: ~SCAR~ : ตราบาปไร้รอยเลือน UPDATE!! ประกาศ re-printค่ะ [05/01/17]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: : ~SCAR~ : ตราบาปไร้รอยเลือน UPDATE!! ประกาศ re-printค่ะ [05/01/17]  (อ่าน 227028 ครั้ง)

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ต้มน้ำ  เตรียมถ้วย  ฉีกซอง  รอคนปรุงต่อไป
เอาแซ่บ ๆ เด้อค่ะ

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
นี้แหละ แซ่บของแท้

ตอนหน้ามาไวไวนะครับ มาม่ามาแล้วขอไวไวด้วยละกัน อิอิ

ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
คุณพ่อกำลังมาม่า  :o12: :o12: :o12: :o12:
มาต่อเร็วๆ นะคะ

ออฟไลน์ aimjungna

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
รอลุ้นม่าว่าจะเดือดเมื่อไหร่ ความลับของพลภัทรก็จะคลี่คลาย สู้ๆนะคะเป็นกำลังใจให้คะ *0*

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ลุ้นๆ   กำลังหิวมาม่าพอดี  -,,-

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
อย่าบอกนะว่า  คุณเพื่อนคนนี้ที่เคยชอบอาพีท 
จะมาตีท้ายครัวเพื่อนตัวเอง  แอบมีอะไรกับเมียเพื่อน ใช่มั๊ยเนี่ย  o22

ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
นอ่านแล้ว สำหรับเรา เราว่าพลภัทรก็น่าสงสาร นะ เพราะความเข้มงวดของพ่อ
จึงค่อนข้างกลัวในสิ่งที่น้องจะเดิน การปกป้องน้องชาย คงเหมือนกับที่เขาไม่อยาก
ให้น้องถูกเกลียด บางทีพลภัทรก็น่าสงสาร ยอมแลกเพื่ออะไรหลายอย่าง

snice_cz

  • บุคคลทั่วไป
วันที่มีอิสระ คือวันไหนกัน รอมาต่ออยู่นะ

Golem237

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้ว สำหรับเรา เราว่าพลภัทรก็น่าสงสาร นะ เพราะความเข้มงวดของพ่อ จึงค่อนข้างกลัวในสิ่งที่น้องจะเดิน การปกป้องน้องชาย คงเหมือนกับที่เขาไม่อยากให้น้องถูกเกลียด บางทีพลภัทรก็น่าสงสาร ยอมแลกเพื่ออะไรหลายอย่าง

เห็นด้วยเลยค่ะ การมองว่าคนๆหนึ่งเลวร้ายและทำทุกอย่างนั้นมันต้องมีสาเหตุ พลภัทรเป็นพี่ชาย ด้วยความรักมากเกินไปเลยกลายเป็นความหวังดีที่ไม่มีใครเข้าใจ การที่เขากักตัวพีท อาจจะเพราะว่าเขาไม่อยากให้พีทต้องไปรักกับผู้ชายชัดเจน และทำให้คนอื่นดูถูก มันเป็นความหวังดีของพี่ชายที่ค่อนข้างมองว่าสิ่งที่ตัวเองคิดนั้นถูกต้อง ซึ่งความจริงมันก็ไม่ผิดนักหรอก

สังเกตได้ จากการที่พอตัวเองเห็นว่าญานัชกับพีทไป ตัวเองนั่นแหละเสียใจ เพราะว่าเขาคิดว่าเขาสร้างกรงที่ดีที่สุดให้แล้ว ทำไมถึงอยากจะแหกออกไปล่ะ ในทางกลับกัน ปัณวิทย์ต่างหากที่ไลท์แทบจะถวายหัวชาบูเลย การที่ยอมทุกอย่างเพื่อพ่อนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งเป็นเรื่องของคนรัก แต่ปัณวิทย์เลือกครอบครัว เลือกในสิ่งที่ตัวเองเชื่อมั่น ความรักตัวนี้นี่แหละที่ไลท์เชื่อว่ามันจะทำให้พลภัทรรู้ว่าในเวลาที่ไม่มีใคร 'ความรัก' ที่แม้ไม่ได้ผูกพันตามสายเลือด...กลับยืนหยัดที่จะยืนเคียงข้างเขา ในยามที่กรงที่เขาพยายามกักคนที่เขาคิดว่าผูกพันเอาไว้ไม่ได้ผล...เด็กที่ไม่ได้ผูกพันด้วยสายเลือดกลับเลือกที่จะทำเพื่อเขา

การ Reflect ให้เห็นสิ่งที่ตัวเองเคยเป็นจะมีผลทางจิตวิทยาให้คนๆหนึ่งเปลี่ยนทางเลือกที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะรู้ว่าปลายทางคืออะไร เขาย่อมปรารถนาให้คนที่สะท้แนภาพของเขามีปลายทางที่แตกต่างกันออกไปค่ะ

มามองที่พี่เดฟ การที่เขาไม่ผูกพัน ทำให้เขาพูดเรื่องน่าเจ็บปวดออกมาได้ ในความเป็นจริง ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่ถ้าพูดตรงๆแล้วจะแก้ไขในสิ่งที่เกิดขึ้นได้น่ะ แต่ก็ว่าไม่ได้หรอกนะ เพราะว่าเขาไม่รู้เกี่ยวกับพลภัทรและไม่ไขว่คว้าที่จะรู้ ไม่เหมือนปัณวิทย์ที่รักจากก้นบึ้งของหัวใจ

ออฟไลน์ kny

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-15
ที่มา ที่เป็น และที่ไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






carenaka

  • บุคคลทั่วไป
 :jul1:ซับซ้อนแท้เหลา  :sad4: รอๆๆๆ มาม่าแน่ตอนหน้า

ออฟไลน์ kagehana

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
kagehana : เรื่องของคุณพ่อต่อค่ะ แซ่บเวอร์ อิอิ

หลังจากนี้ไปอาจจะทิ้งระยะพอสมควรนะคะ ทั้งหมีทั้งดอกไม้งานอยู่ในภาวะยุ่งสุดขีดทั้งคู่ แต่ยังไงก็จะพยายามเอามาลงเร็วๆค่ะ

ขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกคะแนนเสียงโหวตในเซ็งเป็ดอวอร์ด ขอบอกว่าคนเขียนทั้งสองปลาบปลื้มมากๆ

ป.ล. ตอนนี้หมีกับดอกไม้กำลังเร่งปั่นพี่เดฟน้องปันไปลงงานคอมมิคซีซั่น(เนื่องจากจองบูทไปแล้วแต่ไม่มีของลง กร๊ากกก) มีใครสนใจอยากเก็บเรื่องนี้เป็นที่ระทึก(?)มั้ยคะ ใครไปงานคอมมิคซีซั่นแวะไปเยี่ยมเยียนได้ที่บูธ FictionFactory นะคะ จะพยายามออกให้ทันน้า ^^


ฝากเพจรวมของเซอร์เคิลด้วยนะคะ ยังไม่มีอะไรเท่าไหร่แต่จะพยายามอัพเดทเรื่อยๆค่ะ

http://www.facebook.com/ficfactory





-39-





...อเมริกา...


ประเทศแห่งอิสระเสรี ประเทศที่ห่างไกลจากบ้านเกิดแทบจะเรียกได้ว่าคนละซีกโลก


พลภัทรรู้สึกเหมือนหายใจได้เต็มปอดบนผืนแผ่นดินนี้ ชายหนุ่มได้ทำในสิ่งที่ต้องการ ทั้งการเรียน เพื่อน การใช้ชีวิต...และความรัก


รักแรกของเขาเกิดขึ้นหลังจากการหมั้นกับคนที่เหมาะสมเพียงไม่กี่เดือน หญิงสาวผมบลอนด์ตาสีฟ้าสอนให้เขาเรียนรู้ความรู้สึกอ่อนโยนและหวงแหนเพียงเมื่อแรกพบ


...เดน่า..คือผู้หญิงคนนั้น...


“... คุณมีคู่หมั้นอยู่แล้ว... จะทำยังไงเหรอพอล”


คำถามของหญิงสาวชาวอเมริกันผู้เป็นรักแรกเอ่ยขึ้นหลังจากสัมพันธ์หวานชื่นบนเตียงจบลง


“ผมไม่รู้... แต่คนที่ผมรักคือคุณนะ” พลภัทรไล้มือตามผิวนุ่มเนียนมือ เขากดจุมพิตลงบนเส้นผมสีทองที่เคล้าเคลียอยู่บนอก เดน่าเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนปริญญาโท หญิงสาวที่มีรอยยิ้มอ่อนหวานที่เขาตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบและเที่ยวเวียนบอกรักจนเกือบปีกว่าที่อีกฝ่ายจะยอมตกลง


“ยังมีเวลาอยู่ด้วยกันอีก... พูดให้ฉันฟังบ่อยๆก็แล้วกัน” เดน่าแย้มรอยยิ้มก่อนจะจรดริมฝีปากลงบนฝ่ามือของร่างสูงเบาๆ


“ผมรักคุณ...คุณคือผู้หญิงคนเดียวที่ผมจะรักนะ” คำหวานที่เอ่ยแผ่วพร่างพรมลงบนหัวใจคนฟัง...และคนพูด


“ฉันก็รักคุณ...” เดน่าเป็นฝ่ายแนบริมฝีปากเข้าสัมผัสกันเบาๆ พร้อมกับคำรักที่ไม่ได้พิเศษอะไรไปมากกว่าความรู้สึกที่สื่อผ่าน เธอรู้ดีว่าพลภัทรมาเพียงเพื่อเรียนต่อปริญญาโท และเวลานั้นก็ผ่านไปแล้วเกือบครึ่งทาง-- ไม่นานก็ต้องกลับบ้านไป


แต่เธอก็ไม่อาจห้ามความรู้สึกของตัวเองได้


“ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะอยู่กับคุณอย่างนี้ตลอดไป”


ถ้าเป็นไปได้...แต่ไม่มีวันเป็นจริง


เวลาที่ได้ใช้ร่วมกันผ่านไปเร็วจนน่าตกใจ รู้สึกตัวอีกทีก็ถึงตอนที่เรียนจบแล้วและมีโทรศัพท์จากบิดาเรียกตัวกลับให้เร็ว พลภัทรถึงได้ตัดสินใจต่อรองและยื่นข้อเสนอของตัวเองดู


...เพราะคนที่อยากจะอยู่ด้วยคือเดน่า


-จะพามาได้ยังไง แล้วหนูเพ็ญคู่หมั้นแกจะเอาไปไว้ไหน แกสัญญากับฉันแล้วไม่ใช่หรือไงว่าจะกลับมาแต่งงาน แล้วไปคว้าผู้หญิงฝรั่งมาทำเมียทำไม- เสียงทุ้มห้าวพูดห้วนและปฏิเสธคำขอของพลภัทรในทันที


“ผมไม่ได้รักเพ็ญ พ่อก็รู้” คนเป็นลูกชายเถียงกลับไปโดยที่สายตาไม่ได้ละจากคนรักที่นั่งอยู่บนโซฟาไม่ไกลจากกัน


-แต่คนที่แกต้องแต่งด้วยคือหนูเพ็ญเท่านั้น ไม่อย่างนั้นไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพ่อ-


เสียงโทรศัพท์เหลือเพียงสัญญาณที่ขาดหาย พลภัทรวางมันลงแล้วเดินไปกอดเดน่าเอาไว้


ไม่ต้องเดาก็พอจะฟังออกจากน้ำเสียงได้ หญิงสาวเพียงยกมือขึ้นกอดตอบแน่นๆ


“ไม่เป็นไรนะพอล....”


“พ่อจะให้ผมกลับไปแต่งงานกับคนที่หมั้นไว้ ทีแรกที่ผมสัญญาผมนึกว่ามันคงเป็นไปได้..แต่ตอนนี้ผมมีคุณ จะให้ผมไปแต่งงานได้ยังไง”


“... แล้วคุณจะอยู่กับฉันที่นี่เหรอ” เดน่าเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบขณะสบมองดวงตาสีเข้มของอีกฝ่าย


“ผม.....” พลภัทรเงียบเสียงไปด้วยรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ ต่อให้เขาดื้อดึงอยู่ต่อ พ่อก็ไม่มีวันให้เขาอยู่ ต่อให้หนี...คนของพ่อก็ตามหาได้แน่นอน


ลำพังตัวเขาไม่เท่าไหร่ หากแต่ผู้หญิงอย่างเดน่า...ผู้หญิงที่อุ้มท้องลูกของเขาจะทนรับมันได้หรือ


“ผมกลัว..ถ้าผมอยู่ที่นี่พ่อจะส่งคนมาตาม พ่อไม่เหมือนคนอื่น..สิ่งที่เขาคิดไว้ต้องเป็นไปตามแผนของเขาทั้งหมด โดยไม่เลือกวิธีการ”


หญิงสาวยกมือขึ้นสัมผัสใบหน้าของคนรักเบาๆ “ฉันไม่เป็นไรหรอกนะ พอล ที่้นี่สวัสดิการไม่แย่หรอก ฉันเลี้ยงลูกได้”


“แต่เขาเป็นลูกของผมด้วยนะ...มันต้องมีวิธีอื่นสิ”


“... พอล คุณกังวลมากเกินไปแล้ว ฉันบอกว่าไม่เป็นไร ไม่ใช่เพราะว่าฉันไม่ใส่ใจ แต่เพราะฉันไม่เห็นทางอื่นแล้ว”


“แต่ผมทิ้งคุณไปไม่ได้ เดน่า...ผมอยากอยู่กับคุณ อยากเลี้ยงลูกของเรา สอนเขาหัดเดิน สอนเขาพูด.....” ชายหนุ่มลูบท้องที่นูนโป่งออกมาของคนรักพลางแนบหูลงฟังเสียงข้างใน


“ถ้าพ่อตามมาถึงนี่พี่จะเสียใจทีหลังนะ” พิชญ์ที่นั่งเงียบมานานเอ่ยแทรกขึ้นขณะลดมือที่จับหนังสือเอาไว้ลง


“พี่รู้พีท..พี่รู้” พลภัทรสบตาน้องชายนิ่งนาน “แต่พี่รักเดน่า”


“งั้นก็เอาเดน่ากลับไปด้วย...” เขายื่นให้อีกข้อเสนอหนึ่ง


“พ่อไม่ยอม พี่ถามแล้ว” พลภัทรจับมือของคนรักเอาไว้พร้อมแววตาห่วงใย


“บอกคุณเพ็ญแขอะไรนั่นไป เขาจะได้ยกเลิก”


“พีท แกไม่มาเป็นพี่แกไม่รู้หรอก” พลภัทรพูดเรียบๆ เดิมทีแล้วเป็นเพราะอยากจะปกป้องพิชญ์เขาเลยต้องยอมรับข้อเสนอ แต่ข้อเสนอนั้นกลับมาผูกมัดตัวตนของเขาเอาไว้อีกครั้ง


“แต่พี่จะลองดูแล้วกัน...”


ความหวังของพลภัทรขาดสะบั้นลงด้วยการมาถึงของคนของผู้เป็นพ่อ เขาและพีทถูกบังคับให้กลับประเทศแทบจะทันทีแลกกับการที่จะไม่ทำร้ายหญิงสาวที่เขารักและลูกในท้อง ชายหนุ่มได้แต่กล่าวคำอำลาและสัญญากับเดน่าว่าจะมาหาโดยเร็วที่สุด


แต่กระทั่งสัญญา ยังรักษาไม่ได้...


หลังจากถูกพาตัวกลับมา พลภัทรถูกจับให้แต่งงานกับเพ็ญแขและสืบทอดธุรกิจของทางบ้าน วันและคืนผ่านไป...จดหมายหลายฉบับที่ส่งโต้ตอบก็ได้รับรูปเด็กชายผมสีทองในอ้อมกอดหญิงคนรัก เดน่าในรูปกำลังยิ้มอย่างมีความสุขแม้แววตาจะเศร้าเหลือเกิน


สิ่งที่เขาทำได้คือการลักลอบส่งเงินไปให้คนรักและลูกที่อยู่คนละซีกโลกเท่านั้น เพราะภาระที่ยิ่งใหญ่อีกอย่างของเขากำลังเติบโตอยู่ในครรภ์ของเพ็ญแข แม้จะไม่ได้รัก แต่เพราะแต่งงานกันแล้ว...ทายาทสืบสกุลก็เป็นอีกหนึ่งในข้อแลกเปลี่ยนที่บิดาเขาต้องการ....แลกกับการทำไม่รู้ไม่เห็นว่าเขากำลังส่งเสียใครอยู่


พลภัทรหยิบรูปใบเล็กขึ้นแล้วก้าวเดินไปที่ห้องของพิชญ์...คนเดียวที่รู้ความลับของเขา


“พีท ดูนี่สิ”


“อะไรเหรอพี่พล”


“นี่ไง..ลูกของพี่กับเดน่า ชื่อเดวิด เรียกเดฟนะ” ชายหนุ่มไล้ปลายนิ้วไปบนรูปถ่าย เด็กชายวัยแบเบาะผมสีทองอ่อนจ้องมองกลับมาด้วยนัยน์ตาสีฟ้ากระจ่างเหมือนผู้เป็นแม่ ริมฝีปากเล็กบางดูดกำมือจนแก้มแดงจัดพองกลม


“ชื่อไทยชื่อชยางกูร...น่ารักมั้ยพีท”


“น่ารัก แก้มแดงเชียว” คนเป็นน้องชายยิ้มกับเด็กน้อยหน้าตาน่ารักในรูปถ่าย


“ที่มหาลัยเป็นยังไงบ้าง นี่ปีสองแล้วใช่มั้ย” หลังจากที่กลับมา ภีมที่ห่างกันไปก็เริ่มทำงานแล้ว ทำให้ไม่มีเวลามาวุ่นวายกับพิชญ์และทำให้เขาวางใจมากขึ้น...อย่างน้อยที่สุด เขาก็สามารถปกป้องน้องและไม่สูญเสียเพื่อนรักไป แม้ว่าภีมจะตัดพ้อเรื่องพิชญ์อยู่บ้างพลภัทรก็พร้อมจะทำเฉยๆไม่รู้ไม่เห็นจนเพื่อนเบื่อไปเอง


“อื้ม ก็โอเคนะ เรื่อยๆล่ะ” พิชญ์เรียนคณะศิลปกรรมตามความสนใจของตัวเอง จึงดูเครียดน้อยกว่าพลภัทรสมัยเรียนมหาวิทยาลัยเยอะ


“แล้วจะไปเรียนโทต่อเลยหรือว่าจะเข้ามาช่วยที่บริษัทล่ะ”


“ไม่รู้สิ เรียนต่อก็ดีนะ จริงๆอยากไปเรียนเพ้นติ้งเลยมากกว่า”


“ทำไมไม่เรียนบริหารล่ะ จะได้มาทำที่บริษัท” พลภัทรถามอย่างสงสัย แม้จะรู้ว่าน้องชายชอบไปทางศิลปะ แต่เพราะมีบริษัทและพ่อก็อยากให้ทุกคนมาช่วย การเลือกเรียนบริหารน่าจะเหมาะสมกว่า


“ก็มีพี่ทำแล้วนี่ ไม่ได้เหรอ” พิชญ์ถามต่อ พลภัทรเตรียมขึ้นตำแหน่งเป็นผู้สืบทอดกิจการคนต่อไป เขาก็ไม่น่าจะต้องกังวลอะไรทั้งนั้น


พลภัทรมองใบหน้าน้องชายที่เอ็นดู เขาไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะทำในสิ่งที่ชอบ...กล้าจะเดินไปจากหนทางที่พ่อขีดไว้ให้


หนทาง...ที่เขาไม่กล้าแม้จะแตะลงไป


“พ่อจะให้หรือเปล่า ก็พ่ออยากให้เราทำงานด้วยกัน ช่วยกันไงพีท”


“... เหรอ... ลองขอพ่อดูก่อนก็แล้วกัน พี่พลช่วยขอทีสิ” เป็นพิชญ์ที่ยิ้มออกมาพลางเอ่ยอ้อนผู้เป็นพี่


“ลองดูแล้วกัน”


พลภัทรทำตามคำขออีกฝ่ายด้วยการออกหน้าไปขอให้พิชญ์ทำในสิ่งที่รัก คำตอบของเขาคือการถูกบิดาตอกกลับมาอย่างไม่ไว้หน้า ความกดดันที่ถูกบีบทำให้พลภัทรมุโหมงานของบริษัท ความสุขแปรผันกับความสำเร็จ ชีวิตที่ดำเนินไปตามทางที่ถูกขีดให้เดินทำให้ชายหนุ่มเงียบขรึมลง แม้ยามที่ลูกชายที่เกิดจากเพ็ญแข..คณัสนันท์ ถือกำเนิด ในใจเขาก็มีเพียงแต่ลูกชายกับคนรักที่อยู่ที่ๆห่างไกล


เปลวไฟลูกเล็กที่เกิดจากความคับแค้น ค่อยๆเติบโตขึ้นอย่างช้าๆ...ภายในจิตใจของพี่คนโตตระกูลประสิทธิ์พรวิวัฒน์


แต่พิชญ์ที่ไปเรียนบริหารธุรกิจได้ไม่นานนัก ก็ส่งจดหมายมาหาเขาเพื่อบอกถึงความต้องการของตัวเองที่อยากจะเรียนศิลปะ และขอให้ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เพราะตัวเองจะขอทุนเรียนเองก็ได้หากบิดาจะคัดค้าน


การตัดสินใจของน้องคนเล็ก...กับการแต่งงานของน้องสาวคนกลางกับผู้ชายที่มาจากครอบครัวธรรมดา ถูกนำมาเป็นหินบนหลังของผู้เป็นพี่ พลภัทรถูกดุด่าแทนคนทั้งสองด้วยข้อกล่าวหาว่าไม่ดูแลให้ดี


บางครั้ง...เขาก็เคยคิดว่าการเกิดมาเป็นตัวเอง ช่างยากเย็นเหลือเกิน


น้ำหล่อเลี้ยงหนึ่งที่เขาเฝ้ารอทุกเดือนคือจดหมายของเดน่า ที่เขียนส่งมาเล่าถึงการเจริญเติบโตของลูกชายที่ไม่มีโอกาสได้อุ้มชู และแม้จะมีคณัสนันท์ สองแขนและดวงตาของเขาก็ไม่สามารถจะอุ้มชูและมองได้เต็มตา... ด้วยความรู้สึกผิดที่มองผ่านไปถึงเด็กอีกคน


เวลาผ่านไปไม่นาน พิชญ์ก็กลับมาพร้อมกับอุปนิสัยที่เปลี่ยนไป จากน้องชายที่เคยหัวอ่อนและพึ่งพาพี่ชาย เติบโตเป็นผู้ชายที่มีความคิดเป็นของตัวเองและรู้ว่าอยากจะทำอะไร ซ้ำยังไม่ยอมให้ใครมาขวางด้วย แม้กระทั่งบิดาจะเอ่ยตัดขาด พิชญ์ก็ไม่ได้เกรงกลัวเลยสักนิด


แต่เพราะความที่เป็นพี่ชาย จึงได้ช่วยต่อรองให้พิชญ์ยังได้อยู่ในบ้านประสิทธิ์พรวิวัฒน์ต่อไปตามปกติ แลกกับการที่ต้องถูกบิดาดุด่าอีกครั้ง


...ภาระหนักอึ้งที่ต้องรับเอาไว้ จะแบกไว้ได้ถึงเมื่อไหร่กัน


“พี่คะ ดูนัทสิ หลับปุ๋ยเลย...” แพรพรรณอุ้มลูกชายที่เพิ่งคลอดได้ไม่กี่เดือนเอาไว้แนบอกพลางเรียกให้พี่ชายดูหน้าหลานคนแรกของเขา


“หน้าเหมือนแพรเลย พีทล่ะ..ไม่มาดูหลานเหรอ” พลภัทรเขี่ยแก้มทารกตัวน้อยเบามือ ในใจพาลนึกไปถึงคณัสนันท์...ที่ระยะหลังเพ็ญแขเหมือนจะดูออกว่าเขาแทบไม่ได้แตะต้องลูกเลยตีตัวออกห่าง และชยางกูร..ที่เห็นแค่เพียงในรูป


หลานชายคนแรกจากแพรพรรณ ซึ่งสามีของเธอแต่งเข้าตระกูลและให้ญาณัชใช้นามสกุลของมารดา


“ดูตลอดเช้าแล้วพี่พล ตรวจการบ้านเด็กเสร็จแล้วเดี๋ยวไปเล่นด้วยนะ” พิชญ์มีกองงานศิลปะของเด็กอนุบาลอยู่ตรงหน้า แต่น้องคนเล็กก็เอ่ยตอบด้วยเสียงที่เบากว่าปกติด้วยกลัวจะปลุกให้หลานชายตัวน้อยตื่น


“แล้วเราล่ะ เมื่อไหร่มีเป็นของตัวเองบ้าง” ความเจ็บปวดที่ถูกพ่อกระทำใส่นั้นไม่ได้แปรเป็นความขุ่นเคืองน้องทั้งสอง พลภัทรยังคงเป็นพี่ชายที่ห่วงใยน้องเสมอ


“เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นล่ะ” เขาพูดกลั้วหัวเราะโดยไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดนั้นเท่าไหร่ ลองพลภัทรกับแพรพรรณมีหลานชายทั้งคู่ให้มนูญ ความกดดันของตัวเขาคงลดน้อยลงจนแทบไม่มีเลย


“เดี๋ยวโตไม่ทันเล่นกับลูกพี่นะ”


“ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้สอนเด็กๆ แถมยังมีหลานสองคน ผมไม่มีเวลาดูแน่ๆเลย” พิชญ์ยังคงยืนกรานคำเดิม


“ก็ตามใจ อย่ามาว่ากันทีหลังแล้วกัน” พลภัทรจิ้มแก้มขาวๆของคนตัวเล็กในอ้อมกอดน้องสาวอีกครั้ง ริมฝีปากสีชมพูสดดูท่าจะหิวนม มือเล็กๆเอื้อมจับมือเขามาดูด พลภัทรยิ้มให้เด็กน้อยอย่างเอ็นดู


“นัทหิวนมแล้วมั้งแพร”


“โอเค งั้นเดี๋ยวแพรมาใหม่นะคะพี่พล” แพรพรรณยิ้มให้กับลูกชายตัวเล็กอย่างอ่อนโยนก่อนจะค่อยๆเดินออกมาจากห้องนั่งเล่นใหญ่


พลภัทรแม้จะไม่ได้รักรักชีวิตในตอนนี้...ที่ไม่ได้อยู่กับคนที่รัก แต่เขาก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเกลียดชีวิตของตนได้....


จนกระทั่ง....มีการมาถึงของคนๆนึง


พิชญ์พารุ่นน้องที่รู้จักกันตอนเรียนอยู่ที่อเมริกาไปเที่ยวต่างจังหวัด พลภัทรไม่คิดอะไรเพราะหากเป็นตัวเองก็คงทำ แต่การมาถึงของรุ่นน้องคนนั้นกลับกลายเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อมนูญเอ่ยปากถามคำถามที่เขาเคยถามแล้วระหว่างทานอาหารเย็นกันพร้อมหน้า


“พีท เมื่อไหร่แกจะแต่งงานหือ แค่แกเรียนศิลปะบ้าบอของแกก็ขายหน้าพอแล้ว รีบหาผู้หญิงมาแต่งซะจะได้มาช่วยงานบริษัท”


เจ้าของชื่อนิ่งไปเมื่อเจอกับคำพูดที่แสดงออกว่าไม่พอใจชัดเจนของผู้เป็นพ่อ ชายหนุ่มวางช้อนกับส้อมลงเรียบร้อยบนจานข้าว ก่อนจะเอ่ยตอบเบาๆ


“ถ้าเขายอมให้แต่งงานกับผู้ชายได้เมื่อไหร่ ผมก็จะแต่งครับคุณพ่อ”


“แกว่าอะไรนะ”


พิชญ์ยกมือขึ้นผลักจานไปข้างหน้าบ่งบอกว่าตัวเองจะไม่ทานต่อแล้ว “... คนที่ผมอยากจะอยู่ด้วย เป็นผู้ชายครับ”


...พีทเป็นเกย์...


ไม่ต้องให้บอกตรงๆ เขาก็รู้ว่าน้องชายต้องการจะสื่ออะไร


น้องชายที่กล้าจะแหวกกฏของครอบครัว กล้าที่จะทำในสิ่งที่เป็นตัวเอง ขบถ..ที่ซ่อนไว้ในท่าทางอ่อนโยน พลภัทรรู้ในวินาทีนี้เองว่าน้องชายที่เขาต้องคอยปกป้องจากภีมไม่มีอีกต่อไปแล้ว หรือบางที...เขาอาจจะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปกป้องตั้งแต่แรก


มือที่จับช้อนบีบแน่นขึ้น...เหมือนกับหัวใจที่รัดตัว


“แก...ไอ้พีท ไอ้ลูกเลว” เสียงของมนูญดังก้องไปทั่ว เช่นเดียวกับจานกระเบื้องบนโต๊ะที่ถูกกวาดลงพื้นแตกละเอียด


“ผมยังเป็นลูกพ่อเหมือนเดิม... เป็นพีทคนเดิมนะครับพ่อ” น่าแปลกที่พิชญ์กลับพูดด้วยท่าทีสงบนิ่งกว่าที่คิดไว้ ต่างจากบิดาที่กวาดทุกอย่างที่เอื้อมถึงลงจากโต๊ะเสียหมดสิ้น


ไม่...ไม่เหมือนเดิม..คนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะด้วยท่าทางสงบเงียบตอบแทนคำในหัวของพ่อ


คนอื่นๆเริ่มออกจากห้องไป เหลือเพียงตัวต้นเรื่องทั้งสอง...และพี่ชายคนโตอย่างพลภัทร


“แกก็รู้ว่ามันไม่ใช่ ถ้ามีคนรู้ว่าฉันมีลูกเป็นเกย์ ฉันจะมองหน้าใครเขาได้ พล..เห็นไหมล่ะ เพราะแกพามันไปเมืองนอกตั้งแต่เด็ก มันถึงเอาอิทธิพลบ้าๆมาจากอเมริกา”


“คุณพ่ออย่าเอาพี่เข้ามาเกี่ยวครับ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพี่พล” ฟังดูเอาก็รู้ว่ามนูญเพียงต้องการหาที่ระบายใส่ และก็ไม่พ้นพี่ชายคนโตของเขา


“ทำไมจะไม่เกี่ยว มันดูแลแกไม่ดี เป็นพี่ประสาอะไร แกก็ด้วย ฉันสั่งห้ามเด็ดขาด แกต้องแต่งงานทันทีที่ฉันหาสะใภ้ได้”


ลูกชายคนเล็กที่ไม่เคยแสดงท่าทีต่อต้านกลับลุกขึ้นยืนทันที “ผมไม่แต่งครับ ยังไงก็ไม่แต่ง”


“พีท...” พลภัทรพูดเสียงแผ่ว “เชื่อพ่อเขาเถอะ”


เชื่อ...เหมือนที่เขาเชื่อมาตลอดชีวิต


เชื่อ...จนทำให้ไม่กล้าจะก้าวเดินไปตามทางที่ต้องการ


“... พี่พล...” พิชญ์หันมามองสบตากับผู้เป็นพี่ ดวงตาของเขาในตอนนี้ดูโศกเศร้ายิ่งกว่าครั้งไหน “พีททำไม่ได้...”


“งั้นก็ลองตายดูไหมล่ะพีท ง่ายกว่ามีเมียหรือไง” ผู้เป็นพ่อระเบิดอารมณ์ใส่ มนูญที่แข็งกร้าววิ่งชนเข้ากำแพงที่ก่อ เขาเชื่อ...ว่าพีทต้องเหมือนลูกคนโตและพี่สาวอย่างแพรพรรณ ที่แม้จะมีความคิดของตัวเอง แต่ก็ไปจากบ้านหลังนี้ไม่ได้


“เลิกกับมัน แล้วฉันจะคิดซะว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น”


“ไม่ครับ...” เขาได้แต่คิดว่า หากลังเลตอนนี้ คงจะไม่มีโอกาสได้เจอกับเจ้าของรอยยิ้มกว้างคนนั้นอีกแล้ว


“ไอ้ลูกทรพี” มนูญพูดสั้นๆแล้วเดินออกไปทันที


พลภัทรมองน้องชายคนเล็ก...ที่ดูจะตัวโตจนใหญ่คับไปทั้งบ้าน เหลือเพียงเขาเองที่ตัวเล็กจ้อย เหมือนดักแด้ฝ่อที่ไม่มีวันได้กลายเป็นผีเสื้อ


“พีท...เป็นตั้งแต่เมื่อไหร่” ถ้อยคำที่ถาม...หลุดไปด้วยเสียงแผ่วหวิว


“...... คนที่พีท... อยากจะอยู่ด้วย มีแค่ผู้ชายคนนั้นคนเดียว ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นพีทไม่เอา แบบนี้พี่พลจะว่าเป็นเกย์มั้ย”


“ถ้าเป็นอย่างนั้น พีทก็มีเขาสิ แล้วแต่งงานกับคนของพ่อ...ทำเหมือนเดน่า พ่อจะได้ไม่โกรธ พี่จะช่วยเก็บเป็นความลับให้”


“... ไม่ได้หรอก... ไม่เหมือนกัน พีททำแบบนั้นไม่ได้” พิชญ์ยืนกราน แค่นึกถึงหน้าของอีกฝ่ายก็พอจะรู้แล้วว่าจะเป็นแบบไหน


“แล้วพีทจะทำยังไง พ่อไม่มีทางรับได้หรอก แต่ก็ไม่มีทางให้พีทไปด้วย”


“...... ถ้าจะบังคับกัน พีทจะไป” คนเป็นน้องตอบอย่างแน่วแน่


“แล้วคนอื่นรู้หรือเปล่าว่าพีทเป็น...ชอบผู้ชายน่ะ” ในใจเขาไพล่ไปถึงเพื่อนรักอย่างภีม เพราะถ้าอีกฝ่ายรู้...อาจจะโกรธเขาก็ได้


“ไม่มีใครรู้ พีทไม่เคยบอกใคร” เขาสบตามองพี่ชายก่อนจะเอ่ยตอบ


“แล้วพีทจะอยู่ไทยต่อมั้ย แต่ถ้าถามพี่...พี่อยากให้อยู่” พลภัทรตบบ่าเบาๆคล้ายให้กำลังใจ แม้จะรู้ดีว่าพิชญ์คงไม่ต้องการมันเท่าตัวเขาเอง


“... พีทยังไม่ได้ตกลงว่าจะอยู่กับเขา... ตอนนี้พีทยังทำงานอยู่ที่นี่... ถ้าพ่อไม่อยาก พีทก็คงต้องออกไปหาห้องอยู่” พิชญ์ถอนหายใจออกมา


จะออกมาเป็นอย่างไร...


“มันคงไม่เลวร้ายขนาดนั้นหรอกพีท”


พลภัทรไม่เคยรู้เลย....ว่าคำพูดนั้นเขาต้องเอามาปลอบตัวเอง....


ตัวเอง...ที่ถูกทำลายจากเพื่อนที่รักที่สุด












To Be Continued......






ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
พลภัทรน่าสงสาร อ่านมาสองตอนทำให้เข้าใจพลภัทรมากขึ้น

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
สงสารพลนะ แต่ทำตัวเองอ่ะ
เฮ่อออออออออออ

dog

  • บุคคลทั่วไป
เอ่อ ก็เริ่มจะเข้าใจคุณพ่อขึ้นมาหน่อยนึงนะ
แต่ว่าที่ทำกับน้องชายมันก็เกินไปน๊า
อยากรู้แล้วจริงๆว่าจุดเปลี่ยนที่ทำให้เป็นแบบนี้มันจะเลวร้ายขนาดไหน

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
เป็นเพราะความกดดันจากพ่อ
ตัวเองก็เลยเอามากดดันลูกต่อหรอเนี่ย

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
ทุกคนก็มีเหตุผลกันหมด ตั้งแต่ปู่ จนมาถึงพี่เดฟ

ถ้าพ่อพี่เดฟไม่แบกไว้คนเดียว แล้วลองคุยกันดีๆ มันก็น่าจะมีทางออกนั่นแหละ

ออฟไลน์ kny

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-15

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
เฮ้อออ  กลัวพ่อถึงขนาดไม่เป็นตัวของตัวเอง
แบกรับเรื่องทุกเรื่องไว้ในฐานะพี่ชายคนโต  น่าสงสาร

ออฟไลน์ RUMINA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
ชักเริ่มสงสารพลภัทรนะคะเนี่ย คงจะเครียดน่าดูเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kagehana

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Kagehana : ชื่อเรื่องตราบาปไร้รอยเลือน...เราไม่ได้เขียนให้น้องปันคนเดียว แต่เป็นของคนทุกคน และถ้าจะมีใครที่เหมาะที่สุดกับคำนี้ เราก็คิดว่าเป็นพลภัทรค่ะ เพราะคุณพลเป็นทั้งผู้ถูกกระทำและผู้กระทำ ทำให้บาดแผลนั้นดำเนินต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด

ดราม่าอีกแล้ว อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะ เรายังรับประกันความแซ่บของรุ่นพ่อเหมือนเดิม


โปรโมทเพจจ้า

http://www.facebook.com/ficfactory

อัพเดทข่าวคราวบ้างเป็นบางเวลา มุมิ





-40-





“ปล่อยกู”


“เหี้ย! เพราะมึงแหละไอ้พล” ภีมที่ขับรถมารับเพื่อนทุบกำปั้นกับพวงมาลัยอย่างรุนแรง มือใหญ่หนากระชากคอเสื้อของพลภัทรไว้เต็มแรง


“มึงเอาพีทหนีกูไปแล้วเป็นไง สุดท้ายพีทแม่งก็ได้กับคนอื่น”


“กูจะไปรู้ได้ไงวะ น้องกูไม่ได้ชอบผู้ชาย บอกกูชัดแล้วว่าถ้าไม่ใช่คนนั้นคนอื่นก็ไม่เอา แล้วมึงจะโมโหไปให้ได้เหี้ยอะไรขึ้นมา” พลภัทรดึงมือของเพื่อนตัวเองออก


“มึงไม่เข้าใจกูหรอก มึงไม่เปิดโอกาสให้กู ไม่ให้กูติดต่อ มึงคิดว่ากูคิดเล่นๆกับพีทเหรอวะ” ภีมลงจากรถแล้วกระชากประตูข้างคนขับออก ฟอร์จูนเนอร์คันใหญ่สีดำปลาบจอดอยู่ริมถนนใต้ต้นหางนกยูงสีเพลิงที่ถูกกลืนในความมืดมิด


ชายหนุ่มร่างสูงดึงคนที่ตัวเล็กกว่ามาตรงที่นั่งด้านหลังแล้วโยนพลภัทรลงไปบนเบาะ


“กูรักพีทจริงๆ กูไม่มีใครก็เพื่อรอพีท แล้วไง พีทแม่งโดนหมาคาบไปแดก สะใจมึงรึยังพล”


“มึงไม่เป็นพี่มันมึงไม่เข้าใจกูหรอก มึงจะต่อยกูยังไงก็เรื่องของมึง กูไม่ได้สะใจเหี้ยอะไรทั้งนั้น” พลภัทรยันตัวขึ้นหลังจากถูกเหวี่ยงมาอย่างเสียหลัก


“แล้วกูล่ะ คอยเป็นไอ้หน้าโง่” ภีมจ้องเข้าไปนัยน์ตาคมของพลภัทร “มึงจะรับผิดชอบกูยังไง”


“รับเหี้ยอะไร พีทกลับมาเกือบสองปีแล้ว กูไม่ได้ขวาง มึงอย่าโยนความผิดมาให้กูไอ้ภีม”


“แล้วสองปีนี้มึงไม่ได้ทำตัวติดกับน้องมึงเลยใช่มั้ย อย่าคิดว่ากูไม่รู้นะ พอกูจะเข้าใกล้ มึงก็หาเรื่องพาพีทออกไป มึงคิดว่ากูโง่ใช่มั้ย” ชายที่ตัวโตกว่าดันร่างของเพื่อนเข้าสู่ด้านในแล้วคร่อมทับ แม้เครื่องปรับอากาศในรถจะเย็นจับใจ แต่ดวงใจที่ร้อนรนไม่ได้ผ่อนคลายสักนิด


คนที่เฝ้ารอ...หลุดลอยไปกับคนอื่น


คนที่ขัดขวาง...มาบอกเขาด้วยตัวเอง


ภีมไม่รู้เลยว่าเขาแค้นคนไหนมากกว่ากัน....


“แล้วมึงจะให้กูทำยังไงหา? บอกพีทว่ามึงชอบเหรอ???” พลภัทรยกมือขึ้นจับศีรษะที่ถูกกระแทกกับประตูรถด้านในก่อนจะหันไปตวาดถามเพื่อนที่กำลังโมโห


...มึงไม่มีพ่ออย่างกู มึงไม่เข้าใจหรอก


“ถ้ามึงบอก ก็คงใช่” รอยยิ้มจางๆผุดบนใบหน้าหล่อเหลา ภีมก้มลงช้าๆเข้าใกล้ใบหน้าของคนที่นอนอยู่ข้างใต้


“มึงเอาพีทหนีไปจากกู มึงต้องรับผิดชอบ”


“รับอะไร??” พลภัทรผลักใบหน้าของอีกฝ่ายออกเต็มแรง


ร่างสูงที่คร่อมอยู่ด้านบนไม่ได้ให้คำตอบ...มีเพียงความเงียบและแววตาดุดันเท่านั้น...


ดอกหางนกยูงสีส้มใต้เงาจันทร์ร่วงโรยลงบนพื้นเชื่องช้า...เงียบงัน




/////////////////////////






พลภัทรนอนอยู่บนเบาะหนังด้านหลังคนขับ ร่างกายเปล่าเปลือยนอนแผ่ราวกับไม่รู้สึกตัว ดวงตาคมที่มักมองอย่างผู้มีอำนาจกลับไร้ซึ่งประกายมองเหม่อไปอย่างไร้ทิศทาง ในรถมีเพียงเสียงเครื่องยนต์และเสียงเครื่องปรับอากาศเท่านั้น


ภีมซบหน้าลงกับพวงมาลัย เสื้อเชิ้ตรุ่ยร่ายชุ่มเหงื่อ หยาดน้ำและคาวเลือดของคนที่เป็นเพื่อนรักกันมาตลอดชีวิต ชายหนุ่มกัดริมฝีปากแน่นด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย


เพราะอารมณ์เพียงชั่ววูบ...วูบเดียวเท่านั้น


ความโกรธแค้นที่อัดแน่นถูกระบายลงสู่คนที่ไม่ได้มีความผิดแม้แต่น้อย


“พล...กูขอโทษ” ภีมหันกลับไปมองพลภัทรที่ยังนอนมองหลังคาอย่างไร้จุดหมาย ร่างกายเปล่าเปลือยมีทั้งรอยช้ำ และสิ่งที่ปลดปล่อยออกมา ทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็วแต่เนิ่นนาน...นานจนคนกระทำรู้สึกได้ว่าพลภัทรที่ดิ้นรนไม่ได้ขัดขืนอีกต่อไป


หากแต่...ปล่อยจิตใจให้ลอยไป ไม่รับรู้ใดๆทั้งสิ้น


หากแต่พลภัทรไม่เอ่ยตอบอันใด เขายังคงนอนในท่าเดิม ไม่กระดุกกระดิกตัวแม้แต่น้อย


“พล..พล..” เมื่อเห็นว่าเรียกไม่เป็นผล คนที่อยู่ด้านหน้าก็ลงมาอีกครั้ง ชายหนุ่มเปิดประตูออกเพื่อดึงร่างที่นอนไม่รับรู้ของพลภัทรขึ้นมากอด หยาดน้ำตาร้อนผ่าวตกรดผิวแก้มเย็นเยียบ


“กูขอโทษ พล...กูขอโทษ...กูไม่ได้ตั้งใจ...พล...กูขอโทษ”


“... กูจะกลับบ้าน...” พลภัทรตอบสั้นๆด้วยเสียงแห้งผาก


“แวะคอนโดกูก่อน...กูขอโทษ...กู..กูผิดเอง กูผิดเองทุกอย่าง” ภีมดึงเสื้อผ้าที่ขาดยับเยินด้วยน้ำมือเขามาปิดบังร่างกายของเพื่อนเบามือ ใบหน้าหล่อเหลาที่มีรอยฟกช้ำด้วยหมัดของคนที่นอนอยู่นองไปด้วยน้ำตา


พลภัทรไม่เอ่ยพูดอะไรอีก เขาปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามใจโดยไม่ต่อต้านอีกต่อไป


เมื่อเห็นว่าพลภัทรไม่ต่อต้าน ภีมก็ปิดประตูลงช้าๆแล้วเคลื่อนรถไปยังคอนโดของเขา ภีมใส่เสื้อผ้าให้อย่างยากเย็นก่อนจะค่อยๆประคองขึ้นไปทำความสะอาดร่างกาย น้ำตาของชายหนุ่มไหลออกมาอีกครั้งในตอนที่เห็นสิ่งที่เขาปล่อยไว้ไหลออกมาจากร่าง....แต่คนโดนกระทำยังคงเหม่อเลยเช่นเดิม


เขารู้สึกถึงความเจ็บที่เบื้องหลัง แต่ก็คล้ายมันจะชาไปจนแทบจางหายเมื่อเทียบกับหัวใจที่ปวดร้าว พลภัทรกลับขึ้นมานั่งบนรถโดยมีอีกฝ่ายขับพากลับไปที่บ้านประสิทธิพรวิวัฒน์ของตน


“ขอกูไปส่งมึงที่ห้องนะ” ภีมพูดขึ้นเบาๆหลังจากที่รถจอดลงหน้าบ้าน


เขาไม่เอ่ยปฏิเสธ พลภัทรเปิดประตูรถลงมาแล้วรอให้อีกฝ่ายตามมา จึงได้เดินเข้าไปในตัวบ้านตามที่เคยชิน


...ไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว...


ภีมเดินตามไปส่ง เหมือนทุกครั้งที่เคยมา...บ้านหลังนี้ใหญ่แต่ตัวบ้านแต่กลับให้ความรู้สึกถูกบีบจนเหลือตัวเล็กจ้อย เขาจับแขนพลภัทรที่เดินเซนิดๆ โอบประคองให้เดินตรงยามเข้าไปในตัวตึก


“คุณภีมมาส่งคุณพลเหรอคะ” เสียงหวานของภรรยาพลภัทรดังขึ้น เพ็ญแขที่ไม่ได้เห็นมานานมีแววตาแห้งแล้งเกินกว่าที่จะเรียกได้ว่ามีความสุข


“... ฉันจะนอนที่ห้องเล็ก ไม่ต้องรอ...” พลภัทรเอ่ยตอบด้วยเสียงราบเรียบก่อนจะเดินผ่านไปโดยไม่รอตอบคำถามที่อาจจะเกิดขึ้น


“ค่ะ” หญิงสาวที่นั่งรออยู่ตอบรับเสียงแผ่ว และรู้ตัวดีว่าถึงจะถามอะไรอีกฝ่ายก็คงไม่ตอบ...เหมือนเรื่องที่เธอได้ยินและรับรู้เมื่อไม่นานมานี้


เรื่องของอดีตคนรักของสามี...และลูกชาย


ภีมพาร่างกายที่บอบช้ำของเพื่อนรักมาที่ห้องนอนเล็กแล้วปิดประตูลง ความเงียบที่น่าอึดอัดบังเกิดขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน


“พล...กู..กูขอโทษ...”


“มึง... ไม่ต้องขอโทษ” เจ้าของห้องนั่งลงที่ปลายเตียงโดยไม่มองหน้าอีกคน


“... ออกไปได้แล้ว”


“พล....หันมาหากู” ทันที่ที่จับไหล่ ร่างของพลภัทรดูจะสั่นไหว...กระตุกคล้ายไม่อาจควบคุม


“...กูขอโทษ..กูขอโทษจริงๆ มึง...กูแม่งเลว...”


“ไม่ต้อง มึงไม่ต้องมาให้กูเห็นหน้าแล้วภีม มึงไม่ต้องขอโทษกู” สายตาของพลภัทรสบมองแค่แวบเดียว ก่อนจะเบนหลบไป


“กู...ไม่นึกว่ามันจะเลยเถิดไปเป็นแบบนั้น...กูขอโทษ” คำขอโทษที่ไร้การตอบรับยังคงเปล่งอย่างต่อเนื่องเหมือนคนพูดไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร


“กูขอโทษที่ทำมึงเจ็บ”


“กูบอกว่าพอแล้วไง ไม่ต้องพูด ไม่ต้องมาให้กูเห็นหน้า กูกับมึงไม่ใช่เพื่อนกันแล้ว แค่นี้มึงเข้าใจมั้ย”


คำประกาศของพลภัทร ทำให้ภีมทำได้เพียงปล่อยมือออกจากไหล่ทั้งสองข้าง


“กูเข้าใจ กูขอโทษ แต่มึงอย่าบอกว่าเราไม่ใช่เพื่อนกันได้มั้ย......”


“ไม่ เพราะเพื่อนไม่ทำกับเพื่อนแบบนี้” พลภัทรตอบเสียงเข้ม


“กับเรื่องแค่นี้ มึงทำกับกูแบบนี้ ไม่ต้องนับเพื่อนกับกูแล้ว”


“กูเสียใจ...เสียใจมากที่มึงเอาพีทไป กูเสียใจที่สุดท้ายแล้วพีทก็ไม่เลือกกู...กูเสียใจจนทำเรื่องอย่างนั้นกับมึงไป กูอยากขอโทษ กูไม่รู้จะทำยังไง กูผิด พล...มึงเป็นเพื่อนที่กูรักนะ กูรักมึงมาก” ภีมกอดร่างที่เล็กกว่าเอาไว้


“มึงต่อยกู เตะกู ฆ่ากูเลยสิพล มึงอย่าเฉยแบบนี้”


“ถ้ากูเป็นเพื่อนรัก มึงไม่ทำหรอก!!” คนที่ถูกกอดเอาไว้ผลักภีมออกพลางตวาดเสียงดัง


“.....งั้นกูกลับก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาใหม่”


ภีมไม่ดื้อรั้น ไม่เหนี่ยวรั้งและกล่าวคำขอโทษ เพราะรู้ดีว่าเรื่องที่ทำลงไปยังสดใหม่เกินกว่าพลภัทรจะยอมรับได้ ชายหนุ่มย่อตัวลงสบตาคนที่ก้มหน้าอีกครั้ง


“พรุ่งนี้...กูจะมาขอโทษมึงอีก...จะขอโทษ จนกว่ามึงจะยอมยกโทษให้”


พรุ่งนี้..วันนี้...เมื่อไหร่...


นานแค่ไหนก็ขอให้ชดใช้...







///////////////







“คุณภีม กลับแล้วเหรอคะ” เพ็ญแขเอ่ยถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินออกมาลิฟท์ เธอรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นเพื่อนสนิทของพลภัทร และเป็นคนที่สามีของเธอใช้เวลาพูดคุยด้วยมากกว่าเธอเสียอีก


“ครับ” เพราะเพิ่งมีสัมพันธ์กับพลภัทรไป ภีมเลยรู้สึกว่าทำผิดต่อหญิงสาวตรงหน้าอย่างมาก “คุณเพ็ญยังไม่นอนเหรอครับ แล้วน้องนันท์ล่ะ”


“นอนไปแล้วล่ะค่ะ เด็กๆก็แบบนี้”


“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมดูเหมือนไม่ค่อยสบายใจ” ภีมถามต่อ


“... คุณภีม ดูออกด้วยเหรอคะ” หญิงสาวยิ้มให้จางๆก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ


“เรื่องพล...หรือเปล่าครับ...”


“........ ค่ะ” เพราะเป็นครั้งแรกที่มีใครสนใจจะถามไถ่ว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง น้ำตาถึงได้ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่


“คุณเพ็ญ” ชายหนุ่มอุทานชื่อคนรักของพลภัทรเบาๆ “มีอะไรกันครับ”


“คุณพลมีผู้หญิงอื่น... อยู่ที่อเมริกา..... มีลูกด้วยกัน แล้วฉันไม่เคยรู้เลย”


ภีมนิ่งไปพักใหญ่...เรื่องของเดน่ากับเดฟนั้นเขารู้เพราะพลภัทรเล่าให้ฟังบ่อยๆ...แน่นอนว่าบ่อยกว่าเรื่องของภรรยาและลูกที่อยู่ด้วยกันที่เมืองไทย


“เรื่อง..เดน่า..มันนานมาแล้วครับคุณเพ็ญ ตอนนี้พลอยู่กับคุณ” ภีมพูดเบาๆ


“แต่คุณพลยังส่งเงินเลี้ยงนังนั่นกับลูกอยู่! คุณภีมไม่รู้หรือไงคะ!” เป็นเพ็ญแขที่เสียงดังขึ้น เพราะชีวิตคู่ที่ล้มเหลวและไม่มีความสุขทำให้ฝันที่วาดไว้ว่าแต่งเข้าบ้านหลังนี้จะดีกลับต้องพังทลาย นอกจากสามีจะไม่สนใจแล้ว ยังกลับต้องรับรู้เรื่องของผู้หญิงคนอื่น


“เรื่องนั้น....” ภีมได้แต่ลูบไหล่หญิงสาวเบาๆ “มันไม่มีอะไรมากหรอกครับ...เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้นเอง”


ภีมบอกเพ็ญแข...บอกตัวเอง


...พรุ่งนี้ต้องดีขึ้น...


บอก..โดยที่ไม่รู้เลยว่าวันพรุ่งนี้ของคนสามคนจะเกี่ยวพันเป็นเกลียวเชือกที่คลายออกไม่ได้


เชือก...ที่ชื่อปัณวิทย์













To Be Continued.....










« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-11-2012 20:44:05 โดย kagehana »

ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
ห้ะ โอ้ยยยยยยยย ดราม่าโคตรรรรร  o22

ออฟไลน์ ตัวเลข

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ดูเหมือนคุณพลจะเป็นคนที่ถูกกระทำมากที่สุดเลยนะเนี่ย 

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
โหยยยยยยยยย ชีวิตภัทรพลบัดซบโคตรๆอ่ะ

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
เริ่มเป็นมาม่าที่เข้มข้น

เริ่มเข้าใจคุณพลขึ้นมาบ้างแล้ว

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
ป๊าดดดดดด
พล เคยโดนพ่อบังคับแล้วรู้สึกยังไงบ้างล่ะ   ลูกๆของพลก็รู้สึกไม่ต่างกับนายนักหรอก
เอาอดีตมาเป็นบทเรียนสิ   อย่าให้อดีตมาทำร้ายแบบนี้เลย   เฮ้อ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ kny

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-15
โอ๊ะ  เคยสงสัยในสาเหตุเหมือนกันแอบเดามั่วว่าใช่ไหมนะ แบบจิ้นคู่นี้ไว้นะแต่คิดแค่ว่าพลภัทรรักกับภีมแล้วโดนภีมหักหลังว่าไหมนะ ไปเป็นชู้กับเพ็ญแข แต่สรุปมันดราม่ากว่านั้นเยอะ :z3:

ออฟไลน์ RUMINA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
=[]=//ช็อกค้าง
อะไรมันจะซับซ้อนขนาดเน้!!!!

carenaka

  • บุคคลทั่วไป
ฮ๊ากกกกกก เข้มข้นเกินไปแล้ว

dog

  • บุคคลทั่วไป
อย่าบอกน๊าาาาาาาาาาาาาาาา
ว่านองปันปัน เป็นลูกของภีมกับเพ็ญแขอ่า
ไม่งั้นพลคงไม่ตั้งแง่เกลียดเกย์ แล้วก็คงไม่ทำแบบนั้นกับน้องชายแน่ๆ
ก็ออกจะเป็นคนที่รักน้องชายมากๆอะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด