พี่ครับ...รักผมบ้างไหมครับ@Series ที่ลงเอย : ไดอารี่หน้าสุดท้าย
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: พี่ครับ...รักผมบ้างไหมครับ@Series ที่ลงเอย : ไดอารี่หน้าสุดท้าย  (อ่าน 139583 ครั้ง)

babynevercry

  • บุคคลทั่วไป
เอ๊ะ !!!

พี่นิวกับพิมนี่น่าสงสัย

แล้วพี่เนย์ก็ดูยังไงๆ อยู่นะ ทำไมต้องรำคาญเวลารอนานด้วยอ่ะ

รอๆๆๆๆ

namtarn11

  • บุคคลทั่วไป
เศร้าจังตอนนี้....เฮ้อ!!

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ก็ยังดีได้เติมพลังก่อนกลับบ้าน อิอิ

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
คุณนู!!!!!!
*โดดกอดด้วยความคิดถึง
 :กอด1: :กอด1:
ไม่เห็นคุณนูแวะมาเยี่ยมเลยคิดว่าจะลืมเล้าซะแล้ว
ยังจำคนอ่านคนนี้ได้มั้ยเนี่ย ^^
เรื่องของคุณนูกับพี่นิวอยากอ่านมานานแล้ว
ว่าจะแวะไปอ่านที่โน่นก็ไม่ได้ว่างเข้าไปเลย
ยังไงก็จะมานอนรอคุณนูที่นี่นะคะ
คิดถึงมากๆ
 :m1:

ออฟไลน์ took-ta_naka

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 604
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-10
 :m16: :m16:ไม่พอใจพี่นิวจริงๆ  ชิ        รอตอนต่อไปจ้า

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
พี่นิวไม่ชอบผู้หญิงไม่ใช่เหรอ แล้วพิมมาจากไหน

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2


รีบเอามาลง เพราะไม่อยากให้ค้างนาน
พรุ่งนี้จะแวะมาทักทายนะครับ




    ปีสุดท้ายในมหาวิทยาลัย พี่นิวเรียนไม่ค่อยหนักเท่าไรนัก ดูจะมุ่งมั่นเรื่องฝึกงานเสียมากกว่า

แต่โดยที่ครอบครัวของเพื่อนในกลุ่มส่วนใหญ่มีกิจการเป็นของตัวเอง เรื่องการหาสถานที่ฝึกงานจึงไม่ยาก

และไม่มีอะไรต้องกังวล....แต่สำหรับผม....มันไม่ใช่

    พี่นิวกับพี่พิมได้ฝึกงานที่เดียวกัน ไม่รู้ว่าด้วยความบังเอิญ หรือว่าตั้งใจ

นั่นทำให้ความหวาดระแวงที่เคยเกิดขึ้นมาครั้งนั้นหวนกลับมาอีกหน จะด้วยระยะทางที่ห่างไกลระหว่างผมกับพี่นิวเป็นเหตุ

หรือว่าระยะห่างของการติดต่อถึงกันและกันก็ไม่รู้ได้ ที่ทำให้ผมเก็บเอาสิ่งที่เห็นและสิ่งที่ได้ยินคราวนั้นมาเป็นกังวล

แล้วมันก็ชวนให้อึดอัดที่ผมไม่สามารถหาคำตอบได้เลย ไม่ว่าจะด้วยการไปดูให้เห็นกับตา หรือแม้แต่การซักถามให้ได้ความจริง

สุดท้ายแล้วมันก็ทำร้ายตัวผมเอง ด้วยการเก็บกดอารมณ์และความรู้สึกเหล่านั้นไว้ในส่วนลึกที่สุด

ทุกครั้งที่เราได้พูดคุยกัน ผมจะพูดถึงแต่สิ่งดี ๆ ถามถึงคนที่ผมรู้สึกชัดเจนในความคิดของผม

ส่วนเรื่องหรือบุคคลต้นเหตุที่สามารถกวนตะกอนในจิตใจผมให้ขุ่นได้ ผมจะไม่ถามถึง

จะได้ไม่ต้องเก็บมาคิดให้ฟุ้งซ่าน....จะได้มีแต่บรรยากาศของการพูดคุยที่อบอวลไปด้วยความสุข....

ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว ผมรู้สึกแย่ เพราะความหวาดระแวงมันคอยเกาะกินใจอยู่ตลอดเวลา



    ระหว่างที่ฝึกงานอยู่เราไม่ได้ติดต่อกันบ่อยนัก พี่นิวบอกว่าเขาไม่ค่อยจะมีเวลาว่าง

ส่วนผมพอพี่นิวพูดอย่างนั้น ผมก็ไม่กล้าโทรหาแล้ว ทำได้เพียงรอให้เขาติดต่อมาเวลาที่เขาคิดถึง

(ส่วนผม ถ้าคิดถึงเขาก็ต้องทนรอ...เฮ้อ...)

     ผ่านมาได้สองเดือนนับจากวันที่เราพบกันครั้งสุดท้าย ในขณะที่ผมกำลังทำงานแทนคุณแม่

โดยที่วันนั้นคุณแม่ไม่สบาย แต่เมื่อเป็นงานด่วนคุณแม่ก็ต้องทนทำทั้งที่ร่างกายอ่อนแอ

ส่วนผมวันรุ่งขึ้นมีการทดสอบ แต่ผมคิดว่าตัวเองเตรียมตัวพร้อมตลอดเวลา

ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องอ่านหนังสือหามรุ่งหามค่ำเอาตอนนี้ สู้เอางานมาทำแทนดีกว่า คุณแม่จะได้พักผ่อน

    คืนนั้นก็มีรถลีมูซีนจากสนามบินมาจอดหน้าบ้าน บังเอิญที่ผมยังไม่นอน แค่เห็นเงาคนลาง ๆ

มีเพียงโคมไฟที่กำแพงบ้านสาดแสงสลัว ผมมองออกไปก็จำได้ว่าเป็นพี่นิวของผม ความดีใจประดังประเดมาก่อนอันดับแรก

แล้วก็ตามมาด้วยความแปลกใจว่ามันเป็นช่วงเวลาฝึกงานของเขา มีเรื่องด่วนอะไรพี่นิวถึงได้กลับบ้านกลางดึก

โดยไม่บอกกล่าวกันล่วงหน้า

“มาซะดึกเชียวครับ”

ผมทักออกไปตรงกันข้ามกับที่ใจอยากรู้

“อืม”

   พี่นิวขานรับในคอ แล้วรีบเดินเข้าบ้าน พอผมปิดประตูรั้วเรียบร้อยก็รีบเดินตามเข้ามา พอเข้าบ้านได้ไม่ทันจะปิดประตูบ้านเลย

พี่นิวก็โผเข้ากอดผมจนตั้งตัวไม่ทัน เราเซไปชนพนักพิงด้านหลังโซฟาทั้งที่ยังกอดกันกลมอยู่อย่างนั้น

แล้วพี่นิวก็ระดมจูบผมไปทั่วหน้า ซุกไซ้ไปที่ลำคอ เล่นเอาผมซ่านสยิวจนอารมณ์แทบจะแตกกระเจิง

“เป็นอะไรอะพี่นิว”

ผมพยายามตั้งสติที่เหลือน้อยเต็มทีของตัวเอง ก่อนที่มันจะเตลิดไปไกลกว่านี้

ไม่ว่ายังไงผมก็ต้องระวังตัวไม่ให้คนในบ้านมาเห็นว่าเรากำลังทำอะไรกัน

ส่วนคุณแม่เป็นผู้ใหญ่ที่เราควรให้ความเคารพยำเกรง การแสดงความรักในแบบของเรา

ควรจะกระทำในที่รโหฐานจะเหมาะกว่า

“คิดถึง”

    พี่นิวหยุดรุกเร้าผม เหลือแค่กอดรัดผมเสียแน่น เรายืนนิ่ง ๆ กันอยู่ชั่วครู่ ผมรู้สึกได้ถึงอาการสั่นสะท้านจากตัวเขา

ผมก็เลยกอดตอบ แล้วก็เลยลูบหลังลูบไหล่แทนการปลอบประโลม เพราะผมไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร

แต่คิดว่าถ้าผมทำแบบนี้พี่นิวอาจจะรู้สึกดีขึ้น

    แล้วเขาก็ลูบไล้ผมบ้าง เป็นสัมผัสที่ผมรู้ทันทีว่าเขากำลังมีความต้องการ ผมผละออกจากอ้อมกอดพี่นิว

เปลี่ยนเป็นโอบประคองกันแล้วพากันเดิน เราปิดสวิทช์ไฟชั้นล่างทั้งหมด เข้าไปปิดไฟในห้องทำงาน

ก่อนจะเดินขึ้นบนบ้านไปด้วยกันอย่างเงียบ ๆ

ไม่มีคำถาม

ไม่มีคำทัดทาน

มีเพียงลมหายใจที่สอดประสานรับรู้ในความต้องการที่จะสนองตอบอารมณ์ซึ่งกันและกัน

ทุกอย่างเริ่มขึ้นอย่างอ้อยอิ่ง ตอนที่พี่นิวแกะกระดุมเสื้อแล้วถอดมันออกจากตัวผม

สายตาของเขาก็กวาดไปทั่วทุกส่วนของร่างกายผม จนกระทั่งไม่เหลืออะไรติดตัวอยู่อีกเลย

เขาก็เปลี่ยนจากสายตาเป็นริมฝีปาก จูบเบา ๆ ไปทั่วใบหน้า แล้วเลื่อนต่ำลงมาจนถึงซอกคอหัวไหล่ และลำตัว

จนเขาเองทรุดลงไปนั่งคุกเข่าตรงหน้าผมเพื่อสัมผัสส่วนกลางลำตัวผมอย่างเต็มที่

แม้ว่าทุกอย่างที่เขาปฏิบัติกับผมจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนิบนาบและนุ่มนวล

แต่มือของพี่นิวก็สั่นจนเห็นได้ชัด แม้แต่ลมหายก็หอบกระเส่า ทั้งที่ทุกอย่างเพิ่งจะเริ่มต้น

คล้ายกับว่าเขาพยายามระงับอารมณ์อยากอย่างรุนแรงไว้ใต้อาการสุภาพนุ่มนวลนั้น

    เราผลัดกันเสนอและตอบสนองซึ่งกันและกัน จนถึงปลายทาง...

พี่นิวโหมกระหน่ำใส่ผมอย่างหนักหน่วงรุนแรงกว่าครั้งไหน ๆ ที่ผ่านมา

การกระแทกกระทั้นเข้ามาในตัวผมแต่ละครั้งราวกับจะกระชากวิญญาณให้ออกจากร่าง

เนื้อตัวผมแทบจะฉีกขาดออกจากกันด้วยกระแสอารมณ์ที่เชี่ยวกรากจนยั้งไม่อยู่ที่พี่นิวถาโถมเข้าใส่....

แต่ในความเจ็บปวดร้อนแรง ผมกลับรู้สึกเต็มอิ่มในรสรักจนแทบจะล้นอกล้นใจ

เสียงครางครวญด้วยความสาสมใจของเราสองคนสอดรับประสานกันจนกระทั่งพี่นิวซบลงมาบนตัวผม

กล้ามเนื้อแน่นตึงของพี่นิวสั่นเกร็งอยู่บนร่างผมพักใหญ่ เป็นอาการที่ผมไม่เคยพบเจอมาก่อน...

ได้แต่สันนิษฐานว่า คงเป็นเพราะเราจากกันนานเกินไป ต่างคนต่างก็ไม่ได้มีใครมาบำบัดความต้องการทางร่างกาย

อย่างผมที่ต้องทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย แต่ละวันแทบจะไม่มีเวลาว่างให้คิดถึงเรื่องอื่น

ส่วนพี่นิวก็คงจะไม่ต่างกัน



    วันรุ่งขึ้นพี่นิวบินกลับกรุงเทพ โดยที่คุณแม่ยังไม่ทันทราบด้วยซ้ำไปว่าลูกชายมา เพราะออกไปหาหมอแต่เช้า

ป้าแม่บ้านไปจ่ายตลาด พี่นางก็ทำงานอยู่แต่หลังบ้านไม่ได้เยี่ยมหน้าออกมาเลย ส่วนผมมีทดสอบช่วงบ่าย

ตอนเช้าก็เลยเรียกรถลีมูซีนไปส่งพี่นิวที่สนามบินก่อน โดยที่ทั้งบ้านไม่มีใครรู้เรื่องแม้แต่คนเดียว

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นความต้องการของเขาเอง ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจ แต่อยากจะเข้าข้างตัวเองซะงั้น ว่า

ที่เค้าแอบกลับมา โดยไม่บอกใครก็เพื่อจะเซอร์ไพรส์ผม บังเอิญมาเจอว่าผมยังไม่เข้านอนก็เท่านั้น

ส่วนที่ไม่อยากให้ใครรู้ก็คงเพราะว่าเขามาได้แค่ประเดี๋ยวประด๋าวแล้วต้องรีบกลับไปฝึกงานต่อ

ซึ่งก็เพราะเขาคิดถึงผมอีกนั่นแหละ  (แบบว่าเข้าข้างตัวเองสุด ๆ)



    สี่ปีในรั้วมหาวิทยาลัยของพี่นิวสิ้นสุดลงอย่างราบรื่น อุปสรรคเพียงเล็กน้อยระหว่างนั้น ทำให้เค้าดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น

คิดอะไรไกลขึ้น แม้แต่ผมที่เป็นคนที่ใกล้ชิดเขาที่สุดยังมองเห็นความเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างชัดเจน

ยิ่งเวลาที่เอาภาพถ่ายตอนปีหนึ่งมาเปรียบเทียบกับพี่นิวตอนปีสุดท้าย

นอกจากจะมองเห็นร่างกายที่สูงใหญ่ อกผายไหล่ผึ่งและสีผิวที่เข้มขึ้น

ผมยังมองเห็นความเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว แสดงออกถึงความเป็นคนมั่นใจในตัวเองค่อนข้างมากของเขาได้อย่างชัดเจน

แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงและผมยังสัมผัสได้อยู่เสมอ

นั่นก็คือความอบอุ่น อ่อนโยน และช่างเอาใจใส่ที่เขามีให้ผมตลอดมา



       พี่นิวจะมีเวลาที่ได้อยู่นิ่ง ๆ หลังจากเรียนจบประมาณห้าเดือน

     หลังจากรับพระราชทานปริญญาบัตรเขาก็มีโครงการจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศไม่ไกลประเทศไทยนัก   

ใกล้วันรับปริญญามากเท่าไร คนที่ตื่นเต้นดีใจที่สุด แทนที่จะเป็นบัณฑิตใหม่ กลับเป็นคุณแม่บัณฑิตเสียได้

คุณพ่อขำคุณแม่ แล้วก็เก็บมาล้อทุกครั้งที่มีช่อง ส่วนคุณแม่ก็ยิ้มรับอย่างมีความสุข แถมยังเตรียมชุดใหม่ล่วงหน้าเป็นเดือน ๆ

   “ก็แม่กลัวช่างเขาจะตัดไม่ดี จะได้มีเวลาแก้”

ที่ไหนได้...ทั้งที่ทุกคนต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าว่าชุดสวยแล้ว เหมาะแล้ว คุณแม่สวมใส่แล้วก็พอเหมาะพอดี

แต่คุณแม่ก็ยังไม่วายกังวล แอบไปตัดชุดใหม่มาเผื่ออีกสองสามชุด

“เอาไว้เผื่อเลือกน่ะ”

ไม่มีใครเห่อบัณฑิตเท่าคุณแม่ของพี่นิวอีกแล้วครับ

   ความเห่อของคุณแม่ยังเผื่อแผ่มายังผมด้วย เพราะคะยั้นคะยอให้ผมไปหาเดินหาซื้อเสื้อผ้ามาเตรียมไว้เหมือนกัน

(สงสัยจะหาเพื่อน) เหตุผลที่หยิบยกมาอ้างก็น่าเอ็นดูดีครับ

   “ไปเดิน ๆดูก็ใช่จะเจอเสื้อผ้าถูกใจจริงไหมลูก ไปครั้งนี้ถ้าไม่เจอก็ไปดูวันหลังอีกที แต่ถ้าไปเตรียมเอาตอนจวนตัวน่ะ

เจออะไรก็ต้องคว้าไว้ เพราะเวลามันไม่คอยท่าจริงไหมลูก ได้อะไรมาที่พอสมควรก็ต้องใส่ ทั้งที่เรารู้สึกว่ามันยังไม่โอเค”

      ผมกับพี่นิวก็เลยออกจากบ้านทุกครั้งที่คุณแม่คะยั้นคะยอ แล้วก็กลับมาบอกว่า ไม่เจอชิ้นไหนถูกใจ

แต่ความจริงเราไปไหนต่อไหนกันเรื่อยเปื่อย บางครั้งก็ดูหนัง บางครั้งก็ไปหาอะไรอร่อย ๆ กินกัน

เพียงเพื่อให้คุณแม่สบายใจ (โถ่...จะอะไรนักหนาก็ไม่รู้สิครับ เสื้อผ้าผมออกจะเต็มตู้ แค่ชุดเดียวที่ใส่ไปงานน่ะ

ไม่ต้องซื้อหรอกครับคุณแม่....ผมกับพี่นิวได้แต่คิดตรงกันอยู่ในใจ)

   แต่ทว่า....

     พอถึงวันรับปริญญาเข้าจริง ๆผมกลับไปร่วมด้วยไม่ได้ เพราะติดสอบกระทันหัน ทั้งที่ความจริงกำหนดวันเรียบร้อยแล้ว

แต่เนื่องจากข้อสอบรั่ว อาจารย์จึงต้องออกข้อสอบใหม่ แล้ววันกำหนดสอบครั้งใหม่ก็อยู่ในช่วงสำคัญนั้นพอดี

ทุกอย่างที่จองไว้ล่วงหน้าสำหรับครอบครัวเรา ถูกเปลี่ยนแปลงหมด แม้กระทั่งตั๋วเครื่องบินของผมก็ต้องยกเลิก

(แง...เสียดายตังงงงงงค์....)


       หลังจากเสร็จงานรับปริญญาของพี่นิว คุณแม่กลับบ้านก่อน คุณพ่อไปทำงานที่ต่างจังหวัดเลย

ส่วนพี่นิวยังคงอยู่ฉลองกับเพื่อนส่งท้ายอีกสองสามวันถึงจะตามมาพร้อมกับอัลบั้มภาพถ่ายวันงาน

คุณแม่บอกว่า พี่นิวจะอยู่เตรียมเรื่องวีซ่าไปต่างประเทศให้เสร็จทีเดียวเลย

นั่นเท่ากับว่า เวลาที่เราจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันก็น้อยลงไปอีก จากที่ผมคิดไว้ว่าเราจะมีเวลาอยู่ด้วยกัน

ไปจนถึงช่วงมหาวิทยาลัยของผมปิดเทอมกลาง ก็ไม่ได้เป็นไปตามนั้นอีกแล้ว

       ผมเก็บเรื่องนี้มานั่งน้อยอกน้อยใจอยู่คนเดียว ไม่กล้าแสดงออกให้คุณแม่เห็น เพราะกลัวคุณแม่จะคิดว่า

ผมไม่อยากให้พี่นิวไปเรียนต่อ ทั้งที่เป็นความก้าวหน้าในชีวิตของเขา แต่ความจริงไม่ใช่เลย

ผมแค่อยากมีเวลาอยู่ร่วมกันให้มากที่สุดก่อนที่เขาจะจากไป บางครั้งที่คิดถึงเรื่องพี่นิวกำลังจะจากผมไป

ก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกหวั่นไหว ไม่มั่นใจในความรักที่เรามีต่อกันว่า....เป็นผมคนเดียวหรือเปล่า

ที่ยังคงความรักต่อเขาไว้อย่างเหนียวแน่น

      เป็นเพราะผมยังอยู่ตรงนี้...ที่เดิม อยู่กับสิ่งแวดล้อมเดิม สังคมเดิม ที่แม้จะมีมิตรใหม่เปลี่ยนหน้าเข้ามาบ้าง

แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตและความคิดของผมมากนัก นอกจากจะทำให้ผมรู้คิดขึ้น และเป็นผู้ใหญ่ขึ้น

      การที่เราอยู่กับที่ แต่ใครบางคนเดินจากไป ไม่ว่าเขาคนนั้นจะจากไปชั่วกาลหรือชั่วคราว

แต่ ณ เวลานั้น ความรู้สึกที่เกิดขึ้นก็คงไม่แตกต่างกันนักนั่นคือ ความรู้สึกว่าตัวเราถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง

ทำได้อย่างมากที่สุดก็คือ....ส่งสายตามองตามแผ่นหลังไป....ได้แค่เพียงลับสายตา

........ส่งกำลังใจไปให้ หวังให้มันเป็นคลื่นพลังงานอันมหาศาล ดลบันดาลให้เขาเข้มแข็งในวันที่เขาท้อแท้

........ส่งความรักไปให้ ด้วยความหวังว่า ความรักนั้นจะฟุ้งกระจายไปในอากาศที่เขาสูดลมหายใจ

          และท้ายสุดก็คือ

..... เฝ้ารออย่างจงรักภักดี ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

      ผมต้องเพียรพยายามแค่ไหนหนอ ถึงจะทำสิ่งเหล่านั้นได้อย่างสมบูรณ์ และตลอดรอดฝั่ง

จนถึงวันที่เราจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง วันที่พี่นิวจะกลับมาพร้อมกับความสำเร็จที่เขามุ่งหวัง

อย่างไรก็ตามแต่ ผมคงจะทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว มีอีกสิ่งหนึ่งที่จะทำให้ผมทำทุกอย่างที่คิดไว้ได้สำเร็จ

นั่นก็คือ “ความอดทน”




      พี่นิวเดินทางไปได้สองสามวัน ผมก็พอจะมีเวลาเก็บข้าวของบางอย่างเข้าตู้ ลงกล่อง และบางส่วนเตรียมบริจาค

กับอีกบางส่วนก็ต้องทิ้ง

     กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่เขาเอามาจากกรุงเทพตอนที่กลับจากงานรับปริญญายังพิงอยู่ข้างผนัง

ไม่ได้เปิดออกมาจัดเก็บให้เข้าที่เพราะเรามีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่าต้องทำ ผมเองก็อยู่ในช่วงสอบ

พี่นิวก็เลี้ยงอำลาเพื่อนฝูงแทบทุกคืนก่อนเดินทาง และเพราะเขาบอกผมว่า ข้าวของในนั้นไม่มีอะไรที่จะขนไป

