▓ ▒ ░ ∞ ต้น-สน ∞ มิตรภาพของเพื่อนที่แสนรัก ❉ V2 ❉ ROMANTIC DRAMA ░ ▒ ▓
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▓ ▒ ░ ∞ ต้น-สน ∞ มิตรภาพของเพื่อนที่แสนรัก ❉ V2 ❉ ROMANTIC DRAMA ░ ▒ ▓  (อ่าน 135126 ครั้ง)

ออฟไลน์ SungMinKRu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 570
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-0
    • https://www.facebook.com/pages/SungMinKRu-Boys-Love/311662138876399


 :pig4: :pig4: :pig4:

สนเนี่ย เดี๋ยวจะโดนดี มัวแต่ลังลงลังเลไปได้ ถ้าเราเป็นสนเจอคนดีๆแบบต้นขนาดนี้จับทำเมียไปนานแล้วค่ะ

ไม่ได้ทึ่มเหมือนคุณพี่สน -_- ต้นก็น่าสงสารอะ ยอมเขาตลอด หาพระเอกใหม่ให้ต้นควงแก้ขัดทีเถอะค่ะ แหมๆๆ

กว่าสนจะรู้ใจตัวเองเนี่ย แก่ตายพอดี !


555

อย่าไปสนข้อความด้านบนมาก งุงิ

มาบ่นไรไปไม่รู้ ไปแล้ว

คนเขียนต่อต่ออีกนะค่ะ แนวนี้จะมาแบบไหนเนี่ย เห็นสนคอยเอาอกเอาใจต้นอยู่ตลอดเวลาเลย อิอิ จะว่าไปก็อยากกินมาม่า

เหมือนกันนะค่ะ อากาศหนาวมาก ต้มน้ำร้อนรอมาม่า กัับฉาก ฉึกๆ อิิอิ

 :laugh5: :laugh5: :laugh5:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
จะรอนะ.  วันท่ีสนบอกความในใจกับต้น
อีกนานไหมหนอ

ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
เพิ่งเข้ามาอ่าน เริ่มอ่านวันนี้ตอนสองทุ่ม อ่านไปอ่านมาหยุดไม่ได้เลย
ชอบอะ อ่านแล้วกินใจตั้งแต่ตนแรก จนตอนนี้ รู้สึกว่าความผูกพันธ์
ของสองคนนี้มันมีมาเรื่อย เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีเศร้าทุกข์ แต่ทั้งหมดก็จบ
ด้วยความสุขทุกครั้ง และการให้อภัยและการเริ่มต้นใหม่ทำให้ความสัมพันธ์
ทั้งของต้นและสนพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ จนแน่นแฟ้นขึ้น จนมันเริ่มก่อตัวเป็นความรัก
ซึ่งคนหนึ่งรู้ตัวและไขว่คว้าไว้กับตัวได้ แต่ก็ไม่เคยทำให้อีกคนอึดอัดใจ อีกคนสับสน
แต่ไม่นานรับรู้ได้ และรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของพวกเขา มันค่อยเป็นค่อยไปอะ
ชอบต้นกับสน Sarawatta เขียนเรื่องแนวนี้ได้ดีมากก มีเหตุผลลงตัวในแต่ละตอนมาก
ชอบกดไลค์ให้เลยนะนี่คะ+1ค่ะ

ออฟไลน์ gambee

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
อยากรู้สนจะบอกรักต้นยังไงแล้วสิ

รอค่ะรอแต่ขอแบบน้ำตาซึมกับความซึ้งนะไม่เอาเศร้าน๊า


ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
ขอมารอตอนต่อไปด้วยคน

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
มาแล้วครับ กว่าจะได้มาก็หลายวันเหมือนกัน อาทิตย์หน้าอาจจะต้องไปนานนะครับ ตะลอนต่างจังหวัดอีกแล้ว
ตอนนี้...คือจุดเริ่มต้นของดราม่าของจริงครับ คราวที่แล้วที่ว่าบีบคั้น คราวนี้จะบีบจะคั้นให้หน้าเขียวเลยครับ  :z1:
ผมเคยบอกว่าตอนที่เขียนเรื่อง "รักที่ฟ้าไม่ได้ลิขิต" มีหลายตอนที่เขียนไปร้องไห้ไปใช่ไหมครับ
เรื่องนี้ก็เหมือนกันครับ ใครที่ต้มน้ำรอมาม่าไว้ก็เตรียมตัวเตรียมใจไว้เลยนะครับ

ป.ล.
อยากให้ย้อนกลับไปอ่านตอนที่ 21 ช่วงที่ต้นวิ่งไปกระโดดกอดคอสน
เพิ่งนึกได้ว่าผมตั้งใจจะเขียนอะไรบางอย่าง แต่ลืม
เพิ่งเอาไปใส่ให้ครับ


-------------------------------------------------------------

ตอนที่ 22: ชาไปทั้งหัวใจ



สนออกไปทำงานแล้วหลังจากที่ทำกับข้าวให้ต้นและเพื่อนๆ กิน รวมทั้งเขาเองก็ได้กินข้าวอิ่มท้องครั้งแรกในรอบหลายวันที่ผ่านมา ระหว่างที่นั่งอยู่บนรถเมล์สนก็คิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ เขาเกือบพลั้งปากบอกอะไรบางอย่างกับต้นไปแล้ว ตอนนั้นก็รู้สึกเสียดายที่ถูกปั้นจั่นมาขัดจังหวะเสียก่อน แต่พอมาคิดดูอีกครั้งเขาก็คิดว่าก็ดีเหมือนกันที่ยังไม่ได้พูดออกไป ในเมื่อสนยังไม่แน่ใจเลยว่าสิ่งที่เขารู้สึกกับต้นนั้นคือความรู้สึกแบบไหนกันแน่ ถ้าเขาจะบอกต้นแบบนั้น เขาควรจะต้องมั่นใจและมั่นคงจริงๆ ถ้าเกิดบอกไปแล้วเขามารู้ตัวทีหลังว่าไม่ได้คิดกับต้นแบบนั้น ต้นจะเสียใจมากแค่ไหน ต้นมีค่าสำหรับเขามาก เขาไม่อยากทำให้ต้นเสียใจอีก แม้ว่าตอนนี้ต้นอาจจะเสียใจที่เขายังไม่ได้รักตอบ แต่ก็ยังดีกว่าให้ต้นเสียใจที่เขาบอกรักต้นไปแล้วกลับมาค้นพบทีหลังว่าไม่ได้รู้สึกแบบนั้น

ช่างมันเถอะ ไม่ว่าเขาจะรู้สึกกับต้นแบบไหน แต่เขาก็รู้สึกดีๆ เวลาที่ต้นอยู่เคียงข้าง รู้สึกอุ่นใจที่มีเพื่อนคนนี้อยู่ใกล้ๆ คอยดูแลกันและกัน มีใครสักคนที่เขาไว้ใจได้ มีใครสักคนที่พร้อมจะยื่นมือมาช่วยเขาในทุกเรื่อง เป็นคนที่เขาอยู่ด้วยแล้วสบายใจ เป็นคนที่เขาจะยอมทำอะไรให้ก็ได้ แม้แต่ชีวิตเขาก็จะให้ แบบนี้...มันเรียกว่าความรักหรือเปล่านะ เขารักต้นแบบนั้นหรือเปล่า ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าต้นช่างน่ารัก น่าทนุถนอม เขาอยากกอด อยากสัมผัส อยากจุมพิตที่ริมฝีปากบางๆ นั้น หรือว่ามันจะเป็นความรักจริงๆ เขาไม่รังเกียจหรอกนะที่จะเป็นแฟนกับต้น แม้ว่ามันจะต้องต่อสู้กับอะไรหลายอย่างที่เขาเองก็กลัวอยู่เหมือนกัน แต่ก็อย่างที่บอก เขากลัวว่ามันจะเป็นเพียงอารมณ์อ่อนไหวที่เกิดขึ้นชั่วคราว เขาไม่อยากใจร้อนรีบบอกแล้วก็มาเปลี่ยนใจทีหลัง จะทำยังไงดีหนอ ใครกันจะช่วยเขาได้บ้าง ใครกันจะช่วยทำให้เขารู้ว่าเขารักต้นแบบไหน เขาจะพิสูจน์ยังไงดี...

---------------------------------------------------

ไม่รู้ว่าโลกมันกลมเกินไปหรือเปล่า เมื่อสนเดินมารับออร์เดอร์ที่โต๊ะหนึ่งก็เจอกับพี่ปิ๊กซึ่งพาพ่อ แม่แล้วก็บรรดาน้องชายน้องสาวมากินสุกี้ด้วยกันที่ร้านที่เขากำลังทำงานอยู่พอดี

"อ้าวสน...ทำงานที่นี่ด้วยเหรอ" พี่ปิ๊กทักพลางยิ้มระคนแปลกใจ

สนยิ้มตอบอย่างกระอักกระอ่วน ไม่ได้อายที่พี่ปิ๊กเห็นเขาในสภาพนี้หรอก แต่รู้สึกทำใจลำบากที่จะต้องคุยกับคนที่เขาไม่ชอบหน้ามากกว่า

"ครับ" สนตอบเสียงห้วนแล้วก็ทำสีหน้าเรียบๆ ตามเดิม

เหมือนพี่ปิ๊กจะรู้ตัวว่าสนไม่ค่อยชอบหน้าเขาอยู่ ก็เลยต้องหุบยิ้ม

"จะรับอะไรดีครับ" สนถามพลางทำท่าเตรียมจดรายการอาหาร ตอนนี้เขาทำงานอยู่และเขาก็เป็นมืออาชีพพอที่จะไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับงาน

"พ่อกับแม่อยากกินอะไรสั่งเลยนะครับ ปอนด์กับแป้งด้วย วันนี้กินเต็มที่เลยนะ ไม่อิ่มไม่ให้กลับบ้าน" ปิ๊กยิ้มอย่างอารมณ์ดี น้องชายกับน้องสาวของปิ๊กอายุราวๆ สิบห้าสิบหกหรืออาจจะมากกว่านั้นนิดหน่อย ดูเหมือนปิ๊กจะรักน้องมากทีเดียว

สนยืนรับออร์เดอร์จนหมดแล้วก็แว่บหายไป ส่วนปิ๊กก็หันมาคุยกับพ่อแม่และน้องๆ ในระหว่างที่รออาหารมาเสิร์ฟ ท่าทางของสนที่แสดงออกนั้นเริ่มทำให้ปิ๊กเข้าใจอะไรบางอย่าง นิกกับปั้นจั่นบอกว่าต้นกับสนสนิทกันมากเพราะคบกันมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่เคยอยู่ห่างกัน แต่สิ่งที่สนแสดงออกนั้นปิ๊กค่อนข้างมั่นใจว่าไม่ใช่แค่เพื่อน สนหวงต้นออกนอกหน้านอกตา พยายามเข้ามากันท่าเขากับต้นตลอด แต่ดูเหมือนต้นเองก็จะเอนเอียงไปทางสนมากกว่า ถึงขนาดหนีออกจากโรงหนังตามสนไปก็น่าจะมีอะไรไม่ธรรมดาแล้วล่ะ ถ้าบอกว่าสองคนนี้เป็นแฟนกันปิ๊กคิดว่ายังจะน่าเชื่อกว่าบอกว่าเป็นเพื่อนกันเสียอีก

ปิ๊กครุ่นคิด ปัญหาตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่ว่าสนหวงก้างหรือไม่ แต่อยู่ที่ต้นต่างหากว่าจริงๆ แล้วต้นคิดอะไรกับสน ถ้าเกิดต้นชอบสนจริงๆ ความผูกพันที่ยาวนานขนาดนั้นย่อมจะมีอิทธิพลมาก ปิ๊กไม่คิดว่าเขาจะทำให้ต้นเปลี่ยนใจได้ง่ายๆ ทำไมนิกกับปั้นจั่นไม่บอกเรื่องนี้กับเขาตั้งแต่ทีแรกนะ

"เดี๋ยวผมไปห้องน้ำแป๊บนึงนะครับ" ปิีกบอกแล้วก็ขอตัวลุกออกไปข้างนอกร้าน

พอลับตาพ่อกับแม่ ปิ๊กก็โทรหาปั้นจั่นทันที "ปั้นจั่น พี่มีเวลาคุยไม่มาก แต่ช่วยบอกความจริงพี่มาตรงๆ ได้ไหมว่าต้นกับสนเขาเป็นอะไรกันแน่ สองคนนี้ไม่ได้เป็นแค่เพื่อนกันใช่ไหม เนี่ย...ตอนนี้พี่พาพ่อแม่กับน้องๆ ที่บ้านมากินข้าวที่ร้าน MK แล้วเจอสนด้วย พี่ว่าเขาไม่ชอบหน้าพี่ยังไงไม่รู้ พี่ว่ามันแปลกๆ นะ เราสองคนลืมบอกอะไรพี่หรือเปล่า"

ปั้นจั่นหัวเราะแหะๆ เมื่อมันมาถึงขนาดนี้แล้วก็คงจะปิดบังไม่ไหวแล้วล่ะ "คือ...พวกผมก็สงสัยเหมือนกันครับว่าไอ้สนมันชอบต้น แต่มันปากแข็ง พอถามทีไรมันก็บอกว่าไม่ได้คิดอะไรกับต้นเกินเพื่อน"

"แล้วทำไมไม่บอกพี่เรื่องนี้ตั้งแต่ทีแรก พี่สังเกตเห็นไม่กี่ครั้งพี่ก็รู้แล้วว่าสนเขาหึงต้น นี่กะจะให้พี่มาช่วยลองใจสนเหรอ มันไม่สนุกนะปัั่นจั่น" พี่ปิ๊กเสียงดุจนปั้นจั่นต้องสะดุ้ง

"เอ่อ...คือ..."

"อยากช่วยต้นใช่ไหม" คงไม่ใช่เรื่องยากนักที่ปิ๊กจะอ่านแผนการของสองเพื่อนสุดแสบนี้ออก

"ครับ" ปั้นจั่นรับคำเสียงอ่อย

"ต้นเขารักสนใช่ไหม"

"เอ่อ...ครับ รักมากๆ เลยแหละครับ"

ปิ๊กถอนหายใจ ถึงจะโกรธนิกกับปั้นจั่นไม่น้อยที่ปิดบังความจริงเรื่องนี้ แต่ปิ๊กก็รู้สึกเห็นใจต้น ได้รู้จักเพียงไม่เท่าไรปิ๊กก็รู้ว่าต้นเป็นคนดี อีกอย่าง เขาก็ยังไม่ได้ถลำลึกไปไกลมาก ยังพอถอนตัวถอนใจทันอยู่ ดีนะที่เอะใจขึ้นมาได้ก่อน คิดๆ แล้วปิ๊กก็อยากลองช่วยต้นดูอยู่เหมือนกัน เขาเคยเจอเหตุการณ์แบบต้นเพราะเคยหลงรักเพื่อนชายสมัยอยู่ ม. ปลาย เขารู้ดีว่ามันเจ็บปวดแค่ไหนที่ต้องแอบรักคนที่เขาไม่ได้รักเรา

"ถ้าอยากให้ช่วยก็บอกพี่ตรงๆ ก็ได้ เราสองคนนี่นะ รู้ไหมว่าพี่โกรธมาก แต่เอาเถอะ...พี่ก็คิดว่าต้นเป็นคนดี เมื่อหลายปีมาแล้วพี่เองก็เคยแอบหลงรักเพื่อนเหมือนที่ต้นเป็นตอนนี้ เอาเป็นว่า...เดี๋ยวพี่จะช่วยละกัน เดี๋ยวเย็นนี้พี่จะแวะเข้าไปหาที่บ้านละกันนะ แค่นี้ก่อน เดี๋ยวพ่อกับแม่พี่สงสัย ออกมานานแล้ว"

"ครับพี่ เดี๋ยวพวกผมจะรอนะครับ" ปั้นจั่นรับคำด้วยความรู้สึกผิด นี่ก็เป็นอีกหนึ่งบทเรียนสำคัญของพวกเขาสองคน การล้อเล่นกับความรู้สึกและความรักของคนอื่นนั้นไม่ใช่เรื่องสนุก ถ้าเกิดผิดพลาดอะไรขึ้นมามันมีแต่เจ็บกับเจ็บ

ปิ๊กกลับมาถึงอาหารก็เริ่มทยอยมาแล้ว ปิ๊กปล่อยให้พ่อแม่กับน้องๆ จัดการกับอาหารกันเองไปก่อน เขาหยิบเอากระดาษและปากกาที่ทางร้านมีไว้สำหรับให้ลูกค้าแสดงความคิดเห็นมา เขียนอะไรบางอย่างลงไปแล้วก็ส่งให้สนตอนที่เขาจัดวางอาหารให้หมดแล้ว สนรับมาอย่างไม่สนใจนักเพราะคิดว่าเป็นเพียงความคิดเห็นจากลูกค้าที่เขาไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ นอกจากเจ้าของร้าน

"อ่านด้วย" ปิ๊กบอกเบาๆ

สนมองอย่างสงสัย เขาเดินออกไปแล้วก็อ่านข้อความที่อยู่ในกระดาษแผ่นนั้น

"รู้นะว่าสนคิดอะไรกับต้นอยู่"

สนหันมามองเจ้าของลายมือ ก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเขาพอใจหรือไม่พอใจ อาจจะไม่พอใจก็ได้ที่หมอนั่นดันรู้ดี แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกพอใจที่พี่ปิ๊กจะได้รู้เสียบ้างว่าไม่ควรมายุ่งกับต้นอีก ถ้าเข้าใจแบบนี้แล้วไม่มายุ่งกับต้นก็ดีเหมือนกัน

-------------------------------------------------------

สนกลับมาถึงบ้านสี่ทุ่มกว่าๆ ก็แปลกใจที่เห็นไฟในบ้านยังเปิดสว่างจ้าอยู่ แถมยังมีเสียงคนหัวเราะคุยกันสนุกสนาน พอเข้ามาในบริเวณบ้านก็เห็นมีรถคันหนึ่งจอดอยู่ สนขมวดคิ้ว เขาพอจะจำได้ นี่มันรถพี่ปิ๊กนี่นา พอเปิดประตูเข้าไปสนจึงได้เห็นว่าต้น พี่ปิ๊ก นิกและปั้นจั่นนั่งคุยกันอยู่พร้อมกับเปิดทีวีทิ้งไว้ไปด้วย ทุกคนหันมามองสนเป็นตาเดียวกันทันทีที่สนเปิดประตูเข้ามา

ต้นรีบลุกเดินมาหาเพื่อนพร้อมกับยิ้มดีใจ "กลับมาแล้วเหรอ เหนื่อยไหม กินอะไรมาหรือยัง"

สนนิ่งเงียบ ไม่ตอบคำถาม เห็นแบบนั้นแล้วต้นก็เริ่มรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ ไม่รู้ว่าสนจะคิดอะไรที่เห็นพี่ปิ๊กมาคุยกับพวกเขาที่นี่

"มากินด้วยกันสิสน พี่ปิ๊กเขาซื้อของมาฝากเยอะแยะเลยนะ" เสียงนิกร้องบอกมาจากที่พวกเขานั่งอยู่

สนหน้าบึ้งขึ้นมาทันที "ไม่กิน ไม่หิว เดี๋ยวเราขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะต้น" สนบอกเสียงห้วนแล้วก็เดินปลีกตัวขึ้นไปบนห้องอย่างอารมณ์เสีย พอเขาไม่อยู่พี่ปิ๊กก็มาหาต้นแบบนี้เหรอ นี่ความสัมพันธ์ของต้นกับพี่ปิ๊กคงพัฒนาไปถึงไหนต่อไหนแล้วสินะ เดี๋ยวนี้ถึงขั้นมาหากันถึงบ้านละ ต่อไปไม่มาหากันถึงห้องนอนเลยหรือ

สนปิดประตูดังปังจนคนที่นั่งอยู่ข้างล่างสะดุ้งตกใจและมองหน้ากันเหรอหรา ต้นเดินกลับมานั่งที่เดิมด้วยสีหน้างงๆ ระคนเป็นห่วง แถมยังเกรงใจพี่ปิ๊กอีกด้วยที่เจอกิริยาแบบนี้ของสนเข้าไป ต้นไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมสนถึงไม่ชอบหน้าพี่ปิ๊กมากขนาดนั้น

"ดึกแล้ว...สงสัยพี่ต้องกลับก่อนแล้วล่ะ พรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้าด้วย" พี่ปิ๊กบอกด้วยสีหน้าแหยงๆ เห็นอาการหึงของสนแล้วก็รู้สึกขยาดเหมือนกัน ชักไม่แน่ใจแล้วสิว่าการที่เขาจะเข้ามาช่วยต้นจะทำให้เขาปลอดภัยหรือเปล่า

"อ๋อ...เหรอครับ มันก็ดึกแล้วเหมือนกันเนาะ คุยกันเพลินจนลืมเวลาเลย" ปั้นจั่นพูดแก้เกี้ยว ถึงจะเข้าใจความรู้สึกของสน แต่ในฐานะเจ้าบ้านร่วมกันก็ไม่อยากให้เกิดความรู้สึกแบบนี้กับแขกที่มาเยือน

"จริงด้วย คุยซะเพลิน" นิกช่วยเสริมอีกคน ตอนนี้เขาสองคนต้องเกรงใจพี่ปิ๊กให้มากๆ เพราะไปโกหกพี่ปิ๊กเรื่องต้นกับสนไว้ ดีที่ว่าพี่ปิีกไม่โกรธจนถึงขั้นตัดขาดความสัมพันธ์ไปเลย

"เดี๋ยวผมไปส่งที่รถนะพี่" ต้นอาสา พี่ปิ๊กพยักหน้า

พอส่งพี่ปิ๊กแล้วต้นก็เดินกลับเข้ามาในบ้านด้วยท่าทางครุ่นคิด สนชักจะหวงเขามากเกินไปหรือเปล่า เมื่อก่อนที่สนหวงเพื่อนก็ไม่เป็นมากขนาดนี้นี่นา เหมือนจะไม่ใช่แค่หวงอย่างเดียวแล้วนะ... ถ้าไม่ใช่หวงแล้วจะเป็นอะไร... หึงงั้นเหรอ... เป็นไปไม่ได้หรอก อย่าคิดอะไรแบบนี้เลยต้น แค่คิดก็ผิดแล้ว สนคงแค่หวงเท่านั้นแหละ

ต้นกลับขึ้นไปบนห้องแล้วก็อาบน้ำ ในใจก็ยังคอยเป็นห่วงสนอยู่เพราะรู้ว่าสนกลับมาเหนื่อยๆ ยังไม่ได้กินข้าว ต้นเคยไปทำงานที่ร้านนั้นก็เลยรู้ว่าต้องทำงานหนักแค่ไหน คิดไปคิดมาอยู่หลายรอบ หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ต้นก็เลยตัดสินใจไปเคาะประตูห้องสน เอาเถอะ ไม่ว่าสนจะโกรธ จะหวง จะหึงหรือจะอะไรมากแค่ไหนก็ตามแต่ ความเป็นห่วงคนที่เขารักก็มีมากกว่า

สนเดินมาเปิดประตู สีหน้ายังดูตึงๆ จนพอสังเกตได้ เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดที่เขามักจะใส่นอนตามปกติซึ่งก็คือเสื้อกล้ามกับกางเกงบ๊อกเซอร์ แสดงว่าคงจะอาบน้ำแล้ว

"ทำงานอยู่เหรอ"

สนพยักหน้าแล้วถามเสียงห้วนๆ ว่า "เขากลับไปแล้วเหรอ"

"อืม...พรุ่งนี้พี่เขามีเรียนแต่เช้า"

"แล้วเขามาทำอะไรที่นี่ล่ะ"

"ก็...มาคุยกันเฉยๆ ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่ว่า...เราเข้าไปข้างในได้ไหม"

"อ้อ" สนเพิ่งนึกได้ว่าเขากับต้นยังเปิดประตูคุยกันอยู่ "เข้ามาสิ"

ต้นเดินเข้าไปในห้องของเพื่อน ปิดประตูแล้วก็เดินตามสนไปที่โต๊ะทำงานของเขา สนกำลังทำงานเว็บค้างไว้อยู่พอดี

"ใกล้เสร็จหรือยัง" ต้นถามขณะที่สนนั่งลงเตรียมจะทำงานต่อ

"อีกสองสามวันก็น่าจะเสร็จแล้วล่ะ ตอนนี้ก็เหลือเก็บความเรียบร้อยแล้วก็แก้อะไรอีกนิดๆ หน่อยๆ"

ดูเหมือนน้ำเสียงของสนจะดูอารมณ์ดีขึ้นหน่อยแล้วล่ะ

"ดีใจด้วยนะ...นายจะได้พักผ่อนบ้าง"

เห็นต้นเป็นห่วงแล้วก็ทำให้สนรู้สึกละอายใจขึ้นมาทันที เมื่อกี้เขาก็คิดอกุศลไปไกลถึงไหนต่อไหน แถมยังทำหน้าบึ้งๆ ใส่ต้นอีก เขาไม่ควรทำกิริยาแบบนี้กับคนที่แสนดีอย่างต้นเลย แล้วที่ต้นมาหาเขาที่ห้อง เขาก็รู้ว่าต้นมาเพราะเป็นห่วงที่เขายังไม่ได้กินข้าวนั่นเอง

"อืม...มีอะไรกินไหมต้น เราหิว" สนหันมาทำเสียงและสีหน้าอ้อน ต้นเห็นเขาเหนื่อยต้นก็คงอยากมาดูแล สนก็เลยไม่อยากจะขัดศรัทธา

"ไม่มีเลย...หมดแล้ว" ต้นแกล้งอำเล่น รู้สึกดีใจที่เห็นสนหายหน้าบึ้งแล้ว

"จริงเหรอ..." สนทำหน้าเศร้า นึกว่าเป็นเรื่องจริง

"ล้อเล่น...รออยู่นี่ละกัน เดี๋ยวเราไปเอามาให้ อ้อ...เดี๋ยววันนี้เราจะมานอนให้กำลังใจด้วยนะ"

ได้ยินมุกนี้แล้วสนก็อดขำไม่ได้ ต้นเดินลงไปแล้วสนก็หันกลับมานั่งยิ้ม ลืมไปเสียสิ้นว่าเมื่อสักครู่นี้เพิ่งไม่พอใจที่พี่ปิ๊กมาหาต้นถึงที่บ้าน ต้นทำให้ชีวิตเขามีความสุขจริงๆ รู้ใจเขาทุกอย่าง ไม่ใช่แฟนก็เหมือนแฟน แต่ก็นั่นแหละ...เมื่อเขายังหาคำตอบที่ชัดเจนให้ตัวเองไม่ได้ เขาก็ไม่อยากรีบร้อน เพราะต้นจะต้องไม่เสียใจอีกเลยถ้าเขาได้บอกและตัดสินใจไปแล้ว

ทำไมสนถึงกลัวแบบนั้นน่ะหรือ เพราะสนก็ยังชอบมองผู้หญิงอยู่น่ะสิ เขาถึงได้กลัวใจของตัวเองว่าจะไม่มั่นคงมากพอ เขากลัวว่าสุดท้ายแล้วเขาก็อาจจะหนีธรรมชาติของตัวเองไม่พ้น แล้วคนที่จะเจ็บ...ก็คือต้นคนเดียว แม้ว่าตอนนี้ต้นจะเจ็บแค่ไหนกับความรักที่ไม่สมหวัง แต่สนจะให้เวลากับความรักครั้งนี้อย่างพอเพียงเท่าที่มันจำเป็น เพื่อที่จะทำให้เขามั่นใจจริงๆ ว่าเขา...รักต้นแบบนั้น

---------------------------------------------------------

"ปั้นจั่น...พี่มาคิดๆ ดูแล้ว พี่ว่าเราเลิกทำแบบนี้เถอะ ตอนแรกพี่ก็อยากจะช่วยนะ แต่พี่ว่ามันไม่ค่อยดีว่ะ"

ปั้นจั่นครุ่นคิด จริงๆ เขาก็เริ่มเห็นแล้วล่ะว่ามันชักจะไม่สนุก

"พี่ไม่อยากเล่นกับความรู้สึกคนว่ะ ในเมื่อพวกเราก็รู้แล้วว่าต้นคิดยังไงกับสน สนคิดยังไงกับต้น ก็ปล่อยให้เขาจัดการความรู้สึกกันเองเถอะ พี่รู้สึกกลัวๆ ไงไม่รู้ว่ะ เกิดทำไปแล้วทำให้เขาผิดใจกันมากกว่าเดิม เกิดเกลียดกันขึ้นมามันจะไม่ดีนะปั้นจั่น"

"ผมก็กลัวๆ อยู่เหมือนกันครับพี่" ปั้นจั่นรับไปตามตรง หลายๆ ครั้งสนก็ดื้อและวู่วามอยู่บ่อยๆ เกิดมีปัญหาแล้ววู่วามกับต้นขึ้นมาจะกลายเป็นเรื่องเหมือนคราวนั้นอีก

"ถ้ากลัวแล้วก็ควรจะเลิกทำ...ดีไหม เขาสองคนก็รักกันดีอยู่แล้ว เขาแค่ต้องการเวลา อีกไม่นานเขาก็จะเจอความรู้สึกของเขาเองแหละ พี่ว่าเราไม่ต้องไปห่วงแทนเขาหรอก"

"ครับพี่"

"งั้นเรายกเลิกแผนของเรานะ บอกนิกด้วยว่าพี่ไม่ทำแล้ว"

"ครับพี่" ดูเหมือนปั้นจั่นได้แต่รับคำอย่างเดียวเพราะเขาก็ไม่รู้จะแย้งอะไรเหมือนกัน สิ่งที่พี่ปิ๊กพูดมาทั้งหมดก็ล้วนแล้วแต่จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

"งั้นแค่นี้ก่อนนะ พี่จะถึงบ้านแล้ว"

"ครับพี่ หวัดดีครับ เจอกันพรุ่งนี้ครับ"

ปั้นจั่นวางสายแล้วก็ถอนหายใจ เมื่อกี้ก่อนจะเข้ามาในห้องเขาก็เห็นต้นยกอาหารขึ้นไปให้สนถึงบนห้อง สองคนนี้เขาก็รักกันดีอยู่แล้วอย่างที่พี่ปิ๊กว่า ไปยุแยงให้เขาหึงหวงกันอาจจะกลายเป็นทำให้เขาผิดใจกันได้ เขาลืมคิดถึงข้อนี้ไปเลย เอาล่ะวะต้น คงช่วยมึงได้เท่านี้แหละ แต่อย่างน้อยก็ได้เห็นแล้วว่าสนมันรักมึงมากแค่ไหน สักวันสนมันก็จะรู้ใจของมันด้วยตัวของมันเอง มันไปไหนไม่รอดหรอก อดทนอีกหน่อยละกัน

------------------------------------------------------

หลังจากวันนั้นแล้ว นิกกับปั้นจั่นก็ล้มเลิกแผนที่จะทำให้สนหึงหวงต้นไป ส่วนต้นกับสนก็ดูจะมีความสุขดีที่ได้เป็นเพื่อนและคอยดูแลกันแบบนี้ สนก็ยังคงไม่ได้บอกอะไรกับต้น นอกจากการแสดงออกถึงความรู้สึกดีๆ ที่ก็ทำเป็นประจำสม่ำเสมอ แล้วก็ดูเหมือนว่าเมื่อไม่มีอะไรมากระตุ้น สนก็ดูจะลืมๆ ไปด้วยซ้ำ ส่วนพี่ปิ๊กพอเรียนจบไปแล้วจึงหลุดจากวงโคจรของชีวิตต้นไปโดยปริยาย

ในช่วงปีสุดท้ายของการเรียน ต้นกับสนต้องทุ่มเทให้กับการเรียนมากเป็นพิเศษ เพราะต่างก็มุ่งหวังที่จะเรียบให้จบภายในสี่ปี สำหรับต้นอาจจะไม่ค่อยมีปัญหาเท่าใดนักเพราะเป็นคนที่เรียนดีอยู่แล้ว แต่สนต้องพยายามมากพอสมควร อย่างไรก็ตาม ต้นก็เป็นคนที่คอยช่วยเท่าที่ทำได้และเป็นกำลังใจที่สำคัญให้เขามาโดยตลอด

ในด้านความรัก สนไม่ได้ชอบพอใครเป็นพิเศษเลย อาจจะมีแซวหรือเล่นกันบ้างตามประสาหนุ่มๆ สาวๆ สาเหตุที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือฐานะของเขาเอง จึงทำให้สนคิดอยู่เสมอว่าเขายังต้องเจียมตัวเจียมใจ เพราะผู้หญิงเท่าที่เขารู้จักก็มักให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นหลัก ถ้าเขามีรถขับ ใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนมก็อาจจะมีคนชอบเขามากกว่านี้ หน้าตาดีอย่างเดียวดูเหมือนจะยังไม่พอ ทุกวันนี้ที่เรียนมาจนได้ถึงปีสี่ สนก็อาศัยเงินทั้งจากพ่อแม่ จากทุนกู้ยืมเรียน ส่วนที่สนหามาเองจากการทำงานนอกเวลาเรียนและงานพิเศษ เช่น ออกแบบเว็บไซต์ ทำระบบฐานข้อมูล ฯลฯ และอีกส่วนที่สำคัญคือจากครอบครัวของต้น

ช่วงก่อนเรียนจบ ต้นได้ฝึกงานที่บริษัทใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งรับงานใหญ่ๆ จำพวกระบบขนส่งหรือสถานที่ที่สำคัญๆ ของประเทศ ส่วนสนได้ฝึกงานกับบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาซอฟต์แวร์ชื่อดังแห่งหนึ่ง

พอเรียนจบ ต้นก็ได้งานทำให้บริษัทที่เคยไปฝึกงาน ส่วนสนหลังจากที่ตระเวนสมัครอยู่หลายที่ก็ได้งานทำในบริษัทพัฒนาซอฟแวร์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งเช่นกัน ด้วยความที่สนทำงานพวกนี้มาตั้งแต่สมัยเรียนจึงทำให้มีโพรไฟล์การทำงานเป็นชิ้นเป็นอัน ทำให้เขาสามาถเข้าทำงานในบริษัทนี้ได้ไม่ยากนัก ต้องขอบคุณความขยันและอดทนของสนจริงๆ

ในคืนสุดท้ายก่อนที่ต้นและสนจะย้ายออกจากบ้านพักที่พวกเขาอยู่ด้วยกันมานานถึงสี่ปีเต็ม หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว แม้ว่าจะดึกไปสักหน่อย สนก็มาคุยกับต้นที่ห้องเพราะเขามีอะไรหลายอย่างที่อยากจะบอกเพื่อน สิ่งแรกที่สนทำเมื่อไปถึงห้องของต้นก็คือ "กอดเพื่อน" เหมือนที่เขามักจะทำบ่อยๆ เวลารู้สึกดีๆ

“ขอบใจมากนะต้น สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ดีๆ ที่นายกับครอบครัวของนายให้เรากับครอบครัวของเรามาตลอด เราจะไม่มีวันลืมเลย ที่เรามีวันนี้ได้ก็เพราะนายจริงๆ นะต้น”

“เรายินดีและเต็มใจอยู่แล้วสน เราเองก็ดีใจที่นายตั้งใจและทำอย่างดีที่สุดจนมีวันนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะตัวนายเอง ถ้านายไม่มุ่งมั่น ไม่ตั้งใจ เราก็อาจจะช่วยอะไรนายไม่ได้เลย เราภูมิใจในตัวนายมากรู้ไหมสน” ต้นชี้ให้เห็นอีกด้านหนึ่งที่สำคัญที่ทำให้สนมีวันนี้ได้ เขาอยากให้สนภูมิใจกับความมุ่งมั่นของตัวเองด้วย

“ที่เราตั้งใจเพราะเราไม่อยากให้พ่อกับแม่ของเราลำบาก ที่สำคัญ...เราก็ได้กำลังใจดีๆ จากนายนี่แหละ ไม่อย่างนั้นเราก็คงไม่มีวันนี้หรอก จริงๆ นะต้น เราอยากบอกนายว่า...นายคือกำลังใจที่สำคัญของเราจริงๆ ไม่มีนายเราก็ไม่มีวันนี้ ขอบใจมากนะเพื่อน ขอบใจจริงๆ” สนกอดเพื่อนแน่น เพื่อนที่สนแสนจะรักปานแก้วตาดวงใจ

"โชคดีเป็นของนายนะสน จากวันนี้เป็นต้นไป ชีวิตเป็นของนายอย่างเต็มที่ แต่เราก็จะยังคอยดูและเป็นห่วงนายเสมอนะ มีอะไรก็กลับมาหาเราได้ จะให้เราช่วยอะไรก็บอก โทรมาหาเราได้ จะให้เราไปหาก็ได้ เราก็ยังเป็นนายต้นของนายเหมือนเดิม...จำไว้นะสน”

“นายก็เหมือนกัน อยากให้เราช่วยอะไร บอกเรามาได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ เราให้นายได้ทุกอย่าง ชีวิตก็ให้ได้” สนพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ใจหายเหมือนกันที่ต่อไปนี้จะไม่ได้พบหรือเห็นหน้ากันทุกวันเหมือนก่อน แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก ความผูกพันในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมาจะไม่ทำให้เขากับต้นห่างเหินกันไปไหนหรอก เมื่อใจยังเชื่อมถึงกัน ความห่างไกลก็คงไม่ใช่ปัญหา

----------------------------------------------------

ชีวิตการทำงานของต้นและสนผ่านไปได้ด้วยดี สนผ่อนคอนโดอยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานมากนัก ด้วยนิสัยที่เป็นคนขยันทำงานทำให้สนค่อนข้างก้าวหน้าได้เร็ว ได้เลื่อนตำแหน่งและมีเงินเดือนมากขึ้น สามารถเลี้ยงดูพ่อแม่ได้อย่างไม่ลำบาก และสามารถคืนเงินที่ต้นให้ยืมได้จนหมด

พ่อกับแม่ของสนแม้ว่าจะไม่ได้ออกไปทำงานรับจ้างข้างนอกอีกแล้ว แต่ก็ปลูกผักทำสวนไปตามประสา สนก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะรู้ว่าพ่อกับแม่ไม่อยากอยู่เฉยๆ ว่างๆ สนก็จะมาเยี่ยมพ่อกับแม่ บางทีก็มากับต้น บางทีก็มาคนเดียว ส่วนต้นก็อยู่คอนโดเช่นเดียวกัน แต่งานของต้นจะต้องออกนอกพื้นที่บ่อยๆ บางทีก็ไปต่างจังหวัด บางทีก็ไปต่างประเทศ พ่อกับแม่ของต้นก็ยังคนสอนหนังสือเช่นเดิม แต่อีกไม่นานก็จะเกษียณแล้ว

ความสัมพันธ์ระหว่างต้นกับสนก็ยังคงเส้นคงวาเช่นเดิม แม้ไม่ได้เจอกันทุกวันแต่ก็โทรศัพท์คุยกันเกือบทุกวัน บางวันก็หลายรอบ ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันเสมอ บางทีว่างๆ สนก็จะมาที่คอนโดของต้น ไปกินข้าว ซื้อของหรือเที่ยวด้วยกันบ้าง บางทีสนก็มาค้างด้วย แต่ต้นไม่ค่อยได้ไปหาสนเท่าไรนักเพราะสนบอกว่าเขาจะมาหาเอง จึงนับได้ว่าทั้งสองคนนี้ไม่เคยขาดการติดต่อกันเลยแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ใกล้ๆ กันเหมือนเดิมแล้วก็ตาม

อะไรๆ ก็ดูเหมือนจะดีไปหมด แต่แล้ววันหนึ่งต้นก็รู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าฟาดลงมาที่กลางใจเมื่อสนพาผู้หญิงคนหนึ่งมาให้เขารู้จักและแนะนำว่า

"ต้น...นี่นานะ แฟนของเรา"

ต้นรู้สึกชาไปหมดทั้งตัวและหัวใจ ไม่ว่าจะกี่ปีผ่านไป ต้นก็ยังคงรักสนอยู่เช่นเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง แม้จะเริ่มทำใจไว้บ้างแล้วว่าอาจจะมีวันนี้ แต่ก็ไม่คิดว่าพอเจอเหตุการณ์จริงแล้วมันจะเจ็บได้ถึงเพียงนี้ สนจะรู้บ้างไหมว่าเขาเจ็บแค่ไหน หรือว่าสนไม่เคยรับรู้เรื่องนี้เลยถึงได้พาแฟนมารู้จักเขาอย่างหน้าตาเฉยแบบนี้

หญิงสาวที่ชื่อนาหรือชื่อเต็มๆ ว่า "ปวีณา" ยกมือไหว้ต้นเพราะอายุน้อยกว่า "สวัสดีค่ะพี่ต้น เห็นพี่สนพูดถึงให้ฟังบ่อยๆ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ"

ต้นรับไหว้เจ้าของเสียงหวานนั้นเหมือนกับคนที่สติได้หลุดลอยออกจากร่างไปแล้ว สนอุตส่าห์โทรไปนัดเขาออกมากินข้าวเที่ยงด้วยกันเพราะอยากจะทำให้เขาประหลาดใจ เขาก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องนี้ ใช่...มันน่าประหลาดใจมาก ประหลาดใจจนต้นแทบจะล้มทั้งยืนเลยล่ะ ถ้าหากเขาลุกไปจากตรงนี้ได้โดยไม่ต้องรู้สึกเกรงใจใครต้นก็คงทำไปแล้ว

แต่เอาเถอะ ถึงยังไงมันก็ต้องมีวันนี้อยู่แล้วไม่ว่าต้นจะอยากให้มันเกิดขึ้นหรือไม่ ทางที่ดี ต้นก็ต้องทำใจยอมรับมันให้ได้ มันไม่ใช่ความผิดของสนที่จะมีแฟน ต้นคงไม่สามารถไปคาดหวังให้สนอยู่คนเดียวแบบนี้ต่อไปได้ ก็เป็นธรรมดาของผู้ชายที่ต้องมีแฟน แต่งงานและมีครอบครัว ต้นต้องยอมรับและอยู่กับความจริงนี้ให้ได้ ไม่ว่ามันจะเจ็บแค่ไหน

ต้นหันไปสบตากับสน ไม่รู้ว่าสนจะรับรู้ได้ไหมว่าข้างในต้นรู้สึกอย่างไร ต้นอยากจะร้องไห้แต่ก็รู้ว่าคงร้องไห้ตรงนี้ไม่ได้ ได้แต่ปล่อยให้มันไหลเข้าไปในใจ ต้นหันกลับมามองนา ยิ้มเท่าที่สมองจะสามารถสั่งให้ยิ้มได้ ต้นไม่รู้เลยว่าสีหน้าของเขาตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง มันคงไม่แย่จนเกินไปจนทำให้แฟนของสนรู้สึกไม่ดีหรอกนะ เขาก็หวังว่าอย่างนั้น...

"เช่นกันครับ" ต้นบอกเสียงเบาเพราะพยายามกดความรู้สึกอย่างเต็มที่ "ดีใจด้วยนะสน"

ต้นหันไปบอกเพื่อน สนยิ้มเล็กน้อย จะว่ายิ้มธรรมดาก็ดูเหมือนจะใช่ แต่จะว่ายิ้มเจื่อนๆ ก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นอยู่เหมือนกัน ต้นไม่รู้หรอกว่าสนคิดอะไรอยู่ในตอนนี้ แต่ต้นเจ็บเหลือเกิน แม้จะไม่ได้อยากให้สนรู้หรอกว่าเขาเจ็บ ไม่อยากทำให้ลำบากใจ แต่สนไม่รู้จริงๆ หรือว่าที่ผ่านมาต้นคิดอะไรกับเขา สนลืมไปหรือเปล่า สนคงลืมไปแล้วจริงๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-12-2012 08:56:02 โดย sarawatta »

Mc_ma

  • บุคคลทั่วไป
อะไรๆ เกือบจะดีอยู่แล้วเชียว สนเกือบจะรู้ใจตัวเอง

พอเรียนจบทำงาน สนดันมีแฟนผู้หญิงซะนี่

สนคิดอะไรกันนะ ??



 

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
อุ้ย! แม่เจ้า เวรแล้วไง

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
ถ้าทำเพราะอยากลองใจต้น


จะเอาระเบิดไปเขวี้ยงใส่หน้านะคะ
เป็นการกระทำที่สารชั่วมากๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ z-Time

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
อ้าวนายสน  ตอนแรกดูเหมือนจะสับสน ลังเล

ไปๆมาๆ  เปิดตัวแฟนซะงั้น :a5:

ต้นชีช้ำอีกแล้ว  :sad4:

คุณ sarawatta ค่ะ อันนี้มาม่าแบบเข้มข้นใช่มั้ยค่ะ จะได้เตรียมผ้านวมมาซับน้ำตา  :monkeysad:

ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10
ขออนุญาตกลับมาอ่านตอนไม่มาม่าเเล้วนะครับ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
อืม  ดีจริง ๆ  สนตอบแทนความรักของต้นด้วยการหวง ห่วงและหึงบ้างเป็นบางโอกาส
ทำให้ต้นยิ่งไปไหนไม่รอด  และแล้วก็พาว่าที่เมียในอนาคตมาเปิดตัวกับต้น  ทำได้เจ็บมาก ๆ

ออฟไลน์ SungMinKRu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 570
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-0
    • https://www.facebook.com/pages/SungMinKRu-Boys-Love/311662138876399


ช่วงแรกของตอน สนทำตัวเหมือนผู้ชายวัยหมดประจำเดือน ทำตัวเป็นหมาหวงก้างไปได้

แอบคิดลึกๆว่าภาคนี้เป็นแนวใสใสไหมเอ่ย ???

แต่พออ่านรวบรัดมาจนถึงช่วงทำงาน และเปิดตัวแฟนเนี่ย มันน่าเจ็บใจอีตาสนจริงๆ


Mrang !!!  ตอนแรกๆล่ะทำหวง ถ้าปล่อยให้ต้นไปคบๆกับพี่ปิ๊ก เขาคงรักกันเหนียวแน่นมีลูกเป็นคอกๆ ไม่ต้องมาจมปลักกับอีตา

สนหรอก !!! เลวมากกกกก

ถ้าเราเป็นต้นน่ะ ข่วนหน้ามันทั้งผัวและเมียเลยคอยดู

อยากรู้เหมือนกันว่าต้นจะทนกับสนไปได้นานเท่าไหร่?

แล้วท่าต้นหลุดบ่วงกรรมจากอีตาสนจริงๆ อยากรู้เหมือนกันว่าอคุณสนจะรู้สึกยังไง

น่าหมั่นไส้ !!!

ชิ ! โกรธสน หาสามีใหม่ให้ต้นด่วนค่ะ

อย่าไปเอามันคนโลเลแบบนี้ อึ้ยย
 :beat: :beat: :beat:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8

ออฟไลน์ Mekaming

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2

ออฟไลน์ ชะรอยน้อย

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 973
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-0
ถึงเวลามีคนของตัวเองได้แล้วล่ะต้น เฮ้อ

ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
ทุกอย่างเหมือนจะดีแล้วแท้ สนทำท่าเหมือนจะรักต้นในแบบที่ต้นต้องการแล้ว แต่ทำไมกลับเป็นแบบนี้
ที่ผ่านมานายไม่รู้ใจตัวเองเลยเหรอสน นายกำลังทำให้ต้นเจ็บแบบนี้อีกแล้วนะ นายสนนี่โง่ชะมัดเลย
เราไม่ชอบสนแล้ว ไม่เรียนรู้ที่จะเข้าใจตัวเอง ขี้ขลาด ไม่เหมือนต้นที่ยอมรับความรู้สึกตัวเอง คนแบบ
ต้นนี่ละทำไมต้องมารักคนแบบสน คนที่เชื่อมั่นในรักแบบต้น คนที่ขอเพียงได้ยืนข้าง ทำไมต้องมารักคนแบบสน
อยากให้มีใครเข้ามาตอนนี้ เข้ามาพรากต้นไปจากสนที จะให้นายบ้านี่ได้รู้สักทีว่า แกนะมันโง่ จะมารู้สึกอะไรตอนนั้
มันก็สายไปแล้ว
ปล.+1ให้กับความรักที่มั่นคงของต้น

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
รอจ้ารอ รอ ร๊อ รอ :call:

llihc_mrr

  • บุคคลทั่วไป
คือสนเยอะไปอะำไรเกิน
ต้นหาใหม่เหอะ ปล่อยสนมันไป  :sad11:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






icyblue

  • บุคคลทั่วไป
 :angry2:สนผู้ชายใจร้ายยยยยย

ต้นเปิดใจให้คนอื่นเหอะ

ออฟไลน์ SoN

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2965
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-15

ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
ขอตอนต่อไปได้ไหมค่ะ อยากให้มีใครเข้ามาในชีวิตต้นสักทีได้แล้ว
เราจะได้สมน้ำหน้าอิสนสักที

ออฟไลน์ gambee

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ปลงแล้วต้นเอ้ยปล่อยมันไป
อย่ายึดติดเลย มันคงไม่มีอะไรไปกว่านี้แล้ว
หาใหม่ดีกว่าคนดีๆใช่มีสนคนเดียวเมื่อไหร่
เปิดใจให้กว้างงงงงหาคนรักแท้มั่นคงที่เหมาะสมกับต้นมันคงมีล่ะน่า
จะรอทำไมกะอิตาสนชริ

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
ตอนหน้าต้นกับสนจะเปิดใจพูดความรู้สึกบางอย่างแล้วนะครับ
ส่วนใครที่ลุ้นให้ต้นมีแฟนใหม่ อิๆ ไม่แน่ใจว่าจะลุ้นขึ้นไหม แต่มีคนเข้ามาแน่นอนครับ

ป.ล.
คนเขียนก็หมั่นใส้สนเหมือนกัน ขอหน่อยเถอะ นี่แน่ะๆๆๆๆ  :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:


------------------------------------------------------------

ตอนที่ 23: คนไม่น่าสงสาร



ข่าวที่สนมีแฟนเริ่มเป็นที่รู้ในหมู่เพื่อนฝูงมากขึ้น คนอื่นๆ ก็ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร ต่างก็แสดงความยินดีด้วย มีแต่นิกกับปั้นจั่นเท่านั้นแหละที่เป็นเดือดเป็นแค้นจนถึงกับทนไม่ไหว ปั้นจั่นเป็นคนแรกที่โทรมาเล่นงานสนหลังจากที่กลับจากไปหาต้นมาเมื่อวานนี้ เห็นสายตาเศร้าๆ และท่าทางซึมๆ ของต้นแล้วปั้นจั่นก็แทบจะปรี่มาหาสนถึงที่บ้าน ถ้าสนยืนอยู่ตรงหน้าเขาก็คงซัดให้สักเปรี้ยง

"มึงทำอะไรไปมึงรู้ตัวหรือเปล่าสน"

น้ำเสียงที่ไม่พอใจนั้นทำให้สนดูจะตกใจไม่น้อย "มึงพูดถึงเรื่องอะไรวะปั้นจั่น"

"ไม่ต้องมางงเลย ก็เรื่องที่มึงมีแฟนไง ทำไม...ที่ผ่านมามึงยังทำไอ้ต้นมันเจ็บไม่พออีกเหรอถึงต้องได้เอาแฟนมาเย้ยมัน คิดถึงความรู้สึกของมันบ้างไหม"

สนนิ่งเงียบและครุ่นคิด "ทำไมกูจะไม่คิดล่ะ"

"เออดี...ถ้ามึงไม่คิดกูก็ไม่รู้จะด่ามึงว่าอะไรแล้วล่ะ ไอ้สน...กูผิดหวังในตัวมึงจริงๆ นะเว้ย มึงรู้ไหมว่าสิ่งที่มึงแสดงออกกับต้น ใครๆ เขาก็ว่ามึงชอบต้น ลึกๆ ในใจไอ้ต้นมันก็คงคิดอย่างนั้นเหมือนกัน ตอนที่พี่ปิ๊กมาจีบมัน มึงก็คอยมากันท่ามัน หึงหวงมัน แทนที่จะปล่อยให้มันมีแฟนไปซะ มันจะได้หลุดพ้นจากมึง แต่พอมึงทำแบบนี้ มึงรู้ไหมว่าไอ้ต้นมันก็ไปไหนไม่ได้ ยิ่งทำแบบนั้นก็ยิ่งผูกมัดไอ้ต้นไว้กับมึงมากขึ้น มึงคิดบ้างไหม แล้วอยู่ดีๆ วันนี้มึงก็มีแฟน ไอ้ต้นมันจะรู้สึกยังไง มันรักมึงมากแค่ไหนมึงก็รู้ กูก็นึกว่ามึงจะรู้ใจตัวเองแล้วก็เปิดใจกับไอ้ต้นซะอีก ที่ไหนได้...มึงคิดอะไรของมึงกันแน่วะไอ้สน"

"..............."

"เงียบทำไม มึงรู้ไหมว่าไอ้ต้นมันเสียใจแค่ไหน ถึงมันจะไม่บอกมึงก็เถอะ มึงก็รู้ว่ามันเสียใจใช่ไหม มึงรู้จักมันมาเป็นสิบๆ ปีมึงก็ต้องรู้ดีอยู่แล้ว เรื่องอื่นที่มันลึกลับซับซ้อนกว่านี้พวกมึงก็ยังรู้ใจกันได้ นับประสาอะไรกับเรื่องง่ายๆ แค่นี้ กูไปหามันมาเมื่อวาน มึงรู้ไหมว่าไอ้ต้นมันซึมไปเลย มึงไม่สงสารมันบ้างหรือไงวะ หรือมึงคิดว่ามันไม่น่าสงสาร มึงได้โผล่หน้ามาดูมันบ้างไหม มันเจ็บจะตายอยู่แล้ว ขนาดกูไม่ได้เป็นเพื่อนรักกับมันเหมือนมึง แค่กูนึกถึงความรู้สึกของมันตอนนี้กูก็จะน้ำตาไหลอยู่แล้ว มึงมาดูสิ นึ่...กูจะร้องไห้อยู่แล้ว กูสงสารมันที่รักมึงมานานมาก ทำดีกับมึงมาตลอด เจ็บแค่ไหนมันก็ไม่เคยปริปากบ่น คอยห่วงใยดูแลทั้งๆ ที่ก็รู้ว่าจะไม่ได้ความรักแบบนั้นตอบกลับมา ทำไมมึงไม่สงสารมันบ้างหาไอ้สน ใจดำเกินไปไหม" ปั้นจั่นร่ายยาวด้วยความอัดอั้นตันใจ

สนก็ยังคงนิ่งเงียบ สิ่งที่ปั้นจั่นพูดมันก็เป็นสิ่งที่สนรู้อยู่แล้วล่ะ เขาเองก็เจ็บปวดไม่แพ้ต้นหรอก สนถอนหายใจยาวราวกับคนคิดหนัก "ปั้นจั่น กูก็เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง กูผิดเหรอที่กูจะมีแฟน พ่อกับแม่ของกูก็อยากให้กูมีแฟน อยากให้กูแต่งงาน เขาก็อยากมีหลานไว้สืบสกุล"

"กูรู้ กูเข้าใจ แต่ถ้ามึงรักไอ้ต้นจริงๆ ไม่ได้อยากมีชีวิตแบบนี้ มึงก็ต้องบอกพ่อกับแม่มึงไปตามตรงสิวะ"

"มันไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้นหรอกนะปั้นจั่น แต่เอาเถอะ...ที่กูมีแฟน มันก็เป็นความต้องการของกูเอง กูไม่โทษใครหรอก ก็อย่างที่กูบอกมึง กูก็เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง กูไม่ได้เป็นเกย์นะเว้ย ถึงกูจะรักต้นแค่ไหน แต่กูก็ไม่คิดว่ากูจะรักต้นแบบแฟนได้"

"แล้วมึงไปกันท่า ไปหึงหวงมันทำไมล่ะไอ้สน ถ้าที่ผ่านมามึงไม่ทำแบบนี้กูก็จะไม่ว่าอะไรมึงหรอก แต่นี่มึงเล่นไปปิดกั้นโอกาสไอ้ต้นมัน มันก็รักมึงมากอยู่แล้ว เจอแบบนี้เข้าไปมันจะหนีไปไหนรอด หา!!! แล้วถ้ามึงไม่ได้คิดอะไรกับมัน ก็ควรจะบอกมันไปตรงๆ ตั้งแต่แรก ไม่ใช่ปล่อยใหัมันล่วงเลยเนิ่นนานมาซะขนาดนี้ กูโมโหมากเลยมึงรู้ไหม ไอ้นิกก็โมโห เดี๋ยวมันก็จะโทรมาด่ามึงเหมือนกัน"

"ก็เพราะกูสับสนไง"

"สับสนเหรอ" ปั้นจั่นทวนคำเสียงดัง "บอกตรงๆ นะเว้ย ยิ่งคุยกับมึงกูก็ยิ่งโมโหว่ะ มึงสับสนบ้าอะไรของมึง สับสนแล้วมึงก็ยังไปทำให้ไอ้ต้นมันสับสนไปด้วย มึงได้รับผิดชอบที่มึงไปทำให้มันสับสนหรือยัง กูจะไม่คุยแล้ว แต่กูจะขอบอกมึงไว้เลยว่า...มึงจะมีแฟนก็มีไป แต่ห้ามไปยุ่งวุ่นวายอะไรกับไอ้ต้นอีก ปล่อยให้มันทำใจ ปล่อยให้มันได้เจอคนใหม่เถอะ ยิ่งมึงไปอะไรกับมันมาก มันก็ยิ่งหนีจากมึงไม่ได้ อย่าให้มันทรมานกับมึงอีกเลย มึงต้องปล่อยมันทั้งตัวและใจ มึงคอยดูละกัน ในเมื่อมึงมีแฟนได้ ไอ้ต้นก็จะมีแฟนได้เหมือนกัน ถ้าไอ้ต้นมันไม่หา พวกกูสองคนก็จะหาให้มันเอง ถึงตอนนั้นแล้วมึงไม่ต้องมาเสือกหวงก้างล่ะ ไม่ต้องมาเสียดายทีหลังนะเว้ย บอกไว้ก่อน แค่นี้แหละ กูโมโหจริงๆ ถ้ามึงอยู่ตรงหน้ากูจะซัดให้เลือดกลบปากเลย"

ปั้นจั่นวางสายลงอย่างหัวเสียทันทีที่พูดจบ แล้วก็สบถ "แม่งเอ๊ย รู้งี้กูให้พี่ปิ๊กรุกให้จบซะก็ดี ไม่น่าไปสงสารมันเลย" แต่แล้วก็นึกถึงแผนที่เคยคุยกับพี่ปิ๊กเอาไว้เมื่อสองปีก่อน บางทีมันอาจจะเป็นประโยชน์ในตอนนี้ แต่พี่ปิ๊กคงไม่มาเล่นด้วยแน่ๆ จะหาใครมาช่วยต้นดี คราวนี้เขาอยากให้สนกระอักเลือดไปเลย ไม่เป็นไร...ไว้นึกออกค่อยหาก็ได้

"กูจะคอยดู...ถึงเวลาที่มึงจะต้องเสียไอ้ต้นให้คนอื่นไป มึงจะรู้สึกยังไง ก็ไม่พ้นต้องตามมากันท่าอีก มึงอย่านึกว่ากูดูมึงไม่ออก" ปั้นจั่นคิดในใจ

ส่วนสนนั้นก็ได้แต่นั่งเงียบอยู่หน้าโต๊ะทำงาน มองโทรศัพท์ที่วางไว้บนโต๊ะเหมือนกับครุ่นคิดว่าจะโทรไปหาใครสักคนที่ถูกพาดพึงถึงดีหรือไม่ เขาเป็นห่วงต้นเหลือเกิน แต่ตั้งแต่วันที่พานาไปรู้จักกับต้น เขากับต้นก็ไม่ได้ติดต่อกันหลายวันแล้ว เพราะสนก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างในใจของต้น เขาจึงไม่อยากไปสะกิดแผลให้ต้นเจ็บมากเข้าไปอีก

-----------------------------------------------------------

ในที่สุดต้นก็ตัดสินใจที่จะลาพักร้อนหนึ่งสัปดาห์ ก่อนหน้านี้มีคนมาชวนเขาไปทำกิจกรรมอาสาสมัครที่จังหวัดเชียงรายแต่ต้นได้ปฏิเสธไปเพราะไม่อยากลางานหลายวัน แต่หลังจากที่สนได้พาแฟนมาแนะนำให้รู้จัก ต้นก็กลับมาบ้านพร้อมกับความทุกข์ใจ จิตใจของต้นว้าวุ่นเหลือเกิน คิดฟุ้งซ่านแทบทั้งวัน บางทีการอยู่ห่างๆ จากสภาพแวดล้อมเดิมๆ คงจะช่วยอะไรได้บ้าง ต้นจึงเปลี่ยนใจที่จะลาพักร้อนไปทำกิจกรรมอาสาสมัครกับเพื่อนๆ กลุ่มนี้ซึ่งจะไปช่วยชาวบ้านสร้างฝายชะลอน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วม กิจกรรมนี้จัดขึ้นเป็นรุ่นแรกในต้นเดือนกุมภาพันธ์ ก็ยังหนาวๆ อยู่ หลังจากนั้นก็จะมีรุ่นอื่นๆ ที่จะมาช่วยทำกิจกรรมในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป

ต้นไม่ได้โทรไปบอกสน เขาบอกแค่พ่อกับแม่เท่านั้นว่าจะไปทำกิจกรรมอาสาสมัครกับเพื่อนๆ อาจจะติดต่อลำบากหน่อยเพราะอยู่บนเขาบนดอย สัญญาณอาจจะไม่ดี ต้นบอกเพื่อให้พ่อกับแม่สบายใจเผื่อว่าจะติดต่อเขาไม่ได้ แต่จริงๆ แล้วที่ต้นบอกแบบนี้เพราะเขาตั้งใจจะปิดโทรศัพท์และจะเปิดใช้เฉพาะเวลาที่ต้องการใช้งานเท่านั้น เขาอยากพักใจและไม่อยากถูกรบกวนจากใครบางคนในเวลานี้

ในระหว่างที่นั่งรถทัวร์ไปนั้น ต้นก็คิดถึงคำพูดของสนที่เคยบอกว่าอยากจะพาเขามาเที่ยวทางภาคเหนือบ้าง แต่สุดท้ายวันนี้ต้นก็มาเอง ไม่มีแม้แต่เงาของสน มีแต่ความเจ็บปวดในใจที่ต้นต้องทนเก็บกดไว้ เขาพยายามคิดและปลอบใจตัวเองว่าสนไม่ผิดที่จะมีแฟน ก็ใช่...สนไม่ผิดหรอก ถ้าจะผิด...ก็คงผิดที่ต้นไปรักสนเอง เมื่อธรรมชาติของสนไม่ได้เป็นแบบเดียวกับเขา สนก็คงจะเป็นอะไรกับเขาที่มากเกินเพื่อนไม่ได้ แต่...ต้นก็อดคิดไม่ได้ว่าหลังจากที่สนได้รู้ว่าต้นเป็นเกย์แล้ว สนก็ดูเหมือนจะหวงเขามากขึ้น คอยดูแลเขามากขึ้น ก็ไม่แปลก...ที่ต้นก็อาจจะคิดเข้าข้างตัวเองบ้างว่าสนคงรู้สึกอะไรบางอย่างกับเขาไม่มากก็น้อย แต่สุดท้ายต้นก็พบว่าไม่มีอะไรเป็นอย่างที่เขาคาดเดาเลยสักอย่าง ในที่สุดสนก็มีแฟนหลังจากที่เรียนจบมาได้แค่ปีเดียว เรื่องที่ต้นเคยสงสัยก็เป็นอันตกไป

ต้นรู้สึกสับสนเหลือเกิน พอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ใจหนึ่งต้นก็อยากจะตัดใจแล้วลองเปิดใจให้ใครสักคนดูบ้าง แน่นอนว่าแม้ต้นจะมีคนอื่นไปแล้ว แต่ความรักระหว่างเพื่อนกับสนก็คงไม่หายไปไหน แต่อีกใจหนึ่งก็หวงแหนความรักความผูกพันที่เขามีให้สน เขาอยู่กับความรู้สึกนี้มานานมาก แม้จะไม่เคยสมหวังแต่ก็ยังรู้สึกดีที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับคนที่เขารัก ได้คอยดูแลเป็นห่วง ได้แค่นี้ก็ดูเหมือนต้นจะพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่อยู่แล้ว แต่คราวนี้...ทำไมต้นจึงรู้สึกว่าเขาทำใจได้ยากเหลือเกิน ก็ได้แต่หวังว่ากลับจากการทำกิจกรรมคราวนี้แล้วคงจะช่วยให้ต้นอาการดีขึ้นได้บ้าง

ต้นรู้สึกหนาวจึงเอื้อมมือขึ้นไปปรับทิศทางของลมแอร์ที่เป่าลงมาให้หันไปทางอื่น แต่เหมือนมันจะหมุนยากหรือเสียก็ไม่รู้ คนที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็เลยอาสาช่วย

"หนาวหรือครับ เดี๋ยวผมช่วย"

ชายหนุ่มผู้นั้นเอื้อมมือขึ้นมาขยับๆ ที่เป่าลมแอร์อยู่สักพักก็สามารถเปลี่ยนทิศทางมันได้

"ขอบคุณนะครับ" ต้นยิ้มเล็กน้อย พอสังเกตดูดีๆ จึงเห็นว่าคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็เป็นคนในกลุ่มที่จะไปทำงานอาสาสมัครด้วยกันที่เชียงรายนั่นเอง ดูจากหน้าตาแล้วก็ดูดีพอสมควร อายุก็น่าจะมากกว่าต้นสักสี่ห้าปี

"ยินดีครับ คุณอยู่ในกลุ่มที่จะไปทำฝายเหมือนกันหรือเปล่าครับ" ชายคนนั้นหันมาคุยด้วย

"ครับ" ต้นตอบสั้นๆ จริงๆ ตอนนี้เขาก็ไม่อยากพูดคุยกับใครมากนัก แต่อีกใจก็คิดว่ามีเพื่อนคุยก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องจมจ่อมอยู่กับตัวเองและความทุกข์อยู่แบบนี้

"พี่ชื่อทดแทนนะครับ เรียกสั้นๆ ว่าแทนก็ได้" ฝ่ายนั้นหันมาแนะนำตัว เขาคงพอจะกะอายุของต้นได้ว่าน้อยกว่าเขานก็เลยเรียกตัวเองว่าพี่

"ผมชื่อต้นครับ ยินดีที่ได้รู้จัก ชื่อแปลกดีเหมือนกันนะครับ"

"อ๋อ" ทดแทนหัวเราะเบาๆ "มันมีที่มาครับ พอดีพี่ชายผมเสียไปตั้งแต่ผมยังไม่เกิดแน่ะ เขาไม่สบายแล้วก็เสียชีวิตตั้งแต่อายุสองขวบ พ่อกับแม่ก็เลยตั้งชื่อพี่ว่าทดแทน เพราะเขาอยากให้พี่มาทดแทนพี่ชายที่เสียไป" ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเรียกแทนตัวเองว่า "พี่" ได้อย่างไม่เคอะเขิน แต่ก็เป็นธรรมดาของคนไทยที่มีวัฒนธรรมพี่น้อง การเรียกคนที่ไม่ใช่ญาติว่าพี่ น้อง ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อาไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด

"แล้วต้นมาทำกิจกรรมแบบนี้บ่อยไหมครับ เหมือนพี่จะไม่เคยเห็นเลยนะ" ทดแทนถามต่อ

"อ๋อ...หลังๆ ก็ไม่บ่อยครับ ตั้งแต่จบมาทำงาน แต่เมื่อก่อนผมจะทำชมรมจิตอาสาเพื่อสังคมในมหาลัยครับ ก็จะทำกิจกรรมพวกนี้อยู่บ่อยๆ แต่ก็ยังไม่เคยขึ้นมาทำที่ภาคเหนือนะครับ"

"จริงเหรอครับ ดีจังเลยนะ ไม่ค่อยเห็นเด็กรุ่นใหม่ๆ เข้ามาทำงานอาสาเลย ของพี่นะ...ก็ทำกิจกรรมพวกนี้มาตั้งแต่สมัยเรียนเหมือนต้นนี่แหละ จบแล้วก็ยังทำอยู่เรื่อยๆ ก็ไปช่วยหลายอย่างนะ ทั้งกวาดวัด สร้างโรงเรียน ทำบ้านดิน ช่วยดูแลคนแก่ ตอนนี้กำลังคิดว่าอาจจะไปช่วยเขาเก็บศพอยู่เหมือนกัน แต่ยังกล้าๆ กลัวๆ อยู่ พี่ชอบทำกิจกรรมแบบนี้เวลาว่างๆ นะ พี่ว่ามันช่วยด้านจิตใจเราได้เยอะ คนเราอยู่กับตัวเองมากไปก็มีแต่ความทุกข์นะ อย่างน้อยก็ทุกข์ที่วันๆ ก็มัวแต่คิดว่าจะหาเงินมาจากไหน จะบำรุงบำเรอตัวเอง พ่อแม่พี่น้องหรือลูกเมียตัวเองยังไง อยู่กับเรื่องพวกนี้มากๆ แล้วก็วุ่นวายเหมือนกัน แต่พอออกมาทำงานช่วยคนอื่นๆ ที่เราไม่รู้จัก ได้เห็นรอยยิ้มของคน ได้แบ่งปันน้ำใจให้กัน มันก็ช่วยให้เราวุ่นวายกับเรื่องพวกนี้น้อยลงนะ"

เหมือนต้นจะได้คิดอะไรหลายอย่างจากสิ่งที่เพื่อนร่วมกลุ่มคนนี้ได้พูดมามากทีเดียว ถ้าเขาลองหาอะไรอย่างอื่นทำให้มากขึ้นในช่วงนี้ก็คงจะดีเหมือนกัน ก็คงจะเป็นกิจกรรมอาสาสมัครนี่แหละ นอกจากจะช่วยเรื่องจิตใจได้แล้วก็ยังช่วยทำประโยชน์ให้กับคนอื่นๆ ได้ด้วย

"สงสัยผมคงต้องขอฝากเนื้อฝากตัวกับพี่บ้างแล้วล่ะครับ จริงๆ ผมก็ยังว่างๆ อยู่ช่วงวันเสาร์อาทิตย์ ก็อาจจะมีงานเข้ามาบ้างแต่ไม่ค่อยบ่อย ถ้ามีกิจกรรมอาสาสมัครที่ไหนก็อย่าลืมชวนผมละกันนะครับ ผมไม่อยากอยู่ว่างๆ บางทีมันก็ฟุ้งซ่านอย่างที่พี่ว่าแหละครับ"

"อ๋อ...ได้ได้ กำลังต้องการคนช่วยเพิ่มอยู่พอดีเลย งั้นพี่ขอเบอร์ไว้เลยละกัน"

ต้นยิ้มแล้วก็บอกเบอร์โทรศัพท์ไป แล้วเขาก็ขอเบอร์ของทดแทนไว้บ้าง

"อืม...พี่ก็ลืมไป มัวแต่ชวนคุย ลืมไปว่ามันดึกแล้ว ต้นจะนอนเลยหรือเปล่า พรุ่งนี้ต้องใช้แรงแต่เช้าเลยนะ"

"ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้าพี่ยังไม่ง่วงผมก็ไม่มีปัญหาครับ"

"อืม...แต่ว่าพี่ง่วงแล้วนี่สิ นอนดีกว่าไหม เรายังต้องเจอกันตั้งหลายวัน ยังไงก็ได้คุยกันอยู่แล้ว"

ต้นขำเบาๆ กับท่าทางอารมณ์ดีและตรงไปตรงมาของทดแทน เขาพยักหน้าเห็นด้วย "ก็ดีเหมือนกันครับ"

"ราตรีสวัสดิ์นะครับ" ทดแทนหันไปบอกต้นพลางยิ้ม แล้วต่างคนต่างก็ค่อยๆ ปรับเบาะที่นั่งให้เอนลง กระชับผ้าห่มแนบตัวแล้วก็หลับไป

แต่ต้นก็ยังคงหลับไม่ลง เขาเหม่อมองออกไปข้างนอกผ่านกระจกหน้าต่างรถทัวร์แล้วก็ครุ่นคิดเรื่องเขากับสนอีกแล้ว คืนนี้เป็นคืนเดือนหงายจึงเห็นทั้งดวงจันทร์และดวงดาวระยิบระยับอยู่บนท้องฟ้า ผลุบๆ โผล่ๆ ผ่านเงาของแมกไม้ข้างถนนที่รถกำลังวิ่งอยู่ บางช่วงที่ไม่มีต้นไม้ก็จะเห็นท้องฟ้าโล่งๆ ต้นมองดูดวงจันทร์และดวงดาวไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดหมาย บางทีก็เพลินดีเหมือนกัน นานทีเดียวกว่าต้นจะข่มตาหลับลงได้ บวกกับการนอนบนเบาะรถที่ทำให้นอนไม่สบายมากนัก ต้นจึงหลับได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น

--------------------------------------------------------------

ต้นหายไปติดต่อไม่ได้มาหลายวันแล้ว สนไปหาต้นที่คอนโดก็ปรากฎว่าต้นไม่อยู่ โทรไปที่ทำงานก็รู้ว่าต้นลาพักร้อนหนึ่งสัปดาห์แต่ไม่รู้ว่าไปไหน โทรไปหาแม่ของต้นจึงได้รู้ว่าต้นไปทำกิจกรรมอาสาสมัครที่จังหวัดเชียงราย แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นกิจกรรมอะไร อยู่ตรงส่วนไหนของจังหวัดเชียงราย สนพยายามโทรหาต้นหลายครั้ง ก็มีแต่ให้ฝากข้อความตลอด เขาเป็นห่วงต้นจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว เขาไม่เคยขาดการติดต่อกับต้นนานขนาดนี้เลย แค่หายไปวันเดียวสนก็ต้องโทรมาหาแล้ว แต่นี่ต้นหายไปหกเจ็ดวันโดยที่เขาติดต่ออะไรไม่ได้เลย นี่ต้นกำลังหลบลี้หนีหน้าเขาอยู่หรือเปล่านะ

สนเผลอถอนหายใจเบาๆ เขาไม่ได้รู้สึกว่าภาพยนต์ที่เขากับแฟนกำลังนั่งดูอยู่ด้วยกันมีความซาบซึ้งใจแม้แต่นิดเดียว แต่นั่นก็เป็นเพราะว่าเขาไม่ได้สนใจดูต่างหาก นาอยากมาดูหนังรักเรื่องนี้สนก็เลยพามาดูหลังจากที่นาเลิกงานแล้ว สนพยายามที่จะข่มใจไม่แสดงออกให้แฟนเห็นว่าเขารู้สึกหงุดหงิดและเบื่อหน่ายมากขนาดไหน ไม่ใช่เป็นเพราะนาน่าเบื่อหน่าย แต่เป็นเพราะอิทธิพลของคนที่กำลังหลบหนีเขาไปต่างหาก สนรู้ดีและยอมรับว่าต้นมีอิทธิพลต่อชีวิตของเขามาก ก็เป็นอย่างนี้มานานแล้ว

นาคงจะรู้สึกซาบซึ้งใจกับหนังเรื่องนี้มาก พอถึงฉากที่พระนางได้บอกความในใจกัน เธอก็เอื้อมมือมาจับมือสนไว้พร้อมกับเอนมาซบที่ไหล่เขา แต่สนแทบไม่ได้รับรู้หรือสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้เลย เขากลับนึกถึงเสียงของปั้นจั่นที่หลุดลอยเข้ามาในห้วงความคิด "...กูสงสารมันที่รักมึงมานานมาก ทำดีกับมึงมาตลอด เจ็บแค่ไหนมันก็ไม่เคยปริปากบ่น คอยห่วงใยดูแลทั้งๆ ที่ก็รู้ว่าจะไม่ได้ความรักแบบนั้นตอบกลับมา ทำไมมึงไม่สงสารมันบ้างหาไอ้สน ใจดำเกินไปไหม"

สนเจ็บแปลบในใจกับคำถามที่ว่าทำไมเขาไม่สงสารต้นบ้าง น้ำตาสนค่อยๆ ไหลลงมาอย่างไม่รู้ตัว แค่นี้ก็คงจะเป็นคำตอบได้แล้วว่าเขาสงสารต้นหรือเปล่า แต่ก็ไม่มีใครรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้หรอก ที่เขามีแฟนแบบนี้ ใครๆ ก็คิดว่าสนช่างใจดำที่ทำร้ายจิตใจคนที่เฝ้ารักเฝ้าห่วงใยเขามานานแสนนานอย่างต้นได้ แต่จะมีใครซักคนที่รู้ว่าข้างในใจของสนเป็นอย่างไร

---------------------------------------------------------------

ดูเหมือนว่าความสนิทสนมระหว่างต้นกับทดแทนจะเริ่มก่อตัวขึ้นแล้ว อาจจะเป็นด้วยความที่ต้นเองก็กำลังต้องการที่พึ่งทางใจ ทดแทนก็เป็นคนอัธยาศัยดี ตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม คิดอย่างไรพูดอย่างนั้น ทำให้ต้นรู้สึกชอบในตัวตนของเขามากทีเดียว

"เดี๋ยวพี่ช่วย ต้นเป็นวิศวกร ไปช่วยดูเขาทำฝายดีกว่า อันนี้พี่ยกเอง" นี่คือตัวอย่างหนึ่งที่ทดแทนคอยช่วยดูแลต้น เห็นต้นแบกไม้ไผ่ที่จะเอามาทำฝายด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยถนัดแล้วเขาก็รีบวิ่งมาช่วยทันที ต้นเอ่ยขอบคุณแล้วก็เดินกลับมาช่วยควบคุมการสร้างฝายต่อ เขาได้ใช้ความรู้ทางด้านวิศวกรรมที่เรียนมาช่วยในการทำงานนี้ด้วย


หรือ...

"ต้น...กินน้ำหน่อยไหม จะได้สดชื่น" เวลาที่ต้นเหนื่อยๆ ทดแทนก็จะเอาน้ำมาให้
ต้นรับขวดน้ำมาแล้วก็ดื่ม พอหมดแล้วทดแทนก็บอกว่า

"มา...เดี๋ยวพี่เอาไปทิ้งให้"

ต้นส่งขวดน้ำให้พี่เขาแล้วก็ยิ้มและเอ่ยขอบคุณ


หรือ...

"ต้นจะไปไหน" ทดแทนร้องเรียกเมื่อเห็นต้นเดินออกไปจากกลุ่ม

"ไปยิ่งกระต่ายครับ" ต้นหันมาตอบเขินๆ

"เดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อน ในป่าแบบนี้มันอันตรายนะ"

ต้นพยักหน้าเพราะเขาก็รู้สึกกลัวๆ อยู่เหมือนกัน เกิดมีงูเงี้ยวเขี้ยวขอโผล่มาจะได้มีคนช่วย


หรือ...หลังจากที่กลับมาพักที่โรงเรียนแห่งหนึ่งที่ถูกจัดไว้ให้อาสาสมัครมานอนแล้ว

"ต้น...ทายากันยุงหน่อยไหม เดี๋ยวยุงกัดเป็นไข้ป่าได้นะ" ทดแทนบอกพลางส่งขวดยาทากันยุงให้ ต้นรับมาแล้วก็ทาตามแขนขา

"กลัวผีเปล่า เดี๋ยวพี่จะได้นอนเป็นเพื่อน"

"คือ..." ต้นไม่รู้จะตอบยังไง ตอนแรกก็ไม่กลัวหรอกแต่พอทดแทนพูดขึ้นมาเท่านั้นแหละก็เลยทำให้เขาคิดและเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาจนได้

"กลัวก็บอกมาเถอะ เดี๋ยวพี่มานอนเป็นเพื่อนตรงนี้ ดีไหม"

"อ๋อ...ดีครับ" ต้นตอบพลางยิ้ม

ตลอดสามสี่วันที่ต้นอยู่ที่นี่ ทดแทนก็ได้กลายเป็นบอดี้การ์ดประจำตัวต้นไปเสียแล้ว ไม่ว่าจะไปไหนหรือทำอะไรเขาก็จะคอยมาดูหรือถามตลอดว่าจะให้ช่วยอะไรบ้าง หรือไม่ก็เสนอน้ำใจให้เลยโดยที่ไม่ต้องรอให้ถามหรือขอร้อง

แต่...มันจะช่วยให้ต้นลืมสนได้ไหม คงไม่หรอก ก็แค่ช่วยให้เขาลืมนึกถึงไปชั่วคราวเท่านั้น

---------------------------------------------------

เมื่อกิจกรรมเสร็จสิ้น ต้นก็เดินทางกลับมากรุงเทพ ตอนแรกทดแทนว่าจะมาส่ง แต่พอดีที่บ้านเขาโทรมาให้ช่วยไปทำธุระให้ด่วนก็เลยต้องรีบแยกตัวกลับไปก่อน

เมื่อต้นกลับมาถึงห้องพักก็ต้องแปลกใจเพราะมีใครบางคนมารอเขาอยู่ที่หน้าห้อง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใคร สนนั่นเอง เขามาที่นี่บ่อยจนต้นให้คีย์การ์ดไปใบหนึ่ง สนจึงสามารถเข้านอกออกในที่นี่ได้อย่างสบาย

สนหันมาเห็นต้นที่กำลังเดินมาพอดี เขายิ้มดีใจแล้วรีบเดินมาหาพลางจะเข้ามาช่วยถือข้าวของที่ต้นถือมาด้วย อันที่จริงต้นเองก็ดีใจที่ได้เจอสน แต่พอนึกถึงเรื่องนั้นต้นก็ได้แต่ทำสีหน้าเรียบเฉย จะยิ้มก็ไม่ยิ้ม จะเศร้าก็ไม่เศร้า จะดีใจก็ไม่ดีใจ ดูปนๆ กันอยู่

"เราคิดถึงนาย"

นั่นคือประโยคแรกที่สนพูดหลังจากที่ไม่ได้คุยกับต้นมาเป็นสัปดาห์เศษๆ ฟังจากน้ำเสียงและสีหน้าท่าทางที่สนแสดงออกมาแล้วต้นก็รู้ว่าสนรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ถ้าไม่นับความเปลี่ยนแปลงในเรื่องนั้นแล้ว สนก็คือสนคนเดิมที่ต้นเคยรู้จัก ไม่มีลักษณะตรงไหนที่บ่งบอกว่าสนเปลี่ยนไป

ต้นค่อยๆ ส่งของฝากที่เขาแวะซื้อระหว่างทางให้สนช่วยถือ ต่างคนต่างจ้องหน้าและสบตากัน เหมือนแต่ละคนจะมีอะไรหลายอย่างที่อยากจะพูด แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดอะไรก่อน

นี่เหรอคนไม่น่าสงสาร ใครบอกล่ะ แค่ได้เจอหน้า แค่ได้เห็นแววตาที่ฉายแววเศร้า แค่ได้รับรู้ว่าคนๆ นี้กำลังเจ็บปวดเพียงใด สนก็รู้สึกสงสารคนที่อยู่ตรงหน้าจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว เขาอยากจะกอด อยากจะปลอบใจและทำให้คนตรงหน้าคนนี้รู้ว่าเขาทั้งรักและเป็นห่วงมากแค่ไหน

แต่ก็นั่นแหละ ถึงจะแสดงออกว่ารักและเป็นห่วงแค่ไหน แต่ใครๆ ที่ได้รู้เห็นความสัมพันธ์ของต้นกับสนตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมาก็คงมีคำถามเช่นเดียวว่า สนคิดอะไรอยู่ ทำไมอยู่ดีๆ สนก็มีแฟนทั้งๆ ที่เขาก็ทำเหมือนคอยหวงก้างต้นตลอดเวลา ก็มีแต่สนคนเดียวเท่านั้นที่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของการกระทำทั้งหมดในครั้งนี้

-------------------------------------------------------------

นึกถึงเพลงนี้ยังไงไม่รู้ครับ น่าจะเข้ากับชีวิตของต้นมากทีเดียว

http://www.youtube.com/v/D5UHnwDqKjw
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-12-2012 08:56:36 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ Mekaming

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
 :z3: :z3: :z3: :z3:
พี่ทดแทนจะเข้ามาช่วยต้นหรือ
สนน่าสงสารก็จริงแต่  :m15: :m15: :m15:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
อยากขาคู่ใส่สนเพราะรำคาญมากค่ะ
เรื่องเยอะจริงหมอนี่ -*-

ออฟไลน์ SoN

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2965
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-15

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
รอจ้ารอ รีบๆมาต่อนะ :call:

ออฟไลน์ SungMinKRu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 570
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-0
    • https://www.facebook.com/pages/SungMinKRu-Boys-Love/311662138876399

เพิ่งกลับมาจากเรียน เห็นเรื่องนี้อัพ ดี๊ด๊า ลั้ลล้า ทันที

สนนี่มันเลือกได้เนอะ จะทำไรมันก็ไม่ผิด สับสน ก็คิดหน่อย ถ้าไม่ใช่ก็ทางใครทางมัน ?

รู้สึกว่าสนจะทำตัวเป็นคนเลือกได้รึเปล่าจ้ะ ไม่สงสารตัวเลือกอย่างต้นบ้างเหรอ หืมม??? แอบหมั่นไส้ !!!


ทดแทน พอ หลังๆจะเป็น เติมเต็มรึเปล่าค่ะ ?

ฮิฮิ อ่านตอนพี่ทดแล้วเขินแปลกๆแทนต้น ปกติเราจะไม่ชอบ บุคคลที่สามเป็นอย่างมาก

แต่อิมเมจพี่ทดแทน อบอุ่นมากๆเลยอ่ะ เหมือนเข้ามาเทคแคร์ต้น ชอบอะ

แต่ไม่เชียร์หรอกนะ ก็รู้ๆกันอยู่ว่า อีตาสนมันเป้นพระเอกชิ !!!

รู้ตัวเองเมื่อไหร่ก็หัดทำตัวอบอุ่นเหมือนพี่ทดแทนเค้านะย่ะ อีตาพระเอกเลือกได้ !!!


 :m14: :m14: :m14:

+ 1 ค่ะ หมั่นไส้ตาสนมากๆๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด