ สวัสดีครับคุณน้ำแข็ง” ผมใจดีสู้เสือยิ้มทักทายคนหน้าบึ้งที่กำตะเกียบไม้จนหักป็นสองท่อน ไอ้เนมที่นั่งอยู่ข้างผมรีบถอยกรูให้มันนั่งโดยที่มันไม่เอ่ยปากขอ

“งานเข้าแล้วมึง” ไอ้บอสที่นั่งอีกข้างพูดเบาๆให้ผมได้ยิน เออ กูรู้ กูเรียนมา

“ไม่ต้องกิน” มันยกชามนั้นไปเททิ้งแล้วเดินกลับมานั่งข้างๆ ผมมองตาละห้อย อ้อย อ้อย .....โถ่... ลูกชิ้นของฉัน.....

“กินอะไรกันดีครับเกียร์ เดี๋ยวผมไปซื้อให้เอง” ผมเอี้ยวตัวไปมองหน้าคนข้างๆที่ไม่ยอมกหันมามองกันสักที นั่นๆ มีเชิดใส่กูอีกนะ งอนกูอีกแล้วไงคราวนี้ ถ้าผมกระทืบหน้าไอ้น้ำแข็ง จะมีใครด่าพ่อแม่ผมไหมเนี่ย

“ตัวเอง ตัวอยากกินอะไรอะ เค้าอยากกินข้าวมันไก่ ตัวเองว่าไงคะ” ผมพูดอ้อนๆที่สุดจะกระดากปาก(ลอกไอ้เนมมา)แล้วทำตาโตปริบๆ ที่ใช้ได้ผลตลอด แล้วมันก็ได้ผลจริงๆ มันหันมาปรายตามอง แต่หน้ายังบูดอยู่ สงสัยจะชอบตาผมล่ะมั้ง ผมทำทีไร ใจอ่อนทุกที

“นั่งดีๆ อย่าดื้อ” แล้วมันก็ลุกออกไป ไม่วายหันกลับมาสั่งผมไม่ให้ดื้ออีก กูทำผิดตรงไหนครับ!

“ไงล่ะมึง ยิ้มจนเป็นเรื่อง” ไอ้คิมพูดขึ้น ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่

“มึงก็รู้ว่ามันขี้หึง ไปรับของมาทำไม” พิชพูด

“ก็มึงดูเขายืนบิดตัวแดง ไม่รับก็เหี้ยละ”

“ถุยย ไอ้พ่อพระจนตัวเองเดือดร้อน สร้างปัญหาให้มันปวดกระโหลกได้ไม่เว้นแต่ละวัน ถ้ามันเปลี่ยนใจจากมึงแล้วจะหนาว ควาย” ไอ้คิมแมร่งพูดโหดจังวะ ผมเสียวๆขึ้นมาเลยอะ

“มึงอย่าด่ากูดิ กูยิ่งกลัวอยู่”

“ควายอีก มึงจะกลัวห่าอะไรของมึง กูล้อเล่น แค่นี้กูก็เห็นมันซ้ายนำ ขวาตามเหมือนลูกเป็ดตามแม่”

“ซ้ายนำขวาตามห่าอะไร กูโดนนำน่ะสิไม่ว่า”

“เหรอ/เหรอ/เหรอ/เหรอ/เหรอ/เหรอ”

“ไอ้สัด”พูดพร้อมกันซะกูเสียศูนย์ในตัวเองเลย

“แต่เมื่อกี้มึงเกือบตายท่ากายกรรมแล้วอะ กูเสียวแทน” ไอ้คลื่นทำท่าขนลุกซู่  จนไอ้เนมต้องแคะขี้มูกป้ายให้หายหนาว

“เหี้ย! มึงๆๆ มึงดูมันมันป้ายขี้มูกใส่กูอะ แง้ๆๆๆมึงเอาของตัวเองกลับไปเลยไอ้เนม แง้ๆๆ” ไอ้คลื่นเบะปากหันซ้ายหันขวาฟ้องแมร่งกับทุกคน

“เชี่ยเนมมึงแกล้งมันทำไมวะ ลำบากกูอีก”ไอ้บอสบ่นอย่างหัวเสีย เพราะรู้ดีกับหน้าที่ตัวเอง ฉุดคลื่นลุกขึ้นไปล้าง คลื่นมันรักสะอาดมากๆครับ ถ้าเป็นผมคงใช้ทิชชู่สีชมพูบนโต๊ะเช็ดออกอะ

“ฮ่าๆๆ กูขำว่ะ ตัวโตกว่าไอ้บอสอีก แต่ใจแมร่งเท่ามดดำ”

“เดี๋ยวมึงก็โดนแกล้งกลับหรอก” ไอ้พิชพูดขึ้น เกียร์เดินมาวางจานข้าวพอดี แล้วเดินออกไปซื้อน้ำอีกครั้ง ก่อนกลับมานั่งที่เดิม

“ร้อนเหรอ” มันเหงื่อแตกผลักๆเลยครับ ปกติโรงรวมจะมีโซนติดแอร์ กับติดพัดลมเฉยๆ แต่พวกผมมันกันสาย เลยจองโซนแอร์ไม่ทัน ผมยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ ผมพกมาทุกวันครับ เคยชินตั้งแต่เด็กๆมันส่ายหน้าแล้วเอียงหน้าเข้ามาใกล้ แฟนกูเป็นง่อยอีกแล้ว ถึงจะบ่นแต่ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงยิ้มก็ไม่รู้

“ทำไมมึงไม่บอกว่าวันนี้มันร้อนขนาดนี้ จะได้เปลี่ยนที่ ดูสภาพไอ้เกียร์ดิ เหงื่อแตกอย่างกับสายน้ำ” ไอ้เนมบ่นขึ้น เออวันนี้อากาศมันร้อนจริงๆนะครับ แต่ผมไม่ได้ลุกเดินไปเบียดซื้อข้าวซ้อน้ำกับคนอื่นมั้ง เหงื่อเลยไม่ออก

“กูไม่ได้เป็นกรมอุตุ”พิชตอบ

“จ๊ะ แค่นั้นแหล่ะจ๊ะที่รัก”



ตลอดทั้งอาทิตย์ผมนั่งติวหนังสือสอบกับเพื่อนอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง จะมีบางวันที่กลับมาอ่านหนังสือคนเดียวที่บ้านของเราบ้าง(ห้องมันนั่นละ) ส่วนมันก็สอบเหมือนกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้เจอหน้ากันนะครับ

ทุกวันมันจะต้องมาเจอหน้ากัน สักหนึ่งนาทีก็ยังดี แต่ครั้งนี้ผมถูกเรียกให้ไปหาครับ เพราะมันต้องอ่านหนังสือโค้งสุดท้ายเลยไม่ว่างมาหาผม ไอ้ผมก็บอกไปแล้วนะว่าไว้ค่อยเจอกันวันอื่นก็ได้ คือผมไม่อยากไปหาเพื่อนมันเลยพูดตรงๆ มันไม่มั่นใจอะ แต่มันบอกต้องมาให้ได้ พอผมเถียงก็ชิงเงียบอีก สุดท้ายผมก็ต้องไปหามันสิถึงจะหายใบ้ เฮ้อ

“สวัสดีครับ”ผมเดินเข้าไปทักทายกลุ่มมัน มีสองคนที่ไม่คุ้นหน้ายิ้มให้ผมนิดๆ

“อ๊ายย เจ้าชายมาหาสาเหรอคะ คิดถึงจัง” สาวิ่งเข้ามาหมายจะเกาะแขนฉับ แต่โดนเกียร์ดันหน้าเสียก่อน ส่วนโฟ่นั่งมองผมนิ่ง ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่

“มันไปจับหน้ามันทำไมวะ เดี๋ยวผื่นขึ้นหรอก” มัดพูดขึ้น

“อีเวร กูเป็นคนนะไม่ใช่หมามุ่ย”

“อ้าวเหรอ แต่กูนึกว่าลมพิษว่ะ ฮ่าๆๆๆ”

“ไอ้มัด! แมร่ง กูไม่ตงไม่ติวให้มึงแล้ว ปล่อยให้โง่แบบนี้แหละ” สาสะบัดหน้าเชิดใส่เตรียมตัวจะลุกขึ้นหนีแต่โดนมัดรั้งข้อมือเอาไว้

“โอ๋ๆๆ กูล้อเล่นน่า หยอกเพราะรักนะครับ” ประโยคสุดท้ายมัดทำเสียงนุ่มๆของมัน สามองมัดอึ้งๆแต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ

“พวกมึงจะติวกันหรือพลอดรักกันเอาสักอย่าง กูงง Mechanicsฉิบหายจะตายอยู่ละ ไอ้แว่นมึงอธิบายอีกรอบดิ้”พัตพูดขึ้น

“กูอธิบายมึงมาเป็นล้านรอบแล้วนะ” เนบ่นๆแต่ก็ยอมอธิบายให้อีกครั้งอย่างละเอียด

“เดี๋ยวพวกกูไปก่อนนะ” คนแปลกหน้าคนหนึ่งพูดขึ้น อืม..หน้าเหมือนกาฟิวเลยครับ แต่สูงมากๆ

“อ้าว ไอ้เมสรีบไปไหนวะ” พัตถามขึ้น

“นัดเมีย ด่ากูตายห่าละแมร่ง ส่วนไอ้เต้โดนแม่ตาม” เหตุผลมีน้ำหนักมากๆครับ รีบไปเถอะครับ เดี๋ยวจะโดนส้นเท้าของคุณภริยาทับประสาทตาเสียก่อน

“เออๆๆ เมียหรือแม่วะ ฮ่าๆๆ”

“มึงอย่าเล่นของสูงของกูนะโว้ย กูนี่แทบจะบูชาเหนือหัว นางยังอุส่ายื่นมือลงมาตบหัวกูได้ทุกวี่ทุกวัน” คนชื่อเมสบ่นเป็นหมีกินน้ำผึ้งเลยครับ สงสัยจะโดนมาเยอะ เจ็บมาเยอะ

“รีบไปเหอะมึง เดี๋ยวแผ่นดินบ้านมึงจะแยกจากกันซะก่อน โชคดีเว้ยๆ” พัตหัวเราะเสียงดังแล้วพูดขึ้น

“เออๆๆ ไปนะ” เต้เก็บของบอกลาเพื่อนในกลุ่ม เผื่อแผ่รอยยิ้มมาถึงผมด้วยเช่นกัน

“กูก็ไปละเหมือนกัน อ้ออ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับเจ้าชาย” คนชื่อเมส(มั้ง) หันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้เพียงเสี้ยววินาทีเดียว มียางลบไซส์บิ๊คที่สุดในบีทูเอสปาเข้าเบ้าตาอย่างแรงตั้งแต่ยังไม่ได้ออกจากคณะเพื่อไปโดนส้นเท้าภริยาที่บ้าน เหตุเกิดจากคนข้างๆผมอย่างไม่ต้องสืบ

“โอ้ยย ไอ้เหี้ยเกียร์กูเจ็บนะโว้ย” อึ้งครับ ทุกคนอึ้ง แม้แต่ผมยังตกใจไม่แพ้กัน เมื่อกี้มันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแรงสูงมากครับ

“…..”

“เอ่อไอ้เชี่ยเกียร์มันทำหลุดมือน่ะ มึงไปเถอะเต้เมส ไว้เจอกันๆ” สารีบแก้สถานการณ์ให้เพราะเห็นว่าเกียร์เฉยเมยไม่แก้ตัวใดๆ

“เออๆแมร่ง กูไปละ บายโว้ย” แล้วสองหน่อก็จากไปจากเฟลมเป็นที่เรียบร้อย

“ฟาย มึงทำอะไรเนี่ย รุนแรงไปหรือเปล่าวะ อย่าลืมว่าพวกมันไม่รู้เรื่องที่มึงคบกันนะ” สาหันมาด่าเกียร์เบาๆ แต่เกียร์หันมามองสาแล้วเมินเหมือนไม่สนใจ

“ไอ้เกียร์มันด้านจะตาย คนอื่นรู้มันไม่อายหรอก ยิ่งเหลิงด้วยซ้ำ มีแฟนหล่อรวยกวยเพอร์เฟค” พัตพูดพร้อมทำหน้ากระล่อนใส่ผม แต่ก็ต้องชะงักเพราะรัศมีเงามืดตีแพร่กระจายวงกว้างทั่วระยะพันเมตรของไอ้หมาน้ำแข็งตัวข้างๆ

“ถ้ามึงจะหวงเมียขนาดนี้ ไม่เอาปี๊บมาคุมหัวไอรักเลยวะ น่ากลัวสัด” มัดเอ่ยขึ้น ทำผมหน้าร้อนขึ้นมาทันที เมียอะไรกัน ผมยังซิงอยู่นะ! แล้วนี่ร่างกายผมจะสูบฉีดดีเกินไปไหม ไอ้คนข้างๆเห็นสีหน้าผมก็หัวเราะหึหึอารมณ์ดีขึ้นมาทันตาเลยอะ

ผู้ชายหน้าแดงมันน่าอายนะครับ!

“เชี่ยย กูขอจำภาพนี้แปบนึงๆ เจ้าชายหน้าแดงแปร๊ดเป็นมะเขือเทศ เพิ่มความน่ารักขึ้นยี่สิบเท่า กับไอ้เชี่ยมนุษย์เส้นประสาทหน้าตายเสือกหัวเราะได้ มันยกมุมปากขึ้นด้วยอะ!” พัตปัดมือสาที่สะกิดยิกๆและเอามือทาบอกตัวเอง สายตามองมาที่พวกผมสองคนกันหมด ยกเว้นโฟ่ที่คิ้วขมวดฉับเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง

“โอว...ตาพร่าฉับพลัน” สาทำท่าจะล้มทับพัต แต่โดนพัตยันหน้ากลับ คอแทบหลุด โถคุณสา ไม่น่าเลย...

“อ่านถึงไหนแล้ว” คนข้างๆผมหันมาถาม

“จบหมดแล้วครับ แต่จะทบทวนผ่านๆอีกรอบ” แล้วผมก็หยิบหนังสือปึกใหญ่มากางอ่าน เริ่มสอบวันแรกตั้งแต่พรุ่งนี้ แต่ผมอ่านจบแล้วเลยอ่านไปเรื่อยๆไม่ต้องรีบร้อนอะไร ส่วนพวกวิศวะเริ่มสอบทีหลังแพทย์ จึงสอบเสร็จหลังผมสองวันครับ

“อยู่ต่อเลยได้ไหม”

“อย่าปล่อยให้ตัวฉันไป ..ถุยยย มึงมาเป็นเพลงเลยดีไหมเชี่ยเกียร์” พัตหันมาต่อให้เกียร์ เออเนอะ เกียร์อุส่าพูดเบาๆ แต่หูมึงนี่ยื่นมาอย่างกับจมูกพินอคคิโอ  แล้วมึงได้ดูหน้าเนบ้างไหม แทบจะแดกหัวพี่สิงโต นำโชคของกูเสียให้ได้

“....” เกียร์ก็ยังตีหน้าตายเหมือนเดิม

“มา!อีกรอบ เดี๋ยวกูขึ้นให้” มัดเริ่มหยุดประสาทหลอนจากหนังสือ หันมาต่อเพลงกับพัตแล้วครับคราวนี้

“เดี๋ยวกูลงแล้วกัน”

-_-????

แล้วพระ-นายสองคนก็ประสานเสียงคอรัสกันสนุกสนาน ปล่อยให้เกียร์กับสานั่งอ่านหนังสืออย่างใจจดใจจ่อ เนเอามือปิดหู ปากพึมพำเหมือนอยากจะอ่านหนังสือแต่ไม่มีสมาธิ ส่วนโฟ่นั่งคิ้วขมวดเหมือนอารมณ์ไม่ดีตั้งแต่ผมเดินเข้ามาแล้วครับ

“กูว่ากูกดปิดเพลงแล้วนะ” สาครับ เทปนี้กอได้ Nextได้ แต่ไม่มีปุ่มStopครับ

“กูทนไม่ไหวละ ล้มโต๊ะโว้ยยยยย” อยู่ดีๆเนตะโกนออกมาเสียงดัง เจ้าตัวที่ต่อเพลงผงะแล้วหันมายิ้มแหยะๆให้เพื่อนแว่น

“กูสมองล้านักอะ เห็นเพื่อนหวานก็อยากเติมเกลือให้มันบ้างอะไรบ้าง แต่กูฟังมึงอยู่นะต่อเลยๆ” ล้านัก ลักน้า มึงจะเล่นอะไรอะพัต ลักขโมยเหรอ ก็ไม่ใช่.....

“ไหน มึงลองตอบข้อนี้ให้กูดูหน่อย” พัตหันก้มหน้าก้มตาขีดเขียนแล้วยื่นกระดาษไปให้ครู(จำเป็น)เน

ผั๊วะ!

“พ่อมึงสิการกระจัดมีขนาด 20 √2 เมตร ทำมุม45องศากับแกน xต่างหากโว้ยย สอนไม่เคยจำ แล้วมึงจะแดกข้าวไหมไอ้มัด ถ้าอยากแดกไวๆก็หันไปอ่านกับไอ้สาได้แล้ว มัวแต่เล่นโทรศัพท์ เชี่ยโฟ่มึงจะหน้าบึ้งเหมือนอมดากหมีอีกนานไหม เดี๋ยวกูเตะยอดหน้ามะพร้าวอ่อนเลยสัด!” เอ่อ...เนระเบิดลง ด่าทุกคนหน้าหงายเลยครับ แต่คงไม่กล้าเอ่ยด่าคนที่หันมาแกล้งจับมือผมเล่นไปมาสักพักหนึ่งแล้ว เพราะอะไรคงรู้กันดี

“มึงก็มัวแต่เล่นกับขี้อยู่นั่นแหละ เดี๋ยวไม่รู้เรื่องหรอก”สาหันมาด่าพัต

“อ้าวหมูสา กูหล่อขนาดนี้ ด่ากูเป็นขี้ซะงั้น” มัดสวนกลับ

“กูก็ว่าอยู่ กลิ่นตุๆ” พัตบอก

“สัด! หยุดเล่นได้ละ เรียกสติหน่อยดิวะ” เนพูดน้ำเสียงขึงขัง ผมว่ามันตลกมากกว่าน่ากลัวนะครับ

“หากพวกเรากำลังสบาย จงตบมือพลัน ..แปะ แปะ” อันนี้ผมพูดครับ เพื่อเรียกสติสตังทุกคนให้กลับมาอ่านหนังสืออีกรอบเลยร้องเพลงละลายพฤติกรรม ฟังคนอื่นมานานละ ขอมีบทบ้าง แต่ทำไมมันเงียบฉี่เลยวะ สักพักพวกมันหัวเราะก๊ากเสียงดังเลยครับ

“ฮ่าๆๆๆ ...กร๊ากกก.. โอ้ยมุขนี้กูขำสัตว์ๆ ไอ้เน มึงโดนเจ้าชายเล่นแล้ว ฮ่าๆๆ” พัตพูดไปน้ำตาเล็ดไป ส่วนเนเม้มปากแน่นหน้างอเหมือนถูกกวนประสาท

“อะ..ไอรักคะ คิกๆ สาไม่เคยคิดเลยว่าไอรักจะกวนส้นบาทาได้ขนาดนี้”

“ผมกวนตอนไหนอะครับ” ไม่ทราบจริงๆครับ ผมไม่รู้เรื่อง

“ถา..มเกียร์..เห้อะ แฮ่กๆเหนื่อยว่ะ” กว่ามัดจะกลั่นคำพูดออกจากหลอดลม แทบขาดใจเลยทีเดียว

“ทำไมเหรอครับเกียร์” ผมทำตาแป๋วไปให้ไอ้คนนั่งไหล่สั่นอยู่ข้างๆ

“หึ ไม่มีไรหรอก หิวหรือยังแมวน้อย” มันยกมือขึ้นมายีผมเบาๆแล้วถามขึ้นพร้อมรอยยิ้มนิดๆที่แสนอบอุ่น สงสัยผมต้องหาแว่นกรองแสงมาใส่แล้วล่ะครับ มันทำผมใจสั่นมาหลายรอบแล้วนะ

“นิดหน่อยครับ วันนี้ผมอยากกินราดหน้าใส่หมูเยอะๆอะ” มีร้านราดหน้าอยู่หน้ามอ หมูนุ่มอร่อยมากครับ ผมสั่งหมูพิเศษตลอด แถมเกียร์ใจดีแบ่งของตัวเองให้อีก นาทีนั้นมีแต่จุกกับจุกเลยครับ มันหยักหน้าแล้วชูห้านิ้วเป็นสัญญาณว่าขอห้านาทีแล้วอ่านหนังสือต่อ

-I'm gonna pop some tags Only got twenty dollars in my pocket I … -

เบอร์แปลกแฮะ..

“สวัสดีครับ”

‘สวัสดีค่ะ ใช่ไอรักหรือเปล่าคะ’

“ครับ ไม่ทราบว่านี่ใครครับ” ผมพูดกรอกไป เกียร์เริ่มหันมามองอย่างสงสัย ผมเลยส่ายหน้า ไม่รู้ว่าใครเหมือนกัน

‘เราชื่อมุก อยู่นิเทศปีเดียวกับไอรักค่ะ’



“มุก นิเทศ?”




TBC---------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>


หลังจากนี้จะลุยโปรเจ็คงานวิจัยครั้งใหญ่นะคะ ไม่รู้ว่าจะได้ต่ออีกตอนไหน คงเป็นตอนที่สะดวกและจำนวนคนเม้นท์นะคะ

เลิฟยูทุกคน
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่15* P.6 [26/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: yokerohz ที่ 26-01-2013 15:53:27
ค้างเลยอ่ะ

 :a5: :a5:

ต่อเร็วๆนะคะ ชอบมากมากเลย  o13 o13
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่15* P.6 [26/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 26-01-2013 16:37:24
หลังคำว่า "มุก นิเทศ" นี่โทรศัพท์อาจโดนกระชากพรืดไปได้นะ พระเอกเราขี้หวงโคตร ๆ
เสมอต้นเสมอปลายมาก ชอบอ่ะ ก๋วยเตี๋ยวชามนั้นที่สาว ๆ เอามาให้เททิ้งเกลี้ยงจ้า
เพื่อนแค่ยิ้มให้ก็โดนเสยด้วยยางลบ เกรียนจริงพระเอกเรา

ไอรักน่ารักมากตอนปล่อยมุขเกรียน ฮาเงิบกันทั้งกลุ่มอ่ะ คืออารมณ์แบบเนกำลังด่า
กลุ่มเกียร์ก็รั่วกันเนอะ แ่ต่กลุ่มไอรักนี่รั่วกว่า ฮาเวลา่ต่อมุขกัน แถม 20++ อีกตะหาก 555

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่15* P.6 [26/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 26-01-2013 17:14:36
มุกคือผู้ใดหนอ  งานจะเข้าไอรักอีกหรือเปล่า
เกียร์ยิ่งหึงโหดน่ากลัวนะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่15* P.6 [26/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 26-01-2013 18:30:02
เป็นเพื่อนกันก็ควรยอมรับในสิ่งที่เพื่อนเป็นสิ

ปล.งานเข้าไอรักแน่ๆ  :z3:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่15* P.6 [26/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 26-01-2013 19:40:06
ชะนีนี่นี้มันเป็นใคร???
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่15* P.6 [26/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: honeyhoon ที่ 26-01-2013 22:05:55
  o13
กำลังสนุกเลย
อยากอ่านต่อ
 :3123:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่15* P.6 [26/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 26-01-2013 22:13:41
เกียร์ขี้หึงขี้หวงน่าดูเ้หมือนกันนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่15* P.6 [26/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 26-01-2013 23:47:05
ใครอ่ะ ?  :m28: :m28:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่15* P.6 [26/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Zurruz ที่ 27-01-2013 00:10:33
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้. รวดเดียวจบเลยทีเดียว

น่ารักมากๆค่ะ อ่านไปกลั้นขำไปตลอด แทบขาดใจ

แรกๆยังเฉยอยู่ ก็คิดแค่ว่าภาษาสวยดี อ่านๆไป

พอเจอมุกจับปล้ำในรถของไอรักเข้าไปก็ติดใจทันที

คนอะไร ความคิดน่ารักจริงๆ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่15* P.6 [26/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 27-01-2013 02:13:25
 :z10:  รออยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่15* P.6 [26/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: cowinsend ที่ 27-01-2013 04:11:19
สนุก+สนุกมากๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ

รอตอนต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่15* P.6 [26/01/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 02-02-2013 08:00:55
ชะนีคนนี้เป็นใครรรรรร!

แล้วพี่โฟ่เป็นโรคอะไรเนี่ย ไม่รักเพื่อนเลยเหรอ ชิชะ!
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่16* P.7 [13/02/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 13-02-2013 01:06:46
ตอนที่16


‘จ้า ไอรักจำเราไม่ได้เหรอ เสียใจนะนี่ ... ก็ดาวนิเทศปีที่แล้ว ที่มุกยืนถัดจากไอรักไปสองคู่ไง จำมุกได้หรือยังเอ่ย’ ผมคิดอยู่เป็นนานสองนาน ก็นึกออกว่าเคยควงเธออยู่ไม่กี่วัน เท่าที่จำได้ ผมไม่เคยแลกเบอร์เลยนะครับ แต่เธอให้เพียงเลขห้องคอนโดเท่านั้นเอง ..แต่ยังไม่ทันตอบอะไรไป  คนหน้าโหดแบมือขอโทรศัพท์ไปคุยเลยครับ

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมคุยเอง” ผมเอามือกันเสียงรอดไปโทรศัพท์ แล้วกระซิบบอก แต่มันปฏิเสธแกมข่มขู่ผมทางสายตา

“ใคร” มันกรอกเสียงถามกระชากสุดๆพร้อมสีหน้านิ่ง

“ไม่รู้จัก”

“เสือก”

“ไม่ มันมีแฟนแล้ว”

“เอาเบอร์มาได้ยังไง”

“ชื่อ?”อยู่ดีๆเกียร์ก็คิ้วขมวดฉับ ก่อนจะตัดสายทิ้งส่งโทรศัพท์มาให้ผมแล้วหันไปจ้องโฟ่ที่มองอยู่ก่อนหน้านี้


“กิ๊กมึงโทรมาเหรอ” โฟ่หันมาแสยะยิ้มให้ ผมคิ้วขมวดขึ้นทันที

“อะไรครับ”

“เปล๊า กูเห็นมึงฮอตจะตายไป เป็นเรื่องขี้ๆสำหรับมึงนิ ถ้าคิด.. จะมีชู้สักคนสองคน”โฟ่ยังยิ้มแสยะอยู่ ตอบมองหน้าผมพร้อมเอนหลังนั่งพิงเก้าอี้ แล้วเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ คงไม่ต้องเดาว่าฝีมือใคร

“......”

“หึ.. ไม่ตอบ แสดงว่าใช่จริงๆสินะ”

“กูจำเป็นต้องอธิบายให้มึงฟังเหรอ” มันคิ้วกระตุกขึ้น ไหนๆก็ไหนๆละ พวกมันอยากให้พูดหยาบๆ ผมก็สนองหยาบให้ทันที พร้อมกระตุกยิ้มข้างเดียวด้วยท่าทางกวนประสาท คนอื่นจะมองยังไงผมไม่สน เพราะตอนนี้กรามเริ่มเป็นสันนูนมากขึ้นเรื่อยๆ ขอผมกวนส้นตีนมันบ้างเถอะ

“ไม่อยากอธิบาย หรือไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงกันแน่”

“ไม่รู้มั้ง”

“ฮ่าๆๆ แค่นี้มึงยังไม่ตอบไม่ได้เล้ย แล้วพวกมึงจะมั่นคงกันอย่างที่ปากพูดกันเหรอวะ? หึ ไร้สาระว่ะ” มันพูดดูถูกแล้วหัวเราะเยาะใส่ ท่าสบายๆของมันทำให้ฟางเส้นสุดท้ายของผมแทบขาดผึง ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนเกียร์ ผมไม่ไว้หน้ามันแน่

“เปล่า กูไม่รู้ว่าควรทำหนังสือรายงาน‘คนอื่น’ว่า....ใคร...ที่เอาเบอร์กูไปแจกคนอื่นมั่วซั่ว เพื่อจะให้ครอบครัวคนอื่นแตกแยกกันละมั้ง” ผมเลียนแบบท่าทางสบายๆและกวนโอ๊ยของโฟ่ มันกำหมัดแน่น ดูท่าจะโกรธแค้นผมมาก

“เหอะ! กำแพงมีหู ประตูมีช่อง เคยทำอะไรไว้ คนอื่นเขาก็รู้กันทั่ว.....”

“นั่นกูควรพูดมากกว่าไม่ใช่เหรอ” มันยังพูดไม่จบก็ต้องสะอึกกับเสียงสวนกลับด้วยน้ำเสียงดังกว่ามัน

“สัด!อย่าคิดว่ากูไม่รู้ว่ามึงเคยมั่วคั่วตัวเมียมากหน้าหลายตาก่อนจะเอาตัวผู้อย่างเพื่อนกูมาเป็น...”มันลุกขึ้นเริ่มกระแทกเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังไม่ทันจบประโยคมัดที่รั้งแขนมันพูดขัดขึ้น

“ไอ้โฟ่!.....มึงใจเย็นดิวะ”

“เย็นเหี้ยไร! มึงดูปากมันดิ! กวนส้นตีนกูทุกคำเอาเลือดออกปากแมร่งสักทีดิ้สัดเอ้ย!”มันทำท่าจะเข้ามาหาผม พร้อมเกียร์ที่ลุกมาบัง ผมไม่รู้ว่ามันแสดงสีหน้าอย่างไร แต่มันทำให้ไอ้โฟ่ที่จ้องจะเข้ามาทางผมชะงักทันที

“เฮ้ยๆๆ พวกมึงหยุดกัดกันได้แล้ว เป็นเพื่อนกันนะโว้ย มึง ไอ้โฟ่ดูปากตัวเองบ้าง มันแรงไปนะเว้ย”พัตพูดเสียงละล่ำละลัก

“ไอ้เกียร์ มึงพาไอรักออกไปก่อนดีกว่าว่ะ” มัดบอก เพราะดูท่าโฟ่จะยังไม่จบ จ้องจะกินเลือดกินเนื้อผมอยู่ตลอดเวลา

“ไปเถอะครับ..ไปก่อนนะครับ” ผมบอกเกียร์ที่ยืนนิ่งเป็นสากกะเบือ แล้วหันไปลาเพื่อนๆมัน





หลังจากวันนั้นผมก็ไม่ได้ไปเจอเพื่อนมันอีก ไม่ใช่ใครบังคับหรอก แต่เป็นผมที่หลีกเลี่ยงเสียเอง ไม่อยากให้เกิดเรื่องวุ่นวายอีก เพราะมันเหมือนผมเป็นตัวปัญหาที่ทำให้เพื่อนแตกคอกัน ผมรู้ตัวว่าพูดแรงไป แต่จะยืนอยู่เฉยๆให้โฟ่ด่าเล่นก็ไม่ใช่เรื่อง พ่อแม่ผมเพื่อนสนิทผมยังไม่เคยเหน็บแนมดูถูกกันถึงขนาดนี้ แล้วมันเป็นใคร?

ทุกวันเกียร์ก็ยังมาทานข้าวกลางวันกับผมเหมือนปกติ แล้วแยกย้ายไปอ่านหนังสือสอบกับเพื่อนมัน แต่สิ่งที่แปลกไปคือพักหลังมันชอบนั่งเหม่อเหมือนคิดอะไรคนเดียว ผมถามอะไรไปก็ต้องถามซ้ำอีกรอบ แล้วมีเบอร์แปลกและไม่แปลกโทรมาหาผมไม่ขาดสาย ทั้งคนที่เคยควง และคนที่ไม่เคยรู้จักมักจี่ รวมถึงคำพูดของคิมที่บอกกับผมเมื่อวันก่อนว่าเจอมันเดินกับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่สา เพื่อนสนิทในกลุ่มมัน ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นไปได้ยากมาก แต่หากเป็นอย่างที่มันพูด..

“ไม่ไปอาบน้ำก่อนเหรอครับ” ผมถามมันหลังจากกลับคอนโดมาได้ครู่ใหญ่ เห็นนั่งจัดแผ่นการ์ตูนอะไรของมันอยู่เงียบๆ ไม่หือไม่อืออยู่นาน เมื่อกี้จะโทรไปฝากลาอาจารย์กับไอ้เนมเสียหน่อย เพราะรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะไม่สบาย แต่มันดันชิงโทรมาบอกว่าอาจารย์ยกเลิกคลาสกะทันหันพอดี ผมจึงไม่ต้องเสียสิทธิ์ในความรู้และคะแนนเข้าห้องเรียน รอดตัวไปอีกคาบ

“…….”

“เกียร์ครับ” ผมเรียกอีกครั้ง แต่มันหันหลังส่ายหน้าปฏิเสธเบาๆ

“………”

“เป็นอะไรเหรอครับ” ผมเดินไปนั่งใกล้ๆ แล้วแตะแขนมันเบาๆ มันหันมามองแวบหนึ่งแล้วหันไปจัดของเหมือนเดิม

“เปล่า”

“ตอบไม่มองหน้ากันอย่างนี้ ผมควรจะเชื่อคำตอบเมื่อกี้หรือเปล่าครับ”มันนิ่งไปพักหนึ่งก่อนเอ่ยพูดออกมา

“...ท.......”

“ครับ?” ผมถามย้ำอีกครั้ง เพราะมันพูดเสียงเบามากจนฟังไม่รู้เรื่อง

เกียร์ล้วงกระเป๋ากางเกงก่อนหยิบภาพสี่-ห้าใบมาวางบนตักผม ผมมองหน้ามันแล้วหยิบขึ้นมาดู เป็นภาพที่ผมควงผู้หญิงเข้าคอนโดของคุณเธอทั้งหลายในอดีต แต่มีเพียงรูปเดียวเท่านั้นที่เหมือนถ่ายเมื่อเร็วๆนี้ เป็นรูปผู้ชายคนหนึ่งโอบกอดเอวผู้หญิงผมดำยาวเอาไว้ แล้วโน้มคอลงเหมือนจูบ ถึงแม้ว่าจะเห็นไม่ชัด แต่มองยังไงนั่นมันคือผมชัดๆ

และมันคือรูปตัดต่อที่แนบเนียนชัดๆ!

“มันไม่จริงใช่ไหม”

“……….”

“ตอบมาสิ!”

“ไม่...” เสียงโทรศัพท์ของผมดังแทรกขึ้น มันปรายตามองสิ่งนั้นที่โซฟาแล้วเดินไปคว้ามาดูเบอร์ แล้วคิ้วขมวดมองผม ก่อนกดรับพร้อมกดสปีกเกอร์โฟน

‘ที่รักคะ ทำอะไรอยู่เอ่ย มุกรอตั้งนาน.....’

“หึ”มันกดตัดสายแล้วเลื่อนดูบางอย่างซ้ำๆ คงจะเป็นประวัติการโทรเข้า-โทรออก มันยิ้มแสยะให้กับตัวเอง

“เฮ้ย มันไม่ใช่อย่างที่คิดนะเกียร์” ผมรีบเดินเข้าไปจับข้อมือทั้งสองข้าง

“ที่รักงั้นเหรอ นี่กูมีแฟนเป็นที่รักของคนอื่นเหรอวะ เขาคุยโทรศัพท์กันทุกเวลา ...ที่ผ่านมามึงคิดไปเองไงไอ้โง่เกียร์” มันพูดขึ้นเหมือนตอกย้ำตัวเอง แล้วพลิกข้อมือออกคล้ายจะกระชากออกจากมือผม

“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะ” ผมพยายามจับมือมันอีกครั้ง แต่ไม่เป็นผล

“เกียร์พยายามที่จะไม่เชื่อคำพูดมัน! ไม่ถาม ไม่สนใจว่าไอรักจะคุยกับใคร จะโทรหาใคร จะไปกับใคร พยายามจะไม่เชื่อรูปภาพที่มันส่งหาเกียร์ซ้ำๆ ทุกวัน!” มันพูดยาวมองผมนิ่ง แต่สายตามันเศร้าหมองและอ่อนล้าเหมือนคนไม่ได้หลับได้นอนมาหลายคืน

“.........”

“หรือจะบอกว่ารูปพวกนี้มันไม่ใช่เรื่องจริง”

“ผม ผมยอมรับว่ามันคือรูปผมจริงๆ แต่อันนี้มันไม่ใช่เรื่องจริงเลยนะครับ เกียร์เชื่อผมนะ นะครับ” ผมอ้อนวอนคว้ามือมันมาบีบแน่น มันไม่ได้บีบตอบเลยแม้แต่น้อย แต่หลับตาส่งคำพูดเสียดแทงหัวใจผมซะไม่มีชิ้นดี

“เหมือนที่ผ่านมา เกียร์ไม่รู้เรื่องไอรักเลยสักนิด” ผมมองหน้ามันอย่างผิดหวัง นี่เหรอคนที่รักกัน นี่เหรอความคิดข้างในของคนที่นอนกอดกันทุกวัน

...ไม่ไว้ใจ.....ไม่เชื่อใจ....

“เกียร์......ไม่เชื่อใจผมเหรอครับ”

“……” มันหลบตาไม่มั่นใจที่จะตอบ เพียงแค่นี้ผมก็รู้แล้วล่ะ

“คุณไม่เชื่อใจผม”

“ไม่......”

“ผมไม่รู้ว่าคุณไปได้ยินอะไรมา แต่ภาพพวกนี้ ในตอนนั้น มันเป็นแค่อดีต อดีตที่ผมไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ ทั้งๆ..ทั้งๆที่ผมพยายามที่จะเปลี่ยนตัวเองเพื่อ..ผู้ชายคนหนึ่งที่ผมรัก แต่ไม่ว่าผมจะทำปัจจุบันได้ดีแค่ไหน ก็ไม่ทำให้เขาคนนั้นเชื่อใจผมได้เลย...แม้แต่น้อย”

“……”

“....ผมว่าเราลองถอยห่างกันดูดีกว่าไหม เผื่อจะมองเห็นสิ่งที่ไม่เห็นในตอนนี้บ้าง”

“ไม่! เกียร์ไม่ยอม!” มันรีบจับมือดึงผมเข้าไปกอด อ้อมกอดแสนอบอุ่นที่ทำให้ผมมีความสุขอยู่เสมอ

ทั้งๆที่มันยังคงอบอุ่นเหมือนเดิม แต่ทำไมตอนนี้มันทำให้หัวใจผมไม่หยุดร้องไห้เสียที

“คุณไม่ให้ผมไปไหนเพราะคุณไม่เคยเชื่อใจผมเลย เรื่องนี้มันเกิดขึ้นกี่ครั้ง มันก็ยังเกิดขึ้นอยู่ซ้ำๆ ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงให้คุณมั่นใจ เพราะสุดท้ายคุณก็ไม่เชื่อใจผมอยู่ดี ผมตัดสินใจแล้ว ลองก้าวออกมามองอะไรบ้างจะดีกว่าไหม ขนาดรูปนั้น คุณยังหน้ามือตามัวเชื่อมันอย่างสนิทใจ บางอย่างถ้าดูดีๆ มันอาจจะไม่ทำให้เราต้องมาเป็นแบบนี้หรอกนะ” พูดจบก็เดินออกจากห้องไม่สนเสียงร่ำร้องตามหลัง

“ไอรัก! ไอรัก! เดี๋ยวก่อน!”








“มึงเป็นไรวะไอ้เชี่ยเจ้าชายหำเปียก” คิมทักด้วยสีหน้ากังวล

ผ่านมาสี่วันแล้วที่ผมพยายามหลบหน้ามัน กลับไปนอนคอนโดตัวเอง ออกไปทานข้าวเอง ขับรถมาเรียนโดยไม่ต้องพึ่งมอเตอร์ไซค์ตากลมของใครบางคน ทุกอย่างยังดำเนินเหมือนตอนที่ไม่มีพันธะอะไร

แตกต่างกันที่ไม่หาใครมาปลดปล่อยความใคร่ตัวเองเหมือนชีวิตที่แล้วมา แต่เรื่องนั้นมันไม่สำคัญอะไร หากเทียบกับความว่างเปล่าในตอนนี้

เหมือนชีวิตขาดอะไรไป.......มันไม่เหมือนเดิม

“เปล่า” ผมถามพวกมันที่นั่งจ้องมาที่ผม

“สัด ทำหน้าหมาซึมแบบนี้ยังบอกเปล่า ถ้าไอ้เนมไม่โทรมาบอก ป่านนี้พวกกูคงไม่เห็นมึงนอนให้แมลงวันแดกอยู่ในห้องทั้งวันทั้งคืนแบบนี้หรอก” คิมตีหัวผมอย่างแรง แต่ทำไมผมไม่เจ็บเลย มันด้านชายังไงไม่รู้

“เมนส์ไม่มาเหรอ” คลื่นพูดหน้าซื่อ แล้วโดนบอสตบหัวลากไปห้องครัว

“ไอ้เกียร์ใช่ไหม” ทุกคนหันไปมองไทป์ที่พูดเสียงนิ่งเฉย

“มันทำอะไรมึงอีกวะ!” คิมเริ่มหงุดหงิดขึ้นมา ด้วยความที่ในอดีตไม่ค่อยชอบเกียร์เป็นทุนเดิม

“เปล่า เข้าใจผิดกันเฉยๆ” ผมกระดิกตัวลุกขึ้นเดินไปเปิดโทรทัศน์ช่องหุ้นไปพลางๆ แต่พวกมันฉลาด

“มึงอย่ามาเปลี่ยนเรื่อง”

“……” สายตายังจดจ้องอยู่ที่ตัวเลขที่วิ่งผ่านไปมา

“บางเรื่องมึงไม่จำเป็นต้องเก็บเอาไว้คนเดียวให้รกสมองหรอกนะ” พิชลุกขึ้นมานั่งไขว้ขามือประสานบนหน้าตักตรงข้ามผม

“……..”

“……..”

“เฮ้ออ ไอ้เหี้ยรักเอ๊ยย บทจะดื้อ มึงก็ดื้อไม่แพ้ใคร เออๆพวกกูยอมแพ้ละ ลุกขึ้นมาแดกข้าวก่อน เร็วๆ” เนมถอนหายใจยอมแพ้อย่างแรงแล้วดึงแขนให้ลุกขึ้นตาม

“มึงจะเป็นเหี้ยห่าอะไรก็เป็นไป แต่อย่าลืมสอบตัวสุดท้ายของวันพรุ่งนี้ ถ้าเกรดตก พี่มึงสั่งให้ไปนอนบ้านแน่” ไทป์พูดเตือนสติ ผมนิ่งคิดก่อนพยักหน้ารับเบาๆ













“สอบเสร็จแล้วเหรอ” เสียงดังนิ่งจากข้างหลังของพวกผมที่กำลังเดินไปลานจอดรถ

“........”

“โอ๊ะโอ อะไรกัน ทำไมมองกันอย่างนั้นล่ะ กูแค่จะมายินดีกับมึงเฉยๆ” มันพูดไปยิ้มเยาะไป

“มีอะไรวะ” เนมถามขึ้น

“ได้ข่าวว่ากูคุยกับไอ้รักนะ”

“มึงหลอกด่ากูเหรอไอสัด!” เนมทำท่าจะปรี่เข้าไปหามัน แต่คลื่นดึงแขนเอาไว้

“มีธุระอะไร” ผมพูดขึ้นบ้าง

“นิดหน่อยวะ พอดีกูรับหน้าที่มาส่งสารให้น่ะ อ่ะ! บาย” มันโยนซองน้ำตาลกระแทกลงบนหน้าเท้าผมแล้วเดินออกไป

“หน้าตากวนส้นตีนฉิบหาย เชี่ยเกียร์มีเพื่อนแบบนี้ด้วยเหรอวะ อูย โทษว่ะๆ รีบแกะดิมึง” ผมก้มลงมาเปิดดูสิ่งที่อยู่ข้างใน เป็นภาพเกียร์หลายอิริยาบถกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ใช่สา

“เฮ้ย ไม่ใช่เกียร์หรอก มึงอย่าเข้าใจผิดนะโว้ย”

“คลื่น ถ้ามึงไม่พูด หิ่งห้อยคงไม่บังคับให้มึงพูดหรอก” เนมพูด

“มึงโอเคไหม” บอสถาม

“กูไม่เชื่อหรอก” ไม่เชื่อจริงๆ ไม่ระแวงกังวลใดๆด้วย ไม่ใช่แค่เชื่อใจและนิสัยของมัน แต่ทุกรูปพยายามหามุมกล้องหลอกตาให้มากที่สุด แถมมันยังนั่งนิ่ง ยืนนิ่ง แถมไปทางไม่สบอารมณ์เสียด้วยซ้ำ ดูยังไงก็ไม่มีทางเกินเลยกันเป็นแน่


แต่แค่นี้ก็รู้แล้วว่าใครเป็นคนปั่นหัวให้เกิดเรื่องบ้าๆนี้





TBC------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>


+ แว้บมาโพสต์ เหตุเพราะพรุ่งนี้และวันข้างหน้าตารางสอบเต็มเอี้ยดจนแทบไม่มีที่ให้หายใจ


+ อ้ะๆ ทำไมแต่งไปแต้่งมามันดราม่าซะงั้น อีตานายเกียร์ก็โง่เง่าเต่าตุนเหลือเกิน โซ่อยากจะจับตีก้นซะให้เป็นลายแทงเสียจริงๆ


+ แต่มันกำลังจะกลับมาคงเส้นคงวาค่ะ คือไม่เศร้า! ซีเรียส! เครียด! เสียใจ! และหวานกว่าเดิมหลายเท่า(เหรอ?) เพราะตอนนี้ชีวิตดิฉันก็เศร้าหมองพอแล้ว :o12:


+ ขอบคุณทุกคอมเม้น ไว้เจอกันนะค่ะ.
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่16* P.6 [13/02/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 13-02-2013 01:19:32
พระเอกโง่ตลอด -"-
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่16* P.6 [13/02/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: RoseBullet ที่ 13-02-2013 01:28:10
ในความคิดเรา สำหรับปัญหานี้เกียร์ก็ไม่ได้ดูโง่ขนาดนั้นนะ
เพราะรูปถ่ายประกอบกับโทรศัพท์ บวกกับเรื่องราวความฮอตทั้งในอดีตและปัจจุบันของไอรัก บางทีมันก็ทำให้น่าคิดอยู่นะ
ยิ่งเกียร์ของไอรักนี่หึงโหด(มาก)เป็นทุนอยู่แล้วเสียด้วย ฮ่าาาาา
เพียงแต่อาจพลาดที่ไม่ยอมเอาปัญหามาคุยกันปรึกษากันให้มากขึ้น

เราแอบหวังให้โฟ่ยอมรับความสัมพันธ์ของสองคนนี้ได้นะ
แต่สงสัยมาถึงขั้นนี้-พยายามทำให้คนรักเขาแตกแยกกันอย่างจริงจังอย่างนี้ เราคงไม่มีหวังแล้วล่ะ
เพราะจากคำพูดของเกียร์ตอนที่ผ่านมา ถ้ารู้ความจริงละก็ อาจจะมีตัดเพื่อนกันได้เลยนะ โฟ่ไม่น่าทำอย่างนี้เล๊ย
รอความจริงปรากฎ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่16* P.6 [13/02/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: IRIS ที่ 13-02-2013 02:13:44
โฟ่แค่รับไม่ได้ หรือโฟ่แอบรักเกียร์ว่ะ ชักสับสน..

แอบผิดหวังในตัวโฟ่นะ เราคิดว่าคนแรกที่เข้าใจต้องเป็นโฟ่ แต่ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่16* P.6 [13/02/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 13-02-2013 03:37:20
โฟ่เป็นอะไรมากป่ะ

เข้าข่ายโรคจิตนะเนี่ย -_-
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่16* P.6 [13/02/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 13-02-2013 05:27:48
โฟ่นี่เป็นอะไรมากหรือเปล่าเนี่ย ทำแบบนี้ทำไม นิสัยแย่มาก ๆ เลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่16* P.6 [13/02/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: krit24 ที่ 13-02-2013 05:56:37
ไอ้พี่โฟ่เป็นไรมากป่าวเนี่ย คนแบบนี้น่ารำคาญอ่ะ ใครเอาไปเก็บที
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่16* P.6 [13/02/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 13-02-2013 08:53:38
ไม่ใช่ว่าโฟ่แอบรักเจ้าชายหรอกนะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่16* P.6 [13/02/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 13-02-2013 18:03:21
ถ้าเกียร์ไม่เชื่อใจไอรักบ้างก็จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่านะ
โฟ่ทำทำไม ชอบเกียร์เหรอ หรือรักเพื่อน เกินไปป่ะ น่าโมโหจริง ๆ
ไอรักจริงใจกับเกียร์มากถ้าเป็นเพื่อนที่ดีต้องดีใจด้วยนะ โกรธแทนไอรักจริง ๆ  :angry2:
อยากให้บทเรียนพระเอกเยอะๆๆๆๆ โทษฐานเชื่อคนอื่นไม่ดูตาม้าตาเรือ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่16* P.6 [13/02/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 13-02-2013 18:05:53
โฟ่เอ้ยยยยยยยยยยยย  :angry2:

แค่เพื่อนมีแฟนเป็นผู้ชายต้องทำกันขนาดนี้เลยเหรอ  :เฮ้อ:

แอบชอบเกียร์ป่าวเนี่ย

แล้วเกียร์ ทำไมไม่เชื่อใจไอรักบ้างเลย  :serius2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่16* P.6 [13/02/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 19-02-2013 10:04:17
เกลียดโฟ่อะ อะไรมันจะขนาดนั้นนน!! เป็นเพื่อนกันก็ต้องรับกันได้สิ โกรธแทนไอรักนะเนี่ย!
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่16* P.6 [13/02/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 19-02-2013 17:04:10
ถ้ามีเพื่อนแบบโฟ่อย่างมีซะดีกว่า ทำตัวน่ารังเกียจจัง
เกียร์ก็หัดฟังไอรักพูดบ้าง ไม่ก็ถามหรือพูดคุยกันดีๆ ชอบใช้อารมณ์
หาหนุ่มหล่อๆ มาจีบไอรักบ้างสิ เกียร์มันจะได้เต้น 5555
หัวข้อ: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่17* P.6 [02/03/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 02-03-2013 15:23:46
ตอนที่17

-   Shame pulses through my heart from the things I've done to you ..-

“อืม..”ผมพูดเสียงงัวเงีย เอื้อมมือไปกดไฟนาฬิกาข้างเตียงเพื่อดูเวลาก็ตีหนึ่งกว่าแล้ว ผมพึ่งจะหลับลงเป็นครั้งแรกในรอบสองอาทิตย์ แล้วพรุ่งนี้เช้าไอรักต้องไประยองนะให้ตายสิ!

‘เฮ้ยๆๆๆ มันรับแล้วโว้ย สัด อย่าเพิ่งสะกิดกูดิวะ เฮ้ยนี่ไอรักใช่ปะวะ ตอบหน่อยๆ!’

“หืออ อะไร ใครครับเนี่ย” ผมลากเสียงอย่างหงุดหงิด ยกโทรศัพท์มาดูเป็นเบอร์เกียร์ ก็สะดุ้งตื่นนั่งตัวตรงขึ้นทันที

‘กูพัตโว้ยย มึงไม่ต้องนอนแล้ว มาดูผัวมึงด่วน!’

“หัว?”ใครหัวแตกตอนตีหนึ่งวะ เจริญล่ะทีนี้

‘ผัวโว้ยผัว ไอ้เชี่ยเกียร์แฟนมึงไง มึงเลิกงงได้แล้ว ตื่นโว้ย! ก่อนที่พวกมันจะต่อยกันตายเสียก่อน พวกกูปวดกระบาลจะตายแล้วเนี่ย เฮ้ยยยย เหี้ย!’ เสียงเจี้ยวจ๊าวดังลอดสาย เหมือนกำลังชุลมุนกันอยู่

อ่าวเหรอ งืมๆ เกียร์แฟนผม อืม....ต่อยกัน .....ต่อย..........งั้นเหรอ

เห้ยยยยยยยยยยยยย

“ที่ไหนครับ!”

‘ร้านหยีๆๆ’

‘หมีโว้ย’ เสียงใครวะ

‘เออๆๆ สัด ลิ้นพัน กูผิดจริงไม่ได้เล่นมุขใดๆ ร้านหมี หมีนะมึงหมี’

“ครับๆ เดี๋ยวผมรีบไป” ผมรีบพูดแล้วหยิบกุญแจรถออกไป




“ฮัลโหล พี่พัช ที่ร้านมีเรื่องกันเหรอพี่.....ครับๆ....พี่ ผมฝากดูหน่อยได้ไหมอะ เดี๋ยวผมรีบตามไป...เพื่อนครับ...ครับๆ ขอบคุณครับ”ผมโทรไปหาพี่พัชพี่ของไอ้พิช ที่เป็นเจ้าของร้านที่นั่น






“ไอรัก มึงๆๆทางนี้”พัตวิ่งหน้าตื่นออกมาจากหน้าร้านพอดี

“กะ เกียร์ แฮ่กๆ เกียร์ล่ะครับ” ผมถามเสียงหอบ

“อยู่หลังร้าน มาๆ ตามกูมา” มันพูดแล้วก็รีบดึงไปหลังร้าน ผมเห็น เน สา มัด ยืนอยู่มุมมืดสีหน้าไม่สู้ดีนัก เยื้องห่างออกไปเล็กน้อยคือพี่พัชยืนกอดอกพ่นควันบุหรี่ กับการ์ดของร้านสามคน มองสองชายร่างใหญ่ต่อยกันอย่างไม่ยอมแพ้

“เกียร์!” มันชะงักแล้วหันมามองด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปมากจากเมื่อครู่ โฟ่เห็นจังหวะ ต่อยเข้าไปที่หน้าเต็มๆ มันหันไปตามแรงมือ แต่ยังไม่ละสายตาไปจากผม เพื่อนรอบวงตกใจ แต่ไม่กล้าเข้าไปห้าม

“โอ้ย ไอสัดไอรัก!!” ผมวิ่งเข้าไปถีบตัวโฟ่ที่หมายจะเข้ามาต่อยมันอีกครั้ง โฟ่ถไลล้มลงไป มันเงยขึ้นมามองผมด้วยความโมโห

“มันเกิดอะไรขึ้น! ทำไมต้องลงไม้ลงมือกันด้วย...ครับ” ผมถามมองหน้าโฟ่อย่างเคร่งเครียด ก่อนจะหันไปต่อว่าคนที่ผมหลบหน้ามาตลอดเมื่อมันมาดักเจอ แต่เสียงตอนท้ายแผ่วลง

แต่แวบแรกที่เห็น ทำผมน้ำตาแทบร่วง เกียร์ในระยะใกล้กันเพียงเอื้อมมือ ดูซูบลงจนใจผมสั่นไปหมด เหมือนคนไม่ได้กินไม่ได้นอนคนอื่นอาจบอกว่าเพียงนิดเดียว แต่ผมอยู่กับมันทุกวัน ทำไมผมจะไม่รู้ว่ามันแย่ลงมากเสียเหลือเกิน อาทิตย์สองอาทิตย์ที่ผ่านมามันกินอยู่อย่างไร หลับสนิทบ้างไหม ทั้งๆที่ผมควรรู้ก่อนใคร แต่กลับไม่รู้อะไรเลย มันรวบตัวผมเข้าไปกอดแน่น

“ไอรัก……ไอรัก.......ไอรัก” ใจผมแทบขาดเมื่อมันเรียกชื่อผมเสียงสั่นซ้ำไปซ้ำมา

“มึงมาทำไม! มึงมาทำให้เพื่อนกูรักทำไม! ไอ้เหี้ย!!”ยังไม่ทันที่ผมจะสองแขนยกขึ้นกอดตอบ โฟ่ตะโกนลั่นพร้อมปรี่จะเข้ามาซัดแต่โดนการ์ดของผับสาดน้ำใส่จนตัวเปียกไปด้วยน้ำ

“คุยกันดีๆ เอาให้เคลียกันสักทีดิ๊” พี่พัชบอกเสียงเย็น ทิ้งบุหรี่ขยี้มันจนดับสนิทส่งสัญญาณบอกการ์ดไม่ให้เข้าไปยุ่ง

“มีเรื่องอะไรกันครับ” ผมถามเสียงอูอี้อยู่บนอกมัน

“เมา” เกียร์พูดข้างหูแบบไม่ค่อยใส่ใจ

“หะ?”

“มึงไม่บอกมันไปล่ะ ว่าเรื่องของแมร่งนั่นแหละ!”

“เรื่องผมเหรอ” ผมผละออกจากอ้อมกอดแน่น มองหน้าโฟ่แล้วพูดขึ้น

“เออ! มึงไงที่ทำให้กูกับมันต้องต่อยกัน เพราะมึงไง!” มันตะโกนสุดเสียงสายตาที่มองมามีแต่ความโกรธ

“กูไปทำอะไรให้มึงนักหนาวะ เป็นเหี้ยอะไรก็โทษกูอยู่ได้ กูถามหน่อย มึงชอบเกียร์หรือไง” ผมอดไม่ไหวที่จะระเบิดความในใจออกมา ผมไม่อยากจะผิดใจกับโฟ่ ยังไงมันก็เป็นเพื่อนเกียร์ แต่ผมก็ไม่อยากให้ผมกับเกียร์ต้องผิดใจกันอีก นานวันเรื่องเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ มันไม่จบไม่สิ้นเสียที

“ถุย ไอ้สัด!อย่ามาเหมารวมกับกู กูไม่ใช่เกย์เหมือนมึง!” มันทำท่าเหมือนจะเข้ามา แต่การ์ดคุมเชิงอยู่ จึงได้แต่ยืนหงุดหงิดอยู่อย่างนั้น

“แล้วทำไมต้องมายุ่งเรื่องของกูกับเกียร์ขนาดนี้ด้วยกูไม่เข้าใจว่ะ”ผมเริ่มหัวเสีย ไอ้โน่นก็ไม่ใช่ ไอ้นี่ก็ไม่ใช่

“กูเกลียดเกย์โว้ย”

“เกลียดแม้กระทั้งพ่อตัวเองสินะ”

เงียบ

ผมหันไปมองคนข้างๆอย่างไม่เข้าใจ

“หมายความว่าไงวะไอ้เกียร์” พัตถามขึ้น มือเกียร์ยังเกาะเอวผมอยู่ แต่สายตาไม่ละไปจากโฟ่เลยสักนิด

“มะ มึง! อย่าพูดนะ มึงรู้ได้ไง” โฟ่รีบพูดอย่างละล่ำละลัก

“หึ”

“หรือว่าพ่อมึงเป็น..เอ่อ เกย์ แล้วมึงฝังใจ?? ไม่มั้ง นิยายไปเปล่าวะ” พัตพูด

“มึงหยุดพูดเดี๋ยวนี้! ไม่! กูไม่มีพ่อเป็นเกย์! กูมีแม่คนเดียว!!”โฟ่โมโหพยายามเหวี่ยงตัวให้ออกจากเงื้อมมือของการ์ดทั้งสองคน

“กูพอเข้าใจละ มึงห่วงเพื่อนมากไปมั้งไอ้ก้ามปูน้อย” พี่พัชพูดขึ้น

“อะไรของมึง!”

“หึ ริอาจปีนเกลียวกับกูเหรอ” พี่พัชเดินเข้าไปจับบุหรี่จ่อใกล้แก้มด้านขวาของโฟ่ มันชะงัก สายมองบุหรี่ตื่นตระหนก พี่พัชมองหน้าโฟ่ครู่ใหญ่ เห็นว่ามันนิ่งไปก็ลดมือลง

“บางเรื่องมึงก็ไม่ควรเอาเรื่องส่วนตัวของตัวเองมาปะปนกับคนอื่นให้เขาเดือดร้อนหรอกนะ มันจะรัก จะชอบก็ไม่ใช่เรื่องที่มึงต้องเข้าไปยุ่งวุ่นวายมากไปกว่าดูอยู่ห่างๆ หัดปล่อยวางบ้าง เพื่อตัวมึงแล้วก็คนอื่นด้วย ไม่ดีกว่าหรือไงหืมก้ามปูน้อย” พี่พัชทิ้งบุหรี่แล้วขยี้จนดับสนิท ก่อนพูดขึ้นอย่างจริงจัง แล้วตบบ่าโฟ่แรงๆเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นพี่พัชพูดสีหน้าจริงจังขนาดนี้

“มีอะไรก็พูดไปเหอะ ยังไงนั่นก็เพื่อนมึงทั้งนั้น” พี่พัชพูดขึ้นอีกที

“…..กูไม่มี” โฟ่เสตาหลบไปด้านข้าง ปากเม้มเข้าหากันแน่น

“มึงแน่ใจ?”

“...........”

“ความลับของมึงกำลังทำร้ายความรักของเพื่อนมึงอยู่ ไม่รู้ตัวบ้างหรือ?” พี่พัชเริ่มพูดกดดัน

“…….…”

“มิตรภาพคือภาพที่พวกมึงวาดด้วยกันมา แต่มึงกำลังจะทำลายภาพด้วยอดีตของมึงงั้นเหรอ หึ มันดีแล้วหรือไง”

“.....สัดเอ๊ย..............มึงเลิกชอบกันไม่ได้เหรอวะ เพื่อตัวพวกมึงเอง” มันสบถแล้วเอ่ยบอกเสียงอ่อนลง

“ตัวมึงหรือตัวกู” โฟ่สะอึกกับคำพูดและน้ำเสียงนิ่งเฉยของเกียร์

“ทำไมถึงอยากให้พวกกูเลิกชอบกันนักหนา ..คือกูไม่อยากให้เราผิดใจกัน กูอยากเป็นเพื่อนที่ดีกับมึงนะ บอกกูหน่อยได้ไหม” ผมพูดด้วยท่าทางที่อ่อนลงเช่นกัน

ผมอยากใช้ความจริงใจเป็นกุญแจไขความลับของมัน

“.......กู......ก็กูไม่อยากให้พวกมึงต้องลงเอยแบบ..พ่อกู” โฟ่ยืนก้มหน้านิ่งอยู่นานพูดขึ้น

“ทิ้งแม่กับกูไปหาไอ้เหี้ยนั่น ครอบครัวกูไม่เป็นสุขเหมือนก่อน สุดท้ายก็โดนมันทิ้งไปจนไม่เป็นผู้เป็นคน จุดจบก็คือตรอมใจตาย กู...กูไม่อยากให้เพื่อนกูต้องเจออะไรแบบที่กูเคยเจอ”

“แต่ผมไม่ได้มาหลอกเกียร์นะ”ผมรีบแย้งขึ้น

“กูรู้! แต่..เหี้ยเอ๊ย ก็กูกลัว! กูเคยเจอเรื่องเหี้ยๆแบบนี้มา พวกมึงไม่เข้าใจความรู้สึกกันหรอก!อีกอย่างไอ้ไอรักแมร่งก็โคตรป๊อบ มึงไม่รู้หรอกว่าคนอื่นเขาอยากได้มึงขนาดไหน ถ้ามึงนอกใจเพื่อนกูขึ้นมา มันก็แย่ดิวะ”

อ้าว เหี้ยละ โยนขี้ให้กูตอนคับขันอีกแล้วไง เดี๋ยวกูเตะผ่าหมากให้ไก่มึงไม่ขันเลยนิไอ้เชี่ยโฟ่ ไอรักจะหาทางแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินยังไงดีวะ โอ๊ย ไอ้มือที่จับเอวไอรักไม่ปล่อยเริ่มบีบแรงขึ้นแล้วไงครับ

“มันไม่ใช่จะเกิดเรื่องแบบนี้กับทุกคนหรอกนะไอ้ก้ามปูน้อย อีกอย่างไอรักกับพ่อมึงไม่ใช่คนเดียวกัน ไม่ลองเปิดใจยอมรับมันบ้างวะ ตัวใหญ่ฉิบหายแต่ใจแมร่งเท่าแมงกระจั๊ว เดี๋ยวพ่อซัดให้เยินซะเลยดีไหม” เอ่อก็จริงครับ ตัวโฟ่เกือบๆเท่าพี่พัชเลยล่ะ แต่โฟ่เตี้ยกว่าบางกว่านิดหน่อย

“........เออ!....ขอกูทำใจก่อนเหอะว่ะ” มันก้มหน้าตอบ

“ทำตัวอย่างกับไปสมรภูมิรบ เหอะ” โฟ่หันมาค้อนพี่พัชทันที ส่วนพี่พัช ฮีแกก็ตีหน้ามึนๆ หัวเราะเยาะมุมปากตามภาษาคนกวนตีน

“กริ๊ดดด มึงดีกันแล้วเหรอไอ้เพื่อนเวร กูเลี้ยงฉลองเลยวันนี้ คิกๆๆ” สามาจากไหนไม่รู้ วิ่งเข้ามาจะกอดโฟ่ แต่โดนมัดที่วิ่งตามมาดันหน้าไว้เสียก่อน เออเนอะ ลืมสองคนนี้ไปเลย สงสัยพี่พัชให้มัดกันสาไม่ให้ออกมาเห็นอะไรไม่ดีล่ะมั้ง ถึงยังไงสาก็เป็นผู้หญิงล่ะนะ

“กูกลับล่ะ” เกียร์พูดแล้วเกี่ยวเอวผมหนีบกลับไปด้วย เอ่อ ผมบอกหรือเปล่าว่าจะกลับด้วย?

“เดี๋ยว!” ผมกับมันชะงัก หันไปมองโฟ่ที่เสมองด้านข้าง มีอะไรน่ามองวะ ถังขยะสีเหลืองที่มีถุงขยะสีดำกองพะเนินเทินทึกล้นออกมา

“กู...คือ.....กู...”

“อะไรของมึง อ้ำๆอึ้งๆ เดี๋ยวกูตบเลยนะคะ ติดอ่างนัก” สาพูด

“เงียบไปไอ้อ้วน ฟังไอ้โฟ่พูดดิ”พัตผลักตัวสาเบาๆ แต่หญิงสาวแทบปลิวเลยครับ

“อ๊ายยยยยย...” ยังไม่ทันจะเถียง ก็โดนเนอุดปากไปทั้งคู่ รู้สึกเงียบขึ้นดีนะครับ

“ว่าไงครับ” ผมถาม

“กู.....ขอโทษ” มันพูดไปก้มมองเท้าเขี่ยฝุ่นไป เออสรุปมึงขอโทษตีนเหรอ

“หึ ..อึก” ไอ้น้ำแข็งทำเสียงในลำคอไม่ใส่ใจอย่างเสียมารยาท จนผมต้องเอาศอกไปกระทุ้งหน้าท้องมัน

“ครับ หวังว่าจะยอมรับพวกผมได้ไวๆนะ” โฟ่เงยหน้าขึ้นมา ผมยิ้มให้มันอย่างจริงใจ

ผมไม่เคยเกลียดมันเลยนะครับ ถึงผมจะไม่ได้สนิทสนามกับมันเหมือนกับพวกไอ้เนมที่คบกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย

แต่ยังไงมันก็คือเพื่อนผมคนหนึ่งล่ะนะ

“อะ เอ่อ เออมึงไปยิ้มไกลๆเหอะ” มันบอกแล้วรีบหันหลังกลับไปในร้าน อะไรของมัน งึกๆงักๆ

“แล้วจะกลับกันหรือยังครับ” ผมหันไปถามคนอื่น

“ยังค่ะ วันนี้สายินดีเลี้ยงเหล้าไอรักด้วยนะคะ อยู่ก่อนน้า” สาจะเข้ามาออดอ้อน แต่โดนเจ้าเดิมกันท่าเอาไว้ เลยหันไปทำหน้าเหม็นเบื่อใส่

“ยัยอ้วน เขามีแต่ผู้ชายเลี้ยง แต่อีนี่ดันจะไปเลี้ยงผู้ชายเขา ปล่อยไอรักไปเหอะเค้าจะไปสวีทกัน มึงนี่ก็นะ” มัดขยี้หัวสาเบาๆ

“อะไรยะ เจ้าชายอยากจะไปกับกูจะตาย ถ้าไม่ติดอิเกียร์หน้านิ่งนะ ป่านนี้ ..โฮ๊ะๆๆ เสร็จฉันล่ะ” สาทำท่าหัวเราะเหมือนแม่มดร้าย เธอมาแรงจริงๆครับคนๆนี้

“เฮ้ยๆ ชะนีเริ่มทวงสิทธิ์แล้ว ไปเลยมึง เดี๋ยวไอ้โฟ่มันจะรอนาน” พัตพูดแล้วผลักลากสาที่มองผมด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์แล้วโดนมัดลากเข้าไปในร้าน

“เออกูฝากมึงดูแลไอ้เกียร์มันด้วยนะ อาทิตย์สองอาทิตย์เป็นห่าไรนักหนาไม่รู้หงุดหงิดแมร่งทั้งวัน จนคนอื่นไม่กล้าเข้าใกล้ แล้ววันๆไม่กินข้าว แต่เสือกซื้อนมเอาไว้ในห้องทำห่าอะไรไม่รู้เยอะแยะสงสัยจะต่อวงจรไฟฟ้าบ่อยจนเพี้ยนขึ้นทุกวัน” พัตพูดขึ้นผมหันไปมองคนที่กระตุกมือมาตั้งแต่เมื่อกี้ละ มันทำเป็นไม่สนใจคำพูดพัต แต่ทำปากขยับให้ผม‘ง่วงแล้วๆ’

เฮ้ออออ ลูกกูคนนี้ เมื่อไหร่จะหย่านม

“ครับ ขอบใจมากนะ อ้อแล้วก็ขอบคุณพี่พัชด้วยนะ” เสือกชื่อเหมือนกันอีก ไอรักเริ่มสับสนแล้วนะ ผมหันไปขอบคุณ พี่พัชผงกหัวตีหน้ามึนๆตามสไตล์

เห็นอย่างนี้พี่พัชก็เป็นอาจารย์สอนจิตวิทยาในมหาลัยเชียวนะครับ ดูปราดเดียวก็รู้ถึงจิตใจโฟ่ ไม่ธรรมดาจริงๆ

“เออ ช่างเหอะ ไอ้พิชมันบ่นเรื่องมึงเช้าเย็น พวกมึงรักกันให้ดีเหอะ จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนกูอีก” ผมว่าที่พี่พัชไม่ตกใจเรื่องที่ผมมีแฟนเป็นผู้ชาย ก็คงเพราะปากไอ้พิชนั่นแหล่ะ มันรักษาความลับเก่งมาก ไม่ใช่เรื่องของมัน มันจะไม่พูด แต่กับครอบครัว แม้แต่เรื่องเสียตัว(ให้ผู้หญิง)ครั้งแรกตอนไหนยังบอกทั้งครอบครัวมันเลย

แต่ตอนนี้แรงกระตุกมันเริ่มแรงขึ้นแล้วครับ......ก่อนที่ไอรักจะโดนตีน ขอกราบลาพี่พัชเลยดีกว่า

“เอ่อ นั้นผมกลับแล้วนะพี่พัช สวัสดีครับ” พร้อมไหว้มือข้างเดียวอย่างงามๆไปทีหนึ่ง




“แล้วนี่เอารถมาหรือเปล่าครับ” มันพยักหน้าหงึกหงัก แล้วจูงผมไปลานจอดรถมอเตอร์ไซค์ มันมีแบ่งรถยนต์กับมอเตอร์ไซค์น่ะครับ แต่อยู่ติดกันนี่แหล่ะ

“นั้นผมส่งแค่นี้แล้วกัน” ผมแกล้งแงะมือออกแล้วหันหลังทำเมินไปลานจอดรถ

“ไปไหน”

“กลับบ้านไง”

“บ้านไหน” โหพูดเหมือนไอรักมีบ้านเล็กบ้านน้อยเลยนะครับคุณผัวหลวง

ห้ะ?? เมื่อกี้ผมพูดอะไร? ใคร? ใครผัว? ไม่มี๊

ผมนี่แหล่ะสามี! ลูกผู้ชายตัวจริง!!!

“บ้านผมสิ”

“กลับด้วยกัน” มันเริ่มเสียงแข็ง

“ไม่ได้หรอก ผมต้องกลับไปห้องตัวเอง เกียร์ก็ไปห้องเกียร์ไง” ผมหันไปทำตาใสซื่อใส่ ฮิ_ฮิ อยากให้ง้อ

“กลับบ้านเรากันเถอะ...นะ” มันรีบเดินมากอดแล้วพูดเสียงนิ่งติดอ้อนหน่อยๆ ทำใจผมกระตุกเลย

“หืม.. ผมเอารถมานะครับ อีกอย่าง..เกียร์มั่นใจแล้วงั้นเหรอ” ผมถาม

“มั่นใจ”

“แต่ผมไม่มั่นใจ”ผมพูดสวนขึ้นทันที มันคลายกอดแล้วมองผมนิ่งๆ แต่เหมือนผิดหวังอยู่ข้างใน ก่อนจะหันไปถอยรถตัวเอง อ้าวเฮ้ย ง้ออีกหน่อยไม่ได้หรืองายยยอาการแบบนี้เขาเรียกว่า...งอน....หรือเปล่า

“เดี๋ยวสิ! ก็ผมไม่มั่นใจแล้วว่าชอบนั่งขับรถมีแอร์มากกว่านั่งเฉยๆเอาหน้าตากลมแบบนี้หรือเปล่า” ว่าแล้วก็รีบกระโดดไปกอดร่างใหญ่ๆของมันให้หายคิดถึงแน่นๆ แล้วจุ๊บลงบนซอกคอมันสองสามที มันหันมาทำตาวิบวับ ผมรีบหลบตาแล้วซบหน้าบนไหล่กว้าง ก็ดูมันมองผมสิ! ล้อกันชัดๆ แง่งง

“หึ”

สรุปว่าใครโดนใครแกล้งกันแน่เนี่ยย






“โอ๊ะ โอ” ผมร้องเสียงปัญญาอ่อน(จำมาจากเทเลทับบี้ที่ไอ้น้ำแข็งเคยเปิดดูบ่อยๆ)

“นี่มันเป็นลังเลยนะเกียร์” ผมชี้ไปชี้มือสั่นๆไปยังตู้เย็นที่อัดแน่นไปด้วย ....นมช็อคโกแล็ต

ว๊าวว...ดินแดนแห่งนมช็อค

“อืม” มันเงยหน้าขึ้นมาตอบแล้วก็จมหายไปในซอกคอผม ได้โปรดสนใจกันหน่อยเหอะไอ้น้ำแข็ง

“ซื้อมาอาบเหรอครับ” เห็นแล้วอดไม่ได้ที่จะจิกกัดว่าแล้วก็หยิบมาเจาะดูดแล้วเดินไปที่โซฟา โดยมีหมาน้ำแข็งตัวผู้เกาะติดไม่ห่าง

นี่ผมต้องมีลูกเป็นลิงจริงๆเหรอ ไม่อยากจะเชื่อ

“อาบก็ได้ แต่อาบด้วยกันนะ”

-____-

อะไรของมึง

อาบน้ำนม(ช็อคโกแล็ต) โรแมนติดที่สุดอะไรสุด

“อ๊ะ ขอผมดื่มอย่างมีความสุขเถอะครับ”ผมแกะมือแล้ว สะบัดตัวแล้ว อะไรก็แล้วแต่ไอ้มือปลาหมึกตกมันล้วงจ้วงจับจูบอยู่แถวสีข้างผมไม่ห่าง

“ก็กินไปสิ” ไอ้หอก แล้วกูจะกินแบบปกติได้ไงล่ะ!

“อื้อ...อย่าสิ” มันชะงักมือที่กำลังเอานิ้วกลางวนถูช่องหลังผ่านอันเดอร์แวร์สีขาวกับลิ้นที่เลียลงซอกคอชวนสยิว

เมื่อกี้ถ้าไม่ห้าม ผมต้องเสียหนุ่ม(?)แน่ๆ

มันจับผมนั่งกลางหว่างขา กอดผมไว้หลวมๆ

“อย่าห่างกันอีกนะ”มันก้มกระซิบข้างหูแล้วเลื่อนมาคลอเคลียข้างแก้ม

“ทำไมอะ” ผมแกล้งถาม

“.......” มันทำหน้าประมาณว่า มึงรู้คำตอบอยู่แล้ว ยังจะถามอีก

“บอกให้ผมฟังหน่อยไม่ได้เหรอ” ผมทำตาปริบๆ ติดอ้อนๆไปให้มัน มันก็มองนิ่งๆแล้วก้มลงจุ๊บปากผมเบาๆไปทีหนึ่ง

“……….”

“ทำไมเดี๋ยวนี้ใจร้ายจัง” ผมแกล้งทำเสียงตัดพ้อใส่ แล้วหันหลังให้ มันจับผมให้หันมานั่งคล่อมมันทั้งตัว หารู้ไม่ว่าเมื่อกี้ผมกลั้นยิ้มแทบตายอยู่แล้ว

“ก็ใจมันโหวงๆ”

“’งืม” ไม่เอาอีกแล้วล่ะ แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว ผมกอดแล้วซุกลงไหล่ มันคงไม่รู้ว่าผมก็ไม่ได้รู้สึกต่างไปจากมันเท่าไรหรอก แต่เพียงทิฐิ เอาแต่คิดว่าตัวเองเป็นคนขอห่างไปเอง หากไปก็กลัวจะเสียหน้า หลบหน้าเสียยังดีกว่า จนทำให้ต่างฝ่ายต่างรู้สึกแย่ลงไป

ไม่มีเกียร์ ก็เหมือนมีใครกระชากดวงใจผมออกไปเหมือนกัน

“แล้วเรื่องโฟ่ คุณรู้มาก่อนหน้านี้เหรอ” ผมเอ่ยถาม

“อืม”

“เล่าให้ผมฟังหน่อยสิ” ผมพูดแล้วมองตามันตรงๆ

“หึหึ แมวน้อยอยากรู้อยากเห็นจังนะ” อ้าว มึงด่ากูทำไมอะ มันด่าผมอะ ไม่ยอม แงง

“อะไรอะ ไม่อยากรู้ก็ได้” ผมหน้าบึ้ง แล้วเงียบใส่

“หลังจากวันที่เราแยกกันนอน เกียร์ก็คิดว่ามันต้องแก้ถึงต้นเหตุ เลยไปหา จนเจอเรื่องนี้นี่แหล่ะ” เห็นไหมล่ะ ผมชิ่งเงียบ มันก็จะเล่าเอง เอาเป็นว่า แผนนี้สำเร็จ! ผมหัวเราะฮ่าๆๆๆ(ในใจ)

“แล้วเจอได้ไงอะ อย่าบอกนะว่าคุณไปขโมยเรซูเม่จากฝ่ายทะเบียนประวัตินิสิต” ผมทำตาโตใส่มัน

“อยากให้โดนจับนักเหรอ พอดีวันนั้นเจอแม่มันแถวห้าง เลยถามไปตรงๆ” มันเล่าไปไซ้คอไป แต่ตอนนี้ผมไม่สนอะไร สนแต่เรื่องที่คุยอย่างเดียว

“อ๊ะ ถามไปว่าอะไรอะครับ”

“มันเป็นเกย์เหรอ อืม..”

“เอ้ยย ไปถามอย่างนั้นได้ยังไงเกียร์ แล้วแม่เขาว่ายังไงบ้างอะ” ผมกระเด้งหลังตรงแล้วถามเสียงหลง

“เขาก็ตกใจแล้วดูซึมๆลง บอกเกียร์ ไม่มีทางหรอก แล้วก็เล่าให้ฟังว่ามันฝังใจขนาดไหน จะถามอะไรอีกไหม”

 “ไม่แล้วๆ เอ๊ะ แล้วทำไมถึงผอมลงแบบนี้ล่ะ พัตบอกว่าคุณไม่ทานข้าว ดื้ออีกแล้วใช่ไหม” ผมหยิกแก้มคนหน้ามุ่ยเหมือนเด็กโดนจับได้

อาการแบบนี้ สงสัยมีแค่ผมคนเดียวที่ได้เห็นล่ะมั้ง แอ๊บแม๊วชะมัด

“กินตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”

???

“หิวไหมครับ”ผมถามเสียงห่วงใยเพราะรู้ว่ามันคงพูดจริง มันก็ถามย้อนผมอย่างห่วงใยเช่นกัน

“ไอรักจะทำให้กินเหรอ” ก็รู้ว่าไอรักทำไม่เป็น ยังจะทำหน้าซื่อๆกวนบาทาผมอีกนะครับ เดี๋ยวมึงจะไม่ได้กินข้าวทั้งชีวิต

“ซื้อไง”

“หึ ไม่ต้องหรอก” ผมเลยลุกไปกดน้ำร้อนลงในมาม่าคัพ โดยที่มันมองตามไม่ห่าง

“อ่ะ ผมทำเป็นแค่นี้อะ” ผมตอบอายๆ ยื่นให้มัน อีกมือเกาแก้มแก้เก้อ มันนิ่งไปก่อนจะกระตุกยิ้ม หอมแก้มแทนคำขอบคุณก่อนรับไปทาน

ผมเดินไปอาบน้ำ ตอนแรกมันบอกให้รอด้วย กลัวผมหายหรือไงไม่รู้ แต่ผมบอกให้รีบๆกินเถอะ จะไปอาบน้ำ จะได้นอนเสียกัน พอออกมาจากห้องน้ำก็เห็นมันนั่งอยู่ปลายเตียง พอเห็นผมออกมามันก็เดินหน้า(ด้าน)นิ่งๆแล้วจุ๊บปากผม ก่อนคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าไปอาบต่อ ปล่อยให้ผมยืนเขินหน้าแดงอยู่คนเดียว

ผมรีบทาครีมแล้วนอนดูโทรทัศน์ในห้องนอนรอมันไปเรื่อย คือมันเป็นคนอาบน้ำไวมากๆนะ แต่วันนี้ ขอเถอะ ไอรักง่วงจริงจังครับ ตาจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่อยู่แล้ว สักพักมันก็เดินออกมาแต่งตัว ..หุ่นดีว่ะ เอ้ยย ไอ้ไอรัก มึงหื่นไปแล้ว เก็บอาการด่วน ฮึ้บบบ!

โอเค พอแต่งตัวเสร็จก็ล้มตัวลงนอนข้างๆ ผมเลยจัดการปิดโทรทัศน์แล้วนอนขดตัวอยู่ข้างแขนมัน เกียร์หันมากอดด้วยความเคยชิน

“อ๊ะ ไม่เอาครับ ผมง่วงแล้วนะ” มันกอดรัดแล้วซุกลงคอ

“ก็..มันคิดถึง” มันบ่นงึมงำก่อนจะถอนหายใจแล้วผละมานอนกอดหลวมๆ

“อ้าว ลืมทายาให้เลย ลุกขึ้นนั่งดีๆก่อนครับ” ผมจับมันพิงหัวเตียง แล้วไปเอากระเป๋าใส่เครื่องมือแพทย์

เดินไปรินน้ำมาให้ จัดแจงยายัดใส่มือมัน แล้วนั่งทำแผลให้มันเงียบๆ แผลมันมีไม่กี่จุดครับ ช้ำตรงแก้มขวา ตอนที่ผมเรียกแล้วมันหันมามองตามเสียงนั่นแหละ แล้วก็เขียวตรงแขนประมาณสอง-สามจุด ถ้าเทียบกับสภาพโฟ่ที่โดนมันต่อย เกียร์ถือว่าน้อยมากแล้วล่ะ

“อะ เสร็จแล้ว..” ผมเงยขึ้น เจอตาคู่เฉี่ยวมองอยู่ก่อนแล้ว เลยทำให้เราสบตากันโดยไม่ตั้งใจ มันเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนแทบจะได้ยินเสียงหัวใจคนตรงข้าม ปากใกล้กันจนแทบจะสัมผัสกับอีกฝ่าย

“..เกียร์..เอ่อ...” แล้วก็เป็นผมที่ได้สติก่อน เอ่ยเสียงแผ่ว ตอนนี้คงหน้าแดงไปเรียบร้อยแล้ว


“….เราลองมาเล่นบทหมอกับคนไข้หน่อยไหม”


ผั๊วะ!!!!


แล้วก็เป็นผม........ที่ทำร้ายร่างกายมันก่อน





แต่ เอ... เหมือนผมลืมอะไรไปอีกอย่างนะ









TBC------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>


โอ้ตายๆๆๆ วันๆนั่งอยู่หน้าคอมนี่แหละ ไม่ได้ทำอะไรนอกจากลุยโปรเจคที่คั่งค้างมาเป็นเวลานาน อาจารย์ตีกลับมาหลายครั้งด้วยความรักความเอ็นดูโซ่สุดใจขาดดิ้น

แต่มาต่อให้แล้วนะคะ เราชอบอ่านคอมเม้นต์นะ มีกำลังใจดี ถึงจะดูน้อยๆ แต่ก็มีล่ะนะ T^T :o12: แอบน้อยใจ

แล้วพบกันใหม่จ้า

..โซ่♥
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่17* P.6 [02/03/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 02-03-2013 16:53:47
ดีใจที่มาต่อ อยากอ่านมาหลายวันแล้ว
โฟ่นี่คิดได้นะ เพื่อนกันแค่คอยดูอยู่ห่างๆ ก็พอแล้ว ยุ่งไม่เข้าเรื่อง
แล้วคู่รักเขาก็กลับมารักกัน เราคนอ่านก็มีความสุข
ชอบเวลาไอรักกับเกียร์รักกันที่สุดดดดดดดดด

+1 +เป็ด ให้กำลังให้น้องโซ่จ้า
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่17* P.6 [02/03/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 02-03-2013 17:29:45
คนเขียนมาต่อแล้ววววว

ในที่สุดปัญหาก็จบลงด้วยดี  :เฮ้อ:

ขอให้ไอรักกับเกียร์รักกันนานๆ  :man1:

รอคนเขียนมาต่อเสมอค่ะ  :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่17* P.6 [02/03/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 02-03-2013 18:26:10
เฮ้ออออออออออ ปมชีวิตของคนคนเดียว ทำให้เกือบทำลายความสัมพันธ์ในหลายๆด้าน
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่17* P.6 [02/03/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 02-03-2013 19:55:13
สนุกมากเลย อิอิ ดีกันแล้วว  :oo1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่17* P.6 [02/03/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 02-03-2013 23:02:41
ไอรักจะแกล้งเกียร์ เลยเจอเกียร์แกล้งกลับหรือเปล่านั่น น่ารักดี
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่17* P.6 [02/03/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 02-03-2013 23:53:31
เคลียร์กันแล้วดีใจจัง ไอรักของเราน่ารักเสมอ เกียร์ได้ไปนี่โคตรโชคดีเลยนะ รักษาไว้ให้ดี (หลงนายเอกค่ะ 555)
และแล้วเกียร์ก็หาเจอว่าโฟ่ทำไปทำไม เฮ้อ น่าสงสารโฟ่นะ แต่ชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกันนี่เนอะ เข้าใจว่ารักเพื่อน
แต่ให้เค้าเรียนรู้ด้วยตัวเองดีกว่าเพราะมันเป็นชีวิตเค้า ซึ่งโฟ่คงเข้าใจดีแล้ว ขอบอกว่าพี่พัชเท่ห์มากเลย ได้ใจ ๆ
ส่วนเกียร์แวบแรกที่หันมาเรียกไอรักนี่แบบคนอ่านก็ใจจะขาดไปด้วย คิดถึงไอรักมากสินะ เฮ้อ ได้บทเรียนกันไป
ไอรักกินนมยังน่ารักอ่ะ

ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่17* P.6 [02/03/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 03-03-2013 06:23:37
 :L2: :L2:  สู้ๆจร้า  ตอนนี้เราก็กะลังอยู่ในช่วงสอบเหมือนกัน (สอบ the sis)
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่17* P.6 [02/03/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 03-03-2013 11:43:03
ไอรักทุ่มใจให้เกียร์มาตลอด...เกียร์ก็รู้..
เพียงแต่เกียร์น้อยขี้หึงไปหน่อยเท่านั้นเอง...
หวังว่าคราวนี้...คนรักกับเพื่อนคงไปด้วยกันได้สักทีเนอะ ...

 :L2: ให้กำลังใจเยอะๆ  :L1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่17* P.6 [02/03/13 ]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 07-03-2013 18:36:53
555555ขำตอนที่เกียร์ชวนเล่นบทหมอกับคนไข้นี่แหล่ะ ดีแล้วที่โฟ่เริ่มยอมรับไอรักซะที ไม่งั้นเราคงเชียร์ให้เลิกคบอะ-_-'

มาต่ออีกไวๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่า

หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่18* P.7 [21/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 21-03-2013 23:11:40
ตอนที่18


‘ไอ้เหี้ยรัก ตอนนี้มึงอยู่ไหน เขาจะออกกันหมดแล้วสัด มึง#%!$)’ เสียงคิมกับใครหลายๆคนตะโกนโหวกเหวกมาตามสาย

“อื้อ.. อะไรของพวกมึงเนี่ย” ผมถามเสียงงัวเงีย พยายามแกะมือคนข้างๆออกเบาๆ แต่มันกลับกระชับแน่นขึ้นแล้วส่งเสียงขัดใจ ผมลูบแก้มสากมันเบาๆ แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อมันเอาอีกมือดึงมือผมมาหอม นอนอมยิ้มแต่ตายังหลับอยู่ หึหึ เจ้าเล่ห์ว่ะ

ใครมาเห็นมันยิ้มหวานๆแบบนี้คงตกใจน่าดูแฮะ

‘มึงอย่าบอกนะว่าลืมนัดพวกกูอะ! ใครเป็นคนบอกวะว่า ตีสี่ครึ่งเจอหน้าคอนโดกูนะโว้ย ใครช้าเลี้ยงเหล้า สาดดดด ไหนอะระยองกูอะระยองงงงง’

อั้ยยะ!!! ไอรักลืมสนิ๊ทสนิท!!!

“เฮ้ย กู กู..กูลืมอ่า” ผมร้องเสียงตกใจ แล้วแผ่วตอนท้าย แงงคนมันลืมจริงๆนี่หว่า เพราะไอ้คนข้างๆเลย ว่าแล้วก็กัดนิ้วมันง่ำๆ เกียร์ร้องซี๊ด แล้วเอานิ้วที่โดนกัดมาดีดหน้าผากผมเบาๆ อี๋ สกปรก เปื้อนน้ำลาย(ตัวเอง)

‘แล้วมึงอยู่ไหน! ลุงยามบอกมึงออกไปข้างนอกตอนกลางคืนยังไม่กลับมา’ เสียงทุ้มต่ำกดดันของไอ้พิชสุดโหดเรียกสติผมตื่นทันทีเลยครับ

“เอ่อ กูเอ่อ”

‘มึงมีอะไรปิดกูหรือเปล่า’ เสียงไอ้บอสโหดสัดv.2อีกตัวหนึ่งพูดขึ้น

“เปล๊า ไม่มี๊ๆ มึงไปขอกุญแจห้องกูจากพี่ที่ฟร้อนท์ แล้วเอากระเป๋าเดินทางในห้องมาให้หน่อยดิ เดี๋ยวกูรีบอาบน้ำแปบ ”ผมพูดขึ้นโดยที่ไม่รู้ว่ากำลัง......ขุดหลุมฝังตัวเองชัดๆ

‘มึงไปค้างแรมที่ไหน!!!!!’ เสียงประสานดังขึ้นจนหูแทบบอด

ค้างแรม???

ไอ้เราฟังก็นึกว่าตัวเองเป็นหน่วยลาดตะเวนไปพักแรมที่อำเภอสะบ้าย้อย

“เอ่อ.....กู....”

“รำคาญ!” คนข้างผมคว้าโทรศัพท์พูดใส่โดยที่ตายังปิดอยู่แล้ววางสายทันที มันดึงผมนอนลงกอดแน่นเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น

“เอ้ยยย เกียร์ เดี๋ยวก๊อนนน ผมต้องรีบไปอาบน้ำแล้ว” ผมตะเกียกตะกายออกจากอ้อมกอดมัน

"ไว้ก่อนก็ได้" มันพูดงึมงำๆ แล้วเงียบไป แต่มือยังกอดเอวผมไม่ปล่อย

ยังไม่ทันทำอะไรเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง

“โทรทำเหี้ยไรมากมายวะ พวกกูจะนอน หนวกหูโว้ย!!!!!!” ปิ๊บ! เอ่อ...มันใส่เต็มๆเลยครับ เต็มที่กับชีวิตมากๆ ดูท่าจะอารมณ์เสียไม่น้อยที่โดนกวนตอนหลับ เห็นว่าตื่นตอนเช้าจะอารมณ์ไม่ดี

ปกติผมไม่เคยเห็นเลยนะ พึ่งจะมาเห็นก็วันนี้นี่แหล่ะ

“เกียร์ปล่อยก่อนนะครับ วันนี้ผมต้องไประยองอะ” ผมพูดเสียงแผ่ว พยายามทำให้นุ่มน่าฟังที่สุด กลัวครับกลัว T-T  มันลืมตาจ้องหน้าผมเขม็ง ไอรักตื่นเต็มตาเลยฮือๆ

“ไปไม” เสียงห้วนมากครับ ไอรักตายก่อนออกเดินทางแหงๆ ขอกราบลาบุพการีและคนอ่านไว้ล่วงหน้าตรงนี้เลยนะครับ สวัสดีครับ

“เอ่อ ไปลงพื้นที่สำรวจการวิจัยไง ไปเที่ย...ทำงานน่ะครับ ทำงาน แหะๆ”มันมองผมนิ่ง ไอ้ผมก็ทำอะไรไม่ถูกสิครับ เลยเอามือไปลูบต้นแขนมันเบาๆ อ่อยบ้างอะไรบ้าง ฮิ_ฮิ (ใช่เวลาไหม?)

“ไปอาบน้ำสิ” มันตอบหน้านิ่งตามสไตล์ น้ำเสียงเฉยๆจนผมทำหน้าแปลกใจ อะไรหว่า บทจะง่ายก็ง่าย

“เอ่อ..”

“จะไม่ไปเหรอ”

“ปะ ไปคร้าบบบ”



“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มให้มันแล้วลงมือทานข้าวต้มใส่หมู ไก่ ปลาหมึก กุ้ง เอ่อ เรียกว่ารวมมิตรแล้วกัน

มันเดินมายืดแก้มผมทั้งสองข้าง จนผมต้องยู่หน้าใส่ มันอมยิ้มหัวเราะหึหึ แล้วก้มลงหอมแก้มทั้งสองข้าง เล่นเอาผมหน้าแดงเถือก จนเกือบเผลอปล่อยช้อนที่กำแน่นหลุดมือ

“อ้าว ไปไหนอะ” มันถอดเสื้อกันเปื้อน แล้วทำท่าจะเดินเข้าห้อง

“อาบน้ำ”

“ทานด้วยกันก่อนสิครับ เดี๋ยวกลิ่นมันก็ติดหรอก” เวลาอาบน้ำสระผมใหม่ๆ แล้วมาทานอาหาร ผมว่ากลิ่นมันจะติดหัวติดตัวได้ง่ายนะ

“รีบไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวก็ไปไม่ทันกันพอดี”

……หือ...?

-_______-

สรุป

ทริปนี้ก็มีน้ำแข็งก้อนหนึ่งเหน็บไว้ข้างตัวหมือนเดิม



..............................
.................
............
........
.....
...


“เชี่ย มึงนะมึง หลอกให้พวกกูไปยืนรอหน้าคอนโดตั้งนาน หอกจิก” เดี๋ยวนี้เนมด่าแต๋วมากครับ ผมเริ่มรับคำพูดของชายผู้นี้ไม่ได้แล้ว

“กูลืมนี่หว่า โทษทีๆ” ผมยืนคุยกับพวกไอ้เนม แต่สายตามองไปยังร่างใหญ่ที่กำลังไปวางกระเป๋าใบใหญ่ในรถ แต่ในกระเป๋าใส่ทั้งของผมกับมันสองคน มันก็หยิบกระเป๋าที่พวกนั้นยกมาจากคอนโดผมออกไปยังฟร้อนท์ แล้วพูดอะไรไมรู้กับพนักงาน

“โหสัด มองไม่วางตาเลยโว้ย เป็นเอามาก”คิมพูด

“อะไร กูมองบ่อปลาทอง”

“ถุยย นั่นมันบ่อปลาคราฟก็พอ” แหง่ะ นี่ไม่ได้เล่นมุขนะครับ หน้าแตกจริงๆ

"กูรู้หรอก" ผมก็ว่าไปกลบเกลื่อน พวกมันก็มองแบบรู้ทัน เรื่องปัญญาอ่อนล่ะฉลาดนัก

“ไหนๆ มึงเล่าให้กูฟังเลย ไปยังไงมายังไงกันอีกวะ” ผมก็ต้องเล่าไปให้ไอ้คลื่นและพักพวกฟังครับ ถ้าไม่เล่าเดี๋ยวไอ้คลื่นเกิดวิบัติอะไรขึ้นอีก

“อ๋ออ แล้วสรุปยังไม่ได้กันอีกเหรอวะ”

ป้าบบบบ

“ขอกูโบกแรงๆสักทีเหอะไอ้คลื่น.. เอ้อ ว่าแต่แม้แต่ใช้มือให้กันยังไม่เคยเลยเหรอวะ”

ป้าบบบบ

“มึงนี่ก็อีกคนไอ้คิม” คราวนี้บอสโบกทั้งคู่เลยครับ แรงมากอะ ผมกลัวสมองหลุดออกมาติดมือมันมาเหลือเกิน

“ทำไมเฮียพัชไม่เล่าให้กูฟังวะ” พิชเริ่มงอแงแล้วครับ ปกติมันจะโหดและเถื่อนมาก น้อยกว่าไอ้บอสนิดหน่อย แต่เรื่องคนในครอบครัวนี่ไม่ได้เลยนะครับ ต้องรู้ทุกเรื่อง

“ได้ข่าวเรื่องพึ่งเกิดเมื่อคืน” ไทป์ต่อยไหล่พิชอย่างแรง มันหันไปทำหน้าเหมือนจะฆ่าให้กับฝ่ายกระทำที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร ไม่เทพจริง ทำไอ้พิชไม่ได้นะครับ จะบอกให้

“ไร้สาระว่ะ ไปๆครบละ ขึ้นรถ” ไทป์ไล่พวกมันขึ้นเมื่อเห็นว่าเกียร์เดินมาพอดี




"เชี่ยเอ๊ย เก่งตายห่าล่ะ เดี๋ยวเจอกูหน่อยๆ"

"อ่อนแล้วยังไปท้าเขาอีก แม้วเผือก"

"มึงอย่าพูดดิ กูไม่มีสมาธิ"

"อ้าว กูผิด"

"เออ"

"แมร่ง งอนว่ะ คนอื่นก็คุยกับคนข้างๆ ไอ้คนข้างๆแมร่งก็เสือกไม่คุยกับกู" เสียงคิมตัดพ้อ

"........."

"..........นี่มึงจะไม่ง้อกูหน่อยเหรอ"

"ไอ้เชี่ยคิม มึงไปไกลๆเลยป่ะ กูโดนแมร่งต่อยตายแล้วไม่เห็นเหรอสาดดด"

"แล้วให้กูไปไหนอะT-T"

"......." จึ้กๆๆ ชิ้งๆ เสียงเอฟเฟคเกมส์ดังขึ้นอย่างดุเดือด

"มึงแข่งกับใครวะ คนไทยปะ" คิมถามไอ้เนมที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ระหว่างการเดินทาง เกมส์นี้มันคอนเน็คกันทั่วโลกครับ ผมเคยติดเกมส์นี้นะ ได้ยินเสียงเอฟเฟคก็จำได้แล้ว

"เปล่า แข่งกับคอม"

"ถุยย กูนึกว่าแข่งกับคน อ่อนสัด"

"เออ! แมร่ง บ่นอยู่ได้ข้างรูหูกูเนี่ย ไหนมึงลองเล่นให้กูหน่อยดิ๊"

"ไม่เอาอะ ปวดมือ อิอิ" ผมเห็นมันทำมือง่อยๆ ไอ้เนมเลยโบกหัวมันด้วยความหมั่นไส้

"-วย"

“ขอบคุณครับ! เออไอ้เกียร์ แล้วมึงไม่มีเรียนวันจันทร์เหรอวะ พวกกูจะกลับวันจันทร์นะมึง” คิม ชายผู้เหงาปากหันมาถาม

ตอนนี้เราเริ่มเดินทางโดยมีคนขับรถบ้านไอ้คลื่นมารับถึงที่ เบาะสามที่นั่งมีเนมกับคิมแล้วก็ของกินของไอ้เนมหนึ่งเบาะ เบาะถัดมาก็เป็นคู่หูเห็บหมัด (ไอ้บอสกับคลื่น) เบาะแถวสามคือผมกับเกียร์ ส่วนพิชกับไทป์นั่งเบาะหลังครับ

“มี” ถึงแม้ว่าจะสอบกลางภาคไปแล้ว แต่มหาลัยไม่มีหยุดเหมือนสมัยมัธยมหรอกนะครับ เรื่องมันน่าเศร้าใจยิ่งนัก

“อ้าว แล้วจะกลับก่อนเหรอวะ” คลื่นลุกขึ้นนั่งคุกเข่าบนเบาะแล้วหันมาถามตาแป๋วแว๋ว ไอ้นี่ตัวเท่ากระทิงแต่ทำตัวเป็นเด็กน้อยไปได้ ไม่ได้ดูสารรูปตนเองเลยนะครับคนเรา

"ไอ้รัก มึงด่ากูในใจใช่ไหม" ชะอุ่ย ทำไมมันฉลาดขึ้นอะ

"เปล๊า มึงมั่วแล้ว" ฮี่ๆๆ อย่ามามองผมด้วยสายตาเหยียดขนาดนั้นสิครับแหม่

"ช่างมึง เบื่อคุยกับมึงละ แล้วสรุปจะกลับก่อนเหรอวะไอ้เกียร์ ให้คนขับไปส่งก่อนเปล่า กูจะได้บอกเขาไว้ให้"

"ไม่"

"อ้าว"

“กูโดด” เสียงทุ้มนิ่งตอบแบบไม่ได้สนใจ จนไอ้คลื่นทำหน้าเหม็นบูดใส่ เบะปากแสร้งร้องไห้ซบลงบนไหล่บอส ถ้าถามว่าเกียร์แคร์ไหม? ก็คงจะได้คำตอบแบบไม่ต้องคิด

“มึงพาไอ้เกียร์เสียคนเหรอวะ นิสัยไม่ดีว่ะ” พิชเอ่ยปากแซวผม จะไปแซวไอ้คนข้างๆผมนี่ก็กระไรอยู่

อ้อ เรื่องนี้ผมถามเกียร์ก่อนมาแล้วล่ะครับ มันบอกว่าคาบแรก ของอาจารย์คนนี้ เขาจะให้มายืนแนะนำตัวหน้าชั้นรายบุคคล(เหมือนอาจารย์เขาอยากจะจำชื่อนิสิตในสาขาตนเองให้ได้ แต่เขาขี้ลืมน่ะครับ) กว่าจะครบทุกคนก็หมดเวลาเรียนทุกที จึงไม่ต้องกังวลอะไร

“ใครจะนิสัยดีเหมือนแฟนมึงล่ะ”ว่าแล้วก็บุ้ยปากไปหาคนนั่งข้างๆมัน ไอ้เนมเลยโยนนมช็อคข้ามหัวทุกคนมาให้ไทป์ มันรับมาปาใส่ผมที่หันหน้ามาคุยกับมันในระยะใกล้ เชี่ย เกือบโดนหน้า ดีที่เกียร์รับไว้ทัน

“อ๊ายยย ตัวเองก็ พูดเป็นเล่นแบบนี้ เพื่อนเค้าอายนะคะ โฮ๊ะๆๆ” เนมทำท่าทำทาง ออกตัวสะดีดสะดิ้งมากครับ ส่วนไอ้ไทป์ทำหน้าเหมือนโลกจะแตกวันนี้พรุ่งนี้ ก่อนหันไปอ่านหนังสือต่อ สมน้ำหน้าว่ะ ฮ่าๆ ผมหันไปขอบคุณไอ้คนข้างๆที่ยื่นกล่องนมที่มันเจาะไว้แล้วมาให้

“กินเสร็จก็นอนได้แล้ว พึ่งได้นอนหนิ” มันลูบหัวเบาๆ แล้วดึงมาให้ซบไหล่หนา

"คุณก็ด้วยไม่ใช่เหรอครับ" ผมเงยหน้าบอกมันยิ้มๆ แล้วพิงไหล่เกียร์เหมือนเคย มันลูบแก้มผมเบาๆแล้วเอนหัวมาพิง ก่อนจะหลับไปทั้งคู่





“ถึงซะทีโว้ยยย” เสียงคลื่นแว่วๆเข้ามาในโสตประสาท ผมลืมกระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับแสงอาทิตย์จากนอกรถ ก็เจอสายตาคู่หนึ่งกำลังมองอยู่ ทำผมเขินทำอะไรไม่ถูก นอนน้ำลายยืดบ้างเปล่าวะเนี่ยตู เอ่อแต่ร่วมเตียงกันมาทุกวันแล้วนี่หว่า ทำไมไม่ชินสักทีนะไอ้ไอรัก

"ทำไมไม่ปลุกผมล่ะครับ"

“เหน็บกิน” ผมกระเด้งหัวออกจากไหล่มันทันที เกียร์ยิ้มให้ก่อนขยับแขนไปมา ไหนว่าเหน็บกินไง โกหกกันนี่หน่า ผมหน้าบึ้งทุบแขนมันไปทีหนึ่งเบาๆ ไม่กล้าทุบแรงหรอก เดี๋ยวกระบาลผมแยกขึ้นมาทำไงล่ะ แหน่ะ ยังมาหัวเราะผมอีกนะ

“หน้างอเป็นกระบวยแล้ว” ผมไม่สนใจ ทำเป็นเมินมันดีกว่า ..นี่! จะเมินแล้วนะ! ทำไมยังหัวเราะอยู่อีกอะแง้ง แล้วยังมาจับหัวผมโยกไปมาอีกนะ ใช่เพื่อนเล่นเหรอฮะไอ้น้ำแข็ง!

“เฮ้ย ไอ้สองคนนั้น มึงจะจีบกันอีกนานไหมวะ ลุงเขาเขินหน้าแดงแล้วไม่เห็นหรือไง” เนมตะโกนเข้ามาในรถ ผมสะดุ้งหน้าแดง แต่อีกคนข้างๆหน้าตาเมินเฉยเหลือเกิน หมั่นไส้ว่ะ เพราะคุณคนเดียวไอ้น้ำแข็ง จิ๊


และแล้วพวกผมก็มาถึงนิคมอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งแถวระยอง ดูท่าพวกมันจะกระตือรือร้นรีบลงพื้นที่ไปทำงานในหน้าที่ต่างๆที่ได้แบ่งไว้เป็นที่สุด ไม่ใช่ว่าขยันอะไรกันหรอกครับ แต่ถ้าทำเสร็จไว เวลาเที่ยวก็จะเยอะขึ้นนั่นเอง

ผมได้หน้าที่ไปถามชาวบ้านตามละแวกใกล้ๆ บางคนก็ตอบแถมคุยเป็นวรรคเป็นเวร แต่ก็มีบางคนที่ไม่อยากคุยด้วยเท่าไรนัก อาจเป็นเพราะผมเป็นคนแปลกหน้าล่ะมั้ง เอ..หรือหน้าผมกับเกียร์เหมือนโจรแถวนี้กันหว่า ฟุ้งซ่านแล้วกู..

กว่าจะเสร็จ ก็ทำผมเหงื่อแตกเอาเหมือนกัน คนที่ติดตามมาด้วยก็ไม่ต่างจากผมสักเท่าไร ออกจะมากกว่าด้วยซ้ำ คงเป็นเพราะผมเป็นคนเหงื่อออกน้อย ไม่เหมือนคนข้างๆ แปบเดียวเหงื่อแตกผลั่กๆ

และถึงแม้ว่าเราจะมีหมวกคนละใบ กับสมุดจดบันทึกเอาไว้พัดให้ลมตีหน้าบ้าง แต่ก็นะ ช่วยไม่ได้มากหรอกครับ เล่มเท่าครึ่งเอสี่..

 “แฮ่กๆ ทามมายมานเหนื่อยอย่างนี้น้อออ” เนมเอ่ยเสียงยานกลับมายังจุดที่นัดเอาไว้ พวกผมมาถึงก็เห็นพิชกับคิมนั่งอยู่ใต้ต้นไม้แล้วครับ

“ไม่เหนื่อยหรอก แต่แมร่งร้อนฉิบหาย” พิชพูดแล้วเสยผมไปข้างหลัง

"นั่นดิ เอาผ้ามาตาก กูว่าแปบเดียวเท่านั้นแหล่ะ"

"ผ้าแห้งเลยชะ" พิชพูดขึ้น

"เปล่า คนขโมยเอาไปบริจาคแมร่งหมด"

"ถุย!" แล้วทุกคนก็ร่วมแรงร่วมใจกันถุยใส่คิม

"ปัญญาอ่อนว่ะ ทีกูยังมีสติปัญญาและสมาธิมากกว่ามึงเลยงะอิอิ แฮ่กๆ เอาน้ำมากินดิ้" แล้วแมร่งก็แย่งไปจากมือผม ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก แต่ไอ้คนที่เอามาให้นี่สิมองตาเขียวปั๊ด

"ของไอรัก" ไอ้เนมชะงัก ปากยังอ้าเตรียมกรอกน้ำเต็มที่

"หือ ก็กูร้อนง่ะ"

"ขอดิ..ของไอรัก"

".....ให้กูยืมกินหน่อยเหอะT-T" เนมหันมาขอเกียร์ หน้าไอ้เนมนี่เหนื่อยเหมือนไปวิ่งราวมาสองประเทศ แต่น้ำแข็งถึงแม้จะมีเหงื่อตามหน้าตามตัว แต่สีหน้ามันนิ่งได้อีกครับ

"ของไอรัก" คุณพูดได้คำเดียวเหรอครับ

"กูขอกินน้ำของมึงหน่อยนะไอ้รัก" โห หน้าหงอยๆของมันโคตรน่าสงสารเลย

"หา เออเอาดิ" ผมตอบ ไอ้เนมเลยเหลือบไปมองเกียร์ มันพยักหน้าให้เบาๆแล้วเมิน จากนั้นไอ้เนมก็ยิ้มแฉ่งเลย

"กว่ามึงจะได้แดกเนอะ เป็นเรื่องเป็นราว" พิชเอ่ย เออผมก็ว่าอยู่

"แต่กูขำว่ะ ฮ่ๆๆๆ มึงโง่หรือโง่ กูก็มีขวดหนึ่งไม่ขอกู กร๊ากก" ไอ้เนมทำหน้าเหมือนโดนขวานฟ้าตีแสกเข้ากลางกระบาล

"แล้วมึงไม่บอกกูอ้าไอ้คิมแงแงแง"

"ก็กูอยากเห็นแม้วเผือกเหงื่อแตกหูตกว่ะ ฮ่าๆๆๆ" คิมเลยโดนขวดน้ำปาใส่เข้าอย่างจัง

"สัด! ไอ้! ไอ้บักบาบู้!(?) กูเหงื่อจริงอะไรจริงอะ ใครบอกให้กูไปสัมภาษณ์คนรอบนอกวะ ไกลฉิบหาย แล้วดูแดดดิ กูอยากตายตรงประตูทางออก แมร่ง โปะครีมกันแดดSPFส้นตีนห่าเหวอะไรก็กันไม่ได้เลย เปลืองว่ะ” เนมบ่นงุ๊งงิ๊งอะไรของมันไป

คนข้างๆผมเอื้อมมือมาเช็ดเหงื่อที่มีอยู่เม็ดสองเม็ดให้ผม มือก็ไม่ใช่ว่าจะสะอาดกัน ถ้าสิวขึ้นหน้าไอรักนะ ฮึ่มๆ!!

ไอ้ผมก็บ่นไปงั้นแหละครับ เพราะปากผมฉีกจนจะถึงกรามอยู่แล้ว เขินอะ มีมันมาดูแลเอาใจใส่แบบนี้ ใครจะไปรู้ว่าคนที่เราตามตื้อ ตามดูอยู่ห่างๆ จะได้มาอยู่ข้างกายกันแบบนี้ ไม่ว่ากี่ครั้งก็ไม่หายเขินเสียที

“แล้วมึงจะโบกหน้าไปทำดวกไรครับเนม กูเห็นมึงและพวกๆๆมึงทุกคนโดนแดดทีไรก็ดำอย่างกับราหูอมจันทร์ อันนี้กูพูดด้วยความสัจจริงเลย" คิมพูด พลางยกมือพัดเอาลมเข้าหน้าไอ้เนม หูมันเริ่มลู่ลง ถ้าลิ้นห้อยด้วย ผมว่าผมเริ่มเดาสายพันธุ์มันออกแล้วล่ะ

"มึงด้วยแหละสลัดเป็ด"

"ด่ามันซะกูหิวเลย" พิชกระตุกยิ้มข้างเดียวซะน่าถีบเชียว

"ฮ่าๆๆ ดำแน่มึง" ไอ้เนมเริ่มหน้าหงิกแล้วครับ มันไม่ได้เป็นคนคล้ำนะ เพียงแต่มันเป็นคนเหนือที่ดำง่ายมาก จากตอนเด็กๆที่ขาวจั๊วะเกือบเท่าผม แต่ตอนนี้ผิวมันเป็นสีน้ำผึ้งน่ะครับ แต่ผมว่าผิวมันสวยดีออก

"ก็มึงลองเปรียบกับไอ้บักสีดาดูดิ แมร่งเป็นคนเดียวที่ขาวเหมือนเดิม แค่แดงขึ้นแก้ม ถือว่ามากสุดของมันละ” บักสีดาแปลว่าฝรั่ง

มันเรียกเพราะอย่างที่บอกว่าผมเป็นลูกครึ่งหลายอย่างเสียจนแทบไม่มีความเป็นไทยบนใบหน้าเลย นอกเสียจากผมสีดำที่กระเดียดไปน้ำตาลอ่อนมากกว่า  ผมไม่ชอบให้ใครมองว่าผมต่างจากพวกเขาเท่าไรนัก จึงไม่ค่อยชอบฉายานี้เสียเท่าไร ความแตกต่างที่เป็นจุดเด่นแบบนี้ ผมพูดเลยว่าโคตรเซ็ง

“ไอ้กูปรี แมร่ง...เกี่ยวไรกับกูอีกวะ”

“เปล่าโทษทีบักสี เอ้ย ไอ้รัก หึหึ กี่ปีๆกูก็เห็นมึงสีเหมือนเดิมไง ขึ้นเหนือลงใต้ มึงยังขาวจั๊วะกลับกรุงเทพ กูถามจริง มึงกินอะไรเป็นอาหารวะ” พิชถามสีหน้าจริงจัง

“กูก็กินแบบมึงอะ”

“กวนส้นตีน” มันเอื้อมมือจะมาตบหัว แต่โดนน้ำแข็งปัดออก

“โห” กันสามคน

“กูรู้ๆๆ เคล็ดลับมันต้องอยู่ที่นมช็อคของมันแน่ๆ เดี๋ยวกูไปซื้อกินบ้างดีกว่าฮุฮิ” ไอ้เนมยังไม่ทันหายใจเป็นปกติ(อีกเหรอวะ) ก็ยกมือขึ้นแล้วรีบพูดทันที นี่มันกลัวคนอื่นพูดตัดหน้าเหรอ หรือยังไง?

“ถุย มึงเอาหัวนิ้วโป้งส้นตีนด้านขวาคิดเหรอ เขาได้สีผิวผู้ดีของแด๊ดกับมาม๊ามันมาโว้ย มึงจะสาดนมเข้าหน้าก็ไม่ขาวขึ้นหรอก โง่ฉิบหาย” พิชส่ายหน้าเอือมกับเนม

“อ้าว แล้วไม่ใช่มึงเหรอ ที่ถามว่ามันกินอะไรเป็นอาหารอะ” เนมถามหน้าตาใสซื่อ

“...กูว่ากูโดนไอ้เพื่อนเหี้ยนี่เล่นละ” มันว่าแล้วก็กรอกตาหมดอารมณ์คุยกับไอ้เนมทันที ปล่อยให้ผมกับคิมหัวเราะอยู่สองคน





“เย้!!!!” ไอ้คิม ไอ้เนม แล้วก็ไอ้คลื่นกอดคอวิ่งลงทะเลสีฟ้าใส

“วันนี้จัดเหล้าไปยาวๆโว้ย” คลื่นตะโกนบอก

“มึงอย่าลืม วันนี้ทำรูปเล่มนะโว้ย คืนนี้ไม่เสร็จ กูไม่ให้หลับ” ไทป์ตะโกนกลับ พวกมันหันมาทำหน้าเหม็นบูดให้จอมเผด็จการของกลุ่ม แล้วเดินคอตกกลับมานั่งที่เดิม

"มึงง่า" เสียงง๊องแง๊งของเนมมาแล้วครับ

"ไร" ไทป์ตอบเสียงแข็งกลับ สำหรับมัน เรื่องงานนี่ไม่ได้เลยนะครับ ให้ฆ่าคน มันก็ฆ่า

"หยวนให้กูโหน่ยจิ กูอยากเล่นง่า แงแงแง"

"ไม่!"

แล้วพวกผมก็มานั่งทานข้าวอยู่ข้างสระว่ายน้ำในโรงแรมของคลื่น โรงแรมมันติดทะเลครับ เดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ว ส่วนเรื่องห้องนอนก็ไม่มีปัญหาอะไรห้องปกตินี่แหล่ะ เตียงใหญ่เตียงเดียว ผมนอนกับหนุ่มเมืองกรุงเจ้าเดิม เนมกับคิมห้องติดกับผมทางด้านขวา ส่วนห้องด้านซ้ายเป็นไทป์กับพิช ห้องตรงข้ามผมเป็นคู่หูเห็บหมัด

“งะ เค้าอยากได้อยากโดนแล้วง่าตัวเอง” แล้วไอ้เนมก็กระโจนไปเกาะแขนข้างขวาไทป์อย่างออดอ้อน(ตีน)

"ถูกต้มที่สุด น้องคลื่นคนนี้ก็อยากโดนน้ำใสๆแล้วอะ T^T"

“ไม่ได้! เอางานให้เสร็จไปก่อน วันอาทิตย์ค่อยว่ากัน” ไทป์พูดแล้วตักปลาหมึกใส่ปากเนมกับคลื่นให้หยุดปากสักที

“ง่ำๆ แง้งๆๆๆบอสส” ไอ้คลื่นอ้อนใครไม่ได้ กระโจนเข้าคู่ตัวเองครับ ส่วนรายนั้นไม่ต้องพูดถึง นั่งนิ่งๆให้คลื่นจับกอดถูไถจนกว่าจะพอใจ

“อะ นานๆที” พิชยื่นบุหรี่มาให้ ผมมองอย่างชั่งใจ ไม่ใช่ว่าไม่เคยหรอกนะครับ แต่พอเป็นนิสิตแพทย์แล้ว ก็ต้องเลิกของพวกนี้ไปอย่างจำใจ ยังไม่ตัดสินใจอะไร ก็มีมือดีหยิบไปบี้ต่อหน้าต่อตา อ๋า~บุหรี่ของผม

“ไม่ต้อง”

“โถ่” ผมมุ่ยหน้า

“สูบเป็นหรือไง”มันหันมาเลิกคิ้วใส่ หูววว ถ้าไม่ใช่เกียร์ ผมตบหัวคว่ำเลยนะนี่

“มึงก็ไปดูถูกมัน ไอ้นี่แหล่ะตัวดี สูบมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย แต่ปากเสือกไม่ดำ พึ่งจะมาเลิกก็ตอนที่เตรียมเป็นหมอนี่แหล่ะ” คิมพูดขึ้น

“มึงพูดเหมือนมันหรูเลยนะ มันไม่ได้เป็นหมอที่ดีอะไรหรอก แต่แด๊ดกับม๊ามันขอเอาไว้ ไม่งั้นมันไม่ทำหรอกฮ่าๆๆ โอ้ยย”ข้างตัวมีอะไร ผมก็ปาใส่หัวเนมเลยครับ เผากูทุกทีที่มีช่องว่าง

“แล้วมึงไม่เอาบ้างเหรอ” พิชยื่นซองบุหรี่ให้เกียร์หันหน้าเมิน

“หย๋า~หน้าอย่างมึงคงไม่ได้สูบไม่เป็นหรอก กูbelieveเลย กร๊ากก หรือมมึงก็เลิกเหมือนมัน?” ผมอยากจะถุยกุ้งใส่หน้าไอ้คลื่นเสียจริงๆ หน้าอย่างกับโจรดิบ(ได้ข่าวว่ามันหล่อดิบ)เสือกสปี๊กอิงลิช

มันหยักหน้าแทนคำตอบแล้วหันมามองผมนิดหนึ่ง ก่อนก้มลงกินยำวุ่นเส้นทะเลต่อ ผมก็มองมันงงๆ คนอื่นก็ไม่ได้ว่าอะไรต่อ

"สงสัยอะไรอยู่หืม” มันหันมาเจอผมกำลังมองมันอยู่ แล้วเอานิ้วชี้จิ้มไปที่ระหว่างคิ้วที่ขมวดกันอยู่ตอนไหนก็ไม่รู้

“เปล่าสงสัยๆ อืมแต่ เลิกทำไมอะ แฮะๆ” ผมเอามือเกาแก้มเก้อ มันก็ไม่ได้อยากรู้อะไรขนาดนั้นหรอก แต่มันก็อยากรู้งะ มันอมยิ้มแวบหนึ่ง

“ทำไมถึงอยากรู้ล่ะ” นั่นไง เดี๋ยวนี้ไอ้น้ำแข็งมันเริ่มเล่นตัวแล้วนะครับ ทำเป็นเล่นไป

“อ้าว ก็มันอยากรู้นี่หน่า แต่ไม่อยากรู้ก็ได้ บู่” ผมแกล้งทำปากจู๋ใส่ ทำไมอยู่ไปอยู่มาทำไมอาการเริ่มแต๋วขึ้นเรื่อยๆวะ

“หึ บอกก็ได้ แต่ต้องมีค่าตอบแทน” มันบีบปากผมไปมาเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว

“โถ่ คุณน้ำแข็งขี้งก จะเอาอะไรอะ” ผมถามมันตาแป๋ว

“ตกลงก่อน” มันอมยิ้มบางๆ

แต่ผมไม่ค่อยเข้าใจมันอย่างหนึ่ง ผมลองสังเกตดู เวลามันพูดกับผมตอนอยู่ที่สาธารณะ หรือมีคนอื่นอยู่ด้วย มันจะไม่ใช่เพียงแค่พูดน้อยลง แต่เสียงมันจะเบาลงด้วย เรียกว่าเกือบกระซิบเลยล่ะ

“อ้าว ขี้โกงนี่หน่า”

“เดี๋ยวบอกตอนเย็น ขี้โกงตรงไหน”

“ตรงนี้แหละ จิ๊.. ตกลงก็ได้” ผมลังเลก่อนผงกหัวหงึกหงัก

“ต้องดูแลแมวตัวยุ่งตัวนี้ไปนานๆไง หึหึ” มันก้มกระซิบบอกแล้วบีบจมูกผมไปมาเบาๆเสียงมันไม่ได้ดังไปนะ แต่พวกที่ทำเป็นจับโน่น กินนี่ คุยนั่น แต่ผมแอบเห็นว่าหูพวกแมร่งแทบจะผึ่งออกมาจ่อปากเกียร์อยู่แล้ว

“ฮิ้ววววววววววววววว”




“โอยแมร่ง เสร็จสักทีนรกแทบแตก” เนมบ่นยืดแขนขาออกแล้วบิดไปมาอย่างเมื่อยล้า

“ดีเลย กูนึกว่าจะเสร็จไม่ทันวันนี้ คืนนี้ปล่อยผีเลย ฮ่าๆๆ” คลื่นผู้เสี้ยนแอลกอฮอล์พูดขึ้น

ตอนนี้เกือบสองทุ่มแล้ว เมื่อตอนเที่ยงพวกผมลงมัตติว่ารีบขึ้นมาทำงานให้เสร็จก่อนอาหารเย็นจะเป็นการดีมากๆ โดยมีเหตุเพราะอยากเที่ยว เป็นแรงกระตุ้นคล้ายยาชูกำลังให้ชายโฉดแปดคนรีบปั่นงานให้ตนไร้พันธะ เพื่อสุรา นารี อันเป็นที่รัก(แต่ไม่ใช่ผมนะ ขอแก้ตัวก่อน เดี๋ยวโดนไอ้น้ำแข็งเตะเอา)

“เห็นไหมว่ามึงรีบทำแปบเดียวก็เสร็จ” ไทป์พูดไปเก็บโน๊ตบุ๊คตัวเองไป

“แล้วมึงจะดูดไฟล์จากเครื่องกูอีกนานปะ กูรอแก่หงำเหงือกละ” คิมนอนเท้าคางพูดไปมองไอ้เนมเล่นคอมของมันไป อันนี้ไม่ใช่เรื่องงานแล้วครับ ไอ้เนมมันโหลดคลิปโป๊จากเครื่องไอ้คิมอยู่ เฮ้อเพื่อนไอรักแต่ละคน

ไอรักล่ะไม่เค้ยไม่เคยแตะต้องที่เป็นกิจทางกามเลยนะครับ

“สัด อย่าพึ่งสะกิดดิ ขอเวลากูดูดแปบนึง ถึงกูจะช้าแต่กูชัวร์นะจ๊ะ” ว่าแล้วมันก็ขยิบตาทีหนึ่ง คำพูดมันช่างส่อเหลือเกินครับ

“ดูเหี้ยอะไรทุกวัน ได้เกรดเอเหรอ..ก็ไม่ใช่” บอสพูด

“ลงมือปฏิบัติกันเองไม่เป็นกันเหรอวะ” พิชพูดขึ้นแล้วปาหมอนใส่หัวไอ้เนม

“ไอ้ห่า ดูไว้เป็นกับแกล้มทางสายตาโว้ย โหเฮ้ยไอ้ไอรักๆๆ เป๊กมึงเลยอะ มาดูดิ ผมดำยาว หุ่นดี ลีลาเด๊ด ที่สำคัญสวยสาดดดด”มันกวักมือเรียกไม่พอ ยังดึงมือผมให้ไปดูอีก มึงเห็นคนข้างๆกูไหมไอ้เนม ถ้าข้าพเจ้ามาเดี่ยวจะไม่ว่าเลย แต่คราวนี้กูมาคู่ พ่วงหนุ่มวิศวะหน้าโหดมาด้วย ตีนคู่ใหญ่ๆจะมาประทับหน้ากูและมึงคนละข้างสิคราวนี้

“เป็นไงมึง เป๊กอะดิ๊ ฮ่าๆๆๆ” ผมผิวปากหวือเบาๆ เหยดดด สเป๊กจริงว่ะ เอวเป็นเอว นมเป็นนม ยังไม่ทันมองลึก(?) คุณน้ำแข็งอันเป็นที่รักเดินเข้ามาด้วยสายตาเย็นยะเยือกแกมไม่พอใจ ให้ไอรักตัวน้อยๆต้องสะดุ้งโหยงเล่น แล้ว......มันเดินมาตบหน้าจอลงดังปึ้กทันที T-T

“หยา!!!!ลูกแม็คบุ๊คเรติน่าของกู!!! ไอ้เชี่ยร๊ากกกกก”คิมร้องเสียงดังออกมา ไม่ให้มันร้องได้ไงครับ ลูกมันโดนมือใหญ่พับหน้าจอลงเสียงดังไม่เกรงใจเสียงโหยหวนของเจ้าของเลยครับ

“เห้ย กูไม่ผิด” อย่าโยนขี้ใส่ผมนะจะบอก ไอรักไม่รับนะครับ

"มึงอะ!! เพราะมึงเลย" T-T ไอรักผิดตรงไหน

"เหอะ ร้องอย่ากับแมวทับนิ้ว" ไอ้บอสมันยิ้มแสยะออกมา แล้วหันไปบอกให้ไอ้คลื่นนวดไหล่มันเบากว่านี้หน่อย

“เงียบไปเลยเชี่ยบอส มึงอ้าไอ้รัก  เอาผัวมึงไปเก็บเลยแมร่ง” คุณคิมเริ่มหน้าบูด เพราะไม่กล้าด่าคนทำ เลยหงุดหงิดตัวเองล่ะมั้ง

“ผะ ผัวเชี่ยไรของมึง ยังไม่ได้เป็นโว้ย ..เฮ้ย..” ผมก้มหน้าพูด มือเก้ๆกังๆกะทันหัน ไม่ต้องส่องกระจกก็รู้เลยว่าตัวเองกำลังหน้าแดงจนประหลอดแตก เหมือนหน้ามันร้อนเห่อขึ้นมากองในที่เดียวกัน

"ฮ่าๆๆๆ ยังไม่ได้เป็นเหรอจ๊ะ เดี๋ยววันนี้น้องเนมให้ของดีนะจ๊ะพี่เกียร์ พี่จะได้ใช้สรรพนามนั้นกับมันเสียที ฮ่าๆๆ"

"อะ....ไอ้บ้า!"

“ป๊าดดด บ้าบ้าบ้า ตัวเองบ้า เดี๋ยวนี้ด่าเค้าด้วยถ้อยคำน่ารักจังเลยนะคะตัวเอง เค้าเขินนะคะ กร๊ากก” ไอ้เนมทำท่าทุบมือไปมา แล้วส่งสายตาวิ๊งๆมาให้ ไอ้เชี่ยเนมเปลี่ยนไป!!!!!! ผมเม้มปากแน่น ค้อนตาส่งไป ฝากไว้ก่อนเถอะพวกมึง วันนี้พ่อมาคุม ถ้ามันไม่มา กูจะกระโดดถีบยอดหน้าพวกมึงไปหมดแล้วสาดด

แล้วสายตาก็ไปสบตาคู่หนึ่งที่มองนิ่งๆ หน้านิ่งๆ แต่ผมเห็นนะว่านัยน์ตามันวิบวับเหมือนเจอเรื่องถูกใจอยู่! ไอ้บ้าน้ำแข็งแมร่ง! แล้วดันขยับปากพูดแบบไร้เสียงว่า 'หน้าแดงจัง' แล้วยิ้มหวานให้ไอรักดอกหนึ่ง ไอรักเสียภาพพจน์หมดแล้วฮื้อๆๆ

“แมร่ง” ผมสบถเบาๆ แล้วเดินหนีออกไปจากห้องไอ้บอสอย่างด่วน แต่ไม่วายได้ยินเสียงไอ้พิชหัวเราะตามหลัง

“เฮ้ย ไอ้เนมเรื่องจริง เสือกหน้าแดงเป็นลูกตำลึง ฮ่าๆๆๆ ไอรักเอ๊ยย”




[อ่านต่อด้านล่าง]
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่18* P.7 [21/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 21-03-2013 23:12:16
[ต่อจากด้านบน]


"ยิ้มอะไรครับ" ไอ้คุณน้ำแข็งที่เดินตามเป็นปลิงเกาะเช้าเกาะเย็นนั่งอมยิ้มอยู่ปลายเตียงมาตั้งแต่เข้าห้องละ พี้ยามาเปล่าวะ ยิ่งหน้าเถื่อนๆ(แต่หล่อมากสำหรับผม)ที่เข้าองค์ประกอบคนเมายา เห็นแล้วมัน....

น่ารักอะ อิอิ

"ไม่ได้ยิ้ม" ถุย มุมปากมึงกระดกขึ้นแทบจะเป็นรูปตัวยู แก้ตัวน้ำไม่ใส ป๋มไม่เชื่อหรอกครับน้ำแข็ง

"ก็นี่อะ คุณยิ้มชัดๆ ยิ้มอะไร อ้าว! แล้วหัวเราะอะไรเนี่ย" ผมเริ่มหน้างอเป็นกระบวย มันหัวเราะอะไรผมไม่รู้อะ ยิ่งผมหน้างอมันก็ยิ่งชอบใจ สนุกที่แกล้งผมหรือไง จะงอนแล้วนะ!

"หึหึ อย่างอนสิ" มันว่าแล้วก็เดินมากอดจากด้านหลังผมที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง จ้องตากันผ่านกระจก ตอนแรกจะง้างปากดุมัน แต่เห็นสีหน้ามันที่กำลังมีความสุข ผมก็ไม่กล้าพูด ได้แต่ก้มหัวงุด

"มะ ไม่ได้งอน..สักหน่อย" มันกระชับแขนแน่นขึ้น แล้วกดจมูกกับปากลงพวงแก้มผมแน่นและเนิ่นนาน จนเผลอเอียงคอให้ทำถนัดขึ้น

"อืม...ไม่ได้งอนแล้ว แต่หน้าแดง" มันว่าแล้วก็พรมจูบทั่วทั้งใบหน้า ทำผมหัวเราะคิกคักเพราะจั๊กจี๋ มือก็ดันปากมันออก แต่เกียร์ก็ไม่ยอมแพ้ ทำปากขมุบขมับบนฝ่ามือผมอีก

"ฮ่าๆ อะไร! ใครแดง ไม่มี! คุณมั่วแล้ว" มันจับคางผมให้หันไปมองกระจกอีกรอบ แล้วกระซิบข้างหู

"ทั้งแดงทั้งหอมและหวานขนาดนี้ แล้วข้างใน....จะแดงขนาดไหนนะ" จังหวะที่มันเว้น มือใหญ่ลูบขึ้นจากสะโพกมาสะกิดยอดอกผ่านเนื้อผ้า แล้วขบใบหูเบาๆ

"อ๊ะ เกียร์ คนอื่นรออยู่นะ...." เสียงหายใจถี่หนักของผมกับมันดัง

"ช่างมัน"

"อื้อ ไม่เอา อย่าเล่นสิครับ ..ไม่ ไม่งั้นคืนนี้ผมไปนอนที่อื่นนะ" ผมกลั้นใจพูดท่าไม้ตายออกมา มันหยุดทันที ก่อนขมวดคิ้วเป็นปมแน่น แล้วหันหลังไปรื้อเสื้อผ้าในกระเป๋าอย่างเงียบๆ

"........"

"...เกียร์ครับ" มันชะงัก

"อืม"

"โกรธผมเหรอ.." ผมค่อยๆเดินไปหามันช้า พลางถามเสียงหงอยอย่างไม่มั่นใจ

ผมกลัว ไม่อยากให้มันโกรธ ไม่อยากให้มันเย็นชาใส่

มันหันมามองแล้วยิ้มบางๆให้นิดหนึ่ง

"ไม่ได้โกรธ มาแต่งตัวได้แล้ว"

"ง่ะ..."

"อยากโดนปล้ำหรือไง หื้ม" มันเลิกคิ้วถามเหมือนไม่ได้ต้องการคำตอบ ทำหน้าเจ้าเล่ห์จะเข้ามาจับ ผมถอยกรูดวิ่งหนีรอบห้องทันที

"อ๊ากก เกียร์ แฮ้กๆ ไม่อ๊าวว ผมยังไม่อยากโดนเสียบค้าบบ"

"ถ้ายังไม่อยากโดนก็รีบๆมาเปลี่ยนเสื้อซะ!"




“คุณน้ำแข็ง!” มันหันมาเลิกคิ้วใส่

“....”

“เปลี่ยนเสื้อเถอะครับ” ก็ดูมันสิครับ ใส่กางเกงยีนส์สีดำ เสื้อยืดคอกลมสีดำ ลายออกแนวชาวร็อค เมทรัลหน่อยๆแขนเสื้อรัดนิดหน่อยเพราะกล้ามแขนที่เป็นมัดๆของมันเหมือนคนออกกำลังกายสม่ำเสมอ น่ากัดน่ากินอิ๊บอ๋าย ในมือถือไอโฟนสีดำ เคสสีดำที่คล้ายกับผม หากสังเกตจะเห็นลวดลายหวานชื่นมื่นของเรา คือจะบอกว่ามันจะไปเดินแบบที่ไหน..

เท่ห์โคตร!!!

“ดูไม่ดีเหรอ” คำพูดเหมือนไม่มั่นใจ แต่สีหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆทั้งสิ้น

“เปล่าๆ คือ เอ่อ เดี๋ยวยุงมันมากัดหรอก” ไอ้ผมก็แถไปโน่น จะบอกมันได้ไงว่าเสื้อยืดปกติมันจะทำผมใจสั่นขนาดนี้  ไม่ได้ๆเดี๋ยวมีคนมาอ่อยเกียร์ ผมก็แย่สิ ป้องกันไว้ก่อนแล้วกัน

“หึ เป็นห่วง? นั้นเลือกให้หน่อยสิ” มันคิ้วขมวดด้วยความสงสัยนิดหน่อย แล้วเปลี่ยนมาทำหน้ากรุ่มกริ่มใส่ แล้วเอื้อมมือใหญ่คว้าเอวหมับ

“ง่ะ ไม่ได้ห่วงซะหน่อย...แค่หวง” ผมพูดปากขมุบขมิบแล้วเสียงแผ่วตอนท้าย มันคงไม่ได้ยินหรอก คุณน้ำแข็งก็ซื๊อซื่อ เชื่อผมอีก แต่ช่างเหอะ เอาเป็นว่ามันไม่รู้ว่าผมหวงก็ดีละ เดี๋ยวมันจะได้ใจไป




“จัดไปโว้ย กุ้กิ้ๆ” เสียงไอ้เนมพร้อมยื่นแก้วที่นายคลื่น มือชกอันดับหนึ่งของกลุ่มชงมาให้ผมกับเกียร์ ผมหันไปขอสัญญาณอนุญาตจากคนข้างๆ มันส่ายหน้านิดหนึ่ง

เป็นอันว่าเหล้าเบียร์ที่พร้อมจะโดนวันนี้ต้องจ๋อยไป..

“โห่ ให้มันกินเหอะว่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงมันหรอก ไอ้นั่นมันคอแข็งจะตายห่า" พิชพูด พลางมองหาเหยื่อเด็ดๆ

"อ้ออ อีกอย่าง มึงจะได้เห็นแก้มนุ่มๆ ขาวๆ ที่เห็นเส้นเลือดบางๆของมัน ขึ้นสีชมพูอ่อนๆน่าหยิกน่าฟัดสัดๆนะโว้ยกูจะบอกให้” คิมพูดขึ้น เฮ้อ มันไม่หลวมตัวเชื่อมึงหรอก เกียร์ใจแข็งจะตาย ไม่มีทางกลืนน้ำลายตัวเองอยู่แล้ว ผมหันไปลอบมองหน้ามัน แต่ก็ต้องตกใจ..!!

มันมีอาการลังเลผ่านทางสายตาอะ!!! ผิดคาด!!!!!

“เกียร์ก็เกียร์เหอะ เจอไอรักแก้มแดงๆเข้าหน่อย รับรอง.....อ่อนยวบ” คลื่นไซโคต่อ

“หึหึหึหึ”เสียงหัวเราะหื่นๆของไอ้คิมกับไอ้คลื่นประสานกันเป็นหนึ่งครับ

“หน่า กูรู้ว่ามึงอยากเห็นภาพที่ไอ้คิมพร่ำเป็นตุเป็นตะ เนี่ย สามีไอ้บอสอุส่าห์ชงให้แล้ว นานๆจะมาที่นี่ที จัดไปเหอะ” พิชพูดขึ้น ไอ้บอสปาน้ำแข็งก้อนใหญ่ใส่ทันที แต่ชั่วพริบตาไอ้พิชปัดทิ้งเหมือนรู้ว่าจะเกิดขึ้น

“สม” ไทป์หัวเราะเยาะใส่ พิชยักไหล่เบาๆ  ยกแก้วดื่มต่อ

“อ่ะ ให้มันแดกเหอะ ดูหน้ามันดิ เสี้ยนจะตายห่าอยู่แล้วมั้งนั่น” คิมบุ้ยปากมาทางผม เกียร์หันมามองนิ่งๆ ผมเลยรีบช้อนตาอ้อน  แล้วกระตุกชายเสื้อมันเบาๆ สายตาคู่นั้นมันเริ่มมีอาการลังเลอีกแล้ว! ผมเลย...

"นะครับ คุณน้ำแข็งของไอรัก" ผมพูดเสียงอ้อน ตาก็มองมันตาปริบๆ มือก็แกว่งชายเสื้อมันไปด้วย

แต่อยากจะถีบตัวเองตาย พูดออกไปได้ไงวะนี่ คำพูดน่าอายสุดๆ

มันนิ่งไป เบิกตาอึ้งๆนิดหน่อย สายตามันเลื่อนลงมาอยู่ที่ริมฝีปาก แล้วเคลื่อนตัวลงมาใกล้

"เฮ้ย กูว่ามึงจะได้กินอย่างอื่นแทนละ เอาไง จะให้มันแดกไม่แดกสาดดด" เสียคิมพูดขัดขึ้น เกียร์จิ๊ปากเบาๆอย่างขัดใจ แล้วยกนิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง ขึ้นมา........สามนิ้ว!!!!

“เยดแม่ม มีจำกัดแก้วด้วยว่ะ นั้นออนเดอะร็อคนะไอ้รัก..ชะอุ่ย” คลื่นหันมาขยิบตาใส่ผม เกียร์ตวัดสายตาใส่ประมาณว่าลองมอมมันสิ กูจับฆ่าแมร่งทั้งผับ

“เพียวได้......แต่” เฮ้ยยยย ผีใจดีเข้ามันเหรอ ลาภปากไอรักแล้ววันนี้.. แต่ แต่อะไร

“สามแก้วนั้น" หืม??

"รวมแก้วเกียร์ด้วย”

ตึง..........

..........

สัด...........

แล้วมันจะเมาให้กูไหมล่า!!!!!!!!!!!


“งายล่าพวกมึงงง เมากานยาง เอิ้ก” เสียงไอ้เนมไปคนแรกแล้วครับก็มันเล่นดวนกับไอ้พิช น้องชายเจ้าของผับ ไม่เมาก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว

“เฮ้อ มึงแหล่ะเมาละ” ผมพูดพลางถอนหายใจกับอาการไอ้เนม

“อารายของมึง กูยางม่ายเมาก็พอ แล้วสามแก้วของมึงเป็นงาย แดกยางม่ายถึงกึ๊บ อาหร่อยม้ายล่า ฮ่าๆๆ” เออ แทบจะหลั่งน้ำตาให้กับจำนวนแก้วเหล้าแสนน่ารักเลยล่ะ แต่ก็ไปงอนเจ้าตัวก็ไม่ได้นะครับ เพราะตกลงกันไว้แล้ว เอ่อแต่ก็ไม่เชิงตกลงนะ เหมือนผมโดนบังคับมากกว่า

“กูว่ามันไม่ไหวละ เอาแมร่งไปเก็บไป” ไทป์พูดขึ้น

“ครายม่ายหวายว๊า แมร่งงงอ่อนจริ๊งว่า ฮ่าๆๆ เอิ้ก” มึงนั่นแหละ

“เดี๋ยวกูแบกแมร่งกลับก่อนแล้วกัน ไปๆ” พิชพูดแล้วหันไปสะกิดเบาๆด้วยฝ่าเท้า ร่างชายไร้วิญญาณฟุบลงคาโต๊ะทันทีที่แตะ พิชส่ายหน้าเอือมแล้วชวนไอ้คิมแบกซากชายนิรนามกลับห้องไป

“หน้าแดงใหญ่แล้ว หึหึ” มือใหญ่แตะแก้มเบาๆ ผมสะดุ้ง ขนลุกซู่ เพราะมือมันเพิ่งหยิบแก้วเหล้ามา เย็นเจี๊ยบเลยครับ

“มันเป็นเองอะ”

“ไม่ชอบเหรอ”

“งือ มันไม่เหมือนคนอื่นอะ ดื่มแค่นิดเดียวก็แดงหมดทั้งตัว”

“แต่เกียร์ชอบ” มันก้มลงคลอเคลียแก้มให้ผมเขินเล่น โอ้ยย อย่าเข้ามาใกล้นักสิ มันจั๊กจี้รูหูโว้ย

“เกียร์เขยิบไปหน่อย ..นี่ อย่าเบียดผมนักสิ” มันลอยหน้าลอยตาทำเป็นไม่สนใจ กลับกระแซะเข้ามาเบียดกว่าเก่า แถมเอามือคลึงแถวก้นกบผมไปมา ปัดไปก็กลับมาคลึงใหม่ จนต้องปล่อยเลยตามเลย เล่นเอาขนลุกไปหมด มันสยิวอะ

“ไม่หนาวเหรอ”

“ไม่หนาวๆ ..ผะ ผมร้อน” ร้อนทั้งช่วงบนช่วงล่างเพราะคุณนี่แหล่ะแง่ง

“เหรอ เห็นหนังไก่ขึ้น” ???

“อะไรครับ หนังไก่” แล้วมันก็ลูบแขนผมเบาๆแทนคำตอบ

 “เอ่อ เขาเรียกว่าขนลุกครับ” คือหน้าผมในตอนนี้เหมือน -_- ไม่มีผิดเลยล่ะ

“ก็มันเหมือนหนังไก่” มันบอกหน้าเฉยเมย แต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่ามันพยายามทำหน้าเหรอหราชวนให้หมั่นไส้จังหว่า

“ไอ้บอส” ผมเรียก แล้วบุ้ยปากไปหาไอ้คลื่น ไอ้นี่ก็อีกคนม่อไม่เข้าเรื่อง มือปัดป่ายเลื้อยทั่วเรือนร่างหญิงผมสั้นสีแดงเปรี้ยวจี๊ด แต่ไอ้นี่ไม่ได้เมาหรอก แกล้งเมาหลอกแต๊ะอั๋งเขาไปทั่ว

ทำไมถึงรู้น่ะเหรอครับ ก็มุขนี้มันเคยๆกันนี่หว่า

“ทำไม ปล่อยมันไปดิ” บอสเลิกคิ้วให้ประมาณว่า ‘กูไม่ใช่ผัวมัน มาบอกกูทำไม’

“เมื่อกี้กูเห็นผู้หญิงคนนี้มากับแฟนเขาอะดิ กูว่ากำลังจะเกิดเรื่...”

“มึงทำอะไรเมียกู!!!!!!” นั่นไงพูดไม่ทันขาดคำ รองเท้าสีดำข้างหนึ่งลอยลงมาจอดบนโต๊ะด้วยความเร็วสูง

“กริ๊ดดดดดดดด”

“เชี่ย! น้องแอปเปิ้ลมีผัวก็ไม่บอก” ไอ้คลื่นร้องเสียงหลงแต่มือยังคาอยู่ใต้เสื้อครึ่งตัวรัดๆของน้องแอปเปิ้ลอยู่เลยครับ

“เมียกูชื่อเปิ้ลเฉยๆโว้ย!!!!!”

"อ้าว บอกกูไมอะ ก็น้องแอปเปิ้ลบอกกูแบบนี้เองนี่หว่า"

"อีเมียตอแหลไม่รักดี!!!" เสียงพี่แกดังอย่างกับใช้โทรโข่งสามตัว

"แอ๊บซะเปิ่นทั้งผัวทั้งเมีย เหอะ" เอ้อะ..

"มึงว่ายังไงนะ ห๊า??!!" โห พี่เบิ้มหันมาทำหน้าเหมือนยักษ์ขมูขีใส่ไอ้(เชรี่ย)บอส......T0T!!!!!

"ไม? กูพูดตามที่เห็น" บอสลอยหน้าตอบ

"มึงอยากลองดีกับกูเหรอไอ้สัด!! กูเห็นตำตาว่ามึงเบียดเมียกู จับนมเมียกู! มึงรู้ไหมว่ากูเป็นใคร!!!!!" เสียงตวาดกังวานไปทั้งร้อง เสียงดนตรีตอนนี้หายไปแล้วครับ คนอื่นตื่นตระหนกหนีออกไปเกือบทั้งร้าน อีกจำนวนยังใจกล้ายืนดูเหตุการณ์จากมุมร้าน ไอ้พี่เบิ้มและเพื่อนมันประมาณเจ็ด-แปดคน ยืนกร่างจันหน้ากับพวกผมกันอย่างไม่ละสายตา  เกียร์ดึงมือผมให้อยู่ข้างหลังมัน แต่ผมไม่ใช่ผู้หญิงนะครับ! จึงเบี่ยงออกมายืนข้างๆมันโดยไม่สนใจสายตาคมดุที่จ้องกลับมา

"มึงไม่รู้แล้วพวกกูจะไปรู้กับมึงเหรอวะ แล้วสรุปมึงเป็นใครอะ เอาเรซูเม่มาให้กูดูดิ" คลื่นพูดกวนตีนใส่มัน หน้าตาเอ๋อสุดๆ แต่ใครจะไปรู้ว่าไอ้นี่มันบื้อจริง ไม่ได้จะไปกวนส้นใครหรอกครับ

"มึง!!!! กวนส้นตีนกูเหรอวะ! นี่ถิ่นกู พวกมึงกล้ามาก!!" เสียงพี่แกไม่เบาลงเลย

"มึงก็กล้ามาพูดแบบนี้กับกูเหมือนกัน" บอสมองหน้าพี่เบิ้มนิ่งๆ พลางยิ้มเย็น ชวนให้คนมองขนลุกไปตามๆกัน

"หมายความว่ายังไงสัด?!"

"ถ้าพวกมึงเก่งแต่ในถิ่นของตัวเอง ก็อย่ามายุ่งกับพวกกูเลยดีกว่าว่ะ" ไทป์พูดแทรกขึ้น มันคงกลัวไอ้บอสจะทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่

"ฮ่าๆๆๆ มึงจะบอกว่าตัวเองใหญ่มากในประเทศนี้เลยดิ หน้าจืดๆอย่างพวกมึงคงมีแต่เงินอย่างเดียวแหล่ะว่ะ ฮ่าๆๆๆ" หนึ่งในเพื่อนของมันบอก ชวนกระตุกหนวดไอ้บอสเหลือเกิน มันจะเข้าไปหาอีกฝ่าย แต่ไทป์กันมันเอาไว้ก่อน จึงได้แต่ทำหน้าหงุดหงิด

"ทะ ที่รักคะ เปิ้ลเห็นเขานั่งเหงาๆ(?)ในร้าน  เปิ้ลเลยมาคุยกับเขาเฉยๆ แต่คนมันเบียดกัน เลยเหมือนเปิ้ลไปใกล้ชิดคลื่น แต่จริงๆแล้วไม่ใช่นะคะ มันเป็นมุมกล้องค่ะที่รัก เปิ้ลรักที่รักคนเดียวอยู่แล้ว จะ ใจเย็นนะคะที่รัก" นางสาวป.(นามสมมติ) กล่าวคำยุติข้อพิพากษ์ด้วยถ้อยคำเท็จ(สุดๆ)และขอวิงวอนด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนเพื่อไกล่เกลี่ยให้กับทั้งสองฝ่าย โดยยืนยัน ตนเป็นคนเข้ามาคุยแก้เหงาให้กับผู้ต้องหาเท่านั้น หากแต่พยานกว่าค่อนร้านนำพาบรรยากาศให้ผู้เป็นสามีเข้าใจผิด  โดยหารู้ไม่ว่าคำพูดของนางในเวลานั้นเป็นการจุดไฟนัยน์ตาของแฟนหนุ่มให้ลุกโชนมากกว่าเดิม

...........จบข่าว อชิระรายงาน............

"อีเปิ้ล! กูเห็นมึงพูดแบบนี้มาหลายรอบแล้ว! แดกแขกหน้าใหม่ทุกคน มึงอยากมีหลายผัวภายในคืนเดียวไหมล่ะ! กูไม่โง่กับมึงและผัวใหม่มึงแล้ว อีนังงูพิษ! จัดการพวกมัน!!!!!!!!"

“หนีโว้ย!!!!!!!!!!!!!!!” สิ้นเสียงตัวเอง มือคว้าจับข้อมูลไอ้บอสกับเกียร์ที่อยู่ใกล้ที่สุดวิ่งหนีหน้าตั้ง ส่วนไอ้ไทป์จิกหัวไอ้คลื่นตัวดีวิ่งเลยสิครับ

“แฮ่กๆ What the fuck!!!!!” ผมสบถออกมา ยืนก้มหน้าเอามือชันเข่า โอย ไอรักเหนื่อยจริงอะไรจริงครับ T.T

“หนีแมร่งมาทำไมวะ” บอสพูดขึ้นอย่างหงุดหงิด อย่างที่บอกว่ามันโหด อารมณ์รุนแรง(ปกติจะเก็บเอาไว้) เส้นใหญ่ และพร้อมจะมีเรื่องกับทุกคน

“แฮ่กๆๆ เฮ้ออ ไอ้ห่า กูมาเที่ยว ไม่ได้มาตี กูยังอยากนอนห้องแอร์อยู่นะสัด” ผมพูดขึ้น

“เกือบแล้วๆ คลื่นเอ๊ย ขวัญเอ๊ยขวัญมา” ไอ้คลื่นเรียกขวัญตัวเองกลับมา

“โดนเสียบ้าง ซ่าดีนัก น่าจะไปนอนคุกนะมึงอะ” ผมพูด

“อดแดกน้องแอปเปิ้ลเลยกู” ยังไม่เข็ดครับ ยังไม่เข็ด

“แต่จะได้แดกตีนแทน” ไทป์พูด มันพูดแล้วเว้ยเฮ้ย

“เออ อยากกินพอดี ถุยยย หุบปากไปเลย ฮึ่ย”

 “พอๆ แยกกันกลับห้องเหอะ ง่วงว่ะ” ว่าแล้วก็หาวเบาๆ ตาเริ่มปรือๆ



"ไปอาบน้ำได้แล้ว อย่าซกมก" เสียงดุดังขึ้น ผมหยีตามองคนนุ่งผ้าเช็ดตัวเท้าสะเอวอยู่ตรงหน้า

"อีกแปบหนึ่งนะครับ"

"แปบหนึ่งมาตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว" น้ำเสียงมันเริ่มกดดัน แต่ผมไม่ไหวจะถ่างตาแล้วนะครับ ก็คนมันง่วงนี่หน่า

"งือหน่า งี้ดๆ"

"ภาษาอะไรน่ะ แล้วนี่จะไม่อาบจริงๆใช่ไหม"

"แปะไว้พรุ่งนี้แล้วกันเนอะ งืม" ผมงึมงำตอบ

"ได้" แล้วมันก็เงียบไปจนผมแปลกใจ แต่ช่างเถอะ สงสัยคงไปแต่งตัวล่ะมั้ง ตอนนี้ขอนอนก่อนดีกว่า ไม่ไหวจริงๆ

สักพักเหมือนเตียงยุบลงจากข้างหลัง

"อื้อ....." มือสากไล้ขึ้นตามสันหลัง ก่อนเอื้อมมาบี้หัวนมทั้งสองข้างจนตั้งชูชัน ผมแอ่นอกอย่างลืมตัว จนด้านหลังของผมเด้งไปชนกับแท่งร้อนด้านหลัง มันจับผมหงายตัวแล้วระดมจูบไปทั่ว เม้มจนขึ้นสี ผมร้องครางบิดตัวอ่อนไปหมด ทั้งเสียวทั้งขนลุก มันเบียดตัวลงแนบชิดกันกับทุกส่วน จนรู้สึกถึงด้านล่างของมันที่ถูกับของของผมจนมันร้อนและพองนูนจนน่าตกใจ

"หอม" ปากมันไล่เม้มตามซอคอกรุ่น มือทั้งคู่ยังคลึงหัวนมผมไม่ปล่อย

"อ้ะ เกียร์ ผม....ผมง่วงนะ" ผมหลุดครางเสียงหวาน

"เมื่อไรจะให้ไอรักเป็นของเกียร์สักทีครับ.." ผมสะอึก มองตามันที่มองลงมาอย่างจริงจังและใคร่รัก ผมรู้ว่ามันอยากเราเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่ใช่แค่เพียงแค่ทั้งใจ แต่อยากยึดทุกสิ่งให้เป็นของกันและกัน

เพื่อตอกย้ำว่าผมเป็นของมันเพียงคนเดียว

และมันไม่ใช่เรื่องแปลกเลย ถ้าหากมีอารมณ์รุนแรงบางอย่างกับการที่อยู่ใกล้คนที่เรารัก

"ที่รัก......" ที่ผ่านมามันไม่เคยบังคับหรือเร่งรัดอะไรจากผม แต่ครั้งนี้คงทนไม่ไหว จากสายตาที่จ้องมาอย่างเว้าวอน

"........ไอรักเชื่อใจเกียร์นะครับ" ผมยิ้มให้มันแล้วเงยขึ้นจูบทั้งกึ่งนั่งกึ่งนอน มันอึ้งๆไปพักหนึ่ง ก่อนยิ้มหวานที่สุดแล้วบดริมฝีปากลงมาอย่างเร้าร้อน  ลิ้นกวาดเข้ามาเหมือนหิวกระหาย เราแลกลิ้นจนผมทุบอกหนาเบาๆแพราะเริ่มหายใจไม่ทัน มันค่อยๆถอนอย่างเชื่องช้า แล้วขบริมฝีปากล่างผมเบาๆอย่างหลงใหล

"จะ เจ็บ" มันลงมือดูดหัวนมผมแรงๆอย่างหมั่นเขี้ยว จนผมต้องร้องออกมาแล้วซี๊ดปากเบาๆ มันยิ้มกริ่มอย่างพอใจ เลื่อนลิ้นลงพร้อมเม้มไปถามร่างกายจนถึงแกนกลาง มันจ้องอยู่สักพักจนผมต้องรีบเอามือปิดเอาไว้ด้วยความอาย มันเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ แล้วจูบลงมือที่ปิดส่วนนั้นเบาๆ ก่อนดูดจนเป็นจ่ำๆ

"ขอชิมหน่อยนะครับ"

เวลานี้เจือกพูดเพราะนะไอ้บ้า!

ผมเม้มปากแน่น แล้วส่ายหน้า มันจ้องตาผมด้วยความเสน่ห์หา แต่ลิ้นยังเลียไปตามง่ามนิ้ว

ภาพที่ผมเห็น ทำเอาตัวผมแทบจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆเสียให้ได้

นี่ตูต้องเสียหนุ่มวันนี้เหรอเนี่ย โอ้ไม่นะ T0T...

" ไม่เห็นต้องอายเลย ให้เกียร์ดูไม่ได้เหรอ" มันพูดเสียงพร่า ผมมองหน้ามัน ก่อนพยักหน้าแล้วคลายมือออก

" ให้เกียร์เป็นของไอรักนะครับ" ไม่ใช่ผมเหรอที่ต้องเป็นของมันน่ะ!

"งือ" อยู่ดีๆมันก็ลุกออกไปเปิดลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วหยิบหลอดอะไรสักอย่างออกมา อ่อ เจลหล่อลื่น...

เดี๋ยวนะ มันมีได้ไงวะ!!!!!!!!!

"หึหึ ตัวแดงไปหมดแล้ว น่ารักว่ะ" มันรีบเข้ามานั่งแล้วรีบถอดเสื้อกางเกงให้ผม ส่วนผ้าเช็ดตัวมันหายไปไหนแล้วไม่รู้ครับ ผมรีบหุบขาทันทีที่เห็นน้องชายตัวใหญ่ของมันโด่ขึ้นเรื่อยๆโดยที่ยังไม่ได้ชักเลย มันใหญ่มากจนผมนึกภาพไม่ออกว่าจะใส่เข้าไปในตัวผมได้อย่างไร

น็อตตัวผู้แมร่มคนละไซส์กับน็อตตัวเมียของกระผมเลยอะ!!!!!!!!








TBC----------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>


- ปิดเทอมนี้ เที่ยว เล่น ลองฝึกงานบริษัทพ่อ หาประสบการณ์ เยอะแยะมากมายจนไม่ได้มาต่อเลย ขอโทษด้วยน้า

- ไอรักใกล้เสียตัวซะแล้ว เอาไงดี เสียไม่เสียดีคร้าบบ

โซ่♥
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่18* P.7 [21/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 21-03-2013 23:52:42
เกียร์ท่าทางจะหงุดหงิดน่าดูเลยนะตอนโดนปลุกเนี่ย
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่18* P.7 [21/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 22-03-2013 00:53:26
ไอรักจะเสียตัวแล้ววววววว  :z1:

มันค้างงงงงงงงงง  :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่18* P.7 [21/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 22-03-2013 01:48:01
ใกล้แล้วๆ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่18* P.7 [21/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 22-03-2013 01:54:14
ตัดฉับมากค่ะ งี้ดๆ
ไอรักขี้อ้อนดีจัง คุณน้ำแข็งของเราก็หวงแฟนโพดต้องตามมาด้วยอยู่แล้น ใครจะปล่อยให้่ห่างตา
ฮาตอนเพื่อนขอน้ำกิน ของไอรักๆๆๆ พูดเป็นอยู่คำเดียว น้ำแข็งจริงไรจริง
แต่พออยู่กันสองคนเค้าก็แพรวพราวอยู่น้า 555

 :pig4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่18* P.7 [21/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 22-03-2013 02:09:05
 o13 o13  เสียโล๊ดรออยู่  อิอิ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่18* P.7 [21/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 23-03-2013 15:25:01
ยอมไปเถอะไอรัก เกียร์รอมานานแล้ว
สงสัยถ้าผ่านคืนนี้ไอรักคงไม่ได้ไปไหนแน่ 5555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่18* P.7 [21/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: rabbit-orange ที่ 23-03-2013 17:00:02
 :haun4:.... :z1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่18* P.7 [21/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 24-03-2013 14:55:34
ไอรักใกล้เสียตัวแล้วอ้ะ ว้ายยยย

ชอบคิมกับเนม ตลกได้อีกนะ55555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่18* P.7 [21/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: andear ที่ 24-03-2013 16:48:44
ไอรักจะเสียสาว(?)แล้ว อีกนิดเดียว :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่18* P.7 [21/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 26-03-2013 07:54:02
ไอรักเสร็จแน่งานนี้ ฮาๆ ไม่รอด
แถมเปิดครั้งแรกก็เจอของใหญ่ซะด้วย
ฟ้าเหลื่องก็งานนี้ล่ะ >.,<
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่18* P.7 [21/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 26-03-2013 20:55:40
น่ารัก...หวาน...และ :hao6:
รอลุ้นต่อไป...

 :L2: &  :L1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่18* P.7 [21/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: MangoBlue ที่ 27-03-2013 14:43:35
 :hao6: กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดให้ไอรักเค้าเสียตัวไปเถอะค่ะ รอฉากนี้มานานแล้ว อยากรู้ว่าเกียร์จะฟีลไหนหลังจากได้ไอรักเสร็จ คาดว่าต้องหวงมากกว่าเดิมล้านเท่าแน่ๆเลย อิอิ ชอบจังหลังจากเครียดเรื่องผิดใจกับโฟ่ก็มาหวานกัน อ่านแล้ยมันอิ่มใจดีมากกก  :haun4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่18* P.7 [21/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 27-03-2013 20:08:41
สนุกมากกกกก หลงรักเจ้าชาย อิพี่เกียร์จะหวงไปไหนน ได้(รัก)กันเสียที! 555 :katai2-1: :hao6: :katai5: :oo1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่18* P.7 [21/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 29-03-2013 06:45:51
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่19*เป็นของกันและกัน P.7[31/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 31-03-2013 21:12:43
ตอนที่ 19


"ไม่ต้องเกร็งนะ" เสียงกระซิบพร่าข้างหูจากคนที่กำลังจับขาทั้งสองข้างของผมแยกขาออก แล้วก้มลงมาประกบปาก  ผมเผยอปากรับลิ้นร้อน แลกลิ้นพันกันยุ่งไปหมด จนมันครางต่ำอย่างพอใจ

"อืม..."

"กะ..เกียร์" ผมเรียกเสียงสั่น มองตามันเหมือนตกสะกดอยู่ในภวังค์

"แมวน้อยของเกียร์..........เกียร์รักไอรัก" มันผละปากออกเล็กน้อย มองด้วยสายตาหวานฉ่ำ จับมือผมทาบลงบนอกหนาด้านซ้ายให้รู้ว่าด้านในกำลังเต้นรุนแรงไม่แพ้ผมเลย แล้วบอกรักเสียงหวานจนผมต้องเม้มปากแน่น ไม่กล้าสบตาเยิ้มของคนตรงหน้า

ผมสะดุ้งหน้าตื่นเมื่อนิ้วเปียกชุ่มเริ่มสอดเข้ามาช้าๆ สายตามันยังคงจับจ้องอยู่กับตาสีน้ำทะเลอยู่ตลอดเวลา

"อ๊ะ........."

"เจ็บเหรอ" ผมส่งยิ้มบางส่ายหน้าเบาๆให้มันสบายใจ เพราะมันทำหน้าเป็นห่วงเป็นใยและพร้อมจะหยุดทุกเมื่อหากผมเพียงเอ่ยปากบอกว่าเจ็บ

แต่ความจริง มันเจ็บมากครับ รูซิงๆที่ไม่เคยมีใครบุกรุก โดนนิ้วใหญ่สมร่างกายของมันไปก็เจ็บจนจะแย่แล้ว..

"กลัวไหม"

"จึ๋งนึง" พร้อมท่าทางประกอบ ยกนิ้วโป้งกับนิ้วชี้เกือบติดกัน ตาโตๆของผมมองอีกฝ่ายตาแป๋วๆ แล้วยิ้มให้มัน

มันยิ้มขำ มองผมอย่างใคร่รัก มือสากลูบแก้มผมที่คาดว่าตอนนี้คงแดงแจ๋ ก่อนจับมือให้ผมจับขาตัวเอง แล้วก้มลงจูบอย่างเร่าร้อน ก่อนกัดขบตามซอกคอลามมาถึงหัวนม มันดูดให้แข็งเป็นไต มือข้างหนึ่งชักให้ผมเนิบๆ ส่วนอีกข้างยังมีนิ้วกลางของมันแทงเข้าออกในรูผมตามจังหวะ

"เพิ่มอีกนิ้วนะ"

"อะ.....อืมม....ฮ้ะ.." มันสอดเข้ามาอีกนิ้ว แล้วเงยขึ้นมาจูบอย่างดูดดื่ม หายใจไม่ทันจนต้องทุบต้นแขนมันเบาๆ แล้วหันหน้าหนี หลับตาปี๋ สีหน้าเริ่มเหยเกเมื่อมันสอดอีกนิ้วเข้ามาช้าๆ

"ไหวไหมรัก" นิ้วมันชะงักแล้วพูดขึ้น ผมลืมตาก็เห็นมันมองมาอย่างกังวล

"..ไอรักไหว เกียร์ทำเถอะนะ" มองมันน้ำตาคลอแล้วเอ่ยเสียงหวาน

"...." มันทำท่าลังเล เพราะตัวผมยังสั่นไม่หยุด ผมจึงคว้าคอมันโน้มลงมาจูบ ก่อนผละปากออกมาเพียงนิดเดียว

"นี่เขาเรียกว่าสั่นสู้ต่างหาก" ผมขยิบตาให้มันทีหนึ่ง จนมันหัวเราะในลำคอเบาๆกับท่าทางของผม ไอ้ผมก็ว่าไปโน้น ทั้งๆที่ความจริงแล้วมันสั่นเพราะโคตรเจ็บต่างหาก เหมือนมันจะรู้ จึงดึงนิ้วออกอย่างนุ่มนวล

ผมเห็นอย่างนั้นจึงรีบใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้คล้องคอมัน  ไปจับนิ้วชุ่มให้ไปแตะช่องหลัง พร้อมจูบคางสากเพราะตอหนวดบาง ก่อนช้อนตาบอกกับมันอย่างออดอ้อน มันมองผมอึ้งๆ อ้าปากค้าง

"ไอรักอยากให้เกียร์สัมผัสจะแย่อยู่แล้วนะ ไม่อยากทำแล้วจริงๆเหรอครับ ที่รัก " จบประโยคมันดึงผมไปจูบอย่างหื่นกระหาย

นิ้วเริ่มสอดเข้ามาใหม่ จากนิ้วเดียวกลายเป็นสองนิ้วอย่างเร็ว เพราะมันขยายมาบ้างแล้วจากเมื่อครู่  มันควานนิ้วลงลึกขึ้น แล้วควงนิ้วไปมาให้รูขยายออกให้มากที่สุด

มันก้มลงแลกลิ้นกับผมอีกรอบ จนผมเริ่มเคลิ้มกับรสจูบ ก็รู้สึกว่ามันเริ่มสอดเข้ามาอีกนิ้ว

"อ๊ะ เกียร์...... พอแล้ว อะ เยอะไปแล้ว มะ มัน......อึด....อัด อ๊า..." มันชักนิ้วเข้าออก ผมครางเสียงหลงตลอดที่นิ้วใหญ่อยู่ในตัวผม

มันแกะมือผมที่กำผ้าปูแน่น ให้มาจับส่วนล่างของมันที่กำลังพองตัวเต้นตุบๆใหญ่ ผมร้องตกใจ  รีบชักมือออก แต่อีกคนกลับจับไว้แน่น

"เดี๋ยวไอรักเจ็บ.."

ไอเท็มกล้วยของคุณใหญ่ไปไหมวะครับนั่น!!!!!!!!!!

มันคงรู้ขนาดตัวเอง จึงหมุนนิ้วให้กว้างขึ้น ผมสะดุ้งตัวกระตุกยามที่มันโดนเข้าจุดกระสันเข้าอย่างจัง มันจ้องผมนิ่งก่อนยิ้มออกมาอย่างพอใจ แล้วสะกิดแกล้ง

"อ๊า ..อ๊า เกียร์ อยะ อย่า กะ แกล้ง ผ ผมมมม......." ผมครางไม่เป็นศัพท์

"หึหึ" อะ ไอ้โรคจิต ถ้าผมเสร็จไปก่อน จะให้มันไปปั่นเองเลย คอยดู

"อ๊ะ ... ฮะ ไม่เอานิ้วแล้ว อื้ออ.. เข้ามาเถอะเกียร์ ฮึก ..โอ้ะ..อ๊า......" มันทำตามคำร้องขอทันที แล้วก้มลงมองช่องล่าง ก่อนสอดใส่เข้ามาช้าๆ ผมจิกมือลงบนไหล่หนาคล้ายกับว่ามันจะบรรเทาความเจ็บ

"ไอรัก..." เมื่อส่วนหัวถูกสอดเข้ามาได้ ก็ค่อยๆดันมาครึ่งทาง มันหยุดแล้วบอกให้หายใจลึกๆ ไม่ต้องเกร็ง ถ้าเจ็บจนทนไม่ไหวให้บอก เขาจะหยุดทันที ผมได้ยินแบบนั้นแล้วอดคว้าต้นคอมันลงมอบจูบแสนหวานให้อีกฝ่ายอย่างเสียไม่ได้

..อ่อนโยนและเร่าร้อนในเวลาเดียวกัน..

"เข้ามาเถอะ..เข้ามาลึกๆเลย สลักตัวเกียร์เอาไว้ตรงส่วนที่ลึกที่สุดในตัวผมเลย ไอรักให้เกียร์ทำแบบนี้แค่คนเดี ย...ว ....อ้ะ .....อ๊า.... " มันเบิกตากว้างเมื่อผมบอกถึงความต้องการของตนเองด้วยสายตาเย้ายวน ไล้มือเช็ดเม็ดเหงื่อตามโครงหน้าคมของคนตรงหน้า ไม่ทันจบประโยคมันดันเข้ามาจนมิดลำ ตัวมันสั่นเทา กัดฟันเสียงดังเหมือนกำลังข่มตัวเอง

"อ๊า.. โอ้ะ....กะ....เกียร์ ฮึก โอ้ย อย่ากัด มะ.. มันเจ็บ......" จะร้องไห้ออกมาก็ร้องไม่ออก มันทั้งจุกทั้งแน่น มันเจ็บและเสียวปะปนกันไปหมด มันซุกหน้าลงซอกคอแล้วกัดดูดอย่างไม่ลืมหูลืมตา จนผมต้องร้องห้าม แล้วหันไปมองกลุ่มผมสีดำของอีกฝ่าย

"อย่าพึ่งมองเกียร์นะไอรัก! ...ให้ตายสิวะ! ตอนนี้หน้ากูต้องเหมือนเสี่ยแก่ตัณหากลับแน่ๆ เหี้ยเอ้ย" มันกัดฟันพูด แล้วพึมพำกับตัวเองในประโยคหลัง

"แต่......"

"รักเกียร์ไหม.." มันเปลี่ยนเรื่องกระซิบถามข้างหูด้วยเสียงกรอด เหมือนยั้งไม่ให้ตัวเองขยับเข้าออกตามใจอยาก แล้วก้มลงไล่ดูดตามตัวผมอย่างบ้าคลั่ง จนผมหน้าเหยเกเพราะความเจ็บทั้งจากช่องล่าง และตามตัวที่มันไล่ดูด มือข้างหนึ่งประสานกัน ส่วนมือใหญ่อีกข้างของมันขยำก้นผมไม่ปล่อย คาดว่าคงไม่พ้นเป็นรอยแดงแน่

"อ๊ะ ..ร ..รัก"

"มากไหม"

"...อื้ม.." ผมหลบตาหวานของมัน แล้วเอ่ยออกมาเบาๆ จะถามอะไรนักหนา แค่นี้หน้าก็เหมือนจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว

"ว่าไงนะครับ?"  แกล้งกระทุ้งเข้ามาแรงๆ จนผมครางอู้

"อื้อ รู้แล้วจะถามทำไมอีกอะ อ้ะ... นี่!!..." ผมตัวสั่นระริกเมื่อมันแกล้งกระทุ้งอีกรอบสองรอบ พร้อมสายตาคาดหวังคำตอบ

"ก็เกียร์อยากฟังอะ" มันทำเสียงง้องแง้ง ไม่เข้ากับเสียงทุ้มๆดุๆของคุณเลยนะครับ

"...ถ้าไม่รักมาก จะยอมขนาดนี้ไหมเล่า อ้ะ.....ไอ้น้ำแข็งบ้า" เมื่อได้ยินคำตอบมันยิ้มกว้างเหมือนเด็กน้อยแบบที่คิดว่าคงไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน เริ่มขยับเบาๆ เปลี่ยนเป็นเร็วขึ้น พร้อมก้มลงกัดยอดอกจนช้ำไปหมด

"อะ ...อ้ะ.....เกียร์ ....เกียร์" ผมร้องครางดังอย่างลืมอาย ขาผมอ้ากว้าง ตัวลอย เมื่อมือใหญ่กำรูดด้านหน้า พร้อมขย่มเข้ามาในช่องหลังของผมอย่างหนักหน่วง

"ซี๊ดดด..อา..รัก....ที่รัก..." หน้าโคตรหื่นผันตามอารมณ์ของมันในตอนนี้ จับจ้องมาที่ตาผมจนขนลุกซู่ มันละเลงเม้มอก จนผมได้กลิ่นเหงื่อเค็มดิบๆของมัน มันกระตุ้นกำหนัดผมยิ่งนัก จากเจ็บกลายเป็นเสียวจนใจจะขาด ด้วยแรงกระแทกเข้าออกอันแสนหนักหน่วง จนเผลอขยับสะโพกตัวเองให้เข้าจังหวะกับแรงกระแทกที่ส่งมาอย่างลืมตัว เสียงหวานเสียงทุ้มร้องครางกระเส่าไม่เป็นภาษาประสานกันปนเปจนแยกไม่ออกว่าเป็นของใคร

จนมันเห็นว่าแก่นกายของผมมันแข็งพร้อมที่จะปลดปล่อยเต็มทนแล้ว จึงเร่งจังการให้ตัวเองถึงฝั่งฝันพร้อมกัน

"อ้ะ เกียร์ ...เกียร์ ผะ ผมจะเสร็จ ละ แล้ว....."

"อืม....ปล่อยเลย" เสียงทุ้มพร่าเอ่ยบอก

"อ๊ะ.....ฮะ ..ฮ๊า.... อึก.." ผมเกร็งตัว ปล่อยน้ำขาวข้นใส่เต็มหน้าอกหน้าท้อง กัดฟันแน่นไม่แพ้อีกฝ่าย เพราะช่องล่างตอดแน่นจนมันครางในลำคอ มันขยับไม่กี่ทีก็รู้สึกถึงน้ำฉีดเข้ามาในรูผมจนทะลักออก แต่มันก็ยังไม่หยุดกระตุก หลับตาแน่น หน้าเงยเชิดกระแทกอยู่อย่างนั้น

"อ้ะ อ๊า ยะ ยังไม่สุดอีกเหรอ.." มันตายอดตายอยากมาจากไหนวะเนี่ย น้ำเยอะฉิบหาย มันยังคงปล่อยน้ำแล้วซอยจากด้านหลังอย่างเมามันอยู่ไม่หยุด จนน้องช่ายผมเกิดคึกมาอีกรอบ

"อืม......" มันลืมตาขึ้นมองผม แม้ว่าจะปล่อยน้ำไปทีหนึ่งแล้ว แต่ช่องล่างยังรับรู้ว่ามันยังโด่ไม่รู้ล้มอยู่เลย

นี่....อย่าบอกนะว่า......

"ขอเกียร์อีกรอบนะครับ"

ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!




"เกียร์ ผมไม่ไหวแล้ว พอเถอะ" หลังจากที่ผมรับศึกหนักกับมันถึงสี่ครั้ง! สี่ครั้งนะครับคุณ ไม่ใช่สอง! แต่ละครั้งแมร่งหนักๆทั้งนั้น! ไอ้กระผมที่ไม่เคยโดนอัดตูด(ขอผมหยาบคายเถอะครับ) ก็เกิดอาการเพลียขึ้นมาทันที ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยมาตั้งแต่ยกที่สองแล้วก็ตามทีเถอะ

"อืม..อีกรอบไม่ได้เหรอ" ลูกชายมันขยับยุกยิก ถึงแม้ว่ามันจะอ่อนลงจากครั้งก่อน แต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่ามันก็ยังไม่ล้มง่ายๆเสียที

"ไม่เอาแล้ว! เอาออกไปเลยนะ! ผมเหนื่อย! ไปชักเองเหอะคุณน้ำแข็ง ถ้าทำอีกผมจะโกรธแล้วนะ! " เออ กูฟิวส์ขาดแล้วมึงเห็นไหม!

"ล้อเล่นๆ" มันทำหน้าจ๋อย บอกล้อเล่น ไอ้ห่า เมื่อกี้ใครขยับจะกระแทกอีกวะ ขอถุยเหอะ

"ขอให้จริงเหอะ" ผมหน้ามุ่ยตอบ แต่มันกลับอมยิ้มกริ่มแล้วจูบหน้าผากผมหนักๆ เนื้อผมจะติดเข้าไปในปากมันไหมครับนั่น

"เดี๋ยวนี้กล้าหือขึ้นนะ" มันพูดแล้วค่อยๆถอนช่วงล่างออกอย่างนุ่มนวล เสร็จก็นอนทับตัวผม เล่นเกมจ้องตากัน  ใครหลบตาก่อนคนนั้นแพ้ เลี้ยงน้ำแข็งใส(?) หืม นี่ผมคิดอะไรไร้สาระเนี่ย ไม่รู้เหมือนกัน แต่ตอนนี้ผมโคตรหนักเลยครับ พูดเลย แต่ทนได้นะ อยากกอดมันพอดี ..เขิน

"อ้าว ผมโมโหบ้างไม่ได้เหรอ" กูเจ็บได้ ร้องไห้เป็นนะ (พี่ปานเขาก็ร้องเพราะอยู่นะครับ กร๊าก)

"เปล่า ไอรักได้สิทธิ์ทำได้คนเดียวก็ใช้ไปสิ" หืม แลดูสิทธิพิเศษแปลกๆนะครับ ผมต้องใช้สิทธิ์ที่มีให้คุ้มค่าใช่ไหมครับ

..หึหึ เสร็จผมละ..

"นั้นผมขอใช้ตอนนี้แล้วกัน"

"อะไรล่ะ" มันทัดผมให้ แล้วลูบหน้าผมเล่น

"..พาผมไปล้างตัวหน่อยสิ" ผมพูดแล้วเสตาหลบ ก็มันอายอะ แต่จะหมักหมมอยู่อย่างนี้ก็ไม่ได้เสียด้วย ครั้นจะกระดิกตัวก็เจ็บแทบจะแย่อยู่แล้ว

อ้อ ผมกับมันไปตรวจเลือดมาแล้ว ผ่านทั้งคู่ แต่ผมจะไม่ยอมให้มันสดอีกหรอกนะ ทำความสะอาดยากจะตายไป

อีกอย่าง ปลอดภัยไว้ก่อน ไม่เสียหายครับ

"หึ ได้ครับแมวน้อย" มันจุ๊บปากผมเร็วๆสองรอบแล้วอุ้มผมท่าเจ้าสาว จนผมร้องตกใจ เฮ้ย ผมร่างชายไทยสมส่วนนะ ไม่ใช่หนังสือธรรมะ จะเหน็บ จะหามได้ง่ายขนาดนั้นเชียวเหรอ

"เอ้ยยๆๆ ปล่อยผมลงก่อน ผมตัวหนักนะเกียร์" ผมดิ้นครับ ดิ้นแรงด้วย แต่ทำไมมันไม่ยักสะเทือนเลยอะ

น้ำแข็งชัดๆ T-T

"อย่าดิ้นสิ! ตัวเบาอย่างกับนุ่น กลับไปต้องขุนให้อ้วนๆซะแล้ว" มันดุอย่างไม่จริงจัง แต่ก็ทำให้ผมหยุดได้ ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ก็มันเหนื่อยอะ ดิ้นแทบตายมันก็ไม่ปล่อยให้ลง แต่อย่างนี้ก็ดีมีคนอุ้มไปถึงที่ สมน้ำหน้าน้ำแข็ง สบายใจไอรัก ฮี่ๆๆ

"ชอบอ้วนๆเหรอ" ผมคิ้วขมวดมองมัน คือถ้ายังไม่ลืม ผมชอบมันก่อนไง มันชอบอะไร ก็อยากจะเป็นแบบนั้นอะ

อย่าหาว่าผมบ้านะ แต่ผมยอมอ้วนพลีได้ ถ้ามันต้องการ

ไร้สาระไหมล่ะ แต่ผมคิดแบบนั้นจริงๆ

เพื่อมัน คนเดียว..

"เปล่า ชอบไอรัก" ใช่เวลาเหรอครับ

"นั้นคุณน้อยกว่า เพราะผมรัก รักก่อนด้วย" ผมทำหน้าเหนือกว่า แต่ทำไมเหมือนตัวเองกำลังแพ้มันวะ

แพ้ทางมันไง!!!!! แมร่งยิ้มดีใจใหญ่เลยอะ!

"หึหึ เป็นแบบนี้แหละดีแล้ว" มันวางผมใต้ฝักบัวอาบน้ำ มันพูดแบบนี้ผมก็หน้าแดงเลยสิ  โอ้ย จะยืนก็ไม่ค่อยจะได้ ขาสั่นผลั่บๆ ต้องเอามือข้างหนึ่งยันผนังเอาไว้ เหมือนมันจะรู้ พยายามประคองผมไม่ให้ทรุด

"อ้าว ไอ้เราก็นึกว่าอยากได้แฟนพุงย้วยๆ" ผมยิ้มล้อเลียน กะจะให้มันหมั่นไส้ แต่มันดันยิ้มหวานมาให้ โอยตายๆๆ ผมแทบจะต้องเอามือมาบังแสงอันเจิดจ้าที่มันปล่อยออกมา

"เฉยๆ แล้วแต่ไอรัก ยังไงก็ไม่เปลี่ยนใจแล้วแมวโหลดต่ำ" ทำไมมันสุภาพขึ้นเยอะ(มากกกกกก)จัง ผมเขินอะ ขออนุญาตกริ๊ดได้ไหมครับ ฮื้อๆ

"หือ อะไรอะครับ แมวโหลดต่ำ?"

"แมวอ้วน"

"เกียร์! ..ผมเป็นเสือกำยำต่างหากล่ะ" ผมก้มบ่นอุบอิบ ถ้าไม่ติดว่ากูมีใจให้มึงไปแล้วนะ เหอะ!

"หึหึ เสือก็เสือนะแมวน้อย มานี่มา"

"ไม่เอา ผมจะอาบเอง" มันจับมือผมที่กำลังถูครีมสบู่อยู่ออกจากตัวผม โห มีสิทธิ์นะ

"เกียร์อาบให้"

"ฮื้อ ให้ผมใช้แรงบ้างเหอะ" จะเดินเข้าห้องน้ำ ยังต้องพึ่งแรงมันอีก คิดดูสิ ง่อยไหมล่ะผม

"ก็ใช้ไปก่อนหน้านี้เยอะแล้วไม่ใช่เหรอ" มันอมยิ้ม ส่งสายตาเจ้าเล่ห์

"............" ขอผมติดใบ้ชั่วขณะสักครู่... เอี้ยเอ๊ย อะ ไอ้สันฝาน ไอ้มะขามเปียกปูน(?) วันนี้มันทำผมเขินไปกี่รอบแล้วเนี่ย แล้วผมยืนบิดทำไมวะไม่เข้าใจ ดูไม่ได้เลยจริงๆ ให้ตายสิ อยู่กับมันอีกเดือนผมต้องกลายเป็นแต๋วแน่ๆ

ผมว่ามันมีแผนร้าย มันจะทำให้ผมเป็นเกย์สาวแน่ๆ ถ้าผมเป็นก็ไม่ต้องสืบหาตัวผู้ร้ายเลยนะครับ มันเลย ไอ้คุณเกียร์ เพราะมันนนน!

"หันหลัง" ดูมันสั่งครับ ดูมันสั่ง อย่างกับผบ.ที่ค่ายรด.เมื่อตอนมอปลาย

มันคว้าขวดสบู่ไปวางใกล้ตัว แล้วจัดการลูบครีมไปทั่วแผ่นหลัง

สักพักผมสัมผัสได้ว่ามันหยุดๆวนๆ มือเริ่มสั่น ไอ้ผมที่ก้มหัว งอหลังเล็กน้อย ก็ตรงดิ่งประหนึ่งโดนไฟรนทันที

" รีบๆอาบได้ไหม ผมหนาวแล้ว"  เปล่าหรอกครับ น้ำอุ่นเสียขนาดนั้น ความจริงคือหนาวทีน อยากยืดเส้นยืดสายขึ้นมาน่ะ

"........." มันเงียบครับ แต่มือเริ่มลูบไวขึ้นให้มันเสร็จๆไป ผมทำเป็นไม่สนใจ หันไปวาดบนกระจกกั้นไปเรื่อยเปื่อย คือมันเป็นไอเกาะน่ะครับ

"อ้ะ เกียร์! ไอ้นั่นมันมาโดนผมอะ แล้วทำไมมันพองแบบนั้นอีกห้ะ" จะอะไรล่ะครับ ก็มันเอาลูกชายมาเฉียดโดนแก้มก้นผมเนี่ย ทำให้ผมรู้เลยว่ากำลังตื่นตัวเต็มที่

"มันห้ามไม่ได้อะ" มันพูดเสียงสั่น ดูท่าจะกำลังกัดฟันข่มอารมณ์อยู่สุดๆ

โอย มันโด่อีกแล้ว หัวใจผมเดาะ

"คุณชักเองเลยนะครับ ผมไม่รับผิดชอบแล้ว"

"แต่......."

"ไม่!"

"โธ่ไอรัก......."

"หยุด! อย่าพูด! ห้ามบ่นด้วย ผมให้คุณหลายยกแล้วนะ แต่ถ้าคุณอยากให้ผมสนองอีกก็ได้นะ แต่ผมต้องเสียบคุณ เอาปะ?" ผมยักคิ้วกวนๆไป

มันทำท่าฮึ้บ เงียบกริ้บทันที แหน่ะๆ ยังไม่พอ ยังส่งสายตาคาดโทษมาให้อีก เดี๋ยวเถอะ เถียงไม่ได้แล้วมาทำเป็นโกรธ

ขอผมด่าทอคุณในใจเถอะครับ มันคันโพรงปากยุบยิบ

"ง่วงแล้วอะ" ผมพูด มันเลยรีบล้างตัวของมันและผม พร้อมเช็ดตัว ใส่เสื้อให้เสร็จสรรพ ก่อนวางผมลงบนเตียง อยู่ๆมันก็เดินออกไปจากห้องครู่ใหญ่ แล้วกลับมาพร้อมยาอะไรไม่รู้มาให้ผมกิน

กระผมที่เป็นหมอในอนาคตก็หยิบมาทานโดยไม่ถามมันสักคำว่ายาอะไร

แต่ผมว่าผมรู้คำตอบนะ

"หันก้นมาสิ" มันสั่งอีกแล้วครับ แต่คราวนี้ออกแนวอนาจารไปนิด

"ทำไมเหรอครับ"

"จะทายาให้"

ป๊าดดดดดดดด ทำไมหมอคนนี้มันให้บริการดีจัง ฟันเซอร์วิสชาร์จไปกี่เปอร์เซนต์อะอยากรู้

"เอ่อ เดี๋ยวผมขอทาเองแล้วกัน" ผมก็ยังมียางอายอยู่หน่อยๆนะครับ มันทำหน้าเหมือนถูกขัดใจแกมเสียดายนิดๆ แต่ยอมให้ผมทาเอง ผมก็ล้วงไปทาในผ้าห่มนั่นแหละ ไม่ไหวจะลุกละ มันล้มตัวนอนกอดแน่นกว่าทุกคืน

"เจ็บไหม ..มันยั้งไม่ได้ เกียร์มือหนัก" ครับ มึงไม่เบามือเลยครับ หลายยกอีกต่างหาก บั้นท้ายผมจะพังตั้งแต่ครั้งแรกแล้วเนี่ย

"เดี๋ยวก็หายครับ ผมแข็งแรงจะตาย"

"นั้นคราวหน้า คูณสอง นะ" จะบ้าแล้วกะละมัง

"คราวต่อไปก็อีกสามเดือนหน้าแล้วกัน"

"ล้อเล่นๆ" มึงล้อเล่นบ่อยจังนะเดี๋ยวนี้

"เหรอครับ เหอะๆ ร้อนอะเกียร์" ผมขยับตัวนิดหนึ่ง ให้มันเขยิบออกเพราะมันกอดแน่นมาก หายใจไม่ออก

"ร้อนอะไร หนาวอย่างกับอยู่บนดอย" ดอยหมุนน่ะสิห่า (อยากผวนหรือไม่ผวนแล้วแต่ครับ ตามสบายคุณผู้ชม)

"เหงื่อคุณแตกผลั่กๆ ยังจะบอกว่าหนาวอีก" ผมยกมือลูบหน้าลูบตาให้มัน หืม ทำหน้าเคลิ้มเลยนะครับแหม่

"ไอรักเป็นเมียเกียร์แล้วนะ" ไอ้ชั่ววววว ใครสอนให้มึงพูดคำไร้ยางอายแบบนั้นออกมาฮะไอ้หมาน้ำแข็ง

"บ้าเหรอคุณครับ ผมแค่โดนพรากพรหมจารีย์เองนะ" ผมพูดเบาๆ อยากจะข่วนหน้าตัวเองเต็มแก่ หลับตาปี๋ทำไมไม่เข้าใจ จะอายมันทำม้ายยย

"หรือจะให้เกียร์ย้ำอีกที ถึงจะรู้น่ะหืม" อย่ากระซิบข้างใบหูกระผมได้ไหมครับ ชวนกระผมเล่นจั๊กกะจู้วู้วเสียวกระสันเป็นที่สุด

"อะ เอ่อไม่ดีกว่าครับ ผมกำลังรักสงบอยู่น่ะครับ"

"หึหึ" ไอ้หื่น

"เกียร์" ผมเรียก เอามือลูบหน้าอกให้มันเสียวเล่น มันไม่ได้ว่าอะไร ปล่อยให้ผมทำ แถมเอามือมาลูบหัวผมตอบแทน

"หืม"

"ผมขออะไรอย่างได้ไหม"

"ว่ามาสิ"

"...ได้ผมแล้ว อย่าทิ้งผมไปนะ" โต้งๆแบบนี้แหละ เข้าใจง่ายดี ใครว่าผมเหนียมอาย เปล่าเลยนะครับ ผมมาแรงอยู่นะ  ฝ่าทุกไฟแดงเลยนะ บอกเลย

"ทำไมต้องทิ้งล่ะ" มันเริ่มคิ้วขมวด

"ไม่รู้สิครับ ผมกลัวคุณเบื่อผมแล้วไปหาคนที่ดีกว่า กลัวเจ็บ กลัวเสียคุณปะ....... "

"ไม่มีทาง" มันโพล่งขึ้นมาทันทีโดยไม่ฟังผมพูดจบ

"........"

"ดวงใจของเกียร์อยู่ตรงนี้แล้วจะไปหาคนอื่นอีกทำไม เกียร์ให้ไปหมดแล้ว รักใครไม่ได้อีกแล้ว" มันพูดเสียงดุหน่อยๆ เหมือนไม่ค่อยชอบใจนัก

"ไอรักเป็นรักแรก และมันจะเป็นรักสุดท้าย ถ้าไอรักไม่หมดรักเกียร์ก่อน"

"จะบ้าเหรอคุณ ผมเนี่ยนะจะเปลี่ยนใจ ไม่มีทางอะ!" ผมเผลอเสียงดังใส่ แต่ฟังแล้วมันหงุดหงิดเสียจริง

"..ก็เหมือนกัน.." มันยกมือลูบแก้มผม แล้วมอบจูบเหมือนเป็นคำมั่นของกันและกัน

"ขอโทษนะครับ ผมกังวลเรื่องไม่เป็นเรื่องเอาซะเลย"

"อืม แต่เกียร์ก็อยากขอเหมือนกัน"

ผมมองหน้ามัน ตั้งใจฟัง

"จากนี้ไปอย่ามองใครอีกนอกจากเกียร์ รักแค่เกียร์..ได้ไหม" มันพูดเหมือนผมเคยนอกใจมันเลยนะครับ

"ทำไมอะ" ให้ผมปิดตาเดินไปเรียนเหรอครับ ได้ครับ สบายมาก ผมมีสัมผัสที่แปด

"ถ้ามอง เกียร์จะพิโรธ"

"แล้วถ้าไอ้พิชมันชวนคุยอะ" นี่ไม่ได้กวนตีนมันเลยนะครับ มันสิ ตั้งแง่ซะน่า...............รักอะ อิอิ

"ทำไมต้องมัน" อ้าว เสียงแข็งใส่กูซะงั้น

"เอ่อ ก็เปล่า ผมยกตัวอย่างน่ะ คุณอย่าดุสิ แหะๆ"

"อย่าให้รู้แล้วกัน"

"ไม่เอามันหรอกคร้าบบ มันเป็นลิง" ถ้าเป็นชะนีว่าไปอย่าง..

ผมหมายถึงชะนีก็ไม่(ได้)เอาแล้วน่ะครับ เหอะๆ...............

"นั่นสินะ"

แหน่ะ มีทำท่าคิดตามอีก น่าหมั่นไส้จังหนอ

"แล้วจะเปลี่ยนเรื่องเกียร์ทำไมน่ะ ที่พูดไปเมื่อกี้หมายถึงอย่าเปิดใจให้ใคร ห้ามวอกแวก ห้ามนอกลู่นอกทางน่ะ ต้องทำให้ได้เข้าใจไหม"

"-0-" ผมทำหน้าแบบนั้นจริงๆ คืออึ้งว่ามันพูดอะไรของมัน ผมยอมขนาดนี้แล้ว ได้โปรดรู้ตัวเสียทีเถอะ ว่าตำแหน่งคนรักที่มีเพียงคนเดียว เป็นของมันมาตั้งนานแล้ว

..จะไปร่อนเร่อีกทำไม ในเมื่อผมเจอคนที่พร้อมจะหยุดแล้ว..

"เข้าใจไหมครับ" มันย้ำครับ

"รับทราบครับผม!" ผมตอบรับขึงขัง มันหัวเราะเบาๆ ก้มลงจูบแก้มผม แล้วพึมพำ 'อืม.. เนียนจัง แก้มแดง ใสจนเห็นเส้นเลือดจริงๆด้วย'

มันกะให้ผมอายจนมุดหน้าไปสิงกับฟูกเลยใช่ไหมเนี่ยย

"มีอีกเรื่อง.."

คุณเยอะนะเดี๋ยวนี้

"อะไรเหรอ"

"ถ้าอยากดูหนังโป๊นัก ก็บอก เดี๋ยวเกียร์จะสนองให้ เข้าใจนะครับ" มันยังติดเหตุการณ์เดิมอยู่ครับ ยังไม่ลืมเลือน

"เกียร์จะเปิดให้ดูเหรอ"

"จะลงมือทำให้เลยต่างหาก" ถุย เต็มปากเต็มคำนะครับแหม่









TBC--------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

มีกำลังใจก็มาต่อให้แล้วจ้า ไม่รู้ชอบตอนนี้กันหรือเปล่านะ
ไอ้เกียร์มันหื่น ไม่เจียมไซส์ตัวเองเล้ย
โซ่เกิดอาการสงสารไอรักซะงั้น
สงสารที่เกิดมาเป็นนายเอกเรื่องนี้ ช้ำหมดแล้วมั้งตอนหน้า 55555
คนอ่านส่งแรงใจมาให้หน่อยนะ จะได้มีแรงลุกขึ้นมาต่อ  :katai4:

โซ่รักทู๊กคนนน♥
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่19* เป็นของกันและกัน P.7[31/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 31-03-2013 21:56:27
ไอรักยั่วมากกกกกกกก

เกียร์ก็หื่นแบบสุดๆ  :z1:

เป็นกำลังใจให้คนเขียนปั่นตอนต่อไปมาให้เราอ่าน  :katai4:

รักคนเขียน จุ๊บ  :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่19* เป็นของกันและกัน P.7[31/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 31-03-2013 22:31:56
 :m25: :m25: ได้กันแล้วก็รักกันตลอดไปนะคะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่19* เป็นของกันและกัน P.7[31/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 31-03-2013 22:55:44
 :m25: :m25: :m25: :m25:  เลือด  เลือดด  เลือดดดข้าต้องการเลือดด
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่19* เป็นของกันและกัน P.7[31/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 01-04-2013 00:19:19
เกียร์ไม่ค่อยเลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่19* เป็นของกันและกัน P.7[31/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: rainiefonnie ที่ 01-04-2013 00:53:20
 :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่19* เป็นของกันและกัน P.7[31/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 01-04-2013 00:53:41
ถึงตอนเริ่มจะหื่น ๆ ลงท้ายเค้าก็มาบอกรักบอกหวงกันงุ้งงิง ๆ สรุปว่าหวงกันเองมาก
ตาเกียร์จะไปมองใคร๊ ทั้งรักทั้งหลงไอรักจะแย่แล้ว ไอรักโคตรน่าปล้ำเบย
เกียร์ก็คงพยายามจะอ่อนโยนอ่ะนะแต่ไม่สามารถ จัดหนักไปซะเลย 555 ตอนนี้เกียร์หื่นโคตร  :hao6:
แต่หื่นกับไอรักคนเดียว คนอ่านอนุญาติ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่19* เป็นของกันและกัน P.7[31/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: MangoBlue ที่ 01-04-2013 01:27:19
 :m25: เสียเลือดไปหลายลิตรเลยค่ะ
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดเค้าได้กันแล้ววววววว
ห้ามนอกใจกันนะต่อจากนี้
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่19* เป็นของกันและกัน P.7[31/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 01-04-2013 10:13:46
ในที่สุดก็... ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่19* เป็นของกันและกัน P.7[31/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 01-04-2013 10:30:03
น่ารักที่สุดดด  :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :oo1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่19* เป็นของกันและกัน P.7[31/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 01-04-2013 13:54:53
เขินแทนเลยอ่ะ  :hao6:

+1 ให้คู่รักเขาหน่อย หวานเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่19* เป็นของกันและกัน P.7[31/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: sakiko ที่ 01-04-2013 16:10:04
เขิน หน้าแดงเลย  อ่านไปเขินไป  55
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่19* เป็นของกันและกัน P.7[31/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 01-04-2013 20:57:32
เกียร์น้อยทรหดและอดทน...น้องไอรักรับประกันคุณภาพเนอะ :hao3:

 :L2: &  :L1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่19* เป็นของกันและกัน P.7[31/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 05-04-2013 17:47:25
น่ารักได้อีกกกก ไอรักเสียตัวให้เกียร์ซะแล้ว

เกียร์หื่นจัง หลายยกไปแล้วนะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่19* เป็นของกันและกัน P.7[31/03/13]
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 05-04-2013 19:48:41
รอฉันรอเธออยู่~  :call: :katai3:
เข้ามาดัน  :z2:
หัวข้อ: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *Special Songkran* P.8 [17/04/13]
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 16-04-2013 23:58:50
special songkran


สวัสดีวันปีใหม่ไทยครับ วันนี้เป็นวันดี ผมกับเพื่อนๆและคุณน้ำแข็งไม่ได้ขึ้นเหนือล่องใต้กัน จึงตกลงกันว่าจะไปไหว้พระแถวคอนโดแต่เช้าตรู่แล้วค่อยออกไปเล่นน้ำที่สีลมตอนบ่ายๆและต่ออาร์ซีเอเป็นการปลดปล่อยให้ถึงที่สุด แรกๆคุณน้ำแข็งก็คัดค้านบอกว่าจะไปข้างนอกทำไม เดี๋ยวโดนดินสอพองแล้วจะติดเชื้อบ้าง โดนน้ำเย็นๆลมเย็นๆจะไม่สบายบ้าง ทำไมไม่ห่วงตัวเองบ้าง โน่นนี่เยอะแยะไปหมด ไอ้ครั้นประเพณีไทยที่ยาวนานมาทั้งที แต่นอนตีพุงดูโดเรม่อนเป็นเพื่อนมันก็ไม่ใช่เทรนด์ตอนนี้เสียด้วยสิ ผมเลยใช้โหมดงอนเงียบครู่หนึ่ง จนได้ออกมากับเพื่อนฝูงนี่ละครับ

แต่ผมก็ไม่ลืมผู้มีพระคุณนะครับ วันแรกผมไปรดน้ำดำหัวคุณปู่คุณย่าที่บ้านต่างจังหวัดมาแล้ว ส่วนอากงอามาท่านอยู่ญี่ปุ่นน่ะครับ จะบินไปไหว้ก็ลำบาก จึงโทรไปสวัสดีท่านจะง่ายกว่า ส่วนเกียร์ก็ไปรดน้ำดำหัวทางฝั่งญาติเขาน่ะครับ คุณน้ำแข็งก็ชวนๆผมอยู่เหมือนกันนะครับ แต่ผมปฏิเสธไป ไม่กล้าไปเท่าไรนัก เขินน่ะ เอาไว้มาเจอกันที่บ้านเราเลยดีกว่า มันก็อิดออดพักหนึ่ง แต่สุดท้ายก็เข้าใจผมนั่นละ ก็ผมหน้าบางนี่นะ ..(?)

"ใส่อะไรน่ะ"

"หือ ก็เสื้อไงครับ" คุณนี่ก็ถามโง่ๆ

"ไปเปลี่ยนซะ"

"อ้าว ทำไมอะครับ มันก็ไม่ได้โป๊เลยนะ" ผมใส่สีดำล้วนเลยนะ ป้องกันโดนมันด่านี่ละ

"แต่มันเห็นแขนน่ะเข้าใจไหม แล้วใส่ทำไมกางเกงแบบนั้น มันเลยเข่าขึ้นจนจะเห็นต้นขาอยู่แล้วน่ะไม่เห็นเหรอ หื้ม" มันทำเสียงดุ มาเป็นชุด ผมว่าเขาใส่เสื้อสบายๆกันหมดนะ นี่คงกะให้ผมใส่ชุดบอดี้การ์ดไปเล่นน้ำสงกรานต์ใช่ไหมครับไอ้คุณน้ำแข็ง ไม่ได้ๆวันนี้เป็นวันดี ไม่ดุ ไม่ด่า ไม่ว่า ไม่เถียงครับ

"นั้นเกียร์เลือกให้หน่อยแล้วกันครับ" ผมกัดฟันพูด ส่งสายตาอาฆาตไปให้ แต่มันไม่สนใจหรอก แถมยังยิ้มหวานชวนน่ากระทืบติดข้างฝา แล้วเดินลัลล้าอารมณ์ดีไปเลือกชุดให้ ก่อนกลับมาพร้อมเสื้อยืดคอกลมสีน้ำเงินเข้มกับกางเกงยีนส์(ไม่เดฟ)อีกหนึ่งตัว

"เอ่อ ผมขอต่อรองได้ไหม" มันเลิกคิ้วถาม

"ผมเปลี่ยนเสื้อเป็นตัวนั้น ส่วนกางเกงผมขอใส่ตัวเดิมนะครับ" ใส่แบบนั้นไป น้ำคงอมจนเป้ากางเกงผมลากเป็นแน่

กว่าผมจะออกจากห้องไปยังสีลมได้ ก็เป็นเวลาหลายชั่วโมงพอตัว ผมนัดเจอพวกเพื่อนๆที่หน้าสถานีสีลม พอถึงก็เจอพวกมันยืนกันหน้าสลอนอยู่กับเพื่อนเกียร์ที่มากันครบแล้วเช่นกัน ยืนเม้าท์เสียงดังไม่เกรงใจสายตาคนอื่นเลยครับ

"ค้าบบ แล้วตอนนี้คู่รักหวานชื่นก็ถ่อสังขารมาถึงจุดหมายปลายมางซะทีค้าบบ ฮิ้วว" พัต เพื่อนเกียร์แซวขึ้น แล้วเดินเข้าสีลม เพราะพนักงานรถไฟฟ้าใต้ดินมาไล่(หมาในปากของ)พวกมันครับ กลุ่มก็ใหญ่เจือกไปขวางทางออกของเขาอีก สมน้ำหน้า

"กวนตีน" เกียร์ด่าเพื่อนมันหน้านิ่งเหมือนเคย แต่ตานี่แพรวพราวเหมือนคนโลกสวยอารมณ์ดี เหอะๆ ชอบเลยดิคำพูดของเพื่อนคุณเนี่ย

มันจับซองโทรศัพท์ของผมใส่ไว้ในเสื้อให้ กันการโดนตัดเชือกจากพวกมิฉาชีพ แล้วดึงผมไปด้านหน้าโดยที่มีมันกอดเอวไว้หลวมๆ

ซ่า ซ่า

"สวัสดีปีใหม่ค่า"

"เช่นกันคร้าบบ"

"ขอปะแป้งหน่อยนะครับ"

"ฮ่าๆ ขอบคุณครับ"

เสียงเฮฮามีความสุขก้องไปทั่วทั้งเส้นสีลมขาเข้าและขาออก พร้อมเพลงดังสนั่นประดังกันมาจากเวทีทั้งหลายแหล่ ผุ้คนหน้าเวทีกระโดดจนพื้นสะเทือน คงมันส์น่าดู ผมก้ไม่น้อยหน้าครับ มือก็ถือปืนฉีดน้ำกระบอกพกพาสะดวกซุ่มยิงผู้คนผ่านไปมา ปากก็ยิ้มแบบปิดปาก เพราะยิ้มเห็นฟันทีไรโดนป้ายดินสอพองทุกที และดูท่าผมจะโดนมากกว่าคนอื่น

"ล้างหน้าก่อน" มันหันมาจับผมล้างหน้าด้วยน้ำเย็น หน้าแทบชาเลยครับ ผมก็ไม่ได้โวยวายอะไร ยืนให้มันจัดการ ส่วนมือก็ง่วนจับกอกน้ำใส่กระบอกปืน ตอนนี้พวกผมนั่งพักตรงข้ามหน้าซอยธนิยะ เป็นร้านขายน้ำ ดินสอพองของเพื่อนๆที่รู้จักกัน

"โอย เมื่อกี้กูโดนลวนลามว่ะ แทบตาย" ไอ้คิมบ่น เมื่อกี้มันแว้บเข้าไปในซอยที่รู้ๆกันอยู่ว่าเป็นแหล่งเกย์และสาวประเภทสอง แต่มันอยากรู้อยากลอง จึงเดินเข้าไป(คนเดียว)สำรวจสถานที่และบรรยากาศว่าต่างกับชายหญิงตรงไหน

"เสือกเข้าเอง ช่วยไม่ได้" พิชหัวเราะในลำคอ ส่ายหน้าเอือม แล้วหันไปคุยกับคนอื่น

"กินอะไรก่อนไหม" เกียร์ถาม ผมเงยไปมองหน้า ก็เห็นว่าหน้ามันค่อนข้างเละเหมือนกัน โหดๆแบบนี้ใครกล้าป้ายมันเนี่ย ใจกล้ามากๆครับ ผมหันไปหยิบขวดน้ำแล้วล้างหน้าให้มันอย่างเบามือ มันก้มหน้าลงมาให้ผมล้างได้สะดวก มือยึดเอวผมทั้งสองข้าง

"อยากกินหมูปิ้งไม้ใหญ่ๆ" ผมเงยหน้ามองมันตาปริบๆ มันก็สบตาผมนิ่งๆ แล้วพยักหน้า ก่อนจะหันหลังไป แต่ผมจับแขนมันไว้ แล้วบอกอยากไปด้วย มันพยักหน้าอีกรอบ มือดันหลังผมก่อนชะงัก

"อยู่ข้างหลังดีกว่า"

"หือ ทำไมอะครับ" อยู่ข้างหลังมันก็โดนบังหมดสิ

"เดี๋ยวโดนป้ายเยอะ เกาะเอวเกียร์นะ" มันว่าแล้วก็ดึงตัวผมจนแทบจะแนบตัวมัน แล้วคว้ามือวางที่เอวมัน โจ่งแจ้งไปไหมครับ แต่ไม่เป็นไร สงกรานต์ทั้งที ตามใจมันครับ

ถึงอีกใจหนึ่งจะคิดว่า สงกรานต์ทั้งทีไม่โดนแป้งโดนน้ำก็ไม่สนุกสิฟะ

"สามสิบไม้" มันสั่งคำกระชับสุดๆอะไรสุดกับคนขายวัยรุ่นราวคราวเดียวกับเรา คนขายกุลีกุจอย่างเพิ่ม พลางเหลือบมอมผมกับเกียร์แล้วหน้าแดง

"เล่นแป้งสีกันเหรอครับ ไม่ดีเลยนะ"

"หะ ..คะ?" คนขายเงยหน้าตอบงงๆ พอสบตาหน้าเธอแดงกว่าเดิม

"เห็นหน้าแดงๆน่ะครับ ...หึหึ..." ผมรอหมูปิ้งก็ว่างไงครับ จึงแซวเล่นๆ วันดีครับวันดี สนุกสนานกันไป ก่อนจะเงิบแดก ลืมนึกไปว่าไอ้คนข้างๆมันขี้หึง(ไม่เข้าเรื่อง)

"ไม่ต้องกินละ กลับ" มันพูดเสียงแข็งพลางกระตุกดึงแขน

"เอ้ย อะไรอะ ไม่เอาๆผมหิว"

"กลับไปกินขัาวไข่เจียวร้านไอ้ดิน" มันแทนกันได้เหรอ หมูกับไข่ เสียงแม่มก็ดุอิ๊บอ๋าย

"แต่ผมอยากกินหมูปิ้งงะ ไม่เล่นแล้วก็ได้ น้านะๆๆ" มันเม้มปากมองหน้าชั่งใจอยู่นาน ผมจึงแกว่งมือมันไปมาด้วยท่าทีออดอ้อน แล้วมองตาแป๋ว จนมันถอนหายใจแล้วพยักหน้า

"คิกๆๆ" ผมหันไปตามเสียง ก็เห็นพวกสาวๆมองกันเป็นตาเดียว แล้วหัวเราะกันคิกคัก ผมเขินเลย อุส่าแซวสาว เจือกโดนหัวเราะใส่

"น่ารักดีนะคะ อ่ะ กินให้อร่อยนะพี่ หนูแถมเลยห้าไม้ อิอิ" ผมรีบคว้าถุงแล้วหันหลังเดินจ้ำเอาๆ คนก็จะเยอะไปไหนเนี่ย เดินกันไวๆหน่อยสิ! เกียร์หันไปจ่ายเงินแล้วรีบเดินตามมา แถมดึงแก้มผมเบาๆอีก แม่มมม

พวกผมเดินเล่นน้ำจนประมาณหกโมงก็ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินเหมือนเดิม แล้วเดินไปอาร์ซีเอ เวลาขับรถไป ถ้าไม่รวมรถติด มันจะใกล้มากนะครับ  แต่พอเดินแล้วรู้สึกว่าโคตรไกลเลย ไอ้พวกผมก็ตัวเปียกโชก อีกทั้งหลายชีวิต แถมทรัพยากรรถแท็กซี่ก็น้อยเต็มที แถมบางคันก็เรื่องมากไม่ให้ขึ้น กลัวรถเปียกอีก จึงตัดปัญหา เดินเสียเลยครับ(ความคิดไอ้บอสกับเนแว่น) กว่าจะถึงก็ตัวแห้งพอดี

ผมไลน์ไปหา(โทรไม่ไหวครับ คุยกันไม่รู้เรื่อง ถึงไลน์จะดีเลไปบ้าง แต่ชัวร์กว่า)พี่ที่รู้จัก เพราะฝากเขาจองโต๊ะไว้ ผมเปิดสองโต๊ะหน้าเวที บัตรเข้างานก็ไม่ต้องเสียอะไรพอดีได้บัตรฟรีน่ะครับ ส่วนโต๊ะกับเหล้าจ่ายเองดีกว่าครับ เดี๋ยวงานเขาเจ๊งกันพอดี

"มีใครเอาสเมอร์นอฟบ้างเปล่าวะ" เนมถามกลุ่มเกียร์ พอดีมันแจกในงานคนละสองกระป๋อง แต่พวกผมไม่ดื่มสเมอร์นอฟครับ มันเหมือนน้ำผลไม้ดีๆนี่เอง(ขอโทษเจ้าของด้วยครับ แต่มันจริงๆนะ)

"สาเอาๆ " สายกมือแล้วโกยแปดกระป๋องเข้าตัวเอง ส่วนที่เหลือก็เอาไว้เผื่อโซดาไม่มีก็เอามาผสมกับเหล้าแทนครับ

ส่วนเรื่องกินเหล้า ผมตกลงกับเกียร์แล้วครับว่ากินได้ ..แต่คืนพรุ่งนี้เพิ่มx2

ผมว่าผมเสียเปรียบ และมันไม่ยุติธรรมเอาเสียเลยนะครับ

แต่ผมเสี้ยนและนานๆทีก็อยากสุดเหวี่ยงบ้างสักวัน จึงจำใจยอมพยักหน้าตกลง..

เวลาล่วงเลยเป็นเวลาประมาณตีสอง พวกผมก็กลับรังรักกัน แต่ไอ้คิมกับมัดและพัตขอตัวแยกกลับ เพราะมันได้สาวติดมาครับ เด็ดๆทั้งนั้น สงสารพวกผู้หญิงนะครับ ที่ดันไปเลือกพวกมัน หล่อแต่รูป ตูดไม่หอม หรอกนะครับพวกมันน่ะ

"เฮ้ย แล้วเจอกันนะโว้ย" เกียร์พยักหน้าให้เนแว่นที่ลงเป็นคนเกือบสุดท้าย เหลือผมกับเกียร์ในรถแท็กซี่สองคน

"เสียงฟันเหรอ" มันแซวแล้วอมยิ้มขำๆ แหม่ พอคนอื่นไปถึงยิ้มได้ใช่ไหมเนี่ย

"ถามว่าหนาวเหรอ จะดูดีกว่าไหมครับ" ผมหน้ามู่ทู่ พูดไป ลูบแขนไป

"เดี๋ยวก็ถึงแล้ว ทนหน่อยนะ" ว่าแล้วมันก็กอดผมแน่น ไออุ่นจากตัวมันยิ่งทำให้ผมเบียดอกอุ่นๆขึ้นไปอีก มันหันไปบอกพี่แท็ก(คนขับแท็กซี่)ให้เบาแอร์ลง แล้วก้มลงหอมแก้มผมฟอดใหญ่

"อ๊ะ เกียร์! ทำอะไรน่ะ" ต่อหน้าประชาชีเลยครับ พี่แท็กมองยิ้มๆผ่านกระจก ผมหน้าแดง

ผู้ชายตัวใหญ่สอดคน พลอดรักกัน มันน่าดูชมตรงไหนครับ อยากจะรู้

"หอมแก้ม" มันยอมรับหน้าตาเฉย มันไม่อายแต่ผมอายนะครับ!

"เดี๋ยวจะโดนดี" ผมบ่นอุบอิบเบาๆ แต่มันดันได้ยิน

"โดนอะไรล่ะ หื้ม" มันยื่นหน้ายิ้มๆถาม

"ที่ตกลงเอาไว้จะถือว่าโมฆะนะ" มันชะงักแล้วเก็บหัวตัวเองเข้าที่เดิม แต่มือยังกอดผมเหมือนเดิม ไม่รู้เสียแล้วว่าใครเหนือกว่ากัน หึหึหึหึหึหึ..

"ล้อเล่น"

"อ๋อเหรอครับ ตลอดเลยนะครับ ผมไม่ล้อเล่นขึ้นมาแล้วจะหนาว"

"นอนเถอะ ...ไอรักนั่นแหละจะหนาวกาย" มันตัดบท จับหัวพิงอกมัน ลูบหัวเบาๆ แล้วบ่นงึมงำประโยคหลัง


..............................................................................
..........................................................
............................................
.............................
..............
.......
.


"เกียร์.." ผมเรียกเสียงดังแอบแผ่ว(งงไหม ผมก็งง)บนเตียง มันรีบเปิดประตูเข้ามา

"เป็นไงบ้าง" เกียร์นั่งบนเตียงทั้งที่ตัวอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อน แล้วหยิบผ้าชุบน้ำที่โปะอยู่บนหน้าผากมาซัก แล้วเช็ดตามซอกคอ

"หิวน้ำ..." เสียงแหบแห้งเค้นออกมาจากคอ มันรินน้ำป้อนผม

เมื่อคืนหลังกลับจากห้อง เกียร์ก็รีบไล่ไปอาบน้ำ   แต่ผมเผลอแช่น้ำเพลินหลับคาอ่าง จนมันเคาะประตูเรียก แถมดุผมอีกยกใหญ่ แล้วเอายามาให้ทานกันเอาไว้

แต่ก็มิวาย ป่วยในวันสงกรานต์เลยทีเดียว

"ลุกมากินข้าวก่อนนะ" มันช้อนตัวให้พิงหัวเตียง

"เดี๋ยวผมกินเองก็ได้" แค่นี้ก็ลำบากมันจะแย่อยู่แล้ว

"อย่าดื้อ อ้าปาก" มันพูดเสียงดุไม่จริงจัง

แต่ผมคิดจริงจัง

"อึก.. ทำไมต้องดุด้วย ฮึก อะ" เสียงแหบปนสะอื้น น้ำตาหยดแหมะ มองมันที่มองผมอึ้งๆทำอะไรไม่ถูกอย่างตัดพ้อ

"ไม่ได้ดุ แค่เป็นห่วง  อย่าร้องนะ" มันดึงผมไปกอดอย่างเงอะๆงะๆ แล้วพร่ำปลอบเสียงนุ่ม

"ก็เกียร์ ..อึก เกียร์ทำเสียงดังใส่ทำไมเล่า .." มือพยายามทุบอกมันอย่างคนไม่มีแรง  ก็คนไม่ชอบให้พูดเสียงดังใส่ ทำไมต้องดุกันด้วย ทำไมไม่เข้าใจกันเลย

"ไม่ได้ตั้งใจเสียงดัง ..ขอโทษครับ" มันกอดผมแน่น แล้วลูบหัวไปมาเหมือนปลอบขวัญ

"เกียร์ก็พูดอย่างนี้ตลอด ไม่ใจดีกับไอรักเลย ฮึก..." แล้วผมก็พูดอีกยกใหญ่ น้อยใจเป็นนะ ไม่รักกันแล้วหรือไง

"ไม่ใจดีกับไอรัก แล้วเกียร์จะใจดีกับใครล่ะ หืม" มันยกมือเช็ดน้ำตาที่ไหลปอยๆออก แล้วก้มลงจูบเปลือกตา แก้ม จนกระทั่งริมฝีปาก ลิ้นเย็นกวาดเข้ามาในโพลงร้อนอย่างนุ่มนวล ก่อนคละออกมาแล้วจุ๊บปากเบาๆอีกครั้ง

"..อย่าดุอีกนะ.."

"ครับ ไม่ดุแล้ว"

"..จริงๆนะ.."

"ครับ"

"นั้นป้อนหน่อย" ตาลอยๆมองอ้อน เกียร์จึงหันไปหยิบชามข้าวต้มมาป้อน อื๋อ ทำไมจืดชืดอย่างนี้ก็ไม่ทราบ มันปรุงรสจืด หรือเป็นเพราะไข้ขึ้นกันนะ กินไปไม่กี่คำก็ไม่ไหว มันก็ไม่ได้คะยั้นคะยออะไร ลองตื้อสิ จะวีนให้ห้องแตกเลย เสร็จแล้วมันก็ยื่นยามาให้ทาน

"นอนพักนะ" มันดันไหล่ให้ล้มตัวนอน แล้วดึงผ้าห่มถึงไหล่

"จะไปไหนอะ" ผมเอื้อมมือคว้ามือใหญ่ที่กำลังจะเดินไป

"อยู่แถวนี้แหละ"

"อื้อ.. ไม่เอา นอนด้วยกันนะ" มันมองผมที่ตาเต็มไปด้วยน้ำคลอใส ก่อนที่ผมจะเบะปากออก

"..แค่นอนด้วยกัน อึก ..ทำไมต้องขัดใจกันด้วยอะ รังเกียจกันแล้วเหรอ" น้ำตาที่ทำท่าว่าจะไหล ก้ร่วงลงมาปอยๆอีกครั้ง

"ครับๆ นอนก็นอน ..หลับซะนะไอรัก" มันรีบสอดตัวเข้าผ้าห่ม เบียดกอด แล้วลูบหลังกล่อมอย่างแผ่วเบา

"..อย่าไปไหนนะ.." ปากพูดเสียงสั่นเบาๆส่งท้าย สัมผัสอุ่นซับน้ำตาแถวหางตา ก่อนเปลือกตาชื้นปิดลงได้ยินเสียงตอบรับให้จิตใจสงบ

"อืม ไม่ไปไหนหรอก"


***********************************************************************

สุขสันต์วันสงกรานต์เน้อท่านทั้งหลายย
สงกรานต์นี้แทบไม่ได้อยู่บ้านเลย โดนลากไปโน่นนี่ตลอด ทั้งที่ใจอยากอยู่บ้านสุดๆ (แล้วเอ็งจะตอบรับเขาทำไมเล่า)
ใครไปวันไหลก็รักษาเนื้อรักษาตัว อยู่ในความไม่ประมาทด้วยนะ อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ เป็นห่วงทุกคนค่ะ

โซ่รักทู๊กคนน♥
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *Special Songkran* P.8 [17/04/13]
เริ่มหัวข้อโดย: yokerohz ที่ 17-04-2013 19:03:28
ไอรักป่วยแล้วอ้อนเว่อร์อ่ะ น่ารัก :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *Special Songkran* P.8 [17/04/13]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 17-04-2013 21:58:51
เล่นสงกรานต์กลับมา ไอรักป่วยเลย อ้อนเกียร์มากๆ
ไม่ต้องอ้อนเกียร์ก็รักก็หลง
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *Special Songkran* P.8 [17/04/13]
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 17-04-2013 22:22:19
น่ารักมากเคอะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *Special Songkran* P.8 [17/04/13]
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 17-04-2013 23:52:35
ไอรักป่วยแล้วงอแงๆ เหมือนเด็กเลยอ่ะ น่าร๊ากกกกกกกกกก  :impress2:

ปล. :mew1: คนเขียน
ปล2.มาต่อไวๆ น้าาาาาาา  :katai4: :hao3: :katai3:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *Special Songkran* P.8 [17/04/13]
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 18-04-2013 00:38:36
ไอรักไม่ค่อยอ้อนเลยนะนั่น
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *Special Songkran* P.8 [17/04/13]
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 18-04-2013 05:47:40
 :ruready  เหมือนเด็กนะเรา
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *Special Songkran* P.8 [17/04/13]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 18-04-2013 11:07:00
ไอรักเล่นสงกรานต์จนไม่สบาย ป่วยแล้วยังอ้อนแถมงอแงอีก
แต่น่ารักกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *Special Songkran* P.8 [17/04/13]
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 18-04-2013 18:04:49
อ่านทันแล้ววว

 :z2:

น่ารักมากเลย

 :-[

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆคร้าบ
+1ครับผม  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *Special Songkran* P.8 [17/04/13]
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 18-04-2013 22:30:06
โหย ไอรักอ้อนจัง เดี๋ยวเกียร์ปั๊ดจัดอีกหนึ่งชุดใหญ่  :hao6: คุณเกียร์อยู่ในโอวาทคุณแฟนมากค่ะ น่ารักฝุด ๆ
ไอรักเสน่ห์แรงเหมือนเดิมน้า ส่วนอีกตาเกียร์ก็ขี้หึงเข้าเส้นเหมือนเดิม

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *Special Songkran* P.8 [17/04/13]
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 19-04-2013 20:41:20
อ้อนแบบนี้...น่าเอ็นดู  คนอ่านหลงรักสุด ๆ เลยยย :m1:

 :L2: &  :L1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *Special Songkran* P.8 [17/04/13]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 20-04-2013 10:56:00
ทำไมน่ารักอย่างงี้เนี่ยไอรัก  เป็นไข้ทีอ้อนซะเกียร์ไปไมาเป็นเลย 5555555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *Special Songkran* P.8 [17/04/13]
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 28-04-2013 22:36:53
คิดถึงไอรักกับคุณน้ำแข็งแล้ววว

 :กอด1:
หัวข้อ: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่20 แมวโหลดต่ำ* [06/05/13] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 06-05-2013 16:17:15
ตอนที่20


ก๊อก ก๊อก ก๊อก

อืม.......

ปึ้กๆๆๆ!

อื้อหือ ใครวะ...........

เคาะแบบนี้เลาะประตูห้องกันเลยดีกว่าไหม

ผมสะดุ้งตื่น ค่อยๆยุกยิกให้หลุดจากอ้อมกอดคนที่กระทำชำเรา(แบบสมยอม)ผมเมื่อคืน มันเริ่มคิ้วขมวด ขยับตัวตาม

....เอาแล้วไง ไอรักซวยแต่เช้าตรู่...........

"สัด" เสียงคนข้างๆตื่นมาสบถขึ้นอย่างงัวเงีย หรี่ตามองเพราะแสงแดดลอดเข้ามาจากหน้าต่างบานใหญ่ก็เห็นผมมองมันด้วยสีหน้าซีดเผือด คือผมกลัวมันตอนเช้าๆไง ยิ่งอารมณ์ขึ้นๆลงๆไม่เหมือนคนอื่นอยู่

มันจ้องตาผมนิ่ง ก่อนยิ้มออกมาบางๆมาให้ โอ้ย ไอรักใจกระตุกตึกตัก ยิ่งคิดเรื่องเมื่อคืนก็อยากจะมุดดินหนี มันหัวเราะในลำคอ ก่อนดึงผมให้ไปกอด แล้วหลับตานอนต่อ

ผิดคาด ทำไมมันไม่โกรธอะ ไอรักมึนตึ้บ

ปึ้กๆๆๆๆๆ

เกียร์ลืมตาทำหน้าหงุดหงิดจนผมต้องเอื้อมมือมือไปลูบต้นแขนมันเบาๆ มันมองผมครู่หนึ่ง ก่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วลุกไปเปิดประตูอย่างกระฟัดกระเฟียด

"ไร!" มันตะคอกซะสันหลังผมสะเทือน คนเคาะประตูอยู่นอกห้องคงโอเอ็มจี(ตกใจ)กันทั่วหน้า

"อ้าว อะ อูยย ไอรักอยู่ไหนหว่า เอ่อ แหะๆ กูเรียกเองก็ได้เนอะ ไอ้ร๊ากกเที่ยงแล้วนะโว้ย พวกกะ กูจะไปแดกข้าว มะมึงอาบน้ำกันยังว้า" เสียงตะกุกตะกักของเนมตะโกนเข้ามา

"เออๆ แปบนึง มึงไปกันก่อน เดี๋ยวกูตามลงไป" ผมตะโกนกลับ ส่วนตัวยังกอดหมอนข้างเอนพิงหัวเตียง เพราะลุกไปตอบพวกมันไม่ไหว ยังเจ็บด้านหลังแปลบๆเหมือนมีอะไรคาอยู่

"โอเค พวกกูไปรอร้านXนะมึง" เสียงคิมบอก

"วันนี้กินบนห้อง" เสียงค้านเด็ดขาดมาจากแดนไกล

“ห๊า พวกกูจะไปกินข้างนอกอะ” เสียงคลื่นตอบ

“ถุย มันหมายถึงไอ้รักคนเดียวโว้ย โชว์ง่าวตลอด”

“โอ้ยเชี่ยคิมกูเจ็บ ตบหัวทำไมวะ กูไม่รู้นี่หว่า ..บอสสสสสส” สงสัยมันคงหันไปฟ้องเมียมัน

“สรุปยังไง” เสียงบอสถาม

“ตามนั้น” ตามไหนวะ

“อืม” อ้าว ไอ้นี่เสือกรู้ พวกมันคุยกันสามคำแล้วเข้าใจกันเฉย

“กูไปด้วยๆ รอก่อน” ผมบอกก่อนที่พวกมันจะไปกัน

“ไม่ได้” มันพูดเสียงแข็ง

"ฮื้อ ผมอยากไปกินข้างนอกอะ " ผมรีบตะโกนบอกไป ไม่ได้เด็ดขาด ร้านอาหารมีให้เลือกเยอะกว่าข้าวในโรงแรมตั้งเยอะ แถมถูกว่าด้วย และที่สำคัญที่สุดคือนั่งชมบรรยากาศ สูดกลิ่นไอทะเล เป็นอะไรที่สุขที่สุด วันนี้ผมต้องไม่พลาดเด็ดขาด

"แต่ไอรักยังเจ็บอยู่" สาดดดดดดเอ๊ย เสียงฮือฮาดังขึ้นหน้าห้อง ผมอยากจะมุดเข้าไปใต้เตียง มึงจะเปล่าประกาศทำไมนี่

"เจ้ยย เจ็บอะไร อ๋อๆ ชนขอบโต๊ะอะนะ ไม่เจ็บแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮา...." ฮือ...

"กินไป ไม่ต้องรอ" เสียงทุ้มดุแว่วเบาๆ

"เกียยยยยร์ ผมอยากไปกินข้างนอกอะ" ผมหันหน้าบอกตอนมันเดินเข้ามานอนกอดผมเหมือนเดิม เหาะเหินเดินสบายตัวเลยสิ ดูกูด้วย ..เจ็บ

"ไว้ตอนเย็นนะ" มันพูดงึมงำลืมตาปรือมองผมแล้วหลับตาอีกรอบ อุส่าลืมเปลือกตาที่หนักอึ้งมาปฏิเสธกัน ใส่ใจกันมากครับ

"แต่มันจะผิดสังเกตนะครับ เดี๋ยวพวกมันรู้อะ"

"เดี๋ยวก็รู้อยู่ดี" เออว่ะ

"แต่ผมเขิน" มันยกมือดึงแก้มผมเล่นทั้งที่ยังหลับตา แล้วอมยิ้มบาง

"เดี๋ยวเกียร์เขินเป็นเพื่อน" ถุยเหอะไอ้หมา ถ้ารอให้เกียร์เขิน ผมรอดูหลินปิงเต้นอะโกโก้ยังง่ายกว่า

"เกียร์อะ!" ผมทำเสียงสะบัด อุส่ามาถึงที่นี่แล้วไอ้เราก็อยากไปเดินเล่นบ้าง กินข้าวชมบรรยากาศบ้างอะไรบ้าง โว้ยย แง่งๆๆ

"ตอนเย็นค่อยลง"

"............." กูไม่สน กูงอน

"ไอรักเจ็บอยู่"

"............."

"..เกียร์กลัวมันสะเทือน เดี๋ยวอักเสบ"

"............"

"เฮ้อ...... โอเค ไปอาบน้ำกัน"

เยสสสสส!

"พยุงหน่อย" ได้คืบจะเอาสอก ผมยิ้มตาหยี ส่งมือทั้งสองข้างไปให้มัน มันกดจมูกลงพวงแก้มผม แล้วอุ้มไปอาบน้ำเหมือนเคย

แต่ผมว่า เมื่อกี้บอกให้มันพยุงเฉยๆไม่ใช่เหรอ

“ไม่หนักเหรอครับ” ผมถามโดยไม่มั่นใจในน้ำหนัก เมื่อคืนมันก็ทำผมกังวลเรื่องนี้ไปทีหนึ่งแล้วนะครับ ถึงจะไม่ใช่ผู้หญิงที่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนัก แต่เจอสถานการณ์แบบนี้ไปก็ต้องกังวลเป็นธรรมดา  มันหยุดเดินก่อนอมยิ้มมองผม แล้วทำหน้าครุ่นคิดอย่างหนักใจ

“อืม..นั่นสินะ”

“เอ๊ะ หนักเหรอ เห็นไหมผมบอกแล้ว ปล่อยผมลงเดินเถอะ”

“ทำไม” มันเลิกคิ้วมองผมยิ้มๆ

“ก็..ผมตัวหนักอะ” ผมเม้มปากแน่น เลื่อนหัวพิงอกแกร่งอุ่นๆแทนที่จะจ้องสายตาที่มองผมด้วยความใคร่รัก นี่สินะที่เขาพูดกันว่า ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ

“อ้วนน่ะเหรอ” ผมอุส่าเลี่ยงคำนั้น คุณก็นะ

“.....”

“ตัวเบาโหยงแบบนี้เรียกว่าอ้วนเหรอ” มันชูตัวผมขึ้นสูงเสมอหัว

“เย้ยยยย เกี๊ยยยย” ผมรีบคว้าคอมันทันที ใจหายใจคว่ำหมด คนอะไรแข็งแรงชะมัด มันคงเห็นผมเป็นกระสอบปุ๋ยอินทรีย์ ถึงได้ยกเอายกเอา

“หึหึ จะเป็นแมวยกโช๊ค หรือแมวโหลดต่ำ ยังไงก็น่ารัก..” ดูมันสรรหาคำมาพูดสิครับ เลือดหมุนเวียนบนหน้าผมจนอยากจะระเบิดออกมาเสียให้ได้ แล้วมันก็เคลื่อนที่ไปห้องน้ำ(สักที)

"ทำอะไรครับ" มันวางให้ผมยืนแล้วไม่ขยับเขยื้อนตัวไปไหน แถมทำเป็นหยิบจับขวดโน่นขวดนี่

"ช่วยอาบ"

"ไม่ต้องเลยครับ ไปข้างนอกเลย" ตื่นเช้ามายางอายก็เริ่มปรากฏขึ้นบนหน้าผมชัดขึ้นแล้วไงครับ เสียใจด้วย

"เดี๋ยวไอรักลื่น" ผมอาบน้ำเองมาเกือบยี่สิบปี ไม่เคยลื่น

"จะลื่นเพราะคุณนี่แหละ เข้ามาข้างในทำไมตั้งสองคนเล่า มันกระดิกตัวไม่สะดวกนะครับ"

"ดื้อ!" นั่น ว่าผมอีก

"ไม่ได้ดื้อ คุณแหละดื้อ!"

"ชอบเถียง" เอาใหญ่แล้วไหมล่ะ มันทำหน้าบูดแต่ผมแอบเห็นสายตาวิบวับมองผมทั้งตัว จนต้องเอามือมาปิดของสำคัญ

"คุณนั่นแหละชอบเถียง ไปๆ ออกไปเลยครับ" ผมดันหลังให้ออกไป มันทำท่าฟึดฟัดแต่ก็ยอมออกแต่โดยดี



"วิ้ดวิ้วววว"

“เฮ้ยเล่นท่าไหนกันบ้างวะ หน้าบริ้งขึ้นเชียวนะมึง รุนแรงถึงใจมึงเลยอะสิ” เสียงไอ้เชี่ยคิมแซวหน้ากวนส้นตีน ไม่ได้รู้สึกสงสารที่ผมอยู่ในสภาพนั่งตะแคง ไม่ได้สงสารผมเลยสักนิด คนอื่นก็ทำหน้ากรุ้มกริ่ม เห็นแล้วน่าถีบชะมัด

“-วยครับ” ผมเม้มปากแน่น ทำเป็นไม่สนใจ มองโน่นมองนี่ไปเรื่อย ในใจด่าพวกมันเสียยับเยิน

“ไอ้รัก มึงหน้าแดงว่ะ ฮ่าๆๆๆๆ”

“……..” คบกันมาหลายปี มีปีนี้ที่ผมเริ่มเกลียดพวกมันขึ้นมาตงิดๆ

"ไปตักหอยแมลงภู่ให้ท่านยอดชายหน่อยซิไอ้คิม" ไอ้เลวคลื่นพูด

"มันไม่กินหรอก เดี๋ยวนี้มันพัฒนาไปกินไส้กรอกรมควันแล้วโว้ย ฮ่าๆๆ" ผมหันไปค้อนไอ้คิมที่พูดแซวไม่หยุดเสียที แต่ไม่ได้สะทบสะท้านสะเทือนถึงหัวใจมันหรอกครับ แถมยังหัวเราะกันกรามจะติดกับลูกกระเดือกกันเลยทีเชียว สนุกเลยสิพวกมึง เหอะๆ...

"เมื่อคืนยิงไปกี่ลูกคะตัวเอง คุคิๆ" ไอ้เชี่ยนี่รู้กัน ไอ้เนมทำเป็นหันไปคุยกับคิมอย่างชอบใจ ก่อนหน้าถอดสีเมื่อเห็นคนหนึ่งที่ลุกไปขอผ้าเย็น(ผมสั่ง)กำลังเดินกลับเข้ามา

ร้านอาหารที่มาทานเน้นสีขาวกับสีเขียวสบายตา มีสองโซนให้เลือกนั่งได้ตามความชอบ ด้านในจะติดแอร์ เน้นความเย็นสบาย ส่วนด้านนอกสำหรับคนชอบกินดื่มชมบรรยากาศ  พวกผมนั่งอยู่ด้านนอก ริมสุดติดถนนรถวิ่ง แต่ก็ไม่ได้มีมลพิษมากวนใจเหมือนในเมืองหลวงหรอกนะครับ เพราะรอบๆปลูกต้นไม้หลากหลายพันธุ์จึงทำให้ร้านดูร่มรื่นมากขึ้น ท่าทางเจ้าของร้านคงชอบต้นไม้อยู่เหมือนกัน

"นับไม่ถ้วนนะจ๊ะ แต่ที่รู้ๆ เจ็บประตูหลังมากกกก โอ้ยยย...."เต็มๆครับ ช้อนตักโจ๊กสีขาวฟาดกลางกระหม่อมคิมเต็มๆ

"สมน้ำหน้า"ผมทำหน้าล้อเลียนไอ้คิม หัวเราะทีหลังดังกว่า ก่อนหันไปขอบคุณเกียร์เบาๆเมื่อมันยื่นผ้าเย็นมาให้

ผมเริ่มทานอาหารกับเกียร์สองคน ส่วนคนอื่นนั่งคุยกันจ้อรอผมทานเสร็จ เพราะลงมาพวกมันก็ทานกันเสร็จหมดแล้ว

มาถึงระยอง แต่ผมจำต้องนั่งทานโจ๊กหมู เป็นที่น่าประทับใจมากถึงมากที่สุด

มันยื่นขวดแม็กกี้มาเชิงถาม ก็ไม่ทราบว่าออกมาข้างนอกมันจะเกิดอาการติดใบ้หรืออะไร ผมเห็นมันกลัวเสียงเล็ดลอดออกมาจึงเล่นไปกับมัน พยักหน้าหงึกหงักก่อนจะรับมา แต่มันเบี่ยงมือออกแล้วเหยาะให้แทน ผมแตะมือให้มันหยุด มันถึงวางขวด แล้วตักหมูในชามตัวเองมาให้แต่ผมตักกลับไป มันส่ายหน้าตักให้ผมเหมือนเดิม แต่เหลือหมูให้ตัวเองชิ้นหนึ่ง ผมเลยยิ้มตาหยีแทนคำขอบคุณ มันมองนิ่ง ตาเป็นประกาย แล้วจับมือให้ไปวางบนตักมัน ก่อนตั้งหน้าลงมือทาน

"สงสัยกูคงต้องหาแฟนบ้าง" ผมเงยขึ้นมามองไทป์ที่จ้องเกียร์กับผมเขม็ง เกิดวิบัติอะไรอีกละพวกมึง

"ได้ข่าวมึงพึ่งเลิกไปไม่ถึงสามเดือน" คลื่นพูด

"เออ" ไทป์พยักหน้า

"มึงรักสนุกเป็นเพื่อนกูกับไอ้คิมดีกว่า เนอะมึงเนอะ" เนมเออออกับคิม แล้วหันไปยิ้มตาปิดไปให้ไทป์

"ใครว่ากูรักสนุก" คิมเลิกคิ้วถาม

"เปลี่ยนคู่นอนอย่างกับกางเกงในอย่างนี้เขาเรียกว่าอะไรละวะ ใครได้เป็นแฟนมันคงเขวี้ยงตะหลิวใส่กันทุกวัน" ผมเงยหน้าขึ้นไปพูด ไอ้เนมหัวเราะก๊าก คงกำลังคิดภาพลุงขี้เมากับป้าขี้วีนข้างห้องมัน ทะเลาะกันทั้งวันทั้งคืน แต่ก็ไม่มีแววจะเลิกกัน

"กูไม่ได้รักสนุกโว้ย กูแค่รักทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน" มันค้านทำหน้าจริงจังมากเกินความจำเป็น

"ถุยยย เขารักมึงกันหรือเปล่าเหอะ ไอ้หน้าปลวก" เนมทำหน้าขยะแขยงใส่ ไอ้สองคนนี้บทจะรักกันก็รักปานจะแหกก้นดม บทจะเกลียดก็แทบจะถีบด้วยง่ามเท้าใส่กัน

"แม้วเผือกพูดมากจังวะ กูลีลาเด็ดเล่นทุกท่วงท่าขนาดนี้ เขาไม่รักกูก็นมบอดกันแล้ว" ผมเคยได้ยินแต่ตาบอด

"เหวย หยาบคายว่ะ" ไอ้คลื่นหน้าเหวอ ทำเป็นรับไม่ได้เหมือนไม่ประสีประสา

"หึหึ"

"มึงหัวเราะไรวะ" ไอ้พิชถามบอส เสียงมันน่ากลัวจนพวกผมหันซ้ายหันขวาด้วยความระแวง มันพยักพเยิดไปทางเกียร์ พวกผมหันไปมอง เกียร์ทำหน้าเหมือนอยากจะฆ่าใคร

"อะ เอ่อมึงเป็นอะไรวะ" ผู้กล้าคนที่หนึ่งพูด

"นะ นั่นดิ คะ ใครทำอะ อะไรตะ ตัวเองงะ" ผู้กล้าคนที่สองพูดปากสั่น

มันไม่สนใจเสียงคลื่นกับเนม พวกผมมองหน้ากันเลิ่กลั่ก มีไอ้บอสคนเดียวที่ยังหัวเราะในลำคอเบาๆ

ปึ้กกกก........!!!!!!!

"โอ้ย.....!"

"เห้ยยยยยยยยย" เสียงพวกผมร้องตกใจ เมื่อเกียร์ลุกขึ้นจนเสียงเก้าอี้ลากดังไปทั่วร้าน แล้วขว้างช้อน(อาวุธเดิม)ใส่คนบนรถกระบะสีบรอนซ์ แม่นยิ่งกว่านักยิงธนู

"มองเหี้ยไรเมียกู!"เสียงกังวานไปถึงหน้าร้าน

"ยะ เยดเข้..........." เพื่อนผมอุทาน(เสียงเบา)

"เกียร์ แฟนครับ แฟนก็พอ" ผมกระตุกแขนเสื้อมันเบาๆ ตอนนี้หน้ามันน่ากลัวมากครับ แล้วที่มันพูดหมายถึงใครมองใคร ทำไมผมถึงไม่รู้สึกตัวเลย แต่รู้ตัวก็แปลกแล้ว เพราะรถที่ผ่านไปผ่านมามีเป็นร้อยคัน มันหันมามองผมนิดหนึ่ง ก่อนจ้องจะเอาเรื่องคนนั้น

แล้วนี่ผมควรห้ามมัน ไม่ใช่มานั่งแก้คำตอนนี้ไม่ใช่เหรอวะ!!!!????

หันไปอีกทีก็ไม่เห็นรถคันนั้นแล้วครับ คงรีบขับออกไปแน่นอน ดีนะที่เขาไม่ลงมา ไม่อย่างนั้นคงมีเรื่องกันยาวแน่ๆ

"เอ่อ เกียร์ใจเย็น เขาทำอะไรเหรอ..เอ่อ ไม่มีอะไรครับ ทานกันต่อเลยครับ" ผมหันไปถามเกียร์ ก่อนก้มหัวขอโทษลูกค้าในร้านที่มองกันอย่างสนใจ ตอนนี้เพื่อนผมขยับไปเกาะติดไอ้บอสกับไอ้ไทป์และไอ้พิชเรียบร้อย เหลือให้ผมเผชิญหน้ากับอสูรน้ำแข็งเพียงคนเดียว ..นิสัยดีกันมากๆครับเพื่อนกู ขาผมสั่นพั่บๆ ไม่รู้ว่ายังเจ็บอยู่ หรือกลัวกันแน่ ผมดึงแขนให้มันนั่งลงดังเดิม สายตามันยังตาแข็งอยู่

"ไอ้เหี้ยนั่นมันมองไอรัก" มันพูดอย่างหัวเสีย น้ำเสียงอ่อนลง

"ห๊า มอง????" เสียงประสานจากข้างหลัง รวมถึงผมด้วย

"ปกติมันก็มีคนมองปกติอยู่แล้วนะโว้ย ยังไม่ชินอีกเหรอวะ" เสียงคิมบอก นี่มึงจะทำให้บรรยากาศมันดีขึ้นหรือแย่ลงเนี่ย

"แค่มองเอง หน้าผมคล้ายเพื่อนเขาหรือเปล่า" มันส่ายหัว นั่งหน้าบูดไม่หาย ผมจึงไม่ได้ถามอะไรต่อ แต่ดูท่าจะมีคนไม่จบ

“ทำไมงะ มันมองเหรอ แล้วไงต่อวะ กูยังไม่เคลียเลย” ไอ้เนมหันซ้ายหันขวาถามต่อครับ ตัวเสือกจริงๆ

“มันขับรถกลับมาบีบแตร์ใส่มึงอย่างกับทำความเคารพศาลพระภูมิตั้งหลายรอบ ผิวปากแซวมึงตั้งนานแล้ว แต่ไม่มีใครสนใจกันเอง” บอสคงเห็นว่าเกียร์คงไม่พูดออกมาจึงอธิบายต่อ

“พูดเหมือนพวกกูผิดเลยว่ะ” คลื่นบอก

“อะ” ผมยื่นช้อนให้มัน เพราะของมันลอยไปแสนไกลแล้ว มันส่ายหน้า แล้วดันมือให้ผมทานต่อ ผมเลยวางช้อนในชามมันเสียเลย

“กินเถอะ”

“คุณทานก่อนเลย ผมยังไม่ค่อยหิวเท่าไร” มันลงมือตักโจ๊ก แต่เลี้ยวมาป้อนผม เอาอีกแล้ว มันหลอกด่าผมเป็นง่อยแน่ๆ

“อ้า” เหมือนเดิมครับ ไอ้น้ำแข็งจอมสั่ง ผมจึงต้องอ้าปาก พยายามไม่เหลือบไปมองสายตาคนรอบโต๊ะที่กำลังล้อเลียนผมอยู่ พวกมันไม่กล้าเอ่ยแซว แต่ก็ยังหาทางส่งซิกทางตามาให้ผมได้ เจ๋งกันจริงๆ

“ผมทานเองดีกว่า อ่ะ เอ่อ ครับๆ ป้อนก็ป้อนครับ เต็มที่เลยครับ” มันปั้นหน้าดุใส่ ผมจึงต้องหลับหูหลับตาอ้าปากให้มันป้อนจนอิ่มทั้งคู่ เอาเลยครับ ตามสบาย อย่ามาให้ผมทานเผ็ดก็พอ

“น้องๆ เพิ่มไฮเนเก้นสามขวด มึงเอาอะไรเพิ่มเปล่า” พิชหันมาถามผมไม่ต้องแปลกใจว่าพวกมันกินเบียร์ตอนบ่ายนะครับ เวลานั่งชิล จะสั่งมาไม่กี่ขวดแบบดื่มสบายๆ แต่ถ้าตอนกลางคืนก็จะดื่มกันหนักหน่อย

“มีนมช็อคเปล่าวะ”


[ต่อด้านล่าง]
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่20 แมวโหลดต่ำ* [06/05/13] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 06-05-2013 17:21:30
เกียร์โหดดด รอค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่20 แมวโหลดต่ำ* [06/05/13] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 06-05-2013 17:29:47
[ต่อจากด้านบน]




“ถุย! ไอ้เด็กยังไม่หย่านม ร้านอาหารนะไม่ใช่เซเว่น เขาจะมีให้มึงปะละสาด” คิมพูด มันพูดหยามหน้าผมมากครับ  คุณได้ดูผู้ปกครองของผมบ้างหรือเปล่าครับ ถ้าผมดื่มกับมันคงเอาผมตายเป็นแน่

“เอ่อ ตะ แต่ทางร้านเรามีน้ำปั่นนะครับ ไม่ลองเป็นพวกช็อคโกแลตปั่นดูล่ะครับ” พนักงานเอ่ยบอกอย่างกล้าๆกลัวๆ สงสัยคนอื่นคงเห็นโต๊ะผมเป็นคนเถื่อนเสียแล้วล่ะครับ

“เอาปะ” ผมพยักหน้าให้พิช พนักงานจดเสร็จก็เดินออกไป

“เออ นั้นกูไปซื้อกับแกล้มดีกว่า เอาอะไรกันหรือเปล่า” เนมลุกขึ้นถาม

“ที่ไหนวะ” เดินมาไม่ยักกะเห็นสักเว่น

“กูเห็นเฟรชมาร์ทอยู่ใกล้ๆนี่เอง ไอ้พิชไปเป็นเพื่อนกูหน่อย”

“ซวยกูอีกไง”

“ก็ตัวเองถึกที่สุดไงคะ ไปช่วยเค้ายกของหน่อยสิที่รัก”

“มึงไปทำเสียงแบบนี้ให้คนอื่นเลยนะสัด ไม่ต้องมาทำกับกู จะอ้วกว่ะ”

“อิอิ” มันยิ้มตาปิดเหมือนเดิม เลยโดนไอ้พิชตบหัวไปที

“เชี่ย แล้วทำไมเมื่อกี้ไม่บอกก่อนวะ กูอยากกินนมช็อคอะ” ผมบ่นกระปอดกระแปด คนข้างๆคงทนไม่ไหว เอื้อมมือมาขยี้หัวผมอย่างหมั่นเขี้ยวเบาๆ

“อ้าว กูลืมงะ อิอิ” อิกับพ่องมึงสิ

“มึงอะ แม่ง”

“นมช็อคสอง” เกียร์หันไปสั่ง

“ฮื้อ ไม่เอาๆ เดี๋ยวผมอ้วนอะ” ไม่ใช่จะกินไม่หมดนะครับ แต่กลัวอ้วน ผมพึ่งสูญเสียความมั่นใจไปตั้งแต่เมื่อคืนนี่ละ

“สามกล่อง”

“เอ้ย ทำไมมันเพิ่มอะ”

“จะได้เป็นแมวโหลดต่ำ”

“อะไรวะแมวโหลดต่ำ” พวกมึงถามเหมือนกูเมื่อคืนเป๊ะเลย

“..แมวอ้วน” เสียงห้วนตอบ

“กร๊ากกก เชี่ยรักโหลดต่ำเหรอมึงเดี๋ยวนี้ ถึงได้ว่า แขนมึงไม่ต้องยกเวทเลยว่ะ ไขมันมาเป็นมัดๆ ฮ่าๆๆๆ โอ๋ๆ อย่าหน้างอสิคะตัวเอง กร๊ากกๆ” เออ มึงขำกันเข้าไป อย่าให้ถึงทีกูนะมึง ผมหันไปค้อนเกียร์ที่ทำหน้าตายอยู่ข้างๆ มันหันมาเลิกคิ้วแล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

โห ไอ้ผมนี่โคตรจะหมั่นไส้มันเลย

"วงแขน กล้ามเป็นมัดๆ อุ้ยน่าจะกัดแขนเล่นเบาๆ" ช่วยด้วยครับ ผมโดนประทุษร้าย ไอ้คิมมันกัดไม่ปล่อย

“โอ้ยย อย่าต่อยกูดิวะ กูผิดไรเนี่ย ฮ่าๆ เอ้า เอาไปกิน เลิกงอแงได้แล้ว” ผมทำอะไรคนข้างๆไม่ได้ ก็หันไปต่อยแขนไอ้พิชที่นั่งอยู่อีกข้างแทน มันแสร้างทำเป็นโอดโอยเกินอาการ พอดีกับพนักงานมาเสริฟน้ำปั่น ถึงจะไม่อร่อยเท่านมช็อค แต่ก็พอแก้ขัดไปได้

"งอแงบ้านมึงดิ"

“เหอะๆ ไปซื้อไปไอ้เนม” ขนาดไอ้ไทป์ยังหลุดขำออกมา

“เออว่ะ ตัวเองเร็วๆสิ ลูกเราหิวนมแล้ว เวท อะมิหนิดนะลูกนะ”

“แค่มึงบอกกูว่า รอแปบ กูก็เข้าใจละ”

“ก็กูมีพี่บี้เป็นไอดอลในดวงใจอะ อิอิ” แล้วมันก็ฉุดไอ้พิชออกไป

“อ๊ะ” มันยื่นมือมาเช็ดมุมปากให้ผม

“เปรอะ”

“เอ่อ ขอทิชชู่ก็พอครับ”มันนั่งริมสุดจึงหยิบของสะดวก ส่งกระดาษทิชชู่มาให้

“ไอ้รัก กูว่ามึงมีน้ำมีนวลขึ้นว่ะ”ไอ้คิมปากมอมพูด

“อะไรของมึงอีก กูไม่ใช่ผู้หญิงนะสัด” คำนั้นมันสำหรับผู้หญิงไม่ใช่เ้หรอครับ ผมไม่รู้ว่าตัวเองทำหน้าอะไรออกไป แต่พวกมันหัวเราะกันใหญ่

“เก็บสีหน้าหน่อย แดงเชียวนะมึง ฮ่าๆๆ แต่กูพูดจริงๆนะโว้ย ไม่เชื่อก็ถามไอ้บอสดูดิ” บอสพยักหน้าโดยที่ผมยังไม่ได้หันไปถามมันเลยสักคำ

“บ้านมึง ก็ปกติของกู”

“ไม่ว่ะ ปกติมึงก็วิ๊งๆอยู่แล้ว อารมณ์เจ้าชายแสนดี ยิ้มแย้มโลกละลาย แต่นี่มึงแบบผ่องๆวิ๊งๆกว่าเก่าอีกว่ะ กูถึงได้ว่า เดินเข้ามามีแต่คนมอง” คลื่นพูด

“น้ำดี....อย่ามองกูแบบนั้น กูหมายถึงน้ำช็อคปั่น” ไทป์รีบแก้ไขคำพูด ไม่ทันแล้วมั้ง

“วู้! เพ้อเจ้อว่ะ..เอ่อเกียร์ ผมเจ็บมืออะครับ” มันคลายมือนิดหนึ่ง แต่ยังจับอยู่ไม่ปล่อย

“แล้วพวกมึงจะไปเล่นน้ำกันเปล่าวะ”ผมหันไปถามคลื่นที่กำลังแกล้งเอานิ้วแหย่เข้าไปในหูไอ้บอสที่นั่งไมรู้ร้อนรู้หนาว อดทนดีเนอะมึง

“เล่นดิวะ กูอยากเล่นใจจะขาด แต่ไอ้ไทป์บอกให้บ่ายแก่ๆกว่านี้หน่อยแล้วค่อยลง เดี๋ยวมะเร็งแดก”



พอแดดเริ่มร่ม พวกผมก็โดดลงทะเลกันเลยครับ ไอ้เนมซื้อลูกบอลสีใสมาเล่นลิงชิงบอลในน้ำ

“ไปเล่นน้ำกันครับ” พวกนั้นลงไปเล่นกันในน้ำกันแล้ว เหลือเกียร์ที่ยังนั่งนิ่งโดดเดี่ยวเปลี่ยวเยี่ยวราดอยู่บนพื้นทรายขาว

“เล่นเถอะ”

“หือ มีอะไรหรือเปล่าครับ” ผมเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆ

“หึ” มันส่ายหน้า ผมเลยบีบแก้มมันเบาๆ มันหน้ายืดมองผมค้อนๆ ฮ่าๆ ตลกชะมัด มันเห็นผมหัวเราะก็ยืดแก้มผมกลับ แล้วยิ้มบางให้

“เป็นอะไรล่ะคร๊าบคุณน้ำแข็ง นั่งหน้านิ่งเป็นคุณน้ำแข็งแบบนี้ผมจะรู้เหรอหื้มม” ผมดึงแก้มมันไปมา พลางอมยิ้มถาม

“ก็ไม่ชอบทะเล...ไปเล่นเถอะ แต่อย่าลึกนะ" เสียงทุ้มตอบ ผมหน้าเจื่อนลง มันจึงรีบพูดต่อ

“ไม่เอาอะ นั่งเป็นเพื่อนดีกว่า เดี๋ยวหลงไปทำยังไงละ ตัวใหญ่ขนาดนี้ทำคืนพ่อแม่เกียร์ไม่ไหวหรอกนะ” ผมพูดขำๆ

“เกียร์นั่งดูอยู่ตรงนี้ ไม่ไปไหนหรอก”มันลูบมือผมเบาๆ

“แต่เกียร์ไม่ชอบทะเล นั่งดูทะเลแล้วมันจะดีเหรอ”

“ใครบอกดูทะเล เกียร์นั่งดูไอรัก”

“อ๊ะ”

“หน้าแดงแล้ว หึหึ ไปเถอะ”

“นั้นก็ปะ ไปเดินเล่นกันดีกว่า” ผมตัดบทโผล่งขึ้น แล้วรีบลุกยื่นมือไปให้มัน มันมองงงๆแต่ยอมยื่นมือมาจับ

“จะไปไหน”

“ไปตามทาง อ้าว อย่ามองแบบนั้นสิ ผมพูดความจริง ไม่ได้กวนส้นเท้าคุณเลยสักกะติ๊ด”

“อย่างนั้นก็ดี” มันพยักหน้าเออออ แต่สายตาอยากฆาตกรรมปากผมมากๆ

“เฮ้ย พวกกูไม่เล่นละนะ”ผมตะโกนบอกพวกมันที่เล่นรอผมไปพลางๆ

“อ้าว เออๆกูว่าละ ไปไป๊” คิมตะโกนกลับ แหม พอกำลังสนุกก็ไล่ผมกันเชียว สันดาน



"ตกใจไหม" มันเอ่ยถามผมที่กำลังเตะทรายไปตามทาง อุ่นเท้าดีชะมัด

..อุ่นมือด้วย..

“อะไรเหรอครับ”

“เมื่อตอนกลางวัน” อ๋อ แรงหึงของน้องเกียร์

"หืม อ้อ ไม่นิครับ เห็นผมเรียบร้อย ไม่เคยเห็นคนมีเรื่องกันเลยว่างั้น" มันพยักหน้า

“โหย อย่างนี้มาตัวต่อตัวกันเลยดีกว่า อะโด่ๆ” มันหัวเราะในลำคอ บีบจมูกผมเบาๆเชิงหลอกล้อ

“ยอมแพ้ก็ได้”

“ทำไมยอมง่ายจังอะ ยังไม่ทันขึ้นสังเวียนเลยนะเอ้อ”

“ไม่อยากแกล้งแมวหงิม ปล่อยให้ยิ้มเดินไปเดินมาน่ะดีแล้ว” โห ผมขึ้น(ในใจ)เลยครับ หงิมกับหลานฝั่งน้าคุณสิครับที่รัก

“หูยย จุกเลยๆ เห็นผมโลกสวยขนาดนั้นก็ให้ผมเป็นนางงามเถอะครับ"

“นางงามมีงวง” เหรี้ยยยยยยย ปากคอเราะร้าย

“งวงใหญ่กว่าคุณก็แล้วกัน โถ่ เล่นใต้สะดือตลอด ไม่คุยด้วยแล้ว”ผมทำท่าจะเดินหนี แต่มันคว้าเอวกอดผมแน่นจากด้านหลัง

“เก็บปากหน่อยสิ แก้มป่องปากยื่นออกมาแล้ว หึหึ”

“เกียร์ปล่อยก่อน เดี๋ยวคนอื่นเห็น” คนเต็มชายหาดเลยครับ แต่ส่วนใหญ่เป็นฝรั่งเสียมากกว่า

“ไม่มีใครสนใจหรอก”

“ฮื้อ แต่ผมสน เดี๋ยวคนจะเห็นแล้วดูไม่ดีนะครับ”

“ไม่สน” คางแหลมเกยบนกระหม่อม พร้อมมือกระชับกอดผมแน่นขึ้น

“เผด็จการตลอดด”

“ตัวรุมๆ ไม่สบายหรือเปล่า” มันเอามือแตะหน้าผาก แก้ม ลามไปถึงคอ

“ไม่รู้อะ ไม่เห็นร้อนเลย”

“ปวดหัวไหม”

“นิดหน่อยครับ” เหมือนผมเป็นคนไข้ แล้วมันเรียนแพทย์แทน มันคลายอ้อมกอดแล้วจับมือผมเดินต่อ เดินไปไม่กี่ก้าวมันชะงักแล้วหันมาถามเมื่อเห็นผมเริ่มจับก้นตัวเอง

“เจ็บตรงนั้นเหรอ” ว๊ากกก ดูมันถามหน้าตาเฉย ดึงให้ผมนั่งในร่มเงาต้นไม้ แล้วกอดผมจากด้านหลัง

“นี่ ผมไม่ได้ตัวเล็กเลยนะครับ นั่งดีๆก็ได้” ผู้ชายตัวใหญ่สองคนนั่งกอดกัน มันดูแปลกๆนะครับ

“ปากยื่นอีกแล้ว”คราวนี้มันเอี้ยวหันมากัดริมฝีปากล่าง ผมอ้าปากหวอตกใจผลักอกหนา มันกอดแน่นแล้วฉวยโอกาสนั้นดูดลิ้นผมอย่างดูดดื่ม ริมฝีปากอุ่นบดเบียดเข้าหากันอยู่อย่างนุ่มนวลหวานซึ้ง

“อืออ อืมม.....” เสียงต่อต้านในตอนแรก กลับกลายเป็นเสียวครางหวิว เคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบที่อีกฝ่ายมอบให้ แขนคว้าคออีกฝ่ายให้แนบชิดพักใหญ่จนต้องทุบอกแน่นของอีกฝ่ายเบาๆ

“หายยื่นละ” มันพูดคลอเคลียใกล้ริมฝีปาก แนบจุ๊บปากกันเล่นอยู่อย่างนั้น

“..แต่เจ่อแทน” เสียงกระซิบพร่าตอบต่อ ตัวหันเข้าหาอีกฝ่าย ขาคล่อมคนตัวใหญ่ มือยังคล้องอยู่บนคอหนาของมัน จนได้ยินเสียงหัวเราะในลำคออย่างถูกใจ แล้วหอมแก้มผมซ้ายขวาจนแทบช้ำไปหมด

“พระอาทิตย์สวยดีนะครับ” ผมมองตาหวานเยิ้มของมัน แล้วยิ้มให้อย่างออดอ้อน

“แต่น้อยกว่าคนนี้” หลังจากที่โดนฟักซะน่วม มันก็ลูบแก้มผมเล่น

“อย่างนี้เขาเรียกว่าหล่อต่างหาก”

“ก็จริง” เห็นไหม ผมไม่ได้หลงตัวเองนะครับ

“ทะเลที่นี่ก็สวย น้ำใสมากๆ” ผมพูดเปรย อยากให้มันลงน้ำบ้าง ไม่อยากให้มันยึดติดอยู่กับเรื่องเก่าๆ

“..อืม ก็จริง..”

“เห็นมะ นั้นลงไปเล่นน้ำกัน” ยิ้มตาปิดให้ มันเลยแกล้งดึงหนังตาผมขึ้นให้ตาเหลือก แล้วหัวเราะเบาๆ สนุกเลยสิ

“หมายถึงสีตาแมวตัวนี้ต่างหาก” มันจ้องลงลึกเข้าไปในตา จนผมจำต้องหลบสายตาใคร่รักที่จับจ้องมา

“..นะ นี่! คุณจะทำผมหน้าระเบิดวันละหลายๆรอบแล้วนะครับ” มันหัวเราะเสียงดัง ผมทำหน้าไม่ถูก หัวเราะอีกแล้ว...ผมต้องเป็นโรคหัวใจไปก่อนมันแน่ๆ ให้ตายสิ!

“ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”

“แล้วที่พูดหยอดผมอยู่ตลอดนี่เขาเรียกว่าอะไรละครับ! ..ทำผมหน้าร้อนอีกแล้ว” ผมแกล้งหน้ามุ่ยบ่นอุบอิบ มันกระชับกอดแน่นขึ้น

“ไม่หยอด ไอรักก็หน้าแดง แค่มองเกียร์ หน้าก็แดงเป็นมะเขือเทศแล้ว ไม่รู้ตัวเลยเหรอ” มันก้มกระซิบ เสียงทุ้มเซ็กซี่ข้างหูทำเอาผมหน้าแดงจัด

“มะไม่จริงอะ” นี่ผมแสดงออกไปแบบนั้นเชียวเหรอ ไม่มีทางอะ บ้าแล้ว

“หึหึ แมวน้อยเอ้ย”

“อีกละ บอกเป็นเสือไงงง”

“แมวอวบ”

"ใช่สิ  ก็คนมันมีไขมันส่วนเกินแล้วนี่” (เสียงสูง)

"เป็นส่วนเกินที่ทำให้น่ารักดีนะ"

“…………”

“หึหึ” ดูมัน ชมคนอื่นหน้าตาเฉยแล้วยังมาหัวเราะอีก ผมซบไหล่หนี มันก็ยังหันมาหอมแก้มกันซะได้

"อย่าหัวเราะอย่างนั้นดิ”

“ทำไม” มันเลิกคิ้วใส่

“ก็ ก็มันทำให้ผมใจสั่น” ว่าไปแบบนั้นมันก็กลั้นอมยิ้มแก้มป่องเลย จนผมต้องกัดไหล่มันแก้เขิน

"เหมือนกัน”

“เหมือนตรงไหนอะ” ผมเงยหน้าจากบ่ามามองมัน

“… เวลาไอรักยิ้มเหมือนพระอาทิตย์ ตอนหน้าแดงก็เหมือนเป็นไอความรักให้เกียร์ เป็นดาวสว่างไสวเวลาที่หัวเราะ แล้วก็เป็นพระจันทร์แห่งความสงบให้เกียร์เวลาที่โกรธ" ผมมองมันอึ้งๆ คำพูดเยียดยาวที่นานๆที่มันจะพูดออกมา เวลาที่เกียร์พูดดูมีความสุขที่ได้บอกผม เหมือนคำพูดออกมาจากใจจริง แววตาที่จริงใจมองมาที่ผมอย่างมั่นคง

..ทำให้ผมมั่นใจว่าผมเลือกคนนี้ไม่ผิดจริงๆ..

".........."

"อืม.. แล้วก็เป็นแมวขี้อ้อนน่ารัก ขู่ฟ่อๆเวลาที่โมโห เป็นแมวยั่วสวาทเวลาอยู่บนเตียง แต่ก็สั่นหูตกเวลากลัว แต่ทำปากแข็งว่าไม่กลัว แต่สุดท้ายก็กลัวน้ำตาคลอตัวสั่นไปหมด เวลาเล็บที่จิกลงแผ่นหลั...."

"เย้ยยยยย เกียยย พูดอะไรนี่กำลังโรแมนติกเลยอะ โห่" ผมหน้ามุ่ย แต่มันกลับหัวเราะใส่ เออ แกล้งผมเข้าไป

"เห็นสงสัย เลยตอบให้"

"ทีเรื่องแบบนี้ล่ะพูดเยอะจัง เรื่องอื่นดันไม่ตอบ อะโด่"

"เคยไม่ตอบ?"

"เอ๊า หมายถึงเวลาคนอื่นถามไง กลัวดอกพิกุลจะร่วงเหรอคร๊าบคุณน้ำแข็งงง" ผมทำหน้ากวนๆให้มัน มันอมยิ้มชอบใจใหญ่

"ไม่ใช่ไอรัก ก็ไม่รู้จะพูดไปทำไมให้เหนื่อย" มีงี้ด้วยเหรอ แค่ขยับกรามนิดหน่อยบอกเหนื่อย อีตอนเมื่อคืนล่ะใส่เอา ใส่เอา แม่ง ยังเจ็บไม่หาย

"โห อย่างนี้ผมคิดเข้าข้างตัวเองได้ไหมเนี่ย"

"คิดอะไรล่ะ"

"ก็........คุณน้ำแข็งรักผมหมดใจแล้วไงล่ะ" ผมหันไปยิ้มตาหยีให้มัน

"พึ่งรู้เหรอ" มันยิ้มอย่างอ่อนโยน แล้วก้มลงจูบอย่างนุ่มนวลอีกรอบ




TBC---->>>>>>>>>>>>>>>>>>


+ขอโทษที่มาต่อให้ช้านะคะ พอดีเอาคอมมันมีปัญหานิดหน่อย เลยเอาไปซ่อม (เสียตังอีกแล้วT-T)
+ยังไม่ได้ดูคำผิด ถ้ามีคำไหนผิดก็บอกกันได้นะคะ
+มีเรื่องใหม่มาแนะนำค่ะ เรื่องนี้นายเอก(?)แก่กว่า ส่วนพระเอก(?)เกรียนๆตามประสาวัยรุ่นผู้ชายนะคะ โดยพระเอก(?)เป็นคนบรรยายค่ะ ใครชอบแนวๆนี้ก็ไปติดตามกันได้นะคะ

+>> แก่แล้วไง...เล็กไม่เกี่ยง <<+ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37638.0)

โซ่รักทุกคน♥
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่20 แมวโหลดต่ำ* [06/05/13] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 06-05-2013 18:44:55
โอ๊ยหวานเกิ้นนนนน เกียร์ขยันหยอดไอรักมากแค่นี้เค้าก็เขินเช้ากลางวันเย็นก่อนนอนอยู่แล้วนะ
คนอะไรโคตรของโคตรจะหลงแฟนตัวเอง ที่จริงเค้าหลงซึ่งกันและกัน ไอรักทำเป็นเขินกลัวคนเห็นที่ชายทะเล
อายทำไมคนเยอะแยะ 555 ดีฟคิสกันเลยทีเดียว

พระเอกเราหึงแรงเหมือนเดิม นี่ถ้าไม่ได้อยู่บนรถนี่มีตีกันแล้วล่ะ เอิ่ม..เบาลงหน่อยพ่อ ตะโกนเมียซะลั่นร้าน
ไอรักโดนเพื่อนแซวซะยับเลย ฮามากอ่ะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่20 แมวโหลดต่ำ* [06/05/13] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 06-05-2013 19:31:58
เกียร์ขี้หึงสุดๆ ก็ไอรักมันน่ารักนี่นา
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่20 แมวโหลดต่ำ* [06/05/13] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 06-05-2013 21:08:08
หวานนนนนนนนน  :impress2:

เกียร์ขี้หึงสุดยอดดดดดด  :hao7:

ปอลิง.มาต่อเร็วๆ น้าาาาาาา  :katai4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่20 แมวโหลดต่ำ* [06/05/13] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 07-05-2013 00:13:16
+เป็ด ไม่ไหวละ สำลักความหวาน ตายอย่างสงบ :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่20 แมวโหลดต่ำ* [06/05/13] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 07-05-2013 00:46:09
รวดเดียวจบ อุๆ น่ารักมากอะ เกียร์ขี้หวงมากๆ 555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่20 แมวโหลดต่ำ* [06/05/13] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 07-05-2013 11:26:00
ที่สุดของความหึงหวงเลยเกียร์ สงสัยต้องเก็บไอรักแต่ในห้องมั้ง

+1 ค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่20 แมวโหลดต่ำ* [06/05/13] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: mach201 ที่ 07-05-2013 12:09:05
อ่านรวดเดียวเลย สนุกมากๆ
ไอรักน่ารักมากๆอะ ชอบนายเอกแนวนี้
เกียร์โหดกะคนอื่น แต่กับไอรักหวานสุดๆ ฟินนมาก
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่20 แมวโหลดต่ำ* [06/05/13] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 07-05-2013 14:31:26
เกียร์ไม่ค่อยเลยนะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่20 แมวโหลดต่ำ* [06/05/13] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 08-05-2013 06:04:33
 :jul1: :jul1:  ขอลาตายอย่างสงบบ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่20 แมวโหลดต่ำ* [06/05/13] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 08-05-2013 14:46:21
น่ารักสุดๆ  :hao6:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่20 แมวโหลดต่ำ* [06/05/13] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: FFS_Yaoi ที่ 10-05-2013 07:20:28
น่ารักมากเลยอะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่20 แมวโหลดต่ำ* [06/05/13] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 10-05-2013 22:41:41
เกียร์ขี้หึงชะมัด แต่ชอบล๊ายหลาย5555 แอบโรคจิต

ตอนนี้หวานมากค่ะ ปกติก็หวานอยู่แล้ว ชอบค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่20 แมวโหลดต่ำ* [06/05/13] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 11-05-2013 19:56:14
เกียร์ของไอรักคนเดียวเนอะ :hao3:

 :L1: &  :pig4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่20 แมวโหลดต่ำ* [06/05/13] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 12-05-2013 01:56:41
หวานมากกกกกกกกกก

 :-[

+1 +เป็ดงามๆเลยยยยยย
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่21 บอสใหญ่กับแว่นกันน้ำ* [26/05/13] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 26-05-2013 10:54:51
ตอนที่21


"มึงจอดส่งกูข้างหน้านี้แล้วกัน เดี๋ยวกูเดินเข้าไปเอง" ผมบอกคลื่นให้จอดหน้าปากซอย เพราะเมื่อเช้าตกลงกับเกียร์เอาไว้ว่าจะแวะซื้อของเข้าห้องกันก่อน

"เออๆ เดินเข้าไปดีๆนะโว้ย อย่าไปให้ใครฉุดได้ละ" คลื่นเจ้าของรถเอ่ยแซว

"กูเพศอะไรดูด้วยครับ ต้องไปฉุดเขาสิวะ" ชอบพูดเหมือนกับว่าผมเป็นสาวบอบบาง สงสัยไอ้พวกนี้คงจะลืมภาพกระปู๋อันใหญ่ของผมที่เคยแก้ผ้าอาบน้ำด้วยกัน

"จะพูดอะไรก็ดูคนข้างๆมึงด้วย หึ โชคดี" ไอ้บอสว่าแบบนั้น แล้วปิดประตูขับออกไป ผมหันไปมองคนข้างๆ ที่กำลังทำหน้าเหม็นบูด แถมมีการแอ๊บงอนไม่พูดไม่จาเป็นตัวเสริม มันเห็นผมจ้องๆ ก็ทำเป็นเมินกันเฉย เดินลิ่วๆไปโน่น ผมหัวเราะแฮะๆตามหลัง แล้ววิ่งไปให้เดินไปให้ทัน

"โอ๋ยย พูดเล่นนน ไม่ฉุดใครหรอก มีตัวจริงอยู่แล้วนี่ครับ เนอะ" จับแขนมันแล้วเอาหน้าถูๆ เห็นกล้ามมัดๆของมันแล้วรู้สึกหมั่นไส้ จู่โจมมันซะ!

"....งับหนึ่งครั้ง ปล้ำสองรอบ" เห็นไหมละ ไม้ตายของผม ไม่ทันหายใจก็หายงอนละ ฝีมือผมครับฝีมือผม มันทำตาระยิบระยับ ยกมือที่ไม่ได้ถือกระเป๋ามาคลึงริมฝีปากผม ทั้งคำพูดที่ทำผมเสียเปรียบกับการกระทำที่ทำข้างถนนใหญ่ชวนให้รู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาทันที

"อะไรเล่า ไม่งับก็ได้ เอ้ย งับมันพูดกับหมาไม่ใช่เหรอครับ หลอกด่าผมนี่" ค้อนตาใส่คนข้างๆที่หัวเราะหึหึตามประสาคนบ้า แล้วเดินไปเอารถเข็น วางกระเป๋าในนั้นแล้วดันตัวผมให้เดินนำ ไอ้ผมก็เดินนำเหมือนเลือกของเป็นเลยนะครับ

"หมายถึงแมวต่างหาก หึหึ" เกียร์เท้าคางตอบแล้วเข็นรถตาม เหลือบไปมองข้างหลังเจอตาดุที่มองมาด้วยสายตาหวานๆก็ต้องรีบหันกลับ ไม่กล้าหันไปสบตา

ทำไมบรรยากาศเหมือนศรีสามีภริยามาจ่ายตลาดจังวะ

แต่ผมต้องเป็นสามีนะครับ คึ

"เย็นนี้อยากทานต้มยำกุ้งจังหนอ" ผมพูดลอยๆ เหลือบตาไปมองอีกครั้ง คนเข็นเท้าคางอมยิ้มๆอยู่ อารมณ์ดีอะไรนี่ จ้องอยู่นั่นละ เขินเป็นเหมือนกันนะ แล้ววันนี้จะเลือกของเสร็จไหมละนี่

"เผ็ดนะ กินได้เหรอ"

"ก็ไม่ต้องทำเผ็ดสิ ใส่น้ำมันเยอะๆ"

"ต้มยำไม่ต้องใส่น้ำมันนะไอรัก ไม่ต้องหยิบมา" ตายห่า ไอรักหน้าแหกครับ น้ำมันยังอยู่ในมือทั้งสองข้างเลยครับ ผมหันไปหัวเราะฝืดกลบเกลื่อนรอบร้าวบนหนังหน้า

"เผื่อไว้ทอดปลาก็ได้นิครับ" ไม่ใส่ในต้มยำก็ทำอย่างอื่นได้นะเอ้อ

"ในห้องยังมีอยู่ หยิบน้ำปลามาแล้วกัน"

"แหะๆครับ อ้าวแล้วทำไมน้ำมันออกมันๆเหรอครับ" ถามแก้เขินไปก่อนครับ ความจริงก็อยากรู้ด้วยน่ะนะ

"ใส่กะทิหรือนมสด" มันพูดพลางหยิบของใส่ปุบปับ สงสัยคงเริ่มรู้ตัวแล้วว่าควรจะจัดการเองตั้งแต่แรกละ ถ้าให้ผมมาจ่ายตลาดเองคนเดียว มีหวังตลาดวายเสียก่อนเป็นแน่ เอ่อแต่คงไม่วายหรอก เพราะซุปเปอร์มาร์เก็ตเปิดทั้งวัน มีเวลาเลือกยันร้านเจ๊ง และถ้าไม่ง่วงเสียก่อนน่ะนะ

"เกียร์ๆ ฤดูกาลหน้าทุเรียนแล้วเหรอ" ในนี้มีวางขายกันเต็มไปหมดเลยครับ น่าทานทั้งนั้น

"ชอบเหรอ"

"อื้ม" ผมพยักหน้า แล้วยิ้มให้ มันจุ๊บแก้มเบาๆ ผมรีบดีดตัวออกมาหันซ้ายหันขวาไม่มีใครก็โวยวาย โทษฐานลวนลามในที่สาธารณะ ถึงแม้ในใจจะดีใจนิดๆก็ตามเถอะ คนตรงหน้าที่รับฟังทุกคำด้วยใบหน้าล้อเลียน จนมันบอกประโยคที่ทำให้ผมจำต้องเงียบปาก 'เวลาเขิน อย่าโวยวายกลบเกลื่อนสิ เห็นแล้วมันน่าจับฟัด'

"หึ หยุดหน้างอได้แล้ว ไปหยิบมาสิ ถ้าอยากกินอีกพรุ่งนี้จะได้ฝากไอ้เนแว่นขนมาให้จากไร่" มันมองพิจารณาลูกทุเรียนและที่แพ๊คเอาไว้ให้แล้ว ก่อนดันให้ผมไปหยิบ ส่วนมันก็ไปเลือกผลไม้อย่างอื่น แต่ผมไม่เข้าใจเกียร์อย่างหนึ่ง เวลามันจะดันทีไร มันไม่ได้วางมือที่หลังแล้วผลักเหมือนคนทั่วไปนะครับ แต่มันจะมาประชิดเอาตัวบังแล้ววางมือที่ก้นผม ไม่ได้ขยำนะครับ แต่จะสัมผัสเน้นๆ มีการคลึงนิดๆแล้วดันไปข้างหน้าช้าๆให้ผมเดิน ถ้าผมยังชักช้ายึกยักมันก็จะยืนทำซ้ำๆหลายๆครั้ง โรคจิตฉิบหายเลยคุณน้ำแข็งคนนี้

สักพักก็เห็นมันพยักหน้าให้พนักงานแถวนั้นเหมือนรู้จักกัน ผมก็มองตามมันงงๆ พนักงานรีบยกมือไหว้เกียร์ทั้งๆที่ดูหน้าแล้วควรจะรับไหว้มากกว่า แล้วเดินออกไป ก่อนกลับมาพร้อมลังนมช็อคสองกล่อง

"เฮ้ยเกียร์ ทำไมสั่งมาเยอะอย่างนี้ละ จะช่วยดื่มเป็นเพื่อนผมเหรอครับ" ผมตกใจมองกล่องพวกนั้นที่อยู่ในรถเข็นอีกคันอย่างฉงน ผมไม่เคยซื้อมาตุนอะไรขนาดนี้นะครับ อย่างมากก็แค่เหมานมช็อคทั้วเชลฟ์ในร้านเฟรชมาร์ท

"เดี๋ยวก็หมด" เออครับ ก็รู้ว่ามันหมด แต่ไม่กลัวผมท้องอืดหรือบวมนมบ้างหรือครับ ไอรักจุกนมถึงคอหอยแน่คราวนี้

"ขุนผมแบบนี้ ถ้ามีห่วงยางรอบตัว ผมจะโทษคุณเลยคนแรก" มันลูบท้ายทอยผม จากทำเชิดหน้าใส่ กลับต้องสะดุ้งขนลุกขนชันเพราะมือใหญ่ๆของมันที่จู่โจมแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียง

“มีก็ดีสิ จะได้ไม่จม"




"เดินไม่ไหวเหรอ" มันถามแบบหยามหน้าผมตงิดๆ

"โหยคุณน้ำแข็งครับ ผมว่าผมซอยเท้าถี่แล้วนะครับ คุณน่ะถึกไปไหม" ผมเงยหน้าตอบ ลิฟท์ในคอนโดดันเสียซะได้ พวกผมเลยต้องเดินขึ้นอย่างทรหดสุดๆ ถึงแม้ว่าผมจะถือเพียงแค่ถุงผักกับขนมสองถุง กับมันที่แบกทั้งกระเป๋าและของที่ซื้อเกือบทั้งหมด สู้แรงควายๆของช่างวิศวกรในอนาคตไม่ได้หรอกครับ ดีนะที่มันบอกให้พนักงานส่งลังนมตามมาทีหลัง ไม่อย่างนั้นคงไหล่หลุดกันไปข้าง

"พักก่อนไหม"มันถามสายตาห่วงใย ทำผมต้องรีบเสตาหลบอย่างไว

"ไม่ ไม่ครับ อีกชั้นเดียวเอง รีบเดินได้แล้วครับ" ผมดันหลังคนข้างบนให้เดินไป

"แฮ่ ถ้าจะเหนื่อยขนาดนี้นะ..." ผมทิ้งตัวลงโซฟานุ่มๆ ก่อนจะโดนมันลากไปล้างมือล้างเท้าในห้องน้ำ แล้วมานอนนิ่งไม่ไหวติงเหมือนเดิม ผมยกศีรษะขึ้นนิดหนึ่ง มันจับแล้วสอดตัวลงนั่งให้ผมนอนหนุนตักอย่างรู้งาน

"เจ็บมือไหม" มันพลิกมือที่ถือถุงซ้ายขวา ผมว่าบางทีคุณหมาน้ำแข็งมันก็ห่วงเวอร์นะครับ ทำเหมือนไอรักเป็นโรคลูคีเมีย

"คุณแบกหนักกว่าผมอีก ไม่เจ็บบ้างเหรอ" ผมกอดเอวซุกลงหน้าท้องมัน แล้วเงยขึ้นถาม พลิกมือของเกียร์ที่จับกันอยู่มาลูบคลอบ เป็นรอยแดงนิดเดียวแต่ไม่มาก สงสัยสีผิวและความกร้านจะอำพลางรอยแดง อิอิ มันใช้อีกมือลูบหัวผมเบาๆแล้วหอมลงกระหม่อม ลามไปถึงจมูก แก้มทั้งสองข้าง

"นิดหน่อย ขอบคุณที่เป็นห่วง" เกียร์ก้มลงจุ๊บปากให้รางวัลแล้วยิ้มบางให้ผมใจสั่นเล่น

"แค่ถามเฉยๆ กลัวต้องหามไปส่งโรงพยาบาลต่างหาก" ผมส่ายหน้ามุดเข้าไปฟัดซิกแพ็คแน่นๆ มันก็นั่งนิ่งไม่บ้าจี้ แต่ครางต่ำอย่างพอใจเป็นซาวด์เอฟเฟค จนผมรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยในประตูหลัง ก่อนที่มันจะคว้าเอวได้ ผมรีบเด้งตัวยืนห่าง และเป็นอย่างที่คิด มือมันยกค้างกอดอากาศ ตาเยิ้มๆมองผมอย่างขัดใจ

"ผม ผมหิวขี้ เอ้ยหิวข้าวแล้วครับๆ รีบไปทำอาหารดีกว่าเนอะ" พูดลิ้นพัน จับผิดจับถูก แล้วสาวเท้าไปห้องครัว ยืนพักให้หัวใจที่เต้นรัวเปลี่ยนมาเต้นปกติ เกือบโดนกินแล้วกู หาอะไรทานดีกว่า คิดเมนูวันนี้พลางจับของที่พึ่งซื้อมา

แล้วมันต้องเริ่มจากตรงไหนวะนี่

กระเทียม กะทิ กะปิ ยังรู้จัก....แต่ที่เหลือมันเรียกอะไรบ้างฟะ ผมว่าการทำอาหารเป็นอะไรที่รุงรังกับการใช้ชีวิตของผมเอามากๆนะครับ

คิดอะไรเพลินๆก็รู้สึกแรงกอดจากด้านหลัง ดันตัวผมติดกับเคาน์เตอร์ ผมจะไม่ว่าอะไรเลยถ้ามันไม่เอาช่วงล่างมาสีกับด้านหลังของผม

"ทำอะไรน่ะครับ! อ้ะ..." รู้สึกถึงไอร้อนที่แพร่มาถึงตัวผม ขนาดพองขึ้นจนดันออกมาโดน ผมถึงกับหน้าแเดงเถือก

"ทำรัก......ได้ไหม" มันกระซิบถามเสียงพร่า พลางเม้มติ่งหู หลังหูจนขนลุกซู่ อย่างนี้อย่าถามผมเลยดีกว่าครับ

"ตะ แต่กับข้าว.."

"อืม.. ไว้ค่อยทำ" มือสะเปะสะปะไปตามตัว พลิกตัวดันตัวผมขึ้นโต๊ะอาหาร สายตาเยิ้มๆ รสจูบหวานๆที่มอบให้แบบนี้ คุณว่าผมรอดไหมละครับ...


.…...............



"ต้องเริ่มทำอะไรก่อนเหรอครับ" หลังจากที่เสร็จกิจกาม ผมกับเกียร์ก็ลุกมาทำอาหารตอนเย็นกันสองคน มันก็ปรามๆไม่ให้ผมลุกมา แต่ผมอยากลองทำอาหารให้เป็นกับเขาบ้าง จึงลุกมาช่วย ถึงจะเพลียๆอยู่บ้างก็ตาม

"ไปนั่งดูตรงนั้นดีกว่านะไอรัก เดินขาถ่างๆแบบนั้นหายเจ็บแล้วหรือไงหื้ม" ถึงแม้ว่าน้ำเสียงจะอ่อนนุ่มขนาดไหน แต่ดูมันพูดนะครับดูมัน ใช้คำพูดที่เสียดสีกับก้นผม ช่างหยาบคายกับผมเสียเหลือเกิน ที่ผมเป็นแบบนี้นี่ไม่ใช่ฝีมือมึงเหรอครับคุณปลวกน้ำแข็ง

"หายแล้วครับ"

"นั้นทำให้เป็นอีกดีไหม" ผมอยากจะเตะเข้ายอดหน้ากรุ่มกริ่มของมัน ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นหัวหน้าพ่อครัวในครั้งนี้ เกียร์เดินมาวางนมช็อคให้บนเคาน์เตอร์ครัวตรงหน้าผม ดีนะที่พนักงานส่งของมากดกริ่งหลังจากผ่านฤดูติดสัตว์ ไม่อยากนั้นคุณหมาน้ำแข็งคงกระฟัดกระเฟียดน่าดู

"เดี๋ยวจะโดนนะเกียร์ ทะลึ่งใหญ่ละ จะดีกว่านั้น ถ้าเราเริ่มทำอาหารกันเสียที ผมหิวแล้วนะ" ผมบอกมันหน้ามุ่ย ยังไม่ได้ทานอะไรมาตั้งแต่กลับ จนจะหนึ่งทุ่มก็ยังไม่ได้เริ่มทำอาหารกัน ถ้าหมอหน้าใสเป็นโรคกระเพาะขึ้นมาใครจะช่วยรักษาครับผมถาม

มันส่งกุ้งมาให้แกะ ผมก็เด็ดหัวดึงหางตามที่เคยมองมันแกะบ่อยๆ แต่เกียร์แตะมือผม พร้อมสอนว่าไม่ควรบีบกุ้งแน่น ระวังกรีกุ้งเวลาเด็ดหัวด้วย ให้ปลอกตามเกียร์แบบนี้ๆ แล้วผ่าหลังกุ้งเอาเส้นสีดำๆที่มันเรียกว่าเป็นขี้กุ้งออกมา และอื่นๆอีกมากมาย ผมฟังอย่างตั้งอกตั้งใจและทำตามวิธีของมันอย่างเคร่งครัด แต่ดูท่าว่าจะไม่รุ่ง ทำเลอะเทอะไปหมด เส้นสีดำขาดบ้าง ดึงไม่หมดบ้าง พยายามจับเบาๆก็เกร็งไปทั้งแขน เกียร์เขาก็ใจเย็นกับผมนะครับ ไม่บ่นไม่ว่าสักคำ แถมยังค่อยๆสอนให้อย่างใจเย็น จนผมแอบคิดในใจว่าความจริงมันไม่ได้เป็นคนใจร้อน ไร้อารมณ์อย่างที่คนอื่นว่าเลยนะครับ เป็นผู้ชายธรรมดาที่มีอารมณ์มีความรู้สึกเหมือนกัน ผมอยู่ใกล้ๆก็รู้สึกว่าเกียร์เป็นผู้ชายที่อยู่ด้วยแล้วอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่ได้พูดอะไรมากมาย แค่ความเป็นห่วงเป็นใยที่แสดงออกมานั้นมันก็ทำให้ผมสุขใจแล้ว ยิ่งตอนที่ผมมองแผ่นหลังกว้างกำลังทำอาหารให้ผมทานอย่างในตอนนี้ มันเป็นภาพที่ผมเห็นแล้วรู้สึกอบอุ่นที่มีคนดูแลเอาใจใส่เราขนาดนี้

ก่อนจะนอกเรื่องกันไปไกล มันคงเห็นผมไม่ประสบความสำเร็จกับการปลอกกุ้งก็บอกให้ผมไปหั่นแครรอทกับหัวหอมเพื่อมาทำแกงจืดเต้าหู้แทน ผมฟังวิธีหั่นอย่างจริงจัง พยักหน้าหงึกหงักให้หัวหน้าพ่อครัว มันก้มลงหอมหัวทุยๆของผมแล้วหันไปทำอย่างอื่น

"เป็นอะไร!" มันรีบล้างมือแล้วมาจับมือผมพลิกไปมา

"อึก..เปล่าครับ"

"แล้วร้องไห้ทำไม!" มันถามเสียงสั่นดังลั่นห้อง ยิ่งทำให้ผมกลัวขึ้นมา

"ก็ ก็ไม่รู้....ซื้ดดดดด" ตัวผมเป็นไรไม่รู้ น้ำหูน้ำตาไหลพราก มันแปลกไปหมด เกียร์จับมือผมแน่น สายตาสอดส่องหารอยแผล ผมเลยรีบเล่าให้มันฟังพร้อมเสียงสะอื้นเป็นพักๆว่าหั่นหัวหอมอยู่ดีๆร่างกายก็เกิดอาการดราม่ากระทันหัน จิตใจบอบช้ำเสียอย่างน้ั้น ไม่ได้โดนบาดหรือฆาตกรรมแต่อย่างใด มันมองผมเล่าจนจบก็หลุดยิ้มออกมา จับคางให้เงยขึ้นแล้วก้มลงจูบซับน้ำตาให้ทั้งสองข้าง แล้วยิ้มบอกว่าหัวหอมเป็นผู้มีอิทธิพล มันจะคอยสั่งให้คนอื่นร้องไห้ ถ้าคนนั้นไม่ชำนาญหั่นมัน แต่มันก็มีอีกวิธีที่จะโค่นล้มหัวหอมได้สำหรับคนเลเวลต้นๆ เฉกเช่นคนนั้นเป็นอัศวินมือใหม่ชื่อไอรัก ก็จะต้องจับตัวหัวหอมซึ่งเป็นบอสใหญ่ ไปแช่ตู้เย็นให้แข็งถึงจะฆ่ามันได้ ผมฟังก็งงๆ เหมือนมันเล่านิทานให้เด็กเจ็ดขวบฟัง ไม่รู้ว่าควรเชื่อเนื้อหาในเรื่องดีหรือไม่ควรเชื่อดี

"ฮึก สรุปคือ อึก ผมต้องเสียเวลารอบอสแข็ง อึก ตัวก่อนเหรอ อึก แต่ท้องผมมันไม่รอแล้ว ฮึก อะครับ" ท้องมันทรยศโดยการตั้งประท้วงหน้ารัฐสภาไอรักแล้วครับ อีกทั้งก้อนสะอื้นยังไม่หมดไปเสียที แต่เริ่มทุเลาลงกว่าเมื่อครู่เยอะเลยครับ อีกสักแปบคงหายไปเอง

"นั่งกินขนมรอไปก่อน ที่เหลือเกียร์ทำเอง" มันล้างมือแล้วเดินไปหยิบตะกร้าใส่ขนมจากห้องนั่งเล่นมาวางบนโต๊ะอาหาร

"แต่ผมว่ามันต้องมีอีกทางสิ" คิดแล้วคิดอีกก็คิดไม่ตก มือหยิบขนมใส่ปากหมุบหมับจนได้ยินเสียงหัวเราะหึหึแว่วๆ แต่ผมไม่ได้สนใจหรอก ผมว่ามันต้องมีวิธีมากกว่านี้สิ ระหว่างกำลังใช้สมอง เกียร์ก็จูงมือให้ไปนั่งคิดนั่งทานดีๆแล้วแกะขนมอีกอันมาจ่อปาก ผมก็อ้าปากรับอย่างเผลอๆ กำลังจะเคี้ยวก็ต้องหลุดออกจากปากเพราะแรงกระเด้งตัวยืนแล้วพูดเสียงดีใจ

"นึกออกแล้วเกียร์ ต้องใช้อันนั้นไง เดี๋ยวมานะครับ" ผมรีบเข้าไปในห้องครัวแบบลืมเจ็บ(ก้น) ไปค้นๆของในลิ้นชักในตู้เสื้อผ้า จำได้ว่าเคยเห็นอยู่แถวๆนี้นะ....เยส! เจอแล้ว

"เกียยยยร์ ทาด๊าาาาาา" เสียงมาแต่ไกล วิ่งมาหยุดตรงหน้าเกียร์ พร้อมหมุนรอบตัวให้มันดูด้วย ไงละ ค้างเลย อึ้งเลยๆ ไอเดียบรรเจิดละสิ หึหึหึ อย่าพึ่งชมกันครับอย่าพึ่งชมกัน

"..........."

"เป็นไงครับ คราวนี้ก็หมดห่วงเรื่องที่ผมจะดราม่าได้แล้วเนอะ" ผมเท้าสะเอวยิ้มยิงฟันแทบครบสามสิบสองซี่ มันนิ่งไปนานจนหลุดหัวเราะเสียงดังสุดๆอย่างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน

"ขะ ขำอะไรน่ะครับ หยุดขำเลยนะคุณ ..เกียร์! นี่! ผมไม่ตลกด้วยนะ! โถ่" ให้ตายสิ จะชมหน่อยก็ไม่ได้ กลับหัวเราะกันเสียอย่างนั้น งอนนะโว้ย เห็นไหมว่าไอรักโกรธแล้วนะครับ แง่งๆ

"หึ...เป็นความคิดที่ดีนะ" มันทำหน้าเหมือนกลั้นอารมณ์เต็มที่ ไม่ทันแล้วครับ ผมเสียความมั่นใจไปแล้ว

"แน่นอนสิครับ ผมคิดมาตั้งนานนะ" ว่าอุบอิบแล้วก็กระดิกแว่นตาดำน้ำโชว์ โดยไม่ทันได้สังเกตคนตรงหน้าว่ากลั้นยิ้มแค่ไหน

"ไม่นานก็แปลกแล้ว พิสดารจริงๆ" เกียร์บ่นพึมพำเบาๆ

"อะไรนะครับ"

"เก็บปากสิ จะยื่นกว่าจมูกแล้ว" ได้ข่าวว่าปากผม จมูกผมไม่ใช่เหรอครับ

"ผมว่าเมื่อกี้ไม่ได้ยินแบบนั้นนะครับ"

"อืม มาทำต่อสิ" เสือกยอมรับแล้วเปลี่ยนเรื่องซะงั้น แต่ผมก็หน้ามึน เดินมาหั่นบอสต่อ

"อะเมซิ่ง ผมเห็นหัวหอมเป็นสีน้ำเงินอะ" ปากพูดไป มือกำมีดสั่นๆก็พยายามซอยหัวหอมให้ถี่ๆเหมือนที่เกียร์ทำ แต่ซอยไปซอยมาทำไมมันหนาจังวะ?!

"................."

"มันไม่ร้องไห้แล้ว แต่ตาผมหายใจไม่ออกอะ"

"................."

"เกียร์ ผมเริ่มเจ็บตาแล้วอะ ร้อนด้วย แต่ทำให้เสร็จก่อนดีกว่าเนอะ.....อ่าว เป็นอะไรน่ะครับ" บ่นให้คนข้างๆที่ฟังเงียบๆ แต่มันเงียบจนผิดสังเกตจึงหันไปดู เจอเพียงไหล่สั่นๆ กับหัวที่พร้อมใจกันสั่นไปพร้อมร่างกาย

"เกียร์" ผมจับต้นแขน มันยื้อตัวเอาไว้สุดชีวิต สุดท้ายผมก็ต้องวิ่งไปอีกด้าน ก็เห็นมันทำหน้าแบบกลั้นขำสุดขีดแบบหน้าดำหน้าแดง เม้มปากแน่น ข่มตาลงแบบไม่ขอรับรู้อะไรทั้งสิ้น

"เกียร์ขำอะไรน่ะ หันมาคุยกันก่อนสิ อย่าหันหน้าหนีกันแบบนี้ ...นี่! ผมโกรธแล้วนะครับ!" ผมดึงแว่นตาดำน้ำออกแล้วระเบิดเสียงดังทนไม่ไหว มันหันมาพยายามหน้านิ่งที่สุด เจอผมโกรธหน้าดำหน้าแดงก็ต้องจ๋อย

"เดี๋ยว อย่างอนสิ" ผมเดินหนีจะออกจากห้อง แต่โดนมันรัั้งกอดจากด้านหลังเสียก่อน

"ไม่ได้งอน ผมกำลังโกรธ" ผมพูดกระชากเสียงเบาลง พยายามดิ้นออกจากวงแขนมัน แต่ก็ต้องหยุดไว้แค่นั้นเพราะประโยคต่อมา

"อย่าโกรธ..กันเลย..........นะ" พูดเสียงเบาแทบไม่ได้ยิน จนผมต้องเงี่ยหูฟัง

"........."

".........นะครับ" หน้าผมจะระเบิดตั้งแต่ประโยคเมื่อกี้แล้วนะ ถ้าไม่ติดว่ากำลังโกรธมัน ผมคงกระโดดจูบมันไปแล้ว

"......อืม....." ผมไม่ได้เป็นคนใจง่ายใช่ไหม ใจอ่อนตั้งแต่ได้ยินมันพูด นะ คำเดียวแล้ว..

"ดีกันนะ" ผมมองนิ้วก้อยที่ยื่นมา สลับมามองคนหน้าโหด

กิริยามึงแบ๊วไปไหมมมมมม

"..ไปหัดทำแบบนี้จากที่ไหนนะ" แต่ผมก็ยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยว มันออกแรงดึงให้หน้าผมกระแทกเข้าอกหนา เกียร์มันชอบให้ซุกอกหรือซาดิสวะเริ่มไม่มั่นใจ

"เคยเห็นป้าเกี่ยวก้อยกับหมาเลยอยากทำ" มันบอกหน้าตาย ถึงคำพูดจะสวนทางกับหน้าตา แต่มันพูดน่ารักจังครับ ดูป้าทำแล้วอยากทำตาม เหมือนลูกเป็ดเดินตามแม่เป็ด แต่เอ่อเมื่อกี้มันบอกว่าอะไรนะครับ ป้าเกี่ยวก้อยกับ....

"คุณกวนตีนผมอยู่หรือเปล่าครับ" ผมว่าใช่

"หึ เรื่องหมาน้อยผู้กล้าหาญ ตอนที่เราเคยดูด้วยกันไง" มันส่ายหน้าปฏิเสธจริงจังแล้วชวนผมเออออด้วย อย่าใช้คำว่าเราเลยครับ ผมจำไม่ได้จริงๆ เพราะส่วนใหญ่ผมจะนั่งเช็คตลาดหุ้นอยู่ข้างๆคนที่บังคับให้มานั่งดูด้วยกัน จึงไม่ได้ดูจริงจังอะไรขนาดมัน

"เหรอครับ แล้วเมื่อกี้หัวเราะอะไรน่ะ รู้นะว่าหัวเราะผม เห็นผมเป็นตัวตลกเหรอ" หรี่ตาจับผิดคนตรงหน้า มันทำหน้านิ่งๆแบบคนไม่ได้ทำอะไรผิด

"ก็ไอรักอยากน่ารักเองนิ" มันก้มหน้าตัวลงให้สายตาอยู่ในระดับเดียวกัน แล้วส่งยิ้มอุ่นหวานให้ ผมเม้มปากแน่น พยายามไม่หลบตานั้น

"...ผมน่ารักตรงไหนกัน" บ้าที่สุด มันพูดเกินจริงไปเยอะหลายโยชน์มาก

"ทุก" ทุกๆ ตุ๊กๆ อะไรวะทุกคำเดียว ผมไม่ใช่ไอ้บอสนะครับ ถึงจะรู้กระจ่างแจ้งเพียงคำสองคำ

"ถ้าเป็นผู้หญิงหุ่นดีตาโตอย่างคุณสาค่อยน่าใช้คำนั้นมากกว่านะครับ"

"หึ" ดูมันทำเสียงขึ้นจมูก เหมือนรังเกียจมากมาย ตายเลี้ยววว กิริยาคุณท่านหยิ่งผยองเสียจริง ผู้ชายต้องชอบเพศแม่กันไม่ใช่หรือครับ ไอ้นี่ก็แปลก ไม่ชอบทั้งหญิงและชาย แต่ไม่เป็นไรครับ รักผมคนเดียวเป็นพอ คิดไปคิดมาไอรักก็แอบเขินเสียเองแล้วครับ

"ทำไมครับ ชอบผู้ชายเหรอ" ผมแกล้งแหย่ แต่ดูท่าอีกคนจะไม่รับมุขด้วย หน้าตึงเปรี๊ยะ

"ไม่ชอบอะไรทั้งนั้น" อ้าวไอ้ตูด ตอบเสียงแข็ง สะบัดหน้าหันงอนผมเรียบร้อย มึงเป็นผู้หญิงหรือเปล่านี่น้ำแข็งงงง

"แหน่ะ งอนอะไรครับ ไม่ชอบก็ไม่ชอบไง พูดเล่นเฉยๆ เกียยยร์" คนตัวใหญ่น้อยใจฝังแน่นมากครับ ลดมือจากที่กำลังหั่นหมูอยู่เป็นยืนนิ่งๆเหมือนแรงงานประท้วงไม่ทำงานทำการเงียบๆ ปากก็ทำเงียบไม่ยอมปริพูดจนผมเพลีย เลยจะงอนทับมันเสีย มันเห็นแบบนั้นก็รีบพูดออกมา แต่พี่แกยังไม่หันมาคุยดีๆนะครับ หน้าไปอีกทาง แต่ปากก็พูดออกมา ขอให้คอเคล็ด สาธุ

"ไอรักชมคนอื่นทำไมละ" นั่นนนน ชมไม่ได้ แต่ว่าได้ว่างั้น เผด็จการขึ้นเรื่อยๆนะมึงนี่

"ผมเปรียบเปรยต่างหาก" ยิ่งรู้เหตุผลมัน ผมก็เวียนหัวขึ้นทันที จะขำก็ไม่ใช่ จะเครียดอารมณ์ขึ้นๆลงๆของมันก็ไม่เชิง คุณน้ำแข็งเอ้ย เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ คุณรู้ตัวบ้างหรือเปล่า

"....ก็ไม่ชอบ" มันเริ่มก้มหน้า กำผ้ากางเกงแน่น มันคงเครียดที่ตัวเองเป็นถึงขนาดนี้ แต่ภาพที่เห็นทำผมหลุดยิ้มออกมาอย่างเสียไม่ได้ เหมือนเด็กกำลังโดนพ่อดุอย่างไงอย่างนั้น

"ไม่พูดแล้ว........ผมจะไม่พูดแล้ว ไม่น้อยใจนะครับคุณน้ำแข็ง" ผมเดินเข้าไปกอดมันไว้ทั้งตัวแล้วโยกตัวมันให้มันโอนเอน แต่ไหงเป็นผมที่เอนอยู่คนเดียววะ นึกว่ากอดท่อนซุงแข็ง เงยขึ้นไปมองหน้าที่ก้มลงมา ก็เห็นมันหน้านิ่ง แต่แววตาไม่รู้ว่าดีใจหรือสับสนกันแน่ ความรู้สึกมันตอนนี้คงประดังประเดกันยุ่งเหยิงเป็นแน่

".....อึดอัดไหม"

"กางเกงพอดีตัวครับ" ผมตอบซื่อๆ จนมันต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ ส่ายหน้าเบาๆ แล้วดัน(ก้น เหมือนเดิม)ให้ไปนั่งดูดีๆ ส่วนมันก็ตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารต่อ ผมว่าเราคงกินข้าวตอนห้าทุ่มครึ่ง เล่นพูดโน่นคุยนี่กันไม่หยุด แต่ผมไม่ผิดนะ มันชวนผมคุยทั้งนั้น อิอิ

ผมจะเดินออกไปรับโทรศัพท์ที่ดังขึ้นในห้องนอน แต่ก่อนวิ่งออกไปรับก็กระซิบบอกคนตัวใหญ่ขี้น้อยใจให้หัวใจพองโตสักนิดก็แล้วกัน

"ผมไม่อึดอัดหรอก ไม่ลำบากใจด้วย ที่มีแฟนขี้หึงแบบนี้ แถมดีเสียอีก จะได้รู้ว่าคุณรักผมแค่ไหน ขอบคุณนะครับ" ผมเขย่งบอกแล้วรีบจุ๊บแก้มสากก่อนที่มันจะไหวตัวคว้าผมทันเสียก่อน หึหึ ไอรักชื่นใจจจจ




TBC----------------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

+โซ่ขอโทษษษษ โซ่กลับมาแล้วว พอดีมีปัญหากับชีวิตมาประดังประเดกันจนยุ่งเหยิงไปหมด พึ่งปลีกตัวมาอัพให้ทุกคนได้ ขอโทษจริงๆค่ะ
+มหาลัยจะเปิดแล้ว นิสิตนักศึกษาทั้งหลายกลับไปลองเสื้อ กระโปรง กางเกงกันหรือยังเอ่ย อาจจะหลวมจนน่าดีใจ กับฟิตจนน่าแค้นใจแบบเรานะคะ ดิฉันแอบปวดร้าว มาชั่งน้ำหนักล่าสุด ขึ้นมาสองโลแล้ว ขึ้นเลขห้า เจ็บใจที่สุด TOT
+ขอบคุณทุกคนที่ติดตามผลงานกันนะคะ แล้วเจอกันอีกครั้งค่ะ

โซ่ :katai4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่21 บอสใหญ่กับแว่นกันน้ำ* [26/05/13] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 26-05-2013 11:29:14
น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก

 :-[

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่21 บอสใหญ่กับแว่นกันน้ำ* [26/05/13] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: MangoBlue ที่ 26-05-2013 11:34:11
ไอรักน่ารักอะลูกกกกกกกกกกกกก คิดได้ไงอะตอนหันหัวหอม5555555555   :laugh:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่21 บอสใหญ่กับแว่นกันน้ำ* [26/05/13] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 26-05-2013 12:42:17
น่ารักอีกแล้ววววววววววววววว  :-[
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่21 บอสใหญ่กับแว่นกันน้ำ* [26/05/13] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 26-05-2013 16:48:34
น่ารักดีค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่21 บอสใหญ่กับแว่นกันน้ำ* [26/05/13] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 26-05-2013 20:46:35
อร๊ายยยยยยยย  มาให้เจ่ฟัดทสองทีสิ  โทษฐานทำตัวน่าร้ากกกกกกกก :man1:     :man1:


 :mew1:    :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่21 บอสใหญ่กับแว่นกันน้ำ* [26/05/13] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 26-05-2013 21:04:15
 :katai2-1: โอ๋ย คู่นี้น่ารักมาก ถ้าคุณเกียร์จะมีความสุขและภาคภูมิใจที่แฟนน่ารักขนาดนี้อ่ะนะ
จะบอกไอรักให้ ท่าดันที่ต่ำกว่าเอว (หรือจับตรงก้น) คือหมายถึงสองคนนั้นเป็นผัวเมียกันแล้วจ้าาาาา 555
แสดงความเป็นเจ้าของตลอดล่ะคุณเกียร์

สกิลการทำอาหารของไอรักอยู่ในขั้นต่ำมากอ่ะค่ะ แต่ก็น่ารักมากเช่นกัน โดนจับกินไปหนึ่งรอบก่อนทำอาหารได้
แต่เรื่องขี้หึงนี่พี่เกียร์เข้าขึ้นหน้าขึ้นตาเช่นเดิม หึงเพราะรักไอรักก็ไม่ว่าเนอะ ครอบครัวสุขสันต์กันไป
อยู่กับไอรักนี่ไม่มีวี่แววคุณน้ำแข็งคนก่อนเลย รู้จักอ้อน งอนง้อ น่ารวั๊ก

ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่21 บอสใหญ่กับแว่นกันน้ำ*
เริ่มหัวข้อโดย: kanda53 ที่ 27-05-2013 20:50:23
เห็นชื่อตอนนึกว่ากุ๊กกิ๊กกันอยู่แถว ๆ ทะเล...
ถ้าไม่ใช่เจ้าแมวน้อยของเกียร์..คิดแบบนี้ไม่ได้เด็ด ๆ
ไอเดียเริ่ดจริง ๆ ค้าตะเอง  :laugh:
สมแล้วที่เกียร์ทั้งรักทั้งหลง...คนอ่านยังอยากฟัดเลยยย

 :L2: &  :pig4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่21 บอสใหญ่กับแว่นกันน้ำ* [26/05/13] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 28-05-2013 17:14:56
ไอรักช่างคิดได้นะ ใส่แว่นกันน้ำหั่นหอม น่ารักจริงๆ 5555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่21 บอสใหญ่กับแว่นกันน้ำ* [26/05/13] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 01-06-2013 15:26:45
หนูไอรักน่ารักไปไหนเนี่ยะ ใส่แว่นกันน้ำหั่นหัวหอม

อิตาเกียร์นี่โมโหหึงโหดแรงเกิ้นนน ระวังกระดูกไอรักจะหักสองท่อนนะ ถ้าเป็นงั้นจะโกรธแกมาก แต่ก็นะ คนน่ารักอะ มีแต่คนชอบ55555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่21 บอสใหญ่กับแว่นกันน้ำ* [26/05/13] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 04-06-2013 15:25:04
ไอรักอ้อนเกียร์ซะน่ารักเลย ชอบเรื่องนี้จัง
หัวข้อ: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่22 ฉู่ฉี่มื้อสบาย* [08/06/13] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 08-06-2013 15:41:27
ตอนที่ 22


เวลาแปดโมงที่ต้องมายืนอยู่หน้าคณะเพราะมีเรียนเช้าเกือบทุกวัน เป็นอะไรที่ง่วงสำหรับผมเอามากๆ แต่ถึงอย่างนั้นคนข้างๆกลับไม่แสดงอาการสะลึมสะลือใดๆเลย บางวันไม่มีเรียนเช้าก็ตื่นมาส่งผมด้วยหน้าตาแจ่มใส จนผมเริ่มหมั่นไส้ในความถึกทนของมันขึ้นมานิดๆ ...และผมก็พึ่งรู้ว่าชีวิตประจำวันของผมเริ่มเปลี่ยนไปอย่างที่ผมไม่รู้ตัว จากที่อยู่คอนโดต้องหาทานข้าวข้างนอกบ้านทุกมื้อ แต่เดี๋ยวนี้ตื่นเช้ามาก็ได้กลิ่นอาหารเตะจมูกตั้งแต่ตาปิดข้างเดียว ออกมาก็เห็นวางเรียงรอไว้อยู่บนโต๊ะพร้อมน้ำแข็งก้อนใหญ่ๆนั่งรอทานด้วย ก่อนจะไปเรียนพร้อมกัน ส่วนรถของผมจอดอยู่ในคอนโดจนตอนนี้ไม่รู้ว่าฝุ่นเกาะไปหรือยัง เพราะแทบไม่ได้แตะมันเลย

“เลิกเรียนแล้วอย่า..”

“อย่าลืมโทรมา จะรับไปทานข้าวกลางวันด้วยกัน ครับผมเข้าใจแล้ว” ผมพูดต่อให้จบประโยคแล้วยื่นหมวกกันน็อคให้อีกคนที่ยืนพิงรถ ก็มันย้ำนักย้ำหนามาตั้งแต่เช้าตรู่ ขนาดตอนผมแปรงฟันมันยังเดินเข้ามาย้ำแล้วยืนแปรงไปพร้อมกันอีก จนผมจะจำคำพูดมันไปเขียนข้อสอบอยู่แล้ว

“หึ” มันกระตุกยิ้มให้นิดๆก่อนเปลี่ยนเป็นเรียบเฉยมองเลยผ่านไหล่ผมไปด้านหลัง หันไปตามสายตาก็เห็นไอ้เนมเดินมา

“เหยดดด มอไซค์ ขึ้นมอไซค์ ถึงไม่หรูแต่ก็เร็วทันใจ กิ้วๆ” กวนประสาทแต่เช้าเชียวนะมึง เห็นไหมว่ามึงกำลังขัดจังหวะเราสองคนน่ะ

“ไปนะ” มันพูดแล้วขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์คันใหญ่คู่ใจ แต่ไม่ได้ใส่หมวกกันน็อคอย่างคราวที่มา เพราะคณะมันขับไปไม่ถึงสองนาทีก็ถึงแล้ว ก่อนไปก็หันมายืดแก้มผมจนพอใจก็ขับออกไป ปัญญาอ่อนชะมัด

“เมื่อกี้คนในคณะกับเอฟซีมึงซุบซิบเรื่องมึงกับเกียร์ใหญ่เลยว่ะ ท่าจะเป็นเรื่อง” ถึงได้ว่า ปกติมันไม่เดินมากวนตีนใส่ผมถึงที่ขนาดนี้หรอก

“พึ่งจะรู้กันเหรอวะ” พูดตอบไปสบายๆ พลางมองไปรอบๆใต้คณะ เห็นคนนั่งกันอยู่ไม่มากไม่น้อยมองมาทางพวกผม ผมก็นิ่งๆเฉยๆไป เพราะก็ไม่ได้แคร์สายตาคนอื่นขนาดที่ต้องมานั่งคิดมากว่าใครจะมองอย่างไรหรอก และผมว่าเกียร์ก็คิดแบบนั้นเช่นกัน

“ก็คงจะอย่างนั้น แต่กูว่าคงตะขิดตะขวงใจกันอยู่สักพักแล้ว เพราะในกรุ๊ปคณะมีคนคุยถึงเรื่องนี้มานานอยู่อะ สงสารคนที่ชอบมึงว่ะ เผลอแปบเดียวควงผู้ชายลั่นคณะ กร๊ากก”

“แปบห่าไร เป็นเดือนๆ” ผมอมยิ้มตอบ หลานเดือนแล้วด้วยเหอะ มันมองผมอึ้งๆมีการชี้นิ้วสั่นๆแบบไม่คิดว่าผมจะตอบตรงขนาดนี้

“เชี่ย ไม่มีความอายแล้วครับเพื่อนกู ไอรักคนเดิมนั้นหายไปป” ผมตบหัวมันไปทีหนึ่ง อายทำไมวะคนเยอะแยะ ไว้ค่อยม้วนบิดตอนที่อยู่กับเกียร์โน่น อิอิ

“แล้วสองคนนั้นมาหรือยังวะ” ผมถาม เนมส่ายหน้า ผมโทรไปหาพวกมัน แต่ไอ้คลื่นทักไลน์เข้ามาพอดี

08:23 KLEUN มึงๆๆๆๆ

08:23 KLEUN ช่วยด้วยๆๆ แงแง

08:23 iruk มีไร

08:23 KLEUN มึง กูต้องการความช่วยเหลือด่วนๆเลยตอนนี้

08:24 iruk ?

08:25 KLEUN มึง ฮือๆๆ

08:25 iruk ร้องไห้หาพ่อเธอหรือ กูจะรู้เรื่องไหมวันนี้

08:25 KLEUN ช่วยกูคิดอะไรหน่อยดิ กูคิดไม่ออกอะ

08:25 iruk กูนึกว่าบ้านไฟไหม้ ไม่เข้าเรียนวะ

08:26 KLEUN เดี๋ยวเข้า มึงช่วยกูคิดก่อน อะไรวะที่เป็นไม้ๆๆๆๆ

08:26 iruk ไม้ยมก

08:26 KLEUN ถุย ยมกเชี่ยไร คืองี้กูอยากรู้ว่าไม้อะไรที่ปลวกไม่กินวะ

08:26 iruk ไม้สักปะ? กูเกิ้ลดิ

08:26 KLEUN เหรอวะ เออว่ะ เออๆ

08:26 iruk แล้วจะเข้าเรียนเปล่า

08:27 KLEUN เข้าๆ กูใกล้ถึงละ ไอ้บอสแม่งตื่นสาย พวกกูเลยกันหลับยาวเลย555

กว่าจะคุยกันรู้เรื่อง ผมแค่อยากจะถามแค่ว่ามันจะเข้าเรียนวันนี้หรือเปล่า กับมันที่จะถามว่าไม้อะไรที่ปลวกไม่กิน แต่คุยกันนานนับห้านาที คุยกับไอ้คลื่นไอ้เนมต้องทำใจนิดหนึ่ง ผมชินละ

“มันว่าไงบ้างวะ”

“ใกล้ถึงละ” เก็บโทรศัพท์แล้วเดินขึ้นห้อง ปกติผมไม่เดินไปกดเล่นโทรศัพท์ไป ถ้าจะเล่นก็จะหยุดเดิน นอกเสียจากคุยโทรศัพท์น่ะนะ

ตอนเรียนเพื่อนในเซคก็หันมามองผมเป็นระยะ เหมือนมีเรื่องที่จะถามแต่ก็ไม่กล้าเข้ามาหาตรงๆ จะมีพวกเพื่อนบางคนที่สนิทกันในระดับหนึ่งเดินมาแซวๆเหมือนกันว่าคนที่มาส่งเป็นใคร เดี๋ยวนี้หัดเปลี่ยนรสนิยมแล้วเหรอ ผมก็แค่ยิ้มตอบไปเฉยๆ พวกมันก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรอีก

‘เลิกแล้วเหรอ’ มันกรอกเสียงเบา

“ครับ” ผมตอบพลางดูดนมช็อกไป ฮ่า ชื่นใจ ถึงแม้จะจำชื่อคนให้ไม่ได้ก็ตาม

‘นั่งรอแปบหนึ่งนะ จะรีบไป’ ผมคิ้วขมวดมุ่น หวังว่าไม่ได้ไปกวนเวลาเรียนมันหรอกนะ

“ยังเรียนไม่เสร็จเหรอครับ”

‘อืม’

“เดี๋ยวผมไปรอที่คณะเกียร์ก็ได้”

‘....จะมายังไง’ มันหยุดคิดไปแปบหนึ่ง

“ให้บอสไปส่งก็ได้ครับ” คนโดนพาดพิงหันมาเลิกคิ้วใส่ แล้วก็หันไปฟังไอ้คลื่นที่กำลังพล่ามเรื่องอะไรสักอย่าง ผมพูดกับเกียร์ไม่กี่ประโยคก็วางสายไป

“ไปส่งกูหน่อยสิ”

“กูปฏิเสธได้ไหมละไอ้เชี่ยเจ้าชาย” บอสพูด ผมหัวเราะเสียงดัง ก็จริงของมัน   

พวกมันขับไปส่ง ผมเลยชวนทานข้าวด้วยกัน แต่เนมบอกไม่อยากเป็นกขค อีกอย่างนัดพวกคิมเอาไว้ตั้งนานแล้ว ต้องรีบไปเดี๋ยวมันจะบ่นเอา ผมพยักหน้ารับรู้ ก่อนบอกลากันสั้นๆ แล้วลงมานั่งรอด้านหน้าคณะมัน เพราะด้านในคณะวิศวะอึมครึมไปนิด ผมไม่ค่อยชอบเท่าไร แต่ก็ไม่ได้ดูมืดขนาดนั้นนะครับ เพียงแต่ไม่โปร่งเหมือนคณะผมเท่านั้นเอง อีกอย่างผมก็ชอบด้านนอกด้วยเพราะมันร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ มองเข้าไปหน้าตึกเรียน นิสิตที่ทยอยลงมาแต่ละคนดูสบายๆชิวๆกันดีนะครับ ผู้ชายบางคนก็หุ่นชายไทยเหมือนผมนี่ละ แต่ส่วนใหญ่ตัวใหญ่ๆหนาๆเกือบทั้งนั้น แต่ก็ไม่เท่าเกียร์หรอกนะ รายนั้นอย่างกับยักษ์วัดแจ้งมาเรียน ส่วนผู้หญิงดูอารมณ์ดี น่ารักดีเหมือนกัน ใครว่าเด็กวิศวะต้องโหดเคร่งบึกบึนทุกคน ไม่ได้เป็นแบบนั้นเสียหน่อยจริงไหม

แต่ตอนนี้ดูท่าผมจะเป็นจุดสนใจเกินไปหน่อย มีแต่คนจ้องจนผมเริ่มอึดอัด ทั้งที่ควรจะชินได้แล้ว ผู้หญิงมองก็ไม่ค่อยเท่าไรหรอกครับ แต่นี่เล่นมีผู้ชายจ้องมองด้วยสายตาแบบนั้นอีก ไอ้ผมก็ตัวเกร็งสิครับ มันไม่ชินกับสายตาหื่นๆแบบนี้โว้ยย ไอ้น้ำแข็งเมื่อไรจะมาวะ

“คนน่ารักนั่งรอใครครับ มานั่งเล่นรถพี่ไหม เกาะนุ่มนะพี่อยากบอก” แต่กูไม่อยากรู้ครับ! กูเป็นผู้ชายพวกมึงเห็นกันบ้างไหมครับ มีผู้ชายหน้าคล้ายโจรร้อยศพมาแซวแบบนี้ ไอรักขอร้องไห้แปบ

“ฮิ้ววววว เล่นเจ้าชายไอรักเลยเหรอวะ ฮ่าๆๆๆ” เหยดดด เจือกรู้จักกูด้วย ถ้าไม่ติดว่ากลางวันแสกๆ ฟ้าคงผ่ากระบาลพวกมึงแล้วละครับ

“รอนานไหม” เกียร์พูดเสียงติดหอบ ผมเห็นมันกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาทางนี้แล้วละ แต่มันคงจะไม่ทันเห็นพวกนั้นแซว เพราะพวกนั้นยืนอยู่อีกด้าน เหลือบไปมองพวกนั้นหน้าตกใจนิดหน่อย ก่อนเจื่อนลงนิดๆกระซิบกระซาบอะไรกันสักอย่างแล้วทำเนียนเดินกันออกไป

“ไม่นานเท่าไรครับ” ผมหันกลับมายิ้มให้ มันขยี้หัวเบาๆแล้วจูงมือเดินมายังรถ ไม่เกรงใจประชาชนคนรอบข้างเลยนะครับแหม่ ขนาดผมยังเขินนิดๆแต่ก็ไม่ได้สะบัดมือออก

“จะพาไปทานที่ไหนเหรอครับ” มันเอาหมวกกันน็อคมาใส่ให้ จากนั้นก็ใส่ให้ตัวเอง ตบเบาะปุๆก่อนดึงผมไปนั่ง

“ห้าง... จับดีๆนะ” ขอร้อง อย่าเปิดทาง เดี๋ยวกูอดใจไม่ไหวกอดรัดฟัดเหวี่ยงมึงบนมอเตอร์ไซค์แล้วจะหนาวนะครับ แล้วถ้าจะดึงมือผมไปกอดเอวตัวเองแบบนี้ ทีหลังไม่ต้องบอกกันก่อนหรอกครับ

“ไม่ทานในโรงอาหารละครับ” ร้านอาหารอยู่ตรงปลายจมูก แต่ถ่อไปไกล๊ไกล

“อยากกินฉู่ฉี่ไม่ใช่เหรอ” มันตะโกนท้าลมตอบมา ก็ยังจำได้นะครับ เมื่อคืนก่อนนอนผมแค่เปรยๆกับมันไปครั้งเดียวว่าอยากทานฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำร้านหนึ่งในห้าง... มันก็เออออพยักหน้ารับรู้ไปเฉยๆ นึกว่าไม่ได้ตั้งใจฟังกัน ที่ไหนได้จดจำทุกรายละเอียด น่ารักจัง ผมกอดมันแน่นๆแทนคำขอบคุณ มันตบมือเบาๆเชิงรับรู้แล้วกลับไปจับแฮนด์ต่อ ผ่อนความเร็วลงเล็กน้อย มันรู้ว่าผมไม่ค่อยชอบให้ขับมอเตอร์ไซค์เร็วนัก แต่ถ้าเป็นรถยนต์จะเหยียบมิดตีนก็ไม่เป็นไร

“เอา...... เกียร์เอาอะไรเพิ่มอีกไหมครับ” หลังจากที่มาถึงร้านผมก็ร่ายรายการอาหารที่ต้องการ แล้วหันไปถาม มันส่ายหน้า แหม่ ถ้ามึงสั่งเพิ่มอีก ก็กลายเป็นหมูป่ากันแล้วละครับ ก็ผมเล่นสั่งโน่นนี่แทนมันหมดเลยนี่หว่า ครึครึครืนน

“แค่นี้แล้วกันครับ” พนักงานหญิงยิ้มตาเยิ้มให้แล้วเดินจากไป

“หึ” เสียงขึ้นจมูกของอีกคน

“อะไรเหรอครับ” หน้ามันเหมือนเห็นคนกินขี้นกฮูกเลยครับ นี่ผมเปรียบน่าเกลียดไปไหม ไม่หรอกเนอะ เห็นภาพดี

“เปล่า” แล้วมันก็เปลี่ยนมานั่งข้างเดียวกับผม แล้วเสยผมไปด้านหลังทำหน้าหงุดหงิดๆ

“เอ้า มาเบียดกันทำไมละครับ”

“กินลำบาก มันไกล” ไกลห่าอะไร นั่งตรงข้ามกัน

“รักสบายจังนะครับ ถ้าไม่รังเกียจมานั่งบนตักผมก็ได้นะ”

“ได้เหรอ” ตามันแพรวพราวเหลือหลาย กูรับเด็กอ่อนมาเลี้ยงหรือเปล่าวะนี่

“ประชดครับ ผมยังไม่อยากเคลมขาใหม่หรอกนะ”

“หึหึ แล้วทำไมวันนี้เลิกเร็ว” มันหยิบน้ำมาดื่ม โห ข้าวยังไม่ทันมา มึงกระดกกระเดือกน้ำหมดพร้อมโกยน้ำแข็งเกือบทั้งหมดเข้าไปอมอีก กระหายมาจากไหนหรือ

“สุนัขบ้านอาจารย์คลอดลูกครับ”

“เรื่องจริง?”

“กวนตีนครับ” มันเลิกคิ้ว ผมเลยพูดต่อ

“อะล้อเล่นนน เรื่องจริงครับ อาจารย์ไม่มีลูก เลยให้ความสำคัญกับมันเป็นพิเศษน่ะ สอนไปก็อวดสรรพคุณคุณด่างไป พวกผมเลยบอกให้อาจารย์ไปดูคุณด่างเถอะ” มันชื่อด่างครับ นางคุยโวจนผมรู้ถึงวันเดือนปีเกิดของมันยันลูกคอกใหม่

“แต่พรุ่งนี้มีของอาจารย์คนนั้นด้วยนิ จะทบเวลาไหม” มันเสือกรู้คับ ขนาดผมยังลืมเลย ถ้าไม่ติดว่าหน้ามันเถื่อนและดิบมาก คงคิดว่าเรียนเซคเดียวกับผม

“ไม่รู้เหมือนกันนะครับ อาจารย์ไม่ได้บอกอะไรไว้ แต่คงทบละครับ” มันพยักหน้า ถ้าอาจารย์เพิ่มเวลาเรียน ผมคงไม่ได้ทานข้าวกลางวัน เพราะคาบบ่ายก็มีเรียน กว่าจะเดินไปก็คงหมดเวลา

“ค่อยๆกินสิ” เกียร์หยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดมุมปากให้ หึหึ ไม่มีใครรู้หรอกว่าผมตั้งใจทำ ก็อยากอ้อน อยากให้เกียร์ดูแลเอาใจเยอะๆนี่นา มันคงไม่ผิดอะไรใช่ไหมครับ

“อร่อยเนอะ”

“อืม กินมะเขือเทศเยอะๆสิ” มันดันจานมะเขือเทศล้วนมาให้ข้างๆ แล้วบอกทานให้หมดอีก พอผมถามว่าทำไมต้องให้ทานเยอะขนาดนั้น มันก็บอกผมว่ามันชอบให้ผมแก้มแดงๆบ่อยๆ ผมว่าปกติผมก็หน้าอมชมพูอยู่แล้วนะครับ ไม่ได้อยากสรรเสริญเยินยอตัวเอง แต่มันเป็นกรรมพันธุ์จากพ่อแม่น่ะครับ

“อยากให้เลือดเลี้ยงแต่บนหน้าผมหรือไงครับ” บ่นกระปอดกระแปดให้มันเห็นใจบ้าง

“ก็อยากให้มันน่าหยิก” มันมุ่ยหน้าลงเพราะถูกขัดใจ เพราะเมื่อกี้ผมปัดมือมันออก แต่มันมองเหมือนผมแอบนอกใจไปมีชู้ก็ไม่เชิง เออโอเค ทานก็ได้ พอเห็นผมลงมือทานก็ยิ้มเหมือนเด็กสามขวบ และคงได้ใจใหญ่ หันไปสั่งสลัดผักจานใหญ่ให้อีก วันนี้ขี้คล่องเลยสิครับไอรักคุง

“จิ๊” จะไม่ทานก็ไม่ได้ จนมุม ไม่ใช่ไม่ชอบผักนะครับ แต่มันเยอะเกินกระเพาะผมแล้ว

“อย่าทำหน้าอยากให้ง้อสิ”

“อ๋มไอ้อ้ายอำอ้าแอบอั๊นอ๊ะ” ผมไม่ได้ทำหน้าแบบนั้นนะ จะพูดออกไปแบบนั้นแต่มือใหญ่ดึงแก้มผมจนแทบช้ำไปหมด

“หึหึ”

“โอ้ยเกียร์ อะไรของคุณนี่” ผมสะบัดๆหน้าให้หลุดจากมือ ดูจากสีหน้าแล้วคงชอบอกชอบใจใหญ่

“แดงใหญ่แล้ว”

“นั่นมันรอยมือคุณต่างหากเล่า”

“วันหยุดนี้ไปบ้านเกียร์นะ” ผมหันควับ จะให้ไปทำไมมมมมม(เสียงสูง) ไม่รู้ว่าแสดงสีหน้าอะไรไป มันยกมือมาลูบมือผมอย่างแผ่วเบา

“ให้ ให้ผมไปสู่ขอคุณเหรอ” มันหลุดขำพรืด เสยปอยผมที่แยงตาขึ้น แล้วเอากิ๊ฟสีฟ้าอ่อนมาติดให้ เดี๋ยวนะ มันเอามาจากไหนวะ?!

“จะสลับตำแหน่งให้กันทำไมละ อย่ากังวลไปก่อนสิ” นิ้วจิ้มๆตรงหว่างคิ้ว มันยิ้มบาง อยากกริ๊ดครับบบบบ ใจเต้นตุ้มๆต่อมๆเลย มันยิ้มบาดใจไอรักมากให้ตายสิ

“แล้วให้ผมไปทำไมอะ ถ้าพ่อแม่คุณรู้แล้วเขาจะว่ากันยังไง เขาจะรังเกียจเราหรือเปล่า จะยอมรับเราเหรอครับ” ผมพูดเป็นชุดแบบลืมหายใจ เกือบสติแตกไปแล้วไง มันกลัวจริงๆ กลัวว่าจะมีใครแยกมันไปจากผม เพราะยังไงมันก็ต้องเลือกครอบครัวก่อนไม่ใช่หรือ

“เชื่อใจเกียร์..นะ” มันไม่ได้พูดว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ไม่ได้บอกว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ดีแย่ร้ายแรงขนาดไหน แต่แค่พูดออกมาสั้นๆให้เชื่อใจกัน คำตอบตกลงก็บอกออกไปอย่างไม่ลังเล ถึงแม้ในใจลึกๆมันก็อดคิดไม่ได้ก็ตาม

หลังจากทานข้าวเสร็จมันคงเห็นว่าผมยังเครียดเรื่องนั้นไม่หายจึงชวนเดินห้างต่ออีกสักพัก เกียร์บอกว่าอยากได้เสื้อกีฬาใหม่ เอาไว้ใส่ในบ้านและออกไปข้างนอกบ้านได้ไม่น่าเกลียด อย่างที่เคยบอกว่ามันเป็นกัปตันทีมในชมรมฟุตบอล แต่ระยะหลังมันไม่ค่อยมีเวลาเหมือนแต่ก่อน จึงให้คนที่ชื่อดินเป็นแทน ผมเคยถามว่าเป็นเพราะผมหรือเปล่าที่ทำให้มันต้องสละตำแหน่งนั้นไป คือเรื่องฟุตบอลมันมีฝีมือมากๆเลยนะครับ ถึงขนาดได้เป็นกัปตันทีมในชมรม ผมก็ไม่ได้อยากให้มันหยุดทำในสิ่งที่ตัวเองชอบเพียงเพราะผมคนเดียว แต่มันบอกเหตุผลว่ายิ่งปีสูงขึ้นก็ยิ่งเรียนหนักขึ้น ตอนนี้เลยขอทุ่มเทให้กับการเรียนก่อนดีกว่า

แล้วก็บอกอีกว่าเป็นเพราะตัวมันเองด้วยละ ถ้าไปซ้อมบอลก็ไม่มีสมาธิในการฝึกหรอก มัวแต่ผะว้าผะวงโน่นนี่อยู่ตลอด ก็จริงของมันนะครับ เมื่อวันก่อนที่มันจะลาออก ผมก็ไปนั่งอ่านหนังสือรอมันอยู่ข้างสนาม แต่พอเงยหน้าไปมองทีไร ก็เห็นมันมองมาทางผมบ่อยๆ กระสับกระส่ายเหมือนอยากเดินเข้ามาหา แต่ก็ต้องวิ่งอยู่ในสนาม จนโค้ชด่ามันไปหลายที แต่อยู่ๆมันก็ขอลาออกกลางสนาม แต่เหมือนกับว่ามันจะคิดเรื่องนี้มานานแล้ว ส่วนโค้ชก็คงรู้มาบ้าง เพราะไม่ได้ตกใจหรือดุด่าอะไรมัน แค่ถามว่าคิดดีแล้วเหรอ เห็นแบบนั้นโค้ชกับพวกเพื่อนๆในทีมก็ไม่อยากให้มันลาออกหรอก เพราะมันเก่งแล้วอีกอย่างก็ผูกพันกันด้วยน่ะนะ มันเคยเล่าว่าส่วนหนึ่งก็มาจากโรงเรียนเก่าด้วยกัน พวกรุ่นพี่รุ่นน้องที่ตามๆกันมาก็มักจี่กันพอสมควร เขาก็ชวนเกียร์ว่าว่างๆก็มาเตะบอลเล่นๆด้วยกันบ้าง เป็นบางครั้งบางคราวไม่ต้องจริงจังก็ได้ มันก็ตอบรับไป

กว่าที่มันจะหาเสื้อตัวที่ถูกใจได้ ก็เกือบไปเรียนคาบบ่ายสายกันเลยทีเดียว ไอ้ที่มันเลือกๆก็ไม่ได้ซื้อมาหรอก มันบอกยังไม่ถูกใจ มีการหันมาสั่งให้ผมเลือกให้หน่อยอีก ผมก็หยิบๆจับๆตัวที่คิดว่าเข้ากับมัน แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะชอบแล้วซื้อตัวที่ผมเลือกทั้งหมด เห็นแบบนั้นมันเป็นคนพิถีพิถันในการเลือกของมากกว่าผมอีกนะครับ แต่เรื่องความสะอาดของตัวเองนี่ มันติดลบสุดๆ อาทิ กางเกงในของผมที่มันชอบเอาไปซัก(มือ)ให้ จนผมต้องตื่นขึ้นมาช่วยมันด้วยความเกรงใจ บางทีผมนอนๆอยู่ก็รู้สึกตัวว่ามีใครค่อยๆดึงกางเกงในออกจากตัวไปซักให้ แต่พอถามถึงของมัน กลับบอกว่ายังใส่ไม่ครบสี่วันเลย ไว้ค่อยซักแล้วกัน ผมจะบ้าตาย ไม่รู้มันใช้ทฤษฏีไหน ต้องครบสี่วันไม่อย่างนั้นเป็นไส้เลื่อนกระมัง เอ ก็ไม่รู้ว่ามันเอาวิธีช่างเลือกมาใช้กับผมหรือเปล่านะ หรือมันใช้วิธีเสียงดวงชะตาเอา ถ้ามันเสี่ยงเซียมซี ก็คงจะออกเป็นเบอร์เซียมซีที่ดีที่สุดในกระบอกแล้วละ อิอิ



TBC------------>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>


+วันหยุดสบายๆแบบนี้ คู่นี้ก็หวานเบาๆไปละกันนะคะ แหม เห็นความน่ารักของเกียร์เพิ่มพูนขนาดนี้แล้วควรจะให้ของขวัญชิ้นใหญ่ดีไหมคะ
+ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ

โซ่
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่22 ฉู่ฉี่มื้อสบาย* [08/06/13] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 08-06-2013 17:16:32
เกียร์น่ารัก :hao6:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่22 ฉู่ฉี่มื้อสบาย* [08/06/13] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 08-06-2013 17:18:12
 :-[ :impress2: น่ารักมากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่22 ฉู่ฉี่มื้อสบาย* [08/06/13] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 09-06-2013 05:42:53
 :z1:  อยากได้ผู้ชายแบบเกียร์อิอิ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่22 ฉู่ฉี่มื้อสบาย* [08/06/13] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 09-06-2013 16:26:11
น่ารักดีค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่22 ฉู่ฉี่มื้อสบาย* [08/06/13] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 10-06-2013 00:01:36
เกียร์มีของขวัญชิ้นใหญ่อยู่กับตัวแล้ว ก็ไอรักไง ได้แฟนน่ารักขนาดนี้มีความสุขตายเลย
แต่พักนี้เกียร์น่ารักขึ้นมากจริง ๆ ไม่ยอมห่างกันเลยน้าาาา บิดแก้มหวานโชว์ชาวบ้านตลอด
จะไปบ้านเกียร์กัน อืม...หวังว่าจะผ่านไปด้วยดีเนอะ ต้องดีสิ ถ้าเกียร์ดูมั่นใจขนาดนี้ หรือจะยังไงหว่า
เอิ่ม..คุณพระเอกจะรักสะอาดไปมั้ย ดึง กกน. จากตัวไอรักไปซักนี่มันออกแนวหื่นมากกว่าสะอาดป่ะ 555

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่22 ฉู่ฉี่มื้อสบาย* [08/06/13] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 10-06-2013 00:59:49
ขำตรงถอดกางเกงในไปซักเนี่ยล่ะ อะไรจะปานนั้น 555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่22 ฉู่ฉี่มื้อสบาย* [08/06/13] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 12-06-2013 22:00:16
ไอรักโครตน่ารัก เกียร์ก็ขี้หึง หวง สุด แต่น่ารักเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่22 ฉู่ฉี่มื้อสบาย* [08/06/13] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: MangoBlue ที่ 23-06-2013 09:31:11
ตอนน้น่ารักกกหวานกันเรื่อยๆ ตอนหน้าเกียร์พาไอรักไปเปิดตัวใช่ไหมมม ขอให้ที่บ้านเกียร์ใจดีนะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่22 ฉู่ฉี่มื้อสบาย* [08/06/13] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ekonut ที่ 25-06-2013 11:56:25
อ่านรวดเดียวจบ ไอรักน่ารักมากๆๆ เกียร์ก็หึงโหดดีนะ 555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่23 วาบหวิวเสี่ยงตาย* [18/07/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 18-07-2013 20:25:33
ตอนที่23

“อูววว อูววว เกิดอะไรขึ้นกับเอวผู้ชายสมัยนี้วะ”

“เชี่ยเนม นี่มันยุคอะไร สมัยนี้ชายและหญิงเอวเท่าเทียมกันแล้วโว้ย”คิมพูด

“อะไรวะ กูเคยได้ยินแต่ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน”

“ความหมายต่าง คำพูดคล้าย เพราะฉะนั้นผ่านเนอะไอ้รัก”ผ่านห่าอะไรละ อย่ามายุ่งกับกูนะครับถ้าที่พูดกันมันไม่ใช่เอวผมจะไม่หือไม่อือเลยสักคำ แต่นั่นมันหน้ากูชัดๆแล้วยังจะมานินทาในระยะเผาขนรักแร้กันอีกนะมึง ฮึ่ม

ทุกคนคงจำรูปที่ผมไปถ่ายแบบให้นิตยสารหนึ่งได้ใช่ไหมครับ ทั้งๆที่เป็นเรื่องที่ผมตั้งใจจะลืมไปแล้ว แต่วันนี้มันหวนมาให้ผมเสี่ยงเจ็บตัวโดยการวางแผงกระจายไปทั่วประเทศไทยแล้วครับ เมื่อวานตอนค่ำผมได้รับโทรศัพท์จากพี่จิมว่าวันนี้คงได้ชมเชยกัน ที่วางแผงล่าช้าขนาดนี้เพราะนิตยสารแบรนด์นี้เป็นรายเดือนและมีชื่อเสียงมากพอสมควร จึงไม่แปลกที่ผลงานหลายชิ้นต่อคิวยาวรอเป็นตับ นี่ขนาดลัดคิวแล้วนะครับ แต่ความจริงไม่ต้องลัดก็ได้ ให้ได้หายใจสะดวกคอหน่อยเถอะ

เย็นวันศุกร์ที่แสนสุขสำหรับนิสิตนักศึกษาอย่างพวกผมในวันนี้ก็มานั่งคุยจ้อใต้ตึกคณะคิมเสียดายที่วันนี้ไทป์กับพิชไม่ได้มานั่งคุยด้วย เพราะมันยังติดเรียนอยู่ เรียนห่าอะไรไม่รู้เยอะแยะมากมายไม่เลิกเสียที ผมก็เลยแอบยุให้มันซิ่วไปเลยเอกชนเสียเลยฮี่ฮี่

“เลิกดูกันได้ละ เดี๋ยวพ่อกูมา หัวกูจะหลุดออกจากบ่า” เรื่องนี้ยังไม่ได้บอกคุณน้ำแข็งเลยครับ บอกตรงๆคือไอรักกลัวจนหำหดครับ ส่วนพี่ชายทั้งสองคนก็ไม่รู้ว่าจะว่าอย่างไร ไอรักอาจตายสองรอบโดยไม่ต้องพึ่งเชือกมีดปืนใดๆ

“ถ้ามันกล้า กูยอมให้ไอ้เนมโดนตุ๋ยเลยอะ”แล้วกูจะคอยดูนะครับ

“ตูดกูห้อยอยู่ดีๆแล้วเชียว ห่า” เนมถลึงตาใส่ใส่คลื่น ไอ้นั่นก็หัวเราะครืน

“มึงไม่รู้อะไร มันหยิกแก้มกูเป็นรอยทุกวัน” มันชอบมาบีบแก้ม เล่นแก้มผมเช้ากลางวันเย็นก่อนอาหารหลังของหวานเกือบทุกช่วงเวลาแบบไม่กลัวหยุดติดมือ ไม่เจ็บนะครับ แต่แค้น กูแค้นอะ หมั่นเขี้ยวอะไรกูนักหนาหนาหนา อยากจะตั๊นหน้าเรียบเฉยนั่นจริงๆ แต่ทำไม่ได้ ไอ้ผมก็เป็นแค่ไอรักตัวกระจ้อยร่อยกระจิดริด(เหรอ)จะมีปัญญาไปสู้มันได้หรือ น่าคับแค้นใจนัก ฮื้อๆๆ

“ถุย นั่นแถวบ้านกูเรียกว่าหยอกล้อ แต่ไม่แน่ ครั้งนี้หัวมึงอาจโดนเดาะ เพราะรูปแม่งน่า.....อื้มม อ่า อ๊าง ฮ่าๆๆ”คิมทำเสียงหื่นตาเยิ้ม ผมเหม็นขื่นใส่ทันทีอยากบอกมันว่าตอนนี้หน้ามึงทุเรศจังครับ

“แล้วจะไปดูหนังด้วยกันไหมคืนนี้ รอบสองทุ่ม จบแล้วไปต่อร้าน...”บอสบอกชื่อร้านมาเสร็จสรรพ ถ้ามีปากกาแถวนี้คงเขียนแผนที่ลายแทงให้ด้วยเลยเอ้า

“รูปประโยคชวนล่อลวงกูจังนะครับแหม่ จองให้ด้วยแล้วกันสองที่ แต่กูดูเสร็จแล้วคงกลับเลยนะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า” ผมพูดมันพยักหน้าแล้วหันไปสั่ง..ไอ้คลื่น.. จะได้เรื่องไหมวะนั่น

“ทำไมวะ” คิมหันมาถาม

“ไปบ้านเกียร์”

“ว๊ายยยย ไอรักไปบ้านปู้จาย ไอรักใจแตกแล้ว ใจแตกเหมือนน้ำไหล ยิ่งชักดาบตัดน้ำ น้ำยิ่งไหลลลล” มันมาทั้งบทเจ็ดเซียนกระบี่พิชิตมาร เหอ เหอ

“เรื่องกู หึหึ แล้วไอ้ไทป์ ไอ้พิชละ?” ผมถาม

“เดี๋ยวมันตามมาเห็นว่าเลิกเย็นแต่คงมาทันอยู่” คิมเงยหน้าขึ้นตอบแทน

“เสียงโทรศัพท์มึงอะ”เนมพยักพเยิดให้ผม อุตะ หูดีเหมือนพันธุ์อะไรหนอ

“เออว่ะ..... สวัสดีครับ เลิกแล้วเหรอ”หันไปถลึงตาใส่ไอ้เนมที่ทำปากล้อเลียนขมุบขมิบ ท่าทางสะดิ้งเหมือนไฟแช็ครนรูก้น เห็นแล้วป่วงฉิบ

‘อืม ไปหานะ’เสียงทุ้มตอบเพลียๆ

“เรียนหนักเหรอครับ” ผมถามด้วยความเป็นห่วง

‘เป็นห่วงเหรอ’ ไม่ตอบแถมถามกลับ แหม เสียงสดชื่นขึ้นมาทันตาเชียวนะคุณ

“ได้ข่าวไม่ได้พูดสักคำเลยนะครับ” ผมพูดแก้เก้อ ก็มันเล่นทำเสียงรู้ทันแบบนั้นต้องกลบเกลื่อนไปก่อน

‘หึ นั่งรอแถวนั้นแล้วกัน’

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมไปหาเอง” ไม่ได้อยากไปคณะมันนะ แต่พอดีทางผ่านไปคณะมันมีมินิมาร์ทเล็กๆในมอ กะจะไปซื้อนมช็อกมาดื่มเสียหน่อย แฮ่

‘แต่เกียร์อยากไปรับอะ’ โอ้ยยยย เสียงใหญ่ๆกระซิบงุ้งงิ้งแบบนี้น่ารักจัง

“ผมกะจะแวะซื้อของด้วยน่ะครับ รออยู่ที่คณะนั่นละ” ผมไม่ได้สั่งเลยนะครับ ขอร้องมันนิดๆ แต่เพิ่มเสียงเด็ดขาดขึ้นไปอีกหน่อย

‘........................เฮ้อ รีบๆมาแล้วกัน’ มีการหยุดวรรคพักหายใจหลายเฮือก เฮือกสุดท้ายดังหน่อย คงพ่นสิ่งแปลกปลอมออกมาด้วยนี่ขนาดผมไม่ได้อยู่ให้ละแวกเดียวกันยังรู้เลยนะครับ ไอรักเก่งเกินคน

วางสายก็หันไปบอกลาพวกมัน ไอ้บอสพยักหน้าให้คนเดียว คนอื่นที่แย่งกันจองที่นั่งในโรงหนังกันอยู่เลยไม่ได้บอกลาตอบหรอกครับ หนำซ้ำมีการทำมือไล่ชิ่วๆให้ไปไกลๆอีก หึ ใช่ซี๊ กูมันไม่สำคัญแล้วนี่ ไม่สนพวกมึงก็ได้ อะโด่ๆ ว่าแล้วก็สะบัดตรุ๊ส(ตูด)เดินลัดเลาะไปมินิมาร์ท โห คนหรือแย้แย่งกันลงรูวะน่ะ แต่ผมก็ต่อแถวครู่เดียว เพราะแถวผมพนักงานคิดเงินไวมากๆเลยครับ ถึงคิวผมก็ยิ้มหวานให้ ผมเลยยิ้มตอบไป คนไทยนี่มนุษยสัมพันธ์ดีจริงๆ ซื้อของเสร็จออกมาก็เหลือบไปเห็นคนชื่อดิน ที่เคยเล่าให้ฟังว่าเป็นกัปตันทีมฟุตบอลแทนเกียร์น่ะครับ ผมก็เดินเข้าไปทักทาย ถึงจะไม่สนิทกันมากมายแต่ก็ถือว่ารู้จักกันละเนอะ

“อ้าวเจ้าชาย ไปไงมาไงนี่” ในมือถือของพะรุงพะรัง กำลังจะแขวนไว้กับแฮนด์มอเตอร์ไซค์แต่ก็ต้องชะงักแล้วหันมาตามเสียงเรียกของผม

“เดินมาครับ” ผมยิ้มตอบ อีกคนหรี่ตามอง

“สัด ซื่อหรือกวนตีนกูวะดูไม่ออก เออแล้วจะไปไหนวะ”

“ตึกวิศวะน่ะครับ แต่แวะมาซื้อของก่อนนิดหน่อย” มันพยักหน้า

“เออนั้นขึ้นมาดิ กูจะเตะบอลแถวนั้นพอดี เดี๋ยวกูไปส่งมึงเองครับไอ้เจ้าชาย” จะมีคงมีครับทำไมวะ ถ้ามึงเกริ่นความถ่อยมาเต็มสตรีมขนาดนี้ ดูจากการพูด คนนี้น่าจะมีนิสัยห่ามๆนะครับ มีน้อยคนที่กล้าพูดหยาบกับผมตั้งแต่ยังไม่ค่อยสนิท แต่ดูๆไปก็น่าจะเป็นคนที่นิสัยจริงใจน่าคบคนหนึ่งเลยละ

“หือ ไม่เป็นไรครับ ลำบากดินเปล่าๆ” ถึงผมจะพูดอย่างนั้น แต่มันก็คะยั้นคะยอจนผมต้องจำใจขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

“ผมถือของให้นะ” ผมถามไปตามมารยาท เพราะของในมือผมก็มี

“เออเอาดิ” เสือกไม่เกรงใจกูเลยสักกะติ๊ด

“จับดีๆนะโว้ย เครื่องมันแรง” มันบอกต่อ ผมรับคำแต่ไม่กระดิก จับแค่ชายเสื้อมันไว้หลวมๆ เดี๋ยวมีคนหาว่าผมใจแตกอีก แต่แม่งเจือกกระชากตัวออกแบบแทบจะขี่ล้อเดียว ผมรีบเกาะเอวมันแน่น กลัวมันเกิดบ้าอะไรขึ้นมาอีก

“ฮ่าๆๆๆๆๆ” มันบ้าไปแล้วครับฮือ กูคิดผิดสุดอะไรสุดที่เอาชีวิตมาเสี่ยงกับมึง

ไม่ถึงสามนาทีก็เห็นประตูทางเข้าตึกเรียนวิศวะ ไม่สิ เห็นคนผมดำผิวแทนยืนสลอนรออยู่ข้างหน้าก่อนอย่างแรก เดินหน้านิ่งวนไปวนมา ชะเง้อคอมองตามทางเดินแอ๊บทำท่าจะล้วงกระเป๋ากางเกงให้ดูว่ากำลังหงุดหงิดอยู่ แต่พอสบตากับผมเท่านั้นละ เดินลิ่วๆดิ่งมาเลยครับ

“ทำไมมากับมัน” มันถามเสียงไร้อารมณ์เหมือนตามฉบับเดิม แต่ฮึดฮัดในลำคอเบาๆให้ผมได้ยินคนเดียวนี่มัน...เอ่อ

“อ้าวๆไอ้เจี้ย กูมีชื่อนะแสดดด แม่งทำเหมือนผัวจับผิดเมียไม่มีผิด” มันพูดเหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไร คุณน้ำแข็งมองดินเขม็ง ก่อนที่มันจะอ้าปากพูดอะไรออกไป ผมรีบตัดบทเรื่องเสียวๆอย่างด่วน

“ขอบคุณที่มาส่งนะครับดิน ขับขี่ปลอดภัยนะครับ”

“ฮ่าๆๆๆ มึงสุภาพไปไหมวะเจ้าชาย เออไว้วันหลังเลี้ยงข้าวกูสักมื้อให้อิ่มแล้วกัน กูไปก่อนละ”  ดินเอออออยู่คนเดียวแล้วขับออกไปแล้ว ความซวยก็ตกที่ผม..

“สรุปยังไง” ป๊าดด ถามแบบสั้นๆแต่ได้ทั้งสตอรี่เสียงแม่งโคตรแข็งเกินหินหน้าผาเหมือนไอรักทำผิด ทั้งๆที่ไม่ได้ผิดอะไรเลย

“หือ เจอกันกลางทางน่ะครับ ผมแวะไปซื้ออันนี้มา พอดีเขาจะมาเตะบอลแถวๆนี้เลยอาสามาส่ง ไม่มีอะไรหรอกครับ” ผมชูถุงที่ซื้อมาให้มันดู ดินเป็นคนดีมากๆเลยนะครับ เสียดายอย่างเดียว ไม่หล่อล่ำแฮนซั่มเท่าคนข้างๆผม หึหึ คนนี้หนึ่งในใจผมเลย

“อืม” อืมแต่คิ้วมึงยังไขว้กันไม่ห่าง

“นั่นเพื่อนคุณนะ” ผมพูดเตือน เพราะเวลาไอ้หมาน้ำแข็งกัด มันไม่มองหน้าใครหรอกและไอรักอาจจะเป็นเหยื่อรายต่อไปก็เป็นได้

“หึ” มันทำเสียงขึ้นจมูก ขอให้คันจมูกแล้วจามมาทั้งเส้นเลือดฝอย

“ห้ามเป็นสก๊อยให้ใครอีกเข้าใจไหม”

“นั้นหนูขออุทัยทิพย์สองขวดละกันนะคะป๋าแว๊น” บีบเสียงให้เสียงที่สุดแล้วขยิบตาให้ มันอมยิ้มทำหน้าประหลาด จะหัวเราะก็ไม่หัวเราะ จะตีนิ่งก็ไม่นิ่ง มึงแอ๊บอยู่อะดิ๊ หึหึ

“มานี่” มันกวักมือให้มาหา ได้ข่าวกูกับมึงห่างแค่คืบเดียว ไอ้ผมก็บ้าจี้เดินเข้าไปอีกก้าวหนึ่ง ห่างกันไม่ถึงจมูกโดราเอมอน

“คิดถึง” มันพูดเสียงกระซิบเสียงหวาน แล้วยกมือบี้แก้มกูเข้าไปดิเอออออออ ผมเบี่ยงหน้าออกเพราะตรงนี้โจ่งแจ้งเกินไป

“ไอ้เกียร์ ตกลงมึงจะเอายังไงวะกูจะโกรธนะ..อะอ้าวไอรักสวัสดีค่ะ” เสียงสาดังวิ่งออกมาจากตึกคณะพร้อมเพื่อนคนในกลุ่ม พอเห็นผมก็ยิ้มให้ สาม้วนบิดใบกระดาษที่ถือเป็นเกรียว เอ่อนั่นคุณไม่ได้เอาไปส่งอาจารย์เหรอ หรือเอาไปแหย่รูปูวะ ยับคล้ายๆหน้าคุณน้ำแข็งตอนนี้เลย

“สวัสดีครับ ทำอะไรกันอยู่เหรอ ดูน่าสนุกจัง” ผมนั่งม้าหินอ่อนยิ้มถามทุกคน คนอื่นนั่งตามแล้วยิ้มตอบ ส่วนโฟ่ยักคิ้วให้แล้วเสตามองโน่นมองนี่ก่อนจะชวนเนแว่นไปซื้อของ มันก็หันมาถามผมนะครับว่าจะฝากซื้ออะไรไหม ผมส่ายหน้ายิ้มขอบคุณ ยกถุงที่หิ้วมาให้มันดู โฟ่กับเนก็พยักหน้าเข้าใจ

“สนุกกับขี้อะดิ ไอ้เชี่ยเกียร์แม่งลีลาไม่ยอมลงชื่อไปค่ายตอนปิดเทอมกับพวกกู คนอื่นเขาไปกันหมด เหลือมันคนเดียว” พัตพูดฟ้องพลางตีมือสาที่เล่นใบรายชื่อ ก่อนกระชากเอากระดาษมาถือเอง

“อ้าว” หันไปอ้าวใส่เกียร์ แต่มันหันมาตอบว่า

“อบ”อบพ่องงงงงงงงงง

“ร้อนเหรอ” ไหนๆก็ไหนๆละ ต่อให้มันหน่อย

“ร้อนใจ ไอรักฮอตเกิน” มันก้มกระซิบแกล้งทำเสียงพร่าให้ผมหลับตาปี๋ ได้ยินเสียงมันหัวเราะหึหึหึหึหึข้างกกหูกูแบบไม่เกรงใจน้ำหนวกด้านซ้าย ตอนนี้ไอรักคงหน้าแดงร้อนไปถึงหูแน่ๆ

“มึงหยุดอบอ้าวก่อน สรุปจะเอายังไง” สาถามสีหน้าจริงจัง

“คำเดิม” เสียงเหมือนพูดไม่ได้ใส่ใจนัก แต่มันคงหมายความอย่างนั้นจริงๆ แล้วมันก็หันมายุ่งกับหัวคนอื่น(หัวกูนี่ละ) มัดจุกน้ำพุให้ผม เดี๋ยวนะ แล้วมึงเอาหนังยางกุ๊กกิ๊กแบบนี้มาจากไหนอีกวะ?! ครั้งก่อนแค่กิ๊ฟ แต่ครั้งนี้มันเล่นพกหนังยางรัดผมสีฟ้ามาเลยจ้า

“ถ้ามึงไม่ไป ก็ไม่ครบแก๊งสิวะ” มัดพูด เกียร์เริ่มดึงหน้าใส่ แล้วทำไมพวกมึงไม่ไล่เกียร์ออกจากแก๊งละวะ จะได้ครบๆกันไป

“ไปค่ายไหนกันเหรอครับ”ผมโพล่งขึ้น บรรยากาศเริ่มตึงเครียดต้องรีบกอบกู้

“สร้างโรงเรียน สร้างฝัน เพื่ออนาคตของชาติ ที่มหาลัยจัดอะ ได้แสตมป์หมวดสามด้วย แต่ไอ้เกียร์แม่งบอกว่าไม่อยากออกต่างจังหวัด” พัตตอบ ดูท่าจะหงุดหงิดกับความใจแข็งของคุณน้ำแข็งพอสมควร

“อ้อที่จะไปปิดเทอมนี้ใช่ไหมครับ ค่ายนั้นผมก็ไปนะ”เกียร์หันควับ ทำผมและคนอื่นสะดุ้งตกใจ

“ทำไมเกียร์ไม่รู้”อ้าว นี่มึงเยอะขึ้นหรือเปล่าวะ ดีวันดีคืนอาจจะเห็นมันมานั่งนับขนหน้าแข้งผมก็เป็นได้นะ

“อั้ยยะ เกียร์อย่างนู้นไอรักอย่างนี้ หึหึๆๆๆๆ” พัตแอบได้ยิน เลยหันไปแซวเบาๆกับมัด เกียร์ไม่ได้ยินหรอก แต่ผมนั่งข้างพัตอีกด้านไง เลยได้ยินเต็มสองรูเยิฟ(เลิฟยู)

“ก็เกียร์ไม่ได้ถามนี่นา แล้วผมก็ลืมๆไปด้วยน่ะครับ” ยิ้มหวานประจบเอาใจมันไปหน่อย กลัวมันงอนต้องง้อตามอีกยาว

“นั้นไปแค่ไหนแค่นั้นแล้วกัน ขาดไอ้เกียร์คนเดียวคงไม่เป็นอะไร ไปส่งรายชื่อได้ละมึง” มัดทำเสียงขรึมจริงจัง โบกไม้โบกมือไล่พัตให้ไปส่ง แต่ผมเห็นพวกมันแอบยิ้มให้กันเมื่อเห็นเกียร์เริ่มคิดหนัก

“กูไปด้วย”

“เฮ้ยถ้ามึงไม่อยากไปก็ไม่ต้องฝืนใจหรอก กูเข้าใจๆ เดี๋ยวให้ดินไปแทนก็ได้ ครบพอดี” สาแสร้งทำหน้าเข้าใจ พยักหน้าหงึกๆ ผมเริ่มหมั่นไส้เพื่อนมันละ แกล้งเกียร์อยู่ได้ เดี๋ยวเถอะ

“เดี๋ยวผมให้คิมเขียนชื่อเกียร์ส่งไปให้ก็ได้ครับ”

“อืม” เกียร์พยักหน้า

“เฮ้ยๆๆ ไม่ต้องๆ กูล้อเล่น เดี๋ยวกูเขียนเอง” เออดี ต้องให้เล่นแผนซ้อนแผน หึหึ

“หิวไหม” เกียร์หันมาถาม ไม่หิวก็ไม่ใช่ไอรักละ รอมันเลิกเรียนเกือบชั่วโมงได้

“วันนี้อยากกินข้าวครับ” ฉีกยิ้มให้หล่อๆ คนเลี้ยงจะได้คล้อยตาม

“กูมีลูกชิน กินเปล่า” เนแว่นกลับมาพร้อมของกินตรึมเลยครับ

“มึงรู้จักคำว่าข้าวไหม” เกียร์ว่าอย่างนั้น แล้วเลิกคิ้วใส่ กวนตีนแบบสุด

“เออกูผิดเองสัด ฮือ เพื่อนไม่รักกูแล้ว ฮือ”


.........................................................


[ต่อด้านล่าง]
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่23 วาบหวิวเสี่ยงตาย* [18/07/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 18-07-2013 20:26:27
[ต่อจากด้านบน]




“กินอะไร”

“ผมขอเป็นแกงจืดเต้าหู้สาหร่าย กับกุ้งผัดกระเทียมครับ แล้วเกียร์ละ”

“กุ้งผัดพริกนมสด ข้าวเปล่าสอง เปล่าหนึ่ง แข็งสอง” รวบยอดรวดเร็วครับคนนี้ โปรเฟสชันนอลในการสั่งคน

“เรียนเป็นยังไงบ้าง” มันถามอย่างนี้ทุกวัน เป็นปกติครับ

“ก็ดีครับ สนุกดี อ้อแล้วชุดกาวน์ที่ส่งซักจะได้รับวันนี้หรือเปล่าอะครับ พรุ่งนี้มันต้องใช้น่ะ”

“ได้แล้ว ค่อยไปรับเย็นนี้” ร้านไม่ได้ใกล้หรอกครับ ข้างล่างคอนโดนี่ละ

“แล้วเกียร์ละ เรียนเป็นยังไงบ้างครับ” ผมก็ถามมันกลับแบบนี้ตลอด

“น่าเบื่อ” มันก็ตอบแบบนี้ทุกที

“แล้วเข้าใจไหมละครับ”

“นิดเดียว” คุยกันไปสักพักอาหารก็มาเสริฟ ผมลงมือทานกันไปด้วย คุยกันไปด้วยมารยาทดี๊ดี

“นั้นลองไปหาครูสอนพิเศษเพิ่มไหม”มันไม่ค่อยเข้าใจเรื่องฟิสิกส์ครับ ผมก็เคยสอนมันบ้างบางครั้ง แต่ทุกครั้งที่จบบทต้องไปจบบนเตียงทุกที จนผมต้องปณิธานกับตัวเองว่าจะเลิกสอนมันแบบถาวร

“หึ” มันส่ายหน้า

“ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนยกมือถามอาจารย์เลยนะครับ ตอนสอบจะได้ไม่ลำบากมาก”แต่ถ้าเป็นผมก็ไม่ยกมือถามหรอก มันเป็นนิสัยของผมน่ะ ไม่เข้าใจก็ปล่อยมันไปก่อน แต่ดอกจันทร์ตัวใหญ่ๆ พับหัวมุมเกือบครึ่งหน้านั้น แล้วมาหาคำตอบเอาเอง เวลาอาจารย์สอนจะได้ไม่ขาดตอน แล้วก็ไม่รบกวนเพื่อนๆในเซคด้วย แต่ก็ส่วนน้อยที่จะไม่เข้าใจขนาดนั้นนะครับ เพราะอาจารย์ส่วนใหญ่มีประสบการณ์ในการสอนกันมาพอสมควรมีเทคนิคการสอนแบบที่นิสิตเข้าใจและจดจำได้ง่ายเยอะอยู่เหมือนกัน อีกอย่างถ้าผมไม่เข้าใจตรงไหน ส่วนใหญ่ก็จะมีคนไม่เข้าใจแล้วยกมือถามให้แทนน่ะ

“ขี้เกียจยกมือพูด เมื่อย” มีงี้ด้วย?!

“ผมว่าเกียร์ก็ยังไม่แก่นะครับ ทำเป็นไร้เรี่ยวแรงไปได้”ทีตอนกลางคืนแม่งคึกเอา คึกเอาไม่รู้เอาแรงม้ามาใส่เครื่องตัวเองหรืออะไร

“ก็ออมแรงไว้ทำกับไอรัก” เหอะๆ..ดูมัน   

“ยังอยากทานข้าวได้อยู่ไหมครับ ปากน่ะ” กับมันเดี๋ยวนี้ผมแรงขึ้นนะ บอกเลยไม่พูดเท็จ

“เอาไปทำอย่างอื่นดีกว่าเนอะ หึหึ” เอาไปถูกับเสาไฟฟ้าละสิ

“ทานเถอะครับ” ตักกับข้าวใส่จานให้รู้ว่าควรเงียบได้แล้ว มาเกี้ยวพาราสีเวลาอาหารแบบนี้ โต๊ะข้างๆได้ยินอาจจะพุ่งออกปากเอาได้

“ทำไมไม่กลืน” โถ ขนาดจะเคี้ยวข้าว มันยังสั่งได้เลยนะครับ อู้หู ดูมันยิ่งใหญ่เอามากๆ

“เดี๋ยวสิ ต้องอมให้ได้รสชาติก่อน”

“เก็บเอาไว้ในกระพุ้งแก้มแบบนี้ หมอทำฟันจะทำโทษ”หือออออ ผมคนครับ ไม่ใช่แฮมทาโร่

“ไม่เอาฟันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”

“เปลี่ยนวิธีกินสิ”

“มันติดไปแล้วอะครับ” พยายามเคี้ยวแล้วนะครับ แต่มันเร็วได้แค่นี้ ต้องเก็บเอาไว้ให้รสชาติซึมซับลงลิ้นก่อนแล้วค่อยกลืน พวกไอ้เนมจะเป็นคนนั่งรอตลอด

“ถ้าฟันผุ จะโดนจับขึง” ไอรักไม่กลัว กลัวไม่โดน อิอิ

“ก็มันเร็วได้แค่นี้นี่”เริ่มหน้ามุ่ยใส่มัน ปากยังอมข้าวไว้อยู่

“แล้วเคี้ยวตุ้ยๆไปทำไม  กลืนสิ”มันทำหน้าดุแกมสั่ง ทำให้ต้องจำใจขยับกรามบดข้าวแล้วทำตามที่มันบอก

“อึก”

“ก็แค่นั้น” ดูมันปลื้มจิตปลื้มใจแบบโอเวอร์แอ็คติ้งมาก

หลังจากทานข้าวเสร็จ ผมก็มาเลือกของเล็กๆน้อยๆไปฝากพ่อแม่เกียร์ในวันพรุ่งนี้ มันก็บอกว่าไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมากมายหรอก แต่ผมรู้สึกว่าถ้าไม่มีของติดไม้ติดมือไปให้ท่านแล้วมันจะเป็นการเสียมารยาทไปเสียหน่อยเลยมาซื้อกันก่อนน่ะครับ สักพักเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นยกขึ้นมาดูก็ระบายยิ้มออกมาเต็มหน้า

“สวัสดีครับพี่ไออุ่นอุ๊นอุ่น” กรอกเสียงใสไปให้ เกียร์หันมามองแล้วจูงมือให้เดินขนานกัน

‘หึ’

“หือ เป็นอะไรเหรอครับ” ผมจะหยิบกระเช้ารังนกขึ้นมาดู แต่เกียร์ยั้งมือไว้ แล้วชี้ไปอีกยี่ห้อที่กำลังลดราคาอยู่ผมพยักหน้าให้ มันจับมือให้ผมเลือก พอได้แล้วก็เดินไปโซนอื่น

‘เรากับมาม๊าไปทำอะไรเอาไว้ละ’ อะเจ้ย เห็นรูปปกนิตยสารแล้วแน่ๆ เสียงแข็งมาเชียว

“แหะๆ ไอรักไม่ได้อยากทำเลยนะ ตัวเองก็รู้นี่ครับ”ต้องพูดจาอ่อนหวานครับ เพราะตอนนี้มีหลายกระทงอยู่ในตัว

‘แต่พี่ไม่ชอบตัวเล็กก็รู้’พี่แกย้อนครับ

“แล้วจะให้ไอรักทำยังไงตัวเองถึงจะหายโกรธละครับ” ผมทำเสียงจ๋อย หวังให้คนในสายใจอ่อนสงสารกันบ้าง

‘.....เฮ้อ พี่ไม่ได้โกรธเราหรอก ไหนๆก็โดนบังคับไปแล้วนี่ แต่ห้ามมีครั้งที่สองเด็ดขาด’ พี่อุ่นพูดเสียงอ่อนลง

“คร๊าบบบ ไม่ทำแล้วครับ หายงอนเค้านะ”ครั้งเดียวไอรักก็ระแวงหน้าระแวงหลังจะตายอยู่แล้ว ทั้งพี่ ทั้ง.....

“ครับ งั้นแค่นี้ก่อนนะตัวเล็ก พี่จะรีบไปจัดการเรื่องนี้’

“หืม ทำยังไงเหรอครับ”

‘เม็ดเงิน’ โห ทั่วประเทศ ต้องขายกิจการทางบ้านมาซื้อเอาไว้พอดี คนนี้ก็เวอร์อีกคน อาการหนักไม่แพ้คุณหมาน้ำแข็งเลยละ เหลือบไปเห็นเกียร์กำลังเดินไปโซนหนังสือ ตัวชะงักก่อนหยิบ............รูปผมขึ้นมา!!!!!!!!!!!!!!!! นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะ ไอรักงานเข้าไม่หยุดไม่หย่อนกับเรื่องเดียวกัน

“เอ่อ เต็มที่เลยครับ ตามสบายพี่อุ่นแล้วกันเนอะ เหอะๆแค่นี้ก่อนแล้วกันนะครับ เหมือนพายุแถวนี้จะเข้า ครับๆ สวัสดีครับ” ก่อนวางพี่ไออุ่นบอกให้กลับไปเยี่ยมบ้านบ้าง คิดถึง ผมก็ตอบรับไปแล้วรีบวางสาย หันไปยิ้มประจบให้คนหน้าทะมึนมืด สาวเข้าไปลูบแขนมันเบาๆ

“ไปดูผลไม้กันดีกว่าไหมครับ”ยัง ยังไม่กระดิก พลิกหน้าไปมา ดูรูปในเล่มสลับไปมาเหมือนตั้งใจอ่านข้อสอบ ก่อนเดินไปหาพนักงาน ผมรีบเดินตามไป เกิดเสียวสันหลังขึ้นมา ต้องวิ่งไปเกาะหลังคนข้างหน้า เดี๋ยวตาย

“เอาฉบับนี้ ทั้งสต๊อก”อุตะเสียงเรียบแฝงความน่าสะพรึงกลัวดังขึ้น พนักงานมองหนังสือในมืออย่างงงปนอึ้ง แล้วหันมามองมัน ก่อนมาหยุดที่หน้าผม ทำหน้าตกใจสุดขีด เผลอทำหนังสือหล่น รีบเก็บขึ้นมา แต่ตายังอยู่ที่หน้าผม ก่อนสลับไปมองหนังสืออีกรอบ ถ้าเขาจะแสดงออกว่าตกใจขนาดนี้แล้วละก็นะ

“เฮ้ยเกียร์ ไม่ต้องหรอกครับ มันไม่ได้โป๊สักหน่อย”

“โป๊!” อูย จ๊ะๆ

“เดี๋ยวพี่อุ่นคงจัดการเองละครับ ไม่เป็นไรหรอก”

“แต่ไม่อยากให้ใครเห็นตอนนี้” มันไม่ยอม

“เอาหน่า ใจร่มๆเนอะ ยังไงพี่อุ่นก็ไม่ปล่อยเหลือไว้บนเชลฟ์หรอก เราไปดูอย่างอื่นดีกว่าครับ” รีบหยิบหนังสือในมือมันไปวางที่เดิม แล้วจูงมันออกจากโซนนั้น

“เดี๋ยวสิ”

“ครับ” ตอบแล้วหันไปมองมัน

“อยากเก็บไว้เล่มหนึ่ง”

“ไม่ต้องห่วงครับ ป่านนี้พี่จิมคงส่งไปให้ที่คอนโดกับบ้านผมตรึมแล้วละ” มันทำหน้าเหมือนถูกขัดใจก่อนพยักหน้าจำยอม แล้วเดินไปจ่ายเงินกัน แต่มันก็ยังดูหงุดหงิดอยู่ไม่หาย แถมบ่นพึมพำตลอดทางว่ามันโป๊ มันเห็นง่ามขา กูเงิบไปสิครับ ปราดเดียวที่มึงมองนี่สังเกตไปถึงช่องแคบบาบิโลนได้เชียวหรือ แต่ก็ง้อมันละครับ ซื้อบล็อคเซทการ์ตูนเรื่องปาร์แมนให้ก็ยิ้มแก้มแทบปริแล้ว

พอดีมันมีเวลาเหลือเยอะกว่าจะสองทุ่ม ผมเลยเดินไปดูรองเท้าใหม่สักหน่อย จะได้ใส่ไปพรุ่งนี้เลย เรื่องเสื้อผ้าไม่มีปัญหาครับ ส่วนใหญ่เวลาไปไหนมาไหนผมใส่เสื้อสีเรียบๆ เข็มขัด เสื้อไว้ในกางเกงเรียบร้อยอยู่แล้ว เรียกว่าเนี้ยบเลยละ ใส่ไปหาผู้ใหญ่ก็คงไม่น่าเกลียดอะไร

“คู่นี้สวยไหมครับ เอ่อหรือคู่นี้ดี” หยิบแบบรองเท้าหนังที่ถูกใจขึ้นมาเลือกสี มีสีน้ำตาลเข้ม กับสีดำ

“สีดำเข้ากับทุกสี แต่สีน้ำตาลเหมาะกับไอรัก”

“อ้าว แล้วเอายังไงดีละ”

“ในห้องเห็นมีแต่สีดำ” ถ้าสายตาจะมองสีน้ำตาลขนาดนั้นแล้วจะพูดอ้อมโลกทำไมวะ

“นั้นเอาคู่น้ำตาลแล้วกันเนอะ” มันพยักหน้า ผมเลยยิ้มตาหยีไปให้

“หึหึ น่ารักว่ะแม่ง” มันยกเสื้อสูทที่แขวนใกล้ๆขึ้นมาบังแล้วจุ๊บปากผมหลายที อ้ายเชรี่ยยยยยย สาธารณะนะเฮ้ยยยย สองรอบแล้วนะ เกรงใจคนรอบข้างบ้างเหอะ ยิ่งพอลดแขนลงแล้วเห็นพนักงานที่อยู่ใกล้ๆส่งสายตาแซวๆมาให้ ผมนี่แทบอยากจะติดไฮสปรีดกลับบ้านอะ เขาคงคิดว่ากูเป็นตุ๊ดแล้วแน่ๆ

เข็มสั้นชี้เลขเจ็ดพอดี เดินซื้อของเสร็จก็จะเอาไปใส่ในรถ แต่คนต่างลืมว่าเอารถมอเตอร์ไซค์มานี่หว่า ก็รีบกลับคอนโดกันฉิบหายเลยสิครับ ต้องรีบแบกไปไว้ในคอนโด แล้วขึ้นบีทีเอสไปห้างแทน เพราะเกียร์บอกว่าเร็วกว่า นายอชิระที่ไม่ค่อยได้ขึ้นก็หวิดโดนประตูหนีบไข่ไปที อับอายมากครับ คนที่เห็นขำส่ายหน้ากันใหญ่ ตอนแรกมันก็เจ็บอยู่หรอก แต่สักพักเขิน จนผมต้องยิ้มขำให้กับความเปิ่นของตัวเอง แต่ผมก็ต้องเขินอีกรอบเป็นล้านเท่าก็ตอนคุณน้ำแข็งมันแสดงความรักความเป็นห่วงกลางทางเข้าโดยการจับโน่นจับนี่แล้วถาม

“เป็นอะไรไหม เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” กรูจะเป็นบ้าตายก็ตอนที่มึงมายืนจับไข่กูนี่ละ ฮึ่ยยยยยยๆๆ

ในรถไฟฟ้าช่วงนี้คนเยอะมากครับ ไม่รู้ว่าพนักงานพึ่งทำโอทีเสร็จ หรือมีประท้วงถึงได้มากมายขนาดนี้ เกียร์ก็ทำหน้าที่ตัวเองได้ดีมากครับ จับมือผมแน่น ยังไม่พอยังดึงให้ไปยืนข้างหน้าแล้วโอบตัวเอาไว้ เหมือนกอดเป็นกลายๆ ถ้าจะถามว่าเขินไหมที่มันแสดงออกแบบไม่เกรงใจขนาดนี้ ตอบเลยว่าเขินมากครับ แต่ให้เลือกระหว่างโดนมันเมินเฉย กับห่วงกันโจ่งแจ้งแบบนี้ ผมเลือกอย่างหลังนะ

กว่าจะถึงสยาม เล่นเอาพวกผมเกือบตายได้ อีกคนปิกาจูโด่เด่ เสียดสีเข้ากับบริเวณก้นกบ ส่วนอีกคนก็เกิดอารมณ์ร่วมตามเพราะโดนปลุกเร้า(โดยไม่ได้ตั้งใจ) ยกข้อมือมาดู เลยไปสิบห้านาที พร้อมโทรศัพท์สั่นไม่หยุดแบบนี้ เป็นอันรู้กันว่าตอนนี้ ไอรักและคุณเกียร์กำลังไปสายครับ ผมรีบลากเกียร์เดินดุ่มๆเข้าห้าง
เดินเข้าชั้นโรงหนังก็ไม่ต้องหาอะไรมากครับ กลุ่มผมมีเสน่ห์อยู่ในตัวนะ ฮ่าๆๆ ล้อเล่นน่ะครับ ก็แถวนั้นมีกลุ่มผู้ชายตัวใหญ่บ้าเกรียนใส่แว่นตาสามมิติกลุ่มเดียวนี่หว่า ไม่ต้องมองไปไหนไกลหรอก

“เฮ้ย ซื้อป๊อบคอร์นหรือยังวะ เรียบร้อยแล้วใช่ปะ ไปๆ เข้าโรงกัน” เนียนเดินไปตบไหล่เหมือนไม่ได้ทำผิด แต่พวกมันปรายหางตามอง

“อย่ามาเนียน สายยี่สิบนาทีนะสัส” อิอิ มึงก็พูดไปไอ้พิช

“สิบแปดนาทีเหอะ ชะอุ้ย เออๆกูผิดเองอะ รีบเข้าโรงเหอะ” กว่าจะเคลื่อนทัพได้ก็ต้องง้อพวกมันตั้งนานสองนาน แต่ผมก็ไม่ผิดนะครับ เพราะเข้ามาก็ยังเห็นโฆษณาอยู่เลย ถือว่ากะเวลาได้เกือบดีละมั้ง หึหึ

พอดูเสร็จพวกมันก็ไปต่อกัน มีผม เกียร์ ไทป์ ที่ขอกลับก่อน ไอ้ไทป์มันมีควิสพรุ่งนี้ครับ

“อันเดอร์แววววร์ แอ่”ตั้งแต่ออกโรง จนตอนนี้มานั่งทาครีมก็ยังติดปาก

“เสร็จยัง”มันคงเริ่มชินกับการทาครีมอันเชื่องช้าของผมแล้วละ ไม่ค่อยเร่งเร้าเหมือนแต่ก่อน

“อีกสองตัวครับ แปบหนึ่งนะ”

“อืม” เหมือนรู้เรื่องครับ แต่ลุกจากเตียงแล้วเดินมาทาๆ แปะๆให้ แล้วดึงมานอนด้วยกัน โห มึงมีสิทธิ์แบบสุด

“รีบนอน พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า” จะเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์มาตอบลงตอบไลน์กับเขาบ้างก็ไม่ได้ มีมือดีคว้าแขนแล้วดึงไปโอบเอวแข็งเสียก่อน

“แปบเดียวนะครับ”

“ห้า” ถ้าไม่ติดว่ามึงแปรงฟันมาก่อนหน้านี้ กูคงสลบไปแล้วนะครับ ว่าแล้วก็เอื้อมไปหยิบมาดูแล้วรีบตอบให้มันเสร็จๆไป ส่วนใหญ่ก็รัวสติกเกอร์ไป ไม่ได้พิมพ์หรอกครับ เพราะเดี๋ยวยาวเกินห้านาที ไอ้น้ำแข็งจะดุเอา

ไม่ถึงห้านาทีก็วางมันลงที่เดิม แล้วหันมากอดคนข้างที่อ้าแขนรออยู่

“ตื่นเต้นอะ”

“อะไร” มันก้มลงแล้วเลิกคิ้วใส่

“พรุ่งนี้จะไปเจอพ่อตาแม่ยายแล้วอะ สรุปต้องสู่ขอเลยไหม” ผมแหย่

“หึหึ สินสอดแพงนะ ไหวเหรอ” มันอมยิ้มตอบ

“ไหวสิครับ เอาไปเลยทั้งตัวและหัวจายยย”ผมลากเสียงยาวๆ ยิ้มทะเล้นให้ มันหัวเราะใหญ่ แล้วพูดต่อ แถมบีบก้นผมเป็นจังหวะคำ

“ได้ มา นาน แล้ว ไม่ ต้อง การ อะ ไร อีก แค่ นี้ ก็ พอ” ตูดกูไม่ใช่ขวดซอสมะเขือเทศนะโว้ย บีบแล้วทำหน้าหื่นใส่อีก

“หวังฟันผมอย่างเดียวเหรอนี่” ผมตีหน้าเศร้า

“หึหึ อย่าแกล้งไม่รู้” มันพลิกตัวชะโงกมาไซร้คอนัวเนีย หายใจฟึดฟัดแรงๆ เครื่องไอรักยิ่งสตาร์ทติดได้ง่ายอยู่นะ ยิ่งตอหนวดสากๆมาโดนนี่ไม่ต้องบรรยายเลยครับ ฟิน

“เดี๋ยวเถอะ ไหนใครบอกให้นอนไวๆ หยุดเลยๆ”

“อืม… ฟืดด..” เสียงมันสูดหายใจแถวต้นคอนานเกือบสองนาที แล้วถอยหายใจล้มตัวนอนเหมือนเดิม

“ลืมอะไรหรือเปล่า” มันพูดลอยๆ หน้ายังแดงๆดำๆอยู่เลย หื่นว่ะ

“ฝันดีนะครับ” จูบแลกลิ้นกับมัน แล้วหอมแก้มตอกสองข้าง หน้าผากอีกฟอดใหญ่ ก่อนที่มันจะทำกลับเหมือนกัน








TBC------------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>


+ขอโทษที่หายไปนานนะคะ งานเยอะแบบสุดอะไรสุดดดด ปีสามแล้วอะ สิ่งที่ต้องรับผิดชอบมีเพิ่มมากขึ้น ต้องตามเรื่องที่ฝึกงานด้วย น้ำตาแทบนองแอบสองแก้มเลยทีเดียว กร๊าก
+เรื้องยืดเยื้อไปหรือเปล่าคะ คือความจริงคิดเอาไว้ว่าจะแต่งแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่กลัวคนอื่นจะเบื่อเอา ยังไงก็บอกกันได้นะคะ รับฟังทุกความคิดเห็น ชอบอ่านคอมเม้นต์ค่ะ ทำให้มีกำลังใจดี
+ส่วนเรื่อง 'แก่แล้วไง เล็กไม่เกี่ยง' มาต่อแน่ๆค่ะ แต่ขอเวลาจัดสรรชีวิตตัวเองก่อนนะคะ T0T


โซ่รักคนอ่านทุกคน :กอด1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่23 วาบหวิวเสี่ยงตาย* [18/07/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 18-07-2013 20:53:47
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด
เขินมาก เขินมาก เขินมาก!!!!
เจ้าชายแม่มน่ารัก!จะเอากลับบ้าน!!
ฟหกดฟหกดดกฟกหฟหกด่าสว
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่23 วาบหวิวเสี่ยงตาย* [18/07/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: sakiko ที่ 18-07-2013 21:04:42
กรีสสสสสสสส  มาช้า ไม่ว่า  ของหวานๆ  ทุกตอนก็พอ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่23 วาบหวิวเสี่ยงตาย* [18/07/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: MangoBlue ที่ 18-07-2013 21:25:20
คิดถึงไอรักกกกก ตอนนี้น่ารักมากๆ  :m25:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่23 วาบหวิวเสี่ยงตาย* [18/07/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 20-07-2013 00:50:37
นัวเนียกันเกนไปแล้ว น่าอิจฉาจริงๆ  คุณเกียร์เป็นน้ำแข็งกับคนอื่นแต่กับไอรักนี่แบบเค้าอ่อนโยนที่สุดอ่ะ น่าร๊ากก
แล้วก็แบบโคตรหลงแฟนเลย หวานในที่สาธารณะตลอด ไอรักก็ฮาได้ตลอดเวลาเหมือนกัน ออกแนวจะรั่วเนอะ
น่ารักดี เหมาะกันที่สุด ลุ้น ๆ จะไปเจอพ่อกับแม่เกียร์แล้ว

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่23 วาบหวิวเสี่ยงตาย* [18/07/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 20-07-2013 11:59:39
 :-[มารอตอนไอรักไปบ้านพ่อตาแม่ยาย55555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่23 วาบหวิวเสี่ยงตาย* [18/07/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 20-07-2013 15:13:19
หลงไอรัก ไอรักน่ารัก ไม่สงสัยเลยว่าทำไมเกียร์หลงนักหลงหนา  :hao6: :impress2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่23 วาบหวิวเสี่ยงตาย* [18/07/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 20-07-2013 15:54:10
อยากเห็นที่ไอรักถ่ายแบบบ้างจัง  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่23 วาบหวิวเสี่ยงตาย* [18/07/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 21-07-2013 14:19:13
พ่อเขยจะโหดไหมนะ เพราะลูกนี่หน้าตายได้อีกอะ55555

ไอรักน่ารักมากกก แอบแรงเหมือนกันนะเนี่ย แต่น่ารักงะ อิอิ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่23 วาบหวิวเสี่ยงตาย* [18/07/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: sirigoon ที่ 23-07-2013 15:05:49
สนุกมากๆ :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่23 วาบหวิวเสี่ยงตาย* [18/07/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 26-08-2013 19:28:31
สนุกมากกก
น่ารักมากก
เขินมากกก
ฟินมากกก
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่24 สะใภ้ปลูกรัก* [02/09/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 02-09-2013 16:12:30
ตอนที่24

ตั้งแต่เล็กจนโตผมอยู่ในเมืองที่มีแต่ความศิวิไลซ์มาโดยตลอด และก็เชื่อว่าในกรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่หาต้นไม้สีเขียวค่อนข้างยาก นอกจากจะไปสวนรถไฟหรือสวนสาธารณะเล็กๆตามชุมชนต่างๆ ซึ่งประเด็นนี้ผมไม่ค่อยชอบใจเท่าไรนัก

แต่ตอนนี้ความคิดของผมเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่มาเยือนบ้านคุณน้ำแข็ง แมร่งมีต้นไม้กว่า70:30ของเนื้อที่บ้าน ตอนเปิดประตูรั้วเข้าไปไอรักนึกว่าอยู่ในอุทยานแถวเขาใหญ่

“ถึงแล้วเหรอครับ” กูนี่ก็แปลก เห็นอยู่ว่ามันดับเครื่องยนต์แล้วยังถามให้เขาขึ้นหัวอีก

“อืม” มันถอดหมวกกันน็อคของตัวเอง แล้วหันมาถอดให้ผม ฉิบหาย ยังไม่คิดสคริปท์เลยนี่หว่า ต้องเจอพ่อแม่เกียร์จริงๆเหรอวะ

“อยู่นิ่งๆสิ” อ้าว

“นิ่งแล้ว” ผมกลั้นหายใจไม่ให้อกกระเพื่อม รีบบอกมันแล้วฮึ้บต่อ มันหัวเราะหึหึแล้วดึงหมวกออกให้ เล่นเอาผมแทบตายแหนะ ก็ยังงงอยู่ว่ากูจะไปกลั้นหายใจทำไมวะ

“เย้ยยย” รู้สึกว่าแถวขาเปียกๆแฉะๆเลยหันไปมอง ชัดเลย ไอ้หมาเวรสีดำ แนวคอสีน้ำตาลออกเข้มๆ ชัดเลยมึง กูยังจะให้อภัยได้ถ้ามันวิ่งมาฉี่ใส่ขาแค่ตัวเดียว แต่นี่อัลเซเชียนลิ้นห้อยๆตาวิ๊งๆนับสิบชีวิตวิ่งเข้ามาร่วมแจมฉี่ใส่ขากูนี่มันคืออะไร?!

“เฮ้ย!” เกียร์เฮ้ยเสียงดังครั้งเดียว หน้าหงิมครางหงิงๆกันทั้งบาง

“มานี่มา มันคงไม่ได้ตั้งใจ” โห ครับ ไม่ได้ตั้งใจ หลายดวงเชียว เหอะๆ ตรูแต่งตัวมาเต็มยศเพื่ออะไรหนอ

มันรีบจูงมือผมมาแถวก๊อกน้ำ ลากสายยางมาแล้วเอามืออังน้ำ สักพักจึงก้มลงล้างให้ ผมยื้อขาไว้ เพราะมันไม่ดี ขาตัวเองจะให้คนอื่นล้างให้ได้อย่างไรละ แต่ก็ต้องหยุดเพราะมันตีน่องผมเสียงดังเพี้ยะ เชี่ย SM

“เอ่อ ว่าแต่มันมาฉี่ใส่ผมทำไมเหรอครับ” ปัญหาคาใจในตอนนี้แบบสุด ข้างหลังเกียร์เป็นเหล่ากองทัพอัลเซเชียน มีทั้งตัวใหญ่สุดโคตรๆ จนถึงตัวเล็กเท่าหม้อหุงข้าวนั่ง...เอ่อ..ฉีกยิ้มลิ้นห้อยกันอยู่

“แสดงความเป็นเจ้าของมั้ง” โหหหหหห เล่นซะกูเปียกแทบครึ่งขา ถ้าเป็นเจ้าของแล้วคงไม่ฉี่รดหัวเลยหรือ

เกียร์บอกให้เข้าบ้านกันก่อน จะไปเอากางเกงมาให้เปลี่ยน แต่ผมขอเดินดูรอบๆบ้านก่อนดีกว่า มันพยักหน้าแล้วเข้าไปในตัวบ้าน

รอบบ้านเต็มไปด้วยต้นไม้ ขนาดรั้วบ้านปูนเปือยสูงยังมีต้นตีนตุ๊กแกเกาะอยู่ด้วยเลย อย่าถามว่าทำไมผมถึงรู้ชื่อมันนะครับ แต่ละต้นที่ปลูกจะปักไม้สีขาวสลักเป็นชื่อต้นไม้เอาไว้ข้างๆ แล้วก็มีศาลาเอาไว้นั่งเล่นด้วย ข้างๆเป็นบ่อปลา น้ำใสเชียว  บ้านนี้เขาร่มรื่นจนแทบไม่มีแสงแดดแรงๆเข้าถึงเลยครับ ลมโกรกตลอด เนื้อที่เกือบไร่แต่ต้นไม้มีมากกว่าตัวบ้านจริงๆ ส่วนตัวบ้านน่าจะเป็นไม้สักกระมัง ดูไทยๆแต่ก็ผสมผสานความทันสมัยนิดๆ สวยไปอีกแบบดีนะครับ

“ไอรัก เข้ามาเปลี่ยนชุดก่อน” คุณน้ำแข็งชะโงกหัวจากหน้าต่างออกมาเรียก

“ครับ” เข้าไปเปลี่ยนชุดเสร็จก็ยืนนิ่งหน้าห้องน้ำ บ้านเงียบจัง ไม่มีใครอยู่เลยหรือ ว่าแต่เกียร์หายไปไหนวะ จะเดินหาก็เกรงใจ สักพักก็เห็นเกียร์ยกลังนมช็อคโกแลตที่เอามาจากคอนโดเข้ามา ผมก็เดินตามเจ้าของบ้านต้อยๆ เห็นมันยกลังนี้มาแต่เช้าแล้วครับ แต่ไม่ได้ถามว่าเอามาทำอะไร เดี๋ยวมันหาว่ายุ่ง

"หายไปไหนกันหมดเหรอครับ" นั่น ไม่ถามเรื่องนม แต่เสือกเรื่องคนในบ้านเขาอีก

“แม่ออกไปจ่ายตลาด ส่วนพ่อไปดูอู่ แต่กำลังไปรับแม่กลับด้วยกัน กินขนมก่อนไหม” พ่อมันเป็นเจ้าของอู่รถน่ะครับ ส่วนแม่อยู่บ้านเป็นศรีภรรยาที่ดีทำกับข้าวแล้วก็อยู่ดูแลบ้านรอสามีและลูกชายกลับบ้าน เกียร์เล่าให้ฟังว่าท่านชอบปลูกต้นไม้ ปลูกไปปลูกมาก็อย่างที่เห็น

“หือ มีอะไรทานเหรอ” ไม่ได้หิวหรอกครับ แต่ขาเดินเข้าไปชิดเกียร์ตอนไหนไม่รู้

“หึหึ” มันจูงมือไปนั่งรอแถวโต๊ะอาหาร ส่วนตัวเองตรงไปค้นของในตู้เย็น มองไปรอบๆในห้องจะเป็นอีกสไตล์กับข้างนอกเลยครับ ใช้อิฐแดงมอญตกแต่งคล้ายสไตล์ฝรั่ง

“อร่อยอะ ซื้อมาจากที่ไหนเหรอครับ” คุกกี้กลมๆรสช็อคโกแลตที่ตอนแรกมีเต็มโหล แต่ตอนนี้เหลือครึ่งเพราะผมนี่ละ

“น้าทำเองละจ้ะ”เสียงดังขึ้นจากด้านหลัง ผมรีบหันขวับ คุกกี้แทบหลุดจากปาก เจอแม่ของเกียร์แบบไม่ทันได้ตั้งตัวแบบนี้ใจไอรักแทบลงไปถึงตาตุ่มเลยครับ

“อะ เอ่อ สะ สวัสดีครับ” ได้สติก็ยกมือไว้อย่างเก้ๆกังๆ เกียร์ก็ยกมือไหว้เช่นกัน

“ไหว้พระเถอะลูก” หือ ไหนครับพระ ป่านนี้ไม่ได้จำวัดแล้วหรือ เขาเรียกว่าจำวัด หรือทำวัด หรือไปหลับในวัดวะ ไอรักลืม

“ตายแล้ว หน้าตาน่ารักน่าชังจังเลยลูก หล่อมากด้วย ไม่ต้องหมุนคอหรอกจ้ะหนุ่มฝรั่งตาน้ำข้าว มันเป็นคำถ่อมตัวของผู้ใหญ่โบราณน่ะจ้ะ” ห๊า หน้าเหรอหราแบบนี้เหรอครับน่ารัก คุณน้าประกายตายิบยับเหมือนเห็นของถูกใจแกมส่งสายตาเอ็นดู ส่วนคนข้างผมยิ้มขำแก้มแทบปริ เล่นเอาผมไปไม่เป็นเลย นี่ไม่ใช่ถิ่นกู หนีไปไหนดีวะครับ!

“นี่แม่เกียร์ แม่ นี่ไอรัก” จ้า มึงไม่บอกตอนกลับบ้านเลยละ

“จ้ะ ป่ะ ไปหาพ่อทางโน้นกันดีกว่า หนูไอรักเอาโหลคุกกี้ไปทานด้วยก็ได้นะจ๊ะ” พูดเสร็จท่านก็หันไปสั่งแม่บ้านเตรียมกับข้าว ผมแทบสะดุ้งตอนที่แม่ของเกียร์ชี้ไปทางสวนนี่ละ กูต้องเจอพ่อเกียร์วันนี้เลยหรือ โฮฮ แต่เกียร์คงรู้ว่ากำลังกังวลอยู่ จึงบีบมือเชิงให้กำลังใจก่อนละแล้วแตะก้นผมให้เดินไป(ทำไมต้องก้นวะ แหง่ง)

"คุณคะ วันนี้เพื่อนตาเกียร์มากินข้าวด้วยนะ" ผมที่ก้มหน้างุดๆก็รีบเงยหน้าทันที และก็ต้องตกใจอย่างแรง พ่อกับลูกหน้าเหมือนกันเปี๊ยบ! แถมยังสูงเกือบๆเท่าเกียร์เลย นี่ขนาดอายุมากแล้วนะครับ แล้วครอบครัวนี้ผิวสีแทนๆกันหมด ไม่เหมือนบ้านผมที่ขาวจั๊วะอย่างกับหยวกกล้วย

"สวัสดีครับ" ผมกับเกียร์พูดพร้อมกัน พ่อพิจารณามองผมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ก่อนกระตุกยิ้มนิดเดียว.. น่ากลัว.. เหมือนเกียร์ตอนแรกๆไม่มีผิด

"ใช้ได้ไหมคะ" พ่อเกียร์นิ่งไปก่อนพยักหน้า

"เห็นไหมละ ฉันว่าแล้ว..." แล้วท่านก็กระซิบกระซาบกันสองคน ดูท่าแม่เกียร์จะเริงร่ามีความสุขมากครับ ส่วนอีกท่าน ผมดูไม่ออก เพราะท่านหน้านิ่งเอามากๆ ผมกับเกียร์มองหน้ากัน มึงนิ่งเหมือนกันเลย

"เดี๋ยวน้าไปดูในครัวก่อนนะลูก คุยกันไปก่อนนะจ๊ะ" ท่านส่งสายตายิบยับมาให้แล้วก็เดินเข้าไปในบ้าน สงสัยจะมีคุณแม่อยู่คนเดียวที่โลกสดใสอยู่ตลอดเวลา นอกนั้นอึมครึมครับไม่ต้องสืบ!

"ชื่อแซ่อะไรล่ะ ต้องให้ผู้ใหญ่ถามก่อนใช่ไหม" เหี้ยยยย เสียงดุฉิบหาย ไอรักตูดแทบสั่น

"เอ่อ ขอโทษครับ ผมชื่อ อชิระ อัศววัฒนไพศาล ชื่อเล่นไอรัก เรียกไอ หรือ รัก เฉยๆก็ได้ อยู่ปี2 คณะแพทยศาสตร์ มหาลัยเดียวกับเกียร์ครับ ส่วนพ่..." อยากจะถามว่าเอาเรซูเม่เลยไหมครับ แต่ก็กลัวเขาว่ากวนส้นเท้า เลยบอกไปให้หมดเลยดีกว่า เดี๋ยวโดนดุอีก

"พอๆ ฉันอยากรู้แค่ชื่อ จะได้เรียกกันถูก อัศววัฒนไพศาลงั้นหรือ.." ท่านทำท่าครุ่นคิด

"เจ้าของโรงพยาบาล กับอสังฯ" โหเกียร์ มึงพูดกับพ่อห้วนไปไหม

"อ๋อ แล้วจะยืนกันอีกนานไหมละ ไม่เมื่อยหรือไง" อ้าว ถ้านั่งก่อน เดี๋ยวจะหาว่าไม่มีมารยาทไงครับ นี่ผมก็รอคุณพ่อชวนผมนั่งตั้งนานแล้วเหมือนกัน

"ขอบคุณครับ" มือไม้อ่อนไว้ก่อน

"อืม"

"......"

"......"

"......" เอ่อ เงียบจังพ่อลูกคู่นี้ นั่งจ้องหน้ากันเป็นมัน นี่คือกิจกรรมยามว่างของทั้งสองคนหรือนี่กระไร เอ๊ะๆ หรือเขาคุยกันทางสายตาวะ

"บ้านคุณน้าสวยดีนะครับ โดยเฉพาะสวนหน้าบ้าน เอ่อ.........แหะๆ" ผมที่เป็นคนนอกก็อึดอัดทนไม่ไหวต้องหาเรื่องพูดออกมา แต่เหมือนจะคิดผิด ทั้งพ่อทั้งลูกหันขวับมามองต้นเสียงอย่างผม นี่กูไปกวนเวลาเขาเล่นจ้องตากันหรือเปล่าวะ

"แน่นอนสิ ว่างๆน้าก็ช่วยน้าผู้หญิงเขาปลูกเองกับมือ" อั้ยยะ เหมือนเขาเริ่มอารมณ์ดีขึ้น เปลี่ยนสรรพนามจากฉันเป็นน้า แสดงว่าคงชื่นชอบการปลูกต้นไม้มาก ไอรัก มึงมาถูกทางแล้ว

"แล้วไม้บอกชื่อต้นไม้นี่ทำเองด้วยเหรอครับ น่ารักจัง" อันนี้น่ารักจริงๆครับ ผมไม่ได้ยอให้ท่านชอบผมนะ

"น้าผู้หญิงเขาคิดน่ะ ส่วนคนทำโน่นตาเกียร์" ท่านพยักเพยิดไปทางเกียร์ หืม..จริงอะ คาวาอี้จังวะแฟนกู

พูดคุยกันไปสักพักก็เริ่มผ่อนคลายกับท่านมากขึ้น ผมว่าท่านก็คงจะคิดแบบนั้นเช่นกัน เริ่มคุยสนิทสนมกับผม เริ่มยิ้มตลอด จะมีหัวเราะบ้างเวลาผมเล่าเรื่องตลกที่เคยเจอให้ฟัง เห็นแบบนั้นคนข้างผมก็ถึงกับยิ้มออกแล้วหันมามองผมตาเยิ้มแบบไม่เกรงใจพ่อตัวเอง จนผมต้องเอื้อมมือไปสะกิดหลังมันเบาๆ ผมว่าท่าทางเกียร์ถอดแบบมาจากคุณพ่อมาเกือบหมด ถ้าไม่นับตอนอ้อนๆขี้งอนนะครับ คงไม่ค่อยชอบแสดงอารมณ์ออกมาสักเท่าไร แต่พอพูดคุยแล้วรู้สึกว่าท่านจะใจดีเอามากๆ ถึงจะติดหน้าดุจนผมแอบเกรงไปสักหน่อยน่ะนะ

คุยกันเพลินไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร รู้สึกตัวก็ตอนคุณแม่ของเกียร์เดินมาเรียกไปทานอาหาร แต่ท่านทำหน้าแปลกใจก็ตอนที่ผมกับท่านกำลังหัวเราะกันอยู่ ส่วนเกียร์ยิ้มเฉยๆเป็นฉากประกอบ

"โห" อาหารเต็มโต๊ะจนผมเผลออุทานออกมา โต๊ะสี่เหลี่ยมธรรมดานี่ละครับ ไม่ได้ใหญ่ไม่ได้เล็ก แต่บนโต๊ะมีเกือบสิบจาน ทานกันสี่คนนะครับ ไม่ได้มาทั้งเคหาสน์

"ตกใจอะไรละจ๊ะ น้าควรจะตกใจมากกว่านะ ตาเกียร์ไม่เคยพาเพื่อนเข้าบ้านเลย ลูกเป็นคนแรกเลยนะคะ" ผมเขินคำว่าลูกของคุณแม่ของเกียร์แบบสุดๆ แต่ถ้าท่านรู้ว่าผมคบกับลูกท่านอยู่นี่จะเรียกว่าลูกอยู่ไหมนี่

"อ้าว ทำไมละครับ" ผมหันไปพูดกับเกียร์ มันเลิกคิ้วใส่แล้วส่ายหน้า กูจะรู้เรื่องไหมครับ

"น้ายังไม่รู้เลยว่าลูกเคยมีเพื่อนชื่ออะไรบ้าง" โถ ไอรักละสงสารคนเป็นพ่อเป็นแม่ของเกียร์เหลือเกิน ไอ้นี่ก็นั่งเงียบตามประสาเกียร์ๆตอนอยู่กับคนอื่น มึงเก็บกดจากที่บ้านใช่ไหมมม

“อาหารอร่อยมากเลยครับ อย่างนี้ไปเปิดร้านได้เลยนะครับคุณน้า” อร่อยจริงๆครับ สงสัยเกียร์คงได้ฝีมือมาจากแม่เขา บางจานที่สีจัดๆดูเผ็ดผมก็เลือกกินเนื้อเอา เกียร์เห็นก็เอาไปคลุกกับข้าวในจานตัวเองให้น้ำแกงหายไปก่อนจะส่งกลับมาให้ผมทาน เล่นเอาผมไม่กล้าเงยหน้าไปมองพ่อกับแม่เกียร์เลย มึงโจ่งแจ้งไปไหม! แล้วจะตักกับข้าวมาให้จานกูทำไมเยอะเล่า! ตายๆ T_T

"นั้นกินเยอะๆนะลูก ผอมแห้งแบบนี้ลมมาแรงๆจะปลิวเอาเสีย" เอ่อ ผมว่าผมหุ่นปกตินะครับ จะมีคนในบ้านท่านนั่นละครับที่ใหญ่ผิดกว่าบ้านอื่น

“แล้วหนูไอรักเรียนชั้นอะไรละลูก คณะเดียวกับตาเกียร์หรือ” หนูไอรัก…หนูพันธุ์ยักษ์

“ปีเดียวกัน แต่คณะแพทยศาสตร์ครับ”

“ว๊าย หมอไอรัก อย่างนี้ก็มารักษาน้าได้บ่อยๆน่ะสิ” ท่านตาโต แม่เกียร์น่ารักมากๆครับ ดูขี้เล่นแล้วก็สดใส เป็นสีสันให้บ้านน่าอยู่ทันที

“คุณน้าเป็นอะไรเหรอครับ”

“น้าใกล้จะเป็นโรคซึมเศร้าแล้วน่ะค่ะ คนที่บ้านไม่ยอมคุยกับน้าเลย” ท่านพูดไปจิกตาใส่สองพ่อลูกไป ผมหัวเราะก๊าก ก็จริงอย่างที่ท่านว่า สามีก็เงียบ ลูกก็เงียบแถมไม่ค่อยกลับมาหาอีก

“ผมน่ะได้อยู่แล้วครับ แต่ไม่รู้อีกคนจะให้มาหรือเปล่า” ผมเหล่มองคนข้างๆ มันก็หันมามองแล้วเลิกคิ้วใส่

“โอ้ย ไปรอรายนั้นคงไม่ได้มาหรอกค่ะ สงสัยจะเห็นบ้านเป็นคุก ไม่รู้กลัวอะไรนักหนา ไม่ยอมกลับมาเยี่ยมสักที ถ้าหนูไอรักอยากมาก็มาเองได้เลยนะ น้าต้อนรับเสมอ”

“อยากมาก็บอก จะมาพา” มันก้มกระซิบบอก เอ๊ะไอ้เชี่ยนี่ยังไง บอกอย่ามาใกล้ เดี๋ยวเขารู้หมด

“ว่าแต่หนูไอรักไปรู้จักตาเกียร์ได้ไงละลูก อยู่คนละคณะไม่ใช่หรือ”

“อ๋อ….” ตอบอย่างไรดีวะ ขับรถเฉี่ยวเกียร์ หรือรุกเข้าไปจีบลูกชายเขา อันไหนมันดีกว่า อ้ำๆอึ้งๆ ส่งสายตาให้คนข้างๆตอบ คำถามนี้ขอโยนครับ

"ก็นี่แฟนผม" เหยดเปียดดดดดดดดดด เขาถามทำไมรู้จัก ไม่ใช่ว่าเป็นอะไรกันโว้ยยยยยยย

“พะ พะ พะ พะ เพื่อนครับเพื่อน” ตอบได้ส่อพิรุธฉิบหายมากครับไอ้เชี่ยรัก ท่านทั้งสองหยุดกินกะทันหันแล้วหันมามองผมกับเกียร์

 “……….”

“หมายความว่าไงคะทั้งคู่” ท่านหน้านิ่งถามด้วยเสียงเรียบ ผมก้มหน้าชิดอก ไม่กล้าเงยหน้ามองท่านทั้งสอง น้ำตาที่รื้นอยู่บนขอบตาก็ตกลงมาสู่หน้าตัก

“เขาเป็นแฟนผม....ไอรักเป็นแฟนผม” เกียร์ตอบด้วยเสียงหนักแน่น

“………” เงียบทั้งห้อง ไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงหัวใจตัวเอง...

“กริ๊ดด จริงหรือ ไหนๆลูก หนูไอรักคะ เงยหน้ามองแม่หน่อยลูก แม่ขอดูหน้าตาลูกสะใภ้ชัดๆหน่อย ว๊าย ร้องไห้ทำไมคะลูก ตายจริงใครทำหนูคะ เดี๋ยวแม่ตีให้” ผมสะดุ้งเงยหน้าขึ้นตั้งแต่ต้นประโยค เกียร์มองแม่อย่างงงๆสลับกับพ่อที่กระตุกยิ้มนิดๆ ตอนนี้ผมไม่ต่างกับเกียร์เลยครับ งงเหมือนกัน

“.กะ..ก็..ผมพาลูกชายคุณน้ามาเป็นเกย์อะครับ...” น้ำตาผมยังหยดแหมะๆ ยังสะอื้นไม่หาย แต่ทุกคนหันมามองผมด้วยสีหน้าอ่อนโยนแปลกๆ

“โธ่ น่าเอ็นดู๊น่าเอ็นดู อย่าร้องไห้เลยลูก ถึงแม่จะตกใจอยู่บ้างที่ตาเกียร์ไปชอบพอกับผู้ชายด้วยกัน แต่แม่ก็ยอมรับ และเคารพต่อการตัดสินใจของลูกแม่นะคะ อะไรที่ลูกมีความสุข แม่ก็ไม่ขัดใจเขาหรอกค่ะ แม่มีลูกอยู่คนเดียว เลี้ยงเขามาให้เป็นคนดี ใช้ชีวิตให้เป็น ไม่ไปทำร้ายใคร ไม่ไปเบียดเบียนใคร แค่นี้แม่ก็ภูมิใจแล้วค่ะ อีกอย่างแม่ก็ชอบหนูไอรักด้วย ถ้าพาคนอื่นมาแม่อาจจะไม่ยอมรับก็ได้นะคะ” แม่ลุกขึ้นมานั่งข้างๆแล้วเช็ดน้ำตาให้ ท่านพูดด้วยสีหน้าจริงจัง แล้วยิ้มตบท้าย ผมได้แต่พูดขอโทษและขอบคุณท่านอยู่อย่างนั้น

“อ้ออีกอย่าง แม่กับพ่อตงิดใจตั้งแต่เกียร์โทรมาเมื่อวานแล้วละว่าจะพาคนสำคัญมา ถ้าจะปิดกันก็หัดสรรหาคำที่ซอฟลงกว่านี้หน่อยนะจ๊ะ อย่างนี้คนแก่มองออกหมด อิอิ” ไอ้เกรียนน วันนี้มึงหลายรอบแล้วนะ ยัง ยัง ค้อนให้แล้วยังมีหน้ามาตีมึนใส่อีก หมาน้ำแข็งเอ๊ย

“ผมก็ไม่ได้จะปิดแม่สักหน่อย”

“ย่ะ พ่อคนเปิดเผย”

“อิ่มแล้วหรือ” พ่อเกียร์ถามหลังจากเงียบไปนาน(มาก)

“..ครับคุณน้า” ไอรักกระเดือกไม่ลงแล้วละครับ รีบเช็ดน้ำมูกน้ำตา เป็นลูกผู้ชายจะร้องไห้เพราะเรื่องนี้ไม่ได้นะครับ! ต้องหนักแน่น!

“คุณน้าอะไรละคะ เรียกพ่อกับแม่สิลูก” เห็นแบบนี้ผมก็เขินเป็นนะ

“คะ ครับ คุณพ่อ คุณแม่” ผมเรียกเสียงเบาอุบอิบในลำคอ เกียร์ยกมือมาขยี้หัวจนเสียทรง ผมต้องจับมือมันลงให้อยู่นิ่งๆ แต่มันไม่ปล่อยเลยนี่สิ แต่ผมก็ไม่ได้ดึงออกหรอกครับ อย่างนี้อุ่นมือดี

“อย่างนี้คุณก็มีคนช่วยปลูกต้นไม้แล้วสิ”

“ผู้ช่วยผิวสวยแบบนี้ ฉันไม่กล้าใช้งานหรอกค่ะคุณ ให้นั่งดูเป็นกำลังใจดีกว่า” แม่เกียร์หัวเราะ

“ไม่เป็นไรครับ ผมอยากลองทำดู” ผมรีบบอก

“ว๊าย น่ารักจริงเลย งั้นวันนี้ช่วยแม่ปลูกผักสวนครัวดีกว่าเนอะ” แม่ลุกขึ้นจูงผมไปนั่งในห้องรับแขก

“จะทำเหรอไอรัก” น้ำแข็งก้อนใหญ่เดินตามต้อยๆมาติดๆแล้วนั่งประกบอีกด้าน

“อ้าว ทำสิครับ น่าสนุกดีออก”

“จะดีเหรอ”

“แล้วทำไมมันจะไม่ดีละครับ” ไอ้นี่ก็แปลก ปลูกผักนะไม่ได้ไปรบแถวตะเข็บชายแดน

“เดี๋ยวมือเจ็บ” โอ้มายก๊อด ช่วยบอกผมทีสิว่านี่คือเกียร์ที่เย็นชาเมื่อหลายเดือนก่อน

“เอ๊ะตาเกียร์นี่ยังไง น้องเขาอยากทำก็ไปห้ามอีก ชอบเซ้าซี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน” โถคุณแม่ครับ มันชอบเซ้าซี้ผมทุกเรื่อง ไม่เว้นเรื่องบนเตียง ห่าเอ๊ย คิดแล้วแค้น ชอบบอกขออีกนะๆบ้างละ อีกครั้งไม่ได้เหรอบ้างละ บางทีก็ถามว่าเหนื่อยแล้วเหรอ นั้นแค่ช่วยให้กันก็ได้ พอตกลง กูนึกว่าจะปั่นข้างนอก มันเจือกตีเนียนเข้ามาปั่นข้างในอีกซะนี่ มึงมาลองเป็นรับหน่อยไหมละแม่ง

“ไม่ได้ห้าม ผมแค่เตือน” เกียร์เริ่มหน้าบึ้ง เมื่อมีคนขัดใจ

“หน่า ไอ้นี่ ไปยุ่งกับเขามากเดี๋ยวเขาก็เบื่อแกหรอก” พ่อเดินเข้ามาแหย่ เกียร์บึ้งกว่าเก่า งานเข้าไอรักไหมละครับ

“ไม่เบื่อหรอกครับ ดีซะอีก ผมจะได้รู้ไงว่าคุณยังสนใจผมอยู่” ผมเงยขึ้นกระซิบบอก สีหน้ามันเริ่มคลายออกกลายเป็นว่าจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม จะนิ่งก็ไม่นิ่ง เอาแล้ว คุณน้ำแข็งบ้าแล้ว

“ป่ะ นั้นเราไปดูเมล็ดก่อนดีกว่าว่าจะปลูกต้นอะไรกันบ้าง ดีไหมคะหนูไอรัก” ดูท่าทางคุณแม่จะกระตือรือร้นเป็นพิเศษ ลากผมออกไปหลังสวนแล้วหยิบถุงเมล็ดพันธุ์ผักต่างๆขึ้นมาให้เลือก

“ผมไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้เลยครับ คุณแม่เลือกให้ผมเลยดีกว่า” แต่แม่ก็ไม่ยอม ชี้ให้ดูแต่ละอันว่ามีลักษณะอย่างไร ผมในฐานะแฟนของลูกชายบ้านนี้ก็เป็นผู้ฟังที่ดีครับ แล้วก็ตัดสินใจเลือกพริกกับกระเพราขึ้นมา ส่วนแม่เลือกไปสาม-สี่อย่าง จากนั้นก็พาผมมาปลูกเยื้องๆกับศาลาที่พ่อนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ ผมคิดว่าพ่อมีการกระทำที่สวนทางกับหน้าตามากครับ เหมือนไม่สนใจคนอื่น แต่ก็ตามมานั่ง มาเมียงมองอยู่แถวๆพวกผม ด้านหลังของผมก็มีสุนัขสาม-สี่ตัว ส่วนตัวอื่นๆกระจัดกระจายอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลไปจากที่ผมนั่งเท่าไร บ้านนี้เขาน่ารักดีนะครับ

“ใส่ถุงมือก่อน” คุณหมาน้ำแข็งไม่รู้มาจากไหน จับมือผมที่ถือเสียม ดึงเสียมออกไปหน้าด้านๆ แล้วใส่ถุงมือหนาให้ ผมควรจะชินได้แล้วใช่ไหมครับ

“ขอบคุณครับ” หันมามองแม่ก็เห็นท่านส่ายหน้าเอือมลูกชายตัวเองแล้วอธิบายขั้นตอนการปลูกให้ผมกับเกียร์ที่นั่งดูอยู่ข้างๆ มันไม่ช่วยอะไรผมหรอกครับ นั่งทำตาปริบๆบนพื้นหญ้า

“ไม่ไปนั่งที่ศาลาดีๆละครับ” หันไปมองศาลาก็สบตากับพ่อพอดี สักพักท่านก็ทำเป็นเมินไม่รู้ไม่ชี้ไปเสียอย่างนั้น ไอรักงงครับ อยากมาร่วมแจมด้วยกันหรือเปล่าหว่า

“อยากดูใกล้ๆ”

“แหนะ อยากดูใกล้ๆกับอยากอยู่ใกล้ๆ ไม่เหมือนกันนะครับ” ผมยิ้มกรุ่มกริ่มแหย่ มันหัวเราะหึหึแล้วมะเหงกผมไปที รุนแรงว่ะ

“ทำไมปลูกพริกละ ไม่ชอบเผ็ดไม่ใช่เหรอ” เจ้าหนูจำไมเริ่มแสดงอิทธิฤทธิ์

“แต่คุณชอบทานนี่ ถ้าวันไหนคุณกลับมาบ้านก็ออกมาเด็ดไปทำกับข้าวก็ได้ ไม่ต้องเสียเงินด้วย ส่วนกระเพรา ผมคิดว่ามันน่าจะเข้ากับกุ้งดีน่ะครับ” ผมชอบทานกุ้ง มีกุ้งสองโลกับนมช็อคผมก็อยู่ได้ทั้งวันแล้ว เห็นมันเงียบไป ผมเลยหันไปมอง มันนั่งยิ้มแก้มแทบปริ เล่นเอาผมเขินทำอะไรไม่เป็นไปเลยละ

“อ้าว อย่ามัวแต่จีบแฟนตัวเองสิ ไปเอาน้ำเอาท่ามาให้แม่กับหนูไอรักหน่อย เร็วๆเลย” แม่ทั้งแซวทั้งสั่งในเวลาเดียวกัน เกียร์ลุกออกไป

"......."

"เกียร์เขาไม่ชอบให้ใครมายุ่งรุ่มร่ามกับเจ้าตัวหรอก ขนาดจะเข้าไปทำความสะอาดห้องนอนเขา แม่ยังต้องถามเจ้าตัวเขาก่อนเลย” ฟังแม่พูดเรื่องคุณน้ำแข็งไป ขุดดินไป สบายใจดีนะครับ

“โตเป็นหนุ่มแล้วความลับเยอะขึ้นละมั้งครับ ฮ่าๆ”

“โอ้ย ไม่หรอกจ๊ะ ตาคนนี้เป็นแบบนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไร จะมาเปลี่ยนก็คงตอนนี้ละมั้ง”

“เปลี่ยนเหรอครับ”

“ใช่ค่ะ แต่พูดให้ถูกก็คงจะเปลี่ยนแต่กับหนูไอรักละจ๊ะ ดูจากท่าแล้วคงหลงหนูไม่น้อยเลยละ”

“อ่า…..ครับ” ไม่รู้จะตอบอย่างไร หน้ามันร้อนไปหมด

“เห็นอย่างนี้แล้วแม่อยากจะแกล้งลูกชายตัวเองซะจริงๆ เอ้อวันนี้หนูไอรักค้างบ้านนี้ไหมละคะ”

“คงไม่ได้หรอกครับ พรุ่งนี้มีเรียนน่ะครับ” ผมปฏิเสธอย่างสุภาพ

“นอนเป็นเพื่อนแม่ที่นี่เถอะลูก เช้ามาค่อยกลับไปเปลี่ยนชุดก็ได้ แม่อยากคุยกับหนู อีกอย่างอยากแกล้งคนหน้าตายด้วย อิอิ” แม่ซุบซิบแผนให้ฟัง วันนี้จะนอนกับผมที่ห้องนอนรับรองแขก ปล่อยให้พ่อกับลูกนอนอยู่ในห้องคนเดียว ท่าทางแม่จะสนุกกับการคิดแผนแกล้งคน

“จะดีเหรอครับ” มันไม่ดีก็ตรงที่แม่กับผมมานอนด้วยกันนี่ละครับ อีกอย่างผมก็ไม่ได้เตรียมตัวมานอนค้างเลยไม่มีเสื้อผ้ามาด้วย

“โอ้ยดีแน่นอนลูก ปล่อยให้พวกนั้นเขานอนคนเดียวบ้าง จะได้รู้สึก” ดูท่าแม่จะแค้นสองคนนี้มากนะครับ

“ฮ่าๆ ก็ได้ครับ”

“นี่ตาเกียร์ วันนี้มานอนค้างที่นี่นะลูก”

“คงไม่ได้ครับ พรุ่งนี้มีเรียน” เกียร์ยื่นน้ำให้ผมกับแม่

“นั้นไม่เป็นไรจ๊ะ หนูไอรัก วันนี้เรานอนกันสองคนก็ได้เนอะ” มันหันควับ

“อะไรนะครับ”

“อ้าว ก็แม่ตกลงกับหนูไอรักว่าจะค้างที่นี่กัน ลูกไม่ค้างก็เรื่องของลูกสิ เนอะหนูไอรักเนอะ” แม่พยักเพยิด ผมพยักหน้าแล้วรีบก้มขุดดิน ซ่อนยิ้มเอาไว้ เดี๋ยวแผนของแม่จะแตกเอา

“ผมค้างด้วย”

“ใครค้าง อะไรค้าง” เสียงพ่อเกียร์ดังขึ้น ผมเลยหันไปมอง

“หนูไอรักจะค้างวันนี้กับเราน่ะค่ะคุณ แล้วบ่ายนี้เราสองคนก็จะไปช็อปปิ้งซื้อของกันเสียหน่อย กะจะซื้อเสื้อผ้าให้หนูไอรัก วันไหนที่มาค้างจะได้ไม่ต้องแบกไปแบกมาให้หนักน่ะค่ะ” เอ่อ รู้สึกว่านี่ไม่ใช่ประเด็นที่เราตกลงกันไว้นะครับคุณแม่

“ผมได้ด้วยแล้วกัน/ผมไปด้วย” สองพ่อลูกพูดพร้อมกัน ผมกับแม่จึง(ทำเป็น)ขุดดินเพื่อซ่อนรอยยิ้มขันอีกรอบ


.................................



“คุณ จะกลับหรือยัง” เสียงพ่อเริ่มเลื้อยมา

“เอ๊ะ คุณนี่ยังไง อยากกลับก็กลับไปสิคะ แต่ฉันขอซื้ออีกสักชุด สองชุดก่อน” แม่หันไปแว้ดใส่ ผมหันไปมองผู้ชายร่างสูงเหมือนเสาไฟฟ้าสองคน คนหนึ่งมีอายุอานามเดินเหงื่อตกอยู่ในห้างที่เย็นเฉียบ ถือของพะรุงพะรัง ส่วนอีกคนวัยเดียวกับผม คนที่ผมคุ้นเคย หอบของเยอะกว่าอีกคน และเหงื่อออกเยอะกว่า สภาพไม่ต่างจากลูกจ้างที่ใช้แรงงาน มองผมอยู่พอดี สายตาอ้อนวอนไม่ต่างจากจากอีกคนเลย

“คุณแม่ครับ จบร้านนี้ก็พอก่อนก็ได้เนอะ” ชายทั้งสองเริ่มยิ้มมาให้อย่างมีความหวัง

“เอาอย่างนั้นเหรอคะหนูไอรัก”

“ครับ เรายังมีเวลาอีกเยอะ ถ้าเกียร์ไม่ทิ้งผมไปก่อนนะครับ” ผมพูดเล่นๆ แต่คนที่โดนพาดพิงรีบสาวเข้ามาโอบ ทั้งๆที่ของยังเต็มสองมือ

“ใครจะไปทิ้งละ ไว้ว่างๆผมพามาอีกก็ได้” มันก้มพูดกับผม ก่อนจะหันไปบอกแม่

“เอาอย่างนั้นก็ได้”

“เฮ้อ..” เสียงถอนหายใจเบาๆไม่ใช่ใคร พ่อลูกทั้งคู่นั่นละครับ


......................................


“อะไรอะ ไอรักแฟนผมนะแม่ ต้องนอนกับผมสิ” เกียร์โวยวาย หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จ มันพาขึ้นมาที่ห้องนอนตัวเอง ผมก็เดินสำรวจห้องนอน เรียบๆ แต่สะดุดตาตรงโมเดลรถมอเตอร์ไซค์เต็มไปหมด ถ้าไม่เคยรู้จักเกียร์ ผมคงคิดว่าเจ้าของห้องเคยเป็นแว๊นซ์มาก่อนแหงเลย จากนั้นก็จัดการอาบน้ำเสร็จสรรพ ก็หันมากล่าวคำลาก่อนนอนอีกคนที่อยู่บนเตียง อีกคนเอ๋อไปเลย จนผมต้องอธิบายให้ฟัง มันถึงลุกขึ้นมาต่อล้อต่อเถียงกับแม่หน้าห้องนอนรับรองแขก ที่มีพ่อยืนอยู่ด้วย

“อ้าว นี่สะใภ้แม่ ลูกนอนด้วยกันทุกวัน ให้แม่นอนกับหนูไอเขาบ้างสิ”

“แล้วผมละคุณ” พ่อเอาบ้าง

“ก็หัดนอนคนเดียวซะบ้างสิคะ แค่วันเดียวจะเป็นอะไรไป ทีทุกวันฉันรอคุณกลับบ้านยังไม่เคยบ่นเลย”

“นี่ละบ่นแล้ว” พ่อพูดอุบอิบ

“อะไรนะคะ”

“เปล่า นั้นผมขอนอนด้วย”

“ไม่ต้องเลยค่ะ ขอฉันมีเวลาส่วนตัวบ้าง นี่ก็อีกคน น้องเขาอยากนอนกับแม่ยังไม่รู้อีก เนอะ”

“ใช่ครับ” ผมพยักหน้าเห็นตาม

“ฉะนั้นกลับไปนอนห้องตัวเองได้แล้วนะคะหนุ่มๆ อิอิ ฝันดีค่ะ” แม่รีบดึงผมเข้าห้องแล้วปิดประตู ไม่วายได้ยินเสียงคร่ำครวญหน้าห้อง

“แม่!!!!” เสียงสุดท้ายดัง ก่อนจะเงียบไป

“ฮ่าๆๆๆ สะใจจริงๆ เห็นไหมลูก คนเราต้องมีไม้เด็ดบ้าง ตามใจไปทุกเรื่องรังแต่จะทำให้เสียนิสัย” แม่จูงขึ้นมานอนแล้วเล่าเรื่องโน่นนี่ให้ฟัง ถามถึงชีวิตของผมบ้าง กับเกียร์บ้าง จนเผลอหลับไป




TBC-------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>


+คิดไปคิดมา สงสารเกียร์ที่สุดแล้ว ชอบโดนแกล้งประจำ ฮ่าๆๆ แต่โซ่ก็แอบสะใจเล็กๆไม่แพ้คุณแม่ของเกียร์เลยนะคะ อยากชอบเงียบเอง ช่วยไม่ได้ อิอิ
+ปีหน้า มหาลัยใครปรับการเปิดเทอมตามสากลบ้างเอ่ยขอให้ยกมือขึ้น หกเดือนจ้าหกเดือน เลยถือโอกาสจะไปปรับภาษาต้องรับอาเซียนเสียหน่อย ไม่รู้ว่าพ่อจะให้หรือเปล่า แต่ก็น่ากังวลใจจริงๆ อาเซียนนี่มีทั้งข้อดี และข้อเสียนะเนี่ย ถ้าไม่เตรียมรับดีๆอาจตกงานได้ ฉะนั้นโซ่ต้องตั้งใจให้มากกว่านี้แล้วละค่ะ เพื่ออนาคตของชาติ เย้!

โซ่ :กอด1:ทุกคนนะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่24 สะใภ้ปลูกรัก* [02/09/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 02-09-2013 17:37:11
 o18 o18 o18 คุณแม่เกียร์นี่น่ารักที่สุดเลย
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่24 สะใภ้ปลูกรัก* [02/09/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 02-09-2013 18:00:24
คุณแม่โลกสวยมากเลยจ้ะ o13
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่24 สะใภ้ปลูกรัก* [02/09/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: cowinsend ที่ 02-09-2013 18:41:30
อ่านตอนนี้แล้วน่ารักทุกคนเลยค่ะ เขิน><
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่24 สะใภ้ปลูกรัก* [02/09/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: sakiko ที่ 02-09-2013 20:40:24
ชอบแม่จังงงงง
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่24 สะใภ้ปลูกรัก* [02/09/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 02-09-2013 21:25:52
คิดว่าจะดราม่าซะแล้ว กลายเป็นทั้งคุณพ่อคุณแม่น่ารักสุด ๆ คุณน้ำแข็งเย็นชาแบบนี้ได้ไงเนี่ย (อ้อ เหมือนพ่อไง)
เย็นชาแต่น่ารักเนอะๆๆ ยิ่งทั้งรักทั้งหลงไอรักนี่ยิ่งน่ารัก เค้าหวงของเค้ามากลัวจะเผ็ด กลัวจะเจ็บ อู๊ย น่ารักสุด ๆ
กลายเป็นลูกคนใหม่ไปซะแล้วไอรัก

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่24 สะใภ้ปลูกรัก* [02/09/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 02-09-2013 22:21:38
คุณแม่น่ารักมากๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่24 สะใภ้ปลูกรัก* [02/09/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 03-09-2013 00:27:37
น่ารักกันจริงๆคู่นี้
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่24 สะใภ้ปลูกรัก* [02/09/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 03-09-2013 00:57:27
น่ารักจังเลย  :m3: เพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้
น้องไอรักกับเกียร์ น่ารักกันจัง ยังอ่านไปไม่กี่ตอนเอง
เดี๋ยวขอไปค่อย ๆ ตามอ่านก่อนนะคะ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ  :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่24 สะใภ้ปลูกรัก* [02/09/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 03-09-2013 01:57:12
กีสสสสสส ชอบบบบน่ารักมากมายอ่ะเรื่องนี้
น้องไอรักน่ารักเวอร์
เกียร์ก็หวานกับน้องตลอด อิอิ
จริงๆแล้วคลื่นกับบอสมีซัมติงอะไรกันป่าว555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่24 สะใภ้ปลูกรัก* [02/09/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 03-09-2013 01:58:23
กีสสสสสส ชอบบบบน่ารักมากมายอ่ะเรื่องนี้
น้องไอรักน่ารักเวอร์
เกียร์ก็หวานกับน้องตลอด อิอิ
จริงๆแล้วคลื่นกับบอสมีซัมติงอะไรกันป่าว555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่24 สะใภ้ปลูกรัก* [02/09/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 03-09-2013 15:10:10
พ่อแม่ของเกียร์ชอบไอรักด้วยดีใจจัง เข้ากับลูกสะใภ้ได้
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่24 สะใภ้ปลูกรัก* [02/09/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 09-09-2013 14:33:23
กลับมาอ่านอีกรอบค่า อยากกินหวานๆอีก ไอรักน่ารักเว่อออ>_<
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่24 สะใภ้ปลูกรัก* [02/09/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 09-09-2013 15:45:49
น่ารักมากมาย น่าติดตาม มาให้กำลังใจคนเขียนค่ะ :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่25 ตั้งเค้า* [28/09/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 28-09-2013 23:26:59
ตอนที่25

“ลงครัวแต่เช้าเลยนะครับ กลิ่นน่าทานจัง” ผมเดินลงมากับแม่แล้วลิ่วๆไปหาเกียร์ มันหันมาเหล่แล้วหันกลับ นั่น! ไม่พูดไม่จาแถมยังทำปากรูปตัวยูคว่ำ คงกลัวคนไม่รู้ว่ากำลังงอนอยู่

“ไปงอนอะไรน้องเขาละ ผ่านมาตั้งคืนหนึ่งแล้วนะเกียร์ ..เฮ้อ ตัวโตซะเปล่าลูกคนนี้” แม่ทำหน้าเอือมกับลูกชายที่ทำลังงอนตุ๊บป่อง ซึ่งดูไม่เข้ากับขนาดตัวและหน้าตาของตัวเองเลยสักนิด แล้วแอบหันมายิ้มชอบใจกับผม คงจะดีใจมากที่ทำลูกชายหน้านิ่งงอนได้ เกียร์คงไม่เห็นหรอกครับ มันหันหลังง่วนทำอาหารอยู่ แม่หันมาทำสัญญาณให้ผมง้อ แล้วท่านก็เดินผละไป คุณแม่ครับ ทีเรื่องง้อนี่รีบทิ้งให้ไอรักออกโรงคนเดียวเชียวนะครับแหม่

“ทำอะไรทานเหรอครับ” ความจริงผมรู้อยู่แล้วละ สีสันหน้าตาแบบนี้มันโจ๊กชัดๆ แต่อยากให้มันตอบ ถ้ามันพูดด้วยแสดงว่าหายงอนแล้วไงละครับ ผมจ้องอาหารในหม้อแล้วเงยไปมองมันตาแป๋ว มันยังนิ่ง

“........”

“จะไม่ตอบผมหน่อยเหรอเกียร์ ผมเสียใจเป็นนะนี่” พูดไปเอาหน้าถูๆกับต้นแขนมันไป เอาสิ มึงงอน กูเลื้อย มึงปากยูคว่ำ กูปากจู๋ใส่ ใจอ่อนไม่ใจอ่อนไม่รู้ ที่รู้ๆกูทำลงไปได้อย่างไร ไอรักโคตรเขิน แต่ก็ยังกล้าทำ สิทธิพิเศษสำหรับคุณน้ำแข็งคนเดียวเลยนะนี่ ฮี่_ฮี่

“..โจ๊กทะเลใส่กุ้งเยอะๆ เอาไว้กินตอนเช้า กับไข่พะโล้ ต้มข่าไก่ไม่เผ็ด เอาไปกินที่มอ” ในที่สุดคุณน้ำแข็งก็ปริปากพูด น้ำตาผมแทบไหล

“โห เราจะไปปิ๊คนิคกันเหรอครับ โรแมนติกสุดๆอะ ฮ่าๆๆ ..เฮ้ย เกียร์! ท่านอยู่ข้างนอกกันนะครับ” ผมจะผละหน้าออกเพราะทำให้มันหายงอนได้สำเร็จแล้ว แต่มันดันดึงให้มาอยู่ด้านหน้ามันซะนี่ พยายามแกะอุ้งตีนออกจากตัวแต่ก็ไม่ไหว เหนียวแน่นยิ่งกว่าเอฟซีดาราเสียอีก

“ไม่เห็นหรอก เคี่ยวไปสิ” เออ ไอรักช่วยเคี่ยวได้ แต่มึงช่วยเอาเจี๊ยวออกไปจากด้านหลังผมหน่อยได้ไหม ผมส่ายข้อมือไม่ได้ แต่มึงนี่ส่ายเอวเอาจังเลยนะครับสัตว์ ถึงมันจะชอบทำอาหารแล้วให้ผมมาเกาะแกะตัวเองอย่างนี้ประจำ แต่มึงช่วยสำเหนียกด้วยว่านี่บ้านพ่อแม่มึ๊ง มิใช่คอนโดเรานะโว้ย

“.........” ไอรักยืนใบ้แดก ยืนเคี่ยวยืนคนไปตัวแข็งไป คนข้างหลังก็ไม่ต้องสืบครับ แข็งเหมือนกัน แต่อย่าถามนะครับว่าอะไรแข็ง บอกแล้วไงว่าผมขอติดใบ้สักครู่ T_T ภาวนาอย่าพึ่งให้ใครเดินเข้ามาแล้วกัน

หลังจากทำอาหารเสร็จก็เดินไปเรียกคุณแม่ที่สวนหย่อมหน้าบ้าน ส่วนคุณพ่อนั่งให้อาหารปลาอยู่ โห ให้อาหารปลาก่อนตัวเองจะได้ทานข้าวอีก พอเรียกท่านเสร็จก็จะเดินตามพวกท่านเข้าบ้านแต่รู้สึกว่ากำลังโดนมองเลยหันไปมองอีกด้านก็เจอคุณสุนัขนอนเกลือกกับสนามหญ้ามองผมตาแป๋วอยู่หลายคู่ ดูท่าคงอิ่มพลีกันทั่วหน้าแล้วละ ผมยิ้มให้มันแล้วเดินเข้าบ้านไป

มาคิดๆดูอีกที กูจะไปยิ้มให้คุณสุนัขทำไมวะ ไอรักงงตัวเอง

“แล้วมาหาพ่อกับแม่บ้างนะเกียร์ อย่าลืมเอาสะใภ้แม่มาด้วยละ”

“โหยคุณแม่ พูดแบบนี้ผมก็เขินแย่สิครับ......สะใภ้อะไรเล่า ตัวใหญ่ขนาดนี้” ผมบ่นอุบอิบต่อท้ายเบาๆ แต่คนที่ได้ยินยืนหัวเราะใหญ่ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กนะครับ! นี่มันเรื่องระดับโลกของไอรักเชียวนะ!

“ตัวเท่าไม้จิ้มฟัน แกเลี้ยงเขาไม่ดีหรือไง” พ่อเกียร์มาเนิบๆ แต่ปากยกยิ้มขัน แล้วแสร้างหันไปต่อว่าคุณน้ำแข็ง ดูคนบ้านนี้สิ เห็นไอรักเป็นอะไร แซวได้แซวดี ฮื้อๆ

“ผมให้กินนมทุกคืน” ไอ้เชี่ยนี่ก็พูดสองแง่สองง่าม

“ผมขอขยายความ นมกล่องนะครับ!” ผมยกมือพูดต่อ กลัวคนเข้าใจผิด แค่นี้พวกท่านก็มองผมกรุ่มกริ่มจะแย่แล้ว

“หึหึ ก็นมกล่องไง คิดว่าอะไรละ หืม” เข้าทางมันเสียอย่างนั้น มันหัวเราะแล้วโคลงหัวผมเบาๆเมื่อเห็นแก้มเริ่มอมลมป่อง ปากเริ่มยื่น มันก้มลงกระซิบกับผมเบาๆ

“หลอกเล่น ไม่งอนนะ แล้วไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นเลย เห็นแล้วมันน่าฟัดว่ะ” มันพูดจบ ผมนี่ทำแก้มตอบแทบไม่ทัน

“เกียร์ไปแกล้งน้องเขาทำไม โอ๋ๆ แม่ไม่ล้อแล้วลูก รีบไปเรียนเถอะ เดี๋ยวจะสายเอา” แม่โพล่งออกมาปกป้องเยี่ยงนางฟ้า ซึ่งใจจังครับ

“ครับ”

“ไปดีมาดีนะลูก” แม่เดินเข้ามากอด หลังจากที่เกียร์ใส่หมวกกันน็อคให้แล้ว ผมกับเกียร์ยกมือไหว้ลา แล้วโบกมือบ๊ายบายโคตรหมาที่ส่งเสียงเห่าไล่แล้ววิ่งตามมาส่งก่อนพ้นรั้วบ้านไป


.................................................................


 “เกียร์ แวะคอนโดก่อนได้ไหมครับ”

“ทำไม” มันตะโกนท้าลมถามสั้นๆตามประสาเกียร์ๆ

“อยากเปลี่ยนเสื้อน่ะครับ มันคันๆยังไงไม่รู้” ผมเริ่มขยุกขยิกนั่งแทบไม่ติด คงอาจเพราะเสื้อนิสิตที่ซื้อมาใหม่เมื่อวาน ตอนแรกแม่ให้แม่บ้านเอาไปซักก่อน แล้วเผื่อเอาไว้ตัวหนึ่ง กันเอาไว้ถ้ามันแห้งไม่ทัน แล้วมันก็แห้งไม่ทันจริงๆ ผมเลยได้ใส่เสื้อตัวใหม่ที่ยังไม่ได้ซักออกมา แล้วมันเป็นอะไรไม่รู้ คันยุบยิบไปหมด โรงงานผลิตเสื้อเขาใส่หมามุ่ยเข้าเครื่องไปด้วยหรือเปล่าวะนี่

ถึงห้องแล้วรีบเดินเข้าห้องนอนพลางถอดเสื้ออย่างเร็ว เม็ดเล็กๆขึ้นตามตัวไปหมด ดูท่าแล้วด้านหลังคงจะเป็นผื่นเยอะกว่าที่อื่นแน่ๆ เพราะผมเกาซะสะบั้นหั่นแหลก จนเกียร์ต้องเดินมาดึงมือออก แต่ผมก็ยกขึ้นมาเกาใหม่ ก็มันคันนี่หว่า ขืนใจกันทำไมวะ!

“ขอดูหน่อย” มันพลิกตัวผมให้หันไปหา คิ้วเริ่มขมวดเมื่อมองมา สั่งให้รีบไปอาบน้ำ ผมไม่ได้ขัดอะไร รีบทำตามที่บอก

“เกียร์จะไปเรียนก่อนไหมครับ เดี๋ยวคุณจะสายเอา” ยังไม่ทันถอดกางเกง ผมชะโงกตัวออกไปถามเจ้าตัวก่อน พอดีวันนี้พวกผมเรียนเวลาเดียวกัน ผมมีทั้งวันถึงหนึ่งทุ่ม ส่วนเกียร์มีถึงห้าโมงยี่สิบ ตอนนี้ก็ใกล้เวลาเข้าเรียนแล้ว ถึงแม้มหาลัยกับคอนโดจะใกล้แต่ถ้ารอผมมีหวังสายแน่ๆ

“เข้าไปอาบเร็วๆ อย่าเอามือไปเกานะ ไม่งั้นจะเข้าไปอาบให้” มันไม่ตอบ แต่กำชับขืนใจผมอีกรอบ T_Tก็มันคันอะ ไม่ให้เกาแล้วจะให้ไถกับฝักบัวเหรอถึงจะหาย

“อยากอาบให้ผมก็บอกซี่” ผมเอ่ยแซว คันว่ะ คันปากนะ เกาไม่ได้ ก็กวนคนสั่งเสียเลย

“อืม เอาไหมละ” มันทำท่าจะเดินเข้ามาหา แล้วทำหน้ากรุ่มกริ่ม หน้าหงุดหงิดเมื่อกี้หายเป็นปลิดทิ้ง

“หวายย เกียร์ยั่วผมเหรอ หยอดบ่อยๆระวังผมจะทนไม่ไหวเอาสักวันนะ!” ผมรีบสะบัดตูดวิ่งเข้าไปอาบน้ำ ไม่วายตะโกนแซวคนข้างนอก จนได้ยินเสียงหัวเราะดังเข้ามาแว่วๆ แล้วเงียบไป

อาบน้ำเสร็จแล้วรู้สึกดีขึ้นเยอะเลยถึงจะยังคันๆอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มากเท่าเมื่อกี้แล้ว แปลกนะ ปกติผมไม่ได้เป็นคนผิวบางอะไร แต่คราวนี้ทำไมแพ้ได้ก็ไม่รู้ ผมพันผ้าขนหนูแล้วค่อยๆแง้มประตูออก ชะโงกหาเจ้าของเสียงหัวเราะเมื่อกี้ ไม่อยู่แฮะ ทางสว่างละ แฮ่ ถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่งแต่ยังไม่ทันเดินไปถึงเตียงก็ต้องตกใจเมื่อมีมือเกี่ยวเอวเข้าไปหาอกหนาของอีกคน

“ใครกันแน่ที่จะทนไม่ไหว หืม.....หึหึ”

สรุป.....เช้านี้พวกผมก็ไม่ได้ไปเรียน


………………………………………………


“นอนดีๆสิ” ไอ้คุณน้ำแข็งจับข้อเท้าให้อยู่นิ่งๆ ผมนอนแผ่คว่ำอยู่บนเตียง(พยายาม)กลิ้งไปตามจังหวะเพลงเสียงเรียกเข้า ส่วนอีกคนกำลังทายาแก้แพ้กับยาแก้อักเสบ(!?)

“เออว่าไง” ผมรับสายแล้วกรอกเสียงทักทายปลายสาย

‘โหลๆๆ สองโหลยี่สิบ สามโหลเท่าไร’

“สิบห้าบาทมั้ง ถุ้ย มีเชี่ยไร จงอธิบายขอพอสังเขป” สงสัยกูจะเรียนหนัก

‘เป็นเชี่ยไรไม่มาเรียนวะ มีเช็คชื่อนะโว้ย’ เสียงโหวกเหวกโวยวายลอดมาตามสาย คงจะอยู่กันทั้งกลุ่ม

 “พอดีมีงานรุมเร้า” ตั้งเค้าว่ามันจะมาอีก พูดต่อในใจ เพราะดูจากมือที่เลื่อนวนอยู่บริเวณเหนือสะโพก ผมตีมือมันดังเพี้ยะจนมันสะดุ้งสุดมือ ผมก็ไม่ได้ตีแรงขนาดนั้นนะ แต่ดูเหมือนอีกคนกำลังอยู่ในภวังค์แล้วมีคนตบกะโหลก มันนิ่งไปครู่หนึ่งมันก็วางมือทาบขึ้นไปทายาให้กลางหลัง

‘งานหรือเงี่_นวะ ฮ่าๆๆๆ’

“เซ็นเซอร์นิดหนึ่งเถอะ ห่า แล้วโทรมามีอะไรวะ”

‘เออกูลืมจุดประสงค์ไปตั้งแต่มึงรับโทรศัพท์แล้ว นึกว่ามึงจะยิงยาวถึงพรุ่งนี้เลยจะอวยพรให้ลูกดกซะหน่อย กร๊ากก เข้าเรื่องๆ’ มันบอกตัวเอง แล้วพูดต่อ

‘คาบบ่ายเข้าเรียนด้วยนะมึง อาจารย์เช็คชื่อว่ะ มีสอบย่อยด้วย’

“เออๆ ดีละที่เตือนกู” พูดไม่กี่ประโยคก็วาง ไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าเขาจะสอบย่อยกันนะครับ รู้ แต่ลืม พออยู่กับคนข้างๆทีไร ลืมทุกอย่างทุกที เสียการเรียนไหมนี่  ฮ่าๆๆ แต่ไม่ใช่หรอกครับ ยิ่งมีมันสิ ผมถึงได้ขยันมากขึ้น ผมก็เกรงใจเป็นเหมือนกันนะ เห็นมันคอยบริหารจัดการชีวิตผมซะไม่ต้องคิดให้หนักหัว ทำตารางแบ่งว่าเวลาไหนทำงาน เวลาไหนควรเล่น ควรอ่านหนังสือ แต่ความขัดแย้งมันอยู่ตรงที่ตารางมันไม่มีนี่ละ มีแต่ของผม ความยุติธรรมอยู่ที่ไหนครับ!

มันดึงเสื้อลงให้ แล้วล้มตัวทับกอดผมที่นอนคว่ำหน้าอยู่ ถึงจะหนักแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร อุ่นดีเหมือนกัน บางทีผมก็คิดเหมือนกันนะครับว่าถ้าเราไม่ได้มาเจอกัน ตอนนั้นจะเป็นอย่างไร ผมคงเที่ยวควงหญิง แข่งรถ เล่นพระ(?!) ตามประสาวัยรุ่นคึกคะนอง อยากลองอะไรแรงๆกันไป ส่วนเกียร์ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะไม่เปิดรับใครก็ได้กระมัง

“ปะ ลุกเถอะครับ คาบบ่ายผมต้องเข้าเรียนนะ”

“หยุดไม่ได้เหรอ ผื่นยังแดงอยู่เลย” ปากหาเหตุผลมารองรับ แต่จมูกไซร้ มือบีบสะโพกไอรักใหญ่เลยนะ

“ผมมีสอบอะ เกียร์จะเข้าคาบบ่ายด้วยไหม” มันพยักหน้า แล้วดึงให้ลุกไปแต่งตัวพร้อมกัน

เกียร์เลี้ยวไปจอดใต้คณะวิศวะ มันชวนผมทานข้าวด้วยกันก่อน ข้าวที่มันทำมาตั้งแต่เช้านั่นละครับ ตอนแรกจะเอาออกมาอุ่นอีกทีกะว่าจะทานที่ห้อง แต่พอดีคุณสาโทรมาตามให้รีบมามอ เลยต้องมาทานที่คณะมัน

“เจ้าชายย เป็นไงบ้างคะ แหมออร่าเปล่งออกมาทุกเวลาเลยนะคะ โฮ้ะๆๆ” สาวิ่งหน้าม้าแตกออกมาจากห้องภาคสาขาไฟฟ้า แล้วคว้าแขนผมหมับ

“สวัสดีครับสา ทำอะไรกันอยู่เหรอ” ผมยิ้มตอบ

“รอไอ้เกียร์อยู่นี่ละค่ะ เวลามีเรื่องสำคัญทีไรชอบมาสายกว่าชาวบ้านทุกที สาเซ็ง” คนถูกพาดพิงคิ้วขมวดฉับ แล้วปัดแขนสาออกจากผม จนสาเบ้ปากแล้วแลบลิ้นใส่

“มึงก็คุยกันไปดิ กูจะกินข้าวก่อน” มันตีหน้ามึนแล้วลากผมไปนั่งม้าหินอ่อนข้างหน้าทางเข้าตึก ปล่อยให้อีกคนอ้าปากหวอ มองตามอึ้งๆ

“ไอ้เกียยยยยร์ มึงต้องเข้าไปคุยก่อนนะ สายรหัสมึงอุส่ามากันครบ” สาตามมาลากแขนเกียร์ให้ลุกขึ้น

“มึงเห็นไหม ไอรักยังไม่ได้กินข้าว” มันเริ่มหงุดหงิด

“เอ่อ เข้าไปคุยธุระก่อนก็ได้ครับ ผมรอได้”

“กูบอกเดี๋ยวกูตามเข้าไป” มันมองผมแล้วหันไปบอกสา ไอ้นี่ก็จะเสียงแข็งใส่เพื่อนไปไหน สาเม้มปากแล้วกระทืบเท้าอย่างขัดใจ แต่ก็ไม่กล้าเถียงอะไร เดินสะบัดหน้าใส่ออกไป

นั่งกินกันไปเงียบๆ มันคงจะสังเกตได้กระมัง เลยแกล้งตักไข่พะโล้ใส่จานให้ซะพูน ผมเลยยิ้มแล้วแกล้งกลับ มันถึงยิ้มออก

“ไอ้เกียร์มาแล้วๆๆ นั่งพื้นเลยสัตว์เก้าอี้เต็ม  อ้าวๆๆๆ สวัสดีครับเจ้าชาย เชิญนั่งครับเชิญนั่ง” พัตลุกขึ้นมาปัดเก้าอี้ข้างๆแล้วตายิ้มใส่ เกียร์ยกมือไหว้พี่สองคน ดูท่าจะอยู่ปีสามหรือปีสี่ คนหนึ่งหน้าแก่ประสบการร์มาอย่างโชกโชน ไม่ได้ใส่แว่นนะครับ แต่หน้าเหมือนอดยา(คูลท์) ตาคล้ำๆ หัวฟูๆ อีกคนหน้าเถื่อนโคตรพ่อโคตรแม่

“ค_ย”

“สำหรับมึงเก้าอี้ไม่พอ แต่สำหรับไอรักเลือกนั่งตามสบายนะคะ อิอิ” เกียร์ตาขวางใส่ ทำใส่สากับพัตไม่พอ ยังกวาดตาไปทั่วห้องจนทุกคนสะดุ้งกันเป็นแถบๆ

“พวกมึงก็อย่าไปมองคนของไอ้เกียร์มันสิ ไอ้นี่แม่งหวงก้างจะตาย เดี๋ยวก็ไม่ตายดีหรอก” มัดพูดขึ้นแล้วเหล่ตามองเกียร์ ก่อนจะยิ้มกริ่มให้ผม คนอื่นก็ยิ้มตาเยิ้มใส่เล่นเอาผมประหม่าเชียวละ

“โหพี่ ถึงผมจะผู้ชายแท้ๆ แต่ถ้าเจอใครหน้าตาโคตรดีมันก็ต้องเผลอมองกันบ้างสิคร๊าบบ” น้องปีหนึ่งตัวโตคล้องป้ายชื่อ หัวสกินเฮดตอบ

“เออก็จริงของมึง เฮ้ยสรุปจะเอายังไงกันวะ” มัดถามต่อ

“ก็บนเตียงดิพี่ เบสิคๆ หรือพี่จะเอาตรงโซฟาอะ ไม่ดีม๊าง” เด็กหน้ากวนส้นทีนคนเดิมตอบ ขณะที่เกียร์เอามือผมไปเล่น แล้วหยิบปากกาบนโต๊ะมาวาดรูปหัวใจ แถมยิ้มให้อีก เลยศอกข้างเอวมันแก้เขิน

“มึงพูดเหมือนเคย”

“พวกพี่อย่าไปเชื่อมันนะ อย่างไอ้เล็กอะนะจะเคยเสียตัว ได้แต่นอนฝันเปียกเห็นหน้าพี่พนักงานของบริษัทชื่อดังทุกวันอะดิไม่ว่า เหมือนหมามองเครื่องบินเข้าทุกวันอะพี่” เด็กที่นั่งข้างกันป้ายชื่อเขียนว่าฝันพูดใส่ จนเด็กหน้ากวนส้นทีนที่ชื่อเล็กถลึงตาใส่

 “กูว่าละ อย่างมึงดูก็รู้ละว่าป๊อด ดีแต่ปากไปเรื่อย” พัตหัวเราะเยาะ

“โห พี่อะ อย่าล้อดิ”

 “เออ ไอ้เกียร์คืนนี้กูเลี้ยงสายรหัส เจอกันร้านหมี” พี่หน้าเถื่อนถึงจะเสียงดังไปหน่อย แต่เสียงโคตรหล่อต่างจากบุคลิกและหน้าตาพูดมัดมือชกเสร็จสรรพจนเกียร์หันไปมองหน้า จะเอ่ยพูดอะไรออกมาพี่เถื่อนลุกขึ้นมากำหมัดเล็งมาทางมัน

“ห้ามปฏิเสธกู เขาไปกันกี่ครั้งมึงก็ชวดทุกครั้ง ห่า เห็นพี่น้องสายรหัสเป็นอะไร คราวนี้ไอ้ธันก็อุส่ามาได้แล้ว กูก็อุส่าปลีกตัวจากทีสิสมาได้ เดี๋ยวเถอะมึงเล่นกับใครไม่เล่น” อ๋อ พี่แก่ประสบการณ์ชื่อธัน คงเป็นพี่รหัสเกียร์กระมัง

“แล้วทำไมพี่ไม่ชี้หน้ามันอะ กำนิ้วทำไม” เนแว่นถามพี่หน้าเถื่อนที่คงจะเป็นพี่รหัสเกียร์

“กูก็กลัวมันต่อยเป็นนะ” พี่หน้าเถื่อนทิ้งตัวลงเก้าอี้ตามเดิม เล่นเอาทั้งห้องฮาครืน

เกียร์ละจากหน้าพี่รหัส หันมาดูมือมันที่ผมบรรจงวาดให้เป็นรูปหัวใจ ลากเส้นออกจนถึงริมฝ่ามือ มันเลยเอาปากกามาเขียนเส้นเหมือนที่ผมทำ วาดเสร็จผมจับมือของทั้งคู่มาบรรจบกันจะเห็นว่าเส้นหมึกปากการ้อยต่อกัน ผมยิ้มให้กับผลงานแล้วเงยหน้ามองอีกคนที่มองมาอยู่แล้ว

“ไปด้วยกันนะ”

“ผมมีเรียนถึงหนึ่งทุ่มน่ะครับ คุณไปเถอะ” ผมยิ้มให้มัน

“จะรอ” ดื้อด้านฉิบหาย

“ไม่กลัวผมเหนื่อยบ้างเหรอ” แสร้งพูดเสียงอ่อย มันเริ่มเม้มปาก มือยังกุมไม่ปล่อย

“ไม่ไปก็ได้” อ้าว ไอ้นี่ บทจะง่ายก็ง๊ายง่าย

“ผมไม่ไปนะ” มันหันไปพูดกลางวง บรรยากาศที่คึกครื้นกลับเงียบฉี่ทันที เอาแล้วไง เป็นประเด็นเดือด


[ต่อด้านล่าง]

หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่25 ตั้งเค้า* [28/09/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 28-09-2013 23:30:25
[ต่อจากด้านบน]



“อะไรของมึงวะ” โฟ่พูดอย่างงงๆท่ามกลางสีหน้าเคร่งเครียดของพี่ๆทั้งสอง

“แฟนผมเหนื่อยมาทั้งวัน ผมต้องดูแล” ปรี๊ดด.....เสียงกาน้ำร้อนเดือดคล้ายกับสีหน้าผมตอนนี้ ผมกระตุกมือมันยิกๆ พูดอะไรออกไปวะ แค่นี้คนอื่นเขาก็มองไอรักจะแย่อยู่แล้ว

“ฮิ้ววววววววว” ฮิ้วซากอ้อยอะไรละไอ้คุณพัตคุณมัด

“เฮ้ยยยย ไม่ได้โว้ย กูวางแพลนกันมานานแล้ว มึงอะตัวดีเลยต้องไป ไอ้เล็กมันเป็นหมามองเครื่องบินไม่พอแล้วยังถูกพี่รหัสอย่างมึงไม่แลอีกเหรอ สงสารมันบ้างดิ” น้องคนที่ชื่อเล็กสะดุ้งตอนพี่เถื่อนพูดชื่อแล้วรีบแสร้งทำหน้าเศร้าโศกาเพราะพี่เถื่อนขยิบตายิกๆใส่ ถ้าไม่รู้ผมนึกว่าในห้องนี้เป็นเด็กศิล-กำนะนี่ แสดงละครดีมากๆ

“พี่อย่าไปพูดกับมันเลย ไปพูดกับไอรักดีกว่า ง่ายกว่าเยอะ” เนขยับแว่นแล้วพูดขึ้น

“เออ กูว่าจะถามนานละ เจ้าชายที่ว่ามันอยู่คณะแพทย์ไม่ใช่เหรอวะ คณะเราแม่งก็ไม่มีคนขาวขนาดนี้สักหน่อย แล้วไอ้ฝรั่งหิ่งห้อยนี่มันมาได้ไงวะ อือหือ แก้มนุ่มสัตว์ๆ ถึงว่ามีแต่คนยกย่อง คนเหี้ยอะไรขาวเรืองแสงได้ขนาดนี้ แม่เจ้าโว้ย” พี่เถื่อนลุกขึ้นมาจิ้มแก้มผมเล่น แล้วหันไปพูดกับคนอื่น พี่เขาไม่ได้รู้สึกถึงรังสีข้างๆตัวผมเลย แต่ผมนี่อยู่ข้างๆ โดนทั้งกระแสจิต ทั้งแรงบีบมือบนหน้าตักของอีกคน

“เฮ้ยพี่ศักดิ์...” กลุ่มเพื่อนเกียร์ทำหน้าเหวอ มองหน้ากันเลิ่กลั่กกันใหญ่ มีสาที่ตาเหลือกตกใจเอามือทาบอก อีกมือเอามาปิดปาก

ครืดด!!...ปึ่กก!!

เสียงเสียงสีของเก้าอี้ดังไปทั่วห้อง พร้อมเสียงผลักแขนอีกคนดังขึ้น ร่างพี่เถื่อนเซถอยหลังไปหลายก้าว เจ้าตัวยังงุนงงอยู่เลย ไอ้ผมก็งงไม่แพ้กัน มาอยู่ในอ้อมกอดของอีกคนตอนไหนไม่รู้

“โทษที”

 “ห๊ะ???” พี่เถื่อนยังงงไม่หาย

“นี่แฟนผม อย่ายุ่ง”

“แฟน??” คนนอกกลุ่มมันมองมาอย่างฉงน คนที่รู้เรื่องพยักหน้ายืนยันเมื่อเห็นว่าเกียร์เมินไม่สนใจกับตอบคำถามที่ครางออกมาเบาๆ

“เฮ้ย มึงชอบผู้ชายตอนไหนวะ!” เจ้าตัวไม่ได้ตอบอะไร แต่กอดเอวแน่นจนผมเบ้หน้า มันคงรู้ตัวจึงคลายลงเล็กน้อย

“ฮะ ฮะ ฮะ อย่าไปสนใจเรื่องของมันเลยเนอะพี่ ไอรักมึงก็ไปด้วยดิวะ พวกกูรอได้ มาสายดีกว่าไม่มา” พัตหัวเราะเฝื่อนกลบเกลื่อน พลางทำคนอื่นหัวเราะหน้าแหยไปตามกัน

“หือ เอ่อ ครับ” จะพยายามมองไม่เห็นสีหน้าโล่งอกโล่งใจของแต่ละคนแล้วกัน ผมเรียกคนข้างๆแล้วบุ้ยปากให้เงยไปดูนาฬิกาบนผนัง มันพยักหน้าก่อนขอตัวออกไปส่งที่หน้าคณะ

“ไปทำพี่เขาแบบนั้นแล้วจะไม่เป็นอะไรเหรอครับ” ก็พอได้ยินมาบ้างว่าวิศวะค่อนข้างรักกันกลมเกลียวกันเกินไปเสียหน่อย แต่ก็ไม่ได้รับน้องโหดเกินอย่างที่อื่นๆหรอกนะครับ เพียงแต่ระบบการรับน้องคณะวิศวะของที่นี่จะวางมาดีตั้งแต่รุ่นก่อนๆเท่านั้นเอง ผมกลัวมันจะโดนรุ่นพี่แกล้งหรืออะไรเทือกนั้น ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผมก็ไม่เคยเห็นเกียร์จะเป็นพี่ว๊าคหรือช่วยกิจกรรมของคณะเลยนะ ไม่รู้ว่ามันผ่านการโดนด่าของรุ่นพี่มาได้อย่างไร

“ไม่หรอก พี่ศักดิ์ไม่ใช่คนคิดมากเรื่องพวกนี้ อีกอย่างเกียร์ไม่ได้สนิทกับสายรหัสอยู่แล้ว” มึงไม่สนิทกับเขา หรือมึงคิดไปเองว่าไม่สนิทวะ ผมเห็นมันกับพี่เถื่อนทักทายเหมือนจะตบหัวกันและกัน

ล่ำลากันเสร็จ ผมก็ขึ้นไปเรียนตามปกติ ส่วนตัวรู้สึกเหมือนตะครั่นตะครอแปลกๆ อาจจะเป็นเพราะไม่ได้พักสมองตั้งแต่บ่ายยันหนึ่งทุ่มเลยกระมัง เมื่อเช้าก็ผ่านศึกหนักมาอีก เล่นเอาเหนื่อยฉิบหาย แต่ก็ต้องกัดฟันทนเอา ถ้าแค่นี้ผ่านไปไม่ได้ ก็อย่าหวังจะไปรักษาคนอื่นเลย

ลงจากตึกก็เจอคุณน้ำแข็งนอนฟุบกับโต๊ะหน้าคณะเสียแล้ว เสาไฟที่ตั้งห่างกันสาดส่องริบหรี่อยู่ข้างถนน ไม่ได้ทำให้บริเวณคณะสว่างมากไปกว่าจุดหย่อมๆตามที่ตั้ง เห็นทีไรก็ไม่เคยชิน วังเวงชะมัด

“เกียร์ เกียร์ตื่นได้แล้วครับ” แตะแขนเบาๆแต่ก็ทำให้มันสะดุ้งตื่น

“....อืม เลิกแล้วเหรอ” ไอรักยืนหัวโด่อยู่นี่ ยังเข้าแลปอยู่กระมัง

“ครับ ทำไมไม่ไปรอใต้ตึกละ ยุงกัดคุณหมดเลยเห็นไหม” ผมเอ็ดเบาๆ แต่มันก็ยังตีหน้ามึนดึงมือผมไปซบกับแก้ม ถ้าจะให้เดาเกียร์คงไม่อยากเป็นจุดเด่น เพราะมันใส่เสื้อช็อป ในขณะที่รอบข้างใส่เสื้อกาวน์กันเกือบทั้งนั้น แล้วยิ่งหน้าตาที่ไม่มีส่วนบ่งบอกว่าเรียนคณะนี้อีก มันเลยมานั่งรออยู่หน้าคณะ ซึ่งผมคิดว่ามันก็เด่นไม่แพ้กันหรอก ใครเขาออกมาก็เห็นเหมือนกัน

“ไปทำอะไรมา มืออุ่นๆ”

“โดนน้ำมนต์มั้งครับ ฮ่าๆๆ ไปกันเถอะ อยู่ตรงนี้เดี๋ยวคุณจะเลือดหมดตัวเสียก่อน”


…………………………………..


“คู่รักสุดน่าช็อคมาแล้วโว้ย ไอ้ดินชงให้พวกมันดิ๊” ดูจากท่าทางและการพูดของพี่เถื่อนแล้วคิดว่าคงใกล้เมาแล้วละ ตาเยิ้มเชียว

“พี่ศักดิ์ก็พูดไป น่าช็อคตรงไหน น่าเสียดายละสิไม่ว่า” สาพูด

“ฮ่าๆๆๆ เออว่ะ เออตามสบายกูเลี้ยงเอง” นั่นไง ใจป๋าแบบนี้ เมาชัวร์

“ข้างนอกฝนตกเหรอวะ” พัตถาม พลางมองคนที่เดินเข้าผับมาใหม่ ผมกับเกียร์เฉียดโดนฝนเหมือนกัน แต่โดนปรอยๆไม่มากเพราะถึงก่อนที่มันจะเทลงมากระหน่ำ

“เชี่ยเล็ก มึงอย่ากินเยอะ ไอ้ห่าแดกไม่เป็นแล้วยังกระดกเอาๆ กูไม่แบกนะโว้ย” เด็กที่ชื่อฝันพูด เห็นเด็กที่โดนเตือนซดเหล้าอย่างกับน้ำเปล่า มองตาขวางไปอีกด้านของร้าน แล้วทำหน้าเหมือนหมาน้อยใจ ถ้าไม่ติดว่าตัวเท่าควายคงใช้คำนั้นไปแล้ว

“กูจาแดก มึงอย่ามายุ่งดิ๊ สาดดเอ๊ยยย” นี่ก็อีกคน เสียวยานไม่แพ้ไอ้พี่เถื่อนเลยนะ

“ให้มันกินไปเหอะ ไหนๆก็มีบุญวาศนาได้กินของฟรีจากพี่ศักดิ์แล้ว เอาให้คุ้มโว้ย” มัดพูดแล้วหัวเราะเสียงดัง

“สาดดด เงินกู กูหาเอง กูใช้เอง แถมแบ่งให้น้องใช้ด้วย เห็นแบบนี้แล้วพวกมึงควรจะทำไง”

“แดกให้เรียบ!!” จบด้วยเสียงหัวเราะครื้นเครง ผมที่ยกมือจะไหว้ที่อุส่าอุปการะเหล้าครั้งนี้ให้กับพวกเราก็เอาลงไม่ทัน ตามมุขไม่ทันว่ะ

“เกียร์ๆ ผมขอไปทักทายพี่พัชก่อนนะครับ” ไม่ใช่อะไร จะไปเอาส่วนลดนี่ละประเด็นหลัก ความจริงพนักงานในนี้ก็จำผมได้เหมือนกัน แต่ไปทักทายเจ้าของร้านด้วยดีกว่า เดี๋ยวจะหาว่าลืมพี่ลืมน้องกัน

“ป่ะ” เกียร์ทำท่าจะเดินตาม

“ไม่เป็นไรครับ อยู่นี่เถอะ ผมไปแปบเดียว” ต้องป้องมือตะโกนใส่หูกัน ใครแม่งเลือกโซนนี้วะ โซนนั่งชิวเสือกไม่เลือก ดันเลือกโซนแดนซ์กระจายแบบนี้เลยต้องมายืนให้โดนสีจากคนรอบข้าง ถึงจะไม่ค่อยชอบใจนัก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะผมไม่ได้สนิทกับรุ่นพี่เขานี่หว่า

ขอตัวผละไปชั้นสองของร้าน กว่าจะเดินถึงต้องผจญกับแม่เสือสาวเนื้อนมไข่ทั้งหลาย ซึ่งไม่ได้ทำให้เกิดอารมณ์ร่วมตามไปเลย ผมว่าผมตายด้านไปหลายเดือนแล้วนะ แต่ทำไมเวลาบุรุษชายหน้านิ่งคนนั้นที่ไม่ได้ใช้เนื้อหรือนมมาสี มีอาวุธเพียงอย่างหลังอย่างเดียว ถึงทำผมขึ้นจนแทบขาดใจแบบนั้นได้ยังไงก็ไม่รู้

“เฮ้ สวัสดีครับพี่” พี่พัชเงยหน้าจากเอกสารในมือแล้วเลิกคิ้วสูง

“มาไมวะ” ตีมึนใส่กูทุกที ห่ารากครับ การ์ดหน้าห้องคงเข้ามาบอกว่าผมขอพบแล้ว แต่เจ้าตัวแสร้งทำเป็นพึ่งรู้การมาของผมเท่านั้นเอง

“อ๋อๆ นั้นผมกลับก็ได้”

“ไปดิ ถ้าออกจากห้อง มึงไม่ต้องมาเยี่ยมกูอีกเลยนะ” อ้าว

“รู้ด้วยเหรอว่าผมมาเยี่ยม” ผมยิ้มตาหยีใส่ จนคนมองเบะปากแล้วเท้าข้อศอกกับโต๊ะ วางคางกับมือที่ประสานกัน ท่าทางพี่พัชเป็นแบบนี้ทำผมไม่อยากสบตาคุยกับพี่เขาเลย อย่างที่เคยบอกไปว่าพี่พัชเป็นอาจารย์สอนจิตวิทยาด้วย มองตาไอรักทีไร ขุดความลับออกมาประจานกันตลอด ถึงแม้ว่าพี่เขาจะเคยบอกว่า ‘กูคนนะ ไม่ใช่กระสือ จะได้ควักตับไตไส้พุงคนอื่นออกมากิน ไอ้ห่า กลัวกูกันทำไมนักหนาวะ’ ครับ ขนาดไอ้พิชที่เป็นน้องพี่ยังกลัวพี่แกหัวหด แล้วไอ้ผมที่เป็นคนนอกครอบครัวเขาจะไปเหลืออะไร

“รู้สึกว่า...มึงจะดูมีความสุขกว่าที่เคยเป็นอยู่นะ ไงละ พึ่งเจอเรื่องดีมาละสิ” เหยด เหยด เหยด....

“อะไรครับ” พยายามตอบเสียงไม่ให้สั่น แล้วกอดอกมองตรงไปยังอีกคน แล้วเดินมานั่งตรงข้าม ไอ้เจ้าของห้องมันไม่เชิญ ผมก็วิสาสะเอาเองแล้วกัน ยืนนานๆเมื่อย ปวดหัวจี๊ดๆอีกต่างหาก

“หึหึ มึงกำลังProtectตัวเอง” เสียงปลายปากกากระทบโต๊ะอย่างเป็นจังหวะ พลางมองมือที่กอดอกอยู่ ผมคลายแขนแทบไม่ทัน

“พอเถอะครับ ผีผมไม่เคยกลัว กลัวแต่พี่นี่ละ” แม่ง ขอยอมรับ ผมเป็น(ว่าที่)หมอที่กลัวนักจิตวิทยาเป็นที่สุด ทุกคนย่อมมีความลับในจิตใจกันอยู่แล้ว และถ้ามีใครตั้งข้อสันนิฐาน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นข้อสมมติก็เถอะ แต่ข้อสมมติฐานของนักจิตวิทยานี่ละที่อยู่บนพื้นฐานการสังเกตชั้นเยี่ยม จนผมอดระแวงไม่ได้

“แล้วเป็นไงละ”

“หือ?”

“กับไอ้ถึกคนนั้น”

“อ๋อ ไม่มีอะไรนิครับ เรื่อยๆ”

“ตาหลุกหลิก!” เหยด.............

“ก็ ก็เรื่อยๆ”

“ตอบตะกุกตะกัก!”

“โอเคครับ” กูยอมแพ้ แล้วพูดต่อ

“ก็ดีครับ ดีมาก ไม่สิ โคตรๆเลยละ” พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่ใช่เพราะเรื่องที่พูดมันตรงข้ามกับใจนะครับ แต่ถอนหายใจให้คนตรงหน้านี่ละ แม่ง กดดันผม

“อาฮะ” พี่พัชแสยะยิ้มเหมือนตัวร้ายในละคร บุคลิกพี่ท่านไม่ควรจะเป็นอาจารย์ได้เลยสักนิด ให้ตายสิ

“หึหึ แล้วไม่ได้มากับพวกนั้นหรือ” กว่าพี่แกจะวกเข้าเรื่อง เกริ่นคำนำสารบัญไปเกือบสิบหน้าได้

“พอดีมากับคุณน้ำ..เอ่อ เกียร์น่ะครับ” จะว่าไปก็มานานแล้ว หวังว่าป่านนี้คงไม่อารมณ์เสียอยู่หรอกนะ แค่คิดก็มึนหัว

“ไปได้แล้วปะ นั่งกังวลอยู่นั่นละ เวลาคิดเงินก็บอกบริกรแล้วกันเดี๋ยวจะจัดการให้ อ้อ วันหลังพามาแนะนำด้วย ยังไม่เคยคุยจังๆสักที เคสนี้..น่าท้าทายดี หึ” เห็นเป็นเพื่อนสนุกไปได้ เฮ้อ อยู่กับพี่พัช ไอรักนับการถอนหายใจของตัวเองไม่ได้เลยครับ เยอะเกิน

“คร๊าบครับ ไปแล้วนะพี่ สวัสดีครับ”

“เออ กินยาดักหน่อยก็ดีนะ คงไปสนุกเพลินมาละสิ...หึหึหึ”

เอาละ ขอไอรักออกจากห้องนี้อย่างไวที่สุดทีเถอะ



“นาน!” ดูมันกระชากเสียง เออ ครับ ไอรักยอมรับผิดทุกประการ ไอรักผิดเองครับ

“อ่า แล้วคนอื่นละครับ” หันไปมองดูรอบๆไม่เห็นคนในโต๊ะเลยนอกจากเกียร์กับผม

“เต้น” เสียงยังแข็งอยู่ไม่เปลี่ยน

“แล้วไม่ออกไปเต้นบ้างเหรอครับ มานั่งอยู่คนเดียวแบบนี้ไม่เบื่อเหรอ”

“..เฝ้าของ รอคน ก็หมดเวลาแล้ว” เดี๋ยวนี้นางอัพเลเวลมีการประชดประชันแล้วนะครับ

“อ๋อยย ขอโทษนะครับ ไปคุยแปบเดียวเอง” ผมเอาหน้าไปถูๆกับแขนมัน อยู่ดีๆมันก็ดึงผมจนเซถลาไปชนกับอกมัน

“ตัวร้อน ไม่สบายหรือเปล่า” มันก้มกระซิบชิดหูหลังจากที่ผมสะบัดหน้าเพราะยังมึนหัวอยู่ เออแฮะ ไข้กินแล้วนี่เอง ถึงได้ว่ามันล้าๆ แล้วยิ่งมาฟังดนตรีหนักๆเสียงดังแบบนี้ยิ่งปวดหัวเข้าไปใหญ่ ผมอ้อมแอ้มตอบมันอย่างกล้าๆกลัวๆ

“ปวดหัวทั้งแต่คาบเรียนแล้วน่ะครับ ไม่คิดว่าจะเป็นไข้” เกียร์รีบจูงจะออกไป แต่ผมรั้งไว้ก่อนพลางชี้ที่โต๊ะ

“ไม่มีของสำคัญ” มันพูดแค่นั้นแล้วแหวกทางลากผมออกจากร้าน ก่อนจะส่งข้อความไปหากรุ๊ปเพื่อนในโทรศัพท์ว่าขอกลับก่อน พอเสร็จก็หันมาใส่หมวกให้ผมแล้วก็ตัวเอง

“ทนลมหน่อยนะ” มันเปิดกระจกหมวกกันน็อคออกมาแล้วคิ้วขมวด ส่งสายตาด้วยความเป็นห่วงเป็นใยมาให้ ผมยิ้มรับ ไม่รู้มันเห็นหรือเปล่า เพราะกระจกหมวกของผมสีค่อนข้างทึบ รู้สึกดีนะครับเวลาที่มีคนมาห่วงเรา กังวลเรื่องของเราทั้งที่บางเรื่องเป็นเรื่องเล็กน้อยหรือใหญ่หลวงก็ตาม ผมพิงหลังหนาแล้วกอดเอวมันหลวมๆ อยากจะกระชับให้ไออุ่นส่งผ่านไปให้มัน แต่ก็ไม่ค่อยมีแรงจะทำอะไรเท่าไรนัก


TBC--------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

+ก่อนสอบ ขอโพลต์ก่อนเถอะ สอบไม่เสร็จเสียที อ๋อยยยย
+ไม่รู้ลืมกันไปหรือยัง หวังว่าจะไม่ลืมกันนะคะ ขอโทษทุกคนด้วยที่มาต่อช้าไปหน่อย :hao5:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่25 ตั้งเค้า* [28/09/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: minmin96 ที่ 29-09-2013 11:21:15
ห่วงใยเอาใจใส่กัน...น่ารักที่สุด!!! :-[
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่25 ตั้งเค้า* [28/09/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 29-09-2013 11:49:53
น่ารักที่สุด !! :o8:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่25 ตั้งเค้า* [28/09/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 29-09-2013 14:20:47
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำเราอมยิ้มตลอดทั้งเรื่อง
อะไรจะน่ารักขนาดนี้
อิจฉา
อยากมีแบบนี้บ้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่25 ตั้งเค้า* [28/09/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 29-09-2013 14:47:42
ไอรักป่วยซะแล้ว
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่25 ตั้งเค้า* [28/09/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 29-09-2013 20:00:31
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่25 ตั้งเค้า* [28/09/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 29-09-2013 20:50:19
คุณหมอป่วยเสียแล้ววววว หายไวไวน๊าาาาา
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่25 ตั้งเค้า* [28/09/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 29-09-2013 22:51:40
น่ารักจริง ๆ คู่นี้ เกียร์ไม่ต้องการคนอื่นอีกแล้วล่ะในโลก ขอแค่ไอรักคนเดียวพอ
เกรียนใส่เพื่อนและรุ่นพี่ได้ตลอดๆๆๆ แถมติดแฟนยังกับตังเม
สรุปงานเลี้ยงไปก็เหมือนไม่ได้ไปเนอะ กลับไปดูแลและกกเมียดีฝ่า
ชอบตอนไอรักอ้อน ๆ เอาหน้าถูแขน มีร้อยก็ให้พันอ่ะ น่ารักเกิ้นคนเนี้ยะ
ชอบตอนเกียร์หึงด้วย แร๊งงงง ตลอด หวงเมียม้าก

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่25 ตั้งเค้า* [28/09/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 30-09-2013 09:06:44
เขินตอนนี้อะ อ่านแล้วรู้สึกว่าเกียร์ให้ความสำคัญกับไอรักมากๆเลยค่ะ เหมือนจะสนใจแต่ไอรักด้วย น่ารักจัง

ปล.มีน้องเล็กออกมาเรื่องนี้ด้วย 55555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่25 ตั้งเค้า* [28/09/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 30-09-2013 13:07:01
เกียร์กับไอรักก็หวานตลอดเว  :man1:

หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่25 ตั้งเค้า* [28/09/13] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 30-09-2013 13:37:01
เกียร์ดูแลไอรักอย่างดีจนน่าอิจฉาเลยแถมห่วงหวงจนเว่อร์
แต่เราชอบอ่ะ  5555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่26 ไม่สบายต้องดูแล* [18/10/13] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 18-10-2013 15:34:14
ตอนที่26



มันพยุงผมขึ้นมายังห้อง แรกๆจะอุ้มผมด้วยซ้ำ แต่ผมยืนยันว่าเดินไหวจริงๆ แค่เป็นหลักให้ผมเกาะก็พอ มันรีบพาไปที่เตียง บรรจงจับแขนจับขาขึ้นเตียง จัดการอะไรให้เสร็จสรรพ ไอ้นี่ก็ห่วงเกิน ได้ข่าวว่าผมไม่สบายไม่ใช่เหรอ ถ้ามันมาเป็นผมได้มันคงทำไปนานแล้ว เสร็จก็เห็นมันหน้านิ่วคิ้วขมวดเดินวนเวียนข้างเตียงอย่างคนลนลานทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเดินไปเปิดคอมพิวเตอร์ แต่ก็เหมือนมันหงุดหงิดไม่ได้ดั่งใจ เดินไปคว้าโทรศัพท์ตัวเอง ก่อนจะนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วรีบวางของตัวเองไปคว้าโทรศัพท์ของผมแทน ผมหรี่ตามองมันอย่างอ่อนเปลี้ยเพลียแรง

“มึงเรียนหมอใช่ไหม” นี่คือการทักทายจากฝากของคนที่เป็นคนโทรใช่ไหมครับ กรุณาชี้แจงผมที

“……….”

“กูเกียร์ ไอรักไม่สบาย ตัวร้อนเป็นไฟ ตัวแดงไปหมด จามด้วย หายใจฟัดฟัด”

“……….”

“อย่าลีลา เร็ว!” มันตะคอกใส่โทรศัพท์ มองผมอยู่แปบหนึ่งแล้วเดินเลี่ยงออกไปหน้าห้องนอน แต่ก็ยังได้ยินเสียงลอดอยู่

“คืออะไร...เอาใหม่! ภาษาเหี้ยอะไร! กูไม่รู้เรื่อง!...กูขอสรุป” ไอรักคงตายก่อนได้รับการรักษา ผมว่ามันคงโทรไปหาไอ้เนมชัวร์

“………..”

“......อย่าถามมาก! กูยังอยู่ พูดมาสิวะ!...เออ...มี...เออ...ขอบใจ” มันวางสายแล้วรีบหันมาหาจนผมตกใจ

“หนาวไหม…จะเช็ดตัว เพื่อนไอรักบอกถ้าหนาวสั่นจะใช้น้ำอีกอย่าง” ผมเลิกคิ้วถาม มันเลยพูดต่อ

“ไม่ครับ” ผมส่ายหน้าแล้วตอบเสียงเบา

“ใช้น้ำธรรมดา อุณหภูมิสามสิบถึงสิบสิบเจ็ดองศาเซลเซียสนะครับ” ผมบอกมันพลางไอเป็นระยะ

“อืม พักผ่อนนะ” ผมพยักหน้าให้มันที่ห่มผ้าให้ แต่ผมถีบออกเพื่อให้มันระบายความร้อนออกไป มันคิ้วขมวดแต่ยอมเดินออกไป แล้วกลับมาพร้อมกะละมังกับผ้าเช็ดตัว แม้จะเงอะงะแต่ผมก็รู้ว่ามันตั้งใจทำ มันถามเป็นระยะว่ารู้สึกดีขึ้นไหม  สลับกับพึมพำโทษตัวเองที่ลากผมไปเที่ยวอยู่อย่างนั้น ผมตอบอืออาเสียงแผ่วไป เริ่มเจ็บคอจึงไม่ค่อยอยากอ้าปากพูดเท่าไรนัก มันคงรู้เลยเงียบๆไป พอเสร็จก็บอกให้ผมรอแล้วออกไปอีกครั้ง ครั้งนี้นานหน่อย ผมเกือบจะหลับไปแล้ว ก่อนที่มันจะกลับมาพร้อมยา ทานเสร็จก็ล้มตัวลงนอน

“จะไปไหน...” ผมสะลึมสะลือใช้แรงที่มีอยู่ดึงคนข้างๆที่ถือแก้วน้ำเอาไว้ในมือ มันหันมามองแล้วก้มลงจูบหน้าผาก

“เอาแก้วไปเก็บ นอนเถอะ” ได้ยินคำตอบ ผมหน้าเบะทันที

“..ทำไมอะ.. ไม่อยากนอนด้วยกันแ้ล้วเหรอ ...เบื่อผมแล้วใช่ไหม..” ผมรู้ตัวว่าเวลาเป็นไข้แล้วงี่เง่าแค่ไหน ผมรู้ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน แต่ผมแค่อยากให้ใครเข้าใจในยามที่ผมอ่อนแอบ้าง เข้าใจบ้างว่าผมรู้สึกอย่างไร มันว้าเหว่แค่ไหน ไม่มีใครรู้สักคน ทุกคนมองเหมือนมันเป็นเรื่องตลก ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แค่สองสามวันก็หายเป็นปกติ

แต่ความรู้สึกผมละ มันหายเป็นปกติไปด้วยไหม ไม่เคยมีใครเคยถามผมสักคำ

พลันเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น มันผละออกก่อนรับโทรศัพท์ที่เห็นว่าสำคัญกว่าผมในตอนนี้

“....กำลังจะร้องไห้...ทำไมมึงไม่บอกกูก่อนหน้านี้!!” มันตะโกนใส่โทรศัพท์สุดเสียงแล้วกดวางแรงๆ ก่อนจะสอดตัวลงมากอดผมแน่น

“เกียร์อยู่ตรงนี้ ไม่ทิ้ง ไม่เบื่อ ..ไม่มีวันนั้น ไม่มีวัน” มือใหญ่ลูบหัวผมไปมา จูบกระหม่อมผมซ้ำๆ ย้ำว่าตนยังอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน

“อย่าทิ้งผมนะ” เสียงละเมอพึมพำ

“ไม่ทิ้ง สัญญา” มันยื่นนิ้วก้อยขึ้นมา ผมมองครู่หนึ่งก่อนยื่นไปเกี่ยว ไม่คิดว่าวิธีเด็กแบบนี้จะทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาได้อย่างมหาศาล มืออีกข้างกำเสื้ออีกคนแน่น สูดกลิ่นกายที่คุ้นเคยเต็มปอดแล้วเผลอหลับไป


......................................


ผมตื่นขึ้นมาในตอนสายของวัน ยังปวดหัวตุบๆอยู่ไม่ได้ดีขึ้นมากหรือแย่ลง ควาญหาอีกคนที่นอนข้างกายด้วยกันเมื่อคืน แต่ก็พบแต่ความว่างเปล่า ลืมตามองเต็มตาก็ไม่เจอ ผมสูดน้ำมูกขึ้นพลางเช็ดน้ำตาปลกๆ

อีกแล้วสินะ....

เหมือนวันนั้น ครั้นเมื่อผมยังเด็ก พวกพี่ไปดูงานที่ต่างประเทศ เป็นโอกาสที่แด๊ดกับม๊าไปเที่ยวกันสองคน ส่วนผมมีสอบไปไม่ได้ ทุกคนไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งผม ผมเข้าใจ แต่พอสอบเสร็จไข้ผมขึ้นทันที คนในบ้านยังไม่กลับ ไม่มีใครรู้เพราะผมขังตัวอยู่แต่ในห้อง แม่บ้านมาเคาะแล้วอะไรก็แล้ว ผมก็ไม่เปิดออกไป เขาไม่ใช่คนที่ผมต้องการในตอนนั้น แต่คนที่ผมต้องการกลับไม่อยู่ในเวลาที่ผมรู้สึกแย่ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปกี่วันกี่ชั่วโมงจนผมสติเลือนลางไป เห็นคนที่ผมต้องการกำลังร้องไห้แล้วอุ้มผมไปโรงพยาบาล หลังจากวันนั้นผมก็จะมีอาการงี่เง่าในวันที่เป็นไข้แบบนี้เป็นประจำ และคนที่บ้านก็เปลี่ยนไปเหมือนกัน เวลาที่ใครติดงาน อีกคนจะอยู่ที่บ้านเพื่ออยู่ดูแลผม แม้แต่ตอนนี้จะยังเป็นกันอยู่ แต่ผมย้ายมาอยู่คอนโด พวกเขาจึงไม่ต้องพะว้าพะวงมากเหมือนแต่ก่อน แต่ก็ยังเป็นห่วงผมอยู่นั่นละ ย้อนกลับมาคิดมันก็ตลกตัวเองเหมือนกัน มีแต่คนโอ๋ เอาแต่ใจตัวเองชะมัด

ถึงจะคิดแบบนั้น แต่เอาเข้าจริงก็ขำไม่ออก เพราะอย่างนี้ไง นิสัยเสียแบบนี้ จะมีใครทนได้ มีแต่คนหนีหน้าละสิไม่ว่า แค่คิดเรื่องเก่าๆก็ทำให้ปวดหัวมากขึ้นเรื่อยๆ

แอ๊ด....

“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงเปิดประตูห้องน้ำทำให้ความคิดของผมหยุดชะงัก ก่อนจะมองคนที่มองมาอย่างเป็นห่วง

“.........ฮึก..”

“เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม เกียร์ไปฉี่มา ไม่ทิ้งอย่างที่สัญญากันไว้ไง” มันยื่นนิ้วก้อยขึ้นมาตอกย้ำเหตุการณ์เมื่อคืนว่ามันเป็นจริง

“…ทำไมไปนาน” ไม่ได้งี่เง่าแล้วนะ พยายามแล้ว

“พึ่งลุกไปเอง เสียงแหบหมดแล้ว กินน้ำก่อนนะ” ได้กลิ่นอาหารโชยเข้ามา มันคงตื่นนานแล้วสินะ มันดูแลแบบนี้กะจะให้ผมตกหลงรักอีกครั้งใช่ไหม

มันคงมาถูกทางแล้ว ผมตกหลุมรักมันซ้ำๆหลายๆครั้งจนเต็มใจที่จะอยู่ในหลุมที่มันขุดอยู่แล้ว

ปิ๊งป่อง.....

ผมหันไปมองมันเชิงถามว่าใครมา ปวดกระบอกตาด้วย ไม่น่าร้องเลยแมร่ง เจ็บชะมัด

“คงเป็นคนชื่อเนมน่ะ มันโทรมาถามที่อยู่ เกียร์เลยบอกไป มันจะได้มาดูอาการไอรักด้วย แล้วไอรักจะได้ไม่เหงาด้วยไง เดี๋ยวมานะ” มันบอกยืดยาวคงกลัวผมถามแล้วเจ็บคออีก จูบเปลือกตาผมแผ่วเบา แล้วเดินออกไป ไม่นานเสียงโหวกเหวกก็ลอยมาให้ชวนปวดหัว

“ไอ้เหรี้ยยยยย ผู้ป่วยความจำเสื่อม” เสียงคิมกระดกลิ้นร.เรือรัว มึงอย่าวิบัติมาก เดี๋ยวกูโดนคนอ่านด่า

“สัตว์นี่ เดี๋ยวมึงก็โดนงอนหรอก เวลานี้ไอ้นี่ยิ่งเซนซิทีฟอยู่..เป็นยังไงบ้างวะ” ไทป์ด่าคิมก่อนหันมาถามอาการผม

“..สบายดีว่ะ” จมูกฟุดฟิดนิดหน่อย เสียงแหบนิดหน่อย ปวดหัวนิดหน่อย แต่ยังเอาอยู่

“สบายดีกับอิชิตันเหรอสัตว์ หน้าแดงเถือกอย่างกับลูกตำลึง นี่มึงได้ระบายความร้อนบ้างไหมนี่ ห่าเอ๊ย พวกมึงออกไปก่อนเดี๋ยวติดไข้มัน ไปๆ....มึงด้วย ไป๊..เอ่อ กูไม่ได้ไล่มึงเหมือนหมูเหมือนหมาหรอกนะ แต่ แต่กูจะได้รักษาไอ้รักเต็มที่ไง แหะๆ” ไอ้เนมผีนักแพทย์เข้าสิง มันจริงจังขึ้นมาทันที แล้วไล่ทุกคนในห้อง ประโยคสุดท้ายมันหันไปไล่คนหน้าทะมึนอยู่ข้างเตียงผม คงเดาไม่ยากว่าใคร

“ถ้าจะเช็ดตัว เรียกกู” มันพูดสั้นๆแล้วเดินออกไป ไอ้เนมเบะปากกับความหวงของเกียร์ จนผมหลุดขำ

พอทุกคนออกไป จากหน้าจริงจังเมื่อครู่ก็เปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกเล่นเอาผมตกใจไปด้วย

“มึง เมื่อคืนกูนอนอยู่ดีๆเหมือนกูโดนฟ้าผ่ากลางกบาลกูโดยที่กูไม่ทันได้ตั้งตัวเลยว่ะแงแง” มันพูด ทำหน้าทำตาจะร้องไห้เสียให้ได้ นี่ผมไม่สบายแล้วยังต้องฟังเรื่องราวในชีวิตไอ้เนมอีกด้วยหรือ

“อา” ผมเผยอปากตอบมันเบาๆ อยากจะถามว่าทำไมอะไรยังไงนะ แต่มันจะเจ็บคอละสิ

“ทำไมเรื่องราวอันเลวร้ายต้องเกิดขึ้นกับกูตลอดเลยวะ ว้อยย กูไม่เข้าใจเลย ห่าเอ๊ย” ดูท่ามันจะหัวเสียและวิตกจริตกับเรื่องที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก

“ค่อยๆเรียงคำดีๆ จับประเด็นแล้วเล่ามาเป็นฉากๆสิวะ” ผมดุมันด้วยเสียงแหบๆ คนฟังมันไม่เข้าใจ แล้วยังต้องมาปวดหัวกับมันอีก

“เออว่ะ ขอถอนหายใจเฮือกใหญ่หนึ่งเฮือก เฮ้อออ โอเคกูพร้อมละ คือเมื่อวานกูหลับอยู่ ดึกมากแล้วอะ อยู่ๆโทรศัพท์ก็..ก็ดังขึ้น แล้วมึงก็รู้ว่าเวลาที่กูพึ่งตื่นกูจะพูดไม่รู้เรื่อง ไอ้ห่า กูก็รับไปโดยไม่รู้ว่าใครอะ มาถามว่ากูเป็นหมอใช่ไหมอีก กูเลยบอกเออ ‘กูเป็นว่าที่เฉยๆเยดแม่ม’ คำนี้เลยเป๊ะๆ แล้วกูก็รู้ว่าที่โทรมาคือไอ้เกียร์ มาปลุกกูตอนตีเหี้ยอะไรไม่รู้เพื่อมาถามว่ามึงไม่สบายแล้วจะทำไงบ้าง เออแล้วคือกูก็ตาปิดสะลึมสะลือร่ายความรู้ที่กูสั่งสมมา ตั้งแต่ลดอัตราการผลิตความร้อนในร่างกาย การจัดการอาการไข้ สารพัดชื่อยาไปให้ ก็เสือกด่าให้กูสรุปอีก พอกูวางไป กูก็กลับมานอนคิดก็ลืมไปว่าเวลามึงเป็นไข้แล้วไม่เหมือนชาวบ้านเลยโทรไปบอก ก็เสือกโดนตะคอกอีก แมร่ง ยังไม่ทันได้เป็นหมอดันมีคนโทรปลุกเพื่อปฐมพยาบาลซะแล้ว เกิดเป็นกูนี่อยู่ยากบนโลกนี้จริงๆว่ะมึงว่าไหม แล้วมึงยิ้มอะไรวะ ไอ้ห่ากูสาธยายความเถื่อนดิบของแฟนมึงให้ฟังยังยิ้มระรื่นอีก เฮ้ออ ระบบประสาทมึงทำงานผิดปกติแล้วเหรอวะ” มันระบายความในใจที่อัดอั้นมาตั้งแต่เมื่อคืน หรืออาจจะรวมเรื่องเก่าๆด้วย ที่ผมยิ้มไม่ใช่อะไรหรอก มันมีอย่างเดียว

........ดีใจ……..

คำนี้เลยที่บอกเหตุและผลได้ดีที่สุดในเวลานี้ ผมมองไปยังช่องด้านล่างของประตูที่ปรากฏเงาเท้าเดินป้วนเปี้ยนวนไปวนมาอยู่ข้างหน้ายิ่งทำให้ผมยิ้มกว้างมากขึ้นกว่าเก่า เกียร์เป็นคนพูดไม่เก่ง แสดงออกมาบางครั้งคนอาจจะไม่เข้าใจ แม้ใครจะมองว่ามันโหดเถื่อนหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ผมก็รู้จักคนนี้เป็นอย่างดี ไม่จำเป็นต้องให้ทุกคนข้าใจในตัวมัน ขอเพียงแค่คนที่มันแคร์นั้นเข้าใจก็พอแล้ว ครั้งที่ห่วง หวง กังวล ความรู้สึกปนเปที่อัดแน่นได้แสดงออกมาจากสายตาที่จ้องมองมาที่ผม ทุกอย่างที่เกิดขึ้นจากผม มันไม่เคยมองข้ามไปไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ถึงแม้ในบางคราวจะอารมณ์ที่แสดงออกมาจะรุนแรงไปบ้าง แต่ที่ทำไปก็เพราะเป็นห่วงจากใจจริง ทั้งหมดนี้รวมเป็นเกียร์ ผู้ชายที่ผมรักมากที่สุด

“มันมีอะไรดีวะ มึงถึงยิ้มตีนกาแยกเป็นดอกจันทร์ ทักษะการพูดค่อนข้างแย่ เสน่ห์ติดลบ สายพันธุ์ยิ่งกว่าโหดสัสv.2 รวมๆแล้วอย่างนี้เลยๆ” มันชูนิ้วโป้งคว่ำแล้วเบะปาก

 “เป็นไงบ้าง” อยู่ๆคนที่พวกผมซุบซิบเมื่อกี้เปิดประตูพรวดเข้ามา เล่นเอาเนมสะดุ้งโหยงอย่างตกใจ เจอเกียร์ทีไร ไอ้เนมหวาดกลัวเหมือนจิตอ่อนตลอด

“เหอะๆ ตรวจถึงไหนแล้ววะไอ้รัก อ๋อ มึงเจ็บคอนิตัวเอง อิอิ ปวดหัวด้วย แต่ไม่มีอาการหนาวสั่นมากมายใช่มะ เออโอเคกูรู้งานละๆ” มันพูดเออออเองเสร็จสรรพ

“ยา?” เกียร์ถามสั้นๆ ไอ้เนมหน้าถอดสี

“อ้าวมึงไม่มีเหรอ กูไม่รู้อะว่ามึงจะไม่มีติดห้องเลยไม่ได้เอามาด้วย โทษทีว่ะแงแง” มันละล่ำละลักตอบ เกียร์ไม่ได้ตอบอะไรแล้วเดินออกไป ก่อนจะเดินกลับมาพร้อมยกตู้ยาสามัญประจำบ้านขนาดมาตรฐานเข้ามาวางที่โต๊ะทำงานในห้องนอน เล่นเอาผมกับไอ้เนมอ้าปากค้าง มึงเล่นใหญ่ไปไหมเกียร์

“มึงซื้อมาใหม่เหรอวะ เชี่ย ใหม่เอี่ยม” เกียร์ไม่ได้ตอบอะไรอีกรอบ แล้วเดินไปเอากะละมังกับผ้ามาเช็ดตัวแล้วมายังเตียงที่ผมนอนอยู่ ปล่อยให้เนมพิสูจน์ความอลังการจากสิ่งที่เกียร์ทำ แล้วตรวจดูฉลากยา มือพยายามจัดยาให้เป็นมื้อๆไป แต่ผมรู้อยู่หรอกว่ามันนั่งทำไมแถวนี้ ดูจากหูที่ผึ่งออกมาก็รู้กันทั้งบางแล้ว

“ไปเอามาจากไหนเหรอครับ” ถามคนที่กำลังทำความสะอาดตัวผมอยู่

“ลงไปซื้อตอนเช้า”

“ความจริงซื้อมาเป็นแผงก็ได้นะครับ” พูดไป ไอไปเป็นเสียงประกอบ

“ซื้อเผื่อเอาไว้ก็ดี มีไว้ไม่เสียหาย”

“รอบคอบจริงๆนะนี่” ผมเอ่ยแซวมัน มันจะมีอะไรให้ตกใจไปกว่านี้อีกไหมครับอยากรู้ มันไล่ไอ้เนมให้ออกไปก่อนจะป้อนข้าวป้อนยาให้แล้วให้ล้มตัวนอนด้วยกัน ก่อนนอนก็ได้ยินเสียงขลุกขลักด้านนอกมาเป็นระยะ

ตื่นมาอีกทีนาฬิกาเข็มสั้นชี้ไปเกือบถึงเลขสี่ คนข้างตัวยังนอนกอดก่ายตัวผมอยู่เลย รู้สึกว่าอาการจะดีขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ เริ่มมีแรงมากขึ้นแล้ว ปวดหัวน้อยลง แต่ยังเจ็บคออยู่ พอเริ่มขยุกขยิก อีกคนสะดุ้งตื่นขึ้น

“เป็นไงบ้าง”

“ก็ ก็โอเคขึ้นแล้วครับ” ผมเอื้อมมือไปโอบเอวตอบ ซุกหน้าเข้าอกแน่นของมันแล้วบี้หน้าส่ายหัวไปมาจนมันหัวเราะหึหึแล้วแกล้งบีบก้นผมอย่างมันเขี้ยว

“ฮื้ออ อย่าแกล้ง มันช้ำหมดแล้ว” มันหอมแก้มหนักๆไปหลายที

“แก้มใส แก้มนุ่ม แก้มสวย อยากฟัดว่ะ” ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แต่ผมไม่ได้เป็นคนแก้มย้วยพองหรือเป็นผู้ชายตัวเล็กอะไรหรอกนะครับ เกียร์มันขี้โม้พรรณนาเกินโลกไปงั้นละ อย่าจินตนาการกันไปไกล

กว่ามันจะปล่อยผมออกจากเตียงนี่นานเกือบยี่สิบนาที ผมบอกมันว่าจะไปทานข้าวเป็นเพื่อนมันด้วย เพราะเมื่อวานก็ปล่อยให้มันกินคนเดียว มันอาจจะเหงา หรือไม่เหงาแต่ผมก็ยัดเยียดให้ ถึงมันจะไม่ค่อยอยากร่วมมือ บ่นงุ้งงิ้งว่าไข้ยังไม่หายดี ไม่อยากให้ลุกอย่างโน้นอย่างนี้ แต่ผมก็ลุกไปจนได้

ออกมาก็เจอสายตาหลายคู่จ้องเป็นตาเดียว ลืมสนิทเลยว่าเพื่อนมาเยี่ยมกันคับห้อง แฮ่

“ตื่นแล้วเหรอวะ กูนึกว่าจะนอนกอดกันข้ามคืน หึหึหึ” แอบสะดุ้งนิดหนึ่ง ไอ้พิชคงไม่เห็นอะไรหรอก เดามั่วๆเฉยๆ แต่ดันถูกเสียอย่างนั้น

 “กินอะไรกันหรือยังวะ” ผมพูดเสียงเบากว่าปกติ

 “เค้าลงไปซื้อข้าวมาให้ละตัวเอง แต่ไม่ได้ซื้อให้ตัวเองนะ เห็นว่าข้าวต้มยังมีอยู่ในหม้อ อิอิ” มึงจะบอกว่าดีใจที่ประหยัดไปหนึ่งคนละสิไม่ว่า

“แล้วขนมาทำไมกันหมดวะ ไม่มีงานการทำหรือไง” ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แต่ก็แอบดีใจอยู่ลึกๆเหมือนกัน เวลาเป็นไข้ไม่สบายทีไร พวกมันก็จะยกโขยงมาหาตลอด

“คำพูดมึงสวนทางกับการกระทำไปนะ ปากนี่ยิ้มจะถึงโหนกแก้มอยู่ละห่า พวกกูก็มาดูว่ามึงยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่าก็เท่านั้นเอ๊ง”

“เสียงสูงทำไมวะไอ้คิม”

“ก็เท่านั้นเอง” มันแก้เสียงให้ทุ้มต่ำกับไอ้เนม

“ไปกินข้าวก่อน สี่โมงแล้ว” ไอ้คนข้างตัวก็เที่ยงตรงอย่างกับไม้บรรทัดเหล็ก ไอรักกินเลทก็ได้เถอะ ได้แต่เถียงในใจ

“แฮ่!!”

“เหยดแม่ม! สัตว์! กูตกใจหมด เกือบกระโดดไปข่วนหน้าแหก” อยู่ดีๆไอ้ไทป์ที่เดินออกมาจากห้องน้ำร้องเสียงแฮ่ดังไปถึงเซนทรัลเวิร์ล ผมไม่ทันได้ตั้งตัวเลยสรรเสริญมันไปยกใหญ่

“กร๊ากกก เป็นไข้แล้วขวัญอ่อนนะมึงอะ” คิมหันมาหัวเราะใส่

“หึหึ” คนทำผมตกใจหัวเราะคล้ายโรคจิต จะมีก็แต่เกียร์นี่ละที่รีบดึงผมไปนั่งให้เรียบร้อยแล้วจัดการข้าวกับยาให้ ส่วนตัวมันหย่อนก้นนั่งข้างตัวผมแล้วรอพวกนั้นคดข้าว เทอาหารใส่จานอย่างคุณชาย เจิดมากครับพี่

ทานข้าวเสร็จ พวกมันก็ย้ายตัวมาเล่นในห้องรับแขกสักพักใหญ่ๆ จนเจ้าของห้องไล่นั่นละถึงกลับไปกัน กว่าจะแยกย้ายก็เกือบสองทุ่มได้แล้ว ผมก็นั่งๆนอนๆจนเบื่อ พูดมากก็เจ็บคอ เดินมากก็โดนดุ เปิดคอมเล่นโทรศัพท์ก็ไม่ได้ โอ้ยชีวิตคนป่วย

“เกียร์ ผมว่าไปโกนหนวดเถอะ แอ๊บป่าเถื่อนมานานแล้วนะครับ” คือมันเป็นคนที่หนวดขึ้นไวมาก วันเดียวก็ขึ้นเป็นสากๆ นี่ก็ไม่ได้โกนมาสามวันแล้ว ดูแลไอรักอย่างดี แต่ตัวเองนี่ยิ่งกว่าโจรแถวตะเข็บชายเดน

“น่าเกลียดเหรอ” ห่างไกลจากคำว่าคนนะ กูพูดเลย

“ถ้าโกนจะดูดีกว่านี้”

 “อย่างนี้ไม่ดีเหรอ” คำถามเหมือนไม่มั่นใจ แต่หน้าตามึงเฉยเมยมากครับ

“ผมว่าหน้าเกลี้ยงมันดูสะอาดดี แต่มีหนวดเป็นสากๆนิดๆก็โอเคนะครับ แต่ไม่ใช่ยาวเฟื้อยแบบนี้” ผมยิ้มขำแกล้งมัน แต่ก็ต้องตกใจเหวอเพราะมันอุ้มตัวผมแล้วเดินไปวางบนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า

“นั้นจัดการให้หน่อย” มันยื่นหน้ามาหอมแก้ม ยื่นโฟมมาให้แล้วก้มหน้ามาให้ทำถนัดมือ แม้จะทำอย่างตั้งใจแต่ขอโทษเถอะครับ ผมรู้สึกว่าอีกคนจ้องมองไม่ห่าง แถมขยับตัวเข้าใกล้มากกว่าเดิม

“อืม...” ได้ข่าวว่าโกนหนวดธรรมดา อะไรจะทำให้มันส่งเสียงฟินได้ขนาดนี้

“เสร็จแล้วครับ อ้ะ” ผมจะกระโดดลงแต่โดนมืออีกคนจับเอวแน่น แล้วจับมือให้สอดเข้าไปในกางเกงของอีกคน ผมหน้าแดงเมื่อโดนของร้อนที่กึ่มๆอยู่กลางตัว

“ช่วยหน่อยสิ เกียร์เหนื่อยทำเอง” เหนื่อยก็ไม่ต้องปั่นมันสิวะ! ไอรักก็เหนื่อยโว้ย อยากจะโวยวาย แต่สถานการณ์ตอนนี้มัน...เขินงะ

“ผมไม่สบายอยู่นะ” ผมส่งสายตาออดอ้อนไปให้มัน เผื่อจะเห็นใจ

“ทำข้างนอกไง” มันก็ส่งสายตาหยาดเยิ้มกลับ มือเริ่มไต่มาถึงหน้าอกผม อีกมือหนึ่งกำมือผมแน่น นำจังหวะชักรูดไปด้วย แกล้งส่งเสียงร้องให้ชวนขนลุก แล้วก้มลงเม้มติ่งหูผมเบาๆ มือที่ขยี้ยอดอกผมเปลี่ยนมาชักไอรักน้อยให้เป็นจังหวะเดียวกัน

เอาวะ!...ไม่เสียวก็ต้องเสียววะคราวนี้!



TBC----------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>



+ไข้ยังไม่ทันหาย เจอของดีซะแล้ว เกียร์ไวไฟเสียจริง ฮ่าา
+คู่นี้มีออกในเรื่อง '+>> แก่แล้วไง...เล็กไม่เกี่ยง <<+ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37638.0;nowap)' ด้วยนะจ๊ะ หึหึ
+โซ่รักคนอ่านทุกคน

 :katai4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่26 ไม่สบายต้องดูแล* [18/10/13] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 18-10-2013 16:11:13
คุณหมอไอรักป่วย อ้อนมาก
เกียร์ดูแลคนป่วยดีมาก
แต่มาดีแตก ตอนหื่นนี่แหละ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่26 ไม่สบายต้องดูแล* [18/10/13] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 18-10-2013 16:44:08
ไม่สบายแล้วขี้อ้อนอย่างนี้เกียร์ไม่มีเบื่อไอรักหรอก
ออกจะรักมากอย่างนี้
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่26 ไม่สบายต้องดูแล* [18/10/13] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 18-10-2013 17:01:40
น่าฮ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :hao7:

มีโหดสัส v.2 ด้วย เดี๋ยวนี้เห็นว่ามันเป็นกากสัสแล้วนะเออ แอดมินมีเรื่องกันมั้ง

เกียร์หื่นตัลหลอด ตัลหลอดด :hao6:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่26 ไม่สบายต้องดูแล* [18/10/13] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Paracetamol ที่ 18-10-2013 18:49:23
แอร๊ยยยยยยยย ย  :o8:
น่ารักสุดๆเลย ทั้งเกียร์ทั้งไอรัก
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่26 ไม่สบายต้องดูแล* [18/10/13] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 18-10-2013 18:51:51
ไอรักเกียร์คู่นี้น่ารักมากกก
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่26 ไม่สบายต้องดูแล* [18/10/13] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 19-10-2013 00:32:13
หลงคู่นี้ขึ้นทุกวัน  :hao7:

เกียร์หื่นตลอดดดดดด  :hao6:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่26 ไม่สบายต้องดูแล* [18/10/13] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: พลอยสวย ที่ 19-10-2013 02:06:53
 :hao6:รักแกคนป่วย ระวังไข้กลับนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่26 ไม่สบายต้องดูแล* [18/10/13] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 19-10-2013 23:03:48
นั่น ป่วยยังไม่เว้น หื่นไปม้ายยยย เหอะๆ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่26 ไม่สบายต้องดูแล* [18/10/13] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 23-10-2013 12:36:25
เกียร์หื่นแม้กระทั่งตอนที่ไอรักไม่สบายอีกเหรอเนี่ย น่ากระทืบอะ555555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่26 ไม่สบายต้องดูแล* [18/10/13] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 23-10-2013 14:16:45
 :katai4:อยากอ่านแล้วอ่ะ รีบมาต่ออย่านานน๊าาาาาเดี๋ยวมันขาดตอน
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่27 กลับบ้าน* [29/10/13] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 29-10-2013 21:25:42
ตอนที่27



อื้อ...หนักจัง อะไรวะ


ลองตาปรือขึ้นแต่ก็ต้องรีบปิดลงหลับตาปี๋อีกรอบ ค่อยๆเปิดออกมาอีกรอบเพื่อปรับแสง พยายามพลิกตัวให้หลุดจากงูเหลือมที่พาดรัดทั้งเอวทั้งขาก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงฮึมฮัมคำรามเบาๆจากข้างตัว

ฮึ่ย...กอดกลับก็ได้วะ

หลังจากที่เกียร์รู้อิทธิฤทธิ์ความดื้อด้านของผมตอนไม่สบาย มันก็พยายามซื้อผักผลไม้มาให้ผมยัดจากเดิมเป็นเท่าตัว ถึงจะผ่านมาได้เกือบเดือน แต่เหมือนเรื่องนี้มันได้ฝังอยู่ในไมโครเอสดีของหัวสมองมันไปแล้ว คุณน้ำแข็งจึงพยายามระวังไม่ให้ผมเป็นไข้จนมันหัวหมุนอีก

“เกียร์ครับ พรุ่งนี้ผมกลับบ้านนะ” ตอนผมเรียกชื่อด้วยเสียงนุ่มมันแค่พยักหน้าตอบ เพราะตอนนี้มันกำลังพิมพ์งานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์มาหลายชั่วโมงแล้ว แต่พอพูดประโยคถัดมาก็หันมามองขมวดคิ้วแน่นเป็นปม

“ไปทำไม” ไอรักแค่จะกลับบ้าน ทำไมต้องเสียงแข็งด้วย T_T

“ไม่รู้เหมือนกัน พอดีแม่ผมโทรมาตามน่ะครับ” โทรมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่ลืมบอกมัน เมื่อวานผมอ่านหนังสือเพลินไปหน่อย ไม่ได้ขยันหรอกครับ ก็คุณน้ำแข็งนั่นละที่บังคับผม อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่ามันทำตารางเวลาชีวิตให้ผม จึงต้องทำตามที่มันกำหนดนั่นละ

“ไปด้วย” หืม..ช่วยคิดหน่อยได้ไหมครับ มึงตอบซะทันทีทันใดเชียว

“เกียร์ต้องรีบทำงานส่งภายในคืนพรุ่งนี้ไม่ใช่เหรอ อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ เดี๋ยวผมก็กลับมานะ” จบประโยคแรกมันหน้าบึ้งหันไปมองงานที่ทำค้างอยู่ จนผมต้องเดินไปลากเก้าอี้ไปนั่งข้างตัวแล้วลูบแขนมันเบาๆ

ถ้ามันส่งไม่ทันกำหนดต้องตายแน่ๆ เพราะวิชานี้มันไม่ถนัดเท่าไรนัก ส่งช้าโดนหักเป็นนาที หนึ่งนาทีต่อสองคะแนน ถึงคะแนนสอบของมันจะไม่ค่อยดีแต่อย่างน้อยขอทำคะแนนเก็บให้ดีก็รอดแล้ว ผมก็ช่วยอะไรมันไม่ได้ จึงได้แต่นั่งเป็นกำลังใจอยู่ข้างๆ

แต่พรุ่งนี้ผมต้องกลับบ้าน เลยไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนมันเท่านั้นเอง

“ไปกี่โมง เดี๋ยวไปส่ง” มันถอนหายใจแล้วบอก

“คงออกสายๆหน่อยละครับ ผมไม่ได้รีบอะไร อ้อ ขับไปเอารถผมที่คอนโดแล้วค่อยไปแล้วกันเนอะ” บ้านผมไกลจากที่นี่พอสมควร จะขับมอเตอร์ไซค์ไปก็อันตรายอยู่ อีกอย่างตอนนี้ไม่รู้ลูก(รถ)ผมจะเป็นตายร้ายดียังไง

ผมจะลุกไปเดินอ้อมไปหยิบนิตยสารที่อยู่อีกข้างของโต๊ะที่เกียร์ทำงานอยู่ แต่โดนอีกคนเกี่ยวเอวเสียก่อน ตัวจึงอยู่บนตักของอีกคน มันซบไหล่แล้วหายใจเข้ายาวก่อนจะผ่อนออกเบาๆ

“..เหนื่อย..” อะ อ้อน นี่เขาเรียกว่าอ้อนใช่ไหมครับ เสียงอ่อยฉิบ ฟังแล้วเขินชะมัด

“พรุ่งนี้ผมไปเองก็ได้ครับ เกียร์ทำงานเสร็จจะได้พักผ่อน”

“เรื่องงานหรอก” มันพูดแล้วถอนหายใจอีกรอบ ถึงได้ว่าหน้าไปไวกว่าอายุตั้งเยอะ กร๊าก

“ค่อยๆทำไปเดี๋ยวมันก็เสร็จเนอะ ไม่ต้องฝืนตัวเองนะครับ พักสมองพักสายตาบ้างแล้วค่อยทำใหม่ก็ได้” มันอืออาตอบในลำคอ พยักหน้ากับไหล่ผมแล้วกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น

“ผมไปเอานมอุ่นๆมาให้คุณทานดีกว่า อืม..หรือจะเอาโอวัลตินดี” ผมเอียงคอถาม เดี๋ยวนี้มันมีพัฒนาการณ์เริ่มชอบนมเหมือนกับผมแล้วนะครับ เพียงแต่มันชอบนมจืด ส่วนผมชอบทุกรส โดยเฉพาะช็อกโกแลตจะโปรดปรานเป็นพิเศษ ส่วนกาแฟมันโดนผมจำกัดจำนวนแก้วครับ ถึงคาเฟอีนจะมีประโยชน์ แต่ผลเสียมันก็มีเหมือนกัน อาหารการกินสมัยนี้มันก็เหมือนดาบสองคมนั่นละครับ มีดีแต่ก็มีโทษ บางทีภายนอกเราจะเห็นว่าเป็นของที่มีคุณประโยชน์มากมาย แต่มันก็อาจมีสารปนเปื้อนอยู่ก็เป็นได้ ผมเลยบอกให้มันดื่มอาทิตย์ละสามแก้วก็พอ (ความจริงดื่มทุกวันได้ครับ แต่ไม่ควรเกินสองแก้ว)

“นม” มันก้มถูๆจมูกแล้วขบหัวนม จนผมร้องจ๊ากเสียงดัง แม่งเล่นกัดมาได้ หัวนมคนนะโว้ยไม่ใช่คิทแคท เคี้ยวอร่อยเลยสิมึง ถึงจะไม่ได้แรงมาก แต่มันเล่นทีเผลอ ไอรักก็ตั้งรับไม่ทันสิวะครับ!

“ฮึ่ยย หยุดเลยไอ้คุณน้ำแข็ง งานไม่เสร็จจะออกลายหื่นอีกนะ เดี๋ยวก็เอานมพิษมาให้กินเลยนิ” ผมเอาอุ้งมือดันหน้าผากให้ห่างจากตัว พอเห็นตาเยิ้มๆ แล้วทำเป็นเอาฟันกระทบกันดังกึกๆๆ ทำเอาผมอยากจะกระตุกปลั๊กคอมให้มันดับไปพร้อมงานมันไปเลย

“นั้นขอเป็นนมชมพูๆ เป็นตุ่มแดงๆน่ารักแบบนี้แล้วกัน ถึงจะพ่นพิษก็ยอม หึหึ”

ไอ้เชี่ยหื่นนนนนน




“น่ารักจังแฮะ อยากเลี้ยงชะมัด” เปรยออกมาเบาๆ ผมนั่งดูนิตยสารเกี่ยวกับสัตว์อยู่บนโซฟา

“ไหน” อะจ๊ากก ขวัญเอ๊ยขวัญมา ขวัญไม่มาไปหาเรียม ถุ้ย!

“หึ แอบดูอะไร สะดุ้งซะขนาดนั้น” สะดุ้งสิ มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง แหนะ ยังมาอมยิ้มขำใส่กันอีก ฮื้มมม น่ารักว่ะ

“แมวน่ะครับ พันธุ์นี้หูหลุบด้วยอะ ตาสีฟ้ากลมบ๊อกเลย” ผมรีบนำเสนอวางหนังสือบนหน้าตักมันทันที

“อยากเลี้ยงเหรอ ไม่มีเวลานะ” มันลูบหัวผมแล้วดึงมาให้ซบไหล่

“ถ้าวันไหนผมไม่ว่าง คุณก็เลี้ยงไง” ผมเงยหน้าไปยิ้มทะเล้นให้ เลยโดนมันเขกหัวไปตามระเบียบ ตบด้วยหอมแก้มฟอดใหญ่แล้วเปิดดูรูปในเล่มผ่านๆ

“ไม่เอาอะ”

“แต่มันอ้อนได้ด้วยนะ ช่วยจับหนูเหมือนทอมแอนด์เจอร์รี่ที่คุณชอบดูด้วย” แอบอ้างสรรพคุณที่เหมือนจะไม่เกี่ยว มาทำให้มันเกี่ยวได้

“เดี๋ยวก็มาตีกันตาย ปวดหัว”

“ฮื้อ เลี้ยงตัวเดียวพอไง”

“หมายถึงแมวน้อยตัวนี้ต่างหาก จะไปกันรอดเหรอ แมวเลี้ยงแมว” มันจิ้มหัวผมรัวๆด้วยปาก ทำไมชอบคิดว่าผมเป็นแมวปวกเปียกอยู่เรื่อยเลยวะ ตัวก็ใหญ่ ซิกแพ็คกูก็มี นมก็แฟบไม่มีให้ยาน หล่อเหลาแข็งแกร่งอย่างนี้เสือชัดๆ

“ผมคนนะไม่ใช่แมว ฮู้! พูดไปเรื่อย” พูดแล้วทำปากจู๋ใส่ แอบรู้สึกได้ถึงมือตุ๊กแกที่เริ่มมาเกาะแกะแถวเอว

“หึหึ”

“เลี้ยงแมวก็ดีออก เงินไหนมาเทมานะจะบอกให้ แมวกวักงายยย”

“หึ ซื้อมาไอรักก็เล่นแต่กับมัน แล้วก็ไม่สนใจเกียร์ ทิ้งไปอยู่กับไอ้โง่ขนฟู” มันส่งเสียงปฏิเสธแล้วพูดต่อ โหมึงพูดออกเป็นฉากๆอย่างกับผู้กำกับ นี่คือเหตุผลที่แท้จริงของคุณใช่ไหมคุณน้ำแข็ง

“ไม่หรอก” ผมตอบเสียงอ่อย ก็คนมันอยากเลี้ยงนี่นา

“อย่าเลย มันยิ้มเหมือนหมาไม่ได้ คุยไปก็ไม่รู้เรื่อง พันขาน่ารำคาญ เอาเวลาไปทำงานหาเงินกินข้าวเที่ยวกันสองคนดีกว่า” อีกคนพูดงึมงำในลำคอ พลางเอาจมูกซุกไซร้ไปตามใบหู ขบเบาๆให้ผมจักจี้ ไล่เรื่อยลงมาถึงซอกคอ

"..อื้อ ..เดี๋ยว.."

"..หอม"

"ยังไม่ได้อาบน้ำ จะหอมได้ไง"

"นั้น...ไปอาบกัน" มันกระซิบถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า อุ้มผมขึ้นตัวลอยแล้วพรมจูบไปทั่วหน้า

ถ้าอย่างนี้มึงไม่ต้องถามความเต็มใจไอรักก็ได้นะ

"มะ ไม่ทำในห้องน้ำนะครับ" ผมปิดหน้าปิดตาพูดแล้วเอนไปซบอกคนที่หัวเราะหึหึ ที่พูดดักแบบนี้เพราะรู้ชะตากรรมตัวเองในอนาคตอันใกล้นี้ไง เวลาฟังเสียงก้องดังในห้องน้ำมันน่าอายออก

เกียร์พามาอาบน้ำข้างนอกห้องนอนเพราะใกล้กับห้องรับแขกที่สุด รีบถอดเสื้อกางเกงของตัวเองและผมออก ก่อนจะดึงปราการชิ้นสุดท้ายของทั้งคู่ให้หลุดจากตัว ยังไม่ทันอ้าปากหวออย่างตกใจกับเกียร์น้อยที่กำลังพองตัวตุงขึ้นเรื่อยๆในกางเกงอย่างใหญ่โตก็มีริมฝีปากของอีกคนมาปิดเสียก่อน ผมครางเบาๆ ปรือตาลง เห็นมือหนาคว้าครีมอาบน้ำมาลูบลำตัวอย่างลวกๆ ผมสะดุ้งเมื่อนิ้วเปียกชุ่มแอบไล้วนแล้วค่อยๆสอดเข้าไปหนึ่งนิ้ว

"อะ...อื้อ เกียร์...ยะ ฮ๊า!"

"ไม่ทำในนี้หรอก แค่ขอขยายก่อน" มันยิ้มหื่น มือหนึ่งยังทำหน้าที่ทำความสะอาดตัวเป็นอย่างดี อีกมือกำลังเพิ่มนิ้วแล้วถ่างหมุนให้ขยายมากขึ้น ผมทุบหลังมันเสียงดังด้วยความหมั่นไส้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้มันสะทกสะท้าน หนำซ้ำยังหัวเราะแกมเอ็นดูแล้วป้อนจูบมาให้อย่างดูดดื่ม

ขาผมแทบไม่มีเรี่ยวแรงจนต้องพิงอีกคนเอาไว้ เกียร์คงรู้เวลา รีบชำระล้างตัวทั้งคู่ อุ้มมาวางบนพรมเช็ดเท้าหน้าห้องน้ำ บอกให้ผมเกาะขอบประตูรอ ส่วนมันกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปในห้องนอน ก่อนจะกลับมาพร้อมผ้าเช็ดตัว และพวกอุปกรณ์เตรียมพร้อมให้ไอรักเสียตัว

ผมรีบยืนเฉียงกุมเป้าหันหน้าหนีด้วยความอาย แต่เหมือนจะเข้าทางอีกคน มันหยุดยืนประชิดกับหลังแล้วถูเกียร์น้อยเข้ากับก้นผมไปมา มือเช็ดตัวตามร่างกายให้ทั้งผมและตัวมันเอง

"เดี๋ยวนี้หัดอ่อยกันแล้วหรือ หื้ม" มันเด้งเป้า จับให้จาผมหนีบกัน แล้วกระเด้าเข้ามาสีกับหว่างขาผมรัวๆ ผมร้องครางด้วยความเสียว

"ปะ..เปล่า อื้อ อ..อย่าแกล้งกัน.."

เกียร์อุ้มผมไปยังโซฟาอีกรอบแล้วผลักให้นอนลง ยกขาข้างหนึ่งให้พาดกับพนักโซฟา แล้วยกอีกขาให้ผมเกี่ยวรั้งเอาไว้เอง ผมรับรู้เลยว่าตัวเองกำลังแดงก่ำขนาดไหน มันร้อนเหมือนจะระเบิดออกมาเสียให้ได้ กี่ครั้งต่อกี่คราวก็ไม่เคยชินเสียที

มันกวาดสายตามองทั้งตัวอย่างหวานเชื่อม แล้วอมยิ้มกริ่มกับท่าทางของผมอย่างพอใจ มันเกลี่ยปอยผมไปทัดหูให้ อีกมือกำลังใส่ถุงยาง ชโลมเจลกับลูกชาย รามมาถึงถ้ำของผม เรามองตากันและกัน มันทอดความรู้สึกทั้งหมดที่มีอยู่ในอกด้วยสายตาคมดุนั้น ผมยิ้มให้อีกฝ่ายที่กำลังก้มลงมาเรื่อยจนริมฝีปากแตะกันอย่างเสน่หา

"อ๊า อื้อ! เกียร์ พอแล้ว ไม่เอานิ้วแล้ว"

"หึหึ..คนเ่ก่ง" มันค่อยๆดึงนิ้วออกแล้วดูดยอดอกทั้งสองอย่างเมามัน จากนั้นก็ลากลิ้นไปเลียซอกคอผม มือรูดทักทายส่วนอ่อนไหวที่กำลังสั่นระริกของผมไปด้วย

"ฮ้ะ ยะ อย่าทำเป็นรอยนะ" จิตใต้สำนึกตักเตือนว่าพรุ่งนี้ต้องไปเจอครอบครัว ถ้าเห็นคงไม่ดีแน่ มันก็คงรู้ดี เพราะถ้าเป็นปกติคงทำเป็นรอยตั้งแต่อยู่ในห้องน้ำแล้ว

เกียร์ค่อยๆกดตัวเองเข้าไปช้าๆอย่างอ่อนโยนเหมือนทุกคราว แรงเต้นตุบตอดรัดทันทีที่มันเข้ามาได้เพียงส่วนปลายหัวเท่านั้น มันร้องซี๊ดแล้วกัดฟันอย่างอดทน

"อืม..ผ่อนคลายหน่อยนะที่รัก เกียร์เข้าไปไม่ได้..."

ผมหายใจเข้าออกลึกๆ พยายามผ่อนคลายจากการเกร็งตัวอย่างที่มันบอก เกียร์เอื้อมมือไปช่วยรูดไอรักน้อย ยืดตัวขึ้นมาจูบให้คลายความเจ็บจนกลายเป็นเสียวแทน จากนั้นมันเริ่มดันเข้ามาตอนที่ผมกำลังเผลอไผลไปกับรสจูบที่แสนอ่อนหวาน

"เข้าไปหมดแล้ว...เห็นไหม" มันจับมือให้ไปแตะช่องด้านล่าง ผมรีบชักมือกลับแต่มันยึดไว้แน่น ให้ตายสิ แค่เห็นสีหน้ามันตอนนี้ก็จะทำให้ผมใจสั่นจนจะตายเสียให้ได้ แค่นี้ก็เขินมากพอแล้ว

เมื่อผมเริ่มชินกับสิ่งใหญ่โตที่แช่อยู่ เกียร์จึงค่อยๆขยับสะโพงตัวเองช้าๆ ช่วยปรนเปรอโดนชักนำไอรักน้อยไปในจังหวะเดียวกัน เกียร์เริ่มเพิ่มแรงขยับสะโพกให้รัวเร็วขึ้น เสียงร้องครางทั้งผมและเกียร์ดังระงมคับห้อง ต่างฝ่ายต่างร้องเรียกชื่ออีกคนไม่ขาด

"...อืม..ไอ...ฮึ่ม..."

"อ้ะ...อ๊า...อ๊า...ฮะ..เกียร์....เกียร์..."

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงดังจากประตูทำผมชะงักงัน แต่อีกคนไม่ได้สนใจ ตะบั้นซอยอย่างไม่ลืมหูลืมตา จับหน้าผมให้หันตรงมามองมันแล้วมอบจูบที่เร่าร้อนไม่ให้วอกแวกไปสิ่งอื่น

"คนดี...ให้เกียร์ฟังเสียงหน่อยนะ" มันลูบริมฝีปากให้คลายออก เพราะผมเม้มปากไว้แน่น

"ฮึก..ตะ แต่..อื้อ..ใครมาข้างนอก...ฮะ..ไม่รู้.."

"ช่างมัน.."

ก๊อก ก๊อก ก๊อก..ปึง ปึง ปึง ปึง

"ไอ้เกียร์ อยู่เปล่าวะ เปิดให้กูหน่อย" ผมหลับตาปี๋ กลั้นเสียงไว้เพราะกลัวจะเสียงเล็ดลอดออกไป

"อึก..อือ..อื้ออ.."

ปึง ปึง ปึง ปึง

"เฮ้ย เปิดให้กูหน่อยดิวะ มือกูจะง่อยแล้วสัตว์!"

"อื้อ...อ๊ะ..อ๊า.. โอ้ะ..โอ้ย..อ๊า.."มันกระแทกลงมาอย่างหนักหน่วงจนก้นลอย ขาทั้งสองอ้ากว้างชี้ขึ้นเพื่อรับแรงขยับสะโพกที่ถี่หนักขึ้นพร้อมเสียงครางหวีดร้องลั่นมาอย่างกลั้นเอาไว้ไม่ไหว

ก๊อก ก๊อก ปึง ปึง ปึง

"มะ..ชะ.. ช้าหน่อยเกียร์.. แฮ่ก อื้ออ.." มันช้าลงเพียงนิดเดียว แล้วถามเสียงพร่า

"..รักเกียร์ไหม"

"อ..อ้ะ..จะ..ฮะ..แล้ว.." มันถอดเกือบหมดแล้วใส่เข้าไปอีกครั้งอย่างเน้นๆย้ำอยู่อย่างนั้นหลายครั้ง แล้วเปลี่ยนมาซอยเร็วขึ้นเพราะใกล้จะถึงจุด ผมหน้าเหยเก โอบคอมันลงมาแล้วกับลงบ่าอีกคนด้วยความเสียวซ่าน

"รักไหม..รักเกียร์ไหม" มันถามซ้ำอีกรอบเมื่อไม่ได้คำตอบ

"รัก ไอรักรักเกียร์ อ้าา..."

"เหมือนกัน" เราจูบกันอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นจูบที่อ่อนโยนและอบอุ่นในหัวใจผมเหลือเกิน ผมไม่รับรู้ว่าใครจะมาได้ยิน ไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้นนอกจากสัมผัสที่อ่อนหวานนี้ ไม่นานเราก็ปลดปล่อยออกมาอย่างที่ใจต้องการ

"อื้อ..เอาออกไปได้แล้วครับ.." เอ่ยไล่เมื่อลูกมันยังแช่เอาไว้ในช่องหลังของผมอยู่

"ขอแปบหนึ่ง" มันซุกกับคอบอกงึมงำแล้วนิ่งเกือบนาทีได้ก็ค่อยๆถอดออก จัดการถอดถุงยางไปทิ้งถังขยะเล็กข้างโซฟา แล้วล้มตัวทับกอดผมอีกที

"เมื่อกี้ มีคนเคาะประตูนี่ครับ" ผมอ้อมแอ้มบอกมันอย่างขัดเขิน คิดเรื่องที่เกิดเมื่อตะกี้แล้วเรียกเลือดลมได้ดีจริงๆ ทั้งเร่าร้อน และตื่นเต้นกังวลว่าใครจะมาได้ยินหรือเปล่า

"ช่างมัน" แหนะ ช่างมงช่างมันอีกละ

"เผื่อเขาจะมีธุระสำคัญนะครับเกียร์ ลองโทรไปถามเพื่อนคุณก่อนดีกว่า" ถ้าจำเสียงไม่ผิด คงจะเป็นคุณพัต

"ไม่ต้องโทรให้เสียเวลาหรอก" มันพูดแล้วเดินไปหยิบเสื้อกับกางเกงมาให้ใส่กันลวกๆ ก่อนจะเดินไปเปิดประตู ยังไม่ทันเปิดกว้างก็ต้องตกใจเพราัะพัตได้นอนแอ้งแม้งพื้นห้องเสียอย่างนั้น

"แฮะๆๆๆ กูไม่ได้ตั้งใจฟังเลยนะจริงจริ๊ง กูเห็นพื้นสกปรกเลยอยากทำความสะอาดให้ แฮะๆๆๆ" พัตสะดุ้งเพราะสายตาเกียร์หรือเพราะโดนจับได้ไม่รู้ แล้วทำเป็นเอาเสื้อเช็ดถูพื้นอย่างตั้งใจ

"มีไร" พัตสะดุ้งอีกรอบ ตกใจก็ไม่แปลกหรอกครับ ก็เกียร์พูดเสียงดุดังขนาดนั้น

"ฮะ..เออ..อ๋อ..กูว่าจะมาดูว่ามึงเริ่มทำงานยังไงว่ะ ไปหาไอ้เนแม่งไม่อยู่ห้องพอดี" เนแว่นจะเก่งกว่าเพื่อนคนอื่นๆ แต่ผมสงสัยว่างานส่งภายในพรุ่งนี้ แต่มึงยังไม่เริ่มทำอีกเหรอ ของเกียร์จะเสร็จอยู่แล้ว อย่างนี้เขาเรียกว่าดองชัดๆเลยครับพัตเอ๊ยย

เกียร์หันมามองผมครู่หนึ่งแล้วเดินไปโต๊ะทำงาน เซฟไฟล์ที่ทำก่อนจะโยนแฟลชไดรฟ์ไปให้

"กูดูในห้องก็ได้มึง อยากรู้ว่ากำหนดแผนงานประมาณไหนเฉยๆ" เสียงคุยแว่วๆดังออกมา ผมลุกขึ้นนั่งนิ่ง ก็ไม่อยากจะเดินไปไหนนี่นา มันยังเจ็บอยู่เลย ดีที่มันไม่ได้เล่นท่ายากอะไร ถ้าวันไหนมันคึกแบบพิสดารผมนี่โคตรจะเมื่อยเลย

"ไปดูที่ห้อง" ผมหันไปมองเมื่อได้ยินเสียงเท้า เกียร์กลับมานั่งข้างๆตามเดิมแล้วเปิดโทรทัศน์ดูการ์ตูนอะไรของมันไป

"สวัสดีครับ"

"อ้าวเฮ้ยดีมึง กูว่าจะทักมึงตั้งแต่เข้ามาแล้ว แต่เห็นหน้าไอ้นี่แล้วกูเงิบเลยว่ะ คนเหี้ยอะไรดุฉิบหาย" พัตแขวะเพื่อนตัวเอง เกียร์ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะการ์ตูนโปรดฉายพอดี คือมันจะให้ความสำคัญค่อนข้างมากๆเลยละไอ้การ์ตูนอะไรนี่

"อ่า แล้วพัตมาตั้งแต่..?" ผมลองแย็บถาม พลางมองปฏิกิริยาอีกคน และก็ต้องอยากจะลุกออกจากตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอดเพราะท่าทางมันเหมือนจะได้ยินอะไรมาพอสมควร

"มึงไม่ต้องกลัวว่ากูจะได้ยินเสียงจิ๊จ๊ะอิ๊อ๊ะอะไรของพวกมึงกันหรอกนะ กูไม่ได้ยินอะไรเลยจริงจริ๊ง แล้วกูก็พึ่งมาตอนไอ้เกียร์เปิดประตูออกมาพอดีด้วย ไม่ได้มาตั้งนานแล้วจริงจริ๊ง อารมณ์ก็ไม่ได้ขึ้นอย่างที่พวกมึงคิดด้วย จริงจริ๊ง" เสียงสูงทุกประโยคอย่างนี้กูขอเอาหัวเป็นประกันเลยว่ามึงโกหกทุกประโยคชัวร์ ผมหันไปซุกกับต้นแขนของคนข้างตัวอย่างหาที่พึ่ง ไอ้เกียร์ก็ปารีโมทใส่พัตอย่างจัง แล้วช่วยบังตัวเอาไว้ไม่ให้ผมเขินไปกว่านี้

"โอ้ยย ห่า ปามาได้ มันเจ็บนะโว้ย ก็กูไม่ได้เห็นได้ยินอะไรเลยนะมึง ไม่เห็นต้องเขินกันเลยนี่หว่า" ยังมีหน้ามาโกหกหน้าตายอีก แค่นี้ไอรักก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว ยิ่งมันพูดก็ยิ่งรู้ว่ามันได้ยินชัดเจน ฮื้อๆๆ

"กลับไปไป๊"

"หึหึ เออก็ได้วะ ไม่เห็นต้องหวงต้องห่วงขนาดนั้นเลยสัตว์ อยากได้หน้าเอาใจเขาละสิห่า กูไปละเจ้าชาย ไว้เจอกัน" ผมพยักหน้ากับแขนเกียร์ให้ ได้ยินเสียงปิดประตูก็ต้องถอนหายใจอย่างโล่งอก

"ทีหลังไม่เอาอย่างนี้แล้วนะเกียร์ ผมอาย" ผมหน้าบึ้งบอกมันที่มองมาอมยิ้มก่อนอยู่แล้ว

"แต่ทีหน้าได้ใช่ไหม" ดูมัน

"ทีหน้ามีได้ แต่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้ทำ" ผมยิ้มเหนือมัน แล้วจ้องตาให้รู้ว่าทำจริง

"ล้อเล่นๆ" ทีเรื่องนี้รีบพูดเชียวนะมึง



.........................................



"ตอนเย็นจะมารับ"

"ค่ำๆครับ ถ้าประมาณสองทุ่มก็กำลังดีเลย" รู้สึกว่าผมจะแก้คำพูดมันหลายรอบของวันนี้แล้วนะครับ รั้นจะมารับตอนเย็นตลอด นี่ก็ปาไปเกือบสิบโมงแล้ว วันนี้กะจะอยู่กับครอบครัวนานๆสักหน่อย

"จะรีบทำงานให้เสร็จ หกโมงจะมารับนะ" มันได้ฟังผมพูดบ้างไหม

"เฮ้ออ แล้วแต่คุณแล้วกัน จะออกมาก็โทรมาบอกก่อนนะ" ผมบอกอย่างจนปัญญา จะดึงมือที่มันกุมเอาไว้ออก แต่ก็ไม่หลุด ผมหันไปเลิกคิ้วมองมัน

"จูบก่อน"

"หืออ ไม่ได้ครับ นี่หน้าบ้านผมนะ"

"หอมแก้มสิ" มันไม่ยอม แถมมีการเปลี่ยนที่เปลี่ยนทางให้ด้วย ผมถอนหายใจ ถึงมันจะคิดว่ารถผมติดฟิล์มมืดก็เถอะ แต่มันไม่สมควรสักเท่าไร มองดูอีกคนที่แววตาคาดหวังและดื้อรั้นว่าต้องได้ ไม่ได้ไม่กลับ ผมเลยจับมือที่ติดกันอยู่ขึ้นมาบรรจงจูบเบาๆบนหลังมือใหญ่

"ไปนะครับ" ผมอาศัยช่วงตอนที่มันช็อคค้างแล้วรีบดึงมือเปิดประตูออกไป แอบดูมันจากข้างประตูบานใหญ่กว่ารถจะเคลื่อนตัวออกไปได้ก็เกือบสิบนาที ผมหัวเราะคิกคักเพราะทำให้มันอึ้งได้ ก็เล่นแสดงความรักแบบชายหญิงขนาดนั้น มันไม่เขินก็แปลกแล้ว

"ทำอะไรน่ะคะตัวเล็ก" คุณหญิงแม่เอ่ยจากข้างหลัง เล่นเอาผมสะดุ้งสุดตัว

"โอ้ยย ตกใจหมดเลยมาม๊า โอะฮาโย โกไซอิมัสครับ"

"สายเอาป่านนี้ น่าจะคนนิจิวะได้แล้วนะคะ ว่าแต่นั่นรถลูกไม่ใช่หรือคะ ใครขับออกไปละ"

"อ๋อ เกียร์มาส่งน่ะครับ"

"เกียร์เหรอคะ"

"ครับ อ้าวแล้วพี่กับแด๊ดไปไหนละครับ" ปกติวันหยุดพ่อผมมักจะออกมาเดินข้างนอกบ้านกับแม่น่ะครับ ไม่เห็นก็เลยแปลกใจ

"แด๊ดลูกอยู่ข้างบนจ๊ะ ส่วนพี่ๆเขาไปทำงานเป็นปกติ แต่เดี๋ยวเย็นๆก็กลับมาแล้ว เห็นบ่นๆว่าคิดถึงลูกนะคะ" แม่ยิ้มหวาน ผมกับแม่กอดกันเดินเข้าไปในบ้าน

"ขึ้นไปพักผ่อนให้สบายเนื้อสบายตัวก่อนเถอะจ๊ะตัวเล็ก ถ้าจัดโต๊ะเสร็จจะให้แม่บ้านขึ้นไปเรียกนะคะ" แม่ดันหลังให้ขึ้นไป

"อ้าว" ผมอุทานแปลกใจ ปกติจะให้คนขึ้นไปตามพ่อมาคุยเล่นจนกว่าจะจัดโต๊ะอาหารเสร็จ แต่ก็น้อยครั้ง เพราะอย่างที่บอกว่าตอนวันหยุดท่านจะชอบออกมาเดินเล่นบ้าง อยู่ข้างล่างบ้าง ดูโทรทัศน์ในห้องโถงกับแม่บ้าง ยิ่งเวลาผมกลับบ้านก็ไม่ขึ้นไปข้างบนหรอก แต่พอไม่เจอก็ผิดวิสัย ผมเลยงงๆ

แต่ก็ต้องเลิกคิดอะไรแปลกๆไปเพราะหันไปเห็นอะไรดุ๊กดิ๊กๆแอบอยู่ข้างเสาใหญ่ในบ้านที่อยู่ใกล้ๆกระจกบานใหญ่เต็มพื้นที่ของผนังที่เปิดรับอากาศจากด้านข้าง ผมค่อยๆย่องอย่างช้าๆ เห็นเป้าหมายระยะประชิดก็ส่งเสียงดัง

"แฮ่!!!!"

"โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง" สุนัขสองตัวสะดุ้งโหยง พอหันมาเห็นผมเท่านั้นละ รีบกระโจนเข้าเกาะแกะคลอเคลียยิ่งกว่าเด็กนั่งดริ๊ง

"ฮ่าๆๆ ใจเย็นครับๆ สวัสดีครับไอแดด ไอหมอก มานั่งทำอะไรตรงนี้ละ" จะหาว่าผมบ้าก็ได้ แต่สุนัขบ้านผมพูดด้วยแล้วพวกมันจะเข้าใจ ผมว่าสุนัขส่วนใหญ่ที่ถูกฝึกมาหรืออยู่กับเรามานานก็เป็นทุกตัวนะครับ

"โฮ่ง โฮ่ง" ทั้งสองตัวอะเลิทกระโดดโย่งเย่ง เห่ามาทางผมแล้วหันไปเห่าด้านนอกที่กั้นด้วยกระจก ผมเพ่งไปมองก็เห็นสัตว์เล็กตัวหนึ่งสีขาวดำ ลวดลายคล้ายวัว แต่ก็ไม่ใช่

"เฮ้ย" ผมอุทานออกมาด้วยประเด็นหลากหลายที่อยู่ในสมอง


หนึ่ง..ลูกแมวตัวหนึ่งที่ไม่น่าจะถึงหนึ่งเดือน ร่างกายผอมกะหร่อง ขนเป็นกระดำกระด่างเนื้อตัวเปื้อนดิน
สอง..ไอแดด ไอหมอกจะกระโจนไปฆ่ามันหรือเปล่า เพราะปกติสัตว์หน้าไหนจะเข้ามาในพื้นที่มันไม่ได้เลย แต่ก็แปลกเพราะดูท่าแล้วคงจะไม่ทำ
สาม..มันอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากคนที่กำลังตัดหญ้าด้วยเครื่องสะพายใบมีดคมกริบ
และสี่..ผมรู้สึกถูกชะตามาก ถึงจะไม่ใช่แมวพันธุ์ราคาแพงอะไร แต่มันก็คือหนึ่งชีวิตที่ควรดูแลเอาใจใส่ไม่แพ้กัน

ผมได้สติก็รีบเดินออกไปจากบ้าน แล้วเรียกคนตัดหญ้าเอาไว้

“คะ ครับคุณหนู” คนสวนชะงักแล้วตอบอย่างประหม่า

“หยุดตัดหญ้าแปบหนึ่งนะครับ” เขารีบปิดเครื่องแล้วหันมามองผมที่เดินผ่านเขาไปอย่างงงๆ

แมวสะดุ้งถอยหลังหลายก้าวเมื่อเห็นผมนั่งยองมองตัวเองด้วยระยะประชิด แววตาหวาดกลัวพร้อมที่จะหนีตัวเปรียวไปได้ทุกเมื่อ

“เรามาดี มาทำอะไรตรงนี้ละ..” ผมชะงักไปเมื่อมาสังเกตใกล้ๆ ดวงตาดำขลับนั้นลืมตาอยู่บนโลกมาไม่กี่วัน ยังต้องดิ้นรนสู้ชีวิตมาตัวเดียวจนมีบาดแผลเต็มตัวขนาดนี้ มันสมควรเจอในวัยนี้แล้วเหรอ ผมนิ่งไปก่อนจะตัดสินใจอะไรบางอย่าง

“มาอยู่ด้วยกันไหม” ผมยื่นมือวางบนดิน ลองวัดดวงว่าเขาจะยอมรับไปอยู่กับผมไหม น่าแปลกที่ผมรู้ว่าแมวเลี้ยงให้มันเชื่องน่ะยาก เรียกให้มาก็ไม่มาหรอก แล้วยิ่งลูกแมวที่พึ่งเกิด แถมยังไม่เคยคลุกคลีกับคนด้วยแล้วยิ่งคุยกันลำบาก แต่ผมเห็นสายตาที่สะท้อนความลังเลจากดวงตาคู่นั้น เลยคิดจะลองดูกับมันสักตั้ง

“เราจะดูแลให้ดีที่สุด ถ้าเชื่อใจกัน” ผมขยับมือเข้าไปใกล้มากขึ้น แต่เจ้าตัวกลับถอยเพื่อเว้นระยะห่าง

ผมนั่งอยู่ตรงนั้นสักพักใหญ่ ถ้าเขาไม่หนีไปก็แสดงว่าเรายังมีหวัง ไม่มีอะไรมาหลอกล่อ แค่ยื่นมือไปให้เขาได้ตัดสินใจจากความเต็มใจจริงๆ

จนในที่สุดผมก็ยิ้มออกเมื่อแมวตัวนั้นค่อยๆขยับเท้าหน้ามาวางไว้บนฝ่ามือผม แล้วร้องเสียงเล็กเสียงน้อยอย่างน่าเอ็นดู ผมลูบขนกระด้างและเปื้อนฝุ่นเปื้อนดินนั้นอย่างไม่รังเกียจ

“ให้ดิฉันไปซื้อนมให้มันดีไหมคะ” ผมชะงักเมื่อเสียงด้านหลังดังขึ้น หันไปก็เห็นแม่บ้านสี่-ห้าคนยืนอยู่มองมายิ้มๆ ผมเลยยิ้มแล้วตอบไป

“ดีเลยครับ แต่ซื้อนมแพะนะ แล้วก็อาหารน้ำ อ้อถาดอาหารด้วยนะครับ” ผมศึกษามาแล้วละว่าแมวทานนมวัวไม่ได้ โชคดีจริงๆที่อยากเลี้ยงพอดี ถึงเวลาที่ต้องหาวันว่างๆไปเดินหาซื้อของแมวแล้วละ

ลองจับตัวขึ้นมาดูด้านหลังก็รู้ว่าเป็นเพศเมีย ผมยิ่งหลงรักเข้าไปใหญ่

“ค่ะ ได้ค่ะ” ผมลุกขึ้นยืน แล้วก้าวเข้าบ้านไปพร้อมเพื่อนใหม่อีกตัว มีอีกสองตัวที่เดินตามมาให้กำลังใจติดๆ

“ไม่ต้องเหนื่อยแล้วนะ ไอซิส”


+++++++++++++++++++++++++++


+อยากจะมาต่ออีกเยอะๆยาวๆ แต่เวลาและพันธะหลายอย่างมัดตัวเราเอาไว้ จึงต่อได้เท่านี้ค่ะ T_T
+ไม่อยากคุยถึงเรื่องตอนหน้าเลย เดี๋ยวจะเหมือนสปอย ฮ่าๆๆ
+เปิดเทอมแล้ว สู้โว้ยยยย
+เกรดออกมา ติดD+ตัวหนึ่ง เกียรตินิยมหายไป แต่ไม่ได้เครียดเรื่องเกรดอะไรนะคะ ยังไงก็เป็นผลของการกระทำ ทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น เพราะไม่ได้เข้าสอบคะแนนเลยหายไปช่องใหญ่1ช่อง แต่จะมาเครียดก็ตอนโดนพ่อแม่ดุนี่แหละ ทำท่านเสียใจไปซะแล้วเฮ้ออ เรื่องนี้หนักกว่าเรื่องไหนเลย เพราะเราให้ความสำคัญกับครอบครัวมากๆนะ ทำท่านผิดหวังก็คิดว่าเป็นลูกที่ใช้ไม่ได้จริงๆ
+ขอโทษที่มาต่อช้านะคะ แต่ไม่เคยคิดจะทิ้งกันจ้า
+โซ่รักคนอ่านทุกคนน้าา

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่27 กลับบ้าน* [29/10/13] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 29-10-2013 21:42:19
อ๊ะ ได้สมาชิกใหม่ในบ้านเพิ่มอีกแล้ว  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่27 กลับบ้าน* [29/10/13] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 29-10-2013 22:03:59
คุณน้ำแข็งโคตรหื่น อิอิ :o8:
ไอซิลแปลว่าไรอ่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่27 กลับบ้าน* [29/10/13] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 29-10-2013 22:50:22
มีสมาชิกใหม่แบ้ว ท่าทางไอรักจะหบงน่าดู
เกียร์เป็นปั๋วหัวเน่าแน่ๆ

คุณแม่เห็นอะไรบ้างนะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่27 กลับบ้าน* [29/10/13] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 30-10-2013 09:57:45
เกียร์นะเกียร์ทำอะไรไม่คิดเลย หน้าบ้านนะเนี่ย หวาดเสียวกลัวคุณหญิงแม่เห็น

ขอบคุณมาก คนแต่งน่ารักมากมาต่อให้ทันใจเลยค่าาาา  :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่27 กลับบ้าน* [29/10/13] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 30-10-2013 10:02:04
น่ารักจัง ชอกไอรักมากๆๆเลย รักคุณน้ำแข็งมากมาย
 :mew1: :mew1: :katai2-1: :katai2-1:
 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่27 กลับบ้าน* [29/10/13] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 30-10-2013 15:27:25
ไอรัก น่ารักที่สุด ใจดีจังเลย ปลื้มมากกก  :m1:
โชคดีของน้องไอซิส ที่ไอหมอก กับ ไอแดด เจอ และบอกให้ไอรัก รู้ ก่อนจะเป็นอันตราย
ต่อไปนี้น้องไอซิส ก็จะได้มีความสุขแล้วนะ ได้อยู่บ้านที่อบอุ่นอย่างนี้
ไอรัก ไอแดด ไอหมอก ไอซิส พี่น้องน่ารักที่สุด :กอด1:
เกียร์ ก็ร้อนแรงเหลือเกิน ว่าแต่คุณแม่เรียกกลับบ้านทำไมนะ คงไม่ดราม่าน้า
รอตอนต่อไปจ้า เป็นกำลังใจให้โซ่นะจ้ะ ขอบคุณค่า :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่27 กลับบ้าน* [29/10/13] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 30-10-2013 17:35:14
ตระกูลไอ(?) มีสมาชิกอีกคน(?)แล้ว เย้ :m1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่27 กลับบ้าน* [29/10/13] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 30-10-2013 21:23:01
5555 ขำตรงแมวเลี้ยงแมวนี่แหละ ไหนดูซิว่าจะไปกันรอดไหมอย่างที่เกียร์พูด

เหมือนจะมีกลิ่นแปลกๆแฮะ ไม่อยากกินมาม่าน้าาา ><
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่27 กลับบ้าน* [29/10/13] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 30-10-2013 22:44:38
เกียร์อย่างหื่น  :hao6:

ไอรักมีสมาชิกเพิ่มแบบนี้ ถ้าเอาไปเลี้ยงด้วยนี่มีหวังคุณน้ำแข็งงอนแน่ๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่27 กลับบ้าน* [29/10/13] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 07-11-2013 13:06:03
    คิดถึงไอรักเกียร์ :o8:  :call:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่27 กลับบ้าน* [29/10/13] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Weena ที่ 14-11-2013 10:05:14
คิดถึงคนแต่ง  คิดถึงไอรัก คิดถึงเกียร์ คิดถึงสา คิดถึงงงงงงมาเร็วนะคะ :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่27 กลับบ้าน* [29/10/13] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 20-11-2013 14:22:23
คิดถึงเกียร์ไอรักมว้ากกกก มาต่อไวๆนะคะ ^_^
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่27 กลับบ้าน* [29/10/13] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 20-11-2013 19:39:40
คนแต่งหายไปไหนน๊าาาาา :hao7:
 คิดถึงเกียร์ไอรัก :o8:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่27 กลับบ้าน* [29/10/13] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 20-11-2013 19:46:17
คิดถึงครับคิดถึง :m13:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่27 กลับบ้าน* [29/10/13] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 24-11-2013 17:18:00
เพิ่งได้อ่าน เรื่องดีมากเลย แต่มาเจอตอนคนแต่งหายนี่สิ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ จะมาอัพต่อไหม?
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่28 สู้เพื่อเรา* [25/11/13] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 25-11-2013 20:02:20
ตอนที่28


"เกียร์ๆ ผมมีข่าวดีด้วยละ" เอนหลังนอนบนโซฟากรอกเสียงไปตามสาย แล้วหัวเราะคิกคักกับคุณไอซิสที่นั่งคลอเคลียอยู่บนตัวผม นอนบนตัวคนนี่สบายเหลือเกินนะ

'หืม...เรื่องอะไร’มันถามกลับด้วยเสียงฉงน

"ยังไม่บอกหรอก ปล่อยให้งง คึๆ เอาไว้เจอกันแล้วคุณจะรู้เอง ดีไหม" เรื่องอะไรจะบอกให้โดนดุสองรอบละ สู้ไปฟังเทศน์ครั้งเดียวตอนเจอกันเลยดีกว่า

'หัดมีความลับกันแล้วเหรอ'

"ฮื้อ เปล่าสักหน่อย เดี๋ยวคุณก็รู้เอง เซอร์ไพรส์ไงเซอไพรส์"

'หึหึ แมวเจ้าเล่ห์' มันตอบ ได้ยินเสียงพิมพ์งานเล็ดลอดออกมาเป็นระยะ

"ถ้าผมเจ้าเล่ห์ คุณก็เป็นจอมหื่น" ตายห่า วกกลับเข้าเรื่องที่มันถนัดซะได้ ยั้งปากไม่ทันด้วย คิดได้ก็พูดจบประโยคไปเสียแล้ว

'หื่นกับไอรักคนเดียว..คืนนี้เตรียมตัวเหนื่อยได้เลย โทษฐานหนีเที่ยวตัวเดียว’นั่นไงไอรักว่าละ แล้วเดี๋ยวนี้มันเรียกผมเป็นตัวแล้วนะครับ ร้ายกาจมาก

“ผมไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย” บ่นอุบอิบเบาๆ แต่มันก็ยังได้ยิน

‘โดนแน่ๆ’ แหนะ มีขู่ๆ ไม่กลัวหรอก บอกแล้วไงว่ากลัวไม่โดน

"บ้า แล้วทำงานไปถึงไหนแล้วครับ ใกล้เสร็จหรือยัง" ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง

'ใกล้แล้ว...เสร็จแล้วจะไปรับนะ'

"ผมพึ่งหย่อนก้นนั่งเก้าอี้ยังไม่ร้อน จะให้กลับแล้วเหรอ"

'ก็มันคิดถึง..' ฟังแล้วเขินๆแฮะ คิดถึงอะไรเล่า พึ่งแยกกันไม่ถึงครึ่งวัน นี่ถ้ามันอยู่ใกล้ๆ ผมกระโดดถีบเท้าคู่ไปแล้วนะนี่ หึๆๆ

"มาสักหนึ่งทุ่มนั่นละครับ เพราะยังไงก็ต้องรอพวกพี่ๆกลับบ้านก่อนด้วยน่ะครับ" มันเงียบไปพักหนึ่ง

'..ไปรอด้วยได้ไหม' ผมเม้มปากแน่นกลั้นยิ้มกับเสียงอ่อยๆเหมือนไม่กล้าขอ จะสงสารก็สงสาร จะน่ารักก็น่ารักฉิบ

"จะดีเหรอ" ผมก็ถามไปงั้นละ เพราะมีคำตอบในใจอยู่แล้ว

'..ถ้ามันรบกวนก็ไม่เป็นไร จะให้ไปรับตอนไหนก็บอกแล้วกัน' ผมต้องเป็นโรคจิตไปแล้วแน่ๆ แกล้งมันแล้วยิ้มแก้มปริขนาดนี้ ก็ดูมันตอบสิครับ ไม่เข้ากับเสียงดุๆของมันเลย ผมนี่แทบจะกัดหูคุณไอซิสเพื่อกลั้นเสียงเล็ดลอด ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ แค่จับหูไอซิสแล้วบิดขึ้นลงไปมา เจ้าตัวก็เอียงหน้าทำหน้าบ้องแบ๊วตาใสใส่ผม คงงงกระมังว่าแด๊ดมันเป็นบ้าอะไร

"ถ้าเสร็จแล้วก็มาแล้วกันนะครับ เดี๋ยวผมจะบอกแม่บ้านให้จัดอาหารเย็นเอาไว้ให้คุณด้วยเนอะ"

'ฮึ่ม ไอ้แมวขี้แกล้ง ถ้าเจอจะจับฟัดให้ลุกไปเรียนไม่ได้เลย' หูย โหดว่ะ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

"น้องไอรักลูก..ตัวเล็ก เปิดประตูให้มาม๊าหน่อยค่ะ"

"แม่ผมขึ้นมาตามแล้ว เอาไว้คุยกันทีหลังนะครับ" วางสายเสร็จก็เดินไปเปิดประตู เห็นแม่ยิ้มหวานส่งมาให้ ข้างหลังเป็นแม่บ้านถือของขึ้นมาพะรุงพะรัง คงเป็นของใช้ของแมว

"ว่าไงครับ"

"เห็นแม่บ้านบอกว่าตัวเล็กจับแมวได้ อยู่ไหนเหรอคะมาม๊าอยากเห็น" แม่ผมชะเง้อมองเข้ามาในห้อง ผมเลยเปิดประตูกว้างออกให้เข้ามา ท่านดิ่งไปหาคุณไอซิสที่นั่งตาแป๋วอยู่บนโซฟา

“น่ารักน่าชังจังลูก” ยังไม่ทันอะไร คุณหญิงแม่เรียกคุณไอซิสว่าลูกอย่างสนิทสนมกันเสียแล้ว เหอะๆ

ดูท่าท่านจะชอบเจ้าหญิงตัวน้อยองค์ใหม่ ลูบหัวลูบหางไม่ปล่อยเลย

“ผมว่าจะให้ชื่อไอซิส ดีไหมครับ” ดีไม่ดีไม่รู้ แต่ไอรักเรียกว่าไอซิสไปเรียบร้อยแล้ว

“ตัวเมียเหรอคะ...ดีจังตัวเล็ก บ้านเราจะได้มีเพศหญิงบ้าง น่าเอ็นดูจริงๆเลยลูก หนูไอซิส” ผมพยักหน้าตอบ หลังจากนั้นคุณท่านก็เล่นกับไอซิสกันยาว รายนั้นก็หงายตัวอ้าซ่าให้ท่านเกาคอเกาตัวแบบเปิดทางสุดๆ จนแม่บ้าน(คง)ทนไม่ไหว เอ่ยเตือนให้ลงไปทานข้าวข้างล่าง ถ้าแม่บ้านไม่เตือน ผมว่าทั้งบ้านคงต้องหิ้วท้องรอยันเย็นโน่น

ลงมาก็เห็นพ่อนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ในหัวโต๊ะ ผมเอ่ยทักแต่ไกลพร้อมเดินเร็วเข้าไปนั่งคุกเข่าข้างๆแล้วสวมกอดให้ชื่นใจกับการที่ไม่ได้กลับมาหาท่านตั้งนาน

“เป็นไงบ้างละเรา อ้วนขึ้นหรือเปล่าหื้ม” ไม่ใช่เพราะผมนะ โน่นคนที่อยู่คอนโดโน่นนน

“อ้วนขึ้นแล้วไม่ดีเหรอครับ แต่ไอรักว่าไอรักก็ตัวเท่าเดิมนะครับ” ผมพูดเสียงอ้อน ถูหน้ากับหน้าท้องพ่อผม ถึงจะแก่แล้วแต่พุงไม่ค่อยมีนะครับ ท่านค่อนข้างดูแลตัวเองพอสมควร ออกกำลังกายเสมอ เวลานัดลูกค้าก็ไปต่อกันที่ไดร์ฟกอล์ฟ บางวันที่ว่างๆก็เข้าห้องฟิตเนสที่บ้าน อีกอย่างอาจเป็นเพราะท่านเป็นลูกครึ่งเลยสูงมาก ร่างใหญ่และหนา(พี่ของผมทั้งคู่ก็ได้พ่อมานั่นละครับ) ถึงจะเบาลงไปตามวัยบ้างแล้ว แต่ก็ยังดูเฟิร์มอยู่เลย

“ดีสิลูกรัก ตัวมีแต่กระดูก แด๊ดกอดแล้วเหนื่อยใจ” ท่านทำเป็นถอนหายใจเหมือนปลงกับสเปิร์มที่เกิดมาแล้วได้เท่านี้ โหผมนี่ไซส์มาตรฐานชายไทยเถอะ แต่คนรอบข้างดันไซส์ยักษ์วัดแจ้งเท่านั้นเอง

ผมนั่งคุยกับพ่อแม่ไปสักพักใหญ่ๆ และถือโอกาสบอกว่าเพื่อนจะมาทานข้าวด้วย ผมยิ้มงงๆให้กับพวกท่านที่ทำหน้าตาแปลกๆแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เปลี่ยนเรื่องไปเรื่องอื่นแทน

เสียงรถดังเข้ามา ผมขอตัวก่อนจะลุกขึ้นไปรับคนที่คุณก็รู้ว่าใคร คือผมจำเสียงรถของตัวเองได้น่ะครับ จะบอกว่ามันมีเอกลักษณ์ก็ไม่เชิง ต้องบอกว่าคุ้นชินกับเสียงของมันอย่างนี้คงเหมาะกว่ากระมัง ออกมาก็เห็นเกียร์เดินมาเปิดประตูข้างคนขับแล้วหยิบกระเช้ารังนกออกมา อลังการงานสร้างบานตะไทเกินไปไหม

“โอ้โหแฮะ ลมอะไรพัดให้คุณซื้อรังนกมาหว่า” ผมส่งเสียงแซว มันรีบหันมา พอเห็นว่าเป็นผมก็คลี่ยิ้มบางออกมาให้ใจผมสั่นเล่น

“ลมรัก” ฮื้มมมม มันไปอัพความเสี่ยวมาจากสำนักไหนวะ ผมฟังแล้วแทบจะบิดตัวเป็นเกรียว ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ชายนะ แค่หน้าแดงอย่างตอนนี้ก็น่าอายเกินพอแล้ว

“...เอ่อ ผมนึกว่าลมพิษขึ้น เหอะๆ เข้ามาก่อนเถอะครับ ผมช่วยถือไหม” มันส่ายหน้า แล้วเดินตามผมไปห้องอาหาร

“แด๊ด ม๊า เกียร์มาแล้วครับ” ผมเรียกทั้งสองท่านที่กำลังคุยกันอยู่ ก่อนจะหันมาสนใจคนข้างตัว เกียร์รู้หน้าที่ กล่าวทักทายแล้วมือไม้อ่อนทันทีที่ท่านหันมา ผมมองแม่ที่พยักหน้าแล้วยิ้มให้มัน ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นพ่อผมไม่ได้มองมา คอตั้งตรงเหมือนวางมาด แต่ที่ทำให้ผมหน้าเสียนั่นคือสีหน้าของท่านที่นิ่งขรึม ไม่หืออือกับการมาเยือนของเกียร์เลยสักนิด

“แล้วนั่นเอามาทำอะไรเหรอคะ” แม่ทำลายบรรยากาศอันเงียบครึม เกียร์ได้สติจึงถือกระเช้าไปให้แม่ แล้วเดินตามมานั่งข้างผม ก่อนหน้านี้คงชะงักกับท่าทีพ่อไปเหมือนกัน

“ซื้อมาฝากครับ” มันตอบสั้นตามเคย แต่กระตุกยิ้มบางอย่างกับเปลี่ยนหน้ากาก นี่คงอยากเรียกคะแนนเรตติ้งกันใช่ไหม

“สกปรก มีแต่สิ่งเจือปน คงจะหยิบมาส่งๆ” เสียงพ่อพูดออกมาลอยๆ ผมกับเกียร์เริ่มมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย แปลก..รู้สึกแปลกตั้งแต่ที่เกียร์เดินเข้ามา

ไม่สิ ตั้งแต่เจอแม่แต่เช้าเลยด้วยซ้ำ

“คุณคะ” แม่เรียกพ่อเสียงปราม

“ผมพูดความจริง” พ่อเสียงเข้มกลับ มองหน้าแม่แล้วหน้านิ่วคิ้วขมวดก่อนจะถอนหายใจออกยาวแล้วเมินกลับตามเดิม

ผมเอื้อมมือไปจับมืออีกข้างใต้โต๊ะ มันหันมามองแล้วบีบมือกลับ ก่อนจะหันไปมองหน้าพ่อผมอีกครั้ง

“ขอโทษครับ ที่ไม่ได้คิดก่อนซื้อ” ผมมองมันอย่างอึ้งๆ เมื่อเห็นมันก้มหัวขอโทษให้พ่อผมโดยไม่ลังเล อย่างเกียร์น่ะหรือที่จะยอมก้มหัวให้ใครง่ายๆ ผมรีบกระตุกมือเบาๆ แต่มันยังก้มค้างอยู่อย่างนั้น และเงยขึ้นมาสบตาผมหลังจากที่พ่อพูดประโยคถัดมา

“ไม่ได้คิดหรือคิดไม่ได้” คำพูดหนึ่งทำทั้งห้องเงียบกริบ

“เอาละ ทานข้าวกันดีกว่าค่ะ ป้าสร้อยจ๊ะตั้งโต๊ะได้เลยค่ะ” แม่โพล่งพูดขึ้นมาอีกรอบ แล้วเรียกแม่บ้านที่อยู่ใกล้ๆเพื่อนำอาหารมาตั้ง

ระหว่างที่ทานข้าวกัน เกียร์ก็ตักอาหารให้ผมตามปกติ ผมเงยคุยกับแม่บ้าง กับพ่อบ้าง ถึงพ่อจะตอบผม แต่ดูเหมือนจะตึงๆกับเกียร์ยังไงไม่รู้สิ เวลาผมลากให้เกียร์มีส่วนร่วมกับเนื้อหาที่คุยกัน ท่านจะตอบแบบกันซีนแล้วเปลี่ยนเรื่องไปเสียอย่างนั้น

“แล้วไปยังไงมายังไงคะ เห็นมาส่งน้องไอรักตั้งแต่เช้าไม่ใช่หรือ” แม่ผมถาม พ่อสบถเสียง ‘เหอะ’ แล้วทานข้าวสงบตามเดิม

“รีบกลับไปทำงานครับ ตอนนี้ส่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว” มันตอบกลับอย่างนอบน้อม ผมก้มหน้ากระตุกยิ้ม

“แด๊ดอิ่มแล้วเหรอครับ ทานน้อยจัง” ผมถามพ่อที่รวบช้อนส้อมเข้าหากันแล้วเช็ดปากเป็นอย่างสุดท้าย ท่านก็ทานเกือบหมดละครับ แต่ปกติจะรอทานของหวานด้วยกันก่อน

“บรรยากาศในบ้านมันไม่ค่อยดีนะตัวเล็ก แด๊ดไปสูดอากาศข้างนอกดีกว่า” พ่อลูบหัวผมแล้วหอมแก้ม ก่อนจะลุกออกไป

“อย่าไปถือสาคนแก่เลยนะคะ พอดีเขากำลังอารมณ์ไม่ดีเท่าไร” แม่ยิ้มบอกเกียร์ มันพยักหน้าแล้วตอบกลับ

“ครับ”

“พึ่งทำงานเสร็จ แล้วไม่นอนพักผ่อนละจ๊ะ” ผมขยับนั่งตัวตรงเกร็ง เมื่อแม่วกกลับมาเรื่องเดิม เรามองหน้ากันก่อนที่มันจะหันกลับไปตอบ

“จะมารับไอรักไปซื้อของครับ แล้วก็ถือโอกาสมาเยี่ยม” เวลามันคุยกับพ่อแม่ผม ดูเป็นทางการที่สุดเท่าที่เคยเห็นแล้ว

“หืม..เหรอคะ พูดเหมือนอาศัยอยู่ด้วยกันเลยนะ” ผมแทบสะดุ้ง แต่พยายามเก็บอาการเอาไว้ เพราะแม่นั่งมองผมอยู่ แม้ว่าท่านจะหัวเราะกลบเกลื่อน แต่ผมก็เห็นว่าแววตาท่านต้องการจะสื่ออะไร

“มาม๊าขอถามพวกหนูตรงๆนะคะ เราทั้งคู่เป็นอะไรกันหรือ” แม่ตีสีหน้าจริงจังแล้วมองพวกผมอย่างคาดคั้น

“...เอ่อ คือ..”

ผมพูดไม่ออก สายตาแม่เหมือนรู้มาแล้วทุกอย่าง ในหัวผมเริ่มประติประต่อเรื่องราวได้แล้ว ความรู้สึกตงิดแปลกๆในตอนแรกนั้นผมไม่ได้คิดไปเอง

“มาม๊าไม่รู้หรอกนะคะว่าสมัยนี้เขาไปถึงไหนกันแล้ว และมาม๊าก็ไม่โกรธไม่น้อยใจด้วยที่คบกันโดยที่ไม่บอกให้ผู้ใหญ่รับรู้ เพราะหนูอาจจะกังวลใจกับอะไรหลายๆอย่าง”

“..มาม๊า..” ผมพูดไม่ออก เหมือนมีก้อนอะไรจุกอยู่ในลำคอ น้ำตาเริ่มไหลลงมาจนต้องก้มหน้าซ่อนมันเอาไว้ แต่มิวายมีมือจับคางให้หันไปแล้วเช็ดออกให้อย่างเบามือ ผมยื้อคอเอาไว้ไม่ให้มันแสดงกิริยาแบบนี้ออกไปให้ผู้เป็นแม่เห็น มันยอมปล่อยแต่โดยดี หันไปบอกกับแม่ผมด้วยน้ำเสียงจริงใจและสัตย์จริง

“ให้ผมได้ช่วยดูแลไอรักอีกคนหนึ่งได้ไหมครับ” เสียงมันก้องอยู่ในใจผม น้ำเสียงที่จริงใจกังวาน ได้ยินแล้ววูบวาบไปทั้งตัว ผมหันไปมองคนที่สบตาแม่ไม่ถอย เหมือนให้รู้ว่าที่พูดมามันมาจากใจจริงแท้ ผมยิ้มออกมา ปาดน้ำตาแล้วหันไปมองแม่

จะรักมันก็ต้องแน่วแน่มั่นคงสิ สู้ อย่าท้อถอย!

“แล้วน้าจะรู้ได้ไงคะว่าเรารักลูกน้าจริง” แม่มองมันอย่างประเมิน

“ผมขอแค่โอกาสและเวลาที่จะให้ผมได้พิสูจน์ว่าผมรู้สึกแบบนี้จริงๆ”

ผมก็มั่นใจกับความรักของเราเหมือนกับที่สายตามันแสดงออกมาในตอนนี้

“ให้เราสองคนรักกันเถอะนะครับ” แม่หันมามองเมื่อผมพูดเสร็จ

“แต่ถ้าถามมาม๊าว่าเรื่องนี้ทำให้เสียใจไหม มาม๊าก็เสียใจนะคะ” แม่ผมยิ้ม แต่นัยน์ตาท่านเศร้าสร้อยทำให้มันจี๊ดไปถึงขั้วหัวใจ

“..ฮึก ขอโทษครับ..ไอรักขอโทษ..ไอรักเสียใจที่ทำให้มาม๊าผิดหวัง.. แต่ แต่ไอรักเลือกแล้ว..ฮึก..ให้โอกาสเกียร์เถอะนะครับ นะครับมาม๊า” ผมพนมมือสั่นๆขอโทษผู้เป็นแม่ ใจผมปวดร้าวไม่ต่างกัน

แม้ว่าผมจะเสียใจที่ทำให้แม่ผิดหวัง แต่ผมไม่เสียใจที่เลือกรักเกียร์ ผมอยากจะให้แม่เปิดใจให้เกียร์

เพราะผมเชื่อว่าเกียร์ทำได้อย่างที่พูด

ผมมั่นใจว่ามันจะทำให้แม่รักและเอ็นดูอย่างที่ผมรักมันได้

“มาม๊าพูดตอนไหนคะว่าไม่ให้โอกาส” แม่พูดหน้านิ่ง แต่คำพูดทำผมกับเกียร์มองหน้ากัน พอเห็นว่าเราทั้งคู่ไม่ได้ตอบอะไรไปจึงพูดต่อ

“มาม๊าแค่เสียใจที่ไม่ได้อุ้มหลาน แล้วก็เห็นตัวเล็กเล่นหุ่นยนต์มาตั้งแต่เด็ก แต่พอมารู้ว่ามีแฟนเป็นผู้ชาย มาม๊าก็เลยตกใจ แอบเครียดนิดหน่อย แต่มาม๊าก็ไม่ได้คัดค้านทั้งคู่หรอกนะ” ผมมองแม่ที่พูดอย่างยิ้มๆก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้ คนที่นั่งจับมือผมไม่ปล่อยก็คงมีสีหน้าเหมือนกับผมตอนนี้แน่ๆ

“ขอบคุณครับ” มันคงไม่มีอะไรทีจะอธิบายไปมากกว่าคำนี้อีกแล้วละครับ แค่แม่ยอมรับและเข้าใจพวกผม แค่นี้ก็มีความสุขมากพอแล้ว

“ค่ะ แล้วก็อย่าลืมที่พูดเอาไว้ด้วยนะคะ มาม๊าจะคอยดูอยู่ห่างๆ ถ้าวันไหนที่หนูผิดคำพูดละก็... หึๆ ..แต่อุปสรรคเยอะหน่อยนะคะ ผู้ชายในบ้านนี้หวงไอรักทุกคน” แม่ขู่แล้วหัวเราะอย่างน่ากลัว ก่อนจะบอกสิ่งที่ทำให้ผมคิดว่าทั้งบ้านต้องรู้เรื่องของผมกันทุกคนแล้วแน่ๆ ยิ่งคิดยิ่งสลด สงสารเกียร์ว่ะ

“ขอบคุณครับมาม๊า ถ้าเกียร์ทำไอรักเสียใจ ไอรักจะมาฟ้องมาม๊าน้า” เวลานี้ต้องรีบประจบประแจงครับ คนโดนพาดพิงหันมองขวับเลย ฮ่าๆๆๆ

“จ้า แหมตัวเล็ก ได้ทีแล้วเอาใหญ่เชียว จริงสิป่านนี้คนแก่คงหงุดหงิดอยู่ในสวนหน้าบ้านแน่ๆ เดี๋ยวมาม๊าไปดูแด๊ดลูกก่อนนะจ๊ะ”

พอท่านยิ้มหวานแล้วออกไป ห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ แรงบีบมือคลายลงก่อนที่คนข้างๆจะหันมากอดอย่างเต็มตัวแล้วซุกหน้าลงซอกคออยู่อย่างนั้น

“..มาม๊ายอมรับเราแล้ว” ย้ำคำพูดนั้นอีกหลายรอบ ตอกย้ำเหตุการณ์เมื่อกี้ให้กับเราทั้งสองคน มันก็ตอบกลับซ้ำๆพร้อมกระชับกอดแน่นขึ้น

“กังวลอะไรอยู่” มันคลายออกเล็กน้อย ลูบตามโครงหน้าแล้วทัดผมให้

“ตอนนี้มาม๊าก็ยอมรับเราแล้ว จะเหลือก็แต่แด๊ดแล้วก็พวกพี่ๆนี่ละ พวกเขาต้องโกรธผมมากแน่ๆ เฮ้อ...” พ่อผมแสดงออกชัดเจนขนาดนี้แล้วว่าไม่ยอมรับ แล้วพี่ทั้งสองคนละ

ไม่อยากจะคิด

“อุปสรรคใหญ่ขนาดไหน ถ้าเราเชื่อใจกัน มันก็ผ่านไปได้” มันพูดปลอบ หอมแก้มผมเบาๆแล้วผละออกมาเมื่อได้ยินเสียงคนเปิดประตูเข้ามา

“คุณหนูคะ คุณหญิงบอกให้พาเพื่อนขึ้นไปพักบนห้องได้นะคะ” ผมทำหน้าแปลกใจ

“แล้ว...”

“คุณผู้ชายโดนสกัดดาวรุ่งค่ะ กว่าพวกท่านจะตกลงกันได้เล่นเอาพวกแม่บ้านผวากันแทบทุกคน” ว่าอยู่แล้วเชียว พ่อคงไม่อยากให้ผมขึ้นไปอยู่บนห้องสองต่อสองกับแฟนที่เป็นผู้ชายหรอกน่ะนะ

“อ่า นั้นขึ้นไปข้างบนดีกว่าเนอะ” ผมถามลอยๆน่ะครับ เพราะพูดจบก็ลากแขนมันให้เดินตาม อีกคนก็ทำตัวอ่อนปวกเปียก ลากไปไหนก็ไปตาม ไม่หือไม่อือสักอย่าง

“เอ้อเกียร์ ถ้าเห็นอะไรแล้วอย่าตกใจนะ” ผมหันมาบอกก่อนจะบิดประตูเข้าไป ลืมไปว่าข้างในมีไอซิสอยู่ มันเลิกคิ้วแต่ก็พยักหน้า

พอเปิดไปก็ได้ยินเสียง เมี้ยววเมี้ยววว ดังมาก่อนตัวเลยครับ ไอ้ตัวยุ่งเดินมาพันแข้งพันขา ทำตางัวเงียเหมือนพึ่งตื่น ผมอุ้มมันขึ้นมา จับท้องที่ป่องจนน่ากลัวเบาๆ ก็ขากับตัวมันเล็กเหมือนแมวขาดสารอาหาร แต่พอได้กินทีก็คงกินจนอิ่มไปยันพรุ่งนี้เลยกระมัง ผมหันไปมองคนข้างๆที่ปิดประตู มองไอซิสนิ่ง

“แฮะๆๆ ไม่ได้ซื้อมานะครับ มันเข้ามาในบ้านผมเอง จริงๆนะ” ผมรีบบอกมันก่อนจะโดนดุ ไม่ได้หรอกครับ เราไม่ผิดนี่นา ที่พูดไปก็เรื่องจริงร้อยเปอร์เซ็นต์เถอะ

“จนได้สินะ” มันมองผมตาเขียวเลย ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่คล้ายจะปลงๆ

“ก็..ครับ”

“ปล่อยไอ้ฟีบลงได้แล้ว” โห มึงเรียกลูกกูว่าไอ้ฟีบเลยเหรอ แม่ง จี๊ดเลย เดี๋ยวจะขุนไอ้ฟีบให้เป็นไอ้ตุ๊ต๊ะเลยคอยดูสิ

“เขาชื่อไอซิสครับ” ผมมองมันอย่างเอือมๆ แล้วปล่อยไอซิสลง รายนั้นก็เดินตามผมต้อยๆ ดูท่าจะติดผมแล้วละ ส่วนคนตัวโตก็เดินตามมาเหมือนกัน แต่ไอ้นี่มันเยอะหน่อยมากอด มาหอมแก้มอะไรของมันเหมือนปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คือพาลเอาเท้าไปเขี่ยไอซิสจนกระเด็นเลย

“ไป ชิ่วๆ” ดูมัน

“ไปแกล้งไอซิสทำไมละครับ น่าสงสารออก” ผมพูดจบ มันก็หน้าบึ้งใส่แล้วหันหลังให้ทันที โหยยย เด็กโข่งเอ๊ยย

“เป็นอะไรละครับ” มือก็อุ้มไอซิสขึ้นปลอบ อีกมือก็จับแขนเด็กโข่งเอาไว้

“.......”

“จุ๊บ จุ๊บ หายยัง งอนอะไรเยอะนี่ ระวังตีนกาจะขึ้นนะครับ” ผมยืดตัวขึ้นไปจุ๊บปากมันเบาๆ หึหึ กูใครครับดูด้วย ไอรักนะครับ รู้ทางมันหมดแล้วว่าต้องรับมือกับมันยังไง มาสิบเกียร์ก็แพ้ไอรักเถอะ หึๆๆ วะฮ่าๆๆๆ

“ก็ไอรักไปห่วงไอ้ทรุดทำไมนักหนาละ” อ้าวไอ้นี่

“เขาชื่อไอซิสครับ ไม่ใช่ไอ้ทรุด”

“เออนั่นละ อย่าไปเล่นกับมันเยอะ มานี่” มันจับไอซิสให้ออกไปพ้นๆทาง คือมันก็วางพื้นดีๆนั่นละ แต่แค่ปล่อยจากที่สูงไปจนผมร้อง ‘เฮ้ยย’ แล้วตีแขนมันเบาๆ แต่มันไม่สนใจเอามือปลาหมึกเกี่ยวเอวแล้วโยนผมไปบนเตียงนุ่ม

“เกียยยร์..”

“เงียบน่า” อ้าว ไอรักจะทักท้วงก็มาสั่งเราอีก ก็ดูมันสิครับ นอนกอดผมจากด้านหลังไม่พอ ยังจะเอามือเข้ามาลูบหน้าท้องผม แล้วหายใจฟืดฟาดอีก ก็รู้ว่ามันเพลิน แต่ช่วยดูอารมณ์ไอรักได้ไหมครับ แม่งเสียวจนใจจะขาดแล้วว

“อย่าทำอะไรที่นี่นะเกียร์”

“รู้แล้วหน่า” อ้าว นี่กูอ้าวกับมันมากี่รอบแล้วฟะ ฮึ่ม

ผมพลิกตัวไป เรานอนกอดกันอยู่นิ่งๆ ผมเห็นว่าเงียบนานแล้วจึงพูดต่ออีก

"เกียร์"

"หืม"

"ที่พูดเมื่อกี้ไม่กลัวแม่ผมโกรธเหรอ" ไปขอลูกชายโต้งๆแบบนี้ เป็นใครใครก็กลัวนะครับ

"ไม่" มันกระชับกอดแน่นขึ้น

"แล้วไม่กลัวว่าท่านจะไม่ยอมรับเราเหรอครับ" ผมถามเป็นหนูจำไมต่อ เห็นมันอมยิ้มด้วย แต่ก็ต้องซุกหน้ากับอกมันอีกครั้ง ใครจะไปกล้ามองนานๆวะ ยิ้มเจิดจ้าขนาดนี้

"ไม่หรอก"

"อ้าว แล้วถ้าท่านไม่ยอมรับเราละ เกียร์จะทำไง"

"ฉุดลูกชายคนเล็กละมั้ง" มันพูดพลางหัวเราะในลำคอไปด้วย มาดคุณน้ำแข็งหายเรียบ

ผมยิ้ม แล้วคลอเคลียกับอกมันแรงๆ ก่อนจะเอามือท้าวคางขึ้นมองหน้ามันชัดๆ มันขยับตัวให้เล็กน้อย มือยังเกี่ยวเอวผมอยู่ไม่ปล่อย

"เหมือนหนีตามในละครอะเหรอ อย่างนี้ผมก็ต้องเป็นพระเอกใจแตกสิ"

[ต่อด้านล่าง]
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่28 สู้เพื่อเรา* [25/11/13] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 25-11-2013 20:20:40
[ต่อจากด้านบน]




"นางเอกต่างหากละ"

"บ้า ผมเป็นผู้ชายนะ แมนขนาดนี้ ดูๆ กล้ามปู" ผมเบ่งกล้ามให้ดู มีนะครับ แต่ไม่เท่ามันที่เป็นมัดๆเท่านั้นเอง

"หึหึ ปูลมขาดสารอาหารชัดๆ" ปูลมอะไรเล่า เปรียบซะพันธุ์เล็กเชียวนะ ฟังแล้วหงุดหงิดแปลกๆ หมั่นไส้คนกล้ามใหญ่ชะมัด

"ฮึ่ยยย" ผมหน้าบึ้งใส่มัน แล้วกระดึ๊บตัวไปตามเสียงแคว่กๆแง้วๆที่ปลายเตียง ไอซิสลูกพ่อออ

ผมอุ้มมันขึ้นมา จะวางบนเตียงก็เจอหัวเข่าใครบางคนสะกิดที่ต้นขายิกๆ หันไปก็เจอตาคมมองดุๆ โด่ อะไรวะ แค่จะให้มันสัมผัสเตียงนุ่มๆบ้างนี่นา คนนอนได้ทำไมแมวจะนอนด้วยไม่ได้ละ แต่ก็ขัดเขาไม่ได้หรอกครับรายนั้น เลยจำใจต้องวางไอซิสที่พื้นปลายเตียงเหมือนเดิม แล้วก้มเล่นกับมันจนก้นกระดกอยู่บนเตียงนี่ละ

จะเล่นท่ายากไปไหมครับ

"มานอนดีๆ" เผลอแปบเดียว เสียงมารโหดก็ดังขึ้นอีกรอบ

"จ้าๆ" แล้วผมจะตามใจมันทำไมหว่า

เหมือนกับผมและมันไม่ได้เครียดอะไร แต่ความจริงเราต่างกลับมาคิดในใจนะครับ ผมรู้ว่าตัวเองก็หนักใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นะครับ ส่วนเกียร์นั้นก็คงไม่ต่าง ถึงแม้จะมีสีหน้าเรียบเฉยเหมือนเดิม แต่ผมดูออกว่ามันคิดมากเหมือนกัน

ถึงแม้ว่าจะผ่านไปด่านหนึ่งแล้ว แต่มันก็กังวลไปหมด ยิ่งหลังจากนี้ อะไรจะเกิดขึ้นบ้างไม่รู้

คนอื่นผมไม่เก็บเอามาคิดหรอก จะมีก็แต่คนในครอบครัวนี่ละ

เฮ้อ..

คิดไปคิดมาก็เผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาก็ตอนที่เกียร์เดินไปรูดผ้าม่านที่หน้าต่างบานใหญ่ เผยแดดสีส้มเข้มเกือบครามยามเย็น แอบปวดหัวเล็กน้อย แปลกนะครับที่คนโบราณเรียกเวลานี้ว่าผีตากผ้าอ้อม แต่ผมว่าคงเป็นกลยุทธ์ที่จะให้เรานอนเป็นเวลากระมัง อาจเป็นเพราะผมเรียนสายวิทย์ จึงเชื่อว่าเวลานี้มันเป็นช่วงที่อุณหภูมิกำลังเปลี่ยนแปลง ร่างกายก็ยังไม่พร้อมที่จะพักผ่อนตอนนั้นด้วยก็เท่านั้นเอง

แต่ก็ไม่ได้ไม่เชื่อหรือจะลบหลู่ความเชื่อแต่โบราณนะครับ แค่เอนเอียงไปทางเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มากกว่า

"ตื่นแล้วเหรอ" ยังครับ

"ครับ แล้วไอซิสละครับ" คุณน้ำแข็งชักสีหน้าทันทีที่ผมถาม

"ไม่รู้ นอนมั้ง นอนพุงไม่กระเพื่อมอยู่แถวไหนสักที่" คือที่พูดมาจะแช่งลูกผมใช่ไหมครับ ร้ายกาจ

"ลงไปเล่นข้างล่างกันดีกว่าเนอะ ผมขอไปล้างหน้าแปบหนึ่ง" มันพยักหน้า ผมบิดขี้เกียจ นั่งมึนๆสักพักก็ลุกไปล้างหน้าล้างตา แอบแปรงฟันลวกๆด้วย เพื่อความสะอาดและสดชื่นในช่องปาก

พอลงมาแถวสนามหญ้า ผมก็เดินไปเล่นไอแดดกับไอหมอก ทั้งสองตัวชอบวิ่งน่ะครับ ถึงจะเชื่องกับคนในบ้านแต่เวลาที่จะชวนมันวิ่งเล่นต้องเป็นผมกับพี่ไอติมเท่านั้นนะครับ  ถ้าเป็นคนอื่นมันจะไม่วิ่งด้วย ขนาดแม่ผมมันยังเดินเอื่อยๆทอดน่องไปหาเฉยๆ

แค่ผมโผล่ขาไป พวกมันก็วิ่งมากระโจนใส่ทำเหมือนผมเป็นพันธุ์เดียวกันกับพวกเขาเลย ผมก็วิ่งไปทางไหนมันก็ติดไฮสปรีดตามมาอย่างกับเงา เกียร์ที่นั่งอยู่แถวนั้นก็โยนลูกเทนนิสเยินๆที่เอามาจากแถวกรงสุนัขมาให้ผม

เล่นกันนานจนเหนื่อยละครับถึงได้นอนอ้าซ่าพักกันอย่างหมดสภาพทั้งสุนัขทั้งคน ส่วนอีกคนที่นั่งดูเพลินๆก็ยิ้มขำใหญ่ คงจะไม่ค่อยเห็นผมในลุคนี้กระมัง ก็แหงสิ อย่างนี้เก็บไว้คนที่บ้านเห็นก็พอแล้ว

อืม..นี่ผมยังพูดไม่ชัดเจนอีกเหรอครับ ก็หมายความว่าผมมองมันเป็นหนึ่งในครอบครัวผมแล้วไง หายสงสัยกันยัง ฮู้

"เป็นนักวิ่งมาก่อนเหรอ วิ่งวนเป็นแมวลมกรดเลย"

"แฮ่กๆ เขามีแต่หนูลมกรดครับ แมวไม่มี๊" นอกจากไอรักจะต้องนอนอกกระเพื่อมแล้วยังต้องตอบปัญหาชาวเกรียนของมันด้วยเหรอ มันขยี้หัวผมใหญ่เลย ถึงผมจะเหงื่อน้อย แต่มันก็ซึมๆออกมาบ้างนะครับ ยิ่งมึงขยำขยี้มันขนาดนี้ เม็ดเหงื่อก็ออกมาแบ่งปันหญ้าข้างตัวเลยเหอะ

"ทำอะไรกันน่ะ!" เสียงทุ้มดังขึ้น ผมรีบเท้าแขนขึ้นหันไปมองตามเสียง เห็นพ่อกำลังเดินมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

"เปล่าครับ ไอรักพึ่งเล่นกับไอหมอกกับไอแดดเสร็จ" ไอรักรีบแก้ตัว ไม่สิ ไอรักพูดความจริง

"ลุกขึ้นเลยตัวเล็ก" ผมรีบทำตามที่อีกคนสั่ง พ่อดึงตัวผมเซไปอยู่ด้านหลังแล้วเอ่ยปากไล่ผม

"ไอรัก เข้าบ้านไป" พ่อจ้องเกียร์ด้วยสายตาเชือดเฉือน มันมองพ่อ ก่อนจะสบตาแล้วยิ้มบางให้ผม พยายามบอกว่าไปเถอะ มันอยู่ได้ แต่ผมยังคงลังเลอยู่

“แต่...”

“แด๊ดบอกให้เข้าบ้านไปไง” พ่อเริ่มดุเสียงดังขึ้น ผมตกใจเพราะน้อยครั้งที่พ่อจะเสียงดังใส่

แต่ท่านก็คงรู้สึกตัว หันมองกลับมาหาผมพร้อมพูดเสียงอ่อนลง

“ไปอยู่เป็นเพื่อนมาม๊าเถอะตัวเล็ก”

ผมเดินออกมา มิวายหันไปมองทั้งสองคนเป็นระยะอย่างเป็นห่วง เกียร์จะรับมือพ่อไหวไหมนะ จากระยะไกลก็ไม่เห็นทั้งสองคนพูดอะไรกันเลยนะครับ แต่จ้องหน้ากันนิ่งอยู่อย่างนั้น

ผมถอนหายใจออกมา จะรักกันก็ต้องทำรับมือเรื่องนี้ให้ได้สินะ ในใจก็กังวลมากเหมือนกันนะครับที่จะทำให้คนที่สำคัญกับเราได้เข้าใจและยอมรับเรื่องนี้ไปพร้อมกันได้ ผมรู้ว่ามันยากที่จะเข้าใจ แต่ผมก็ไม่เคยเหนื่อยที่จะสู้ ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนใจไปจากมันเลย ถึงเราจะเปลี่ยนไปคบผู้หญิงอย่างที่สังคมยอมรับได้ แต่ถ้าไม่รักกัน เราจะทนไปเพื่ออะไร

ผมรักมัน  ผมถึงบอกไงครับว่าผมไม่เคยเหนื่อยที่จะรักและพร้อมที่จะสู้ไปด้วยกัน

เพราะคำว่า ‘เรา’ นั่นละครับ มีมัน มีผม รักเราจึงยิ่งใหญ่เกินกว่ากรอบเล็กๆที่สังคมได้ตีเอาไว้ว่าผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิง

ยังไม่ทันไปถึงประตูใหญ่ก็ได้ยินเสียงรถขับเข้ามา และอีกคันก็ขับตามมาติดๆ ผมยิ้มออกมาอย่างดีใจ เมื่อเห็นพี่ไออุ่นกับพี่ไอติมลงจากรถ ผมวิ่งเข้ากอดคนใกล้ที่สุดอย่างแรง ได้ยินเสียง ‘อั่ก’ ด้วยละ แต่ใครจะสนละครับ คิดถึงจะแย่อยู่แล้ว

“โอ้ยยยตัวเล็ก กอดมาได้ซะแรง คนนะไม่ใช่รถบั๊ม” ปากบ่นแต่ดูดู๊ กอดไอรักหลังแทบหัก

“ก็เค้าคิดถึงตัวเองนิ..” ไม่รู้ทำไม พอเจอพวกพี่แล้วน้ำตามันรื้นขึ้นมา ผมไม่ได้เป็นคนขี้แงนะ แต่ผมค่อนข้างที่จะติดครอบครัว พอไม่เจอกันนานก็เลยเป็นแบบนี้

“โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับ พี่ล้อเล่น โน่น ไปดูพี่ชายตัวเองเลย น้อยใจแล้วมั้งน่ะ หึๆ” พี่ติมพยักพเยิดไปทางพี่อุ่น ผมผละออกมา ยิ้มกว้างแล้ววิ่งปรู๊ดไปกระแทกกอดอีกคนแรงๆอีกครั้ง เสียงอั่กลอยมาให้ได้ยินอีกแล้ว

“ว่าไงครับ ลืมพี่แล้วเหรอ หื้ม” พี่อุ่นหอมขมับแล้วอุ้มผมโยกไปโยกมาเหมือนเด็ก เออก็สนุกดีนะ แต่ผมตัวหนักไงเลยยกให้ลอยได้นิดเดียว

“ใครจะไปลืมตัวเองเล่า เค้าคิดถึงทุกคนเลย คิดถึงพี่อุ่นเท่าฟ้าเลยด้วย ฮื้อๆๆๆ”

“เอ้าไอ้ตัวดีเป่าปี่ซะแล้ว ฮ่าๆๆๆ” ถ้าเดินมาหันเราะใส่ก็เข้าบ้านไปเถอะพี่ติม หันไปค้อนเจ้าตัว แต่รายนั้นก็ยักคิ้วกวนๆใส่อีกต่างหาก ผมหันไปส่งสายตาฟ้องพี่อุ่นที่เป็นเกราะกำบังที่ดีที่สุดของผม

“อย่าแกล้งน้อง” พี่อุ่นดุอย่างไม่จริงจัง แต่ก็ทำให้พี่ติมหยุดได้ มิวายก็ยังแอบส่งยิ้มกวนมาให้อีก ได้! ไม่ยุ่งด้วยแล้ว!

“เออแล้วไหนแมวละตัวเล็ก” พี่ติมพูดขึ้น เห็นไหมครับบ้านผมมีการสื่อสารแบบโลกาภิวัตน์ขนาดไหน จะอยู่กันไกลขนาดไหนก็ส่งข่าวไปมาหากันได้ ไม่รู้ว่าใครเป็นคนบอกพวกพี่นะครับ ไม่พวกแม่บ้านก็แม่ผมนี่ละ

“นอนอยู่ที่ห้องครับ ขี้เซามากๆ” ไม่รู้ว่าตื่นหรือยังนะ แต่ตอนลงมานี่แทบไม่กระดิกตัวตามเลย นอนหลับสนิ๊ทสนิท

“เหมือนเจ้าของใช่ไหม ฮ่าๆๆๆ”

“พี่อุ่น พี่ติมแกล้งเค้าอีกแล้วอะ!”

“หึ เข้าบ้านกันเถอะ” พี่อุ่นกอดให้ผมเดินเข้าบ้านด้วยกัน ไม่มีแม้แต่จะมองไปยังสนามหญ้าหน้าบ้านเลย ผมว่าพวกพี่คงเห็นเกียร์กับพ่อตั้งแต่ขับรถเข้ามาแล้วละ แต่ทำเป็นไม่สนใจก็เท่านั้น ผมรู้สึกแย่แปลกๆ แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรออกไปในเวลานี้

แม่เดินมารับในห้องโถงพอดี พวกพี่ทั้งสองทักทายและกอดเหมือนกับทุกวัน ก่อนจะพากันเดินไปรับห้องรับแขกที่มีคุณไอแดดกับไอหมอกนอนกระดิกหางดิ๊กๆอยู่ นอนรอเจ้านายสบายเชียวนะครับสุนัขบ้านนี้

“ไอหมอก ไอแดด” พี่ติมเรียก พวกมันเอี้ยวซ้าย เอี้ยวขวาค่อยๆลุกเหมือนคนแก่ แล้วเดินดุ๊กดิ๊กทำปากแหะๆเงยหน้ามอง พวกผมยิ้มขำกับท่าทางของมัน

“งานเยอะหรือ ไม่กลับมาบ้านเลย” พี่อุ่นลูบหัวผมที่นั่งอยู่บนตักเขา พี่แกชินแล้วน่ะครับ ตอนผมเริ่มเจริญเติบโต(อ้วนนั่นเอง)เขาก็บ่นๆว่าหนักอย่างโน้นหนักอย่างนี่ มีการมาไล่ให้ลงไปนั่งข้างๆด้วยนะครับ แต่ตอนนี้ก็ชิวครับ หนักจนชิน

“ก็ด้วยละครับ” แอบรู้สึกผิดที่ลืมมาหาชะมัด เฮ้อ

“โทรก็ไม่โทรมา”

“ยุ่งๆน่ะครับ เค้าก็โทษน้า” ผมเกยคางกับไหล่พี่อุ่นแล้วกอดเอวโยกไปโยกมาเป็นการขอโทษ

“หึหึ”

“ไม่ต้องอ้อนเลยนะตัวดี ใครจะยุ่งตลอดทั้งวันหะ ถามหน่อย” พี่อุ่นเงียบไปแล้ว คราวนี้เป็นพี่ติมที่มาถามแทน รายนี้ชอบแกล้งผมอะ ถ้าผมจนมุมจะเป็นเวลาที่เขาชอบใจมาก

“อะไรเล่า กลับมาก็เหนื่อยแล้วนี่”

“หนึ่งนาทีไม่เค๊ยไม่เคยคิดจะโทรเลยว่างั้น”

“ไอรักลืมเอง ไอรักขอโทษครับ” ผมรับผิดอย่างช่วยไม่ได้ ดูสิ พี่ติมหัวเราะที่ได้แกล้งผมใหญ่เลย ส่วนคนอื่นได้แต่ส่ายหน้าเอือม เอือมพี่ติมนะครับไม่ใช่ผม ไม่ใช่หรอกเชื่อสิ

“เลิกแกล้งน้องได้แล้วลูก ขึ้นไปอาบน้ำได้แล้วไป เดี๋ยวก็ไม่สบายเนื้อสบายตัวหรอก” แม่ผมบ่นมาเป็นห่างว่าวเลยครับ

ผมลากสองพี่ตัวโตขึ้นไปยังชั้นสอง แล้วพาไปดูเจ้าหญิงของบ้านที่กำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่ พอผมเรียกชื่อก็ไม่ตื่นจนต้องสะกิดแล้วเรียกดังขึ้นถึงสะลึมสะลือตาปรือขึ้นมา

“..เมี้ยว..” ผู้ชายสามคนก้มหัวมองคุณไอซิสด้วยสีหน้ายิ้มแก้มปริ ตัวอะไรไม่รู้ น่ารักได้อีก

“นอนเยอะไม่ดีนะครับ เดี๋ยวก็ปวดหัวหรอก” ผมเอ็ดเบาๆ

“ไอรัก นั่นแมว ไม่ใช่คน” พี่อุ่นเตือน ส่วนพี่ติมเอามือมาขยี้หัวผมกระจาย

“ก็เค้ากลัวมันไม่สบายอะ”

“แล้วพาไปให้หมอตรวจร่างกายหรือยัง หื้ม” พี่อุ่นถาม ผมส่ายหน้า

“ได้มาเมื่อกลางวันเองครับ กะว่าวันพรุ่งนี้หลังเลิกเรียนจะพาไปตรวจสักหน่อย เผื่อจะได้ฉีดวัคซีนแล้วก็ถ่ายพยาธิด้วย”

“นั่นสิ ควรไปทำนะ ดูสิท้องป่องเลย แมวอะไรเนี่ยตัวเล็กท้องโต” พี่ติมจิ้มหัวคุณไอซิสเบาๆแล้วอมยิ้มขำ เขาเรียกว่าเป็นแมวที่มีคาแรคเตอร์ครับ!

“ให้แม่บ้านจัดการให้ไหม”

“อย่าเลยครับ เค้าอยากดูแลไอซิสให้ดีที่สุดน่ะครับ”

“ชื่อไอซิสเหรอ” พี่ติมหันมาถาม แล้วก้มเล่นกับไอซิสต่อ ไปเอาไม้แขวนเสื้อข้างตู้มาแกว่งให้แมวประสาทแดกเล่น ไอซิสก็บ้าจี้ ตีมึนตะคลุบใหญ่เลย

“ครับ เพราะละซี่”

“ดีกว่าชื่อไอรักนิดหนึ่ง” ถ้าไม่ติดว่าพี่ไออุ่นกับไอซิสอยู่ตรงนี้ ผมจะยกเตียงทุ่มใส่หัวพี่แกให้รู้แล้วรู้รอด

ไม่นานพวกพี่ก็ขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมอุ้มไอซิสลงไปเล่นข้างล่างด้วย ดูท่าเจ้าตัวเล็กของผมจะเข้ากับไอหมอกและไอแดดพอสมควร วิ่งกันวุ่นเลย ตอนแรกก็กลัวว่าจะกัดกันตายไปข้างหรือเปล่า แต่ไม่เลยครับ มันเป็นมิตรกันมากเลย ผมแปลกใจนะที่ทั้งสองตัวไม่เขม่นแล้วกระโจนงับหัวไอซิส แต่ก็ดีแล้วละครับที่เข้ากันได้

“เป็นยังไงบ้างครับ” ผมรีบถามอย่างลุ้นๆเมื่อเห็นเกียร์เดินมาห่างจากพ่อที่ปลีกตัวขึ้นไปข้างบนเมื่อกี้

มันมองผมก่อนจะถอนหายใจแล้วส่ายหน้าเบาๆ ไหล่ผมลู่ลงช้าๆแต่มันก็บีบมือผมเบาๆแล้วปล่อยออก

“ไม่เป็นไรนะ” ผมพยักหน้าเบาๆ มันหนักไปหมด เหมือนอยากจะทรุดลงเสียตรงนี้ไปเลย มันเสียศูนย์ เสียความมั่นใจไปเกือบครึ่ง

“..ไหวไหมเกียร์”

“ไหว ไอรักละ”

“ไหวสิ ท้อบ้าง แต่ไม่ถอยหรอกนะ” บอกน้ำเสียงจริงจัง ถึงเวลาจริงๆเป็นใครก็ยิ้มไม่ออกหรอกครับ อย่างผมตอนนี้ไง ผมไม่รู้จะทำอย่างไรดี ทางมันมืดจนแทบไม่เห็นแสงสว่าง แต่ใจสู้สั่งขาให้วิ่งหาทางออก ทั้งที่ไม่รู้ว่าหนทางที่จะพบเจอทางออกมันอยู่ตรงไหน

"แล้ว..พ่อว่ายังไงบ้างครับ" เสียงผมคงแห้งแล้งเกินไป มันจึงลากผมไปที่ลับตาคนแล้วกอดผมไว้ทั้งตัว

“ว่าไงครับ เขาว่ายังไงบ้าง” ผมถามอีกครั้ง เมื่อเห็นว่ามันไม่ตอบเสียที

“..เขาให้เราเลิกกัน..ห้ามเจอ..ห้ามคุย..ห้ามทัก..ทำเหมือนเป็นคนไม่เคยรู้จักกันยิ่งดี..ถ้ารักจริง..ก็ต้องเพื่ออนาคตไอรัก..” เสียงมันสั่นเครือลงทุกที ผมหลับตา พยายามสูดหายใจแล้วเงยหน้าถาม

“แล้วคุณตอบ..” พูดแค่นั้น กว่าจะออกมาแต่ละคำ ช่างยากเย็นเหลือเกิน..

“เพราะเรารักกันจริง..เลยทำให้ไม่ได้ สำหรับเกียร์คนเลิกกันคือคนที่หมดรักกัน ดังนั้นเราจะไม่เลิกกัน”

“….” น้ำตาที่รื้น ไหลลงมาช้าๆ ผมซุกอกหนา

“และจะช่วยกันทำเพื่ออนาคตของเราด้วยความรักของเรา..แต่เขาก็...ไม่ยอมรับ” มันผละออกมาสบตาในอ้อมกอดแล้วเช็ดน้ำตาให้

สายตานี้เหมือนตอนที่ผมขอให้เราลองห่างกัน สายตาที่เศร้าหมองยังติดตาผมไม่เคยหายไป

“ตัวเล็ก!” ไม่ทันที่จะหันไปตามเสียงเรียกก็มีมือมากระชากแขนให้ออกจากอ้อมกอดอุ่น ผมตกใจหันไปมองก็เจอพี่ติมจ้องมาทางผมกับเกียร์เขม็ง

“เมื่อกี้ทำอะไรกัน” พี่ติมถามเสียงเย็นก็ทำผมใจแป้วอีกครั้ง

“ปะ เปล่าครับ”

“เปล่าอะไร! เมื่อกี้พี่เห็นเรากอดกับมันอยู่ ทำไมเราทำตัวอย่างนี้ห้ะ!”

“เสียงดังอะไรติม” พี่อุ่นที่เดินมาพร้อมแม่ก็เข้ามาทัก แค่พี่ติมคนเดียวผมก็ตัวสั่นจนทนไม่ไหวแล้ว

“ไอ้นั่นมันกอดไอรักต่อหน้าต่อตาติม แม่ง มึงเป็นใครวะมากอดน้องกู เหี้ยเอ๊ย”

“ติม! ใครสอนให้พูดไม่เพราะอย่างนี้คะ พูดจาให้มันดีๆหน่อย” แม่ดุเสียงหลง

“ขอโทษครับ แต่มัน..ฮึ่ม!..ติมรับไม่ได้ที่จะให้น้องเราไปคบกับผู้ชายอย่างนี้ บ้านเราไม่เคยมีใครทำอย่างนี้มาก่อน มาม๊าก็รู้ว่ามันผิดธรรมชาติ สุดท้ายมันก็ต้องเลิกกันเพราะปัจจัยหลายอย่าง ตอนนี้น้องอาจจะหลงสนุกชั่วคราว แต่สุดท้ายแล้วไม่ใครก็ใครก็ต้องจบด้วยการเลิกกัน ติมไม่อยากให้น้องเสียใจ ไม่อยากให้น้องเสียเวลา เรื่องนี้ติมรับไม่ได้ พี่รับไม่ได้จริงๆไอรัก” พี่ติมพรั่งพรูออกมา แล้วหันมาบอกกับผมด้วยประโยคแสนแทงใจ

“แต่ไอรักรักเขา! พี่ติมได้ยินไหมว่าไอรักรักเกียร์! ฮึก..มันไม่ใช่ความรู้สึกชั่ววูบ แต่มันเหมือนกับคนทั่วไปที่เขารักกันจริง เหมือนผู้ชายรักผู้หญิง เหมือนกับที่แด๊ดรักมาม๊า แต่แค่เราทั้งสองเป็นผู้ชายเหมือนกัน แค่นั้น..แค่นั้นจริงๆ ทำไมคนที่ไอรักอยากให้เข้าใจ กลับ...กลับไม่เข้าใจไอรักเลยสักนิด...ฮึก”

“..ไอรักผิดมากเหรอ..” ขามันล้าจนทรุดตัวลงซบกับเข่า

พึ่งเข้าใจว่าน้ำตาเช็ดหัวเข่าก็วันนี้

“อย่ามาจับ!” เสียงพี่ติมดังขึ้น พร้อมปัดมือเกียร์ที่กำลังประคองให้ผมลุกขึ้น แล้วดึงให้ผมไปทางพี่ติมแทน

“ปล่อยเขารักกันไปเถอะลูก น้องติมจะดูถูกความรักของคนอื่นไม่ได้นะคะ เราจะมาเปรียบเทียบกับใครที่เคยเห็นมาไม่ได้ ผู้ชายรักกันยันแก่ยันเฒ่ามีออกเยอะไป น้องติมลองเปิดใจให้กว้างกว่านี้แล้วจะเข้าใจน้องนะลูก”

“…”

“น้องไม่ได้ผิดอะไรเลย ความรักไม่มีคำว่าผิดหรือถูกหรอกนะคะ อย่างน้อยน้องเขาก็ทำตัวน่ารัก มีความรับผิดชอบ ไม่เคยละทิ้งหน้าที่การเรียนหรือไปทำไม่ดีอะไร แค่นี้ยังไม่พออีกเหรอคะ”

“อย่างนั้นก็เถอะ ติมก็ยอมรับไม่ได้อยู่ดี ต่อไปนี้ไอรักต้องกลับมานอนบ้าน”

“พี่ติม!”

“ถึงเราจะบังคับตัวน้องได้ แต่ก็บังคับใจน้องไม่ได้หรอกนะติม มาม๊าขอพูดแค่นี้ละ” แม่พูดแค่นั้นแล้วเดินออกไป

“ไอรักลองไปคิดดูดีๆว่าที่ทำอยู่มันถูกดีหรือยัง พี่ยังยืนยันคำเดิม กลับมานอนบ้านซะ” พี่ติมหันมาพูดแล้วเดินขึ้นชั้นบน

“พี่อุ่น..” ผมเรียกพี่ไออุ่นเอาไว้ เขามองผมนิ่งแล้วส่ายหน้าออกมา

“พี่ไม่อยากให้เราเสียใจ แต่พี่ก็ไม่อยากยอมรับ”

สุดท้ายก็เหลือแค่ผมกับเกียร์ที่ยืนอยู่ตรงนี้ มันคว้าผมกอดอีกครั้ง

“..ทำไมละเกียร์ ทำไมมันต้องเป็นอย่างนี้ด้วย..ทำไม..ทำไมอะ..ทำไม...” ไร้เสียงร้องโฮ แต่ความเจ็บกระอักอยู่ข้างในมันล้นออกมาเป็นน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นสายอย่างไม่รู้ตัว

โหดร้ายเกินจะรับ

“ไม่เป็นไรหรอก สิ่งที่น่ากลัวคือความรู้สึกของเราต่างหาก เกียร์จะมาหาบ่อยๆ เขาจะได้ชิน” ผมผละตัวออกมามองมันอย่างใคร่รัก เวลาแบบนี้มันยังนิ่งและใช้ความคิดไตร่ตรองเรื่องราวเพื่อแก้ไขปัญหา มันรักผมมากจนไม่อยากเสียไปพอๆกับที่ผมไม่อยากเสียมันไป

“ขอบคุณครับที่ไม่ทิ้งกัน” ผมปาดน้ำตาแล้วยิ้มสู้

“เกียร์สิต้องขอบคุณ”

เรายิ้มให้กัน มองตากัน สื่อความรู้สึกออกมาโดยที่ไม่ต้องใช้คำพูดหรือการกระทำใดๆ เพียงมองดวงตาที่เปี่ยมด้วยความรู้สึกที่มากมายก็ทำให้รู้ว่าเรามีกันและกัน เพื่อกันและกัน

คนอื่นยังรับเราได้ ทำไมเราจะทำให้พ่อกับพวกพี่ๆรับไม่ได้ละ! ไอรักไฟ้ท์ติ้ง!



TBC-------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>


+ขอโต๊ดดดดด ไม่อยากจะหายไปนานนะคะ ความจริงพอเปิดเทอม งานรุมเร้า เราก็ตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะปลีกตัวมาอัพให้อย่างน้อยเดือนละ2ครั้ง แต่เหตุไฉนถึงอัพเดือนละ1ครั้งไปได้ ขออภัยจริงๆค่ะ
+ขอระบายหน่อยนะคะ T^T เทอมนี้มีโปรเจคใหญ่ ต้องทำแผนการตลาดกับร้านของหวานชื่อดังในห้างทั่วประเทศ หากทำแผนห่วย ร้านเขาก็เจ๊ง ถ้าทางผู้บริหารไม่โอเคกับแผนงานก็ต้องทำใหม่ให้เขาซื้องานจนได้อะค่ะ ก็เลยต้องเต็มที่กับมันมากหน่อย ถ้าเขาโอเคก็ได้30คะแนน ถ้าทำยังไงก็ไม่ผ่านก็หายไป30คะแนนค่ะ(โหดสุดๆ) เมื่อวานก็พึ่งส่งแปลTextbookเกือบ800หน้า เล่นเอาเราแทบน็อคคาคอมฯ เรียนปี3หรือจบทำงานไปได้5ปีแล้วฟระ เครียดจริงๆ
+ที่กล่าวมาคือจะบอกว่า ช่วงนี้งานเยอะจริงๆค่ะ แต่ไม่ทิ้งกันแน่นอน สัญญา ส่วนอีกเรื่องหนึ่ง +>> แก่แล้วไง...เล็กไม่เกี่ยง <<+ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37638.0) ขอพักไปก่อนนะคะ ไม่รู้ว่าปีใหม่จะมาต่อทันไหม แต่ก็ไม่ทิ้งแน่ๆค่ะ

โซ่รักทุกคนเหมือนเดิม :L2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่28 สู้เพื่อเรา* [25/11/13] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 25-11-2013 20:48:59
ว่าแล้วเชียว
แม่ไอรักเห็นภาพในรถตอนเช้าแน่ๆ
สงสารเกียร์ไอรัก
เฮ้อเรื่องมันเศร้า :m15:
 :กอด1: :L2: :pig4:
ขอบคุณคนแต่งที่มาต่อให้ค่ะ
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่28 สู้เพื่อเรา* [25/11/13] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 25-11-2013 21:51:29
มาม่าอืดเต็มชาม 555 คนเขียนก็สู้ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่28 สู้เพื่อเรา* [25/11/13] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 25-11-2013 21:54:55
สงสารเกียร์กับไอรักจังเลย แงงงง  :ling1: แต่ก็เข้าใจคุณพ่อกับพี่ ๆ ของไอรักนะ
จะให้ยอมรับง่าย ๆ ก็คงจะยาก แต่ก็โชคดีที่ยังมีคุณแม่คนนึงล่ะที่ยอมรับได้
ที่สำคัญ ชอบมากที่ทั้งสองคนไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ และจะต่อสู้เพื่อความรัก
แล้วดูพี่อุ่น ก็ไม่แข็งขนาดพี่ติม พี่อุ่นอาจจะยอมรับได้เป็นคนถัดไปก็ได้
ค่อย ๆ เอาชนะใจไปทีละคน พิสูจน์ให้ทุกคนได้รู้ว่าทั้งคู่รักกันจริง ๆ
ไม่เกินความสามารถของเกียร์กับไอรักอยู่แล้ว เอาใจช่วยทั้งคู่สุดใจขาดดิ้น
รอตอนต่อไปจ้า นาน ๆ มาทีก็รอได้ รอเสมอ เป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วยนะคะ สู้ ๆน้า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่28 สู้เพื่อเรา* [25/11/13] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 25-11-2013 23:15:20
ไอรักกับน้องเกียร์สู้นะคะ ที่บ้านรักไอรักมากก็ต้องมีกันซีนกันบ้าง แต่ถ้ารักกันจริงที่บ้านก็ต้องเข้าใจ
สงสารอีตาเกียร์จะเฉาตายไหมที่ไม่ได้อยู่กับไอรัก ยังดีที่มีแม่เข้าใจอยู่หนึ่งคนค่ะ
แต่พี่อีกคนก็ยังไม่รู้ท่าทีเนอะ ที่แรงสุดคือคุณพ่อ โอย คนอ่านหมดแรง แต่ก็เป็นกำลังใจให้ผ่านไปได้
ไอรักเอาความน่ารักมาใช้ให้เต็มที่ลูก ให้ทุกคนใจอ่อน 555

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่28 สู้เพื่อเรา* [25/11/13] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 26-11-2013 12:21:26
เย้....ดีใจที่มาต่อ

อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่ามันสะเทือนใจ  น้ำตารื้นเลย

ก็เข้าใจว่ามันยากจะยอมรับเรื่องแบบนี้

แต่ก็น่าจะคิดตามแบบที่คุณแม่บอกนะ

ถึงจะขังตัวไว้ได้ แต่ใจเล่าใครจะขังเจ้าได้

ต้องให้ไอรักเจ็บเจียนตายหรอไรถึงจะยอมรับกัน

เฮ้อ..................ก็ว่ากันไป

รอตอนต่อไปนะ


ปล.เกือบลืม เกียร์-ไอรักสู็ๆ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่28 สู้เพื่อเรา* [25/11/13] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 26-11-2013 16:50:01
เกียร์กับไอรักต้องสู้นะ รักกันไม่พากันเสียก็ดีแล้ว
ทำไมไม่ยอมเข้าใจนะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่28 สู้เพื่อเรา* [25/11/13] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 27-11-2013 17:36:18
สู้ๆนะทั้งสองคน เราจะเอาใจช่วย  :sad4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่28 สู้เพื่อเรา* [25/11/13] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 27-11-2013 20:15:13
เกียร์กับไอรักสู้สู้นะ  :m15:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่28 สู้เพื่อเรา* [25/11/13] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 28-11-2013 19:20:34
เศร้าอะ

ไม่คิดว่าครอบครัวจะกีดกันขนาดนี้ อย่างที่แม่บอกว่าความรักไม่มีถูกผิดหรอก แค่เกียร์ไอรักรักกันเอง ไม่ได้ไปฆ่าใครสักหน่อยแง้ๆๆ

สู้ๆนะคะไอรัก นักเขียนด้วยเนอะ เป็นกำัลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่29 แทนใจ* [12/12/13] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 12-12-2013 19:41:46
ตอนที่29






วันนี้ผมมามหาลัยกับคนขับรถที่บ้าน หลังจากที่เกิดเรื่องที่บ้านขึ้นพ่อก็ให้คนขึ้นไปเอากุญแจคอนโดเกียร์จากห้องนอนผม แล้วให้แม่บ้านไปเอาเสื้อของผมกลับมาทั้งหมดโดยที่ผมและเกียร์ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย มารู้อีกทีก็ตอนที่แม่บ้านกำลังขนเสื้อผ้าเข้าบ้าน ผมว่าพ่อทำเกินไป ถึงขนาดไม่อยากให้ผมกลับไปเหยียบที่นั่นอีกเลยหรือไง แต่ก็พูดอะไรไปไม่ได้เพราะนั่นก็เป็นพ่อของเรา จึงได้แต่ระบายความรู้สึกผ่านแรงบีบมือสากของอีกคน พอตกตอนเย็นพี่ติมก็พูดเชิงไล่เกียร์ให้ผมรู้สึกเจ็บอีกครั้ง


‘ถ้าไอ้นี่ยังอยู่ในบ้าน พี่จะไม่ทานข้าวเย็นที่นี่!’


เกียร์ก็ต้องยอมกลับไปแต่โดยดีเพราะเห็นว่าวันนี้คงอยู่ได้เพียงเท่านี้ มันไม่อยากให้พี่ต้องผิดใจกับผม อะไรที่ยอมได้ก็ต้องยอม มันบอกผมว่า..ยอมไปก่อน กลับไปตั้งหลักหนึ่งก้าวแล้วจะกลับมาเดินหน้าอีกสิบก้าว.. ฟังดูเหมือนมันมั่นใจมากเลยนะครับ ความจริงมันก็อย่างนั้นละ มันมุ่งมั่นทั้งๆที่รู้ว่ามันยากลำบากเพียงไหนก็ตาม มันบอกจะไม่ยอมเสียผมไป แค่นี้ผมก็ยิ้มออกแล้ว

แต่วันนั้นมันเอารถผมมาเพื่อจะมารับผม แล้วก็ต้องกลับไปคนเดียว แถมยังต้องเดินกลับอีกต่างหากเพราะจะขับรถผมกลับไปคนที่บ้านก็คงจะมองไม่ดี ตอนมันหันหลังเดินกลับบ้าน ผมแทบน้ำตาตก ผมสงสารเกียร์มาก ประตูรั้วกับตัวบ้านก็ไกลเหลือเกิน จะขับรถไปส่งก็โดนปฏิเสธ บอกให้ผมรีบเข้าบ้านไปเพราะกลัวยุงจะกัด ผมไม่อยากเห็นมันเหนื่อยเลย แล้วยิ่งเวลาที่มันรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยผมทั้งที่ตัวเองต้องเดินกลับเป็นกิโลกว่าจะถึงถนนใหญ่ มันยิ่งทำให้ผมแทบบ้า..

พอแยกกับมันได้สักพักผมก็ขึ้นไปต่อรองกับพ่อเรื่องที่มาเรียน เพราะเขาเกริ่นไว้ตอนเย็นว่าจะส่งคนมาจับตาดูผมทุกฝีก้าว ผมบอกกับท่านว่าขอเพียงให้คนขับรถมารับ-ส่งอย่างเดียวได้ไหม แลกกับที่ผมไม่ต้องกลับไปนอนคอนโด ผมบอกท่านว่าผมไม่ชอบให้ใครมาสะกดรอยตามเป็นเงาแบบนั้น ไม่ได้อยากเป็นนักโทษในเรือนจำ แล้วอีกอย่างยังไงผมก็กลับไปนอนที่บ้านอยู่ดี ตอนนั้นก็นานกว่าจะขอท่านได้ ดีที่แม่เข้ามาพอดีจึงช่วยพูดให้อีกเสียง

“วันนี้ผมมีเรียนทั้งวัน มารับดึกหน่อยละกัน”

“คุณหนูมีเรียนถึงห้าโมงครึ่งไม่ใช่เหรอครับ” เอออออสัตว์ ไอ้นี่เสือกรู้ทุกอย่าง แม่ง

“รู้ได้ไง”

“คุณท่านสั่งให้คนเอาตารางสอนมาให้ผมแล้วครับ” เถียงไม่ได้ครับ นั่นพ่อผม

“ผมว่าจะไปอ่านหนังสือกับเพื่อนที่ห้องสมุดต่ออีกสักพัก” เถียงไม่ได้ ก็อ้างมันเสียเลย

“งั้นผมอ่านหนังสือรอที่นั่นได้ไหมครับ” แต่นี่มึงจะเที่ยงตรงกับงานที่ได้รับมอบหมายเกินไปแล้ว

“ไม่ได้!”

“เอ่อ แต่คุณท่านจะดุผมสิครับ” อะไรๆมามองทางกระจกหลัง เดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยว ไอรักตีหน้าขรึมใส่

“ผมขอเวลาหนึ่งชั่วโมง หกโมงครึ่งมารับแล้วกัน” ผมถอนหายใจแล้วบอก กว่าจะตกลงกันได้แทบบ้าตาย

ผมเดินลงมาจากรถอย่างเซ็งๆ ลอบมองไปยังเห็นไอ้ไผ่(คนขับรถ)จอดอยู่ที่เดิม คงจะให้ผมขึ้นตึกไปก่อนถึงจะเคลื่อนรถออกไปแน่ๆ แอบดูมันจากในตึกก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ

“เฮ้อ...เฮ้ยย” ถอนหายใจยังไม่จบเฮือกก็มีมือใหญ่รั้งไปกอดเต็มตัว ตอนแรกตกใจสะดุ้งสุดตัว แต่พอได้กลิ่นที่คุ้นเคยกับสัมผัสที่ทำเมื่อคืนผมนอนไม่หลับเพราะไม่มีมัน อาการเกร็งก็ผ่อนคลายลงได้อย่างน่าประหลาด

“คิดถึงฉิบหาย” แหน่ะ มาก็หยาบคายใส่เลยนะ อย่างนี้มันน่า...

กอดให้แน่นเสียเลย แหะๆ

“เมื่อคืนก็คุยโทรศัพท์กันจนหลับยังไม่พออีกเหรอครับ” มันฝังจมูกลงซอกคอผมให้แน่นขึ้นแล้วสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะผ่อนออกซ้ำๆอยู่อย่างนั้น พลางตอบด้วยเสียงหงอยเหงาไปด้วย

“ไม่พอ มันกระสับกระส่าย นอนไม่หลับ”

“ผมก็..เหมือนกัน” แรงกระชับกอดแน่นขึ้น ผมไม่สนใจแล้วว่าใครจะมองผมบ้าง ตอนนี้ผมสนเพียงมันแค่คนเดียว

“เมื่อคืนหนาวไหม ห่มผ้าดีหรือเปล่า หื้ม”

“ไม่เตะแล้ว เตะไปก็ไม่มีใครจับห่มให้เหมือนเคย” ..แต่พอห่มมันก็หนาวอยู่ดี หนาวทั้งกายทั้งใจ

“ดูแลตัวเองหน่อยนะ”

“คุณก็เหมือนกันนะครับ ..เอาละ ได้เวลาไปเรียนแล้วละ” ผมผละตัวออกมาแล้วยิ้มจืดๆไปให้ แม้ว่าเราจะคิดถึงกันเพียงไหน แต่ต่างคนต่างมีหน้าที่ที่ต้องทำ ละทิ้งไม่ได้อยู่ดี

“ไปเรียนด้วยได้ไหม”

“ไม่ได้ครับ อย่าเกเรียนสิ มันไม่ดีนะ” ผมเตือนมันด้วยเสียงดุ เวลาอย่างนี้งอแงตลอด

“เราจะได้เจอกันอีกตอนไหน” มันถอนหายใจแล้วถามด้วยหน้าตาโหยหาอยู่ตลอด มันไม่ใช่เวลาที่ผมจะเขินไม่ใช่เหรอ จะหลบสายตานั้นทำไมกัน

“เอ่อ ก็พักกลางวัน แล้วก็หลังผมเลิกเรียนน่ะครับ ผมบอกให้ที่บ้านมารับประมาณหกโมงเย็น”

“เสร็จแล้วโทรมานะ” มันกำชับบอกด้วยสีหน้าจริงจัง

“ครับ แต่ผมจะไปหาที่โรงอาหารวิศวะเองนะครับ เกียร์ไม่ต้องมาหาผมที่นี่หรอก”

“ทำไม มันมีอะไร” มันคิ้วขมวดพูดเสียงแข็งพลางเสตามองรอบๆอย่างจับผิด ไอ้นี่ยิ่งนานไปยิ่งระแวง ผมออกจะซื่อตรงกับคุณขนาดนี้ โถๆๆๆ

“ก็คุณทำอะไรเพื่อผมเยอะแล้ว ให้ผมตามใจคุณบ้างไม่ได้เหรอ ผมไม่อยากให้คุณเหนื่อยอยู่ฝ่ายเดียวนี่”

“..อ้อนนักนะ” มันกระตุกยิ้มออกแล้วยืดแก้มผมใหญ่ แหมตะกี้นี่แทบจะฆ่ากูเสียให้ได้ หน้ามือเป็นหลังส้นเท้าสาก

“อ้อนอะไรเล่า จิ๊ อ้อจริงสิว่าจะพาคุณไอซิสไปตรวจร่างกายด้วยนี่นา เกียร์ไปด้วยกันไหมครับ”

“ที่ไหน” มันได้ยินชื่อไอซิสก็มุ่ยหน้าลง แต่มือไม่เหี่ยวลงเลย บี้อยู่ได้แก้มผมนี่

“คงเป็นโรงพยาบาล...ครับ คนขับรถคงไปส่งเหมือนเดิม แต่ไม่ลงเดินตามผมหรอก เกียร์จะไปด้วยก็ได้นะครับ” ผมเล่าเรื่องที่ตกลงกับพ่อเอาไว้ให้มันฟังตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับ ส่วนเรื่องโรงพยาบาลสัตว์นั้นทางบ้านผมไม่ได้จับธุรกิจด้านนี้หรอกเพราะทำแต่โรงพยาบาลคน แต่พอดีโรงพยาบาลนั้นผมเป็นหุ้นส่วนรายใหญ่อยู่ แต่ไม่มีใครรู้นอกจากครอบครัวผม เพราะผมให้คนอื่นบริหารแทน

“อืม ให้ชื่นใจหน่อย” มันเห็นคนจะเดินมาทางเราก็ดึงให้เข้าไปในห้องน้ำแล้วล็อคประตู ก่อนจับคางผมให้เงยขึ้น ป้อนจูบอ่อนหวานอยู่หลายนาทีแล้วผละออกอย่างเชื่องช้า

ผมเดินไปส่งมันที่รถมอเตอร์ไซค์คันเดิม โคตรคิดถึงเวลาที่ลมโกรกหน้าเลยให้ตายสิ เกียร์ทำให้ผมต้องกลายเป็นสก๊อยติดเบาะแล้วใช่ไหมนี่

จากนั้นก็เดินขึ้นไปเรียนตามปกติ และก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับพวกเพื่อนฟัง สรุปคาบเช้านี่แทบไม่ได้เรียนเลยทีเดียว ไอ้บอส คลื่น เนมมันก็เป็นผู้ฟังที่ดีตั้งใจฟังมาก และรักเพื่อนเกิน กลัวไม่รู้ข่าวสารพร้อมกันเลยโทรไปประชุมสายกับคิม พิช ไทป์ที่อยู่ต่างคณะให้มาฟังพร้อมกัน ไม่ได้เกรงใจอาจารย์เลยสักนิด หลายครั้งที่อาจารย์ต้องเอ่ยเตือน พวกผมก็เงียบ แต่ก็เป็นได้พักเดียว หันมาซักถามผมต่อ มีการเร่งให้ผมเล่าต่ออีก อะไรจะเสือกขนาดนั้นวะเพื่อนกู

“เออ ไม่เป็นไรโว้ย เดี๋ยวมันก็ผ่านไปด้วยดี” ต้องใช้เวลาสักเท่าไรละ.. แต่ก็หวังว่าจะเป็นอย่างที่ไอ้เนมมันพูดเหมือนกัน


เสร็จจากคาบเรียนที่เมื่อยปากเพราะไอ้เพื่อนจอมเจือก ผมก็ติดต่อเกียร์ทันที

12:07 iruk *หมีหิวข้าว*

12:07 igearuk อ้วน

12:07 iruk อชิระแควกๆ

12:07 igearuk ข่วนเล็บอยู่?

12:08 iruk เปล่า ลองเทสเสียง อิอิ

12:08 iruk เลิกเรียนแล้วเหรอครับ

12:08 igearuk ใกล้แล้ว

12:09 iruk ตอบไวมาก จะฟ้องครูอังคณา

12:09 igearuk รอไอรักโทรมา

12:09 igearuk เลิกยัง

12:09 iruk เลิกแล้วครับ กำลังไปหานะ

12:10 igearuk อย่าคุยกับคนแปลกหน้า (คงเป็นคำที่ยาวสุดเท่าที่มันตอบไลน์)

12:10 iruk หายห่วงค้าบ

12:10 igearuk ดีมาก

คงไม่ต้องบอกว่าผมคุยกับใคร เกียร์มันเอาชื่อผมกับมันมารวมเข้ากันจนกลายเป็น ‘igearuk’ พอตั้งเสร็จก็อมยิ้มกริ่มอยู่คนเดียว ไม่รู้มันเพ้ออะไรของมันแค่ชื่อไลน์ คือมันก็ไม่ได้ชอบเล่นโทรศัพท์อะไรนะครับ ต้องเหตุสำคัญๆมันถึงจะจับโทรศัพท์ขึ้นที(เหมือนผม) แต่ที่มันอารมณ์ดีเพราะชื่อเรารวมกันเป็นหนึ่งเดียวต่างหาก

และแค่มันยิ้มนิดเดียวก็ทำให้ผมยิ้มตามได้อย่างประหลาดแล้วละ


“สวัสดีครับทุกคน” กว่าผมจะเดินฝ่าแดดไปถึงคณะมันก็เห็นกลุ่มมันตั้งฐานนั่งในโรงอาหารกันหมดแล้ว แอบอึดอัดสายตาที่มีแต่คนมองมาด้วย เดี๋ยวนี้ผมสังเกตว่าผู้ชายเริ่มมองผมมากขึ้น ไม่รู้ทำไม หรือเพราะเขามองเพราะเรื่องผมกับเกียร์มันดังกระฉ่อนมอวะ ไม่น่าจะใช่มั้ง เอ๊ะ หรือกูจะแต๋วขึ้นวะ!?

“โหแก้มแดงแปร๊ดเลยว่ะมึง เหงื่อไหลนิดๆเอ็กซ์สาดด ฮ่าๆๆ” มึงไม่ต้องหัวเราะจนเห็นลิ้นไก่ขนาดนั้นก็ได้ไอ้คุณพัต แม่งชอบพูดเกินจริง

“มายังไง” เกียร์รีบลุกขึ้นมาล้วงมือไปในกระเป๋ากางเกงของผม(เพราะมันไม่เคยพก)เพื่อหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดหน้าเช็ดตาให้แล้วถามด้วยเสียงเครียด จะรีบลุกทำไมเล่าอีกก้าวเดียวไอรักจะถึงอยู่แล้ว

“เดินมาครับ” ผมตอบซื่อๆ

“เหนื่อยไหม ไม่ร้อนเหรอ หน้าแดงหมดแล้ว แสบหน้าไหม ทีหลังให้เพื่อนสนิทมาส่งนะ อย่าเดินมาเอง” มันร่ายยาวจนผมมึนไปเลย กูงงว่ากูผิดอะไร จะพยายามเข้าใจแล้วกัน

“ร้อนไปหน่อย แต่เดินมาก็สนุกดีนะครับ”

“ดื้อ!” อ้าว มันว่างั้นแล้วตีหัวผมเบาๆอีก ครบสูตรเลยแฟนกู ทั้งดุทั้งใช้ความรุนแรง

“กูแทรกบทสนทนาของพวกมึงทั้งสองไม่ได้เลยใช่ไหม” หันมาอีกทีก็เห็นเพื่อนมันนั่งกันตาปริบๆ ไม่สิ คนอื่นในระแวกเดียวกันก็มีอาการแบบนั้น

“แหะๆ เออเกียร์ผมหิวข้าวอะ” ไม่รู้จะตอบอย่างไรก็เลยหันไปหัวเราะใส่คุณมัด แล้วกระซิบบอกเกียร์เบาๆ มันก็เดินไปซื้ออย่างว่าง่าย เออดีเนอะ บทจะเชื่องก็เชื่องซะ

“เนกับโฟ่ไม่มาเรียนเหรอครับ” ปกติจะเห็นกันครบกลุ่ม เลยหันไปถามมัด

“เดี๋ยวพวกมันก็มา มันไปรับงานจากอาจารย์อะ” งานที่ว่าคืองานที่อาจารย์จ้างให้นิสิตทำงานให้น่ะครับ เขียนโปรแกรมบ้าง ซ่อมคอมพิวเตอร์บ้าง เกียร์ก็ทำอยู่เหมือนกัน น่าจะได้เงินดีเพราะเขาต้องการแค่ไม่กี่คน มันบอกว่ารับเพราะงานนี้ทำในบ้านได้ อีกอย่างคืออยากเรียนรู้อะไรหลายๆด้านไม่ใช่แค่ด้านไฟฟ้ากำลัง สาขาที่มันกำลังเรียนอยู่ตอนนี้อย่างเดียว

“ครับ แล้วนี่...” เด็กสองคนที่ร่วมโต๊ะหน้าตาคุ้นๆเหมือนเคยเห็นแฮะ แต่จำไม่ได้

“อ๋อ เคยเจอกันแล้วนิ ไอ้นี่ชื่อเล็ก เป็นหลานรหัสไอ้เกียร์ ส่วนนี่ชื่อฝัน หลานรหัสไอ้เน ..ส่วนนี่ชื่อไอรัก แฟนพี่รหัสมึงอะเล็ก ไหว้ซะ ฮ่าๆๆ” ผมหน้าแดงแปร๊ด ไอ้พัตมึงนะมึงเล่นกูอีกแล้วไงละ ถามว่าอายไหมก็ตอบเลยว่าไม่ แต่กูเขินหน้าจะระเบิดอยู่แล้วครับ!

“โห แฟนพี่เกียร์แม่ง....” เสียงมึงล่องลอยไปไหม

“แม่งไร” ไอ้คนโดนนินทามาจากไหนไม่รู้ เสียงโหดใส่หลานรหัสตัวเองเฉยเลย

“ง่ะ”

“มึงพูดดีๆนะถ้าไม่อยากตาย” พัตกระซิบเสียงดังแบบตั้งใจให้คนอื่นได้ยินด้วย

“เอ่อ เอ่อหล่อมากเลยคร๊าบ พี่ก็หล่อโคตร แฟนก็โคตรน่า.. เอ้ยโคตรหล่อ เหมาะสมกันที่สุดในโลกเลย” คำพูดมึงโกหกเอาหน้าชัดๆ

“ดี” เวรกรรม ไอ้นี่เสือกเชื่อเด็กมันอีก บ้ายอนะมึง ไอรักละกลุ้ม

“พวกมึงเบาๆหน่อยสิยะ” ผมเห็นสามุ่งมั่นกับวิทยุธานินทร์รุ่นเก๋ามานานละ เห็นหมุนหาคลื่นอยู่นั่นไม่หยุดสักที

“มึงทำอะไรอะ กูเห็นมึงง่วนอยู่นานละ” คิดเหมือนผมเลยครับมัด

“เอ๊ะกูบอกว่าเบาๆ กูหาคลื่นลุ้นหวยอยู่” โห ผู้หญิงไทยคนนี้ ไม่ได้มีดีแค่หน้าตานะครับ ยังกล้าได้กล้าเสี่ยงอีกด้วย เก่งจริงๆ

“หืม..เพลงนี้”

“หือ ทำไมเหรอคะเจ้าชาย” สาเงยหน้าขึ้นถามเสียงหวานเลยโดนมัดที่นั่งข้างๆผลักไหล่ไปที

“อ๋อเปล่าครับ พอดีผมชอบเพลงนี้น่ะ ชอบมากๆด้วย” ผมตอบแบบยิ้มๆ ประมาณว่าถ้าเปลี่ยนแล้วกูจะโกรธมึงมากๆ

“โอ้ยนั้นฟังเพลงนี้ก่อน ช่างหวยมันเนอะ อิอิ” น่ารักจริงๆเพื่อนเกียร์คนนี้ เหมือนเกียร์มันจะรู้ความคิดของผมจึงกระแอมออกมาเบาๆ

“พี่ไอรักๆ พี่นามสกุล อัศววัฒนไพศาล หรือเปล่าอะ” อยู่ๆหลานรหัสตัวโตของไอ้เกียร์ก็มาถามผมแบบโต้งๆ

“ทำไม” ไอ้เกียร์ถามกลับไปเร็วกว่าผมอีก หลานมึงถามใครกันแน่หะน้ำแข็ง

“ง่ะ”

“เกียร์ อย่าเสียงดุใส่น้องสิครับ ใช่ครับน้องเล็ก มีอะไรหรือเปล่าครับ” ผมเตือนเกียร์แล้วหันไปตอบน้องมัน

“ผมเห็นในเน็ตว่าคอนโดXX ที่อยู่ใกล้ๆมอเราเป็นของพี่เหรอฮะ” หน้าน้องเล็กตอนนี้จริงจังมากจนผมอดที่จริงจังตามด้วยไม่ได้

“ของแม่พี่ต่างหากครับ แม่พี่พึ่งซื้อกิจการที่นั่นต่อจากเจ้าของคนเก่า ไม่ใช่ของพี่หรอก” ผมตอบหน้ายิ้มๆ

“เฮ้ย จริงเหรอพี่ เฮ้ยย ฮ่าๆๆ แล้วมันมีห้องว่างไหมอะ คือผมอยากได้เช่าห้องหนึ่ง แต่อยากได้ถูกๆอะ งบผมไม่ค่อยมี แฮะๆ” มันตกใจโอเวอร์แอ็คติ้งกว่าได้มงกุฎมิส(เตอร์)เวิลด์อีกนะนี่

“ถูกๆเหรอ ถ้าเป็นที่นั่นมันไม่ถูกน่ะสิ ถึงพี่จะลดให้มากกว่าครึ่งก็ตามทีเถอะ เอาอย่างงี้ไหม ไปอยู่ห้องพี่ก็ได้นะ” ผมยิ้มบอกอย่างใจดี ไอ้เกียร์หันควับคิ้วขมวดเลย ผมก็มองมันงงๆ

“จะไปอยู่กับมันหรือไง” มันพูดเสียงสะบัด อ้าวงอนไอรักอีก ไอ้นี่มันลืมอะไรไปหรือเปล่า

“ให้น้องยืมสักสองเดือนก็ไม่ได้เสียหายสักหน่อย ยังไงผมก็นอนคอนโดคุณอยู่แล้วนี่ อีกอย่างตอนนี้ผมก็โดนพ่อผมจำกัดที่อยู่ด้วยนิครับ” เหมือนพึ่งคิดได้ สีหน้าเริ่มคลายออก

“....”

“ไอรักทำตัวน่ารักขนาดนี้ ยังระแวงได้ลงคอเหรอ ใจร้ายจัง” ไม่น่ากระซิบยั่วมันเลย มันหัวเราะเบาๆแล้วก้มลงมาหอมแก้มเร็วๆต่อหน้าประชาชน ผมกระเด้งหน้าออก หันซ้ายหันขวาเจอแต่สายตาที่มองพวกผมเป็นตาเดียวก็ต้องรีบก้มหน้าลง โคตรอายเลย แหง่งๆๆ

“โหไอ้เกียร์ มึงไม่เกรงใจพวกกู ก็เห็นแก่คนในโรงอาหารหน่อยเถอะ ตายิบยับเชียวนะไอ้ห่า แถวนี้ยิ่งมีแต่แฟนคลับไอ้ไอรักอยู่ด้วย จากที่มึงโดนเกลียดอยู่แล้วเดี๋ยวก็มีคนไปปาขี้หน้าบ้านมึงหรอก” พัตว่า

“กลัว?” บางทีผมก็อยากจะกระทืบหน้านิ่งๆที่ติดจะกวนมึนของมันนะครับ

“แล้วสรุปได้จริงๆเหรอพี่ จะดีเหรอ แล้วค่าเช่ามันเท่าไรอะ” คำพูดติดเกรงใจ แต่นัยน์ตามันแวววาวจนน่าตบสักทีสองที

“ไม่เป็นไรครับ พี่ไม่คิดค่าเช่า แต่คงอยู่ได้แค่สองเดือนนะ เพราะพี่ไม่รู้ว่าจะต้องใช้ห้องตอนไหนอีกหรือเปล่า”

“ย้ายสำมะโนครัวมาบ้านเกียร์ได้แล้ว” ไอ้คุณน้ำแข็งมันกระซิบบอกด้วยคำพูดที่กวนส้นเท้า ดูความกระล่อนของมัน

“โหห ใจดีสุดๆอะ ขอบคุณค้าบบพี่ชายสุดหล่อ อย่างนี้ไอ้เล็กรักตายเลย อิอิ” น้องมันลุกขึ้นมาแทบจะกราบตักผม ไอรักก็ถอยกรูดไปหาเกียร์สิครับ นอกจากที่ผมจะตกใจกับการกระทำเพี้ยนๆของมัน ยังต้องเผลอร้องโหเพราะน้องมันตัวสูงมาก เท่าเกียร์เลย เด็กสมัยนี้มันกินอะไรเป็นอาหารวะ โตได้โตดี

“อ่า ไม่เป็นไรครับ ไปนั่งทานข้าว(ดีๆ)เถอะ” น่าน ยังไม่ไป มายืนทำตาวิ้งๆเหมือนหมาได้กระดูกอีก

“ไปไกลๆ เดี๋ยวมึงจะโดน” จนเกียร์ไล่นั่นละถึงยอมไป

ทานอาหารกันเสร็จเกียร์ก็พาไปขับรถเล่น มันก็ไม่ได้ดูแดดเลยนะครับ แค่นั่งรถปุ๊บตูดกูสะดุ้งทันที แดดร้อนยิ่งกว่าทะเลทรายเสียอีก แต่มันก็ไถ่โทษโดยการร่อนไปร้านไอศกรีมหน้ามอ ผมยิ้มหน้าบานเลย

“เสร็จแล้วนั่งรอในคณะนะ ตอนเย็นอันตราย” กูอยู่มาจะจบอยู่แล้วไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น แต่พอมึงทักขึ้นมาเท่านั้นละ เดี๋ยวมันก็มี

“จ้า มาไวๆนะ” ผมโทรไปบอกคนขับรถที่บ้านแล้วว่าให้เอาคุณไอซิสมาด้วย แล้วเลื่อนเวลากลับบ้าน โดยให้รายงานไปว่าพาเจ้าหญิงไปตรวจสุขภาพ ซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร


..............................................


“เป็นไงครับเรา ไม่ให้ใครจับเลยเหรอ” ไอซิสร้อง เมี้ยว เมี้ยว เหมือนฟังรู้เรื่องเลย แต่เปล่าหรอกมันร้องไปอย่างนั้นละ เห็นว่าตอนที่จะเอามาไม่ยอมให้แม่บ้านจับ พอมาอยู่ในรถก็ดิ้นพล่าน สงสัยจะกลัวรถกระมัง แต่พอเจอผมก็เริ่มสงบลง

สัตว์มันก็เป็นสิ่งมีชีวิต มีชีวิตจิตใจ ใครเป็นนายมันก็คงรู้ด้วยสัญชาตญาณหรือความคุ้นเคยนั่นละครับ

“คุณหนูครับ มีคนตามเรามา” คนขับรถพูดเสียงเครียดพลอยให้ผมเครียดตาม ไม่ใช่ว่าเครียดเพราะกลัวจะถูกปองร้ายอย่างในละครช่องหลายสีอะไรหรอก แต่เครียดเพราะนั่นมันรถเกียร์ไง

“ไม่หรอก คงจะไปเส้นทางเดียวกับเรา ขับไปเถอะ” ผมตีหน้านิ่งสั่ง ทั้งที่ในใจลนลานจนใจจะขาดอยู่รอนๆ อย่าให้มันจับได้นะ ไม่งั้นมันได้ไปรายงานพ่อแน่ๆ

“ครับ” ยังดีที่ไผ่มันเป็นคนขับรถคนใหม่ของที่บ้าน ดูมันงงๆเอ๋อๆ ผมบอกอะไรก็เชื่อไปซะหมด

“เอ่อ คุณหนูครับ ให้ผมรอแถวนี้ใช่ไหมครับ” ปกติมันต้องรู้หน้าที่ตัวเองไม่ใช่หรือ ถามอะไรเยอะจังวะ

“อืม นานหน่อยนะ” ตีหน้าเคร่งเอาไว้ไอรัก

“ครับ” เออ สักที

ผมเดินหิ้วกระเป๋าใส่น้องแมวเข้าไปยังตัวโรงพยาบาล ก่อนที่บุรุษพยาบาลจะเข้ามาช่วยยกก็มีบุรุษหน้านิ่งคว้าไปเสียก่อน แถมยังมองเขม่นพนักงานอีก พนักงานคงร้อนๆหนาวๆเลยเดินไปรับบัตรคิวมาให้ แต่ผมโบกไม้โบกมือให้เขาแล้วลากตัวการไปยังหน้าห้องพยาบาลพิเศษ

“กินอะไรหรือยัง”

“ยังเลยครับ เรียนเสร็จก็ออกมาเลย”

“แล้วขนมที่ซื้อไว้ตอนกลางวันละ” มันรู้ว่าผมต้องกลับไปทานอาหารเย็นที่บ้านจึงซื้อขนมมารองท้องให้เมื่อตอนกลางวัน

“พวกนั้นมันทานไปหมดแล้วอะ ผมได้ดื่มแค่นมช็อคเอง” ไอรักขอฟ้องนิดหนึ่ง ไอ้พวกเพื่อนผมเจอของกินไม่ได้หรอก เห็นเป็นแดก เขมือบทุกครั้งที่มีช่องทาง

“ทีหลังแอบใส่กระเป๋าตัวเองไว้สองถุงนะ จะได้ไม่โดนแย่ง” หน้ามันโคตรจะจริงจังเลย

“หัวหมอได้อีกอะเกียร์” ว่าแล้วก็หัวเราะ มึงคิดได้เนอะเกียร์ เทคนิคนี้เหมือนสมัยตอนอยู่ประถมไม่มีผิด

มันหยิบขนมออกมาเหมือนรู้ว่ามันจะเกิดขึ้น เตรียมพร้อมสุดๆ ผมรับบิสกิตไปทานไม่กี่ชิ้น แอบเขินนิดหน่อยที่มาทานขนมในโรงพยาบาลสัตว์แบบนี้

“รออยู่ข้างนอกก็ได้นะครับ” มันลังเลนิดหน่อยแต่ก็ยอมนั่งหน้าห้องแล้วส่งไอซิสมาให้

ผมเดินเข้าไปห้องพยาบาลพิเศษ เจอหมอกำลังเดินเข้ามาจากประตูสำหรับเจ้าหน้าที่พอดี ผมยิ้มให้ แต่ไอ้หมอบ้ามารยาทแย่มาก มองผมหัวจรดเท้าเลย กูเชิญมึงออกดีไหมสัตว์

“อ่ะ เอ่อ สวัสดีครับ คุณอชิระใช่ไหมครับ เชิญครับเชิญ” กว่ามันพึ่งได้สติเชิญให้นั่ง กูแทบขึ้น

“ขอบคุณครับ” ภาคความคิดกับคำพูดไอรักแตกต่างราวฟ้ากับเหว แต่หาได้สนใจไม่ ด่าไอ้หมอคนนี้ในใจต่อไปอย่าให้มันรู้

“พอดีผมพึ่งได้คำสั่งให้เข้ามาตรวจที่ห้องพิเศษ ไม่ทราบว่ารอนานหรือเปล่า ขอโทษด้วยนะครับ” หมอขอโทษขอโพยใหญ่ คงคิดว่าผมเป็นลูกคนใหญ่คนโตกระมัง แต่ผมไม่ใช่ไง ผมเป็นแค่หุ้นส่วนรายสำคัญเท่านั้นเอง

“ไม่เป็นไรครับ พึ่งมาเหมือนกันครับ” ผมยิ้มให้ ไอรักอาจจะมองคนผิดไปเพราะดูๆแล้วก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ถ้าตัดการเจอกันครั้งแรกไปอะนะ

“ผมชื่อภูมิภัทร เรียกภัทรเฉยๆก็ได้ครับ” หมอหนุ่มอารมณ์ดียื่นนามบัตรมาให้แล้วยิ้มสว่างไสวตบท้าย รู้สึกแปลกๆนิดหน่อยแฮะ อะไรจะเป็นทางการขนาดนี้แค่มาตรวจแมวเอง

“ครับ แล้วจะเริ่มตรวจกันได้หรือยังครับ” หมอภัทรหน้าเสียไปนิดหน่อยแต่รีบปรับสีหน้าให้ยิ้มดังเดิม ขอไอรักเสียมารยาทหน่อยเถอะ เดี๋ยวกูตายเพราะคนข้างนอกเอา ใช้เวลานานไม่ได้เดี๋ยวมันพิโรธ

“ครับ วันนี้เป็นอะไรมาเอ่ย” ไอรักไม่ได้เป็นอย่ามามองตากัน ผมตีหน้ามึนเปิดกระเป๋าเอาคุณไอซิสออกมา

“โอ๊ะโอหน้าตาน่ารักเหมือนใครกันหนอ..” อะไรของหมอวะ

ผมให้หมอตรวจไอซิสไป น้องตะกุยตะกายใหญ่เลยคงจะยังไม่ชินมือกระมัง แต่อยู่กับเกียร์มันก็ไม่เป็นแบบนี้นะแปลกดี ตอนโดนฉีดยาคุณไอซิสร้องเสียงดังจนผมต้องเดินไปช่วยลูบหัวให้สงบ แต่ผมก็ต้องรีบเขยิบออกมาเพราะรู้สึกว่าจะไปเบียดหมอภัทรเกินไป ผมไม่ได้ผิดนะ แต่ถ้าไม่รู้สึกไปเองไอ้หมอมันกระแซะเข้ามาเอง ที่มีตั้งเยอะตั้งแยะ ห่านิ

“โอ๋ๆ เจ็บไหมไอซิส ขอโทษนะ” เมื่อทุกอย่างเสร็จ ก็คลานมานอนซมข้างหน้า ผมเลยจัดการอุ้มเอาไว้ในอ้อมกอด น่าสงสารจัง ร้องเสียงแผ่วเชียว

“อีกสองสัปดาห์มาถ่ายพยาธิอีกครั้งนะครับ ดูท่าเจ้าตัวนี้จะมีเยอะพอสมควร ส่วนนี่ยาของน้องไอซิสครับ”

“ขอบคุณครับ”

“อ้อคุณอชิระ รบกวนช่วยกรอกประวัติส่วนตัวของเจ้าของให้ด้วยนะครับ” ผมมองแบบฟอร์มที่หมอเอามาให้งงๆ

“ต้องเขียนด้วยเหรอครับ” เพราะจำได้ว่าผู้บริหารแจ้งกับผมว่าแค่เอามาตรวจ รับยาโดยไม่ต้องจ่ายเงินแล้วกลับได้เลย

“ครับ” หมอบอกยิ้มๆ แต่ไอรักก็ก้มเขียนไปแบบงงๆ สงสัยผู้บริหารคงลืมบอกหมอกระมัง

“ยังไงหากมีอะไรก็โทรตามเบอร์ที่อยู่ในนามบัตรได้ตลอดเวลาเลยนะครับไม่ต้องเกรงใจ”

“อ่า ครับ เสร็จแล้วใช่ไหม ผมขอตัวกลับเลยนะครับ” ไอรักสัมผัสถึงแรงสั่นตรงสีข้างยิกๆอยู่นานแล้ว คงต้องขอม้วนตัวกลับเผ่าแล้วละ

“ครับ แล้วเจอกันครับ” ขนลุกกับยิ้มไอ้หมอคนนี้วะ จะยิ้มอะไรนักหนาหวานหยดย้อยขนาดนั้น

“นาน!” เปิดออกมายังไม่ทันก้าวออกไปก็เจอคุณน้ำแข็งยืนเป็นก้อนยูนิตระยะประชิด เล่นเอาผมผงะเลย

“ให้เขาตรวจอย่างละเอียดอะครับ มันเลยนานไปหน่อย” ผมพามันออกมานั่งม้าหินอ่อนแถวสนามหญ้า ตอนนี้มันก็มืดแล้วจึงไม่มีคนอยากออกมากินลมชมวิว

“พุงมันหายไปไหนหมด” เกียร์มันงงว่าทำไมไอซิสถึงตัวแฟ่บกว่าตอนแรก ตอนผมเห็นตอนแรกก็งงเหมือนกัน

“สงสัยโดนถ่ายพยาธิไปหมดไส้หมดพุง ดูสิคงเพลียน่าดู” เจ้าหญิงขี้เซานอนหลับปุ๋ยไม่มีแววจะตื่นเลย

“แล้วหมอว่าไงบ้าง” ยังดีที่มันเริ่มสนใจไอซิสบ้างแล้ว จับพลิกไปพลิกมาอยู่นั่น ไม่รู้ว่าจะแกล้งให้แมวตื่นหรือยังประหลาดใจกับพุงไม่เลิก

“ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ อีกสองอาทิตย์ให้มาถ่ายพยาธิอีกครั้ง แต่ไม่รู้ว่าผมจะว่างมาหาหรือเปล่า” ใกล้จะสอบปลายภาคแล้ว ผมค่อนข้างคาดหวังกับเกรดเทอมนี้พอสมควร เพราะผมคิดว่ามันจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้พ่อกับพวกพี่ๆมองเกียร์ดีขึ้น อยากให้รู้ว่าเราคบกันไม่ได้ทำให้เราทำตัวเหลวไหลอะไร ความจริงก็อยากให้พวกเขาภูมิใจในตัวผมด้วย

“เกียร์น่าจะว่างพามาได้ ยังไงค่อยว่ากันอีกทีแล้วกัน”

“แล้วงานเขียนโปรแกรมที่รับมาละครับ เขากำหนดส่งอีกสองอาทิตย์ไม่ใช่เหรอ”

“ปลีกตัวมาได้”

“โอ้โหใจพี่หล่อมากอะ” ผมพูดแล้วยิ้มตาหยีใส่ เห็นอย่างนี้มันก็พ่อพระเหมือนกันนะนี่

ผมยกขาขึ้นมานั่งขัดสมาธิเพื่อหลบยุง คนข้างๆก็มีไม่เคยกัดมัน แต่จ้องจะกัดกูอยู่นั่นละ ฮึ่มๆ หรือเลือดผมจะหวานวะ แล้วเลือดใครเค็มบ้างอะอยากรู้ ผมหยุดคิดอะไรฟุ้งซ่านแล้วเงยหน้าไปมองคนที่เงียบไปได้สักพัก แต่ก็ต้องผงะเพราะหน้าอีกคนอยู่ห่างกันเพียงคืบ

“เกียร์..จะทำอะไร” มันยื่นหน้าเข้ามาเรื่อยๆ ผมเลยถามออกไปด้วยเสียงสั่นๆ มือไม้พันกันยุ่งไปหมด

“ชู่..” มันว่าแค่นั้นแล้วเคลื่อนหน้าเข้ามาประกบปากลงทันที ลูบคางให้ผมอ้าปากก่อนจะสอดลิ้นเข้ามาเกี่ยวตวัดปลายลิ้นอย่างถวิลหา ผมครางฮือหลับตาแน่น ตั้งสติได้ก็พยายามสนองกลับไปไม่แพ้กัน มันดึงตัวให้ไปนั่งตัก มือผมจึงไปคล้องคออีกคน กอดมันเอาไว้อย่างแนบชิด


อยากให้อีกฝ่ายรู้ว่าผมคิดถึงมันขนาดไหน อยากให้รู้ว่าไม่มีมันแล้วมันแย่เกินจะทนไหว


[ต่อล่าง]
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่29 แทนใจ* [12/12/13] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 12-12-2013 19:43:22
[ต่อจากด้วยบน]








เราจูบกันจนพอใจก็ค่อยๆถอนออกมาอย่างอ้อยอิ่ง



“ผม..คิดถึงคุณ” น้ำตาที่รื้นออกมากลับไหลลงอย่างไม่รู้ตัว คนอาจจะคิดว่าเพียงคืนเดียวมันจะอะไรนักหนา มันอาจจะเกินไปสำหรับใครหลายๆคน แต่สำหรับผมแล้วนั้นวันเดียวก็มากพอแล้ว เพราะเราไม่เคยต้องห่างมันนานขนาดนี้ เราอยู่ดูแลกัน มองหน้าให้กำลังใจอยู่ข้างกันเสมอ เวลานอนก็หลับไปด้วยกลิ่นอายของกันและกันทุกคืน เวลาตื่นก็เจออีกคนนอนอยู่ข้างกาย ออกมาก็เห็นแผ่นหลังกว้างง่วนทำอาหารเพื่อให้ได้อิ่มท้องอิ่มใจทุกครั้ง มันทำให้ทุกวันของผมมีความสุขจนกลับไปมีชีวิตอย่างตอนไม่มีมันแทบไม่ไหว


การที่รับแรงกดดันจากพ่อและพี่ๆผมก็ว่าแย่แล้ว แต่ความโหยหากันและกันแย่ยิ่งกว่า


“ทนหน่อยนะ” ผมพยักหน้ากับอกหนา แล้วซุกเข้าตัวให้แนบชิดขึ้น เอียงหน้าเข้าหาให้มันเช็ดน้ำตาให้แล้วลูบหัวได้ถนัด

“ทำอะไรไม่อายแมวเลยเกียร์อะ” สูดน้ำมูกแล้วแกล้งทำหน้ามุ่ยบอกมัน

“ใครเริ่มละ”

“เรื่องอย่างนั้นก็มีแต่คุณนั่นละที่เริ่ม ..หื่นชะมัด” แอบงุบงิบประโยคท้าย แต่ก็ไม่พ้นหูมันอยู่ดี

“ชอบทำหน้าตาน่ารักนัก โดนบ้างก็ดีแล้ว” ไอรักไปทำหน้าอย่างนั้นตอนไหนวะ

“ฮึ่ยย ..ไปกันเถอะครับ ป่านนี้นายไผ่คงตบยุงตายไปหลายพันตัวแล้ว”

“ไผ่?” มันเลิกคิ้วถามขณะที่ผมกำลังลุกขึ้นถือกระเป๋าคุณแมว


“อ๋อ คนขับรถน่ะครับ ป่ะ” ผมยื่นมือไปให้จับ มันมองมือผมนิ่ง ก่อนจะวางบนมือทับแล้วออกแรงกระชากจนตัวผมปลิวไปกระแทกอกมันอีกครั้ง


..ฟอด..


“โทษฐานเรียกชื่อผู้ชายคนอื่น” ไอ้เจี้ยยยยย จวยเอ๊ยทำไอรักเขินหน้าแทบระเบิดแล้วยังมายิ้มพิฆาตให้อีก ใจเต้นรัวเป็นกลองสะบัดชัยเลยกู

“ฮึ่ย ปล่อยเลย เดี๋ยวจะโดนดี” ผมสะบัดตัวให้หลุดจากอ้อมกอด มืออีกข้างยังถือกระเป๋าคุณแมวคาอยู่เลย

“กำลังรออยู่เลยละ หึหึ”


!!!!!!!!!!!!





















“ตัวเล็ก” พี่อุ่นเรียก ผมเลยเปลี่ยนแผนจากที่จะเดินขึ้นห้องไปเก็บของก็กลายเป็นเดินไปหาพี่อุ่นที่ห้องนั่งเล่นแทน

“สวัสดีครับ” ทักทายไม่พอ ต้องกระโดดทับตัวพี่อุ่นเพื่อกอดกระชับความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้น เสียง ‘อั่ก’ ลอยมาให้ได้ยินอีกแล้ว

“แถวโรงพยาบาลรถติดหรือ” คงรู้ว่าผมพาไอซิสไปหาหมอแล้วละ

“ต้องติดสิครับ ไม่งั้นจะขับมายังไงละ” พี่แกส่ายหน้าด้วยความละอา แล้วแจกมะเหงกให้ผมไปทีหนึ่ง เห็นดาววิ่งรอบหัวติ้วๆเลย

“เดี๋ยวจะโดน ..แล้วเมื่อคืนได้นอนบ้างหรือเปล่า ทำไมถึงคล้ำอย่างนี้ละ” ยิ้มเริ่มหุบลง ผมพิงอกพี่อุ่นแล้วกอดแน่น ตัวล้าไม่เท่าไร แต่ใจนี่สิ..

ผมส่ายหน้าเบาๆ

“พึ่งร้องไห้มาใช่ไหม” พี่อุ่นลูบเปลือกตาผมเบาๆ มองด้วยความสงสาร

“งืม..ไอรักคิดถึงเกียร์ เค้าสงสารเกียร์อะตัวเอง” มันต้องอดทนเจ็บ โดยที่ไม่เคยบ่นเลยสักครั้ง มีแต่บอกให้ผมเชื่อใจ ทนอีกแปบเดียวแล้วมันจะทำให้เราอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ทั้งที่ความจริงตัวมันก็เจ็บกับเรื่องนี้ไม่แพ้กันเลยสักนิด

“แล้วไม่สงสารตัวเองบ้างหรือไง หื้ม” นั่นสิ ผมลืมคิดถึงตัวเองไปเลย ตอนนี้ตัวเองก็น่าสงสารพอกัน

“แล้วพี่อุ่นไม่สงสารเค้าบ้างเหรอ” ผมช้อนตามองให้พี่อุ่นเห็นใจ

“.......”

“ไม่คิดว่าไอรักจะเสียใจบ้างเหรอครับ”

“..เฮ้อ ความจริงพี่ไม่อยากให้ตัวเล็กไปแต่งงานกับใครเลยด้วยซ้ำ เราเป็นน้องคนเล็กที่พี่รักมาก พี่ก็หวงเป็นธรรมดาอยู่แล้ว พี่ทะนุถนอมของพี่มาตั้งนาน แต่ตอนนี้มีใครก็ไม่รู้จะมาแย่งตัวเล็กไปจากพี่ คิดว่าพี่ไม่เสียใจเหรอ” พี่อุ่นพูดด้วยสีหน้าเครียดแล้วย้อนถาม

“แต่ไอรักก็ไม่ได้จะคบกับเกียร์แล้วทิ้งครอบครัวไปเลยนี่นา เราเป็นครอบครัวเดียวกันนะครับ ตอนนี้ไอรักรักพี่อุ่น พี่ติม ม๊า แด๊ดยังไง พรุ่งนี้และวันต่อๆไปไอรักก็ยังรักมากเหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยนไปเลย”

“….”

“ไอรักแค่อยากจะให้ครอบครัวเรารักคนที่ไอรักรักด้วยแค่นั้นเอง ..ไอรักขอมากไปเหรอ” เสียงแผ่วบอก อีกคนที่กำลังจ้องตาผมลึก


“แต่สักวันไอรักจะเสียใจ” ผมหันไปตามเสียงจากข้างหลัง ก็เจอพี่ติมกอดอกพิงประตูด้วยใบหน้านิ่ง


ผมตกใจเล็กน้อย ปกติคนที่ทำหน้าตาแบบนี้จะเป็นพี่อุ่นเสียมากกว่า  น้อยครั้งที่หน้าเจ้าเล่ห์ของพี่ติมจะเปลี่ยนมาจริงจังใส่ผมขนาดนี้ เห็นแบบนี้แล้วผมไม่กล้าหันไปสบตาเขาเลย

“พี่ไม่เชื่อหรอกว่าความรักแบบนี้มันจะไปกันได้นานไปจนตาย ตอนนี้ไอรักอาจจะรักสนุกหรือสับสนอยู่ แต่สุดท้ายเราทั้งสองคนก็เลิกกันอยู่ดี พี่คิดว่ากว่าจะถึงเวลานั้นมันก็เสียเวลาไปหลายชั่วโมง อาจจะเป็นวันหรือเป็นเดือนกว่าจะรู้ตัวกันเอง สู้เลิกกันไปตั้งแต่ตอนนี้อย่างที่แด๊ดบอกไม่ดีกว่าเหรอ” พี่ติมพูดแล้วสาวเท้าเข้ามานั่งข้างกัน

“ทำไมพี่ติมต้องดูถูกความรักของผมด้วย แล้วพี่ติมรู้ได้ไงว่าไอรักรักสนุกอยู่ ดูจากอายุเหรอ หรือมองว่าไอรักเป็นเด็กเลยคิดว่ารักใครจริงๆไม่เป็น ไอรักกำหนดอนาคตไม่ได้หรอก เหมือนที่พี่ติมบังคับให้ผมเลิกกับเกียร์ไม่ได้ แต่ถ้าถึงเวลานั้นจริงไอรักก็ต้องทำใจยอมรับมัน แต่ตอนนี้ วินาทีนี้ไอรักรักเกียร์ไปแล้ว ให้ไอรักได้มีความสุขกับคนที่รักไม่ได้เลยเหรอ” ผมพูดเสียงเริ่มสั่นเครือลงเรื่อยๆ

ผมไม่รู้หรอกว่าต่อไปมันจะเกิดอะไรขึ้น..ไม่อยากจะรู้ด้วย ..แต่ตอนนี้รู้เพียงว่าผมมีมันอยู่ข้างกาย..คนที่ผมอยากจับมือเดินฝ่าอุปสรรคไปด้วยกัน..คนที่ช่วยเติมช่องว่างที่ขาดหายไปในใจให้มันเต็มขึ้นมา..ตอนนี้ผมเจอคนๆนั้นแล้ว..มันก็เพียงพอแล้วไม่ใช่เหรอ

“ต้องให้ไอรักบอกอีกกี่ครั้งทุกคนถึงจะเชื่อกัน ไอรักจริงจัง ไม่ได้เป็นความรักฉาบฉวยอย่างที่คิดกัน คนที่ตามหามาทั้งชีวิต..ตอนนี้ไอรักเจอแล้ว..เกียร์คือคนนั้น..” ผมสบตาทั้งสองคนด้วยความมุ่งมั่นที่มีอยู่เต็มเปี่ยม

ทั้งคู่เงียบไปพักใหญ่ กระทั่งพี่อุ่นเอ่ยประโยคที่ทำให้ผมยิ้มออกมา

“จะผ่านด่านพี่ก็ต้องยากหน่อยนะ ถ้ายอมแพ้ก็ยื่นซองขาวก่อนแข่ง ฝากบอกมันด้วยถ้าขึ้นมาแล้วลงหลังเสือไม่ได้ ไม่งั้นไม่ตายดีแน่”

“พี่อุ่น! ติมยัง....” พี่ติมจะแย้งเสียงดัง แต่พี่อุ่นขัดขึ้นมาก่อน

“อะไรที่เป็นความสุขของน้องก็อย่าขัด เราดูได้อยู่ห่างๆ สะเออะมากไปก็ไม่ใช่เรื่องของพี่ที่ดี”

“เจ็บนะนี่! ทีกับตัวเล็กนี่พูดเพราะจัง แต่กับติมนะแทบจะกินหัว ฮึ่ย” พี่ติมแกล้งบอกอย่างน้อยใจ แต่ในใจก็คงคิดตามละครับ ผมหอมแก้มพี่อุ่นเชิงขอบคุณ

“ความด้านของคนมีไม่เท่ากัน อย่างติมต้องใช้คำขั้นแอดว๊านซ์นั่นละเหมาะสมที่สุดแล้ว” พี่อุ่นพูดจบ ผมนี่ปล่อยหัวเราะก๊ากลั่นบ้านเลย ยิ่งเห็นพี่ติมที่กำลังทำหน้าไม่ได้ดั่งใจแล้วยิ่งขำ

“ไม่ต้องมาหัวเราะเลยตัวดี เดี๋ยวโดนๆ พี่ไม่ยอมให้ไอ้หน้าปลาตายผ่านไปง่ายๆหรอก หึ!” พี่ติมขู่ซะเสียวเลยนะ

“แล้วนายคนนั้นอยู่ไหนละ”

“นั่งอยู่รั้วข้างนอกอะครับ นั้นผมบอกให้เกียร์เข้ามานะ” ผมเงยไปตอบแล้วถามพี่อุ่นหน้ายิ้มกว้างอย่างมีความหวัง เกียร์ไลน์มาบอกว่าจะนั่งรออยู่ข้างนอกก่อน ถ้าจะทานอาหารแล้วให้เรียกเดี๋ยวตามเข้าไป มันอยากให้ผมมีเวลาอยู่กับครอบครัวบ้าง

“ให้มันดมควันอยู่ข้างนอกสักชั่วโมงก็คงจะดีไม่น้อย”

“พี่ติมอะ!”

“ตามใจเถอะ แต่ไม่ต้องเดินไปรับนะ เราอยู่ในบ้าน ให้เขาเข้ามาเอง” พี่อุ่นบอก สั่งขนาดนี้แล้วจะขึ้นต้นว่าตามใจเถอะทำไมหว่า

“คร๊าบบ เดี๋ยวเค้ามานะ ฟอดด..ขอบคุณมากครับพี่อุ่น ฟอดด..พี่ติมด้วย” พี่อุ่นยิ้มบางให้ผมที่กำลังลุกออกจากตัวเขา ส่วนพี่ติมเก๊กหน้าหงุดหงิดอยู่ครับ ผมดูออกว่าเขากำลังแอบยิ้ม น้องหอมแล้วชื่นใจละสิ ฮึฮึ

ผมลุกออกไปนั่งตรงบันไดหน้าบ้านแล้วส่งข้อความไปบอกให้มันเข้ามาในบ้าน ไม่ถึงนาทีมันก็โทรกลับมา

‘หืม’

“ทางสะดวกแล้วครับ เกียร์ขับรถเข้ามาจอดในบ้านเลย”

วางสายไปครู่เดียวก็เห็นมันขับมอเตอร์ไซค์คันใหญ่เข้ามาจอดตรงหน้าผม ผมยิ้มตาหยีให้ มันเลยถามอีกทีว่าเป็นอย่างไรบ้าง

“ไอรักซะอย่าง สบายหายห่วงครับ อิอิ”

“…” มันเลิกคิ้วเชิงถามงงๆ

“พี่อุ่นบอกว่าให้คุณพยายาม ไม่รู้คุณจะยังสู้หรือเปล่า” ผมแกล้งถามมันหน้ายิ้ม

“เตรียมดาบเตรียมโล่พร้อมแล้ว รบเลยไหม” มันคว้าเอวผมมาจับไว้หลวมๆแล้วยักคิ้วให้ มึงปล่อยมุขหน้านิ๊งนิ่งเนอะ ในใจกำลังดีใจละสิ หึหึ

“งั้นผมไปเตรียมช้างทำยุทธหัตถีเลยดีไหม”

“ช้างไม่มี เอาไอ้ทรุดแล้วกัน หึหึ”

“ไอซิสครับไม่ใช่ไอ้ทรุด ผมแก้ให้ฟังเป็นพันรอบละนะ ป่ะเข้าบ้านเถอะ” ยังไม่ทันจะก้าวผ่านประตูบานใหญ่ก็ต้องหันไปตามเสียงรถเสียก่อน ผมหันไปมองเกียร์ มันมองอยู่แล้วพอดี

“ตัวเล็ก” ผมยิ้มให้กับคนที่กำลังลงจากรถ พ่อมองหน้าผมนิ่งๆแล้วดึงตัวผมให้หลุดจากเกียร์ก่อนจะลากเข้าบ้านไป ผมหันไปมองอีกฝ่ายด้วยหน้าตื่น มันยิ้มให้แล้วเดินมาตามหลัง

“ม๊าไปไหนละ” พ่อลากจนไปถึงห้องนั่งเล่นที่มีพี่ทั้งสองคนนั่งอยู่

“เมื่อกี้อยู่กับแม่บ้านที่ห้องเตรียมอาหารครับ” พี่อุ่นเป็นคนตอบ

 “อืม แล้วไอซิสเป็นไงบ้างหื้ม” พ่อหันมาถาม

“เอ่อ ก็ ก็ดีครับ ไม่ได้มีปัญหาอะไร” โซฟาวงกลมที่กว้างรอบห้อง ผมโดนพี่อุ่นกับพ่อประกบ ส่วนพี่ติมนั่งถัดจากพี่อุ่น เกียร์ยืนเคว้งกลางห้องเหมือนไม่รู้ว่าควรจะนั่งก่อนไหม

“นั่งเลยครับเกียร์” ผมเอ่ยบอก ตาคอยมองพ่อไปด้วย เขาทำหน้าเฉยๆแต่ไม่มองเกียร์ตั้งแต่ลงจากรถมาเลยแม้แต่น้อย

“เอ้อแล้วหมอที่นั่นดีไหมละ เห็นว่าบริการดีมากเลยนิ” บริการแจกยิ้มโคตรดีเลยครับ หมอนั่งยิ้มยืนยิ้มจนเหงือกแห้ง

“ก็โอเคนะครับ เหมือนโรงพยาบาลสัตว์ชั้นนำทั่วไป” ผมตอบพี่ติม ไม่เสียใจที่เลือกคนสนิทของพ่อไปดูแล

“ไออุ่น คืนนี้ลูกค้าคงถึงไทย พรุ่งนี้เช้าก็เข้าไปดูเขาหน่อยแล้วกัน”

“ครับ” พี่อุ่นตอบพ่อ

“แด๊ดไปเปลี่ยนชุดนะ” ผมพยักหน้า พ่อหอมแก้มทั้งสองข้างแล้วเดินออกไป

“นั้นไอรักขอตัวด้วยคนนะครับ” ผมบอกพี่ทั้งสองแล้วหันไปพยักหน้าให้เกียร์ตามมา ยังไม่ทันที่มัันจะยกก้นขึ้นก็มีคนขัดเสียงดัง

“หยุดเลย มึงมานี่ นั่งนิ่งๆเลย”

“ติม! พูดไม่เพราะอีกแล้วนะ ถ้าได้ยินอีกเป็นครั้งที่สอง ม๊าจะเอายาม่วงป้ายปากให้” แม่เดินมาได้ยินพอดีเลยว่าเข้าให้ ยาม่วงหรือเจนเชียนไวโอเลที่พี่ติมกลัวนักกลัวหนา เพราะตอนเด็กๆม๊าชอบเอามาป้ายปากจนพี่ติมขยาดมันจนถึงบัดนี้ ยาม่วงมันโหดเหนือคณานับจริงๆ

“ไม่เอาแล้วครับม๊า ติมขอโทษ” หงอยเลยสิพี่ติม

“ฮิฮิ งั้นไอรักขอตัวขึ้นข้างบนกับเกียร์นะครับ”

“จ๊ะ ไปเถอะ” แม่พยักหน้ารับไหว้เกียร์แล้วลูบหัวมันเบาๆ ไอ้นี่มันเป็นลูกสุดที่รักของแม่ผมแล้วใช่ไหมนี่ ถ้าแม่ไม่มาป่านนี้คงทะเลาะกันอีกยาว



.....................................



ปุ...ปุ

ผมออกจากห้องน้ำมาก็เจอกับน้ำแข็งก้อนยูนิตนอนรอบนเตียง มีการตบเตียงเรียกด้วยนะ แต่ทำได้ไม่กี่ครั้งหรอกเพราะเจ้าหญิงลายวัวตะปีนขึ้นมานอนข้างๆ มือใหญ่ก็เปลี่ยนจากตบเตียงเป็นผลักหัวไอซิสยิกๆ ทารุณกรรมสัตว์ไปไหมมึง แต่เจ้าตัวก็กวนตีนนะ นอนล้มตัวแปะไม่กระดิกไปไหน อ้าแขนอ้าขาเหมือนจะท้าชนไอ้คุณน้ำแข็ง ถ้าไอซิสยักคิ้วยึกๆได้คงทำไปแล้ว

“เกียร์ พอแล้วเดี๋ยวไอซิสมึนหัว” มือข้างหนึ่งช้อนตัวไอซิสขึ้นให้ห่างมือใหญ่ อีกมือพลางซับน้ำที่เกาะบนใบหน้าไปด้วย

“มารหัวขน” เกีย์สบถเบาๆ

“อะไรนะครับ ไม่ค่อยได้ยิน”

“มันผอมกว่าเมื่อวานนะ” ที่ผมได้ยินมันไม่ใช่แบบนี้นะ

“แล้วไป อย่าให้เห็นว่าแกล้งไอซิสอีกนะครับ”

“..ลับหลังมึงโดนแน่ไอ้ทรุด”

“อะไรนะครับ!”

“เปล่า!”






































“อ้าว ม๊าจะให้แม่บ้านขึ้นไปเรียกพอดี มานั่งเลยจ๊ะ” ผมยิ้มแล้วเดินไปนั่งข้างแม่ เกียร์ตามมานั่งติดๆ

“โหย วันนี้มีแต่ของชอบทั้งนั้นเลยครับ” หอมแก้มแม่เบาๆแล้วกวาดตาดูอาหาร มีแต่กุ้งทั้งนั้นเลย มันกุ้งเยิ้มๆอย่างนี้ไอรักก็ตาลุกวาวสิครับ ท่านหัวเราะเบาๆ

“ม๊าเห็นตัวเล็กเรียนมาหนักๆเลยลงมือทำเองสุดฝีมือเลยนะคะ เกียร์จะเอาอะไรอีกไหมลูก”  ไอรักถึงได้ว่า กลับมาไม่เห็นม๊าเลย

“แค่นี้ก็เยอะมากแล้วครับ ขอบคุณครับ” มันตอบอย่างสุภาพ

“ทานกันเถอะครับ” พี่ติมตัดบท เราจึงลงมือทานอาหารกัน

“เรียนเป็นยังไงบ้างหื้ม” แด๊ดหันมาถามผมหลังจากที่เราทานไปได้สักพัก

“ก็เรื่อยๆครับแด๊ด แต่ต้องฟิตนิดหนึ่ง จะสอบแล้ว แฮะๆ”

“อ่านหนังสือเยอะๆนะตัวเล็ก ไม่แน่เทอมหน้าแด๊ดจะส่งหนูไปเรียนต่างประเทศ”

เคร้ง....

“ขอโทษครับ” เกียร์พูดขึ้นแล้วรวบช้อนส้อมที่กระทบจานเสียงดังเมื่อครู่

“ไร้มารยาท” พ่อพูดลอยๆ แต่เป็นใครใครก็รู้ว่ากำลังพูดถึงคนไหนอยู่

“คุณคะ หมายความว่ายังไงกัน”

“หมายความอย่างที่ผมพูดนั่นละ ความจริงส่งลูกไปเรียนเมืองนอกก็มีประสบการณ์ใหม่อีกแบบ เพื่อนเราก็มีเยอะแยะ จะส่งไปรัฐไหนก็ไม่ต้องกังวลใจอะไร อีกอย่างตอนนี้มันก็เป็นโอกาสที่ดี ผมว่าไอรักควรจะเปิดโลกทัศน์ให้มากกว่านี้”

“แต่ติมว่ามันไม่เห็นจะดีไปกว่าเรียนในไทยเลยนะครับ” พี่ติมแย้งขึ้น ทุกคนเครียดทันทีที่พ่อพูด ผมมองแต่ละคนด้วยสีหน้าเลิกลั่ก

“ยังไงละ” พี่ติมสะอึก พ่อเห็นว่าเงียบไปเลยพูดต่อ

“แด๊ดอยากให้บ้านเรามีด็อกเตอร์สักคน ไม่ใช่ไปทางธุรกิจกันทั้งสามคน ไปเรียนตรีที่โน่นก็ต่อโท เอกไปเลย นอกจากดีกรีจะดีกว่าคนอื่นแล้วอีกหน่อยอาเซียนก็จะเปิด ให้ตัวเล็กไปฝึกความรู้ความสามารถ แด๊ดไม่เห็นว่ามันจะแย่ตรงไหน”

“แต่ติมไม่เห็นด้วย มันต้องใช้เวลาตั้งหลายปีนะครับแด๊ด”

“ไออุ่นว่าไงละ” พ่อตัดบทแล้วถามพี่คนโต พี่อุ่นหันมามองผมแวบหนึ่งแล้วถอนหายใจ อย่าเห็นด้วยกับพ่อนะ ผมไม่อยากไป..

“อุ่นไม่เห็นด้วยครับ” พ่อคิ้วขมวดมองอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไร

“ไอรักเป็นคนฉลาดอยู่แล้ว เรื่องภาษาก็ไม่ต้องพูดถึง อีกอย่างอุ่นคิดว่าว่าถ้าคนมันจะเก่งมันขึ้นอยู่กับตัวคนมากกว่าสถานที่เรียน ถ้าไอรักอยากไปเรียนต่อที่โน่นอุ่นก็เห็นด้วยเพราะมันเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเขา แต่อุ่นดูแล้วน้องไม่อยากจะทิ้งสิ่งต่างๆที่น้องผูกผันไปหลายปีหรอกครับ เราให้น้องเรียนที่ไทยก็ได้ อยากให้เป็นด็อกเตอร์ก็ไม่เห็นต้องไปไกลเลย ที่นี่ก็มีบุคลากรที่มากความสามารถไม่แพ้ต่างประเทศหรอกครับ” พี่อุ่นหยุดก่อนจะพูดต่อ

“แล้วถ้าแด๊ดต้องการจะส่งน้องไปเรียนต่อนอกเพียงเพราะประเด็นอื่นที่แด๊ดไม่ได้พูดมา อุ่นก็ไม่เห็นด้วยหรอกครับ และอุ่นก็พอจะเดาออกว่าเป็นเพราะเรื่องอะไร แด๊ดไม่ต้องห่วงหรอกครับถ้าทั้งสองคนนั้นรักกันจริง แม้จะอยู่คนละซีกโลกยังไงก็ยังรักกัน แต่ถ้าทั้งสองคนไม่ได้เกิดมาคู่กัน จะอยู่ใกล้กันแค่ไหนก็เลิกกันอยู่ดี”

ผมมองพี่อุ่นด้วยความปลื้มเปรม เพราะเขาเป็นคนที่เข้าใจผมที่สุดคนหนึ่ง ผมถึงได้รักพี่อุ่นมากขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าผมจะไม่รักพ่อกับแม่หรือพี่ติมนะครับ ผมรักพวกเขาไม่แพ้กันเลย

“ฉันก็ไม่เห็นด้วยนะคะ คุณให้ลูกไกลหูไกลตาขนาดนั้นจะเป็นตายร้ายดียังไงเราก็ไม่รู้ ถึงเราจะมีคนรู้จักอยู่ที่นั่นมาก แต่มันก็ไม่เหมือนเราเห็นเองหรอกนะคะ ชีวิตเขาให้เขาเลือกเองเถอะค่ะ”

พ่อนิ่งเงียบไม่ได้พูดอะไร ผมไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ หวังว่าเขาคงไม่ได้คิดจะส่งผมไปไกลๆอีกหรอกนะ ผมไม่อยากไปเลยจริงๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นโอกาส แต่มันไม่จำเป็นต้องไปข้างไปอีกซีกโลกเพื่อใบปริญญาไม่ใช่เหรอ ถ้าให้ผมไปเรียนคอร์สสั้นๆผมก็โอเคนะ แต่ถ้าให้ไปเรียนตรี โท เอกเลยผมว่าคงอยู่ไม่ไหวแน่ๆ เรียนไทยจนจบเอกสิบใบยังมีความสุขมากกว่าไปเรียนเอาใบปริญญาที่โน่นเพียงใบเดียวเสียอีก

ผมรู้ที่พ่อคิดจะส่งตัวผมไปคงไม่พ้นเรื่องเกียร์หรอก ก่อนหน้านี้ท่านไม่เคยอยากให้ผมไปไกลจากอ้อมอกเขาเลย ตอนจะไปอยู่คอนโดยังเถียงกันแทบตายกว่าจะย้ายออกมาได้ พ่อคงไม่พอใจเรื่องที่ผมคบกับเกียร์จริงๆ..



..........................



“ไอรัก” ยังไม่ทันจะหันไปถาม มันจับมือให้ไปทางสวนข้างบ้าน ผมเดินตามแรงไปแบบงงๆ จนมาหยุดหน้าบ่อปลาคาร์ฟขนาดเล็กที่ไม่ค่อยมีคนมาแถวนี้ เพราะจะไปนั่งเล่นบ่อขนาดใหญ่อีกบ่อที่อยู่หน้าบ้านกันเสียมากกว่า


“มีอะไรเหรอครับ ลึกลับจัง” ผมว่าขำๆ


เกียร์ดึงมือผมขึ้นมาแล้วสอดอะไรบางอย่างเข้านิ้วนางข้างซ้าย ผมมองสิ่งนั้นอย่างอึ้งๆแล้วมองหน้าอีกคนที่กำลังยิ้มให้อย่างอ่อนโยน


“..เกียร์..” ผมพูดไม่ออก


“หืม” มันดึงตัวผมไปกอดแล้วส่งเสียงถามในลำคอข้างใบหูผมเบาๆ


“เกียร์..ไปเอาเงินที่ไหนมาซื้อ” ผมถามเสียงอู้อี้บนอกมัน ถึงพ่อแม่มันจะให้เงินมาเป็นเดือนไม่ขาด แต่ผมรู้ว่ามันมีค่าใช้จ่ายเยอะ ต้องรับภาระหลายๆอย่างขนาดไหน ไหนจะต้องเติมน้ำมันรถ ค่าคอนโด ค่าน้ำค่าไฟ ค่าอาหารของเราสองคนอีก แม้ผมจะอ้อนจนได้จ่ายบ้างบางครั้ง แต่สุดท้ายมันก็ยังเป็นคนรับผิดชอบเสียส่วนใหญ่อยู่ดี แล้วมันยังจะแบ่งเงินมาซื้อของแทนใจแบบนี้ให้ผมอีก


จะทำให้ผมรักคุณไปถึงไหน..


“ว่าจะซื้อให้นานแล้ว มีเงินเก็บนิดหน่อยกับค่าที่รับงานมาทำนั่นละ”


“....” กระชับกอดมันแน่นขึ้น


“ใส่แบบนี้ไปก่อนนะ เกียร์จะหาวงที่สวยกว่านี้ให้ทีหลัง”


“..ฮึก ไม่ต้องหาใหม่หรอก..วงนี้ก็พอแล้ว..ผมชอบวงนี้ที่สุด ฮึก” ผมมองแหวนเพชรแถววงที่อยู่บนมือแล้วจูบลงเบาๆให้รู้ว่าวงนี้มันล้ำค่าและสำคัญกับผมขนาดไหน


“ร้องไห้ทำไม ไอ้แมวขี้แยเอ๊ย อย่างนี้ยังจะเลี้ยงแมวอีก” มันว่าขำๆแล้วเช็ดน้ำตาให้


“โหย อึก.. มือเช็ดก้นหรือเปล่าก็ไม่รู้ กลิ่นตุๆ ฟื้ดด..” ใส่ความให้มันไม่มั่นใจในตัวเอง แต่เจ้าตัวยังมีหน้ามาหัวเราะเสียงทุ้มอีกไม่ได้สะทบสะท้านหนังหนาของมันเลยสักนิด เลยจัดการสั่งน้ำมูกใส่หกแล้วขยี้จมูกใส่อกมันให้หนำใจ


“เอาให้หมดโพรงนะ ไม่หมดโดน” ดูมันขู่ผมสิ ไอ้น้ำแข็งบ้า


“ฟื้ดดด ฟื้ดดดด”


“ยังดีที่พ่อผมไม่ไล่คุณเวลามาหาที่บ้าน” ถ้าเป็นอย่างนั้นผมคงอกแตกตายวายชีวี ถ้าไม่มีมันก็ไม่มีใครให้สละเสื้อมารับน้ำมูกผม เสื้อมันสำคัญมากๆเลยนะนี่


“แต่ก็เหมือนไม่มีตัวตน” มันว่าอย่างนั้น มือลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน


“ผมถึงได้บอกไงว่ายังดี อย่างน้อยเขาก็ยังให้โอกาสให้คุณได้เข้ามาในบ้าน” ผมบอกไปยิ้มไป

“หึหึ มองโลกแง่ดีไปไหม”

“อ้าว แน่นอนสิ ไม่อย่างงั้นผมหลงจะมาติดกับคนเย็นชาอย่างคุณได้เหรอ” ผมผละหน้าแล้วเงยไปพูดหน้าซื่อตาแป๋ว มันเลิกคิ้ว

“เคยทำใส่?”

“ก็..ไม่แล้ว ถึงตอนแรกๆยังทำเหมือนจะกัดหูผมก็เถอะ” เบะหน้าบอก แต่มันก็จริงอย่างที่ว่านั่นละ เมื่อก่อนมันอยู่โหมดดาร์กตลอดน่ากลัวจะตาย แต่ตอนนี้นี่อย่างกับภาคสวรรค์ เทวดาหน้าโหดมีวงแหวนรอบหัววิ๊งๆเลย

แต่แหมเห็นอย่างนี้จิตใจไอรักบอบบางยิ่งกว่าลูกนกพึ่งคลอดอีกนะครับ โหมดดาร์กของมันติดตาจนผมยังกลัวไม่หาย

“คนนะไม่ใช่หนู” เมื่อกี้ที่พูดผมหมายถึงสุนัขนะคุณน้ำแข็ง เข้าใจอะไรผิดแบบไม่ดูขนาดไซส์ตัวเองเลยนะ คุณคิดว่าตัวเองเตี้ยเหมือนโดราเอมอนเหรอวะ คุณคิดผิด

“ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง พันธุ์อะไรไม่รู้ดุ๊ดุ เพื่อนในฝูงตัวเองยังเกร็งกันเลย” พูดอย่างนี้แล้วยังไม่รู้ก็ให้รู้ไป แหนะๆ มีการโคลงศีรษะทำท่านึกคิดนิดหนึ่ง ผมมองมันเพลินก็ต้องตกใจเพราะอยู่ๆมันก็ก้มลงมากัดหูจนผมร้องโอ้ย ลงโทษหนักไปไหมวะ คนอะไรฟันคมอย่างกับใบมีดโกน แหง่งง

“ก็นั่นมันเพื่อน”

“หือ..แล้ว..” ผมมองตาแป๋ว เอานิ้วชี้จิ้มลงบนหัวตัวเองเป็นการถาม

“แต่นี่คนรัก..หึหึ” เสียงหัวเราะในลำคอหมดไปพร้อมสัมผัสที่ประกบลงมายังริมฝีปากผมอย่างนุ่มนวล


TBC---------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>



+หวังว่ายังไม่ลืมกันนะคะ แฮะๆ
โซ่ :L2:ทุกคน
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่29 แทนใจ* [12/12/13] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 12-12-2013 20:43:35
สงสารเกียร์ไอรัก
แต่ยังดีนะที่ทางบ้านไอรักยอมให้เกียร์เข้าไปในบ้านได้
 :L2:เกียร์ไอรักสู้ๆนะ

 :L2: :L1: :pig4:
ขอบคุณคนแต่งค่ะ
ขอบคุณมากที่มาต่อให้ค่ะ







หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่29 แทนใจ* [12/12/13] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 12-12-2013 21:35:23
แปะก่อนนนนน รอให้มาม่าผ่านไป แล้วจะมาอ่านนน  :ling1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่29 แทนใจ* [12/12/13] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 12-12-2013 22:57:32
น้ำตาซึมตอนเค้าให้แหวนกัน รักกันมากเลยคู่นี้น่ารักที่สุดค่ะ
รักพี่ไออุ่นมากกู้โลกสุด ๆ ได้คุณแม่ช่วยอีกคน เฮ้อ รู้สึกโล่งใจ แต่คุณพ่อก็น่ารักนะที่รับฟังทุกคน
ไม่ได้เชื่อแต่ตัวเองไปซะหมด ที่สำคัญยอมให้เกียร์เข้ามาในบ้านได้ ถือว่าโอเคอยู่นะ
ดีกว่ากีดกันไม่ให้เจอกันเลย เชื่อเหอะ ไอรักอ้อนไปอ้อนมาทุกคนต้องยอม รักมากโอ๋มากกันขนาดนี้
คุณหมอคิดจะจีบน้อง ชิชะ เค้ามีแฟนแล้วจ้า หล่อมากด้วยนะ ขี้หวงมากอีกต่างหาก 555

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่29 แทนใจ* [12/12/13] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 13-12-2013 19:18:16
ขอบคุณพี่ๆที่เข้าใจ แต่ไม่รู้ว่าคุณพ่อจะใจแคบไปถึงไหน :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่29 แทนใจ* [12/12/13] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 14-12-2013 00:47:19
ชอบมากครับเพิ่งมา สนุกมาก

เป็นกำลังใจให้ครับผม

ยังอ่านไม่ทัน
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่29 แทนใจ* [12/12/13] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 14-12-2013 11:06:08
เหลือแต่คุณพ่อของไอรักเท่านั้นที่ยังไม่ยอมรับเกียร์
สู้ ๆ นะคุณน้ำแข็ง

+1 เป็นกำลังใจให้คนแต่งจ้า
 :กอด1:  :L2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่29 แทนใจ* [12/12/13] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 14-12-2013 19:11:33
น้ำตาแทบไหลตอนพระเอกหาเงินมาซื้อแหวนให้โอ้ยยยยยย :o12:

แต่ซึ้งลื้ม เค้ารักกันขนาดนี้อย่าไปขัดขวางเลย

รอตอนต่อไปค่ะ สนุกมว้ากก
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่29 แทนใจ* [12/12/13] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 14-12-2013 22:50:55
เพิ่งอ่านถึงตอนที่11ครับ

สนุกมากๆเลย

เป็นกำลังใจให้ครับผม
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่29 แทนใจ* [12/12/13] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 14-12-2013 23:48:13
อ่านทันแล้วววววววว สนุกดีค่ะ ^^

แต่คนแต่งพิมพ์คำว่า "งั้น" เป็น "นั้น" หมดเลย

นี่อ่านไปงงไป ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่29 แทนใจ* [12/12/13] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 16-12-2013 09:35:29
โอยยย สองคนนี้น่ารักที่สุด อยากได้ทั้งคู่เลยค่าา

ขอแพคคู่ใส่กล่องกลับบ้าน

คุณพ่อตาใจเย็นๆนะคะ อย่าพรากเขาจากกันเลย
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่30 หื่นจัด ติดสัตว์* [02/01/14] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 02-01-2014 01:37:05
ตอนที่30



“แหมๆๆ ถึงขนาดต้องให้เค้าช่วยเลยเหรอตัวเอง ไม่พึ่งหนุ่มแว๊นรุ่นใหญ่ของตัวเองแล้วไง?”

“กูเริ่มรำคาญมึงละ” ผมบ่นอย่างไม่จริงจัง ตั้งแต่มันเริ่มสตาร์ทรถนี่ยังไม่หยุดบ่นสักที

“ไรอะ อิอิ นี่กูอุส่าขับรถแอร์เย็นๆมาให้มึงถึงที่เลยนะนี่ น้ำมันก็แพง รถกูไม่ใช้แก๊สนะโว้ยจะบอก ยังไม่ทันออกจากมอรถก็เสือกติด นี่กูต้อง....”

“โอ้ยยยยยยยย มึงหยุดเหอะเนม เงียบปากหน้าตั้งหลังตรงแล้วขับรถต่อไปเลยนะ ยัง ยังไม่ทำอีก!”

“ฮึ้บ” มันเม้มปากทำเป็นกลั้นหายใจ ทำได้ไม่กี่นาทีก็หันมาฝอยต่อ ไอรักเลือกมากับคนผิดใช่ไหม

“เอ..แต่ก็แปลกที่ไอ้เกียร์ยอมปล่อยมึงมาแรดคนเดียวได้” แรดห่าอะไรแค่มาดูงานสัตว์

เมื่อวานคลื่นส่งรูปมหกรรมงานสัตว์เลี้ยงมาให้ ผมเกิดกิเลสอยากไปมาก แล้ววันนี้งานจัดเป็นวันสุดท้ายแต่เกียร์ไม่ว่างต้องรีบปั่นงานส่งภายในตอนเย็นอยู่ที่คณะ ครั้นจะโทรไปหานายไผ่ให้มารับก็เบื่อหน้ามัน จึงตัดสินใจไปกับเพื่อนดีกว่า เพื่อนคนอื่นก็ไม่ว่างกันสักคนเลยต้องมากับไอ้เนมแค่สองคน แต่ตอนนี้ผมว่าผมกำลังคิดผิดอย่างมหันต์ที่ไม่ลากนายไผ่มา ก็ดูไอ้เนมแม่งแซวไม่หยุดปากเสียที

“เกียร์ไม่ว่างโว้ย ไอ้คิมก็เรียน คนอื่นก็อ่านหนังสือ ถ้ามีใครว่างกูคงไม่ชวนมึงมาหรอก คึๆ” แอบกัดมันนิดหนึ่ง แต่ไอ้เนมมันไม่เคยสะทกสะท้านหรอก ยังยิ้มแป้นเหมือนเดิม

“แหลลลลลลล แต่ตอนนี้กูว่าไอ้เกียร์มันอาจจะแอบนอกลู่นอกทางเหมือนมึงว่ะ อิอิ” ไอ้นี่ชอบใส่ร้ายแฟนกูอยู่เรื่อย

“ไม่หรอก ไม่มีทาง” ไม่ได้พูดด้วยความลังเลนะครับ ผมมั่นใจว่ามันไม่เถลไถลไปไหนหรอก ถ้าจะไปไหนมันบอกผมก่อนอย่างไม่มีปิดบัง แต่ไม่ใช่แค่มันนะครับ ผมก็ทำเหมือนกัน เหมือนอย่างที่ผมมางานนี้ ผมก็ส่งข้อความไปบอกมันเหมือนกัน เราทำอย่างนี้จนเป็นนิสัยแล้วละครับ

แต่ก็ดีนะครับที่มันไม่ได้มาด้วยเพราะผมวางแผนว่าจะไปซื้อแหวนที่รูปทรงเดียวกับที่อยู่บนมือผมไปให้มันด้วย แต่คงไม่เซอร์ไพรส์ตอนนี้หรอก ปล่อยให้มันตายใจไปก่อน หึหึหึ

กว่าจะถึงงานก็ปาไปเกือบบ่ายโมง ความจริงผมมีเรียนบ่ายด้วยแต่อาจารย์ยกเลิกคลาสพอดี ที่บ้านไม่รู้หรอกครับไม่งั้นคงส่งให้มารับผมทันทีทันใดแล้วละ

ภายในงานมีคนค่อนข้างเยอะกว่าวันอื่นๆอีก ผมรู้ก็เพราะรูปที่ไอ้คลื่นมันส่งมาให้ไงครับ มันไปมาสองวัน ในรูปไม่ได้มีเยอะเท่าวันนี้เลย สงสัยคราวนี้ไอรักคงต้องไปเบียดเสียดกับผู้คนแล้วละ ไอรักสู้!

“โหสัตว์ สัตว์ สัตว์” ไอ้เนมทำเสียงแอ็คโค่

“เออสัตว์ ป่ะ” ผมกวักเรียกสัตว์ เอ๊ยเรียกไอ้เนม มันยังยืนนิ่งเอานิ้วสั่นๆชี้ไปที่งานค้างอยู่นั่นละ

“คือ คือ คือคนเยอะไปไหมวะ”

“งานแฟร์นะ ไม่ใช่กางเกงในตู้มึงถึงจะไม่เยอะอะ” ขอกัดมันหน่อย เห็นใส่กางเกงยีนส์อยู่ตัวเดิมมาหลายเดือนละ

“แหมไอ้ห่าตะเอง รู้ทันกูตลอด แฮะๆ กูไม่ขอเดินได้เปล่าวะ เหม็น” อ้าว มาจะสุดทางแล้วโบกมือลากูเสียอย่างนั้น

“เออเรื่องมึง ไปหาอะไรทานรอกูก่อนก็ได้ เสร็จแล้วเดี๋ยวกูโทรหา”

 “จ๊ะที่รัก”

“ที่รักพ่อง เดี๋ยวเกียร์ได้ยินแล้วมึงจะซวย” มันทำหน้าบรึ๋ยทันทีที่ผมพูดจบ มันเป็นคนที่ขยาดคุณน้ำแข็งที่สุด แบบไม่ขอเจอกันเสียจะดีกว่า ไม่รู้มันจะอะไรขนาดนั้น คุณน้ำแข็งของผมออกจะน่ารัก เนอะ

ผมเดินกลับไปโซนร้านเพชรก่อนอย่างแรก กว่าจะเลือกแบบแหวนเดียวกันที่มีไซส์เดียวกับเกียร์ก็เล่นเดินเข้าออกไปหลายร้านเหมือนกัน พอซื้อเสร็จเรียบร้อยก็เดินเข้างานสัตว์ ผมเริ่มดูโซนของสุนัขก่อน ความจริงจะมาซื้อแค่ปลอกคอให้คุณไอแดดกับไอหมอกนะ แต่เดินไปเดินมาดันได้ทั้งอาหาร ปลอกคอ เสื้อ ขนม อะไรต่อมิอะไรเต็มมือเลย แอบเหงื่อตกในใจไอรักจะแบกไปหาเนมอย่างไรดี ซื้อไม่ดูกำลังตัวเองเลยเฮ้ออ

ตอนแรกกะว่าเสร็จจากที่นี่แล้วจะกลับไปหาเกียร์แล้วรอนายไผ่ที่อาคารเรียนเสียหน่อย แต่ดูท่าแล้วสงสัยคงต้องวานไอ้เนมไปส่งตรงกลับบ้านแล้วละ

ส่วนเรื่องเกียร์กับที่บ้านผมก็เรื่อยๆละครับ ยังดีที่พี่อุ่นพี่ติมเริ่มไม่ตึงใส่เกียร์เหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่ก็ไม่ได้ดีมากร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกครับ ส่วนพ่อก็เฉยชากับเกียร์เหมือนเดิมไม่แม้แต่จะมองหน้า ทุกวันก็ไม่เคยรับไหว้เกียร์ด้วย ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะเกียร์ก็ไม่ได้ยอมแพ้ มาหาที่บ้านผมทุกเย็น ซื้อของติดไม้ติดมือตลอดจนแม่ผมรักยิ่งกว่าลูกตัวเองแล้ว

ผมเดินดูของไปเพลินๆคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยไม่ได้สนใจเสียงรอบข้างเท่าไร จนมีคนคว้าแขนผมหมับ เกือบหันไปต่อยหน้าแล้วถ้าไม่ติดว่าของเต็มมือ เลยหันไปมองค้อนคนที่กระชากแขนกะว่าจะด่าเสียหน่อยแต่ก็ต้องแปลกใจ

“หมอยิ้มสยาม”

“ฮ่าๆ อะไรกันครับ เจอไม่กี่ครั้งก็ตั้งฉายาให้ผมแล้วหรือ” เจออะไรไม่กี่ครั้ง เจอแค่ครั้งเดียวเองโว้ย

“อ่า ขอโทษครับ” เผลอหยุดปากไปหน่อย อุส่าแอบตั้งชื่อให้หมอในใจแล้วนะนี่ มีคนรู้จนได้

“ไม่เป็นไรครับน่ารักดี แล้วคุณอชิระมาทำอะไรเหรอครับ โห ของหมาทั้งนั้นเลย ว่าแต่คุณอชิระเลี้ยงหมาด้วยเหรอครับ” หมอพูดหน้ายิ้ม

“ครับ” ผมตอบอย่างมึนๆ มันถามมาเป็นยวง ผมตอบครับคำเดียวคงไม่น่าดูแย่หรอกกระมัง

“อย่างนี้ไม่หนักเหรอครับ ถืออาหารเป็นถุงๆเลย เอาอย่างนี้ไหม ไปวางที่บูทของผมก่อนแล้วเราค่อยไปเลือกของกันใหม่เนอะ” อย่ามาเนอะกับกูได้ไหม ไอรักอยากเดินคนเดียว เพื่อนก็ทิ้ง แฟนก็หาย ยังมีหมอหน้าเปื้อนยิ้มมาตามรังควาญความสันโดษอีก ชีวิตไอรักหนอ

“เอ่อ ไม่เป็นไรดีกว่าครับ” ผมปฏิเสธไปอย่างสุภาพ

“ไม่ต้องเกรงใจครับ มาๆเดี๋ยวผมช่วย คุณหน่อยๆช่วยดูแลของพวกนี้หน่อยนะเดี๋ยวผมมา” มึงยังจะเซ้าซี้ข้างไข่กูอี๊ก(เสียงสูงปรี๊ดในใจ)

“จะดีเหรอครับ เผื่อเขาต้องการหมอ..”

“ไม่เป็นไรครับ ที่บูทมีหมออีกตั้งสองคน หายห่วงครับหายห่วง” กูไม่ได้ห่วงมึ๊ง กูห่วงตัวกูนี่ละ เฮ้อ

“อ่าครับ หมอภูมิลองเดินดูงานบ้างหรือยังอะครับ” ชวนคุยไปบ้างไม่ให้น่าเกลียดจนเกินไป แต่ไอ้หมอดันชะงักตัวกึก

“อะไรนะครับ” ไอรักถามแปลกเหรอ เออวะ เขาจัดบูทกันมาหลายวันแล้วก็ต้องเคยเดินดูบ้างเป็นธรรมดานี่นา บ้าจริง

“อ๋อเปล่าครับ แฮะๆ” ผมเบี่ยงหน้าหนีอย่างเนียนๆ ไม่อยากสบตาหวานฉ่ำกับไอ้หมอมากเท่าไร มันแปลกๆ

“เมื่อกี้คุณอชิระเรียกผมว่าอะไรนะครับ”

“หือ หมอไงครับ”

“ไม่ใช่นะครับ เมื่อกี้คุณเรียกชื่อผมว่า..?”

“อ๋อ หมอภูมิ จริงสิคุณให้ผมเรียกว่าหมอภัทรนี่นา ขอโทษด้วยครับ” ผมออกตัวขอโทษไปก่อน เพราะบางคนเรียกชื่อผิดไม่ได้เลย เป็นประเด็นทันที เดี๋ยวไอรักจะโดนต่อยหน้าเอาได้

“ไม่ๆ เอ๊ย หมายถึงเรียกหมอภูมิก็ได้ครับ ความจริงจะมีคนในครอบครัวผมเท่านั้นละครับที่เรียกได้ แต่สำหรับคุณอชิระผมก็อยากให้เรียกแบบนั้น” อย่าจ้องขนาดนั้นได้ไหมมันเสียวสันหลัง ที่ผมเรียกหมอดูมีภูมิฐานเลยรู้สึกว่าชื่อภูมิมันเข้ากว่าชื่อเล่นเขาเท่านั้นเอง

“เอ่องั้นผมเรียกว่าหมอภัทรแล้วกัน”

“หมอภูมินั่นละครับดีแล้ว” เอาจริงๆ คือผมไม่เคยเห็นไอ้หมอนี่หน้าบึ้งเลยสักครั้ง

“อ่าครับ” กูเรียกมึงไอ้หมอนี่ละง่ายดี ภูมิ ภัทรอะไรไม่สนละ

“แล้วนี่คุณอชิระจะไปซื้ออะไรต่อเหรอครับ เชิญเลยครับ นำเลย” หมอผายมือให้ผมเดินอย่างกับผมเป็นนายกสมาคมคนรักสัตว์

ผมเดินเอื่อยจนไปหยุดที่โซนแมวเหมียว ให้ตายสิมีแต่ของน่ารัก ปลอกคอมีวิบวับด้วยแถมยังถูกอีกต่างหาก โน่นก็ดี นี่ก็น่ารัก ไม่รู้จะเอาอันไหนดีสรุปหยิบมาให้หมดเลยแล้วกัน จะหยิบจับใส่ตะกร้าแต่ก็แวบคิดถึงอีกคนเสียก่อน..ทักไปหาก่อนดีกว่า

13:46 iruk ทำไรอยู่ค้าบ

13:46 igearuk ปั่นงาน เบื่อ (ตอบเร็วอีกแล้ว ดีใจจัง อยากคุยให้หายคิดถึง)

13:47 iruk อ่องเอ๊ๆ เดี๋ยวก็เสร็จครับ สู้!

13:48 igearuk กลับยัง อยากกอด

13:48 iruk กำลังเลือกปลอกคอให้ไอซิสอยู่

13:48 iruk *ส่งรูปคลอกคอไปให้เลือกสามรูป*

13:48 igearuk สุดติ่งกระดิ่งแมว

13:48 iruk สวยละซี่ เอาอันไหนดีครับ เลือกไม่ถูกเลย

13:50 igearuk ฟ้าน้ำทะเล

13:50 iruk นึกว่าคุณจะเอาสีดำนะเนี่ย เห็นชอบจัง ฮ่าๆ

13:50 igearuk ตัวมันก็ดำแล้ว

13:51 igearuk สีน้ำทะเลสวยเหมือนตาไอรัก

13:51 iruk *หมีบิดตัว*

13:51 iruk เขินงะ ไปจ่ายเงินดีกว่า ไว้คุยกันครับ

 


“แฟนเหรอครับ”  ยังไม่ทันเก็บโทรศัพท์เสียงด้านข้างก็ดังขึ้นให้ตื่นจากภวังค์ทำไอรักแทบสะดุ้ง หันไปเห็นหมอมันมองมายิ้มๆเหมือนเดิม แต่รู้สึกว่าแปลกไปกว่าครั้งอื่น

“อ่อ ครับ” ผมพยักหน้าตอบ อยู่ดีๆรอยยิ้มหมอหายไปแล้วมองผมนิ่งเลย สักพักก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา

“แฟนคุณคงสวยมาก” หล่อต่างหากเล่า

“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ แฟนคุณคงสวยกว่า” พูดแล้วหัวเราะแฮะๆ

“ผมไม่มีแฟนหรอกครับ คนที่กำลังเล็งๆอยู่ก็เป็นของคนอื่นไปแล้ว เสียใจชะมัด” อ้าว ดราม่าใส่ไอรักอีก ไอรักไม่ได้เป็นกระโถนให้หมอสัตว์นะ แต่ผมก็สงสารเขานะครับ ไปชอบเขาแต่เขาดันมีเจ้าของนี่เจ็บอยู่เหมือนกันนะ อย่าถามว่ารู้ได้ไง ลองนึกจำลองสถานการณ์ตอนที่เกียร์ไม่รับรักผมแล้วมีคนในใจอยู่แล้ว อกข้างซ้ายมันก็สั่นเหมือนจะร้องไห้

“คุณใจดีอย่างนี้ลองตื้อเข้าไปบ่อยๆเดี๋ยวเขาต้องใจอ่อนกับคุณแน่ๆครับ” ผมปลอบใจ พอดีกับแม่ค้ายื่นของมาให้หลังจากที่จ่ายเงินเสร็จ ผมพูดขอบคุณเบาๆแล้วหันไปฟังสิ่งที่หมอจะพูดต่อ

“แต่เขามีแฟนแล้วนะครับ”

“ถ้ารักจริง ไม่ลองก็ไม่รู้หรอกครับ” ผมพูดไปเล่นๆ หวังว่าคงไม่เอาคำของผมไปทำหรอกนะ ผมไม่ได้อยากยุให้ไปแย่งคนอื่นหรอก แค่อยากให้ตอนนี้หมอหายเศร้าเท่านั้นเอง

“จริงเหรอครับ” ผมมองหมองงๆ แต่ก็พยักหน้าไป รอยยิ้มไอ้หมอกลับมาอีกครั้งคราวนี้กว้างกว่าปกติด้วย เอาสิเอาให้ถึงใบหู ไอรักจะปิดโรงพยาบาลจัดงานฉลองที่หมอยิ้มถึงรูหูเลย

“ถ้าอย่างนั้นผมขอโทรหาคุณบ้างได้ไหม”

“…?” ผมมองไอ้หมองงๆ อยู่ดีๆก็เปลี่ยนเรื่องคุย ทำงานหนักไปหรือเปล่าวะ

“คือผมว่าจะปรึกษาคุณเรื่อง เอ่อ เรื่องความรักน่ะครับ พอดีผมไม่ค่อยถนัดเรื่องนี้สักเท่าไร” หมอพูดด้วยท่าทีขัดเขิน เป็นภาพที่ทำให้ผมยิ้มได้นะครับ ไม่มีใครที่เพอร์เฟคไปซะทุกอย่าง ถึงจะเรียนสูงขนาดไหนแต่เรื่องบางเรื่องก็อาจจะไม่ได้เก่งเสมอไป และที่ทำผมยิ้มเอ็นดูได้ก็คงจะเป็นท่าทางแล้วก็คำพูดซื่อๆของหมอคนนี้ บางคนไม่ยอมรับหรือบอกใครต่อใครหรอกว่าเราไม่เก่งเรื่องอะไร ยิ่งคนที่มีอีโก้สูงแล้วด้วย แต่ก็ดีที่ดูท่าแล้วหมอภูมิไม่ได้เป็นแบบนั้น

“ได้สิครับ ถ้าผมช่วยได้น่ะนะ แฮะๆ” ไม่รู้จะช่วยได้ขนาดไหนเพราะผมไม่ได้เป็นศิราณี

เดินดูของกับคนถือของ(หมอภูมิ)อีกสักพักใหญ่ๆก็กลับไปเอาของที่บูท หมอภูมิเขาก็ดีนะครับ มีน้ำใจมาช่วยยกข้าวยกของไปหาไอ้เนม พอเจอไอ้เนมก็งงๆประมาณว่าไอ้นี่มันเป็นใคร คุยกันไม่นานเท่าไรหมอก็ขอกลับไปทำงานก่อน คงจะอึดอัดด้วยละ ก็ดูไอ้เนมมันจ้องสิอย่างจะกินเลือกกินเนื้อหมอภูมิ มันก็นิ่งเงียบครุ่นคิดอะไรไม่รู้ทั้งที่ผมกำลังด่าที่มันไปเสียมารยาทใส่เขายกใหญ่

“เออๆๆ มึงเลิกด่ากูได้ละ แม่ง มึงก็หัดดูหน้าไอ้หมอเชี่ยนั่นตอนมองมึงดิ หื่นสัตว์ๆ กูละอยากให้ไอ้หมอเจอไอ้เกียร์ มันจะได้เจอของจริงสักที ส่วนมึงก็โง๊โง่เนอะ ไม่รู้เรื่องกับชาวบ้านชาวช่อง” ดูมัน มาด่าผมกลับอีก

“อะไรของมึงวะ โมโหใครมาเนี่ย”

“ไม่รู้ว่ะ กูก็งง” ผมงงกับมัน

“ก็ดูดิ กูเกลียดหน้ามันอะ หยึ๋ยแม่ง เล่นหูเล่นตาฉิบหาย” มันพูดต่ออย่างโมโห ดูท่ามันจะไม่ชอบขี้หน้าหมอภูมิจริงๆ

“เล่นหูเล่นตา?”

“ไอ้ห่าบักสีดา มันคล้ายๆกับชม้ายตาอะ อย่างนี้อะอย่างนี้ๆ ดูหน้ากูรู้แล้วว่าแม่งอยากเอามึงเป็นเมีย” เฮ้ยไอ้บ้า หยาบคาย

“มึงไม่คิดว่ากูจะไปเป็นผัวเลยเหรอ เฮ้ยๆผิดประเด็น คือกูหมายถึงเขามาเล่นหูเล่นตาใส่กูตอนไหน กูผู้ชายนะโว้ย” มันหรี่ตามองผมใหญ่เลย ไอรักพูดผิดเฉยๆนะ

“ห่า แล้วให้กูอธิบายตั้งนาน”

“ก็มึงแร๊พเป็นไฟขนาดนั้น กูจะแทรกตรงไหนดีละ” ผมพูดประชดแล้วส่ายหน้าให้มัน ไอ้เนมเลียไอศกรีมในมือแล้วเงยขึ้นมายิ้มตาหยีใส่

“อิอิ”

แต่เอ๊ะ หมอภูมิไม่ได้ขอเบอร์ผมไว้นี่นา


.........................................


ผมบอกลาไอ้เนมหลังจากที่แม่บ้านช่วยกันยกของเข้าบ้านเสร็จเรียบร้อย แล้วพาคุณสุนัขคุณแมววิ่งเข้าบ้าน สามตัวก็วิ่งตามดุ๊กๆ

“เร็ว! ไอหมอก!” ไอหมอกลิ้นห้อย พยายามหอบร่างใหญ่ๆและไขมันของตัวเองตีกระเพื่อมวิ่งตามเพื่อนๆมา เห็นแล้วสงสารสังขารลูกกูเลย

“คงไม่ต้องซื้อของเข้าบ้านให้ลูกๆไอรักสักหนึ่งปีได้เลยนะคะ” แม่เอ่ยแซวเมื่อเดินผ่านแม่บ้านที่ถือของเต็มมือ

“ไอรักเห็นมันถูกดีน่ะครับ เลือกไม่ถูกด้วยเลยหยิบมาเยอะไปหน่อย แฮะๆ” ก็จริงนี่ อันโน้นก็เข้า อันนี้ก็ดี สรุปเอามาหมดเลย

“หมาๆแมวๆคงมีความสุขน่าดูนะ วิ่งรอบตัวไอรักกันให้วุ่น” พ่อตอบหน้ายิ้ม แน่นอนสิครับ ผมอยากดูแลเขา อยากให้ไอแดด ไอหมอก ไอซิสได้อยู่สบายเหมือนกับคน ไม่ได้มองว่าเขาคือสัตว์เพื่อเลี้ยงไว้เฉยๆ

“วันนี้พี่ติมกลับดึกหน่อยนะครับ” พี่ติมโทรมาบอกผมน่ะครับ เห็นว่ามีนัดกับลูกค้าคงยาว ส่วนพี่อุ่นคงกลับเวลาปกติ

“อืม งั้นทานข้าวกันเลยแล้วกัน”

ผมปลีกตัวไปโทรหาเกียร์ มันบอกว่าคงไปไม่ทันแต่ไม่ต้องห่วงให้ทานข้าวกับครอบครัวไปก่อนเลย เสร็จแล้วจะรีบตามไป ผมคุยกับมันเสร็จก็วางสายไปทานอาหาร

พอเสร็จก็ออกมานั่งเล่นกับลูกๆผมแถวบ่อปลาเล็ก ที่ที่มีความทรงจำของผมกับมันอยู่ ไอซิสโดนไอแดดแกล้งจนเกือบจะตกบ่อให้ปลากินอยู่หลายรอบ ผมก็มองดูเขาเล่นกันไปสักพักก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์สี่สูบจึงลุกขึ้นไปหาพร้อมกับสมุนอีกสามตัวที่วิ่งตามมาติดๆ

“เป็นยังไงบ้างครับ เหนื่อยไหม” มันถอดหมวกกันน็อคออก พยักหน้าทำหน้าอ่อนเพลียแล้วอ้าแขนรอให้ผมเดินเข้าไปกอดมัน

“ความจริงกลับไปนอนที่บ้านเลยก็ได้นะครับ ผมเข้าใจ” มันพึ่งปั่นงานเสร็จคงต้องการพักผ่อน ผมก็ไม่ได้เป็นคนงี่เง่าขนาดที่ไม่เจอหน้ากันแล้วโวยวายหรอก ผมเข้าใจมันดี

“หึ” มันส่ายหน้า ส่งเสียงปฏิเสธในลำคอ

“แล้วทำไมตัวอ่อนปวกเปียกละ” มันหัวเราะเบาๆกับคำพูดผม

“หิว” คราวนี้กลายเป็นผมที่หัวเราะแทน

“เข้ามาข้างในก่อนเถอะครับ”

ผมจูงคนตัวโตเข้าไปยังห้องทานอาหาร จะกดกริ่งเรียกแม่บ้านให้เสิร์ฟอาหารอุ่นๆแต่มันก็ห้ามเสียก่อน มันบอกให้พามันไปห้องครัวแล้วจะทำเองเกรงใจแม่บ้าน ป่านนี้คงหลับไปแล้ว ก็จริงของมันคือบ้านผมนอนไวเหมือนโกหก นับแม่บ้านคนสวนด้วยนะ สบายจริงๆ -*-

พอดีว่าอาหารเมื่อเย็นยังมีอยู่ มันเลยไม่ต้องทำทานเอง ผมดูมันเหนื่อยๆล้าๆก็อ่อนใจ มันไม่ได้แสดงอารมณ์ว่าเพลียหรอก แต่ผมดูออก

“เมื่อยเหรอครับ” เห็นมันบีบบริเวณไหล่อยู่หลายครั้ง

“นิดหน่อย นั่งพิมพ์งานนานอยู่ท่าเดียว” แล้วเวลาพิมพ์งานใครมันมีหลายท่าบ้างวะ ไอรักงงตึ้บ

ผมลุกขึ้นยืนซ้อนหลังมัน ค่อยๆบีบจับแถวท้ายทอยและไหล่มันเบาๆ มันชะงักตัวแข็งไปครู่หนึ่งแต่ก็ผ่อนคลายลง

“ตรงนี้เหรอครับ” มันพยักหน้า ครางออกมาเพราะร่างกายผ่อนคลาย

“รู้สึกดีขึ้นไหม” มันพยักหน้าอีกรอบ แต่คราวนี้ตะปบเข้ามือผม เลื่อนเก้าอี้ให้ห่างจากโต๊ะอาหารชุดเล็กแล้วดึงให้ไปนั่งบนตักมัน


“ไหนบอกว่าหิวไงครับ..อื้อ”


ยังไม่ทันพูดจบ เกียร์ก็ยื่นหน้าเข้ามาซุกไซร้แถวลำคอ ขย้ำมือตามเนื้อตัวผมอย่างหื่นกระหาย ผมรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ดันมาโดนก้น จะยกหนีก็โดนมือหนาจับเอวไว้ไม่ห่างแถมยังรั้งมาให้แนบชิดมากขึ้น ผมเริ่มบิดตัวด้วยความเสียวเมื่อเกียร์รั้งเสื้อขึ้นไปแล้วเอาลิ้นตวัดดูดดุนจุกนมของผมทั้งสองข้างอย่างมัวเมา ผมแทบไม่ได้ปลดปล่อยมาตั้งแต่เกิดเรื่องพอถูกปลุกขึ้นไม่นานก็แข็งจนเจ็บจะแย่อยู่แล้ว



เพล้ง..



ผมสะดุ้งตกใจจากภวังค์ หันไปตามเสียงก็เห็นจานข้าวที่เกียร์ทานไปไม่เท่าไรคว่ำอยู่ที่พื้น ไม่ต้องมองว่าฝีมือใคร ผมเองนี่ละครับที่เผลอไปปัดมันตก

“ต่อนะ” มันว่าแล้วหมายจะจูบปากผม

“อ๊ะ เอ๊ะ เกียร์พอก่อน ไม่ดีหรอกครับ” เมื่อสติกลับมา ยางอายก็กลับมาพร้อมกัน ตาดุหยาดเยิ้มเงยหน้าขึ้นมองอย่างฉงนสนเท่ห์

มันคิ้วขมวดอย่างขัดใจ แต่ก็ชะงักเหมือนพึ่งรู้ตัว

“นี่ห้องครัวนะครับ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าแล้วจะยุ่งเอา” ผมเม้มปากแน่น เขินที่มาทำอะไรแบบนี้ในห้องครัว บรรยากาศช่างไม่น่าพิศวาสเอาเสียเลย

“ไปห้องน้ำไหม ค้างไม่ใช่เหรอ ห้องนอนไอรักดีไหม ห้องทำงานหรือจะสวนหลังบ้านดี” ทีเรื่องนี้นี่สมองไวเชียวนะ มีตัวเลือกมาให้เป็นข้อๆเลย

“พอเลยๆ เลิกทำตาเยิ้มๆใส่ด้วย กินข้าวเสร็จก็กลับไปได้แล้วครับ” มาทำเป็นมองหน้าๆ เห็นได้ไม่ยากอย่างงี้ ไอรักยังหยิ่งได้อยู่นะครับ

ผมนั่งสงบสติตัวเองดูมันกวาดเศษข้าวที่กระจายตกพื้นอยู่ครู่หนึ่ง ก็ลุกขึ้นไปตักข้าวให้มันใหม่ เห็นว่ามันกินจนหมดเกรี้ยงก็สุขใจ คงมาเหนื่อยๆจริงๆ

ทานเสร็จก็ขึ้นไปนอนเล่นบนห้อง ผมกลิ้งตัวเล่นกับคุณไอซิสบนพรมพื้นห้อง ก็เกียร์ไม่ให้ไอซิสนอนบนเตียงนี่ เลยปล่อยให้เกียร์นอนบนเตียงดูพวกผมเล่น

“ถ่ายทำไมอะ!” เงยหน้าไปเห็นอีกคนถือโทรศัพท์เล็งมาทางผม

“เล่นไปสิ” มันชะโงกหน้าตอบ ถ่ายวิดีโอแน่ๆ

“แล้วคุณถ่ายทำไมเล่า ผมขยับตัวไม่ออกนะ” เผลออมลมจนรู้สึกว่าแก้มพองออกมา มันหัวเราะใหญ่เลยโดนของเล่นไอซิสปาใส่ตัว ใช่เรื่องตลกเหรอห๊ะ!

“ไอ้แมวฟิวส์ขาดแล้ว หึหึ” มันจับของเล่นแล้วโยนมาคืน จะไม่โกรธมันหรอกถ้ามันไม่ตั้งใจโยนให้โดนหัวไอซิส ดูความเลวของมันนะครับ

“อยากถ่ายก็ไปถ่ายตัวเองสิ” ผมพูดงอนๆ แล้วเดินไปรับโทรศัพท์ตัวเองที่ดังขึ้นมาพอดี เดินมานั่งบนเตียงข้างมัน คนข้างๆตีเนียนเลื้อยตัวมานอนหนุนตัก

“เออว่าไงมึง” ผมกรอกเสียงถามคิม ห้ามมือเกียร์ไปด้วย พยายามลวนลามผมทุกวิถีทาง

‘เฮ้ยมึง งานสัตว์มันมีวันนี้วันสุดท้ายแล้วเหรอวะ’

“เออ จะตะโกนทำไมวะ” ขนาดผมยกโทรศัพท์ให้ห่างจากหูยังได้ยินเสียงมันเลย

‘กูตกใจอะ ไอ้เนมบอกมันวันสุดท้ายแล้ว แม่งล้อเลียนกูใหญ่เลยว่าไม่ได้ไป’ คือคิมมันชอบเรื่องสัตว์เหมือนผมนั่นละครับ บ้านมันเลี้ยงหมาเป็นสิบตัวเหมือนเกียร์เลย แต่มันพลาดเพราะติดสอบ ส่วนผมพรุ่งนี้เริ่มสอบวันแรก แต่ที่ทำตัวสบายกว่าคนอื่นแบบนี้เพราะผมอ่านทบทวนไปสามรอบแล้ว ผมเป็นคนอ่านหนังสือไวน่ะครับ แต่จำได้หรือไม่ได้นี่อีกเรื่องหนึ่งนะ

“มึงจะไปเครียดทำไม มันก็พูดให้มึงอิจฉาเล่นเท่านั้นละ อย่างไอ้เนมมันรอข้างนอกงานอยู่แล้ว มึงก็รู้ว่ามันไม่ค่อยชอบสัตว์”

‘ก็มันพูดข่มกูอะ เนี่ย ตอนนี้มันยังพูดไม่หยุดเลย กูโคตรรำคาญ เฮ้ยไปไกลๆสิวะ’ มันทะเลาะอะไรกันไม่รู้ ไอ้สองคนนี้ก็แปลก วันไหนไม่กัดกัน ฟ้าคงตกลงพื้น

“มึงไปเคลียกันก่อน เสร็จแล้วค่อยโทรมาใหม่แล้วกัน” คนบนตักนอนหลับตาเริ่มขยุกขยิกหันหน้าเข้าตัวผม ส่วนมือก็เกี่ยวเอวผมไว้ไม่ห่าง ไอรักเลี้ยงเด็กโข่งหรือเปล่าวะ เริ่มไม่แน่ใจ

‘เฮ้ยๆ เดี๋ยวดิ แล้วนั่นเสียงไรวะ ไอซิสเปล่าอะ’ ไอ้คิมส่งเสียงตื่นเต้นใหญ่เลย อยากมาเล่นกับไอซิสละสิ

“เออ ไถขากูใหญ่เลย อยากขึ้นเตียงแต่เกียร์ไม่ให้” ผมพูดฟ้องพลางลูบหัวอีกคนไปด้วย ตาโหลเชียว สภาพเหมือนคนพึ่งเลิกยาไม่มีผิด มึงหักโหมทำงานจนไม่ได้หลับได้นอนหรืออัดกระทิงแดงเกินวันละสองขวดมาวะนี่

‘โหแม่ง ใจร้าย แล้วไอซิสพันธุ์อะไรวะ’

“พันมือพันตีน” เสียงทุ้มโพล่งขึ้นตอบ ผมเลิกคิ้วมอง แต่มันคงไม่เห็นหรอกเพราะนอนหลับตาอยู่ ผมนึกว่ามันหลับไปนานแล้วนะ

‘เอ้อะ...’

“เดี๋ยวเถอะเกียร์ พันธุ์อะไรไม่รู้ว่ะ ไม่มีมั้ง”

‘พันธุ์ไทยไงมึงจะถามอะไรมันเยอะวะบ้าเปล่า หรือจะให้มันไปพันทิป จะบ้าไปแล้วกะละมัง สนใจมันขนาดนี้ไปแต่งงานกับไอซิสเลยปะเดี๋ยวกูจัดให้ ...นั่งแดกโป๊งเหน่งไปเงียบๆได้ไหมไอ้ชี่ยเนม พูดมากจังโว้ยกูรำคาญ…!#^%&!’ เสียงไอ้เนมพูดสามประโยคแรก ที่เหลือเป็นไอ้คิม มันจะฆ่าหมกคอนโดกันไหมนั่น ผมเห็นว่ามันคงไม่หันมาคุยแล้วก็วางสายไป

“วันนี้นอนที่นี่ไหมครับ” ถามมันเบาๆ

“ได้เหรอ”

“ไม่รู้สิ” มันลุกขึ้นมาหน้ามึนๆ ผมเลยลูบหน้าลูบตาให้ มันจับมือเอาไว้แล้วซบลงฝ่ามือ

“อาบน้ำด้วยกันนะ” มันปรือตาขึ้นมาสะกดให้ผมตอบตกลง แต่ยังไม่ทันเดินไปไหน โทรศัพท์ก็ดึงขึ้นมาอีกครั้ง ผมเลิกคิ้วมองเบอร์แปลกที่ปรากฎขึ้น เกียร์ทำสัญญาณว่าจะเข้าไปรอในห้องน้ำ ผมเลยพยักหน้าตอบ

“สวัสดีครับ”

.
.
.
.

(ต่อล่าง)
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่30 หื่นจัด ติดสัตว์* [02/01/14] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 02-01-2014 01:40:48
(จากด้านบน)

.
.
.
.
.



‘........’ ใครวะ


“ฮัลโหล ไม่ทราบว่าใครครับ”


“.......เอ่อ” เสียงผู้ชาย

“ครับ? ใครครับ” ผมถามย้ำอีกรอบ ปกติผมเป็นคนใจเย็นนะครับ แต่ ณ เวลานี้ไม่อยากจะใจเย็นเสียเท่าไร ใครก็ไม่รู้มาขัดจังหวะผมกับเกียร์ มันน่าโมโหจริงๆ เดี๋ยวนี้ยิ่งมีเวลาให้มันน้อยอยู่ด้วย

‘ผมเองครับ พี่ภูมิ’ พี่..? ภูมิ..?

“พี่ภูมิ? อ๋อ หมอภาคภูมิเหรอครับ” ปกติหมอจะเรียกแทนตัวเองว่าผมหรือหมอ มาพูดแบบนี้ผมเลยรู้สึกแปลกหูชอบกล

‘ครับ เรียกพี่ภูมิดีกว่านะ เอ่อ พี่โทรมารบกวนคุณอชิระหรือเปล่าเอ่ย’ มากอะครับ

“ก็..พอคุยได้ครับ แล้วมีอะไรหรือเปล่าครับ โทรมาซะดึกดื่นเลย” ผมพูดขำๆ

‘ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้วพี่จะโทรหาไม่ได้เหรอครับ’ หมอพูดเสียงน้อยใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่างอนจริงหรือหลอก แต่ไอ้หมอมันดราม่าใส่ผมหลายทีแล้วนะ เป็นตุ๊ดหรือเปล่าวะ

“เปล่าครับ ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น..” ยังไม่ทันพูดต่อ เกียร์ก็ออกมาจากห้องน้ำแล้วมองมาอย่างสงสัย ผมเลยทำสัญญาณไปว่าขอเวลาอีกแปบหนึ่ง

‘เฮ้อ โล่งใจจัง พี่นึกว่าคุณอชิระจะไม่อยากคุยกับพี่เสียแล้ว ฮ่ะฮ่ะ แล้วทำอะไรอยู่เอ่ย’

“กำลังจะอาบน้ำนอนน่ะครับ หมอโทรมาพอดี” นี่ไอรักกำลังจะบอกว่าหมอกำลังรบกวนเวลาส่วนตัวอยู่นะ โปรดเข้าใจเจตนารมณ์ของไอรักด้วยเถอะเพราะตอนนี้คุณหมาน้ำแข็งเริ่มย่างกรายซอยเท้าคิ้วขมวดเป็นปมมาหาผมแล้ว

‘อ๋อ ครับๆ งั้นคุณอชิระไปอาบน้ำเถอะครับพี่ไม่กวนแล้ว เอาไว้วันหลังพี่จะโทรไปหาอีกที เบอร์นี้เบอร์พี่นะครับ’ ไม่บอกกูก็รู้แล้ว

“ครับ”

‘เดี๋ยวๆ อีกเรื่องครับ’

“ครับ?”

‘ไม่ทราบว่าคุณอชิระชื่อเล่นชื่ออะไรเหรอครับ’

“อ๋อ ไอรักครับ”

‘ชื่อน่ารักจัง..งั้นพี่ขอเรียกว่าน้องไอรักได้ไหมครับ’ ห๊า เหมือนสนิทกันมานาน

“เอ่อตามสบายครับ ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ”

‘ครับ ฝันดีนะครับ..น้องไอรัก’ เหี้ยขนลุก นิ้วโป้งจ่อจะกดวางสายอยู่ตั้งแต่เริ่มรับโทรศัพท์ละ กว่าจะได้วาง

“ใครเหรอ”

“หมอของไอซิสน่ะครับ” มันเลิกคิ้วมองฉงน อย่าว่าแต่เกียร์เลย ผมก็งงไอ้หมอเหมือนกัน เอาเบอร์มาจากไหนยังงงอยู่เลย

“ป่ะ ไปอาบน้ำกันเถอะ” ผมพูด

เราถอดเสื้อกางเกงออก เกียร์ยื่นมือมาให้แล้วจับมือให้ผมลงอ่าง ล้มตัวนั่งพิงอกมัน ตอนแรกมันก็บอกว่าจะไม่ทำอะไรผม  แต่ไอ้เกียร์น้อยมันดันทรยศชูชันมาโดนตัวผมจนทนไม่ไหวต้องหันไปจูบมันแล้วบอกว่าจะทำก็ได้ ผมไม่ได้ว่าอะไร ความจริงผมก็ต้องการเหมือนมันนั่นละ แต่ไม่กล้าบอกตรงๆ

แต่ก็ไม่มีอะไรมากครับ เราใช้มือให้กันและกันแค่นั้น เอาแค่ให้สบายตัวพอ ส่วนเวลาที่เหลือแค่อยู่ใกล้กันก็มีความสุขแล้ว

อาบน้ำเสร็จผมก็ให้มันใส่เสื้อผ้าของพี่ติมที่แม่บ้านเคยเอามาใส่ที่ตู้ผม มันก็นอนรอให้ผมทาครีมเสร็จถึงจะนอนพร้อมกัน

“ให้ผมปิดไฟเลยไหม” เห็นมันกดโทรศัพท์อยู่เลยถามมันก่อน

“อือ” มันเงยหน้าขึ้นตอบสั้นๆ

“ทำอะไรอยู่เหรอ” ผมปิดไฟแล้วเดินไปตามแสงที่ออกจากโทรศัพท์มัน

“ตั้งนาฬิกาปลุก” มันเบี่ยงมาให้ดู ประมาณว่ากูตั้งนาฬิกาจริงๆนะไม่ได้โกหก พอเสร็จก็ล้มตัวนอน ดึงให้ผมไปก่ายกอด ส่วนมือมันก็ลูบหลังผมเล่น

คืนนั้นเป็นคืนที่ผมหลับสนิทที่สุดหลังจากที่กลับมานอนบ้าน มีอ้อมกอดอุ่นๆ มือสากๆที่คอยลูบไล้ไปทั่วตัวเหมือนเพลงกล่อมคลอเบาๆ มันช่างผ่อนคลายใจได้มากจริงๆ

“ไอรัก...เกียร์ไปก่อนนะ”

ผมสะลึมสะลือตื่นเพราะแรงเขย่า มองนาฬิกาก็เห็นว่ายังไม่เช้าเลยนอนหลับตาลงเพื่อตั้งสติ แต่เพียงพักเดียวก็รู้สึกถึงสัมผัสที่แก้มทั้งสองข้าง ทำเอาผมเผยยิ้มออกมา

“ตีสามครึ่งเอง นอนอีกหน่อยก็ได้..” ผมงึมงำตอบ ดึงให้มันมานอนด้วยกัน ขนาดผมยังง่วงเลย มันคงเพลียมากกว่าผมแน่ๆ

“คนอื่นเห็นแล้วจะว่าไอรักเอาได้นะ” มันพูดเสียงเบา

 “..ฮื้อ..” ผมปรือตามองอีกฝ่ายแล้วส่งเสียงขัดใจ

“นอนเถอะนะคนดีของเกียร์”

มันยอมเอนตัวนอนลงให้ผมกอดแล้วลูบหัวจนผมหลับไปอีกครั้ง ตื่นขึ้นมาประมาณเจ็ดโมงกว่าก็ไม่เห็นเกียร์ ไม่รู้ว่าไปตอนไหนแต่เตียงนอนข้างผมเย็นแล้ว

ผมอาบน้ำแต่งตัว หยิบหนังสือเล่มหนาที่จะสอบวันนี้ลงไปชั้นล่างโดยมีไอซิสวิ่งดุ๊กดิ๊กตามลงมาด้วย เช้านี้ก็เป็นอีกวันที่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ปกติไม่พ่อก็พวกพี่ๆที่จะออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าตรู่

“ทำไมวันนี้ออกสายจังเลยครับ”

“ขี้เกียจ” พี่ติมตอบกวนๆแล้วกวักมือรียกผมไปกอดรัดฟัดเหวี่ยง พี่ติมแม่งชอบเล่นแรง ฮึ่มมม ไปนั่งกับพี่อุ่นดีกว่า รายนั้นนุ่มนวลอ่อนโยนกว่าเยอะ เชอะ

“ระวังแด๊ดจะไล่ออกจากตำแหน่งนะครับ”

“ออกก็เข้าใหม่ได้ครับ ว่าแต่เราเถอะจะสอบได้ไหมเนี่ย เห็นถือหนังสือร่อนไปร่อนมา” พี่ติมยักคิ้วยึกๆแล้วหลิ่วตาถาม

“โหย ระดับนี้ เค้าอ่านจบไปหลายรอบแล้วเถอะ พี่ติมมั่ว” ไม่พอ หันไปพยักหน้าให้ทุกคนด้วย เดี๋ยวจะเข้าใจผิดกันทั้งบ้าน

“จะเชื่อดีไหมนะ หนังสือเรียบไม่มีรอยยับขนาดนี้” พี่ติมทำป็นเอามือกรีดหนังสือ แล้วทำหน้าหูหา กวนงะ

“เขาเรียกว่ารักษาของเถอะครับ”

“ฮ่าๆ ติมไปแกล้งน้อง ดูสิหน้ามุ่ยหมดแล้ว” ขนาดแม่ยังหัวเราะคับบ้าน ไอรักละอยากจะโกรธพี่ติมจริงๆ

“ตัวเล็ก”

“ครับ” ขานตอบพ่อ แต่หน้ายังบึ้งไม่หาย

“พรุ่งนี้นายคนนั้นจะมาไหม”

“ห หือ นายคนนั้นใครเหรอครับ” ผมเปลี่ยนหน้าแทบไม่ทัน ดูเหมือนพ่อจะไม่อยากพูดซ้ำสองจึงตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงปัดๆ

“นายเกียร์อะไรนั่นน่ะ จะมาไหม”

“มาครับมา ทำไมเหรอครับ” ผมตอบ ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ

“แด๊ดมีอะไรจะให้ช่วยน่ะ”

“เดี๋ยวไอรักบอกเกียร์ให้นะครับ!”

ผมพูดคุยสักครู่ก็ขอตัวไปมหาลัย แต่ก่อนจะออกรถ แม่ผมก็เรียกเอาไว้

“ม๊าไปช่วยคุยกับแด๊ดมาให้ลูกแล้วนะคะ  ที่เหลือก็อยู่ที่การตัดสินใจของเขานะ”

“จริงเหรอครับ ไอรักถึงได้ว่า แด๊ดดูอ่อนลงนิดหน่อยนะครับ”

“บอกลูกเกียร์ให้พยายามเข้านะคะ” แม่ขยิบตาทีหนึ่งแล้วไล่ให้ไปเรียน

ก็ไม่รู้ว่าพ่อจะให้เกียร์ช่วยทำอะไร แต่หวังว่าคราวนี้พ่อจะเปิดใจยอมรับเกียร์ไม่มากก็น้อยละนะ


………………………………………………..


ผมลงรถมาด้วยความตกตะลึง รีบเดินไปหาเกียร์ที่กำลังจอดมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ในโรงจอดรถ

“เขาทำอะไรกันอะเกียร์” ผมกระตุกเสื้อขาว ตามองไปยังรถสิบล้อคันหนึ่งที่บรรทุกต้นไม้ทุกขนาดเต็มคันรถ มองเลยไปเห็นพ่อผมคุยกับคนงานกันอยู่

“ไม่รู้สิ” ผมก็ถามเกียร์ได้เนอะ บ้านกูนี่หว่าลืมไป

“ทำอะไรกันอยู่เหรอครับ” ผมเดินไปถามโดยมีเกียร์เดินมาตามหลัง มันยกมือไหว้ พ่อมองเกียร์นิ่งแล้วพยักหน้าให้

ถือเป็นสัญญาณที่ดีแล้วใช่ไหม

“ลงต้นไม้ใหม่น่ะ มานี่มา” พ่ออ้าแขนรับแล้วหอมแก้ม ก่อนจะชี้เรียกชื่อต้นไม้แต่ละต้นและความหมายของมันให้เป็นความรู้ ความจริงพ่อผมโตมากับต้นไม้เลยนะครับแล้วก็ชอบต้นไม้เอามากๆ เพราะได้รับอิทธิพลจากแดร์ โอปะ(คุณปู่) ท่านปลูกสวนผลไม้และพืชพันธุ์นานาชนิดอยู่ที่เยอรมันมาตั้งแต่พ่อผมยังไม่เกิดจนตอนนี้ก็ยังคงทำกันอยู่

“แล้วไม่ขนลงไปปลูกละครับ” เห็นคนสวนยืนกันเฉย ทำหน้าอึกอักยังไงพิกล

“อืมนั่นสิ นี่” อยู่ๆพ่อก็หันไปเรียกเกียร์ จากที่มันกำลังมองนกมองต้นไม้อยู่ก็หันกลับมาตอบแทบไม่ทัน

“ครับ”

“ฉันให้เวลาสี่วันหลังจากนี้ ปลูกต้นไม้ในบ้านนี้ให้เสร็จ จัดออกมาให้สวย แล้วทำคนเดียวนะ อย่าคิดว่าจะเรียกใครมาช่วยก็ได้ เข้าใจไหม”

“อะไรนะครับ ให้เกียร์ทำคนเดียวคงไม่ไหวนะครับแด๊ด” ผมโพล่งออกมาอย่างตกใจ ให้เกียร์ขนไปปลูกหมดนี่คนเดียวเลยเหรอ แล้วยังไม่ได้เอาลงมาจากรถบรรทุกสักต้นเลยนะ

“ถ้าอ่อนหัดขนาดนั้นก็กลับไปดูดนมแม่เถอะ” แอบเห็นเกียร์คิ้วกระตุกเล็กน้อย แต่ยังคงรักษาหน้านิ่งของตัวเองได้อยู่

“ผมทำไหวครับ”

“เกียร์!” ผมพูดเสียงดัง จะบ้าไปกันใหญ่แล้ว บางต้นไม่ใช่ว่าจะเล็กนะ ไหนจะต้องขุดหลุมปลูกต้นไม้อีก คนเดียวภายในสี่วันคงไม่ไหวแน่ๆ

“แต่อาทิตย์นี้เกียร์ต้องอ่านหนังสือสอบนะครับ อย่างน้อยก็เพิ่มวันหรือขอผลัดไป..”

“ไอรัก ไม่เป็นไร เกียร์ทำได้” เกียร์พูดแทรกขึ้น

“แต่คุณ..” มันจะเอาเวลาที่ไหนไปอ่านหนังสือละ มันไม่ใช่ผมนะที่อ่านหนังสือไวแล้วทวนจบไปหลายครั้ง มันพึ่งได้อ่านจบไปรอบเดียวแล้วถ้าไปตกลงรับต้องเสนอพ่อผมอย่างนี้ก็ไม่มีเวลาทวนเลยสิ

“ถ้านายทำได้ ฉันจะให้นายคบกับลูกฉันได้ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็เตรียมตัวเลิกกันไปซะ”

“ครับ” พ่อมองตามันนิ่งก่อนจะกระตุกยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ

“ดีมาก พยายามเข้าละ”


……………………………………..


“เกียร์ คุณอย่าฝืนทำเลย มันจะสองทุ่มแล้วนะครับ” ผมพูดคำนี้มาเป็นสิบรอบแล้ว คำตอบก็ตอบกลับมาเหมือนเคย

“ไอ้ทรุดมันหิวข้าวแล้วมั้งน่ะ” จนป่านนี้ยังยกต้นไม้ลงจากรถไม่หมดเลย

“แม่บ้านให้มันทานข้าวแล้วครับ ไอซิสมันร้องหาคุณต่างหาก” ไม่รู้ว่ามันมาถูไถเสื้อเกียร์ที่อยู่บนตักผมทำไม แต่ขอโมเมไปแล้วกัน

“ไปอาบน้ำนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องสอบนะ”

“คุณก็เหมือนกัน คุณรออยู่ตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวผมจะไปคุยกับแด๊ดให้รู้เรื่อง”

“ไม่ต้องไป นี่เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เขายอมรับเราได้”

“แต่ผมทนไม่ได้อะ” ตอบเสียงสั่นๆ เห็นตัวมันเปื้อนเหงื่อ ตัวเนื้อมอมแมมไปด้วยดินโคลนแบบนั้น ผมทนไม่ได้จริงๆ

“เกียร์ทำได้ หนักหนายังไงเกียร์ก็ทนได้ ขอแค่เชื่อใจกัน ให้เกียร์ทำเถอะ”

“แต่..”

“เพื่อเรา” แววตาอบอุ่นมองมาประสานกับตาผม จะให้ตอบอย่างไรละในเมื่อมันพูดขนาดนี้แล้ว


ก็ได้..ผมเชื่อคุณ


“เฮ้อ..หิวน้ำไหมครับ เดี๋ยวผมไปเอามาให้” หน้าที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อยิ้มออกมาแล้วตอบด้วยเสียงนุ่มที่พาลให้ใจสั่นเล่น

“มีไอรักอยู่ข้างๆก็พอแล้ว”

“บ้า” อาจจะด่าแต๋วไปนิด แต่เวลานั้นคิดคำไหนไม่ออกเลย มันเขินจริงๆนะครับ ผมเดินเข้าบ้านไปสั่งแม่บ้านที่ผ่านมาพอดี



“ผมขอผ้าร้อน ผ้าธรรมดา ขนม ผลไม้แล้วก็น้ำเย็นด้วยนะครับ อ้อเอาเสื้อตัวนี้ไปซักด้วยนะ” บอกก่อนจะออกมานั่งดูมันบนเสื่อผืนเดิม



มันอาจจะไม่ใช่เวลาที่ผมจะโลมเลียมันทางสายตาแต่หุ่นมันดีจริงๆนะครับ ซิกแพ็คนี่เป็นลูกเลย กล้ามขึ้นนูนทำให้ตัวมันล่ำใหญ่ เหงื่อซึมที่ไหลออกมาตามร่างกายกับผิวแทนกร้านแดดนิดๆทำให้มันดูเข้มมากขึ้น



ผมแอบกลืนน้ำลายดังเอื้อก




“ได้แล้วค่ะคุณหนู”



“จ๊ากกกก”



ไอรักตกใจหม๊ดดด แหง่งง แม่บ้านสะดุ้งเกือบทำถาดที่ถือมาหล่นพื้น ไม่ต้องมาตกใจเลยนะอยากมาไม่ให้ซุ่มให้เสียงเอง งานนี้เธอผิดเต็มๆ

“วางไว้แล้วไปได้แล้ว” ผมพูดเสียงดังเพราะยังตกใจไม่หาย

“ค่ะๆ”

“เป็นอะไรหรือเปล่า” เกียร์อย่ามาเลิกคิ้วหล่อๆใส่ตอนนี้ดิ ผมทำหน้าไม่ถูกนะ! ใจเย็นๆอย่าลนลานจนผิดสังเกต

“ป ป เปล่าครับ ลมพัดเย็นดีนะครับ แฮะๆๆ” ไปโน่นเลยกู

เกียร์ทำหน้างงแต่ไม่ได้พูดอะไร เฮ้อโล่งอก

ผมนั่งเรียกสติก่อนจะเดินไปซ้ำเหงื่อที่เกาะบนใบหน้าอีกคน มันสะดุ้งนิดหน่อยแล้วเปลี่ยนมากดยิ้มที่มุมปาก ผมหลุบตาหนีรอยยิ้มนั้นแต่ก็ต้องเจออกหนาที่กระเพื่อมหอบ

โอ้ยยยยยย ไอรักเป็นอะไร ทำไมช่วงนี้หื่นจังวะ สติที่เคยมีแตกกระเจิงหายไปหมดด

“ไปนั่งพักทานขนมกันก่อนดีกว่านะครับ” จะเดินหนีมาก่อน แต่มันเอามือมาเกาะเอวผมแล้วเดินไปพร้อมกัน กลิ่นกายเฉพาะจากตัวมันกับกลิ่นเหงื่อที่ให้อารมณ์ดิบๆเถื่อนนี่มัน… โว้ยยยยยยยยย ไอรักเขินฉิบ

“ไม่สบายเหรอ” อยู่ๆมันก็พูดออกมา

“หือ เปล่านิครับ” มองมันงงๆ

“หน้าแดงน่ะ คิดอะไรไม่ดีอยู่ละสิ” มันยิ้มกรุ้มกริ่ม ผมรู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนมากถึงมากที่สุดทันที

“ผมเปล่าคิดอะไรหื่นๆอยู่นะ!”

“อ้อ คิดอะไรหื่นๆอยู่สินะ ทำไมไม่บอกละ เกียร์จะสนองให้ หึหึ” ไอน้ำแข็งบ้าาาาาาาาาาาาาาาาา



TBC---->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

+สุขสันต์วันปีใหม่จ้า ทุกๆเรื่องมีแต่ความสุขนะจ๊ะ (ไปอ่านหนังสือสอบก่อนแล้ว ฟิ้วว)

 :L2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่30 หื่นจัด ติดสัตว์* [02/01/14] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 02-01-2014 05:57:49
เกียร์สู้ๆนะ <3
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่30 หื่นจัด ติดสัตว์* [02/01/14] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 02-01-2014 09:15:19
มาให้กำลังใจเกียร์ไอรัก :L2:
สู้ๆนะ

  :mew1:
สวัสดีปีใหม่ค่ะ
ขอให้คนเขียนมีความสุข
มาต่อนิยายบ่อยๆนะคะ
 :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่30 หื่นจัด ติดสัตว์* [02/01/14] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: loveyous ที่ 02-01-2014 10:19:31
ให้กำลังใจเกียร์ด้วยคนนะครับ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่30 หื่นจัด ติดสัตว์* [02/01/14] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 02-01-2014 10:40:53
เกียร์สู้ๆ :L2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่30 หื่นจัด ติดสัตว์* [02/01/14] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 02-01-2014 11:46:42
เกียร์ สู้ๆๆๆๆ อย่ายอมแพ้พ่อตาเด้อ เป็นกำลังใจให้
 :L1: :pig4: :L1:

หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่30 หื่นจัด ติดสัตว์* [02/01/14] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 02-01-2014 22:18:38
เกียร์สู้ๆนะครับ อีกนิดเดียวก็ชนะใจแล้ว ท่านหาโน่นนี่มาให้ทำแสดงว่าเริ่มใจอ่อนแล้วนะ
คุณหมอนี่ดูน่ารำคาญจริงจัง เดี๋ยวไอรักก็โดนลงโทษหรอกปล่อยให้คนอื่นมาเข้าใกล้
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่30 หื่นจัด ติดสัตว์* [02/01/14] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-01-2014 03:47:14
สู้ๆ ทำให้สำเร็จนะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่30 หื่นจัด ติดสัตว์* [02/01/14] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 03-01-2014 22:57:39
เดี๋ยวนี้ไอรักหื่นขึ้นนะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่30 หื่นจัด ติดสัตว์* [02/01/14] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 04-01-2014 18:48:49
พ่อใจร้ายยย ดีนะที่เริ่มรับเกียร์บ้างแล้ว แต่ก็นะT^T สงสารพระเอกต้องนั่งขุดดิน เศร้าแทนไอรักเลย

รอตอนต่อไปค่ะ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่30 หื่นจัด ติดสัตว์* [02/01/14] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 04-01-2014 18:53:06
เป็นกำลังใจให้เกียร์รับมือกับพ่อตา
ส่วนไอรักรู้ตัวไหมว่าหมอแมวจีบ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่30 หื่นจัด ติดสัตว์* [02/01/14] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: CHADMM ที่ 05-01-2014 12:40:15
สนุกมากๆ รออ่านต่อนะคะ // คนแต่งสู้ๆ!!
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่30 หื่นจัด ติดสัตว์* [02/01/14] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: CHADMM ที่ 05-01-2014 13:07:40
สนุกมากๆ รออ่านต่อนะคะ // คนแต่งสู้ๆ!!
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่30 หื่นจัด ติดสัตว์* [02/01/14] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 05-01-2014 15:48:40
สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่30 หื่นจัด ติดสัตว์* [02/01/14] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: mahaki ที่ 05-01-2014 16:55:58
น่ารักมากกกก เพิ่งเจอเรื่องแรกนะคะที่ไม่มีดราม่ามือที่สามฝั่งพตะเอกเนี่จมีแต่ฝั่งนายเอก แต่ก็ดีแล้วค่ะ :katai2-1: รอตอนต่อไปๆ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่30 หื่นจัด ติดสัตว์* [02/01/14] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 05-01-2014 18:18:20
ตามมาอ่านจ้า
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่30 หื่นจัด ติดสัตว์* [02/01/14] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 05-01-2014 19:33:34
 :L2:
เวลาแค่ 4 วัน เกียร์จะทำไหวเหรอ
ไหนจะอ่านหนังสือสอบอีก เฮ้อ!!
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่30 หื่นจัด ติดสัตว์* [02/01/14] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: AnimajuS ที่ 08-01-2014 19:55:23
เกียร์สู้ๆ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่30 หื่นจัด ติดสัตว์* [02/01/14] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 14-01-2014 20:53:49
 :impress2:
คิดถึงเกียร์ไอรัก
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่30 หื่นจัด ติดสัตว์* [02/01/14] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 14-01-2014 23:21:12
เกียร์สู้ๆ :ped149: :oni2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่30 หื่นจัด ติดสัตว์* [02/01/14] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: heaven13 ที่ 15-01-2014 22:14:36
เกียร์ สู้ๆ จ้า
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่30 หื่นจัด ติดสัตว์* [02/01/14] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 17-01-2014 10:33:15
คิดถึงไอรักเกียร์จังเลยค่ะ >_<
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่30 หื่นจัด ติดสัตว์* [02/01/14] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 17-01-2014 14:50:56
 สงสัยไอรักไม่ได้จิ๊จ๊ะกับเกียร์นานไปหน่อย เลยเกิดอาการหื่น 5555

+ 1 เป็นกำลังให้น้องคนแต่งนะ
 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่30 หื่นจัด ติดสัตว์* [02/01/14] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 21-01-2014 20:18:08
 :mew1:
 คิดถึง
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่31 หมอกสีเทา* [30/01/14] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 30-01-2014 01:34:14
ตอนที่31



“เทอร์มัลไอออไนเซชันเป็นไอออไนซ์อะตอม หรือเป็นโมเลกุลของก๊าซด้วยพลังความร้อนในก๊าซที่มีอุณหภูมิสูง...”


เกือบหกโมงเย็น ผมนั่งอ่านเนื้อหาที่ไม่ค่อยจะเข้าใจให้เกียร์ฟัง ผมบอกแล้วว่านิสัยเกียร์ต้องอ่านทวนอีกรอบถึงจะจำได้ พูดไปมันก็ไม่ฟังผมเลยมาอ่านให้มันฟังแทน แต่ไม่ได้จำใจทำหรอกครับ ผมเต็มใจทำเอง เกียร์ก็ห้ามแล้วห้ามอีกไม่รู้ว่าจะกลัวผมเหนื่อยอะไรนักหนา ผมไม่สนใจหรอกจนตอนนี้มันไม่ห้ามแล้วเปลี่ยนมาหามต้นไม้ไปปลูกแทน

“ตัวเล็ก เกียร์ มาทานผลไม้รองท้องกันก่อนนะลูก” เสียงแม่ดังมาจากข้างหลัง ผมหันไปก็เห็นแม่บ้านยกของมาให้ทาน

“ครับ/กินกันเลยครับ” ผมหันไปมองอีกคนที่พูดประโยคหลัง

“เกียร์มาพักก่อน ทำมานานแล้วนะครับ” มันอ้าปากจะปฏิเสธ ผมเลยส่งสายตาดุๆไปให้ มันพยักหน้าแล้วเดินไปล้างมืออย่างจำใจ

“เกียร์เหนื่อยมากไหมลูก ไม่ไหวก็พอก่อนนะคะ มาม๊าเห็นแล้วปวดใจแทนตัวเล็กจริงๆ”

“ไหวครับ” แม่ยิ้มให้กำลังใจแล้วหันมาพูดกับผม

“ทานกันอิ่มแล้วก็เข้าบ้านได้แล้วนะคะตัวเล็ก”

“แต่ผมอ...” จะบอกว่าอยากอยู่เป็นเพื่อนเกียร์ อ่านหนังสือให้มันฟัง แต่แม่ขัดขึ้นก่อน

“เมื่อกี้แด๊ดลูกโทรมาบอกว่าจะกลับแล้ว ถ้าเห็นว่าไอรักนั่งอยู่ตรงนี้คงจะไม่ชอบใจแน่ๆ”

“..ครับ”

“โถ มานี่มาตัวเล็ก ไม่ต้องหงอยหรอกนะคะ นี่เกียร์ก็เสร็จไปเยอะกว่าที่คิดแล้ว อีกไม่นานต้องทันแน่ๆเลยค่ะ ยิ้มหน่อยสิคะ ทำหน้าเศร้าแบบนี้เดี๋ยวเกียร์จะไม่มีใจจะทำนะคะ” แม่ดึงผมไปลูบหัวแล้วพูดปลอบใจ คำพูดดีๆที่ออกจากปากคนที่เรารัก ถึงจะเป็นเพียงไม่กี่ประโยคแต่ก็ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเยอะ ผมกอดแม่ตอบ อบอุ่นไปถึงใจเลย ผมไม่เคยแคร์ว่าใครจะมองว่าเป็นลูกแหง่ ก็ผมรักของผมนิครับ

“แล้วพี่อุ่นละครับ” พี่ติมบินไปต่างประเทศตั้งแต่ตอนเช้า แต่พี่อุ่นไปทำงานยังไม่กลับ ผมเลยถามถึง

“เดี๋ยวก็คงกลับค่ะ รายนั้นไม่เถลไถลหรอก” ผมพยักหน้ายิ้มๆ ก็จริงนะครับ พี่อุ่นไม่เคยนอกลู่นอกทางเลย ขนาดมีผู้หญิงสวยๆเข้ามาไม่ขาดก็ไม่เคยสนใจนอกจากครอบครัวแล้วก็เรื่องงาน จะมีนานๆที่จะขอออกไปบ้าง ผมก็เข้าใจเขานะครับ ผู้ชายมันก็ต้องปลดปล่อยกันบ้าง แต่พี่อุ่นไม่ได้เจ้าชู้เหมือนพี่ติมนะครับ รายนั้นเจ้าเล่ห์กะลิ้มกะเหลี่ยไปเรื่อย ผู้หญิงเดินตามให้พรึ่บทั้งๆที่ผมคิดว่าพี่อุ่นหล่อกว่าตั้งเยอะ(แต่หน้าก็คล้ายกันนั่นละครับ สรุปผมหล่อสุดในบ้านแล้ว ฮุฮุ)

“เกียร์อิ่มไหมลูก เอาอะไรเพิ่มอีกไหม จ่ามงกุฎ เสน่ห์จันทร์ก็มีนะคะ หรือจะทานแครมบรูเล่กันดี” แม่หันไปถามเกียร์ มันเงยหน้าจากจานข้าวเหนียวมะม่วง

“ไม่เป็นไรครับ”

“เกียร์ไม่ค่อยชอบหวานๆน่ะครับมาม๊า ถ้าเอามะม่วงเปรี้ยวจิ้มเกลือมาจะชอบกว่า” ผมยิ้มแซวๆมัน แต่มันคือเรื่องจริงเพราะเกียร์ชอบทานเค็ม เปรี้ยว เผ็ด ทุกอย่างที่ทำให้กระเพาะพังได้นางชอบครับ แต่อยู่กับผมมันก็ไม่ค่อยได้ทานรสจัดมากหรอกเพราะผมชอบดุมันเรื่องนี้บ่อยๆ

“ฮ่าๆๆ อย่างงั้นเองหรอกหรือ”

“เกียร์อิ่มแล้ว” มันพูดกับผมเบาๆ แต่แม่ก็หันไปสั่งแม่บ้านอยู่ดี ทีกับคนอื่นไม่เคยเห็นมันจะเกรงใจ แต่กับบ้านผมนี่ไม่รู้เป็นอะไรถ่อมตัวเหลือเกิน ขนาดผมยังมองออกเลยว่ามันไม่อิ่ม เหนื่อยจากข้อสอบแล้วยังต้องรีบกลับมาใช้แรงงานอีก ร่างกายมันยังไม่หยุดเลยครับ

“นั่งเล่นกันไปก่อนนะคะ เดี๋ยวมาม๊าไปดูในครัวก่อน”

“ครับ” แม่ยิ้มหวานให้แล้วเดินออกไป

“มือเปื้อน” ผมหันมามองคนพูด

“อะไรเหรอครับ” อะไรของมัน อยู่ดีๆก็เกริ่นไม่มีคำนำ สารบัญ เล่นเอาไอรักมึนเลย

“มือเปื้อน แต่อยากกินฝรั่ง”

“อยากทานฝรั่งแล้วจะมามองหน้าผมทำไมครับ!?” เฮ้ย อย่ามามองแล้วพูดแปลกๆอะไรแบบนี้นะ เดี๋ยวนี้ไอรักยิ่งหื่นขึ้นยังไงไม่รู้แล้วด้วย พูดไม่ไตร่ตรองให้ผมคิดอย่างนี้เดี๋ยวเกียร์จะโดนกระทำชำเรานะโว้ย

“มือเปื้อนดิน” มันจับเก้าอี้ให้เลื่อนเข้ามาติดกับเก้าอี้ที่ผมนั่ง แล้วแบมือออกเหมือนจะฟ้องว่าเปลอะดินเต็มมือ แต่เมื่อกี้ที่คุยกับแม่ก็ไม่เห็นว่ามือมันจะเป็นอะไรเลยนะครับ เห็นยังถือส้อมจิ้มกินไม่เงยหน้าขึ้นมาเลย หันมาอีกทีก็เลอะทั่วมือไปแล้วซะงั้น

“แล้วยังไงอะครับ ก็ไปล้างมือสิครับ” ผมมองมันงงๆ ต้องการจะสื่ออะไรวะ หรือมันใช้แรงกล้ามเยอะจนเพี้ยนวะ แต่หน้าอกที่กระเพื่อมสม่ำเสมออยู่ตอนนี้ เห็นแล้วมันน่า...

“มือสกปรก แต่อยากกินฝรั่งไง” ผมสะดุ้งจนมันมองอย่างสงสัย ผมรีบพูดกลบเกลื่อนความหื่น

“อ๋อ จะให้ผมป้อนก็ไม่บอกเล่า พูดอ้อมแม่น้ำคงคาทำไมไกลละ” แหมตาประกายเลยนะ แค่ผมหยิบส้อมแล้วจิ้มฝรั่งจ่อปากมันเอง

“แม่น้ำเจ้าพระยาไม่ใกล้กว่าเหรอ” เอออออออออออออ จำไว้นะมึง เล่นซะกูไปต่อไม่เป็นเลย

“มันไม่ผจญภัยไงโห่ ยิ่งไกลยิ่งเห็นอะไรที่มากกว่าคุณไม่เคยได้ยินเหรอ”

“กวนจังวะ” มันพูดแล้วเอามือมาวางบนเอวผมเป็นปกติ เหมือนกอดเอวนั่นละครับ แต่ผมรู้สึกแปลกๆจึงขยุกขยิกไม่อยู่สุข ผมไม่ได้เบี่ยงตัวออกหรืออะไรนะครับ แต่มันรู้สึกแปลกจริงๆ เหมือน...มันวูบวาบแถวหน้าท้องยังไงไม่รู้สิ

ช่วยเอามืออุ่นๆกับกลิ่นกายเฉพาะตัวของมึงออกไปไกลๆหน่อยได้ไหมครับเกียยยยยร์

“อยู่นิ่งๆสิ” อ้าว โดนดุอีก กูนั่งจะโด่มาทับหน้ามึงอยู่แล้วมึงไม่เห็นเหรอ

“เกียร์เขยิบไปเถอะ ผม ผม ” โอ้ยแม่ง อยากจะทึ้งหัวลงพื้นจริงๆ

“...” มันเลิกคิ้วสงสัยอยู่นาน จนสายตาเหลือบไปมอง...กระปู๋ของป๋ม แงงงงงงง น่าอายที่สุด

“หึหึ..” เหี้ย หัวเราะหน้าตาอย่างหื่นอะ อย่าขำกันสิวะ แค่นี้หน้าผมร้อนจะแย่อยู่แล้ว ผมรีบเอาขาขึ้นชันเข่าเพื่อปิดไม่ให้มันเห็น

“..มันขึ้นเองอะ..จริงๆนะ” T_T ไหนๆก็ไหนๆ ไอรักขอพูดไปตรงๆแล้วกัน หน้าด้านเกินจะด้านละ

“อยากเหรอ” อย่าเอาอกเข้มๆมาประทะสายตาผมได้ไหมไอ้น้ำแข็งง

“บ้า อยากอะไรเล่า เขยิบไปนั่งไกลๆหน่อยได้ไหมเกียร์ผมเวียนหัว” มันยังกระตุกยิ้มหึหึอยู่ไม่หยุดเลย

“แน่ใจเหรอว่าเวียนหัว” มันกระตุกมือผมแล้วคว้าตัวให้ไปนั่งตักมัน กลายเป็นว่าผมคร่อมตัวมันอยู่ แรงเยอะยิ่งกว่าแมนนี่ ปาเกียวอีก แล้วมันก็หยิบเสื้อนักศึกษาของตัวเองที่พาดบนเก้าอี้มาคลุมตักผมกับมันเอาไว้

“เกียร์จะทำอะไร ไม่เอานะ แล้วเอามาคลุมทำไมครับ!” ผมละล่ำละลักพูด ก็มันรูดซิปกางเกงของผมกับมันลง แล้วคว้าออกแก่นกลางมาประกบกันก่อนรูดเนิบๆตามจังหวะ

“อะ อ..เกียร์ ฮื้อ” ผมมองมือที่ขยับภายใต้เสื้อขาวแล้วต้องเสตาหลบด้วยความเขินอาย กัดบ่ามันเสียเลย เค็มชะมัดฮึ่ยย

มันขยับแรงขึ้นเหมือนลงโทษแล้วผ่อนลงก่อนจะเพิ่มความเร็วขึ้น

“เกียร์ อื้อ เดี๋ยวคนมา ฮะ..เห็น..” ขาเกร็งสั่นไปหมด

“ไม่มีใครเห็นหรอก ฮึ่ม..อย่ากัดปากสิ เกียร์อยากฟังเสียงหวานๆของที่รัก” ผมเหลือบมองรอบๆ ไม่มีใครผ่านมาจริงๆอีกอย่างรอบๆก็มีต้นไม้ใหญ่อยู่แล้ว มันคงคำนวณมาแล้วสินะแต่มันกลางแจ้งเกินไปจนผมตื่นเต้นรนรานไปหมด ผมหันกลับมามองอีกคนที่กำลังจ้องมาเหมือนกัน

“ทำ ทำเร็วๆหน่อย อึก” ผมบอกอย่างพะว้าพะวัง มันยิ่งได้ใจ สาวเร็วขึ้นอีกอย่างเมามัน

เมื่อจะถึงจุด ผมร้องออกมาอย่างอดกลั้นไม่ไหว ตัวเกร็งกระตุกน้ำออกมาเยอะกว่าทุกวันจนน่าอาย มันมองมาด้วยสายตาใคร่รัก กระตุกยิ้มน้อยๆแล้วยกมือที่เปื้อนน้ำของผมขึ้นมาเลียตามง่ามมือ

“เกียร์! อย่ากิน มันสกปรกนะครับ!” มันเลียเหมือนน้ำหวาน ผมอายหน้าแดงจนไม่รู้จะแดงอย่างไรแล้ว

“ช่วยเกียร์หน่อย” ว่าแล้วก็เอามือผมไปวางที่..กระปู๋อันใหญ่ของมัน ผมจะชักมือออกก็ไม่ได้จึงต้องขยับมือตามที่มันชักนำ

“จะเสร็จหรือยังครับ..” ผมพูดเบาๆ เขินจริงๆที่ต้องมาพูด มาทำอะไรแบบนี้หน้าบ้าน มันมองตาผม หน้ามันหื่นมากจนผมไม่กล้าสบตา ยังไม่ทันคิดอะไรก็โดนดึงไปจูบอย่างเร่าร้อน

กว่าจะเสร็จผมแทบจะขึ้นอีกรอบเลยให้ตายเถอะ

“คุณว่าเดี๋ยวนี้เราเซ็กซ์จัดไปหรือเปล่า น่าอายชะมัด” จริงๆนะครับ ขนาดตอนนี้ผมยังรู้สึกว่ายังอยากต้องการมันอยู่เลย

“ปกติก็ทำการบ้านให้ทุกวัน ไม่เห็นแปลก” ไอ้บ้า พูดอะไรวะ คนอ่านเขารู้หมด

“ทะลึ่งใหญ่ละ ผมยิ่งกังวลอยู่”

“คิดซะว่ามาเปลี่ยนบรรยากาศสิ” ใครจะไปหน้าด้านหน้าทนอย่างคุณละครับ

มันจัดการเช็ดมือ รูดซิปกางเกงให้เข้าที่ แล้วคว้าผมไปซบคอมัน หมั่นไส้ว่ะ ขอกัดหน่อยแล้วกันแง่มๆ ผิดคาดนะ ผมนึกว่ามันจะสะดุ้งเจ็บบ้าง แต่นี่ไม่มีเลยแถมยังมีหน้ามาขยำก้นผมเล่นอีก ไอ้น้ำแข็งหื่น

“ว๊าย ขอโทษค่ะๆ” ผมสะดุ้งรีบกระเด้งตัวออกจากอกมันทันทีที่ได้ยินเสียงแม่บ้าน หันไปเห็นแม่บ้านถือถาดมะม่วงกุลีกุจอขอโทษแล้วรีบหันหลังกลับ

“เกียร์อะ!” ผมหันไปทำหน้ายักษ์ใส่ ทั้งโกรธทั้งเขินแม่งเอ้ย

“เกียร์ไม่รู้เรื่อง” มันส่ายหน้าประมาณว่าอย่ามากล่าวหากูนะ

“ทำไมไม่บอกว่าแม่บ้านกำลังเดินมาทางนี้อะ” มันต้องเห็นสิ นั่งหันหน้าเข้าประตูบ้านขนาดนี้

“เดี๋ยวเขาก็ชิน”

“ยังมาพูดดีอีก ฮึ่ย!”

“ป่ะ ลุก พักมานานแล้ว”

“นั่งพักอีกสักหน่อยก็ได้ ไม่เห็นต้องรีบเลย”

“เดี๋ยวไม่ทัน”

“ผมขอโทษนะครับที่มาชวนมันทำอะไรแบบนี้” ผมรู้สึกผิด เพราะวันนี้ทั้งวันมันต้องเหนื่อยจากเสียเหงื่อแล้วยังชวนมันเสียน้ำอีก

“ไม่เป็นไร เกียร์ชอบ หึหึ” มันหอมหน้าผากผมแรงๆแล้วลุกขึ้นพร้อมอุ้มผมไปด้วย ก่อนจะวางให้ผมยืนดีๆ

ผมเดินตามจะไปนั่งที่เสื่อผืนเดิม แต่ก็ต้องชะงักเมื่อมันพูดขึ้น

“เข้าบ้านได้แล้ว”

“แต่ผมยังอยากอยู่กับคุณนี่ ขอผมอยู่แปบหนึ่งไม่ได้เหรอ” ผมคิ้วขมวด

“อย่าดื้อสิ เกียร์กำลังทำให้เราได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง แต่ตอนนี้เราต้องอดทนไปก่อน เข้าใจไหม” มันดึงผมไปกอดแล้วหอมแก้มเบาๆ

“ผมไม่ได้ดื้อสักหน่อย” ดื้อต้องใช้กับสัตว์หรือคนตัวเล็กน่ารักๆไม่ใช่เหรอ แต่ผมไม่ใช่ไง ตัวอย่างกับตึก หน้าก็ไม่ได้น่ารักสักหน่อย

“หึ ไม่ดื้อเลย หน้าบึ้งไม่ยอมทำตามอย่างนี้เรียกว่าอะไร หื้ม” พูดไปเอานิ้วมานวดตรงระหว่างคิ้วผมเหมือนจะเบา แต่มันไม่เบาก็ตรงที่เป็นแรงมันนี่ละ ขนาดผ่อนแรงแล้วนะยังแรงสำหรับผมเลย

“ก็มันขัดใจอะ แค่ผมจะอยู่ข้างคุณในเวลาแบบนี้ยังไม่ได้เลย แย่ชะมัด” มันกระชับกอดแน่นขึ้น ผมรู้ว่าตอนนี้ผมงี่เง่า แต่ผมไม่อยากทิ้งให้มันอยู่คนเดียวนี่

“เข้าบ้านเถอะนะไอรัก  ป่านนี้แด๊ดของไอรักคงใกล้ถึงแล้ว” ผมนิ่งไปก่อนพยักหน้าอย่างจนใจ

ยังไม่ทันเดินเข้าบ้านก็ได้ยินเสียงเปิดประตูรั้ว ผมเลยรีบสาวเท้าเข้าไปในบ้านอย่างเร็ว สักพักก็ทำเป็นออกมาต้อนรับเหมือนปกติ พ่อขอตัวขึ้นไปเปลี่ยนชุด สักพักก็ลงมาคุยเล่นกับผมที่ห้องนั่งเล่น

“กลับมาแล้วเหรอคะ งานเป็นไงบ้าง” แม่เดินเข้ามานั่งข้างผม กลายเป็นผมนั่งตรงกลางระหว่างพ่อกับแม่

“ระดับนี้แล้ว ไม่มีคำว่าพลาด” ผมเคยบอกแล้วว่าความจริงพ่อผมฮานะครับ ถ้าไม่ติดว่าชอบยิงมุขหน้าตายแบบนี้และไม่โหดเรื่องเกียร์น่ะนะ

“แหมคุณ มั่นใจทุกวันเลยนะคะ” แม่ผมเบะปากใส่ คือพ่อผมเป็นคนเก่งมากน่ะครับแล้วก็ไม่เคยถ่อมตัวด้วย กร๊าก

“สงสัยพี่อุ่นมาแล้วละครับ” ได้ยินเสียงรถจากด้านนอก ผมเลยวิ่งไปรับ เห็นพี่ตัวโตก้าวออกมาจากรถพอดี

“สวัสดีครับ ทำไมกลับดึกจัง” ผมกระโดดกอด

“อูย หนักจังแฮะ คิดถึงเหรอ”

“เปล่า ไอรักหิวจะแย่อยู่แล้ว กร๊ากก โอ้ยเค้าเจ็บนะ” พี่อุ่นเขกหัวดังป๊อกด้วยความหมั่นไส้

“ป่ะ บอกแม่บ้านให้จัดโต๊ะได้แล้ว เดี๋ยวพี่ขึ้นไปเก็บของแปบหนึ่ง” พี่อุ่นหอมแก้มผมแล้วเดินออกไป ผมเลยทำตามที่พี่อุ่นบอกแล้วออกมาเรียกเกียร์ที่ตอนนี้กลายเป็นคนงานไปเรียบร้อยแล้ว ก้มหน้าปลูกต้นไม้งกๆโดยมีคุณไอหมอกไอแดดนั่งลิ้นห้อยเป็นกำลังใจข้างๆ

ผมพามันขึ้นไปอาบน้ำแล้วลงมาทานข้าวกัน ผมเปลี่ยนมานั่งข้างพี่อุ่นแทน ส่วนเกียร์นั่งข้างแม่ พ่อนั่งหัวโต๊ะที่เดิม

“ไอซิสไปไหนละครับ” ผมถามแม่ เมื่อกี้ยังเห็นอยู่บนตักแม่อยู่เลย

“น้องร้องหิวข้าว มาม๊าเลยบอกให้แม่บ้านพาไปทานข้าวจ๊ะ” ถึงได้ว่า บ้านเงี๊ยบเงียบไม่มีเสียงเมี้ยวเมี้ยว

“ผมว่าไอซิสโตขึ้นเยอะเลยนะครับ ไม่ได้โตแค่ท้องอย่างเดียวแล้ว” คิดไปก็ขำไป ปกติจะเหมือนเด็กขาดสารอาหารวิ่งไปวิ่งมารอบบ้าน แต่เดี๋ยวนี้ท้องเริ่มสมดุลกับร่างกายแล้วนะครับ ตัวโตขึ้น ขาก็แข็งแรงขึ้นเยอะเลย

“แล้วไม่ต้องไปถ่ายพยาธิแล้วหรือ” ผมหันไปผงกหัวขอบคุณเกียร์ที่ตักอาหารให้น้อยๆ แล้วหันไปตอบพี่อุ่น

“กะว่าจะให้คนอื่นไปแทนน่ะครับ มันตรงกับวันสอบของเค้าพอดี”

“ตอนเย็นไม่ว่างเหรอ” ผมยิ้มๆไม่ตอบ เปลี่ยนเรื่องไปแทน ความจริงตอนเย็นมันก็ว่างละ แต่ผมไม่อยากทิ้งเกียร์สักเท่าไร

“จะมีใครใจดีพาไอซิสไปหาหมอบ้างหนอ”

“หึหึ ไม่ต้องมาทำเป็นพูดเลยตัวเล็ก พี่ไม่ว่างหรอกนะ”

“แป่ว ว่าจะวานสักหน่อย สงสัยคงต้องให้นายไผ่พาไปซะแล้วสิ”

“พรุ่งนี้นายไผ่ไม่ว่างนิคะ เห็นว่าขอลากลับไปดูคุณแม่ที่ต่างจังหวัดจะกลับก็คงจะมะรืนนี้ ให้แม่บ้านพาไปก็ได้ค่ะ” แม่บอก

“ไม่เห็นต้องยุ่งยาก ให้หมอมารักษาที่บ้านสิ” พ่อพูด เออก็จริงนี่หว่า

“เอาอย่างที่แด๊ดบอกก็ได้นะ ยิ่งเป็นลูกแมวอยู่ด้วย ไปโรงพยาบาลก็มีแต่เชื้อโรค”

“ได้ครับ” ผมตอบพี่อุ่น ว่าแต่เบอร์หมอผมก็ไม่ได้บันทึกไว้ด้วยสิ เอาไว้โทรไปหาโรงพยาบาลเลยแล้วกัน

“เกียร์ทานเยอะๆนะลูกจะได้มีแรง”

“ครับ”

“มาม๊าเห็นอีกนิดเดียวก็จะเสร็จเรียบร้อยแล้ว เก่งมากๆเลยค่ะ มาม๊าเอาใจช่วยนะคะ” แม่ผมกระดี๊กระด๊าเกินหน้าเกินตาไปไหมครับ ดูท่าจะรักเกียร์เอามากๆนะนี่

“คุณ” พ่อผมเอ่ยปราม

“ก็จริงนิคะ หรือคุณจะบอกไม่จริงละ” เอาแล้วไง จะทะเลาะกันไหมนั่น ก็แหงสิครับ ไม่มีใครรู้หรอกว่าบ้านมันก็ชอบต้นไม้ไม่แพ้บ้านผมเลย หึหึ

“....” เงียบกริบ พ่อได้แต่นั่งตาแข็งมองทางอื่น นานๆทีแม่จะทำเสียงแข็ง ผมยังกลัวเลย

“เห็นวันนี้มีกล้วยบวชชีไม่ใช่เหรอครับ ยกมาได้แล้วมั้ง”พี่อุ่นทำลายบรรยากาศอึมครึมขึ้น รู้สึกอยากขอบคุณพี่อุ่นมากเลยครับ

ทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย เกียร์ก็ขอตัวออกไปปลูกต้นไม้ ส่วนผมก็นั่งคุยกับพ่อแม่พี่อุ่นสักพักใหญ่ๆจนพวกเขาง่วงจึงขึ้นไปนอน

“ไอหมอก” ผมร้องเรียกไอหมอกเสียงเข้ม เพราะเมื่อกี้เห็นว่าลับหลังที่เกียร์หันไปยกต้นไม้ มันคุ้ยดินกลบหลุมที่เกียร์เป็นคนขุด เกียร์โดนลูกผมกลั่นแกล้งหรือนี่

“...” มันคิ้วขมวดมองไอหมอกแล้วกลับมามองตัวเอง ประมาณว่ากูอยู่ตรงนี้ทำไมไม่เรียกมัน นี่ไม่รู้เลยใช่ไหมว่าโดนแกล้งอยู่

“มานี่เลยไอหมอก นิสัยไม่ดีเลยนะครับไปทำอย่างนั้นได้ยังไง” ไอหมอกเดินหน้าหงิมๆมานอนแบะตรงเท้าผม สงสัยต้องโดนลงโทษแล้วละ

“กลับเข้าบ้านตัวเองไปเลยนะ”

“หงิง หงิง” มันไม่ชอบอยู่ในกรง ไม่ตกดึกต้องเข้านอนจริงๆมันจะไม่เข้าเลย แต่ถ้ามันจะนอนต้องไปนอนในกรงเพราะผมฝึกมาตั้งแต่เด็ก

“มีอะไรหรือเปล่า” มันพูดพลางกลบดินไปด้วย

“ไม่มีอะไรหรอกครับ ว่าแต่ไปถึงไหนแล้วเหรอ” มันหันมาแล้วยิ้มเหนื่อยๆเหงื่อไหลเป็นสาย ผมเห็นแล้วใจมันปวดแปลบๆแต่พยายามปั้นยิ้มยืนไม่ให้อีกคนต้องคิดมาก

“เสร็จทันแน่นอน”

“งั้นก็ไม่ต้องทำแล้วละครับ ค่อยมาทำพรุ่งนี้ต่อก็ได้” เหลือพรุ่งนี้กับอีกวันที่จะถึงเส้นตายของมัน จากที่ดูๆแล้วก็เสร็จไปเกือบหกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว มันปลูกเร็วมาก สมแล้วที่บ้านมันมีป่า ฉะนั้นผมว่าไม่ต้องรีบก็เสร็จทัน

“ขออีกสองต้น” ผมพยักหน้าแล้วเดินไปเอาไอหมอกเข้ากรง เห็นอย่างนี้ ไอรักเป็นคนจริงนะ ทำผิดก็ต้องทำโทษ

ผมหันไปสบตากับไอแดด มันมองเหมือนยังไม่อยากเข้าแล้วตัวเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิดด้วย ผมเลยตบมือให้เดินตาม ไอแดดหูตั้งหางกระดิกเลยครับ

“ผมช่วยปลูกไหม”

“คนอื่นละ”

“เข้านอนแล้วครับ มา เดี๋ยวผมช่วยนะ” ผมทำท่าจะเข้าไปช่วยแต่โดนมันขัดขึ้น

“นั่งรอไปก่อน จะเสร็จแล้ว”

“ผมอยากช่วยอะ”

“เดี๋ยวเปื้อน”

“เปื้อนก็ล้างไง”

“จะนั่งดีๆไหม” มันพูดเสียงเรียบแต่คำพูดมัน..

“จะดุทำไมอะ พูดดีๆก็ได้” มันเห็นผมหน้าบึ้งแล้วกระแทกก้นกับเสื่อก็ส่ายหน้าออกมา เจ็บแต่ไม่สนโว้ย งอนก่อน

“ป่ะ” มันเดินมาแล้วเรียกให้ผมลุก ผมเลยเดินเมินไม่สนใจมัน

“เป็นอะไร” มันรีบเดินมาขนานผมแล้วถาม

“หึ!” ผมส่งเสียงในลำคอแล้วหันไปอีกทาง

“เป็นอะไรก็บอกสิ” มันจับมือผมให้หยุดเดินแล้วหันมาคุยกันดีๆก่อนจะปล่อยมือออก

“..เกียร์ดุผม” แทบจะนับครั้งได้เลยเวลามันดุผม จะว่าผมโดนมันโอ๋จนเคยตัวก็ได้ แต่ผมไม่อยากให้มันโกรธเลย มันรู้สึกแย่จริงๆ

“เกียร์พูดเฉยๆ ไม่อยากให้ไอรักเปรอะ ขนาดตอนนี้เกียร์ยังไม่กล้าจับไอรักเลย” ถึงได้ว่าไม่ยอมแตะตัวผมเลย

“ผมไม่เคยรังเกียจคุณนะเกียร์ ผมรับคุณได้ทุกเรื่อง คุณอย่าพูดเหมือนไม่เคยรู้จักผมสิ” ผมเดินไปกอดทั้งๆที่ตัวเปียกเหงื่อ ผมรักของผม มากกว่านี้ผมก็ไม่เคยคิดจะรังเกียจ

“เกียร์ไม่ได้คิดแบบนั้น แค่ไม่อยากให้ผิวขาวๆของไอรักต้องเปื้อนแค่นั้น” เกียร์พูดออกมา ผละตัวออกมามองผมแสดงความจริงใจออกมา

“บ้านเราไม่ได้อยู่อินเดียนะครับ ถึงจะหาน้ำล้างยากอะ” ผมเดินไปกอดมันอีกครั้ง เอาสิ ยิ่งมันเว้นระยะห่างผมก็ยิ่งวิ่งเข้าใส่

“งั้นไปอาบน้ำด้วยกันดีกว่า” มันพูด ทำหน้ากรุ่มกริ่มคว้าเอวผมให้รีบเดินขึ้นห้อง

ไอ้น้ำแข็งหื่นอีกแล้วว

แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากช่วยอาบน้ำกัน พออาบเสร็จผมก็เหลือบไปเห็นมือใหญ่ที่ด้านพองก็ทั้งตกใจทั้งสงสาร ทำไมผมถึงพึ่งเห็นหรือผมดูแลมันไม่พอ ผมเลิกคิดฟุ้งซ่านแล้วรีบจูงมือมันไปนั่งบนเตียงจัดการทำแผลให้ พยายามกดความเสียใจที่มันต้องเป็นแบบนี้เพราะผมแต่ก็ทำไม่ไหว มันได้แต่ลูบหัวปลอบใจผมไม่ให้คิดมากซึ่งมันก็ช่วยได้เยอะเลยทีเดียว

เรากลับมานอนกอดกันเหมือนเดิม ผมเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คอะไรก่อนนอน เห็นเบอร์แปลกโทรมาอีกแล้ว ผมเลยโทรกลับ

“สวัสดีครับ”

‘ครับน้องไอรัก ทำไมพี่ติดต่อไม่ได้ทั้งวันเลย’ เสียงแบบนี้ หมอภูมิภัทรนี่หว่า

“ผมไม่ค่อยว่างน่ะครับ” ผมตอบไปอย่างงงๆ

‘อ๋อ แล้วอย่างนี้พรุ่งนี้จะพาไอซิสมาหาหมอได้เหรอครับ’

“ว่าจะถามอยู่พอดี วันพรุ่งนี้ช่วยมารักษาไอซิสที่บ้านผมหน่อยได้ไหม สะดวกมาหรือเปล่าครับ”

‘เอ๊ะ ว่างครับว่าง เอาเป็นประมาณกี่โมงดี’ อยู่ๆหมอก็เสียงตื่นเต้นดีใจขึ้นมาเฉย ผมตกใจเลย แต่ต้องผงะอีกครั้งเมื่อไปสบตากับคนข้างๆ ทำไมจ้องจับผิดอย่างนั้นละครับ

“สักประมาณหนึ่งทุ่มก็ได้ครับ” ผมสอบทั้งวันเสร็จประมาณห้าโมง แต่เผื่อเลทหรือรถติดเอาไว้จะได้ไม่ต้องรีบร้อน

‘ได้ครับๆ’ นี่กะจะไม่ถามที่อยู่ผมเลยเหรอวะ แปลกๆนะหมอนี่

“งั้นเดี๋ยวผมส่งที่อยู่ไปให้ในข้อความแล้วกันนะครับ”

‘อ๋อครับ รบกวนด้วย วันนี้พี่คงนอนไม่หลับแน่ๆเลย ฮ่าๆๆ’

“ฮ่าๆๆเหรอครับ” ผมก็หัวเราะเออออห่อหมกไป ไม่รู้ว่าหมอหัวเราะเรื่องอะไรหรอก

“ใคร” เกียร์เริ่มส่งเสียงถามหลังจากนอนกอดมองผมคุยโทรศัพท์อยู่นาน

‘หืม เสียงใครเหรอครับ หรือผมหูแว่วไปเอง’

“ไม่มีนิครับ แล้วคุณหมอมีอะไรอีกหรือเปล่าครับ” ผมรีบพูดพลางมองอีกคนที่เหมือนจะอารมณ์ไม่ค่อยดีแล้ว

‘ครับ? เอ่อ พี่แค่อยากโทรหาก่อนนอนน่ะครับ’ มันพูดจบ พอดีกับมือใหญ่เอื้อมมาคว้าโทรศัพท์เปิดลำโพงให้ได้ยินทั้งคู่

เอาแล้วไง ทั้งลูกเห็บทั้งแม่คะนิ้งเคลื่อนตัวมาบ้านไอรักอีกแล้ว อะฮื้อ

‘น้องไอรักง่วงแล้วเหรอ ถ้าไม่ไหวก็ไปนอนก่อนก็ได้นะครับ เอาไว้วันพรุ่งนี้เราก็เจอกันแล้ว’ คิ้วเกียร์เริ่มคิ้วขมวด กำโทรศัพท์ไว้แน่นจนมือขึ้นสีให้เห็น

“หึ...”

“เอ่อ เอ่อครับๆ ผมง่วงแล้ว ขอวางสายแล้วกันนะครับ”

‘ฝันดีนะครับน้องไอรัก’ เหี้ยเอ๊ย ผมรีบพูดขัดแล้วชิงวางสายก่อนที่เกียร์กับไอ้หมอจะพูดอะไรออกมาอีก

“มันเป็นใคร” อย่ามองผมด้วยสายตาคาดคันโกรธเกรี้ยวขนาดนั้นสิครับ ผมกลัวจริงๆนะ ยิ่งมันพูดด้วยเสียงเรียบจนน่าขนลุกแบบนั้นผมไม่กล้าสบตามันเลย

“หมอไอซิสไงครับ” ผมตอบเสียงสั่นกล้าๆกลัวๆ

“คุยกันมานานหรือยัง”

“อ่ะ เอ่อ ครั้งนี้ครั้งที่สอง”

“แล้วไปคุยกับมันทำไม” ผมสะดุ้งทุกครั้งที่มันเอ่ยพูดประโยคใหม่ขึ้นมา

“เขาโทรมาเอง..”

“เอาเบอร์มาจากที่ไหน”

“ไม่รู้..” น้ำตาผมเริ่มคลอ

“ไม่รู้แล้วมันมีเบอร์ไอรักได้ยังไง!” มันตะคอกเสียงดัง กระชากแขนให้ผมเงยหน้าขึ้น แต่ผมกลัวไม่กล้าสบตา


.
.
.
.
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่31 หมอกสีเทา* [30/01/14] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 30-01-2014 01:36:18
.
.
.




“โอ้ย.. ผมไม่รู้ อึก ไม่รู้ ไม่รู้จริงๆ” มันชะงัก คลายแรงที่จับแขนผมลง

“...” ตัวมันสั่น ผมเงยไปมอง เห็นสีหน้าที่โกรธมากจนเส้นเลือดขึ้นข้างขมับทั้งสองข้าง หลับตาข่มอารมณ์เอาไว้

“ผมขอโทษ แต่ผมไม่เคยให้เบอร์ไปจริงๆนะ ฮึก” ผมคิดให้ตายอย่างไรก็คิดไม่ออก ผมไม่เคยบอกหมอจริงๆ ทุกครั้งที่เจอกันก็เป็นเวลาแค่แปบเดียว แต่ครั้งแรกที่เจอกันในโรงพยาบาลใช้เวลานานหน่อย ...หรือว่า…

“หรือหมอจะดูในใบที่ผมกรอก อึก ประวัติ” มันลืมตาขึ้นมา แต่หน้าโกรธขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

“ไอ้สารเลว” มันกัดฟันพูดเสียงเบา ผมรีบกอดมันไว้ทั้งตัว ซุกลงกับอกอุ่น

“อย่าโกรธผมเลยนะ ฮึก ผมไม่ได้เปิดให้ใครเข้ามา ผมรักคุณคนเดียว อึก คนเดียวจริงๆ อย่าเกลียดผมเลย” ผมรีบพูด ผมไม่เคยเปิดใจเอาไว้เผื่อใครแล้วผมก็ไม่อยากให้เราต้องผิดใจกันเพราะเรื่องพวกนี้

“ไอรักไม่ผิด ..ฮึ่ม ไอ้เหี้ยนั่นฉวยโอกาสด้วยวิธีสกปรก ทีหลังมีใครเข้ามาคุยอย่างนี้รีบบอกเกียร์ เข้าใจไหม” มันถอนหายใจ คลายสีหน้าที่ทำให้ผมกลัวจนตัวสั่นลงแล้วพรั่งพรูคำพูดออกมา

“ครับ อึก ไม่โกรธผมนะ” ผมถามย้ำอีกครั้ง

“อืม” มันกอดแล้วลูบหัวผมอย่างปลอบโยน ผมรีบเช็ดน้ำตาออกแล้วถามสิ่งที่คาใจ

“ว่าแต่..หมอฉวยโอกาสอะไรเหรอครับ” ทำไมต้องทำหน้าเอือมใส่ผมด้วย ไม่เข้าใจ

“มันจะจีบไอรัก”

“เอ๋ หมอไม่เห็นจะตุ้งติ้งสักหน่อย” ผมคิ้วขมวดถาม

“แล้วเกียร์ตุ้งติ้ง?” เออว่ะลืม

“หือ แต่หมอบอกว่าเขามีคนที่ชอบแล้วนะครับ แถมคนนั้นมีแฟนแล้วด้วย”

“แล้วมันยังจะจีบ?!” ผมสะดุ้งกับเสียงดังๆของมัน เล่นเอาใจไอรักหล่นไปถึงตาตุ่ม

“..งะ..คุณรู้ได้ไงอะผมยังไม่รู้เลย แต่ผมก็พูดไปเล่นๆนะครับว่าถ้ารักจริงก็รุกไปเหอะจะได้สู้ให้สุดๆไปเลย โอ้ย! เกียร์เขกหัวผมทำไมอะ!”

“หมั่นไส้ ซื่อจริงๆแฟนกู” มันพึมพำ แต่ผมอยู่ใต้คางมันไงเลยได้ยินเต็มสองรูหู รวมรูอื่นด้วย (รูปาก รูจมูก)

“อะไรของคุณ เดี๋ยวนี้กล้าทำร้ายร่างกายผมเหรอ ฮะ กล้าหือเหรอ” ผมพูดไปบี้แก้มมันจนมันปากจู๋ แฟนใครก็ไม่รู้น่ารักจัง

“ทำให้ร้องไห้อีกแล้ว” มันจับมือผมที่วางอยู่บนแก้มมัน แล้วเอื้อมมาลูบที่เปลือกตาผมแผ่วเบา

“เขาเรียกว่ากำจัดสารพิษออกจากร่างกายหรอกครับ” ผมพูดแก้เครียด

“พรุ่งนี้ไอ้เหี้ยนั่นจะมาใช่ไหม”

“เอ่อ เขาชื่อภูมิภาคครับ” อะเจ้ย มาทำหน้าดุทำไมนี่ ไอ้เราอุส่าห์แก้ไขคำผิดให้

“อย่าพูดชื่อมันให้ได้ยินได้ไหม เกียร์ไม่ชอบ” มันคงไม่ชอบจริงๆ ดูหงุดหงิดจนผมต้องตอบตกลง

“ครับ อย่าโกรธน้า” ไม่ได้หรอกต้องรีบอ้อน เดี๋ยวงานเข้าอีก

“เฮ้อ.. เอาเป็นว่าอย่าอยู่ใกล้ไอ้เหี้ยนั่นเป็นอันขาด ไม่งั้นเกียร์จะ..” มันถอนหายใจปลงๆแล้วทำหน้าครุ่นคิดจริงจัง ผมร้อนๆหนาวๆเลยพูดแทรกก่อนที่จะโดนหนักไปมากกว่าที่ผมคิด

“จะตีหัวผมเบาๆแล้วบอกว่าเกินหนึ่งไม้บรรทัดแล้วนะ! ใช่ไหม” ผมพูดขึงขัง

“จะปาดินใส่หน้าไอ้เหี้ยนั่นแล้วเอาจอบสับหัวมันให้แหลกคามือ” อูย..โหดแบบสุด

“แฮะๆๆๆๆ เอ.. ตั้งนาฬิกาหรือยังหนอ” มันพยักหน้า ผมเลยชวนให้มันนอนไวๆ ความจริงกลัวมันจะลุกขึ้นมาหยิบโคมไฟตีแสกหน้าผมโทษฐานทำตัวให้มันรักมากไปอะสิ กร๊าก T_T



……………………………….



“วันนี้มาหาผมเร็วกว่าทุกวันเลย ทำข้อสอบได้ใช่ม้า” ตั้งแต่ออกจากห้องสอบจนกลับมาถึงบ้านผมกับเกียร์ยังไม่ได้คุยกันเลยครับต่างคนต่างขับรถตรงมาบ้าน พอดีนายไผ่รีบมารับเพื่อที่จะส่งผมแล้วขึ้นรถไปหาคุณแม่ ผมก็สงสารมันนะครับ ต้องมารับผมเพื่อที่จะทำหน้าที่ตัวเองให้เสร็จก่อนจะวิ่งไปเยี่ยมคุณแม่ที่กำลังป่วย ทั้งๆที่แม่ผมบอกให้มันลาทั้งวันจะได้รีบไปหาท่านแต่มันก็ไม่ยอมละทิ้งหน้าที่ของมัน

“พอได้” มันพูดแล้วถอดเสื้อกลางสนามหญ้าแบบไม่อายฟ้าดิน ผมก็ไม่อายครับ นั่งจ้องมันตาปริบๆแถมกอดเสื้อของมันไว้แน่น ไม่รู้ทำไมเหมือนกันเวลาเห็นหุ่นมันทีไรมือมันจะกำอัตโนมัติตลอด

“แล้วได้เอาหนังสือสอบวันพรุ่งนี้มาหรือเปล่าครับ” มันพยักหน้า ผมเลยเดินไปค้นกระเป๋าเป้ของเกียร์ หยิบหนังสือขึ้นมาอ่านให้มันฟัง เนื้อเรื่องในหนังสือผมก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอกครับแต่เกียร์บอกว่าพยายามเน้นตรงสูตรเพราะต้องเอาไปใช้ พวกเนื้อหาที่กำกับให้อ่านผ่านๆก็พอ

เวลาล่วงเลยมาเกือบสองชั่วโมง ผมอ่านสูตรวิศวะให้มันฟังจนจบก็เก็บหนังสือลงแล้วหันไปเล่นกับลูกสามตัวแทน ตาก็มองเกียร์ที่กำลังขุดหลุมอยู่

“เกียร์”

“หืม”

“ไม่เบื่อบ้างเหรอ ผมเห็นคุณรีบกลับมาปลูกต้นไม้อย่างนี้ไม่หยุดเลย” ตั้งแต่วันที่พ่อมอบหมายให้ทำ เวลามันสอบเสร็จก็ไม่แวะที่ไหน ดิ่งตรงมาบ้านผมแล้วปลูกต้นไม้งกๆ พอเสร็จก็นอนบ้านผมจนถึงตีสามครึ่งถึงจะกลับไปคอนโดตัวเอง แต่ผมรู้ว่ามันไม่ได้กลับไปหลับต่อหรอก มันคงไปสะสางงานที่เคยรับมาจากอาจารย์ พอเช้าก็ออกมาสอบ ผมว่ามันรับภาระจนหนักอึ้งเกินไป แต่ผมจะทำไงได้ละนอกจากอยู่ข้างมัน ผมถึงอยากจะนั่งมองมันไม่ห่างไปไหน

“หึ” มันส่งเสียงปฏิเสธในลำคอแล้วส่ายหน้า

“จริงอะ” ผมยิ้มเดินไปยื่นหน้าถามมันใกล้ๆ กลิ่นดินผสมกลิ่นเหงื่อประทุเข้าจมูก

“ดีกว่ากลับไปอยู่ห้องคนเดียว” ผมเม้มปากแล้วพยักหน้า นั่นสินะ ขนาดผมอยู่บ้านหลังใหญ่โตยังเหงาขนาดนี้ แล้วมันที่อยู่ห้องสี่เหลี่ยมคนเดียวจะเหงาขนาดไหน

ถ้าในอดีตเราอาจจะอยู่คนเดียวจนชิน แต่ตอนนี้มันได้เปลี่ยนไปแล้ว

“เอ๊ะ! อยากอยู่ใกล้ๆผมตลอดก็บอกสิ” ผมทำลายความเศร้าซึ่งมันก็ได้ผล

“มากที่สุด”

อั้ยยะ! จากเครียดจะกลายเป็นเขินแทนแล้วนะนี่

“โอ้ย เกียร์อะ ชอบพูดตรงใจผมเกินไป ให้ผมไม่เขินสักวันจะได้ไหม” มันหัวเราะใหญ่ที่เห็นผมชักดิ้นชักงอ


ครืน ครืน..


เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผมยกขึ้นมาดูเป็นเบอร์แปลกที่เริ่มคุ้น แต่ผมก็ลืมว่าเป็นใครจึงกรอกเสียงไปงงๆ

“สวัสดีครับ”

‘ครับน้องไอรัก นี่พี่ภูมินะ บ้านน้องนี่ใช่รั้วสูงๆสีขาว บ้านหลังใหญ่เลขที่ XXXใช่ไหมครับ’ ผมสะดุ้งรีบมองหน้าเกียร์ทันที แต่มันกำลังขนต้นไม้ลงหลุมไม่ได้หันมาสนใจอะไร

“ใช่ครับ” รู้สึกผมจะส่งข้อความไปบอกชัดเจนแล้วไม่ใช่เหรอ

“งั้นพี่ถึงหน้าบ้านแล้วนะครับ เอ่อ น้องไอรักช่วยบอกให้ลุงยามเปิดประตูให้พี่หน่อยได้ไหมครับ” ลุงยามผมหน้าโหดละสิถึงได้พูดเสียงกล้าๆกลัวๆแบบนั้น แต่ขนาดเกียร์มันยังเข้ามาอย่างไม่กลัวตายจนเขาชินแล้วเลยนะ

“บอกเขาว่าเป็นหมอไอซิสแล้วเข้ามาได้เลยครับ” พูดจบเกียร์หันควับมามองทันที

“เอ่อๆๆ งั้นแค่นี้นะครับ” ตัดสายทิ้งแม่งเลย คนข้างหน้าผมสำคัญกว่า ผมยิ้มแหยไปให้

มันเลิกคิ้วมองท่าทางของผม ถึงจะรู้ว่ามันเชื่อใจผมแต่ผมก็ไม่มั่นใจว่าไอ้หมอมันจะเล่นพิเรนทร์อะไรให้เกียร์พิโรธหรือเปล่า เสียวๆยังไงไม่รู้

ไม่ถึงนาทีก็ได้ยินเสียงรถยนต์ยุโรปสีขาวรุ่นใหม่ขับเข้ามา เกียร์ยิ้มแสยะเหมือนคนร้ายแล้วหันไปขุดดินต่อ น่ากลัวว่ะ

“น้องไอรักครับ” นั่นไง เสียงนุ่มๆฟังแล้วเอียนหู ฟังกี่ทีก็ไม่ชินแถมขนลุกอีกต่างหาก แล้วยิ่งรอยยิ้มเลี่ยนๆนั้นอย่าให้ผมพูดเลย ขนลุกไปถึงขนหน้าแข้งเลยละ

“ครับ” ผมลุกขึ้นยืนแล้วยกมือไหว้คนที่อายุเยอะกว่า วันนี้หมอมาชุดสีเขียวอ่อนสบายตา

“บ้านสวยมากเลย อยู่กันกี่คนเหรอครับ” ผมเหล่ตาไปมองเกียร์ มันขุดหลุมไม่ได้สนใจ แต่ผมสังเกตเห็นว่ามือที่ผมพันให้เมื่อเช้ามันตึงเหมือนกำแน่นขึ้น

“ห ห้าคนครับ เอ่อเข้าไปนั่งในบ้านก่อนไหมครับ” ไปเถอะนะ อย่าให้ไอรักลำบากใจไปมากกว่านี้เลย

“พี่ขอเดินดูสวนรอบๆก่อนได้ไหมเอ่ย สวนบ้านน้องไอรักร่มรื่นดีนะ” เอาไงดีวะกู ปฏิเสธก็ไม่ได้ จะขยับออกมาอยู่ห่างๆขาเจ้ากรรมก็ก้าวแทบไม่ออก

“อ่าได้ครับ” ผมตอบอย่างจำยอม

“โห กำลังปลูกต้นไม้เหรอ สวยดีนะครับ” หมอเดินเข้าไปใกล้เกียร์แล้วยิ้มให้มัน ถ้ามึงไม่โง่พอ น่าจะรู้ว่าถ้าไม่รีบเดินออกมามึงอาจตายได้

“อ่า เกียร์ครับ พอก่อนไหม” ไม่รู้ละ ผมรีบเดินไปหยิบจอบที่มันถืออยู่แล้วจับมือมันไว้แน่น คือผมกลัวว่ามันจะเอาไปเฉาะหัวหมออย่างที่มันเคยพูดเล่นๆ(มั้ง)กับผมเมื่อคืน หมอมองงงๆแล้วเลื่อนตามามองมือที่ผมกับเกียร์กุมกันอยู่

“เอ่อนี่” หมอมองมือสลับกับหน้าผม เกียร์ยิ้มเยาะแล้วกระชากตัวผมให้ยืนซ้อนด้านหน้าคล้ายจะกอด

“แฮะๆ เกียร์นี่หมอของไอซิสนะ ส่วนหมอครับนี่เกียร์ เป็นแฟนผมเอง” หมอหน้าถอดสี เบิกตากว้างอย่างอึ้งๆ

“..แฟน” ถ้าผมไม่ได้ตาฝาด เหมือนเมื่อกี้หมอจะมีสีหน้าเจ็บปวดแวบหนึ่ง แต่ก็ฝืนยิ้มมาให้

“ครับ แฟน”

“ผู้ชายน่ะเหรอ ผม ไม่อยากจะเชื่อ” หมอพูดเสียงสั่นเบา

“เสือกเหี้ยอะไรละ” ผมแทบสะดุ้งเมื่อมันพูดเสียงเย็นและคำพูดไม่ไว้หน้าใคร อย่ามองน่ากลัวกันแบบนี้ได้ไหม ไอรักอยู่ตรงกลางกลัวจนจะฉี่ราดอยู่แล้ว ลูกๆกูไปไหนหมดวะ เวลาคับขันอย่างนี้ไม่เคยจะช่วยกูเลยสักตัว ฮื้อๆๆๆ

“หึ ดูๆแล้วก็..ธรรมดา ยิ่งคำพูดที่ออกจากปากมอมๆนั่น ผมนึกว่าคนสวนที่บ้าน..”

ปึ้ก!

เหี้ย เอาแล้วไง อย่างเกียร์ไม่ต้องมายืนด่าใคร ลงมือปฏิบัติเลยตลอดดด

“เฮ้ยนาย!...” หมอปัดดินที่เปื้อนบนเสื้อตัวเองออกแล้วจะเอ่ยปากด่าเกียร์แต่ก็ต้องชะงัก.. ผมหันไปมองก็ต้องชะงักอีกคน

สีหน้ามันน่ากลัวเกินไป

“มึงรีบลากร่างเน่าๆของมึงไปรักษาแมวกูแล้วรีบออกไปก่อนที่กูจะเอาเลือดชั่วๆของมึงออกมาประจานให้คนอื่นได้รู้ว่ามึงริอาจอยากเป็นชู้กับแฟนคนอื่น” เสียงลอดไรฟันจากคนข้างหลังทำผมตัวเกร็ง

“นายคิดว่าผมกลัวงั้นเหรอ เหอะ ดูก็รู้แล้วว่าอย่างนายก็ได้แต่ใช้กำลัง ดูแลไอรักไม่ได้หรอก” ผมรีบจับเกียร์ไม่ให้มันกระโจนเข้าใส่

“หมอ  คุณกำลังดูถูกแฟนผมอยู่นะ” ผมก็โกรธเหมือนกันที่หมอมาว่าแบบนี้

“ก็พี่ดูไม่ผิดนิครับ สภาพอย่างนี้จะไปมีอะไรมาปกป้องไอรักได้ ถ้าเป็นพี่ พี่จะทำให้น้องมีความสุขมากกว่าอยู่กับนายคนนี้แน่นอน” เกียร์ปรายตาแล้วบอกคำที่ผมอยากจะพูดมาตั้งนาน

“กูจะอ้วก”

โฮ่ง โฮ่ง แหง่ง  โฮ่ง

ลูกกูเป็นตำรวจหรือเปล่าวะมาช่วยตอนเรื่องจบตลอด ไอหมอกขู่หมอใหญ่เลย ส่วนไอแดดเอาตัวเข้ามาขวางแล้วหันไปเห่าใส่

สู้ๆเข้าลูก เป็นตำรวจพุงย้วยต้องหัดออกกำลังกายหน่อยนะ วิ่งจับผู้ร้ายไม่เคยทันสักราย


“อ้าว หมอมาแล้วเหรอคะ มาๆเข้าบ้านก่อนค่ะ เกียร์ไอรักพอก่อนลูก เข้ามาพักทานข้าวทานน้ำกันก่อน” หมอหันไปไหว้แม่ที่ตะโกนมาจากหน้าบ้าน เดินไปหาแล้วเข้าบ้านกันไป

“เกียร์”

มันเช็ดมือกับกางเกงแล้วคว้าตัวผมไปกอด

“อยากต่อยหน้าแม่งฉิบหาย”

“แล้วทำไมไม่ต่อยละครับ” ผมพูดขำๆ ขนาดผมยังไม่ชอบใจกับการกระทำหมอเลย

“เห็นแก่คนที่บ้านไอรัก ต้องทำคะแนนด้วย” โห ไอ้ขี้ประจบ

“อย่าไปทำเขาเลย โอ้ยเกียร์ เบาๆสิ” มันรัดตัวผมแน่น

“ไปห่วงมันทำไม”

“เสียงแข็งใส่กันทำไมเล่า ผมกลัวคุณติดคุกติดตารางอะสิ ผมยังไม่อยากหาข้าวไปให้แฟนในคุกหรอกนะ”

“แล้วไป”



…………………..………….........



“เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ” หมอหันมายิ้มตอบให้กับผมและแม่

“คุณหมอรีบไปไหนหรือเปล่าคะ ทานอาหารเย็นกันก่อนไหม” แม่! อย่าชวนเขาเลย แค่นี้ไอรักก็อึดอัดจะแย่อยู่แล้ว อย่ามามองตาเยิ้มใส่นักได้ไหมไอ้หมอบ้า ทำไมแม่ผมถึงไม่เห็นสายตาชวนขนลุกนี้นะหรือเขาทำเป็นมองข้ามวะ ผมต้องทำเป็นมองข้ามด้วยไหม

“ขอรบกวนด้วยนะครับ” ไอ้นี่ไม่เคยจะปฏิเสธหรอก


ก๊อก ก๊อก


“อ้าวลูกเกียร์ เสร็จแล้วเหรอคะ” แม่ถามอย่างแปลกใจ เพราะปกติผมต้องเอาช้างมาร้อยเชือกเพื่อฉุดให้มันมาพักบ้างมันถึงจะยอมมา แต่นี่อยู่ดีๆก็เดินเข้าบ้านมาหากันเฉยเลย

“ยังครับ” มันตอบแล้วเดินมายืนข้างผมซะชิด

“เหนื่อยเหรอครับ” ผมเอี้ยวตัวไปถาม มันก้มลงมามองแล้วส่ายหน้า อะไรของเขานะ

“แหม อิอิ” ผมหันไปตามเสียงแม่ เห็นท่านยิ้มกรุ้มกริ่มมองพวกผมสามคน

“มีอะไรเหรอครับมาม๊า”

“เปล่าจ๊ะ เดี๋ยวมาม๊าไปเตรียมอาหารเย็นนี้ดีกว่า เกียร์ก็ใจเย็นๆกับน้องหน่อยนะคะน้องยิ่งอึนๆอยู่ อย่ารุนแรงกันละ” ผมมองอย่างไม่เข้าใจ เกียร์พยักหน้าตอบรับแล้วแม่ก็เดินออกไปจากห้อง

“ไอซิสเป็นไงบ้าง” หมอสัตว์อยู่ตรงหน้าทำไมไม่ถามละครับ หันมาถาม(ว่าที่)หมอคนทำม้ายย

“ฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิเรียบร้อยแล้วครับ นอนหลับปุ๋ยเลยดูสิ” ผมจูงมือให้มันมานั่งบนพรมด้านหน้าโซฟาที่ไอซิสนอนอยู่ ยกมือลูบหัวลูกเบาๆ

“ทำเป็นหลับเพลินเลยนะมึง”

“อะไรนะครับ” มันพูดพึมพำอะไรไม่รู้ผมได้ยินไม่ถนัดจึงถามมัน

“หลับเป็นปุ๋ยเลย”

“จะบ้าเหรอเกียร์ หลับปุ๋ยต่างหากเล่า แมวนะไม่ใช่มูลสัตว์”

“ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง”

“เกียยยร์ อย่าว่าลูกผมนะ”

“ลูกเกียร์เหมือนกัน”

“คุณเกี่ยวอะไรเล่า”

“ถ้าไอรักเป็นแม่ เกียร์ก็เป็นพ่อมัน”

“ฮื้อ บ้า พูดอะไรนี่” >////< ให้ตายเถอะ ดูมันตอบ

“น้องไอรัก” ผมหันไปมองคนข้างหลัง ชะอุ้ย ลืมไปว่าหมอยังอยู่

“ครับ?”

“ห้องน้ำอยู่ไหนเหรอ ช่วยพาพี่ไปหน่อยได้ไหม” หมอเดินเข้ามาใกล้ผมแล้วถามหน้ายิ้มเหมือนปกติ

“อ๋อ ดะ.. เอ่อ ได้ครับๆ” ผมจับมือเกียร์ให้เดินตามมาด้วย

“ยังมีชีวิตอยู่เหรอวะหึ อึก” ผมเอาสอกกระทุ้งท้องมันโทษฐานทำเสียมารยาท

“สมน้ำหน้า” ไอ้หมอยิ้มเย้ยกลับอย่างไม่ยอมแพ้

“ถึงแล้วครับ เอาละเกียร์ไปอาบน้ำได้แล้ว” ผมไปส่งหมอแล้วดันหลังเกียร์ให้เดินไปอีกทาง แต่มีมือมาจับมือผมให้หยุดเสียก่อน

“รอพี่เข้าห้องน้ำแปบหนึ่งก่อนได้ไหม พี่กลัวว่าจะหลงทางน่ะน้องไอรัก”

ปึ้ก!

“จับหาพ่อมึงเหรอไอ้สัตว์!” เกียร์ผลักไหล่จนหมอเซล้มลง แล้วตะคอกด่าเสียงดัง แม่บ้านที่เดินผ่านผวาแล้วรีบเดินหนีไป

“หึ ป่าเถื่อนจริงๆ ดูไม่ออกเหรอว่าผมจับน้องไอรัก ไม่ได้จับมือพ่อสักหน่อย” ไอ้หมอลุกขึ้นมาพร้อมลอยหน้าลอยตาตอบ

“หมอ! พอเถอะครับ อย่าทำให้ผมลำบากใจไปมากกว่านี้เลย” หมอมองมาอย่างตัดพ้อ

“ลำบากใจ?.. น้องให้โอกาสพี่บ้างไม่ได้เหรอ พี่ขอแค่..” ผมพูดขัดขึ้น

“ผมขอโทษนะครับถ้าผมไปทำอะไรที่ทำให้คุณคิดว่าผมจะให้โอกาสนั้น แต่ผมไม่คิดที่จะชอบใครใหม่หรอกนะครับ ผมมีแฟนแล้ว ได้โปรดอย่ายุ่งกับผมหรือกับแฟนผมเลย ผมไม่อยากให้เขาต้องมาผิดใจเพราะเข้าใจผิดแบบนี้อีก แค่ตอนนี้เราก็รับหลายๆอย่างมากพอแล้ว”

“....”

“เลิกคิดแบบนั้นเถอะครับ มันเป็นไปไม่ได้”

“..ทำไมละ มันดีกว่าพี่ตรงไหนกัน” หมอเริ่มตาแดงมองผมอย่างฉงน

“เกียร์เป็นคนที่ผมรัก เข้าใจหรือยังละครับ”

มันจริงนิครับ เกียร์เป็นคนที่ผมรัก แม้ว่ามันจะหึงเหมือนหมาบ้า โหดเหมือนกอริลล่า หรือจะนิ่งเย็นชาเหมือนน้ำแข็งในสายตาคนอื่นแต่ผมก็รักที่มันเป็นมัน ถ้าหมอดีขนาดไหนหรือจะเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกมาขอผมเป็นแฟนผมก็ไม่เอาหรอก

เพราะผมเลือกแล้ว ผมรักเกียร์

“..แพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม ฮ่ะๆ แย่จริงๆ”

“ความจริงหมอก็พยายามมาสักพักแล้วนิครับ แต่คำตอบของผมก็ได้บอกไปเมื่อกี้แล้ว”

“นายโชคดีนะที่น้องรักนายขนาดนี้” หมอหันไปพูดกับเกียร์ มันมองเมินไม่ได้ตอบอะไรแต่ดึงให้ผมขึ้นไปชั้นบน

“แต่นิสัยแย่ๆอย่างนาย น้องไอรักรักเข้าไปได้ไงไม่รู้” มันหันกลับไปมองหน้า คิ้วขมวดแน่น

“อย่าให้กูเจอข้างนอกนะมึง โดนแน่” ยังจะไปขู่เขาอีก หวังว่าจะไม่ถึงกับลงข่าวหน้าหนึ่งหรอกนะ

หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ พวกผมก็ลงมาแต่ไม่เจอหมอแล้วละครับ ยังดีที่เมื่อกี้มีแม่บ้านบางคนที่ได้ยิน แต่พ่อแม่และพี่อุ่นไม่ได้ยินจึงไม่มีปัญหาอะไร



………….........………….........………….........…



“เกียร์ เสร็จแล้วครับ ไว้เจอกันที่บ้านนะครับ” ผมวิ่งลงจากคณะหลังจากที่ทำข้อสอบเสร็จ เจอผู้ชายร่างใหญ่หลบมุมอยู่หลังเสาเป็นที่ประจำของมัน บอกเสร็จผมก็รีบเดินไปหานายไผ่

“กลับบ้านเร็ว!” วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่พ่อกำหนดไว้ ผมนั่งแทบไม่ติดตั้งแต่อยู่ในห้องสอบแล้วครับ รนจนจะบ้าอยู่แล้ว

ผมรีบเดินลงจากรถ เห็นคนอื่นนั่งเก้าอี้ในสวน เกียร์ขับมาจอดข้างผมติดๆแล้วถอดเสื้อเดินไปปลูกต้นไม้ต่อจากเมื่อวาน โอ้ยฟิตจังโว้ย หมายถึงขยันขันแข็งนะครับไม่ใช่อย่างอื่น

“เหลืออีกกี่ต้นเหรอครับ” ทำไมมีแต่ผมคนเดียวที่รนเนี่ย พ่อแม่พี่อุ่นพี่ติมยืนขำดูผมดิ้นอยู่คนเดียว แงๆๆๆ

“ทำไมไม่นับเองละครับ”

“พี่ติมอะ!” ความจริงผมเห็นละครับว่ามันเหลือแค่สองต้น แต่ผมอยากถามเท่านั้นเอง มันเหงาปากงะ

“สู้ๆนะว่าที่น้องเขย อีกไม่กี่ต้นก็จะเรียกน้องเขยได้เต็มปากแล้ว” พี่อุ่นลุกขึ้นจากเก้าอี้มาตบบ่าเกียร์ เสร็จแล้วก็เอามือที่เปื้อนเหงื่อเกียร์มาลูบหน้าผมตั้งแต่หน้าผากลงมายันปาก อึ๋ยยย อย่าสิพี่ไออุ่น! ไอรักไม่ได้รังเกียจนะ แต่กลัวว่าของจะขึ้นละสิ เดี๋ยวนี้ยิ่งเสี้ยนๆอยู่

“เหนื่อยไหมครับ” ผมหยิบพัดไม้สานสีน้ำตาลล้วนมาพัดให้มัน

“หึ”

“ขำอะไรเล่า”

“ตลก” เออออออออกูรู้ ไม่ตลกมึงไม่ขำหรอก แต่ที่มึงตลกนี่คือท่าทางกูใช่ไหม ใช่ซี๊

“ฮุ่ยเล่ฮุ่ย เอ้า ฮุ่ยเล่ฮุ่ย”

“หึหึหึ”

“จ้ำเอาๆเลยเกียร์”

“ไปเร่งเขาทำไมลูก มานั่งตรงนี้มาตัวเล็ก” แม่ตบเก้าอี้ขาวปุๆ ผมจึงจำต้องเดินคอตกไปหา

ผมนั่งไปสักพักก็ลุกขึ้นไปใกล้ๆเกียร์อีกครั้ง เหลือต้นสุดท้ายเป็นต้นใหญ่กว่าใครเพื่อนเลย มันขุดหลุมจนเสร็จแล้วก็ยกต้นไม้จนกล้ามขึ้นเป็นลูกๆ กลบเสร็จก็ทรุดนั่งพิงต้นนั้นอย่างหมดแรง

“เสร็จแล้ววววว!!!! เย้ๆๆๆ” ผมตะโกนออกมาเกือบสุดเสียงแบบไม่อายใคร คนอื่นๆหัวเราะใหญ่แต่ผมไม่สนหรอก

“แด๊ดด เกียร์ทำสำเร็จแล้วนะ ทุกคนเกียร์ทำเสร็จแล้ว” ผมยิ้มแป้นไปเกาะแขนพ่อกับแม่

“โอ้ยตัวเล็ก หยุดเขย่ามาม๊าก่อนลูก มาม๊าเห็นแล้วค่า”

“แหะๆๆๆ” แอบเห็นพวกพี่ๆยิ้มส่ายหน้าเอือมกับผม แต่ไม่รู้ละก็คนมันดีใจนี่นาทำไงได้

พ่อเดินไปหาเกียร์ที่ยังนั่งพิงต้นไม้อยู่ที่เดิม ดูท่าจะเหนื่อยมากเลยละ หน้ามันนิ่งแต่มุมปากมันกดยิ้มเหมือนคนมีความสุขไม่ต่างกับผม เอ่อ แต่อาจจะต่างเพราะผมยิ้มกว้างมากกก กว้างจนหน้าเมื่อยไปหมดแต่ก็ยังยิ้มสู้!

“เก่งเหมือนกันนิ” พ่อพูดแล้วเผยยิ้มออกมาให้เกียร์ พลอยให้ผมกับเกียร์ยิ้มตามไปด้วย ผมยื่นผ้าขนหนูไปให้แล้วนั่งลงข้างมัน

“ความอดทนเป็นสิ่งสำคัญ ภายหน้านายจะต้องเจอกับแรงกดดันมากกว่านี้ ความจริงฉันไม่ได้อยากจะขัดความรักของลูกนักหรอก แต่ฉันอยากรู้ว่านายจะดูแลเขาได้จริงๆหรือเปล่า ฉันคิดว่าถ้าแค่นี้นายยังปกป้องความรักเอาไว้ไม่ได้ก็อย่าคิดที่จะมีมันซะ แต่วันนี้นายก็ทำให้รู้ว่าฉันสามารถฝากฝังลูกฉันกับนายได้ ที่ฉันให้ทำคือบททดสอบก้าวแรกของทั้งสองคน หวังว่าหลังจากนี้จะไม่ทำให้ฉันผิดหวังแล้วกัน”

“หมายความว่าแด๊ดยอมรับเกียร์แล้วใช่ไหมครับ” ผมพูดเสียงตื่นเต้น

“อืม” พ่อพยักหน้าแล้วจับผมลุกขึ้น ก่อนจะยื่นมือไปให้เกียร์ มันมองครู่หนึ่งแล้วเอื้อมจับมือพ่อก่อนจะลุกขึ้น

“งั้นเราไปเลี้ยงฉลองกันไหมคะ” แม่พูดขึ้น ตื่นเต้นไม่แพ้กัน

“ดีเลยครับมาม๊า!”

“แล้วพาไอรักไปไหว้พ่อแม่นายหรือยังละ” พ่อหันไปถามเกียร์

“พาไปแล้วครับ”

“มีปัญหาอะไรไหม เขารับได้นะ?” เกียร์พยักหน้าแล้วตอบ

“ครับ”

“ชวนพ่อแม่เกียร์มาด้วยสิ แด๊ดอยากรู้จัก” ผมกับเกียร์มองหน้ากันแล้วยิ้มออกมา พ่อเปลี่ยนมาเรียกสรรพนามที่ใกล้ชิดขึ้นกว่าเดิมแล้วยังอยากรู้จักพ่อแม่เกียร์ด้วย

มีความสุขชะมัดให้ตายสิ!


TBC---------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

+หมอกสีเทาเคลื่อนตัวออกไปสักทีเล่นเอาโซ่แต่งไปเหงื่อแตกไป โซ่ไม่อยากให้เครียดกันเลยรวบยอดลงทีเดียวยาวๆไปเลย เรื่องนี้มาม่าไม่อยากกินค่ะ เราต้องกินไข่ลูกเขยเท่านั้น! กร๊ากกกกกกกกกก
+พรุ่งนี้หยุดเรียนทำอะไรกันดี ว่าจะไปสยาม หรือจะไปเซ็นลาดดี(ใกล้บ้านอะไม่ใช่อะไร ฮ่าา) ใครมีแผนจะไปที่ไหนก็ส่งเสียงหน่อยนะจ๊ะ

โซ่ :z13:ทุกคน (อะเจ้ย)
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่31 หมอกสีเทา* [30/01/14] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-01-2014 03:03:08
ทางที่ดี อยู่หน้าจอแต่งนิยายให้เราอ่านดีที่สุดคะ  o11 o11 o11
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่31 หมอกสีเทา* [30/01/14] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 30-01-2014 05:48:50
เย้ สำเร็จแล้ว
เกียร์หื่นอะ ปลูกเสร็จนี่ไอรักไม่ฟ้าเหลืองเลยเรอะ 55555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่31 หมอกสีเทา* [30/01/14] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 30-01-2014 06:36:02
เย้ เย้ คุณแด๊ดยอมรับเกียร์แล้ว
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่31 หมอกสีเทา* [30/01/14] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 30-01-2014 08:20:39
เย้ๆๆๆ  :m3: ดีใจกับเกียร์และไอรักด้วยคน  แด๊ดน่ารักที่สุด กอดแด๊ดหนึ่งที  :กอด1:
บททดสอบของแด๊ด ก็เพราะรักและห่วงไอรักมาก ๆ นั่นแหละน้า
แถมให้คำสอนดี ๆ กับลูกเขยหมาด ๆ อีก เท่ห์มากเลยค่ะแด๊ด
กลับมาเป็นครอบครัวสุขสันต์กันซะที ฟ้าสว่างสดใส เมฆหมอกอึมครึมหายไปแล้วน้า
สองครอบครัวมาเจอกัน คงสนุกสนานเฮฮาน่าดู มีความสุขไปกับไอรักด้วยเลย
ดีจริงที่โซ่ก็ไม่อยากกินมาม่าเหมือนคนอ่านเลย จุ๊บทีนึง  :mew1:
รอตอนต่อไปจ้ะ เรื่องนี้น่่ารักมากมาย ขอบคุณ โซ่ จ้ะ  :L1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่31 หมอกสีเทา* [30/01/14] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 30-01-2014 13:16:58
ดีใจกับเกียร์ไอรักด้วย ผ่านไปได้ด้วยดี
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่31 หมอกสีเทา* [30/01/14] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 30-01-2014 14:39:44
ดีใจจริงๆ ในที่สุดก็สำเร็จ คุณแด๊ดยอมรับเกียร์แล้ว :mc4:
แถมหมอก็เลิกยุ่งกับไอรักสักที หมอกวนมากเกียร์น่าจะจัดไปซักหน่อย
ชอบที่ไอรักพูดมาก  เด็ดขาดมากหนูไอรัก
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่31 หมอกสีเทา* [30/01/14] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 30-01-2014 14:41:11
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่31 หมอกสีเทา* [30/01/14] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 31-01-2014 09:38:33
 :กอด1:
 :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่31 หมอกสีเทา* [30/01/14] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 31-01-2014 09:56:07
ดีใจด้วยนะเกียร์กับไอรัก
:)
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่31 หมอกสีเทา* [30/01/14] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 01-02-2014 20:08:06
เกียร์เป็นผู้ชายอบอุ่นและน่ารักมากเลยค่ะ ไม่เคยทำร้ายจิตใจนายเอกเลย

ส่วนไอรักก็น่ารักมากกกกกก ชอบสุดสุด ในความคิดเกรียนไม่เหมือนตอนพูดออกมาเล้ย555555

มาต่อไวๆนะคะ ^_^
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่31 หมอกสีเทา* [30/01/14] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: ekonut ที่ 02-02-2014 02:01:21
สำเร็จแล้วนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่31 หมอกสีเทา* [30/01/14] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 16-02-2014 18:08:09
คิดถึงเกียร์ไอรัก :กอด1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่31 หมอกสีเทา* [30/01/14] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 24-02-2014 03:08:46
ใกล้จะมาต่อยังน้าาา อยากอ่านตอนทั้งคู่สวีทกันแล้วน้าาา รักเรื่องนี้ มาม่าแทบไม่ต้มให้คนอ่านเกินเลย อิอิ (นอกจากตอนขุ่นพ่อนะคะ แหะๆๆ รายนั้นโหดจริงๆ)
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่32 ..แค่คุณ..* [25/02/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 25-02-2014 18:13:54
ตอนที่32




“จริงเหรอคะ พอดีบ้านเอมชอบปลูกต้นไม้แล้วปกติตาเกียร์เขาก็มาช่วยเอมปลูกด้วยตลอด แต่ไม่คิดว่าจะแข็งแรงขนาดนี้” แม่เกียร์พูดขึ้นพลางตกใจกับความอึดของลูกตัวเองที่แม่ผมถ่ายสวนที่มันจัดขึ้นมา

“ใช่ไหมละคะ มิกิก็อึ้งเหมือนกัน แต่ลูกคุณเอมเก่งมากๆเลยนะคะ มิกิละชอบ” แม่ครับ ใจเย็นนี่แฟนผม แฟนตัวเองนั่งข้างๆทำไมไม่ชมละครับ

ตอนนี้พวกผมอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งบนดาดฟ้าแถวถนนสีลม วิวดีมากเลยทีเดียว ผมชอบที่มันเป็นจุดที่สามารถมองแสงสีเมืองหลวงจากตรงนี้ได้ มีดนตรีไพเราะคลอเบาๆอยู่กับคนที่ผมรักด้วยยิ่งรู้สึกดีขึ้นไปใหญ่ ดูท่าครอบครัวผมกับเกียร์จะเข้ากันได้ดีเอามากๆ พวกพ่อๆนั่งคุยเรื่องธุรกิจเรื่องต้นไม้ ส่วนคุณนายก็เม้าโน่นนี่แบบเข้าขาสุดๆ มีการชวนเข้ากลุ่มสมาคมภริยาที่สามีไม่มีเวลาให้ด้วยนะ ผมละโคตรงงเลยใครเป็นคนตั้งขึ้นมา พอฟังไปฟังมาเหมือนเพื่อนของแม่ผมเป็นคนตั้งขึ้นมาเล่นๆน่ะครับเอาไว้นัดไปเที่ยวไปอะไรกัน แต่ผมก็ต้องกลั้นขาเพราะชื่อสมาคมแปลกๆนี่ละ

ส่วนพี่อุ่นพี่ติมกับเกียร์ไม่รู้จะแข่งกันตักอาหารใส่จานผมทำไมนักหนา มันเพิ่มพูนจนไม่รู้จะทานอย่างไรให้หมดแล้ว แค่กุ้งสองโลไอรักก็อิ่มจนจะอืดออกมาจากปากแล้วครับ!

“พอแล้วครับ ไอรักทานไม่ไหวแล้ว” ผมโอดโอย

“ก็ให้นายนิ่งหยุดตักสิ” พี่ติมพูดเสียงแข็งมองไปที่นายนิ่ง เอ่อคือคุณน้ำแข็งชื่อเกียร์ครับไม่ใช่นายนิ่ง เกียร์ชะงักมือที่กำลังวางกุ้งตัวอวบใส่จานผม แล้วหันไปสั่งเครื่องดื่มมาให้ผมแทน

เอ่อ ตักข้าวไม่ได้ ก็บริการน้ำแล้วกันว่างั้น

จุก จุก จุกทั้งน้ำ จุกทั้งเนื้อ งานนี้ไอรักพุงกางแน่เลยขอรับ!

เวลาล่วงเลยไปจนร้านเขาจะปิดถึงได้แยกย้ายกลับกัน พอดีตอนที่ออกมาพวกผมนั่งรถตู้คันใหญ่ที่บ้านมา เกียร์ก็นั่งมาด้วยกันตอนกลับจึงกลับด้วยกันเหมือนเดิม แต่ก่อนแยกพ่อแม่เกียร์บอกพวกผมว่าว่างๆก็มาเยี่ยมที่บ้านได้ ผมก็ตอบรับไปเพราะยังไงเดี๋ยวก็ต้องไปเยือนอยู่แล้ว ก็เป็นบ้านแฟนนี่นา อิอิ

“ให้ไอรักกลับไปกับผมด้วยได้ไหมครับ” อยู่ๆเกียร์ก็พูดขึ้นขณะที่เรากำลังเดินเข้าบ้านกัน

“หืม เอาสิ”

“อ้าวว ทำไมยอมยกให้ง่ายๆละครับ” ผมงงเลย ยื้อเย้อไม่มี ก่อนหน้านี้ทำไมอยากจะจับแยกกันใจแทบขาด

“หึหึ หรือไม่อยากไปละ งั้นวันนี้มานอนกับแด๊ดไหมละ มาๆ” พ่อผมกวักมือเรียกยิกๆ

“หื้อ ไอรักถามเฉยๆคร๊าบ” ผมหน้ามุ่ยตอบ แม่ผมหัวเราะใหญ่

“คุณไปแกล้งลูกทำไมละคะ ไปเถอะตัวเล็กดูแลตัวเองด้วยนะลูก เกียร์ก็อย่าลืมดูแลน้องแทนมาม๊าด้วยนะคะ ตัวเล็กเป็นเหมือนแก้วตาดวงใจของทุกคนในบ้าน ถ้าดูแลไม่ดีมาม๊าจะรับตัวน้องกลับนะคะ” แม่พูดเหมือนผมอายุเด็กกว่ามันมากทั้งๆที่อายุเราก็เท่ากัน แค่มันตัวใหญ่กว่านิดหน่อยเอง

“ครับ” มันตอบ จากนั้นพวกเขาพากันเดินเข้ามากอดหอมจนพอใจถึงผละออก

“ไม่ไปได้ไหมตัวเล็ก อยู่ให้พี่ได้แกล้งเถอะ เหงา”

“โหพี่ติมอะ เค้าจะไม่อยู่เพราะตัวเองชอบแกล้งนี่ละ” ผมแกล้งพูดหน้าบึ้ง

“ก็ตัวเองอยากน่าแกล้งเองทำไมละ หึหึ” พี่ติมพูดแล้วขยี้หัวผมจนนึกว่าหนังหัวจะหลุดติดมือเขาไปแล้ว

“อย่าชวนน้องพี่ให้เสียคนละ” พี่อุ่นหันไปพูด สีหน้าจริงจัง

“ครับ” เกียร์พยักหน้าตอบรับ เสียคนไม่มีทางแต่ถ้าเสียตัวละก็ไม่แน่ มันต้องคิดอย่างนี้อยู่แน่ๆเลยเพราะดูจากหน้าตามันแปลกๆอย่างไรไม่รู้ เอ๊ะหรือผมหื่นไปเองวะ

“แล้วนี่จะไปยังไงกัน เอามอเตอร์ไซค์มานิ” พี่อุ่นถามขึ้น

“เอ๋ อันตรายนะคะ ขับรถตัวเล็กกลับกันไปไม่ดีกว่าหรือ” แม่พูดด้วยความเป็นห่วง

“เกียร์ขับช้าครับ มีหมวกกันน็อคสองใบเรียบร้อย ไม่ต้องห่วงกันนะครับ” ผมซ้อนทีไรมันจะกลายเป็นเต่าทุกที

“อืม งั้นก็รีบขึ้นไปเตรียมตัวเถอะดึกมากแล้ว ส่วนรถของตัวเล็กเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าแด๊ดให้คนขับรถเอาไปให้แล้วกัน” ผมแอบยิ้มทุกครั้งที่พ่อพูดดีกับเกียร์ เป็นภาพประทับใจมากเลยทีเดียว

“ได้ครับ” ผมพยักหน้ารับแล้วขึ้นไปเก็บของเอาแค่ไว้ใช้พรุ่งนี้ ส่วนที่เหลือไว้ค่อยให้คนอื่นแบกมาแล้วกัน เกียร์จัดการพับเสื้อผ้าเข้ากระเป๋าเป้ ส่วนผมก็เก็บของตรงโต๊ะเครื่องแป้ง ทำไมมันเยอะอย่างนี้ละนี่

“เกียร์ ให้ไอซิสไปด้วยได้ไหมครับ” ต้องขอมันก่อน กลัวมันดุผมอีกเดี๋ยวเป็นประเด็นเดือด

“แล้วแต่” แหม อารมณ์ดีละสิถึงไม่ทักท้วงอะไร

ผมเก็บของตัวเองเสร็จก็รีบไปเก็บของจุกจิกของไอซิสใส่กระเป๋าแมว ส่วนไอซิสก็อยู่ในนั้นนั่นละมีที่พอให้คุณไอซิสอยู่ได้ไม่อึดอัด ไอซิสลูก หนูต้องทนหน่อยนะ พ่อของหนูจะพาไปแว้นแล้วเย้

“จับดีๆนะ”


“ไปโล้ดด”



………………………………………..



“โถ่ จะไม่ให้ไอซิสนอนข้างในจริงๆเหรอครับ”

“ไม่ได้” มันตอบเสียงเด็ดขาด ใจร้าย

“อะโด่ งั้นมานี่มาไอซิส เขาไม่ให้เราก็นอนเล่นข้างนอกก็ได้เนอะ” ไอซิสวิ่งตามแล้วตะกุยตะกายขึ้นมานั่งบนโซฟา โถ ขาสั้นก็ไม่เคยเจียมเลยนะลูกกู

เกียร์ส่ายหน้าเบาๆด้วยความระอาแล้วเข้าไปเก็บของในห้องนอน ส่วนผมนั่งเล่นกับไอซิสไปพักใหญ่จนมันเดินออกมา

“ไอรัก มาอาบน้ำ” มันพูดเมื่อเห็นผมกำลังจะเคลิ้มหลับบนโซฟาซึ่งมีไอซิสนอนอยู่ข้างตัว

“บู่ ก็ได้” ไม่เห็นต้องทำหน้ายักษ์ใส่แบบนั้นเลยไอ้คุณน้ำแข็งบ้า

มันจูงผมเข้ามาในห้องน้ำแล้วเปลื้องผ้าให้จนหมด อะไรกัน ให้แก้ผ้าอยู่คนเดียวเสียเปรียบชัดๆ ผมหลบตาอย่างขัดเขินเมื่อมีดวงตาคมดุกวาดตามองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าก่อนจะย่างก้าวเข้ามากอดแนบชิด ก้มลงมาจูบผมส่วนมือทำหน้าที่ได้ดี ลูบไล้ไปทั่วตัว ด้านล่างของผมกับของมันเสียดสีเข้ากันจนตื่นตัวกันเต็มที่

“ไหนบอกจะอาบน้ำไงครับ” ผมพูดเสียงสั่นเบา อยากจะเขยิบออกห่างเพราะกลัวจะบานปลาย แต่ขาเจ้ากรรมดันยืนทื่อให้อีกคนเล้าโลมไม่ยอมขยันเขยื้อนไปไหน

“คิดถึง” มันผละออกมามองตาผมแล้วจูบลงที่หน้าผากอย่างแผ่วเบา

“คิดถึง” พูดแล้วจูบลงที่เปลือกตาทั้งสองข้าง มือใหญ่ยกขึ้นมาลูบแก้มเบาๆ

“คิดถึง” จูบลงเรื่อยมาจนถึงแก้มทั้งสองฝั่ง กดแช่อยู่นานก่อนจะผละออกมามองตา สายตาของมันทำเอาผมใจเต้นรัว

“..รัก..” มันพูดจบก็เลื่อนมาประกบปากผมแน่น มอบจูบที่หอมหวานให้ผมอย่างไม่หยุดหย่อน

อย่าว่ามันเลย ผมก็คิดถึงไม่แพ้กัน คิดถึงจนแทบทนไม่ไหว คิดถึงจนสะดุ้งขึ้นมากลางดึกทุกคืน..ผมขาดมันไม่ได้จริงๆ

“ไม่เอา ไม่เอาอย่างนี้” ผมละล่ำละลักเมื่อมันจะยกขาผมข้างหนึ่งให้อ้าพาดอ่างอาบน้ำ แต่ผมยึดขาตัวเองเอาไว้

“หืม?” มันถามด้วยเสียงในลำคอ

“ผม..อาย มันน่าเกลียด..” ผมหลับตาแน่นแล้วพูด ไม่รู้ว่าห่างหายไปนานหรือท่าน่าเกลียดจนผมไม่กล้าทำ แต่ตอนนี้ผมเขินจริงๆ

“น่าเกลียดตรงไหน น่ารัก” มันพูดแล้วจูบผมอีกครั้งอย่างถวิลหาก่อนขยับซ้อนหลังผมแล้วเม้มจูบลงซอกคอเรื่อยจนถึงบั้นท้าย จับขาวางพาดอ่างอาบน้ำอีกครั้งแล้วนั่งคุกเข่าแล้วเลื่อนหน้าไปประตูหลังผมก่อนจัดการ…

“อ๊ะ เกียร์ อย่า..มัน..สกปรก.. อ้ะ อื้อ ผม สะ เสียว..เกียร์..” ผมยืนขาสั่นทันทีที่มันล้างตู้ให้แล้วยังเอื้อมมือมาชักให้ผมอีก มันไม่ฟังเสียงร้องขอกลับเร่งมือให้เร็วขึ้นแล้วฉกลิ้นเข้าออกลึกกว่าเดิม ผมร้องไม่เป็นศัพท์เพราะเสียวมากจนไม่นานก็แตกทั้งๆที่ลิ้นมันยังคารูอยู่

“ขอนะ” มึงยังมีหน้ามาขออีกเหรอ ผมเอี้ยวตัวหันไปมองแว้บหนึ่งแล้วหันกลับก่อนจะพยักหน้าอายๆ

มันจับผมให้นอนในอ่างแล้วอ้าขากว้างไปพาดกับขอบอ่าง เริ่มเล้าโลมจูบผม มือหนึ่งบี้หัวนมผมจนต้องบิดตัวด้วยความเสียวซ่าน อีกมือเอื้อมไปหยิบเจล(ไปเอามาตอนไหนวะ!?) ตรงชั้นวางครีมอาบน้ำมาเทลงบนฝ่ามือก่อนจะใช้นิ้วให้ แค่นิ้วเดียวทั้งจุกทั้งแสบเลยให้ตาย กี่ทีๆก็ไม่เคยชินกับนิ้วใหญ่ๆและ..ของมันสักที จากหนึ่งก็เพิ่มเป็นสองจนตอนนี้เข้าไปถึงสามนิ้ว ผมกัดปากหน้าดำหน้าแดงอย่างอดกลั้นเพราะมีนิ้วชักเข้าออกควงให้รูขยายตัว โคตรเจ็บ อารมณ์เหมือนครั้งแรกไม่มีผิด ทั้งอายทั้งเจ็บและเสียวไปพร้อมๆกัน

“พร้อมนะ” มันแก้ผ้าตอนไหนไม่รู้ เอานิ้วออกจากตัวผมแล้วรูดลูกชายมันมาจ่อปากทาง เหี้ยเอ๊ย มาเป็นลำจนกูแทบเป็นลม

“ไม่พร้อมก็ต้องพร้อมแล้วละ” ผมพูดเสียงพร่า มันหัวเราะในลำคอแล้วค่อยๆกดลูกชายมันเข้ามา ผมหายใจลึก มันกดเข้ามายังไม่หมดหัว ผมก็ดันท้องมันให้หยุดเคลื่อนตัว

“เจ็บ?” ผมพยักหน้า กัดปากจนรู้สึกเจ็บไปหมด น้ำตาแม่งก็จะไหลออกมา

มันลูบปากเพื่อไม่ให้ผมกัดไปมากกว่านี้แล้วยืดตัวขึ้นมาโลมเลียหัวนม ชักลูกชายผมที่เหี่ยวไปเพราะเจ็บให้ตื่นขึ้นมาอีกรอบ เกียร์จับขาผมให้คุกเข่าคู้ตัว ผมเลยเกี่ยวรั้งขาทั้งสองข้างของตัวเอง ผมรู้สึกถึงแรงกดที่ค่อยๆเคลื่อนตัวเข้ามาอีกครั้งสลับกับหยุดให้ผมได้พักหายใจบ้างจนรู้สึกถึงขนมันแนบติดกับก้นผม เสียงกัดฟันกรอดของผมและมันดังออกมาให้ได้ยิน มันคงอดกลั้นสั่งตัวเองไม่ให้ขยับ ส่วนผมนี่ทั้งเจ็บทั้งเสียวจนอยากร้องออกมาดังๆ มันแช่อยู่สักพักก็ค่อยๆขยับตัวจากช้าเป็นเร็วขึ้น มือยังชักให้ผมอยู่ เสียงหายใจกับเสียงครางดังประสานไม่รู้ของใครเป็นของใคร

“อ๊าส์ อ๊ะ เกียร์ อึก ซี๊ดด อ๊ะ” ผมครางออกมาไม่เป็นศัพท์ มันกระแทกเข้ามาเร็วลึกไม่หยุดเล่นเอาต้องอ้าขากว้างขึ้นยิ่งกว่าเดิม

“อืม..”

“เกียร์ เกียร์.. ผม..” ผมสะบัดหน้าด้วยความเสียว เผลอเด้งสะโพกสวนตามจังหวะมันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ มันควงเอวไปมา ชักให้ผมพร้อมกับซอยเข้ารูผมเร็วขึ้น

“ผม ..ไม่ไหว..ฮะ..แล้ว.. อึ้ก อ้ะ”

“..ฮึ่ม ปล่อยเลย”

“อ๊ะ อึก..” ผมร้องดังขึ้นพร้อมกับกระตุกน้ำสีขุ่นออกมาจนเต็มหน้าท้อง พุ่งแรงจนโดนหน้านิดหนึ่งด้วย ส่วนเกียร์กระแทกไม่นานก็แตกตามผมไปติดๆ

“..เกือบตาย”

มันหัวเราะกับคำพูดผมนิดหนึ่งแล้วหอมแก้ม

“คุณ เอามันออกไปก่อนได้ไหม มัน..” ผมพูดเพราะลูกชายมันยังแช่ไม่ถอยไปไหนมาสักพักแล้ว มีการควงหมุนเล่นอีกนะ

“หืม”

“คือคุณ..ไม่ใส่ถุงอีกแล้ว.. ผมอยากอาบน้ำ มันเหนอะหนะ” ผมก้มหน้าพูดอายๆ

“กล้าเลอะยิ่งเยอะประสบการณ์” จะบ้าเหรอ นั่นมันสโลแกนผงซักฟอกยี่ห้อหนึ่งไม่ใช่เหรอ ถ้าจะเจ็บตัว เหนียวตัวอย่างนี้ไปมีประสบการณ์คนเดียวเถอะ

“เกียร์ ผมไม่ไหวแล้วนะ..” ลูกมันกระตุกพองตัวขึ้นไม่เกรงใจช่องหลังผมเลย


“คืนนี้ไม่ได้นอนหรอก หึหึ” ม่ายยยยยยยยยยยยยยย



………………………………..



ดีนะที่วันนี้เป็นวันอาทิตย์

ดีนะที่มีสอบวันจันทร์

ดีนะที่ผมกับมันกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง

แต่ไม่ดีนะที่ไอ้เชี่ยเนมและพวกพ้องจะมาเยี่ยมกูถึงเตียงขนาดนี้!!!!!

“กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก ถ้ากูไม่บังเอิญคิดถึงอยากจุ๊บุๆมึงพอดี กูคงไม่รู้ว่ามึงนอนซมตูดพะงาบ เอ้ย ปากพะงาบอยู่แบบนี้” ไอ้ทะลึ่ง มันโทรมาหาตอนเช้าแล้วเกียร์รับ ไม่รู้ว่าไปคุยกันอีท่าไหนผมตื่นมาอีกทีก็เจอพวกมันยืนสลอนกันรอบเตียงแล้ว

“กูง่วงเฉยๆเหอะ” ผมพูดแล้วพลิกตัวไปอีกข้างก็เจอไอ้คิมยืนอุ้มไอซิสแล้วคุยงุ้งงิ้งอะไรกันไม่รู้อยู่ข้างเตียง จะว่ามันบ้าก็ถูกนะครับ ขนาดผมยังไม่เคยคุยกับลูกๆเป็นวรรคเป็นเวรขนาดนั้นเลย

แล้วที่มันอุ้มมาเล่นในห้องนอนอย่างลอยนวลได้นั้นเพราะเกียร์บอกอุ้มไอซิสเข้าห้องได้แต่ไม่ให้เอาเท้ามาสัมผัสเตียงน่ะครับ มันบอกกลัวเวลานอนจะคันเนื้อคันตัว แต่ไอรักว่าตอนนี้ไอรักเริ่มคันตีนอยากถีบคนกวนประสาทอย่างไอ้คิมแล้วละ

“ง่วงหรือเงี่_นคร้าบบบ จากสภาพกับเสียงแหบๆของมึง กูก็รู้แล้วว่าฟ้าเหลือง หึหึๆ” ดูมันพูดสิ แล้วจะไม่ให้ผมอยากถีบมันได้อย่างไรละ แต่แค่กระดิกผมก็เจ็บก้นแล้วถ้ายกขาไปถีบมันคงมีหามไปโรงพยาบาลกันบ้างละ

“โอ้ยๆๆๆ เค้าเจ็บจังเลยงะตัวเอง” ไอ้เนมกระโดดข้ามเตียงมาออเซาะคิมแล้วผลักหัวไอซิสจนตัวเอน ไอ้นี่ชอบทำตัวเป็นเด็กไปได้

“เป็นห่าอะไรอีก” คิมพูดแล้วดีดหน้าผากเนมให้ไปไกลๆ แถมเบี่ยงตัวไม่ให้มันแกล้งไอซิสจนไอ้เนมแอบเบะปาก ดีที่คิมมันเป็นคนรักสัตว์ ถ้ามันไม่รักแล้วมาอยู่กับเนมที่ไม่ค่อยชอบสัตว์ทุกสรรพสิ่งผมคิดว่าคงได้มีต้มไอซิสเป็นอาหารแน่ๆ

“เค้าเจ็บ” มันทำท่าเหมือนจะร้องไห้ แต่ผมรู้ว่าพวกมันเล่นละครกันอยู่ ใครไม่รู้ก็โง่แล้วครับก็มันเล่นโอเวอร์แอ็คติ้งขนาดนั้น

“ไหน เจ็บตรงไหนวะ”

“ตรงด้านบนหัวเข่า เลยหัวเหน่าลงมานิดหน่อยงะ อิอิอิอิอิ”

“สัตว์!” ผมปาตุ๊กตาหมีใส่หัวมันโทษฐานหยาบคายเกินหน้าเกินตา

“แต่หน้าก็มึงอิ่มเอิบมากกว่าเดิมนะ มันทำสำเร็จแล้วละสิ” ไทป์พูดไปนั่งอ่านหนังสือสอบไป ผมพยักหน้าตอบไม่สนว่าไทป์จะเห็นหรือเปล่า ผมเคยเล่าให้พวกมันฟังถึงสาเหตุที่ผมต้องกลับบ้านไวทุกวัน พวกมันจึงรู้ว่าเกียร์ต้องมาปลูกต้นไม้ที่บ้านผมเพื่อแลกอะไรบ้างสิ่งที่ตอนนี้ได้กลับคืนแล้ว

“จะไม่อิ่มได้ไงงะ เพื่อนกูเนื้อนวลขนาดนี้ ไอ้เกียร์ไม่สติแตกก็ไม่ใช่คนละ กร๊ากกก” เนมว่า

“ดูวัวให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ ไอ้รักมันไม่ใช่นาง มันเป็นวัว มันเลยโดนหางช้ำ” ผมคิดถามคำพูดมัน ‘หางช้ำ’ เหรอ ลองผวนแล้วมันเป็นคำว่า...เฮ้ยยย น่าเกลียดฉิบหายเลยไอ้คิมแม่ง

“อิอิ แล้วทำไมห้องมึงถึงรกจังวะ ไอ้เกียร์มันเป็นชายโสดหรือไง ขนาดกูโสดยังสะอาดกว่าห้องพวกมึงเยอะเลย” เมื่อวานที่ถึงห้อง ผมก็งงๆเหมือนกันว่าทำไมมันรกขนาดนี้ หรือตั้งแต่ผมกลับไปนอนที่บ้านแล้วมันไม่ได้ลุกขึ้นมาทำความสะอาดห้องเลยนะ

“ระวังมันได้ยินแล้วหัวมึงจะหลุดออกจากบ่าหรอก” พิชหันมาบอก มันนั่งสไกป์กับสาวที่ไหนไม่รู้ ได้ข่าวว่านั่นคอมฯผมนะ

“บ้าจริง อิอิ”

“เกี๊ย...อื้อ” ผมจะแกล้งตะโกนเรียกเกียร์เลยโดยมือไอ้เนมปิดปากแน่น

“สาสสส ชู่ ชู่ จะเสียงดังทำไมวะ กูยิ่งเสียวๆแม่งอยู่”

“กูว่าละ” อยู่ๆไอ้พิชก็พูดขึ้นแล้วถอดหูฟังออก

“อะไรวะ” เนมรีบถามพลางเอามือออกจากปากผม แหวะโคตรเค็ม ผมมองค้อนคนที่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่น เรื่องเสือกนี่นำมาก่อนใครเพื่อนเลยนะไอ้เนม

“คิตตี้แม่งชอบพูดเรื่องของมึงบ่อยๆ ที่แท้ก็ชอบมึงนี่เอง” ผมหันมองพิชตาปริบๆ เลยไปเห็นผู้หญิงหน้าจิ้มลิ้มคนหนึ่งในหน้าจอคอมกำลังบ๊ายบายให้

“อ่าว แล้วเกี่ยวอะไรกับกูอะ กิ๊กมึงมึงก็เคลียร์กันเองสิ”

“กิ๊กด๋อยอะไร นี่น้องรหัสกูโว้ย แม่ง กูแค่บอกว่าจะมาหามึงนี่ถึงกับบังคับให้กูออนสไกป์เลยไอ้ห่า ใครเป็นพี่ใครเป็นน้องกันแน่วะ” พิชพูดอย่างหัวเสีย แล้วใส่หูฟังอีกรอบเมื่อผู้หญิงทำท่าจะพูดอะไรสักอย่าง

“มันถามว่าทำไมมึงไม่ค่อยออนเฟส”

“หา กูเหรอ อ่อ กูไม่ค่อยว่างอะ” ความจริงเดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้เล่นอะไรเลยต่างหาก ไม่ว่างแถมถ้าเล่นก็กดไลค์กดแชร์อะไรไม่ได้เลย ต้องอยู่แบบกระมิดกระเมี้ยนเดี๋ยวเพื่อนรู้ว่ากำลังดูอะไรอยู่ ใครว่าสื่อออนไลน์เป็นพื้นที่ส่วนตัววะผมอยากรู้ ผมว่ามันเป็นพื้นที่ที่หาความเป็นส่วนตัวไม่ได้ตั้งแต่ตอนเราต่ออินเทอร์เน็ตแล้วละเพราะไม่รู้ใครจะมาแฮ็คเราตอนไหน กร๊าก

ตอนนั้นผมเคยเห็นเพื่อนในเอกคนหนึ่งที่ติ๋มๆใส่แว่นพูดน้อยๆเป็นผู้ชายนะ แต่มันไปกดไลค์เพจเกี่ยวกับผู้ชายล่ำๆแล้วมันขึ้นหลาเลย ผมนี่มองหน้ามันไม่ติดไปสามวันสามคืน เห็นหน้ามันแล้วหน้าเพจนั้นลอยมายังไงไม่รู้ ตอนนี้มันก็คงยังไม่รู้ตัวหรอกเห็นยังกดไปเรื่อย ท่าจะเรียนหนักไปหน่อย

“มันมีแฟนแล้วโว้ย แฟนมันดุยิ่งกว่ากูอีก ถ้าไม่อยากกระบาลแหกก็อย่าไปยุ่งกับมัน” ดูมันพูดกับน้อง ถ้าผมเป็นน้องคิตตี้จะตัดสายรหัสทิ้งแม่งเลย อยากโหดใส่กูดีนัก

“หิวหรือยัง” ไอ้พิชรีบตบจอคอมลงดังป้าบ เชี่ยแม็คบุ๊คกู! ผมถลึงตาใส่พิชแล้วหันไปตามเสียงคนที่อยู่ๆก็พรวดพราดเปิดประตูเข้ามาถาม

เหยด… เกียร์ลุคนี้น่ารัก(สำหรับผม)มาก ชะโงกหัวเข้ามาแต่มือยังถือไม้ถูบ้าน มีจุกน้ำพุที่ผมมัดให้เมื่อเช้าเพราะมันเดินเข้ามาฟ้องว่าจะทำความสะอาดห้องแต่ผมแยงตา

น่าย๊ากกกก

“นิดหน่อยครับ เสร็จแล้วเหรอ” ผมยืดตัวขึ้นไปพิงหัวเตียง พวกเพื่อนหันมาจ้องบนตัวผมแล้วทำหน้าตกตะลึงกันใหญ่ ผมมองพวกมันงงๆแล้วหันไปฟังคำตอบจากเกียร์

“เหลือถู” ถูอะไรอะ อย่าย่อให้คนเขาคิดไปไกลได้ไหมเล่า

“ในห้องนี้เหรอ” เห็นมันกวาดตามองคนในห้องจึงถาม มันพยักหน้าแทนคำตอบ

“ไอ้ห่า เข้าใจกันได้ยังไงวะกูงง”

“แม้ะ! กูว่าจะพูดอยู่แล้วเชียว ตัดหน้ากูทำไมวะไอ้คิม” เนมโวยวายใหญ่ที่ไม่ได้พูดคนแรก

“ไร้สาระว่ะ” ไอ้ไทป์พูดแล้วหยิบหนังสือติดมือออกไปจากห้อง

“ดูๆๆ กูโดนด่าเลยแม่ง ฮึ่ยๆๆๆ” เนมมันยืนบิดไปบิดมา กระฟัดกระเฟียดจนพิชถีบตูดให้เนมออกไปจากห้องพร้อมกัน

“กูพึ่งรู้  แฟนมึงสุดยอดเลยว่ะทำงานบ้านงานเรือนงกๆเองเลย แล้วยิ่งรอยพวกนั้นก็..เยอะสุดยอด หึหึ ดีที่มันยังรู้ว่าตรงไหนควรไม่ควร” ผมทำหน้างงกับประโยคสุดท้ายของเสียงกระซิบข้างหูจากไอ้คิม มันพูดเสร็จก็ผละหน้าออกแล้วยกมือสองข้างขึ้นเหนือหัวให้เกียร์ที่ทำหน้ายักษ์จ้องพวกผมเขม็งก่อนจะเดินออกไป

“วิดวิ้ว ชื่ออะไรครับ น่ารักจังเลย” เมื่อไม่มีใครอยู่ในห้องแล้ว ผมก็แซวมัน พอเอาผมขึ้นก็เผยหน้าเข้มๆของมันเต็มที่ สงสัยต้องหาเวลาไปตัดผมกันแล้วละ

“หึ” มันยิ้มมุมปากพลางถูพื้นห้องไป

“ขอเบอร์ได้ไหมน้องฉาว” ผมคลานไปปลายเตียงที่อยู่ใกล้มันที่สุดแล้วยิ้มตาหยีให้

“เอาจูบไปก่อนแล้วกัน” มันพูดเสร็จก็ปล่อยไม้ถูพื้นจนได้ยินเสียงกระทบพื้น แล้วคว้าคอผมไปจูบไม่ทันตั้งตัว

“อื้อ อื้อ” ผมดันอกมันออกด้วยความตกใจ มันกวาดลิ้นเข้าโพรงปาก ดูดแรงจนรู้สึกว่าปากต้องเจ่อบวมแน่ๆ ไม่รู้ว่ามือกอดคอมันแล้วเผลอจูบตอบตอนไหน เราจูบกันอยู่นานจนเริ่มหายใจไม่ออกจึงทุบอกให้มันปล่อย มันถึงผละออกอย่างเชื่องช้า

“จะเอาอีกไหม” มันพูดแล้วทำท่าจะเข้ามาจูบอีก

“ไม่ๆๆ ไม่เอาแล้วว ..ขอเบอร์ไม่ได้ขอจูบสักหน่อย บ้าจริง” ผมผงะแล้วปฏิเสธเสียงดัง มีอุบอิบเบาๆต่อท้ายด้วยนะแต่ก็ไม่พ้นหูมันอยู่ดี

“ให้ไปแล้วไง”

“ห้ะ อะไรครับ ตอนไหนอะ”

“เบอร์ว่ารักแถบ”

“....”

“....”

“เอ่อ.. ช่วยเอากระโถนให้ผมทีเถอะ มุขนี้ผมนึกว่าตายไปพร้อมกับไฮไฟว์แล้วนะ” เสี่ยวมากแฟนกู คุณเปลี่ยนไปมากนะเกียร์ เอาคุณน้ำแข็งคนเดิมกลับมาได้ไหมมมม

มันเห็นผมนิ่งไปก็ดูดปากผมแรงๆอีกรอบแล้วหันไปทำความสะอาดต่อ ปล่อยให้ผมนั่งอ้าปากค้างอยู่คนเดียว

“กินข้าวเลยไหม” พอเสร็จมันก็เดินเข้ามาถาม ผมพยักหน้าจะลุกแต่มันดันให้ผมนอนพิงหัวเตียงที่เดิม

“ครับ?” ผมทำหน้างง มารั้งให้นอนอีกทำไม

“เดี๋ยวไปเอามาให้” จิบ้าเหราาาา แค่โดนตุ๋ยไม่ได้เป็นพิการนะโว้ยย

“ผมเดินไหวครับ แค่นี้เอง”

“ดื้อตลอด”

“ดื้ออะไรเล่า ก็ผมยังไหวนี่นา มาเร็วๆสิครับ” ผมเดินไปจะถึงประตูอยู่แล้วแต่มันยังยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ที่เดิม จึงกวักมือให้เดินมาเร็วๆ

“เดินถ่างขนาดนั้นยังบอกไหวอีก” มันเดินเข้ามาแล้วเดินมาบีบก้นผมจนต้องร้องโอ้ย แล้วแบกตัวผมขึ้นบ่าไปห้องครัว

“โอ้ยเกียยยยร์ปล่อยผมลงนะ” ผมดิ้นจนถึงเก้าอี้มันถึงยอมให้นั่งดีๆ มันเดินไปตักข้าวปล่อยให้ผมนั่งหน้าบึ้งอยู่กับพวกไอ้เนม

“อะไรของพวกมึงกันวะ” คิมถาม มือยังจับตะเกียบค้างมองผมตาปริบๆ

“เปล่า” ผมตอบแล้วเลื้อยคางไปเกยกับโต๊ะ อะไร มองอะไรคุณน้ำแข็งอยากให้ทานข้าวก็ตักไปสิหันมามองทำไม ค้อนใส่เสียเลย

“นั่งดีๆ” มันจับตัวผมให้นั่งปกติแล้ววางชามข้าวต้มกับจานข้าวของมัน ดูสิ ขนาดผมงอนมันนะ มันยังจะกล้าสั่งอีก ฮึ่ยยยย

“หิวก็ทานไปสิ” พูดเสียงแข็ง เบือนหน้าหนีไปอีกทาง

“นั่งกินพร้อมกัน” ผมไม่ตอบกลับจะลุกออกจากเก้าอี้เพื่อจะเข้าไปนอน แต่ก็โดนอีกคนรั้งมือเอาไว้ก่อน

“..ขอโทษ อยากกินข้าวต้มกุ้งไม่ใช่เหรอ ไม่กินข้าวเดี๋ยวไม่มีแรงนะ” มันถอนหายใจเบาๆแล้วพูดเสียงอ่อนลง นั่งลงด้านข้างแล้วลูบหัวผมเบาๆทำเอาผมแอบรู้สึกผิดในใจที่เมื่อกี้เอาแต่ใจตัวเองเกินเหตุ จะกี่เรื่องกี่ครั้งมันก็ยอมผมทุกอย่าง ยอมขอโทษทั้งๆที่ตัวเองไม่ผิด มันดีขนาดนี้แล้วผมยังทำให้มันรู้สึกไม่ดีอีกเหรอนี่ แย่ชะมัด

“..ครับ.. แต่ขอดื่มนมช็อคก่อนไม่ได้เหรอ” ยอมหันมาสบตามันตรงๆถามเสียงแผ่วลง ตื่นมาก็อยากทานทั้งสองอย่าง แต่อยากดื่มนมช็อคมากกว่า

“เกียร์ไม่อยากเห็นไอรักปวดท้อง” ผมนิ่งไปก่อนพยักหน้าอย่างจนใจแล้วลงมือทานอาหาร แอบได้ยินเสียงถอนหายใจเสียงดัง คือถ้าทำคนเดียวมันไม่ได้ดังหรอกครับ แต่นี่มันทำพร้อมกันถึงสี่คน

“กูนั่งลุ้นฉี่แทบราดบนหัวไอ้เนม”

“ยุ่งกับกูอีกละ กูนั่งกินข้าวอยู่ดีๆแล้วเชียว” มันเงยหน้าไปด่าไอ้พิช ไอ้เนมกระโดดไปนั่งทานบนเคาน์เตอร์เพราะเก้าอี้ไม่พอ

“กูพึ่งเคยรู้ว่าเพื่อนกูอาการหนักขนาดนี้” ไอ้ไทป์พูดแล้วมองผมอย่างปลงๆ

“อะไรของมึง กูเป็นยังไง”

“ดื้อ/ดื้อ/ดื้อ/ดื้อไงสัตว์” ทำไมพวกมึงต้องพูดพร้อมกันด้วยเล่า กูตกใจหมด

“ถ้ากูเป็นมึงนะไอ้เกียร์ กูจะปล่อยให้มันนอนตากแอร์บนเตียงนุ่มๆข้างในห้อง ส่วนกูก็ปูผ้านอนข้างนอก ลมเย็นสะใจสบายใจกูดี” ไอ้คิมพูด

“นั่นมันมึง ไอ้มีเมียเป็นยุง”

“แน่นอน เมียกูเยอะ” มันตอบพิชอย่างภูมิใจ แต่ผมว่ามันกำลังผิดประเด็น

“เอาเก้าอี้ไหม กูเห็นแล้วเมื่อยแทน” ผมถามเนม เห็นแล้วสงสารต้องมานั่งหลังขดหลังแข็งบนเคาน์เตอร์ถือจานข้าวระดับสายตาแล้วตักข้าวจ่อปากทานหง่ำๆเพราะไม่มีที่นั่ง

“ไม่เอาๆ กูอุตส่าห์แย่งกับไอ้คิมตั้งนานกว่าจะได้มานะโว้ย” อ้าวเหรอ ให้กูนึกสงสารมึงอยู่ตั้งนาน

“แม่งขี้โกง ออกช้า” คิมแหวใส่

“กล่าวหากูได้ไง นับก็นับเท่ากัน เป่ายิงฉุบแพ้แล้วพาลนะมึงงะ หลักฐานก็ไม่มี ยื่นฟ้องไม่ได้เนอะไอ้ไทป์เนอะ” มันหันไปขอคำยืนยันจากเด็กนิติศาสตร์ ไทป์มองพวกมันแล้วถอนหายใจประมาณว่า เรื่องนี้ไทป์จะไม่ยุ่ง

“ฮึ่ย อย่าให้กูขี้โกงบ้างนะมึง ฮึ่ยๆๆๆ” คิมทำเสียงกระฟัดกระเฟียด

“จุ๊ๆๆ มีความตั้งใจแต่ก็ยังอ่อนหัดนัก” มันทำหน้าทำตากวนตีนแล้วกินข้าวอย่างอารมณ์ดี

“หา เออ แต๊งๆ” คิมพูดอย่างงงๆ เมื่อเกียร์ดันเครื่องปรุงที่อยู่ใกล้มันไปให้พวกเพื่อนๆผม พวกมึงไม่รู้อะไร มันนิสัยดีจะตายแต่แค่ไม่แสดงออกให้คนอื่นรู้เท่านั้นเอง โฮ้ะโฮ้ะ

“เอาไปให้มันทำไมงะ” ไอ้เนมนั่งตั้งไกลยังจะเสือกได้อีกนะ

“เกะกะ” มันพูดนิ่งๆ ผมแอบยิ้มกับความปากแข็งของคนที่กระแซะเข้ามาใกล้ผมอยู่นั่น มันคงเห็นว่าไอ้คิมมองชุดเครื่องปรุงบ่อยๆละสิ ผมก็เห็นคิมมองแต่คิดว่าถ้ามันอยากได้จริงๆก็คงเอ่ยปากวานให้ไปหยิบเองจึงไม่ได้กระดิกตัวไปหยิบให้มัน กร๊าก ขนาดไอ้ไทป์ที่อยู่ตรงข้ามเกียร์ยังไม่เอื้อมส่งไปให้คิมเลยคิดดูสิ




.
.
.
.
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่32 ..แค่คุณ..* [25/02/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 25-02-2014 18:19:11
.
.
.




“คุณ เขยิบไปหน่อยได้ไหม ผมทานไม่ถนัด” ผมหันไปพูดกับเกียร์ ก็ไม่รู้มันจะเอียงตัวมาหาผมทำไมนักหนา ไอ้เราก็อุตส่าห์เขยิบไปติดกับพิชแล้วนะ

“หายโกรธหรือยัง” มันก้มมาเสียงเบาให้ได้ยินแค่สองคน ซึ่งปกติเกียร์ก็จะพูดน้ำเสียงเบาอย่างนี้เมื่ออยู่ข้างนอกหรือมีคนอื่นอยู่ด้วยอยู่แล้ว

“หือ ผมไปโกรธคุณตอนไหนครับ” ผมถามงงๆ

“เกียร์อุ้มมาแล้วไม่ให้กินนม” ฟังดูทะแม่งๆแฮะ เหมือนผมยังไม่หย่านมไม่มีผิด

“โหย ผมไม่ได้โกรธคุณนะ ผมรู้ว่าคุณหวังดี เมื่อกี้ขอโทษนะครับที่งี่เง่าใส่” เอ่ยปากขอโทษเพราะรู้ว่าตัวเองดันไปงี่เง่าใส่จริงๆ

“อืม แต่น่าหยิกดี”

“คุณเป็นซาดิสเหรอผมพึ่งรู้” ไอ้นี่ ดีๆไม่ชอบ ชอบให้งี่เง่า

“รู้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วไม่ใช่เหรอ” ไอ้บ้า อย่าพูดสิเดี๋ยวเขารู้ว่าเราเล่นเกือบทุกกระบวนท่า

“เอ้อ! นึกขึ้นมาได้ กูจะมาชวนมึงไปถวายสังฆทานนี่หว่า” อยู่ๆเนมก็เสียงดังขึ้นจนผมที่เขินอยู่ก็ตกใจหน้าแทบหงาย

“กูนึกว่าแค่มาทานข้าวฟรีที่บ้านกูอย่างเดียวเสียอีก”

“แหม บ้านกู เต็มปากเต็มคำนะ หึหึ” ทำไมอะ บ้านเกียร์ก็คือบ้านผม พูดผิดตรงไหน

“ตอนนี้เขายังให้ถวายอยู่อีกเหรอวะ” ผมพูดเพราะนี่มันก็สายมากแล้ว

“เออหน่า กูมีที่ทางแล้วกัน” พิชพูด

“จะเดินไหวเหรอ” เกียร์กระซิบถาม นั่นสิ

“ไม่กลับไปอ่านหนังสือกันก่อนวะ สอบเสร็จค่อยไปกันก็ได้นิ” ความจริงผมก็ยังเจ็บๆขาล้าๆอยู่เหมือนกัน แต่ไม่อยากพูดแบบนั้นออกไป มันน่าอาย

“มึงลืมเหรอ พอสอบเสร็จแล้วมึงต้องไปค่ายสร้างโรงเรียนกับกู แล้วเด็กแพทย์แม่งสอบเสร็จช้าฉิบหาย พวกกูเสร็จก่อนมึงตั้งสองวัน ระหว่างนั้นกูก็ไปทำบุญตักบาตรหรือเที่ยวอะไรของกูได้ แต่ของมึงอะสอบเสร็จยังไม่ทันหายใจก็ต้องออกเดินทางแล้ว” เออว่ะ ยังจำค่ายสร้างโรงเรียน สร้างฝันเพื่ออนาคตของชาติที่พวกเพื่อนผมกับพวกเพื่อนเกียร์ลงชื่อไปได้ไหมครับ นั่นละ งานหนักเลยกูลืมไปเสียสนิท แต่อยากไปนะครับ คนอื่นที่ไม่มีโอกาสเหมือนกับเราก็มีมาก เรามีโอกาสมีกำลังก็ร่วมด้วยช่วยกันไม่ได้เสียหายอะไร เพื่อความสุขของใครหลายๆคนทำไมจะไม่อยากทำละครับ คนไทยด้วยกันทั้งนั้น

“วันนี้กูเหนื่อยว่ะ ไม่ไปได้..”

“ไม่ได้!” จ้า

พอทานอาหารเสร็จเรียบร้อยพวกมันก็รอผมไปอาบน้ำ เกียร์เตรียมชุดเอาไว้ให้เป็นเสื้อคอกลมแขนยาวสีฟ้าเข้มกับกางเกงสแล็คสีขาว คือยังไงดีละ ตอนนี้อากาศมันก็เริ่มร้อนแล้วนะครับ ใส่กางเกงสแล็คขายาวมันก็ไม่ได้แปลกอะไรเพราะเราต้องเข้าวัดแล้วอีกอย่างเวลาผมออกไปไหนมาไหนก็ใส่แบบนี้เป็นประจำอยู่แล้วเนื้อผ้าบางทำให้ผมไม่ร้อนหรอก แต่มันดันหยิบเสื้อแขนยาวมานี่สิ แค่คิดก็ร้อนตับแลบแล้ว ผมก็ไม่ได้แย้งอะไรมันไปเพราะเห็นว่าอีกคนอุส่าห์ตั้งใจเลือกให้ พอเสร็จก็พากันยกโขยงไปวัดแห่งหนึ่งแถวรามคำแหง วัดนี้เขาสงบดีครับ สะอาดด้วยเพราะเห็นเด็กนักเรียนผมสั้นในชุดไปรเวทมาทำจิตอาสากันเต็มไปหมด ผมถอดรองเท้าแล้วเข้าไปยังห้องถวายสังฆทาน

จากนั้นผมก็ตามน้ำเอาเพราะไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง ผมมาวัดนับครั้งได้เลยเพราะนับถือศาสนาคริสต์น่ะครับ ไอ้พิชก็นับถือคริสต์เหมือนกันแต่มันทำเป็นแล้วก็คล่องมากด้วยเพราะแม่นับถือพุทธแล้วชอบพามันเข้าวัดบ่อยๆ ส่วนคนอื่นนับถือศาสนาพุทธกันหมด

“ไอรัก” เกียร์เรียกเมื่อเห็นผมเดินไปซื้อสังฆทานตามหลังเพื่อน

“แปบหนึ่งนะครับ” ผมหันไปพูดแล้วเดินจะไปต่อคิว แต่โดนอีกคนดึงมือมานั่งจุ้มปุ๊กข้างหลังสุดของห้อง ..ให้ตายสิ ปวดก้นชะมัด

“เดี๋ยวสิ ผมยังไม่ได้ซื้อเลย” ผมบอกแล้วจะลุกไปแต่มันพูดขึ้นก่อน

“ถวายด้วยกัน”

“หือ ได้ด้วยเหรอครับ” ผมถามไปงงๆ ทำหน้าสุนัขงงไปด้วย

มันพยักหน้า คนเริ่มทยอยมานั่งจนครบจึงเริ่มพิธีการ ผมก็พูดตามเขาตั้งจิตให้มั่น เผื่อแผ่บุญกุศลให้กับคนสำคัญในชีวิต จากนั้นก็กรวดน้ำ เกียร์บอกว่าให้ตั้งใจอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลที่เราได้ทำไปให้แก่เจ้ากรรมนายเวรและผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว พอเสร็จเกียร์ก็เอาเงินใส่ซองจดหมาย

“ไปถวายสังฆทูกันแมวน้อย” มันพูดแล้วจับมือผมให้คุกเขาคลานไปด้านหน้า

“เอ่อ สังฆทานไม่ใช่เหรอ เกียร์ชอบมั่ว” ไอรักเป็นคนนะไม่ใช่แมว ไม่ต้องเอาปลาทูมาเกี่ยวข้องก็ได้ ปัดติโถ๊ะ!

เราเดินไปรินน้ำที่ดินต้นไม้ใหญ่ พอเสร็จทุกอย่างแล้วผมก็สบายใจขึ้นเยอะเลยครับ ไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปเองหรือเปล่าแต่เหมือนการทำบุญทำให้ผมจิตใจสงบขึ้นจริงๆ

“มาวัดแล้วกูมีสติในการอ่านหนังสือเยอะขึ้นเลย เย้ๆๆๆ” ไอ้เนมพูดกระโดดโหยงเหยง เนมเป็นคนที่สมาธิสั้นครับ คือจะอยู่สุขไม่ได้เลย เวลาจะสอบผมต้องเตือนให้มันอ่านหนังสือตั้งแต่เนิ่นๆจะได้อ่านทัน

“อ๋อ เพราะอย่างนี้ใช่ไหมวั้นนี้มึงถึงมาขย่มตอนกูหลับซะจุก” คิมพูด

“ห๊า ขย่ม!/ห๊า ขย่ม!/ห๊า ขย่ม!” พวกผม(ไม่รวมคุณน้ำแข็ง)ร้องเป็นเสียงเดียวกัน

“เหี้ย คิดอะไรวะ ไปไกลไปละไอ้พวกห่า ก็กูนอนคว่ำอยู่แล้วไอ้เนมแม่งมายืนบนตัวกูแล้วกระโดดจนหลังกูแทบหัก” คิมพูดอย่างหัวเสียไม่หาย ดีนะที่ไม่ใช่อย่างที่คิด ไม่งั้นผมคงได้สำรอกออกมาทุกเช้าเย็น

“แถวบ้านกูเรียกถูกกระทืบคาเตียง” ผมพูด เริ่มมองหน้าพวกมันอย่างไม่ไว้ใจ ทำไปทำมาทำไมคนรอบข้างผมถึงชอบใช้ความรุนแรงวะไม่เข้าใจ

“แม่งใช้คำซะกูนึกว่าไอ้เนมเสียตูดให้มึงไปแล้ว” พิชพูดแล้วถอนหายใจโล่งอก

“โห มึงอย่าแม้แต่จะคิด แค่พูดฟังมึงพูดกูยังจะอ้วกเลยห่าเอ๊ย”

“โอ๋ๆ ตัวเองแพ้ท้องเหรอคะ มาๆ มาซบที่อกฉัน” มันมาเป็นชื่อเพลงพี่แบงค์เลยทีเดียว

“โว้ย อย่ามาใกล้กู ชิ่วๆ เดี๋ยวกูก็อ้วกใส่หัวมึงเลยนิ” คิมแสดงความรังเกียจอย่างเห็นได้ชัดโดยการเขยิบออกจากไอ้เนมแล้วโบกไม้โบกมือไล่ให้ไปไกลๆ

“สีเหมือนไอซิสเลย” ผมละสายตาจากพวกนั้นก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างเลยกระตุกเสื้อเกียร์แล้วชี้ไปที่ลูกแมวตัวหนึ่งที่นอนขดอยู่ใต้ต้นไม้ ด้านข้างมีรถขายลูกชิ้น ผมเดินไปเล่นน้องแมวตัวนั้น ถึงสีจะคล้ายกันแต่ตัวใหญ่กว่าไอซิสเยอะเลยแฮะ

“แฝดกัน” มันหันมาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ถ้าไม่ติดว่าเป็นเกียร์ผมจะคิดว่ามันกำลังกวนผมอยู่เป็นแน่

“งั้นเราเอากลับไปด้วยได้ไห..”

“อย่าแม้แต่จะคิด” มันพูดแล้วขยี้ผมจนยุ่ง

“เกียยยร์ หยู๊ดด โห ผมหมดหล่อแล้วมั้งนี่” พูดเสร็จก็รีบเดินหนีออกมา ส่วนมันก็เดินตามผมไปเล่นกับคุณแมว

“ยังเจ็บอยู่หรือ” ผมมองมัน อยู่ดีๆก็เปลี่ยนเรื่อง แต่ก็ถามไปงงๆ

“เจ็บอะไรครับ”

“ก้น”

“ว้ากกก อะไรเนี่ย พูดเรื่องแบบนี้ในวัดได้ไง” ห่าพูดอะไรไม่รู้กูเขินหมด

“ก็เห็นถาม” แล้วคุณก็ซื่อตอบซะตรงเชียวนะ

“ฮึ่ย”

“แล้วเป็นไงบ้าง หายเจ็บหรือยัง ทำไมถึงเดินโก่งขนาดนั้น”

“บ้า พูดอะไรน่าเกลียด ก็..ไม่เจ็บหรอกครับ” ผมอ้อมแอ้มตอบ

“แน่ใจ? โกหกแล้วหางกุดนะแมว” มันถามหน้าไม่เชื่อสุดๆ

“อะโด่ไม่เห็นต้องขู่กันเลย.. เอ่อ มันยังเจ็บนิดหน่อยน่ะครับ” ผมเห็นว่ามันไม่ยอมเลิกลาไปง่ายๆจึงต้องพูดความจริงออกมาไม่เต็มเสียงเท่าไรนัก วันนี้กัดฟันเดินทั้งวันจนมันเกือบชินชาแล้วแต่พอเวลานั่งก็ต้องระวังหน่อย ขนาดเมื่อกี้ค่อยๆนั่งเจ็บเลย

“ไปนั่งตรงโน้นก่อนไหม” ผมหันไปมองตามที่มันพยักเพยิด เห็นเก้าอี้อยู่ไกลๆ ไม่อยากจะอุ้มแมวไปเล่นตรงโน้นด้วยสิ กลัวจะไปปลุกเขา

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมทนได้น่า” มันมองอยู่พักหนึ่งก่อนจะพยักหน้าให้อย่างปลงๆแล้วบอกว่าจะไปซื้อขนมแปบหนึ่ง

“กูเอาไปเลี้ยงได้ไหมวะ น่ารักสัตว์” คิมพูดเสียงอยากได้สุดๆ

“ไอ้หรรม กูเห็นมึงอยากเลี้ยงทุกอย่างงะ ถ้ามึงเอามันขึ้นคอนโดกูนะ กูจะจับกดน้ำให้หมด” เนมแม่งโหดร้าย มึงเป็นเมทกันได้อย่างไรวะ อีกคนคลั่งไคล้ฉิบหาย ส่วนอีกคนเกลียดฉิบหาย

“กูเอาไปเลี้ยงที่บ้านก็ได้เถอะ แม่ง”

“ไม่ต้องเอาไปหรอก อยู่ที่นี่มันก็สุขสบายดี” ไทป์พูดขึ้น

“ตัวเองรู้ได้ไงวะ นอนกับมันทุกวันเหรอ ฮ่าๆๆ โอ้ย”

“กินฝ่ามือไทป์อร่อยไหม” ผมพูดแล้วขำไป ฮาตรงสีหน้ามันนี่ละ

“หึ ก็มึงดูพุงมันย้วยขนาดนั้น ขนมันก็ไม่ได้แหว่งเหมือนโดนรุม คนในวัดเขาคงเลี้ยงเอาไว้ละ” ไทป์อธิบายออกมา

“เออว่ะ อดเลยหนูมีมี่” มันตั้งชื่อให้แมวตัวนั้นเสร็จสรรพแล้วลูบหัวแมวเหมือนแม่ลูกโดนพรากออกจากอกก็ไม่ปาน

“หนูห่าอะไร แมวต่างหาก” เนมพูดแล้วไม่ได้สนใจคิมอีก หันไปชะเง้อมองพิชอย่างตาลุกวาว

“อร่อยดีว่ะ” พิชพูด เห็นเมื่อกี้มันเดินตามเกียร์ไปซื้อลูกชิ้น กลับมาพร้อมของกินเต็มเลย

“ไหนๆ” ผมกับเนมพูดพร้อมกันแล้วแย่งไอ้พิชทาน

“เออดี กูชมครั้งเดียวได้กินลูกเดียว ตอนกูซื้อก็เสือกไม่สั่ง พอกูแดกก็เสือกมาแย่ง เกินคำว่าเลวแล้วพวกมึงอะ” มันน่ารักครับ ยืนบ่นแต่ก็ให้ไอ้เนมทานหมดเลย ส่วนผมโดนเกียร์ลากไปแย่งทานกับมัน ส่วนคิมกับไทป์ก็มีนะครับ เกียร์ซื้อแยกถุงมาเผื่อ แปลกเหมือนกันนะครับที่ทานคนเดียวมันก็ไม่ค่อยอร่อยเท่าไร แต่พอแย่งกันทานกับคนเยอะๆดันอร่อยจนทานกันไม่พอซะนี่

“จะสิบโมงละ พวกมึงจะกลับกันเลยหรือเปล่า” คิมถามขึ้น

“เออ แยกกันตรงนี้เลยดีกว่าว่ะ กูมีหนังสือที่ยังไม่ได้อ่านอีกเป็นตั้ง อ่านแค่คำนำก็โคตรหนักหัวแล้วแม่งเอ๊ยให้เรียนอะไรเยอะแยะวะ” พิชบอกเมื่อแย่งกันทานเสร็จ พอดีตอนมาเราตกลงกันว่าทำบุญเสร็จจะแยกกันกลับไปอ่านหนังสือกันเลย วินาทีสุดท้ายต้องรีบกอบโกยความรู้หน่อยครับเดี๋ยวไม่มีอะไรเข้าห้องสอบแล้วจะแย่

“สมควรแล้วมึงอะ ไม่รู้จักจัดการเวลาของตัวเอง” ไทป์หันไปด่าพิช ก็มันออกไปชอบเที่ยวกลางคืนกับคิมแล้วละเลยหนังสือ ไอ้คิมดีหน่อยที่มันอ่านหนังสือไวและเข้าใจเร็วเหมือนผม แต่พิชมันหัวดีแต่ขี้เกียจ อ่านหนังสือช้า แล้วยังชอบดองหนังสือแล้วค่อยไปอ่านนาทีสุดท้ายอีก อย่างนี้จะไม่ให้ไอ้ไทป์ด่ามันได้อย่างไรละ

ก่อนกลับผมก็ชวนเกียร์ไปทานบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างแถวนั้น ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะแวะไปทานของหนักหรอกแต่ตาเจ้ากรรมดันไปเห็นป้ายที่โชว์กุ้งตัวใหญ่เนื้อเน้นๆมันหัวเยิ้มๆเลยดึงดูดใจให้ผมต้องเสียเงิน ส่วนเกียร์เขาก็ชอบเลยละครับมีแต่เนื้อสารพัดให้ทาน โดยเฉพาะเนื้อปลามันจะโปรดปรานเป็นพิเศษ เกียร์บอกว่าน้ำจิ้มที่นี่แซ่บใช้ได้ แต่ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่ามันแซ่บขนาดไหนเพราะจิ้มได้แค่ซอสธรรมดา ไม่อยากเป่าปี่กลางร้าน T_T


“อิ่มจังเล้ย” ผมพูดพลางลูบพุงไปนั่งโซฟา วันนี้ทานทั้งข้าวต้มกุ้งต่อด้วยลูกชิ้น แล้วยังไปจบที่บุฟเฟ่ต์อีก พักนี้ชักจะเพลิดเพลินกับอาหารไปแล้ว สงสัยต้องหาเวลาไปออกกำลังกายแล้วแฮะ

“ไอ้ทรุดก็อิ่มจนอืดเต็มที่นอน” โหดูพูดกับลูกผมสิ เขาแค่ทานอาหารเสร็จแล้วเลื้อยเข้าที่นอนตัวเองเท่านั้นเอง เกียร์ตามมาจะล้มตัวนอนหนุนตักแต่ผมขัดขึ้นก่อน

“ไม่ได้นะครับ นั่งไม่พ้นสี่ชั่วโมงเลย นั่งให้อาหารย่อยก่อน เดี๋ยวเป็นกรดไหลย้อน” มันพยักหน้ายอมลุกขึ้นนั่งดีๆแล้วเดินไปหยิบกีต้าร์ก่อนจะกลับมานั่งเกลากีต้าร์แบบไม่เป็นเพลงที่เดิม คือมันเล่นกีต้าร์เป็นนะครับแล้วก็เก่งด้วยแต่เรื่องร้องเพลงมันจะไม่ร้องเลย ขนาดผมยังไม่เคยได้ยินมันร้องเพลงเลยนอกจากฮึมฮัมในลำคอเวลาที่มันมีความสุขสุดๆ เอาเป็นว่าขนาดเวลาพูดยังไม่ค่อยจะได้ยินมันพูดเลยครับ

“อยากฟังเสียงเพราะๆจังเลย” ผมนั่งเอาขาทั้งสองขึ้นแล้วเอาเข่าเกยกับตักเกียร์ คางก็เกยกับไหล่ด้านข้างของมัน

“...” มันหันมามองน้อยๆแล้วเลิกคิ้ว รู้ว่าแอบยิ้มอยู่ไม่ต้องทำมาเป็นเก๊กขรึมหรอก มันชอบนักละให้ใกล้ชิดกันเยอะๆ

“เกียร์เคยร้องเพลงให้ใครฟังบ้างหรือเปล่าอะครับ ผมไม่เห็นจะเคยได้ยินคุณร้องเลย” พูดเองยังรู้สึกว่าดูหดหู่พิกลเลย

“เคย”

“ห๊า ใครอะ! คุณสาเหรอ หรือพัต? เอ๊ะ หรือคุณพ่อคุณแม่” ผมถามยาวเพราะโคตรแปลกใจไม่คิดว่ามันจะร้องให้ใครฟังง่ายๆ

“เคยร้องให้ตัวเองฟัง” ไอ้คุณน้ำแข็งกวนจริงๆ ถ้าร้องเองแล้วฟังเองไม่นับแต้มนะครับ แสดงว่าไม่เคยให้ใครได้ฟังเสียงของมันเลยละสิ

“งั้นร้องให้ผมฟังอีกสักคนได้ไหม” ผมขอมันหน้าด้านๆอย่างนี้ละครับ ไหนๆก็เริ่มจะลืมไปแล้วว่าอาย อดมันเป็นอย่างไร

“เขิน” ป๊าดดด มีขงมีเขินว่ะเดี๋ยวนี้ ดีนะที่มันพูดเสียงนิ่งๆหน้านิ่งๆ เพราะถ้าทำหน้าเหนียมอายแล้วท่าบิดไปบิดมาด้วยแล้วละก็ ผมคงต้องมองมันใหม่อย่างด่วนเลยละครับ

“คุณเขินเป็นด้วยเหรอ ผมนึกว่า..” ตายด้านไปแล้ว กร๊าก

“หืม?” ไม่บอกหรอกเดี๋ยวโดนกระทืบ

“เปล่าครับ ร้องให้ฟังหน่อยสิ ผมอยากเป็นคนแรกที่ได้ฟังเสียงศิลปินระดับโลกคนนี้” ผมยิ้มขำ มันก็หัวเราะในลำคอเพราะคำยอนิดหน่อย แล้วหันมามองนิ่งนานเกือบนาที จมูกเกือบชนกันอยู่แล้ว ผมรู้สึกเลยว่าตาสั่นระริก พยายามสู้มองตาของอีกคน บอกตรงๆว่าไม่กล้าสบตามันตรงๆแบบใกล้ขนาดนี้ ทั้งเขินทั้งอายเพราะสายตาคมของมัน

“ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนสิ” มันกระซิบใกล้ริมฝีปากผมแล้วปรือตาลง

“เอ๊ะ?! ได้เหรอครับ! ว่าแต่ข้อแลกเปลี่ยนอะไรเหรอ” ผมรีบผละออกเล็กน้อยแล้วพูดแล้วยิ้มถามอย่างดีใจจนลืมหน้าหื่นๆของมันไปสนิท

“ไว้บอกทีหลัง”

“อ้าว ทีหน้าไม่ได้เหรอ ทีหลังผมก็ไม่ได้ฟังแล้วสิ” ผมยิ้มกวนใส่

“บอกให้ข่วนเล็บให้เป็นที่เป็นทางไง” มันกำลังว่าผมกวนตีนผิดที่ผิดเวลาหรือเปล่าวะ

“โฮะโฮะ แล้วจะเริ่มหรือยังอะครับ ผมรอลุ้นจนตัวโก่งแล้วนะ”

“ดีดไม่ได้” มันทำท่าจับไม่ถนัดเพราะผมนั่งเกยมันอยู่นิดหนึ่งแต่ไม่ได้เขยิบหนีผม

“โอ๊ะ ขอโทษครับ” มันกระตุกยิ้มมุมปากน้อยๆก่อนจะเริ่มดีดกีต้าร์

แค่เริ่มแรกที่เสียงกีต้าร์บรรเลงขึ้นก็ทำเอาผมยิ้มกว้างออกมา มันเป็นเพลงที่ผมเคยพูดกับเพื่อนของเกียร์เอาไว้ว่าชอบเพลงนี้มากๆ ไม่คิดว่าเพียงแค่ประโยคสั้นๆจะสามารถทำให้มันจดจำได้

“รู้ไหมว่าเราเจอกันครั้งแรกตอนไหน..ความทรงจำเกิดขึ้นเมื่อไหร่..เมื่อไหร่ที่ทำให้เราสองคนเริ่มหวั่นไหว” เสียงทุ้มที่เปล่งออกมาถึงแม้ว่าจะเนิบนิ่งเหมือนเวลาพูด แต่มันก็นุ่มอ่อนโยนเหมือนสายตาที่มองมา

“หรือจะเป็นในตอนที่คุณต้องนอนเสียใจ..หรือว่าตอนที่เราต้องไกล..มันทำผมได้รู้ว่าคิดถึงแต่คุณ” มันหยุด ก้มลงมาหอมแก้มผมก่อนร้องท่อนต่อไป

“และในตอนนี้ ในเวลานี้ ล่วงเลยมานานเป็นปี..ให้ดวงดาวนั้นเป็นเหมือนพยานรัก”

เสียงไม่ได้กระท่อนกระแท่น มือไม่ได้สั่นคลอนแต่ผมรู้ดีว่ามันกำลังประหม่าเพราะไม่เคยร้องให้ใครได้ฟัง

“ขอสัญญาว่าจะรักเพียงคุณ..ว่าจะรักแค่คุณ..ว่าจะรักแค่คุณ..เท่านั้น..นานแสนนานก็จะรักเพียงคุณ..ก็จะรักแค่คุณ อยากจะมีแค่คุณคนเดียว”

คำมั่นสัญญาจากใจที่แสดงออกมาจากสายตาและคำร้องมันทำให้ผมยิ้มรับกับสิ่งนั้น

“คืนวันที่เราเคยมีแต่ความเหงาใจ..เมื่อมีคุณเข้ามาชิดใกล้..ก็อบอุ่นใจดังไฟที่ร้อนตอนเหน็บหนาว..และในตอนนี้ในเวลานี้..ล่วงเลยมานานเป็นปี..ให้ดวงดาวนั้นเป็นเหมือนพยานรัก”

“ขอสัญญาว่าจะรักเพียงคุณ..ว่าจะรักแค่คุณ..ว่าจะรักแค่คุณ..เท่านั้น..นานแสนนานก็จะรักเพียงคุณ..ก็จะรักแค่คุณ อยากจะมีแค่คุณคนเดียว.. พอฟังได้ไหม” มันร้องยังไม่จบเพลงก็หยุดดีดแล้วพูดคำสุดท้ายออกมา ผมพยักหน้ายิ้มๆแล้วเอื้อมไปประสานมือเข้ากับอีกคน มันวางกีต้าร์ข้างโซฟาแล้วคลึงหลังมือผมเบาๆ

แม้ว่าเสียงจะไม่ได้ดีเหมือนนักร้องที่ฝึกฝนกันมา ไม่ได้ทำเสียงให้ตัวเองดูดี แต่ผมคิดว่ามันเพราะที่สุดสำหรับผมแล้วละ

“เพราะจัง ขอบคุณนะครับ”

มันพยักหน้าพลางมองมาด้วยสายตาแปลกๆที่ทำให้ผมใจเต้นได้เสมอ ผมก้มหน้างุด รู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนๆจึงพูดอุบอิบแก้เขิน

“เหมือนคุณกำลังร้องเพลงจีบสาวแรกรุ่นไม่มีผิด”

“ร้องให้ฟังแค่ไอรักคนเดียว” มันว่าอย่างนั้นแล้วคว้าตัวผมไปนั่งตัก กอดรัดแน่นโทษฐานพูดจาไม่เข้าหู

“อ๋อยยย ขอโทษคร๊าบ ผิดไปแล้วว” ผมดิ้นกระแด่วๆแล้วดันหน้ามันไม่ให้ฟัดตรงซอกคอ

“ฮึ่ม” ผมร้องโอ้ยเมื่อมันกัดแก้มผมอย่างหมั่นเขี้ยว เชี่ยนี่เล่นซาดิสอีกแล้ว

“โอ๋ๆ อย่างอนนะ ผมมีอะไรจะให้” ผมพูดแล้วจะลุกจากตักมัน

“จะหนีความผิดเหรอ” มันกอดแน่นไม่ปล่อย

“หนีอะไรรร ไม่หนี ปล่อยเลยคุณน้ำแข็งงง เดี๋ยวจะอดได้ของดีนะ!” มันเล่นยึดตัวผมไว้แน่นแล้วกอดรัดฟัดเหวี่ยงจนผมหายใจแทบไม่ทันเพราะจั๊กจี้ ก่อนที่มันจะหอมแก้มฟอดใหญ่แล้วคลายออก


ผมรีบกระดึ๊บตัวลงแล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปห้องนอน หยิบบางสิ่งออกมาจากกระเป๋าเรียนแล้วเดินกลับมานั่งข้างเกียร์ มันมองการกระทำผมเงียบๆ

“ทีนี้ก็ไม่มีสิทธิ์ไปเหลวไหลที่ไหนกับใครแล้วนะครับ” ผมสวมแหวนที่เคยแอบไปซื้อมาจากตอนที่ไปงานสัตว์ เป็นเพชรแถวสลักคำว่าIGเอาไว้ด้านในเหมือนกับวงที่ผมใส่ ตอนนั้นผมต้องจ่ายมากกว่าปกติเพื่อให้เขาลัดคิวและเสร็จในตอนนั้นเลย

“....” มันเบิกตากว้างเล็กน้อยเมื่อเห็นผมก้มลงจูบแหวนที่อยู่บนนิ้วใหญ่

“แล้วห้ามปฏิเสธนะครับ ผมอยากให้เราใส่เหมือนกันเพราะเรารักกัน ไม่ใช่แค่คุณรักผมหรือผมรักคุณอยู่ฝ่ายเดียว ถ้าคุณไม่รับผมจะเสียใจมากแล้วก็งอนด้วย” ผมพูดดักคอก่อนที่มันจะพูดอะไรออกมา มันมองชั่วอึดใจก่อนจะดึงผมมากอด

“ขอบคุณ” มันเอ่ยคำที่ผมอยากฟัง มันรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้ยินเสียงหัวใจอีกฝ่ายเต้นรัว เชื่อเลยว่าใจผมก็เต้นเร็วไม่แพ้กัน

“อย่าถอดละ ใส่แล้วใส่เลยนะ ถ้าผมเห็นนิ้วนี้ว่างเมื่อไหร่ละก็ผมจะตัดนิ้วฉับๆเลย” ผมทำนิ้วเป็นกรรไกรแล้วขยับให้มันเสียว

“หึหึ” มันหัวเราะในลำคอแล้วพยักหน้า

“แล้ว..จะบอกได้หรือยังครับว่าข้อแลกเปลี่ยนคืออะไร อย่าขอแปลกๆนะเดี๋ยวเป็นของหายากแล้วผมหาไม่ได้ละแย่เลย” ผมพูดขำๆแล้วยิ้มตาปิดให้ มันจูบลงหน้าผากผมแล้วพูดบางอย่างให้ผมใจเต้นแรงขึ้นกว่าเดิม

“แค่อยากให้รักกัน อยู่ด้วยกันอย่างนี้ตลอดไป”

“ฮึ้อ ไม่ขอผมก็ทำอยู่แล้ว” มันกดยิ้มมุมปากนิดหนึ่งแล้วก้มลงมาป้อนจูบที่แสนหวานให้กับผม

“เกียร์ เกียร์เดี๋ยว ไม่เอาแล้วนะ ผมเหนื่อยแล้วขอพักหน่อยเถอะ” ผมรีบผละออกพูดอย่างละล่ำละลัก เพราะรู้สึกจะจูบนานและลึกซึ้งเกินจึงต้องเบรกมันไว้ก่อน

“รู้แล้ว..” มันพูดแล้วยื่นหน้าเข้ามาจูบอีก

“..ปากผมเจ่อหมดแล้วมั้งนี่” ผมบ่นกระปอดกระแปด จูบกับมันทีไรนึกว่าผึ้งต่อยปากทุกที บวมจนน่าเกลียดเลยครับ

“ออกจะน่ารัก” ผมว่าคุณน้ำแข็งเริ่มจะตาเป็นเม็ดถั่วขึ้นเรื่อยๆ เอาอะไรมองว่าน่ารักวะ

“แล้วนี่จะไม่อ่านหนังสือกันเหรอครับ คุณจะชิวเกินไปแล้วนะ” ผมไม่ได้เป็นเด็กเร่งเรียนขนาดนั้นหรอก แต่มันเป็นสิ่งที่ต้องทำตอนนี้ไม่ใช่เหรอ หรือจะเทวิชาที่จะสอบดี กร๊าก

“พรุ่งนี้สอบระบบหัวใจและหลอดเลือดด้วยใช่ไหม” มันพูดเสร็จก็เดินไปเข้าไปในห้องนอนแล้วกลับมาพร้อมหนังสือสองเล่ม

“หือ ไปรู้มาจากไหนครับ” ผมยื่นมือรับเล่มหนึ่ง ส่วนอีกเล่มนั้นเป็นของมัน

“หน้าหนังสือ” อ๋อ ปกติผมจะติดโพสต์อิทเอาไว้แต่ละเล่มว่าในรายวิชานั้นๆมีรายละเอียดอะไรบ้าง อย่างสอบวันไหน อ่านถึงไหน กี่หน่วยกิตประมาณนี้

“ว้า รู้ไปหมดเลย อย่างนี้เวลามีความลับผมจะเอาไปแอบที่ไหนดีละ” ผมยิ้มรับแทนคำขอบคุณที่ไปหยิบหนังสือมาให้แล้วพูดหยอก

“หัดอยากมีความลับกันแล้วเหรอ” มันพูดแล้วบีบจมูกผมแน่น ส่ายไปมาด้วย

“โอ้ยย เกียยยผมเจ็บนะ ทำไมโหดจังวะ” ผมพูดเสียงดังแล้วอุบอิบต่อท้ายเสียงเบาๆ

“อ่านหนังสือได้แล้ว” มันบอกแล้วเขกหัวผมไม่แรงมากนัก แต่ก็ทำให้เงยไปมองค้อนได้เหมือนกันนะ


ตอนแรกผมเป็นคนเตือนให้เริ่มอ่านหนังสือ แต่ไหงตอนนี้กลายเป็นมันที่เป็นคนดุผมเองละนี่


……………………………………


ผมกลับจากการสอบด้วยร่างกายที่เหน็ดเหนื่อยสุดๆทั้งที่มีสอบแค่ช่วงเช้า อาจเป็นเพราะเหนื่อยจากเมื่อวานที่ผมเดินตะลอนไปไหนมาไหนไม่หยุดแถมยังเสียน้ำกับเกียร์ตั้งหลายยก แปลกที่รายนั้นไม่แสดงความเหนื่อยออกมาให้เห็นเลย แต่ผมนี่สิอยากจะทิ้งตัวลงนอนเตียงนุ่มๆ แอร์เย็นๆตั้งแต่อยู่ในห้องสอบแล้ว แล้ววันนี้ห้องสอบไม่รู้เกิดวิบัติอะไร นอกจากจะตึงเครียดอึมครึมแล้วยังร้อนได้อีก สงสัยแอร์เสียกระมัง

“เหนื่อยหรือ” ผมพยักหน้าตอบแล้วพลิกตัวนอนคว่ำบนเตียง มันวางกระเป๋าของผมกับมันลงบนเก้าอี้ทำงานแล้วเดินมาลูบศีรษะผม

มันขยับตัวมานั่งปลายเท้าผมแล้วนวดคลึงต้นขาและน่องขาทั้งสองข้าง ผมชะโงกหัวหันไปมองการกระทำนั้นเงียบๆ มือใหญ่ๆของมันบีบนวดจนเรื่อยลงมาจนถึงข้อเท้าก่อนจะจัดการถอดถุงเท้าให้

“เกียร์..” ผมเรียกเสียงงึมงำเพื่อหยุดมันก่อน พยายามยื้อขาตัวเองเอาไว้

“เดี๋ยวถอดให้ จะได้สบายตัว” มันเงยขึ้นบอกก่อนจะทำเป็นดึงอีกรอบ

“อย่าเลยครับ มันไม่ดี ผมทำเองก็ได้” ไม่ใช่ว่าเป็นครั้งแรกที่มันถอดถุงเท้าหรือเสื้อผ้าบนตัวผม กี่ครั้งผมก็ไม่เคยชินกับการกระทำนี้เสียที

“นอนซะ”

มันพูดแค่นั้นแล้วดึงถุงเท้าออกไปเลย ผมเองก็ฝืนหนังตาตัวเองไม่ไหวเลยนอนไปทั้งอย่างนั้น แต่สักพักก็รู้สึกว่ามีคนเอาผ้าเปียกๆมาลูบตามตัวจากนั้นผมก็ผลอยหลับไปสนิทจำอะไรไม่ได้อีกเลย

ตื่นมาก็เห็นอกคนข้างๆก่อนเลยอย่างแรก ผมขยับตัวเล็กน้อย มีคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ใหม่แฮะ เงยหน้าไปมองเสียงนาฬิกาที่ดังติ๊ก ติ๊ก ก็ได้รู้ว่าปาไปเกือบสี่โมงเย็นแล้ว

นอนกลางวันไปได้ไงวะตั้งเกือบสี่ชั่วโมง

“ปวดหัวไหม” ผมหันไปมองตามเสียงก็เห็นว่าเกียร์กำลังจ้องมาด้วยสีหน้าที่ไม่เหมือนคนพึ่งตื่นเลยสักนิด

“ไม่นะครับ แต่เมื่อยตัวนิดหน่อย แฮะๆ” สงสัยนอนไม่พลิกตัวไปไหนเลยถึงได้ปวดเมื่อยตัว ก็คนมันเหนื่อยนี่นาทำไงได้

มันลุกขึ้นนั่งแล้วบอกให้ผมนอนคว่ำ ก่อนจะจัดการนวดให้ มือมันไม่หนักแต่ก็ไม่เบา กำลังพอดีเลยละ รู้สึกดีจนผมเผลอครางออกมาด้วยความรู้สึกที่ผ่อนคลาย

“คุณเคยเรียนนวดด้วยเหรอ”

“ไม่เคย”

“แต่คุณเก่งจัง ผมว่าไปรับนวดได้เลยนะ โอ้ย..” แค่ชมนิดหน่อยเองมาเคาะผมกันทำไมเล่า

“หายเมื่อยหรือยัง”

“หายแล้วครับ ถึงตาคุณแล้ว มานอนเลยๆ” ผมดึงมันลงให้นอนคว่ำ แต่มันก็พลิกตัวนอนหงายแล้วบอกว่าแบบนี้ก็นวดได้ อยากมองหน้าผม บ้าแล้ววพูดเรื่องแบบนี้ได้ไงผมเขินเป็นนะ

“นวดแรงๆก็ได้ เกียร์ไม่เจ็บหรอก” มันพูดขำๆ

“นี่ก็แรงแล้วนะ ทำไมหนังเหนียวอย่างนี้ละ” ผมนวดให้มันหายเมื่อยแต่ตัวเองจะเมื่อยแทนแล้ว คุณน้ำแข็งมันตัวใหญ่ กระดูกใหญ่ ไอ้เราก็เอาพยายามง้างมือให้ใหญ่ที่สุดแล้วบีบแรงๆแล้วนะ แต่อีกคนทำหน้าเหมือนโดนกระดาษทิชชู่ปาใส่อย่างนั้นละ

นวดมาถึงขาไปสักพักก็แอบเห็นว่ากางเกงมันตุงแปลกๆเลยหันไปมองค้อนปนเขินให้มัน อีกคนก็เลิกคิ้วประมาณว่า นวดไปสิ

“ไม่เอาละ เบื่อคนขี้หื่น” ผมพูดแล้วรีบกระเด้งตัวออกจากเตียง เป็นอย่างที่คิดเลย มันเด้งตัวจะคว้าตัวผมแต่ก็ต้องคว้าน้ำเหลว ผมเลยยักคิ้วให้มัน หึหึ ไม่รู้ซะแล้วว่าไผเป็นไผ





.
.
.
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่32 ..แค่คุณ..* [25/02/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 25-02-2014 19:58:50
.
.
.
.
.


ผมรีบเดินไปห้องครัว เห็นจานอาหารอยู่บนโต๊ะ ดูท่าว่าจะทำมาสักพักใหญ่ๆแล้วจานถึงได้เย็นขนาดนี้ ผมเลยเอาเข้าไมโครเวฟ แล้วมันอุ่นยังไงละนี่ ผมเก้ๆกังๆอยู่นานเลยตัดสินใจบิดมันให้ถึงจุด Max ไปเลย

“ไม่ต้องหมุนขนาดนั้น เราไม่ได้อุ่นนาน เดี๋ยวระเบิดพอดี” มันพูดแล้วเดินมาหมุนกลับให้เหลือไม่เท่าไร

“ผมว่าผมไปนั่งรอดีกว่า จะได้ไม่ระเบิด” เออนะ เล่นเองเจ็บเอง ก็คนทำไม่เป็นนี่หว่าทำไงได้ละ

ทานอาหารเสร็จก็ช่วยกันเก็บไปล้าง ผมมีหน้าที่ส่งจานอย่างเดียวแล้วก็ดูอีกคนล้างจานไปพลางๆ ยิ่งนานไปผมก็ยิ่งหลงรักมันหมดใจเลยนะ ผมพยายามหาเหตุผมแล้วนะว่าทำไมถึงได้รักมันมากมายขนาดนี้ แต่ก็หาไม่ได้เลย มันมากมายจนไม่รู้จะอธิบายเป็นคำพูดอย่างไรหรือความรักไม่มีเหตุผลอย่างที่ใครเคยพูดกันก็ไม่รู้

แต่ที่รู้ๆ ผมรักมัน แค่นี้แหละที่ผมรู้ตอนนี้

“ผมเริ่มยาวแล้วนะ ไม่รำคาญ?” แอบสะดุ้งกับเสียงมันนิดหน่อยแต่ก็ยิ้มให้ มันเลิกคิ้วมองงงๆว่าผมเป็นอะไร

“ก็รำคาญนะครับ อยากให้ตัดเหรอ”

“อย่างนี้ก็น่ารักดี เหมือนแมวขนยาว” หือ บนหัวเรียกว่าผมไม่ใช่เหรอ ขนมันตรงแขนตรงขาโน่น

“แต่ผมคุณก็ยาวแล้วนะครับคงแยงตาแย่ งั้นเราไปตัดผมกันเลยไหม” เมื่อเห็นว่ามันล้างจานเสร็จแล้วก็จูงมือให้ไปถึงโซฟา มันมองตาปริบๆ

“แล้ว..หนังสือ?” วันนี้เกียร์สอบตัวสุดท้ายเสร็จแล้วครับ แต่ผมยังมีอีกตัวสอบวันพรุ่งนี้

“เอ้า ก็เอาไปอ่านที่ร้านสิครับจะไปยากอะไร เกียร์นี่นะไม่รู้เรื่องเลย” ผมได้ทีก็ทับถมใหญ่ หึๆ

“คนเยอะ” มันไม่ชอบอยู่กับคนเยอะๆนี่นาผมลืมไป แต่ร้านทำผมก็ต้องคนเยอะเป็นธรรมดาไม่ใช่เหรอ

“แล้วปกติไปตัดที่ไหนอะครับ” ผมถาม มันนั่งลงบนโซฟาแล้วกระตุกมือให้ผมนั่งคล่อมตัก โอ้ย ชอบให้ทำท่าส่อแววอนาจารตลอด

“กลับบ้านไปให้แม่ตัด” คุณน้ำแข็งลูกทัพพี ขนาดจะตัดผมยังต้องใช้แม่อีก ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ

“คุณรักสันโดษเกินไปแล้ว ป่ะ ลุกได้แล้วเกียร์ ไปตัดผมกัน” ผมแทบจะรับไม่ได้กับสภาพของเกียร์ตอนนี้ อยู่ไปอยู่มาเริ่มเหมือนโจรใต้ ผมเผ้ารุงรังแถมหนวดเคราเฟิ้ม ถ้าผมไม่โกนให้มันก็ไม่ยอมโกนหนวดเองอีก

“ไม่เหนื่อยแล้วเหรอ แดดก็ร้อน ออกไปเดี๋ยวไม่สบาย” มันอ้างโน่นอ้างนี่ ความจริงขี้เกียจออกไปเจอคนละสิไม่ว่า

“คุณชอบดื้ออะ! นี่ก็เย็นแล้วนะครับ ไปรถผมก็ได้เหอะไม่เหนื่อยหรอก ผลัดวันประกันพรุ่งอย่างนี้ไม่ได้ไปตัดสักที” ผมเริ่มหงุดหงิดกับไอ้คุณหมาน้ำแข็ง ไม่รู้จะเบื่อคนอื่นทำไมนักหนา แค่เจอหน้าคนที่ไม่รู้จักนี่มันยากนักเหรอทำตัวเป็นเด็กไปได้ อยากจะตบกระโหลกมันจริงๆแต่ก็กลัวตาย

“ตัดให้เกียร์สิ” มันไม่ยอมลุกแถมยังให้ผมตัดให้อีก

“คุณอยากได้ทรงนักบวชเหรอครับ ถ้าเกียร์ให้ผมตัด ผมต้องโกนหัวคุณแถมยังไถหนังหัวคุณแน่ๆ” มันนิ่งไปก่อนพยักหน้า

“ยอม” ยอมพ่อง!

“แต่ผมไม่ยอม ลุกมาซะดีๆเลย” ผมลุกขึ้นจากตัวเกียร์ ลากแขนให้มันลุก แต่คุณน้ำแข็งทำตัวเหมือนลูกตุ้มห้ากิโล ไม่ยอมลุกขึ้นแต่โดยดี ผมว่าต้องใช้แผนเผด็จการแล้วละ

“ได้ งั้นผมกลับไปนอนบ้านแล้วกัน” ว่าแล้วหันตัวกลับไปทางประตู ยังไม่ทันจะก้าวก็มีเสียงกับแรงดึงจากด้านหลังเสียก่อน

“ร้านไหน รอใส่รองเท้าก่อน” มันจับมือผมให้หยุดยืนมองมันรีบใส่รองเท้า

“ไปร้านประจำของผมแล้วกันนะครับ” พูดจบก็ยิ้มประจบ มันคงหมั่นไส้แต่ทำอะไรไม่ได้ จึงได้แต่มองอย่างคาดโทษ

ผมชวนมันออกไปโดยมีมอเตอร์ไซค์คันใหญ่คันเดิม ไหนบอกว่ากลัวร้อน กลัวจะไม่สบายไง อะโด่ นี่มันก็เย็นแล้วเถอะ แดดเดิดอะไรไม่มีหรอก ร้านที่ผมไปอยู่แถวทาวน์ อิน ทาวน์ ค่อนข้างไกลจากคอนโดพอสมควร แต่ใกล้กับวัดที่ผมไปมาเมื่อวานนะ

“จอดข้างหน้านะครับ ร้านนี้ละ” มันเทียบจอดฟุตบาท หันมาถอดหมวกให้ผมก่อนจะถอดให้ตัวเองเหมือนปกติแล้วหันไปมองร้าน

“แพงไปไหม”

“วันนี้ผมเลี้ยงเอง ไหนๆเมื่อวานก็ได้ฟังเสียงหล่อๆของคุณแล้ว” ผมพูดยิ้มแซว แต่คุณน้ำแข็งก็ยังเป็นคุณน้ำแข็งอยู่วันยันค่ำ หน้านิ๊งนิ่งเป็นรูป -_- ตลอด

“ขอแค่ที่เกียร์เคยพูดไว้ก็พอแล้ว” มันพูดแล้วขยี้หัวผมจนยุ่งไปหมด ดีที่อยู่หน้าร้านทำผมแล้วนะ ไม่งั้นคงได้เดินหัวฟูกลับบ้านแหงๆ

“สวัสดีค่ะคุณอชิระ วันนี้มาเย็นเชียวนะคะ เป็นยังไงบ้างคะเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นหน้าเลย” พี่พนักงานผู้หญิงที่เป็นช่างประจำของผมปรี่เข้ามาทักทาย พนักงานที่นี่ถูกเทรนด์มาดีครับ ไม่มีการกระโตกกระตากให้เห็นจนน่าหงุดหงิดเหมือนที่อื่น ไม่เข้าใจทำไมเจอผมแล้วต้องกริ๊ดกร๊าดอย่างกับดาราคนดังมาเยือนอย่างนั้นละ

“สบายดีครับ พอดีเดี๋ยวนี้ยุ่งๆน่ะครับเลยไม่ได้แวะมาตัดผมเลย นี่ก็ผมยาวมากแล้ว” พูดแล้วจับผมเบาๆ

“อ๋อค่ะ งั้นวันนี้ตัดเป็นทรงเดิมหรือจะเปลี่ยนทรงดีคะ?”

“ดีไซน์ให้ใหม่เลยแล้วกันครับ ทรงเก่าซ้ำมาสองปีแล้ว” ผมพูดแล้วหัวเราะ จริงๆนะ ผมไม่ค่อยเปลี่ยนอะไรบ่อยหรอก ไม่ได้เป็นคนขี้เบื่อขนาดนั้น

“ฮ่าๆ ได้ค่ะ”

“แล้วก็จัดการคนนี้ด้วยนะครับ” ผมพูดแล้วชี้ไปที่คนข้างๆ

“ค่ะ สะดวกเป็นช่างเพชรไหมคะ หรือสนใจเป็นคนไหนพิเศษ” พี่พนักงานยื่นรายชื่อช่างในร้านให้เกียร์ดู มันมองนิดหน่อยแล้วหันมาสบตาผมเหมือนให้จัดการแทน

“ช่างเพชรก็ได้ครับ” เพชรคือใครผมยังไม่รู้เลย แต่เขาแนะนำมาเลยเออออไป

“ได้ค่ะ งั้นกรุณาเชิญทางด้านนี้เลยค่ะ”

ผมเดินล้าหลังพนักงานทั้งสองคนแล้วพูดกับเกียร์เสียงออดอ้อน

“เกียร์ ผมอยากย้อมผมจัง”

“เป็นหมอห้ามย้อมผม” มันพูดสวนขึ้นทันควัน

“ไม่ได้ห้ามเถอะ แค่ไม่ได้แดงเกินหน้าเกินตาก็ไม่เป็นไรหรอก..มั้ง” ก็ไม่ค่อยมั่นใจหรอก เพราะปกติถ้าใครทำสีผมก็จะถูกนักเรียนแพทย์คนอื่นมองแถมอาจถูกประนามในใจ เพราะในฐานะที่เป็นว่าที่แพทย์ การย้อมสีผมจัดๆจะทำให้ดูลดความน่าเชื่อถือลงไปน่ะครับ

แต่คิดเหรอว่าถ้าผมมีโอกาส จะย้อมแค่สีพื้นฐาน ไม่มีท๊างง

“แต่เกียร์ไม่อยากให้ย้อม แค่นี้ก็เด่นพอแล้ว” มันพูดเสียงติดหงุดหงิดดูจะไม่ค่อยชอบใจนัก

“มั่วแล้ว เด่นตรงไหนกัน สรุปผมย้อมด้วยดีไหมครับ อยากได้เป็นสีพาร์ทเทลแบบชมพู ฟ้า ชานิดหนึ่ง” ถ้าย้อมแบบนี้ต้องโดนอาจารย์เรียกไปดุแน่ๆ แต่เห็นเดี๋ยวนี้เขาฮิตกันเลยอยากทำบ้าง มันก็สวยดีนะครับ เสียดายที่เหมาะแค่กับคนผิวขาว ถ้าเข้ากับผิวสีแทนน้ำผึ้งป่านนี้คงทำกันหมดประเทศแล้วละ

“........” งอนแน่ๆ หันหน้าหนีแบบนี้

“ได้หรือเปล่าอะครับ”

“....ตามใจ” เสียงแข็งมาแต่หน้ายังไม่หันตรงตามเดิม

“โกรธผมเหรอ” นั่น ยังไม่ตีหน้ากลับอีกนะ ดึงหน้าอยู่ได้ทุกวันเดี๋ยวก็เหี่ยวไวหรอก

“เปล่า” แต่หน้าคุณไม่เปล่าเหมือนอย่างที่พูดเลยนะคุณน้ำแข็ง

“ก็ได้ ไม่ย้อมก็ไม่ย้อมสิ”

“....” มันหันมามองปรายตา หูย เย็นชาชะมัด

“ถ้าคุณไม่อยากให้ผมทำ ผมก็ไม่ทำหรอก แค่คุณบอกผมก็ไม่ทำแล้ว ถึงจะอยากทำมากก็เถอะ” มันหันมามองผมเต็มตาแล้วนิ่งไปก่อนจะส่งสายตาแปลกๆมาให้

“กลับบ้านกันเลยไหม”

ผมถลึงตาใส่คนชอบหื่นก่อนจะตีแขนมันไปทีกลบเกลื่อนความเขินอายแล้วรีบนอนบนเตียงสระผม ผมแอบมองคนข้างๆที่ดูไม่ค่อยชอบใจที่มีคนมาแตะหัวแตะตัวแต่ก็ยอมนอนหายใจอยู่นิ่งๆ ผมว่าบางทีมันก้นิ่งเหมือนปลาตายไปนะแต่ผมก็รักที่มันเป็นแบบนี้ละ ไม่ต้องเสแสร้งแกล้งทำให้คนอื่นชื่นชม

“สนใจเป็นทรง under cut ไหมคะ ตอนนี้กำลังฮิตกันอยู่ อีกอย่างรูปหน้าของคุณอชิระก็ดูดีอยู่แล้ว ทรงนี้ต้องเหมาะแน่ๆเลยค่ะ” พี่พนักงานถามขณะที่พวกผมนั่งเตรียมตัดผมแล้ว

“ก็ดีครับ จะได้ไม่ร้อน”

“สั้นไป” ผมหันไปตามเสียงคนข้างๆที่อยู่ๆก็โพล่งออกมา

“หือ  งั้นเอาทรงอะไรดีละครับ” พนักงานมองพวกผมงงๆ คงสงสัยว่าหัวไอรักแต่มึงเป็นใครมีสิทธิ์อะไรมาเสนอความคิดเห็นขนาดนี้ละสิ ไม่อยากจะบอกเลยว่าฐานะลึกซึ้งกว่าที่พวกคุณคิด

“ทรงแมว” มันหยิบหนังสือมากางบนตักผม เป็นวัยรุ่นญี่ปุ่นผู้ชายหน้าใสที่ซอยผมเข้ารูปหน้า มีความยาวประบ่า ส่วนด้านหน้ามีหน้าม้าพริ้วๆปัดข้าง ..คาวาอิไปไหมนั่น

ร้อนฉิบหายเถอะทรงนี้

“โหอย่าเลย หน้าอย่างผมทำไม่ไหวหรอก อีกอย่างผมยาวๆมันรำคาญตาด้วย เอาสั้นๆไปก็ดีแล้วนิครับ”

“...” มันครุ่นคิดพลางทำหน้าไม่ค่อยพอใจสักเท่าไร

“แล้วเกียร์จะตัดทรงอะไรละครับ” ผมเปลี่ยนเรื่องไปพูดเรื่องของมันกลัวช่างทั้งสองคนจะรอนาน

“สกินเฮด” ผมหันมองควับแทบไม่ทัน

“หือ แน่ใจนะครับ?” มันพยักหน้า

“ให้ทำไหม” มันเอ่ยปากถามความเห็น หัวคุณนี่ครับผมจะไปบังคับได้อย่างไรกันเล่า

“ก็..ได้มั้งครับ ไหนๆคุณก็อุส่าออกมาตัดผมได้แล้วเนอะเอาให้สั้นไปเลยก็ได้ งั้นคนนี้เอาทรงสกินเฮด ส่วนของผมเป็น under cut นะครับ” ผมกันไปบอกช่างทั้งสองคน ถ้าจะให้เกียร์สั่งวันนี้คงไม่ต้องตัดกันแล้วละ

“ได้ค่ะ”

จากนั้นก็เริ่มตัดผมพลางเอาหนังสือเรียนที่หยิบติดมากางอ่าน ดีที่ร้านนี้เขาไม่ค่อยพูดในเวลาที่กำลังตัดผม เห็นว่าเป็นกฎเพราะลูกค้าบางท่านไม่ค่อยชอบ สงสัยกลัวน้ำลายกระเด็นใส่หัวตัวเอง ฮ่าๆๆ แต่ถ้าเราชวนคุยเขาก็จะคุยครับ

“นาน” ผมเงยหน้าจากหนังสือไปมองเจ้าของเสียงที่หันมาบอกผมโดยไม่ได้สนใจช่างทำผมเลย นี่ก็ผ่านมาครึ่งชั่วโมงแล้ว ทรงมันไม่ได้ใช้เวลานานเท่าผมนะแต่พี่แกเก็บรายละเอียดซะนึกว่าตัดครั้งละแสน

“เกียร์” ผมเอ็ดมันเบาๆ เพราะเหลือบไปมองช่างเขาทำหน้าเสียนิดหน่อย

“เอ่อ เสร็จแล้วครับ ขอประทานโทษที่ช้าไปหน่อย”

มันลุกขึ้นแล้วบอกผมว่าจะไปนั่งรอที่ห้องรับแขกของร้าน ผมมองจนลับตาเลยครับ ผมทรงใหม่หล่อเลวบาดใจ(ผม)สุดๆ ปกติมันตัดผมสั้นธรรมดาอยู่แล้วแต่ไม่สั้นถึงขนาดสกินเฮด อีกอย่างคือตอนนี้ผมมันก็เริ่มยาวเพราะไม่ได้ตัดมานาน พอตัดสั้นแบบนี้เลยแปลกตาไปนิดหน่อย ผมเลิกสนใจแล้วนั่งตัดผมต่อจนเสร็จ

“เสร็จแล้วค่ะ ชอบไหมคะ หรือให้ดิฉันแก้ตรงไหนหรือเปล่าบอกได้นะคะ” ทรงนี้ก็เท่ดีครับ ผมชอบเลยละ พอดีช่างที่นี่เขาก็มีฝีมือดีอยู่แล้ว เวลาทำออกมาทรงไหนทีไรเขาจะจัดให้มันเข้ากับผมได้ตลอด

“ไม่ละครับ” ผมเดินไปหาเกียร์แล้วจ่ายเงินที่แคชเชียร์ กว่าจะได้จ่ายพนักงานแทบหลับรอสามตื่นเพราะพวกผมเถียงกันว่าใครจะได้จ่าย สุดท้ายมันก็ได้จ่ายเงินเพราะมันขู่ผมว่าถ้าไม่ให้ออกเงินคืนนี้ผมไม่ได้นอนเหมือนเมื่อคืนแน่ ผมเลยตีแขนมันไปทีแล้วเดินดุ่มไปที่รถโดยไม่รีรอ


………………………………………...


กลับมาถึงห้องก็เข้าไปอาบน้ำ ส่วนเกียร์รู้ใจไปทำอาหารรอ ออกมาก็เจอคุณน้ำแข็งกำลังนั่งกดโทรศัพท์ผมอยู่

“พี่อุ่นโทรมา” มันพูดแล้วยื่นโทรศัพท์ให้

“หือ เขามีอะไรหรือเปล่าอะครับ”

“คิดถึงเฉยๆ”

ผมหัวเราะแล้วกดโทรกลับ เกียร์ก็ลุกไปหยิบผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำไปพอดีกับพี่อุ่นรับสายแล้วบอกว่าคิดถึงมาคำแรก ผมก็หัวเราะแล้วบอกว่าคิดถึงเหมือนกัน พี่อุ่นบอกว่าอีกสองวันจะบินไปญี่ปุ่นอยากจะได้อะไรเป็นพิเศษไหม ผมนิ่งพลางนึกไปครู่หนึ่งแล้วบอกว่าอยากได้ชุดของลูกๆผมทั้งสามตัว เขาก็ถามกลับว่าแค่นี้เหรอ แล้วของตัวเองละ ผมก็บอกว่าไม่ได้อยากได้อะไรเป็นพิเศษ จากนั้นก็คุยเรื่องอื่นกันนานเกือบชั่วโมงจนเกียร์เดินมาบอกว่ารอทานข้าวอยู่ ผมก็ลืมไปเลยขอพี่อุ่นวางสาย

ทานอาหารเสร็จผมก็นั่งอ่านหนังสือต่อ ส่วนเกียร์ก็ทำงานที่เคยบอกไปว่ารับงานจากอาจารย์มาทำน่ะครับ คราวนี้ให้ซ่อมโน๊ตบุ๊คสองเครื่อง ตอนแรกๆที่มีเคสเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มามันยังทำไม่ค่อยเก่งเท่าไร แต่ตอนนี้ฝีมือดีแล้วสบายเขาเลยละ

“นมไหม” ผมเงยมองมือที่ยื่นแก้วนมมาให้ เห็นถือของตัวเองอีกแก้วด้วย ผมยิ้มเผล่

“ขอบคุณครับ แล้วงานคุณเสร็จแล้วเหรอ” ผมรับมาดื่มแล้วหันไปถาม มันเอานิ้วโป้งมาเกลี่ยบนริมฝีปากผม ผมจึงพึ่งรู้ว่าตัวเองกินเลอะขนาดไหน แล้วมันก็ทำผมหน้าร้อนวูบวาบก็ตอนเห็นมันเลียนิ้วนั้น

“ยัง” มันพูดเสียงเรียบ

ผมเสหน้ามองไปที่อื่น บ้าที่สุด เขินเวลามันมองมาจริงๆ ชอบทำตาแปลกๆมาให้ผมใจเต้นตลอด

“..อ๋อ แอบอู้งานนี่เอง ผมจะฟ้องอาจารย์” พรุ่งนี้เป็นวันเส้นตายครับ อาจารย์บอกให้ส่งภายในวันพรุ่งนี้ แต่มันน่าจะเสร็จทันละ

“เอาสิ” มันเลิกคิ้วแล้วกระดกยิ้มมุมปากนิดๆ โอ้ย ใจไอรักสั่นไปหมดแล้วคร๊าบทุกคน น่าย๊ากมากก

“คุณจะไม่เอาของมาปิดปากผมหน่อยเหรอ ความลับรั่วไหลไปนี่แย่เลยนะ”

อยู่ๆมันก็ก้มหน้าลงมาดูดปากผมดังจ๊วบ ก่อนจะกดปากอีกครั้ง คราวนี้แน่นและนานกว่าตอนแรกมาก ร้อนแรงจนผมแทบละลายกลายเป็นน้ำ ขนทุกส่วนในร่างกายผมลุกซู่เลยแม่ง

“พอจะปิดปากได้ไหม”

“.....”

“หึหึ” ไอ้บ้าเอ๊ย มันคว้าแก้วนมไปวางตอนไหนไม่รู้ แต่ที่รู้ๆตอนนี้ผมนอนซบอกอย่างกับคนไม่มีแรงอย่างไงอย่างนั้น

ถ้าผมตอบไปว่ายังไม่พอใจ มันจะจัดให้ผมไปเดี้ยงไปข้างเลยหรือเปล่าวะ แรงคุณน้ำแข็งน่ากลัวชะมัด

“เมี้ยว เมี้ยว” เสียงไอซิสมาพร้อมเล็บที่กำลังตะกุยตะกายขึ้นโซฟา ไม่ทันจะถึงตัว เกียร์ก็ผลักไอซิสให้ลงไปอยู่บนพื้นแต่โดยดี ไอซิสเอ๋ย ลูกทำผิดนะ นี่โซฟาหนังที่เกียร์อุส่าเก็บเงินซื้อมา เอาเล็บออกเพื่อเกาะแบบนี้มันผิดมหันต์เลยนะ เกียร์ไม่ทุบหัวแบะก็ดีขนาดไหนแล้วลูกเอ๋ย

“ร้องอยากทานนมด้วยมั้งครับ ผมไปเอามาให้ดีกว่า” ไอซิสร้องไม่หยุดเลย พยายามจะขึ้นมาหาตลอด

“เดี๋ยวไปเอาให้” มันรั้งตัวเอาไว้แล้วตัวเองลุกขึ้น

“เอานมแพะที่แช่อยู่ในตู้เย็นนะ อย่าให้ทานเยอะนะครับ ได้รับโปรตีนมากไปมันไม่ดี” เกียร์เลิกคิ้วแล้วมองค้อนไปทางไอซิสที่ยังร้องเมี้ยวเมี้ยวอยู่ ก่อนจะพูดเสียงรำคาญ

“แมวห่าอะไรเรื่องมากฉิบหาย” ทำเป็นสะบัดบ๊อบแต่ก็ยอมเดินไปทำให้นะครับ ไอนี่ก็แปลก ขอให้ได้บ่นก่อนเถอะ อายุแก่ขึ้นไม่พอ นิสัยยังแก่ขึ้นตามไปอีก เฮ้อแฟนกู

มันให้นมไอซิสเสร็จแล้วก็เดินมาหอมแก้มผมฟอดใหญ่ก่อนจะบอกให้รีบดื่มนมแล้วอ่านหนังสือให้จบ จะได้รีบนอน ส่วนมันก็ลุกไปซ่อมคอมพิวเตอร์หลังขดหลังแข็งอยู่ที่พื้นอีกฟากหนึ่งของห้องรับแขก

เวลาล่วงเลยมาหลายชั่วโมง เกียร์เดินเข้ามาบอกให้พอได้แล้ว จึงได้รู้ว่ากว่าจะปิดหนังสือได้ก็ปาไปเกือบตีสามครึ่ง ความจริงในเวลานี้เพื่อนคนอื่นๆยังโด๊ปเครื่องดื่มชูกำลังเพื่อทบทวนหนังสือให้แม่นยำ แต่ผมก็อ่านไปหลายครั้งแล้วนะ อยู่ในห้องก็ตั้งใจเรียนเป็นเด็กดีมาตลอด

เอาตรงๆเลยไหม ที่พูดหรูหราฟู่ฟ่าเมื่อกี้ความจริงคือขี้เกียจอ่านแล้วน่ะครับ

“ตาจะปิดแล้ว” ผมเดินตามมันเข้าห้องนอน เข้าไปล้างมือกันก่อนจะนอนสลบคาอกหนาๆบึกๆ

“ก็นอนสิ ฝืนทำไม” มันดึงผ้าห่มให้ถึงคอแล้วยกมือกอดตอบ

“ไม่รู้สิ ไม่อยากนอนเลย สงสัยตื่นเต้นที่จะได้ปิดเทอมมั้ง” ผมพูดงึมงำแล้วหัวเราะเบาๆ

“แล้วจะทำอะไร หื้ม?” พูดพลางลูบหลังผมเล่น

“ร้องเพลงให้ฟังอีกทีได้ปะ”

“เอาไอ้ทรุดไปทิ้งก่อนค่อยว่ากัน”

“โหย เกียร์อะ คิดร้ายกับลูกผมได้ยังไง ไอซิสออกจะเป็นเด็กเรียบร้อย เชื่อฟังผู้ใหญ่ ตามใจเจ้านายขนาดนี้”

“เหอะ ฟังไอรักคนเดียวละสิ”

“ได้ไง ผมก็พูดภาษาเดียวกับคุณนะ ถ้าไอซิสเชื่อฟังผม ก็ต้องเชื่อฟังเกียร์ด้วยสิ”

“แมวกับแมวคุยกันรู้เรื่องไง กับเกียร์หน้ามือเป็นหลังตีน” มันว่าผมเป็นแมวอีกแล้ว ไอรักหนวดไม่เข้มไม่เส้นยาวเหมือนแมวสักหน่อย ขาก็มีสองข้าง ไม่ใช่สี่ข้างนะ

“ไอซิสผิดแค่เรื่องหยุมหยิมเอง” ผมแก้ตัวแทนลูกด้วยเสียงแผ่วเบา

“อืม หยุมหยิม.. ไล่กัดขา งับนิ้วตีน กินข้าวหก ชอบร้องไล่ ลับเล็บบนเก้าอี้ ล่าสุด..ข่วนโซฟา” มันพูดเสียงเนือย จะหลับแหล่ไม่หลับแหล่

“ก็แมวเด็กนี่ครับ เอาไว้ให้แม่บ้านเอาที่ลับเล็บจากบ้านมาให้ก็ได้”

“อืม.. พรุ่งนี้ตื่นเช้า นอนเถอะ” มันคงง่วงมากไม่ต่างกับผม นี่ก็ทนฝืนหนังตาที่หนักอึ้งต่อไปไม่ไหวแล้ว ผมเลยกล่าวฝันดีราตรีสวัสดิ์ก่อนจะนอนหลับไปพร้อมอ้อมกอดเคยชินที่แสนอบอุ่น



TBC-------------------------------------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

+ตอนนี้ยาวสุดๆ เป็นการขอโทษที่โซ่มาต่อช้าไปนะคะ
+ อาทิตย์แห่งการทำลายล้างนิสิตมาอีกแล้ว.. อาทิตย์นี้-หน้าโซ่สอบค่ะ อ่านหนังสือกันให้ตายไปข้าง นี่ก็ว่าจะวิ่งไปซื้อกาแฟมาตุนเอาไว้นะเนี่ย (อิโซ่ อิเวอร์)
+ความจริงว่าจะตัดไปเข้าค่ายเลย แต่เอาไว้ตอนหน้าก็ได้เนอะ ฮ่าฮ่า
+ขอบคุณทุกคอมเม้นต์นะคะ เป็นกำลังใจให้เราแต่งต่อไปจริงๆนะ ถ้าผิดพลาดอะไรก็บอกได้ค่ะ

โซ่ :กอด1: ทุกคน
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่32 ..แค่คุณ..* [25/02/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 25-02-2014 20:28:17
มายาวแบบสะใจมากกกก :กอด1:
ดีใจกับไอรักเกียร์ด้วย :L2:
ครอบครัวสุขสันต์แล้วจิ
น่าอิจฉาที่สุด
ชอบไอรักเกียร์ที่สุดเช่นกัน
น่ารักอ่ะ
ขอบคุณคุณโซ่เช่นกันค่ะ
ถึงจะมาช้าไปบ้างแต่มาแบบยาวๆ
เราชอบมาก  :mew1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่32 ..แค่คุณ..* [25/02/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 25-02-2014 20:54:50
ยาวสะจาย
ไอรักกับเกียร์อยู่ด้วยกัน ออร่าความหวานกระจายทั่วห้อง
คุณน้ำแข็งหื่นมาก ทำไอรักนอนป่วยเลย 555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่32 ..แค่คุณ..* [25/02/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 25-02-2014 21:06:37
น่ารักมากอะคู่นี้ เกียร์เขินด้วยแหละ
*รับเล็บ เป็น ลับเล็บ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่32 ..แค่คุณ..* [25/02/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 25-02-2014 22:53:04
น่ารักมากอะคู่นี้ เกียร์เขินด้วยแหละ
*รับเล็บ เป็น ลับเล็บ

แก้คำผิดให้แล้วนะคะ ขอบคุณมากค่ะที่เตือน  :m1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่32 ..แค่คุณ..* [25/02/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-02-2014 13:52:09
ยาวโคตรอย่างสะใจอะ thank you หลายๆ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่32 ..แค่คุณ..* [25/02/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 26-02-2014 17:28:49
เดี๋ยวนี้ไอรักอะไรก็ต้องฟังเกียร์ น่ารักมาก

+1 ให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่32 ..แค่คุณ..* [25/02/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 26-02-2014 22:31:32
พายุผ่านพ้นไป  ความหวานก็เข้ามาแทน
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่32 ..แค่คุณ..* [25/02/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 26-02-2014 23:26:09
ในที่สุด!! 5555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่32 ..แค่คุณ..* [25/02/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 26-02-2014 23:37:00
เป็นกำลังใจให้จ้า   ขอให้โชคเอ+  ค่ะ   o13

 
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่32 ..แค่คุณ..* [25/02/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 01-03-2014 07:32:07
กุหุ น่ารักอะ เกียร์หึงโหดบ่ิ่อยนะ คึคึ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่32 ..แค่คุณ..* [25/02/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 02-03-2014 08:44:51
โอ๊ะ  เพิ่งเห็นว่ามาต่อแล้ว
หายไปนานเลยค่ะ  เดี๋ยวกลับไปย้อนอ่านตั้งแต่ต้นใหม่ดีกว่า  เพราะจำไม่ค่อยได้แล้ว  เอิ้กๆ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่32 ..แค่คุณ..* [25/02/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 11-03-2014 07:33:59
หายไปนานนน
กลับมาเห๊อะะะะะะ
คิดถึงเกียร์ไอรัก :mew1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่32 ..แค่คุณ..* [25/02/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 13-03-2014 02:04:56
รอ.. น้องโซ่น้องเกียร์น้องไอรักหายไปไหนน้าา อยากอ่านต่อแล้วจ้า
หัวข้อ: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่32 ..แค่คุณ..*+แจ้งข่าว [23/03/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 23-03-2014 22:32:06
สวัสดีค่ะ ขอแจ้งข่าวนิดนึงนะคะ
ช่วงนี้มีภารกิจย้ายบ้านจึงไม่ว่างมาต่อเลยค่ะ ไม่ค่อยได้เข้าเน็ต จับโทรศัพท์ด้วย แทบจะลงแดงเลยละ  :hao5:
ยังไงก็ขอเลื่อนก่อนนะคะ สักภายในเมษายนคงจะว่างมาลงให้ แต่ไม่ทิ้งเรื่องนี้ไปแน่ๆค่ะ (รวมถึงเรื่อง แก่แล้วไง...เล็กไม่เกี่ยง ด้วย)
โซ่คิดถึงคนอ่านทุกคนค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่32 ..แค่คุณ..*+แจ้งข่าว [23/03/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 06-04-2014 03:27:03
รับทราบจ้า คนแต่งสู้ๆน๊าาา
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *สวัสดีวันปีใหม่ไทย* [15/04/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 15-04-2014 22:38:41
Songkran 2014








“เอ่อ จะดีเหรอครับ ผมว่าไม่ดีมั้ง” เสียงไอ้แมวตัวป่วนของผมเอ่ยอย่างไม่ค่อยมั่นใจ

“ดี” ผมตอบสั้นๆ

“เกียร์อะ ผมไปก็ไม่รู้จะทำหน้ายังไง คุณจะไม่สนุกเอาเสียเปล่าๆนะครับ” ผมอยากจะตอบไปว่าถ้าไม่มีไอรักไปด้วย ผมก็ไม่อยากจะไปหรอก จะว่าผมติดไอรักเกินไปก็ได้ผมไม่ปฏิเสธเพราะมันเป็นเรื่องจริง

ก็จะให้ทำอย่างไรละวะ คนมันคิดถึงนี่หว่า ถึงวันสงกรานต์ที่บ้านผมจะต้องกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่ภาคใต้ทุกปีตามประสาคนไทยที่ถือวันปีใหม่ไทยเป็นวันสำคัญ ผมที่ไม่ได้อยากไปก็ต้องไปทุกปีอย่างช่วยไม่ได้ เรื่องแบบนี้แม่งไม่เคยชินเลยสำหรับผมที่รักชีวิตสันโดษ แต่ปีนี้พ่อผมติดงานวันที่สิบสอง(วันเสาร์)จึงจะไปค้างยาวจากวันที่สิบสามแล้วกลับอีกทีวันที่สิบเจ็ด แม่ง กูคงเป็นบ้าตายห่าถ้าห่างไอ้แมวตาใสนานถึงขนาดนั้น จนเป็นเหตุให้ผมตื้อชวนให้เขาไปด้วยกันอยู่นี่ไงละ

“ไม่หรอก”

“แต่ แต่พรุ่งนี้เนมชวนผมไปอาร์ซีเอ..” ทำไมจะไม่รู้ว่าไอรักพยายามสรรหาเหตุผลร้อยแปดพันเก้าออกมาเพื่อจะได้ไม่ต้องไป สีหน้าออกขนาดนั้น แต่ผมก็เห็นว่ามันน่ารักดีเลยปล่อยให้แมวดิ้นเร่าๆอย่างลอยนวล

“ปฏิเสธไปแล้วไม่ใช่หรือ”

เมื่อเช้าไอรักไปกับที่บ้านแล้ว ตอนบ่ายก็กลับมาตะลุยเที่ยวต่อกับเพื่อนด้วย ผมก็ไปเหมือนกัน เพียงแต่ตอนเช้าที่ไอรักไปกับที่บ้านนั้นผมไม่ได้ตามไปด้วย ปล่อยให้เขาได้มีเวลาอยู่กับครอบครัวบ้าง พวกพี่ๆของไอรักก็ติดน้องอย่างกับอะไรดี เดี๋ยวจะหาว่าผมเอาน้องเขามาขังเอาไว้ไม่ให้ไปไหนมาไหนคนเดียวเดี๋ยวจะเป็นประเด็นเดือด ตอนนี้ก็เลยกลับมานอนสลบเหมือดอยู่บนเตียง เมื่อกี้ได้ยินโทรไปหาเพื่อนว่าพรุ่งนี้ไปต่อไม่ไหว ขอพักก่อน

“ก็..ก็..” ผมแอบยิ้มนิดหน่อย เห็นหมอคนเก่งติดอ่างแบบนี้ก็อยากจะจับฟัดสักทีสองที แต่ติดที่เขาเหนื่อยอยู่ ผมก็ไม่อยากจะกวนสักเท่าไร แม่ง กูเป็นคนอ่อนโยนคาวาอิขนาดนี้ตั้งแต่เจอไอ้แมวนั่นละ

“ไม่ไปก็ไม่ไป นอนเถอะ” ผมลูบหัวไอรักแล้วลุกขึ้นนั่งบนเตียง จัดแจงให้เขานอนดีๆแล้วลงมือนวดให้ เห็นสภาพแล้วนึกสงสารฉิบหาย หน้าที่ขาวอมชมพูตามประสาฝรั่งสุขภาพดีตอนนี้กลายเป็นซีดเซียว มือก็เปื่อยเพราะโดนน้ำมาตลอดวัน อยากจะโทษทั้งเพื่อนมันทั้งผมที่ให้ไอรักออกไปเล่นน้ำจนกลายเป็นแบบนี้

“เกียร์” ผมเงยหน้าตามเสียงเรียกหลังจากที่เงียบไปให้ผมนวดตัวอยู่พักใหญ่

“.....” ผมเงียบรอฟัง

“คุณนวดสบายจนผมจะหลับคามือคุณอยู่แล้ว อย่างนี้ผมจะลุกไปจัดเสื้อผ้ายังไงละ” ไอรักพูดหน้ายิ้มสว่างซะกูตาพร่า จะไม่ให้ผมรักผมหลงได้ไงเล่นน่ารักขนาดนี้ คิดแล้วกูก็ขึ้นเลย

“ยังไม่ต้องจัดหรอก” ผมพูดแค่นั้นแล้วซุกซอกคอหอมๆ จากนั้นก็รู้กัน เป็นอย่างที่มันควรจะเป็น หึหึ





…………………………………….





“ตายแล้ว! หนูไอรัก ไม่ต้องทำลูก” ผมกำลังยกของลงจากหลังรถก็เหลือบมองตามเสียงที่ดังมากจากข้างรถ เห็นไอรักทำหน้าเขินๆผมก็อยากจะกดมันกลางหน้าบ้านตายายให้รู้แล้วรู้รอด

“โถ่ ผมเป็นผู้ชายนะครับ เรื่องแค่นี้เอง” แต่ก็ไม่วายบ่นอุบอิบอยู่คนเดียว ผมกับแม่ได้ยินเพราะอยู่ใกล้ แม่อมยิ้มกับความดื้อของไอรัก

“เป็นหน้าที่ตาเกียร์เขาน่ะลูก  ให้เขาจัดการไปเถอะ หนูมากับมาดีกว่า” หึ ประคบประหงมกันจริงๆ แต่ก็ดีแล้วละ ผมก็ไม่อยากให้ไอรักทำหรอกเพราะมันหนัก พูดตรงๆกลัวมือเรียวๆขาวๆจะเป็นรอยว่ะ

“อ้าวเฮ้ยผีๆๆๆ ว่าพรือ” (อ้าวเฮ้ยพี่ๆๆๆ ว่าไง) หลังจากนี้ผมขอแปลเป็นภาษากลางเลยแล้วกัน

หันไปตามเสียงแหบทุ้มก็เห็นไอ้เนา เด็กเกรียนข้างบ้านที่เคยมาเล่นที่บ้านยายบ่อยๆ ตัวเข้มออกเกรียมเพราะตากแดด ยืนยิ้มฟันขาวหัวเกรียนอยู่หน้ารั้วบ้านมัน

“ไปไงมาไงวะครับ” มันเห็นผมไม่ตอบก็ถามต่ออีก มึงจะทักกูสุภาพหรือสถุนเลือกเอาให้แน่

“เออ” เบื่อจะพูดกับเด็กเปรต

“โหพี่ ผมพูดไปตั้งยาวแต่ตอบกลับมาแค่เนี้ยะ เฟี้ยวเหรอพี่ เฟี้ยวเหรอ”มันทำท่ายกแขนเสื้อขึ้นทั้งสองข้างแล้วกำหมัดกระโดดเหยงๆมาใกล้ๆ ผมเลยตบกะโหลกสนองมันเสียงดัง แค่นี้ก็แทบปลิว มากร่างใส่กูอีก

“โอ้ยพี่ ตบมาได้หัวคนนะไม่ใช่แบตฯ จะได้หวดลูกเอาๆ” ทำหน้าทู่แล้วลูบหัวตัวเองหยอยๆ นิสัยแม่งเหมือนไอ้เล็กหลานรหัสผมไม่มีผิด กวนส้นตีน

“อ้าวเฮ้ยพี่เดินหนีไปไหนอะ โหนี่ผมคิดถึงพี่จนใจจะขาดรอนๆแล้วนะ แต่ดูดิเจอหน้ากันทีไรทำหยิ่งตล๊อด แล้วนี่พี่ไปทำอะไรมาวะ ตัวดำเมี่ยมเลย กร๊ากก”

“เสือก” ปากกว้างที่หัวเราะหุบแทบไม่ทัน ผมเดินเข้าบ้านไม่ได้สนใจมันอีก เข้ามาก็เห็นญาติมากันเยอะแล้ว ที่โซฟามียายลูบหัวไอรักอยู่แล้วก็ญาติที่ผมไม่ค่อยเห็นหน้าอยู่คน-สองคน เรื่องของไอรักกับผมท่านทั้งสองก็ทราบเรื่องนานแล้วละ เคยเจอกันแล้วด้วยแต่ไอ้แมวตาแป๋วขี้อายเลยไม่กล้ามาให้ท่านเห็นหน้าเท่าไร ถึงอย่างนั้นก็เถอะทุกวันนี้ตายายก็ถามถึงไอรักบ่อยๆนะเพราะเขาบอกถูกชะตา

แต่ญาติคนอื่นส่วนใหญ่คงงงว่าฝรั่งมาที่นี่ได้ไงเพราะไม่เคยเห็น คนที่เห็นมาบ้างก็รู้เพียงว่าเป็นเพื่อนสนิทกัน บางคนที่สนิท(กับพ่อแม่ผม)ก็รู้ถึงว่าเป็นอะไรกัน

เรื่องนี้ผมไม่เคยปิดบังใครอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ประกาศก้องให้ทุกคนต้องรับรู้ทั่วกันเพราะมันไม่ใช่เรื่อง ผมไม่เคยอายเรื่องของเรา และผมก็ไม่แคร์คนอื่นที่ไม่สำคัญกับชีวิตเรา ใครรับได้ก็แล้วไป รับไม่ได้ก็เรื่องของมึง

“นั่นไง พูดถึงจะมา ตายยากจริงๆตาคนนี้” ยายพูดแล้วหัวเราะ ผมเลิกคิ้วเชิงถาม ยกมือไหว้ผู้ใหญ่แล้วเดินไปนั่งข้างคนตัวหอม ปากบางๆยกยิ้มสดใสแล้วเอ่ยแซว

“นึกว่าจำทางเข้าบ้านไม่ได้แล้ว นี่ผมก็นินทาคุณไปหลายเรื่องแล้วละ ลูกเกียร์ของยายแม้น~”

“หึ ระวังคืนนี้จะไม่ได้หลับเพราะ‘ลูกชาย’เกียร์แล้วกัน” ผมยิ้มเยาะให้คนที่อ้าปากค้างแล้วก้มหัวงุดๆ

“เอ้านี่ใจคอจะไม่ทักทายคนแก่หน่อยหรือ ลูกแกนี่มันเป็นใบ้ไปแล้วใช่ไหมยัยเอม” ตาพูดแล้วหันไปคุยกับพ่อแม่

“สวัสดีครับ” ผมพูดอะไรผิด ก็ให้ทักทายไม่ใช่เหรอทำไมทุกคนต้องถอนหายใจหน่ายขนาดนั้น

“เหมือนพ่อแกไม่มีผิด” ยายพ่นลมออกจมูกอย่างฉุนๆ หันไปมองพ่อที่กระตุกมุมปากแล้วเอ่ย

“ขอบคุณครับที่ชม”

“ฉันกำลังด่าย่ะ!”

“โอ้ยฉันจะเป็นลม คุยกับพ่อลูกคู่นี้ น่าเบื่อจริงๆ” ยายพูดต่ออีก ผมเก็บความมึนงงในใจเอาไว้ ยังไม่เข้าใจว่าเขาโมโหอะไร ช่างเถอะขี้เกียจถาม

“เดี๋ยวนี้เกียร์เขาก็ถือว่าพัฒนาขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะแล้วละค่ะ” แม่พูด ผมคิ้วมุ่นขมวดเล็กน้อย ยังไง? ผมก็พูดปกติ ไม่เห็นจะแปลกจากเมื่อก่อนตรงไหน

“เอาเถอะๆ เอาของขึ้นไปเก็บแล้วพาหนูไอเขาไปพักผ่อนข้างบนก่อนไป เฮ้อ” ยายเอ่ยปากไล่เสียอย่างนั้น แล้วยังทำหน้ากลุ้มปิดท้ายอีก สรุปผมผิดอะไรวะ งง

“คึ” เมื่ออยู่สองคนก็ได้ยินเสียงอีกคนขำ

“หัวเราะอะไร” ผมถามเพราะผมอยากรู้ทุกเรื่องของไอรัก ให้ความสำคัญกับไอรัก ถ้าเป็นคนอื่นก็ไม่สนใจหรอก

“เปล่าครับ ญาติคุณเยอะดีนะ ผมนึกว่าคุณเป็นญาติยุ้ย” แมวตัวดีพูดเองยังขำเองเลย ผมก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มตามรอยยิ้มสว่าง

“อ้อ คุณยายบอกอีกสิบนาทีให้ลงไปรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่นะครับ” มันพูดต่อ ผมยังไม่รู้เลยว่าเขานัดรดน้ำดำหัวกันวันนี้

ผมพยักหน้าไม่ได้พูดอะไรแต่ดึงไอรักลงมานอนกลิ้งที่ฟูกด้วยกัน แต่รายนั้นไม่ทันระวังเลยตกใจทับผมเต็มเปา

“เฮ้ย ขอโทษครับๆ เจ็บมากไหมเกียร์” มันรีบจับโน่นจับนี่ตามร่างกายผมแล้วพูดเสียงละล่ำละลัก

“หึ ไม่เจ็บ แต่จุกนิดหน่อย” ผมส่ายหน้าแล้วตอบไปตามความจริง

“อ้อ ผมลืมไปว่าคุณหนังหนา รู้งี้น่าจะกระโดดทับให้แบนเป็นแพนเค้กเสียก็ดี หึๆ” ไอรักพูดแล้วยักคิ้วยิ้มยั่วทำกูแทบหน้ามืดเลยโดนกูจูบดูดกัดอยู่นาน ถ้าไม่ติดว่าอยู่บ้านยายคงได้จับล่ามโซ่ไว้ในห้องสามวันสามคืนไม่ให้ออกไปไหน

“อะ น้ำแข็งแม่งหื่นโคตร” ดวงตาใสของไอรักยังปรือหวานตามอารมณ์ที่ปลุกเมื่อกี้ แต่ก็พึมพำบ่นอุบอิบ ผมยกมือไปขยี้ปากเจ่อๆนั่นอย่างหมั่นเขี้ยว

“อยากโดนอีกที?” ผมชอบที่ไอรักพูดเพราะมากกว่าพูดคำหยาบ ซึ่งไอรักก็รู้เรื่องนี้ดี

ก็ดูไอรักสิ เรียบร้อยน่ารักแบบนี้ ถ้าพ่นสัตว์ออกมาเพ่นพ่านก็โคตรจะไม่เข้ากับหน้าอย่างแรง แต่ถ้าเป็นหน้ากูพูดก็ว่าไปอย่าง เป็นเรื่องปกติที่โคตรจะเข้ากับหนังหน้ากูเลยละ เหอะ

“ฮึ่ย ไม่พูดแล้วก็ได้”

ผมแอบขำในใจกับท่าทางกระฟัดกระเฟียด หัวเราะไม่ได้หรอกเดี๋ยวจะงอนยาวเลยดึงให้ไอรักลุกแล้วลงไปข้างล่างแทน

“โอ้ยเพ่ ให้ผู้ใหญ่รอนานขนาดนี้ก็มานั่งให้ผมดำหัวพี่เลยเหอะ” เสียงไอ้เนาดังมาจากใต้ถุนบ้าน ผมลืมบอกไปว่าบ้านตายายเหมือนบ้านต่างจังหวัดธรรมดา ไม่ได้หรูหราเหมือนบ้านในเมืองหลวงเพราะยายขอลูกหลานเอาไว้ว่านอกจากห้องนอนห้องน้ำอย่าไปต่อเติม แค่บำรุงให้มันแข็งแรงเหมือนเดิมก็พอแล้ว ดังนั้นเวลามาบ้านตายายก็ต้องนอนพัดลม เดินย่ำดินย่ำหญ้าไม่ต่างจากบ้านละแวกนี้ แต่บ้านนี้หลังใหญ่กว่าบ้านอื่นอยู่หน่อยและทำจากไม้สัก สียังสดอยู่ แล้วอีกอย่างเวลาอยู่แล้วลมก็เข้าตลอดเวลาทำให้น่าอยู่ไม่แพ้บ้านในเมืองเหมือนกัน

“มาๆลูก หนูไอรักมานั่งข้างแม่มา มาช่วยแม่เตรียมของดีกว่า ส่วนเกียร์ก็หาที่หาทางเองนะ” อยู่ๆแม่ก็ดึงไอรักไปนั่งข้างๆแล้วทิ้งผมให้ลอยคอกลางทะเล ผมคิ้วขมวด คิดว่าผมจะยอมเหรอ ไม่มีทาง

“เขยิบหน่อย” ผมเดินไปสะกิดไอ้เนาที่นั่งอยู่อีกด้านของไอรักแล้วดันตัวมันให้หลีกไปอีกทาง

“เย้ย อะไรอะพี่เกียร์คนนั่งตั้งนาน แล้วนี่แน่ใจเหรอพี่ว่าสะกิด ผมนึกว่าจะกดจุดตาย แรงขนาด...” มันหันมาปีกกล้าขาแข็งกับผม เห็นมันจะพูดต่อแต่แล้วก็ต้องหยุดเพราะสายตาเหลือบไปเห็นคนที่นั่งข้าง สักพักก็ทำหน้าตกใจ

“เกียร์มานั่งนี่ก็ได้ครับ” ผมส่ายหน้า กดไหล่ไอรักให้นั่งตามเดิมแล้วหันไปกดดันไอ้เนาที่ผิวปากหวืออยู่

“บร๊ะคนอะไรขาวจั่งฮู้ หล่อด้วย พี่ๆลูกครึ่งเหรอ ครึ่งอะไรอะ ครึ่งมนุษย์ครึ่งเทวดาหรือเปล่า ฮิ้ววว โอ้ยแอ่ก” ผมไม่ปล่อยให้มันแซวแฟนตัวเองนาน ถีบแม่งไปให้ไกลลูกตา ไอ้ห่า อุส่าสะกิดด้วยความสุภาพก็ไม่ลุก เห็นทีต้องใช้ตีนนี่ละตัวสะกิดชั้นดี

“เอ้าตาเกียร์เล่นเป็นเด็กเป็นเล็ก ไปแกล้งน้องทำไม” บางทีคนเป็นพี่ก็ไม่ดีใจหรอกที่ได้เกิดก่อน ทำอะไรก็ต้องรับผิดแทนทุกอย่าง แล้วต้องมานั่งดูแม่งแลบลิ้นปลิ้นตาใส่อีก ดี!

“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นละครับ” ไอรักกระซิบถามด้วยเสียงเป็นห่วง นอกจากพ่อกับแม่ก็มีไอรักนี่ละที่มองผมออก ผมรู้ว่ากำลังหงุดหงิดอยู่แต่ไม่คิดว่าตัวเองจะแสดงออกขนาดนั้นเพราะหน้าผมไม่ได้แสดงอารมณ์เก่งอยู่แล้ว

“ยังไง”

“เหมือนอยากจะฆ่าใครเลย ถึงคนอื่นจะไม่สังเกตเห็น แต่ผมก็พอจะมองออกนะ” จากที่หงุดหงิดเรื่องที่ไอ้เชี่ยเนามายุ่งกับไอรัก พอมาเจอตาใสแจ๋วที่มองมาอย่างกังวลแบบนั้นก็พาลเอาใจอ่อนลงยวบเอาง่ายๆเลยว่ะ นี่กูเป็นเอามากใช่ไหม

ผมยกยิ้มให้ไอรักนิดหนึ่งเพื่อไม่ให้เป็นกังวลไปด้วย อีกอย่างวันนี้เป็นวันดี ผมไม่อยากให้จิตใจเราต้องขุ่นมัว เจ้าแมวหน้าใสเห็นผมยิ้มให้ก็ยิ้มกว้างตอบแทนแล้วหันไปแนะนำตัวกับไอ้เนา ไอ้นั่นก็ระริกระรี้ใหญ่บอกไม่เคยคุยกับลูกครึ่ง แม่งชมอย่างโน้นอย่างนี้ว่าไอรักหน้าตาดีไม่เหมือนผม เออ กูมันไม่หล่อเท่าไอรักแล้วไง มัดใจคนหล่อได้แล้วกัน หึ

“เอ่อพี่เป็นอะไรวะ ทำไมทำหน้าตาน่ากลัวแบบนั้นอะ เขาลุกไปหาผู้ใหญ่กันหมดแล้ว เอ้อคนสมัยนี้อะไรกัน ใช้ไม่ได้ๆ” เสียงไอ้เนาทำผมต้องตื่นจากความคิดแล้วเดินไปตบหลังแม่งดังๆสักทีเป็นการ 'ขอบคุณ' เหอะ เจอกี่ทีก็หมั่นไส้ฉิบหาย

ผมโดนพ่อลากให้มาต่อหลังเพื่อต่อคิวรดน้ำดำหัว เบี่ยงตัวไปมองแถวก็ไม่มีไอรัก แต่พอเงยขึ้นก็เห็นหน้าขาวๆของแมวยืนถือขันช่วยตักน้ำให้คนต่อไปอยู่ด้านหน้า ยังไม่ทันที่จะก้าวขาเดินไปหาก็เจอพ่อเบรคไว้ก่อน

“ปล่อยเขาไปบ้าง ตามติดบ่อยๆไม่ดีหรอก ดีไม่ดีเดี๋ยวเจ้าหนูหนีหายไปจากอกแกแล้วจะแย่เอา” ผมฮึดฮัดอยู่ในใจแต่ก็ยอมโดยดี ก็จริง ถ้าทำตัวติดมากไปจะไปทำให้ไอรักอึดอัดเอาเปล่าๆ แต่ทำไมเวลาไอรักตามกูแล้วกูโคตรรู้สึกดีเลยวะ

“ของคนนี้ต้องเอาดอกมะลิไปเยอะๆเลย แถมให้ครับ” มาถึงก็ทำตัวน่ารักใส่ให้กูอยากชิมปากอีกแล้ว ถึงคิวผม ไอรักก็ยื่นขันเล็กที่เต็มไปด้วยน้ำกับดอกมะลิ ดอกกล้วยไม้เต็มไปหมด ผมกระตุกยิ้มให้แล้วเดินไปรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่

จากนั้นก็ยืนรออีกคนที่กำลังทำหน้าที่ของตัวเองอย่างขยันขันแข็ง เห็นเขายิ้ม หัวเราะ หน้าแหยๆเพราะไปทำตัวเปิ่นใส่ญาติผมก็ต้องยิ้มตาม เขามีความสุขผมก็ดีใจ

“มองอะไรอะ!” ไอ้เนาตะโกนเสียงดังใส่หูผมเพื่อให้ผมตกใจ แต่ขอโทษเถอะกูตกใจยาก แค่ชะงักแล้วมองหน้ามันนิ่ง

“แหมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ โลกต้องแตกวันนี้แน่เลยพี่ อะไรทำให้คนหน้าตายยิ้มได้วะเนี่ย” ประโยคหลังมันพูดเสียงเบาเหมือนคุยกับตัวเอง แต่ขอโทษ กูหูดี(ห้ามผวนนะมึง เดี๋ยวตกใจ)

“กวนตีน” เพราะมันตะโกนใส่บ้องหู ผมจึงตบบ้องหูมันสักที

“โอ้ยๆ หูดับแล้วไหมวะ ผมถามทีเถอะนี่มือคนหรือตีนยักษ์วะพี่ แรงดีจริงๆ โทษละกันพี่ ว่าจะแกล้งสักหน่อยแต่แป้กซะได้ แถมโดนทารุณหูกันอีก เฮ้อไอ้เนานะไอ้เนา ทำอะไรไว้แต่ชาติปางก่อนหนอ” ที่มันกล้าพูดแบบนี้กับผมเพราะเราเห็นมาตั้งแต่เด็กแต่เล็ก แต่มันก็เกรงใจผมอยู่ดี

ผมปล่อยให้ไอ้เนามันบ่นของมันไป หันไปมองไอรักอีกทีก็เห็นกำลังรดน้ำดำหัวยายอยู่ เสร็จก็เดินมาหาด้วยหน้าผ่องใสกิ๊งเหมือนบุญมีบารมีบาน

“เกียร์ๆ พรุ่งนี้คุณแม่จะให้ผมไปทำธุระกับท่านแล้วก็คุณยาย หลังจากนั้นจะปล่อยให้ไปเล่นน้ำในเมืองละ น่าสนุกอะ ที่นั่นคนต้องเยอะแน่เลยเนอะ” ไอรักพูดเสียงกระตือรือร้นใหญ่ พอมีเรื่องให้หนีเที่ยวทีไรตาโตๆจะระริกระรี้จนผมไม่กล้าขัดทุกที

“ไปด้วย/อยากไปด้วยอะ” ผมหันไปมองไอ้เด็กเปรตตาขวาง มันหัวเราะแหะๆแล้วบอก

“เอ่อ เอ้อ ฮื้อๆๆๆ พี่เกียร์ใจร้าย เนาไม่ไปก็ได้ ไปเล่นน้ำกับไอ้กอล์ฟสองคนก็ได้ ฮื้อออ...” แล้วมันก็แสร้งทำท่าร้องห่มร้องไห้แล้ววิ่งเข้าบ้านไป เห็นแล้วหน่ายว่ะ

“ให้น้องเขาไปด้วยก็ได้นะครับ ปล่อยไว้อย่างนี้น่าสงสารออก” ไอ้แมวก็ไม่เคยรู้เรื่องอะไรกับเขาหรอก มันเสแสร้งแกล้งทำไปงั้นแหละไม่ได้เสียใจจริงจังอะไร แต่ไอรักก็หลงเชื่อเต็มประดา

“มันไม่เหงาหรอก” ผมบอกสั้นๆ เพราะเพื่อนมันเยอะแยะ แถวนี้ก็รู้จักกันหมด มีอะไรก็ช่วยเหลือเกื้อกูลกันตลอด เด็กวัยเดียวกับมันก็มีเยอะอย่างกับเห็บหมา

“งั้นไปบอกคุณยายกันเถอะครับ” ไอรักพูด กระตุกมือยึกๆแล้วจะลดมือลงแต่ผมถือโอกาสกระชับมือแน่นขึ้นแล้วเดินไปหาแม่กับยาย

“ผมไปด้วย” ผมไม่พูดพร่ำทำเพลง บอกไปตามใจอยาก

“ไปด้วยอะไรลูก” แม่ถามงงๆ

“พรุ่งนี้ผมไปทำธุระด้วย” ผมขยายความต่อ

“หื้อ ไม่ได้ๆ ยายจะไปเที่ยวตามประสาสาวๆ เอาแกไปไม่ได้หรอก” ยายหยุดตำหมาก เงยขึ้นบอก

“ผมเป็นผู้ชายนะครับ” แมวก็ไม่ลืมย้ำจุดยืนของตัวเอง

“อะ ฮ่าๆๆ นั่นสินะ สาวๆกับสะใภ้แล้วกัน” ผมอยากจะยิ้มตามคำพูดยายหรอกนะ แต่พรุ่งนี้จะไม่ได้ไปกับไอรักนี่สิ คิดแล้วแม่งแปล๊บๆ

“ผมไปด้วยได้ใช่ไหม” ผมไม่ฟังที่เขาห้ามหรอก คนมันอยากไปนี่หว่า

“อะไรกันตาเกียร์ อย่าติดหนูไอนักเลย พรุ่งนี้นั่งเก็บบ้านเก็บช่องให้สะอาด ถ้าไม่เรียบร้อยแม่จะตีให้ก้นลายให้ดู” แม่พูดจบไอรักก็หัวเราะเสียงดัง

“ต้องใช้ก้านมะยมด้วยใช่ไหมครับ เดี๋ยวผมไปเก็บมาให้เลยดีกว่า โดนแน่ๆ ก้นลายแน่เลยคุณน้ำแข็ง” ไอรักพูดหยอกแล้วหันมาเอานิ้วชี้มาสะกิดคางผมไปมา ผมเลยจับมากัดเบาๆ อีกคนดิ้นเร่าๆร้องให้ปล่อย ท่ามกลางเสียงหัวเราะของใครหลายๆคน

“แล้วกลับกันกี่โมงครับ” ผมปล่อยนิ้วนุ่มแล้วเปลี่ยนมากุมมือไว้หลวมๆ หันไปถามตาเพราะยายนอนเอนหลับไปแล้ว

“ถ้าตาไปด้วยคงจะตอบเอ็งได้” สรุปผมไม่ได้คำตอบ ต้องทำใจห่างไอรักกี่ชั่วโมงละเนี่ย





…………………………………………




ผมลืมตาตื่นขึ้น ได้ยินเสียงพัดลมดังอยู่อย่างต่อเนื่อง หันไปมองนอกหน้าต่างก็รู้ว่าใกล้ตอนนี้ฟ้าสางแล้ว กลับมามองคนที่นอนหลับปุ๋ยอยู่ในอ้อมกอดก็นึกสงสาร พามาลำบากหรือเปล่าวะ ปกติไอรักจะนอนแอร์ เตียงนุ่มๆตลอด

ผมเลิกคิดฟุ้งซ่าน ก้มลงหอมกระหม่อมตรงหน้าแล้วเรียกเบาๆ

“ไอรัก”

..นิ่ง..

ผมยิ้มออกมาน้อยๆแล้วนอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยปล่อยให้เขานอนหลับปุ๋ย มือคอยลูบหลังคนที่นอนซบอยู่ จนพระอาทิตย์แยงก้น เสียงข้างนอกเริ่มโหวกเหวก ผมก็เริ่มเรียกอีกครั้ง

“ไอรัก..ไอรัก ตื่นได้แล้ว” กระซิบชิดใบหู อีกคนยังคงไม่หือไม่อือ

“ถ้าไม่ตื่น ปล้ำนะ..” ไม่รู้ว่าพึ่งตื่นจริงๆหรือได้ยินที่พูดเมื่อกี้ถึงได้ขยับตัวตื่น แต่ดูจากหน้ามึนๆงงๆคงจะเป็นอย่างแรกมากกว่า

“ฮ..หือ เช้าแล้วเหรอครับ”

“จะเจ็ดโมงแล้ว”

“อื้อ...คุณตื่นเช้าจัง” แมวสะลึมสะลืองึมงำตอบก่อนจะปิดตาไปอีกรอบ สักพักก็พูดประโยคหลังออกมาทั้งที่ยังหลับตาอยู่ ผมเลยเอามือไปลูบบนเปลือกตานั้นเบาๆ

ผมไม่ได้อยากจะแตะจับจ้วงไอรักมากมายให้เขารำคาญหรอก แต่ทุกทีที่ใกล้กันไม่รู้เป็นอะไรมือแม่งไม่เคยห้ามได้ดั่งใจ คอยจะเลื้อนไปสัมผัสเนื้อนวลของคนตรงหน้าตลอด แต่ผมว่าไอรักก็คงชอบละ ดูจากที่นอนตาพริ้มอมยิ้มคาอกผมอย่างตอนนี้นี่ไง

“สายแล้ว มีนัดกับยายไม่ใช่หรือ” ผมเอ่ยเตือน ไอรักเริ่มขยุกขยิกตัวนิดหน่อยแล้วนิ่ง ผมเลยนิ่งตามแต่ก็ไม่ได้นานหรอกเพราะอยู่ดีๆอีกคนก็สะดุ้งตัวโหยง

“นัด เฮ้ย ใช่ๆ มีนัดนี่หว่า ตายๆๆ เกียร์กี่โมงแล้วเหรอครับ”

รู้สึกว่าผมจะบอกไปก่อนหน้านี้แล้ว

“อีกสิบนาทีเจ็ดโมง” ผมพูดพอดีกับเสียงเคาะประตูเรียกจากแม่ แมววิ่งเต้นหาผ้าเช็ดตัวแล้วรีบออกไปบอกแม่ว่าขอสิบนาที ก่อนจะแว้บหายเข้าไปในห้องน้ำ ปล่อยให้ผมมองเหตุการณ์เมื่อกี้ตาปริบๆ หายมึนก็ลุกขึ้นไปเตรียมตัวบ้าง





.
.
.
.
.
.
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *สวัสดีวันปีใหม่ไทย* [15/04/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 15-04-2014 22:39:40
.
.
.
.
.





“ไปที่ไหนกัน” ผมถามไอรัก รายนั้นส่ายหน้าทำหน้าเอ๋อ คือมันก็ไม่ได้เอ๋อมากหรอก แต่เหมือนไม่รู้เหมือนกันว่ายายจะพาไปที่ไหน อย่างนี้เขาเรียกว่าเอ๋อหรือเปล่าวะ

“เอ้าไอ้หลานรัก ยายจะได้ไปไหม มัวแต่พิรี้พิไรรำพันอยู่นั่น ปล่อยตัวน้องเขามาได้แล้วลูกเอ๋ย”

“ผมขับรถให้” ผมเสนอตัว

“หื้ออะไรกัน จะหวงอะไรนักหนา ยายไม่ได้พาหนูไอไปขายนะจ๊ะ หนูไอเขาก็ขับรถเป็น ตัวเองนั่นละเข้าไปช่วยคนอื่นเขาทำงานบ้านไป” แม่บอก ก็นี่แฟนผม ไม่ให้เป็นห่วงไม่หวงได้ไง อีกอย่างนี่ก็ช่วงเทศกาล คนเมาคนเฮี้ยนมันเยอะ อุบัติเหตุก็แยะ ผมไปส่งจะได้สบายใจว่าขับขี่ปลอดภัยถึงจุดหมายหายห่วง

“ไปๆ ช่วยเขาทำงานทำการเสียบ้าง” แม่เร่งไล่เข้าไปอีก ตอนนี้บรรดาญาติโคตรตระกูลก็ทำกันให้รึ่ม ผมกลับมาช่วยก็ทัน แต่ความจริงผมไม่ช่วยก็เสร็จกันไวอยู่แล้วเพราะญาติผมเยอะจริงๆนั่นละ

“เดี๋ยวผมกลับมาทำ ผมไปส่ง” ไม่ได้สนใจอะไรต่อก็คว้ากุญแจจากมือไอรักก่อนจะเดินไปประจำที่ คือไม่ได้มองสายตาคนนอกรถหรอกเพราะผมพอจะเดาออก

ขับมาตามทางที่แม่บอก ระหว่างทางก็ฟังยายบ่นเรื่องสันดานหึงหวงเพี้ยนๆของผม ซึ่งผมไม่ค่อยได้สนใจจะเปลี่ยนมันเท่าไรเพราะผมคิดว่าสิ่งที่ผมทำมันไม่ได้เพี้ยนสักหน่อย จนหูเปื่อยนั่นละถึงได้มาจอดอยู่หน้าอาคารพาณิชย์คูหาคู่หนึ่ง ลอดมองก็เห็นป้ายนวดและสปาตัวเท่าควาย คงเป็นร้านดังสำหรับแถวนี้พอตัว ก้มดูเวลาก็แปดโมงกว่าแล้ว

“เที่ยงๆผมจะมารับ”

“บ่ายๆโน่น ไม่ต้องรีบมานักหรอก นี่ยัยเอมฉันเริ่มเบื่อลูกแกละ เอามันไปเก็บไกลๆทีเถอะ คนอะไรหวงอย่างกับหมา” ยายเคี้ยวหมากพูดกับผมแล้วหันไปทำหน้าเอือมใส่แม่ ผมเป็นหมา ไอรักก็เป็นกระดูดละนะ

“หนูชินแล้วจ๊ะแม่ ช่างเขาไปเถอะ เราห้ามเขาไม่ได้หรอกยังไม่ได้ฉีดวัคซีน” ไอรักหลุดหัวเราะแล้วเปิดประตูออกไป ก่อนจะช่วยประคองยาย แต่ยายก็ไม่วายหันมาบอกกับผม

“โตแต่ตัวจริงๆ อย่างนี้เขาเรียกเลี้ยงเสียข้าวสุก เฮอะ!” พูดเสร็จก็เชิดหน้าไป ผมเลยถอนหายใจเบาๆ มองสองสาวหนึ่งหนุ่มที่คุ้นเคยเข้าไปในร้านแล้วจึงถอยรถกลับไปช่วยงานที่บ้าน



………………………………………….




“เกียร์เอ๊ยเกียร์ วางแคร่เสร็จแล้วก็มาช่วยป้าตรงนี้หน่อยนะลูก” ผมไม่ได้ส่งเสียงตอบแต่พยักหน้า วางแคร่เสร็จก็เดินไปหาป้า ช่วยเขาย้ายม้าหินอ่อนไปในร่มเงาเพราะที่วางเดิมมันโดนแดดส่อง ช่วยจัดบ้านไปสักพักใหญ่ หันไปมองนาฬิกาก็เห็นว่าเดินมาจะถึงเที่ยงวันแล้วจึงเข้าไปล้างมือล้างหน้าแล้วออกรถ

“สวัสดีค่ะ ต้องการทำอะไรดีคะ” พนักงานหน้าร้านเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ดูหน้ากูไหมว่าเคยใช้บริการพวกนี้หรือเปล่า ท่าสังเกตกันดีๆจะเห็นขี้ไคลตามร่องเนื้อกูนะ หึ กูหลอก แต่ทุกวันนี้กูก็เกือบดำเกินอีกาแล้วว่ะ หักโหมกีฬากลางแจ้งไปหน่อย

“รับคน” ผมพูดห้วนๆตามสไตล์ เธอหน้าเสียไปนิดหน่อย

“..อะ ค่ะ งั้นเชิญนั่งรอตรงนี้ได้เลยค่ะ” เดินไปนั่งตรงเก้าอี้สำหรับลูกค้า มองโน่นนี่จนไม่มีอะไรจะทำถึงได้เอาโทรศัพท์มากดเล่น ไม่ได้ทำอะไรหรอกแค่ส่งข้อความรัวๆไปกวนคนที่อยู่ข้างในนั่นละ แมวตาแป๋วบัดนี้คงกลายเป็นตาขวางแล้วอยากจะด่าผมแน่ๆ

(12:23) iRuk :น้ำแข็งบ้า!

ตามนั้นละ

คำเดียวผมก็อารมณ์ดีละ ไม่กวนดีกว่าเดี๋ยวมากกว่านี้จะโดนงอนเอาได้ เลื่อนดูรูปภาพที่มีอยู่ในเครื่องก็พึ่งรู้ตัวว่าตัวเองโรคจิตแค่ไหน รูปตัวเองมีอยู่รูปเดียวคือตอนที่ไอรักเอาไปเล่นแล้วแอบถ่ายเอาไว้ มีการสั่งไม่ให้ผมลบอีกต่างหาก ที่เหลือเป็นรูปวิว รูปกากๆเกรียนๆไม่มีสาระที่เพื่อนส่งมาทางไลน์ แล้วก็เป็นรูปไอรักเสียส่วนใหญ่ ตอนหลับบ้าง กินข้าว เอ๋อๆ เจ้าเล่ห์ หน้าบึ้ง ยิ้มให้กล้อง แอบถ่าย ง่ายๆคือกูมีทุกท่วงท่าอะ ไม่หื่นก็เหี้ยสุดๆ

“เอ้า นั่นใครน่ะ หลานฉันหรือเปล่า” ยายเดินออกมาแล้วขยับแว่นหรี่ตามองมาทางผม

“ฮ่าๆ ใช่แล้วค่ะ มารอนานหรือยังลูก” แม่ถาม

ผมลุกขึ้น ส่ายหน้าเป็นคำตอบซึ่งความจริงก็รอเกือบครึ่งชั่วโมงได้

“แล้ว..”

“ไอรักละครับ ใช่ไหมละ กำลังแต่งตัวอยู่ เดี๋ยวก็คงมาละ” แม่ดักคอ ตอบให้เสร็จสรรพ ผมพยักหน้าแล้วเสหน้าหนีทำเป็นมองอะไรไปเรื่อยเปื่อยด้วยความเขิน(ในใจ)

“อ้าวเกียร์ มาตรงเวลาจังเลยครับ” ไอรักเดินหน้าขาวใสโอโม่ รู้สึกจะผ่องกว่าเดิม ยายกับแม่ก็ด้วย

“มาก่อนเวลาต่างหากละจ๊ะ” แม่พูดแก้ให้ ผมเลยเปลี่ยนเรื่อง

“เท่าไหร่” หันไปถามพนักงานคนเดิม เธอคิดเงินแล้วตอบตะกุกตะกัก ผมเลยจ่ายไปแล้วเดินออกมา แต่ก็โดนสายตาล้อเลียนของแม่กับสีหน้าเอือมๆของยายอยู่ดี







………………………………………………..






“เอ้ย” ตัวดียืนอยู่ดีๆก็มีคนวิ่งมาชนเฉย ตอนนี้ผมกับไอรักเล่นน้ำอยู่ที่หาดใหญ่มาตั้งแต่เช้า นี่ก็เกือบบ่ายโมงแล้ว เล่นจนมือกูเหี่ยวอะ ถ้าไอรักสู้กูก็พร้อมสนอง

“ขอโทษครับๆ” ไอ้เด็กเหี้ยมาเล่นวิ่งไล่จับห่าอะไรตรงที่คนยืนแดกข้าวกันอยู่วะ ยังดีที่มึงยังขอโทษ ไม่งั้นคงต้องมีเคลียร์กันยาว ชนแมวกูซะกระเด็นเป็นร้อยลี้ ห่า

ไม่เชื่อกันใช่ปะ เออ กูเวอร์เองแหละ

“ไม่เป็นไรครับ” แมวน้อยยิ้มบอกอย่างไม่ถือตัว

“มายืนตรงนี้” ผมปิดกล่องข้าวที่กินหมดแล้วไปทิ้งขยะแถวนั้น จากนั้นก็ดึงตัวไอรักให้มายืนซ้อนหน้าผม มือผมก็วางอยู่บนเอวคนข้างหน้าเลยดูเหมือนกอดกันกลายๆ ที่ทำไปไม่ได้มีอะไรแอบแฝงเลยจริงๆ เชื่อกูไหม หึหึ

“เดี๋ยวเกียร์ เอ่อมันไม่ดีหรอกครับ ปล่อยก่อนเถอะ” มันขยับตัวจะออกแต่ผมยึดเอวมันแน่นเต็มที่

“หึ” ผมปฏิเสธในลำคอ

“โถ่ คุณน้ำแข็งบ้า” มันด่าผมรอบสอง เลยโดนหอมแก้มดังฟอดโทษฐานพูดไม่เพราะ

“เกียร์! คุณอยากกลับบ้านคนเดียวใช่ไหม” มันขู่ ถามว่าผมกลัวเหรอ เหอะ

“ไม่แกล้งละ กินไปสิ” เออ กูกลัว

แต่มือผมก็ยังเกาะเอวมันไม่ปล่อยนะ ไอ้แมวก็หันมาทำหน้าแง่งๆรอบหนึ่งถึงได้กลับไปเคี้ยวตุ้ยๆเหมือนเดิม เห็นแบบนั้นก็อดที่จะขำไม่ได้ แม่งน่ารักสัตว์ๆ

จนแมวกินเสร็จ ผมถึงปล่อยให้เขาเดินน้ำหน้าเล่นน้ำไป อย่าคิดนะว่ากูไม่รู้ว่าใครหมายตาแฟนกูเอาไว้บ้าง พวกผู้หญิงที่มองมาทางไอรักก็มีเยอะเป็นปกติ วันนี้อาจจะมากกว่าปกติสักหน่อย แต่ไอ้พวกมีไข่สองฟองที่แอบชำเลืองมองดวงหน้าแดงๆเพราะตากแดดมาตลอดวัน เนื้อตัวที่เปียกปอนไปด้วยน้ำ กูก็รู้ละว่าประเทศเราเกย์เยอะจริงๆ แต่พวกมันก็ต้องหดหัวหดไข่กลับถิ่นเพราะเสือกเห็นหน้าทมึงทึงจากกูนี่ละ

“อ้าวพี่ไอรัก อ้าวพี่เกียร์ อ้าววววว” เดินไปเดินมาดันเจอไอ้เด็กคนเดิม ไอ้เนาเน่าใน

“อ้าวน้องเนา” ไอรักก็เล่นกับมันด้วย เออเข้าขากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย

“มาเล่นนานหรือยังอะพี่ โห่ไม่บอกผมบ้างเลย รู้งี้น่าจะออกมาเล่นพร้อมกัน” เนาแม่งบ่นยาว

“พี่ก็ไม่รู้ว่าน้องเนาจะมาเล่นที่นี่ด้วย แล้วนี่มากับใครเหรอครับ” ไอรักพูด ผมดึงไอรักพร้อมกับผลักไอ้เนาให้มายืนหลบผู้คนเพราะเมื่อกี้ยืนคุยกันกลางทาง มันเกะกะคนอื่น

“ผมมากับเพื่อนอะ เฮ้ยมึง นี่พี่กูชื่อพี่เกียร์ คนนี้ชื่อพี่ไอรัก เป็นเพื่อนพี่เกียร์” มึงระบุสถานะกูกับไอรักผิดแล้วยังมีหน้ามาตบแขนกูป้าบๆเหมือนสนิทสนมกันมาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่อีกนะ เหอะ

“หวัดดีคราบ ผมสี่ ไอ้นี่ชื่อกล้าคราบ” คนชื่อสี่แนะนำตัว ดูกวนตีนไม่แพ้กัน

“ครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะ ไปเล่นน้ำด้วยกันไหม” ไอรักยิ้มชวน

“ไปดิพี่ ระดับนี้แล้วไม่มีปฏิเสธหรอก กร๊ากก” คนชื่อกล้าพูด อืม..เป็นกันทั้งแก๊งค์

พวกผมก็เดินเล่นกันอีกครั้ง ที่นี่ส่วนใหญ่มีแต่คนผิวแทน ไม่ก็คล้ำเพราะแถวนี้ภาคนี้ก็รู้ๆกันว่าแดดแรงแค่ไหน หนึ่งในนั้นคงรวมกูไปด้วย ส่วนฝรั่งก็มีเป็นประปราย ยิ่งฝรั่งข้างกูนี่น่ารักสุดๆ วัดจากใจกูและหน้าขาวอมชมพูที่ตอนนี้กลายเป็นขาววอกจากแป้งดินสอพองเต็มหน้าเพราะความนิยมในหน้าตาล้นหลามเหลือหลาย เห็นแล้วมันจี๊ดจริงๆ แมวกูตอนนี้เห็นแต่ตากับปาก

เห็นแบบนั้นเลยแวะร้านขายน้ำข้างทาง ซื้อน้ำเย็นๆมาล้างหน้าให้เพราะมันได้ไวสุด รายนั้นเวลาเล่นก็ไม่เคยสนใจหรือรู้สึกเหนื่อยเป็นกับเขาหรอก แต่พอกลับบ้านทีสภาพแทบจะควรหามส่งโรงพยาบาล

“อึ๋ย น้ำเย็นอะเกียร์”

“ทนหน่อยนะ” พูดแล้วพลางเอาน้ำลูบหน้าให้

“หน้าชาเลย ฮ่าๆๆ” ชาอะไร ยิ้มหัวเราะได้เต็มหน้าขนาดนั้น น่าหยิกว่ะ

“หึ” เห็นหัวเราะมีความสุขขนาดนั้นผมเลยหลุดหัวเราะ

“เกียร์ล้างด้วยไหมครับ” ผมส่ายหน้าเพราะไม่ได้เปรอะมาก แต่ไอรักก็ยื่นมือมาล้างให้อยู่ดี

“พี่ๆ เลี้ยงหน่อยดิ เงินผมโบ๋เบ๋แล้วอะ” ไอ้เนามันชูกระป๋องโค้กขึ้นแล้วยิ้มยิงฟันให้ไอรัก

“ได้สิครับ แล้วกล้ากับสี่จะทานอะไรหรือเปล่า หยิบเลยๆ พี่เลี้ยง” ไอ้สองตัวนั้นก็ไม่มีคำว่าเกรงใจหรอก หยิบกันใหญ่ ตอนจ่ายผมก็รีบออกไปก่อนที่ไอรักจะควักเงินออกมา เถียงกันตั้งนานกว่าเขาจะยอมให้จ่าย

“เออพี่ ผมว่าจะถามนานละ พี่สองคนเป็นอะไรกันอะ เหมือนไม่ใช่เพื่อนกันเลย” ผมเลิกคิ้วมองไอ้เนา ไอรักหลับมามองผมควับเลย

“แล้วใครบอกเป็นเพื่อน?” ผมย้อนถาม

“อ้าว…. เฮ้ย อย่าบอกนะว่า...?!” ผมพยักหน้าตอบไอ้สี่มัน

“เฮ้ยจริงดิพี่ ผมไม่รู้เลยว่าพี่ชอบอย่างนี้นะนี่ อยู่กันมาตั้งแต่เด็ก ถึงได้ว่าไม่เห็นสนใจผู้หญิงเลย” เนาพูด ถึงเป็นผู้ชายกูก็ไม่สนใจหรอก ยอมแค่ไอรักคนเดียวนี่ละ

“พวกพี่ก็เหมือนผู้ชายทั่วไปนี่หว่า” ไอ้ห่า ต้องให้กูไปแต่งหญิงหรือไงถึงจะถูกหลักการของพวกมึงกัน

“แล้ว แล้วเอ่อ ผมทำอะไรอีกอย่างดิพี่” ไอ้เนาคนเดิมพูด ผมมองมันนิ่งรอฟัง

“พี่ไอรักเป็นเมียพี่เหรอ” ผลั๊วะ ผมตบกระโหลกแม่งสักทีดังๆที่มันพูดไม่ระวังปาก

ขนาดผมยังแทบไม่เคยเรียกไอรักว่าเมียเลย เพราะผมให้เกียรติเขา ถึงไอรักจะได้เสียกับผมแต่ร่างกายหรือจิตใจเขาก็ยังเป็นผู้ชายอยู่ดี ผมคิดเสมอว่าถ้าไอรักได้ยินใครเรียกแบบนั้นก็คงอึดอัดหรือลำบากใจไม่มากก็น้อย

เราแค่เป็นผู้ชายที่รักกัน เรียกว่าเป็นแฟน เป็นคนรัก เป็นคู่ชีวิต  คำนี้คงเหมาะสมมากกว่าเป็นผัวเป็นเมียกัน

“อย่ายุ่งเรื่องผู้ใหญ่” ผมว่ามัน

“โหพี่ แก่กว่าไม่กี่ปีเอ๊ง ว่าแต่เมื่อกี้ขอโทษนะพี่” มันยกมือไหว้ไอรักกับผม ผมก็พยักหน้าไม่ได้ถือสาอะไร ส่วนไอรักก็ยิ้มน่ารักให้เหมือนเดิม

“ไม่เป็นไรครับ แล้วนี่จะเลิกเล่นกันกี่โมงเหรอ” ไอรักถาม

“พี่จะเลิกแล้วเหรอ” สี่ถาม

“เกียร์ว่าไงอะครับ ผมว่ากลับบ้านกันเลยไหม ปากคุณซีดหมดแล้ว ใครดูดเลือดไปหมดเนี่ย หึหึ” ไอรักเอ่ยแซว ผมเลยเอื้อมมือไปขยี้ผมเปียกๆนั้นให้หนำใจ

“ผมกลับด้วยๆ เล่นมาตั้งแต่เช้าแล้ว เหนื่อยโคตรเลยว่ะพี่ ฮ่าๆๆ” ไอ้กล้าพูด

“ความจริงแฟนตามละสิ” ไอรักพูด ไปรู้ได้ไงวะ

“โหไรพี่ รู้ได้ไงเนี่ย” มันตกใจ ถามสิ่งที่ผมคาใจ

“อ่า ขอโทษทีพี่ไม่ได้ตั้งใจจะฟังหรอกนะ แต่เมื่อกี้เห็นโทรศัพท์เข้าไม่ใช่เหรอ 'ครับเมีย เดี๋ยวกล้ากลับแล้วนะครับใจเย็นครับอย่าเหวี่ยงกล้านะครับที่รัก' คึๆ พูดกับแฟนเพราะดีนะครับน้องกล้า” เห็นอย่างนี้ใช่ย่อยนะไอ้แมวนี่ ไปกวนเด็กเกรียนให้เขินได้

“แหะๆ พี่ก็ อย่าแซวดิ”

เราเล่นอีกประมาณยี่สิบนาทีก็กลับบ้านกันด้วยรถประจำทาง ขามาก็มารถประจำทางนั่นละเพราะไอรักเขาอยากนั่ง ส่วนสามคนนั้นขามาก็มาเหมือนกันกับพวกผม พอถึงก็แยกกันเข้าบ้านตัวเอง บ้านไอ้สี่กับไอ้กล้ามันก็อยู่แถวนี้ เลยไปนิดหน่อยก็ถึงแล้วจึงไม่ต้องไปส่ง

เข้าบ้านมาก็โดนแม่ไล่ให้ไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่เพราะกลัวจะเป็นไข้หวัดกัน ผมเลยเดินขึ้นบ้านทั้งที่ตัวยังเปียกหมาด ไอรักก็ยิ้มแหยๆรีบเดินเขย่งขาจ้ำเอาๆ สงสัยจะกลัวลุงป้าน้าอาด่าเรื่องทำน้ำหยดเป็นทาง

“ลูกเกียร์ ลูกเกียร์จะอาบน้ำก่อนไหมครับ คึๆ” มันพูดล้อ

“หึ” ผมยิ้มแสยะ ค่อยๆสาวเท้าเข้าไปหาไอ้แมว เขาก็คงรู้สัญญาณอันตรายถึงได้ถอยหลังหนีจนหลังไปติดกับประตูห้อง

“ไปอาบพร้อม ‘ลูก’เกียร์ ก็แล้วกัน หึหึ” พูดจบผมก็คว้าเอวอุ้มแมวตัวใหญ่เข้าไปในห้องน้ำ ไอรักดิ้นดุ้กดิ้กอยู่ในอ้อมแขน แต่ผมไม่ปล่อย

“เฮ้ยเกียร์ เดี๋ยววว ไหนสัญญากันแล้วไงว่าจะไม่ทำอะไรที่บ้านคุณยายอะ! อ๊ะ..” ผมวางไอรักลงใต้ฝักบัว เปิดน้ำราดเราสองคน ล้วงมือเข้าไปในเสื้อแล้วสะกิดหัวนมนุ่ม

“ก็ไม่ได้ทำอะไร” ผมกระซิบบอก ขบใบหูเล็กจนไอ้รักร้องครางออกมาเบาๆ

“อึ้ก แล้ว แล้วนี่เรียกว่าไม่ทำหรือไงเล่า!” ไอรักร้องบอก แต่ร่างกายไม่ต่อต้านหรือปัดป้องการรุกรานของผมเลย หลับตาปี๋ ทำหน้าเสียวซ่านอยู่อย่างนั้น

“ขอข้างนอกนะ..ได้ไหม” ผมอ้อนขอ เพราะทนมานานแล้วตั้งแต่เช้า ต้องทนเห็นเสื้อที่แนบเนื้อขาว น้ำที่ไหลตามโครงหน้าแบบนั้น มันกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของผมได้มากโข เห็นทีไรก็แทบทนไม่ไหวเหมือนกัน

“แต่..ผมกลัวคนได้ยิน” ไอรักหลับตาแน่นแล้วพูดหน้าแดง เขาคงเขินมาก

“กัดแขนเกียร์ไว้ก็ได้” ผมพูดด้วยเสียงที่ไอรักชอบ แล้วยิ้มให้เพราะผมยิ้มทีไรไอรักจะใจอ่อนทุกที คราวนี้ก็คงเหมือนกัน

“คนข้างนอกจะได้ยินไหมอะครับ” มันพูดเสียงอ่อย คงใจอ่อนไปมากกว่าครึ่งแล้วละ

“ไม่ได้ยินหรอก ทำเสียงเบาๆ” พูดแล้วไซร้คอหวาน พยายามไม่ให้หนวดโดนเนื้อบางเพราะไอรักเคยบอกว่าเจ็บ คนนี้ไม่ได้หรอกโดนนิดโดนหน่อยก็แดงแจ๋แล้ว ผมเลื้อยลงมาดูดหัวนมแดงๆทั้งสองจุก อีกคนก็แอ่นรับพร้อมปิดปากครางไปด้วย พอเห็นว่าไอรักขาเริ่มสั่นแล้วจึงให้ไปพิงขอบเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ โชคดีที่บ้านใช้ไม้สักแข็งแรง ห้องน้ำก็เก็บเสียงได้พอสมควร ไอรักกับผมก็ไม่ได้ส่งเสียงดังเพราะหาอะไรปิดปากอยู่ตลอด อย่างตอนนี้ ผมเลื่อนลงไปเลียตรงขนอ่อนรอบไอรักน้อยที่มีอยู่น้อยมาก จนเปียกนั่นละถึงได้อมไอรักน้อยที่ตั้งชี้หน้าผมอยู่ตอนนี้ ส่วนมือเจ้ากรรมก็เอื้อมไปสอดในรูแคบด้านหลัง

แค่ได้เห็น ได้กลิ่นเฉพาะของไอรักผมก็อยากไปแล้วว่ะ

“อื้อ...” ไอรักปรือตา ก้มหน้าส่งเสียงประท้วงไม่ให้เข้าไป แต่ผมก็เอานิ้วเข้าไปช่วยอยู่ดี ดูท่าไอรักจะเสียวมาก แหงนหน้าปิดปากขาสั่น เอวก็ส่ายแล้วดึงเข้าดึงออกไม่รู้ตัวจนผมต้องจับเอวไม่ให้อีกคนกระแทกเข้ามาแรงเกินไป

แหงสิ ก็โดนทั้งด้านหน้าและด้านหลังขนาดนี้ไม่เสียวได้ไงละ

พอไอรักเริ่มซอยเข้ามาแรงขึ้น ผมถึงได้หยุดแล้วเอาปากกับมือที่ล้วงด้านหลังของไอรักออก อีกคนมองลงมาเหมือนถูกขัดใจ ผมอมยิ้มกับสายตานั้น

“เกียร์...” มันเรียกเสียงอ่อน เล่นเอากูใจหวิวเลยให้ตาย ผมรีบลุกขึ้นไปแลกลิ้นครั้งหนึ่งแล้วจับให้อีกคนหันหลัง ไอรักมองงงๆแต่ก็ยอมทำตามแต่โดยดี

“ฮะ..อื้อ… เกียร์ จะทำอะไรอะ” ร่างสั่นเทิมถามเสียงหลง ผมเอาไอ้ลูกชายสอดใส่ใต้พวงไข่ของไอรักแล้วดันขาให้หนีบกัน

เห็นไอรักมองมาอย่างงงงวยแต่สายตายังเยิ้มหวาน เห็นแบบนั้นจึงเริ่มขยับให้ของผมเสียดสีกับขาหนีบของไอรักทันที

กูเงี่ยนโว้ยยยยยยยยยยยยย

“ฮึ๊ย อ๊ะ เกียร์.. โอ้ย บ้าจริง!” เสียงแหบหวานที่คุ้นเคยครางลอดมาจากมือที่ปิดปาก แล้วพึมพำสบถอะไรสักอย่าง

“ทำข้างนอกไง ..ไม่ชอบหรือ” ผมถาม เห็นสีหน้าแปลกไปผมก็อดที่จะเสียเซลฟ์ไม่ได้

“อ้ะ อึก ฮื๊อ เกียร์ เกียร์ อ๊ะ…..” ไอรักร้องเรียกผมเกือบทุกครั้งที่ผมกระแทกเข้าไป

“หืม ไม่ชอบหรือเปล่า” ผมก้มชิดหูนิ่มแล้วถามอีกครั้ง อีกคนส่ายหน้า หลับตาปี๋ ปิดปากแหงนหน้าหนี ตัวไอรักแดงไปทั้งตัว

“อื้อ.. อึก งื้อ” เสียงครางดังอู้อี้มันหวานหูกูเหลือเกิน

“ไอรัก..” ผมมองงงๆที่เห็นอีกคนกระตุกอยู่แปบหนึ่งก่อนจะไปถึงสวรรค์เสียแล้ว ปกติไม่ได้ไปเร็วขนาดนี้ไม่ใช่เหรอวะ

“ขะ..ขอโทษครับ” ถ้าผมไม่คว้าเอวเอาไว้ แมวคงไหลลงไปกองอยู่ที่พื้นแน่ๆ

“ขอโทษอะไร” ผมถาม ดึงเขามากอดแล้วลูบหัวเบาๆ ไอรักกอดผมแน่น ผมเลยอดที่จะสูดดมกลิ่นหอมแถวกระหม่อมอีกคนอย่างช่วยไม่ได้

“ก็..ผมไปก่อนอะ ไปไวด้วย ไวมากๆ ให้ตายสิ น่าเกลียดที่สุด” ไอรักพูดวนไปวนมาเหมือนคนทำอะไรไม่ถูก

“รู้สึกไม่ดีเหรอ” ผมถามตามสิ่งที่คิด จะจูงออกไปข้างนอกเพราะดูแล้วคืนนี้คงได้เท่านี้

“ไม่ๆ ไม่ใช่ คือ เฮ้อ..ผมจะพูดยังไงดี คือมันแปลก มัน..โอ้ยผมไม่รู้จะอธิบายยังไงอะ” ไอรักพยายามตอบแต่ผมก็งงอยู่ดี

“.....” ผมมองมันงงๆ

“คะ..คือ” หน้าจะร้องไห้อยู่รอมร่อผมเลยรีบกอดมันใหญ่

“เกียร์ไม่อยากรู้แล้ว ไม่ต้องพูดแล้วก็ได้”

“..เฮ้อ ถ้าผมพูดไปอย่าหัวเราะนะ” ผมพยักหน้า ไอรักอึกอักอยู่พักหนึ่งแล้วก็พูดออกมาในที่สุด

“คือมันเสียวอะ แล้วก็ตื่นเต้นมากๆด้วย”

ผมแอบยิ้มในใจเพราะกลัวไอรักดุ นั่นสินะ วันนี้เล่นท่าแปลกๆด้วย ถึงจะไม่ได้สอดใส่ก็เถอะแต่มันก็เสียวไปอีกแบบ แล้วยิ่งชวนไอรักเล่นทำแบบนี้ในบ้านยายตอนเย็นๆแล้วด้วย แม่งโคตรอีโรติกแบบโรคจิตไม่รู้กาลเทศะสุดๆอะกู

“เกียร์นึกว่าไอรักไม่ชอบ” ผมพูดจบไอรักก็สวนขึ้นมาทันทีโดยที่ยังไม่ได้คิดอะไร

“ชอบสิเอ้อ! เอ๊ะ..เฮ้ย ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” ผมหลุดยิ้มออกมาจนได้ ก็มีแมวมาดิ้นเร่าๆตรงหน้าเหมือนโดนน้ำร้อนลวกแบบนี้มันเพลินดีว่ะ

“เกียร์! หยุดยิ้มได้แล้ว!” จนมันเตือนผมนั่นละถึงได้หุบปากฉับ

“ป่ะ” ผมเลยเปลี่ยนเรื่องเนียนๆไม่ให้เขาอายโดยการชวนมันออกจากห้องน้ำ

“เอ๊ะ แต่..เกียร์ยัง..” มันพูดแล้วชี้ๆที่ด้านล่างของผม ไอ้ลูกชายมันไม่รักดียังชี้หน้าไอรักอยู่เลย แต่ก็เหี่ยวลงจากเมื่อกี้แล้วละ

“ช่างเถอะ” ผมตัดบท เดี๋ยวค่อยเอาออกก็ได้

“..ให้ผมช่วยนะครับ” ผมหันไปมองคนที่ยืนก้มหน้าอยู่ แต่หูเหอนี่แดงไปทั่วแสดงให้เห็นว่าที่พูดไปเมื่อกี้คงอายมากๆ

แต่ยังไม่ทันจะได้ตอบอะไร คนตัวอมชมพูก็เดินเข้ามาใกล้ๆแล้วคุกเข่าตรงหน้า ก่อนจะเอาปากอุ่นมาครอบลูกชาย ผมสูดปากออกมา ถึงจะครอบได้ไม่ถึงครึ่งลำแต่ก็ทำให้ผมเสียวได้โคตรๆ ผมจ้องแก้มตอบเพราะอม ‘ไอ้นั่น’ คาปากกับสีหน้าที่ทำให้อารมณ์ผมพุ่งทยานได้ง่ายๆ

“อืม..” ผมครางออกมาเบาๆ ไม่เอามือไปกักไปกั้นเสียงเหี้ยอะไรหรอก เพราะผมคิดว่าคนอื่นคงไม่ได้ยินแน่ๆ

ไอรักเริ่มซอยปากเร็วขึ้น ผมก็ขยับเอวเข้าออกอย่างรู้จังหวะ ยิ่งมองคนที่นั่งคุกเข่าทำให้ผมอยู่ก็ยิ่งกักกั้นอารมณ์ไม่ไหว ผมควงลูกในปากบางอย่างเมามัน พอใกล้ถึงฝั่งผมก็รีบดึงไอรักขึ้นยืนแล้วสอดใส่ให้ไปสีกับหว่างขามันเหมือนเดิม ก่อนจะซอยกระแทกแรงๆให้หนำใจอยู่หลายครั้งถึงได้ปล่อยน้ำรักออกมาเลอะตามง่ามขาขาว

ผมกอดซบอีกคน รอให้หายใจเป็นจังหวะปกติถึงได้คลายอ้อมกอดนั้นช้าๆ แต่อยู่ดีๆไอรักก็ทรุดนั่งลงกับพื้นในทันทีจนผมตกใจ

“ไอรัก เป็นอะไร” ผมรีบถาม

“อ่า สงสัยขาจะชาซะแล้วสิ แหะๆ” ไอรักยิ้มเขินๆ พยายามลุกขึ้นมาอีกรอบแต่ก็ต้องนั่งลงตามเดิม ผมเม้มปากไม่ให้ยิ้มออกไปแล้วจัดการอุ้มอีกคนไปล้างเนื้อล้างตัวกันก่อนจะพาออกไปแต่งตัวให้

“ผมว่าต้องหาวิตามินบีมาทานแล้วละ ชานานแบบนี้คงไม่ดีแน่เลยอะครับ แย่ๆ” ไอรักพูด ผมที่อาสานวดให้ก็เงยขึ้นพูดพร้อมกระตุกมุมปาก

“ไม่ได้ขาดวิตามินหรอก ทีหลังเกียร์จะแตกไวๆแล้วกัน ไอรักจะไม่ต้องนั่งคุกเข่านานๆให้เมื่อย”

“ไอ้คุณน้ำแข็งบ้า!!!!!!!!!!!!!”





++++++++++++++

+สวัสดีวันปีใหม่ไทยจ้า ขอให้ทุกคนมีความสุข พบแต่สิ่งที่ดี สุขภาพร่างกายแข็งแรงนะคะ วันนี้เอาตอนพิเศษมาลงให้อ่านก่อน เดี๋ยวจะลืมเรื่องนี้กันไป ฮาา
+พูดถึงบ้านใหม่ ตอนนี้กำลังจัดของกันสนุกเลย แต่ก็ไม่ลืมนิยาย(ที่ดองมานานมากเลยนะยะยัยโซ่)นะจ๊ะ กำลังคิดว่าจะติดอินเทอร์เน็ตทรูเหมือนเดิม หรือจะลองเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นแทนดี (ตอนนี้ต่ออินเทอร์เน็ตมาจากโทรศัพท์ค่ะ) แต่ไม่ค่อยมีความรู้ทางด้านนี้ด้วยสิ ร้องไห้แปบนะเจ้า T_T

โซ่คิดถึงคนอ่านทุกคนจ้าา
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *สวัสดีวันปีใหม่ไทย* [15/04/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 15-04-2014 23:42:22
เย่ ตอนพิเศษ คุณน้ำแข็งหื่นตลอดเว 5555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *สวัสดีวันปีใหม่ไทย* [15/04/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 16-04-2014 01:22:20
เกียร์นายช่างหื่นอะไรเช่นนี้
แถมขี้หึงขี้หวงสุดสุดด้วย
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *สวัสดีวันปีใหม่ไทย* [15/04/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 16-04-2014 07:27:36
คิดถึงคู่นี้มาก :mew1:
สวัสดีปีใหม่ไทยเช่นกันค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *สวัสดีวันปีใหม่ไทย* [15/04/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 16-04-2014 15:50:38
เกียร์อยู่ใกล้ไอรักไม่ได้นานหรอก ความหื่นมันขึ้นตา 5555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *สวัสดีวันปีใหม่ไทย* [15/04/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 16-04-2014 17:02:23
เกียร์ขี้หื่นขี้หวง แต่น่ารักอะ <3 :mew1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *สวัสดีวันปีใหม่ไทย* [15/04/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 24-04-2014 01:06:50
เกียร์ติดไอรักอะ ขี้หึง ขี้หวง สุดๆเลยยยย ไอรักดูจะเข้ากับที่บ้านเกียร์ได้ดีนะเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *สวัสดีวันปีใหม่ไทย* [15/04/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-04-2014 05:13:56
อการหนักน่ะคุณน้ำแข็งเนี่ย ห่างหูห่างตาไม่ได้เลย
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *สวัสดีวันปีใหม่ไทย* [15/04/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 24-04-2014 09:21:51
เกียร์ขี้หวงกับไอรักมากเลอะ น่ารักจังง >_<!! ไอรักก็น่ารักน่าเอ็นดูมากเลยลูก
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *สวัสดีวันปีใหม่ไทย* [15/04/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 12-05-2014 07:06:49
หายไปนานเน้อ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *สวัสดีวันปีใหม่ไทย* [15/04/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: O[]OVampire ที่ 12-05-2014 12:19:03
พึ่งเข้ามาอ่านชอบคู่นี้มากค่ะชอบที่ไม่ดราม่าเรื่องนอกใจเรื่องนอกใจเราไม่ค่อยชอบ
มีทะเลาะกันบ้าง หวานกันบ้าง อ่านไปอมยิ้มจนปวดแก้ม พี่เกียร์น่ารัก ไออุ่นก็น่ารักน่าฟัด
ติดตามตอนต่อไปค่ะมาเร็วๆนะคะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่33 ออกค่ายกันคับคั่* [18/05/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 18-05-2014 15:13:12
ตอนที่33





“เฮ้ยมึง ทางนี้ๆ” เปิดประตูรถออกก็ได้ยินเสียงคลื่นตะโกนทักเป็นคนแรก วันนี้ผมเอารถยนต์มาเพราะต้องขนกระเป๋าใบใหญ่สองใบกับเสบียงเตรียมทานระหว่างทาง

แต่เกือบจะมาไม่ทันเพราะทะเลาะกันเรื่องกระเป๋านี่ละ เกียร์มันจัดใส่ใบใหญ่ไปใบเดียวไว้ตั้งแต่เมื่อวานแต่ผมไม่ทันสังเกต มาเห็นอีกทีตอนเช้า ผมไม่อยากเอาเปรียบมันเพราะของคนเดียวก็แบกหนักจะแย่อยู่แล้ว ถ้ามันเอาของผมรวมไปอีกคนคงมีหลังยอกกันไปข้างเลยเถียงกันนิดหน่อย และครั้งนี้ผมก็เถียงชนะจนได้

“แต่งตัวอะไรของมึงเนี่ย” ผมหน้าเหวอมองคนตรงหน้าขึ้นๆลงๆ ไอ้เนมมันแต่งตัวเต็มมาก มีผ้าพันคอ ถุงมือ เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ในมือถือพัดลมพกพาอันเล็กสีชมพูแปร๋นสองอัน

“ทำไมงะ ก็แนวเค้า” เนมลอยหน้าลอยตาตอบ

“มึงจะไปไหนกันแน่วะ ไปแค่ปราจีน ไม่ได้ไปเชียงรายนะ” ผมพูดแล้วส่ายหน้าเอือม

“ก็เผื่อหนาวไง เดี๋ยวพ่อแม่เป็นห่วง” พวกผมที่อยู่ในระแวกเดียวกันส่งเสียงออกมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายว่า..

“ถุ้ย!”

“อิอิ”

“กูว่ามันเริ่มจะบ้าละ เหมือนจะแต่งตัวไปเหนือแต่พกพัดลมไปตั้งสองอัน” พิชบอก ผมพยักหน้าเห็นด้วย

“พัดลมของไอ้คิมอะ มันเอามาเผื่อกูอันหนึ่ง ส่วนอีกอันเป็นของมัน กูบอกไม่เอาๆก็ยังจะเอามาอีก แม่งไม่เชื่อกูว่าไปถึงโน่นแล้วจะหนาว” มันบุ้ยหน้าไปทางคิมที่กำลังคุยกับเพื่อนคนอื่นๆอยู่ คิมเหมือนจะรู้ตัว หันมาเลิกคิ้วมองพวกผมแต่ปากยังพูดกับเพื่อนคนนั้นอยู่ สามารถจริงๆ

“แล้วชื่อกูไปนั่งคันไหนอะ” ผมถามไทป์ เห็นมันถือใบรายชื่ออยู่ ไอ้นี่ก็เส้นใหญ่ ไปได้ใบมาจากไหนไม่รู้เพราะปกติใบเซ็นต์ชื่อจะอยู่ที่สต๊าฟหรือประธานค่าย

“ชื่อเราอยู่คันสุดท้ายกันหมด” ไทป์หยุดแล้วถามต่อ

“เกียร์ชื่ออะไรนะ” มันถามชื่ออีกคนที่เดินไปหาเพื่อนตัวเอง

“กฤตเมธ”

“อืม… คณะวิศวะอยู่คันที่สอง มันแบ่งตามเลขคณะ คันนั้นมีวิศวะกับเด็กมนุษย์ฯ” มันพูดพลางไล่รายชื่อในมือ

“หือ แล้วพวกมึงมาอยู่คันกูได้ไงวะ” ผมถามต่อ เพราะพิชคิมไทป์ไม่ได้อยู่คณะผมสักหน่อย

“คันมึงเป็นคันเดียวที่ไม่มีคนคุมหรืออาจารย์ เขาคงคิดว่าเด็กแพทย์กับวิทยาไม่ทำตัวเหลวไหลมั้งเลยว่างสองที่นั่ง เดี๋ยวให้ไอ้คิมไปนั่งเบียดๆเนมกับพิชเอาก็ได้”

“แหมะ ส่วนมึงนั่งกับไอ้รักแบบสบายไม่ต้องเบียดใครใช่ไหม” เนมได้ยินจึงสวนขึ้นแล้วเบะปาก ไทป์ไม่เคยสะทกสะท้านอะไรหรอกครับ

“กูแบ่งตามความเหมาะสมที่สุดละ”

“มาครบกันแล้วใช่ไหม กูจองที่ให้นานแล้ว ขึ้นไปกันเถอะ ปะ” ไอ้คิม ฝ่ายประสานงานและหากิจกรรมให้กลุ่มเราทำในครั้งนี้เดินมาพูดแล้วพยักหน้าให้เดินตาม

“แมว” ผมชะงักเท้าแล้วหันไปตามเสียง เกียร์เดินหัวเกรียนเหมือนนักเรียนนายร้อยมาหา

“หือ ครับ?” ผมส่งผ้าเช็ดหน้าไปให้ นี่ขนาดเช้าตรู่ขนาดนี้ร่างกายยังขยันผลิตเหงื่อได้อีกนะ

“ไปนั่งด้วย” มันรับมาแล้วเช็ดปื้ดๆไม่ได้กลัวว่าหนังหน้าจะหลุดติดมาเลย ผมเห็นแล้วขัดใจอยากจะเช็ดให้นะแต่ติดที่ว่าคนอยู่เยอะ เลยต้องส่งสายตาปรามไปให้มันเช็ดดีๆ

“คุณได้นั่งคันที่สองนิครับ ที่นั่งไม่พอเหรอ”

“เออไอ้ห่านี่ จะไปกวนเจ้าชายทำไมนักหนา เดี๋ยวเขาก็อึดอัดหรอก ระวังโดนทิ้งกูไม่ช่วยนะ” พัตครับ ถ้ามึงจะเดินดุ่มๆมาจิกกัดขนาดนี้ ค่อยๆซอยเท้ามาก็ได้ จะได้ยืดเวลาชีวิตให้อยู่นานขึ้น

“ไปๆ กลับเผ่าเราได้ละ” มัดเดินมาลากแขนคุณน้ำแข็ง แต่รายนั้นก็ไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหนเอาแต่จ้องรอคำตอบจากผม ขนาดตัวมัดกับเกียร์เกือบจะพอๆกันเลยนะยังลากให้มันขยับไม่ได้เลย ไอ้คุณน้ำแข็งร้อยกิโลเอ๊ย

“นั่งแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง ไปเถอะครับ” ผมยิ้มให้แล้วบีบมือมือใหญ่เร็วๆก่อนจะคลายออก พวกผมไม่ได้แสดงออกในที่สาธารณะกันมากสักเท่าไรเพราะยังให้เกียรติสถานที่อยู่(เหรอวะ)

เกียร์ถอนหายใจก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ ยื่นเสบียงถุงใหญ่มาให้ แต่ผมก็แบ่งให้มันเอาติดมือไปบ้าง จากนั้นก็เดินไปหาบอสที่ตะโกนเรียกอยู่หน้าประตูรถนานแล้ว

ขึ้นไปในรถก็ทำเอาเกือบเซ ไม่ใช่เขาออกรถกะทันหันหรอกนะครับ แต่เป็นเพราะภายในรถที่ตกแต่งเหมือนผับไม่มีผิด คือตอนแรกผมมองแว้บๆก็เห็นเพียงรถบัสพัดลมผมยังโอเค แต่ไม่คิดว่าข้างในจะแต่งไฟ แสง สี เสียงเต็มขนาดนี้ เล่นเอากูตึ้บเลย

“มึงว่าเราขึ้นถูกคันหรือเปล่าวะ” เนมกระซิบเสียงดังแข่งกันเพลงในรถ พอเท้าพวกผมสัมผัสกับพื้นรถเท่านั้นละ ดีเจแม่งเปิดเพลงกระหึ่มทันที แกล้งพวกกูหรือเปล่าวะ

“กูว่าผิด เราแม่งหลงมาเธคชัวร์” คลื่นตอบ

“นั่งแถวไหนดีวะ” ผมถาม

“ด้านหน้า!/ด้านหน้า!/ด้านหน้า!/ด้านหน้า!” เสียงประสานประหนึ่งวงออเคสตร้าดังก้องไปในแก้วหูผมเลย ไอรักอยู่ใกล้แค่นี้จะตะโกนทำไมกันครับคุณเพื่อน

“ห่า กูบอกว่าจองไว้ให้แล้ว มานี่เลยพวกมึง” ไอ้คิมเดินนำไปที่นั่งด้านหน้าของรถ

“นั่งเลยคร๊าบนั่งเลย ใครนั่งคนสุดท้ายเต้นไก่ย่างนะคร๊าบบ” เสียงแหบเหน่อๆคล้ายโฆษกแถวภูมิภาคบ้านเกิดพูดเสียงดังโดยไม่ต้องใช้โทรโข่ง แจ๋วมากครับพี่

“อย่าช้าครับเดี๋ยวโดนเจ๊ส้มจี๊ดกินตับกันนะ มีลูกบอกลูก มีหลานบอกหลานกันด้วยครับ คนข้างหลังหาที่ว่างๆแล้วนั่งก่อนนะ ทีมงานจะเริ่มนับจำนวนคนแล้ว”

“แอร๊ย อะไรกันยะฉันนั่งอยู่ดีๆแวะมากัดฉันซะงั้น คนที่ยืนเป็น..ตอๆ..แสดงว่าเขารอฉันไปสนองหรอกยะ เนอะพ่อหนุ่มทั้งหลาย” เสียงแตกหนุ่มหรือแตกสาวไม่รู้ดังแปดหลอด เท่านั้นละ คนที่หาที่ลงไม่ได้ก็วงแตกอย่างกับนกแตกรัง

พอนั่งที่กันครบเรียบร้อย เกือบสิบนาทีรถก็เคลื่อนตัวมุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทาง อย่าถามว่าในรถของผมตอนนี้เป็นอย่างไรนะ บอกได้สองคำว่า รั่ว..เละ

ฝ่ายนันทนาการมาพร้อมกับแสง สี เสียงในรถได้สักประมาณครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นก็เป็นช่วงแนะนำตัวเองกัน ส่วนใหญ่คนที่มาจะเป็นผู้ชายมากกว่าเพราะโครงการนี้ใช้แรงงานครับ ฮ่าๆ เด็กแพทย์มากันสิบสองคน ส่วนที่เหลือจะเป็นคณะวิทยาฯ คณะนั้นเขามาเยอะกว่าเราพอสมควร เด็กแพทย์จึงต้องนั่งนิ่งๆเพราะเดี๋ยวไปเหยียบเส้นใครแล้วจะเหลือกลับไปไม่ถึงห้าคน

“ว๊ายยยยย เจ้าชาย แก๊ๆๆๆๆเจ้าชายมาค่ายนี้ อุ้ย สวัสดีค่ะเจ้าชาย หนูชื่อเมย์นะคะ คือหนูปลื้มพี่มากเลย เรียนก็เก่งหน้าตาก็ดี ไม่รู้ว่ามีเคล็ดลับอะไรในการสอบไหม หนูอยากจะเก่งเหมือนพี่บ้าง เอ๊ะ แต่ทำไมหนูไม่เคยเห็นพี่ไปรับน้องเลยอะคะ พี่ไม่ค่อยว่างเหรอคะ” น้องผู้หญิงคนหนึ่งกระโดดมาทำตาวิบวับ น้ำเสียงตื่นเต้นจนผมแอบผวาไปชั่วครู่

“อ่า สวัสดีครับ เอาคำถามไหนก่อนดีละ” ผมยิ้มขำแล้วตอบคำถามน้องทีละคำถามอย่างใจเย็น

รถบัสเดินหน้าเพื่อไปสู่จังหวัดปราจีนบุรี โครงการที่ผมร่วมนั้นไม่ได้มีแค่มหาวิทยาลัยที่ผมเรียนอย่างเดียวนะครับ เขาจับมือร่วมกันกับอีกมหาวิทยาลัยหนึ่งเพื่อสร้างโรงเรียนให้ถิ่นทุรกันดาร ดูจากสปอนเซอร์และแบบพิมพ์เขียวของตัวโรงเรียนที่คิมเอามาให้ดูแล้วผมว่าโครงการนี้คงสร้างกันใหญ่พอสมควร

“โอ้ยๆ ปวดฉี่ว่ะ” เสียงเนมโอดโอยเสียงดังมาจากเบาะข้างหน้าผม

“ทนหน่อย ไอ้ประธานหัวแหลมมันบอกจะดิ่งตรงไปไม่หยุดแวะข้างทางเลยจะได้ถึงไวๆ” เสียงคิมตอบ พอดีรถที่ผมนั่งไม่มีห้องน้ำครับ แต่ถ้าเป็นผมถึงมีก็ไม่ค่อยอยากเข้านะนอกจากจะอั้นไม่ไหวจริงๆ เพราะก่อนหน้านี้ ตอนผมวัยรุ่นคึกคะนองอยากลองอะไรใหม่ๆก็เคยขึ้นรถบัสครั้งหนึ่งกับพวกเพื่อนๆผมนั่นละครับ ตอนนั้นผมจำได้ว่าดื่มน้ำไปเยอะมากจนปวดฉี่เลยลงไปเข้าห้องน้ำ แต่พอเปิดประตูเข้าไปเห็นโถส้วมเท่านั้นละปิดแทบไม่ทัน งูเขียวงูเหลือมแม่งยั้วเยี้ยแย่งกันลงหลุมให้พล่าน จากนั้นผมเลยตัดสินใจไม่อยากลองนั่งรสบัสแล้วเข้าห้องน้ำในนั้นอีกเลย ทุกวันนี้ถาพนั้นยังติดตาผมอยู่เลยครับ

“ไอ้รัก มีอะไรกินบ้างวะ ปวดฉี่ว่ะต้องหาอะไรไปดูดน้ำจะได้หายปวด อิอิ” ไอ้แม้วเผือกหันหน้ามาชะโงกดูถุงขนมข้างตัวผมแล้วทำตาลุกวาว

“เอาขวดน้ำไปรองฉี่มึงก่อนไหมละ ขนาดของมึงน่าจะใส่ปากขวดได้อยู่” ผมชูขวดน้ำขนาดมาตราฐานขึ้นแล้วยักคิ้วอย่างกวนๆ

“เชี่ย ของกูต้องใช้ตุ่มน้ำโน่น แม่งใหญ่เกิน ขวดเล็กๆเก็บไม่อยู่หรอก กร๊ากกก”

ไทป์ที่นั่งข้างผมตื่นขึ้นมาปาลูกอมใส่หัวเนมอย่างจัง ก่อนจะหยิบขนมส่งไปให้

“เอาไปแล้วนั่งดีๆ กูขี้เกียจฟังเสียงมึง”

ไอ้เนมหดหัวหน้าหงอยแต่ก็หันไปนั่งดีๆ ไม่วายยังได้ยินเสียงฮื้อๆๆดังขึ้นเป็นระยะ สะตอชัดๆเพื่อนเอ๋ย

ฝ่ายสันทนาการกลับมาอีกครั้งพร้อมภัยพิบัติที่มาเยือนผม ทำไมต้องเจาะจงเรียกผมไปเต้นเพลงสับปะรดด้วยไม่เข้าใจ ไม่ใช่แค่ผมนะครับยังมีแพทย์อีกสองคนกับเด็กวิทยาฯสี่คนยืนเบียดๆกันข้างหน้าเพื่อเต้นตามที่สั่ง ผมโคตรอายเลย นั่งก็นั่งคนแรกๆดันโดนแกล้งอีก ไอ้เพื่อนเวรก็โห่แซวกันอยู่ได้ ญาติใครบวชเหรอวะ!

กว่าจะถึงที่หมายก็ทำเอาผมหมดยางอายไปเลย แถมสนิทกับคนที่ออกมาเต้นด้วยกัน แพทย์สองคนนั้นผมรู้จักดีเพราะเป็นรุ่นพี่ ส่วนเด็กวิทยาฯพึ่งรูัจักกันชื่อ มิน มาร์ค สน เกิ้ล เห็นว่าคนชื่อมินกับมาร์คจะเป็นพี่น้องกันนะครับ หน้าตาคล้ายกันอยู่ สนจะสูงๆใส่แว่นเหมือนเด็กแก่เรียน แต่นิสัยกวนตีนสุดๆ ผมหันไปคุยตอนเต้นนี่หันกลับแทบไม่ทัน ไม่ใช่อะไรมันเป่าลมปากใส่ผมทั้งที่ตอนนั้นยังไม่รู้จักกันเลย อุบาทมาก ส่วนเกิ้ลจะตัวเตี้ยๆอ้วนๆ คุยแล้วนิสัยน่ารักดี น่าหยิกพวงแก้มขาวๆด้วยคงมีเชื้อจีนมากไปหน่อยเหมือนอาแปะร้านขายของชำเลย

“เอ้าทุกคน มาต่อเป็นแถวตอนลึกนะ ผมจะเริ่มนับจำนวนคนแล้ว” หัวหน้าใช้โทรโข่งพูดเมื่อเห็นว่าทุกคนขนของลงมาเรียบร้อยแล้ว

ผมกวาดสายตาออกไปมองพื้นที่โล่งขนาดใหญ่ มีแค่อาคารไม้ขนาดเล็กกับเสาเข็มต่างๆในพื้นที่ และสนามฟุตบอลขนาดย่อม นอกนั้นโล่งเลยครับ รอบข้างมีแต่ทุ่งหญ้ากับคลองน้ำเล็กๆ ก่อนจะมาถึงผมเห็นบ้านคนประปรายนะแต่ระหว่างทางไม่มีโรงเรียนให้เห็นนอกจากโรงเรียนนี้เลย

“เดี๋ยวเราจะเอาของไปเก็บกันที่อาคารตรงหน้าก่อนนะครับ วันนี้เราจะต้องนอนที่นั่นกัน หนึ่งห้องจะมีพัดลมตั้งอันใหญ่หนึ่งอัน แต่นอนประมาณสามสิบคน” สิ้นเสียงนี้ทุกคนร้องโห่กันใหญ่ อะไรของพวกมันกันวะ อยากจะมาทำกันจริงๆหรือใครเกณฑ์มาหรือเปล่านี่

“ไม่ต้องห่วง ถ้าใครอยากนอนโดนพัดลม เรามีเก้าอี้ยาวเอาไว้ให้ประมาณสามสิบตัว ใครจะเอายกมือครับ” มีคนกล้ายกประมาณหกคน

“โอเคครับ งั้นคนที่ยกมือมายกเก้าอี้ขึ้นไปบนห้องนะ ส่วนรายละเอียดวันนี้...” แล้วประธานก็พูดรายละเอียดของวันนี้ยืดยาว

“มึงว่าประธานเป็นหรือเปล่าวะ” ไอ้เนมกระซิบถาม

“เป็นอะไรอะ” ผมถามกลับอย่างงๆ

“โหไอ้ซื่อ ก็เป็นเกย์ไง”

“เฮ้ย ไม่มั้ง” ผมตอบแล้วหันไปมองประธาน ไม่เห็นจะมีอะไรบ่งบอกว่าเป็นเกย์เลยนี่หว่า

“แต่กูว่าเป็น เชื่อดิ”

“ทำไมกูต้องเชื่อมึงด้วยวะ ไร้สาระ”

“ผมจะนัดพวกคุณอีกทีตอนสิบโมงตรงนะครับ ใครมาสายโดนทำโทษ เอาละ แยกย้ายกันไปเก็บของได้เลยครับ”

ผมเดินเอื่อยขึ้นไปตามฝูงมนุษย์ที่พากันวิ่งกรูขึ้นไปจองที่กัน ไทป์บอกให้เลือกเดินไปห้องริมสุดดีกว่า เป็นห้องที่ไม่มีใครแย่งเพราะไม่ค่อยมีใครสนใจจะนอนสักเท่าไร แต่เปิดไปก็เจอกลุ่มเกียร์และคณะอื่นที่ไม่รู้จักประมาณสิบกว่าคนกำลังปูเสื่อกันอยู่

“อ้าวเจ้าชาย มึงมาทำอะไรวะ ไม่มีที่แล้วโว้ย ไปไป๊” คุณพัตทักทายและเชื้อเชิญตามประสาคนสนิทชิดเชื้อ เกียร์กำลังง่วนกับการจัดของอยู่ก็หันมามอง

“ห้องเต็มแล้วเหรอครับ งั้นผมไปดูห้องอื่นก่อนนะ” ผมพูด เกียร์ปาขันใส่หัวพัตก่อนจะเดินมาหาผม

“ปูไว้ให้แล้ว” มันพูดแล้วจูงมือให้เข้าห้อง เกียร์ปูผ้าให้สองที่เรียบร้อย ส่วนข้างซ้ายเป็นของที่มันวางจองให้เพื่อนผม ด้านขวาเป็นที่นอนของเพื่อนเกียร์

“แล้วคุณสาไปนอนกับใครเหรอครับ” เขาติดป้ายกำกับเอาไว้ว่าห้องด้านซ้ายเป็นของผู้ชาย ส่วนอีกด้านเป็นของผู้หญิงน่ะครับ

“เพื่อนในเอกนั่นละ มันสนิทกันไม่ต้องห่วง” มัดพูดขึ้น ผมพยักหน้าแล้วหันไปมองเนมที่ยุกยิกอะไรกับผ้าพันคอมาสักพักหนึ่งแล้ว

“กูบอกแล้วใช่ไหมว่ามันร้อนๆ ไม่เคยเชื่อ”

“เดี๋ยวมันก็หนาวแล้ว มึงก็ไม่เชื่อกู”

“เออไอ้ห่า กว่าจะหนาวมึงก็ร้อนตับแตกก่อนพอดี เอาไว้ค่อยใส่ตอนกลางคืนโน่น” ไอ้คิมจับพร๊อบเสริมออกจากตัวไอ้เนม มันก็ยอมอยู่นิ่งโดยดี คงร้อนจริงๆละครับ

“อ้าวหนูไอรักเอวดีลีลาเด็ด” ผมมองไปตามเสียง เห็นเด็กวิทยาฯกลุ่มใหญ่กำลังเดินผ่าน คนพูดคงเป็นคุณสนที่ทำท่ายียวนกวนประสาทอยู่

“....” ผมถลึงตาใส่มัน ถ้าไปพูดที่อื่นไอรักก็ไม่อายเท่าไรหรอก แต่นี่มันเล่นพูดต่อหน้าเกียร์ ไอรักโคตรอายเลย

“อะไร ปวดตาเหรอหนูไอ มาหาป๋ามามะๆ” อยู่ๆมันก็วิ่งอ้าแขนเข้ามา

“เฮ้ย/เฮ้ย/เฮ้ย/เฮ้ย/เฮ้ย/เฮ้ย/เฮ้ย/เฮ้ย/เฮ้ย/เฮ้ย” เพื่อนเกียร์กับเพื่อนผมเฮ้ยกันเสียงดังแล้วเอาตัวบังตัวผมกันหมด คนอื่นมองมาเพราะตกใจ

“เฮ้ย อะ อะไรวะ” ขนาดสนยังตกใจกลัวเลยครับ

“เปล่าโว้ย อย่าไปกอดมันๆถ้าไม่อยากชะตามึงขาดก่อนกำหนด” เนมรีบพูดใหญ่

“หา? ทำไมอะ” มันถามเสียงดังอย่างงงๆ

“เออน่า ไปๆมึงอะ” คิมช่วยไล่อีกทาง

“อ๋อ หนูไอรักเป็นเจ้าชายนี่หว่าลืมไป หึหึ เออๆป๋าไม่กวนละ ไม่อยากโดนแฟนคลับหนูกระทืบไส้แตกว่ะ ฮ่าๆๆ” มึงเข้าใจผิดแล้วเพื่อน พวกมันกลัวว่าคุณน้ำแข็งจะเอาหมัดเมาไปประทับบนหน้ามึงละสิ

“มันเป็นใคร” พอสนเดินออกไป เกียร์ก็ถามทันที

“เพื่อนคณะวิทยาฯน่ะครับ”

“สมัยเด็ก?”

“เปล่าครับ พึ่งเจอกันบนรถบัสนี่ละ” มันเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ ผมเลยพูดต่อ

“แล้วเราต้องเอาอะไรลงไปบ้างเหรอครับ” ผมไม่ทันได้ฟังตอนที่เขาบอกรายละเอียดเมื่อตอนเช้า ไอ้เนมดันสะกิดชวนคุยพอดี

“เอาแค่ของมีค่าไป เดี๋ยวเขานัดรวมกันไปกินข้าวแล้วก็เริ่มสร้างโรงเรียนแล้ว” เนแว่นได้ยินจึงอธิบาย ไอ้คนที่ผมถามก็นั่งเป็นใบ้มานานละ คิดอะไรของมันอยู่ก็ไม่รูู้

“แล้วอีกมหาลัยมาหรือยังอะ มันจะนอนกันพอเหรอวะ เห็นว่าคนเยอะกว่าเราอีกไม่ใช่เหรอ”

“คงใกล้ถึงแล้วมั้ง พอจำนวนคนอยู่แล้วละ กูเห็นเขาแบ่งให้อีกโรงเรียนหลายห้องอยู่ แล้วนี่เราก็อัดห้องละตั้งสามสิบคน ไม่พอก็ต้องพอละว่ะ” คิมตอบมัด มันสนิทกันเพราะอยู่ชมรมเดียวกันไงครับ แต่เพื่อนผมกับเพื่อนเกียร์ก็เริ่มสนิทกันแล้วนะ เห็นว่าบังเอิญเจอกันที่ผับบ่อยๆ ตอนแรกก็มาทักทายเพราะเป็นเพื่อนเกียร์ แต่หลังๆนี่ซี้กันประหนึ่งเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยประถม

“งานนี้อาคารมีทรุดนะกูว่า”

“ปากเสีย เพราะน้ำหนักตัวมึงละสิอาคารถึงพังได้อะ” คิมหันไปพูดกับเนม ผมว่าไอ้คิมมันปากเสียกว่าอีกนะครับ

“มึงจะเริ่มปูเสื่อกันหรือยัง หรือจะให้กูเอารองเท้ายัดปากพวกมึงก่อนถึงจะหยุดพูดแล้วเริ่มทำกันได้” ไทป์นั่งปูผ้าก็หันมาบ่นทั้งสองคน คนอื่นก็คุยกันนะครับ แต่เขาคุยไปทำงานกันไป ไม่เหมือนไอ้สองตัวนี้ หยุดทำทุกอย่างเพื่อเถียงกันโดยไม่รู้จะสิ้นสุดเมื่อไร

“มันนิ่มหรือยัง” เกียร์จิ้มไปที่นอนผม ตอนนี้ผมช่วยบอสปูผ้าอยู่น่ะครับ บอสนอนติดกับผม

“แค่นั้นก็พอแล้วครับ มีที่ให้นอนผมก็อยู่ได้แล้ว” ผมเงยหน้าขึ้นตอบ พอช่วยคนอื่นปูเสร็จผมก็ไปนอนใกล้ๆเกียร์

“เกียร์พามาลำบาก..”

“อย่าทำหน้าจ๋อยอย่างนั้นสิ ผมเป็นคนชวนคุณมาเองนะ ต้องเป็นคนกังวลกลัวคุณนอนไม่สบายสิ” ผมพูดแล้วอมยิ้มกับความน่ารักของมัน

“มากกว่านี้เกียร์ก็เจอมาแล้ว” มันพูดข่มแล้วยักคิ้วด้วยใบหน้านิ่ง

“อะโด่ ใครจะเก่งสู้คุณเกียร์ลูกเจ้าของอู่รถได้ละครับ ไหนๆดูมือหน่อย บ๊ะ! ด้านขนาดนี้ทำงานหนักชัวร์!” ทำเป็นพลิกมือใหญ่ไปมาแล้วแกล้งพูดออกไป ความจริงมันไม่ได้สากขนาดนั้นหรอกครับ แต่ก็มากกว่าผมอยู่มากโขละนะ

“หึ ไหน เอามาดูบ้าง” มันล้มตัวนอนที่ตัวเองแล้วเขยิบมาชิดผม คลี่ผ้ามาห่มเราทั้งคู่ก่อนจะประสานมือกันใต้ผ้านวมนุ่ม

“ก็เหมือนกันนั่นละ มือผมใหญ่จะตาย” ผมเคยชอบเล่นบาสมาก่อน มันก็สากๆใหญ่ๆอยู่เหมือนกัน

“ไม่เห็นใหญ่ นุ่มนิ่มด้วย” มันพูดแล้วยกมือที่จับกันอยู่ขึ้นมาหอมเร็วๆ ผมถลึงตาใส่คนขี้ทะลึ่ง คนตั้งเยอะตั้งแยะยังกล้าหื่นอีกนะมึง

“ผมเป็นผู้ชายนะ จะนุ่มนิ่มได้ไงเล่า”

.
.
.
.
.
หัวข้อ: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่33 ออกค่ายกันคับคั่ง* [18/05/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 18-05-2014 15:18:44
.
.
.
.
.



“เอ่อ พวกมึงสวีทกันเสร็จหรือยัง ถ้ายังไม่เสร็จกูจะได้ไปกินข้าวก่อน” เสียงพัตพูดอยู่เหนือหัว ผมรีบผละตัวออกแล้วยิ้มแหยๆ ลืมตัวไปเลยนึกว่าอยู่บ้านตัวเอง

“ไหนๆๆ พวกมึงสวีทอะไรกันเหรอ กูไม่ทันเห็นงะ แงๆๆๆ พลาดช็อตเด็ด ทำไมมึงไม่เรียกกูวะพัต” เนมร้องงอแง

“อ้าว ผิดที่กูเหรอวะ คราวหน้าเดี๋ยวกูบอกแล้วกัน” คราวหน้าอะไรเล่า ไม่มีแล้วโว้ย

“มึงไม่ต้องไปบ้าจี้ตามมันหรอก ไอ้เนมมันบ้า” คลื่นพูด พิชกับคิมรีบพยักหน้าเห็นด้วยอย่างแรง

“จะได้เวลานัดแล้ว ลุกๆ”

ไทป์ไล่ให้ทุกคนลุกเพื่อลงไปข้างล่าง ที่นี่ไม่มีโรงอาหาร มีแต่เก้าอี้ไม้ที่อยู่ตามเงาต้นไม้ไม่กี่ต้น พวกผมจึงต้องช่วยกันกางเต็นท์ผ้าใบสีขาวขนาดใหญ่จำนวนสี่เต็นท์กลางสนามหญ้าที่ค่อนข้างแห้งแร้ง ผู้ชายบางส่วนไปขนโอ่งเพื่อรองรับน้ำเอาไว้อาบน้ำ ส่วนผู้หญิงเขาก็กระจัดกระจายกันไปทำอาหารหม้อใหญ่ให้ทานบ้าง ไปยกหนังสือเรียนที่รถทัวร์เพื่อมาใส่ห้องสมุดบ้าง

“เฮ้ยไทป์ มันต่อยังไงวะ กูงงอะ” เสียงเนมตะโกนถาม ในมือถือเหล็กที่เป็นชิ้นส่วนของเต็นท์

“คลื่น ช่วยมันดูหน่อย” บอสพูด เพราะเรื่องกางเต็นท์มันเก่งมากครับ มันกางได้ทุกเต็นท์อะ ไปนอนกางเต็นท์ที่ไหนก็มีคลื่นนี่ละที่ช่วยให้งานไวขึ้น เมื่อกี้เห็นมันช่วยส่วนของบอสอยู่

“ไหนๆ” คลื่นปาดเหงื่อแล้วเดินไปช่วยเนม ผมมองพวกมันครู่หนึ่งแล้วหันมางงกับส่วนของตัวเองต่อ

“ทำได้ไหม” เสียงเกียร์ดังจากข้างหลังเล่นเอาสะดุ้งเลย ทำไมคุณชอบมาเงียบๆวะคุณน้ำแข็ง ไอรักยิ่งเป็นคนขวัญอ่อนอยู่ กร๊าก

“กำลังพยายามอยู่ครับ ตัวนี่ต้องต่อแบบนี้เหรอ”

“อืม” มันพูดแล้วช่วยต่ออีกด้าน

“แล้วเมื่อกี้ไปไหนมาเหรอ” ผมถาม เห็นมันเดินไปกับเนแว่นแถวหน้าอาคารเรียนที่ตอนนี้กลายเป็นห้องนอนของพวกเราไปแล้ว

“ไปช่วยฝ่ายทำอาหารมา”

“แล้ววันนี้มีอะไรทานบ้างเหรอครับ” มันกระตุกยิ้มขำใหญ่ อะไรละ แค่ถามเอง

“ต้มข่าไก่ ข้าวต้มหมูกับไก่ ข้าวผัด ยำปลากระป๋อง ไข่เค็ม ไข่เจียว บัวลอยไข่หวาน”

“ผมเห็นทำหลายหม้อเลย จะทานกันหมดเหรอ”

"ให้มหาลัยอื่นด้วย ..ต่อผิดแล้ว"

"โอ้ะ" ก้มลงดูก็ผิดอย่างที่มันว่าจริงๆ เลยนั่งต่อใหม่จนเสร็จ เกียร์ก็โดนโฟ่เรียกตัวไปช่วยงานส่วนอื่น

ผมเดินไปหยิบแก้วน้ำพลาสติกที่ต้องเจาะดูดแล้วเอาไปให้เกียร์ก่อนที่จะแยกกันออกมา แล้วผมก็เดินไปหยิบน้ำอีกครั้ง คราวนี้เอาไปเผื่อเพื่อนๆด้วย แล้วก็เดินไปหาพวกไอ้เนมที่ริมคลอง เห็นมันปูเสื่อนั่งเล่นกันอยู่ งานตัวเองเสร็จแล้วสบายเชียวนะมึง

"ทำอะไรกันวะไม่ไปช่วยเขา"

"เย้ย สัตว์ ตกใจหมดนึกว่าไอ้ประธานหัวแหลม" ดูๆ ไปว่าเขาอีก เขาแค่ซื้อเจลมาตุนเยอะเลยเผลอใช้มากไปหน่อยเท่านั้นเอง

"กูฟ้องประธานแน่" ผมพูด เนมเบะปากแล้วมุบมิบว่าขี้ฟ้องๆ อยากเตะกบาลมันจริงๆ

"โห หยวนๆให้กูหน่อยเถอะ ไหนๆขุ่นพี่ขอกินน้ำหน่อย" ไอ้เนมคนเดิมพูด ทำหน้ากรุ่มกริ่มกวักมือเรียกยิกๆ ผมเดินไปหาแล้วยื่นน้ำให้อย่างงงๆ ไอ้เนมไม่ยื่นมือมารับ แต่ดันยื่นตีนมาถีบผมเต็มเอว

"เชี่ยยย!" ผมตัวเซไถลลงคลอง เผลอปล่อยแก้วน้ำพลาสติกจนหล่นกระจุยกระจาย เสียงน้ำกระเซ็นเสียงดังจนคนอื่นหันมามองกันเป็นตาเดียว

"ฮ่าๆๆๆๆๆๆ" พวกเพื่อนผมที่นั่งอยู่หัวเราะจนเห็นลูกกระเดือก

"ไอ้พวกเวร ไม่มีเชี่ยอะไรทำหรือไงวะ ถีบมาได้ …."

ผมด่าไม่หยุด แต่พวกมันไม่ได้สนใจคำสาดเสียเทเสีย กลับหัวเราะเข้าไปใหญ่อีก ดีนะที่น้ำตื้นกูเลยยืนด่าได้ แต่เมื่อกี้เผลอกลืนไปหลายอึกแถมน้ำที่โคตรเย็นเข้าหน้าเข้าตาเล่นเอาผมเกือบตาย

"ไอรัก" เสียงเรียกดังขึ้น ผมหยุดด่าแล้วหันไปมอง เห็นเกียร์หน้าทะมึนเดินลิ่วๆมาหา

"เหี้ยละ พ่อมันมาว่ะ.." ไอ้ตัวต้นเหตุครางออกมาเบาๆแล้วค่อยๆกระดึ้บ..กระดึ้บ..

"มึงจะไปไหนวะ เดินดีๆสิ ทำตัวเป็นหนอนไปได้" เสียงคลื่นถาม ไอ้เนมสะดุ้งโหยงแล้วหันไปชู่ปากใส่

ผมว่ายไปเกาะริมคลอง โบกไม้โบกมือยกตัวขึ้นฝั่งเพราะเห็นเกียร์ทำท่าจะลงมาช่วย

"ลงไปทำไม ถ้าไม่สบายจะทำยังไง ทำไมไม่ดูแลตัวเองบ้าง อย่างนี้ทีหลังจะไม่ปล่อยให้ดื้อไปไหนมาไหนอีกแล้วนะ" ผมหงอเลย ได้ยินเสียงดุแบบนั้น

"..ผมไม่ได้อยากลงสักหน่อย" ผมแย้งอุบอิบ

"มึงอะไอ้เนมตัวดีเลยไปถีบไอ้รักเสียเต็มแรง อย่างนี้ทำไมไม่ถีบขาคู่ให้นอนโรงพยาบาลไปเลยละวะ กร๊าก" คลื่นหัวเราะท่ามกลางเพื่อนที่นั่งหน้าเจื่อน ไอรักว่าจะไม่พูดแล้วนะ แต่พอคลื่นพูดเท่านั้นละ แม่งรู้ทุกเม็ดทั้งเหตุการณ์เลย

เกียร์ปรายตามองตัวการที่นั่งท่าคลานยิ้มแหยๆ เดินเข้าไปแล้วง้างมือขึ้นจ้องจะตบกบาลเนมเต็มที่

"เฮ้ยๆเดี๋ยวๆๆ อย่าฆ่ากันน อย่าฆ่ามันน" เสียงคิมกับเนมร้องขึ้น คิมเอามือไปป้องหัวเนม

"เกียร์ อย่าทำรุนแรงกับเพื่อนผมนะ" ผมรีบเดินไปคว้าแขนหนาแล้วลากออกห่าง

“แง้ เค้าขอโทษษษ”

"กูดูแลของกูตั้งนานไม่เคยให้เจ็บให้เปรอะ แล้วนี่อะไร หันมาอีกทีลอยคอเป็นแมวน้ำเปื้อนโคลนแบบนี้ สัตว์เอ๊ย!" เกียร์ฟิวส์ขาด บ่นยาวเสียงดังกังวานจนเพื่อนผมตะลึงกันใหญ่เพราะเคยเห็นมันพูดยาวอย่างนี้เป็นครั้งแรก เกียร์มองเนมเขม็งแต่มือเอื้อมมาบิดชายเสื้อผมให้หมาด

“กกู กูขากระตุกงะ แงๆๆๆ จริงๆนะ” ปากไอ้เนมเริ่มเบะ ดิ้นเร่าๆหันไปฟ้องคนโน้นคนนี้จนคนอื่นแอบหัวเราะ

“มึงอะผิดเต็มๆ ได้เรื่องแล้วไงละ ชอบไปแกล้งมันนัก” พิชดุไม่จริงจัง

ผมเดินไปผลักตัวไอ้เนมเล่นๆ แต่ไอ้พิชดันถีบเนมตกคลองเสียงดังตู้มเล่นเอาคนที่อยู่บนบกหัวเราะจนน้ำตาเล็ดกับท่าทางเหมือนสุนัขตกน้ำของมัน คือเนมมันลอยตัวได้อย่างเดียว แต่เรื่องว่ายน้ำให้เป็นท่าสวยๆแบบคนอื่นมันทำไม่เป็นครับ จะว่าไปตอนแรกผมเป็นคนน่าสงสารไม่ใช่เหรอ ทำไมไปๆมาๆกลับเป็นเนมไปได้ เล่นเอาผมมึนไปเลย

ผมล้มนั่งบนเสื่อแต่โดนไอ้คิมไล่เพราะผมยังตัวเปียกอยู่ นี่กูโดนถีบแล้วยังโดนไล่อีกเหรอ โลกนี้ไม่ยุติธรรมเลยให้ตาย

แรงกระตุกที่มือทำให้ผมต้องหันไปมอง เห็นคุณผู้ชายหน้าบึ้งรั้งให้ผมยืนยิกๆ ถ้าผมเดาไม่ผิด..

“ไปเปลี่ยนเสื้อ” นั่นไง คุณน้ำแข็งจอมสั่งกลับมาอีกแล้ว

“หื้อ เดี๋ยวมันก็แห้งครับ” ผมตอบแล้วรั้งให้มันมานั่งด้วยกัน แต่อีกคนขืนตัวไว้

“เดี๋ยวไม่สบาย โรงพยาบาลแถวนี้ไม่ใช่ใกล้ๆ”

“ผมหนังหนาจะตายคุณ โดดน้ำอีกสักสิบครั้งก็ไม่เป็นหวัดหรอก” ผมพูดกวนๆ แต่อีกคนกลับไม่เล่นด้วย สีหน้าจริงจังมากจนผมต้องบู้ปาก ชอบทำหน้าดุจังวะ แค่เห็นหน้าคนเขาก็กลัวจนขี้ขึ้นสมองแล้ว

“ใช่ๆ นานๆทีไอ้นี่มันจะเป็นไข้ที ไม่ต้องเป็นห่วงมันหรอก” คิมพูดได้ดีมาก

“แต่เป็นทีเป็นหนัก อาการทางจิตก็หนัก” ไอ้ไทป์เสริมต่อ อยู่ข้างใครกันแน่วะ ด่ากูซะงั้น

“ลุก” ผมยิ้มแหยให้กับคนที่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ลุกขึ้นเดินตามหลังกว้าง เกียร์ปิดประตูบานยาวสูงทั้งหน้าห้องและหลังห้องแล้วยื่นผ้าขนหนูให้ผมซับน้ำที่เกาะบนตัวแล้วสั่งให้เกียร์หันหน้าไปทางประตูจะได้จัดการเปลี่ยนเสื้อ ดีนะที่น้ำคลองสะอาดใสแจ๋วจึงไม่ต้องไปล้างเนื้อล้างตัวอีก

พอเสร็จเรียบร้อยแล้วผมกับเกียร์ก็เดินลงมาสมทบคนในมอที่นั่งไม่ก็กำลังยืนดูหมู่คณะอีกมหาลัยกำลังสันทนาการอย่างหัวเราะชอบใจกันใหญ่ เห็นแล้วขำไม่ออกว่ะ นึกภาพตอนที่ตัวเองโดนแกล้งบนรถแล้วนึกสงสารมากกว่า

“แจวเรือจะไปซื้อของ แจวเรือจะไปซื้อของ..ขอเชิญไทยมุงลุกขึ้นมาแจว” ฉิบหายพวกกูแล้วไหมละคนสันฯ ผมที่พึ่งจะหย่อนก้นลงพื้นปูนก็ต้องรีบลุกขึ้นมาแจวอีก หันไปมองอีกคนที่นั่งนิ่งเป็นสากกะเบือก็รู้สึกหมั่นไส้ แม่ง เขาแจวกันหมด มีไอ้คุณน้ำแข็งที่ไม่เกรงกลัวอยู่คนเดียว ผมเลยแกล้งทำเป็นเต้นไปเหยียบเท้ามันจังๆ แต่สากกะเบือก็คือสากกะเบืออยู่วันยันค่ำ หันมาเลิกคิ้วมองผมเหมือนเมื่อกี้โดนฝุ่นเกาะ มึงไม่เจ็บเลยเหรอไอ้คุณน้ำแข็งงง

หลังจากเสียงเฮฮาจบไป ประธานของอีกมหาลัยก็ปล่อยให้ไปเก็บของที่ชั้นบน ก่อนจะนัดสองมหาลัยรวมกันเพื่อแบ่งหน้าที่ให้ชัดเจน และกว่าที่พวกเขาจะตกลงกันว่าจะให้ผมไปอยู่ฝ่ายไหนได้ ก็เล่นเอาคนอื่นยืนรอแทบหลับ ส่วนตัวผมง่ายๆสบายๆอยู่แล้ว จะให้ไปดำน้ำ ดูปะการังอะไรกูก็ไปหมดละ เรื่องไม่มากหรอกเลี้ยงง่าย ขี้อ้อนด้วยนะ อิอิ ไอ้พวกเพื่อนผมกับพวกเพื่อนเกียร์ก็ไปอยู่พวกแบกหามใช้แรงงานกันเพราะตัวแต่ละคนไซส์บิ๊คกันทั้งนั้น หน้าตาก็เข้าข่ายแรงงาน ใช้ได้อยู่ เหมาะสมๆ กร๊าก จะมีก็แต่ไอ้เนมที่ได้ไปช่วยประธานเพราะมันชอบเข้าค่ายทุกเทอมจนรู้จักคนเขาไปทั่ว กับคิมที่อยู่ฝ่ายประสานงาน สาที่เป็นผู้หญิงก็ได้ไปจัดการตกแต่งและย้ายหลังสือเข้าห้องสมุดขนาดย่อม และเนแว่นที่เป็นหอบหืดจึงไม่สามารถช่วยงานหนักๆได้จึงโดนเด้งให้มาอยู่กับผม

“เฮ้ย มึงทาสีเหี้ยอะไรของมึงเนี่ยแต้มเป็นจุดๆ ขาโต๊ะนะโว้ยไม่ใช่อีสุกอีใส ทาดีๆหน่อยสิวะไอ้เชี่ยเน” คุณสนที่อยู่แผนกเดียวกับพวกผมเดินเข้ามาพร้อมผลงานที่เนทำเสร็จแล้วมาบ่นเสียงไม่เบา ผมแทบปล่อยแปลงทาสีด้วยความตกใจกับเสียงทุ้มดังนั่น แต่ดูเนจะไม่ได้สะทกสะท้านแถมยังยียวนตอกด้วยสีหน้ามึนๆไปอีก

“เหรอ ไหนวะ กูว่าละ ไม้นี่แม่งไม่ได้ฉีดยากันเอาไว้แต่เด็กแน่ๆถึงได้เป็นอีสุกอีใสได้” นี่กูขวัญอ่อนจนกลัวเสียงดังๆของสน หรือมึงใจแข็งไม่เคยหวั่นกลัวต่ออะไรเลยวะ

“กวนกูไหมละสัตว์ เอาไปแก้มาใหม่เลย แม่งเสียเวลาคนตอกจริงๆ” สนโยนไม้ให้ข้างตัวเนแล้วเดินบ่นพึมพำออกไป ผมมองทั้งสองคนงงๆแล้วหันกลับมาทำหน้าที่ตัวเอง ความจริงพวกที่จับเรื่องไม้นี่น่าเป็นห่วงนะครับ เพราะมันต้องคอยระหวังหนามเสี้ยนไม่ให้ตำมือ ขนาดผมที่อุตส่าห์หลบหลีกมันอย่างดี ยังโดนไปหลายดอกเลยละ เจ็บจริงๆ

“เน เราขอสีขาวหน่อยสิ ของเราหมดอะ”

“เออเอาไปสิ” เนเงยหน้าไปบอกเกิ้ลที่อยู่คณะวิทยาฯ ที่เคยเต้นบนรถด้วยกันกับผมน่ะ

“ทำไมเนทาไม่มีระเบียบจังเลยอะ แอบสแตรกมาก ถ้าไม่บอกว่าอยู่วิศวะมาก่อน เราคงเข้าใจว่านายอยู่ศิล-กำ” ไอ้นี่มันหลอกด่าเนนี่หว่า หน้าซื่อเหมือนไม่ได้ตั้งใจกัด แต่คำพูดมึงเจ็บมาก

“นายพูดขนาดนี้ก็อย่าอ้อมเลยดีกว่า ด่ามาตรงๆเถอะ” เนพูดแล้วก้มหน้าทำผลงานอาร์ตของมันต่อ

“ฮ่าๆ เราล้อเล่น ดูไปก็สวยดีนะ ตะปุ่มตะป่ำเหมือนลายตุ๊กแกเลย”

“เหี้ยนี่สงสัยจะไม่จบวันนี้พรุ่งนี้” เนพึมพำกับตัวเองเบาๆ แต่ผมที่อยู่ข้างๆได้ยินเต็มสองรูหู

“เราพูดเล่นน่า ความจริงเราชอบตุ๊กแกนะ บ้านเราอยู่ข้างที่รกร้างอะ มีเต็มเลย” ขนาดเนทำเงียบไม่หือไม่อือกับมันแล้วนะ มันยังพูดได้ต่อ คือไอ้แป๊ะนี่มันยังไง

“อืม นายไปทำงานเถอะ เราว่าอีกไม่นานขาเราจะกระตุกไปโดนหน้านายได้อะ” เนพูดเนิบๆ ผมกลั้นขำเอาไว้เพราะเห็นเกิ้ลทำหน้าเอ๋อๆงงๆเหมือนมันไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ผมเคยบอกแล้วว่ามันนิสัยดีน่ารัก แต่ลืมบอกไปว่ามันโคตรซื่อจนเกือบบื้อสุดๆ

“ได้ๆ ขอบใจที่เป็นห่วงเรานะ แต่เนต้องหัดดูแลตัวเองบ้างนะ เราว่าเนต้องหาเวลาไปนวดขาบ้างอะ ยังไงถ้าอยากจะไปก็ปรึกษาเราได้นะ แม่เราชอบนวด คงแนะนำร้านดีๆให้นายได้ เราไปละไอรัก”

“ค่ายนี้มีใครเต็มสักคนไหมวะ แม่ง”

“แต่ผมว่าเกิ้ลเขาก็น่ารักดีนะ”

“น่ารักกับผีดิ คนเหี้ยอะไรซื่อบื้อฉิบ กูละปวดกะโหลกกับมันจริงๆ” ผมยิ้มขำแล้วทำงานไป สักพักใหญ่ก็มีเสียงทุ้มมากวนประสาทอีกละ คราวนี้ไอ้เนถอนหายใจแล้วหันหลังเอาไม้ไปทาอีกทางทันที

“หนูไอรักจ๋าาา จู๊คๆ” จู๊คอะไรของมันวะ ผมหันไปเตรียมจะด่าคนพูดภาษาวิบัติให้แสลงหู แต่ก็ต้องผงะเพราะมีถาดสีขาวที่เต็มไปด้วยแก้วน้ำเจาะดูดยื่นมาจ่อถึงหน้า มึงไม่ยัดถาดใส่ปากกูเลยละครับไอ้เชี่ยคุณสน

“เฮ้ยสน ตกใจหมด”

“ตกใจอะไรวะป๋าออกจะหล่อ เอ้า หยิบไปคนละอัน” ทำไมต้องแทนตัวเองว่าป๋าวะ เงินถึงนักเหรอ ผมยื่นมือไปหยิบน้ำแล้วส่งไปให้เนและเพื่อนต่างคณะต่างมหาลัยอีกหกคน

“อยู่ฝ่ายประกอบของไม่ใช่เหรอครับ มาเป็นคนเสริฟน้ำได้ไงหว่า” ผมถามออกไป

“ก็ไม่ไง ป๋าเดินไปเยี่ยวเสร็จ ผู้หญิงฝ่ายบริการก็วานให้มาเสริฟน้ำฝ่ายทาสี คงเห็นว่าป๋าจะมาแถวนี้อยู่แล้วมั้ง” มันพูดไม่พอ เสือกยื่นหน้ามาดูความคืบหน้าของงานที่ผมทำด้วย ผมก็ไม่อยากจะด่ามันหรอก ถ้ามันไม่ชะโงกมาอยู่ข้างกกหูกูระยะประชิดแบบนี้

“ใกล้ไปครับ เดินมามองดีๆก็ได้” คำด่านุ่มนวลอย่างนี้จะไม่ปรากฎเมื่อผมพูดกับเพื่อนสนิท สนยังพึ่งรู้จัก ต้องซอฟท์เพื่อรักษาภาพพจน์เข้าไว้ครับ หึหึ

“ไอ้เหี้ยนี่สงสัยตาเป็นเม็ดถั่วดำ ศพมึงหายไม่ทันได้ขึ้นอืดแน่”

“อะไรของมึง บ่นห่าอะไรอยู่คนเดียว บ้าแหงเลยว่ะ” สนหันไปด่าเนอย่างอึนๆ ผมก็งงเพราะคุณสนมันแตะไหล่กูละ ผมมองมันค้อนๆ แต่อีกคนก็งุบงิบปากว่าฝุ่นเปื้อน เดี๋ยวปัดให้ แม่งกูยังไม่ทันได้ขอให้มึงช่วยเล้ย

และยังไม่ทันที่ผมจะเขยิบถอยออกมา ก็มีชายฉกรรจ์คนหนึ่งเดินถือถ้วยใบปานกลางกับนมช็อคโกแลตที่ผมชอบมาหยุดมองพวกผมด้วยสีหน้าเรียบเฉย ต่างจากที่ผมกลายเป็นซีดเผือดไปแล้ว

คุณน้ำแข็งหน้านิ่งเดินเข้ามาวางชาม..บัวลอยไข่หวาน..และนมช็อคตรงหน้า ก่อนจะหันหลังกลับ

“อื้อหือ หนูไอรักของป๋านี่ตัวนุ่มนิ่มกว่าที่คิดนะเนี่ย มันน่าจับฟัดจริงๆ” สนจับกล้ามแขนของผมแล้วทำเป็นเอาจมูกมาไซร้ไปมา

ไอ้เหี้ยคุณสนนนนนนนนนน มึงนิ่งๆเหอะสาด มึงเห็นไหมมมมมมมมม กูงานเข้าแล้วว เมย์เดย์ๆ

ขาที่จะก้าวออกจากห้องชะงัก หันมามองพวกผมเต็มตาแล้วเดินกลับมาค้ำหัวใกล้ๆ ไอ้เนแว่นรีบกลิ้งตัวไปยืนอยู่ด้านหลังเกียร์ทันที ปล่อยให้ไอรักตัวน้อยๆนั่งสั่นหงึกๆอยู่คนเดียว แม่งทิ้งกูหน้าด้านๆ

“มึงว่าไอรักของใคร”

“หือ อ้าวเพื่อนหนูไม่ใช่เหรอ มาทำอะไรแถวนี้วะ ยืนทำไมนั่งก่อนดิ” ไอ้คุณสนที่ไม่ได้สนใจมองสีหน้าทะมึน แถวยังเชื้อเชิญยมฑูตที่จะมาเอาวิญญาณมันอย่างสนิทสนม

“เมื่อกี้ มึงว่าไอรักเป็นของใคร” สนชะงัก เงยมองขึ้นไปก็ตกใจ มึงพึ่งตกใจเหรอ กูกับคนในห้องเงียบตั้งแต่เห็นหน้าเกียร์แล้ว

เกียร์ไม่รอฟังคำตอบแต่กระชากข้อแขนผมให้เดินตาม เจ็บก็เจ็บ มันบีบแรงจนผมเห็นรอยแดงเถือกบนแขนตัวเอง แต่ผมก็เลือกที่จะเงียบแล้วเดินตามอีกคนไป ไม่กล้าต่อปากต่อคำกับมันหรอก กลัวโดนขวิด

“สนุกมากไหม” มันพูดเสียงเรียบนิ่ง หลังจากที่มาหยุดยืนข้างหลังอาคารที่ปลอดคน

“อะ เอ่อ” ผมอ้ำอึ้ง ไม่กล้าพูดอะไรออกไป สีหน้ามันนิ่งจนน่ากลัว

“ถ้าสนุกนักก็ทำต่อไป” มันพูดแค่นั้นแล้วเดินจะออกไป แต่ผมไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น รีบรั้งแขนมันเอาไว้

“เดี๋ยวเกียร์ สนแค่แกล้งผม ไม่ได้คิดอะไรกันทั้งนั้นนะครับ”

“.............”

“ผมขอโทษนะ แต่มันไม่มีอะไรกันจริงๆ อย่าโกรธผมเลยนะ นะ” หันซ้ายหันขวา เมื่อไม่มีใครผมก็รีบเดินเข้าไปกอดคนขี้งอน

“......อย่าให้มันเข้าใกล้มากไป ถึงจะไม่คิดแต่เกียร์ไม่ชอบ...” สุดท้ายมันก็ถอนหายใจเฮือก ยอมยกมือกอดตอบ

“ครับๆ ไม่เอาแล้ว ไม่ให้เข้าใกล้แล้ว มีแฟนขี้งอนแถมขี้หึงอย่างนี้ต้องทำตัวดีๆ เนอะ”

“รู้นิ” เหอะ..ไม่ปฏิเสธแถมยังยอมรับอีกว่าตัวเองเป็นอย่างไร คุณน้ำแข็งหน้าหนาจริงๆ

“ไหนๆ เมื่อกี้เอาบัวลอยมาให้ผมนี่นา อยากทานอยู่พอดี”

“งั้นเกียร์ไปละ”

“ไปไหนอะ ไปทานเป็นเพื่อนผมหน่อยสิ ผมเหงานะ” มันมองผมที่อ้อนมันสุดขีดนิ่งๆ ก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจแล้วดันก้นผมให้เดินนำ ผมก็แอบอมยิ้มที่เห็นมันยิ้มให้ และหายงอนแล้วด้วย แต่อย่าคลึงก้นสิวะมันเสียวเป็นนะโว้ย

กลับมาก็ไม่เห็นสน มีแต่เนที่นั่งทาสีเคร่งเครียดท่ามกลางเพื่อนคนอื่นที่ไม่สนใจอะไรนอกจากตั้งหน้าตั้งตาทำงานกันให้วุ่น เนหันมามองผมกับเกียร์ที่เดินมานั่งข้างตัวเอง ก่อนจะยิ้มแสยะให้

“ไงละ มีแฟนหน้าตาโคตรดีต้องทำใจ”

“หึ” มันก็ตอบเพื่อนตัวเองสั๊นสั้นนะ ผมส่ายหน้า หยิบชามขนมที่วางอยู่ที่เดิมขึ้นมาทาน

“เป็นไง” เกียร์ที่นั่งซ้อนหลังถาม ผมเลยหันไปป้อน

“ก็โอเคอะครับ แต่ผมชอบฝีมือคุณมากกว่า” ไม่ได้หยอด แต่รสชาติที่เกียร์ทำถูกใจผมมากกว่า อันนี้หวานไปหน่อย

“เจ้าชายมึงก็ปากหวานซะ กูว่าละทำไมไอ้เกียร์ถึงติดมึงจัง”

“ผมเปล่าปากหวานนะ” รู้สึกตัวเองหน้าร้อนกับคำพูดเน พวกเพื่อนเกียร์แม่งชอบแกล้งไอรัก

“จ้า ไม่ปากหวานก็ไม่หวาน รีบแดกไข่หวานแล้วเลิกหวานกันมาช่วยกูได้ละ” เนพูดจบ เกียร์ก็ขยับตัวไปหยิบแปรงมาทาสีให้แทน ผมก็ขอบคุณโดยการป้อนบัวลอยเข้าปากให้เรื่อยๆ เหลือบไปเห็นเนเบะปากแล้วบ่นอะไรอยู่คนเดียวก็ไม่รู้

“โห ทาเรียบขนาดนี้ย้ายมาแผนกพวกกูเลยไหม ทำไมกูทาไม่เคยเรียบเลยวะ” เนชะเง้อมองผลงานที่เกียร์ทำ

“อ่อน”

“คึ เรื่องแรงงานขอให้บอกเกียร์เถอะ เกียร์ชอบบ” ผมล้อกวนๆ ยิ้มตาหยีให้ เกียร์มองแล้วขยี้หัวผมจนผมฟูเลย

“ย้ายมาอยู่ด้วยดีไหม” คำพูดเหมือนจะออกเรือนมาอยู่บ้านกูเลยเนอะ ผมบู้หน้า ทำทีเอื้อมไปหยิบนมช็อคมาเจาะดื่ม

“แหม มึงไม่ค่อยหาช่องว่างเพื่อใกล้ชิดเลย” เนหัวเราะเพื่อนตัวเอง

“แล้วนี่ว่างเหรอครับ ถึงมาช่วยผมได้”

“เปล่า โดดมา” ดูนิสัยมัน

“กลับไปทำงานตัวเองได้แล้วเกียร์ เดี๋ยวเขาจะว่าเกียร์หรอก”

“แล้วไง” ผมปั้นหน้านิ่ง ให้คนมองรู้ว่าผมกำลังไม่พอใจ เกียร์เห็นแล้วถอนหายใจพยักหน้าให้ ไม่วายหันมาฝากฝังผมให้กับเนก่อนจะเดินออกไป

“ฝากดูแลไอรักด้วย”

“ไอ้เหี้ยนี่มันบ้าหรือบ้าวะ หวงแฟนยิ่งกว่าหวงจู๋ตัวเอง กูละไม่เข้าใจมันจริงๆ”






++++++++++++++++++++++++++++++++

+นานไป เลยเอามาต่อให้ยาวๆไปเลย แฮ่
+โซร๊ากทุกคน
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่33 ออกค่ายกันคับคั่ง* [18/05/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 18-05-2014 15:52:51
พี่เกียร์โหด^^
แต่ชอบอ่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่33 ออกค่ายกันคับคั่ง* [18/05/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 18-05-2014 18:12:42
ยาวสะใจมากคร้าบบ
หนูไอรัก น่ารักเหมือนเคย ฮิฮิ
รักคุณโซ่เหมือนกันเน้อ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่33 ออกค่ายกันคับคั่ง* [18/05/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-05-2014 19:25:39
นึกงานจะเข้าซะแล้ว
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่33 ออกค่ายกันคับคั่ง* [18/05/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: ekonut ที่ 18-05-2014 19:53:06
ไอรักกลับมาพร้อมเกียร์แล้ว :กอด1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่33 ออกค่ายกันคับคั่ง* [18/05/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 18-05-2014 20:01:52
เกียร์ขี้หึงมากและหึงโหดด้วย
ก็ไอรักมันน่ารักต้องทำใจ
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่33 ออกค่ายกันคับคั่ง* [18/05/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 19-05-2014 11:15:54
เกียร์ยังหึงคงเส้นคงวาเหมือนเดิมเลยอ้ะ น่ารักจริงๆ เสียใจด้วยนะที่ได้แฟนหน้าตาโคตรดี ฮ่าๆๆๆ

รอตอนต่อไปน้าาาา
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่33 ออกค่ายกันคับคั่ง* [18/05/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 20-05-2014 21:43:15
น่ารักเฟ่อร์  :hao6:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่33 ออกค่ายกันคับคั่ง* [18/05/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 21-05-2014 00:02:42
หายไปนานเลย คุณน้ำแข็ง คง concept มาก 5555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่33 ออกค่ายกันคับคั่ง* [18/05/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 21-05-2014 17:28:21
ชอบจังประโยคนี้ “ไอ้เหี้ยนี่มันบ้าหรือบ้าวะ หวงแฟนยิ่งกว่าหวงจู๋ตัวเอง กูละไม่เข้าใจมันจริงๆ”  :laugh:

หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่33 ออกค่ายกันคับคั่ง* [18/05/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 22-06-2014 16:51:42
เพิ่งได้เข้ามาอ่านน่ารักมากมาย เกียร์ขี้หึงมากกกกกกกกก
แต่ไอรักเขาน่ารักนิเนอะ  :o8:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่33 ออกค่ายกันคับคั่ง* [18/05/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 29-06-2014 11:48:41
คิดถึงไอรัก
 :katai5:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่33 ออกค่ายกันคับคั่ง* [18/05/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Y ที่ 02-07-2014 08:06:19
 :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่33 ออกค่ายกันคับคั่ง* [18/05/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 02-07-2014 09:04:25
หายไปนานเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่33 ออกค่ายกันคับคั่ง* [18/05/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 09-07-2014 09:35:33
คิดถึงน้องไอรักจุงงงง อยากอ่านแล้วจ้า คนเขียนกลับมาาาน้าาา
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่33 ออกค่ายกันคับคั่ง* [18/05/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Y ที่ 21-07-2014 01:35:15
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่33 ออกค่ายกันคับคั่ง* [18/05/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 08-08-2014 15:26:17
หายไปนานเกินไปแล้วววว   :hao5: :hao4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่33* แจ้งข่าว [18/05/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 13-08-2014 08:35:41
แจ้งข่าวนิดนึงนะคะ

ขอโทษที่หายไปนานนะคะ ไม่รู้ว่าลืมกันไปหรือยัง (เขาคงลืมแกหมดแล้วล่ะย่ะ เล่นหายไปหลายเดือน) โซ่ไม่มีเวลาเลยจริงๆ จันทร์-ศุกร์ติดฝึกงาน เสาร์-อาทิตย์ก็รับงานบัญชีมาทำอีก คือแทบไม่มีเวลาจะพักผ่อนเลยค่ะ (วันแม่ยังไม่ได้หยุดเลยT^T)

แต่ตอนนี้ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว คงยุ่งแค่งานบัญชี,ตัวที่เรียน,แล้วก็ thesis น่ะค่ะ แต่น่าจะพอมีเวลามาต่อให้ค่ะ

ขอบคุณคนอ่านมากค่ะ แล้วจะมาต่อให้ สัญญาว่าจะมาต่อแน่ๆค่ะ

โซ่ :กอด1:ทุกคน
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *สวัสดีวันปีใหม่ไทย* [15/04/14] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 20-08-2014 20:37:15
 :mew1: :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่34 เมื่อค่ายจบ* [07/09/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 07-09-2014 20:14:31
ตอนที่34


“เกียร์ครับ..”

“หืม..ยังไม่นอนอีก”

“ผมปวดฉี่ ทำไงดี” อ้าวแหน่ะ ปวดปัสสาวะนี่ต้องเอ่ยถามว่าทำอย่างไรด้วยหรือนี่กู ท่าจะเพี้ยนขั้นสุด

บ้าชะมัด ไอรักอั้นปัสสาวะนอนบิดไปมาอยู่นาน คิดว่าจะนอนไปทั้งอย่างนี้แต่ก็ทำไม่ได้ ความจริงผมไม่ได้กระแดะไปห้องน้ำคนเดียวตอนกลางคืนไม่ได้หรอก แต่เมื่อตอนเย็นที่มีงานเลี้ยงกระชับมิตรของทั้งสองมหาลัย ไอ้เนมมันดันเล่าเรื่องผีให้ฟังนี่สิ โดยปรกติแล้วผมก็ไม่ได้เป็นคนที่กลัวเรื่องพวกนี้สักเท่าไรนัก แต่เอาจริงๆก็...อดคิดไม่ได้

ผมมองค้อนเจ้าของได้ยินเสียงหัวเราะหึหึ เดี๋ยวเถอะเดี๋ยวจะโดน เห็นคนอื่นขวัญผวาเป็นเรื่องตลกเหรอชิ แต่มันคงไม่เห็นหรอกว่าผมทำหน้าบู้บี้ขนาดไหนเพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ไฟก็ไม่มีสักดวง ได้ยินแต่เสียงใบไม้ที่ถูกลมพัดเอื่อย เสียงอึ่งอ่างร้องประสานเสียงเพราะเมื่อตอนเย็นฝนตกปรอยๆไปที เห็นไหมละครับ ถ้าบรรยากาศไม่พาไปจริงๆผมก็ไม่กลัวหรอกนะนี่

เกียร์ลุกขึ้นแล้วดึงมือผมให้เดินตามมันไป ผมก็เดินซอกแซกไม่ให้เหยียบหัวคนที่นอนเอกเขนกกันอยู่ แต่ถ้าให้พูดตรงๆก็คงต้องบอกว่าเดินตามรอยเท้าเกียร์ไปละครับ ไอ้ผมก็สายตาคล้ายคนแก่เข้าทุกวัน เพ่งเงาหัวเพื่อนที่เลือนลางไม่ไหวหรอกไม่ได้เก่งขนาดคุณน้ำแข็งญาณทิพย์ อิอิ

เชี่ยแม่ง แล้วจะไม่ให้ไอรักกลัวได้ไง ออกมาจากห้องได้ขนลุกขนชันโดยไม่มีใครสั่งเพราะตลอดทางเดินไม่มีแสงไฟเลยสักหย่อม แสงสว่างมาจากพี่พระจันทร์ล้วนๆ นี่กลัวไฟตกถึงขนาดประหยัดกันขนาดนี้เชียวเหรอ

“เกียร์..เข้าไปด้วยกันไหมครับ” กว่าจะพูดออกมาได้ก็ยึกยักอยู่นาน มันจะหาว่าผมเชิญชวนหรือเปล่านี่ เปล่านะไม่ได้ยั่วนะแค่ได้ยินเสียงตุ๊กแกดังข้างหูเลยไม่อยากอยู่คนเดียวเท่านั้นเอง

“?” มันจุดเทียนหน้าห้องน้ำกับในห้องน้ำให้อยู่ พอผมพูดจบก็หันมามองผมด้วยสีหน้าที่แปลกใจมาก เอาเถอะ ไหนๆปวดฉี่ก็ปวดแล้ว ขอไอรักหน้าด้านสักวันเถอะครับ

“นะ นะครับ เข้าไปด้วยกันเถอะนะครับ” ผมหลับหูหลับตาพูด เกียร์มันก็เงียบไปพักหนึ่งแล้วคว้าคอผมไปดูดปากแรงๆดังจ๊วบ

“เฮ้ยยเกียร์ อะ บ้า ผมตกใจนะ ถ้าผมฉี่แตกขึ้นมาใครจะรับผิดชอบเนี่ย!” ผมซัดแขนมันแก้เขิน ไอ้คุณน้ำแข็งชอบทำตาหวานเชื่อมมาให้ผมเขินทุกทีเลยให้ตายสิ จิ้มตาบอดเสียเลยดีไหม!

“อย่างอื่นแตกแทนไม่ได้เหรอ” ไอ้หื่น!

“หยุดเลยเกียร์ พูดอย่างกับเป็นตาแก่บ้ากาม ไม่อยากเข้าก็ไม่ต้องเข้า” พอผมจะหันตัวเข้าห้องน้ำ มันก็รีบเข้าไปยื่นรอหน้านิ่งเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาว มันน่าหมั่นไส้ไหมละ

ถึงจะอาบน้ำตุ่ม ใช้ขันซัดน้ำเย็นเข้าตัว แต่โชคดีนะครับที่ห้องน้ำที่นี่สะอาดมาก ไม่มีอัขระตรงผนังหรือสิ่งแปลกปลอมชวนอาเจียน เรื่องอื่นผมรับได้แต่เรื่องห้องน้ำนี่ขอเถอะครับ

ผมสั่งให้น้ำแข็งก้อนใหญ่เท่ายักษ์หันหลัง ซึ่งเกียร์ก็ทำแต่โดยดี จากใจจริงเลยนะ ผมโคตรอายเลยที่ต้องให้ใครมาฟังเสียงที่ผมทำธุระอยู่แบบระยะประชิดขนาดนี้ ถึงมันจะเคยเกิดขึ้นมาบ้างในช่วงที่เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่คอนโดแต่สำหรับผมก็เคยไม่ชินกับมันเสียที ส่วนเกียร์ผมก็ไม่เคยเห็นมันรู้สึกรู้สาอะไรเลย ทำนิ่งยืนฟังเหมือนชมวงออเคสตร้าอย่างงั้นละ พอทำธุระเสร็จแล้วก็เดินไปสะกิดมัน ซึ่งเกียร์ก็ได้แต่พยักหน้าให้เฉยๆแต่ไม่ยอมหันมาหาจนผมเริ่มแปลกใจ...หรือผีจะเข้าสิงวะ!?

“...เกียร์..” เสียงกลืนน้ำลายดังเอือกไม่ได้มาจากผมแค่คนเดียว เอาไงดีวะ ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกูต้องวิ่งไปเอาข้าวสารเสกมาปาใส่หน้าเกียร์หรือต้องพรมน้ำมนตร์รดหัวเกียร์ดีวะ ผมกลั้นหายใจพลิกตัวเกียร์ให้หันมาประชันหน้าอย่างสุดแรงเกิด

เหี้ย...ผีเข้าจริงด้วย...ผีทะเล!!!!!!!!!

“เกียร์!!!!!!” ผมจำได้ว่าตะโกนไปเกือบสุดเสียง แต่อีกคนยกมือปิดปากผมทัน ไอ้คุณน้ำแข็ง ไอ้หื่นมหาตภัย ผมนึกว่ามันโดนผีอำแต่ที่ไหนได้ เห็นมันยืนชักยืนลูบอาวุธใต้หว่างขาตัวเองอย่างเพลิดเพลิน แถมสีหน้าท่าทางกำหนัดขั้นที่พร้อมปล่อยได้ตลอดเวลา

“เฮ้ยเกียร์ อย่าแกล้ง ไม่เอาผมไม่เล่นนะ เดี๋ยวคนอื่นได้ยิน” ผมพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดมัน ไอ้เกียร์บ้ามันเอาเกียร์น้อยถูกับไอรักน้อย มึงจะเสยลูกกูทำไมมม

“ไม่ได้แกล้ง”

“งั้นก็เอาลูกคุณออกไปสิครับ!”

“ไม่แกล้ง แต่เอาจริง..” พูดจบนิ้วแม่งก็แล่นมาแหย่รูไอรักทันที ไอ้ชั่วไอ้เลวไอ้ตัญหากลับบบบบบบบบ




………………………………………….




“มึง ปลิงเกาะอะ” เนแว่นพูดกับผมแต่มือยังคงทาสีไม่หยุด แรกๆมันก็เงอะๆงะๆแต่หลังๆมานี่แทบจะเป็นเซียนนักทาสีไม้เลยทีเดียว ผมทึ่งกับพัฒนาการของเนจริงๆ

นี่งานก็เสร็จไปเยอะเหมือนกัน คนบ้านละแวกนี้เห็นว่าเรามาช่วยกันบำรุงสร้างโรงเรียนก็เลยมาช่วยกันคนละไม้คนละมือจนตอนนี้มากันล้นโรงเรียนเลยครับ นี่ละคนไทย ช่วยเหลือกันได้ก็ช่วยกัน

“ผมขอกระป๋องสีขาวหน่อยสิครับ” ผมไม่สนใจ เปลี่ยนเรื่องพูดแล้วมองไปที่ถังสีที่อยู่ข้างตัวเนแว่น

“เออเอาไปสิ แต่ทำให้เพื่อนกูเลิกหงอยได้ไหม กูเห็นแล้วเกะกะลูกตาจริงๆว่ะ” เนถอนหายใจแล้วส่ายหน้าปลงกับเพื่อนมันที่มันอุตส่าห์พูดจนปากจะฉีกให้กลับไปยังฝ่ายของตัวเองเป็นร้อยรอบได้แต่ก็ยังคงนั่งนิ่งอยู่เยื้องไม่ใกล้ไม่ไกลจากพวกผมเท่าไร ผมปรายตามองไอ้คนที่นั่งอยู่ด้านหลัง เห็นสายตาที่มองมาอย่างสำนึกผิด เหอะ คิดว่ากูง่าย นึกอยากจะแหย่จะทำที่ไหนก็ได้ว่างั้น มึงคิดผิดแล้วไอ้น้อง กูไม่ได้ง่ายโว้ย เรื่องเมื่อคืนแค่ตกกระไดพลอยโจร ไอรักโมโหมากพูดเลย

“เกียร์ผิดไปแล้ว..” คิดว่าน้ำเสียงอ่อยๆเหมือนคนเป็นโรคจะทำให้ไอรักหายโกรธงั้นเหรอ ฝัน

“จะไม่ทำอีกแล้ว..” อย่าคิดว่าแค่เอานิ้วมาสะกิดปลายเท้าแล้วไอรักจะลืมเรื่องที่คุณปิดปากผมแน่นแล้วกระแทกใส่เหมือนข่มขืนกันนะ! ถึงตอนนั้นผมจะ เอ่อ..เกิดอารมณ์เหมือนกัน แต่ แต่ผมก็ไม่ได้ยินยอมตั้งแต่แรกนะ!

“หายโกรธกันนะ..” เหอะ! ง่ายไปแล้วไอ้น้อง

“ถอยครับ” ผมพูดโดยที่ไม่ได้หันไปมองว่าอีกฝ่ายทำหน้าอย่างไร แต่เนก็หันมามองเหมือนสงสารเกียร์จับใจ เกียร์เขยิบถอยหลังสักพักผมก็ได้ยินเสียงมันลุกออกไป ผมถึงได้หันไปมองที่ประตู

“เจ็บไปไหม โหดไปไหม ทำเหมือนคนจะไป ไม่แคร์ว่าใครจะเกือบตาย..น่าสงสารมึงจริงๆนะไอ้เกียร์ ใครกันนะใจร้ายโกรธมันได้ลงคอ...คนน่ารักมักใจร้าย ใช่ไหมเธอ~” ผมหันไปมองเนที่ยังทำเป็นทำการทำงานแต่ปากพูดไม่หยุด ผีเจาะปากมาพูดเหรอวะ

“อะไรครับ” เสียงจิกด้วยไม่ใช่อะไร

“เปล๊าาา”













ช่วงพักกลางวัน ผมก็ยังนั่งวาดลวดลายเล็กน้อยบนโต๊ะไม้อยู่ น้องๆที่ใช้จะได้รู้สึกผ่อนคลายมีความสุข เวลาเรียนจะได้ไม่กดดันตัวเอง ถ้าจิตใจปลอดโปร่งก็จะทำให้เรารับความรู้และสร้างความคิดสร้างสรรค์ได้มากขึ้น เหมือนผมคิดเยอะไปเนอะ คำพูดสร้างภาพได้เป็นหลายรูปแล้วละ กร๊ากก ส่วนเรื่องทานข้าว ถ้าจะให้ลงไปตอนนี้ก็คงไปเบียดกับผู้คนมากกว่า ตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยหิวเท่าไรด้วย

“ได้เวลากินข้าวแล้วไอ้เจ้าชาย”

“ทานก่อนเลยครับ เดี๋ยวผมลงตามไปทีหลังนะ” ผมพูดยิ้มๆให้เน

“ยังไม่หายโกรธไอ้เกียร์อยู่เหรอวะ กูก็ไม่รู้หรอกว่าเกียร์ไปทำอะไรให้มึงโมโหมันนักหนาหรอก แต่กูสงสารจริงๆว่ะ กูอยู่กับมันมานานไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้หรอกนอกจากเป็นกับมึงนี่ละ นี่ก็ครั้งแรกเลยด้วยมั้งที่เคยเห็น หายๆโกรธมันเถอะว่ะ” ไปกันใหญ่แล้ว ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงจริงจังไปไหน ผมหายโกรธไปตั้งนานละ ใครจะกล้าโกรธมันได้นานๆ ต่างคนต่างรู้สึกแย่ไม่เอาด้วยหรอก แต่ที่ผมไม่ลงไปเพราะผมกำลังมันส์กับการละเลงโต๊ะอยู่โว้ย

“ผมยังไม่หิวครับ ถ้าเจอเพื่อนผมหรือเกียร์ก็ฝากบอกด้วยนะครับว่าทานกันไปก่อนเลยไม่ต้องรอ” เดี๋ยวไอ้เนมมันบ่นอีกที่ทำให้มันต้องหิ้วท้องรอ

“เออๆ รีบตามมานะโว้ย เดี๋ยวเพื่อนกูคิดมากจนอกแตกตายไม่รู้ด้วย”

เมื่อเนออกไปห้องก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะคนอื่นก็ลงไปทานข้าวกันหมดแล้ว ผมเดินไปหยิบกระดาษหนังสือพิมพ์มาปูรองเพิ่มแล้วลงมือทาสีอีกครั้ง สักพักใหญ่ก็ได้ยินเสียงประตูเปิดขึ้น

แอ๊ด...ปึก..

ผมหันไปตามเสียงเปิดปิดประตู คนตัวโตหน้าหงอยเดินมาพร้อมถาดอาหาร มันทรุดลงนั่งข้างๆแล้วไม่พูดไม่จา แต่ดูจากท่าทางแล้วคงเป็นเพราะไม่กล้าพูดอะไรออกมามากกว่า

“ทานก่อนเถอะครับ” ผมพูด มันส่ายหน้า เม้มปากแน่นแล้วจัดแจงหยิบจานอาหารออกมาจากถาด วางตรงหน้าผม

“?” ผมมองจานอาหารตรงหน้าอย่างงงๆ แล้วหันไปมองมัน

“..ไอรักกินก่อน” ผมมองคนที่เบี่ยงหน้าออกไม่มองหน้ากัน ก็เพราะว่ามันน่ารัก ดูแลผมดีขนาดนี้ไงผมเลยไม่เคยโกรธมันจริงๆจังๆสักที ว่าแล้วก็หยิบจานข้าวมาถือไว้แล้วลงมือทานอาหารหนึ่งคำ ก่อนจะตักข้าวจ่อปากเกียร์แล้วยิ้ม คราวนี้คุณน้ำแข็งยอมหันมามองสบตา

“ทานด้วยกันนะครับ” เท่านั้นละมันถึงยิ้มออกมาได้

กว่าที่เราสองคนจะอิ่ม คนอื่นๆก็ทยอยขึ้นมากันแล้ว ก็มัวแต่คุยเล่นกันจนลืมอาหารตรงหน้าไปเลยน่ะสิครับ ส่วนเรื่องเมื่อคืนเราก็ไม่ได้ยกขึ้นมาพูดอีก มันก็คงรู้ว่ามันทำผิดตรงไหนและก็คงจะไม่ทำอีกแล้วละ

“อ้าวๆๆ ดีกันแล้วเหรอวะ” เสียงคุ้นๆเหมือนไอ้พิชทำให้ผมต้องหันไปมอง ชัดเลย มากันเป็นตับทั้งเพื่อนเกียร์ทั้งเพื่อนผม

“นี่กูไม่ได้เล่าอะไรไปเลยนะ สงสัยมันรู้กันด้วยตัวเอง หึหึ” ไอ้เนแว่น มึงตัวดีเลย มึงบอกชัวร์

“โห่ อะไรว้า เค้ากะจะมาดูสักหน่อยว่าเกียร์หงอยนี่มันเป็นยังไง เนอะตัวเองเนอะ ฮ่าๆๆๆ..อ่ะเอ่อ..แหะๆ” เนมกระแซะๆไอ้คิมแต่ก็ต้องสะดุ้งเพราะสายตาเกียร์

“กวนตีน” ผมจะตบหัวเนมแต่โดนคิมยึดข้อมือเอาไว้ก่อน

“ป๊าดด หยุดๆๆ เดี๋ยวก่อนเลยมึง นี่อะไรยังไงกันวะทำไมกูพึ่งรู้ ไหนไอ้เนบอกว่ามึงนั่งหันตูดใส่เกียร์ นี่อะไร แทบจะนั่งขี่กันอยู่ละ” ไอ้เชี่ย แค่นั่งคุยกันมึงพูดเหมือนได้เสียกัน ไอรักเสียภาพพจน์นะ! ผมถลึงตาใส่แต่ไอ้คิมก็ลอยหน้าลอยตากวนส้นบาทาแบบไม่ได้สนใจ ฮึ่ยย

“โหไอ้ตกยุค เป็นตำรวจเหรอวะถึงได้มาตอนสุดท้ายทุกที เขาเห็นกันเป็นชาติละ” เนยืดอกพูดโอ่ ได้ข่าวมึงก็พึ่งรู้เหมือนกันไม่ใช่เหรอครับ

แล้วพวกมันก็นั่งจ๋อมจับเข่าคุยเรื่องโน่นนี่กันเสมือนเป็นบ้านตัวเอง คนอื่นที่เข้ามาจะทำงานก็เมียงมองมาเหมือนเห็นตัวประหลาดนับสิบประชุมหารือกัน ไอ้พวกมันก็เกรียนกันนะ ใครเข้ามาโดนแซวหมดทุกคน เห็นแล้วก็น่าสงสารผู้หญิงนะครับ เพื่อนผมมันก็หน้าตาดีพอสมควรไงจึงได้แต่เดินม้วนก้มหน้าแดงๆไปตามๆกัน

“เออกูว่าจะพูดนานละว่าแม่งใส่แหวนเหมือนกันเด๊ะอย่างกับคู่แต่งงานแล้วเลยพวกมึงนิ” พิชพูด ผมหน้าร้อนขึ้นมาทันที ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของคนข้างตัวยิ่งแทบอยากมุดดินหนี ไอรักเขินนนนเป็นนะ

“คู่ใหม่ปลามันก็งี้ กูละอิจฉา” ไอ้พัตต อย่าแซวกันสิวะครับ

“พอๆ เลิกแซวได้แล้ว” ผมพูดเสียงงึมงำเบาๆ มึงเห็นหน้ากูไหม หน้ามุ่ยคิ้วขมวดเพราะอยากให้เลิกแซวกูเสียที (ถ้าไม่รวมหน้าแดงนะ)

“อิอิ เค้าก็เห็นนานแล้วๆๆ เค้าคันปากอยากแซวมานานแต่ก็กลัว..” มันพูดแล้วเหลือบตาไปหาเกียร์ มันคงกลัวมากน่าดู

“โอเคนะ” ระหว่างที่พวกมันเม้ามอยเรื่องผมอย่างสนุกปากกัน ไทป์ก็กระซิบถาม ผมยิ้มให้เฉยๆไม่ตอบอะไรเพราะมันก็คงรู้คำตอบแล้ว

“เหี้ย ทำไมมึงมีสลิ่มด้วยวะ กูลงไปคนแรกๆแม่งหมดแล้วอะ ไอ้คู่รักขี้โกงงงงงงง” พัตที่นั่งข้างเกียร์ มองขนมที่พวกผมกำลังทานกันอยู่แล้วดิ้นพล่านใหญ่ หือ ถ้าพัตลงไปเป็นคนแรกๆแล้วเกียร์มันไปเอามาจากไหนละนี่ อย่าบอกนะว่ามันปล้นคนอื่นมา หน้าแม่งยิ่งชวนให้คิดไปทางที่ไม่ดีอยู่ กร๊าก

“เสือก”

“อูย โดนไปสิ”

“เออมึง เมื่อคืนเหมือนกูจะได้ยินเสียงอะไรเลยว่ะ” สะดุ้งเฮือก ผมเหลือบไปมองไอ้เนมตาแทบเคล็ด อย่าบอกนะว่ามันได้ยินเสียงเรา..

“หา เสียงอะไรวะ ที่ไหนอะ” คิมพูด ผมมองเกียร์ตาเขียวเลย เกียร์มันก็เลิ่กลั่กใหญ่ เอ่อก็ไม่ได้แสดงว่ามันเลิ่กลักขนาดนั้นหรอก แต่ผมก็พอดูออก

“ไร้สาระ ไปทำงานไป!” เกียร์เสียงดังกลบเกลื่อนความผิด ทำให้ทั้งห้องหันมามองมันเป็นจุดเดียว ไอ้ไม่เนียนนนน

“งะ..ตะ แต่กูได้ยินจริงๆนะ กูสะดุ้งตื่นมาตอนกลางคืนอะ ได้ยินว่ามีคนตะโกนว่าเอี้ยมั้ง” คงเป็นตอนที่ผมตะโกนเรียกชื่อเกียร์แน่เลย ไอ้เกียร์มึง ความวัวไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก ผมหันไปมองยังไม่ทันปั้นสีหน้าอะไรออกไปมันก็รีบส่ายหน้าให้แล้วจับมือผมแน่นเหมือนกลัวจะโดนโกรธอีก

“หรือว่าจะเป็นเซียวเหล่งนึ่งกำลังเรียกหาเอี้ยก้วยวะ”

“ไอ้สัตว์ นี่อยู่ไทย ไม่ได้อยู่จีน มาเป็นเซียนกระบี่พิชิตมารเลยนะมึง” โฟ่ว่าไอ้คิม

“เอ่อ โทษทีมึง กูว่ามันเรื่องมังกรหยกมากกว่านะ” เนแว่นสกัดดาวรุ่งให้ร่วงมาไม่เป็นท่า โฟ่ยิ้มแหะๆแล้วพึมพำ ‘อ้าวเหรอ กูดูนานแล้วนี่หว่า’

“หึหึ แต่กูว่าเสียงคนกำลังโดนทารุณหรือเปล่าวะ แบบ เหี้ย ประมาณนี้….”

“ไปทำงานกันได้แล้วไอ้สัตว์!” เงิบเลยสิมึง เสียงดังกว่าเมื่อกี้อีก ผมที่อยู่ข้างๆยังสะดุ้งเลยคิดดูสิ

“สะ เสียงดังทำไมวะ เออแม่งไปก็ได้ ไล่กูจังเลยนะมึงแม่ง” พัตครับ มึงพูดแม่งได้อยู่คำเดียวเหรอ ประโยคนิดเดียวปาไปสองคำเชียวนะ ทุกคนก็ทยอยกันลุกออกไป

“โอ้ย..” เนมลุกขึ้นแล้วเซแต่คิมรับปีกมันได้พอดี นี่มึงรู้ว่าด้านนั้นมีเพื่อนอยู่หรือเปล่าวะ ท่าล้มมึงสวยเชียว

“เป็นเหี้ยอะไรมึง” คำพูดสวยหรูแลดูเป็นห่วงเป็นใยเพื่อนจับใจ

“เสียหลักว่ะ”

“รากฐานไม่มั่นคงก็งี้ กูบอกแล้วให้แดกเยอะๆไม่เชื่อกูเห็นไหม สงสารละป๊าม๊ามึงที่มีลูกผอมเป็นไม้จิ้มฟัน”

“บ่นๆๆ บ่นเป็นไอ้แก่อยู่นั่น กูเสียหลัก..เพราะรักเธอหรอกโว้ย ฮิ้ว” มันฮิ้วเสียงยาวคนเดียวแล้วเดินออกไปเหมือนแห่ขบวนขันหมาก ปล่อยให้คนที่ฟังนับสิบคนอ้าปากค้างกับมุขของมัน มึง-กล้า-มาก

“คุณก็ไปได้แล้วครับ” ไหนๆก็ไหนๆละ ขอไล่มันไปในตัวเลยแล้วกัน ก็ดูมันมานั่งขวางงานผมหมดเลย คนจะทำงานทำการ หึหึ เห็นอย่างนี้ไอรักก็จริงจังกับงานนะครับ

“ไม่โกรธแล้วนะ” ไอ้นี่ ชอบซักไซร้จริงมึงนิ

“จะโกรธถ้าคุณมานั่งทับแปรงทาสีของผมนี่ละ”

“..รู้สึกเดี๋ยวนี้จะโหดขึ้นเป็นสิบเท่า”

“ว่าไงนะครับ!?”

“เปล่าๆ” แล้วไป




…………………………………………………………




“พี่ๆ ทำไมตาสีฟ้าได้อะ” เด็กน้อยตัวสีเข้มที่เป็นเด็กนักเรียนในโรงเรียนนี้พูดออกมาซื่อๆ ถึงแม้ว่าวันนี้จะอยู่ในช่วงปิดเทอม แต่พวกน้องๆที่บ้านใกล้ก็มาเที่ยวเล่นกันที่นี่ ไหนๆก็มาพอดีผมเลยชวนน้องมาทาสีด้วยกัน ถ้าพูดตามความจริงคือก็หาคนแบ่งเบาภาระกันน่ะครับ กร๊ากก

“อ๋อ มันกินแฟนต้าเยอะไปหน่อยอะน้อง” ไอ้คิมมันเดินผ่านห้องผมพอดีเลยตะโกนหลอกเด็ก เลวจริงๆมึง

“พี่ผมก็ชอบกิน ทำไมไม่ตาสีนี้บ้างอะ” เด็กมันก็ช่างถาม(มาก)นะ

“อย่าไปเชื่อมัน พ่อแม่พี่เป็นลูกครึ่ง เอ่อ เป็นคนต่างชาติน่ะ” อธิบายให้เด็กฟังก็ยากเหมือนกัน พอไม่เข้าใจก็ทำหน้างงใส่ให้เราเสียเซลฟ์ เข้าใจหัวอกคนเป็นครูเลยครับ

“อ๋ออ” มันเข้าใจจริงๆหรือเปล่าวะ

“แล้วนี่อายุเท่าไหร่แล้วเอ่ยตัวเล็ก”

“ผมไม่ตัวเล็ก โตแล้ว” อูย เจอเด็กโหดว่ะ

“ครับๆ ตัวเท่าหน้าแข้งพี่เองแหนะ” ผมพูดแล้วขยี้หัวเกรียนๆของน้องมัน

“นัทแปดขวบแล้ว เตะไอ้เป้งชนะตลอด มันไม่เคยทันผมหร้อก” น้องกำหมัดชูใหญ่ ผมว่าน้องมันผอมไปนะ กินอะไรเป็นอาหารวะอยากรู้

“โหจริงเหรอ แล้วไหน ใครเหรอครับเป้งอะ” ผมก็เออออไป พลางทำงานไปด้วย ฟังน้องมันโม้ก็เพลินดีเหมือนกัน แต่มือน้องไม่ทำงานเลยนะ เม้าทีหยุดงานทั้งหมดเลย

“มันไม่มาหรอก มันกลัวผม” ครับ เอ็งเก่ง

“เก๋าไปปะน้องนัท” เนแว่นหันมาหัวเราะใส่ น้องเห็นก็ทำหน้ายู่ยี่ให้เน

ผมยิ้ม ฟังเด็กน้อยกับเนเถียงกันไปมาจนเพลินลืมระวังไม้เลยโดนบาด ผมซีดปากออกมาเพราะมันบาดลึกกว่าที่อื่นๆที่แค่ตำเบาๆ ห่าเอ๊ย เลือดเลย น้องนัทหันมาเห็นก็โวยวายลั่นห้อง มือป้อมๆจับมือผมแล้วร้องไห้ใหญ่เลยทำให้ผมยิ้มออกมาได้ เด็กมันน่ารักจริงๆนั่นละ ผมเลยเดินลงไปขอพลาสเตอร์จากฝ่ายปฐมพยาบาลโดยมีเด็กน้อยตัวเท่าหน้าแข้งจับมือแน่นไปด้วยกัน

ตกดึกผมก็มีปลิงสองตัวเกาะติดหนึบ ตัวหนึ่งเป็นตัวที่ผมตื่นมาก็เห็นจะหลับตานอนก็เห็นทุกวัน ส่วนอีกตัวเป็นเด็กผิวเข้มเกาะขาไม่ยอมกลับบ้าน อ้อนแม่อยู่นานจนได้มานอนกับผมคืนนี้

“นัทไปด้วย” พอเห็นเกียร์กับผมเดินแยกไปอาบน้ำคนละห้อง น้องนัทก็เลยจับมือผมให้แน่นขึ้นแล้วพูด ผมยิ้มให้แล้วพยักหน้าเพราะยังไงผมก็ให้เข้าไปด้วยอยู่แล้ว แต่ยังไม่ทันได้เข้าน้องนัทก็โดนกระชากจากด้านหลัง หันไปก็เห็นคุณน้ำแข็งยืนทำหน้ายักษ์อยู่ก่อนแล้ว รู้สึกมันจะหน้าบึ้งมาสักพักใหญ่ๆแล้วละแต่ผมไม่ได้ถามออกไปเพราะน้องนัทชวนคุยตลอดทางเลย

“โอ้ยๆ ปล่อยผม ปล่อยๆๆๆๆ” น้องนัทดิ้นพล่าน พยายามสะบัดมือแต่ก็ไม่หลุดจากอุ้งตีนหนา ผมจะเอ่ยปากดุมันเพราะสงสารน้องแต่มันก็ถูกตัดหน้าเสียก่อน

“มึงน่ะมานี่” พูดจบก็กระชากตัวเด็กไปซะตัวปลิวเข้าไปอาบน้ำกับมัน ผมได้แต่ส่ายหน้าเอือมแล้วเข้าไปอาบบ้าง

เสร็จก็ขึ้นไปบนห้องโดยมีเสียงน้องนัทเจื้อยแจ้วไม่หยุด ผมก็ขำเด็กมันนะพูดได้ไงวะตลอดทาง แต่เห็นท่าทางสนุกสนานแล้วก็ไม่อยากถามไปหรอก

แต่คงมีคนหนึ่งที่ดูท่าจะไม่สนุกสักเท่าไร ก็ไอ้คุณน้ำแข็งที่เดินหน้าหงิกอยู่อีกข้างนี่ไงละ ยิ่งตอนเห็นแผลที่มือผมครั้งแรกก็พาลโกรธคนที่อยู่ในเหตุการณ์หมดเลย หาว่าเนแว่นไม่ดูแลอย่างที่มันอุตส่าห์ย้ำนักย้ำหนา หาว่าคนอื่นหางานหนักมาให้ผม หาว่าเด็กชวนคุยจนทำให้ผมไม่ทันได้ระวัง กูจะบ้าตาย แถมมันยังหมั่นไส้น้องนัทที่มาเกาะแกะผมอีกนะ เชื่อเลย

กว่าจะได้นอนก็เถียงกันอยู่นานสองนานว่าจะให้ผมนอนหันไปทางไหน ซ้ายก็เกียร์ ขวาก็เด็กหน้าแข้ง จนไอ้บอสที่นอนใกล้ผมทนไม่ไหวลุกขึ้นมากดให้ผมนอนหงายตัดปัญหาการทะเลาะวิวาท ไอ้ผมกับน้องนัทก็กลั๊วกลัวมันนะ หน้าทะมึนมาเชียว รู้อยู่ว่าถ้าไม่ใช่เรื่องไอ้คลื่นมันความอดทนต่ำมาก ก็เลยได้แต่นอนนิ่งให้สองหน่อกอดก่ายจนอึดอัดตลอดทั้งคืน




…………………………………..





“เสร็จแล้วโว้ยยยยยยยย” เสียงผู้ชายคนหนึ่งตะโกนออกมาอย่างดัง ในที่สุดงานทั้งหมดก็สิ้นสุดลงเสียที โรงเรียนที่ขาดแคลนทั้งห้องเรียนและอุปกรณ์เกี่ยวกับการเรียนการศึกษา ตอนนี้ก็เหมือนได้โรงเรียนใหม่เลยครับ

พวกผมกับเด็กโรงเรียนนี้มองภาพตรงหน้าอย่างภูมิใจและดีใจกับน้ำพักน้ำแรงที่เราร่วมกันสร้าง ประธานโครงการของพวกผมและอีกมหาวิทยาลัยหนึ่งเรียกรวมตัว กล่าวคำสั้นๆแล้วมอบเงินสนับสนุนจากสปอนเซอร์ให้กับผู้อำนวยการโรงเรียนนี้

หลังจากนั้นก็แยกย้ายไปเก็บของแล้วยกขึ้นรถเพื่อเตรียมตัวกลับ น้องนัทกอดขาผมร้องไห้เป็นสายเลย เห็นแล้วก็กลั้นน้ำตาแทบไม่อยู่เพราะผมรู้จักน้องนัทหนึ่งอาทิตย์ได้แล้วจึงสนิทกับน้องนัทมากพอสมควร

“ตั้งใจเรียนเป็นเด็กดีนะครับน้องนัท หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกครั้งนะ” ผมย่อตัวลงกอดน้องไว้แนบอก อีกฝ่ายกอดกลับแน่นยิ่งสะอึกสะอื้นเข้าไปใหญ่

“นะ..นัท ฮึก เป็น..อึก..เด็ ก.ดี..ฮึก..อ ยู่ แ ล้ว...เรียน..เก่ง..ฮึก ด้วย..ฮื้อ...”

“ครับๆ น้องนัทเก่งที่สุดเลยเนอะ” ทำไมรู้สึกว่ายิ่งปลอบก็ยิ่งร้องวะ ผมหันไปมองเกียร์ก็เห็นมันมองมานิ่งๆก็ยอมให้ผมกอดปลอบนะ มองไปเห็นคนอื่นที่สนิทกับเด็กโรงเรียนนี้ก็โดนกอดเหมือนกัน

“นั ท.. จะไป..เรียน..ฮึก..ที่..เมือง..หลวง..ฮึก..นัทจะ..ไ ป.หา..ฮึก..พี่ ไ อรัก..ฮึก”

“งั้นน้องนัทก็ต้องตั้งใจเรียนให้คุณพ่อคุณแม่ภูมิใจนะครับ อยู่ที่นี่ก็ช่วยการช่วยงานท่านด้วย โตมาจะได้เก่งๆสอบเข้ามหาลัยได้แล้วก็จะได้มากรุงเทพฯด้วยนะ” ผมยิ้มให้น้องนัทตัวน้อย หน้าตามอมแมมจนผมต้องใช้มือเกลี่ยน้ำตาออกเบาๆ

“กว่าจะขึ้นก็เล่นบทโศกซะกูเศร้าเลยนะมึง” พิชพูดขณะที่ผมขึ้นมาบนรถแล้ว ผมก็มองไม่ได้ตอบอะไร เศร้าอยู่ ยิ่งตอนรถเคลื่อน เด็กตัวเท่าหน้าแข้งหน้าตามอมแมมวิ่งไล่ตาม ผมยิ่งเสียใจเข้าไปใหญ่


ติ๊ด..


ข้อความจากโทรศัพท์ดังขึ้น ผมยกขึ้นมาดูเพียงได้เห็นข้อความสั้นๆจากคนที่นั่งรถคนละคันก็ทำให้ผมกลับมายิ้มได้ไม่ยาก


iGEAR (18:48) : ไม่เป็นไรนะ


กลับไปคงต้องอ้อนการณ์ใหญ่เลยแล้วละมั้ง เล่นใส่ใจกันขนาดนี้




TBC-------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

+กราบขออภัยทุกๆท่านด้วยความจริงใจค่ะ TT !!!! นี่มันกี่วันกี่เดือนแล้วเนี่ยที่ไม่มีเวลามาต่อเลย
+ใครได้ดูเดอะวอยซ์ตอนแรกบ้างคะเมื่อกี้ รู้สึกเลยว่าคนไทยก็มีเสียงที่ดีมีคุณภาพมากเลยนะคะ ฟังแต่ละคนร้องแล้วขนลุก พอจบเลยรีบลุกขึ้นมาต่อให้เลย ฮ่าๆๆ ความจริงวันนี้เป็นวันอาทิตย์แรกที่สามารถลืมตาดูโลกได้ วันอื่นนี่จมแต่วิทยานิพนธ์ไม่ลืมหูลืมตาเลยค่ะ

ขอบคุณคนอ่านทุกคนค่ะ เป็นกำลังใจให้โซ่แต่งนิยายต่อไป :กอด1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่34 เมื่อค่ายจบ* [07/09/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 07-09-2014 20:36:21
มะ ๆ ไม่ได้ตาฝาดจริง ๆ ด้วย  มาต่อแล้ว

ขอบคุณมากค่า  ยังรออ่านเรื่องนี้อยู่เสมอจ้า
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่34 เมื่อค่ายจบ* [07/09/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 07-09-2014 20:46:31
เกียร์เกือบโดนไอรักงอนนานแล้ว
หื่นไม่รู้เวลาจริงๆพ่อน้ำแข็ง
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่34 เมื่อค่ายจบ* [07/09/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-09-2014 23:29:33
ไม่เจอะกันนานคิดถึงจังเลย~~~
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่34 เมื่อค่ายจบ* [07/09/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 08-09-2014 00:11:18
คนแต่งสู้ๆนะคะ แลดูงานหนักจริงๆ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่34 เมื่อค่ายจบ* [07/09/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 08-09-2014 06:04:47
ตอนแรกนึกว่าตาฝาด 5555
คุณน้ำแข็งหื่นไม่ดูเวลาเลย โดนโกรธแน่ๆ แต่เราชอบ 555555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่34 เมื่อค่ายจบ* [07/09/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 08-09-2014 11:51:22
โอ้วววว ตื่นมาตกใจเลย มาอัพแล้วววว

เกียร์ยังคงความหื่นและขี้หึงเหมือนเดิม น่าตีอะดูทำ สมควรแล้วที่ไอรักจะโกรธุ55555

เป็นกำลังใจให้โซ่ค่ะ สู้ๆนะติดตามตลอดค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่34 เมื่อค่ายจบ* [07/09/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 09-09-2014 12:27:15
คุณชายไอรักเป็นที่รักของน้องนัท เกียร์หวงกระทั่งเด็กนะ

+1 เป็นกำลังใจให้น้องโซ่นะจ้ะ
 :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่34 เมื่อค่ายจบ* [07/09/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Y ที่ 09-11-2014 00:23:29
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:


 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่34 เมื่อค่ายจบ* [07/09/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 21-01-2015 18:56:05
 :mew1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35 จบ* [07/09/14] P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 28-01-2015 16:36:29
ตอนที่ 35

แหม ผมว่าคนอื่นก็คิดแบบผมนะว่าปิดเทอมถ้าไม่ติดอะไรมันก็เป็นช่วงเวลาสำหรับครอบครัว แต่ดูเหมือนจะมีคนไม่เข้าใจ ไม่ว่าจะเทอมไหน ไม่ว่าจะปิดหรือเปิดก็มีปัญหาตลอดสำหรับคนคนนี้….ไอ้คุณน้ำแข็งหน้าบูด

“ปล่อยก่อนครับเกียร์ ผมจะเก็บของ” จะขยับไปไหนเถาวัลย์ยักษ์นี่ก็พันมือพันตีน เอ๊ย ตัวตลอด ผมละอยากจะหามีดมาแงะออกให้หมด ฮึ่ยๆๆ

“กันดั้มจะมาแล้ว” เออออ แล้วกูเกี่ยวอะไรเล่า ไอรักไม่ได้จะไปบินอวกาศกับกันดั้มหรอกนะเฮ้ย ผมส่ายหน้ากับความตีมึนของมัน

“แต่ผมจะกลับบ้านแล้ว...”

“ไอซิสมันปวดท้องหรือเปล่า...นอนซม”

“เขาก็นอนกลางวันทุกวันนิครับไม่เห็นแปลกตรงไหน เอ้ย เกียร์อย่าเนียนชวนผมคุยสิ” ชอบพาไอรักออกนอกทะเลตลอด กูก็เล่นไปกับมันด้วยอีก ผมคิ้วขมวดมุ่นหันไปจะอ้าปากดุ แต่ก็โดนอีกฝ่ายประกบริมฝีปากเสียก่อน ผมตกใจจนร้องออกมา พยายามขยับออกแต่ก็ต้องแพ้แรงที่รัดตัว

“อืื้อ… ฮะ ฮ่ะ ..”

ลิ้นใหญ่ของมันกวาดอยู่ในปากผมจนทั่ว สลับกับดูดดึงริมฝีปากทั้งบนและล่างจนรู้สึกว่ามันเจ่อออกมากว่าปรกติ รสจูบที่เร่าร้อนทำเอาร่างกายปั่นป่วนไปหมด และผมคงไม่ได้รู้สึกไปคนเดียวเพราะส่วนตรงกลางลำตัวของคนที่นั่งชันเข่าอยู่ด้านหลังผมพองตัวเป็นลำมาทิ่มอยู่ตรงเอวผม มันยิ่งทำให้ผมเกิดอารมณ์ขึ้นไปอีก มือที่จับเสื้อเตรียมจะแพ็คใส่กระเป๋าเปลี่ยนไปกำเสื้อคนตรงหน้าแทน

อยู่ๆเกียร์ก็ผละออกช้าๆ ผมที่ยังอยู่ในภวังค์ก็ไม่ทันตั้งตัวเลยเผลอยื่นหน้าเข้าหาอีกฝ่ายเหมือนยังไม่เต็มอิ่ม ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอก็เรียกสติผมให้กลับคืน แม่งงงไอรักเขิน ผมทุบอกมันอย่างแรงแล้วจะหันตัวไปเก็บของต่อ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็โดนคว้าเอวแล้วยกขึ้นตัวลอย ผมตกใจแทบจะคว้าคอมันไว้ไม่ทัน ไอ้ห่านี่กูก็กินครบทุกมื้อ ตอนตีหนึ่งยังออกมากินมาม่าเลย ไหงโดนมันอุ้มเตงง่ายๆแบบนี้ฟะ

“เฮ้ย นี่! ถ้าผมหล่นไปจะกัดคอให้ขาดเลยคอยดู” พูดอย่างฉุนๆ แต่อีกฝ่ายก็ยังยิ้มหน้าระรื่นซะงั้น เฮ้ย ไม่กลัวกันเลยเหรอวะ

“เตียงเถอะ ไม่ไหวละ” บ้าแล้ว มึงวางกูบนเตียงแล้วพึ่งบอกว่างั้นนนนน เจริญพุงไอ้(น้ำ)แข็ง



……………………………………………..



“ลุกขึ้นมาทำไม” ผมหันไปค้อนคนที่เดินหัวฟูมานั่งซ้อนด้านหลัง อุตส่าห์เด้งตัวตื่นมาจัดของยังไม่สี่โมงดี อีกคนก็ยังรู้สึกแล้วลุกขึ้นมาถามอีก ผมละไม่อยากจะคิดว่าถ้าผมมีชู้ขึ้นมามันจะเป็นยังไง โลกจะยังมีให้หมุนรอบดวงพระอาทิตย์อยู่ไหม เลิกคิดเถอะ เพราะแค่คิดก็เสียวสันหลังแปร๊บ

“จัดของสิครับ” กูรู้นะแผนมึงที่ทำรุนแรงกับผมเพราะอยากจะทำให้ลุกขึ้นมาเก็บกระเป๋าไม่ได้ใช่ไหม เหอะแต่เสียใจ ไอรักโคตรคน ถึกอดทนโว้ยไอ้หมาน้ำแข็ง

“ที่โน่นก็มี”

“ที่โน่นไม่ค่อยมีชุดตัวโปรดนี่นา นี่ผมก็เอาแค่บางตัวไปน่ะครับ”

“เมื่อกี้อุตส่าห์รุนแรง..”

“อะไรครับ”

“อยากไปนอนด้วย” น่ะ เมื่อกี้แอบหลุดปากนะมึง อย่าคิดว่าไอรักจะตามไม่ทัน แต่เห็นว่ามันไม่อยากพูดก็เลยเออออไป

“กลับบ้านบ้างเถอะครับ เมื่อวันก่อนคุณแม่ก็โทรมาถามผมว่าเกียร์ยังมีชีวิตอยู่ใช่ไหม นี่ถ้าไม่ถามผม ท่านต้องไปแจ้งความลูกหายแน่ๆ” ทุกวันนี้พ่อแม่มันไม่โทรมาหาเกียร์แล้วนะครับเพราะรู้ว่าลูกตัวเองไม่ค่อยจับโทรศัพท์เท่าไรเลยจะมาติดต่อผ่านทางผมแทน กูละหน่ายแทนที่มีลูกแบบเกียร์ แต่ระยะหลังท่านก็ไม่ค่อยโทรฯมาถามเรื่องเกียร์แล้วนะครับเพราะเปลี่ยนมาคุยเรื่องผมกับท่านแทนเลยกลายเป็นว่าเกียร์ต้องขอสายคุยกับท่านให้หายคิดถึงบ้าง

“ยังหายใจอยู่” ไม่พูดเปล่า มันยื่นจมูกมาหายใจฟืดฟาดเหมือนกำหนัดตกมันอยู่แถวคอผม ไอ้ห่า พอเถอะมึงไม่อิ่มแต่ไอรักอิ่มแล้วครับ!

“งั้นก็กลับไปบอกท่านเองแล้วกันครับ” ผมเบี่ยงแล้วลุกขึ้นสะพานกระเป๋า โดยที่มีอีกคนเดินตามมา ทำท่าจะถือกระเป๋าให้แต่ผมเบี่ยงออก ให้ใช้แรงบ้างเถอะครับแค่นี้ไอรักก็จะเป็นง่อยอยู่แล้ว คิดแล้วก็อยากร้องไห้ ฮื้อๆๆ

“บอกแล้ว”

“ดีแล้วละครับ ไม่งั้นเขาจะเป็นห่วงกัันเปล่าๆ ไปกันครับคุณไอซิส กลับบ้านกันเถอะเนอะ” ผมเอาไอซิสใส่กระเป๋าสำหรับแมว อีกคนก็เอาไปถือแทน

“เดี๋ยวไปส่ง”

“อ่ะ แล้วไม่เตรียมของกลับบ้านหน่อยเหรอครับ” ผมจำได้ว่ากางเกงในที่บ้านมันไม่ค่อยมีเพราะเอามาไว้ที่นี่เกือบหมด

“ที่ไหนก็เหมือนกัน”

“คุณก็เป็นซะอย่างนี้ ตายเอาดาบหน้าทุกที มีก็ใส่ ไม่มีก็ไม่ใส่ อย่างนี้จะไม่ให้ผมห่วงได้ไง” ผมบ่นออกมา แต่มันก็กดยิ้มมุมปากอีก ผมละเชื่อเลย กระโดดกัดต้นแขนเสียเลย หึหึ พอใจแล้วก็เดินนำลงไป

“เอารถไปดีไหม” เกียร์ถาม ผมส่ายหน้า

“ไม่ดีกว่าครับ คุณจะได้ไม่ต้องไปขึ้นรถโดยสารกลับ ไปมอเตอร์ไซค์คุณดีกว่า” อีกอย่างบ้านผมก็มีรถคันอื่นให้ใช้ ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้นด้วย

“พี่ๆไอรักไม่ชอบให้นั่งมอเตอร์ไซค์”

“แต่แด๊ดชอบนะครับ” ผมหัวเราะ

“งั้นเอาใจพ่อสะใภ้ดีกว่า” ไอ้เชี่ย พูดอะไรดูตัวไอรักด้วย ใหญ่ยิ่งกว่าควายบอกเป็นสะใภั

“เดี๋ยวนี้คุณพูดเยอะขึ้นรู้สึกไหม” ผมปรายตากระแนะกระแหน มันก็ยังยิ้มตอบได้อีกนะครับดูสิ

ขับเข้ามาในบ้านก็เห็นสองคนตายายเดินจับมืออยู่ในสวน ผมยิ้มกว้างออกมาไม่แพ้ทั้งคู่ที่หันมาแล้วเห็นผม

“ไหนบอกจะมาเช้าๆละคะตัวเล็ก” ผมเหล่ตามองตัวการที่ลอยหน้าลอยตายกของส่งไปให้แม่บ้าน

“แหะๆ เผลอหลับยาวไปหน่อยน่ะครับ” พูดแล้วโผเข้ากอดท่านทั้งสองคน

“มาม๊าเขานั่งรอทานข้าวตั้งแต่เช้า”

“ยิ่งพูด ไอรักยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่ ขอโทษนะครับ”

“หึ ป่ะ เข้าบ้านกันก่อน” แด๊ดยิ้มแล้วพูด คงดีใจที่ได้แกล้งผม

“ลูกเกียร์ ไม่รีบกลับใช่ไหมคะ เข้ามาทานอะไรกันก่อนนะคะ”

เกียร์ค้อมตัวเล็กน้อยแล้วเดินตามมาด้วยกัน ระหว่างทางผมก็เล่าเรื่องที่ไปเข้าค่ายให้ฟัง มาม๊าตาโตใหญ่เลย บอกว่าน่าไปด้วย

“แล้วลูกนัทเขาอยู่บ้านกับใครละคะ” แม่ผมถาม นัทก็คือเด็กตัวเข้มๆที่สนิทกับผมตอนอยู่ที่ค่ายน่ะครับ ป่านนี้คงไม่ร้องไห้แล้วละมั้ง

“เห็นว่าอยู่กับแม่แล้วก็พี่ชายครับ เขาเป็นเด็กที่น่าเอ็นดูมากๆ ตอนไอรักทำงานเขาก็มาช่วยสุดกำลังเลย ตัวเล็กแต่ใจใหญ่มากครับ” ผมเล่าไปยิ้มไป ท่านทั้งสองฟังแล้วก็ยิ้มตาม

“เอ..ใช่ เมื่อวันก่อนมาม๊าได้ที่พักฟรีมา เป็นรีสอร์ตเพื่อนแถวหัวหินน่ะค่ะ ว่าจะถามตัวเล็กเหมือนกันว่าจะไปไหม ถ้าอยากไปก็ไปวันหยุดยาวนี้กันเลย ดีไหมคะ”

“ดีๆ ดีครับ เราไม่ได้เที่ยวด้วยกันนานแล้ว” ผมบอกเสียงตื่นเต้นดีใจ ใช่ นานๆทีจะได้ไปด้วยกัน เพราะพวกพี่ๆไม่ค่อยว่าง พ่อก็ออกไปทานข้าวกับลูกค้าบ่อย ผมก็เรียน จะมีก็แต่แม่ผมที่พอว่างบ้างเพราะไม่ค่อยชอบไปงานสังคมสักเท่าไร

แต่หลังๆเขาก็มีสังคมใหม่แล้วนะครับ เที่ยวกับคุณแม่ของเกียร์น่ะ พวกพ่อๆทั้งหลายก็บ่นไม่ได้เพราะทั้งคู่สนิทกันมาก ปรกติจะอยู่แต่บ้านทำกับข้าวรอสามีกับลูกกลับบ้านไงครับ แต่นี่แทบไม่มีโอกาสนั้นแล้วเพราะพวกท่านออกไปเที่ยวด้วยกันเกือบทุกวันที่ว่าง ผมละแอบขำตั้งหลายครั้งที่พ่อโทรมาบ่นให้ฟัง

“นั่นคือประเด็นหลักใช่ไหมลูกรัก” พ่อถาม พลางเล่นหางไอซิสที่นั่งอยู่ข้างๆ

“แฮะๆ ก็นิดหนึ่งครับ อ้อ ให้เกียร์ไปด้วยนะครับ เกียร์ไปด้วยกันนะ” ผมพูดกับพวกท่านแล้วหันไปถามคนที่นั่งเก้าอี้อีกตัวตาแป๋ว สายตาแบบนี้ละที่ผมไม่เคยเห็นเกียร์ปฎิเสธลงเลยสักครั้ง

“เอ… นั่นสิคะ ลูกเกียร์ไปด้วยนะลูก เดี๋ยวมาม๊าโทรไปชวนคุณเอมกับคุณกิตด้วยดีกว่า” แม่ว่างั้นแล้วลุกผละออกไป ปล่อยให้พวกผมนั่งเอ๋ออยู่สามคน เอ่อครอบครัวผมกับเกียร์สนิทกันเกินไปไหม เอะอะก็ชวนเที่ยวเลย...แต่เห็นแบบนี้ผมก็ดีใจนะ

สักพักแม่ก็เดินยิ้มเข้ามา

“คุณพ่อคุณแม่ลูกตอบตกลงนะคะ งั้นเดี๋ยวมาม๊าไปเตรียมชุดก่อนดีกว่า เมื่อวานซื้อชุดว่ายน้ำมาใหม่ สวยมากเลยค่ะตัวเล็ก เดี๋ยวไปที่โน่นจะใส่ให้ดูนะคะ”

“คุณดูตื่นเต้นนะ ได้ข่าวว่าบ้านเราก็ทำรีสอร์ตเหมือนกันไม่ใช่หรือ”

“เอ๊ะคุณ มันไม่เหมือนกันนะคะ ของฟรีกับของเราอารมณ์คนละแบบเลยค่ะ อ๋อ หรือคุณไม่อยากไป ไม่เป็นไรฉันไปกับลูกๆกันได้ เนอะตัวเล็ก” อ้าว หม่อมแม่โยนขี้ให้ไอรักแล้วไงครับพี่น้อง

“ผมยังไม่ได้บอกเลยว่าจะไม่ไป ผมไปด้วยสิ เดี๋ยวสิคุณรอก่อน” ผมกับเกียร์ได้แต่มองคุณแม่ขี้งอนสะบัดบ็อบหนีขึ้นข้างบนโดยที่มีพ่อทำท่าจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามไป แต่โดนแม่ห้ามไว้เสียก่อน

“หยุดเลยนะคะ นั่งอยู่กับลูกไปเลย” โหแม่ผมครับแม่ผม สะบัดหน้าไปลองชุดข้างบนแหงๆ ผมก็ได้แต่ส่งสายตาสงสารพ่อที่มองแม่เดินขึ้นไปด้วยตาปริบๆ

“แด๊ดยังหัวหอมอยู่ไหมตัวเล็ก” พ่อผมพูดตามความรู้สึกที่ว่าหัวตัวเองเน่าขึ้นเรื่อยๆ ตายังมองไปทางบันได ผมเลยกระโดดไปนั่งตักแล้วหอมแก้มทั้งสองข้างก่อนจะผละออกมา

“หอมกลิ่นว่านไทยที่สุดเลยครับ” ผมยิ้มแป้น รู้ว่าตัวเองตัวหนักนะ แต่ไม่เจียม

“โอยลูกรัก ตัวก็ไม่ใช่ว่าเล็ก โตแล้วนะ ดูสิลูกเกียร์เขามองตาขวางแล้วน่ะ” พูดจบพ่อก็หัวเราะ ผมหันไปมองก็เห็นตาขวางจริงๆด้วย แต่เห็นว่ามันรีบเปลี่ยนสีหน้ามานิ่งเหมือนเดิมมก็เลยแกล้งยิ้มมุมปากไปให้ กับพ่อก็ยังหึงได้เลยนะมึง ไอรักละเพลียจิต

“ไม่อยากให้ไอรักนั่งตักแล้วเหรอครับ..” ผมก้มหน้าลงพูดเสียงหงอย พ่อรีบกอดลูบหลังใหญ่

“อยากสิ โอ๋ๆ ทำหน้าเศร้าไม่ดีหรอกนะ ยิ้มสิครับตัวเล็ก หื้มน่ารักจริงๆลูกแด๊ดคนนี้” ผมค่อยๆเงยหน้าแล้วยิ้มให้ โดนพ่อหอมแก้มหลานฟอด อยู่ๆเสียงตรงประตูก็ดังขึ้น

“แล้วคนนี้ไม่น่ารักเหรอครับ”

“พี่ติม” ผมร้อง ลงจากตักแด๊ดไปกระโดดกอดอีกคน คิดถึงอิ๊บอั๋ยเลย

“โอ้ยๆตัวเล็ก ตัวไม่เล็กแล้วนะ หลังพี่จะหักแล้ว”

“นี่ก็อีกคน ไอรักยังหุ่นดีไม่อ้วนนะครับ”

“หืม จริงอะ นี่นายเอาอะไรให้น้องฉันทานน่ะ เดี๋ยวนี้อย่างกับหมูเดินได้” พี่ไอติมพูดเสร็จ ผมรีบออกจากตัวพี่ติมแล้วรีบตัวเนื้อตัว ไอรักอ้วนจริงเหรอวะทำไมแต่ละคนมีท่าทางแบบนี้อะ ไม่นะ! ไมมมมมม่

“หึหึ พี่ล้อเล่นน่ะ” ผมเงยหน้ามองแล้วปั้นหน้ายักษ์ แต่แหงโดนหัวเราะใส่วะ กลับบ้านทีไรโดนรุมแกล้งทุกที ผมหน้าจะเป็นตูดอยู่แล้วไม่เห็นกันหรือไงครับ! เชอะ!

ทักทายกันสักพักก็ปล่อยให้พี่ติมไปพักผ่อน ผมกับเกียร์เลยเดินไปเล่นคุณไอหมอกกับไอแดดข้างนอก เดินหาเจ้าสองตัวนี้อยู่นาน พอเจอก็โดนกระโจนใส่อีกแล้ว คงดีใจมากที่เห็นผมกลับมา ส่วนเกียร์ก็ถูกเจ้าพวกลูกๆดมแล้วยิ้มแฮะ แฮะ แต่เกียร์ก็ดันไปแกล้งลูกผมโดยการแยกเขี้ยวใส่ เจ้าตัวเลยสะบัดหน้าเดินตูดปัดมาเล่นกับผมเหมือนเดิม ลูกกูเป็นตุ๊ดหรือเปล่าวะ พ่อเริ่มหนักใจ

“เห...เกียร์ ส้มออกผลแล้วละ” ผมพูดเสียงดีใจ ที่บ้านผมปลูกต้นส้มเอาไว้แต่มันก็ไม่ค่อยออกลูกหรอกครับ ขนาดฤดูออกผลของมันยังไม่ค่อยได้ทานเลย แต่ออกทีก็หวานอร่อยเลยละครับ

“เดี๋ยว มันยังไม่สุกเต็มที่” เกียร์ร้องห้ามตอนที่ผมจะเอื้อมไปเด็ด เล่นเอาผมแทบเบรคแตกแหกโค้งเลยทีเดียว

“อ้าวเหรอ แฮะๆ งั้นไว้วันหลังค่อยทานแล้วกันเนอะ” ผมหันกลับไปยิ้มแหยท่ามกลางฝูงลูกที่ยิ้มแฮะ แฮะ เกียร์เห็นก็อมยิ้มหวานเลย โอ้ยๆๆๆ หัวใจผมจะวายเอา อย่ายิ้มบ่อยสิวะ ยิ้มเกียร์เป็นพิษกับหัวใจผมนะ!

“เกียร์ก็เคยปลูกต้นส้ม”

“จริงอะ พันธุ์เดียวกับต้นนี้ไหมครับ เอ..หรือพันธุ์ท้ายนรสิงห์”

“มีซะที่ไหนละ นั่นมันชื่ออนุเสาวรีย์ที่อ่างทอง”

“คึคึ ผมล้อเล่นน่า แล้วตอนนี้ยังมีอยู่ไหม ตอนไปไม่เห็นจะเห็นเลย”

“พ่อเอาให้เพื่อนไปตั้งนานแล้ว” ผมพยักหน้า เราพูดกันอีกไม่กี่เรื่องก็ได้ยินเสียงเรียกจากหน้าบ้าน

“ตัวเล็ก ตัวเล็ก อยู่ไหนครับ” อ่า เสียงพี่ไออุ่นนี่นา ผมกับลูกๆหันไปมองตามเสียงก็หูตั้งหางชี้ที่ได้ยินเสียง คว้าข้อมือใหญ่แล้วเดินไวไปหน้าบ้าน

“พี่ไออุ่น ไอรักคิดถึงจังเลยครับ ทำไมกลับดึกจังเลย เหนื่อยไหมครับ วันนี้ไอรักนวดให้นะ” ผมวิ่งเข้าไปกอดแล้วยิ้มให้แบบแมนเต็มร้อย

“อรชรอ้อนแอ้นขึ้นนะตัวเล็ก”

“เย้ย ไหงพูดงี้อะครับ อย่างนี้ก็สวยสิ” ผมรีบผละแล้วถลกเสื้อขึ้นทำกร่างเต็มที่ พี่อุ่นหัวเราะแล้วบีบกร้ามเนื้อตรงต้นแขนผมเบาๆ

“หึหึ อ้วนขึ้นหรือเปล่า ดูสินุ่มนิ่มเหมือนยัดนุ่น ไหนมาให้หนุนหน่อยสิ” เมื่อเดินเข้าบ้านพี่อุ่นก็ดึงให้ผมลงไปนั่งแล้วตัวเองทิ้งหัวลงมาที่ตักทันที เพียงเท่านั้นผมก็แทบจะทึ้งหัวตัวเองเลยอะ อะไรกันนน คำว่าอ้วนมาอีกแล้ว แล้วก็พูดอย่างกับผมเป็นผู้หญิง งอนว้อยยย งอน

“เอ้า ไปแกล้งอะไรน้องละคะลูก อ้าวแล้วลูกเกียร์ยืนหน้าบึ้งทำไมละคะ...อ๋อ ฮ่าๆๆ” แม่พูด ผมเลยหันไปมองเห็นเกียร์กำลังมองพี่อุ่นที่เกลี่ยปอยผมให้อย่างไม่ชอบใจนัก ผมเลยยิ้มไปให้เผื่อมันจะเลิกคิดเล็กคิดน้อย

“พี่อุ่นไปไหนมาเหรอครับ ทำไมของเต็มเลยละครับ” เห็นแม่บ้านช่วยกันยกของลง มีกระเป๋าเดินทางด้วย ปรกติถ้าวันไหนพวกพี่ๆไปไหนจะส่งข้อความมาบอกผมก่อนขนาดผมไม่ได้อยู่ที่บ้านก็ยังทำสม่ำเสมอ

“ไปสิงคโปร์กะทันหันน่ะเลยไม่ได้บอก ขอโทษนะครับ” พี่อุ่นลูบหัวผมเบาๆแล้วพยักหน้าให้เกียร์ที่ยกมือไหว้ก่อนที่เกียร์จะเดินมาทิ้งตัวแรงๆข้างผม โหมึงแสดงออกนะ แล้วพี่อุ่นจะยิ้มแสยะใส่แฟนผมทำไมเนี่ย แค่นี้ก็หน้ามุ่ยจะแย่แล้ว

“พี่อุ่นเขาซื้อของฝากมาให้เต็มเลยนะคะ เขาบอกว่ากลัวตัวเล็กจะงอน” แม่บุ้ยปากไปทางกระเป๋าเดินทางหลายใบที่วางตรงพื้น

“ตัวเล็กเปล่าขี้งอนสักหน่อยครับ” ผมหน้ามุ่ยลง เรียกเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดี

เราเดินเข้าห้องอาหารไปทานข้าวกันก่อน คุยเรื่องสัพเพเหระแทบทุกเรื่องตามประสาคนไม่ได้กลับบ้านมานาน เอ๊ะหรือผมพูดมากวะ ไม่หรอกออกจากเป็นคนเงียบขรึมหึหึ แล้วก็พูดเรื่องทริปที่จะไปช่วงวันหยุดยาวที่กำลังจะมาถึง พอเสร็จก็มานั่งที่ห้องนั่งเล่นแกะของฝากที่มีตั้งหลายกระเป๋า ผมยิ้มเลย อ้อๆผมไม่ได้แกะคนเดียวนะครับ มีคุณไอซิสไอหมอกไอแดด ลูกๆสามตัวที่มาช่วยกันรุมจนเกียร์ต้องลากให้มานั่งยิ้มแฮะ แฮะ อยู่ข้างหลัง เป็นกำลังใจที่ดีมากเลยลูก

“เอาไปทั้งกระเป๋านั่นละเพราะในนั้นของไอรักกับเกียร์  อันนี้ของติม พี่แยกเอาไว้ให้หมดแล้วครับ ส่วนนี่ของแด๊ดมาม๊าครับ”

“ขอบคุณครับ/ขอบใจนะลูก” เกียร์ผงกหัวเป็นการขอบคุณ ส่วนผม พี่ติม ไหว้แบบนางงามเลยครับ แหมมารยาทบ้านนี้ก็รู้ๆกันอยู่นะครับ สวยงามตามท้องเรื่อง

“เห.. มีแว่นตาด้วย เกียร์ๆๆลองใส่หน่อยครับ” ผมหยิบแว่นสีชาขึ้นมาใส่ แล้วเอาแว่นตาดำที่แบรนด์และรูปทรงเดียวกันใส่ให้เกียร์ อะเฮ้ย ไอ้สัตว์ กูนึกว่าโจร (ขอไอรักหยาบสักนิดครับ แวบแรกตกใจนึกว่าโจรใต้ขึ้นบ้านก็ไม่ปาน)

“หึ แมวใส่แว่น” เกียร์ยิ้มกระตุกมุมปากกระแทกเข้าแว่นผ่านมาถึงเบ้าตาผมทันที ตึกตักตึกตัก หล่อจังเลยแฟนใครนะ

“อ้าว ยิ้มได้ด้วยหรือ นึกว่าทำไม่เป็นซะแล้ว” พี่ติมพูดลอยๆ ทุกคนหันไปมองรวมถึงผมกับเกียร์ โหยจิกกัดเกียร์ไม่ปล่อยเลยว้อยพี่ผม

“เป็นครับ แต่เลือกคน” อั้ยยะ นั่นๆๆๆ คราวนี้เกียร์ก็ไม่ยอมน้อยหน้า พี่ติมคิ้วขมวดถลึงตาใส่เล่นเอาคนฟังขำออกมากันเสียงดัง

“ให้มันได้อย่างนี้สิถึงจะเป็นลูกเขยแด๊ดได้ หึหึ เอาละได้เวลานอนแล้ว ทานนมให้หมดแล้วขึ้นไปนอนได้แล้วนะลูก เกียร์ด้วยนะ” พ่อผมพูด อืม..บ้านผมจะนอนไวน่ะครับ สามทุ่มก็ถือว่าดึกกันแล้ว

“อ๋อ นั่นสิคะ นี่ก็ดึกมากแล้วลูกเกียร์นอนนี่แล้วกันค่ะ” เกียร์ตอบรับไป แต่ผมเห็นนะว่าแอบซ่อนยิ้มลับๆเอาไว้ โห อย่าบอกว่านี่ก็เป็นแผนมึงใช่ไหม ไอ้คุณน้ำแข็งงงงงงงง แต่เหมือนมันจะรู้ว่าผมคิดอะไรเลยหันมาพดตอนที่คนที่บ้านเริ่มทยอยขึ้นไปนอนกัน

“กลับตอนนี้ก็อันตราย พรุ่งนี้ค่อยกลับบ้านดีกว่า...ว่าไหม” เออออออออออ พูดกันเสร็จสรรพแล้วนี่ ไอรักจะพูดอะไรได้นอกจาก..

“จ้า (ไอ้)คุณน้ำแข็งเจ้าเล่ห์”




………………………………………………………..




“คุณเอม ชุดนี้ใส่แล้วดูผ่องมากเลยค่ะ เข้ากั๊นเข้ากัน” เสียงแม่ผมครับ

“ว้ายจริงหรือคะ คุณมิกิก็ดูดีเหมือนกันค่ะ ดีที่เราช่วยกันเลือกเลยได้ชุดสวยๆนี้มาใส่ ถ้าเอมไปคนเดียวต้องหัวหมุ่นแน่เลยค่ะ” เสียงแม่เกียร์ครับ

“ใช่เลยค่ะ สองหัวดีกว่าหัวเดียว ไปถ่ายรูปกันตรงนั้นดีกว่าค่ะ” แล้วสองนางก็จูงมือกันไปโน่นแล้วครับ ส่วนพ่อๆก็มองอย่างอาฆาต เพราะชุดที่ใส่ก็วับๆแวมๆกว่าชุดเดิมที่เคยมี แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ครับ เพราะผมเห็นสองพ่อห้ามตั้งแต่อยู่บนห้อง แต่ก็ต้านทานอำนาจเจ้าบ้านไม่ได้หรอกครับ

“ตัวเล็กๆ แข่งว่ายน้ำกับพี่เปล่า” ดูครับ ดูพี่ติมท้า ผมจะไปสู้พี่แกได้ยังไง ว่ายไวยิ่งกว่าบั้งไฟลอยขึ้นฟ้าอีก

“โห ทำไมไม่ชวนพี่อุ่นละครับ กลัวแพ้ละซี่ หึหึ” แต่พี่อุ่นว่ายเก่งกว่าครับ พี่ติมนี่แพ้พี่อุ่นมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว

“พูดซะน่าบีบแก้มให้ขาดจริงๆ สบประมาทพี่นะเนี่ยตัวเล็ก คนอย่างพี่ไม่กลัวแพ้หรอกครับ ไม่อยากรังแกพี่ชายมากกว่า เหอะๆ เอาอย่างนี้ เกียร์ ปะ ไปแข่งกัน” อ้าวว เกียร์ทำหน้างงทันที ผมก็งง เปลี่ยนเป้าหมายไวจริง แต่ผมก็ต้องช่วยปธิเสธเพราะก็รู้ๆอยู่ว่าเกียร์มันกลัวทะเล ยิ่งทะเลหัวหินนี่อย่าพูดเลยครับ ไม่เคยลงไปแตะสักครั้ง

“ว่ายกันเถอะครับ” เกียร์ปฏิเสธอย่างนุ่มนวลที่สุดแล้ว ผมนี่เขินแล้วเขินอีก ทั้งที่ไม่ได้พูดกับผมนะ แต่หืมมมม น้ำเสียงแบบ...

“อะไรวะ ป๊อดกันทุกคน เฮ้ยๆพี่อุ่น” พี่ติมบ่นออกมาเบาๆ แล้วเรียกพี่อุ่นแล้วบุ้ยปากไปยังสาวๆที่มองมาทางเรา แต่เหมือนจะส่งสายตาหาพี่อุ่นกันมากกว่า โหเล่นกับใครไม่เล่น...

“แล้วไง” พี่อุ่นหันไปมองเสี้ยววินาทีก็หันกลับมาหาผม

“ทาครีมกันแดดหรือยังตัวเล็ก แดดแรงนะ เดี๋ยวพี่ไปเอาร่มให้ดีกว่าไหมครับ” พี่อุ่นพูด แต่เกียร์คิ้วกระตุกทันที

“ทาแล้วพี่อุ่น เกียร์ดูแลไอรักเป็นอย่างดีเลย ไม่ต้องเอาร่มหรอกครับ แดดอย่างนี้กำลังดีเลย” ผมพูดตอบ พี่อุ่นก็ยอมพยักหน้าแล้วเดินไปสั่งน้ำดื่มให้ทุกคน

“พี่ว่า พี่อุ่นขึ้นคานแน่นอน เอะอะก็น้อง เอะอะก็งาน” พี่ติมได้แต่มองแล้วนินทา เอ้ย พูดถึงให้ผมฟัง

“ฮ่าๆ ถ้าจะมีเดี๋ยวมันก็มาเองละครับ พี่อุ่นเคยบอกแล้วไง 'พี่ไม่รีบ ติมกับตัวเล็กเถอะอย่ารีบทิ้งพี่ไปไหนก็แล้วกัน'” ผมพูด เก๊กเสียงเข้มให้เหมือนพี่อุ่น

“แต่พี่ไม่ครับ พี่รีบ เดี๋ยวมานะ” .............................ไอ้พี่ติมเจ้าชู้

ผมอมยิ้ม หันไปมองคนข้างๆที่หน้าเปื้อนยิ้มเล็กน้อยเช่นเดียวกัน มือเราทั้งสองคนประสานแนบแน่นแล้วเดินไปตามทาง ผมมองทะเลที่เคยเป็นบาดแผลกลางใจเกียร์ และตอนนี้ผมก็รู้แล้วว่ามันก็กลายเป็นเพียงความทรงจำที่อยู่ในใจของเกียร์เท่านั้นเพราะคำพูดพร้อมแรงกระชับที่มือทำผมยิ้มกว้างให้กับคนข้างตัวด้วยสีหน้าที่มีความสุขที่สุด

“ไป....เล่นน้ำด้วยกันไหม”


THE END


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

+กี่วันกี่เดือนแล้วเนี่ย โห ขอโทษนะคะที่ไม่มีเวลามาต่อให้จบสักที ความจริงเราแต่งเสร็จนานแล้วแต่ไม่ค่อยพอใจเลยจะแก้ใหม่ แต่ก็หาเวลามาเขียนใหม่ไม่ได้สักที งานเยอะมากๆค่ะ
+ขอบคุณที่อุตส่าห์ติดตามกันมาจนจบเรื่องนะคะ ดีใจมากๆที่มีคนอ่าน ขอบคุณจริงๆค่ะ
+ถ้ามีเวลา จะเอาตอนพิเศษมาลงนะคะ

ด้วยความรัก :กอด1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 28-01-2015 16:51:14
จบละอ่ะ จบละหรออออ อTT^TT
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 28-01-2015 17:29:12
ไม่ได้เข้ามาอ่านนาน วันนี้เจอเรื่องจบพอดี
ชอบไอรักกับเกียร์นะ แต่ยิ่งชอบตอนไอรักอยู่กับพวกพี่ๆ น่ารักดี

ฃอบคุณนะค่ะ
+1ค่ะ    :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 28-01-2015 18:48:58
จบซะแล้ว ไม่อยากให้จบเลย เราจะต้องคิดถึงไอรักมากๆแน่ๆ :mew2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 28-01-2015 19:33:12
ครอบครัวสุขสันต์สมานฉันท์สุดๆ น่ารักมาก
ไอรักนีาขี้อ้อนจริง ขอบิดแก้มที ส่วนเกียร์ก็หึงแฟนตลอดอ่ะ น่าเอ็นดูงิ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: PURE LOVE ที่ 28-01-2015 19:48:59
ขอบคุณมากค่า  :pig4: :pig4:

เรื่องนี้น่ารักมาก อ่านทีไรมีความสุขทุกที

ขอบคุณคนเขียน ที่สร้างสรรผลงานดี ๆ น่ารัก ๆ มาให้ความสุขกับคนอ่านนะคะ

ต้องคิดถึงไอรักกับเกียร์ และตัวละครทุกตัวมากแน่ ๆ เลย

เอาตอนพิเศษมาฝากให้หายคิดถึงบ้างนะจ้ะ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 28-01-2015 20:49:21
ในที่สุดก็จบได้ 55555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 28-01-2015 22:40:41
จบแล้วหรอเนี้ย  :hao5:
เป็นนิยายน่ารักๆที่ให้อารมณ์ฟรุ้งฟริ้งทุกครั้งที่อ่าน  :กอด1:
ขอตอนพิเศษเยอะๆเลยนะคนเขียนจ๋าาา   :pig4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: MuSicALone ที่ 28-01-2015 22:43:28
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-01-2015 23:45:58
ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ ขอบคุณที่ให้เราจนจบ เราชอบเรื่องนี้เลยนะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: aabee ที่ 29-01-2015 00:05:30
 :man1: ขอบคุณคะที่ออกนิยายดีๆมาให้อ่านเสียดายแค่. เรื่องนี้จบเร็วจังอยากอ่านนิยายเรื่องนี้ไปนานๆ ชอบที่ตอนน่ารัก มีที่มาที่ไป ขอบคุณอีกครั้งคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 29-01-2015 15:40:57
หาาาา จบแล้วเหรอ ตามอ่านมาเป็นปีเลยค่ะ เป็นเรื่องที่ชอบมากๆและน่ารักมากๆ ชอบที่เกียร์รักนายเอกมากกก พยายามทำทุกอย่างให้ไอรัก เดี๋ยวจะอ่านอีกรอบค่ะ5555

ขอบคุณมากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 30-01-2015 13:16:59
อ่านแล้วแฮปปี้จริงๆเรื่องนี้ ดราม่าน้อยมากๆ ปลื้ม ><
ขอให้เกียร์กับไอรักอยู่ด้วยกันไปอีกนานเท่านาน น่ารักกก
แต่พี่ไออุ่นนี้จะมีโอกาสได้คู่กับใครไหมน๊าาา
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: pummy09 ที่ 30-01-2015 14:06:26
 :pig4:หายไปนาน กลับมาต่ออีกที จบเลย ฮ่าาาาาาาาาาาา

ขอบคุณนะคะ สำหรับเรื่องสนุกๆๆ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 30-01-2015 16:29:37
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 31-01-2015 17:10:13
 :mew1: :mew1:
คิดถึงเกียร์ไอรัก
นานๆได้เข้าเล้าที
มาอีกทีเจอตอนจบซะแระ
 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 31-01-2015 21:36:17
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 03-02-2015 15:24:27
พึ่งได้เข้ามาอ่าน ชอบมากกกกก
เนื้อเรื่องน่ารัก สนุกคะ อ่านไปยิ้มไป
รอตอนพิเศษคะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 03-02-2015 23:25:02
 :pig4: :mew6:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 04-02-2015 12:58:03
สนุกมาอ่ะ ชอบมากเลย ^^
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: phai ที่ 04-02-2015 22:56:34
สนุกสุดๆ
ชอบมากๆจ้าาาาาาาาาา

 o13
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 06-02-2015 12:41:31
 :m1: :m1: :m1: น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: Brow_Ney ที่ 07-02-2015 10:52:34
จบแล้ว สนุกดี ชอบมากกกก
อ่านเรื่องนี้แล้วอารมณ์ดี รอติดตามตอนพิเศษค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: Ningg.Destiny ที่ 07-02-2015 23:24:32
อ่านจบแล้วคู่นี้ หลงไอรักมาก
อยากได้ไอรักมาอยู่ที่บ้านต้องทำไง #เกียร์ฆ่าแน่
ชอบมากกกกกกก
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: MIwEMInE ที่ 10-02-2015 21:07:53
สนุกมากค่ะ
ขอบคุณนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 16-02-2015 00:38:22
ไอรักน่ารักเสมอเลยจริงๆ ส่วนคุณน้ำแข็งจะละลายก็เมื่ออยู่กับไอรัก น่ารักได้อีก
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: littlepink ที่ 16-02-2015 20:39:38
อ่านจบแล้ววว น่ารักดีจ้าาา :)
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 18-02-2015 09:37:10
น่ารักมากก อยากมีแฟนแบบเกียร์จัง :mew2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 03-03-2015 00:55:33
น่ารักอ้ะ เขินละลายไปหลายรอบกับคุณน้ำแข็งคุณเจ้าชาย
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: Momichi ที่ 05-04-2015 01:51:03
สนุกมากเลยค่ะ อ่านแล้วอยากได้แฟนแบบเกียรโคตรดูแลไอรักดีเลย
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 13-05-2015 19:02:18
น่าร๊ากมากเลยเรื่องนี้ o13
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 14-05-2015 22:38:57
 :กอด1:
 :L2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: llmup ที่ 27-05-2015 16:04:09
ให้ตายเถอะ มีภาค2ตอนทำงานไหมค่ะ55555  :hao3:
โอ้ยคือไง จะพูดว่าไงดี คือชอบ คือรัก รักทุกตัวละครเลย ดีงามมากมาย

หวาน หวาน หวาน หวาน หื่น พูดได้แค่นี้จริงๆ
ตอนที่พ่อบอกให้เลิกกัน เรานี้นั่งร้องไห้เลยค่ะ ร้องจริงจรัง55555  :hao5:

แอร้ยยยยยยยยยยยย  :hao7: ไม่เสียใจจริงๆที่กดเข้ามาอ่านเรื่องนี้
เราแนะนำเลยใครไม่ชอบม่าแบบเรา ทั้ง2คนดูแลกันดีมาก
เราเชื่อว่าอนาคตไม่ว่ากี่ปีเค้าจะยังอยู่ด้วยกันค่ะ
เพราะถ้าอีกคนร้อนอีกคนก็จะเย็น อีกคนงอนอีกคนก็ง้อถึงตัวเองอาจจะไม่ผิด
มันทำให้ชีวิตคู่ยืนยาวแน่นอน รักคนเขียนค่า  :mew1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนที่35* [28/01/15] P.16 [จบแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-06-2015 18:32:47
มาอ่านซึมซับบรรยากาศอีกรอบ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสู๊ด* [28/01/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 02-06-2015 19:21:40
ตอนพิเศษ #เกือกเป็นเหตุ (ย้อนหลังวันวิสาขบูชา)







วันนี้เป็นวันสำคัญทางศาสนา และเป็นวันที่พวกผมได้หยุดงานหลังจากทุ่มเทหลังขดหลังแข็งกับงานมานาน

ตอนแรกว่าจะไปเวียนเทียนแต่เมื่อไม่กี่วันก่อนเกียร์เข้าไลน์การผลิตแล้วดันเอาแขนไปเฉียดโดนมอเตอร์เลยเป็นแผลกลับบ้าน อาจจะฟังดูเหมือนแผลใหญ่จนเหวอะ แต่ความจริงมันไม่มากขนาดนั้นหรอกครับเพราะโชคดีที่มอเตอร์เป็นเครื่องเล็ก ไอ้คนตัวใหญ่ของผมก็เลยโดนเคราะห์กรรมไป ผมเลยสั่งห้ามไม่ให้ไปอยู่ที่คนเยอะๆหรือมีสิ่งแปลกปลอมมากๆ กลัวแผลจะติดเชื้อแล้วจะแย่ลงน่ะครับ

แต่ไม่ใช่ว่าผมจะว่างนะ นึกว่าจะได้นอนเล่นกับคุณไอซิสสบายๆ เกียร์ก็ชวนออกไปซื้อของเข้าบ้าน ไอ้ผมก็เป็นห่วงแฟนไงเลยบอกให้แม่บ้านซื้อเข้ามาให้ก็ได้ แต่รายนั้นเขาไม่ยอมครับ อะไรที่เป็นเรื่องของเรานี่ต้องดีที่สุด ต้องไปเลือกไปเห็นกับตาถึงจะวางใจได้ ผมก็เลยเลือกห้างใหม่ใจกลางเมืองเพราะคนไม่เยอะเท่ากับห้างแถวคอนโดเรา

“หยิบผ้าผืนใหม่นะ” เกียร์บอกตอนที่ผมกำลังคว้าผ้าเช็ดตัวที่ห้อยอยู่ตรงชานระเบียง

“จะเอาไปซักเหรอครับ” ผมถามงงๆ ปรกติจะซักอาทิตย์ละสองครั้ง แต่นี่เมื่อวานพึ่งซักไปเอง

“ไอซิสมันตะกุยหล่นพื้น เมื่อกี้เผลอไปแขวน” อ๋อ ลูกผมครับลูกผม ว่าไม่ได้ โอ๋อย่างเดียว

“หื้มม ดื้อจริงๆเลยนะครับคุณไอซิส” ผมเดินไปหาเกียร์ที่อุ้มไอซิสอยู่แล้วเกาคางอย่างหมั่นเขี้ยว เล่นกันไปนิดหน่อยเกียร์ก็อุ้มไปส่งนอกห้อง ไอรักที่ยืนยกมือค้างได้แต่ยืนงง บ๊ายบาย หมดโควต้าจ้าคุณไอซิส..

สักพักพี่แกก็เดินกลับมาพร้อมขับแขนผมแล้วกระตุกยิกๆ

“ป่ะ” ห้ะ ไปไหน อะไรยังไงตอบ

“ไปไหนอะครับ ขอผมอาบน้ำก่อนสิ” ไอ้แฟนคนนี้นี่แม่งชักจะยังไง ไล่ให้เราไปอาบน้ำอยู่หยกๆ

“อืม ก็อาบน้ำด้วยกัน” อ๋อ………

“ห๊า”

“หะอะไร เร็วๆ เดี๋ยวไอ้ทรุดตามประท้วงขออาหารหรอก” เกียร์ดูรีบมากครับไม่พูดเปล่า ดันก้นผมให้เดินไปยังห้องน้ำไม่พอ ยังเอามือมารองใต้หว่างขาแล้วลูบคลำเฉย ไอ้เชี่ย ไอ้มือไวใจเร็ว ทำหนุ่มใจแตกอีกแล้ว โว้ยยยยยมีแววจะเสียตัวอีกแล้วกู


“เกียร์! เอามือออกไปก่อนครับ ทำอะไรน่าเกลียดอะ! อ๊ะ...” มันเริ่มกดจุดหนักขึ้นเรื่อยๆแล้วครับ ไหนใครๆๆๆใครบอกว่ามันเจ็บแขนครับ ไม่ไหวละ ไอรักขออาบ(เอา)น้ำ(ออก)ก่อนนะครับ ฮืออออ



………………………………………………………



“ไปก่อนน้า คุณไอซิสลูกรัก” ผมทำปากม้วฟๆใส่แมวในชุดไทยอยู่นาน จนเกียร์สะกิดให้ลุกสักที ผมก็เอื่อยเฉื่อยนิดหน่อย สงสารลูกครับ มาดักหน้าดักหลังเหมือนจะไปด้วย หนำซ้ำยังเอาหัวชนขาแล้วล้มตัวแปะบนเท้าผมอีก โอ้ยยยย คุณลูกครับ น่ารักเกิ้น

“เอาบัตรมาแล้วใช่ไหม” คนข้างตัวถามพลางขับรถออกจากคอนโด วันนี้ขับรถผมไปเพราะระยะทางไกลแถมต้องแบกของที่ต้องซื้อกลับด้วย ตอนผมบอกว่าเกียร์จะเจ็บแผล ให้ผมขับแทนไหม มันก็ไม่ยอมนะ

“เซ่อ เยสเซ่อ ระดับนี้แล้วไม่มีคำว่าลืม” เกียร์หัวเราะในลำคอนิดหน่อย บัตรที่ว่าคือเงินเก็บของเราสองคน เป็นค่าส่วนกลางน่ะครับ เวลาจับจ่ายใช้สอย ค่าน้ำค่าไฟ และอื่นๆจิปาถะที่ใช้ร่วมกันก็จะใช้เงินนี้นี่ละ สักส่วนการฝากเงินก็ 80:20 ไอ้ที่ฝากเยอะๆนั่นคือของเกียร์ ส่วนของผมที่อุตส่้าห์เถียงแทบตายว่าจะช่วยออกก็ออกได้เพียงเท่านั้นละครับ

อ้อ ส่วนเงินเดือนทั้งหมดของเกียร์ พี่ท่านก็เอามาฝากผมไว้เต็มจำนวนนั่นละ แล้วผมค่อยให้เป็นรายอาทิตย์ไป ตอนแรกผมก็ไม่ได้อะไรหรอก แต่เกียร์เป็นคนคะยั้นคะยอให้ผมเป็นคนเก็บ ก็เลยต้องทำตามหน้าที่ แต่บางส่วนผมก็โอนไปให้พ่อแม่เขานะครับ แล้วเงินที่เหลือก็เอาไว้ในบัญชีเขานั่นละไม่ได้เอามาใช้เองหรอก

“เมื่อกี้คุณแม่โทรมาชวนไปวัดละครับ น่าเสียดายเนอะ แด๊ดกับมาม๊าก็ไปด้วย ป่านนี้คงสนุกกันสี่คนอยู่แน่ๆ” ผมเล่าให้สารถีฟัง

“เราก็สนุกกันสองคน สนุกแอร์เย็นๆ” ไอ้คุณน้ำแข็งเริ่มเกทับ ถามจริง มึงอายุเท่าไรแล้วครับเพ่!

“จ้า พ่อเจ้าชาย” ไอ้ผมก็อดที่จะเหน็บแนมไม่ได้ เดี๋ยวนี้อัพเลเวลแล้วนะ คิดยังไงพูดอย่างนั้น แรกๆมันก็ไม่อึ้งนะ ติดจะขำเสียมากกว่า

“แฟนเจ้าชายหรอก” เอ๊อออออออออออออออออ เข้าตัวตล๊อดดด ไอ้ผมจะทำไงได้นอกจากหักหน้าออกข้างหน้าต่างแล้วกลั้นยิ้มไว้เต็มสตรีม มือแม่งก็จะแข่งกันพันไปไหนวะ เดี๋ยวตีมือแตกเลยนิ ฮึ่้ยยๆๆๆ

เมื่อมัน(แกล้งผมจน)พอใจแล้ว ก็ตั้งหน้าตั้งตาขับรถ แหม่ะ ไอ้เราก็แอบเหลือบมองแบบลูกกะตาแทบจะหมุนหลับด้าน แฟนเรานี่มันหล่อจริงๆ นี่ไม่บอกไม่รู้เลยนะว่าเคยเป็นรองเดือนวิศวะน่ะ หล่อกว่าเดือนวิศวะตั้งเยอะทำไมไม่มีใครรู้สึกเหมือนผมบ้างวะ เอ๊ะหรือความรักบังตา อิอิ ไม่หรอกเนอะ

เอ้อ แต่เราก็เรียนจบกันมาหลายปีแล้ว จะมโนย้อนทำไมตั้งหลายภพวะ คิดไปคิดมาอยู่ๆก็ถึงที่หมายเฉย! เอ้า ไอรักโม้นานไปเหรอนี่

ผมเดินไปยังโซนอาหาร ความจริงมันก็เป็นมานานจนเคยชินแล้วนะที่เกียร์จะให้ผมเลือกร้านอาหารเองเสมอ แต่จำได้ว่าวันก่อนอยากกินอาหารไทยจัดๆ ผมก็เลยจัดเต็มให้ครับ ดุ่มๆไปร้านอาหารฝรั่งเลยทันที5555

ล้อเล่น ก็ไปร้านอาหารไทยสิคิดขนาดนี้แล้ว

“รายการอาหารมี….. เท่านี้นะคะ รบกวนขอเมนูด้วยค่ะ” เอ๊า นึกว่าให้ไปเลย ว่าจะเก็บไว้เช็ดก้นคุณไอซิสซะหน่อย

“ที่นี่มีสละลอยแก้วด้วย เดี๋ยวทานอาหารคาวเสร็จ ตบด้วยของหวานกันเนอะเกียร์เนอะ” ผมพูด มันก็อมยิ้มนิ๊ดดหน่อยแล้วมือก็ลอยมาแหมะบนหัว ซ้ำยังขยี้เหมือนขอล้างมือก่อนทานข้าว อืม เอาที่สบายใจอะ

พออาหารมา อีแร้งก็มา กินไปครู่หนึ่งก็เห็นไอ้คนที่นั่งข้างๆฝั่งเดียวกันมันขยุกขยิกเหมือนหนอนไชหรรมก็ไม่ได้ เป็นเกรื้อนก็ไม่เชิง

“มีอะไรหรือเปล่าเกียร์ นั่งดีๆสิครับ” ครู่ใหญ่ๆเลยนะกว่าที่ผมจะอดรนทนไม่ได้ต้องดุมันไปที เห็นมันหยิบช้อนส้อมขึ้นมาดูบ้าง ดูป้ายร้านที่ติดบนโต๊ะบ้าง จับหลอดคนน้ำเปล่าบ้าง ไม่รับประทานคุณกระเพราสักที

“คือ ขอ..ซื้อรองเท้าผ้าใบได้ไหม” ผมหันไปมองคนพูดที่ตั้งใจลงมือกินข้าวเกินพอดี

“อ้าว คู่เก่าไม่ดีเหรอ อาทิตย์ที่แล้วพึ่งซื้อไม่ใช่เหรอครับ” ไม่ได้จะว่าอะไรนะ แต่เห็นเดี๋ยวนี้นางสนมของผมฮิตสะสมรองเท้าเหลือเกิน ที่ซื้อมาไม่เห็นได้ใช้คุ้มราคาเลย อยู่มาตั้งนานไม่เคยสนใจอะไรนอกจากมอเตอร์ไซค์ ใครทำไอ้คุณน้ำแข็งคลั่งไคล้รองเท้าได้วะะะะ

“ก็..อืม” เกียร์พูดแค่นั้นแล้วก็เงียบ(หรือเงิบวะ)ไป ผมก็เฉยๆนะอยากดูปฏิกิริยาว่าจะทำยังไงต่อไป คือผมก็ไม่ขัดใจเขาหรอกเพราะนานโคตรนานที่เกียร์จะอยากได้สิ่งของอะไรสักอย่างที เห็นแล้วก็อดเอ็นดูไม่ได้จริงๆครับ น้ำแข็งก้อนโตนั่งกัดปากหน่อยๆเหมือนอยากได้แต่ไม่กล้าพูด ส่วนคิ้วนี่เหมือนนั่งไขว่ห้างกันเลย พันกันเฉย

แล้วมันก็กินอย่างเงียบๆ ทำเหมือนปรกตินั่นละ พอเราทานอาหารเสร็จก็ว่าจะเดินไปซุปเปอร์มาร์เก็ตเลย แต่คีมยักษ์ก็ยึดมือผมไว้ก่อน ผมก็มองมันงงๆ

“ชั้นบนยังไม่ได้ดูเลย” หือ ผมมองมันที่เสตาหลบ ชั้นบนคือจะหมายถึงรองเท้าอะไรนั่นหรือเปล่า ผมหรี่ตามองมันอย่างจับผิด มึงจะแต่งหล่อไปหาใครห๊ะ ไอ้ น้ำ แข็ง

“อยากได้ขนาดนั้นเลยเหรอครับ” ผมถามมันตรงๆ คนตรงหน้าก็หน้ามึน ยืนเป็นจ่าเฉยตอนเวอร์ชั่นแรกที่ยังไม่ติดกล้อง CCTV

“................”

“.............” ผมเห็นอย่างนั้นก็ถอนหายใจ วันดีๆทำไมผมต้องรู้สึกคันยุบยิบในใจด้วยวะ เห็นมันพยายามทำอะไรสักอย่างแล้วไม่อยากบอกผม แค่นี้ก็รู้สึกแปลกๆ ไม่อยากคิดต่อแล้ว ผมเลยหันกลับไปเดินต่อพร้อมกับบอกมัน

“วันหลังค่อยมาเองเถอะ วันนี้ผมรีบ ไปเถอะครับ” เสียงผมคงเรียบเฉยนะ แต่ความจริงในใจมันแย่สุดๆ
ผมเดินไป แล้วก็คิดไปต่างๆนาๆ ก็บอกแล้วไม่อยากคิดต่อ บอกคิดแม่งก็มาเป็นเรื่องเป็นราว ไปยันฆ่าหั่นศพเกียร์แล้วฝังไว้ที่ท่อบาดาลโน่น กลับมาไอรักกลับมา พอถึงทางลงบันไดเลื่อนก็รู้สึกว่ามันเงียบแปลกๆ เลยหันไปมอง

อ้าวเฮ้ย เกียร์หาย

อย่าบอกนะว่ามันขึ้นไปดูเกือกใส่ส้นทีนไรนั่นอะ โอวม่าย นี่ผมยอมสยพแม้กระทั่งรองเท้าหรือวะ ผมเดินกลับทางเดิมอย่างหัวเสีย แต่ผมก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อเห็นมันอยู่ที่เดิม ทำหน้างอนอีก เฮ๊ยยยยยยยย ใครควรงอนใครวะสรุป

“เกียร์ ทำไมไม่มานี่ละครับ” มึงอย่างอนทับกูขอร้อง กูสู้ไม่ถอยนะ แต่ทำไมคำพูดผมมันคนละฟิลริ่งกับความคิดวะ!?

“...........งอน” เอ๊อ คนงอนเขาบอกสถานะกันด้วยเหรอวะ

“อะไรละครับ ถ้าเรื่องรองเท้าก็ขึ้นไปซื้อตอนนี้กันเลยก็ได้” ทำเรื่องมดให้กลายเป็นเรื่องช้างนะ

“ไม่ใช่” อ้าว

“เกียร์ครับ ถ้าคุณไม่บอก ผมจะรู้ไหมว่าคุณเป็นอะไร เราเคยพูดกันแล้วไม่ใช่เหรอว่ามีอะไรก็หันหน้าคุยกัน ถ้าคุณยังมีอะไรในใจอยู่แบบนี้ ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน คุณไม่คิดเหรอว่าผมก็เสียใจ” อ้าว ไอรักดราม่าใส่เฉย ไม่รู้ละ ใครผ่านมาจะมองยังไงก็ช่าง เคลียตรงนี้แม่งเลยครับ ไม่เคลียไอรักไม่กลับ

“..ไอรักไม่สนใจเกียร์เลย” เกียร์ก็ดูอึ้งๆไปนิดหน่อย แต่ก็ยอมพูดออกมา

“หือ ผมเหรอ”

“เวลาที่อยู่ด้วยกันก็ไม่ค่อยจะมี..”

“เดี๋ยวๆ ที่ผ่านมาผมทำงานนะ ทำเสร็จก็กลับบ้าน มากินข้าวเย็นด้วยกันตลอด” ผมแย้งขึ้น ไอรักเอ๋อหรือมันมึนวะ

“ทำแต่งานก็พอเข้าใจ แต่กลับมาทำไมต้องเล่นกับแมวก่อน” เฮ้ยยยยยย มึงหาเรื่องงี่เง่ามาชวนทะเลาะให้เลิกกันเหมือนในนิยายหรือเปล่าวะ

“ก็คุณไอซิสเข้ามาพันขานี่นา” ผมเกาหัวอย่างงงๆ ดูท่าจะยาวครับ ผมเลยดึงแขนมันให้ไปนั่งที่เก้าอี้ของห้าง

“เดี๋ยวนี้ชักจะเยอะไปแล้วนะ เพลาๆลงบ้างสิ มันนอนอยู่ก็ยังอุ้มมาเล่นจนตื่น เกียร์อยู่ข้างๆไม่เห็นเล่นด้วย” อืม ใครครับ ใครเยอะ มึงหรือตรู

“อ่า นั่นมันแมวนะครับ”

“แมวก็มีหัวใจ” เออ ก็ใช่ไง มันก็มีหัวใจเหมือนคนไงครับแฟน หรือมึงมีแต่หัว…

“ผมว่าเราหยุดงอนกันเรื่องนี้เถอะ เอาตรงๆนะครับ มันมีแค่เรื่องนี้จริงๆเหรอ” ร้อยวันพันปีเห็นไม่ค่อยจะเหวี่ยงผมกับลูกขนาดนี้ คุณแฟนกินไวอาก้ายี่ห้ออะไรมาครับ มีอ.ย.หรือเปล่าอยากรู้

“...................” อยู่ดีๆหน้ามันก็เริ่มมุ่ย ผมก็เหวอสิ เปลี่ยนสีหน้าไวขึ้นนะครับคุณน้ำแข็ง

“เอ่อ..” ผมงง พูดไม่ออก เชิญพี่ท่านพูดต่อเถอะครับ

“ไอรักเคยบอกว่าคนสะสมรองเท้ามันเท่ห์ แต่...ทำไมเกียร์ทำแล้วไม่เห็นชมบ้าง” พอมันพูดเท่านั้นละครับ ผมก็เริ่มประมวลผล เมื่อต้นเดือนที่แล้วผมกับมันนั่งดูโทรทัศน์กันอยู่ มีรายการหนึ่งเขาพาไปดูคนรักรองเท้ายี่ห้อชื่อดัง หน้าตาก็ใช้ได้นะครับ แต่ผมเห็นเขามีแนวคิดที่ดีก็เลยเปรยๆไปแบบนั้น ก็ไม่คิดว่ามันจะฝังใจ

ฉิบหาไม่เจอเลยสิทีนี้

“ก็รู้ว่าเกียร์มันอายุเยอะแล้ว.. เราก็คบกันมานานแล้ว..” ผมมองหน้าเศร้าๆบวกกับความไม่ค่อยมั่นใจของมันก็รู้สึกเอ็นดู มันคิดมากเรื่องนี้อยู่สินะ ไม่รู้นะว่าทำไมหลายคู่ ไม่ว่าจะชายหรือหญิงที่เจอส่วนใหญ่ความรักก็มักจะแผ่วปลายจนเลิกลากันไป แต่ทำไมผมถึงรักมันมากขึ้น มากขึ้นทุกวันก็ไม่รู้ คิดอย่างนั้ก็ดึงมือข้างหนึ่งมากุมไว้แล้วยิ้ม

“เกียร์ครับ ผมไม่ได้อยากให้เกียร์เหมือนใครนะ อีกอย่างเราอยู่ด้วยกันจนมันเกินความผูกพันไปแล้ว ผมไม่รู้หรอกนะว่าทำไมคุณถึงคิดเรื่องนี้ขึ้นมา แต่บางทีผมก็เคยคิดเหมือนกัน ถ้าวันหนึ่งเกียร์เคยชินที่จะอยู่กับผมจน..เบื่อ ถึงตอนนั้นผมจะทำยังไง..”

“เกียร์ไม่เคยเบื่อ” มันสวนขึ้นมา ผมจึงยิ้มๆแล้วพูดต่อ

“ก็ใช่ไงครับ ผมก็แค่คิด คิดไปเองคนเดียว กลัวว่าถ้าหน้าตาย่นเหี่ยวแล้วเกียร์จะหมดรัก กลัวว่าใครจะแย่งเกียร์ไป แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมหยุดความคิดนั้นก็คงเป็นการกระทำของคุณ”

“....”

“คุณทำให้ผมรู้ว่าคุณรักผมไม่น้อยกว่าที่ผมให้คุณไปหมดใจ” ผมพูดจบ รอยยิ้มเกียร์ก็ค่อยๆชัดขึ้น จนตอนนี้รอยยิ้มนั้นระบายเต็มหน้าแล้ว มันเป็นรอยยิ้มที่ผมคิดว่าตัวเองโชคดี โชคดีมากที่ได้เป็นคนที่รักเกียร์

“อีกอย่าง คนที่ผมรักก็ไม่ใช่ใครอื่นสักหน่อย..คนที่ผมรักน่ะคือคนเนี้ยะ คนที่ชอบมอเตอร์ไซค์ ไม่ใช่รองเท้าสักหน่อย” ผมจิ้มที่หน้าอกหนาๆแล้วอมยิ้มไปพร้อมกันมัน

“นั่นสินะ” แหน่ะ ยังมาทำเป็นพึ่งนึกได้ คบกันมาก็นานมากแล้วยังทำมึนอีก เดี๊ยะๆ

“ป่ะ งั้นไปซื้อของกันได้แล้วครับ เดี๋ยวจะมืดค่ำไปกว่านี้แล้วจะอันตราย”

“ไปดูหมวกกันน็อคด้วยได้ไหม มันออกใหม่ เป็นคู่ สวยด้วยนะ” ผมหัวเราะออกมาเกือบจะเสียความเป็นคนเลยครับ ก็มันเล่นโฆษณาช่วยเขาขายของเหมือนร้านตัวเอง แถมหน้านิ่งๆยังทำตาวิ๊งๆจนอดเอื้อมมือไปดึงแก้มมันไม่ได้ แว๊นซ์เกียร์สิถึงจะเป็นแฟนก๊อยไอรักหน่อย

เอ้อ แต่ผมก็อยากถามมันอย่างนึงนะครับ มันอาจจะลืมไปว่าเรา………….


อายุเท่ากัน




สวัสดีวันวิสาขบูชาย้อนหลังครับ


...


+มาสายไปวันหนึ่ง โธ่ คิดถึงคนอ่านทุกคนจ้าาาาา หวังว่าจะเจอกันอีกนะคะ ^^
 :L2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสู๊ด* [28/01/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: mjpnta ที่ 02-06-2015 20:28:36
แอร้ยยยย คิดถึงคู่นี้มากกกกกก
ทั้งคู่ดูโตขึ้นนะเนี่ย หรือเราคิดไปเอง 55555
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะค้า
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสู๊ด* [28/01/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 03-06-2015 16:23:06
 :L2:
คิดถึงคู่นี้มากมายค่ะ

 :กอด1:

 :mew1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสู๊ด* [28/01/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 03-06-2015 23:05:19
โธ่ คุณน้ำแข็งงงง
น่าเอ็นดูจริงๆเล้ยยยย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสู๊ด* [28/01/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Brow_Ney ที่ 04-06-2015 15:12:31
คิดถึง เกียร์ ไอรัก ทีสู๊ดดดด  :mew1:
ดีใจที่ได้อ่านตอนพิเศษค่ะ ตอนแรกนึกว่าตาฝาด555
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสู๊ด* [28/01/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Aumy8059yaoi ที่ 15-06-2015 13:44:36
เห็นแบบนี้แล้วอยากได้เกียร์!!!!!
นางดูน่ารักน่าชัง น่าเลี้ยงมั่กๆๆๆ5555 :impress2:
ไอรักก้น่าร๊ากกกกกกก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสู๊ด* [28/01/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 15-06-2015 22:31:00
สนุกมาก
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสู๊ด* [28/01/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: llmup ที่ 16-06-2015 11:58:07
แอร้ยยย ตอนพิเศษ เริ่ดค่าาาาาาาาาาาาาาาา  :mew1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Calypso ที่ 23-06-2015 22:23:41
ตอนพิเศษสั้น ไดโนเสาร์



“มีแบบโรงส่วนตัวดูกันไม่กี่คน มีไดโนเสาร์ตัวใหญ่ๆด้วย”

“แต่เราต้องไปรับคุณไอซิสนะครับ ไหนกว่าจะถึงบ้านคุณอีก มันจะดึกเอานะครับ”

“อะแพโทซอรัสคอยืดๆก็มี...”

ผมก้มหน้าเงียบแล้วพึมพำเบาๆ ไม่กล้าเถียงหรอกว่ะแต่ขอกูพูดเบาๆหน่อยเถอะ อะไรวะ แพลนที่กูวางกับมือมาตั้งนานดูท่าจะล่มไม่เป็นท่า วันหยุดสุดสัปดาห์เราควรที่จะใช้เวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสองไม่ใช่หรือไงวะ แต่อยู่ดีๆ ไอ้ทรุดก็เกิดติดสัตว์แบบจะเป็นจะตาย ทั้งที่ปีก่อนๆก็แค่หง่าวเบาๆไม่กี่ครั้งแล้วจบ จากที่ไม่อยากให้มันเจ็บก็ต้องจำใจพาไปทำหมัน แล้วอยู่ดีๆหมอก็นัดอีกอาทิตย์ให้รับกลับ อยู่ดีๆก็ตรงกับวันที่กูกับไอรักควรจะเที่ยวด้วยกัน อยู่ดีๆเมื่อเช้าแม่ก็โทรศัพท์หาสะใภ้คนโปรดว่าคิดถึงใจแทบขาด พึ่งกลับจากอินเดียแล้วมีของมาฝากเลยชวนมานอนที่บ้าน อยู่ดีๆแม่ก็ไม่ชวนกู แต่คนติดแฟนอย่างกูมีหรือจะพลาด

และอยู่ดีๆ แผนกูก็ล่มแบบงงๆ ไม่ทันได้ตั้งตัว

เฮ้ย กูก็อยู่ดีๆไม่ใช่เหรอวะ

“แล้ว ปรกติมันฉายกันกี่ชั่วโมงกันเหรอครับหนังในโรงน่ะ” ไอ้แมวคงเห็นกูเหี่ยวจนแห้งกรอบเลยพูดออกมา หื้มมมม จากที่เหี่ยวเฉาเมื่อกี้ ตอนนี้บานแทบหุบไม่ได้เลยปากกู

“ประมาณสองชั่วโมงเอง” ผมรีบตอบไป พร้อมกุมมือหอมๆนั่นเอาไว้ สองชั่วโมงเหมือนตอนที่ไอรักช็อปปิ้งไง ผมได้แต่คิดในใจ คือกูรอเรื่องนี้มานานแล้ว ติดตามมาตั้งแต่ภาคแรก มีแผ่นแท้ครบเซ็ท ถ้าไม่ได้ดูกูจะเสียใจมาก และจะพูดกับใครไม่ออกเลย

แล้วอย่าถามว่าทำไมไม่ไปดูคนเดียว แล้วทำไมไม่ชวนคนอื่นมาดูด้วยแทน

คำตอบเดียวก็คงเพราะผมอยากดูกับไอ้แมวละมั้ง ถ้าเป็นคนอื่นกูรอแผ่นแท้ออกดีกว่า เฮ้ยแต่ในโรงมันระทึกกว่านะโว้ย โฟดีเอ็กซ์แบบเหมือนตัวเองอยู่ในหนังเลยนะโว้ย

“แค่ทรีดีพอนะครับ โฟดีคงไม่ไหวเดี๋ยวหัวใจวาย” เหมือนที่รักกูจะรู้ใจกูหมดแม้กระทั่งความคิด เออ ก็ได้วะ แค่มีไอ้แมวมาดูด้วยก็พอแล้ว โฟดีทรีดีอะไรนั่นมันแค่น้ำจิ้มว่ะ

“เดี๋ยวผายปอดให้” ผมก้มไปจะจูบคนที่นั่งโซฟาอยู่ข้างๆอย่างแนบชิด แต่ไอ้แมวดันเอี้ยวตัวหลบทั้งที่สายตายังมองตัวเลขที่วิ่งบนโทรทัศน์ไม่หยุด หุ้นแม่งเป็นหุ้นส่วนชีวิตคู่กูเหรอวะ ห่า กูต้องแบ่งเวลาให้เกือบทุกวัน ขาดทุนฉิบหาย

“เอ๊ เกียร์ เนียนละๆ อย่ากวนสิครับ” โดนเมียดุเฉยเลยกู

“ก็ตัวหอม” ผมพูดไปตรงๆ มือนี่ไม่ต้องพูดถึง จากที่ลูบคลำต้นขาได้สักพักก็เลื่อนเข้าไปลูบบนกางเกงในของเจ้าตัวแล้ว กางเกงอยู่บ้านของไอรักเป็นขากว้างสามส่วน ผมจึงล้วงลับจับจูบได้สบาย หึ

“เกียร์!..” ไอรักพูดเสียงดังขึ้นนิดหน่อย แต่เริ่มสั่น ส่วนผมไม่ต้องสืบ สั่นไปยัน… น่ารักว่ะ แก้มก็แดงแปร๊ด ไอ้ฝรั่งน่ารัก

“อ้าขากว้างๆ” ผมดึงสะโพกไอรักให้มาใกล้ๆด้วยท่ากึ่งนอนกึ่งนั่ง แล้วพูดไปตรงๆจนไอ้แมวหน้าแดงจนลามไปถึงคอ หมั่นเขี้ยวฉิบหาย ฮึ่ม

“เกียร์! บ้าเอ๊ย...” ดูเหมือนไอรักจะพึมพำด่าผมเบาๆ แต่นอกจากเสียงนักข่าวแผ่วๆที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอโทรทัศน์ก็ไม่มีเสียงอะไรมารบกวนแล้ว จึงทำให้ผมได้ยินเต็มสองรูหู

“บ้าแล้วรักไหม” ผมถามยิ้มๆ รอยยิ้มที่มีให้แค่คนตรงหน้าเท่านั้น

“ไม่ ไม่รักหรอก คนขี้แกล้ง” ไอรักพูดหน้ามุ่ยๆ แต่มือนี่กอดรอบคอผมแน่นเชียว ไอ้ดื้อเอ๊ย

“แต่คนขี้แกล้ง รักคนนี้หมดใจ” ผมขยับหน้าให้ใกล้ขึ้นจนปากเราแทบจะชนกัน ไอรักตาปรือลง เป็นภาพที่ผมว่าโคตรเซ็กซี่จนเผลอร้องซี๊ดเลยว่ะ อยู่ด้วยกันทีไรกูสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทุกที เหี้ยเอ๊ย
และดูเหมือนเจ้าลูกชายผมมันจะไม่รักดี ชะโงกตัวไปชนแม่มันจนอีกฝ่ายเม้มปากแน่น ผมก็ขยับเบียดสะโพกแล้วจูบอีกฝ่าย อยู่ๆขาที่สั่นเล็กน้อยก็ขยับอ้าออกจนกว้างเหมือนเปิดทางให้เต็มที่ ผมมองอีกฝ่ายอย่างฉงน ก็เห็นไอรักหลบตาอยู่ เพียงเท่านั้นผมก็แทบจะกระโจนใส่ร่างหอมๆนั้นทันที

จะทำให้กูรัก กูหลงไปไหนวะ




………………………………………………………………….




“อันนี้เกียร์ถือให้” ผมคว้าแก้วน้ำหัวไดโนเสาร์จากมือขาวนั่น อีกข้างก็ถือป๊อปคอร์น คือผมก็ไม่ค่อยเห่อเท่าไรหรอก แค่วันนี้ใส่เสื้อชื่อหนังที่จะดูและใส่แว่นตาก่อนเข้าโรงพร้อม จนคนข้างๆขำใหญ่

“ผมว่าเกียร์เยอะไปนะ5555” ไอรักหัวเราะเหมือนไม่เคยอารมณ์ดีมาก่อน เอาซะกูไม่มั่นใจเลย แต่ไม่เป็นไรครับกูด้าน นิ่งๆตามสไตล์ หึ

“เยอะตรงไหน มีเท่าเดิม” ผมว่า แล้วฉกหอมแก้มเร็วๆไปที เจ้าตัวสะดุ้งรีบจับแก้มตัวเองแล้วถอยหลังไปก้าวหนึ่ง คงตกใจมาก

“..........!” ไอรักเม้มปากแก้มแดงๆจนผมต้องหอมอีกข้างให้เท่าเทียมกัน

“คนเดียวคนเดิม แต่รักมากกว่าเดิมทุกวันนะ รู้ไหม” ผมพูดแล้วเดินเข้าโรงไปอย่างสบายใจ เหลือคนน่ารักที่ยังยืนอึ้งไปสักพักกว่าที่จะวิ่งตามมาซัดหลังผมไปหลายที





+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



+สั้นมาก
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-06-2015 00:31:18
ดีใจที่อ่านสักที แหม่ลบภาพเกียร์น้ำแข็งไปหมดเลยอะ นี้ถ้าเปล่งเสียงออกมาได้เกียร์คงเป็นประเภท พูดไม่หยุดปากแน่ๆ แต่น่ารักมากเลยน่ะทั้งคู่เลยเถอะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: mjpnta ที่ 24-06-2015 13:08:49
น่ารักกกกกกก
ขอแบบนี้อีกเยอะๆเลยได้ไหมคะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 24-06-2015 16:15:32
เอิ่มหวานกัน เกินหน้าเกินตาชาวบ้านไปนะ


หยอดกันจนมดขึ้นแล้ว
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: whitelavenders ที่ 25-06-2015 00:37:01
สารภาพตามตรงว่าจำเนื้อเรื่องหลักไม่ได้ 55555555
นี่ต้องกลับไปทวนคร่าวๆอีกรอบเลยนะคะ
ตอนพิเศษน่ารักจัง เหมือนทั้งคู่จะโตขึ้นเนาะ
ชอบเวลาที่เกียร์บรรยายจังค่ะ น่าร้ากกก แทบยังเกรงใจเมียอีกต่างหาก
ให้เมียเก็บตังค์ด้วย ฉลาดมากๆ ฮ่าๆ  :m20:
หวานจนน้ำตาลขายไม่ออกเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: BoJuNg ที่ 25-06-2015 21:58:04
อยากได้เกียร์เป็นสามี 

หาได้จากไหนคะ  ฮ่าๆๆๆๆ

คือหมั่นเขี้ยวมากอ่ะ อะไรจะรัก จะห่วง จะหวงอะไรขนาดนั้น

..
..

อิจฉาหรอ?
.
.

ใครพูดไรอ่ะะ   ไปดีกว่า ขอบคุณมากนะคะ 

เบาๆดีค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 05-07-2015 20:20:55
น่ารักดี ใสใส อ่านแล้วเขิน. น่ารักทั้งคู่
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: gloyjai ที่ 07-07-2015 22:40:56
แวะมาแปะไว้ก่อนค่าาา
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 27-07-2015 19:16:43
 :L2: ชอบมากค่ะ น่ารักมากมายหลงรักคู่นี้เลย ไอรักน่ารักมาก ส่วนเกียร์ก็เป็นแฟนที่แสนดีติดหึงโหดไปหน่อย
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: มะปรางเปรี้ยว ที่ 28-07-2015 08:59:08
น่ารักจังเลยคะ
ขอบคุณนะคะสำหรับนิยายดีๆ  :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 27-09-2015 10:21:40
น่ารักอะ คือหลงรักเลย

อ่านรวดเดียวจบเลยอะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 21-12-2015 17:34:07
อ่านจบแล้ว
น่ารักสุดๆอ่ะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: oumpatta ที่ 31-12-2015 23:32:46
เป็นนิยายที่อวยนายเอกสุดๆ ทั้งๆเหตุการณ์ที่ทะเลาะกันบางทีไอรักก็ผิด พอเกียร์โกรธก็ทำท่าโกรธกลับจนเกียร์ต้องง้อทั้งๆที่ตัวเองผิดคือทำไมแต่งแบบเข้าข้างไอรักสุดๆแบบนี้ แล้วโดยเฉพาะตอนมีเรื่องน้ำ เรื่องอีนัทตี้ ทั้งๆไอรักโกหก พอเกียร์โกรธก็ทำเป็นโกรธกลับ สุดท้ายทุกตอนทุกอย่างคือเกียร์ผิด
แต่งเหมือนไอรักเสียใจแต่เราไม่รู้สึกเพราะสุดท้ายก็ทำให้เกียร์ง้อเหมือนเดิม เหมือนไม่ยอมรับผิดแล้วโกรธกลบเกลื่อน เป็นนิสียที่ทุเรศและงี่เง่ามาก
นิยายเรื่องนี้แต่งจบ แต่อ่านไม่จบ ได้แต่เอียนกับนิสัยของตัวละครที่ดูไร้เหตุผลมาก มีเรื่องอะไรก็โกรธเลย โกรธกลบเกลื่อนไปซะ ตัวเองจะได้ไม่ผิด
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 01-02-2016 23:54:09
เรื่องนี้น่ารักดีนะ ชอบเกียร์ที่เป็นคนรักจริง ทำจริง เพื่อความรัก แต่เราไม่ค่อยชอบไอรักเท่าไหร่ เราว่าไอรักดูไม่ค่อยจะระวังตัวเท่าไหร่ และชอบทำมึนเวลามีคนอื่นมาจีบ แถมยังไปคุยกับเขาอีกต่างหาก จนทำให้เกิดปัญหาตามมา และไอรักดูเป็นคนที่ไม่ค่อยจะเผชิญปัญหานัก อย่างเรื่องปัญหากับครอบครัวของตัวเองไม่เห็นจะช่วยอะไรเกียร์เลย ให้เกียร์แก้ปัญหาคนเดียว เราว่าเรื่องนี้ไอรักต่างหากที่ควรจะเป็นคนแก้ปัญหานี้ด้วยตัวเอง แต่นี่ไม่เห็นจะสู้อะไรเพื่อความรักเลย ทั้งๆเป็นคนจีบเกียร์ก่อน และก็ดึงเกียร์เข้ามาในชีวิตแท้ๆ แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็สนุกดี มีดราม่าเล็กๆพอกรุบกริบ หวานพอประมาณ อ่านเพลินดี

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Chk~a ที่ 13-02-2016 14:48:39
เรื่องน่ารักมากกก
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 21-07-2016 15:50:45
รักเลยเรื่องนี้สนุกมาก ๆ ไอรักน่ารักมาก ๆ เกียร์ก็เท่โคตรหึงและหวง

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 29-09-2016 01:47:23
 :o8:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 04-10-2016 02:55:11
ไม่ชอบไอรักเลยไห้ตายซิ 555555  ทวงเกียคืนคะ  ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 06-10-2016 08:11:05
ชอบบบบมากกกกก เกือบพลาดเรื่องนี้!!!! ชอบเกียร์อ่ะ ขี้หึงขี้ห่วงมาก ชอบพระเอกแบบนี้ แล้วไอรักก็น่ารักมากๆจริง หวานสุดๆ ขอบคุณมากค่ะ  o13 รักมากเรื่องนี้ :mew1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 22-10-2016 17:13:21
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: ดึงดาว ที่ 04-12-2016 13:18:49
ว้าวๆ อ่านจบแล้ววววว
สนุก ฮา & โหด หื่น ชอบมากๆเลยค่ะ คุณน้ำแข็งนี้ก็ขี้หวงขี้หึงซะเหลือเกิน เป็นนิยาย ที่บรรยายดีอ้่านกันเพลินๆไปเลย รักแมวน้อยกะคุณน้ำแข็ง จุ๊บๆ

            Thank You
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: yumenari ที่ 15-01-2017 11:57:49
Thx ka
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: TonyPat ที่ 17-01-2017 17:34:34
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 20-01-2017 00:02:24
อ่านไม่จบเพราะนิสัย ไอรักนี้แหละ :katai1:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: nuch-p ที่ 22-01-2017 19:27:19
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: pearl9845 ที่ 26-01-2017 20:19:34
สนุกสุดๆ
ชอบมากๆจ้า
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 28-06-2017 12:26:33
 :hao3: เข้ามาอ่านเป็นรอบที่สิบ....ชอบมากกก...รักเรื่องนี้มากกกก  :heaven ถ้ามีตอนพิเศษน่ารักๆยาวๆมาให้หายคิดถึงก็คงดีค่ะ o13
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 09-08-2017 11:53:22
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 31-08-2017 00:24:25
น่ารักทั้งเรื่องเลย
ชอบเดอะแก๊งค์มากๆๆๆๆ
จะมีเรื่องของคู่คนในแก๊งค์รึเปล่าคะ
อยากเจอของเนมมาก
จะใช่คิมป่าวน้อ 55555
พี่อุ่นก็น่ารักที่สุด
เค้าจะมีคู่ไหมนะ
จะรอเรื่องต่อไปนะคะ
หวังว่าจะเป็น 1 ในนั้นนะคะ
หัวข้อ: Re: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 18-03-2024 19:23:48
aIS ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 27บ./1วัน กด *777*7021*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7023*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 38บ./2วัน กด *777*7380*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 59บ./3วัน กด *777*7096*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 129บ./7วัน กด *777*7098*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 139บ./7วัน กด *777*7220*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 375บ./30วัน กด *777*7153*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 800บ./90วัน กด *777*7379*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,200บ./180วัน กด *777*7328*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,800บ./365วัน กด *777*7329*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7381*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 32บ./1วัน กด *777*7084*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 130บ./7วัน กด *777*7629*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 161บ./7วัน กด *777*7382*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *777*7383*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 380บ./30วัน กด *777*7631*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย15นาที 155บ./7วัน กด *777*7630*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 35บ./1วัน กด *777*620*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 38บ./1วัน กด *777*7627*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 58บ./2วัน กด *777*7628*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 45บ./1วัน กด *777*7151*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 246บ./7วัน กด *777*7221*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 470บ./30วัน กด *777*7632*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 59บ./2วัน กด *777*7384*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *777*7154*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *777*7159*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 1,285บ./90วัน กด *777*7398*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 49บ./1วัน กด *777*7209*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 81บ./2วัน กด *777*7385*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 289บ./7วัน กด *777*7210*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 910บ./30วัน กด *777*7211*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 59บ./1วัน กด *777*7386*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 102บ./2วัน กด *777*7387*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *777*7388*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,177บ./30วัน กด *777*7389*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,925บ./90วัน กด *777*7399*117010#
21 บาท 1 วัน  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ช่วงเวลา 05.00 - 17.00 น.  โทรครั้งละไม่เกิน 30 นาที  กด  *777*231*117010#
22 บาท 100 นาที  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ได้  100 นาที  อายุ  1  วัน  กด  *777*246*117010#
aIS  สมัคร  โทรไป  จีน,  ฮ่องกง,  มาเลเซีย,  สิงคโปร์,  เกาหลีใต้,  อินเดีย
*777*3801*117010#
ราคา  99  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  1.54  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  ลาว,  กัมพูชา,  เมียนมาร์,  เวียดนาม 
*777*3802*117010#
ราคา  119  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.78  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  สหรัฐอเมริกา,  แคนนาดา 
*777*3803*117010#
ราคา  129  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.01  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  เยอรมนี,  สหราชอาณาจักร,  ญี่ปุ่น,  ฝรั่งเศส
*777*3804*117010#
ราคา  159  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  3.71  บาท
เวลาโทร  กด
003  รหัสประเทศ  รหัสเมือง  เบอร์ปลายทาง
เช็คเน็ต aIS คงเหลือ  กด  *121*32#  โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง aIS กด  *545#  โทรออก
ยกเลิกข้อความ SMS กินเงิน  กด  *137  โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ aIS กด  1175  โทรออก
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด  #โปรเสริมเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)



เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw (https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า AIS ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU (https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)