วันนี้ผมว่างก็เลยจัดการสังคายนากันเสียที

     เปิดออกมาก็มีแต่เสื้อผ้า บางส่วนเก็บไว้ใช้ได้ บางส่วนดูทรุดโทรมแล้ว ผมก็แยกไว้

มีกล่องกระดาษลักษณะคล้ายกล่องรองเท้าใบนึง เปิดออกมามันเต็มไปด้วยอัลบั้มรูปวันงานรับปริญญานับสิบเล่ม

รวมทั้งแผ่นซีดี และดิสเก็ตต์เต็มไปหมด

    ผมเปิดอัลบั้มภาพถ่ายทีละเล่ม ภาพบัณฑิตใหม่ที่ผมไม่มีโอกาสได้ไปร่วมงานดูสดใส ร่าเริง

ชีวิตเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากลอง...มุมมองที่ผมไม่เคยได้เห็น ภาพส่วนใหญ่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

ท่ามกลางเพื่อนรุ่นเดียวกัน และรุ่นน้องที่มามอบดอกไม้แสดงความยินดี

     จนหยิบเล่มที่ห้าที่หกออกมาดู.....

     สองเล่มนี้ นอกจากพี่นิวกับคุณพ่อคุณแม่แล้ว จะมีอีกครอบครัวที่ร่วมถ่ายภาพด้วยกัน นั่นคือครอบครัวของพี่พิม...

   ผมคงไม่ต้องบอกว่า...บัณฑิตหนุ่มสาวที่ถ่ายรูปคู่กัน ดูมีความสุขมากแค่ไหน

ท่ายืนก็แนบชิดสนิทสนมกันถึงขนาดที่คนไม่รู้จักได้มาเห็นก็ต้องเข้าใจว่าเป็นคู่รักอย่างไม่ต้องสงสัย

ด้วยความอยากรู้ อยากเห็น ผมได้ทำร้ายตัวเองเหมือนคนเป็นมาโซคิสม์ ผมเปิดดูมันจนหมดทั้งสองอัลบั้ม

ภาพนิ่งที่ผ่านสายตาไปภาพแล้วภาพเล่า ผมสามารถเอามาเรียบเรียงเป็นภาพสไลด์ในหัวได้อย่างน่าอัศจรรย์

บางภาพอิงแอบแนบชิด บางภาพมือโอบไหล่ บางภาพนั่งอิงกันจนไหล่ชนไหล่ แก้มแนบแก้ม

จนมาถึงภาพที่มันกรีดหัวใจผมจนร้าวลึก....ภาพที่ฝ่ายหญิงจรดจมูกลงบนแก้มของ “ที่รักของผม”

พี่นิวหันหน้าสู้กล้องพร้อมกับส่งรอยยิ้มอันสดใสผ่านเลนส์

สองมือเกาะกุมกันราวกับจะเป็นคำมั่นสัญญาที่ผูกพันคนสองคนที่มีใจตรงกันเอาไว้ด้วยกัน

ทำเอาผมแทบไม่ต้องเค้นน้ำตาออกมา มันก็ทะลักทะลายร่วงพรูได้เลย

ผมเปิดอัลบั้มภาพที่เหลือไปทั้งน้ำตา เพียงเพื่อจะตอกย้ำว่า พี่นิวมีใครอีกคน....

ใครคนนั้นที่ผมไม่อาจจะแข่งขันต่อสู้ได้เลย แค่คิดผมก็แพ้แล้ว

ตอนที่ผมรวบอัลบั้มทั้งหมดขึ้นมาเพื่อจะขึ้นชั้นให้เป็นระเบียบ กระดาษที่พับไว้ก็ร่วงลงมาบนพื้น

มันคงจะแนบอยู่ในหน้าใดหน้าหนึ่งในอัลบั้ม แล้วผมก็ไม่ทันเห็น

ข้างในเป็นลายมือที่ผมจำได้ไม่เคยลืม……



คนดีของพี่

    พี่ตั้งใจที่จะให้นูได้อ่านหลังจากที่พี่เดินทางไปแล้ว พี่ขอโทษกับสิ่งที่นูได้เห็นทั้งหมด และไม่มีคำแก้ตัวอะไรทั้งนั้น

ทุกอย่างที่เห็นพี่ให้นูคิด และตัดสินใจเองคนเดียว พี่จะยอมรับทุกอย่างตามนั้น

      ที่พี่บอกนูอย่างนี้เพราะความจริงพี่ไม่มีเป้าหมายที่จะไปเรียนที่โน่นเลย พี่แค่ต้องการออกไปจากโลกที่เคยอยู่

ซึ่งก็หมายถึงออกมาจากชีวิตที่พี่คุ้นเคยทุกอย่างรวมทั้งนูด้วย บางทีสิ่งที่พี่ทำ

อาจจะทำให้เราสองคนมองเห็นความเป็นจริงในชีวิตได้มากขึ้นว่า จริง ๆ แล้วเราอยู่เพื่ออะไร

นูก็รู้ดีว่าทางที่เราเดินมันไม่ได้ราบรื่นสวยงามอย่างที่เราฝันจะให้เป็น แต่ที่เราจำเป็นต้องยอมรับมัน เพราะเรารักกัน

พี่ยังยืนยันว่าพี่รักนูไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่เมื่อนูโตขึ้นกว่านี้ นูอาจจะคิดได้ว่า

แค่ความรักมันไม่ได้ทำให้เรามีความสุขเสมอไป ตราบใดที่เรายังต้องอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคม

และพี่เองมีหน้าที่ต่อครอบครัว ต่อวงศ์ตระกูล ซึ่งนูเองก็เหมือนกัน

      ไม่ว่านูจะตัดสินใจยังไงก็คิดให้ดี ๆ พี่พร้อมและยอมรับได้เสมอ

เวลาข้างหน้าอีกสองปี คงช่วยให้เราเลือกทางเดินที่เหมาะสมสำหรับเราทั้งคู่ได้


   .............



      น้ำตาที่แห้งเหือดไปแล้วกลับไหลพร่างพรูออกมาอีกครั้ง

    ผมมองกระดาษที่เขียนด้วยลายมือที่คุ้นเคย แต่สิ่งที่ได้อ่าน ราวกับเป็นข้อความจากคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันเลย

      สี่ปีที่เราอยู่ไกลกัน เปลี่ยนความคิดของพี่นิวไปได้ถึงเพียงนี้

    แล้วอีกสองปีข้างหน้า เขาจะเปลี่ยนไปขนาดไหนผมไม่อยากเดาเลย

       หัวใจของผมมันไม่เต้นอีกแล้วตอนนี้

     ผมรู้สึกได้เพียงอาการที่กล้ามเนื้อส่วนนั้นมันบีบรัดตัวเองจนเลือดในกายแทบจะไม่ไหลเวียน

รู้สึกเหมือนตัวเองลืมหายใจ ผมอยากกรีดร้องแต่ไม่มีแรงแม้แต่จะเผยอปากให้เสียงมันเล็ดลอดออกมาได้

       เท่าที่จำได้ ผมนั่งคู้ตัวอยู่บนพื้น ในมือมีกระดาษสีขาวยับยู่ยี่ น้ำตาที่ไหลพรากหยาดลงบนหน้าตักจนกางเกงเปียกฉ่ำ

มีเพียงอาการอกสะท้อนเพราะแรงสะอื้นที่ไม่มีเสียง

     เหมือนตัวเองลอยอยู่กลางอากาศที่เท้าไม่ติดพื้น และกำลังโดนลมกระโชกให้เซ แต่ไม่กล้าพอที่จะล้ม

หนาวยะเยือกจนอยากจะยกมือขึ้นกอดตัวเองไว้ให้อุ่น แต่แขนสองข้างมันล้าแรงเหลือเกิน

     ในหัวสมองผมว่างเปล่า แต่ยังสั่นไหวระริกเหมือนวุ้นใส ๆ ที่กระเพื่อมไปมา พอให้รู้สึกได้ว่ายังไม่ตาย

   ไม่มีภาพรักแห่งความทรงจำระหว่างเราปรากฎขึ้นในห้วงความคิด

    หูผมไม่ได้แว่วเสียงอะไรในอดีตที่เป็นถ้อยคำพร่ำรักอ่อนหวานของใคร

    ผมรู้สึกเหมือนตัวตนของผมกำลังสลายเป็นอากาศธาตุ






....ไม่มีพี่นิว....แล้วผมจะอยู่ได้ยังไง.....





จบตอน Series : The Forth Page.

ขอบคุณทุก ๆ คนที่แวะมานะครับ

ผมจำได้ทุกคนแหละ ตอนนี้คิดว่าท่องชื่อได้ขึ้นใจแล้วด้วย




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-10-2012 00:15:15 โดย ์NOO »

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
 เฮ้อ... เศร้า พี่นิวใจร้ายอ่ะ กดดันน้องมาก อ่านกี่รอบๆก็น้ำตาซึมไปกับน้องนูจนได้ สู้สู้นะจ๊ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2012 10:18:04 โดย อยากรัก »

babynevercry

  • บุคคลทั่วไป
 :m16: :m16:

ตูว่าแล้วไง นึกแล้วไง

เฮ้อเศร้า แต่ก็เข้าใจพี่นิวนะ

แต่ก็ สงสารนูอ่ะ หน่วงอ่ะ หน่วงงงงงงงง หน่วงว้อยยยยยย

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
 :o12: เศร้าอ่ะ

ยังเป็นคน อยู่อีกหรือ ซื่อหายหด
รักกบฎ ปดอยู่นาน พาลผลักไส
ชีวิตหนึ่ง เคยอยากได้ เจียนขาดใจ
วันผ่านไป ไยเลือดเย็น เข่นฆ่าตาย

รักกันจริง ไม่ทิ้งกัน อย่างนี้หรอก
รักกลับกลอก หลอกลวงกัน ฝันสลาย
ปากบอกรัก เนิ่นนานวัน พลันกลับกลาย
รักผู้ชาย แต่อายคน ไอ่ส้นตีน



 :z3: ถึงพอจะเดาได้จากที่นูพูดอยู่บ้างในเรื่อง ว่าตอนนี้นูยังครองคู่อยู่กับนิว
แต่ไม่เข้าใจเลยว่า นูกลับไปคืนดีกันได้ยังไง นิวเลือดเย็น ใจร้าย เห็นแก่ตัว ทำกันลงคอได้ถึงขนาดนี้
นี่เหรอที่เรียกว่า "คนรักกัน" ทำไมถึงกล้าทำเรื่องแย่ๆๆๆๆ ทำร้ายกันอย่าสาหัสสากรรณ์ได้เท่านี้
คนที่ปากบอกว่าเกลียดกัน ยังไม่จ้องจะทำร้ายกันได้ลงคอขนาดนี้เลย
ไหนจะเวลาที่หลอกลวงกัน ไม่น้อยเลยนะ โกหกหน้าตายข้ามวันข้ามปี ฮึ ไม่ใช่ดิ หลายปีถึงจะถูก

ถ้าเม้นท์นี้ทำให้นูไม่พอใจ ก็ต้องขอโทษด้วย  :L2: แต่มุมมองของคนอ่าน มันไม่ไหวอ่ะ
อยากจะพูดแรงๆๆๆ กว่านี้ด้วยซ้ำ เยอะเลย แต่เกรงใจเพราะเห็นว่าตอนนี้อยู่ด้วยกันหนิ

แต่ถ้าถามความคิดเห็นส่วนตัวน่ะ ถ้าเจอขนาดนี้ล่ะก็ ต่อให้รักขนาดไหน จะเป็นจะตาย ชาตินี้ผีก็ไม่เผา
อย่างดีถ้าไม่มีใครเอา ก็ขออยู่คนเดียวโว้ยยยยยยยยย ฆ่ากันทั้งเป็นแบบนี้ไม่ไหวอ่ะ
ขืนอยู่ด้วยกันต่อไป ความรู้สึกมันก็ตามมาหลอกหลอน ลืมไม่ลงจริงๆ ว่าเคยเจ็บปางตาย เจียนขาดใจ   

ขอบคุณนะครับ..นู ที่แชร์เรื่องให้อ่าน ไม่รู้จะตอบแทนยังไง ทำได้ก็แค่ บวกเป็ด +1 ให้ครับ
 :3123:

ป้อล่อ....อ๊ากสสสสสสสสสสส  :m31: แล้วคืนนี้ตรูจะหลับได้มั้ยเนี่ยะ อารมณ์แบบนี้ อยากพ่นไฟก่อนนอน เจรงๆๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






namtarn11

  • บุคคลทั่วไป
พี่นิวใจร้าย แต่รอพี่นูนะคะ อยากรู้เรื่องหลังจากนี้

ออฟไลน์ took-ta_naka

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 604
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-10
 :monkeysad:  พี่นิวเห็นแก่ตัวมากมาย   โอ้ยอยากเอามีดแทงพี่แกซัก  ยี่สิบสามสิบทีจริงๆ

เศร้าจนน้ำตาหมดไปหลายโอ่งแล้ว

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
พี่นิว...ไม่น่าเลย ใจร้ายได้อย่างเลือดเย็นมาก สงสารนูจัง T T

ออฟไลน์ gang

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อ่านกีครั้งก็ปวดใจ   รักแล้วรอได้อะไร รักแล้วอดทนให้ปวดใจ รักมากแค่ไหนก็ไม่พอถ้าอีกคนหมดใจ

mengsama

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ว่านูตัดสินใจยังงัยพี่พร้อมยอมรับเสมอ    ถ้านูตัดสินใจไม่ไปไหนรอต่อไป นิวก็จะยอมอยู่ด้วยหรือ แต่ถ้านูตัดสินใจไม่รอไม่รัก นิวก็จะได้อิสระ จะได้รักกับพิมได้สะดวกหรือ นิวเห็นแก่ตัวสุดๆ  ตัวเองได้โบยบินแต่กลับทำให้อีกคนอยู่กับที่

นี่ตลอดมาคงอยู่กับพิมละซิเลยไม่ให้นูไปเรียนเดี๋ยวนูรู้ว่าอยู่ด้วยกัน ไม่ให้นูไปเรียนขวางความเจริญนูอีก  นิวกรวกกกกกกก

ขอโทษนะค่ะ อินนะ คือเราไมาชอบผู้ชายแบบนิวมาก เห็นแก่ตัวเกิน ที่บอกว่ายังรักนูไม่เปลี่ยนแปลงนั้นไม่ใช่เลย นิวรักนูจริง แต่รักน้อยลงแล้ว นั่นละที่เปลี่ยนแปลง น่าจะบอกนูตั้งแต่แรกนูจะได้ไม่อยู่กับที่ นิวเห็นแก่ตัว กลัวเสียนู แต่ก็กลัวเสียหน้า พอตอนนี้ไม่อยากมีนูก็ได้นะนิว จะทิ้งก็ทิ้ง เห็นแก่ตัวสุดๆ ไม่ชอบนิวมาก

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
 :sad4:
อ่านจบแล้วโกรธพี่นิวนะ โกรธจริงๆ
จนไม่อยากจะเรียกพี่นิวให้เสียปาก
คุณนูคงไม่โกรธเนอะที่คนอ่านอินแถมโกรธแทนคุณนูขนาดนี้
 :fire:
พออ่านตอนนี้จบเรานับถือน้ำใจคุณนูเลยจริงๆ
เราเองก็มีความคิดเหมือนรีบนๆเค้าน่ะแหละ
มาบอกว่ารักไม่เปลี่ยน แต่ขอโทษเถอะการกระทำไม่ได้สื่อแบบนั้นเลยนะ
นี่ถ้าอิพี่นิวนั่งอยู่ข้างๆนะ
คนอ่านอาจจะหน้ามืดหาอะไรเสยเข้าให้ก็ได้
แก้แค้นให้คุณนู เพราะเรารู้
ว่าคุณนูของคนอ่านใจดีเกิน
รอตอนหน้านะคะ
 o18 o18

ปลล.หรือจะแอบไปอ่านที่โน่นต่อเลยดีน้ะ
 :laugh:

vvhite

  • บุคคลทั่วไป
ทำไมพี่นิวทำกับพี่นูอย่างนี้  :sad4:
สงสารพี่นู :o12:
ยังไงก็ยังคอยเป็นกำลังใจให้พี่นูเสมอนะครับ
 :L2: :L2:

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
มาติดตามเรื่องนี้ด้วยคนค่า
พี่นิวใจร้ายมากๆ
โกหกกันมากี่ปีแล้วเนี่ย
ให้นูรอไม่ให้ไปเรียนด้วยกันเพราะแอบพิมไว้รึเปล่า
ใจร้ายมากๆเลย

ออฟไลน์ PazZ

  • '' ใจเรา ความคิดของเรา ...ใครจะไปรู้ดีกว่าตัวเรา ''
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-6
พี่นิวมัน...ใจร้าย TT

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3
พึ่งเข้ามาอ่าน แต่ยังอ่านไม่จบ ชอบคับๆ ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Aoya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 906
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-3
ไม่ได้เม้นท์มาหลายตอน เห็นทีตอนนี้จะอยู่เฉยไม่ได้แล้ว

ที่ห้ามนูทุกอย่างนี่เป็นเพราะแอบปันใจให้กับคนอื่น!!
ไม่ได้ว่าอะไรนะ ถ้านิวจะเลือกคนใหม่ที่คิดว่าเขาดีกว่า
แต่ ขัดขวางความเจริญและอนาคตของนูไปเพื่ออะไร

ในเมื่อสุดท้ายก็เลือกคนอื่นอยู่ดี ไปตอนนั้นกับไปตอนนี้ยังไงก็คือทิ้งนูไปเหมือนกัน
หนำซ้ำตอนนี้นูจะเจ็บมากกว่าตอนนั้นอีกไม่รู้กี่เท่า
ไม่คิดบ้างเหรอว่าถ้าปล่อยนูไปตั้งแต่ตอนนั้นนูจะมีอนาคตที่ดีกว่า
ได้เจอ ได้พบ ได้เห็นอะไรที่กว้างกว่า ดีกว่าที่จะอยู่ในสภาพสังคมเดิมๆ
เพื่อหวังว่าสักวันจะได้อยู่ด้วยกันกับนิว

นิวเหนี่ยวรั้งน้องไว้ทำไม แค่อยากให้มีคนอยู่เป็นเพื่อนแม่ คอยช่วยงานแม่อย่างนั้นน่ะเหรอ
ถ้าอย่างนั้นนิวก็เห็นแก่ตัวมากกกกกก มันเท่ากับการทำลายชีวิตและอนาคตคนๆ นึงเลยทีเดียว

แล้วตอนสุดท้ายที่นิวเลือกจะไปโดยที่ไม่บอกน้องตรงๆ
และบอกว่ายอมรับการตัดสินใจของน้องทุกอย่าง
จริงๆ คือนิวขี้ขลาดต่างหาก ขี้ขลาดที่จะยอมรับความจริงว่าตัวเองคือคนทรยศ
ขี้ขลาดที่จะเห็นคนอื่นเจ็บปวดและผิดหวังเพราะตัวเอง
แล้วที่บอกว่ายังไงก็รักนูไม่เคยเปลี่ยนน่ะ
จริงๆ มันคือข้อแก้ตัวเพื่อไม่ให้ตัวเองดูเป็นคนเลวต่างหาก

ที่นูต้องทนให้คนอื่นดูถูก ทนเทียวไปเทียวมาช่วยงานทั้งสองบ้าน
ทนอยู่อย่างโดดเดี่ยวถึงไม่มีเพื่อนก็ไม่เป็นไร
ทุกอย่างนูได้อะไรตอบแทนมา
เคยมีสักเสี้ยวในหัวใจมั้ยที่คิดจะสงสารน้องบ้าง
แต่คงจะไม่มีเลย ไม่อย่างนั้นคงไม่ทำกันขนาดนี้

คนปกติถ้าไม่รักกันแล้วก็เลิกกัน ต่างคนต่างไปมีชีวิตใหม่ มีอนาคตใหม่ มีเส้นทางเดินใหม่
แต่นิว...นอกจากไม่รักน้องแล้ว ยังเหนี่ยวรั้ง ยังถ่วงความเจริญนูไว้ไม่รู้กี่ปี
จงเกลียดจงชังอะไรน้องนักหนาเหรอ ขอถามหน่อย
นูไม่น่ามาเจอและมารักคนอย่างนี้เลยจริงๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2012 22:52:27 โดย Aoya »

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ยังไม่มาเล่าต่ออีกหรือครับ..นู
มีหลายคนรออยู่น่ะคร้าบบบบบ
 :serius2:

เกิดมา เพื่อคน คนหนึ่ง
ลึกซึ้ง ในรัก นักหนา
ไม่เคย ตีค่า ราคา
ห่วงหา อาทร ก่อนใคร

ตายไป เพราะคน คนหนึ่ง
ดันดึง รั้งไว้ ไม่ไหว
เจ็บปวด รวดร้าว เพราะใคร
ผลักไส ใจเชือด เลือดเย็น



 :z3: หนี้ใจ หุหุ

ออฟไลน์ gang

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ความเศร้าผ่านมา ให้มันผ่านเลยไป. เหลือไว้เพียงความทรงจําทีเป็นสิิ่งเตือนใจ. จงมองแต่ความสูขที่ พึ่งมี เพื่อเป็นกําลังใจ (่่รักมากมายนายนู ) :L1:

ออฟไลน์ paintshinki

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ตอนนี้เศร้าจับใจจริงๆ :z3:
เพิ่งมาติดตามเรื่องพี่ปืน-ปอของพี่นูแล้วติดใจ
ขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นนักอ่านเรื่องของพี่นูอีกนะค่ะ ^^

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3
เศร้าอ่ะคับ ยังไงก้อจะติดตามต่อไปเรื่อยๆ นะคับ

namtarn11

  • บุคคลทั่วไป
รอพี่นูๆ

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
คำแก้ตัวของคนเลวเหอะ
สุดท้ายก็ไม่กล้าที่จะยอมรับและเปิดเผยสนใจแต่คนอื่นไม่สนใจคนที่ปากร่ำว่ารัก ได้จนสมใจแล้วนี่
กะอีแค่บอกเลิกยังไม่มีปัญญาบอกต่อหน้า ทุเรศว่ะ

อยากกินไข่พะโล้ โปะ

  • บุคคลทั่วไป
เศร้า'

ออฟไลน์ everlastingly

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :pig4: ชอบเรื่องนี้มากๆ ขอบคุณที่มาเล่าเรื่องราวดีๆให้ได้อ่าน เหมือนจะเศร้าแต่ก็มีความสุข   

ออฟไลน์ Gapompom

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ว่าล่ะ ทำไมเห็นแก่ตัวขนาดนี้นะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด