▓ ▒ ░ ∞ ต้น-สน ∞ มิตรภาพของเพื่อนที่แสนรัก ❉ V2 ❉ ROMANTIC DRAMA ░ ▒ ▓
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▓ ▒ ░ ∞ ต้น-สน ∞ มิตรภาพของเพื่อนที่แสนรัก ❉ V2 ❉ ROMANTIC DRAMA ░ ▒ ▓  (อ่าน 135128 ครั้ง)

ออฟไลน์ z-Time

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
นิกกับปั้นจั่น  นายเยี่ยมยอดมาก o13 คอยช่วยเหลือต้น 

พี่ปิ๊กรุกให้หนักเลยนะค่ะ  สมน้ำหน้าสนหวงอยู่ได้ แต่ก็ไม่ยอมรับ  :a14:

llihc_mrr

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อสองตอนเลย ยาว ๆ ซะด้วย ><

รอครับ

 :z2:  :z2:

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป

Mc_ma

  • บุคคลทั่วไป
ความรู้สึกของสน อาการหวงเพื่อน กับ หึงนี่ มันห่างกันแค่เส้นบางๆกั้นจริงๆ
คงต้องมีตัวเร่งปฏิกิริยาอย่างที่นิกกับปั้นจั่นบอก
ช่วงนี้ต้น Hot อ่ะ ใครๆก็มาชอบ ดีจัง

เป็นกำลังใจให้คนแต่งค่ะ
รอติดตามเวอร์ชั่นลงใหม่นี้นะคะ
 :L2: :L2: :L2:


ออฟไลน์ SoN

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2965
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-15

ออฟไลน์ gambee

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
สนนายเสร็จต้นแน่ :laugh:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
รอตอนต่อไปค่ะ :call: :call:

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
ตอนนี้เป็นอีกตอนที่ชอบมากๆ สนค่อยๆ สงสัยตัวเองมากขึ้นและเริ่มคิดหาคำตอบ
จะรู้ใจตัวเองไหม...ก็น่าจะรู้ (มั้ง)
แต่เรื่องก็จะยังดำเนินไปเหมือนกับที่เคยเขียนอยู่ประมาณหนึ่งครับ
ที่อยากจะลองเขียนก็คือ "ฉากรัก" ครับ จะได้เห็นฉากรักที่ดุเด็ดเผ็ดมันขึ้น (make love นะ บ่อไจ้ have sex)
แต่ยังไม่ใช่เร็วๆ นี้  :z1:

ป.ล.
ชอบรูปต้นกับสนที่เพิ่งเอามาลงใหม่มาก เห็นแล้วเพ้อเลย (เป็นเองซะงั้น)  :-[
หล่อชะมัดเลย


------------------------------------------------------

ตอนที่ 20: คนขี้หึงและเห็นแก่ตัว



รถบัสพานักศึกษากลับมาถึงที่มหาวิทยาลัยราวๆ สามทุ่ม เช่นเคย ต้นต้องอยู่คอยจัดการให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ กลับบ้านกันหมดก่อน มีสนคอยช่วยอยู่ใกล้ๆ เรียกได้ว่าไม่เปิดโอกาสให้พี่ปิ๊กเข้าใกล้ต้นได้เลย

เมื่อเสร็จธุระและเตรียมตัวจะกลับบ้านก็มีรถเก๋งคันหนึ่งวิ่งเข้ามาจอดข้างๆ พี่ปิ๊กนั่นเอง มาพร้อมกับนิกและปั้นจั่น เขาอาสาจะไปส่งทุกคนที่บ้าน พี่ปิ๊กลดกระจกลงและบอกให้ต้นกับสนขึ้นมาบนรถ

"ต้น สน กลับด้วยกันนะครับ เดี๋ยวพี่ไปส่ง"

ต้นหันไปมองหน้าเพื่อนรัก เห็นเขาทำสีหน้าบึ้งๆ แล้วต้นก็ไม่กล้าตอบรับพี่ปิ๊ก แต่นิกกับปั้นจั่นไม่รอช้า รีบลงมาจัดการทันที

"เฮ้ยต้นเร็วๆ เดี่ยวจะดึก เหนื่อยจะตายอยู่แล้วจะเดินกลับทำไม" ปั้นจั่นว่าพลางเดินมารุนหลังกึ่งผลักต้นให้เข้าไปนั่งในรถข้างหน้าคู่กับพี่ปิ๊ก

"อ้าวสน เร็วๆ สิ จะเดินกลับคนเดียวหรือไง" นิกหันมาถามสนที่ยังยืนนิ่งหน้าบึ้งอยู่ "ตามใจเว้ย ไม่ไปก็อย่าไป" นิกว่าพลางโคลงศีรษะแล้วก็เข้าไปนั่งในรถ

"ไม่ไปแน่นะ เดี๋ยวกูยุให้พี่ปิ๊กพาต้นไปเที่ยวต่อซะเลยนี่" ปั้นจั่นขู่พลางยิ้มอย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่าแล้วก็ตามนิกเข้าไปนั่งข้างในรถ คราวนี้ได้ผลเพราะสนรีบตามเข้ามานั่งในรถด้วยทันที แต่สนก็เงียบไปตลอดทางจนต้นสงสัยและต้องคอยชำเลืองมองอยู่เรื่อยๆ

"ต้นนี่เก่งนะครับ ทำชมรมใหญ่ขนาดนี้ได้ด้วย" พี่ปิ๊กหันมาชวนคุยเพื่อทำลายความเงียบที่กำลังก่อตัวขึ้น

"ไม่ใช่ผมคนเดียวหรอกครับ ถ้าไม่ได้คนอื่นๆ ในชมรมช่วยกันผมก็ทำไม่ได้เหมือนกันครับ"

"แหม...ถ่อมตัวเสียด้วย จะน่ารักไปถึงไหน น่ารักแบบนี้มีคนมาชอบเยอะหรือเปล่าครับ"

"เคยมีสาวมาชอบด้วยครับพี่ หลายคนด้วย แต่ต้นมันไม่ชอบ" เสียงของนิกตอบมาจากทางด้านหลังแทนคนถูกถาม

"แล้วนอกจากสาวๆ แล้วมีหนุ่มๆ มาชอบบ้างหรือเปล่าล่ะ"

คำถามนี้ของพี่ปิ๊กเล่นเอานิกกับปั้นจั่นหัวเราะชอบใจกันใหญ่

"ยังไม่เคยเห็นนะพี่ แต่คิดว่า...ไม่นานนี้จะได้เห็นแล้วล่ะครับ" ปั้นจั่นตอบ พอชำเลืองไปดูสนก็เห็นว่ายังนั่งเงียบและหน้าบึ้งอยู่เช่นเดิม ส่วนต้นก็ทำหน้าไม่ถูก จะขำก็ไม่กล้าขำ จะทำเฉยก็กลัวเสียบรรยากาศ อาการแบบนั้นของสนทำให้ต้นไปไม่เป็นเลย

ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงบ้าน พี่ปิ๊กบอกให้ต้นนั่งรออยู่ในรถก่อนแล้วเขาก็ลงจากรถวิ่งมาเปิดประตูให้ ต้นหันไปสบตากับสนที่เพิ่งลงมายืนนิ่งและหน้าบึ้งอยู่ก่อนแล้ว เห็นสนไม่พอใจแบบนั้นต้นก็ได้แต่หลบตาแล้วก็ลงมาจากรถ พอทุกคนลงจากรถหมดแล้วพี่ปิ๊กก็เสนอว่า

“อยู่ใกล้ๆ แถวนี้นี่เอง เดี๋ยวไว้วันหลังพี่มารับดีไหม จะได้ไม่ต้องเดินไปมหาลัยให้เหนื่อย”

“ไม่เป็นไรครับพี่ เกรงใจ พวกเราเดินไปได้ครับ ไม่ไกลมาก ได้ออกกำลังกายด้วย” ต้นรีบปฏิเสธเพราะไม่อยากรบกวนพี่ปิ๊ก อีกอย่างก็เกรงใจสนด้วย ดูท่าทางจะไม่ชอบพี่ปิ๊กเอามากๆ

“ไม่ต้องเกรงใจพี่หรอกต้น พี่ขับผ่านแถวนี้ทุกวันเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่มารับละกัน ไปก่อนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกัน” พี่ปิ๊กไม่รอว่าต้นจะตอบตกลงหรือไม่ เขาขึ้นรถ ปิดประตูแล้วก็ขับออกไปทันที

“อ้าว...ไปซะละ เฮ้ยนิกมึงโทรไปบอกพี่เขาหน่อยสิว่าไม่ต้องมารับหรอก เกรงใจ” ต้นหันไปขอร้องเพื่อน แต่มีหรือที่นิกจะยอมเสียแผนที่วางเอาไว้

“ให้เขามารับเถอะ เขาไม่ลำบากอะไรหรอก พี่ปิ๊กแกใจดี แกไม่คิดอะไรหรอก เข้าบ้านเถอะ เหนื่อยจะแย่แล้ว อยากอาบน้ำ เหนียวตัว” นิกตัดบทแล้วก็เดินนำเพื่อนๆ เข้าไปในบ้าน ต่างคนต่างก็แยกย้ายกันไปห้องของตนเองเพื่ออาบน้ำนอน เพราะพรุ่งนี้ก็ต้องไปเรียนอีก สำหรับเด็กๆ แล้ว พวกเขายังมีพลังอีกมาก การได้ใช้พลังทำสิ่งที่สร้างสรรค์ถือเป็นการใช้พลังให้เป็นประโยชน์อีกทางหนึ่ง

------------------------------------------------------

สนอาบน้ำเสร็จแล้วก็ลังเลใจว่าจะไปห้องต้นดีหรือเปล่า วันนี้เขารู้สึกไม่สนุกเอาเสียเลยที่พี่ปิ๊กตามต้นแจและคอยดูแลไม่ห่าง ช่วงที่ต้นกับเจนี่สนิทกันนั้นเขายังไม่ค่อยรู้สึกอะไรเท่าไร แต่พอเห็นผู้ชายมาจีบต้น คอยดูแลต้น เขากลับรู้สึกกระวนกระวายจนแทบไม่เป็นอันทำอะไร คนที่จะดูแลต้นควรต้องเป็นเขาไม่ใช่คนอื่นและเขาก็พร้อมที่จะทำอย่างนั้นจนชั่วชีวิต พอเห็นคนอื่นมาทำหน้าที่นั้นแทนแล้วสนก็รู้สึกเหมือนเขาหมดความสำคัญกับต้นไป

ที่น่าสงสัยก็คือ...นิกกับปั้นจั่นก็พลอยรู้เห็นเป็นใจไปด้วย เขาเริ่มผิดสังเกตว่าสองคนนี้คอยยัดเยียดให้ต้นอยู่ใกล้ๆ กับพี่ปิ๊กตลอดเวลา นี่ถ้าเกิดต้นเป็นแฟนกับพี่ปิ๊กจริงๆ ล่ะ เขาจะยอมให้ต้นไปเป็นแฟนกับผู้ชายคนนี้ได้ไหม เขาเคยได้ยินว่าคนที่เป็นเกย์มักไม่ค่อยมีรักแท้ ถ้าเกิดต้นถูกหลอกขึ้นมา ต้นจะเป็นอย่างไร คิดมาถึงตรงนี้ สนจึงรุดไปห้องปั้นจั่นทันทีแทนที่จะไปห้องต้น สนเคาะประตูสักพักปั้นจั่นก็เปิดประตูออกมาดู

“อ้าวสน มีอะไรเหรอ เข้ามาสิ” ปั้นจั่นบอก สนเดินตามเข้าไป ปั้นจั่นนั่งบนเตียงของเขาแต่สนยืนกอดอก

“กูรู้สึกว่าพวงมึงเชียร์พี่ปิ๊กให้ต้นจนออกหน้าออกตา กำลังทำอะไรกันอยู่เหรอวะ” สนเริ่มเรื่องด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจนัก

"เปล่านี่ ก็แค่พี่ปิ๊กเขาชอบต้นแค่นั้นเอง กูก็แค่พาเขามารู้จักกัน แล้วทำไมล่ะ มึงจะมาเดือดร้อนทำไม เขาไม่ได้ชอบมึงเสียหน่อย" ปั้นจั่นย้อน

"ทำไมจะไม่เดือดร้อนล่ะ ถ้าเกิดเขาไม่ได้รักต้นจริงๆ แค่มาจีบเล่นๆ ต้นมันจะเป็นไง"

“อ้าว มึงจะรู้ได้ยังไง เขาอาจจะชอบไอ้ต้นจริงๆ ก็ได้ ของอย่างนี้ไม่ลองก็ไม่รู้หรอก คนเรามีความรักก็ต้องมีอกหักบ้างเป็นธรรมดา ต้นมันก็จะได้เรียนรู้” ปั้นจั่นแย้ง

“มึงพูดอย่างนี้ไม่ได้นะเว้ย ต้นยังไม่เคยมีความรัก ถ้าผิดหวังขึ้นมา ต้นอาจจะเสียคนไปเลยก็ได้ พวกมึงต้องรับผิดชอบนะเว้ย” สนเถียง

“มึงรู้ได้ไงว่าไอ้ต้นไม่เคยมีความรัก มันก็รักมึงอยู่นี่ไง แล้วมันก็ผิดหวังมาตั้งนานแล้วด้วย ก็ไม่เห็นมันเป็นอะไรนี่” ปั้นจั่นเถียงคืน ได้ผลทีเดียว สิ่งที่ปั้นจั่นพูดเสียดแทงใจดำสนจนเขาต้องนิ่งไป

“มึงก็ไม่ได้รักมันแบบนั้นแล้วมึงจะหวงมันไว้ทำไมวะ ให้มันมีความสุขบ้างสิ มึงได้ความรักจากมันมาเยอะแล้ว ให้มันแบ่งให้คนอื่นบ้าง” ปั้นจั่นไม่ลดละ สนต้องสะอึกเป็นรอบที่สอง

“ต้นอยู่กับกู เป็นเพื่อนกันก็มีความสุขดีอยู่แล้ว พวกมึงกำลังหาเหามาใส่หัวต้นรู้ไหม” แม้ว่าจะเถียงไม่ค่อยออกแต่สนก็ยังไม่จนมุมเสียทีเดียว

“ความสุขแบบเพื่อนน่ะกูไม่เถียงหรอก มึงให้มันได้มากกว่าใครๆ ในโลกนี้ทั้งนั้นแหละ แต่ไอ้ต้นมันก็มีหัวใจนะเว้ย มันก็คงอยากมีความสุขกับความรักอย่างอื่นบ้าง มึงก็อยากมี กูก็อยากมี แล้วทำไมไอ้ต้นจะไม่อยากมีล่ะ มึงอย่าเห็นแก่ตัวสิวะ ปล่อยให้ไอ้ต้นมันมีความสุขบ้าง มันก็คงอยากมีแฟนเหมือนที่มึงเคยมีนั่นแหละ ถ้ามึงให้มันได้แค่เพื่อน มึงก็ต้องหลีกทางให้คนอื่นที่เขาให้ไอ้ต้นได้มากกว่านั้น” ปั้นจั่นพูดเน้นย้ำประโยคท้ายๆ และทำให้สนต้องสะอึกเป็นรอบที่สาม

“ไม่รู้ล่ะ ถ้าหมอนั่นมันทำให้ต้นเจ็บขึ้นมา พวกมึงต้องรับผิดชอบ กูรักต้นแค่ไหนมึงก็รู้ ถ้าต้นเจ็บเพราะพวกมึง อย่าหาว่ากูไม่เตือนนะเว้ย” สนขู่

เห็นปั้นจั่นทำเหมือนไม่ทุกข์ร้อนอะไรเขาก็ยิ่งหงุดหงิด สนจึงเดินกลับมาที่ห้องของตัวเองอย่างไม่สบอารมณ์นัก เขารู้และเข้าใจในสิ่งที่ปั้นจั่นพูดมาทั้งหมด แต่เขากลับไม่สามารถทำใจได้ที่จะเห็นมีคนมาดูแลต้นแทนเขา เขาอยู่กับต้นมานาน ผูกพันกันมาเป็นสิบๆ ปี ดูแลกันมาตลอด แล้วจู่ๆ ก็มีใครที่ไหนไม่รู้จะมาแย่งเอาความรักที่ต้นเคยมีให้เขาไป

หรือว่า...เขาควรต้องปล่อยเพื่อนให้มีความสุขอย่างที่ปั้นจั่นมันว่า แล้วต้นล่ะ สนตระหนักดีแก่ใจว่าต้นรักเขามาก ต้นยังจะมีหัวใจไปรักคนอื่นอีกหรือ พอคิดมาถึงตรงนี้สนก็เริ่มกังวล เขาอาจจะเป็นคนเห็นแก่ตัวก็ได้ที่ไม่ยอมปล่อยต้นให้พ้นจากพันธนาการนี้ในขณะที่เขาเองก็ไม่สามารถตอบสนองต่อสิ่งที่ต้นต้องการได้

ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน ความคิดเริ่มตีกันในหัว จนสนเริ่มจะทนไม่ไหว เขาจึงลุกออกไปจากห้องแล้วไปเคาะประตูห้องต้น นานพอสมควรกว่าต้นจะลุกมาเปิดประตูเพราะต้นเพลียมากและหลับไปสักพักแล้ว

“อ้าวสน มีอะไรหรือเปล่า” ต้นถามด้วยอาการงัวเงีย พอสนเห็นอย่างนั้นก็รู้สึกผิดที่มากวนเพื่อนตอนนอน

“โทษทีต้นเรานึกว่านายยังไม่นอน” สนบอกเสียงอ่อย เขาลังเลว่าจะเข้าไปคุยกับเพื่อนหรือว่าควรจะปล่อยให้เพื่อนนอนดี

“นายมีอะไรจะคุยหรือเปล่าล่ะ” ต้นถามพลางหาว

“เอ่อ...คือ ...ไม่มีอะไรหรอก นายนอนเถอะเดี๋ยวเราก็จะนอนเหมือนกัน ฝันดีนะเพื่อน” สนเปลี่ยนใจในที่สุด

เขาค่อยๆ ปิดประตูให้ต้นแล้วก็กลับมาที่ห้องของตนเอง นอนกระสับกระส่ายอยู่นานและคิดกังวลถึงสิ่งที่ปั้นจั่นพูดจนหลับไปในที่สุด

------------------------------------------------------------------------------------------------

ตอนเช้าพี่ปิ๊กก็มารับจริงๆ เสียด้วย ต้นไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไรเพราะพี่ปิ๊กอุตส่าห์มารับถึงที่ จึงต้องยอมไปโดยมีนิกกับปั้นจั่นไปด้วย แต่สนปฏิเสธท่าเดียว เขารู้สึกอึดอัดจนเกินกว่าที่จะทนนั่งไปด้วยได้

พอถึงวันเสาร์ พี่ปิ๊กก็ชวนต้นไปดูหนัง ต้นก็ตอบตกลงไปเพราะนิกกับปั้นจั่นคอยคะยั้นคะยอจนเขาต้องยอมตกลงในที่สุด นิกกับปั้นจั่นชวนสนให้ไปด้วย แต่ก็เหนื่อยเอาการอยู่เหมือนกันกับการชวนคนที่ดื้อเงียบแบบสน

"เฮ้ยไอ้สน กูอยากให้มึงไปว่ะ มึงจะได้เห็นกับตาไงว่าพี่ปิ๊กเขาชอบต้นจริงหรือเปล่า มึงจะได้สบายใจไง ถ้าเกิดเขาชอบต้นจริง ดูแลต้นได้ ทำให้ต้นมีความสุขได้ มึงก็น่าจะพอใจไม่ใช่เหรอ มึงไม่อยากเห็นเพื่อนรักของมึงมีความสุขหรือไงวะ"

สิ่งที่ปั้นจั่นพูดกระแทกใจของสนอย่างจัง เขาก็ควรจะดีใจไม่ใช่เหรอที่ต้นจะมีแฟนและมีความสุข แล้วนี่เขาเป็นอะไรของเขาถึงได้มีความรู้สึกอะไรก็ไม่รู้ บางทีสนก็รู้สึกเหมือนเขากำลังหวงหรือหึงต้นอยู่ เขารู้สึกแบบนี้ได้ยังไงกัน

"นะ...ไปดูหนังด้วยกันเถอะ ไปดูให้เห็นกับตาเลย ถ้าเกิดพี่ปิ๊กเขาไม่ดีจริงมึงก็จะได้ช่วยต้นได้ทัน แต่ถ้าเขาดีจริง มึงก็จะได้สบายใจไง" นิกช่วยเสริมอีกคน

สนก็ยังคงเงียบและครุ่นคิดอยู่ ดูเหมือนว่าเขาจะหนักใจมากทีเดียว

"คิดอะไรมากวะไอ้สน กับไอ้แค่เพื่อนจะมีแฟนนี่มันทำให้มึงเครียดขนาดนี้เลยเหรอวะ ใครๆ เขาก็มีแฟนกันเยอะแยะ เพื่อนกูก็มีแฟนกันหลายคน ไอ้นิกเองมันจีบสาวไปทั่ว กูยังไม่เห็นเป็นไรเลย"

"อ้าว...ไอ้นี่ มึงก็จีบไปทั่วเหมือนกันแหละ ว่าแต่กู" นิกใช้สิทธิ์ที่ถูกพาดพิง ปั้นจั่นหันไปหัวเราะแหะๆ กับเพื่อนแล้วก็หันมาจัดการสนต่อ

"หรือว่ามึง...หึงไอ้ต้นเหรอ"

สนตกตะลึงตาโตกับสิ่งที่ปั้นจั่นพูดเพราะมันตรงกับสิ่งที่เขากำลังสงสัยอยู่พอดี "พูดบ้าอะไรของมึง หึงเหิงอะไร กูก็แค่เป็นห่วงเพื่อนเท่านั้นแหละ กูไม่อยากให้ต้นมันถูกหลอก ทีหลังอย่าพูดแบบนี้อีกนะเว้ย" สนปฏิเสธเป็นพัลวันอย่างไม่พอใจ

"ปากแข็งจริงๆ นะไอ้นี่" ปั้นจั่นหันไปพูดกับนิกเบาๆ

"เออๆ ไม่พูดก็ไม่พูด ตกลงมึงจะไปหรือเปล่า แต่กูแนะนำว่ามึงควรไป ถ้ามึงเป็นห่วงต้นจริงมึงต้องไปดูให้เห็นกับตา แค่นี้แหละ กูขี้เกียจพูดกับมึงละ ดื้อชิบเป๋งเลย" ปั่นจั่นว่าแล้วก็ชวนนิกออกมาจากห้องของสน

------------------------------------------------------------

พอมาถึงโรงหนังในห้างแห่งหนึ่งแล้ว นิกกับปั้นจั่นก็เจ้ากี้เจ้าการอีก ปั้นจั่นเป็นคนไปซื้อตั๋วที่นั่งและจัดการให้ตั๋วที่นั่งตามที่ได้วางแผนไว้ จากนั้นก็หันไปสั่งต้นว่า

“ต้น...มึงซื้อของกินกับพี่เขาไปก่อนละกัน เดี๋ยวพวกกูเข้าไปก่อน ไปสน” ปั้นจั่นบอกพลางรุนหลังให้สนเดินเข้าไปในโรงหนัง สนเดินตามไปอย่างเสียไม่ได้ แต่เขาก็ต้องไปเพราะถึงอยู่ตรงนี้เขาก็คงเป็นส่วนเกินของต้นกับพี่ปิ๊ก ต้นก็ได้แต่มองตามอย่างงงๆ พอเข้ามาในโรงหนังและหาที่นั่งได้แล้ว สนก็นั่งลงที่นั่งด้านขวาถัดจากที่นิกกับปั้นจั่นนั่งอยู่ นิกรีบร้องห้ามทันที

“เฮ้ยไอ้สน มึงนั่งตรงนั้นทำไมวะ ตรงนั้นเป็นที่นั่งของพี่ปิ๊ก เขาจะนั่งกับต้น เขาชอบกันอยู่ก็ให้เขานั่งด้วยกันสิ มานั่งตรงนี้ ที่นั่งมึงอยู่นี่ มึงดูเลขที่นั่งของมึงก่อนสิ อย่ามั่วดิ” นิกบอกพลางชี้มาที่นั่งทางด้านซ้ายถัดจากปั้นจั่น

“อะไรวะ” สนสบถอย่างไม่สบอารมณ์แต่ก็ลุกไปโดยดี ความจริงสนก็คิดอยู่นานกว่าจะยอมมา แต่ที่ปั่นจั่นพูดมันก็ถูก เขาควรจะมาดูให้เห็นกับตาว่าพี่ปิ๊กรักและจริงจังกับต้นมากแค่ไหน แล้วเขาก็จะได้ตัดสินใจได้ว่าจะเอายังไง

สักพักต้นกับพี่ปิ๊กก็หอบของกินพะรุงพะรังเข้ามา ต้นก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่มีใครอยู่ช่วยถือของด้วยเลย และเมื่อรู้ว่าที่นั่งของเขากับพี่ปิ๊กติดกันด้วยแล้วต้นก็ยิ่งรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เขารู้สึกเหมือนถูกยัดเยียดให้อยู่ใกล้ๆ กับพี่ปิ๊กตลอดเวลายังไงไม่รู้ เป็นแบบนี้มาหลายวันแล้ว สนเองก็ดูหน้าบึ้งๆ มาหลายวันเช่นกัน

พอนั่งลง ต้นพยายามหันไปมองสนเป็นระยะๆ สนหันมามองบ้างแล้วก็หันกลับไปตามเดิมโดยไม่พูดอะไร พอนั่งแล้วพี่ปิ๊กกับต้นก็ส่งของกินให้คนอื่นๆ สนรับป๊อปคอร์นมาแต่ก็ไม่ยอมแตะแม้แต่คำเดียว

"ต้นชอบกินแบบเค็มหรือแบบหวานล่ะ" พี่ปิ๊กถาม

"อ๋อ...ชอบแบบหวานครับ"

"ดีจัง ชอบเหมือนกันเลย พี่ก็ชอบกินแบบหวาน ใส่เนย หอมดี" พี่ปิ๊กบอกพลางหยิบป๊อบคอร์นใส่ปาก "แล้วต้นมาดูหนังบ่อยหรือเปล่า พี่มาดูเกือบทุกอาทิตย์แน่ะ มาดูกับเพื่อนบ้าง กับที่บ้านบ้าง"

"ไม่ค่อยได้ดูหรอกครับ ส่วนมากวันหยุดผมจะมีกิจกรรมที่ชมรม แต่ถ้าวันไหนไม่มีกิจกรรมก็จะอยู่บ้านหรือไม่ก็กลับบ้านที่นครปฐมครับ"

"ต้นเป็นเด็กนครปฐมเหรอเนี่ย ไว้วันหลังพาพี่ไปเที่ยวบ้านต้นบ้างสิ เดี๋ยวพี่ขับรถให้" พี่ปิ๊กทำน้ำเสียงตื่นเต้น

สนหันขวับมามองแทบจะทันทีเมื่อได้ยินเรื่องนี้ ต้นก็หันไปมองทางสนเช่นกัน เห็นสนทำหน้าบึ้งๆ แล้วต้นก็รู้สึกแหยงๆ ไม่รู้ว่าจะตอบพี่ปิ๊กอย่างไรดี สักพักสนก็หันกลับไปตามเดิมเหมือนกับจะรู้ตัวว่าเขาไม่ควรยุ่งเรื่องของคนอื่นมากเกินไป

"เอ่อ...มันไกลนะพี่ แถวบ้านผมก็ไม่ค่อยมีอะไรให้เที่ยวหรอกครับ มีแต่เรือกสวนไร่นาแล้วก็คลองส่งน้ำ พี่ปิ๊กอาจจะไม่ชอบก็ได้ครับ"

"ใครว่าล่ะ พี่ก็ชอบที่ที่มันสงบๆ เหมือนกันนะ หรือว่าต้นมีอะไรหรือเปล่าถึงไม่อยากให้พี่ไป"

"เปล่าครับ" ต้นรีบปฏิเสธ "แค่เดาเอาว่าพี่คงไม่ค่อยชอบเที่ยวแบบบ้านๆ"

"ใครว่าล่ะ พี่เที่ยวได้หมดแหละไม่ว่าจะในเมืองหรือต่างจังหวัด นะต้น ถ้าวันไหนต้นจะกลับบ้าน โทรมาบอกพี่ เดี๋ยวพี่ไปด้วย พานิกกับปัันจั่นไปด้วย อ้อ...สนจะไปด้วยกันหรือเปล่า"

สนยังนั่งเงียบเหมือนคิดอะไรอยู่จนปั้นจั่นต้องสะกิด "ได้ยินไหมว่าพี่เขาถาม"

สนสะดุ้งเล็กน้อย "อะไร"

"พี่ปิ๊กเขาบอกว่าวันไหนต้นกลับบ้านที่นครปฐม พี่เขาจะไปส่ง พากูสองคนไปด้วย มึงจะไปด้วยไหม" ปั้นจั่นทวนเรื่องให้

"ไม่ไป" สนตอบเสียงห้วนเบาๆ

"เออ...ก็แค่นั้นแหละ" แล้วปั้นจั่นก็หันไปบอกพี่ปิ๊ก "มันไม่ไปหรอกพี่ ให้มันไปเองเถอะ"

บรรยากาศชักเริ่มจะกร่อยๆ เพราะสนทำหน้าบึ้งๆ จนทุกคนรู้สึกได้ ทางที่ดีจึงต้องหยุดคุยกันแล้วหันไปสนใจกับหนังที่กำลังจะฉายในไม่ช้านี้

เนื่องจากหนังที่ดูเป็นหนังตลก จึงมีเสียงหัวเราะสนุกสนานอยู่เกือบตลอดเวลา พี่ปิ๊กดูไป ชวนต้นคุยไป หัวเราะกันไปอย่างสนุกสนาน แต่สนกลับหน้าบึ้งมากขึ้นทุกทีๆ จนในที่สุดสนก็เริ่มทนไม่ไหว ทั้งๆ ที่เขาบอกตัวเองไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าจะทำใจและยอมปล่อยให้เพื่อนได้มีความรักอย่างที่ต้องการบ้าง แต่พอเห็นต้นกับพี่ปิ๊กมีความสุขอยู่ด้วยกัน เขากลับรู้สึกอิจฉาจนทำใจไม่ได้ สนลุกขึ้นยืน ส่งป๊อปคอร์นให้ปั้นจั่น ทุกคนหันมามองเขาเป็นตาเดียวกัน

“อ้าว จะไปไหนวะ ไปห้องน้ำเหรอ” ปั้นจั่นถามด้วยความสงสัย

“ไม่ดูแล้ว ไม่ชอบหนังตลกไร้สาระ” สนพูดพลางหันไปมองพี่ปิ๊กตรงประโยคท้ายๆ เล่นเอาพี่ปิ๊กถึงกับสะดุ้งเลยทีเดียว แล้วสนก็เดินออกไปจากโรงหนังโดยไม่ฟังเสียงเรียกของใคร

"อะไรของมันวะไอ้นี่" ปั้นจั่นบ่นเบาๆ พลางส่ายหน้า

พอต้นเห็นเพื่อนเดินออกไปอย่างนั้นก็เริ่มอยู่ไม่เป็นสุขเพราะเขาห่วงใยความรู้สึกของสนมาก คงมีอะไรบางอย่างที่ทำให้สนไม่สบายใจ ไม่อย่างนั้นสนไม่ทำกิริยาไร้มารยาทแบบนี้แน่ๆ คิดอยู่ไม่นานนักต้นจึงลุกขึ้นบ้าง

“ผมขอตัวก่อนนะครับพี่ ผมจะไปดูสนหน่อย ไม่รู้สนเป็นไร” ต้นหันไปบอกพี่ปิ๊ก ก่อนจะเดินออกไปต้นก็หันไปบอกนิกกับปั้นจั่นด้วย “ไปก่อนนะ ไม่ต้องรอ” แล้วต้นก็ผลุนออกไปโดยไม่ฟังเสียงอีกสามคนที่เรียกตามอีกเช่นกัน

“เอาไงล่ะพี่” นิกหันไปถามพี่ปิ๊กเมื่อต้นออกไปแล้ว

“ไม่เป็นไร พี่ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอก” พี่ปิ๊กบอก แต่สีหน้าก็กังวลอย่างเห็นได้ชัด

----------------------------------------------------------------------------------------------

“สน...รอด้วยสิ” ต้นส่งเสียงเรียกขณะที่สนกำลังเดินลงบันไดเลื่อนลงไปข้างล่าง สนหันมามอง พอเห็นว่าต้นตามเขามาก็ดูเหมือนสนจะดีใจอยู่ในทีแต่ก็ไม่แสดงออกมาก พอบันไดเลื่อนลงไปจนสุด เขาก็ยืนรอต้น จนกระทั่งต้นลงมาถึงที่เขายืนรออยู่

“ทำไมไม่อยู่ดูหนังกับพี่เขาล่ะ” สนถามเสียงห้วน

ต้นหน้าเสียเล็กน้อยที่สนทำเสียงดุๆ อีกแล้ว "ก็เราเป็นห่วงนาย" ต้นพูดเสียงอ่อย "ทำไมนายต้องดุเราด้วยล่ะสน" ต้นทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ นั่นแหละจึงทำให้สนได้สติ ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาสนไม่เคยทำน้ำเสียงแบบนี้กับต้นเลย แต่ช่วงหลังๆ มานี้เหมือนเขาจะหลุดบ่อย

"ขอโทษต้น เราอารมณ์ไม่ค่อยดีไปหน่อย" สนหน้าเจื่อนด้วยความรู้สึกผิด เห็นต้นหน้าจ๋อยแบบนั้นเขาก็สงสาร ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในที่สาธารณะเขาคงจะต้องกอดต้นเพื่อปลอบใจแน่ๆ เลย

"ไปกินไอติมกันไหม"

สนเลิกคิ้วอย่างงงๆ ปรับอารมณ์ตามแทบไม่ทัน

"ไม่อยากกินเหรอ แล้วนายอยากกินอะไรล่ะ เดี๋ยววันนี้เราเลี้ยงเอง" ต้นคิดว่าถ้าเขาได้อยู่กับสนตามลำพังสองต่อสองบ้างคงจะทำให้สนอารมณ์ดีขึ้นได้ เขาไม่อยากให้สนเป็นแบบนี้นานนักเพราะต้นเองก็พลอยจะไม่สบายใจไปด้วย

"กินไอติมก็ได้" สนยิ้มเล็กน้อย

ต้นจึงยิ้มบ้าง แล้วต่างคนต่างก็ยิ้มกว้างให้กันในที่สุด สนอยากจะบอกต้นเหลือเกินว่า "นายคือความสุขของเรา" ไม่ว่าจะกี่ปีผ่านไป ไม่ว่าจะคบกันมานานแค่ไหน ต้นก็ยังคงเป็นความสุขของสนเสมอ และก็คงจะไม่แปลกที่สนก็เป็นความสุขของต้นเช่นเดียวกัน

พอมาถึงร้านไอศครีม ต้นกับสนก็เลือกโต๊ะกลมตัวหนึ่งซึ่งมีเก้าอี้สองตัวอยู่มุมร้าน พนักงานเสิร์ฟเอาเมนูมาให้เลือก พอเลือกเสร็จแล้วจึงได้เริ่มคุยกัน

“นายรู้ใช่ไหมว่าพี่ปิ๊กเขาตามจีบนายอยู่” สนถามตรงประเด็น ต้นขำนิดๆ

“นายคิดอย่างนั้นเหรอ”

“ก็...ใช่ เราคิดว่าเขาจีบนายอยู่ แล้ว...นายรู้ใช่ไหมว่าเขาเป็น...เป็นเกย์” 

ต้นพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้

“นายชอบเขาหรือเปล่าล่ะ” สนถามอีก

ต้นถอนหายใจ จริงๆ มันก็เป็นคำถามที่สนไม่น่าจะถามด้วยซ้ำ “นายคิดยังไงล่ะ” ต้นไม่ตอบแต่ถามกลับ

สนนิ่งเงียบไปสักพัก “อืม...ไม่รู้สิ เราก็เห็นนายก็คุยกับพี่เขาดีนะ” สนบอกด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยมั่นใจ

“สน...เราอยู่กับนายมากี่ปีแล้วล่ะ” 

สนนับนิ้ว “ปีนี้ปีที่ 11 แล้ว”

“นายคิดว่าเราคบกันมานานหรือเปล่า”

“ใช่...ก็นาน”

“แล้วนายคิดว่าเราผูกพันกันมากแค่ไหนล่ะ”

สนหยุดคิดก่อนตอบว่า “มาก...มากจนนายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปแล้ว ถ้าขาดไปชีวิตเราคงแย่แน่ๆ”

“แล้วนายคิดว่าเราจะรักคนอื่นได้ง่ายๆ เหรอ”

สนนิ่งอึ้ง เขาลืมคิดไปว่าความผูกพันที่ยาวนานเช่นนั้นคงทำให้ต้นยากที่จะหลุดพ้นจากพันธนาการนี้ไปได้ง่ายๆ เขาเองก็เหมือนกัน แต่สนก็พอใจที่จะอยู่กับพันธนาการนี้กับเพื่อนที่เขารักและผูกพันมาเกือบทั้งชีวิต

แล้วเขาเห็นแก่ตัวมากเกินไปหรือเปล่าที่จะผูกมัดต้นไว้กับเขาแบบนี้ ทำไมเขาไม่พยายามทำให้ต้นรักใครสักคนที่มันน่าจะเป็นไปได้มากกว่าที่จะรักเขาล่ะ ทำไมเขาไม่พยายามเลย นี่เขากำลังเป็นอะไรกันแน่ เขารักต้นแบบไหนกันแน่ บางครั้งความผูกพันที่ยาวนานเกินไปก็ทำให้สนแยกไม่ออกว่าแบบไหนคือรักเพื่อน แบบไหนคือรักแฟน ยิ่งต่างคนต่างเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ มันก็ยิ่งยากสำหรับสนเข้าไปใหญ่

เมื่อพนักงานนำไอศครีมมาเสิร์ฟ ความสนใจของทั้งสองคนจึงไปอยู่ที่ของกินแทน แต่สนก็ยังคงคิดถึงประโยคที่ต้นบอกเขาเมื่อสักครู่นี้อยู่ตลอดเวลา สนเริ่มสับสนตัวเองแล้วว่าเขาควรจะทำอย่างไรต่อไป เขาสงสารต้นถ้าหากชีวิตของต้นจะต้องติดกับพันธนาการความรักนี้ไปตลอดชีวิต

สนเริ่มคิดถึงคำพูดของปั้นจั่นที่บอกให้เขาปล่อยต้นให้เป็นอิสระ ให้ต้นมีความสุขกับชีวิตที่ต้นต้องการถ้าเขาไม่สามารถตอบสนองได้ หรือว่ามันจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้ต้นไม่ต้องทนทุกข์ทรมานกับความรักนี้? เขาจะต้องทำอย่างนั้นใช่ไหม? แต่ทำไมมันยากสำหรับเขาเหลือเกินที่จะคิดและทำแบบนั้น

"ต้น" สนเรียกเบาๆ หลังจากที่เงียบไปนาน ต้นเงยหน้าขึ้นมามองอย่างสงสัย

"นายอยากมีแฟนไหม" สนตัดสินใจถามออกไป

"อะไร...นายถามอะไรของนาย" ต้นเริ่มงง

"ก็...นายก็อยู่แบบนี้มานานแล้ว ไม่อยากมีแฟนบ้างเหรอ"

"อยู่แบบนี้ก็ดีแล้ว" ต้นตอบสั้นๆ เขาไม่อยากหาเรื่องใส่ตัวเอง ในเมื่อตอนนี้เขายังจัดการความรู้สึกที่มีต่อสนไม่ได้เลย เขาจะไปรักใครคนอื่นให้ยุ่งยากอีกทำไม

"นาย...ไม่อยากมีความสุขบ้างเหรอ"

ต้นครุ่นคิด เขาไม่ตอบแต่ถามกลับไปว่า "แล้วนายล่ะ...ตั้งแต่เลิกกับก้อยคราวนั้นเราก็ไม่เห็นนายมีใครอีกเลยนะ นายไม่คิดจะมีแฟนบ้างเหรอ"

คราวนี้คนที่เริ่มเรื่องกลับอึ้งเสียเอง เขาก็แปลกใจตัวเองเหมือนกันที่ไม่คิดอยากจะมีใครอีกเลยทั้งๆ ที่ก็มีสาวๆ หลายคนมาชอบ แต่สนก็แค่คุยเล่นๆ ทำไมเขาไม่รู้สึกว่าขาดสิ่งนี้ไปทั้งๆ ที่สนเองก็คิดว่าเขาก็เป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง

"ไม่รู้สิ...แต่บางครั้งเราก็คิดว่า...คงไม่มีผู้หญิงคนไหนชอบผู้ชายจนๆ อย่างเราหรอก มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ นะ ตอนนี้เราก็เลยสนใจเรื่องเรียนอย่างเดียวมากกว่า ให้จบก่อนแล้วค่อยว่ากัน ตอนนี้เรายังไม่อยากมีใคร ไม่อยากให้นายลำบากใจด้วย เดี๋ยวเรามีแฟนแล้วจะทำให้นายกังวลว่าเราจะเรียนไม่จบ" สนบอกพลางขำในตอนท้าย

"เราเคยบอกนายแล้วนี่สนว่าไม่ต้องกังวลกับเราเรื่องนี้ ถ้าเจอคนที่ใช่นายก็รักเขาไปเถอะ เรารู้ว่านายโตแล้ว ไม่เสียการเรียนหรอก"

ดูเอาสิ ขนาดต้นรักเขาแค่ไหนต้นยังใจกว้างเลย แต่ทำไมสนถึงได้หวงเพื่อนเวลาที่จะมีใครสักคนมาจีบเพื่อน สงสัย...เขาก็คงต้องหัดใจกว้างเหมือนต้นบ้าง

"อืม...อย่าเพิ่งไปพูดถึงมันเลย ถ้าถึงเวลาจะมีมันก็คงมาเองนั่นแหละ" แล้วสนก็ค่อยๆ เปลี่ยนสีหน้าเป็นเคร่งขรึมมากขึ้นเหมือนกับเตรียมตัวที่จะพูดอะไรบางอย่างที่สำคัญ

"ต้น...ถ้าพี่ปิ๊กเขาชอบนายจริงๆ ถ้าเขาเป็นคนดี นายลองเปิดใจให้เขาดูบ้างก็ได้นะ เผื่อว่า..." เอาล่ะสิ สุดท้ายสนก็พูดไม่ออกเสียอย่างนั้น

"เราจะพยายามละกันนะ" ต้นดูเหมือนจะเดาออกว่าสนอยากพูดอะไร ใจหนึ่งก็เจ็บเหมือนกันแต่ต้นก็โกรธเพื่อนไม่ลงหรอกที่ผลักใสให้เขาไปรักคนอื่น ต้นรู้ว่าสนเองก็เป็นห่วงเขา เมื่อสนรักเขาแบบนั้นไม่ได้ สนก็คงไม่อยากให้ต้นเป็นทุกข์กับความรักที่ไม่สมหวังแบบนี้ตลอดไป

"แต่เรา...อยากจะบอกนายอย่างหนึ่งนะว่า...การที่เราได้รักใครสักคนจริงๆ จากใจของเรา จากความรู้สึกทั้งหมดที่มีอยู่ แม้มันจะไม่สมหวัง แต่มันก็มีความสุขมากกว่าที่จะพยายามรักใครสักคนที่เราไม่ได้รักนะ"

"ต้น..." สนครางเสียงแหบแห้งด้วยความสงสารเพื่อนอย่างจับจิตจับใจ เขารู้ได้ไม่ยากเลยว่าต้นกำลังบอกอะไรเขาอยู่ มันทำให้สนต้องกลับมาถามตัวเองอีกครั้งว่า...เขาจะรักผู้ชายคนหนึ่งที่แสนดีอย่างต้นได้ไหม มันยากเกินไปหรือเปล่า หรือเขาควรจะปล่อยให้ต้นไม่สมหวังอยู่แบบนี้ต่อไป หรือว่าอันที่จริง...สนก็รักต้นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว???
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-12-2012 08:55:00 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
บีบคั้นหัวใจ สะเทือนอารมณ์ แลัเสียน้ำตา

ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10
ถ้าสนปล่อยต้นไป คำว่า โคตรโง่ คงธรรมดาสำหรับสน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ SungMinKRu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 570
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-0
    • https://www.facebook.com/pages/SungMinKRu-Boys-Love/311662138876399


สนนี้เนอะ -_-

แอบกรี๊ดด ตอนที่จะมีฉากบนเตียงดุเดือดเผ็ดมันส์กันด้วย ? อาจจะใสๆเนอะ ไม่รู้อ่า

อยากอ่านไวไว 5555

แบบสนหมั่นไส้ต้น เกิดอาการแปลก ลากต้นขึ้นห้อง แล้วทำการปล่อยพลังแสง บลาๆ <มันมาพล่ามอะไร?>


รอฉาก ฉึก ฉึกๆ อย่างใจจดใจจ่อ จ่ออยู่กับฉาก NC 5555 <ปกติเป็นผู้หญิงที่เซ้นซิถีบมาก> แต่สำหรับเรื่องนี้

อยากรู้นัก ว่าคนไม่ประสีประสาสองคนเค้าจะฉึกๆ กันยังไง อร๊ายย พูดอะไรออกไป

555 + 1 ค่ะ


พล่ามมาพอล่ะ เมื่อไหร่คุณสนจะรู้ใจตัวเองสักทีค่ะ รู้เมื่อไหร่ก็รีบจัดการซะ คุณพี่...จะคาบน้องต้นไปเคี้ยวแล้วค่ะ

คุณสนอย่ามัวแต่เคี้ยวเอื้อง มันขั๊ดจายยยย !!!!!

 :laugh5: :laugh5: :laugh5: :laugh5:


ปล. เพิ่งเห็นว่ารูปที่ลงใหม่เนี่ย อิมเมจต้น กับ สน แก้ม ป่องๆ บวมๆ ยุ้ยๆ น่ารักเหมือนกันเลยอะ อย่างนี้สิเค้าเรียกว่าเนื้อคู่

 :-[ :-[ :-[
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-06-2012 15:57:56 โดย SungMinKRu »

ออฟไลน์ gambee

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ขัดใจสนอะไรของเธอเนี่ย
ต้นเอ้ยไม่รู้จะว่ายังไงก็รักเค้าอ่ะนะ
สนนนนย๊ากกกกก :z6:

llihc_mrr

  • บุคคลทั่วไป
เข้าใจฐานะทางบ้านสนดี ตอนเด็ก ๆ คงไม่ได้กินแบรนด์ 555

โตแล้ว ถ้ามีตัง ก็ซื้อมากินบ้างนะ ปวดตับแทน คิดน๊านนาน

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
ยิ่งอ่าน  ยิ่งรักต้น คนอะไรดีได้ขนาด!!!!!!!
อยาำกได้ๆๆๆๆๆๆๆ :3123: :3123: :3123:

ออฟไลน์ SoN

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2965
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-15

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ชอบเรื่องนี้  ชอบพี่นัทด้วย  น่ารักสุดๆ

ออฟไลน์ z-Time

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ยิ่งอ่านยิ่งสงสารต้น  :sad4:   แต่ยิ่งหมั่นไส้สน  :m16:

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
ตอนนี้ไม่ยาวมากนะครับ แต่ขอยกทั้งตอนให้กับต้นและสนอย่างเต็มที่
เป็นความห่วงใยกันในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้ความผูกพันและความรักแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
แล้วค่อยกลับมาดราม่ากันต่อ  :m20:


-----------------------------------------------------

ตอนที่ 21: นี่แหละความรักของต้น



เช้าวันหยุดสบายๆ อีกวัน สนหอบตะกร้าผ้าลงมาซักที่เครื่องซักผ้าหลังบ้านแต่เช้า วันนี้เขาต้องไปทำงานที่ร้านอาหารจึงจำเป็นต้องตื่นแต่เช้าหน่อย พอจัดการธุระส่วนตัวเสร็จแล้วเขาถึงจะออกไปทำงาน

พอซัก ปั่นแห้งและตากเสื้อผ้าเสร็จแล้วสนจึงถือตะกร้าเอาขึ้นไปเก็บบนห้อง ก็สวนกับต้นที่ถือตะกร้าผ้าลงมาเช่นกัน สนยิ้ม วางตะกร้าผ้าของตัวเองลงแล้วก็รีบวิ่งขึ้นบันไดไปช่วยต้นถือตะกร้าผ้าลงมา

"มา...ให้เราช่วยดีกว่า"

ต้นส่งตะกร้าผ้าให้สนแต่โดยดี รู้สึกเขินๆ อยู่เหมือนกันที่เห็นสนเปลือยอกใส่แต่บ็อกเซอร์อย่างเดียวแม้ว่าจะเห็นบ่อยแล้วก็ตาม แต่ต้นก็รู้ว่่าสนก็ใส่กางเกงในด้วยเพราะสนไม่ชอบใส่บ็อกเซอร์อย่างเดียว มันโล่งเกินไป

สนกุลีกุจอเอาถือตะกร้าผ้าไปที่เครื่องซักผ้า ต้นเดินตามมาติดๆ

"พอแล้ว เดี๋ยวเราทำเอง" ต้นบอก สนจึงวางตะกร้าผ้าลงข้างๆ เครื่องซักผ้าให้ ต้นจัดแจงหยิบเสื้อผ้าใส่ลงในเครื่อง ในขณะนั้นก็ชวนสนคุยไปด้วย

"วันนี้นายไปทำงานที่ร้านหรือเปล่า"

"อืม...เสียดายเหมือนกัน วันนี้มีงานสัปดาห์หนังสือด้วย เราว่าจะไปซื้อหนังสือคอมพิวเตอร์ซะหน่อย" สนบอกพลางช่วยหยิบน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มให้ต้น

"ยังเหลือพรุ่งนี้อีกวันนี่ อ๋อ...หรือว่าพร่งนี้นายก็ต้องไปทำงานด้วย"

"อืม...แต่กำลังคิดอยู่ว่าจะไปดีไหม แต่หยุดบ่อยๆ ก็ไม่ดี" แม้จะพูดเรื่องเครียด แต่สีหน้าสนกลับดูยิ้มๆ อยู่ตลอด ก็ไม่ใช่อะไรหรอก เห็นหน้าหวานๆ แก้มใสๆ ของต้นแล้วก็ทำให้สนเพลิดเพลินใจดีเหมือนกัน

"เอางี้ไหมล่ะ นายจดชื่อหนังสือมาเดี๋ยวเราไปซื้อให้ก็ได้"

"อย่าดีกว่าต้น เรามีแต่แบบว่าอยากได้หนังสืออะไร ถ้าจะซื้อจริงๆ เราต้องไปเดินดูเองอยู่ดี สงสัยเราคงจะต้องขอหยุดอีกซักวัน" สนถอนหายใจ

"ก็ลองคิดดูก่อนละกัน แต่นาย...อย่าทำงานหนักเกินไปนะ ไหนจะงานที่ร้าน ไหนจะเรียนหนังสือ แล้วยังรับงานเขียนเว็บข้างนอกมาทำอีก เดี๋ยวนายจะไม่ไหวนะ"

เห็นต้นเป็นห่วงแล้วสนก็รู้สึกอุ่นใจ แต่เขาจำเป็นต้องทำเพราะค่าใช้จ่ายในการเรียนของเขาค่อนข้างเยอะ สนสงสารพ่อกับแม่ที่ต้องไปหาเงินมาให้เขาเรียนหนังสือ ตอนนี้เงินหมุนไม่ทันจนต้องไปกู้เขามาอีกแล้ว ทำให้สนชักใจคอไม่ค่อยดีเพราะบ้านที่จังหวัดน่านของเขาถูกยึดไปก็เพราะแบบนี้ เขาไม่อยากให้ประวัติศาสตร์มันซ้ำรอยอีก

"ค่าใช้จ่ายเราเยอะน่ะต้น เราสงสารพ่อกับแม่ด้วย เราก็ต้องหาช่วยอีกแรง ไม่เป็นไรหรอก อีกแค่ปีกว่าก็จะจบแล้ว ทนอีกหน่อย" สนยิ้มเศร้าๆ "นายจะกินอะไรไหม เดี๋ยวเราออกไปซื้อให้ ไม่ต้องไปรอไอ้สองคนนั้นหรอก สงสัยวันนี้คงจะตื่นสาย เมื่อคืนคงจะกลับจากเที่ยวดึก"

"ก็ดีเหมือนกัน ชักหิวละ เดี๋ยวเราไปด้วยละกัน"

สนพยักหน้า

พอออกมาซื้ออาหารเช้าด้วยกัน ต้นก็แปลกใจที่สนไม่ยอมซื้ออะไรเลย พอถามสนก็ตอบว่า

"เรากินแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก อ้อ...ซื้อโจ๊กหมูใส่ไข่ไปฝากสองตัวนั่นด้วยดีไหม"

"ได้...ว่าแต่นายไม่กินจริงเหรอ" ต้นสงสัย เขาคิดว่าสนน่าจะยังไม่ออกมาซื้ออะไรเข้าไปกินก่อนที่เขาจะลงมาซักผ้า ในครัวตอนนี้ก็ไม่มีอะไรเหลือแล้ว แล้วสนกินอะไรตอนไหนล่ะ

"อืม"

แต่ต้นก็รู้สึกว่าสนสีหน้าเศร้าๆ ชอบกล อย่างไรก็ตาม ต้นก็ไม่เซ้าซี้เพราะสนไม่ชอบคนเซ้าซี้ ถ้าต้นอยากรู้จริงๆ ต้นก็ต้องใช้วิธีอื่นหรือไม่ก็คอยสังเกตเอา ให้ต้นประเมินคร่าวๆ แล้วท่าทางแบบนี้น่าจะต้องมีเรื่องบางอย่างที่อ่อนไหวที่สนไม่อยากให้เขารู้ ถ้าเดาไม่ผิดก็น่าจะเกี่ยวกับเรื่องเงิน

กลับมาถึงบ้านพักสนก็ขอตัวออกไปทำงาน นิกกับปั้นจั่นยังนอนสลบอยู่ทั้งสองคน ต้นจึงกินข้าวเช้าคนเดียวโดยไม่รอ เขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อยตอนที่เอาถุงพลาสติกที่ใส่อาหารไปทิ้งในถังขยะเพราะเห็นมีซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ ต้นเห็นมาสองสามวันแล้ว ใครกันนะกินมาม่าได้ทุกวัน แต่แล้วต้นก็เริ่มปะติดปะต่อเรื่องได้

---------------------------------------------

สี่ทุ่มแล้ว สนกลับมาถึงก็มาเคาะประตูห้องของต้น ไม่ว่าจะเหนื่อยขนาดไหน เขาก็ไม่ลืมที่จะแวะมาทักทายเพื่อนรักเหมือนเช่นเคย อย่างน้อยได้กลับมาเห็นว่ายังอยู่สบายดีก็ทำให้สนนอนหลับสบายได้แล้ว

"กลับมาแล้วเหรอ เหนื่อยไหมสน" ต้นยิ้มดีใจ

"นิดหน่อย นายยังไม่นอนอีกเหรอ" เห็นรอยยิ้มของต้นแล้วสนอยากจะบอกว่าเขาหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลย

"ยัง...ทำงานส่งอาจารย์อยู่ เสร็จพอดีเลย"

"เดี๋ยวเราไปอาบน้ำก่อนนะ"

"อืม...เราไปหานายได้ไหม หรือว่านายจะนอนเลย"

"มาสิ...ยังไม่นอนหรอก ต้องทำงานต่อ"

ต้นได้แต่มองเพื่อนด้วยความสงสาร ช่วงนี้ดูสนทำงานหนักมาก แถมยังต้องเรียนหนังสืออีก แต่ต้นก็รู้ว่าการที่ต้นจะเสนอความช่วยเหลือแบบทื่อๆ นั้นสนคงไม่ยอมรับง่ายๆ แน่ๆ สนเป็นคนรักศักดิ์ศรี เขาไม่เคยยอมรับความช่วยเหลือจากใครง่ายๆ แต่ก็คงยกเว้นต้นไปคนหนึ่ง

"ไปก่อนนะ" สนบอกแล้วก็ค่อยๆ ปิดประตูให้ต้น

ต้นนั่งตรวจงานในคอมพิวเตอร์อยู่พักหนึ่งก็ไปหาสนที่ห้อง สนอาบน้ำเสร็จพอดี เขาอยู่ในชุดบ็อกเซอร์กับเสื้อกล้ามสีขาว ส่วนต้นก็ใส่ชุดนอนคุณหนูเหมือนที่สนเคยแซว ต้นคงใส่แบบนี้จนติดแล้วก็เลยไม่คิดที่จะเปลี่ยน

สนเปิดประตูให้ต้นแล้วก็กลับมานั่งทำงาน ต้นเดินเข้าไปเมียงๆ มองๆ แล้วก็เอ่ยปากชม "เว็บนี้สวยดีนะ นายออกแบบเองทั้งหมดเลยเหรอ"

สนหันมายิ้มแล้วพยักหน้า "นายมาก็ดีเลย เราจะให้ช่วยคิดตรรกะเขียนโปรแกรมอันนี้ให้หน่อย มันเป็นเงื่อนไขการซื้อขายสินค้าในเว็บน่ะ เราอ่านแล้วไม่ค่อยแน่ใจว่าเข้าใจโจทย์ที่เขาให้มาถูกหรือเปล่า"

"ได้เลย" ต้นรับปากพลางรับเอกสารมาจากสน ต้นเดินไปลากเก้าอี้อีกตัวมานั่งข้างๆ แล้วก็อ่านเอกสารตรงส่วนที่สนขอให้ช่วย

"นายมีกระดาษไม่ใช้ไหม ขอหน่อยสิ" ต้นบอกเมื่ออ่านจบแล้ว สนหยิบกระดาษบนโต๊ะที่ไม่ใช้ส่งให้แล้วก็หันมาเขียนโปรแกรมต่อ

ถึงต้นจะไม่ได้เรียนเขียนโปรแกรมมา แต่เขาก็สามารถเขียนอธิบายเป็นแผนผังให้สนเอาไปเขียนโปรแกรมทำงานต่อได้ พอเขียนแผนผังเสร็จแล้วต้นก็อธิบายให้สนฟัง

"อย่างนี้นะสน พอลูกค้าล็อกอินเข้ามาแล้ว นายต้องเช็คก่อนว่าเขาเป็นลูกค้าเก่าหรือลูกค้าใหม่ เพราะว่าเขาจะได้ส่วนลดไม่เท่ากัน ถ้าเป็นลูกค้าเก่า นายก็ต้องเช็คด้วยว่าเขาเป็นลูกค้ามาเกิน 5 ปีแล้วหรือยัง ถ้าเกินแล้วเขาจะได้ส่วนลด 30%..."

สนฟังไป ยิ้มไป มองหน้าต้นและแก้มใสๆ นั้นไปด้วย แต่เขาก็ตั้งใจฟังนะ

"จริงด้วย เก่งจัง เพื่อนเรา" สนชมพลางยิ้มไม่หุบ

"หิวไหม เดี๋ยวหาอะไรมาให้กิน" ต้นเปลี่ยนเรื่อง สนทำงานดึกๆ แบบนี้น่าจะต้องเติมพลังงานบ้าง

"มีเหรอ ถ้ามีก็...ไม่ขัดศรัทธาละกันนะ" สนพูดพลางขำ จริงๆ แล้วเขาก็หิวมากทีเดียวแหละ ช่วงหลายวันมานี้เขากินแต่มาม่าเพราะต้องประหยัดเงิน เย็นนี้เขาก็กินมาม่าไปห่อหนึ่งเหมือนกัน แต่ก็ต้องแอบกินเพราะไม่อยากให้ต้นสงสัย ถ้าต้นรู้แล้วก็จะเป็นห่วงเขาอีก เผลอๆ อาจจะเดือดร้อนถึงครอบครัวของต้นด้วย เขาไม่อยากรบกวนต้นกับครอบครัวเรื่องการเงินบ่อยเกินไป

"มีสิ เดี๋ยวเรามานะ" ต้นบอกแล้วก็เดินแว่บออกไป สักพักก็กลับมาพร้อมกับแบรนด์หนึ่งขวดและขนมเค้กสองชิ้น

"พักกินขนมก่อน แล้วนี่ก็...แบรนด์ บำรุงสมอง จะได้สดชื่น" ต้นพูดพลางวางขนมเค้กและแบรนด์ลงบนโต๊ะทำงาน

สนหยุดทำงานแล้วหันมาถาม "สองชิ้นเลยเหรอ แล้วนายล่ะ"

"กินแล้ว ไอ้สองคนนั้นก็กินแล้ว เค้กร้านนี้อร่อยนะ นายน่าจะเคยกินแล้วแหละ เราเคยซื้อมาให้กินตอนอยู่ปีสอง จำได้ไหม"

สนส่ายหน้า แล้วก็ตักเค้กวานิลากินอย่างสบายใจ นี่ถ้าสนรู้ว่าพี่ปิีกไปรับไปส่งเขาวันนี้สนจะยอมกินเค้กชิ้นนี้หรือเปล่านะ แต่อย่าเสี่ยงบอกเลย ความจริงต้นก็ไม่ได้อยากรบกวนพี่ปิ๊กหรอก แต่ต้นก็เกรงใจที่จะปฏิเสธบ่อยๆ อีกอย่าง นิกกับปั้นจั่นก็คะยั้นคะยอจนดูเหมือนยัดเยียดเสียเหลือเกิน จนต้นปฏิเสธไม่ได้

"ประชุมที่ชมรมเป็นไงบ้าง ราบรื่นดีไหมวันนี้ แต่อย่างนาย...เราว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะ"

"ก็โอเค เรียบร้อยดี" ต้นเห็นเพื่อนกินอย่างเอร็ดอร่อยแล้วก็อดสงสารไม่ได้ ดูท่าทางสนจะหิวมากน่าดู "เดี๋ยวเราไปเอาน้ำมาให้นะ ลืมเอาน้ำมาด้วย" ต้นบอกแล้วก็วิ่งลงไปทันที ไม่รอให้สนพูดอะไรเสียก่อน สนได้แต่ยิ้มแล้วก็หันมากินเค้กต่อ

ต้นกลับมาพร้อมกับเหยือกใส่น้ำและแก้วหนึ่งใบ สนดูจะเอร็ดอร่อยกับเค้กที่ต้นซื้อมาทีเดียว คนซื้อจึงยิ้มไม่หุบ "อร่อยไหม"

"อร่อยมาก ขอบใจมากนะต้น" สนยิ้มด้วยความซาบซึ้งใจ นอกจากจะอร่อยมากแล้วมันยังช่วยให้เขาคลายหิวไปได้เยอะเลย

"กินแบรนด์ด้วยสิ" ต้นบอกพลางส่งขวดแบรนด์ให้ แล้วก็หันมาเทน้ำใส่แก้วส่งให้สน

สนรับมาแล้วก็เปิดดื่ม "ขอบใจนะต้น แต่ว่า...นายไม่ต้องซื้อมาบ่อยๆ หรอกนะ มันแพง...เปลืองเงิน"

ต้นพยักหน้ายิ้มๆ ในใจก็ครุ่นคิดว่าจะช่วยสนอย่างไรดี เขาไม่อยากให้สนต้องกินมาม่าแบบนี้ทุกวัน สนต้องใช้พลังงานเยอะ มาม่าเอาไม่อยู่หรอก แต่วิธีการที่ต้นจะช่วยสนนั้นก็อย่างที่รู้นั่นแหละว่าทำทื่อๆ ไม่ได้ ต้องมีเทคนิคที่จะทำให้สนไม่รู้สึกว่ากำลังรบกวนคนอื่นอยู่

"เดี๋ยวเราเก็บให้เอง นายทำงานต่อเถอะ" ต้นบอกเมื่อเห็นสนทำท่าจะลุกขึ้นมาเก็บภาชนะต่างๆ ที่ต้นยกขึ้นมา "ผลัดกัน วันนี้เราดูแลนาย ครั้งต่อไปนายก็มาดูแลเรา ไม่ต้องเกรงใจหรอก เป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน เรื่องแค่นี้เอง ทำงานต่อเถอะนะ จะได้เสร็จไวๆ" ต้นบอกอย่างรู้ทันเมื่อเห็นสนทำท่าจะแย้ง สนจึงยอมแพ้แล้วก็นั่งลงทำงานตามเดิม

"ขอบใจนะต้น" สนบอกพลางยิ้ม

ต้นเก็บภาชนะลงไปข้างล่าง จัดการเก็บและล้างเสร็จแล้วก็ขึ้นมาที่ห้องสน คอยนั่งอยู่ข้างๆ แล้วก็ให้คำแนะนำเรื่องการเขียนโปรแกรมหรือออกแบบเว็บไซต์ไปด้วย ต้นเป็นเพื่อนสารพัดประโยชน์ของหลายๆ คน ช่วยทำอะไรก็ได้เพราะเขาเป็นคนหัวไว เขาจึงเป็นที่รักของเพื่อนแทบทุกคนที่ได้รู้จัก

"ไปฉี่ก่อนนะ" สนบอกแล้วก็ลุกขึ้นวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ

ต้นเห็นเพื่อนเครียดๆ ก็เลยนึกสนุกอยากเล่นอะไรนิดหน่อย เขาไปแอบรอสนที่ข้างประตูห้องน้ำ สนรีบๆ แบบนี้คงไม่ได้สังเกตหรอก ก็เป็นอย่างที่ต้นคิดจริงๆ พอสนออกมาก็ไม่ได้สนใจอะไรทั้งนั้นเพราะจะรีบไปทำงาน ต้นจึงหยอกเพื่อนด้วยการวิ่งตามไปกระโดดกอดคอ

สนตกใจเล็กน้อย แต่พอรู้ว่าเป็นต้นก็ยิ้มชอบใจ "ตัวหนักขึ้นนะนาย"

สนให้ต้นขี่หลังแล้วก็เดินพาต้นมานั่งที่โต๊ะ การหยอกเล่นถึงเนื้อถึงตัวแบบนี้เป็นเรื่องปกติของเขาทั้งสองคน ที่สำคัญมันช่วยเพิ่มความผูกพันและอบอุ่นใจที่เขาทั้งสองคนมีให้กันมากขึ้นและมากขึ้น

สนปล่อยต้นลงแล้วก็ยืนเก้ๆ กังๆ ดูเหมือนอยากพูดหรือทำอะไรบางอย่างแต่ยังไม่ตัดสินใจ แต่สนก็ไม่คิดนานนัก

"ขอกอดหน่อยนะ" สนตัดสินใจบอกไป

คงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับต้นหรอก เวลาสนต้องการกำลังใจเขาก็มักทำแบบนี้ ต้นสวมกอดเพื่อนทันทีอย่างรักใคร่ เขารู้ว่าตอนนี้สนคงเหนื่อยและต้องการกำลังใจจากเขา ต้นก็ยินดีให้เพื่อนคนนี้อยู่แล้ว

"อดทนนะสน เพื่อพ่อกับแม่ เพื่ออนาคตของนาย"

"เพื่อต้นด้วย" สนรีบแทรกขึ้นมา

ต้นยิ้มและกอดเพื่อนแน่นขึ้น "แล้วแต่นายละกัน แต่ถ้านายมีอะไรจะให้เราช่วยก็บอก เราไม่อยากเห็นนายลำบากอยู่คนเดียวนะ เป็นกำลังใจให้นะ"

สนค่อยๆ ปล่อยเพื่อนออกจากอ้อมแขน "มีกำลังใจเต็มเปี่ยมเลยตอนนี้" สนยิ้มอ่อนโยน "เดี๋ยวเราขอตัวทำงานก่อนนะ อ้อ...นายนอนก่อนก็ได้นะ ถ้าง่วง"

"เรานอนนี่นะ นอนให้กำลังใจไง" ต้นบอกแล้วก็หัวเราะ

สนขำเล็กน้อยแล้วก็พยักหน้า "แค่มีนายอยู่ใกล้ๆ เราก็มีกำลังใจแล้วล่ะ จะตื่นจะนอนก็ช่วยได้เหมือนกัน"

ต้นยิ้มเขินเล็กน้อยกับคำชมของเพื่อน "นอนก่อนนะ"

ว่าแล้วต้นก็เดินมานอนที่เตียงของเพื่อน ปกติก็จะเป็นอย่างนี้แหละ เดี๋ยวสนไปนอนห้องต้น เดี๋ยวต้นมานอนห้องสน แล้วแต่โอกาสและความสะดวก ต้นนอนรอเพื่อนอยู่นานสนก็ยังทำงานไม่เสร็จเสียที สุดท้ายก็เลยหลับไปก่อน

จนเกือบตีสองสนจึงหยุดทำงาน ก็ยังไม่เสร็จหรอกแต่เขาก็เริ่มง่วงมากแล้วเหมือนกัน พอขึ้นมาบนเตียงก็เห็นต้นนอนหลับปุ๋ยสบายอยู่ เวลาหลับใบหน้าต้นจะอิ่มไปด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย บ่งบอกถึงการเป็นคนมีความสุขกับชีวิต แก้มขาวใสนั้นชวนให้สนต้องมองอย่างสนใจและหลงใหล สนยังไม่รู้หรอกว่าตอนนี้เขาทั้งรักและหลงต้นขนาดไหน แต่ถ้าวันไหนที่ต้นจะต้องเป็นของคนอื่น วันนั้นล่ะที่สนอาจจะคลั่งได้

แทนที่สนจะนอนเขาก็กลับลุกขึ้นนั่ง แล้วก็ค่อยๆ ช้อนศีรษะของต้นขึ้นมานอนบนตัก สนลูบไล้ไรผมต้นเล่นอย่างแผ่วเบา เขานึกถึงคำถามที่เขาเคยถามตัวเองว่า...เขาจะรักผู้ชายที่แสนดีคนหนึ่งอย่างต้นได้ไหม สนชักเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าตอนนี้เขากำลังรักต้นแบบนั้นอยู่หรือเปล่านะ อะไรล่ะที่จะช่วยพิสูจน์ให้เขารู้ว่าเขารักต้นแบบนั้น แล้วถ้าเกิดเขารักต้นแบบนั้นขึ้นมาล่ะ เขาจะทำตัวยังไง จากเพื่อนเปลี่ยนมาเป็นแฟน แถมยังเป็นผู้ชายด้วยกันอีก คนรอบข้างจะมองยังไง พ่อกับแม่ล่ะ ทั้งพ่อกับแม่ของต้นและพ่อกับแม่ของสนจะรับได้ไหม แต่นั่นก็ยังไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือ...สนรับได้หรือเปล่าล่ะ

ไม่รู้เหมือนกัน มันยังมาไม่ถึง สนก้มลงมองใบหน้าและแก้มใสๆ ของเพื่อนอีกครั้ง ต้นที่นอนหลับใหลอยู่บนตักของเขาช่างดูอ่อนหวานและน่าทนุถนอม ริมฝีปากบางแดงระเรื่อตามธรรมชาตินั้นก็น่าสัมผัสยิ่งนัก เขาจะยอมสูญเสียคนที่น่ารักและแสนดีแบบนี้ให้ไปรักคนอื่นได้หรือ ไม่ว่าเขาจะรู้สึกหรือคิดอะไรกับต้นในเวลานี้ สนก็รู้ว่าเขาปล่อยต้นไปให้ใครคนอื่นไม่ได้ง่ายๆ หรอก เขาอยากดูแลต้นเหมือนที่กำลังทำอยู่ในตอนนี้

-----------------------------------

เช้าแล้ว ต้นตื่นขึ้นมาก็รู้สึกแปลกๆ เพราะเหมือนว่าหมอนที่เขากำลังนอนหนุนอยู่มีลักษณะแปลกไป พอลืมตาขึ้นถึงได้รู้ว่าเขาหนอนหนุนตักสนอยู่ ส่วนสนก็นั่งหลับ ศีรษะพิงกับผนังห้องตรงหัวนอน ต้นนึกสงสัยว่าทำไมเขาถึงได้นอนหนุนตักสนอยู่แบบนี้ เขาจำได้ว่าเมื่อคืนเขามานอนก่อนสน สนยังนั่งทำงานอยู่ แล้วเขาก็น่าจะหลับไปก่อน

ต้นลุกขึ้นนั่งแล้วก็เขย่าตัวสนให้ตื่น สนนอนแบบนี้อาจจะปวดคอได้ "สน สน ตื่นๆ"

สนลืมตาตื่นขึ้นอย่างงัวเงีย รู้สึกปวดคอตะหงิดๆ "มีอะไรเหรอต้น"

"นายเปลี่ยนท่านอนดีไหม เดี๋ยวปวดคอ"

สนจึงได้สติ เขาดูเหมือนจะเขินนิดๆ เพราะเริ่มจะจำได้ว่าทำไมเขาถึงนอนอยู่ในท่านั้น ต้นคงจะสงสัยเหมือนกันว่าทำไมตื่นมาแล้วถึงได้นอนอยู่บนตักเขา สนไถลตัวลงมานอนในท่าปกติแล้วก็ทำเป็นนอนหลับไป เขาไม่อยากให้ต้นถามนั่นเองว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงเหมือนกัน

ต้นเห็นแล้วก็ทำสีหน้างงๆ พลางเกาศีรษะและถามตัวเองในใจว่า "สนเป็นอะไร" แต่เห็นสนนอนหลับไปแล้วต้นก็เลยไม่กวน เขาลุกขึ้นแล้วก็เดินกลับห้องของตัวเองไป

---------------------------------------

ต้นคิดออกแล้วล่ะว่าจะทำยังไงสนถึงจะไม่ต้องกินมาม่าทุกวัน สนชอบทำอาหาร ถ้าต้นไปซื้อของมาทำอาหารแล้วก็ให้สนช่วยทำให้กิน สนและคนอื่นๆ ก็จะได้กินด้วยกัน หรือไม่อย่างน้อยก็มีพวกไข่ ผักหรือเนื้อสัตว์ต่างๆ ไว้ให้สนกินกับมาม่าก็ได้ อย่างน้อยถ้าต้นบอกว่าอยากให้สนทำอาหารที่ต้นอยากกิน สนก็ไม่น่าจะขัดข้อง ถ้าเขาชวนสนหรือคนอื่นๆ กินด้วยก็คงไม่น่าจะมีปัญหา คิดได้อย่างนั้นแล้วต้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ออกไปซื้อของที่ตลาดใกล้ๆ ทันที

ต้นกลับมาถึงบ้านพักตอนสายๆ ยังไม่มีใครตื่นเลยสักคน นิกกับปั้นจั่นก็ยังไม่ตื่น สองคนนี้ไปเที่ยวติดกันสองวันแล้ว ดูท่าจะไม่ตื่นง่ายๆ ต้นจัดแจงเก็บผักสด ไข่ไก่ เนื้อสัตว์และขนมไว้ในตู้เย็น จากนั้นก็วิ่งขึ้นมาเคาะประตูห้องสน ได้ยินเสียงเหมือนคนเดินไปมาในห้องต้นก็รู้ว่าสนตื่นแล้วเพราะสนไม่ใช่คนนอนตื่นสาย

สนนุ่งผ้าเช็ดตัวเดินมาเปิดประตู หัวเขากำลังเปียกอยู่เพราะเพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ "ว่าไงต้นเพื่อนรัก"

ต้นยิ้มแต่ท่าทางก็เหมือนคนซ่อนพิรุธอะไรไว้อยู่ ด้วยความที่รู้จักกันมานาน การปิดบังซ่อนเร้นอาจไม่สามารถทำได้ง่ายๆ นักเพราะอีกฝ่ายอาจจะจับสังเกตได้ แน่นอนสนเองก็เริ่มตะหงิดๆ อะไรบางอย่างกับท่าทางแปลกๆ ของต้น
 
"สน...วันนี้นายทำกับข้าวให้เรากินหน่อยสิ เนี่ย...เราไปซื้อผัก เนื้อหมูแล้วก็ไข่มาเยอะเลย นะ...เราเบื่ออาหารแม่ค้าน่ะ อยากกินอาหารทำเองบ้าง แต่เราทำไม่เป็น ก็เลยจะให้นายช่วย ได้หรือเปล่า เดี๋ยวเราช่วยหุงข้าวก็ได้"

สนขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ปกติสนก็จะทำอาหารให้เพื่อนๆ กินบ้างเป็นครั้งคราว แต่ส่วนมาก็ช่วยกันออกเงินเวลาที่อยากกินอะไรพิเศษๆ ที่สนพอจะทำให้กินได้ "ได้ๆ เดี๋ยวเราใส่เสื้อผ้าก่อนนะ"

ต้นยิ้มดีใจจนแทบจะกระโดดโลดเต้น "เดี๋ยวเรารอข้างล่างนะ"

สนพยักหน้ายิ้มๆ "อืม"

ใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้วสนก็ตามลงมาหาต้นในครัว "อยากกินอะไรล่ะต้น" สนถามพลางเปิดดูในตู้เย็นว่าต้นซื้ออะไรมาบ้าง "โห...ทำไมซื้อมาเยอะจังล่ะ นี่นายกะจะกินกี่วันเนี่ย จะทำกับข้าวกินทุกวันเลยเหรอ" สนหันไปถาม

ต้นพยักหน้า "อืม...นายว่าดีไหมล่ะ แต่ถ้ารบกวนนายมากเกินไปก็ไม่เป็นไรนะ ทำเท่าที่นายสะดวกก็ได้"

"ไม่มีปัญหาหรอก เราแค่ตกใจที่นายซื้อมาเยอะเฉยๆ ว่าไงล่ะ อยากกินอะไรล่ะวันนี้ แต่ไม่ทำแกงผักกาดจอนะ ที่นายซื้อมามันทำไม่ได้"

"นายทำแกงผักกาดจอเป็นด้วยเหรอ" ต้นร้องถามอย่างตื่นเต้น

"เป็นสิ เราเห็นแม่ทำบ่อยๆ หลับตาทำยังได้เลย"

"งั้นวันหลังนายพาเราไปซื้อของมาทำหน่อยสิ เราไม่รู้ว่ามันใส่อะไรบ้าง แต่วันนี้เอาผัดผักบุ้งแล้วก็ไข่เจียวก็ได้...ง่ายดี แล้วค่อยมาคิดเมนูกันดีไหมว่าแต่ละวันจะกินอะไรบ้าง"

"ก็ดีเหมือนกัน" สนยิ้มแล้วก็สอดส่ายสายตาหาผักบุ้ง ไข่ไก่และเครื่องปรุงอื่นๆ ที่จะทำอาหารให้ต้นกิน

"กินด้วยกันนะ"

ได้ยินอย่างนั้นสนก็หันมามองต้นแทบจะทันที

"เรากินคนเดียวไม่หมดหรอก" ต้นให้เหตุผล สนพยักหน้าเข้าใจ แต่ในใจเขาก็เริ่มสงสัยอะไรบางอย่างแล้วล่ะ

"ถ้าวันไหนเราไม่อยู่ นายจะเอามาทำอะไรกินก็ได้นะ คราวนี้เราซื้อ คราวหน้านายค่อยซื้อมาก็ได้ ยังไม่ต้องแชร์ตอนนี้หรอก เราอยากกินของเราเอง แต่ก็ต้องรบกวนนายนิดหน่อย"

สนยิ้มเศร้าๆ เขาเริ่มจะปะติดปะต่อได้แล้วล่ะว่าทำไมต้นถึงได้ซื้อของมาเยอะแยะมากมายขนาดนี้ สนรู้ว่าเขาคงจะปิดบังต้นได้ยากเพราะต้นคอยใส่ใจดูแลความเป็นไปของเขาอยู่ตลอด ก็เหมือนกับที่เขาเองก็คอยใส่ใจดูแลความเป็นไปของต้น เรื่องที่เขากินมาม่ามาหลายวันเพราะต้องการประหยัดเงินก็คงไม่ใช่เรื่องยากที่ต้นจะรู้ เช่นเดียวกัน การที่ต้นซื้อของพวกนี้มามากมายแล้วอ้างว่าอยากกินเองก็เป็นสิ่งที่สนก็เดาได้ไม่ยากว่าจริงๆ แล้วต้นทำเพราะอะไร น้ำตาจากความซาบซึ้งใจของสนแทบจะไหลลงมาในตอนนี้

สนปิดตู้เย็น หันมามองต้นที่ยืนอยู่ไม่ห่างนัก แล้วสนก็เดินไปกอดเพื่อน สนไม่เคยเก็บความรู้สึกดีๆ ที่เขามีต่อเพื่อนไว้กับตัว ถ้าเขามีความรู้สึกนั้นและรู้จักมัน เขาจะแสดงออกทันที เขาทำอย่างนี้เสมอ อยากขอบคุณก็ขอบคุณ เสียใจก็บอกว่าเสียใจ เป็นห่วงก็บอกว่าเป็นห่วง ดีใจก็บอกว่าดีใจ นี่ถ้าเขาเพียงแต่รู้จักความรู้สึกที่แท้จริงที่เขามีให้ต้น เขาก็คงไม่เก็บไว้เหมือนกัน

ต้นไม่ได้ถามหรือพูดอะไรเพราะรู้ว่าสนกำลังรู้สึกอะไรอยู่ ท้ายที่สุดต้นก็ค้นพบว่าแผนของเขาไม่แนบเนียนเอาเสียเลย สุดท้ายสนก็จับได้ แต่ก็ช่างเถอะ แค่สนไม่ต่อต้านสิ่งที่เขาทำก็ดีมากแล้ว

"รู้ไหมต้นว่าเรารักนายมากแค่ไหน ขอบใจมากที่นายเป็นห่วงเรา คอยดูแลเรามาตลอด เราไม่รู้จะขอบคุณนาย...แล้วก็พ่อกับแม่ของนายยังไง" สนพูดเสียงสั่นเครือ

"ก็เราเป็นเพื่อนกันไง" ต้นบอกเบาๆ ถึงต้นจะไม่ได้คิดกับสนแค่เพื่อน แต่เขาก็เข้าใจมาตลอดว่าสนคิดกับเขาแค่นั้น เขาจึงนิยามความสัมพันธ์ของเขากับสนไว้ที่เพื่อนกัน ไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่ามันจะมีอะไรมากกว่านั้น

สนได้ยินแบบนั้นก็ผละออกทันที สนจับไหล่ทั้งสองข้างของต้นไว้แล้วก็ถาม "เพื่อนเหรอ...เราเป็นเพื่อนกันใช่ไหมต้น เรากับนายเป็นเพื่อนกันใช่หรือเปล่า หรือว่า..." สนกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ไม่รู้เหมือนกันว่าเขากำลังจะพูดหรือสื่อสารอะไรออกไป

"ก็...เราก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานแล้วไง นายคิดว่าเราสองคนจะเป็นอะไรกันล่ะ" ต้นถามกลับด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ ดูเหมือนสนกำลังสับสนกับอะไรบางอย่าง

"เราไม่รู้ เราสับสน..."

"นายสับสนอะไรเหรอสน" ต้นถามด้วยสีหน้าครุ่นคิด เขาไม่เคยเห็นสนมีอาการสับสนและอ่อนไหวแบบนี้เลย

"เรา..."







"อะแฮ่ม...จู๋จี๋กันแต่เช้าเลยนะสองคนนี้" เสียงปั้นจั่นกระแอมกระไอดังมาจากข้างนอกห้องครัว สนรีบปล่อยมือออกจากไหล่ต้นแทบไม่ทัน แล้วก็พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ

"นี่มันห้องครัวนะเว้ย เขาเอาไว้ทำอาหาร ไม่ใช่เอาไว้จู๋จี๋กัน"

"จู๋จี๋อะไรของมึงไอ้นี่ ตื่นขึ้นมาก็เห่าเลยนะมึง จะกินไหมข้าวเช้า เดี๋ยวก็ไม่ทำให้กินซะเลย พูดมากดีนัก" สนหันไปว่าเพื่อนแก้เขิน

"วันนี้มึงจะทำกับข้าวเหรอวะสน เฮ้ยๆ ขอโทษๆๆๆๆ ไม่แซวละ ใครๆ ก็อยากกินกับข้าวฝีมือมึงทั้งนั้นแหละ อร่อยจนเหมือนได้ขึ้นสวรรค์"

"เรื่องเว่อร์นี่ขอให้บอกเลยนะมึง แล้วไอ้นิกล่ะ ยังไม่ตื่นอีกเหรอ"

"ยัง ไม่รู้เมื่อไรจะฟื้น เมื่อคืนก็บอกแล้วว่าอย่ากินเยอะ" ปั้นจั่นว่าพลางส่ายหัว

ต้นกับสนกันมามองหน้ากัน ไม่รู้เหมือนกันว่าปั้นจั่นเห็นและสงสัยอะไรบ้าง แต่ก็ยังรู้สึกตกใจอยู่ไม่น้อย คิดแล้วก็น่าเสียดาย อีกแค่นิดเดียวเท่านั้นที่สนจะได้ค้นพบอะไรบางอย่างและพูดมันออกมา ปั้นจั่นเองก็เพิ่งจะคิดได้ว่าเขาไม่น่าเข้ามาขัดจังหวะเลย แค่เสี้ยววินาทีที่ไม่ได้ตั้งใจนั้นก็อาจจะทำให้พลาดโอกาสบางอย่างไปอีกนาน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-12-2012 08:55:24 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10
ถอนหายใจพร้อมส่ายหน้าเบาๆให้สน
.
โคตรจะหงุดหงิดตัวละคร เเต่ก็ยังตามอ่านอยู่เนี่ย เห้อ ให้ตัวเอง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ vivalasvegus

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

เกือบจะได้บอกความในใจแล้ว

Mc_ma

  • บุคคลทั่วไป
เวอร์ชั่นลงใหม่... ดูเหมือนจะมีรายละเอียดมากขึ้น
และสองคนนี้ก็น่ารักมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะเวลาเค้าอยู่ด้วยกันน่ะนะ
รู้สึกเหมือนมีรังสีของความรักและความผูกพันโอบล้อมอยู่เต็มไปหมด อ่านแล้วอุ่นดี

ติดตามๆๆค่ะ เป็นกำลังใจให้คนแต่งเสมอ... :L2: :L2: :L2:

ปล. ไม่ว่าเวอร์ชั่นไหน สนก็โดนคนอ่านกดดันทุกเวอร์ชั่น :laugh: :laugh: :laugh:
แต่พระเอกแบบนี้ ก็น่ารักดีนะ ซึนๆมึนๆและไม่ได้ดั่งใจดี มีความสุขในการลุ้นว่าพระเอกจะเอาไงต่อ?? จะรู้ตัวมั้ย??
สนุกไปอีกแบบ อะไรที่ได้มายากๆ (หรืออะไรที่เป็นไปได้ยากๆ) มักมีค่าเสมอ....
ขอแหวกออกจากกรอบ เชียร์สนละกัน  :กอด1: :กอด1: :กอด1:


ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
สิ่งที่สนกำลังเป็นอยู่นี้ ต้องบอกว่าเอามาจากชีวิตจริงของตัวผมเองเลยครับ
บางคนอาจจะสงสัยวามันจะมีด้วยเหรอคนที่สับสนจนไม่รู้ว่ารักแบบเพื่อนหรือรักแบบแฟน
ผมอยากจะบอกว่ามันมีจริงและผมก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ
เคยผูกพันกับผู้หญิงคนหนึ่งมาตั้งแต่เด็กๆ มาสนิทกันมากๆ ก็ตอนช่วงวัยรุ่น
ผมคิดว่าผมไม่ได้ชอบเค้าแบบนั้น แม้ว่าคนแถวบ้านจะล้อก็ตาม แต่เราสนิทกันมาก ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด
แต่ก็ไม่เคยเลยเถิดนะครับ เวลาที่เขามีคนมาจีบ ผมก็บอกตัวเองไม่ถูกเหมือนกันว่ารู้สึกยังไง แต่ไม่มีความสุข
ไม่อยากให้เขามีแฟน บางทีเราก็นั่งคิดสับสนตัวเองว่ารู้สึกอะไรกับเขากันแน่

ใช้เวลาหลายปีมากกว่าจะรู้ว่าคิดอะไร ตอนนั้นมีเหตุให้ผมต้องย้ายที่อยู่
หายไปสองปี กลับมาเจอเขาอีกที เขาแต่งงานมีลูกแล้ว ผมช็อกไปเลย
แต่ผมกระจ่างแก่ใจว่ารักเขาก็ตอนที่มาหาเขาที่บ้าน เขาให้ไปดูลูกเขาที่นอนอยู่ในเปล (วันนั้นสามีเขาไม่อยู่)
เท่านั้นแหละ น้ำตาผมจะไหล ผมก็ได้แต่บอกตัวเองว่าอย่าร้องไห้ตอนนี้นะ ถ้าน้ำตาไหลออกมา
ทุกคนจะรู้สิ่งที่ผมเฝ้าปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ได้รักเขาเกินเพื่อนทันที แต่ตอนนั้นผมคิดว่าผมห้ามไม่ได้แน่ๆ
แต่สุดท้าย เหมือนมันจะไหลเข้าไปในหัวใจแทน ก็โชคดีไป

แต่จากความรู้สึกวันนั้นมันทำให้ผมบอกตัวเองได้ทันทีครับว่าผมคิดอะไรกับเขา
คิดได้เมื่อตอนที่เราเสียเขาให้คนอื่นไปอย่างสมบูรณ์แล้ว
ก็เลยเลิกชอบผู้หญิงซะเลย :jul3:
แต่เขาก็ยังเป็นความทรงจำดีๆ ของช่วงวัยเด็กและวัยรุ่นของผมเสมอนะครับ

ก็เลยเอาประสบการณ์ตรงนั้นมาใช้กับตัวละครที่ชื่อสนครับ
สนจะได้บอกว่ารักต้นเมื่อไร ขออุบไว้ก่อนครับ บอกได้ว่าไม่ธรรมดา
แล้วบอกพร้อมกับอะไรบางอย่างที่ไม่ธรรมดาด้วย คุ้มค่าที่รอคอยแน่นอนครับ  :z1:

icyblue

  • บุคคลทั่วไป
ต้นก็ดีขนาด  สนจะสับสนอะไรน๊า :เฮ้อ:

ความรู้สึกของสนที่แท้ก็มาจากชีวิตจริงผู้แต่งเหรอเนี่ย 

รู้เมื่อสาย  แต่อย่างว่าค่ะมันคงมีเหตุมีปัจจัยที่ทำให้ไม่ได้คู่กันค่ะ  คงกำหนดให้มาแค่เป็นเพื่อนกัน

แต่ตอนท้ายสปอย์ไว้  สนจะบอกต้น อะไรยังงัยนะ  มีบอกไม่ธรรมดาด้วย :z2:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
สงสารใจคนรอ  แต่ต้นคงชินซะแล้ว  ชินที่รักและคงไม่ได้หวังความรักตอบ
ต้นคงกลัวที่จะเสียสนไป  แต่สนเมื่อไหร่จะรู้ใจตัวเองซักที

ออฟไลน์ SoN

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2965
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-15

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป

llihc_mrr

  • บุคคลทั่วไป
รอไม่ไหวแล้ว สนเมื่อไรจะรู้ซักที

หรือต้องให้พี่ปิ๊กจัดหนัก 55555

ออฟไลน์ z-Time

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
สนก็รู้แล้วว่าต้นรักและไม่เคยเรียกร้อง

แต่สนเองก็ทำเหมือนไม่รับรู้ความรู้สึกของตัวเองและต้นเลย  :เฮ้อ:

puu142

  • บุคคลทั่วไป
รัก..............ไปเถิดสน

                                   อย่าลังเลสงสัย..........................................................

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด