ตอนนี้พี่ทดแทนกำลังเริ่มทำคะแนนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะครับ
แอบสงสารสนเหมือนกัน วันอื่นๆ ไม่เป็นไร แต่วันนี้ขอให้สนเขาเถอะ
เขารักและผูกพันของเขามานาน วันนี้อย่าแย่งสนเลยนะพี่ทดแทน----------------------------------------------------------
ตอนที่ 25: ทดแทน แทนใจ แทนกายสนพาต้นมาที่รถที่จอดอยู่ เขาเปิดประตูรถให้ต้นเข้าไปนั่งข้างหน้าคู่กับเขา จากนั้นก็เดินอ้อมมาอีกด้าน เปิดประตูรถเข้าไปนั่งคู่กับต้น พอนั่งเรียบร้อยแล้วสนก็ดึงสายเข็มขัดนิรภัยมาเสียบเข้าที่ล็อก
"สวยเหมือนกันนะ แพงหรือเปล่า" ต้นถามพลางหันไปมองรอบๆ เพื่อสำรวจรถที่สนเพิ่งซื้อมาใหม่
"ไม่แพงหรอก ก็เท่าที่คนอย่างเราจะมีปัญญาหาได้นั่นแหละ" สนตอบพลางยิ้ม พอเห็นต้นไม่ได้ใส่เข็มขัดนิรภัยสนก็เอื้อมมือไปหยิบสายเข็มขัดตรงที่นั่งของต้นให้ พอทำแบบนี้ก็ทำให้ใบหน้าของสนอยู่ใกล้กับต้นมากทีเดียว
ต้นเห็นสนเคลื่อนตัวมาใกล้ขนาดนี้ก็ตกใจ นี่สนกำลังจะทำอะไรนะ... หรือว่า...จะทำเหมือนวันนั้น ต้นรีบยกมือมาปิดปากไว้ทันที
"เป็นอะไรต้น" สนถามด้วยความสงสัย
ต้นส่ายหน้า มือยังปิดปากไว้อยู่และตัวแข็งทื่อ สนเหมือนจะรู้แล้วว่าต้นกลัวอะไร เขายิ้มและหัวเราะเบาๆ ชอบใจ
"คาดเข็มขัดด้วย" สนว่าพลางดึงเข็มขัดนิรภัยมาเสียบกับที่ล็อกให้แล้วก็เคลื่อนตัวออก ต้นก็เลยดูโล่งใจมากขึ้น แต่ก็ยังมีท่าทางระแวงอยู่ สนเห็นแล้วก็อดขำปนเอ็นดูไม่ได้ จะว่าไปแล้ว ตั้งแต่วันนั้นที่เขาจูบต้น เขาก็คิดถึงรสจูบนั้นแทบตลอดเวลา ไม่คิดว่ามันจะหอมหวานและตราตรึงใจขนาดนี้ เป็นจูบแรกที่แสนประทับใจจริงๆ
"กลัวขนาดนั้นเลยเหรอต้น"
ต้นรีบส่ายหน้า "เปล่านี่"
"เปล่าอะไร นายรู้แล้วเหรอว่าเราหมายถึงอะไร"
"ก็นึกว่านายจะ..." แล้วต้นก็ถอนหายใจพร้อมกับสีหน้าที่เริ่มเคร่งขรึมมากขึ้น "ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะสน ถ้านายไม่ได้คิดอะไรกับเรา ก็อย่าทำให้เราต้องทำใจลำบากกว่านี้เลย" ต้นตัดพ้อแกมตำหนิไปหน่อยๆ
"นายคิดว่าเราไม่ได้คิดอะไรกับนายเลยเหรอ" สนถามกลับ
สนกำลังจะบอกอะไรต้นหรือเปล่า ถามแบบนี้ก็มีแต่จะทำให้ต้นสับสนที่ต้องตีความไปต่างๆ นาๆ จะเอายังไงของนายกันแน่นะสน นายรู้ไหมว่าเราสับสนกับนายมากแค่ไหน
"นายมีแฟนแล้วนะสน" ต้นสำทับประเด็นสำคัญไป
สนทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่แล้วก็กลับเงียบตามเดิม เสียงโทรศัพท์สนดังขึ้นพอดี สนหยิบขึ้นมาดู พอรู้ว่าใครโทรมาสนก็ทำท่าลังเลพร้อมกับหันมามองต้นด้วยความเกรงใจ แต่สนก็รับโทรศัพท์นั้นในที่สุด
"พี่สนยังไม่กลับอีกเหรอคะ"
"ยังหรอกนา เดี๋ยวพี่พาต้นไปหาพ่อกับแม่ก่อน อีกสองสามชั่วโมงก็น่าจะเสร็จ" สนหันหน้าไปอีกทางและพยายามคุยเสียงเบาเหมือนกับไม่อยากให้ต้นได้ยิน
"แล้วจะกลับมาทันหรือเปล่าคะ นาว่ามันจะไม่ทันนะคะ นี่ก็จะสี่โมงเย็นอยู่แล้ว กว่าจะไปกว่าจะกลับ แล้วนี่พี่สนกับพี่ต้นอยู่ไหนกันคะ"
"อ๋อ...พอดีต้นมาธุระใกล้ๆ แถวบ้านนี่แหละ พี่เลยแวะมารับ แล้วก็เลยว่าจะพาไปหาพ่อกับแม่ด้วย"
"อืม...วันนี้เป็นวันแรกที่พี่สนได้รถมา นาอยากให้เราไปกินข้าวฉลองด้วยกันนะคะ" นาทำเสียงตัดพ้อเป็นเชิงกดดัน
"พี่จะพยายามรีบไปรีบกลับละกันนะนา" สนพยายามตัดบท ไม่รู้ว่าต้นจะได้ยินอะไรบ้างหรือเปล่า ต้นยิ่งเป็นคนขี้เกรงใจอยู่ด้วย เขาไม่อยากให้ต้นรู้เลย
สนคุยกับนาสักพักก็วางสาย เห็นต้นนั่งซึมสนก็ทำตัวไม่ถูก ทั้งเกรงใจและสงสารต้น บางทีก็คิดเหมือนกันว่าสิ่งที่เขาทำอยู่นี้โหดร้ายกับต้นมากเกินไปไหม บางทีเขาก็นึกอยากจะหยุดมันเสียแต่ก็มีเหตุผลหลายอย่างที่เขาทำอย่างนั้นไม่ได้
"อดทนหน่อยนะต้น ถ้านายยังรักเราอยู่" สนพูดขึ้น ทำให้ต้นที่กำลังเหม่อหันมามองและสบตากัน
ต้นไม่รู้ว่าสนหมายถึงอะไร ที่ผ่านมาเขาก็อดทนอยู่แล้ว สนจะบอกให้เขาอดทนไปเพื่ออะไรกันล่ะ ก็ในเมื่อสนก็มีคนอื่นอยู่แล้ว ความอดทนของต้นก็คงเป็นเพียงการอดทนเพื่อให้เขาทำใจได้เท่านั้นเอง
"ส่งเราที่บ้านแล้วนายจะกลับก่อนก็ได้นะ" ต้นพูดโดยไม่มองหน้าสน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าต้นคงพอได้ยินการสนทนานั้น
"ไม่เป็นไรต้น...ยังไงเราก็จะกลับพร้อมกับนาย" สนยืนยัน เขาเอื้อมมือไปจับมือต้นไว้ แต่ไม่นานต้นก็ดึงมือออก
"สน...เราไม่อยากให้นายกับนามีปัญหากันเพราะเรา นาเขาเป็นแฟนนายนะ นายต้องไปดูแลเขา ไม่ต้องห่วงเราหรอก เรากลับเองได้"
ไม่รู้ว่าต้นจะรู้ตัวหรือเปล่าว่าสีหน้าของเขาแสดงอาการเศร้าออกมามากแค่ไหน แต่มันก็ทำให้สนสะท้อนใจมากทีเดียว
"แต่นายเป็นเพื่อนเรานะต้น"
ต้นหันกลับมาสบตากับสน พยายามยิ้มเท่าที่เขาจะสามารถฝืนได้ "เรารู้...ก็เราเป็นแค่เพื่อนนายไง เพื่อน...ก็ต้องเข้าใจเพื่อนเวลาที่มีแฟน เราเข้าใจนะ นายไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องห่วง เรากลับเองได้จริงๆ"
"ต้น..." สนรู้สึกจุกในอก สิ่งที่ต้นย้อนมาทำให้เขาเจ็บแทบกระอักที่รู้ว่าต้นวางสถานะตัวเองไว้แค่เพื่อนคนหนึ่ง เพื่อนที่ไม่สำคัญมากเท่ากับแฟน สนทำให้ต้นเข้าใจสถานะตัวเองแบบนั้นมาตลอดหรือเปล่า...
"เราตั้งใจไว้แล้วว่าเราจะพานายกลับบ้านด้วยรถของเรา นายรู้ไหมว่า...ถ้าไม่มีนาย...เราก็คงไม่ได้เรียนหนังสือสูงๆ แล้วก็คงไม่มีเงินมาซื้อรถแบบนี้หรอก" สนพยายามต่อรอง
"เอาไว้วันหลังก็ได้สน ถ้านายไม่รีบกลับไปหานา เราจะไม่ไปกับนายนะ เรากลับกับพี่แทนก็ได้" ต้นต้องลงทุนขู่ แน่นอนว่ามันต้องทำให้สนกระเทือนได้บ้างเพราะสนไม่อยากต้นไปกับผู้ชายคนนั้น เมื่อกี้สนยังเคืองอยู่เลยที่หมอนั่นกอดต้นโชว์เขา แถมยังทำหน้ากวนประสาทอีก
"ต้น...ถือว่าเราขอร้องละกัน ขอให้เราไปส่งนายเถอะ เราตัดสินใจแล้ว เราจะยกเลิกนัดเย็นนี้กับนา เราจะพาพ่อแม่ของพวกเราสองคนไปกินข้าวเย็นด้วยกัน ไปคันนี้แหละๆ เบียดๆ กันหน่อย ดีไหมต้น ไปกับเรานะ ไปด้วยกัน"
ต้นเงียบและครุ่นคิด นานแล้วเหมือนกันที่ต้นกับสนไม่ได้พาพ่อกับแม่ไปกินข้าวนอกบ้าน ถ้าไม่ติดว่าสนนัดกับแฟนไว้แล้วต้นก็คงไม่ขัดข้องหรอก
"นะต้น เราขอร้องนายแล้วนะ นายไม่เห็นใจเราเหรอ เราอยากตอบแทนทุกๆ คนที่ดีกับเรา คนที่ทำให้เรามีวันนี้ เราไม่อยากผลัดไปวันอื่น วันนี้แหละดีที่สุดแล้ว" สนรบเร้า
"นายไม่กลัวนาเขาโกรธเหรอ"
สนชะงักเล็กน้อย "เขาก็คงโกรธแหละ แต่ไม่เป็นไรหรอก เราคุยกันได้" สนยิ้มเพื่อจะยืนยันให้ต้นสบายใจว่าเขาจะไม่มีปัญหากับนาจริงๆ
นั่นสินะ...ต้นไม่น่าถามเลย ก็เขาเป็นแฟนกัน งอนกัน โกรธกันเป็นเรื่องธรรมดา ยังไงเขาก็คุยกันได้ ต้นยิ้มเศร้าๆ แล้วก็ก้มหน้าลงต่ำ ช่วงนี้ต้นรู้สึกว่าเขาควบคุมความรู้สึกของตัวเองได้ไม่ค่อยดี พอมีอะไรมากระทบต้นก็เผลอแสดงอาการบ่อยๆ
ก๊อกๆ!!!
เสียงเคาะกระจกรถทำให้สองหนุ่มหลุดจากความสนใจในกันและกัน พอหันไปดูก็พบว่าเป็นทดแทนนั่นเอง
"อ้าวพี่แทน" ต้นอุทานด้วยความแปลกใจที่เห็นทดแทนมายืนยิ้มเผล่อยู่ข้างๆ รถ ต้นลดกระจกลงพลางส่งยิ้มให้
"นึกว่าจะไม่ทันซะละ ต้นลืมหมวกไว้" ทดแทนบอกพลางชูหมวกสีเทาๆ ที่ต้นลืมไว้ให้ดู
"อ๋อ...ขอบคุณครับพี่แทน วิ่งมาเหนื่อยแย่เลย" ต้นยื่นมือจะไปรับหมวกแต่ทดแทนกลับไม่ยอมให้
"เดี๋ยวพี่ใส่ให้"
พูดไม่พูดเปล่า ทดแทนสวมหมวกใบนั้นลงบนศีรษะให้ต้นท่ามกลางความตกตะลึงของสน
"ต้นใส่อะไรก็ดูน่ารักนะ"
คำชมของทดแทนทำให้ต้นยิ้มเขินนิดๆ สนสังเกตเห็นทุกอย่าง ดูท่าทางผู้ชายคนนี้จะไม่ได้คิดกับต้นแค่คนรู้จักกันธรรมดาเสียแล้ว หนอยแน่ บังอาจมาชมต้นว่าน่ารักต่อหน้าต่อตาเขาแบบนี้เลยเหรอ
"พี่ไปแล้วนะต้น ไปก่อนนะครับสน ขับรถดีๆ นะครับ ฝากดูแลต้นให้พี่ด้วย" ทดแทนหันไปแหย่สนเล่น เขาพอจะดูออกว่าสนออกอาการหึงหวงต้นอยู่พอสมควร แต่สนก็ทำหน้าเฉยๆ ไม่ได้สนใจสิ่งที่ทดแทนฝากไว้
"ขอบคุณครับพี่ หวัดดีครับ แล้วเจอกันนะครับ" ต้นโบกมือให้ทดแทนที่ค่อยๆ เดินแกมวิ่งออกไป ต้นกดเลื่อนกระจกรถขึ้น แต่ก็รู้สึกว่าบรรยากาศดูเงียบๆ ผิดปกติ พอหันไปทางสนก็เห็นเขาทำหน้าบึ้งๆ อยู่
"อยู่ในรถไม่ต้องใส่หมวกก็ได้" สนพูดคล้ายกับไม่ค่อยพอใจโดยไม่หันมามองต้น
ต้นถอดหมวกออกแล้วเอาใส่กระเป๋าเป้อย่างงงๆ สนขับรถออกไปแล้วก็เงียบไปตลอดทาง พอต้นถามว่าเป็นอะไรก็ตอบกลับมาว่า "เปล่า" คำเดียว กลับมาพูดคุยได้เหมือนเดิมอีกทีก็ตอนที่มาถึงบ้านต้นแล้ว แต่สนก็ไม่ได้ลืมหรอกนะว่าเขาเห็นอะไร แต่ยังไม่ใช่เวลาที่จะคุยเท่านั้นเอง
-----------------------------------------------
วันเกิดของต้นเวียนมาถึงอีกแล้ว ปีนี้พ่อกับแม่อยากให้ต้นจัดงานวันเกิดที่บ้านบ้างเพราะที่ผ่านๆ มาต้นมักจะจัดในกรุงเทพกับเพื่อนๆ ต้นก็เห็นดีด้วยกับพ่อแม่ ปีนี้ต้นชวนเฉพาะคนที่สนิทๆ จริงๆ เท่านั้นมาที่บ้าน แน่นอนว่าก็มีสนกับแฟน นิก ปั้นจั่น เอก รวมทั้งพี่ทดแทนด้วย คนหลังสุดนี้กลายเป็นมาคนสนิทของต้นได้อีกคนเพราะชอบทำงานอาสาสมัครเหมือนกัน ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาก็ไปช่วยงานกันหลายที่
ในวันจัดงาน ทดแทนมาช่วยเตรียมงานตั้งแต่เช้า เขาพาแม่ของต้นไปซื้อของที่ตลาดด้วย เล่นเอาคนแถวนั้นมองด้วยความสนใจกันใหญ่เพราะไม่เคยเห็นแม่ของต้นมาซื้อของด้วยรถยี่ห้อหรูหราแบบนี้มาก่อน
ช่วงบ่ายๆ นิก ปั้นจั่นแล้วก็เอกก็ตามมา ส่วนสนอาจจะมาถึงประมาณช่วงเย็นๆ เพราะนาต้องไปเยี่ยมพี่ชายที่ป่วยที่โรงพยาบาลก่อน ทำให้สนรู้สึกหงุดหงิดพอสมควรเพราะปกติเขาจะต้องมาช่วยต้นเตรียมงาน แต่คราวนี้เขากลับมาไม่ได้ ได้แต่โทรมาขอโทษขอโพยต้น
พอต้นแนะนำให้ทุกคนให้รู้จักกันหมดแล้ว นิกกับปั้นจั่นก็ดูจะสนใจทดแทนเป็นพิเศษ เพราะเท่าที่สังเกตดูเหมือนผู้ชายคนนี้มีอะไรบางอย่างกับต้น ที่ดูออกนั้นก็เป็นเพราะว่าได้ประสบการณ์มาจากการสังเกตต้นกับสนนั่นเอง จังหวะที่ทดแทนกับเอกไปจัดเก้าอี้และเครื่องเสียงตรงสนามหน้าบ้าน นิกกับปั้นจั่นก็แอบเข้าไปหาต้นที่กำลังรินน้ำอัดลมใส่แก้วจำนวนหนึ่งอยู่
"เอาไปให้ใครเหรอต้น" ปั้นจั่นถามพลางนั่งลงบนเก้าอี้ที่ว่างๆ อยู่ นิกตามมานั่งด้วยข้างๆ
"พี่แทนกับเอกไง แล้วก็พวกมึงด้วย" ต้นเงยหน้าขึ้นมาบอก แล้วก็หันกลับไปตามเดิม
"เฮ้ยต้น...มึงกับพี่แทนรู้จักกันนานหรือยังวะ" นิกถามบ้าง เสียงที่เหมือนกระซิบกระซาบนั้นทำให้ต้นหันมามองด้วยความสงสัย ยิ่งเห็นประกายตาของเพื่อนสองคนนี้ก็ยิ่งดูน่าสงสัยมากขึ้น
"สามสี่เดือนได้แล้วมั้ง มีอะไรเหรอ" ต้นขมวดคิ้วพร้อมกับหยุดรินน้ำอัดลม
"มึงว่าพี่เขาจะเป็น..." ปั้นจั่นหันซ้ายหันขวา พอไม่เห็นใครอยู่แถวนี้ก็กระซิบกระซาบว่า "เป็นเกย์ไง"
ต้นทำสีหน้าตกใจแล้วก็ตำหนิเพื่อน "เฮ้ย อย่าพูดเป็นเล่นสิวะ"
"ไม่ได้พูดเล่นนะเว้ย มึงดูไม่ออกเหรอ แล้วถ้าให้เดานะ กูว่าพี่เขาต้องชอบมึงแน่ๆ เลย"
ต้นยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ "ไอ้ปั้นจั่น มึงพูดอะไรของมึงวะ"
"มึงสังเกตดีๆ ก็แล้วกันไอ้ต้น มึงนี่ดูคนเป็นหรือเปล่าวะ ไอ้สนมึงก็ดูไม่ออก พี่คนนี้มึงก็ดูไม่ออกอีก อย่างนี้จะหาแฟนกับเขาได้ไหมเนี่ย" ปั้นจั่นค่อนขอด ต้นเรียบจบมาเป็นปีแล้วก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะมีแฟนกับเขาสักคน ก็แน่ล่ะ เพราะต้นรักสนจนไม่เหลือใจให้ใคร
"ชอบไม่ชอบไม่รู้ล่ะไอ้ต้น แต่มึงน่าจะใช้โอกาสนี้แก้แค้นไอ้สนมันซะ มึงจำได้ไหมที่พวกกูสองคนบอกให้มึงรีบหาแฟนมาเย้ยไอ้สนมัน ก็เอาพี่คนนี้เลย ดูท่าทางพี่เขาก็เป็นคนดีนะเว้ย น่าจะดูแลมึงได้เลยล่ะ" นิกยุบ้าง
"พอๆ เลยพวกมึง หยุดเพ้อเจ้อได้แล้ว กูไม่ใช่หุ่นยนต์นะเว้ยที่จะกดปุ่มให้ไปรักใครก็ได้" ต้นทำเสียงให้เพื่อนสองคนรู้ว่าเขาเริ่มจะไม่พอใจ
"เออๆ เรื่องของมึงละกัน แล้วนี่ไอ้สนมันหายหัวไปไหนวะเนี่ย จนป่านนี้ยังไม่มาอีก" ปั้นจั่นทำท่ามองหาคนที่เขาพูดถึง
"พานาไปเยี่ยมพี่ชายที่โรงพยาบาล คงมาเย็นๆ แหละ" ต้นบอกด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
------------------------------------------------
สนกับนามาถึงที่บ้านต้นก็เย็นมากแล้ว นามาถึงก็เข้าไปช่วยแม่ต้นกับแม่สนเรื่องกับข้าวกับปลาในครัว พ่อของต้นกับสนก็อยู่หลังครัวเช่นเดียวกัน คอยช่วยเรื่องปิ้งๆ ย่างๆ และหั่นเนื้อสัตว์ ที่หน้าบ้านจึงเหลือผู้ชายห้าคนที่ช่วยกันจัดสถานที่ นิกกับเอกช่วยกันจัดโต๊ะหน้าบ้าน ต้นก็วิ่งเข้าวิ่งออกคอยหาน้ำและขนาให้เพื่อนๆ แล้วก็ไปช่วยตรงนั้นตรงนี้บ้าง ปั้นจั่นกับทดแทนช่วยกันจัดเครื่องเสียงเพราะพ่อของต้นอยากให้มีคาราโอเกะด้วย ส่วนสนเพิ่งมาถึงก็ยืนหันรีหันขวางไม่รู้จะเข้าไปช่วยตรงไหนดี
ต้นเห็นสนยืนงงอยู่ก็เลยเอาน้ำมาให้ "กินน้ำก่อนสน"
สนรับน้ำแดงมาแล้วก็ยกขึ้นจิบสองสามครั้ง ต้นรู้ใจเขาเสมอว่าเขาชอบกินน้ำอะไร "ขอบใจมากต้น" สนยิ้มให้เพื่อน ต้นก็ยิ้มกว้างเช่นกัน สนวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ ต้นรูทันทีว่าสนจะทำอะไรเพราะเขามักจะทำแบบนี้เป็นประจำ
สนเดินไปกอดต้นแล้วก็ตบหลังเบาๆ "สุขสันต์วันเกิดนะเพื่อนรัก"
"ขอบใจมากสน"
ต่างคนต่างเงียบไปสักพัก แม้ว่าจะทำแบบนี้ทุกปี แต่ความรู้สึกก็ยังเหมือนเดิม ยังอบอุ่นเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง ที่บ้านหลังนี้ ในหมู่บ้านนี้ ไม่ว่าจะมองไปตรงไหนก็อบอวลไปด้วยความทรงจำดีๆ ของต้นกับสน ยิ่งได้กลับมาอยู่ด้วยกันในที่ที่ความทรงจำในวัยเด็กได้เกิดขึ้น ต้นกับสนก็ยิ่งรู้สึกถึงความผูกพัน ไม่น่าเชื่อว่าเวลาจะผ่านไปสิบกว่าปีแล้ว เขาสองคนก็ยังคงก็ยังคงรักษามิตรภาพเอาไว้ได้เป็นอย่างดี
"ถ้านายยังรักเราอยู่ ขอให้นายอดทนอีกนิดนะต้น" สนพูดจบแล้วก็ปล่อยต้นออกจากอ้อมแขน
สนพูดแบบนี้อีกแล้ว แต่ต้นก็ไม่รู้ว่าสนหมายถึงอะไร ทำไมต้องอดทน อดทนอะไร อดทนเพื่ออะไร แต่ต้นก็จับสังเกตได้ว่าสนมีอะไรบางอย่างที่ัต้นยังไม่รู้ ปกติถ้ามีอะไรสนก็จะบอกให้เขารู้ แต่แปลกที่คราวนี้สนกลับทำให้มันดูลึกลับ
"สัญญานะว่านายจะอดทน" ดูเหมือนสนจะต้องการคำตอบจากต้นเดี๋ยวนี้เลย
ต้นพยักหน้าตกลง แม้ว่าจะเป็นการตกลงที่เขาไม่ค่อยเข้าใจนักก็ตาม
"มีอะไรให้เราช่วยไหม" สนถามพลางหันไปมองรอบๆ ดูเหมือนว่างานต่างๆ มีคนทำไปจนเกือบจะหมดแล้ว
ยังไม่ทันที่ต้นจะตอบอะไร เสียงปั้นจั่นก็ดังมา "เฮ้ยไอ้สน ไปหาเทปกาวมาให้หน่อยดิ จะเอามาติดสายไฟหน่อย"
"เออๆ เดี๋ยวหาให้" สนตอบแล้วก็หันมายิ้มให้ต้น ก่อนจะเดินเข้าไปข้างในบ้านเพื่อไปหาเทปกาวที่ปั้นจั่นขอ
พอหาเจอแล้วสนก็เดินออกมานอกบ้าน ตอนนี้ต้นไปช่วยนิกกับเอกจัดโต๊ะอยู่อีกด้านหนึ่งแล้ว ยังไม่ทันที่สนจะได้เอาเทปกาวไปส่งให้ สิ่งที่ปั้นจั่นคุยกับทดแทนก็ทำให้สนหยุดชะงัก
"ต้นเป็นคนดีมากๆ เลยนะครับพี่แทน ชอบช่วยเหลือคนอื่น สมัยเรียนนะครับ ต้นก็ช่วยติวพวกวิชาคำนวณให้ผมบ่อยๆ เพราะเขาเก่งด้านนั้น ผมจบมาได้ก็เพราะต้นนี่แหละครับ แต่เสียดายอย่างเดียว มันยังไม่มีแฟนนี่สิครับ พี่พอจะมีใครแนะนำไหมครับ"
"อืม...แล้วต้นเขาชอบคนแบบไหนล่ะครับ" ทดแทนถามพลางค้นหาแผ่นคาราโอเกะที่อยู่ในกล่องใส่ซีดีที่พ่อต้นเอามาส่งให้ช่วยหา
"แบบพี่...ต้นก็น่าจะชอบนะครับ" ปั้นจั่นพูดทีเล่นทีจริง
ทดแทนขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ถ้าปั้นจั่นพูดมาแบบนี้ก็แสดงว่าต้นน่าจะเป็นแบบที่เขาสงสัย แต่ปั้นจั่นนี่ก็ช่างสังเกตนะ รู้ด้วยว่าเขาเป็นแบบไหน
"ถ้าพี่จะจีบต้น ผมเชียร์เต็มที่เลย" ปั้นจั่นยุต่อ เมื่อทดแทนไม่เถียงและไม่ปฏิเสธ เขาก็พอจะเดาได้ว่าทดแทนก็น่าจะเป็นอย่างที่เขากับนิกสงสัยนั่นแหละ
สนได้ยินแล้วก็ถึงกับใจหายวูบ เขาต้องทำเสียงกระแอมกระไอเพื่อให้สองคนนี้หยุดคุยกันเรื่องนี้เสียที
"เอ้า...เทปกาว" สนยื่นเทปกาวให้ด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจนัก
ปั้นจั่นรับไปแล้วก็แอบยิ้ม "เฮ้ยสนมึงว่าดีไหมวะถ้าไอ้ต้นมันจะมีแฟน" ปั้นจั่นถามโดยไม่หันไปมองแต่ง่วนอยู่กับการใช้เทปกาวพันสายไฟบางส่วนที่เริ่มขาดและสายทองแดงโผล่ออกมาให้เห็น
"ไม่รู้เว้ย แต่ต้นเขาคงไม่อยากมีตอนนี้หรอก" สนตอบเสียงห้วนๆ
"เฮ้ย...มึงช่วยพี่เขาหาแผ่นคาราโอเกะหน่อยสิ ไม่รู้อยู่ในกล่องไหน มีตั้งหลายกล่อง" ปั้นจั่นเปลี่ยนเรื่อง เขาไม่ได้สนใจคำตอบของสนนักเพราะเขาก็ถามกวนประสาทสนไปอย่างนั้นเอง
สนจึงต้องจำใจนั่งลงแล้วช่วยทดแทนหาแผ่นคาราโอเกะเพราะตอนนี้เขายังไม่มีอะไรทำ สนไม่ค่อยกล้าหันไปสบตากับทดแทนนักเพราะเขารู้สึกอึดอัด เขาจึงหยิบกล่องใส่ซีดีมาช่วยเปิดหาแผ่นคาราโอเกะโดยไม่พูดไม่จา
"พี่แทนรู้จักต้นมานานหรือยังครับ" ปั้นจั่นหันมาชวนทดแทนคุยต่อ จริงๆ คำถามนี้เขารู้แล้วล่ะ แต่ถามเพราะอยากแกล้งสนมากกว่า
"อืม...สามสี่เดือนได้แล้วมั้งครับ"
"เหรอครับ...แล้วพี่แทนคิดว่าต้นเขาน่ารักแล้วก็นิสัยดีไหมครับ" ปั้นจั่นถามพลางเหลือบไปมองสน แม้จะทำท่าทางเหมือนไม่สนใจแต่เขาก็รู้ว่าสนคอยฟังการสนทนานี้อยู่
"อืม...พี่ว่าต้นเป็นน่ารักมากๆ ตอนไปทำฝายที่เชียงราย ต้นเขาก็ไม่หวงวิชาเลย มีอะไรก็บอกหมด ฝายที่ทำคราวนี้ก็เลยแข็งแรงเพราะว่าได้วิศวกรมือดีมาช่วยออกแบบให้ ชาวบ้านแถวนั้นชอบต้นกันใหญ่ เมื่อวานเพิ่งโทรไปคุยกับพี่ที่นั่นก็เห็นเขาถามหาต้นกันว่าเมื่อไหร่จะมาอีก ถ้าต้นไปอีกเขาจะแกงผักกาดจอให้กินทุกวันเลย" ทดแทนพูดพลางหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
สนชักเริ่มจะหงุดหงิดในใจ ทำไมนายคนนี้ถึงได้รู้นะว่าต้นชอบกินแกงผักกาดจอ ทำไมต้นถึงต้องไปบอกเขาด้วยล่ะ
"ไอ้ต้นไปไหนก็มีแต่คนรักแหละครับ อ้อ...พี่รู้ไหมว่า...ผมนี่ชอบพี่จริงๆ เลยครับ คิดๆ แล้วก็ชักอยากจะให้ต้นมีแฟนแบบพี่นี่แหละครับ"
ทดแทนได้ยินแล้วก็ยิ้มและหัวเราะชอบใจ แต่อีกคนที่นั่งเงียบเริ่มจะเดือดขึ้นทุกทีๆ 'ไอ้ปั้นจั่น มึงเล่นเชียร์ออกนอกหน้านอกตาแบบนี้เลยเหรอวะ'
"เอพี่...ผมถามหน่อยครับ พี่คิดยังไงครับกับคนที่ไม่แสดงออกอย่างชัดเจนครับ ทำเหมือนว่าไม่รัก แต่พอเขาจะมีคนอื่นก็คอยหวงก้าง คอยกันท่าตลอด ไม่รู้จะเอายังไงกันแน่" ปั้นจั่นเปลี่ยนเรื่องคุยอีกครั้งหวังจะให้กระทบกระเทือนคนหน้าบึ้งที่เริ่มจะทนไม่ไหวขึ้นทุกทีๆ 'ทนได้ก็ให้มันรู้ไปไอ้สน'
ทดแทนหยุดคิด หันไปมองสนที่นั่งหาแผ่นซีดีอยู่เงียบๆ แล้วก็เกิดความสงสัยว่าปั้นจั่นกำลังพูดกระทบสนอยู่หรือเปล่า เพราะก่อนหน้านี้ปั้นจั่นไม่ได้คุยเรื่องนี้เลย เพิ่งมาคุยตอนที่สนมานี่แหละ "อืม...พี่ก็ไม่ชอบหรอกคนแบบนี้ พี่ว่าคนเราควรจะชัดเจนในเรื่องความรักนะ ไม่งั้นอีกฝ่ายก็แย่เลย ไม่รู้ว่าคิดอะไร ไม่รู้จะเอายังไง ไม่ดีหรอก ในหมู่เกย์เขาจะเรียกพวกนี้ว่าอีแอบ ขอโทษนะที่พูดไม่สภาพ แต่เขาเรียกอย่างนี้จริงๆ"
สนทนไม่ไหวแล้ว นี่ปั้นจั่นมันแอบหลอกให้เขามาถูกด่าหรือเปล่า สนวางกล่องซีดีลงแล้วก็ลุกขึ้นเดินออกไป เห็นต้นนั่งคุยกับเอกและนิกอยู่ที่โต๊ะที่จะใช้เป็นที่กินข้าวเย็นร่วมกันก็เลยเดินเข้าไปคุยด้วย ทดแทนกับปั้นจั่นได้แต่มองตามอย่างงงๆ แต่ปั้นจั่นคงไม่งงหรอกเพราะรู้ดีว่าสนเป็นอะไร นับว่าโชคดีที่ทดแทนเข้ามาในตอนนี้ สนจะได้รู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดที่เขาทำกับต้นบ้าง
--------------------------------------------------------
"Happy birthday to you, Happy birthday to you, Happy birthday, Happy birthday, Happy birthday to you"
สิ้นเสียงร้องเพลงอวยพรวันเกิด ต้นก็เป่าเทียนบนเค้กวันเกิดจนค่อยๆ ดับไปจนหมด จากนั้นต้นก็ตัดเค้กแจกคนที่มาร่วมงาน มีทดแทนคอยเป็นลูกมืออยู่ข้างๆ ต้นตลอด ส่วนสนก็นั่งหน้าบึ้งจนนาต้องถาม
"พี่สนเป็นอะไรหรือเปล่าคะ"
"เปล่าหรอกนา" ตอบว่าเปล่าแต่สีหน้าก็ยังคงบึ้งตึงอยู่ แถมยังคอยมองต้นกับทดแทนตลอดเวลา พ่อกับแม่ของต้นและสนเองก็ดูจะแปลกใจเหมือนกันที่คราวนี้ต้นกับสนอยู่ห่างกัน ปกติถ้าเป็นงานวันเกิดของต้นหรือสน สองคนนี้จะตัวติดกันตลอด พฤติกรรมแปลกๆ ของต้นกับสนจึงถูกจับสังเกตโดยผู้ปกครองของทั้งสองฝ่ายด้วย
ต้นหันมามองสนกับแฟนแล้วก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ เห็นสนหน้าบึ้งแล้วต้นก็พอจะเดาได้ว่าสนคงรู้สึกแย่เหมือนกันที่ไม่ได้มาอยู่ใกล้ๆ เขาเหมือนงานวันเกิดที่ผ่านมาทุกปี ต้นหยิบจานเล็กๆ สองใบที่มีเค้กอยู่แล้วก็เดินเอาไปส่งให้สนกับแฟน คิดว่าคงจะทำให้สนอารมณ์ดีขึ้นมาได้บ้าง
ตอนที่สนยื่นมือมารับเค้ก ต้นก็ทำตัวไม่ถูกเพราะถูกสนมองด้วยสายตาตัดพ้อต่อว่า นี่ถ้าไม่เกรงใจพ่อกับแม่ของต้นสนคงจะกลับบ้านไปแล้ว มีหลายอย่างที่สนอยากจะพูดแต่ก็พูดไม่ได้เพราะนานั่งอยู่ข้างๆ
"ขอบคุณค่ะพี่ต้น" นาบอกหลังจากที่รับจานใบเล็กใส่เค้กมาจากต้น "พี่สน แบ่งของนาไปอีกซักครึ่งได้ไหมคะ นากินไม่หมดหรอก เดี๋ยวอ้วน" นาบอกพลางตักเค้กบางส่วนของตัวเองส่งให้สนไป ต้นเห็นแล้วก็รู้ตัวว่าเขาไม่ควรจะอยู่ตรงนี้เป็นก้างขวางคอสนกับแฟน
"ต้น..." สนร้องเรียก
ต้นหันมามองเพื่อน ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรก็มีเสียงอีกคนเรียกเขาเช่นกัน ทดแทนนั่นเอง
"ต้น...นี่ชิ้นสุดท้ายของต้นนะครับ" ทดแทนเดินเอาเค้กมาส่งให้ ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าใครอีกคนกำลังจับตามองอยู่อย่างไม่พอใจ
"ขอบคุณครับพี่แทน" ต้นรับมาแล้วก็ยิ้ม
"ไปนั่งตรงนั้นดีกว่าต้น จะได้คุยกัน" ทดแทนชี้ไปที่นิกกับปั้นจั่นนั่งอยู่ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสน
ต้นจำต้องไปตามที่ทดแทนบอก จริงๆ ก็มีเหตุผลหลายๆ อย่างที่ทำให้ต้นอยู่ใกล้กับสนมากไม่ได้ ไม่ใช่เพราะทดแทนที่เข้ามาใกล้ชิดเพียงอย่างเดียว แต่เพราะแฟนสนที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยต่างหากเล่า ต้นหันไปมองสนอย่างรู้สึกผิด ถึงต้นจะน้อยใจที่สนมีแฟนแล้ว แต่เขาก็รู้ว่าสนรู้สึกยังไงที่ไม่ได้อยู่ใกล้ๆ กับเขาในงานวันเกิดเหมือนทุกปี ต้นเองก็รู้สึกไม่ต่างกันหรอก สนกับเขาเคยทำแบบนี้ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ มันเป็นความผูกพันและคุ้นเคย เมื่อกี้พ่อกับแม่ของต้นก็ถามว่าทำไมสนดูห่างๆ ไป ต้นก็ได้แต่ตอบไปว่าสนมีแฟนแล้วก็ต้องคอยดูแล ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน
ถึงวันนี้สนจะมีใคร แต่วันพิเศษเช่นนี้สนก็พร้อมที่จะให้เวลากับต้น แต่ทำไมคราวนี้เขาถึงไม่มีโอกาสเลย เป็นเพราะนายทดแทนคนเดียวแท้ๆ รู้ไหมว่าสนเจ็บปวดแค่ไหนที่เขาไม่ได้เป็นคนสำคัญของต้นในงานวันเกิดนี้ เขารักและผูกพันกับเพื่อนคนนี้มากแค่ไหนรู้ไหม ทำไมถึงได้มาแย่งที่เขาแบบนี้อย่างหน้าตาเฉย สนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว
TO BE CONTINUED...